ผเู้ รียน ประเภท สาขาวิชา จำนวน ปวช.1 วชิ า ผ้เู รยี น จำนวน ทง้ั หมด ผ้เู รียนที่ คดิ ไดร้ ับการ รอ้ พัฒนา สาขาวชิ าเครอื่ งกลเกษตร 47 36 76 ประเภทวชิ าพาณิชยกรรม 9 91 7. สาขาวิชาการบัญชี 82 51 62 8. สาขาวิชาการตลาด 9. สาขาวิชาการเลขานกุ าร 9 91 สาขาวิชาคอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ 11. สาขาวิชาธุรกจิ สถานพยาบาล 12. สาขาวิชาการประชาสัมพันธ์ 13. สาขาวิชาธุรกิจค้าปลกี สาขาวิชาภาษาตา่ งประเทศ 18. สาขาวชิ าโลจสิ ตกิ ส์ 19. สาขาวิชาการจดั การสำนักงาน 20. สาขาวิชาการจดั การด้านความ ปลอดภยั
นท่ีได้รบั การพฒั นาตามความต้องการของสถานประกอบการ ระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ (ปวช.) ปวช. 2 ปวช. 3 จำนวน ดเป็น จำนวน จำนวน คดิ เป็น จำนวน ผูเ้ รยี น คดิ เป็น อยละ ผู้เรยี น ผเู้ รียนที่ รอ้ ยละ ผเู้ รยี น ท่ีไดร้ บั การ รอ้ ยละ ทัง้ หมด ไดร้ ับการ ทั้งหมด พัฒนา พัฒนา 6.60 75 63 84.00 86 66 76.74 100 1 1 100 3 12.50 2.20 102 51 50.00 24 100 6 6 100 28
ผเู้ รยี น ประเภท สาขาวิชา จำนวน ปวช.1 วิชา ผเู้ รียน จำนวน ทัง้ หมด ผ้เู รียนที่ คิด ไดร้ บั การ ร้อ พัฒนา 21. สาขาวิชาธุรกจิ การกีฬา ประเภทวชิ าศิลปกรรม 16. สาขาวิชาวจิ ติ รศลิ ป์ 17. สาขาวชิ าการออกแบบ 18. สาขาวิชาศลิ ปหัตถกรรม 19. สาขาวชิ าศิลปกรรมเซรามิก 20. สาขาวชิ าศลิ ปหัตถกรรมรปู พรรณ เคร่อื งถมและเคร่ืองประดบั 14. สาขาวชิ าถา่ ยภาพและมัลติมเี ดีย สาขาวชิ าเทคโนโลยศี ิลปกรรม 15. สาขาวชิ าคอมพิวเตอร์กราฟิก 16. สาขาวิชาอุตสาหกรรมเครอื่ งหนงั 17. สาขาวชิ าเครอื่ งประดับอญั มณี 14. สาขาวชิ าช่างทองหลวง
นที่ได้รับการพัฒนาตามความต้องการของสถานประกอบการ ระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) ปวช. 2 ปวช. 3 จำนวน ดเปน็ จำนวน จำนวน คิดเปน็ จำนวน ผูเ้ รยี น คิดเป็น อยละ ผเู้ รียน ผเู้ รยี นท่ี รอ้ ยละ ผ้เู รยี น ที่ไดร้ ับการ ร้อยละ ท้งั หมด ได้รับการ ทงั้ หมด พฒั นา พัฒนา 29
ผู้เรยี น ประเภท สาขาวชิ า จำนวน ปวช.1 วิชา ผูเ้ รยี น จำนวน ทงั้ หมด ผู้เรียนที่ คดิ ได้รบั การ รอ้ พัฒนา 15. สาขาวชิ าการพิมพส์ กรนี 53 53 1 16. สาขาวิชาออกแบบนิเทศศลิ ป์ ประเภทวิชาคหกรรม 5. สาขาวิชาแฟชน่ั และส่ิงทอ 6. สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ 12. สาขาวชิ าคหกรรมศาสตร์ 13. สาขาวิชาธุรกิจเสรมิ สวย 7. สาขาวิชาธุรกิจคหกรรม ประเภทวิชาเกษตรกรรม สาขาวิชาเกษตรศาสตร์ ประเภทวชิ าประมง สาขาวิชาเพาะเล้ยี งสัตวน์ ำ้ ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรมท่องเท่ียว 8. สาขาวชิ าการโรงแรม
นท่ไี ดร้ บั การพัฒนาตามความตอ้ งการของสถานประกอบการ ระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ (ปวช.) ปวช. 2 ปวช. 3 จำนวน ดเปน็ จำนวน จำนวน คดิ เป็น จำนวน ผเู้ รียน คดิ เปน็ อยละ ผู้เรียน ผเู้ รียนท่ี รอ้ ยละ ผู้เรียน ท่ไี ด้รับการ ร้อยละ ทัง้ หมด ได้รบั การ ทัง้ หมด พฒั นา พฒั นา 100 30
ผเู้ รียน ประเภท สาขาวิชา จำนวน ปวช.1 วชิ า ผเู้ รียน จำนวน ท้งั หมด ผู้เรยี นท่ี คดิ ไดร้ บั การ ร้อ พัฒนา 9. สาขาวชิ าการทอ่ งเทยี่ ว ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรมสง่ิ ทอ 9. สาขาวิชาเทคโนโลยีสิง่ ทอ 10. สาขาวชิ าเคมสี ่ิงทอ 11. สาขาวชิ าเทคโนโลยีเครอ่ื งนุง่ หม่ ประเภทวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร 7. สาขาวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศ 8. สาขาวิชาคอมพิวเตอรโ์ ปรแกรมเมอร์ ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรมบันเทิงและดนตรี 4. สาขาวชิ าอุตสาหกรรมบนั เทิง 5. สาขาวิชาการดนตรี 6. สาขาวชิ าการสรา้ งเครื่องดนตรไี ทย
นที่ได้รับการพัฒนาตามความตอ้ งการของสถานประกอบการ ระดับประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) ปวช. 2 ปวช. 3 จำนวน ดเปน็ จำนวน จำนวน คดิ เป็น จำนวน ผเู้ รียน คดิ เป็น อยละ ผเู้ รยี น ผเู้ รยี นที่ ร้อยละ ผู้เรียน ทไี่ ดร้ ับการ รอ้ ยละ ท้งั หมด ไดร้ บั การ ทัง้ หมด พัฒนา พัฒนา 11 31
ตารางที่ 7 แสดงจำนวนและรอ้ ยละของผู้เรียนท่ีได้รับการพฒั นาตามความต้องการขอ ประเภท สาขาวชิ า จำนวนผูเ้ รยี น จ วชิ า ทง้ั หมด ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรม 91 25. สาขาวิชาเทคนคิ เคร่ืองกล 20 26. สาขาวชิ าเทคนคิ การผลติ 84 27. สาขาวชิ าไฟฟ้า 24 28. สาขาวิชาอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 7 29. สาขาวิชาชา่ งกอ่ สรา้ ง 30. สาขาวชิ าอุตสาหกรรมเครอ่ื งเรือนและตกแตง่ 38 ภายใน 31. สาขาวชิ าเทคนคิ สถาปัตยกรรม 32. สาขาวชิ าสำรวจ 33. สาขาวชิ าเทคนิคพลังงาน 34. สาขาวิชาเทคนิคกายอปุ กรณ์ 35. สาขาวิชาโยธา 36. สาขาวชิ าเทคโนโลยียาง
องสถานประกอบการ ระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชนั้ สงู (ปวส.) ผเู้ รยี นทีไ่ ดร้ ับการพัฒนาตามความตอ้ งการของสถานประกอบการ ระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชีพช้นั สงู (ปวส.) ปวส.1 ปวส.2 จำนวนผเู้ รียน คิดเปน็ ร้อยละ จำนวนผู้เรยี น จำนวนผู้เรยี น คิดเปน็ ร้อย ที่ไดร้ บั การ ทงั้ หมด ที่ได้รบั การ ละ พัฒนา พัฒนา 23 25.27 82 20 24.39 19 48 52.74 28 33.33 91 5 20.00 4 16.67 25 9 100 7 100.00 9 40 32
ประเภท สาขาวิชา จำนวนผู้เรียน จ วิชา ทงั้ หมด 8 37. สาขาวิชาเทคนคิ โลหะ 38. สาขาวิชาเขียนแบบเครื่องกล 8 39. สาขาวชิ าเทคนคิ อุตสาหกรรม 9 40. สาขาวิชาการพมิ พ์ 38. สาขาวิชาเทคโนโลยีการตอ่ เรือ 39. สาขาวิชาเทคโนโลยีโทรคมนาคม 40. สาขาวิชาเครื่องมือวดั และควบคุม 41. สาขาวชิ าเคมีอุตสาหกรรม 42. สาขาวชิ าปิโตรเคมี 43. สาขาวิชาช่างอากาศยาน 44. สาขาวิชาเมคคาทรอนิกสแ์ ละหนุ่ ยนต์ สาขาวชิ าเทคโนโลยีปิโตรเลยี ม สาขาวชิ าเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ สาขาวิชาการตรวจสอบโดยไมท่ ำลาย สาขาวิชาช่างเทคนิคระบบขนสง่ ทางราง
ผู้เรยี นที่ได้รับการพัฒนาตามความตอ้ งการของสถานประกอบการ ระดับประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง (ปวส.) ปวส.1 ปวส.2 จำนวนผูเ้ รียน คิดเป็นร้อยละ จำนวนผูเ้ รยี น จำนวนผูเ้ รียน คดิ เป็นร้อย ที่ได้รบั การ ทงั้ หมด ท่ไี ดร้ ับการ ละ พัฒนา พฒั นา 4 8 5 33
ประเภท สาขาวิชา จำนวนผู้เรียน จ วชิ า ท้ังหมด สาขาวิชาเทคนคิ ข้นึ รปู พลาสตกิ 90 สาขาวชิ าเทคนคิ เครือ่ งทำความเยน็ และปรับ 4 อากาศ 9 สาขาวิชาเทคนคิ ควบคุมและซอ่ มบำรุงระบบ ขนสง่ ทางราง ประเภทวชิ าบริหารธรุ กจิ 10. สาขาวชิ าการบัญชี 11. สาขาวิชาการตลาด 12. สาขาวิชาการเลขานุการ สาขาวิชาคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ 14. สาขาวิชาการจดั การธรุ กจิ คา้ ปลีก 15. สาขาวิชาการจดั การโลจสิ ตกิ ส์ 16. สาขาวชิ าการจดั การสำนักงาน สาขาวชิ าการเงนิ และการธนาคาร 22. สาขาวชิ าการจดั การทรัพยากรมนุษย์
ผู้เรียนทไ่ี ดร้ บั การพฒั นาตามความตอ้ งการของสถานประกอบการ ระดับประกาศนียบตั รวชิ าชีพชนั้ สูง (ปวส.) ปวส.1 ปวส.2 จำนวนผเู้ รียน คิดเปน็ ร้อยละ จำนวนผเู้ รยี น จำนวนผู้เรียน คิดเป็นรอ้ ย ที่ได้รับการ ท้งั หมด ทีไ่ ด้รับการ ละ พฒั นา พัฒนา 77 85.56 81 71 87.65 4 100 18 100 9 100 18 34
