Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิจัยในชั้นเรียน 2/2563

วิจัยในชั้นเรียน 2/2563

Published by Chanthawan Suwanhitathorn, 2021-07-05 14:56:52

Description: การพัฒนาทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/4 โดยใช้กลวิธี ADSAC

Search

Read the Text Version

45 บทท่ี 4 ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัย เพื่อพัฒนาทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์และผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เรื่อง ไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5/4 โดยใช้กลวิธี ADSAC ผู้วิจัยได้นำเสนอผลการ วเิ คราะห์ข้อมลู โดยแบง่ ออกเปน็ 4 ขอ้ ดังน้ี 1. การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ของนักเรียนท่ีได้รับการจัด กิจกรรมการเรยี นรูใ้ นการแก้โจทย์ปญั หาด้วยกลวธิ ี ADSAC หลงั เรยี นกับเกณฑร์ อ้ ยละ 70 2. การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฟิสิกส์ของนักเรียน ก่อนเรียนและหลัง เรยี น 3. การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนฟิสิกส์ของนักเรียน หลังเรียนกับเกณฑ์ รอ้ ยละ 70 4. การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เร่ือง ไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก โดย ใช้กลวธิ ี ADSAC 4.1 การวิเคราะห์ข้อมูลเพือ่ เปรียบเทียบทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสกิ ส์ของนักเรยี นท่ีได้รับการจัดกจิ กรรม การเรยี นรูใ้ นการแก้โจทยป์ ัญหาดว้ ยกลวธิ ี ADSAC หลังเรยี นกับเกณฑ์รอ้ ยละ 70 ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ปรากฏดงั ตารางที่ 4.1 ตารางที่ 4.1 ผลการเปรียบเทียบทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ในการแก้โจทย์ปัญหาดว้ ยกลวธิ ี ADSAC หลงั เรียนกับเกณฑร์ อ้ ยละ 70 แบบฝึกหดั ชดุ ที่ n คะแนนเต็ม เกณฑ์ x S.D. 5.38 1 17 50 35 41.24 2 17 50 35 43.18 3.41 3 17 50 35 37.29 4.28 จากตารางที่ 4.1 พบว่าทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ของนักเรียนท่ีได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ในการแก้โจทย์ปัญหาด้วยกลวธิ ี ADSAC มีคะแนนเฉลยี่ ในแบบฝึกหัดชุดที่ 1 เท่ากบั 41.24 คิดเป็นรอ้ ยละ 82.47 มีส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 5.38 คะแนนเฉลี่ยในแบบฝึกหัดชุดที่ 2 เท่ากับ 43.18 คิดเป็นร้อยละ 86.35

46 มีส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 3.41 และคะแนนเฉล่ียในแบบฝกึ หัดชุดที่ 3 เท่ากับ 37.29 คิดเป็นร้อยละ 74.59 มสี ่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 4.28 แสดงให้เห็นว่าคะแนนเฉลี่ยทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ของนักเรียน ทไ่ี ด้รับการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ในการแก้โจทยป์ ัญหาดว้ ยกลวิธี ADSAC หลงั เรียนสูงกว่าเกณฑร์ อ้ ยละ 70 4.2 การวเิ คราะหข์ ้อมลู เพื่อเปรียบเทยี บผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นฟสิ ิกส์ของนักเรียน ก่อนเรยี นและหลงั เรยี น ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูลปรากฏดงั ตารางท่ี 4.2 ตารางที่ 4.2 ผลการเปรยี บเทียบผลสัมฤทธิท์ างการเรียนฟิสิกสข์ องนกั เรียน ก่อนเรยี นและหลังเรยี น การทดสอบ n คะแนนเตม็ x S.D. กอ่ นเรยี น 1.63 17 20 5.82 หลังเรียน 17 20 15.06 0.75 จากตารางที่ 4.2 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในการแก้ โจทย์ปัญหาด้วยกลวิธี ADSAC ก่อนเรียนมีคะแนนเฉล่ียเท่ากับ 5.82 มีส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.63 และ หลังเรียนมีคะแนนเฉล่ียเท่ากับ 15.06 มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.75 แสดงให้เห็นว่าผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในการแก้โจทย์ปัญหาด้วยกลวิธี ADSAC หลังเรียนสูงกว่าก่อน เรยี น 4.3 การวิเคราะห์ข้อมูลเพ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนฟิสิกส์ของนักเรียน หลังเรียนกับเกณฑ์ ร้อยละ 70 ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ปรากฏดังตารางที่ 4.3 ตารางที่ 4.3 ผลการเปรยี บเทยี บผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนฟิสิกส์ของนักเรยี น หลงั เรยี นกบั เกณฑ์ร้อยละ 70 การทดสอบ n คะแนนเตม็ เกณฑ์ x S.D. หลังเรียน 0.75 17 20 14 15.06 จากตารางท่ี 4.3 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในการแก้ โจทย์ปัญหาด้วยกลวิธี ADSAC หลังเรียนมีคะแนนเฉล่ียเท่ากับ 15.06 คิดเป็นร้อยละ 75.29 มีส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐานเท่ากับ 0.75 แสดงให้เหน็ ว่าผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนของนักเรยี นท่ไี ด้รบั การจัดกจิ กรรมการเรียนรใู้ นการ แก้โจทยป์ ัญหาดว้ ยกลวิธี ADSAC หลงั เรยี นสงู กว่าเกณฑ์ร้อยละ 70

47 4.4 การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เรื่อง ไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก โดยใช้ กลวิธี ADSAC ผลการศกึ ษาความพงึ พอใจปรากฏดงั ตารางที่ 4.4 และมีเกณฑก์ ารประเมินดังน้ี คา่ เฉลีย่ 0.01 – 1.49 หมายถงึ นอ้ ยทีส่ ดุ ค่าเฉลย่ี 1.50 – 2.49 หมายถงึ นอ้ ย คา่ เฉลี่ย 2.50 – 3.49 หมายถงึ ปานกลาง ค่าเฉลย่ี 3.50 – 4.49 หมายถงึ มาก คา่ เฉลีย่ 4.50 – 5.00 หมายถงึ มากทีส่ ุด ตารางท่ี 4.4 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เร่ือง ไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก โดยใชก้ ลวิธี ADSAC ข้อที่ หวั ข้อการประเมิน x S.D. ระดับคณุ ภาพ 1 ขน้ั ที่ 1 : A (Analyze the problem) คอื วเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหา 3.88 0.96 มาก 2 ขั้นท่ี 2 : D (Draw a picture) คอื สรา้ งภาพจากข้อมูล 3.29 1.02 ปานกลาง 3 ข้ันที่ 3 : S (Select the equation) คือ เลอื กใชส้ มการ 3.65 0.97 มาก 4 ข้นั ท่ี 4 : A (Answer the problem) คอื หาคำตอบ 3.88 1.02 มาก 5 ขน้ั ท่ี 5 : C (Check answer) คอื ตรวจสอบคำตอบ 3.82 1.20 มาก 6 คะแนนทท่ี ำได้ในแบบฝึกหดั ที่ 1 เร่ือง แรงท่ีสนามแม่เหลก็ 3.88 0.96 มาก กระทำตอ่ ประจุ 7 คะแนนท่ีทำได้ในแบบฝึกหัดที่ 2 เรื่อง แรงที่กระทำต่อลวดตัวนำ 3.88 0.96 มาก ตรงท่มี ีกระแสไฟฟา้ ผา่ นและอยใู่ นสนามแมเ่ หลก็ 8 คะแนนทที่ ำไดใ้ นแบบฝึกหดั ท่ี 3 เรอื่ ง แรงท่กี ระทำต่อขดลวดท่ีมี 3.71 0.82 มาก กระแสไฟฟา้ ผ่านและอยใู่ นสนามแม่เหล็ก 9 เวลาในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ เร่ือง ไฟฟา้ และสนามแม่เหล็ก 3.71 0.96 มาก 10 ภาพรวมในการแก้โจทย์ปญั หาฟิสกิ ส์ โดยใชก้ ลวิธี ADSAC 3.82 0.98 มาก รวม 3.75 1.00 มาก จากตารางท่ี 4.4 พบว่า ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เรื่อง ไฟฟ้า และสนามแม่เหล็ก โดยใช้กลวิธี ADSAC ข้ันที่ 1 : A (Analyze the problem) คือ วิเคราะห์โจทย์ปญั หา ข้นั ท่ี 4 : A (Answer the problem) คือ หาคำตอบ คะแนนที่ทำได้ในแบบฝึกหัดท่ี 1 เรื่อง แรงที่สนามแม่เหล็กกระทำ

48 ต่อประจุ และคะแนนที่ทำได้ในแบบฝึกหัดที่ 2 เร่ือง แรงที่กระทำต่อลวดตัวนำตรงท่ีมีกระแสไฟฟ้าผ่านและอยู่ใน สนามแมเ่ หลก็ มีค่าเฉล่ียมากท่สี ุด 3.88 คา่ เบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.96, 1.02, 0.96 และ 0.96 ตามลำดับ ส่วนขั้นท่ี 2 : D (Draw a picture) คอื สร้างภาพจากขอ้ มูล มีค่าเฉล่ียนอ้ ยทสี่ ดุ 3.29 ค่าเบย่ี งเบนมาตรฐาน 1.02 โดยภาพรวมผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เร่ือง ไฟฟ้าและ สนามแมเ่ หลก็ มรี ะดับความพงึ พอใจอยู่ในระดับ มาก ซงึ่ มคี า่ เฉล่ีย 3.75 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.00

49 บทท่ี 5 สรปุ ผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัย เร่ือง การพัฒนาทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์และผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เรอ่ื ง ไฟฟ้าและ สนามแม่เหล็ก ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5/4 โดยใช้กลวิธี ADSAC มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพ่ือพัฒนาทักษะ ในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เรื่อง ไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5/4 โดยใช้กลวิธี ADSAC เปรียบเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 70 2) เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เร่ือง ไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5/4 หลังเรียนสูงกว่ากอ่ นเรียน 3) เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เร่ือง ไฟฟ้า และสนามแม่เหล็ก ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5/4 เปรียบเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 70 4) เพื่อศึกษาความพึง พอใจของนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5/4 ตอ่ การแก้โจทย์ปญั หาฟิสกิ ส์ เร่อื ง ไฟฟา้ และสนามแมเ่ หล็ก โดยใช้กลวธิ ี ADSAC ประชากรในการวิจัยคร้ังน้ีได้แก่ นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ โรงเรยี นคลองใหญ่วิทยาคม อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 3 ห้องเรียน รวม 79 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งน้ี ได้แก่ นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 5/4 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์- คณิตศาสตร์ โรงเรยี นคลองใหญ่วิทยาคม อำเภอคลองใหญ่ จงั หวัดตราด ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 17 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยกลุ่มตัวอย่างได้รับการจัดการเรียนรู้ เร่ือง ไฟฟา้ และสนามแมเ่ หลก็ โดยใชก้ ลวธิ ี ADSAC เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัยคร้ังน้ี ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้การแก้โจทย์ปัญหาด้วยกลวิธี ADSAC เรื่อง ไฟฟา้ และสนามแม่เหล็ก จำนวน 4 แผน คอื 1.1) เรื่อง ทศิ ของแรงท่ีสนามแมเ่ หล็กกระทำต่อประจุ ใช้เวลา 1 ชว่ั โมง 1.2) เรื่อง ขนาดของแรงท่ีสนามแม่เหล็กกระทำต่อประจุ ใชเ้ วลา 2 ชั่วโมง 1.3) เรื่อง แรงกระทำต่อลวด ตัวนำตรงท่ีมีกระแสไฟฟ้าผ่านและอยู่ในสนามแม่เหล็ก ใช้เวลา 2 ช่ัวโมง 1.4) เรื่อง แรงแม่เหล็กที่กระทำต่อ ขดลวดท่ีมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน ใช้เวลา 2 ช่ัวโมง 2) แบบทดสอบวัดทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เรื่อง ไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก จำนวน 3 ฉบับ ฉบับละ 5 ข้อ คือ 2.1) เรื่อง แรงที่สนามแม่เหล็กกระทำต่อประจุ 2.2) เรื่อง แรงท่ีกระทำต่อลวดตัวนำตรงท่ีมีกระแสไฟฟ้าผ่านและอยู่ในสนามแม่เหล็ก 2.3) เรื่อง แรงท่ีกระทำต่อ ขดลวดท่ีมีกระแสไฟฟ้าผ่านและอยู่ในสนามแม่เหล็ก 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ไฟฟ้าและ สนามแม่เหลก็ จำนวน 20 ขอ้ 4) แบบวดั ความพงึ พอใจของนักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5/4 ตอ่ การแกโ้ จทยป์ ญั หา ฟิสิกส์ เร่ือง ไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก โดยใช้กลวิธี ADSAC แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ การวิเคราะห์ ขอ้ มลู ใช้ คา่ เฉล่ีย ( x ) และคา่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สรุปผลการวจิ ัยได้ดังนี้

50 5.1 สรุปผลการวจิ ัย 1. ทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ของนักเรียนท่ีได้รับการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ในการแก้โจทย์ปัญหา ด้วยกลวธิ ี ADSAC หลังเรยี นสูงกวา่ เกณฑ์รอ้ ยละ 70 2. ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในการแก้โจทย์ปัญหาด้วยกลวิธี ADSAC หลังเรียนสูงกว่ากอ่ นเรยี น 3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในการแก้โจทย์ปัญหาด้วยกลวิธี ADSAC หลงั เรียนสูงกว่าเกณฑร์ ้อยละ 70 4. ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เร่ือง ไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก มีระดับความ พึงพอใจอยใู่ นระดบั มาก ซึ่งมคี า่ เฉล่ยี 3.75 ค่าเบยี่ งเบนมาตรฐาน 1.00 5.2 อภปิ รายผลการวจิ ัย 1. ทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในการแก้โจทย์ปัญหา ด้วยกลวิธี ADSAC หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 เนื่องจากการแก้โจทย์ปัญหาด้วยกลวิธี ADSAC เป็นการ จัดการเรยี นการสอนอย่างเป็นระบบโดยใช้วธิ ีการสบื สอบหาความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์ในการค้นพบวความรู้ และการ คดิ แก้โจทย์ปัญหาทำให้ผเู้ รียนแก้โจทย์ปัญหาอย่างมีระบบ โดยวิเคราะห์โจทย์ปัญหา วาดรูปจากสถานการณ์ที่ได้ จากโจทย์ปัญหา เลือกใช้สมการให้เหมาะสม ดำเนินการแก้โจทย์ปัญหาเพ่ือค้นหาคำตอบ และตรวจสอบคำตอบ ซ่ึงนักเรียนสามารถนำความรู้จากการแก้โจทย์ปัญหาไปใช้ในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ในสถานการณ์ ใหม่ ๆ ได้ นกั เรยี นจงึ มีความสามารถในการแกโ้ จทย์ปญั หาฟสิ กิ ส์สูงข้นึ 2. ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในการแก้โจทย์ปัญหาด้วยกลวิธี ADSAC หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 เน่ืองจากการจัดการเรียนรู้ฟิสิกส์โดยใช้การแก้ โจทย์ปัญหาดว้ ยกลวิธี ADSAC ช่วยฝึกกระบวนการคิดของนกั เรียนใหเ้ ป็นเหตเุ ป็นผลย่ิงข้ึน สง่ ผลให้นักเรยี นได้ฝึก ทกั ษะการคิดอย่างเป็นระบบ จนสามารถแก้โจทย์ปญั หาฟสิ กิ ส์ได้ดว้ ยตนเอง 3. ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เรื่อง ไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก มีระดับความ พึงพอใจอยู่ในระดับ มาก ซ่ึงมีค่าเฉล่ีย 3.75 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.00 เน่ืองจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ใน การแก้โจทยป์ ัญหาด้วยกลวิธี ADSAC ทำให้นักเรียนมีทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาดียิ่งข้ึน และผลสมั ฤทธิ์ทางการ เรยี นเพ่ิมข้นึ เช่นกัน ส่งผลใหน้ ักเรียนเกดิ ความพงึ พอใจ สอดคล้องกับแนวคิดของอรจรีย์ ณ ตะก่ัวทุ่ง (2545 : 48) ทว่ี ่าความพึงพอใจเป็นแรงจูงใจภายในตัวนักเรียนและเกิดขึ้นเมื่อได้รับรางวัลภายนอก ทำให้ความพึงพอใจภายใน คงท่ีอยู่ด้วยการให้รางวัลภายหลังนักเรียนทำงานเสร็จ ด้วยการให้รางวัลท่ีนักเรียนไม่คาดคิดว่าจะได้รับ ด้วยการ

51 พูดชมเชยและให้ข้อมูลป้อนกลับแบบอธิบายรายละเอียด ทำให้นักเรียนปฏิบัติสิ่งใดสิ่งหนึ่งลงไปด้วยการให้ข้อมูล ป้อนกลับท่ีจูงใจเม่ือนักเรียนตอบสนอง ทำให้นักเรียนปฏิบัติสิ่งใดส่ิงหน่ึงอย่างมีคุณภาพมากข้ึน จึงส่งผลให้ นักเรยี นเกิดความรู้สึกท่ีดีในการร่วมกิจกรรมท่ีให้นักเรยี นปฏบิ ัติค้นคว้าหาคำตอบหรอื ฝึกการแก้ปัญหาอีกทั้งครยู ัง คอยช่วยส่งเสริมสนับสนุน และช่วยกระตุ้นนักเรียน โดยการดูแลเอาไจใส่ ให้กำลังใจและคำแนะนำในการ แก้ปัญหาของนักเรียน จัดให้ผู้เรียนได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันรวมท้ังการสร้างบรรยากาศ การเรียนรู้ทางวิชาการ ถือเป็นการส่งเสริมความสามารถในการแก้ปญั หาและเจตคติท่ีดตี ่อวชิ าฟิสิกส์ 5.3 ข้อเสนอแนะในการทำวิจัย จากผลการวิจัย เร่ือง การพัฒนาทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เร่ือง ไฟฟา้ และสนามแม่เหลก็ ของนกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5/4 โดยใช้กลวธิ ี ADSAC ผ้วู จิ ัยมีขอ้ เสนอแนะดังต่อไปนี้ 1. ขอ้ เสนอแนะทั่วไป 1.1 ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ครคู วรศึกษารายละเอียดของเนอ้ื หาและข้ันตอนการใช้กลวธิ ี ADSAC แต่ละข้ันตอนให้เขา้ ใจอย่างถอ่ งแท้ รวมถึงบทบาทของครูและบทบาทของนักเรียน เพื่อช่วยให้การจัดการเรียนรู้มี ประสทิ ธิภาพ 1.2 ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ครูต้องทำหน้าที่กระตุ้นให้นักเรียนคิด แต่ไม่ควรบังคับให้นักเรียน ยอมรบั ประเดน็ หรอื คำถามทีผ่ ู้สอนกำลงั สนใจ ย่วั ยุให้นักเรยี นเกิดความอยากรูอ้ ยากเหน็ 1.3 การแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ตามกลวิธี ADSAC ทั้ง 5 ข้ันตอน ครูควรเน้นขั้นตรวจสอบคำตอบ เน่อื งจากนกั เรียนลืมท่จี ะตรวจสอบคำตอบบอ่ ยมาก ครตู ้องคอยเน้นย้ำให้นกั เรยี นตรวจคำตอบจนเคยชนิ 1.4 การแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ ครูควรฝึกให้นักเรียนฝึกแก้ปัญหาด้วยโจทย์ท่ีหลากหลายมากขึ้น เน่ืองจากโจทย์ฟสิ กิ ส์เปน็ โจทย์ทยี่ ากและซับซ้อน 1.5 ตัวอย่างโจทย์ปัญหาฟิสิกส์สามารถปรับเปล่ียนได้ตามสภาพของนักเรียน เช่น ถ้านักเรียนมีพื้น ฐานความรู้ที่ดีในระดับหน่ึง ครูก็อาจจะใช้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ที่มีความซับซ้อนของคำถามขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ นักเรียนคนที่ทำได้อยากลองทำ แต่ถ้าผู้เรียนที่มีพื้นฐานความรู้อ่อนถึงปานกลางอาจจะใช้โจทย์ท่ีไม่ค่อยมีความ ซบั ซ้อนของคำถามมากนัก และในระหว่างเรียนครูควรจะกระตุ้นให้นักเรียนสนใจที่อยากจะแก้โจทย์ปัญหา เพ่อื ให้ ผเู้ รียนเกดิ ทักษะกระบวนการคดิ วเิ คราะห์

52 2. ข้อเสนอแนะสำหรับการวจิ ัยครงั้ ต่อไป 2.1 ควรนำการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือมาใช้ร่วมกัน เน่ืองจากในขณะท่ีจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ พบวา่ นักเรียนส่วนใหญ่มีการปรึกษาและแลกเปลี่ยนความรู้ซึง่ กันและกับระหว่างนักเรียนท่ีรกู้ ับนักเรยี นท่ี ยังไม่รู้ 2.2 ควรมีการศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในเน้ือหาฟิสิกส์อื่น ๆ เพื่อฝึกให้นักเรียนมีการสร้าง องคค์ วามรู้ดว้ ยตนเองอย่างต่อเนื่อง

53 บรรณานุกรม กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ ชุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย. กนั ตก์ นิษฐ์ พลพิพฒั น.์ (2560). การศกึ ษาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นและทักษะการแกโ้ จทยป์ ัญหาคณติ ศาสตร์ ของนักเรียนโดยใชก้ ลวธิ ี STAR. วิทยานพิ นธศ์ ึกษาศาสตรมหาบัณฑติ , คณะครุศาสตร์, มหาวิทยาลัย ราชภฏั รำไพพรรณ.ี ฐาปนีข์ อัยวรรณ. (2555). การพัฒนาความสามารถในการแกป้ ญั หาและผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นวชิ า วทิ ยาศาสตร์ของนกั เรียนชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 เรื่อง ร่างกายมนุษย์ โดยใชร้ ูปแบบการจัดการเรยี นรู้ แบบวฏั จักรการสบื เสาะหาความรู้ (SES), วิทยานิพนธศ์ กึ ษาศาสตรมหาบัณฑติ , สาขาวิชาหลักสูตรและ การสอบ, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น. ธนั ยรตั น์ พลเย่ยี ม. (2560). การศึกษาความสามารถในการแกโ้ จทย์ปัญหาฟิสิกส์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น ฟิสกิ ส์ เรอื่ ง โมเมนตัมและการชน ของนักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ด้วยการจัดการเรยี นรูแ้ บบ สืบเสาะหาความรูร้ ่วมกับเทคนิคการแกป้ ญั หาของโพลยา, วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการสอนวิทยาศาสตร,์ คณะศึกษาศาสตร,์ มหาวทิ ยาลยั บรู พา นฤมล ฉมิ งาม. (2558). การพัฒนาความสามารถในการแกโ้ จทยป์ ญั หาฟิสิกส์ โดยใชเ้ ทคนคิ การแกป้ ญั หาของ โพลยาผสานการจดั การเรียนรแู้ บบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขนั้ ของนักเรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑติ , สาขาวชิ าการวจิ ยั และพฒั นาหลกั สตู ร, คณะครศุ าสตร์ อตุ สาหกรรม, มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี. ประทมุ พร บญุ มาวงษา. (2558). การพฒั นาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นและเจตกตติ ่อวิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้คมู่ ือ การจัดการเรียนรแู้ บบสืบสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกบั การเรียนแบบร่วมมอื ของนกั เรียนชั้นมัยมศึกษา ปีที่ 2. วิทยานิพนธ์ครศุ าสตรมหาบณั ฑิต, สาขาวิชาการวจิ ัยและพัฒนาการศึกษา, คณะครุศาสตร์, มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสกลนคร. พชิ ญาภา สึนามะ. (2557). การพฒั นาชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการแก้ปญั หาของโพลยา เร่ือง กำหนดการเชงิ เสน้ สำหรบั นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6. วทิ ยานพิ นธ์การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชา วทิ ยาศาสตรศ์ กึ ษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวทิ ยาลัยนเรศวร. พชิ ติ ฤทธ์งิ รูญ. (2548). หลักการวดั และประเมนิ ผลการศึกษา (พิมพ์ครง้ั ที่ 3). กรุงเทพฯ: เฮ้าส์ ออฟ เคอร์มีสท.์ ไพศาล วรคำ. (2559). การวิจยั ทางการศึกษา (พิมพ์ครั้งท่ี 8). มหาสารคาม: ตักสลิ าการพมิ พ์.

