Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วย3_อริยสัจ 4 (นิโรธ มรรค)

หน่วย3_อริยสัจ 4 (นิโรธ มรรค)

Published by parunya2301, 2022-08-07 14:26:07

Description: หน่วย3_อริยสัจ 4 (นิโรธ มรรค)

Search

Read the Text Version

ห น่ ว ย กา รเ รีย นรูท้ ี่ 3 • พระรตั นตรยั • อรยิ สจั 4 • การปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ธรรม

หลกั ธรรมที่เกย่ี วกบั นิโรธ 3. นิโรธ คอื การดบั ทกุ ข์ หลักธรรมท่ีควรบรรลุเพื่อดับทุกข์ ไดแ้ ก่ อตั ถะ อัตถะ ประโยชน์ของการปฏบิ ัตติ ามพระธรรมคาสอนของพระพุทธเจา้ ท่ีผปู้ ฏบิ ัติธรรมพงึ ไดร้ ับ แบง่ เปน็ 3 ประเภท สงู ต่าตามภูมิธรรมทีป่ ฏิบตั ิ 1. ทฏิ ฐธมั มกิ ตั ถะ (ประโยชน์ข้ันตน้ ) • ประโยชน์เฉพาะหน้า เป็นผลท่ีมองเห็นในชีวิตประจาวันที่คน ท่ัวไปปรารถนาจะได้รับ เชน่ ความสุข โชคลาภ ชีวติ ค่ทู ่ีเปน็ สุข 2. สมั ปรายกิ ตั ถะ (ประโยชนข์ ้นั สูง) • ประโยชน์เบ้อื งหนา้ เปน็ ประโยชนท์ เี่ ปน็ คุณค่าของชวี ติ เช่น ความเป็นคนมีเหตุผล มีความฉลาดรอบรู้ แก้ไขปัญหาชีวิต ได้อย่างถูกต้อง 3. ปรมัตถะ (ประโยชนข์ ัน้ สงู สดุ ) • ประโยชน์ที่เป็นสาระแท้จริงของชีวิต เรียกว่า นิพพานหรือการดับ กเิ ลสไดโ้ ดยสนิ้ เชิง โดยปฏิบตั ิตามหลกั มรรค 8 1

หลักธรรมท่เี ก่ยี วกบั มรรค 4. มรรค คือ วิธีการไปสู่ทางดับทุกข์ หลักธรรมที่ควรปฏิบัติเพ่ือไปสู่ทางดับทุกข์ ได้แก่ มรรค 8 ปัญญา 3 , บญุ กิริยาวตั ถุ 10 , อบุ าสกธรรม 7 , มงคล 38 1) มรรคมีองค์ 8 วธิ ีการ/หนทางท่ีนาไปสู่ทางดับทกุ ข์ ดงั นี้ 1. สัมมาทิฐิ (ความเห็นชอบ) 5. สมั มาอาชวี ะ (เลีย้ งชพี ชอบ) มีความเข้าใจในทางท่ถี ูกตอ้ ง ร้วู ่าส่ิงไหนดี ส่ิงไหนไมด่ ี การทามาหากนิ ที่สจุ รติ 2. สมั มาสงั กัปปะ (ความดาริชอบ) 6. สัมมาวายามะ (พยายามชอบ) มีความคิดในทางท่ีดี ไมค่ ดิ โลภอยากได้ของคนอื่น ความเพียรพยายามทางจิตไม่ให้ทาความชวั่ 3. สัมมาวาจา (เจรจาชอบ) 7. สัมมาสติ (ตง้ั สตชิ อบ) งดเวน้ จากการพูดจาในทางท่ไี ม่ดี การมสี ติ พจิ ารณาและร้เู ท่าทน้ สงิ่ ต่างๆตามความเปน็ จริง 4. สมั มากัมมันตะ (กระทาชอบ) 8. สมั มาสมาธิ (ตงั้ จิตม่ันชอบ) มีความประพฤตดิ ี เชน่ ไมล่ ักขโมย การต้ังจติ ใหแ้ น่วแน่ ตัง้ ใจทาในสิง่ ทด่ี งี าม 2

