วารสวาารวสชิาราวกชิ าารกราบัรรใชบั ้สใชงั ส้คงั มคมมหมาหวาิทวยทิ ายลาลัยยัเทเทคคโนโนโลโลยยรี รี าชมงคลลลลา้ า้ นนนนาา วัตถุประสงค์ วารสารวิชาการรับใช้สังคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มีวัตถุประสงค์เพ่ือตีพิมพ์ผลงาน วิชาการด้านรับใช้สังคม ทั้งงานวิจัยและงานบริการวิชาการ เผยแพร่เพื่อพัฒนาสังคมและส่งเสริมให้นักวิชาการ ด้านรับใชส้ ังคมในหน่วยงานตา่ ง ๆ ไดม้ ีแหล่งนาเสนอผลงานทางวิชาการส่สู าธารณะ เจา้ ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา ท่ีปรกึ ษากองบรรณาธกิ าร สง่าจิตร ผปู้ ฏิบตั ิหนา้ ท่ีอธิการบดี รองศาสตราจารย์ศลี ศริ ิ ใจวงศ์ษา มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา ดร.สุรพล รองอธิการบดีฝ่ายวจิ ัยและบรกิ ารวชิ าการ บรรณาธิการผูท้ รงคณุ วุฒภิ ายในและภายนอก มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ศาสตราจารย์ ดร.จักรี เส้นทอง มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ ศาสตราจารย์ ดร.อารี วิบูลย์พงศ์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ศาสตราจารย์ ดร.ผดงุ ศักดิ์ รตั นเดโช สถาบันคลังสมองของชาติ รองศาสตราจารย์ ดร.กาญจนา แก้วเทพ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ รองศาสตราจารย์ ดร.อาวรณ์ โอภาสพฒั นกจิ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ รองศาสตราจารย์ ดร.เศรษฐ์ สมั ภัสตะกุล มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ รองศาสตราจารย์ ดร.ธงชยั ฟองสมุทร มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ รองศาสตราจารย์ ดร.พรี ะพงศ์ ทีฆสกลุ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสวุ รรณภูมิ รองศาสตราจารย์ ดร.กิตติ บุญเลศิ นิรันดร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา รองศาสตราจารย์ ดร.พรหทยั ตัณฑ์จติ านนท์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา รองศาสตราจารย์ ดร.ชติ ิ ศรีตนทิพย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา รองศาสตราจารย์ ดร.พานิช อนิ ตะ๊ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ รองศาสตราจารย์ สุทศั น์ จุลศรไี กวลั มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.อาพรรณ พรมศริ ิ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ปฏภิ าณ สุทธิกลุ บตุ ร มหาวิทยาลยั นเรศวร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พสิ ษิ ฏ์ มณีโชติ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ ธนบรุ ี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.คมกฤตย์ ชมสุวรรณ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ไกรสทิ ธ์ิ วสุเพ็ญ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยด์ วงพร อ่อนหวาน มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ผู้ช่วยศาสตราจารยย์ ุทธนา เขาสเุ มรุ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ผู้ช่วยศาสตราจารยส์ ันติ ชา่ งเจรจา มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ผูช้ ่วยศาสตราจารยร์ งุ่ นภา ช่างเจรจา มหาวทิ ยาลยั แม่โจ้ ดร.สมคดิ แกว้ ทพิ ย์ RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
คณะกรรมการดาเนินงาน เพชรบุล นายภฤศพงศ์ เขาสุเมรุ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยย์ ุทธนา ธารพรศรี ผู้ช่วยศาสตราจารย์เกรยี งไกร ศรตี นทพิ ย์ รองศาสตราจารย์ ดร.ชติ ิ อินต๊ะ รองศาสตราจารย์ ดร.พานิช ออ่ นหวาน ผูช้ ว่ ยศาสตราจารยด์ วงพร วรพจนพ์ รชัย ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ไพโรจน์ กาแพงแก้ว นายนริศ หอชัยรัตน์ ว่าท่รี อ้ ยตรีรัชตพ์ งษ์ ศรปี ระเสรฐิ ว่าท่รี ้อยตรีเกรยี งไกร พรมพราย นายพิษณุ อ่อนนวล นางสาวทนิ สารภี นางสาวรตั นาภรณ์ พิมพ์นวน นางสาวอารรี ัตน์ สภุ าพรเหมนิ ทร์ นายเจษฎา ผ้อู ยู่สุข นางสาวสุธาสนิ ี แสงใส นางสาวหนึง่ ฤทยั มโนพฤกษ์ นางสาวฉัตวณฐั จันทรพ์ รหม นางสาวเสาวลักษณ์ ต้นใส นางสาววราภรณ์ ณ วรรณมา นายวรี วิทย์ พมิ พ์ที่ สถาบนั ถ่ายทอดเทคโนโลยสี ู่ชมุ ชน มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา 98 หมู่ 8 ตาบลปา่ ปอ้ ง อาเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชยี งใหม่ 50220 สานกั งาน สถาบนั ถ่ายทอดเทคโนโลยีสูช่ มุ ชน มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา 98 หมู่ 8 ตาบลป่าป้อง อาเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ 50220 บทความทุกเร่ืองได้รับการตรวจความถกู ต้องทางวิชาการโดยผทู้ รงคุณวุฒิ ข้อความและบทความใน วารสารวิชาการรับใช้สังคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เป็นแนวคิดของผู้เขียน มิใช่ความ คิดเห็นของคณะผู้จัดทาและมิใช่ความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ และกองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธ์ิ คัดลอก แตใ่ หอ้ า้ งองิ ทีม่ า วารสารวิชาการรับใชส้ งั คม มทร.ล้านนา ปีท่ี 3 ฉบับท่ี 2 กรกฏาคม - ธันวาคม 2562
บทบบทรรบณรารธิกณาราธกิ าร วารสารวิชาการรับใช้สังคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้ดาเนินการตีพิมพ์บทความ วิชาการ ด้านการรับใชส้ ังคมของนักวิชาการ ในหลากหลายความเชี่ยวชาญมาอย่างต่อเนื่อง เพ่ือส่งเสริมความ เข้มแข็งทางวิชาการ และการเผยแพร่องค์ความรู้ ในรูปแบบของบทความวิชาการ ที่เหล่านักวิชาการได้เข้าไป ช่วยเหลือ เข้าไปรับใช้สังคม เพ่ือสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีข้ึนให้กับชุมชน สังคม ประเทศ ซ่ึงวารสารปีท่ี 3 ฉบับท่ี 2 กรกฏาคม - ธันวาคม 2562 น้ี ยังคงรวบรวมบทความวิชาการที่เสนอแนะแนวทางและวิธีการ การ ช่วยเหลือ การรับใช้สังคม ในหลากหลายมิติ ไว้อย่างน่าสนใจ อาทิ มิติของการพัฒนาด้วยกระบวนการจัดการ ที่ดี การส่งเสริมภาพลักษณ์ด้วยกระบวนพัฒนาการออกแบบ การส่งเสริมทักษะผ่านกระบวนสร้างความรู้ ตลอดจนการสร้างแนวทางการพัฒนาชุมชน สังคม ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ แก่ชุมชน จนส่งผลให้เกิดการเปล่ียนแปลงทีดีขึ้น ต่อคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน สังคม ซึ่งได้ สะท้อนให้เห็นถึง แนวทางและวิธีการ ของการช่วยเหลือ การรับใช้สังคม ผ่านกระบวนการทางวิชาการของ นักวิชาการ บนจุดมุ่งหมายของความมุ่งม่ัน ตั้งใจ ต่อการเข้าช่วยเหลือรับใช้สังคมให้ดีขึ้น ได้อย่างน่าติดตาม และเปน็ ประโยชน์ตอ่ ผูศ้ ึกษาย่ิง กองบรรณาธิการหวังเป็นอย่างยิ่งว่าวารสารวิชาการรับใช้สังคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ล้านนา ฉบับน้ีจะเป็นประโยชน์ทางวิชาการสาหรับผู้อ่านทุกท่าน และขอขอบคุณผู้อ่านท่ีได้ให้ความสนใจ ติดตามวารสารมาอย่างต่อเนื่อง และหากผู้เขียนหรือผู้อ่านท่านใดต้องการส่งบทความเพ่ือเผยแพร่ หรือมี ข้อเสนอแนะประการใดท่ีเป็นประโยชน์ต่อวารสาร สามารถติดต่อผ่านทาง Email : [email protected] โทรศัพท์ : 0 5326 6518 ต่อ 1031 หรือ Line Official : @179lrxbt ทางกองบรรณาธิการวารสารยินดี น้อมรบั คาแนะนา เพ่อื การปรับปรุง พฒั นาวารสารให้มคี ณุ ภาพยง่ิ ข้ึนตอ่ ไป แลว้ พบกันใหมฉ่ บบั หน้า กองบรรณาธกิ าร RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
ปรราะรยจาช�ำยอ่ื ฉผชปบอ่ืูท้ีทบัผร่ีง้ทู3ปครที ุณฉง่ีบ3ควบัุฒุณฉทผิบว่ี 2ูปับ้ฒุ รทเะดิผี่เ2อมื้ปู นนิเรดบะกอืเทมรนคินกวกฎบาารทมคกคมฎ(วPาา–eคมerมธ(PนRั -วeeธาveคนัireมวRwาe2)ค5vปม6ieร22ะwจ5)า6ฉ2บบั รองศาสตราจารย์สุทัศน์ จลุ ศรีไกวลั มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ รองศาสตราจารย์ ดร.พรหทยั ตัณฑจ์ ิตานนท์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ไกรสทิ ธ์ิ วสุเพญ็ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.แมน ตุ้ยแพร่ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ ดร.นเรศ อนิ ตะ๊ วงศ์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยย์ ุทธนา เขาสเุ มรุ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์เกรยี งไกร ธารพรศรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์เสรฐสุดา ปรีชานนท์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ผู้ช่วยศาสตราจารยเ์ กษตร แก้วภกั ดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา ดร.ณฐาพชั ร์ วรพงศพ์ ัชร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร ดร.พณิ นภา หมวกยอด มหาวทิ ยาลัยแมโ่ จ้ วารสารวชิ าการรบั ใช้สังคม มทร.ลา้ นนา ปที ี่ 3 ฉบับที่ 2 กรกฏาคม - ธนั วาคม 2562
สารบญั หนา้ 1 การออกแบบสร้างชุดเครอ่ื งมือเพอ่ื ข้ึนรูปผลติ ภัณฑจ์ ากแร่เหลก็ นำ้� พี้ กรณีวิสาหกจิ ชุมชน กลุ่มผลติ ผลติ ภัณฑจ์ ากแรเ่ หล็กน�้ำพ้ี อำ� เภอทองแสนขนั จงั หวดั อตุ รดติ ถ ์ 17 ไพโรจน์ นะเทยี่ ง การเพม่ิ มลู ค่าใหก้ บั ผลติ ภณั ฑ์ของกลุ่มตระกรา้ หวายบา้ นทาทรายมูล ต�ำบลสนั กลาง 25 อำ� เภอพาน จงั หวดั เชียงราย จรัลศรี โนมี, วรวี รรณ เจรญิ รปู , จติ รานุช ชยั นนั ท์ 33 การพัฒนาแบบบรรจุภัณฑผ์ ลิตภณั ฑข์ า้ วทอดกระทงทอง ต�ำบลตาหลวง อำ� เภอดำ� เนนิ สะดวก จังหวัดราชบรุ ี 43 ณฐาพัชร์ วรพงศ์พชั ร์, พงษ์ศกั ดิ์ ผกามาศ, กนกอร บญุ มี, วสุธดิ า นุรติ มนต,์ เจนศึก โพธศิ าสตร์ 55 การแก้ปัญหาความยากจนผา่ นการบรกิ ารวิชาการเครือ่ งอบแหง้ พลงั งานแสงอาทิตย:์ 65 กลมุ่ เกษตรกรมะขามเปร้ยี วยกั ษ์ จังหวดั พษิ ณโุ ลก 73 สรวิศ สอนสาร,ี เอกภมู ิ บญุ ธรรม, เอกกฤษ แกว้ เจริญ, วัชรากร ใจตรง, วีรวธุ เลพล , มนตรี วงค์ศริ วิ ทิ ยา การพัฒนาทกั ษะการวิจัยใช้ชมุ ชนด้วยกระบวนการวจิ ัยเชงิ ปฏบิ ตั ิการแบบมสี ่วนร่วม อรอมุ า ซองรมั ย์, กนกวรรณ เอ้ือเจรญิ , นภาพร ศิริพูล การพฒั นาอาชีพกลุ่มผูน้ ำ� สตรี ชุมชนบ้านสนั ติสขุ ตำ� บลน้ำ� รึม อำ� เภอเมือง จงั หวดั ตาก รัฐพล ภุมรินทร์พงศ์, คณุ ากร สุปน, สิรินพร เกยี งเกษร, เกรยี งไกร ศรปี ระเสริฐ การพฒั นารปู แบบบรรจุภัณฑส์ บ่สู ับปะรดกลุม่ OTOP สตรีบ้านบงึ จงั หวัดราชบรุ ี ณฐาพัชร์ วรพงศพ์ ชั ร์, พงษ์ศักดิ์ ผกามาศ, แก้วตา ผิวพรรณ, ทิวากร เหล่าลือชา, วศนิ พรหมพิทักษก์ ลุ การพฒั นากระบวนการผลติ ผกั ของหมบู่ า้ นใหม่นาแขม ภายใต้โครงการยกระดบั คณุ ภาพชีวติ ของชุมชนแบบมสี ่วนรว่ ม พงศย์ ุทธ นวลบุญเรือง, ชติ ิ ศรีตนทิพย,์ ปริญญาวดี ศรีตนทพิ ย์, นภา ขนั สภุ า, พทิ ักษ์ พทุ ธวรชยั , ภทั ราภรณ์ ศรสี มรรถการ, สุภาวดี แชม่ , ยทุ ธนา เขาสุเมรุ RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
การออกแบบสร้างชุดเครือ่ งมือเพื่อขึน้ รปู ผลิตภัณฑจ์ ากแร่เหลก็ นา้ พ้ี กรณีวิสาหกิจชุมชน กล่มุ ผลติ ผลติ ภณั ฑจ์ ากแรเ่ หลก็ น้าพี้ อ้าเภอทองแสนขนั จงั หวัดอุตรดิตถ์ Designing a tool kit for forming iron products from nam phi case of nam phi iron ore product community enterprise thong saen khan district uttaradit. ไพโรจน์ นะเท่ยี ง* Pairote Nathiang* *ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ คณะเทคโนโลยอี ุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ *Assistant Professor, Faculty of Industrial Technology, Uttaradit Rajabhat University. E-mail : [email protected], เบอร์โทรศัพท์ 098-8049275 บทคดั ยอ่ การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุดเครื่องมือข้ึนรูปผลิตภัณฑ์จากแร่เหล็กน้าพ้ีให้ตรงกับความต้องการ และลดต้นทุนการผลิตของวิสาหกิจชุมชนในท้องถ่ิน วิธีวิจัยเป็นแบบผสมผสานระหว่างการวิจัยเชิงคุณภาพใน การศกึ ษาบริบทของกลุ่มวิสาหกจิ ชุมชน การวิจัยเชงิ ปฏิบัติการในขั้นตอนการออกแบบและสรา้ งชุดเคร่อื งมือเพื่อขึ้น รูปผลิตภัณฑ์ และการวิจัยเชิงปริมาณในข้ันตอนการประเมนิ ระดับการยอมรับเทคโนโลยี ผลจากการน้าชุดเครื่องมือ ข้ึนรูปผลิตภัณฑ์ท่ีพัฒนาข้ึนไปใช้แทนแรงงานพบว่า การต้าด้วยเครื่องต้าผงแร่มีอัตราการผลิต 192 กิโลกรัม/วัน ต้นทุนค่าไฟฟ้า 33.36 บาท/วัน สามารถลดต้นทุนได้ 167 บาท/วัน แต่ก้าลังการผลิตเพ่ิมขึ้น 172 กิโลกรัม/วัน การนวดผสมด้วยเคร่อื งสามารถผสมได้วันละ 32 คร้ัง แต่ละครั้งใช้เวลา 16 นาที ต้นทุนค่าไฟฟ้า 10 บาท/วัน ท้าให้ ลดต้นทุนได้ 290 บาท/วัน แต่ก้าลังการผลิตเพิ่มข้ึนเป็น 2 เท่า การตีดาบเหล็กน้าพี้ด้วยเครื่องตีข้ึนรูปมีต้นทุนค่า ไฟฟ้า 136.9 บาท/วัน สามารถลดการใช้แรงงานได้ 1 คน ค่าใช้จ่ายเหลือเพียง 1,137 บาท/วัน ประหยัดค่าจ้าง แรงงานได้ 863 บาท/วัน แต่ยังสามารถผลิตดาบเหล็กน้าพี้ได้วันละ 2 เล่มเท่าเดิม ระดับความพึงพอใจท่ีมีต่อ ป ร ะ สิ ท ธิ ภ าพก าร ท้ าง า นขอ งชุ ดเ ครื่ อ งมื อ เพื่อ ข้ึ นรู ป ผลิตภัณ ฑ์จาก แร่เ ห ล็กน้ า พ้ี ขอ งก ลุ่ม ผู้เข้ า รับ ก าร ถ่ าย ทอด เทคโนโลยพี บว่า มีความพงึ พอใจดา้ นคุณลักษณะท่ีเหมาะสมกับการใช้งานโดยภาพรวมอยใู่ นระดบั มากทส่ี ุด เมื่อพจิ ารณา เป็นรายด้าน พบว่า ด้านท่ีมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ คุณภาพของผลผลิตท่ีได้มีความเหมาะสมกับการน้าไปใช้งาน รองลงมา ได้แก่ ความสามารถน้าไปใช้ทดแทนแรงงานคน และระยะเวลาท่ีใช้ในการท้างานมีความเหมาะสม ตามลา้ ดับ ค้าส้าคญั เคร่ืองต้าผงแร่เหล็ก, เคร่ืองนวดผสมแร่เหล็ก, เครอื่ งตีเหลก็ Abstract The objective of this research is to develop a tool kit for molding iron ore products to meet the needs and reduce the production costs of local enterprises. The research method is the combination of qualitative research in a context study of community enterprise groups, operational research in the process of designing and creating tools for forming products and quantitative research in the process of evaluating technology acceptance levels as a result of the use of forming tools, the products that were developed to replace workers found that pounding with mineral powder machine has a production rate of 192 kilograms/day. Electricity cost 33.36 baht/day can be reduced by 167 baht/ day but the capacity is increased by 172 kilograms/ day. The massage mixed machine วารสารวชิ าการรับใช้สังคม มทร.ล้านนา 1 ปที ี่ 3 ฉบบั ท่ี 2 กรกฏาคม - ธนั วาคม 2562
can be mixed 32 times daily, each time takes 16 minutes, consume electricity cost 10 baht/ day, reduce the cost by 290 baht/ day, but the capacity is doubled. The Nam Phi steel forgings with an electric charges of 136.9 baht/day can be replaced 1 person's labor. The cost is only 1,137 baht/day. The labor cost is 863 baht / day but can still produce steel swords. Nam Phi steel swords can be produced 2 copies per day. The level of satisfaction with the performance of the tool set for forming iron ore products from the technology transfer group found that the satisfied with the features there are suitable for the overall use at the highest level. Considering each aspect, it was found that the highest mean value was the quality of the product that was suitable for use, followed by the ability to replace workers. And the time spent in the work is appropriate, respectively. Keywords Iron ore powder machine, Iron ore mixed powder massage machine, Ironworker บทนา้ ภายในชุมชน นอกจากนี้ยังเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญา วิสาหกิจชุมชน คือ กิจกรรมที่คนในชุมชนเป็น ของบรรพบุรุษและเพื่อเป็นการให้ความรู้แก่เยาวชนร่นุ หลังต่อไป ซึ่งแร่เหล็กน้าพี้ถือว่าเป็นธาตุโลหะศักด์ิสิทธิ์ เจา้ ของกจิ กรรมการผลิตสินคา้ ตามภูมิปัญญาตนเองซ่ึง ท่ีมีต้นก้าเนิดในพ้ืนที่อ้าเภอทองแสนขัน จังหวัด ไม่ท้าลายส่ิงแวดล้อม ภาษาอังกฤษเรยี กวา่ Small and อตุ รดิตถ์ คนท่ัวไปทง้ั ในจังหวดั อตุ รดิตถ์และทวั่ ประเทศ micro community enterprise มีค้าย่อว่า “SMCE” ให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุน้ีเองจึงท้า วิสาหกิจชุมชนจึงมีความส้าคัญในการสร้างฐานมั่นคง ให้ผู้ประกอบการในท้องถิ่นเกิดการรวมกลุ่มเป็นกลุ่ม ให้กับประเทศ โดยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าให้ ผลิตผลิตภัณฑ์จากแร่เหล็กน้าพี้ เพ่ือผลิตสินค้าชุมชน เข้มแข็งและกระจายโอกาสการประกอบอาชีพให้เกิด ประกอบด้วย ดาบเหล็กน้าพี้ ลูกประค้าผสมผงแร่เหล็ก การสร้างงาน สร้างรายได้ และลดภาระค่าใช้จ่ายให้ น้าพ้ี พระพิมพ์ผสมแร่เหล็กน้าพี้ องค์พระหล่อผสม ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศสามารถพึ่งตนเองได้ ผงแร่เหล็กน้าพ้ี เป็นผลิตภัณฑ์ของชุมชนออกจ้าหน่วย มากขึ้น (ดวงเดือน สมวัฒนศักด์ิ, 2548) จากประเด็น ให้กับลูกค้าท่มี ีความสนใจทั่วไป เป็นสินคา้ ทีส่ ร้างรายได้ ยุทธศาสตร์ของจังหวัดอุตรดิตถ์ในด้านการส่งเสริมให้มี ให้กบั ประชาชนในทอ้ งถ่ินเป็นอยา่ งมากไม่น้อยกว่าปีละ การกระจายรายได้อยา่ งเป็นธรรม คมุ้ ครอง ส่งเสริมและ 10 ล้านบาท (ศิริกานดา แหยมคง และคณะ, 2547) แต่ ขยายโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชน เพิ่ม ปัจจุบันการด้าเนินงานกลุ่มยังมีอุปสรรคและปัญหาใน ศักยภาพของชุมชน เช่ือมโยงเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง ประเด็นการบริหารจัดการภายในกลุ่ม รวมถึงปัญหา เพ่ือเป็นรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน น้าไปสู่การ ด้านต้นทุนการผลิตในปัจจุบันที่ค่อนข้างสูงเน่ืองจ า ก พึ่งตนเอง และลดปัญหาความยากจน ช่วยเหลือและ ค่าจา้ งแรงงานท่ปี รับตัวสูงขึ้น ผนวกกับทางกลุ่มประสบ สนับสนุนการมีงานท้า และรายได้ของประชาชน เพ่ือ ปัญหาการขาดแคลนแรงงานท่ีมารับจา้ งผลิต เนื่องจาก ลดผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย สร้างความ ในบางชว่ งมีคา้ สั่งผลิตผลิตภณั ฑ์จากแร่เหล็กน้าพ้ีเข้ามา เช่ือม่ันและกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม จึงได้มีการ จ้านวนมาก แต่เป็นในช่วงฤดูการท้านาหรือท้าไร่ จึงท้า ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการรวมกลุ่มเพื่อจัดต้ังกลุ่ม ให้ทางกลุ่มผู้ผลิตขาดแคลนแรงงานเน่ืองจากแรงงาน วิสาหกิจชุมชนขึ้น ซ่ึงจังหวัดอุตรดิตถ์มีการจดทะเบียน ส่วนใหญ่ในชุมชนเลือกที่จะไปรับจ้างท้านาหรือท้าไร่ วิสาหกิจชุมชน ณ วันท่ี 4 กันยายน 2555 มีจ้านวน ตามฤดูกาลเพาะปลูกมากกว่าการมารับจ้างผลิตสินค้า วิสาหกิจชุมชนจดทะเบียน จ้านวน 1,177 กลุ่ม จากแร่เหลก็ น้าพ้ีซง่ึ เป็นงานทีต่ อ้ งใช้ฝีมอื มากกว่าการท้า มีจ้านวนสมาชิก 17,167 ราย โดยกลุ่มผู้ผลิตผลติ ภณั ฑ์ เกษตรกรรม (ไพโรจน์ นะเท่ยี ง, 2557) จากแรเ่ หลก็ น้าพ้ี ต้าบลนา้ พี้ อา้ เภอทองแสนขนั จงั หวัด อุตรดิตถ์ ได้รับรองขึ้นทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน เมื่อ จากปัญหาและความต้องการพัฒนาศักยภาพ วันท่ี 15 มิถุนายน 2553 วัตถุประสงค์ของกลุ่มคือการ รวมถึงเพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิตผลิตภัณฑ์จากแร่ สรา้ งผลิตภัณฑ์จากแร่เหลก็ น้าพี้เพ่ือหารายได้ให้เกิดข้ึน เหล็กน้าพี้ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จา ก 2 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