54 ภพ เลาหไพบูลย์. (2542). แนวการสอนวทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรงุ ). กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช. รศนา อชั ชะกจิ . (2539). กระบวนการแกป้ ัญทาและตดั สินใจเชงิ วทิ ยาศาสตร์ (พิมพ์คร้งั ที่ 3). กรงุ เทพฯ: สำนักพิมพจ์ ฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. ราชบัณฑติ ยสถาน. (2525). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑติ ยสถาน (พิมพ์ครั้งท่ี 4). กรงุ เทพฯ: ราชบัณฑติ ยสถาน. ราชบณั ฑิตยสถาน. (2555). พจนานกุ รมศพั ท์ศึกษาศาสตร์ ฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน. กรุงเทพฯ: อรุณการพมิ พ.์ วัชรา เล่าเรยี นด.ี (2544). รปู แบบและกลยทุ ธ์การ จัดการเรยี นร้เู พ่ือพฒั นาทักษะการคดิ (พมิ พ์คร้ังท่ี 7). นครปฐม: โรงพมิ พ์มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร. สาลินี โฮมแพน และคณะ. (2558). การพฒั นาการจัดการเรยี นรวู้ ิชาฟสิ กิ ส์ เรือ่ งงานและพลงั งาน และ ความสามารถในการแก้ปญั หาทางวิทยาศาสตร์ของนกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 : การวจิ ัย เชิงปฏิบตั ิการ. วิทยานิพนธศ์ ึกษาศาสตรมหาบัณฑติ , คณะครุศาสตร,์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏ มหาสารคาม. อรพินท์ ช่ืนชอบ. (2549). การพัฒนาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนฟสิ ิกสแ์ ละความสามารถในการแก้ปัญหาทางฟสิ ิกส์ ของนักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4 ดว้ ยวธิ ีสอนแบบสืบเสาะหาความรโู้ ดยเสรมิ การแก้ปัญหาตาม เทคนคิ ของโพลยา. วทิ ยานพิ นธศ์ ึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาหลกั สูตรและการสอน, คณะศกึ ษาศาสตร์, มหาวทิ ยาลยั บรู พา อษุ า ชมภูพฤกษ์ และคณะ. (2561). การพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสกิ ส์ และผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียน รายวิชา ฟสิ ิกส์ เร่อื ง ไฟฟา้ กระแส ของนกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 โดยใชก้ ลวิธี เมตาคอกนิชัน. วิทยานพิ นธศ์ ึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิจยั และประเมนิ ผลการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม.

55 ภาคผนวก

56 ภาคผนวก ก ตาราง ก-1 คะแนนทักษะในการแกโ้ จทย์ปญั หาฟิสิกสข์ องนักเรียนท่ไี ด้รับการจดั กจิ กรรมการเรยี นร้ใู นการแก้ โจทยป์ ญั หาด้วยกลวิธี ADSAC ตาราง ก-2 คะแนนผลสัมฤทธิท์ างการเรียนฟิสิกส์ของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน

57 ตาราง ก-1 คะแนนทักษะในการแกโ้ จทย์ปญั หาฟิสิกสข์ องนักเรยี นที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ในการแก้ โจทยป์ ัญหาด้วยกลวธิ ี ADSAC คะแนนทกั ษะในการแก้โจทยป์ ัญหาฟิสกิ ส์ของนักเรยี นหลังเรยี น เลขท่ี (50 คะแนน) ชุดที่ 1 ชุดที่ 2 ชดุ ที่ 3 1 46 43 30 2 36 43 39 3 29 34 39 4 44 41 38 5 37 45 36 6 48 46 40 7 43 48 39 8 37 42 40 9 49 42 28 10 37 44 28 11 37 41 40 12 49 49 40 13 42 41 39 14 44 46 41 15 39 41 40 16 42 45 38 17 42 43 39

58 ตาราง ก-2 คะแนนผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนฟิสกิ สข์ องนกั เรยี นกอ่ นเรียนและหลงั เรยี น เลขที่ ก่อนเรียน หลังเรยี น (20 คะแนน) (20 คะแนน) 17 16 28 15 34 15 46 15 55 15 66 16 77 14 85 15 94 16 10 6 15 11 4 15 12 5 15 13 4 14 14 10 16 15 7 16 16 6 14 17 5 14

59 ภาคผนวก ข - ตวั อย่างแผนการจดั การเรยี นรู้ - แบบทดสอบวดั ทักษะในการแกโ้ จทยป์ ญั หาฟสิ กิ ส์ - แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน - แบบประเมนิ ความพึงพอใจของนักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 5/4 ตอ่ การแกโ้ จทยป์ ัญหาฟสิ กิ ส์ เรอื่ ง ไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก โดยใช้กลวธิ ี ADSAC

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 5/,4 หนว่ ยที่ 3 ไฟฟา้ และสนามแมเ่ หล็ก เรือ่ ง ขนาดของแรงทสี่ นามแม่เหล็กกระทำตอ่ ประจุ รายวิชา ฟิสกิ สไ์ ฟฟ้า (ว32207) เวลา 2 ชั่วโมง ครผู ูส้ อน นางสาวฉนั ทวรรณ สวุ รรณหติ าทร 1. ผลการเรยี นรู้ 13. อธิบาย และคำนวณแรงแม่เหล็กที่กระทำต่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่ในสนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กที่กระทำต่อเส้นลวดที่มีกระแสไฟฟ้าผ่านและวางในสนามแม่เหล็ก รัศมีความโค้งของการเคลื่อนที่เม่ือ ประจุเคล่อื นทต่ี ัง้ ฉากกบั สนามแมเ่ หลก็ รวมทงั้ อธบิ ายแรงระหวา่ งเสน้ ลวดตวั นำคู่ขนานทมี่ กี ระแสไฟฟ้าผ่าน 2. สาระการเรียนรู้ อนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่เข้าไปในสนามแม่เหล็ก จะเกิดแรงกระทำต่ออนุภาคนั้น คำนวณได้จาก สมการ F = qvBsin กรณีที่ประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่ตัง้ ฉากเขา้ ไปในสนามแมเ่ หล็ก จะทำให้ประจุเคล่ือนทีเ่ ปลี่ยนไป โดยรัศมีความ โค้งของการเคลอื่ นท่ีคำนวณได้จากสมการ r = mv qB ลวดตวั นำท่ีมกี ระแสไฟฟ้าผา่ นและอยู่ในสนามแม่เหล็ก จะเกดิ แรงกระทำต่อลวดตัวนำนั้น โดยทิศทางของ แรงหาได้จากกฎมือขวา และคำนวณขนาดของแรงได้จากสมการ F = ILBsin เมื่อวางเส้นลวดสองเส้นขนานกันและมีกระแสไฟฟ้าผ่านทั้งสองเส้น จะเกิดแรงกระทำระหว่างลวดตัวนำ ทั้งสอง 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. อธิบายเกย่ี วกับแรงท่สี นามแม่เหลก็ กระทำต่อประจุได้ ด้านทักษะ (Process) 2. คำนวณเก่ียวกับโจทย์ปญั หาเก่ียวกบั ขนาดของแรงทสี่ นามแมเ่ หล็กกระทำต่อประจุได้ ดา้ นเจตคติ (Affective) 3. รบั ผิดชอบตอ่ งานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย 4. นกั เรียนมคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั งิ าน แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟสิ กิ ส์ไฟฟ้า (ว32207) ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ครูฉนั ทวรรณ สุวรรณหติ าทร

4. ความคิดรวบยอด เมื่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่เข้าไปในสนามแม่เหล็ก จะเกิดแรงแม่เหล็กกระทำต่ออนุภาคให้มีทิศ ทางการเคลื่อนที่เบนไปจากเดิม โดยทิศทางของแรงแม่เหล็กหาได้จากกฎมือขวา และขนาดของแรงเม่เหล็กหาได้ จากสมการ F = qvBsin 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น  ความสามารถในการสือ่ สาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแก้ปญั หา  ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์  ความซ่อื สัตยส์ ุจริต  มีวนิ ยั  ความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  อย่อู ย่างพอเพียง  มงุ่ มั่นในการทำงาน  ใฝเ่ รยี นรู้  มีจติ สาธารณะ  รกั ความเป็นไทย 7. แนวความคิดเพอื่ การเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ 21  ทกั ษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม  สาระวชิ าหลกั (Core Subjects)  ทักษะด้านชวี ิตและอาชีพ  ทักษะดา้ นสารสนเทศ ส่อื และเทคโนโลยี 8. การบรู ณาการเรยี นรู้  พระบรมราโชบายด้านการศกึ ษาของ ร.10  ด้านที่ 1 มที ศั นคตทิ ่ีถูกต้องต่อบ้านเมือง  ดา้ นที่ 2 มีพื้นฐานชวี ิตท่มี ่นั คง มคี ณุ ธรรม  ด้านท่ี 3 มีงานทำ มีอาชีพ  ดา้ นที่ 4 เป็นพลเมอื งดี  หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง  หลกั สูตรเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พเิ ศษ( หลักสูตรทอ้ งถิ่น)  หลักสูตรต้านทุจรติ ศกึ ษา  สะเตม็ ศกึ ษา แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟสิ ิกส์ไฟฟ้า (ว32207) ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ครูฉนั ทวรรณ สุวรรณหติ าทร

9. คำถามหลัก - ขนาดของแรงแมเ่ หลก็ ท่ีกระทำตอ่ อนุภาคท่มี ีประจไุ ฟฟ้าขน้ึ อยู่กับปริมาณใดบา้ ง - แรงแมเ่ หลก็ ทกี่ ระทำตอ่ อนุภาคจะมีคา่ สงู สุด และน้อยสดุ เมื่ออนภุ าคเคลื่อนท่ีอย่างไร 10. กระบวนการจัดการเรียนรู้ วิธสี อน ใชก้ ระบวนการสบื เสาะความรู้ (Inquiry Cycle หรือ Inquiry Method : 5E) 1. ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) ส่อื การเรียนรู้ : 1. หนงั สือเรยี นเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.6 เลม่ 1 , สนพ.แมค็ เอด็ ดเู คชั่น 2. เว็บไซต์ https://sites.google.com/view/tpank 1. ครทู บทวนการหาทิศทางของแรงทส่ี นามแมเ่ หลก็ กระทำต่อประจุไฟฟา้ 2. ครูถามนักเรียนว่า “ขนาดของแรงแม่เหล็กที่กระทำต่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าขึ้นอยู่กับปริมาณใดบ้าง” (ขนาดของแรงแมเ่ หลก็ ทก่ี ระทำตอ่ อนภุ าคท่ีมปี ระจุฟ้าขึ้นอยกู่ บั ปริมาณความเข้มของสนามแม่เหล็ก, ความเร็ว และ ทิศทางการเคลอ่ื นที่ของอนุภาค) 2. ขนั้ สำรวจและคน้ หา (Exploration) สอื่ การเรยี นรู้ : 1. หนงั สือเรียนเพิม่ เตมิ ฟิสิกส์ ม.6 เล่ม 1 , สนพ.แม็คเอด็ ดูเคชั่น 2. เวบ็ ไซต์ https://sites.google.com/view/tpank 3. ครูให้นักเรียนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับขนาดของแรงแม่เหล็กที่กระทำต่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าใน อินเทอรเ์ นต็ 3. ข้ันอธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) สือ่ การเรยี นรู้ : 1. หนังสือเรยี นเพม่ิ เติม ฟิสกิ ส์ ม.6 เลม่ 1 , สนพ.แมค็ เอด็ ดเู คชน่ั 2. เวบ็ ไซต์ https://sites.google.com/view/tpank 4. ครูและนกั เรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการหาขนาดของแรงแม่เหลก็ ท่ีกระทำต่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า จากหนังสอื หน้า 16 4. ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) สอ่ื การเรยี นรู้ : 1. หนังสือเรยี นเพม่ิ เตมิ ฟสิ ิกส์ ม.6 เลม่ 1 , สนพ.แม็คเอ็ดดูเคชัน่ 2. เวบ็ ไซต์ https://sites.google.com/view/tpank 5. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันนำความรู้ทไ่ี ดร้ บั มาแกโ้ จทย์ปญั หาตามวิธีการ ADSAC แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟสิ ิกสไ์ ฟฟ้า (ว32207) ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 5 ครูฉันทวรรณ สวุ รรณหติ าทร

ข้อที่ 1 ประจุไฟฟ้า -3.2x10-19 คูลอมบ์ เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 2.5x105 เมตรต่อวินาที ผ่านเข้าไปในบริเวณที่มี สนามแม่เหล็กขนาด 1.2 เทสลา โดยทิศของความเร็วต้ังฉากกับทิศของสนามแม่เหล็ก จงหาขนาดของแรง ที่กระทำต่อประจุไฟฟา้ น้ี วิธที ำ ขั้นท่ี 1 วเิ คราะห์ปญั หา (A) ขนั้ ท่ี 2 สร้างภาพจากขอ้ มลู (D) …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ข้ันที่ 3 เลอื กใชส้ มการ (S) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ขั้นที่ 4 หาคำตอบ (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบคำตอบ (C) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกสไ์ ฟฟา้ (ว32207) ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 5 ครูฉนั ทวรรณ สุวรรณหติ าทร

ข้อที่ 2 อนุภาคดิวเทอรอนเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 9.6x106 เมตรต่อวินาที ในทิศทางที่ตั้งฉากกับสนามแม่เหล็กที่มี ขนาด 0.4 เทสลา ทำให้อนุภาคดิวเทอรอนเคลื่อนที่เป็นวงกลมรัศมี 0.5 เมตร อัตราส่วนระหว่างประจุต่อ มวลของอนภุ าคดวิ เทอรอนมคี ่ากี่คลู อมบ์ต่อกิโลกรัม วิธีทำ ข้ันที่ 1 วิเคราะห์ปญั หา (A) ขน้ั ท่ี 2 สรา้ งภาพจากขอ้ มลู (D) …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ขนั้ ที่ 3 เลอื กใช้สมการ (S) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ขั้นท่ี 4 หาคำตอบ (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบคำตอบ (C) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ สไ์ ฟฟา้ (ว32207) ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ครูฉันทวรรณ สุวรรณหิตาทร

5. ขนั้ ประเมนิ (Evaluation) สื่อการเรยี นรู้ : 1. หนงั สอื เรียนเพ่มิ เตมิ ฟสิ กิ ส์ ม.6 เล่ม 1 , สนพ.แมค็ เอด็ ดเู คช่นั 2. เวบ็ ไซต์ https://sites.google.com/view/tpank 3. ใบงานที่ 1 เรือ่ ง แรงที่สนามแมเ่ หล็กกระทำต่อประจุ 6. ครใู หน้ ักเรยี นสรุปองค์ความรู้เกีย่ วกับแรงทีก่ ระทำต่อประจทุ ่ีเคลื่อนทเี่ ข้าไปในสนามแมเ่ หล็ก 7. ครใู หน้ กั เรียนทำใบงานที่ 1 เร่ือง แรงทส่ี นามแม่เหล็กกระทำต่อประจุ 8. ครูสงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ของนักเรียน 11. สอ่ื การสอน/แหล่งการเรยี นรู้ สื่อการสอน 1. หนงั สอื เรียนเพิม่ เติม ฟสิ กิ ส์ ม.5 เลม่ 2 , สนพ.แม็คเอด็ ดูเคชนั่ 2. เว็บไซต์ https://sites.google.com/view/tpank 3. ใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง แรงทสี่ นามแม่เหลก็ กระทำต่อประจุ แหล่งการเรยี นรู้ 1. หอ้ งสมดุ 2. เว็บไซตต์ า่ ง ๆ เพอื่ การเรียนรู้ 12. กระบวนการวัดและการประเมินผล 1. ความรู้ ภาระ/ชนิ้ งาน วิธกี ารวัด เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน ผปู้ ระเมนิ ครู การสรุปความรู้ - ตรวจสอบการสรปุ - แบบประเมนิ - ต้องไดไ้ มต่ ่ำกวา่ ระดบั เกีย่ วกบั แรงที่ ความรู้ สมุดบันทกึ ความรู้ คณุ ภาพ 3 กระทำต่อประจทุ ่ี เคล่ือนทเ่ี ขา้ ไปใน สนามแม่เหลก็ แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟสิ ิกส์ไฟฟา้ (ว32207) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ครูฉันทวรรณ สุวรรณหติ าทร

2. ทักษะ/กระบวนการ ภาระ/ชน้ิ งาน วิธีการวัด เครื่องมอื เกณฑ์การประเมิน ผปู้ ระเมนิ - ตอ้ งไดไ้ ม่ต่ำกวา่ ระดับ ครู การทำใบงานท่ี 1 - ตรวจสอบการทำ - แบบประเมินการ คณุ ภาพ 3 เร่ือง แรงท่ี โจทย์ปญั หา ทำโจทยป์ ัญหา สนามแมเ่ หลก็ กระทำต่อประจุ 3. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์/ วิธีการวดั เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน ผ้ปู ระเมิน ครู พฤตกิ รรม ครู พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ พฤติกรรมการ - ต้องได้ไมต่ ำ่ กว่า เรียนรู้ การเรยี นรู้ เรยี นรู้ ระดบั 8 รายบุคคล คุณลักษณะ - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมินคุณลักษณะ - ต้องได้ไม่ต่ำกวา่ อนั พึงประสงค์ อนั พงึ ประสงค์ ระดบั 20 แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ สไ์ ฟฟ้า (ว32207) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ครูฉันทวรรณ สวุ รรณหิตาทร

เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบวัดทักษะการแกป้ ญั หาดว้ ยวิธีการ ADSAC คะแนนเต็มสำหรบั แตล่ ะขอ้ คือ 10 คะแนนน ตอบถูกตามขน้ั ที่ 1 : A (Analyze the problem) คอื วเิ คราะหโ์ จทยป์ ญั หา ให้ 2 คะแนน 0 หมายถึง บอกขอ้ มลู ทเี่ กยี่ วข้องกับปญั หาไมไ่ ด้เลย 1 หมายถึง บอกส่งิ ทโ่ี จทย์ใหม้ าหรอื สิง่ ท่โี จทยต์ ้องการถามได้ 2 หมายถงึ บอกส่ิงท่โี จทยใ์ ห้มาและสิง่ ท่โี จทย์ต้องการถามไดค้ รบถว้ น ตอบถูกตามข้นั ท่ี 2 : D (Draw a picture) คอื สรา้ งภาพจากข้อมูล ให้ 2 คะแนน 0 หมายถึง วาดภาพจากข้อมลู ท่ีมีไมไ่ ดเ้ ลย 1 หมายถงึ วาดภาพไดแ้ ตล่ งรายละเอียดตามส่ิงท่ีโจทย์ให้มาหรือสง่ิ ทีโ่ จทย์ต้องการ ถามไม่ได้ 2 หมายถึง วาดภาพได้และลงรายละเอยี ดตามสง่ิ ที่โจทย์ให้มาและส่งิ ท่โี จทยต์ ้องการ ถามได้ครบถ้วน ตอบถูกตามขั้นที่ 3 : S (Select the equation) คือ เลือกใชส้ มการ ให้ 2 คะแนน 0 หมายถงึ ไมส่ ามารถระบุสมการท่ีใชใ้ นการแก้ปญั หาตามข้อมลู ของโจทย์ได้ 1 หมายถึง สามารถระบสุ มการที่ใช้ในการแก้ปญั หาตามข้อมลู ของโจทย์ได้ แต่ไมค่ รบถ้วน 2 หมายถงึ สามารถระบุสมการทใ่ี ช้ในการแกป้ ญั หาตามข้อมลู ของโจทย์ไดถ้ กู ต้องและ ครบถ้วน ตอบถูกตามข้นั ที่ 4 : A (Answer the problem) คือ หาคำตอบ ให้ 2 คะแนน 0 หมายถึง ไม่แสดงวธิ กี ารแกโ้ จทยป์ ัญหาและไม่ไดค้ ำตอบ/ ไมแ่ สดงวธิ ีการแก้โจทย์ปญั หาแตไ่ ดค้ ำตอบ 1 หมายถงึ แสดงวิธกี ารแก้โจทย์ปญั หาได้ถกู ต้องแต่คำตอบผดิ / แสดงวธิ ีการแก้ปญั หาไดบ้ างส่วนและหาคำตอบได้ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง 2 หมายถึง แสดงวธิ ีการแกโ้ จทย์ปัญหาและหาคำตอบได้ถกู ต้องครบถ้วน แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟสิ ิกสไ์ ฟฟา้ (ว32207) ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ครูฉันทวรรณ สวุ รรณหติ าทร

ตอบถูกตามขั้นท่ี 5 : C (Check answer) คือ ตรวจสอบคำตอบ ให้ 2 คะแนน 0 หมายถึง ไม่แสดงการตรวจสอบคำตอบ 1 หมายถึง แสดงการตรวจสอบคำตอบได้บางส่วนแตไ่ ม่ครบถ้วน 2 หมายถงึ แสดงการตรวจสอบคำตอบได้ถูกต้องและสมบูรณ์ แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ไฟฟ้า (ว32207) ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ครฉู นั ทวรรณ สวุ รรณหิตาทร

เฉลย ใบงานท่ี 1 เรอื่ ง แรงทสี่ นามแมเ่ หล็กกระทำต่อประจุ คำช้ีแจง : ให้นกั เรยี นศึกษาสถานการณ์ในโจทย์ปัญหา แล้วแสดงวิธกี ารแกโ้ จทย์ปัญหาอย่างละเอียดตาม เทคนคิ การแกป้ ัญหาแบบ ADSAC 1. อิเล็กตรอนตัวหนึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงตัว 2.0x108 เมตรต่อวินาที ในทิศจากซ้ายไปขวา เข้าไปใน สนามแม่เหล็กสมำ่ เสมอขนาด 5x10-3 เทสลา ท่ีมที ิศพุ่งเขา้ สกู่ ระดาษ ขนาดของแรงท่ีกระทำตอ่ อเิ ล็กตรอนจะ เป็นอย่างไร วธิ ที ำ ข้ันท่ี 1 วิเคราะหป์ ญั หา (A) ขนั้ ท่ี 2 สรา้ งภาพจากข้อมลู (D) …������ = 2.0 × 108 ������/������…… …������ = 5 × 10−3������…………… …������ = 900…………………………… …������ = 1.6 × 10−19������…..… …������ = ?…………………………………… ขั้นท่ี 3 เลือกใช้สมการ (S) ……………หา ������ จาก ������ = ������������������ ������������������ ������……………………………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ขั้นที่ 4 หาคำตอบ (A) ..…แทนคา่ ������ = (1.6 × 10−19)(2.0 × 108)(5 × 10−3)������������������90°………………………… ……………………= 1.6 × 2.0 × 5 × 10−19+8−3………………………………………………………………… …….……∴ ������ = 1.6 × 10−13������……………………………………………………………………………………………… …∴ ขนาดของแรงท่ีกระทำต่ออิเล็กตรอนเท่ากับ 1.6 × 10−13������ ……………………………………………….. ข้ันที่ 5 ตรวจสอบคำตอบ (C) …จาก………………………….…… ������ = ������������������ ������������������ ������…………………………………………………………………………….. …แทนคา่ ……1.6 × 10−13 = (1.6 × 10−19)(2.0 × 108)(5 × 10−3)������������������90° …………………1.6 × 10−13 = 1.6 × 2.0 × 5 × 10−19+8−3……………………………….…….. ..………..…∴ 1.6 × 10−13 = 1.6 × 10−13…………………………ถูกต้อง ..……………………………

2. ประจุไฟฟ้าขนาด -5.4x10-19 คูลอมบ์เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 3.8x105 เมตรต่อวินาที ผ่านเข้าไปในบริเวณ ที่มีสนามแม่เหล็กสม่ำเสมอขนาด 2.8 เทสลา โดยทิศของความเร็วตั้งฉากกับทิศของสนามแม่เหล็ก ขนาดของ แรงทก่ี ระทำตอ่ ประจไุ ฟฟ้าเท่ากับเท่าไร วธิ ีทำ ขั้นท่ี 1 วเิ คราะห์ปัญหา (A) ขัน้ ท่ี 2 สร้างภาพจากข้อมลู (D) …������ = 5.4 × 10−19������……… …������ = 3.8 × 105 ������/������…… …������ = 2.8 ������………………………… … ������ = 900…………………………… … ������ = ?…………………………………… …………………………………………………… ขน้ั ที่ 3 เลือกใช้สมการ (S) ……หา ������ จาก ������ = ������������������ ������������������ ������……………………………………………………………..………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ขั้นที่ 4 หาคำตอบ (A) ……แทนคา่ ������ = (5.4 × 10−19)(3.8 × 105)(2.8)������������������90°……………………………………….. ……………………= 5.4 × 3.8 × 2.8 × 10−19+5………………………………………………………………….. ……………………= 57.46 × 10−14……………………………………………………….…………………………………….. …….……∴ ������ = 5.75 × 10−13������ …………………………………………………………………………………………… ……∴ ขนาดของแรงท่ีกระทำต่อประจุไฟฟ้าเท่ากับ 5.75 × 10−13������ ..………………………………………….. ขั้นที่ 5 ตรวจสอบคำตอบ (C) …จาก…………………………….…… ������ = ������������������ ������������������ ������………………………………………………………………………….. …แทนค่า….…5.75 × 10−13 = (5.4 × 10−19)(3.8 × 105)(2.8)������������������90° .………. ……………....…5.75 × 10−13 = 5.4 × 3.8 × 2.8 × 10−19+5……………………………….…… ..…….…..…∴ 5.75 × 10−13 = 5.75 × 10−13…………………………ถูกต้อง…………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

3. โปรตอนตัวหน่งึ เข้ามาในสนามแม่เหล็กขนาด 1.5 เทสลา ดว้ ยความเร็ว 2x107 เมตรต่อวนิ าที โดยโปรตอน เป็นอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า 1.6x10-19 คูลอมบ์ จงคำนวณหาแรงที่สนามแม่เหล็กนี้กระทำต่อโปรตอน เม่ือ โปรตอนเคลอ่ื นทท่ี ำมุม 30o กบั สนามแม่เหล็ก วิธที ำ ขั้นท่ี 1 วเิ คราะห์ปญั หา (A) ขัน้ ท่ี 2 สรา้ งภาพจากข้อมลู (D) … ������ = 1.5 ������ ………………………… … ������ = 2 × 107 ������/������ ……… … ������ = 1.6 × 10−19������ ……… … ������ = 300……………………………… … ������ = ?…………………………………… …………………………………………………… ข้นั ที่ 3 เลือกใชส้ มการ (S) ……หา ������ จาก ������ = ������������������ ������������������ ������………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ขั้นที่ 4 หาคำตอบ (A) ..…แทนค่า ������ = (1.6 × 10−19)(2 × 107)(1.5)������������������30°…………………………………………….. ……………………= 1.6 × 2 × 1.5 × 0.5 × 10−19+7…………………………………………………………. …….……∴ ������ = 2.4 × 10−12������………………………………………………………………………………………………. …∴ แรงท่สี นามแม่เหล็กกระทำต่อโปรตอนมีคา่ เท่ากับ 2.4 × 10−12������ …………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ขัน้ ที่ 5 ตรวจสอบคำตอบ (C) …จาก………………………….…… ������ = ������������������ ������������������ ������…………………………………………………………………………… …แทนคา่ ….…2.4 × 10−12 = (1.6 × 10−19)(2 × 107)(1.5)������������������30° .…………… ………….…..…2.4 × 10−12 = 1.6 × 2 × 1.5 × 0.5 × 10−19+7…………………….………. ..………..…∴ 2.4 × 10−12 = 2.4 × 10−12…………………………ถกู ตอ้ ง………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

4. โปรตอนตวั หนงึ่ เข้ามาในสนามแม่เหล็กขนาด 1.5 เทสลา ดว้ ยความเรว็ 2x107 เมตรตอ่ วนิ าที โดยโปรตอน เป็นอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า 1.6x10-19 คูลอมบ์ มีมวล 1.67x10-27 กิโลกรัม จงคำนวณหารัศมีวงโคจรในการ เคล่อื นที่ของโปรตอน เม่อื โปรตอนเคล่อื นทตี่ ั้งฉากกบั สนามแม่เหล็ก วิธที ำ ขน้ั ท่ี 1 วเิ คราะห์ปญั หา (A) ขั้นที่ 2 สร้างภาพจากข้อมูล (D) … ������ = 1.5 ������ …………………………… … ������ = 2 × 107 ������/������ …………. … ������ = 1.6 × 10−19������ ………… … ������ = 1.67 × 10−27������������ … .… ������ = ? ……………………………………… ขน้ั ที่ 3 เลือกใช้สมการ (S) ……หา ������ จาก ������������������ = ������������2……………………………………………………………………………………….……………….. ������ ………………….………… ������ = ������������…………………………………………………………………………………………………………… ������������ ขัน้ ที่ 4 หาคำตอบ (A) …แทนค่า………………. ������ = (1.67×10−27)(2×107) ……………………………………………………………………… (1.6×10−19)(1.5) …………………………… ������ = 11.6.67××12.×5×101−02−71+97……………………………………………………………..………………….. ……………………………… ������ = 32.3.44××1100−−1290……………………………………………………………………..………………….. ………………………………∴ ������ = 0.14 ������ ……………………………………………………………………..………………….. …∴ รัศมวี งโคจรในการเคล่ือนที่ของโปรตอนเท่ากบั 0.14 ������ ………………………………………..………………….. ขั้นที่ 5 ตรวจสอบคำตอบ (C) …จาก………………………….…… ������ = ������������������������………………………………………………………………………………….………….. …แทนคา่ ………………….… 0.14 = (1.(617.6××1100−−2719)()2(1×.51)07).……………….………………………………………… ..………………………....…∴ 0.14 = 0.14…………………………ถูกตอ้ ง……………………………………………….… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

5. อนุภาคประจุไฟฟ้าชนิดบวกเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 9.5x106 เมตรต่อวินาทีในทิศทางที่ตั้งฉากกับ สนามแม่เหลก็ ที่มีขนาด 0.5 เทสลา ทำใหอ้ นภุ าคดังกล่าวเคลื่อนทเี่ ป็นวงกลมมีรัศมี 30 เซนติเมตร อัตราส่วน ระหว่างประจตุ อ่ มวลของอนุภาคดังกล่าวเท่ากับเท่าไร วธิ ที ำ ข้นั ที่ 1 วเิ คราะห์ปัญหา (A) ขนั้ ที่ 2 สรา้ งภาพจากข้อมูล (D) … ������ = 9.5 × 106 ������/������ ……… … ������ = 0.5 ������ …………………………… … ������ = 30 ������������ ………………………… ………= 0.3 ������ …………………………… … ������ =?………………………………………… ������ ………………………………………………………. ขน้ั ท่ี 3 เลือกใช้สมการ (S) …หา ������ จาก ������������������ = ������������2………………………………………………………………………………………………………… ������ ������ …………………………… ������ = ������ …………………………………………………………………………………………………………… ������ ������������ ข้ันท่ี 4 หาคำตอบ (A) …แทนค่า……………… ������ = 9.5×106 ……………………………………………………………………….……………………… ������ (0.5)(0.3) …………………………… ������ = 9.5×106………………………………………………………………………………………………… ������ 0.15 ……………………..…∴ ������ = 6.33 × 107 ������/������������……………………………………………………………………….. ������ …∴ อัตราสว่ นระหว่างประจตุ อ่ มวลของอนุภาคดงั กลา่ วเทา่ กับ 6.33 × 107 ������/������������ …………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบคำตอบ (C) …จาก………………………….…… ������ = ������������������………………………………………………………………………………….………….. ������ …แทนคา่ …….… 6.33 × 107 = 9.5������106 .……….………………………………………………………….………….. (0.5)(0.3) ..…………...…∴ 6.33 × 107 = 6.33 × 107…………………………ถูกต้อง………………….….…………..

เฉลย ใบงานที่ 2 เรื่อง แรงทกี่ ระทำต่อลวดตัวนำตรงทม่ี กี ระแสไฟฟา้ ผา่ นและอยู่ในสนามแม่เหลก็ คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นศึกษาสถานการณ์ในโจทยป์ ัญหา แลว้ แสดงวิธกี ารแกโ้ จทย์ปัญหาอย่างละเอียดตาม เทคนคิ การแกป้ ัญหาแบบ ADSAC 1. ลวดตวั นำเสน้ หนึ่งยาว 12 เซนติเมตร มกี ระแสไหลในเส้นลวด 30 แอมแปร์ เมอ่ื วางเส้นลวดเสน้ น้ใี นบรเิ วณ ที่มสี นามแม่เหลก็ ความเข้ม 0.9 เทสลา ด้วยมุม 60 องศากับสนามแม่เหล็ก ขนาดของแรงท่ีกระทำต่อเส้นลวด เสน้ นี้มีค่าเท่าไร วิธีทำ ข้นั ที่ 1 วิเคราะหป์ ญั หา (A) ขน้ั ท่ี 2 สร้างภาพจากข้อมลู (D) … ������ = 12 ������������ ………………… ………= 0.12 ������ ……………… … ������ = 30 ������ …………………… … ������ = 0.9 ������ ………………… … ������ = 600……………………… … ������ = ?…………………………… ขัน้ ท่ี 3 เลือกใชส้ มการ (S) …หา ������ จาก ������ = ������������������ ������������������ ������…………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ขั้นท่ี 4 หาคำตอบ (A) ..…แทนค่า ������ = (30)(0.12)(0.9)������������������60°…………………………………………………………………………. ……………………= (15)(0.12)(0.9)(1.732)……………………………………………………………………….. …….……∴ ������ = 2.80 ������……………………………………………………………………………………………………………….. …∴ แรงท่กี ระทำตอ่ เสน้ ลวดน้ีมีค่าเทา่ กับ 2.80 ������ ……………………………………………..………………..…………… ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบคำตอบ (C) …จาก………………………….…… ������ = ������������������ ������������������ ������…………………………………………………………………………….. …แทนคา่ …………………..…2.80 = (30)(0.12)(0.9)������������������60° .……………………..….………………… ………………………………..…2.80 = (3.24)(0.866)…………………….…………………...…….………………… ..………………….……..…∴ 2.80 = 2.80…………………………ถูกตอ้ ง……………………………….……………………

2. ลวดเส้นหนึ่งยาว 5 เมตร มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน 4 แอมแปร์ วางอยู่ในสนามแม่เหล็กขนาดสม่ำเสมอ 1x10-3 เทสลา โดยลวดทำมุมฉากกับสนามแมเ่ หลก็ ขนาดของแรงทกี่ ระทำตอ่ ลวดเป็นกนี่ วิ ตนั วิธีทำ ข้นั ท่ี 1 วิเคราะหป์ ญั หา (A) ขน้ั ท่ี 2 สรา้ งภาพจากข้อมลู (D) … ������ = 5 ������ …………………………… … ������ = 4 ������ ……………………………… … ������ = 1 × 10−3 ������ …………… … ������ = 900…………………………….. … ������ = ?…………………………………… …………………………………………………… ข้นั ท่ี 3 เลือกใชส้ มการ (S) …หา ������ จาก ������ = ������������������ ������������������ ������……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………… ขั้นท่ี 4 หาคำตอบ (A) ..…แทนคา่ ������ = (4)(5)(1 × 10−3)������������������90°……………………………………………………………………… ……………………= 20 × 10−3………………………………………………………………………..……………………………. …….……∴ ������ = 2 × 10−2 ������…………………………………………………………………………………………………… …∴ ขนาดของแรงทีก่ ระทำต่อลวดเทา่ กับ 2 × 10−2 ������ ……………………………………………..………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบคำตอบ (C) …จาก………………………….…… ������ = ������������������ ������������������ ������…………………………………………………………………………….. …แทนค่า………...…2 × 10−2 = (4)(5)(1 × 10−3)������������������90° .…………………..………………..… ………………….…..…2 × 10−2 = 20 × 10−3…………………….………………………………………….………… ..………………..…∴ 2 × 10−2 = 2 × 10−2…………………………ถูกตอ้ ง……………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

3. ลวดตัวนำเส้นหนึ่งยาว 5.0 เซนติเมตร มีกระแสไฟฟ้าไหลในเส้นลวด 2.0 แอมแปร์ เมื่อวางเส้นลวดเส้นนี้ เอียงทำมุม 30 องศากับสนามแม่เหล็ก เกิดแรงแม่เหล็กกระทำต่อลวด 1.0x10-4 นิวตัน ขนาดของ สนามแม่เหล็กมีคา่ เทา่ ไร วิธีทำ ขั้นท่ี 1 วิเคราะหป์ ญั หา (A) ขัน้ ที่ 2 สรา้ งภาพจากข้อมูล (D) … ������ = 5 ������������ ……………………………… ………= 0.05 ������ ………………………… … ������ = 2 ������ ………………………………… … ������ = 300………………………………… … ������ = 1.0 × 10−4 ������ ………… … ������ = ?……………………………………… ข้ันท่ี 3 เลือกใชส้ มการ (S) …หา ������ จาก ������ = ������������������ ������������������ ������……………………………………………………………………………………………………… ………….………������ = ������ …………………………………………………………………………………………………………… ������������������ ������������������ ������ ขั้นที่ 4 หาคำตอบ (A) …แทนคา่ ………………. ������ = 1.0×10−4 ………………………………………………………………….…………… (2)(0.05)������������������300 …………………………… ������ = 1.0×10−4……………………………………………………………………………………………… 0.05 …………………………∴ ������ = 0.002 ������ ……………………………………………………………………..…………………….. …∴ ขนาดของสนามแมเ่ หลก็ เท่ากับ 0.002 ������ ………………………………………..…………………..…..………………. ขัน้ ที่ 5 ตรวจสอบคำตอบ (C) …จาก………………………….…… ������ = ������ ……………………………………………………………………………….…… ������������������ ������������������ ������ …แทนคา่ ………….….… 0.002 = (2)(10.0.0×51)0���������−������4���300.……………….…………………..…………………………….…… ………………..…………… 0.002 = 1.0×10−4……………………………………………………………………………….…… 0.05 ..…………….……....…∴ 0.002 = 0.002…………………………ถกู ต้อง………………………………..………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

4. เสน้ ลวดยาว 1 เมตรวางทำมุม 60 องศากับสนามแม่เหลก็ ขนาด 3 เทสลาเมอ่ื ผา่ นกระแสไฟฟา้ 2 แอมแปร์ เขา้ ไปในเสน้ ลวด จะเกดิ แรงเป็นกเี่ ท่าของเส้นลวดขณะทำมุม 30 องศากับสนามเหลก็ เดมิ วิธที ำ ขน้ั ที่ 1 วเิ คราะหป์ ัญหา (A) ขั้นท่ี 2 สรา้ งภาพจากข้อมลู (D) … ������ = 1 ������ …………………………… … ������1 = 600…………………………… … ������ = 3 ������……………………………. … ������ = 2 ������ ……………………………… … ������1 = ? …………………………………… ������2 ข้นั ที่ 3 เลือกใช้สมการ (S) …หา ������1 จาก ������ = ������������������ ������������������ ������…………………………………………………………………………………………………… ������2 ….…………โดย ������1 = ������������������ ������������������ ������1…………………………………………………………………….…………………………… ….…………และ ������2 = ������������������ ������������������ ������2…………………………………………………………………….………………………… ขั้นท่ี 4 หาคำตอบ (A) ..…แทนค่า ������1 = ������������������ ������������������ 600 − (1)……………………………………………………………………….…………… ………………������2 = ������������������ ������������������ 300 − (2)………………………………………………………………………….………… …นำ (1) ������1 = ������������������ ������������������ 630000……………………………………………………………………………………………….………… (2) ������2 ������������������ ������������������ ……….………������1 = √3………………………………………………………………………………………..……………………………… ������2 …………∴ ������1 = √3������2 …………………………………………………………………………..…………………………………….. …∴ เมอ่ื เส้นลวดวางทำมุม 600 กับสนามแม่เหล็กจะมีแรงกระทำเป็น √3 เทา่ ของแรงเม่ือเส้นลวดวางทำมมุ 300 กับสนามแมเ่ หล็ก ……………………………………….……..…………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบคำตอบ (C) …จาก………………………….…… ������1 = ������������������ ������������������ ������1……………………………………………………………………..…… ………………………………………… ������2 = ������������������ ������������������ ������2……………………………………………………………………..…… …แทนค่า……………...…… √3������2 = ������������������ ������������������ 600 − (1)………………………………………….………..…… ………………………………………… ������2 = ������������������ ������������������ 300 − (2)………………………………………………………… …นำ (1) …………………………√3 = √3 2…………………………………………………………………………………….…… (2) 21 ……………………………………∴ √3 = √3 …………………ถกู ต้อง…………………………………..………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

5. เส้นลวดตัวนำยาว 10 เซนติเมตร มวล 0.05 กิโลกรัม มีกระแสไฟฟ้าผ่าน 25 แอมแปร์ เมื่อนำไปไว้บริเวณ ที่มีสนามแม่เหล็กขนาดสม่ำเสมอ ปรากฏว่าเส้นลวดนี้สามารถลอยนิ่งอยู่ในสนามแม่เหล็ก จงหาขนาดของ สนามแม่เหลก็ (ไม่คิดนำ้ หนกั ของสายไฟท่ตี ่อกับเสน้ ลวดตวั นำ และกำหนดค่า g = 10 เมตร/วนิ าที2) วธิ ีทำ ข้นั ที่ 1 วิเคราะหป์ ัญหา (A) ขน้ั ที่ 2 สรา้ งภาพจากข้อมลู (D) … ������ = 10 ������������ ……………………… ………= 0.1 ������ ……………………….. …������ = 0.05 ������������ …………………. … ������ = 25 ������ …………………………… … ������ = 10 ������/������2 ………………… … ������ = ?…………………………………… ข้นั ท่ี 3 เลือกใชส้ มการ (S) …หา ������ จาก ������������ = ������������………………………………………………………………………………………………………………… ……………… ������������������ = ������������………………………………………………………………………………………………………………... …………….………������ = ������������…………………………………………………………………………………………………………….…… ������������ ขัน้ ท่ี 4 หาคำตอบ (A) …แทนคา่ ………………. ������ = (0.05)(10) ………………………………………………………………….………………..…… (25)(0.1) …………………………… ������ = 0.5………………………………………………………………………………………………………… 2.5 …………………………∴ ������ = 0.2 ������ ……………………………………………………………………..……………………..….. …∴ สนามแมเ่ หลก็ มีคา่ เท่ากบั 0.2 ������ ………………………………………..…………………..…..…………………….……. ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบคำตอบ (C) …จาก………………………….…… ������ = ������������……………………………………………………………………………………….…… ������������ …แทนค่า………….………..… 0.2 = ((02.055)()0(1.10)).……………….…………………..…………………………………….…… ………………..………………… 0.2 = 0.5………………………………………………………………………………..……….…… 2.5 ..………..……….……....…∴ 0.2 = 0.2…………………………ถูกต้อง……………………………………...………….……

เฉลย ใบงานท่ี 3 เรือ่ ง แรงท่กี ระทำต่อขดลวดท่ีมกี ระแสไฟฟ้าผา่ นและอยใู่ นสนามแม่เหลก็ คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาสถานการณ์ในโจทยป์ ัญหา แล้วแสดงวิธกี ารแก้โจทย์ปัญหาอย่างละเอียดตาม เทคนิคการแก้ปญั หาแบบ ADSAC 1. ขดลวดตัวนำรูปสี่เหลี่ยมขนาด 20 ตารางเซนติเมตร มีจำนวนรอบ 500 รอบ วางอยู่ในสนามแม่เหล็ก สม่ำเสมอขนาด 0.5 เทสลา และมีกระแสไหลผ่าน 5 แอมแปร์ โมเมนต์ของแรงคู่ควบที่เกิดขึ้นเมื่อระนาบ ขดลวดทำมมุ 60 องศากบั สนามแม่เหลก็ มคี ่าเท่าไร วิธีทำ ข้ันท่ี 1 วเิ คราะห์ปัญหา (A) ขน้ั ที่ 2 สรา้ งภาพจากข้อมูล (D) … ������ = 20 × 10−4 ������2 ……… … ������ = 600…………………….………… … ������ = 500 รอบ ……………………… … ������ = 0.5 ������ …………………………… … ������ = 5 ������ ………………………………… ..������ = ?………………………………………… ข้นั ท่ี 3 เลือกใช้สมการ (S) …หา ������ จาก ������ = ������������������������ ������������������ ������……………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ขน้ั ที่ 4 หาคำตอบ (A) ..…แทนค่า ������ = (500)(5)(20 × 10−4)(0.5)������������������60°……………….……………………………… ………….…………= 500 × 5 × 20 × 0.5 × 0.5 × 10−4………………………………………………… …….……∴ ������ = 1.25 ������. ������………………………………………….…………………………………………………………… …∴ โมเมนต์ของแรงคู่ควบทเ่ี กิดข้ึนเท่ากบั 1.25 ������. ������ ……………………………………………….…………………… ข้ันที่ 5 ตรวจสอบคำตอบ (C) …จาก………………………….…… ������ = ������������������������ ������������������ ������………………….…………………………………………………… …แทนค่า……………….…..…1.25 = (500)(5)(20 × 10−4)(0.5)������������������60° .………………… ………………………………..…1.25 = 500 × 5 × 20 × 0.5 × 0.5 × 10−4……………………… ..………………….……..…∴ 1.25 = 1.25…………………………ถกู ต้อง……………………………….……………………

2. ขดลวดตัวนำรูปวงกลมรัศมี 0.2 เมตร ถูกแขวนด้วยเชือกในแนวดิ่ง โดยระนาบของขดลวดทำมุม 30o กับ ทิศตะวันออก ถ้าขดลวดมีจำนวนรอบ 400 รอบ มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวด 7 แอมแปร์ สนามแม่เหล็ก โลกตามแนวราบ ณ ตำแหน่งทแ่ี ขวนขดลวดมีความเข้มเทา่ กับ 0.5 เทสลา โมเมนต์ขอแรงคู่ควบทเ่ี กดิ ขน้ึ มีค่ากี่ นิวตนั -เมตร วิธีทำ ขนั้ ท่ี 1 วเิ คราะห์ปญั หา (A) ขัน้ ท่ี 2 สร้างภาพจากข้อมลู (D) … ������ = 0.2 ������ ………………………… … ������ = 900 − 300……………… ….……= 600………………………..…… … ������ = 400 รอบ…………….……… … ������ = 7 ������ ……………………………… … ������ = 0.5 ������ ………………………… … ������ = ?…………………………………… ขัน้ ท่ี 3 เลือกใชส้ มการ (S) …หา ������ จาก ������ = ������������������������ ������������������ ������……………………………………………………………………………………………… ……….………… ������ = ������������������������2������ ������������������ ������…………………………..…………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ขั้นที่ 4 หาคำตอบ (A) ..…แทนค่า ������ = (400)(7)(3.14)(0.22)(0.5)������������������60°………………………………………………. ………….…………= 400 × 7 × 3.14 × 0.04 × 0.5 × 0.5…………………………………………….… …….……∴ ������ = 87.92 ������. ������………………………………………….………………………………………………………… …∴ โมเมนต์ของแรงคู่ควบท่เี กิดขน้ึ เท่ากับ 87.92 ������. ������ ……………………………………………………………….… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบคำตอบ (C) …จาก…………………………….…… ������ = ������������������������2������ ������������������ ������………………….………………………………….………… …แทนคา่ ……………….…..…87.92 = (400)(7)(3.14)(0.22)(0.5)������������������60° ………………..… ………………………………..…87.92 = 400 × 7 × 3.14 × 0.04 × 0.5 × 0.5……………….… ..………………….……..…∴ 87.92 = 87.92…………………………ถูกต้อง…………………………………………….…

3. ขดลวดวงกลมจำนวนรอบ 200 รอบ มีรัศมีเฉลี่ยเท่ากับ 0.5 มิลลิเมตร วางอยู่ในสนามแม่เหล็กขนาด 2x106 เทสลา โดยระนาบขดลวดทำมุม 30 องศากบั แนวสนามแม่เหล็ก เมือ่ ผา่ นกระแสไฟฟา้ เข้าไปในขดลวด ทำให้เกดิ โมเมนต์ของแรงค่คู วบ 50 3 นิวตนั -เมตร กระแสไฟฟา้ ในขดลวดมคี า่ กแ่ี อมแปร์ วิธีทำ ขนั้ ที่ 2 สรา้ งภาพจากข้อมลู (D) ขนั้ ที่ 1 วิเคราะหป์ ัญหา (A) … ������ = 200 รอบ……………………… … ������ = 0.5 ������������ ………………….… ………= 5 × 10−4 ������ …………… … ������ = 2 × 106 ������ ……………… … ������ = 300……………………………… … ������ = 50√3������ ������. ������ ………… ..… ������ =? ……………………………………… ขัน้ ท่ี 3 เลือกใช้สมการ (S) …หา ������ จาก ������ = ������������������������ ������������������ ������……………………………………………………………………………………………… ……….………… ������ = ������������������������2������ ������������������ ������…………………………..…………………………………………………………….. ………………..……������ = ������ ������������������ ………………………………………………………………………………………………….. ������������������2������ ขัน้ ท่ี 4 หาคำตอบ (A) ������ ..…แทนคา่ ������ = 50√3������ ������������������ 300………………………………………………….………………. 200������(5×10−4)2(2×106) ………….…………= 4×25×110−8+6……………………………………………………………………………….………………..… ……...……∴ ������ = 1 ������………………………………………….……………………………………………………………………..…… …∴ กระแสไฟฟา้ ในขดลวดเทา่ กับ 1 ������ ……………………………………………………………………………………..…….… ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบคำตอบ (C) …จาก…………………………….…… ������ = ������ ………………….……………………………………………..………… ������������������2������ ������������������ ������ …แทนคา่ …………………..….…..…1 = 50√3������ ������������������ 300…………………………………..……..… 200������(5×10−4)2(2×106) ..………………………….……..…∴ 1 = 1…………………………ถกู ต้อง……………………………………….……………….…

4. ขดลวดตัวนำรูปวงกลมรัศมี 7 เซนติเมตร มีจำนวนรอบ 100 รอบ มีกระแสไฟฟ้า 2 แอมแปร์ อยู่ใน สนามแม่เหลก็ สมำ่ เสมอ 0.2 เทสลา โมเมนต์ของขดลวดทมี่ ีคา่ มากท่ีสุดมคี า่ กีน่ วิ ตนั -เมตร วิธีทำ ขั้นที่ 1 วเิ คราะหป์ ญั หา (A) ขน้ั ที่ 2 สรา้ งภาพจากข้อมูล (D) ..… ������ = 7 ������������ ………………………… …..……= 0.07 ������ …………………… … ������ = 100 รอบ…………………… ..… ������ = 2 ������…………………………… … ������ = 0.2 ������…………………..…… … ������ = 00………………………….…… … ������������������������ = ? ……………………… ขนั้ ที่ 3 เลือกใชส้ มการ (S) …หา ������������������������ จาก ������������������������ = ������������������������ ������������������ ������ ; ขดลวดวางขนานกบั ทิศของสนามแม่เหลก็ …………… …………………..………… ������������������������ = ������������������������2������ ������������������ ������………………………………………………………………..…… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ขัน้ ท่ี 4 หาคำตอบ (A) ..…แทนค่า ������������������������ = (100)(2)(22)(0.072)(0.2)������������������0°…………………………….………..…… 7 …………………..…………= 100 × 2 × 22 × 0.0007 × 0.2 × 1…………………..…………………… …….……∴ ������������������������ = 0.62 ������. ������…………………………………………..………………..……………………….…….… …∴ โมเมนตข์ องขดลวดทม่ี คี ่ามากท่ีสดุ เทา่ กับ 0.62 ������. ������ ……………………………..……………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบคำตอบ (C) …จาก………..………….…… ������������������������ = ������������������������2������ ������������������ ������………………….………………………………….………… …แทนค่า………………….…..…0.62 = (100)(2)(22)(0.072)(0.2)������������������0° ……………………….… 7 ……………………………….…..…0.62 = 100 × 2 × 22 × 0.0007 × 0.2 × 1………..……….… ..……………………..……..…∴ 0.62 = 0.62…………………………ถกู ต้อง……………………………………………….…

5. จากขอ้ ที่ 4 ตำแหน่งของขดลวดที่มโี มเมนต์เป็นคร่ึงหนง่ึ ของคา่ โมเมนตส์ งู สุดคอื ตำแหน่งใด วธิ ที ำ ขัน้ ท่ี 1 วิเคราะห์ปญั หา (A) ข้ันท่ี 2 สรา้ งภาพจากข้อมลู (D) … ������������������������ = 0.62 ������. ������ ….…… ..… ������ = 0.07 ������ ………………………… … ������ = 100 รอบ………………………… .… ������ = 2 ������ …………………………….…… … ������ = 0.2 ������ …………………………… … ������������������������ = ?………………………….…… 2 ข้ันท่ี 3 เลือกใชส้ มการ (S) …หา ������������������������ จาก ������������������������ ������������������ ������������������������ = ������������������������…………………………………………………………………….… 2 22 ……….………………………………………… ������������������������ = arccos ( ������������������������ )……………………………….………………… 2 2������������������������ ………………………………………………… ������������������������ = arccos (2���������������������������������������������2���������)……………………….…..………………… ขัน้ ท่ี 4 หาคำตอบ (A) 2 ..…แทนคา่ ������������������������ = arccos [(2)(100)(2)0(2.7622)(0.072)(0.2)]………………………………...……….…… 2 ………………������������������������ = arccos (0.5)…………………..…………………………………………………………….………… 2 …….……∴ ������������������������ = 600…………………………………………..………………..……………………….………………….….… 2 …∴ เม่ือระนาบของขดลวดทำมุม 600 กบั สนามแมเ่ หลก็ โมเมนตจ์ ะมีค่าเป็นคร่งึ หน่ึงของค่าโมเมนตส์ ูงสุด ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบคำตอบ (C) …จาก………..………….…… ������������������������ = arccos (2���������������������������������������������2���������)……………………………………………….………… 2 …แทนค่า………………….…..… 600 = arccos [(2)(100)(2)0(2.7622)(0.072)(0.2)]……………………….… ……………………………….…..… 600 = arccos (0.5)………………………………………………………..……….… ..……………………….……..…∴ 600 = 600…………………………ถูกต้อง……………………………………………….…

แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น เร่ือง ไฟฟา้ และแม่เหล็ก ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5 คำชี้แจง : ข้อสอบเป็นแบบปรนัย 20 ขอ้ ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องทสี่ ุดเพียงข้อเดียวโดยฝน () ลงในกระดาษคำตอบ 1) ถ้ามีอิเล็กตรอนเคล่ือนท่ีตามแนวราบไปทางขวาผ่านสนามแม่เหล็กขนาดสม่ำเสมอซึ่งมีทศิ พุ่งออกมาตั้ง ฉากกับระนาบของแผ่นกระดาษ แนวทางการเคลอ่ื นที่ของอิเล็กตรอนคือข้อใด ก. เคลือ่ นท่ไี ปตามแนวราบตามเดิม ข. เคลอื่ นทเ่ี บี่ยงเบนจากแนวเดมิ ลงดา้ นล่าง ค. เคล่ือนทเ่ี บี่ยงเบนจากแนวเดมิ ขึน้ ด้านบน ง. เคลื่อนทีพ่ งุ่ ออกมาจากแผน่ กระดาษตามทิศของสนามแม่เหล็ก 2) ประจุไฟฟ้าขนาด -5.410-19 คูลอมบ์ เคล่ือนท่ีด้วยความเร็ว 3.8105 เมตรต่อวินาที ผ่านเข้าไปใน บริเวณที่มีสนามแม่เหล็กสม่ำเสมอขนาด 2.8 เทสลา โดยทิศของความเร็วตั้งฉากกับทิศของ สนามแมเ่ หล็ก ขนาดของแรงทก่ี ระทำต่อประจุไฟฟ้าเท่ากบั เท่าไร ก. 5.5210-13 N ข. 5.7410-13 N ค. 5.9610-13 N ง. 6.2510-13 N 3) อิเล็กตรอนตัวหนึ่งเคล่ือนที่ด้วยความเร็วคงตัว 2.0108 เมตรต่อวินาที ในทิศจากซ้ายไปขวาเข้าไปใน สนามแม่เหล็กสม่ำเสมอขนาด 510-3 เทสลา และสนามมีทิศพุ่งเข้าสู่กระดาษ ขนาดและทิศของแรงท่ี กระทำตอ่ อิเล็กตรอนมีค่าเทา่ ไร ก. 1.610-13 N มีทิศลง ข. 1.010-13 N มีทศิ ขึน้ ค. 2.510-13 N มที ิศไปทางซ้าย ง. 1.010-13 N มีทศิ ลง 4) อนุภาคโปรตอนตัวหน่ึงเคลื่อนที่เข้าไปทำมุม 90 องศากับสนามแม่เหล็กที่มีขนาด 4 เทสลา ด้วย ความเร็ว 310-7 เมตรต่อวินาทีรัศมีวงโคจรการเคล่ือนท่ีของอนุภาคโปรตอนเท่ากับเท่าไร กำหนดให้ อนุภาคโปรตอนมีประจุไฟฟ้า -1.610-19 คลู อมบ์และมมี วล 1.6710-27 กโิ ลกรมั ก. 7.22 cm ข. 7.45 cm ค. 7.82 cm ง. 7.95 cm

5) อนุภาคประจุไฟฟ้าชนิดบวกเคล่ือนท่ีด้วยความเร็ว 9.5106 เมตรต่อวินาที ในทิศทางท่ีต้ังฉากกับ สนามแม่เหล็กท่ีมีขนาด 0.5 เทสลา ทำให้อนุภาคดังกล่าวเคลื่อนที่เป็นวงกลมมีรัศมี 30 เซนติเมตร อตั ราสว่ นระหวา่ งประจุตอ่ มวลของอนภุ าคดงั กล่าวเท่ากบั เทา่ ไร ก. 6.33107 C/kg ข. 6.45107 C/kg ค. 6.58107 C/kg ง. 6.69107 C/kg 6) ถ้ามีอิเล็กตรอนว่ิงตามแนวราบไปทางขวาผ่านสนามแม่เหล็กขนาดสม่ำเสมอซึ่งมีทิศพุ่งออกมาตั้งฉาก กบั ระนาบของแผ่นกระดาษ แนวทางการเคลือ่ นที่ของอเิ ลก็ ตรอนเป็นตามข้อใด ก. ว่ิงในแนวราบตามเดิม ข. เบีย่ งเบนจากแนวเดมิ ลงดา้ นลา่ ง ค. เบีย่ งเบนจากแนวเดิมขึ้นดา้ นบน ง. เบย่ี งเบนพุ่งออกมาจากแผ่นกระดาษตามทิศของสนามแม่เหลก็ 7) B เป็นสนามแม่เหล็กมีทิศพุ่งตั้งฉากลงไปในกระดาษ มีขนาด 3.51023 เทสลา ยิงอิเล็กตรอนด้วยความเร็ว 5.0107 เมตรต่อวินาที เข้าไปในทิศตั้งฉากกับ B จะมีแรงกระทำต่อ อเิ ล็กตรอนดว้ ยขนาดเท่าไรในหนว่ ยของนิวตนั ก. 2.810-14 ข. 0.710-10 ค. 1.0102 ง. 1.8105 8) ทดลองวางลวดตวั นำ A และ B ในสนามแมเ่ หลก็ ข้อใดมแี รงเนอื่ งจากสนามแมเ่ หลก็ เปน็ ศูนย์ ก. ข. ค. ง.

9) ในการทดลองวัดสนามแม่เหล็กจากแท่งลวดที่อยู่ในสนามแม่เหล็ก โดยทำการวัดแรงท่ีกระทำต่อแท่ง ลวดท่ีมีกระแสไฟฟ้า ถ้าส่วนของลวดที่ตั้งฉากกบั สนามยาว 30 มิลลิเมตร มีแรงกระทำขนาด 2.810-2 นิวตนั เม่ือมีกระแสไฟฟ้าไหลผา่ น 8.5 แอมแปร์ สนามแมเ่ หล็กมคี ่าเทา่ ไร ก. 0.05 T ข. 0.11 T ค. 0.16 T ง. 0.25 T 10) ลวดเส้นสม่ำเสมอเส้นหนึ่งยาว 20 เซนติเมตร มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน 5 มิลลิแอมแปร์ วางอยู่ใน สนามแม่เหล็กขนาดสม่ำเสมอ 410-3 เทสลา โดยลวดทำมุมมฉากกับสนามแม่เหล็กดังกล่าว ขนาด ของแรงเนอ่ื งจากสนามแมเ่ หล็กที่กระทำต่อเส้นลวดเทา่ กับเทา่ ไร ก. 3.410-6 N ข. 3.810-6 N ค. 4.010-6 N ง. 4.310-6 N 11) ลวดเส้นหน่ึงยาว 5.0 เซนติเมตร มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน 0.4 แอมแปร์ วางอยู่ในสนามแม่เหล็กขนาดสม่ำเสมอ 10-4 เทสลา โดยลวดเอียงทำมุม 30 องศากับสนามแม่เหล็ก ดังรูป ขนาดของ แรงแมเ่ หลก็ ท่ีกระทำต่อลวดเสน้ นี้ (PQ) มีค่าเทา่ ไร ก. 0.8610-6 N ข. 1.010-6 N ค. 1.710-6 N ง. 2.010-6 N 12) จากวงจรดังรูป กำหนดให้มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านลวดตัวนำคงที่ 25 แอมแปร์ และค่าความเข้ม ของสนามแม่เหล็กมีคา่ คงที่ 0.8 เทสลา ความเร่งของเส้นลวด AB เมอ่ื ลวดมมี วล 20 กรมั เทา่ กับเทา่ ไร ก. 0.8102 m/s2 ข. 1.0102 m/s2 ค. 1.2102 m/s2 ง. 1.4102 m/s2

13) ถ้าต้องการให้เส้นลวดตัวนำยาว 20 เซนติเมตร มวล 80 กรัม ลอยน่ิง อยู่ในสนามแม่เหล็กสม่ำเสมอท่ีมีขนาด 2 เทสลา และมีทิศทาง ดังรูป จะต้องผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไปในเส้นลวดตัวนำจำนวนเท่าไร และทิศ การไหลไปทางทศิ ใด ก. 5 A และมที ิศจากดา้ นขวาไปซ้าย ข. 4 A และมีทิศจากด้านซ้ายไปขวา ค. 3 A และมีทศิ จากดา้ นขวาไปซา้ ย ง. 2 A และมีทิศจากดา้ นซ้ายไปขวา 14) รางรถไฟฟ้าความเร็วสูงเป็นแม่เหล็กถาวรที่มีความหนาแน่น ของฟลักซ์แม่เหล็ก 5 เทสลา โดยท่ีรถไฟฟ้าความเร็วสูงมีมวล 2105 กิโลกรัม ยาว 150 เมตร ถ้าที่ฐานของรถไฟมีตัวนำ ไฟฟ้าท่ีมีความยาวเท่ากับความยาวรถไฟจำนวน 6 ตัวติดอยู่ กระแสไฟฟา้ ในตัวนำแต่ละตัวที่ทำให้รถไฟฟ้าลอยตัวอยู่ไดพ้ อดี มีค่าเท่าไร ก. 1.61 A ข. 2.32 A ค. 4.44 A ง. 6.83 A 15) ขดลวดรปู ส่เี หลย่ี มผนื ผ้ามวล m ขนาดกว้าง a และยาว b ถูกแขวนไว้ ด้วยเส้นไหม โดยใช้ระนาบของขดลวดต้ังฉากกับสนามแม่เหล็ก B ถ้ากระแสไฟฟ้าไหลในขดลวดเท่ากับ I ขนาดของ B เป็นเท่าไร เม่ือ เส้นไหมตงึ พอดี ก. mg ข. IB Ib mg ค. Ia ง. mg mg Ia 16) ข้อความใดไมถกู ตอง ก. มอเตอรไ์ ฟฟา้ เปน็ เครื่องกลไฟฟา้ ท่ที ำหน้าทเี่ ปลย่ี นพลังงานกลให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ข. มอเตอร์ไฟฟ้าประกอบดว้ ยสว่ นแมเ่ หล็กถาวรและสว่ นของขดลวดตัวนำ ค. มอเตอร์ไฟฟา้ มี 2 ประเภทคือมอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรงและมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ ง. มอเตอรไ์ ฟฟ้าอาศยั สนามแม่เหล็ก 2 ชดุ คอื สนามแม่เหลก็ ถาวรและสนามแมเ่ หลก็ ของขดลวดตวั นำ

17) พจิ ารณาขอ้ ความ 1) มอเตอรไ์ ฟฟ้าทำงานด้วยสนามแม่เหล็กจากแมเ่ หลก็ ในตวั มอเตอร์ 2) มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานดว้ ยสนามแม่เหล็กทเ่ี กิดจากกระแสในขดลวด 3) มอเตอรไ์ ฟฟา้ ทำงานดว้ ยแรงดดู ของสนามแมเ่ หล็ก 4) มอเตอรไ์ ฟฟ้าทำงานดว้ ยแรงผลักของสนามแม่เหลก็ ข้อใดถูกต้อง ก. ขอ้ ก และ ค ข. ข้อ ข และ ค ค. ข้อ ค และ ง ง. ถูกต้องทกุ ขอ้ 18) ขดลวดวงกลมจำนวน 200 รอบ รัศมี 0.5 เมตร วางไวใ้ นสนามแมเ่ หล็ก 2106 เทสลา โดยระนาบของ ขดลวดทำมุม 30 องศากับสนามแม่เหล็ก ถ้าผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไปในขดลวด ทำให้เกิดโมเมนต์ของ แรงคูค่ วบ 33.65 นวิ ตัน กระแสไฟฟา้ ทเ่ี กิดขน้ึ มีคา่ เทา่ ไร ก. 0.124 A ข. 0.232 A ค. 0.444 A ง. 0.683 A 19) ขดลวดตัวนำรูปสี่เหล่ียมผืนผ้าพื้นท่ี 10 ตารางเซนติเมตร วางอยู่ในบริเวณท่ีมีสนามแม่เหล็ก 5 เทสลา ถ้าจำนวนรอบของขดลวดตัวนำเท่ากับ 400 รอบ โมเมนต์ของแรงคู่ควบท่ีเกดิ ขึ้นมคี ่าเท่าไร เม่ือระนาบ ขดลวดทำมุม 60 องศากับแนวสนามแมเ่ หล็ก และค่าของกระแสที่ผา่ นขดลวดเท่ากับ 6 แอมแปร์ ก. 2 Nm ข. 4 Nm ค. 6 Nm ง. 8 Nm 20) ขดลวดวงกลมมีพื้นที่หน้าตัด 50 ตารางเซนติเมตร มีขดลวดพันอยู่ 1,000 รอบ และมีกระแสไฟฟ้าไหล ผ่าน 1 แอมแปร์ วางไวใ้ นสนามแม่เหล็กทม่ี คี วามเขม้ 1 เทสลา โมเมนต์สูงสดุ ของขดลวดจะมคี ่าเท่าไร ก. 1 Nm ข. 3 Nm ค. 5 Nm ง. 7 Nm

แบบประเมนิ ความพงึ พอใจของนักเรยี นชนั มธั ยมศกึ ษาปีที 5/4 ตอ่ การแกโ้ จทยป์ ัญหา ฟิสกิ ส์ เรอื ง ไฟฟ้าและสนามแมเ่ หล็ก โดยใช ้ กลวธิ ี ADSAC คําชแี จง : ใหต้ อบแบบสอบถามตรงกับความพงึ พอใจของทา่ นมากทสี ดุ * Required 1. เพศ * Mark only one oval. ชาย หญงิ 2. อายุ * หัวขอ้ การประเมนิ 3. 1) ขนั ที 1 : A (Analyze the problem) คอื วเิ คราะหโ์ จทยป์ ัญหา * Mark only one oval. 12345

4. 2) ขนั ที 2 : D (Draw a picture) คอื สรา้ งภาพจากขอ้ มลู * Mark only one oval. 12345 5. 3) ขนั ที 3 : S (Select the equation) คอื เลอื กใชส้ มการ * Mark only one oval. 12345 6. 4) ขนั ที 4 : A (Answer the problem) คอื หาคําตอบ * Mark only one oval. 12345 7. 5) ขนั ที 5 : C (Check answer) คอื ตรวจสอบคําตอบ * Mark only one oval. 12345

8. 6) คะแนนทที ําไดใ้ นแบบฝึกหัดที 1 เรอื ง แรงทสี นามแมเ่ หล็กกระทําตอ่ ประจุ * Mark only one oval. 12345 9. 7) คะแนนทที ําไดใ้ นแบบฝึกหัดที 2 เรอื ง แรงทกี ระทําตอ่ ลวดตัวนําตรงทมี กี ระแสไฟฟ้าผา่ นและ อยใู่ นสนามแมเ่ หล็ก * Mark only one oval. 12345 10. 8) คะแนนทที ําไดใ้ นแบบฝึกหัดที 3 เรอื ง แรงทกี ระทําตอ่ ขดลวดทมี กี ระแสไฟฟ้าผา่ นและอยใู่ น สนามแมเ่ หล็ก * Mark only one oval. 12345 11. 9) เวลาในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู ้เรอื ง ไฟฟ้าและสนามแมเ่ หล็ก * Mark only one oval. 12345

12. 10) ภาพรวมในการแกโ้ จทยป์ ัญหาฟิสกิ ส์ โดยใชก้ ลวธิ ี ADSAC * Mark only one oval. 12345 13. ขอ้ เสนอแนะเพมิ เตมิ This content is neither created nor endorsed by Google.  Forms

วิ จั ย ใ น ชั น เ รี ย น 1/2563


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook