๑ มาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษา (ระดบั การศึกษาขนั้ พนื้ ฐานและระดบั ปฐมวัย) ฉบบั ปพี ทุ ธศักราช 2564 โรงเรียนบา้ นบุ่งฝาง อำเภอลานสกั จังหวัดอทุ ัยธานี สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาอุทยั ธานี เขต 2
สารบัญ เร่ือง หนา้ สว่ นท่ี 1 บทนำ 1.1 ความสำคัญและความจำเป็นในการกำหนดมาตรฐานการศึกษา 1 1.2 มาตรฐานการศกึ ษามีประโยชน์ต่อบุคคลทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง 2 1.3 แนวคิดในการกำหนดมาตรฐานการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน 2 1.4 วตั ถุประสงคข์ องการจดั ทำเอกสาร 5 ส่วนท่ี 2 มาตรฐานการศึกษา คำอธบิ าย และการใหร้ ะดับคุณภาพ 2.1 มาตรฐานการศกึ ษาระดับปฐมวัย 6 - มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพเด็ก 6 - มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ 19 - มาตรฐานท่ี 3 การจัดประสบการณท์ ่เี นน้ เด็กเป็นสำคญั 30 2.2 มาตรฐานการศึกษาระดับการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน 37 - มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพของผเู้ รียน 37 - มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ 54 - มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนทีเ่ นน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคญั 62 สว่ นที่ 3 แนวทางการประเมินคุณภาพภายในของสถานศึกษา 72 ภาคผนวก 77 - ประกาศกระทรวงเร่อื งการใช้มาตรฐานระดับ ปฐมวยั - ประกาศกระทรวงเรอ่ื งการใช้มาตรฐานระดับ การศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน - ประกาศโรงเรียนบา้ นบุง่ ฝาง เรื่อง ใหใ้ ชม้ าตรฐานการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน เพอื่ การประกันคุณภาพภายในของสถานศกึ ษา o มาตรฐานการศึกษาระดบั ปฐมวัย(แนบท้ายประกาศ) o มาตรฐานการศึกษาระดบั การศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน(แนบท้ายประกาศ) - ประกาศโรงเรยี นบ้านบงุ่ ฝาง เร่อื ง ค่าเป้าหมายมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดบั ปฐมวยั และระดับการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน
๑ สว่ นท่ี ๑ บทนำ การศึกษาเป็นกระบวนการท่ีทำให้คนมีความรู้และคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ช่วยให้คนน้ันอยู่รอดใน โลกได้ เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัวและสังคมส่วนรวม (สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรม ราชกุมารี, ๒๕๔๕) คุณภาพการศึกษาจึงสะท้อนถึงคุณภาพคนที่เป็นผลผลิตของการจัดการศึกษา ใน บริบทของ สังคมไทยปัจจุบัน รูปแบบการศึกษาส่วนใหญ่จะเป็นการศึกษาในระบบ ดังน้ัน สถานศึกษา จึงเป็นหน่วยงาน หลกั ทมี่ ีหน้าทใ่ี นการจดั การศึกษา โดยเฉพาะในระดบั การศึกษาข้นั พื้นฐาน ในสถานการณ์ ปัจจุบันสถานศึกษาส่วนใหญ่ ยังมีความเหล่ือมล้ำแตกต่างกัน ทั้งในด้าน งบประมาณ คุณภาพ บุคลากร หรือ แม้แต่ปัจจัยด้านผู้เรียน รวมทั้งปัจจัยเอื้ออื่น ๆ เช่น ความร่วมมือ ของคณะกรรมการสถานศึกษา การสนับสนุน จากชุมชน หน่วยงานหรือองค์กรท่ีอยู่ใกล้เคียง สถานศึกษา และการติดตามช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดจาก สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาหรือหน่วยงานต้น สงั กัด ส่ิงเหลา่ น้ีล้วนส่งผลกระทบต่อคุณภาพการจัดการศึกษา อีกท้ัง ปัจจุบันสถานศึกษามีอิสระในการ บริหารจัดการศึกษาด้วยตนเอง มีการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาตาม บริบทและความต้องการของ ตนเอง คุณภาพผู้เรยี นและคณุ ภาพในการบริหารจดั การจงึ มคี วามแตกต่างกัน พระราชบัญญตั ิการศกึ ษา แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ จึงกำหนดให้ หน่วยงานต้นสังกัด และสถานศึกษาจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา อันนำไปสู่การ กำหนดให้มี มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานข้ึน ประกอบกับได้มีการประกาศใช้กฎกระทรวงการประกันคุณภาพ การศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ และกระทรวงศึกษาธิการมีการประกาศให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย ระดบั การศึกษาข้ันพืน้ ฐาน และระดบั การศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน ศนู ย์การศึกษาพิเศษ พ.ศ. ๒๕๖๑ ลงวันท่ี ๖ สิงหาคม ๒๕๖๑ สำหรับให้สถานศึกษาใช้เป็นแนวทางดำเนินงานเพ่ือการประกันคุณภาพภายในของ สถานศึกษา และเตรียมการสำหรับการประเมินคุณภาพภายนอก ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจแก่ผู้มีส่วน เกี่ยวข้องทุกฝ่ายวา่ การจัดการศกึ ษาของสถานศึกษามีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และคงรักษาไว้ซึ่งมาตรฐาน จาก การดำเนินงานประกนั คุณภาพภายในของสถานศกึ ษา ความสำคัญและความจำเป็นในการกำหนดมาตรฐานการศกึ ษา มาตรฐานการศึกษาเป็นข้อกำหนดเก่ียวกับคุณลักษณะและคุณภาพท่ีพึงประสงค์ที่ต้องการให้ เกดิ ขึ้น ในสถานศึกษาทุกแห่ง มาตรฐานถูกกำหนดข้ึนเพื่อใช้เปน็ หลกั เทียบเคยี งสำหรบั การส่งเสริมและ กำกับดูแล การตรวจสอบ การประเมินผลและการประกันคุณภาพการศึกษา (สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษา ข้ันพื้นฐาน, ๒๕๔๘) มาตรฐานในบริบทน้ีจึงเป็นมาตรฐานท่ีมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาโดยองค์รวม การกำหนดให้มีมาตรฐานการศึกษาทำให้เกิดโอกาสท่ีเท่าเทียมกันในการพัฒนา คุณภาพเพราะสถานศึกษาทุก แห่งรู้ว่าเป้าหมายการพัฒนาท่ีแท้จริงอยู่ท่ีใด การกำหนดให้มีมาตรฐาน การศึกษาจึงเป็นการให้ความสำคัญกับ การจัดการศึกษา ๒ ประการ ได้แก่ ๑) สถานศึกษาทุกแห่งมี เกณฑ์เปรียบเทียบกับมาตรฐานซึ่งเป็นมาตรฐาน เดียวกัน ๒) มาตรฐานทำให้สถานศึกษาเข้าใจชัดเจน ว่าจะพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาไปในทศิ ทางใด นอกจากน้ี การกำหนดมาตรฐานยังเป็นการกำหนดความ คาดหวังที่ชัดเจนให้กับครู ผู้บรหิ าร พ่อแม่ ผู้ปกครอง ชุมชนและ หน่วยงานต่าง ๆ ที่มีส่วนเก่ียวขอ้ งใน
๒ การจัดการศึกษา ซึง่ เป็นแนวทางหน่ึงในการร่วมมือรวมพลงั เพอ่ื ใหเ้ กิด คณุ ภาพการศึกษาตามเปา้ หมาย ที่กำหนด มาตรฐานการศึกษาจึงเป็นจดุ เร่ิมตน้ ของการพัฒนาทุนมนุษย์และ เป็นเป้าหมายสำคัญท่สี ุดท่ี ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทุกคนต้องรับรู้และปฏิบัติงานในหน้าที่ที่รับผิดชอบให้บรรลุถึงเป้าหมายตาม มาตรฐานการศึกษาท่กี ำหนดและรว่ มรบั ผิดชอบตอ่ ผลการจดั การศึกษาที่เกดิ ข้นึ (accountability) มาตรฐานการศึกษามปี ระโยชน์ตอ่ บุคคลท่เี กยี่ วขอ้ ง ดังนี้ ๑. ผู้เรียน ทำให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาตนเองตามความคาดหวังของสังคมและ ประเทศชาติว่า ต้องการคนที่มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์อย่างไร จะทำอย่างไรจึงจะเป็นผู้มีคุณสมบัติ ตามท่มี าตรฐานการศึกษา กำหนด ๒. ครู ใชม้ าตรฐานเป็นกรอบแนวทางในการออกแบบการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และ เป็นแนวทางในการพัฒนาตนเองตามคุณลักษณะและคุณสมบัติตามมาตรฐานท่ีกำหนดเพื่อให้ ผเู้ รียนมีคณุ ภาพ ตามทม่ี าตรฐานกำหนดไว้ ๓. ท้องถิ่นและสถานศึกษา ใช้มาตรฐานเป็นแนวทางร่วมมือกันในการจัดการศึกษาให้บรรลุ เป้าหมาย ตามทตี่ ้ังไว้ ๔. พ่อแม่ผู้ปกครอง ประชาชนและผู้นำชุมชน ใช้มาตรฐานเป็นเคร่ืองมือส่ือสารให้ประชาชน ได้รับ ทราบกระบวนการจัดการศึกษา การจัดการเรียนการสอนที่จะทำให้คนไทยในท้องถ่ินเข้าใจและ เข้ามามสี ว่ น รว่ มเพื่อให้การจัดการศกึ ษาชว่ ยยกระดับคุณภาพผ้เู รยี นให้ไดต้ ามมาตรฐานท่ีกำหนด ๕. ประเทศชาติใช้มาตรฐานเป็นเคร่ืองมือที่ทำให้ทุกองค์กรประกอบของระบบการศึกษา ขับเคลอ่ื น ไปพร้อม ๆ กัน สเู่ ป้าหมายเดยี วกัน และทำให้เกดิ ภาพการจัดการศึกษาท่ีมีความหมาย แนวคดิ ในการกำหนดมาตรฐานการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน จากการศึกษางานวิจัย บทความ บทสัมภาษณ์ผู้นำทางการศึกษา ผู้บริหารดีเด่น ตลอดจนการ แสดง ความคิดเห็นของกล่มุ บุคคลท่ัวไป สรุปได้ว่า สถานศกึ ษาท่ีจัดการศึกษาได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ มี ส่ิงสำคัญที่บง่ บอกได้อย่างชัดเจนหลายประการ ได้แก่ มีการกำหนดภารกจิ ของสถานศึกษาท่ีชัดเจน มี การกำกับติดตามงาน สม่ำเสมอ ความสัมพันธ์ระหว่างสถานศึกษาบ้านและชุมชนมีความใกล้ชิดและ ไว้วางใจกัน มีการตั้งความ คาดหวังของผลสำเร็จไว้สูง มีความเป็นผู้นำด้านการจัดการเรียนรู้อย่างมือ อาชีพ ทั้งครูและผู้บริหาร มีการสร้าง โอกาสในการเรียนรูแ้ ละให้เวลาผเู้ รียนในการท างานกลุ่มมากขึ้น จัดส่ิงแวดล้อมท่ีจำเป็นอย่างมีระเบียบ สะอาด และปลอดภัย มีการจัดหลักสูตรท่ีชัดเจน สอดคล้องกับ เป้าหมาย ใช้กลวิธีในการประเมินที่หลากหลาย จัดการเรียนการสอนท่ีกระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจ กระตือรือร้นในการท่ีจะเรียนรู้ จัดบรรยากาศที่ส่งเสริม ความเป็นเลิศทางวิชาการ ขจัดสิ่งท่ีเป็น อุปสรรคสำหรับความสัมพันธ์กับผู้ปกครองและชุมชน พัฒนางานอยู่ บนพื้นฐานของการวิจัย ใช้แหล่ง เรียนรู้ที่มีอยู่อย่างเต็มที่และวางแผนงานอย่างมีประสิทธิภาพ จากแนวคิดใน การจัดการศึกษาและ พัฒนาคุณภาพการศึกษาดังกล่าว ประกอบกับแนวคิดในการพัฒนามาตรฐานการศึกษา ข้ันพื้นฐานว่า ต้องเป็นมาตรฐานท่ีปฏิบัติง่าย ประเมินได้จริง กระชับและจำนวนน้อย แต่สามารถสะท้อน คุณภาพ การศึกษาได้จริง ข้อมูลที่ได้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาการศึกษาทุกระดับ ต้ังแต่ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ระดับหน่วยงานต้นสังกัดและระดับชาติ ดังน้ันการกำหนดมาตรฐานจึงเน้นที่
๓ คุณภาพของผู้เรียน คุณภาพของกระบวนการบริหารและการจัดการและคุณภาพของกระบวนการ จดั การเรยี น การสอนทเี่ นน้ ผูเ้ รยี นเป็นสำคญั โดยมีแนวคิดในการกำหนดมาตรฐานในดา้ นต่าง ๆ ดงั นี้ ๑. แนวคิดในการกำหนดมาตรฐานด้านคุณภาพของผู้เรียน คุณภาพผู้เรียนท่ีสังคมต้องการ ได้ระบไุ วอ้ ยา่ งชดั เจนในพระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และทแี่ ก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๖ ทว่ี ่า “การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อ พัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ทั้ง ร่างกาย จิตใจ (หมายถึง สุขกาย สุขใจ) สติปัญญา ความรู้ (หมายถึง เป็นคนเก่ง) และคุณธรรม มจี ริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตสามารถอยู่รว่ มกับผอู้ ื่นได้อยา่ งมีความสุข ๓ (หมายถึงเป็นคน ดีของคนรอบข้างและสังคม)” และในมาตรา ๗ ที่ว่า “ในกระบวนการเรียนรู้ต้องมุ่งปลูกฝัง จิตสำนึกที่ ถูกต้องเก่ียวกับการเมือง การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รู้จักรักษาและส่งเสริม สิทธิ หน้าที่ เสรีภาพ เคารพกฎหมาย ความเสมอภาคและศักด์ิศรีความเป็น มนุษย์ มีความภูมใจในความเป็นไทย รู้จักรักษาผลประโยชน์ส่วนร่วมและของประเทศชาติ รวมท้ัง ส่งเสริมศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมของชาติ การกีฬา ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภูมิปัญญาไทยและความรู้ อันเป็นสากล ตลอดจน อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม มีความสามารถในการประกอบ อาชีพ รู้จักพ่ึงตนเอง มีความคิด ริเร่ิมสร้างสรรค์ ใฝ่รู้และเรียนรู้ ด้วยตนเองอย่างต่อเน่ือง” นอกจากนี้ เพ่ือให้ก้าวทันกระแสการเปล่ียนแปลง ในยุคท่ีความรู้และเทคโนโลยีเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว กระทรวงศึกษาธิการในยุคของการปฏิรูปการศึกษาใน ทศวรรษท่ี ๒ (พ.ศ. ๒๕๕๒ – ๒๕๖๑) ได้ประกาศวิสัยทัศน์เกี่ยวกับคนไทยยุคใหม่ว่า คนไทยยุคใหม่ต้องได้ เรียนรู้ตลอดชีวิต มีสติรู้ทัน มี ปัญญารู้คิด มีสมรรถนะและมีคุณธรรม รับผิดชอบต่อครอบครัว ประเทศชาติและ เป็นพลเมืองท่ีดีของ โลก ซึ่งสอดรับกับจุดมุ่งหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ท่ไี ด้มุ่งพัฒนาผเู้ รียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสขุ มีศกั ยภาพในการศึกษาตอ่ และการประกอบ อาชีพ ดังนนั้ ในการกำหนดมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ด้านคุณภาพของผู้เรียน จึงมุ่งเนน้ ที่ การพัฒนาผู้เรียนให้เป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ โดยได้กำหนดมาตรฐานการศึกษาย่อย จำนวน ๒ ด้าน ได้แก่ ๑) ด้าน ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน และ ๒) ด้านคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ของผู้เรียน ด้านผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน มุ่งเน้น คุณภาพมาตรฐานข้ันต้น ในระดับ “ปานกลาง” ท่ีการมีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสารและ การคิดคำน วณ รวมทั้ ง การมี ผลสัมฤท ธิ์ท างการเรียน ตาม หลักสูตรสถานศึกษา ส่วนคุณภาพมาตรฐานขั้นสูง ได้แก่ ระดับ “ดี” “ดีเลิศ” และ “ยอดเยี่ยม” จะมุ่งเน้นไปท่ีคุณภาพมาตรฐานในระดับท่ีแตกต่างกัน ในเร่ือง การมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คดิ อย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปล่ยี นความคิดและการแก้ปัญหา การมีความสามารถในการสร้าง นวัตกรรม การมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร และการมีความรู้ ทักษะ พื้นฐานและเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ สำหรับด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน มุ่งเน้นคุณภาพ มาตรฐานขนั้ พื้นฐานในระดับ ปานกลาง” ท่ี การมีคณุ ลักษณะและค่านยิ มทีด่ ีตามทีส่ ถานศกึ ษา กำหนด และการมีสุขภาวะทางร่างการและจิตสังคม ส่วนคุณภาพมาตรฐานขั้นสูง ได้แก่ ระดับ “ดี” “ดีเลิศ” และ “ยอดเย่ียม” จะมุ่งเน้นไปท่ีคุณภาพมาตรฐานในระดับทแี่ ตกต่างกัน ในเร่ือง ความภูมิในในท้องถิ่น และ ความเปน็ ไทย รวมท้ัง การยอมรบั ท่ีจะอยรู่ ่วมกนั บนความแตกตา่ งและหลากหลาย
๔ ๒. แนวคิดในการกำหนดมาตรฐานด้านกระบวนการบรหิ ารและการจดั การ การจัดการศึกษาของสถานศึกษามอี งค์ประกอบท่ีสำคญั ๔ ดา้ น ได้แก่ ดา้ นการบริหารคุณภาพ ของสถานศึกษา ด้านการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการของสถานศึกษา ด้านการพัฒนาครูและ บุคลากร และด้านการจัดสภาพแวดล้อมและการบรกิ าร ด้านการบริหารคุณภาพของสถานศึกษาเน้นที่ การบริหาร จัดการคุณภาพโดยรวม โดยให้ความสำคัญกับการกำหนดเป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจ ของสถานศึกษา รวมท้ังระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาท่ีมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ด้านการบริหารหลักสูตร และงานวิชาการของสถานศึกษา หลักสูตรสถานศึกษาจะเป็นตัวสะท้อน คุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษาได้เป็น อย่างดี มีหลักสูตรสถานศึกษาจะมีการกำหนดจุดมุ่งหมาย แนวทาง วิธีการและเนื้อหาสาระท่ีเรียน ตลอดจน วิธีการวัดและประเมินผลการเรียนการสอนใน สถานศึกษา ซึ่งจะสะท้อนว่าผู้เรียนมีความรู้ความสามารถ เจตคติและพฤติกรรมตามมาตรฐาน การศึกษาท่ีสถานศึกษากำหนดไว้หรือไม่ หลักสูตรที่ดีควรคำนึงถึงบริบท ของผู้เรียน ท้องถ่ินและชุมชน มีการบูรณาการสาระการเรียนรู้ หรือจัดทำรายวิชาเพ่ิมเติมที่สอดคล้องกับ ความถนัด ความสามารถ และความสนใจของผู้เรียนและจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่ส่งเสริมศักยภาพของผู้เรียน ตามขีด ความสามารถทำให้ผู้เรยี นมีความสมบูรณ์และสมดุลท้ังทางรา่ งกาย สงั คม อารมณ์ จิตใจและสติปัญญา ด้านการพัฒนาครูและบุคลากร ครูและบุคลากรเป็นปัจจัยสำคัญท่ีช่วยให้การจัดการศึกษาเกิดคุณภาพ ตาม ๔ มาตรฐานการศึกษาที่กำหนด การพัฒนาครแู ละบุคลากร เน้นไปท่คี วามเช่ียวชาญทางวชิ าชีพซึ่ง ตอ้ งมกี าร พัฒนาท่ีตรงตามความต้องการจำเป็น อยา่ งต่อเนือ่ ง ทั้งในส่วนของบุคคลและการแลกเปลย่ี น เรียนรู้ในรูปแบบ ของการสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ด้านการจัดสภาพแวดล้อมและการบริการ สภาพแวดล้อมและ การบรกิ ารที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา สถานศึกษา ที่มีห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ อาคารเรียนที่มั่นคง สะอาด มีแหล่งเรียนรู้ที่เพียงพอ มีการจั ด สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอ้ือต่อ การจัดการเรียนรู้ ตลอดจนมีการจัดระบบเทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและ การจัดการเรียนรู้ท่ีมีคุณภาพ ทำให้ผู้เรียนดำเนินชีวิต อยู่ในสถานศึกษาได้อย่างมีความสุข ปลอดภัย มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซ่ึงจะส่งผลถึงความสำเร็จในการเรียน ของผู้เรียนด้วย มาตรฐานด้านกระบวนการบริหารและ การจัดการมุ่งเน้นคุณภาพมาตรฐานขั้นต้น ใน ระดับ “ปานกลาง” ท่ีเป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจท่ี สถานศึกษากำหนดและระบบบริหารจัดการ คุณภาพสถานศึกษา ส่วนคุณภาพมาตรฐานข้ันสูง ได้แก่ ระดับ “ดี” “ดีเลิศ” และ “ยอดเยี่ยม” จะมุ่งเน้นไปที่คุณภาพมาตรฐานในระดับที่แตกต่างกัน ในเรื่องการดำเนินการ พัฒนาวิชาการ การ พัฒนาครูและบุคลากร การจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคม รวมทั้งการจัดระบบ เทคโนโลยี สารสนเทศของสถานศึกษา ๓. แนวคิดในการกำหนดมาตรฐานด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็น สำคญั การจัดการเรียนการสอนเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนซึ่งจะบ่งบอกถึงคุณภาพ การจัดการศึกษา ในปัจจุบันการจัดการเรียนการสอนที่ยอมรับกันว่าส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ อย่าง แท้จริง เป็นการจัดการเรียนการสอนที่ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งเน้นที่การปฏิบัติ (active learning) เพื่อให้ ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและการปฏิบัติท่ีนำไปสู่การเรียนรู้ท่ีลึกซ้ึง
๕ และคงทน มาตรฐานด้าน การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มุ่งเน้นคุณภาพมาตรฐาน ข้ันต้น ในระดับ “ปานกลาง” ที่การจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง รวมท้ัง ความสามารถในการนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิต การใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อ การเรียนรู้ ตลอดจนการตรวจสอบและประเมิน ผู้เรียนอย่างเป็นระบบและการนำผลมาพัฒนาผู้เรียน ส่วนคุณภาพมาตรฐานขั้นสูง ได้แก่ ระดับ “ดี” “ดีเลิศ” และ “ยอดเยี่ยม” จะมุ่งเน้นไปท่ีคุณภาพ มาตรฐานในระดับท่ีแตกต่างกัน ในเรื่อง การบริหารจัดการช้ันเรียน เชิงบวก รวมท้ังการแลกเปล่ียน เรียนรแู้ ละใหข้ ้อมลู สะทอ้ นกลบั เพอื่ พัฒนาและปรับปรุงการจดั การเรียนรู้ วตั ถปุ ระสงค์ของการจดั ทำเอกสาร ๑. เอกสารฉบับน้ีจัดทำข้ึนสำหรับสถานศึกษาใช้เป็นแนวทางดำเนินงานเพื่อการประกัน คุณภาพ ภายในของสถานศึกษาและเตรียมการสำหรับการประเมินคุณภาพภายนอก ตามกรอบ มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัยระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ศูนย์การศึกษาพิเศษ ซึ่งจะทำให้เกิด ความมั่นใจแก่ผู้ท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่าการจัดการศึกษาของ สถานศึกษามีคุณภาพได้มาตรฐานและคง รักษาไว้ซ่ึงมาตรฐานจากการดำเนินงานประกันคุณภาพ ภายในของสถานศกึ ษา ๒. เอกสารฉบับน้ีจัดทำเพื่อให้สถานศึกษาใช้เป็นแนวทางในการกำหนดกรอบมาตรฐาน การศกึ ษา ของสถานศึกษา เพือ่ พฒั นาคณุ ภาพการศึกษาสูเ่ ป้าหมายตามมาตรฐานที่สถานศึกษากำหนด และใชเ้ ป็น แนวทางในการตรวจสอบและประเมินคณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา ๓. โครงสร้างของเอกสารประกอบด้วย ๓ ส่วน คือ ส่วนท่ี ๑ บทนำส่วนท่ี ๒ มาตรฐาน การศึกษา คำอธิบาย และระดับคุณภาพ และส่วนท่ี ๓ แนวทางการประเมินคุณภาพภายในของ สถานศึกษา ๔. ให้สถานศึกษาระดับการศกึ ษาขั้นพื้นฐานและหน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการให้ผู้ท่ีเก่ียวข้อง ทกุ ฝ่ายมคี วามรคู้ วามเข้าใจและปฏิบตั ิตามหลกั การของการประกันคณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา ดงั นี้ ๔.๑ การประกันคุณภาพเป็นหน้าที่ของบุคลากรทุกคนที่ต้องปฏิบัติงานตามภารกิจที่แต่ละ คนได้รบั มอบหมาย ๔.๒ การประกันคณุ ภาพมุ่งพฒั นางานตามความรบั ผดิ ชอบของตนให้มคี ุณภาพดียงิ่ ข้ึนเพราะ ผลการพฒั นาของแต่ละคนกค็ อื ผลรวมของการพฒั นาทั้งสถานศกึ ษา ๔.๓ การประกันคุณภาพเน้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยให้เป็นส่วนหน่ึงของ กระบวนการ บริหารการศกึ ษาท่ีตอ้ งดำเนินการอยา่ งตอ่ เนื่อง ไม่ใช่ทำเพื่อเตรยี มรบั การประเมินเปน็ ครั้ง คราวเท่าน้ัน ๔.๔ การประกันคุณภาพต้องเกดิ จากความร่วมมอื ของบุคลากรทุกฝ่ายทเ่ี ก่ียวขอ้ งไม่สามารถ วา่ จา้ งหรอื ขอใหบ้ ุคคลอื่นๆ ดำเนินการแทนได้ ๔.๕ การประกันคุณภาพต้องเกิดจากการยอมรับและนำผลการประเมินคุณภาพการศึกษาไป ใชใ้ นการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศึกษา
๖ ส่วนท่ี ๒ มาตรฐานการศึกษา คำอธิบาย และการให้ระดบั คณุ ภาพ การพัฒนามาตรฐานการศึกษา มีแนวคิดว่าต้องเป็นมาตรฐานท่ีสถานศึกษาปฏิบัติได้จริง ประเมิน ได้จริง กระชับ และจำนวนน้อย แต่สามารถสะท้อนบริบทของสถานศึกษาและคุณภาพ การศึกษาได้จริง ข้อมูล ท่ีได้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาการศึกษาทุกระดับ ตั้งแต่ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพ้ืนที่การศึกษา ระดับ หน่วยงานต้นสังกัด และระดับชาติ ดังนั้น การกำหนดมาตรฐาน การศึกษาจึงเน้นท่ีคุณภาพผู้เรียน คุณภาพ ผู้บริหารสถานศึกษา และคุณภาพครูมีความสอดคล้องกับ มาตรฐานการศึกษาชาติ และข้อกำหนดใน กฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรฐานการศึกษาในแตล่ ะระดับ กำหนดเกณฑ์การตัดสินคุณภาพของมาตรฐานมี ๕ ระดับ คือ ระดับกำลังพัฒนา ระดับปานกลาง ระดับดี ระดับดีเลิศ และระดับยอดเยี่ยม รายละเอียดของ มาตรฐาน การศกึ ษาแตล่ ะระดบั ประเดน็ พิจารณา และระดบั คณุ ภาพ ดงั น้ี มาตรฐานการศกึ ษาระดบั ปฐมวัย มาตรฐานการศกึ ษาระดบั ปฐมวัย พ.ศ. ๒๕๖๑ มจี ำนวน ๓ มาตรฐาน ไดแ้ ก่ มาตรฐานท่ี ๑ คณุ ภาพของเด็ก มาตรฐานท่ี ๒ กระบวนการบริหารและจัดการ มาตรฐานท่ี ๓ การจัดประสบการณ์ทเี่ น้นเด็กเปน็ สำคัญ มาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย พ.ศ. ๒๕๖๑ มรี ายละเอียด ดงั นี้ มาตรฐานท่ี ๑ คณุ ภาพของเดก็ ข้อที่ ๑ มีพัฒนาการด้านรา่ งกาย แขง็ แรง มสี ขุ นสิ ัยทดี่ ี และดูแลความปลอดภัยของ ตนเองได้ มาตรฐานการศึกษาโรงเรยี นบา้ นบงุ่ ฝาง ๑ .เด็กมนี ำ้ หนักสว่ นสงู ตามเกณฑ์กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสขุ และ เคลื่อนไหวร่างกาย คลอ่ งแคลว่ ประสานสัมพันธ์ และทรงตวั ได้ ๒.เดก็ สามารถปฏบิ ัติตามกจิ วัตรประจำวันของตนเองได้ ๓. เดก็ สามารถบอกโทษ หลกี เลีย่ ง ปฏิเสธส่ิงเสพตดิ และสภาวะท่เี สยี่ งต่อโรค อุบัติเหตุ สถานการณท์ เ่ี ส่ียงอันตราย คำอธิบาย เดก็ มีนำ้ หนัก ส่วนสงู ตามเกณฑม์ าตรฐาน มีรา่ งกายสมบูรณ์แขง็ แรงตามวัย และมี ทกั ษะการเคลือ่ นไหวรา่ งกาย มีการใชป้ ระสานสัมพันธ์ของกลา้ มเน้อื เล็ก กลา้ มเน้ือใหญ่ มือกับตา และทรงตวั ไดต้ ามวัย ปฏบิ ตั ิตามกจิ วตั รประจำวนั ของตนเองได้ และสามารถบอกโทษ หลีกเลีย่ ง ปฏเิ สธสิง่ เสพติด และสภาวะท่ีเสีย่ งต่อโรค อุบัติเหตุ สถานการณ์ท่เี สย่ี งอนั ตราย
๗ ระดับคุณภาพ การให้ระดับคุณภาพ กำลงั พฒั นา ประเดน็ พจิ ารณา ปานกลาง เดก็ น้อยกวา่ ร้อยละ ๕๐ - เดก็ มนี ำ้ หนัก สว่ นสงู ไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัย ดี กระทรวงสาธารณสุข เล่นและออกกำลังกายได้ประมาณ ๕ นาทแี ล้ว เหนื่อยงา่ ย และเคล่ือนไหวร่างกายได้อยา่ งล่าชา้ มีการประสานสมั พันธ์ ของกลา้ มเนื้อเล็ก กลา้ มเนอ้ื ใหญ่ มือกบั ตาไม่เป็นไปตามวัย และปฏบิ ตั ไิ ม่ สมำ่ เสมอ - เด็กน้อยกวา่ รอ้ ยละ ๕๐ ล้างมอื ก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้า หอ้ งน้ำ แปรงฟนั หลงั รบั ประทานอาหาร เลอื กรบั ประทานอาหารทีม่ ี ประโยชน์ และดูแลรักษาสขุ ภาพอนามัยส่วนตน ไดไ้ มค่ รบทกุ รายการ - เดก็ ไมส่ ามารถปฏบิ ตั ติ นเกีย่ วกับความปลอดภยั บอกโทษของสง่ิ เสพติด ปฏิเสธส่ิงเสพติด หลีกเล่ียงต่อสภาวะเสย่ี ง อบุ ตั เิ หตุ และสถานการณ์ท่ี เสี่ยงอนั ตรายได้ เด็กร้อยละ 50 – 59 - เดก็ มีน้ำหนัก ส่วนสูงเปน็ ไปตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ เลน่ และออกกำลังกายไดป้ ระมาณ ๕ นาที โดยไม่ เหน่ือยง่าย และเคล่ือนไหวรา่ งกายได้อย่างคล่องแคลว่ มีการประสาน สมั พนั ธข์ องกลา้ มเน้ือเล็ก กลา้ มเน้อื ใหญ่ มอื กบั ตาตามวัย และปฏบิ ัติ อยา่ งสมำ่ เสมอ - เดก็ ลา้ งมือก่อนรบั ประทานอาหารและหลังเขา้ ห้องน้ำ แปรงฟนั หลงั รบั ประทานอาหาร เลอื กรบั ประทานอาหารท่มี ีประโยชน์ และดูแลรกั ษา สุขภาพอนามยั สว่ นตน โดยมีครชู แ้ี นะ - เดก็ ปฏิบัตติ นเก่ียวกับความปลอดภัย บอกโทษของสิง่ เสพติด ปฏเิ สธสิ่ง เสพตดิ หลีกเลยี่ งต่อสภาวะเส่ียง อบุ ตั ิเหตุ และสถานการณ์ทเี่ สี่ยง อนั ตราย โดยมีครูชีแ้ นะ เด็กร้อยละ 60 – 69 - เด็กมีน้ำหนัก ส่วนสงู เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เลน่ และออกกำลังกายไดป้ ระมาณ ๕ นาที โดยไม่ เหนื่อยงา่ ย และเคลอ่ื นไหวร่างกายได้อย่างคลอ่ งแคล่ว มกี ารประสาน สมั พันธข์ องกล้ามเน้ือเล็ก กลา้ มเน้ือใหญ่ มอื กับตาตามวยั และปฏิบัติ อยา่ งสม่ำเสมอ - เด็กล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลังเขา้ ห้องนำ้ แปรงฟันหลัง รับประทานอาหาร เลอื กรบั ประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ และดแู ลรกั ษา สขุ ภาพอนามัยส่วนตน โดยมีครูชแ้ี นะ
๘ ระดบั คณุ ภาพ ประเดน็ พจิ ารณา ดเี ลศิ - เดก็ ปฏิบตั ิตนเกี่ยวกับความปลอดภัย บอกโทษของสง่ิ เสพติด ปฏเิ สธสงิ่ ยอดเยี่ยม เสพติด หลกี เลีย่ งต่อสภาวะเสี่ยง อุบตั ิเหตุ และสถานการณ์ทีเ่ ส่ียง อนั ตราย โดยมคี รูชี้แนะ เด็กร้อยละ 70 – 79 - เดก็ มนี ำ้ หนัก ส่วนสงู เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ เลน่ และออกกำลังกายไดป้ ระมาณ ๕ นาที โดยไม่ เหนื่อยงา่ ย และเคลอ่ื นไหวร่างกายได้อยา่ งคลอ่ งแคล่ว มกี ารประสาน สมั พนั ธข์ องกลา้ มเนื้อเลก็ กลา้ มเน้ือใหญ่ มือกับตาตามวยั และปฏบิ ตั ิ อย่างสมำ่ เสมอ - เดก็ ลา้ งมือก่อนรับประทานอาหารและหลังเขา้ ห้องนำ้ แปรงฟนั หลงั รับประทานอาหาร เลอื กรับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ และดูแลรักษา สุขภาพอนามยั สว่ นตน โดยมีครูชีแ้ นะ - เด็กปฏบิ ตั ิตนเกี่ยวกับความปลอดภัย บอกโทษของสิ่งเสพติด ปฏิเสธสิ่ง เสพตดิ หลกี เลย่ี งต่อสภาวะเส่ยี ง อบุ ตั ิเหตุ และสถานการณ์ท่เี สี่ยง อันตราย โดยมีครชู ้ีแนะ เดก็ มากกวา่ ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป - มนี ำ้ หนกั สว่ นสงู เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัย กระทรวง สาธารณสุข เล่นและออกกำลังกายได้ประมาณ ๕ นาที โดยไมเ่ หน่ือยง่าย และเคล่ือนไหวร่างกายได้อยา่ งคล่องแคลว่ มกี ารประสานสัมพันธข์ อง กลา้ มเนอ้ื เล็ก กลา้ มเนื้อใหญ่ มือกบั ตาตามวัย และปฏบิ ตั อิ ยา่ งสม่ำเสมอ - เด็กลา้ งมือก่อนรบั ประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ แปรงฟนั หลงั รับประทานอาหาร เลือกรับประทานอาหารทม่ี ีประโยชน์ และดแู ลรักษา สขุ ภาพอนามัยส่วนตน โดยมคี รูชี้แนะ - เด็กปฏบิ ตั ิตนเก่ยี วกับความปลอดภยั บอกโทษของสงิ่ เสพติด ปฏิเสธสงิ่ เสพตดิ หลีกเลยี่ งต่อสภาวะเสย่ี ง อุบัตเิ หตุ และสถานการณ์ท่ีเสยี่ ง อันตราย โดยมีครูชีแ้ นะใหญ่ มือกบั ตาตามวัย และปฏบิ ตั ิอย่างสมำ่ เสมอ วธิ เี กบ็ รวบรวมข้อมลู /แหล่งข้อมูล แหล่งข้อมูล วิธเี กบ็ รวบรวมข้อมูล ครูผู้ปกครองบุคคลตา่ งๆทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ๑.การสมั ภาษณ์/สอบถาม ๒.การสงั เกต พฤติกรรมของเด็ก ตัวเด็ก ๓.เอกสาร หลักฐาน รอ่ งรอย การปฏบิ ัติงาน หรอิ ขอ้ มลู เชงิ - โครงการส่งเสรมิ สุขภาพนักเรยี น ประจักษ์ - งานอนามัยโรงเรยี น - โครงการอาหารกลางวัน
๙ วิธเี ก็บรวบรวมขอ้ มลู แหล่งข้อมลู - กิจกรรมสุขภาพดีกีฬาเดน่ - กจิ กรรมหลกั ๖ กิจกรรม จากแผนการจดั ประสบการณ์ - สมดุ รายงานประจำตวั เด็ก - สมุดบันทึกพฒั นาการนกั เรยี น - บนั ทกึ นำ้ หนัก ส่วนสูงของเดก็ - บนั ทึกการสังเกต ข้อท่ี ๒. มพี ัฒนาการดา้ นอารมณ์ จิตใจ ควบคมุ และแสดงออกทางอารมณไ์ ด้ มาตรฐานการศกึ ษาโรงเรียนบ้านบงุ่ ฝาง ๑.เดก็ รา่ เรงิ แจม่ ใส สนุกสนานสมวยั แสดงความรู้สกึ ความพึงพอใจในผลงาน ของ ตนเองและผ้อู ืน่ ชื่นชมและมีความสุขกับงานศิลปะ ร้องเพลง และเคลื่อนไหวประกอบจังหวะได้อย่าง เหมาะสมกับวยั ๒.เดก็ มคี วามมนั่ ใจ กล้าแสดงออก เคารพสทิ ธขิ์ องผ้อู ื่น มีความรบั ผดิ ชอบ สามารถปฏิบัตกิ จิ กรรมได้ รู้จักอดทนในการรอคอยตามลำดับกอ่ น-หลังได้ ๓.เด็กมีความซื่อสตั ยส์ จุ ริต ชว่ ยเหลอื แบง่ ปัน มีคุณธรรม จรยิ ธรรมตามที่ สถานศึกษากำหนด คำอธบิ าย เด็กแสดงอารมณ์รา่ เรงิ สดชน่ื แจ่มใส สนกุ สนานกับการทำกจิ กรรม ยอมรบั ฟังและ พอใจในผลงานของตนเองและผอู้ ่ืน ช่นื ชมและมคี วามสุขกับงานศิลปะ วาดรูประบายสี ชอบฟังนทิ าน รอ้ งเพลง และการเตน้ เคล่ือนไหวประกอบจงั หวะได้อยา่ งเหมาะสมกบั วยั มคี วามม่ันใจในตนเอง กลา้ พูด กล้าทำ กลา้ แสดงออก กลา้ แสดงความคดิ เห็นในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ เคารพสิทธิข์ อง ผอู้ น่ื มีความรับผดิ ชอบสามารถปฏิบัตกิ ิจกรรมไดต้ ้ังแต่ตน้ จนจบ โดยไมล่ ม้ เลกิ กลางคนั รู้จกั อดทน ในการรอคอยตามลำดบั ก่อน-หลงั ได้เหมาะสมกับวยั และมีความซ่อื สัตย์สุจรติ ไมน่ ำทรัพยส์ นิ คนอืน่ มาเปน็ ของตนเอง มนี ำ้ ใจชอบชว่ ยเหลือ เอ้ือเฟ่ือ แบ่งปันผู้อ่นื มคี ณุ ธรรม จริยธรรม ยอมรบั ผิดเมื่อ ตนเองกระทำผิด
๑๐ ระดบั คุณภาพ การให้ระดับคุณภาพ กำลังพฒั นา ปานกลาง ประเดน็ พจิ ารณา ดี เด็กน้อยกวา่ ร้อยละ ๕๐ - เด็กมีพฤติกรรม ไม่ร่าเรงิ แจ่มใส ไม่แสดงความรสู้ กึ ความพึงพอใจใน ผลงานของตนเองและชื่นชมมีความสุขกบั งานศิลปะ ร้องเพลง และ เคลื่อนไหวประกอบจงั หวะ - เดก็ มีพฤติกรรม ไม่มีความม่ันใจในตนเอง ไม่กล้าแสดงออก ไม่ เคารพสทิ ธิ์ของผู้อนื่ ไม่มคี วามรบั ผดิ ชอบ และไม่รจู้ กั อดทนในการรอ คอยตามลำดับก่อน-หลัง - เด็กมีพฤติกรรมไม่สามารถบอกได้ว่าสง่ิ ใดเป็นของตนเองและผู้อนื่ หรอื พูดปด ไม่ยอมรับผดิ เมื่อตนเองกระทำผิด ไมม่ ีนำ้ ใจชว่ ยเหลือ แบง่ ปันผู้อืน่ เด็กรอ้ ยละ ๕๐ - ๕๙ - เดก็ มีพฤติกรรม ร่าเริงแจม่ ใส สนกุ สนานสมวัย แสดงความรู้สึกความ พึงพอใจในผลงานของตนเองและผอู้ ืน่ ช่ืนชมและมีความสขุ กับงาน ศิลปะ รอ้ งเพลง และเคลื่อนไหวประกอบจังหวะไดเ้ หมาะสม โดยมี ครูคอยแนะนำ - เดก็ มีพฤติกรรม มีความมัน่ ใจในตนเอง กลา้ พูด กลา้ ทำ กลา้ แสดงออก กล้าแสดงความคดิ เห็น เคารพสิทธิ์ของผู้อ่นื มคี วาม รบั ผิดชอบสามารถปฏิบตั ิกจิ กรรมได้ตัง้ แต่ต้นจนจบ โดยไม่ล้มเลกิ กลางคัน รจู้ กั อดทนในการรอคอยตามลำดบั ก่อน-หลังได้เหมาะสม โดยมีครูคอยแนะนำ - เดก็ มีพฤติกรรมสามารถบอกไดว้ า่ สงิ่ ใดเปน็ ของตนเองและผู้อื่น ยอมรบั ผดิ เม่ือตนเองกระทำผิด มีนำ้ ใจชว่ ยเหลอื แบ่งปนั ผู้อ่ืน โดยมี ครูคอยแนะนำ เด็กร้อยละ ๖๐ – ๖๙ - เด็กมีพฤติกรรม ร่าเริงแจม่ ใส สนุกสนานสมวยั แสดงความรู้สกึ ความ พึงพอใจในผลงานของตนเองและผ้อู ืน่ ชนื่ ชมและมีความสุขกบั งาน ศิลปะ ร้องเพลง และเคลอื่ นไหวประกอบจงั หวะไดเ้ หมาะสม - เด็กมีมีความมน่ั ใจในตนเอง กล้าพดู กล้าทำ กลา้ แสดงออก กล้า แสดงความคิดเหน็ เคารพสิทธ์ขิ องผู้อ่ืน มีความรับผดิ ชอบสามารถ ปฏิบัตกิ ิจกรรมไดต้ งั้ แต่ตน้ จนจบโดยไม่ล้มเลกิ กลางคนั ร้จู กั อดทนใน การรอคอยตามลำดับก่อน-หลงั ได้เหมาะสมในทุกสถานการณ์ บางครั้ง
๑๑ ระดบั คณุ ภาพ ประเดน็ พิจารณา ดีเลิศ - เด็กมีสามารถบอกได้ว่าส่งิ ใดเป็นของตนเองและผู้อืน่ ยอมรับผดิ เม่อื ยอดเย่ียม ตนเองกระทำผดิ มีนำ้ ใจชว่ ยเหลอื แบ่งปันผอู้ ่ืนได้เหมาะสม เด็กร้อยละ ๗๐ – ๗๙ - เดก็ มีพฤติกรรม รา่ เริงแจ่มใส สนุกสนานสมวัย แสดงความรู้สกึ ความ พงึ พอใจในผลงานของตนเองและผ้อู ่นื ช่นื ชมและมีความสุขกบั งาน ศลิ ปะ รอ้ งเพลง และเคลอ่ื นไหวประกอบจงั หวะได้เหมาะสมในทกุ สถานการณ์บางคร้งั - เด็กมีพฤติกรรม มคี วามม่นั ใจในตนเอง กล้าพูด กลา้ ทำ กล้า แสดงออก กล้าแสดงความคดิ เหน็ เคารพสทิ ธขิ์ องผ้อู น่ื มคี วาม รบั ผิดชอบสามารถปฏบิ ตั ิกจิ กรรมได้ต้ังแต่ต้นจนจบ โดยไม่ล้มเลิก กลางคนั รจู้ กั อดทนในการรอคอยตามลำดบั ก่อน-หลังไดเ้ หมาะสมใน ทุกสถานการณ์ - เดก็ มีสามารถบอกได้ว่าสิ่งใดเปน็ ของตนเองและผอู้ ่ืน ยอมรับผดิ เม่ือ ตนเองกระทำผดิ มีนำ้ ใจช่วยเหลอื แบง่ ปันผู้อื่นได้เหมาะสมในทุก สถานการณบ์ างคร้ัง เด็กมากกวา่ รอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป - เดก็ มีพฤติกรรม ร่าเริงแจ่มใส สนุกสนานสมวัย แสดงความรู้สึกความ พึงพอใจในผลงานของตนเองและผู้อน่ื ชน่ื ชมและมีความสขุ กบั งาน ศิลปะ ร้องเพลง และเคลือ่ นไหวประกอบจงั หวะได้อยา่ งสม่ำเสมอ - เด็กมีพฤติกรรม มคี วามม่นั ใจในตนเอง กลา้ พดู กลา้ ทำ กลา้ แสดงออก กลา้ แสดงความคดิ เห็น เคารพสทิ ธิ์ของผอู้ น่ื มีความ รบั ผิดชอบสามารถปฏิบตั ิกจิ กรรมได้ตงั้ แตต่ ้นจนจบ โดยไม่ลม้ เลิก กลางคัน รูจ้ กั อดทนในการรอคอยตามลำดบั ก่อน-หลงั ไดเ้ หมาะสมใน ทุกสถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ - เด็กมสี ามารถบอกได้ว่าส่งิ ใดเป็นของตนเองและผอู้ ่ืน ยอมรับผิดเม่อื ตนเองกระทำผดิ มนี ้ำใจช่วยเหลอื แบง่ ปันผอู้ ื่นได้เหมาะสมในทุก สถานการณ์อยา่ งสม่ำเสมอ วิธเี ก็บรวบรวมขอ้ มูล/แหล่งขอ้ มูล แหลง่ ข้อมลู ครผู ปู้ กครองบคุ คลตา่ งๆท่เี ก่ียวข้อง วธิ เี ก็บรวบรวมขอ้ มูล พฤติกรรมของเด็ก ตัวเดก็ ๑.การสัมภาษณ์/สอบถาม ๒.การสงั เกต
๑๒ วิธเี กบ็ รวบรวมข้อมลู แหล่งข้อมลู ๓.เอกสาร หลกั ฐาน - กจิ กรรมสง่ เสริมประชาธปิ ไตย ร่องรอยการปฏิบตั งิ าน หรือ - กิจกรรมหลกั ๖ กจิ กรรม ขอ้ มูลเชิงประจักษ์ - กิจกรรมเพ่ือส่งเสริมคา่ นิยมพนื้ ฐาน 12 ประการ - บนั ทกึ พฤติกรรมเดก็ - ชิ้นงาน/ผลงานเด็ก - แผนการจัดประสบการณ์ บันทึกผลหลงั การจดั ประสบการณ์ - ภาพถา่ ย - แบบประเมินพฒั นาการเด็ก ข้อท่ี ๓. มพี ัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาชิกทดี่ ีของสังคม มาตรฐานการศึกษาโรงเรียนบา้ นบ่งุ ฝาง ๑.เด็กปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของตนเอง มีนิสัยรักการออมเป็นอัตลักษณ์ของ โรงเรียน ๒.เด็กเล่นและทำงานรว่ มกบั ผ้อู ่ืนได้ มีระเบียบวนิ ัย มีสว่ นช่วยดูแลรักษาสิง่ แวดล้อม ในและนอกห้องเรยี นใหส้ ะอาด ๓.เด็กมมี ารยาท ตามวฒั นธรรมไทย และยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อืน่ ได้ คำอธบิ าย เดก็ ช่วยเหลือตนเองในการเก็บของเล่นเขา้ ท่ี การแปรงฟนั การเขา้ หอ้ งนำ้ การ รบั ประทานอาหารดว้ ยตนเอง ปดิ น้ำเมื่อเลกิ ใช้ รินน้ำดมื่ แล้วดื่มหมดแก้ว รู้จกั ประหยดั อดออม สามารถเลน่ และทำงานร่วมกับผ้อู ่นื ได้ มีระเบียบวินัย ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงของหอ้ งเรียน มีส่วนช่วย ดแู ลรักษาสงิ่ แวดล้อมในและนอกห้องเรียนใหส้ ะอาด นั่งสมาธกิ อ่ นเรียนและเข้ารว่ มตกั บาตรข้าวสาร อาหารแหง้ ในวันสำคัญทางพระพทุ ธศาสนา มีมารยาทในการไหว้ การย้มิ ทักทาย และมสี ัมมาคารวะ กบั ผู้ใหญ่ ยอมรับฟังความคิดเหน็ ของเพ่ือนในการทำงานร่วมกนั ระดับคณุ ภาพ การใหร้ ะดับคณุ ภาพ กำลังพัฒนา ประเด็นพิจารณา เดก็ นอ้ ยกว่าร้อยละ ๕๐ - เด็กชว่ ยเหลอื ตนเองในการเก็บของเล่นเขา้ ที่ การแปรงฟนั การ เขา้ ห้องน้ำ การรนิ นำ้ ด่ืมเอง การรับประทานอาหารด้วยตนเอง รจู้ กั ประหยดั อดออม มีการออมทรัพยข์ องเด็กได้ไม่ครบทกุ
๑๓ ระดบั คุณภาพ ประเด็นพจิ ารณา ปานกลาง ดี รายการ - เดก็ ไมส่ ามารถเลน่ และทำงานร่วมกับผอู้ น่ื ได้ ไม่มีระเบียบวินยั ไม่ ปดิ นำ้ เม่ือเลิกใช้ รนิ นำ้ ดม่ื แล้วดม่ื ไมห่ มดแกว้ ไมส่ ามารถปฏบิ ัติ ตามข้อตกลงของห้องเรยี น และไม่มีสว่ นชว่ ยดูแลรกั ษาส่งิ แวดลอ้ ม ในและนอกห้องเรยี นให้สะอาด - เด็กไม่สามารถเด็กนงั่ สมาธิกอ่ นเรียนและไม่เขา้ ร่วมตักบาตร ขา้ วสารอาหารแหง้ ในวนั สำคัญทางพระพุทธศาสนา ไมม่ มี ารยาท ในการไหว้ การย้ิม ทักทาย และมสี มั มาคารวะกบั ผู้ใหญ่ ไม่ ยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของเพื่อนในการทำงานรว่ มกนั เดก็ ร้อยละ ๕๐ – ๕๙ - เด็กชว่ ยเหลือตนเองในการเก็บของเลน่ เข้าท่ี การแปรงฟัน การ เขา้ ห้องนำ้ การรนิ นำ้ ด่มื เอง การรับประทานอาหารด้วยตนเอง รู้จักประหยดั อดออม มีการออมทรัพย์ของเด็ก โดยมีครูชีแ้ นะ - เด็กเล่นและทำงานรว่ มกับผู้อ่ืนได้ มีระเบยี บวนิ ยั ปดิ น้ำเมอื่ เลิกใช้ รนิ นำ้ ดม่ื แลว้ ดมื่ หมดแก้ว ปฏบิ ัติตามข้อตกลงของหอ้ งเรยี น มีสว่ น ชว่ ยดแู ลรกั ษาสง่ิ แวดล้อมในและนอกหอ้ งเรยี นใหส้ ะอาดโดยมีผู้ ช้แี นะ - เดก็ นง่ั สมาธกิ ่อนเรียนและเขา้ รว่ มตกั บาตรขา้ วสารอาหารแหง้ ใน วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา มมี ารยาทในการไหว้ การยิ้ม ทกั ทาย และมสี ัมมาคารวะกับผใู้ หญ่ ยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของ เพอ่ื นในการทำงานร่วมกนั โดยมีผชู้ ีแ้ นะ เดก็ รอ้ ยละ ๖๐ -๖๙ - เด็กช่วยเหลือตนเองในการเก็บของเลน่ เขา้ ที่ การแปรงฟัน การ เขา้ ห้องนำ้ การรนิ นำ้ ดื่มเอง การรับประทานอาหารด้วยตนเอง รู้จักประหยัดอดออม มีการออมทรัพยข์ องเด็กได้ด้วยตนเอง - เด็กเล่นและทำงานรว่ มกับผ้อู ื่นได้ มรี ะเบยี บวินัย ปิดนำ้ เมื่อเลิกใช้ รนิ นำ้ ด่มื แลว้ ดม่ื หมดแก้ว ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงของห้องเรียน มสี ว่ น ชว่ ยดแู ลรักษาสิง่ แวดลอ้ มในและนอกหอ้ งเรียนใหส้ ะอาด บอ่ ยครงั้ - เด็กน่งั สมาธิก่อนเรยี นและเขา้ ร่วมตกั บาตรขา้ วสารอาหารแหง้ ใน วนั สำคญั ทางพระพุทธศาสนา มีมารยาทในการไหว้ การยิ้ม ทักทาย และมสี มั มาคารวะกับผู้ใหญ่ ยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของ เพอ่ื นในการทำงานรว่ มกันบ่อยครง้ั
๑๔ ระดับคุณภาพ ประเด็นพิจารณา ดเี ลศิ เด็กรอ้ ยละ ๗๐ – 7๙ - เดก็ ช่วยเหลือตนเองในการเก็บของเลน่ เขา้ ท่ี การแปรงฟนั การ ยอดเยี่ยม เขา้ หอ้ งนำ้ การรินนำ้ ดม่ื เอง การรับประทานอาหารด้วยตนเอง รจู้ ักประหยัดอดออม มีการออมทรัพยข์ องเด็กอย่างสมำ่ เสมอ - เดก็ เลน่ และทำงานรว่ มกับผูอ้ ื่นได้ มรี ะเบยี บวินัย ปิดนำ้ เม่ือเลิกใช้ รนิ นำ้ ดม่ื แลว้ ด่ืมหมดแกว้ ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงของห้องเรยี น มีสว่ น ชว่ ยดูแลรักษาสงิ่ แวดล้อมในและนอกหอ้ งเรยี นให้สะอาดได้ดว้ ย ตนเองเกือบทุกคร้ัง - เดก็ น่ังสมาธกิ ่อนเรยี นและเขา้ ร่วมตกั บาตรข้าวสารอาหารแหง้ ใน วนั สำคัญทางพระพุทธศาสนา มีมารยาทในการไหว้ การยิ้ม ทักทาย และมสี มั มาคารวะกับผู้ใหญ่ ยอมรับฟังความคดิ เหน็ ของ เพอ่ื นในการทำงานรว่ มกันได้ด้วยตนเองเกือบทุกคร้ัง เดก็ มากกวา่ ร้อยละ 80 ขึ้นไป - เด็กช่วยเหลือตนเองในการเก็บของเล่นเขา้ ที่ การแปรงฟนั การ เขา้ ห้องนำ้ การรินน้ำดืม่ เอง การรับประทานอาหารดว้ ยตนเอง รู้จกั ประหยัดอดออม มีการออมทรัพย์ของเด็กอย่างสมำ่ เสมอ จน เป็นนิสัย - เด็กเล่นและทำงานร่วมกับผอู้ ่ืนได้ มีระเบียบวินัย ปิดน้ำเมื่อเลกิ ใช้ รนิ น้ำด่ืมแลว้ ด่มื หมดแกว้ ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงของห้องเรยี น มีส่วน ชว่ ยดูแลรักษาส่ิงแวดลอ้ มในและนอกหอ้ งเรยี นให้สะอาดไดต้ นเอง ทกุ ครั้ง เปน็ นิสยั - เดก็ นั่งสมาธกิ ่อนเรยี นและเข้าร่วมตกั บาตรขา้ วสารอาหารแหง้ ใน วนั สำคญั ทางพระพทุ ธศาสนา มมี ารยาทในการไหว้ การยิ้ม ทกั ทาย และมีสมั มาคารวะกับผูใ้ หญ่ ยอมรับฟังความคิดเหน็ ของ เพื่อนในการทำงานร่วมกันได้ตนเองทุกครั้ง เปน็ นิสยั วิธีเก็บรวบรวมขอ้ มูล/แหล่งขอ้ มูล แหล่งข้อมลู วธิ ีเกบ็ รวบรวมข้อมูล
๑๕ วิธีเก็บรวบรวมข้อมลู แหลง่ ข้อมูล ๑.การสมั ภาษณ/์ สอบถาม ครผู ปู้ กครองบคุ คลตา่ งๆที่เก่ียวขอ้ ง ๒.การสังเกต พฤติกรรมของเด็ก ตวั เดก็ ๓.เอกสาร หลกั ฐาน - ระบบดูแลชว่ ยเหลือนกั เรียน รอ่ งรอยการปฏบิ ตั ิงาน หรือ - โครงการสง่ เสรมิ ประชาธิปไตย ข้อมูลเชิงประจักษ์ - โครงการส่งเสริมสขุ ภาพนักเรียน - กิจกรรมหลัก ๖ กจิ กรรม จากแผนการจัดประสบการณ์ - บนั ทึกพฤตกิ รรมเด็ก - ช้ินงาน/ผลงานเด็ก - แผนการจัดประสบการณ์และบนั ทึกผลหลังการจดั ประสบการณ์ - ภาพถา่ ย - แบบประเมนิ พฒั นาการเด็ก ขอ้ ท่ี ๔ มพี ัฒนาการดา้ นสติปัญญา ส่ือสารได้ มที ักษะการคิดพนื้ ฐาน และแสวงหาความรู้ได้ มาตรฐานการศกึ ษาโรงเรียนบา้ นบงุ่ ฝาง ๑.เดก็ สนทนาโตต้ อบ อ่านนทิ าน และเล่าเรื่องใหผ้ ้อู ืน่ เขา้ ใจ ตง้ั คำถาม และคน้ หา คำตอบ ในสิง่ ทต่ี นเองสนใจหรือสงสัยได้เหมาะสมกับวยั ๒.เด็กมีความสามารถในการคิดรวบยอด คดิ เชงิ เหตุผลทางคณติ ศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ คดิ แก้ปัญหาเร่ืองง่ายๆ และสร้างสรรค์ผลงานตามจนิ ตนาการ ๓.เด็กใช้ส่ือเทคโนโลยีในการแสวงหาความรู้ คำอธบิ าย เดก็ มีความสนใจและมีทักษะในการอ่านนิทานดว้ ยการเปดิ หนังสอื โดยไม่กลับหัว เปิด จากหน้าไปหลัง และเล่าเรื่องท่ีตนเองอ่านได้ สนทนาโต้ตอบ ตั้งคำถามในส่ิงท่ีตนเองสนใจหรือสงสัย เด็กต้ังคำถามในสิ่งที่ตนเองสนใจหรือสงสัยและพยายามค้นหาคำตอบโดยใช้กระบ วนการทาง วิทยาศาสตร์ จำแนกประเภท จัดหมวดหมู่ บอกความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆที่เกิดจากการเรียนรู้ มี ความสามารถในการคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผลทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ การคิดแก้ปญั หา และสามารถตัดสินใจในเร่ืองง่าย ๆ สร้างสรรค์ผลงานตามความคิดและจินตนาการด้วยการสร้างงาน ศิลปะขีดเขียนเส้นลักษณะต่างๆ เพื่อสื่อความหมาย เขียนและอธิบายสิ่งท่ีตนเองวาดให้ผู้อื่นเข้าใจได้ การเคล่ือนไหวท่าทาง การเล่นอิสระตามมุม ต่างๆ เด็กใช้สื่อเทคโนโลยี เช่น กิจกรรมบ้าน นักวทิ ยาศาสตร์น้อย แว่นขยาย แม่เหล็ก อุปกรณ์การทดลองต่างๆ เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และ แสวงหาความรูไ้ ด้ด้วยตนเอง โดยการเลน่ เรยี นรู้ผ่านสื่อตา่ งๆ และคอมพวิ เตอร์
๑๖ ระดับคณุ ภาพ การใหร้ ะดับคุณภาพ กำลงั พัฒนา ประเดน็ พิจารณา ปานกลาง เด็กน้อยกว่าร้อยละ ๕๐ - เด็กไม่มีความสนใจและมีทักษะในการอา่ นนทิ านด้วยการเปิด ระดบั คณุ ภาพ ดี หนงั สือ ยงั กลบั หัว ไม่สามารถเปดิ จากหน้าไปหลงั และเล่า เรอ่ื งทต่ี นเองอา่ นได้ สนทนาโต้ตอบ ตง้ั คำถามในสิ่งท่ีตนเอง สนใจหรอื สงสยั ของตนเองไม่ได้ - เด็กไมม่ ีความสามารถในการคิดรวบยอด คิดเชิงเหตผุ ลทาง คณติ ศาสตร์และวิทยาศาสตร์ คิดแก้ปัญหาเร่ืองง่ายๆ และ สรา้ งสรรคผ์ ลงานตามจินตนาการ - เดก็ ไม่สามารถใชส้ ่อื เทคโนโลยี เชน่ กิจกรรมบา้ น นกั วทิ ยาศาสตร์น้อย แวน่ ขยาย แม่เหล็ก อุปกรณก์ ารทดลอง ต่างๆ เปน็ เคร่ืองมือในการเรยี นรู้และแสวงหาความรู้ไดด้ ้วย ตนเอง โดยการเล่นและเรยี นรูผ้ า่ นส่อื ตา่ งๆและคอมพวิ เตอร์ เด็กรอ้ ยละ ๕๐ - ๕๙ - เดก็ มคี วามสนใจและมที กั ษะในการอ่านนิทานด้วยการเปิด หนังสอื โดยไม่กลบั หวั เปดิ จากหน้าไปหลงั และเล่าเรอื่ งท่ี ตนเองอา่ นได้ สนทนาโตต้ อบ ตั้งคำถามในสิง่ ท่ตี นเองสนใจหรือ สงสยั โดยมผี ชู้ แี้ นะ - เด็กมคี วามสามารถในการคิดรวบยอด คิดเชิงเหตุผลทาง คณติ ศาสตร์และวิทยาศาสตร์ คิดแกป้ ัญหาเร่ืองง่ายๆ และ สรา้ งสรรคผ์ ลงานตามจินตนาการโดยมีผู้ชี้แนะ - เดก็ สามารถใชส้ อ่ื เทคโนโลยี เชน่ กจิ กรรมบา้ นนกั วิทยาศาสตร์ น้อย แว่นขยาย แม่เหล็ก อุปกรณ์การทดลองต่างๆ เป็น เครอื่ งมือในการเรยี นรู้และแสวงหาความรู้ได้ดว้ ยตนเอง โดย การเลน่ และเรียนรูผ้ า่ นส่อื ตา่ งๆและคอมพวิ เตอร์โดยมผี ู้ชี้แนะ ประเดน็ พิจารณา เด็กร้อยละ ๖๐ – ๖๙ - เดก็ มีความสนใจและมีทักษะในการอ่านนิทานด้วยการเปิด หนงั สอื โดยไม่กลับหัว เปดิ จากหนา้ ไปหลงั และเลา่ เรอื่ งที่
๑๗ ระดบั คณุ ภาพ ประเด็นพจิ ารณา ดเี ลศิ ตนเองอ่านได้ สนทนาโตต้ อบ ตั้งคำถามในสิง่ ท่ีตนเองสนใจหรอื สงสยั บอ่ ยคร้ัง - เดก็ มีความสามารถในการคิดรวบยอด คดิ เชงิ เหตุผลทาง คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ คิดแก้ปัญหาเร่ืองง่ายๆ และ สร้างสรรค์ผลงานตามจินตนาการได้บ่อยครั้ง - เด็กสามารถใช้ส่ือเทคโนโลยี เชน่ กจิ กรรมบ้านนกั วิทยาศาสตร์ น้อย แวน่ ขยาย แมเ่ หลก็ อุปกรณ์การทดลองต่างๆ เป็น เครอ่ื งมอื ในการเรียนรู้และแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง โดย การเล่นและเรียนรู้ผา่ นสอื่ ต่างๆและคอมพิวเตอร์ได้บ่อยครง้ั เดก็ ร้อยละ ๗๐ – ๗๙ - เดก็ มคี วามสนใจและมที กั ษะในการอา่ นนิทานด้วยการเปิด หนังสอื โดยไม่กลบั หวั เปดิ จากหน้าไปหลงั และเลา่ เรอ่ื งที่ ตนเองอ่านได้ สนทนาโต้ตอบ ตั้งคำถามในส่งิ ท่ตี นเองสนใจหรอื สงสัยได้ดว้ ยตนเองเกอื บทกุ ครงั้ - เดก็ มคี วามสามารถในการคดิ รวบยอด คดิ เชงิ เหตุผลทาง คณิตศาสตร์และวทิ ยาศาสตร์ คิดแกป้ ัญหาเรื่องง่ายๆ และ สร้างสรรคผ์ ลงานตามจนิ ตนาการได้ตนเองเกือบทกุ ครง้ั - เด็กไมส่ ามารถใชส้ ่ือเทคโนโลยี เชน่ กจิ กรรมบา้ น นกั วิทยาศาสตร์น้อย แว่นขยาย แม่เหล็ก อปุ กรณ์การทดลอง ตา่ งๆ เปน็ เคร่ืองมือในการเรียนรแู้ ละแสวงหาความรู้ได้ด้วย ตนเอง โดยการเล่นและเรียนรผู้ ่านส่ือต่างๆและคอมพวิ เตอร์ได้ ด้วยตนเองเกือบทุกคร้งั
๑๘ ระดับคุณภาพ ประเดน็ พจิ ารณา ยอดเย่ียม เด็กมากกว่าร้อยละ 80 ข้ึนไป - เดก็ มคี วามสนใจและมีทกั ษะในการอ่านนิทานดว้ ยการเปดิ หนงั สอื โดยไม่กลบั หัว เปิดจากหนา้ ไปหลงั และเลา่ เร่ืองท่ี ตนเองอ่านได้ สนทนาโต้ตอบ ต้งั คำถามในสง่ิ ที่ตนเองสนใจ หรือ สงสยั ได้ตนเองทุกคร้งั เป็นนสิ ัย - เดก็ มคี วามสามารถในการคดิ รวบยอด คดิ เชงิ เหตุผลทาง คณิตศาสตร์และวทิ ยาศาสตร์ คดิ แก้ปญั หาเร่ืองง่ายๆ และ สร้างสรรคผ์ ลงานตามจนิ ตนาการไดต้ นเองทกุ ครั้ง - เดก็ ไมส่ ามารถใช้สอ่ื เทคโนโลยี เช่น กจิ กรรมบา้ น นกั วิทยาศาสตรน์ ้อย แวน่ ขยาย แมเ่ หลก็ อุปกรณ์การทดลอง ตา่ งๆ เป็นเครื่องมือในการเรยี นรูแ้ ละแสวงหาความรู้ได้ด้วย ตนเอง โดยการเล่นและเรียนรู้ผ่านส่อื ต่างๆและคอมพวิ เตอร์ได้ ด้วยตนเองทุกครัง้ วิธเี ก็บรวบรวมขอ้ มลู /แหล่งข้อมูล วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล แหลง่ ข้อมลู ๑.การสัมภาษณ/์ สอบถาม ครผู ูป้ กครองบคุ คลตา่ งๆทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ๒.การสงั เกต พฤติกรรมของเด็ก ตัวเด็ก ๓.เอกสาร หลกั ฐาน - โครงการบา้ นนักวทิ ยาศาสตร์น้อย รอ่ งรอยการปฏบิ ัตงิ าน หรอื - วิจัยในชั้นเรยี น ขอ้ มูลเชิงประจักษ์ - บนั ทกึ พฤติกรรมเดก็ - แผนการจัดประสบการณแ์ ละบันทกึ ผลหลังการจดั ประสบการณ์ - ภาพถ่าย - แบบประเมนิ พัฒนาการเด็ก
๑๙ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ ข้อที่ ๑ มหี ลักสตู รครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน สอดคล้องกับบรบิ ทของท้องถ่นิ มาตรฐานการศึกษาโรงเรียนบ้านบุ่งฝาง ๑.สถานศึกษามีหลกั สตู รสถานศกึ ษาท่ยี ดื หยนุ่ และสอดคล้องกับหลักสตู ร การศึกษาปฐมวัย และบริบทของท้องถ่นิ โดยบรู ณาการการจัดการเรยี นรู้ บา้ นนกั วทิ ยาศาสตรน์ ้อย และเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๒.สถานศกึ ษาออกแบบการจัดประสบการณ์เตรียมความพร้อม เน้นการ เรียนรู้ผา่ นการเลน่ และลงมือปฏบิ ัติจริงตามความสนใจ และความแตกต่างระหวา่ งบุคคล ๓.มีการวจิ ยั เพ่อื พฒั นาคุณภาพการศกึ ษา ๔.การพัฒนาส่อื นวัตกรรม และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา คำอธบิ าย สถานศึกษามีหลักสูตรสถานศึกษาท่ียืดหยุ่น และสอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษา ปฐมวัย โดยสถานศึกษาออกแบบการจัดประสบการณ์ที่เตรียมความพร้อมและไม่เร่งรัดวิชาการ เน้น การเรียนรู้ ผ่านการเล่นและการลงมือปฏิบัติตอบสนองความต้องการและความแตกต่างของเด็กปกติ และกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ มีการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา พัฒนาสื่อ นวตั กรรม การเรียนการ สอนและสอดคล้องกับวิถีชีวิตของครอบครัว ชุมชนและท้องถิ่น สถานศึกษาได้มีการจัดกิจกรรมการ เรยี นรู้ สะเตม็ ศึกษา บา้ นนักวิทยาศาสตร์น้อย และเศรษฐกจิ พอเพยี ง ระดบั คุณภาพ การใหร้ ะดับคุณภาพ กำลงั พัฒนา ประเด็นพิจารณา (น้อยกว่า - สถานศึกษามหี ลักสูตรสถานศึกษาทยี่ ืดหยุน่ และสอดคลอ้ งกับ ร้อยละ 50) หลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั ปานกลาง - สถานศกึ ษาไมม่ ีการออกแบบการจดั ประสบการณเ์ ตรยี มความ (รอ้ ยละ 50-59) พร้อม เนน้ การเรียนร้ผู า่ นการเลน่ และลงมือปฏบิ ัติจรงิ - ไม่มีการวจิ ยั เพ่ือพฒั นาคุณภาพการศึกษา - ไมม่ ีการพฒั นาสื่อ นวตั กรรม และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา - สถานศกึ ษามหี ลักสตู รสถานศึกษาทย่ี ดื หยุ่นและสอดคลอ้ งกับ หลักสตู รการศึกษาปฐมวยั และบริบทของท้องถ่ิน โดยบูรณาการ การจดั การเรยี นรู้ - สถานศึกษามีการออกแบบการจดั ประสบการณ์เตรยี มความพรอ้ ม เนน้ การเรยี นร้ผู า่ นการเล่นและลงมือปฏบิ ตั ิจรงิ เปน็ ครั้งคราว
๒๐ ระดบั คณุ ภาพ ประเดน็ พจิ ารณา ดี - ไมม่ ีการวจิ ยั เพ่ือพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา (ร้อยละ 60-69) - มีการพัฒนาสื่อ นวตั กรรม และเทคโนโลยีเพื่อการศกึ ษา ดีเลศิ - สถานศึกษามหี ลกั สตู รสถานศึกษาทย่ี ืดหย่นุ และสอดคลอ้ งกับ หลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั และบรบิ ทของท้องถน่ิ โดยบรู ณาการ (รอ้ ยละ 70-79) การจัดการเรยี นรู้ สะเต็มศึกษา บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย และ เศรษฐกจิ พอเพียง ยอดเย่ียม - สถานศกึ ษามีการออกแบบการจัดประสบการณ์เตรียมความพร้อม (มากกวา่ ร้อยละ 80) เน้นการเรยี นรูผ้ า่ นการเล่นและลงมือปฏบิ ัตจิ รงิ บางคร้ัง - มกี ารวจิ ัยเพื่อพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาเปน็ ครั้งคราว - มีการพัฒนาสื่อ นวตั กรรม และเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา - สถานศึกษามหี ลักสูตรสถานศึกษาทย่ี ืดหยนุ่ และสอดคล้องกับ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย และบริบทของท้องถ่นิ โดยบูรณาการ การจดั การเรียนรู้ สะเต็มศึกษา บ้านนกั วทิ ยาศาสตรน์ ้อย และ เศรษฐกิจพอเพยี ง - สถานศึกษามีการออกแบบการจดั ประสบการณ์เตรียมความพร้อม เน้นการเรยี นรผู้ ่านการเลน่ และลงมือปฏบิ ัตจิ ริงบอ่ ยคร้ัง - มกี ารวจิ ยั เพื่อพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาบ่อยครงั้ - มีการพัฒนาสอ่ื นวตั กรรม และเทคโนโลยเี พื่อการศึกษา - สถานศึกษามหี ลักสตู รสถานศึกษาทีย่ ืดหยนุ่ และสอดคลอ้ งกับ หลักสตู รการศึกษาปฐมวัย และบริบทของท้องถ่ิน โดยบูรณาการ การจัดการเรียนรู้ สะเต็มศึกษา บา้ นนกั วิทยาศาสตรน์ ้อย และ เศรษฐกิจพอเพียง - สถานศึกษามีการออกแบบการจัดประสบการณ์เตรียมความพรอ้ ม เน้นการเรียนรผู้ ่านการเล่นและลงมือปฏิบัติจรงิ ทุกครงั้ - มีการวิจยั เพ่ือพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาทุกครง้ั - มีการพฒั นาสอ่ื นวตั กรรม และเทคโนโลยเี พื่อการศึกษา วิธีเกบ็ รวบรวมข้อมลู /แหล่งขอ้ มูล แหลง่ ข้อมูล ครูผู้ปกครองบุคคลตา่ งๆทเี่ กี่ยวขอ้ ง วิธีเกบ็ รวบรวมข้อมูล พฤติกรรมของเด็ก ตวั เดก็ ๑.การสัมภาษณ์/สอบถาม - หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวยั ๒.การสังเกต ๓.เอกสาร หลักฐาน
๒๑ วธิ ีเกบ็ รวบรวมข้อมูล แหล่งข้อมลู รอ่ งรอยการปฏิบัตงิ าน หรอื - โครงการบา้ นนกั วิทยาศาสตร์นอ้ ย ข้อมลู เชิงประจกั ษ์ - วิจยั ในชั้นเรียน - ทะเบียนสือ่ - แผนการจัดประสบการณ์ - คำส่งั แตง่ ต้ัง - รายงานการประเมนิ ตนเอง ข้อท่ี ๒ จัดครใู หเ้ พียงพอกบั ชัน้ เรียน มาตรฐานการศึกษาโรงเรียนบ้านบุ่งฝาง ๑.สถานศกึ ษาจัดครูเหมาะสมกับภารกจิ การจัดการเรยี นการสอน มีครวู ฒุ ิการศึกษา ปฐมวยั คำอธิบาย สถานศกึ ษาจดั ครใู ห้เหมาะสมกบั ภารกิจการเรียนการสอนการศกึ ษาปฐมวยั มคี รู วฒุ กิ ารศกึ ษาปฐมวยั อย่างพอเพียงกบั ช้นั เรยี น การให้ระดบั คุณภาพ ระดบั คุณภาพ ประเดน็ พจิ ารณา กำลังพฒั นา สถานศกึ ษาไม่จดั ครใู หเ้ หมาะสมกับภารกิจการเรียนการสอนการศกึ ษา ปฐมวัยอย่างพอเพยี งกบั ชัน้ เรียน (นอ้ ยกว่า ร้อยละ 50) สถานศึกษาจดั ครู แต่ไม่ตรงกับภารกจิ การเรยี นการสอนการศึกษา ปฐมวยั อย่างพอเพยี งกับชั้นเรียน ปานกลาง สถานศกึ ษาจดั ครใู หเ้ หมาะสมกับภารกิจการเรยี นการสอนการศกึ ษา ปฐมวยั (รอ้ ยละ 50-59) สถานศกึ ษาจดั ครูให้เหมาะสมกับภารกจิ การเรียนการสอนการศกึ ษา ปฐมวัยอยา่ งพอเพียงกบั ช้นั เรียน ดี สถานศกึ ษาจดั ครูให้เหมาะสมกบั ภารกิจการเรยี นการสอนการศกึ ษา ปฐมวยั อย่างพอเพยี งกบั ช้ันเรียน อย่างครบถ้วน (ร้อยละ 60-69) ดีเลิศ (รอ้ ยละ 70-79) ยอดเย่ียม (มากกว่า ร้อยละ 80)
๒๒ วิธีเก็บรวบรวมขอ้ มูล/แหล่งขอ้ มูล วิธเี ก็บรวบรวมข้อมูล แหลง่ ข้อมลู ๑.การสัมภาษณ/์ สอบถาม ครผู ปู้ กครองบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้อง ๒.การสังเกต พฤติกรรมของเด็ก ตวั เด็ก ๓.เอกสาร หลกั ฐาน - แผนการจัดประสบการณ์ ร่องรอยการปฏบิ ตั งิ าน หรือ - แฟ้มข้อมลู นักเรยี นเปน็ รายบุคคล ข้อมลู เชิงประจักษ์ - ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ - เครอ่ื งมือประเมินพฒั นาการเดก็ - ชิ้นงาน/ผลงานเด็ก - บนั ทกึ การสอนของครู - รายงานผลการพัฒนาเด็กรายบคุ คล ขอ้ ท่ี ๓ ส่งเสริมให้ครมู ีความเชี่ยวชาญดา้ นการจดั ประสบการณ์ มาตรฐานการศึกษาโรงเรยี นบ้านบุง่ ฝาง ๑. สง่ เสรมิ ใหค้ รพู ฒั นาตนเอง ด้านหลักสูตรและการจัดประสบการณ์ การจัดทำสอื่ นวัตกรรมการเรียนการสอน ๒.มกี ารประเมินพัฒนาการเด็กเป็นรายบุคคล คำอธิบาย ผบู้ รหิ ารมกี ารสนับสนนุ การพัฒนาครูและบุคลากรใหม้ ีความรคู้ วามสามารถในการวเิ คราะห์ และออกแบบหลักสูตรสถานศึกษามีทักษะในการจัดประสบการณแ์ ละการประเมนิ พัฒนาการเด็ก ใช้ ประสบการณส์ ำคัญในการออกแบบ การจดั กจิ กรรม มีการสงั เกตและประเมินพฒั นาการเดก็ เป็น รายบุคคล มปี ฏสิ ัมพนั ธท์ ี่ดกี ับเดก็ และครอบครวั โดยมีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการ บ้านนักวทิ ยาศาสตรน์ ้อย และเศรษฐกจิ พอเพียง การให้ระดบั คณุ ภาพ ระดับคณุ ภาพ ประเด็นพจิ ารณา กำลงั พฒั นา ผู้บริหารไม่มีการสนับสนุนการพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถในการวิเคราะห์และออกแบบหลักสูตรสถานศึกษามี (นอ้ ยกวา่ ทักษะในการจัดประสบการณ์และการประเมินพัฒนาการเด็ก ใช้ ร้อยละ 50) ประสบการณ์สำคัญในการออกแบบ การจัดกิจกรรม มีการสังเกตและ ประเมินพัฒนาการเด็กเป็นรายบุคคล มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็ก และ ครอบครัว โดยมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการ บ้าน
๒๓ ระดบั คณุ ภาพ ประเด็นพิจารณา ปานกลาง นกั วทิ ยาศาสตรน์ อ้ ย และเศรษฐกิจพอเพยี ง (รอ้ ยละ 50-59) ผู้ บ ริ ห า ร มี ก า ร ส นั บ ส นุ น ก า ร พั ฒ น า ค รู แ ล ะ บุ ค ล า ก ร ให้ มี ค ว า ม รู้ ดี ความสามารถในการวิเคราะห์และออกแบบหลักสูตรสถานศึกษามี ทักษะในการจัดประสบการณ์และการประเมินพัฒนาการเด็ก โดยมี (รอ้ ยละ 60-69) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการ บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย และเศรษฐกิจพอเพียง ดีเลศิ ผู้ บ ริ ห า ร มี ก า ร ส นั บ ส นุ น ก า ร พั ฒ น า ค รู แ ล ะ บุ ค ล า ก ร ให้ มี ค ว า ม รู้ (รอ้ ยละ 70-79) ความสามารถในการวิเคราะห์และออกแบบหลักสูตรสถานศึกษามี ทักษะในการจัดประสบการณ์และการประเมินพัฒนาการเด็ก ใช้ ยอดเย่ียม ประสบการณ์สำคัญในการออกแบบ โดยมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบบรู ณาการ บ้านนักวทิ ยาศาสตร์นอ้ ย และเศรษฐกจิ พอเพียง (มากกวา่ รอ้ ยละ 80) ผู้ บ ริ ห า ร มี ก า ร ส นั บ ส นุ น ก า ร พั ฒ น า ค รู แ ล ะ บุ ค ล า ก ร ให้ มี ค ว า ม รู้ ความสามารถในการวิเคราะห์และออกแบบหลักสูตรสถานศึกษามี ทักษะในการจัดประสบการณ์และการประเมินพัฒนาการเด็ก ใช้ ประสบการณ์สำคัญในการออกแบบ การจัดกิจกรรม มีการสังเกตและ ประเมินพัฒนาการเด็กเป็นรายบุคคล โดยมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบบูรณาการบา้ นนกั วิทยาศาสตร์นอ้ ย และเศรษฐกิจพอเพยี ง ผู้ บ ริ ห า ร มี ก า ร ส นั บ ส นุ น ก า ร พั ฒ น า ค รู แ ล ะ บุ ค ล า ก ร ให้ มี ค ว า ม รู้ ความสามารถในการวิเคราะห์และออกแบบหลักสูตรสถานศึกษามี ทักษะในการจัดประสบการณ์และการประเมินพัฒนาการเด็ก ใช้ ประสบการณ์สำคัญในการออกแบบ การจัดกิจกรรม มีการสังเกตและ ประเมินพัฒนาการเด็กเป็นรายบุคคล มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็ก และ ครอบครวั โดยมีการจัดกจิ กรรมการเรียนร้แู บบบรู ณาการ บา้ นนักวทิ ยาศาสตรน์ อ้ ย และเศรษฐกิจพอเพยี ง วธิ เี ก็บรวบรวมขอ้ มลู /แหล่งข้อมูล วิธีเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล แหลง่ ข้อมูล ๑.การสมั ภาษณ์/สอบถาม ครูผ้ปู กครองบุคคลต่างๆทีเ่ ก่ียวขอ้ ง ๒.การสงั เกต พฤติกรรมของเด็ก ตวั เดก็ ๓.เอกสาร หลักฐาน - หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย รอ่ งรอยการปฏิบตั งิ าน หรอื - แผนการจดั ประสบการณ์ ข้อมูลเชิงประจกั ษ์ - คำส่งั แต่งต้งั - สมุดนิเทศ - รายงานการประเมนิ ตนเอง
๒๔ ขอ้ ท่ี ๔ จัดสภาพแวดล้อมและสือ่ เพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภยั และเพียงพอ มาตรฐานการศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นบ่งุ ฝาง ๑.สถานศึกษาจัดสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกหอ้ งเรียน สะอาด ปลอดภัย ๒.สถานศกึ ษาจดั ห้องเรยี น จัดมุมประสบการณ์ตามหลกั สูตร มสี นามเดก็ เลน่ ส่ือ ICT นวัตกรรมสง่ เสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ และสง่ เสริมการจดั ประสบการณ์ คำอธบิ าย สถานศึกษาจดั สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกหอ้ งเรียน สะอาด ปลอดภยั มี ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องวทิ ยาศาสตร์และแหลง่ เรยี นรู้อน่ื ๆ เพ่ือให้เด็กได้ศึกษาแหล่งเรียนรู้ อย่างปลอดภัยและพอเพียง ระดบั คณุ ภาพ การใหร้ ะดบั คุณภาพ กำลงั พัฒนา ประเด็นพิจารณา (น้อยกว่า รอ้ ยละ 50) - สถานศึกษาไม่จดั สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกหอ้ งเรียน สะอาด ปลอดภยั มหี ้องสมุด ห้องคอมพวิ เตอร์ ห้อง ปานกลาง วทิ ยาศาสตรแ์ ละแหลง่ เรียนรู้อ่ืนๆเพื่อใหเ้ ด็กไดศ้ ึกษาแหลง่ เรยี นรู้ (รอ้ ยละ 50-59) - สถานศึกษาไมจ่ ดั ห้องเรยี น จดั มุมประสบการณ์ตามหลกั สูตร ดี ไม่มสี นามเด็กเลน่ สอื่ ICT นวัตกรรมส่งเสรมิ ทักษะทาง คณิตศาสตร์ และสง่ เสรมิ ทักษะพฒั นาการทง้ั ๔ ด้าน (ร้อยละ 60-69) - สถานศกึ ษาจัดสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรยี น สะอาด ปลอดภยั มีหอ้ งสมุด ห้องคอมพวิ เตอร์ ห้อง วิทยาศาสตรแ์ ละแหลง่ เรยี นรู้อ่ืนๆเพื่อใหเ้ ด็กได้ศึกษาแหล่ง เรียนรู้ - สถานศึกษาจัดหอ้ งเรยี น จัดมุมประสบการณต์ ามหลักสูตร ไม่มี สนามเดก็ เล่น ส่อื ICT นวัตกรรมส่งเสริมทกั ษะทางคณติ ศาสตร์ และสง่ เสรมิ ทักษะพัฒนาการท้ัง ๔ ดา้ น - สถานศกึ ษาจัดสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกหอ้ งเรียน สะอาด ปลอดภยั มีห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ ห้อง วทิ ยาศาสตร์และแหล่งเรียนร้อู ่นื ๆเพื่อใหเ้ ด็กได้ศึกษาแหล่ง เรียนรู้ - สถานศึกษาจัดห้องเรยี น จดั มุมประสบการณต์ ามหลักสูตร มี สนามเดก็ เล่น สือ่ ICT นวตั กรรมส่งเสรมิ ทักษะทางคณิตศาสตร์
๒๕ ระดบั คุณภาพ ประเดน็ พิจารณา ดเี ลิศ - สถานศึกษาจดั สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรียน สะอาด ปลอดภัย มหี ้องสมุด หอ้ งคอมพวิ เตอร์ หอ้ ง (รอ้ ยละ 70-79) วทิ ยาศาสตร์และแหล่งเรยี นรอู้ ื่นๆเพ่ือให้เด็กได้ศึกษาแหลง่ เรียนรู้ อย่างปลอดภัย ยอดเยี่ยม - สถานศกึ ษาจัดห้องเรียน จัดมุมประสบการณต์ ามหลักสตู ร มี (มากกวา่ สนามเด็กเล่น สอื่ ICT นวัตกรรมส่งเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ รอ้ ยละ 80) - สถานศกึ ษาจัดสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรยี น สะอาด ปลอดภัย มหี ้องสมุด ห้องคอมพวิ เตอร์ ห้อง วิทยาศาสตร์และแหลง่ เรยี นรู้อน่ื ๆเพื่อให้เด็กได้ศึกษาแหลง่ เรยี นรู้ อยา่ งปลอดภัยและพอเพียง - สถานศึกษาจดั หอ้ งเรียน จดั มุมประสบการณต์ ามหลักสูตร มีสนามเด็กเลน่ สื่อ ICT นวัตกรรมสง่ เสรมิ ทักษะทาง คณิตศาสตร์ และสง่ เสรมิ ทักษะพฒั นาการทงั้ ๔ ดา้ น วิธเี กบ็ รวบรวมข้อมูล/แหล่งขอ้ มูล วิธีเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู แหล่งข้อมลู ๑.การสมั ภาษณ/์ สอบถาม ครูผ้ปู กครองบคุ คลตา่ งๆท่ีเกี่ยวข้อง ๒.การสังเกต พฤติกรรมของเด็ก ตัวเด็ก ๓.เอกสาร หลักฐาน - แผนการจัดประสบการณ์ ร่องรอยการปฏบิ ตั งิ าน หรอิ - แฟ้มข้อมลู นกั เรยี นเป็นรายบุคคล ข้อมลู เชิงประจักษ์ - ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ - เคร่ืองมือประเมนิ พัฒนาการเดก็ - ช้ินงาน/ผลงานเด็ก - บันทึกการสอนของครู - รายงานผลการพฒั นาเด็กรายบุคคล - สมุดนเิ ทศ ข้อที่ ๕ ใหบ้ รกิ ารส่ือเทคโนโลยสี ารสนเทศและสื่อการเรยี นรู้เพือ่ สนบั สนนุ การจัดประสบการณ์ มาตรฐานการศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นบุ่งฝาง ๑.สถานศกึ ษามสี อื่ เทคโนโลยสี ารสนเทศวสั ดุ อุปกรณ์ เพอ่ื สนบั สนุนส่งเสริมการ จดั ประสบการณ์
๒๖ คำอธบิ าย สถานศึกษาสง่ เสริมและสนบั สนนุ อำนวยความสะดวก และให้บรกิ ารส่ือเทคโนโลยี สารสนเทศวัสดุ และอปุ กรณ์ เพื่อสนบั สนนุ การจดั ประสบการณ์และพฒั นาครู ระดบั คุณภาพ การใหร้ ะดับคณุ ภาพ กำลงั พฒั นา ประเดน็ พจิ ารณา (น้อยกวา่ สถานศึกษาไมม่ สี ง่ เสริมและสนบั สนุนอำนวยความสะดวก และ ร้อยละ 50) ใหบ้ รกิ ารสอื่ เทคโนโลยสี ารสนเทศวสั ดุ และอปุ กรณ์ เพือ่ สนบั สนุน การจดั ประสบการณแ์ ละพัฒนาครู ปานกลาง สถานศกึ ษาให้บริการสือ่ เทคโนโลยสี ารสนเทศวสั ดุ และอุปกรณ์ (ร้อยละ 50-59) เพื่อสนบั สนุนการจัดประสบการณ์ ดี สถานศกึ ษาอำนวยความสะดวก และใหบ้ ริการสื่อเทคโนโลยี สารสนเทศวสั ดุ และอปุ กรณ์ เพอื่ สนบั สนนุ การจดั ประสบการณ์ (รอ้ ยละ 60-69) สถานศกึ ษาส่งเสริมและสนับสนนุ อำนวยความสะดวก และ ดเี ลิศ ให้บริการส่อื เทคโนโลยสี ารสนเทศวัสดุ และอปุ กรณ์ เพือ่ สนบั สนนุ การจัดประสบการณ์ (รอ้ ยละ 70-79) สถานศึกษาสง่ เสรมิ และสนบั สนุนอำนวยความสะดวก และ ยอดเย่ียม ใหบ้ รกิ ารสือ่ เทคโนโลยสี ารสนเทศวสั ดุ และอุปกรณ์ เพ่ือสนบั สนนุ การจัดประสบการณ์และพัฒนาครู (มากกว่า รอ้ ยละ 80) วธิ เี กบ็ รวบรวมขอ้ มูล/แหล่งขอ้ มูล วิธีเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล แหลง่ ข้อมลู ๑.การสมั ภาษณ์/สอบถาม ครผู ปู้ กครองบุคคลต่างๆทเี่ กี่ยวขอ้ ง ๒.การสงั เกต พฤติกรรมของเด็ก ตัวเดก็ ๓.เอกสาร หลกั ฐาน - แบบสำรวจข้อมลู ส่ือนวัตกรรมเทคโนโลยแี หลง่ เรียนรู้ รอ่ งรอยการปฏบิ ัติงาน หริอ - ทะเบยี นส่ือ ขอ้ มลู เชิงประจกั ษ์ - แผนการจดั ประสบการณ์ - แบบประเมนิ การใชส้ ือ่ - สอ่ื ตามมุมประสบการณ์
๒๗ ขอ้ ที่ ๖ มรี ะบบบรหิ ารคณุ ภาพที่เปิดโอกาสใหผ้ ้เู กี่ยวข้องทกุ ฝ่ายมสี ่วนรว่ ม มาตรฐานการศกึ ษาโรงเรียนบา้ นบุง่ ฝาง ๑.สถานศึกษามรี ะบบการบริหารจัดการท่ดี ี เพื่อจัดการบริหารการศกึ ษา ในรูปแบบการบริหารจดั การโรงเรยี นคุณภาพสู่ ที่สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาปฐมวยั และ อัตลักษณท์ สี่ ถานศกึ ษากำหนด ๒.สถานศกึ ษามกี ารประเมนิ ผลตรวจสอบคุณภาพภายในสถานศกึ ษา ติดตามผลการดำเนินงาน และจดั ทำแผนพฒั นาการศกึ ษาแผนปฏบิ ัตกิ ารประจำปี และจดั ทำรายงาน การประเมนิ ตนเองประจำปีและส่งใหห้ นว่ ยงานต้นสังกดั คำอธบิ าย สถานศกึ ษากำหนดมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษาท่สี อดคล้องกบั มาตรฐาน การศกึ ษาปฐมวยั และอัตลกั ษณท์ ่สี ถานศึกษากำหนดจดั ทำแผนพฒั นาการศกึ ษาของสถานศกึ ษาที่ สอดรบั กับมาตรฐาน ท่ีสถานศกึ ษากำหนดและดำเนินการตามแผน มกี ารประเมนิ ผลและตรวจสอบ คุณภาพภายในสถานศึกษา ติดตามผลการดำเนนิ งานและจัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง ประจำปี นำผลการประเมนิ ไปปรับปรุงและ พัฒนาคุณภาพสถานศึกษา โดยผ้ปู กครองและผเู้ กี่ยวขอ้ ง ทุกฝ่ายมีสว่ นรว่ มและจดั ส่งรายงานผลการประเมนิ ตนเองให้หนว่ ยงานต้นสงั กดั การให้ระดับคณุ ภาพ ระดับคุณภาพ ประเดน็ พจิ ารณา กำลงั พัฒนา - สถานศึกษาไม่มีระบบการบริหารจัดการท่ีดี เพื่อจัดการบรหิ าร การศกึ ษาในรปู แบบการบริหารจัดการโรงเรยี นคุณภาพ ท่ีสอดคลอ้ ง (นอ้ ยกว่า กบั มาตรฐานการศึกษาปฐมวัย และอัตลกั ษณ์ท่สี ถานศึกษากำหนด รอ้ ยละ 50) - สถานศึกษาไม่มีการประเมินผลตรวจสอบคณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา ตดิ ตามผลการดำเนนิ งาน และจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาแผนปฏบิ ตั ิ การประจำปี และจดั ทำรายงานการประเมินตนเองประจำปีและส่งให้ หน่วยงานตน้ สงั กดั ปานกลาง - สถานศกึ ษามรี ะบบการบริหารจัดการ เพื่อจัดการบรหิ ารการศึกษา (ร้อยละ 50-59) ในรูปแบบการบรหิ ารจัดการโรงเรียนคุณภาพ - สถานศกึ ษามีการประเมินผลตรวจสอบคุณภาพภายในสถานศึกษา ตดิ ตามผลการดำเนินงาน และจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาแผนปฏบิ ัติ
๒๘ ระดบั คุณภาพ ประเด็นพจิ ารณา การประจำปี ดี - สถานศกึ ษามรี ะบบการบรหิ ารจัดการ เพ่ือจดั การบริหารการศึกษา (ร้อยละ 60-69) ในรูปแบบการบรหิ ารจดั การโรงเรียนคุณภาพที่สอดคล้องกับมาตรฐาน การศึกษาปฐมวยั - สถานศึกษามีการประเมนิ ผลตรวจสอบคุณภาพภายในสถานศึกษา ติดตามผลการดำเนนิ งาน และจดั ทำแผนพัฒนาการศึกษาแผนปฏิบตั ิ การประจำปี และจัดทำรายงานการประเมนิ ตนเองประจำปี ดเี ลิศ - สถานศึกษามรี ะบบการบรหิ ารจดั การ เพ่ือจัดการบริหารการศกึ ษา (รอ้ ยละ 70-79) ในรูปแบบการบริหารจัดการโรงเรยี นคณุ ภาพ ทส่ี อดคล้องกบั มาตรฐานการศึกษาปฐมวยั และอัตลักษณ์ท่ีสถานศึกษากำหนด - สถานศกึ ษามีการประเมินผลตรวจสอบคณุ ภาพภายในสถานศึกษา ตดิ ตามผลการดำเนนิ งาน และจัดทำแผนพฒั นาการศกึ ษาแผนปฏบิ ัติ การประจำปี และจดั ทำรายงานการประเมนิ ตนเองประจำปแี ละส่งให้ หนว่ ยงานต้นสงั กดั ยอดเย่ียม - สถานศึกษามีระบบการบรหิ ารจดั การทด่ี ี เพื่อจัดการบริหาร การศึกษาในรูปแบบการบรหิ ารจัดการโรงเรียนคณุ ภาพ ที่สอดคลอ้ ง (มากกวา่ กับมาตรฐานการศึกษาปฐมวัย และอตั ลกั ษณ์ทส่ี ถานศึกษากำหนด รอ้ ยละ 80) - สถานศกึ ษามกี ารประเมนิ ผลตรวจสอบคณุ ภาพภายในสถานศึกษา ตดิ ตามผลการดำเนนิ งาน และจัดทำแผนพฒั นาการศึกษาแผนปฏบิ ัติ การประจำปี นำผลการประเมนิ ไปปรับปรงุ และ พัฒนาคุณภาพ สถานศึกษา โดยผปู้ กครองและผเู้ กี่ยวข้องทุกฝ่ายมสี ่วนร่วมและจดั สง่ รายงานผลการประเมนิ ตนเอง วิธีเกบ็ รวบรวมข้อมลู /แหล่งข้อมูล แหลง่ ข้อมูล ครผู ปู้ กครองบคุ คลตา่ งๆที่เก่ียวข้อง วธิ ีเก็บรวบรวมข้อมูล พฤติกรรมของเด็ก ตัวเดก็ ๑.การสัมภาษณ์/สอบถาม ๒.การสังเกต
๒๙ วธิ เี ก็บรวบรวมข้อมลู แหล่งข้อมลู ๓.เอกสาร หลกั ฐาน - หลกั ฐานรอ่ งรอยการวเิ คราะห์นโยบายของต้นสงั กดั ตาม ร่องรอยการปฏบิ ัติงาน หรือ แนวทางปฏิรปู การศึกษาเพื่อการจัดแผนงานโครงการพิเศษ ขอ้ มลู เชิงประจักษ์ ระดบั ปฐมวยั - แผนพัฒนาคณุ ภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา - แผนปฏิบตั กิ ารประจำปี - โครงการกิจกรรมระดับปฐมวยั - สรุปผลการประเมนิ โครงการระดบั ปฐมวัย - ขอ้ มลู การสอบถามความพงึ พอใจครผู บู้ รหิ ารเดก็ หรือ ผเู้ กี่ยวข้องกับการดำเนินงานตามโครงการกจิ กรรมระดับปฐมวัย - รายงานผลการพัฒนาการจัดประสบการณท์ ี่ดีระดับปฐมวยั - สรปุ รายงานวิเคราะห์เด็กรายบคุ คล - รายงาน SAR ระดบั ปฐมวัย มาตรฐานที่ ๓ การจดั ประสบการณ์ทเี่ นน้ เดก็ เปน็ สำคัญ ข้อที่ ๑ จัดประสบการณท์ ่ีส่งเสรมิ ให้เด็กมพี ัฒนาการทุกด้านอยา่ งสมดลุ เตม็ ศกั ยภาพ มาตรฐานการศึกษาโรงเรยี นบ้านบุ่งฝาง ๑. จดั ประสบการณ์ทสี่ ่งเสริมใหเ้ ดก็ มีพฒั นาการทุกด้านอย่างสมดุลเตม็ ศกั ยภาพโดยบรู ณาการ วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๒.ร้จู ักเดก็ เปน็ รายบคุ คล ๓.จัดทำแผนการจัดประสบการณ์ สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษา คำอธิบาย ครูมกี ารวเิ คราะหข์ ้อมลู เด็กเป็นรายบุคคล จัดทำแผนการจัดประสบการณ์ โดยบรู ณาการ วทิ ยาศาสตร์ และเศรษฐกิจพอเพยี ง จากการวเิ คราะห์ มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ในหลักสูตร สถานศกึ ษา โดยมกี จิ กรรมทส่ี ่งเสรมิ พัฒนาการเด็กครบทุกด้าน ทง้ั ดา้ นร่างกาย ดา้ นอารมณ์ จิตใจ ด้านสงั คม และด้านสติปญั ญา ไม่ม่งุ เน้นการพัฒนาดา้ นใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียว ระดบั คณุ ภาพ การให้ระดบั คุณภาพ กำลังพัฒนา ประเดน็ พจิ ารณา ครไู ม่มกี ารวเิ คราะหข์ ้อมลู เด็กเป็นรายบุคคล จัดทำแผนการจัด (นอ้ ยกวา่ ประสบการณ์ โดยบูรณาการ วทิ ยาศาสตร์ และเศรษฐกจิ พอเพียง จาก รอ้ ยละ 50) การวิเคราะห์ มาตรฐานคุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ในหลักสตู รสถานศึกษา โดยมกี ิจกรรมท่ีส่งเสรมิ พฒั นาการเด็กครบทุกด้าน ทัง้ ดา้ นรา่ งกาย ด้าน
๓๐ ระดบั คณุ ภาพ ประเดน็ พจิ ารณา ปานกลาง อารมณ์ จติ ใจ ดา้ นสังคม และดา้ นสตปิ ัญญา ม่งุ เนน้ การพัฒนาดา้ นใด ดา้ นหน่ึงเพยี งด้านเดียว (ร้อยละ 50-59) ครมู กี ารจดั ทำแผนการจดั ประสบการณ์ มาตรฐานคุณลักษณะท่ีพึง ดี ประสงคใ์ นหลักสตู รสถานศึกษา โดยมีกจิ กรรมทส่ี ง่ เสริมพัฒนาการเดก็ ไมค่ รบทุกดา้ น (ร้อยละ 60-69) ครูมีการจดั ทำแผนการจดั ประสบการณ์ โดยบรู ณาการ วทิ ยาศาสตร์ ดีเลศิ และเศรษฐกิจพอเพยี ง จากการวิเคราะห์ มาตรฐานคุณลักษณะทีพ่ ึง ประสงค์ในหลกั สูตรสถานศึกษา โดยมีกิจกรรมทส่ี ง่ เสริมพัฒนาการเดก็ (รอ้ ยละ 70-79) ไม่ครบทกุ ด้าน ยอดเย่ียม ครมู ีการ จัดทำแผนการจดั ประสบการณ์ โดยบูรณาการ วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจพอเพียง จากการวิเคราะห์ มาตรฐานคุณลักษณะทพ่ี ึง (มากกว่า ประสงค์ในหลักสูตรสถานศึกษา โดยมกี ิจกรรมท่สี ่งเสรมิ พัฒนาการเดก็ ร้อยละ 80) ครบทกุ ดา้ น ทัง้ ดา้ นรา่ งกาย ด้านอารมณ์ จติ ใจ ด้านสังคม และดา้ น สติปญั ญา ไม่มุ่งเนน้ การพัฒนาดา้ นใดด้านหนึง่ เพียงดา้ นเดียว ครูมีการวเิ คราะห์ข้อมูลเด็กเป็นรายบุคคล จัดทำแผนการจัด ประสบการณ์ โดยบูรณาการ วทิ ยาศาสตร์ และเศรษฐกิจพอเพียง จาก การวิเคราะห์ มาตรฐานคุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ในหลักสตู รสถานศกึ ษา โดยมีกจิ กรรมทสี่ ่งเสรมิ พฒั นาการเด็กครบทุกด้าน ทงั้ ด้านรา่ งกาย ดา้ น อารมณ์ จิตใจ ดา้ นสงั คม และดา้ นสติปัญญา ครบทุกด้าน วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล/แหล่งขอ้ มูล วธิ ีเก็บรวบรวมข้อมลู แหลง่ ข้อมูล ๑.การสัมภาษณ์/สอบถาม ครผู ู้ปกครองบคุ คลตา่ งๆทีเ่ กี่ยวข้อง ๒.การสงั เกต พฤติกรรมของเด็ก ตัวเด็ก ๓.เอกสาร หลกั ฐาน - แฟ้มสะสมผลงานเดก็ รอ่ งรอยการปฏิบัติงาน หรอื - ผลจากการทำกิจกรรมโครงการทีส่ ง่ เสรมิ สนบั สนนุ ขอ้ มูลเชงิ ประจกั ษ์ - แผนปฏบิ ตั ิงาน/โครงการ - แผนการจดั ประสบการณ์ - สมดุ รายงานพฒั นาการเดก็ - ผลงานเด็ก - วเิ คราะห์ขอ้ มูลเดก็ เปน็ รายบุคคล
๓๑ ข้อท่ี ๒ สรา้ งโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณต์ รง เล่น และปฏบิ ตั อิ ยา่ งมีความสุข มาตรฐานการศึกษาโรงเรยี นบา้ นบุ่งฝาง ๑. จดั ประสบการณ์ตามหลักสูตรสร้างโอกาสในการรับประสบการณต์ รงภายในและ ภายนอกห้องเรียนท่หี ลากหลาย น่าสนใจ ๒. จัดกจิ กรรมบ้านนักวทิ ยาศาสตรน์ อ้ ยและการเรยี นรู้แบบเศรษฐกิจพอเพยี ง ๓. สถานศกึ ษาจดั ระบบดแู ลนักเรยี นระดบั ปฐมวยั คำอธบิ าย ครูจดั ประสบการณต์ ามหลักสูตรสร้างโอกาสในการรบั ประสบการณ์ตรงภายในและภายนอก หอ้ งเรียนหลากหลายที่เช่ือมโยงกบั ประสบการณ์เดิม ให้เด็กมโี อกาสเลอื กทำกิจกรรมอย่าง อสิ ระ ตามความต้องการ ความสนใจ ความสามารถ ตอบสนองต่อวิธกี ารเรียนร้ขู องเดก็ หลากหลายรูปแบบ จากแหลง่ เรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย เด็กไดเ้ ลือกเลน่ เรยี นรู้ ลงมือ กระทำ และสร้างองค์ความรูด้ ว้ ยตนเอง ระดับคณุ ภาพ การให้ระดบั คณุ ภาพ กำลังพัฒนา ประเดน็ พจิ ารณา (นอ้ ยกว่า รอ้ ยละ 50) ครไู ม่จัดประสบการณ์และไมเ่ ช่อื มโยงกับประสบการณเ์ ดิม ใหเ้ ด็กมี โอกาสเลือกทำกิจกรรมอยา่ งอสิ ระ ตามความต้องการ ความสนใจ ปานกลาง ความสามารถ ตอบสนองตอ่ วิธกี ารเรยี นรขู้ องเดก็ เปน็ รายบุคคล หลากหลายรปู แบบ จากแหล่งเรยี นรูท้ ห่ี ลากหลาย เดก็ ไดเ้ ลือกเลน่ (ร้อยละ 50-59) เรยี นรู้ ลงมือ กระทำ และไม่สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ดี ครูจดั ประสบการณ์ทเี่ ช่ือมโยงกบั ประสบการณ์เดิม จากแหล่งเรยี นรูท้ ี่ หลากหลาย เดก็ ไดเ้ ลือกเลน่ เรยี นรู้ ลงมือ กระทำดว้ ยตนเอง (รอ้ ยละ 60-69) ครจู ดั ประสบการณ์ทเี่ ชื่อมโยงกบั ประสบการณ์เดิม ใหเ้ ดก็ มีโอกาสเลือก ดีเลศิ ทำกจิ กรรมอย่างอิสระ ตามความตอ้ งการ ความสนใจ ความสามารถ จากแหล่งเรยี นรทู้ ี่หลากหลาย เด็กได้เลือกเลน่ เรียนรู้ ลงมือ กระทำด้วย (รอ้ ยละ 70-79) ตนเอง ครูจดั ประสบการณท์ ี่เช่ือมโยงกบั ประสบการณ์เดิม ให้เด็กมีโอกาสเลือก ทำกจิ กรรมอย่าง อสิ ระ ตามความต้องการ ความสนใจ ความสามารถ ตอบสนองตอ่ วธิ ีการเรยี นรูข้ องเด็กเป็นรายบุคคลหลากหลายรปู แบบ จากแหลง่ เรียนรู้ท่หี ลากหลาย เดก็ ได้เลือกเลน่ เรยี นรู้ ลงมือ กระทำดว้ ย ตนเอง
๓๒ ระดบั คุณภาพ ประเดน็ พิจารณา ครจู ดั ประสบการณ์ตามหลักสตู รสรา้ งโอกาสในการรบั ประสบการณต์ รง ยอดเยี่ยม ภายในและภายนอกหอ้ งเรยี นหลากหลายที่เชอื่ มโยงกบั ประสบการณ์ เดมิ ใหเ้ ด็กมีโอกาสเลือกทำกิจกรรมอย่าง อสิ ระ ตามความต้องการ (มากกวา่ ความสนใจ ความสามารถ ตอบสนองตอ่ วิธกี ารเรยี นรู้ของเด็ก รอ้ ยละ 80) หลากหลายรูปแบบ จากแหล่งเรียนรทู้ ีห่ ลากหลาย เด็กไดเ้ ลอื กเลน่ เรยี นรู้ ลงมอื กระทำ และสร้างองคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเอง วธิ เี กบ็ รวบรวมขอ้ มลู /แหล่งข้อมูล วธิ ีเก็บรวบรวมข้อมูล แหล่งข้อมูล ๑.การสัมภาษณ์/สอบถาม ครผู ูป้ กครองบุคคลต่างๆท่ีเกี่ยวข้อง ๒.การสงั เกต พฤติกรรมของเด็ก ตวั เด็ก ๓.เอกสาร หลกั ฐาน - แฟม้ สะสมผลงานเดก็ ร่องรอยการปฏิบตั งิ าน หรือ - ผลจากการทำกจิ กรรมโครงการทีส่ ง่ เสรมิ สนบั สนุน ขอ้ มลู เชงิ ประจักษ์ - แผนปฏบิ ัตงิ าน/โครงการ - แผนการจดั ประสบการณ์ - สมุดรายงานพฒั นาการเด็ก - ผลงานเดก็ ข้อท่ี ๓ จัดบรรยากาศที่เอือ้ ต่อการเรยี นรูใ้ ช้ส่ือ และเทคโนโลยีทีเ่ หมาะสมกบั วยั มาตรฐานการศกึ ษาโรงเรียนบา้ นบงุ่ ฝาง ๑. ครจู ัดห้องเรียนใหส้ ะอาด อากาศถา่ ยเท ปลอดภัย มีมุมจัดประสบการณ์ มีส่ือและ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คำอธิบาย จัดห้องเรียนให้สะอาด อากาศถ่ายเท ปลอดภัย มีมุมประสบการณ์และการจัด กิจกรรม เด็กมีส่วนร่วม ในการจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียน เช่น ป้ายนิเทศ การดูแลต้นไม้ การ จัดทำสื่อ ใช้สื่อและเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมกับช่วงอายุ ความสนใจ และวิถีการเรียนรู้ของเด็ก เช่น ส่ือ ของเล่นที่กระตุ้นให้คิดและหาคำตอบมีมุมประสบการณ์หลากหลาย จาก สื่อเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เพอ่ื การเรียนรู้ของเด็กจากคอมพิวเตอร์ สือ่ เพ่อื การสืบเสาะหาความรจู้ ากการทดลองวิทยาศาสตร์
๓๓ ระดับคณุ ภาพ การใหร้ ะดับคุณภาพ กำลังพัฒนา ประเด็นพิจารณา (น้อยกวา่ ครูไม่มีการจัดห้องเรียนให้สะอาด อากาศถ่ายเท ปลอดภัย ไม่มีมุมจัด ร้อยละ 50) ประสบการณ์ ไมม่ ีส่อื และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ปานกลาง ครจู ดั หอ้ งเรยี นใหส้ ะอาด มมี ุมประสบการณแ์ ละการจดั กิจกรรม ใน การจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียน (ร้อยละ 50-59) ครูจัดห้องเรียนให้สะอาด อากาศถ่ายเท มีมุมจัดประสบการณ์ มีสื่อ ดี และเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ ครูจัดห้องเรยี นใหส้ ะอาด อากาศถ่ายเท ปลอดภยั มีมุมประสบการณ์ (ร้อยละ 60-69) และการจดั กจิ กรรม ในการจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียน ครูจดั หอ้ งเรยี นให้สะอาด อากาศถ่ายเท ปลอดภัย มีมุมประสบการณ์ ดเี ลิศ ประสบการณ์ มสี ่ือและเทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ ครูจดั ห้องเรียนให้ สะอาดอากาศถ่ายเทปลอดภนั มีมมุ ประสบการณ์และการจัดกจิ กรรม (รอ้ ยละ 70-79) ในการจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียน ยอดเย่ียม (มากกวา่ รอ้ ยละ 80) วิธีเก็บรวบรวมขอ้ มูล/แหลง่ ขอ้ มูล วิธีเก็บรวบรวมขอ้ มูล แหลง่ ข้อมลู ๑.การสมั ภาษณ์/สอบถาม ครผู ้ปู กครองบคุ คลตา่ งๆท่เี ก่ียวขอ้ ง ๒.การสงั เกต พฤติกรรมของเด็ก ตวั เดก็ ๓.เอกสาร หลกั ฐาน - แฟ้มสะสมผลงานเดก็ รอ่ งรอยการปฏิบัตงิ าน หรือ - ผลจากการทำกจิ กรรมโครงการที่ส่งเสรมิ สนับสนุน ขอ้ มลู เชิงประจักษ์ - แผนปฏิบตั ิงาน/โครงการ - แผนการจดั ประสบการณ์ - สมุดรายงานพฒั นาการเดก็ - บนั ทกึ การใช้แหล่งเรยี นรู้ - ผลงานเด็ก - รายงานผลการปฏิบัตงิ าน - ทะเบยี นสื่อ - โครงการกจิ กรรมเพื่อส่งเสรมิ พฒั นาการของเด็ก
๓๔ วธิ ีเก็บรวบรวมข้อมลู แหล่งข้อมลู - แฟม้ พัฒนางานของครู - แฟ้มภาพถ่ายจัดสงิ่ แวดล้อม มุมส่งเสริมประสบการณท์ ั้งภายใน และภายนอกหอ้ งเรียน ขอ้ ที่ ๔ ประเมินพัฒนาการเดก็ ตามสภาพจรงิ และนำผลการประเมนิ พฒั นาการเด็กไปปรบั ปรุง การจัดประสบการณแ์ ละพัฒนาเดก็ มาตรฐานการศกึ ษาโรงเรียนบา้ นบุ่งฝาง ๑. มีการวัดผลประเมนิ ผลเด็กตามสภาพจรงิ ด้วยวธิ ีการที่หลากหลาย โดยผู้ปกครอง และ ผเู้ กย่ี วข้องมีส่วนรว่ มในการประเมินผล ๒. มวี ิจัยในชน้ั เรียน นวตั กรรมในการจัดการเรียนการสอน มีการนำผลการประเมิน ไปปรบั ปรงุ การจัดประสบการณแ์ ละพัฒนาเดก็ คำอธิบาย ครูประเมินพัฒนาการเด็กจากกิจกรรมและกิจวัตรประจำวันด้วยเคร่ืองมือและวิธีการท่ี หลากหลาย ไม่ใช้แบบทดสอบ วิเคราะห์ผล การประเมินพัฒนาการเด็ก โดยผ้ปู กครองและผูเ้ ก่ียวข้อง มีส่วนร่วม และนำผลการประเมินที่ได้ไปพัฒนาคุณภาพเด็กและแลกเปล่ี ยนเรียนรู้การจัด ประสบการณ์ท่ีมี ประสิทธิภาพ มีวิจัยในช้ันเรียน นวัตกรรมในการจัดการเรียนการสอน มีการนำผล การประเมินไปปรับปรุงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็กทั้ง ๔ ด้าน ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ จิตใจ ดา้ นสังคม ด้านสติปัญญา ระดบั คุณภาพ การใหร้ ะดับคณุ ภาพ กำลงั พัฒนา ประเด็นพจิ ารณา (นอ้ ยกวา่ - ครไู ม่มกี ารวัดผลประเมินผลเด็กตามสภาพจริง รอ้ ยละ 50) - ครไู มม่ วี ิจยั ในช้ันเรยี น นวัตกรรมในการจดั การเรยี นการสอน ปานกลาง - ครูมีการวดั ผลประเมนิ ผลเดก็ ตามสภาพจรงิ ประเมินพฒั นาการ เดก็ จากกิจกรรมและกิจวตั รประจำวัน (รอ้ ยละ 50-59) - ครมู วี ิจัยในช้ันเรยี น นวตั กรรมในการจัดการเรยี นการสอน ดี - ครมู กี ารวัดผลประเมนิ ผลเด็กตามสภาพจริงด้วยวิธีการท่ี (ร้อยละ 60-69) หลากหลาย ประเมินพฒั นาการเดก็ จากกจิ กรรมและกิจวตั ร
๓๕ ระดบั คุณภาพ ประเด็นพิจารณา - ครูมวี จิ ยั ในชั้นเรียน นวัตกรรมในการจัดการเรียนการสอน มีการ ดีเลศิ นำผลการประเมินไปปรับปรุงการจัดประสบการณ์ (ร้อยละ 70-79) - ครูมกี ารวดั ผลประเมนิ ผลเด็กตามสภาพจริงด้วยวิธกี ารที่ ยอดเยี่ยม หลากหลาย ประเมินพัฒนาการเดก็ จากกิจกรรมและกิจวัตร ประจำวัน วเิ คราะหผ์ ล การประเมินพฒั นาการเด็ก (มากกว่า รอ้ ยละ 80) - ครมู ีวิจัยในช้นั เรียน นวตั กรรมในการจัดการเรยี นการสอน มีการ นำผลการประเมินไปปรับปรงุ การจัดประสบการณแ์ ละพัฒนาเด็ก ท้งั ๔ ด้าน ดา้ นร่างกาย ดา้ นอารมณ์ จิตใจ ด้านสังคม ดา้ นสตปิ ญั ญา ได้เกอื บทุกดา้ น - ครมู กี ารวัดผลประเมินผลเดก็ ตามสภาพจรงิ ดว้ ยวธิ ีการท่ี หลากหลาย ประเมนิ พฒั นาการเด็กจากกิจกรรมและกจิ วตั ร ประจำวัน วเิ คราะหผ์ ล การประเมนิ พฒั นาการเด็ก โดยผ้ปู กครอง และผเู้ กย่ี วข้อง มสี ว่ นรว่ ม และนำผลการประเมินท่ีได้ไปพัฒนา คณุ ภาพเด็ก - ครูมวี จิ ยั ในชั้นเรียน นวตั กรรมในการจัดการเรยี นการสอน มีการ นำผลการประเมินไปปรับปรุงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเดก็ ทง้ั ๔ ด้าน ด้านรา่ งกาย ด้านอารมณ์ จิตใจ ดา้ นสงั คม ดา้ นสตปิ ัญญาได้ครบทกุ ดา้ น
๓๖ วิธเี กบ็ รวบรวมขอ้ มูล/แหล่งข้อมูล วิธเี ก็บรวบรวมข้อมูล แหล่งข้อมูล ๑.การสมั ภาษณ์/สอบถาม ครูผปู้ กครองบุคคลตา่ งๆท่ีเก่ียวข้อง ๒.การสังเกต พฤติกรรมของเด็ก ตัวเดก็ ๓.เอกสาร หลักฐาน - แบบบนั ทกึ การสังเกตพฤติกรรม รอ่ งรอยการปฏบิ ตั งิ าน หรือ - บันทึกคำพูดของเด็ก ข้อมลู เชิงประจกั ษ์ - สมดุ รายงานพัฒนาการเดก็ - สือ่ - ผลงานเด็ก - แผนการจัดประสบการณ์ - เครอื่ งมือการวัดและประเมิน - แผนการจัดประสบการณ์ - ผลงาน/ชนิ้ งานเด็ก - รายงานพัฒนาการเด็ก - เอกสารแสดงการรายงานกับผู้ปกครอง - สมุดรายงานพฒั นาการเด็ก - วจิ ัยในชั้นเรียน - รายงานผลการพัฒนาเด็ก - เอกสาร หลักฐานการเผยแพร่ผลงานวิจัย นวตั กรรม
๓๗ มาตรฐานการศกึ ษาระดับการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน มาตรฐานการศึกษาระดับการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พ.ศ. ๒๕๖๑ มีจำนวน ๓ มาตรฐาน ไดแ้ ก่ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผ้เู รยี น ๑.๑ ผลสมั ฤทธิ์ทางวชิ าการของผู้เรียน ๑.๒ คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ของผู้เรียน มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ มาตรฐานท่ี ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนทเี่ นน้ ผู้เรียนเป็นสำคญั มาตรฐานการศกึ ษาระดบั การศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พ.ศ. ๒๕๖๑ มรี ายละเอียด ดงั น้ี เกณฑ์การประเมินมาตรฐานระดบั การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน การจดั ทำมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ๑.๑ ผลสัมฤทธ์ิทางวิชาการของผู้เรียน ข้อที่ 1 ผู้เรยี นมีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสือ่ สาร และการคดิ คำนวณ มาตรฐานการศกึ ษาโรงเรียนบา้ นบ่งุ ฝาง ๑. ผ้เู รียนสามารถอ่าน คำในบทเรียน ได้อยา่ งถกู ต้องตามหลกั ภาษา ๒. ผูเ้ รียนสามารถเขยี นคำในบทเรยี นไดอ้ ย่างถูกตอ้ งตามหลักภาษา ๓. ผู้เรียนสามารถเขียนคำพื้นฐาน เขียนตามคำบอก เขียนเรื่องให้สอดคล้องกับ รูปภาพ และตอบคำถามจากเร่ืองทอี่ า่ นตามระดับช้นั เรยี น ๔. ผู้เรยี นมีทกั ษะในการคิดคำนวณและแกป้ ญั หา คำอธิบาย ผ้เู รยี นสามารถอ่านออกเขียนได้ และมที ักษะกระบวนการ คิดคำนวณ การแก้ปัญหา เป็นไปตามตวั ชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษา จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนอ่าน เขยี น และคดิ คำนวณ อย่างเป็นระบบ สามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ในการเรยี นระดับท่ีสงู ขึ้นได้
๓๘ ระดับคณุ ภาพ การใหร้ ะดับคุณภาพ กำลังพัฒนา ปานกลาง คำอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ ดี ผู้เรยี นน้อยกว่าร้อยละ ๕๐ ดเี ลศิ - สามารถอา่ นคำในบทเรียนได้อยา่ งถูกต้อง ตามหลกั ภาษา ยอดเย่ียม - สามารถ เขียนคำในบทเรียนไดอ้ ย่างถูกต้องตามหลักภาษา - สามารถเขียนคำพ้นื ฐาน เขียนตามคำบอก เขยี น เรื่องให้สอดคล้อง กับรูปภาพ และตอบคำถามจากเรื่องท่ีอ่านตามระดับชัน้ เรียน - มที ักษะในการคิดคำนวณและแก้ปัญหา ผูเ้ รยี นรอ้ ยละ ๕๐ - ๕๙ - สามารถอ่านคำในบทเรยี นได้อย่างถูกต้อง ตามหลักภาษา - สามารถ เขียนคำในบทเรยี นได้อยา่ งถูกต้องตามหลักภาษา - สามารถเขยี นคำพ้นื ฐาน เขยี นตามคำบอก เขียน เรอ่ื งใหส้ อดคล้อง กบั รปู ภาพ และตอบคำถามจากเรื่องท่ีอ่านตามระดับชั้นเรียน - มีทักษะในการคิดคำนวณและแกป้ ัญหา ผเู้ รยี นร้อยละ 60 – 69 - สามารถอ่านคำในบทเรยี นได้อย่างถูกต้อง ตามหลกั ภาษา - สามารถ เขยี นคำในบทเรียนไดอ้ ยา่ งถูกต้องตามหลักภาษา - สามารถเขยี นคำพน้ื ฐาน เขยี นตามคำบอก เขียน เรือ่ งให้สอดคล้อง กบั รปู ภาพ และตอบคำถามจากเร่อื งที่อา่ นตามระดับชน้ั เรียน - มที ักษะในการคดิ คำนวณและแกป้ ัญหา ผู้เรยี นร้อยละ 70 – 79 - สามารถอา่ นคำในบทเรยี นได้อยา่ งถูกต้อง ตามหลักภาษา - สามารถ เขียนคำในบทเรียนไดอ้ ยา่ งถูกต้องตามหลกั ภาษา - สามารถเขียนคำพน้ื ฐาน เขยี นตามคำบอก เขียน เร่อื งใหส้ อดคล้อง กบั รูปภาพ และตอบคำถามจากเรอ่ื งทอ่ี ่านตามระดบั ช้ันเรียน - มีทักษะในการคิดคำนวณและแกป้ ัญหา ผู้เรยี นมากกวา่ ร้อยละ 80 - สามารถอ่านคำในบทเรียนได้อยา่ งถูกต้อง ตามหลักภาษา - สามารถ เขยี นคำในบทเรยี นได้อย่างถูกต้องตามหลกั ภาษา - สามารถเขียนคำพืน้ ฐาน เขยี นตามคำบอก เขยี น เรื่องใหส้ อดคล้อง กบั รปู ภาพ และตอบคำถามจากเรือ่ งท่อี ่านตามระดับชนั้ เรียน
๓๙ ระดบั คุณภาพ คำอธิบายระดับคุณภาพ - มที กั ษะในการคดิ คำนวณและแกป้ ญั หา วธิ เี ก็บรวบรวมขอ้ มูล/แหล่งขอ้ มูล วธิ ีเกบ็ รวบรวมข้อมูล แหล่งข้อมูล 1.การสมั ภาษณ์/สอบถาม นักเรยี นและครู 2.การสังเกต/การทดสอบ การอา่ น การเขียน ของนักเรียนรบั ชนั้ ป.1 –ป.6 3.เอกสาร หลกั ฐาน ร่องรอย - กจิ กรรมอา่ นออกเขยี นได้ การปฏบิ ัติงาน หรือข้อมูลเชงิ - โครงการกระดับผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนและการ ประจักษ์ ทดสอบระดบั ชาติ - โครงการพฒั นาทักษะกระบวนการคิและแกป้ ัญหาอย่าง เป็นระบบ - โครงการศึกษาแหลง่ เรยี นร้นู อกสถานท่ี - กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลารู้ ขอ้ ที่ 2 มคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์ คิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยน ความ คดิ เห็น และแกป้ ัญหา มาตรฐานการศึกษาโรงเรียนบา้ นบ่งุ ฝาง ๑. ผู้เรียนมคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ พจิ ารณาอยา่ งรอบคอบ โดยใชเ้ หตุผลประกอบการตัดสินใจ มีการอภิปรายแลกเปลี่ยนความคดิ เห็น และแก้ปัญหาอยา่ งมี เหตผุ ล ๒. ผ้เู รยี นสามารถแยกแยะขอ้ เท็จจรงิ รายละเอียด และสรปุ ความคิดจากเรื่องที่ อา่ น ฟงั และดู ๓. นำความรเู้ ดิมมาอธิบาย และเสนอความคิดจากเร่ืองท่ี อา่ น ฟงั และดู โดยการ พูดหรือเขียนได้หลายรูปแบบตามความคิดเห็นของ ตนเองไดอ้ ย่างสมเหตผุ ล คำอธิบาย
๔๐ ผู้เรียนสามารถคิดอย่างมีวิจารณญาณจำแนกแยกแยะใคร่ครวญไตร่ตรอง มีวิธีการ สร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง รู้จักการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบรอบด้าน รวมทั้งกล้าแสดงความ คดิ เห็นแลกเปล่ียนความร้ทู งั้ ในห้องเรียนและในชีวิตประจำวนั ระดบั คณุ ภาพ การให้ระดับคุณภาพ กำลงั พฒั นา คำอธิบายระดบั คุณภาพ ปานกลาง ดี ผู้เรียนน้อยกว่าร้อยละ ๕๐ - มคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์ พิจารณาอย่าง รอบคอบ โดยใช้เหตผุ ลประกอบการตัดสินใจ มกี ารอภปิ ราย แลกเปลี่ยนความคิดเหน็ และแกป้ ญั หาอยา่ งมเี หตุผล - สามารถแยกแยะข้อเทจ็ จรงิ รายละเอยี ด และสรุปความคดิ จากเรอ่ื ง ท่ี อ่าน ฟัง และดู - นำความรเู้ ดมิ มาอธิบาย และเสนอความคดิ จากเรื่องท่ี อ่าน ฟัง และ ดู โดยการพูดหรือเขียนไดห้ ลายรูปแบบตามความคดิ เหน็ ของ ตนเอง ได้อยา่ งสมเหตผุ ล ผ้เู รยี นรอ้ ยละ ๕๐-59 - มคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ พจิ ารณาอย่าง รอบคอบ โดยใช้เหตุผลประกอบการตดั สนิ ใจ มกี ารอภปิ ราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแกป้ ญั หาอยา่ งมเี หตุผล - สามารถแยกแยะขอ้ เทจ็ จริง รายละเอยี ด และสรุปความคิดจากเรอื่ ง ท่ี อา่ น ฟัง และดู - นำความร้เู ดมิ มาอธบิ าย และเสนอความคิดจากเรื่องที่ อา่ น ฟงั และ ดู โดยการพดู หรอื เขยี นไดห้ ลายรปู แบบตามความคดิ เห็นของ ตนเอง ได้อยา่ งสมเหตุผล ผู้เรียนน้อยกว่าร้อยละ 60-69 - มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ พิจารณาอย่าง รอบคอบ โดยใช้เหตผุ ลประกอบการตดั สนิ ใจ มกี ารอภิปราย แลกเปลยี่ นความคิดเหน็ และแกป้ ญั หาอย่างมีเหตุผล - สามารถแยกแยะข้อเท็จจริง รายละเอียด และสรุปความคิดจากเรอื่ ง ที่ อา่ น ฟงั และดู - นำความร้เู ดมิ มาอธบิ าย และเสนอความคิดจากเร่ืองที่ อ่าน ฟงั และ
๔๑ ระดับคณุ ภาพ คำอธบิ ายระดับคณุ ภาพ ดเี ลศิ ดู โดยการพูดหรอื เขยี นได้หลายรูปแบบตามความคดิ เห็นของ ตนเอง ยอดเย่ียม ได้อยา่ งสมเหตุผล ผู้เรียนร้อยละ 70-79 - มีความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ พจิ ารณาอย่าง รอบคอบ โดยใช้เหตผุ ลประกอบการตดั สินใจ มกี ารอภปิ ราย แลกเปล่ยี นความคิดเห็น และแกป้ ัญหาอย่างมเี หตผุ ล - สามารถแยกแยะขอ้ เท็จจริง รายละเอียด และสรุปความคดิ จากเร่ือง ที่ อ่าน ฟัง และดู - นำความรู้เดิมมาอธบิ าย และเสนอความคิดจากเรื่องที่ อ่าน ฟัง และ ดู โดยการพูดหรอื เขยี นได้หลายรูปแบบตามความคดิ เห็นของ ตนเอง ไดอ้ ย่างสมเหตุผล ผเู้ รยี นมากกว่ารอ้ ยละ 80 - มคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์ พจิ ารณาอย่าง รอบคอบ โดยใช้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ มีการอภิปราย แลกเปลีย่ นความคิดเห็น และแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล - สามารถแยกแยะขอ้ เท็จจริง รายละเอยี ด และสรปุ ความคดิ จากเร่อื ง ที่ อา่ น ฟัง และดู - นำความรู้เดิมมาอธิบาย และเสนอความคดิ จากเร่ืองท่ี อ่าน ฟงั และ ดู โดยการพดู หรอื เขียนไดห้ ลายรปู แบบตามความคิดเห็นของ ตนเอง ไดอ้ ย่างสมเหตผุ ล วธิ ีเก็บรวบรวมข้อมลู /แหล่งข้อมูล วธิ ีเก็บรวบรวมขอ้ มลู แหลง่ ข้อมลู 1.การสมั ภาษณ์/สอบถาม 2.การสงั เกต/การทดสอบ นักเรียนและครู ทักษะการคิดวเิ คราะห์ การอภปิ รายผล แลกเปลี่ยนความรู้ 3.เอกสาร หลักฐาน รอ่ งรอย การปฏิบัติงาน หรือขอ้ มูลเชิง ตลอดจนการแสดงความคดิ เห็น ของนกั เรียน ประจกั ษ์ - โครงการกระดบั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นและการ ทดสอบระดับชาติ - โครงการพัฒนาทกั ษะกระบวนการคิดและแก้ปัญหา อยา่ งเป็นระบบ - โครงการศึกษาแหลง่ เรยี นรู้นอกสถานท่ี - กิจกรรมลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้
๔๒ วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล แหล่งข้อมูล - กิจกรรมสง่ เสริมประชาธปิ ไตย ขอ้ ที่ 3 มคี วามสามารถในการสร้างนวตั กรรม มาตรฐานการศึกษาโรงเรยี นบา้ นบ่งุ ฝาง ๑. ผเู้ รียนมีความสามารถในการคิดรเิ ร่มิ สร้างองคค์ วามรู้ ประยุกต์ใช้ความรใู้ นการ สรา้ งสรรคผ์ ลงานที่เกิดจากการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง และการรว่ มกิจกรรม โดยใชท้ กั ษะกระบวนการกลุ่ม คำอธบิ าย ผูเ้ รียนมีความสามารถในการสร้างสรรค์ชิ้นงาน นวัตกรรม ผ่าน กระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม โดยการศกึ ษาด้วยตนเองและผ่านกจิ กรรมต่างๆ ระดับคณุ ภาพ การให้ระดบั คุณภาพ กำลังพัฒนา ปานกลาง คำอธิบายระดับคุณภาพ ดี ผเู้ รียนน้อยกว่าร้อยละ 50 ดเี ลิศ - มีความสามารถในการคดิ ริเรม่ิ สรา้ งองค์ความรู้ ประยุกต์ใช้ความรู้ใน การสร้างสรรคผ์ ลงานทเี่ กดิ จากการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง และการร่วม กจิ กรรม โดยใช้ทกั ษะกระบวนการกลุ่ม ผู้เรยี นร้อยละ 50-59 - มีความสามารถในการคดิ ริเรมิ่ สร้างองค์ความรู้ ประยกุ ต์ใช้ความรใู้ น การสรา้ งสรรค์ผลงานทเี่ กดิ จากการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง และการรว่ ม กจิ กรรม โดยใชท้ ักษะกระบวนการกลุ่ม ผ้เู รียนรอ้ ยละ 60-69 - มคี วามสามารถในการคิดริเร่ิม สร้างองคค์ วามรู้ ประยุกตใ์ ช้ความรู้ใน การสรา้ งสรรคผ์ ลงานท่ีเกิดจากการเรียนรูด้ ้วยตนเอง และการร่วม กจิ กรรม โดยใชท้ กั ษะกระบวนการกล่มุ ผู้เรยี นร้อยละ 70-79 - มคี วามสามารถในการคิดรเิ ริ่ม สรา้ งองค์ความรู้ ประยกุ ตใ์ ช้ความรใู้ น การสร้างสรรค์ผลงานที่เกดิ จากการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง และการร่วม กจิ กรรม โดยใช้ทักษะกระบวนการกลุม่
๔๓ ระดบั คณุ ภาพ คำอธบิ ายระดับคณุ ภาพ ยอดเยี่ยม ผู้เรยี นร้อยละ 80 - มคี วามสามารถในการคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งองคค์ วามรู้ ประยุกตใ์ ช้ความรู้ใน การสรา้ งสรรคผ์ ลงานที่เกดิ จากการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง และการร่วม กิจกรรม โดยใช้ทักษะกระบวนการกลมุ่ วิธีเก็บรวบรวมขอ้ มูล/แหล่งขอ้ มูล วธิ เี ก็บรวบรวมข้อมูล แหลง่ ข้อมลู 1.การสมั ภาษณ์/สอบถาม นักเรียนและครู 2.การสังเกต/การทดสอบ ทกั ษะการทำงานเปน็ กลมุ่ การสรา้ งสรรคช์ ิน้ งานของนักเรยี น 3.เอกสาร หลกั ฐาน รอ่ งรอย การปฏบิ ตั งิ าน หรือข้อมูลเชิง - กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพิ่มเวลารู้ ประจกั ษ์ - ช้นิ งานท่ีนกั เรยี นสร้างขน้ึ จากองค์ความร้ใู นรายวชิ าที่ เรียน - บันทกึ หลงั สอนของครผู ้สู อนประจำกลุ่มสาระการเรยี นรู้ - ภาพถ่ายการรว่ มกิจกรรม และชิน้ งาน ข้อท่ี 4 มคี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร มาตรฐานการศกึ ษาโรงเรยี นบ้านบ่งุ ฝาง ๑. ผ้เู รยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอรท์ ้ังพ้ืนฐาน และเฉพาะ ทาง สบื คน้ นำเสนอขอ้ มูล และผลงาน เพื่อพฒั นาการเรยี นรู้ของตนเองไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ คำอธิบาย ผู้เรียนมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีในการทำงานในด้านต่างๆ ทั้งโปรแกรมท่ีใช้ในงาน สำนักงาน และโปรแกรมประยุกตเ์ ฉพาะทาง เช่น โปรแกรมแต่งภาพ โปรแกรมออกแบบ การใหร้ ะดบั คณุ ภาพ
๔๔ ระดบั คณุ ภาพ คำอธบิ ายระดับคณุ ภาพ กำลังพัฒนา ปานกลาง ผเู้ รียนนอ้ ยกว่าร้อยละ 50 - มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอรท์ ัง้ ดี พน้ื ฐาน และเฉพาะทาง สืบค้น นำเสนอข้อมลู และผลงาน เพ่อื พัฒนาการเรยี นรู้ของตนเองได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ดเี ลิศ ยอดเย่ียม ผู้เรยี นรอ้ ยละ 50-59 - มคี วามรู้ ความเข้าใจ และสามารถใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอรท์ ง้ั พื้นฐาน และเฉพาะทาง สืบค้น นำเสนอข้อมูล และผลงาน เพอื่ พัฒนาการเรียนรู้ของตนเองได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ผเู้ รียนร้อยละ 60-69 - มคี วามรู้ ความเข้าใจ และสามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอรท์ ง้ั พื้นฐาน และเฉพาะทาง สืบค้น นำเสนอขอ้ มูล และผลงาน เพอ่ื พัฒนาการเรยี นรู้ของตนเองไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ - ผูเ้ รยี นรอ้ ยละ 70-79 - มีความรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอร์ทงั้ พื้นฐาน และเฉพาะทาง สืบค้น นำเสนอข้อมูล และผลงาน เพือ่ พฒั นาการเรียนรู้ของตนเองไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ผเู้ รียนรอ้ ยละ 80 - มคี วามรู้ ความเข้าใจ และสามารถใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ทั้ง พื้นฐาน และเฉพาะทาง สืบค้น นำเสนอข้อมลู และผลงาน เพอ่ื พฒั นาการเรียนรู้ของตนเองไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ วธิ ีเก็บรวบรวมขอ้ มลู /แหล่งข้อมูล วธิ เี ก็บรวบรวมข้อมูล แหล่งข้อมูล 1.การสมั ภาษณ์/สอบถาม นักเรียนและครู 2.การสังเกต/การทดสอบ ทักษะการใช้สอื่ และเทคโนโลยสี ารสนเทศของนักเรยี น 3.เอกสาร หลกั ฐาน รอ่ งรอย - โครงการศึกษาแหลง่ เรยี นรู้นอกสถานที่ การปฏิบัตงิ าน หรือข้อมูลเชงิ - กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้ ประจักษ์ - ผลงาน-ช้นิ งานในการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ - โครงการพฒั นาระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อ การศกึ ษา
๔๕ ขอ้ ท่ี 5 มผี ลสัมฤทธท์ิ างการเรียนตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา มาตรฐานการศึกษาโรงเรียนบ้านบุง่ ฝาง 1.ผู้เรยี นมผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น ๘ กลุม่ สาระ ตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษากำหนดและ ผา่ นเกณฑ์มาตรฐานการทดสอบระดับชาติ คำอธบิ าย ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ท้ัง 8 กลุ่มสาระ ก้าวหน้าจากความรู้พื้นฐานเดิม เป็นไปตามเกณฑ์การ ทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาตทิ ั้ง NT และ O-NET ระดบั คุณภาพ การใหร้ ะดบั คุณภาพ กำลงั พัฒนา ปานกลาง คำอธบิ ายระดบั คุณภาพ ดี ผเู้ รียนนอ้ ยกว่าร้อยละ 50 ดีเลศิ - มผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ๘ กลุ่มสาระ ตามหลักสูตรของสถานศึกษา ยอดเยี่ยม กำหนดและผ่านเกณฑม์ าตรฐานการทดสอบระดบั ชาติ ผู้เรียนร้อยละ 50-59 - มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ๘ กลมุ่ สาระ ตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา กำหนดและผ่านเกณฑม์ าตรฐานการทดสอบระดบั ชาติ ผเู้ รียนร้อยละ 60-69 - มผี ลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น ๘ กล่มุ สาระ ตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา กำหนดและผา่ นเกณฑ์มาตรฐานการทดสอบระดับชาติ ผู้เรียนรอ้ ยละ 70-79 - มีผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น ๘ กลุ่มสาระ ตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา กำหนดและผ่านเกณฑ์มาตรฐานการทดสอบระดบั ชาติ ผู้เรยี นร้อยละ 80 - มผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ๘ กลมุ่ สาระ ตามหลักสตู รของสถานศึกษา กำหนดและผา่ นเกณฑม์ าตรฐานการทดสอบระดับชาติ
๔๖ วธิ เี ก็บรวบรวมข้อมูล/แหล่งขอ้ มูล วธิ เี ก็บรวบรวมขอ้ มูล แหล่งข้อมลู 1.การสมั ภาษณ์/สอบถาม 2.การสงั เกต/การทดสอบ นกั เรยี น ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนและผลการทดสอบระดับชาติ 3.เอกสาร หลักฐาน ร่องรอย การปฏบิ ัติงาน หรอื ข้อมูลเชงิ ของนักเรียน ประจกั ษ์ - กิจกรรมอ่านออกเขยี นได้ - โครงการกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนและการ ทดสอบระดบั ชาติ - โครงการพัฒนาทกั ษะกระบวนการคิดและแก้ปัญหา อย่างเปน็ ระบบ - โครงการศึกษาแหล่งเรียนรนู้ อกสถานท่ี - กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้ - กจิ กรรมสง่ เสริมประชาธิปไตย - โครงการพฒั นาหลักสตู รสถานศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน ขอ้ ท่ี 6 มีความรู้ ทกั ษะพ้นื ฐาน และเจตคตทิ ดี่ ีต่องานอาชีพ มาตรฐานการศกึ ษาโรงเรียนบา้ นบุ่งฝาง 1.ผู้เรยี นมคี วามรู้ เจตคตทิ ่ดี ีต่อวชิ าชพี มีทกั ษะพืน้ ฐานในการทำงาน อยา่ งเป็นข้นั ตอน มีการ ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงานจนบรรลุผลสำเร็จตามวัตถปุ ระสงค์ทีก่ ำหนด คำอธบิ าย ผู้เรียนมีความรู้ท่ียั่งยืนสามารถต่อยอดความรู้ในระดับที่สูงข้ึน ตลอดจนการมีเจตคติที่ดีต่อ วชิ าชพี ของตนในอนาคต ระดับคุณภาพ การใหร้ ะดบั คณุ ภาพ กำลังพฒั นา ปานกลาง คำอธิบายระดบั คุณภาพ ผเู้ รยี นน้อยกวา่ ร้อยละ 50 - มคี วามรู้ เจตคติทีด่ ีต่อวชิ าชีพมีทักษะพืน้ ฐานในการทำงาน อยา่ งเปน็ ข้ันตอน มีการปรับปรงุ แกไ้ ขการทำงานจนบรรลุผลสำเร็จตาม วัตถปุ ระสงค์ทกี่ ำหนด ผเู้ รียนร้อยละ 50-59 - มคี วามรู้ เจตคติทดี่ ตี ่อวิชาชพี มที ักษะพนื้ ฐานในการทำงาน อย่างเป็น
๔๗ ระดับคุณภาพ คำอธิบายระดบั คุณภาพ ดี ขัน้ ตอน มีการปรับปรุงแก้ไขการทำงานจนบรรลุผลสำเร็จตาม วัตถุประสงค์ที่กำหนด ผเู้ รียนร้อยละ 60-69 - มคี วามรู้ เจตคติทดี่ ีต่อวชิ าชพี มที กั ษะพ้ืนฐานในการทำงาน อย่างเปน็ ขั้นตอน มีการปรบั ปรุงแกไ้ ขการทำงานจนบรรลุผลสำเร็จตาม วัตถุประสงค์ทก่ี ำหนด ดีเลศิ ผู้เรียนร้อยละ 70-79 ยอดเย่ียม - มคี วามรู้ เจตคติทด่ี ีต่อวชิ าชีพมที กั ษะพื้นฐานในการทำงาน อยา่ งเปน็ ขัน้ ตอน มีการปรับปรุงแกไ้ ขการทำงานจนบรรลผุ ลสำเร็จตาม วตั ถุประสงค์ทก่ี ำหนด ผู้เรียนรอ้ ยละ 80 - มีความรู้ เจตคติที่ดีต่อวชิ าชีพมที กั ษะพืน้ ฐานในการทำงาน อย่างเปน็ ขัน้ ตอน มีการปรับปรุงแกไ้ ขการทำงานจนบรรลผุ ลสำเร็จตาม วตั ถุประสงค์ท่ีกำหนด วิธเี กบ็ รวบรวมขอ้ มูล/แหล่งข้อมูล วธิ ีเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล แหลง่ ข้อมลู 1.การสมั ภาษณ์/สอบถาม นกั เรยี นและครู 2.การสงั เกต/การทดสอบ ทักษะและเจตคติท่ีดีต่ออาชพี ของผู้เรียน 3.เอกสาร หลกั ฐาน รอ่ งรอย - โครงการศึกษาแหล่งเรยี นรูน้ อกสถานท่ี การปฏิบัตงิ าน หรือข้อมลู เชิง - กจิ กรรมส่งเสรมิ ประชาธปิ ไตย ประจกั ษ์ - โครงการสร้างงานสร้างอาชีพ มุ่งสศู่ ตวรรษที่ 21 - การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้กล่มุ สาระการงานอาชีพ - ภาพถา่ ยการร่วมกจิ กรรมต่างๆ กบั องค์กรในชุมชน ๑.2 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผ้เู รยี น ข้อท่ี 1 การมีคณุ ลกั ษณะและค่านิยมที่ดตี ามทส่ี ถานทกี่ ำหนด มาตรฐานการศึกษาโรงเรยี นบา้ นบุง่ ฝาง
๔๘ ๑. ผู้เรียนมีคุณลักษณะอนั พึงประสงคต์ ามหลกั สูตรแกนกลาง และค่านิยมหลกั ตามเกณฑท์ ี่ สถานศกึ ษากำหนด คำอธิบาย ผู้เรยี นมคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงคท์ ้ัง 8 ขอ้ ตามหลักสตู รสถานศกึ ษา รวมถึงมคี า่ นยิ มท่ดี ที ั้ง 12 ประการสามารถอยูร่ ่วมกบั ผู้อ่นื ในสังคมไดอ้ ยา่ งสงบสุข ระดับคุณภาพ การใหร้ ะดับคณุ ภาพ กำลงั พฒั นา ปานกลาง คำอธบิ ายระดับคุณภาพ ดี ผูเ้ รียนนอ้ ยกวา่ ร้อยละ 50 ดเี ลศิ - มีคณุ ลักษณะอันพึงประสงคต์ ามหลกั สูตรแกนกลาง และคา่ นิยมหลัก ยอดเยี่ยม ตามเกณฑท์ ีส่ ถานศึกษากำหนด ผู้เรยี นรอ้ ยละ 50-59 - มคี ุณลักษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลกั สูตรแกนกลาง และค่านยิ มหลัก ตามเกณฑ์ทีส่ ถานศึกษากำหนด ผู้เรยี นรอ้ ยละ 60-69 - ผูเ้ รียนมคี ณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลาง และ คา่ นิยมหลัก ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด ผู้เรยี นร้อยละ 70-79 - มีคุณลักษณะอนั พึงประสงคต์ ามหลกั สูตรแกนกลาง และค่านิยมหลกั ตามเกณฑ์ทส่ี ถานศึกษากำหนด ผู้เรยี นมากกวา่ รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป - มคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงคต์ ามหลักสตู รแกนกลาง และคา่ นยิ มหลัก ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด วิธเี กบ็ รวบรวมข้อมูล/แหล่งข้อมูล วิธีเก็บรวบรวมข้อมลู แหล่งข้อมลู 1.การสมั ภาษณ์/สอบถาม นักเรยี นและครู 2.การสงั เกต/การทดสอบ ผลการพฒั นาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 3.เอกสาร หลกั ฐาน ร่องรอย และคา่ นิยมหลักของผเู้ รยี น การปฏบิ ัติงาน หรอื ข้อมูลเชิง ประจกั ษ์ - โครงการศึกษาแหลง่ เรยี นร้นู อกสถานท่ี - กิจกรรมสง่ เสริมประชาธปิ ไตย - โครงการตามกจิ กรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น - กจิ กรรมส่งเสรมิ คุณธรรมจริยธรรมนักเรยี น
Search