Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Jean Désiré Gustave Courbet_641310030 พรชิตา ทุมจันทร์

Jean Désiré Gustave Courbet_641310030 พรชิตา ทุมจันทร์

Published by Guset User, 2022-01-13 18:48:04

Description: Jean Désiré Gustave Courbet_641310030 พรชิตา ทุมจันทร์

Search

Read the Text Version

GUSTAVE COUR BET COMPILER BY PORNCHITA THUMCHAN



PREFACE การชื่นชอบทางด้านศิลปะแต่ไม่ได้มีความสนใจทางด้านนี้ โดยตรง ทำให้ฉันพอรู้เรื่องศิลปะได้บ้างประปราย ฉันไม่ได้มีความ คิดที่อยากศึกษาศิลปะใดๆเพิ่มเติมจนกระทั่งการเรียนวิชามนุษย์กับ ศิลปะได้สอนฉันให้มองศิลปะลึกลงไปจากสิ่งที่ฉันเคยพบเจอ ทำให้ ฉันหลงใหลในศิลปะมากขึ้นเพราะได้รู้ถึงที่มาของสิ่งเหล่านั้น สำหรับฉัน ศิลปะในแต่ละยุคมีความแตกต่างแต่ในความเเตก ต่างก็แฝงเรื่องราวที่น่าสนใจไว้ทั้งนั้น การศึกษาศิลปะในลัทธิ สัจนิยมก็เช่นกัน ฉันพอจะทราบถึงความเป็นมาของเรื่องราวใน ศิลปะยุคนี้มาบ้าง แต่ก็พอรู้เท่าที่ฉันเคยฟังมา ความสนใจเพิ่มเติม เกี่ยวกับความเป็นจริงที่ไม่ประดิษฐ์หรือถูกปรุงแต่งใดๆทำให้ฉัน เลือกที่จะศึกษาเรื่องราวเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นผ่านผลงานการวาดภาพ ของจิตรกรที่ชื่อ \"กุสตาฟว์ กูร์แบ\" การศึกษาเรื่องราวของสัจนิยม จากศิลปินท่านนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงในแง่มุมต่างๆมากมาย ไม่เพียงแค่ด้านสังคม แต่ยังรวมถึงด้านธรรมชาติด้วย จิตรกรผู้ที่มี บทบาทในด้านการเมือง เขาเต็มไปด้วยจิตวิญญาณที่อิสระและ ชอบศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ฉันหวังเพียงว่าการศึกษาศาสตร์แห่งความเป็นจริงที่ฉันได้ รวบรวมจากผลงานของศิลปินท่านนี้ จะช่วยนำผู้อ่านหนังสือเล่มนี้ ให้เข้าถึงความจริงที่เกิดขึ้นในแง่มุมที่แตกต่างออกไป รวมถึง สามารถนำสิ่งเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ได้ไม่มากก็น้อย ทางผู้เขียนจึงได้ ทำการรวบรวมข้อมูล เพื่อให้ผู้อ่านได้เรียนรู้เกี่ยวกับงานศิลปะที่ น่าสนใจของ กุสตาฟว์ กูร์แบ หากผิดพลาดประการใด ผู้เขียน ขออภัยมา ณ ที่นี้ พรชิตา ทุมจันทร์ ผู้จัดทำ

Arty Fact He once said, \"In our so very civilized society it is necessary for me to live the life of a savage.\"





CONTENT CONTENT INTRODUCTION 03 05 BIOGRAPHY 09ART AND POLITICS 11 EXILE AND DEATH 15 STYLE AND INFLUENCES 19 REALISM OF LIFE 31REALISM OF NATURE 40 GALLERY DE COURBET REFERENCE 45

\"I hope to live all my life for my art, without abandoning my principles one iota.\" GUSTAVE COURBET PAGE 01

