Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การจัดการทรัพยากรชุมชนเพื่อการจัดการท่องเที่ยว (2561)

การจัดการทรัพยากรชุมชนเพื่อการจัดการท่องเที่ยว (2561)

Published by RMUTL Knowledge Book Store, 2020-10-12 00:28:50

Description: ถอดบทเรียนองค์ความรู้เรื่องการกระบวนการจัดการทรัพยากรชุมชนเพื่อการจัดการท่องเที่ยว จากงานวิจัยเรื่อง การพัฒนาการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรวัฒนธรรมด้านการท่องเที่ยวเมืองแม่แจ่ม ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาเพื่อเป็นบทเรียนตัวอย่างแก่ผู้ที่กำลังศึกษาหรือสนใจนำไปประยุกต์ใช้พัฒนาการจัดการทรัพยากรชุมชนเพื่อการจัดการท่องเที่ยวของพื้นที่ศึกษาอื่นๆ ได้อย่างเหมาะสม โดยเรียบเรียงเนื้อหาตามหัวข้อดังนี้ แนวคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การวิเคราะห์ชุมชนและทรัพยากรชุมชนเพื่อการจัดการท่องเที่ยว เครื่องมือสำรวจและเก็บรวบรวมข้อมูลทรัพยากรชุมชนเพื่อการจัดการท่องเที่ยว การจัดการทรัพยากรชุมชนเพื่อการจัดการท่งเที่ยว และ กระบวนการเตรียมความพร้อมของชุมชนเพื่อการจัดการท่องเที่ยว

Keywords: การจัดการการท่องเที่ยว,การจัดการทรัพยากรชุมชน,การพัฒนาชุมชน,มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา,KBS

Search

Read the Text Version

การจดั การ ทรัพยากรชุมชน เพอื่ การจดั การท่องเที่ยว



คำ� น�ำ หนงั สอื องคค์ วามรู้ เรอ่ื ง การจดั การทรพั ยากรชมุ ชนเพอื่ การจดั การทอ่ งเทยี่ ว เลม่ น้ี เปน็ สว่ นหนง่ึ จาก ผลการศกึ ษาวจิ ยั ของมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ทไี่ ดร้ บั ทนุ จากสำ� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การวจิ ยั หนว่ ยบรู ณาการวจิ ยั และความรว่ มมอื เพือ่ พฒั นาเชิงพน้ื ที่ (ABC Unit) สัญญาเลขท่ี RDG59A0025 ภายใต้โครงการ “พฒั นา เชิงพื้นที่ผ่านทรัพยากรทางศิลปะและวัฒนธรรมเมืองแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ : Area-based Development Project though Art and Culture Resources of Mae Chaem District, Chiang Mai.” โดยคณะผจู้ ดั ท�ำเป็นผู้ร่วมวจิ ัย ซงึ่ ได้รับผิดชอบดำ� เนนิ งานวจิ ัย ในวตั ถปุ ระสงคท์ ี่2 คอื “การพฒั นาการมสี ว่ นรว่ มในการจดั การทรพั ยากรวฒั นธรรม ดา้ นการทอ่ งเทย่ี วเมอื งแมแ่ จม่ : Developing Participation in Cultural Resource Participation Management for Tourism of Mae Chaem District, Chiang Mai. “ ดว้ ยเหตนุ ี้ คณะผจู้ ดั ทำ� จงึ ไดร้ วบรวมและเรยี บเรยี งขอ้ มลู ทไี่ ดด้ ำ� เนนิ การ มาสรุปให้อยู่ในรูปแบบหนังสือองค์ความรู้ ในหัวข้อเร่ือง “การจัดการทรัพยากร ชุมชนเพื่อการจัดการท่องเท่ียว” เพื่อเป็นการส่งเสริมการสร้างองค์ความรู้ให้แก่ ผู้ท่ีก�ำลังศึกษาหรือผู้ท่ีสนใจ สามารถน�ำความรู้ท่ีได้รับจากหนังสือเล่มนี้ ไปเป็น บทเรียนตัวอย่าง หรือน�ำประยุกต์ใช้ เพื่อพัฒนาการจัดการทรัพยากรชุมชนเพื่อ การจดั การทอ่ งเทยี่ วของพน้ื ทศี่ กึ ษาอนื่ ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมและมปี ระสทิ ธภิ าพตอ่ ไป พิศาพมิ พ์ จันทร์พรหม นริศ ก�ำแพงแกว้

06 “เแกนยี่ ววคกดิบั กเบาื้อรทง่อตง้นเทยี่ ว อย่างย่งั ยนื ” 10 เแกพลาอ่ื ระกวทาริเรคพั จรยดั าากะกหารร์ชชทุมมุ ่อชชงนนเท่ียว

19 เคร่ืองมอื สำ� รวจและ 25 การจัดการทรัพยากร เก็บรวบรวมข้อมูล ชมุ ชนเพอ่ื การจัดการท่องเท่ียว ทรพั ยากรชุมชน เพื่อการจดั การทอ่ งเทย่ี ว สารบญั สารบัญ 3 4กขรอะงบชวมุ นชกนาเรพเื่อตกรียารมจคัดวกาามรทพอ่ รง้อเมทยี่ ว 37 บทสรุป

บทนำ� ปัจจุบันการท่องเท่ียวนับได้ว่าเป็นหนึ่งเครื่องมือส�ำคัญ ท่ีรัฐบาลใช้ด�ำเนินการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยมุ่งหวังให้การท่องเท่ียวเป็นส่วนหน่ึงของการขับเคลื่อนหลัก ท่ีจะผลักดันการสร้างรายได้ส�ำหรับการ พัฒนาประเทศด้วยเหตุน้ีรัฐบาลหน่วยงานภาครัฐจึงได้มีนโยบาย มาตรการและแผนงานพัฒนาส่งเสริมการ ท่องเท่ียวต่างๆ ออกมามากมายก่อให้เกิดการตื่นตัวต่อภาคการท่องเที่ยวอย่างมาก ซ่ึงส่งผลให้จ�ำนวน ปรมิ าณนกั ทอ่ งเทยี่ วมกี ารเพมิ่ ขน้ึ อยา่ งทนั ทแี ละตอ่ เนอื่ ง การประกอบกจิ การทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การทอ่ งเทย่ี วมกี าร ขยายตัวเพ่ิมมากข้ึน ท้ังในระดับชุมชนเมืองและระดับชุมชนชนบททรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว จึงถูกน�ำมาใช้ในปริมาณที่มากตามการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวเช่นกัน ท�ำให้การจัดการทรัพยากร เพื่อการท่องเท่ียวจึงเป็นเร่ืองหน่ึงที่ส�ำคัญ ท่ีผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งท่องเที่ยวน้ันๆ จะต้องใส่ใจ และร่วมคิด ร่วมจัดการ เพ่ือให้ทรัพยากรการท่องเท่ียว มีความสมดุล และเหมาะสม เกิดความย่งั ยืนต่อไปในอนาคต 6 การจัดการทรพั ยากรชุมชน เพอ่ื การจดั การท่องเทีย่ ว

แนวคิดเบ้อื งต้นเกย่ี วกับ 5. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมท้ังทางธรรมชาติ การทอ่ งเที่ยวอย่างย่งั ยืน สังคมและวฒั นธรรมต้องไม่มีหรอื มีน้อยทีส่ ุด สรัสวดี อาสาสรรพกิจ (2542) กล่าววา่ “การ บญุ เลศิ จติ ตั้งวฒั นา (2542) ได้ให้ความ พัฒนาการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืนเป็นการพัฒนา หมายของการวางแผนพัฒนาการท่องเท่ียว อย่าง อุตสาหกรรมการท่องเท่ียวท่ีมีผลกระทบต่อ ย่ังยืนหมายถึง “การก�ำหนดแนวทางการพัฒนา สิ่งแวดล้อมและสังคมน้อยที่สุดมีความเชื่อมโยง การท่องเท่ียวแบบย่ังยืนขึ้นล่วงหน้าว่าจะด�ำเนินงาน 7 สอดคล้องกันท้ังทางด้านการพัฒนาและด้านการ อะไรจะด�ำเนินไปท�ำไมจะด�ำเนินงานท่ีไหนจะด�ำเนิน ตลาดท่ีน�ำนักท่องเท่ียวมาชื่นชมทรัพยากรการ งานอย่างไรจะด�ำเนินงานเมื่อไรและใครเป็นผู้ด�ำเนิน ทอ่ งเทยี่ วนน้ั ๆไดเ้ ปน็ ประจำ� สมำ�่ เสมออนั จะสง่ ผลให้ งานหรือรับผิดชอบโดยก�ำหนดวัตถุประสงค์และเป้า เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจท่ีตอบสนองต่อการ หมายเพ่ือพัฒนาทั้งทางเศรษฐกิจสังคมวัฒนธรรม พัฒนาสิง่ แวดลอ้ มและสังคมอยา่ งตอ่ เน่ือง” และสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปในขณะเดียวกันก็ให้ แนวความคิดการท่องเที่ยวอย่างย่ังยืน ชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมได้รับผลประโยชน์จากการ มุ่งเน้นให้อุตสาหกรรมการท่องเท่ียวโดยรวมปรับ ท่องเท่ียวและสร้างจิตส�ำนึกแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สภาพจดั การเพอ่ื เขา้ สยู่ คุ ใหมข่ องกระแสโลกทเี่ ปลย่ี น ชว่ ยกนั อนรุ กั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มใหอ้ ยใู่ นสภาพดตี ลอดไป” ไปขอบเขตการพัฒนาจึงครอบคลุมทุกส่วนของ ส�ำหรับกระบวนการจัดการท่องเท่ียวท่ียั่งยืน การทอ่ งเทย่ี วคอื ประกอบไปดว้ ย(อ้างในพวงเพชร์ ธนสิน, 2548 ) 1. กจิ กรรมทอ่ งเทีย่ วต้องดำ� รงอยูไ่ ด้ 2. มีนกั ท่องเท่ยี วมาเยยี่ มเยือนอย่างสม�่ำเสมอ 3. ทรัพยากรการท่องเท่ียวยังคงรักษาความ ดึงดดู ใจไวไ้ ด้ไม่เส่อื มคลาย 4. กิจกรรมการบริหารมีก�ำไรแม้ต้องมีการ ปรบั ปรงุ เปลี่ยนแปลงการให้บรกิ ารอยู่เสมอ การจดั การทรพั ยากรชมุ ชน เพอื่ การจัดการท่องเท่ยี ว

1. การจัดการพื้นที่ได้แก่การจัดการเขตประโยชน์ (Zoning) การก�ำหนดมาตรการใช้ประโยชน์ปลูกสร้างอาคารและปรับปรุงพื้นที่ การควบคมุ การทอ่ งเทย่ี วและกจิ กรรมการท่องเทย่ี ว 2. การใหก้ ารศกึ ษาและการสอ่ื ความหมายไดแ้ กก่ ารสง่ เสรมิ กจิ กรรม ที่ใหค้ วามรใู้ นดา้ นสงิ่ แวดล้อมสง่ เสริมให้มีการใชม้ ัคคเุ ทศกใ์ นทอ้ งถ่นิ 3. การจัดกจิ กรรมการทอ่ งเท่ยี วได้แกม่ ุง่ กจิ กรรมทีไ่ มส่ ง่ ผลกระทบ ตอ่ สิง่ แวดลอ้ มหรอื สามารถทจ่ี ะปอ้ งกันแกไ้ ขได้ 4. การบริการการท่องเที่ยวได้แก่ส่งเสริมการบริการท่ีมี ความรับผิดชอบสร้างการมีส่วนร่วมในการบริการของชุมชนสนับสนุน การบรกิ ารทไ่ี ดม้ าตรฐาน 5. การจดั การสง่ิ แวดลอ้ มการปอ้ งกนั และลดผลกระทบไดแ้ กก่ ำ� หนด มาตรการจัดเก็บและการจัดขยะมูลฝอยการควบคุมอาคารกวดขัน กิจกรรมท่ีท�ำลายสิง่ แวดล้อม โครงการประสานงานวิจัยและพัฒนาเครือข่ายการท่องเท่ียว โดยชมุ ชน สำ� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การวจิ ยั (สกว.) ไดใ้ หค้ วามสำ� คญั กบั บทบาทชมุ ชนในการจดั การทอ่ งเทย่ี วของตนเองโดยไดน้ ยิ ามงานการ ทอ่ งเทยี่ ววา่ หมายถึง “ทางเลือกในการจัดการทอ่ งเทยี่ วทช่ี มุ ชนมสี ่วน ร่วมในการก�ำหนดทิศทางของการท่องเที่ยวบนฐานคิดที่ว่า ชาวบ้าน ทุกคนเป็นเจ้าของทรัพยากรและเป็นผู้มีส่วนได้เสียจากการท่องเท่ียว