อรยิ สจั 4 หลักธรรมที่เก่ียวกบั มรรค ความร้ทู ี่ได้จากการไดย้ นิ ไดฟ้ ัง ทาใหเ้ ป็น 2. จินตามยปญั ญา ความร้ทู ไ่ี ด้จากการลงมอื ทา คนหูตากว้างไกล ไดร้ ับยกย่องวา่ เปน็ และรู้ผลของสงิ่ ตา่ งๆ ด้วยตนเอง พหูสูตผูค้ งแก่เรยี น ซง่ึ การศกึ ษาตาม ปญั ญาทเี่ กดิ จากการคดิ “หลกั พหสู ูต” ประกอบด้วย 5 ขั้น คือ 3. ภาวนามยปัญญา ฟงั มาก จาได้ คลอ่ งปาก เจนใจ ความรทู้ ี่ไดจ้ ากการคดิ หลายเรือ่ งทีไ่ ดย้ นิ ประยุกต์ใชไ้ ด้ ได้ฟัง ได้อ่าน อาจไม่เข้าใจ แตเ่ มอื่ นามา ปัญญาท่เี กิดจากการลงมอื ทา 1. สตุ มยปญั ญา คดิ อย่างรอบคอบกย็ อ่ มเขา้ ใจ และหายสงสัยได้ ปญั ญาทเี่ กดิ จากการฟัง 2) ปญั ญา 3 ความรอบรู้ ซง่ึ เกดิ ขึ้นได้ 3 ทาง ดังนี้ 3

อริยสจั 4 หลักธรรมท่ีเกี่ยวกบั มรรค 3) บุญกริ ยิ าวตั ถุ 10 การทาบุญ/การทาความดี สามารถทาได้ 10 ทาง ดังนี้ 1. ทาบุญด้วยการให้ (ทานมยั ) 6. ทาบุญดว้ ยการเฉล่ียสว่ นความดีให้ผูอ้ นื่ (ปตั ตทิ านมยั ) เช่น การถวายสงิ่ ของแดพ่ ระสงฆ์ เชน่ การชวนเพอ่ื นทาความสะอาดห้องเรยี น 2. ทาบญุ ดว้ ยการรักษาศีล (สีลมัย) 7. ทาบุญดว้ ยการยินดีในความดขี องผู้อนื่ (ปตั ตานโุ มทนามยั ) เชน่ การรักษาศลี 5 เป็นประจา เช่น การรว่ มยินดี เม่อื เหน็ ผ้อู ื่นทาความดี 3. ทาบญุ ด้วยการอบรมจติ ใจ (ภาวนามยั ) 8. ทาบุญด้วยการฟังธรรม (ธมั มสั สวนมยั ) เช่น การฝึกฝนอบรมจติ ใจให้สงบ เชน่ การรับฟงั ความรู้ท่ีเปน็ ประโยชน์ และค้นควา้ หาความรู้อยูเ่ สมอ 4. ทาบญุ ดว้ ยการประพฤตอิ อ่ นนอ้ ม 9. ทาบญุ ด้วยการสง่ั สอนธรรม (ธมั มเทสนามยั ) (อปจายนมยั ) เชน่ การเปน็ คนสภุ าพ มีสมั มาคารวะ 5. ทาบญุ ดว้ ยการรับใช้ (เวยยาวัจจมยั ) เช่น การถ่ายทอดความรทู้ ่ีเปน็ ประโยชนแ์ กผ่ ู้อ่ืน เช่น การชว่ ยเหลอื พอ่ แม่ทางานบ้าน 10. ทาบญุ ดว้ ยการทาความเห็นใหต้ รง (ทฏิ ฐชุ ุกมั ม)์ 4 เช่น การใช้ปญั ญาไตร่ตรองว่าส่งิ ใดผดิ สง่ิ ใดถูก

หลกั ธรรมท่เี ก่ียวกบั มรรค 4) อบุ าสกธรรม 7 1. หมั่นไปวดั พบปะพระสงฆ์ การทาบุญ 2. หมน่ั ฟงั ธรรม ศกึ ษาหาความรู้ท่เี ปน็ ประโยชน์ หลกั ธรรมสาหรับผ้คู รองเรือน 3. ฝึกตนเองใหม้ รี ะเบยี บวินัย มีศลี ประพฤติในสงิ่ ทด่ี ีงาม และบง่ บอกหนา้ ทีข่ องพุทธศาสนกิ ชน 4. สร้างความร้สู กึ ดีงาม มคี วามเลื่อมใสตอ่ พระสงฆ์ 5. ตั้งใจฟงั ธรรมดว้ ยความเคารพ ไมฟ่ งั เพราะตงั้ ใจจบั ผดิ ที่พงึ ปฏบิ ัติต่อพระพุทธศาสนา 6. ไมแ่ สวงหาเขตบุญนอกหลกั พระพทุ ธศาสนา 7. เอาใจใสท่ านุบารุงรักษาพระพุทธศาสนาดว้ ยวิธีการต่างๆ 5

อรยิ สจั 4 หลักธรรมทเี่ กย่ี วกบั มรรค 5) มงคล 38 ธรรมอนั นามาซง่ึ ความสขุ ความเจรญิ มที ั้งหมด 38 ประการ ยกตัวอย่างเชน่ 1. มีศิลปวทิ ยา 2. พบสมณะ การมีความรู้ท้ังด้านทฤษฎีและทักษะปฏิบัติท่ีช่วย การพบสมณะซึ่งถือเป็นผู้ทรงศีล นับเป็นมงคล ในการทางาน สามารถประกอบอาชีพ สร้างรายได้ แก่ชีวิต เน่ืองจากได้มีโอกาสสนทนาหรือฟังธรรมจาก และดารงชีวิตเพื่อเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้อย่าง ท่าน ทาให้เราได้พบหนทางสว่าง และมีจิตใจสารวม มคี วามสขุ เช่นเดียวกับท่าน เป็นผลให้นามาซึ่งความสุขความ เจริญแหง่ ชวี ิต 6

หลกั ธรรมท่เี กี่ยวกบั มรรค 5) มงคล 38 ธรรมอนั นามาซงึ่ ความสุขความเจริญ มีทั้งหมด 38 ประการ ยกตวั อยา่ งเช่น 3. ฟงั ธรรมตามกาล 4. การสนทนาธรรมตามกาล การรู้จักหาโอกาสไปเข้าวัดฟังธรรม เช่น วันสาคัญ การหาโอกาสสนทนาธรรมกับผู้รู้ หรือเมื่อมีข้อ สงสัยในธรรมข้อใด ก็นาข้อธรรมนั้นไปปรึกษาผู้รู้ ทางพระพุทธศาสนา ซ่ึงถือเป็นการสร้างมงคลให้แก่ชีวิต เพื่อให้เข้าใจชัดเจน อันนามาซึ่งสติปัญญาและช่วย ขอ้ ควรปฏิบัติในการฟงั ธรรม มดี งั นี้ ยกระดับจิตใจใหส้ ูงขน้ึ 1. ควรมีศรัทธาในตวั ผ้แู สดงธรรม 2. ไมด่ ูหม่ินธรรมทีท่ า่ นแสดง 3. ฟังด้วยความต้ังใจ 4. นาเอาหลักธรรมไปปฏิบัติ มงคลทั้ง 4 ประการดงั กล่าว เปน็ มงคลทเ่ี กิดจากการ 7 เรยี นร้ดู ว้ ยการฟัง หากฟงั ในสงิ่ ท่ีดี ฟังดว้ ยความตั้งใจ ยอ่ มจะนาประโยชนแ์ ละความสุขมาสชู่ วี ิต

แบบฝกึ หดั เร่อื ง อริยสจั 4 คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนยกตัวอย่างปัญหาทเ่ี กดิ ขึน้ กบั ตนเองมา 1 ปัญหา จากนนั้ วิเคราะห์ปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ ตามหลักอรยิ สจั 4 (ทุกข์ สมุทยั นโิ รธ มรรค) ทกุ ข์ (ความไมส่ บายกาย ไมส่ บายใจ) สอบตก สมทุ ัย (สาเหตุของปญั หา) ไมอ่ า่ นหนงั สือ ไมส่ อบตก/สอบผา่ น นโิ รธ (การดับทุกข)์ ต้งั ใจอา่ นหนงั สือ มรรค (วิธีการไปสู่ทางดบั ทกุ ข์) 8


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook