คู่มอื ผู้รับบริการกจิ กรรมการศึกษาตามอธั ยาศัย ด้านสะเตม็ ศึกษา (STEM EDUCATION) เร่ือง สเลอปี้ สแกนเพ่อื อ่าน E-Book ศูนย์วทิ ยาศาสตร์เพอ่ื การศึกษาสระแก้ว สานักส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย สานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร จัดทาโดย นางสาวเดอื นรัตน์ เฉลยี วกจิ
ฐานการเรียนรู เรอ่ื ง สเลอป
แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู เร่ือง สเลอป เวลา 2 ชัว่ โมง แนวคิด สเลอปหรอื นํ้าแข็งเกล็ดหิมะ เปน เครือ่ งดม่ื หวานเย็นชนดิ หนึง่ หลักการของการทําสเลอปเก่ียวขอ งกับ การประยุกตใ ชค วามรูเรื่อง สมบตั คิ อลลิเกทีฟ สภาวะเย็นยวดยง่ิ และปรากฏการณน วิ คลเี อชนั กลาวคือ การ ทําสเลอปเปน การทาํ ใหของเหลวเปล่ียนสถานะเปน ของแข็งอยางรวดเร็ว ณ อุณหภมู ทิ ่ีตํา่ กวา จดุ เยือกแข็งของ ของเหลวนั้น ๆ ซึ่งการลดอุณหภูมิของของเหลวใหตํ่ากวาจุดเยือกแข็งหรอื การทําใหของเหลวเกิดสภาวะเย็น ยวดยิ่งอาจทําไดโดยนําของเหลวไปแชในภาชนะที่มีน้ําแข็งผสมเกลือซึ่งทําใหอุณหภูมิติดลบ จากนั้นทําการ รบกวนระบบของของเหลวท่ีสภาวะเย็นยวดย่ิงเพื่อกระตุนใหของเหลวท่ีเย็นยวดย่ิงเกิดผลึกซึ่งจะเปล่ียน สถานะจากของเหลวเปน เกล็ดน้าํ แขง็ อยา งรวดเรว็ วตั ถปุ ระสงค เมือ่ สน้ิ สดุ แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรนู ้ีแลว ผูรับบริการสามารถ 1. อธิบายความรูเรือ่ ง สมบัติคอลลเิ กทีฟ สภาวะเยน็ ยวดยง่ิ และปรากฎการณนิวคลเี อชนั ใน กระบวนการทําสเลอป 2. ออกแบบและทําสเลอปภ ายใตว ัสดุอุปกรณ เวลา และงบประมาณที่กําหนด 3. ใชความรู ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรในการกําหนดราคาขาย คํานวณตนทนุ กาํ ไร ใน การทําสเลอป เนอ้ื หา 1. สมบัติคอลลเิ กทีฟ 2. สภาวะเย็นยวดยงิ่ 3. ปรากฎการณนิวคลเี อชัน
ข้นั ตอนปฏิบัตกิ จิ กรรมของผรู บั บริการ กจิ กรรมการทดสอบกอ นเรยี น เรอ่ื ง สเลอป คําช้ีแจง ใหผ รู บั บริการทาํ แบบทดสอบกอนเรยี น เรอื่ ง สเลอป ซง่ึ มขี อ สอบทงั้ หมด จํานวน 5 ขอ (เมอ่ื ผรู ับบริการทาํ แบบทดสอบเสรจ็ เรียบรอ ยแลว ผรู บั บริการสามารถตรวจคาํ ตอบไดตามเฉลย คาํ ตอบทา ยกจิ กรรม) แบบทดสอบกอนเรียน คะแนนทไ่ี ด. .................คะแนน เรอื่ ง สเลอป คะแนนทีไ่ ดเต็ม 5 คะแนน คาํ ชีแ้ จง 1.ใหผรู บั บริการกาเครือ่ งหมาย x (กากบาท) หนาขอ ที่ถูกตอ งเพยี งขอเดียว 2. แบบทดสอบนี้ มขี อ สอบจํานวน 5 ขอ ขอ ละ 1 คะแนน 3. เม่ือผรู บั บรกิ ารทําแบบทดสอบเสร็จเรียบรอยแลว ผรู บั บรกิ ารสามารถตรวจคําตอบไดตามเฉลย คําตอบทา ยกิจกรรม 1. หลกั การของการทําสเลอปเกี่ยวของกับ การประยกุ ตใชความรูด า นในเรือ่ งใด ก.สมบัตคิ อลลเิ กทีฟ สภาวะเย็นยวดยิง่ และปรากฏการณน วิ คลเี อชนั ข.สมบตั ิคอลลิเกทีฟ สภาวะเยน็ ยวดยิ่ง และความเขมขน ของสารละลาย ค. สภาวะเยน็ ยวดย่งิ ปรากฏการณนวิ คลีเอชนั และการทํานํา้ แขง็ แหง ง.สมบตั ิคอลลิเกทฟี ความเขมขนของสารละลาย และการทาํ นา้ํ แข็งแหง 2. การทาํ เคร่ืองดมื่ แบบสเลอปใหไดม ากท่ีสดุ ภายใตวัสดุอปุ กรณ เวลา และงบประมาณ ท่ีกําหนด นกั เรียน ตองใชอ งคความรใู นขอใด ก. Science ข. Mathematics ค. Technology ง. Engineering
3. สมบัติคอลลเิ กทฟี (Colligative properties) เปน สมบัตขิ องสารละลายท่ีข้นึ อยกู ับความเขม ขน ของ สารละลาย มอี ะไรบาง ก. การเพิม่ ข้นึ ของจุดเดอื ด การลดลงของจดุ เยอื กแข็ง การลดลงของความดนั ไอ และการเกิดความดันออสโม ตกิ ข. การเพม่ิ ขน้ึ ของจดุ เดือด การลดลงของจดุ เยือกแขง็ การลดลงของปริมาตร และการเกิดออสโมซิส ค. การเพม่ิ ข้ึนของจุดเดอื ด การลดลงของจุดเยือกแขง็ และการลดลงของความดนั ไอ ง. การเพมิ่ ข้ึนของจุดเดือด การลดลงของจุดเยือกแข็ง การเกิดนิวคลีเอชัน และสภาวะเย็นยวดย่งิ 4. ขอ ใดไมใชก ารนาํ เอาความรูเกยี่ วกบั สมบัตคิ อลลิเกทีฟไปใชประโยชน ก. ศุภวุฒเิ ติมเกลอื ลงภายในถงั ไอศกรีม ข. ท่ีบา นพรภติ ามหี มิ ะตกจํานวนมาก จึงนาํ เกลอื ไปโรยหมิ ะ ค. อลินนําเกลอื ใสถวยไปวางไวในตูเย็นพรอ มไอศรีมรสมะนาว ง. วิชชานภุ าพเตมิ เอทธิลนี ไกคอลลงในเครือ่ งยนตเพ่อื ปอ งกนั การแขง็ ตัวของนาํ้ ในเครอ่ื งยนต 5. การเพิม่ ปริมาณเกลือในนํ้าแข็งจะทาํ ใหอ ุณหภูมขิ องสารละลายเปนอยา งไร ก. อณุ หภมู ขิ องสารละลายคงท่ี ข. อณุ หภมู ิของสารละลายสูงข้นึ ค. อุณหภมู ขิ องสารละลายต่าํ ลง ง. ไมมีขอ ใดถกู กจิ กรรมแลกเปลีย่ นเรียนรู เรือ่ ง สเลอป คําชแี้ จง 1. ใหผ ูรับบริการตอบคําถาม จํานวน 3 ประเดน็ ดังน้ี ประเดน็ ที่ 1 “มีใคร รูจ ักเครือ่ งดื่มสเลอปบาง มีลักษณะเปน อยา งไร” ประเดน็ ที่ 2 “ทา นคดิ วา มีปจจัยใดบางทีท่ าํ ใหเกิดเครอื่ งดมื่ สเลอป ” ประเดน็ ท่ี 3 “ทา นคิดวา การทาํ สเลอปเอาไปใชใ นชีวติ ประจาํ วนั ไดอ ยางไร 2. ใหผรู ับบรกิ ารและผจู ดั กิจกรรมสรุปสิ่งท่ไี ดเรยี นรจู ากกจิ กรรมแลกเปลย่ี นเรียนรูเรอ่ื ง สเลอป เฉลยแนวคําตอบ ประเด็นท่ี 1 “มีใคร รจู ักเครอื่ งดม่ื สเลอปบ า ง มลี ักษณะเปน อยางไร” เคร่อื งดมื่ สเลอป เปนเครอื่ งดม่ื หวานเยน็ ชนดิ หนึ่ง มีลักษณะเปนเกล็ด คือ เกลด็ ของนํา้ แข็ง น่นั เอง ประเด็นท่ี 2 “ทา นคดิ วา มปี จ จยั ใดบางท่ีทาํ ใหเกิดเคร่ืองดมื่ สเลอป ” สมบัตคิ อลลิเกทฟี สภาวะเย็นยวดยง่ิ และปรากฏการณน ิวคลเี อชนั
ประเด็นท่ี 3 “ทานคิดวา เครือ่ งดื่มสเลอปสามารถทาํ ไดจริงในชีวิตประจําวันหรอื ไม อยางไร” ทําไดจ ริง เนื่องจากวัสดอุ ปุ กรณใ นการทํา สามารถหาซือ้ ไดงา ย กิจกรรมการออกแบบและปฏบิ ตั กิ ารทาํ สเลอป วตั ถุประสงค 1. อธิบายความรเู รอื่ ง สมบัติคอลลเิ กทีฟ สภาวะเยน็ ยวดยงิ่ และปรากฎการณนวิ คลีเอชนั ใน กระบวนการทําสเลอป 2. ออกแบบและทําสเลอปภ ายใตวสั ดอุ ุปกรณ เวลา และงบประมาณที่กาํ หนด 3. ใชค วามรู ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตรในการกําหนดราคาขาย คาํ นวณตนทนุ กาํ ไร ในการทําสเลอป เนอ้ื หา 1. สมบตั ิคอลลเิ กทฟี 2. สภาวะเยน็ ยวดย่งิ 3. ปรากฎการณนิวคลเี อชัน คําชแี้ จง 1. แบง ผูรบั บริการออกเปน กลุม ๆ ละ 5 - 10 คน 2. ใหผูรับบริการแตก ลมุ ตามขอ1 ปฏิบัตติ ามใบกิจกรรมของผรู บั บริการเรอ่ื ง สเลอป โดยดําเนนิ การ ตามข้ันตอนดังนี้ 2.1 อานเนอื้ หาเร่อื ง สเลอป 2.2 ปฏิบตั ิกิจกรรมตามท่กี าํ หนดให
ใบกิจกรรม เรอื่ ง สเลอป เน้อื หาเร่อื ง สเลอป สเลอปหรือนาํ้ แข็งเกลด็ หมิ ะ เปน เคร่ืองด่มื หวานเยน็ ชนดิ หน่ึง หลักการของการทําสเลอปเกี่ยวขอ งกบั การประยุกตใ ชความรูเรอื่ ง สมบตั ิคอลลิเกทฟี สภาวะเย็นยวดย่ิง และปรากฏการณนิวคลีเอชนั กลาวคอื การ ทาํ สเลอปเปน การทาํ ใหของเหลวเปล่ยี นสถานะเปนของแขง็ อยางรวดเรว็ ณ อณุ หภมู ิทต่ี ่ํากวาจุดเยือกแขง็ ของ ของเหลวน้นั ๆ ซึ่งการลดอณุ หภมู ขิ องของเหลวใหตํา่ กวาจดุ เยือกแขง็ หรอื การทาํ ใหของเหลวเกิดสภาวะเยน็ ยวดย่งิ อาจทําไดโ ดยนาํ ของเหลวไปแชใ นภาชนะที่มีนํา้ แข็งผสมเกลือซ่ึงทําใหอุณหภมู ิตดิ ลบ จากนนั้ ทาํ การ รบกวนระบบของของเหลวที่สภาวะเยน็ ยวดยง่ิ เพอ่ื กระตุนใหข องเหลวท่เี ย็นยวดยงิ่ เกดิ ผลกึ ซึง่ จะเปลยี่ น สถานะจากของเหลวเปน เกลด็ น้ําแขง็ อยางรวดเรว็ เร่ือง สมบัติคอลลเิ กทีฟ (colligative properties) สารละลายเปนสารเนื้อเดียว เตรียมไดจ ากการผสมสารบรสิ ทุ ธต์ิ ัง้ แต 2 ชนดิ ขึน้ ไปเขาดวยกนั สมบัติ คอลลิเกทีฟ (colligative properties) เปน สมบัติของสารละลายท่ีข้นึ อยูกบั ความเขม ขนของสารละลาย ซ่ึงมี อยู 4 ประการ ดงั นี้ 1. การเพิม่ ข้นึ ของจุดเดือด (boiling point elevation) 2. การลดลงของจดุ เยือกแขง็ (freezing point depression) 3. การลดลงของความดนั ไอ (vapor pressure lowering) 4. การเกิดความดันออสโมตกิ (osmotic pressure) ในทน่ี ีจ้ ะกลาวถงึ รายละเอยี ดสมบัติคอลลิเกทีฟเฉพาะการเพิ่มขน้ึ ของจุดเดือด และการลดลงของจุด เยือกแข็งโดยจุดเดอื ดของสารละลายจะสงู กวา จุดเดือดของตัวทําละลายบริสุทธ์ิ สว นจุดหลอมเหลวหรอื จุด เยอื กแข็งของสารละลายจะตํ่ากวา จุดหลอมเหลวหรอื จดุ เยอื กแขง็ ของตัวทําละลายบรสิ ุทธ์ิ สภาวะเยน็ ยวดยิง่ (supercooled state) เปนทีท่ ราบกนั ดวี าเม่ือลดอณุ หภมู ขิ องของเหลวจนถึงจดุ เยอื กแข็ง (freezing point) ของเหลวจะ เปล่ยี นสถานะเปน ของแข็ง การเปล่ียนสถานะของของเหลวดังกลา วจะเกดิ ข้ึนไดถา ของเหลวนั้นมีอนภุ าคของ ของแข็ง เชน ฝนุ ละออง ปนอยูการเปล่ยี นสถานะของของเหลวเปนของแขง็ รวมทัง้ การเกิดผลกึ โมเลกลุ ของ ของเหลวจะยดึ เกาะกับอนภุ าคของของแข็งซ่งึ ทําหนา ทเี่ ปนแกนกลางหรือนิวเคลียส (nucleus) แมจะมี อนุภาคของแขง็ ปนอยูใ นของเหลวในปรมิ าณทน่ี อยมากการเปล่ียนสถานะของของเหลวเปน ของแขง็ ทจ่ี ดุ เยอื ก แขง็ สามารถเกิดข้ึนได ในกรณีทีข่ องเหลวมีความบรสิ ทุ ธมิ์ าก ๆ หรือสารละลายทไ่ี มมอี นุภาคของของแข็งปน อยู แมจะลดอณุ หภมู ิจนตํา่ กวา จุดเยือกแข็ง ของเหลวยังมีสถานะเปน ของเหลว เรียกปรากฏการณนว้ี า สภาวะเย็นยวดย่ิง (supercooled state) เชน น้าํ มจี ดุ เยอื กแขง็ ทอี่ ณุ หภมู ิ 0 � ดงั นน้ั น้ํากลายเปนนํา้ แขง็ ทอ่ี ุณหภูมิ 0 � แตห ลายครัง้ ทเ่ี มอ่ื นํานา้ํ ดืม่ ทบ่ี รรจุในขวดพลาสตกิ ท่ยี งั ไมเปดฝา ไปแชในชอ งแชแ ขง็ ท่อี ณุ ภูมิ
ตํา่ กวา 0 � เปนเวลาหลายชั่วโมงน้ํายังคงสถานะของเหลวเชน เดมิ ท่ีเปนเชนนเี้ พราะในนาํ้ บริสุทธไ์ิ มม อี นุภาค ของของแข็งใหโมเลกลุ ของน้ํายดึ เกาะ จากการศึกษาพบวานา้ํ ทบ่ี รสิ ุทธิ์มาก ๆ สามารถคงสถานะของเหลวได จนถงึ อุณหภมู ิ -40 � จงึ เปลีย่ นสถานะเปน ของแขง็ อณุ หภูมิทีข่ องเหลวเยน็ ยวดยิ่งเปลีย่ นเปนของแข็งไดเ อง โดยไมมีการรบกวนระบบเรียกวา จุดนวิ คลีเอชัน (nucleation point) การรบกวนระบบของสารทเี่ ย็นยวดยง่ิ (supercooled substances) จะทําใหสารที่มสี ถานะเปน ของเหลวเปลยี่ นสถานะเปนของแข็งอยา งรวดเรว็ เรียกปรากฏการณน้ีวา นวิ คลีเอชนั (nucleation) การ รบกวนระบบทท่ี ําใหเกิดนิวคลีเอชนั สามารถทําไดหลายวธิ ี เชน การหยอ นอนุภาคของแข็งลงในสารท่ีเย็นยวด ยง่ิ อนภุ าคทีเ่ ปนของแข็งจะทาํ หนาที่เปน แกนกลางใหโมเลกลุ ของของเหลวยดึ เกาะและกลายเปนของแข็งหรือ ตกผลึก ทนั ทีทีข่ องเหลวเยน็ ยวดย่งิ มเี กลด็ ของแข็งหรือผลึกแรกเกดิ ขึน้ กระบวนการนิวคลีเอชนั จะเกิดขึ้น ตอเนื่องและรวดเร็วทาํ ใหของเหลวเย็นยวดย่งิ กลายเปนของแขง็ ทั้งหมด เนือ่ งจากการเปลย่ี นสถานะของของเหลวเยน็ ยวดยง่ิ เปน ของแขง็ เกดิ ข้ึนอยางรวดเร็ว ดังนน้ั ของแข็ง หรือผลึกท่ีเกิดข้ึนจะจัดเรียงตัวไดเ ปน ระเบยี บนอยกวาเมื่อเปรยี บเทียบกบั การแขง็ ตัวของของเหลวปกตทิ ่ี เกดิ ขึน้ อยางชา ๆ ดงั น้นั ของแขง็ ท่เี กดิ จากของเหลวเยน็ ยวดยงิ่ จะมคี วามแขง็ นอยกวา ของแข็งทเี่ กดิ จากการ เปลยี่ นสถานะที่จดุ เยือกแขง็ ปกติ ในกรณีของสารละลายทม่ี ีการอดั แกสลงในของเหลว เชน เครอื่ งดืม่ ประเภทกรดคารบ อนกิ เมือ่ เขยา สารละลายเย็นยวดยิ่งของสารประเภทน้ี จะมีฟองแกสเกดิ ขน้ึ จํานวนมากซึง่ ฟองแกส ทเี่ กดิ ขึน้ จะผสมและ แทรกตวั อยูในโมเลกุลของของเหลวทาํ ใหเมื่อเกิดการแขง็ ตวั สารทไ่ี ดจ ะมลี กั ษณะเปนเกลด็ เล็ก ๆ และเกดิ การ จับตัวเปนกอนนอยกวา เครื่องดื่มทีไ่ มไดอัดแกสลงไป
กิจกรรมการทาํ สเลอป คําชีแ้ จง 1. แบงผูรบั บริการออกเปนกลุม ๆ ละ 5 - 10 คน 2. ใหแ ตละกลมุ ตามขอ 1 ดําเนินการตามข้นั ตอน ดังนี้ ข้ันตอนท่ี 1 สืบคน ขอมูลจากอนิ เตอรเ น็ตเก่ียวกับการสรางกงั หนั ลม ขนั้ ตอนท่ี 2 แลกเปลย่ี นเรียนรูและสรุปโดยตอบคําถาม ดงั นี้ 1) ทา นคิดวา มปี จ จยั ใดบา งที่ทําใหเ กิดเคร่อื งดม่ื สเลอป 2) “ทานคิดวา เครอื่ งดื่มสเลอปส ามารถทําไดจ ริงในชีวติ ประจําวนั หรอื ไม อยางไร” ขัน้ ตอนท่ี 3 ออกแบบและเลือกวัสดุในการทดลองทาํ เครื่องดมื่ สเลอป 1) เลือกวสั ดุท่เี หมาะสมในการทํากจิ กรรม 2) ออกแบบและปฏบิ ัติกิจกรรม ขั้นตอนที่ 4 ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม เรอื่ ง “เหตุใดจึงตอ งเติมเกลือ” 1. ใหผูรับบริการแตละกลมุ อภิปรายรวมกัน และคาดคะเนวา อุณหภมู ขิ อง น้ําแข็ง และนํา้ แขง็ ผสมเกลอื ที่ต้งั ไว ณ อุณหภูมหิ องวา จะมีคา เทา ใด โดยบันทึกตวั เลขจากการคาดคะเนลงใน ใบกจิ กรรมที่ 1 2. ผจู ัดกิจกรรมแจกวสั ดุและอปุ กรณใ หผ ูร บั บรกิ ารเพื่อทําการทดลองซึง่ ประกอบดวยขวด พลาสตกิ ทรงกระบอก 2 ใบ เทอรมอมเิ ตอร 2 อนั ชอน 1 อัน นํา้ แข็ง และเกลอื 3. ผูรบั บริการแตละกลุมทาํ การทดลองวัดอณุ หภูมขิ องนาํ้ แข็ง และน้าํ แขง็ ผสมเกลอื (ใชเ กลือจาํ นวน 2 ชอ น) ที่ตัง้ ไว ณ อณุ หภูมิหอง จากน้นั บันทึกผลการทดลองลงในใบกจิ กรรมเรื่อง “เหตใุ ด จึงตองเติมเกลือ” แลว เปรยี บ เทียบส่งิ ที่ผูรบั บริการทํานายกบั ผลทไี่ ดจากการทดลองวาเหมือนกันหรอื ไม อยา งไร 4. ผูรับบริการศึกษาใบความรู เร่อื ง สมบตั ิคอลลิเกทฟี แลวตอบคําถามในบนั ทึกผลการปฏิบตั ิ กิจกรรม เร่ือง “เหตุใดจึงตองเติมเกลือ” 5. ผูจัดกิจกรรมและผรู ับบริการอภิปรายรว มกันเพ่อื เชื่อมโยงความรู สมบตั ิคอลลิเกทีฟ กับการทําสเลอป ข้ันตอนที่ 5 ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม เร่ือง “ปรมิ าณเกลือสาํ คัญอยางไร” 1. ใหผูรับบริการรวมกนั อภปิ รายวา ปริมาณของเกลือท่ีเติมลงไปในถังนาํ้ แขง็ มี ผลตอ อุณหภูมขิ องสารละลายเกลือในถงั นา้ํ แข็งหรอื ไม อยา งไร จะทาํ การทดสอบสมมติฐานเหลา นี้ไดอยางไร 2. ผูจัดกิจกรรมแจกอปุ กรณใ หผูร บั บรกิ ารเพ่ือทําการทดลองศึกษาผลของปรมิ าณเกลือใน สารละลายท่มี ีตออุณหภมู ขิ องสารละลาย โดยวัสดุและอุปกรณประกอบดวยขวดพลาสติกทรงกระบอก 1 ใบ เทอรม อมิเตอร 1 อนั ชอ น 1 อัน นาํ้ แข็ง นา้ํ และเกลือ
3. ผรู ับบรกิ ารทาํ การทดลองโดยเตมิ น้ําเปลาปรมิ าตรประมาณ 1/8 ของขวดพลาสติก ทรงกระบอกจากน้ันเติมน้ําแข็งลงไปใหไดป ระมาณ 1/2 ของขวดพลาสตกิ ทรงกระบอกแลว วัดอุณหภูมิของนํ้า ผสมนํา้ แขง็ จากนน้ั เตมิ เกลอื ลงไป 1 ชอ น และวดั อุณหภูมทิ ไ่ี ด แลว จงึ เติมเกลอื เพิ่มลงไปอีก 1 ชอ น และวัด อณุ หภูมทิ ่ีได โดยใหบันทกึ ผลการทดลองลงในกิจกรรม เรอ่ื ง ปรมิ านเกลอื สําคัญอยางไร 4. ผูจดั กิจกรรมและผรู ับบรกิ ารรวมกันอภิปราย ตอบคาํ ถาม และสรปุ ผลทไี่ ดจ ากการทดลอง ในใบกจิ กรรมท่ี 2 5. ผจู ัดกิจกรรมและผรู ับบริการอภิปรายรว มกันเพ่อื เชื่อมโยงสมบตั ิคอลลิเกทีฟ ข้นั ตอนที่ 5 ปฏิบตั ิกจิ กรรม เรื่อง “ทาํ ไมตอ งเขยา” 1. ผจู ดั กิจกรรมใหผ รู บั บรกิ ารรว มกนั อภิปรายวา การเขยา ภาชนะที่แชเครื่องดืม่ ทม่ี ีอุณหภมู ิ ต่าํ กวา จุดเยอื กแข็งเครื่องดมื่ นนั้ จะเกดิ การเปล่ียนแปลงหรือไม อยางไร 2. ผจู ดั กิจกรรมแจกอปุ กรณใหผูรบั บริการสาํ หรับทาํ การทดลองเพอื่ ศกึ ษาผลของการรบกวน การแข็งตวั ของของเหลวดวยการเขยาภาชนะ โดยวสั ดแุ ละอุปกรณประกอบดวยขวดพลาสติกทรงกระบอก 2 ใบ ชอ น 1 อัน นาํ้ แขง็ น้ําอดั ลม และเกลือ 3. ผูร ับบรกิ ารแตละกลุมทําการทดลองโดยเติมนํ้าแข็งลงในภาชนะ 2 ใบ ใหม ีปรมิ าณเทา กนั จากนั้นเติมเกลอื จาํ นวน 2 ชอน ลงไปในนํ้าแขง็ ในภาชนะทั้งสองใบ นําเคร่อื งดืม่ ลงไปแชลงในภาชนะทั้ง 2 ใบ จากนั้นเขยา ภาชนะใบท่ี 1 เปน เวลา 5 นาที สงั เกตการเปล่ียนแปลงของเครื่องด่มื เปรียบเทยี บกับภาชนะใบที่ 2 ซึ่งไมไดเขยา บันทึกผลการทดลองลงในกิจกรรมเรื่อง ทําไมจึงตองเขยา จากนั้นใหผูรับบริการศึกษาใบ ความรู เร่อื งสภาวะเยน็ ยวดย่งิ 4. ผูจัดกิจกรรมและผรู ับบรกิ ารรว มกนั อภิปรายตอบคาํ ถาม และสรุปผลทีไ่ ดจากการทดลอง ไดวา การนําน้ําอัดลมแชไวในถังนํ้าแข็งผสมเกลือไวระยะเวลาหน่ึง แลวเขยาภาชนะ จะทําใหไดผลิตภัณฑที่ เปนเกล็ดน้ําแข็งคลายกับสเลอปมากกวา การไมเขยา ภาชนะ เน่ืองจากการแชเครื่องดื่มในภาชนะที่มีอุณหภูมิ ต่ํามาก ๆ จะทําใหเครื่องด่ืมอยใู นสภาวะเย็นยวดยง่ิ เมื่อเขยาจะเกิดปรากฏการณที่เรียกวานิวคลีเอชัน ซ่ึงจะ ทาํ ใหเ คร่อื งดืม่ กอ ตัวเปนเกลด็ นํา้ แขง็ เลก็ ๆ ขนั้ ตอนที่ 6 ผจู ดั กิจกรรมและผรู ับบรกิ ารอภิปรายรวมกันเพอื่ เช่ือมโยงปรากฏการณ นิ วคลเี อชนั กับการทาํ สเลอป
บนั ทกึ ผลการปฏิบตั กิ ิจกรรมตามขนั้ ตอนท่ี 1 ถึงข้ันตอนที่ 6 โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี กจิ กรรม เร่ือง “เหตใุ ดจงึ ตองเตมิ เกลอื ” 1. ตารางบันทึกผล วัตถุ อณุ หภมู ิ (องศาเซลเซยี ส) การคาดคะเน ผลจากการวัด นํา้ แข็งบด นํ้าแขง็ บด และเกลือ 2. สรุปผลการทดลอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เฉลยแนวคาํ ตอบ เม่อื เติมเกลอื ลงในนํา้ แข็งบดจะไดสารละลายทมี่ อี ุณหภูมติ ํา่ กวา นา้ํ แขง็ บด 3. จดุ เยือกแขง็ ของสารละลายท่ีไดจากการเติมเกลอื ลงในนํ้าแข็ง เปนอยางไรเมื่อเปรยี บเทียบกบั จุดเยอื กแข็งของนาํ้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เฉลยแนวคาํ ตอบ จดุ เยอื กแขง็ ของสารละลายท่ีไดต ่ํากวาจุดเยือกแข็งของน้ํา หรือ ตํา่ กวา 0 �เนอื่ งจากสมบตั ิคอลลิเกทีฟ
กจิ กรรม เรื่อง ปรมิ าณเกลือสําคญั อยา งไร 1. ตารางบนั ทึกผล วตั ถุ อณุ หภมู ิ (องศาเซลเซยี ส) - นํา้ กบั น้ําแข็งบด - นาํ้ , น้าํ แข็งบด และเกลอื 1 ชอน - นาํ้ , น้ําแขง็ บด และเกลือ 2 ชอ น 2. สรุปผลการทดลอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เฉลยแนวคําตอบ สารละลายท่มี ีปรมิ าณเกลือ 2 ชอ น จะมีอุณหภูมิต่ํากวาสารละลายทมี่ ีปริมาณเกลอื 1 ชอ น และ อณุ หภูมติ าํ่ กวานํ้า ผสมกบั น้ําแขง็ บด ตามลาํ ดับ 3. ถาเติมเกลอื เพิม่ อกี 1 ชอน จากการทดลองน้ี จะทาํ ใหอุณหภมู ิของสารละลายเปน อยางไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เฉลยแนวคาํ ตอบ ถา เตมิ เกลอื เพ่ิมอีก 1 ชอ น จะเปน การเพม่ิ ความเขม ขนของสารละลายเกลอื ดงั นนั้ จุดเยอื กแขง็ ของสารละลายจะลดตาํ่ ลงกวาเดิม ดังน้นั อุณหภมู ิของสารละลายจึงลดตา่ํ ลงไดอกี
กจิ กรรม เรือ่ ง ทาํ ไมตองเขยา 1. ตารางบันทึกผล วธิ กี าร ลักษณะของผลติ ภณั ฑ - น้าํ อดั ลมแชไวถ ังนาํ้ แข็งกบั เกลือ - นาํ้ อัดลมแชไวถ ังนํ้าแข็งกับเกลอื ท่มี กี ารเขยา 2. สรุปผลการทดลอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เฉลยแนวคําตอบ การนาํ นํา้ อดั ลม ไปแชไวใ นถังน้าํ แขง็ กับเกลือระยะเวลาหน่งึ แลวจงึ คอ ยเขยา ภาชนะ จะทาํ ใหได ผลติ ภัณฑท ี่เปน เกล็ดนา้ํ แขง็ คลา ยกบั สเลอปไดม ากกวาการไมเ ขยาภาชนะ 3. เพราะเหตุใด การเขยา จงึ ทําใหผลิตภัณฑที่ไดจ ากการแชน ้ําอัดลมในถงั ทม่ี อี ณุ หภูมติ ่ํากวาจดุ เยอื กแขง็ มี ลักษณะแตกตางจากการไมเขยา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เฉลยแนวคาํ ตอบ เม่ือแชน้าํ อัดลมในภาชนะท่ีมอี ณุ หภูมิตํ่ามาก ๆ จะทาํ ใหน า้ํ อดั ลมอยูในสภาวะเยน็ ยวดยิ่ง การไม เขยาจะทําใหนํ้าอัดลมคอย ๆ เปลี่ยนสถานะเปนของแข็ง อนุภาคจะจัดเรียงตัวเปนระเบียบจึงทําใหได ผลติ ภัณฑทมี่ ีลักษณะเปนกอ นแขง็ แตถ าทาํ การเขยาจะเปน การรบกวนระบบทําใหน้าํ อัดลมเปล่ยี นสถานะจาก ของเหลวเปนของแข็งอยางรวดเรว็ ทําใหอ นุภาคจัดเรียงตัวไดเ ปนระเบียบนอยกวารวมทัง้ เม่อื เขยาน้าํ อดั ลมจะ เกิดฟองแกสซ่ึงจะแทรกอยูทั่วไปในน้ําอัดลมทําใหเมื่อเกิดการแข็งตัวจึงไดผลิตภัณฑที่มีลักษณะเปนเกล็ด นาํ้ แขง็ เลก็ ๆ นั่นเอง
กิจกรรมการระบุปญหาและเงอ่ื นไขจากสถานการณ คาํ ชี้แจง 1. แบง ผรู ับบรกิ ารออกเปนกลมุ กลมุ ละ 5-10 คน 2. ใหผรู บั บริการแตล ะกลมุ ศึกษารายละเอียดและเง่อื นไขของสถานการณปญ หา ดงั น้ี “ชมุ นุมธุรกิจของผรู ับบริการมคี วามเห็นวาจะจัดตั้งรานขายเคร่อื งด่มื ใหก ับนกั กีฬาและกองเชียรใ นวนั แขง ขนั กฬี าสขี องโรงเรียนซึง่ จะจัดขนึ้ ในชวงฤดูรอ น จากการสาํ รวจพบวา ‘สเลอป (Slurpee)’ เปน เคร่อื งด่มื ทผ่ี รู บั บรกิ ารตอ งการดมื่ เพ่อื ดับกระหายมากทส่ี ดุ ผูร บั บรกิ ารจึงไดร บั มอบหมายจากสมาชิกใน ชุมนมุ ธุรกจิ ใหอ อกแบบและหาวิธีการทําเครื่องดมื่ ท่ีมีลกั ษณะเหมือนสเลอปโ ดยใชเ ครอ่ื งมือทห่ี าได งายและกาํ หนดราคาขายเพือ่ ใหไดกาํ ไร” ผลการระบปุ ญหาและเง่อื นไข จากสถานการณท ก่ี ําหนด .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. เฉลยแนวคาํ ตอบ มวี ิธีการใดบา งท่ีจะสามารถทําเครื่องดมื่ ทมี่ ีลักษณะเหมือนสเลอปโ ดยใชเ ครอ่ื งมือที่หาไดงา กิจกรรมการนําสง่ิ ทีไ่ ดเ รียนรไู ปปฏบิ ตั แิ ละประยุกตใ ช คาํ ชแ้ี จง ใหผ ูรับบรกิ ารแตละคน ตอบคําถามในประเด็น 1. ใหผรู ับบรกิ ารตอบคําถามในประเดน็ “ทา นจะนําความรูเรอ่ื งสเลอปไ ปประยกุ ตใชใ นชวี ิตประจาํ วัน ครอบครัว ชุมชนสังคม ของทานไดอยางไร” .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. เฉลยแนวคาํ ตอบ สามารถนําไปประกอบอาชพี เพอ่ื สรา งรายไดเ ล้ียงครอบครวั ได
กิจกรรมแบบทดสอบหลังเรียนเร่ือง สเลอป คําช้แี จง ใหผูรบั บรกิ ารทําแบบทดสอบหลังเรียนเรอื่ ง สเลอป ซ่งึ ขอสอบทง้ั หมดจํานวน 5 ขอ (เมอ่ื ผรู บั บรกิ ารทาํ แบบทดสอบเสรจ็ เรียบรอ ยแลว ผูรับรกิ ารสามารถตรวจคําตอบไดตามเฉลยคําตอบทาย กจิ กรรม) แบบทดสอบหลงั เรียน คะแนนทไ่ี ด. .................คะแนน เรือ่ ง สเลอป คะแนนท่ีไดเ ตม็ 5 คะแนน คาํ ช้แี จง 1.ใหผูร ับบริการกาเคร่อื งหมาย x (กากบาท) หนาขอ ทถ่ี ูกตองเพยี งขอเดียว 2. แบบทดสอบนี้ มีขอ สอบจํานวน 5 ขอ ขอ ละ 1 คะแนน 3. เม่อื ผูรับบริการทําแบบทดสอบเสร็จเรยี บรอ ยแลว ผูรบั บรกิ ารสามารถตรวจคําตอบไดตามเฉลย คําตอบทายกจิ กรรม 1) การทาํ เครื่องด่มื แบบสเลอปใหไ ดมากท่ีสดุ ภายใตว ัสดอุ ปุ กรณ เวลา และงบประมาณ ทีก่ ําหนด นักเรียน ตองใชองคความรูในขอใด ก. Science ข. Mathematics ค. Technology ง. Engineering 2) หลักการของการทาํ สเลอปเ กย่ี วขอ งกบั การประยุกตใชความรดู านในเรื่องใด ก.สมบตั ิคอลลิเกทฟี สภาวะเย็นยวดยง่ิ และปรากฏการณน วิ คลีเอชัน ข.สมบตั ิคอลลิเกทฟี สภาวะเย็นยวดยิ่ง และความเขม ขน ของสารละลาย ค. สภาวะเยน็ ยวดยิ่ง ปรากฏการณน ิวคลีเอชัน และการทาํ นาํ้ แข็งแหง ง.สมบัตคิ อลลิเกทฟี ความเขมขนของสารละลาย และการทาํ น้าํ แข็งแหง 3) ขอใดไมใชก ารนําเอาความรูเก่ยี วกบั สมบัติคอลลเิ กทฟี ไปใชประโยชน ก. ศภุ วฒุ เิ ตมิ เกลอื ลงภายในถังไอศกรมี ข. ท่ีบานพรภติ ามหี ิมะตกจํานวนมาก จงึ นาํ เกลอื ไปโรยหิมะ ค. อลินนาํ เกลือใสถ ว ยไปวางไวในตเู ยน็ พรอ มไอศรีมรสมะนาว ง. วิชชานภุ าพเติมเอทธิลีนไกคอลลงในเครือ่ งยนตเพื่อปอ งกันการแขง็ ตัวของนาํ้ ในเครื่องยนต
4) การเพม่ิ ปรมิ าณเกลอื ในนาํ้ แขง็ จะทาํ ใหอ ณุ หภูมิของสารละลายเปน อยางไร ก. อุณหภูมขิ องสารละลายคงท่ี ข. อณุ หภูมิของสารละลายสงู ขึน้ ค. อณุ หภมู ขิ องสารละลายต่ําลง ง. ไมม ีขอใดถกู 5) สมบตั ิคอลลเิ กทีฟ(Colligative properties) เปนสมบัตขิ องสารละลายท่ีขนึ้ อยูก บั ความเขม ขน ของ สารละลาย มีอะไรบา ง ก. การเพ่มิ ข้ึนของจุดเดอื ด การลดลงของจุดเยือกแขง็ การลดลงของความดนั ไอ และการเกิดความดันออสโม ตกิ ข. การเพมิ่ ขน้ึ ของจุดเดือด การลดลงของจดุ เยือกแข็ง การลดลงของปริมาตร และการเกดิ ออสโมซิส ค. การเพม่ิ ข้นึ ของจดุ เดอื ด การลดลงของจุดเยือกแข็ง และการลดลงของความดันไอ ง. การเพ่ิมข้ึนของจุดเดอื ด การลดลงของจดุ เยอื กแขง็ การเกดิ นวิ คลีเอชัน และสภาวะเยน็ ยวดย่งิ เฉลยแบบทดสอบกอ นเรียน 1) ก สมบตั ิคอลลเิ กทีฟ สภาวะเยน็ ยวดยง่ิ และปรากฏการณน วิ คลีเอชนั 2) ข Mathematics 3) ก การเพม่ิ ขึน้ ของจดุ เดือด การลดลงของจุดเยอื กแข็ง การลดลงของความดันไอ และการเกิดความดัน ออสโมตกิ 4) ง วิชชานภุ าพเติมเอทธิลีนไกคอลลงในเคร่ืองยนตเ พอื่ ปอ งกนั การแขง็ ตัวของนํา้ ในเครอ่ื งยนต 5) ค อุณหภมู ิของสารละลายตํา่ ลง เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 1) ง Engineering 2) ก สมบัติคอลลิเกทฟี สภาวะเยน็ ยวดยงิ่ และปรากฏการณน วิ คลีเอชัน 3) ง วชิ ชานภุ าพเตมิ เอทธิลีนไกคอลลงในเครื่องยนตเพ่ือปอ งกนั การแข็งตัวของนํา้ ในเคร่ืองยนต 4) ค อุณหภูมิของสารละลายต่าํ ลง 5) ก การเพม่ิ ขน้ึ ของจดุ เดอื ด การลดลงของจดุ เยือกแข็ง การลดลงของความดันไอ และการเกิดความดนั ออสโมตกิ
กิจกรรมการประเมินความพึงพอใจของผรู บั บริการเรือ่ ง กิจกรรมการศึกษาตามอธั ยาศัย ดา น สะเตม็ ศึกษา (STEM EDUCATION) คาํ ช้แี จง ใหผรู บั บรกิ ารทําแบบประเมนิ ความพึงพอใจของผูร บั บรกิ ารกิจกรรมการศึกษาตามอธั ยาศยั ดา น ดานสะเตม็ ศึกษา (STEM EDUCATION) แบบประเมนิ ความพงึ พอใจของผูรับบรกิ าร กจิ กรรมการศึกษาตามอัธยาศัย ดานสะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION) ชื่อ-สกุล ผรู ับบรกิ าร......................................................................................... ชอื่ ฐานการเรยี นร.ู .......................................................ชือ่ – สกุล ผจู ัดกิจกรรม................................................... วนั ท่.ี ...........เดอื น...........................พ.ศ................... เวลา..................น. ความพงึ พอใจท่มี ีตอ การจัดกิจกรรม ประเด็น ระดบั ความพงึ พอใจ 5 4 3 21 1. กจิ กรรมตรงตามความถนัดและตองการของผูรบั บริการ 2. ข้นั ตอนการทาํ กิจกรรมมคี วามชดั เจน 3. ส่ือ/วสั ด/ุ อุปกรณท ่ใี ชท ํากจิ กรรมมคี วามเหมาะสม 4. ระยะเวลาทใี่ ชในการทํากิจกรรมมคี วามเหมาะสม 5. ความรทู ไี่ ดรบั สามารถนําไปประยกุ ตใ ชใ นชีวติ จริงได 6. ผรู ับริการมีความสุข/สนุกในการทาํ กิจกรรม ความพงึ พอใจในภาพรวมตอการจดั กจิ กรรม ระดบั 5 หมายถงึ ระดับ 4 หมายถงึ ระดับ 3 หมายถงึ ระดับ 2 หมายถงึ ระดับ 1 หมายถึง พงึ พอใจมากท่สี ุด พงึ พอใจมาก พงึ พอใจปานกลาง พึงพอใจนอ ย พงึ พอใจนอยทีส่ ุด
ความรูประสบการณท่ีไดรบั ความคิดเหน็ เพ่ิมเติม .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... .........................................................................
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: