Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการจัดการภัยพิบัติ ที่ระลึกเนื่องในวันจัดการภัยพิบัติของอาเซียนและวันลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติสากล ประจำปี ๒๕๖๓

ความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการจัดการภัยพิบัติ ที่ระลึกเนื่องในวันจัดการภัยพิบัติของอาเซียนและวันลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติสากล ประจำปี ๒๕๖๓

Published by Nutthanun Methakesorn, 2021-09-03 03:27:10

Description: ความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการจัดการภัยพิบัติ ที่ระลึกเนื่องในวันจัดการภัยพิบัติของอาเซียนและวันลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติสากล ประจำปี ๒๕๖๓

Keywords: ความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการจัดการภัยพิบัติ

Search

Read the Text Version

MDiasnaastgeerment

ค�ำน�ำ โลกในปัจจุบัน ได้เกิดการเปล่ียนแปลงของสภาวะแวดล้อมอย่างรวดเร็วและขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การเปลยี่ นแปลงของอณุ หภมู โิ ลกทเี่ พมิ่ มากขนึ้ ทกุ ปี สง่ ผลกระทบใหเ้ กดิ ภยั พบิ ตั ติ า่ ง ๆ ทั้งท่เี กยี่ วขอ้ งกบั สภาพภมู อิ ากาศ อุทกภัย วาตภยั ดินโคลนถล่ม ภัยแล้ง เปน็ ต้น และภัยพบิ ัติอ่ืน ๆ เช่น แผ่นดินไหว เป็นต้น โดยภัยพิบัติดังกล่าว สามารถพบเห็นได้ในแทบทุกภูมิภาคของโลก ดังนั้น การมรี ะบบการบรหิ ารจดั การความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั อิ ยา่ งเหมาะสม สอดคลอ้ งกบั สถานการณท์ เี่ กดิ ขน้ึ และการให้ความรู้เกี่ยวกับการเฝ้าระวัง ป้องกัน และการมีระบบการแจ้งเตือนท่ีดีและมีประสิทธิภาพ ให้แก่ประชาชน จึงมีความส�ำคัญและจ�ำเป็นเพื่อที่จะช่วยลดความสูญเสียจากภัยพิบัติท่ีส่งผลกระทบ ตอ่ ชวี ติ และทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนระบบเศรษฐกจิ และสังคมของประเทศลงได้ ประเทศไทยในฐานะประเทศแกนน�ำหลักในคณะท�ำงานด้านการป้องกันและลดผลกระทบ ตาม AADMER Work Programme จงึ ได้จัดท�ำหนังสือทีร่ ะลึกเนอื่ งในวนั จดั การภัยพบิ ัติของอาเซียน และวันลดความเสยี่ งจากภัยพิบัตสิ ากล ประจ�ำปี 2563 เพ่อื เผยแพร่องคค์ วามร้เู ก่ยี วกบั ความร่วมมือ ระหว่างประเทศด้านการจัดการภัยพิบัติ ท้ังในกรอบความร่วมมือกับอาเซียนและหน่วยงานภายใต้ องคก์ ารสหประชาชาตไิ ปยงั หนว่ ยงานภาครฐั และภาคเี ครอื ขา่ ยทเี่ กย่ี วขอ้ ง และเพอื่ สรา้ งความตระหนกั รู้ด้านการลดความเสย่ี งจากภัยพิบตั ิใหแ้ ก่ประชาชนในประเทศสมาชกิ อาเซยี น การจดั ทำ� หนงั สอื ทรี่ ะลกึ เลม่ นเี้ ปน็ การดำ� เนนิ งานตามแผนงานในประชาคมสงั คมและวฒั นธรรม อาเซียน ทั้งนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีเป้าหมายในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย เพื่อช่วยให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยเฉพาะในเรื่อง การสรา้ งจติ สำ� นกึ ดา้ นการลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั ใิ นประเทศ และเสรมิ สรา้ งความรว่ มมอื อนั ดรี ะหวา่ ง ประเทศภาคสี มาชกิ ในการสรา้ งความตระหนกั ดงั กลา่ วใหเ้ กดิ แกป่ ระชาชนในภมู ภิ าคอาเซยี น ตลอดจน เปน็ ขอ้ มลู ในการพฒั นากลไกการปฏบิ ตั งิ านดา้ นการตอบโตส้ ถานการณฉ์ กุ เฉนิ ระดบั ภมู ภิ าคในอนาคต กรมปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั ตุลาคม 2563 กความร่วมมือระหวา่ งประเทศด้านการจัดการภัยพิบตั ิ ทรี่ ะลึกเนอ่ื งในวนั จัดการภยั พิบัติของอาเซียนและวันลดความเสีย่ งจากภัยพิบัตสิ ากล

สารบญั หนา้ คำ� น�ำ ก สารบญั ข วันจัดการภัยพิบัติของอาเซียน และวันลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติสากล ASEAN ค Day for Disaster Management and International Day for Disaster Risk Reduction: ADDM & IDDRR สารจากอธบิ ดกี รมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั เนอื่ งในโอกาสวันจัดการภัยพิบตั ิ จ ของอาเซียนและวันลดความเส่ยี งจากภยั พบิ ัติสากล คำ� นยิ ม ช ส่วนที่ 1 : กรอบความร่วมมอื ระหว่างประเทศดา้ นการจดั การภยั พิบตั ิ 1 กรอบการด�ำเนินงานในระดบั นานาชาต ิ 2 กรอบการด�ำเนนิ งานในระดับภูมภิ าคอาเซยี น 19 ส่วนท่ี 2 : การดำ� เนินงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 35 ในการขบั เคลอ่ื นความร่วมมือด้านการจัดการภัยพบิ ัตริ ะหวา่ งประเทศ สว่ นที่ 3 : การดำ� เนนิ งานของภาคีเครือข่ายด้านการลดความเส่ยี งจากภัยพิบัติ 49 “สภากาชาดไทยในวิถีใหม่ เปลี่ยนแปลงแตไ่ ม่เปล่ียนไป” 50 โดย สำ� นักงานบรรเทาทุกขแ์ ละประชานามยั พิทักษ์ สภากาชาดไทย “เพศ สิทธิ และการลดความเส่ยี งจากสาธารณภัย/ภัยพิบัต”ิ 53 โดย ศนู ยเ์ ตรียมความพร้อมปอ้ งกนั ภยั พบิ ัติแห่งเอเชยี “ปกปอ้ งเดก็ ให้ปลอดภัยจากภัยพบิ ตั ิทา่ มกลางการระบาดของโควดิ -19” 56 โดย มลู นธิ ศิ ุภนิมิตแห่งประเทศไทย “ผูส้ งู วยั กบั ชุมชนจดั การลดความเส่ียงจากภัยพบิ ตั ิทแ่ี ม่สรวย จังหวดั เชยี งราย 60 ในยคุ New normal” โครงการลดความเส่ยี งจากภัยพิบตั ิ โดยการใหผ้ ู้สงู อายุ มสี ่วนรว่ มในประเทศไทย (Promoting Thailand’s Age Inclusive Disaster Risk Reduction) โดย มูลนธิ ิพฒั นางานผสู้ ูงอายุ สนับสนนุ โดย มูลนธิ ิพรเู ดน็ ซ์ ภาคผนวก 63 เอกสารเผยแพร่ของ UNDRR 64 เอกสารเผยแพรข่ องอาเซยี น 66 คณะผูจ้ ัดทำ� 70 ข ความรว่ มมือระหวา่ งประเทศด้านการจดั การภัยพบิ ตั ิ ทรี่ ะลึกเน่อื งในวนั จัดการภยั พิบตั ขิ องอาเซยี นและวันลดความเส่ียงจากภัยพบิ ัติสากล

วันจัดการภัยพิบัตขิ องอาเซียน และวนั ลดความเส่ียงจากภยั พบิ ตั ิสากล ASEAN Day for Disaster Management and International Day for Disaster Risk Reduction: ADDM & IDDRR วันจัดการภัยพิบัติของอาเซียน หรือ ASEAN Day for Disaster Management (ADDM) เป็นกิจกรรมตามแผนงานความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ ฉุกเฉิน (AADMER Work Programme) มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชน ในประเทศสมาชิกอาเซียนเก่ียวกับการด�ำเนินการของอาเซียนด้านการลดความเส่ียงจากภัยพิบัติ โดยเปน็ กจิ กรรมทงั้ ในระดบั ประเทศและระดบั ภมู ภิ าคทจี่ ดั เปน็ ประจำ� อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ในวนั ที่ 13 ตลุ าคม ของทกุ ปี ซงึ่ ประเทศไทยในฐานะประเทศแกนนำ� หลกั ในคณะทำ� งานดา้ นการปอ้ งกนั และลดผลกระทบ ตาม AADMER Work Programme ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานวันจัดการภัยพิบัติของอาเซียนมา ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2548 โดยมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการจัดการประกวดภาพวาด ระดับเยาวชน การเดินรณรงค์ด้านการลดความเส่ียงจากภัยพิบัติ การเสวนาทางวิชาการ และการจดั แสดงนิทรรศการร่วมกับหน่วยงานภาคเี ครอื ขา่ ยและภาคประชาสังคม ท่ีประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (United Nations General Assembly: UNGA) ได้ก�ำหนดใหว้ นั ท่ี 13 ตลุ าคมของทกุ ปี เปน็ วันลดความเส่ียงจากภยั พบิ ัตสิ ากล (International Day for Disaster Risk Reduction: IDDRR) ตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2532 เพ่ือส่งเสรมิ วฒั นธรรมความปลอดภัย และจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างความตระหนักในเร่ืองการลดความเส่ียงจากภัยพิบัติให้แก่ประชาชน ท่ัวโลก ในการน้ี ส�ำนักงานเพ่ือการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office for Disaster Risk Reduction: UNDRR) ไดอ้ อกแคมเปญ “The Sendai Seven Targets Campaign” เพอื่ สรา้ งการรบั รตู้ วั ชวี้ ดั ระดบั โลกตามกรอบเซนได เปน็ ระยะเวลา 7 ปี (พ.ศ. 2559-2565) ปีละ 1 ตัวชี้วัด โดยเร่ิมจากตัวชี้วัด A ไล่ไปจนถึงตัวช้ีวัด G และมีการน�ำตัวช้ีวัดของปีนั้น ๆ มาใช้ เป็นหัวข้อในการรณรงค์เนื่องในวันดังกล่าวอีกด้วย โดยปี พ.ศ. 2563 เป็นปีท่ีครบรอบการรายงาน ผลการด�ำเนินการตามตัวช้ีวัด E ของกรอบการด�ำเนินงานเซนไดเพื่อการลดความเส่ียงจากภัยพิบัติ พ.ศ. 2558-2573 (Sendai Framework for Disaster Risk Reduction 2015-2030) ซ่ึงมี เปา้ หมายในการสนบั สนนุ ใหป้ ระเทศตา่ ง ๆ จดั ทำ� ยทุ ธศาสตรก์ ารลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั ใิ นระดบั ชาติ และท้องถ่ิน ภายในปี พ.ศ. 2563 จงึ มีหวั ข้อการสรา้ งความตระหนกั ในเรือ่ งการก�ำกบั ดูแลความเสย่ี ง จากภัยพิบัติของภาครัฐ (Disaster Risk Governance) และการด�ำเนินการตามตัวช้ีวัด E ดังกล่าว คความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศดา้ นการจดั การภัยพิบตั ิ ที่ระลกึ เน่อื งในวนั จัดการภัยพิบัติของอาเซยี นและวนั ลดความเส่ยี งจากภยั พบิ ัติสากล

รวมถึงการพัฒนายุทธศาสตร์ดังกล่าวให้มีความครอบคลุมการจัดการความเส่ียงในทุกภาคส่วน (multi-sectoral approach) เพอ่ื ป้องกันความเส่ียงใหมแ่ ละลดความเสีย่ งท่ีมอี ย่เู ดิม การประชุมคณะกรรมการอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติ (ASEAN Committee on Disaster Management: ACDM) ครงั้ ท่ี 22 ณ กรุงฮานอย สาธารณรฐั สังคมนิยมเวยี ดนาม ระหวา่ ง วันท่ี 28-29 พฤษภาคม 2556 ท่ีประชุมมีมติให้ประธานคณะกรรมอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติ มีภารกิจในการจัดงานวันจัดการภัยพิบัติของอาเซียนในระดับภูมิภาคอีกภารกิจหน่ึง โดยเริ่มจาก บรูไนดารุสซาลาม ในปี 2557 ดังน้ัน การจัดงานวันจัดการภัยพิบัติของอาเซียนระดับภูมิภาค ประจำ� ปี พ.ศ. 2556 จึงเป็นปสี ดุ ท้ายทปี่ ระเทศไทยเป็นเจา้ ภาพ โดยโอกาสตอ่ ไปที่จะเปน็ เจา้ ภาพนน้ั คือ ในปี 2565 อยา่ งไรก็ดี ประเทศไทยยงั จะตอ้ งจดั กิจกรรมระดบั ประเทศในทุกๆ ปี เพือ่ ให้สอดคลอ้ ง กบั งานดังกลา่ วอยา่ งต่อเน่อื งต่อไป จากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่เกิดขึน้ ในประเทศไทย ต้ังแต่เดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา และยังคงมีการแพร่ระบาดหนักไปท่ัวโลก ซ่ึงรัฐบาลไทยได้มีการออกมาตรการขอให้ประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคม สวมใส่หน้ากากอนามัย เม่ือเดินทางโดยรถขนส่งสาธารณะและการเข้าไปใช้บริการในพื้นที่สาธารณะ รวมถึงงดเว้น การจัดกิจกรรมที่ต้องมีกลุ่มคนจ�ำนวนมากมารวมตัวกัน ดังน้ัน เพ่ือเป็นการป้องกันการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโคโรนา และเพ่อื เป็นการปฏบิ ัตติ ามมาตรการของรฐั การจดั กจิ กรรม ADDM & IDDRR 2020 จึงมีการปรับเปล่ียนรูปแบบการจัดกิจกรรมจากการจัดงาน เป็นการจัดท�ำหนังสือท่ีระลึก เน่ืองในวันจัดการภัยพิบัติของอาเซียน และวันลดความเส่ียงจากภัยพิบัติสากล ประจ�ำปี 2563 เพ่ือเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการจัดการภัยพิบัติ ท้ังใน กรอบความร่วมมือกับอาเซียนและหน่วยงานภายใต้องค์การสหประชาชาติไปยังหน่วยงานภาครัฐ และภาคเี ครอื ข่ายทเี่ กย่ี วข้อง การจัดท�ำหนังสือท่ีระลึกเน่ืองในวันจัดการภัยพิบัติของอาเซียน และวันลดความเสี่ยง จากภยั พบิ ตั ิสากลประจ�ำปี 2563 มีวัตถุประสงค์เพื่อสรา้ งวฒั นธรรมความปลอดภัย โดยสอดคล้องกับ การด�ำเนินการตามเสาหลักด้านสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน รวมทั้งเสริมสร้างจิตส�ำนึก ด้านการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในประเทศ โดยเสริมสร้างความร่วมมืออันดีระหว่างประเทศภาคี ในการสรา้ งความตระหนกั แกป่ ระชาชนในการดำ� เนินการลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ัตใิ นภมู ภิ าคอาเซยี น รวมถงึ สนบั สนนุ ความพยายามและวสิ ยั ทศั นข์ องอาเซยี นในการลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั แิ กป่ ระชาชน ทว่ั ไปในทกุ ระดบั ตลอดจนเสรมิ สรา้ งความรว่ มมอื อนั ดรี ะหวา่ งประเทศภาคใี นการสรา้ งความตระหนกั แก่ประชาชนในการด�ำเนินการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในภูมิภาคอาเซียน และเพื่อเป็นข้อมูล ในการพัฒนากลไกการปฏิบัตงิ านดา้ นการตอบโต้สถานการณฉ์ กุ เฉินระดบั ภมู ิภาคตอ่ ไปในอนาคต ง ความร่วมมือระหว่างประเทศดา้ นการจดั การภัยพิบตั ิ ทร่ี ะลึกเน่อื งในวันจัดการภัยพบิ ตั ิของอาเซียนและวนั ลดความเส่ยี งจากภยั พบิ ัติสากล

ความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศด้านการ กรมป้องกนั และบรร สาร นายบุญธรรม เลศิ สุขีเกษม เอนธ่ืองบิ ใดนโกี อกรามสวปนั ้อจงัดกกาันรภแัยลพะิบบัตขิรอรงเอทาเาซสยี นาแธสลาาะรรวนัณลดภคยั วามเส่ียง จากภัยพบิ ตั สิ ากล วนั อังคารท่ี 13 ตนุลาายคบมญุ 2ธ5ร6รม3 เลศิ สุขเี กษม อธบิ ดีกรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย เเนนอื่ ่ืองงในในโอโกอากสาวสนั จวดัันกจาดัรภกยั าพรบภิ ตัยั ขิ พอิบงอัตาิขเซอยี งนอแาลเะซวียนั ลนดแคลวะาวมเันสลยี่ ดงจคาวกาภมยั เพสบิ ย่ี ตั งสิ จาากกลภัยพิบตั กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานวะหนั นอ่วังยคงาานรหทลี่ัก1ใน3กาตรุลด�ำาเคนิมนงา2น5ด6้าน3การลดความเสี่ยง แจเปาลน็กะเปภนครยัวื่อะาพชงมบิ าใทคตั น้ามขิ ทโอทอางม่ี ยปกคี รรวาูปะาสแเมทบปวศบลันไใอทจหดยมัดภ่ยขักออายรราว่่ งภมยเัยปง-ั่ ย-น็พ-นื แ-ิบ-รใ-งัตน-ข-สิขบั-ภ-อเา-คว-งล-ะออื่-ท-นาเ่ี-รใเ-นาซ-ตก-ียอ้-า-นงร-รร-แบัณ-มล-ร-อื ะง-กค-วบั-ใ์ -นัหก-ป้าล-ร-รดเ-ะป-เค-ลท-ย่ีวศ-น-าไ-ทแม-ปย-เลแ-ส-งล-ี่สยะ-ภปง-า-รจพะาภชกมาู คภอิ มาัยกโลพากศบิ ัติสากล บรรเทาสาธปารระณเทภศไัยทใยนไดฐ้ราับนผะลหกรนะ่วทยบงจาากนสหถลานักกใานรกณา์ทรี่เรดาาไมเน่เคินยคงาาดนคดิด้ามนากก่อานรลดัดงเคช่นวาสมถเาสนี่ยกงารจณา์กภัยพิบ ขอร่วมโเปคเ็นวปิเดพ็น-ร1แา9ะรวงก่าขาเรรับาทไเดี่ปค้รรับละคื่อเทวนาศมใไรนท่วยกมสมาาือรมจราาณรกถทรรุกับงภคมาคือ์ใสหกว่ับ้ปนสรถกะอาเนปทรกกศาับรไณกทา์ดยรัมงแกรี ละลบ่าะบวปไกดรา้รอะเยผช่าชางญิ คมสีปมถราโะนลสกกิทาเรธปณิภ็นฉ์าุกพปเนฉร้ันินะชาคมท อย่างยทัง่ เี่ยปนืน็ มาใตนรสฐาภนาตวาะมแทผี่เนรกาาตรป้ออ้งงรกับนั มแลอื ะกบบัรรกเทาารสเาปธาลรี่ยณนภแยั แปหลง่ ชงาสตภิ ซางึ่ แพสภดงูมใอิหเ้าหกน็ าถศงึ คแวลามะสคำ� ควญัามขอทงา้ ทายรปู การปบรรระจเปุ ทรศะเไดทน็ ยด้าไนดก้ราับรลผดลคกวารมะเสทย่ี บงจจาากภกัยสพถบิ าัตนเิ ขกา้ สา่แูรผณน์รทะี่เดรับาชไามต่เิ คยคาดคิดมาก่อน ดังเช่น สถา การที่ปท่ีแรตะกเตสท่ถาศงาอไนทอกกยาไรสปณาจ์โมาคกาวทิดรี่เ-ถร1าร9เับคสยมะปือทรก้อะสนับบใสหมถ้เาหา็นสนวาก่าธคาารวรณาณมภเ์ดัยสังม่ียีกคงแวลลา่ามะวสซไัาบดธซา้อ้อรยนณแ่าภลงัยะมใผนีปลปรกัจะรจะสุบทิทันบธมทีริภี่เูปกาิแดพบขนึ้นบั้น เป็นเ ความรก่วท็ มวคี มวือามจรานุ กแรทงุกมาภกาขน้ึคสนอ่วกนจากนอน้ัปผรลกรับะกทบารจามกีรสะถาบนบกากราณรห์ เนผง่ึ ชยิญงั อสาจถกาอ่ นใหกเ้ กาดิ รสณาธ์ฉารุกณเภฉยัินอทน่ื ่ีเๆป็นมาตร คปว้อางมกเัจตนสาอ่ แี่ยกเนภงลอื่จัยะงใพานไบดบิกป้รตัภีดิร2จงัยั เ5นึงพทต6นั้ อ้3บิากงาสัตคกรา�ำิเเาตขนธรรงึรา้ายีถณสรมึง่แูรผคณงลวผคากภน์มเรนัยพะรื่อทแระงอ้บดหใมในับน่งแโมลชอชะิตกาาวแิาตตาลสงิิะวแซภันผึ่างจนคแัดใสนกส่วกานดารทรภงร่ีหัยใบั ลหพมาิบอ้ืเกหักตหบัิข็ลนสอาถายงธอึงาาครเณซวียภานยัมแแสลลาะะกวคัานัญรลลดขดคคอววงาามกมเเาสสร่ียี่ยงบง รรจุปร จากสภถยั าพนบิ ัตกิสาารกณล ์โปคระวเิดท-ศ1ไท9ยสใหะค้ ทวา้อมนสำ�ใหคัญ้เหกับ็นกวา่ารสครา้วงาคมวาเสมตี่ยรงะแหลนะกั ถสงึ าแธลาะรกณารบภรัยรใลนุเปป้าหัจมจาุบยันEมีรูปแบบ จผาลกกทระ่ีเตจรท�ำาานมบเวกคนจรยปอาปบรกะกรสเาะทถรศสดาทบ�ำนี่มเมนกียินาุทางธรสาศณนาาเสธ์หซตานนรรไ์กง่ึดณายเรพภังล่ืออดัยกคามาวจรีคาลกมวดอ่เาคสใม่ียวหางซจม้เับกาเสกซิดี่ยภ้อสงัยจนาพาธิบแกาัตภลริรัยะะณพผดิบับภลัตชกยั ิารอพตะิแ.่นื ศทล.ะๆบ2ใน5ทตร5ี่เะ่อ8กด-เิด2ับน5ทขื่อ7้อ้ึน3งงกไถคด่ิน็ทือ้ วดเนกีคงั ื่อาวนรงาเจน้ั พมาิ่มกรกุนารแเรตงรมียา ภวาางคแสผว่ นนใทนี่หกลาารกรหับลมาือยกับสาธารณภัยท่รีแะลลึกเะนื่อกงใานวรันจลัดคดกวารคาภมยัวรพ่วาิบมตัมมขิ อือเงสรอะาี่ยหเซวงีย่านจงแปาลระกะวเนั ทภลศดัยดคว้าพานมกิบเสา่ยีรัตงจจิดัาจกกภาึงยั รพตภิบัย้อัตพิสงาิบกคตัลิานึงจถึงผลก

การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติจะมีประสิทธิภาพหรือประสบความส�ำเร็จได้เมื่อมีการก�ำกับดูแลที่ดี ผ่านการก�ำหนดโครงสร้างและกฎหมาย รวมถึงการจัดท�ำแผนงานด้านการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ในทกุ ระดับ โดยได้รับความรว่ มมอื จากทุกภาคส่วน ในสว่ นของภมู ภิ าคอาเซยี นกเ็ ชน่ กนั ในปนี ไี้ ดม้ กี ารจดั ทำ� แผนงาน AADMER Work Programme ฉบับใหม่ที่มีการผนวกกรอบแนวคิดระดับโลกด้านการลดความเส่ียงจากภัยพิบัติ การปรับตัวต่อ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาที่ย่ังยืน มาเชื่อมโยงเข้าสู่แผนงานดังกล่าวเพื่อให้เกิด การขบั เคลอ่ื นงานในระดับภูมิภาคดา้ นการลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ัติที่ย่ังยืนและครอบคลุม นอกเหนือจากการส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนในการจัดการความเส่ียงจากสาธารณภัยในเวที ระดับนานาชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ผนวกแนวคิดการบูรณาการความร่วมมือ ของทุกภาคส่วนเข้าสู่แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตลอดจนแผนการพัฒนาในระดับชาติ และท้องถิ่น และให้ความส�ำคัญกับการขับเคล่ือนการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติผ่านแผนการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดและท้องถิ่น โดยให้มีการประชุมกองอ�ำนวยการป้องกันและบรรเทา สาธารณภยั จงั หวดั อยา่ งสมำ่� เสมอ รวมทง้ั มกี ารจดั การฝกึ ซอ้ มแผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ร่วมกันกับทุกภาคส่วน อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง นอกจากน้ันแล้ว ยังให้ความส�ำคัญกับการพัฒนา ระบบการเตือนภัยท่ีเข้าถึงประชาชนและครอบคลุมกลุ่มเปราะบาง การพัฒนาศักยภาพ ของผู้น�ำท้องถิ่นในการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติ รวมถึงการผลักดันให้มีการบูรณาการระหว่าง แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและแผนการพัฒนาในระดับพ้นื ท่ี การด�ำเนินงานลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในปัจจุบัน ต้องเผชิญกับสถานการณ์ท่ีไม่อาจคาดเดา ได้รวมถึงภยั คุกคามในรปู แบบใหม่ หน่วยงานทเี่ ก่ยี วขอ้ งจำ� เป็นทจ่ี ะต้องมแี ผนงานท่ีชัดเจน ครอบคลมุ ทกุ มติ ิ ยดื หยุน่ ได้ ตลอดจนมีมาตรการและการลงทุนเชงิ ป้องกันเพอ่ื ลดผลกระทบและสร้างภูมิค้มุ กัน จากความเสี่ยงท่ีอาจเกิดขึ้นในอนาคต เราทุกคนต้องร่วมมือกันในการด�ำเนินงานลดความเส่ียงจากภัยพิบัติ เพื่อบรรลุเป้าหมาย การพฒั นาอย่างย่งั ยืน นายบุญธรรม เลศิ สุขีเกษม อธบิ ดกี รมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ผปู้ ระสานงานด้านการลดความเส่ียงจากภัยพบิ ัตขิ องประเทศไทย ฉ ความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศด้านการจดั การภัยพิบัติ ทรี่ ะลึกเนื่องในวันจัดการภัยพบิ ตั ขิ องอาเซียนและวันลดความเสีย่ งจากภัยพิบัติสากล

ค�ำนิยม อกี คำ� รบหนง่ึ ทก่ี รมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รว่ มกบั สำ� นกั งานบรรเทาทกุ ขแ์ ละประชานามยั พทิ กั ษ์ สภากาชาดไทย จดั งานเนอ่ื งในวนั ลดความเสย่ี ง จากภัยพิบัติสากล (International Day for Disaster Risk Reduction : IDDRR) และวันจัดการภัยพิบัติของอาเซียน (ASEAN Day for Disaster Management (ADDM) รว่ มกบั ภาคอี น่ื ๆ เชน่ UNDRR World Vision ฯลฯ ภาคเอกชนอน่ื เชน่ บรษิ ทั กลางประกนั ภยั และ มูลนธิ ิต่าง ๆ เพ่ือสรา้ งความร้คู วามตระหนักถึงภัยพิบตั ิ ท้ังนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเองมุ่งหวังและพร้อมสร้างประเทศไทย ปลอดภยั (Safety Thailand) พยายามประสานทกุ ภาคสว่ นทย่ี กตวั อยา่ งขา้ งตน้ และชว่ ยทำ� ให้ เกิดความรว่ มมอื ร่วมใจสรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจให้กบั พี่นอ้ งประชาชนเกี่ยวกบั ภัยพิบตั ทิ กุ ภัย ครอบคลมุ ทกุ ดา้ น รวมทงั้ ความสามารถในการรรู้ บั ปรบั ตวั ฟน้ื เรว็ ทว่ั อยา่ งยงั่ ยนื (Resilience) ให้สอดคล้องกับ SDG ของสหประชาชาติ ท�ำให้สถิติการเสียชีวิตของคนไทยลดน้อยลง ตามลำ� ดับ ตง้ั แต่สนึ ามเิ ป็นตน้ มา รวมทง้ั การสูญเสียทรัพย์สนิ น้อยลงดว้ ย นบั วา่ กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย เป็นผนู้ ำ� ภาครัฐที่น่าช่ืนชมยง่ิ ส่วนสภากาชาดไทยเอง เปน็ หนว่ ยงานสาธารณกุศลทีช่ ว่ ยเติมเต็มการจดั การภยั พบิ ตั ิ ของภาครฐั (Auxiliary role) เปน็ บทบาทเสรมิ อดุ ชอ่ งวา่ งทที่ างภาครฐั ท�ำให้ไม่ได้เนอื่ งจาก ตดิ ระเบยี บทางราชการทางสภากาชาดไทย โดยสำ� นกั งานบรรเทาทกุ ขแ์ ละประชานามยั พทิ กั ษ์ เข้าไปจัดการช่วยเหลือโดยใช้หลักการกาชาด 7 ประการ อันดับแรก คือ การช่วยเหลือ ดา้ นมนุษยธรรม และไม่ทง้ิ ใครไว้ขา้ งหลงั (Leave no one behind) เชน่ แรงงานต่างด้าว และคนชายขอบ โดยความร่วมมือกบั ขบวนกาชาด (Red Cross Movement) ประกอบดว้ ย กาชาดสากล ได้แก่ สหพันธ์สภากาชาดและสภาเส้ียววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) และคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ท�ำให้การท�ำงานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ด�ำเนินไปได้มากหลายมิติ ลดความทุกข์ยากเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยและด้อยโอกาส กล่มุ เปราะบาง นานาชาติได้อย่างมากมาย ชความรว่ มมอื ระหว่างประเทศดา้ นการจัดการภัยพิบตั ิ ที่ระลกึ เนือ่ งในวนั จดั การภยั พิบัติของอาเซียนและวันลดความเสีย่ งจากภัยพิบัตสิ ากล

เนื่องในวัน IDDRR และ ADDM ซึ่งเป็นวันที่ 13 ตุลาคมทุกปี แต่ 13 ตุลาคม เป็นวันส�ำคัญยิ่งของพสกนิกรไทยเพราะเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ที่เราพรอ้ มใจน้อมร�ำลกึ ถึงพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อชาวไทยและชาวโลกอย่างหาท่ีสุดมิได้ ท่ีพระองค์ท่านเป็นผู้น�ำ ในเรื่องการลดภัยพิบัติ และแม้แต่ SDG ข้อแรกคือ การขจัดความยากจน พระองค์ท่าน ได้ทรงงานตลอดเวลาที่ทรงครองราชย์กว่า 70 ปี ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นค�ำตอบ ท่ีทันสมัยตลอดเวลา แม้กระทั่งการจัดการภัยพิบัติจากผลกระทบจาก COVID-19 น�ำไป ใช้ประโยชนไ์ ด้ การจัดกิจกรรมเน่ืองในวัน IDDRR และ ADDM จึงต้องจัดในวันอื่นท่ีใกล้เคียงกัน โดยปนี ้จี ะจัดพิมพห์ นงั สือที่ใหค้ วามรู้กับประชาชน และผเู้ กีย่ วข้อง ผ้มู สี ่วนไดส้ ่วนเสียนับวา่ เปน็ อีกมิตหิ นึง่ ที่จะชว่ ยกระจายความรูค้ วามเข้าใจเกีย่ วกับภยั พิบัติให้ดีย่งิ ๆ ขึ้นไป ขออ�ำนวยพรให้กิจกรรมคร้ังน้ี ประสบผลส�ำเร็จและขอบคุณที่ให้สภากาชาดไทย มีส่วนร่วม และเป็นภาคส่วนท่ีท�ำงานใกล้ชิด และเป็นแบบอย่างของความร่วมมือระหว่าง ภาครัฐและภาคสาธารณกุศลให้กับประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนและในโลกด้วย ขอให้กิจการ ด�ำเนินไปด้วยความเขา้ ใจ เข้าถึงโดยการรักษา สบื สานและต่อยอด เพอ่ื การพัฒนาใหย้ ง่ั ยืน ตอ่ ไปตราบนานเท่านาน พลโทนายแพทย์อ�ำนาจ บาลี ผู้อ�ำนวยการส�ำนกั งานบรรเทาทกุ ข์และประชานามยั พทิ กั ษ์ สภากาชาดไทย ซ ความร่วมมือระหว่างประเทศดา้ นการจดั การภยั พิบตั ิ ท่รี ะลกึ เนอื่ งในวนั จดั การภยั พิบตั ขิ องอาเซียนและวันลดความเสี่ยงจากภยั พบิ ัติสากล

สว่ นที่ 1 กรอบความรว่ มมือระหว่างประเทศ ด้านการจัดการภัยพิบตั ิ

กรอบการด�ำเนินงาน ในระดับนานาชาติ ในปัจจุบัน ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการขยายตัวของชุมชนเมือง ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและท�ำให้สถานการณ์ภัยพิบัติทั้งจากธรรมชาติและจากมนุษย์ มีความ รุนแรง หลากหลาย ซับซ้อน และขยายวงกว้างมากข้ึน ภัยพิบัติน้ันส่งผลกระทบอย่างไร้พรมแดน และคุกคามต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนท่ีอยู่ในพ้ืนที่ท่ีเกิดภัยพิบัติและพื้นท่ีข้างเคียง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากน้ันแล้วการเปล่ียนแปลงรูปแบบและความรุนแรงของภัยพิบัติ ยังส่งผลกระทบต่อทิศทางการพัฒนาของแต่ละประเทศ ท�ำให้ประชาคมโลกในช่วง 20 ปีท่ีผ่านมา หันมาให้ความส�ำคัญต่อการบริหารจัดการในการมุ่งลดความเสี่ยง และความเสียหายจากภัยพิบัติ เพิ่มมากขนึ้ การด�ำเนินงานด้านการจัดการและการลดความเส่ียงจากภัยพิบัติเป็นประเด็น และวาระส�ำคัญ ทีท่ ่วั โลกเร่งดำ� เนินการ สถานการณท์ ่ผี า่ นมาทำ� ใหเ้ กดิ กรอบแนวคิด กรอบความรว่ มมือ และพันธกรณี ระหว่างประเทศที่แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ และความพยายามร่วมกัน เพ่ือท�ำให้โลกนี้ปลอดภัย และลดความสญู เสียจากภัยพิบตั ไิ ด้อย่างยงั่ ยืน พันธกรณีและข้อตกลงระหวา่ งประเทศท่มี คี วามสำ� คัญ และส่งผลกระทบต่อการด�ำเนินงานด้านการจัดการและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในระดับสากล และระดับภูมิภาค ได้แก่ การจัดท�ำเป้าหมายการพัฒนาที่ย่ังยืน พ.ศ. 2558-2573 (Sustainable Development Goals–SDGs 2015-2030) กรอบการด�ำเนินงานเซนไดเพื่อการลดความเสี่ยง จากภัยพิบตั ิ พ.ศ. 2558-2573 (Sendai Framework for Disaster Risk Reduction 2015-2030) กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change : UNFCCC) หลกั การกรงุ เทพ (Bangkok Principles) การประชุมสุดยอดว่าดว้ ยการด�ำเนนิ งานด้านมนุษยธรรม (World Humanitarian Summit : WHS) มาตรฐานของคณะ ท่ีปรึกษาดา้ นการคน้ หาและกภู้ ยั ในเขตเมอื งสากล (International Search and Rescue Advisory Group : INSARAG) และวาระใหมแ่ หง่ การพฒั นาเมอื ง (New Urban Agenda : NUA) ตลอดจนกรอบการด�ำเนินงานด้านความปลอดภัยทางถนน ได้แก่ ปฏิญญามอสโก และปฏิญญา สตอกโฮลม์ 2 ความรว่ มมือระหว่างประเทศด้านการจดั การภัยพิบัติ ท่ีระลึกเนื่องในวันจดั การภัยพบิ ัติของอาเซยี นและวันลดความเสยี่ งจากภยั พิบตั ิสากล