เหล็กน้ำพี้ อ้ำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ดังท่ีได้ สนทนำกลุ่ม (Focus Group) กลุ่มผู้ผลิตผลิตภณั ฑ์จำก กล่ำวมำแลว้ ในขำ้ งต้นคณะผวู้ ิจัยเลง็ เห็นควำมจำ้ เป็นใน แร่เหล็กน้ำพ้ีในส่วนท่ีเกี่ยวกับบริบทด้ำนกระบวนกำร กำรท่ีจะจัดท้ำโครงกำรพัฒนำชุดเครื่องมือเพ่ือข้ึนรูป ผลิตผลิตภัณฑ์ องค์ควำมรู้และเทคโนโลยีด้ำนกำรผลิต ผลิตภัณฑ์จำกแร่เหล็กน้ำพ้ีเพื่อสนับสนุนกำรผลิตของ ผลิตภัณฑ์จำกแร่เหล็กน้ำพี้ท่ีมีอยู่เดิม ในท้ัง 3 หมู่บ้ำน ผู้ประกอบกำรในท้องถิ่น เพ่ือส่งเสริมและยกระดับ ในพื้นท่ีของต้ำบลน้ำพ้ี เพ่ือน้ำมำใช้เป็นข้อมูลในกำร มำตรฐำนกำรผลติ กำรเพมิ่ ผลผลิต และกำรเพมิ่ คณุ ภำพ ออกแบบและพัฒนำชุดเครื่องมือเพื่อข้ึนรูปผลิตภัณฑ์ ของผลิตภัณฑ์ (ธวัชชัย แสงหล้ำ, 2551) รวมทั้งยัง จำกแร่เหล็กน้ำพ้ี จำกกำรส้ำรวจพบว่ำกำรผลิต คำดหวังที่จะก่อให้เกิดกำรลดต้นทุนกำรผลิตและลด ผลิตภัณฑ์จำกแร่เหล็กน้ำพ้ีเร่ิมจำกกำรขุดหำแร่เหล็ก ปัญหำด้ำนกำรขำดแคลนแรงงำนของกลุ่มวิสำหกิจ น้ำพี้โดยกำรขุดเปิดหน้ำดินออกไปก่อนให้ลึกประมำณ ชมุ ชนดว้ ยกำรใช้เทคโนโลยเี ครื่องจักรกลที่เหมำะสมกับ 1 เมตร จนถึงชั้นหิน (พรชัย สุจิตต์, 2528) โดยหลุมที่ กำรใช้งำนของกลุ่มผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จำกแร่เหล็กน้ำพ้ี ชำวบ้ำนขุดเพื่อหำแร่เหล็กน้ำพ้ีที่ลึกที่สุดในหมู่บ้ำนนั้น เพ่ือส่งเสริมและพัฒนำกลุ่มวิสำหกิจในกำรสร้ำงรำยได้ ลึกถึงประมำณ 10 เมตร (อนุวัตน์ จุติลำภถำวร, 2552) ให้กับชุมชนเพ่ือพัฒนำเศรษฐกิจของประเทศได้อย่ำง จำกกำรสัมภำษณช์ ำวบ้ำนทีม่ ปี ระสบกำรณใ์ นกำรขุดหำ ย่ังยืนตอ่ ไป (ณงคน์ ชุ นทีพำยพั ทศิ , 2559) แร่เหล็กน้ำพ้ี พบว่ำระยะจดุ ท่ีพบแร่เหล็กน้ำพม้ี ำกท่ีสุด ระเบียบวิธีการวิจยั จะอยู่ห่ำงจำกบริเวณบ่อเหล็กบ่อพระแสง” และ “บ่อ ประชากรและกล่มุ ตัวอยา่ ง พระขรรค์” ไม่เกนิ 200-300 เมตร และควำมลึกในกำร ขุดไม่เกิน 10 เมตร ดังภำพที่ 1 จำกน้ันจึงน้ำมำร่อน ส้ ำ ห รั บ ก ลุ่ ม วิ ส ำ ห กิ จ ชุ ม ช น ท่ี ร่ ว ม ใ น ดว้ ยตำข่ำยเพ่ือแยกเศษดินออกไปกอ่ น แล้วจงึ เทร่วมไว้ โครงกำรวิจัยในคร้ังน้ีได้แก่ กลุ่มผู้ผลติ ผลติ ภัณฑจ์ ำกแร่ เป็นกองๆ แล้วจึงใช้แท่งแม่เหลก็ ดูดหำก้อนแร่ที่มโี ลหะ เหล็กน้ำพ้ี อ้ำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็น เหล็กปะปนอยู่แล้วแยกไว้ต่ำงหำก ดังภำพที่ 2 พ้ืนท่ีเปำ้ หมำยรวมท้งั สน้ิ 37 คน ไดแ้ ก่ ลักษณะของก้อนแร่เหล็กน้ำพี้จะมีลักษณะออกเป็นสี คล้ำ มีควำมมันเงำ ถ้ำยกดูจะพบว่ำมีน้ำหนักมำกกว่ำ 1. กลุ่มตีดำบเหล็กน้ำพี้ หมู่ท่ี 1 ต้ำบลน้ำพ้ี หินโดยทวั่ ไป หรอื ทดสอบโดยแม่เหลก็ ดดู ก็จะดดู ติดโดย จ้ำนวน 10 คน ทันที (สงิ หเดช แตงจวง, 2550) จำกนนั้ จงึ น้ำไปล้ำงดว้ ย น้ำและตำกแดดให้แห้งอีกครั้ง โดยสินแร่ที่ขุดมำได้นี้ 2. กลุ่มผลิตลูกประค้ำแร่เหล็กน้ำพ้ี หมู่ท่ี 2 ชำวบ้ำนจะน้ำให้ขำยให้กลุ่มอำชีพผลิตผลิตภัณฑ์จำก ต้ำบลนำ้ พ้ี จำ้ นวน 15 คน เหลก็ น้ำพีใ้ นหมูบ่ ำ้ นรำคำกโิ ลกรมั ละ 30 บำท ดงั ภำพที่ 3 ซึ่งก้อนแร่เหล็กน้ำพ้ีนี้จะน้ำไปต้ำให้เป็นผงละเอียด 3. กลุ่มผลติ พระพิมพผ์ สมแร่เหลก็ น้ำพ้ี หม่ทู ่ี 4 เพื่อใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์จำกเหล็กน้ำพ้ี เช่น ตำ้ บลนำ้ พ้ี จ้ำนวน 12 คน ลูกประค้ำ พระพิมพ์ ส่วนกำกแร่จะน้ำไปถลุงเพื่อแยก วธิ กี ารดาเนินงาน แร่เหล็กน้ำพ้ีออกจำกสิ่งเจือปนแล้วน้ำไปตีขึ้นรูปเป็น ดำบหรือมืดเหลก็ น้ำพ้ีต่อไป กำรวิจัยน้ีเปน็ งำนวิจัยแบบผสมผสำน (Mixed Methods Research) ระหว่ำงกำรวิจัยเชิงคุณภำพ 2) กำรออกแบบและพัฒนำชุดเครื่องมือเพื่อ ( Qualitative Research) ก ร ะ บ ว น ก ำ ร วิ จั ย เ ชิ ง ข้ึนรูปผลิตภัณฑ์เพื่อสนับสนุนกำรผลิตของกลุ่มผู้ผลิต ปฏบิ ัติกำร (Action Research) และกำรวิจัยเชงิ ปรมิ ำณ ผลิตภัณฑ์จำกแร่เหลก็ น้ำพ้ี อ้ำเภอทองแสนขัน จังหวัด (Quantitative Research) เพื่อกำรก้ำหนดสมรรถนะ อุตรดิตถ์ ประกอบดว้ ย และออกแบบชุดเครื่องมือเพ่ือข้ึนรูปผลิตภัณฑ์จำกแร่ เหล็กน้ำพ้ี แล้วจึงน้ำไปถ่ำยทอดเทคโนโลยีให้กับผู้ใช้ 2.1) เคร่ืองต้ำผงแร่เหล็กน้ำพี้ ผู้วิจัยออกแบบ ประโยชน์เพื่อเพ่ิมขีดควำมสำมำรถของวิสำหกิจชุมชน ด้วยกำรใช้โครงสร้ำงฐำนรับน้ำหนักเปน็ แบบสี่เหลี่ยมที่ กลุ่มผลิตภัณฑ์จำกแร่เหล็กน้ำพ้ี โดยมีล้ำดับวิธีกำร ท้ำจำกเหล็กฉำกควำมหนำ 0.4 เซนติเมตร สำมำรถรับ ด้ำเนนิ งำนวจิ ยั ดังน้ี น้ำหนักได้ถึง 2.74 กิโลกรัมต่อตำรำงเมตร ส้ำหรับรับ แรงกระแทกระหว่ำงท่ีเคร่ืองจกั รทำ้ งำน และมสี ว่ นของ 1) กำรด้ำเนินกำรเก็บข้อมูลโดยวิธีกำรลง ภำคสนำมเพื่อกำรสังเกตกำรณ์ (Observation) วิธีกำร สัมภำษณ์แบบเจำะลึก (In-Depth Interview) และกำร วารสารวิชาการรับใช้สงั คม มทร.ล้านนา 3 ปที ี่ 3 ฉบบั ท่ี 2 กรกฏาคม - ธนั วาคม 2562
4 การค้านวณเพื่อหาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางและ ความเร็วรอบของพูลเลย์ โดยผูว้ ิจยั เลือกใช้พลูเลย์ขนาด เส้นผ่านศนู ย์กลาง 50.8 มิลลิเมตร ติดทีม่ อเตอร์และต่อ สายพานกับพลูเล่ย์ขนาด 254 มิลลิเมตร ให้มีการขับ แบบเปิดดังสมการที่ 1 (วริทธิ์ อึ้งภากรณ์, 2546) จาก การค้านวณหา ความเร็วเชิงเส้นของพูลเลย์ตัวขับ เมื่อ ก้าหนดให้สายพานไม่เกิดการล่ืนไถลจะได้ว่าพูลเล่ย์ตัว ตามจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเชิงเส้นเท่ากับพูลเล่ย์ตัว ขับทต่ี อ่ กบั มอเตอร์เทา่ กบั 7.66 เมตร/วินาที ภาพท่ี 1 การขุดสินแรเ่ หล็กน้าพ้ี 2 1,400 0.0508 …………………….(สมการท่ี1) 60 ภาพที่ 2 การใช้แม่เหล็กดูดหากอ้ นหินท่ีมีแร่เหลก็ ภาพท่ี 4 ลกั ษณะดา้ นโครงสร้างและส่วนประกอบ ของเคร่อื งต้าผงแรเ่ หลก็ นา้ พี้ ภาพท่ี 3 ลกั ษณะของแร่เหลก็ นา้ พ้ที ่ีขุดพบ ชุดเพลาเหล็กส้าหรับต้าแร่ (สาก) โดยใช้การส่งก้าลัง ภาพท่ี 5 ลักษณะดา้ นโครงสรา้ งและส่วนประกอบของ จากชุดเพลาลูกเบี้ยว และใช้ต้นก้าลังขับจากมอเตอร์ เครือ่ งนวดสว่ นผสมดินกับผงแรเ่ หลก็ น้าพี้ ไฟฟ้าขนาด ¼ แรงม้า ความเร็วรอบ 1,400 รอบ/นาที มีอัตราการทดก้าลัง 1 : 17 รอบ ความเร็วรอบที่ปลาย เพลาแกนหมุนชดุ พลเู ลย์เทา่ กับ 80 รอบ/นาที ดงั ภาพที่ 4 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
2.2) เครื่องนวดส่วนผสมดินกับผงแร่เหล็ก น้ำพ้ี แนวคิดในกำรออกแบบชุดขับเคลื่อนทำงกลจะใช้ มอเตอร์ส่งก้ำลังมำยังเกียร์บล็อกเพ่ือลดควำมเร็วรอบ และส่งต่อก้ำลังไปยังแกนเพลำส้ำหรับนวดผสมโดยใช้ ชุ ด โ ซ่ - ส เ ต อ ร์ เ ป็ น ตั ว ส่ ง ก้ ำ ลั ง จ ำ ก เ กี ย ร์ บ ล็ อ ก เ พื่ อ ขับเคลื่อนกลไกลกำรนวดผสมผงแร่เหล็กน้ำพ้ี โดยใช้ มอเตอรข์ นำด 2 แรงมำ้ 1,450 รอบ/นำที ขบั พลเู ล่ย์ส่ง ก้ำลังมำยังเกียรบ์ ลอ็ กเพ่ือลดควำมเร็วรอบของมอเตอร์ ลงท่ี 1 ตอ่ 50 รอบ จำกนั้นสง่ ผำ่ นก้ำลังจำกเกียร์บล็อก ไปยงั ชดุ โซ่-สเตอร์ เพ่อื ท้ำกำรขบั แกนเพลำส่งกำ้ ลังด้วย ควำมเร็ว 700 รอบ/นำที เพ่ือเคล่ือนกลไกลกำรท้ำงำน ของชุดนวดผสมผงแร่เหล็กน้ำพี้โดยแบ่งเป็น 2 ชุดคือ ชุดถังป่ันและเกลียวอัดแร่เหล็กน้ำพ้ีออกมำเป็นแท่ง ดังภำพที่ 5 กำรค้ำนวณสมรรถนะกำรท้ำงำนของเครื่อง นวดส่วนผสมดินกับผงแร่เหล็กน้ำพี้ หำได้จำกกำร ค้ำนวณหำควำมเร็วรอบกำรหมุนของเพลำส่งก้ำลังท่ี ภำพท่ี 6 ลกั ษณะด้ำนโครงสรำ้ งและสว่ นประกอบของ ข้ึนอยู่กับควำมเร็วรอบของจำนโซ่ ขนำดของจำนโซ่ เครอ่ื งตีดำบและมดี เหล็กนำ้ พ้ี และรัศมีของจำนโซ่ ซ่ึงกำรค้ำนวณหำควำมเร็วรอบของ ไดจ้ ำกสมกำรที่ 3 (วรทิ ธิ์ อ้ึงภำกรณ์, 2546) เพือ่ กำรส่ง เพลำส่งก้ำลังได้จำกสมกำรที่ 2 (วริทธิ์ อึ้งภำกรณ์, ถ่ำยก้ำลังจำกมอเตอร์ไฟฟ้ำไปยังเพลำของเครื่องตีดำบ 2546) และมีดเหลก็ นำ้ พ้ี n1 R1 * n …….…………............... (สมกำรท2ี่ ) Ddriven Ndriver …………................. (สมกำรที่3) r1 Ddriver N driven เมื่อ เมอ่ื n1 คือ ควำมเร็วรอบของเพลำส่งก้ำลัง มีหน่วย D คอื ขนำดเส้นผ่ำนศูนยก์ ลำงของพลเู ลย่ ์ (m) เป็นรอบ/นำที N คือ ควำมเรว็ รอบ (rpm) R1 คอื รัศมีของจำนโซ่ มหี น่วยเปน็ (m) 3) กำรประเมนิ ผลส้ำเรจ็ ของโครงกำรวจิ ยั ทั้งใน r1 คือ รัศมีของเพลำสง่ ก้ำลงั มหี นว่ ยเปน็ (m) ระดับผลผลิตและผลลัพธ์ โดยกำรทดสอบและประเมนิ n คือ ควำมเร็วรอบกำรหมุนของจำนโซ่ มี ประสิทธิภำพกำรท้ำงำนของชุดเครื่องมือเพื่อขึ้นรูป หนว่ ยเปน็ รอบ/นำที ผลิตภัณฑ์จำกแร่เหล็กน้ำพ้ีที่พัฒนำข้ึน ซ่ึงประกอบไป ด้วย เคร่ืองต้ำผงแร่เหล็กน้ำพ้ี ดังภำพที่ 7 เคร่ืองนวด 2.3) เครื่องตีดำบและมีดเหล็กน้ำพี้ แนวคิด ส่วนผสมดินกับผงแร่เหล็กน้ำพี้ ดังภำพที่ 8 และเครื่อง ในกำรออกแบบเครือ่ งตีดำบและมีดเหล็กนำ้ พ้ี ได้ท้ำกำร ตีดำบและมีดเหล็กน้ำพ้ี ดังภำพที่ 9 ซึ่งผู้วิจัยใช้วิธีกำร ออกแบบโครงสร้ำงฐำนโดยใช้เหล็กไอบีมขนำดกว้ำง ออกแบบกำรทดลองแบบเชิงแฟกทอเรีย 23 factorial 5 นว้ิ ยำว 10 นวิ้ สงู 55นิ้ว สว่ นชุดตีมีดใช้เพลำลูกเบ้ยี ว โดยท้ำกำรศึกษำท้ังในส่วนของปัจจัยหลักที่มีผลต่อ และหัวค้อนของเครื่องตีมีดใช้เหล็กเพลำ ชุบแข็ง ประสิทธิภำพกำรท้ำงำนของเครื่อง 3 ปัจจัย และปัจจยั (ณัฐชนันท์ ปลำยเนตร และคณะ, 2554) ชุดต้นก้ำลัง รองอีกอย่ำงละ 2 ปัจจัย (พิเชษฐ พลำดสุ และคณะ, ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ำกระแสไฟฟ้ำสลับ 1 เฟส ขนำด 2559) จำกน้ันจึงประเมินระดับกำรยอมรับเทคโนโลยี 1 แรงม้ำ อัตรำในกำรทด 1 ต่อ 17 ควำมเร็วรอบปลำย 5 ระดบั โดยกำรใชแ้ บบสอบถำมแบบ Likert Scale เพลำ 80 รอบ/นำที ดังภำพที่ 6 ส้ำหรับกำรค้ำนวณหำ คำ่ ควำมเร็วรอบและขนำดเส้นผ่ำนศนู ยก์ ลำงของพลูเลย่ ์ วารสารวิชาการรบั ใช้สังคม มทร.ล้านนา 5 ปที ี่ 3 ฉบบั ที่ 2 กรกฏาคม - ธันวาคม 2562
4) การวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงเศรษฐศาสตร์ ผลการดาเนินงาน ต้นทุนการใช้งานชุดเคร่ืองมือเพ่ือข้ึนรูปผลิตภัณฑ์จาก การยกระดับมาตรฐานและลดต้นทุนการผลิต แร่เหล็กน้าพี้เพ่ือสนับสนุนการผลิตของผู้ประกอบการ ในท้องถิน่ ระดับวสิ าหกิจชุมชน ด้วยการชุดเครื่องมือเพื่อข้ึนรูปผลิตภัณฑ์จากแร่เหล็ก น้าพี้ เพ่ือสร้างความเข้มแข็งให้กบั กลมุ่ ผู้ผลติ ผลติ ภณั ฑ์ ภาพที่ 7 การทดสอบสมรรถนะของเครื่องตา้ ผงแร่ ชุนชนจากแร่เหล็กน้าพี้ อ้าเภอทองแสนขัน จังหวัด เหล็กน้าพ้ี อุตรดิตถ์ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย ผู้วจิ ัยได้วเิ คราะหข์ ้อมูลได้ดังนี้ ภาพที่ 8 การทดสอบสมรรถนะของเครื่องนวดสว่ นผสม ผลการศึกษาข้อมูลพ้นื ฐานการผลิตผลิตภัณฑ์จากแร่ ดินกบั ผงแรเ่ หล็กนา้ พ้ี เหลก็ น้าพ้ี ของกล่มุ วสิ าหกจิ ชมุ ชน ภาพท่ี 9 การทดสอบสมรรถนะของเครอื่ งตดี าบ ปัจจุบันการผลิตผลิตภัณฑ์จากแร่เหล็กน้าพ้ี และมดี เหลก็ น้าพ้ี ของกลุ่มวิสาหกิจชุนในพื้นท่ีต้าบลน้าพี้ อ้าเภอ ทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ มีจ้านวน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มตีดาบเหล็กน้าพี้ หมู่ท่ี1กลุ่มผลิต ลูกประค้าแร่เหล็กน้าพ้ี หมู่ที่ 2 และกลุ่มผลิตพระพิมพ์ ผสมแร่เหล็กน้าพี้ หมู่ที่ 4 โดยกระบวนการผลิตภัณฑ์ จากแร่เหล็กน้าพ้ีจะเริ่มจากการน้าแร่เหล็กน้าพ้ีมาบด หรือต้าให้ละเอียดก่อนจึงจะสามารถน้ามาเป็นส่วนผสม ของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยจะใช้วิธีการต้าด้วยครกที่ท้า จากหินแกรนิต ส่วนตัวสากต้าจะท้าจากแท่งเหล็ก การ ต้าแต่ละคร้ังจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ได้น้าหนักผง แรท่ ่ผี า่ นการอ่ นประมาณ 0.8 - 1 กิโลกรมั ค่าจ้างต้าผง แร่เหล็กน้าพี้มีราคา 10 บาท/กิโลกรัม ซ่ึงในวันหนึ่งจะ ท้าให้ชาวบ้านที่รับจ้างต้าแร่สามารถต้าแร่ได้ประมาณ 16 - 20 กิโลกรัม เท่าน้ัน ส่วนในข้ันตอนของการนวด ผสมส่วนผสมส้าหรับการผลิตผลิตภัณฑ์จากแร่เหล็ก น้าพ้ีประเภทลูกประค้า พระพิมพ์ ดังภาพที่ 10 จะใช้ วิธกี ารนวดผสมดว้ ยแรงงานคนซ่ึงใช้เวลานวดผสมแต่ละ คร้ังประมาณ 1.30 - 2 ช่ัวโมง โดยมีส่วนผสมหลักคือ แร่เหล็กน้าพ้ีบดละเอียด 5 กิโลกรัม ดินเหนียว 10 กิโลกรัม กาวลาแท็กซ์ 300 กรัม และน้า ในอัตราส่วน ผงแร่ 1 สว่ น ต่อดนิ 2 สว่ น ดังภาพที่ 11 สว่ นในขั้นตอน ของการผลิตดาบเหล็กน้าพี้ใช้วิธีการตีขึ้นรูปร้อนด้วย การตีด้วยค้อนเหล็ก ดงั ภาพท่ี 12 ซ่ึงในการตีข้ึนรปู เพื่อ ผ ลิ ต ด า บ เ ห ล็ ก น้ า พ้ี แ ต่ ล ะ ค ร้ั ง จ้ า เ ป็ น ท่ี จ ะ ต้ อ ง ใ ช้ แรงงานคนในการตีอย่างน้อย 2 คน ซึ่งค่าจ้างแรงงาน ส้าหรับการตีขึ้นรูปดาบเหล็กน้าพ้ีทางกลุ่มจะก้าหนด ค่าจ้างไว้ที่วันละ 1,000 บาท/คน ดังนั้นจึงท้าให้ทาง กลุ่มผู้ผลิตมีต้นทุนค่าแรงงานในการจา้ งคนตีดาบวนั ละ 2,000 บาท ซึ่งในการตีดาบหนึ่งวันจะได้ดาบเหลก็ น้าพี้ จา้ นวน 2 เล่ม 6 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
ผลการพัฒนาชุดเครื่องมอื เพือ่ ข้ึนรูปผลติ ภณั ฑ์จากแร่ เหล็กนา้ พ้เี พ่อื สนบั สนนุ การผลติ จากการทดสอบประสทิ ธิภาพการทา้ งานของ ชุดเคร่ืองมือเพ่ือข้ึนรูปผลิตภัณฑ์จากแร่เหล็กน้าพ้ีท่ีได้ อ อ ก แ บ บ แ ล ะ พั ฒ นา ข้ึ น ร่ ว ม กั นร ะ ห ว่ า ง ผู้ วิ จั ย แ ล ะ ผู้ประกอบการวสิ าหกิจชุมชน สามารถสรุปประสทิ ธิภาพ ด้านการผลติ ได้ดังต่อไปน้ี ภาพท่ี 10 ผลิตภัณฑจ์ ากแร่เหล็กนา้ พปี้ ระเภท ภาพที่ 12 การใชแ้ รงงานตดี าบและมดี จากเหลก็ นา้ พี้ ลกู ประคา้ และพระพิมพ์ 1.ประสิทธิภาพด้านการใช้งานของเครื่อง ภาพท่ี 11 ลกั ษณะของส่วนผสมระหวา่ งดนิ เหนียวกับ ต้าผงแร่เหล็กน้าพี้ โดยได้ท้าการทดสอบด้วยการ ผงแร่เหล็กน้าพี้ ต้าก้อนแร่เหล็กน้าพ้ีด้วยการใช้เวลาท่ีแตกต่างกันเพ่ือ ประเมินประสิทธิภาพการท้างานของเคร่ืองต้าแร่เหล็ก น้าพี้ โดยนักวิจัยและกลมุ่ วิสาหกิจชุมชนผลิตภณั ฑจ์ าก เหล็กน้าพ้ี ต้าบลน้าพ้ี อ้าเภอทองแสนขัน จังหวัด อตุ รดติ ถ์ ผลการเปรียบด้านประสทิ ธิภาพในการต้าผงแร่ เหล็กด้วยแรงงานคนกับการต้าด้วยเครื่องต้าผงแร่เหลก็ พบว่าการต้าก้อนแร่เหล็กน้าพี้น้าหนัก 3 กิโลกรัม ในเวลา 3 นาที ประสทิ ธภิ าพของการต้าผงแร่เหล็กด้วย แรงงานคนได้ปริมาณผงแร่เหล็กเฉล่ีย 1.20 กิโลกรัม ส่วนการต้าด้วยเครื่องต้าผงแร่เหล็กจะได้ปริมาณผงแร่ เหล็กเฉลีย่ 1.50 กิโลกรมั ในเวลา 4 นาที ประสทิ ธภิ าพ ของการต้าผงแร่เหล็กน้าพ้ีด้วยแรงงานคนได้ปริมาณ ผงแร่เหล็กเฉลี่ย 1.36 กิโลกรัม ส่วนการต้าด้วยเครื่อง ต้าผงแร่เหล็กจะได้ปริมาณผงแร่เหล็กเฉลี่ย 1.70 กิโลกรัม และในเวลา 5 นาที ประสิทธิภาพของการ ต้าผงแร่เหล็กด้วยแรงงานคนจะได้ปริมาณผงแร่เหล็ก เฉลี่ย 1.40 กิโลกรัม สว่ นการตา้ ด้วยเครอ่ื งต้าผงแรเ่ หล็ก จะได้ปริมาณผงแร่เหล็กเฉลย่ี 2.10 กโิ ลกรมั ดังแสดงใน ตารางที่ 1 2.ประสิทธิภาพด้านการใช้งานของเครื่องนวด ส่วนผสมดินกับผงแร่เหล็กน้าพี้ โดยผู้วิจัยได้ท้าการ ทดสอบดว้ ยการใช้อัตราส่วนผสมและเวลาทีแ่ ตกต่างกัน เพ่ือนวดส่วนผสมร่วมกับน้าและดินเหนียวเพื่อหาค่า เวลาเฉล่ียท่ีใช้ในการนวดผสมที่เหมาะสมท่ีสุด แล้วท้า การเปรียบเทียบระยะเวลาที่ใช้ในการนวดผสมระหว่าง แรงงานคนกับการใชเ้ ครอ่ื งจักร ผลการทดสอบพบว่า วารสารวิชาการรับใช้สังคม มทร.ลา้ นนา 7 ปที ี่ 3 ฉบบั ที่ 2 กรกฏาคม - ธันวาคม 2562
เวลา(นาท)ี เมอื่ ท้าการเปรียบเทยี บประสิทธภิ าพการนวดผสมดนิ กับ ผงแร่เหล็กน้าพ้ีด้วยการใช้แรงงงานคนกับการนวดผสม 30 ด้วยเครื่องนวดผสมท่ีผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้นพบว่าการนวด ผสมด้วยแรงงานคนจะใช้เวลาในการนวดผสมส่วนผสม 25 ท้ังหมดให้เข้ากันจะใช้เวลาเฉล่ีย 26.32 นาที แต่การ นวดเคร่ืองนวดผสมที่พัฒนาขึ้นจะใช้เวลานวดผสม 20 คนผสม สว่ นผสมทั้งหมดใหเ้ ขา้ กันใช้เวลา 21.21 นาที โดยใช้น้า 15 เคร่ืองผสม น้ำ 40% ผสมในสัดสว่ น 40% และเมื่อท้าการเพ่ิมสดั สว่ นของน้า 10 เคร่ืองผสม น้ำ 60% เพิ่มข้ึนเป็น 60% จะใช้เวลานวดผสมดินกับผงแร่เหล็ก 5 ให้เข้ากันเร็วขึ้นโดยใช้เวลาเฉล่ีย 16.39 นาที ดังแสดง ตามภาพท่ี 13 0 3.ประสิทธิภาพด้านการใชง้ านของเคร่ืองตีดาบ ภาพที่ 13 การเปรียบเทียบประสทิ ธภิ าพการใช้ และมดี เหล็กน้าพี้ ตามทผี่ ู้วจิ ัยไดท้ า้ การทดสอบดว้ ยการ แรงงานคนกับการนวดผสมด้วยเครอ่ื งนวดผสม ใช้ก้อนเหล็กน้าพ้ีและเวลาในการตีข้ึนรูปที่แตกต่างกัน เพื่อประเมินประสิทธิภาพการท้างานของเครื่องตีดาบ ประสิทธิภาพการใช้เคร่ืองนวดผสมดินกับผงแร่เหล็ก และมีดเหล็กน้าพ้ี ซ่ึงผลการทดสอบประสิทธิภาพแสดง น้าพ้ี ปริมาณ 5 กิโลกรัม ดินเหนียว 10 กิโลกรัม ต่อน้า ไวด้ ังตารางท่ี 3, 4 และตารางที่ 5 60% สามารถนวดส่วนผสมท้ังหมดให้เข้ากันใช้เวลา เฉลี่ย เท่ากับ 16.39 นาที ดังแสดงในตารางท่ี 2 และ ตารางที่ 1 แสดงผลการเปรียบด้านประสิทธิภาพในการต้าผงแร่เหล็กน้าพ้ีด้วยแรงงานคนกับการต้าด้วยเครื่อง ต้าผงแรเ่ หลก็ น้าพ้ี ประสิทธภิ าพของการต้าผงแรเ่ หล็กน้าพ้ีดว้ ย ประสทิ ธิภาพของการตา้ ผงแรเ่ หลก็ น้าพี้ด้วย แรงงานคน เคร่ืองตา้ ผงแรเ่ หลก็ น้าพี้ น้าหนักของ เวลา ปรมิ าณผงแร่ % น้าหนกั ของกอ้ น เวลา ปริมาณผงแรเ่ หลก็ % ก้อนแรก่ ่อนตา้ (นาที) เหล็กนา้ พ้ที ีไ่ ด้ แรก่ อ่ นตา้ (นาที) น้าพี้ท่ไี ด้ (กิโลกรมั ) (กโิ ลกรัม) (กิโลกรัม) (กโิ ลกรัม) 40% 3 3 1.50 50% 33 1.20 45% 3 4 1.70 56% 34 1.36 46% 3 5 2.10 70% 35 1.40 43% คา่ เฉลยี่ ปรมิ าณผงแร่ 1.77 59% 1.32 คา่ เฉลี่ยปรมิ าณผงแร่ ตารางที่ 2 แสดงประสิทธิภาพการทา้ งานของเครอ่ื งนวดผสมผงแรเ่ หลก็ นา้ พี้ต่อน้า 60% คร้งั ทท่ี ดสอบ เวลา (นาท)ี ปรมิ าณน้า (%) หมายเหตุ 1 19.39 60 ส่วนผสม ผงแร่เหล็กนา้ พี้ 2 15.55 60 5 ก.ก. / ดนิ เหนยี ว 10 ก.ก. 3 16.47 60 4 15.22 60 5 15.34 60 16.39 คา่ เฉล่ยี 8 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
ตารางที่ 3 ค่าการยุบตวั ของเหล็กน้าพหี้ น้าตดั กลม ลักษณะหนา้ ตัด ขนาด คร้งั ท่ี ค่ายบุ ตวั ของแผน่ เหลก็ (มลิ ลิเมตร)/ หมายเหตุ เส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 1 เวลาในการตี (วนิ าที) 2 (มิลลเิ มตร) 3 49 วนิ าที 44 วินาที 39 วนิ าที 7.9 เฉลยี่ 5.7 4.8 2.5 9.7 1 5.6 4.5 3.1 13 2 5.7 4.7 3.1 3 5.66 4.66 2.9 เฉลี่ย 6.6 5.9 4.8 1 6.9 5.8 4.5 2 6.9 5.9 4.8 3 6.8 5.86 4.7 เฉลีย่ 9.2 8 6.2 8.9 7.8 5.9 9 8 6.2 9.03 7.93 6.1 ตารางที่ 4 การยุบตวั ของเหลก็ นา้ พห้ี นา้ ตัดสเ่ี หลี่ยมจัตรุ ัส ขนาด คา่ ยุบตวั ของแผน่ เหลก็ (มลิ ลเิ มตร)/ ลกั ษณะหนา้ ตดั กวา้ งxยาว ครั้งที่ เวลาในการตี (วนิ าท)ี หมายเหตุ (มิลลิเมตร) 54 วนิ าที 49 วินาที 44 วนิ าที 8.3x8.3 1 6.5 5.8 4.3 9.8x9.8 2 6.4 6 4.2 13.8x13.8 3 6.5 5.7 4.3 เฉล่ีย 6.46 5.83 4.26 1 7.8 6.8 5.1 2 8 7 5.6 3 7.8 7 5.6 เฉล่ีย 7.86 6.93 5.43 1 7.4 6.3 4 2 7.6 6.1 3.4 3 7.4 6.1 4 เฉล่ยี 7.46 6.16 3.8 วารสารวชิ าการรับใชส้ ังคม มทร.ล้านนา 9 ปีท่ี 3 ฉบับท่ี 2 กรกฏาคม - ธันวาคม 2562
ตารางที่ 5 การยุบตัวของเหล็กน้าพี้หน้าตัดสเ่ี หลย่ี มผนื ผา้ ขนาด คา่ ยบุ ตัวของแผน่ เหลก็ (มิลลิเมตร)/ ลักษณะหน้าตดั กวา้ งxยาว ครง้ั ท่ี เวลาในการตี(วินาท)ี หมายเหตุ (มิลลิเมตร) 49 วินาที 44 วินาที 39 วินาที 2.6x25.3 1 2 1.6 1.1 2 1.9 1.5 1 3 2 1.5 1 เฉลย่ี 1.96 1.53 1.03 4.2x25.3 1 2.4 1.8 1.5 2 2.2 1.7 1.4 3 2.2 1.8 1.5 เฉลีย่ 2.26 1.76 1.46 6x25.3 1 3.7 2.6 1.6 2 3.8 2.4 1.6 3 3.7 2.2 1.6 เฉลย่ี 3.73 2.4 1.6 ผ ล ก า รป ระเ มิน ระดับ ก า รยอ ม รับ เทค โนโลยี ทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่เป็นพื้นท่ีเป้าหมายของ ชุดเครื่องมอื เพ่อื ขน้ึ รูปผลติ ภัณฑ์จากแร่เหลก็ นา้ พี้ โครงการวจิ ัย ประกอบด้วย ส้ า ห รั บ ก าร ป ร ะเ มินร ะ ดับ ก าร ยอ มรับ 1. กลุ่มตีดาบเหล็กน้าพี้ หมู่ที่ 1 ต้าบลน้าพ้ี เทคโนโลยชี ุดเครื่องมือเพื่อข้ึนรปู ผลิตภัณฑจ์ ากแร่เหล็ก จา้ นวน 10 คน น้าพ้ีที่ออกแบบและพัฒนาขึ้น ผู้วิจัยได้ท้าการเก็บ ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล จ า ก ก ลุ่ ม ตั ว อ ย่ า ง ซึ่ ง เ ป็ น ก ลุ่ ม ผู้ ผ ลิ ต 2. กลุ่มผลิตลูกประค้าแร่เหล็กน้าพี้ หมู่ที่ 2 ผลิตภัณฑ์จากแร่เหล็กน้าพี้ ต้าบลน้าพ้ี อ้าเภอ ตา้ บลน้าพี้ จ้านวน 15 คน 3. กลมุ่ ผลติ พระพมิ พ์ผสมแร่เหล็กน้าพ้ี หมทู่ ี่ 4 ต้าบลน้าพ้ี จา้ นวน 12 คน ตารางท่ี 6 แสดงคา่ เฉลีย่ ระดับของการยอมรับเทคโนโลยเี คร่ืองต้าผงแรเ่ หล็กน้าพี้ ที่ ประเดน็ การประเมนิ X S.D. ระดบั การยอมรบั 1. การยอมรบั ด้านโครงสร้าง สว่ นประกอบ/การใชง้ าน 4.45 0.65 1.1 เครื่องตา้ ผงแรเ่ หล็กนา้ พ้ี มกี ารออกแบบโครงสร้างและ มาก สว่ นประกอบอยา่ งแขง็ แรงทาน มาก 1.2 เครือ่ งตา้ ผงแรเ่ หล็กน้าพ้ี สามารถใชง้ านไดง้ า่ ย เน่ืองจาก 4.54 0.70 มากท่สี ุด ระบบ กลไกไมม่ ีความซับซ้อน มากทีส่ ุด 1.3 เครื่องต้าผงแรเ่ หลก็ นา้ พี้สามารถบา้ รงุ รักษาและซอ่ มแซมได้ 4.88 0.76 ง่ายดว้ ยตัวของผู้ใชง้ านเอง 1.4 เครอ่ื งตา้ ผงแรเ่ หล็กนา้ พี้ เหมาะสมกับการนา้ ไปใชก้ บั 4.85 0.47 ลักษณะการทา้ งานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน 10 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
ท่ี ประเดน็ การประเมิน X S.D. ระดบั การยอมรบั 1.5 เครอ่ื งตา้ ผงแรเ่ หลก็ นา้ พ้ี สามารถตา้ ผงแร่เหล็กนา้ พไ้ี ด้ 0.64 มากทีส่ ุด 4.87 ละเอียดเหมาะกับการน้าไปใชเ้ พ่อื ผลผลติ ผลติ ภณั ฑ์ 0.54 มากที่สุด 2. การยอมรบั ในด้านประโยชน์ทีไ่ ด้รบั 4.93 0.61 มากทส่ี ดุ 2.1 เคร่ืองตา้ ผงแรเ่ หลก็ น้าพี้ มคี วามเหมาะสมทจี่ ะน้าไปทดแทน 4.98 0.00 มากท่สี ุด 5.00 0.40 มากทส่ี ุด การต้าผงแรด่ ว้ ยแรงงานคน 4.87 0.75 มากที่สดุ 2.2 เครื่องต้าผงแร่เหลก็ นา้ พ้ี สามารถลดต้นทุนในการผลติ และ 4.96 4.83 - มากทสี่ ุด ระยะเวลาในการต้าผงแร่ได้เป็นอยา่ งดี 2.3 เครื่องตา้ ผงแร่เหลก็ นา้ พี้ ช่วยเพ่มิ ผลผลติ ให้กับกลมุ่ วสิ าหกจิ ชุมชน 2.4 เครอ่ื งต้าผงแร่เหล็กนา้ พี้ สามารถนา้ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับ การพัฒนาศกั ยภาพของกลุ่มวิสากิจชมุ ชนไดอ้ ย่างหย่ังยืน 2.5 ทา่ นใหก้ ารยอมรับตอ่ ประโยชน์ที่ไดร้ บั จากเทคโนโลยเี ครอ่ื ง ตา้ ผงแรเ่ หลก็ นา้ พ้ี อย่ใู นระดบั ใด รวม ตารางท่ี 7 ระดับของการยอมรบั เทคโนโลยเี ครื่องนวดสว่ นผสมดนิ กับผงแร่เหล็กนา้ พี้ ที่ ประเดน็ การประเมิน X S.D. ระดบั การยอมรบั 0.65 มาก 1. การยอมรบั ด้านโครงสรา้ ง ส่วนประกอบ/การใชง้ าน 4.43 0.70 มาก 1.1 เครอ่ื งนวดส่วนผสมดนิ กับผงแร่เหล็กน้าพี้ มีการออกแบบ 4.66 0.76 4.89 0.47 มากทสี่ ดุ โครงสร้างและส่วนประกอบอยา่ งแขง็ แรงทาน 3.24 0.64 ปานกลาง 1.2 เครือ่ งนวดส่วนผสมดนิ กับผงแรเ่ หล็กนา้ พี้ สามารถใช้งานได้ 4.96 มากทสี่ ดุ 0.77 ง่าย เน่อื งจากระบบ กลไกไมม่ ีความซบั ซ้อน 0.54 มากที่สุด 1.3 เครอ่ื งนวดสว่ นผสมดนิ กบั ผงแรเ่ หล็กน้าพี้สามารถบา้ รุงรกั ษา 0.61 มากที่สดุ มากทส่ี ดุ และซ่อมแซมได้งา่ ยด้วยตัวของผูใ้ ช้งานเอง 1.4 เครือ่ งนวดส่วนผสมดนิ กับผงแร่เหลก็ น้าพี้ เหมาะสมกบั การ นา้ ไปใชก้ บั ลกั ษณะการท้างานของกลมุ่ วิสาหกจิ ชุมชน 1.5 เคร่ืองนวดสว่ นผสมดินกับผงแรเ่ หลก็ น้าพ้ี สามารถนวดผสม ผงแร่เหลก็ นา้ พ้เี ข้ากนั ไดเ้ ป็นอยา่ งดเี หมาะกับการน้าไปใชเ้ พอื่ ผลผลติ ผลติ ภัณฑ์ 2. การยอมรับในด้านประโยชน์ท่ีไดร้ ับ 2.1 เครอ่ื งนวดส่วนผสมดินกบั ผงแร่เหล็กนา้ พ้ี มีความเหมาะสมที่ 5.00 จะนา้ ไปทดแทนการนวดผสมด้วยแรงงานคน 4.93 4.98 2.2 เครอ่ื งนวดส่วนผสมดนิ กับผงแร่เหลก็ นา้ พ้ี สามารถลดตน้ ทุน ในการผลติ และระยะเวลาในการนวดผสมผงแรไ่ ด้เป็นอยา่ งดี 2.3 เครื่องนวดส่วนผสมดนิ กบั ผงแร่เหลก็ น้าพ้ี ชว่ ยเพ่มิ ผลผลิต ใหก้ ับกลมุ่ วสิ าหกิจชุมชน วารสารวชิ าการรับใช้สังคม มทร.ล้านนา 11 ปที ี่ 3 ฉบับที่ 2 กรกฏาคม - ธันวาคม 2562
ท่ี ประเดน็ การประเมนิ X S.D. ระดบั การยอมรบั 2.4 เครื่องนวดส่วนผสมดนิ กบั ผงแร่เหล็กน้ำพี้ สำมำรถน้ำไปใชใ้ ห้ 0.00 มำกที่สุด 5.00 เกิดประโยชน์กบั กำรพัฒนำศกั ยภำพของกลุ่มวสิ ำกิจชุมชนได้ 0.40 มำกทสี่ ุด อยำ่ งยงั่ ยืน 4.89 - มาก 2.5 ท่ำนให้กำรยอมรบั ตอ่ ประโยชน์ท่ีไดร้ ับจำกเทคโนโลยเี ครอ่ื ง 4.69 นวดส่วนผสมดินกับผงแร่เหล็กน้ำพี้ อย่ใู นระดบั ใด S.D. ระดบั การยอมรบั 0.64 มำก รวม 0.73 มำก 0.78 มำกที่สดุ ตารางท่ี 8 ระดบั ของกำรยอมรับเทคโนโลยีเครอื่ งตีดำบและมีดเหล็กน้ำพ้ี 0.41 มำก ที่ ประเดน็ การประเมนิ 0.68 มำกทส่ี ุด X 0.70 มำกทส่ี ดุ 1. การยอมรบั ด้านโครงสร้าง ส่วนประกอบ/การใชง้ าน 4.24 0.52 มำก 1.1 เครอ่ื งตีดำบ-มดี เหลก็ น้ำพี้ มีกำรออกแบบโครงสร้ำงและ 0.69 มำกทสี่ ดุ ส่วนประกอบอย่ำงแขง็ แรงทำน 0.00 มำกทสี่ ุด 1.2 เคร่ืองตีดำบ-มดี เหลก็ น้ำพ้ี สำมำรถใชง้ ำนไดง้ ่ำย เนอื่ งจำก 4.61 0.48 มำกทส่ี ดุ ระบบ กลไกไม่มีควำมซับซ้อน 1.3 เคร่ืองตีดำบ-มดี เหล็กนำ้ พ้ีสำมำรถบำ้ รงุ รักษำและซ่อมแซมได้ 4.83 - มาก งำ่ ยด้วยตัวของผู้ใชง้ ำนเอง 1.4 เคร่ืองตีดำบ-มดี เหลก็ นำ้ พ้ี เหมำะสมกับกำรนำ้ ไปใช้กับ 4.24 ลกั ษณะกำรท้ำงำนของกลุ่มวิสำหกิจชมุ ชน 1.5 เครอ่ื งตีดำบ-มดี เหลก็ น้ำพี้ สำมำรถตขี ้ึนรูปผลติ ภัณฑ์ดำบ-มดี 4.76 เหล็กน้ำพไ้ี ดเ้ ปน็ อยำ่ งดีเหมำะกบั กำรน้ำไปใชเ้ พื่อผลผลิต ผลิตภณั ฑข์ องกล่มุ วสิ ำหกจิ ชุมชน 2. การยอมรับในด้านประโยชน์ที่ได้รับ 2.1 เครื่องตีดำบ-มดี เหลก็ นำ้ พ้ี มคี วำมเหมำะสมทีจ่ ะน้ำไปทดแทน 4.80 กำรตขี ึน้ รปู ดว้ ยแรงงำนคน 4.43 4.88 2.2 เครื่องตีดำบ-มดี เหลก็ นำ้ พี้ สำมำรถลดตน้ ทุนในกำรผลติ และ 4.90 ระยะเวลำในกำรตีข้นึ รูปเหล็กน้ำพี้ได้เปน็ อย่ำงดี 4.79 4.64 2.3 เครื่องตีดำบ-มีดเหล็กนำ้ พ้ี ชว่ ยเพมิ่ ผลผลิตใหก้ ับกลุม่ วสิ ำหกจิ ชมุ ชน 2.4 เครื่องตีดำบ-มีดเหลก็ น้ำพี้ สำมำรถนำ้ ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ กับกำรพฒั นำศักยภำพของกลุ่มวสิ ำกิจชุมชนได้อยำ่ งยั่งยืน 2.5 ทำ่ นให้กำรยอมรับตอ่ ประโยชน์ที่ไดร้ บั จำกเครือ่ งตดี ำบ-มีด เหล็กนำ้ พี้ อยูใ่ นระดับใด รวม 12 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
ผลการวิเคราะหต์ ้นทุนการใช้งานชุดเครือ่ งมอื เพื่อขึ้น 1 : 17 รอบ ความเร็วรอบที่ปลายเพลาแกนหมุนของ รูปผลิตภณั ฑ์จากแรเ่ หลก็ น้าพ้ี ชุดพลูเลย์เท่ากับ 80 รอบต่อนาที ในขณะที่เคร่ืองฯ ท้างานโดยมีโหลดอัตราการกินกระแส 12.8 Amp เพื่อให้ได้ข้อมูล ต้ นทุ น ที่ แ ท้จริ งเ มื่ อ น้ า แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ ซ่ึงผลจากการค้านวณพบว่า เครื่องจักรกลการผลิตทั้ง 3 เครื่องท่ีผู้วิจัยได้ออกแบบ เครื่องตีดาบ-มีดเหล็กน้าพ้ี ใช้ก้าลังไฟฟ้า 2.816 และพัฒนาขึ้นร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนไปใช้งาน กโิ ลวัตต/์ ช่วั โมง และมีค่าใช้จา่ ยไฟฟ้าเม่ือใช้งานในเวลา ประกอบด้วย เครื่องต้าผงแร่ เคร่ืองนวดผสมแร่ และ 1 ช่วั โมง เท่ากับ 6.9 บาท/ชั่วโมง ค่าใชจ้ า่ ยไฟฟา้ เมื่อใช้ เคร่ืองตีดาบและมีดเหล็กน้าพื้ โดยการค้านวณต้นทุน งาน 1 วัน (8 ชั่วโมง) เท่ากับ 136.9 บาท/วัน และมี การใช้งานด้านค่าพลังงานไฟฟ้าซ่ึงเป็นต้นทุนหลักใน ค่าใช้จ่ายไฟฟ้าเม่ือใช้งาน 1 เดือน (30 วัน) เท่ากับ การน้าเคร่ืองจักรไปใช้งาน (Donnell Hunt, 1976) 3,134 บาท/เดอื น สามารถสรุปได้ดังน้ี อภิปรายผลการวจิ ัย ผ ล ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ เ พื่ อ ค้ า น ว ณ ห า ต้ น ทุ น ค่ า การพัฒนาชุดเคร่ืองมือเพ่ือข้ึนรูปผลิตภัณฑ์ กระแสไฟฟ้าเมื่อมีการใช้งานเคร่ืองต้าผงแร่เหล็กน้าพี้ จากแร่เหล็กน้าพ้ีเพ่อื เพ่มิ ขีดความสามารถของวสิ าหกจิ ออกแบบให้ใช้ต้นก้าลังขับจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีแรงม้า ชุมชนกลุ่มผลิตภัณฑ์จากแร่เหล็กน้าพ้ี อ้าเภอ ขนาด ¼ ความเร็วรอบ 1,440 รอบตอ่ นาที มีอัตราทด ทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ ก้าลัง 1 : 17 รอบ ความเร็วรอบท่ีปลายเพลาแกนหมุน 1) ก้ า ห น ด ส ม ร ร ถ น ะ ข อ ง ชุ ด เ ค ร่ื อ ง มื อ เ พ่ื อ ขึ้ น รู ป ของชุดพลเู ลยเ์ ท่ากบั 80 รอบต่อนาที ในขณะทีเ่ คร่ืองฯ ผลิตภัณฑ์จากแร่เหล็กน้าพ้ีที่ตรงกับความต้องการของ ท้างานโดยมีโหลดอัตราการกินกระแส 7.8 Amp ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร ใ น ท้ อ ง ถิ่ น ร ะ ดั บ วิ ส า ห กิ จ ชุ ม ช น แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ ซึ่งผลจากการค้านวณพบว่า 2)ออกแบบและพัฒนาชุดเคร่ืองมือเพื่อข้ึนรูปผลิตภัณฑ์ เคร่อื งตา้ ผงแร่เหล็กนา้ พ้ี ใช้ก้าลงั ไฟฟ้า 1.761 กโิ ลวัตต์/ ท่ีเหมาะสมในกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์จากแร่เหล็ก ชัว่ โมง และมีคา่ ใช้จ่ายไฟฟ้าเมื่อใชง้ านในเวลา 1 ชั่วโมง นา้ พี้ 3)ประยุกตใ์ ช้ชุดเคร่ืองมือเพ่อื ข้ึนรูปผลติ ภัณฑ์จาก เท่ากับ 4.17 บาท/ช่ัวโมง ค่าใช้จ่ายไฟฟ้าเมื่อใช้งาน แร่เหล็กน้าพี้เพื่อสนับสนุนการผลิตของผู้ประกอบการ 1 วนั (8 ช่ัวโมง) เท่ากบั 33.36 บาท/วนั และมีคา่ ใชจ้ ่าย ในท้องถ่ินระดับวิสาหกิจชุมชน ซึ่งผลจากการด้าเนิน ไฟฟ้าเม่ือใช้งาน 1 เดือน (30 วัน) เท่ากับ 1,000 บาท/ งานวิจัยนี้จะน้าไปสู่การส่งเสริมและยกระดับมาตรฐาน เดอื น การผลิต การเพ่ิมผลผลิต และการเพ่ิมคุณภาพของ ผลิตภัณฑ์ รวมท้ังยังก่อให้เกิดการลดต้นทุนการผลิต ผลการวิเคราะหต์ ้นทุนค่ากระแสไฟฟ้าจากการ และลดปัญหาด้านการขาดแคลนแรงงานในภาคการ ใ ช้ ง า น ข อ ง เ ค รื่ อ ง น ว ด ผ ส ม ดิ น กั บ ผ ง แ ร่ เ ห ล็ ก น้ า พ้ี ผลิตในระดับการผลิตกลุ่มวิสาหกิจชุมชนด้วยการใช้ ออกแบบให้ใช้ต้นก้าลังขับจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีแรงม้า เทคโนโลยเี ครือ่ งจกั รกลการผลิตที่เหมาะสมกับลักษณะ ขนาด 2 ความเร็วรอบ 1,440 รอบต่อนาที มีอัตราทด การใช้งานของกลุ่มผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชุนชนจากแร่เหล็ก ก้าลัง 1 : 30 รอบ ความเร็วรอบที่ปลายเพลาแกนหมุน น้าพี้ จากผลการศึกษาเปรียบเทียบจะเห็นว่าชุด ของชุดพลูเลย์เท่ากับ 40 รอบต่อนาที ในขณะที่เครื่อง เคร่ืองมือเพื่อขึ้นรูปผลิตภัณฑ์จากแร่เหล็กน้าพ้ีที่ผู้วิจัย ท้างานโดยมีโหลดอัตราการกินกระแส 2.2 Amp ได้น้าไปถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่การใช้งานจริงน้ันสามารถ แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ซึ่งผลจากการค้านวณพบว่า ก่อให้เกิดการเพิ่มผลผลิตและพัฒนาประสิทธิภาพด้าน เครื่องนวดผสม ใช้ก้าลังไฟฟ้า 0.48 กิโลวัตต์/ชั่วโมง การผลิตของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนได้เป็นอย่างดี (พินิจ และมีคา่ ใชจ้ ่ายไฟฟ้าเม่ือใชง้ านในเวลา 1 ชั่วโมง เท่ากับ เน่ืองภิรมย์, 2562) จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นการสร้าง 1.29 บาท/ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายไฟฟ้าเมื่อใช้งาน 1 วัน คุณค่าตามทฤษฎีห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ตาม (8 ชัว่ โมง) เท่ากบั 10.32 บาท/วัน และมีค่าใช้จา่ ยไฟฟ้า แนวคิดของ (Michael E. Porter, 1985) ในส่วนของ เมือ่ ใช้งาน 1 เดอื น (30 วนั ) เท่ากับ 309.6 บาท/เดือน กิจกรรมสนับสนุนเป็นที่ช่วยส่งเสริมให้กิจกรรมหลัก สามารถด้าเนินไปได้ ในด้านของ Technology ผลการวิเคราะหต์ ้นทนุ คา่ กระแสไฟฟ้าจากการ ใช้งานของเครื่องตดี าบและมีดเหล็กนา้ พ้ี ออกแบบให้ใช้ ต้ น ก้ า ลั ง ขั บ จ า ก ม อ เ ต อ ร์ ไ ฟ ฟ้ า ที่ มี แ ร ง ม้ า ข น า ด 1 ความเร็วรอบ 1,440 รอบต่อนาที มีอัตราทดก้าลัง วารสารวิชาการรบั ใชส้ งั คม มทร.ลา้ นนา 13 ปีที่ 3 ฉบบั ที่ 2 กรกฏาคม - ธนั วาคม 2562
Development ซ่ึงเป็นกิจกรรมเกี่ยวกับการพัฒนา ทดแทนแรงงานคน ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปญั หาระยะยาว เทคโนโลยีท่ีช่วยในการเพ่ิมคุณค่าให้สินค้าและบริการ ใหก้ บั วสิ าหกจิ ชมุ ชนในท้องถ่ินท่ีต่อไปจะเกิดสภาวะการ หรือกระบวนการผลิต และผลจากการศึกษาถึงระดับ ขาดแคลนแรงงานมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดีการใช้งาน ความพึงพอใจที่มีต่อชุดเครื่องมือเพื่อข้ึนรูปผลิตภัณฑ์ เครื่องจักรกลการผลิตในระยะยาวจ้าเป็นต้องมีการ จากแร่เหล็กน้าพ้ีของกลุ่มผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากแร่เหล็ก บ้ารุงรักษาและซ่อมแซมตามอายุการใช้งาน ดังนั้นจึงมี น้าพ้ี อ้าเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ซ่ึงได้เข้ารับ ความจ้าเป็นอย่างย่ิงท่ีต้องมีระบบการบริหารจัดการ การถ่ายทอดเทคโนโลยี จ้านวน 37 คน ท่ีมีต่อ เคร่ืองจักรกลที่ดี โดยผู้วิจัยได้วางระบบและจัดท้าคู่มือ ประสิทธิภาพการท้างานเคร่ืองจักรกลการผลิตท่ีได้รับ ส้าหรับการบ้ารุงรักษาด้วยตนเองเป็นเคร่ืองมือในการ การถ่ายทอดเทคโนโลยี พบว่า ความพึงพอใจของ บริหารจัดการ โดยการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารขึ้น ผู้ประกอบการกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ด้านคุณลักษณะที่ ภ า ย ใ น ชุ ม ช น เ พื่ อ ร่ ว ม กั น ดู แ ล รั ก ษ า แ ล ะ ซ่ อ ม บ้ า รุ ง เหมาะสมกับการใช้งานของเคร่ืองจักรกลการผลิต โดย เครอื่ งจักร ซงึ่ จะเป็นการธ้ารงรกั ษาให้เครื่องจกั รกลการ ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ผลิตสามารถท้างานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดอายุ พบวา่ ข้อทมี่ คี ่าเฉลยี่ สงู สุด ไดแ้ ก่ คุณภาพของผลผลิตท่ี การใช้งานของเครอ่ื งจกั รตอ่ ไป ได้จากเครื่องจักรกลการผลติ มีความเหมาะสมกับการใช้ สรุปผลการวจิ ยั งานรองลงมา ได้แก่ สามารถน้าไปใช้ทดแทนแรงงานคน ระยะเวลาที่ใช้ในการท้างานมีความเหมาะสม ซ่งึ เป็นผล การวจิ ัยน้เี ป็นงานวจิ ัยแบบผสมผสาน ระหว่าง มาจากการออกแบบเครื่องจักรกลการผลิต ไดถ้ กู ออกแบบ การวิจัยเชิงคุณภาพในกระบวนการศึกษาบริบทของ จากการศึกษาความต้องการของผู้ใช้งานก่อน (อ้านวยพศ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน การวิจัยเชิงปฏิบัติการ ใน ทองค้า, 2559) จงึ สามารถทา้ ให้ได้ข้อมลู ความต้องการและ ก ร ะ บ ว นก า ร ก้ า ห นด ส ม ร ร ถ นะ แ ล ะ อ อ ก แ บ บ ความคาดหวังที่แท้จริงจากผู้ใช้งานท่ีมีต่อเทคโนโลยีที่ เครือ่ งจักรกลการผลติ ที่เหมาะสมกบั การใช้งานของกลุ่ม ตอ้ งการจงึ ทา้ ใหส้ ามารถออกแบบเคร่ืองจักรกลการผลิต วิสาหกิจชุมชน และการวิจัยเชิงปริมาณในกระบวนการ เพอื่ ทุน่ แรงได้ตรงกับความต้องการของทางกล่มุ ได้อย่าง ถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อศึกษาระดับการยอมรับชุด มากที่สุด ซ่ึงสอดคล้องกับแนวคิดการมีส่วนร่วมของ เครื่องมือข้ึนรูปผลิตภัณฑ์จากแร่เหล็กน้าพ้ีท่ีพัฒนาขึ้น บราวน์และโมเบอร์ก (Brown and Moberg, 1980) ที่ เ พ่ื อ เ พ่ิ ม ขี ด ค ว า ม ส า ม า ร ถ ข อ ง วิ ส า ห กิ จ ชุ ม ช น ก ลุ่ ม กล่าวถึงการมีส่วนร่วมว่าเป็นกระบวนการซ่ึงบุคคล ผลิตภัณฑ์จากแร่เหลก็ น้าพ้ี ซึ่งข้อสรปุ มีรายละเอียดดงั น้ี ต้ั ง แ ต่ ส อ ง ค น ขึ้ น ไ ป มี อิ ท ธิ พ ล ซึ่ ง กั น แ ล ะ กั น ใ น ก า ร ตัดสินใจที่จะส่งผลกระทบต่อพวกของเขาเองในอนาคต ผลจากการเปรียบประสิทธิภาพในต้าผงแร่ ซ่ึงอาจจะถูกก้าหนดขึ้นมาอยา่ งเปน็ ทางการหรอื อาจจะ เหลก็ นา้ พ้ีดว้ ยแรงงานคนกับการต้าด้วยเครื่องตา้ พบวา่ ได้รับการสนับสนุนอย่างไมเ่ ป็นทางการก็ได้จากกลุ่มคน การต้าก้อนแร่เหล็กน้าพี้ปริมาณ 3 กิโลกรัม ในเวลา ทไ่ี ด้ท้าการตดั สนิ ใจร่วมกัน 5 นาที ประสิทธิภาพของการต้าด้วยแรงงานคนจะได้ การนาไปใช้ประโยชน์ ปรมิ าณผงแรเ่ หลก็ น้าพ้ีเฉลี่ย 1.60 กโิ ลกรัม สว่ นการต้า ด้วยเครื่องต้าจะได้ปริมาณผงแร่เหล็กน้าพ้ีเฉล่ีย 1.98 - ผลจากการทผี่ ้วู ิจยั ได้นา้ ชดุ เครือ่ งมือเพ่ือข้ึนรูป 2 กิโลกรัม ซ่ึงเท่ากับว่าเคร่ืองต้ามีอัตราการผลิตท่ี ผลิตภัณฑ์จากแร่เหล็กน้าพี้ท่ีออกแบบและพัฒนาขึ้น 24 กิโลกรัม/ชั่วโมง และเม่ือคิดอัตราการผลิตใน ร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนไปถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่การ ระยะเวลา 1 วันหรือ 8 ชั่วโมงท้างาน เท่ากับว่าเคร่ือง ใช้งานจริงสามารถกอ่ ให้เกิดการเพิม่ ผลผลิตและพฒั นา ต้ามีอัตราการผลิตที่ 192 กิโลกรัม/วัน โดยมีต้นทุน ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ด้ า น ก า ร ผ ลิ ต ข อ ง วิ ส า ห กิ จ ชุ ม ช นก ลุ่ ม คา่ ใชจ้ า่ ยไฟฟ้าเม่ือใช้งาน 8 ชั่วโมง เท่ากบั 33.36 บาท/ ผลิตภัณฑ์จากแร่เหลก็ น้าพ้ี อ้าเภอทองแสนขัน จังหวัด วัน ส่วนการต้าด้วยแรงงานคนแต่ละครั้งจะใช้เวลา อุตรดิตถ์ ได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นเครื่องจักรกล ประมาณ 30 นาที ได้น้าหนักผงแร่ประมาณ 0.8 –1 การผลิตที่สามารถทุ่นแรงและ เอื้อประโยชน์ต่อ กิโลกรัม ค่าจ้างต้าผงแร่เหล็กน้าพี้มีราคา 10 บาท/ ผ้ปู ระกอบการในทอ้ งถิ่นไดอ้ ย่างมากในด้านการนา้ ไปใช้ กิโลกรัม ซึ่งในวันหนึ่งจะท้าให้ชาวบ้านที่รับจ้างต้าแร่ สามารถต้าแร่ได้ประมาณ 16–20 กิโลกรัม ซ่ึงเม่ือท้า 14 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
การเปรียบเทียบก้าลังการผลิตแล้วพบว่าการต้าผงแร่ (8 ช่ัวโมง) เท่ากับ 136.9 บาท/วัน และสามารถลดการ เหล็กน้าพี้ในระยะเวลา 1 วันหรือ 8 ช่ัวโมงท้างาน จะ ใช้แรงงงานได้ 1 คน จึงมีผลท้าให้ทางกลุ่มสามารถลด เห็นไดว้ ่าการต้าดว้ ยแรงงานคนจะให้อัตราการผลติ เพียง ค่าใช้จา่ ยรวมต่อวันเหลือเพยี ง 1,137 บาท/วนั จงึ ท้าให้ 20 กิโลกรัม/วัน ต้นทุนค่าแรงงานที่ผู้ประกอบการต้อง ประหยัดค่าจ้างแรงงงานได้ถึงวันละ 863 บาท/วัน แต่ จ่ายคือ 200 บาท ส่วนการต้าด้วยเคร่ืองต้าผงแร่จะมี ก้าลังการผลิตยังสามารถผลิตดาบเหล็กน้าพ้ีได้วันละ อัตราการก้าลังการผลิตสูงถึง 192 กิโลกรัม/วัน ต้นทุน 2 เลม่ เท่าเดมิ ค่าไฟฟ้าที่ผู้ประกอบการต้องจ่ายคือ 33.36 บาท/วัน กติ ติกรรมประกาศ นั้นเท่ากับว่าผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุนค่าจ้าง แรงงานได้ถึงวันละ 167 บาท/วัน แต่ก้าลังการผลิต ผู้วิจัยขอขอบคุณสา้ นักงานคณะกรรมการวจิ ัย เพม่ิ ขึ้น 172 กิโลกรมั /วัน เมื่อมกี ารนา้ เครอ่ื งตา้ ผงแร่มา แห่งชาติ (วช.) อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ ใช้แทนวิธกี ารตา้ ดว้ ยแรงงานคน และกลุม่ วสิ าหกจิ ชุมชนต้าบลนา้ พ้ี ทใ่ี ห้ขอ้ มลู ต่าง ๆ ซึ่ง มคี วามสา้ คัญในการท้างานวจิ ยั ครัง้ นี้ ผ ล ก า ร เ ป รี ย บ เ ที ย บ ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ก า ร น ว ด บรรณานกุ รม สว่ นผสมดินกบั ผงแรเ่ หลก็ น้าพี้ในสัดสว่ นท่กี ้าหนดคือผง ณัฐชนันท์ ปลายเนตร และ ศุภชัย ปลายเนตร. 2554. แร่เหล็กน้าพ้ี 5 กิโลกรัม ดินเหนียว 10 กิโลกรัม ต่อน้า 40% และ 60% โดยการด้วยการใช้แรงงงานคนในการ การพัฒนาระบบพีแอลซีส้าหรับเครื่องตีเหล็กมีด นวดผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันใช้เวลาเฉล่ีย 26.32 พร้าขนาดชุมชน.รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ นาที ส่วนการใช้เครื่องนวดผสมดินกับผงแร่เหล็กน้าพี้ มหาวิทยาลยั นครพนม. 5 กิโลกรัม ดินเหนียว 10 กิโลกรัม ต่อน้า 40% จะใช้ ณงค์ณุช นทีพยัพทิศ. 2559. การถ่ายทอดความรู้เชิง เวลาในการนวดผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันใช้เวลา นวัตกรรมแบบมีส่วนร่วม : หัตถกรรมผ้าทอจก เฉล่ีย 21.21 นาที และเมื่อปรับอัตราส่วนโดยการเพ่ิม บา้ นแม่ขมี้ ูก. วารสารวิชาการรับใช้สังคม มทร. ปริมาณน้าเป็น 60% สามารถนวดส่วนผสมท้ังหมดให้ ล้านนา 2(1); 17-23. เข้ากันใช้เวลาเฉลี่ยที่ลดลงเท่ากับ 16.39 นาที โดยมี ดวงเดอื น สมวัฒนศกั ด์.ิ 2548. วสิ าหกิจชุมชน. ชยั นาท ตน้ ทุนคา่ ใชจ้ า่ ยไฟฟา้ เม่อื ใช้งาน 1 วนั (8 ช่วั โมง) เทา่ กับ : กรมส่งเสรมิ การเกษตร. 10.32 บาท/วัน ดังน้ันจึงสรุปได้ว่าการนวดผสมผงแร่ พิเชษฐ พลาดสุ และคณะ. 2559. การออกแบบ และ เหล็กน้าพ้ีกับดินเหนียวด้วยแรงงานคนจะสามารถนวด สร้างระบบ จ่ายน้าหยดอัตโนมัติส้าหรับสวน ผสมได้วันละ 16 คร้ัง (8 ช่ัวโมง) โดยมีต้นทุนค่าแรง สมุนไพรจากพลังงานแสงอาทิตย์เพ่ือชุมชน. 300 บาท/วัน ส่วนการนวดผสมผงแร่เหล็กน้าพ้ีกับดิน วารสารวิชาการรบั ใช้สังคม มทร.ล้านนา 1(1); เหนียวด้วยการใช้เครื่องนวดผสมจะสามารถผสมได้วัน 17-24. ละ 32 คร้ัง (8 ชั่วโมง) โดยมีต้นทุนค่าไฟฟ้า 10 บาท/ พรชัย สุจติ ต.์ 2528. เทคโนโลยีและความส้าคัญของการ วนั นัน้ เทา่ กบั ว่าผ้ปู ระกอบการสามารถลดต้นทุนค่าจ้าง ถลุงเหล็กในสมัยแรกเร่ิมของประเทศไทยใน แรงงานได้ถึงวันละ 290 บาท/วัน แต่ก้าลังการผลิต ปัจจุบันของโบราณคดีไทย. รายงานการวิจัย เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เม่ือมีการน้าเคร่ืองนวดผสมผงแรม่ า ฉบับสมบรู ณ์ มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร. ใชแ้ ทนการนวดผสมดว้ ยแรงงงานคน พินิจ เนื่องภิรมย์. 2562. การพัฒนาศักยภาพและเพ่ิม ขีดความสามารถในการแปรรูปผลิตภัณฑ์เห็ด ผลการเปรียบเทียบประสิทธิภาพการตีขึ้นรูป กรณีสุขประเสริฐฟาร์มเห็ด.วารสารวิชาการ เพื่อผลิตดาบเหล็กน้าพี้ด้วยการใช้แรงงงานแบบเดิมท่ี รบั ใชส้ ังคม มทร.ล้านนา 2(2); 41-51. จะต้องใช้แรงงานคนในการตีอย่างน้อย 2 คน ซ่ึงค่าจา้ ง ศิริกานดา แหยมคง และคณะ. 2547. การจัดการการ แรงงานส้าหรับการตีขึ้นรูปดาบเหล็กน้าพ้ีทางกลุ่มจะ ท่องเท่ียวเชิงธุรกิจชุมชน กรณีศึกษา ต้าบลน้าพี้ ก้าหนดคา่ จา้ งไวท้ วี่ ันละ 1,000 บาท/คน ดังน้ันจึงท้าให้ อ้าเภอทองแสนขนั จังหวัดอุตรดิตถ์. รายงานการ ทางกลมุ่ ผู้ผลติ มตี ้นทนุ คา่ แรงงานในการจา้ งคนตีดาบวัน ละ 2,000 บาท แตเ่ มอ่ื ได้มกี ารน้าเครือ่ งตีดาบ-มีดเหล็ก น้าพ้ีไปใช้งานพบว่ามีค่าใช้จ่ายไฟฟ้าเม่ือใช้งาน 1 วัน วารสารวิชาการรบั ใช้สังคม มทร.ลา้ นนา 15 ปที ี่ 3 ฉบบั ที่ 2 กรกฏาคม - ธนั วาคม 2562
วิจัยฉบับสมบูรณ์ คณะวิทยาการการจัดการ อนุวฒั น์ จุตลิ าภถาวร. 2552.การสรา้ งเตาถลุงเหล็กและ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์. ถลุงเหล็กจากแร่เหล็กนา้ พี้.รายงานการวิจัยฉบับ ธวชั ชยั แสงหล้า. 2551. หลักการถา่ ยทอดเทคโนโลยี. สมบูรณ์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร : โอเดยี นสโตร์ ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ. กรุงเทพมหานคร. วริทธิ์ อึ้งภากรณ์. 2546. การออกแบบเคร่ืองจกั รกล เลม่ 1. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชัน่ อ้านวยพศ ทองค้า.2559. การบริการวิชาการเพื่อ ไพโรจน์ นะเท่ียง. 2557. การจัดการความรู้และพัฒนา ถ่ายทอดเทคโนโลยีเคร่ืองแหวกร่องต้นข้าวเพ่ือ ชุดความรู้ทางวิทยาศาสตรจ์ ากภูมิปัญญาท้องถิ่น เกษตรกร.วารสารวิชาการรับใช้สังคม มทร. เตาถลุงสินแร่เหล็กน้าพี้ ต้าบลน้าพ้ี อ้าเภอทอง ลา้ นนา 1(2); 7-14. แสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์. รายงานวิจัยฉบับ สมบูรณ์ สานักงานคณะกรรมการการวิจัย Brown, Warren B., and Moberg, Denis J. 1980. แห่งชาติ, กรุงเทพฯ. Organizational Theory and Management : สิงหเดช แตงจวง. 2550. การศึกษาองค์ประกอบของ A Macro Approach. New York : John ธาตุและสมบัติทางกายภาพของเหล็กน้าพี้ใน Wiley & Sons. ชุมชนบ้านน้าพ้ี. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ ส า นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ก า ร วิ จั ย แ ห่ ง ชาติ , Hunt D. 1976. Farm Powerand Machine กรงุ เทพฯ. Management. 7thEdition. Lowa State University Press Ames, Lowa. Michael E. Porter. 1985. Competitive Advantage: Creating and Sustaining Superior Performance. New York : Free Press. 16 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
การเพิ่มมลู ค่าให้กบั ผลติ ภณั ฑ์ของกล่มุ ตะกร้าหวายบา้ นทาทรายมูล ตาบลสันกลาง อาเภอพาน จงั หวัดเชียงราย Value Added of Rattan Baskets in Thasaimun Village, Sanklang Sub-District, Phan District, Chiangrai จรสั ศรี โนมี1* วรวี รรณ เจริญรูป2 และ จติ รานชุ ชยั นนั ท์3 Jarassri Nomee1 Wareewan Charoenroop2 and Jittranuch Chainan3 1,2อาจารย์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชยี งราย 3นักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงราย 1,2Lecturer, Rajamangala University of Technology Lanna Chiang Rai 3Student, Rajamangala University of Technology Lanna Chiang Rai E-mail : [email protected], เบอรโ์ ทรศัพท์ 095-4516864 บทคดั ยอ่ งานวิจัยครั้งน้ีเป็นการวิจยั และพฒั นา มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบผลิตภณั ฑแ์ ละเพ่ือเพิ่มช่องทางการ จาหน่ายผลิตภัณฑ์ให้แก่สินค้าของกลุ่มตะกร้าหวาย บ้านทาทรายมูล ตาบลสันกลาง อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ กลุ่มตะกร้าหวายบ้านทาทรายมูล ตาบลสันกลาง อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย มี สมาชิกกลุ่มจานวน 10 ราย และประชาชนในจังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียงจานวน 400 ราย งานวิจัยนี้เป็น งานวิจัยแบบผสมผสานระหว่างวิจัยเชิงคุณภาพกับวิจัยเชิงปริมาณ การวิจัยเชิงคุณภาพใช้การประชุมกลุ่มย่อยการ ปฏิบัตกิ ารแบบมสี ่วนร่วม การสัมภาษณเ์ ชิงลึก เคร่อื งมอื ทใ่ี ช้ในการวิจยั ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ผูใ้ หข้ ้อมูลหลกั การวิจัย เชิงปริมาณใช้แบบสอบถามเก็บข้อมูลจากประชาชนท่ัวไป ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณา ได้แก่ ค่าความถี่ คา่ ร้อยละและคา่ เฉลย่ี ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตะกร้าหวายได้มีการพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่จานวน 2 ชนิด ได้แก่ ตะกร้าใส่ผ้า และกระเป๋าถือสตรี ออกแบบและพฒั นาผลติ ภัณฑ์ตัวเดิม คือ ตะกร้าเอนกประสงค์ ให้มีรูปแบบที่เป็น เอกลักษณ์เฉพาะกลมุ่ เพ่อื เพ่ิมมูลค่าใหก้ ับผลติ ภัณฑ์ โดยผลิตภัณฑข์ องกลมุ่ จะเน้นในเรื่องของคุณภาพของตัวสินคา้ และประโยชน์ใช้สอย นอกจากนี้กลุ่มตะกร้าหวายได้เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์โดยการสร้างตราสินค้าใหม่ โดยใช้ช่ือว่า “หวายตาหนั่น” และเพิ่มช่องทางการจาหน่ายผลิตภัณฑ์อีก 1 ช่องทาง คือ การขายออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดีย Facebook โดยใช้ชือ่ เพจว่า “ตะกร้าหวายตาหนัน่ ” คาสาคัญ ตะกร้าหวาย, การเพิม่ มลู คา่ ผลิตภณั ฑช์ ุมชน Abstract The purposes of this research was to develop patterns and expanding distribution channels for rattan baskets in Thasaimum village, Sanklang subdistrict, Phan district, Chiangrai by using 2 types of sample size which are member of rattan basket in Thasaimun Village, Sanklang Sub – District, Phan District, Chiangrai for 10 persons and population who live in Chiangrai including nearby province for 400 persons. This research was a mixed methods combining qualitative and quantitative research. วารสารวชิ าการรับใชส้ ังคม มทร.ล้านนา 17 ปีท่ี 3 ฉบบั ท่ี 2 กรกฏาคม - ธนั วาคม 2562
Method of data collection used in qualitative research was in depth interviews for member of rattan basket and method of data collection used in quantitative research was self- administered questionnaires and analyzing data by descriptive statistics which consists of frequency, percentage and average for a group population. The results of these analyses shown that a group of rattan basket got a new product line which design and develop by one of the member and divided into 2 types which are cloth baskets and hand bags. In additions, a prototype product which is a basket also getting more featured all this made value added and uniqueness to the product compare with the past. Meanwhile all of the product always focuses on quality and utility and another way to getting value added for rattan basket was created a new product’s logo known as “waiitanun” and also increase a new distribution channel by online selling on social media by using Facebook application under the page “ ต ะ ก ร้ า หวายตาหนัน่ ” Keywords Rattan Baskets, Value Added Product บทนา แพร่หลายมากขึ้น และต้องการผลักดันตัวสินค้าของ ภูมิปัญญาท้องถ่ินเป็นสิ่งที่เกิดจากการส่ังสม กลุ่มเข้าสู่กระบวนการคัดสรรสินค้า OTOP (นายสน่ัน มลู บวั , สัมภาษณ์ 15 มีนาคม 2561) ประสบการณ์ การใช้สติปัญญาในการสร้างสรรค์ส่ิง ต่าง ๆ เพ่ือประโยชน์ในการดารงชีพซ่ึงจะมีความ อย่างไรก็ตาม การที่ผลิตภัณฑช์ ุมชนจะเข้าสู่ แตกต่างกนั ในแตล่ ะสงั คมและวฒั นธรรม งานจักสานถือ กระบวนการคัดสรรสินค้า OTOP ได้น้ัน ตามระเบียบ เปน็ หนึง่ ในภูมปิ ัญญาท้องถิ่นของไทยท่ีมีความสาคัญต่อ สานักงานนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรม การ การดาเนินชีวิต ตะกร้าหวายถือเป็นผลงานจาก อานวยการหน่ึงตาบล หนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ หัตถกรรมพื้นบ้านของไทยที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถ่ิน พ.ศ.2544 มีเกณฑ์ในการคัดสรรผลิตภัณฑ์ OTOP โดย ซ่ึงประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อใช้สอยในชีวิตประจาวันภายใน แบ่งออกเป็น 1 ดาว หมายถึงคุณภาพต่า ไปจนถึง ครอบครัว ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีกลุ่มอาชีพท่ีเกิดจากการ 5 ดาว หมายถึงคุณภาพสงู สามารถส่งออกได้ ซึ่งปัญหา รวมกลุ่มของชาวบ้านผลิตสนิ คา้ หัตถกรรมจกั สานพวกนี้ ของผลิตภัณฑ์ชุมชนโดยส่วนใหญ่คือเรื่องของคุณภาพ ขน้ึ มาเพอ่ื เปน็ การสบื สานภมู ิปญั ญาท้องถ่ินและเป็นการ มาตรฐาน รูปแบบผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ที่ไม่สวยงาม สร้างรายไดใ้ ห้แกต่ นเองเปน็ จานวนมาก โดดเด่น ไม่สามารถสร้างความแตกต่างและส ร้าง มูลค่าเพิ่มได้ ที่ทาให้ผลิตภัณฑช์ ุมชนจานวนมาก ยังไม่ กลุ่มตะกร้าหวายบา้ นทาทรายมลู ตาบลสันกลาง สามารถเข้าสู่ช่องทางการตลาดในปัจจุบันได้ (สันติ อาเภอพาน จังหวัดเชียงรายเป็นกลุ่มอาชีพท่ีเกิดขึ้น ภูริภักดี, 2561) มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนาและ จากการรวมตัวของเครือญาติและผู้สูงอายุในหมู่บ้าน สานักปลัดกระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีจงึ ได้ทา โดยการนาของนายสน่ัน มูลบัว จากการสัมภาษณ์ ความร่วมมือกันนาศักยภาพของสถาบันการศึกษาใน นายสน่ัน มูลบัว พบว่า ปัญหาของกลุ่มคือในปัจจุบัน การจัดการศึกษาเชิงบูรณาการ นาวิทยาศาสตร์ สินคา้ ยงั ไมเ่ ป็นที่ร้จู กั มากอยา่ งแพร่หลาย สนิ คา้ ยังไม่ได้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ไปพัฒนาและยกระดับ เข้าสู่กระบวนการในการคัดสรรสินค้า OTOP เพราะยัง ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ชุ ม ช น ใ น พื้ น ที่ ภ า ค เ ห นื อ ขาดตราสนิ ค้าและชอ่ งทางการจาหนา่ ยท่ีไม่หลากหลาย 6 จังหวัด โดยจัดให้มีการวิจัยเพ่ือพัฒนา (สถาบันวิจัย ทางกลุ่มตะกร้าหวายจึงมีความต้องการท่ีจะเพ่ิมมูลค่า ให้กับสินค้าของกลุ่ม ทาให้สินค้าของกลุ่มมีกลุ่มลูกคา้ ท่ี 18 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
และพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา, 2561) ดังน้ันผู้วิจัยจึงสนใจพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อเพ่ิมมูลค่าสินค้าและหาช่องทางการจาหน่ายสินค้า ให้กับผลิตภัณฑ์ของกลุ่มตะกร้าหวาย บ้านทาทรายมูล ตาบลสันกลาง อาเภอพาน จังหวัดเชียงรายเพื่อเป็นการ พัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนใน พน้ื ทีใ่ ห้มคี ุณภาพสามารถเขา้ สตู่ ลาดในยุคปจั จบุ ัน วธิ ีดาเนินงาน ภาพที่ 1 ผู้วิจัยลงพน้ื ที่เพอื่ เก็บข้อมูลของกลมุ่ ตะกรา้ ในการวิจัยในครง้ั นี้เป็นการวจิ ัยเพ่ือการพัฒนา หวาย บ้านทาทรายมูล ใช้การวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม โดยสมาชิกลุ่มมี อนาคตที่มุ่งหวัง โดยผู้วิจัยได้ทาการวิเคราะห์ จุดแข็ง ส่วนร่วมในการวิเคราะห์ปัญหา การวิจัยได้มีการนา จุดออ่ น โอกาสและอุปสรรคของกลมุ่ ตะกร้าหวาย เ ท คนิ ค AIC (Appreciation-Influence-Control) ซ่ึ ง เทคนิคน้ีได้คิดค้นและพัฒนาโดย Dr.William E.Smith จ า ก ผ ล ก า ร สั ม ภ า ษ ณ์ ผู้ วิ จั ย ได้ ท า ส รุ ป ผ ล ใ น และ Ms.Turid Sato จากOrganization for Development รปู แบบการวเิ คราะห์ SWOT ได้ดงั น้ี and International Institute, U.S.A ซึ่งเทคนิค A-I-C จุดแข็ง (Strength = S) คือ กระบวนการประชุมที่มีวิธีหรือข้ันตอนท่ีเปิดโอกาส 1. มแี รงงานทมี่ ีฝมี ือปราณีต และมคี วามเชย่ี วชาญ ใหผ้ ู้เขา้ รว่ มประชมุ ไดม้ ีโอกาสส่ือสารแลกเปลี่ยน ความรู้ 2. สนิ ค้าแข็งแรงทนทาน สวยงามและปราณีต ประสบการณ์ ข้อมลู ขา่ วสาร ซึง่ จะทาให้เกิดความเข้าใจ จุดออ่ น (Weakness = W) ถึงสภาพปัญหา ข้อจากัด ความต้องการ และศักยภาพ 1. ยงั ไมม่ ีแบรนด์สนิ ค้า ของผู้ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เป็นการระดมพลังสมอง เพื่อ 2. ขาดกาลงั คนทมี่ ีฝีมือด้านหตั ถกรรม แก้ไขปญั หาและแนวทางในการพัฒนาเชงิ สร้างสรรค์ ซึ่ง โอกาส (Opportunity = O) ผลงานท่ีได้จากความคิดของผู้ที่เข้าร่วมประชุมทุกคน 1. รัฐบาลใหก้ ารสง่ เสริมสนิ คา้ OTOP มากขนึ้ (กล่าวถึงในเจษฎา พัฒตรานนท์, 2553) ซ่ึงเทคนิค 2. ผู้บริโภคหนั มานยิ มใชส้ ินคา้ ท่ีทดแทนการใชพ้ ลาสติก A-I-C มีขั้นตอนการดาเนินงานอยู่ 3 ขั้นตอนได้แก่ มากข้ึน 1) ข้ันการสร้างองค์ความรู้ คือการทาใหเ้ กิดความเขา้ ใจ อปุ สรรค (Threat = T) ถึงสภาพปัญหา ข้อจากัด ความต้องการ และศักยภาพ 1. มีคู่แขง่ จานวนมาก ของผู้ท่ีเก่ียวข้องต่าง ๆ 2) ขั้นการสร้างการพัฒนา เป็น 2) ข้ันตอนการสร้างการพัฒนา เป็นขั้นตอนที่ผู้วิจัย การระดมพลงั สมอง เพอ่ื แกไ้ ขปญั หาและแนวทางในการ และสมาชิกกลมุ่ ทาการประชุมกลมุ่ ย่อยเพือ่ ระดมสมอง พฒั นาเชิงสร้างสรรค์ ซง่ึ ผลงานทไี่ ดจ้ ากความคดิ ของผู้ท่ี ศึ ก ษ า แ น ว ท า ง ใ น ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า โ ด ย มี ขั้ น ต อ น ก า ร เข้าร่วมประชุมทุกคน และ 3) ขั้นตอนในการสร้างแนว ดาเนินงานดังนี้ ทางการปฏิบัติท่ีดี คือการวางแผนงาน การนาวิธีการที่ 2.1) จัดประชุมกลุ่มย่อยเพื่อระดมความคิดเห็นจาก เกิดจากการระดมสมองการวางแผนในการปฏิบัติ มา สมาชิกกลุ่มฯ เก่ียวกับแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทางานร่วมกันเพ่ือบรรลุเป้าหมาย โดยสามารถอธิบาย ของกลุ่มตะกร้าหวาย โดยวิเคราะห์จากปัญหาที่มีใน รายละเอียดของกระบวนการทางานไดด้ ังนี้ ปัจจุบัน ความคาดหวังของกลุ่มในการอนาคตภายใต้ 1) ขั้นตอนการสร้างองค์ความรู้ เป็นข้ันตอนการ ศกั ยภาพและความพร้อมของกล่มุ วิเคราะห์ปัญหาผู้วิจัยได้ลงพ้ืนท่ีศึกษาและรวบรวม ข้อมูลเบอ้ื งต้นเพอ่ื ศกึ ษาสภาพปจั จบุ ัน และสภาพ วารสารวชิ าการรับใช้สังคม มทร.ลา้ นนา 19 ปีที่ 3 ฉบับท่ี 2 กรกฏาคม - ธันวาคม 2562
ภาพที่ 2 การจดั ประชุมกลมุ่ ยอ่ ยครั้งที่ 1 ส่วนที่ 2 : ข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคท่ี จากผลการพูดคุยแลกเปลี่ยน ผู้วิจัยได้ข้อ เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากหัตถกรรมจากหวาย ใช้คาถาม แบบเลือกตอบ สรุปว่า กลุ่มฯ ต้องการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ให้ ทันสมัยตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน ตามยุคสมัย ส่วนที่ 3 : ข้อมูลปัจจัยท่ีมีผลต่อการตัดสินใจ นอกจากนี้ทางกลุ่มฯ ต้องการท่ีจะเพิ่มมูลค่าของสินค้า เลือกซื้อผลิตภัณฑ์หัตถกรรมจากหวาย เป็นลักษณะ โดยการสร้างตราสินค้าให้กับผลิตภัณฑ์ และต้องการ คาถามท่ีต้องการทราบถึงปัจจัยท่ีผู้บริโภคใช้ในการ เพ่ิมช่องทางการตลาดท่ีสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค พิจารณาเลือกซ้ือผลิตภัณฑ์หัตถกรรมจากหวายโดยใช้ ผวู้ จิ ยั และสมาชิกกลมุ่ จึงไดข้ ้อสรปุ ว่าจะจดั ให้มกี ารสร้าง หลักปจั จัยส่วนผสมทางการตลาด 4P ความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับหลักการในการพัฒนา รูปแบบผลิตภัณฑ์ตามหลักวิชาการโดยใช้วิทยากรผู้มี ส่วนที่ 4 : ข้อมูลความคิดเห็นของผู้ตอบ ความเช่ยี วชาญด้านการตลาดมาอบรมให้ความรู้ แบบสอบถามที่มีต่อการนาหวายมาพัฒนา เป็ น 2.2) สร้างเคร่ืองมือเพ่ือใช้ในการเก็บข้อมูล เคร่ืองมือท่ี ผลิตภณั ฑห์ ัตถกรรมรูปแบบตา่ ง ๆ เปน็ คาถามปลายปิด ใ ช้ ม า ช่ ว ย เ ก็ บ ข้ อ มู ล เ พื่ อ น า ม า ใ ช้ ใ น ก ร ะ บ ว น ก า ร แบบเลือกตอบและคาถามแบบปลายเปิด วิเคราะห์ปัญหาเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา คือ 3) ข้นั ตอนการปฏบิ ัติตามแผน แบบสอบถามเพอ่ื การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในการเก็บข้อมูล พฤติกรรมผู้บริโภคและปัจจัยที่ใช้ในการตัดสินใจเลือก เป็นขั้นตอนการปฏบิ ัติตามแผนท่ีได้ขอ้ สรุปจาก ซื้อผลติ ภัณฑห์ ัตถกรรมจากหวายโดยเก็บรวบรวมข้อมูล ขน้ั ท่ี 2 โดยมรี ายละเอียดดังนี้ ประชาชนในพ้ืนท่ีจังหวัดเชียงรายและต่างจังหวัดซึ่งไม่ 3.1) อบรมให้ความรู้ด้านการตลาดและการพัฒนา ทราบจานวนที่แน่นอน โดยผู้วิจัยได้กาหนดตัวอย่างไว้ ผลิตภัณฑ์ โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ อาจารย์ณฐมน จานวน 400 ราย ทรัพย์บุญโต อาจารย์ประจาสาขาการตลาด คณะ บริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี แบบสอบถามผู้บริโภคเน้นศึกษาพฤติกรรม ราชมงคลล้านนา เชียงราย ได้ให้เกียรติมาให้ความรู้ ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ปัจจัยท่ีมีผลต่อการตัดสินใจ เกี่ยวกับ หลักการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความ เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ รวมถึงศึกษาความเห็นของผู้บริโภค ต้องการของผู้บริโภค โดยเร่ิมต้นกลุ่มฯจะต้องทราบว่า ในการนาหวายมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้ข้อมูล กลุ่มลูกค้าเป็นใคร จะขายสินค้าให้แก่ใคร ทางกลุ่มฯ มาใช้ในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตรง จะต้องหาผลติ ภณั ฑท์ เี่ ปน็ เอกลักษณอ์ าจจะเป็นลวดลาย ตามความต้องการของผบู้ รโิ ภค แบบสอบถามใช้ลกั ษณะ ที่เป็นเอกลักษณ์ของกลุ่ม รูปทรงของผลิตภัณฑ์ที่เป็น คาถามแบบปลายเปิดและคาถามแบบปลายปิด ซ่ึง เอกลักษณ์ เป็นต้น วิทยากรได้แนะนาทางกลุ่มในเรื่อง ประกอบไปดว้ ย 4 ส่วนดังนี้ ของการจัดทาบรรจภุ ัณฑ์เพ่ือเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้า ใน ส่วนของการออกแบบตราสินค้า จะต้องมีความหมาย สว่ นท่ี 1 : ขอ้ มลู ท่ัวไปของผูต้ อบแบบสอบถาม ง่ายต่อการจดจา มีเร่ืองราวท่ีมาของตราสินค้า ทาง ใช้คาถามแบบเลือกตอบ สมาชิกกลุ่มและวิทยากรได้ร่วมกันคิดชื่อตราสนิ ค้าและ ร่วมกันออกแบบตราสินค้า จากผลของการอบรมทาให้ กลุ่มฯ ได้ช่ือตราสินค้ามา 2 ช่ือคือ “ตะกร้าหวายตา หนั่น” และ “หวายตาหนั่น” และได้ร่วมกับออกแบบ ร่างตราสินค้าเพ่ือเป็นต้นแบบในการพัฒนาเป็นตรา สินค้า อีกท้ังวิทยากรยังได้บรรยายให้ความรู้เก่ียวกับ ช่องทางการจาหน่ายสินค้า วิทยากรได้แนะนาช่องทาง การขายแบบออนไลน์ ผ่านโซเชียลมีเดีย เน่ืองจากเป็น ช่องทางท่ีสะดวก มีผู้ใช้งานจานวนมากทาให้สินค้าของ กลุ่มเป็นท่ีรู้จักได้ง่ายขึ้นและยังประหยัดต้นทุนในการ ประชาสมั พนั ธ์ 20 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
ภาพท่ี 3 การจัดอบรมให้ความรู้แก่สมาชิกกลุ่มตะกร้า ศึกษามาประกอบกับผลจากแบบสอบถามเพื่อพัฒนา หวายบ้านทาทรายมลู ผลิตภัณฑ์มาใช้ในการออกแบบและพัฒนาเป็ น ผลิตภัณฑ์ใหม่โดยผลิตภัณฑ์ท่ีได้รับการออกแบบและ ภาพท่ี 4 การจดั ประชุมกลุ่มย่อยเพื่อออกแบบและ พัฒนาได้คานึงถึงเร่ืองประโยชน์ใช้สอย ด้านคุณภาพ พัฒนาผลิตภณั ฑ์ ของผลิตภัณฑ์ได้เลือกใช้วัสดุท่ีมีคุณภาพ คงทน เน้นใน เรื่องของความประณีตและความสวยงามเป็นหลัก 3.2 การจัดประชุมกลุ่มย่อยเพอื่ ร่วมกันทางานออกแบบ ส ม า ชิ ก ก ลุ่ ม ไ ด้ ร่ ว ม กั บ ท า ก า ร อ อ ก แ บ บ แ ล ะ พั ฒ น า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบโดยได้มีการวางแผนการ ผลิตภัณฑ์ใหม่จานวน 2 ชนิด คือ ตะกร้าใส่ผ้า กระเป๋า ผลติ ตามความถนดั ของสมาชกิ แต่ละคน ถือสตรีแบบมีฝาปิดและพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมคือตะกร้า ผลการดาเนนิ งาน เอนกประสงค์ทรงกลมโดยเน้นรูปแบบที่แปลกใหมแ่ ละ สะดุดตา จ า กข้ันตอนกา ร ดา เ นิน งา นวิจั ย เพ่ือ พั ฒ น า รูปแบบผลิตภัณฑ์และเพ่ือเพ่ิมช่องทางการจาหน่าย นอกจากการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์แล้ว ผลิตภัณฑ์ให้แก่สินค้าของกลุ่มตะกร้าหวาย บ้านทา ผู้วิจัย และสมาชิกกลุ่มยังร่วมกันออกแบบและพัฒนา ทรายมูล ตาบลสันกลาง อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย ตราสินค้าเพื่อเป็นการเพ่ิมมูลค่าให้กับสินค้า โดยตรา จากการลงพื้นที่การวิจัยพบว่า กลุ่มตะกร้าหวายบ้าน สินค้าที่สมาชิกกลุ่มได้เลือกใช้คือ “หวายตาหนั่น” โดย ทาทรายมูล มีสมาชิกกลุ่มจานวน 10 ราย มีความ ใชช้ ื่อของนายสมัน่ มลู บวั ประธานกลุ่มอาชพี และเป็นผู้ ต้องการท่ีจะพฒั นารูปแบบผลิตภัณฑ์ ซึ่งการศึกษาวิจยั เริม่ กอ่ ตั้งกลมุ่ อาชพี รูปภาพบนตราสินคา้ เป็นรปู ใบหน้า ในคร้ังนี้ผู้วิจัยและสมาชิกกลุ่มได้ร่วมกันวิเคราะห์หา ของนายสน่ัน มีรูปตะกร้าหวาย พ้ืนหลังเป็นรูปลาย แนวทางในการพัฒนาจากการนาแนวคิด ทฤษฎีท่ีได้ หวาย สีท่ีใช้เป็นสีน้าตาลและเหลอื ง ซึ่งเป็นตราสินคา้ ที่ สะดุดตา จดจางา่ ยและมคี วามหมาย ซงึ่ กไ็ ดแ้ นวคดิ และ คาแนะนาจากทา่ นวิทยากร อาจารย์ณฐมน ทรพั ย์บุญโต นอกจากน้ี ผู้วิจัยและสมาชิกกลมุ่ ดาเนินการ ประชุมกลุ่มย่อยเพ่ือระดมความคิดเห็นเก่ียวกับช่อง ทางการจาหน่ายสินค้า ซ่ึงได้ข้อสรุปเก่ียวกับการเพ่ิม ช่องทางการจัดจาหน่าย โดยการปรับเพ่ิมช่องทางการ จัดจาหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ผ่านโซเชียลมีเดีย Facebook และใช้ชื่อเพจตามช่ือผลิตภัณฑ์ คือ “ตะกร้าหวายตาหนั่น” เน่ืองจากช่องทางออนไลน์ถือ เป็นช่องทางที่รวดเร็ว ทันสมัย และต้นทุนต่า รวมทั้งยัง ตอบสนองพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่ชอบ ความรวดเร็ว และความสะดวกสบาย และยังเป็นการ โฆษณาให้ผู้บริโภครู้จักมากย่ิงข้ึน ซึ่งหลังจากท่ีมีการ สร้างเพจใน Facebook แล้วพบว่า มีกลุ่มลูกค้าสนใจ สินค้าของกลุ่มมากขึ้น มีการสอบถามสินค้าเข้ามาทาง หน้าเพจ ทาใหส้ ินค้าของกลมุ่ เป็นที่รู้จักอยา่ งแพร่หลาย มลี กู คา้ จากตา่ งจังหวดั เขา้ มาสง่ั ซ้อื สนิ คา้ เป็นจานวนมาก นอกจากนี้แหล่งจาหน่ายสินคา้ โอทอปได้ติดต่อทางกลุ่ม เพ่อื นาสินค้าไปวางจาหน่ายทร่ี า้ นเพมิ่ มากขน้ึ อีกด้วย วารสารวิชาการรบั ใช้สงั คม มทร.ลา้ นนา 21 ปีที่ 3 ฉบบั ที่ 2 กรกฏาคม - ธันวาคม 2562
ตารางที่ 1 แสดงผลการดาเนนิ งานช่วงก่อนการพฒั นาและหลงั การพัฒนา ประเดน็ ก่อนการพฒั นา หลังการพฒั นา 1. การพัฒนารปู แบบผลติ ภณั ฑ์ 2. การพฒั นาตราสนิ คา้ ไม่มีช่ือตราสินค้ามีเพียงช่ือกลุ่ม และช่องทางการติดตอ่ 3. การพฒั นาชอ่ งทางการจัด ขายตามงานแสดงสินคา้ , ฝากตาม Facebook page : “ตะกรา้ หวายตาหน่ัน” จาหน่าย ร้านคา้ ท่ัวไป, ใชก้ ารบอกตอ่ ภาพที่ 5 แสดงรปู สินค้าทีจ่ ัดสง่ ใหแ้ ก่ลกู คา้ จากสโุ ขทยั การนาผลการวจิ ัยไปใช้ประโยชน์ จากผลการวิจัยการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อเพ่ิมมูลค่าสินค้าของกลุ่มตะกร้าหวา ยบ้า น ทาทรายมูล ตาบลสันกลาง อาเภอพานจงั หวัดเชียงราย กลุ่มตะกร้าหวาย ได้ตราสินค้าที่สามารถนาเข้าสู่ กระบวนการในการคัดสรรสินค้าโอทอป เพื่อให้สินค้า เป็นท่ียอมรับ กลุ่มอาชีพมีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ ยอมรับของกล่มุ ผบู้ ริโภค การเพิ่มช่องทางการจดั จาหน่ายแบบออนไลน์ ผ่านทางโซเชียลมีเดียทาให้กลุ่มผู้บริโภคสามารถเข้าถงึ และรู้จักกลุ่มตะกร้าหวายมากขึ้น มีการขยายฐานของ ลูกค้าไปยังจังหวัดอ่นื ๆ ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าของ กลุ่มไดง้ ่ายขึน้ ทาใหก้ ลุม่ ฯ มรี ายได้อยา่ งตอ่ เนอื่ ง ภาพที่ 6 สินค้าของกลมุ่ ได้รับการคัดเลอื กใหว้ าง อภปิ รายผล จาหน่ายที่ศูนย์จาหนา่ ยสนิ คา้ โอทอป การไฟฟา้ งานวิจัยครั้งนี้เ ป็ นกา รวิจัย และ พั ฒ นา ส่วนภูมภิ าคสาขาพาน มีวัตถปุ ระสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบผลิตภณั ฑ์และเพื่อเพ่ิม ช่องทางการจาหน่ายผลิตภัณฑ์ให้แก่สินค้าของกลุ่ม ตะกร้าหวาย บ้านทาทรายมูล ตาบลสันกลาง อาเภอ 22 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
พาน จังหวัดเชียงราย ผู้วิจัยสามารถอภิปรายผล จาหน่ายสินค้าและโฆษณาสินค้าอีก 1 ช่องทางคือการ การศกึ ษาไดด้ งั น้ี ขยายไปยงั ช่องทางออนไลนผ์ า่ นเพจ Facebook ช่ือเพจ “ตะกร้าหวายตาหน่ัน” ซ่ึงช่องทางออนไลน์ถือเป็น การพัฒนารูปแบบผลติ ภัณฑ์ ช่องทางท่ีรวดเร็ว ทันสมัย และต้นทุนต่าและยัง จากผลการสารวจจากแบบสอบถามทาใหก้ ลุ่ม ตอบสนองพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่ชอบ มีแนวทางในออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ท่ีเน้นใน ความรวดเร็ว ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ วิมลพักตร์ ตัวผลิตภัณฑ์ในเร่ืองของความแข็งแรงทนทาน ความ พงษ์ประไพ (2553) ทาการศึกษาและพัฒนาช่อง ปราณีตและมีการพัฒน ารูปทรงของสินค้าให้มี ทางการจัดจาหนา่ ยผลิตภณั ฑผ์ ้าทอเกาะยอโดยชุมชนมี เอกลกั ษณ์ ผู้บรโิ ภคสามารถรว่ มออกแบบในตัวสินค้าไม่ ส่วนร่วม ผลการวิจยั พบว่าช่องทางการจาหน่ายสินคา้ ท่ี ว่าจะเป็นรูปทรง ลวดลายตามท่ีผู้บริโภคต้องการ เหมาะสมกับกลุ่มคือการขายผ่านทางระบบพาณิชย์ ซ่ึงก็สอดคล้องกับทฤษฎีในการพัฒนาผ ลิตภัณฑ์ อิเลก็ ทรอนิกส์หรอื การขายสินคา้ ผา่ นอนิ เตอร์เนต็ หัตถกรรมจักสานของเจษฎา พัตรานนท์ (2553) ซ่ึงได้ กิตตกิ รรมประกาศ ก ล่ า ว ไ ว้ ว่ า ก า ร พั ฒ น า รู ป แ บ บ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ หั ต ถ ก ร ร ม จกั สานทถ่ี ูกวธิ ีซ่ึงจะตอ้ งคานงึ ถึงผลกระทบทีอ่ าจเกิดขึ้น ผู้ วิ จั ย ข อ ข อ บ คุ ณ ม ห า วิ ท ย า ลั ย เ ท ค โ น โ ล ยี ต่องาน ต้องมีการศึกษาและวิเคราะห์ทั้งด้านวัสดุ ร า ช ม ง ค ล ล้ า น น า แ ล ะ ส า นั ก ง า น ป ลั ด ก ร ะ ท ร ว ง ประโยชน์ใช้สอย และความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ท่ีได้สนับสนุนทุนการวิจัย เพื่อที่จะพัฒนาที่มีประโยชน์และเพ่ือเพิ่มคุณค่าให้กับ คร้ังน้ี งานวิจัยนี้สาเร็จได้จากการได้รับทุนอุดหนุนการ ผลิตภัณฑ์ นอกจากน้ียังสอดคล้องกับแนวคิดกลยุทธใ์ น วิจัยจากงบประมาณประจาปี 2561 ภายใต้โครงการ การพัฒนาผลิตภัณฑ์หัตถกรรมจัดการของกรมส่งเสริม “โครงการความร่วมมือกันในการจัดการศึกษาเชิง อุตสาหกรรมท่ีกล่าวว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพ่ือเพ่ิม บูรณาการการเรียนรู้ในสถานศึกษา กับการนา มูลคา่ น้นั ต้องมกี ารเปลี่ยนสนิ ค้าให้ฉกี ตลาดออกไป อาจ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ไปพัฒนาและ มีการผสมผสานระหว่างวัตถุดิบ การย่อหรือขยายและ ยกระดับผู้ประกอบการ ผลิตภัณฑ์ชุมชนในพ้ืนท่ี ปรับเปลี่ยนรูปทรงและต้องมีเอกลกั ษณ์เปน็ ของตนเอง ภาคเหนอื 6 จังหวัด” (RMUTL OTOP Mentor’61) จากผลการวิจัย กลุ่มตะกร้าหวายได้มีการ บรรณานุกรม พฒั นาตราสินคา้ ของกลุม่ โดยใชช้ ื่อตรา “หวายตาหน่ัน” จิระเสกข์ ตรีเมธสุนทร.2549.การสร้างภาพลักษณ์ ซ่ึงสอดคล้องกับแนวคิดกลยุทธ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หัตถกรรมจัดการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมที่กล่าว ตราสินค้า (Brand Image Building).บทความ ว่า ผลิตภัณฑ์ต้องมีตราสินค้าเพื่อให้เกิดการยอมรับ การศึกษา.(ออนไลน์) เข้าถึงจาก http://www. สามารถนามาใช้ประโยชน์ได้อันจะส่งผลต่อพฤติกรรม thaihp.org/index.php?option=other_detail&lan ข อ ง ผู้ บ ริ โ ภ ค ใ น ก า ร จ ง รั ก ภั ก ดี ต่ อ ต ร า ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ g=th&id=11&sub=26 (30 มนี าคม 2561) นอกจากน้ีการสร้างตราสินค้าของกลุ่มตะกร้าหวายยัง เจษฎา พัตรานนท์. 2553. การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ สอดคล้องกับแนวคิดในการสร้างตราสินค้า ของ หั ตถกรรมจั กสานท้ องถิ่ นโดยใช้ วิ ธี การวิ จั ย จิระเสกข์ ตรีเมธสุนทร (2549) คือการเลือกใช้บุคคล ปฏิบัติการแบบมสี ว่ นร่วม กรณศี ึกษา กลุ่มจกั สาน เป็นช่ือตราสินค้า มีการใช้รูปลักษณ์และเลือกใช้สีที่ ใบกะพ้อ ตาบลทุ่งโพธิ์ อาเภอจุฬาภรณ์ จังหวัด สะดุดตาจดจางา่ ยและมคี วามหมาย นครศรีธรรมราช. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัย การเพิม่ ชอ่ งทางการจาหนา่ ยผลิตภณั ฑ์ ศรีนครรินทรวิโรฒ. จากผลการวิจยั ทางการจาหน่ายสนิ คา้ ของกลุ่ม วิมลพักตร์ พงษป์ ระไพ(2553) การพัฒนาช่องทางการ ตะกรา้ หวายคือ การออกขายตามงานแสดงสินคา้ ตลาด จัดจาหน่ายผลิตภัณฑ์ผา้ ทอเกาะยอโดยชุมชน นัดและใช้วิธีการบอกต่อ และได้เพ่ิมช่องทางการ วารสารวชิ าการรบั ใช้สังคม มทร.ลา้ นนา 23 ปีที่ 3 ฉบบั ที่ 2 กรกฏาคม - ธนั วาคม 2562
มีส่วนร่วม.บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัย เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงครามและ ราชภัฏสงขลา. สมุทรสาคร. Veridian E-Journal Silpakorn สน่ัน มูลบัว. ประธานกลุ่มอาชีพตระกร้าหวายบ้าน University ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 เดือน พ.ค.-ส.ค. ทาทรายมลู . สมั ภาษณ.์ 15 มนี าคม 2561. 61 หน้า 2155-2153 (ออนไลน์) เข้าถึงจาก สันติ ภูริภักดี(2561) การพัฒนาองค์ความรู้สาหรับการ https://tci-thaijo.org/ index.php/Veridian- ส ร้ า ง มู ล ค่ า เ พ่ิ ม ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ เ พื่ อ เ พิ่ ม ขี ด E-Journal/article/download/144171/1066 ความสามารถทางการแข่งขันแก่ผู้ประกอบการ 54/ (16 กันยายน 2562) หนึง่ ตาบลหนึง่ ผลติ ภัณฑ์(OTOP) ในเขตจังหวัด 24 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
การพัฒนาแบบบรรจภุ ณั ฑ์ผลติ ภัณฑ์ข้าวทอดกระทงทอง ตาบลตาหลวง อาเภอดาเนนิ สะดวก จงั หวัดราชบรุ ี Packaging Development for Adding Value to Fried Rice Products Ta Luang Sub-district, Damnoen Saduak District, Ratchaburi Province ณฐาพชั ร์ วรพงศพ์ ชั ร์1* พงษ์ศกั ด์ิ ผกามาศ2 กนกอร บญุ มี3 วสธุ ิดา นรุ ติ มนต์4 เจนศกึ โพธิศาสตร์5 Ntapat Worapongpat1* Phongsk Phakamach2 Kanokon Boonmee3 Wasutida Nurittamont4 Janesuk Potisart5 1*อาจารย์ ดร. คณะบริหารธรุ กิจ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร 2ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. วทิ ยาลัยนวัตกรรมการจดั การ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรตั นโกสินทร์ 3ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. คณะสงั คมศาสตร์และมนษุ ยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 4ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. คณะบริหารธรุ กิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลสวุ รรณภมู ิ 5ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. คณะวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏพระนคร 1*Lecturer Dr., Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Pharnakhon. 2Assistant Professor Dr., College of Innovation Management, Rajamangala University of Technology Rattanakosin. 3Assistant Professor Dr., Faculty of Social Science and Humanitites, North Eastern University. 4Assistant Professor Dr., Faculty of Business Administation and Information Technology, Rajamangala University of Technology Suvannabhumi. 5Assistant Professor Dr., Faculty of Science and Technology, Phranakhon Rajabhat University. E-mail : [email protected], เบอร์โทรศัพท์ 095-5426414 บทคดั ยอ่ การวิจัยเร่ืองการพฒั นาแบบบรรจภุ ัณฑ์เพอ่ื เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ข้าวกระทงทองมีจุดเริ่มต้นจากการสารวจ ปัญหาและความต้องการของชุมชนอาเภอดาเนินสะดวก ตาบลตาหลวง จังหวัดราชบุรีแนวทางการออกแบบ บรรจุภณั ฑใ์ หมข่ องกลุ่มข้าวทอดกระทงทองและการยกระดับและเพม่ิ มูลค่าให้แก่สินค้าเพม่ิ ยอดจาหน่ายให้แก่ชุมชน การพัฒนาบรรจุภัณฑ์เป็นส่ิงจาเป็นและสาคัญอย่างย่ิงต่อการจัดจาหน่ายผลิตภัณฑ์ เนื่องจากสภาพตลาดมีการ แข่งขันสูงและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเร็วทาให้มีบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ในตลาดจานวนมาก จึงจาเป็นต้องมีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีความแตกต่าง และมีความสอดคล้องตรงกับลักษณะความต้องการของ ผู้บริโภคอย่างมีอัตลักษณ์จึงต้องการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย บรรจุภัณฑ์ท่ีดีจะต้องสามารถ ตอบสนองความต้องการท้งั ดา้ นโครงสร้างบรรจภุ ณั ฑ์ และด้านการออกแบบกราฟกิ บรรจภุ ณั ฑ์ได้ดีซ่งึ ประเด็นสาหรับ การทาวิจัยฯนี้ทางทีมผู้วิจัยร่วมกับชุมชนเพื่อให้ได้ซึ่งจุดเด่น เอกลักษณ์ของสินค้า ท่ีมาจากความต้องการของกลุ่ม ชมุ ชนเปน็ หลัก จากการรวบรวมข้อมลู กลุ่มตวั อย่างซงึ่ เป็นผ้บู ริโภค 100 คนโดยมาจากตัวแทนชมุ ชนผู้ทมี่ สี ่วนได้ส่วน เสยี คดิ เป็นร้อยละ่ 100 โดยวิเคราะหข์ ้อมูลโดยการหาค่ารอ้ ยละ (Percentanage) ค่าเฉลย่ี (Mean) และส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน (S.D.) ผลการวิจัยพบว่า ค่าเฉลี่ยความต้องการต่อการออกแบบบรรจุภัณฑ์ท่ีทันสมัยของกลุ่มข้าวทอด กระทงทองแปรรูปผลผลิตอาเภอดาเนินสะดวกตาบลตาหลวง จงั หวดั ราชบรุ ี ด้านการออกแบบโครงสร้างบรรจุภัณฑ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเท่ากับ 4.69 ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.717 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าวัสดุโครงสร้างบรรจุภัณฑ์มีความเหมาะสมมากท่ีสุดคือ ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.80 ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.512 และด้านการออกแบบกราฟิกบรรจุภัณฑ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับดีมากมคี ่าเฉล่ยี เท่ากบั 4.69 ส่วนเบ่ียงเบน วารสารวชิ าการรบั ใช้สงั คม มทร.ล้านนา 25 ปที ่ี 3 ฉบบั ที่ 2 กรกฏาคม - ธนั วาคม 2562
มาตรฐานเท่ากับ 0.639 เม่ือพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านสีสนั มีความสดใสสวยงามสะท้อนอัตลักษณ์ผลิตภัณฑ์ มากที่สดุ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.75 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากบั 0.575 เพื่อพฒั นาบรรจภุ ัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการ และเพ่ิมยอดขายโดยจากการพัฒนาผลติ ภัณฑ์ ทาให้ชุมชนมีรายได้ ยอดจาหน่าย เพิ่มมากขึ้นจากเดิมคิดเป็นรอ้ ยละ 10 จากยอดขายเดิม และทาใหล้ ูกค้าจดจาได้ง่ายข้ึน อันเนื่องมาจากผลติ ภัณฑ์ที่ได้ปรบั ปรุงพฒั นาจากการออกแบบ บรรจุภัณฑ์ใหมท่ ส่ี ะทอ้ นอัตลักษณข์ องชุมชนผผู้ ลติ คาสาคัญ การพัฒนาแบบบรรจภุ ัณฑ์ Abstract The research on packaging development to increase the value of Krathong Thong rice products began with a survey of problems and needs of the community, Damnoen Saduak District, Ta Luang Subdistrict, Ratchaburi Province, and the new packaging design guidelines for the Krathong Thong Fried Rice Group and raising Level and add value to products, increase sales to the community Packaging development is very important and important for product distribution. Due to the highly competitive market conditions and the rapid technological progress, there are many new packaging packages in the market. Therefore need to develop packaging to be different And is consistent with the characteristics of the needs of consumers with identity, so want to improve the packaging to have a modern look Good packaging must be able to meet the needs of the packaging structure. And the graphic design of the packaging well. For this research, the research team collaborated with the community to gain the outstanding points Product identity That comes mainly from the needs of the community group The data is collected from a sample of 100 consumers, which comes from representatives of the communities who have a stake of 100 per cent. By analyzing the data by finding the percentage (Percentanage) Mean (Mean) and Standard Deviation (S.D.). The results showed that The average needs for modern packaging design of Krathong Thong Fried Rice Product Group at Damnoen Saduak District, Ta Luang Subdistrict Ratchaburi In terms of packaging structure design, the overall picture is in very good level which is equal to 4.69, standard deviation is 0.717. When considering in each aspect, it is found that the package structure material is the most suitable. The mean value is 4.80 and the standard deviation is 0.512 and the graphic design of the package. The overall picture is in a very good level, with an average value of 4.69 and standard deviation of 0.639. It is bright and beautiful, reflecting the product identity the most, with an average of 4.75 and a standard deviation of 0.575 in order to develop packaging to meet the demand and increase sales by product development. Causing the community to have more sales revenue from the original amount of 10 per cent from the original sales And make it easier for customers to remember Due to the product that has been improved from the new packaging design that reflects the identity of the producer community Keywords package design development 26 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
บทนำ แก้ปัญหาความต้องการของคนในชุมชน จังหวัดราชบุรี ข้าวแต๋น ขนมพื้นบ้านทางภาคเหนือที่นาเอา การออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ของกลุ่มข้าวทอดกระทง ทองแปรรปู ผลผลิตดาเนินการศึกษาตามระเบียบวิธีวิจัย ข้าวเหนียววัตถุดิบหลักในพ้ืนท่ีมาผลิตและแปรรูปซึ่ง แบบการวิจัยเชิงปริมาณ(Quantitative Research) เป็นการถนอมอาหารวิธีหน่ึงแต่ปัจจุบันมิใช่เพียงขนม แบง่ ออกเปน็ 2 ตอนดังนี้ พ้ืนบ้านอีกต่อไปเมื่อผู้ผลิตข้าวแต๋นน้าแตงโมภายใต้ แบรนด์ “แม่บัวจันทร์”ได้ปรับโฉมหน้าผลิตภัณฑ์ข้าว ตอนท่ี 1 นักวิจัยได้เข้าไปศึกษา “ร่วม” กับ แ ต๋ น ใ ห้ มี ค ว า ม ห ล า ก ห ล า ย ท้ั ง รู ป แ บ บ แ ล ะ ร ส ช า ติ ทางกลุ่มชุมชนเป้าหมาย ว่ากลุ่มชุมชนได้เข้ามามีส่วน กลายเป็น “ข้าวแต๋นวาไรตี้”อาทิหน้าโดนัท,ธัญพืชรวม ร่วมในวิธีการ ในการดาเนินการระดมความคิดในการ สาหร่ายสไปซ่ี,หมูหยองเพ่ือขยายตลาดผู้บริโภคไปยัง แก้ไขปัญหาเร่ืองบรรจุภัณฑ์และร่วมกันระดม แก้ไข กลุ่มวยั รุ่น และกลมุ่ ตลาดบนรวมท่สี าคญั มีกระบวนการ ปัญหาบรรจภุ ัณฑ์และหาแนวทางในการออกแบบบรรจุ ผลิตได้มาตรฐานตามสุขลักษณะของสานักงานอาหาร ภัณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายท่ี และยา (อย.) รวมไปถึงตลาดส่งออกเป็นผลิตภัณฑ์ได้ จะขยายตลาดไปยงั ลกู ค้ากลุม่ วัยร่นุ และวัยทางาน เล็งเห็นประโยชน์ของข้าวกล้องท่ีมีต่อสุขภาพแต่ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่นิยมรับประทานข้าวกล้องจึงได้ ตอนท่ี 2 ศึกษาแนวทางการออ ก แ บ บ ศกึ ษาค้นคว้าการผลิตอาหารจากขา้ วกลอ้ งประเภทขนม บรรจุภัณฑ์ท่ีทันสมัยของกลุ่มข้าวทอดกระทงทอง เพ่ือส่งเสริมสุขภาพโดยการนาข้าวกล้องมาแช่กับเกลือ แปรรูปผลผลิตอาเภอดาเนินสะดวกตาบลตาหลวง ไอโอดีนและน้าผลไม้แล้วนามาปรุงให้สุกแต่ไม่ประสบ จังหวัดราชบุรีในการวิจยั ในครงั้ นี้เป็นการวิจยั ปฏบิ ัติการ ความสาเร็จจึงได้พัฒนาโดยนาข้าวเหนีย วและ แบบมีส่วนร่วมโดยสมาชิกล่มุ มสี ว่ นร่วมในการวเิ คราะห์ ข้าวเหนียวดากล้องมาผสมจนสาเร็จเป็นขนมตามท่ี ปัญหาศกึ ษาแนวทางในการแก้ปัญหาในการวิจยั ของ ซึ่ง ตอ้ งการตลอดจนพัฒนาบรรจุภัณฑ์และปรับปรุงรสชาติ การศึกษาการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นโดยใช้ ให้เป็นท่ีนิยมของลูกค้าอยู่เสมอ เช่น ข้าวทอดหน้า วิ ธี ก า ร วิ จั ย ป ฏิ บั ติ ก า ร แ บ บ มี ส่ ว น ร่ ว ม ก ร ณี ศึ ก ษ า น้าตาลมะพร้าว ข้าวทอดมะพร้าวกุ้ง ข้าวทอดหน้า ผลิตภัณฑ์ชุมชนในการวิจัยได้มีการนาเทคนิค AIC น้าพริกหมหู ยอง เป็นต้น เพ่ือหาอาชีพเสรมิ ในการสร้าง (Appreciation-Influence-Control) มาใช้ซง่ึ เทคนคิ รายได้ โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาพที่ 1 ร่วมกับชมุ ชนเป้าหมายระดมความคดิ ในการ ต่าง ๆ ได้แก่ สานักงานสหกรณ์จังหวัดราชบุ รี กรมพัฒนาชุมชนรวมถึง สหกรณ์การเกษตรดอนไผ่ แกไ้ ขปัญหา ราชบุรี จากัด ในการให้ความรู้การผลิตผลิตภัณฑ์ท่ีมี คุณภาพและได้มาตรฐานนอกจากน้ีปัญหาทางกลุ่มยัง ขาดการพัฒนาบรรจุภัณฑแ์ ละปรับปรุงรสชาติให้เป็นที่ นิยมของลูกค้ากฤษณา บุญเยี่ยม (2557) จุดเด่นของ ขา้ วทอดกระทงทอง หวาน กรอบ หอม มันอร่อยเพราะ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงเนื่องจากมีส่วนผสมของ ธัญพืชชนิดต่าง ๆ เช่น ถ่ัว งาดา งาขาว โดยผลิตภัณฑ์ ผ่านการรบั รองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (ผมช.) สินคา้ มาตรฐานสหกรณ์ (สมส.) และได้รับคัดเลือกให้เป็น สินค้า OTOP แห่งเมอื งราชบรุ ี อกี ด้วย วธิ กี ำรดำเนนิ งำน ภาพท่ี 2 ศกึ ษาการพัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์ ก า ร วิ จั ย เ ร่ื อ ง ก า ร พั ฒ น า แ บ บ บ ร ร จุ ภั ณ ฑ์ ผลิตภัณฑ์ข้าวทอดกระทงทอง ตาบลตาหลวง อาเภอ ดาเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี มีวัตถุประสงค์เพ่ือ วารสารวิชาการรบั ใช้สังคม มทร.ล้านนา 27 ปีที่ 3 ฉบบั ที่ 2 กรกฏาคม - ธนั วาคม 2562
A-I-C คือ กระบวนการประชุมที่มีวิธีหรือขั้นตอนที่เปิด ให้ครอบคลุมประเด็นต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ของการ โอกาสใหผ้ ูเ้ ข้าร่วมประชุมได้มีโอกาสส่อื สารแลกเปลีย่ น วิจัยเก่ียวกับแนวทางรูปแบบความต้องการต่อการ ความรู้ประสบการณ์ข้อมูลข่าวสารโดยมีข้ันตอนการ อ อ ก แ บ บ บ ร ร จุ ภั ณ ฑ์ ท่ี ทั น ส มั ย ข อ ง ก ลุ่ ม ข้ า ว ท อ ด ดาเนนิ งานอยู่ 3 ขน้ั ตอนได้แก่ กระทงทองแปรรูปผลผลิตตาบลตาหลวงอาเภอดาเนิน สะดวก จงั หวดั ราชบุรี 1) ขั้นการสร้างองค์ความรู้คือการทาให้เกิด ความเข้าใจถึงสภาพปัญหาข้อจากัดความต้องการและ 2.2 นาแบบสอบถามที่สร้างข้ึนเสนอต่อ ศักยภาพของผูท้ ่ีเกย่ี วขอ้ งตา่ ง ๆ ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบและปรับแก้ไขตาม ข้อ เสนอแนะ 2) ขั้นการสร้างการพัฒนาเป็นการระดมพลัง 3. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ส ม อ ง เ พ่ื อ แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า แ ล ะ แ น ว ท า ง ใ น ก า ร พั ฒ น า เชงิ สร้างสรรคซ์ ง่ึ ผลงานทไี่ ด้จากความคิดของผูท้ ี่เข้าร่วม เก็บรวบรวมข้อมูลของผู้บริโภคทั่วไปและคน ประชมุ ทุกคน ในชุมชน ตาบลตาหลวง อาเภอดาเนินสะดวกจังหวัด ราชบุรีจากจานวน 100 คนแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มได้แก่ 3) ขั้นตอนในการสร้างแนวทางการปฏิบัติท่ีดี ผบู้ รโิ ภคในชุมชน 40 คนตวั แทนจากผู้บริโภคอาเภอ 30 คือการวางแผนงานการนาวิธีการที่เกิดจากการระดม คน ตัวแทนจากผู้โภคพื้นที่ใกล้เคียง 30 คน ระยะเวลา สมองการวางแผนในการปฏิบัติมาทางานร่วมกันเพ่ือ ดาเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2561 – บรรลุเป้าหมายการวิจัยในครั้งน้ีผู้วิจัยได้นาเทคนิค AIC 1 กนั ยายน พ.ศ. 2561 ดังนี้ มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์แบบมี ส่วนร่วมโดยทาให้กลุ่มฯ เข้าถึงในสภาพปัจจุบันทราบ 3.1 การดาเนินโครงการศึกษาค้นคว้าเรื่อง ข้อจากัดศักยภาพของกลมุ่ และเข้าใจความต้องการหรอื แนวทางในการส่งเสริมความรใู้ ห้กบั กลุ่มวสิ าหกจิ ชุมชน ความคาดหวังในอนาคตโดยสมาชิกกลุ่มมีส่วนร่วมใน มีจุดมุ่งหมายเพ่ือพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ฉลากผลิตภัณฑ์ การดาเนินงานวิจัยเพ่ือให้กลุ่มมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พัฒนาช่องทางการจาหน่ายในโลกออนไลน์ให้มีความ ภายใต้บริบทของกลุ่มเพื่อการพัฒนาอย่างย่ังยืนต่อไป สะดวกและน่าสนใจย่ิงข้ึนและจัดทาส่ือประชาสัมพันธ์ โดยมกี ระบวนการทางานดังนี้ กิจกรรมของกลมุ่ วิสาหกิจชุมชนโดยการเกบ็ ข้อมูลแบบ 1. ขน้ั ตอนการสร้างองค์ความร้เู ป็นข้นั ตอนการวเิ คราะห์ รวบรวมจากการสอบถาม ( interrogation) และ ปญั หาผู้วิจัยได้ลงพน้ื ท่ีศกึ ษาและรวบรวมข้อมลู เบื้องต้น แบบสอบถาม (Questionnaire) รวมถึงการวิเคราะห์ เพ่ือศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพอนาคตท่ีมุ่งหวังโดย SWOT และนาข้อมูลท้ังหมดที่ได้มาทาการวิเคราะห์ ผู้ วิ จั ย ได้ ท า ก า ร วิ เ คร า ะ ห์ จุ ด แ ข็ ง จุ ดอ่ อ นโ อ ก า ส แ ล ะ วางแผนข้อมูลเชิงคุณภาพดาเนินการประสานความ อปุ สรรคของกล่มุ ผลิตภัณฑข์ า้ วทอดกระทงทองผู้วจิ ัยลง ร่วมมือกับคนในชุมชน ตาบลตาหลวงอาเภอดาเนิน พื้นท่เี พอื่ เก็บข้อมลู ของกลมุ่ ขา้ วทอดกระทงทองแปรรูป สะดวกจังหวดั ราชบุรี จากผลการสัมภาษณ์ผู้วิจัยได้ทาสรุปผลในรูปแบบการ วิเคราะห์ SWOT ได้ดังนี้จุดแข็ง (Strength = S) 1. มี 3.2 ขัน้ ตอนการดาเนนิ โครงการ แรงงานท่ีมีฝีมือปราณีต และมีความเชย่ี วชาญ 2. สินค้า 3.2.1 ลงพ้ืนท่ีศึกษาดูงาน สัมภาษณ์ แขง็ แรงทนทานสวยงามและประณตี เพ่ือทาความเขา้ ใจถึงปญั หา ใ ช้ แ บ บ ส อ บ ถ า ม ( Questionnaire) เ ป็ น 3.2.2 ประมวลผลข้อมูลและจัดทา เ ค รื่ อ ง มื อ ใ น ก า ร ศึ ก ษ า เ รื่ อ ง รู ป แ บ บ ก า ร ศึ ก ษ า แ น ว ทางการออกแบบบรรจุภณั ฑ์ทีท่ ันสมัยของกลมุ่ ขา้ วทอด แบบสอบถามความคิดเห็นทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์ กระทงทองแปรรูปผลผลิต ตาบลตาหลวงอาเภอดาเนิน 3.2.3 นาเสนอผลการดาเนินงาน สะดวก จังหวดั ราชบุรี 2. การสรา้ งเคร่อื งมอื การวจิ ยั ข้ันต้น ศึกษาดูงานการออกร้านจาหน่ายสินค้าของ วิสาหกิจชุมชน สารวจข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและ 2.1 การศึกษาแนวคิดและทฤษฎีท่ีเก่ียวข้อง การสอบถามผู้ประกอบการ ผ้บู ริโภคและผมู้ ุง่ หวัง จากเอกสารและงานวิจัยต่าง ๆ นามาเป็นแนวทางใน การกาหนดกรอบแนวความคิดและสร้างแบบสอบถาม 3 . 2 . 4 ป ร ะ ม ว ล ผ ล ข้ อ มู ล จ า ก แ บ บ ส อ บ ถ า ม แ ล ะ ก า ร ส อ บ ถ า ม โ ด ย ใ ช้ โ ป ร แ ก ร ม Microsoft Excel ช่วยในการรวบรวมข้อมูล เพื่อจัดทา แนวทางการแกป้ ญั หา 28 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
3.2.5 ศกึ ษาข้อมูลรปู แบบบรรจภุ ณั ฑ์ ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู และฉลากบรรจภุ ัณฑ์เดมิ ของผลิตภัณฑ์ ก า ร วิ จั ย นี้ ด า เ นิ น ก า ร ศึ ก ษ า ต า ม ร ะ เ บี ย บ วิ จั ย แ บ บ เชงิ ปริมาณ (สารวจ) การวิเคราะห์ข้อมลู มดี งั นี้ 3.2.6 ออกแบบฉลากบรรจุภัณฑ์ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความร่วมสมัย โดยใช้ ตอนท่ี 1. การวิเคราะห์ข้อมูลท่ัวไปของผู้ตอบ โปรแกรม Photoshop และ Illustrator แบบสอบถาม 3.2.7 ออกแบบส่ือประชาสัมพันธ์ ตอนท่ี 2. การวิเคราะหข์ อ้ มลู ความต้องการต่อ แ บ บ อ อ ฟ ไ ล น์ โ ด ย ใ ช้ โ ป ร แ ก ร ม Photoshop, การออกแบบรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัยของข้าวทอด Illustrator และ Power Point กระทงทอง ตาบลตาหลวง อาเภอดาเนินสะดวก จังหวัด ราชบรุ ี 3.2.8 ศึกษาข้อมูล ช่องทางการ จาหน่ายในโลกออนไลน์เดิมของผลิตภัณฑ์ ข้าว ตอนท่ี 1 การวิเคราะหข์ ้อมูลทั่วไปของผู้ตอบ ปลอดสารแปรรูป แบบสอบถาม 3.2 นาแบบสอบถามให้ประชาชนทั่วไปและ จ า ก ก า ร เ ก็ บ ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล ก ลุ่ ม ตั ว อ ย่ า ง คนในชุมชนตาบลตาหลวงอาเภอดาเนินสะดวกจังหวัด ผู้บริโภคทั่วไปท่ีบริโภคข้าวทอดกระทงทอง ตาบล ราชบุรีให้นักศึกษาสาขาการตลาด มหาวิทยาลัย ตาหลวง อาเภอดาเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี จานวน เทคโนโลยรี าชมงคลพระนครทราบและอธิบายวิธกี ารทา 100 คนและวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงพรรณ นา แบบสอบถามอย่างละเอียดก่อนดาเนินการรวบรวม (ค่าความถี่, ค่าร้อยละและค่าเฉลี่ย) สัญลักษณ์ท่ีใช้ใน ข้อมลู การวิเคราะห์และการแปลความหมายของข้อมลู ผู้วิจัย กาหนดสัญลักษณท์ ีใ่ ช้ ดังน้ี 3.3 เก็บรวบรวมและตรวจสอบความสมบูรณ์ ของขอ้ มูลที่ได้จากแบบสอบถามแต่ละฉบบั n แทน จานวนกลุ่มตัวอย่าง 4.การวิเคราะหข์ อ้ มูล x แทน ค่าเฉล่ีย วเิ คราะหข์ อ้ มลู ดว้ ยสถิตคิ วามถรี่ อ้ ยละแบง่ ได้ดงั นี้ SD แทน สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู เปน็ ไปตามลาดบั หวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ี 4.1 การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบ 1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม แบบสอบถาม ประกอบด้วยการแจกแจงความถ่ีจาแนกตาม เพศ อายุ อาชีพ 4.2 การวิเคราะห์ข้อมูลเกีย่ วกับความต้องการ การวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม ต่อการออกแบบบรรจุภัณฑ์ท่ีทันสมัยของกลุ่มข้าวทอด จานวน 100 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงจานวน 64 คน กระทงทองแปรรูปผลผลิต ตาบลตาหลวง อาเภอดาเนิน คิดเป็นร้อยละ 64.0 และเป็นเพศชายจานวน 36 คน สะดวก จังหวดั ราชบรุ ี คดิ เปน็ ร้อยละ 36.0 การวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 4.3 การวิเคราะห์ข้อมูลเก่ียวกับแนวทางการ จานวน100 คนส่วนใหญ่มีอายุ25 - 34 ปีมากที่สุด ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัยของกลุ่มข้าวทอดกระทง จานวน 29 คน คิดเป็นร้อยละ 29.0 และอายุ 34 - 44 ทองแปรรูปผลผลิต ตาบลตาหลวง อาเภอดาเนนิ สะดวก ปี จานวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 24.0 และอายุ 45 - จงั หวดั ราชบรุ ี 54 ปี จานวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 19.0 และอายุ 55 ปีขน้ึ ไป จานวน 18 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 18.0 และอายุตา่ ภาพท่ี 3 บรรจุภณั ฑท์ ี่ได้รบั การพัฒนาแลว้ กว่า 25 ปี น้อยท่ีสุด จานวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 10.0 การวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม จานวน 100 คนส่วนใหญ่เป็นอาชีพคา้ ขาย/ธุรกจิ สว่ นตัว จานวน 28 คนคิดเป็นร้อยละ 28.0 และอาชีพนกั เรียน/ นักศกึ ษาจานวน 22 คนคิดเป็นรอ้ ยละ 22.0 และอาชพี วารสารวชิ าการรบั ใช้สงั คม มทร.ลา้ นนา 29 ปที ่ี 3 ฉบบั ที่ 2 กรกฏาคม - ธันวาคม 2562
ตารางท่ี 1 การออกแบบโครงสร้างบรรจภุ ัณฑ์ ระดบั ความคิดเหน็ การออกแบบโครงสรา้ งบรรจภุ ณั ฑ์ x SD อนั ดบั ระดบั 4.73 0.66 2 ดมี าก 1. รปู แบบโครงสรา้ งบรรจุภัณฑ์โดยรวมมคี วามเหมาะสมกับตวั ผลิตภณั ฑ์ 4.80 0.512 1 ดีมาก 2. วสั ดุโครงสรา้ งบรรจุภณั ฑ์มคี วามเหมาะสม 4.66 0.714 3 ดี 3. บรรจภุ ณั ฑม์ ขี นาดเหมาะสมตอ่ ปริมาณของสินคา้ 4.58 0.912 4 ดี 4. บรรจภุ ณั ฑ์สามารถเปดิ ปดิ เก็บรักษาสินค้าได้ดี ตารางท่ี 2 การออกแบบกราฟิกบรรจภุ ัณฑ์ ระดบั ความคิดเหน็ การออกแบบโครงสรา้ งบรรจุภณั ฑ์ x SD อันดบั ระดบั 4.75 0.575 1 ดมี าก 1. สีสัน มีความสดใสสวยงาม 4.68 0.723 3 ดมี าก 2. รปู ภาพ ลวดลายท่ตี กแต่ง มีความเหมาะสม สวยงาม 4.65 0.730 4 ดมี าก 3. รูปแบบตวั อกั ษร มีความสอดคลอ้ งเหมาะสม 4.73 0.617 2 ดีมาก 4. ขอ้ มูลแสดงรายละเอียดบรรจุภัณฑ์ มคี วามเหมาะสมครบถ้วน 4.62 0.801 5 ดีมาก 5. บรรจุภัณฑ์สามารถสือ่ ถึงจดุ เด่น เอกลกั ษณ์กลมุ่ /ชมุ ชนได้ดี ข้าราชการจานวน 23 คนคิดเป็นร้อยละ 23.0 และ เทา่ กบั 4.75 ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐานเท่ากบั 0.575 และ อาชีพรับจ้างจานวน 13 คนคิดเป็นร้อยละ13.0 และ ด้านบรรจุภัณฑ์สามารถสื่อถึงจุดเด่นเอกลักษณ์/ชุมชน อาชีพพนกั งานรฐั วสิ าหกิจจานวน 11 คน คิดเปน็ ร้อยละ ได้ดีน้อยท่ีสุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.62 ส่วนเบ่ียงเบน 11.0 และอาชีพอื่น ๆ น้อยท่ีสุดจานวน 3 คนคิดเป็น มาตรฐานเท่ากับ 0.801 ร้อยละ 3.0 ข้อเสนอแนะเพ่ิมเติมเกี่ยวกับความต้องการต่อ ต อน ที่ 2 ก ารวิเค ราะห์แบบสอบ ถาม การออกแบบบรรจุภัณฑ์ท่ีสมัยใหม่ ควรมีการพัฒนา แ บ บ ส อ บ ถ า ม ค ว า ม คิ ด เ ห็ น ข อ ง ผู้ บ ริ โ ภ ค ทั่ว ไ ป รปู แบบของบรรจภุ ัณฑจ์ ากรปู แบบเก่าไปยังรปู แบบใหม่ เ กี่ ย ว กั บ ก า ร อ อ ก แ บ บ ก า ร พั ฒ น า บ ร ร จุ ภั ณ ฑ์ ใ ห้ ท่ีสวยงามและทนั สมยั มากยงิ่ ข้ึน ควรมกี ารจัดการอบรม ทันสมัย และมีส่วนรวมในการช่วยกนั พัฒนาบรรจุภัณฑใ์ นชมุ ชน ค ว ร มี ก า ร ช่ ว ย กั น พั ฒ น า รู ป แ บ บ บ ร ร จุ ภั ณ ฑ์ อ ยู่ จากตารางท่ี 1 พบว่าค่าเฉลี่ยวิเคราะห์ข้อมูล ตลอดเวลาเพอ่ื ไมใ่ หร้ ูปแบบท่ีมีมนั ดอ้ ยลง ด้านการออกแบบโครงสร้างบรรจุภณั ฑโ์ ดยภาพรวมอยู่ สรุป ในระดบั ดีมากมีคา่ เท่ากับ 4.69 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.717 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าวัสดุ ตอนท่ี 1 การวิเคราะห์ข้อมูลท่ัวไปของผู้ตอบ โครงสร้างบรรจุภัณฑ์มีความเหมาะสมมากที่สุดคือ แบบสอบถาม ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.80 ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.512 และเป็นบรรจุภัณฑ์สามารถเปิดปิดเก็บรักษา จากผลของการเกบ็ ข้อมูลตัวอย่างของผบู้ ริโภค สินค้าได้ดีน้อยท่ีสุด คือค่าเฉล่ีย 4.58 ส่วนเบี่ยงเบน ท่ัวไปจานวน100 คนส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากที่สุด มาตรฐานเท่ากับ 0.912 จานวน 64 คนคิดเป็นร้อยละ 64.0 และเป็นเพศชาย น้อยที่สุดจานวน 34 คน คิดเป็นร้อยละ 34.0 โดยส่วน จากตารางท่ี 2 พบว่าค่าเฉลี่ยวิเคราะห์ข้อมูล ใหญม่ อี ายรุ ะหว่าง 24 – 34 ปี มากทสี่ ดุ จานวน 29 คน ด้านการออกแบบกราฟิกบรรจุภัณฑ์โดยภาพรวมอยู่ใน คิดเป็นร้อยละ 29.0 และอายุต่ากว่า 25 ปี น้อยที่สุด ระดับดีมากมีค่าเฉล่ียเท่ากับ 4.69 ส่วนเบี่ยงเบน จานวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 10.0 ส่วนใหญ่มีอาชีพ มาตรฐานเท่ากับ 0.639 เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว จานวน 28 คน คิดเป็นร้อยละ พบว่าด้านสีสันมีความสดใสสวยงามมากท่ีสุดมีค่าเฉลี่ย 30 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
28.0 และอาชีพอื่น ๆ น้อยท่ีสุดจานวน 3 คน คิดเป็น วิจัยดังกล่าวส่งผลต่อรายได้เพิ่มข้ึน ปริมาณยอดขาย รอ้ ยละ 3.0 เพ่ิมขึ้นจากยอดขายเดิม 15% เชิงคุณภาพได้รับการ รับรองจากเคร่ืองหมายการค้าและเคร่ืองหมายสินค้า ตอนที่ 2 การวิเคราะห์ข้อมูลความต้องการต่อ โอทอปและมาตรฐานอ่ืน ๆ บ่งบอกถึงคุณภาพสินค้าได้ การออกแบบรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัยของข้าวทอด ดีขึ้นพร้อมเป็นสินค้าท่ีขายในโมเดลเทรดหรือส่งออก กระทงทองตาบลตาหลวงอาเภอดาเนินสะดวก จังหวัด และเชิงทางสังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงกลุ่มคนให้คนใน ราชบุรี ก ลุ่ ม ใ น ชุ ม ช น มี ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ที่ ดี ข้ึ น จ า ก า ร ซื้ อ แ ล ะ บริโภคซ้า - การวิเคราะห์แบบสอบถามความคิดเห็นของ การนาไปใช้ประโยชน์ ผู้ บ ริ โ ภ ค ท่ั ว ไ ป เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร อ อ ก แ บ บ ก า ร พั ฒ น า บรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัยด้านการออกแบบโครงสร้าง จากการพัฒนารปู แบบบรรจุภณั ฑข์ องข้าวทอด บรรจุภัณฑ์กลุ่มตัวอยา่ งของผบู้ ริโภคทั่วไปจานวน 100 กระทงทองในรูปแบบใหม่ทมี่ ีความสวยงามและทันสมัย คน ส่วนใหญ่วสั ดุโครงสรา้ งบรรจภุ ัณฑม์ ีความเหมาะสม มากขึ้นกว่ากลุ่มข้าวทอดกระทงทองแปรรูปผลผลิต มากที่สุดคือค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.80 ส่วนเบ่ียงเบน อาเภอดาเนินสะดวก ตาบลตาหลวงจังหวัดราชบุรี การ มาตรฐาน 0.512 และเป็นบรรจุภัณฑ์สามารถเปิด – ปิด พัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์นี้ทาให้สามารถเพิ่มยอดการ เก็บรักษาสินค้าได้ดีน้อยท่ีสุด คือค่าเฉล่ีย 4.58 ส่วน จาหน่ายเพิ่มข้ึน 15% ของผู้บริโภคและความคิดเห็น เบีย่ งเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.912 ของชุมชนท่ีมีส่วนร่วมพัฒนารูปแบบของบรรจุภณั ฑ์จน นาไปสู่รูปแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่ตรงกับความต้องการ - การวิเคราะห์แบบสอบถามความคิดเห็นของ ของตลาดและกลุ่มเปา้ หมายมากยิ่งข้ึน ผู้ บ ริ โ ภ ค ท่ั ว ไ ป เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร อ อ ก แ บ บ ก า ร พั ฒ น า อภิปรายผล บรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัยด้านการออกแบบกราฟิ ก บรรจุภัณฑ์กลุ่มตัวอยา่ งของผู้บริโภคทั่วไปจานวน 100 ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ ข้ อ มู ล ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ต่ อ ก า ร คน ส่วนใหญ่เป็นด้านสีสัน มีความสดใส สวยงาม มาก อ อ ก แ บ บ รู ป แ บ บ บ ร ร จุ ภั ณ ฑ์ ท่ี ทั นส มั ย ขอ ง ข้ า ว ท อ ด ที่สุดมีค่าเฉล่ียเท่ากับ 4.75 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน กระทงทอง ตาบลตาหลวง อาเภอดาเนนิ สะดวก จังหวดั เทา่ กบั 0.575 และดา้ นบรรจภุ ัณฑ์สามารถส่อื ถึงจุดเด่น ร า ช บุ รี ส่ ง ผ ล ต่ อ ร า ย ไ ด้ เ พ่ิ ม ร่ ว ม ไ ป ถึ ง ก า ร ย ก ร ะ ดั บ เอกลักษณ์/ชุมชนได้ดีน้อยท่ีสุดมีค่าเฉล่ียเท่ากับ 4.62 คุณภาพชีวิตเพ่ิมความสุขให้กับคนในชุมชน และชุมชน สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.801 ในคนในกลุ่มมีการการติดตาม และพัฒนาต่อยอดจาก ผลการดาเนนิ งาน กระบวนวจิ ยั ทท่ี าให้ชุมชนเกดิ ความยงั่ ยนื เ ป ลี่ ย น จุ ด อ่ อ น เ ป็ น จุ ด แ ข็ ง โ ด ย อ อ ก แ บ บ 1. ศึกษาความต้องการต่อการออกแบบ บรรจุภัณฑ์และฉลากผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่นและเข้ากับ บรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัยของกลุ่มข้าวทอดกระทงทองแปร ค ว า ม นิ ย ม ใ น ปั จ จุ บั น ม า ก ข้ึ น เ พ่ิ ม ล ว ด ล า ย ล ง บ น รูปผลผลิตอาเภอดาเนินสะดวกตาบลตาหลวงจังหวัด บรรจุภัณฑ์เดิมให้น่าสนใจมากข้ึนแนะนาการเพ่ิมกาลงั ราชบุรผี ลการวดั ประสิทธิภาพโดยรวมของการออกแบบ การผลิตหากมกี ารส่งั ซ้ือมากข้นึ รวมถงึ แนะนารา้ นจัดทา บรรจภุ ัณฑส์ าหรับขา้ วแตน๋ ของกลมุ่ ข้าวทอดกระทงทอง บรรจุภณั ฑ์ทมี่ รี าคาถกู แต่คณุ ภาพงานดี แปรรูปผลผลิต อาเภอดาเนินสะดวก ตาบลตาหลวง จังหวัดราชบุรีโดยทาประเมินเป็น 2 ด้าน คือ ด้านการ เปล่ียนอุปสรรคเป็นโอกาสโดยนาเสนอความ ออกแบบโครงสร้างบรรจุภัณฑ์และด้านการออกแบบ โดดเด่นและแตกต่างของสินค้าให้ชัดเจนมากขึ้นโดย กราฟิกบรรจุภัณฑ์สามารถอภิปรายผลได้ดังนี้ ด้าน นาเคร่ืองหมายรับรองคุณภาพการประชาสัมพันธ์ และ โครงสร้างบรรจุภัณฑ์มเี กณฑ์โดยรวมอยู่ในเกณฑด์ ีมาก เนน้ ย้าถงึ ความเป็นเอกลกั ษณ์ของสินคา้ ท่ปี ลอดสารเคมี ทั้งนี้เพราะการออกแบบบรรจภุ ัณฑ์โดยใช้วัสดุกระดาษ ได้มาตรฐานการรับรองและผลิตมาอย่างเน่ินนานให้ เ ป็ น บ ร ร จุ ภั ณ ฑ์ ท่ี นิ ย ม ใ ช้ ม า ก ที่ สุ ด ซ่ึ ง ก ร ะ ด า ษ ที่ มี ผู้บริโภคสนใจและจดจาตราสินค้าได้รวมถึงเป็นการ คุณสมบัติป้องกันความช้ืนอากาศได้อย่างเหมาะสมซึ่ง สรา้ งความแตกต่างจากวัตถดุ บิ ทว่ั ไป จากการดาเนินการของผู้วิจัย และเพ่ิมเติม ผลลัพธข์ องการเปลีย่ นแปลงจากก่อนและหลัง จากการ วารสารวิชาการรับใชส้ งั คม มทร.ล้านนา 31 ปีที่ 3 ฉบบั ท่ี 2 กรกฏาคม - ธนั วาคม 2562
สอดคล้องกับงานวิจัยของ อมรรัตน์ สวัสดิทัต (2555 : ความเข้าใจในรสชาติของบะหมี่ก่ึงสาเร็จรูปของกลุ่ม 44) บรรจุภัณฑ์นับได้ว่าเป็นปัจจัยท่ีสาคัญของสินค้า ตัวอย่างชายมากที่สุด คือปัจจัยด้านภาพประกอบ และขาดไม่ได้ในการดารงชีวิตประโยชน์ของบรรจภุ ัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพประกอบท่ีเป็นภาพท่ีขยายหรือ มีมากมายและเป็นส่วนสาคัญของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ แสดงรายละเอียดของบะหม่ีก่ึงสาเร็จรูปและเคร่ือง ระบบเศรษฐกิจของประเทศช่วยในการขนส่งสินค้าให้ ประกอบทชี่ ดั เจน จะส่งผลตอ่ ความเขา้ ใจมากขึ้น ควรมี เป็นไปอย่างรวดเร็วป้องกันสินค้าจากสภาพแวดล้อม การจัดโครงการฝึกอบรมและมีส่วนรวมในการช่วยกัน ต่าง ๆ บรรจุภัณฑ์ในยุคแรกจะสามารถเก็บรักษา พัฒนาบรรจุภัณฑ์ในชุมชนอย่างต่อเน่ือง ชุมชนควร (เจนจริ า คงมาลัย, 2557) ร่วมกันพฒั นารูปแบบบรรจภุ ณั ฑ์อยตู่ ลอดเวลาเพอ่ื สร้าง ความหลากหลายให้กบั ตวั บรรจภุ ัณฑ์และความต้องการ 2. ศึกษาแนวทางการออกแบบบรรจุภัณฑ์ท่ี ของผบู้ รโิ ภคทมี่ ีมากยิ่งข้ึน ทันสมัยของกลุ่มข้าวทอดกระทงทองแปรรูปผลผลิต ข้อเสนอแนะสำหรบั กำรวจิ ยั คร้ังต่อไป ตาบลตาหลวง อาเภอดาเนินสะดวก จงั หวัดราชบุรีด้าน การออกแบบกราฟิกบรรจุภัณฑ์มีเกณฑ์โดยรวมอยู่ใน ผู้วิจัยควรมีการศึกษารูปแบบของบรรจุภัณฑ์ เกณฑ์ดีมากทง้ั นเ้ี พราะรูปแบบของบรรจุภัณฑ์มุ่งเน้นใน ในชุมชนให้รอบคอบและศกึ ษาบริบทความเป็นมาข้อมูล การพัฒนาในรูปแบบสากลทันสมยั สวยงามมีเอกลักษณ์ ของชุมชน ท่ี ลู ก ค้ า ส า ม า ร ถ จ ด จ า ไ ด้ ง่ า ย แ ล ะ มี ก า ร อ อ ก แ บ บ บรรจภุ ณั ฑ์ในสินค้ากลุม่ เดียวกันใหม้ ีความสอดคล้องกัน บรรณำนกุ รม สีของบรรจุภัณฑ์ในแต่ละชนิดมีสีที่แตกต่างกันเพื่อง่าย กฤษณา บุญเย่ียม (2557). ควำมหมำยของกำร ต่อการแยกแยะสินค้า แสดงภาพสินค้าเพ่ือดึงดูดความ สนใจของลูกค้าและสามารถเลือกซื้อสินค้าในแตล่ ะชนิด ออกแบบบรรจุภัณฑ์, เข้าถึงวันที่ 1 สิงหาคม ได้ง่ายขน้ึ ข้าวแตน๋ ในโครงการหน่ึงตาบลหน่งึ ผลิตภัณฑ์ 2 5 6 1 . สื บ ค้ น จ า ก http: / / artd3301- มรี สชาตทิ ี่หลากหลาย ซง่ึ จาเปน็ ต้องใชภ้ าพถา่ ยแสดงให้ kalpapeuk. blogspot.com/2013/11/blog เห็นถึงความแตกต่างในแต่ละชนิด ภาพประกอบท่ี -post_12. html สวยงามจะช่วยให้สินค้าแยกแยะความแตกต่างของกัน เจนจิรา คงมาลัย (2557). กำรออกแบบบรรจุภัณฑ์, และกันได้อย่างดีตลอดทั้งยังดึงดูดให้ลูกค้าเกิดการ เข้าถึงวันที่ 3 สิงหาคม 2561. สืบค้นจาก ตัดสินใจเลือกซ้ือสินค้าได้มากยิ่งข้ึน ซึ่งสอดคล้องกับ https://nittaya111.wordpress.com งานวิจัยของ ศักดา บุญยืด (2554 : บทคัดย่อ) ได้ อมรรัตน์ สวัสดิทัต (2534 : 44). บรรจุภัณฑ์ท่ีดีและ กล่าวถึงปัจจยั ด้านกราฟิกบนซองบรรจุภัณฑท์ ่ีส่งผลต่อ น่ำสนใจยอ่ มเปน็ สว่ นหน่ึงของกำรแข่งขนั ใน ความเข้าใจในรสชาติของบะหมี่ก่ึงสาเร็จรูป สามารถ ตลำดยุคไร้พรมแดน. สรุปได้ว่าปัจจัยด้านการออกแบบกราฟิกท่ีส่งผลต่อ 32 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
การแก้ปญั หาความยากจนผ่านการบริการวชิ าการเครือ่ งอบแหง้ พลังงานแสงอาทิตย์: กลุม่ เกษตรกรมะขามเปรย้ี วยักษ์ จังหวัดพิษณุโลก Solving Poverty Through Academic Service Solar Drying Machine: Giant Sour Tamarind Farmers Group Phitsanulok Province สรวิศ สอนสารี1* เอกภูมิ บญุ ธรรม2 เอกกฤษ แกว้ เจรญิ 2 วัชรากร ใจตรง2 วีรวธุ เลพล2 และมนตรี วงค์ศริ วิ ิทยา2 Sorawit Sonsaree1* Eakpoom Boonthum2 Eakrit Kaewcharoen2 Watcharakorn Jaiton2 Wirawut Lephon2 and Montree Wongsiriwittaya2 1อาจารย์ ดร. คณะเทคโนโลยอี ุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พิบูลสงคราม 2อาจารย์ คณะเทคโนโลยอี ุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม 1Lecturer DR., Faculty of Industrial Technology Pibulsongkram Rajabhat University. 2Lecturer, Faculty of Industrial Technology Pibulsongkram Rajabhat University. E-mail : [email protected], เบอร์โทรศพั ท์ 055-282-792, 055-282-792 บทคัดยอ่ โครงการนี้เป็นโครงการการอบรมเชิงปฏิบัติการการอบแห้งด้วยเคร่ืองอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ โดยมี วัตถุประสงค์ คือ (1) เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ในการออกแบบเคร่ืองอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์อย่างง่าย และ (2) เพื่อจัดทาคู่มือการอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการได้ดาเนินการ ณ กลุ่ม เกษตรกรมะขามเปรี้ยวยักษ์ ตาบลวังนกแอ่น อาเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก (ลองจิจูด : 16º50’32” N ละติจูด : 100º41’12” E) ผลการ ดาเนนิ งานโครงการสามารถแบง่ ออกเป็นสองส่วน (1) เปา้ หมายเชงิ ปรมิ าณ: จานวนนักศกึ ษาท่ีเข้ารว่ มบรกิ ารวชิ าการ 53 คน (คิดเปน็ รอ้ ยละ 96.4 ของจานวนเปา้ หมายท่ีตงั้ ไว้ 55 คน) จานวนเกษตรกรท่เี ข้ารว่ มโครงการ 15 คน (คิดเป็น ร้อยละ 100.0 ของจานวนเป้าหมายท่ีตั้งไว้ 15 คน) และเกิดการบูรณาการกับการเรียนการสอนในรายวิชา อุณหพลศาสตร์ และ (2) เป้าหมายเชิงคุณภาพ : จานวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการพ้นจากเกณฑ์ความยากจน จานวน 12 คน (คดิ เป็นร้อยละ 80.0 ของจานวนเกษตรกรทเ่ี ข้าเกณฑ์ความยากจน 15 คน) นอกจากน้ใี นส่วนของผล การประเมินความพงึ พอใจของผู้เขา้ รว่ มโครงการในกระบวนการใหบ้ รกิ าร และผู้เขา้ รว่ มโครงการสามารถนาความรู้ไป ใชป้ ระโยชน์ พบว่า มคี า่ ร้อยละอย่ทู ี่ 92.7 และ 89.9 ตามลาดบั คาสาคญั ปัญหาความยากจน เครื่องอบแหง้ พลังงานแสงอาทิตย์ มะขามเปรยี้ วยกั ษ์ ABSTRACT This project has presented a workshop for solar drying machine. The objective is (1) to transfer the simple knowledge on how to design the solar drying machine, and (2) to prepare a solar drying guide. The project was conducted at the Giant sour tamarind farmers group at Wang Nok Aen Subdistrict, Wang Thong District, Phitsanulok Province (Longitude 16º50’32\" N Latitude: 100º41’12\" E). This project performance can be divided into two parts (1) Quantitative goals: the number of students attending academic services 53 people (96.4 percent of the target set, 55 people), the number of agriculturalist participating in the project 15 people (100.0 percent of the target set, 15 วารสารวชิ าการรับใช้สังคม มทร.ล้านนา 33 ปที ี่ 3 ฉบับท่ี 2 กรกฏาคม - ธันวาคม 2562
people), and integrated with teaching in Thermodynamics subject. And (2) Qualitative goals: the number of agriculturalist that participated in the program was out of the poverty threshold of 12 people (80.0 percent of the target set, 15 people). In addition, the results of the satisfaction assessment of the participants in the service process, and the part participants can use knowledge to find that the percentage is 92.7 and 89.0, respectively. Keywords Poverty, Solar Drying Machine, Giant Sour Tamarind บทนา ความชอบทางประสาทสัมผัสมากท่ีสุดและใช้เวลาใน ประเทศไทยเป็นประเทศท่ีมีศักยภาพพลังงาน การใหค้ วามรอ้ นและการทาแห้งนอ้ ยท่สี ดุ การเกบ็ รกั ษา มะขามหวานในถุงตาขา่ ยโดยเกบ็ รักษาไวท้ ีอ่ ณุ หภูมิห้อง แสงอาทิตย์ค่อนข้างสูงประมาณ 17.6 MJ/m2-day สามารถรักษามะขามได้อย่างน้อย 12 สัปดาห์ (กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน, Methakhup S. และคณะ (2005) ศึกษาการทาแห้ง 2560) ประกอบกับประเท ศไ ทย เป็ นปร ะ เ ท ศ ด้ ว ย ไ อ น้ า ร้ อ น ย ว ด ย่ิ ง ท่ี ส ภ า ว ะ ค ว า ม ดั น ต่ า กั บ เ น้ื อ เกษตรกรรมที่รายได้ของเกษตรกรส่วนใหญ่มาจากการ มะขามป้อม พบว่า การทาแห้งด้วยไอน้าร้อนยวดยิ่งที่ ทาอาชพี เกษตร แต่เน่ืองจากความเขา้ ใจผดิ บางประการ สภาวะความดันต่าสามารถรักษาสีได้ดีกว่าการทาแห้ง ทาให้บางคร้ังเกษตรกรได้ทาการเพาะปลูกพืชท่ีมี ด้วยระบบสุญญากาศในทุกสภาวะ โดยมีค่าความสว่าง ผลผลิตเป็นผลิตผลชนิดเดียวกันเป็นจานวนมาก ดังนั้น และสีแดงมากกว่า แต่มีค่าสีเหลืองใกล้เคียงกับ จึงทาให้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเกิดการล้น มะขามป้อมสด นอกจากน้ีการทาแห้งท่ีอุณหภูมิต่าจะ ตลาด การช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวที่สาคัญประการหนงึ่ ก็ สามารถรักษาสีได้ดีกว่าที่อุณหภูมิสูง และความดันท่ี คือเร่ืองของการถนอมอาหาร เช่น การแช่อิ่ม (จินตนา แตกต่างกันมีผลต่อสีของเน้ือมะขามป้อมเพียงเล็กน้อย ศรีผุย, 2546) หรือการอบแห้งผลไม้แช่อ่ิม เป็นต้น โดย พินิจ เนื่องภิรมย์ และคณะ (2561) พัฒนาศักยภาพ เ ท ค โ น โ ล ยี ที่ ไ ด้ รั บ ก า ร ย อ ม รั บ แ ล ะ นิ ย ม น า ม า ใ ช้ ใ น และเพิ่มขีดความสามารถในการแปรรูปผลิตภัณฑ์เห็ด ปัจจุบันก็คือ เทคโนโลยีการอบแห้งด้วยพลังงาน และศึกษารูปแบบที่เหมาะสมของการอบแห้งเห็ด แสงอาทิตย์ เนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นการใช้ สาหรับการแปรรูปและพัฒนาผลิตภัณฑ์โ ด ยใ ช้ พลังงานความร้อนท่ีได้รับจากแสงอาทิตย์ ท่ีซึ่งเป็น นวตั กรรมท่พี ฒั นาขน้ึ สาหรับการแปรรปู ดว้ ยการอบแห้ง พลังงานที่สะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และไม่มี ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิ และระยะเวลาในการอบได้ ค่าใช้จ่ายในด้านพลงั งาน แต่อยา่ งไรกต็ ามถึงแม้จะมกี าร โดยผลการศึกษาการนาไปใช้ประโยชน์ พบว่า เคร่ือง ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวอย่างกว้างขวาง แต่ส่ิงหนึ่งที่ขาด อบแห้งลมร้อนสาหรับการพัฒนาศักยภาพ และเพ่ิมขีด ไม่ได้ก็คือเรื่องของการให้ความรู้ ความเข้าใจในด้าน ความสามารถในการแปรรูปผลติ ภัณฑ์เห็ดมกี ารนาไปใช้ เทคโนโลยี นวตั กรรม วศิ วกรรมทเ่ี กย่ี วข้องกับเครื่องอบ ในฟาร์มเห็ดได้ อีกท้ังยังสามารถก่อให้เกิดเป็นแหล่ง แห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ท่ีซึ่งจะเป็นการพัฒนาต่อยอด เรยี นรแู้ ละพัฒนาอาชพี ให้กบั เกษตรกร และประชาชนท่ี สร้างความรู้ความเข้าใจ และสามารถนาไปใช้งานได้ สนใจได้ อย่างถูกตอ้ ง กลุ่มเกษตรกรมะขามเปร้ียวยักษ์ ตาบลวังนก มณี ภาชนะทอง และคณะ (2561) ศึกษาการ แอ่น อาเภอวงั ทอง จงั หวัดพษิ ณุโลก เปน็ กลมุ่ เกษตรกร ใช้ความร้อนระดับครัวเรือนเพ่ือปรับปรุงคุณภาพของ ท่ี ไ ด้ ร ว ม ก ลุ่ ม กั น เ พื่ อ ห า แ น ว ท า ง ใ น ก า ร เ พ่ิ ม มู ล ค่ า มะขามหวาน ผลการศึกษาพบว่า การให้ความร้อนด้วย ผลิตภณั ฑ์ท่ไี ดจ้ ากมะขามเปรยี้ วยักษ์ แต่ในกระบวนการ ไอน้าเป็นเวลา 50 นาที และทาใหแ้ ห้งท่ีอุณหภมู ิ 70 ºC ผ ลิ ต แ ล ะ ก า ร แ ป ร รู ป ยั ง ค ง เ ป็ น ก า ร ผ ลิ ต แ บ บ ง่ า ย ๆ เป็นเวลา 240 นาที ทาให้มะขามหวานได้รับคะแนน 34 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
กล่าวคือ คิดแบบไหนก็ดาเนินการแบบนั้น ยังไม่มี วิธีการดาเนินงาน กระบวนการ วธิ กี ารทม่ี ีมาตรฐาน หรือยงั ไมม่ กี ารนาเอา 1. การวางแผน เทคโนโลยีท่ีมีความเหมาะสมเข้าไปใช้งานเพื่อให้ได้ ผลิตภัณฑ์ท่ีมีมูลค่า หรือสามารถเพิ่มมาตรฐานของ ลงพ้ืนท่ีสารวจความพร้อม และความต้องการ ผลติ ภัณฑ์ นอกจากน้จี ากการลงพืน้ ที่ ยังพบว่านอกจาก ของกลมุ่ เกษตรกรทจี่ ะรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเคร่ือง ความต้องการท่ีจะเพิ่มมูลค่าจากผลิตภัณฑ์จากมะขาม อบแหง้ พลังงานแสงอาทิตย์ไม่วา่ จะเปน็ ในเร่อื งของพื้นที่ แล้ว ยังคงมีความต้องการเพิ่มมูลค่าจากเปลือกมะขาม การติดต้ังระบบ และรวมถึงวัตถุดิบ ได้แก่ มะขามเปยี ก และเม็ดมะขาม (ของเหลือท้ิงจากกระบวนการผลิต) มะขามแช่อ่ิม เปลือกมะขาม และเม็ดมะขาม เป็นต้น ด้วยการทาถ่านอัดแท่งอีกด้วย ดังจะเห็นได้ว่าหากช่วย นอกจากน้ีในการลงพ้ืนท่ียังได้เข้าพบผู้นาชุมชน ผู้นา ให้เกษตรกร (กลุม่ เปา้ หมาย), ประชาชนทั่วไป นักเรียน กลุ่มเกษตรกร อาทิผู้ใหญ่บ้าน และนายกองค์การ และนักศกึ ษา มีความรคู้ วามเขา้ ใจในเรอ่ื งเทคโนโลยกี าร บริหารส่วนตาบลวังนกแอ่น อาเภอวังทอง จังหวัด อบแห้งด้วยเครื่องอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ไม่ว่าจะ พษิ ณโุ ลก เป็นการออกแบบ การใช้งาน และรวมถงึ การบารุงรักษา 2. สร้างเคร่อื งอบแหง้ พลงั งานแสงอาทติ ย์ ก็จะเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ และเป็นการ ต่อยอดเพื่อนาเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เคร่ืองอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ท่ีได้ อย่างสูงสุด ดาเนนิ การออกแบบแสดงดังภาพที่ 1 โดยเครอ่ื งอบแห้ง พลังงานแสงอาทิตย์ จะสามารถนามาอบแห้งมะขามแช่ โครงการน้ี เป็นโครงการการอบรมเ ชิ ง อ่ิม และ/หรือ ถ่านอัดแท่งจากมะขามเปร้ียวยักษ์ ป ฏิ บั ติ ก า ร ก า ร อ บ แ ห้ ง ด้ ว ย เ ค ร่ื อ ง อ บ แ ห้ ง พ ลั ง ง า น (เปลือก และเม็ดมะขามที่เหลือทิ้งจากกระบวนการ แสงอาทิตย์ ซ่ึงเป็นโครงการบริการวิชาการของ ต่าง ๆ) รวมถงึ ผลติ ภัณฑต์ ่าง ๆ ทม่ี ีในกล่มุ ของเกษตรกร มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม โดยใช้แนวทางตาม เคร่ืองอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์มีขนาดกว้าง 1.0 m พระราชดาริตามแผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏ ยาว 2.3 m ด้านบนปดิ ดว้ ยกระจกทม่ี คี วามหนา 5 mm เพื่อการพฒั นาทอ้ งถน่ิ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 จานวน 2 ชนั้ โดยในส่วนของการอบแหง้ นั้นสามารถนา ท้ังน้ีก็เพ่ือเป็นการยกระดับการบริการวิชาการเพ่ือ ผลิตภัณฑ์เข้า – ออกทางด้านหลังของเคร่ืองอบแห้ง นาไปสู่การพัฒนาท้องถ่ินให้เข้มแข็งและย่ังยืน อีกทั้งยัง นอกตัวเครื่องอบแห้ง ไดม้ กี ารติดต้ังพดั ลมระบายอากาศ ก่อให้เกิดการพัฒนาชุมชนต้นแบบ และแหล่งเรียนรู้ท่ี ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ขนาด 30 W เพื่อช่วย ตรงตามความต้องการของท้องถ่ิน สาหรับโครงการนี้มี ระบายความช้ืนออกจากผลิตภัณฑ์อกี ดว้ ย วัตถุประสงค์ (1) เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ในการ ออกแบบเครื่องอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ และ (2) ภาพที่ 1 เครือ่ งอบแหง้ พลังงานแสงอาทติ ย์ เพื่อจัดทาคู่มือการอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ โดย โครงการจะเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่ม รายได้ให้กับชุมชนและชุมชนสามารถนาเอาเทคโนโลยี ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถเป็นชุมชนต้นแบบ ใ น เ ร่ื อ ง ข อ ง เ ท ค โ น โ ล ยี แ ล ะ ร ว ม ถึ ง มี ค ว า ม ส า ม า ร ถ ถ่ายทอดใหก้ ับชมุ ชนอ่ืน ๆ ได้ วารสารวิชาการรบั ใชส้ งั คม มทร.ลา้ นนา 35 ปีที่ 3 ฉบบั ที่ 2 กรกฏาคม - ธันวาคม 2562
ภาพท่ี 2 มมุ มองเคร่อื งอบแหง้ ฯ ด้านหลงั จะพัดพาเอาความช้ืนจากผลิตภัณฑ์ท่ีวางอยู่ชั้นล่าง ก่ อ น ที่ ล ม จ ะ ไ ห ล ผ่ า น เ พื่ อ พั ด พ า เ อ า ค ว า ม ชื้ น จ า ก (ก) ภาพดา้ นขา้ งซา้ ย ผลิตภัณฑ์ท่ีวางอยู่ทางด้านบนออก ก่อนท่ีจะถูกดูดด้วย พัดลมระบายอากาศออกไปทางด้านซ้ายมือ (มุมมอง (ข) ภาพด้านข้างขวา ภาพจากดา้ นหลัง แสดงดังภาพท่ี 2) ภาพท่ี 3 มมุ มองเครื่องอบแหง้ ฯ ดา้ นข้าง ภาพที่ 3 (ก) แสดงพดั ลมดูดอากาศเพ่ือระบาย ภาพที่ 2 แสดงรูปด้านหลังซึ่งประกอบไปด้วย ความช้ืนออกจากเครื่องอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ถาดสแตนเลสสองช้ัน จานวน 2 ชุด เพื่อช่วยเพ่ิมกาลัง และภาพที่ 3 (ข) แสดงช่องดูดอากาศเข้า (Fresh Air) การผลิตของผลิตภัณฑ์ที่จะนามาอบแห้ง ในกรณีท่ีมี โดยมุมเอียงของกระจกเม่ือวัดตามแนวระดับจะมีมุม ผลติ ภณั ฑ์ไม่มากสามารถนาเอาถาดสแตนเลสทีว่ างซ้อน เอียงอยู่ท่ีประมาณ 17 องศา (ซึ่งเป็นมุมเอียงที่มีค่า กนั อยู่ 2 ชั้นออกได้ การออกแบบทิศทางการไหลของลม ใกล้เคยี งกบั ตาแหนง่ ทีต่ ้ังของกล่มุ เกษตรกร) ภายในเคร่ืองอบแห้ง จะออกแบบให้ลมเข้าทางด้าน 3. จดั ทาแผน่ พบั และคู่มอื เคร่ืองอบแหง้ ฯ ขวามอื (มุมมองภาพจากดา้ นหลัง แสดงดังภาพที่ 2) ลม แ ผ่ น พั บ แ ล ะ คู่ มื อ ป ร ะ ก อ บ ก า ร ฝึ ก อ บ ร ม เชิงปฏิบัติการการอบแห้งด้วยเครื่องอบแห้งพลังงาน แสงอาทิตย์ ซ่ึงทางสาขาวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (เทคโนโลยีวิศวกรรมเครื่องกล) คณะเทคโนโลยี อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ได้ทา การรวมรวมข้อมูลจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและ อนุรักษพ์ ลังงาน กระทรวงพลังงาน (กรมพัฒนาพลังงาน ทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน, 2561) ท่ีได้ดาเนินการ เผยแพร่เคร่ืองอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ แบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ ขั้นตอนการสร้าง ขั้นตอนการดูแล และการบารุงรักษา เป็นต้น ภาพที่ 4 และภาพท่ี 5 แสดงภาพตัวอย่าง ขอ ง คู่มือ และแผ่นพั บ ที่ ใ ช้ ประกอบการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการอบแห้งด้วย เครอ่ื งอบแหง้ พลังงานแสงอาทติ ย์ ตามลาดบั 4. การถา่ ยทอดเทคโนโลยี ดาเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยี ณ กลุ่ม เกษตรกรมะขามเปร้ียวยักษ์ ตาบลวังนกแอ่น อาเภอ วังทอง จังหวัดพิษณุโลก (พิกัด ลองจิจูด : 16º50’32” N ละติจูด : 100º41’12” E) ซึ่งเป็นหน่ึงในพื้นท่ีที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม รับผิดชอบในเร่ือง ของการแกป้ ญั หาความยากจน 5. ตวั ชว้ี ดั ความสาเร็จของโครงการ ในส่วนของตัวชี้วัดความสาเร็จของโครงการ สามารถแบ่งออกเปน็ 2 สว่ น คอื (1) ความสาเรจ็ ในเชงิ ปริมาณ ประกอบไปด้วย มีจานวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ 15 คน มีจานวน 36 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
นักศึกษาเข้าร่วมให้บริการวิชาการ 55 คน และการ (ข) ภาพดา้ นหลงั บรู ณาการกบั การเรียนการสอนหรอื งานวิจยั อยา่ งนอ้ ย 1 ภาพที่ 5 แผ่นพบั เร่ือง และ (2) ความสาเร็จในเชิงคุณภาพ ประกอบไป ด้วย รายได้ของเกษตรกรท่ีเข้าร่วมโครงการพ้นจาก (ก) เกณฑ์ความยากจน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 (เป็นไปตาม ข้ อ ก า ห น ด ข อ ง ม ห า วิ ท ย า ลั ย ร า ช ภั ฏ พิ บู ล ส ง ค ร า ม สาหรับโครงการพระราชดาริตามแผนยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ประจาปี งบประมาณ พ.ศ. 2562) ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วม โครงการในกระบวนการใหบ้ รกิ ารไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 80 และผเู้ ข้ารว่ มโครงการสามารถนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 สาหรับการลงพื้นให้บริการ วิชาการในระหว่างวันท่ี 20 – 22 กุมภาพันธ์ 2562 นั้น สามารถแสดงในภาพท่ี 6 – ภาพท่ี 8 (ข) ภาพที่ 6 บรรยากาศในช่วงการประชุมช้ีแจง ภาพที่ 4 มุมมองเครอ่ื งอบแห้งฯ ดา้ นหลัง (ก) ภาพดา้ นหนา้ (ก) วารสารวิชาการรับใชส้ ังคม มทร.ลา้ นนา 37 ปที ี่ 3 ฉบับที่ 2 กรกฏาคม - ธันวาคม 2562
(ข) (ข) (ค) ภาพที่ 8 ภาพบรรยากาศภาคปฏบิ ัติ (ต่อ) (ง) 5. การประเมิน ภาพท่ี 7 ภาพบรรยากาศภาคปฏิบตั ิ ในการประเมินโครงการมีการจัดทาแบบ (ก) ประเมินโครงการเพ่ือสอบถาม (1) ข้อมูลท่ัวไปของ ผู้ตอบแบบสอบถาม และ (2) ระดับความพึงพอใจ ท่ี 38 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship หมายรวมถึง ด้านกระบวนการ/ข้ันตอนการให้บริการ Vol. 3 No. 2 July - December 2019 ด้านวิทยากร ด้านสิ่งอานวยความสะดวก ด้านความรู้ ความเข้าใจ/การนาความรู้ไปใช้ และความสาเร็จของ โครงการภาพรวม การวิเคราะหก์ ารแกป้ ัญหาความยากจน ในส่วนของการวิเคราะห์การแก้ปัญหาความ ยากจนน้ัน จะแสดงผลของการดาเนินโครงการช่วง ไตรมาสท่ี 1 และ 2 (ตุลาคม 2561 – มีนาคม 2562) ของเงินงบประมาณประจาปี พ.ศ. 2562 โดยสามารถ แสดงผลของการดาเนนิ งานก่อน และหลังไดด้ ังน้ี 1. กอ่ นการดาเนินงาน จากการลงพ้ืนที่สารวจในส่วนของจานวน เกษตรกรของกลุ่มเกษตรกรมะขามเปรี้ยวยักษ์ พบว่า เกษตรกรที่มีรายได้ต่ากว่าเกณฑ์ความยากจน คือ รายไดต้ ่ากวา่ 38,000 บาท/ปี (รายงานคุณภาพชวี ติ ของ คนไทย จากขอ้ มูลความจาเปน็ พื้นฐาน (จปฐ.) ปี 2561) มีจานวน 15 คน โดยมีรายได้อยู่ที่ 9,600 – 36,000 บาท/ปี ในส่วนของมะขามเปรี้ยวยักษ์ พบว่า พ้ืนท่ี เพาะปลูกมะขามเปร้ียวยักษ์ 1 ไร่ จะไดผ้ ลผลติ ประมาณ 3,000 กิโลกรัม และจะถูกแบ่งออกมาเพื่อแปรรูปเป็น มะขามแช่อิ่มประมาณ 500 กิโลกรัม/ไร่ จากน้ันจะถูก นามาแปรรูปอีกครั้งโดยผ่านกรรมวิธีการอบแห้ง เม่ือ ผ่านกระบวนการอบแห้งจะได้มะขามแช่อิ่มอบแห้ง
ประมาณ 250 กิโลกรัม/ไร่ (น้าหนักจะหายไปร้อยละ ตารางที่ 1 ข้อมูลท่ัวไปของผู้เข้าร่วมโครงการ และ 50 ของน้าหนักเปียกหรือน้าหนักก่อนการอบแห้ง) ขอ้ มลู ของมะขามเปรียวยกั ษ์ ข้อมลู ทั่วไปของมะขามเปรยี วยกั ษ์แสดงดงั ตารางที่ 1 ผูเ้ ข้าร่วมโครงการ 2. หลงั การด้าเนินงาน - จ้านวนครวั เรือน 15 ครัวเรอื น - รายได้ 9,600 – 36,000 บาท/ปี การแก้ปัญหาความยากจนผ่านกระบวนการ มะขามเปรยี้ วยกั ษ์ บริการวิชาการการอบแห้งด้วยเครื่องอบแห้งพลังงาน - ฤดเู กบ็ เกย่ี ว ตุลาคม – ธนั วาคม แสงอาทิตย์ ส้าหรับโครงการนีได้ด้าเนินการออกแบบ/ - ปริมาณผลผลติ 3,000 กโิ ลกรมั /ไร่ สร้างเคร่ืองอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ และได้น้าไป - แปรรูป มะขามแชอ่ ่มิ ติดตังเพ่ือให้กลุ่มเกษตรกรมะขามเปรียวยักษ์ได้ใช้ 500 กโิ ลกรมั /ไร่ ประโยชน์ จ้านวน 1 เครื่อง โดยตัวเครื่องสามารถ มะขามแชอ่ ม่ิ (อบแห้ง) อบแหง้ มะขามแชอ่ ม่ิ ได้ครังละ 30 กิโลกรมั /วนั (นา้ หนัก 250 กิโลกรัม/ไร่ เปียก) ซึ่งสามารถช่วยลดระยะเวลาการอบแห้งได้ - วิ ธี ก า ร แ ป ร รู ป ผลติ ภณั ฑว์ างบนผา้ ใบ 1 ใน 3 เม่ือเปรียบเทียบกับการอบแห้งแบบเดิม (วาง (ตากแหง้ ) (ลานตากแหง้ ผลิตภัณฑ)์ ตากแดดในลานตากแห้ง) ท่ีเกษตรกรใช้ นอกจากนีการ ใช้ระยะเวลา 2 – 3 วัน ใช้เครือ่ งอบแหง้ พลงั งานแสงอาทติ ยย์ ังชว่ ยให้ผลผลิตถูก - ราคาจ้าหนา่ ย มะขามแชอ่ มิ่ อบแห้ง สุขลักษณะอีกด้วย โดยข้อมูลการใช้งานและรายได้ที่ 200 บาท/กโิ ลกรมั ได้รบั จากเครื่องอบแหง้ แสดงดังตารางท่ี 2 ตารางท่ี 2 ข้อมูลท่ัวไปของเครื่องอบแห้ง การค้านวณ จากตารางท่ี 2 แสดงให้เห็นถงึ ผลการวเิ คราะห์ รายได้ที่ได้รับ และระยะเวลาคืนทุนของ อย่างง่ายของการแก้ปัญหาความยากจน โดยเครื่อง เครื่องอบแหง้ อบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์จะสามารถอบแห้งมะขาม เครือ่ งอบแหง้ พลังงานแสงอาทิตย์ แช่อิ่มได้ 30 กิโลกรัม/วัน (น้าหนักเปียก) โดยใช้ - ราคา 45,000 บาท ระยะเวลา 1 วัน ในการอบแห้ง ดังนันในช่วงเวลา 30 - กา้ ลงั การผลติ 30 กโิ ลกรมั /วัน วัน เครื่องอบแห้งจะสามารถผลิตมะขามแช่อิ่มอบแห้ง (น้าหนกั เปยี ก) ได้ 450 กิโลกรม (น้าหนักแห้ง) และเม่ือน้าผลิตภณั ฑท์ ี่ มะขามเปรีย้ วยกั ษ์ (มะขามแชอ่ ่มิ อบแห้ง) ผลติ ได้ไปจา้ หน่ายในราคากโิ ลกรมั ละ 200 บาท จะช่วย - ช่วงเวลา 1 เดอื น (30 วัน) ให้กลุ่มเกษตรกรมีรายได้เพ่ิมขึน 90,000 บาท/ปี และ - ปริมาณมะขาม 900 กิโลกรัม (น้าหนักเปียก) เม่ือคิดว่ากลุ่มเกษตรกรมสี มาชิก 15 คน และแต่ละคนมี แชอ่ ิ่มอบแหง้ 450 กโิ ลกรมั (นา้ หนกั แห้ง) สิทธ์ิการใช้เครื่องเท่ากัน ดังนันเกษตรกรจะมีรายได้ - รายได้ 90,000 บาท/ปี เพิ่มขึน 6,000 บาท/คน แต่อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณา (กลุม่ เกษตรกร) รายได้ต่อคนที่เพ่ิมขึน และการกระจายรายได้หรือการ 6,000 บาท/ปี/คน ให้โอกาสกับผู้ท่ีมีรายได้น้อยได้มีโอกาสใช้เคร่ืองได้ ระยะเวลาคนื ทนุ 6 เดือน (0.5 ปี) มากกว่านันจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้พ้นจากเกณฑ์ ความยากจนจา้ นวน 12 คน (มีรายไดเ้ กิน 38,000 บาท/ ในส่วนของระยะเวลาคืนทุนอย่าง ง่ า ย คน/ปี) ส่วนอีก 3 คนท่ีเหลือจะมีรายได้ที่เพ่ิมสูงขึน พิจารณาจากตารางที่ 2 พบว่า เครื่องอบแห้งพลังงาน ถึงแม้ว่าจะไม่พ้นจากเกณฑ์ความยากจน แต่ก็ช่วยให้มี แสงอาทิตย์ราคาเท่ากับ 45,000 บาท สามารถน้ามาใช้ ชวี ิตความเป็นอย่ทู ดี่ ขี ึน ในการเพ่ิมมูลค่าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร โดย กระบวนการอบแห้ง ซงึ่ ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึน 90,000 บาท/ปี ดังนันเม่ือพิจารณาระยะเวลาคืนทุน วารสารวิชาการรับใช้สงั คม มทร.ลา้ นนา 39 ปีที่ 3 ฉบับท่ี 2 กรกฏาคม - ธันวาคม 2562
อย่างง่าย [ระยะเวลาคืนทนุ (ป)ี = ราคาเครื่องอบแห้งฯ โครงการนดี้ าเนนิ การ ณ กล่มุ เกษตรกรมะขาม (บาท) / รายได้ของกลุ่มเกษตรกร (บาท/ปี)] จะพบว่า เปรี้ยวยักษ์ ตาบลวังนกแอ่น อาเภอวังทอง จังหวัด เครื่องอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้ดาเนินการจัดทา พิษณุโลก (พิกัด ลองจิจูด : 16º50’32” N ละติจูด : จะมีระยะเวลาคืนทุนเท่ากับ 6 เดือน หรือ 0.5 ปี 100º41’12” E) เมื่อวันท่ี 20 – 22 กุมภาพันธ์ 2562 (คร่ึงป)ี โดยจะเป็นการลงพื้นที่เพ่ือจัดฝึกอบรมให้ความรู้ที่ การนาไปใช้ประโยชน์ เกี่ยวข้องกับการอบแห้งด้วยเคร่ืองอบแห้งพลังงาน แสงอาทิตย์ ผลการดาเนินโครงการสามารถสรุปได้ดงั นี้ ก า ร ถ่ า ย ท อ ด เ ท ค โ น โ ล ยี ผ่ า น ก ร ะ บ ว น ก า ร “เป้าหมายเชิงปริมาณ” (1) จานวนนักศึกษาท่ีเข้าร่วม ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการอบแห้งด้วยเคร่ืองอบแห้ง บริการวชิ าการ 53 คน (คิดเปน็ ร้อยละ 96.4 ของจานวน พ ลั ง ง า น แ ส ง อ า ทิ ต ย์ ใ ห้ กั บ ก ลุ่ ม เ ก ษ ต ร ก ร ม ะ ข า ม นกั ศกึ ษาท้ังหมด 55 คน) (2) จานวนเกษตรกรทีเ่ ขา้ ร่วม เปร้ียวยักษ์ ตาบลวังนกแอ่น อาเภอวังทอง จังหวัด โครงการ 15 คน (คิดเป็นร้อยละ 100.0 ของจานวน พิษณุโลก สามารถช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพ่ิมข้ึนจาก เกษตรกรท่ีเข้าร่วมทั้งหมด 15 คน) และ (3) เกิดการ กาลังการผลิตท่ีเพิ่มสูงข้ึนจากการใช้งานเครื่องอบแห้ง บูรณาการกับการเรียนการสอนในรายวิชา อุณหพล พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นผลจากการที่เคร่ืองอบแห้ง ศ า ส ต ร์ ( Thermodynamics) แ ล ะ “ เ ป้ า ห ม า ย พลังงานแสงอาทิตย์ สามารถช่วยลดระยะเวลาการ เชิงคุณภาพ” (4) จานวนเกษตรกรท่ีเข้าร่วมโครงการ อบแห้งได้ นอกจากน้ีผลิตภัณฑ์ที่ได้ยังถูกหลักอนามัย พ้นจากเกณฑ์ความยากจน จานวน 12 คน (คิดเป็น อีกดว้ ย ร้อยละ 80.0 ของจานวนเกษตรกรที่เข้าเกณฑ์ความ อภิปรายผล ยากจน 15 คน) โ ค ร ง ก า ร นี้ เ ป็ น โ ค ร ง ก า ร ก า ร อ บ ร ม การดาเนินโครงการการอบรมเชิงปฏิบัติการ เชิงปฏิบัติการการอบแห้งด้วยเคร่ืองอบแห้งพลังงาน การอบแห้งด้วยเครื่องอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ แสงอาทติ ย์ โดยมวี ัตถปุ ระสงค์ คือ (1) เพ่อื ถา่ ยทอดองค์ ณ กลุ่มเกษตรกรมะขามเปร้ียวยักษ์น้ัน จะช่วยให้ ค ว า ม รู้ ใ น ก า ร อ อ ก แ บ บ เ ค ร่ื อ ง อ บ แ ห้ ง พ ลั ง ง า น ประชาชนเกิดความรู้ ความเข้าใจ ในเร่ืองของการ แสงอาทิตย์อย่างง่าย และ (2) เพ่ือจัดทาคู่มือการ อบแห้งด้วยเคร่ืองอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ และ อบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ในส่วนของเป้าหมาย สามารถนาเอาคู่มือการอบแห้งดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ โครงการประกอบไปด้วย “เป้าหมายในเชิงปริมาณ” งาน รวมถงึ สามารถนาไปตอ่ ยอดใชก้ บั ผลิตภัณฑ์อบแห้ง (1) มีจานวนนักศึกษาเข้าร่วมให้บริการวิชาการ 55 คน อ่ืน ๆ ได้อีกด้วย นอกจากน้ีในส่วนของผลการประเมิน (ค่าเป้าหมายร้อยละ 80 ของจานวนนักศึกษาทั้งหมด ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการในกระบวนการ 55 คน) (2) มีจานวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ให้บรกิ าร และผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการสามารถนาความรู้ไปใช้ 15 คน (ค่าเปา้ หมายร้อยละ 80 ของจานวนเกษตรกรท่ี ประโยชน์ พบว่า มีค่าร้อยละอยู่ท่ี 92.7 และ 89.9 เข้าร่วมทั้งหมด 15 คน) (3) เกิดการบูรณาการกับการ ตามลาดบั เรียนการสอน หรืองานวิจัย (ค่าเป้าหมาย 1 วิชา) และ ขอ้ เสนอแนะ “เป้าหมายเชงิ คุณภาพ” (4) ความพึงพอใจของผู้เข้ารว่ ม โครงการในกระบวนการให้บริการ (ค่าเป้าหมายไม่นอ้ ย 1. ควรมีการลงพ้ืนที่ให้บริการวิชาการใน กวา่ ร้อยละ 80) (5) ผูเ้ ข้าร่วมโครงการสามารถนาความรู้ เชิงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อเป็นการสร้าง ไปใช้ประโยชน์ (ค่าเป้าหมายไม่น้อยกว่าร้อยละ 80) มูลค่าเพ่มิ ให้กับกลมุ่ ของเกษตรกร ไม่วา่ จะเป็นเรื่องของ (6) รายได้ของเกษตรกรทเี่ ขา้ ร่วมโครงการพน้ จากเกณฑ์ บรรจภุ ณั ฑ์ ความสะอาดและความปลอดภัยของอาหาร ความยากจน (ค่าเป้าหมายไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 30) ภายใตม้ าตรฐานองค์การอาหารและยา (อย.) เปน็ ต้น 40 RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
2. ควรมีการเก็บข้อมูลและลงพ้ืนที่อย่าง [ออนไลน์] ได้จาก: http://www.dede.go.th/ ต่อเนือ่ ง ทั้งนีจ้ ะก่อให้เกดิ ความค้นุ เคยกบั กลุม่ เกษตรกร article_attach/developed_solarmap60%20 อีกท้ังจะได้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ผลติ ภณั ฑเ์ พื่อนามาสังเคราะห์ -%20Copy.pdf เป็นงานวจิ ยั ไดใ้ นอนาคต จินตนา ศรีผุย. (2546). การแปรรปู ผกั และผลไม้แช่อ่ิม. วารสารศูนย์บริการวิชาการ ปีท่ี 11 ฉบับที่ 1 3. ในสว่ นของการวิเคราะห์การแกป้ ญั หาความ ประจาเดอื นมกราคม – มนี าคม 2546, 58 – 64. ยากจนนั้น หากมีการบริหารจัดการท่ีดี ก็จะช่วยให้ พินิจ เน่ืองภิรมย์, นพรัตน์ เตชะพันธ์รัตนกุล, สาคร จานวนครัวเรือนท่ีอยู่ในเกณฑ์ความยากจนผ่านเกณฑ์ ปันตา, ดิเรก มณีวรรณ และกิจจา ไชยทนุ. ความยากจนได้เพม่ิ มากขึ้น (2561). การพัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีด กิตติกรรมประกาศ ความสามารถในการแปรรูปผลิตภัณฑ์เห็ด กรณี สุขประเสริฐฟาร์มเห็ด. วารสารวิชาการรับใช้ โ ค ร ง ก า ร บ ริ ก า ร วิ ช า ก า ร ก า ร อ บ ร ม สังคม มทร.ล้านนา ปีที่ 2 ฉบับท่ี 2 กรกฎาคม – เชิงปฏิบัติการการอบแห้งด้วยเคร่ืองอบแห้งพลังงาน ธนั วาคม 2561, 41 – 51. แสงอาทติ ย์นไี้ ดร้ บั ทนุ สนบั สนุนจากมหาวิทยาลยั ราชภัฏ มณี ภาชนะทอง, วไลภรณ์ สทุ ธา และ วรลกั ษณ์ ปัญญา พิบูลสงคราม ซึ่งเป็นโครงการภายใต้โครง การ ธิติพงศ์. การใช้ความร้อนระดับครัวเรือนเพื่อ ยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพ่ือการพัฒนาท้องถ่ิน ป รั บ ป รุ ง คุ ณ ภ า พ ข อ ง ม ะ ข า ม ห ว า น . ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 วารสารวิชาการและวิจัย มทร.พระนคร ปีท่ี 12 บรรณานุกรม ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มถิ นุ ายน 2561, 102 – 112. ก ร ม พั ฒ น า พ ลั ง ง า น ท ด แ ท น แ ล ะ อ นุ รั ก ษ์ พ ลั ง ง า น รายงานคุณภาพชีวิตของคนไทย จากข้อมูลความ จาเป็นพ้ืนฐาน (จปฐ.) ปี 2561 กระทรวงพลังงาน. คู่มือ โครงการสนับสนุนการ Methakhup, S., Chiewchan, N., and Devahastin, ล ง ทุ น ติ ด ต้ั ง ใ ช้ ง า น ร ะ บ บ อ บ แ ห้ ง พ ลั ง ง า น S. (2005). Effects of drying methods and แสงอาทติ ย์. 2561. conditions on drying kinetics and quality of ก ร ม พั ฒ น า พ ลั ง ง า น ท ด แ ท น แ ล ะ อ นุ รั ก ษ์ พ ลั ง ง า น Indian gooseberry flake. LWT-Food กระทรวงพลังงาน. ศักยภาพรงั สีรวม ปี 2560. Science and Technology, 38(6), 579-587. วารสารวิชาการรบั ใชส้ งั คม มทร.ลา้ นนา 41 ปที ี่ 3 ฉบบั ที่ 2 กรกฏาคม - ธนั วาคม 2562
RMUTL Journal Socially of Engaged Scholarship Vol. 3 No. 2 July - December 2019
Search