การจัดการการขายสินค้าแบบออนไลน์ ไพรพนั ธ์ ธนเลศิ โศภติ 3. การเร่ิมต้นทาเว็บไซต์ ในการเร่ิมต้นทาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เมื่อ ผู้ประกอบการมีความรู้ มีความเขา้ ใจเกี่ยวกับวธิ กี ารค้าขายทางออนไลน์ และประเภทของสินค้าแล้ว ในการดาเนินการซื้อขายสินค้า และบริการ ผ่านส่ืออินเตอร์เน็ตน้ัน หลักการดาเนินธุรกิจก็เป็นเหมือนกรณีการทา ธุรกิจทั่วๆ ไปคอื ตอ้ งวิเคราะหต์ ้นทุนค่าใช้จา่ ย และวธิ กี ารพฒั นาเวบ็ ไซต์ ดว้ ย เพือ่ ใช้วางแผนการดาเนินการดว้ ย 4. การตลาดออนไลน์ รูปแบบของการทาตลาดออนไลน์ท่ีนิยมใช้ใน ปัจจุบันนน้ั มอี ยู่หลายรูปแบบซึ่งการที่จะเลือกใช้การตลาดออนไลน์ใน รูปแบบใดนั้น ข้ึนอยู่กับความต้องการและเหมาะสมในการนาไปใช้ของ ผปู้ ระกอบการเป็นหลกั 5. การวัดผล และการประเมินผลการดาเนินการ ถือเป็นสง่ิ สาคญั ในการชี้ วั ด ผ ล ก า ร ด า เ นิ น ง า น ข อ ง ธุ ร กิ จ ว่ า จ ะ ป ร ะ ส บ ค ว า ม ส า เ ร็ จ ใ น ก า ร ดาเนินการได้อย่างไร ในการประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หลักเกณฑ์ของการประเมินผลการดาเนินการก็มีลักษณะเหมือนกันกับ กรณีการทาธุรกิจโดยท่ัวๆ ไป การประเมินผลการดาเนินงานพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์นั้น สามารถประเมินได้จากตัวชี้วัดต่างๆ ท่ีสาคัญ เช่น จานวนผ้เู ข้าเว็บไซต์ แหล่งท่ีมาของผู้ท่ีเข้าเว็บไซต์ การเข้าเว็บไซต์ด้วย อะไร 6. การลงมือทา การพัฒนาเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ( E- Commerce) ดังท่ีกล่าวมาในเบ้ืองต้นน้ันจะเห็นได้ว่าวิธีการจัดทาและ พัฒนาเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) นั้นมีหลายวิธี อย่างไรกต็ ามเม่อื ผูป้ ระกอบการสามารถจดั ทาและพัฒนาเว็บไซต์ได้แล้ว ในการพัฒนาและดูแลเว็บไซต์ท่ีพัฒนาข้ึนน้ัน ถือเป็นข้ันตอนท่ีสาคัญ สาหรับผปู้ ระกอบการเช่นกนั ในการลงมือทา พัฒนาและดูแลเว็บไซต์ท่ี พฒั นาขึ้น 98องคค์ วามร้สู ่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
การเตบิ โตของ E-Commerce กบั นโยบายไทยแลนด์ 4.0 วิสัยทัศน์เชิงนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย มีหลักการคือเปลี่ยนจากการผลิต สินค้าโภคภัณฑ์ไปสู่สินค้าเชิงนวัตกรรม และยังปรับเปลี่ยนจากการขับเคล่ือนประเทศด้วย ภาคอุตสาหกรรม ไปสู่การขับเคล่ือนด้วยเทคโนโลยี กับความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม นอกจากน้ียังได้เปลย่ี นจากการเน้นภาคผลิตสนิ คา้ ไปสกู่ ารบรกิ ารใหม้ ากขึ้น ดังน้ันแนวคิดการทาให้เกิดผู้ประกอบการใหม่ต้องปรับเปล่ียนจากผู้ประกอบการแบบเดิม (Traditional SMEs) ทร่ี ฐั บาลต้องชว่ ยเหลือตลอดเวลา เป็นผู้ประกอบการใหม่ที่มีศักยภาพสูง (Smart Enterprises) สิ่งหนึ่งที่ตอ้ งใช้คือความรู้ ความเชีย่ วชาญและทักษะ สาหรับการเป็นผู้ประกอบการในยุค ไทยแลนด์ 4.0 ส่ิงสาคัญท่ีต้องใช้ในการประกอบกิจการ ไดแ้ ก่ การใชร้ ะบบสารสนเทศเพ่ือการบรหิ ารจัดการแบบออนไลน์ ซึ่งเป็นระบบสารสนเทศท่ีใช้ เพ่ือให้การทางานมีประสิทธิภาพโดยเช่ือมโยงกับระบบอินเตอร์เนต ซึ่งทาให้ผู้บริหารใช้ ประโยชนจ์ ากขอ้ มูลในระบบในการตัดสนิ ใจ วางแผน ควบคุม และการปฏิบัติการในหน่วยงาน ของตนเองโดยระบบสารสนเทศจะมรี ะบบย่อย ได้แก่ ระบบประมวลผลรายการ ระบบจัดการ รายงาน ระบบสนับสนนุ การตัดสินใจ และ ระบบสารสนเทศสานักงาน จากความก้าวหน้าด้านวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ทาใหเ้ กิดการพัฒนาสิ่งอานวยความสะดวก ที่มีคุณภาพมาตรฐานดี ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค สินค้าและบริการมีราคาลดลง การติดต่อส่ือสารดีขึ้น อีกทั้งเทคโนโลยีสารสนเทศยังช่วยเพ่ิมผลผลิต และลดต้นทุน ประสิทธิภาพการทางานดีข้ึน เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ตลอดจนอุตสาหกรรมมี ความก้าวหนา้ จากรายงานผลการสารวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2559 (Value of E-Commerce Survey in Thailand 2016) พบว่า ประชากรท่ีเป็นผู้ประกอบการ E-Commerce ของประเทศไทยนั้นมี ทั้งสิ้น 527,324 ราย จากการคาดการณ์ พ บ ว่ า ปี พ . ศ . 2 5 5 9 มู ล ค่ า E-Commerce ในประเทศไทย จะมีมูลค่า 2,523,994 ล้านบาท เป็นร้อยละ 40.08 ของมลู ค่าขายสินค้าและบริการท้ังหมดโต เพม่ิ จากปี 2558 ถอ้ ยละ 12.42 99 องคค์ วามร้สู ่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
การจดั การการขายสนิ คา้ แบบออนไลน์ ไพรพนั ธ์ ธนเลศิ โศภติ สาหรบั ปจั จัยหลักๆ ท่สี นบั สนนุ ให้เกดิ การเติบโตของธุรกจิ E-Commerce ไดแ้ ก่ 1. มีผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาด E-Commerce มากข้ึน นอกจากนี้ยังพบว่าผู้บริโภคมี พฤติกรรมการเขา้ ถึงอินเตอร์เนตตลอดเวลา ผ่านทางอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย เช่น สมาร์ต โฟน และแท๊ปเล็ต เป็นต้น อีกท้ังกลุ่มคนรุ่นใหม่เติบโตพร้อมกับเทคโนโลยีการส่ือสาร และนวัตกรรมสมัยใหม่ ทาให้พฤติกรรม หรือรูปแบบการอุปโภค และบริโภค เปล่ียนแปลง ส่งผลให้ธรุ กรรมทางออนไลนภ์ ายในประเทศเติบโตขน้ึ 2. นโยบายของภาครัฐมีส่วนสาคัญในการผลักดันให้ธุรกิจ E-Commerce ภายใน ประเทศ โดยมุ่งให้สนับสนุนผู้ประกอบการ E-Commerce ไทยให้ขยายตลาดไปสู่อาเซียนและ ตลาดโลก เน้นการสง่ เสริมธุรกิจท้องถ่ินในชุมชนให้มีความเข้าใจและสามารถเข้าถึงช่อง ทางการทาธุรกรรมออนไลนผ์ า่ นการฝึกอบรมและบ่มเพาะด้านการขายทที่ างรัฐบาลเปน็ ผู้ จัดหาและสนับสนุน อีกทั้งยังได้เน้นการใช้ระบบดิจิทัล ในการรองรับการให้บริการของ ภาคธุรกิจการเงินและบริการ โดยเฉพาะภาคการส่ือสารและบันเทิง รวมถึงสนับสนุน ธุรกิจขนาดกลางและย่อม (Small & Medium Enterprises: SMEs) ของประเทศให้ สามารถเข้าถึงเศรษฐกิจดิจทิ ัลได้อยา่ งเทา่ เทียมกนั 3. รูปแบบการทาธรุ กรรมทางการเงนิ ทีเ่ ปลย่ี นแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทาให้หน่วยงานทั้งของ รัฐบาล ภาคเอกชนและภาคประชาชน เล็งเห็นความสาคัญในการกาหนดนโยบายและ แผนสนับสนุนธุรกจิ E-Commerce อยา่ งเป็นรูปธรรม เช่นการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) และให้ความสาคัญกับระบบชาระเงินออนไลน์ ซึ่งส่งผลต่อการขับเคลื่อน เศรษฐกิจให้มีความก้าวหน้า และเป็นไปตามมาตรฐาน สากล การขยายการใช้บัตร อิเล็กทรอนิกส์ ระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และมาตรฐานกลาง ขอ้ ความการชาระเงนิ (National Payment Message Standard) กล่าวโดยสรปุ ระบบสารสนเทศเพ่ือการจัดการออนไลนน์ ้ัน จะมสี ว่ นสนบั สนุนธุรกิจให้สามารถ ขายสินค้าและจัดการธุรกิจบนอินเตอร์เนต ซึ่งระบบจะต้องถูกวิเคราะห์ ทดลองและทดสอบ โดยผู้เชยี่ วชาญกบั เจ้าของรา้ น เนื่องจากการจะขายสินค้าบนอินเตอร์เนตต้องใช้ท้ังศาสตร์และ ศิลปใ์ นการขาย แตอ่ ย่างไรก็ตาม ในเบือ้ งต้น การทดลองขายสินค้าบนอินเตอร์เนต สามารถใช้ ระบบตลาดออนไลน์เดิมท่ีมีพ้ืนที่จาหน่าย เช่น Lazada, Alibaba express หรือ ช่องทางของ Social Media เชน่ Facebook, Youtube, Line เปน็ ต้น ก่อนจะลงทนุ ในระบบบริหารจัดการ ออนไลน์ตอ่ ไป 100องคค์ วามรู้สู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
101 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การจดั การการขายสินคา้ แบบออนไลน์ ไพรพนั ธ์ ธนเลศิ โศภติ สอบถามขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ ไพรพนั ธ์ ธนเลศิ โศภิต คณะบริหารธรุ กจิ และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา เชียงใหม่ โทรศัพท์ : 0-5392-1444 102องคค์ วามรสู้ ่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
103 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การสร้างโปรแกรมจาลอง ด้านวศิ วกรรมด้วยฟังก์ชนั่ GUI ของ โปรแกรม MATALB 104องคค์ วามรู้สู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การสร้างโปรแกรมจาลองดา้ นวศิ วกรรมดว้ ยฟังก์ช่นั GUI ของโปรแกรม MATALB พินิจ เนอื่ งภริ มย์ ความเปน็ มา ปัจจบุ ันโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ได้มีบทบาทต่อการพัฒนาทางด้านวิศวกรรมเป็นอย่าง สูง โดยเฉพาะในด้านของการออกแบบและจาลองการทางาน ท่ียังช่วยวิเคราะห์และ จาลองสถานการณ์ของผลลพั ธ์ทค่ี าดว่าจะเกดิ ข้ึนก่อนท่ีจะสร้างของจริงข้ึนมา ซ่ึงช่วย ประหยัดทรพั ยากร ลดการลองผิดลองถูก และเพิ่มประสิทธิภาพของการพัฒนาวงจร หนงึ่ ในน้ันคือ โปรแกรม Matlab ซึ่งมีฟังก์ชันย่อย ท่ีเรียกว่าฟังก์ชัน GUI (Graphical User Interface) เหมาะสาหรบั การแสดงผลทางภาพที่ประสานงานกับผู้ใช้ได้โดยตรง ในลักษณะโปรแกรมจาลองทส่ี ามารถออกแบบ คานวณ และวเิ คราะหผ์ ลตามหลักการ ทางทฤษฎี ที่ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบและพัฒนา นับว่าเป็นอีกทางเลือกหน่ึงสาหรับ นักพัฒนาโปรแกรม ท่ีต้องการสร้างโปรแกรมใช้งานท่ีมีความสะดวกและส่ือสารกับ ผู้ใช้งานได้ และยังสามารถดาเนินการตามลักษณะของการควบคุมในรูปแบบการ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ได้ ซ่ึงนับว่าเป็นทางเลือกและจุดเร่ิมต้นในการพัฒนา นวัตกรรมและงานวิจยั ทีจ่ ะมีผลต่อการพัฒนาประเทศ ตามรูปแบบของการพัฒนาให้ อยูใ่ นยุคของประเทศไทย 4.0 อกี ดว้ ย 105 องคค์ วามรสู้ ่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
อย่างไรก็ตามน้ัน พบว่านักศึกษาในกลุ่ม หัวหนา้ โครงการ หลกั สูตรอเิ ล็กทรอนิกส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ส่วน พนิ จิ เนอ่ื งภริ มย์ ใหญ่น้ันยังไม่รู้จักโปรแกรมจาลองท่ีพัฒนาข้ึน ด้วยฟังก์ชัน GUI ของโปรแกรม MATLAB อีก ทั้งยังไม่ร้จู กั การประยุกต์ใช้งานโปรแกรม GUI อีกด้วย ทาให้ผู้จัดทาโครงการตระหนักถึงการ ส่งเสริม และพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ แก่ นักศึกษา และเยาวชน ที่จะมีผลต่อการพัฒนา ประเทศชาติในอนาคต ดังน้ัน โครงการน้ี จึง เกิดข้ึนเพื่อเป็นการสนับสนุนองค์ความรู้ใหม่ และ ส่งเสริมเป็นส่ือทางเลือก สาหรับการ พัฒนานวัตกรรมทาง ด้านวิศวกรรมไฟฟ้า วิศวก รรมคอมพิว เตอ ร์ แล ะวิศว กรร ม อเิ ล็กทรอนิกสต์ ่อไป วัตถปุ ระสงค์ เพอ่ื จัดฝกึ อบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารสาหรับการถา่ ยทอดเทคโนโลยี เรื่องการสรา้ งโปรแกรมจา ลองดา้ นวศิ วกรรมด้วยฟงั กช์ ัน GUI ของโปรแกรม MATLAB สาหรบั ภาคอุตสาหกรรม ประชาชน และผ้ทู สี่ นใจ เพือ่ หาความพึงพอใจของผูเ้ ขา้ รับการบริการ 106องคค์ วามรสู้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
โปรแกรม MATLAB เบอ้ื งต้น MATLAB เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ชั้นสูง (High-level Language) สาหรับการคานวณ ทางเทคนคิ ทป่ี ระกอบด้วยการคานวณเชิงตวั เลข การแสดงภาพกราฟิก และการจาลอง แบบ เพ่ือให้มองเห็นภาพไดง้ า่ ยขึ้น โดยชื่อของ MATLAB ย่อมาจาก “MATrix LABor- atory” เดิมโปรแกรม MATLAB ได้เขียนข้ึนเพ่ือใช้ในการคานวณทาง Matrix และได้ พัฒนาจากการแก้ปัญหาจากผู้ใช้งานมาเป็นระยะเวลาหลายปี จึงทาให้โปรแกรม MATLAB มีฟังก์ชันต่างๆ ให้เลือกใช้มากมายสาหรับใช้เป็นพ้ืนฐานในการศึกษา ทางดา้ นคณติ ศาสตร์ วิศวกรรม วทิ ยาศาสตร์ และด้านอุตสาหกรรมได้ใช้เป็นเครื่องมือ ในการทางานวจิ ยั เปน็ ต้น GUI ย่อมาจาก Graphical User Interface หรือที่เรียกในภาษาไทยว่า ส่วนต่อ ประสานกราฟิกกับผใู้ ช้ เป็นสว่ นประกอบของโปรแกรม MATLAB ท่ชี ว่ ยให้ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษาและผู้ที่สนใจ สามารถใช้ออกแบบโครงสร้างทางกราฟิกและสร้าง เป็นนวัตกรรมที่สะดวกต่อการใช้งาน โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้โปรแกรมจาลองทาง คณิตศาสตร์ท่ีมีขั้นตอนการคานวณที่ยุ่งยากและเสี่ยงต่อความผิดพลาด หรือการ คานวณในลักษณะของการกระทาซ้าๆ หลายๆ รอบ ซึ่งต้องใช้เวลามากหากต้อง คานวณด้วยมือ ดังนั้นโปรแกรม MATLAB ท่ีทางานร่วมกับฟังก์ชัน GUI จึงเหมาะสม สาหรบั ผทู้ ต่ี อ้ งการพัฒนาและแกป้ ัญหางานเหลา่ นี้ อกี ท้ังชว่ ยสนบั สนนุ ในดา้ นการเรียน การสอน งานวิจัย และงานทีเ่ กย่ี วข้องกบั การคานวณตา่ งๆ ใหส้ ามารถพัฒนาผลงานได้ อย่างมีประสทิ ธิภาพมากขึน้ โดยท่ัวไป ผู้ใช้งานสามารถเขียนโค้ดคาสั่งโปรแกรมได้โดยตรงในโปรแกรม MATLAB ในลักษณะของ M-File หรือเขียนผ่าน Command Window แต่ทั้งนี้หากอนาคตมี การประยุกต์หรือแก้ไขตัวแปร รวมไป ถึงการขยายผลสู่การเรียนรู้ของผู้เรียน ย่อมเกิดความไม่สะดวกต่อการใช้งาน ดังน้ันฟังก์ชันการทางานของ GUI จึง เป็นทางเลือกหนึ่งท่ีจะช่วยพัฒนาและ แกป้ ญั หาในดา้ นประเดน็ นี้ไดด้ ี 107 องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
การสรา้ งโปรแกรมจาลองดา้ นวิศวกรรมดว้ ยฟงั กช์ น่ั GUI ของโปรแกรม MATALB พินิจ เนอ่ื งภิรมย์ การเขียน M-File พื้นฐานทสี่ าคญั ของการสรา้ ง GUI คอื การเขียนโปรแกรมในลักษณะของ Script ทอ่ี ยู่ ในรปู แบบของ Text เพือ่ ตรวจสอบการทางานของโปรแกรม แลว้ จึงพฒั นาให้เปน็ GUI ตอ่ ไป ท้งั นี้ พ้ืนฐานและภาษาท่ใี ชใ้ นการเขยี นโปรแกรมสามารถศึกษาเพิ่มเติม จากคู่มอื MATLAB ท่มี อี ย่โู ดยทัว่ ไปได้ ซ่ึงหากเป็นโปรแกรมพ้ืนฐานโดยท่วั ไปแลว้ ภาษาทีใ่ ช้ในการเขยี นโปรแกรมผา่ น MATLAB โดยสามารถใชค้ าสงั่ พ้ืนฐานที่เพยี งพอ ในระดับหนึ่ง จากนน้ั หากตอ้ งการเขยี นโปรแกรมเฉพาะทางสามารถคน้ ควา้ เพม่ิ เติม ในด้านน้ันๆ ได้ เข้าที่เมนู Home >> New >> Script จะปรากฏหนา้ ตา่ ง Editor ขึน้ มา และเขยี นโปรแกรมได้โดยตรงผ่านหนา้ ตา่ งนี้ เมื่อเขียนโปรแกรมแสดงให้ทาการบนั ทกึ และสัง่ RUN โปรแกรม ค่าตัวแปรท่ีคานวณจะปรากฏในหนา้ ตา่ ง Command Window ในท่ีนีจ้ ะยกตวั อย่างการเขียนโปรแกรม M-File เพือ่ หาค่าความต้านทานรวม (RT) และกระแสท่ไี หลผา่ นวงจร (IT) ของวงจรตัวต้านทานอนุกรม 3 ตัว ทตี่ ่อกับ แหลง่ จ่ายแรงดนั 12 โวลต์ ดงั นี้ ตวั อยา่ งวงจรตวั ตา้ นทานทจ่ี ะนาไปเขยี น M-File แสดงดงั ภาพ ตวั อย่างสมการทีใ่ ชค้ านวณ ดงั ภาพ 108องคค์ วามรสู้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
เนื่องจากตัวแปรท่ีจะใช้เขียนโปรแกรม ในบางครั้งไม่สามารถพิมพ์ให้ตรงกันกับตัวแปรจริงท่ี กาหนดจากโจทย์ได้ เช่น ตัวแปร RT ในวงจร เม่ือนาไปเขียนโปรแกรม M-File จะพบว่าไม่ สามารถพิมพ์ตวั ห้อยได้ แตจ่ ะกลายเป็น RT แบบน้แี ทน ดังน้ันในการเขียนโปรแกรมทุกคร้ังควร กาหนดตัวแปรจรงิ ที่โจทย์กาหนด ให้สอดคล้องกับตัวแปรที่จะใช้เขียนโปรแกรม จากนั้นทาการ เขียนโปรแกรมในหนา้ ต่าง Editor clc; %เคลียร์หน้าจอ clear all; %เคลียรต์ ัวแปร %____________Input parameter___________________ k=1000; %กาหนดหน่วยกิโล R1=1*k; %กาหนดค่าตวั ตา้ นทาน R1 R2=2*k; %กาหนดค่าตัวตา้ นทาน R2 R3=3*k; %กาหนดคา่ ตวั ตา้ นทาน R3 V=12; %กาหนดคา่ แรงดนั V %____________Output parameter___________________ RT=R1+R2+R3 %คานวณหาคา่ ความตา้ นทานรวม I=V/RT %คานวณหาคา่ กระแส เม่ือเขยี นโปรแกรมแสดงดงั ภาพ ให้ทาการบันทกึ และส่งั RUN โปรแกรม หลังจากการบันทึกและ กดปุ่ม Run ค่าตัวแปรท่ีคานวณจะปรากฏในหน้าต่าง Command Window ซึ่งผลจากการ คานวณจะพบว่า ค่าตวั แปร RT จะมคี ่าเทา่ กับ 6,000 โอห์ม (ดังภาพ) และตัวแปร i มีค่าเท่ากับ 0.002 แอมป์ ซ่ึงความเป็นจริง หากเขียนโปรแกรม GUI เพื่อใช้งาน ผู้เขียนโปรแกรมควรต้ังค่า สาหรับการแปลงหน่วยท่ีเหมาะสมให้กับตัวต้านทาน และกระแส โดยการนาตัวเลขไปหารหรือ คณู กบั คาตอบที่ได้ ก่อนท่จี ะนาไปแสดงผลนนั่ เอง ผลลัพธจ์ ากการ RUN โปรแกรม 109 องคค์ วามรูส้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การสรา้ งโปรแกรมจาลองดา้ นวศิ วกรรมด้วยฟังกช์ ั่น GUI ของโปรแกรม MATALB พินิจ เนอ่ื งภิรมย์ การเขยี น Function M-File นอกเหนือจากการเขียนโปรแกรม M-File ในลักษณะของ Text Editor ในหวั ขอ้ ท่ีผ่านมาแล้ว น้ัน ส่วนการเขียนในหัวข้อนี้จะกล่าวถึงการเขียนโปรแกรมในลักษณะของฟังก์ชัน เปรียบเสมือนการเขียนโปรแกรมย่อย เหมาะสาหรับกรณีที่เขียนโปรแกรมรับข้อมูลผ่าน โปรแกรมหลัก แล้วส่งค่าตัวแปรมาคานวณผ่านฟังก์ชันย่อยเหล่าน้ี แล้วจึงส่งกลับตัวแปรที่ คานวณได้จากฟังก์ชันย่อย และไปแสดงผลท่ีโปรแกรมหลักอีกที ดังน้ันการเขียนโปรแกรม ด้วย Function M-File จึงเป็นเรื่องที่สาคัญอีกเรื่องหนึ่งในการพัฒนา GUI ในอนาคต ขั้นตอนการเขียน มดี ังนี้ เข้าสู่เมนู HOME >> New >> Function จะปรากฏ หน้าต่าง Editor สาหรับการเขียนโปรแกรม รูปแบบ การกาหนดช่ือ Function เป็นเรื่องที่สาคัญผู้เขียนควร กาหนดช่ือตัวแปร จานวนตัวแปร ให้ตรงกันในทุกๆ ครั้ง เพื่อกันข้อผิดพลาดในการเรียกใช้หรืออ้างถึง ฟงั กช์ ันในครง้ั ตอ่ ไป ดังตัวอย่าง function [ output1,output2 ] = name_funciton( input1,input2,input3,input4 ) ข้ันตอนการเขียน Function M-File มีขน้ึ ตอนคล้ายกบั การเขียน M-File ในหัวข้อก่อนหน้าน้ี แต่ต่างกันตรงท่ีรูปแบบการกาหนดชื่อฟังก์ชันเท่านั้นโดยในท่ีนี้จะยกตัวอย่างการเขียน โปรแกรมเพือ่ วเิ คราะห์หาคา่ เดยี วกนั กับกอ่ นหน้านี้ รปู แบบการต้งั ชื่อ Function มีดงั นี้ function [ RT,IT ] = serie3R( R1,R2,R3,V ) เมื่อเปรยี บเทยี บกับรูปแบบการตัง้ ช่ือฟงั กช์ นั มาตรฐาน จะพบว่าตัวแปรเอาต์พุต มี 2 ตัวแปร ไดแ้ ก่ RT และ IT โดยใชช้ ื่อฟงั ก์ชัน serie3R และตัวแปรอินพุตมี 4 ตัวแปร ดังนี้ R1, R2, R3 และตัวแปร V นั่นเอง จากน้ันจึง ทาการเขียน โ ป ร แ ก ร ม ใ น ห น้ า ต่ า ง Editor 110องคค์ วามรสู้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
โดยแตล่ ะบรรทัดสามารถอธิบายการทางานไดด้ งั นี้ %ตั้งชอ่ื ฟงั ก์ชนั %คานวณหาค่า RT function [ RT IT ] = serie3R( R1,R2,R3,V ) %คานวณหาค่า IT RT=R1+R2+R3; %จบฟงั กช์ นั IT=V/RT; end ทาการบันทึกไฟล์ ซึ่งโปรแกรมจะต้ังช่ือตามช่ือฟังก์ชันให้อัตโนมัติ (seire3R.m) การเรียกใช้ ฟังก์ชัน ทาได้โดยพิมพ์คาสั่งตามรูปแบบฟังก์ชันท่ีหน้าต่าง Command Window โดยรูปแบบ การพิมพต์ อ้ งสอดคล้องกับการตัง้ ช่ือฟังก์ชนั และจานวนตวั แปรขาออกของโปรแกรมหลกั และตัว แปรขาเข้าของฟังก์ชันต้องเท่ากัน และช่ือฟังก์ชัน ต้องพิมพ์ตรงกันทุกประการกับช่ือไฟล์ท่ีได้ บันทกึ ไว้ โดยจะพบวา่ รูปแบบการเรียกใช้ฟงั กช์ ัน เปน็ ดงั นี้ [ RT,IT ] = serie3R ( 1000, 2000, 3000, 12 ) 1. ตัวแปรเอาต์พตุ มี 2 ตวั คือ RT และ IT 2. ช่อื ฟังกช์ ัน คือ sereis3R 3. ตัวแปรอินพุตมี 4 ตัวแปร ซ่ึงการระบุเรียกฟังก์ชันผ่าน Command Window ให้ทาการ ใส่ค่าตัวแปรน้ันๆ ไปตามลาดับเลย (อันน้ีสาคัญมาก ผู้ใช้จะต้องทราบลาดับตัวแปร ก่อนหลังใหต้ รงกนั ) ซึง่ ในท่ีน้จี ะเห็นว่า ผใู้ ชก้ าหนดตวั แปร ( 1000, 2000, 3000, 12 ) น่ัน หมายถงึ เป็นการกาหนดค่า R1, R2, R3 และ V ตามลาดับนั่นเอง 4. เม่ือพิมพ์คาสั่งใน Command Window แล้วEnter จะปรากฏ ค่าตัวแปร R และ I ท่ีได้ คือ 6000 และ 0.020 ออกมาตาม ล า ดั บ ทั้ ง นี้ ผู้ ใ ช้ ส า ม า ร ถ ปรับเปลี่ยนค่าตัวแปรดา้ นขาเข้า ทงั้ 4 ตัวแปรไดต้ ามต้องการ 111 องคค์ วามรูส้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
การสร้างโปรแกรมจาลองดา้ นวิศวกรรมด้วยฟังกช์ ่นั GUI ของโปรแกรม MATALB พินิจ เนอ่ื งภิรมย์ ตัวอยา่ ง จงเขียน M-File และ Function M-File ของการคานวณหาค่าความต้านทาน รวม และกระแสที่ไหลผา่ นตัวต้านทานแต่ละตวั ของวงจรดงั ภาพ จากตวั อยา่ ง ทาการนยิ ามตัวแปรใหมใ่ หส้ อดคลอ้ งกับรูปแบบการเขยี นโปรแกรม จะได้ สามารถเขียนโปรแกรม M-File ได้ดงั น้ี clc; %เคลยี ร์หน้าจอ clear all; %เคลียรต์ วั แปร %____________Input parameter___________________ k=1000; %กาหนดหน่วยกิโล R1=1*k; %กาหนดคา่ ตวั ต้านทาน R1 R2=2*k; %กาหนดค่าตัวต้านทาน R2 R3=3*k; %กาหนดค่าตวั ต้านทาน R3 V=12; %กาหนดคา่ แรงดนั V %____________Output parameter___________________ RT=1/((1/R1)+(1/R2)+(1/R3)) %คานวณหาคา่ ความตา้ นทานรวม IT=V/RT %คานวณหาค่ากระแส IT I1=V/R1 %คานวณหาค่ากระแส I1 I2=V/R2 %คานวณหาค่ากระแส I2 I3=V/R3 %คานวณหาคา่ กระแส I3 112องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
เม่ือบันทึกและ Run โปรแกรมจะปรากฏตัวแปรในช่อง Command Window จะได้ค่าดังนี้ RT=545.45, IT=0.022, I1=0.012, I2=0.006 และ I3=0.004 เขยี น Function M-File clc; %เคลียร์หนา้ จอ clear all; %เคลียรต์ วั แปร function [ RT IT I1 I2 I3 ] = parallel3R ( R1,R2,R3,V ) RT=1/((1/R1)+(1/R2)+(1/R3)) %คานวณหาค่าความต้านทานรวม IT=V/RT %คานวณหาค่ากระแส IT I1=V/R1 %คานวณหาคา่ กระแส I1 I2=V/R2 %คานวณหาคา่ กระแส I2 I3=V/R3 %คานวณหาค่ากระแส I3 end ทาการบันทกึ และเรียกใชฟ้ ังก์ชนั ผ่านชอ่ ง Command Window จะได้ผลลัพธ์ดงั น้ี [ RT, IT, I1, I2, I3 ] = parallel3R( 1000,2000,3000,12 ) RT=545.45, IT=0.022, I1=0.012, I2=0.006 และ I3=0.004 จากที่ไดก้ ล่าวมาข้างตน้ สามารถสรปุ เป็นแนวทางปฏิบัติ ได้ดังนี้ 1. ลักษณะเบื้องต้นของโปรแกรม MATLAB ซ่ึงเป็นหน้าต่างพ้ืนฐานท่ีผู้อ่านจะต้องทา ความคุ้นเคย ในการใช้งานเบื้องต้น ที่ต้องอาศัยการฝึกฝนทาตามบ่อยๆ จนชิน โดยใน คู่มือเล่มน้ีจะไม่ได้เน้นพื้นฐานการใช้งาน โปรแกรม MATLAB มากนัก แต่จะมุ่งเน้น ไปท่ีการพัฒนาโปรแกรม GUI มากกว่า แต่ ถึงอย่างไรก็ตามหากผู้อ่านไม่มีพื้นฐาน ทางการใช้งา น MATLAB มาก่อนจ ะ สามารถอ่านและทาตามจากหนังสือเล่มนี้ ได้อย่างงา่ ยดายทกุ ขนั้ ตอน 113 องคค์ วามรู้สู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
การสร้างโปรแกรมจาลองด้านวิศวกรรมด้วยฟังก์ชน่ั GUI ของโปรแกรม MATALB พินจิ เนอื่ งภิรมย์ 2. การเร่ิมต้นใช้งานเบ้ืองต้น ที่ผ่านมาผู้เขียนได้กล่าวถึงวิธีการเข้าถึงเมนู และฟังก์ชันต่างๆ ท่ีจาเป็นต่อการเขียน GUI ในอนาคต ซึ่งอาจยังไม่ ครอบคลุมเน้ือหาของโปรแกรม MATLAB ท้ังหมด แต่ก็เพียงพอต่อการ ประยุกต์ใชง้ าน 3. รูปแบบคาส่ังพ้ืนฐานของโปรแกรม MATLAB ที่ผู้อ่านไม่ต้องจดจาแต่ ควรทราบแหล่งอ้างอิงหรือตาแหน่งของหน้าท่ีใช้ระบุคาส่ังพ้ืนฐาน เพราะหากผอู้ า่ นฝกึ ฝนจนชานาญจะพบวา่ คาส่ัง ท่เี ก่ยี วข้องลว้ นสัมพันธ์ และใกล้เคียงกับกับคาสั่งพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ และหากต้องการ ทราบรายละเอียดการใช้งานคาส่ังไหนก็สามารถทาได้โดยการค้นหา เพิม่ เตมิ ใน Help 4. การเขียน M-File รูปแบบการเขียนแบบน้ีไม่ซับซ้อน สามารถเขียน ตรงๆ ตามลักษณะของการคานวณตามธรรมชาติของมนุษย์ได้ นั่นคือ กาหนดตัวแปรทางด้านขาเข้า แล้วส่งไปคานวณเพ่ือเก็บในตัวแปรด้าน ขาออกตามปกติ เหมาะสาหรับการคานวณท่ีไม่ซับซ้อน มีสมการหลักๆ เพียงสมการเดียว หรือจานวนตัวแปรท่ีใช้มีไม่มาก และไม่ต้องคานวณ รว่ มกบั สมการอืน่ ๆ 5. การเขียนฟังก์ชัน M-File รูปแบบการเขียนโปรแกรมแบบนี้จะเหมาะ สาหรับการคานวณท่ีมีสมการที่หลากหลาย และจาเป็นต้องส่งตัวแปร จากสมการหน่ึง ไปยังอีกสมการหนึ่ง เพ่ือลดเวลาและความยุ่งยากใน การคานวณ เพราะในอนาคต การเขียนโปรแกรม GUI บางคร้ัง GUI จะ ทาหนา้ ที่แคร่ ับตวั แปรทางด้านขาเข้า เข้ามาเท่านั้น จากนั้นแล้วค่อยส่ง ตัวแปรเหล่านั้นไปคานวณที่ฟังก์ชันย่อยท่ีได้สร้างไว้อีกท่ี เพราะหาก เขยี นโปรแกรมสมการโดยตรงในฟังก์ชัน GUI จะทาให้ขนาดของไฟล์มี ขนาดใหญ่ และยากต่อการตรวจสอบ หากโปรแกรมมีการทางานที่ ผิดพลาด 114องคค์ วามร้สู ูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
115 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การสรา้ งโปรแกรมจาลองดา้ นวศิ วกรรมดว้ ยฟงั ก์ชนั่ GUI ของโปรแกรม MATALB พนิ ิจ เนอ่ื งภริ มย์ สอบถามข้อมลู เพ่ิมเติม พินิจ เนอ่ื งภิรมย์ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงใหม่ โทรศพั ท์ : 0-5392-1444 116องคค์ วามร้สู ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
117 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การอนุบาลตน้ กล้ากล้วย จากการเพาะเลย้ี งเน้ือเย่ือเพอ่ื สรา้ ง รายได้สู่ชุมชน 118องคค์ วามรูส้ ูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
การอนบุ าลตน้ กลา้ กล้วยจากการเพาะเล้ียงเนอ้ื เยอ่ื เพอื่ สรา้ งรายไดส้ ู่ชมุ ชน ศกั ดด์ิ า สุขวัฒนา ความเป็นมา “กล้วย” เป็นพืชเศรษฐกิจท่ีสาคัญในปัจจุบัน จุดเด่นของกล้วยคือเป็นพืชท่ีตลาดรองรับที่ ค่อนขา้ งกวา้ ง สามารถจาหนา่ ยได้ทง้ั ในและต่างประเทศ ไม่วา่ จะเปน็ กล้วยหอม กล้วยไข่ กล้วย น้าว้า ซึ่งมตี ลาดรองรบั และมคี วามตอ้ งการท่ีสงู ท้งั ตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ จึงทา ให้มีเกษตรกรปลกู กล้วยเปน็ อาชีพกระจายอย่ใู นหลายพืน้ ท่ี มีการรวม กลุ่มเกษตรที่เข้มแข็งใน รูปสหกรณ์เพ่ือส่งออกไปยังต่างประเทศโดยเฉพาะญ่ีปุ่น และ จีน สร้างรายได้มากมายให้กับ ชาวสวน อยา่ งไรกต็ าม ความตอ้ งการของตลาดยงั มอี กี มาก ผล ผลิตกล้วยไม่เพียงพอ ส่งผลทา ให้มคี วามต้องการหน่อพันธ์ุกล้วยสูงตามไปด้วย ทั้งกล้วยน้าว้า กล้วยหอม และ กล้วยไข่ การ ขยายพันธ์กุ ล้วยโดยใชห้ น่อธรรมชาติน้นั มขี นาดและอายแุ ตกต่างกนั เมือ่ นาไปปลูกจะได้ผลผลิต ไม่สม่าเสมอ สง่ ผลให้การจดั การผลผลิตทีไ่ มม่ ปี ระสทิ ธภิ าพเท่าทค่ี วร นอกจากน้ีหน่อพันธ์กุ ล้วย จากแหล่งตา่ งๆ น้นั ยงั อาจจะมีเช้อื รา fusarium Oxysporum สาเหตุโรคตายพราย ซึ่งเป็นโรค ท่ีสาคัญของกล้วยน้าว้าแฝงในหน่อ การใช้ต้นพันธ์ุจากวิธีการเพาะเลี้ยงเน้ือเย่ือสามารถ แก้ปัญหาดังกล่าวได้ 119 องคค์ วามร้สู ูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การเพาะเนื้อเย่ือยังส่งผลให้อัตราการเติบโต ของ หัวหน้าโครงการ ผลผลิตสูงกว่าการปลูกด้วยหน่อพันธ์ุชนิดอ่ืน อีกท้ัง ต้นกล้ากล้วยจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ยังเป็นต้น ศักด์ิดา สุขวัฒนา กล้าที่ปลอดโรค ขนาด และ อายุของต้นกล้า ใกล้เคียงกัน ซ่ึงทาให้วางแผนการปลูกและปฏิบัติ ดูแลแปลงได้โดยง่าย ทาให้ได้ผลผลิตคุณภาพสูง มี ปริมาณผลผลิตแน่นอน คาดการณ์ปริมาณได้แน่ นอน อายขุ องหน่อเท่ากัน การจัดการเรื่องการให้น้า ให้ปยุ๋ ง่ายกวา่ ปัจจุบนั การเพาะเล้ยี งเนือ้ เยื่อเพ่ือขยายพันธุ์ต้นกล้า กล้วยปลอดโรคแพร่หลายไปอย่างมาก ตามความ ต้องการขยายพื้นที่ปลูกของเกษตรกร แต่มีปัญหา ประการหนง่ึ คือ ต้นกลา้ กล้วยท่ีได้จากการเพาะเล้ียง เน้ือเยื่อมีอัตรารอดชีวิตหลังย้ายต้นกล้าออกปลูกต่า เพราะการสูญเสียน้าจากการคายน้าผ่านทางปากใบ และผิวใบ และข้อจากัดในการดูดซับน้าของรากพืช ดังนั้น องค์ความรู้ในการปรับสภาพต้นกล้ากล้วยใน การย้ายปลกู จงึ มีบทบาททส่ี าคัญยิง่ ในการเพ่ิมอัตรา การรอดตายสูงของต้นกล้ากล้วยจากการเพาะเลี้ยง เนอื้ เยอ่ื ซ่ึงจะช่วยให้สามารถลดต้นทุนการผลิตและ สามารถผลิตพืชในระดับอุตสาหกรรมได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือใหผ้ ู้รับกาฝึกอบรมมคี วามรู้ความเขา้ ใจ ขอ้ ดขี องการใชต้ ้นกล้ากล้วยปลอดโรคจากการ เพาะเลย้ี งเน้อื เย่ือแปลงปลกู เพอ่ื ให้ผรู้ ับการฝกึ อบรมมคี วามรู้ความเขา้ ใจ สรา้ งความมั่นใจ มที ักษะและเสรมิ สรา้ ง ประสบการณ์ในการอนุบาลตน้ กลา้ กลว้ ยท่ีได้จากการเพาะเล้ียงเนอื้ เย่ือเพื่อสร้างธุรกิจการค้า พนั ธุ์ตน้ กลา้ กลว้ ยจากการเพาะเล้ยี งเนอื้ เยื่อ เพอ่ื ส่งเสริมใหผ้ เู้ ขา้ รับการฝึกอบรมไดน้ าเทคนิคความรทู้ ไี ด้รบั ไปประยกุ ตใ์ ช้เพอ่ื ประกอบ อาชพี ต่อไป 120องคค์ วามรสู้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
การอนุบาลตน้ กล้ากลว้ ยจากการเพาะเลยี้ งเนื้อเยอ่ื ต้นกลา้ กล้วยทไ่ี ด้จากการขยายพันธุ์โดยเพาะเลี้ยงเน้ือเยื่อ จะมีรูปร่างทรงต้น ปกติคลา้ ยกบั ตน้ ในสภาพธรรมชาติ เพียงแต่มขี นาดเลก็ โดยเฉลย่ี ควรจะมีความ สูงประมาณ 2-4 นิ้ว มีใบไม่ต่ากว่า 4 ใบ จานวนรากไม่ต่ากว่า 4 -5 เส้น ความยาวรากอยู่ระหว่าง 3-5 ซม. เมื่อนาต้นกล้าออกจากขวดเพาะเล้ียง เน้ือเยื่อ จึงจาเป็นจะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเน่ืองจากต้นกล้วยยังมีการ สร้างไขเคลือบใบ หรือสารคิวติน (cutin) ทาหน้าที่ควบคุมการสูญเสียน้าจาก ใบน้อย ในขณะท่ีปากใบยังเปิดกว้าง เมื่อออกสัมผัสกับอากาศท่ีมีสภาพ แวดลอ้ ม ทั้ง แสง อณุ หภมู ิ ความชนื้ ไมส่ มา่ เสมอตลอดเวลา พืชจะคายน้ามาก ขึ้นทาให้เห่ียวเฉาและตายได้ง่าย ดังน้ันการย้ายต้นกล้ากล้วย จากอาหารวุ้น เพ่อื ปลกู ในสภาพธรรมชาติ ต้องระมดั ระวังเรอ่ื งอตั ราการสูญเสียน้าของพืชเป็น พิเศษ ควรให้ความสมดุลระหวา่ ง อตั ราการสญู เสยี นา้ กับอัตราการดูดน้าข้ึนมา ใชใ้ หม้ ากท่สี ุดจึงจะสามารถทาให้ต้นพืชรอดชีวิตอย่ไู ด้ 121 องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การอนบุ าลตน้ กล้ากลว้ ยจากการเพาะเลยี้ งเน้อื เย่อื เพอื่ สรา้ งรายได้สชู่ ุมชน ศักดดิ์ า สขุ วฒั นา ขัน้ ตอนการนาพืชเพาะเลยี้ งเนือ้ เย่ือออกปลูก ก่อนเข้าถึงขัน้ ตอนการดูแลหรอื อนบุ าลพืชเนอื้ เย่อื ระยะต่างๆ ควรมีการปรับสภาพให้เริ่มเรียนรู้ และคอ่ ยๆ ปรับตัวอยูก่ บั สภาพแวดล้อมทเี่ ป็นธรรมชาติได้ โดยเพิ่มความเข้มแสง ลดความช้ืนใน ภาชนะลง อาจใช้วิธีนาขวดเนื้อเย่ือพืชออกมาวางในสภาพอุณหภูมิ ห้องที่มีอากาศถ่ายเทได้ สะดวกแตไ่ ม่ควรใหเ้ น้ือเย่อื พชื ได้รบั แสงแดดโดยตรงในชว่ งเวลา 2-3 วันแรกตามลาดบั ดงั นี้ 1. ปรับสภาพเน้ือเย่ือพืช 2-3 วัน ก่อนปลูกในสภาพอุณหภูมิห้องปกติที่มีอากาศถ่ายเท สะดวก 2. นาพชื ออกจากภาชนะทีไ่ ด้จากการเพาะเล้ยี งดว้ ยปากคีบ 3. ลา้ งอาหารวุน้ ทต่ี ิดอยู่บรเิ วณรากออกให้หมดด้วยนา้ สะอาด 4. นาต้นพชื แชใ่ นสารปอ้ งกนั เช้อื ราและแบคทีเรีย เป็นเวลา 3-5 นาที ก่อนปลูก เพ่ือป้องกัน โรคต้นเนา่ เน่อื งจาก พืชยงั อ่อนแอต่อการทาลายของเชื้อโรค แบง่ ชว่ งเวลาการอนบุ าลต้นกล้ากลว้ ยจากการเพาะเล้ยี งเน้ือเยื่อที่เพิ่งนาออกมาปลูกออกเป็น 2 ระยะ คือ การอนุบาลระยะที่ 1 เป็นระยะท่ีต้นกล้ากล้วยต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ด้วยการควบคุม ปัจจัยที่เก่ียวข้อง ได้แก่ อุณหภูมิ ความชื้น และความเข้มแสงให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต ของพชื ชนิดน้ันๆ เป็นช่วงเวลาการดูแลประมาณ 3-4 สัปดาห์ตั้งแต่ย้ายปลูกทาการเพาะชาต้น กล้ากลว้ ยในถาดหลุมดาขนาด 104 หลุมต่อถาด วัสดุปลูกท่ีใช้ ได้แก่ ขุยมะพร้าวแช่น้าก่อน 1 คนื : พที มอส อตั ราสว่ น 2 : 1 ขั้นตอนการย้ายเนือ้ เยื่อออกปลกู ในระยะอนบุ าล 1 ทาหลุมเล็กๆ ในวัสดุปลูกภายในถาดหลุม ใชป้ ากคบี จับโคนต้นพืช นาลงปลูก กลบวัสดุปลูกให้มิดรากหรือมิดโคนต้นพอดี เพราะ ถ้าราก โผลพ่ น้ วสั ดุปลูกสมั ผสั กับอากาศ อาจทาให้รากและตน้ พืชเหี่ยวได้ 122องคค์ วามรู้สู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การดแู ลต้นพืชในระยะอนบุ าล 1 1. อุณหภมู ิ ปรับสภาพภายในโรงเรือนให้มีระดับอุณหภูมิประมาณ 28-30 องศาเซลเซยี ส 2. ความเขม้ แสง ความเขม้ แสงไม่เกนิ 60% เพราะพืชยังมขี นาดเล็ก 3. ความชื้นสมั พัทธ์ ในชว่ ง 30 วันแรกของการย้ายปลูกควรรักษาความช้ืน ภายในโรงเรือนไวท้ ี่ 85-90% 4. การให้น้า หลังจากปลูกต้นเน้ือเยื่อ 2-3 วันแรก ไม่ต้องให้น้าอีกจนกว่า วสั ดจุ ะแหง้ เพราะในโรงเรือน มีความชน้ื สงู 85-90% 5. การให้ป๋ยุ วัสดปุ ลูกทใ่ี ช้ในระยะอนุบาล 1 จะเนน้ เรอื่ งคณุ สมบัตขิ องการ ระบายนา้ ที่ดี นิยมใช้ทรายผสมข้ีเถ้าแกลบ ซึ่งวัสดุดังกล่าวมีธาตุอาหาร น้อยมากไมเ่ พยี งพอต่อความต้องการ จะใหป้ ๋ยุ เสรมิ ทางใบโดยเฉพาะธาตุ ไนโตรเจน เพ่ือการเจริญเติบโตทางลาต้นความเข้มของปุ๋ย ใช้เพียง 1/4 หรือ 1/2 ของการแนะนา 123 องคค์ วามรู้สู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
การอนบุ าลต้นกล้ากลว้ ยจากการเพาะเลีย้ งเนอื้ เย่อื เพอ่ื สร้างรายไดส้ ชู่ ุมชน ศกั ดด์ิ า สุขวฒั นา การอนบุ าลระยะที่ 2 ทาการยา้ ยต้นกล้ากลว้ ยจากถาดหลุมท่ีมีอายุ 4 สปั ดาห์ แล้วเพาะเล้ียงในถงุ ดาขนาดกวา้ ง 2.5 น้วิ ยาว 5 นิ้ว อีก 2-4 สัปดาห์ ระยะน้ี พืชจะมีความแขง็ แรงและปรับตวั เขา้ กับสภาพแวดลอ้ มได้มากข้นึ เม่ือผ่านการ อนุบาลระยะท่ี 2 แล้ว รวมท้ังส้ินประมาณ 2 เดือนจึงสามารถย้ายปลูกใน สภาพปลกู เล้ียงปกติได้ การดูแลต้นกล้าในสภาพโรงเรือนเปิดเพ่ือปรับสภาพ ใหเ้ หมาะสมกับสภาพแวดล้อมทจ่ี ะนาไปปลูกในสภาพธรรมชาติ การอนุบาลต้นกล้ากล้วยท่ีได้จากการเพาะเล้ียงเนื้อเย่ือตลอดระยะเวลา 2 เดอื นนบั เปน็ กระบวนการทมี่ คี วามสาคัญมาก 124องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
125 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การอนุบาลตน้ กลา้ กลว้ ยจากการเพาะเลย้ี งเนือ้ เยอื่ เพอื่ สรา้ งรายไดส้ ู่ชมุ ชน ศกั ดดิ์ า สุขวัฒนา สอบถามขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ ศกั ด์ดิ า สขุ วฒั นา สถาบนั วิจยั เทคโนโลยีเกษตร มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา โทรศพั ท์ : 0-5434-2550 126องคค์ วามรูส้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
127 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การใชก้ จิ กรรมบทบาทสมมติ ในการพัฒนาความสามารถดา้ นภาษาองั กฤษ ของหมอนวดแผนโบราณ 128องคค์ วามรูส้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
การใชก้ ิจกรรมบทบาทสมมติในการพฒั นาความสามารถดา้ นภาษาอังกฤษของหมอนวดแผนโบราณ เกดิ ศริ ิ ชมภกู าวนิ ความเป็นมา นวดแผนไทยเป็นภูมิปัญญาท่ีดารงอยู่ในสังคมไทยมาช้านาน และยังเป็นบริการท่ีได้รับ ความนยิ มจากนกั ท่องเท่ยี วทงั้ ชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ท้ังยังมีแนวโน้มว่าจะ ขยายตวั มากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวที่จะมาใช้บริการในอนาคต ด้วย เหตุน้ีเอง บคุ ลาการที่มคี วามสามารถดา้ นการฟัง พูดภาษาอังกฤษจึงมีบทบาทสาคัญในการ ให้บริการและสร้างความประทับใจให้กับชาวต่างชาติในด้านธุรกิจท่องเที่ยว ดังนั้นหาก ผู้ประกอบการอาชีพนวดแผนไทยมีความสามารถทางด้านการฟัง พูดภาษาอังกฤษก็จะ ส่งเสริมการให้บรกิ ารทางธรุ กิจทอ่ งเท่ียวประเภทนีไ้ ดด้ ยี ิง่ ขึน้ ไป แต่ปัญหาที่เกิดข้ึนกับกลุ่มผู้ ประกอบอาชพี นวดแผนไทย พบวา่ ปัญหาดา้ นการฟัง พูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างประเทศท่ี เข้ามาใช้บริการการนวดแผนไทย เช่น ไม่สามารถคุยโต้ตอบกับผู้มาใช้บริการได้ เพราะไม่ เข้าใจคาถาม หรือแม้แตเ่ ขา้ ใจก็ไม่สามารถพูดโต้ตอบได้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวเก่ียวข้องกับการ ใช้ทักษะการฟัง พดู ภาษาองั กฤษ และสาเหตุของปัญหาเกิดจากการขาดพื้นฐานในการเรียน และการใชภ้ าษาองั กฤษ 129 องคค์ วามรู้สู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
คณาจารย์จาก คณะบริหารธุรกิจและศิลป หัวหน้าโครงการ ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ล้านนา จึงได้ศึกษาการใช้กิจกรรมบทบาท เกิดศิริ ชมภูกาวนิ สมมติ ในการพัฒนาความสามารถด้านการพูด ภาษาองั กฤษ เพ่อื ทาใหผ้ ปู้ ระกอบการสามารถ พัฒนาทักษะในการสื่อสารได้ดีขึ้น และ นา ผลงานวจิ ัยดงั กล่าวมาถา่ ยทอดสผู่ ปู้ ระกอบการ นวดแผนไทยในเขตอาเภอบ้านโฮ่ง จังหวัด ลาพูน และ ในเขตอาเภอจอมทอง จังหวัด เชียงใหม่ ให้ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาในการ ส่ือสารได้ โดยใช้ภาษาเป็นสื่อในหน้าท่ีต่าง ๆ เช่น การทักทาย การโต้แย้ง การซื้อขายของ และ ใช้ให้เหมาะสมตามสภาพสังคม โดย ผู้เรียนสามารถนาความรู้ดังกล่าวไปใช้จริง และเกิดความเข้าใจเมื่อมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ พูดกับผู้ฟัง ซ่ึงการใช้แนววิธีการสอนโดยใช้ กิจกรรมบทบาทสมติ ช่วยเพิ่มบรรยากาศท่ีดี ต่อการเรียนภาษาอังกฤษและช่วยส่งเสริม ความเชื่อมั่นในตนเองแก่ผู้เรียนในการสื่อสาร ใหม้ ปี ระสิทธิภาพ วัตถุประสงค์ เพ่ือการศึกษาการใช้กิจกรรมบทบาทสมมติในการพฒั นาความสามารถดา้ นการพูด ภาษาอังกฤษของผปู้ ระกอบอาชพี นวดแผนโบราณ 130องคค์ วามรสู้ ูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
การแนะนาตนเอง (Self – Introduction) การแนะนาตนเอง (Self – Introduction) สานวนที่นยิ มใช้ แนะนาตัวเอง เรม่ิ จาก May I introduce myself ? (เมย์ ไอ อนิ ทโร ดยชู มาย เซล็ ฟ์) ผม/ดิฉนั ขอแนะนาตวั เองครบั /คะ่ My name is ….....(name – surname)…….. (มาย เนม อิส ………(เนม – เซอร์ เนม)………) ผม/ดิฉันชือ่ -นามสกุล ….....ครบั /คะ่ I am …..…..(nationality)…….… (ไอ แอม……(แนช ชัน่ แนล ลทิ ิ)……) ผม/ดฉิ นั เปน็ ชาว.…(เชอ้ื ชาต)ิ … I come from / I am from ……...(city / country)………. (ไอ คัม ฟรอ์ ม/ไอ แอม ฟรอ์ ม…(ซทิ ิ / คนั ทริ)…) ผมมาจาก.…(เมอื ง /ประเทศ).… I am a ………..(career)…….…. (ไอ แอม เอ………(แค เรีย)………) ผม/ดิฉนั เป็น..…(อาชพี )…… 131 องคค์ วามรูส้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
การใชก้ จิ กรรมบทบาทสมมติในการพัฒนาความสามารถดา้ นภาษาองั กฤษของหมอนวดแผนโบราณ เกดิ ศริ ิ ชมภูกาวนิ การทักทาย (Greetings) การทกั ทาย (Greetings) เปน็ มารยาทอยา่ งหน่งึ ในสงั คมซง่ึ แต่ละทอ้ งถิ่นหรอื แต่ละประเทศตา่ งมคี าทักทายท่แี ตกตา่ งกนั ออกไป แบ่งออกเป็น การทักทาย อย่างเปน็ ทางการ และ การทกั ทายอย่างไมเ่ ป็นทางการ หรือแบบเป็นกันเอง Good morning (กู๊ด มอรน์ ่ิง) ใชท้ กั ทายตง้ั แตต่ อนเช้าถงึ ก่อนเทีย่ ง Good afternoon (กดู๊ แอฟ๊ เทอ่ ะ นนู ) ใชท้ ักทายในช่วงบา่ ย Good evening (กู๊ด อฝี นง่ิ ) ใช้ทกั ทายในตอนเยน็ จนถงึ กอ่ นเที่ยงคนื How are you? (ฮาว อาร์ ย)ู สบายดหี รอื เปล่าคะ I am all right. (ไอ แอม ออล ไรท้ )์ สบายดี I am not so well today. (ไอ แอม นอ็ ต โซ เวลล์ ทูเดย์) วนั นดี้ ิฉนั ไม่คอ่ ยสบายค่ะ 132องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การพูดคยุ เกย่ี วกบั สุขภาพ การพดู คุยเกย่ี วกับสขุ ภาพ โดยประโยคทใ่ี ชส้ อบถาม ประโยคทีใ่ ช้ตอบ ดงั ตอ่ ไปนี้ Is your health all right ? (อิส ยอร์ เฮล็ ธ์ ออลล์ ไรท้ ์) สุขภาพของคณุ ดใี ชไ่ หมคะ Do you have any disease? (ดู ยู แฮฟ เอ-นิ ด-ิ ซสิ ) คณุ มโี รคประจาตวั หรอื เปลา่ ครบั Did you have any operations? (ดิ๊ด ยู แฮฟ เอ-นิ ออพ-เพอ่ ะเร-ฌ่ันส์) คณุ เคยรบั การผา่ ตดั มาหรือเปล่าครบั Do you have any health problems? ( ดู ยู แฮฟ เอ-นิ เฮ็ลธ์ พรอ็ บ-เบล้มิ ส์ ) คณุ มีปญั หาสขุ ภาพหรอื เปลา่ ครบั Do you feel pain around this area ? (ดู ยู ฟลี เพน เอ-ราวด์ ธสี แอ-เรีย) ร้สู ึกเจบ็ (ปวด)บริเวณนไ้ี หมครับ 133 องคค์ วามรสู้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
การใช้กจิ กรรมบทบาทสมมตใิ นการพฒั นาความสามารถดา้ นภาษาอังกฤษของหมอนวดแผนโบราณ เกดิ ศิริ ชมภูกาวนิ การเชิญชวนให้ใชบ้ รกิ ารนวดแผนไทย ในการให้บริการนวดแผนไทยแก่ชาวต่างชาติน้ัน เราสามารถ นาประโยคสนทนา ภาษาอังกฤษมาใช้กับผู้รับบริการชาวต่างชาติได้ โดยเร่ิมต้ังแต่การกล่าวทักทายกันในครั้ง แรก การเช้ือเชิญและเสนอ ให้บริการ การสอบถามความต้องการ ความพึงพอใจของ ผ้รู ับบริการ การให้ขอ้ มลู ต่างๆ ของสถานประกอบการนวดแกผ่ ้รู บั บริการนวด เปน็ ต้น Massage, Sir ? (มาส ซาจ เซอ๊ ะร)์ คณุ ตอ้ งการรบั บริการนวดไหมครบั /คะ Massage, Mister ? (มาส ซาจ มิส เต๊อร)์ คณุ (ผูช้ าย)ตอ้ งการรบั บรกิ ารนวดไหมครบั /คะ Massage, Miss ? (มาส ซาจ มิส) คณุ (ผู้หญิง)ตอ้ งการรบั บรกิ ารนวดไหมครบั /คะ Would you like a massage, Sir? (วดู๊ ยู ไล้ค์ เอ มาส ซาจ เซอ๊ ะร)์ คณุ ตอ้ งการรบั บริการนวดไหมครบั /คะ Would you like a massage, Mister? (ว๊ดู ยู ไลค้ ์ เอ มาส ซาจ มสิ เตอร์) คณุ (ผู้ชาย)ตอ้ งการรบั บริการนวดไหมครบั /คะ Would you like a massage, Madam? (วูด๊ ยู ไลค้ ์ เอ มาส ซาจ แม เดมิ๊ ) คณุ (ผู้หญงิ )ตอ้ งการรบั บรกิ ารนวดไหมครับ/คะ 134องคค์ วามรสู้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
การสอบถามข้อมูล และการแนะนาบริการนวดแผนไทย ตัวอยา่ งบทสนทนา เช่น A massage will relax you. (เอ มาส ซาจ วิล ริ-แล็กซ์ ย)ู การนวดนี้จะช่วยใหค้ ณุ ผอ่ นคลายไดค้ ะ่ I will give you a good massage. (ไอ วิล กฟิ ยู เอ กดู๊ มาส ซาจ) ผมจะใหบ้ รกิ ารนวดทีด่ แี กค่ ณุ ครบั I will give you special price for a Thai massage. (ไอ วิล กฝิ ยู สะเพ-เชี่ยล ไพรซ๊ ์ ฟอร์ เอ ไท มาส ซาจ) ดฉิ ันจะใหร้ าคาพิเศษแกค่ ณุ ในการนวด(แผนไทย) ครงั้ นค้ี ่ะ Guaranteed satisfaction or your money back. (แก-รนั -ทีด แซ๊ท-ทชิ -แฟค-เชิล่ ออร์ ยอร์ มน๊ั -นิ แบค) รับรองความพงึ พอใจ ไม่อยา่ งนน้ั เรายินดคี ืนเงนิ ใหค้ ณุ คะ่ Guaranteed satisfaction (แก-รัน-ทีด แซท๊ -ทชิ -แฟค-เช่ิล) รบั ประกนั ความพงึ พอใจ 135 องคค์ วามรู้สู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
การใชก้ ิจกรรมบทบาทสมมติในการพัฒนาความสามารถด้านภาษาองั กฤษของหมอนวดแผนโบราณ เกดิ ศริ ิ ชมภูกาวิน การสอบถาม/ใหข้ อ้ มูลบริการนวดแผนไทย Have you ever tried Traditional Thai Massage ? (แฮฟ ยู เอฝ-เว่อะ ไทรด์ เทรด่ิ -ด-ิ๊ เชน่ิ -เน้ิล ไท มาส-ซาจ) คณุ เคย(ใชบ้ รกิ าร)นวดแผนไทยมาบ้างหรอื เปลา่ ครบั How often do you have Thai massage ? (ฮาว ออฟ-เฟิ่ล ดู ยู แฮฟ ไท มาส-ซาจ) คณุ นวดแผนไทยบอ่ ยแค่ไหนค We open from Tuesday to Sunday and from 8.30 a.m to 9.00 p.m. (วี โอ-พล่ึ ฟอรม์ ทวิ ซ์-เดย์ ทู ซนั -เดย์ แอนด์ ฟอรม์ ฮาฟ พาร์ท เอท เอ เอม็ ทู ไนน์ พี เอม็ ) เราเปดิ บรกิ ารวันอังคารถึงวันอาทติ ย์ ตงั้ แต่ 8.30 น. ถึง สามท่มุ คะ่ การสอบถามความตอ้ งการใชบ้ รกิ ารของลูกคา้ I can give you a foot massage and a body massage. Which one do you prefer? (ไอ เคนิ่ กฟิ ยู เอ ฟทุ มาส ซาจ แอนด์ เอ บาดิ มาสซาจ วชิ วัน ดู ยู พริ เฟอร)์ ดิฉันมบี ริการนวดเท้า และนวดตัว คณุ จะรบั บรกิ าร แบบไหนดคี ะ We can give you a back massage, an oil massage and a herbal massage. Which one do you prefer? (วี เคนิ่ กฟิ ยู เอ แบ็ค มาสซาจ แอน ออยล์ มาส ซาจ แอนด์ เอ เฮอ เบ้ิล มาส ซาจ วชิ วนั ดู ยู พริ เฟอร์) เรามบี รกิ ารนวด คลายเครียด (นวดหลงั และคอ) นวดน้ามัน และนวดประคบสมุนไพร คณุ ตอ้ งการรบั บริการแบบไหนดคี ะ 136องคค์ วามรู้สู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
การถามตอบเกี่ยวกบั คา่ บรกิ ารนวด 200 baht for foot massage, Miss. (ทู ฮัน-เดรด็ บาท ฟอร์ ฟทุ มาส-ซาจ มสิ ) ราคา 200 บาทสาหรับการนวดเท้าคะ่ คณุ ผ้หู ญิง 300 baht per hour. (ธรี ฮัน-เดรด็ บาท เพอ อาวร)์ ราคาช่วั โมงละ 300 บาทครบั Can you give me a discount? (เคิน่ ยู กฟี มี เอ ดสิ -เคา๊ ท์) คณุ สามารถให้สว่ นลดแกด่ ิฉันได้บ้างไหมคะ Yes, I can. 200 baht, Madam. (เยส ไอ เคนิ่ ทู ฮนั -เดรด็ บาท แม เด้ิม) ลดได้(เหลือ) 200 บาทคะ่ คณุ ผหู้ ญิง No, I cannot, Mister. This is the final price. (โน ไอ เคน่ิ นอ็ ท มสิ เตอร์ ธีส อิส เธอะ ไฟ-เน่ลิ ไพร้ซ์) ดฉิ ันไม่สามารถลดราคาใหค้ ณุ ได้ นเ่ี ปน็ ราคาสดุ ท้ายแลว้ คะ่ 137 องคค์ วามรสู้ ูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
การใช้กิจกรรมบทบาทสมมติในการพัฒนาความสามารถด้านภาษาองั กฤษของหมอนวดแผนโบราณ เกดิ ศริ ิ ชมภูกาวนิ การให้คาแนะนา แกล่ กู ค้ากอ่ นใหบ้ ริการนวดแผนไทย Take off your shoes, please. (เทค ออฟ ยอร์ ชูส์ พลีส) กรณุ าถอดรองเท้า(ของคณุ )ดว้ ยครับ Take off any jewelry, please. (เทค ออฟ เอ-นิ จู-แอล็ -ริ พลสี ) กรณุ าถอดเครอ่ื งประดบั (ท่ีสวมใสอ่ ย)ู่ ด้วยคะ่ Please change your clothes in this room. (พลีส เชน้ จ์ ยอร์ โคลทส์ อิน ธสี รูม) กรณุ าเปลี่ยนเสอื้ ผ้าท่หี อ้ งนค้ี ะ่ การแนะนาลูกคา้ หลงั รบั บริการนวด Please drink a big glass of warm water after being massaged. (พลีส ดริ้ง เอ บกิ๊ กล๊าส ออฟ วอร์ม วอ เทอ่ ะร์ อาฟ-เทอะ บ-ี อิ้ง มาสซาจด์ ) กรณุ าดม่ื น้าอุ่นแกว้ ใหญๆ่ หลงั จากการนวด Please get plenty of rest. (พลีส เก็ท เพลน-ทิ ออฟ เรสท์) กรณุ าพกั ผอ่ นให้เพียงพอ Please don’t take any cold shower an hour after being massaged. (พลีส ดน๊ ท์ เทค เอ-นิ โคลด์ ชาว-เออ่ ะร์ แอน อาวร์ อาฟเท่อะ บิ-องิ้ มาสซาจด์ ) ภายใน 1 ชั่วโมงหลงั จากการนวด กรณุ าอย่าอาบนา้ เยน็ นะครบั 138องคค์ วามรสู้ ูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
139 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การใชก้ ิจกรรมบทบาทสมมติในการพัฒนาความสามารถด้านภาษาองั กฤษของหมอนวดแผนโบราณ เกดิ ศิริ ชมภูกาวนิ สอบถามข้อมลู เพ่ิมเติม เกดิ ศริ ิ ชมภูกาวนิ คณะบริหารธุรกจิ และศลิ ปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงใหม่ โทรศพั ท์ : 0-5392-1444 140องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
141 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การพฒั นาและการผลิต เฟอร์นเิ จอร์ 142องคค์ วามรสู้ ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
การพฒั นาและการผลิตเฟอร์นิเจอร์ สมชาย บุญพิทกั ษ์ ความเปน็ มา ปัจจุบัน ประเทศไทยมีการส่งเสริมอุตสาหกรรมขนาดย่อม ดังจะเห็นได้จาก กลุ่มผู้ผลิตสินค้า OTOP รวมท้ังสินค้าพื้นเมืองต่างๆ เป็นการส่งเสริมให้ ประชาชนมีงานทาและเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน ประกอบกับปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เขตพื้นที่ตาก มีนโยบายในการ ช่วยเหลือสนับสนุนส่งเสริมเทคโนโลยีและแก้ปัญหาให้แก่ชุมชน คณะผู้ ดาเนินงานจึงทาการลงพ้ืนท่ีสอบถามปัญหาต่างๆ กับกลุ่มสหกรณ์เครือข่าย ออมทรัพย์คลองน้าไหล จากัด จังหวัดกาแพงเพชร ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ผลิตสินค้า OTOP ประเภทเฟอร์นิเจอร์ ที่กาลังประสบปัญหาในการพัฒนารูปแบบ และ กระบวนการผลิตเฟอร์นิเจอร์ โดยรูปแบบที่กลุ่มทาการผลิตอยู่ในปัจจุบัน ค่อนข้างล้าสมัย ประกอบกับในกระบวนการผลิตน้ัน ยังไม่เข้าใจในการเข้า ปากไม้ และการเคลอื บผิวเทา่ ที่ควร จงึ ส่งผลทาใหช้ น้ิ งานทอ่ี อกมา ไม่สวยงาม และสอดคลอ้ งตามความตอ้ งการของท้องตลาด 143 องคค์ วามรสู้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
ด้วยเหตุดังกล่าวน้ี คณะผู้ดาเนินโครงงานได้ เห็นถึงความสาคัญของปัญหาดังกล่าว จึงมี แนวคิดในการพัฒนารูปแบบ และการผลิต เฟอร์นิเจอร์ เพ่ือ ให้ชุมชนได้ผลิตสินค้าท่ีมี รูปแบบสวยงาม ดูน่าใช้สอย และตอบสนอง ตามความต้องการของตลาด เป็นการเพ่ิม มลู ค่าของสนิ คา้ ให้มีประสิทธิภาพมากยิง่ ขึ้น หัวหน้าโครงการ สมชาย บญุ พทิ ักษ์ วัตถปุ ระสงค์ เพือ่ การพฒั นารปู แบบและการผลิตเฟอร์นเิ จอร์ให้กบั กลมุ่ สหกรณ์เครอื ขา่ ยออมทรพั ย์ คลองนา้ ไหล จากัด เพื่อถา่ ยทอดเทคโนโลยีการออกแบบเฟอรน์ ิเจอรจ์ ากเศษหนังสไู่ ม้และการฝกึ อบรมการ กระบวนการผลิต เฟอรน์ ิเจอรแ์ ละการเคลือบผิวอย่างถกู วธิ ี 144องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
หลกั การออกแบบเฟอรน์ เิ จอร์ หลักการออกแบบน้ันเป็นพ้ืนฐานสาหรับการสร้างสรรค์งาน ไม่ใช่กฎเกณฑ์ตายตัว แต่ใช้เป็นแนวคิด สาหรบั ผอู้ อกแบบ เพอื่ ใช้สร้างสรรคง์ านออกแบบ โดยการออกแบบจะต้องมาจากความมุ่งหมายที่วาง ไว้ อีกท้ังในการออกแบบเฟอร์นิเจอร์น้ัน รูปทรงที่ได้มักจะยึดจุดประสงค์หรือความมุ่งหมายในการใช้ งานในการใชง้ านเป็นหลักสาคัญ ซึ่งความมุง่ หมายหรือหน้าทใ่ี ชส้ อยดังกล่าวมักมีความม่งุ หมายออกเป็น สองประเด็นหลักๆ ซ่ึงได้แก่ ความมุ่งหมายหรือการใช้สอยเพ่ือประโยชน์หรือความสุขทางกายหรือ กายภาพ อาทเิ ชน่ สดั ส่วนทส่ี อดรับและเหมาะสมกับสะรีระของผู้ใช้ มีความแข็งแรงและเหมาะสมกับ การใช้งาน ทั้งยงั สามารถสรา้ งความสะดวกสบายในการใชง้ าน และความมุ่งหมาย หรือการใช้สอยเพื่อ ประโยชน์หรอื ความสขุ ทางใจ ซงึ่ ได้แก่ รูปทรงที่ความสวยงาม รูปทรงที่สร้างความภาคภูมิใจหรือสง่า งามแก่ผใู้ ช้เป็นตน้ ปจั จยั ท่ีตอ้ งคานึงถึงในการออกแบบเฟอร์นเิ จอร์ ประกอบด้วยสิ่งตา่ งๆดังต่อไปน้ี 1. หนา้ ทีใ่ ช้สอย การออกแบบเฟอร์นเิ จอร์ หรือเคร่อื งเรือน จาเป็นเป็นอยา่ งยิ่งท่ีจะต้องรู้และเข้าใจ ของหน้าท่ใี ชส้ อยของเฟอรน์ ิเจอร์หรอื เครือ่ งเรอื นแตล่ ะชนิดและประเภทของเครื่องเรือน ให้เข้าใจ กอ่ นทาการออกแบบ 2. ความแข็งแรง ความแข็งแรงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งท่ีผู้ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ หรือ เครื่องเรือนต้อง คานงึ ถงึ เครื่องเรือนทมี่ ีโครงสรา้ งใหญโ่ ตแขง็ แรงเกินไปก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นการใช้โครงสร้าง ทด่ี ี เพราะเปน็ การสน้ิ เปลืองวัสดุและทาใหร้ าคาเกนิ ความเหมาะสม 3. ความปลอดภยั การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ หรอื เครื่องเรอื นตอ้ งคานึงถงึ ความปลอดภัยตอ่ ผใู้ ช้ 4. สัดส่วนการใช้งานที่เหมาะสม สัดส่วนการใช้งานเป็นปัจจัยท่ีมีความจาเป็นอย่างมากในการ ออกแบบ 5. ค ว า ม ส ว ย ง า ม ก า ร อ อ ก แ บ บ เฟอร์นิเจอร์ หรือเคร่ืองเรือนเป็น ธรรมดาท่ีต้องคานึงถึงความงาม เพ่ือ เป็นเสน่ห์และแรงจูงใจท่ีจะทาให้มี ความต้องการอยากไดเ้ ปน็ เจา้ ของ 145 องคค์ วามรู้สูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
การพฒั นาและการผลติ เฟอรน์ ิเจอร์ สมชาย บุญพิทกั ษ์ 6. การใช้วสั ดุท่เี หมาะสม การออกแบบท่ดี ตี ้องคานึงถึงวัสดุทเ่ี หมาะสมกับ การใช้งาน 7. กรรมวิธกี ารผลติ การรแู้ ละเข้าใจกรรมวธิ ีการผลติ 8. ราคาท่เี หมาะสม ควรมกี ารต้งั ราคาทส่ี มเหตสุ มผลและสอดคลอ้ งกบั ตลาด หรือ กล่มุ เป้าหมาย 9. การขนส่ง นกั ออกแบบควรคานึงถงึ การขนสง่ ด้วย และความเสียหาย อันเกิดจากการขนส่ง 10. การดแู ลและบารงุ รกั ษา ขน้ั ตอนการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ เตรียมไม้ที่จะผลติ เฟอร์นเิ จอร์ วดั หน้าไมเ้ ตรยี มโกรกตามขนาด โกรกไมต้ ามขนาด 146องคค์ วามรสู้ ูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
ไสปรับ 2 ด้าน เพื่อจะในไปเพาะเป็น ไมพ้ น้ื เพาะไม้พนื้ อัดพ้นื ดว้ ยสกรู เตรยี มขาโตะ๊ 147 องคค์ วามร้สู ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230