มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา ชมุ ชนเดนิ ทาง โครงการยกระดับคณุ ภาพชวี ิตหมู่บ้าน/ชุมชนแบบมสี ่วนรว่ ม
ชมุ ชนเดนิ ทาง โครงการยกระดบั คณุ ภาพชีวิตหมบู่ ้าน/ชมุ ชนแบบมสี ว่ นรว่ ม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
ค�าน�า หนังสือชุมชนเดินทาง โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตของหมู่บ้าน/ชุมชน แบบมีส่วนร่วม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เป็นหนังสือที่ถ่ายทอด ผลงานการดา� เนนิ งานโครงการบรกิ ารวชิ าการของมหาวทิ ยาลยั ท่ีไดบ้ รู ณาการภารกจิ หลักของมหาวิทยาลัยผ่านโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตของหมู่บ้าน/ชุมชน แบบมี ส่วนร่วม ซึ่งได้น้อมน�าพระราชด�ารัสและกระบวนทัศน์การพัฒนาที่ก่อให้เกิด ความก้าวหน้าอย่างย่ังยืนในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาเป็นข้อคิดส�าคัญ ในการกา� หนดกรอบทศิ ทางการขบั เคลอ่ื นโครงการ โดยมเี ปา้ หมายเพอ่ื พฒั นาศกั ยภาพ ประชาชนในท้องถ่นิ ใหม้ คี วามพร้อมในการด�ารงชพี และมีอาชีพท่มี น่ั คง สถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยีสชู่ ุมชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
สารบัญ บทนำ� 8 24 28 สู่เกษตรปลอดภยั ท่ี 12 ความส�ำคัญของ “ขา” 32 ปลายทาง โครงการสร้างเตาอบพืชผลทางการเกษตรจาก พลงั งานและแสงอาทติ ยฯ์ บา้ นทวี ะเบยทะ จังหวัด โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวปลอดภยั ตาก แบบครบวงจรชุมชนบ้านห้วงกระได จังหวัด พิษณุโลก 16 ความย่ังยนี ในก�ำมอื โครงการ การสร้างชุมชนเรียนรู้เพื่อการพัฒนา ขยะ-ขยบั -ขยาย คณุ ภาพชวี ติ ชมุ ชน บา้ นหว้ ยสา้ นดอนจนั่ อยา่ งยงั่ ยนื โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนด้วยการ 20 กญุ แจ 2 ดอกส่กู าร พฒั นาระบบบรหิ ารจดั การขยะแบบยง่ั ยนื โดยชมุ ชน พงึ่ ตนเอง มีส่วนร่วม ต่อยอดเป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบการ โครงการพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนพ่ึง จัดการขยะชุมชน เขตพ้นื ทเ่ี ชียงราย ตนเองบา้ นหว้ ยลอย อำ� เภอบอ่ เกลอื จังหวัดน่าน อนาคตใหญๆ่ ในพุทรา ผลเลก็ โครงการยกระดับการจัดการองค์ความรู้ระบบการ ผลติ พุทราเศรษฐี เพื่อเป็นแนวทางของการบรกิ าร วิชาการ โดยชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม อ�ำเภอลอง จงั หวัดแพร่
พลังงานสู่อนาคต 36 เพือ่ อนาคตของผพู้ ิการ 48 โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตครอบครัวผู้พิการ โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตตามแนวเศรษฐกิจ วอแก้วแบบมีส่วนร่วม พอเพยี ง หมบู่ า้ นทา่ ทองแดง และบา้ นวงั เยน็ ตา� บล นาโบสถ์ ตา� บลวงั เจา้ จงั หวัดตาก เรอื่ งเล่าบนเส้นทางสาย 40 ชีวิตใหมจ่ ากต้นทุนเดิม 52 วัฒนธรรม โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตกลุ่มการท่องเท่ียว โดยชมุ ชนบ้านปง ห้วยลาน ต�าบลออนใต้ อ�าเภอ รางการยกระดับคุณภาพชีวิตของหมู่บ้านม่อนเขา สนั ก�าแพง จังหวดั เชียงใหม่ แก้ว ต�าบลพิชยั อ�าเภอเมือง จงั หวัดล�าปาง บทเรยี นจากลา� นา�้ 44 ถนนสู่การท่องเที่ยวเชงิ 56 อนุรกั ษ์ โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตหมู่บ้านเศรษฐกิจ โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตหมู่บ้านหนองหล่าย พอเพียงต้นแบบระดับ “พออยู่ พอกิน” บ้านริม วาง ตา� บลบา้ นกาด อา� เภอแมว่ าง จงั หวดั เชยี งใหม่ ส่กู ารเปน็ หมบู่ ้านท่องเทย่ี วเกษตร
บทน�ำ การดำ� เนินงานโครงการยกระดบั คุณภาพชีวติ ของหมบู่ า้ น/ชุมชน แบบมสี ว่ นรว่ ม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ไดอ้ ญั เชญิ พระราชด�ำรสั และกระบวนทศั นก์ ารพฒั นาทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ ความกา้ วหนา้ อย่างย่ังยืนในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาเป็นข้อคิดส�ำคัญในการก�ำหนดกรอบทิศทางในการขับ เคลอื่ นการยกระดับคุณภาพชีวติ ของหมู่บา้ น/ชมุ ชน แบบมสี ว่ นร่วม โดยแบง่ กรอบทิศทางเปน็ 4 ส่วน 1.หลักการด�ำเนนิ งาน 2.เป้าหมายการพฒั นา 3.กระบวนทัศน์การพัฒนาฯ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ (ซ่ึงเป็นกลไกสำ� คัญที่ผู้ปฎิบัติ สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการดำ� เนินงานไปสเู่ ป้าหมายแหง่ ความสำ� เรจ็ ) 4.ผลผลิต ผลลัพธ์ ผลกระทบ 8
ชมุ ชนเดินทาง : โครงการยกระดบั คุณภาพชีวิตหม่บู ้าน/ชมุ ชนแบบมสี ว่ นรว่ ม หลกั การดำ� เนนิ งาน • การพัฒนาศักยภาพของประชาชนให้มีความพร้อมในด้านการด�ำรงชีวิต และมีอาชีพ ทมี่ ั่นคง • เป็นเคร่ืองมือในการสร้างปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ซึ่งตรงกับทิศทางและความต้องการที่แท้ จริงของประชาชน (Demand) และท�ำให้เกิดกระบวนการบูรณาการกับภาคส่วนอื่นๆ (Integrated Supply) • พัฒนาทรัพยากรบุคคลในภาคประชาชน เพ่ือให้เกิดความพร้อมสร้างผู้น�ำในท้องถิ่น ส�ำหรับขับเคลื่อนหมู่บ้าน/ชุมชน ให้มีคุณภาพชีวิตบนรากฐานสังคมแห่งการเรียนรู้ “สรา้ งคน สรา้ งงาน สรา้ งความรู้ สรา้ งชมุ ชน” เปา้ หมายการพัฒนา การพฒั นาหมูบ่ า้ น/ชมุ ชน ต้องสรา้ งพ้นื ฐานคอื ความพอมี พอกนิ พอใชก้ ่อน แล้วจึง คอ่ ยเสรมิ ค่อยสร้างความเจริญและเศรษฐกิจข้นั สงู ต่อไป • พัฒนาบุคคล/ครัวเรือน ร่วมแก้ไขปัญหาความยากจน ยกระดับคุณภาพชีวิต ให้มีจิตใจดี มีศีลธรรม มีงานท�ำ ลดรายจ่าย เพิม่ รายได้ ขยายโอกาส • พฒั นาชุมชน ประชาชนมศี ักยภาพในการขบั เคล่อื นหมบู่ า้ น/ชมุ ชน • พัฒนาสังคม ร่วมวางรากฐานชุมชนสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ มุ่งเน้นการสร้างคน สรา้ งงาน สรา้ งความรู้ สรา้ งชุมชน ท่ีครอบคลมุ ผดู้ อ้ ยโอกาส ผ้มู ีโอกาส ผ้มู ีศกั ยภาพ เรื่อง การแขง่ ขันหรือเป็นผู้นำ� • การมีสว่ นรว่ มในการสร้างอาชพี สร้างงาน สรา้ งรายได้ เปดิ โอกาสในการเขา้ ถงึ ทนุ ทรัพย์ และปจั จัยในการผลติ • ใสใ่ จในคณุ ภาพชวี ติ และสงิ่ แวดลอ้ ม ใหค้ วามสำ� คญั ในเรอื่ งปจั จยั 4 คำ� นงึ ถงึ ความมน่ั คงใน ชีวิต ทรพั ย์สิน สาธารณสุข สิ่งแวดลอ้ มโดยเฉพาะในเรื่องของการสร้างองคค์ วามรู้ เรยี นรู้ และเข้าใจอย่าเท่าทนั ในการใช้และประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 9
ผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบ เปา้ หมายปลายทางของโครงการยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ของหมบู่ า้ น/ชมุ ชน 84 หมบู่ า้ น/ชมุ ชน เฉลิมพระเกียรติท่ีเหล่าพสกนิกรได้เจริญรอยตามเบ้ืองพระยุคลบาทท่ีพระองค์ได้ประพฤติ ปฏิบัติ เปน็ แบบอยา่ งเสมอมา คอื การท�ำใหป้ ระชาชนกนิ ดี อยดู่ ี เพอื่ ประโยชนส์ ขุ แหง่ มหาชนชาวสยาม ดงั นน้ั โครงการนจ้ี งึ กำ� หนดใหก้ ารดำ� เนนิ การเปน็ การรว่ มคดิ รว่ มทำ� นำ� ความสขุ สชู่ มุ ชน ซงึ่ จะทำ� ใหห้ มบู่ า้ น/ ชมุ ชน มคี ณุ ภาพชีวิตมีอาชีมัน่ คงและยงั่ ยืนโดย ผลผลติ : ประชาชนมคี วามรู้ มีเครื่องมอื มแี นวคิด มเี ทคโนโลยเี พียงพอตอ่ การดำ� รงชวี ิต ผลลพั ธ์ : ประชาชนมีอาชพี มีงานท�ำ ผลกระทบ : ประชาชนมีคุณภาพชวี ติ ทม่ี ่ันคงและยงั ยนื บนรากฐานสังคมแหง่ การเรียนรู้ การดำ� เนนิ งานโครงการยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ฯ มกี จิ กรรมรว่ มกนั ระหวา่ งมหาวทิ ยาลยั รว่ มกบั หมบู่ า้ น/ ชุมชน และหน่วยงานที่เก่ียวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชิญชวนให้นักศึกษา คณาจารย์ เจา้ หนา้ ท่ี รว่ มศกึ ษาปญั หาเพอ่ื หาแนวทางในการแกไ้ ขหรอื พฒั นาเพอื่ ยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ในหมบู่ า้ น/ชมุ ชน และผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมไดน้ ำ� ความรหู้ รอื ปญั หาจากหมบู่ า้ น/ชมุ ชน เขา้ สกู่ ระบวนการ ทางวิชาการ คือ ศึกษาวิจัยอย่างเป็นระบบท่ีทันต่อความต้องการ การจัดการศึกษาที่มีโจทย์จริง ตลอดจนน�ำไปสู่การวเิ คราะห์ถอดบทเรยี นเปน็ องค์ความรพู้ รอ้ มใช้น�ำไปถ่ายทอดสสู่ งั คมสบื ไป 10
ชมุ ชนเดนิ ทาง โครงการยกระดบั คณุ ภาพชวี ิตหม่บู า้ น/ชุมชนแบบมีส่วนรว่ ม
‘กินขา้ วดี ชีวเี ปน็ สขุ ’ โครงการ : การถ่ายทอดเทคโนโลยกี ารผลิตข้าวปลอดภัยแบบครบวงจร ชมุ ชนบ้านห้วยกระได จงั หวดั พษิ ณโุ ลก 12
ชมุ ชนเดินทาง : โครงการยกระดบั คุณภาพชวี ิตหมู่บา้ น/ชมุ ชนแบบมสี ว่ นร่วม วงจรของข้าวปลอดภัย เม่ืออาณาเขตของเกษตรกรรมกว้างไกลกว่าเรื่องอาหาร และมีกรมการข้าวรับรองคุณภาพ จนสร้างอาชีพใหม่อย่าง การกิน แต่ขยายไปยังวิถีชีวิตและความม่ันคงทางอาชีพของเหล่า กลุ่มเครือข่ายอาชีพรับจ้างปลูกข้าวโยนกล้า ให้เกิดขึ้นทั้งภายใน เกษตรกร จนเปน็ รากฐานส�ำคัญของสงั คมไทย ‘เกษตรปลอดภยั ’ ชุมชน พ้ืนที่แถบนั้น และในจังหวัดใกลเ้ คียง สร้างรายไดใ้ ห้ชมุ ชน จึงกลายเป็นหน่ึงในยุทธศาสตร์ของชุมชนบ้านห้วยกระได จังหวัด มากกว่า 75 ครอบครวั เฉลี่ยแล้วกวา่ เดอื นละ 3 แสนบาท พิษณุโลก และตกผลึกเป็นโครงการ การถ่ายทอดเทคโนโลยี ยิ่งไปกว่านั้น การปลูกข้าวแบบโยนกล้ายังลดต้นทุน การผลิตข้าวปลอดภัยแบบครบวงจร ท่ีต้ังเป้าในการพัฒนาและ ในส่วนของสารเคมีก�ำจัดวัชพืชและแมลงรวมถึงค่าปุ๋ย เฉล่ียแล้ว เปลยี่ นแปลง ตง้ั แตด่ า้ นราคา การแปรรปู ความปลอดภยั ไปจนถงึ ไรล่ ะ 600-1,400 บาท สรา้ งรายได้เพมิ่ ใหก้ ับสมาชกิ ใหม่ในกลมุ่ การขยายผลกล่มุ เกษตรกร เฉลี่ยเดือนละ 8,000 บาท แถมยังท�ำให้การปนเปื้อนสารเคมี จากเคยมีชีวิตวนเวียนอยู่กับสารเคมีในท้องนา ตอน ในดินลดลง ตัดช่องทางเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมและปัญหาสุขภาพ น้ีชาวชุมชนบ้านห้วยกระไดได้เป็นเจ้าของข้าวปลอดภัยจากฝีมือ ไปไดอ้ กี ทางหน่งึ ของตัวเองด้วยการหันไปใช้เทคนิคการปลูกข้าวแบบโยนกล้า 13
ด้วยเหตุน้ี ชาวชุมชนจึงมีความรู้ในการผลิตเมล็ดพันธุ์ สายลมแห่งการเปลยี่ นแปลง คุณภาพจนสามารถผลิตข้าวปลอดภัยบรรจุถุงเพ่ือจ�าหน่าย และ ก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้ เดินหน้าถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกข้าว ความรู้และทักษะของชาวชุมชนถือเป็นกุญแจส�าคัญ แบบโยนกล้าเพ่ือสร้างงานใหก้ ับผขู้ าดแคลนพืน้ ทีท่ �ามาหากิน ที่ท�าให้โครงการก้าวไปถึงผลลัพธ์ข้างต้นได้ กลุ่มภาคีจึงเร่ิมต้น นอกจากผลอันเป็นรูปธรรมด้านรายได้และสุขภาพแล้ว กระบวนการติดอาวุธทางปัญญาและขัดเกลาทักษะให้ชุมชน โครงการยังได้สร้างส�านึกในเรื่องการท�าเกษตรปลอดภัยให้เกิดข้ึน ผ่านทางการอบรมและสาธิตองค์ความรู้ต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญ ในกล่มุ เกษตรกร ซ่ึง ‘ส�านึก’ เปน็ จะสิ่งสา� คัญของการปรับเปลย่ี น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวปลอดภัยแบบ ไปสสู่ ง่ิ ท่ดี ีกวา่ ครบวงจร การผลติ และพฒั นามาตรฐานขา้ วปลอดภยั แบบครบวงจร ของชมุ ชน เทคโนโลยกี ารผลติ เมลด็ พนั ธข์ุ า้ ว เทคโนโลยกี ารแปรรปู ขา้ วบรรจถุ งุ และการแปรรปู ผลติ ภณั ฑจ์ ากขา้ วปลอดภยั เทคโนโลยี การจดั การโรงสี และการจดั ทา� ศูนย์การเรยี นรูข้ องชุมชน การถา่ ยทอดองคค์ วามรเู้ หลา่ นถ้ี กู กา� หนดขน้ึ ใหเ้ หมาะสม ตามความต้องการของชมุ ชนโดยใหเ้ กษตรกรเป็นศนู ย์กลาง ท่ีเป็น ทง้ั ผไู้ ด้รับองค์ความรูแ้ ละผูไ้ ด้รับผลประโยชน์สงู สุด ด้วยองค์ความรู้เหล่านี้ท�าให้เห็นได้ชัดว่าลักษณะของ การปลกู ขา้ วแบบโยนกลา้ ชว่ ยลดการใชส้ ารเคมลี งไดม้ าก แถมระดบั นา้� ในนา 5-10 ซม. ยงั ทา� ให้ควบคมุ วัชพืชได้ ซง่ึ จากงานวจิ ัยของ อา� พร พลทา้ ว (2555) จะเหน็ ว่า พื้นทวี่ ่างระหวา่ งกอข้าวของการ โยนกลา้ มีมากกวา่ นาหว่านน�า้ ตม ท�าใหแ้ สงแดดสอ่ งถึงพ้นื ดินและ ระบายอากาศไดด้ กี วา่ สามารถทา� ลายไขแ่ ละตวั ออ่ นของแมลงศตั รู ข้าวได้มากข้ึนโดยไม่ต้องพ่ึงสารเคมี ถือเป็นวิธีการธรรมชาติผ่าน การท�างานของแมลงตัวห้�า-ตัวเบียน ฟื้นความสมบูรณ์ของระบบ นิเวศในนาขา้ วให้ดขี ้ึน ข้าวหอมนลิ ปลอดภยั บรรจถุ งุ 14
ชุมชนเดนิ ทาง : โครงการยกระดับคณุ ภาพชวี ติ หม่บู า้ น/ชมุ ชนแบบมีส่วนรว่ ม กญุ แจสคู่ วามส�าเรจ็ กวา่ ทผ่ี ลจะปรากฏออกมาเชน่ นี้ ตอ้ งอาศยั การเชอื่ มรอ้ ยของภาคหลายสว่ นเขา้ ดว้ ยกนั ทง้ั แรงสนบั สนนุ จากมหาวทิ ยาลยั ทคี่ อยสรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจและพฒั นาใหเ้ กดิ วทิ ยาการ รวมถงึ การวเิ คราะหส์ ภาพดนิ จากสา� นกั งานพฒั นาทด่ี นิ และมกี องหนนุ อยา่ ง สา� นกั งานอนามยั ทคี่ อยเสรมิ ดา้ นการตรวจสารพษิ เชน่ เดยี วกบั สา� นกั งานเกษตรจงั หวดั และองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลทคี่ อยเปน็ หนว่ ยสนบั สนนุ การทา� งานมาตลอด เพอ่ื มงุ่ หนา้ สู่ธงที่มหาวิทยาลัยและหน่วยงานภาคีปักไว้คือ การขยายโครงการให้กลายเป็นแหล่ง เรยี นรใู้ นดา้ นเกษตรปลอดภัยท้ังของมหาวิทยาลยั และชุมชน อย่างไรก็ตาม ส่ิงเหล่าน้ีคงเป็นเพียงภาพฝันลอยวนในอากาศหากปราศจาก การระดมสมองอย่างเข้มข้นของมหาวิทยาลัยและชุมชน เพื่อวิเคราะห์ทางแก้ปัญหา รวมถึงความเข้มแข็ง ความเสียสละ และความเขา้ ใจปญั หาอย่างถอ่ งแทข้ องผู้น�าชุมชน เชน่ เดียวกับแรงหนุนทั้งจากองคก์ รภาครฐั และเอกชน จนถงึ คณะกรรมการด�าเนนิ งาน และเจา้ หน้าที่ที่ไดร้ ว่ มกนั ผลักดันให้โครงการไปถงึ ธงทว่ี างไว้ได้อย่างสวยงาม การฝกอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การวเิ คราะห์ธาตอุ าหารในดนิ อย่างงงา่ ย การจดั การดิน และการใชโ้ ปรแกรมปยุ๋ สง่ั ตดั โดยไดร้ บั ความรว่ มมือจากส�านกั งานพัฒนาทด่ี ิน เขต 8 15
‘ขยะ-ขยับ-ขยาย’ โครงการ : การยกระดบั คุณภาพชวี ิตของชมุ ชนดว้ ยการพฒั นาระบบบรหิ ารจดั การขยะแบบยง่ั ยืน โดยชมุ ชนมสี ว่ นรว่ ม ตอ่ ยอดเปน็ ศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบการจัดการขยะชมุ ชน เขตพนื้ ที่เชยี งราย 16
ชมุ ชนเดนิ ทาง : โครงการยกระดับคุณภาพชวี ิตหม่บู า้ น/ชุมชนแบบมีส่วนรว่ ม คล่ปี มปญั หาขยะ เม่ืออดรนทนไม่ไหวอีกต่อไปกับกองขยะมหาศาลหน้า การคล่ีคลายปมปัญหาขยะที่หมักหมมมานานยังช่วย สถานศกึ ษา เหลา่ อาจารยข์ องมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ น สานสมั พนั ธ์อนั ดีระหวา่ งชุมชน อาจารย์ นกั ศกึ ษา และหนว่ ยงาน นา เขตพน้ื ทเ่ี ชยี งราย จงึ รวมตวั กนั และยนื่ มอื ไปยงั ชมุ ชนดว้ ยความ ในพ้ืนท่ี จนพัฒนาเป็น ‘เครือข่ายความร่วมมือ’ ที่ร่วมกันท�างาน หวงั ลกึ ๆ ทจ่ี ะไดข้ จดั ปญั หาและสรา้ งการเปลย่ี นแปลงครงั้ ใหญร่ ว่ ม จนท�าให้ชุมชนเกิดจิตส�านึกใส่ใจการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กนั และส่ิงแวดล้อม หลังผ่านเวทีแลกเปล่ียนความคิดเห็นขนาดย่อมๆ กัน กจิ กรรมส้างเครือข่ายชุมชน แล้ว ก้าวแรกของโครงการ การยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน ด้วยการพัฒนาระบบบริหารจัดการขยะแบบย่ังยืน โดยชุมชน มีส่วนร่วม ต่อยอดเป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบการจัดการ ขยะชมุ ชน จงึ ไดเ้ กดิ ขน้ึ และมกี า้ วตอ่ ๆ มากบั การวางแผน ลงมอื ปฏบิ ตั ิ สรปุ ผล จนถงึ การปรบั แกไ้ ขตามหลกั PDCA ทา� ใหก้ ลมุ่ อาจารยแ์ ละ ชุมชนสามารถพลกิ วกิ ฤตให้เปน็ โอกาสได้ ด้วยการสร้างทีมงานแกนหลักในชุมชนขึ้นมา 10 คน พร้อมๆ กับการผลิตองค์ความรู้เพ่ือจัดการขยะ ท�าให้ไม่เพียงแต่ จะลดปรมิ าณขยะลง แตย่ งั เพมิ่ มลู คา่ ใหผ้ ลติ ภณั ฑท์ เ่ี ปน็ ผลพลอยได้ จากการก�าจัดขยะด้วย เม่ือประสิทธิภาพของแนวทางการบริหาร จัดการมีมากขึ้น โครงการนี้จึงกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับชุมชน เยาวชน และหน่วยงานอ่ืนๆ ขณะที่ชุมชนนี้ก็ยังมีโอกาสดีในการ เปิดประสบการณ์ผ่านการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้กับบคุ คลภายนอก ในอีกมุมหน่ึง พฤติกรรมเรื่องขยะของคนในชุมชนก็ เปล่ียนแปลงไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ทั้งใส่ใจความสะอาดของ บ้านมากขึ้น ลดการเผาขยะท�าให้มลพิษน้อยลง แถมยังคิดอย่าง ถ่ีถ้วนกอ่ นใชส้ ง่ิ ของเพื่อลดปริมาณของเสีย ชาวบา้ นเองกม็ รี ายได้ เพม่ิ ขน้ึ จากกองทนุ ขยะ ขณะเดยี วกนั ทางโครงการยงั เปดิ โอกาสให้ ทุกคนสามารถเสนอผลงานผลิตภณั ฑข์ องตัวเองได้ดว้ ย 17
ระดมสมอง การจดั การองคค์ วามรู้ดา้ นการก�าจดั ขยะเพื่อนา� ไปส่กู ารเผยแพร่ จา� นวนขยะทเ่ี บาบางลงไปผดิ หผู ดิ ตา พรอ้ มกบั การเกดิ ขน้ึ ของแนวทางการจัดการขยะท่ีมีประสิทธิภาพ ถือเป็นผลลัพธ์ช้ัน ดีของการท�างานเป็นทีมในชุมชนท่ีมาจากการผสมผสานความรู้ ในหลายสาขาจากนกั ศกึ ษา เจา้ หนา้ ที่ และอาจารย์จากคณะตา่ งๆ ของมหาวิทยาลัย ร่วมกบั ชมุ ชนและหนว่ ยงานในพน้ื ที่ ไมว่ า่ จะเปน็ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บล ฝา่ ยพฒั นาชมุ ชน สถานอี นามยั ไปจนถงึ โรงเรียน ชดุ ความรดู้ งั กลา่ วมตี ง้ั แตด่ า้ นการวางผงั และเขยี นแบบซงึ่ ใชส้ รา้ งสง่ิ ตา่ งๆ ทจี่ า� เปน็ เชน่ บอ่ คอนกรตี ไปจนถงึ ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ ผา่ นฝีมอื การออกแบบของอาจารยแ์ ละทีมนักศึกษาสาขาวิศวกรรม โยธารว่ มกบั ปราชญช์ าวบา้ น โดยใชค้ วามรดู้ า้ นบญั ชที า� ระบบจดั การ กองทนุ ขยะใหเ้ ป็นแบบบญั ชีเดยี วซ่งึ ไม่ซับซ้อนมาก ภายใตค้ วาม รู้ด้านบริหารส�าหรับจัดระบบท้ังคน งาน และเงินให้เดินหน้าไปได้ แถมดว้ ยการสรา้ งสรรคไ์ อเดยี จากความรดู้ า้ นการตลาดทเี่ พมิ่ ความ นา่ สนใจใหก้ บั โครงการ อาทิ การคดิ ชอ่ื ทส่ี น้ั กระชบั นา่ สนใจ อยา่ ง ‘ขยะสงั คม’ จากคณาจารย์เพียงกลุ่มเดียว ได้ขยายไปสู่ชุมชนและ หน่วยงานในพื้นที่กลายเป็นมือจ�านวนมากท่ีประสานกันเพื่อขจัด ปัญหาให้หมดไป แถมยังได้ชุดความรู้ด้านการจัดการขยะที่ท�าให้ ของไร้คา่ กลับมามรี าคาได้ เหล่านค้ี งเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจาก ‘ใจ’ และ ‘ศรัทธา’ ทมี่ งุ่ หนา้ ตรงไปยงั เปา้ หมายเดยี วกนั คอื การพลกิ ฟน้ื บรรยากาศของ ชมุ ชนทอ่ี ยอู่ าศยั และเปน็ แหลง่ ถา่ ยทอดความรแู้ กเ่ ยาวชนในทอ้ งถนิ่ ให้มีบรรยากาศให้ดีข้ึนกว่าเดิม ถือเป็นการเปล่ียนแปลงคร้ังใหญ่ อยา่ งที่เหลา่ อาจารยว์ าดฝันไว้ต้ังแต่แรกจรงิ ๆ 18
ชมุ ชนเดนิ ทาง : โครงการยกระดับคณุ ภาพชวี ติ หม่บู ้าน/ชมุ ชนแบบมสี ่วนรว่ ม การพฒั นาระบบหริหารจัดการศูนยถ์ า่ ยทอดความรูก้ ารจดั การขยะชมุ ชน การพัฒนาระบบหรหิ ารจัดการโรงเรยี นตน้ แบบดา้ นการจดั การขยะ 19
‘อนาคตใหญ่ๆ ในพทุ ราผลเลก็ ’ โครงการ : การยกระดับการจัดการองค์ความรู้ระบบการผลิตพุทราเศรษฐีเพ่ือเป็นแนวทางของการบรกิ ารวิชาการ โดย ชุมชนเข้ามามสี ่วนรว่ ม อำ� เภอลอง จังหวัดแพร่ 20
ชุมชนเดนิ ทาง : โครงการยกระดับคุณภาพชวี ิตหมู่บา้ น/ชมุ ชนแบบมีส่วนรว่ ม เสน้ ทางของพทุ รา จากเคยสญู เงนิ ไปหลายลา้ นบาทกบั พทุ ราจำ� นวนมหาศาล ชาวชุมชนมีรายได้จากการผลิตเพิ่มขึน้ จนสามารถขยายเครือขา่ ย ที่สกุ คาตน้ จนเกบ็ ไมท่ นั ตอนนี้ โครงการ การยกระดบั การจัดการ ความรว่ มมือไปยังหน่วยงานอ่ืนๆ ได้ องค์ความรู้ระบบการผลิตพุทราเศรษฐีเพื่อเป็นแนวทางของการ ขณะเดียวกัน การมีส่วนร่วม แลกเปลี่ยนเรียนรู้การ บริการวิชาการ ได้ท�ำให้เหตุการณ์เหล่านั้นกลายเป็นเพียงอดีตไป พฒั นาอาชพี ของผคู้ น ทำ� ใหบ้ รรยากาศในชมุ ชนดขี น้ึ ทกุ คนสามารถ แล้ว ด้วยข้อมูลความรู้ใหม่ๆ มากมายท่ีครอบคลุมตั้งแต่เร่ิมปลูก ร่วมกันเผชิญหน้าและแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพ่ิมศักยภาพให้ชุมชน การดูแลรักษา ไปจนถึงหลังเก็บเก่ียว ได้ดึงดูดให้มีผู้เข้าร่วม วิเคราะห์ต้นทุนเองได้ จนเข้มแข็งและพ่ึงพาตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ โครงการจำ� นวนมาก จนทางกลมุ่ สามารถจดั แนวทางการจดั รปู แบบ กลายเป็นการพึ่งตนเองอย่างย่ังยืนบนรากฐานของสังคมแห่งการ ระบบการผลติ และแปรรปู พทุ ราปลอดภยั ไดม้ ากกวา่ 2 รปู แบบ ทำ� ให้ เรียนรู้และการช่วยเหลือแบง่ ปนั 21
ทางเดินของชมุ ชน ป๋ยุ ของการท�ำงาน หนึ่งในสาเหตุของปัญหาท่ีเคยเกิดขึ้นคือการขาดการ อาจกลา่ วไดว้ า่ สายสมั พนั ธอ์ นั ดขี องทมี งาน ความจรงิ ใจ จดั การความรทู้ เี่ ปน็ ระบบทำ� ใหค้ ณุ ภาพของผลผลติ ตำ�่ กวา่ มาตรฐาน การคอยเปิดใจ และสื่อสารกันอยู่เสมอ เป็นเสมือนปุ๋ยชั้นดีที่หนุน ท�ำให้กลุ่มผู้ผลิตพุทราจาก 4 ต�ำบล ท้ังต�ำบลห้วยอ้อ หัวทุ่ง ให้โครงการเติบโตและลุล่วงมาได้ ท�ำให้ทีมงานสามารถท�ำงาน บ่อเหล็กลอง และบ้านปิน ตกลงใจจับมือกับเหล่านักวิชาการจาก รว่ มกันไดอ้ ย่างยอดเย่ยี ม ท้ังการถา่ ยทอดความรู้ การสรปุ ผลการ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา เขตพืน้ ทีแ่ พร่ ส�ำนกั งาน ด�ำเนนิ งานเพอ่ื เตรยี มความพร้อมทงั้ กอ่ นและหลงั ลงพนื้ ที่ การแบ่ง พัฒนาชุมชนจังหวัด และเจ้าหน้าที่เกษตรอ�ำเภอลอง เร่ิมต้น บทบาทหนา้ ทอี่ ย่างเหมาะสม การเติมทกั ษะและเครื่องมืองานวิจัย โครงการดว้ ยความหวงั ทจ่ี ะสรา้ งรายได้ รวมถงึ คณุ ภาพการท�ำงาน รวมถงึ การหนนุ เสรมิ ของพเี่ ลย้ี ง การประสานงานระหวา่ งเครอื ขา่ ย ทงั้ เทคนคิ และปจั จยั การผลติ ผา่ นกระบวนการทำ� งานแบบรวมกลมุ่ ความสามารถในการถ่ายความรู้ของวิทยากร และความสามารถ ขณะเดียวกัน ฝั่งอาจารย์เองก็คาดหวังถึงรูปแบบงาน ในการรับรู้ท้งั ของชุมชน ทีมวิจัย และนกั วิชาการ บริการวิชาการใหม่ๆ ท่ีเหมาะสมและสอดคล้องกับชุมชน รวมถึง ปลายทางของโครงการจึงได้สร้างการเรียนรู้ให้เกิดข้ึน การเรียนรู้ท่ีเน้นใช้โจทย์ของชุมชนมาขับเคลื่อนจนถึงการสร้าง กับท้ัง 2 ฝา่ ย โดยชมุ ชน ได้เรียนรกู้ ระบวนการผลิตและการตลาด เครือขา่ ยนักวิชาการ แบบครบวงจร รวมถงึ เครอื่ งมอื ทกั ษะ การเป็นนกั วิจัย ผู้น�ำ และ สองความหวังใหญ่ๆ นี้เป็นต้นทางของการผสาน วิทยากร จนถึงการปรับทัศนคติในเร่ือง ‘มาด้วยใจ ไม่ใช้เงินน�ำ’ องค์ความรู้ด้านการผลิต แปรรูป การตลาด โดยแปรความรู้ สว่ นนกั วชิ าการเองก็ไดบ้ ทเรยี นในการทำ� งาน ทง้ั กระบวนการสรา้ ง เหลา่ น้ีใหเ้ ขา้ กบั วธิ กี ารท�ำงานของทมี ตง้ั แตข่ นั้ ตอนวเิ คราะหป์ ญั หา การมีส่วนร่วม การค้นหาโจทย์วิจัยในพื้นที่ และการท�ำงานแบบ ระดับพ้นื ท่ี แลกเปล่ียนประสบการณ์และชดุ ความรู้ การฝึกอบรม จิตอาสา และการลงมอื ท�ำ ท่ีสามารถทำ� ให้ชมุ ชนตระหนักถึงภูมิปัญญาและ ท้ายท่ีสุดแล้วความพยายามของทีมงานก็สนองความ ศกั ยภาพในการแกป้ ัญหาและพึง่ พาตนเองได้ ตอ้ งการของทกุ ฝา่ ยและท�ำใหพ้ ทุ ราปลอดภยั เตบิ โตขน้ึ มาหลอ่ เลยี้ ง ชีวิตชาวชมุ ชนได้อกี ครั้งและยง่ั ยืน 22
ชมุ ชนเดินทาง : โครงการยกระดับคุณภาพชีวติ หมูบ่ ้าน/ชุมชนแบบมีส่วนรว่ ม เวทแี ลกเปล่ยี นเรียนรแู้ ละเตมิ เตม็ ความรู้ การประชมุ กอ่ นและหลังการทำ� เวทแี ลกเปลี่ยนเรียนรู้ โรคและแมลง การดูงานท่ีสถาบันวิจยั เทคโนโลยีเกษตร 23
ความส�าคญั ของ ‘ขา’ โครงการ : การสร้างเตาอบพืชผลทางการเกษตรจากพลังงานแสงอาทติ ย์ฯ บ้านทีวะเบยทะ จ.ตาก 24
ชมุ ชนเดนิ ทาง : โครงการยกระดบั คุณภาพชีวิตหมบู่ า้ น/ชมุ ชนแบบมีสว่ นรว่ ม พลิกชวี ติ ชุมชน ส�ำหรับการพัฒนาชุมชนไปสู่การพ่ึงพาตนเอง ‘ขา’ สาธารณสุข ใหเ้ กิดขน้ึ จริงในพืน้ ท่ี 5 หม่บู ้าน และบ้านทีวะเบยทะ หรือรากฐานอันแข็งแกร่งถือเป็นหัวใจส�ำคัญ ท่ีจะรองรับการ คือหนึ่งในน้นั เปลีย่ นแปลงในอนาคต แผนพัฒนาดังกล่าวได้เปิดโลกทัศน์ให้ชุมชนจนสามารถ อย่างเช่น พลังงานธรรมชาติจากน�้ำและแสงอาทิตย์ สร้างระบบพลังงานไฟฟ้าพลังงานน้�ำและแสงอาทิตย์ รวมถึง ที่มีส่วนส�ำคัญในการพลิกฟื้นชีวิตชาวปกากะญอแห่งหมู่บ้านที เตาหุงต้มประหยัดพลังงานขึ้นมาได้ ระบบพลังงานไฟฟ้าจาก วะเบยทะ ผา่ นโครงการ การสรา้ งเตาอบพชื ผลทางการเกษตรจาก ธรรมชาติทั้งสองทางได้ทำ� ให้ชาวชุมชนมีไฟฟ้าใช้ตลอดปี ถือเป็น พลงั งานแสงอาทติ ยฯ์ อนั มาจากพระราชดำ� รฯิ ของสมเดจ็ พระเทพ หวั ใจสำ� คญั ของการพฒั นาในสว่ นอนื่ ๆ ทง้ั ยงั สามารถดแู ลระบบของ เตาเองได้ แถมยงั ลดควนั ในครวั เรือน ทำ� ให้ปญั หาทางเดนิ หายใจ รัตนราชสดุ าสยามบรมราชกมุ ารี จากความต้ังพระราชหฤทัยของพระองค์ในการพลิกฟื้น ลดลงตามไป พรอ้ มกับสขุ ภาพท่ดี ีขึน้ ความเป็นอยู่ของชาวปกากะญอ ได้ถ่ายทอดไปยัง 38 หน่วยงาน เม่ือร่างกายแข็งแรง สมองก็แจ่มใส่จนสามารถสร้างผล ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กรมชลประทาน และกรมทางหลวง ผลติ อ่ืนๆ ข้นึ มาอย่าง เช้ือราก�ำจดั แมลงบวั่ พรกิ กะเหร่ียงคณุ ภาพ ทรี่ ะดมความคดิ จนกลายเป็นแผนพัฒนา 5 ดา้ น ตั้งแต่การศึกษา เยี่ยม และผลิตภณั ฑแ์ ปรรูปจากพริกกะเหร่ียง พัฒนาอาชีพ แก้ปัญหาชุมชน อนุรักษ์ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม และ 25
เสริมกำ� ลังขา บทเรียนทปี่ ลายทาง หากหมายจะเดนิ ไปขา้ งหนา้ แตข่ าออ่ นแรง มหี รอื จะกา้ ว ไปถงึ เสน้ ชยั หนว่ ยงานทงั้ 38 แหง่ จงึ ระดมสมองถา่ ยทอดองคค์ วาม รู้เพ่อื เสริมความแขง็ แรงให้กับรากฐานของชุมชน โดยเน้นการร่วม มือกับผ้เู กีย่ วข้องเพื่อศึกษาสภาพปัญหาของพนื้ ท่ี เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เขตพน้ื ทต่ี าก ที่ไดร้ บั มอบหมายดา้ นกาiพฒั นาการศกึ ษา จนไดผ้ ลติ สอื่ การสอนแบบมลั ตมิ เี ดยี จากฝมี อื ของกลมุ่ อาจารยใ์ หก้ บั โรงเรยี น ต�ำรวจตระเวนชายแดนในบ้านทีวะเบยทะ ทั้งยังผสานศาสตร์ใน ดา้ นงานบรกิ ารวชิ าการ รว่ มวางแผนพฒั นาประเดน็ ทอ่ี ยู่ในขอบเขต ความสามารถของตนร่วมกับหน่วยงานอ่ืนที่เก่ียวข้อง เพื่อเสริม ใหแ้ นวทางการทำ� งานเข้มแขง็ ยิ่งข้นึ ส่ิงท่ีเรียกได้ว่าเป็น ‘ขา’ ที่ผลักดันให้โครงการสามารถ กา้ วขน้ึ ไปควา้ ธงชัยไดค้ อื ความเข้มแข็งและการมองเหน็ เป้าหมาย ร่วมกันของทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ นักศึกษา เครือข่าย OFFROAD ชาวบา้ น และกลุ่มแกนน�ำ โดยแต่ละฝา่ ยก็ได้บทเรียน จากการท�ำงานฝากไวใ้ ห้ได้เรียนรตู้ อ่ ไป ในฝง่ั อาจารยต์ า่ งก็ไดเ้ รยี นรู้ การปรบั ใชค้ วามรใู้ หเ้ ขา้ กบั พ้ืนท่จี ริงอย่างเหมาะสม การแปรความรู้จาก มทร. ใหเ้ ข้ากับการ พฒั นาพน้ื ที่ ทงั้ ยงั ไดเ้ รยี นรวู้ ถิ ชี วี ติ และสานสายสมั พนั ธอ์ นั ดรี ะหวา่ ง อาจารย์ นกั ศกึ ษา และชาวปกากะญอ สว่ นฟากชมุ ชนเองก็ไดเ้ รยี นรู้ และปรับตัวให้อยู่ร่วมกับการใช้พลังงานธรรมชาติได้อย่างเหมาะ สมกลมกลืน พรอ้ มทง้ั เป็นสว่ นหนึ่งในการพฒั นาพืน้ ทขี่ องตวั เอง แม้ทั้งสองฝ่ายจะได้เรียนรู้และบรรลุเป้าหมายของ โครงการ แต่นีก่ เ็ ป็นเพยี งกา้ วแรก และจะมีกา้ วตอ่ ๆ ไปหลังจากนี้ โดยมแี นวทางของโครงการเปน็ รากฐานในการพฒั นาชมุ ชนของคน รุ่นตอ่ ไปใหเ้ ติบโตและสรา้ งความยั่งยืนได้ในระยะยาว 26
ชุมชนเดินทาง : โครงการยกระดบั คณุ ภาพชวี ิตหมู่บ้าน/ชุมชนแบบมสี ว่ นรว่ ม การบม่ เพาะผลติ เชื้อชวี ภณั ฑ์ในชมุ ชน 27
‘ความย่ังยืนในกำ� มอื ’ โครงการ : การสรา้ งชุมชนเรยี นร้เู พื่อการพัฒนาคุณภาพชวี ิตชมุ ชนบา้ นห้วยส้านดอนจ่ันอย่างยงั่ ยนื 28
ชมุ ชนเดินทาง : โครงการยกระดบั คณุ ภาพชีวติ หม่บู า้ น/ชมุ ชนแบบมสี ว่ นร่วม รอบวงบนผวิ น�ำ้ การเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดข้ึนอยู่เสมอ แต่จะท�ำอย่างไร ใหก้ ารเปลย่ี นแปลงนนั้ กลายเปน็ การพฒั นา และขยบั ไปสกู่ ารพฒั นา ทยี่ ่ังยนื ตัวอย่างของค�ำตอบน้ัน ได้เกิดข้ึนแล้วท่ีบ้านห้วยส้าน ดอนจนั่ ด้วยการควบรวมงานวจิ ยั 2 เรื่อง ผสมผสานเข้ากับการ เรียนการสอนในวิชาการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคม รวมถึง วิชาการระเบยี บวธิ วี ิจยั บวกด้วยความมงุ่ ม่ันของทีมงาน ทำ� ใหก้ าร เปล่ียนแปลงที่เกิดข้ึนขยายตัวไปราวกับรอบวงบนผิวน�้ำเม่ือถูกหิน กอ้ นใหญ่กระทบ หลงั จากวเิ คราะหศ์ กั ยภาพของชมุ ชนแลว้ ทมี งานและผคู้ น ในพื้นที่ต่างระดมสมองกันวางแนวทางพัฒนาชุมชนอย่างย่ังยืนขึ้น มาจนสามารถสร้างอาชีพเสริมจากการขายผลิตภัณฑ์น้�ำหมักและ ปยุ๋ หมกั ชวี ภาพ ชว่ ยลดตน้ ทนุ การผลติ เพม่ิ รายไดใ้ หเ้ กษตรกรมาก ขึน้ กว่าเดิม ทางโครงการสร้างเครือข่ายให้เกิดข้ึนในโรงเรียน พระปริยัติธรรม อ.แม่ลาว จ.เชียงราย โรงเรียนในสังกัดคณะ เครอื ขา่ ยเหลา่ นี้ไดเ้ พมิ่ ชอ่ งทางการจดั จำ� หนา่ ยผลติ ภณั ฑ์ กรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน เขต 2 เทศบาลต�ำบลป่าก่อด�ำ ท�ำให้ชุมชนสามารถบริหารระบบเงินทุนชุมชนได้เอง จนสามารถ องค์การบริหารส่วนต�ำบลจอมหมอกแก้ว ศูนย์เรียนรู้ต�ำบลวิถี ขยายความรู้และกิจกรรมไปยังชุมชนอื่นๆ กลายเป็นเป้าหมายใน พอเพยี ง อ.แมจ่ นั จ.เชยี งราย คลนิ กิ เทคโนโลยเี ชยี งราย มทร.ลา้ นนา การศกึ ษาดงู านของหลายพน้ื ที่ โดยเฉพาะเรอ่ื งการปลกู ขา้ วนาโยน ภาคพายัพ เชียงใหม่ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ท่หี ว้ ยสา้ นดอนจั่นได้เปน็ ถึงหมู่บา้ นต้นแบบของเชียงราย วดั หว้ ยสา้ นดอนจนั่ หมู่ 3 รวมถงึ กลมุ่ ผสู้ งู อายจุ ากหมู่ 7 ต.ดงมะดะ ไม่เพียงแค่ในวงชุมชนเท่าน้ัน สิ่งที่เกิดข้ึนในห้วยส้าน หมู่ 4 ต.บัวสลี หมู่ 5-6 ต.โป่งแพร่ และหมู่ 8 ต.ป่าก่อด�ำ ดอนจั่นยังช่วยต่อยอด 2 โครงการวิจัยคือ ‘การถ่ายทอดความรู้ ชุมชนในการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีการโยนกล้าของกลุ่มเกษตรกร 29
บา้ นหว้ ยสา้ นดอนจน่ั ต.จอมหมอกแกว้ อ.แมล่ าว จ.เชยี งราย’ และ โดดเด่นจากตวั ตน ‘การยกระดบั คุณภาพชวี ิตของผู้สูงอายใุ น อ.แมล่ าว จ.เชยี งราย’ รวมไปถงึ การขยายผลกจิ กรรมเพอ่ื การพฒั นาใหก้ บั 2 หนว่ ยงานคอื ศนู ยส์ าธติ และจดั เกบ็ เมลด็ พนั ธข์ุ า้ ว โดยเกษตรอ�ำเภอแมล่ าว และ ทกุ ๆ สปั ดาห์ ทมี งานของโครงการ การสรา้ งชมุ ชนเรยี น เครอื ข่ายชุมชนน่าอยู่ โดยเทศบาลตำ� บลปาก่อดำ� ในโครงการของ รู้เพ่ือการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนบ้านห้วยส้านดอนจั่นอย่าง สสส. ย่ังยืน จะลงพ้ืนท่ีกันอย่างแข็งขันเพ่ือท�ำภารกิจการตามแผนภาย ใตก้ ระบวนการวางแผนแบบมสี ว่ นรว่ ม (AIC) และกระบวนการวจิ ยั การเพาะปลกู ขา้ วด้วยวิธีการโยนกลา้ เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารแบบมสี ว่ นรว่ ม (PHP) ทชี่ กั ชวนใหอ้ าจารย์ เจา้ หนา้ ท่ี และนกั ศึกษา เขา้ มารว่ มขับเคล่ือนโครงการท่ีเนน้ ผสานการพัฒนา ใหเ้ ปน็ เนอ้ื เดยี วกบั การเรยี นการสอนและการวจิ ยั ทส่ี อดรบั กบั ความ ตอ้ งการของชาวชมุ ชน จนเกดิ เปน็ 3 กลมุ่ อาชพี ไดแ้ กก่ ลมุ่ โคม-ตงุ ล้านนา กลมุ่ เกษตรกร กลมุ่ ผ้าบาติกและมดั ยอ้ ม ระลอกคลน่ื ของผลทเ่ี กดิ เรม่ิ มาตง้ั แตก่ ารมอบองคค์ วามรู้ พนื้ ฐานและประสบการณด์ า้ นอาชพี และการเกษตรทถี่ า่ ยทอดใหช้ าว ชมุ ชน การฝึกอบรมอาชพี ไปจนถงึ การดงู านที่มอบความรู้ทั้งการ จดั การเกษตรแบบชวี ภาพและการปลกู พชื การบรหิ ารจดั การตลาด พัฒนาบรรจุภัณฑ์และรปู แบบของโคม-ตุงล้านนา ผลิตภัณฑ์ผา้ บา ตกิ -มดั ยอ้ มในระดบั วสิ าหกจิ ชมุ ชน รวมถงึ การพฒั นาผลติ ภณั ฑแ์ ละ หบี หอ่ ของของเลน่ พน้ื บา้ น ดงึ ดดู ใหม้ ผี เู้ ขา้ รว่ มโครงการถงึ 120 คน โดยมผี ้นู �ำกิจกรรม 5 คนในแต่ละกลุ่ม ในส่วนของกิจกรรม นอกจากจะท�ำโคมและตุงแล้ว กลุ่มโคม-ตุงล้านนา ยังมีการท�ำของเล่นพ้ืนบ้านท้ังส�ำหรับใช้งาน และเป็นของท่ีระลึก ส่วนกลุ่มเกษตรกรก็แทนท่ีการปลูกข้าวแบบ นาด�ำด้วยเทคโนโลยีแบบโยนกล้าที่ท้ังเพิ่มมูลค่าและลดต้นทุน การผลิต แถมยังแปรสภาพวัชพืชกับมูลสัตว์ให้เป็นปุ๋ยหมักและ กา๊ ซชีวภาพเพื่อใช้ในครัวเรอื น ขณะที่กลุ่มผ้าบาติกและมัดย้อม ได้สร้างความโดดเด่น ด้วยสีสัน เอกลักษณ์ และลวดลายสะท้อนวิถีล้านนา ท้ังยังใช้ สีธรรมชาติจากพืชประจ�ำท้องถิ่นอย่าง ลูกส้าน ท่ีให้สีเหลืองทอง 30
ชมุ ชนเดนิ ทาง : โครงการยกระดับคุณภาพชวี ิตหมบู่ า้ น/ชุมชนแบบมสี ว่ นรว่ ม แถมยงั แปรรูปผ้าใหเ้ ป็นผลติ ภณั ฑอ์ ื่น อาทิ กระเปา๋ และเสื้อ เพ่ือ เพิม่ มูลค่าให้ผลผลติ จากชุมชน ในอกี ดา้ นหนงึ่ นอกจากชาวชมุ ชนจะไดต้ ระหนกั ถงึ ความ สำ� คญั ของการออมแลว้ ยงั มองเหน็ คณุ คา่ ของการทำ� งานแบบมสี ว่ น ร่วมที่สร้างความรักความสามัคคีให้เกิดขึ้น น�ำไปสู่การวิเคราะห์ ปญั หาดา้ นอื่นๆ เตรียมพร้อมสู่การพฒั นาและตอ่ ยอดองค์ความรู้ท่ี หลากหลาย จนเกดิ ปราชญช์ มุ ชนในการขยายองคค์ วามรไู้ ปยงั ชมุ ชน อน่ื ๆ ขณะเดยี วกนั เหลา่ นกั ศกึ ษาทเ่ี ขา้ มามสี ว่ นรว่ มในโครงการก็ได้ เผชญิ และฝกึ ฝนในสงิ่ ทจ่ี ะนำ� พวกเขาไปสกู่ ารเปน็ บณั ฑติ คณุ ภาพใน อนาคต กลุม่ โคม-ตุงลา้ นนา และกล่มุ ผ้าบาติกและมัดย้อม ตน้ ธารแหง่ ความยัง่ ยนื ถึงอย่างน้ัน รอบวงมากมายบนผิวนำ�้ ท่ีเรียกว่าชุมชนห้วยส้านดอนจ่ันคงเกิดไม่ได้หากขาดความเข้มแข็งของผู้นำ� หรือปราศจาก ความตอ้ งการของชุมชน และความรว่ มมอื ทั้งจากคนในพน้ื ท่ี จนถึงเอกชน และภาครฐั เชน่ เดยี วกบั ภายในทมี งานด�ำเนนิ โครงการทตี่ อ้ งอาศยั ผบู้ รกิ ารทเ่ี หน็ ความส�ำคญั และสนบั สนนุ รวมถงึ หวั หนา้ โครงการทบี่ รหิ าร จัดการได้อย่างยอดเยี่ยม ท้ังการวางแผนด�ำเนินงานให้สอดคล้องกับแผนการใช้จ่ายงบประมาณตั้งแต่เตรียมการไปจนถึงสรุปบทเรียน และยงั สามารถแบง่ บทบาทหนา้ ทที่ มี งานไดอ้ ยา่ งชดั เจนและเหมาะสม พรอ้ มกบั ใส่ใจในความหลากหลายของทมี งานทง้ั ในดา้ นสาขาความ รู้ ทกั ษะ ประสบการณ์ และความเขา้ ใจขั้นตอนหรอื รปู แบบของการจัดโครงการบรกิ ารวชิ าการชุมชน รวมถึงการก�ำหนดรปู แบบ และ กจิ กรรมในโครงการใหส้ อดคลอ้ งทง้ั กบั ความต้องการของชมุ ชน วิสัยทัศน์ และพนั ธกจิ ของมหาวทิ ยาลยั กเ็ ป็นสิง่ ส�ำคัญมากสำ� หรบั การ ขบั เคล่ือนโครงการให้ราบร่ืนไดต้ ลอดรอดฝั่ง ทางเดนิ ของของหว้ ยสา้ นดอนจน่ั คงไมห่ ยดุ อยเู่ พยี งเทา่ น้ี ความยงั่ ยนื ในชมุ ชนยงั คงสบื ตอ่ ไปจนถงึ รนุ่ ตอ่ ๆ ไปได้ ขอเพยี งมคี วาม รว่ มมือและตงั้ ใจจรงิ ในการเสาะหาหนทาง ส�ำหรบั ชุมชนอน่ื ๆ แลว้ หนทางทว่ี า่ อาจอยู่ใกลต้ วั เสยี จนเราต่างลืมมองมันไปเสยี เอง 31
‘กุญแจ 2 ดอกสกู่ ารพ่ึงตนเอง’ โครงการพัฒนาและสง่ เสรมิ เศรษฐกิจชมุ ชนพ่งึ ตนเองบา้ นหว้ ยลอย ตำ� บลภฟู ้า อำ� เภอบอ่ เกลอื จงั หวัดน่าน 32
ชมุ ชนเดนิ ทาง : โครงการยกระดบั คณุ ภาพชีวติ หมูบ่ ้าน/ชมุ ชนแบบมสี ่วนรว่ ม สรา้ งเกราะเสรมิ ก�ำลงั การพึ่งพาตนเองได้คือความเข้มแข็ง... ทีมงานโครงการพัฒนาและส่งเสริม เศรษฐกจิ ชุมชนพ่ึงตนเองบา้ นห้วยลอย อาจคิดอยา่ งนน้ั ท้ังกลุ่มคนจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เขตพื้นที่น่าน และ ชาวชุมชนบ้านห้วยลอย จึงได้จับมือกันสร้างบันไดท่ีจะไต่ไปถึงเป้าหมาย ด้วยความรู้ท่ี ถา่ ยทอดจาก มทร. จนชมุ ชนสามารถเรยี นรู้และถา่ ยทอดใหก้ ับชุมชนใกล้เคยี งได้ ภาย ใตก้ ารเสนอความต้องการและลงมือท�ำของชาวบ้าน ขณะที่ทีมงานจากมหาวทิ ยาลยั และ เครอื ขา่ ยรบั หนา้ ทเ่ี ปน็ ผจู้ ดั การฝกึ อบรม คอยประคบั ประคอง การด�ำเนนิ งานของกจิ กรรม และสนับสนนุ ด้านต่างๆ ตามสมควร โดยอาศัยการผสานความรู้อย่างด้านการบริหารจัดการ ที่ว่าด้วยการท�ำบัญชี ครวั เรอื น การบริหารจัดการกลมุ่ การวิเคราะหศ์ กั ยภาพ การทอ่ งเที่ยวของชุมชน และ องค์ความรู้ด้านการเกษตร ในเร่ืองการผลิตและแปรรูป หลักของโภชนาการ เห็ด พืช สัตว์บก และสัตว์น้�ำ ไปจนถึงองค์ความรู้ด้านวิศวกรรม ในการท�ำเตาอั้งโล่ประหยัด พลงั งาน การฝึกอาชพี ช่างไฟฟ้า การฝกึ อาชพี ช่างยนต์ 33
สองแรงแขง็ ขนั สูเ่ ส้นชยั ส่วนผสมจากองคค์ วามรทู้ ง้ั 3 ดา้ น ไดส้ ร้างความรู้ดา้ น ในทา้ ยทสี่ ดุ ชาวบา้ นหว้ ยลอยกส็ ามารถสรา้ งอาชพี ทห่ี ลอ่ การเพาะเลี้ยงปลาท้องถ่ิน การเพาะเห็ดจากวัชพืชและสิ่งเหลือใช้ เล้ยี งชวี ิตได้จรงิ เช่น กล้วยทอดจากกลมุ่ แปรรูป ซ่ึงเป็นสินคา้ ยอด จากการเกษตร รวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพและความรู้ นิยมทง้ั ในชุมชนและพื้นท่ีใกลเ้ คยี ง รวมไปถึงการเข้ารว่ มกจิ กรรม ดา้ นสมนุ ไพร จนกลายเปน็ เอกลกั ษณ์ของชมุ ชนหว้ ยลอย ซึง่ ท�ำให้ ของสมาชกิ ท่ีเรม่ิ ต่อเนอ่ื งและสม่�ำเสมอในทกุ กลมุ่ อาชีพ กลายเปน็ กวา่ 30 ครอบครัวทีเ่ ข้ารว่ มสามารถจัดต้ัง 7 กลุ่มอาชีพเสริมจาก แรงผลกั ดนั ใหส้ ามารถพงึ่ ตนเองได้ โดยมาจากปจั จยั ทงั้ ภายในและ ทรัพยากรในท้องถ่ิน ได้แก่ ช่างไฟฟ้า ช่างยนต์ การปลูกข้าวไร่ ภายนอก การผลติ ปยุ๋ อนิ ทรยี ์ การทำ� ปศสุ ตั วอ์ นิ ทรยี ์ กลมุ่ ผลติ พชื ผกั สวนครวั ส�ำหรับภายใน มาจากความร่วมมือของคนในกลุ่มต่างๆ กลุ่มเพาะเหด็ กลุ่มเพาะเลย้ี งปลาท้องถิ่น และกล่มุ แปรรปู ผลผลติ และวทิ ยากรทส่ี อดรบั กบั งาน ทำ� ใหช้ มุ ชนไดค้ วามรใู้ นการดำ� รงชวี ติ ทางการเกษตรที่มีในท้องถ่ินที่สามารถแปรรูปผลผลิตทางการ เพื่อเป็นการจุดประกายความคิดในการประกอบอาชีพ และเรียนรู้ เกษตรในท้องถ่นิ ในมากกว่า 4 ผลติ ภณั ฑ์ จดุ ดจี ดุ ดอ้ ย เพอ่ื จะไดน้ �ำไปปรบั ใชใ้ นการประกอบอาชพี ตอ่ ไป สว่ น ผลที่เกิดข้ึนนี้ยังเป็นฐานรากของการเกิดศูนย์เรียนรู้ด้าน ภายนอก มาจากการสนับสนนุ ของภาคี ทา่ มกลางความสนใจและ การพง่ึ พาตนเองตามวถิ ีเศรษฐกิจพอเพยี งข้ึน และสรา้ งรายไดเ้ พมิ่ ความมุ่งมั่นของกลุ่มเกษตรกรในการเลี้ยงไก่ บวกกับทักษะด้าน จากการขายผลติ ภณั ฑใ์ หก้ บั สมาชกิ ทเี่ ขา้ รว่ มโครงการ รวมถงึ กลมุ่ การเล้ียงสัตว์ท่ีมีอยู่แล้ว ท�ำให้การเล้ียงไก่ประสบความส�ำเร็จท้ัง อาชีพดว้ ย ยงิ่ ไปกวา่ นนั้ ยงั ทำ� ให้ชาวชมุ ชนห้วยลอยยงั ไดม้ อี าหาร ในรปู แบบกลุ่มและเด่ียว ปลอดภยั ไวบ้ รโิ ภคอยา่ งเพยี งพอ ชว่ ยลดคา่ ใชจ้ า่ ยในครวั เรอื นลงได้ ท้ังยังมอบองค์ความรู้ใหม่จากการท�ำโครงการให้กับทีม นอกจากน้ี โครงการนย้ี งั ไดส้ รา้ งจติ ส�ำนกึ และพฤติกรรม งาน รวมถึงการผสมผสานงานวิจัยกับการเรียนการสอน และได้ ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทาง เรียนร้แู นวทางแกป้ ญั หา รวมถึงอปุ สรรคที่ใชไ้ ด้จริง กลายเปน็ บท ชีวภาพให้เกิดข้ึนในหมู่ชาวชุมชน ทั้งการอนุรักษ์ป่าไม้ ต้นน้�ำ เรยี นส�ำคญั ให้กบั งานบริการวชิ าการต่อไป และวังปลา ทั้งยังมีการก�ำหนดกฎของหมู่บ้านเกี่ยวกับการจับสัตว์ นำ้� และการตัดต้นไม้อกี ด้วย ‘ชมุ ชนพ่งึ พาตนเอง’ อาจดูเปน็ ค�ำทย่ี ากจะท�ำใหเ้ ปน็ จรงิ ขณะเดียวกัน ด้านมหาวิทยาลัยเองก็ได้รับประโยชน์ไป ได้โดยง่าย แต่หนึ่งในสิ่งสำ� คัญท่ีจะท�ำให้ชุมชนไปถึงค�ำน้ันได้ คือ ด้วย โดยที่อาจารย์และเหล่านักศึกษาสาขาอุตสาหกรรมเกษตร ความต้ังใจจริงและความร่วมมือ ท้ังจากภายในและหน่วยงานใน ได้เข้าเป็นที่ปรึกษากลุ่มอาชีพและถ่ายทอดแนวทางแก้ไขปัญหาที่ พื้นที่ ท่ีไม่ปล่อยให้ชุมชนโดดเดี่ยว และน่ันก็จะท�ำให้การพึ่งพา เกดิ จากกระบวนการผลติ โรงเรอื น สุขาภิบาล อาหาร จนทางกลุ่ม ตนเองไม่ไกลเกนิ จะไปถึงได้ สามารถด�ำเนนิ การเองได้ ซึ่งการปลดตรวนความยากจนและสร้าง ความมน่ั คงทางอาหารใหเ้ กดิ ขึ้นในชุมชนแหง่ นี้ ได้ท�ำใหช้ าวชมุ ชน ยอมรบั และไว้วางใจอาจารยแ์ ละนกั ศกึ ษาอย่างมาก 34
ชุมชนเดินทาง : โครงการยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ หมบู่ ้าน/ชมุ ชนแบบมสี ่วนรว่ ม ประชุมกลุ่มสมาชิก วิเคราะห์ศักยภาพของสมาชิกและความเป็นไปได้ในการสร้าง ถ่ายทอดความรเู้ รื่องการสุขาภบิ าลการทา� วคั ซนี ปอ งกนั โรค ความยัง่ ยนื ของกลมุ่ ท่ีได้ดา� เนนิ การในปท ่ผี ่านมาร่วมกนั ประชุมกลุ่มสมาชิก วเิ คราะห์ปญหากระบวนการผลิต การเกบ็ รักษาคณุ ภาพ ถ่ายทอดความรดู้ า้ นการสร้างโรงเรือนพลาสสตกิ สา� หรบั ปกู ผัก ผลิตภัณฑ์ และบรรจุภณั ฑส์ า� หรับผลติ ภณั ฑอ์ าหารท่มี ีอยู่เดิม 35
‘พลงั งานสอู่ นาคต’ โครงการ : ยกระดบั คณุ ภาพชีวิตตามแนวเศรษฐกจิ พอเพียง หมู่บา้ นท่าทองแดง และบา้ นวงั เยน็ ตำ� บลนาโบสถ์ อ�ำเภอวังเจา้ จังหวัดตาก 36
ชุมชนเดนิ ทาง : โครงการยกระดบั คุณภาพชีวิตหมบู่ ้าน/ชมุ ชนแบบมีส่วนรว่ ม ปิดรบั ประสบการณใ์ หม่ เมอ่ื เหน็ วา่ แนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งจะยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ใหก้ บั ชมุ ชนได้ ชาว ชุมชนบา้ นทา่ ทองแดงและบ้านวงั เยน็ จงึ ลองเปิดประตไู ปสอู่ งค์ความรู้ใหม่ๆ นอกเหนอื ไป จากโลกแต่ละวันท่ีมองเห็นแต่เพียงการท�ำเกษตรกรรมเพียงอย่างเดียว จนได้ค้นพบว่า กุญแจสำ� คัญคือพลังงาน และผ้ชู ่วยในการพัฒนาคอื สง่ิ ที่มอี ยู่ในชมุ ชนอย่แู ลว้ จากความรว่ มมอื จากโครงการยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ตามแนวเศรษฐกจิ พอเพยี ง และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เขตพื้นท่ีตาก ท�ำให้ชาวชุมชนท้ังสองแห่ง ต่างมีชีวิตท่ีดีข้ึนจากรายจ่ายท่ีลดลงและมีอาชีพเสริมจากภูมิปัญหาท้องถ่ินท่ีสร้างราย ได้เพ่ิมขึ้น ยิ่งไปกว่าน้ัน ชาวชุมชนยังช่วยลดมลภาวะส่ิงแวดล้อมได้ ไม่ว่าจะเป็นการ ลดปรมิ าณขยะ เช่นเดยี วกับการใช้สารเคมที ่ลี ดลงไปด้วยเชน่ กัน แตก่ วา่ จะถงึ วนั น้ี กถ็ อื เปน็ เสน้ ทางยาวไกลทท่ี งั้ สองชมุ ชนตอ้ งรว่ มแรงรว่ มใจเพอ่ื ไปให้ถึงเป้าหมายในการดำ� เนนิ ชวี ติ ตามแนวเศรษฐกจิ พอเพยี งอยา่ งทีต่ ้ังใจไว้แต่แรก 37
5 กลมุ่ 5 องคค์ วามรู้ โครงการนี้ได้วางเป้าหมายไว้ท่ีการยกระดับคุณภาพ การติดต่อสอื่ สาร การนำ� เสนอผลงาน จนถึงการพฒั นาบุคลกิ ภาพ ชีวิตของชุมชนท้ังในด้านเศรษฐกิจ การลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ สร้างมนุษยสัมพันธ์ และการเสริมสุขภาพจิต ด้านวิทยาศาสตร์ ด้านสังคม สขุ ภาพ การศึกษา และทรพั ยากรธรรมชาติ ดว้ ยการ ในเร่ืองอันตรายจากขยะท่ีเป็นสารเคมี สิ่งแวดล้อม และ ท�ำงานร่วมกันของภาคีทั้ง 5 ได้แก่ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มแม่บ้าน คอมพิวเตอร์ ด้านสถาปัตยกรรม ในเรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์ ศลิ ปะ และสดุ ทา้ ยคอื ดา้ นเกษตรกรรม ในเรอื่ งของการใชป้ ระโยชน์ กลมุ่ อาชพี กลุม่ อสม. และกล่มุ ผนู้ �ำชมุ ชน แต่ละกลุ่มต่างก็มีกิจกรรมต่างๆ กันไป ตั้งแต่กลุ่ม จากน�้ำมนั สม้ ควันไม้ และปยุ๋ ชวี ภาพ เกษตรกรทท่ี ำ� น�้ำหมักชวี ภาพ ไบโอแก๊ส เตาเผาถา่ น น�้ำส้มควันไม้ จนสามารถผลิตและจัดตั้งกลุ่มผู้ผลิตเตาปล่องรวมถึง เตาซเู ปอรอ์ ง้ั โลป่ ระหยดั พลงั งานอยา่ งมสี ว่ นรว่ มขนึ้ มาได้ เชน่ เดยี ว ส่วนกลมุ่ แม่บ้านมกี จิ กรรมอย่างการคดั แยกขยะ ส�ำหรับกลุ่มอาชีพที่มีอาชีพหลักในการแกะสลักรูปมังกร กบั การประยกุ ตใ์ ชน้ ำ้� สม้ ควนั ไมแ้ ละนำ�้ หมกั ชวี ภาพ การจดั การขยะ และออมสิน ก็ได้ลงสีเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ไปถึงการฝึกอบรมอาชีพเสริมและใช้ในการด�ำรงชีวิต ทั้งศิลปะ ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ได้ทีมอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรมมาช่วยเหลือ ประดิษฐจ์ ากวัสดุเหลอื ใช้และการทำ� น้ำ� ยาเคมี รวมถึงให้ความรู้เรื่องการผลิตชิ้นงาน และมีอาชีพเสริมในการ ส่ิงเหล่านี้ได้ช่วยเสริมให้วิถีเกษตรกรรมแบบเดิมๆ ของ น�ำเอาทรัพยากรในชุมชนมาแปรรูปอย่าง ผงมะนาว หรือการนำ� ท้ังสองชุมชนไดเ้ ปลีย่ นไปในทางทดี่ ขี ึ้น และด้วยความร่วมมือ และ เปลือกข้าวโพดมาประดิษฐ์เป็นดอกไม้จันทน์ ไปจนถึงกลุ่ม การเปดิ ใจเรียนรู้ประสบการณ์ใหมๆ่ ของชาวชมุ ชน รวมถึงความ ผนู้ ำ� ชมุ ชน ท่ีไดร้ บั การฝกึ อบรมและพฒั นาจนสามารถถา่ ยทอดองค์ มุ่งมั่นของบุคลากรจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ความรแู้ ละแกป้ ัญหาชมุ ชนตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งได้ เขตพน้ื ทต่ี าก ทำ� ใหท้ ง้ั สองชมุ ชนสามารถนำ� ความรดู้ า้ นกา๊ ซชวี ภาพ การท�ำงานของท้ัง 5 กลุ่มได้ผสานเอา 5 องค์ความรู้ ไปใช้ได้อย่างย่ังยืน ต้ังแต่การผลิต ต่อยอด จนถึงการซ่อมแซม ส�ำคัญในการท�ำงานร่วมกับชุมชน ตั้งแต่องค์ความรู้ กลายเปน็ พนื้ ฐานของการพฒั นาชมุ ชนไปสคู่ ณุ ภาพชวี ติ ทด่ี ตี ามหลกั ด้านวิศวกรรมเคร่ืองกล ในเร่ืองแก๊สชีวภาพ พลังงานและ เศรษฐกจิ พอเพยี งได้ตามท่ตี ้งั ใจ สง่ิ แวดลอ้ ม ดา้ นสงั คมศาสตร์ ในเรอ่ื งทฤษฎตี า่ งๆ อยา่ ง ภาวะผนู้ ำ� 38
ชมุ ชนเดนิ ทาง : โครงการยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ หมู่บา้ น/ชมุ ชนแบบมสี ว่ นร่วม การจัดทำ� กา๊ ซชีวมวล 39
‘เร่อื งเลา่ บนเส้นทางสายวฒั นธรรม’ โครงการยกระดับคณุ ภาพชีวติ ของหมู่บา้ น มอ่ นเขาแก้ว ต�ำบลพชิ ยั อำ� เภอเมือง จังหวัดลำ� ปาง 40
ชุมชนเดนิ ทาง : โครงการยกระดับคณุ ภาพชวี ติ หมูบ่ า้ น/ชุมชนแบบมีส่วนรว่ ม จากเครอ่ื งปน้ั ดินเผาสู่การทอ่ งเท่ียว เม่ือชุมชนบ้านม่อนเขาแก้วต้องการมีรายได้เพิ่มข้ึนเพ่ือ หลังจากการลงพ้ืนท่ีส�ำรวจและเก็บข้อมูล การอบรม ยกระดับคณุ ภาพชวี ิต ขณะทีท่ างมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล ให้ความรู้ถึงการเตรียมตัวสู่การเป็นเจ้าบ้านท่ีดีจึงเร่ิมต้นขึ้น ล้านนา เขตพ้ืนท่ีล�ำปางก็ต้องการบูรณาการการเรียนการสอน สร้างความรู้ความเข้าใจให้ชาวชุมชนพร้อมสู่การเป็นหมู่บ้าน งานวจิ ยั งานบรกิ าร และการทำ� นบุ ำ� รงุ ศลิ ปวฒั นธรรมใหส้ อดคลอ้ ง ท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรม กลายเป็นต้นทางของการเกิดอาชีพเสริม และไปในทศิ ทางเดยี วกนั ทง้ั สองฝง่ั จงึ ไดจ้ บั มอื กนั ภายใตโ้ ครงการ จากภูมิปัญญาท้องถ่ิน ย่ิงไปกว่านั้นยังช่วยลดขยะและการใช้ ยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ของหมบู่ ้าน มอ่ นเขาแกว้ และหันไปเนน้ ใน สารเคมี ทำ� ใหม้ ลภาวะในสงิ่ แวดล้อมลดนอ้ ยลงไปด้วย เรื่องของกลุ่มเคร่ืองปั้นดินเผาซึ่งสามารถเชื่อมโยงไปสู่การท่อง เท่ียวเชิงวฒั นธรรมได้ 41
วิถแี หง่ เจ้าบ้านทดี่ ี ณ ศาลาอเนกประสงค์ บา้ นมอ่ นเขาแกว้ โครงการน้ีเดินหน้าไปได้ด้วยความร่วมมือระหว่าง ชาวชมุ ชน เหลา่ อาจารย์ และนกั ศกึ ษาจากสาขาเทคโนโลยเี ครอื่ งกล การตลาด ศิลปศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ภายใต้กระบวนการ ท�ำงานใน 5 ส่วนหลัก ต้ังแต่การท�ำให้ชุมชนเข้าใจในโครงการ การน�ำนักศึกษาสาขาการตลาดลงพื้นที่ส�ำรวจปัญหาและ ความตอ้ งการ ท้ังยังประยกุ ตใ์ ชค้ วามรูว้ ชิ าสง่ เสริมการตลาด ตอ่ ดว้ ยการเดนิ หนา้ กจิ กรรมดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม อาทิ มลพษิ ท่ีเกิดจากเคร่ืองปั้น โดยมีนักศึกษาคอยเก็บข้อมูลและใช้ความรู้ ในวิชาส่ิงแวดล้อมมาเป็นแนวทางส�ำรวจ จากน้ันทางโครงการได้ สรา้ งเครอ่ื งดกั ควนั จากองคค์ วามรใู้ นสาขาวศิ วกรรมศาสตร์ ซงึ่ ทาง ชมุ ชนไดร้ ว่ มออกแบบและพฒั นาดว้ ย และทา้ ยทสี่ ดุ คอื การอบรมให้ ความรดู้ า้ นเศรษฐกจิ พอเพยี ง จากนกั พฒั นาชมุ ชนสาขาศลิ ปศาสตร์ รวมถึงการสอบถามและรับฟังความเห็นถึงความต้องการ ด้านเศรษฐกิจพอเพียงของชุมชน อาทิ การท�ำบัญชีครัวเรือน การท�ำป๋ยุ จากข้เี ถา้ โดยผู้ใหญ่บ้าน แกนน�ำชุมชน และชาวบ้าน ได้สนใจ เขา้ รว่ มไปจนถงึ การพฒั นาผลติ ภณั ฑต์ ามทก่ี ลมุ่ นกั ศกึ ษาไดแ้ นะนำ� อกี ทงั้ นกั ศกึ ษาเองก็ไดน้ �ำความรมู้ าใชจ้ รงิ สงิ่ เหลา่ นค้ี งเกดิ ขนึ้ ไมไ่ ด้ หากขาดความจริงใจและความต้ังใจของเหล่าอาจารย์ที่สร้างการ ยอมรับจากชุมชน การให้ความส�ำคัญกับชุมชนเป็นหลักผ่านการ ท�ำกิจกรรมท่ีไม่กระเทือนต่อภูมิปัญญาและวิถีชีวิตของชุมชน มีการประสานงานและหารือกันอย่างต่อเน่ือง ประกอบกับความ พร้อมและความตั้งใจของชาวชุมชนที่สร้างเส้นทางท่องเท่ียว เชงิ วฒั นธรรมข้ึนในชมุ ชน 42
ชุมชนเดนิ ทาง : โครงการยกระดับคณุ ภาพชีวติ หมบู่ ้าน/ชุมชนแบบมีส่วนรว่ ม เปิดโลกทศั นแ์ ละเรยี นรู้ เมื่อวันคืนแห่งการท�ำงานของโครงการน้ีได้ผ่านไป ทั้งชุมชนและกลุ่มอาจารย์ ต่างตระหนักได้ดีถึงบทเรียนท่ีตนต่างได้รับมา โดยชุมชนได้เปิดประตูสู่ความรู้ใหม่ๆ ในดา้ นการพฒั นาผลติ ภัณฑแ์ ละช่องทางการจดั จ�ำหน่าย ทง้ั ยงั ได้ร่วมแสดงความคดิ เห็น ในแตล่ ะกจิ กรรม จนถึงการไดร้ ับความร้ใู นการเลือกหนว่ ยงานเข้ามาท�ำงานในชุมชน ส�ำหรับเหล่าอาจารย์จาก มทร. ท่ีนอกจากจะได้บูรณาการการเรียนการสอน ตามที่ตั้งใจไว้แล้ว ยังได้เรียนรู้ว่า วิถีชีวิตของชาวชุมชนเป็นส่วนส�ำคัญในการท�ำงาน กบั ชมุ ชน นอกจากนยี้ งั สรา้ งกระบวนการเรยี นรรู้ ว่ มกนั ระหวา่ งมหาวทิ ยาลยั กบั ชมุ ชนดว้ ย เหล่าน้ีถือเป็นบทเรียนส�ำคัญที่ทั้งสองฝ่ายสามารถน�ำไปต่อยอดเพ่ือสร้าง กิจกรรมดีๆ ตอ่ จากน้ีได้อกี มากมาย ศึกษาดงู านหมูบ่ า้ นท่องเที่ยว ณ บา้ นดอนมลู อำ� เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน อบรมการจ�ำทำ� เส้นทางท่องเท่ียว 43
‘บทเรยี นจากล�ำน้�ำ’ โครงการ : ยกระดับคณุ ภาพชวี ิตหมบู่ า้ นเศรษฐกิจพอเพยี งต้นแบบระดบั “พออยู่ พอกิน” บา้ นริมวาง ต.บา้ นกาด อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ 44
ชุมชนเดนิ ทาง : โครงการยกระดบั คณุ ภาพชวี ิตหมูบ่ า้ น/ชมุ ชนแบบมสี ่วนร่วม ชวี ิตกบั สายน้ำ� น�้ำ มีส่วนส�ำคัญในการหล่อเล้ียงสิ่งมีชีวิตให้ดำ� รงชีพต่อ หลงั จากการเดนิ ทางของโครงการ วนั นช้ี มุ ชนบา้ นรมิ วาง ไปได้ แหง่ อำ� เภอแมว่ าง จงั หวดั เชยี งใหม่ ไดม้ กี ารสรา้ งคนั ดนิ กน้ั นำ�้ โรงปยุ๋ ผู้คนในชุมชนริมล�ำน้�ำแม่วางตระหนักถึงความจริง เกิดกลุ่มรักษ์น้�ำวางและกลุ่มผักปลอดสารพิษ ย่ิงไปกว่าน้ัน ขอ้ นดี้ ีจงึ ได้หาทางดูแลรักษาล�ำน�ำ้ อย่างครบวงจร โดยหวงั ผลไปถงึ ยังมีการจัดท�ำแผนท่ีและสร้างแนวทางส�ำหรับการบริหารจัดการ คุณภาพชวี ิตของพวกตนทด่ี อี ย่างพอเพยี งและยงั่ ยนื ด้วย ลำ� น้ำ� ของต�ำบลและการปอ้ งกันหน้าดนิ พังทลายเป็นของตวั เอง ด้วยเหตุนี้ โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตหมู่บ้าน แต่ผลผลิตเหล่าน้ีไม่ได้เกิดขึ้นมาง่ายๆ แต่มาจาก เศรษฐกิจพอเพียงตน้ แบบระดบั พออยู่ พอกนิ จึงได้เกิดขน้ึ ภายใต้ การท�ำงานหนักอย่างต่อเน่ืองของทีมงานท้ังสถาบันศึกษาและ หวั ใจหลกั ในการเทดิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั โดยทางทมี งาน ชาวชุมชน ต่างก็มุ่งมั่นส่งเสริมและต่อยอดท้ังเทคโนโลยีจนถึงองค์ความรู้ ในชุมชน สกู่ ารพฒั นาความเข้มแข็งของศูนย์การเรียนรู้ 45
พออยู่ พอกิน พอเพยี ง เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตที่เริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยการ หันมาใส่ใจดแู ลสง่ิ แวดล้อมในชุมชนเป็นอยา่ งดี กลายเป็นวถิ ชี วี ิตท่ี สามารถ ‘พออยู่ พอกนิ ’ ได้ตามท่ตี ้องการ ร่องรอยของการท�ำงานตั้งแต่แรกเร่ิม ไม่ได้เกิดข้ึนจาก ชาวชุมชนเพียงอย่างเดียว แต่โครงการน้ียังขับเคลื่อนมาได้ด้วย ดำ� เนินโครงการสร้างคนั ดนิ ก้นั น�ำ้วาง โดยนักศึกษาสาขาวิศวะโยธา ทมี อาจารยแ์ ผนกวิชาภาษาตะวันออก และมหาวิทยาลยั เทคโนโลยี คณะวศิ วกรรมศาสตร์ รว่ มกบั ชุมชน ราชมงคลลา้ นนา ภาคพายพั เชยี งใหม่ ท่ีไดถ้ า่ ยทอดชดุ ความรตู้ า่ งๆ ท้ังการสร้างคันดินและโรงปุ๋ย การวางแผนการบดอัด ไปจนถึง กระบวนการกลุ่มและการมสี ่วนรว่ ม ด้วยชุดความรู้เหล่านี้ ทีมงานได้เดินหน้าตามกระบวน การทำ� งานที่ไดอ้ อกแบบไว้ โดยเรม่ิ ตน้ จากการพบส�ำนกั งานพฒั นา ชุมชน เพอ่ื คัดเลอื กชุมชน และพบผู้นำ� และแกนนำ� ของชุมชนนน้ั ๆ แล้วจงึ เขา้ ไปสร้างความเขา้ ใจ ทบทวนท�ำแผนชุมชน จากนั้นก็เริ่มจัดท�ำโครงการ โดยน�ำเสนอโครงการ ต่อชุมชนก่อน แล้วจึงได้ประสานหาแนวร่วมท้ังนายอ�ำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนต�ำบล เกษตรอ�ำเภอ และศูนย์วิจัยและ พัฒนาประมงน้ำ� จดื เชียงใหม่ จนถึงการด�ำเนนิ โครงการ ทีมงานในโครงการได้ตระหนักถึงความส�ำคัญของน�้ำท่ีมี ตอ่ ชมุ ชนเปน็ อยา่ งดี เมอื่ บวกกบั ความเขม้ แขง็ ของผนู้ ำ� และชมุ ชน ใน ดา้ นการทำ� งาน มกี ารทบทวนแผนงาน ความต้องการ และเกดิ การ แกไ้ ขปัญหาของชมุ ชน ทำ� ใหง้ านท่วี างไว้ลลุ ว่ งผ่านมาได้ ส่ิงส�ำคัญที่ทีมงานทั้งหมดได้จากโครงการนี้ถือเป็น ประโยชน์อย่างย่ิงในการเดินหน้าท�ำงานต่อไปของท้ังสองฝ่าย ท้ังฝ่ายสถาบันการศึกษาและชุมชนท่ีได้เรียนรู้การท�ำงานกับอีก ฝ่าย ผา่ นการใช้ทักษะตา่ งๆ เชน่ การส่ือสาร การสร้างความเขา้ ใจ การแลกเปลี่ยนทัศนคติความคิดเห็นและการยอมรับความคิดเห็น ความแตกตา่ ง รวมไปถงึ การปรบั สิ่งที่ได้เรยี นรไู้ ปใชใ้ นการท�ำงาน และการเรียนการสอนต่อไป 46
ชมุ ชนเดนิ ทาง : โครงการยกระดับคุณภาพชวี ิตหมูบ่ ้าน/ชุมชนแบบมสี ่วนร่วม การทบทวนแผนชมุ ชน 47
‘เพื่ออนาคตของผ้พู ิการ’ โครงการ: การยกระดับคุณภาพชีวติ ครอบครัวผ้พู ิการวอแก้วแบบมีส่วนรว่ ม 48
ชุมชนเดนิ ทาง : โครงการยกระดับคณุ ภาพชวี ติ หม่บู า้ น/ชมุ ชนแบบมีส่วนรว่ ม เพิ่มอาชีพ เพม่ิ รายได้ การประชาคมความต้องการอาชพี ของผพู้ ิการ และครอบครัว เดมิ ที ดว้ ยรายไดท้ ่ีไมเ่ คยเพยี งพอ ท�ำใหผ้ พู้ กิ ารในชมุ ชน โครงการนี้มีเป้าหมายหลักในการยกระดับคุณภาพชีวิต ผู้พิการ โดยทางสถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชนซึ่งมีโครงการ วอแกว้ ตอ้ งใชช้ วี ติ อยแู่ บบหายใจไมท่ ว่ั ทอ้ ง แมจ้ ะไดร้ บั เงนิ ชว่ ยเหลอื พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ อยแู่ ลว้ จงึ ไดเ้ ขา้ ปรกึ ษาหารอื กบั องคก์ ารบรหิ าร ส่วนตำ� บลวอแกว้ และโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตำ� บลเพอ่ื ค้นหา เดอื นละ 500 บาท บวกกบั รายไดเ้ ลก็ นอ้ ยจากอาชพี รบั จา้ งและเกบ็ พื้นท่ี รวมถึงประเด็นในการท�ำโครงการ ท�ำให้พบว่า ในต�ำบล แห่งนี้มีจ�ำนวนผู้พิการค่อนข้างมากโดยเฉพาะในหมู่ท่ี 3 มีผู้พิการ ของป่า แต่เนอื่ งจากพวกเขามที ัง้ ค่าใชจ้ า่ ยประจ�ำวันและรายจ่ายท่ี ถึง 43 คน ทข่ี ้นึ ทะเบยี นไวว้ ่าพิการจากการทำ� งาน ในส่วนของรายได้ในการดำ� รงชีพ ทางทีมอาจารย์ได้น�ำ ต้องกันไว้ส�ำหรับเดินทางไปพบแพทย์ ท�ำให้พวกเขาต้องใช้ชีวิตใน ข้อมูลทั้งหมดท้ังจ�ำนวนและประเภทของผู้พิการเพ่ือน�ำมาค้นหา ศกั ยภาพของพวกเขา รวมถงึ ผู้ดูแลดว้ ย เพือ่ หาแนวทางสนบั สนนุ แตล่ ะเดอื นอยา่ งยากลำ� บาก ท่ีเหมาะสม เมื่อบวกกับเง่ือนไขภายใต้สองสาขาวิชาหลักท่ีเข้า แตส่ งิ่ ตา่ งๆ ไดเ้ ปลย่ี นไปหลงั จากทโี่ ครงการการยกระดบั มาเกี่ยวข้องได้แก่การประมงและบัญชี จนตกผลึกมาเป็นอาชีพ คุณภาพชีวิตครอบครัวผู้พิการวอแก้วแบบมีส่วนร่วมได้เกิดข้ึน ซ่ึงได้มอบความรู้ด้านการเล้ียงปลาดุกและการท�ำบัญชีครัวเรือน จนตอนนี้ผู้พิการและครอบครัวที่บ้านวอแก้วมีรายได้พอจับจ่ายได้ ราบรนื่ ขน้ึ ทงั้ ยงั สามารถลดรายจา่ ยในครวั เรอื น สง่ ผลใหค้ วามเปน็ อยู่และคุณภาพชวี ติ ดีข้นึ มาได้ 49
เลย้ี งปลาดุก จากน้ันจึงใหช้ าวชมุ ชนทำ� บญั ชอี ย่างงา่ ยในการบนั ทึก วอแก้วทีเ่ ข้ามาช่วยจดั การทำ� ประชาพิจารณ์ โดยเฉพาะทาง อบต. ค่าใช้จ่าย นอกจากจะเป็นการสร้างรายได้แล้ว ยังท�ำให้กลุ่มเป้า ที่ช่วยเหลือด้านข้อมูลความเป็นอยู่เพื่อประกอบการคัดเลือก หมายมีรายได้เพิ่มขึ้นและสามารถค�ำนวณต้นทุน ไปจนถึงบันทึก ครอบครวั ผพู้ กิ ารทีจ่ ะมาเข้ารว่ มในโครงการนดี้ ว้ ย ค่าใช้จา่ ยได้ดว้ ยตวั เอง กิจกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากการบริหารและประสาน อกี ดา้ นหนงึ่ โครงการนย้ี งั สรา้ งแผนชมุ ชนผพู้ กิ ารทท่ี ำ� ให้ งานกับทุกหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง จากเหล่าอาจารย์มหาวิทยาลัย เหล่านักศกึ ษาไดฝ้ ึกฝนทกั ษะการทำ� งานในชุมชนอกี ด้วย เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เขตพืน้ ทล่ี �ำปาง ท้งั สาขาสัตวศาสตร์ และประมง ทง้ั ยงั คอยแนะนำ� ดา้ นการเล้ียงปลาดกุ และสาขาการ ภาคีรอบด้าน บัญชีที่แนะน�ำให้เก็บข้อมูลรายรับรายจ่ายเพื่อให้ทราบถึงสถานะ ของแต่ละครอบครัว ร่วมด้วยปราชญ์ชาวบ้านที่คอยเชื่อมความ โครงการยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ครอบครวั ผพู้ กิ ารแหง่ บา้ น สัมพันธ์และรวบรวมผู้คน ซ่ึงถือเป็นศูนย์กลางของกลุ่มผู้พิการ วอแก้วได้เริ่มต้นด้วยการเสาะหาพ้ืนที่และกลุ่มเป้าหมายที่เข้ากัน ในชุมชนเลยทีเดยี ว ได้กับแนวทางความรู้ที่จะใช้เป็นเง่ือนไขส�ำคัญในการด�ำเนินการ จากนั้นจึงเป็นการสืบค้นข้อมูลเบ้ืองต้นของชุมชน ประสานงานกับ ค่าตอบแทนของความต้งั ใจ ภาคเี ครอื ขา่ ยเพอ่ื ชแี้ จงรายละเอยี ด จากนน้ั จงึ ไดเ้ ขยี นโครงการเพอ่ื ขออนมุ ัติการจัดทำ� โครงการนี้ ปลายทางของความส�ำเร็จที่โครงการได้รับ มาจากท้ัง เมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว ก้าวแรกของโครงการเกิดขึ้น ปัจจัยภายในและภายนอก โดยปัจจัยภายในจากความตั้งใจใน ด้วยกิจกรรมประชาพิจารณ์ เพ่ือเปิดโอกาสให้ผู้พิการได้มีส่วนใน การท�ำงานและติดตามการท�ำงานอย่างต่อเน่ือง รวมถึงความร่วม การเลือกอาชีพ ต่อด้วยการอบรมให้ความรู้ สร้างความเข้าใจใน มือของกล่มุ ผพู้ ิการที่ช่วยใหข้ อ้ มูลอยา่ งแขง็ ขนั ส่วนปัจจัยภายนอก การจัดท�ำบัญชีครัวเรือน การเลี้ยงปลาในบ่อซีเมนต์ จนได้ลงมือ มาจากหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องท่ีให้การสนับสนุนและความร่วมมือ ท�ำจริงขึ้นมา อยา่ งสม�่ำเสมอ ดว้ ยเปา้ หมายทต่ี รงกนั ทำ� ใหภ้ าคหี ลายหนว่ ยงานสามารถ เหล่าน้ีได้สร้างบทเรียนที่ส�ำคัญให้กับทั้งกลุ่มอาจารย์ เชื่อมร้อยกระบวนการเข้าด้วยกัน แต่ละหน่วยงานต่างก็มีบทบาท และผู้พิการ โดยกลุ่มอาจารย์ได้มีโอกาสเรียนรู้กระบวนการจัด แตกต่างกันไป ต้ังแต่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนอ�ำเภอห้างฉัตร ท�ำโครงการ การเข้าถึงวิถีชีวิตชุมชนและการทำ� งานร่วมกับผู้อื่น ทจ่ี ดุ ประกายโครงการนขี้ นึ้ มาจากโครงการพฒั นาทกั ษะชวี ติ ผพู้ กิ าร ยังได้พัฒนาทักษะในการรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นมากข้ึนและ เมอ่ื ปีพ.ศ. 2553 โดยมโี รงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจ�ำตำ� บลวอ ได้เรียนรู้กลวิธีดึงศักยภาพผู้พิการออกมาใช้ได้อย่างเหมาะสม แก้ว คอยมอบข้อมูลพื้นฐานของผู้พิการในหมู่ 3 ท้ังประวัติ จำ� นวน สว่ นกลมุ่ ผพู้ กิ ารเองก็ไดเ้ รยี นรกู้ ารพงึ่ พาตนเอง และไดใ้ ชศ้ กั ยภาพ ลกั ษณะความพกิ าร และอาชีพของครอบครัวผพู้ กิ าร นอกจากนยี้ งั ทม่ี ีอยมู่ ากขนึ้ ด้วย มีพัฒนาการชุมชนอ�ำเภอห้างฉัตร และองค์การบริหารส่วนต�ำบล 50
Search