แผนจัดการเรียนรู้รายสัปดาห์ ม.ปลาย

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรรู้ ายสปั ดาห์ที่ 1 แผนการจดั การเรียนการสอน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เน้อื หาเรอื่ ง การปฐมนิเทศ จานวนและการดาเนนิ การ จานวน 20 ชว่ั โมง เลขยกกาลังท่ีมีเลขชีก้ าลงั เป็นจานวนตรรกยะ จานวน 20 ชว่ั โมง วันท่.ี .....1...เดือน………ธันวาคม....พ.ศ.......2563............ เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรู้ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า พค31001 ความรคู้ วามเข้าใจ และทกั ษะพ้ืนฐานเก่ียวกบั คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี สาระการเรยี นรู้ สาระความรู้พนื้ ฐาน รายวิชา รายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า พค31001 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวัง เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนสามารถ 1. เพ่อื ให้ผู้เรียนสามารถอธบิ ายโครงสร้างหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ปรับปรุง พ.ศ. 2554) ได้ 2. อธบิ ายความสัมพนั ธข์ องจานวนต่างๆ ในระบบจานวนจริงได้ 3. อธบิ ายความหมายและหาผลลัพธ์ทเ่ี กิดจากการบวก การลบ การคูณ และการหารจานวนจรงิ ได้ 4. อธิบายสมบตั ิของจานวนจรงิ ทเ่ี กย่ี วกับการบวก การคูณ การเทา่ กัน และการไมเ่ ท่ากันและนาไปใช้ได้ 5. อธิบายเกี่ยวกบั ค่าสัมบรู ณข์ องจานวนจริงและหาค่าสัมบูรณ์ของจานวนจริงได้ 6. อธิบายความหมายและบอกความแตกตา่ งของจานวนตรรกยะ และอตรรกยะได้ 7. อธิบายเก่ยี วกับจานวนจรงิ ท่อี ยใู่ นรปู เลขยกกาลังทีม่ ีเลขช้กี าลงั เป็นจานวนตรรกยะ และจานวนจรงิ ในรปู กรณฑ์ได้ 8. อธบิ ายความหมายและหาผลลัพธ์ที่เกิดจากการบวก การลบ การคณู การหาร จานวนจรงิ ทีอ่ ยู่ในรูปเลขยก กาลงั ทมี่ ีเลขชกี้ าลงั เป็นจานวนตรรกยะ และจานวนจริงในรปู กรณฑ์ได้ ตวั ช้ีวัด 1. อธบิ ายโครงสร้างหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ปรับปรุง พ.ศ. 2554) ได้ จานวนและการดาเนินการ 1. แสดงความสมั พันธข์ องจานวนตา่ งๆ ในระบบจานวนจริง 2. อธิบายความหมายและหาผลลัพธ์ทเ่ี กิดจากการบวก การลบ การคณู และการหารจานวนจริง 3. อธิบายสมบตั ิของจานวนจรงิ ทเ่ี กย่ี วกบั การบวก การคณู การเทา่ กนั และการไม่เทา่ กันและนาไปใช้ 4. อธิบายเก่ียวกบั ค่าสมั บรู ณข์ องจานวนจรงิ และหาค่าสัมบูรณ์ของจานวนจรงิ จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สังกัด สานกั งาน กศน.จังหวัดชลบุรี

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 เลขยกกาลังทม่ี เี ลขช้กี าลังเป็นจานวนตรรกยะ 1. อธบิ ายความหมายและบอกความแตกต่างของจานวนตรรกยะ และอตรรกยะ 2. อธิบายเกีย่ วกบั จานวนจริงทอ่ี ยใู่ นรูปเลขยกกาลังที่มเี ลขชกี้ าลังเป็นจานวนตรรกยะ และจานวนจรงิ ในรปู กรณฑ์ 3. อธิบายความหมายและหาผลลัพธ์ทีเ่ กดิ จากการบวก การลบ การคณู การหาร จานวนจรงิ ท่อี ย่ใู นรูปเลขยก กาลงั ทม่ี เี ลขช้กี าลังเปน็ จานวนตรรกยะ และจานวนจรงิ ในรปู กรณฑ์ เน้อื หา 1. โครงสรา้ งหลักสูตร 2. การวเิ คราะหผ์ เู้ รยี นรายบุคคล 3. การจัดกระบวนการเรยี นรแู้ บบมสี ่วนรว่ ม 4. การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง 5. การวดั ผลประเมนิ ผล 6. การทากจิ กรรมพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ 7. การประเมนิ คุณธรรม 8. การทาบันทึกข้อตกลงในการพบกลุม่ จานวนและการดาเนนิ การ 1. ความสมั พันธ์ของระบบจานวนจรงิ (1) 2. สมบัตขิ องการบวก การลบ การคณู และการหารจานวนจริง (7) 3. สมบัตกิ ารเทา่ กนั และการไม่เท่ากนั (7) 4. ค่าสมั บูรณ์ (5) เลขยกกาลังทม่ี ีเลขชกี้ าลังเป็นจานวนตรรกยะ 1. จานวนตรรกยะ และอตรรกยะ (1) 2. เลขยกกาลังทมี่ ีเลขชก้ี าลงั เป็นจานวนตรรกยะและจานวนจรงิ ในรปู กรณฑ์ (8) 3. การบวก การลบ การคูณ การหาร จานวนทีม่ เี ลขช้กี าลงั เปน็ จานวนตรรกยะและจานวนจรงิ ในรปู กรณฑ์ (11) กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้ันท่ี 1 กาหนดสภาพปัญหา (O:Orientation) 1. ครูและผู้เรียนปฏบิ ัติตามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วดั ไข้ สวมหน้ากากอนามยั รักษาระยะห่างระหวา่ ง กัน 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผู้เรยี นในการพบกล่มุ ครงั้ นี้ 3. ครูให้ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ขัน้ ท่ี 2 แสวงหาขอ้ มลู (N:New way of learning) 1. ครูอธิบายโครงสร้างหลักสตู ร รายวิชาที่ลงทะเบียนเรียน ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 การพบกลุม่ การทากจิ กรรม กพช. การจัดหาส่อื การเรียน การประเมินคุณธรรม และการวดั ผล-ประเมินผล 2. ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกนั ทาบนั ทกึ ข้อตกลงในการจดั กจิ กรรมเรียนร้รู ะหวา่ งครูและผูเ้ รยี นประจาภาคเรียนที่ 2/2561 3. ครูให้ผู้เรียนวิเคราะห์ตนเองเพ่อื ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้สาหรบั ผูเ้ รยี น ประจาภาคเรยี นที่ 2/2563 4. ครแู ละผู้เรียนรว่ มกนั อภิปรายถึงวธิ กี ารจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการกลมุ่ การแบง่ หน้าที่กับรับผิดชอบ การทางานตามลาดบั ขั้นตอนของกิจกรรม จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สังกดั สานักงาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี

แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 5. ครูและผู้เรียนร่วมกันอภิปรายถึงวธิ กี ารแสวงหาความรู้จากแหลง่ เรยี นร้ตู า่ ง ๆ ภายในอาเภอพนัสนิคม เชน่ หอ้ งสมดุ ประชาชน กศน.ตาบล วดั และแหล่งเรยี นรู้อื่น ๆ 6. ครแู นะนาใหผ้ ู้เรียนสมคั รเป็นสมาชิกห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี อาเภอพนสั นคิ ม 7. ครแู บง่ กลุ่มผู้เรียนออกเปน็ กลุ่ม โดยใหท้ ุกกลุ่มศกึ ษาใบความรู้ ดงั น้ี เรื่องที่ 1 ความสัมพันธ์ของระบบจานวนจริง เรอ่ื งท่ี 2 สมบตั ขิ องการบวก การลบ การคณู และการหารจานวนจริง เรือ่ งท่ี 3 สมบัติการเท่ากนั และการไมเ่ ทา่ กนั เร่ืองที่ 4 ค่าสัมบูรณ์ 8. ครูให้ผ้เู รียนทุกคนฝึกทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาแบบซ้าไปซ้ามา 9. เมอ่ื ทุกคนมีทกั ษะเพ่มิ ข้ึน ครมู อบหมายใหท้ ุกกลมุ่ แกโ้ จทยป์ ญั หาตามท่ีครมู อบหมายให้ และให้ทุกกลุม่ ออกมานาเสนอผลการแกโ้ จทยป์ ัญหาหน้าช้นั เรยี น 10. ครูแบ่งกล่มุ ผู้เรยี นแต่ละกลุม่ ศกึ ษาใบความรู้ ดังน้ี เร่อื งที่ 1 จานวนตรรกยะ และอตรรกยะ เร่ืองที่ 2 เลขยกกาลงั ท่ีมีเลขช้กี าลังเป็นจานวนตรรกยะและจานวนจรงิ ในรปู กรณฑ์ 11. ครใู ห้ผเู้ รยี นทกุ คนฝกึ ทักษะในการแกโ้ จทย์ปัญหาแบบซ้าไปซา้ มาเก่ียวกบั การบวก การลบ การคูณ การ หาร จานวนทมี่ ีเลขชก้ี าลังเปน็ จานวนตรรกยะและจานวนจริงในรปู กรณฑ์ 12. เมอ่ื ทกุ คนมที กั ษะเพมิ่ ขึ้น ครมู อบหมายใหท้ ุกกล่มุ แก้โจทย์ปัญหาตามที่ครมู อบหมายให้ และให้ทุกกลุ่ม ออกมานาเสนอผลการแกโ้ จทยป์ ัญหาหนา้ ช้นั เรียน 13. ครมู อบหมายให้ผู้เรียนดาเนินการเรยี นรูด้ ้วยตนเองและศึกษาค้นควา้ เพิ่มเติม ผา่ นระบบออนไลน์ - Youtube - ดจิ ิทัลทีวี จาก ETV ช่อง 52 - PSI ช่อง 110 - True ชอ่ ง 371 - รบั ชมทาง Internet ที่ www.etvthai.tv - ผา่ นโทรศพั ทม์ ือถือ Smartphone ที่ www.etvthai.tv/m ขั้นท่ี 3 การปฏิบตั ิและนาไปประยกุ ต์ใช้ (I:Implementation) 1. ผ้เู รียนสามารถนาความร้ทู ่ไี ดร้ บั ไปใช้ในการแก้ปญั หาในชีวิตประจาวนั ของตนเองได้ ขน้ั ที่ 4 การประเมินผลการเรยี นรู้ (E:Evaluation) 1. ครแู ละผู้เรียนร่วมกนั สรุปเก่ียวกับจานวนและการดาเนินการ เลขยกกาลงั ทีม่ เี ลขชีก้ าลงั เป็นจานวนตรรกยะ 2. ครปู ระเมินผลการจัดกิจกรรม 3. ครูให้ผเู้ รยี นทาใบงาน ส่ือประกอบการเรียนรู้ 1. หนังสือประกอบการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์ 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน 4. ส่ือ Internet จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สงั กดั สานักงาน กศน.จงั หวัดชลบุรี

แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 การวัดผลประเมนิ ผล 1. การสังเกต 1.1 พฤติกรรมรายบคุ คล เช่น ความตงั้ ใจ ความกระตอื รอื ร้น การมสี ่วนร่วม ความมนี ้าใจ ความ รบั ผิดชอบ ความเปน็ ผูน้ าและการใช้เทคโนโลยใี นการเรียนรู้ 1.2 พฤตกิ รรมกลุม่ เช่น การทางานร่วมกนั ความรับผดิ ชอบและความมนี ้าใจ 2. การตรวจสอบผลงาน 2.1 ผลงานรายบุคคล เชน่ การตรงต่อเวลา ความถูกตอ้ ง ความสะอาดเรียบรอ้ ย 2.2 การทางานด้วยกระบวนการกลมุ่ เช่น ความสามัคคี ทักษะการทางานเปน็ กลุ่ม ทักษะการคดิ และวิเคราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหลง่ เรยี นรู้ 1. หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อาเภอพนสั นิคม 2. กศน.ตาบลนาวังหิน 3. Internet จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สังกัด สานกั งาน กศน.จังหวัดชลบุรี

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้รายสัปดาห์ที่ 2 แผนการจดั การเรียนการสอน ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เนื้อหาเรื่อง เซต จานวน 20 ชัว่ โมง วันท.่ี ...6....เดอื น..........ธนั วาคม............พ.ศ.....2563............. เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรู้ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวิชา พค31001 ความรู้ความเข้าใจ และทักษะพื้นฐานเก่ียวกับคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระการเรยี นรู้ สาระความรู้พน้ื ฐาน รายวิชา รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า พค31001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ผลการเรียนรทู้ ีค่ าดหวัง เพอื่ ให้ผ้เู รียนสามารถ 1. อธบิ ายความหมายเก่ยี วกับเซตได้ 2. มีทักษะในการหายเู นี่ยน อนิ เตอรเ์ ซกชนั่ คอมพลีเมนต์และผลต่างของเซตได้ 3. เขยี นแผนภาพแทนเซต และนาไปใชแ้ ก้ปญั หาท่เี กี่ยวกบั การหาสมาชกิ ของเซตได้ ตวั ชีว้ ัด 1. อธบิ ายความหมายเก่ยี วกบั เซต 2. สามารถหายูเน่ียน อนิ เตอรเ์ ซกช่ันคอมพลีเมนตแ์ ละผลต่างของเซต 3. เขียนแผนภาพแทนเซต และนาไปใช้แกป้ ญั หาที่เกย่ี วกบั การหาสมาชกิ ของเซต เนือ้ หา 1. เซต (1) 2. การดาเนนิ การของเซต (11) 3. แผนภาพเวนน์-ออยเลอรแ์ ละการแก้ปัญหา (8) กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขัน้ ท่ี 1 กาหนดสภาพปัญหา (O:Orientation) 1. ครแู ละผู้เรียนปฏบิ ตั ิตามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วดั ไข้ สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะหา่ งระหว่าง กัน 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผ้เู รยี นในการพบกลุม่ คร้ังนี้ ขั้นท่ี 2 แสวงหาขอ้ มูล (N:New way of learning) 1. ครูแบง่ กล่มุ ผู้เรียนออกเปน็ กลุ่ม โดยให้ทกุ กลุ่มศึกษาใบความรู้ เรื่อง เซตและการดาเนนิ การของเซต 2. ครใู ห้ผเู้ รยี นทุกคนฝกึ ทักษะในการแกโ้ จทย์ปัญหาแบบซ้าไปซา้ มาเกี่ยวกบั การหายเู น่ยี น อนิ เตอร์เซกช่นั คอมพลีเมนต์และผลตา่ งของเซต จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สังกดั สานกั งาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 3. เมือ่ ผเู้ รียนทุกคนมที ักษะเพ่มิ ขึน้ ครูมอบหมายใหท้ ุกกลมุ่ แกโ้ จทยป์ ญั หาตามท่ีครมู อบหมายให้ และให้ทุก กลมุ่ ออกมานาเสนอผลการแก้โจทยป์ ัญหาหนา้ ชั้นเรียน 4. ครใู ห้ผู้เรียนทกุ คนฝึกทักษะในการเขียนแผนภาพเวนน-์ ออยเลอร์จากเซตทก่ี าหนดให้ 5. เมอ่ื ผู้เรียนทกุ คนมีทกั ษะเพมิ่ ข้นึ ครูมอบหมายใหท้ ุกกลุม่ แก้โจทย์ปัญหาตามท่ีครูมอบหมายให้ และใหท้ ุก กลุ่มออกมานาเสนอผลการแก้โจทยป์ ัญหาหน้าชั้นเรียน 6. ครูมอบหมายให้ผู้เรียนทาการเรยี นรูด้ ้วยตนเอง เรื่อง การใหเ้ หตุผลแบบอปุ นัยและนิรนยั 7. ครมู อบหมายให้ผู้เรยี นดาเนนิ การเรียนรู้ดว้ ยตนเองและศกึ ษาค้นควา้ เพ่ิมเตมิ ผ่านระบบออนไลน์ - Youtube - ดิจทิ ลั ทีวี จาก ETV ช่อง 52 - PSI ช่อง 110 - True ชอ่ ง 371 - รับชมทาง Internet ที่ www.etvthai.tv - ผา่ นโทรศัพท์มอื ถือ Smartphone ท่ี www.etvthai.tv/m ขั้นท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละนาไปประยกุ ต์ใช้ (I:Implementation) 1. ผูเ้ รียนสามารถนาความรูท้ ่ไี ด้รับไปใช้ในการแกป้ ญั หาในชีวติ ประจาวันของตนเองได้ ข้ันที่ 4 การประเมินผลการเรียนรู้ (E:Evaluation) 1. ครูและผู้เรยี นรว่ มกนั สรปุ เกีย่ วกบั เซต 2. ครปู ระเมนิ ผลการจัดกิจกรรม 3. ครูให้ผู้เรยี นทาใบงาน ส่ือประกอบการเรียนรู้ 1. หนังสอื ประกอบการเรยี นรู้รายวิชาคณิตศาสตร์ 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน 4. สอื่ Internet การวัดผลประเมนิ ผล 1. การสงั เกต 1.1 พฤติกรรมรายบุคคล เชน่ ความตั้งใจ ความกระตอื รอื รน้ การมสี ว่ นรว่ ม ความมีนา้ ใจ ความ รับผิดชอบ ความเป็นผนู้ าและการใช้เทคโนโลยใี นการเรียนรู้ 1.2 พฤติกรรมกลุ่ม เช่น การทางานรว่ มกนั ความรบั ผดิ ชอบและความมีนา้ ใจ 2. การตรวจสอบผลงาน 2.1 ผลงานรายบุคคล เชน่ การตรงต่อเวลา ความถูกต้อง ความสะอาดเรียบร้อย 2.2 การทางานดว้ ยกระบวนการกลุม่ เชน่ ความสามคั คี ทกั ษะการทางานเปน็ กล่มุ ทักษะการคดิ และวิเคราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหล่งเรยี นรู้ 1. หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อาเภอพนสั นิคม 2. กศน.ตาบลนาวงั หนิ 3. Internet จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สังกดั สานักงาน กศน.จังหวดั ชลบุรี

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้รายสปั ดาห์ที่ 3 แผนการจดั การเรียนการสอน ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เน้อื หาเร่อื ง การใหเ้ หตุผล จานวน 15 ชวั่ โมง วันที่....13....เดือน....ธนั วาคม.....พ.ศ.....2563...... เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรยี นรู้ รายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า พค31001 ความรู้ความเข้าใจ และทักษะพน้ื ฐานเก่ียวกบั คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี สาระการเรียนรู้ สาระความรูพ้ น้ื ฐาน รายวชิ า รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า พค31001 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวัง เพอื่ ให้ผเู้ รียนสามารถ 1. อธบิ ายและใชก้ ารให้เหตผุ ลแบบอุปนยั และนริ นยั ได้ 2. บอกได้ว่าการอ้างเหตุผลสมเหตุสมผลหรือไม่ โดยใช้แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ได้ ตวั ชว้ี ัด 1. อธิบายและใชก้ ารใหเ้ หตุผลแบบอุปนยั และนิรนัย 2. บอกได้วา่ การอา้ งเหตุผลสมเหตสุ มผลหรอื ไม่ โดยใชแ้ ผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ เน้อื หา 1. การใหเ้ หตุผลแบบอปุ นัยและนริ นยั (5) 2. การอ้างเหตผุ ลโดยใช้แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ (10) กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ข้ันที่ 1 กาหนดสภาพปัญหา (O:Orientation) 1. ครแู ละผู้เรียนปฏิบตั ติ ามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วดั ไข้ สวมหน้ากากอนามยั รกั ษาระยะหา่ งระหวา่ ง กัน 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผูเ้ รียนในการพบกลุ่มครง้ั น้ี ข้ันที่ 2 แสวงหาขอ้ มลู (N:New way of learning) 1. ครูแบ่งกลุ่มผู้เรยี นออกเปน็ กลุม่ โดยให้ทกุ กลุ่มศกึ ษาใบความรู้ เรื่อง การใหเ้ หตุผลแบบอุปนัยและ นริ นัย 2. ครใู ห้ผเู้ รยี นทกุ คนฝกึ ทกั ษะในการแก้โจทย์ปัญหาแบบซา้ ไปซา้ มาเกย่ี วกับการใหเ้ หตุผลแบบอุปนัยและนิรนัย 3. เมื่อทกุ คนมีทกั ษะเพ่ิมข้ึน ครมู อบหมายให้ทุกกลุ่มแกโ้ จทย์ปัญหาตามท่ีครูมอบหมายให้ และให้ทกุ กล่มุ ออกมานาเสนอผลการแกโ้ จทยป์ ญั หาหนา้ ชั้นเรียน 4. ครูให้ผเู้ รยี นทุกคนฝกึ ทักษะในการบอกใหไ้ ดว้ ่าการอา้ งเหตุผลสมเหตุสมผลหรือไม่ โดยใช้แผนภาพเวนน-์ ออยเลอร์ จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนคิ ม สงั กดั สานกั งาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 5. เมอ่ื ทกุ คนมที กั ษะเพม่ิ ขนึ้ ครมู อบหมายใหท้ ุกกลมุ่ แก้โจทย์ปญั หาตามที่ครูมอบหมายให้ และให้ทุกกลุ่ม ออกมานาเสนอผลการแกโ้ จทย์ปัญหาหน้าช้ันเรยี น 6. ครูมอบหมายให้ผู้เรยี นทาการเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง เรือ่ ง อัตราส่วนตรีโกณมติ ิ 7. ครูมอบหมายให้ผู้เรยี นดาเนินการเรียนรู้ดว้ ยตนเองและศกึ ษาคน้ คว้าเพ่ิมเติม ผ่านระบบออนไลน์ - Youtube - ดิจิทัลทวี ี จาก ETV ช่อง 52 - PSI ช่อง 110 - True ชอ่ ง 371 - รบั ชมทาง Internet ที่ www.etvthai.tv - ผ่านโทรศัพทม์ ือถอื Smartphone ท่ี www.etvthai.tv/m ขนั้ ที่ 3 การปฏิบตั แิ ละนาไปประยุกตใ์ ช้ (I:Implementation) 1. ผ้เู รยี นสามารถนาความรู้ท่ไี ดร้ ับไปใช้ในการแกป้ ัญหาในชีวติ ประจาวันของตนเองได้ ขัน้ ท่ี 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (E:Evaluation) 1. ครแู ละผู้เรียนร่วมกนั สรุปเก่ียวกับการใหเ้ หตุผลแบบอุปนยั และนิรนัย 2. ครปู ระเมนิ ผลการจัดกจิ กรรม 3. ครใู ห้ผูเ้ รียนทาใบงาน ส่อื ประกอบการเรยี นรู้ 1. หนงั สือประกอบการเรยี นรูร้ ายวิชาคณติ ศาสตร์ 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน 4. สอื่ Internet การวัดผลประเมินผล 1. การสงั เกต 1.1 พฤติกรรมรายบคุ คล เช่น ความตัง้ ใจ ความกระตือรือร้น การมสี ว่ นรว่ ม ความมีนา้ ใจ ความ รบั ผิดชอบ ความเปน็ ผนู้ าและการใชเ้ ทคโนโลยีในการเรียนรู้ 1.2 พฤตกิ รรมกลมุ่ เชน่ การทางานร่วมกัน ความรับผิดชอบและความมนี ้าใจ 2. การตรวจสอบผลงาน 2.1 ผลงานรายบุคคล เช่น การตรงตอ่ เวลา ความถกู ตอ้ ง ความสะอาดเรียบร้อย 2.2 การทางานดว้ ยกระบวนการกลุม่ เชน่ ความสามัคคี ทกั ษะการทางานเป็นกลมุ่ ทกั ษะการคดิ และวิเคราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหลง่ เรียนรู้ 1. ห้องสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกุมารี” อาเภอพนัสนคิ ม 2. กศน.ตาบลนาวงั หนิ 3. Internet จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นิคม สังกัด สานักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้รู ายสปั ดาหท์ ่ี 4 แผนการจัดการเรียนการสอน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย เนือ้ หาเรื่อง อัตราสว่ นตรโี กณมติ แิ ละการนาไปใช้ จานวน 20 ชว่ั โมง วันที่.....20...เดอื น..........ธนั วาคม.....พ.ศ.......2563......... เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรู้ รายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า พค31001 ความรู้ความเข้าใจ และทักษะพืน้ ฐานเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระการเรยี นรู้ สาระความรู้พ้ืนฐาน รายวิชา รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า พค31001 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ผลการเรียนร้ทู ่คี าดหวัง เพือ่ ให้ผู้เรียนสามารถ 1. อธบิ ายการหาค่าอตั ราสว่ นตรีโกณมติ ิได้ 2. หาคา่ อัตราส่วนตรโี กณมิตขิ องมุม 30˚,45 ˚ และ 60 ˚ได้ 3. นาอตั ราสว่ นตรีโกณมติ ิไปใช้แกป้ ญั หาเกย่ี วกบั ระยะทางความสงู และการวดั ได้ ตัวชีว้ ัด 1. อธบิ ายการหาค่าอตั ราส่วนตรีโกณมิติ 2. หาคา่ อัตราสว่ นตรโี กณมติ ขิ องมมุ 30˚,45 ˚ และ 60 ˚ 3. นาอตั ราส่วนตรีโกณมิติไปใช้แก้ปัญหาเกี่ยวกบั ระยะทางความสงู และการวัด เน้ือหา 1. อัตราส่วนตรีโกณมิติ (5) 2. อัตราสว่ นตรโี กณมิติของมุม 30 ˚,45 ˚ และ 60 ˚ (5) 3. การนาอัตราส่วนตรโี กณมิติไปใช้แก้ปัญหาเกยี่ วกบั ระยะทาง ความสงู และการวัด (10) กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขั้นท่ี 1 กาหนดสภาพปัญหา (O:Orientation) 1. ครแู ละผู้เรียนปฏบิ ัติตามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วัดไข้ สวมหน้ากากอนามยั รักษาระยะห่างระหวา่ ง กนั 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผเู้ รยี นในการพบกลมุ่ ครง้ั น้ี ข้นั ที่ 2 แสวงหาขอ้ มลู (N:New way of learning) 1. ครูแบง่ กลุ่มผู้เรยี นออกเปน็ กลมุ่ โดยให้ทกุ กลุ่มศกึ ษาใบความรู้ เร่อื ง อตั ราส่วนตรโี กณมิติ 2. ครใู ห้ผเู้ รยี นทุกคนท่องจาค่าของ sin cos และ tan ของมุม 30 ˚,45 ˚ และ 60 ˚ 3. ครูให้ผูเ้ รียนทุกคนฝกึ ทกั ษะในการแกโ้ จทย์ปัญหาแบบซ้าไปซา้ มาเกีย่ วกบั การหาค่าของ sin cos และ tan ของมมุ 30 ˚,45 ˚ และ 60 ˚ จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สงั กดั สานกั งาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี

แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 3. เมื่อทกุ คนมีทักษะเพิ่มข้ึน ครูมอบหมายให้ทุกกลุ่มแกโ้ จทย์ปญั หาตามที่ครมู อบหมายให้ และใหท้ กุ กลุ่ม ออกมานาเสนอผลการแกโ้ จทย์ปัญหาหน้าชั้นเรยี น 4. ครใู ห้ผเู้ รียนทกุ คนฝึกทักษะในการนาอตั ราส่วนตรโี กณมิติไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาเกีย่ วกบั ระยะทาง ความสูง และการวัดของวัตถทุ ีอ่ ยู่ใกล้ตวั 5. เม่อื ทุกคนมีทักษะเพิม่ ข้ึน ครมู อบหมายใหท้ ุกกลมุ่ แกโ้ จทยป์ ญั หาตามที่ครมู อบหมายให้ และให้ทกุ กลุ่ม ออกมานาเสนอผลการแก้โจทยป์ ัญหาหนา้ ชนั้ เรียน 6. ครมู อบหมายให้ผู้เรยี นนาอปุ กรณใ์ นการสรา้ งรูปเรขาคณิต เชน่ วงเวียน ไม้บรรทดั ดนิ สอ ยางลบ มาใน การพบกลุ่มคร้งั ตอ่ ไป 7. ครมู อบหมายให้ผู้เรยี นดาเนนิ การเรียนร้ดู ว้ ยตนเองและศึกษาคน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ ผ่านระบบออนไลน์ - Youtube - ดจิ ทิ ลั ทวี ี จาก ETV ช่อง 52 - PSI ชอ่ ง 110 - True ช่อง 371 - รบั ชมทาง Internet ที่ www.etvthai.tv - ผ่านโทรศัพท์มือถอื Smartphone ท่ี www.etvthai.tv/m ข้นั ท่ี 3 การปฏิบตั แิ ละนาไปประยุกตใ์ ช้ (I:Implementation) 1. ผู้เรยี นสามารถหาระยะทาง ความสูงและการวดั ของวตั ถทุ ีอ่ ยู่ใกล้ตวั ได้ ขั้นท่ี 4 การประเมินผลการเรียนรู้ (E:Evaluation) 1. ครแู ละผู้เรยี นร่วมกนั สรุปเกีย่ วกับอตั ราสว่ นตรีโกณมิติและการนาไปใช้ 2. ครูประเมนิ ผลการจัดกจิ กรรม 3. ครใู ห้ผเู้ รียนทาใบงาน สอ่ื ประกอบการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื ประกอบการเรยี นรรู้ ายวิชาคณิตศาสตร์ 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน 4. สอ่ื Internet การวัดผลประเมนิ ผล 1. การสังเกต 1.1 พฤตกิ รรมรายบุคคล เช่น ความตัง้ ใจ ความกระตอื รือร้น การมสี ่วนรว่ ม ความมนี า้ ใจ ความ รับผิดชอบ ความเปน็ ผ้นู าและการใช้เทคโนโลยใี นการเรียนรู้ 1.2 พฤตกิ รรมกล่มุ เชน่ การทางานรว่ มกนั ความรบั ผิดชอบและความมนี า้ ใจ 2. การตรวจสอบผลงาน 2.1 ผลงานรายบุคคล เชน่ การตรงต่อเวลา ความถูกต้อง ความสะอาดเรยี บรอ้ ย 2.2 การทางานด้วยกระบวนการกลุ่ม เช่น ความสามคั คี ทักษะการทางานเป็นกลมุ่ ทักษะการคิด และวเิ คราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหลง่ เรียนรู้ 1. ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี” อาเภอพนสั นคิ ม 2. กศน.ตาบลนาวังหิน 3. Internet จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนคิ ม สังกัด สานักงาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรรู้ ายสปั ดาห์ที่ 5 แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เน้ือหาเร่อื ง การใช้เครื่องมือและการออกแบบผลิตภัณฑ์ จานวน 25 ชั่วโมง วันท.ี่ ...27....เดือน.......ธันวาคม.....พ.ศ........2563............. เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรู้ รายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา พค31001 ความรู้ความเข้าใจ และทกั ษะพ้ืนฐานเกย่ี วกบั คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระการเรียนรู้ สาระความรพู้ ้นื ฐาน รายวิชา รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า พค31001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวัง เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถ 1. สรา้ งรปู ทางเรขาคณติ โดยใชเ้ คร่อื งมอื ได้ 2. อธิบายความสัมพันธร์ ะหวา่ งรปู ต้นแบบและรปู ทไ่ี ด้จากการเลือ่ นขนาน การสะทอ้ นและการหมนุ ได้ 3. นาสมบตั เิ ก่ียวกบั การเลอื่ นขนานการหมุน และการสะท้อนจากการแปลงทางคณติ ศาสตรแ์ ละทางเรขาคณิต ไปใชใ้ นการออกแบบงานศลิ ปะได้ ตวั ชีว้ ัด 1. สรา้ งรปู ทางเรขาคณติ โดยใช้เคร่ืองมอื 2. วเิ คราะหแ์ ละอธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหว่างรปู ตน้ แบบและรูปท่ไี ดจ้ ากการเลอื่ นขนาน การสะทอ้ นและการ หมนุ 3. นาสมบตั เิ ก่ยี วกับการเลอ่ื นขนานการหมุน และการสะท้อนจากการแปลงทางคณิตศาสตร์และทางเรขาคณิต ไปใช้ในการออกแบบงานศิลปะ เนื้อหา 1. การสร้างรปู ทางเรขาคณติ โดยใชเ้ คร่ืองมือ (5) 2. การแปลงทางเรขาคณติ (12) - การเลื่อนขนาน - การหมุน - การสะท้อน 3. การออกแบบสรา้ งสรรคง์ านศิลปะจากการแปลงทางคณติ ศาสตร์และทางเรขาคณิต (8) 4. การออกแบบให้กับผลติ ภัณฑ์ท่เี ป็นสินค้าของชุมชน เช่น เครื่องจักสาน ขนมไทย น้าพริก ปลารา้ ไขเ่ ค็ม จัดทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สงั กัด สานกั งาน กศน.จังหวัดชลบุรี

แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ข้นั ที่ 1 กาหนดสภาพปญั หา (O:Orientation) 1. ครแู ละผู้เรียนปฏิบตั ติ ามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วดั ไข้ สวมหน้ากากอนามยั รกั ษาระยะหา่ งระหว่าง กัน 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผ้เู รยี นในการพบกลมุ่ ครง้ั น้ี ขน้ั ที่ 2 แสวงหาข้อมูล (N:New way of learning) 1. ครูแบ่งกลุม่ ผู้เรยี นออกเป็นกลุ่ม โดยให้ทุกกลุ่มศึกษาใบความรู้ เรื่อง การสรา้ งรูปทางเรขาคณิตโดยใช้ เคร่อื งมือ 2. ครูให้ผูเ้ รียนทุกคนฝึกทกั ษะในการแกโ้ จทย์ปัญหาเกยี่ วกบั การแปลงทางเรขาคณิต (การเล่อื นขนาน การหมุน การสะท้อน) 3. เม่ือทุกคนมีทกั ษะเพิม่ ขึน้ ครูมอบหมายใหท้ ุกกลมุ่ แก้โจทยป์ ญั หาตามท่ีครูมอบหมายให้ และให้ทุกกล่มุ ออกมานาเสนอผลการแกโ้ จทยป์ ญั หาหนา้ ชัน้ เรยี น 4. ครูให้ผเู้ รียนทกุ คนฝกึ ทักษะในการออกแบบสรา้ งสรรคง์ านศิลปะจากการแปลงทางคณิตศาสตร์และทาง เรขาคณิต 5. เมื่อทกุ คนมที กั ษะเพ่ิมขน้ึ ครมู อบหมายให้ทุกกลมุ่ ออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์ใหก้ ับสนิ ค้าในชมุ ชนของตนเอง และใหอ้ อกมานาเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น 6. ครูมอบหมายให้ผู้เรียนดาเนนิ การเรยี นร้ดู ้วยตนเองและศึกษาค้นคว้าเพ่มิ เติม ผ่านระบบออนไลน์ - Youtube - ดิจิทลั ทวี ี จาก ETV ช่อง 52 - PSI ช่อง 110 - True ช่อง 371 - รับชมทาง Internet ท่ี www.etvthai.tv - ผ่านโทรศพั ท์มอื ถือ Smartphone ที่ www.etvthai.tv/m ขั้นที่ 3 การปฏบิ ัตแิ ละนาไปประยุกต์ใช้ (I:Implementation) 1. ผเู้ รยี นสามารถออกแบบบรรจภุ ัณฑใ์ หก้ บั สินค้าในชมุ ชนของตนได้ ขน้ั ท่ี 4 การประเมินผลการเรยี นรู้ (E:Evaluation) 1. ครูและผู้เรยี นรว่ มกันสรุปเกี่ยวกับการใช้เครอื่ งมือและการออกแบบผลิตภัณฑ์ 2. ครปู ระเมินผลการจัดกิจกรรม 3. ครูให้ผูเ้ รียนทาใบงาน ส่ือประกอบการเรยี นรู้ 1. หนงั สือประกอบการเรียนรรู้ ายวชิ าคณิตศาสตร์ 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน 4. วงเวียน 5. ไมบ้ รรทัด 6. ดินสอ 7. ยางลบ 8. กระดาษแขง็ ขาว-เทา 9. ส่ือ Internet จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สงั กัด สานักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 การวดั ผลประเมนิ ผล 1. การสงั เกต 1.1 พฤตกิ รรมรายบคุ คล เชน่ ความตง้ั ใจ ความกระตอื รือรน้ การมสี ่วนรว่ ม ความมีน้าใจ ความ รับผิดชอบ ความเป็นผู้นาและการใช้เทคโนโลยีในการเรยี นรู้ 1.2 พฤติกรรมกลุ่ม เชน่ การทางานร่วมกนั ความรับผดิ ชอบและความมนี ้าใจ 2. การตรวจสอบผลงาม 2.1 ผลงานรายบุคคล เชน่ การตรงตอ่ เวลา ความถูกตอ้ ง ความสะอาดเรยี บรอ้ ย 2.2 การทางานด้วยกระบวนการกลุ่ม เช่น ความสามคั คี ทักษะการทางานเป็นกลมุ่ ทกั ษะการคดิ และวิเคราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหล่งเรยี นรู้ 1. หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อาเภอพนสั นคิ ม 2. กศน.ตาบลนาวงั หนิ 3. สอื่ Internet จัดทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สงั กดั สานักงาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรรู้ ายสปั ดาหท์ ี่ 6 แผนการจัดการเรียนการสอน ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เนอื้ หาเรื่อง สถติ ิเบื้องต้น จานวน 35 ชั่วโมง วนั ท.่ี ..3...เดือน.......มกราคม.....พ.ศ...2564........... เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรยี นรู้ รายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา พค31001 ความรู้ความเข้าใจ และทักษะพืน้ ฐานเก่ยี วกบั คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระการเรยี นรู้ สาระความร้พู ื้นฐาน รายวิชา รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวิชา พค31001 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวัง เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนสามารถ 1. อธิบายข้ันตอนการวิเคราะห์ขอ้ มูลเบือ้ งต้น และสามารถนาผลจากการวิเคราะหข์ อ้ มูลเบือ้ งตน้ ไปใช้ในการ ตัดสินใจได้ 2. เลือกใช้คา่ กลางท่เี หมาะสมกบั ข้อมลู ทก่ี าหนดและวตั ถุประสงค์ทีต่ อ้ งการได้ 3. นาเสนอข้อมลู ในรปู แบบต่างๆรวมท้ังการอา่ นและตคี วามหมายจากการนาเสนอขอ้ มูลได้ ตวั ช้ีวัด 1. อธิบายขั้นตอนการวเิ คราะห์ขอ้ มลู เบอื้ งต้น และสามารถนาผลจากการวเิ คราะห์ข้อมูลเบื้องต้นไปใช้ในการ ตัดสนิ ใจ 2. เลอื กใช้คา่ กลางที่เหมาะสมกบั ข้อมูลทกี่ าหนดและวตั ถปุ ระสงค์ที่ตอ้ งการ 3. นาเสนอขอ้ มลู ในรูปแบบต่างๆรวมท้ังการอ่านและตีความหมายจากการนาเสนอขอ้ มูล เนอื้ หา 1. การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เบอ้ื งต้น (7) 2. การหาคา่ กลางของขอ้ มูลโดยใช้ค่าเฉล่ียเลขคณิต มธั ยฐาน และฐานนิยม (18) 3. การนาเสนอขอ้ มูล (10) 4. การวเิ คราะหข์ อ้ มูลเบื้องตน้ ในการประกอบอาชีพของประชากรในอาเภอพนัสนคิ ม กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้ันที่ 1 กาหนดสภาพปญั หา (O:Orientation) 1. ครแู ละผู้เรียนปฏิบัตติ ามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วัดไข้ สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะหา่ งระหวา่ ง กัน 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผเู้ รียนในการพบกลุม่ คร้งั น้ี จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นิคม สังกดั สานักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี

แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ขน้ั ที่ 2 แสวงหาข้อมูล (N:New way of learning) 1. ครแู บ่งกลมุ่ ผู้เรยี นออกเปน็ กลุ่ม โดยให้ทกุ กลุ่มศกึ ษาใบความรู้ เรอ่ื ง การวิเคราะห์ข้อมลู เบ้ืองต้น 2. ครใู ห้ผเู้ รยี นทกุ คนฝึกทกั ษะในการแกโ้ จทย์ปัญหาเกย่ี วกบั การหาค่ากลางของขอ้ มลู โดยใช้คา่ เฉลีย่ เลขคณิต มัธยฐาน และฐานนิยม 3. เม่อื ทุกคนมีทกั ษะเพ่มิ ข้ึน ครูมอบหมายให้ทุกกลุม่ แก้โจทย์ปญั หาตามที่ครมู อบหมายให้ และให้ทกุ กลุม่ ออกมานาเสนอผลการแกโ้ จทย์ปัญหาหน้าชั้นเรียน 4. ครใู ห้ผ้เู รียนทุกคนฝึกการนาเสนอขอ้ มูลในรปู แบบตา่ ง ๆ ดงั นี้ - การนาเสนอขอ้ มลู ในรปู ของตาราง - การนาเสนอข้อมูลในรปู แบบของแผนภูมแิ ทง่ - การนาเสนอขอ้ มูลในรูปแบบของแผนภมู กิ ง - การนาเสนอขอ้ มลู ในรูปแบบของแผนภาพ -การนาเสนอข้อมูลด้วยกราฟ 5. เมื่อทุกคนมที กั ษะเพม่ิ ข้ึน ครูมอบหมายใหท้ ุกกลุ่มนาเสนอข้อมูลให้เหมาะสมตามข้อมูลท่คี รมู อบหมายให้ และใหท้ ุกกลมุ่ ออกมานาเสนอหนา้ ชัน้ เรียน 6. ครูมอบหมายใหผ้ ู้เรยี นทาการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง เรื่อง ความนา่ จะเปน็ 7. ครมู อบหมายให้ผู้เรยี นดาเนินการเรยี นรู้ด้วยตนเองและศึกษาคน้ ควา้ เพ่ิมเติม ผ่านระบบออนไลน์ - Youtube - ดจิ ิทัลทวี ี จาก ETV ช่อง 52 - PSI ช่อง 110 - True ช่อง 371 - รับชมทาง Internet ท่ี www.etvthai.tv - ผ่านโทรศพั ท์มอื ถือ Smartphone ที่ www.etvthai.tv/m ขน้ั ท่ี 3 การปฏิบัตแิ ละนาไปประยุกตใ์ ช้ (I:Implementation) 1. ผู้เรยี นสามารถนาความรู้ทไ่ี ดร้ บั ไปใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจาวันของตนเองได้ ขน้ั ท่ี 4 การประเมินผลการเรียนรู้ (E:Evaluation) 1. ครูและผู้เรียนรว่ มกันสรปุ เกีย่ วกับสถิติเบื้องต้นและการนาเสนอข้อมลู 2. ครูประเมินผลการจัดกจิ กรรม 3. ครใู ห้ผ้เู รยี นทาใบงาน ส่อื ประกอบการเรยี นรู้ 1. หนงั สือประกอบการเรียนร้รู ายวชิ าคณติ ศาสตร์ 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน 4. สอื่ Internet จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สังกดั สานกั งาน กศน.จังหวัดชลบุรี

แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 การวัดผลประเมนิ ผล 1. การสังเกต 1.1 พฤติกรรมรายบคุ คล เช่น ความตงั้ ใจ ความกระตอื รือร้น การมสี ่วนร่วม ความมนี ้าใจ ความ รบั ผิดชอบ ความเปน็ ผูน้ าและการใช้เทคโนโลยใี นการเรียนรู้ 1.2 พฤตกิ รรมกลุม่ เช่น การทางานร่วมกนั ความรับผดิ ชอบและความมนี ้าใจ 2. การตรวจสอบผลงาม 2.1 ผลงานรายบุคคล เชน่ การตรงต่อเวลา ความถูกตอ้ ง ความสะอาดเรียบรอ้ ย 2.2 การทางานด้วยกระบวนการกลมุ่ เช่น ความสามัคคี ทักษะการทางานเป็นกลุ่ม ทักษะการคดิ และวิเคราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหลง่ เรียนรู้ 1. หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อาเภอพนสั นิคม 2. กศน.ตาบลนาวังหิน 3. Internet จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สังกัด สานกั งาน กศน.จังหวัดชลบุรี

แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 แผนการจดั กิจกรรมการเรียนร้รู ายสปั ดาห์ที่ 7 แผนการจัดการเรียนการสอน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย เนอ้ื หาเรอ่ื ง ความนา่ จะเปน็ จานวน 30 ชั่วโมง การใช้ทกั ษะกระบวนการทางคณติ ศาสตรใ์ นงานอาชพี จานวน 15 ช่วั โมง วนั ท่ี..10...เดือน.....มกราคม..........พ.ศ......2564...... เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรู้ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า พค31001 ความรู้ความเข้าใจ และทักษะพืน้ ฐานเก่ยี วกบั คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระการเรยี นรู้ สาระความรพู้ ืน้ ฐาน รายวชิ า รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวิชา พค31001 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวัง เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รยี นสามารถ 1. หาจานวนผลลัพธ์ทีอ่ าจเกดิ ขน้ึ ของเหตุการณ์ โดยใชก้ ฎเกณฑ์เบ้ืองต้นเกยี่ วกับการนับและแผนภาพต้นไม้ อยา่ งงา่ ย 2. อธบิ ายการทดลองสุ่มเหตุการณค์ วามนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณแ์ ละหาความน่าจะเป็นของเหตุการณท์ ่ี กาหนดใหไ้ ด้ 3. นาความรู้เก่ียวกับความน่าจะเปน็ ไปใช้ในการคาดการณ์และชว่ ยในการตัดสินใจได้ 4. วิเคราะห์งานอาชพี ในสังคมและประชาคมอาเซียนทีใ่ ช้ทักษะทางคณติ ศาสตร์ได้ 5. เช่อื มโยงความรู้ต่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์กบั งานอาชพี ได้ ตวั ชี้วัด 1. หาจานวนผลลัพธ์ทอ่ี าจเกดิ ขึ้นของเหตกุ ารณ์ โดยใชก้ ฎเกณฑ์เบื้องตน้ เกีย่ วกับการนับและแผนภาพตน้ ไม้ อยา่ งง่าย 2. อธบิ ายการทดลองสุม่ เหตกุ ารณค์ วามนา่ จะเป็นของเหตุการณแ์ ละหาความน่าจะเปน็ ของเหตกุ ารณ์ท่ี กาหนดให้ 3. นาความรูเ้ กีย่ วกับความนา่ จะเปน็ ไปใช้ในการคาดการณแ์ ละชว่ ยในการตดั สนิ ใจ 4. วิเคราะห์งานอาชีพในสังคมและประชาคมอาเซียนท่ีใชท้ ักษะทางคณิตศาสตร์ 5. มีความสามารถในการเช่อื มโยงความรูต้ ่าง ๆ ทางคณติ ศาสตรก์ บั งานอาชพี ได้ เนอ้ื หา ความน่าจะเปน็ 1. กฎเกณฑ์เบอื้ งต้นเก่ียวกบั การนบั และแผนภาพต้นไม้ (10) 2. ความนา่ จะเปน็ ของเหตุการณ์ (15) 3. การนาความนา่ จะเปน็ ไปใช้ (5) จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สงั กัด สานกั งาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 การใชท้ กั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตรใ์ นงานอาชพี 1. ลกั ษณะประเภทของงานอาชพี ท่ใี ช้ทกั ษะทางคณติ ศาสตร์ (5) 2. การนาความรู้ทางคณิตศาสตรไ์ ปเชอ่ื มโยงกับงานอาชพี ในสังคมและประชาคมอาเซียน (10) 3. การศึกษาภมู ปิ ญั ญาในการประกอบอาชีพ เช่น อาชีพก่อสรา้ ง การจักสาน การตัดเย็บเสื้อผา้ ฯลฯ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 กาหนดสภาพปัญหา (O:Orientation) 1. ครูและผู้เรียนปฏิบัติตามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วดั ไข้ สวมหน้ากากอนามัย รกั ษาระยะห่างระหวา่ ง กนั 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผูเ้ รยี นในการพบกลุม่ ครั้งนี้ ขน้ั ที่ 2 แสวงหาขอ้ มูล (N:New way of learning) 1. ครแู บ่งกลุ่มผู้เรียนออกเป็นกลุ่ม โดยให้ทกุ กลุ่มศกึ ษาใบความรู้ เร่อื ง กฎเกณฑ์เบ้อื งตน้ เกย่ี วกบั การนบั และแผนภาพตน้ ไม้ 2. ครใู ห้ผู้เรยี นทกุ คนฝกึ ทักษะในการแกโ้ จทย์ปัญหาเก่ยี วกับการหาค่าความนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณ์ 3. เมือ่ ทุกคนมที ักษะเพม่ิ ข้นึ ครมู อบหมายให้ทุกกลุ่มแก้โจทย์ปัญหาตามที่ครมู อบหมายให้ และให้ทกุ กลุ่ม ออกมานาเสนอผลการแกโ้ จทยป์ ญั หาหน้าชัน้ เรยี น 4. ครูพูดคุยกับผเู้ รยี นถงึ อาชีพที่ตอ้ งใช้ความร้ทู างคณิตศาสตร์ โดยให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นรว่ มกัน 5. ครใู ห้ผู้เรยี นแต่ละกลุ่มเลือกอาชพี ท่ีต้องใช้ความรูท้ างคณิตศาสตร์ กลมุ่ ละ 1 อาชีพ พร้อมให้แสดงความ คิดเห็นว่าอาชพี ดงั กล่าวจาเปน็ ต้องใชค้ วามรทู้ างคณติ ศาสตร์ในเรอ่ื งใดบ้าง 6. ครใู ห้ผู้เรยี นแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น พรอ้ มให้เพ่ือนร่วมช้นั เรยี นช่วยกันแสดงความคิดเห็น เพิ่มเติม 7. ครมู อบหมายให้ผู้เรียนทาการเรยี นรู้ด้วยตนเองเกยี่ วกบั คณิตศาสตรเ์ พ่มิ มากข้นึ โดยให้ฝกึ แก้โจทย์ปัญหา จากแบบทดสอบตา่ ง ๆ เพ่อื เพ่ิมความชานาญในการเรียนรู้ของตนเอง 8. ครมู อบหมายให้ผู้เรยี นดาเนนิ การเรียนรู้ดว้ ยตนเองและศกึ ษาค้นคว้าเพิม่ เตมิ ผ่านระบบออนไลน์ - Youtube - ดจิ ิทลั ทวี ี จาก ETV ช่อง 52 - PSI ช่อง 110 - True ชอ่ ง 371 - รบั ชมทาง Internet ที่ www.etvthai.tv - ผ่านโทรศพั ทม์ ือถอื Smartphone ที่ www.etvthai.tv/m ขัน้ ท่ี 3 การปฏบิ ตั ิและนาไปประยกุ ตใ์ ช้ (I:Implementation) 1. ผู้เรยี นสามารถนาความรทู้ ี่ได้รับไปใช้ในชวี ิตประจาวันของตนเองได้ 2. ผ้เู รยี นสามารถนาความรทู้ ่ีไดร้ ับไปใช้ในประกอบอาชีพตอ่ ไปได้ ขั้นท่ี 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (E:Evaluation) 1. ครแู ละผู้เรียนร่วมกนั สรุปเก่ียวกับการนาความน่าจะเปน็ ไปใช้ในชวี ิตประจาวันและการใช้ทกั ษะกระบวนการ ทางคณิตศาสตรใ์ นงานอาชพี 2. ครูประเมินผลการจัดกิจกรรม 3. ครใู ห้ผู้เรียนทาใบงาน จัดทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สงั กัด สานักงาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สื่อประกอบการเรียนรู้ 1. หนังสอื ประกอบการเรียนรู้รายวชิ าคณิตศาสตร์ 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน 4. ส่อื Internet การวัดผลประเมินผล 1. การสังเกต 1.1 พฤตกิ รรมรายบุคคล เช่น ความตงั้ ใจ ความกระตือรือรน้ การมสี ว่ นร่วม ความมนี ้าใจ ความ รับผดิ ชอบ ความเป็นผูน้ าและการใชเ้ ทคโนโลยีในการเรยี นรู้ 1.2 พฤติกรรมกลมุ่ เชน่ การทางานร่วมกัน ความรับผดิ ชอบและความมนี า้ ใจ 2. การตรวจสอบผลงาม 2.1 ผลงานรายบุคคล เชน่ การตรงต่อเวลา ความถูกต้อง ความสะอาดเรยี บรอ้ ย 2.2 การทางานด้วยกระบวนการกลมุ่ เชน่ ความสามคั คี ทักษะการทางานเป็นกลมุ่ ทักษะการคิด และวิเคราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหลง่ เรียนรู้ 1. หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกุมารี” อาเภอพนสั นคิ ม 2. กศน.ตาบลนาวงั หนิ 3. Internet จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนคิ ม สังกัด สานกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี

แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นร้รู ายสปั ดาหท์ ่ี 8 แผนการจัดการเรยี นการสอน ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย เนือ้ หาเรอื่ ง ภูมศิ าสตร์กายภาพ จานวน 30 ชั่วโมง ประวตั ศิ าสตร์ จานวน 30 ช่วั โมง วนั ท.่ี .17...เดือน.......มกราคม.....พ.ศ...2564.......... เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรยี นรู้ รายวิชาสังคมศกึ ษา รหัสวชิ า สค31001 มีความรู้ ความเขา้ ใจ และตระหนักถงึ ความสาคญั เกยี่ วกับภมู ศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครอง สามารถนามาปรบั ใช้ในการดารงชีวติ สาระการเรยี นรู้ สาระการพัฒนาสงั คม รายวิชา รายวชิ าสงั คมศกึ ษา รหัสวชิ า สค31001 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวัง เพื่อให้ผ้เู รียนสามารถ 1. อธิบายสภาพทางภมู ิศาสตรก์ ายภาพของประเทศไทยกับทวีปตา่ งๆ ได้ 2. เปรียบเทียบสภาพภมู ศิ าสตรก์ ายภาพของประเทศไทยกบั ทวีปต่างๆ ได้ 3. อธิบายปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ ่เี กิดข้ึนในโลกได้ 4. ใช้เคร่ืองมอื ทางภูมศิ าสตรท์ ่ีสาคญั ๆ ได้ 5. อธิบายวธิ ปี อู งกันตนเองให้ปลอดภยั เม่ือเกิดภัยจากปรากฏการณธ์ รรมชาติได้ 6. วเิ คราะหแ์ นวโน้มและวิกฤตสิ่งแวดล้อมท่ีเกดิ จากการกระทาของมนษุ ย์ได้ 7. ใชน้ วัตกรรมและเทคโนโลยีดา้ นสิ่งแวดล้อมเพ่อื พัฒนาทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อมทีย่ ง่ั ยนื ได้ 8. อธิบายเหตกุ ารณส์ าคญั ทางประวัติศาสตรข์ องประเทศตา่ งๆ ในโลกได้ 9. วิเคราะหแ์ ละเปรยี บเทียบเหตุการณ์สาคัญทางประวัตศิ าสตรข์ องแตล่ ะประเทศในโลก ทีม่ ผี ลกระทบต่อ ความเปล่ยี นแปลงของประเทศตา่ งๆ ในโลกได้ 10. วิเคราะห์เหตกุ ารณโ์ ลกปัจจบุ นั และคาดคะเนเหตุการณ์ทอ่ี าจจะเกดิ ขึน้ กับประเทศตา่ งๆในอนาคตได้ ตัวช้ีวัด 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั สภาพทางภมู ิศาสตร์กายภาพของประเทศไทยกับทวีปตา่ งๆ 2. เปรยี บเทียบสภาพภูมศิ าสตร์กายภาพของประเทศไทยกับทวีปตา่ งๆ 3. มคี วามรู้ ความเข้าใจ ในปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ ี่เกดิ ขึ้นในโลก 4. มที ักษะการใชเ้ คร่ืองมอื ทางภมู ิศาสตร์ท่สี าคญั ๆ 5. รู้วธิ ปี ูองกันตนเองให้ปลอดภยั เมอื่ เกดิ ภัยจากปรากฏการณธ์ รรมชาติ 6. สามารถวิเคราะห์แนวโน้มและวกิ ฤตสงิ่ แวดลอ้ มท่ีเกิดจากการกระทาของมนษุ ย์ 7. มคี วามรู้ ความเข้าใจในการใช้นวตั กรรมและเทคโนโลยีด้านสงิ่ แวดล้อมเพอ่ื พัฒนาทรพั ยากรธรรมชาติและ สิง่ แวดลอ้ มที่ยัง่ ยืน 8. อธิบายเหตุการณ์สาคัญทางประวัตศิ าสตร์ของประเทศต่างๆ ในโลกได้ จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สงั กัด สานักงาน กศน.จงั หวัดชลบุรี

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 9. วิเคราะห์ และเปรยี บเทียบเหตุการณ์สาคญั ทางประวตั ศิ าสตร์ของแต่ละประเทศในโลก ท่มี ีผลกระทบตอ่ ความเปลย่ี นแปลงของประเทศต่างๆ ในโลก 10. วิเคราะหเ์ หตกุ ารณ์โลกปัจจุบัน และคาดคะเนเหตกุ ารณท์ ่ีอาจจะเกดิ ข้ึนกบั ประเทศต่างๆในอนาคตได้ เน้อื หา ภมู ิศาสตร์กายภาพ 1. สภาพภมู ศิ าสตรก์ ายภาพของประเทศไทยกับทวปี เอเชียทวปี ยุโรป ทวีปออสเตรเลียทวปี แอฟริกา ทวปี อเมริกา (3) 2. การเปรียบเทยี บสภาพภูมิศาสตร์กายภาพของประเทศไทยกบั ประเทศต่างในในทวีปต่างๆ (3) 3. สาเหตุและลกั ษณะการเกิดปรากฏการณท์ างธรรมชาติท่ีสาคัญๆ รวมท้งั การปอู งกนั อนั ตรายเมื่อเกดิ (4) - พายุชนิดต่างๆ - นา้ ท่วม - แผ่นดินไหว - ภูเขาไฟระเบดิ - ภาวะโลกร้อน ปรากฏการณ์ เรอื นกระจก - อืน่ ๆ 4. วธิ ีใชเ้ คร่อื งมือทางภมู ศิ าสตร์ (3) - แผนท่ี - ลกู โลก - Website - อืน่ ๆ 5. วธิ ีปูองกันตนเองจากภยั ธรรมชาติ (2) 6. ปัญหาการทาลายทรัพยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อม (5) 7. การวเิ คราะห์สาเหตุการเกดิ ปญั หาและสภาพการทาลายทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มทเี่ กดิ จากการ กระทาของมนุษย์ ในสภาพปัจจุบนั และแนวโน้มในอนาคต (5) - ปุาไม้ - ภเู ขา - แม่นา้ ลาคลอง หนอง บึง ทะเล - ดิน - สตั วป์ าุ สัตวน์ ้า - แรธ่ าตุ - มลพิษทางอากาศ - ปรากฏการณเ์ รอื นกระจก - อื่นๆ - การปอู งกันการพังทลายของดนิ - การพัฒนาดนิ ให้อุดมสมบูรณ์ เช่น การปลูกปุา การปลกู หญ้าแฝก ฯลฯ 8. ความเขม้ แข็งของภาคประชาชนในการแก้ปัญหาการทาลายทรัพยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดล้อม (กรณี ตวั อยา่ ง) (5) 9. บทบญั ญตั ิและบทลงโทษเกี่ยวกับกฎหมายทางด้านส่งิ แวดล้อม จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สังกดั สานกั งาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี

แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 ประวตั ิศาสตร์ 1. การแบ่งช่วงเวลา และยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ (10) 2. แหลง่ อารยธรรมโลก (10) - จีน - อินเดีย - อยี ิปต์ - เมโสโปเตเมยี - กรีก - โรมัน 3. ประวัตชิ าตไิ ทย (10) - ธนบรุ ี - รตั นโกสินทร์ - ลักษณะการเปลย่ี นแปลงการปกครอง - เหตุการณ์ปัจจุบันท่มี ผี ลต่อเนือ่ งมาจากประวัติศาสตร์ไทยและประเทศต่างๆ ในโลกท่ีส่งผลถึงอนาคต 4. การศึกษาแหล่งอารยธรรมในพนื้ ทอ่ี าเภอพนสั นิคม - ชมุ ชนท้องถิน่ กลุ่มลาวพวน - ตานานเมืองพระรถ - โครงกระดกู ยคุ หิน โคกพนมดี กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 กาหนดสภาพปญั หา (O:Orientation) 1. ครแู ละผู้เรยี นปฏบิ ัติตามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วดั ไข้ สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างระหว่าง กัน 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผเู้ รียนในการพบกลมุ่ คร้งั นี้ 3. ครพู ูดคุยกบั ผูเ้ รียนเกีย่ วกบั สภาพภูมอิ ากาศในยุคปัจจุบัน ขัน้ ที่ 2 แสวงหาขอ้ มูล (N:New way of learning) 1. ครูแบง่ กลมุ่ ผู้เรียนออกเป็นกลมุ่ โดยให้แต่ละกลมุ่ ศกึ ษาใบความรู้ เรอ่ื ง การใช้เครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ 2. ครใู ห้ผเู้ รียนทุกกลุ่มฝึกทักษะในการใช้แผนที่ ลูกโลกและ Website ในการศกึ ษาลักษณะทางภูมิศาสตร์ 3. ครูให้ผู้เรียนทุกกลมุ่ ร่วมกนั วเิ คราะห์ถงึ สาเหตุการเกดิ ปัญหาและสภาพการทาลายทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ ม พร้อมวิธีการปอู งกันตนเองทเ่ี กิดจากภัยธรรมชาติดงั กลา่ ว ในหัวขอ้ ต่อไปนี้ เรื่องท่ี 1 ปาุ ไม้ เร่ืองที่ 2 ภเู ขา เรอ่ื งที่ 3 แม่น้า ลาคลอง หนอง บงึ ทะเล เรื่องที่ 4 ดนิ เรื่องที่ 5 สัตวป์ าุ สัตว์นา้ เร่อื งที่ 6 แร่ธาตุ เรอ่ื งท่ี 7 มลพษิ ทางอากาศ เร่ืองท่ี 8 ปรากฏการณ์เรือนกระจก หลังจากนัน้ ใหแ้ ต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียน เมอ่ื ทุกกลมุ่ นาเสนอเสร็จสิน้ แลว้ ให้ทาการสรุปรว่ มกนั จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นิคม สังกัด สานกั งาน กศน.จงั หวัดชลบรุ ี

แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 4. ครใู ห้ผเู้ รียนแตล่ ะกลมุ่ รวมกนั อภปิ รายในหัวข้อ “ในฐานะที่ท่านเปน็ สว่ นหนึง่ ของประชากรโลกท่านสามารถ จะชว่ ยปอู งกนั และแกไ้ ขปญั หาภาวะโลกรอ้ นได้อย่างไร” หลงั จากนนั้ ให้แต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น เมื่อทุก กลมุ่ นาเสนอเสร็จสิน้ แล้ว ใหท้ าการสรปุ รว่ มกนั 5. ครูให้ผู้เรยี นแตล่ ะกลุม่ รวมกนั อภิปรายในหัวข้อ “ผเู้ รียนคิดว่าในชุมชนเกิดปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและ สงิ่ แวดล้อมในด้านใดบ้างให้เลือก 1 ปญั หา แล้ววิเคราะหห์ าสาเหตุของการเกิดปัญหาและหาสาเหตุของการเกดิ ปัญหา” และหาแนวทางแก้ไข” 6. ครรู ่วมพดู คุยกบั ผู้เรียนในกรณีท่ีว่า เหตใุ ดจึงกลา่ ววา่ “มนษุ ย์” คอื ตวั การสาคัญท่เี ปน็ ผู้ทาลาย ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม 7. ครพู ดู คุยกับผู้เรยี นเกย่ี วกบั เหตุการณ์สาคัญในยคุ ประวัตศิ าสตร์ชาติไทย 8. ครูให้ผเู้ รียนทกุ กลุ่มศกึ ษาใบความรู้ เรือ่ ง แหล่งอารยธรรมดงั น้ี เรอื่ งที่ 1 จนี เรื่องที่ 2 อินเดีย เรื่องท่ี 3 อยี ิปต์ เรอื่ งที่ 4 เมโสโปเตเมยี เรื่องท่ี 5 กรีก เรื่องท่ี 6 โรมัน หลังจากนัน้ และให้แต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอหน้าชัน้ เรยี น เมอื่ ทุกกลมุ่ นาเสนอเสรจ็ สน้ิ แล้ว ใหท้ าการสรุปร่วมกัน 9. ครูให้แตล่ ะกลุ่มทาการศกึ ษาคน้ คว้าจากอนิ เตอรเ์ น็ต วา่ แหล่งอารยธรรมแตล่ ะแหง่ มีเหตุการณ์สาคญั ทาง ประวัติศาสตร์อะไรบา้ ง และส่งผลตอ่ ประวัตศิ าสตร์อย่างไร หลงั จากนนั้ ให้ออกมานาเสนอหน้าช้ันเรยี น 10. ครูให้ผ้เู รียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั เหตุการณท์ ีม่ ีผลตอ่ สบื เนอ่ื งมาจากประวตั ศิ าสตร์ ไทยและประเทศต่างๆ ในโลกท่ีส่งผลตอ่ การดาเนนิ ชวี ิตของผเู้ รียนในยคุ ปจั จบุ ัน พร้อมทัง้ สรปุ รว่ มกัน 11. ครใู ห้ผูเ้ รียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ ว่าในสถานการณป์ จั จุบัน มแี นวโนม้ ว่าประเทศไทยจะย้ายเมอื งหลวง ไปยังแห่งใหม่ หรอื ไม่ เพราะเหตุใด 12. ครูมอบหมายให้ผู้เรยี นทาการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง เก่ียวกบั แหลง่ อารยธรรมในพ้ืนทอ่ี าเภอพนสั นคิ ม - ชมุ ชนท้องถ่นิ กลุ่มลาวพวน - ตานานเมืองพระรถ - โครงกระดกู ยคุ หนิ โคกพนมดี และให้ทาการจดบนั ทกึ สิ่งที่ไปเรียนรมู้ าส่งในการพบกลุ่มคร้ังต่อไป 13. ครูมอบหมายใหผ้ ู้เรียนทาการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง เร่อื ง ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศไทยและแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบบั ปัจจุบัน 14. ครูมอบหมายใหผ้ ู้เรียนดาเนินการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองและศกึ ษาคน้ คว้าเพมิ่ เติม ผา่ นระบบออนไลน์ - Youtube - ดิจทิ ัลทวี ี จาก ETV ชอ่ ง 52 - PSI ชอ่ ง 110 - True ช่อง 371 - รบั ชมทาง Internet ที่ www.etvthai.tv - ผ่านโทรศัพท์มอื ถอื Smartphone ท่ี www.etvthai.tv/m ขั้นที่ 3 การปฏิบตั แิ ละนาไปประยุกตใ์ ช้ (I:Implementation) 1. ผ้เู รียนมจี ติ สานึกในการอนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม 2. ผ้เู รยี นไดเ้ รียนรเู้ ก่ียวกบั ประวัติศาสตรม์ ากขึน้ จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นิคม สังกัด สานกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบุรี

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ขนั้ ที่ 4 การประเมินผลการเรียนรู้ (E:Evaluation) 1. ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกนั สรุปเก่ยี วกับการอนุรักษท์ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มและประวัตศิ าสตร์ไทยและ ประเทศต่าง ๆ ในโลก 2. ครูประเมินผลการจัดกิจกรรม 3. ครใู ห้ผูเ้ รียนทาใบงาน สอ่ื ประกอบการเรยี นรู้ 1. หนังสือประกอบการเรียนรูร้ ายวิชาสงั คมศกึ ษา 2. สื่อ Internet 3. ใบความรู้ 4. ใบงาน 5. แผนท่ีประเทศไทย 6. ลูกโลก การวัดผลประเมนิ ผล 1. การสงั เกต 1.1 พฤติกรรมรายบุคคล เช่น ความตั้งใจ ความกระตือรอื รน้ การมีส่วนร่วม ความมนี า้ ใจ ความ รบั ผิดชอบ ความเปน็ ผ้นู าและการใช้เทคโนโลยีในการเรยี นรู้ 1.2 พฤติกรรมกลมุ่ เช่น การทางานรว่ มกนั ความรบั ผิดชอบและความมนี ้าใจ 2. การตรวจสอบผลงาม 2.1 ผลงานรายบุคคล เชน่ การตรงตอ่ เวลา ความถูกตอ้ ง ความสะอาดเรียบร้อย 2.2 การทางานดว้ ยกระบวนการกลุม่ เชน่ ความสามคั คี ทกั ษะการทางานเปน็ กลุ่ม ทักษะการคิด และวเิ คราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหล่งเรยี นรู้ 1. ห้องสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกุมารี” อาเภอพนสั นิคม 2. กศน.ตาบลนาวังหนิ 3. ชุมชนท้องถิ่นกล่มุ ลาวพวน 4. แหล่งเรยี นรู้ตานานเมอื งพระรถ 5. แหลง่ เรียนรู้โครงกระดูกยคุ หนิ โคกพนมดี จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สังกัด สานกั งาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรรู้ ายสปั ดาหท์ ่ี 9 แผนการจัดการเรียนการสอน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย เนือ้ หาเรือ่ ง เศรษฐศาสตร์ จานวน 40 ชว่ั โมง วันท.่ี .24..เดอื น....มกราคม.....พ.ศ.....2564.......... เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรยี นรู้ รายวิชาสงั คมศึกษา รหัสวิชา สค31001 มคี วามรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงความสาคัญเกีย่ วกบั ภูมศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครอง สามารถนามาปรบั ใช้ในการดารงชีวติ สาระการเรียนรู้ สาระการพัฒนาสงั คม รายวชิ า รายวิชาสงั คมศึกษา รหัสวชิ า สค31001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง เพือ่ ใหผ้ ้เู รยี นสามารถ 1. อธบิ ายปัญหาและแนวโน้มทางเศรษฐกจิ ของประเทศไทยได้ 2. เสนอแนวทางการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบนั ได้ 3. อธิบายความสาคัญของการรว่ มกลุ่มเศรษฐกิจ ระหวา่ งประเทศและประเทศต่างๆ ในโลกได้ 4. อธบิ ายระบบเศรษฐกิจแบบตา่ งๆ ในโลกได้ 5. อธิบายความสมั พันธ์และผลกระทบทางเศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศของประเทศไทยกับกลุม่ เศรษฐกจิ ของ ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคในโลกได้ 6. อธิบายความสาคัญของระบบเศรษฐกิจและการเลอื กจดั กิจกรรมทางเศรษฐกจิ ของประเทศต่างๆ ในโลกและ ผลกระทบได้ 7. อธิบายกลไกราคากบั ระบบเศรษฐกจิ ได้ 8. อธบิ ายความรเู้ กี่ยวกับการเงนิ การคลงั และการธนาคารได้ 9. อธิบายความรู้เกยี่ วกับระบบของการธนาคารได้ 10. อธิบายความสาคญั ของเงิน และสถาบันการเงนิ 11. วเิ คราะห์ผลกระทบจากปัญหาทางเศรษฐกจิ ในเร่อื งการเงนิ การคลังของประเทศไทย และสังคมโลก 12. อธบิ ายแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ตวั ชวี้ ัด 1. วเิ คราะหป์ ัญหาและแนวโน้มทางเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ 2. เสนอแนวทางการแกป้ ัญหาทางเศรษฐกจิ ของประเทศไทยในปจั จุบัน 3. รู้และเขา้ ใจ ตระหนักในความสาคญั ของการร่วมกลุ่มเศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศและประเทศต่างๆ ในโลก 4. รู้และเข้าใจ ในระบบเศรษฐกจิ แบบตา่ งๆ ในโลก 5. ร้แู ละเข้าใจความสมั พันธแ์ ละผลกระทบทางเศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศของประเทศไทยกบั กลุม่ เศรษฐกจิ ของ ประเทศต่างๆ ในภมู ภิ าค ในโลก จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนคิ ม สงั กดั สานกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 6. วิเคราะหค์ วามสาคญั ของระบบเศรษฐกิจ และการเลอื กจัดกิจกรรมทางเศรษฐกจิ ของประเทศต่างๆ ในโลก และผลกระทบ 7. เข้าใจในเรอื่ งกลไกราคากับระบบเศรษฐกิจ 8. รูแ้ ละเขา้ ใจในเร่อื งการเงินการคลงั และการธนาคาร 9. รแู้ ละเขา้ ใจในระบบของการธนาคาร 10. ตระหนักในความสาคญั ของเงิน และสถาบนั การเงนิ 11. วิเคราะหผ์ ลกระทบจากปัญหาทางเศรษฐกจิ ในเรอ่ื งการเงนิ การคลังของประเทศไทย และสังคมโลก 12. รู้และเข้าใจเรอื่ งแผนพฒั นา เศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ เนอ้ื หา 1. ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย (1) 2. แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (2) 3. ปัญหาเศรษฐกิจของไทยในปจั จุบัน (2) 4. ความสาคัญและความจาเปน็ ในการรว่ มมือทางเศรษฐกิจกับประเทศต่างๆ (4) 5. ระบบเศรษฐกิจในโลก (4) 6. ความสัมพนั ธ์และผลกระทบทางเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ กบั ภมู ภิ าคตา่ งๆ ทัว่ โลก (2) 7. รปู แบบของระบบเศรษฐกจิ และวธิ ีการเลอื กจัดกิจกรรมทางเศรษฐกจิ (4) 8. กลไกราคากับระบบเศรษฐกิจในปัจจุบนั (2) 9. การแทรกแซงกลไกราคาของรัฐบาลในการสง่ เสรมิ และแกไ้ ขระบบเศรษฐกิจ (2) 10. ความหมาย ความสาคญั ของเงิน ประเภท สถาบันการเงนิ และสถาบันทางการเงิน (2) 11. การธนาคาร (4) - ระบบของธนาคาร - ประเภทของธนาคาร - บทบาทหนา้ ท่ีของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธนาคารกลาง) 12. การคลงั รายได้ประชาชาติ (4) - รายไดข้ องรฐั บาลและการจดั ทางบประมาณแผ่นดิน - ภาษีกับการพฒั นาประเทศ - ดลุ การค้า - ดลุ การชาระเงนิ 13. ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศไทย ประเทศตา่ งๆในภูมิภาคตา่ งๆ ของโลก (3) 14. แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับปจั จุบัน (2) 15. ผลของการใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสงั คมแห่งชาติ (2) 16. กฎหมายค่าจา้ งแรงงานและสวสั ดิการที่ควรรู้ 17. การนาเทคโนโลยีมาใช้เพือ่ ประหยดั แรงงานและเวลาในการผลติ 18. การทาบญั ชรี ายรบั -รายจ่ายเพ่ือให้เกดิ ประโยชนใ์ นการจัดการและรายงานผล กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ข้นั ท่ี 1 กาหนดสภาพปญั หา (O:Orientation) 1. ครูและผู้เรียนปฏบิ ัตติ ามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วดั ไข้ สวมหน้ากากอนามยั รกั ษาระยะหา่ งระหวา่ ง กนั 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผู้เรียนในการพบกลุม่ ครง้ั นี้ จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สังกัด สานักงาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี

แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 3. ครพู ูดคุยกบั ผู้เรยี นเกย่ี วกบั ภาวะเศรษฐกิจในครอบครวั ของผู้เรยี น ขน้ั ที่ 2 แสวงหาข้อมูล (N:New way of learning) 1. ครูแบง่ กล่มุ ผู้เรยี นออกเปน็ กลมุ่ โดยให้ทกุ กลุ่มรว่ มกนั วเิ คราะห์ถงึ สภาพปัญหาเศรษฐกิจของไทยท่สี ง่ ผลต่อ ตนเองและประเทศชาติ หลังจากนัน้ และใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ออกมานาเสนอหน้าชัน้ เรยี น เมอ่ื ทกุ กลมุ่ นาเสนอเสรจ็ ส้ินแลว้ ใหท้ าการสรุปร่วมกนั 2. ครใู ห้ผู้เรยี นทกุ กลุม่ รว่ มกันแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ เรามีความสาคัญและจาเป็นอย่างไรในการเข้าร่วม เปน็ สมาชิกของ AEC และใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น 3. ครูให้ผูเ้ รยี นแตล่ ะกลุ่มศึกษาใบความรดู้ งั น้ี เรอ่ื งท่ี 1 เรื่อง ระบบเศรษฐกิจแบบทนุ นิยม เรอ่ื งท่ี 2 เรอ่ื ง ระบบเศรษฐกจิ แบบสงั คมนิยม เรือ่ งท่ี 3 เรื่อง ระบบเศรษฐกิจแบบผสม หลงั จากนน้ั และใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียน เม่อื ทกุ กลุ่มนาเสนอเสรจ็ สิน้ แล้ว ให้ทาการสรปุ รว่ มกนั เปน็ องคค์ วามรู้ 4. ครใู ห้ผู้เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั กิจกรรมท่เี ปน็ สง่ เสริมระบบเศรษฐกิจของไทยในยุคปจั จุบัน พรอ้ มทั้งบอกขอ้ ดีและข้อเสียของกิจกรรมดงั กลา่ วด้วย หลงั จากนัน้ ใหอ้ อกมานาเสนอหน้าชัน้ เรียน 5. ครใู ห้ผเู้ รยี นแสดงความคิดเหน็ เรอ่ื ง การแทรกแซงราคาสนิ ค้าทจ่ี าเปน็ ตอ่ การดารงชวี ติ ของประชาชนโดย รฐั บาล และสุม่ ตัวอย่างให้ออกมานาเสนอความคิดหน้าชัน้ เรยี น 6. ครมู อบหมายให้ผู้เรยี นได้เรียนรู้ดว้ ยตนเอง เรื่อง ความหมาย ความสาคัญของเงนิ ประเภท สถาบัน การเงนิ และสถาบันทางการเงิน พร้อมจดั ทาเปน็ รายงานสง่ ในการพบกลุ่มครง้ั ต่อไป 7. ครูให้ผู้เรียนทกุ กลมุ่ ศึกษาใบความรู้ ดงั นี้ - ระบบของธนาคาร - ประเภทของธนาคาร - บทบาทหน้าท่ขี องธนาคารแห่งประเทศไทย (ธนาคารกลาง) 8. ครูและผู้เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็น เรอื่ ง ธนาคารมีสาคัญต่อเราอยา่ งไรบ้าง และทุกวันนี้เราใช้บรกิ าร อะไรของธนาคารบ้าง เพราะเหตุใด และทาการสมุ่ ตัวอย่างกล่มุ ให้ออกมานาเสนอหนา้ ช้ันเรยี น และใหเ้ พื่อนร่วมกัน แสดงความคิดเหน็ เพ่ิมเติม 9. ครูมอบหมายใหผ้ ู้เรยี นทาการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การใชบ้ ริการธนาคารในอาเภอพนสั นคิ ม การใช้ บรกิ ารต่าง ๆ ผา่ น Internet 10. ครูสอบถามผู้เรียนถึงการทาบญั ชรี ายรับ-รายจ่ายในแต่ละวันบา้ งหรือไม่ 11. ครูให้ผู้เรยี นแตล่ ะกลุม่ ศกึ ษาใบความรดู้ ังนี้ เรื่องท่ี 1 เรอ่ื ง รายได้ของรัฐบาล เร่ืองที่ 2 เรื่อง การทาจดั ทางบประมาณแผน่ ดิน เร่ืองที่ 3 เรื่อง ภาษกี บั การพฒั นาประเทศ เรือ่ งท่ี 4 เรื่อง ดุลการคา้ เรอ่ื งท่ี 5 เรื่อง ดลุ การชาระเงิน โดยใหแ้ ต่ละเร่อื งส่งตัวแทนออกมานาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น เมอ่ื นาเสนอเสรจ็ สนิ้ แล้ว ใหท้ าการสรุปร่วมกันเปน็ องค์ ความรู้ 12. ครูให้ผู้เรยี นแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั ปญั หาเศรษฐกิจของไทยในยคุ ปัจจุบนั วา่ มีอะไรบ้าง และเรามี ทางแก้ไขอย่างไรบ้าง 13. ครสู อบถามผู้เรยี นเก่ียวกับค่าจา้ งแรงงานและสวัสดกิ ารที่ลูกจ้างควรได้รับจากนายจา้ ง รวมทั้งใหผ้ ้เู รียน แสดงความคิดเห็นวา่ อะไรท่นี ายจา้ งควรมใี หแ้ ก่ลกู จา้ งอกี บ้าง จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนคิ ม สงั กัด สานักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 14. ครูมอบหมายให้ผู้เรยี นดาเนินการเรียนรูด้ ้วยตนเองและศกึ ษาคน้ ควา้ เพ่มิ เติม ผ่านระบบออนไลน์ - Youtube - ดิจทิ ลั ทีวี จาก ETV ชอ่ ง 52 - PSI ชอ่ ง 110 - True ชอ่ ง 371 - รับชมทาง Internet ท่ี www.etvthai.tv - ผา่ นโทรศพั ท์มอื ถอื Smartphone ที่ www.etvthai.tv/m ข้นั ท่ี 3 การปฏบิ ัติและนาไปประยกุ ต์ใช้ (I:Implementation) 1. ผู้เรียนสามารถนาความร้ทู ีไ่ ด้รบั ไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม ขน้ั ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (E:Evaluation) 1. ครูและผู้เรียนรว่ มกันสรุปเกย่ี วกับระบบเศรษฐศาสตรข์ องประเทศไทย 2. ครปู ระเมนิ ผลการจัดกิจกรรม 3. ครูให้ผู้เรียนทาใบงาน สอื่ ประกอบการเรียนรู้ 1. หนังสือประกอบการเรยี นร้รู ายวิชาสงั คมศึกษา 2. สอื่ Internet 3. ใบความรู้ 4. ใบงาน 5. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ การวัดผลประเมนิ ผล 1. การสังเกต 1.1 พฤติกรรมรายบุคคล เช่น ความตง้ั ใจ ความกระตอื รอื ร้น การมสี ่วนรว่ ม ความมีนา้ ใจ ความ รับผดิ ชอบ ความเปน็ ผู้นาและการใช้เทคโนโลยีในการเรยี นรู้ 1.2 พฤตกิ รรมกลมุ่ เช่น การทางานรว่ มกนั ความรับผิดชอบและความมนี า้ ใจ 2. การตรวจสอบผลงาม 2.1 ผลงานรายบุคคล เช่น การตรงตอ่ เวลา ความถูกต้อง ความสะอาดเรยี บร้อย 2.2 การทางานดว้ ยกระบวนการกลุม่ เช่น ความสามคั คี ทักษะการทางานเปน็ กลมุ่ ทักษะการคิด และวิเคราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหล่งเรียนรู้ 1. หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ ารี” อาเภอพนสั นิคม 2. กศน.ตาบลนาวังหิน 3. สอ่ื Internet 3. ธนาคารต่าง ๆ ในอาเภอพนัสนคิ ม จัดทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สงั กดั สานกั งาน กศน.จังหวัดชลบรุ ี

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้รู ายสัปดาห์ที่ 10 แผนการจัดการเรยี นการสอน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย เน้ือหาเร่อื ง การเมืองการปกครอง จานวน 20 ชว่ั โมง วนั ท่.ี .31....เดือน......มกราคม.....พ.ศ....2564.......... เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรยี นรู้ รายวชิ าสังคมศกึ ษา รหัสวชิ า สค31001 มีความรู้ ความเขา้ ใจ และตระหนกั ถึงความสาคญั เก่ียวกบั ภมู ิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง สามารถนามาปรับใช้ในการดารงชวี ิต สาระการเรียนรู้ สาระการพัฒนาสังคม รายวิชา รายวิชาสังคมศึกษา รหัสวชิ า สค31001 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ผลการเรยี นรูท้ ค่ี าดหวัง เพื่อใหผ้ ้เู รียนสามารถ 1. อธบิ ายระบอบการเมอื งการปกครองตา่ งๆ ที่ใชอ้ ยู่ปจั จุบนั ได้ 2. อธบิ ายคุณค่าการปกครองระบอบประชาธิปไตยได้ 3. อธิบายผลที่เกิดจากการเปลย่ี นแปลงทางการเมืองการปกครอง ของประเทศไทยจากอดีตได้ 4. อธบิ ายผลทีเ่ กิดจากการเปล่ียนแปลงการเมอื งการปกครองของโลกได้ 5. ปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรมาภบิ าลและนาไปปฏิบัตใิ นชีวิตจริงได้อยา่ งเหมาะสม ตัวชว้ี ัด 1. รูแ้ ละเข้าใจ ระบอบการเมืองการปกครองต่างๆ ท่ใี ชอ้ ยู่ปัจจุบัน 2. ตระหนักและเห็นคณุ คา่ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย 3. ร้แู ละเข้าใจ ผลทเ่ี กดิ จากการเปลย่ี นแปลงทางการเมอื งการปกครองของประเทศไทยจากอดตี 4. รู้และเขา้ ใจผลท่ีเกดิ จากการเปล่ียนแปลงการเมอื งการปกครองของโลก 5. ตระหนกั และเห็นคณุ ค่าของหลักธรรมาภิบาล และนาไปปฏิบตั ิในชีวิตจรงิ เนือ้ หา 1. การปกครองระบอบประชาธิปไตย (4) 2. การปกครองระบอบเผด็จการ (2) 3. พฒั นาการของระบอบประชาธปิ ไตยของประเทศต่างๆในโลก (2) 4.เหตุการณ์สาคัญทางการเมอื งการปกครอง ของประเทศไทย (4) 5. เหตกุ ารณ์สาคญั ทางการเมอื งการปกครอง ของโลกท่ีสง่ ผลกระทบต่อประเทศไทย (4) 6. หลักธรรมาภบิ าล (2) - นิตธิ รรม - คุณธรรม - ความโปร่งใส จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นิคม สงั กัด สานกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี

แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 - ความคุม้ ค่า - รับผิดชอบ - ความร่วมมือ 7. แนวทางปฏิบตั ิตามหลักธรรมาภบิ าล (2) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 กาหนดสภาพปัญหา (O:Orientation) 1. ครูและผู้เรียนปฏิบตั ิตามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วัดไข้ สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างระหว่าง กนั 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผเู้ รียนในการพบกล่มุ ครง้ั น้ี 3. ครูพดู คุยกบั ผ้เู รียนเก่ียวกับงานที่มอบหมายในพบกล่มุ ครัง้ ทแี่ ลว้ ข้ันที่ 2 แสวงหาข้อมูล (N:New way of learning) 1. ครูแบ่งผูเ้ รียนออกเป็นกลมุ่ และใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาใบความรูด้ งั น้ี เรื่องที่ 1 การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย เรื่องที่ 2 การปกครองระบอบเผด็จการ 2. ครแู บ่งกล่มุ ผู้เรยี นออกเปน็ 2 ฝาุ ย คือ ฝุายประชาธปิ ไตย และฝุายเผดจ็ การ โดยใหแ้ ตล่ ะกล่มุ แสดง บทบาทสมมติตามลกั ษณะการปกครองทก่ี ลุ่มตนเองได้รับ 3. ครใู ห้ผู้เรียนฝึกซ้อมเป็นเวลา 30 นาที และให้ออกมานาเสนอหนา้ ช้ันเรียน โดยมีข้อแม้วา่ ทุกคนในกลมุ่ ต้อง มีบทบาทในการแสดงทกุ คน 4. ครแู บง่ กลมุ่ ผู้เรยี นออกเปน็ กลมุ่ โดยให้ทกุ กลุ่มรว่ มกันวิเคราะหใ์ นหัวข้อต่อไปนี้ เรอ่ื ง ผลท่ีเกิดจากการเปล่ยี นแปลงทางการเมอื งการปกครอง ของประเทศไทยจากอดีต เร่อื ง ผลที่เกดิ จากการเปลย่ี นแปลงการเมืองการปกครองของโลก และทาการส่มุ ตัวอยา่ งให้ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน และให้แต่ละกลุ่มทไี่ ดร้ ับหวั ข้อเดียวกันร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น เพิม่ เตมิ เมื่อนาเสนอเสร็จสนิ้ แล้ว ให้ทาการสรุปรว่ มกันเปน็ องค์ความรู้ 5. ครใู ห้ผู้เรียนแตล่ ะกลุ่มศกึ ษาใบความรูด้ งั นี้ เรอ่ื งท่ี 1 นติ ธิ รรม เรอ่ื งที่ 2 คณุ ธรรม เรื่องท่ี 3 ความโปรง่ ใส เรื่องที่ 4 ความค้มุ ค่า เรอื่ งที่ 5 รบั ผิดชอบ เรือ่ งที่ 6 ความรว่ มมอื พร้อมใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ เสนอวิธกี ารปฏบิ ัติตนตามหลักธรรมาภิบาลดังกลา่ วดว้ ย 6. ครูให้แตล่ ะกล่มุ ออกมานาเสนอหนา้ ช้ันเรยี น 7. ครูมอบหมายใหผ้ ู้เรยี นดาเนินการเรียนรดู้ ้วยตนเองและศกึ ษาค้นคว้าเพิ่มเติม ผ่านระบบออนไลน์ - Youtube - ดจิ ิทัลทวี ี จาก ETV ชอ่ ง 52 - PSI ชอ่ ง 110 - True ช่อง 371 - รับชมทาง Internet ที่ www.etvthai.tv - ผา่ นโทรศพั ท์มือถือ Smartphone ที่ www.etvthai.tv/m จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นิคม สงั กดั สานกั งาน กศน.จังหวดั ชลบรุ ี

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ขน้ั ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละนาไปประยุกต์ใช้ (I:Implementation) 1. ผเู้ รยี นสามารถปฏิบตั ิตนได้อยา่ งเหมาะสมในฐานะพลเมอื งไทย ข้นั ท่ี 4 การประเมินผลการเรยี นรู้ (E:Evaluation) 1. ครูและผู้เรยี นรว่ มกันสรุปเก่ยี วกับการเมอื งการปกครอง 2. ครปู ระเมินผลการจัดกิจกรรม 3. ครูให้ผเู้ รียนทาใบงาน สอื่ ประกอบการเรียนรู้ 1. หนังสือประกอบการเรยี นรรู้ ายวิชาสังคมศกึ ษา 2. สื่อ Internet 3. ใบความรู้ 4. ใบงาน การวัดผลประเมินผล 1. การสังเกต 1.1 พฤตกิ รรมรายบคุ คล เชน่ ความตงั้ ใจ ความกระตอื รือร้น การมีสว่ นรว่ ม ความมนี ้าใจ ความ รับผดิ ชอบ ความเป็นผู้นาและการใช้เทคโนโลยใี นการเรียนรู้ 1.2 พฤตกิ รรมกลุ่ม เช่น การทางานร่วมกัน ความรับผดิ ชอบและความมีนา้ ใจ 2. การตรวจสอบผลงาม 2.1 ผลงานรายบุคคล เช่น การตรงต่อเวลา ความถูกต้อง ความสะอาดเรยี บรอ้ ย 2.2 การทางานด้วยกระบวนการกลมุ่ เช่น ความสามคั คี ทกั ษะการทางานเปน็ กลุ่ม ทกั ษะการคิด และวเิ คราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหลง่ เรยี นรู้ 1. ห้องสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกุมารี” อาเภอพนัสนิคม 2. กศน.ตาบลนาวังหิน 3. Internet จัดทาโดย กศน.อาเภอพนสั นิคม สงั กัด สานักงาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี

แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้รายสปั ดาห์ท่ี 11 แผนการจัดการเรียนการสอน ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย เนื้อหาเร่ือง ระบบตา่ งๆของรา่ งกาย จานวน 8 ชว่ั โมง ปัญหาเพศศึกษา จานวน 10 ชั่วโมง อาหารและโภชนาการ จานวน 8 ชว่ั โมง อาชพี ผลิตจาหนา่ ยอาหารสาเรจ็ รปู จานวน 9 ชว่ั โมง ตามหลกั สุขาภบิ าลอาหาร เสริมสร้างสุขภาพ จานวน 12 ชว่ั โมง วันท่ี..7...เดอื น.....กุมภาพนั ธ์.....พ.ศ.....2564........ เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรยี นรู้ รายวิชาสุขศกึ ษา พลศึกษา รหัสวชิ า ทช31002 มีมคี วามรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติท่ีดีเก่ยี วกบั การดูแล ส่งเสรมิ สขุ ภาพอนามัย และความปลอดภยั ในการ ดาเนินชีวติ สาระการเรียนรู้ สาระทกั ษะการดาเนินชวี ิต รายวชิ า รายวิชาสุขศกึ ษา พลศึกษา รหัสวชิ า ทช31002 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวัง เพอื่ ใหผ้ ้เู รียนสามารถ 1. อธิบายกระบวนการทางานของระบบอวยั วะในรา่ งกายที่สาคญั 5 ระบบไดอ้ ย่างถูกต้อง 2. บอกวธิ กี ารดูแลปอู งกนั ความผดิ ปกตขิ องระบบในรา่ งกาย 5 ระบบได้ 3. วางแผนและปฏบิ ตั ิตนตามแผนเพอ่ื สร้างเสริมพฒั นาการของตนเองและครอบครัวได้ 4. อธิบายข้ันตอนการสอื่ สารเพ่อื ขอความชว่ ยเหลือเกย่ี วกับปัญหาทางเพศได้ 5. อธบิ ายวิธกี ารจัดการกับอารมณ์และความตอ้ งการทางเพศได้อย่างเหมาะสม 6. อธบิ ายความเชอื่ ผิดๆ เรื่องเพศท่สี ่งผลต่อสขุ ภาพทางเพศได้ 7. วเิ คราะหก์ ารนาเสนอส่อื ที่สง่ ผลให้เกดิ ปญั หาทางเพศได้ 8. ปฏิบตั ิตามกฎหมายทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั การลว่ งละเมิดทางเพศและกฎหมายคุ้มครองเดก็ และสตรี 9. อธบิ ายปญั หา สาเหตุ อาการ และการปูองกนั โรคขาดสารอาหารได้ 10. บอกหลักการ และปฏบิ ตั ิตนตามหลักสุขาภิบาลอาหารได้อยา่ งเหมาะสม 11. จดั โปรแกรมอาหารท่เี หมาะสมสาหรับครอบครวั ผสู้ งู อายุ และผูป้ วุ ยได้ 12. อธบิ ายลักษณะเฉพาะของธรุ กิจผลติ และจาหน่ายอาหารสาเร็จรูปได้ 13. อธิบายบอกขนั้ ตอนการดาเนนิ การของธุรกิจผลิตและจาหน่ายอาหารสาเร็จรูปได้ 14. อธบิ ายบอกคุณสมบัตขิ องร้านอาหารหรือสถานทจี่ าหน่ายอาหารสาเร็จรูปตามหลกั สขุ าภิบาลอาหารได้ 15. ปฏิบตั ิเพือ่ การมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมสร้างเสรมิ สุขภาพของชมุ ชนได้อยา่ งสม่าเสมอ 16. อธบิ ายวิธกี ารของการออกกาลังกายเพื่อสขุ ภาพไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนัสนคิ ม สงั กดั สานักงาน กศน.จงั หวัดชลบรุ ี

แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ตัวชี้วัด 1. อธิบายกระบวนการทางานของระบบอวยั วะในรา่ งกายทีส่ าคัญ 5 ระบบไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 2. บอกวิธีการดแู ลปอู งกันความผิดปกตขิ องระบบในร่างกาย 5 ระบบ 3. วางแผน และปฏิบัตติ นตามแผนเพื่อสรา้ งเสริมพฒั นาการของตนเองและครอบครัว 4. อธบิ ายขนั้ ตอนการสือ่ สารเพอ่ื ขอความช่วยเหลอื เกย่ี วกับปญั หาทางเพศ 5. อธิบายวธิ ีการจดั การกบั อารมณ์และความต้องการทางเพศได้อย่างเหมาะสม 6. วิเคราะหค์ วามเช่อื ผิดๆ เรือ่ งเพศท่สี ่งผลต่อสขุ ภาพทางเพศ 7. วเิ คราะห์การนาเสนอสือ่ ทส่ี ่งผลใหเ้ กิดปญั หาทางเพศ 8. ระบุกฎหมายทเ่ี กี่ยวข้องกับการล่วงละเมดิ ทางเพศ และกฎหมายคุม้ ครองเดก็ และสตรี 9. อธบิ ายปัญหา สาเหตุ อาการ และการปอู งกันโรคขาดสารอาหาร 10. บอกหลักการ และปฏิบัติตนตามหลักสขุ าภิบาลอาหารไดอ้ ย่างเหมาะสม 11. จดั โปรแกรมอาหารทเ่ี หมาะสมสาหรับครอบครัว ผู้สูงอายุ และผูป้ ุวย 12. อธิบายลักษณะเฉพาะของธุรกิจ ผลติ และจาหนา่ ยอาหารสาเร็จรูป 13. บอกขน้ั ตอนการดาเนินการของธุรกจิ ผลติ และจาหนา่ ยอาหารสาเรจ็ รูป 14. บอกคุณสมบัตขิ องร้านอาหารหรือสถานท่ีจาหน่ายอาหารสาเร็จรปู ตามหลักสขุ าภิบาลอาหาร 15. มสี ว่ นร่วมในกิจกรรมสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพของชุมชนอย่างสม่าเสมอ 16. อธบิ ายวธิ ีการของการออกกาลงั กายเพ่อื สขุ ภาพไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง เนอ้ื หา ระบบต่างๆของร่างกาย 1. โครงสรา้ ง หนา้ ท่ี การทางานและการดูรกั ษาระบบอวยั วะทีส่ าคัญของรา่ งกาย 5 ระบบ (3) - ระบบหายใจ - ระบบยอ่ ยอาหาร - ระบบขับถ่าย - ระบบสืบพันธ์ุ - ระบบต่อมไร้ทอ่ - ระบบประสาท 2. การวางแผนและปฏบิ ตั ติ นเพอ่ื การเสริมสร้างพฒั นาการ (5) 3. การศึกษาจากแหลง่ การเรียนรู้ เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจาตาบล โรงพยาบาลประจาอาเภอ ภมู ิปัญญาด้านการนวดแผนไทย ฯลฯ ปัญหาเพศศึกษา 1. การส่อื สาร/การต่อรองและการขอความช่วยเหลอื เกี่ยวกบั ปัญหาทางเพศ (2) 2. การจัดการกับอารมณ์และความตอ้ งการทางเพศ (2) 3. ความเชือ่ ผิดๆ เร่ืองเพศท่ีสง่ ผลต่อสขุ ภาพทางเพศ (2) 4. อทิ ธพิ ลของสือ่ ต่าง ๆ ท่ีสง่ ผลให้เกิดปัญหาทางเพศ (2) 5. กฎหมายท่ีเกยี่ วข้องกับการลว่ งละเมิดทางเพศและกฎหมายคมุ้ ครองเด็กและสตรี (2) 6. เหตกุ ารณใ์ นสงั คมท่ีเกยี่ วกบั เพศสัมพนั ธ์ อาหารและโภชนาการ 1. โรคขาดสารอาหาร ไดแ้ ก่ โรคลกั ปดิ ลักเปิด โรคคอหอยพอก โรคเออ๋ โรคตาฟาง โรคโลหิตจาง ฯลฯ (2) 2 หลกั การสขุ าภบิ าลอาหาร (3) - การปนเปอื้ น จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สงั กัด สานักงาน กศน.จังหวดั ชลบุรี

แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 - การปรงุ และจาหน่าย - ผู้ประกอบการ จาหน่ายอาหาร - สุขลกั ษณะทัว่ ไปบริเวณแผงจาหนา่ ย - สขุ ลักษณะอาหารถงุ ฯลฯ 3. การจดั โปรแกรมอาหารทีเ่ หมาะสมสาหรบั บุคคลกลุ่มตา่ งๆ (3) -ตนเองและครอบครวั -ผสู้ ูงอายุ -ผ้ปู วุ ย ฯลฯ 4. การศกึ ษากลุ่มตวั อย่างในชมุ ชนท่ตี นอาศยั อยูเ่ ก่ยี วกับโรคตา่ งๆ ตั้งแตอ่ ดตี จนถึงปจั จบุ ัน อาชพี ผลติ จาหนา่ ยอาหารสาเร็จรปู ตามหลกั สุขาภิบาลอาหาร 1. ลักษณะธรุ กจิ ผลิตอาหารสาเร็จรปู (3) 2. วธิ ีการดาเนินงานของธุรกจิ ผลติ และจาหนา่ ยอาหารสาเร็จรปู (3) 3. คุณสมบัติร้านอาหารหรือสถานท่ีจาหน่ายอาหารสาเร็จรปู ตามหลกั สขุ าภบิ าลอาหาร (3) 4. แหลง่ ธรุ กิจการจาหน่ายอาหารสาเร็จรูป เสริมสรา้ งสขุ ภาพ 1. การรวมกลุม่ เพ่อื สรา้ งเสริมสุขภาพ เชน่ กลุ่มออกกาลงั กาย เลน่ กฬี า บาเพ็ญประโยชนแ์ ละนนั ทนาการ เป็น ตน้ (5) 2. การออกกาลังกายทีเ่ หมาะสมกับบคุ คลและวยั ต่างๆ (7) 3. สถานท่ีพักผ่อนและนันทนาการภายในชมุ ชนทีต่ นอาศัยอยู่ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขน้ั ที่ 1 กาหนดสภาพปัญหา (O:Orientation) 1. ครแู ละผู้เรียนปฏิบตั ติ ามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วัดไข้ สวมหน้ากากอนามยั รกั ษาระยะหา่ งระหวา่ ง กัน 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผู้เรยี นในการพบกล่มุ คร้งั น้ี 3. ครูซักถามความเป็นไปได้ในการเลือกประกอบอาชีพเสรมิ หรือการขายสนิ ค้าออนไลน์ นอกจากอาชพี หลกั ของผูเ้ รียนแตล่ ะคน ขัน้ ท่ี 2 แสวงหาขอ้ มลู (N:New way of learning) 1. ครูแบ่งกลุ่มผู้เรยี นออกเป็นกลุ่ม และให้แตล่ ะกลุ่มศึกษาใบความรู้ ดงั น้ี เร่ืองที่ 1 ระบบต่างๆของรา่ งกาย เรอื่ งที่ 2 ปญั หาเพศศกึ ษา เร่ืองที่ 3 อาหารและโภชนาการ เรอื่ งที่ 4 เสริมสรา้ งสุขภาพ 2. ครใู ห้ผ้เู รียนท่ศี ึกษาใบความรู้เรือ่ ง ระบบต่าง ๆ ของรา่ งกายออกมานาเสนอหน้าชัน้ เรยี น โดยใหผ้ ู้เรียน รว่ มกนั บอกตาแหนง่ ของระบบอวัยวะท้งั 5 จากแผนภาพ “ระบบต่าง ๆ ของร่างกาย” ประกอบการนาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น 3. ครูให้ผูเ้ รียนทกุ คนทาแบบประเมินสขุ ภาพ เพื่อดูว่าสุขภาพของตนเองดพี อหรือยัง 4. ครูมอบหมายให้ผู้เรยี นศึกษาวธิ กี ารดูแลสุขภาพของตนเองจากโรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพตาบลบ้านชา้ ง โรงพยาบาลพนสั นคิ ม ภูมิปัญญาดา้ นการนวดแผนไทย ฯลฯ 5. ครใู ห้ผู้เรยี นที่ศกึ ษาใบความรเู้ รอ่ื ง ปญั หาเพศศกึ ษา ออกมานาเสนอหน้าช้นั เรียน จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนคิ ม สังกัด สานกั งาน กศน.จังหวัดชลบุรี

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 6. ครพู ดู คยุ กบั ผเู้ รยี นเก่ยี วกบั ขา่ วที่ปรากฏอยูต่ ามหน้าหนงั สือพิมพ์เกีย่ วกับคดที ี่เกย่ี วขอ้ งกบั เพศสัมพนั ธ์ 7. ครใู ห้ผู้เรยี นเลือกเหตกุ ารณท์ ่ีเกยี่ วขอ้ งกับปญั หาทางเพศ กลุ่มละ 1 เหตกุ ารณจ์ ากหนงั สอื พิมพร์ ายวัน พรอ้ มท้ังให้รว่ มกนั วิเคราะหใ์ นหัวขอ้ ตอ่ ไปน้ี - การส่อื สาร/การต่อรองและการขอความชว่ ยเหลือเมอื่ เกดิ เหตกุ ารณ์ดงั กลา่ ว - การจัดการกับอารมณ์และความต้องการเม่ือเกิดเหตุการณ์ดังกลา่ ว - ความเช่อื ผิดๆ เรอื่ งเพศที่ส่งผลตอ่ สขุ ภาพทางเพศเมื่อเกิดเหตกุ ารณด์ งั กล่าว - อิทธิพลของส่อื ต่าง ๆ ทสี่ ่งผลใหเ้ กิดปัญหาทางเพศเม่ือเกิดเหตุการณ์ดงั กลา่ ว - กฎหมายท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั การลว่ งละเมดิ ทางเพศเมื่อเกิดเหตุการณ์ดงั กลา่ ว หลังจากนน้ั และให้แต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอหน้าชน้ั เรียน พรอ้ มทั้งใหเ้ พอ่ื นร่วมชั้นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ เพม่ิ เตมิ 8. ครใู ห้ผ้เู รยี นทศ่ี ึกษาใบความร้เู ร่ือง อาหารและโภชนาการออกมานาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น 9. ครูพูดคุยกับผเู้ รยี นเก่ยี วกบั การประกอบอาหารสาหรับรับประทานของผู้เรยี น 10. ครใู ห้ผู้เรียนทกุ กลุ่มร่วมกนั จัดเมนอู าหารสาหรบั เดก็ กอ่ นวยั เรียน เด็กวัยเรียน วยั ผู้ใหญ่ ผูส้ ูงอายุ และ ผูป้ ุวย (โรคเบาหวาน โรคไตวายเร้อื รังและโรคมะเรง็ ) ท้ังมอื้ เช้า มอ้ื กลางวัน และมื้อเย็น หลังจากนั้นและให้แต่ละ กลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ชัน้ เรยี น เมือ่ ทกุ กลมุ่ นาเสนอเสรจ็ ส้ินแลว้ ให้ทาการสรปุ รว่ มกนั เปน็ องคค์ วามรู้ 11. ครูแนะนาใหผ้ ู้เรยี นไปศกึ ษาหาความรู้เพิ่มเติมจากกล่มุ ตวั อยา่ งท่อี ยู่ในชมุ ชน พรอ้ มทงั้ ใหค้ าแนะนาบคุ คล ดงั กล่าวในการปฏิบตั ิตนให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล 12. ครพู ูดคุยกบั ผู้เรยี นเกย่ี วกับประสบการณ์ในการซ้ืออาหารถุงมารบั ประทาน 13. ครใู ห้ผู้เรียนทุกกลุ่มแสดงบทบาทสมมติในการประกอบอาชพี ค้าขายอาหารสาเร็จรปู โดยตอ้ งพรีเซ็นต์ คณุ สมบัติดังตอ่ ไปน้ี - ลักษณะเฉพาะของรา้ นตนเอง - วธิ ีการดาเนนิ การผลติ และการจาหน่ายสินคา้ - คณุ สมบตั ิของรา้ นตามหลักสุขาภบิ าลอาหาร - คณุ สมบัติของอาหารทม่ี ใี หเ้ ลอื กว่าถกู ตอ้ งตามหลักสขุ าภิบาลอาหารหรือไม่ โดยตอ้ งมบี คุ คลตอ่ ไปนีเ้ ป็นองคป์ ระกอบ คอื ผ้ขู าย 1 คน ผซู้ อื้ ไม่จากดั จานวน 14. หลังจากนาเสนอเสรจ็ สิ้นแลว้ ครใู ห้ผู้เรียนทุกคนลงคะแนนวา่ ร้านใดเป็นร้านอาหารทเ่ี หมาะสม เมอ่ื ลงคะแนนเสรจ็ แลว้ ใหท้ าการสรุปคะแนน และมอบรางวัลสาหรบั กลุ่มน้นั 15. ครูให้ผู้เรียนทีศ่ ึกษาใบความรเู้ รอ่ื ง การเสริมสร้างสขุ ภาพออกมานาเสนอหน้าช้ันเรยี น 16. ครูพูดคยุ กับผเู้ รียนเกี่ยวกับพฤตกิ รรมในการออกกาลังกายของผู้เรียน 17. ครใู ห้ผเู้ รียนทุกกล่มุ เลือกกจิ กรรมการออกกาลงั กาย กล่มุ ละ 1 กิจกรรม โดยต้องไมซ่ ้ากนั แลว้ ใหร้ ว่ มกนั วิเคราะห์ในหัวข้อต่อไปน้ี - เหตุผลทเี่ ลือกกจิ กรรมการออกกาลงั กายนี้ - แนวทางในการปฏบิ ตั ิท่ีสาคัญ - ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั จากการออกกาลังกายนี้ และให้แต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอหน้าชัน้ เรียน พร้อมทัง้ ใหเ้ พื่อนร่วมชนั้ เรยี นช่วยกนั วิเคราะห์เพม่ิ เติม 18. ครู ให้ชว่ ยกันวเิ คราะหเ์ พ่อื นในห้องเรยี นว่า บุคคลใดมีสขุ ภาพแขง็ แรงหรือออ่ นแอ แลว้ แบ่งกลุ่มตามความ แข็งแรง 19. ครใู ห้ผูเ้ รยี นสาธิตการออกกาลังกายของทุกกลมุ่ พรอ้ มอธิบายถงึ ประโยชนแ์ ละความเหมาะสมกับวธิ กี ารที่ สาธติ วา่ เหมาะสมอย่างไร มปี ระโยชนอ์ ย่างไร 20. ครูมอบหมายให้ผู้เรียนดาเนินการเรยี นรูด้ ว้ ยตนเองและศึกษาคน้ ควา้ เพิ่มเติม ผา่ นระบบออนไลน์ - Youtube - ดจิ ทิ ลั ทวี ี จาก ETV ชอ่ ง 52 จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สงั กัด สานกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี

แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 - PSI ชอ่ ง 110 - True ช่อง 371 - รับชมทาง Internet ที่ www.etvthai.tv - ผ่านโทรศพั ท์มือถือ Smartphone ที่ www.etvthai.tv/m ขน้ั ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละนาไปประยกุ ต์ใช้ (I:Implementation) 1. ผู้เรียนสามารถระบบต่าง ๆ ของร่างกายตนเองได้ 2. ผู้เรียนสามารถปฏบิ ัติตนเกย่ี วกับเรื่องเพศไดอ้ ย่างเหมาะสม 3. ผูเ้ รียนสามารถรบั ประทานอาหารไดเ้ หมาะสมและถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล ขน้ั ท่ี 4 การประเมินผลการเรยี นรู้ (E:Evaluation) 1. ครแู ละผู้เรียนร่วมกันสรปุ เก่ียวกบั - ระบบต่างๆของร่างกาย - ปัญหาเพศศกึ ษา - อาหารและโภชนาการ - เสรมิ สรา้ งสุขภาพ 2. ครปู ระเมนิ ผลการจัดกิจกรรม 3. ครใู ห้ผู้เรียนทาใบงาน ส่อื ประกอบการเรยี นรู้ 1. หนังสือประกอบการเรยี นร้รู ายวิชาสุขศกึ ษา พลศึกษา 2. ส่ือ Internet 3. ใบความรู้ 4. ใบงาน 5. แผนภาพระบบต่าง ๆ ของรา่ งกาย 6. แบบประเมนิ สุขภาพ 7. youtube เรื่องการทางานของระบบอวยั วะตา่ งๆ ของร่างกาย 8. หนังสอื พมิ พร์ ายวนั ต่าง ๆ 9. Youtube เรอื่ ง การออกกาลงั กายลักษณะตา่ ง ๆ เช่น การเต้นแอโรบิค การเลน่ โยคะ การเตน้ บาสโลป การวดั ผลประเมินผล 1. การสังเกต 1.1 พฤติกรรมรายบคุ คล เชน่ ความต้ังใจ ความกระตือรือร้น การมีสว่ นร่วม ความมีน้าใจ ความ รบั ผดิ ชอบ ความเปน็ ผูน้ าและการใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรียนรู้ 1.2 พฤติกรรมกลมุ่ เช่น การทางานรว่ มกัน ความรับผิดชอบและความมีนา้ ใจ 2. การตรวจสอบผลงาม 2.1 ผลงานรายบุคคล เชน่ การตรงตอ่ เวลา ความถกู ตอ้ ง ความสะอาดเรียบร้อย 2.2 การทางานดว้ ยกระบวนการกล่มุ เชน่ ความสามคั คี ทกั ษะการทางานเป็นกลุ่ม ทักษะการคิด และวิเคราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหล่งเรยี นรู้ 1. หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี” อาเภอพนัสนิคม 2. กศน.ตาบลนาวงั หิน 3. Internet จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนัสนคิ ม สงั กัด สานักงาน กศน.จงั หวดั ชลบุรี

แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้รายสปั ดาห์ที่ 12 แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย เนือ้ หาเรื่อง โรคทีถ่ ่ายทอดทางพนั ธุรกรรม จานวน 9 ชัว่ โมง ปลอดภยั จากการใช้ยา จานวน 10 ชว่ั โมง ผลกระทบจากสารเสพติด จานวน 10 ชวั่ โมง ทกั ษะชีวติ เพือ่ สขุ ภาพจิต จานวน 10 ชวั่ โมง วันที่..14...เดอื น..กุมภาพนั ธ์.......พ.ศ........2564..... เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรยี นรู้ รายวิชาสขุ ศึกษา พลศึกษา รหสั วิชา ทช31002 มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติท่ดี ีเก่ียวกับการดูแล ส่งเสรมิ สุขภาพอนามัย และความปลอดภัยในการ ดาเนินชีวิต สาระการเรียนรู้ สาระทักษะการดาเนนิ ชวี ติ รายวิชา รายวิชาสุขศึกษา พลศกึ ษา รหสั วิชา ทช31002 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวัง เพอ่ื ให้ผู้เรียนสามารถ 1. อธบิ ายโรคท่ีถ่ายทอดทางพนั ธกุ รรมได้ 2. ปฏิบตั ิตนในการปอู งกนั โรคติดต่อโรคที่เปน็ ปัญหาต่อสุขภาพและโรคทีเ่ ป็นปญั หาสาธารณสุขได้ 3. อธิบายผลกระทบของพฤตกิ รรมสขุ ภาพทม่ี ีต่อการปอู งกนั โรคได้ 4. แนะนา ขอ้ มลู ข่าวสาร และแหล่งบรกิ ารเพือ่ ปูองกันโรคแกค่ รอบครัวและชมุ ชนได้ 5. อธบิ ายหลักการ และวิธีการใช้ยาทถ่ี ูกตอ้ ง 6. อธบิ ายผลกระทบจากความเชอ่ื ท่ีผดิ เกย่ี วกับการใช้ยา 7. จาแนกอนั ตรายที่เกดิ จากการใช้ยาการปูองกันและการชว่ ยเหลอื ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 8. แนะนาข้อมูลข่าวสารและความร้ทู ี่ถูกตอ้ งเก่ียวกบั การใชย้ าแกค่ รอบครวั และชุมชน 9. ระบุปัญหา สาเหตแุ ละการแพรร่ ะบาดของสารเสพติดได้ 10. อธบิ ายผลกระทบของสารเสพตดิ ท่ีมตี ่อตนเอง ครอบครัว ชุมชนและประเทศได้ 11. ปฏิบตั ติ นเพอื่ การมีส่วนร่วมรณรงคป์ อู งกนั ส่ิงเสพติดในชุมชนอย่างสมา่ เสมอได้ 12. แนะนาสาระสาคญั ของกฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ งกับสิง่ เสพตดิ แก่ครอบครวั และผู้อืน่ ได้ 13. บอกความหมายและความสาคัญของทกั ษะชีวิตได้ทงั้ 10 ประการ 14. บอกทักษะชีวิตท่ีจาเปน็ ไดอ้ ย่างน้อย 3 ประการ 15. ประยกุ ตใ์ ช้ทักษะชวี ิตในการทางานการปรับตัวและการแกป้ ัญหาชีวติ ครอบครัวได้อย่างเหมาะสม 16. แนะนากระบวนการทกั ษะชีวิตในการแกป้ ัญหาแก่ครอบครวั เพ่ือนและผอู้ ่นื ได้ จัดทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สังกดั สานักงาน กศน.จงั หวัดชลบุรี

แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ตวั ชว้ี ัด 1. อธบิ ายโรคท่ีถา่ ยทอดทางพันธกุ รรม 2. ปฏิบัติตนในการปูองกันโรคตดิ ตอ่ โรคท่ีเปน็ ปัญหาต่อสขุ ภาพและโรคท่เี ป็นปัญหาสาธารณสุข 3. วิเคราะห์ผลกระทบของพฤตกิ รรมสุขภาพทีม่ ีต่อการปอู งกันโรค 4. แนะนา ขอ้ มลู ขา่ วสาร และแหลง่ บริการเพอื่ ปูองกนั โรคแกค่ รอบครัวและชมุ ชน 5. อธิบายหลกั การ และวธิ กี ารใชย้ าทีถ่ ูกต้อง 6. วเิ คราะหผ์ ลกระทบจากความเชือ่ ที่ผิดเกี่ยวกบั การใช้ยา 7. จาแนกอันตรายทีเ่ กิดจากการใชย้ าการปอู งกนั และการชว่ ยเหลอื ได้อยา่ งถกู ต้อง 8. แนะนาขอ้ มูลข่าวสาร และความรทู้ ี่ถกู ตอ้ งเกีย่ วกับการใช้ยาแก่ครอบครวั และชมุ ชน 9. วิเคราะห์ปญั หา สาเหตแุ ละการแพรร่ ะบาดของสารเสพติด 10. วิเคราะหผ์ ลกระทบของสารเสพติดท่มี ตี อ่ ตนเอง ครอบครวั ชุมชนและประเทศ 11. มสี ว่ นรว่ มรณรงคป์ ูองกัน ส่ิงเสพตดิ ในชมุ ชนอยา่ งสม่าเสมอ 12. แนะนาสาระสาคญั ของกฎหมายทีเ่ กย่ี วข้องกบั ส่งิ เสพติดแก่ครอบครัวและผอู้ น่ื 13. บอกความหมายและความสาคญั ของทักษะชีวิตไดท้ ้ัง 10 ประการ 14. บอกทกั ษะชวี ติ ที่จาเปน็ ได้อยา่ งนอ้ ย 3 ประการ 15. ประยกุ ตใ์ ช้ทักษะชีวติ ในการทางานการปรับตัวและการแก้ปญั หาชวี ิตครอบครัวไดอ้ ย่างเหมาะสม 16. แนะนากระบวนการทักษะชีวิตในการแก้ปัญหาแกค่ รอบครัว เพ่อื นและผ้อู ื่น เนื้อหา โรคทถี่ า่ ยทอดทางพันธรุ กรรม 1. โรคท่ีถา่ ยทอดทางพนั ธกุ รรม สาเหตุ อาการ การปูองกันและการรักษา (3) -โรคทัลลัสซเี มีย -โรคภูมแิ พ้ -โรคขาดสารไอโอดนี ฯลฯ 2. การวางแผนร่วมกบั ชุมชนเพือ่ ปูองกันและหลกี เล่ียงโรคตดิ ตอ่ และโรคท่ีเป็นปญั หาสาธารณสุข (3) 3. ผลกระทบของพฤตกิ รรมสุขภาพทม่ี ีตอ่ การปอู งกนั โรค (3) 4. ข้อมลู ขา่ วสาร และแหลง่ บรกิ ารเพอื่ การปูองกนั โรค (3) 5. การประชาสัมพันธ์หรอื จัดทาแผน่ พบั เก่ียวกับการดแู ลสุขภาพของประชาชนในชมุ ชน ปลอดภัยจากการใช้ยา 1.หลักการและวิธใี ชย้ า เช่น การใช้โดยไม่จาเปน็ (2) 2. ความเช่ือเก่ียวกับการใชย้ า (3) -ยาบารุงกาลัง -ยาที่ทาจากอวัยวะสตั ว์ เช่น อ้งุ ตนี หมี ดงี ู สมองลงิ ยาดองงูเหา่ 3. การวิเคราะหอ์ ันตรายจากการใช้ยา การปอู งกนั และการช่วยเหลือ (3) 4. การแนะนาในการเลือกใช้ข้อมูลข่าวสาร เกยี่ วกับการใชย้ า (2) 5. การแนะนาตามชมุ ชนเร่อื งยาท่ีในบา้ นควรมี บอกวิธีเก็บรักษาเพือ่ ไมใ่ หย้ าเสอื่ มและเกิดอนั ตราย 6. การใชส้ มุนไพรรักษาโรคตา่ ง ๆ จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สังกดั สานักงาน กศน.จงั หวดั ชลบุรี

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ผลกระทบจากสารเสพติด 1. การวิเคราะหป์ ญั หา สาเหตุ ผลกระทบและการแพรร่ ะบาดของสารเสพติด (4) 2. การมีสว่ นรว่ มในการปอู งกนั ส่ิงเสพติดในชุมชน (4) 3. กฎหมายที่เก่ียวข้องกบั ส่งิ เสพตดิ (2) 4. ปัจจัยเสยี่ งในการดารงชีวิต เชน่ สิ่งเสพติด สถานบันเทงิ ทักษะชวี ติ เพือ่ สุขภาพจิต 1. ความหมาย ความสาคัญของทักษะชีวติ 10 ประการ (2) 2. ทักษะชีวติ ทีจ่ าเป็น 3 ประการ (3) -ทกั ษะการตระหนักรใู้ นตน -ทักษะการจัดการกบั อารมณ์ -ทกั ษะการจัดการกับความเครยี ด 3. การประยกุ ตใ์ ช้ทักษะชวี ิตในการทางาน การปรับตัว และการแกป้ ญั หาชวี ติ (3) 4.การแนะนากระบวนการทกั ษะชวี ิตในการแกป้ ญั หากับผูอ้ ่ืน (2) 5. ปจั จัยในการเกิดอารมณ์และความเครียด และวธิ กี ารจดั การกับอารมณแ์ ละความเครียดต่างๆ ของประชาชน ในชุมชน กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้ันท่ี 1 กาหนดสภาพปญั หา (O:Orientation) 1. ครแู ละผู้เรียนปฏบิ ัตติ ามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วัดไข้ สวมหนา้ กากอนามัย รกั ษาระยะห่างระหวา่ ง กนั 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผเู้ รียนในการพบกล่มุ คร้ังน้ี ข้ันที่ 2 แสวงหาขอ้ มูล (N:New way of learning) 1. ครูแบ่งกลุ่มผู้เรียนออกเปน็ กลมุ่ และให้แตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาใบความรู้ ดังน้ี เร่อื งท่ี 1 โรคทถ่ี า่ ยทอดทางพนั ธรุ กรรม เรื่องที่ 2 ปลอดภัยจากการใช้ยา เรือ่ งที่ 3 ผลกระทบจากสารเสพติด เรอ่ื งที่ 4 ทกั ษะชีวิตเพือ่ สุขภาพจติ 2. ครใู ห้ผูเ้ รียนกลุม่ ทีศ่ กึ ษาใบความรู้เรือ่ ง โรคที่ถา่ ยทอดทางพนั ธุกรรมออกมานาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น 3. ครใู ห้ผู้เรียนทกุ กล่มุ ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นในหวั ข้อ “ผูเ้ รยี นไดม้ สี ่วนรว่ มกบั ชุมชนในการปูองกนั โรคตดิ ตอ่ และโรคทเี่ ปน็ ปัญหาสาธารณสขุ ชุมชนอยา่ งไรบ้าง” และให้ออกมานาเสนอหนา้ ช้ันเรยี น พร้อมใหเ้ พอื่ นรว่ ม ชั้นเรียนช่วยกนั แสดงความคิดเห็นเพ่ิมเตมิ 4. ครใู หแ้ ตล่ ะกลุ่มรว่ มกันวิเคราะหผ์ ลกระทบของพฤตกิ รรมการในบริโภคทีม่ ีผลตอ่ การปอู งกันโรค และให้ ออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียน 5. ครูให้ผเู้ รยี นทุกกลมุ่ จัดทาแผน่ พับเกีย่ วกับการรณรงค์การดูแลสุขภาพของประชาชนในชุมชน โดยใหท้ าใน กระดาษ A4 โดยมีขอ้ แมว้ า่ ต้องสามารถนาไปจัดทาเป็นปูายไวนลิ ในการรณรงคก์ ารดูแลสุขภาพต่อไปได้ 6. ครใู ห้ผเู้ รียนกลมุ่ ท่ีศกึ ษาใบความรู้เร่อื ง ความปลอดภยั จากการใชย้ าออกมานาเสนอหน้าช้นั เรียน 7. ครูพูดคุยกบั ผเู้ รยี นประเภทของยาที่มีอยูใ่ นตู้ยาสามัญประจาบา้ นของผู้เรยี น 8. ครใู ห้ผู้เรยี นทกุ กลุ่มรว่ มกนั อภปิ รายในหัวข้อ “ตยู้ าควรมียาประเภทและชนิดใดบา้ ง” และใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ออกมานาเสนอหน้าชน้ั เรยี น 9. ครใู ห้ผ้เู รียนเลน่ เกม “ทายซิสมุนไพรชนดิ น้ีรกั ษาอาการอะไรบ้าง” โดยใหผ้ ู้เรยี นอธบิ ายสรรพคุณของ สมุนไพรทีค่ รกู าหนดให้ จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนคิ ม สงั กดั สานกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบุรี

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 10. ครใู ห้ผเู้ รยี นกลุ่มท่ีศึกษาใบความรู้เร่ือง ผลกระทบจากสารเสพติดออกมานาเสนอหน้าช้นั เรยี น 11. ครพู ูดคยุ กับผเู้ รยี นเกย่ี วกับปญั หายาเสพติดในปจั จบุ นั นี้ 12. ครูให้ผ้เู รยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันวเิ คราะหถ์ งึ ปญั หา สาเหตุ ผลกระทบและเสน้ ทางการแพรร่ ะบาดของสาร เสพติดในยคุ ปจั จุบันพร้อมทง้ั เสนอแนวทางในการปูองกนั ไม่ให้คนในชุมชนเข้าไปยงุ่ เกี่ยวกบั สิง่ เสพตดิ หลังจากนน้ั และ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอหน้าช้ันเรยี น เมอื่ ทกุ กลมุ่ นาเสนอเสร็จส้ินแล้ว ใหท้ าการสรุปร่วมกนั เป็นองค์ความรู้ 13. ครใู ห้ผูเ้ รียนแสดงความคดิ เหน็ เพม่ิ เติมเกีย่ วกับความรนุ แรงของกฎหมายที่เกยี่ วขอ้ งกับสงิ่ เสพตดิ ว่า เหมาะสมหรือไมเ่ พยี งใด และผ้เู รยี นต้องการให้มีบทลงโทษสูงสุดอยา่ งไร 14. ครพู ูดคุยกบั ผู้เรียนถงึ ปจั จยั เสยี่ งทม่ี ีผลให้ประชาชนติดยาเสพตดิ เพิ่มขน้ึ โดยดจู ากจานวนผตู้ ้องหาคดียา เสพตดิ ณ สถานีตารวจภธู รพนสั นคิ ม 15 ครูให้ผเู้ รียนกลมุ่ ท่ีศึกษาใบความรู้เรอื่ ง ทกั ษะชีวติ เพือ่ สุขภาพจิตออกมานาเสนอหน้าชน้ั เรยี น 16. ครพู ูดคยุ กบั ผู้เรียนเก่ียวกบั ปัจจยั ทที่ าใหผ้ ู้เรยี นเกดิ ความเครยี ด 17. ครใู ห้ผเู้ รียนทุกกลุ่มร่วมกนั อภิปรายในหัวข้อ “ผู้เรียนสามารถประยุกตใ์ ช้ทกั ษะชีวติ ในการทางาน การ ปรบั ตวั และการแกป้ ญั หาชวี ติ ของตนเองและเพื่อนไดอ้ ย่างไร” พร้อมให้ทุกกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน หลังจาก นาเสนอเสรจ็ ทกุ กลุ่มแล้ว ให้ร่วมกนั สรปุ เปน็ องค์ความรู้ 18. ครมู อบหมายให้ผู้เรยี นดาเนินการเรยี นรูด้ ้วยตนเองและศกึ ษาคน้ คว้าเพ่ิมเตมิ ผา่ นระบบออนไลน์ - Youtube - ดิจทิ ัลทวี ี จาก ETV ชอ่ ง 52 - PSI ช่อง 110 - True ชอ่ ง 371 - รับชมทาง Internet ท่ี www.etvthai.tv - ผ่านโทรศพั ท์มือถือ Smartphone ที่ www.etvthai.tv/m ข้นั ที่ 3 การปฏบิ ัติและนาไปประยกุ ต์ใช้ (I:Implementation) 1. ผ้เู รยี นสามารถปฏิบัติตนไดอ้ ยา่ งเหมาะสมเมื่อ - พบผปู้ ุวยที่เปน็ โรคทถี่ ่ายทอดทางพันธกุ รรม - เลือกใชย้ าได้อย่างถูกต้อง - ปฏบิ ัติตนให้หา่ งไกลจากยาเสพติด - สามารถใช้ทักษะชีวิตในการจัดการกับความเครียดได้ ขนั้ ท่ี 4 การประเมินผลการเรยี นรู้ (E:Evaluation) 1. ครูและผู้เรียนร่วมกนั สรุปเก่ยี วกับ - โรคท่ีถ่ายทอดทางพนั ธุรกรรม - ความปลอดภยั ในการใชย้ า - ผลกระทบจากสารเสพตดิ - ทกั ษะชีวิต 2. ครูประเมินผลการจัดกิจกรรม 3. ครใู ห้ผู้เรยี นทาใบงาน จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สังกดั สานักงาน กศน.จงั หวัดชลบรุ ี

แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สือ่ ประกอบการเรยี นรู้ 1. หนังสือประกอบการเรียนรรู้ ายวิชาสุขศึกษา พลศึกษา 2. ส่ือ Internet 3. ใบความรู้ 4. ใบงาน 5. กระดาษ A4 6. ปากกาสเี มจิก 7. บัตรคา “สมนุ ไพรไทย” การวัดผลประเมนิ ผล 1. การสังเกต 1.1 พฤตกิ รรมรายบคุ คล เช่น ความตง้ั ใจ ความกระตอื รือรน้ การมีสว่ นร่วม ความมนี ้าใจ ความ รับผิดชอบ ความเปน็ ผนู้ าและการใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรียนรู้ 1.2 พฤติกรรมกลุ่ม เช่น การทางานร่วมกัน ความรับผิดชอบและความมีน้าใจ 2. การตรวจสอบผลงาม 2.1 ผลงานรายบุคคล เชน่ การตรงตอ่ เวลา ความถกู ตอ้ ง ความสะอาดเรยี บร้อย 2.2 การทางานด้วยกระบวนการกลมุ่ เชน่ ความสามัคคี ทักษะการทางานเป็นกลุ่ม ทกั ษะการคิด และวเิ คราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหลง่ เรียนรู้ 1. ห้องสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ ารี” อาเภอพนัสนิคม 2. กศน.ตาบลนาวงั หิน 3. สถานที่ตา่ ง ๆ 4. Internet จัดทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สังกดั สานกั งาน กศน.จงั หวดั ชลบุรี

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรรู้ ายสัปดาหท์ ่ี 13 แผนการจัดการเรียนการสอน ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เน้ือหาเรอื่ ง ทักษะในการขยายอาชีพ จานวน 20 ชัว่ โมง การฝึกทักษะอาชพี จานวน 60 ชว่ั โมง การวเิ คราะหช์ มุ ชน จานวน 5 ชั่วโมง การจดั การความเสี่ยง จานวน 10 ชั่วโมง วันท่ี...21..เดอื น..........กุมภาพนั ธ์...........พ.ศ...2564....... เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรู้ รายวิชาทักษะการขยายอาชพี รหสั วิชา อช31002 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะพน้ื ฐานเก่ียวกับภาษาและการส่ือสาร สาระการเรยี นรู้ สาระการประกอบอาชีพ รายวิชา รายวิชาทกั ษะการขยายอาชพี รหสั วิชา อช31002 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวัง เพื่อใหผ้ ู้เรยี นสามารถ 1. อธิบายความจาเป็นในการฝึกทกั ษะอาชีพ กระบวนการผลิตกระบวนการตลาดที่ใชน้ วัตกรรม เทคโนโลยี เพ่ือ การขยายอาชพี ได้ 2. อธบิ ายความหมาย ความสาคัญของการจดั การอาชพี และระบบการจดั การ เพือ่ การขยายอาชพี โดยพัฒนาต่อ ยอด ประยุกตใ์ ช้ภมู ปิ ญั ญา และคานงึ ถงึ ความหลากหลายทางชีวภาพได้ 3. บอกแหลง่ เรยี นรู้ และสถานที่ฝึกทกั ษะในการขยายอาชีพได้ 4. วางแผนในการฝึกทักษะอาชพี โดยพัฒนาตอ่ ยอด ประยุกตใ์ ช้ภูมปิ ัญญาและคานงึ ถงึ ความหลากหลายทาง ชีวภาพ 5. ฝกึ ทักษะอาชีพตามแผนทีก่ าหนดไวไ้ ด้โดยมีการบนั ทึกข้นั ตอนการฝกึ ทุกขน้ั ตอน 6. วิเคราะหช์ ุมชนโดยการระดมความคิดเหน็ ของคนในชมุ ชน และกาหนดวสิ ยั ทศั น์ พันธกิจ รายได้ ค่านยิ มของ ชมุ ชน เปาู หมาย และกลยุทธต์ ามศักยภาพ 5 ด้านได้ 7. วางแผนปฏิบัตกิ ารได้ 8. อธบิ ายหลักการและข้นั ตอนการจดั การความเสีย่ งได้ 9. วเิ คราะหป์ จั จยั ความเสยี่ งทางธรุ กิจได้ 10. วางแผนการบรหิ ารความเส่ยี ง (Risk Management Planning) ได้ ตวั ชว้ี ัด 1. อธบิ ายความจาเปน็ ในการฝึกทักษะอาชีพ กระบวนการผลติ กระบวนการตลาดท่ีใช้นวตั กรรม เทคโนโลยี เพ่อื การขยายอาชีพ 2. อธบิ ายความหมาย ความสาคัญของการจัดการอาชีพ และระบบการจดั การ เพ่อื การขยายอาชพี โดยพัฒนาต่อ ยอด ประยกุ ตใ์ ช้ภูมปิ ญั ญา และคานงึ ถงึ ความหลากหลายทางชีวภาพ จัดทาโดย กศน.อาเภอพนสั นิคม สังกดั สานักงาน กศน.จงั หวดั ชลบุรี

แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 3. สารวจแหลง่ เรียนรู้ และสถานที่ฝึกทกั ษะในการขยายอาชพี 4. วางแผนในการฝกึ ทักษะอาชีพโดยพัฒนาต่อยอด ประยุกต์ใชภ้ มู ิปญั ญา และคานึงถงึ ความหลากหลายทาง ชีวภาพ 5. ฝกึ ทักษะอาชพี ตามแผนท่ีกาหนดไว้ไดโ้ ดยมกี ารบันทกึ ขัน้ ตอนการฝกึ ทกุ ขัน้ ตอน 6. วเิ คราะห์ชมุ ชนโดยการระดมความคิดเหน็ ของคนในชมุ ชน และกาหนดวิสยั ทศั น์ พันธกจิ รายได้ คา่ นยิ ม ของชมุ ชน เปูาหมาย และกลยทุ ธ์ตามศกั ยภาพ 5 ดา้ น ไดแ้ ก่ ศกั ยภาพของทรัพยากรธรรมชาตใิ นแตล่ ะพ้นื ท่ี ศกั ยภาพ ของพ้ืนทต่ี ามลักษณะภูมอิ ากาศ ศกั ยภาพของภมู ิประเทศและทาเลท่ตี ้ังของแต่ละพืน้ ท่ีศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีและวถิ ีชวี ิตของแตล่ ะพืน้ ท่ี ศักยภาพของทรพั ยากรมนุษย์ในแตล่ ะพนื้ ท่ี และแนวคดิ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 7. วางแผนปฏิบตั กิ าร 8. รู้และเขา้ ใจหลักการและข้ันตอนการจดั การความเส่ียง 9. วเิ คราะหป์ ัจจัยความเสย่ี งทางธรุ กจิ 10. วางแผนการบริหารความเสี่ยง (Risk Management Planning) เนื้อหา ทกั ษะในการขยายอาชพี 1. ความจาเป็นในการฝกึ ทกั ษะอาชพี กระบวนการผลติ กระบวนการตลาดท่ีใช้นวตั กรรม เทคโนโลยี เพือ่ การ ขยายอาชพี (5) 2. ความหมาย ความสาคัญของการจัดการอาชพี และระบบการจดั การ (5) 3. แหลง่ เรียนรู้ และสถานท่ีฝกึ อาชพี (10) การฝึกทกั ษะอาชีพ 1. การวางแผนโดยกาหนดสิ่งต่างๆดงั น้ี (20) - ความรูแ้ ละทกั ษะท่ตี อ้ งฝึก - วธิ กี ารฝึก - แหล่งฝึก - วนั เวลาในการฝึก ฯลฯ 2.การฝึกทักษะอาชพี (40) - การจดบนั ทกึ - ปญั หาและการแก้ปญั หา - ขอ้ เสนอแนะ ฯลฯ 3. แหล่งงานวชิ าชพี ท่ีสอดคล้องกับการดาเนนิ ชีวิตของชมุ ชน การวเิ คราะหช์ ุมชน 1.การวิเคราะห์ชมุ ชน (1) - จุดแขง็ - จุดออ่ น - โอกาส - อุปสรรค จัดทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สงั กดั สานักงาน กศน.จงั หวัดชลบรุ ี

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ตามศกั ยภาพ 5 ดา้ น ไดแ้ ก่ ศักยภาพของทรพั ยากรธรรมชาตใิ นแต่ละพ้ืนท่ี ศกั ยภาพของพ้นื ทต่ี ามลกั ษณะภมู ิอากาศ ศกั ยภาพของภมู ิประเทศและทาเลทีต่ ้ังของแต่ละพ้นื ทศ่ี ักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณแี ละวถิ ชี ีวติ ของแต่ละ พืน้ ท่ีศักยภาพของทรพั ยากรมนุษยใ์ นแตล่ ะพน้ื ท่ี 2.การกาหนดวิสยั ทัศน์ พนั ธกิจ เปาู หมาย กลยทุ ธ์ ในการกาหนดแผนขยายธรุ กิจของชมุ ชน (1) 3.การวางแผนปฏิบัตกิ าร (3) 4. บทบทสมมตุ ิเกีย่ วกับการประกอบอาชพี ท่ีสจุ ริต 5. การเลือกใช้เทคโนโลยคี อมพิวเตอรใ์ นอาชีพ เช่น การสั่งซ้อื สนิ ค้าทางคอมพวิ เตอร์ การจดั การความเสี่ยง 1. ความหมาย (1) 2. องคป์ ระกอบการจดั การความเสีย่ ง (1) 3. การวิเคราะหป์ จั จัยความเส่ยี งทางธรุ กิจ (1) 4. การประเมินความเสยี่ ง (1) 5. การกาหนดมาตรการแกไ้ ขและปูองกันความเส่ยี ง (1) 6. การประเมินผลของมาตรการแกไ้ ขและปูองกนั (1) 7. การวางแผนการบริหารความเสีย่ ง (Risk Management Planning) (3) 8. การติดตามประเมินผลการบริหารความเสย่ี ง (1) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขน้ั ท่ี 1 กาหนดสภาพปญั หา (O:Orientation) 1. ครแู ละผู้เรยี นปฏิบตั ติ ามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วัดไข้ สวมหน้ากากอนามัย รกั ษาระยะหา่ งระหวา่ ง กนั 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผเู้ รียนในการพบกลุ่มครงั้ นี้ 3. ครพู ดู คุยกบั ผ้เู รยี นเก่ียวกบั ลักษณะการประกอบอาชพี ของผู้เรยี นแต่ละคน ขน้ั ที่ 2 แสวงหาข้อมูล (N:New way of learning) 1. ครูแบ่งกลุ่มผู้เรยี นออกเป็นกลุม่ โดยใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ศกึ ษาใบความรู้ ดังนี้ เรือ่ งท่ี 1 ทกั ษะในการขยายอาชพี เร่อื งที่ 2 การฝึกทกั ษะอาชีพ เรอื่ งที่ 3 การวเิ คราะห์ชมุ ชน เรอื่ งท่ี 4 การจดั การความเส่ยี ง 2. ครูให้ผู้เรียนกล่มุ ที่ศึกษาใบความร้เู รื่อง ทกั ษะในการขยายอาชพี ออกมานาเสนอหนา้ ชนั้ เรียน 3. ครูให้ผู้เรียนทุกกลุ่มพิจารณาอาชพี ของตนเอง หรืออาชพี ท่สี นใจวา่ มีความจาเป็นตอ้ งฝกึ ทกั ษะเพ่อื ขยาย อาชพี ด้านใดบ้าง อยา่ งไร และให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรยี น 4. ครใู ห้ผูเ้ รยี นกล่มุ ที่ศึกษาใบความรู้เรอ่ื ง การฝึกทกั ษะอาชพี ออกมานาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น 5. ครใู ห้ผูเ้ รียนทุกคนทาเลอื กแหล่งเรยี นรสู้ าหรับอาชพี ในชมุ ชนของตนเองมาให้มากท่ีสุด หลังจากน้ันใหแ้ ต่ละ คนคัดเลอื กสถานที่สาหรับฝึกอาชีพของตนเอง คนละ 1 แห่ง 6. ครูให้ผู้เรียนทุกคนดาเนนิ การวางแผนสาหรับการฝกึ ทักษะอาชพี ของตนเอง โดยกาหนดหวั ขอ้ ใหด้ ังน้ี - ความร้แู ละทักษะท่ีต้องฝึก - วิธกี ารฝกึ - แหล่งฝึก - วัน เวลาในการฝกึ จัดทาโดย กศน.อาเภอพนสั นิคม สงั กัด สานกั งาน กศน.จงั หวัดชลบุรี

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 7. ครูทาการสุม่ ตวั อย่างผู้เรียนใหอ้ อกมานาเสนอแผนสาหรบั การฝึกทกั ษะอาชีพของแตล่ ะคน พรอ้ มทง้ั ให้ เพ่ือนรว่ มช้ันเรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็นเพิม่ เตมิ หลังจากนนั้ ให้แตล่ ะคนตรวจสอบแผนการฝึกทกั ษะอาชีพของ ตนเองว่าเหมาะสมเพียงใด 8. ครตู รวจสอบผูเ้ รียนถึงความพรอ้ มในการออกไปฝกึ ทกั ษะอาชพี ของผู้เรียน 9. ครมู อบหมายใหผ้ ู้เรยี นทกุ คนดาเนนิ การฝกึ ทกั ษะอาชพี ตามแหล่งเรียนรูใ้ นชุมชนที่ตนเองเลือก พรอ้ มท้ังจด บนั ทึกตามแบบฟอรม์ ที่กาหนดให้ และแบบฟอร์มดงั กล่าวมาสง่ ในการพบกลุ่มคร้ังต่อไป 10. ครใู ห้ผ้เู รียนกลุ่มท่ีศึกษาใบความรูเ้ รอื่ ง การวเิ คราะหช์ ุมชนออกมานาเสนอหนา้ ชน้ั เรียน 11. ครูให้ผ้เู รียนแต่ละกลมุ่ วิเคราะหช์ ุมชน ตามสภาพบริบทของพ้ืนที่ ได้แก่ ทรัพยากรธรรมชาติ ลกั ษณะ ภมู อิ ากาศ ภูมปิ ระเทศ ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีและวถิ ีชวี ติ และทรพั ยากรมนษุ ย์ กบั งานอาชพี ท่ีกาหนดจะขยายงาน อาชพี ด้วยเทคนคิ SWOT เพื่อการขยายอาชพี เพื่อความม่นั คง และทาการสมุ่ ตวั อยา่ งอาชพี ทีแ่ ตกตา่ งกันใหอ้ อกมา นาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น 12. ครูให้ทุกกล่มุ นาสิ่งทแ่ี ต่ละกลุ่มรว่ มกนั วิเคราะห์แล้ว มาใช้ในการกาหนดวสิ ยั ทัศน์ พันธกจิ เปูาหมาย กลยทุ ธ์ ในการกาหนดแผนขยายธรุ กิจของตนเอง 13. ครใู ห้ผูเ้ รยี นทุกกลุ่มรว่ มกนั ทาแผนปฏบิ ัตกิ ารสาหรับการขยายอาชพี ของตนเอง 14. ครูให้ผ้เู รียนทุกกลมุ่ ออกมาแสดงเป็นบทบาทสมมตใิ นการขยายอาชีพตามแผนปฏบิ ัติการสาหรับอาชีพของ แตล่ ะกลุ่มหนา้ ชัน้ เรยี น และใหเ้ พอื่ นรว่ มช้ันเรยี นชว่ ยกนั แสดงความคดิ เห็นเพิ่มเติม หลงั จากน้นั ใหแ้ ต่ละกลุ่มนาสงิ่ ท่ี ได้รบั ไปจัดทาเป็นรายงานมาส่งในการพบกล่มุ ครงั้ ตอ่ ไป 15. ครูมอบหมายใหผ้ ู้เรียนทาการเรยี นรู้ดว้ ยตนเองเกีย่ วกบั การประกอบอาชพี ผ่านเว็ปไซตต์ ่างๆ 16. ครูให้ผู้เรียนกลุ่มท่ีศึกษาใบความรู้เรื่อง การจัดการความเส่ียงออกมานาเสนอหนา้ ชัน้ เรียน 17. ครูให้ผู้เรียนรว่ มกันวางแผนการบรหิ ารความเส่ียงในอาชีพทีต่ นเองเลือกไว้ หลังจากน้ันใหท้ ุกกลมุ่ ออกมา นาเสนอหน้าช้นั เรยี น 18. ครใู ห้ผ้เู รียนแตล่ ะกลุ่มแลกเปลย่ี นผลงานกันเพ่อื ชว่ ยกนั ประเมนิ ผลการบรหิ ารความเสย่ี งของอกี กลุ่ม พร้อมท้ังใหอ้ อกมาวเิ คราะหค์ วามเปน็ ไปไดใ้ นการจัดการความเส่ียงของเพอื่ น 19. ครูมอบหมายให้ผู้เรยี นดาเนนิ การเรียนรดู้ ้วยตนเองและศึกษาค้นควา้ เพิม่ เตมิ ผา่ นระบบออนไลน์ - Youtube - ดิจทิ ัลทีวี จาก ETV ช่อง 52 - PSI ช่อง 110 - True ชอ่ ง 371 - รบั ชมทาง Internet ท่ี www.etvthai.tv - ผ่านโทรศพั ทม์ อื ถอื Smartphone ท่ี www.etvthai.tv/m ข้นั ท่ี 3 การปฏบิ ัติและนาไปประยกุ ต์ใช้ (I:Implementation) 1. ผเู้ รียนสามารถขยายขอบเขตของอาชพี ของตนเองได้ 2. ผูเ้ รยี นสามารถจดั ทาแผนปฏิบัตกิ ารสาหรับการขยายอาชีพได้ 3. ผเู้ รยี นสามารถจัดการความเสีย่ งในการขยายอาชพี ของตนเองได้ 4. ผู้เรียนสามารถขายสินค้าผ่านออนไลน์ได้ ขน้ั ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (E:Evaluation) 1. ครแู ละผู้เรียนรว่ มกนั สรปุ เกย่ี วกับ - ทักษะในการขยายอาชีพ - แผนสาหรบั การฝึกทกั ษะอาชีพ - การทาแผนปฏิบตั กิ ารสาหรบั การขยายอาชีพ - การจดั การความเสย่ี ง จัดทาโดย กศน.อาเภอพนสั นิคม สังกดั สานักงาน กศน.จังหวัดชลบุรี

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 2. ครปู ระเมินผลการจัดกิจกรรม 3. ครใู ห้ผู้เรียนทาใบงาน ส่ือประกอบการเรียนรู้ 1. หนังสอื ประกอบการเรยี นรูร้ ายวชิ าทกั ษะการขยายอาชพี 2. สือ่ Internet 3. ใบความรู้ 4. ใบงาน 5. แบบฟอรม์ การจดบันทกึ สาหรบั การฝกึ ทกั ษะอาชพี การวัดผลประเมินผล 1. การสงั เกต 1.1 พฤติกรรมรายบุคคล เชน่ ความตั้งใจ ความกระตอื รอื ร้น การมสี ่วนร่วม ความมีน้าใจ ความ รบั ผดิ ชอบ ความเปน็ ผ้นู าและการใช้เทคโนโลยใี นการเรยี นรู้ 1.2 พฤตกิ รรมกล่มุ เช่น การทางานรว่ มกนั ความรับผิดชอบและความมนี า้ ใจ 2. การตรวจสอบผลงาม 2.1 ผลงานรายบุคคล เชน่ การตรงตอ่ เวลา ความถูกต้อง ความสะอาดเรียบร้อย 2.2 การทางานดว้ ยกระบวนการกลุ่ม เชน่ ความสามัคคี ทักษะการทางานเปน็ กลมุ่ ทักษะการคิด และวิเคราะห์ 3. การตรวจผลงาน 3.1 การตรวจใบงาน แหลง่ เรยี นรู้ 1. หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี” อาเภอพนัสนิคม 2. กศน.ตาบลนาวังหนิ 3. สอ่ื Internet จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สังกัด สานักงาน กศน.จงั หวัดชลบรุ ี

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรรู้ ายสัปดาห์ท่ี 14 แผนการจัดการเรียนการสอน ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เนือ้ หาเร่อื ง การจดั การการผลิตหรือการบริการ จานวน 5 ชวั่ โมง การจัดการการตลาด จานวน 5 ชว่ั โมง บัญชธี รุ กจิ จานวน 30 ชั่วโมง การขบั เคลือ่ นธุรกจิ เพ่ือขยายอาชีพ จานวน 15 ช่ัวโมง โครงการขยายอาชีพ จานวน 10 ช่วั โมง วันท่ี….28...เดือน......กมุ ภาพันธ์.....พ.ศ.......2564...... เวลา 09.00 – 16.00 น. *********************************************************************************************************** มาตรฐานการเรยี นรู้ รายวชิ าทกั ษะการขยายอาชีพ รหัสวชิ า อช31002 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะพ้นื ฐานเกีย่ วกับภาษาและการสื่อสาร สาระการเรียนรู้ สาระการประกอบอาชีพ รายวิชา รายวชิ าทักษะการขยายอาชพี รหสั วิชา อช31002 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวัง เพื่อให้ผเู้ รยี นสามารถ 1. จัดการเก่ยี วกับการควบคมุ คุณภาพได้ 2. อธบิ ายวิธีการใชน้ วตกรรมเทคโนโลยีในการผลิตได้ 3. อธบิ ายขั้นตอนการลดต้นทุนการผลิตหรือการบริการได้ 4. จัดทาแผนการผลิตหรือการบริการได้ 5. อธบิ ายวธิ ีการจดั การการตลาดเพอ่ื นาผลผลิตเข้าสูต่ ลาดได้ 6. จดั ทาแผนการจัดการการตลาดได้ 7. อธิบายความสาคญั ในการทาบัญชีธุรกิจได้ 8. บอกประเภทของบัญชปี ระเภทตา่ งๆที่เกีย่ วข้องได้ 9. วเิ คราะห์ความเป็นไปได้ของแผนปฏิบัติการในการขยายธุรกจิ ได้ 10. ดาเนินการพัฒนาแผนปฏบิ ัติการการขยายธุรกจิ ได้ 11. อธิบายขั้นตอนการขับเคล่อื นแผนปฏบิ ัติการเพือ่ การขยายธรุ กิจได้ 12. อธบิ ายความสาคญั ของการทาโครงการขยายอาชีพได้ 13. เขยี นโครงการได้ 14. เขยี นแผนปฏบิ ัติการได้ 15. ตรวจสอบโครงการได้ถูกตอ้ งและเหมาะสม ตวั ชี้วัด 1. จัดการเกยี่ วกบั การควบคุมคุณภาพ 2. อธบิ ายวธิ ีการใช้นวตกรรมเทคโนโลยีในการผลิต 3. อธบิ ายขัน้ ตอนการลดต้นทุนการผลิตหรอื การบรกิ าร จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สงั กัด สานักงาน กศน.จงั หวัดชลบรุ ี

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 4. จัดทาแผนการผลติ หรือการบริการ 5. จัดการการตลาดเพื่อนาผลผลติ เขา้ สตู่ ลาด 6. จดั ทาแผนการจัดการการตลาด 7. อธิบายความสาคัญในการทาบัญชีธุรกิจ 8. บอกประเภทของบญั ชปี ระเภทต่างๆท่เี ก่ยี วข้อง 9. วเิ คราะหค์ วามเป็นไปได้ของแผนปฏบิ ัติการในการขยายธรุ กจิ 10. พฒั นาแผนปฏบิ ัติการการขยายธรุ กจิ 11. อธบิ ายขั้นตอนการขบั เคลอื่ นแผนปฏิบัติการเพือ่ การขยายธรุ กิจ 12. อธบิ ายความสาคญั ของการทาโครงการขยายอาชีพ 13. เขยี นโครงการ 14. เขยี นแผนปฏิบัติการ 15. ตรวจสอบโครงการได้ถกู ต้องและเหมาะสม เนือ้ หา การจัดการการผลิตหรือการบริการ 1. การจดั การเกย่ี วกบั การควบคมุ คุณภาพ (1) 2. การใชน้ วตกรรมเทคโนโลยีในการผลติ (1) 3. การลดตน้ ทนุ การผลิตหรือการบริการ (1) 4. การจัดทาแผนปฏบิ ัตกิ าร (2) การจัดการการตลาด 1. การจัดการการตลาด (2) - การโฆษณา - การประชาสมั พันธ์ - การวจิ ยั ตลาด - การส่งเสรมิ การขาย - การทาข้อมลู ฐานลูกคา้ - การกระจายสนิ คา้ 2. การจัดทาแผนปฏิบัตกิ าร (3) บัญชีธุรกจิ 1. ความสาคัญในการทาบัญชีธุรกิจ (5) 2. ประเภทของบญั ชีธรุ กิจ (25) - ข้นั ตอนการทาบัญชปี ระเภทต่างๆ - บัญชีรบั -จ่าย - บัญชหี นสี้ ิน - บัญชีการเงนิ - บัญชสี นิ ทรัพย์ ฯลฯ การขับเคลื่อนธรุ กจิ เพ่ือขยายอาชีพ 1. การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของแผนปฏบิ ตั กิ ารในการขยายธรุ กจิ (5) 2. แผนปฏบิ ตั ิการขยายธรุ กจิ (5) 3. ขั้นตอนการขับเคลื่อนแผนปฏิบตั กิ ารเพื่อการขยายธรุ กจิ (5) จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนัสนคิ ม สังกัด สานักงาน กศน.จังหวดั ชลบุรี

แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 โครงการขยายอาชพี 1. ความสาคญั ของโครงการ (2) 2. ขัน้ ตอนการเขียนโครงการ (2) 3. การเขียนแผนปฏบิ ตั ิการ (4) 4. การตรวจสอบโครงการ (2) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขน้ั ที่ 1 กาหนดสภาพปญั หา (O:Orientation) 1. ครแู ละผู้เรียนปฏบิ ัตติ ามมาตรการตรวจคน คัดกรอง วดั ไข้ สวมหน้ากากอนามยั รักษาระยะห่างระหวา่ ง กนั 1-2 เมตร 2. ครูตรวจสอบผู้เรียนในการพบกลุ่มครัง้ นี้ ขัน้ ท่ี 2 แสวงหาขอ้ มูล (N:New way of learning) 1. ครแู บ่งกลุม่ ผู้เรยี นออกเปน็ กลมุ่ โดยใหท้ กุ กลุ่มศึกษาใบความรู้ ดังน้ี - การจดั การเกย่ี วกบั การควบคุมคุณภาพของสนิ ค้า - การใช้นวตกรรมเทคโนโลยีในการผลิต - การลดตน้ ทุนการผลิตหรือการบรกิ าร 2. ครูให้ผูเ้ รยี นทุกกลุ่มจัดทาแผนปฏิบตั ิการการจัดการการผลติ หรอื บริการเกี่ยวกับอาชพี ของผ้เู รยี นโดยใช้ ความรู้ท่ไี ดร้ ับจากใบความรู้ 3. ครใู ห้ผเู้ รียนแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น พรอ้ มท้ังให้เพ่อื นร่วมชนั้ เรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เพม่ิ เติม และจัดทาแผนปฏบิ ัติการมาส่ง 4. ครพู ดู คยุ กับผเู้ รยี นเก่ียวกบั เนอ้ื หาทีไ่ ด้จากตวั อยา่ งภาพยนตรท์ ผี่ เู้ รยี นเคยชม 5. ครูให้ผู้เรียนแต่ละกล่มุ ศึกษาใบความรู้ ดงั นี้ - การโฆษณา - การประชาสัมพันธ์ - การวจิ ัยตลาด - การส่งเสริมการขาย - การทาขอ้ มูลฐานลกู ค้า - การกระจายสนิ คา้ 6. ครใู ห้ผเู้ รยี นทกุ กลมุ่ จัดทาแผนปฏบิ ัตกิ ารการจัดการการตลาดเก่ยี วกบั สนิ คา้ ในชมุ ชนของผเู้ รยี นโดยใชค้ วามรู้ ท่ีได้รบั จากใบความรู้ 7. ครใู ห้ผู้เรียนแตล่ ะกลุม่ ออกมานาเสนอหน้าชั้นเรยี น พร้อมท้ังใหเ้ พ่อื นร่วมชัน้ เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น เพิม่ เตมิ และจัดทาแผนปฏิบัติการมาส่ง 8. ครมู อบหมายให้ผู้เรียนไปเรียนรเู้ กย่ี วกบั ความรเู้ บื้องต้นเกีย่ วกบั การทาบัญชธี ุรกิจ 9. ครพู ูดคุยกับผู้เรยี นเกีย่ วกับความสาคัญในการจัดทาบญั ชีรายรบั -รายจา่ ยของผเู้ รยี น 10. ครูให้ผู้เรยี นแต่ละกลุม่ ศึกษาใบความรู้ ดงั น้ี - ข้นั ตอนการทาบญั ชีประเภทต่างๆ - บญั ชรี ับ-จ่าย - บัญชหี นีส้ ิน - บัญชกี ารเงนิ - บญั ชีสนิ ทรพั ย์ 11. ครูให้ผู้เรยี นทุกกลุ่มฝกึ ทักษะในการจัดทาบัญชีรายวนั สาหรบั การประกอบธรุ กจิ ตามใบงาน จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนัสนิคม สงั กัด สานกั งาน กศน.จังหวัดชลบุรี

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 12. ครูสุ่มตวั อยา่ งให้ผ้เู รยี นออกมานาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น พร้อมท้งั ให้กล่มุ ท่เี หลอื ทาการตรวจสอบความถูกตอ้ ง ของบญั ชีที่กลมุ่ ตนเองเป็นผู้จัดทา 13. ครูให้ผเู้ รยี นทกุ กลุ่มจัดทาแผนปฏิบัตกิ ารในการขยายธุรกจิ กลมุ่ ละ 1 ธุรกจิ 14. หลงั จากจัดทาแผนปฏิบตั กิ ารเสร็จแล้ว ให้สมาชกิ ในกลุ่มร่วมกนั วเิ คราะห์ความเปน็ ไปไดข้ องแผนฯ ดงั กล่าว รวมทง้ั ร่วมกนั อภปิ รายถงึ ขั้นตอนกระบวนขับเคลอื่ นแผนฯดงั กล่าวไปสู่การปฏบิ ตั ิจริง 15. ครใู ห้ผู้เรยี นทุกกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น และให้เพื่อนรว่ มชน้ั เรยี นชว่ ยกันแสดงความคดิ เห็น เพิม่ เตมิ หลังจากน้นั ให้แต่ละกลุ่มสรุปและจัดทาเปน็ รายงานส่ง 16. ครูให้ผูเ้ รยี นแต่ละกลุ่มศึกษาใบความรู้ เรอ่ื ง ขั้นตอนการเขยี นโครงการ 17. ครูให้ผเู้ รียนทกุ กลุ่มฝกึ ทักษะในการเขียนโครงการสาหรบั การขยายอาชีพของกลมุ่ ตนเอง 18. ครสู มุ่ ตวั อย่างให้ผูเ้ รียนออกมานาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น พร้อมทง้ั ใหก้ ล่มุ ทเี่ หลอื ทาการตรวจสอบความเป็นไป ไดข้ องโครงการท่ีเพื่อนนาเสนอ 19. ครมู อบหมายให้ผู้เรียนดาเนินการเรียนรูด้ ้วยตนเองและศกึ ษาค้นคว้าเพ่มิ เตมิ ผา่ นระบบออนไลน์ - Youtube - ดิจทิ ลั ทีวี จาก ETV ช่อง 52 - PSI ช่อง 110 - True ช่อง 371 - รบั ชมทาง Internet ท่ี www.etvthai.tv - ผ่านโทรศพั ท์มือถอื Smartphone ที่ www.etvthai.tv/m ข้นั ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละนาไปประยุกตใ์ ช้ (I:Implementation) 1. ผเู้ รยี นสามารถจัดการเกีย่ วกับอาชีพของตนเองต่อไปได้ 2. ผู้เรยี นสามารถจดั การด้านการตลาดให้กับสินคา้ ในชมุ ชนของตนเองได้ 3. ผเู้ รียนสามารถจดั ทาบัญชรี ายวันไดด้ ว้ ยตนเอง 4. ผเู้ รียนสามารถเขยี นโครงการเพื่อนาเสนอต่อหนว่ ยงานตา่ ง ๆ สาหรับการขยายอาชีพของตนเองได้ ขนั้ ที่ 4 การประเมินผลการเรียนรู้ (E:Evaluation) 1. ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกนั สรปุ เกีย่ วกบั - การจดั การการผลติ หรอื การบรกิ าร - การจดั การด้านการตลาด - การทาบญั ชีธุรกจิ - การขับเคล่ือนธุรกิจเพือ่ ขยายอาชีพ - โครงการขยายอาชพี 2. ครูประเมนิ ผลการจัดกจิ กรรม 3. ครใู ห้ผ้เู รยี นทาใบงาน ส่อื ประกอบการเรยี นรู้ 1. หนังสอื ประกอบการเรยี นร้รู ายวิชาทกั ษะการขยายอาชีพ 2. สือ่ Internet 3. ใบความรู้ 4. ใบงาน 5. แบบฟอรม์ สมดุ บัญชีรายวัน 5. แบบฟอร์มโครงการ จดั ทาโดย กศน.อาเภอพนสั นคิ ม สงั กัด สานักงาน กศน.จังหวดั ชลบุรี