ประเภท สาขาวิชา จำนวนผ้เู รียน จ วชิ า ท้ังหมด 23. สาขาวชิ าธรุ กจิ สถานพยาบาล 24 24. สาขาวชิ าภาษาต่างประเทศธุรกจิ 25. สาขาวชิ าการจดั การทวั่ ไป 26. สาขาวิชาธุรกิจการคา้ ระหวา่ งประเทศ ประเภทวชิ าศลิ ปกรรม 21. สาขาวชิ าวจิ ิตรศลิ ป์ 22. สาขาวชิ าการออกแบบ 23. สาขาวชิ าศิลปหัตกรรม 24. สาขาวิชาเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์อตุ สาหกรรมเคร่ือง หนัง 25. สาขาวชิ าเทคโนโลยีเซรามกิ 26. สาขาวชิ าการถา่ ยภาพและมลั ติมเี ดีย 27. สาขาวชิ าเทคโนโลยีศิลปกรรม 28. สาขาวิชาคอมพิวเตอร์กราฟิก
ผเู้ รียนท่ไี ด้รบั การพัฒนาตามความตอ้ งการของสถานประกอบการ ระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพชัน้ สงู (ปวส.) ปวส.1 ปวส.2 จำนวนผเู้ รียน คดิ เปน็ ร้อยละ จำนวนผู้เรยี น จำนวนผเู้ รยี น คิดเป็นรอ้ ย ที่ไดร้ บั การ ทงั้ หมด ท่ไี ด้รบั การ ละ พัฒนา พัฒนา 21 87.50 41 36 87.80 35
ประเภท สาขาวิชา จำนวนผู้เรยี น จ วิชา ทัง้ หมด 29. สาขาวชิ าศิลปหัตถกรรมรูปพรรณและ 4 เครื่องประดับ 30. สาขาวชิ าเครื่องประดบั อัญมณี 18. สาขาวชิ าการออกแบบเคร่ืองประดับและอัญมณี สาขาวิชาชา่ งทองหลวง 19. สาขาวชิ าดนตรแี ละเทคโนโลยี 20. สาขาวิชาการพมิ พ์สกรนี 21. สาขาวชิ าออกแบบนเิ ทศศิลป์ ประเภทวชิ าคหกรรม 7. สาขาวิชาเทคโนโลยีแฟช่นั และส่ิงทอ 8. สาขาวิชาเทคโนโลยีการออกแบบแฟช่ันและสงิ่ ทอ 14. สาขาวชิ าเทคโนโลยสี ่ิงทอและเคร่ืองนุม่ ห่ม 15. สาขาวชิ าอาหารและโภชนาการ 16. สาขาวิชาอุตสาหกรรมอาหาร 17. สาขาวิชาการบริหารงานคหกรรมศาสตร์
ผู้เรยี นที่ได้รับการพฒั นาตามความต้องการของสถานประกอบการ ระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชีพชนั้ สงู (ปวส.) ปวส.1 ปวส.2 จำนวนผูเ้ รียน คิดเปน็ รอ้ ยละ จำนวนผ้เู รียน จำนวนผู้เรยี น คดิ เปน็ รอ้ ย ที่ได้รบั การ ทั้งหมด ทไี่ ด้รบั การ ละ พฒั นา พฒั นา 4 100 36
ประเภท สาขาวิชา จำนวนผเู้ รยี น จ วิชา ทั้งหมด 18. สาขาวิชาเทคโนโลยีความงาม 89 19. สาขาวชิ าธุรกจิ คหกรรม 9 20. สาขาวิชาการดแู ลผูส้ งู อายุ 8. สาขาวิชาเชฟอาหารไทย ประเภทวิชาเกษตรกรรม สาขาวชิ าเกษตรศาสตร์ สาขาวิชาพืชศาสตร์ สาขาวชิ าสตั วศาสตร์ สาขาวชิ าสัตวรักษ์ สาขาวิชาชา่ งกลเกษตร สาขาวชิ าอุตสาหกรรมเกษตร สาขาวิชาเกษตรอุตสาหกรรม สาขาวชิ าเทคโนโลยีภมู ทิ ศั น์ สาขาวชิ าธุรกิจเกษตรและสหกรณ์ ประเภทวชิ าประมง
ผเู้ รียนที่ไดร้ บั การพฒั นาตามความต้องการของสถานประกอบการ ระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพชน้ั สงู (ปวส.) ปวส.1 ปวส.2 จำนวนผู้เรียน คดิ เปน็ ร้อยละ จำนวนผ้เู รียน จำนวนผู้เรยี น คดิ เปน็ ร้อย ที่ได้รับการ ทง้ั หมด ท่ีไดร้ ับการ ละ พฒั นา พฒั นา 89 100 43 43 100 9 100 9 9 100 37
ประเภท สาขาวิชา จำนวนผูเ้ รยี น จ วิชา ทง้ั หมด สาขาวิชาเพาะเลย้ี งสัตวน์ ้ำ - สาขาวิชาแปรรปู สตั วน์ ำ้ สาขาวชิ าการเดนิ เรือ ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรมท่องเที่ยว 10. สาขาวชิ าการโรงแรม 11. สาขาวชิ าการทอ่ งเท่ยี ว 12. สาขาวชิ าการจัดการธรุ กจิ ท่องเท่ียวเกษตรเชงิ นิเวศ 13. สาขาวิชาการจัดประชุมและนิทรรศการ 14. สาขาวิชาสปาและความงาม ประเภทวชิ าอุตสาหกรรมสิ่งทอ 12. สาขาวชิ าเทคโนโลยีสงิ่ ทอ 13. สาขาวิชาเคมสี ่งิ ทอ 14. สาขาวิชาเทคโนโลยีเครือ่ งนุ่งห่ม (อตุ สาหกรรมเสื้อผ้า สำเร็จรูป
ผเู้ รียนทไ่ี ด้รบั การพฒั นาตามความตอ้ งการของสถานประกอบการ ระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชีพชน้ั สงู (ปวส.) ปวส.1 ปวส.2 จำนวนผู้เรียน คดิ เป็นร้อยละ จำนวนผ้เู รียน จำนวนผเู้ รียน คิดเป็นร้อย ที่ไดร้ ับการ ทัง้ หมด ที่ได้รบั การ ละ พฒั นา พัฒนา 100 - -66 38
ประเภท สาขาวชิ า จำนวนผู้เรยี น จ วิชา ทง้ั หมด 15. สาขาวชิ าเทคโนโลยกี ารทอผา้ ไหมและผ้าพื้นเมือง 37 ประเภทวิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 9. สาขาวิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศ 10. สาขาวิชาคอมพวิ เตอร์โปรแกรมเมอร์ 11. สาขาวชิ าซอฟต์แวร์ระบบสมองกลฝงั ตวั 12. สาขาวชิ าคอมพวิ เตอรเ์ กมและแอนิเมชัน
ผเู้ รียนทไ่ี ดร้ บั การพัฒนาตามความตอ้ งการของสถานประกอบการ ระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพชั้นสงู (ปวส.) ปวส.1 ปวส.2 จำนวนผเู้ รียน คดิ เปน็ รอ้ ยละ จำนวนผเู้ รยี น จำนวนผเู้ รยี น คดิ เปน็ รอ้ ย ทไี่ ดร้ ับการ ทง้ั หมด ท่ีได้รบั การ ละ พฒั นา พัฒนา 23 39
40 1. ผลการดำเนินการผลิตและพัฒนากำลงั คนอาชวี ศกึ ษาในภูมิภาค 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ 4. ต้นแบบหรอื แบบอย่างท่ดี ี (Best Practice) 3 ลำดบั แรก (ถ้ามี) รายช่ือสถานศึกษา ทต่ี งั้ สถานศึกษา โครงการกจิ กรรมและรายละเอียด/ ของต้นแบบหรือแบบอย่างที่ดี 2.2 การผลติ และพัฒนากำลังคนให้ตรงกับความต้องการของอตุ สาหกรรมเป้าหมายในพนื้ ท่ีระเบียง เศรษฐกจิ พเิ ศษภาคตะวนั ออก (EEC) ตัวชว้ี ัดการตรวจราชการฯ ที่ 6 รอ้ ยละของผู้สำเรจ็ การศกึ ษาท่ตี รงตามความตอ้ งการของอตุ สาหกรรม ตารางที่ 8 แสดงจำนวนและร้อยละของผู้สำเร็จการศึกษาที่ตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรม กลมุ่ อุตสาหกรรม จำนวนผ้สู ำเรจ็ จำนวนความต้องการของตลาดแรงงานต่อผูส้ ำเรจ็ การศกึ ษา การศึกษาในแต่ระดบั การศึกษา (คน) ปกี ารศึกษา 2562 (คน ปวช. ปวส. ป.ตรี ปวช. คดิ เป็น ปวส. คิดเปน็ ป.ตรี คดิ เปน็ ร้อยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ กลุ่มอุตสาหกรรมยาน ยนต์สมยั ใหม่ กลุม่ อตุ สาหกรรม อิเลก็ ทรอนิกส์อัจฉรยิ ะ กลมุ่ อุตสาหกรรม ทอ่ งเที่ยวกลุ่มรายไดด้ ี และการทอ่ งเท่ยี วเชิง คุณภาพ กลุม่ อุตสาหกรรม การเกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพ กลมุ่ อตุ สาหกรรมการแปร รูปอาหาร
41 กล่มุ อตุ สาหกรรม จำนวนผ้สู ำเร็จ จำนวนความต้องการของตลาดแรงงานตอ่ ผู้สำเร็จ การศกึ ษา การศึกษาในแตร่ ะดบั การศึกษา (คน) ปกี ารศกึ ษา 2562 (คน ปวช. ปวส. ป.ตรี ปวช. คดิ เปน็ ปวส. คดิ เป็น ป.ตรี คดิ เปน็ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ กลุ่มอุตสาหกรรมหนุ่ ยนต์ กล่มุ อุตสาหกรรมการบนิ และโลจสิ ติกส์ กลมุ่ อตุ สาหกรรม เชอื้ เพลิงชวี ภาพและเคมี ชวี ภาพ กลุ่มอตุ สาหกรรมดจิ ิตอล กลมุ่ อุตสาหกรรม การแพทยค์ รบวงจร รวม ตัวชว้ี ัดการตรวจราชการฯ ที่ 7 ร้อยละความพึงพอใจของสถานประกอบการในอตุ สาหกรรมเปา้ หมายท่ีมี ตอ่ ผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษา ตารางที่ 9 แสดงจำนวนและร้อยละความพึงพอใจของสถานประกอบการในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีต่อ ผ้สู ำเรจ็ การศกึ ษา จำนวนสถานศึกษาทีม่ ีข้อมลู ตอบกลบั ของผลการประเมนิ ความพงึ พอใจ ของสถานประกอบการในอตุ สาหกรรมเป้าหมายท่ีมีต่อผู้สำเรจ็ การศึกษา จำนวน เฉล่ยี 3.51 – 5.00 หนว่ ยงาน สถานศกึ ษา ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ดา้ นสมรรถนะหลัก ดา้ นสมรรถนะวิชาชพี ท้ังหมด ทพี่ งึ ประสงค์ และสมรรถนะทัว่ ไป จำนวน คดิ เป็น จำนวน คิดเปน็ จำนวน คิดเปน็ สถานศึกษา ร้อยละ สถานศกึ ษา ร้อยละ สถานศกึ ษา ร้อยละ สอศ. 7 1. ผลการดำเนนิ การผลิตและพฒั นากำลงั คนให้ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมายใน พ้ืนที่ระเบยี งเศรษฐกจิ พิเศษภาคตะวนั ออก (EEC) 2. ปัญหาและอปุ สรรค
42 3. ขอ้ เสนอแนะ 4. ต้นแบบหรือแบบอย่างท่ดี ี (Best Practice) 3 ลำดบั แรก (ถ้ามี) รายชือ่ สถานศกึ ษา ทีต่ ้งั สถานศกึ ษา โครงการกิจกรรมและรายละเอียด/ ของต้นแบบหรือแบบอยา่ งท่ีดี 2.3 การจดั การศึกษาในระบบทวภิ าคี ใหผ้ ูเ้ รยี นมีทกั ษะและความเช่ียวชาญเฉพาะดา้ น ตัวชี้วดั การตรวจราชการฯ ที่ 8 ร้อยละของสถานศึกษาทจ่ี ัดการเรียนการสอนด้วยระบบทวภิ าคี ตารางท่ี 10 แสดงจำนวนและรอ้ ยละของสถานศึกษาทจี่ ดั การเรยี นการสอนดว้ ยระบบทวิภาคี ร้อยละของ ปีการศกึ ษา 2563 ร้อยละ ปีการศึกษา 2563 (ตามแผนของสถานศึกษา) ของ (ตามแผนของ สถานศกึ ษา เพม่ิ ขึน้ / ผ้เู รยี นท่ี สถานศกึ ษา) เพิ่มข้ึน/ ลดลง เรียนใน ลดลง ที่จัด จำนวน จำนวน คิด ระบบ จำนวน จำนวน คิด สถานศกึ ษา สถานศกึ ษา เป็น *เทียบ ทวิภาคี ผู้เรียน ผเู้ รียน เปน็ *เทียบ หน่วยงาน การศึกษา ร้อย กับปี ปี ทง้ั หมด ระบบ รอ้ ย กับปี ในระบบทวิ ทั้งหมด ทจี่ ดั ละ 2562 การศึกษา 2562 การศึกษา 2562 ทวิ ละ ภาคี ในระบบทวิ ภาคี (คน) ปีการศกึ ษา ภาคี (แห่ง) 2562 สอศ. 7 3 42.85 459 160 34.86 ตัวชวี้ ดั การตรวจราชการฯ ที่ 9 สดั สว่ นของสถานศกึ ษาต่อสถานประกอบการท่ีรว่ มจดั การศกึ ษาระบบทวิ ภาคี ตารางท่ี 11 แสดงจำนวนและสดั สว่ นของสถานศกึ ษาต่อสถานประกอบการที่ร่วมจัดการศึกษาระบบทวภิ าคี หนว่ ยงาน จำนวนสถานศึกษา จำนวนสถานประกอบการ คดิ เปน็ สัดส่วน สอศ. ทงั้ หมด ท่รี ว่ มจดั การศึกษาระบบทวิภาคี (สถานศึกษา: (แหง่ ) สถานประกอบการ) 7 (แห่ง) 89 1 : 12.7
43 ตัวช้ีวดั การตรวจราชการฯ ที่ 10 รอ้ ยละความพงึ พอใจของสถานประกอบการตอ่ ผู้เรียน และผู้สำเร็จการศึกษาในระบบทวิภาคี ตารางที่ 12 แสดงจำนวนและร้อยละความพึงพอใจของสถานประกอบการต่อผู้เรียนและผู้สำเร็จการศึกษา ในระบบทวิภาคี จำนวนสถานศกึ ษาท่มี ขี ้อมูลตอบกลับของผลการประเมนิ ความพงึ พอใจ ของสถานประกอบการท่ีมตี ่อผเู้ รียนและผสู้ ำเร็จการศึกษาในระบบทวภิ าคี จำนวน ค่าเฉลี่ย 3.51 – 5.00 หนว่ ยงาน สถานศึกษา ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ด้านสมรรถนะหลัก ดา้ นสมรรถนะวิชาชีพ และสมรรถนะท่ัวไป ท้งั หมด ที่พึงประสงค์ จำนวน คิดเป็น จำนวน คิดเปน็ จำนวน คดิ เป็น รอ้ ยละ ร้อยละ รอ้ ยละ สอศ. 7 1. ผลการดำเนินการจัดการศกึ ษาในระบบทวภิ าคี ใหผ้ เู้ รียนมที กั ษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน 2. ปัญหาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ 4. ต้นแบบหรือแบบอย่างทดี่ ี (Best Practice) 3 ลำดับแรก (ถ้าม)ี รายชือ่ สถานศึกษา ที่ตง้ั สถานศึกษา โครงการกจิ กรรมและรายละเอยี ด/ ของตน้ แบบหรือแบบอย่างท่ีดี 2.4 การสง่ เสริมอาชีพที่เหมาะสม สำหรับผู้ทีเ่ ข้าสู่สังคมสงู วัย ตวั ช้วี ัดการตรวจราชการฯ ท่ี 11 รอ้ ยละของสถานศึกษาจดั ทำหลักสตู รพัฒนาอาชีพสำหรบั ผ้ทู ีเ่ ข้าส่สู ังคม สงู วัย ตารางท่ี 13 แสดงจำนวนและรอ้ ยละของสถานศกึ ษาจัดทำหลกั สตู รพัฒนาอาชพี สำหรับผูท้ ี่เขา้ สู่สงั คมสูงวัย จำนวนสถานศึกษา จำนวนสถานศกึ ษา ทมี่ หี ลักสตู รการพัฒนาอาชีพ หน่วยงาน ทั้งหมด สำหรบั ผูท้ ีเ่ ขา้ ส่สู ังคมสูงวัย (แหง่ ) จำนวน คดิ เปน็ (แหง่ ) รอ้ ยละ กศน. 6 2 33.33
44 ตัวชวี้ ัดการตรวจราชการฯ ที่ 12 ร้อยละของประชากรกลุ่มเปา้ หมายไดร้ ับการอบรมหลักสูตรพัฒนา อาชีพสำหรับผ้ทู ่เี ข้าสสู่ ังคมสงู วัย ตารางท่ี 14 แสดงจำนวนและรอ้ ยละของประชากรกลุ่มเป้าหมายได้รบั การอบรมหลักสูตรพฒั นาอาชีพ สำหรับผู้ท่เี ขา้ ส่สู ังคมสงู วัย หน่วยงาน จำนวน จำนวนหลักสตู ร ผู้เขา้ รับการอบรมหลักสูตรพัฒนาอาชพี กศน. สถานศกึ ษา พฒั นาอาชพี ทเี่ หมาะสมสำหรับผ้ทู ี่เขา้ สู่สังคมสงู วยั ที่เหมาะสม กลมุ่ เป้าหมาย จำนวน คดิ เป็น ทง้ั หมด สำหรับผูท้ เี่ ขา้ (คน) ผู้เข้าอบรม ร้อยละ (แหง่ ) สสู่ งั คมสูงวัย (คน) 6 4 319 319 100 1. ผลการดำเนนิ การสง่ เสรมิ อาชพี ท่เี หมาะสม สำหรับผทู้ ี่เข้าสู่สังคมสูงวัย 2. ปัญหาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ 4. ต้นแบบหรอื แบบอยา่ งทด่ี ี (Best Practice) 3 ลำดับแรก (ถา้ มี) รายช่ือสถานศกึ ษา ท่ตี ั้งสถานศกึ ษา โครงการกิจกรรมและรายละเอียด/ ของตน้ แบบหรอื แบบอยา่ งท่ีดี 2.5 การจัดการเรยี นรู้เพื่อสร้างทักษะพ้ืนฐานที่เชื่อมโยงสู่การสรา้ งอาชพี และการมีงานทำ ตัวชี้วัดการตรวจราชการฯ ที่ 13 ร้อยละของสถานศกึ ษาทม่ี ีการจดั การเรยี นรูเ้ พื่อสร้างทักษะพ้ืนฐานที่ เชื่อมโยงสกู่ ารสรา้ งอาชีพและการมีงานทำ ตารางท่ี 15 แสดงจำนวนและร้อยละของสถานศกึ ษาท่มี ีการจดั การเรียนรู้เพ่ือสร้างทักษะพ้ืนฐานที่เช่ือมโยง สู่การสร้างอาชพี และการมีงานทำ จำนวนสถานศกึ ษา สถานศึกษาที่มกี ารจัดการเรยี นรู้เพ่ือสร้างทักษะพ้ืนฐาน ในสงั กดั ทงั้ หมด สังกดั ที่เช่ือมโยงส่กู ารสรา้ งอาชีพและการมีงานทำ (แห่ง) จำนวนสถานศึกษา รอ้ ยละ (แหง่ ) สพม. 5 12 11 91.66 สช. 13 11 84.61 รวม 25 22 88.00
45 1. ผลการดำเนินการจัดการเรียนรู้เพื่อสร้างทักษะพื้นฐานที่เชื่อมโยงสู่การสร้างอาชีพ และการมี งานทำ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ 4. ต้นแบบหรือแบบอยา่ งที่ดี (Best Practice) 3 ลำดับแรก (ถ้าม)ี รายชอ่ื สถานศกึ ษา ทีต่ งั้ สถานศึกษา โครงการกิจกรรมและรายละเอียด/ ของต้นแบบหรอื แบบอย่างท่ีดี อนิ ทโมลปี ระทาน 48/1 หมู่.7 ต.บางมัญ อ.เมือง กิจกรรมเสรมิ สรา้ งอาชพี ระหว่างเรยี น นาคประดิษฐว์ ิทยา 281 ม.3 ต.บางน้ำเชี่ยว โครงการเรยี นรู้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจ อ.พรหมบรุ ี จ.สิงหบ์ รุ ี พอเพียง 3. นโยบายการพฒั นาและเสริมสร้างศกั ยภาพคน ประเด็นการตรวจราชการและการตดิ ตามประเมนิ ผล 3.1 การจัดการเรียนรู้ดว้ ยวิธีการ Active learning ตวั ชวี้ ัดการตรวจราชการฯ ที่ 14 ร้อยละของสถานศึกษาทจี่ ัดกระบวนการจดั การเรยี นร้ทู ผี่ ู้เรยี น ได้ใชก้ ระบวนการคดิ วิเคราะหแ์ ละลงมือปฏิบตั ิ (Active learning) ตารางที่ 16 แสดงจำนวนและร้อยละของสถานศึกษาที่จัดกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้ใช้ กระบวนการคิดวิเคราะห์และลงมือปฏิบตั ิ (Active learning) สังกดั สถานศึกษาที่จดั กระบวนการเรยี นรูฯ้ (Active learning) จำนวนสถานศกึ ษาท้งั หมด จำนวนสถานศกึ ษาทจ่ี ดั กระบวนการ ร้อยละ (แหง่ ) เรยี นรู้ฯ (Active learning) (แหง่ ) สพป. 99 99 100 สพม5 12 12 100 สช. 13 11 84.61 รวม 124 122 98.38 1. ผลการดำเนนิ การจัดการเรยี นรู้ด้วยวธิ ีการ Active learning สพป. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการให้ผู้บริหาร ครูวิชาการ ทุกโรงเรียน ให้มีความรู้ความเข้าใจแนวทางการ จัดการเรยี นรู้ Active learning และใหด้ ำเนนิ การขยายผลใหก้ ับครทู กุ คนตอ่ ไป สพม.5 1) จดั ทำโครงการพัฒนาหลักสตู รและกระบวนการเรียนรู้ สู่คณุ ลกั ษณะของเด็กไทยใน ศตวรรษท่ี 21 อย่างต่อเนือ่ ง ตง้ั แตป่ ี 2560-ปจั จบุ ัน
46 2) จดั ประชุมเชงิ ปฏิบัตกิ าร จัดทำคมู่ ือกิจกรรมการเรยี นรเู้ ชิงรุก Active Learning สำหรบั พัฒนาสมรรถนะครผู ู้สอน (อยูร่ ะหวา่ งดำเนินการจัดทำรูปเลม่ ต้นฉบับ) 3) จดั ประชุมเชิงปฏบิ ัตกิ าร ฝกึ ปฏิบัตแิ ละพฒั นารปู แบบและวิธกี ารจัดการเรยี นรู้ “ครูผู้สอน” เปน็ “Coach” และ ส่ือการเรียนรู้ (ดำเนนิ การเดอื นมีนาคม-เมษายน 2563) 4) การประชุมเชงิ ปฏิบัตกิ าร พัฒนาครแู กนนำ ในการออกแบบการจัดการเรยี นรู้สอดคล้อง กบั เป้าหมายโลกเพื่อการพัฒนาที่ย่งั ยืน (SDGs) 17 Goals เนน้ ทักษะท่ีจำเป็นในศตวรรษท่ี 21 (ดำเนนิ การ เดอื นเมษายน-พฤษภาคม 2563) 5) การนเิ ทศ กำกับ ตดิ ตาม การสงั เกตการสอน และ ประเมินผล การนำแนวทางการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ Active Learning สกู่ ารปฏบิ ัตใิ นช้ันเรยี น (ตลอดปีการศกึ ษา ทัง้ ภาคเรียนท่ี 1 และ ภาค เรยี นที่ 2 ) โดยดำเนนิ การนเิ ทศ ดังนี้ 5.1 กำหนดเป็นนโยบายของสำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา เขต 5 5.2 จดั ทำ MOU ข้อตกลงความรว่ มมอื ระหว่างเครือข่ายสง่ เสรมิ ประสิทธภิ าพจงั หวดั (สงิ หบ์ ุรี ลพบุรี อา่ งทอง และ ชยั นาท ) 5.3 ดำเนินการนิเทศตดิ ตาม โดยกลมุ่ นเิ ทศตดิ ตาม และประเมินผลการจดั การศึกษาของ สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 5 ดังนี้ 1) กำหนดประเดน็ การนเิ ทศ เร่ือง การจัดการเรียนรู้ Active Learning 2) ดำเนินการนิเทศระยะท่ี 1 โดยคณะกรรมการ ก.ต.ป.น.รว่ มกบั ศึกษานิเทศก์ ประจำโรงเรียน 3) ดำเนนิ การนเิ ทศระยะที่ 2 โดยศึกษานเิ ทศก์ประจำโรงเรียน ดำเนินการสงั เกต การณสอนครผู สู้ อน จำนวน 5 กลุ่มสาระการเรยี นรูห้ ลัก ประกอบด้วย กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย กลุ่ม สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา-ศาสนา และวฒั นธรรม กลมุ่ สาระการ เรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ และ กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ 4) จัดทำเอกสารสรุปรายงานผลการนิเทศ และ การสังเกตการณส์ อนเพ่ือสร้าง เครอื ข่ายการนิเทศรว่ มกับ ครูผนู้ เิ ทศ และ ครูผู้สอนแตล่ ะกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ 5) รายงานผลการนเิ ทศ ต่อ คณะกรรมการ ก.ต.ป.น. และ ผบู้ รหิ ารระดบั สงู ของ สำนักงานเขตพืน้ ที่การศึกษา เพอื่ วิเคราะหส์ ภาพปัญหา นำมาสู่การปรบั ปรงุ พฒั นา และวางแผนการนิเทศใน ครั้งต่อไป 6) การจดั กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ Best Practice (BP) สอดคลอ้ งกบั เปา้ หมายโลกเพอ่ื การพฒั นาทยี่ ัง่ ยนื (SDGs) เน้นทักษะทจ่ี ำเปน็ ในศตวรรษท่ี 21 โดยดำเนินการใหเ้ ครือข่ายส่งเสริม ประสทิ ธภิ าพจงั หวัด ทัง้ 4 จงั หวดั และ สหวิทยาเขต จำนวน 9 สหวทิ ยาเขต คัดเลอื กโรงเรยี นท่ีมีผลการ ดำเนนิ งานดา้ นการจัดการเรียนรู้ Active Learning ดเี ดน่ ของสหวทิ ยาเขต มารว่ มแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ใน ระหว่างวนั ท่ี 17-20 กุมภาพันธ์ 2563 ดงั น้ี
47 17 กมุ ภาพันธ์ 2563 เครอื ข่ายส่งเสริมประสทิ ธิภาพจงั หวดั ลพบรุ ี 18 กุมภาพนั ธ์ 2563 จำนวน 3 สหวทิ ยาเขต ณ โรงเรยี นพิบลู วิทยาลยั 19 กุมภาพนั ธ์ 2563 เครือข่ายสง่ เสริมประสทิ ธิภาพจังหวัดชยั นาท 20 กมุ ภาพันธ์ 2563 จำนวน 2 สหวิทยาเขต ณ โรงเรยี นชยั นาทพทิ ยาคม เครือข่ายส่งเสรมิ ประสทิ ธิภาพจงั หวัดอา่ งทอง จำนวน 2 สหวิทยาเขต ณ โรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์ เครือข่ายส่งเสริมประสทิ ธภิ าพจงั หวดั สิงหบ์ ุรี จำนวน 2 สหวิทยาเขต ณ โรงเรียนสงิ หบ์ รุ ี 2. ปัญหาและอุปสรรค สพป. 1. ไม่สามารถพัฒนาครูโดยประชุมปฏิบัติการให้กับครูทุกคนได้โดยตรง เนื่องจากไม่มีงบประมาณ เพยี งพอ 2. ไม่สามารถนิเทศ ติดตาม และประเมินผลเชิงประจักษ์ ได้อย่างทั่วถึง เนื่องจากมีศึกษานิเทศก์ น้อยประกอบมีภาระงานมาก สพม. 5 ครูผู้สอนที่เป็นครูบรรจุใหม่ มีทักษะและประสบการณ์ในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ท่ี สอดคล้องกับมาตรฐานและตัวชี้วัดน้อย จึงต้องสะท้อนผลการนิเทศ ในด้านการวิเคราะห์มาตรฐานตัวชี้วัด เชื่อมโยงสู่กจิ กรรมการเรียนการสอน แต่มีทักษะการจัดการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยี ในการพัฒนา และจัดหาสอื่ ประกอบการจัดการเรยี นรู้ได้ดี 3. ขอ้ เสนอแนะ สพป. 1) สพป. ควรใหก้ ลุ่มพัฒนาบุคลากร มกี ารพัฒนาอย่างเป็นระบบ 2) กลุ่มนิเทศฯ มกี ารตดิ ตามโดยใชร้ ูปแบบการนิเทศ ท่หี ลากหลาย หรอื ใชเ้ ครือข่ายการนเิ ทศ สพม.5 1) จดั ประชมุ อบรมสร้างความเข้าใจ ในภาพรวมของเขตพน้ื ท่ี และ นิเทศติดตามอย่าง ตอ่ เนือ่ ง 2) จัดทำเอกสารประกอบการนิเทศ เกีย่ วกับคู่มือ/แนวทางการออกแบบการจัดการเรียนรู้ เพ่อื เป็นแนวทางการออกแบบการจัดการเรียนรู้ทส่ี อดคล้องกบั มาตรฐานและตวั ช้ีวดั ให้ครอบคลุมทกุ กลมุ่ สาระการเรียนรู้
48 3) พฒั นาระบบการนิเทศภายในโรงเรียนให้เข้มแขง็ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหวา่ งสำนักงานเขต พืน้ ทีก่ ารศึกษา และ ฝา่ ยวชิ าการของโรงเรยี น ตลอดจน ดำเนินการนเิ ทศและสงั เกตการสอนโดยครผู นู้ ิเทศ และ ศึกษานเิ ทศกป์ ระจำโรงเรียน 4) นโยบายควรมีการกำหนดแนวทางสู่การปฏิบตั ิท่ีชัดเจน จริงจัง และย่ังยนื มกี ารนเิ ทศอย่าง ตอ่ เน่ืองจากตน้ สังกดั 4. ต้นแบบหรือแบบอย่างท่ีดี (Best Practice) 3 ลำดับแรก (ถา้ มี) รายชอื่ สถานศกึ ษา ทต่ี ั้งสถานศึกษา โครงการกจิ กรรมและรายละเอยี ด/ ของต้นแบบหรือแบบอยา่ งที่ดี โรงเรียนวดั โบสถ์ อ.อนิ ทรบ์ รุ ี จ. สิงห์บุรี โครงการพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการส่อื สาร โรงเรียนวดั ท่าอิฐ อ.อนิ ทร์บรุ ี จ. สิงหบ์ รุ ี โครงการพัฒนาเยาวชนรุ่นใหมม่ วี ินยั จราจร โรงเรียนวดั สังฆราชาวาส อ.เมืองสงิ ห์บุรี จ. สงิ หบ์ ุรี โครงการจัดการเรียนร้ตู ามหลักปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพียง ด้วย 13 ฐานการเรยี นรู้ โรงเรยี นสงิ หบ์ รุ ี อ.เมืองสิงห์บรุ ี จ. สิงห์บรุ ี การนิเทศภายใน (การจดั การเรียนรู้ Active Learning โครงการยกระดับผลสมั ฤทธ์ิ ทางการเรียนครอบคลุม 8 กลุ่มสาระจาก ระดับเขตพื้นที่การศึกษา โรงเรียนอินทรบ์ ุรี อ.เมืองสิงห์บุรี จ. สิงห์บรุ ี การนเิ ทศภายในโครงการยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรยี น โรงเรียนอินทโมลีประทาน อ.เมอื งสงิ ห์บรุ ี จ. สิงห์บรุ ี -โครงการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียน 8 กลมุ่ สาระ โรงเรียนนาคประดิษฐว์ ิทยา อ.พรหมบรุ ี จ. สงิ ห์บรุ ี โครงการเรยี นรู้หลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง โรงเรียนสิงหพาหุ อ.เมืองสงิ ห์บุรี จ. สิงหบ์ ุรี การจดั การเรยี นรู้ ดา้ นการปฏิบัติจรงิ Active “ประสานมติ รอุปภัมภ์” Learning (ระดับประเทศ)
49 3.2 การจดั การเรียนการสอนเพอื่ ฝึกทักษะการคิดแบบมีเหตผุ ลและเป็นขั้นตอน (Coding) ตวั ชวี้ ัดตรวจราชการฯ ที่ 15 ร้อยละของสถานศึกษาทีจ่ ัดการเรยี นการสอนเพอ่ื ฝึกทักษะการคิดแบบมี เหตุผลและเปน็ ขน้ั ตอน (Coding) ตารางที่ 17 แสดงจำนวนและร้อยละของสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนเพื่อฝึกทักษะการคิดแบบมีเหตุผล และเปน็ ขัน้ ตอน (Coding) สถานศึกษาที่จดั การเรียนการสอนเพอื่ ฝึกทกั ษะการคดิ แบบมเี หตุผลและเป็นขน้ั ตอน (Coding) สังกัด จำนวนสถานศกึ ษาทั้งหมด จำนวนสถานศึกษาที่จดั การเรียนการสอน (แหง่ ) เพ่ือฝกึ ทกั ษะการคิดแบบมเี หตผุ ลและเป็น ร้อยละ ขั้นตอน (Coding) (แห่ง) สพป. 99 99 100 สพม5 12 12 100 สช. 13 11 84.61 รวม 124 122 98.38 1. ผลการดำเนินการจัดการเรียนการสอนเพื่อฝึกทักษะการคิดแบบมีเหตุผลและเป็นขั้นตอน (Coding) สพป. 1. ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นให้นักเรียนแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้การค้นหาอย่างเป็น ระบบ เปน็ ลำดับขนั้ ตอน และสามารถออกแบบอัลกอริทมึ เพ่ือแกป้ ะญหาอยา่ งงา่ ยในชีวติ ประจำวนั ได้ 2. เช็คความพร้อมของครูผู้สอน หลักสูตรที่ดี ต้องมาพร้อมกับครูที่เข้าใจ มีการจัดอบรมเป็นระยะๆ ควบคไู่ ปกบั การจดั อบรมออนไลน์ ซึ่งทำหน้าท่ีคลา้ ยคู่มอื วางเน้ือหาให้ครูสามารถจัดการเรยี นการสอนได้ สพม.5 กระบวนการและผลการดำเนินการใช้ดจิ ิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้หรือสร้างอาชีพ สถานศึกษามี การส่งเสริมการใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้หรือเป็นเครื่องมือเพื่อการเรียนรู้โดยการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศขน้ั พื้นฐานและมีระบบคอมพิวเตอร์ในการติดต่อส่ือสารในการเชื่อมต่อข้อมูล ขณะนี้อยู่ในระหว่างส่งเสริมครูในการใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนการสอน ในระยะแรกยังไม่มี ขอ้ มลู อยใู่ นช่วงดำเนนิ 2. ปัญหาและอปุ สรรค เรื่องจัดการเรียนการสอนเพื่อฝึกทักษะการคิดแบบมีเหตุผลและเป็นขั้นตอน (Coding) เป็น เรื่องที่ใหม่สำหรับครู และอยู่ในสาระวิทยาศาสตร์ซึ่งส่วนใหญ่ครูวิทยาศาสตร์จะมีความกังวลในเรื่องความรู้ คอมพิวเตอร์ จงึ เปน็ อุปสรรคในการจัดการเรยี นการสอนในสาระที่มีเนือ้ หาของคอมพวิ เตอร์
50 3. ขอ้ เสนอแนะ การจัดการเรียนการสอนในรายวิชา Coding ครูที่จัดการเรียนการสอนควรทำความเข้าใจใน เน้ือหาสาระ และดูว่าตนเองนั้นมีความถนัดไหม ถ้าเกิดความกังวลควรมีการบูรณาการการสอนเช่นครูที่จบ สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละครูวิทยาศาสตร์มาชว่ ยกนั ในการจัดการเรยี นการสอน 4. ตน้ แบบหรือแบบอย่างทด่ี ี (Best Practice) 3 ลำดับแรก (ถ้ามี) รายชือ่ สถานศึกษา ทต่ี ้ังสถานศกึ ษา โครงการกิจกรรมและรายละเอยี ด/ โรงเรยี นอนิ ทรบ์ ุรี อ.อินทรบ์ ุรี จ. สงิ หบ์ ุรี ของต้นแบบหรอื แบบอยา่ งที่ดี โรงเรียนอนุบาลสิงห์บุรี อ.เมอื งสิงห์บรุ ี จ. สิงหบ์ รุ ี โครงงาน STEM เรื่องการสรา้ งกลอ่ งบอก โรงเรียนชุมชนวัดม่วง อ. ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บรุ ี สัญญาณเสียงดว้ ยเบรนเซนเซอร์ ไดร้ ับรางวัล ระดับภาคกลางและภาคตะวันออก โรงเรยี นวัดโฆสิทธาราม อ. อินทร์บรุ ี จ.สิงห์บรุ ี นวตั กรรม เร่ืองถอดรหสั ลบั สำหรับนักเรียน โรงเรียนอนิ ทโมลปี ระทาน อ.เมืองสิงห์บุรี จ. สงิ หบ์ รุ ี ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรยี นนาคประดิษฐ์วิทยา อ.พรหมบรุ ี จ. สงิ หบ์ ุรี สง่ิ ประดษิ ฐ์ เคร่ืองให้อาหารสุนัขอัตโนมัติ โดยใชม้ อเตอร์หมนุ เพื่อเขย่ี อาหารสนุ ขั ใหอ้ อกจากภาชนะเกบ็ อาหาร โดยใช้ บอรด์ kidbright ชุมนมุ Coding into Robot เฉพาะนักเรยี น ที่สนใจเขา้ ชมุ นุม 20 คน โครงการสะเต็มศึกษา โครงการเรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
51 3.3 การพัฒนาครใู ห้มคี วามชำนาญในการจัดการเรียนรภู้ าษาองั กฤษและวิทยาการคำนวณ (Coding) ตัวชี้วดั การตรวจราชการฯ ท่ี 16 รอ้ ยละของครูทไ่ี ดเ้ ข้ารบั การพัฒนาอบรมภาษาองั กฤษ ตัวชว้ี ดั การตรวจราชการฯ ท่ี 17 ร้อยละของครูทไี่ ดเ้ ขา้ รบั การพัฒนาอบรมวิทยาการคำนวณ (Coding) ตารางที่ 18 แสดงจำนวนและรอ้ ยละของครูทไี่ ด้เขา้ รับการพฒั นาอบรมภาษาองั กฤษและวิทยาการ คำนวณ (Coding) การพัฒนาอบรมครภู าษาอังกฤษ การพฒั นาอบรมครูวิทยาการคำนวณ จำนวนครู จำนวนครู จำนวนครู จำนวนครู ทีส่ อน ที่ไดเ้ ขา้ รับ สังกัด การพัฒนา ทีส่ อน ทไี่ ดเ้ ข้ารบั ภาษาองั กฤษ ท้งั หมด อบรม รอ้ ยละ วทิ ยาการ การพฒั นาอบรม ร้อยละ (คน) ภาษาองั กฤษ คำนวณทั้งหมด วิทยาการคำนวณ (คน) (คน) (คน) สพป. 96 96 100 96 96 100.00 สพม 5 48 40 83.33 30 6 20.00 สช. 43 37 86.05 37 30 81.08 สอศ. 6 6 100 - -- รวม 193 179 92.74 163 132 80.98
52 1. ผลการดำเนินการพัฒนาครูให้มีความชำนาญในการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและวิทยาการ คำนวณ (Coding) สพม.5 1) เข้ารบั การอบรมเก่ยี วกับการพฒั นาการจดั การเรียนการสอนในวชิ าภาษาองั กฤษ เชน่ การเข้ารับ อบรมการจดั การเรยี นรู้ Active Learning การเข้ารับการอบรม Bootcamp เป็นตน้ เพอื่ นำมา 2) ครผู สู้ อนวิชารายภาษาองั กฤษเข้ารบั การอบรม/ เรียนออนไลน์ ผ่านระบบการศกึ ษาแบบเปิดเพื่อ การเรยี นรตู้ ลอดชีวิต (Thaimooc) ในรายวิชาที่เก่ียวข้องกบั การสอนภาษาองั กฤษ 3) มกี ารนิเทศภายในและภายนอก 3.1 นเิ ทศภายใน โดยครใู นกลมุ่ สาระการจัดการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ 3.2 นิเทศภายนอก โดยศกึ ษานเิ ทศกจ์ าก สพม.5 ผลการดำเนินงาน : ครใู นกลุม่ สาระได้มกี ารพฒั นาตนเองในการจัดการเรยี นการสอน 4) มกี ลุม่ แลกเปลยี่ นเรยี นรู้และแกป้ ัญหาในการจัดการเรียนการสอนโดยกระบวนการ PLC ระหว่าง ครผู ูส้ อนในกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศและกลมุ่ สาระอื่นๆ โดยมผี บู้ ริหารร่วมด้วย ผลการดำเนินงาน : ไดท้ ราบปญั หาและแนวทางการแก้ไขการจัดการเรียนการสอนจากเพื่อน ครูท่ีนอกเหนอื จากกลุ่มสาระเดยี วกนั และสามารถนำวธิ แี ละกระบวนการแกไ้ ขปญั หามาประยกุ ตใ์ ช้กับกลมุ่ สาระและรายวิชาของตนเอง 5) ครูไดเ้ ขา้ รับอบรมตา่ ง ๆ เพอื่ พัฒนาศกั ยภาพการสอนวชิ าภาษาอังกฤษของตนเอง เช่น การ อบรม Boot Camp เป็นต้น ผลการดำเนนิ งาน : ครมู ีความรแู้ ละความเขา้ ใจในการจดั การเรียนการสอน วางแผนและ พฒั นาการจัดการเรยี นการสอนใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผูเ้ รยี นได้ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 1) จำนวนครภู าษาองั กฤษไม่เพียงพอ 2) การจัดอบรมในหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษของ หน่วยงานต้นสังกัดมีไม่เพียงพอ หลักสูตรไม่ตอบสนองต่อความต้องการของครูผู้สอน และสถานที่ในการจัด อบรมมรี ะยะทางไกลทำให้ครผู สู้ อนไมส่ ะดวกในการเดนิ ทาง 3. ข้อเสนอแนะ 1) ตอ้ งการครูเอกภาษาองั กฤษเพ่ิม 2) ปจั จบุ ันแกป้ ญั หาดว้ ยการใหค้ รเู อกวิชาอ่ืนที่สามารถสอนภาษาอังกฤษได้มาชว่ ยสอน 3) ครูผสู้ อนต้องหาหลักสูตรอบรม/ เรยี นออนไลนเ์ พอื่ พฒั นางานในหนา้ ทด่ี ้วยตนเอง 4) ครูผู้สอนปรับกิจกรรมการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับบริบทของผู้เรียนและเลือกใช้สื่อให้ เหมาะสมกับรายวชิ า
53 4. ต้นแบบหรอื แบบอย่างที่ดี (Best Practice) 3 ลำดบั แรก (ถ้าม)ี รายช่ือสถานศึกษา ที่ตง้ั สถานศกึ ษา โครงการ โรงเรียนท่าชา้ งวิทยาคาร อ.ทา่ ชา้ ง จ.สิงหบ์ รุ ี การอบรมผ่านระบบการศึกษาแบบเปดิ เพ่ือการ เรยี นรตู้ ลอดชวี ติ (Thaimooc) ในรายวชิ าที่ เกีย่ วขอ้ งกับการสอนภาษาอังกฤษ โรงเรียนอินทร์บุรี อ.อนิ ทรบ์ ุรี จ.สิงห์บรุ ี กิจกรรม PLC ในกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ 1.วิธีการ กระบวนการและผลการดำเนนิ การพัฒนาครใู หม้ คี วามชำนาญในการจดั การเรยี นรู้ สพม.5 วิทยาการคำนวณ (Coding) จัดให้ครูผู้สอนที่มีความสนใจเข้ารับการพัฒนาตนเองในด้านวิทยาการ คำนวณ โดยเป็นวิทยากรแกนนำ โดยมีหน่วยงานสนับสนุนการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะด้าน (Coding) คือ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจา้ คุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยบูรพา 2. ปญั หาและอุปสรรค - 3. ข้อเสนอแนะ - 4. ต้นแบบหรอื แบบอยา่ งที่ดี (Best Practice) 3 ลำดับแรก (ถ้ามี) รายชอื่ สถานศกึ ษา ท่ตี ้งั สถานศึกษา โครงการกิจกรรมและรายละเอียด/ ของต้นแบบหรือแบบอย่างท่ีดี โรงเรียนอินทโมลปี ระทาน 48/1 หม.ู่ 7 ต.บางมัญ กจิ กรรมภาษาองั กฤษสอ่ื สาร tambrit อ.เมือง
54 3.4 การจัดการเรียนรดู้ ้วยสะเต็มศึกษา (STEM Education) ตัวชีว้ ัดการตรวจราชการฯ ที่ 18 ร้อยละของสถานศกึ ษาท่ีจดั การเรยี นการสอนสะเต็มศึกษา (STEM Education) ตัวช้วี ดั การตรวจราชการฯ ท่ี 19 รอ้ ยละของสถานศึกษาท่ผี ูเ้ รียนสามารถสรา้ งนวัตกรรม จากการเรยี นรตู้ ามแนวทางสะเตม็ ศึกษา (STEM Education) ตารางที่ 19 แสดงจำนวนและร้อยละของสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนสะเต็มศึกษา (STEM Education) และสถานศึกษาที่ผู้เรียนสามารถสร้างนวัตกรรมจากการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา (STEM Education) จำนวน จำนวนสถานศึกษา จำนวนสถานศึกษาที่ผู้เรยี น สถานศึกษา ทจี่ ัดการเรยี นการสอน สังกดั ทง้ั หมด (แห่ง) แบบสะเต็มศกึ ษา (แห่ง) ร้อยละ สามารถสรา้ งนวตั กรรมจากการ ร้อยละ เรยี นรู้ตามแนวทางสะเต็มศกึ ษา (แห่ง) สพป. 99 99 100 60 60.60 สพม5 12 12 100 12 100 สช. 14 8 57.14 7 87.50 สอศ. 7 1 14.29 1 14.29 รวม 132 120 90.90 80 60.60 1. ผลการดำเนินการจดั การเรยี นรู้ดว้ ยสะเต็มศกึ ษา (STEM Education) สพป. 1. ครูจัดการเรียนรูแ้ บบบรู ณาการ ระหว่าง วชิ า วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี วศิ วกรรม และคณิตศาสตร์ เนน้ การนำความรู้ทุกแขนงมาใชใ้ นการแก้ปญั หา ใชว้ ธิ กี ารสอนแบบ Project-based Learning , Problem- based Learning ทำให้นักเรียนสามารถสร้างสรรค์ พัฒนาชิ้นงานได้ดี 2. จัดอบรมครู ควบคู่กับการอบรมครูพ่เี ล้ียงและครูทส่ี นใจดว้ ยระบบทางไกลของ สสวท. ซึง่ ทาง สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาสงิ ห์บุรี จะมีศนู ย์สะเต็มศึกษา คือโรงเรียนอนุบาลสิงห์บรุ ี ซึ่งมคี รพู ่ี เลย้ี ง ต้ังแต่ระดับปฐมวัย ถงึ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ และมีหนา้ ทจ่ี ดั อบรมทางไกลใหก้ ับครูท่สี นใจอบรมสะ เต็มศึกษาต่อไป สพม.5 มวี ิธีการ ดังนี้ สำนักงานเขตพืน้ ที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 5 ขบั เคล่อื นนโยบายการจัดการเรยี นรู้ด้วยสะเต็ม ศึกษา (STEM Education) โดยเริ่มจากการพัฒนาศักยภาพผู้บริหาร พัฒนาศักยภาพครูผู้สอนวิชา วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ของโรงเรียนท่ีเข้าร่วมโครงการโรงเรียนขับเคลื่อนการจัดการเรยี นรู้ สะเต็มศึกษา (STEM Education Focused Schools) และโรงเรียนทั่วไปทุกโรงเรียนในสังกัด ให้มีความรู้
55 ความเข้าใจในกระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบสะเต็มศกึ ษา และพฒั นาศึกษานิเทศกใ์ หม้ ีศักยภาพในการ บรหิ ารจดั การ การนิเทศ กำกับ ตดิ ตามสถานศึกษาทจ่ี ดั การเรียนรูแ้ บบสะเต็มศกึ ษา กระบวนการดำเนินงาน 1. การพฒั นาครูผสู้ อน ใหส้ ามารถจดั การเรียนการสอนโดย STEM Education โดยการสง่ เสริม ครผู สู้ อนกลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์และเทคโนโลยี เข้ารบั การอบรมด้วยระบบทางไกล ของสสวท. ทั้ง ระดับม.ตน้ และม.ปลาย ตามความสนใจ ระดบั ละ 60 คน เพือ่ สรา้ งความเขา้ ใจในการจดั กจิ กรรมการเรียนการ สอนสะเตม็ ศกึ ษาในสถานศึกษา และการออกแบบการจัดการเรียนการสอนแบบสะเต็มศึกษา ณ ศนู ย์ฝึกอบรม สะเตม็ ประจำจังหวัด 2. แนวทางการวัดและประเมินผลผู้เรียน โดยเน้นการวัดผลของกระบวนการดำเนินงานให้ ประสบผลสำเร็จ เน้นการออกแบบท่ีสอดคลอ้ งกับส่งิ ทม่ี ีอยู่ 3. รูปแบบการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษา โดยเน้นการบูรณาการ บางโรงเรียนจัด กจิ กรรมการเรียนการสอนบรู ณาการกับการเรยี นการสอนท่ีมีอย่ใู นสาระเนื้อหาวิชา บางโรงเรียนบูรณาการกับ กจิ กรรมลดเวลาเรยี นเพม่ิ เวลารู้ 4. การนิเทศ กำกับ ติดตาม โดยการนิเทศภายในโรงเรียน และการนิเทศโดยศึกษานิเทศก์ของ เขตพืน้ ท่ีการศึกษา 5. สนับสนุนด้านอ่ืนๆ โดยการประชาสัมพันธ์โรงเรียนเข้าร่วมการประกวดหรือแข่งขันเกี่ยวกับ STEM และสนับสนุนเอกสารท่ีเก่ยี วขอ้ งเผยแพรใ่ หท้ ราบหรือนำไปใช้ในการจดั การเรยี นการสอน ผลการดำเนินงาน สถานศึกษาทุกแห่ง ในสงั กัดสำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 5 มีการจัดการเรียน การสอนโดย STEM Education และผู้เรียนสามารถสร้างนวัตกรรมจากการเรียนรู้ตามแนวทางของสะเต็ม ศกึ ษาได้ 2. ปญั หาและอปุ สรรค การจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาจำเป็นต้องบูรณาการกับระหว่างครูหลายสาระวิชา และต้อง ทำงานรว่ มกัน แตบ่ างโรงเรยี นจะทิ้งให้สะเตม็ ศึกษาเป็นภาระของครูวทิ ยาศาสตร์อยา่ งเดยี ว 3. ขอ้ เสนอแนะ สพป. สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจกับครทู ุกกลุ่มสาระท่ีเกยี่ วข้องกับวิชาสะเต็มศึกษาให้ชว่ ยกนั ขบั เคลื่อนการ จัดการเรยี นรสู้ ะเตม็ ศึกษา และประชาสมั พนั ธใ์ หค้ รูสาระอนื่ สมัครเขา้ รับการอบรมสะเตม็ ด้วยระบบทางไกล สพม.5 1) ควรสนบั สนนุ ด้านงบประมาณเพ่อื การพัฒนาการจดั การเรยี นการสอนให้โรงเรียนอย่างต่อเนื่อง 2) ครสู ามารถจดั การเรียนร้ดู ้วย STEM ไดท้ กุ คนหรือเฉพาะคนท่สี นใจ 3) เวลาในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสนอนน้อย
56 4. ต้นแบบหรอื แบบอย่างทดี่ ี (Best Practice) 3 ลำดับแรก (ถ้ามี) รายช่ือสถานศึกษา ทต่ี ั้งสถานศึกษา โครงการกิจกรรมและรายละเอยี ด/ ของตน้ แบบหรือแบบอย่างท่ีดี โรงเรียนอนบุ าลสิงห์บุรี อ.เมือง จ. สิงห์บรุ ี โครงการสะเต็มสูห่ ้องเรียน โดยนำรูปแบบกิจกรรม สะเตม็ ศึกษามาบูรณาการในชั่วโมงเพิ่มเวลารู้ โรงเรียนวัดโพธิท์ ะเลสามัคคี อ.คา่ ยบางระจัน จ. โครงบรู ณาการจัดการเรียนรู้สะเตม็ ศึกษา มีการ สิงห์บุรี ประกวดโครงงานดีเด่นสะเต็มศกึ ษาระดบั ประถมศึกษา ช่อื ผลงาน Recycled Straw Products By GSP and STEM Process และการ ประกวดโครงงานดีเดน่ สะเต็มศึกษา ระดบั ภาค กลาง สสวท. ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ ช่ือผลงาน โรงเรือนเพาะเห็ดฟางอัตโนมัติ โรงเรียนวัดถอนสมอ อ. ทา่ ชา้ ง จ.สิงหบ์ รุ ี โครงการสะเต็ม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 4-6 มกี ิจกรรมยอ่ ย 7 กิจกรรม โรงเรยี นสิงหบ์ ุรี สพม.5 / จ.สงิ ห์บรุ ี ศนู ย์ฝกึ อบรมสะเต็ม ประจำจังหวัดสงิ หบ์ ุรี ปี 2560-2562 และ โรงเรยี นโครงการพฒั นา ศกั ยภาพครูเพื่อการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการ “สะเตม็ ศึกษา : ตน้ กลา้ Smart Trainer Team” โรงเรียนบางระจนั วทิ ยา สพม.5 / จ.สิงห์บุรี ระบบเปิด-ปิด อปุ กรณ์ไฟฟา้ เพือ่ ผู้ป่วยติดเตยี งและ ผูพ้ กิ ารทางสายตา) โรงเรยี นศรีศักด์ิสุวรรณวทิ ยา สพม.5 / จ.สิงห์บุรี โรงเรียนขับเคลอ่ื นการจดั การเรยี นรสู้ ะเต็มศึกษา (STEM Education Focused Schools)
57 3.5 การเรยี นภาษาอังกฤษเพ่อื ใช้ในการสอ่ื สารและเพ่ิมทกั ษะสำหรับใชใ้ นการประกอบอาชีพ 3.5.1 การเรยี นภาษาองั กฤษเพื่อใชใ้ นการสื่อสาร ตัวช้ีวดั การตรวจราชการฯ ท่ี 20 รอ้ ยละของผูเ้ รียนระดบั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1–6 ที่ผ่านเกณฑท์ ดสอบ ภาษาอังกฤษเพ่ือใชใ้ นการสื่อสารในระดบั ดขี ้ึนไป ตารางที่ 20 แสดงจำนวนและร้อยละของผู้เรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1–6 ที่ผ่านเกณฑ์ทดสอบ ภาษาอังกฤษเพอ่ื ใชใ้ นการสือ่ สารในระดบั ดีขึ้นไป สงั กดั จำนวนผเู้ รียนระดบั จำนวนผเู้ รยี นระดับ ป. 1 – 6 ทผ่ี ่านเกณฑ์ ร้อยละ ป. 1 – 6 ท้งั หมด (คน) ทดสอบภาษาอังกฤษเพือ่ ใชใ้ นการสือ่ สาร ในระดบั ดขี น้ึ ไป (คน) สพป. 9,747 6,501 66.70 สช. 3,355 2,214 65.99 รวม 13,102 8715 66.51 ตวั ชี้วดั การตรวจราชการฯ ท่ี 21 ร้อยละของสถานศึกษาทมี่ กี ารจัดการศึกษาห้องเรียนพิเศษ (EP/MEP/IEP) ตารางที่ 21 แสดงจำนวนและร้อยละของสถานศกึ ษาที่มีการจดั การศึกษาห้องเรยี นพิเศษ (EP/MEP/IEP) สังกดั จำนวนสถานศึกษาทง้ั หมด จำนวนสถานศึกษาทมี่ ีการจัดการศึกษา ร้อยละ (แห่ง) หอ้ งเรียนพิเศษ (EP/MEP/IEP) (แห่ง) สพป. 99 1 1.01 สพม 5 12 2 16.66 สช. 13 1 7.69 รวม 124 4 3.22
58 ตัวชวี้ ัดการตรวจราชการฯ ที่ 22 รอ้ ยละของผเู้ รยี นที่ผ่านการทดสอบทกั ษะการใช้ภาษาองั กฤษตาม มาตรฐานความสามารถทางภาษาองั กฤษ (CEFR) ตารางที่ 22 แสดงจำนวนและร้อยละของผู้เรียนที่ผ่านการทดสอบทักษะการใช้ภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน ความสามารถทางภาษาอังกฤษ (CEFR) จำนวน ผูเ้ รียนที่ผา่ นการทดสอบ CEFR ผู้เรียนท่ี เขา้ รับ Below A1 A1 A2 B1 B2 C1 C2 การ สังกดั ทดสอบ จำนวน(คน) ร้(อคยนล)ะ CEFR จำนวน(คน) ทั้งหมด ร้อยละ จำนวน(คน) ร้อยละ จำนวน(คน) ร้อยละ จำนวน(คน) ร้อยละ จำนวน(คน) ร้อยละ จำนวน(คน) ร้อยละ (คน) สพป. 8 6 1.01 1 0.51 0 0 1 0.51 0 0 0 0 0 0 สพม. 5 - -------------- สช. - - - - - - - - - - - - - - - รวม 8 6 1.01 1 0.51 0 0 1 0.51 0 0 0 0 0 0 1. ผลการดำเนนิ การเรียนภาษาองั กฤษเพ่ือใช้ในการส่ือสาร สพป. 1) การพัฒนาเครือขา่ ยสถานศึกษาตน้ แบบ สอ่ื วสั ดุ และอุปกรณ์ 2) จดั เวทีแสดงความสามารถดา้ นภาษาอังกฤษของผู้เรียน 3) ปรบั กระบวนทศั น์ในการจัดการเรยี นการสอนภาษาองั กฤษ 4) พัฒนาหลักสตู ร รูปแบบการเรียนรู้ สื่อ และการวัดประเมนิ ผล 5) พัฒนาครผู ู้สอนภาษาอังกฤษในด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้ สพม.5 1) การพฒั นาหลักสูตรฯ 2) การจัดทำแผนการจดั การเรยี นรู้ 3) ผลิตส่ือการเรียนการสอน 4) กิจกรรมพฒั นาบคุ ลากร 5) กจิ กรรมปรับปรุงและพัฒนาห้องเรยี น 6) กิจกรรมวนั สำคัญทางภาษาต่างประเทศ 7) ยกระดับผลสัมฤทธ์ิO-net 8) ค่าย 3 เซียน เขียนเร่ือง (คา่ ย 3 ภาษา) 9) ค่ายอจั ฉรยิ ภาพทางภาษาต่างประเทศ
59 2. ปญั หาและอปุ สรรค สพป. 1) เนือ่ งจากผู้รับิกชอบสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศโดยตรงไม่มี (ศน.) 2) ครมู ีภาระงานมาก จงึ มีเวลาในการเตรยี มการสอนนอ้ ย 3) นกั เรียนไมก่ ล้าที่จะแสดงออก ในการใชภ้ าษาองั กฤษ 4) ครูจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนจะใช้ภาษาอังกฤษสลบั ภาษาไทย สพม.5 นักเรยี นส่วนใหญ่ยังมีทศั นคติที่ไม่ดตี อ่ การสอื่ สารภาษาองั กฤษกับชาวต่างชาติ ทำให้พัฒนาชา้ 3. ข้อเสนอแนะ สพป. ควรเรยี นร้ภู าษาอังกฤษจากเจ้าของภาษาโดยตรง เพือ่ ให้ผูเ้ รียนเกดิ ความคนุ้ ชิน และ กล้าแสดงออก สพม.5 ควรเพิ่มงบประมาณหรอื ครูผู้สอนภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ครชู าวตา่ งชาตใิ ห้มากขนึ้ 4. ต้นแบบหรอื แบบอย่างที่ดี (Best Practice) 3 ลำดับแรก (ถ้าม)ี รายช่ือสถานศึกษา ที่ตงั้ สถานศึกษา โครงการกจิ กรรมและรายละเอยี ด/ ของตน้ แบบหรอื แบบอย่างที่ดี โรงเรยี นอนุบาลพรหมบรุ ี อ.พรหมบุรี โครงการจัดการเรยี นการสอน ภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร โรงเรยี นอนุบาลสิงหบ์ ุรี อ.เมอื ง การใช้แบบฝกึ ทักษะการอา่ นภาษาอังกฤษ เพื่อการสอ่ื สารสำหรับนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวดั โบสถ์ อ.อนิ ทรบ์ รุ ี โครงการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือ การสือ่ สาร โรงเรียนหวั ไผว่ ทิ ยาคม จ.สิงหบ์ รุ ี การทดสอบ Track Test online
60 3.5.2 การเรยี นภาษาองั กฤษเพื่อเพิม่ ทักษะสำหรบั ใชใ้ นการประกอบอาชีพ ตัวชว้ี ัดการตรวจราชการฯ ท่ี 23 ร้อยละของผ้เู รยี นระดับอาชีวศกึ ษาที่ผา่ นเกณฑ์ทดสอบภาษาอังกฤษ เพอ่ื เพิม่ ทักษะสำหรับใช้ในการประกอบอาชพี ในระดับดีขนึ้ ไป ตารางท่ี 23 แสดงจำนวนและร้อยละของผ้เู รียนระดับอาชีวศึกษาทผ่ี ่านเกณฑ์ทดสอบภาษาองั กฤษ เพ่ือเพิม่ ทักษะสำหรบั ใช้ในการประกอบอาชีพในระดับดีขนึ้ ไป จำนวนผเู้ รียนระดับ จำนวนผเู้ รยี นระดบั อาชีวศึกษาที่ผา่ นเกณฑท์ ดสอบ สงั กัด อาชีวศกึ ษาท้งั หมด ภาษาองั กฤษเพื่อการประกอบอาชพี ในระดบั ดีขึ้นไป ร้อยละ (คน) (คน) สอศ. 458 144 31.44 1. ผลการดำเนินการเรยี นภาษาองั กฤษเพื่อเพิ่มทักษะสำหรับใช้ในการประกอบอาชีพ 2. ปัญหาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ 4. ต้นแบบหรอื แบบอย่างทดี่ ี (Best Practice) 3 ลำดับแรก (ถา้ มี) รายชอ่ื สถานศึกษา ท่ีต้งั สถานศกึ ษา โครงการกจิ กรรมและรายละเอียด/ ของต้นแบบหรอื แบบอยา่ งที่ดี 3.6 การจดั การเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ (ภาษาท่ีสาม) ตัวชี้วัดการตรวจราชการฯ ที่ 24 รอ้ ยละของสถานศึกษาที่จดั การเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาทสี่ าม) ตารางที่ 24 แสดงจำนวนและร้อยละของสถานศึกษาทจ่ี ดั การเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาท่สี าม) สถานศึกษา ทจี่ ดั การเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาทีส่ าม) ทีจ่ ดั การเรยี นรู้ จำนวน ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาทีส่ าม) สถานศึกษา สงั กัด ทัง้ หมด จีน ญี่ปนุ่ เยอรมนั ฝร่ังเศส อ่ืน ๆ (ระบ.ุ .........) (แห่ง) จำนวน (แหง่ ) ร้อยละ แ ่หง ้รอยละ แห่ง ้รอยละ แ ่หง ้รอยละ แห่ง ้รอยละ แ ่หง ้รอยละ สพม.5 12 4 33.33 4 33.33 1 8.33 - - - - - - สช. 13 1 7.69 1 7.69 - - - - - - - - รวม 25 5 20.00 5 20.00 1 4.00 - - - - - -
61 1. ผลการดำเนินการจดั การเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาท่สี าม) 1) จดั การเรยี นการสอนรายวชิ าภาษาจนี เปน็ รายวชิ าเพิ่มเตมิ 2) จัดกจิ กรรมส่งเสริมความรคู้ วามเข้าใจเก่ยี วกับภาษาและวัฒนธรรมจนี 2. ปัญหาและอุปสรรค ไม่มีหนงั สือแบบเรียนภาษาจีน 3. ขอ้ เสนอแนะ 4. ตน้ แบบหรอื แบบอยา่ งท่ีดี (Best Practice) 3 ลำดับแรก (ถ้ามี) รายชอ่ื สถานศกึ ษา ทีต่ ้งั สถานศกึ ษา โครงการกจิ กรรมและรายละเอยี ด/ ของตน้ แบบหรือแบบอย่างท่ีดี 3.7 การส่งเสริมทกั ษะการอ่านเขยี นภาษาไทยเพื่อใชเ้ ป็นเครอื่ งมอื ในการเรยี นรวู้ ชิ าอื่น ตวั ชว้ี ดั การตรวจราชการฯ ที่ 25 รอ้ ยละของผู้เรยี นทอี่ ่านออกเขียนได้ (ระดับประถมศกึ ษาที่ 1–3) ตารางที่ 25 แสดงจำนวนและร้อยละของผ้เู รยี นท่อี า่ นออกเขยี นได้ (ระดับประถมศกึ ษาที่ 1–3) ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 สงั กัด จำนวนผเู้ รียน จำนวนผู้เรยี นทอ่ี า่ น รอ้ ยละ จำนวนผเู้ รียน จำนวนผู้เรียนทีอ่ ่าน รอ้ ยละ ทง้ั หมด (คน) ออกเขียนได้ (คน) ทัง้ หมด (คน) ออกเขียนได้ (คน) สพป. 4,228 4,089 96.71 4,214 4,048 96.06 สช. 1,781 1,566 87.93 1,442 1,304 90.43 รวม 6,009 5,655 94.10 5,656 5,352 94.62 ตัวช้วี ัดการตรวจราชการฯ ท่ี 26 ร้อยละของผเู้ รียนทอ่ี ่านคล่องเขียนคล่อง (ระดับประถมศึกษาที่ 4–6) ตารางที่ 26 แสดงจำนวนและร้อยละของผ้เู รยี นทีอ่ า่ นคลอ่ งเขยี นคลอ่ ง (ระดบั ประถมศึกษาท่ี 4–6) ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2562 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2562 สังกดั จำนวนผู้เรยี น จำนวนผเู้ รยี นทอ่ี า่ น ร้อยละ จำนวนผเู้ รยี น จำนวนผ้เู รียนทีอ่ า่ น รอ้ ยละ ทัง้ หมด (คน) คล่องเขียนคล่อง (คน) ทง้ั หมด (คน) คลอ่ งเขียนคล่อง (คน) สพป. 4,432 4,398 99.23 4,403 4,387 99.63 สช. 1,938 1,657 85.50 2,011 1,736 86.33 รวม 6,370 6,055 95.05 6,414 6,123 95.46
62 1. ผลการดำเนินการสง่ เสริมทักษะการอ่านเขียนภาษาไทยเพ่ือใช้เปน็ เคร่ืองมือในการเรียนรวู้ ิชาอนื่ 1) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการให้ผู้บริหาร ครูชั้นประถมศึกษาปีที่ ทุกคน ทุกโรงเรียน ให้มีความรู้ ความเขา้ ใจแนวทางการจดั การเรยี นรูท้ ส่ี ง่ เสริมนิสัยรักการอา่ น อ่านออก เขยี นได้ 2) จดั ทำโครงการรกั ษ์ภาษาไทย อา่ นออก เขยี นสวย ส่งเสริมให้มกี ารแข่งขันการคดั ลายมือ อ่าน คดั คำพนื้ ฐาน 2. ปัญหาและอุปสรรค 1) คณุ ครูยังเน้นการจดั การเรียนการสอนตามหนังสอื แบบเรียน 2) คุณครเู นน้ ผลสัมฤทธิ์ ตามหลกั สูตร ผลสอบระดบั ชาติ 3) คุณครดู ำเนินการไมต่ อ่ เน่ือง 3. ขอ้ เสนอแนะ 1) รร.ควรมีระบบนเิ ทศภายใน และตอ่ เนือ่ ง 2) สพป.ต้องนิเทศ ติดตาม และประเมินผล อยา่ งตอ่ เนอื่ ง 4. ต้นแบบหรอื แบบอย่างที่ดี (Best Practice) 3 ลำดบั แรก (ถ้ามี) รายช่อื สถานศกึ ษา ที่ตั้งสถานศึกษา โครงการกิจกรรมและรายละเอยี ด/ ของต้นแบบหรือแบบอย่างที่ดี โรงเรยี นวดั โบสถ์ อ.อนิ ทร์บุรี โรงเรียนวดั บา้ นลำ อ.อินทร์บรุ ี โครงการสง่ เสรมิ นิสยั รกั การอ่าน โรงเรียนวดั ขอ่ ย อ.อินทรบ์ ุรี โครงการสง่ เสริมนิสยั รักการอ่าน โรงเรียนอินทโมลปี ระทาน 48/1 หมู่.7 ต.บางมญั อ.เมือง โครงการสง่ เสริมนิสัยรักการอ่าน -โครงการพฒั นาคุณภาพการเรียนการ สอนภาษาไทย -อา่ นเถดิ เด็กไทย -รกั ษภ์ าษา
63 4. การสรา้ งโอกาสความเสมอภาคและความเท่าเทียมกนั ในสงั คม ประเดน็ การตรวจราชการและการติดตามประเมิน 4.1 การใชด้ จิ ิทัลแพลตฟอร์มเพอื่ การเรียนรหู้ รอื สร้างอาชพี ตวั ชวี้ ัดการตรวจราชการฯ ท่ี 27 ร้อยละของสถานศกึ ษาท่ีส่งเสริมการใช้ดิจทิ ัลแพลตฟอรม์ เพ่อื การเรียนร้หู รือเป็นเคร่อื งมือเพอื่ การเรยี นรู้ ตารางที่ 27 แสดงจำนวนและร้อยละของสถานศึกษาที่ส่งเสริมการใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้ หรือเป็นเคร่ืองมอื เพื่อการเรยี นรู้ สถานศกึ ษาที่ส่งเสริมการใชด้ ิจทิ ลั แพลตฟอร์มเพ่ือการเรียนรู้ หรือเปน็ เคร่ืองมือเพื่อการเรยี นรู้ หน่วยงาน จำนวนสถานศกึ ษาทม่ี คี รเู ขา้ รบั จำนวนสถานศกึ ษาท่ีมคี รู คดิ เป็น การอบรมนำรอ่ งการใช้ดจิ ทิ ัล ผา่ นการอบรมฯ และนำการใช้ดจิ ิทลั รอ้ ยละ แพลตฟอรม์ เพื่อการเรยี นรู้ แพลตฟอร์มเพ่ือการเรยี นรู้ ไปใชใ้ นสถานศึกษา สพป. - -- สพม 5 12 12 100 สช. - -- รวม 12 12 100 ตัวช้วี ัดการตรวจราชการฯ ที่ 28 รอ้ ยละของสถานศึกษาท่ีส่งเสรมิ การใชด้ จิ ิทัลแพลตฟอร์ม เพือ่ การสรา้ งอาชีพ ตารางท่ี 28 แสดงจำนวนและร้อยละของสถานศึกษาทีส่ ่งเสริมการใช้ดจิ ทิ ลั แพลตฟอร์มเพ่ือการสร้างอาชพี สถานศึกษาท่สี ง่ เสริมการใช้ดจิ ทิ ลั แพลตฟอร์มเพ่ือการสรา้ งอาชพี หนว่ ยงาน จำนวนสถานศกึ ษาที่มีครูเข้ารบั จำนวนสถานศึกษาที่มีครผู า่ น คดิ เป็นรอ้ ยละ การอบรมนำรอ่ งการใชด้ จิ ทิ ัล การอบรมฯ และนำการใช้ดิจิทัล แพลตฟอร์มเพ่ือการสรา้ งอาชพี แพลตฟอรม์ เพื่อการสร้างอาชพี ไปใชใ้ นสถานศึกษา สอศ. 1 1 100 กศน. 6 6 100 รวม 7 7 100
64 1. ผลการดำเนนิ การใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพือ่ การเรียนรูห้ รอื สรา้ งอาชีพ สพม.5 กระบวนการและผลการดำเนินการใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้หรือสร้างอาชีพ สถานศึกษามีการส่งเสริมการใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้หรือเป็นเครื่องมือเพื่อการเรียนรู้โดยการใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศขั้นพ้ืนฐานและมีระบบคอมพวิ เตอร์ในการตดิ ต่อสอ่ื สารในการเชือ่ มต่อข้อมูล ขณะนี้อยู่ในระหว่างส่งเสริมครใู นการใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนการสอน ในระยะแรกยังไม่มี ข้อมลู อยู่ในชว่ งดำเนนิ การ 2. ปัญหาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ สพม.5 ผู้สอนสามารถปรับกิจกรรมการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับบริบทของผู้เรียน การเลือกใช้สื่อในการ จัดการเรยี นรใู้ ห้เหมาะสมกบั รายวิชา จะสามารถช่วยกระตุ้นผู้เรียนใหเ้ กิดทักษะ กระบวนการคิดวิเคราะห์ได้ดี ย่งิ ขึ้น 4. ต้นแบบหรอื แบบอย่างทีด่ ี (Best Practice) 3 ลำดบั แรก (ถ้ามี) โครงการกจิ กรรมและ/ รายช่ือสถานศึกษา ที่ต้ังสถานศกึ ษา รายละเอียดของตน้ แบบหรือ กศน.อำเภอท่าช้าง ต.ถอนสมอ อ.ทา่ ช้าง จ.สิงห์บรุ ี ขายออนไลน์ ขายดาบ กศน.อำเภอคา่ ยบางระจัน ชันสตู ร ต.สิงห์ อ.บางระจนั จ.สงิ หบ์ รุ ี 4.2 การเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาเดก็ ปฐมวยั ตวั ชีว้ ัดการตรวจราชการฯ ที่ 29 สดั สว่ นของนักเรยี นระดับอนบุ าล 1-3 ต่อประชากรกลมุ่ อายุ 3-6 ปี ตารางท่ี 29 แสดงสัดส่วนของนักเรียนระดบั อนบุ าล 1-3 ต่อประชากรกลุ่มอายุ 3-6 ปี จำนวนนักเรยี นปฐมวยั แยกตามสังกัด ปีการศึกษา 2563 สพป. สศศ. สช. สกอ. อปท. อนื่ ๆ นักเรยี นรวม ันกเ ีรยนปฐมวัย ระ ัดบ จำนวนประชากรตาม ่ชวงอา ุย 3-6 ีป จำนวน ((คทรน).14) ิคดเป็น จำ ้รนอวยนล(ะคน) ิคดเ ็ปน จำร้นอวยนล(ะคน) ิคดเ ็ปน จำ ้รนอวยนล(ะคน) ิคดเ ็ปน จำ ้รนอวยนล(ะคน) ิคดเ ็ปน จำร้นอวยนล(ะคน) ิคดเป็น จำ ้รนวอนย(ลคะน) คิดเป็น ร้อยละ อนุบาล 1-3 7,280 2,403 33.00 20 0.27 1,414 19.42 - - 2,347 32.24 - - 6,184 84.94
65 1. ผลการดำเนินการเข้าถึงโอกาสทางการศกึ ษาเดก็ ปฐมวัย 1) ประสานงานขอความร่วมมอื สำนักงานทะเบยี นอำเภอจดั พมิ พร์ ายชื่อประชากรวยั เรียน 2) สง่ รายชอ่ื ประชากรวยั เรียนใหโ้ รงเรียนตามเขตบริการ เพื่อเป็นขอ้ มูลในการวางแผนการ รบั นักเรียนเข้าเรยี น 3) ประกาศแนวปฏิบัตกิ ารรบั นกั เรยี น ประกาศเขตพืน้ ท่ีบริการ 4) แตง่ ต้ังคณะกรรมการรับนกั เรยี นระดับเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาของ สพป.สิงห์บรุ ี 5) จดั ทำแผนเตรยี มการรบั นกั เรียน 6) ประกาศนโยบายและแนวปฏิบตั เิ กยี่ วกบั การรบั นักเรียน สังกัด สพฐ. ของเขตพน้ื ที่การศกึ ษา 7) ประชาสมั พันธ์การรับนักเรียน โดยการแจ้งเป็นหนงั สอื ให้โรงเรียนในสงั กัดทราบ แจ้งในการ ประชุมผบู้ รหิ ารในสงั กดั มอบประชาสมั พันธข์ องเขตพื้นท่ีการศึกษา และประชาสัมพนั ธ์ทางเว๊ปไซต์ สพป. สงิ ห์บรุ ี วารสาร สพป.สิงหบ์ รุ ี หนงั สือพมิ พท์ ้องถ่นิ ทำปา้ ยประชาสัมพันธห์ น้า สพป.สิงห์บุรี พร้อมท้ังแจ้ง โรงเรยี นจัดงานเปิดรวั้ โรงเรยี น เพ่ือแสดงผลงานกจิ กรรมของโรงเรยี นเป็นทางเลือกใหผ้ ู้ปกครองสง่ เด็กเข้าเรียน ผลการดำเนนิ การ ปกี ารศกึ ษา 2562 สถานศกึ ษาในสังกดั จำนวน 98 โรงเรยี นรับเดก็ อายุ 4 – 5 ปี ในเขตพื้นท่ี บรกิ ารเขา้ เรยี นช้นั อนุบาล 2 และ 3 จำนวน 98 โรงเรยี น นกั เรยี นจำนวน 2446 คน และมสี ถานศึกษาใน สังกัดซึ่งมีความพร้อมด้านห้องเรยี น ครูผ้สู อน และไม่จดั ซำ้ ซอ้ นกบั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ หรอื สถานศกึ ษาเอกชน โดยผา่ นความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการรบั นักเรียนระดับเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษา รับเด็กอายุ 3 ปบี รบิ ูรณ์เข้าเรียนช้นั อนุบาล 1 จำนวน 18 โรงเรยี น นักเรยี น 113 คน รวมนักเรยี นช้ันอนบุ าล 1 – 3 จำนวน 2559 คน คิดเปน็ ร้อยละ 35.15 ของประชากรกลุ่มตามชว่ งอายุ3-6 ปี 2. ปญั หาและอปุ สรรค การตดิ ต่อประสานงาน ความร่วมมือของกรมการปกครองในการคัด ทร.14 เป็นไปดว้ ยความลา่ ชา้ ทำใหไ้ มม่ ีข้อมลู ให้โรงเรยี นติดตามนกั เรยี นในเขตบริการมาเข้าเรยี นเพื่อเตรียมความพร้อมไดค้ รบ 3. ข้อเสนอแนะ กระทรวงศกึ ษาธิการควรทำ MOU ระหว่างกระทรวงมหาดไทย ในความรว่ มมือจดั พิมพ์ ทร.14 เพ่ือ เปน็ ข้อมูลในการวางแผนการรับนกั เรยี น และตดิ ตามเด็กให้มาเขา้ เรยี นครบ 100 % 4. ตน้ แบบหรอื แบบอย่างท่ีดี (Best Practice) 3 ลำดบั แรก (ถ้ามี) รายชอื่ สถานศกึ ษา ทตี่ ้ังสถานศึกษา โครงการกจิ กรรมและรายละเอยี ด/ ของตน้ แบบหรอื แบบอย่างที่ดี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114