TINCHER FARMER'S MARKET วั ส ดุ อุ ป ก ร ณ์ ใ น ชี วิ ต ป ร ะ จาํ วั น 2018/2019
คํานาํ งานชนิ นเี ปนงาน ในรายวชิ ากา รออกเเบบเเละ เทคโนโลยสี รา้ งขนึ เพอื ศึกษาวสั ดใุ น ชวี ติ ประจาํ วนั .หวงั วา่ จะเปนประโย ชนเ์ เก่คนรนุ่ หลังต่อ ไป
สารบญั 1.เกรนิ นาํ 2.ไม้ 3.โลหะ 4.พลาสติก 5.ยาง 6.อ้างอิง
สงิ ของเครอื งใช้ ต่างๆ สรา้ งขนึ จากวสั ดหุ ลาย ประเภทวสั ดเุ เต่ละประเภทมี สมบตั ิเเละลักษณะทีเเตกต่าง กันการเลือกใชว้ สั ดใุ หถ้ กู ต้อง เเละเหมาะสมจงึ มคี วามสาํ คัญ ต่อการออกเเบบเเละสรา้ ง สงิ ของเครอื งใช้ วสั ดทุ ีนาํ มาทําสงิ ของ เครอื งใชท้ ีเราพบมาเจอใน ชวี ติ ประจาํ วนั เชน่ ไม้ โลหะ พลาสติกยางมคี ณุ สมบตั ิเเละ การใชง้ านทีเเตกต่างกันดงั นี
ไม(้ WOOD) ไมค้ ือวสั ดธุ รรมชาติทีได้ มาจากลําต้นของต้นไมซ้ งึ สว่ นใหญเ่ ปนไมย้ นื ต้นไม้ มคี วามเเขง็ เเรงทนทาน ต้านทานไฟฟา ไม่ เปน สนมิ มรี ปู รา่ ง คงตัว ผวิ เรยี บ มกี ลิน เเละมรี วด ลาย ถ้าไดร้ บั ความชนื เปน เวลานานอาจบวมผวิ รปู เเละผไุ ด้ ไมเ้ เบง่ ออกได้ เปน2ประเภทคือ
ไมจ้ รงิ หรอื ไม้ ธรรมชาติ(natural wood or solid wood)คือไมท้ ีไดม้ าจาก ลําต้นของต้นไมโ้ ดยตรง เเบง่ ไดเ้ ปน2ประเภทคือ ไมเ้ นอื เเขง็ เเละไม้
ไม้ ประกอบ(PROCES SED WOOD) คือไมท้ ี ไดม้ าจากการนาํ ชนิ สว่ นของไมม้ าต่อรวม กันดว้ ยกระบวนการ ต่างๆไมป้ ระกอบมี หลายประเภทเชน่ ไมอ้ ัด ไมป้ ารต์ ิเคิลบ อรด์
โลหะ(metals) โลหะคือวสั ดทุ ีไดจ้ ากการ ถลงุ สนิ เเรต่ ่างๆโลหะทีนาํ มาใชง้ านสว่ นใหญจ่ ะผา่ น การปรบั ปรงุ สมบตั ิใหด้ ี ขนึ ก่อนนาํ มาใชง้ านโลหะ เปนตัวนาํ ความรอ้ นเเละ ไฟฟมคีามวคีามวคามงเทเขนง็ ถเเารวงรสไมงู ่ เสอื มสภาพเปนวตั ถุ ทึบเเสงทนทานต่อ การกัดกรอ่ นโลหะเเบ่ งออกไดเ้ ปน2ประเภท คือ
โลหะนอกกล่มุ เหล็กคือ โลหะทีมเี หล็กเปนสว่ น ประกอบหลักเเบง่ ออกเปน เหล็กกล้าเเละเหล็กหล่อ ซงึ มธี าตคุ ารบ์ อนผสมอยู่ ในปรมิ าณทีเเตกต่างกัน ตังเเต่0.1%ไป จนถึง4.0%คารบ์ อนที ผสมลงในเหล็กมผี ลจ ต่อความเเขง็ เเละเปราะ ของเหล็กโดยทัวไปโลหะ กล่มุ เหล็กจะเกิดสนมิ เเละ มสี มบตั ิดดู ติดกับเเมเ่ หล็ก ได้
โลหะนอกกล่มุ เหล็ก(non-ferrous metals) คือโลหะทีไมม่ เี หล็ก เปนสว่ นประกอบดงั นนั โลหะประเภทนจี ะ ไมเ่ กิดสนมิ เเละไมด่ ดู ติดกับเเมเ่ หล็กเชน่ อลู มเิ นยี มทองแดงสงั กะสี ทองเหลือง
พลาสติก(plastics) พลาสติกคือวสั ดสุ งั เคราะห์ ทีมนษุ ยส์ รา้ งขนึ สว่ น ใหญเ่ ปนผลผลิตทีได้ จากการกลันนาํ มนั ดบิ ปจจุบนั พลาสติกนาํ มาใช้ สรา้ งสงิ ของเครอื งใชม่ า กมายเเละมบี ทบาทอยา่ ง ยงิ ต่อการดาํ เนนิ ชวี ติ ประจาํ วนั พลาสติกเเบง่ เปน2ประเภทคือ
เทอรโ์ มพลาสติก(TH ERMOPLASTICS) จะอ่อนตัวเเละ หลอมเหลวเมอื ไดร้ บั ความรอ้ นเเละจะเเขง็ ตัวเมอื ทําใหเ้ ยน็ ลง พลาสติกทีเเขง็ ตัวเเล้ วสามารถนาํ มาหลอม ซาํ ไดด้ ว้ ยความรอ้ น
เทอรโ์ มเซตติง พลาสติก(THE RMOSETTING PLASTIC) เปน พลาสติกทีมี สมบตั ิพเิ ศษคือ ทนทานต่อการ เปลียนเเปลง อุณหภมู เิ เละทน ปฏิกิรยิ าเคมไี ด้ดี
ยาง(rubber) ยางคือวสั ดทุ ีมคี วาม ยดื หยุน่ ถกู นาํ ไปเเปร รปู เพอื ใชป้ ระโยชน์ ในการสรา้ งสงิ ของ เคริอื งใชห้ ลายชนดิ สามารถเเบง่ ออก เปน2ประเภทคือ
ยางธรรมชาติNATURAL RUBBER คือผลผลิตทีไดจ้ ากต้น ยางเมอื ยางอยูใ่ นสภาวะ อุณหภมู ติ ําจะเเขง็ กระ ดา้ งเมอื ยางอยูใ่ นสภาวะ อุณหภมู สิ งู จะอ่อนนมิ มี ความยดื หยุน่ สงู ทนต่อ การสกึ หรอเเต่ไมท่ นต่อ ตัวทําลายพวกนาํ มนั ปโต เลียม
ยางสงั เคราะห์synthetic rubber คือยางทีไดจ้ ากการ สงั เคราะหท์ างเคมี เพอื เลียนเเบบยาง ธรรมชาติขอ้ ดคี ือ สามารถปรบั ปรงุ สมบตั ิต่างๆได้
อ้างอิง https://www.krui3.com /content/materials in daily lite/
จดั ทําโดย ด.ญ.กณกิ า ปลายเนตรชนั ม.2/3 เลขที37
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: