รารยาชยอ่ื ผชื่อทู้ ผรงทู้ ครณุ งควุฒุณผิ วปูุ้ฒระผิ เมู้ปินรบะเทมคินวบาทมค(วPาeมer(PReeveireRwe)vปieรwะจ)าฉบบั ประจำ� ฉบปีบัที่ ป2ที ฉี่ บ2บัฉทบี่ ับ1ทเดี่ 1อื เนดอืมนกรมากคมรา-คมิถ-ุนมายถิ นนุ า2ย5น612561 รองศาสตราจารย์ ดร.ธงชัย ฟองสมุทร มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ รองศาสตราจารย์ ดร.พานชิ อนิ ต๊ะ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.อาพรรณ พรมศิริ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พสิ ิษฏ์ มณโี ชติ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ปฏิภาณ สทุ ธิกุลบตุ ร มหาวทิ ยาลัยแม่โจ้ ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.คมกฤตย์ ชมสุวรรณ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ไกรสิทธ์ิ วสเุ พญ็ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ผู้ชว่ ยศาสตราจารยร์ ุง่ นภา ช่างเจรจา มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ผชู้ ่วยศาสตราจารยย์ ุทธนา เขาสเุ มรุ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ดร.ปริญ คงกระพนั ธ์ มหาวทิ ยาลัยแม่โจ้ RVoMl.U21 TNLo.J1oJuarnnuaarlyS-oJcuinaell2y0o168f Engaged Shchoolalrasrhshipip
สารบญั หนา้ 1 บทความรบั เชิญ 7 ตน้ แบบสถานตี รวจวัดฝุ่นละอองลอยในอากาศแบบออนไลน์ตน้ ทนุ ต่�ำ 17 พานิช อนิ ตะ๊ เศรษฐ์ สมั ภตั ตะกุล สมพร จนั ทระ และ พีระพงศ์ ทฆี สกุล 25 บทความวิจยั 33 การพัฒนาหัวเจาะเสรมิ เล็บคาร์ไบด์สำ� หรับเหมอื งถา่ นหนิ ลิกไนต์ สุรพนิ พรมแดน สพุ ล เครือบญุ มา และ สุทธเิ ทพ รมยเวศม์ 49 59 การถ่ายทอดความรเู้ ชงิ นวัตกรรมแบบมสี ่วนร่วม : หตั ถกรรมผา้ ทอจกบา้ นแม่ขี้มูก ตำ� บลบา้ นทับ อำ� เภอแม่แจ่ม จังหวดั เชยี งใหม่ 69 ณงคณ์ ชุ นทพี ายัพทิศ การประเมินปัจจัยความสำ� เรจ็ โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตตามหลกั ปรัญชาเศรษฐกจิ พอเพียง แบบมีส่วนรว่ ม กรณีศกึ ษาบ้านป่าจ้ี ต�ำบลทงุ่ หลวง อำ� เภอพร้าว จงั หวดั เชียงใหม่ ปรชั ญา นามวงค์ Guidelines for the Sustainability of Community Energy Management under the Sufficiency Economy Philosophy Piyaphong Yongphet Dongbao Wang Chanez Maouche Grâce Mulindwa Bahizire Panisa Ondokmaib and Wonradet dutsadeesong การบรหิ ารงานแบบชุมชนมีส่วนรว่ มทเี่ หมาะสมส�ำหรับรา้ นค้าชมุ ชน กรณศี กึ ษา ร้านคา้ ชุมชนบ้านหลวง ตำ� บลโหล่งขอด อ�ำเภอพร้าว จังหวดั เชยี งใหม่ สวสั ด์ิ หากนิ เสรฐสุดา ปรชี านนท ์ วรวิทย์ เลาหะเมทนี และ สรุ ตั น์ ยาสทิ ธ์ิ การพฒั นาโครงงานระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ในค่ายบูรณาการสะเตม็ ศกึ ษากบั ภูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ ในกล่มุ จังหวัดภาคเหนอื ตอนบน ธีระศกั ด์ิ อุรัจนานนท์ วิสูตร อาสนวิจิตร พันธวัฒน์ ไชยวรรณ ์ จัตตุฤทธิ์ ทองปรอน ฉัตรชัย เลาวกลุ และ สวุ ิชช์ ธนะศานวรคณุ บทเรยี นความส�ำเร็จการด�ำเนินงานเสริมสรา้ งสุขภาวะแบบมีสว่ นร่วมของชมรมผู้สงู อายบุ ้านตน้ ขาม สู่การเป็นหม่บู า้ นผสู้ งู อายุต้นแบบจัดการตนเอง : กรณีศึกษาการสร้างเสรมิ สุขภาวะผู้สูงอายุ บ้านตน้ ขาม หมทู่ ี่ 2 ตำ� บลชัยจมุ พล อ�ำเภอลับแล จังหวดั อตุ รดติ ถ์ ตรงกมล สนามเขต ณชิ ารยี ์ ใจค�ำวงั นิตยา กาบจันทร์ วารสารวชิ าการรับใช้สงั คม มทร.ลา้ นนา ปที ่ี 2 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2561
RMUTL Journal Socially of Engaged Sholarship Vol. 1 No. 1 January - June 2016
บทความรับเชิญ ต้นแบบสถานีตรวจวัดฝุ่นละอองลอยในอากาศแบบออนไลน์ต้นทนุ ตา่ A Prototype of a Low Cost, Online Airborne Particulate Monitoring Station พานชิ อนิ ตะ๊ 1* เศรษฐ์ สัมภตั ตะกุล2 สมพร จนั ทระ3 และ พีระพงศ์ ทฆี สกลุ 4 Panich Intra1* Sate Sampattagul2 Somporn Chantara3 and Perapong Tekasakul4 1*รองศาสตราจารย์ ดร. หน่วยวจิ ัยสนามไฟฟ้าประยกุ ต์ในงานวศิ วกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา 2 รองศาสตราจารย์ ดร. ภาควิชาวศิ วกรรมอุตสาหการ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ 3 ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. ภาควิชาเคมี คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ 4 รองศาสตราจารย์ ดร. สถานวจิ ัยมลพษิ ทางอากาศและผลกระทบตอ่ สขุ ภาพและภาควชิ าวศิ วกรรมเครอื่ งกล คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ *E-mail: [email protected] เบอรโ์ ทรศพั ท์ 08-9755-1985 บทคดั ย่อ ในบทความนี้ได้น่าเสนอการพัฒนาต้นแบบสถานีตรวจวัดฝุ่นละอองลอยในอากาศแบบออนไลน์ต้นทุนต่า สถานีต้นแบบที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วยโครงสร้างสถานีพร้อมระบบปรับอากาศและเครื่องวัดปริมาณมวลฝุ่นละออง PM10 และ PM2.5 ในการศกึ ษานตี้ น้ แบบเครอื่ งวดั ปริมาณมวลฝ่นุ ละอองท่ีพัฒนาขน้ึ ใชห้ ลักการวัดกระแสไฟฟ้าสถิต ของอนุภาคผ่านตัวกรองฝุ่นละอองประสิทธิภาพสูง สามารถตรวจวัดและเก็บตัวอย่างฝุ่นละอองในอากาศท้ัง PM10 และ PM2.5 ได้อย่างรวดเร็วใช้เวลาในการประมวลผลเร็วถึง 0.1 วินาที ต้นแบบใช้เทคโนโลยแี ละวัสดุท่ีเหมาะสมให้ ท่างานได้จริงมีราคาถูกกว่าประมาณ 3 เท่า แต่สามารถท่างานได้เทียบเคียงกับเคร่ืองมือที่มีใช้ในปัจจบุ ัน ในปัจจุบนั เครื่องต้นแบบได้ท่าการติดต้ังและใช้ประโยชน์จริงจ่านวน 3 สถานี ในภาคเหนือและภาคใต้ มีการรายงานผลการวดั แบบเรียลไทม์ผ่านเว็ปไซต์ของศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ซึ่งข้อมูลในการตรวจวัดค่า PM2.5 และ PM10 ยังสามารถน่าไปใชป้ ระโยชนใ์ นโมเดลค่านวณหรือพยากรณ์คาดการณ์ปริมาณและการเคลื่อนที่เชิงพฤตกิ รรม ของฝุ่นแบบใกลเ้ รยี ลไทม์ในอนาคตได้ คา่ สา่ คญั ละอองลอย ฝุ่นละออง สถานวี ดั ฝนุ่ ออนไลน์ ตน้ ทนุ ต่า Abstract A prototype of a low cost, online airborne particulate monitoring station was developed and presented in this paper. Developed prototype station was consisted of the station structure with the air conditioning system and the PM10 and PM2.5 mass monitor. In this study, the developed PM10 and PM2.5 mass monitor was used the measurement technique of the charged particle current via the high efficiency particulate air filter. It capable to detecting and measuring the PM10 and PM2.5 in the fast time response of about 0.1 sec. The prototype was used the right technology and materials, the cost of this developed station was about 3 times cheaper, but it can work comparable with the mass monitor currently used. Currently, the prototype is actually installed and used 3 stations in the northern and southern of Thailand. Real-time measurement reports are also available through the Climate Change Data Center website. The PM2.5 and PM10 measurement data can also be used in predictive modeling or forecasting models for predictive volume and behavior of the particulate matter in near-real-time. Keywords Aerosol, Particulate, Particulate Monitoring Station, Low Cost, Online วารสารวชิ าการรับใชส้ งั คม มทร.ลา้ นนา 1 ปีท่ี 2 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2559
บทน่า ซ่อมแซมเครื่องท่ีช่ารุด นอกจากน้ียังส่งผลกิจกรรมที่ ปัญหาหลักของมลพิษทางอากาศภาคเหนือ เกี่ยวข้องกับมลพิษในอากาศในประเทศถูกจ่ากัด ไม่ สามารถด่าเนินได้อย่างกว้างขวาง ท้ังเร่ืองงานวิชาการ และภาคใต้หรือในพ้ืนที่อุตสาหกรรม เช่น โรงโม่หิน งานวิจัย สาธารณสุข การเฝ้าระวังมลพิษ การเตือนภัย โรงงานไฟฟา้ คอื ฝนุ่ ละอองหรอื อนุภาคจลุ สารขนาดเล็ก มลพิษทางอากาศ ในอากาศ ข้อมูลจากการศึกษาวจิ ัยได้บง่ ช้ีความสมั พันธ์ เช่ือมโยงท่ีชัดเจนของปริมาณอนุภาคจุลสารขนาดเล็ก ในบทความนี้จะได้น่าเสนอการพัฒนาต้นแบบ ต่อการเกิดผลกระทบอันเลวร้ายต่อสุขภาพ ทั้งการเพ่ิม สถานีตรวจวัดฝุ่นละอองลอยในอากาศแบบออนไลน์ จ่านวนการเจ็บป่วยเเละเสียชีวิต ท้ังในประชาชนทั่วไป ต้นทุนต่า โดยใช้เทคโนโลยีและวัสดุท่ีเหมาะสมให้ เเละกลุ่มเส่ียง อันได้เเก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้มีอาการ ท่างานไดจ้ ริงมีราคาถูกกว่าประมาณ 3 เท่า แตส่ ามารถ ป่วยทางระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง เเละโรคหัวใจ ท่ า ง า น ไ ด้ เ ที ย บ เ คี ย ง กั บ เ ค ร่ื อ ง มื อ ท่ี มี ใ ช้ ใ น ปั จ จุ บั น หากมีการสูดอนุภาคจุลสารขนาดเล็ก เข้าไปในร่างกาย เ ช่ น Thermo Scientific TEOM Series 1 4 0 0 ab มาก สารประกอบอินทรีย์เคมี โลหะหนักต่างๆ ท่ีเป็น (Thermo Scientific Inc, 2013), Thermo Scientific ส่วนประกอบของมลสาร อาจมีผลที่เป็นอันตราย Model 5014i Beta (Thermo Scientific Inc, 2014) ต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งรายงานการวิจัยทาง Thermo Scientific Model FH62C14 Beta Gauge การแพทย์บ่งชี้ถึงจุดเช่ือมโยงระหว่าง จ่านวน (Thermo Scientific Inc, 2014) มี ข น า ด ท่ี สามารถ ส่วนประกอบทางเคมี และฝุ่นละอองลอยขนาดเล็กกวา่ เคลื่อนย้ายได้สะดวกง่ายต่อการปฏิบัติการ ได้มีการใช้ 2.5 (PM2.5) และ 10 (PM10) ไมครอนกับผลกระทบ วัสดุอุปกรณ์หลายๆ ส่วนทดแทน ฝีมือ เคร่ืองจักร ต่อมนุษย์ โดยจ่าเป็นต้องมีการใช้เคร่ืองมือวัดและเก็บ และเทคโนโลยีการผลิตในการประกอบติดต้ังและสร้าง ตัวอย่างที่ถูกต้องแม่นย่าเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง จากภายในประเทศ 100% มีการออกแบบเครื่องให้มี เพื่อท่ีจะบ่งชี้ถึงปริมาณและแหล่งที่มาของฝุ่นละออง ขนาดที่สะดวกต่อการเคล่ือนย้ายและทนทาน เหมาะ เหล่าน้ี ซ่ึงเป็นข้อมูลที่ส่าคัญเพื่อด่าเนินการควบคุม ส่าหรับงานภาคสนาม โดยได้มีการติดตั้งใช้งานจริงและ ป้องกัน แจ้งเตือนและปรับปรุงคุณภาพแวดล้อม รายงานผลแจง้ เตือนในช่วงทเี่ กดิ ปัญหาหมอกควนั ไฟป่า ในปัจจุบันเครื่องวัดฝุ่นละออง PM2.5 และ PM10 ได้ ในจงั หวดั เชียงใหมแ่ ละสงขลาจ่านวน 3 สถานี ถูกก่าหนดวิธีการวัดโดยองค์การพิทักษ์ส่ิงแวดล้อมแห่ง การพัฒนาต้นแบบสถานีตรวจวัดฝุ่นละอองลอยใน ประเทศสหรัฐอเมริกาหรือ US EPA คือวิธีกราวิเมตริก อากาศแบบออนไลนต์ น้ ทนุ ต่า (gravimetric method) เป็นวิธีการวัดมาตรฐานอ้างอิง และ US EPA ยงั ไดม้ ีการก่าหนดวธิ เี ทียบเคียง (Federal ข้อจ่ากัดของสถานีหรือเคร่ืองตรวจวัดและเก็บ Equivalent Method; FEM) (EPA, 1997) โ ด ย มี ตัวอย่าง PM2.5 และ PM10 ที่มีการพัฒนาท่ีผ่านมาคือ เคร่ืองมือแบบอันโนมัติและแบบกึ่งอัตโนมัติที่สามารถ มีส่วนประกอบที่ซับซ้อนท่าให้ระบบมีขนาดใหญ่ ท่าให้ รายงานผลได้ทันที เช่น เครื่องวัดระบบเบต้า เร (Beta ส้ินเปลืองพลังงานสูงและมีกระบวนการที่ยุ่งยากและมี Ray) เครื่องวัดระบบเทปเปอ อิลิเม้น ออสซิเลต้ิง ต้นทุนสูง ไม่เหมาะสา่ หรับงานตรวจวัดและเก็บตวั อยา่ ง ไ ม โ ค ร บ า ล า น ซ์ ( Tapered Element Oscillating ในภาคสนามทใ่ี ช้ Microbalance) เ ค รื่ อ ง วั ด ร ะ บ บ ไ ด โ ค โ ต มั ส (Dichotomous) เป็นต้น (Federal Register, 1997) เวลาในการวัดยาวนาน และห่างไกลจากแหล่ง พลังงาน และในส่วนของเครื่องตรวจวัดจะมีเวลาการ อย่างไรก็ตาม เคร่ืองมือวัดฝุ่นเหล่าน้ีท่ีมีการใช้ ตอบสนอง (Time response) ในการวัดค่อนข้างต่า งานและจ่าหน่ายในประเทศไทยปัจจุบันมีการผลิตและ ไม่เหมาะส่าหรับการวดั ฝุน่ ละอองทีส่ ภาวะชั่วขณะหรอื มี น่าเข้าจากต่างประเทศทัง้ หมด เน่ืองจากยงั ไมม่ กี ารผลติ การเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วได้ และไม่สามารถวัด เคร่ืองมือวัดฝุ่นเชิงพาณิชย์ในประเทศไทย จึงท่าให้ ปริมาณฝุ่นละอองได้ท้ังปริมาณความเข้มข้นเชิงจ่านวน สูญเสียงบประมาณท้ังในด้านการจัดซ้ือเคร่ืองมือ แ ล ะ ม ว ล แ ล ะ ก า ร น่ า ตั ว อ ย่ า ง ท่ี ไ ด้ น่ า ไ ป วิ เ ค ร า ะ ห์ ค่าบริการหลังการขาย ค่าวัสดุสิ้นเปลือง และการ 2 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
(ก) โครงสร้างสถานพี รอ้ มระบบปรบั อากาศ (ข) เคร่ืองวดั ปริมาณมวลฝนุ่ ละออง PM10 และ PM2.5 ภาพที่ 1 แสดงตน้ แบบสถานตี รวจวัดฝุน่ ละอองลอยในอากาศแบบออนไลนต์ น้ ทุนตา่ ท่ีพฒั นาขน้ึ ภาพที่ 2 ไดอะแกรมของเครอ่ื งวดั ปริมาณมวลฝ่นุ ละออง PM10 และ PM2.5 ในอากาศท่ีพฒั นาข้นึ [8] ภาพที่ 3 ส่งขอ้ มลู ผา่ นเครอื ข่ายอนิ เตอรเ์ นต็ แบบไรส้ าย วารสารวิชาการรับใช้สังคม มทร.ล้านนา 3 ปที ่ี 2 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2559
องค์ประกอบทางเคมี ดังนั้น การใช้หลักการวัด Impaction) เพ่ือให้ได้ฝุ่นท่ีมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง กระแสไฟฟ้าสถิต (Electrostatic current) ของอนุภาค ตามที่กา่ หนด จากนัน้ ฝุ่นจะถกู อดั ประจไุ ฟฟ้าด้วยหลกั การ ผ่านตัวกรองฝุ่นละอองประสิทธิภาพสูง (High Efficiency แพร่กระจายไอออน (Ion diffusion) จากนั้นฝุ่นหรือ Particulate-Free Air Filter ห รื อ HEPA) (Intra et al, อนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าจะตกสะสมลงบนแผ่นกรองท่ีมี 2013) (Yawootti et al, 2015) สามารถตรวจจับและเกบ็ ประสิทธิภาพสูง (HEPA filter) ที่อยู่ภายในลูกถ้วย ตัวอย่างฝุ่นละอองท่ีแขวนลอยในอากาศได้ทั้งปริมาณ ฟาราเดย์ (Faraday cup) และถ่ายเทประจุไฟฟ้าให้แก่ ความเขม้ ขน้ เชิงจ่านวนและมวลและยงั สามารถน่าตัวอยา่ ง สว่ นขยายและแปลงสญั ญาณไฟฟา้ กอ่ นนา่ สัญญาณไฟฟ้า ที่ได้น่าไปวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีได้ สามารถ ที่ไดม้ าผา่ นสมการแปลงเป็นค่ามวลของฝนุ่ แล้วรายงานผล ตรวจวัดฝุ่นละอองในอากาศได้ในเวลาจริงได้ ในปัจจุบัน ในเวลาจริง (Real-time) ในหน่วยมวลต่อปริมาตรอากาศ สถานีหรือเครื่องตรวจวัดฝุ่นเหล่าน้ีท่ีมีการใช้งานและ (ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร; µg/m3) ท่ีมีช่วงการวัด จ่าหนา่ ยในประเทศไทยปัจจบุ ันมีราคาสงู มาก (700,000 – ระหว่าง 0 ถึง 1,000 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 2,000,000 บาท) มีผลิตและน่าเข้าจากต่างประเทศ มีการเช่ือมโยงข้อมูลผลการตรวจวัดแบบไร้สายผ่านระบบ ท้ังหมด จึงท่าให้มีข้อจ่ากัดในการเพ่ิมจ่านวนสถานีให้ เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ 3G และสามารถแสดงผลการวัด ครอบคลุมเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพยากรณ์และแจ้งเตือน บันทึกข้อมูล และแสดงผลเป็นกราฟและตารางใน ด้วยเวลาจริงหรือจ่าลองให้ครอบคลุมพื้นท่ีได้กว้างขวาง เชิงปริมาณฝุ่นต่อเวลาในเว็บบราวน์เซอร์ตามภาพท่ี 3 หากมีใช้สถานีหรือเคร่ืองตรวจวัดที่พัฒนาข้ึนซึ่งมีราคา จึงท่าให้สามารถศึกษาพฤติกรรมการเคลื่อนที่ของฝุ่น ถูกกว่าและสามารถท่างานได้เทียบเคียงจะท่าให้สามารถ ละอองในอากาศได้ แก้ปัญหาดังกล่าวได้และได้ข้อมูลการวัดที่แม่นย่าและ การทดสอบภาคสนาม ครอบคลุมพืน้ ที่มากขึ้น ในการศึกษานี้ได้ท่าการทดสอบวัดฝุ่นละอองใน ภาพที่ 1 แสดงต้นแบบสถานีตรวจวัดฝุ่นละออง อากาศเพื่อเปรียบเทียบกับวิธีการตรวจวดั มาตรฐานตามที่ ลอยในอากาศแบบออนไลน์ต้นทุนต่า สถานีต้นแบบ องค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วยโครงสร้างสถานพี ร้อมระบบปรับอากาศและ ก่าหนดไว้ โดยได้ท่าการการเปรียบเทียบเคร่ืองวัดฝุ่นที่ เคร่ืองวัดปริมาณมวลฝุ่นละออง PM10 และ PM2.5 โดย พัฒนาข้ึนกับแบบเทปเปอ อิลิเม้นท์ ออสซิเลติ้ง ต้นแบบเครื่องวัดปริมาณมวลฝุ่นละออง PM10 และ ไมโครบาลานซ์ หรือ TEOM (Thermo Scientific Inc, PM2.5 ท่ีพัฒนาข้ึนจะใช้หลักการวัดกระแสไฟฟ้าสถิต 2013) ส่าหรับการวัดฝุ่น PM10 ในอากาศโดยรอบ ( Electrostatic current) ข อ ง อ นุ ภ า ค ผ่ า น ตั ว ก ร อง ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ศูนย์ราชการจังหวัด ฝุ่นละอองประสิทธภิ าพสงู (High Efficiency Particulate- เชียงใหม่ พบว่าค่าสมั ประสทิ ธ์สิ หสมั พันธ์ของค่าเฉลีย่ ราย Free Air Filter หรือ HEPA) สามารถตรวจจับและเก็บ 1 ชั่วโมงของ PM10 ท่ีได้จากเครื่องมือวัดทั้งสองวิธีมีค่า ตัวอย่างฝุ่นละอองในอากาศทั้งฝุ่นที่มีขนาดเส้นผ่าน เท่ากับ 0.8352 และพบว่าค่าสัมประสิทธ์ิสหสัมพันธ์ของ ศูนย์กลางเล็กกว่า 10 ไมโครเมตร (PM10) และ 2.5 ค่าเฉลี่ยราย 24 ช่ัวโมงของ PM10 ท่ีได้จากเครื่องมือวัด ไมโครเมตร (PM2.5) ได้อย่างรวดเร็วใช้เวลาในการ ท้งั สองวิธมี คี ่าเท่ากบั 0.9697 ไดท้ ่าการทดสอบภาคสนาม ป ร ะ ม ว ล ผ ล เ ร็ ว ถึ ง 0 . 1 วิ น า ที แ ล ะ ยั ง ส า ม า ร ถ เปรียบเทียบกับเคร่ืองวัดแบบเบต้า เรย์ (Beta Ray) น่าตัวอย่างที่ได้น่าไปวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีและ Model 5014i Beta Continuous Ambient Particulate พิษได้ Monitor ของ Thermo Fisher Scientific Inc. (Thermo Scientific Inc, 2014) ในการวัดฝุ่น PM2.5 ในอากาศ ภาพที่ 2 แสดงไดอะแกรมของเคร่ืองวัดปริมาณ โดยรอบ ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยพุ ราช มวลฝุ่นละออง PM10 และ PM2.5 ในอากาศท่ีพัฒนาข้ึน วิทยาลัยของกรมควบคุมมลพิษในช่วงเดือนพฤษภาคม แ ล ะ ก า ร อิ น เ ต อ ร์ เ ฟ ส เ พื่ อ ค ว บ คุ ม แ ล ะ ส่ ง ข้ อ มู ล ผ่ า น พ.ศ. 2558 ถึง เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2559 พบว่าค่า เครือข่ายอินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย การท่างานของ สัมประสิทธ์ิสหสัมพันธ์ของค่าเฉล่ียราย 24 ช่ัวโมงของ DustDETEC ใช้การดูดอากาศท่ีอัตราการไหล 5 ลิตร PM2.5 ท่ไี ดจ้ ากเคร่อื งมือวัดทงั้ สองวิธีมีค่าเท่ากบั 0.9811 ตอ่ นาที (L/min) ผ่านหัวคัดขนาดทางเข้า (size selective inlet) ท่ีใช้หลักการตกกระทบด้วยแรงเฉื่อย (Inertial 4 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