โดยการน�ำเอาทรพั ยากรทม่ี อี ยไู่ มว่ า่ จะเปน็ ธรรมชาติ 9 ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิต และวิถีการผลิตของชมุ ชนมาใช้เป็นตน้ ทนุ หรอื ปจั จยั ในการจัดการท่องเท่ียวอย่างเหมาะสม รวมท้ังมี การพัฒนาศักยภาพคนในชุมชนให้มีความรู้ ความสามารถในการด�ำเนินงาน ต้ังแต่การตัดสินใจ การวางแผน การด�ำเนินงาน กาสรุปบทเรียน โดยเน้นให้เกิดความยั่งยืนสู่คนรุ่นลูกรุ่นหลาน และเกิดประโยชน์ต่อท้องถ่ิน ตลอดจนค�ำนึงถึง ความสามารถในการรองรับของธรรมชาติเป็นส�ำคัญ” (สินธุ์ สโรบล, 2546: 12) การจัดการทรัพยากรเพื่อการจัดการ ท่องเท่ียวในหนังสือเล่มน้ีได้น�ำแนวคิดการท่องเที่ยว โดยชุมชนเป็นแนวคิดส�ำคัญในการจัดการทรัพยากร เพอ่ื การทอ่ งเทยี่ วโดยคณะผจู้ ดั ทำ� หวงั เพยี งใหช้ มุ ชน สามารถจัดการทรัพยากรของชุมชนได้ด้วยตัวเอง เพอื่ การพัฒนาตนเอง พฒั นาทรพั ยากรชุมชนโดยใช้ การท่องเที่ยวเป็นเคร่ืองมือหนึ่งในการพัฒนาในภาพ รวมของชุมชนตอ่ ไป การจดั การทรัพยากรชมุ ชน เพื่อการจดั การท่องเทยี่ ว

การวเิ คราะห์ชมุ ชนและ ทรัพยากรชุมชน เพื่อการจดั การท่องเท่ยี ว การวิเคราะห์ชุมชนและ วิเคราะห์ชมุ ชนโดยใชป้ ัจจัยของการท่องเท่ยี ว ทรัพยากรชุมชนเพื่อการจัดการ ปัจจัยของการท่องเท่ียวแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังน้ี ท่องเที่ยวเป็นการเคร่ืองมือ (Burkart& Medlik,1985 : 59) หน่ึงในการเตรียมความพร้อม 1. สง่ิ ดึงดดู ใจทางการทอ่ งเท่ียว (Attraction) หมายถงึ สิง่ ท่สี ามารถ ก่อนท่ีจะต้อนรับนักท่องเที่ยว ดึงดูดหรือโน้มน้าวใจให้เกิดความสนใจปรารถนาท่ีจะไปท่องเที่ยว โดยที่ชุมชนต้องรู้ตัวเอง และ ยังแหล่งท่องเท่ียว พ้ืนที่ที่นักท่องเท่ียวไปเยือนจะต้องเป็นพ้ืนท่ีที่มีส่ิง เขา้ ใจถงึ สถานการณก์ ารทอ่ งเทย่ี ว ดึงดูดใจทางการท่องเท่ียวเป็นส�ำคัญ ในแหล่งท่องเท่ียวจะมีจุดที่เป็น ในโลกยคุ ปจั จุบัน ท่มี คี วามหลาก สิง่ ดงึ ดดู ใจทางการทอ่ งเท่ียว หลายทั้งในเรื่องความต้องการ จดุ หนง่ึ หรอื หลายจดุ กไ็ ด้ ถา้ มสี งิ่ ดงึ ดดู ใจทางการทอ่ งเทย่ี วหลายจดุ ในสินค้าและบริการ รวมถึง แหล่งท่องเท่ียวน้ันจะมีนักท่องเที่ยวและสนใจนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว 10 จะต้องตระหนักถึง ภัยคุกคาม กันมากสง่ิ ดงึ ดดู ใจทางการท่องเท่ยี วแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คอื ที่ จ ะ ก ร ะ ท บ ต ่ อ ส ภ า พ สั ง ค ม แ ล ะ วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง ชุ ม ช น ซึ่งมีผลมาจากการพัฒนาการ ทอ่ งเทยี่ วชมุ ชน ทง้ั ในรปู แบบการ ใช้ทรัพยากรชุมชนหรือวัฒนธรรม ภายนอกทต่ี ามมากบั นกั ทอ่ งเทย่ี ว ทั้งนี้การวิเคราะห์ชุมชนและ ทรัพยากร จึงเป็นการเตรียม ความพร้อมและสร้างภูมิคุ้มกัน ที่ดี ท่ีจะท�ำให้ชุมชนสามารถต้ัง รับผลท่ีจะเกิดข้ึนตามมาจากการ ท ่ อ ง เ ที่ ย ว ใ น รู ป แ บ บ ต ่ า ง ๆ ไดต้ ่อไป การจัดการทรัพยากรชมุ ชน เพ่อื การจัดการท่องเทีย่ ว

1.1 ส่ิงดึงดูดใจทางการท่องเท่ียวท่ีธรรมชาติ ใหม้ า (Natural Attraction Factors) คอื ความงามตาม ธรรมชาติท่ีสามารถดึงดูดให้คนไปเยือนหรือไปเที่ยว ในพ้ืนที่นน้ั เช่น หาดทรายท่สี วยงาม สภาพป่า และ ชวี ิตสัตว์ปา่ เปน็ ต้น 1.2 ส่ิงดึงดูดใจทางการท่องเที่ยวที่มนุษย์ สรา้ งขน้ึ (Historical and Cultural Attraction Factors) เปน็ สง่ิ ทมี่ นษุ ยส์ รา้ งขนึ้ แลว้ สามารถดงึ ดดู ใจใหม้ นษุ ย์ ไปเยือนหรือไปท่องเที่ยว ยังพื้นท่ีนั้น เช่น สงิ่ กอ่ สรา้ งทเี่ปน็ สถาปตั ยกรรม ไดแ้ กว่ ดั วงั เมอื งโบราณ เปน็ ตน้ วิถีชีวิตจากการกระท�ำของคน เช่น ตลาดน�้ำ กเ็ ปน็ สง่ิ ดงึ ดดู ใจทางการทอ่ งเทย่ี วทม่ี นษุ ยท์ ำ� ใหเ้ กดิ ขน้ึ มา รวมท้ังกิจกรรมต่างๆ ท่ีคนเราสร้างขึ้นมา เช่น การแข่งกีฬา การแสดง การจัดเทศกาล เช่น งานเทศกาลอาหาร งานเทศกาลผลไม้ เป็นต้น 2. สิ่งอ�ำนวยความสะดวก (Facility) หมายถึง ส่ิงต่างๆที่รองรบั การเดินทางท่องเที่ยวเพื่อท�ำใหก้ าร วิเคราะห์ชุมชนโดยใช้วัตถุประสงค์กับ 11 เดินทางท่องเที่ยวเป็นไปได้ด้วยความสะดวกสบาย ท่ีส�ำคัญมากท่ีสุดคือ เรื่องท่ีพักแรมไม่ว่าจะเป็น การท่องเทย่ี ว ท่ีพักในรปู แบบโรงแรม รสี อร์ท บังกะโล เกสท์เฮ้าส์ สง่ิ สำ� คญั อนั ดบั รองลงมา คอื การบรโิ ภคจงึ ตอ้ งมรี า้ น วิเคราะห์ชุมชนโดยใช้วัตถุประสงค์กับการท่อง อาหารบรกิ ารส�ำหรบั นักทอ่ งเท่ียว ตลอดจนขา่ วสาร เท่ียว https://tourismatbuu.wordpress.com (2561: ขอ้ มูลเพ่อื การเดินทางไว้บริการนักท่องเท่ยี ว วตั ถปุ ระสงค์ของการทอ่ งเที่ยว) ได้ระบุไว้ ดังน้ี 3. การเข้าถึงได้ (Accessibility) หมายถึง 1. การท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนในวันหยุด การไปถึงแหล่งท่องเท่ียวน้ันได้ คือ ต้องมีการ (Holiday-Mass Popular Individual) เป็นการเดนิ ทางใน คมนาคมขนส่งนักท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวนั้น วันหยุดเพ่ือพักผ่อนโดยไม่ท�ำอะไร อันเป็นการขจัด อยา่ งสะดวก ความเม่ือยล้าทางร่างกายและจิตใจจากการท�ำงาน ใหห้ มดไป และเรยี กพละกำ� ลงั กลบั คนื มา สำ� หรบั เรม่ิ ปัจจัยในการเลือกสถานท่ีท่องเท่ียวของแต่ละ ต้นท�ำงานในวนั ใหม่ บุคคลย่อมมีความแตกต่างกันไปตามความพึงพอใจ หรือความต้องการที่จะได้รับจาการไปท่องเที่ยว 2. การท่องเท่ียวเพื่อวัฒนธรรมและศาสนา โดยทบ่ี างคนตอ้ งการไปทอ่ งเทย่ี วธรรมชาตอิ ยา่ งเดยี ว (Cultural Religion) เป็นการเดินทางที่ปรารถนาจะ เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมหรือศาสนาของประเทศ แต่บางคนอาจจะต้องการความสะดวกสบาย ตา่ งๆ ท่ีนา่ สนใจ ในเรื่องของทีพ่ กั หรืออาหารเป็นตน้ 3. การท่องเท่ียวเพ่ือการศึกษา (Educational) เปน็ การเดนิ ทางเพอ่ื ทำ� การวจิ ยั หรอื สอนหนงั สอื หรอื เข้าศึกษา หรอื ดงู านในประเทศท่ีพัฒนาแล้ว การจดั การทรัพยากรชุมชน เพอ่ื การจดั การท่องเท่ยี ว

12 4. การท่องเที่ยวเพ่ือการกีฬาและความบันเทิง (Sport and Recreation) เปน็ การเดนิ ทางทีป่ รารถนา การจดั การทรพั ยากรชมุ ชน จะไปชมการแขง่ ขนั กฬี า หรอื เขา้ รว่ มการแขง่ ขนั กฬี า เพ่อื การจดั การทอ่ งเทีย่ ว หรอื เล่นกีฬาในทอ้ งถน่ิ นน้ั 5. การท่องเที่ยวเพ่ือประวัติศาสตร์และความ สนใจพิเศษ (Historical and Special Interests) เป็นการ เดินทางท่ีปรารถนาจะไปชมโบราณสถานที่เก่ียวโยง กับข้อเท็จจรงิ ทางประวัตศิ าสตร์ 6. การทอ่ งเท่ียวเพื่องานอดิเรก (Hobbies) เชน่ ไปวาดรปู บนภูเขา ไปถ่ายรปู เป็นตน้ 7. การท่องเท่ียวเพ่ือเย่ียมญาติมิตร (Visiting Friend / Relation) เปน็ การเดนิ ทางเพอื่ เยย่ี มญาตมิ ติ ร อันเป็นการสร้างสมั พนั ธภาพใหด้ ยี งิ่ ข้ึน 8. การทอ่ งเทยี่ วเพอ่ื ธรุ กจิ (Business)นกั ธรุ กจิ นนั้ ก็ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะไปอยู่ ณ สถานที่นั้นเพื่อ ที่จะท�ำงาน หารายได้อย่างเดียว หากต้องบริโภค สินค้าและบริการต่างๆ ซึ่งหมายถึงการเข้าพักใน โรงแรม การใช้บริการห้องประชุม ซื้อของฝากของ ท่รี ะลึกตา่ งๆ 9. การทอ่ งเท่ียวเพ่อื ประชมุ สมั มนา (Conference Congress) กติกาจัดรายการประชุมสัมมนาผู้จัด มกั มรี ายการนำ� เทยี่ วอยา่ งนอ้ ย1 ครง้ั ทำ� ใหผ้ เู้ ขา้ รว่ ม ประชุมสัมมนาเป็นนักท่องเท่ียวท่ีสมบูรณ์แบบ และ เมืองใดที่เป็นสถานท่ีท่องเท่ียว มักจะได้รับเลือกให้ เป็นที่ประชมุ สมั มนา วเิ คราะหช์ มุ ชนโดยใชร้ ปู แบบการทอ่ งเทย่ี ว วิเคราะห์ชุมชนโดยใช้รูปแบบการท่องเที่ยว องค์การท่องเท่ียวโลก (www.unwto.org, 2561) ได้มีการก�ำหนดรูปแบบการท่องเท่ียวได้ 3 รูปแบบ หลัก ไดแ้ ก่ 1. รูปแบบการท่องเท่ียวในแหล่งธรรมชาติ (Natural Based Tourism) ประกอบดว้ ย

1.1 การท่องเท่ียวเชิงนิเวศ (Ecotourism) 2. รูปแบบการท่องเท่ียวในแหล่งวัฒนธรรม 13 หมายถึงการท่องเท่ียวในแหล่งธรรมชาติที่มี (Cultural Based Tourism)ประกอบด้วย เอกลักษณ์เฉพาะถ่ินและแหล่งวัฒนธรรมท่ีเกี่ยว เนอื่ งกับระบบนเิ วศ 2.1 การท่องเท่ียวเชิงประวัติศาสตร์ (Historical Tourism) หมายถึงการเดินทางท่องเท่ียว 1.2 การท่องเที่ยวเชิงนิเวศทางทะเล (Marine ไปยงั แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วทางโบราณคดี และประวตั ศิ าสตร์ Ecotourism) เพ่ือชื่นชมและเพลิดเพลินในสถานท่ีท่องเที่ยวได้ ความรมู้ คี วามเขา้ ใจตอ่ ประวตั ศิ าสตรแ์ ละโบราณคดี 1.3 การทอ่ งเทยี่ วเชิงธรณวี ิทยา (Geo-tourism) ในท้องถิ่นพื้นฐานของความรับผิดชอบและมีจิตสํา หมายถึงการท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาติที่เป็นหิน นึกต่อการรักษามรดกทางวัฒนธรรมและคุณค่า ผา ลานหนิ ทราย อโุ มงคโ์ พรง ถำ้� น�้ำลอด ถ�ำ้ หินงอก ของสภาพแวดลอมโดยทีป่ ระชาชนในท้องถิน่ มีส่วน หินยอ้ ย เพ่อื ดคู วามงามของภูมิทัศน์ทมี่ คี วามแปลก ร่วมตอ่ การจัดการการทอ่ งเที่ยว ของการเปล่ียนแปลงของพ้นื ทโี่ ลก 2.2 การท่องเที่ยวงานชมวัฒนธรรม 1.4 การท่องเท่ียวเชิงเกษตร (Agro Tourism) และประเพณี (Cultural and Traditional Tourism) หมายถงึ การเดนิ ทางทอ่ งเทยี่ วไปยงั พน้ื ทเ่ี กษตรกรรม หมายถงึ การเดินทางท่องเท่ียว เพอื่ ชมงานประเพณี สวนเกษตร วนเกษตร สวนสมนุ ไพร ฟารม์ ปศสุ ตั วแ์ ละ ต่างๆ ทชี่ าวบา้ นในท้องถิ่นน้ันๆ จดั ขึน้ ไดร้ บั ความ เลี้ยงสัตว์เพื่อช่ืนชมความสวยงาม ความส�ำเร็จและ เพลิดเพลินต่ืนตาต่ืนใจในสุนทรียะศิลป์เพื่อศึกษา เพลิดเพลินในสวนเกษตร ได้ความรู้มีประสบการณ์ ความเชอ่ื การยอมรบั นบั ถอื การเคารพพธิ กี รรมตา่ งๆ ใหม่บนพื้นฐานความรับผิดชอบ มีจิตส�ำนึกต่อการ และได้รับความรู้มีความเข้าใจต่อสภาพสังคมและ รกั ษาสภาพแวดลอมของสถานท่แี ห่งน้นั วฒั นธรรม มปี ระสบการณใ์ หมๆ่ เพมิ่ ขนึ้ บนพนื้ ฐาน ข อ ง ค ว า ม รั บ ผิ ด ช อ บ แ ล ะ มี จิ ต สํ า นึ ก ต ่ อ ก า ร 1 . 5 ก า ร ท ่ อ ง เ ท่ี ย ว เ ชิ ง ด า ร า ศ า ส ต ร ์ รักษาสภาพแวดลอมและมรดกทางวัฒนธรรม (Astrological Tourism) หมายถึงการเดินทาง โดยประชาชนในท้องถ่ินมีส่วนร่วมตอการจัดการ ทอ่ งเทยี่ วเพอื่ การไปชมปรากฏการณท์ างดาราศาสตร์ ท่องเท่ยี ว ทีเ่ กดิ ข้ึนในแตล่ ะวาระ เชน่ สุริยุปราคา ฝนดาวตก จนั ทรปุ ราคา และการดดู าวจกั ราศที ป่ี รากฏในทอ้ งฟา้ 2.3 การท่องเท่ียวชมวิถีชีวิตในชนบท แตล่ ะเดอื น เพอ่ื การเรยี นรรู้ ะบบสรุ ยิ จกั รวาล มคี วามรู้ (Rural Tourism / Vl age Tourism) หมายถึงการ ความประทบั ใจ ความทรงจำ� และประสบการณเ์ พม่ิ ขน้ึ เดินทางท่องเที่ยวในหมู่บ้าน ชนบทท่ีมีลักษณะวิถี บนพื้นฐานการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ ชีวิต และผลงานสร้างสรรค์ท่ีมีเอกลักษณ์พิเศษมี มจี ติ สำ� นกึ ตอ่ การรกั ษาสภาพแวดลอ้ มและวฒั นธรรม ความโดดเด่นเพื่อความเพลิดเพลินได้ความรู้ดูผล ท้องถิ่น โดยประชาชนในท้องถ่ินมีส่วนร่วมต่อการ งานสรา้ งสรรค์และภมู ปิ ัญญาพนื้ บา้ น มคี วามเข้าใจ จดั การรว่ มกนั อยา่ งยั่งยนื ในวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ บนพนื้ ฐานของความรบั ผดิ ชอบ และมีจติ สำ� นกึ ต่อการรักษามรดกทางวัฒนธรรมและ คุณค่าของสภาพแวดล้อม โดยประชาชนในท้องถ่ิน มสี ่วนร่วมตอ่ การจดั การการทอ่ งเทยี่ ว การจดั การทรัพยากรชมุ ชน เพื่อการจัดการท่องเท่ียว

3. รูปแบบการท่องเท่ียวในความสนใจพิเศษ 3.6 การท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์และ (special Interest Tourism) ประกอบด้วย ฟารม์ สเตย์ (Home Stay & Farm Stay) หมายถึง นัก 3.1 การท่องเท่ียวเชิงสุขภาพ (Health ท่องเท่ียวกลุ่มท่ีต้องการใช้ชีวิตใกล้ชิดกับครอบครัว Tourism) หมายถึงการท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาติ ในท้องถ่ินท่ีไปเยือนเพ่ือการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และแหล่งวัฒนธรรมเพ่ือการพักผ่อนและเรียนรู้ และวัฒนธรรมท้องถ่ิน วิธีการรักษาสุขภาพกายใจได้รับความเพลิดเพลิน 3.7 การทอ่ งเทยี่ วพำ� นกั ระยะยาว (Longstay) และสนุ ทรยี ภาพ การท่องเทีย่ วเชิงสขุ ภาพนบี้ างแห่ง หมายถึง กลุ่มผู้ใช้ชีวิตในบั้นปลายหลังเกษียณอายุ อาจจัดรูปแบบเป็นการท่องเที่ยวเพ่ือสุขภาพและ จากการท�ำงานท่ีต้องการมาใช้ชีวิตต่างแดนเป็นหลัก ความงาม (Health Beauty and Spa) เพื่อเพ่ิมปัจจัยท่ีห้าของชีวิตคือ การท่องเที่ยว โดย 3.2 การท่องเท่ียวเชิงทัศนศึกษาและ เดินทางทอ่ งเท่ยี วตา่ งประเทศเฉลย่ี 3 - 4 ครง้ั ต่อปี ศาสนา (Edu-MeditationTourism) หมายถงึ การเดนิ คราวละนาน ๆ อยา่ งนอ้ ย 1 เดอื น ทางเพอ่ื ทศั นศกึ ษาแลกเปลย่ี นเรยี นรจู้ ากปรชั ญาทาง 3.8 การทอ่ งเทยี่ วแบบใหร้ างวลั (Incentive ศาสนา หาความรู้ สจั ธรรมแหง่ ชวี ติ มกี ารฝกึ ทำ� สมาธิ travel) หมายถึงการจัดน�ำเที่ยวให้แก่กลุ่มลูกค้า เพ่ือมีประสบการณ์และความรู้ใหม่เพ่ิมข้ึน มีคุณค่า ของบริษัทที่ประสบความส�ำเร็จ (มีความเป็นเลิศ) และคณุ ภาพชวี ิตทด่ี เี พ่มิ ข้ึน เชน่ การทาํ อาหารไทย ในการขายสนิ คา้ นนั้ ๆ ตามเปา้ หมายหรอื เกนิ เปา้ หมาย การนวดแผนไทย ราํ ไทย มวยไทย การชา่ งและงาน 3.9 การท่องเที่ยวเพ่ือการประชุม (MICE ศิลปหัตถกรรมไทย รวมถึงการบังคับช้างและเป็น หมายถึง M=meeting/I= incentive/ C=conference / ควาญชา้ ง เป็นตน้ E=exhibition) เปน็ การจดั นำ� เทย่ี วใหแ้ กก่ ลมุ่ ลกู คา้ ของ 14 3.3 การทอ่ งเทยี่ วเพอ่ื ศกึ ษากลมุ่ ชาตพิ นั ธ์ุ ผู้ที่จัดประชุม มีรายการจัดน�ำเท่ียวก่อนการประชุม หรือวฒั นธรรมกล่มุ น้อย (Ethnic Tourism) หมายถงึ (Pre-Tour) และการจัดรายการน�ำเที่ยวหลังการ การเดินทางท่องเท่ียวเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ประชุม (Post-Tour) โดยการจัดรายการทอ่ งเท่ียว วัฒนธรรมของชาวบ้านวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ ในรปู แบบต่าง ๆ ไปท่ัวประเทศ เพ่อื บริการใหก้ ับ อนื่ ๆ ผเู้ ขา้ ร่วมประชุมโดยตรง หรือสำ� หรบั ผทู้ รี่ ว่ มเดนิ ทาง 3.4 การทอ่ งเทยี่ วเชงิ กฬี า (Sports Tourism) กับผูป้ ระชุม หมายถึงการเดินทางท่องเท่ียวเพ่ือเล่นกีฬาตาม 3.10 การท่องเท่ียวแบบผสมผสานเป็น ความถนัดความสนใจ ในประเภทกฬี า เช่น กอล์ฟ อกี รปู แบบหนงึ่ ทผ่ี จู้ ดั การการทอ่ งเทยี่ วคดั สรรรปู แบบ ดําน้ำ� ตกปลา กระดานโตค้ ลน่ื สกีน้ํา เป็นตน้ การทอ่ งเทยี่ วทก่ี ลา่ วมาแลว้ ขา้ งตน้ นำ� มาจดั รายการ 3.5 การทอ่ งเทยี่ วแบบผจญภยั (Adventure น�ำเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับความแตกต่าง Travel) หมายถงึ การเดนิ ทางทอ่ งเทยี่ วไปยงั แหลง่ ทอ่ ง ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในระยะยาวนานต้ังแต ่ เทย่ี วทางธรรมชาติท่มี ลี กั ษณะพเิ ศษ ที่นักทอ่ งเทย่ี ว 2 - 7 วันหรอื มากกวา่ นนั้ เชน่ การท่องเทยี่ วเชงิ นิเวศ เขาไปเท่ียวแล้วได้รับความสนุกสนานตื่นเต้น และเกษตร (Eco - Agro Tourism) การทอ่ งเทยี่ วเชงิ หวาดเสียว ผจญภัย มคี วามทรงจาํ ความปลอดภัย เกษตรและประวตั ศิ าสตร์ (Agro-Historical Tourism) และไดป้ ระสบการณใ์ หม่ การท่องเทย่ี วเชิงนเิ วศและผจญภัย (Eco-Adventure travel) การทอ่ งเทย่ี วเชงิ ธรณวี ทิ ยาและประวตั ศิ าสตร์ (Geo - Historical Tourism) การทอ่ งเท่ียวเชงิ เกษตร และวัฒนธรรม (Agro-Cultural Tourism) เป็นต้น การจัดการทรพั ยากรชุมชน เพือ่ การจดั การท่องเท่ยี ว

เครอ่ื งมอื วเิ คราะหช์ มุ ชนและทรพั ยากร 15 ชมุ ชนเพอื่ การจดั การทอ่ งเทยี่ ว 1. วิเคราะห์ชุมชนและทรัพยากรชุมชนเพื่อ การจัดการท่องเท่ียว โดยใช้“แบบวิเคราะห์ชุมชน และทรัพยากรชุมชนเพ่ือการจัดการท่องเที่ยว” ซง่ึ แบบวเิ คราะหน์ ไ้ี ดน้ ำ� มาจากแนวคดิ ทไ่ี ดน้ ำ� เสนอไป แลว้ ในหวั ขอ้ การวเิ คราะหข์ า้ งตน้ ซงึ่ เปน็ แบบวเิ คราะห์ ทค่ี รอบคลมุ ชมุ ชน สามารถเขา้ ใจไดง้ า่ ยและสามารถ นำ� ไปใช้ไดก้ ับทกุ ชุมชน การจัดการทรัพยากรชมุ ชน เพื่อการจัดการทอ่ งเท่ียว

รายการ ไม่มี มี หมายเหตุ ดี ปานกลาง ควรปรบั ปรุง 1. สิ่งดึงดูดใจทางการทอ่ งเทยี่ วในชุมชน 1.1 การท่องเทย่ี วในแหลง่ ธรรมชาต ิ 1.1.1 การทอ่ งเทย่ี วเชงิ นเิ วศ 1.1.2 การทอ่ งเทย่ี วเชิงนเิ วศทางทะเล 1.1.3 การท่องเที่ยวเชงิ ธรณวี ทิ ยา 1.1.4 การทอ่ งเที่ยวเชิงเกษตร 1.1.5 การท่องเทย่ี วเชงิ ดาราศาสตร์ 1.2 รูปแบบการทอ่ งเที่ยวในแหล่งวัฒนธรรม 1.2.1 การทอ่ งเที่ยวเชงิ ประวตั ิศาสตร์ 1.2.2 การทอ่ งเทย่ี วงานชมวฒั นธรรมและประเพณี 1.2.3 การท่องเที่ยวชมวถิ ีชีวิตในชนบท 1.3 รูปแบบการทอ่ งเท่ยี วในความสนใจพิเศษ 1.3.1 การท่องเทย่ี วเชงิ สุขภาพ 1.3.2 การทอ่ งเทย่ี วเชิงทัศนศึกษาและศาสนา 1.3.3 การท่องเท่ียวเพอื่ ศกึ ษากลุ่มชาติพันธุห์ รอื วัฒนธรรมกลมุ่ นอ้ ย 1.3.4 การท่องเท่ยี วเชงิ กฬี า 1.3.5 การท่องเท่ยี วแบบผจญภัย 1.3.6 การทอ่ งเทีย่ วแบบโฮมสเตย์และฟารม์ สเตย์ 1.3.7 การทอ่ งเท่ยี วพ�ำนักระยะยาว 16 1.3.8 การทอ่ งเทยี่ วแบบให้รางวลั 1.3.9 การท่องเท่ยี วเพอ่ื การประชุม 1.3.10 การทอ่ งเที่ยวแบบผสมผสาน 2. สง่ิ อ�ำนวยความสะดวกในชมุ ชน 2.1 ไฟฟา้ 2.2 น้�ำเพื่อสาธารณูปโภค 2.3 สญั ญาณโทรศัพท์ 2.4 ระบบอินเตอรเ์ น็ต 2.5 อน่ื ๆ 3. การเขา้ ถึงชุมชน 3.1 รถยนตส์ ่วนบุคคล 3.2 รถยนต์ขับเคลอื่ น 4 ลอ้ (4W) 3.3 อื่นๆ การจดั การทรัพยากรชุมชน เพื่อการจัดการทอ่ งเที่ยว

2. ศกึ ษาศกั ยภาพทรพั ยากรในชมุ ชนเพ่ือการจดั การท่องเทย่ี ว โดยใช้ “แบบประเมนิ ศักยภาพทรพั ยากร ในชมุ ชนเพือ่ การจดั การทอ่ งเทย่ี ว” โดยน�ำมาจากแนวคดิ ขององคก์ รยูเนสโก ทไ่ี ด้แบ่งประเภทของทรัพยากร อยู่ 2 ประเภท คือ ทรพั ยากรทจ่ี บั ต้องไดแ้ ละทรพั ยากรที่จับตอ้ งไมไ่ ด้ (ธนิก เลิศชาญฤทธ์,ิ 2554: 21-28) ศกั ยภาพทรพั ยากรในชุมชน คุณค่า ขอ้ จ�ำกดั ความมีชอ่ื เสยี ง กจิ กรรม การมีสว่ นร่วม เพื่อการจัดการทอ่ งเทีย่ ว มี ไมม่ ี การท่องเทย่ี ว มี ไมม่ ี มี ไมม่ ี มี ไมม่ ี มี ไม่มี 1. ทรัพยากรในชมุ ชนท่ีจับต้องได้ 17 1.1 อนสุ รณ์สถาน 1.1.1 สถาปัตยกรรม 1.1.2 โบราณสถาน/โบราณวตั ถุ 1.1.3 ประตมิ ากรรม 1.1.4 จติ รกรรม 1.1.5 อื่นๆ 1.2 อาคาร/สิ่งปลูกสรา้ ง 1.2.1 อาคาร/สงิ่ ปลกู สร้างทางประวตั ศิ าสตร์ 1.2.2 อาคาร/ส่งิ ปลูกสรา้ งทางศิลปะ 1.2.3 อาคาร/สิ่งปลูกสร้างทางวทิ ยาศาสตร์ 1.2.4 อืน่ ๆ 1.3 แหลง่ /สถานที่ 1.3.1 ผลงานของมนษุ ย์ 1.3.2 ผลงานของธรรมชาตแิ ละมนษุ ย์ 1.3.3 ผลงานของธรรมชาติและมนษุ ย์และพนื้ ที่ 1.3.4 อน่ื ๆ 2. ทรพั ยากรในชมุ ชนทจ่ี บั ต้องจับตอ้ งไมไ่ ด้ 2.1 เร่อื งราว/ขอ้ มลู 2.1.1 เรือ่ งเล่า/นิทานของพื้นถน่ิ 2.1.2 ประเพณ/ี เทศกาลของพนื้ ถ่ิน 2.1.3 คำ� สอน/สุภาษติ 2.1.4 บทเพลง 2.1.5 อนื่ ๆ 2.2 ศลิ ปะการแสดง 2.2.1ดนตรพี นื้ ถน่ิ 2.2.2 ละครพ้ืนถนิ่ 2.2.3 การแสดงพื้นถนิ่ 2.2.4 การฟ้อนรำ� พืน้ ถนิ่ 2.2.5 อน่ื ๆ การจัดการทรพั ยากรชมุ ชน เพอ่ื การจดั การท่องเท่ยี ว

ศักยภาพทรัพยากรในชมุ ชน คุณคา่ ข้อจ�ำกดั ความมชี ่อื เสียง กิจกรรม การมสี ่วนรว่ ม เพื่อการจัดการท่องเทยี่ ว มี ไมม่ ี การท่องเทย่ี ว มี ไม่มี มี ไมม่ ี มี ไมม่ ี มี ไม่มี 2.3 แนวปฏิบัติ/พธิ ีกรรม/เทศกาล 2.3.1 ประเพณเี ฉพาะถ่ิน 2.3.2 พธิ ีกรรมเฉพาะถน่ิ 2.3.3 เทศกาลเฉพาะถิน่ 2.3.4 การละเล่นเฉพาะถิน่ 2.3.5 อ่นื ๆ 2.4 ความร้แู ละวธิ ปี ฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและ จักรวาล 2.4.1ภมู ิปัญญาท้องถน่ิ ด้านนเิ วศวิทยา 2.4.2ภูมิปัญญาด้านการดแู ลรักษาสุขภาพ 2.4.3 ภมู ปิ ญั ญาด้านที่อย่อู าศัย 2.4.4 ภูมิปัญญาดา้ นการกนิ 2.4.5 อ่นื ๆ 2.4 งานช่าง 2.3.1งานผา้ และผลิตภณั ฑ์จากผา้ 2.3.2 งานเครือ่ งจักสานและงานไม้ 2.3.3 งานโลหะและเคร่ืองประดับ 2.3.4 งานศลิ ปกรรมพื้นบา้ น 18 2.3.5 อ่ืนๆ ซ่ึงหลังจากได้วิเคราะห์ชุมชนตามแนวคิดโดยการใช้ปัจจัยของการท่องเท่ียว วัตถุประสงค์กับการท่อง เที่ยวรูปแบบการท่องเที่ยวประกอบกับการใช้แบบประเมินเพื่อวิเคราะห์ศักยภาพชุมชนเบื้องต้นแล้วจะท�ำให้ ผู้วิเคราะห์ ได้เห็นภาพทรัพยากรของชุมชน ซึ่งจะเป็นข้อมูลท่ีดี ท่ีจะส่งต่อไปสู่การตัดสินใจ หรือวางแผน หรือกำ� หนดรูปแบบการท่องเท่ียวทเ่ี หมาะสมกบั ชมุ ชนได้ตอ่ ไปในอนาคต การจดั การทรพั ยากรชุมชน เพ่ือการจดั การท่องเทย่ี ว

เแคขเล้อพระอ่ืมื่อเงกลูกมบ็ทารือรรจวัพสดับยำ� กรราววากรมจรทช่อมุ งชเนท่ยี ว

การใช้เคร่ืองมือส�ำรวจและเก็บรวบรวมข้อมูลทรัพยากรชุมชน มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเคร่ืองมือ ส�ำหรับเก็บข้อมูลทรัพยากรของชุมชน โดยมีเป้าหมายเพ่ือเป็นจุดเริ่มต้นของการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ในการแลกเปลี่ยนความคิด ความเห็น รวมถึงเป็นเวทีในการสร้างความรู้ ความเข้าใจกันของคนในชุมชน เบือ้ งต้น ทัง้ น้ีเพอ่ื สรา้ งจุดเร่ิมต้นที่ดีของการจดั การทรัพยากรของชมุ ชนต่อไป 1. เคร่อื งมือส�ำรวจขอ้ มูลทรพั ยากรชมุ ชนเพื่อการจดั การทอ่ งเทีย่ ว 1.1 แผนทเี่ ดนิ ดินของชุมชน แผนทเ่ี ดนิ ดนิ เปน็ เครอื่ งมอื อยา่ งงา่ ยเครอ่ื งมอื หนง่ึ โดยอาศยั เพยี งกระดาษ ดนิ สอหรอื ปากกา ทจ่ี ะ ทำ� ใหเ้ ราเหน็ ภาพรวมของทรพั ยากรในชมุ ชนตามความเขา้ ใจเบอ้ื งตน้ ของชมุ ชนเอง หากตอ้ งการความครบถว้ น ควรน�ำแผนท่เี ดนิ ดนิ นไ้ี ปสอบถาม ตรวจสอบ หรอื แลกเปลย่ี นความคดิ เห็นในวงพดู คุยสนทนา หรอื ท่ีประชมุ ของชุมชน หากวธิ กี ารดังกล่าวร่วมใช้แผนท่เี ดินดนิ จะเป็นเคร่อื งมอื หน่ึงในการสร้างการมสี ว่ นรว่ มของคนใน ชมุ ชน และอาจไดแ้ นวร่วมในชุมชนเพ่อื ลกุ ข้ึนมาจดั การทรัพยากรเพือ่ การจัดการทอ่ งเทยี่ วด้วยเช่นเดยี วกนั ตวั อย่าง แผนทเ่ี ดนิ ดนิ ของชุมชนบา้ นกองกาน ตำ� บลแมศ่ กึ อำ� เภอแมแ่ จม่ จังหวัดเชียงใหม่ 20 การจัดการทรัพยากรชมุ ชน เพื่อการจดั การท่องเทย่ี ว

1.2 แผนที่ชมุ ชนจากเทคโนโลยีบรกิ ารแผนที่ประสทิ ธภิ าพสูง แผนทชี่ มุ ชนจากเทคโนโลยบี รกิ ารแผนทปี่ ระสทิ ธภิ าพสงู เปน็ เคร่ืองมือท่ีดีเคร่ืองมือหนึ่งท่ีท�ำให้เห็นภาพรวมของทรัพยากรในชุมชน ซ่ึงมีความใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด โดยท่ีผู้ใช้สามารถน�ำ มาใช้งาน ด้วยกระบวนการการดาวน์โหลดและการพิมพ์แผนที่ภาพ ตามข้อมูลพิกัดที่ผู้ใช้ต้องการผ่านเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตด้วยเว็บ บราวเซอร์ หรอื แอพพลิเคชน่ั ทใี่ หบ้ รกิ ารขอ้ มูลแผนท่ีตา่ งๆ ทง้ั น้ีการน�ำ เครอ่ื งมอื การสรา้ งแผนทจ่ี ากเทคโนโลยบี รกิ ารแผนทปี่ ระสทิ ธภิ าพสงู มา จัดการทรพั ยากรชมุ ชนเพ่อื การท่องเที่ยวน้นั ก็เพอื่ ให้ผู้ใชห้ รอื ชุมชนได้ เหน็ ภาพรวมของพน้ื ทจ่ี รงิ สำ� หรบั การจดั การทรพั ยากรทถ่ี กู ตอ้ งเหมาะสม ตัวอย่าง แผนที่ชุมชนจากเทคโนโลยีบริการแผนที่ประสิทธิภาพสูง ผ่านเว็บบราวเซอร์จากบริการ Google map ของชุมชนบ้านกองกาน ตำ� บลแมศ่ กึ อำ� เภอแม่แจม่ จังหวดั เชียงใหม่ 21 การจัดการทรพั ยากรชุมชน เพือ่ การจัดการท่องเทยี่ ว

2. เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลทรัพยากรชุมชน เพื่อการจดั การท่องเทย่ี ว 2.1 ศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลชุมชนโดยใช้“ชุดค�ำถาม ชุมชน”เป็นเครื่องมือเพื่อการจัดการทรัพยากรชุมชน โดยชุดค�ำถาม น้ีเป็นตัวอย่างชุดค�ำถามของชุมชนบ้านกองกานต�ำบลแม่ศึก อ�ำเภอ แมแ่ จม่ จงั หวดั เชยี งใหมม่ วี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ ใชเ้ ปน็ เครอ่ื งมอื ในการสรา้ ง แนวค�ำถามน�ำโดยค�ำถามที่ใช้จะเป็นค�ำถามท่ีชุมชนสามารถเข้าใจได้ ง่าย เปน็ คำ� ถามทช่ี ุมชนสามารถตอบได้ ดว้ ยว่าคำ� ตอบทไ่ี ดจ้ ากคำ� ถาม เป็นค�ำตอบที่เกิดจากการด�ำเนินกิจกรรมของชุมชน ท่ีได้ด�ำเนินการ อยู่ประจ�ำอยู่แล้วทั้งน้ีเพ่ือให้ชุมชนเกิดกระบวนการร้ือฟื้น และทบทวนความรู้ เพ่ือให้ชุมชนได้เกิดการคิด ในการสร้างค�ำถาม ตอ่ ยอด เพอื่ ขอ้ มลู ทรพั ยากรชมุ ชนทไ่ี ด้ จะมคี วามครบถว้ นสมบรู ณท์ ส่ี ดุ ตัวอยา่ งชุดค�ำถามในการเกบ็ รวบรวมข้อมูลชมุ ชน : วงปี ชดุ ค�ำถามเกี่ยวกบั ‘นา’ ชุดค�ำถามเก่ยี วกบั ‘นำ้� ’ ชุดค�ำถามเกย่ี วกบั ‘ป่า’ ชดุ ค�ำถามเก่ยี วกับ ‘ประเพณี พิธกี รรม กิจกรรม’ 22 - เลี้ยงผฝี ายเดอื นไหน - เดือนไหนจับปลาได้ - ผักตา่ งๆในปา่ ออกเดือน - เดอื นไหนจับปลาได้ - เลี้ยงผีนาเดอื นไหน - เดอื นไหนห้ามจับปลา ไหนบ้าง - เดือนไหนห้ามจับปลา - ลงกล้าเดอื นไหน - ปลาอะไร มเี ดอื นไหน - เหด็ ต่างๆในปา่ ออกเดอื น - ปลาอะไร มเี ดอื นไหน - ดำ� นาเดือนไหน - กงุ้ หอย ปู กบ เขียด อิฮวก ไหนบา้ ง - กุ้ง หอย ปู กบ เขียด อฮิ วก - ลงข้าวเดอื นไหน อ่ึง แอง ออกเดอื นไหน - สัตว์และแมลงตา่ งๆ มีเดือน อ่งึ แอง ออกเดอื นไหน - เกยี่ วขา้ วเดอื นไหน - เดอื นไหนนำ้� เยอะ ไหนบา้ ง เชน่ ไขม่ ด หิ่งห้อย - เดอื นไหนนำ้� เยอะ - ฟาดขา้ วเดือนไหน - เดือนไหนน�้ำแลง้ เปน็ ต้น - เดือนไหนน�้ำแล้ง - เอาข้าวขึ้นหลองข้าวเดือนไหน - ฯลฯ - ดอกไม้ ต้นไม้สวยๆ - ฯลฯ - กนิ ขา้ วใหม่เดือนไหน ออกเดอื นไหนบา้ ง การจดั การทรพั ยากรชุมชน เพอ่ื การจดั การทอ่ งเท่ยี ว

2.2 การแสดงขอ้ มลู ชมุ ชนดว้ ย “ปฏทิ นิ วงปชี มุ ชน” ผ่านการเก็บข้อมลู จาก ชุดคำ� ถามชมุ ชน ปฏทิ นิ ชมุ ชนเปน็ การสรปุ ภาพรวมของขอ้ มลู ดบิ ทไ่ี ดม้ าจากชดุ คำ� ถามชมุ ชน ซง่ึ การออกแบบปฏทิ นิ ชุมชนอาจน�ำเสนอในลักษณะตารางหรือแผนภาพก็ได้ ทั้งน้ีขึ้นอยู่กับข้อมูลชุมชนท่ีได้ว่ามีความหลากหลาย หรอื ไม ่ โดยการนำ� เสนอในปฏทิ นิ วงปชี มุ ชนในรปู แบบตารางนน้ั จะเหมาะกบั การแสดงขอ้ มลู ใหเ้ หน็ ในลกั ษณะ ขอ้ มลู 2 มิติ แตห่ ากผใู้ ช้ ต้องการน�ำเสนอข้อมูลทห่ี ลากหลาย ในลกั ษณะข้อมูลที่มีมติ ซิ ้อนกัน ปฏิทินชุมชน ในรปู แบบแผนภาพจะสามารถนำ� เสนอได้ดียงิ่ ขึ้น ซงึ่ หนงั สอื เลม่ น้ี ผ้จู ดั ทำ� ขอเสนอตัวอย่างปฏทิ ินวงปชี มุ ชน ทง้ั 2 รปู แบบผา่ นงานวจิ ยั ท่ีได้ดำ� เนินการ ดังน้ี 1. รูปแบบปฏิทินวงปีชุมชนในรูปแบบของตาราง จากงานวิจัยเรื่องการอนุรักษ์และฟื้นฟูภูมิปัญญาและ วัฒนธรรมชุมชนอย่างมีส่วนร่วมเพ่ือการท่องเท่ียวโดยชุมชนที่ย่ังยืนอ�ำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้แผนงานวิจัยเร่ืองการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนบนพ้ืนท่ีสูง โดยใช้การท่องเท่ียวโดยชุมชนเป็น เครอ่ื งมือกรณศี ึกษาอ�ำเภอกลั ยาณวิ ฒั นา จังหวัดเชียงใหม่ (ระยะท่ี 2) (พิศาพมิ พ์ จันทร์พรหม และโฆษติ ไชยประสิทธ์ิ, 2559) ที่แสดงให้เห็นถึงมิติกิจรรมด้านวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชุมชนท่ีสัมพันธ์กับช่วงเวลา ของเดือน ตามปฏทิ นิ รอบปี 23 การจดั การทรัพยากรชมุ ชน เพือ่ การจัดการทอ่ งเท่ียว

2. รูปแบบปฏทิ นิ วงปชี มุ ชนในรูปแบบของแผนภาพ จากตัวอย่างปฏิทินวงปีจากชุดค�ำถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล ชมุ ชนเปน็ เครอ่ื งมอื : ชดุ คำ� ถามในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ชมุ ชนของชมุ ชน บา้ นกองกาน ตำ� บลแม่ศึก อ�ำเภอแม่แจม่ จงั หวดั เชียงใหม่ ซ่ึงเปน็ การ แสดงข้อมลู ของกิจกรรม และข้อมูลความรตู้ ่างๆ ผา่ นชุดคำ� ถามชุมชน (ปา่ นำ�้ นา ประเพณ)ี ทมี่ คี วามสมั พนั ธก์ บั ชว่ งเวลาของเดอื น ตามปฏทิ นิ รอบปี โดยมกี ารแสดงใหเ้ หน็ ในลกั ษณะแผนภาพขอ้ มลู ทม่ี มี ติ ิ ในลกั ษณะ ของข้อมูลทีซ่ ้อนกันหลายชั้น 24 การจัดการทรัพยากรชมุ ชน เพ่อื การจดั การท่องเที่ยว

การจดั การทรพั ยากร ชุมชนเพอื่ การจดั การ ท่องเทยี่ ว

การจัดการทรพั ยากรชุมชนเพ่ือการจัดการท่องเทยี่ ว จะเปน็ การน�ำ เครอื่ งมอื และขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากการสำ� รวจและเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ทรพั ยากร ชุมชนข้างต้น มาด�ำเนินการจัดการทรัพยากร ผ่านกระบวนการแสดง ความคิดเห็นร่วมกันของคนในชุมชน ทั้งน้ีเพ่ือให้ชุมชนเห็นทรัพยากร ของชุมชนทีม่ ี และไดเ้ ขา้ ใจถงึ บริบทพื้นทีช่ มุ ชน เพือ่ การพฒั นารูปแบบ การจัดการท่องเท่ียวท่ีเหมาะสมกับชุมชนในอนาคตต่อไป โดยหนังสือ เลม่ น้ี ผจู้ ดั ทำ� ขออธบิ ายวธิ กี ารและขนั้ ตอนการจดั การทรพั ยากรชมุ ชน เพอื่ การจดั การท่องเทย่ี ว ผ่าน 3 กระบวนการ ดังนี้ 1. การวิเคราะห์ศักยภาพของชุมชนในการจัดการทรัพยากรชุมชน เพื่อการจดั การทอ่ งเทยี่ วโดยใช้แบบประเมนิ การวิเคราะห์ศักยภาพของชุมชนในการจัดการทรัพยากร ชุมชนเพือ่ การจัดการท่องเที่ยวโดยใช้แบบประเมนิ คณะผู้วจิ ยั ไดน้ �ำมา จากองคป์ ระกอบของการจดั การท่องเท่ยี วโดย CBT ซง่ึ มอี ยู่ 4 ดา้ น คือ ด้านทรพั ยากรธรรมชาติและวฒั นธรรม ด้านองค์กรชมุ ชน ดา้ นการ จดั การ และด้านการเรยี นร ู้ (สถาบนั การท่องเที่ยวโดยชมุ ชน CBT-I, 2561: www.cbt-i.org)

ศักยภาพของชมุ ชนเพื่อการจดั การทอ่ งเทยี่ วโดยชุมชน ขอ้ มลู หมายเหตุ ใช่ ไม่ใช่ ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม 1. ชมุ ชนมฐี านทรัพยากรธรรมชาตทิ อ่ี ุดมสมบรู ณ์ และมีวิถกี ารผลิตทพี่ งึ่ พา 27 2. ชมุ ชนใช้ทรพั ยากรธรรมชาติอย่างย่ังยืน 3. ชมุ ชนมีวัฒนธรรมประเพณที ่เี ป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะถนิ่ ดา้ นองคก์ รชุมชน 1. ชมุ ชนมีระบบสังคมทเ่ี ข้าใจกัน 2. ชมุ ชนมปี ราชญ ์ หรอื ผมู้ คี วามร ู้ และทกั ษะในเรอื่ งตา่ ง ๆ หลากหลาย 3. ชมุ ชนร้สู กึ เป็นเจ้าของและเข้ามามีสว่ นรว่ มในกระบวนการพัฒนา ดา้ นการจัดการ 1. ชมุ ชนมกี ฎ-กตกิ าในการจัดการส่งิ แวดล้อมวฒั นธรรมและการท่องเที่ยว 2. ชุมชนมีองค์กรหรือกลไกในการท�ำงานเพอ่ื จดั การการท่องเท่ียวและ สามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับ 3. ชมุ ชนมีการพฒั นาชุมชนโดยรวมได้ 4. ชุมชนมกี ารกระจายผลประโยชน์ทเ่ี ป็นธรรม 5. ชมุ ชนมกี องทนุ ท่เี อ้ือประโยชนต์ อ่ การพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมของ ชุมชน ดา้ นการเรยี นรู้ 1. ชมุ ชนมลี ักษณะของกิจกรรมการทอ่ งเทยี่ วสามารถสรา้ งการรับรู้ และ ความเข้าใจในวิถีชวี ติ วัฒนธรรมท่ีแตกต่าง 2. ชุมชนมรี ะบบจัดการใหเ้ กดิ กระบวนการเรียนรูร้ ะหวา่ งชาวบ้านกับ ผมู้ าเยอื น 3. ชมุ ชนมีการสรา้ งจิตสำ� นกึ เรือ่ งการอนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละ วฒั นธรรม ทง้ั ในสว่ นของชาวบ้านและผ้มู าเยือน 2. วิธีและกระบวนการการใช้แผนที่ชุมชนเป็นเครื่องมือในการจัดการทรัพยากรชุมชนเพื่อการจัดการ ทอ่ งเทีย่ ว จากทไี่ ดอ้ ธบิ ายถงึ เครอื่ งมอื ในการทรพั ยากรชมุ ชนเพอ่ื การจดั การทอ่ งเทย่ี ว ดว้ ยการจดั ทำ� ขอ้ มลู แผนท่ีเดินดินหรือการใช้บริการข้อมูลแผนท่ีชุมชนจากเทคโนโลยีบริการแผนที่ประสิทธิภาพสูง ในข้างต้นน้ัน เมื่อน�ำ แผนท่ีดังกล่าวทั้ง 2 แบบมาใช้เป็นเคร่ืองมือแสดงภาพตั้งต้น เพื่อท�ำการวิเคราะห์ให้ได้ซ่ึงข้อมูล ชุมชนส�ำหรับการจัดการท่องเที่ยวแล้วน้ัน การใช้แผนที่ดังกล่าวอาจถูกแต่งเติมด้วยข้อมูลท่ีผ่านความคิด ความเห็นของคนในชุมชนท่ีเข้าใจร่วมกัน ในรูปแบบของข้อมูลต่างๆ ที่ได้มาจากการเรียนรู้ร่วมกัน ผ่านการสนทนากลุ่มย่อย หรือเวทีการประชุมของชุมชนแล้ว เช่น ประวัติชุมชนเบ้ืองต้น พิกัด ข้อมูล สถานท่ีส�ำคัญในชมุ ชน เส้นทางและรูปแบบการเดินทาง ระยะเวลาการสำ� รวจ การเดนิ ทาง เปน็ ต้น โดยผล ทไี่ ดน้ นั้ ชมุ ชนจะไดข้ อ้ มลู ทผี่ า่ นกระบวนการจดั การ ดว้ ยความรว่ มมอื กนั ของคนในชมุ ชนเอง ซง่ึ ทำ� ใหช้ มุ ชน เห็นภาพทรพั ยากรของชุมชนที่มี และเหน็ แนวทางหรือรปู แบบสำ� หรบั การจัดการทอ่ งเทยี่ วในอนาคตตอ่ ไปได้ ซ่งึ กระบวนการจัดการทรพั ยากรชุมชนเพื่อการจัดการทอ่ งเทย่ี ว มีวิธีดังนี้ การจดั การทรพั ยากรชมุ ชน เพ่ือการจดั การท่องเทย่ี ว

1. ก�ำหนดแหลง่ เรียนรหู้ รือจดุ ทอ่ งเทยี่ วของชมุ ชนจากแผนทช่ี มุ ชน 2. ก�ำหนดผู้รู้ หรือผู้ส่ือความหมายแหล่งเรียนรู้หรือจุดท่องเที่ยวของชุมชน โดยสามารถระบุ ตวั บุคคลและก�ำหนดลงในแผนทไี่ ด้เลย 3. ถอดความรู้ของผู้รู้เพ่ือเก็บรวบรวมและเรียบเรียงเป็นข้อมูลชุมชนเป็นการเบ้ืองต้นเพื่อสร้าง เครือ่ งมือในการเรยี นรู้ร่วมกนั ท้งั ในระหวา่ งคนในชุมชนด้วยกนั หรือระหว่างคนในชมุ ชนและผมู้ าเยือน 4. ออกแบบโปรแกรมการท่องเที่ยวโดยใช้ระยะเวลาเป็นตัวก�ำหนด ท้ังนี้เพื่อให้ได้โปรแกรม การท่องเท่ยี วทเ่ี หมาะสมกบั ระยะเวลา ตวั อยา่ ง การใชเ้ ครอ่ื งมอื แผนทช่ี มุ ชนจากเทคโนโลยบี รกิ ารแผนทป่ี ระสทิ ธภิ าพสงู ของ ชมุ ชนบา้ นกองกาน ต�ำบลแม่ศึก อำ� เภอแม่แจ่ม จงั หวัดเชียงใหม่เพื่อการจัดการทรพั ยากรชมุ ชน 28 การจัดการทรพั ยากรชุมชน เพือ่ การจดั การทอ่ งเทยี่ ว

ตวั อยา่ งแผนทแ่ี ละโปรแกรมการทอ่ งเทยี่ ว จากงานวจิ ยั เรอ่ื งการอนรุ กั ษแ์ ละฟน้ื ฟภู มู ปิ ญั ญาและวฒั นธรรม ชุมชนอย่างมีส่วนร่วมเพื่อการท่องเท่ียวโดยชุมชนที่ย่ังยืนอ�ำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ แผนงานวจิ ัยเรือ่ งการสร้างความเขม้ แขง็ ใหก้ ับชมุ ชนบนพนื้ ท่สี งู โดยใชก้ ารทอ่ งเที่ยวโดยชุมชนเปน็ เครอ่ื งมอื กรณศี กึ ษาอำ� เภอกลั ยาณวิ ฒั นา จงั หวดั เชยี งใหม่ (ระยะที่ 2) (พศิ าพมิ พ ์ จนั ทรพ์ รหมและโฆษติ ไชยประสทิ ธ,์ิ 2559) 29 การจัดการทรพั ยากรชมุ ชน เพ่อื การจดั การท่องเท่ียว

3. การใช้สื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศส�ำหรับจัดการทรัพยากรชุมชนเพื่อการ จัดการท่องเทยี่ วในรปู แบบสื่อประชาสัมพันธ์ เมอ่ื ไดท้ ำ� การวเิ คราะหก์ ารใชท้ รพั ยากรชมุ ชนแลว้ การแสดงขอ้ มลู ทรพั ยากรชมุ ชนในรปู แบบสอ่ื ตา่ งๆ เพอื่ ประชาสมั พนั ธข์ อ้ มลู ชมุ ชนเพอ่ื ใชส้ ำ� หรบั การทอ่ งเทย่ี วชมุ ชนแกผ่ สู้ นใจทราบ กถ็ อื เปน็ เรอื่ งสำ� คญั ทตี่ อ้ งดำ� เนนิ การ ซึง่ ผลลัพธก์ ารแสดงขอ้ มูลเหล่านี้ ปจั จบุ ันนัน้ ไดม้ ีช่องทางส�ำหรบั การเผยแพร่ประชาสมั พนั ธห์ ลากหลาย รูปแบบทง้ั ในรูปแบบผลลัพธท์ แ่ี สดงผลขอ้ มูล ในลกั ษณะสื่อด้งั เดิม (Traditional Media) ในรูปแบบของสื่อสงิ่ พมิ พ์ (Printed Media) หรือ การใช้สอื่ ใหม่ (New Media) ในรปู แบบสือ่ ออนไลน์ (Online Media) ซ่ึงการจ�ำแนก รูปแบบสื่อ ส�ำหรบั การทอ่ งเท่ียว ในเล่มนี้ จะยกตวั อย่างผลลพั ธก์ ารแสดงผลผา่ นสอื่ ตามข้อมูลขา้ งตน้ ดงั นี้ 30 1. รูปแบบผลลัพธ์ที่แสดงผลข้อมูลในลักษณะส่ือด้ังเดิม (Traditional Media) ในรูปแบบของสื่อส่ิง พมิ พ์ (Printed Media) รปู แบบผลลัพธ์ประเภทน้ี จะสามารถใชง้ านไดง้ ่าย ผู้ใชส้ ามารถเขา้ ถงึ ข้อมูลได้ทนั ที เหมาะส�ำหรับการประชาสัมพันธ์โดยท่ัวไป โดยที่ผู้ได้รับ ไม่จ�ำเป็นต้องมีความรู้ความช�ำนาญ ในการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือใช้อุปกรณ์ หรือเทคโนโลยีใดๆ ในการเข้าถึงข้อมูล ซ่งึ ตัวอย่างผลลพั ธ์ขอ้ มลู ผู้จัดท�ำขอน�ำเสนอดังนี้ 1.1 เอกสารชุมชนท่องเที่ยว: ตัวอย่าง เอกสารชุมชนทอ่ งเทยี่ ว...อยา่ งแจม่ ชมุ ชนบา้ นกองกาน ตำ� บลแมศ่ กึ อำ� เภอแมแ่ จม่ จงั หวดั เชยี งใหม่ เปน็ เอกสารชมุ ชนทอ่ งเทยี่ วทจี่ ดั ทำ� ในรปู แบบหนงั สอื ขนาดเลก็ พกพางา่ ยและมี ความสวยงาม ทม่ี กี ารแนะนำ� ประวตั ิ แสดงแผนทหี่ มบู่ า้ น แสดงพกิ ดั และสถานทส่ี ำ� คญั ตา่ งๆ ผา่ นการเลา่ เรอ่ื ง โดยผรู้ หู้ รอื ปราชญช์ าวบา้ น ซง่ึ ไดจ้ ดั ทำ� ในลกั ษณะของหนงั สอื ทอ่ งเทย่ี ว โดยไดม้ กี ารใชเ้ ทคโนโลยบี ารโ์ คด้ 2 มติ ิ (QRCode) ในการเชือ่ มโยงการประชาสัมพนั ธข์ ้อมลู เข้าสู่การแสดงผลลพั ธ์ในรปู แบบดิจิทัล การจดั การทรพั ยากรชมุ ชน เพ่ือการจัดการท่องเทยี่ ว

1.2 แผ่นพับเพื่อการท่อง 31 เที่ยว: ตัวอย่าง บ้านกองกาน ต�ำบลแม่ศึก อ�ำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเอกสารใน รปู แบบของแผน่ พบั ซง่ึ มขี นาดเลก็ พกพาง่าย สามารถให้ ร า ย ล ะ เ อี ย ด ไ ด ้ ม า ก พ อ สมควร อีกทั้งมีค่าใช้จ่าย ในการจัดท�ำท่ีต่�ำกว่าเอกสาร ประเภทอน่ื ทำ� ใหส้ ามารถเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ได้ในวงที่กว้างข้ึน ซึ่งจากรายละเอียดตัวอย่างแผ่น พับนี้ ผู้จัดท�ำได้น�ำเสนอข้อมูล ในรปู แบบการพบั แบบ 4 พบั ใน ลกั ษณะการจบั ค่ขู อ้ มูลต่อการพบั 1 ครั้ง ซึ่งท�ำให้ผู้อ่านสามารถ เข้าใจได้ง่ายขน้ึ การจดั การทรัพยากรชุมชน เพือ่ การจดั การท่องเทย่ี ว

ตัวอย่าง เว็บไซต์และระบบสารสนเทศเพ่ือการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านกองกาน ต�ำบลแม่ศึก อ�ำเภอ 32 แมแ่ จม่ จังหวัดเชียงใหม่ www.bankongkan.com 2. รูปแบบผลลัพธ์ทแ่ี สดงผลขอ้ มลู ในลกั ษณะส่ือใหม่ (New Media) ในรปู แบบสือ่ ออนไลน์ (Online Media) รูปแบบผลลัพธ์ประเภทน้ี เป็นการแสดงผลลัพธ์ในรูปแบบไฟล์ดิจิทัล โดยเน้นการน�ำเสนอในช่องทาง ของส่ือออนไลน์ ซ่ึงเหมาะกับยุคปัจจุบัน ที่มีการใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย และเพ่ิมมากขึ้น โดยข้อมูลของรูปแบบผลลัพธ์ประเภทน้ีจะถูกจัดเก็บในลักษณะของไฟล์มัลติมิเดีย (ข้อความและรูปภาพ) โดยจะถูกน�ำเสนอผ่านโปรแกรมหรือแอพพลิเคช่ันส�ำหรับการแสดงผล ซึ่งสามารถท�ำให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูล ได้สะดวก ทุกเวลา และทุกสถานที่ ท่ีมีเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซ่ึงตัวอย่างผลลัพธ์ของการแสดงผลข้อมูล การทอ่ งเทยี่ ว ผ้จู ดั ท�ำขอน�ำเสนอดงั น้ี 2.1 เวบ็ ไซต์และระบบสารสนเทศเพ่ือการทอ่ งเทยี่ วโดยชุมชน เป็นการน�ำเสนอข้อมลู ทรพั ยากรชุมชน ดา้ นการท่องเท่ียวผา่ นทางระบบเว็บไซตแ์ ละบริหารจดั การขอ้ มลู ด้วยระบบสารสนเทศชุมชน โดยรายละเอยี ดขอ้ มูลภายในเวบ็ ไซตจ์ ะมกี ารแบง่ หมวดหมู่ และมีการจัดเกบ็ ใน รปู แบบฐานขอ้ มลู ดจิ ทิ ลั ซง่ึ บรหิ ารจดั การโดยชมุ ชน โดยจะถกู นำ� เสนอ แสดงผลในลกั ษณะของมลั ตมิ เิ ดยี ไฟล์ (ข้อความและรปู ภาพ) ซึ่งประกอบไปดว้ ยข้อมลู รายละเอียดทีถ่ กู รอ้ ยเรยี งเป็นเรอื่ งราว และรูปภาพประกอบ ทแ่ี สดงให้เห็นถงึ แหลง่ สำ� คัญ หรือแหลง่ ทอ่ งเท่ยี วตา่ งๆ ภายในชุมชน อีกทง้ั ยังได้มีการประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยี แผนทปี่ ระสทิ ธภิ าพสงู ร่วมกบั เทคโนโลยีบารโ์ ค้ด 2 มติ ิ (QRCode) ในการอำ� นวยความสะดวกแกน่ ักท่องเท่ยี ว ในการเข้าถงึ สถานท่ที ่องเทย่ี วส�ำคัญในชุมชนได้งา่ ยขึน้ การจัดการทรัพยากรชุมชน เพ่อื การจัดการทอ่ งเท่ียว

2.2 เครือขา่ ยสังคมออนไลน์ Facebook และ Facebook Fanpage เปน็ ชอ่ งทางหนงึ่ ทสี่ ามารถแสดงขอ้ มลู ทรพั ยากรชมุ ชนเพอ่ื การทอ่ งเทย่ี ว ไดด้ ใี นยคุ ปจั จบุ นั เนอ่ื งจากเครอื ขา่ ยสงั คมออนไลน์ Facebook ถอื ไดว้ า่ เปน็ ช่องทางการสื่อสารทีม่ ปี รมิ าณผู้ใชจ้ ำ� นวนมากท่วั โลก จงึ ท�ำให้การ เผยแพร่ข้อมูล สามารถสง่ ตอ่ ไดอ้ ย่างกวา้ งขวาง และรวดเร็วมากยง่ิ ขึน้ อีกท้ังข้อมูลดิจิทัลท่ีถูกจัดเก็บผ่านผู้ให้บริการนั้นจะได้รับการป้องกัน และมคี วามปลอดภยั ต่อการสูญหายของขอ้ มลู จะเห็นได้ว่าการใช้ส่ือและเทคโนโลยีสารสนเทศส�ำหรับจัดการ ทรัพยากรชุมชนเพ่ือการจัดการท่องเท่ียวในรูปแบบสื่อประชาสัมพันธ์ ขา้ งตน้ เปน็ เครอ่ื งมอื หนง่ึ ทช่ี มุ ชนสามารถใชส้ อ่ื สาร ทำ� ความเขา้ ใจ และ สรา้ งการมสี ว่ นรว่ มระหวา่ งคนในชมุ ชนแลว้ ยงั สามารถใชเ้ ปน็ เครอ่ื งมอื สำ� หรับการสื่อสารระหวา่ งคนในชุมชนกับคนนอกชมุ ชน ผู้มาเยอื นหรือ นักท่องเท่ียวได้อีกช่องทางหนึ่ง ในยุคของโลกแห่งข้อมูลสารสนเทศ ทไี่ รพ้ รหมแดน ซึ่งมีประโยชนอ์ ยา่ งย่งิ ตอ่ ชมุ ชน การจัดการทรัพยากรชุมชน เพื่อการจัดการทอ่ งเท่ยี ว

กระบวนการเตรยี มความพรอ้ ม ของชมุ ชนเพอ่ื การจดั การทอ่ งเทย่ี ว จากการอธิบายข้อมูลในบทต่างๆ ข้างต้น ท�ำให้ผู้ที่อ่านหนังสือองค์ความรู้ เรื่องการจัดการทรัพยากร ชมุ ชนเพอื่ การจดั การทอ่ งเทย่ี ว เลม่ น้ี ไดเ้ ขา้ ใจถงึ ความรเู้ บอื้ งตน้ เกย่ี วการทอ่ งเทยี่ ว ไดท้ ราบถงึ เครอื่ งมอื และ แนวทางการวเิ คราะหช์ มุ ชน รวมถงึ ไดใ้ หเ้ หน็ ถงึ วธิ กี าร เพอ่ื จดั การทรพั ยากรชมุ ชนสำ� หรบั การจดั การทอ่ งเทย่ี ว ผ่านกระบวนการตา่ งๆ ที่มรี ปู แบบและแบบแผนแลว้ นนั้ ในบทนี้ ผู้จัดท�ำจึงขอน�ำเสนอ กระบวนการเตรียมความพร้อมของชุมชนเพ่ือการจัดการท่องเที่ยว ซ่ึงเป็นกระบวนการทถ่ี ือไดว้ ่าเปน็ กระบวนการสำ� คัญตอ่ ชมุ ชนในขนั้ สดุ ทา้ ย ก่อนการจดั การทอ่ งเท่ยี วสำ� หรบั ชุมชนอย่างแท้จริง เพื่อให้ชุมชนเกิดความพร้อมสูงสุดก่อนการจัดการท่องเท่ียว โดยกระบวนการเตรียม ความพร้อมของชุมชนเพ่ือการจัดการท่องเที่ยว จะประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ ดังนี้ (ยศ สมบัติ, 2546: 295-297) การจัดการทรัพยากรชุมชน เพ่อื การจดั การท่องเที่ยว

35 1. การจดั เวทชี มุ ชนเพอื่ ปรกึ ษาหารอื รว่ มกนั ในชมุ ชนเพอ่ื คดั เลอื กคณะ กรรมการจดั การทอ่ งเทยี่ วของชมุ ชน: เพอื่ ทำ� หนา้ ทใ่ี นการวางแผนและการ จัดการทอ่ งเท่ียว รวมทงั้ ประสานงานกบั คณะกรรมการในชมุ ชน องคก์ าร ปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ (อปท.) องคก์ รพฒั นาเอกชน องคก์ รชมุ ชน และอน่ื ๆ เพอ่ื วางแผนงานดา้ นการจดั การท่องเทย่ี วรว่ มกนั 2. การจัดท�ำแผนงานและโปรแกรมการท่องเที่ยวของชุมชน รวมท้ังก�ำหนดบทบาทหน้าท่ีของกลุ่มต่างๆ ในชุมชน เช่น กลุ่มอาชีพ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มแม่บ้าน และกลุ่มผู้ประกอบการในชุมชน เป็นต้น เพ่ือจดั การท่องเทีย่ ว จัดท�ำเสน้ ทางท่องเทยี่ ว จัดทำ� แผนพัฒนาภูมิทศั น์ ของท้องถิ่น อีกท้ังจัดทำ� รายการท่องเทยี่ วของชมุ ชน เปน็ ต้น 3. การเตรียมแผนการประชาสัมพันธ์ชุมชน เช่น การท�ำเอกสาร ข้อมูลชุมชน การท�ำแผ่นพับ การเผยแพร่ข้อมูลชุมชน โดยการใช้ ส่ือออนไลน์ เปน็ ตน้ 4. การเตรียมความพร้อมด้านการบริการการท่องเที่ยว เช่น ท่ีพัก หอ้ งน้ำ� และสง่ิ อ�ำนวยความสะดวกอ่ืน ๆ ด้วยการประชุมปรึกษาหารือ วางแผน รวมไปถึงการพัฒนานักส่ือความหมายชุมชน พัฒนาและปรับ ผลิตภัณฑ์ชุมชน พัฒนาอาหารชุมชน เพ่ือการบริการท่ีดีแก่ผู้มาเยือน เป็นตน้ 5. การติดตามการท�ำงานและจัดการความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้น ในกระบวนการท�ำงานในชมุ ชน โดยการจัดวงประชุมเพื่อพูดคยุ และสร้าง ความเข้าใจ และก�ำหนดแนวทางการด�ำเนินงานขององค์กรชุมชนเพ่ือ พัฒนาศักยภาพการจัดการท่องเที่ยวต่อไป ซึ่งเม่ือชุมชนได้ด�ำเนินการตามข้ันตอนต่างๆ ข้างต้นนี้แล้ว การด�ำเนินการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน ย่อมมีโอกาสประสบความ สำ� เรจ็ เพ่ิมมากขึน้ ด้วยวา่ กระบวนการต่างๆ เหลา่ นี้ ล้วนแตใ่ ชเ้ วทกี าร มีส่วนร่วมของคนในชุมชนท้ังส้ิน ดังน้ันกระบวนการต่างๆ ในขั้นตอนนี้ จึงถือได้ว่าเป็นกระบวนการที่มีความส�ำคัญ ท่ีชุมชนต้องใส่ใจย่ิง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างจุดเริ่มต้น สู่ความส�ำเร็จในการจัดการทรัพยากรชุมชน เพือ่ การจดั การท่องเที่ยว ใหเ้ กดิ ความยง่ั ยืนต่อไปในอนาคต การจดั การทรพั ยากรชุมชน เพือ่ การจัดการท่องเทย่ี ว



บทสรุป หนังสือองค์ความรู้ เร่ือง “การจัดการทรัพยากรชุมชนเพื่อ การจัดการท่องเที่ยว” เล่มน้ี คณะผู้จัดท�ำได้ด�ำเนินการสรุปข้อมูล และสกดั องคค์ วามรู้ จากการดำ� เนนิ งานวจิ ยั ทผ่ี า่ นมา โดยไดท้ ำ� การรอ้ ยเรยี ง เรื่องราวให้ผู้อ่านได้เห็นภาพของกระบวนการจัดการทรัพยากรชุมชน เพอ่ื การจดั การทอ่ งเทยี่ ว อยา่ งมขี น้ั ตอน แบบแผน และผสมผสานการใหค้ วามรู้ ท่ีอา้ งอิงหลักการ ผ่านงานวชิ าการต่างๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง โดยมงุ่ หวงั เพือ่ ให้ ผอู้ า่ นไดร้ บั ประโยชน์ และนำ� ไปเปน็ บทเรยี นตวั อยา่ ง หรอื นำ� ประยกุ ตใ์ ช้ เพอ่ื พฒั นาการจดั การทรพั ยากรชมุ ชนเพอ่ื การจดั การทอ่ งเทย่ี วของพนื้ ที่ ศกึ ษาอน่ื ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมและมปี ระสทิ ธิภาพตอ่ ไป ท้ังน้ี คณะผู้จัดท�ำขอขอบคุณส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย หน่วยบูรณาการวิจัยและความร่วมมือเพ่ือพัฒนาเชิงพ้ืนท่ี (ABC Unit) ท่ีให้ทุนสนับสนุนการด�ำเนินงานวิจัย และขอขอบคุณมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ท่ีสนับสนุนงบประมาณ เคร่ืองมือ และ การอำ� นวยความสะดวกในการดำ� เนนิ การตา่ งๆ รวมถงึ สถาบนั ถา่ ยทอด เทคโนโลยสี ชู่ มุ ชน ทส่ี นบั สนนุ ใหเ้ กดิ พน้ื ทใ่ี นการบรกิ ารวชิ าการในรปู แบบ หนงั สือองค์ความร้ใู นครั้งนี้

เอกสารอ้างอิง การท่องเท่ียวองค์การท่องเท่ียวโลก. (2561). รูปแบบการท่องเท่ียว. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: www.unwto.org. [19 เมษายน 2561]. ธนกิ เลศิ ชาญฤทธ.ิ์ (2554).การจดั การทรพั ยากรทางวฒั นธรรม. กรงุ เทพฯ: ศนู ยม์ านษุ ยวทิ ยาสริ นิ ทร (องค์การมหาชน). บุญเลิศ จติ ตั้งวัฒนา. (2542). การพัฒนาการทอ่ งเทย่ี วแบบยั่งยืน. เชียงใหม่: คณะมนษุ ยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่. พวงเพชร์ ธนสิน.(2548). ปัญหาและอุปสรรคการพัฒนาและจัดการธุรกิจการท่องเท่ียวในระดับ ทอ้ งถ่นิ .เชียงใหม่ : ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่. พิศาพมิ พ์ จันทร์พรหมและโฆษติ ไชยประสทิ ธ.์ิ 2559. โครงการ การอนุรักษแ์ ละฟื้นฟูภูมปิ ัญญา และวฒั นธรรมชมุ ชนอยา่ งมสี ว่ นรว่ มเพอ่ื การทอ่ งเทยี่ วโดยชมุ ชนทย่ี งั่ ยนื อำ� เภอกลั ยาณวิ ฒั นา จงั หวดั เชยี งใหม:่ ภายใต้ชุดโครงการ การสร้างความเขม้ แข็งให้ชุมชนบนพ้นื ท่ีสงู โดยใช้การท่องเทย่ี วโดยชุมชนเป็นเครอื่ งมอื กรณีศึกษาอ�ำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ (ระยะท่ี 2) สนับสนุนโดยส�ำนักงานคณะกรรมการวิจัย แห่งชาติ (วช.) และสำ� นักงานกองทนุ สนบั สนนุ การวจิ ยั (สกว.) 38 สถาบันการท่องเท่ียวโดยชุมชน CBT-I. (2561). CBT. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: www.cbt-i.org. [19 เมษายน 2561]. สรสั วด ี อาสาสรรพกิจ. (2542). การศึกษาเพอ่ื หาปจั จยั ในการกำ� หนดความพร้อมของผู้ประกอบ ธุรกิจน�ำเท่ียวเชิงนเิ วศในภาคเหนือตอนบน. เชยี งใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่. สนิ ธุ ์ สโรบล. 2546. การทอ่ งเที่ยวโดยชมุ ชน: แนวคิดและประสบการณพ์ ื้นท่ีภาคเหนือ. เชียงใหม่. โครงการวิจัยและพัฒนาเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ส�ำนกั งานภาค. องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพ่ือการท่องเที่ยวอย่างยุ่งยืน (อพท.). (2558). ท่องเที่ยว โดยชมุ ชน: Community-Based Tourism. กรงุ เทพฯ: บรษิ ัทโคคูน แอนด์ โค จำ� กัด. Burkart and Medlik. (1985). Tourism : Past, Present and Future. New York : Harper & Row. Tourism of Word. (2561). วัตถุประสงค์ของการท่องเท่ียว. [ออนไลน์]. แหล่งทมี่ า: https://tourismatbuu.wordpress.co. [19 เมษายน 2561]. การจดั การทรพั ยากรชมุ ชน เพื่อการจัดการทอ่ งเทย่ี ว

ผู้เขียน ชอ่ื - นามสกลุ : นางสาวพศิ าพิมพ์ จันทรพ์ รหม ต�ำแหนง่ ปัจจุบนั : อาจารยป์ ระจำ� กล่มุ วิชาภาษาและการส่ือสาร การศึกษา : ปรชั ญาดษุ ฎีบัณฑติ สาขาพัฒนาทรพั ยากรชนบท มหาวิทยาลยั แม่โจ้ กลุม่ วชิ าภาษาและการส่อื สาร สาขาศลิ ปศาสตร์ สถานทต่ี ดิ ต่อ: คณะบริหารธุรกจิ และศลิ ปศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา เชียงใหม่ 128 ถ.หว้ ยแกว้ ต.ช้างเผือก อ.เมืองจ.เชียงใหม่ 50300 [email protected] Email: ชอ่ื - นามสกุล : นายนริศ ก�ำแพงแก้ว ต�ำแหนง่ ปัจจบุ ัน : นักวิชาการคอมพิวเตอร์ 39 ปริญญาโท สาขาวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ การศึกษา : สถานทต่ี ดิ ตอ่ : มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ สถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยสี ่ชู มุ ชน มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา Email : 98 หมู่ 8 ต.ป่าป้อง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชยี งใหม่ 50200 [email protected] การจัดการทรพั ยากรชมุ ชน เพ่อื การจดั การทอ่ งเทยี่ ว

กองบรรณาธิการ การจัดการทรพั ยากรชุมชน เพ่ือการจัดการทอ่ งเที่ยว ISBN : 978-974-625-812-8 ISBN : 978-974-625-811-1 (E-Book) ทป่ี รึกษา ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ประพัฒน์ เชื้อไทย ดร.ภาสวรรธน์ วัชรด�ำรงศกั ด์ิ ผเู้ ขยี น จนั ทร์พรหม ก�ำแพงแกว้ นางสาวพิศาพมิ พ์ นายนริศ กองบรรณาธิการ นายภฤศพงศ ์ เพชรบุล ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ยทุ ธนา เขาสุเมรุ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์เกรียงไกร ธารพรศร ี นายนรศิ กำ� แพงแกว้ ว่าท่ี ร.ต.รัชตพ์ งษ์ หอชัยรตั น์ วา่ ที่ ร.ต.เกรยี งไกร ศรีประเสรฐิ นายพษิ ณ ุ พรมพราย นายจกั รรนิ ทร์ ช่ืนสมบตั ิ นางสาวรัตนาภรณ์ สารภี นางสาวอารรี ัตน์ พิมพน์ วน นายเจษฎา สุภาพรเหมนิ ทร์ นางสาวสธุ าสนิ ี ผูอ้ ย่สู ุข นางสาวฉัตวณัฐ มโนพฤกษ์ นางสาวหน่งึ ฤทยั แสงใส นางสาวเสาวลักษณ ์ จนั ทรพ์ รหม นางสาวทนิ อ่อนนวล นางสาววราภรณ์ ตน้ ใส นายวรี วทิ ย์ ณ วรรณมา จดั ทำ� โดย สถาบันถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ชู่ มุ ชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา 98 หมู่ 8 ต�ำบลปา่ ป้อง อำ� เภอดอยสะเก็ด จังหวดั เชียงใหม่ 50220 พิมพ์ที่ เอม็ ดี ดี กรปุ๊ 28/3 หมู่ 10 ตำ� บลป่าไผ่ อำ� เภอสันทราย จงั หวดั เชียงใหม่ 50210 โทร.09-92261953, 099-2391771