PAGE 02

Intro duction PAGE 03

GUSTAVE COURBET INTRODUCTION INTRODUCTION ความเพ้อฝันและความวิลิศมาหราเกินกว่าที่มนุษย์จะแตะต้องได้ การ เทิดทูนในสถาบันของชนชั้นสูง รวมถึงศิลปะที่ตอบสนองเพียงชนชั้นที่มีบทบาท ทางสังคมของลัทธิทางศิลปะในยุคที่ผ่านมาทำให้ \"กุสตาฟว์ กูร์แบ\" จิตรกรชาว ฝรั่งเศสหันมาสร้างผลงานที่เป็นภาพสะท้อนชีวิตประจำวันของมนุษย์ โดย ทำลายกฎเกณฑ์ด้านศิลปะในยุคแรกทั้งหมด จิตรกรผู้ที่มีบทบาทในด้าน การเมือง เขาเต็มไปด้วยจิตวิญญาณที่อิสระและชอบศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ผู้นำ ศิลปะแบบสัจนิยมในคริสต์ศตวรรษที่ 19 เขาผู้ปฏิเสธรูปแบบการเล่าเรื่องที่เน้น อารมณ์อันท่วมทัน ดราม่า เกินจริงของศิลปะโรแมนติกหันมาสนใจสิ่งที่เกิดขึ้น ตามความเป็นจริงโดยปราศจากการปรุงแต่งใดแม้กระทั่งการนำทัศนคติของตน ลงไปในภาพ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแก่นแท้ของความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคม แล้วหันมาเสนอวิถีชีวิตอันเรียบง่ายที่ถูกมองข้ามในขณะที่คนอื่นเพิกเฉยกับสิ่ง เรียบง่ายในสมัยนั้น ผลงานของเขาได้นำเสนอในมุมมองที่แตกต่าง และเขาไม่เคยลังเลที่จะนำ เสนอมัน โดยเน้นรายละเอียดที่เหมือนจริงตามสิ่งที่ศิลปินเห็น นอกจากนี้ความ เป็นจริงที่เกิดขึ้นไม่เพียงแค่สะท้อนสภาพสังคมเท่านั้น แต่ยังมีการเสียดสี การเมืองรวมทั้งระบบชนชั้นทางสังคมในสมัยนั้นที่มีความเหลื่อมล้ำกันในทุก ด้านไม่ว่าจะเป็นด้านความเป็นอยู่หรือแม้แต่ด้านความคิด ความกล้าที่จะแตก ต่างจากศิลปินท่านอื่นทำให้กูร์แบกลายเป็นศิลปินที่ได้รับความสนใจอย่างกว้าง ขวางในแง่ต่างๆมากมายและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนกลายมาเป็น ศิลปินผู้ซึ่งเป็นผู้นำของลัทธิศิลปะแห่งความเป็นจริง หรือ ลัทธิสัจนิยม PAGE 04

Biog raphy PAGE 05

GUSTAVE COURBET BIOGRAPHY WWhhoo iiss GGUUSSTTAAVVEE CCOOUURRBBEETT กุสตาฟว์ กูร์แบ(Gustave Courbet) และทัศนคติ อยู่ที่สตูดิโอได้ไม่เท่าไรนัก เขาก็ พบว่านั่นไม่ใช่ทางของเขากูร์เเบผู้ที่ซึ่งมีจิต หรือชื่อจริงก็คือ ฌ็อง เดซีเรกุสตาฟว์ กูร์แบ วิญญาณเป็นอิสระไม่ยึดติดกับขนบเดิมและไม่ (Jean Désiré Gustave Courbet) เกิดเมื่อ ต้องการที่จะเดินตามรอยใครจึงออกจากงานที่ วันที่ 10 มิถุนายน ในช่วงฤดูร้อนปี 1819 สตูดิโอไปหาทางพัฒนาสไตล์ของตัวเอง ที่แถบตะวันออกของฝรั่งเศสในเมือง Ornans สุดท้ายก็ตัดสินใจเป็นจิตรกรแทน โดยภาพวาด ใกล้ Besancon ในฝรั่งเศส กูร์แบเติบโตมาใน ส่วนใหญ่ของเขานั้นจะนำเสนอความเป็นจริง สภาพแวดล้อมที่สวยงามโดยมีครอบครัวสนับสนุน จากสิ่งที่เขาพบเห็นทั้งทางด้านสังคมและด้าน เขามาโดยตลอด เขาเป็นพี่ชายคนโตมีน้องสาว ธรรมชาติ ไม่ใช่ความเพ้อฝันเหมือนผลงาน 3 คน ครอบครัว ของกูร์แบฐานะดีมีธุรกิจ ศิลปะในยุคที่ผ่านมา นี่คือการวาดภาพในสไตล์ เกษตรกรรมที่เจริญรุ่งเรื่อง โดยบิดาเป็นเจ้าของ “Realism” ที่เน้นการสะท้อนความจริง ซึ่งก็ ที่ดินผู้มั่งคั่งและครอบครัวของกูร์แบก็มีการต่อต้าน คล้ายกับแนวคิดของนักเขียน ชื่อ Proudhon ระบบกษัตริย์และขุนนาง ในวัยเด็กกูร์แบไม่ชอบไป บุคคลที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น โรงเรียนเพราะชื่นชอบและสนใจที่จะเรียนวาดภาพ ใน ค.ศ.1839 กูร์แบได้เข้ามาอยู่ในกรุงปารีส เพื่อเรียนกฎหมายตามความประสงค์ของพ่อ แต่เอา เข้าจริงเรียนได้ไม่นานก็ออกไปทำงานในสตูโอเขียน ภาพ เพราะใจมันรักทางด้านนี้ เขาได้เดินทางไป เรียนศิลปะที่สตูดิโอ Atelier Suisse ในปารีส โดยมีเพื่อนศิลปินหลายคนและมีบรรยากาศการ เรียนที่สร้างสรรค์ ทำให้ได้จุดประกายความคิดและ ทัศนคติ อยู่ที่สตูดิโอได้ไม่เท่าไรนัก เขาก็พบว่านั่น ไม่ใช่ทางของเขา PAGE 06

GUSTAVE COURBET BIOGRAPHY GUSTAVE COURBET แต่ไม่นานมากนักเขาก็หันไปเขียนเฉพาะภาพที่ เขามองเห็นจริงเท่านั้น เขาไม่สนใจเขียนภาพ ครอบครัวของกูร์แบมีฐานะที่มั่งคั่ง กูร์แบจึงไม่ จากตำนานแบบนีโอคลาสสิกและปฏิเสธการ เคยกังวลเรื่องการเงินและสามารถทุ่มเทให้กับการ เขียนภาพจากจินตนาการแบบโรแมนติก ศึกษาศิลปะด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ เขาเริ่มต้นด้วยการ ผลงานในช่วงนี้ส่วนใหญ่เป็นภาพเหมือนโดย เขียนภาพคัดลอกผลงานของศิลปินชั้นครูในพิพิธภัณฑ์ เฉพาะภาพเหมือนตัวเองในหลากหลาย ลูฟวร์ทั้งศิลปินชาวอิตาลี สเปน เฟลมิช และชาว อิริยาบถซึ่งหลายภาพเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม ฝรั่งเศส อย่างเช่น Titian, Caravaggio และ Diego ต่อมาเมื่อกูร์เเบอายุ 25 ปี กูร์เเบเริ่มนำภาพที่ Velazquez เป็นต้น สำหรับศิลปินชาวฝรั่งเศสนั้นเขา ตนวาดออกแสดงในงานศิลป์ที่ Paris และ ชื่นชอบ Eugène Delacroix เป็นพิเศษ ผลงานแรกๆ Ornans และได้นำภาพออกแสดงทุกปี เขาได้แรงบันดาลใจจากบทประพันธ์ของนักเขียนชื่อ ดังอย่าง Victor Hugo PAGE 07

GUSTAVE COURBET BIOGRAPHY กุสตาฟว์ กูร์แบ เป็นผู้นำที่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของลัทธิ สัจนิยม ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 เขาต่อต้านแนวคิดดั้งเดิมและ การละครต่าง รวมถึงต่อต้านศิลปะในยุคที่ผ่านมา ผลงานของเขา สื่อถึงความเป็นจริงทางกายภาพ ในสังคมที่เกิดจากการสังเกตของ ตัวเขาเอง แม้กระทั่งพูดถึงความเป็นจริงที่ธรรมดาและความเป็น จริงในสังคมที่ไม่ได้สวยงามเฉกเช่นภาพวาดในยุคก่อน นอกจากนี้ กูร์แบยังมีความเชื่อในระบอบสาธารณรัฐอีกด้วย เขาเสียชีวิตลงจาก การโดนเนรเทศไปยังสวิตเซอร์แลนด์เพราะเขาต้องรับผิดชอบเรื่อง ค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงจัตุรัส ปารีส ว็อง โดม (Paris' Vendome Column) อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์ได้ เห็นผลงานของกูร์แบและได้เห็นว่าผลงานศิลปะของเขามีความ สำคัญต่อศิลปินในศิลปะในยุคต่อมาเช่น เอดัวร์ มาเน่ต์และโคลด โมเน่ต์ ผลงานของกูร์แบนั้นทำให้ผู้คนสามารถเข้าใจ และได้เข้าถึงความเป็นจริงของสังคมที่ถูกครอบงำ ทางความคิด ที่เขาได้มาจากความไม่พอใจในการ ศึกษาในฝรั่งเศส เขาต่อต้านศิลปะยุคดั้งเดิม (Neo-Classic) และยุคจินตนิยม (Romanticism) ที่รักษาความอ่อนน้อมถ่อมตนของชีวิตในชนบท และ มักนำผู้เยาว์มาเป็นแบบในการวาดภาพแล้วทำ เหมือนพวกเขาเป็นเพียงสิ่งของประกอบฉากในการ แสดงผลงานศิลปะ PAGE 08

AArrtt aanndd PPoolliittiiccss PAGE 09

GUSTAVE COURBET ART AND POLITICS Art & Politics นอกจากบทบาททางศิลปะแล้ว กูร์แบ ยังมีบทบาทในด้านการเมือง ถึงแม้ว่าผลงาน ของเขาจะไม่แสดงออกอย่างชัดเจน แต่ด้วย บริบทยุคนั้น ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามัแสดงออก ถึงความเท่าเทียมและความเสมอภาค ด้วย การเชิดชูความธรรมดาสามัญของปัจเจกชน และวาดคนเหล่านั้นออกมาในขนาดที่ใหญ่ โต และวาดออกมาตามความจริง โดยไม่ ซ่อนความบกพร่องเอาไว้ PROUDHON AND HIS CHILDREN ต่อมาในช่วงปี 1871 กูร์แบได้เดินทางไป เยือนฮอลแลนด์ และรู้สึกชื่นชมภาพของ Rembrandt มากอีกหนึ่งปีต่อมา ได้เกิดการ ปฏิวัติใหญ่ในฝรั่งเศส กษัตริย์ Louis Philippe ทรงถูกบังคับให้สละราชบัลลังก์ เหตุการณ์สังหาร ประชาชนจำนวนมาก ทำให้กูร์แบรู้สึกหดหู่ แต่ เมื่อเขาได้พบกับ Proud' hon ผู้ที่มีความคิด ต่างๆ ตรงกันกับเขา พวกเขาทั้งสองคนจึงเริ่ม เล่นการเมืองแต่คนละบทบาท Proud' hon ใน ฐานะนักเขียน และกูร์แบ ในฐานะจิตรกร PAGE 10

Exile and Death PAGE 11

GUSTAVE COURBET EXILE AND DEATH Vendome Column Exile & Death ในบั้นปลายชีวิตกูร์แบรู้สึกวุ่นวานและสับสน ได้ประกาศแผนการที่จะสร้างอนุสาวรีย์ขึ้นมา เพราะคณะรัฐบาลปฏิวัติของฝรั่งเศสได้เข้ายึด ใหม่โดยที่กูร์แบจะต้องจ่ายเงินค่าชดเชยถึง อำนาจหลังสงครามฝรั่งเศส - ปรัสเชีย สงบและ 3 แสนฟรังก์ โดยกูร์แบไม่สามารถจ่ายเงินได้ เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการ เขาจึงต้องหลบหนีด้วยตนเองในสวิตเซอร์ อนุรักษ์ศิลปะแห่งชาติ จึงอนุมัติให้ทำลาย แลนด์ เพื่อหลีกเลี่ยงการล้มละลาย ในปีต่อๆ อนุสาวรีย์ Vendome Column ต่อมารัฐบาล มาเขาได้เข้าร่วมในนิทรรศการระดับภูมิภาค Commune ได้ล้มรัฐบาล Versailles ได้ขึ้น และระดับชาติของสวิส surveilled โดย ปกครองและได้ทำการสอบสวนกูร์แบในฐานะผี หน่วยสืบราชการลับสวิสเขามีความสุขในโลก ทำลายศิลปะของชาติ กูร์แบได้รับโทษจำคุกเป็น ศิลปะของสวิสขนาดเล็กชื่อเสียงเป็นหัวของ เวลาหกเดือน และอีกต่อมา \"โรงเรียนความจริง\" และแรงบันดาลใจให้ ปาทริซแม็ค - มาฮอน ประธานาธิบดีที่ได้รับการ ศิลปินที่อายุน้อยกว่า เช่น โอกุสต์บาวด์โบ วี เลือกตั้งใหม่ของสาธารณรัฐ และ เฟอร์ดินานด์ฮอดเลอร์ PAGE 12

GUSTAVE COURBET EXILE AND DEATH ผลงานที่สำคัญในช่วงนี้ ได้แก่ ภาพวาดปลาเทราท์ \"ติดและเลือดออกจากเหงือก\" ที่ ตีความว่าเป็นภาพตัวเองเชิงเปรียบเทียบของศิลปินที่ถูกเนรเทศ ในปีสุดท้ายของเขา กูร์แบ วาดภูมิทัศน์รวมทั้งอีกหลายฉากของน้ำลึกลับโผล่ออกมาจากส่วนลึกของแผ่นดิน กูร์แบยัง ทำงานประติมากรรมในระหว่าง ที่เขาถูกเนรเทก่อนหน้านี้ในช่วง ต้นทศวรรษ 1860 เขาได้ผลิต รูปแกะสลักสองสามชิ้นซึ่งหนึ่ง ในนั้นคือชาวประมงแห่ง Chavots เขาบริจาคให้ Ornans สำหรับน้ำพุสาธารณะ แต่มันถูกลบออกไปหลังจากการ จับกุม THE PAGE 13

GUSTAVE COURBET EXILE AND DEATH ในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ.1877 กูร์แบได้รับแจ้งเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการสร้าง อนุสาวรีย์ Vendome Column ขึ้นใหม่ เขาได้รับตัวเลือกในการจ่ายค่าปรับเป็นงวด ๆ ปีละ 10,000 ฟรังก์สำหรับ 33 ปี คิดเป็นเงินจำนวน 330,000 ฟรังก์ กูร์เเบต้องจ่าย ค่าชดเชยไผอีก 33 ปีข้างหน้า จนถึงอายุ 91 ปี เเละในวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1877 หนึ่งวันก่อน ครบกำหนดงวดแรก เขาก็เสียชีวิต ด้วยวัย 58 ปี ในหมู่บ้าน La Tour-de-Peilz ใกล้เมือง Vevey ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยโรคตับกำเริบจากการดื่มหนัก TROUT PAGE 14

IISnntffylluuleeenacneds PAGE 15

GUSTAVE COURBET STYLE AND INFLUENCES Style & Influences กุสตาฟว์ กูร์แบ ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำของศิลปะแบบสัจนิยมในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ผลงาน ของเขาเป็นที่รู้จักในเรื่องของการวาดภาพเหมือนจริงที่สมจริงและอื้อฉาว กูร์แบปฏิเสธรูป แบบการเล่าเรื่องที่ขับเน้นอารมณ์อันท่วมทันล้นหลั่ง ฟูมฟาย ดราม่าเกินจริงของศิลปะแบบโร แมนติกอย่างสิ้นเชิงแล้วหันมานำเสนอภาพบุคคลและเหตุการณ์จริงที่เขาพบเห็นในชีวิต ประจำวันของคนทุกชนชั้นรวมถึงวิถีชีวิต ที่เรียบง่ายซึ่งมักถูกมองข้ามในยุคนั้น เขามักจะวาดภาพธรรมดาๆ ของคน ธรรมดาสามัญอย่างท้องทุ่งนา ทิวทัศน์ ทะเล การล่าสัตว์ ภาพหุ่นนิ่ง และโดย เฉพาะอย่างยิ่งภาพเปลือย กูร์แบไม่ลังเลที่จะนำเสนอด้านที่ไม่พึง ประสงค์ของชีวิตและสะท้อนให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการปฏิวัติ อุตสาหกรรมและเศรษฐกิจ เขามุ่งมั่นใน การวาดภาพในสิ่งที่เขาเห็นเท่านั้น THE ORIGIN OF THE WORLD ปฏิเสธเทคนิคการวาดภาพที่เน้นความหรูหราและประณีตและเลือกที่จะผสมผสานความหยาบ กระด้างเข้ากับความละเอียดละอ่อนด้วยเทคนิคการวาดภาพเหมือนจริงที่ทิ้งร่องรอยหยาบกระด้าง ไว้ให้เห็น ในภายหลังกูร์แบได้เปลี่ยนจากการเขียนภาพเล่าเรื่องราวชีวิตประจำวันของผู้คนที่ได้สร้าง ความสำเร็จสูงสุดให้กับเขาไปเขียนภาพนูดผู้หญิงเท่านั้น และผลงานต่อๆมาเขากลับเขียนเป็น ภาพวิวทิวทัศน์ในธรรมชาติและภูมิประเทศลักษณะต่างๆมากมาย PAGE 16

\" I am fifty years old and I have always lived in freedom; let me end my life free; when I am dead let this be said of me: 'He belonged to no school, to no church, to no institution, to no academy, least of all to any regime except the regime of liberty. \" GUSTAVE COURBET PAGE 17

PAGE 18

Realism of Life PAGE 19

PAGE 20

GUSTAVE COURBET REALISM OF LIFE The Stone Breakers 1849 PAGE 21

GUSTAVE COURBET REALISM OF LIFE ภาพผลงาน THE STONE BREAKERS เป็นภาพที่โดดเด่นที่สุดของกูร์แบ เป็นการ สร้างผลงานชิ้นเอกที่แสดงถึงชนชั้นแรงงานได้อย่างโดดเด่นที่เขาได้พบ ภาพนี้แสดงให้ เห็นถึงชาวนาธรรมดาสองคน กูร์แบแสดงออกถึงความเป็นจริงโดยไม่ได้แสดงความรู้สึก ส่วนตัวใดๆผ่านการวาดภาพนี้ เขาวาดผู้ชายสองคนในชุดที่เก่าและชำรุด กำลังทุบก้อน หินอยู่ข้างถนน ซึ่งคนหนึ่งเป็นเด็กผู้ชายที่เด็กเกินกว่าจะทำงานที่หนักขนาดนี้ได้ ส่วนอีกคนก็แก่เกินกว่าจะทำงานนี้ได้เช่นกัน ภาพนี้แสดงถึงชีวิตจริงของคนจนที่ต้อง ดำเนินชีวิตด้วยความยากลำบากและความอ่อนเพลียของชาวนาทั้งสองด้วยความเห็นใจ กูร์แบเขียนภาพนี้จากสิ่งที่พบเจอจริงๆ แถวเมือง ORNANS เขาเลือกใช้สีที่เหมาะสม กับงานพร้อมเทคนิคการลงเส้นและฝีแปรงที่หยาบตามสไตล์ ภาพนี้ได้รับการยกย่อง อย่างมากและมีส่วนทำให้การเคลื่อนไหวของศิลปะสัจนิยมโดดเด่นในวงการศิลปะ นักปรัชญาทางการเมืองด้านอนาธิปไตยได้ตีความภาพนี้ว่า เป็นภาพที่เป็น สัญลักษณ์ของชาวนาทั่วโลก แต่สำหรับกูร์แบแล้วภาพนี้เป็นเพียงภาพวาดที่เขาวาดไว้ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำถึงสิ่งที่เขาได้เจอเท่านั้น เขาได้กล่าวกับเพื่อนของเขาที่เป็น นักวิจารณ์ที่ชื่อ ฟราซิส เว และแชมป์ฟลัวรีว่า มันไม่ใช่การเผชิญหน้า เพื่อแสดงออกถึง ความยากจน ฉันแค่ได้ความคิดเพื่อวาดภาพในเวลานั้นและสถานที่นั้น ฉันบอกพวกเขา ให้มาหาฉันที่สตูดิโอในวันพรุ่งนี้เช้า ภาพวาดส่วนใหญ่ของกุสตาฟว์ กูร์แบ ให้ความสำคัญกับชีวิตธรรมดาทั่วไปของคน และสถานที่นั้นๆในฝรั่งเศส กูร์แบพยายามวาดภาพชีวิตคนธรรมดาทั่วไปโดยแฝง สัญลักษณ์ด้านการปกครองเอาไว้ เขาวาดภาพตามความจริงโดยไม่ตกแต่งมันเพิ่มเติม เกินกว่าสิ่งที่เขาเห็น ปลีกตัวออกจากความงดงามที่เติมแต่งจากความเป็นจริง ดังจิตกรท่านอื่นๆ และนั่นทำให้กูร์แบกลายเป็นผู้นำลัทธิสัจนิยม PAGE 22

GUSTAVE COURBET REALISM OF LIFE A Burial at Ornans 1851 PAGE 23

GUSTAVE COURBET REALISM OF LIFE ภาพผลงาน A BURIAL AT OMANS เป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้แก่กูร์แบอย่าง มาก เป็นภาพสีน้ำมันขนาดใหญ่ ที่แสดงถึงความเศร้าหมองของชนชั้นกลางที่ยืนราย ล้อมหลุมศพที่ตั้งอยู่ในเมืองบ้านเกิดของเขา ซึ่งตัวเขาเองก็ได้ไปร่วมงาน นายแบบนาง แบบคือ ชาวเมือง ORNANS ทั้งหมดที่มาร่วมงาน แม้จะเป็ฯภาพงานฝังศพธรรมดาใน ชนบท แต่ภาพนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของศิลปะฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 ภาพข้างต้นทำให้ผู้คนตีความได้ในหลายแง่ มีการถกเถียงกันถึงความคิดที่แท้จริงของ ศิลปินที่ต้องการจะสื่อในภาพ มีการแสดงถึงการปกครองในฝรั่งเศสในสมัยนั้น กูร์แบ จงใจวาดตัวเองใส่ชุดประจำท้องถิ่นสีดำลงไปในภาพเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความทุกข์ ทรมานตามความเป็นจริงปกติโดยไม่ได้แสดงออกถึงอุดมคติของตน ภาพวาดขนาด 22 ฟุต ที่ไม่แสดงการจัดองค์ประกอบแบบดั้งเติม รูปทรต่างๆถูก ระบายไปในโทนสีมืดทีม ไม่มีการเน้นไปที่รูปทรงชองคนใดคนหนึ่งในภาพแสดงให้เห็น ถึงจุดเด่นของลัทธิสัจนิยมได้เป็นอย่างดี ภาพนี้ยังแสดงให้เห็นถึงพิธีฝังศพที่แท้จริง ปราศจากมโนมัยหรือความรู้สึกด้านจิตใจ เน้นความเป็นจริงในธรรมชาติและชีวิตมนุษย์ กูร์แบจงใจไม่แสดงแสงต่างๆที่เพิ่มเติมเข้ามานอเหนือจากสิ่งที่เขาเห็นเพื่อสื่อถึงความ เป็นจริง ในขณะที่แสงของพระอาทิตย์ตกตามความเป็นจริงขณะนั้นแสดงออกถึงความ เปลี่ยนแปลงทางด้านจิตวิญญาณจากภายในสู่ภายนอกได้อย่างดี กูร์แบวาดท้องฟ้าในยามเย็นที่ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆเป็นเหมือนทางเดินผ่านจาก กลางวันไปยังกลางคืนซึ่งเป็นเสียงสะท้อนจากโลงผ่านแสงสว่างไปยังความมืด นักวิจารณ์บางท่านเห็นถึงความยึดมั่นที่จะแสดงถึงความเป็นจริงของความตายของ คนในชนบทจากการถูกดูแคลนในศาสนา กลุ่มนักวิจารณ์ที่เป็นพวกอนาธิปไตยได้ อนุมานถึงภาพนี้ว่าเป็นภาพที่สื่อถึงความเท่าเทียมกันและคุณธรรมของมนุษย์ทุกคน เมื่อภาพนี้ถูกนำเสนอก็ได้รับคำชมมากมายและการวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือด แต่ผู้คน ก็เริ่มหันมาสนใจแนวทางสัจนิยมมากขึ้น PAGE 24

GUSTAVE COURBET REALISM OF LIFE The Meeting or Bonjour Monsieur Courbet 1854 PAGE 25

GUSTAVE COURBET REALISM OF LIFE ภาพผลงาน THE MEETING O BONJOUR MONSIEUR COURBET ภาพจิตรกรรมขนาดใหญ่ของกูร์แบชิ้นนี้ถูกวาดขึ้นในขณะที่เขาพบปะกับ อัลเฟรด บรูยาส ผู้ที่คอยอุปถัมภ์และให้การสนับสนุนเขา ด้านขวาชองภาพคือ อัลเฟรด บรูยาส ที่มาพร้อมกับผู้ติดตามของเขาซึ่งเห็นได้จากทำการยืนที่ นอบน้อมของชายด้านขวาสุดของภาพ จุดสำคัญของภาพนี้คือภายในภาพแสดง ให้เห็นถึงความชื่นชมซึ่งกันและกันของศิลปิน คือกูร์เเบและผู้สนับสนุนผลงาน ของเขา คืออัลเฟรด บรูยาส ภาพนี้เป็นภาพเหตุการณ์ที่แสดงถึงการยกย่องต่าง ฝ่ายของทั้งสองคน PAGE 26

GUSTAVE COURBET REALISM OF LIFE The Painter’s Studio 1855 PAGE 27

GUSTAVE COURBET REALISM OF LIFE ภาพวาด THE PAINTER’S STUDIO ภาพในสตูดิโอขนาดใหญ่ที่กูร์แบจัดองค์ ประกอบภาพไว้ได้อย่างซับซ้อนซึ่งสามารถตีความออกมาได้หลายแง่มุม ภาพแสดงถึง บรรยากาศนสตูดิโอเขียนภาพของเขาเอง ตรงกลางภาพเป็นตัวกูร์แบที่กำลังเขียนภาพ ทิวทัศน์โดยมีนางแบบเปลือยยืนชื่นชมผลงานของเขา ในขณะที่ฝั่งขวาของภาพมีบรรดา เพื่อนฝูงและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขารายล้อมรอบอยู่ คนกลุ่มแรกทางด้านขวามือ เราสามารถตีความได้ว่าผู้ชายที่มีหนวดเคราคือนัก สะสมผลงานศิลปะที่คอยสนับสนุนกูร์แบที่ชื่อ อัลเฟรด บรูยาส ส่วนคนที่อยู่ด้านหลัง ของเขาคือนักปรัชญาอนาธิปไตย นักวิจารณ์ที่ชื่อ แชมป์ฟลัวรี นั่งอยู่บนม้านั่ง ในขณะที่ บูวเดอเลีย กำลังหมกมุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือ คู่รักที่อยู่ข้างหน้าเป็นตัวแทนของผู้ที่รัก ในศิลปะ และคู่รักที่อยู่ริมหน้าต่างเป็นตัวแทนของความรักที่ไม่มีข้อจำกัดใดๆ ในอีกด้านหนึ่งกูร์แบแสดงให้เห็นถึงชีวิตธรรมดาในทุกวันของมนุษย์เราสามารถมอง เห็นบาทหลวง พ่อค้า นักลาที่มีรูปร่างหน้าตาค่อนข้างคล้ายกับจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 หรือแม้แต่ผู้ว่างงานและเด็กขอทานซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความยากจน กูร์แบวาด ภาพกีต้าร์ ดาบสั้น และหมวกอยู่กับนายแบบผู้ชาย เพื่อเสียดสีการศึกษาศิลปะวิชาการ รูปแบบเดิม แต่ละรูปทรงในภาพ กูร์แบตีให้ความหมายที่แตกต่างกัน หญิงสาวที่มีลักษณะดั่ง เทพธิดาเปลือยกายอยู่แสดงถึงเรือนร่างที่แท้จริง นอกจากนี้ยังมีเด็กชายยืนอยู่กับแมวสี ขาวที่นอนอยู่ ตรงกลางภาพกูร์แบได้วาดตัวเองงงในภาพด้วย ด้วยเหตุนี้ทำให้เรา สามารถข้าใจได้ว่ากูร์แบมีบทบาทมากต่อสังคม กูร์แบได้สร้างศาลาของลัทธิสัจนิยม ( PAVILION OF REALISM ) ด้วยเงินส่วนตัวของเขา และได้จัดแสดงผลงานสู่ สาธารณะ ร่วมกับผลงานที่ชื่อ A BURIAL AT ORNANS ของเขาและนั่นทำให้ผลงาน ของเขาเป็นที่รู้จักในสังคม ภาพนี้ได้รับการยกย่องจากศิลปินชื่อดังหลายคน PAGE 28

PAGE 29

PAGE 30

Realism o ff NNaattuurr e PAGE 31

PAGE 32

GUSTAVE COURBET REALISM OF NATURE The Wave 1869 PAGE 33

GUSTAVE COURBET REALISM OF NATURE ภาพ THE WAVE ในปี 1869 โดยกุสตาฟว์ กูร์แบถือเป็นหนึ่งในจิตรกรรม สัจนิยม โดยการวาดทัศนียภาพ วาดภาพคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งหลายลูก โดยใช้ ผ้าใบขนาดเล็ก ผ้าใบขนาดเล็กไม่ได้ขัดขวางความสามารถของเขาในการ ถ่ายทอดท้องฟ้าและท้องทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล วิวชายทะเลแสดงถึงความ เป็นจริงทั่วไปในธรรมชาติโดยใช้จังหวะแปรงหนักที่มีความแข็งแรงและสีอย่าง หนา ลวดลายของคลื่นลูกเดียวได้รับแรงบรรดาลใจจากภาพพิมพ์สีของญี่ปุ่น กูร์แบปฏิเสธอุดมการณ์ทางศาสนา และเปรียบเทียบจำนวนของภาพวาดแบบ ดั้งเดิมเขาวาดผู้คนทั่วไปในแต่ละวันก่อนหน้านี้สำหรับจิตรกรรมประวัติศาสตร์ กูร์แบเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินในลักธิประทับใจในเวลาต่อมา และช่วยปู ทางให้ศิลปะสมัยใหม่ภาพของกูร์แบเป็นภาพทะเลฉีกโดยพายุแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนครึ่งล่างของฉากที่ถูกยึดครองโดยคลื่นตีที่ตีเข้าสู่ฝั่ง ขณะที่เมฆหนักลอย เหนือพื้นนำ การเคลื่อนไหวในทะเลถูกวาดออกมาดั่งภาพจริงที่กูร์แบเห็น PAGE 34

GUSTAVE COURBET REALISM OF NATURE The Cliffs at Etretat after the Storm 1870 PAGE 35

GUSTAVE COURBET REALISM OF NATURE กุสตาฟว์ กูร์แบ เป็นศิลปินที่มีความสามารถรอบด้าน แต่แนวภูมิทัศน์ไม่ใช่สิ่งที่ เขาโด่งดังที่สุด ที่กล่าวว่า THE CLIFFS AT ETRETAT AFTER THE STORM เป็นภาพสถานที่ยอดนิยมของศิลปินมานานหลายศตวรรษ ในภูมิทัศน์ที่บริสุทธิ์ ปราศจากผู้คนแห่งนี้ ทำให้กูร์แบสามารถสร้างดุลยภาพของ แผ่นดินและหิน ท้องฟ้าและทะเล เขาทำให้แต่ละองค์ประกอบทางธรรมชาติเกือบ ชัดเจน ความชัดเจนของอากาศและแสงที่สดใสหลังพายุ นักวิจารณ์ที่ชื่อ คาสตาจนารี เพื่อนของกูร์แบได้กล่าวไว้ว่า \"ความอิสระที่เอิกเกริกในภาพเกิดจากอากาศที่ไหลเวียน อยู่ในผ้าใบและห่อหุ้มรายละเอียดต่างๆ\" หน้าผาที่ขรุขระของภูมิภาคนี้เหมาะกับ แนวทางความสมจริงของกูร์แบ ทำให้เขาสามารถจดจ่อกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่สวยงามนี้ได้ในทุกซอกทุกมุม จนกระทั่งสิ้นสุดอาชีพการงานของเขา เป็นเรื่องปกติที่ กูร์แบ จะสร้างภาพวาดโดยไม่มีร่างมนุษย์ เนื่องจากนี่คือสิ่งที่เขาโด่งดังที่สุดในอาชีพการงานส่วนใหญ่ของเขา ทิวทัศน์ทะเล ชุดนี้จึงผลักดันอาชีพของเขาไปสู่ทิศทางใหม่ และดูเหมือนว่าเขาจะชอบสถานที่อัน เงียบสงบเหล่านี้ มีการนำเรือประมงขนาดเล็กมาใช้ในบางงานด้วย ในตัวอย่างนี้ เขาได้วางตำแหน่งไว้ใกล้กับผู้ดู ซึ่งช่วยให้เขาใส่รายละเอียดเพิ่มเติมได้ กูร์แบส่ง THE ETRETAT CLIFFS AFTER THE STORM และ THE STORMY SEA ซึ่งเป็นภาพวาดในเวลาเดียวกัน ไปในงานศิลปะประจำปี 1870 และการจัดแสดงนี้ทำให้ชื่อเสียงของกูร์แบเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย PAGE 36

GUSTAVE COURBET REALISM OF NATURE Stormy Sea 1870 PAGE 37

GUSTAVE COURBET REALISM OF NATURE ในช่วงฤดูร้อนปี 1869 กูร์แบได้ไปพักอาศัยอยู่ที่ ETRETAT เขาเสนอ มุมมองที่ แรงกล้าของเขาด้วยภาพทะเลที่มีพายุโหมกระหนำ สภาพอากาศที่แปรปรวนแสดงให้ เห็นถึงความรุนแรงที่มีอยู่ในธรรมชาติ กูร์แบประสบความสำเร็จอย่างมากกับการ ถ่ายทอดความประทับใจอันเป็นนิรันดร์โดยกูร์แบแบ่งส่วนประกอบในรูปของเขาเป็น 3 กลุ่มตามแนวนอน ประกอบด้วยชายหาดที่มีเรือประมงตั้งอยู่ คลื่นทะเลที่ระบายด้วยสี เขียวทึบโดยเพิ่มความโดดเด่นให้แก่ ภาพด้วยฟองคลื่นสีขาว และส่วนสุดท้ายคือส่วน ท้องฟ้าอันมืดครึ้ม ในเมือง GILL BLAS วันที่ 28 เมษายน 1886 ผู้ชายที่ชื่อมอวพาสซาน เล่าถึงการ ไปเยี่ยมเยือนกูร์แบในช่วยที่เขาอาศัยอยู่ ETRETAT \"ในห้องใหญ่และว่างเปล่า ผู้ชาย รูปร่างอวบเนื้อตัวมันแพร่บกำลังตบสีขาวลงบนหน้าผาที่ยังว่างเปล่าอยู่ด้วยมีดสำหรับ ทำอาหาร เวลาผ่านไปเขาก็ยังคงเอาหน้าแนบกระจก แล้วมองออกไปที่พายุนอก หน้าต่าง น้ำทะเลที่ห่อหุ้มด้วยฟองคลื่นที่เป็นเหมือนเสียงคำรามของตัวมันเองใกล้เขา มาเหมือนจะชัดบ้านที่ตั้งอยู่ไปทั้งหลัง น้ำทะเลชัดกระทบและไหลลงตามกำแพง\" PAGE 38

\"Painting is the representation of visible forms. The essence of realism is its negation of the ideal.\" GUSTAVE COURBET PAGE 39

Gallery de courbet PAGE 40

GUSTAVE COURBET GALLERY DE COURBET THE DESPERATE MAN THE HAPPY LOVERS Early Works (1841 – 1848) PORTRAIT OF JULIETTE THE HAMMOCK COURBET PAGE 41


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook