Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วารสารแก้วปัญญา ปีที่ 5 ฉบับที่ 1 (มกราคม - มีนาคม 2561)

วารสารแก้วปัญญา ปีที่ 5 ฉบับที่ 1 (มกราคม - มีนาคม 2561)

Published by RMUTL Knowledge Book Store, 2020-09-02 22:51:27

Description: KAEW_mag-61-5-1

Search

Read the Text Version

ปที่ 5 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มีนาคม 2561 เปด ศักราชใหม ลานนา เปดมุมมอง เร�่องเลาชาวลา นนา งานว�จัยไมข น้� หิง้ ชุมชนเดนิ ทาง “Transform to Localization” ศักราชใหมข อง “เตาชว� มวล “มอ นลา นโมเดล” ท่จี ะไมท้งิ ใครไวขา งหลัง สงกรานตล า นนา ปน มือบา นสนั ตสิ ุข” จากกระบวนการเร�ยนการสอน สู 1“โมเดวารสลารการสรางงาน สรา งอาช�พที่ย่งิ ใหญ”

วตั ถปุ ระสงค์ บทบรรณาธิการ 1. เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและผลงานวิจัย และ เตรียมเข้าสู่เดือนเมษายน “ป๋าเวณี..ปี๋ใหม่เมือง” งานบริการวิชาการของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี เดือนแรกแห่งการเปล่ียนศักราชใหม่ของชาวล้านนา ราชมงคลลา้ นนา ซึ่งถือได้ว่าเป็นเดือนแห่งความสุข ท่ีสมาชิกในครอบครัว จะได้มาอยู่รวมกัน เพือ่ ทำ� บญุ ตักบาตร สรงน้�ำพระ เลน่ น้ำ� 2. เพอ่ื เปน็ สอื่ กลางในการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ และการเขา้ ถงึ และด�ำหัว เพ่ือขอพรจากผูใ้ หญท่ เ่ี คารพรกั องค์ความรขู้ องภาคประชาชน วารสารแกว้ ปญั ญา ประจำ� เดอื นมกราคม – มนี าคม 2561 ฉบบั น้ี จงึ ถอื ฤกษแ์ หง่ การเรม่ิ ตน้ ความสขุ ของชาวลา้ นนา กองบรรณาธกิ าร ในการนำ� เสนอบทความตา่ งๆ ทสี่ อดรบั กบั เรม่ิ ตน้ ศกั ราชใหม่ อาทิ การน�ำเสนอบทความ ของว่าที่อธิการบดีท่านใหม่ นายภฤศพงศ์ เพชรบลุ ของชาวราชมงคลล้านนา ผศ.ประพัฒน์ เช้ือไทย ท่ีมาให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยุทธนา เขาสุเมร ุ แนวคดิ ทศิ ทาง การพฒั นามหาวทิ ยาลยั ในคอลมั นเ์ ปดิ มมุ มอง ผู้ช่วยศาสตราจารยเ์ กรยี งไกร ธารพรศร ี รวมถึงการน�ำเสนอบทความสาระน่ารู้ ในคอลัมน์เรื่องเล่า นายนรศิ ก�ำแพงแก้ว ชาวลา้ นนา ที่ไดม้ าเลา่ เรอื่ ง ศกั ราชใหมข่ องสงกรานตล์ า้ นนา วา่ ท่ีรอ้ ยตรรี ัชพงษ ์ หอชัยรตั น์ เพ่ือให้ความรู้ เก่ียวกับความส�ำคัญและความเป็นมาของ ว่าทีร่ ้อยตรีเกรยี งไกร ศรปี ระเสรฐิ ประเพณีสงกรานต์ของชาวล้านนา จากอดีตจนถึงปัจจุบัน นายพษิ ณ ุ พรมพราย ทยี่ งั มคี ณุ คา่ ไมเ่ สอื่ มคลาย และตอ้ นรบั การเปดิ ตวั 2 คอลมั น์ นางสาวทนิ อ่อนนวล ใหม่ประจ�ำวารสาร นั้นคือ คอลัมน์ “ของมันต้องโชว์” นางสาวอารรี ตั น์ พมิ พ์นวน ท่ีมุ่งเสนอผลงานด้านการวิจัยท่ีมีประโยชน์ ของบุคลากร นางสาวรตั นาภรณ์ สารภี มหาวิทยาลัย ในรูปแบบที่มีเนื้อความส้ันกระชับเข้าใจได้ง่าย นายเจษฎา สุภาพรเหมินทร์ ขน้ึ และ คอลัมน์ “ของมันต้องแชร์” ท่มี งุ่ แสดงภาพกจิ กรรม นางสาวสุธาสนิ ี ผอู้ ยสู่ ุข บรรยากาศสวยๆ ของการลงพ้ืนท่ีท�ำงานในชุมชนต่างๆ นางสาวฉตั วณัฐ มโนพฤกษ์ ของการบริการวิชาการจากบุคลากรของมหาวิทยาลัย นางสาวหนงึ่ ฤทัย แสงใส ในมุมมองต่างๆ ให้ผู้อ่านได้เห็น นอกเหนือจากนี้ วารสาร นางสาววราภรณ ์ ต้นใส ฉบับน้กี ย็ ังคงมีเนอ้ื หาสาระอื่นๆ ในคอลมั นต์ ่างๆ ท่ีน่าสนใจ นายวรี วิทย ์ ณ วรรณมา และมีประโยชน์ สอดคล้องกับสถานะการณ์ปัจจุบันให้ผู้อ่าน ไดต้ ิดตาม อกี มากมายเช่นเคย จดั ทำ� โดย สุดท้ายนี้ต้องขอกล่าวอ�ำนวย อวยพร ให้ผู้อ่าน ทกุ ทา่ น มคี วามสขุ สนกุ สนาน ตอ้ นรบั กบั “ปา๋ เวณ.ี .ป๋ใี หมเ่ มอื ง” คลังความร้ชู ุมชน ศักราชใหม่ของชาวล้านนาท่ีก�ำลังจะมาถึงอีกครั้งหนึ่งครับ สถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยสี ู่ชมุ ชน แล้วพบกนั ฉบับหน้า มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา 98 หมู่ 8 ต�ำบลปา่ ป้อง อ�ำเภอดอยสะเกด็ บรรณาธิการ จงั หวดั เชยี งใหม่ 50220 โทร.053 - 266516-8 ข้อเขียนหรือบทความใดๆ ท่ีตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารแก้ปัญญา ฉบับน้ี เป็นความคิดเห็นเฉพาะตัวของผู้เขียน คณะผู้จัดท�ำ ไม่จ�ำเป็นต้องเห็นด้วยและไม่มีข้อผูกพันกับคณะผู้จัดท�ำและสถาบัน ถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา แตอ่ ย่างใด

คอลัมน์ COVER 9,13,19,21,23 ปท ่ี 5 ฉบับที่ 1 รอบรั้ว มทร.ลา้ นนา มกราคม - มีนาคม 2561 เปด ศักราชใหม ลา นนา 6-9 4-5 เปด มมุ มอง เรอ�่ งเลาชาวลา นนา งานวจ� ยั ไมขน้� ห้งิ ชุมชนเดินทาง เรื่องเล่าชาวลา้ นนา เปดิ มุมมอง ศกั ราชใหมข อง “เตาชว� มวล “มอนลา นโมเดล” “Transform to Localization” สงกรานตลา นนา “ศกั ราชใหมล่ ้านนา มหาสงกรานต์” “Transform to Localization” ท่ีจะไมท้ิงใครไวขา งหลงั ปน มือบานสนั ติสขุ ” จากกระบวนการเร�ยนการสอน สู “เรม่ิ ต้นเพอื่ การเปลย่ี นแปลง” ทีจ่ ะไมท่ ้งิ ใครไว้ข้างหลัง “โมเดลการสรา งงาน สรา งอาช�พที่ยิ่งใหญ” 10-11 12-13 งานวิจยั ไมข่ นึ้ หิ้ง The Research เตาชวี มวลปัน้ มอื บา้ นสันตสิ ขุ อ.วสิ ูตร อาสนวิจติ ร 14-16 18-19 20-21 บรกิ ารวิชาการ RMUTL Community Engagement ชุมชน เดินทาง “โรงสีชมุ ชน บา้ นคลองตาล Shift Sustainable Social : กระบวนการ 3S “มอ่ นลา้ นโมเดล” จากกระบวนการ เพอื่ สรา้ งอาชีพและรายไดจ้ ากงานหัตถกรรม รว่ มคิด รว่ มท�ำ น�ำความสขุ สชู่ ุมชน” เรยี นการสอน สู่ “โมเดลการสรา้ งงาน ผ้าทอจก “บ้านแมข่ ีม้ ูก” 24-26 สรา้ งอาชพี ท่ยี ิ่งใหญ่” 22-23 ซะปะ๊ สเปซ 34-35 KM รทู้ ันโลกออนไลน์ ตอน “Phishing” ของมนั ตอ้ งโชว์ เมตรกิ กบั วิธีหาประเดน็ การทำ� การจัดการ ตกปลาลอ่ เหย่ือบนโลกออนไลน์ ความรู้ในองคก์ ร จากผลผลติ งานวิจยั สู่การใชป้ ระโยชน์ 33 28-32 ของมันตอ้ งแชร์ คคู่ ดิ มติ รชุมชน

“Transform to: เปดิ มุมมอง Localization” ทจี่ ะไม่ทง้ิ ใครไวข้ ้างหลัง เมื่อเรากล่าวถึงการขับเคล่ือนยุทธศาสตร์ของประเทศ ในยุค Thailand 4.0 ทม่ี ุ่งหวังใหป้ ระเทศก้าวพน้ จากกลมุ่ ประเทศรายได้ ปานกลางสปู่ ระเทศพฒั นา ดว้ ยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวตั กรรม แต่ข้อเท็จจริงกลับพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคอีสานยังมีสัดส่วนของความเหลื่อมล�้ำและค่าเฉลี่ยรายได้ ตอ่ ครัวเรอื น รวมถึงศักยภาพการพัฒนาภาพรวมรายจังหวัดและภูมภิ าค ยงั ถอื ว่ามคี ่าเฉลย่ี ค่อนขา้ งตำ่� ถงึ ตำ�่ มาก เมื่อเทยี บภาพรวมของประเทศ หรือไปเทียบกับนานาประเทศ ซ่ึงส่วนส�ำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนและ พฒั นาไปสเู่ ป้าหมายไมน่ อ้ ยไปกวา่ การพฒั นาทางดา้ นโครงสรา้ งพ้ืนฐาน และการด�ำเนินการโครงการขนาดใหญ่ ต่างๆ ของรัฐบาล คือ “การ พัฒนาก�ำลังคน ท่ียังมีความเหลื่อมล�้ำ ด้อยโอกาสในการเข้าถึงการ ศึกษา” ด้วยเหตุน้ีอุดมศึกษาจึงต้องปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ ให้เกิด การหลอมรวมและร้อยเรียงการศึกษาในระดับต่างๆ ที่สามารถรับ ช่วงต่อกันโดยประชาชนสามารถเข้าออกระบบการศึกษาได้ตลอดเวลา ไมว่ า่ จะเรยี นในระบบแบบเตม็ เวลา หรอื การเรยี นรว่ มกบั การทำ� างานหรอื การลาพักงานมาศึกษาต่อ ซ่ึงรูปแบบเหล่านี้ควรเป็นรูปแบบท่ีสามารถ ประยกุ ต์ และมคี วามยดื หยนุ่ เพยี งพอทจี่ ะรองรบั Demand Side มากกวา่ จะตั้งเป้าที่ Supply Side 4 วารสาร

มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา เราเปน็ มหาวทิ ยาลยั ด้วยการก�ำหนดเป้าหมาย ในลักษณะของ 5 Flagships ส�ำคัญ ท่ตี ั้งอยู่ในภูมิภาคและยังมีเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษา (6 เขตพืน้ ท)ี่ กระจายตัว ที่มหาวทิ ยาลยั ควรจะเป็น ดงั น้ี อยู่ตามจังหวัดในรูปแบบของกลุ่มจังหวัดท่ีสามารถครอบคลุมพื้นที่ใน ภูมิภาค ซึ่งหากจะปรับบริบทของตนเองเพ่ือมาตอบสนองต่อความ 1. มหาวิทยาลัยเพ่ือการพัฒนาก�ำลังคนฐานราก (University for ตอ้ งการของภาคประชาชน หรอื การพฒั นาในรปู แบบจงั หวดั กลมุ่ จงั หวดั Workforce Development) และภาค นนั้ การตง้ั เปา้ เพอ่ื จะพฒั นามหาวทิ ยาลยั ควบคไู่ ปกบั การพฒั นา ประเทศ เราตอ้ งเปน็ ผกู้ ำ� หนดทศิ ทางอนาคตของการพฒั นามหาวทิ ยาลยั 2. มหาวิทยาลัยนกั ปฏบิ ตั ิ (Hands-On University) ให้มีความสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ 3. มหาวิทยาลัยเกษตรกร (Farmer University) ที่มุ่งเน้น การเป็นฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูง การมุ่งเน้นการ 4. มหาวทิ ยาลยั การคา้ ระหวา่ งประเทศ (International Trading ทอ่ งเทย่ี วและบรกิ ารเชงิ สรา้ งสรรค์ การเปน็ ฐานการผลติ เกษตรอนิ ทรยี ์ และการสรา้ งเกษตรปลอดภยั เพอ่ื เชอื่ มโยงสอู่ ตุ สาหกรรมเกษตรแปรรปู University) รวมถึงการพัฒนาระบบการดแู ลผู้สงู อายุ 5. มหาวทิ ยาลัยการขนสง่ (Transportation University) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาเรานั้น เพ่ือเป็นทิศทางและหลักส�ำคัญ ที่เราทุกคนจะสามารถ เป็นมหาวิทยาลัยที่มีศักยภาพเพียงพอ ที่จะสามารถตอบสนองการ เห็นภาพอนาคตการพัฒนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พัฒนาให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศดังท่ีกล่าวมาข้างต้นได้ ที่สามารถเติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาประเทศในทิศทางที่สอดคล้อง ในฐานะที่ผมได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้น�ำการขับเคล่ือน กันอย่างแท้จริง แต่ทั้งน้ีบุคลากรของเราต้องร่วมมือร่วมใจกันในการ มหาวิทยาลัย ผมจึงได้วางแนวทางการพัฒนามหาวิทยาลัย ยกระดับมหาวทิ ยาลัย ให้เกิดความเขม้ แข็งทกุ ภาคส่วน เพื่อน�ำพามหา วิทยาลยั ฯ และประเทศของเรา กา้ วไปสู่เป้าหมายไดอ้ ยา่ งยั่งยืน โดยให้ มหาวทิ ยาลยั เปน็ ทพี่ ง่ึ ของชมุ ชนอยา่ งแทจ้ รงิ ในรปู แบบ “Transform to Localization” ทีเ่ ราจะไมท่ งิ้ ใครไวข้ า้ งหลงั ผศ.ประพัฒน์ เชอื้ ไทย (รักษาราชการแทนอธกิ ารบดี มทร.ล้านนา) 5วารสาร

เนือ้ หา และเรยี บเรยี ง นายศกั ดนิ์ รินทร์ ชาวง้วิ ศกั ราชใหม่ของ สงกรานตล์ า้ นนา : เร่อื งเลา่ ชาวลา้ นนา ศักราชใหม่ ก็เป็นการขึ้นปีใหม่ สงกรานต์ กับวันหยุดราชการจึงเป็นปัญหา ที่ระบุไว้ว่าต้องเป็นวันสังขานต์ล่องไว้ว่า นอกจากนแ้ี ลว้ ยงั หมายถงึ การเรม่ิ ตน้ สง่ิ ใหมๆ่ ใหญ่ตั้งแต่พระสงฆ์ ปู่อาจารย์ ชาวบ้าน “ในวันสังขานต์ ไพน้ันจุ่งห้ือครูบาอาจารย์ ได้อีกด้วย ฉะนั้นในบทความเรื่องน้ีจึงส่ือถึง แทบจะทุกพื้นท่ี จนบางคร้ังเกิดการทะเลาะ เจา้ นายท้าวพระญา เสนาอามาตย์ ขา้ ราชการ ประเดน็ ทง้ั สองนี้ เบาะแวง้ กนั ในกลมุ่ แบง่ ฝกั แบง่ ฝา่ ยในการไป ไพร่ ราษฎรท้ังมวล เอากันไพสู่โปกขรณี เป็นประเด็นท่ีถกเถียงกันทุกปี วัด หรือพธิ กี รรม โดยบางส่วนยดึ ตามวนั หยดุ แม่น�้ำ เค้าไม้ใหญ่ จอมปลวกใหญ่ หนทาง ตง้ั แตเ่ รม่ิ มกี ารฟน้ื ฟอู งคค์ วามรเู้ รอื่ ง ประเพณี ราชการและทเ่ี คยปฏบิ ตั กิ นั มา และบางสว่ นยดึ ไฅว่สี่เส้นสุมกัน อว่ายหน้าไสู่ทิสสะหน....... สงกรานต์ล้านนา เป็นต้นมา เม่ือผลท่ีได้ไม่ ตามประกาศสงกรานต์ อาบองค์สรงเกศเกล้าเกสี ปลีนี้สรีอยู่ที่......... ตรงกับส่ิงที่เคยปฏิบัติ กันมาร่วมมาต้ังแต่ สิง่ ที่ลักลั่นกนั น้นั คือ วันพระญาวัน หื้อเอาน้�ำอบน�้ำหอมเช็ด...... กาลกิณีอยู่.... ปีพุทธศักราช ๒๔๙๑ ในสมัยจอมพล หรือวันเถลิงศกเคล่ือนจากเดิม คือวันที่ ๑๕ จังไรอยู่....... หื้อเอาน้�ำเข้าหมิ้นสัมป่อยเช็ด ป.พิบูลสงครามท่ี เร่ิมออกประกาศวัน เมษายน เปน็ วนั ท่ี ๑๖ เมษายน และทำ� ใหว้ นั ท่ี ฅว่างไพเสีย แล้วกล่าวคาถาว่า “อม สิริมา หยดุ สงกรานต์ ใน วนั ท่ี ๑๓ – ๑๕ เมษายน ตาม ๑๕ เมษายน กลายเปน็ วนั เนา่ ทำ� ใหก้ ารดำ� เนนิ มหาสิริ มา เตช ยส ลาภา อายุ วณณฺ า ภวนฺ ประกาศส�ำนักนายกรัฐมนตรี เร่ือง ก�ำหนด ตามกิจกรรมท่ีต้องอิงตามความเชื่อของแต่ละ ตุเม” ดงั นี้ แล้วลอยจงั ไรในทท่ี งั หลาย ฝูงนน้ั เวลาท�ำงานและวันหยุดราชการ พ.ศ. ๒๔๙๑ วันนั้นดูจะวุ่นวายโกลาหลกันอย่างมาก ดังที่ แล้วจ่ิงมานุ่งผ้าครัวผืนใหม่ แล้วทัดทรงเซ่ิงด และจะใช้วันหยุดนี้เป็นหลักเร่ือยมาจนกระท่ัง เกิดปรากฎการณ์ดังกล่าว ในช่วงท่ีผ่านมา อก........ อนั เปนดอกไม้ นามปลี กห็ ากจกั มีอา ปัจจุบัน (แม้นว่า บางปีจะมีการเปลี่ยนแปลง แม้กระท่งั ปัจจบุ ันนก้ี ็ตาม ยุทีฆายืนยาวไพชะแล” และท�ำความสะอาด ลด หรือเพ่ิมวันหยุดบ้าง แต่ก็ใช้วันท่ี ๑๓ การประกอบกจิ กรรมตามความเชอ่ื รอบวดั และหมู่บ้าน เปน็ วนั มหาสงกรานต์ วันที่ ๑๔ เปน็ วนั เนา แต่ละวัน ล้วนสัมพันธ์กับความ เชื่อม่ันและ วนั เนา่ เปน็ วนั ทเี่ ตรยี มของไปทำ� บญุ และวันท่ี ๑๕ เป็นวันเถลิงศก อยู่ ตลอด ศรัทธาของชาวล้านนาเป็นอย่างยิ่ง ดังราย ที่วัด จดั แจงอาหารคาว-หวาน ขนทรายใสว่ ดั เร่ือยมาไม่มีการเปลี่ยนแปลง) เม่ือด�ำเนิน ละเอียดตอ่ ไปน้ี กอ่ เจดียท์ ราย ไม่กระท�ำพธิ ีมงคลใดๆ ท้งั ส้ิน กิจกรรมและพิธีกรรมในวันที่ดังกล่าวสืบๆ วันสังขานต์ล่อง ถือเป็นวันท่ี เนอ่ื งจากถอื ว่า เปน็ วนั เนา่ หากทำ� พิธมี งคลใน กันมาโดยยึดเอาวันหยุดราชการเป็นหลัก ท�ำความสะอาดครงั้ ใหญข่ องบา้ น ซัก ผ้า ปดั วนั นจ้ี กั ตอ้ งอบั โชคตลอดท้งั ปี และเป็นวนั ตอ้ ง เสียแล้ว ก็มักจะเกิดความเคยชิน และทึกทัก กวาดสง่ิ สกปรก ชำ� ระลา้ งรปู เคารพ โดยเฉพาะ สำ� รวมกาย วาจา ใจใหป้ ราศจากการทำ� สง่ิ ไมด่ ี เอาว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าขณะ การด�ำหัวตนเองดังใน ประกาศสงกรานต์ เว้นในการด่าทอส่อเสียด เปน็ ตน้ นั้นจะมีประกาศสงกรานต์ฉบับส่วนกลาง ที่พิมพ์แจกโดยธนาคารออมสิน หรือ ประกาศสงกรานต์ที่พิมพ์ในท้องถิ่นก็ตามที วนั หยดุ สงกรานตจ์ ะไมม่ ปี ญั หาเลย หากไมไ่ ดม้ ี ความเชอ่ื เรอ่ื ง วนั และพธิ กี รรมเขา้ มาเกยี่ วขอ้ ง อยา่ งภาคกลางของไทย สงกรานต์ของล้านนาประกอบด้วย ความเช่ือพิธีกรรมท่ีหลากหลาย ที่จ�ำเพาะ เจาะจงในแต่ละวัน การลักลั่นของประกาศ 6 วารสาร

วันพระญาวัน ถือว่าเป็นวันดีท่ีสุด มาจนถึงปัจจุบัน แล้วเทียบกับปฏิทินทาง ประจ�ำวันจ�ำเป็นต้องต่อสู้เพื่อปากท้องมากข้ึน ของปีเปน็ วันที่ไปวดั ทำ� บญุ และ จัดพิธมี งคล สุริยคติว่าตรงกับวันใด จ�ำนวนวันนับ แต่วัน องคค์ วามรเู้ ดมิ หา่ งหาย ขาดความเขา้ ใจ เหลอื ตา่ งๆ เช่นขน้ึ บา้ นใหม่ เปดิ รา้ นใหม่ ถวายไม้ ตัดศกั ราชมาจนถึงปจั จบุ นั เรียกวา่ “หรคณุ ” ความรีบเร่งผนวกกับกรอบแห่งอ�ำนาจรัฐ คำ้� ตน้ โพธิ์ เปลย่ี น ขนั ครู สักหมึก กินออ้ ผญา ในคัมภีร์สุริยยาสตร์ ให้สูตรการ สง่ ผลใหเ้ หลอื แตพ่ ธิ ีกรรมเพยี งฉาบฉวย เป็นต้น และเป็นวันแรกในการสักการะด�ำหัว คำ� นวณหาหรคณุ วนั พระญาวนั หรอื อหงั คณะ แนวทางที่อาจจะเปน็ ทางออกท้ังใน ขอขมาพระสงฆ์ ผเู้ ฒ่าผูแ้ ก่ วนั สกั ราชขนึ้ ไวว้ า่ “สกั กชาตติ งั้ แลว้ ๒๙๒๒๐๗ ระดับบนและระดับล่างได้แก่ หากเป็นไปได้ วนั ปากปี เปน็ วนั ทที่ ำ� การสง่ เคราะห์ คูณ ๓๗๓ บวกปลาย แลว้ ๘๐๐ หาร ลัพธน์ นั้ รัฐบาลควรออกประกาศวันหยุดสงกรานต์ และรบั โชคในวนั นี้ มกี ารกนิ แกงขนนุ กนั ทกุ บา้ น ๑ บวก เปนอหังคณะวนั สกั ราชขน้ึ แล ตามประกาศ สงกรานต์ท่ีออกมา เพ่ือความ ด้วยเชื่อว่าจะช่วยเกื้อหนุนค�้ำชูตลอดปี และ ตราไว้กอ่ นแล” สอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของ มีการด�ำหัว ผู้เฒ่าผู้แก่ และบุคคลท่ีเคารพ นอกจากนั้นหาว่าปีน้ันมีวันเน่าก่ีวัน ท้องถ่ินหรือ ผู้นาในชุมชนหมู่บ้าน ตกลงกัน ต่อยาวไปจนหมดทุกคน หรือตลอดสิ้นเดือน ให้เอาหรคุณวันพระญาวันปีน้ี ต้ัง ลบด้วย ร่วมปฏิบัติกิจกรรมในช่วง สงกรานต์ตาม เมษายนก็มี หรคุณวันพระญาวันปีก่อน หากลบแล้วได้ ประกาศสงกรานต์ของแตล่ ะปี จะเห็นว่ากิจกรรมของแต่ละวันมี ผลลัพธ์ ๓๖๕ วัน วัน น้ันมีวันเน่า วันเดียว หากเลย่ี งไมไ่ ดใ้ นทสี่ ดุ แลว้ กย็ ดึ ตาม ความหลากหลาย และมแี บบแผน อยา่ งชดั เจน หากได้ผลลัพธ์ ๓๖๖ วนั ปนี ้นั มีวันเนา่ ๒ วนั คนหมมู่ ากเมอื่ เปน็ กจิ กรรม รว่ มกบั คนสว่ นใหญ่ บางพื้นที่อาจจะมีรายละเอียดพิธีท่ีแตกต่าง เมื่อเรานับย้อนดูวันวันเถลิงศก (หน้าหมู่) หากเป็นกิจกรรมส่วนตัวแล้ว เช่น กันไปตามแต่ละ พื้นท่ี เมื่อศึกษาในประเทศ ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน และดู ล่วงไปใน ขนึ้ บ้าน ใหม่, เปดิ รา้ นใหม่, กินอ้อผญา ฯลฯ เพอ่ื นบา้ น พบวา่ มกั ไมค่ อ่ ยมปี ญั หาเทา่ กบั ทาง อนาคตชา้ งหน้า จะเหน็ ถึงการเปล่ียนแปลงว่า กจ็ ะตอ้ งปฏบิ ตั ใิ หถ้ กู ตอ้ งตรงตามวนั พระญาวนั ลา้ นนาของไทย ทม่ี สี องระบบคอื ระบบตามการ วนั เถลงิ ศก ได้ เคลอื่ นออกไปเรอ่ื ยๆ ดงั ทข่ี นาน ทแ่ี ทจ้ รงิ ใหส้ มกับเฝ้ารอมาตลอดทง้ั ปี คำ� นวณ และระบบวนั หยดุ กระดา้ ง ในเมอื งตา่ งๆ ดุสิต ชวชาติ ประธานชมรมปักขทืนล้านนา ศักราชจะข้ึนแล้ว แต่ฟ้าล้านนาจะ จะยึดตามประกาศสงกรานต์ท่ีออกมาในแต่ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ส�ำรวจและรวบรวมวัน เปดิ ศกั ราชใหมด่ ้วยหรือไม่ ข้นึ กับเราทกุ คน ละปี เช่น ในประเทศลาว จะประกาศวันหยุด เถลงิ ศก (วนั พระญาวัน) ในพุทธ ศตวรรษที่ สงกรานต์ตามประกาศสงกรานต์ของปี น้ันๆ ๒๕ – ๒๗ พบว่า วันเถลงิ ศกในพุทธศตวรรษ เอกสารอ้างอิง สว่ นในประเทศเมยี นมา ที่ ๒๕ (พ.ศ.๒๔๐๑ – ๒๕๐๐)- ป ี ที่ เ ถ ลิ ง ยทุ ธพร นาคสุข. ๒๕๕๙. หนังสอื ในพิธีกรรมและกิจกรรมในวัน ศกตรงกับ ๑๕ เมษายน รวมทั้งสิ้น ๔๘ ปี ปีใหม่เมืองล้านนา จุลศักราช ๑๓๗๘. ต่างๆน้ัน ล้วนแล้วยึดถือตามหลักของ ส่วนปีท่ีเถลิงศกตรงกับวันท่ี ๑๖ เมษายน เชยี งใหม:่ ชมรมปกั ขทนื ลา้ นนาจงั หวดั เชยี งใหม่ การประกาศสงกรานต์เป็นส�ำคัญในรอ รวมทั้งส้ิน ๗ ปี จะเห็นวาช่วงปลายพุทธ ศกั ดน์ิ รนิ ทร์ ชาวงว้ิ . ๒๕๕๘. ปีใหม่ บ้านล้านนาที่มีความเชื่อในเร่ืองวันปีใหม่ ศตวรรษท่ี ๒๕ นนั้ วนั เถลงิ ศกกเ็ รมิ่ เลอื่ นมาวนั สงกรานต์ เนือ่ งในงานสบื สานประเพณปี ีใหม่ สงกรานต์นี้จึงเป็นไปตามปกติ กอปรกับ ท่ี ๑๖ เมษายน แลว้ แตส่ ว่ นมากยังคงเปน็ ที่ ประจำ� ปี ๒๕๕๘. เชียงใหม่: ค ว า ม รู ้ แ ล ะ ค ว า ม เ ข ้ า ใ จ ใ น ร ะ บ บ ก า ร ๑๕ เมษายน กอปรกบั ต้นพุทธศตวรรษท่ี ๒๖ ศูนยว์ ัฒนธรรมศกึ ษาสนนั่ ธรรมธ.ิ ค�ำนวณน้ัน แม้ว่าจะไม่สามารถค�ำนวณ วนั เถลิงศกเปน็ วนั ท่ี ๑๕ และเร่มิ เลื่อนมาวันที่ ๒๕๕๓. ปีใหม่ล้านนา. เชียงใหม่:สุเทพการ ด้วยตัวเอง แต่ก็พอเข้าใจว่าบัณฑิตต่างๆ ๑๖ ตดิ ตอ่ กนั อกี ๓๐ ปี ซงึ่ ปลายพทุ ธศตวรรษที่ พิมพ์ ส�ำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด เชียงใหม่. ก่อนท่ีจะน�ำมาประกาศออกมาน้ัน ได้ศึกษา ๒๖ น้ีก็เรมิ่ เลื่อนไปเปน็ วันที่ ๑๗ เมษายนด้วย ๒๕๕๖. และค�ำนวณไว้แล้ว และไมได้ผูกวันเหล่านี้ โดยเฉลี่ยแล้ว วันเถลิงศกกับปฏิทินแบบเกรก ประเพณปี ๋ีใหมเ่ มอื ง. เชยี งใหม:่ กลมุ่ ติดกับวันที่ใดวันท่ีหน่ึงในปฏิทินเช่นเดียวกับ กอเรยี นนนั้ จะเคลอ่ื นไป ๑ วนั ในชว่ งประมาณ สง่ เสรมิ ศาสนาศลิ ปะและวฒั นธรรม สานกั งาน “รัฐไทย” ๖๐ ปี เมอ่ื เคล่ือนไปเป็นร้อย เป็นหลายพนั ปี วฒั นธรรม จงั หวดั เชียงใหม่ โดยความเปน็ จริง วันเถลงิ ศก หรือ ตอ่ ไป วันสงกรานตอ์ าจจะ ตรงกับช่วงฤดูฝน โสภณธรรมานุวัฒน์,พระครู วันพระญาวัน ไม่ได้หยุดนิ่ง และ นับวันก็ กลางพรรษาก็ได้ หากไมม่ กี ารตัดศกั ราชใหม่ บรรณาธกิ าร. ๒๕๕๔. สุริยยาตร แล จฬุ ามณี จะเคลื่อนไปเรื่อยๆ ตามคัมภีร์ท่ีใช้สืบกันมา จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่า สาร. เชียงใหม่: ทนุ นิธิเพอื่ ศกึ ษาสงิ่ แวดลอ้ ม ในทุกประเทศที่มี เทศกาลสงกรานต์มาใช้ วันมหาสงกรานต์ วันเนา และวันเถลิงศก เวยี งไชยสงคราม อ�ำเภอเชยี งดาว อดุลสลี คำ� นวณวันเถลงิ ศก น่ันคอื “คมั ภรี ์สรุ ยิ ยาตร” ไม่ได้หยุดน่ิงตายตัวอยู่บนปฏิทินตามประกาศ กติ ต,์ิ พระคร.ู การทำ� หนงั สอื ปีใหม.่ และ ใช้การเปลีย่ นศักราชโดยใช้ “จลุ ศกั ราช” วันหยุดราชการของรัฐบาลโดยอาศัยการ เอกสารประกอบการบรรยาย“ปีใหม่เมือง (เมยี นมาศกั ราช) เป็นส�ำคัญ จากการคำ� นวณ ค�ำนวณ ตามคัมภีร์สุริยยาสตร์ โดยใช้ร่วม (มหาสงกรานต)์ ในภมู ภิ าคอาเซียน” วนั ศุกร์ ตามคัมภีร์นับจานวนวันต้ังแต่วันตัดศักราช กันในภูมิภาคอาเซียน ของเรานี้ทั้งหมด หาก ที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๙ มหาวิทยาลยั พายพั คือวันท่ีสังฆราชา บุพโพโสรหัน สึกแล้วข้ึน แต่คนบ้านเราทีเ่ ปลี่ยนแปลงไป ออกนอกบ้าน ครองราชย์ในเวลาที่ราศีมีนย้ายไปสู่ราศีเมษ ย้ายถ่ินฐานกันมากข้ึน การเร่งรีบในชีวิต 7วารสาร

เนอ้ื หา และเรยี บเรยี ง นายจริ าวัฒน์ แก้วรากมขุ สวท. จากการท�ำงานเกือบ 9 ปี ในส่วน มทร.ลา้ นนา เพอื่ การสบื คน้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ จงึ ไดถ้ กู ทำ� การพฒั นาขนึ้ มา“ งานของสายสนับสนุน ภายใต้สังกัดส�ำนัก ส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน ท่ีมักจะเห็น ดว้ ยความรว่ มมอื ระหวา่ ง สำ� นกั สง่ เสรมิ วชิ าการและงานทะเบยี น(สวท.) และ ภาพการปฏิบัติงานของแต่ละงาน ซึ่งเป็นงาน ประจำ� ของหนว่ ยงาน ดำ� เนนิ การไปอยา่ งราบรน่ื กองพัฒนานักศึกษา (กพน.) เพ่ือท�ำการปรับเปลี่ยนการปฏิบัติงานของ ปกติ ราวกับสายน�้ำที่ไหลผ่านไปเรื่อยๆ ไมม่ กี ารกระเพอ่ื มใดๆ… แตว่ นั หนงึ่ กลบั มคี วาม การจัดท�ำบัตรประจ�ำตัวบัณฑิต ที่ใช้ในงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร คดิ วา่ ….. ให้เกิดประสิทธภิ าพมากยิ่งข้ึน… จากปัญหาเดมิ คอื “วันเวลาเปล่ียนไป เราเติบโตขึ้น หลายส่ิงหลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลงไป “1. บัณฑิตไม่กรอกข้อมูลตนเองลงในบัตรประจ�ำตัว ตามกาลเวลา การปฏบิ ตั งิ านของเรากเ็ ช่น บัณฑิต และไม่มีการตรวจสอบแถวและล�ำดับท่ีนั่ง กนั ควรจะตอ้ งมกี ารปรบั เปลย่ี น เพอ่ื ใหไ้ ด้ ผ่านเว็บไซต์ท่ีจัดท�ำไว้ให้ จึงท�ำให้บัณฑิตไม่ทราบ ซ่ึงงานที่มีคุณภาพมาตรฐานเพิ่มมากขึ้น แถวของตนเอง …เร่ืองบางเร่ืองอาจจะมองว่าเป็นเร่ือง 2. การเขา้ ตรวจสอบแถวท่ีบอร์ดพรอ้ มกนั เปน็ จ�ำนวน เล็กนอ้ ย แตเ่ ราก็อย่าได้มองข้าม สง่ิ ไหนท่ี มาก ทำ� ใหบ้ อร์ดเกดิ การฉกี ขาด ช�ำรุดเสียหาย ปรบั เปลย่ี นได้ใหด้ ยี งิ่ ขนึ้ กต็ อ้ งทำ� การปรบั 3. การค้นหาแถวบัณฑิตผ่านเว็บไซต์ ด้วยไฟล์ในรูป แบบ PDF ซง่ึ มรี ายชื่อบณั ฑติ ประมาณ 5,000 คน เปลี่ยนเลยทนั ท”ี ทำ� ใหก้ ารคน้ หายากลำ� บาก ตอ้ งใชเ้ วลาในการคน้ หา จึงเป็นท่ีมาของการน�ำระบบ ทนี่ าน ทำ� ให้บัณฑิตไม่ค่อยค้นหาผ่านเว็บไซต์ สารสนเทศเข้ามาประยุกต์ใช้ เพ่ือให้เกิดการ 4. บัณฑิตไม่ค�ำนึงถึงความส�ำคัญของบัตรประจ�ำตัว เปลย่ี นแปลงตอ่ ระบบการทำ� งานของหนว่ ยงาน บณั ฑติ แถวและล�ำดบั ทนี่ ง่ั ของบัณฑติ โดยมุ่งหวังว่า อยากให้งานภายในหน่วยงานมี คณุ ภาพและมปี ระสทิ ธภิ าพเพม่ิ มากขน้ึ …ระบบ สารสนเทศเพอ่ื การพฒั นาบตั รประจำ� ตวั บณั ฑติ 8 วารสาร

เแเเกพปรปามิ่ล่ือลรตยี่ ง้นน ซ่ึงเมือ่ น�ำมาใช้งาน พบวา่ …ระบบ รอบรั้ว : เรือ่ งเลา่ ชาวลา้ นนา ท่ีพัฒนาข้ึนมา สามารถตอบโจทย์ แก้ปัญหา มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา ซึ่งปัญหาเหล่าน้ี เป็นปัญหาท่ีเกิดข้ึนทุกๆปี ตา่ งๆ ท่ีไดก้ ลา่ วมาขา้ งตน้ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ทำ� ให้ มทร.ล้านนา พษิ ณโุ ลก โครงการศูนย์ส่งเสรมิ และ ทกุ ๆ มหาวทิ ยาลยั ในเครอื ราชมงคล ดว้ ยเหตนุ ี้ พฒั นาคณุ ภาพชวี ิตผสู้ ูงอายุ(โรงเรียนผู้สูงอาย)ุ จงึ เปน็ ทม่ี าของการลกุ ขน้ึ เพอื่ ปรบั เปลยี่ นการ ผลตอบรับเกิดเป็นความพึงพอใจของทุกๆ เทศบาลต�ำบลพลายชมุ พล รุน่ ท่ี 2”  ทำ� งาน ใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลงในครง้ั น้ี ดว้ ยมี วนั ท่ี5มกราคม2561 ท่ีหอ้ งประชมุ เทศบาล ความคดิ ว่า… ฝ่ายทั้งหน่วยงานท่ีต้องปฏิบัติงาน บุคลากร ต�ำบลพลายชุมพล นายฐานุพงศ์  เจริญสุรภิรมย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก  เป็นประธาน “เราคือสายสนับสนุน เราก็มี ทำ� งาน และทสี่ �ำคัญคือ บัณฑิต ต่างพงึ พอใจ เปิด “โครงการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต ศักยภาพ เรากม็ คี วามร้ทู างดา้ นเทคโนโลยี ผู้สูงอายุ(โรงเรียนผู้สูงอายุ) เทศบาลต�ำบลพลาย ท่ีจะสนับสนุนงานขององค์กรให้เกิด เปน็ อย่างมาก ชมุ พล รุ่นท่ี 2” โดยมี นายสมพงษ์ โพธิส์ ะวัง นายก ประสิทธิภาพมากย่ิงขึ้นได้ เราน่าจะลอง เทศบาลต�ำบลพลายชมุ พล  พรอ้ มด้วย ผศ.นพดล  ลงมือท�ำดูนะ” ด้วยเหตุน้ี…จึงมีความคิดอีกครั้ง ตรรี ตั น ์ ผชู้ ว่ ยรองอธกิ ารบดี มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยี ราชมงคลล้านนา พิษณุโลก และผู้บริหารจาก จึงเป็นท่ีมาของการพูดคุย หารือ ทอี่ ยากจะเผยแพรเ่ รอ่ื งราว กระบวนการเหลา่ น้ี หนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวข้อง ร่วมงานพิธีเปดิ   ถึงปัญหา และแลกเปล่ียนเรียนรู้ ระหว่าง              โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อ บุคลากรของทั้ง 2 หน่วยงาน ภายหลังจาก ในรปู แบบวิชาการใหเ้ พ่อื นๆ พ่นี ้อง ในวงการ ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในด้านการ การปฏิบัติงาน ผ่านกระบวนการ KM โดยมี ให้ความรู้ การคุ้มครอง การส่งเสริมและสนับสนุน ความมุ่งหวังว่า “เราคงจะได้แนวทางแก้ไข ของคนท�ำงานได้เห็น ได้ทราบถึงวิธีการ ผสู้ งู อายใุ นดา้ นตา่ งๆ เชน่ ดา้ นการศกึ ษา การศาสนา หรือแนวปฏิบัติที่ดี เพ่ือให้งานมีการปรับปรุง การสาธารณสุข  การรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็น เปลยี่ นแปลงระบบงานให้ดยี ่งิ ข้นึ ” ซึง่ ผลลพั ธ์ แนวปฏิบตั ิต่างๆ โดยมุ่งหวังเพียงว่า… ประโยชน์ต่อการด�ำรงชีวิต การประกอบอาชีพหรือ ที่ไดจ้ ากการพูดคุยคือ…... “เพ่ือนๆ พ่ีน้อง จะสามารถ การฝกึ อาชีพท่ีเหมาะสม ตลอดจนการพฒั นาตนเอง แนวทางการพฒั นาระบบฯ หรอื แนวปฏบิ ตั ิ และการมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมทางสงั คมของผสู้ งู อายุ “ระบบสารสนเทศเพือ่ การจัดทำ� บตั รประจ�ำ เหล่านี้นำ� ไปใชป้ ระโยชน์ได้ไม่มากกน็ ้อย” ต่อไป โดย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตัวบัณฑิต ในรูปแบบของระบบฐานขอ้ มลู จึงได้ทดลองเขียนแนวทางการ พิษณุโลก รว่ มด�ำเนนิ การให้ความรู้ดา้ นวิชาการและ ผ่านระบบเว็บไซตข์ องหน่วยงาน” วชิ าชีพกบั นักเรยี นผสู้ งู อายุท่เี ขา้ ร่วมโครงการ พัฒนา แนวปฏิบัติเหลา่ น้ี เขา้ รว่ มประกวดใน “โครงการสัมมนาเครือข่ายการจัดการความรู้ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล สถาบนั การ พลศกึ ษา สถาบันบณั ฑติ พัฒนศลิ ป์ ครัง้ ที่ 11 การจัดการความรู้สู่การขับเคลื่อน Thailand 4.0 ” ……….ผลการตัดสินกลับท�ำให้ผม ภาคภูมิใจข้ึนอีก ด้วยการได้รับรางวัล จากผู้ เขา้ ร่วมประกวดกวา่ 131 บทความ ซงึ่ ตอ้ งยอมรบั วา่ “มนั ครง้ั แรกของ ผมในการเขียนบทความส�ำหรับเวทีวิชาการ การจัดการความรู้” ที่ถือว่าเป็นการประสบ ความสำ� เรจ็ เป็นอย่างมาก ในการกา้ วข้ามการ เปลย่ี นแปลงการปฏบิ ตั งิ านใหด้ ขี น้ึ จากจดุ เลก็ ๆ ….ผมตอ้ งขอขอบคณุ ทกุ ๆ ฝา่ ยทง้ั ผอู้ ำ� นวยการ ท้ัง 2 หน่วยงาน (สวท. และ กพน.) ทีท่ �ำให้ โอกาสการแกป้ ญั หาเหลา่ นเ้ี กดิ ขนึ้ อยา่ งจรงิ จงั ผู้บริหารสถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน และผู้บริหารกองบริหารงานบุคคล ที่ช่วยใน การสนับสนุน ผลักดันให้เกิดกิจกรรมทาง วิชาการเหล่าน้ีเกิดข้ึน รวมถึงเพ่ือนๆ พี่ๆ ทีมงาน ทุกคนท่ีร่วมในกระบวนการท�ำงาน ทุ ก ส ่ ว น บ ร ร ย า ก า ศ เ ห ล ่ า น้ี ที่ ผ ม ไ ด ้ รั บ “มันอบอุ่น มคี วามสขุ อย่างมาก และสง่ ผลให้ ผมมแี รงกำ� ลงั ใจ กำ� ลงั กายทพ่ี รอ้ มจะผลกั ดนั ให้มหาวิทยาลัย เกิดการพัฒนาข้ึน”…..แล้ว เพือ่ นๆ พ่ี นอ้ ง ละ่ ครับ พร้อมจะ “เรมิ่ ตน้ เพอ่ื การเปลี่ยนแปลง” กันแลว้ หรือยงั ! 9วารสาร

: งานวจิ ัยไมข่ นึ้ ห้ิง “เตา ชวี มวล ปน้ั มอื บา้ นสันติสขุ ” งานวิจัยไมข่ ้นึ ห้ิง เรยี บเรียงโดย วสิ ูตร อาสนวจิ ติ ร วทิ ยาลยั เทคโนโลยแี ละสหวทิ ยาการ ท�ำได้ ใช้ได้ ขายได้ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนาเชยี งใหม่ และ ลดปญั หา สิง่ แวดล้อมได้ มลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยร่วมที่ อันควรในประเทศไทย ประมาณ 50,000 บา้ นสนั ตสิ ขุ และพบวา่ มเี ทคโนโลยเี ตาชวี มวล เป็นสาเหตุของโรคต่างๆ ซ่ึงฝุ่นละอองขนาด รายตอ่ ปซี ่งึ ในสว่ นภาคเหนือ จงั หวัดเชียงใหม่ เชอื้ เพลงิ ซงั ขา้ วโพด ของทาง สวทช.ภาคเหนอื เล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน คือ มลพิษฝุ่นที่ จะพบ การเผาในท่ีโล่งแจ้งจากของเหลือท้ิง ส า ม า ร ถ น� ำ ม า ถ ่ า ย ท อ ด เ ท คโ น โ ล ยี ใ ห ้ แ ก ่ มีขนาดเล็กกว่า 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่าน ทางการเกษตร ส่งผลท�ำให้เกิด “ฝุ่นควันใน ประชาชนชาวบ้านสันติสุขและใกล้เคียงได้ ศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ เกิดมาจากการ อากาศ จากของเหลือท้งิ ทางการเกษตร” จึงได้จับคู่ผลงานวิจัยที่พร้อมถ่ายทอด คมนาคมขนส่ง การผลิตไฟฟ้า การผลิตของ ดังนั้นเป็นโจทย์หลักในการน�ำผล เทคโนโลยอี ยา่ งเตาชวี มวลเชอ้ื เพลงิ ซงั ขา้ วโพด ภาคอุตสาหกรรม กิจกรรมจากแหล่งท่ีอยู่ งานวิจัยเตาชีวมวล “มาแก้ปัญหาในพ้ืนที่ ผลงานของนายองอาจ ส่องสี นักวิจัยอิสระ อาศัยและธุรกิจการค้า และการเผาในที่โล่ง หมู่บ้านสนั ตสิ ขุ อ.พรา้ ว จ.เชียงใหม่ เกดิ เปน็ เตาเผาชีวมวลปั้นมือได้ด้วยตนเอง หรือเตา [1] ซงึ่ กลา่ วคอื เลก็ จนสามารถเลด็ ลอดขนจมกู นวตั กรรมในพ้นื หมู่บา้ นที่สามารถสรา้ งรายได้ ชีวมวลเชื้อเพลิงซังข้างโพดส�ำหรับครัวเรือน เขา้ สรู่ า่ งกายได้ และมขี นาดเพยี งครง่ึ หนง่ึ ของ และลดปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่และชุมชน” เปน็ ผลงานวจิ ัยเพอ่ื ลดปัญหาควัน ที่พัฒนาขึน้ ขนาดเมด็ เลือด (5 ไมครอน) ดงั น้นั ฝุ่นพษิ จงึ ผมในฐานะ อาจารยป์ ระจำ� วทิ ยาลยั เทคโนโลยี โดยใช้ซังข้าวโพดและเศษชีวมวล มีควันน้อย สามารถเขา้ สเู่ สน้ เลอื ดฝอยและกระจายไปตาม และสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี กว่าและให้ความร้อนสูงกว่าเตาฟืนธรรมดา อวัยวะได้ ฝุ่นมีลักษณะทข่ี รขุ ระคล้ายส�ำลี ฝุ่น ราชมงคลล้านนา และเป็นหนึ่งในกลุ่มส�ำนึก ซ่ึงซังข้าวโพด 1 ก.ก. ใช้หุงต้มได้ 30 นาที เปน็ พาหะนำ� สารอนื่ เขา้ มาดว้ ย เชน่ แคดเมยี ม รักบ้านเกิดต�ำบลแม่ปั๋ง จึงได้เข้ามาศึกษา ผลติ ใชว้ สั ดทุ มี่ อี ย่ใู นทอ้ งถนิ่ [3] มขี นาดเสน้ ผา่ น ปรอท โลหะหนกั ไฮโดรคารบ์ อน และสารก่อ ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวชุมชนบ้านสนติสุข ศนู ย์กลาง 30.5 เซนตเิ มตร สูง 36 เซนติเมตร มะเร็งจ�ำนวนมาก มหาวิทยาลัยวอชิงตัน [1] ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ พบปัญหา น�ำ้ หนกั 22 กโิ ลกรมั เตาน้ีใช้หลกั การของเตา พบว่ามลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยร่วมที่เป็น 3 ดา้ นคอื ภยั แลง้ หมอกควนั และขยะเหลอื ทง้ิ แก๊สชวี มวลหรือเตาแก๊สซิไฟเออร์ จากชวี มวล สาเหตขุ องโรคตา่ งๆ เน่อื งจากมสี ่วนประกอบ โดยเฉพาะขยะกิ่งไม้ใบไม้ของต้นล�ำไยและ ชนดิ อากาศไหลขนึ้ ซง่ึ เปน็ การเผาไหมเ้ ชอ้ื เพลงิ ของสารเคมีหลายชนิด ท้ังที่เป็นสารระคาย มะม่วง หลังจากการตัดก่ิงก็จะถูกก�ำจัด แบบจ�ำกัดปริมาณอากาศ ให้เกิดความร้อน เคืองไปจนถึงสารก่อมะเร็ง จึงเป็นสาเหตุ ด้วยการเผาทิ้ง ซึ่งสร้างปัญหาหมอกควันท่ี บางส่วนแล้วไปเล่นปฏิกิริยาต่อเน่ืองอ่ืนๆ ก่อให้เกิดโรค ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเร้ือรัง สง่ ผลกระทบต่อสขุ ภาพ …จงึ เป็นท่ีมาของการ เพื่อเปล่ียนเชื้อเพลิงแข็งให้กลายเป็นแก๊สเช้ือ โรคหลอดเลือดในสมอง โรคหัวใจขาดเลือด พูดคุยหารือกับทางนายพันธวัฒน์ ไซยวรรณ์ เพลิงได้แก่ คาร์บอนมอนอกไซด์ ไฮโดรเจน โรคมะเร็งปอด และโรคติดเชื้อเฉียบพลัน นักวิเคราะห์อาวุโส สวทช.ภาคเหนือ และมีเทน โดยเป็นการเผาไหม้เชื้อเพลิงแบบ ระบบหายใจสว่ นลา่ ง กอ่ ใหเ้ กดิ การตายกอ่ นวยั ถึงเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมกับบริบทของชุมชน จำ� กัดปริมาณอากาศให้เกิดความร้อนบางส่วน 10 วารสาร

แล้วไปเร่งปฏิกิริยาต่อเน่ืองอ่ืนๆ เพ่ือเปลี่ยน เรือนและสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านท่ีรับ อาจารย์วิสตู ร อาสนวจิ ิตร เชอื้ เพลงิ แขง็ ใหก้ ลายเปน็ แกส๊ เชอ้ื เพลงิ รองรบั ถ่ายทอดเทคโนโลยีรากหญ้าในการผลิตเตา การใช้ปริมาณซังข้าวโพด เฉล่ยี วนั ละ 2 ก.ก. ชีวมวลออกจำ� หนา่ ย วิทยาลัยเทคโนโลยแี ละสหวทิ ยาการ ตอ่ ครวั เรือน หรอื 730 ก.ก. ต่อปี ภายหลังจากการอบรม ด้วย มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนาเชยี งใหม่ โ จ ท ย ์ ห ลั ก ใ น ก า ร ถ ่ า ย ท อ ด เห็นถึงประโยชน์และประสิทธิภาพของเตา เทคโนโลยี ตอ่ มา คอื “ตอ้ งทำ� ไดง้ า่ ย ราคาถกู ชีวมวล บวกกับความตั้งใจและความแน่วแน่ ใช้วัสดุในพื้นที่และสร้างได้ในทุกพื้นที่” ของผู้ใหญ่บ้านมนพรรณ์ สุค�ำภีรักษ์ จึงได้ เราในฐานะนักวิจัยจึงได้คิดและท�ำการ ต้ังเป็นโครงการของหมูบ่ า้ น [4] ในการทีจ่ ะ ออกแบบเตาชีวมวลน้ี ในรูปแบบของการปั้น ปั้นเตาให้มีคุณภาพและให้ชาวบ้านในหมู่บ้าน มือ ท้ังน้ีเพ่ือให้ท�ำข้ึนได้ง่าย และสามารถน�ำ ท่ีสนใจได้ส่ังผลิตเพื่อน�ำไปใช้ประโยชน์ใน ไปใช้งาน โดยสามารถใช้เศษชีวมวลอย่าง ครวั เรือน โดยต้งั ชื่อเป็น “กลุ่มเตาชีวมวลปน้ั ซังข้าวโพด ต้นมะม่วง มาเป็นเชื้อเพลิงแทน มือบ้านสันติสุข” มีนายประวิต บุญมาและ การเผาทิง้ ไดท้ ุกสถานที่ ตามโจทยห์ ลักของ นายโกวิท แซ่โค้ว เป็นเกษตรกรแกนน�ำที่ การถา่ ยทอดเทคโนโลยที ่เี ราตงั้ เอาไว้ ท�ำหน้าที่เป็นผู้ปั้นเตาชีวมวล ของหมู่บ้าน ปัจจุบันมีชาวบ้านมาเรียนรู้เพ่ือ ในระยะเพียงไม่ถึงสองเดือน กลุ่มเตาชีวมวล เพิ่มผลผลิตและจ�ำหน่ายเตาชีวมวล 2 ราย ปั้นมอื บ้านสันตสิ ขุ ไดพ้ ฒั นาทกั ษะการป้นั เตา ขณะทีก่ วา่ 40 % ของครวั เรอื นในพื้นท่ีมีและ จนช�ำนาญ สามารถปั้นเตาได้อย่างสวยงาม ใชง้ านเตานี้ [2] ซึง่ มีคุณสมบตั ิโดดเดน่ คอื และมีคุณภาพ จนมีผู้คนที่ทราบข่าวสนใจ “ความสามารถในการการให้พลังงานความ ส่ังซ้ือไปแล้วจ�ำนวนหลายสิบใบ นอกจาก ร้อนได้มากกว่า เตาท่ัวไป และลดใช้ฟืนได้ นี้ยังได้ปรับปรุงพัฒนาต่อยอดเตาชีวมวล กว่าครง่ึ หน่ึง จากทีเ่ คยใชฟ้ ืน 1 กระสอบทอด ใ ห ้ มี หู จั บ เ พ่ื อ ส ะ ด ว ก ใ น ก า ร ข น ย ้ า ย ไ ด ้ แคปหมูก็เหลือเพียงครึ่งกระสอบ” ในขณะ และในขณะเดียวกันผู้ประกอบการร้านหมู เดยี วกนั กเ็ ปลยี่ นพฤตกิ รรมการเผามาเปน็ การ กะทะสนใจในคุณสมบัติที่ให้ความร้อนสูง เก็บเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง ลดค่าใช้จ่ายในครัว กว่าเตาทั่วไป ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการปรับ ให้มีขนาดเล็กลงเพ่ือสะดวกต่อการใช้งาน ในรปู แบบอ่ืนๆ ตอ่ ไป แหล่งอ้างอิง [1] กรนี พชี (GreenPeace), 2560, มลพษิ ฝ่นุ ละอองขนาดเลก็ ไมเ่ กนิ 2.5 ไมครอน (PM2.5) ของเมืองในประเทศไทยช่วงเดือนมกราคม- มถิ นุ ายน พ.ศ.2560. [2] เตาชีวมวลปั้นมือ”ลงข่าวในกรุงเทพธุรกิจ เรอื่ ง “นอรเ์ ทริ น์ 4.0 เทคโนโลยเี คลอื่ นทอ้ งถนิ่ ” ปที :ี่ 31 ฉบบั ท:ี่ 10738 หนา้ 25 (บน) เผยแพร:่ วันพฤหัสบดี 15 ก.พ. 2561 [3] เตาชีวมวลปั้นมือบ้านสันติสุข”ลงข่าว สด หัวขอ้ ข่าว: รายงานพเิ ศษ: ตามไปดู”เตา ชีวมวล” ปั้นมือ โรงเรือนอัจฉริยะปลูกพืช ปที :ี่ 29 ฉบบั ที:่ 9951 หน้า 6 (ลา่ ง) เผยแพร่: วันอาทิตย์ 25 ก.พ. 2561 [4] สรุปรายงานประจ�ำปี สวทช.ภาคเหนือ, เตาชีวมวลป้นั มือบ้านสันติสุข, ประจ�ำปี 2561. 11วารสาร

การท�ำงานวิจัยต้องมี ความจริงใจและตั้งใจจริงที่จะศึกษา ในเรื่องดังกล่าว เพราะหากไม่มี ความสนใจเปน็ ทนุ เดมิ งานวจิ ยั ทที่ ำ� กจ็ ะไม่สนุก สดุ ทา้ ยกเ็ พียงแคท่ ำ� ให้ ผ่านไปทีเท่านั้น ต้องต้ังค�ำถามกับ ตัวเองและตอบให้ได้ก่อนลงมือท�ำ วา่ เราทำ� งานวจิ ยั เรอ่ื งนที้ ำ� ไม ซง่ึ เปน็ ค�ำถามที่ส�ำคัญท่ีสุดในการท�ำงาน วิจยั สกั เรอื่ ง จะไดก้ ำ� หนดโจทย์วิจยั ท่ีดี สามารถก�ำหนดไปถึงทฤษฎีที่ ต้องใช้ กรอบแนวคิดของงานวิจัย และส่ิงส�ำคัญเพื่อให้ผู้ใช้งานหรือ ชุมชนสามารถน�ำไปใช้ประโยชน์ ได้จริง เราจึงต้องศึกษาให้รู้ถึง ปัญหาให้ตรงจุด พร้อมกับการให้ คนในชุมชน ท้องถ่ินและหน่วยงาน ท่ีเก่ียวข้องได้รับทราบถึงปัญหาท่ี เกิดข้ึนและผลกระทบท่ีจะตามมา หากไม่ได้รับการแก้ไข ต้องมีการ ร่วมกันวเิ คราะหศ์ ักยภาพของชมุ ชน แตล่ ะดา้ น โดยไมท่ ำ� ลายหรอื เปลยี่ น วิถีการด�ำรงชีวิตและภูมิปัญญาด่ัง เดมิ ของชมุ ชน แตจ่ ะเปน็ การนำ� พา ให้ค้นพบสิ่งท่ีควรได้รับการพัฒนา ต่อจากจุดเดิมท่ีดีอยู่แล้วให้ดีย่ิงขึ้น หรือบางสิ่งท่ีเป็นจุดอ่อนท่ีต้อง พัฒนาใหด้ ขี น้ึ คยุ กบั นกั วจิ ัย : The Researcher อาจารย์วสิ ูตร อาสนวิจิตร วิทยาลยั เทคโนโลยีและสหวทิ ยาการ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนาเชยี งใหม่ ท�ำงานวจิ ัยด้าน : “การประยกุ ตใ์ ชส้ นามไฟฟ้าในงานวศิ วกรรมและส่งิ แวดลอ้ ม” 12 วารสาร

ซึ่งที่ผ่านมาของผมในฐานะผู้ รอบรว้ั วจิ ยั จะมกี ารทำ� งานรว่ มกนั เปน็ ทมี โดยจะมี การบูรณาการ การท�ำงานกันหลากหลาย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา ศาสตร์ มกี ารนำ� ความถนดั ความเชย่ี วชาญ ของแต่ละคนในทีมมาช่วยกันแก้ไขปัญหา คลนิ ิกเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา ร่วมจดั กจิ กรรม จากโจทยว์ จิ ยั นนั้ ๆ มกี ารทำ� งานรว่ มกบั เครอื คาราวานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเปิดศนู ยถ์ ่ายทอดเทคโนโลยี ข่ายท้ังภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย วนั ท่ี8 มนี าคม2561 คลนิ กิ เทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ซึ่งเครือข่ายการท�ำงานที่เกิดขึ้นอาจจะเป็น จดั กจิ กรรมคาราวานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเปดิ ศนู ยถ์ า่ ยทอดเทคโนโลยี โดยไดร้ บั เกยี รตจิ าก ผู้ที่รับสานต่อหรือต่อยอดน�ำเอาความรู้ นายประจวบ กันธิยะ รองผวู้ า่ ราชการจงั หวัดเชียงใหม่ เปน็ ประธานเปดิ ศูนยถ์ า่ ยทอด ไปถา่ ยทอดและขยายผลตามความตอ้ งการ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม ณ กศน. อ�ำเภอพรา้ ว จงั หวดั เชียงใหม่ และ ของผู้ใช้งาน ชุมชน หรือพื้นท่ีอื่นๆได้ รองปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเป็นความร่วมมือของ กระทรวง โดยเรามีความเช่ือว่านอกเหนือจากการ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ละ สำ� นกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา พิสจู น์ วเิ คราะห์ ทดลอง ด้วยหลกั การทาง ตามอธั ยาศยั รว่ มกบั ภาคเี ครอื ขา่ ยจากหนว่ ยงานภาครฐั ภาคเอกชน และภาคการศกึ ษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ที่ได้ผลที่ถกู ต้อง ทเ่ี ขา้ มาร่วมกันด�ำเนนิ การในศูนยแ์ หง่ น ี้ เทย่ี งตรงแลว้ นนั้ สงิ่ สำ� คญั ทส่ี ดุ คอื การท่ีได้ ศูนย์ถ่ายทอดวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม เป็นศูนย์น�ำร่องแห่ง มกี ารนำ� เอาองคค์ วามร้นู น้ั กลบั มาถา่ ยทอด แรกที่ส�ำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อ.พร้าว แ ล ะ น� ำ ม า ส อ ด แ ท ร ก เ ป ็ น ส ่ ว น ห นึ่ ง ใ น จ.เชยี งใหม่ และทำ� การขยายผลจดั ตงั้ ศนู ยฯ์ นี้ใน กศน.ทกุ แหง่ ในจงั หวดั เชยี งใหมแ่ ละ การสอนให้กับนักศึกษา หรือผู้ท่ีสนใจให้ ทั่วประเทศในอนาคตเพอ่ื พัฒนาทกั ษะดา้ นวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแกเ่ ยาวชน ไดร้ บั รู้ยง่ิ ผมไดเ้ ห็นแววตา ได้ฟังค�ำถามดีๆ คำ� แนะนำ� ดๆี จากผทู้ ส่ี นใจในผลงานของเรา มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา ล�ำปาง รว่ มกบั สำ� นักงานพฒั นาชมุ ชน ท�ำให้มีก�ำลังใจและน�ำส่ิงดีๆที่ได้รับมาปรับ อำ� เภอเมอื งล�ำปาง จัดฝกึ อบรมเชิงปฏิบตั กิ าร การท�ำแยมสับปะรด ใชใ้ นการพัฒนางานวิจยั ใหม้ ีคณุ ภาพยิ่งขึน้ วันที่ 9 กุมภาพนั ธ์ 2561 สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีการอาหาร มากกว่ารางวัลที่ได้รับ และ สาขาวิชาพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร ความภาคภูมิใจท่ีได้รับ ผลงานวิจัยยังท�ำ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ลำ� ปาง รว่ มกบั สำ� นกั งานพฒั นาชมุ ชนอำ� เภอ หนา้ ทเี่ ปน็ เหมอื นเครอื่ งยนตพ์ าหนะชนั้ ยอด เมืองล�ำปาง จัดฝกึ อบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร การทำ� แยมสบั ปะรด โดยไดร้ บั เกียรตจิ าก ที่ได้น�ำพาผมเดินทางให้มาพบเจอผู้คนที่ดี อาจารย์สุพัฒน์ ใต้เวชศาสตร์ เป็นวิทยากรฝึกอบรม ให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนและ กัลยาณมิตรที่ดี พบกับแหล่งความรู้ ผสู้ นใจ จำ� นวน 30 คน ณ บา้ นจำ� คา่ หมทู่ ่ี 2 ตำ� บลเสดจ็ อ.เมอื ง จ.ลำ� ปาง บรรยากาศ พบประสบการณ์ใหม่ๆ นอกเหนือจากการ การอบรม ผู้เข้าอบรมเชิงปฏิบัติการทุกท่าน ได้รับความสนุกสนาน ได้รับความรู้ ที่ใชช้ วี ิตแตภ่ ายในหอ้ งส่เี หลี่ยมในการสอน ประสบการณ์ ในการท�ำแยมสับปะรด และผู้เข้าอบรมทุกท่านจะน�ำไปขยายผลเพื่อ เพียงอย่างเดียว คุณค่าของผลงานวิจัย สร้างอาชพี เสรมิ ให้กบั ชุมชนตอ่ ไป ในสงิ่ ทผ่ี มและคณะวจิ ยั ไดต้ งั้ ใจลงมอื ทำ� ทกุ ครงั้ ภายใตแ้ นวคดิ ทอ่ี ยากใหผ้ ลงานวจิ ยั ทกุ 13วารสาร ผลงานเกิดขึน้ จริงตามหลักวธิ กี ารทถ่ี กู ต้อง ต้องเคารพและให้เกียรติประชากรกลุ่ม ตัวอย่าง มีความเชื่อว่าประชากรกลุ่ม ตัวอย่างมีความรู้ในบริบทของตนเอง และ มีการสร้างกลไกท�ำให้เกิดกระบวนการ เรียนรู้จากนักวิจัยรุ่นพ่ีสู่นักวิจัยรุ่นน้อง สร้างจิตส�ำนึกแห่งความเป็นธรรมด้านงาน วิจัย และสามารถท�ำให้ผลงานวิจัย ท�ำได้ จริง ใช้ได้จริง ขายได้จริง ลดปัญหาสิ่ง แวดล้อมได้จริง และถูกน�ำไปขยายผลต่อ ยอดใชง้ านเรอื่ ยๆ จงึ จะเปน็ การพฒั นาอยา่ ง ย่งั ยนื ที่แท้จรงิ

: บรกิ ารวิชาการ เจ้าของผลงาน ดร.ณงค์ณชุ นทีพายพั ทศิ Shift Sustainable Social กระบวนการ 3S เพื่อการสร้างสรรค์มูลคา่ สรา้ งรายได้ สู่สงั คมที่ย่งั ยนื “บา้ นแมข่ มี้ กู ” หากพดู ถงึ อำ� เภอแมแ่ จม่ ในชว่ งระยะเวลา 5 - 6 ปที ผี่ า่ นมา นน้ั คณะศลิ ปกรรมและสถาปตั ยกรรมศาสตร์ ในฐานะหวั หนา้ โครงการวจิ ยั ปัญหาหมอกควัน ไฟป่า ของอ�ำเภอแมแ่ จ่ม ถอื เป็นปญั หาใหญ่ที่ทำ� ให้ อ�ำเภอแม่แจ่มตกเป็นจ�ำเลยของสังคมในการสร้างวิกฤติหมอกควัน จึงได้ด�ำเนินการอาศัยกระบวนการ 3 S คือ “Shift Sustainable ซ่ึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการท�ำการเกษตรเชิงเดี่ยวด้วยการปลูกข้าวโพด จ�ำนวนมาก ภายใต้พื้นท่ีของอ�ำเภอนั้น เป็นท่ีมาของการส่งผลกระทบ Social” และแนวคดิ การพฒั นาตอ่ ยอดมลู คา่ สนิ คา้ โดยใชต้ น้ ทนุ ทางวถิ ี ทางระบบนเิ วศ สงิ่ แวดลอ้ ม รวมถงึ มลภาวะทางอากาศตอ่ ผคู้ นในจงั หวดั เชยี งใหม่และจงั หวดั ใกลเ้ คยี ง วฒั นธรรมของหมบู่ า้ น ดา้ นงานทอผา้ จก มาทำ� การเสรมิ สรา้ งอาชพี และ บา้ นแม่ขี้มกู ต�ำบลบ้านทบั อำ� เภอแมแ่ จ่ม เปน็ หมู่บา้ นหน่งึ ของอำ� เภอแมแ่ จม่ ท่ีไดร้ บั การสนบั สนนุ และใหเ้ ขา้ รว่ มโครงการรณรงค์ รายได้ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ซึง่ หลักการทำ� งานของกระบวนการ 3S ในการปลกู ปา่ 3 อยา่ ง ประโยชน์ 4 อยา่ ง จำ� นวน 200 ไร่ เพอื่ แกป้ ญั หา ผลกระทบจากการท�ำการเกษตรเชิงเดี่ยว ที่ส่งผลต่อระบบนิเวศ ท่อี าจารย์ณงค์ณุช ใช้ด�ำเนนิ การนั้น มีหลักสำ� คญั คือ สง่ิ แวดลอ้ ม รวมถงึ ปญั หาภาระหนสี้ นิ ของครวั เรอื นทก่ี อ่ ตวั และเพมิ่ พนู ขนึ้ Shift : เปน็ การเพิ่มศกั ยภาพการถ่ายทอดองค์ความรู้ เข้าใจ โดยถูกจัดให้เป็นพื้นท่ีนำ� ร่องในการปรับเปลี่ยนวิถีทางเกษตรกรรมใหม่ ตระหนกั ถงึ คณุ คา่ อัตลกั ษณห์ ัตกรรมผา้ ทอของหมู่บา้ น เพื่อพัฒนาและ ให้อยู่ในรูปแบบของเกษตรแบบผสมผสาน โดยอาศยั ความร่วมมอื จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาและภาคเอกชนและองค์กร ปรบั เปลยี่ นกระบวนการคดิ เชงิ นวตั กรรมกระบวนการดว้ ยการอบรมเชงิ ท่ีเก่ียวข้อง ในการปรับเปลี่ยนวิถีเกษตร รวมถึงการเสริมสร้างรายได้ ในชว่ งรอยตอ่ การเปลย่ี นผา่ นครัง้ นี้ ปฏบิ ตั กิ าร ในการสรา้ งความแตกตา่ งและเพมิ่ มลู ค่า โดยอาศัยวิถกี าร ด้วยเหตุน้ี จึงเป็นท่ีมาของการจัดท�ำโครงการยกระดับ ชุมชนแบบมีส่วนร่วม ประจ�ำปี 2560 ณ บ้านแม่ขี้มูก โดยอาจารย์ ดำ� รงชีวิตมาเป็นจดุ ขายที่แทจ้ รงิ ณงค์ณชุ นทีพายัพทิศ นักวจิ ัยมหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา Sustainable : เป็นการสร้างรายได้เสริมกลุ่มผ้อทอของ หมู่บ้าน ด้วยการพัฒนาผ้าทอจกแบบด้ังเดิม เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วย ต้นทุนทางวิถีวัฒนธรรมแบบร่วมสมัย เพื่อสร้างความม่ันคงและย่ังยืน อย่างพอเพยี ง Social : เป็นการใช้การประสานงาน ความร่วมมือกันของ ภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานที่เก่ียวข้อง เพื่อให้เกิดการแลกเปล่ียน เรียนรู้ และเห็นภาพเป้าหมายและกระบวนการต้ังแต่ต้นน้�ำ กลางน้�ำ ปลายนำ้� ร่วมกัน 14 วารสาร

กรอบแนวคดิ การถา่ ยทอดความร้เู ชิงนวัตกรรมแบบมสี ่วนรว่ ม ซง่ึ ผลจากการใชก้ ระบวนการ 3S เปน็ โมเดลในครง้ั นี้ อาจารย์ ซ่ึงนอกจากผลของการพัฒนาเหล่าน้ี ผลลัพธ์ในรูปแบบของ ณงคณ์ ุช เล่าวา่ ทุก S ที่ใช้ ล้วนเป็นกระบวนการท่ีสามารถชว่ ยให้เรา รายไดท้ ชี่ มุ ชนไดร้ บั จากการพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ ยงั เปน็ การตอบโจทยค์ วาม เหน็ ภาพการพัฒนาที่ยกระดับข้ึน ไมว่ ่าจะเปน็ การพัฒนาคน (ชุมชน ต้องการของชุมชนที่ต้องการสร้างรายได้ในช่วงของรอยต่อการเปลี่ยน อาจารย์ นกั ศกึ ษา) การพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ (ปกสมดุ โนต้ จากผา้ ทอ) และ ผ่านต่อการเป็นพ้ืนที่น�ำร่องในการปรับเปล่ียนวิถีทางเกษตรกรรมใหม่ การพัฒนาการมีส่วนรว่ ม ของทุกภาคสว่ น (ชุมชน ภาครฐั ภาคเอกชน ให้อยู่ในรูปแบบของเกษตรแบบผสมผสานเพื่อส่งเสริมคุณภาพของ และมหาวทิ ยาลยั ) สิ่งแวดล้อม โดยที่ชุมชนก็ยังคงไว้ซ่ึงคุณค่าวิถีวัฒนธรรมของตนเอง… หากจะมองในรูปแบบของมิติที่สามารถมองเห็นอย่างเป็นรูปธรรมของ ชว่ งรอยตอ่ น้ี เราสามารถท�ำให้ชุมชนเห็นไดว้ ่า… 15วารสาร

ก า ร พั ฒ น า ผลิตภณั ฑ์ ดา้ นมิติเศรษฐกิจ : กลมุ่ ทอผา้ จกมีรายได้เพมิ่ ข้นึ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ ์ ท่ีส่อื ถึง ดา้ นมติ สิ งั คม : กลมุ่ ทอผา้ จกมคี วามตระหนกั รใู้ น ปกสมุดโน้ต มติ ิวิถี นวตั กรรมกระบวนการขบั เคล่อื นชุนชนอย่างมีส่วนร่วม ทีส่ ่ือถงึ มิติ ชมุ ชน ด้านมิติการอนุรักษ์ : กลุ่มทอผ้าได้ผลิตภัณฑ์ วิถีชุมชนแบบ ปกสมุดผ้าทอจกทน่ี ำ� ตน้ ทนุ วถิ วี ฒั นธรรมสรา้ งสรรคแ์ บบรว่ ม ร่วมสมยั อบรม สมยั มาบรหิ ารจดั การอยา่ งเปน็ ระบบ สรา้ งความรู้ ถงึ แมน้ วา่ ผลลพั ธท์ ี่ไดจ้ ากการดำ� เนนิ การในครง้ั น้ี สรา้ งสรรค์ จะเปน็ ไปอยา่ งทค่ี าดหวงั ไว้ แตก่ ระนนั้ เพอ่ื ความมน่ั คง ยง่ั ยนื แบบรว่ ม ตอ่ ไปในอนาคต สงิ่ ทอี่ าจารยณ์ งคณ์ ชุ อยากจะฝากถงึ ชมุ ชน สมยั มา และหนว่ ยงานทจ่ี ะเขา้ มาชว่ ยเหลอื ชมุ ชนนนั้ อาจารยณ์ งคณ์ ชุ บรหิ าร อยากจะฝากว่า…. ชมุ ชน : ชมุ ชนจะตอ้ งเอาจรงิ เอาจงั ในการสานตอ่ จดั การอยา่ ง แนวคิดและกระบวนการท่ีได้รบั จากการถ่ายทอดเหลา่ นี้ ไป เปน็ ระบบ พฒั นา ต่อยอด และลงมอื ปฏิบัติอย่างตอ่ เนอ่ื ง เพ่ือเปน็ การ สร้างความย่ังยืนท่แี ท้จริงแก่ตัวชมุ ชนเอง เกดิ รายได้ หน่วยงาน : หน่วยงานที่จะเข้ามามีส่วนร่วมกับ และความ ชมุ ชน ตอ้ งพงึ ระลกึ เสมอวา่ การสรา้ งสมั พนั ธภาพทด่ี กี บั ชมุ ชน ยั่งยนื ท่ี เข้าใจมิติทางสังคม เข้าใจวิถีชีวิตและวัฒนธรรมชุมชน แทจ้ รงิ แก่ จะเป็นการสร้างความม่ันคงที่ดีในการก้าวเดินร่วมกับชุมชน ตวั ชมุ ชนเอง ส�ำหรบั การแกป้ ัญหาใดๆ จะเห็นได้ว่า…จากการด�ำเนินการด้วยโมเดลการ แก้ปัญหาส่ิงแวดล้อมและสร้างรายได้ ณ บ้านขี้มูก โดย กระบวนการ 3S ของอาจารย์ณงคณ์ ุช ในคร้ังน้ี …ถึงแมว้ า่ จะเปน็ โมเดล สำ� หรบั แกป้ ญั หาเลก็ ๆ ในหมบู่ า้ นเลก็ ๆ แตเ่ รา จะมองขา้ มไมไ่ ดเ้ ลย ดว้ ยวา่ …การแกป้ ญั หาเลก็ ๆ ในหมบู่ า้ น เลก็ ๆ นี้ อาจเป็นต้นแบบ ซ่ึงเป็นจุดเร่ิมตน้ ของทางออก ใน การแกป้ ญั หาหมอกควนั ของอำ� เภอแมแ่ จม่ ทส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ ผคู้ นจ�ำนวนมาก อย่างยงั่ ยืน แทจ้ รงิ ในอนาคตก็เป็นได!้ ! เรียบเรียง : นายนริศ ก�ำแพงแก้ว รปู ภาพแสดง การพัฒนา ผลติ ภัณฑ์ปกสมดุ โนต้ ที่ส่อื ถงึ มติ ิวิถีชุมชน แบบรว่ มสมยั 16 วารสาร

17วารสาร

“บโร้างนสคชี ลมุ อชงนต.าล.: RMUTL Community Engagement “ :ร่วมคดิ รว่ มทำ� นำ� ความสขุ สู่ชมุ ชน ย.ยักษ์ เข้ยี วใหญ่ ฉบับท่ีผ่านมาได้เล่าถึงผลที่เกิด ข้ึนจากการด�ำเนินงานบริการวิชาการ ผ่าน โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตของหมู่บ้าน ชุมชน แบบมีส่วนร่วม ของมหาวิทยาลัยฯ ในเรอื่ งของ ใครหรอื ผเู้ กยี่ วขอ้ งกบั การดำ� เนนิ กจิ กรรม. ไดอ้ ะไรจากการดำ� เนนิ การทม่ี คี วาม สมั พนั ธก์ บั ชมุ ชน(communityengagement) ซ่ึงมี เป้าหมายส�ำคัญคือ การเปล่ียนแปลง สงั คมไปในทางทด่ี ขี นึ้ บนหลกั การพนื้ ฐานใน การดำ� เนนิ งาน 4 ประการ คอื รว่ มคดิ รว่ มทำ� แบบหนุ้ สว่ น (Partnership) เกดิ ประโยชนร์ ว่ ม กันแก่ผู้เก่ียวข้องทุกฝ่าย (Mutual benefit) มีการใช้ความรู้และเกิดการเรียนรู้ร่วมกัน (Scholarship) และเกดิ ผลกระทบต่อสังคมที่ ประเมนิ ได้ (Social impact) ในฉบับนี้ ขอเล่าลงไปในราย ละเอยี ดทเ่ี ปน็ ตวั อยา่ งของการดำ� เนนิ กจิ กรรม ณ ชุมชนคลองตาล หมู่ที่ 8 อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซึ่งมีการด�ำเนินงานในลักษณะ ร่วมกันคิด ร่วมกันท�ำ ร่วมกันแบ่งปันแชร์ ทรัพยากรในการด�ำเนินงาน โดยชุมชน ดังกล่าวมีอาชีพท�ำนาเป็นอาชีพหลัก โดย ท�ำนาปีละหลายครั้ง มีต้นทุนท่ีเกี่ยวข้องกับ ปัจจัยการผลิตข้าว ไม่ว่าจะเป็น ค่าเมล็ด พันธุ์ข้าวท่ีต้องซ้ือ ค่าปุ๋ยเคมี สารกำ� จัดศัตรู พืชท่ีมีแนวโน้งสูงขึ้น นอกจากจะส่งผลถึง ต้นทุนการผลิตท่ีสูงขึ้นโดยไม่จ�ำเป็นแล้ว ยัง มีผลด้านสุขภาพจากการใช้สารเคมีก�ำจัด ศตั รพู ชื ทีส่ ูงข้ึนอกี ด้วย รวมทงั้ ท่ีผ่านมา ไมม่ ี การสนับสนุนให้ประกอบอาชีพเสริมใดๆเลย ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จึงได้ด�ำเนินกิจกรรม โครงการยกระดับ คุณภาพชีวิต หมู่บ้าน/ชุมชนแบบมีส่วน ร่วม ลงด�ำเนินการในพ้ืนที่ดังกล่าว โดยเร่ิม จากการวิเคราะห์ บริบทของชุมชนดังกล่าว ซึ่งท�ำให้ทราบปัญหาและความต้องการต่างๆ ของชุมชนขา้ งต้น 18 วารสาร

การรว่ มคดิ รว่ มทำ� แบบหนุ้ สว่ น จากการด�ำเนินโครงการดังกล่าวท�ำให้เกิด รอบร้วั ผลเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ชุมชนไม่ได้รอรับการสนับสนุน ด้านรายได้จากการประกอบอาชีพหลักและ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา อาชพี เสรมิ มกี ารต่อยอดผลิตภณั ฑใ์ หม่ๆจาก ได้ด้านต่างๆจากมหาวิทยาลัยอย่างเดียว ขา้ ว จากโรงสขี า้ ว ทดี่ ำ� เนนิ การโดยคนในชมุ ชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา แต่ทางชุมชนได้ร่วมจัดตั้งโรงสีชุมชน โดยไม่ เกิดเครือข่ายที่มีการแลกเปล่ียนเรียนรู้ในด้าน จัด “โครงการครูช่างอาสาส่งเสริม ได้ใช้งบประมาณจากมหาวิทยาลัย จากเดิม การพฒั นาผลิตภัณฑ์ ชอ่ งทางการจัดจำ� หน่าย สร้างสรรค์พัฒนาเพื่อพาน้องแดนไกล ที่ผลิตข้าวแล้วน�ำไปสีในหมู่บ้านข้างเคียง กบั ชมุ ชนขา้ งเคยี งอกี ดว้ ย นอกจากนี้ นกั ศกึ ษา สู ่ โ ร ง เ รี ย น น ่ า อ ยู ่ เ พ่ิ ม ก า ร เ รี ย น รู ้ ก ้ า ว ก็ ส า ม า ร ถ จั ด ก า ร ไ ด ้ ใ น พ้ื น ท่ี ชุ ม ช น ข อ ง ทล่ี งพนื้ ท่ีในชมุ ชน ยงั ไดเ้ รยี นรู้ ไดป้ ระสบการณ์ สศู่ ตวรรษที่ 21” ตัวเอง ท�ำให้ลดต้นทุนการผลิตลงได้อีก มาประยุกต์ใช้ร่วมกับความรู้ในห้องเรียน ระหว่างวันที่ 11-13 มกราคม โดยมมี หาวทิ ยาลยั ฯเปน็ พเ่ี ลยี้ ง รว่ มคดิ รว่ มทำ� ซึ่งจะส่งผลถึงคุณภาพและประสิทธิภาพของ 2561 อาจารยม์ นตร ี แกว้ อยู่ คณาจารยแ์ ละ ในด้านการจัดการเทคโนโลยีการผลิตเพื่อลด นักศึกษาที่จะส�ำเร็จการศึกษาในอนาคตและ นักศึกษาหลักสูตรครุศาสตร์อุตสสาหการ ต้นทุนและปลอดภัย การบริหารจัดการกลุ่ม ยั ง ส ่ ง ผ ล ใ น ท า ง บ ว ก ต ่ อ ทั ศ น ค ติ ใ น ก า ร ส า ข า ค รุ ศ า ส ต ร ์ อุ ต ส า ห ก ร รม แ ล ะ ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห ์ แ ล ะ ว า ง แ ผ น ก า ร ผ ลิ ต ใ ห ้ การท�ำงานกบั ชุมชนอกี ดว้ ย เทคโนโลยี คณะวศิ วกรรมศาสตร์ ชั้นปที ่ี 1 สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการและกำ� ลงั การผลติ จะเห็นได้ว่า โครงการยกระดับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เพ่ือสนับสนุนให้ชุมชนมีความสามัคคี และ คุณภาพชีวิตหมู่บ้าน/ชุมชนแบบมีส่วนร่วม จัด “โครงการครูช่างอาสาส่งเสริม ส า ม า ร ถ บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ก ลุ ่ ม ไ ด ้ อ ย ่ า ง มี ของมหาวิทยาลัยฯเป็นอีกโครงการหน่ึงท่ีใช้ สร้างสรรค์พัฒนาเพ่ือพาน้องแดนไกลสู่ ประสิทธิภาพและย่ังยืนในอนาคต สามารถ การร่วมคิด ร่วมท�ำ ของคนในชุมชนและ โรงเรยี นนา่ อยเู่ พม่ิ การเรยี นรกู้ า้ วสศู่ ตวรรษ ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวใช้ในการเพราะปลูกได้ บุคคลกรของมหาวิทยาลัย ซ่ึงจะร่วมกันน�ำ ที่ 21” ประจำ� ปกี ารศกึ ษา 2560 ณ โรงเรยี น ในชุมชนเอง และความสามารถผลิตข้าว ผลงาน องค์ความรู้ของอาจารย์ นักวิจัยของ ปางหนิ ฝน ตำ� บลปางหินฝน อำ� เภอแมแ่ จ่ม ปลอดภัย ลดการใช้ปุ่ยและสารก�ำจัดศัตรูพืช มหาวิทยาลยั ไปสู่การปรบั ใช้เพอ่ื ใช้ประโยชน์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยกลุ่มคณาจารย์และ ไดอ้ ยา่ งมมี าตรฐานการผลติ ขา้ ว GAP รวมทง้ั ของคนในชุมชนได้อย่างตรงเป้าหมายมาก นักศึกษากว่า 60 คน ร่วมแรงร่วมใจ มกี ารรวมกลมุ่ เพอ่ื ประกอบอาชพี เสรมิ มากขน้ึ ยิ่งข้ึน รวมท้ัง ร่วมสะท้อนปัญหาในชุมชน ซ่อมแซมและปรับปรุงภูมิทศั น์ อาคารเรียน เช่น เล้ียงไกเ่ หลืองหางขาว และสุกร เป็นตน้ สู่โจทยว์ จิ ยั เพื่อแกไ้ ขปัญหาใหก้ ับชุมชนไดต้ รง สนามเด็กเล่น พร้อมทั้งจัดกิจกรรม โดยการด�ำเนินกิจกรรมได้รับการยอมรับ จดุ และตรงเวลา ซงึ่ เปน็ แนวทางทจี่ ะนำ� ความสขุ วันเด็กให้แก่นักเรียนในโรงเรียนบ้านปาง และสนับสนุนจากหน่วยงานอ่ืนมากขึ้น อาทิ สชู่ มุ ชนไดอ้ ยา่ งยั่งยืน แลว้ พบกนั ใหม่ครบั หินฝนและใกล้เคยี ง มอบอปุ กรณ์การเรียน กรมสง่ เสริมการเกษตร อบต. โรงเรยี น และ การกฬี าและเลย้ี งอาหารกลางวนั แกน่ กั เรยี น หนว่ ยงานทางดา้ นสาธารณสุข เป็นต้น กว่า 100 คน    19วารสาร

: ชุมชนเดนิ ทาง “มอ่ นล้านโมเดล” จากกระบวนการเรยี นการสอน สู่ “โมเดลการสรา้ งงาน สรา้ ง อาชพี ทย่ี ง่ิ ใหญ”่ เน้อื หา และเรียบเรยี ง ผศ.ไพโรจน์ วรพจนพ์ รชยั ความหลากหลายของชาติพันธ์ ความหลาก หลายของวิถีชีวิต ความหลากหลายของประเพณี วัฒนธรรม ท�ำให้ดอยม่อนล้านเป็นเป้าหมายของการ เรียนรู้ การสร้างประสบการณ์ของนักศึกษาและผู้ที่มี ความรกั หรอื ความสนใจในความหลากหลายของชาตพิ นั ธ์ และประเพณี วัฒนธรรมต่างๆของชนเผ่าที่อาศัยอยู่บน ดอยม่อนลา้ น 20 วารสาร

สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตาม จากการจัดการเรียนการของ รอบรั้ว พระราชด�ำริ “ดอยม่อนล้าน” เป็นพื้นท่ีตาม หลักสูตรส่ิงทอและเคร่ืองประดับในการน�ำ โครงการพระราชด�ำริในสมเด็จพระนางเจ้า นักศึกษาขึ้นไปบริการวิชาการในการถอด มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา สิริกิตต์ิพระบรมราชินีนาถ พ้ืนที่โครงการ องค์ความรู้เรื่องผ้าชนเผ่าอาข่า และลาหู่ซี พ ร ะ ร า ช ด� ำ ริ แ ห ่ ง น้ี ส ่ ว น ใ ห ญ ่ เ ป ็ น พ้ื น ที่ ร่วมส�ำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา พิษณโุ ลก ที่ให้ความรู้กับประชาชนในด้านการเกษตร และการศึกษาตามอัธยาศัยอ�ำเภอพร้าว ทำ� กจิ กรรมการสรา้ งฝายชะลอน�้ำ (Check Dam)  การเล้ียงสัตว์บนพ้ืนที่สูง แต่ด้วยความสูง จังหวดั เชยี งใหม่ ได้รว่ มกันบรู ณาการในการ ณ ศูนย์ศกึ ษาธรรมชาติและสัตว์ปา่ พิษณุโลก เหนือระดับน้�ำทะเลที่ค่อนข้างมาก ท�ำให้ ท�ำงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนบน สถานท่ีแห่งนี้กลับกลายเป็นแหล่งท่องเท่ียว พน้ื ทส่ี ูง ซึง่ ส�ำนกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอก วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ผู้ช่วย ให้ผู้คนท่ีหลงใหลในธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ�ำเภอพร้าว ศาสตราจารย์จารวี เลิกสายเพ็ง หัวหน้าหลักสูตร ชนเผ่าที่อาศัยอยู่บนดอยม่อนล้านส่วนใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีศูนย์การเรียนชุมชน ประมง พร้อมด้วย อาจารย์สุภภณ พลอยอ่ิม คือชาวเขาเผ่าม้ง เผ่าลีซอ เผ่าลาหู่ และ ชาวไทยภเู ขา “แมฟ่ า้ หลวง” เป็นสถานทที่ ่ีใช้ น� ำ ที ม นั ก ศึ ก ษ า จิ ต อ า ส า ห ลั ก สู ต ร ป ร ะ ม ง เผ่าอาข่า การอาศัยอยู่ร่วมกัน เกื้อกูลกัน ขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆในการท�ำกิจการของ ค ณ ะ วิ ท ย า ศ า ส ต ร ์ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี ก า ร เ ก ษ ต ร   ท�ำมาหากินร่วมกันได้น้ัน โดยมีโครงการ โครงการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก อันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริเป็นตัวเชื่อม การเดินทางด้วยจุดมุ่งหมาย ระดับชั้นปีที่ 2 , 3 และ 4  จ�ำนวนกว่า 40 คน  ให้ชาติพันธ์ท้ังหลายอยู่กันอย่างมีความสุข เดียวกันของเครือข่ายท่ีมุ่งเน้นการยกระดับ ท�ำกิจกรรมการสร้างฝายชะลอน้�ำ (Check Dam)  คณุ ภาพชวี ติ ของคนบนดอยดว้ ยการสรา้ งอาชพี ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาตแิ ละสตั วป์ ่าพษิ ณโุ ลก หมู่ 1 การเดินทางสู่ดอยม่อนล้าน สร้างรายได้ สร้างความเป็นเอกลักษณ์และ บ้านวังดินสอ  ต�ำบลวังนกแอ่น  อ�ำเภอวังทอง ด้วยงานบริการวิชาการกับการบูรณาการ สรา้ งเครอื ขา่ ยการทำ� งานของแตล่ ะหมบู่ า้ นให้ จังหวัดพษิ ณุโลก  จัดกระบวนการเรียนการสอนของหลักสูตร สามารถเชอ่ื โยงเปน็ แหลง่ ผลติ วตั ถดุ บิ เปน็ เรอ่ื ง โดยกิจกรรมดังกล่าว ได้รับความ ส่ิงทอและเคร่ืองประดับ คณะศิลปกรรมและ ท่ีต้องท�ำความเข้าใจกับชุมชนเป็นอย่างมาก อนเุ คราะหจ์ าก นางสาวจุฬาภรณ์ ขุนแสน  หวั หนา้ สถาปตั ยกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยี แตด่ ว้ ยโครงการมอ่ นลา้ นโมเดล เปน็ โครงการ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าพิษณุโลก และ ราชมงคลลา้ นนา เชยี งใหม่ เปน็ จดุ เรมิ่ ตน้ ของ ทบ่ี รู ณาการกบั กลไกการสง่ เสรมิ อาชพี ซงึ่ เปน็ เจ้าหนา้ ที่ อยา่ งดยี ง่ิ ในการในค�ำแนะน�ำและฝึกสอน การพัฒนาดอยม่อนล้าน ด้วยวิทยาศาสตร์ กลไกที่น�ำเอาความรู้ลงสู่ชมชนลงถึงระดับ นกั ศกึ ษา ไดเ้ รยี นรวู้ ธิ กี ารทำ� ฝายชะลอนำ้� โดยใชว้ สั ดุ เทคโนโลยีและนวัตกรรม รากหญา้ ไดด้ ที ส่ี ุด จงึ ทำ� ให้โครงการมอ่ นลา้ น ที่หาได้จากธรรมชาติ เร่ิมจากการตีไม้และปักเสา โมเดลสามารถเดินทางไปสู่เป้าหมายได้ไม่ ไมไ้ ผร่ ะบตุ ำ� แหนง่ ทจี่ ะกนั้ นำ้�  จากนนั้ ใชก้ ระสอบทราย ไกลเกนิ เอ้อื ม วางเรียงเป็นฝาย และ น�ำหินมาวางเรียงตัวกันเป็น จากผลติ ภณั ฑบ์ า้ นๆ จากผลติ ภณั ฑ์ แนวฝาย จนสามารถกนั้ และชะลอนำ�้ ได ้  นอกจากน้ี บนดอยท่ีไม่มีใครให้ความสนใจ เป็นความ ได้ร่วมกันท�ำกิจกรรมสร้างแนวกันไฟในพ้ืนที่ป่า ท้าทายที่ท�ำให้พวกเราต้องเดินทางสู่ดอย เบญจพรรณ ( Mixed deciduous forest ) จ�ำนวน ม่อนล้านด้วยความหวังท่ีจะท�ำให้ผลิตภัณฑ์ กว่า 20 ไร่  เพือ่ เป็นการหยุดยง้ั ไฟปา่ ท้งั ที่เกดิ ข้ึน บนดอยเหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ที่ เองตามธรรมชาติและจากฝีมือมนุษย์ ทรงคุณค่าทางวัฒนธรรม จากความตั้งใจ ท�ำงานของคณะท�ำงาน ของนักศึกษาท�ำให้ 21วารสาร ผลติ ภณั ฑบ์ า้ นๆ จากผลติ ภณั ฑบ์ นดอยเดนิ ทาง สู่ตลาดศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) เป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ คร้ังแรกโดยใชช้ ่ือผลติ ภัณฑ์วา่ “ผ้ามอ่ นล้าน” นับเป็นผลการด�ำเนินงานที่ส�ำเร็จไปอีกข้ัน ของการเดนิ ทางท่ีตอ้ งใชค้ วามอุตสาหะ ความ พยายามในการสร้างสรรค์ นับเป็นจุดเร่ิมต้น ท่ีมีค่าส�ำหรับความเพียรพยายามของหลายๆ ฝ่ายทีม่ จี ุดหมายเดียวกนั ผศ.ไพโรจน์ วรพจนพ์ รชยั

: KM เน้ือหา และเรียบเรียง ดร.ไพรพันธ์ ธนเลิศโศภติ เมตริกกับวิธหี าประเด็น การท�ำการจดั การความรู้ในองค์กร การท�ำการจัดการความรู้ในองค์กร 2. จากนั้น ให้ก�ำหนดค่าคะแนนให้แต่ละประเด็น พร้อมการแปลความหมาย มีเคร่ืองมือเพื่อใช้ในการจัดการหลายประเภท โดยสามารถกำ� หนดเปน็ ตวั เลขตามระดบั คะแนนซง่ึ จะสามารถกำ� หนดคา่ ความละเอยี ดของคะแนน แต่ก่อนที่จะเลือกเคร่ืองมือต่าง ๆ เหล่าน้ัน ตามแตล่ ะองคก์ รจะเหน็ วา่ เหมาะสม ในตัวอย่างของบทความนีก้ ำ� หนดค่าคะแนน 3 ระดับดงั น้ี องค์กรจะต้องตัดสินประเด็นนการจัดท�ำการ จดั การความรู้ ดงั น้นั บทความฉบบั นี้ จงึ ขอนำ� สอดคล้องกับทิศทางและยทุ ธศาสตร์ คะแนน เสนอวิธีการในการเลือกประเด็นการท�ำการ จัดการความรู้อย่างง่ายและมีประสิทธิภาพ มากทส่ี ดุ 3 เรยี กไดว้ า่ เปน็ การหยบิ จบั วธิ กี ารทางสถติ อยา่ ง ง่ายมาใช้ในการตัดสนิ ก็วา่ ได้ ปานกลาง 2 วิธีการเร่ิมจากการระดมความ นอ้ ย 1 คิ ด เ ห็ น จ า ก ค น ใ น อ ง ค ์ ก ร ว ่ า ต ้ อ ง ก า ร ท่ี จะท�ำให้มีการจัดการความรู้เร่ืองอะไร ?? ปรบั ปรุงแลว้ เหน็ เปน็ รูปธรรมชัดเจน คะแนน เทคนิคนคี้ ือการท�ำ Brain Storming ทีเ่ ครือ่ ง เปล่ียนแปลงได้ทันทภี ายในหน่งึ วัน 3 มือการจัดการอย่างหนึ่งน่ันเอง โดยทั่วไปจะ 2 มีการจัดต้ังคณะกรรมการการจัดการความรู้ เปลย่ี นแปลงภายในสามเดอื น 1 ก่อน เมื่อคณะกรรมการได้เสนอประเด็นการ เปลย่ี นแปลงเกินกวา่ สามเดอื นข้นึ ไป จัดการความรแู้ ลว้ ต่อไปคือ ท�ำอย่างไรจึงจะ ตัดสินว่าประเด็นที่ควรท�ำการจัดการความรู้ คนสว่ นใหญใ่ นองค์กรต้องการ คะแนน คอื อะไรวิธกี ารมีดังนี้ มากทสี่ ดุ 3 1. เกณฑ์การตัดสินเลือกขอบเขต ปานกลาง 2 การทำ� การจดั การความรู้ ตอ้ งพิจารณาดงั น้ี นอ้ ย 1 a. ประเดน็ การจัดท�ำการจัดการ ความรู้น้ันต้องสอดคล้องกับทิศทางและยุทธ เปน็ ความรู้ท่ีตอ้ งจัดการอยา่ งเร่งดว่ น คะแนน ศาสตรข์ ององคก์ ร ต้องทำ� ทันทีภายใน 1-3 วัน 3 b. เมอื่ นำ� ไปทำ� การจดั การความ ร้แู ลว้ จะเห็นเป็นรูปธรรมที่ชดั เจน c. ประเดน็ ดังกลา่ วต้องเป็นส่ิง ทีค่ นสว่ นใหญ่ในองคก์ รต้องการท�ำ d. ประเด็นดังกลา่ วเปน็ ความรู้ ที่ตอ้ งการจดั การอย่างเร่งดว่ น ตอ้ งจัดการทำ� ให้เสร็จภายใน 1- 2 สัปดาห์ 2 ท�ำให้ภายใน 1 – 2 เดอื น 1 22 วารสาร

จากตารางท้ังสี่ตารางข้างต้น รอบรัว้ เม่ือมีการก�ำหนดค่าคะแนนให้การเลือก ขอบเขตการท�ำการจัดการความรู้แล้ว ให้ใช้ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตารางดงั กลา่ ว คดั เลอื กประเดน็ ในการจดั การ ความรู้ แล้วให้คณะกรรมการการจัดการ บคุ ลากรมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา เปน็ วทิ ยากรฝกึ อบรมใหค้ วามรู้ ความรู้ท�ำการลงคะแนนในแต่ละประเด็นท่ี ภายใต้โครงการพฒั นาศกั ยภาพผู้มีสทิ ธ์ิเลือกตงั้ รนุ่ ใหม่ คัดเลือกมา ทั้งน้ีแต่ละองค์กร สามารถปรับ วันท่ี 14 ธันวาคม 2560 อาจารย์ยุรธร จีนา อาจารย์ประจ�ำ ตารางเมตริกข้างต้น จะก�ำหนดเพ่ิมอีกหัวข้อ คณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ พร้อมด้วยคุณรมิตา จีนา ทีมวิทยากรผู้ เชน่ เรอื่ งการใชง้ บประมาณการทำ� จดั การความ ช่วยจากคณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ และคุณทิน อ่อนนวล บุคลากร ร้เู พมิ่ ข้นึ ก็ได้ จากสถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ล้านนา ได้รับเชิญมาเป็นวิทยากรให้ความรู้เร่ืองกระบวนการเลือกต้ังตาม ทงั้ นเ้ี มอื่ แตล่ ะคนทำ� การลงคะแนนแลว้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ในกิจกรรมการฝึกอบรม ให้น�ำคะแนนของกรรมการแต่ละคนใส่มา โครงการพัฒนาศักยภาพผู้มีสิทธ์ิเลือกตั้งรุ่นใหม่ ปีงบประมาณ 2561 รวมกันแล้วด�ำเนินการค�ำนวนคะแนนที่ได้ ณ โรงเรียนส่วนบุญโญปถัมภ์ จังหวัดล�ำพูน จัดโดย ศูนย์พัฒนาการเมือง อาจเป็นการรวมคะแนนแล้วนับคะแนนของ ภาคพลเมืองสถาบันพระปกเกล้า จังหวัดล�ำพูน ร่วมกับกรรมการผู้ทรง ประเด็นการท�ำการจัดการความรู้ท่ีมีค่า คุณวุฒิ สภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เป็นกิจกรรมเสริม คะแนนรวมท้ังส่ีส่วนสูงท่ีสุด ล�ำดับที่ 1-3 สร้างส�ำนึกพลเมืองในการแก้ไขปัญหาชุมชนด้วยนวัตกรรมภูมิปัญญา มาเป็นประเด็นการจัดการความรู้ ท้ังนี้การ ท้องถ่ิน ภายใต้โครงการขับเคลื่อนการเสริมสร้างส�ำนึกพลเมืองในระบอบ ใช้ตารางเมตริกในการตัดสินประเด็นการ ประชาธิปไตยจังหวัดล�ำพูน โดยมีวัถุประสงค์ให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม จัดการความรู้เป็นวิธีการเริ่มต้นของการ มีความรู้ และทักษะในการแก้ไขปัญหาชุมชนโดยใช้นวัตกรรมภูมิปัญหาท้องถ่ินที่ จัดการความรู้ เป็นวิธีการในเชิงปริมาณ เหมาะสมกบั สถานการณใ์ นปัจจุบนั (Quantitative method) แต่ในบางครั้ง ประเด็นที่ได้คะแนนสูงท่ีสุดอาจไม่ใช่ประเด็น นักศึกษาชมรมซอมพออาสา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ท่ีน�ำมาท�ำการจัดการความรู้ แต่จะมีการน�ำ ล�ำปาง จดั กจิ กรรมคา่ ยซอมพออาสา ปี 2  ณ โรงเรยี นบา้ นทุ่งผึ้ง ประเด็นรองท่ีมีคะแนนล�ำดับต่อมาในการ ระหว่างวันท่ี 19-21 มกราคม 2561 นักศึกษาชมรมซอมพออาสา ท�ำการจัดการความรู้ ซ่ึงเป็นการใช้วิธีการ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ลำ� ปาง จดั กจิ กรรมคา่ ยซอมพออาสา ปี 2 อภปิ รายรว่ มกนั ในกลุ่ม (Group Discussion) ณ โรงเรยี นบา้ นทงุ่ ผง้ึ ตำ� บลทงุ่ ผง้ึ อำ� เภอแจห้ ม่ จงั หวดั ลำ� ปาง โดยมสี มาชกิ ชมรม เปน็ การตดั สนิ ประเดน็ ในการจดั การความรใู้ น เข้ารว่ มจ�ำนวน 27 คน นกั ศึกษาจติ อาสาจ�ำนวน 5 คน องคก์ รตอ่ จากวธิ กี ารเมตรกิ ก็ได้ ซงึ่ ในฉบบั ตอ่           ส�ำหรับการจดั คา่ ยอาสาดังกลา่ วมีวัตถปุ ระสงคเ์ พอ่ื บริการวชิ าการแก่ ไป ผเู้ ขยี นจะนำ� เสนอเครอ่ื งมอื ในการจดั ความ ชมุ ชนและเพอื่ สง่ เสรมิ ใหน้ กั ศกึ ษาไดท้ ำ� กจิ กรรมสาธารณประโยชน์ รจู้ กั ารวางแผน รู้ภายในองค์กรในลักษณะต่าง ๆ แล้วพบกัน และการทำ� งานรว่ มกนั โดยดำ� เนนิ กจิ กรรมทาสรี วั้ โรงเรยี น การทาสแี ละวาดภาพ ฉบับหนา้ ค่ะ ประกอบโรงอาหาร การปรับปรุงโรงเห็ดและปลูกผักเพ่ืออาหารกลางวัน  และ มอบเงนิ สนบั สรปุ และอปุ กรณก์ ฬี าแกโ่ รงเรยี น ทงั้ นม้ี อี าจารยค์ นงึ นชุ สารอนิ จกั ร์  อาจารยส์ ขุ มุ าล  ตวั้ สกลุ และอาจารยน์ ครนิ ทร์  เจรญิ สขุ เปน็ อาจารยท์ ปี่ รกึ ษา ดร.ไพรพันธ์ ธนเลิศโศภิต และควบคมุ นกั ศกึ ษาในการดำ� เนินกิจกรรม มือถอื 0818836690 23วารสาร อเี มล [email protected]

: ซะป๊ะ สเปซ รู้ทนั โลกออเนนนาือ้ยไหนลารศิ นแล์กะตเำ�รแยี พอบงเนแรกยี ้วง ตกปลาล่อเหยอ่ื บนโลกออนไลน์ ท่ามกลางโลกในยุคปัจจุบันที่การสื่อสารได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต จากโลกาภิวัฒน์สู่โลกออนไลน์ เราคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าโลกออนไลน์หรือสังคมออนไลน์นั้น ไดค้ บื คลานเขา้ มามบี ทบาทในชวี ติ ประจำ� วนั ของเรามากขน้ึ เทคโนโลยตี า่ งๆ ไดถ้ กู สรา้ งและพฒั นาขนึ้ สำ� หรบั ชว่ ย ผคู้ นอยา่ งมากมาย เกดิ ชอ่ งทางการสอ่ื สารใหมๆ่ ทำ� ใหว้ ถิ ชี วี ติ ของผคู้ นถกู ปรบั เปลยี่ นอยา่ งสนิ้ เชงิ ทงั้ การเขา้ ถงึ ข้อมลู การใหบ้ ริการและรบั บริการ ทเี่ ข้าถึงไดง้ ่าย การคา้ ขายบนโลกออนไลน์ เปน็ ไปอยา่ งเสรี ไรพ้ รมแดน อีกทั้งการท�ำธุรกรรมใดๆ น้ัน สามารถทำ� ได้อย่างงา่ ยดาย สะดวก รวดเร็ว ยง่ิ กว่าพลิกฝา่ มือ ซ่งึ สามารถตอบ สนองความต้องการของผู้คนในโลกยุคปัจจุบัน ที่นับวันต้องด�ำเนินชีวิตบนความเร่งรีบและต้องบริหารเวลาให้ เกดิ ความคุ้มคา่ ที่สดุ จากทก่ี ลา่ วมา คงจะดีไมน่ อ้ ย หากการเตบิ โตของเทคโนโลยีใน โลกออนไลน์จะช่วยสร้างคุณประโยชน์ต่อผู้คนในทางที่ดีเพียงด้านเดียว แตห่ ากในความเปน็ จรงิ แลว้ คณุ ประโยชนจ์ ากการเตบิ โตของเทคโนโลยี เหล่านี้ ยังแฝงมาซ่ึงความเสี่ยงและความไม่ปลอดภัยมากด้วยเช่นกัน ผู้ไม่หวังดีหรือท่ีเราเรียกกันว่า “มิจฉาชีพ” มักจะฉกฉวยโอกาสจาก ความงา่ ย ความสะดวกสบาย และความรวดเรว็ ท่ีได้จากเทคโนโลยที มี่ ี ต่อผคู้ นเหล่านี้ มาใชใ้ นการหลอกลวง “เหยือ่ ” ท่ีไม่รเู้ ทา่ ทัน ดว้ ยเหตุนี้ ปัจจุบันเราจึงได้เห็นเรื่องราวการหลอกลวงมากมายบนหน้าข่าวของสื่อ ไมเ่ วน้ แต่ละวัน และนับวนั จะยงิ่ ทวีคูณเพม่ิ ขน้ึ เร่ือยๆ ดงั นั้นการรเู้ ท่าทัน ผู้ไม่หวังดี ในโลกออนไลน์น้ัน จึงเป็นส่ิงจ�ำเป็นที่เราจะต้องศึกษาและ เรียนรูใ้ ห้มากขึน้ เพอื่ ให้ทันต่อเทคโนโลยีที่เปลีย่ นแปลงไปอยา่ งรวดเร็ว 24 วารสาร

ปจั จบุ นั บนหนา้ ขา่ วสารของโลกออนไลน์ เราคงเคยไดย้ นิ คำ� วา่ “ฟิชช่ิง” ผา่ นหู ผา่ นตา มาบ้าง ไม่มากก็นอ้ ย ซ่ึงคำ� ว่า “ฟิชช่งิ ” ใน ทนี่ จ้ี ะไมไ่ ดถ้ กู ตคี วามหมายถงึ การตกปลาอยา่ งทเี่ ราๆ เขา้ ใจ เพยี งอยา่ ง เดียว หากแต่ในนยิ ามศัพทข์ องไอที นน้ั ค�ำวา่ “ฟิชชิ่ง” ซ่งึ เขยี นไดเ้ ปน็ “Phishing” จะเปน็ ค�ำทีพ่ อ้ งเสยี งที่มาจากคำ� วา่ “Fishing” ก็คอื การตก ปลาโดยการใช้เหย่ือล่อ นั้นเอง ซึ่งเมื่อถูกน�ำมาเปรียบเทียบกับค�ำว่า “Phishing” ในนยิ ามศพั ทข์ องไอทแี ลว้ นนั้ …. Phishing จงึ หมายถงึ การใช้ กลวิธีท่ีผู้ไม่หวังดี ใช้ส�ำหรับหลอกลวงบนโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งรูปแบบ ของการหลอกลวงเหลา่ นี้ มักจะอยู่ในรปู แบบของการปลอมอเี มล หรอื การปลอมเว็บไซต์ เพื่อให้เหยื่อหลงเช่ือว่าเป็นของจริง ซ่ึงเสมือนการ ใช้เหย่ือล่อส�ำหรับการตกปลา น้ันเอง โดยลักษณะการหลอกลวงน้ัน จะมีขอ้ สังเกตดังนี้ การปลอมเวบ็ ไซต์ - ลกั ษณะของการหลอกลวงมกั จะอยู่ในรปู แบบของการปลอมแปลงชอ่ื และรปู แบบเวบ็ ไซต์ ใหเ้ หมอื นดเู วบ็ ไซตข์ องจรงิ อาทิการปลอมแปลงเว็บไซต์ของธนาคาร เป็นต้น เพื่อมุ่งหวังในการลวงให้เหย่ือเกิดการกรอกข้อมูล รหัสประจ�ำตัว และรหัสความปลอดภัยใดๆ เขา้ สู่เว็บไซต์ปลอม ซงึ่ หลังจากนนั้ ผูไ้ ม่หวงั ดีก็จะสามารถเข้าถึงการท�ำธุรกรรมตา่ งๆ ได้ การปลอมอเี มล - ผไู้ มห่ วงั ดมี กั จะทำ� การหลอกลวง โดยการปลอมชอ่ื อเี มล ใหด้ เู หมอื นวา่ เปน็ หนว่ ยงานราชการ หรอื หนว่ ยงานทน่ี า่ เชอ่ื ถอื เพอ่ื หลอกเหยอื่ ใหท้ ำ� การสง่ ขอ้ มลู สว่ นตวั หรอื ขอ้ มลู ลบั กลบั ไปยงั ผไู้ มห่ วงั ดี หรอื อาจจะอยู่ในรปู แบบของการหลอกลวงเหยอ่ื ใหค้ ลกิ ไปยงั หนา้ เวบ็ ไซต์ ปลอมก็เป็นได้ การปลอมอีเมล การปลอมเวบ็ ไซต์ ภาพจาก : www.bangkokbiznews.com 25วารสาร

ดงั นั้นข้อแนะน�ำและข้อควรปฏิบัติ เพอ่ื ปอ้ งกนั การถกู ผู้ไมห่ วังดหี ลอกลวง นั้น มดี งั นี้ 1. ไมค่ วรคลกิ ลงิ คท์ แี่ นบมาในอเี มลของคนแปลกหนา้ ทเ่ี ราไมร่ จู้ กั หากตอ้ งการเขา้ เวบ็ ไซตจ์ รงิ เราควรทำ� การพมิ พช์ อ่ื เวบ็ ไซต์ ใน URL ดว้ ยตนเอง 2. ควรระมดั ระวงั อเี มลทท่ี ำ� การขอใหส้ ง่ ขอ้ มลู สว่ นตวั หรอื อเี มลทม่ี กั มากบั ลงิ คท์ นี่ า่ สงสยั ซง่ึ โดยสว่ นมากจะเปน็ หวั ขอ้ จดหมาย แบบแปลกๆ โดยไมบ่ อกรายะเอยี ด 3. การสังเกต ใน URLของเว็บไซต์ของธนาคารหรือเว็บไซต์ที่ต้องการความปลอดภัยในด้านการท�ำธุรกรรมปกติ เว็บไซต์น้ันๆ จะถูกเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัยและป้องกันการถูกการโจมตีทางเครือข่าย ดังน้ันผู้ใช้พึงสังเกตว่า เว็บไซต์นั้นเป็น การสื่อสารข้อมูลท่ีได้ถูกการเข้ารหัสเอาไว้ โดยให้ผู้ใช้ท�ำการสังเกตในช่อง ที่อยู่เว็บไซต์ (URL) ทจ่ี ะตอ้ งมกี ารเขา้ รหสั “HTTPS”* กอ่ นการกรอกขอ้ มลู สว่ นตวั ทสี่ ำ� คญั แตท่ ง้ั น้ี ผใู้ ชก้ ค็ วรตรวจสอบชอ่ื ทอี่ ยเู่ วบ็ ไซตใ์ หถ้ กู ตอ้ ง เพราะบางคร้งั หน้าเวบ็ ไซตป์ ลอมก็มกี ารเปิดใชง้ าน HTTPS ด้วยเชน่ กนั 4. การอัพเดตโปรแกรมแอนตี้ไวรัส แอนต้ีสแปม หรือไฟร์วอลล์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราสามารถช่วยป้องกันการเข้าถึง ของผ้ไู มห่ วังดีได้ระดับหนงึ่ *(Hypertext Transfer Protocol over Secure Socket Layer คือโพรโทคอลส่ือสารส�ำหรับการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารผ่านอินเทอร์เน็ต ซ่งึ มรี ะบบรักษาความปลอดภัยของข้อมลู ) ดว้ ยการหลอกลวงในรปู แบบ Phishing มมี ากขนึ้ ในปจั จบุ นั นนั้ รฐั จงึ ไดเ้ ขา้ มามบี ทบาทในการสรา้ งมาตรการและกฏหมาย เพอื่ ปอ้ งปรามผไู้ มห่ วงั ดี ในการหลอกเอาขอ้ มลู บนอนิ เทอรเ์ นต็ (Phishing) โดยไดเ้ ขยี นไวใ้ น พรบ.คอมพวิ เตอร์ พ.ศ.2560 ซง่ึ จดั อยู่ใน มาตรา 14(1) ซึง่ ไดเ้ ขยี นไวว้ า่ ผูใ้ ดกระท�ำความผิด “โดยทจุ ริต หรือโดยหลอกลวง นําเขา้ สรู่ ะบบคอมพิวเตอร์ซ่ึงข้อมลู คอมพวิ เตอรท์ บ่ี ดิ เบอื น หรอื ปลอมไมว่ า่ ทง้ั หมดหรอื บางสว่ น หรอื ขอ้ มลู คอมพวิ เตอรอ์ นั เปน็ เทจ็ โดยประการทนี่ า่ จะเกดิ ความเสยี หาย แก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหม่ินประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา” มีโทษจ�ำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรบั ไม่เกิน 100,000 บาท หรอื ท้ังจำ� ทั้งปรบั ” พระราชบัญญตั ิ วา่ ดว้ ยการกระท�ำความผดิ เก่ียวกบั คอมพิวเตอร์ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ.๒๕๖๐ ฐานความผิด โทษจำ� คกุ โทษปรบั มาตรา 14 การใช้ระบบคอมพวิ เตอร์ ไมเ่ กิน 5 ปี ไม่เกิน 100,000 บาท ท�ำความผดิ อืน่ (การเผยแพร่ เนอ้ื หาอันไม่เหมาะสม) ถงึ แมว้ า่ Phishing จะเปน็ ภยั คกุ คามทสี่ รา้ งความเสยี หายอยา่ งมาก แตถ่ า้ เรามคี วามรทู้ นั ระมดั ระวงั และตระหนกั ถงึ การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ที่ถกู ตอ้ ง รวมถงึ ปฏบิ ตั ิตามคำ� แนะน�ำ แล้วนน้ั ย่อมทำ� ใหเ้ ราไมต่ กเปน็ ปลาท่ีถกู ตกไดโ้ ดยเหย่อื ปลอมของผไู้ มห่ วังดีอกี ตอ่ ไป คอลัมนโ์ ดย : นรศิ ก�ำแพงแก้ว นวก.คอมพิวเตอร์ 26 วารสาร

27วารสาร

: คู่คิด มิตรชมุ ชน ส�ำหรับทา่ นที่มีค�ำถาม ข้อสงสยั สามารถส่งคำ� ถามมายงั : โครงการคคู่ ิด มิตรชมุ ชน สถาบนั ถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ชู่ มุ ชน มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา 98 หมู่ 8 ต.ป่าป้อง อ.ดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ 50220 โทร.053 - 266516-8 E-mail : [email protected] 28 วารสาร

ค�ำถามจากเกษตรกร : การปลกู พืชอินทรยี ์ ประสบปัญหาเรื่องโรคโคนเน่า และผลผลติ ท้ังปรมิ าณและคุณภาพต�่ำต้องท�ำอย่างไร ? ตอบค�ำถาม : ท่ีได้จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (เปลือก การน�ำไปใช้ ขา้ วโพด) ทผ่ี า่ นกระบวนการหมกั เรยี บรอ้ ยแลว้ 1.ผสมกับวสั ดุปลกู สำ� หรับเพาะเมล็ด ดนิ : ปยุ๋ เกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กับเช้ือราไตรโคเดอร์มาที่สามารถช่วยป้องกัน อนิ ทรยี ์เช้ือสด อัตราส่วน 1:4 โดยประมาณ เกษตรอินทรีย์ต�ำบลบัวใหญ่ อ�ำเภอนาน้อย การเกิดโรคโคนเน่าได้ เช่น โรคเน่าคอดิน 2.ใส่หลมุ ปลกู 10-20 กรมั /หลมุ จังหวดั นา่ น ขอรบั บรกิ ารค�ำปรกึ ษาจ�ำนวน 22 ของต้นกล้าพืชผักและไม้ดอก โรคราก-โคน 3.หวา่ นในแปลง 50-100 กรัม/ตารางเมตร คน ในวันท่ี 4 กมุ ภาพันธ์ุ 2561 คณะทีมงาน เนา่ ของสม้ ทเุ รยี น พรกิ และมะเขอื โรคเนา่ ดำ� 4.โรยบริเวณโคนต้นพชื 10-20 กรมั /ต้น คลนิ กิ เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช โรคเหี่ยวจากราฟิวซาเรียม วิธีการเพ่ิมเช้ือรา มงคลล้านนา นา่ น น�ำโดยผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ไตรโคเดอรม์ า ติดตอ่ สอบถาม มลิวรรณ์ กิจชัยเจริญ ผู้จัดการคลินิก การใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาท่ีเจริญ ผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร.ปราโมทย์ ทมิ ข�ำ เทคโนโลยี ผู้ช่วยศาสตราจารย์เผดิมศิลป์ เป็นสีเขียวเข้มบนข้าวสุก ปฏิบัติได้โดยใช้ อาจารย์แผนกงานการจัดการดินและปุ๋ย รามศริ ิ อาจารยแ์ ผนกงานกฏี วทิ ยาและโรคพชื เชื้อราสด : รำ� ข้าวละเอียด : ปุย๋ อนิ ทรยี (์ ปยุ๋ คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยกี ารเกษตร และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปราโมทย์ ทิมขำ� คอก/ปยุ๋ คอกเก่า) ในอตั ราส่วน 1 : 4: 100 มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา น่าน อาจารย์แผนกงานการจัดการดนิ และปุ๋ย คณะ กิโลกรัม โดยผสมเช้ือสดกับร�ำข้าวละเอียด โทร 089-645-8516 วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารเกษตร ลงพน้ื ท่ี ให้เข้ากันก่อน จากนั้น ผสมวัสดุเข้าด้วยกัน เปน็ วทิ ยากรถา่ ยทอดความรเู้ รอื่ งการใชเ้ ชอ้ื รา อาจพรมน้�ำให้พอช้ืน ปุ๋ยท่ีได้นอกจากจะมี ไตรโคเดอร์มาเพ่ือป้องกันโรคโคนเน่าและ จลุ นิ ทรยี ท์ ย่ี อ่ ยอนิ ทรวี ตั ถใุ หเ้ ปน็ อาหารของพชื การเพ่ิมคุณภาพปุ๋ยหมัก โดยบรรยายและ แลว้ ยงั จะไดเ้ ชอื้ ราทส่ี ามารถปอ้ งกนั และกำ� จดั ฝึกปฏิบัติการเพาะเล้ียงเชื้อราเช้ือราไตรโค โรคพชื ผักท่ีเกิดกบั ระบบรากพชื ไดอ้ กี ดว้ ย เดอรม์ า บนขา้ วจา้ วหงุ สกุ จากนน้ั บรรยายเรอ่ื ง ดินและการปรับปรุงคุณภาพดินในการปลูก พืชแบบเกษตรอินทรีย์ ฝกึ ปฏบิ ตั ผิ สมปุ๋ยหมกั 29วารสาร

ค�ำถามจากเกษตรกร : ผลติ เชือ้ ไตรโคเดอรอ์ ยา่ งไร ? ตอบค�ำถาม : 2. เม่อื ขา้ วสกุ ใชท้ ัพพซี ยุ ขา้ วในหม้อให้ท่วั วิธีการใช้เช้ือราไตรโคเดอร์มาสดสามารถ 3. ตักข้าวในขณะที่ข้าวยังร้อน ใส่ในถุง ทำ� ได้ 3 วธิ ี คือ ชว่ ยศาสตราจารยเ์ ผดมิ ศลิ ป์ รามศริ ิ 1.ใช้เช้ือราไตรโคเดอร์มาสดผสม อาจารย์แผนกงานกีฏวิทยาและโรคพืชเป็น พลาสตกิ ถุงละ 250 กรมั ร�ำละเอียดและปยุ๋ อนิ ทรยี ์ อัตราส่วน 1:4:100 วิทยากรในการถ่ายทอดองค์ความรู้เชิงปฏิบัติ 4. เกลีย่ ข้าวให้กระจายออก รีดอากาศออก โดยน้�ำหนัก น�ำไปรองก้นหลุมปลูก ผสมดิน การผลติ เชื้อไตรโคเดอร์มา ปลูกหรือโรยรอบโคนต้นใต้ทรงพุ่มพืช ควร จากถงุ พบั ปากถงุ ลงดา้ นลา่ ง ปลอ่ ยทง้ิ ไว้ รดนำ้� ใหด้ นิ มีความชน้ื การผลิตเช้ือราไตรโคเดอร์มาชนิดสด ให้ข้าวอนุ่ (เกอื บเย็น) 2. น�ำเชื้อราไตรโคเดอร์มาสด วสั ดุและอุปกรณ์ 5. เทหัวเช้ือราไตรโคเดอร์มาใส่ลงบนข้าว 1 กิโลกรมั ละลายน้ำ� กรองเอาขา้ วออก ผสม 1. หมอ้ หุงข้าวไฟฟา้ และทพั พีตกั ข้าว ในถุง นำ�้ 20 ลติ ร ฉดี พน่ ดนิ รอบโคนตน้ พชื หรอื ราด 2. ถุงพลาสติกใสทนร้อน ขนาด 8 x 12 น้ิว 6. รวบปากถุงให้มีอากาศอยู่ในถุง รัดยาง โคนต้นและดนิ ปลูก ตรงปลายปากถงุ ใหแ้ นน่ 3.น�ำเชื้อราโตรโคเดอร์มาสดคลุก ยางวง เข็มหมุด 7. เขย่าข้าวในถุงเบา ๆ เพือ่ ให้เชือ้ กระจาย เมลด็ ก่อนปลกู หรอื หว่าน 3. ปลายข้าวหรือข้าวสารหรือข้าวเปลือก อยา่ งทั่วถงึ 8. ใช้เข็มหมุดจุ่มแอลกฮอล์ฆ่าเชื้อแทง ตดิ ตอ่ สอบถาม หรอื เมลด็ ขา้ วฟา่ ง หรอื ขา้ วโพด (ขา้ วโพด ตรงรอบ ๆ บริเวณปากถุงท่ีรัดยางไว้ ผชู้ ่วยศาสตราจารยเ์ ผดิมศิลป์ รามศิริ และขา้ วฟ่างแช่น�ำ้ 1 คนื บรรจุถุงนึ่งนาน 20 ร/ู ถุง อาจารยแ์ ผนกงานกฏี วทิ ยาและโรคพชื 2 ชวั่ โมง) 9. กระจายข้าวให้ท่ัวถุงในลักษณะแบนราบ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยกี ารเกษตร 4. หัวเช้ือราไตรโคเดอร์มาบริสุทธิ์ชนิด มากท่ีสุด วางถุงข้าวไว้ท่ีได้รับแสงสว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา น่าน ผงแหง้ ได้แต่อยา่ ให้ถกู แสงแดด โทร 098-7480602 10. บม่ ครบ 3 วนั จะเหน็ เส้นใยสีขาวขน้ึ มา วธิ ปี ฏิบัตกิ ารเพาะเช้ือราบนขา้ ว เขย่าข้าวในถุงเบา ๆ ให้เส้นใยกระจาย 1. หุงข้าวโดยไม่ให้ข้าวแฉะ (ข้าวสารให้ใส่ ตัว บ่มเชื้อต่ออีก 4-5 วัน จะเห็นเช้ือ สีเขียวปกคลุมเมล็ดข้าวจึงน�ำไปใช้ได้ น�้ำระดับเดียวกับข้าว ข้าวเปลือกใส่น้�ำ ทันที ระดับครึง่ หน่ึงของขา้ ว) 30 วารสาร

ค�ำถามจากเกษตรกร ค�ำถามจากเกษตรกร : พรกิ มีลักษณะใบหงกิ : ผลของพรกิ ท่ีมี ขอบใบมว้ นชข้ี ึน้ ลกั ษณะเน่าบุ๋ม เกิดจากอะไรและแก้ไข เกิดจากอะไร? ปัญหาอย่างไร ? ผู้ช่วยศาสตราจารย์เผดิมศิลป์ จากการลงพน้ื ที่ ลกั ษณะทพ่ี บของพรกิ มอี าการ รามศริ ิ อาจารยแ์ ผนกงานกฏี วทิ ยาและโรคพชื ผลพรกิ เนา่ บ๋มุ และมีวงสีด�ำซอ้ นกนั อยบู่ นแผล เปน็ วทิ ยากรลงสำ� รวจแปลงเกษตรกรวสิ าหกจิ ชมุ ชนเกษตรอนิ ทรยี ท์ ปี่ ลกู พรกิ เพอื่ ใหค้ ำ� แนะนำ� สาเหตุเกิดจาก โรคแอนแทรคโนสหรือโรค จากการลงพน้ื ทพ่ี บลกั ษณะของพรกิ ทมี่ อี าการ กงุ้ แห้งเกดิ จากเช้ือรา ยอดหงกิ ขอบใบมว้ นช้ีข้ึน วิธแี ก้ไขและปอ้ งกัน สาเหตุเกดิ จาก ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาหรือเช้ือ เพล้ยี ไฟ เข้าทำ� ลายยอดออ่ นของพริก แบคทีเรีย บีเอส (Bacillus subtilis) ฉีดพ่น ชว่ งเยน็ ตดิ ตอ่ กัน 3 ครงั้ ห่างกันครงั้ ละ 3 วนั วิธีการแก้ไขและปอ้ งกนั ใชส้ ารสกดั จากพชื ฉดี พน่ โดยใชใ้ บสาบเสอื สด ติดตอ่ สอบถาม จำ� นวน 1 กิโลกรมั ต้มในน�ำ้ 5 ลติ ร น�ำน�้ำที่ได้ ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์เผดมิ ศิลป์ รามศริ ิ ฉีดพน่ ช่วงเย็น วันเวน้ วนั จำ� นวน 3 คร้ัง อาจารยแ์ ผนกงานกีฏวทิ ยาและโรคพชื คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา นา่ น โทร 098-7480602 31วารสาร

ในวนั ท่ี 3 กุมภาพันธุ์ 2561 ได้รับ การร้องขอรับบริการค�ำปรึกษาจากเกษตรกร กลุ่มเลี้ยงโคขุนเพชรทองค�ำ อ�ำเภอเวียงสา จังหวดั นา่ นเร่อื งการเตรียมโคก่อนเขา้ ขนุ โดย คณะท�ำงานคลินิกเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา น่าน พร้อมด้วย อาจารยก์ ฤษณธร สนิ ตะละ อาจารยส์ าขาวชิ า สตั วศาสตร์ และนกั ศกึ ษาสาขาวชิ าสตั วศาสตร์ เป็นวทิ ยากรใหค้ ำ� แนะนำ� ค�ำถามจาก เกษตรกร : ต้องเตรยี มววั อยา่ งไร กอ่ นเข้าขนุ ? การเตรียมโคก่อนเขา้ ขนุ 1. ท�ำการตอนโคตัวผู้ เพ่ือให้การขุนมี ประสิทธิภาพและเร่งการเจริญเติบโต วิธีการตอน ใช้การตอนแบบหนีบ โดยใช้เคร่ืองมือคีมตอนโค หรือเบอร์ ดิสโซ่ (Burdizzo)หนีบท่อน�ำน�้ำเชื้อให้ ขาดออก ท�ำให้โคเป็นหมันและไม่สนใจ ในเรอ่ื งของการผสมพนั ธท์ุ ำ� ใหโ้ คกนิ มาก ขน้ึ สง่ ผลถึงการเจรญิ เติบโตท่ดี ขี นึ้ 2. ถ่ายพยาธใิ หก้ ับโคท่ีจะท�ำการขุน 3. ทำ� วคั ซนี โรคปากและเทา้ เปอ่ื ย เพอ่ื ความ ปลอดภัยกับผบู้ ริโภคเน้อื โคขนุ ตดิ ต่อสอบถาม อาจารยก์ ฤษณธร สนิ ตะละ อาจารย์สาขาวิชาสัตวศาสตร์ คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา นา่ น โทร 093-154-1044 32 วารสาร

ของมันต้องแชร์ 19 – 21 Jan 18 18 Jan 2018 ร่วมด้วยช่วยกัน!!! กิจกรรมค่ายชอมพอ ฉลองครบรอบสถาปนามหาวิทยาลัย อาสา ล�ำปาง ด�ำเนินกิจกรรมทาสีรั้ว ปีท่ี13 พร้อมเปิดโครงการเกษตร โรงเรียน ทาสีและวาดภาพประกอบโรง อุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกภาค อาหาร ปรับปรุงโรงเห็ดและปลูกผักเพื่อ เหนือและโรงเรียนเกษตรกร รุ่นท่ี 1 อาหารกลางวนั นอ้ งๆ ณ โรงเรยี นบา้ นทงุ่ ผงึ้ #FarmerUniversity 24 Jan 2018 24 -26 Jan 2018 ก า ร จั ด ก า ร น้� ำ อั น ช า ญ ฉ ล า ด 2 สาขาวศิ วกรรม รว่ มสรา้ งศนู ยเ์ รยี น “เทคโนโลยชี ลประทานนำ้� หยด” เพ่อื รู้ด้านการเกษตรและอาชพี ณ บา้ น รบั มอื ภยั แลง้ รว่ มถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ แมข่ ี้มกู นอ้ ย อ.แม่แจม่ จ.เชยี งใหม่ โดย รศ.ดร.ปัญจรัตน์ โจลานนั ท์ ณ เทศบาลต�ำบลออนใต้ 27-28 Jan 2018 ค่ายอาสาสานฝันการเกษตรเพื่อน้อง โดย นศ.ชมรมพฒั นาการเกษตร รว่ มกนั สร้างโรงเรือนเพาะเห็ดเพ่ืออาหาร กลางวัด บอร์ดส่ือการเรียนส่งเสริม การอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม กิจกรรม นันทนาการแก่นักเรียน ณ โรงเรียน บา้ นสามขา อ.แมท่ ะ จ.ลำ� ปาง 31 Jan 2018 12 – 13 Jan 2018 เย่ยี มไปเลย นศ.คณะบรหิ ารธรุ กจิ ควา้ มทร.ลา้ นนา เชียงราย ร่วมกับ บจก.สงิ ห์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รายการ คอร์เปอเรชั่น จัดท�ำและมอบเคร่ืองเล่น การประกวดแนวปฏบิ ตั ทิ ดี่ ขี องนกั ศกึ ษา และสนามเด็กเล่นให้กับโรงเรียนบ้าน (The Best Parctice) ในงานสัมนา หนองเสา อ�ำเภอพญาเม็งราย จังหวัด วิชาการและแข่งขันทักษะทางวิชาการ เชียงราย พร้อมท้ังจัดกิจกรรมวันเด็ก ด้านบริหารธรุ กิจ 9 มทร. คร้งั ที่ 6 ด้วย ด.ี๊ ..ดี 33วารสาร

ของมันต้องโชว์ เนื้อหา และเรียบเรยี ง ภาพวาดสีน�้ำ น.ส.รัตนาภรณ์ สารภี นายสงิ หล วิชายะ ท่ีมา : ผลผลติ งานวัจยั สู่การใช้ประโยชน์ 2559 สถาบันวจิ ัยและพฒั นา มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา แอนดรอยดแ์ อพลิเคช่นั เชยี งใหมไ่ หว้พระ ดอกชมจนั ทร์ อาหารฟงั ก์ชนั เครอื่ งอบแหง้ ลมรอ้ นสำ� หรบั กลว้ ยนำ้� วา้ โดยใช้ 9 วัด [p.118-119] โดย นอิ ร โฉมศรี รงุ่ นภา ชา่ งเจรจา แหลง่ จา่ ยความรอ้ นจากเตาเผาถา่ น 200 ลติ ร โดย ประทีป พืชทองหลาง คณะ สนั ติ ชา่ งเจรจา สพุ จน์ วัฒนาสกุลลี ณัฐวฒุ ิ [p.134-135] บริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัย ค�ำป๊อก เบญจวรรณ ปาพันธ์ สถาบันวิจัย โดย ไพโรจน์ จันทร์แก้ว คณะ เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา เชียงใหม่ เทคโนโลยเี กษตร มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าช วิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าช มงคลลา้ นนา เขตพนื้ ท่ีล�ำปาง มงคลลา้ นนา เขตพืน้ ท่ตี าก แอนดรอยด์แอพลิเคชั่นเส้นทาง ทอ่ งเทย่ี วเชงิ พทุ ธศาสนาในลา้ นนาบนโทรศพั ท์ ผลิตภัณฑ์เครื่องด่ืมน�้ำผลไม้น�้ำ เคร่ืองอบแห้งเป็นห้องอบแห้ง มอื ถือ ของระบบปฏบิ ัติการแอนดรอยด์ เป็น หม่อนผสมน�้ำสกัดจากดอกชมจันทร์ร้อยละ และเตาเผาถ่าน 200 ลิตรวางเรียงในแนวด่ิง แอพพลิเคชั่นส�ำหรับรวบรวมวัดนามมงคลใน 15 เหมาะแก่ผู้ท่ีต้องการควบคุมน้�ำหนัก สามารถบรรจุกล้วยได้ 30 กโิ ลกรมั มีอุปกรณ์ เขตอำ� เภอเมอื งจังหวัดเชียงใหม่ จำ� นวน 9 วัด เ นื่ อ ง จ า ก ด อ ก ช ม จั น ท ร ์ ยั ง มี คุ ณ ค ่ า ท า ง แลกเปล่ียนความร้อนจากไอเสียเป็นลักษณะ ประกอบด้วย ข้อมูลท่ัวไปเกี่ยวกับวัด โภชนาการ คือเป็นผักไขมันต�่ำมากและ กลุ่มท่อใช้วัสดุทองแดง ใช้อินเวอร์เตอร์ แบบจำ� ลองสถาปตั ยกรรมโดนใชโ้ ปรแกรมเชงิ มีสรรพคุณเปน็ ยาระบายอ่อนๆ ทั้งยงั สามารถ ควบคมุ ปรบั ความเรว็ ลมระบบหมนุ เวยี นอากาศ วัตถุ และข้อมลู แผนท่ดี ว้ ยระบบบริการขอ้ มลู ต้านอนุมูลอิสระ นอกเนือจากการน�ำมา หน้าห้องอบได้สูงสุด 3 เมตรต่อวินาที และ แผนท่ผี ่านอินเตอรเ์ นต็ เพือ่ น�ำทางไป ใช้บริโภคเป็นอาหาร โดยใช้ดอกตูมมาผัด สามารถปรับใช้อุณหภูมิก่อนเข้าห้องอบได้ น้�ำมันหอย หรอื ลวกจมิ้ น�ำ้ พริก  สูงสุด 80 องศาเซลเซียส   เคร่อื งอบก�ำจัดมอดพลังงานไฮบริดจ์ส�ำหรบั ชมุ ชน [p.136-137] โดย สมบตั ยิ ์ มงชยั ชนะ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา เขตพ้นื ทพ่ี ษิ ณโุ ลก เคร่ืองอบกำ� จัดมอดใชพ้ ลงั งานจากเศษวัสดอุ นิ ทรยี แ์ ละพลงั งานแสงอาทิตย์ ประกอบ ด้วย ชดุ ตอู้ บ ชดุ แหล่งพลังงาน และชุดแหลง่ จา่ ยไฟฟ้า อบก�ำจัดไดค้ รัง้ ละ 50 กิโลกรมั ภายใน เวลาเฉล่ียไมเ่ กิน 2 ชวั่ โมง ข้ึนอยูก่ ับอุณหภูมิความร้อนที่ใช้ในการอบ (อุณหภมู ิในการอบยิง่ สูง ขน้ึ จะใชเ้ วลาในการอบลดลง) โดยข้าวสารมีน้�ำหนักลดลงไม่เกนิ 1 กโิ ลกรัม ความช้ืนข้าวลดลง ไมเ่ กินร้อยละ 1.5 ของปริมาณการเปยี ก 34 วารสาร

เครอ่ื งบบี แบบเกลยี วอดั สำ� หรบั สกดั นำ�้ มนั จาก เครื่องมือสังเคราะห์ความลึกแหล่งน้�ำใต้ดิน สารประกอบยางธรรมชาติและยางเอสบีอาร์ เมลด็ ฟกั ทอง [p.142-143] แบบอตั โนมตั บิ นอปุ กรณเ์ คลอ่ื นท่ี [p.146-147] เพ่ือผลติ เป็นพนื้ เกอื กมา้ [p.148-149] โดย รนั ตพล พนมวัน ณ อยุธยา โดย วิษณุ ช้างเนียม คณะ โดย นเรศ อินต๊ะวงค์ คณะ สถาบนั วจิ ยั เทคโนโลยเี กษตร คณะวทิ ยาศาสตร์ บริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัย วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี และเทคโนโลยีเกษตรมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เขตพน้ื ทลี่ �ำปาง ราชมงคลลา้ นนา เชยี งใหม่ ราชมงคลลา้ นนา เขตพ้ืนท่ีล�ำปาง เคร่ืองมือสังเคราะห์ความลึกแหล่ง สารประกอบยางธรรมชาตแิ ละยาง เครื่องบีบอัดน�้ำมันขนาดเล็กแบบ น้�ำใต้ดินออกแบบวงจรวัดความต้านทานใน เอสบอี ารส์ ามารถขน้ึ รปู เปน็ พน้ื รองเกอื กมา้ ได้ เกลยี วอดั สกดั นำ้� มนั จากเมลด็ ฟกั ทองกะเทาะ ดินเพื่อสังเคราะห์ความลึกแหล่งน�้ำใต้ดินให้ ตามเครื่องอัดข้ึนรูปสารประกอบและแม่พิมพ์ เปลือกท่ีผ่านกระบวนการผึ่งแบบใช้พัดลม สามารถใช้งานได้เทียบเท่ากับเครื่องมือวัด สำ� หรบั การผลติ จรงิ โดยเนอ้ื ยางสามารถแทรก และแสงแดด การอบแห้งท่อี ณุ หภมู ิ 60 องศา ความต้านทานในดินของกรมทรัพยากรน้�ำ ตวั ข้าไปในช่องว่างของเหลก็ เสริมแรงได้อยา่ ง เซลเซียส โดยใช้สกรูท�ำหน้าท่ีล�ำเลียงผ่าน บาดาล โดยเพิ่มความสามารถในการควบคุม ดเี สมอื นเปน็ ชนิ้ เดยี วกนั และสามารถประกอบ สายพานและบีบอัดจนเป็นน�้ำมันที่มีคุณภาพ การท�ำงานของอุปกรณ์ให้ท�ำการบันทึกข้อมูล เข้ากับกีบเท้าม้าทดแทนเกือกม้าท่ีท�ำจากวัสดุ ส�ำหรับเกษตรกรกลุ่มอุตาหกรรมขนาดเล็ก และสงั เคราะหค์ วามลึก ผา่ นระบบปฏบิ ตั ิการ เหลก็ ได้เป็นอย่างดี และขนาดย่อม แอนดรอยด์ของสมาร์ทโฟนได้ โดยมีการส่ง ข้อมูลในรปู แบบ IoT และ Bluetooth ระหวา่ ง เครื่องวัดความลึกแหล่งน้�ำใต้ดินและเคร่ือง สมารท์ โฟน ระบบผลติ ไฟฟ้าแบบผสมผสานด้วยโซลา่ เซลล์และเครื่องก�ำเนิดไฟฟ้าแบบแมเ่ หล็กถาวร ส�ำหรับกังหนั แบบไหลขวางสำ� หรบั โรงเรียนในถ่นิ ทรุ กันดาร [p.152-153] โดย ธรี ะศกั ด์ิ สมศักด,ิ์ อศั วเทพ สารปิน และวรจกั ร เมืองใจ วทิ ยาลัยเทคโนโลยแี ละ สหวิทยาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา เครื่องก�ำเนิดไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวรส�ำหรับกังหันน้�ำแบบไหลขวางส�ำหรับแหล่งน้�ำ ที่มีหัวน้�ำสทุ ธิอยู่ในชว่ ง 3-5 เมตร อตั ราการไหล 7-20 ลติ รต่อวนิ าที ในพืน้ ท่ที ีร่ ะบายสายสง่ ปกตเิ ขา้ ไมถ่ งึ หรือพื้นทีห่ ่างไกล โดยออกแบบอปุ กรณ์แปรผนั พลงั งานหรอื แบตเตอร่ีใหส้ ามารถ ใช้งานได้ครอบคลุมทุกความเร็วรอบหรือแปรเปล่ียนของแหล่งน�้ำที่มีการปรับเปล่ียนตามฤดูกาล ซึ่งสามารถน�ำไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ระบบผลติ ไฟฟา้ ที่ต้องการความเร็วรอบต�่ำเชน่ กงั หนั ลมได้ 35วารสาร