ได้ท่าการทดสอบภาคสนามเปรียบเทียบเคร่ืองวัดต้นแบบ 1) สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมการเกษตรแม่เหียะ กับเครื่องวัดแบบเบต้า เรย์ (Beta Ray) FH62C14 Beta มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ อ่าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ Gauge Continuous Ambient Particulate Monitor 2) สถานีตรวจวัดโรงเรียนบ้านหนองห้ามิตรภาพที่ 125 ของ Thermo Fisher Scientific Inc. (TSI Model 8520, อ่าเภอนาน้อย จังหวัดน่าน และ 3) สถานีตรวจวัดคณะ 2003) ในการวัดฝุ่น PM10 ในอากาศโดยรอบ ณ สถานี วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่ ตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชของกรมควบคุม โดยมีการรายงานผลการวัดแบบเรียลไทม์ผ่านเว็ปไซต์ มลพิษในช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2558 ถึง เดือน ข อ ง ศู น ย์ ข้ อ มู ล ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ส ภ า พ อ า ก า ศ พฤษภาคม พ.ศ. 2559 พบว่าค่าสัมประสิทธ์ิสหสัมพันธ์ ( Climate Change Data Center ห ร ือ CCDC) ของค่าเฉล่ียราย 1 และ 24 ชั่วโมงของ PM10 ที่ได้จาก http://cmuccdc.org/ ซึ่งเป็นศูนย์ท่ีจัดต้ังข้ึนเพื่อ เคร่ืองมือวัดท้ังสองวิธีมีค่าเท่ากับ 0.8634 และ 0.9889 รายงานผลปริมาณฝุ่นและคุณภาพอากาศ แจ้งเตือนและ ตามล่าดับ และได้ท่าการทดสอบภาคสนามเปรียบเทียบ ให้ความรู้เก่ียวกับปัญหาหมอกควันไฟป่าในภาคเหนือและ เครื่องวัดต้นแบบกับ DustTrak ของ TSI (TSI Model ภาคใต้ ที่มีความร่วมมือกับหลายมหาวิทยาลัย เช่น 8520, 2003) ในการวัดฝุ่น PM1.0, PM2.5 และ PM10 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ ระหว่าง 6 – 9 พฤษภาคม 2559 ณ มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยทักษิณ โดยข้อมูลในการตรวจวัดค่า PM2.5 เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ดอยสะเก็ด พบว่าค่า และ PM10 ยังสามารถน่าไปใช้ประโยชนใ์ นโมเดลค่านวณ สัมประสิทธสิ์ หสมั พันธข์ อง PM1.0, PM2.5 และ PM10 ท่ี ห รื อ พ ย า ก ร ณ์ ค า ด ก า ร ณ์ ป ริ ม า ณ แ ล ะ ก า ร เ ค ล่ื อ น ที่ ได้จากเคร่ืองมือวัดทั้งสองวิธีมีค่าเทา่ กับ 0.8144, 0.9364 เชิงพฤติกรรมของฝนุ่ แบบใกลเ้ รียลไทม์ (Near real time) และ 0.7657 ตามล่าดับ ตารางที่ 1 แสดงสรปุ การทดสอบ ในอนาคตได้อีกด้วย เปรียบเทียบค่า PM10, PM2.5 และ PM1.0 กับวิธีการ บทสรุป มาตรฐานต่างๆ ซ่ึงค่าสหสัมพันธ์ท่ีได้จากการทดสอบ เปรียบเทียบน้ีมีค่าใกล้เคียงกับผลงานวิจัยที่เก่ียวข้องใน ในบทความนี้ได้น่าเสนอการพัฒนาต้นแบบสถานี การทดสอบเปรียบเทียบกับวิธีอ้างอิงและวิธีเทียบเคียงใน ตรวจวัดฝุ่นละอองลอยในอากาศแบบออนไลน์ต้นทุนต่า ก า ร วั ด PM10, PM2.5 แ ล ะ PM1.0 โ ด ย ทั่ ว ไ ป ค่ า ท่ีใช้หลักการวัดกระแสไฟฟ้าสถิตของอนุภาคผา่ นตัวกรอง สหสัมพันธ์ระหว่างสองเครื่องมือจะอยู่ในช่วง 0.6 – 1 ฝุ่นละอองประสิทธิภาพสูงสามารถตรวจจั บและ จึงจะยอมรับได้ (Intra et al, 2013) (Yawootti et al, เกบ็ ตัวอยา่ งฝ่นุ ละอองในอากาศทั้งฝนุ่ PM10 และ PM2.5 2015) ได้อยา่ งรวดเร็วใชเ้ วลาในการประมวลผลเร็วถงึ 0.1 วนิ าที ได้ใช้เทคโนโลยแี ละวัสดทุ ่ีเหมาะสมให้ทา่ งานไดจ้ ริงมีราคา ในปัจจุบันเครื่องต้นแบบได้ท่าการติดตั้งและใช้ ถูกกวา่ ประมาณ 3 เทา่ ประโยชน์จริงจา่ นวน 3 สถานีในภาคเหนอื และภาคใต้ คือ ตารางที 1 สรปุ การทดสอบเปรยี บเทียบค่า PM10, PM2.5 และ PM1.0 กับวิธีการมาตรฐานต่างๆ ขนาดอนภุ าค วิธีการมาตรฐานทีเปรียบเทียบ คา่ สหสมั พันธ์ ระดบั การยอมรับ PM10 Tapered Element Oscillating Microbalance 0.8400 สา่ หรับ 1 ชม. ดี TEOM 1400ab, Thermo Scientific Inc. 0.9697 สา่ หรบั 24 ชม. ดีมาก U.S. EPA No. EQPM1102-150 PM10 Beta Attenuation FH62C14, Thermo Scientific 0.8634 ส่าหรับ 1 ชม. ดี Inc. 0.9889 สา่ หรบั 24 ชม. ดมี าก U.S. EPA No. EQPM-1102-150CARB PM10 Light Scattering DustTrak 8533, TSI Inc. 0.7657 ส่าหรับ 1 นาที ดี PM2.5 Beta Attenuation 5014i, Thermo Scientific Inc., 0.8230 สา่ หรับ 1 ชม. ดี U.S. EPA No. EQPM0609-183 0.9811 สา่ หรบั 24 ชม. ดีมาก PM2.5 Light Scattering DustTrak 8533, TSI Inc. 0.9364 สา่ หรับ 1 นาที ดีมาก PM1.0 Light Scattering DustTrak 8533, TSI Inc. 0.8144 สา่ หรับ 1 นาที ดี วารสารวิชาการรบั ใชส้ งั คม มทร.ล้านนา 5 ปีท่ี 2 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2559
แต่สามารถท่างานได้เทียบเคียงกับเคร่ืองมือที่มีใช้ใน Thermo Scientific Inc, Instruction Manual for ปัจจุบัน ในปัจจุบันเคร่ืองต้นแบบได้ท่าการติดตั้งและ 1400abTEOM Continuous Ambient Particulate ใช้ประโยชน์จรงิ จา่ นวน 3 สถานีในภาคเหนือและภาคใต้ Monitor, USA, 2013. มี ก า ร ร า ย ง า น ผ ล ก า ร วั ด แ บ บ เ รี ย ล ไ ท ม์ ผ่ า น เว็ปไซต์ของศูนย์ข้อมูลการเปล่ียยแปลงสภาพอากาศ Thermo Scientific Inc. 2014. Instruction Manual โดยข้อมูลในการตรวจวัดค่า PM2.5 และ PM10 for Model 5014i Beta Continuous Ambient ยั ง ส า ม า ร ถ น่ า ไ ป ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ ใ น โ ม เ ด ล ค่ า น ว ณ หรือ Particulate Monitor, USA. พ ย า ก ร ณ์ ค า ด ก าร ณ์ ปริ ม าณ แ ละ ก าร เคล่ือนท่ี เชิงพฤติกรรมของฝุ่นแบบใกลเ้ รียลไทมใ์ นอนาคตได้ Thermo Scientific Inc, Instruction Manual for กติ ติกรรมประกาศ Thermo Scientific Model FH62C14 Beta Gauge Continuous Ambient Particulate ผลการวิจัย พัฒนา และวิศวกรรมภายใต้ Monitor, USA (2014). โครงการวิจัยน้ีได้รับการสนับสนุนจากเงินทุนอุดหนุน โครงการวิจัย พัฒนา และวิศวกรรม จากส่านักงาน TSI Model 8520. 2003. DustTrak Aerosol Monitor คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โครงการประเทศไทย Operation and Service Manual 1980198 ไร้หมอกควันและส่านักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และ Revision N., Shoreview, MN 55126, USA. เทคโนโลยีแห่งชาติ รหัสโครงการ P-14-50757 เอกสารอา้ งอิง Intra, P., Yawootti, A. and Tippayawong, N. 2013. EPA. 1997. National ambient air quality An electrostatic sensor for continuous monitoring of particulate air pollution. standards for particulate matter. Final Rule, Korean Journal of Chemical Engineering. Federal Register, 62, 38651. 30(12), 2205 – 2212. Federal Register. 1997. National ambient air quality standards for particulate matter. 40 Yawootti, A., Intra, P., Tippayawong, N. and CFR Part 50.7, Section 8.2, 62(138), Sampattagul, S. 2015. Field evaluation of July 18. an electrostatic PM10 mass monitor used for continuous ambient particulate air pollution measurements. Journal of Electrostatics. 78(1), 46 – 54. 6 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
การพฒั นาหวั เจาะเสรมิ เล็บคาร์ไบด์สาหรบั เหมืองถ่านหินลิกไนต์ Development of Carbide Drilling Bit for Lignite Mining สุรพิน พรมแดน1* สพุ ล เครือบญุ มา2 สทุ ธิเทพ รมยเวศม์3 Surapin Promdan1* Supon Krueabunma2 Suttithep Rommayawes3 1,3 อาจารย์ สาขาวิชาวศิ วกรรมเหมอื งแร่ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา 2 หนุ้ สว่ นผจู้ ดั การ หา้ งหนุ้ ส่วนจากดั แมเ่ มาะวิศวกรรมเหมืองแร่ 1,3Lecturer, Department of Mining Engineering, Faculty of Engineering, Rajamangala University of Technology Lanna 2 Managing Partner, Mae Moh Mining Engineering Partnership Limited. E-mail: [email protected] เบอร์โทรศัพท์ 053-921444 ต่อ 2230 บทคดั ย่อ งานวิจัยนี้มีวตั ถุประสงค์เพ่ือพัฒนาหัวเจาะเสริมเล็บคาร์ไบด์สาหรับเจาะเหมืองถา่ นหินลิกไนต์ ซึ่งจะทาการ พัฒนาจากหัวเจาะของห้างหุ้นส่วนจากัดแม่เมาะวิศวกรรมเหมืองแร่ โดยใช้โปรแกรมวิเคราะห์แรงทางวิศวกรรมใน การออกแบบเพื่อหาตาแหน่งมุมบิดของใบเจาะ และสร้างหัวเจาะท่ีใช้ในการทดสอบมีขนาด 7 น้ิว ใช้ตาแหน่งการ วางมุมใบเจาะ 90 องศา เสริมเล็บคาร์ไบด์ D4 D5 บริเวณขอบใบเจาะและเล็บคาร์ไบด์ P1 บริเวณปลายใบเจาะ ทุกหัวเจาะ จากการศึกษาพบว่าหัวเจาะขนาด 7 น้ิว ซึ่งเปรียบเทียบจากหัวเจาะทั้งหมด 6 หัว หัวเจาะหัวที่ 5 ซึ่งใช้ เล็บคาร์ไบด์ D5 มีเวลาเฉลี่ยอยู่ท่ี 2.23 นาที เหมาะสาหรับเจาะชั้นดิน Top Soil ชั้น Over Burden และช้ัน Inter Burden ปริมาตรการสึกหรอของหัวเจาะวัดโดยการช่ังน้าหนักอยู่ที่ 1.01% หัวเจาะเสริมเล็บคาร์ไบด์สามารถ ลดเวลาในการเจาะจากเดิมเหลือเวลาเฉล่ียต่อ 1 หลุมเจาะใช้เวลา 2.3 นาที การสึกหรอของหัวเจาะลดลงจากเดิม เหลือการสึกหรออยู่ท่ี 1% อายุการใช้งานหัวเจาะเพิ่มข้ึน 71.4% เมื่อทาการวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์เปรียบเทียบ ก่อนและหลังการพัฒนา พบว่าสามารถลดเวลาท่ีใช้ในการเจาะเฉล่ียจาก 6 เป็น 2.30 นาที ทาให้ลดปริมาณการใช้ เชื้อเพลิงได้ 351,000 บาท/ปี คิดเป็นค่าประสิทธิภาพการประหยัดเชอื้ เพลิงเพ่ิมข้ึนจากเดิมเปน็ 42.24% และพบว่า ค่าประสทิ ธผิ ลโดยรวมของเครื่องจักร (OEE) เพ่ิมขึน้ จาก 49.0% เปน็ 83.60% คาสาคญั หัวเจาะเสริมเล็ปคารไ์ บด์ เหมืองถา่ นหินลกิ ไนต์ หวั เจาะสาหรับงานระเบดิ ABSTRACT This research has objective to development of carbide drilling bit for lignite mining. Which developed the drilling bit from Mae Moh Mining Engineering Limited Partnership. Using the engineering program analysis for design to find the position of torque and manufacture the drilling bit 7-inch to drill a position in the angle of the blade at 90 degrees enhanced carbide nail for D4 D5 at the edge of blade and carbide nail P1 on the top of blade. From the study, found that the drilling bit size 7 inch compare by 6 drilling bit. The number 5 use carbide nail D5 has the average time is 2.23 minutes. Suitable for penetrating Top Soil layer Over Burden and Inter Burden The wear volume of the drilling bit was measured by weighing 1.01%. The carbide drill bit can reduce the drilling time from the original to the average time per hole is 2.3 minutes. The wear of the drill bit was reduced from the original wear to 1%, drill bit life increased by 71.4%. When analyzing comparative economics before and after development. It was found that, can reduce the average time in drilling วารสารวิชาการรับใช้สังคม มทร.ลา้ นนา 7 ปที ่ี 2 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มถิ นุ ายน 2559
from 6 to 2.30 minutes. Reduce fuel consumption by 351,000 baht / year. The cost of fuel economy increased from 42.24% and the overall efficiency of the machine (OEE) increased from 49.0% to 83.60% Keywords Carbide drilling bit, Lignite Coal Mine, Drilling bit for blasting บทนา ในปัจจุบันห้างหุ้นส่วนจากัดแม่เมาะวิศวกรรม การทาเหมืองแร่ในประเทศไทยส่วนใหญ่จะ เหมืองแร่ ได้รับเหมางานเจาะรูเพ่ือบรรจุวัตถุ ระเบิดเหมืองถ่านหินลิกไนต์ จังหวัดลาปาง (เหมือง เป็นเหมืองแบบเปิด ซ่ึงจะทาการระเบิดหน้าดินแล้วทา แม่เมาะ) ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การขดุ ขนชัน้ ดนิ ตา่ ง ๆ ออกไปจนกวา่ จะถึงชั้นแรใ่ นการ บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จากัด และ บริษัทอิตาเล่ียน - ระเบิดเหมืองแต่ละครั้ง จะต้องทาการเจาะรูเพื่อทาการ ไทย ดีเวลอปเมนต์ จากัด(มหาชน) แต่เนือ่ งด้วยลกั ษณะ อัดวัตถุระเบิด ปัญหาส่วนใหญ่ในการเจาะรูเพื่อบรรจุ โครงสร้างทางธรณีวิทยาของหินตะกอนที่พบในแอ่ง วัตถุระเบิดจะเกิดจากหัวเจาะที่มีการสึกหรอเร็วกว่า แม่เมาะเป็นหินตะกอนกึ่งแข็งตัว“กลุ่มหินแม่เมาะ” ปกติและใช้เวลาในการเจาะแต่ละรนู านเกินไป และตอ้ ง โดยมีชั้นถ่าน 5 ช้ัน คือ J , K , Q , R และ S เรียงลาดบั อาศัยเคร่ืองต้นกาลังในการเจาะรูท่ีมีขนาดใหญ่ โดย จากชนั้ บนลงลา่ ง (กรมทรัพยากรธรณี , 2546) ดังแสดง สามารถแยกลกั ษณะการทางานของเครอื่ งเจาะแบ่งออก ในภาพที่ 1 ได้ 3 ลักษณะ คือ การเจาะแบบหมุน การเจาะแบบ กระแทก และการเจาะแบบหมุนกับกระแทก (jimeno ซึ่งชั้นถ่านหินลิกไนต์ K และ Q เป็นชั้นท่ีมี et al, 1995) ความสาคัญมากเนื่องจากให้ค่าพลังงานความร้อนท่ีสูง สามารถนาไปใช้เป็นเช้ือเพลิงได้ และมีความหนา จากการศึกษางานวิจัยท่ีเกี่ยวกับการขุดเจาะ ชั้นละ 20 - 30 เมตร แทรกสลับบริเวณส่วนกลาง ส่วนใหญ่จะเป็นการศึกษาถึงผลกระทบของสภาวะ ของกลุ่มหินแม่เมาะ ที่ประกอบไปด้วยหินเคลย์ การกัดต่อกาลังกัดและพลังงานในการเจาะคอนกรีต ( Claystone) หิ น โ ค ล น ( Mudstone) หิ น ท ร า ย ผลการทดลองชใ้ี หเ้ หน็ วา่ แรงบิดเพม่ิ ขน้ึ จะทาใหพ้ ลังงาน ( Sandstone) แ ล ะ หิ น ก ร ว ด ม น ( Conglomerate) เฉพาะยังเพ่ิมข้ึน (Lammer et al, 2007) จากน้ันมี (นายมหิปพงศ์ วรกุล ,2552) การพัฒนาแบบจาลองบนพื้นฐานของทฤษฎีเพื่อทานาย ความเร็วในการเจาะและทดสอบแรงบดิ แรงหมนุ พบวา่ ภาพท่ี 1 โครงสรา้ งทางธรณีของเหมอื งแม่เมาะ แบบจาลองมีความถูกต้องกับผลการทดสอบการเจาะท่ี เกดิ ขนึ้ จรงิ ทาใหป้ ระหยดั เวลาและคา่ ใช้จา่ ย (Moseley et al, 2008) ต่อมาได้มีการศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหา เก่ียวกับวัสดุเจาะและโครงสร้างของหัวเจาะท่ีเกิดความ เสียหายในระหว่างขั้นตอนการขุดเจาะ (Luís et al, 2010) จากน้ันได้มีการปรับปรุงกระบวนการขุดเจาะ วัสดุแข็งพิเศษโดยการออกแบบวัสดุผสมใหม่ที่ชุบด้วย เศษเพชร วัสดุผสมอีพ็อกซ่ีที่ทาด้วยหินแกรนิตและ ไฟเบอร์ (Tan et al, 2014) และต่อมาได้มีการศึกษาถึง คุณสมบัติของพ้ืนผิวที่เปล่ียนแปลงไปในระหว่างการ ทางานและความเสียหายของหัวเจาะเน่ืองจากผลของ แรงกระทาของเครื่องจกั ร (Chen et al, 2016) 8 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
เน่ืองด้วยลักษณะของช้ันหินท่ีแตกต่างกันจึง ภาพท่ี 2 การสกึ หรอของหวั เจาะบรเิ วณกัดและใบกัด ทาให้เกิดปัญหาขึ้นกับหัวเจาะที่สั่งชื้อตามท้องตลาดใน (สุรพิน และ สุทธเิ ทพ ,2559) ราคาหัวละ 12,000 ถึง 20,000 บาท ข้ึนอยู่กับการใช้ งาน ไม่สามารถนามาใชง้ านกับการเจาะช้ันหินท่ีมีความ ภาพท่ี 3 มีดเลบ็ คารไ์ บด์ แตกต่างกันได้ ทางผู้ประกอบการจึงทาการผลิตหัวเจาะ (anajaktools.tarad.com) สาหรับเจาะรูเพ่ือบรรจวุ ัตถุระเบิดเหมืองถา่ นหนิ ลกิ ไนต์ คือ ทังสเตนคาร์ไบด์(WC) เพราะเกิดจากการผสมกัน ข้ึ น ม า ใ ช้ เ อ ง แ ล ะ รั บ สั่ ง ท า ต า ม ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ข อ ง ของแร่ทังสเตนกับคาร์บอน เราจึงเรียกกันส้ันๆว่า ท้องตลาดอีกด้วย แต่ยังพบปัญหาท่ีเกิดขึ้นกับหัวเจาะท่ี “คาร์ไบด์” มีคุณสมบัติท่ีมีความแข็งสูงกว่า HSS ทาการผลิตข้ึนมา คือ เกิดการสึกหรอข้ึนบริเวณเล็บกัด (ค่าความแข็งประมาณ HV 2600) และทนความร้อนได้ และใบกัดของหัวเจาะ ดังแสดงในภาพที่ 2 ทาให้ สูง (จุดหลอมเหลวสูงถงึ 2,870 องศา) หัวเจาะมีอายุการใช้งานในการเจาะน้อยอยู่ที่ประมาณ ทังสเตนคาร์ไบต์น้ันผลิตขึ้นมาจากส่วนผสม 200 เมตร/หัว และใช้เวลาในการเจาะแต่ละหลุม 6 ถึง 3 ส่วน ส่วนแรกคือผงทงั สเตนคาร์ไบต์ ส่วนที่สองคือตวั 7 นาที (สรุ พิน และ สทุ ธิเทพ ,2559) ประสานอย่าง Co,Ni และส่วนสุดท้ายคือสารประกอบ อื่น ๆ ซ่ึงเป็นตัวช่วยเสริม เช่น Tic, NbC คาร์ไบต์ที่ใช้ ด้ ว ย เ ห ตุ นี้ ท า ง ห้ า ง หุ้ น ส่ ว น จ า กั ด แ ม่ เ ม า ะ ทาเครื่องมือตัดนั้นได้ถูกพัฒนาต่อยอดไปไกลกว่า วิศวกรรมเหมืองแร่ จึงได้เห็นความสาคัญและมีความ คาร์ไบต์ท่ีใช้สาหรับงานอื่นๆ และมีการตั้งมาตรฐาน ต้ อ ง ก า ร ท่ี จ ะ พั ฒ น า คุ ณ ภ า พ ข อ ง หั ว เ จ า ะ โ ด ย ท่ี ขึ้นมาเป็นเรื่องราวเพราะความต้องการใช้งานสูงเพ่ือไป จะทาการศึกษาผลของมุมเอียง ผลของมุมบิด และ พัฒนาประสิทธิภาพการผลิต เช่น เกรด K20 เหมาะ จานวนของใบกัดท่ีมีผลต่อการเจาะรูเพื่อบรรจุวัตถุ สาหรับงานเหล็กหล่อทั่วไป (ความแข็ง 200HB) ร ะ เ บิ ด ข อ ง เ ห มื อ ง ถ่ า น หิ น ลิ ก ไ น ต์ เ พื่ อ เ พ่ิ ม เหล็กเหนียว โลหะที่ไม่มีเหล็กผสม เช่น ทองเหลือง ขดี ความสามารถในการแข่งขนั ในทอ้ งตลาด และผลิตใน ทองแดง อลูมิเนียม และวัสดุที่ไม่ใชโ่ ลหะ ความเร็วรอบ เชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพถูกต้องตามหลัก 40-100 เมตร/นาที ส่วนเกรด P20 เหมาะสาหรับ วิ ช า ก า ร ที่ เ ห ม า ะ ส ม ส า ม า ร ถ ย ก ร ะ ดั บ ม า ต ร ฐ า น ง า น ส แ ต น เ ล ส เ ห ล็ ก ค า ร์ บ อ น เ ห ล็ ก เ ห นี ย ว ผลิตภัณฑใ์ หแ้ ก่ผู้ประกอบการ เหล็กหล่อแข็ง (ความแข็ง 91.4 HRA) ความเร็วรอบ ซึ่งงานวิจยั น้ีไดร้ บั ทุนสนบั สนุนภายใต้โครงการ ส่งเสริมให้บุคลากรวิจัยในสถาบันศึกษาไปปฎิบัติงาน เพื่อแก้ไขปัญหาและเพ่ิมขีดความสามารถในการผลิต ให้กับภาคอุตสาหกรรม (Talent Mobility) ประจาปี งบประมาณ 2559 จาก สกอ. และ สวทน. จึงเป็นที่มา ของโครงการนี้ ใ น ก า ร พั ฒ น า หั ว เ จ า ะ จ ะ ท า ก า ร เ ลื อ ก ใ ช้ เล็บคาร์ไบด์เพ่ือเสริมเข้าใบยังใบของหัวเจาะเพื่อให้ เกิดความแข็งแรงมากขนึ้ เล็บคาร์ไบดน์ ้ีมีชอ่ื ทางเคมีจรงิ วารสารวิชาการรบั ใช้สงั คม มทร.ลา้ นนา 9 ปที ี่ 2 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2559
70-150 เมตร/นาที ตัวอย่างของเล็บคาร์ไบด์ท่ีถูก การเช่ือมประกอบเปน็ หัวเจาะ (เพอ่ื เป็นฐานแบบในการ นามาใชใ้ นงานวิจยั น้ีดงั แสดงในภาพท่ี 3 สรา้ งหวั เจาะออกมามขี นาดและตาแหนง่ การตดิ ตง้ั ใบหวั วิธีการดาเนินงาน เจาะเทา่ กันทกุ หวั ) พรอ้ มกับจัดทาคมู่ ือข้นั ตอนการสร้าง 1. รบั โจทยจ์ ากสถานประกอบการ หวั เจาะ จากการศึกษาข้อมูลกระบวนการผลิตหัวเจาะ 4. ข้ันตอนของการทดสอบ เก็บข้อมูล และ สาหรับงานระเบิดเหมืองถ่านหินของห้างหุ้นส่วนจากัด วิเคราะห์ผล ของการศึกษาผลของมุมเอียง ผลของ แม่เมาะวิศวกรรมเหมืองแร่ ได้พบปัญหาเกิดข้ึนกับหัว มุมบิด และจานวนของใบกัดท่ีมีผลต่อการเจาะรูเพ่ือ เจาะท่ีทาการผลติ คือ เกิดการสึกหรอข้ึนบริเวณเลบ็ กัด บรรจุวัตถุระเบิดของเหมืองถ่านหินลิกไนต์ โดยจะทา และใบกัดของหัวเจาะ ทาให้หัวเจาะมีอายุการใช้งานใน การทดสอบและเก็บข้อมูลจากการเจาะหน้างานจริง การเจาะน้อย และใช้เวลาในการเจาะแต่ละรนู าน ดงั น้ัน ณ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (เหมืองแม่เมาะ) ผู้ประกอบการจึงต้องการที่จะพัฒนากระบวนการผลิต จังหวัดลาปาง ซึ่งในขั้นตอนนี้ นักวิจัย นักศึกษา วิศวกร หัวเจาะ เพ่ือเพ่ิมประสทิ ธิภาพในการเจาะรูและสามารถ และ ช่างชานาญงานเจาะรูสาหรับบรรจุวัตถุระเบิด ผลติ ในเชิงพาณิชย์ได้ ร่วมกันคิด ออกแบบและสร้างใบงานสาหรับบันทึก 2.แนวทางการถา่ ยทอดเทคโนโลยี ขอ้ มลู เพื่อใชเ้ ป็นข้อมูลในการวเิ คราะหผ์ ลการทดลอง 1. ขั้นตอนการรับทราบปัญหาและศึกษา จากขั้นตอนท่ี 1 - 4 จะทาให้บุคลากรของ ข้ันตอนกระบวนการการผลิตผลิตหัวเจาะ ทาการวาง หจก. ได้ประสบการณ์ต่าง ๆ ได้แนวทาง ได้แนวคิด แผนการดาเนินงานร่วมกับสถานประกอบการสาหรับ วิธีใช้โปรแกรมในการวิเคราะห์แรงเบื้องต้น และมี การปรบั ปรงุ กระบวนการผลิต การทดสอบการเจาะและ กระบวนการผลิตหัวเจาะท่ีได้มาตราฐานจะทาให้ การเก็บข้อมูลที่ต้องการวิเคราะห์ โดยมี นักวิจัย บุคลากรของ หจก. สามารถพัฒนาตนเองในการทางาน นักศึกษา วิศวกร และ ช่างชานาญงานเชื่อมมีส่วนร่วม และมีศักยภาพในการขยายผลเพื่อออกแบบอุปกรณ์ ในการแสดงความคิดเห็น เสนอแนะ ร่วมคิด ร่วม อื่น ๆ ได้ ตัดสินใจ เพอ่ื ให้มีตน้ ทุนในการผลติ หัวเจาะต่าทีส่ ดุ 3. ขนั้ ตอนการดาเนินการ 2. ข้ันตอนของการออกแบบหัวเจาะจะใช้ 1. พบผู้ประกอบการเพ่ือตรวจสอบข้อมูล โปรแกรมวิเคราะห์แรงเข้ามาช่วยทาการ Simulation พื้นฐานท่ีเกี่ยวข้องกับสถานที่ผลิต และศึกษาขั้นตอน ในการออกแบบและวเิ คราะห์แรงทางวศิ วกรรม เพ่ือให้ การผลิตผลิตภัณฑ์หัวเจาะ และวางแผนการดาเนินงาน ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ มี ค ว า ม พ ร้ อ ม ด้ า น ม า ต ร ฐ า น ก า ร ผ ลิ ต ท่ี ร่วมกัน สาหรับการปรับปรุงกระบวนการผลิตการ เหมาะสม ในขั้นตอนนีน้ ักวิจยั และนักศึกษา จะถ่ายทอด ทดสอบการเจาะและการเก็บขอ้ มูลที่ต้องการวิเคราะห์ เทคโนโลยีในการใช้โปรแกรมในการวเิ คราะห์แรงเขา้ มา ภาพท่ี 4 การสึกหรอของหวั เจาะท่ีทาการเจาะชนั้ หิน ช่วยทาการ Simulation ให้กับวิศวกรและช่างชานาญ งาน เพ่ือเป็นแนวทางในการหาข้อดี ข้อเสีย จุดเด่น กรวดมน., สรุ พนิ และ สทุ ธเิ ทพ (2559) จดุ ดอ้ ย ของแบบหัวเจาะท่จี ะทาการสร้างขน้ึ และจดั ทา คู่มือข้ันตอนการทดสอบแรงเบื้องต้นให้กับสถาน ประกอบการ 3. ข้ันตอนของการสร้างหัวเจาะ ในข้ันตอนน้ี นักวิจัย นักศึกษา วิศวกร และ ช่างชานาญงานเชื่อม ร่วมกันคิด ออกแบบและสร้างฐานสาหรับรองรับเพื่อ ประกอบใบและหัวเจาะเข้าเป็นชุดเดียวกัน ก่อนจะทา 10 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
ภาพที่ 5 การสกึ หรอของหวั เจาะที่ทาการเจาะชนั้ หนิ หนิ ในภาพที่ 4 และ ภาพที่ 5 แสดงการสกึ หรอของหัวเจาะ ฉนวน., สุรพนิ และ สุทธิเทพ (2559) ทที่ าการเจาะช้นั หนิ กรวดมน (Over Burden และ Inter ภาพท่ี 6 การออกแบบหวั เจาะ Burden) และชนั้ หินฉนวน (Top soil และ Red beds) ภาพที่ 7 วเิ คราะห์แรงกระทากบั หัวเจาะ (Simulation) 2. ศึกษากระบวนการผลิตหัวเจาะที่เหมาะสม ณ สถานประกอบการ เพ่ือถ่ายทอดองค์ความรู้ D4 P9 ความสูง การพฒั นากระบวนการผลิต โดยใหผ้ ปู้ ระกอบการมีสว่ น D5 P9 D4,D5 หวั เจาะ ร่วมในการแสดงความคิดเห็น เสนอแนะ ร่วมคิด รว่ มตดั สนิ ใจ และได้เรียนรทู้ ุกขั้นตอนอยา่ งละเอยี ดและ D-4เล,็บคาร์ไบPด์ มุม เข้าใจ โดยมีขน้ั ตอน ดงั น้ี ยาว 2.1 ขั้นตอนของการออกแบบหัวเจาะ จะใช้ โปรแกรมวิเคราะห์แรงเข้ามาช่วยทาการ Simulation ข กวา้ ง ในการออกแบบและวิเคราะห์แรงทางวศิ วกรรม เพ่ือให้ ผลิตภัณฑ์มีความพร้อมด้านมาตรฐานการผลิตดังแสดง ขนาดของใบเจาะ ในภาพที่ 6 และ 7 ภาพท่ี 8 สว่ นประกอบของหวั เจาะและการติดตงั้ 2.2 ขั้นตอนของการสร้างหัวเจาะ ติดตามการ ดาเนินงานในการสร้างหัวเจาะ เพ่ือให้คาปรึกษา แก้ไข งานเพื่อให้เป็นไปตามระบบคุณภาพ และมาตรฐานการ ผลิตอย่างมีประสิทธิภาพถูกต้องตามหลักวิชาการท่ี เหมาะสมดงั แสดงในภาพท่ี 8 และ 9 ในภาพท่ี 6 และ ภาพท่ี 7 เป็นการออกแบบ หัวเจาะใหม่และการวิเคราะห์แรงด้วยการจาลองทาง คอมพิวเตอร์ (Simulation) ใช้โปรแกรม SolidWorks ในการวิเคราะห์ความแข็งแรงของโมเดล 3 มิติ ( Strength Analysis) โ ด ย ใ ช้ วิ ธี Finite Element Analysis (FEA) เ พื่ อ ห า ค่ า ค ว า ม เ ค้ น ( Stress) ความเครียด (Strain) และการกระจัดของวัตถุ (Displacement) ท่ีเกิดขึ้นกับตาแหน่งต่าง ๆ ของ หวั เจาะท่ีทาการออกแบบ ในภาพที่ 8 ส่วนประกอบของหัวเจาะและการ ติดตั้งส่วนประกอบต่างๆ เข้าด้วยกันรวมเป็นหัวเจาะ ซึ่งหัวเจาะท่ีทาการพัฒนาข้ึนจะทาการศึกษาผลของ มุมเอียงในการติดใบเจาะ ความสูง ขนาดของใบเจาะ และการเสริมเล็บคาร์ไบด์ตามขนาดที่กาหนดเข้ากับใบ ของหัวเจาะเพื่อให้มีความแข็งเพ่ิมข้ึนและสามารถ ลดการศกึ หรอของหัวเจาะได้ ดังแสดงในตารางที่ 1 2.3 ขั้นตอนของการทดสอบเก็บข้อมูล และ วิเคราะห์ผล ของการศึกษาผลของมุมเอียง ผลของมุม บิด และจานวนของใบกดั ที่มีผลตอ่ การเจาะรเู พ่ือบรรจุ วารสารวิชาการรบั ใช้สังคม มทร.ล้านนา 11 ปที ่ี 2 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2559
ตารางที่ 1 การออกแบบและกาหนดตวั แปรในการสร้าง หัวเจาะขนาด 7 นิว้ หวั เจาะท่ี ความสูง ขนาด การใช้ 1 หัวเจาะ ใบเจาะ เล็บคาร์ไบด์ 2 80 x 125 3 190 80 x 135 D4, P9 4 198 80 x 135 D5, P9 5 203 80 x 150 D5, P9 6 220 80 x 135 D5, P9 201 80 x 150 D5, P9 220 D5, P9 วัตถุระเบิดของเหมืองถ่านหินลิกไนต์ โดยจะทา ภาพที่ 9 ทดสอบการเจาะชน้ั หนิ ฉนวน ณ การไฟฟา้ การทดสอบและเก็บข้อมูลจากการเจาะหน้างานจริง ฝา่ ยผลิตแหง่ ประเทศไทย (เหมืองแมเ่ มาะ) ณ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (เหมืองแม่เมาะ) จงั หวดั ลาปาง ดงั แสดงในภาพท่ี 9 และภาพท่ี 10 ภาพที่ 10 ทดสอบการเจาะชน้ั หนิ กรวดมน ณ การไฟฟา้ ฝ่ายผลติ แหง่ ประเทศไทย (เหมืองแม่เมาะ) 3. สรุปผลการดาเนินงานของโครงการ และ จัดทารายงานเล่มสมบรู ณ์ ผลการดาเนนิ งาน 1. ผลการทดสอบหวั เจาะ ผ ล ก า ร ท ด ส อ บ ก า ร เ จ า ะ พ้ื น ท่ี บ่ อ เ ห มื อ ง แม่เมาะสัญญา 7 พ้ืนท่ี C1 ด้วยหัวเจาะขนาด 7 น้ิว ค่าทไี่ ดจ้ ากการทดสอบแสดงในตารางท่ี 2 หัวเจาะท่ี 1 เมื่อทาการเจาะที่ 30 รู หัวเจาะมี การสกึ หรอเนือ้ งจากเจาะพบชัน้ ดินดานที่การเจาะ 40 รู เล็บคารไ์ บด์ D4 P9 บริเวณปลายใบมีการสึกหรอ ท่กี าร เจาะ 50 รู เล็บคาร์ไบด์ D4 P9 บริเวณปลายใบมีการ สึกหรอและมีการแตกหักลึกเข้าถึงเนอ้ื เหล็กของใบเจาะ ใช้เวลาในการเจาะสงู สุดอยูท่ ่ี 4.39 นาที ใช้เวลาทาการ เจาะต่าสุดอยู่ท่ี 1.46 นาที และมีค่าเฉลี่ยของเวลาที่ ทาการเจาะทง้ั 50 รู เปน็ 2.38 นาที หัวเจาะที่ 2 การเจาะไม่ผ่านเง่ือนไขทาการ เจาะได้แค่ 17 รู สาเหตุเกิดขึ้นจากมีท่ีเศษ cutting ไหลเข้าไปคือช่องว่างบริเวณปลายใบที่มากทาให้เศษ cutting ไหลเขา้ ไปในก้านเจาะและทาใหอ้ ดุ ท่อลม หัวเจาะที่ 3 เมื่อเจาะครบ 50 รู พบว่าหัวเจาะ มีการสึกหรอบริเวณปลายใบเล็บคาร์ไบด์ P9 แตกหัก 1 ชิ้น 12 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
หัวเจาะท่ี 4 ที่การเจาะ 10 รู เป็นการเจาะชั้น ปริมาณการสึกหรอได้ 3.61% เมื่อทาการเปรียบเทียบ Red Beds ท่ีการเจาะ 30 รู เปน็ เจาะชน้ั Over Burden ผลของการสึกหรอท่ีเกิดขึ้นพบว่า หัวเจาะขนาด 7 น้ิว เมื่อทาการเจาะครบ 50 รู หัวเจาะมกี ารสกึ หรอเลก็ น้อย หัวที่ 5 มีปริมาณการสึกหรอหลังจากการทดสอบ นอ้ ยท่ีสดุ หัวเจาะที่ 5 ที่การเจาะช้ัน Red Beds เม่ือทา 3. ผลการวิเคราะหท์ างเศรษฐศาสตร์ การเจาะครบ 50 รู หัวเจาะมีการสึกหรอเล็กน้อย ใช้เวลาในการเจาะสูงสดุ อย่ทู ่ี 3.39 นาที ใช้เวลาทาการ จากการทดสอบหัวเจาะ ณ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต เจาะต่าสุดอยู่ที่ 1.52 นาที และมีค่าเฉล่ียของเวลาที่ทา เมอ่ื ทาการวเิ คราะหต์ น้ ทุนการสร้างหวั เจาะเปรียบเทียบ การเจาะทั้ง 50 รู เป็น 2.23 นาที ก่อนและหลังการพัฒนา พบว่าสามารถลดเวลาท่ีใช้ใน การเจาะเฉล่ียจาก 6 เป็น 2.30 นาที ทาให้ลดปริมาณ หัวเจาะที่ 6 ทาการเจาะชั้น Red Beds เมื่อ การใช้เช้ือเพลิง(นามันดีเซล) ได้ 351,000 บาท/ปี คิด เจาะครบ 50 รู หัวเจาะมีการสึกหรอบริ เ ว ณ เป็นค่าประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงเพ่ิมขึ้นจาก เล็บคาร์ไบด์ D5 บริเวณเล็บคารไ์ บด์ P9 ปลายใบเจาะมี เดิมเป็น 42.24% และยังพบอีกว่าหัวเจาะท่ีทาการ การแตกหัก ใช้เวลาในการเจาะสูงสุดอยู่ท่ี 4.39 นาที พัฒนาข้ึนสามารถเพ่ิม ทาให้ค่าประสิทธิผลโดยรวมของ ใช้เวลาทาการเจาะต่าสุดอยู่ที่ 1.46 นาที และมีค่าเฉลย่ี เคร่อื งจกั ร (OEE) เพิ่มขึ้นจาก 49.0% เปน็ 83.60% ของเวลาที่ทาการเจาะท้งั 50 รู เปน็ 2.38 นาที การนาไปใช้ 2. ทดสอบหาปริมาณการสกึ หรอ 1. ดา้ นผลผลติ ทีไ่ ดร้ บั (Output) ผลจากการทดสอบหาปริมาณการสึกหรอด้วย - ได้ผลิตภัณฑ์หัวเจาะท่ีมีคุณภาพ สามารถลด วิธีการช่ังน้าหนักของหัวเจาะขนาด 7 นิ้ว เม่ือทดสอบ การสึกหรอขน้ึ บรเิ วณเลบ็ กัดและใบกัดของหัวเจาะได้ต่า หัวเจาะครบ 50 รู ค่าท่ีได้จากการทดสอบแสดงใน กว่า 20% และหัวเจาะมีอายุการใช้งานในการเจาะ ตารางท่ี 3 เพ่มิ ข้ึน 30% เมื่อเทยี บกับของเดิม พบว่าหัวเจาะท่ี 1 สามารถวัดปริมาณการ - ผู้ประกอบการได้รับความรู้ มีทักษะ และเข้าใจ สกึ หรอ ได้ 7.39% หวั เจาะท่ี 2 ทาการทดสอบการเจาะ ระบบการผลิตหัวเจาะให้เป็นไปตามหลักวิชาการ ชั้นดิน Red Beds จากการทดสอบไม่ผ่านเง่ือนไขการ สามารถนาไปประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์อื่น และ เจ า ะ ท่ี 50 รู หั ว เจ า ะ ที่ 3 ส า ม า ร ถ วั ด ป ริ ม า ณ ผ้ปู ระกอบการสามารถพ่ึงตนเองไดอ้ ยา่ งยั่งยืนต่อไป การสึกหรอได้ 2.68% หัวเจาะที่ 4 สามารถวัดปริมาก การสึกหรอด้วยได้ 2.27% หัวเจาะท่ี 5 สามารถวัด ปริมาณการสึกหรอได้ 1.01% หัวเจาะท่ี 6 สามารถวัด ตารางท่ี 2 เวลาท่ีใชใ้ นการทดสอบหัวเจาะขนาด 7 น้วิ เวลาทใี่ ช้ในการทดสอบการเจาะ (นาที) หวั เจาะท่ี เวลาสงู สดุ เวลานอ้ ยสดุ เวลาเฉลย่ี ชน้ั ดนิ ที่ทาการเจาะ 1 4.39 1.46 2.38 Red Beds 2 ทาการเจาะได้ 17 รู ไมผ่ า่ นเง่ือนไข Red Beds Red Beds 3 5.31 1.43 2.52 Red Beds /OB 4 4.28 1.38 2.46 Red Beds /OB 5 3.39 1.52 2.23 Red Beds 6 4.39 1.46 2.38 วารสารวชิ าการรับใชส้ ังคม มทร.ลา้ นนา 13 ปีท่ี 2 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2559
ตารางที่ 3 ปริมาณการสกึ หรอหัวเจาะขนาด 7 นวิ้ หวั เจาะท่ี ช่ังนา้ หนัก (g.) เปอรเ์ ซนต์ การสึกหรอ (%) ก่อนทาการเจาะ หลงั ทาการเจาะ 7.39 1 5627 5211 ไม่ผ่านเง่ือนไข 2 6012 - 2.68 2.27 3 5997 5836 1.01 4 6876 6720 3.61 5 5936 5876 6 6322 6064 - ผู้ประกอบการสามารถยกระดับมาตรฐานการผลิต 3.ด้านการพัฒนาการเรยี นการสอน ผลิตภณั ฑ์หัวเจาะให้เปน็ ทยี่ อมรบั ของตลาดได้และสง่ ผล โครงการนี้เป็นประโยชน์โดยตรงต่อรายวิชา ใหม้ ีอานาจในการแขง่ ขนั ทางตลาดเพม่ิ ข้ึน การออกแบบเครื่องจักรกล วิชาวัสดวุ ิศวกรรม วิชาธรณี - อาจารย์ และนักศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรม เทคนิค วิชาเครื่องจักรและการจดั การทางดา้ นเหมืองแร่ เหมืองแร่ ได้รับประสบการณ์จากการปฏิบัติงานจริง ณ วิชาการขุดเจาะและงานระเบิด วิชาโครงงานวิศวกรรม สถานประกอบการ เหมืองแร่ และวิชาสหกิจศึกษา แล้วยังส่งผลให้อาจารย์ และนักศึกษา สาขาวิชาวิศวกรรมเหมืองแร่ได้รับ - ได้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ มหาวิทยาลัย และ ประสบการณ์จากการปฏิบัติงานจริง ณ สถาน ภาคอตุ สาหกรรม ประกอบการ 2.ด้านผลกระทบท่ไี ดร้ บั จากการวิจัย (Impact) อภปิ รายผล - ภายในองค์กร จากการทดสอบหัวเจาะ ณ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ผู้ประกอบการได้หวั เจาะที่มคี ุณภาพ สามารถลด แห่งประเทศไทยบ่อเหมืองแม่เมาะสัญญา 7 พ้ืนท่ี C1 พบว่า ช้ันดินที่ทาการทดสอบการเจาะส่วนใหญ่จะเป็น การสึกหรอขึ้นบริเวณเล็บกัดและใบกัดของหัวเจาะได้ ช้ันดิน Red Beds และ Over Burden จากการทดสอบ มีอายุการใช้งานของหัวเจาะเพิ่มขึ้น ใช้เวลาในการ พบว่าหัวเจาะที่ 2 ทาการเจาะไม่ผ่านเงื่อนไขของการ เจาะรูในแต่ละคร้ังน้อยลง และลดค่าใช้จ่ายของน้ามัน ทดสอบเน่อื งจากทาการเจาะได้แค่ 17 รู เทา่ นน้ั สาเหตุ เชอ้ื เพลิงลงเมอ่ื เทียบกับหวั เจาะแบบเดิม เกิดขึ้นจากมีช่องว่างบริเวณปลายใบของหัวเจาะท่ีมาก ทาให้เศษ cutting ไหลเข้าไปในก้านเจาะและเข้าไป ผู้ประกอบการไดร้ บั ความรู้ มที กั ษะ มกี ารทางาน อุดท่อลม และหัวเจาะที่มีการสึกหรอมากที่สุดคือ เป็นทีม สร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานภายใน หัวเจาะที่ 1 เน่ืองจากเจาะพบชั้นดินดานเม่ือทาการ องค์กร สร้างทีมงานเพอื่ พัฒนานวัตกรรมและระบบการ เจาะครบ 50 รู เล็บคาร์ไบด์ D4 P9 บริเวณปลายใบมี ผลิตหัวเจาะ การสึกหรอและมีการแตกหักลึกเข้าถึงเน้ือเหล็กของ ใบเจาะ ใช้เวลาในการเจาะสูงสุดอยู่ที่ 4.39 นาที - ภายนอกองคก์ ร ใช้เวลาทาการเจาะต่าสดุ อยทู่ ี่ 1.46 นาที และมีค่าเฉลีย่ ผู้ประกอบการสามารถยกระดับมาตรฐานการ ของเวลาที่ทาการเจาะท้ัง 50 รู เป็น 2.38 นาที มเี ปอร์เซนต์การสึกหรอ 7.39% ผลิตผลิตภัณฑ์หัวเจาะให้เป็นที่ยอมรับและสามารถ แข่งขันทางการตลาดได้เนื่องจากราคาของหัวเจาะมี ต้นทนุ ต่าและมีอายกุ ารใช้งานเพม่ิ ขึ้น ผู้ประกอบการได้ความร่วมมือและสนับสนุน เงิ น ทุ น จ า ก ร ะ หว่ า งภ า ค รั ฐ แ ล ะ นั ก วิ จั ย จาก มหาวทิ ยาลยั 14 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
และยังพบอีกว่าหัวเจาะท่ีมีการสึกหรอน้อย forced concrete. 2nd international industrial ทสี่ ดุ คือ หัวเจาะที่ 5 เม่ือทาการเจาะครบ 50 รู หัวเจาะ diamond conference –diamond at Work, มีการสึกหรอเล็กน้อยบริเวณเน้ือเหล็กขอบใบเจาะ Rome, Italy. มีเปอร์เซนต์การสึกหรอ 1.01% ใช้เวลาในการเจาะ Moseley SG , Bohn K-P , Goedickemeier M . 2008. สูงสุดอยู่ท่ี 3.39 นาที ใช้เวลาทาการเจาะต่าสุดอยู่ที่ International conference on diamond, cu- 1.52 นาที และมีคา่ เฉลีย่ ของเวลาทีท่ าการเจาะทงั้ 50 รู bic boron nitride and their applications เป็น 2.23 นาที ซ่ึงจะนามาเป็นเป็นต้นแบบในการสร้าง Orlando, USA. หัวเจาะ สาหรับชั้นหน้าดินเป็น Top soil ชั้นดิน Luís MPD , Daniel JSG , João MRST , Victor HCA , Red Beds และชัน้ ดนิ Over Burden Aguiar AV , Torres AM . 2010. Compos Struct, 92,1545. จากการพิจารณาเปอร์เซนต์การสึกหรอพบว่า Tan S , Fang X , Yang K , Duan L . 2014. Int J หัวเจาะที่ทาการพัฒนาข้ึนมามีค่าการสึกหรอต่ากว่า Refract Met Hard Mater,43,186. 20% (ท่ีกาหนดไว้ในวัตถุประสงค์) และมีช่วงการ Chen JB , Fang QH , Wang CC , Dub JK , Liuc F . สกึ หรอของหวั เจาะทงั้ 6 หวั อยทู่ ี่ 1.01 ถึง 7.39% 2016. Precis Eng, 46,104 . กรมทรัพยากรธรณี (2546). รายงานสรุปการศึกษา ข้อเสนอแนะสาหรับการเลือกใช้หัวเจาะเสริม เหมืองถ่านหินลิกไนต์ อาเภอแม่เมาะ จังหวัด เลบ็ คารไบดใ์ หเ้ หมาะสมกับพ้ืนทท่ี าการเจาะ หากพบวา่ ลาปาง, โครงการวิจัยแหล่งซากหอยขมอายุ พื้นที่ทาการเจาะเป็นช้ัน Red Beds หัวเจาะเสริม 13 ล้านปี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, เล็บคาร์ไบด์ D4 สามารถทาการเจาะได้ดีกว่าการใช้ 23 หน้า. เล็บคาร์ไบด์ D5 เนื่องจากเศษ Cutting มีขนาดเล็ก นายมหิปพงศ์ วรกุล (2552). คู่มือการวิเคราะห์และ และใช้เวลาในการเจาะน้อยกว่า ส่วนพื้นท่ีทาการเจาะ บ ร ร ย า ย ลั ก ษ ณ ะ ดิ น - หิ น จา ก ห ลุ ม เ จาะ , เป็นช้ัน Over Burden หัวเจาะเสริมเล็บคาร์ไบด์ D5 ก า ร ป ร ะ เ มิ น แ ต่ ง ต้ั ง ใ ห้ ด า ร ง ต า แ ห น่ ง จะมีการสกึ หรอนอ้ ยกวา่ หวั เจาะเสรมิ เล็บคารไ์ บด์ D4 นักธรณีวิทยาชานาญการพิเศษ ตาแหน่งเลขท่ี บรรณานกุ รม 339, 39 หนา้ . Jimeno, E.L., Jimino, ,C.L.and Ayala, C.L. (1995). สุรพิน พรมแดน และ สุทธิเทพ รมยเวศม์ (2559). การศึกษาและการพัฒนาหัวเจาะสาหรับงาน Drilling and Blasting of Rocks, Taylor & ร ะ เบิ ด เหมื อง ถ่ านหิ น , โ ค ร ง ก า ร Talent Francis, London and New York. Mobility ปีงบประมาณ 2559, 148 หน้า Lammer A . 2007. Designing tool parameters for optimum drilling performance in rein- วารสารวิชาการรบั ใช้สงั คม มทร.ล้านนา 15 ปที ่ี 2 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2559
RMUTL Journal Socially of Engaged Sholarship Vol. 1 No. 1 January - June 2016
การถ่ายทอดความรู้เชงิ นวตั กรรมแบบมีสว่ นรว่ ม : หตั ถกรรมผา้ ทอจกบ้านแมข่ ีม้ กู ตาบลบ้านทบั อาเภอแม่แจ่ม จงั หวัดเชยี งใหม่ Innovative Knowledge Transfer with the Participatory Pattern : Textile crafts Ban Mae Ki Mook, Tumbol Ban Tub, Mae Chaem District, Chiang Mai Province ณงคณ์ ชุ นทีพายัพทศิ 1* Nongnoot Nathibayapthis1* 1อาจารย์ คณะศลิ ปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา 1 Lecturer, Faculty of Arts and Architecture, Rajamangala University of Technology Lanna E-mail: [email protected], เบอรโ์ ทรศัพท์ 081-7647759 บทคดั ยอ่ “การถ่ายทอดความรู้เชิงนวัตกรรมแบบมีส่วนร่วม : หัตถกรรมผ้าทอจกบ้านแม่ข้ีมูก ตาบลบ้านทับ อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่” เพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กลุ่มหัตถกรรมผ้าทอจก โดยใช้กระบวนการถ่ายทอดความรู้เชิงนวัตกรรมแบบมีส่วนร่วม ด้วยการวิเคราะห์ปัญหาและศักยภาพ สมาชิกกลุ่ม จัดประชุมกลุ่มย่อยหาแนวร่วมในการแก้ปัญหาและเปล่ียนกระบวนการคิด สร้างอาชีพเสริมด้วยการจัด ฝึกอบรม เชิงปฏิบัติการ ทาปกสมุดผ้าทอจก และจัดหาช่องทางการจัดจาหน่าย โดยใช้แนวคิด 3S Shift Sustainable Social คือ หน่ึง การเพิ่มศักยภาพสมาชิก ด้วยการถ่ายทอดความตระหนักรู้ เพ่ือสร้างรายได้เสริมอย่างย่ังยืน สอง การประสานรว่ มมือในชมุ ชนและเครอื ขา่ ย ผลที่ได้จากการวิจัย พบว่า สมาชิกกลุ่มเกิดการตระหนักและเรียนรู้ สามารถจัดการกลุ่มได้ วิเคราะห์ปัญหา โดยแปลงวฒั นธรรมทอผ้าจกเป็นผลติ ภัณฑ์ใหม่ร่วมสมัยมีรายไดเ้ สริม100 เปอร์เซ็นต์ และมีกระบวนการจดั การกลุ่ม อย่างเป็นระบบ เปน็ นวตั กรรมกระบวนการท่ีขับเคลื่อน ประสานร่วมมอื ชมุ ชนและเครือขา่ ยโดยชุมชน คาสาคัญ การถ่ายทอดความรู้ นวัตกรรม การมีส่วนร่วม หตั ถกรรมผ้าทอ บา้ นแมข่ มี้ กู ABSTRACT Innovative Knowledge Transfer with the Participatory Pattern : Textile crafts Ban Mae Ki Mook, Tumbol Ban Tub, Mae Chaem District, Chiang Mai Province. This research aimed to define solve Environment and Monetization Career Transfer to Participatory Innovation Process with Analyzes the Problem and Potential. The focus group Involved problem Solving and Thinking Process. Workshop Book cover by Textile crafts and Distribution channels with 3 S model (Shift Sustainable Social) The result and conclusion, The first, Members think be and management culture trans to new contemporary product Income Supplement 100 percent. The Second, Systematically and Innovation Process Driven to revenue Textile crafts Ban Mae Ki Mook. Keywords Knowledge Transfer, Innovative, Participation, Textile Craft, Ban Mea Ki Mook วารสารวชิ าการรบั ใช้สงั คม มทร.ลา้ นนา 17 ปที ่ี 2 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถุนายน 2559
บทนา วธิ กี ารดาเนนิ งาน กลุ่มทอผ้าจกบ้านแม่ขี้มูก (บ้านสองธาร) 1. Shift คือ การเปิดเวทีสนทนา (Focus ตาบลบ้านทับ อาเภอแม่แจ่ม จงั หวัดเชียงใหม่ ได้รับการ Group) การถ่ายทอดความรู้แบบมีส่วนร่วม เพื่อเพิ่ม ร่วมมือรณรงค์ให้ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ศักยภาพ ก่อให้เกิดการเข้าใจและตระหนักคุณค่าใน ในหมู่บ้านท่ีเข้าร่วมโครงการ จานวน 200 ไร่ อัตลักษณ์ผ้าทอจกบ้านแม่ข้ีมูก (บ้านสองธาร) จากผลกระทบการทาเกษตรกรรมเชิงเดี่ยวด้วยการ อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ และพัฒนาปรับเปล่ียน ปลูกข้าวโพด ท่ีส่งผลกระทบทางนิเวศและส่ิงแวดล้อม ก ร ะ บ ว น ก า ร คิ ด เ ชิ ง น วั ต ก ร ร ม ก ร ะ บ ว น ก า ร เศรษฐกิจ เกิดภาระหน้ีสินมากมาย ภาคเอกชนและ (Innovation Process) ด้วยการอบรมเชิงปฏิบัติการ องค์กรท่ีเกี่ยวข้องจึงเกิดแนวคิดการร่วมมือระหว่าง (Workshop) โดยนาแนวคิดของ Dipak C. jain อ้างถึง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เพ่ือช่วย ณงค์ณุช นทีพายัพทศิ (2556) เอกลักษณ์ของความเป็น แกป้ ญั หา โดยทาเป็นพน้ื ที่นาร่องเพอื่ ปรบั เปล่ยี นวิถีการ คนไทยท่ีมีความโอบอ้อมอารีและวิถีการดารงชีวิต ทาเกษตรกรรมเชิงเดี่ยว เป็นการทาเกษตรกรรมแบบ ท่ีมีเสน่ห์ เป็นจุดขายท่ีแท้จริง ซึ่งหมายถึง “มนุษย์” ผสมผสานพร้อมการปลูกป่ากลับคืน ซ่ึงช่วงเวลา ท่ีเป็นทรัพยากรสามารถสร้างความแตกต่างและสร้าง ดังกล่าว เป็นช่วงรอยต่อการดาเนินชีวิตท่ีขาดรายได้ มูลคา่ เพม่ิ โดยการพฒั นาทรัพยากรมนุษยจ์ ากโมเดล 5p ในวิกฤตดังกล่าวทาให้ชุมชนหันกลับมามองต้นทุน คอื People หมายถงึ คนทมี่ คี วามสามารถและศกั ยภาพ ทางวิถีวัฒนธรรมดา้ นงานทอผ้าจก ซึ่งเป็นท่ียอมรับของ เด่นที่ซ่อนเร้น Productivity หมายถึง คนที่มีขีด คนทั่วไปในผ้าทอจกแม่แจ่ม ทางมหาวิทยาลัยฯ ความสามารถในการผลิตท่ี แตกต่าง ไม่เท่ากัน จึงจัดทาโครงการยกระดับชุมชนแบบมีส่วนร่วม นาโดย Profitability หมายถงึ คนทค่ี ดิ สร้างผลกาไรจากสิ่งทค่ี ดิ ทีมวิศวกรรมเกษตรและหัตถกรรม ปฏิบัติการควบคู่กัน ส่ิงท่ีทาให้มีกาไรมากขึ้นกว่าเดิม Prosperity หมายถึง ในปีแรก โดยทางคณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรม ค น ท่ี ส า ม า ร ถ ส ร้ า ง ค ว า ม มั่ ง คั่ ง แ ล ะ ม่ั น ค ง ใ ห้ ต น เ อ ง ศาสตร์ ได้นาแนวคิดการสร้างเสริมอาชีพและรายได้ Potentiality หมายถึง คนท่ีมีความสามารถพิเศษท่ี ด้วยการพัฒนาต่อยอดงานผา้ ทอจก ท่ีเป็นวิถีวัฒนธรรม ซ่อนเร้นภายในและอยากแสดงออก ทาให้มองเห็นว่า ท้องถิ่น มาพัฒนาต่อยอดเชิงนวัตกรรมกระบวนการ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จะเป็นแนวทางหน่ึงที่จะ แบบมีส่วนร่วม ประกอบด้วย ชุมชนบ้านแม่ขี้มูก ก่อให้เกิดการพัฒนาและขับเคล่ือนที่รวดเร็วและยั่งยืน กลุ่มผ้าทอจกจานวน 25 ครัวเรือน และเครือข่ายร่วม เพราะเปน็ จุดแขง็ (Strength) ดังแสดงในภาพท่ี 1 ดาเนินการขับเคล่ือน คือ บริษัท เชียงใหม่วิสาหกิจเพื่อ ภาพท่ี 1 โครงสร้างการเพิ่มศกั ยภาพทรพั ยากรมนษุ ย์ สังคม จากัด สมาชิกกลุ่มทอผ้าจกในบ้านแม่ข้ีมูก ผู้ประกอบการอาสาพัฒนา อาจารย์และนักศึกษา สาขาเทคโนโลยีศิลป์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ล้านนา เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธ์ิเชิงประจักษ์อย่างเป็น รูปธรรม ในการสร้างอาชีพและรายได้เสริมใน ช่วงรอยต่อ เพื่อรอผลผลิตการเกษตร ด้วยมิติใหม่ จากนวัตกรรมกระบวนการ 3S โมเดล คือ Shift การยกระดับคุณภาพชีวิต Sustainable ความพอเพียง ด้านความเป็นอยู่และเศรษฐกิจ Social สถานะในสังคม และเครอื ข่ายท่ีประสานร่วมมือ 18 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
2. Sustainable คือ สร้างรายได้เสริมกลุ่ม ผลการดาเนนิ งาน ผ้าทอบ้านแม่ข้ีมูก ด้วยการพัฒนาผ้าทอจกแบบด้ังเดิม 1. การคาดการณ์และส่ิงท่ีตามมาหลังจากการ เ ป็ น ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ใ ห ม่ ด้ ว ย ต้ น ทุ น ท า ง วิ ถี วั ฒ น ธ ร ร ม แบบร่วมสมัย ตอบสนองความต้องการสังคมปัจจุบัน เปลี่ยนแปลง ประเด็นแรก สมาชิกกลุ่มมีการเรียนรู้ เพื่อสรา้ งความมั่นคงและย่ังยนื อยู่ไดอ้ ย่างพอเพียง เข้าใจและตระหนักในอัตลักษณ์ผ้าทอจกที่สามารถ สร้างรายได้เพิ่มเทียบ 100 เปอร์เซนต์ กลุ่มและสมาชกิ 3. Social คือ การประสานร่วมมือ ของภาครัฐ สามารถนาลักษณะการทอจกแบบด้ังเดิม ปรับเปล่ียน เอกชน และหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เกิดการแลกเปลี่ยน ภาพลักษณ์จัดวางลายใหม่ เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ เรียนรู้ มองเห็นภาพกระบวนการต้ังแต่ต้นน้า กลางน้า ด้ ว ย วั ฒ น ธ ร ร ม แ บ บ ร่ ว ม ส มั ย ต อ บ ส น อ ง ต ล า ด แ ล ะ ปลายน้าไดช้ ัดเจนตรงเปา้ หมาย กลุ่มเป้าหมายในสังคมปจั จุบนั โดยนาแนวคิดจากการมี ส่วนร่วมทุกภาคส่วนมาผสมผสานบูรณาการเกิดการ ภาพท่ี 2 การพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ดว้ ยการ แลกเปล่ียนเรียนรู้และมองเห็นภาพกระบวนการตั้งแต่ เปลีย่ นกระบวนการคดิ และฝึกทักษะในการทาที่ จุดเริ่มต้นท่ีเป็นตน้ น้า กลางน้าที่ปรับเปล่ียนภาพลักษณ์ เป็นผลิตภัณฑ์สมุดปกผ้าทอจก ปลายน้าท่ีจาหน่ายให้ สามารถจาหนา่ ย มีรายไดเ้ พมิ่ กลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม และองค์กรที่ ชัดเจน ภาพที่ 3 กรอบแนวคิดการถา่ ยทอดความรู้ ตรงเปา้ หมาย กลมุ่ สามารถขบั เคลื่อนครบทุกระบวนการ เชิงนวตั กรรมแบบมสี ่วนรว่ ม เพอ่ื สร้างอาชพี และรายได้ ได้ด้วยตัวเอง ประเด็นที่สอง เกิดกระบวนการจัดการ กลมุ่ หตั ถกรรมผ้าทอจก บ้านแมข่ ้ีมูก (บา้ นสองธาร) กลุ่มอย่างเป็นระบบ เช่น การวางแผนงาน การจัดวาง ตาบลบา้ นทบั อาเภอแมแ่ จม่ จังหวดั เชยี งใหม่ ผู้รับผิดชอบงาน และจัดสรรรายได้ รวมถึงการ วางแผนการต่อยอดด้านต่างๆ เช่น โครงการปลูกฝ้าย โครงการจัดการท่องเท่ียวโดยชุมชน โครงการจัดทา โฮมเสตย์และอาหารท้องถิน่ เปน็ ตน้ 2. การฝึกอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารโดยผ้ปู ระกอบการ คุณศศิณี ดารงชัยเสน ศิษย์เก่าออกแบบผลิตภัณฑ์ท่ีมา ช่วยฝึกอบรมสอนการทาปกสมุดผ้าทอจกในระยะเวลา 2 วัน ถือได้ว่าเป็นการช่วยแก้ปัญหาการขาดรายได้ของ สมาชกิ กลุ่ม ซึง่ ทางสมาชกิ กลุ่มได้นากระบวนการคดิ ฝกึ ทักษะขั้นตอนการทาปกสมุดผ้าทอจก จัดระบบ การจัดการรวมถึงการจัดซ้ือวัสดุ อุปกรณ์ การคิดราคา ต้นทุนและราคาขาย โดยประมาณการได้ในเบ้ืองต้น สามารถผลิตสมดุ ปกผา้ ทอจกได้อย่างมีคุณภาพ ตามทม่ี ี การส่ังผลิตได้ และจัดส่งได้ตามทก่ี าหนด 3. การประเมินผลลัพธ์การเปล่ียนแปลงท่ี เกิดข้ึนชุมชนผ่านกระบวนการเรียนรู้ เกิดทักษะ สร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ จากการพัฒนาด้วย กระบวนการคิดและวางแผนจัดการ อย่างเป็นระบบ ก่อให้เกิดรายได้ หมุนเวียน จากผลการพัฒนาผ้าทอเชิง สร้างสรรค์ด้วยต้นทุนทางวิถีด้ังเดิม สามารถจัดทาและ จาหน่าย สมดุ โน๊ต การขายผลิตภัณฑ์เดิม และการจัดทา วารสารวชิ าการรบั ใช้สังคม มทร.ลา้ นนา 19 ปที ่ี 2 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2559
ภาพท่ี 6 ภาพผลการประเมนิ ความคาดหวงั ดา้ นการสรา้ งรายได้และอาชพี เสรมิ จาก 25 ครัวเรือน ภาพท่ี 4 การอบรมเชิงปฏบิ ัติการทาปกสมดุ ผา้ ทอจก บา้ นแมข่ ้ีมกู (บา้ นสองธาร) ตาบลบา้ นทับ อาเภอแม่แจ่ม จังหวดั เชยี งใหม่ ภาพท่ี 5 การสง่ มอบผลติ ภณั ฑป์ กสมดุ ผา้ ทอจก ภาพที่ 7 ภาพผลการประเมินความความพึงพอใจ บา้ นแม่ขี้มกู ส่กู ลมุ่ ลกู คา้ สรา้ งภาพลกั ษณ์ จากอาชพี เสริมและรายไดท้ ีเ่ พม่ิ ข้นึ ด้วยการหอ่ หมุ้ ดา้ นนอกดว้ ยบรรจุภัณฑ์ จาก 25 ครัวเรอื น และสง่ มอบรายไดใ้ ห้กับกลุ่ม ประเด็นความพึงพอใจ จากการเข้าร่วม โฮมเสตย์ มีรายได้เข้ากลุ่มอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ โครงการ 1 ปี ผู้วิจัยได้เปิดเวทีสรุปผลงานวิจัยและ ในช่วงเทศกาล ทางกลุ่มรับการสั่งสินค้า และแบ่งปัน ทากิจกรรมประเมิน โดยวิธีการใช้สัญลักษณ์แสดง รายไดใ้ หม้ วลสมาชกิ ความรู้สึกให้กลุ่มเป้าหมายเลือก 3 สัญลักษณ์ ดงั ภาพที่ 7 4 . ค ว า ม พึ ง พ อ ใ จ ข อ ง ก ลุ่ ม เ ป้ า ห ม า ย การนาไปใช้ 25 ครัวเรือน โดยมีรายละเอียดและผลสรุปเชิงคุณภาพ 2 ประเดน็ คอื ความคาดหวังและส่งิ ทไี่ ดผ้ วู้ ิจยั ได้สรปุ ผล ก า ร ถ่ า ย ท อ ด ค ว า ม รู้ เ ชิ ง น วั ต ก ร ร ม แ บ บ มี การวิเคราะห์ข้อมลู โดยผู้วจิ ยั ได้เปดิ เวทีสรุปผลงานวิจัย ส่วนร่วมหัตถกรรมผ้าทอจกบ้านแม่ข้ีมูก (บ้านสองธาร) และทากิจกรรมประเมิน ด้วยวิธีการใช้สัญลักษณ์ ตาบลบ้านทับ อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ แสดงความรู้สกึ ใหก้ ลุม่ เปา้ หมายเลือก 3 สญั ลกั ษณ์ ดงั นี้ เป็นปฏบิ ตั ิการขบั เคลอื่ น เพอ่ื พฒั นาคน ที่เป็นทรัพยากร มนุษย์ ในชุมชนให้เปล่ียนแนวคิด นาภูมิปัญญาความรู้ ประเด็นความคาดหวัง ของกลุ่มเป้าหมาย คือ วิถีวัฒนธรรมชุมชนมาสร้างสรรค์ชิ้นงานที่ร่วมสมัย สร้างอาชพี เสรมิ และมีรายได้เพม่ิ ให้กลุ่มเปา้ หมายเลือก ใหค้ ุณค่าทีม่ ีเร่อื งราวสื่อถึงที่มาของลวดลายทอ เปน็ การ ไดผ้ ลดังภาพท่ี 6 อนุรักษ์เชิงสร้างสรรค์ ใช้กระบวนแบบมีส่วนร่วมหลาย ภาคสว่ น โดยมีมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา 20 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
จัดทาโครงการฝึกปฏิบัติภายใต้โครงการยกระดับ มิติสังคม กลุ่มทอผ้าจกมีความตระหนักรู้ ใน คุณภาพชีวิตชุมชน ปีงบประมาณ 2560 โดยให้สมาชิก นวัตกรรมกระบวนการขับเคลื่อนชุมชนอย่างมีส่วน กลุ่มทอผ้าจกในหมู่บ้านแม่ขี้มูกที่เข้าร่วมโครงการ รว่ มกนั คดิ รว่ มกันทา และรับประโยชน์ร่วมกัน ด้วยการนาเทคนิคลวดลายทอจกหน้าหมอน และ ลายทอตีนจก มาทอและจัดวางใหม่ พัฒนาเป็น มิติการอนุรักษ์ ได้ผลิตภัณฑ์ปกสมุดผ้าทอจก ผลิตภัณฑ์สมุดโน้ต ที่ส่ือถึงมิติวิถีชุมชนแบบร่วมสมัย บ้านแม่ข้ีมูก ที่นาต้นทุนวิถีวัฒนธรรมสร้างสรรค์แบบ ด้วยการ ทอ ตัด เย็บ ตกแต่ง ซึ่งชุมชนสามารถนา ร่วมสมัย (Local Product) กลุ่มสามารถนารูปแบบมา กระบวนการมาผลิตจริงด้วยมือ เป็นการนาสมาชิกกลมุ่ บรหิ ารจดั การ อยา่ งเปน็ ระบบได้ ให้เกิดการเรียนรู้ การผลิตท่ีตอบสนองความต้องการผู้ ซ้ือ ตลาดเป้าหมาย (ตลาดต้นแบบ) ภายใต้ภาพลักษณ์ 2. บุคลากรอาจารย์และนกั ศกึ ษามหาวทิ ยาลยั ผลิตภัณฑ์ผ้าทอจกร่วมสมัย ซึ่งเป็นแนวคิดในการ เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ ต่ อ ย อ ด เ ป็ น ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ชุ ม ช น ( Local Product) ทางเทคโนโลยี นวัตกรรม โดยการบูรณาการร่วมกัน ที่สามารถผลิตได้จริงโดยกลุ่มและชุมชน เป็นการ ด้านการบรหิ าร การออกแบบผลิตภัณฑแ์ ละบรรจุภณั ฑ์ ขับเคลื่อน ชุมชนต้นแบบ สู่เวทีการเสนอต่อยอด สร้างอาชีพและรายได้ให้กับกลุ่มผ้าทอบ้านแม่ขี้มูก การเสวนา ด้านเศรษฐกิจ ด้านการท่องเท่ียวเป็น เป็นบัณฑิตนกั ปฏิบัติ ครูนักปฏิบตั ิ และชมุ ชนนักปฏิบตั ิ “โมเดลตันแบบแม่ข้ีมูก” ต่อยอดงานวจิ ัยเชิงปฏิบัตกิ าร โดยภาคเอกชน ศิษย์เก่าที่ creative branding และ 3. ได้เครือข่ายในการประสานร่วมมือ องคก์ รมลู นิธิ WWF. SDG และ CSE เพ่ือสรา้ งผลติ ภัณฑ์ บูรณาการอย่างมีส่วนร่วม ร่วมกับ WWF. มูลนิธิ ใหมส่ ู่ตลาดพรีเมย่ี ม (premium marketing) นวัตกรรมเกษตรอินทรีย์ไทย บริษัทเชียงใหม่วิสาหกิจ เ พ่ื อ สั ง ค ม ( Chiang Mai Social Enterprise : CSE) การนาไปใช้ประโยชน์ นักออกแบบอาสาศิษย์เก่าออกแบบผลิตภัณฑ์ (Brand 1. เป็นหมู่บ้านต้นแบบ ในการพัฒนาศักยภาพ Creator) และสมาชิกกลุ่มทอผ้าจก บ้านแม่ขี้มูก ทรัพยากรมนุษย์ ด้วยการยกระดับปรับกระบวนการคิด ตาบลบา้ นทบั อาเภอแม่แจม่ จงั หวดั เชยี งใหม่ ถือได้ว่าเป็นกลุ่มผ้าทอจกบ้านแม่ขี้มูก (บ้านสองธาร) ตาบลบ้านทับ อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ที่เป็น 4. การขับเคล่ือนจากชุมชนสู่การขับเคลื่อน ต้นแบบหม่บู ้านวฒั นธรรมสรา้ งสรรค์ 3 ดา้ น คือ ระดบั ประเทศ จากแผนสปู่ ฏิบัติการ “kick off จากแผน มิตเิ ศรษฐกจิ กล่มุ ทอผ้าจกมรี ายได้เพม่ิ ขน้ึ สู่การขับเคล่ือนแม่แจ่มโมเดลพลัส ” เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 ณ ตาบลบ้านทับ อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ โดย พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รั ฐ ม น ต รี ว่ า ก า ร ก ร ะ ท ร ว ง ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ และส่งิ แวดลอ้ ม ดังภาพที่ 8 - 11 ภาพที่ 8 “kick off จากแผนส่กู ารขบั เคล่อื นแม่แจ่ม ภาพท่ี 9 เวทเี สวนาการแกป้ ัญหา “kick off จากแผน โมเดลพลสั ” เมื่อวันที่ 9 กุมภาพนั ธ์ 2561 สกู่ ารขับเคลือ่ นแม่แจม่ โมเดลพลัส”วนั ที่ 9กุมภาพนั ธ์ 2561 ณ ตาบลบา้ นทบั อาเภอแม่แจม่ จงั หวดั เชียงใหม่ ณ ตาบลบา้ นทบั อาเภอแมแ่ จม่ จังหวดั เชียงใหม่ โดยรองอธกิ ารบดฝี ่ายวจิ ยั และถา่ ยทอดเทคโนโลยี โดย รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ ม พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ วารสารวิชาการรับใช้สังคม มทร.ลา้ นนา 21 ปที ่ี 2 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มิถุนายน 2559
ภาพที่ 10 แนวทางการวิจัย “วฒั นธรรมกนิ ได้ 1. มติ ิส่อื สัญลกั ษณเ์ ชิงนามธรรม ท่ีสร้างคุณคา่ สร้างรายไดส้ ชู่ มุ ชน” ณ อาเภอแม่แจม่ จังหวัดเชยี งใหม่ เชิงปรัชญาด้วยเทคนิคการทอจก และลวดลายทอ เปน็ visual form ที่มรี ูปลกั ษณ์ที่ชดั เจนและแตกตา่ ง โดย คณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา 2. มิติส่ือแนวคิดสร้างสรรค์เชิงรูปธรรม สมัยใหม่ มุ่งผู้ซื้อคนรุ่นใหม่และตลาดกลุ่มใหม่ ด้วยการ ภาพท่ี 11 การเข้าพนื้ ทรี่ บั ฟงั ปญั หา ในหมู่บ้านแมข่ ี้มกู สร้างแบรนด์และบรรจุหีบห่อท่ีผสมผสานความเป็น ตาบลบ้านทบั อาเภอแมแ่ จม่ จงั หวัดเชยี งใหม่ ศาสตร์และศิลปด์ ว้ ยภาพลักษณแ์ ละตน้ ทุนทเ่ี หมาะสม ในเวที “kick off จากแผนสู่การขบั เคลื่อนแม่แจ่ม โมเดลพลัส” เมอ่ื วันที่ 9 กมุ ภาพนั ธ์ 2561 3. มิติการมีส่วนร่วมสร้างต้นแบบชุมชน เชงิ อนรุ ักษ์ธรรมชาติ วถิ ีดง้ั เดมิ และการจดั การ เพือ่ คนื ชีวติ ท่ีดี ดว้ ยการพักหนี้ ขชี้ อ่ งทางสรา้ งเศรษฐกิจ ชมุ ชน และบรหิ ารจัดการนา้ และป่า ซึ่งสอดคล้องกับเวชกร ตาลวันนาพิศ (2555) ที่ศึกษาลายผ้าโขมพัสตร์ อาเภอหัวหิน พบว่าการ อภปิ รายผล ออกแบบผลติ ภัณฑท์ ่ีนาลวดลายผา้ มาออกแบบใหม่ให้ดู ทัศนียา บริพิศ (2557)ได้มองบริโภคนิยม ร่วมสมัย โดยประยุกต์ให้เหมาะสมกับประโยชน์ใช้สอย ให้มีความโดดเด่น..ท่ีสามารถใช้สอยในชีวิตประจาวัน เป็นสัญญะ (Sign) โดยแยกเป็นคุณค่าการใช้สอย (Use เ ป็ น ก า ร เ พ่ิ ม มู ล ค่ า เ ชิ ง ป ร ะ โ ย ช น์ ใ ช้ ส อ ย ม า ก ขึ้ น Value) คือ ส่ิงท่ีมีคุณค่าในลกั ษณะที่จาเป็น และคุณคา่ (Function of Value Added) เชิงสัญลักษณ์ (Sign Value) คือส่ิงที่แสดงให้เห็นถึง ขอ้ เสนอแนะ สถานะในสงั คม ซ่ึงผลจากนวัตกรรมกระบวนการชุมชน บ้านแม่ข้ีมูก(บ้านสองธาร) ได้มีแนวคิดในการออกแบบ 1. การสนับสนุนกลุ่มผ้าทอจกชุมชนบ้าน ผลิตภัณฑ์ใหม่แบบร่วมสมัย ให้มีคุณค่าเชิงสัญลักษณ์ แม่ข้ีมูก ตาบลบ้านทับ อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ (Sign Value)โดยมองในมิติความเช่ือแปลงเป็นมูลค่า ควรทาอย่างต่อเน่ือง เพ่ือต่อยอดเชิงสร้างสรรค์ ให้ก่อ โวยการใช้ลวดลายทอจก ลายหน้าหมอนมาต่อยอด เกิดรายไดอ้ ย่างสม่าเสมอ ในชว่ งรอพืชผลการเกษตร งานวิจัยเชิงปฏิบัติการโดยภาคเอกชน ศิษย์เก่าที่ creative branding ซึง่ สื่อความหมายได้ 3 มติ ิ คือ 2. การต่อยอดคือการสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง อยู่ได้ ที่สาคัญการสานต่อแนวคิด จากรุ่นลูก รุ่นหลาน ทม่ี องเห็นช่องทางเศรษฐกจิ ชุมชนแบบพอเพยี ง โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ และคณะ(2548) ให้แนวคิดด้าน “จะทางานต่อไปอย่างไร”หัวใจสาคัญ คือ การเรียนรู้และการสร้างสัมพันธภาพท่ีดีกับชุมชน เข้าใจมิติทางสังคมชุมชน เข้าใจวิถีชีวิต และวัฒนธรรม ชุมชน ท่ีเป็นรากฐานสาคัญของการสร้างระบบบริการท่ี มีหัวใจของความเป็นมนุษย์ ซ่ึงต้องอาศัย “การรู้ เท่าทัน” เคร่ืองมือเป็น ผล ดอก ใบ ท่ีงอกงามในส่วน ของรากเหงา้ ทางความคิดซ่ึงเปน็ ปรชั ญาและภมู ิปญั ญา บรรณานกุ รม โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์, คณิศร เต็งรัง, ราตรี ปิ่นแก้ว และวรัญญา เพ็รชคง. 2551. วถิ ีชุมชน : บทสรุป 22 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
“จะทางานต่อไปอย่างไร”.กรุงเทพฯ: สานักวิจัย และสัญญะ.” สารอาศรมวัฒนธรรมวลัยลักษณ์ สังคมและสขุ ภาพ. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์. ปีที่14 ฉบับท่ี 1ตุลาคม ณงค์ณุช นทีพายัพทิศ, 2556, การพัฒนาและเพิ่ม 2556-มีนาคม 2557, เลขหนา้ ท่ี 41. มูลค่างานหัตถกรรมพื้นถิ่นล้านนา, รายงานวิจัย เวชกร ตาลวันนาพิศ. 2555. “การศึกษาแนวทางการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา , พัฒนาผ้าโขมพสตร์ในอาเภอหัวหิน.” ศิลปกรรม เชยี งใหม่, เลขหนา้ ท่ี 9 บูรพา มหาวิทยาลัยบูรพา. ปีที่ 15 ฉบับท่ี 1 ทัศนียา บริพศิ . 2557. “วฒั นธรรมบรโิ ภคนิยม ทนุ นยิ ม มถิ นุ ายน – พฤศจกิ ายน 2555, เลขหน้าท่ี 97. วารสารวชิ าการรับใชส้ ังคม มทร.ล้านนา 23 ปที ี่ 2 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2559
RMUTL Journal Socially of Engaged Sholarship Vol. 1 No. 1 January - June 2016
การประเมินปัจจยั ความสาเรจ็ โครงการยกระดับคุณภาพชีวติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงแบบมีส่วนร่วม กรณศี ึกษาบา้ นปา่ จี้ ตาบลทุ่งหลวง อาเภอพร้าว จงั หวดั เชยี งใหม่ Assessment of Success Factors of Participatory Improving Quality of Life is based on the Philosophy of Sufficiency Economy Project: A Case Study of Ban Pagee, Tung Luang Sub-District, Phroa District, Chiang Mai Province ปรัชญา นามวงค์1* Prachaya Namwong1* 1อาจารย์ คณะวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีการเกษตร มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา 1 Lecturer, Faculty of Sciences and Agricultural Technology, Rajamangala University of Technology Lanna E-mail: [email protected] บทคัดยอ่ การศึกษาและวจิ ยั น้ี มีวัตถุประสงค์เพ่อื ถอดบทเรียนการประเมินถึงปัจจัยที่ทาให้เกิดความสาเร็จในโครงการ ยกระดับคุณภาพชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงแบบมีส่วนร่วม กรณีศึกษาบ้านป่าจ้ี ตาบลทุ่งหลวง อาเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ เกิดจากความร่วมมือด้านงานบริการวิชาการของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ลา้ นนากบั เทศบาลตาบลเวยี งพร้าว อาเภอพร้าว จงั หวัดเชียงใหม่ เพือ่ นาองคค์ วามรู้และนวตั กรรมท่มี ีในมหาวทิ ยาลัย ไปปรับใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความเข้มแข็งของคนในชุมชน ผู้วิจัยใช้การเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงสารวจ จากกลุ่มชมุ ชนและกลุ่มอ่ืน ๆ ที่ร่วมโครงการ โดยการสังเกตและการสมั ภาษณ์เชงิ ลกึ จากการประเมินแบบมสี ว่ นรว่ ม ท้ังในช่วงระหว่างจดั ทาโครงการและต่อเน่ืองหลังสน้ิ สุดโครงการ พบว่าปัจจัยหลักท่ีทาให้เกดิ ความสาเร็จของโครงการ มาจาก 3 ด้าน ประกอบด้วยการมีผู้นากลุ่มชุมชนที่เข้มแข็งและเป็นที่น่าเชื่อถือของด้านกลุ่มชุมชน การจัดทาแผน กิจกรรมของโครงการโดย กลุ่มชุมชน มีส่วนร่วมใน การกาหนดและดาเนินโครงกา รในด้านของผู้จัดทาโครงการ และด้านสุดท้ายคือการให้ความใกล้ชิดและการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม ในการจัดทาโครงการจากหน่วยงาน ปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นและหนว่ ยงานอ่นื ทเี่ ก่ียวข้องกบั พ้นื ทช่ี มุ ชน คาสาคญั ปัจจยั ความสาเร็จ โครงการยกระดบั คณุ ภาพชีวิต ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง บา้ นปา่ จี้ ABSTRACT This research aims to study assessment of success factors of participatory improving quality of life is based on the philosophy of sufficiency economy project in ban Pagee, Tung Luang sub- district, Phroa district, Chiang Mai province. Academic Service of Rajamangala University of Technology Lanna collaborate with municipal district wiangphrao bring knowledge and innovation to apply for improving quality of life and Strengthening of people in the community. The researcher collected survey data from community groups and other groups was join the Project. By observation and deep interview with participatory rural appraisal both during project preparation and after project. That was found the main factors that led to the success of the project came from three aspects. Frist, it consists of strong community leaders and have a credible from community group. วารสารวชิ าการรับใชส้ ังคม มทร.ล้านนา 25 ปีที่ 2 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2559
Second, project was planned by community groups. That was involved in the design and implementation of projects in the field of project developers. And lastly, the close and concrete support of the project from the local government and other organizations related to the community. Keywords Success Factors, Improving Quality of Life Project, Philosophy of Sufficiency Economy, Ban Pagee บทนา ชุมชน รวมทัง้ กจิ กรรมตามประเพณีตา่ งๆ ทาให้ชาวบา้ น โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตหมู่บ้านป่าจต้ี าม มคี วามใกล้ชิดและความสนทิ สนมกนั หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งแบบมีส่วนร่วม พ้ืนท่ี กอ่ นการดาเนนิ โครงการ อาชพี ส่วนใหญข่ องคน หมู่บ้านป่าจี้ เป็นความร่วมมือด้านงานบริการวิชาการ ในชุมชนคือการทาเกษตรกรรม แต่พบว่าชาวบ้านใน ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนากับ ชุมชนมีรายได้จากผลผลิตทางเกษตรที่ต่า เนื่องจาก เทศบาลตาบลเวียงพร้าว อาเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ปัญหาส่วนหนึ่งคือ การได้ผลผลิตท่ีน้อย ผลผลิตที่ไม่ได้ ในการดาเนนิ งานดา้ นการบริการวชิ าการ นาองคค์ วามรู้ คุณภาพ มีต้นทุนในการผลิตท่ีสูง และเทคโนโลยีกับ และนวัตกรรมที่มีในมหาวิทยาลัยไปปรับใช้กับชุมชน เทคนคิ ในการผลติ ยังคงเปน็ แบบดง้ั เดมิ เป็นส่วนใหญ่ ใน โ ด ย มี เ ป้ า ห ม า ย ล ด ร า ย จ่ า ย เ พ่ิ ม ร า ย ไ ด้ ข อ ง ค รั ว เ รื อ น หมบู่ า้ นมพี ื้นที่ทางการเกษตรประมาณ 532 ไร่ โดยสว่ น เกิดการเรียนรู้พัฒนาและพึ่งพาตนเอง ทาให้ชุมชนมี ใหญ่ใช้ในการทานาข้าวและปลูกพืชไร่อ่ืนๆ สลับกันไป ความเข้มแข็งพัฒนาไดอ้ ยา่ งยัง่ ยนื ทาให้มีของเหลือใช้จากวัสดุทางการเกษตรเป็นจานวน มากโดยเฉพาะ ฟางขา้ ว กากถั่วเหลือง กงิ่ ไม้ ใบไม้ และ หมู่บ้านป่าจี้ เป็นพื้นท่ีอยู่ในเขตเทศบาลตาบล ต้นข้าวโพด มีการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีประกอบการทา เวียงพร้าว อาเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ สาเหตุท่ีมีชื่อ เกษตรกรรมเปน็ จานวนมาก ซ่ึงเป็นคา่ ใช้จ่ายในการผลติ ว่าป่าจี้น้ัน เป็นเพราะบริเวณท่ีตั้งของหมู่บ้านใน ท่ีสูง และเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาสุขภาพของคนใน สมัยก่อนเป็นป่าท่ีมีไม้จ้ีขึ้นเต็มไปหมด คนสมัยนั้นจะใช้ ชุมชนเนื่องจากปรมิ าณสารเคมีทีส่ ะสมในรา่ งกาย ไม้จ้ีไปถวายเป็นพุทธบูชาในฤดูหนาว จึงทาให้ไม้จี้ใน หม่บู า้ นสูญพันธไุ์ ป และมกี ารแผว้ ถางปา่ เพื่อใช้เปน็ ที่อยู่ ประวัติการรวมกลุ่มของชุมชน เริ่มแรกหมู่บ้าน อาศัย พ้ืนท่ีส่วนใหญ่จึงประกอบไปด้วยท่ีอยู่อาศัยที่นา ป่าจ้ีมีกลุ่มน้าหมักมูลสุกร มีสมาชิกกลุ่มน้าหมักมูลสุกร และท่ีสวนที่ใช้ในการประกอบอาชีพหลัก ลักษณะ จานวน 68 ราย เม่ือหน่วยงานจัดทาโครงการเข้าไปใน ภูมิประเทศของหมู่บ้านป่าจ้ีน้ัน พื้นท่ีส่วนใหญ่เป็น พ้ืนที่ ทางกลุ่มได้มีความต้องการเร่มแรกคือการพัฒนา เขตชุมชนเป็นที่ราบเชิงเขามีความชันเล็กน้อย มีแหล่ง ต่อยอดสร้างแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตร และการผลิต น้าไหลผ่านใกล้ๆ คือ ลาน้าแม่งัด และลาน้าแม่กรณ์ ปุ๋ยอินทรีย์ ไว้ใช้ในกล่มุ ชมุ ชนของหมู่บา้ น เหตุผลหนงึ่ ท่ี มีสภาพภูมิอากาศประกอบด้วย 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน ก ลุ่ ม ชุ ม ช น มี ค ว า ม ส น ใ จ ใ น ก า ร ท า ปุ๋ ย อิ น ท รี ย์ นั้ น ฤดูฝน และฤดูหนาว โดยอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี เนื่องจากชุมชนมีของเหลือใช้จากวัสดุทางการเกษตร ประมาณ 32 องศาเซลเซียส ชาวบ้านในชุมชนทั้งหมด เปน็ จานวนมาก ซงึ่ การกาจัดวสั ดุเหลือใชท้ างการเกษตร นับถือศาสนาพุทธ โดยมีวัดเป็นสถานทสี่ าหรับประกอบ นั้นส่วนมากชาวบ้านนิยมใช้การเผาทาให้สร้างมลพิษ พิธีกรรมศาสนาและจัดกิจกรรม และยังคงลักษณะของ ให้กับชุมชน ทางชุมชนจึงมีความคิดในการนาเอาวัสดุ ชุ ม ช น ที่ เ ป็ น แ บ บ สั ง ค ม ช น บ ท ห รื อ สั ง ค ม ช า ว บ้ า น เหลือใช้ทางการเกษตรมาผลิตทา เป็นปุ๋ ย เพื่ อ เน่ืองจากส่วนใหญ่ยังประกอบอาชีพทางการเกษตร ลดค่าใช้จ่ายในการซ้ือปุ๋ย เป็นการนาของเหลือใช้จาก ทาให้ต้องพ่ึงพาอาศัยแรงงานแลกเปลี่ยนกัน เช่น การเกษตรมาก่อให้เกิดมูลค่า และจากการประชุม การลงแขกในการปลูกข้าว หรือเก็บเกี่ยวผลผลิตใน รว่ มกันหลายๆ คร้งั ในช่วงเวลาจดั ทาโครงการ จงึ มีความ 26 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
ค า ด ห วั ง พั ฒ น า ใ ห้ เ ป็ น ปุ๋ ย อิ น ท รี ย์ คุ ณ ภ า พ สู ง เ พื่ อ โครงการคอื มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนาทา จาหน่ายในอนาคต และมีความประสงค์ที่จะพัฒนาข้าว หน้าที่ในส่วนดาเนินโครงการและถ่ายทอดองค์ความรู้ ท่ีผลิตในชุมชนให้มีระดับท่ีสูงขึ้น เปล่ียนการปลูกเป็น และเทคโนโลยีท่ีเกี่ยวข้อง และงบประมาณดาเนินงาน แบบข้าวปลอดภัยหรือข้าวไร้สาร คาดหวังท่ีจะพัฒนา เพื่อให้เกิดความสาเร็จของโครงการ และตัวแทน เป็นข้าวอินทรีย์ในท่ีสุด เพราะในปัจจุบันประชาชนมี หน่วยงานราชการที่มีความเกี่ยวข้อง ได้แก่ เทศบาล แนวโนม้ ทจี่ ะบริโภคผลติ ภณั ฑท์ ป่ี ราศจากการใชส้ ารเคมี ตาบลเวียงพร้าวให้การสนับสนุนทั้งในด้านการอานวย ที่เพ่ิมสงู ขนึ้ ความสะดวกและงบประมาณเพ่มิ เติม โรงพยาบาลพร้าว ในส่วนการสารวจข้อมูลด้านสุขภาพของชุมชนท้ังก่อน โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตตามหลักปรชั ญา และหลงั การดาเนินโครงการ กศน.อาเภอพรา้ วในการให้ ของเศรษฐกิจพอเพียงแบบมีส่วนร่วม เป็นโครงการ ความช่วยเหลือในการจัดกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งข้อมูล ต่อเน่ืองระยะเวลา 3 ปี (พ.ศ. 2556 – พ.ศ. 2558) การ ดั้งเดิมและการให้ข้อเสนอแนะในการจัดทาแผนและ จัดทาแผนดาเนินโครงการ ด้วยกระบวนการแบบมีส่วน การปรับปรุงแก้ไข จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี ร่วมจากทุกภาคส่วนทีเ่ กี่ยวข้อง โดยแผนงานดาเนนิ การ กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาก็คือ ตัวแทนจากทั้งชุมชน เป็นมติภายใต้การประชุมร่วมกันระหว่างตัวแทนจาก หน่วยงานดาเนินโครงการ และสถาบันการเมืองที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา กลุ่มผู้นา เกี่ยวข้อง มีการประชุมพูดคุย เพ่ือให้ได้ทั้งข้อมูล ชุมชนและตัวแทนบ้านป่าจ้ี หน่วยงานส่วนราชการท่ี เชิงปริมาณจากการเสนอความคิดเห็น เพื่อศึกษาสภาพ เก่ียวข้อง และนายกเทศมนตรีตาบลเวียงพร้าว โดยใน ปัญหา ความต้องการ และสภาพการเปล่ียนแปลง ปีแรกจะมุ่งเน้นด้านการบูรณาการถ่ายทอดองค์ความรู้ ร่วมกับการสารวจภาคสนามเพ่ือให้เห็นถึงบริบท โดยผู้เช่ียวชาญของมหาวิทยาลัยในด้านท่ีเป็นความ รอบด้าน ประกอบกันเป็นข้อมูลเชิงลึกและเป็นความ ตอ้ งการท่ีเหมาะสมของชมุ ชน โครงการตอ่ เน่ืองในปที ่ี 2 ต้องการท่ีแท้จริงจากชุมชน เป็นข้อสรุป และนาเสนอ มุ่งเป้าหมายในการสร้างกระบวนการคิด การวิเคราะห์ ข้อมูลมุ่งแสดงความคิดเห็นท่ีเด่นชัด เป็นเครื่องมือใน และการจัดการให้แก่กลุ่มชุมชน จากองค์ความรู้ที่ได้ การจัดทาแผนปฏิบัติงานและกิจกรรมของโครงการ ในปีแรก และการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เกิดการพัฒนา ภายใต้ข้อตกลงร่วมกัน โดยข้อมูลท่ีใช้ประกอบต้ังแต่ ของกลุ่มและชุมชน และในส่วนปีสุดท้ายมุ่งเน้นถึงการ เร่ิมต้นจนส้ินสุดโครงการร่วมกับข้อมูลภายหลังสิ้นสุด ให้ความรู้ในเพอื่ ใชก้ ารต่อยอดเพื่อให้เกิดความย่ังยนื ของ โครงการ เพ่ือให้เห็นถึงปัจจัยในด้านท่ีทาให้การ กลุ่มชุมชนในที่สดุ เปลี่ยนแปลงของชุมชน และส่งผลให้เกิดความสาเร็จ วธิ กี ารดาเนินงาน ของโครงการ ผลการดาเนินงาน การศึกษาถึงปัจจัยท่ีก่อให้เกิดความสาเร็จของ โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตตามหลักปรัชญาของ เมื่อเปรียบเทียบผลการดาเนินงานท่ีเกิดข้ึน เศรษฐกิจพอเพียงแบบมีส่วนร่วม เกิดจากการรวบรวม ลักษณะของชุมชนบ้านป่าจก้ี ่อนเริ่มจดั ทาโครงการนน้ั มี ข้อมูลท่ีได้จากการใช้เครื่องมือในการวิจัย คือ การวิจัย สภาพชมุ ชนเปน็ ชุมชนเกษตรกรรม ที่ใช้เทคโนโลยี และ ปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR) ตามข้ันตอนการวิจัยท่ี เทคนิคในการผลิตแบบดั้งเดิมเป็นส่วนใหญ่ ผลผลิต สุชาดา ทวีสิทธิ์ อธิบายไว้ (อ้างถึงในครรชิต พุทธโกษา, ทางเกษตรทไี่ ด้ไม่ก่อให้เกิดรายไดท้ ่เี พียงพอ 2554) ที่ใช้ประกอบร่วมในการจัดทากิจกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการ สาหรับการสนทนากลุ่มและสัมภาษณ์ เน่ืองจากปัญหาพื้นฐานท่ีมักเกิดขึ้น คือ เชิงลึก โดยใช้การมีส่วนร่วมระหว่างกลุ่มเป้าหมายใน ได้ผลผลิตท่ีต่า ไม่ได้คุณภาพ มีต้นทุนในการผลิตที่สูง โครงการ คือ ชาวบ้านและตัวแทนชุมชน บ้านป่าจี้ และการผลิตทาได้เป็นชว่ งเวลาของปี ทาให้บางช่วงเกิด อาเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ หน่วยงานรับผิดชอบ การขาดรายได้จากการดาเนินโครงการแบบต่อเนื่องถึง วารสารวชิ าการรบั ใชส้ งั คม มทร.ล้านนา 27 ปที ี่ 2 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2559
3 ปี โดยจากการประชุมกลุ่มร่วมเริ่มแรก เพ่ือกาหนด โดยมีการจัดต้ังจากชาวบ้านในชุมชนร่วมกัน กิจกรรมโครงการ หลังจากการลงพื้นท่ีวิจัยเพื่อทา โดยเร่ิมแรกเพ่ือผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากวัสดุเหลือใช้ทาง ความรูจ้ ักและสารวจข้อมูลพน้ื ฐาน จากทั้งพ้ืนที่วจิ ยั และ การเกษตร ทางมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง จากข้อคิดเห็นความ การได้เข้าไปถ่ายทอดองค์ความรู้และผลการวิจัย พร้อม ต้องการจากชุมชนผ่านกระบวนการคัดเลือก จนได้ ทั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ ที่ประดิษฐ์ข้ึนมาเพ่ือใช้ใน ข้อตกลงร่วมกันท่ีจะมุง่ เน้นให้เกิดเปน็ กลมุ่ ชุมชนเกษตร กระบวนการเตรียมและผลิตปุ๋ยอินทรีย์ เพ่ือให้ได้ตาม ปลอดภัย ลดการใช้สารเคมีในชีวิตประจาวัน ลดต้นทุน เกณฑ์มาตรฐาน และลดการเผาวัสดุเหลือใช้ทาง การผลิตและยกระดับคุณภาพของผลผลิต และสร้าง การเกษตร ท่ีก่อให้เกิดมลพิษ สามารถสร้างมูลค่าเพ่ิม รายได้ที่ยั่งยืน แสดงดังตารางที่ 1 ทีมงานน้ันได้ติดตาม แทน โดยในปัจจุบันกลุ่มปุ๋ยอินทรีย์ยังคงมีกิจกรรมของ และประเมินผลการทางานตามแผนเป็นระยะ ว่าบรรลุ กลุ่มในการผลิตปุย๋ ทัง้ เพื่อใชง้ านเองของสมาชิกของกลุ่ม ตามวัตถุประสงค์มากน้อยเพียงใด และทาการรวบรวม การจาหนา่ ยให้ผทู้ ่สี นใจ นอกจากน้นั ยงั มกี ารไปนาเสนอ ข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลจัดทาแผนงานร่วมกันได้เป็น ผลงานในงานทางการเกษตรตา่ งๆ และให้ความรูแ้ กก่ ลมุ่ แผนงานหลัก และผลการประเมนิ เสนอต่อทีป่ ระชมุ เพือ่ ผทู้ ีส่ นใจเข้ามาดูงานของกลุ่มอกี ด้วย รั บ ท ร า บ แ ล ะ ใ ห้ ข้ อ คิ ด เ ห็ น เ พ่ิ ม เ ติ ม เ พื่ อ แ ก้ ไ ข แ ล ะ 1.1.2 กล่มุ ข้าวปลอดภยั ปรับปรงุ 1. ผลการเปล่ยี นแปลงของชมุ ชนทีเ่ กิดขน้ึ เป็นกลุ่มท่ีเกิดขึ้นในปีที่ 2 ของโครงการ อาศัย เทคนิคและเทคโนโลยีแบบใหม่ในการปลูกข้าว คือการ เม่ือส้ินสุดโครงการ เกิดการเปลี่ยนแปลงท่ีเป็น ปลกู ข้าวแบบนาโยน ชว่ ยลดตน้ ทุนทางด้านแรงงานและ ที่น่าพอใจในหลากหลายด้านของชุมชน เกิดผลสัมฤทธ์ิ เวลาเป็นอย่างมาก ร่วมกับองค์ความรู้ที่ได้การ ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และเกิดการต่อยอดโดย ถ่า ย ท อด จ า กผู้ เชี่ย ว ช า ญ จ า กคณ ะ วิ ท ย า ศา ส ต ร์แล ะ ชุมชนเป็นผู้ร่วมกันพัฒนาด้วยตัวเอง โดยผลที่เห็นได้ เทคโนโลยกี ารเกษตร ในการจัดการแมลงและแปลงขา้ ว ชัดเจนเปน็ ทป่ี ระจักษ์ คือ เพื่อลดการใชส้ ารเคมีพวกยาฆา่ แมลงหรือวชั พืช ลดการ 1.1 การจัดตง้ั กลมุ่ ชมุ ชน ใช้ปุ๋ยเคมีก็เปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์และน้าหมักชีวภาพที่ ผลิตขึ้นเองจากกิจกรรมในปีแรก มีข้อตกลงร่วมกันของ มีการจัดต้ังกลุ่มกิจกรรมหลักขึ้นมา 3 กลุ่ม กลุ่มในการใช้สารเคมี จนข้าวท่ีผลิตข้ึนมาได้ถูกจัดเป็น ประกอบไปดว้ ย ขา้ วปลอดภยั และพฒั นาเพิม่ ในเรือ่ งบรรจุภณั ฑจ์ ากทาง 1.1.1 กลุ่มปยุ๋ อนิ ทรยี ์ ตารางที่ 1 แผนงานหลกั ตอ่ เนอื่ ง 3 ปขี องโครงการ ปที ี่ 1 ปที ี่ 2 ปที ่ี 3 − ถ่ายทอดองค์ความรู้ในการผลิต − ส ร้ า ง พ้ื น ฐ า น ก า ร ผ ลิ ต ข้ า ว − การให้ความรู้ในเพื่อใช้การต่อ ปุ๋ยอินทรีย์จากวัสดุเหลือใช้จาก ปลอดภัย โดย โดยใช้ปยุ๋ อนิ ทรยี ์ที่ ยอดปุ๋ยอินทรีย์และข้าวปลอดภัย ชมุ ชน ผลิตไดใ้ นปีแรกประกอบการผลิต รวมทั้งการปลูกผักปลอดสารเคมี − การสร้างกระบวนการคิด การ − การพัฒนาคุณภาพปุ๋ยอินทรีย์ที่ หลากหลายชนดิ เพอื่ ให้เกดิ รายได้ วิเคราะห์ และการจัดการให้แก่ ผลิตในปีแรกให้มีคุณภาพ ตาม ตลอดทงั้ ปี ชุมชน เพ่ือให้เป็นพื้นฐานในการ มาตรฐานสากล − การให้ความรู้การบริหารจัดการ พฒั นากลุม่ ชมุ ชน − ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต นา กลุ่มและองค์ความรู้เพ่ือให้เกิด เ ค รื่ อ ง มื อ เ ค ร่ื อ ง จั ก ร ม า พฒั นาและความยั่งยืน ป ร ะ ก อ บ ก า ร ผ ลิ ต ปุ๋ ย อิ น ท รี ย์ (ผลผลิตท่ีไดจ้ ากปีท่ี 1) 28 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
คณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรม เพ่ือใช้ในการ เทคโนโลยีการเกษตร โดยชุมชนจนเป็นข้าวปลอดภัยใช้ จาหน่ายแก่ผูท้ ่สี นใจในงานกิจกรรมตา่ งๆ อกี ด้วย ช่ือว่า “ข้าวบ้านป่าจ้ี” จาหน่ายในราคาท่ีเพิม่ สูงขน้ึ จาก 1.1.3 กลุ่มผักปลอดสาร การปลูกข้าวแบบเดิม รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการ บรรจุจากวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมกับได้รับการออกแบบ เป็นกลุ่มที่ชุมชนจัดตั้งข้ึนมาเองหลังที่โครงการ จ า ก ค ณ ะ ศิ ล ป ก ร ร ม แ ล ะ ส ถ า ปั ต ย ก ร ร ม ใ น ด้ า น เสร็จสิ้นไปแล้ว โดยอาศัยองค์ความรู้ท่ีได้รับการ บรรจุภัณฑ์เพื่อเพ่ิมมูลค่ามากยิ่งขึ้น และในส่วนของ ถ่ายทอดในโครงการในเรื่องการปลูกพืชปลอดภัยใน ผักปลอดสารของชุมชนนั้น ได้รับการสนับสนุนจากทาง ชุมชนและความรู้ทางมาตรฐานทางการเกษตรในปีท่ี 3 เทศบาลสนับสนุนในการจัดสถานที่จาหน่ายแก่บุคคลท่ี ของโครงการ โดยเร่ิมจากการที่ชาวบ้านนาเอาปุ๋ย สนใจ และทางโรงพยาบาลพร้าวมีการรับซ้ือผลิตภัณฑ์ อินทรีย์ท่ีผลิตได้ไปใช้ร่วมในการปลูกพืชผักตามพ้ืนที่ใน ไว้ใช้ผลิตอาหารให้แก่คนไข้เป็นประจาอีกด้วย จาก ละแวกบ้าน โดยไม่ใช้สารเคมีรว่ มเลย พบวา่ ผกั ท่ปี ลกู ได้ ข้อมูลล่าสุดเม่ือเดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2561 เงินเก็บที่ มีรสชาติที่ดีและอร่อยขึ้นกว่าเดิม จนเกิดการพัฒนาโดย ได้จากการหักรายได้ส่วนหนึ่งเข้ากลุ่มชุมชนบ้านป่าจี้ กลุ่มชาวบ้านเอง รวมกลุ่มสร้างเป็นกลุ่มปลูกผัก จากการจาหน่ายปยุ๋ อนิ ทรยี แ์ ละข้าวปลอดภยั มีประมาณ ปลอดสารนาไปขายร่วมกันสร้างรายได้ข้ึนมาแก่สมาชิก 62,000 บาท ซ่ึงในปัจจุบันขยายพ้ืนที่ปลูกมากย่ิงข้ึนสร้างเป็นรายได้ 1.3 การพัฒนาศนู ยก์ ารเรยี นร้ขู องชุมชน เสริมข้ึนมา และได้รับการสนบั สนนุ จากหนว่ ยราชการใน พ้ืนท่เี พ่ิมอีกทาง มีการจัดตั้งและพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ด้านการ 1.2 ผลติ ภัณฑ์จากกลมุ่ ชมุ ชน ทาป๋ยุ อินทรยี ข์ ึ้นมา และขยายพนื้ ท่ีของศูนย์เพมิ่ มากข้ึน จากงบประมาณที่ได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงาน ปุ๋ ย อิ น ท รี ย์ ที่ ผ ลิ ต ไ ด้ ข อ ง ก ลุ่ ม ชุ ม ช น น้ั น มี ภายนอกและของกลุ่มชุมชนเอง ภายใต้ศูนย์เรียนรู้ คุณภาพผ่านมาตรฐาน โดยได้รับการพัฒนาร่วมกับการ เศรษฐกิจพอเพียงบ้านป่าจี้ ปรับปรุงจากเดิมจนมีความ วิจัย (ปรัชญา นามวงค์ และ คณะ (2557), ปรัชญา สวยงามและความสะดวกสบายมากย่ิงข้ึน ใช้ร่วมเป็น นามวงค์ และคณะ (2558)) และปรับปรุงจากคณะ แหล่งจดั กจิ กรรมประโยชน์ในหลายด้าน คือ นอกจากใช้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร ซ่ึงจากการวิจัย เป็นท่ีผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพ่ือใช้ในชุมชน ใช้เป็นท่ีบรรจุ เชิงปฏิบัติการร่วมกับกลุ่มชุมชน ทาให้ได้ทราบถึง ข้าวปลอดภัย เป็นที่ประชุมและจัดงานกิจกรรมต่างๆ อั ต ร า ส่ ว น ข อ ง วั ต ถุ ดิ บ ใ น ก า ร เ ต รี ย ม แ ล ะ ข้ั น ต อ น ของชุมชน และนอกนั้นยังใช้เป็นที่ถ่ายทอดอบรมให้ กระบวนการผลิตปุ๋ย ประกอบกับการใช้เคร่ืองมือท่ี ความรู้แก่บุคคลและกลุ่มผู้ท่ีสนใจจากภายนอกที่มา ได้รับการออกแบบและผลิตจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ศึกษาดูงาน ในฐานะท่ีเป็นชุมชนท่ีประสบผลสาเร็จ ร่วมในกระบวนการผลิตตั้งแต่การบด การผสม จนถึง รวมทั้งการเกิดปราชญ์ชุมชนเพิ่มข้ึนมาอีกหลายท่าน การอัดเม็ด สุดท้ายได้ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณภาพผ่านเกณฑ์ จากชาวบ้านในชุมชนท่ีร่วมโครงการ และได้รับเชิญให้ มาตรฐานตามประกาศกรมวิชาการเกษตร เพื่อใช้ตาม ไปถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านที่ได้รับการถ่ายทอดและ วัตถุประสงค์คือใช้ในการเกษตรในชุมชนเพื่อลดการใช้ ปฏิบัติจนประสบผลสาเร็จของชุมชนแก่ชุมชนหรือ สารเคมี นอกจากน้ันมีการพัฒนาบรรจุถุงได้รับการ หนว่ ยงานอ่นื ทส่ี นใจเป็นประจาอีกด้วยจนถงึ ปัจจบุ นั ออกแบบจากคณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมของทาง 1.4 รายไดท้ ี่เพม่ิ ข้นึ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ประกอบกับ ข้อมูลความคิดเห็นจากชุมชน เพื่อจาหน่ายให้แก่ชุมชน ส่ ว น ห น่ึ ง ข อ ง ร า ย ไ ด้ ท่ี เ พ่ิ ม ข้ึ น ม า จ า ก ก า ร ใ ช้ ใกล้เคียงและผู้ท่ีมาศึกษาดูงาน รวมท้ังนาไปจัดแสดง องค์ความรู้และเทคโนโลยีมาช่วยในการลดต้นทุน และจาหน่ายตามงานต่างๆ เช่นเดียวกับการยกระดับ การผลิตดังในงานวิจัยการศึกษาต้นทุนการผลิต (ทศพร ข้าวท่ีปลูกจากการถ่ายทอดองค์ความรู้การลดการใช้ ไชยประคอง และคณะ (2559)) โดยเฉพาะการปลูกข้าว สารเคมีโดยผู้เชี่ยวชาญจากคณะวิทยาศาสตร์และ แบบนาโยน ใช้เมล็ดพันธ์ุประหยัดกว่าการทานาหว่าน น้าตม และนาดา จากเดิมใช้ประมาณ 10 กิโลกรัมต่อ วารสารวิชาการรบั ใชส้ งั คม มทร.ลา้ นนา 29 ปีท่ี 2 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2559
พื้นที่ปลกู 1 ไร่ ลดลงเหลือประมาณ 3 กโิ ลกรมั ตอ่ พื้นที่ ในชุมชนบ้านป่าจี้ท่ีร่วมโครงการ และบริโภคพืช ผัก ปลูก 1 ไร่ ทาให้ลดต้นทุนค่าเมล็ดพันธุ์ได้มาก อีกทั้งยัง ที่ปลูกข้ึนเองโดยไม่มีการใช้สารเคมี ปริมาณสารเคมีท่ี ทาได้งา่ ยไม่เปลืองแรงงาน จากการปลูกขา้ วแบบนาโยน เป็นพิษในร่างกาย มีปริมาณที่ลดลงอย่างมากจนไม่อยู่ นี้ได้วันละไม่ต่ากว่า 5 ไร่ ต่อ คนงาน 1 คน ในขณะที่ ในระดับท่ีเปน็ อันตราย หรือไม่มเี หลอื อยู่เลย การทานาดาได้แค่วันละ 1 ถึง 2 งาน ต่อ คนงาน 1 คน 2. ปจั จัยท่ีทาให้เกิดความสาเร็จในการดาเนินโครงการ ผลผลิตท่ีได้นั้นไม่ต่างจากการทานาหว่านหรือนาดา นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมวัชพืชได้ดีกว่า องค์ความรู้ เมื่อนาข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมท้งั ในชว่ ง ด้านการจัดการแมลงและพื้นท่ีเกษตรร่วมกับการใช้ ดาเนินโครงการและการติดตามภายหลังส้ินสุดโครงการ ปยุ๋ อนิ ทรยี ์และนา้ หมักมลู สุกรทีผ่ ลติ ได้เองในกลุ่ม ทาให้ นาเสนอข้อมูลมุ่งแสดงความคิดเห็นที่เด่นชัด และความ ต้นทุนในดา้ นสารเคมีทางเกษตรทลี่ ดลง และราคาซ้อื ใน คิดเห็นของผู้ร่วมสนทนาท้ังหมดมาวิเคราะห์หาปัจจัยที่ กลุ่มจะเป็นราคาเกือบต้นทุนผลิตท่ีถูกกว่าซื้อจาก ทาให้เกิดความสาเร็จในโครงการ พบว่ามาจาก 3 ด้าน ภายนอกทั่วไป ผลผลิตข้าวที่ผ่านการสีก็มีคุณภาพและ ประกอบไปด้วย ด้านกลุ่มชุมชน ด้านกลุ่มผู้จัดทา ราคาที่สูงข้ึนจากเดิม กิโลกรัมละประมาณ 20 บาท โครงการ และดา้ นหน่วยงานภาคีท่ีเกยี่ วขอ้ ง เพราะมีมาตรฐานเป็นข้าวปลอดภัย และมีรายได้เสริม 2.1 ดา้ นกลมุ่ ชมุ ชน จากการปลกู พชื ผักที่ทาแบบอินทรีย์เพ่ือจาหน่ายและใช้ ในการบริโภคเอง ทาให้ลดค่าใช้จ่ายทางครัวเรือนส่วน ปัจจัยหลักในด้านนี้ท่ีทาให้ประสบผลสาเร็จใน หน่ึงลง และมีรายได้ในช่วงที่ยังไม่ได้จาหน่ายกลุ่มพืช การดาเนินโครงการก็คือ ในพื้นที่โครงการมีผู้นากลุ่ม รายไดห้ ลัก เชน่ ขา้ ว ลาไย เป็นตน้ ชุมชนที่เข้มแข็งและเป็นท่ีน่าเช่ือถือ คือทางผู้ใหญ่บ้าน 1.5 การเขา้ มาสนับสนนุ ของหน่วยงานภายนอก และปราชญ์ชุมชนที่คอยประสานงานระหว่างกลุ่ม ผู้จัดทาโครงการและกลุม่ ชุมชน ทาให้ดาเนินงานเป็นไป นอกจากการได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงาน ด้วยดี กลุ่มทางานหลกั ในช่วงเริ่มแรกท่ีพร้อมจะทดลอง ปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะเทศบาล ตาบล ดาเนินงานเพื่อให้สมาชิกอ่ืนในชุมชนได้เห็นถึงผลที่ เวียงพร้าวที่ให้การสนับสนุนท้ังในช่วงดาเนินโครงการ เกิดขึ้นอย่างชัดเจนด้วยตัวเอง สร้างความมั่นใจและ และภายหลังส้ินสุดโครงการอย่างเต็มท่ีแล้ว เมื่อสิ้นสุด ยอมรับภายในกลุ่ม สมาชิกในกลุ่มมีความต้ังใจ เสียสละ โครงการ การประสบผลสาเร็จในการดาเนินกิจกรรม ทั้งเวลาและร่วมแรงกันในทุกกิจกรรมของโครงการ ของชุมชน ทาให้เกิดการสนับสนุนจากหน่วยงาน พร้อมแลกเปล่ียนและแสดงความคิดเห็นตลอดทุก ภายนอกเข้ามาหลายภาคส่วน ทั้งในด้านงบประมาณใน ข้ันตอนในโครงการ ทาให้เกิดการมีส่วนร่วมของกลุ่ม การจัดซ้ือหรือดาเนินงาน และพัฒนาสถานที่จัดทา ชุมชน มีการบริหารจัดการกลุ่มอย่างเป็นระบบภายใต้ กิจกรรมของกลุ่มชุมชน หรือวัสดุอุปกรณ์สนับสนุน เช่น เ ก ณ ฑ์ ท่ี จั ด ท า ร่ ว ม กั น จ า ก อ ง ค์ ค ว า ม รู้ ใ น ด้ า น ก า ร มูลวัว มูลสุกร ฟางข้าว ท่ีใช้ในการทาปุ๋ยอินทรีย์ เพ่ือ บ ริ ห า ร แ ล ะ จั ด ก า ร ก ลุ่ ม ท่ี ไ ด้ รั บ ก า ร ถ่ า ย ท อ ด โ ด ย พัฒนากิจกรรมที่ทาอยู่รวมทั้งการเข้ามาศึกษาดูงานท่ี คณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์จากทางมหาวิทยาลัย จัดโดยหน่วยพ้ืนท่อี น่ื ท่ีสนใจอีกด้วย ราชมงคลล้านนา ที่มุ่งหวังให้เกิดความยั่งยืนของกลุ่ม 1.6 สขุ ภาพของคนในชมุ ชน ต่อไป โดยมีปัจจัยรองในด้านนี้ก็คือการเปิดใจเข้าร่วม กิจกรรมของชาวบ้านภายในชุมชนในภายหลังท่ีได้เห็น การทาใหส้ ขุ ภาพของคนในชมุ ชนดขี ้ึนน้ัน ก็เปน็ ถึงความสาเร็จของกลุ่ม ทาให้กลุ่มมีสมาชิกท่ีคอย เป้าหมายหน่ึงของโครงการที่พัฒนาจากการลดการใช้ ช่วยเหลือในกิจกรรมดา้ นต่างๆ เพมิ่ มากข้ึน สารเคมีภายในชุมชน จากข้อมูลการตรวจสุขภาพและ 2.2 ดา้ นกลุ่มผ้จู ัดทาโครงการ ปริมาณสารพิษในร่างกายภายหลังส้ินสุดโครงการ ประมาณ 1 ปี ในปี พ.ศ. 2558 จากหน่วยงานดูแล ปัจจัยหลักที่เห็นได้อย่างเด่นชัดจากข้อมูลท่ีได้ ทางดา้ นสาธารณสุขของโรงพยาบาลพร้าว พบวา่ ของคน จากการสังเกตและความคิดเห็นจากท้ังชาวบ้านท่ีร่วม โครงการและหน่วยงานปกครองท่ีเข้าร่วมโครงการก็คือ 30 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
การวางแผนดาเนินโครงการได้มีการประชุมจัดทาแผน การนาไปใช้ แบบมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนที่เก่ียวข้องเพื่อระดม ผลการศึกษาวิจัยถึงปัจจัยที่ช่วยทาให้เกิด ค ว า ม คิ ด เ ห็ น ใ น ก า ร จั ด ท า โ ค ร ง ก า ร เ ป็ น ม ติ ร่ ว ม กั น เ ป็ น ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ท่ี ไ ด้ ม า จ า ก ชุ ม ช น แ ล ะ มี ค ว า ม ความสาเร็จในการดาเนินงานนี้ สามารถใช้เป็นแนวทาง เหมาะสมกับบริบทของชุมชน ทาให้กลุ่มชุมชนจึงเกิด สนับสนุนในการนาไปปฏิบัติจัดการปัจจัยด้านต่างๆ ใน ความรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมและถือเป็นเร่ืองของตนเอง โครงการที่เก่ียวกับการพัฒนาชุมชนแบบมีส่วนร่วมที่มี มีการประชุมรายงานผลการดาเนินงานและปัญหาที่ ลักษณะคล้ายคลึงกัน เพ่ือพัฒนาให้เกิดผลสัมฤทธิ์ท่ีดี เกิดขึ้นอย่างเป็นระยะ เพื่อใช้นามาปรับปรุงแก้ไขอย่าง ของโครงการและเกิดความยั่งยนื ของชุมชนได้ รวดเร็ว และการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านได้เห็น อภปิ รายผล ผลงานที่เกิดจากความพยายามร่วมกันของทุกฝ่ายใน การช่วยกนั แกไ้ ขปัญหาของชมุ ชน ทาใหเ้ กิดทศั นคติและ จากผลสาเร็จในโครงการยกระดับคุณภาพชีวิต ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกลุ่มชุมชนและกลุ่มผู้จัดทา ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงแบบมีส่วนร่วม โครงการ มีความร่วมมือกันท่ีดีในการจัดกิจกรรม หมู่บ้านป่าจี้ ตาบลเวียงพร้าว อาเภอพร้าว จังหวัด โครงการ ชาวบ้านในชุมชนมีความเชื่อใจและกล้าท่ีจะ เชียงใหม่ การศึกษาถึงปัจจัยท่ีมีผลให้เกิดความสาเร็จ แสดงความคิดเห็นมากข้ึน โดยมีปัจจัยรองก็คือการลง จากข้อมูลท่ีได้ตลอดท้ังช่วงจัดทาโครงการและภายหลงั พื้นที่สารวจข้อมูลพ้ืนฐานของชุมชน ทาให้เข้าใจถึง ส้ินสุดโครงการ ที่เห็นการเปล่ียนแปลงอย่างเห็นได้ชัด บริบทภายในชุมชนสามารถจัดกิจกรรมต่างๆ ในช่วง ของชุมชน ทั้งในด้านเศรษฐกิจของชาวบ้านในชมุ ชนท่ีมี เวลาท่ีเหมาะสม ทาให้กลุ่มชุมชนมีความสะดวกในการ รายได้เพ่มิ ข้ึนจากการนาองค์รู้ใหม่ไปใช้ในการลดต้นทุน เข้าร่วมกิจกรรมมากย่ิงขึ้น เช่น การหลีกเลี่ยงจัด การผลิต โดยเฉพาะการปลูกข้าว มีการลดการใช้สารเคมี กจิ กรรมในชว่ งเวลาเกบ็ เกย่ี วข้าว หรอื ลาไย การประชุม ทางการเกษตร การนาเอาปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตเองท่ีได้รับ ย่อยในบางคร้ังก็จัดในช่วงเวลาตอนเย็นที่ไม่ใช่ช่วง การถ่ายทอดองค์ความรู้และเคร่ืองมือช่วยในการผลิต ทางานของชาวบ้านแล้วเป็นตน้ จากทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา 2.3 ดา้ นหนว่ ยงานภาคี การยกระดับเพ่ิมมูลค่าของข้าวมาเป็นข้าวปลอดภัยท่ีมี ราคาสูงขึ้น จาหน่ายแก่กลุ่มผู้รักสุขภาพ และการสร้าง มี ก า ร ใ ห้ ก า ร ส นั บ ส นุ น ท่ี ดี จ า ก ห น่ ว ย ง า น รายได้อ่ืนเสริมโดยการจัดต้ังและพัฒนากลุ่มผักอินทรีย์ ปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานอื่นท่ีเกี่ยวข้องอย่าง ท่ีมีการปลูกพืชระยะสั้นเพื่อจาหน่ายโดยพืชที่ปลูกเพิ่ม ชัดเจนถือเป็นปัจจัยหลักในด้านน้ี โดยมีการนาแผน น้ัน และไม่มีการใช้สารเคมีในการปลูก ท้ังไว้เพื่อบริโภค โครงการเข้าร่วมเป็นแผนการดาเนินงานของหน่วยงาน เองในครัวเรือน และได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงาน เทศบาลตาบลเวียงพร้าวประจาปี ทาให้มีการสนับสนุน เทศบาลให้มีสถานท่ีเพ่ือจาหน่ายให้ผู้ที่สนใจในชุมชน ด้านงบประมาณเสริมเพิ่มเติมในการจัดกิจกรรม รวมทงั้ และพื้นที่ใกล้เคียง และปัจจุบันมีการรับซื้อผักอินทรีย์ การสนับสนุนกิจกรรมที่ต่อเนื่องของชุมชนภายหลัง โดยโรงพยาบาลเพือ่ ใชป้ ระกอบอาหารแก่คนไข้ โดยทาง ส้ินสุดโครงการอีกด้วย การท่ีมีหัวหน้าหน่วยงานหรือ โรงพยาบาลจะกาหนดความต้องการพืชผักชนิดต่างๆ ตัวแทนเข้าร่วมในการประชุมหรือจัดกิจกรรมทุกครั้ง แก่ชมุ ชน การพัฒนาด้านสง่ิ แวดลอ้ มและสขุ ภาพของคน ทาให้กลุ่มชุมชนรู้สึกมีความเช่ือมั่นในการดาเนินการ ในชุมชน ท่ีมีการลดใช้สารเคมีในชุมชนลง ชาวบ้านใน เพื่อให้เกิดผลสาเร็จจากการสนับสนุนท่ีได้รับ ในส่วน ชุมชนมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างวัดได้ จากการตรวจสุขภาพ ของปัจจัยรองในด้านน้ีก็คือ ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง ของหนว่ ยงานดแู ลด้านสาธารณสขุ ชาวบ้านและทางหน่วยงานปกครองส่วนท้องถ่ินและ หน่วยงานอ่ืนที่เกี่ยวข้อง ทาให้การกิจกรรมเป็นไปด้วย และผลกระทบจากความสาเร็จของโครงการ ทา บรรยากาศในการทางานท่ดี ี ให้การมีช่ือเสียงของกลุ่มชุมชนบ้านป่าจ้ีเป็นท่ีรู้จักของ ชุมชนและหน่วยงานอื่น มีการเข้ามาศึกษาดูงาน วารสารวิชาการรบั ใช้สังคม มทร.ล้านนา 31 ปที ี่ 2 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2559
ความสาเร็จของชุมชน รวมทั้งการขอให้กลุ่มปราชญ์ เป้าหมายร่วมกัน และในด้านสุดท้ายก็คือในส่วนของ ชุมชนที่เกิดขึ้นไปช่วยอบรมให้ความรู้อีกทางหน่ึงด้วย หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานอ่ืนที่ และจากการมชี ื่อเสียงน้ีทาให้ได้รบั การสนับสนนุ เพม่ิ เตมิ เก่ียวข้องกับพ้ืนท่ีชุมชน การให้ความใกล้ชิดและการ ท้ังด้านงบประมาณจากโครงการต่างๆ ของหน่วยงาน สนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมในการจัดทาโครงการ จะทา ภายนอก หรือวัสดุอุปกรณ์เพม่ิ เติมอีกดว้ ยจนถึงปัจจุบนั ให้กลุ่มชุมชนรู้สึกมีความเช่ือมั่นในการดาเนินการ กจิ กรรมว่าจะมคี วามต่อเนื่องตอ่ ไปในอนาคต ปั จ จั ย ห ลั ก ที่ ส า คั ญ ที่ ส่ ง ผ ล ต่ อ ก า ร ด า เ นิ น บรรณานุกรม โครงการเพ่ือให้เกิดความสาเร็จเหล่านี้มาจากทั้งหมด ครรชิต พุทธโกษา. 2554. “คู่มือการพัฒนาชุมชนแห่ง จาก 3 ด้านหลักคือ จากทางด้านกลุ่มชุมชน ก็คือการมี ผู้นากลุ่มชุมชนท่ีเข้มแข็งและเป็นท่ีน่าเชื่อถือ กลุ่ม ก า ร เ รี ย น รู้ ฉ บั บ ส ม บู ร ณ์ ” ส า นั ก ง า น ทางานท่ีพร้อมจะทดลองดาเนนิ งานเพ่ือให้สมาชิกอืน่ ใน คณะกรรมการวิจยั แห่งชาติ ชมุ ชนไดเ้ หน็ ถึงผลทเ่ี กดิ ขน้ึ อยา่ งชดั เจนด้วยตัวเอง สรา้ ง ทศพร ไชยประคอง, ศศิพัชร์ สันกลกิจ และ ผจงวาด ความมั่นใจและยอมรับภายในกลุม่ ในด้านกลุ่มผู้ดาเนิน ปาลกะวงค์ ณ อยุธยา. 2559. “การคานวณ โครงการก็คือ การจัดทาแผนกิจกรรมของโครงการ ต้นทุนและกาไรในการผลิตข้าวปลอดภัย 3 กลุ่มชุมชนจะต้องมีส่วนร่วมในการกาหนดและดาเนิน รูปแบบ กรณีศึกษาบ้านป่าจี้ ตาบลทุ่งหลวง โครงการ การเร่ิมโครงการผู้จัดทาโครงการจะต้อง อาเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่” วารสาร สอบถามและรับฟังความคิดเห็นหรือความต้องการของ ราชมงคลลา้ นนา. 4, 1: 109-119 กลุ่มชุมชนในพื้นท่ี และกลุ่มหน่วยงานภาคีท่ีเกี่ยวข้อง ปรัชญา นามวงค์, พิมประภา จี๋คา. 2558. “ผลของสาร เพ่อื ใหไ้ ดโ้ ครงการท่ีชมุ ชนต้องการและพงึ พอใจมากท่ีสุด เสริมและชนิดของมูลสัตว์ท่ีมีต่อสมบัติปุ๋ย โดยทุกข้ันตอนในการดาเนินโครงการ การมีส่วนร่วม อินทรีย์จากวิธีวิศวกรรมแม่โจ้ 1” งานวิจัย จากทุกส่วนน้ีเป็นแกนหลักในการพัฒนาเพ่ือก่อให้เกิด มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ความสาเร็จและยั่งยืนต่อไปอีกด้วย เพราะชุมชนจะเกดิ ปรชั ญา นามวงค์, อรอมุ า เมธาเกษร. 2557. “การศกึ ษา การเรียนรู้รว่ มกนั เรียนร้ถู ึงขนั้ ตอนกระบวนการตา่ งๆ ที่ ผลการเติมส่วนประกอบในปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้จาก ทาให้ชว่ ยสามารถจัดการและพฒั นาตนเองได้ต่อไป โดย วิธีวิศวกรรมแม่โจ้ 1” งานวิจัย มหาวิทยาลัย ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาและกลุ่ม เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา หน่วยงานภาคี จะเป็นผู้สนับสนุนทางด้านองค์ความรู้ และเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดผลผลิต นวัตกรรมตาม 32 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
Guidelines for the Sustainability of Community Energy Management under the Sufficiency Economy Philosophy Piyaphong Yongphet1* Dongbao Wang1 Chanez Maouche2 Grâce Mulindwa Bahizire3 Panisa Ondokmaib4 Wonradet dutsadeesong5 1 PhD student., School of Energy and Power Engineering, Jiangsu University, Zhenjiang, China 2 PhD student., School of Material Science and Engineering, Jiangsu University, Zhenjiang, China 3 PhD student., School of Finance and Economics, Jiangsu University, Zhenjiang, China 4 Master student., School of Renewable Energy, Maejo University, Sansai, Chiang Mai, Thailand 5 Master student., School of Geosocial Based Sustainable Development, Maejo University, Sansai, Chiang Mai, Thailand E-mail: [email protected] ABSTRACT The purpose of this study was to set up guidelines for the sustainability of community energy management (CEM). The process leads to the creation of renewable energy knowledge to be for use in community development under the Sufficiency Economy Philosophy (SEP): There are 9 lessons for building powerful community energy management: Energy learning centers (ELCs), Coaching and mentoring, Action learning, Community referendum, Technology transfer and innovation, Community volunteers, Knowledge bases, Networking community, and Sufficiency economy philosophy. Alternative energy management is the most beneficial for the community and is the friendliest environment. Focusing on alternative energy to help reducing the costs and increases the revenue for the community, Promotes the participation of the members of the community in order to create learning exchange in the form of the networking community for stability. The comparison between community energy management in Thailand with Asia, Europe, America, and Africa, can possibly lead to a sufficiency economy theory in the future. Renewables and sustainables energies have been recognized as a critical issue for the futurecommunities development of countries around the world. However, CEM styles differ depending on the context of the country. In this study it was found that SEP helps to develop the communities against renewable energy, reduce expenses and generate income for the communities. Future work should aim to do more urgent issues involved with the sustainability of community energy management: SEP, renewables energies technology, maintenance technology, and long-term performance. Solving these problems can strengthen the theoretical and practical understanding of CEM, and lead to more community development. Keywords Community Energy, Renewable energy, CEM, SEP Objective convey knowledge from experts in various The Academic services of the university, fields, providing knowledge to achieve the objectives of the project without taking into mainly focus on trainings and the lectures วารสารวชิ าการรบั ใชส้ ังคม มทร.ลา้ นนา 33 ปที ่ี 2 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2559
account the needs of the recipient. The image Figure 1 The philosophy of sufficiency of the academic service in the past is not economy framework (Thongpakde, 2005) continuous and not sustainable. In most institutions of higher education, faculty developed as a prototype village and a members are required to assume the role of mainstay village for relaying to other villages. academic advisors (Dressel, 1974). Studies and The used of modern technology is considered researches were exchanged between teachers appropriate consistent with the local situation and students and brought knowledge to the and problem-solving to the true problem point. community. This study has as a purpose to set Suitable for geography, social, cultural, local up guidelines for the sustainability of wisdom and the needs of the people in the community energy management under the area. sufficiency economy theory. Focusing on work and solving the community problems To be a guide for education subplot (Participatory Action Research: PAR) in response for sustainability of community energy to the Thai government's Thailand 4.0 policy management extensively. This study has been (Thailand Investment Review, 2017). The nature presented in the form of a demonstration of of work is being transformed by technological alternative energy villages under the Sufficiency. advancement, demographic shifts, and Economy Philosophy (SEP) of His Majesty King fragmented production systems (Baxter, 2017). Bhumibol Adulyadej (Rama IX). Comparative Support the renewable energy technologies study to find out ways to apply the model of plays a part in helping to solve problems for the community energy management in foreign community. Focus on the renewable energy available in the community to be applied to local wisdom by “Work less but get more impact”. Conduct a networking between local to local under knowledge exchange communities. The main focus on using renewable energy: is for the sustainably and energy management of the community under the philosophy of sufficiency economy (Thongpakde, 2005; Mongsawad, 2010) it is shown in Fig. 1. In this research, two village’s protocols for alternative energy management were 34 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
countries, for interested communities in the within communities, providing training in future purpose of community development toward a sustainable system. Nonthanathorn. P., talk Operation method about an important factor in the development The way of this work was to bring of sustainables energies for communities in which they have the potential for the daily knowledge and research into renewable energy needs of energy. In such case, the community technologies in the community through real must be strong and have a good leadership work by working between students and the providing a better guideline toward sustainable villagers. There are faculties experts in management. In such situation, the technology, who are coaching and mentoring. communities must cooperate. Community- for understanding and for the sustainability in based relationships play an important role in the community., knowledge transfers are community energy development. However, the provided to community volunteers and have 9 lessons for building powerful community knowledge bases to transfer the knowledge to energy management are as follows: other communities under the learning center. 1. Learning center Non-renewable energy comes from The Learning Center was set up as a hub sources that will run out, or will not be for learning and exchanging knowledge between replenished in our lifetimes, Most non- researchers and villagers, students and villagers, renewable energies sources are fossil fuels: villagers and villagers, communities and with coal, petroleum, and natural gas etc. It is other communities. Establishing a learning necessary to produce renewable energies; the center enhances collaboration. It is a compiled main energies that are likely to run out soon. In of knowledge about renewable energy, folk particular, encouraging communities to learn wisdom, community products and a knowledge how to produce their own alternative energy for transfer area. household use to reduce costs and energy 2. Coaching and mentoring consumption. Agencies that are important and close to the community are the educational For a better coaching and mentoring, institutions. Universities can bring the the consultants must have the knowledge and knowledge to the communities in the use of expertise in the field of alternative energy natural resources such as: solar, wind, biomass alternatives suitable for the community. Looks and waste materials or household waste to be for a new alternative energy and t make up the renewable energies used within a community. It technology that is convenient and suitable for is necessary to study the environment of each the job. Focuses on achieving specific community, to know which energy resources objectives, usually within a preferred period of can be used to produce alternative energy. The time and follows an open and evolving agenda information is then shared among peoples วารสารวชิ าการรบั ใช้สงั คม มทร.ล้านนา 35 ปที ี่ 2 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2559
and deals with a large range of issues (The Ambiguous technological needs of the recipient Chartered Institute of Management community may result in technology transfer Accountants, 2002). Specific knowledge can’t be transmitted through training alone.by only failures. However , the questionnaire and training there is a need for a real practice and the consultants will have to practice it as an community needs must be obvious. example. 6. Community volunteers 3. Action learning Provide villagers with insight into After learning to get the knowledge of alternative energy technologies, and to be able alternative energy technology from researchers. to convey the community development and The villagers can build and support the community energy management to other renewable energy technology with students and communities. Villages require more than 5 exchanging the knowledge between each other. community volunteers per village to ensure the Application of engineering and science sustainability and continuity of community techniques within folk wisdom. Giving the knowledge bases under the learning center. knowledge and Incubate volunteer consciousness, resulting in sustainability and the The duty of the community volunteers ability for expanding into other villages. is to benefit the people and the society, 4. Community referendum Community volunteers to help the society with a voluntary sacrifice also prevent problems and The referendum set the scope for the develop a sustainable alternative energy village. establishment of a learning center and the 7. Knowledge bases introduction of renewable energy technologies to contribute to community development and Integrate learning management in the the improvement of quality’s life of the community of renewable energy resources for villagers. Passed judgment for approval or learning. And application between knowledge disapproval by the people who own the with folk wisdom and use the strengthened sovereignty. This is an opportunity for people to management system based on the featured of participate in decision-making on their own the community. In the community, energy community development and community management of the knowledge bases must be energy management. able to meet the learning needs of other 5. Technology transfer and innovation interested communities. For learning center of village that applies the knowledge of alternative The transfer of renewable energy energy to the community lifestyle and technology-related leads to an innovative understanding the wisdom, culture and social movement of new technology or innovation processes that can be a best prototype. from the research to the community. 8. Networking in Community Development Integration into a network in exchange or synergy it needs to find the good and strengths 36 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
of each community to learn and support each Internet, Social Capital and SNSs, SNSs – A User other. There are 7 lessons for building Typology Framework (Brandtzæg, 2012). The a powerful networking communities : common rapid development of technology today leads perception, common vision, mutual to a cashless society. There many applications interests/benefits, stakeholders participation, to the media during the trade. complementary relationship, interdependent 9. Sufficiency economy philosophy. and interaction. In order to develop the nation sustainably, the need to develop from a small “Sufficiency Economy” is a philosophy place is a community. Or will be called “The bestowed by His Majesty the King to his subjects strength of society is the stability of the nation through royal pronouncements made on many to make a change in the world; it should start occasions over the past three decades. with a change at the local level.” There is a The philosophy provides guidance on great need for networking in community appropriate conduct covering numerous development. To facilitate communication and aspects of life (Thongpakde, 2005; Mongsawad, commerce, making peoples focus on social 2010; Wibulswasdi et al, 2012). The Philosophy media and social networks. The use of social suggests a way of recovery that will lead to a media and social networks has become an sustainable economy that is able to meet the important force in political organization, social challenges of globalization and other changes. interaction, and economic development. There are many researches that focus on the use of Application of the Sufficiency Economy the social media for community development Philosophy in community energy management (Brown, 2009; Qualman, 2009; Munshi, 2014). is an approach to life and conduct which is The social networking holds tremendous applicable at every level, from the individual potential in the field of community through the family and community to the development. For example, the online site energy management and development YouTube, a social media where videos can be renewable energy of the nation it is show shared, uploaded and watched, In comparison, in Fig. 2. Facebook is built on the premise of connecting individuals and organizations to networks of It has been more than 3 decades since mutual interest or associations. In social His Majesty King Bhumibol Adulyadej brought networks, in turn, build networks that build the philosophy of sufficiency economy, in order relationships and build relationships through to improve the life of Thai citizens, by stressing the use of social media (Ellison et al, 2007; the significance of economic self-reliance. Lachapelle, 2011). Social Capital and the (Community Development Department, 2006). Whereof, his philosophy portrays a plan for recovery which enhances the economy in term of resilience and sustainability, which is วารสารวิชาการรบั ใช้สังคม มทร.ล้านนา 37 ปที ี่ 2 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มถิ นุ ายน 2559
Figure 2 Application of the Sufficiency Economy Philosophy in community energy management important and capable for meeting the immunity) with the two conditions (appropriate unexpected challenges due to globalizations knowledge and ethics & virtues) applied to use and various types of changes. Ubonsri and with all the 9 lessons for building powerful Pannun (2013) looked at sufficiency economy as community energy management. However, the a guide towards environmental sustainability, by use of renewable energy technology to solve stating that creating network among people and the agricultural problems in the community, communities based on the philosophy of such a drying paddy rice and it is expected that sufficiency economy which helps to create a the moisture content of paddy could be self-protected environment. However, as reduced to around 13 to 15% (w.b.) (Wiset et al, argued by Baka et al. cited by (Naipinit et al. 2001). Also solve the shortage of lunch and lack 2013). the application of the philosophy of of nutrition students in the rural school. The fish sufficiency economy must be adapted culture especially, the temperature. It is fairly depending on the area and environment. low in the Northern part of Thailand during the winter. Generally, the appropriate and optimum For Instance, in this era of sustainability, temperature of fish culture is 28-32°C (Yongphet sufficiency economy can be effectively et al, 2015). Fish are a source of high quality implemented to educate and get the protein, vitamins and essential minerals but, community involved about the issue of energy above all, a virtually unique, rich source of management. omega-3 long-chain poly-unsaturated fatty This Sufficiency Economy Philosophy (SEP) acids (Jabeena and Chaudhry, 2011.). So concept can be expressed graphically, featuring renewable energy technology can be used for the three interlocking core elements solving community and school problems. (moderation, reasonableness, and self- 38 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
Results rice load contained with 25%wb initial of the The use of renewable energy technology grain moisture. Found that, the average solar radiation of 350 W/m2; ambient temperature apply to the wisdom of the villagers to generate was 30°C and internal greenhouse solar dryer income to reduce the cost of the community. temperature was 48°C. After a while an Thai farmers, known as the “backbone of the operated hybrid system with gasification nation”, are at risk of being replaced by drones technology had found that the internal and sensors (Baxter, 2017). The next generation greenhouse solar dryer rice temperature was of farmers will need to learn how to build and increased to 25°C. The moisture content of utilize new agricultural technologies. paddy rice can be reduced to 15% by using solar Strengthened through the participation of energy with gasification technology. During 2 community members was resulting in the village days of operation time, the maximum thermal prototype to measures for sustainability of efficiency of gasifier was 74.62%. community energy management. Applying the knowledge gained from the research to the folk Model II: Develop a solar dryer to be wisdom that suits the environment and the suitable for the community. It is designed to be locality of the people, it is considered as a used with biomass type direct combustion it is sustainable academic service. These are show in Fig. 3. The solar greenhouse is a curved examples of one prototype villages and two roof with polycarbonate sheet cover with 16 samples academic services as follows: mm of thickness had 3 x 6 m2 of floor area and (i) Sample prototype villages 3 m of height. The solar greenhouse had an assisted thermal using in cloudy day from In the years 2016-2017; Paddy rice biomass furnace. The size of furnace size was 1 greenhouse using solar dryer operate with m of width, 1 m of length and 0.7 m of height, hybrid gasification technology for organic rice the pipe diameter was 3 inch. The average processing in Baan Vang Pong. Chiang Mai, temperature inside the solar greenhouse is Thailand. 56.12 °C. It is the optimum temperature for drying paddy rice and agricultural products of Model I: drying paddy rice in community the community. by using greenhouse solar dryer with gasified system it is show in Fig. 3. At Baan Vangpong. Model III: The solar cabinet drying (SCD) Chiangmai, Thailand. Dome shaped greenhouse technology it is show in Fig. 4.; polycarbonate solar dryer was used, and area of 3.0 x 6.0 m2, sheet was used in the design and development working with downdraft gasifier. Scraps of the of SCD size is 2.00 m in width, 0.80 m in length, longan wood (biomass) or agriculture waste and 1.68 m in height. SCD is mainly consists of form community were used as fuel. The drying chamber, DC fan ventilation, PV module greenhouse solar dryer without gasifier system and trays. The chamber drying was design was constructed with 3 shelves, 1 ton of paddy วารสารวชิ าการรบั ใชส้ ังคม มทร.ล้านนา 39 ปที ี่ 2 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2559
Model I Model II in Fig. 5. Focus on community participation in the planting process-product processing. Figure 3 Model I: drying paddy rice in the Organic fertilizer for use and distribution in the community by using greenhouse solar dryer community, small rice mills for the community with gasified system and Model II: drying paddy and organic rice products. rice in the community by using greenhouse (ii) Sample academic services solar dryer with direct combustion system Renewable energy follows the King for Model III the Better Life. At Baanbuakchan School, Maerim, Chiangmai, Thailand. (October, 2014) it Figure 4 Model III: The solar cabinet drying is shown in Fig. 6. To promote the use of (SCD) technology renewable energy at the enterprise level and to use the waste from nature to maximize the as a half parabolic shaped ventilated with a size benefits. Promote the technology of solar fish of 2.00 m in width, 0.80 m in length, and 1.00 m pond was 8.5 x 6.4 sq.m., technology charcoal in height. It Found that the average solar kiln by furnace 200 liters, solar energy intensity (It) was 727.13 W/m² and have effect technology, bio-gas technology (fermentation of to the average ambient temperature 36.34°C, food waste), wood burning biomass technology, while the inside temperature of the mushroom house, and growing vegetables in experimental cabinet dryer is 61.24°C. school area. To save expenditure on schools and to be a sustainable alternative energy The integration of Baan Vangpong management school. (VangPong Model) farmers in order to lead the way out in solving the problems of the Renewable energy center, the solar community by applying the philosophy of greenhouses fish pond and aquaculture sufficiency economy to the production of fully processing. At Maesariengboripatsuksaschool, integrated organic rice production as it is shown Maesariang, Maehongson, Thailand (December, 2016) it is show in Fig. 7. The project will build the solar greenhouses size is 7.6 meters wide and 17.0 meters long and 4 meters high. The average air temperature in the solar greenhouses is 45-60°C. The water temperature in the fish pond is 27-31°C. The three ponds, size were 5.0 meters wide, 5.0 meters long and 1.1 meters high. Integrated fish farming system in a single pond by used placing plastic cages in the fish pond and releasing 3 layers of fish. It will be 40 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
Figure 6 Renewable energy follows the King for the Better Life. At Baanbuakchan School Figure 5 The fully integrated organic rice Figure 7 The solar greenhouses fish pond and production aquaculture processing. able to produce 6,000 catfish, 990 frog and 450 (ii) Community energy management in other climbing perch fish/cycle (3 months/cycle), countries respectively. The fish can be fed 4 times/year and can produce catfish was 4,000-4,800 It is well known that energy is a critical kg/year. The frogs are in the range of 792-1,320 resource in ensuring the development of a kg/year and Thai climbing perch fish was 180- modern society. Nearly 88% of total primary 250 kg/year. The benefits of the renewable energy consumed is fossil fuels like oil, coal and energy center, schools and communities will natural gas in 2016 (BP, 2017). Considering the have the solar greenhouses fish pond and potential consequences of fossil fuel depletion aquaculture processing. and reduce the cost of and climate change such as greenhouse effect, buying fish 33.3% the transformation of energy systems from fossil fuels to renewable energies is significant. In For sustainable and to be able to transfer technology to other communities. Successful to the key to academic service is engaging with the community. วารสารวชิ าการรับใช้สังคม มทร.ลา้ นนา 41 ปีที่ 2 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถุนายน 2559
addition, the energy balance of generation and consumption (Xinhuanet, 2014a.). Besides, consumption is also crucial for the operation of improvement of energy efficiency could lead to society. According to the IEA report, Asia much lower primary energy demand for better countries have huge developing potential while energy management (Qilin Liu, 2018). It has half of the total volume of energy traded today become clear that novel technologies always goes to a destination in Asia (IEA, 2016). As the help industries and people’s life. For example, largest developing country, China has become the most popular technologies of artificial popular and strong in Asia and all over the intelligence (AI) (Javier Mata, 2018) and world, while large amount of energy is needed. autonomous vehicle (AV) (Jessica Van, 2018) are For Asia countries like China, attention has been emerging, which could alter people’s living and paid to the energy management to use it thinking. What should be mentioned is that efficiently and to reduce environmental China has become a leading role in non-cash pollution. Besides, with the fast speed of world payment and fast post, improving efficiency and connection, the present world has been turned saving time. For instance, Alipay and Wechat out to be a giant network of interconnected pay could be used in more and more countries. communities, which means that communities In a way, these high technologies contribute to play an important role for energy management the society development and alter the energy and the acting at local communities is essential consumption structures. (Finco, 2001). Hence, the energy sustainability can be initiated and managed among With the increasing energy demand for communities. development, more attention would be paid to the energy management methods, especially in There have been various methods to community level. Modern technologies make reach it both in the world and China. The people better understand and solve the energy community energy storage has been reported as problems we are facing today. With the aid of one way to save and produce energy in various methods mentioned above, the communities (Arghandeh, 2014; Nourai, 2010; interaction and corporation among countries Department of Energy and Climate Change, and communities would lead to a bright and 2016). Developing renewable energy (IEA, 2016) harmonious human society. and take advantage of waste materials (Yangsiyu Lu, 2017) are also popular towards community Being the most developed continent has energy management. In addition, the concept of cons, indeed Europe EU-28 is the third largest energy management should be conveyed to CO2 emitter globally (3420 MTn of CO2 emitted people in communities by education. China has in 2014) according to (Isabel project identity, regarded the diversified energy supply system 2016) and found solutions to remediate became as a good method to manage the energy unavoidable 42 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 2 No. 1 January - June 2016
Search