กรอบการพัฒนาท่ยี ่งั ยนื : Sustainable Development Goals (SDGs) เปา้ หมายการพฒั นาทยี่ งั่ ยนื (SDGs) เปน็ กรอบความรว่ มมอื ระดบั โลกทอ่ี ยภู่ ายใตว้ าระการพฒั นา ภายหลังปี ค.ศ. 2015 ตามกระบวนทัศน์ “การพัฒนาท่ีย่ังยืน” ท่ีมุ่งขจัดความยากจนในทุกมิติ และทุกรูปแบบ สานต่อภารกิจที่ยังไม่บรรลุผลส�ำเร็จภายใต้เป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millennium Development Goals : MDGs) เพื่อให้ประเทศต่าง ๆ ท่ัวโลกน�ำไปปฏิบัติร่วมกัน และสามารถบรรลกุ ารพฒั นาทางสงั คม เศรษฐกิจ และส่งิ แวดล้อมอยา่ งยง่ั ยนื โดยไม่ทง้ิ ใครไวข้ า้ งหลงั ภายในปี ค.ศ. 2030 โดยมีประเทศสมาชิก 194 ประเทศ ร่วมลงนามเพ่ือรับรองและให้ค�ำม่ัน ท่ีด�ำเนนิ การเพ่อื ที่จะบรรลุเปา้ หมายดงั กล่าว ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกที่ให้ค�ำมั่น โดยยึดถือแนวทางการพัฒนาท่ียั่งยืน พร้อมน้อมน�ำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy : SEP) ทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ไดพ้ ระราชทานไว้ ในนาม “SEP for SDGs” มาเป็นแนวทางการพัฒนาประเทศ โดยให้ความส�ำคัญกับความสมดุล ของการพัฒนาท้งั ด้านเศรษฐกจิ สงั คม และส่ิงแวดล้อม ตลอดจนการมีประชาชนเป็นศนู ยก์ ลาง รปู ท่ี 1 กรอบการพฒั นาทย่ี ่งั ยนื 3ความรว่ มมือระหว่างประเทศดา้ นการจัดการภัยพิบตั ิ ท่รี ะลึกเนอ่ื งในวันจดั การภยั พบิ ตั ิของอาเซียนและวันลดความเสี่ยงจากภยั พิบัติสากล

เป้าหมายการพฒั นาทีย่ ัง่ ยืน ประกอบดว้ ย 17 เป้าหมาย (Goals) 169 เป้าประสงค์ (Targets) 241 ตัวชี้วดั (Indicators) ขจดั ความยากจน ขจดั ความหวิ โหย คนมชี ีวิตท่ีมีคุณภาพ การศกึ ษามคี ุณภาพอ บรรลุ ความเท่าเทียม ใหม้ ีน�ำ้ ใช้ และบริหาร ทกุ รูปแบบในทุกพน้ื ท่ี บรรลุความมนั่ คงทางอาหาร และส่งเสริมสขุ ภาวะทีด่ ี ยา่ งเท่าเทียมและครอบคลุม ระหวา่ งเพศ เสริมสร้าง จัดการนำ�้ และสขุ าภบิ าล ของคนทกุ เพศทกุ วัย และสง่ เสรมิ โอกาสในการ ความเขม้ แขง็ ให้แก่สตรี อยา่ งย่ังยนื ส�ำหรับทกุ คน สนบั สนนุ เกษตรกรรม อยา่ งยั่งยืน เรียนรู้ตลอดชีวติ ทกุ คน และเดก็ หญิง สรา้ งหลักประกันใหส้ ามารถ การเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกจิ สรา้ งโครงสร้างพนื้ ฐาน ลดความไม่เท่าเทียม สร้างความปลอดภยั ส่งเสรมิ รูปแบบการผลติ เขา้ ถึงพลังงานอยา่ งย่งั ยนื ทยี่ ั่งยืนและท่วั ถงึ ทรี่ องรบั ต่อการเปลย่ี นแปลง ท้งั ภายใน และภมู ิค้มุ กนั ใหเ้ มือง และบริโภคที่ย่งั ยืน และการตั้งถ่ินฐานมนษุ ย์ ในราคาท่เี หมาะสม และการจา้ งงานเตม็ อัตรา สง่ เสรมิ อตุ สาหกรรม และระหว่างประเทศ และนวัตกรรม เรง่ รดั ดำ� เนินการ อนรุ กั ษ์และใชป้ ระโยชน์ ปกปอ้ ง ฟื้นฟูและส่งเสริม ส่งเสริมสงั คมทสี่ งบสุข เสริมสร้างความแขง็ แกรง่ ด้านการเปล่ียนแปลง ทรพั ยากรทางทะเล การใชร้ ะบบนเิ วศน์บนบก ทกุ คนเขา้ ถงึ กระบวนการ ของกลไกด�ำเนินงาน ยตุ ธิ รรม สรา้ งสถาบัน สภาพภูมอิ ากาศ และมหาสมุทร อย่างยั่งยนื อย่างย่ังยืน และหุ้นสว่ นความร่วมมอื และผลกระทบ ท่มี ีความรบั ผดิ ชอบ ระดับโลก รปู ท่ี 2 เป้าหมายการพฒั นาทย่ี ั่งยืน 17 เป้าหมาย เป้าหมายการพัฒนาท่ีย่ังยืน ท้ัง 17 เป้าหมายข้างต้น สะท้อน 3 เสาหลักของมิติความย่ังยืน (Three Pillars of Sustainability) ไดแ้ ก่ มติ ิสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดลอ้ ม บวกกับอกี 2 มิติ ไดแ้ ก่ มติ สิ นั ตภิ าพและสถาบนั และมติ เิ รอ่ื งหนุ้ สว่ นการพฒั นา ซง่ึ องคก์ ารสหประชาชาตไิ ดแ้ บง่ 17 เปา้ หมาย ออกเปน็ 5 กลุ่ม ตามปจั จยั ท่ีเชอ่ื มโยงกันใน 5 มิติ (5P) ดงั นี้ 1 การพัฒนาคน (People) ตรงกับมิติสังคม ให้ความส�ำคัญกับการขจัดปัญหา ความยากจนและความหิวโหย และลดความเหลอ่ื มล�ำ้ ในสงั คม ครอบคลมุ เป้าหมายที่ 1 2 3 4 และ 5 2 เศรษฐกิจและความม่ังคั่ง (Prosperity) ตรงกับมิติเศรษฐกิจ ให้ความส�ำคัญกับ การส่งเสริมให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ท่ีดีและสอดคล้องกับธรรมชาติ ครอบคลุมเป้าหมายที่ 7 8 9 10 และ 11 3 ส่ิงแวดล้อม (Planet) ตรงกับมิติส่ิงแวดล้อม ให้ความส�ำคัญกับการปกป้องและ รักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสภาพภูมิอากาศเพือ่ พลเมืองโลกรุ่นต่อไป ครอบคลมุ เปา้ หมายที่ 6 12 13 14 และ 15 4 ความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศด้านการจัดการภัยพบิ ตั ิ ทรี่ ะลึกเนอ่ื งในวนั จดั การภัยพิบตั ขิ องอาเซยี นและวนั ลดความเสีย่ งจากภัยพบิ ัตสิ ากล

4 สนั ตภิ าพและความยตุ ิธรรม (Peace) ตรงกบั มติ ิสันตภิ าพและสถาบนั ใหค้ วามส�ำคัญ กบั การอยูร่ ว่ มกันอยา่ งสันติ มีสังคมทส่ี งบสขุ และไม่แบง่ แยก ครอบคลมุ เปา้ หมายที่ 16 5 ความเปน็ หนุ้ สว่ นการพฒั นา (Partnership) ตรงกบั มติ หิ นุ้ สว่ นการพฒั นา ใหค้ วามสำ� คญั กบั การร่วมมอื กันของทุกภาคสว่ นในการขับเคลอื่ นวาระการพฒั นาทย่ี ัง่ ยนื ครอบคลุมเป้าหมายท่ี 17 ท้ังนี้ เป้าหมายการพัฒนาท่ียั่งยืนได้ก�ำหนดให้ใช้ตัวชี้วัดของกรอบการด�ำเนินงานเซนไดเพ่ือ การลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ิ พ.ศ. 2558-2573 สำ� หรบั การดำ� เนนิ การในมติ ดิ า้ นภยั พบิ ตั ใิ หเ้ ปน็ ไปตาม เป้าหมายย่อยท่ี 1.5 ภายในปี พ.ศ. 2573 สร้างภูมิต้านทานให้กับผู้ที่ยากจนและอยู่ในสถานการณ์ เปราะบาง รวมทั้งลดความเสี่ยงและความล่อแหลมต่อภาวะสภาพอากาศผันผวนรุนแรง การเปลยี่ นแปลงอยา่ งรนุ แรงทางเศรษฐกจิ สงั คมและสงิ่ แวดลอ้ ม และภยั พบิ ตั ิ ซง่ึ อยภู่ ายใตเ้ ปา้ หมายท่ี 1 (No Poverty) เป้าหมายย่อยที่ 11.5 ลดจ�ำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับผลกระทบตลอดจน ลดความสูญเสยี โดยตรงทางเศรษฐกิจเทยี บเคียงกบั GDP ของโลกที่เกิดจากภยั พบิ ัติ ซ่งึ รวมถึงภัยพิบัติ ท่ีเก่ียวกับน�้ำ โดยมุ่งเป้าปกป้องคนจนและคนที่อยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบาง ภายในปี พ.ศ. 2573 และเปา้ หมายยอ่ ยที่ 11.b ภายในปี พ.ศ. 2563 เพม่ิ จำ� นวนเมอื งและกระบวนการตงั้ ถน่ิ ฐานของมนษุ ย์ ที่เลือกใช้และด�ำเนินการตามนโยบายและแผนที่บูรณาการ เพื่อน�ำไปสู่ความครอบคลุมประสิทธิภาพ ในการใช้ทรัพยากร การลดผลกระทบและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีภูมิต้านทาน ต่อภัยพิบัติ และให้พัฒนาและด�ำเนินการตามการบริหารความเส่ียงจากภัยพิบัติแบบองค์รวม ในทุกระดับ โดยเป็นไปตามกรอบเซนได ซ่ึงอยู่ภายใต้เป้าหมายท่ี 11 (Sustainable Cities and Communities) และเป้าหมายย่อยท่ี 13.1 เสริมภูมิต้านทานและขีดความสามารถ ในการปรับตัวต่ออันตรายและภัยพิบัติทางธรรมชาติท่ีเก่ียวข้องกับภูมิอากาศในทุกประเทศ ซ่ึงอยู่ ภายใตเ้ ป้าหมายที่ 13 (Climate Action) กรอบการด�ำเนนิ งานเซนไดเพอ่ื การลดความเสยี่ งจากภัยพบิ ตั ิ: Sendai Framework for Disaster Risk Reduction (SFDRR) กรอบการดำ� เนนิ งานเซนไดเพอื่ การลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ิ พ.ศ. 2558-2573 หรอื กรอบเซนได เป็นกรอบการด�ำเนินงานระดับโลกที่ได้รับการรับรองเป็นกรอบแรกภายใต้วาระการพัฒนาภายหลัง ปี ค.ศ. 2015 โดยได้ก�ำหนดแนวปฏิบัติท่ีเป็นรูปธรรมให้กับประเทศสมาชิกในการด�ำเนินการ เพื่อลดความเสี่ยงจากภยั พิบตั ิ เป็นระยะเวลา 15 ปี (ค.ศ. 2015-2030/ พ.ศ. 2558-2573) 5ความร่วมมือระหวา่ งประเทศดา้ นการจดั การภยั พิบตั ิ ทีร่ ะลกึ เน่ืองในวนั จดั การภัยพบิ ตั ขิ องอาเซียนและวนั ลดความเสีย่ งจากภยั พบิ ัติสากล

กรอบเซนไดสามารถน�ำมาประยุกต์ใช้กับการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เกิดข้ึนบ่อยและไม่บ่อย เกิดข้ึนฉับพลันหรือเกิดข้ึน อย่างชา้ ๆ เกดิ ขน้ึ จากภัยธรรมชาตหิ รอื ภยั จากมนุษย์ รวมถึงภัยทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับสิ่งแวดลอ้ ม เทคโนโลยี และชีววิทยา โดยได้ให้แนวทางการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติแบบหลากหลายภัยในกระบวนการ พัฒนาที่เช่ือมโยงทุกภาคส่วนและทุกระดับ ตลอดจนท�ำงานเช่ือมโยงกับกรอบการด�ำเนินงาน ระดับโลกอน่ื ๆ ไดแ้ ก่ เป้าหมายการพัฒนาที่ยงั่ ยนื (Sustainable Development Goals : SDGs) และความตกลงปารสี (Paris Agreement) ภายใตก้ รอบอนสุ ญั ญาสหประชาชาตวิ า่ ดว้ ยการเปลย่ี นแปลง สภาพภมู ิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change : UNFCCC) รวมถึงกรอบท่ีเก่ียวข้อง เช่น วาระใหม่แห่งการพัฒนาเมือง (New Urban Agenda : NUA) และ วาระปฏบิ ัติการแอดดิส อาบาบา วา่ ดว้ ยการระดมทนุ เพ่ือการพัฒนา (Addis Ababa Action Agenda on Financing for Development) เปน็ ตน้ โดยเป้าหมายการพัฒนาท่ียั่งยืน (SDGs) เปน็ กรอบใหญ่ ที่รองรบั หลกั การและเชื่อมโยงตวั ชวี้ ัดเป้าหมายสากลของกรอบตา่ ง ๆ ข้างตน้ ผลลัพธท์ ีต่ ้องการ (Expected Outcome) : การลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั แิ ละลดการสญู เสยี ชวี ติ วถิ ชี วี ติ และสขุ ภาพ ตลอดจนความสญู เสยี ตอ่ สินทรัพย์ทางเศรษฐกจิ กายภาพ สังคม และสภาพแวดลอ้ ม ของบุคคล ธุรกจิ ชุมชน และประเทศ อยา่ งเป็นรปู ธรรม เปา้ หมาย (Goal) : การป้องกันความเสี่ยงใหม่ ลดความเส่ียงท่ีมีอยู่เดิมด้วยมาตรการทางเศรษฐกิจ โครงสร้าง กฎหมาย สขุ ภาพ วฒั นธรรม การศกึ ษา สภาพแวดลอ้ ม เทคโนโลยี การเมอื ง รวมถงึ มาตรการเชงิ สถาบนั ที่มีการบูรณาการและลดความเหล่ือมล้�ำ เพื่อป้องกันและท�ำให้ความล่อแหลมและความเปราะบาง ตอ่ ภยั พบิ ตั ลิ ดนอ้ ยลง ตลอดจนชว่ ยใหม้ กี ารเตรยี มความพรอ้ มสำ� หรบั การเผชญิ เหตแุ ละฟน้ื ฟทู ด่ี ยี ง่ิ ขนึ้ อันนำ� ไปสู่ความสามารถทจ่ี ะรบั มอื และฟื้นคืนกลับไดใ้ นระยะเวลาทรี่ วดเรว็ และมปี ระสิทธภิ าพ ตัวช้วี ัดระดับโลก (Target) : การดำ� เนนิ งานของประเทศสมาชกิ และภาคเี ครอื ขา่ ยจะนำ� มาพจิ ารณาถงึ ความสำ� เรจ็ ในภาพรวม การด�ำเนนิ งานของโลก ซง่ึ ประกอบดว้ ย 7 เป้าประสงค์ 38 ตวั ชีว้ ัด 6 ความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศด้านการจัดการภยั พิบัติ ที่ระลึกเน่ืองในวนั จัดการภยั พบิ ตั ิของอาเซียนและวันลดความเส่ียงจากภยั พิบตั ิสากล

กรอบการดาเนนิ งานเซนไดเพ่อื การลดความเส่ียงจากภัยพิบัติ 2558 – 2573 (Sendai Framework for Disaster Risk Reduction 2015 – 2030) ผล ัลพธ์ ลดความเส่ยี งจากภัยพบิ ตั ิ และลดการสญู เสีย ชีวิต วถิ ชี วี ิต สุขภาพ สินทรพั ย์ เป้าหมายระดบั โลก ลด 4 อย่าง ทางเศรษฐกจิ กายภาพ สังคม และสภาพแวดลอ้ มของบคุ คล ธรุ กจิ ชมุ ชน และ เพมิ่ 3 อย่าง ประเทศ อตั ราการเสียชีวติ ป้องกันความเสี่ยงใหม่ และ ลดความเสีย่ งท่มี อี ยเู่ ดิม เป้าหมาย จานวนผู้ไดร้ บั แผนยุทธศาสตร์ ลดความ ด้วยมาตรการทางเศรษฐกิจ โครงสร้าง กฎหมาย สขุ ภาพ วัฒนธรรม การศึกษา สภาพแวดลอ้ ม ผลกระทบ เส่ยี งระดับชาติ และระดบั เทคโนโลยี การเมือง ที่บูรณาการกนั ท้องถ่ิน เพ่ือลดความลอ่ แหลม เปราะบาง และเพม่ิ ศกั ยภาพการเตรียมความพร้อมในการเผชิญเหตุ และการฟ้นื ฟู พันธ ิกจ ใหก้ ลับคนื มาได้อยา่ งรวดเรว็ และดีขนึ้ กวา่ เดมิ ความสูญเสยี ดา้ น การให้ความช่วยเหลือ เศรษฐกิจ ระหวา่ งประเทศ 1. เขา้ ใจความเสี่ยงจากภัยพบิ ตั ิ 2. เสริมสรา้ งศกั ยภาพในการบรหิ ารและจัดการความเสี่ยงจากภัยพบิ ตั ิ ความเสยี หายตอ่ การเขา้ ถงึ ข้อมลู การแจ้ง 3. ลงทนุ ในด้านการลดความเส่ียงจากภัยพบิ ัตเิ พื่อให้พรอ้ มรับมือและ สาธารณูปโภค เตือนภัยล่วงหนา้ และ สาธารณูปการ และบรกิ าร ฟื้นคนื กลับไดใ้ นระยะเวลาท่ีรวดเรว็ และมีประสิทธิภาพ ข้อมลู ความเส่ียง 4. พฒั นาศักยภาพการเตรยี มความพรอ้ มเผชิญเหตภุ ัยพิบตั ทิ ีม่ ี พน้ื ฐาน ประสิทธภิ าพ ตลอดจนการฟ้ืนสภาพและซอ่ มสรา้ งท่ดี กี วา่ เดิมในช่วง ของการบรู ณะฟนื้ ฟูภายหลังเกิดภยั พิบัติ รูปที่ 3 กรอบการด�ำเนินงานเซนไดเพอ่ื การลดความเส่ียงจากภยั พบิ ัติ 2558-2573 กรอบเซนไดไดก้ ำ� หนดแนวทางการปฏบิ ตั งิ านทชี่ ดั เจนสำ� หรบั ใหแ้ ตล่ ะภาคสว่ นในประเทศตา่ ง ๆ ท้ังในระดับท้องถ่ิน ระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับโลก ด�ำเนินการภายในและระหว่างภาคส่วน เพือ่ ใหบ้ รรลุผลลัพธ์และเปา้ หมายท่กี ำ� หนดไวข้ ้างต้น ประกอบดว้ ย พนั ธกจิ (Priorities for Action) ที่ต้องด�ำเนินงานตามล�ำดบั 4 ประการ ดังน้ี 1 เข้าใจความเส่ยี งจากภัยพบิ ตั ิ หมายถงึ นโยบายและมาตรการในการบรหิ ารจดั การความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั จิ ะตอ้ งจดั ทำ� ขนึ้ จากฐานความเขา้ ใจเรอ่ื งความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั ใิ นทกุ มติ ขิ องความเสยี่ ง ประกอบดว้ ย ความเปราะบาง ศักยภาพ ความล่อแหลมของบุคคลและสินทรัพย์ ลักษณะของภัย และสภาพแวดล้อม ทั้งนี้ความรู้ ต่อความเสี่ยงภัยพิบัติดังกล่าวจะมีผลอย่างมากในการท�ำการประเมินความเส่ียงจากภัยพิบัติก่อนเกิด ภัยพิบัติ การป้องกันและลดผลกระทบจากภัยพิบัติ และในการพัฒนาและด�ำเนินมาตรการเตรียม ความพรอ้ มและเผชิญเหตุภัยพบิ ัติใหเ้ หมาะสมและมปี ระสทิ ธิภาพ 2 เสริมสร้างศกั ยภาพในการบรหิ ารและจัดการความเสีย่ งจากภัยพบิ ตั ิ หมายถึง ศักยภาพในการบริหารและจัดการความเส่ียงจากภัยพิบัติในระดับชาติ ภูมิภาค และโลก มคี วามสำ� คญั อยา่ งย่งิ ต่อการจัดการความเสี่ยงจากภยั พบิ ตั ิให้มปี ระสทิ ธภิ าพและประสิทธผิ ล ดังนน้ั จงึ จ�ำเปน็ ทจี่ ะต้องมีการก�ำหนดวสิ ัยทัศน์ แผนงาน สมรรถนะทตี่ อ้ งการ แนวทางการปฏิบัติงาน 7ความร่วมมอื ระหว่างประเทศดา้ นการจดั การภยั พิบตั ิ ทรี่ ะลกึ เน่ืองในวนั จัดการภัยพบิ ตั ขิ องอาเซยี นและวนั ลดความเสย่ี งจากภัยพิบตั ิสากล

และการประสานงานท้ังภายในและระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ให้ชัดเจน ตลอดจนต้องส่งเสริมให้กลุ่ม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมด้วย การเสริมสร้างศักยภาพในการบริหารและจัดการ ความเสย่ี งจากภัยพิบตั เิ พื่อด�ำเนนิ มาตรการปอ้ งกนั ลดผลกระทบ เตรียมความพร้อม เผชญิ เหตุ ฟ้นื ฟู และบรู ณะจงึ มคี วามจำ� เปน็ และสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ ความรว่ มมอื และหนุ้ สว่ นระหวา่ งกลไกและองคก์ รตา่ ง ๆ ในอนั ทจ่ี ะขบั เคลอ่ื นเครอ่ื งมอื ตา่ ง ๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั แิ ละการพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื 3 ลงทุนในด้านการลดความเส่ียงจากภัยพิบัติเพื่อให้พร้อมรับมือและฟื้นคืนกลับ ไดใ้ นระยะเวลาที่รวดเร็วและมปี ระสิทธภิ าพ หมายถึง การลงทุนของรัฐและเอกชนการป้องกันและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ โดยมาตรการเชงิ โครงสรา้ ง และไมใ่ ชเ้ ชงิ โครงสรา้ งมคี วามสำ� คญั อยา่ งยงิ่ ตอ่ การพฒั นาเศรษฐกจิ สงั คม สขุ ภาพ และวัฒนธรรมของบุคคล ชมุ ชน ประเทศ และสินทรพั ย์ รวมทัง้ สภาพแวดลอ้ มใหพ้ ร้อมรับมอื และฟน้ื คนื กลบั ไดโ้ ดยเรว็ เมอ่ื เกดิ ภยั พบิ ตั ิ ทง้ั นี้ การลงทนุ ดงั กลา่ วยงั เปน็ แรงขบั เคลอ่ื นใหเ้ กดิ การพฒั นา นวตั กรรม การเจรญิ เตบิ โต และการสรา้ งงานได้ ซงึ่ มาตรการดงั กลา่ วนบั ไดว้ า่ มคี วามคมุ้ คา่ ตอ่ การลงทนุ และส่งผลให้การรกั ษาชวี ิต ปอ้ งกัน และลดความสญู เสียเกดิ ผลเป็นรูปธรรม อกี ท้งั ยังชว่ ยให้การบูรณะ ฟน้ื ฟูภายหลังเกิดภัยพบิ ตั ิมปี ระสทิ ธิภาพยิง่ ขึ้นด้วย 4 พัฒนาศักยภาพในการเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุภัยพิบัติท่ีมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการฟื้นสภาพและซ่อมสร้างท่ีดีกว่าเดิมในช่วงของการบูรณะฟื้นฟูภายหลังเหตุ ภัยพิบตั ิ หมายถึง ความเส่ียงจากภัยพิบัติที่เพิ่มข้ึนอย่างต่อเน่ือง ซึ่งรวมถึงการท่ีประชาชน และสินทรัพย์มีความล่อแหลมที่จะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับบทเรียนจาก ภยั พบิ ตั ทิ เ่ี กดิ ขนึ้ ในอดตี เปน็ ตวั บง่ ชถี้ งึ ความจำ� เปน็ ทจ่ี ะตอ้ งพฒั นาความพรอ้ มในการเผชญิ เหตภุ ยั พบิ ตั ิ รับมือต่อสถานการณ์ภัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ผนวกมาตรการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในการเตรียม ความพรอ้ มรบั มอื ภยั พบิ ตั ิ ซง่ึ การดำ� เนนิ การดงั กลา่ วจะชว่ ยพฒั นาศกั ยภาพใหพ้ รอ้ มสำ� หรบั การเผชญิ เหตุ และการฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพ ส่ิงส�ำคัญอีกประการ คือ การพัฒนาภาวะผู้น�ำในกลุ่มสตรีและผู้พิการ ให้มีส่วนร่วมในการผลักดันและส่งเสริมความเสมอภาคหญิงชาย และมาตรการในการเผชิญเหตุ บรู ณะฟน้ื ฟทู ที่ กุ คนสามารถเขา้ ถงึ ได้ นอกจากนภี้ ยั พบิ ตั ทิ เ่ี กดิ ขนึ้ ไดแ้ สดงใหเ้ หน็ วา่ ในชว่ งของการฟน้ื ฟู บูรณะท่ีมีการวางแผนล่วงหน้ามาแล้วนั้นถือเป็นโอกาสส�ำคัญท่ีจะท�ำการฟื้นสภาพและซ่อมสร้าง ใหด้ กี วา่ เดมิ ดว้ ยการบรู ณาการมาตรการลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั ไิ วใ้ นมาตรการการพฒั นา เพอ่ื ทำ� ให้ ประเทศและชุมชนมีความสามารถในการรบั มอื และฟืน้ คนื กลับได้โดยเร็วไดท้ กุ ครง้ั ทเี่ กิดภยั พิบตั ิ 8 ความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศดา้ นการจดั การภัยพิบตั ิ ทีร่ ะลึกเน่ืองในวนั จัดการภยั พบิ ัติของอาเซยี นและวันลดความเสีย่ งจากภัยพบิ ัตสิ ากล

หลักการกรุงเทพฯ ว่าด้วยการอนุวัตปิ ระเดน็ สาธารณสุข ภายใต้กรอบการด�ำเนนิ งานเซนไดเพื่อการลดความเสี่ยง จากภัยพิบตั ิ พ.ศ. 2558-2573 (Bangkok Principles) ในปี พ.ศ. 2559 ประเทศไทยโดยกระทรวงสาธารณสขุ กระทรวงการตา่ งประเทศ และกรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย ได้ร่วมกับส�ำนักงานเพ่ือการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office for Disaster Risk Reduction : UNDRR) และองค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) จัดการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการอนุวัติประเด็น สาธารณสุขภายใต้กรอบการด�ำเนินงานเซนไดเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ พ.ศ. 2558-2573 โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือส่งเสริมการบูรณาการระบบสาธารณสุขเข้าสู่นโยบายและยุทธศาสตร์ การลดความเสี่ยงจากสาธารณภัยในระดับชาติ ผลลัพธ์จากการประชุมดังกล่าวท�ำให้ได้เอกสาร หลักการกรุงเทพฯ (Bangkok Principles) ซึ่งได้ก�ำหนดแนวทางการด�ำเนินงานในการลดความเสี่ยง จากภยั พบิ ตั ดิ า้ นสาธารณสุขในทุกระดบั ท่ีสอดคล้องกับพันธกจิ ของกรอบเซนได 7 ประการ ได้แก่ 1 สง่ เสรมิ การบรู ณาการดา้ นสาธารณสขุ ในแผนงานและนโยบายการลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ิ ท้ังในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น รวมท้ังการรวมแผนงานการจัดการความเส่ียงจาก ภยั พบิ ตั แิ ละภาวะฉกุ เฉนิ ไวใ้ นยทุ ธศาสตรด์ า้ นสาธารณสขุ ทงั้ ในระดบั ประเทศและระดบั ทอ้ งถน่ิ 2 ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านสาธารณสุขและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เก่ียวข้อง เพ่ือเสริมสร้างศักยภาพของประเทศในการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติด้านสาธารณสุข การดำ� เนนิ งานตามกฎอนามยั ระหวา่ งประเทศ ค.ศ. 2005 และการสรา้ งระบบบรกิ ารสขุ ภาพ ท่สี ามารถตอบสนองต่อภยั คุกคามดา้ นสขุ ภาพในทุกรูปแบบ 3 กระตุ้นให้เกิดการลงทุนของภาครัฐและเอกชนท่ีมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ในด้าน การลดความเส่ียงจากภัยพิบัติและภาวะฉุกเฉิน รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานและสถานบริการ สาธารณสขุ 4 บรู ณาการประเดน็ การลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ิ ในการศกึ ษาและฝกึ อบรมดา้ นสาธารณสขุ และเสริมสร้างความเข้มแข็งของบุคลากรสาธารณสุขในการด�ำเนินงานลดความเสี่ยงจาก ภัยพบิ ตั ิ 5 รวบรวมข้อมูลอัตราการป่วย การตาย และทุพพลภาพจากภัยพิบัติ ในระบบการเตือนภัย ล่วงหน้าส�ำหรับทุกประเภทภัย ตัวชี้วัดส�ำคัญด้านสาธารณสุข และการประเมินความเส่ียง ระดบั ประเทศ 9ความรว่ มมือระหว่างประเทศดา้ นการจดั การภยั พิบตั ิ ทร่ี ะลึกเนอื่ งในวันจดั การภัยพิบตั ิของอาเซยี นและวนั ลดความเส่ยี งจากภัยพิบัตสิ ากล

6 สนับสนุนการประสานความร่วมมือข้ามพรมแดนและข้ามสาขา ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ดา้ นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยที เี่ กย่ี วกับทุกประเภทภยั รวมถึงภยั ดา้ นชวี ภาพ 7 สง่ เสรมิ การเชอ่ื มโยงและการพฒั นานโยบายระดบั ประเทศและระดบั ทอ้ งถน่ิ และยทุ ธศาสตร์ กรอบกฎหมาย ระเบยี บ และการจดั การดา้ นสถาบัน ประเทศไทยได้มีการผลักดันหลักการกรุงเทพฯ โดยสร้างการรับรู้ในเวทีการประชุมระหว่าง ประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเน่ือง เช่น การประชุมระดับรัฐมนตรีแห่งเอเชียว่าด้วยการลดความเสี่ยงจาก ภยั พบิ ตั ิ (Asian Ministerial Conference on Disaster Risk Reduction : AMCDRR) เมอื่ ปี พ.ศ. 2559 ณ กรงุ นวิ เดลี สาธารณรฐั อนิ เดยี และการประชมุ ระดบั โลกวา่ ดว้ ยการลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ิ (Global Platform for Disaster Risk Reduction) คร้ังท่ี 5 เมื่อปี พ.ศ. 2560 ณ เมืองแคนคูน สหรัฐเมก็ ซโิ ก เปน็ ต้น และเมอื่ ปี พ.ศ. 2563 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รว่ มกับกองสาธารณสุขฉุกเฉนิ สำ� นกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ และองคก์ ารสหประชาชาติ ไดแ้ ก่ สำ� นกั งาน UNDRR ประจำ� ภมู ภิ าค เอเชีย - แปซิฟกิ โครงการพฒั นาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme : UNDP) และ WHO ประจ�ำประเทศไทย จดั กิจกรรมขับเคลือ่ นหลักการกรุงเทพฯ ผา่ นระบบออนไลน์ Webinar เปน็ คร้งั แรก โดยดำ� เนนิ การเป็นภาษาไทย ซ่ึงมีจ�ำนวนผเู้ ข้ารว่ มมากกวา่ 240 คน กรอบอนุสญั ญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปล่ยี นแปลง สภาพภมู ิอากาศ: United Nations Framework Convention on Climate Change (UNFCCC) กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นเวทีความร่วมมือ ระหว่างประเทศในการจัดการการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซ่ึงมีวัตถุประสงค์สูงสุด “เพื่อรักษา ระดับความเข้มข้นของปริมาณก๊าซเรือนกระจกในช้ันบรรยากาศให้อยู่ในระดับที่มนุษย์ไม่ก่อให้เกิด การรบกวนต่อระบบภูมิอากาศโลก ระบบนิเวศสามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้อย่างเหมาะสม รวมท้ังการพัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างย่ังยืน” นอกจากน้ี UNFCCC ได้มีการประชุม สมัชชารัฐภาคีกรอบอนุสัญญาฯ (Conference Of the Parties: COP) เป็นประจ�ำทุกปีต้ังแต่ปี พ.ศ. 2537 จนถงึ ปจั จบุ นั อยา่ งไรกต็ าม การดำ� เนนิ งานดา้ นการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศตามขอ้ กำ� หนด ของ UNFCCC ท่ีผ่านมานั้นไม่เพียงพอท่ีจะแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศท่ีเกิดข้ึนได้ 10 ความร่วมมอื ระหว่างประเทศด้านการจัดการภัยพบิ ตั ิ ที่ระลึกเนอ่ื งในวนั จัดการภยั พบิ ตั ขิ องอาเซยี นและวนั ลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั ิสากล

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2558 ท่ีประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศคร้ังท่ี 21 (COP 21) จึงได้มีการรับรอง “ความตกลงปารีส” (Paris Agreement) ซง่ึ ใหค้ วามสำ� คญั ตอ่ การปรบั ตวั ตอ่ ผลกระทบจากการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ โดยจดั เปน็ กฎหมาย ระหว่างประเทศท่ีมีผลใช้บังคับกับประเทศภาคี ซ่ึงทุกประเทศได้ร่วมก�ำหนดเป้าหมายระดับโลก ร่วมกัน เพื่อลดความรุนแรงอันเกิดจากภัยพิบัติ และลดความเปราะบางของประชากรต่อความเสี่ยง จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู อิ ากาศและภัยพิบตั ิ สาระสำ� คญั ของความตกลงปารีส มี 3 ประการ ได้แก่ 1 ควบคมุ การเพมิ่ ขนึ้ ของอณุ หภมู เิ ฉลย่ี ของโลกใหต้ ำ่� กวา่ 2 องศาเซลเซยี ส เมอื่ เทยี บกบั ยุคก่อน โดยให้นานาประเทศทุ่มเทและพยายามให้ควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส 2 เพมิ่ ขดี ความสามารถในการปรบั ตวั ตอ่ ผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ และส่งเสริมความสามารถในการฟื้นตัวจากการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Resilience) รวมท้ังความพยายามให้ประเทศต่าง ๆ ค�ำนึงถึงความส�ำคัญต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต�่ำ โดยไม่กระทบตอ่ การผลติ อาหาร 3 การสรา้ งระบบเงนิ ทนุ หมนุ เวยี นเออ้ื ประโยชนต์ อ่ การพฒั นาทปี่ ลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจก นอกจากน้ี รายละเอยี ดของความตกลงปารสี ครอบคลมุ การขบั เคลอื่ นการดำ� เนนิ งานในมติ ิ การลดก๊าซเรือนกระจก การปรับตัวต่อผลกระทบทางลบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมอิ ากาศ การสนบั สนนุ ทางการเงนิ การพฒั นาและถา่ ยทอดเทคโนโลยี การเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพของประเทศ ก�ำลังพัฒนา การรายงานข้อมูลการด�ำเนินงานอย่างโปร่งใส และการทบทวนสถานการณ์และ การดำ� เนินงานระดับโลก (Stocktaking) ความส�ำคญั ของความตกลงปารีสต่อประเทศไทย ประกอบด้วยหลายมติ ิ ได้แก่ 1 ความจ�ำเปน็ ในการก�ำหนดเปา้ หมายระดบั โลก รายงานจาก Global Climate Risk Index ประจ�ำปี พ.ศ. 2564 จัดให้ประเทศไทย มีมูลค่าความสูญเสียจากภัยพิบัติที่เก่ียวข้องกับสภาพอากาศในช่วงปี 2542-2560 สูงเป็นอันดับท่ี 8 จาก 181 ประเทศท่ัวโลก เนอ่ื งจากสภาพภูมิประเทศของไทยส่วนใหญ่เปน็ พน้ื ท่ีราบลุม่ ประกอบกบั พื้นท่ีชายฝั่งทะเลยาวถึง 3,100 กิโลเมตร จึงมีโอกาสสูงท่ีจะได้รับผลกระทบทั้งจากภัยพิบัติ และความรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้แก่ น้�ำท่วม ภัยแล้ง และการรุกล�้ำ 11ความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศด้านการจัดการภัยพบิ ตั ิ ท่ีระลึกเนื่องในวันจัดการภัยพบิ ตั ิของอาเซียนและวันลดความเสีย่ งจากภัยพิบตั สิ ากล

ของน้�ำทะเล นอกจากนี้ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศประกอบอาชีพทางเกษตรกรรม จึงต้องพ่ึงพา ทรัพยากรธรรมชาติเป็นหลัก ประเทศไทยจึงเผชิญต่อความท้าทายในการต้องการใช้งานน้�ำเพิ่มข้ึน จากการขยายตัวของพ้ืนท่ีเขตเมือง การขยายก�ำลังการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมและการสร้าง เขตเศรษฐกิจพิเศษตามนโยบายของรฐั รวมท้ังประชาชนและภาคอุตสาหกรรมไม่ค�ำนงึ ถงึ ความส�ำคัญ ของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเท่าที่ควร ดังนั้นการที่ประเทศไทยให้ความส�ำคัญต่อการก�ำหนด เป้าหมายการรักษาระดับการเพิ่มข้ึนของอุณหภูมิโลก จะส่งผลดีในระยะยาวเพื่อลดผลกระทบจาก ความรนุ แรงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู อิ ากาศ 2 การกำ� หนดค่าเป้าหมายในการลดกา๊ ซเรอื นกระจกของประเทศ ประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 197 ประเทศที่ให้สัตยาบันร่วมเป็นภาคีความตกลงปารีส ที่มเี ป้าหมายระยะยาวเพื่อควบคุมการเพ่มิ ข้นึ ของอุณหภูมโิ ลกโดยเฉลยี่ ไม่ใหเ้ กินกวา่ 2 องศาเซลเซียส เมอ่ื เทยี บกบั ระดบั กอ่ นการปฏวิ ตั อิ ตุ สาหกรรม และมงุ่ พยายามจำ� กดั การเพมิ่ ขนึ้ ของอณุ หภมู ิ ไมใ่ หเ้ กนิ 1.5 องศาเซลเซยี ส แมป้ ระเทศไทยจะไมใ่ ชผ่ ปู้ ลอ่ ยกา๊ ซรายใหญข่ องโลก โดยมอี ตั ราการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจก อยู่ในระดับกลาง กล่าวคืออยู่ล�ำดับท่ี 21 ของโลกโดยคิดเป็นร้อยละ 0.84 ของปริมาณการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกท้ังหมดของโลก แต่นโยบายเน้นหนักการพัฒนาประเทศท�ำให้หลายภาคส่วน เช่น ภาคพลังงาน การคมนาคมขนส่งอุตสาหกรรม อาคารพาณิชย์และครัวเรือนมีแนวโน้มจะเพ่ิม การปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากยิง่ ขึน้ ดังน้ัน รัฐบาลจงึ รณรงค์ให้ผลกั ดนั ใหท้ ุกภาคสว่ นตระหนกั คณุ คา่ ของการประหยดั พลงั งาน การใชพ้ ลงั งานหมนุ เวยี น การอนรุ กั ษพ์ ลงั งาน นอกจากนยี้ งั ใหค้ วามสำ� คญั ต่อโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจแบบใหม่ (BCG Model) เพ่ือน�ำพาประเทศไปสู่ Thailand 4.0 ประกอบด้วย 1) Bio Economy เศรษฐกิจชีวภาพเป็นการน�ำเทคโนโลยีท่ีทันสมัยมาใช้เพื่อเพิ่ม มูลค่าสินค้า มุ่งการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรสู่ผลิตภัณฑ์ท่ีเพิ่มมูลค่ามากขึ้น 2) Circular Economy เศรษฐกิจหมุนเวียน โดยการน�ำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและคุ้มค่ามากที่สุด มงุ่ การลดปรมิ าณของเสยี หรอื ขยะใหน้ อ้ ยทส่ี ดุ หรอื เทา่ กบั ศนู ย์ (Zero Waste) และ 3) Green Economy เศรษฐกจิ สเี ขียวเน้นการลดผลกระทบตอ่ โลกอย่างยง่ั ยืน โดยเฉพาะการพฒั นาสง่ิ แวดล้อม 3 ความตกลงปารสี ครอบคลมุ ประเด็นท่ีประเทศก�ำลังพฒั นาใหค้ วามสำ� คัญ เป็นช่องทางผลักดันให้เกิดแนวคิดนวัตกรรมเทคโนโลยีในภาคส่วนต่าง ๆ และขยาย ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการด�ำเนินงาน รวมทั้งแสวงหา ผู้สนบั สนนุ เงนิ ทุนในการพัฒนาและถา่ ยทอดเทคโนโลยี 12 ความร่วมมือระหว่างประเทศดา้ นการจัดการภัยพบิ ตั ิ ท่รี ะลึกเนื่องในวนั จัดการภัยพิบัติของอาเซียนและวนั ลดความเส่ียงจากภยั พิบัติสากล

การประชมุ สดุ ยอดว่าด้วยการด�ำเนนิ งานดา้ นมนษุ ยธรรม: World Humanitarian Summit (WHS) การประชุมสุดยอดว่าด้วยการด�ำเนินงานด้านมนุษยธรรม เป็นข้อริเร่ิมของนายบัน คี มูน อดตี เลขาธกิ ารสหประชาชาติ เพอื่ ผลกั ดนั วาระแหง่ มวลมนษุ ยชาติ (Agenda for Humanity) เนอ่ื งจาก ความท้าทายจากสถานการณ์ฉุกเฉินท่ีซับซ้อนและเพิ่มมากขึ้น ซ่ึงขีดความสามารถและทรัพยากร ในปัจจุบันยังไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการด้านมนุษยธรรม โดยเรียกร้องให้ผู้น�ำประเทศ ต่าง ๆ ทัว่ โลก รว่ มกนั ทบทวนการด�ำเนนิ งานดา้ นมนุษยธรรมให้มปี ระสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลยิ่งขึน้ เพื่อให้สามารถส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ท่ีตกอยู่ในภาวะวิกฤติได้ดียิ่งข้ึน รวมถึง การป้องกันผลกระทบเชิงลบท่ีอาจเกิดขึ้นจากการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการให้ ความเคารพต่อความเปน็ มนุษย์ การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นครั้งแรก โดยส�ำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรม แห่งสหประชาชาติ (United Nations Office for the Coordination of Humanitarian Affairs : UNOCHA) เมื่อวันท่ี 23-24 พฤษภาคม 2559 ณ กรุงอิสตันบูล สาธารณรัฐตุรกี ซึ่งมีผู้เข้าร่วม ประมาณ 9,000 คน จาก 180 ประเทศ ซ่ึงรวมถึงองค์การระหว่างประเทศ องค์กรพัฒนาเอกชน ภาคเอกชน ภาคประชาสงั คม ภาคการศกึ ษา และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่าง ๆ วาระแห่งมวลมนุษยชาติ (Agenda of Humanity) ประกอบด้วย ความรับผิดชอบหลัก 5 ประการ เพอื่ การพัฒนาการด�ำเนินงานดา้ นมนุษยธรรม ประกอบดว้ ย 1 การป้องกันและยุตคิ วามขัดแยง้ 2 การเคารพตอ่ บรรทดั ฐานซ่งึ คุ้มครองความเป็นมนษุ ย์ 3 การไมท่ ิง้ ใครไว้ข้างหลัง 4 การเปลยี่ นแปลงชีวิตของประชาชนจากการส่งความช่วยเหลือไปสูก่ ารจบความตอ้ งการ 5 การลงทุนด้านความเป็นมนุษย์ ประเทศไทยใหค้ วามสำ� คญั กบั การขบั เคลอ่ื นความรว่ มมอื ในการจดั การภยั พบิ ตั ริ ะหวา่ งประเทศ ที่ครอบคลุมทุกมิติ โดยเฉพาะการด�ำเนินการด้านมนุษยธรรมซึ่งสะท้อนให้เห็นในแผนการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติท่ีมุ่งเน้นการพัฒนาแนวทางปฏิบัติในการให้-รับความช่วยเหลือ ดา้ นมนษุ ยธรรม รวมไปถงึ การพฒั นาบคุ ลากรใหม้ ศี กั ยภาพในการปฏบิ ตั กิ ารชว่ ยเหลอื ดา้ นมนษุ ยธรรม ตามมาตรฐานสากล เช่น การพฒั นาชุดค้นหาและกภู้ ยั ในเขตเมอื งแห่งชาติ (National Urban Search and Rescue Team : USAR Team) ตามมาตรฐานของคณะท่ีปรึกษาด้านการค้นหาและกู้ภัย ในเขตเมืองสากล (International Search and Rescue Advisory Group : INSARAG) 13ความรว่ มมอื ระหว่างประเทศด้านการจดั การภยั พิบตั ิ ทร่ี ะลึกเน่อื งในวนั จัดการภยั พบิ ัติของอาเซียนและวันลดความเสยี่ งจากภัยพิบตั ิสากล

มาตรฐานของคณะทปี่ รึกษาดา้ นการค้นหาและกู้ภัย ในเขตเมอื งสากล: International Search and Rescue Advisory Group : INSARAG ในปี พ.ศ. 2534 ผู้แทนจาก 15 ประเทศ ได้รว่ มกนั กอ่ ตง้ั คณะทป่ี รึกษาดา้ นการคน้ หาและกู้ภัย ในเขตเมืองสากล (International Search and Rescue Advisory Group : INSARAG) ซึ่งเป็น คณะที่ปรึกษาที่ท�ำหน้าที่ก�ำหนดมาตรฐานข้ันต่�ำส�ำหรับการท�ำงานให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในด้านการค้นหาและกู้ภัยในต่างประเทศของชุดค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search And Rescue Team) หรอื ทมี USAR โดยจดั ทำ� เปน็ คมู่ อื ทก่ี ำ� หนดแนวทางปฏบิ ตั งิ านตามมาตรฐาน INSARAG ซ่ึงมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นระบบและมาตรฐานเดียวกัน โดยไม่เป็นภาระแก่ประเทศ ทป่ี ระสบภยั พบิ ตั ิ ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2545 มตทิ ปี่ ระชมุ สมชั ชาใหญแ่ หง่ สหประชาชาติ 57/150 วา่ ดว้ ยเรอ่ื ง “การเสริมสร้างประสิทธิภาพและการประสานความช่วยเหลือด้านการค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง ระหวา่ งประเทศ” ได้กำ� หนดให้ทีม USAR ทีท่ �ำงานในตา่ งประเทศต้องปฏิบัตติ ามมาตรฐาน INSARAG ทั้งน้ีมาตรฐาน INSARAG จะมีการแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ ซึ่งปัจจุบันคู่มือ INSARAG ไดร้ บั การปรบั ปรงุ คร้งั ลา่ สดุ ในปี พ.ศ. 2563 กระบวนการท�ำงานของ INSARAG ด�ำเนินการตัดสินใจเชิงนโยบายในรูปของ คณะกรรมการขับเคลื่อนดา้ นการค้นหาและกภู้ ยั ในเขตเมอื งสากล (INSARAG Steering Group : ISG) โดยมีประธานคณะกรรมการขับเคล่ือนระดับโลก (INSARAG Global Chair) ท�ำหน้าที่ประธาน การประชุม ISG และมีส�ำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office for the Coordination of Humanitarian Affairs : UNOCHA) ซ่ึงเป็นหน่วย รับผิดชอบการประสานงานในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ท�ำหน้าท่ีเป็น ฝา่ ยเลขานุการ INSARAG เพื่อสนบั สนุนการประชุมและกิจกรรมท่เี กย่ี วข้องกับ INSARAG ในทุกระดบั สมาชิกคณะกรรมการขับเคล่ือน INSARAG ประกอบด้วย คณะกรรมการขับเคลื่อนจาก 3 ภูมิภาค ไดแ้ ก่ ภูมิภาคอเมริกา ภมู ิภาคแอฟรกิ า - ยุโรป - ตะวันออกกลาง และภมู ิภาคเอเชยี - แปซฟิ กิ รวมถึง หวั หนา้ ทมี USAR และคณะทำ� งานดา้ นต่าง ๆ ของ INSARAG การท�ำงานของทีม USAR เกี่ยวข้องกบั การค้นหาและชว่ ยชีวติ ในระยะวกิ ฤตของการให้ ความชว่ ยเหลอื ดา้ นมนษุ ยธรรม จงึ ตอ้ งมกี ารรบั รองคณุ ภาพตามมาตรฐานอยา่ งเขม้ งวด โดยทมี USAR จะต้องเข้ารับการประเมินทีม (INSARAG External Classification : IEC) จึงจะถือว่าได้รับ การรับรองศักยภาพตามมาตรฐาน INSARAG และตอ้ งเข้ารับการประเมนิ ทีมซ�ำ้ (INSARAG External Reclassification : IER) ทุก ๆ 5 ปี เพื่อรักษามาตรฐาน ทง้ั น้ี ทีม USAR สามารถเขา้ รับการประเมิน 14 ความร่วมมือระหวา่ งประเทศด้านการจัดการภยั พบิ ัติ ทีร่ ะลกึ เนอื่ งในวันจดั การภยั พบิ ตั ขิ องอาเซยี นและวันลดความเสี่ยงจากภัยพิบัตสิ ากล

เป็นทีมขนาดใหญ่ (Heavy USAR Team) ทีมขนาดกลาง (Medium USAR Team) หรือทีมขนาดเล็ก (Light USAR Team) ภายใต้เกณฑ์ตามท่ีมาตรฐาน INSARAG ได้ก�ำหนดไว้ โดยในปี พ.ศ. 2563 มีทีม USAR ท่ีได้รับการรับรองศกั ยภาพตามมาตรฐาน INSARAG ท่ัวโลกรวมท้งั สิ้น 56 ทมี วาระใหม่แห่งการพัฒนาเมือง: New Urban Agenda (NUA) วาระใหม่แห่งการพัฒนาเมือง เป็นกรอบการด�ำเนินงานระหว่างประเทศที่ได้รับการรับรอง จากประเทศสมาชกิ จ�ำนวน 167 ประเทศ ในการประชมุ สหประชาชาตวิ ่าด้วยการพัฒนาท่ีอยอู่ าศัย และเมืองอย่างยั่งยืน ครั้งที่ 3 (Habitat III) เม่ือปี พ.ศ. 2559 ณ เมืองกีโต สาธารณรัฐเอกวาดอร์ เพ่ือเป็นเสมือนวิสัยทัศน์ของประชาคมโลกในการวางแผน การบริหารจัดการ รวมท้ังการพัฒนาเมือง และที่อยู่อาศัยอย่างย่ังยืน โดยเน้นคนเป็นศูนย์กลางและส่งเสริมบทบาทและอ�ำนาจหน้าที่ของ รฐั บาลทอ้ งถนิ่ ตลอดจนการมสี ว่ นรว่ มของภาคเอกชนและประชาชนในการพฒั นาเมอื งและการตง้ั ถน่ิ ฐาน ของมนุษยใ์ นทกุ มติ ิ วาระใหมแ่ หง่ การพฒั นาเมอื ง (NUA) มงุ่ สง่ เสรมิ การใหท้ กุ คนมสี ทิ ธเิ ทา่ เทยี มกนั และมกี ารเขา้ ถงึ ผลประโยชน์และโอกาสท่ีเมืองสามารถจัดหาให้ รวมถึงการให้ชุมชนระหว่างประเทศได้ทบทวน ระบบเมืองและรูปแบบทางกายภาพในพ้ืนที่เมือง เพ่ือน�ำไปสู่การบรรลุเป้าหมายของกรอบดังกล่าว โดยได้เปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ซ่ึงมีพ้ืนฐานจากศาสตร์ของเมืองผ่านการก�ำหนดมาตรฐานและ หลักการต่าง ๆ ส�ำหรบั การวางผงั เมอื ง การกอ่ สรา้ ง การพัฒนา การจดั การ และการปรบั ปรุงพื้นทเ่ี มอื ง ควบคูไ่ ปกับเสาหลกั ทั้ง 5 ในการน�ำไปปฏบิ ัติ ได้แก่ 1 234 5 นโยบาย กฎเกณฑ์ ระเบียบ การวางแผน เศรษฐกิจทอ้ งถน่ิ การน�ำไปปฏิบตั ิ เกี่ยวกบั เมอื ง และกฎหมาย และการออกแบบ และการเงิน ในระดับท้องถ่นิ ระดับชาติ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เมือง การคลัง กบั เมอื ง ของเทศบาล วาระใหม่แห่งการพฒั นาเมอื งตระหนกั ดีถงึ ขอ้ เท็จจรงิ ท่ีว่า รอ้ ยละ 95 ของการเติบโตเป็นเมือง จะอยู่ในประเทศก�ำลังพัฒนา จึงได้ให้ความส�ำคัญกับความเชื่อมโยงระหว่างความเป็นเมืองและ การสร้างงาน การสร้างโอกาสในการด�ำรงชีวิต และการปรับปรุงคุณภาพชีวิต ตลอดจนการเชื่อมโยง และสนับสนุน การดำ� เนินการทเี่ กีย่ วข้องกับความยงั่ ยนื ในประเด็นตา่ ง ๆ ท้งั คุณภาพชวี ิต ทอ่ี ยูอ่ าศยั โครงสร้างพื้นฐานของเมือง ความม่ันคงทางอาหาร ความเปราะบางต่อภัยพิบัติ และความย่ังยืน ของทรัพยากรธรรมชาติ เพ่ือน�ำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาท่ียั่งยืน โดยเฉพาะเป้าหมายท่ี 11 (Sustainable Cities and Communities) 15ความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการจัดการภยั พิบตั ิ ทร่ี ะลึกเนอ่ื งในวันจดั การภัยพบิ ัตขิ องอาเซยี นและวนั ลดความเสย่ี งจากภัยพิบตั ิสากล

กรอบการด�ำเนนิ งานด้านความปลอดภยั ทางถนน (Road Safety) พนั ธกรณรี ะหวา่ งประเทศด้านความปลอดภัยทางถนน การประชุมระดับรัฐมนตรีโลก ปฏญิ ญาบราซลิ เลีย การประชมุ ระดบั รัฐมนตรีโลก ดา้ นความปลอดภัยทางถนน ติดตามผลการ ดา้ นความปลอดภัยทางถนน ดาเนินงานของ ครง้ั ที่ 3๓ ณ กรงุ สตอกโฮล์ม คร้งั ที่ ๑1 ณ กรงุ มอสโก สหพันธรัฐรสั เซีย Decade of Action ราชอาณาจักรสวเี ดน 2020 2010 2015 Vision ปฏิญญาสตอกโฮล์ม ประกาศวสิ ัยทัศนส์ ศู่ นู ย์ Zero 2050 Vision Zero ปฏิญปรญะาก-มาอNศสeโกil การประชุมระดับรฐั มนตรโี ลก Armstronดgา้ นความปลอดภัยทางถนน คร้งั ท่ี ๒2 ณ กรุงบราซลิ เลยี Decade of Action ประเทศบราซิล for Road Safety รูปท่ี 4 พันธกรณรี ะหว่างประเทศดา้ นความปลอดภัยทางถนน ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2554–2563: Decade of Action for Road Safety (2011–2020) องค์การสหประชาชาติได้ประกาศทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2554-2563 (Decade of Action for Road Safety 2011-2020) และเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกได้ให้ ความส�ำคัญและผลักดันเรื่องความปลอดภัยทางถนน โดยก�ำหนดเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิต จากอุบตั ิเหตทุ างถนนลงร้อยละ 50 ภายในปี 2563 ประเทศไทย โดยกระทรวงคมนาคมและรฐั บาล ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเม่ือวันท่ี 29 มิถุนายน 2553 ได้เห็นชอบตามกรอบ “ปฏิญญามอสโก (Moscow Declaration)” ที่ก�ำหนดให้ “ปี พ.ศ. 2554-2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัย ทางถนน (Decade of Action for Road Safety 2011-2020)” โดยให้ศูนยอ์ ำ� นวยการความปลอดภยั ทางถนนจัดท�ำแผนปฏิบัติการทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2554-2563 โดยมี เป้าหมายการด�ำเนินการด้านความปลอดภัยทางถนนของประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายตามกรอบ ปฏิญญามอสโก กล่าวคือ ลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนต่�ำกว่า 10 คน ต่อประชากร 16 ความรว่ มมือระหว่างประเทศดา้ นการจดั การภัยพิบตั ิ ท่รี ะลกึ เนื่องในวนั จัดการภยั พิบัตขิ องอาเซยี นและวันลดความเส่ียงจากภัยพบิ ัตสิ ากล

หนึ่งแสนคนในปี พ.ศ. 2563 เพ่อื ใหท้ กุ ภาคส่วนมที ิศทางการด�ำเนินงานและการแกไ้ ขปัญหาอุบตั เิ หตุ ทางถนนประสบผลส�ำเรจ็ เปน็ รูปธรรมชัดเจนจากการจดั ทำ� แผนปฏบิ ตั ิการ แผนงานและงบประมาณ โดยมีกรอบในการดำ� เนนิ งานทส่ี �ำคญั 5 ประการ คือ 1 การพัฒนาความสามารถในการบริหารจดั การ (Building management capacity) 2 การด�ำเนินการในการออกแบบถนนและการจัดการโครงข่ายถนนท่ีรองรับผู้ใช้ถนนทุกกลุ่ม (Influence road design and network management) 3 การดำ� เนนิ การเพอ่ื ใหไ้ ดม้ าตรฐานความปลอดภยั ของรถ (Influence vehicle safety design) 4 การดำ� เนนิ การเพอื่ ใหม้ ผี ลตอ่ พฤตกิ รรมของผใู้ ชถ้ นนทกุ กลมุ่ (Influence road user behavior) 5 การปรบั ปรงุ การดแู ลรักษาผ้บู าดเจ็บจากอุบตั เิ หตุ (Improve post-crash care) ทงั้ นี้ ประเทศไทยไดก้ ำ� หนดกรอบแนวทางการดำ� เนนิ งาน 8 ประเดน็ ภายใตก้ รอบทศวรรษ ความปลอดภัยทางถนนโลก ดังนี้ 1 ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยโดยมีเป้าหมายให้ผู้ขับข่ีและผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ทุกคน ต้องสวมหมวกนริ ภยั 2 ลดพฤติกรรมเส่ียงจากการบริโภคเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์แล้วขับขี่ยานพาหนะ โดยมีเป้าหมาย ใหพ้ ฤติกรรมเมาแล้วขบั ของผ้ขู ับข่ียานพาหนะลดลง 3 แก้ไขปัญหาจุดเส่ียง จุดอันตราย โดยมีเป้าหมายให้จุดเสี่ยงทุกจุดได้รับการแก้ไขภายใน ระยะเวลาที่กำ� หนด 4 ปรบั พฤตกิ รรมของผขู้ บั ขยี่ านพาหนะใหใ้ ชค้ วามเรว็ ตามทก่ี ฎหมายกำ� หนด โดยเฉพาะความเรว็ ของรถจกั รยานยนต์ รถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก 5 ยกระดบั มาตรฐานยานพาหนะใหป้ ลอดภยั โดยเฉพาะมาตรฐานของรถจกั รยานยนต์ รถกระบะ รถโดยสารสาธารณะ และรถบรรทุก 6 พัฒนาสมรรถนะของผู้ใชร้ ถใช้ถนน (Road users) ให้มคี วามปลอดภัย 7 พฒั นาระบบการแพทยฉ์ กุ เฉนิ การรกั ษาและฟน้ื ฟผู บู้ าดเจบ็ เพอื่ ใหก้ ารบรกิ ารระบบการแพทย์ ฉกุ เฉินการรักษาและฟน้ื ฟผู บู้ าดเจ็บไดอ้ ยา่ งทวั่ ถงึ และรวดเร็ว 8 พัฒนาระบบบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนนของประเทศให้มีความแข็งแรงเพ่ือให้ หน่วยงานท่ีมีหน้าท่ีรับผิดชอบมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจท่ีได้รับมอบหมาย อย่างมีประสทิ ธภิ าพมากยิ่งขนึ้ 17ความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศด้านการจัดการภัยพิบตั ิ ที่ระลกึ เน่อื งในวันจัดการภัยพิบัติของอาเซยี นและวันลดความเสย่ี งจากภัยพบิ ตั สิ ากล

ปฏญิ ญาสตอกโฮล์ม: Stockholm Declaration การประชุมระดับรัฐมนตรีโลกว่าด้วยความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 1 (The 1st Global Ministerial Conference on Road Safety) จดั ขึ้น ณ กรุงมอสโคว์ สหพนั ธรฐั รัสเซีย ระหวา่ งวันท่ี 19-20 พฤศจิกายน 2552 ผลการประชุมครั้งน้ันรัฐมนตรีท่ีเข้าร่วมการประชุมได้ร่วมกันรับรอง “ปฏิญญามอสโก (Moscow Declaration)” และได้ร่วมกันประกาศทศวรรษแห่งความปลอดภัย ทางถนน พ.ศ. 2554-2563 (Decade of Action for Road Safety 2011-2020) ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2558 สาธารณรัฐบราซิล ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีโลกว่าด้วยความปลอดภัยทางถนน ครงั้ ที่ 2 (The 2nd Global Ministerial Conference on Road Safety) ณ กรงุ บราซลิ เลยี ระหวา่ งวนั ที่ 18-19 พฤศจิกายน 2558 โดยมีผลผลิตจากการประชุมท่ีสําคัญ ได้แก่ “ปฏิญญาบราซิลเลีย (Brasilia Declaration)” และในการประชุมคร้ังนั้น องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศ เป้าหมายและตัวชว้ี ดั ด้านความปลอดภัยทางถนน 12 ประการ (12 Global Targets and Indicators for Road Safety) ราชอาณาจักรสวีเดนเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับโลกว่าด้วยความปลอดภัยทางถนน ครงั้ ท่ี 3 (The 3rd Global Ministerial Conference on Road Safety) ณ กรงุ สตอกโฮลม์ ระหวา่ งวนั ท่ี 19-20 กุมภาพันธ์ 2563 และผลลัพธ์จากการประชุมคร้ังนั้น คือ “ปฏิญญาสตอกโฮล์ม (Stockholm Declaration)” “ปฏิญญาสตอกโฮล์ม” มีเป้าหมายในการลดการเสียชีวิตและการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ทางถนนลงร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ. 2573 ในทุกกลมุ่ ผู้ใช้รถใช้ถนน และขบั เคลอ่ื นไปสู่การปฏบิ ัติ อย่างเป็นรปู ธรรมผ่านการบรู ณาการหน่วยงานทกุ ภาคสว่ นภายใต้กรอบการพัฒนาอยา่ งย่ังยืน (SDGs) โดยเชือ่ มโยงการด�ำเนินงานภายใต้บริบทต่าง ๆ อยา่ งรอบดา้ น พรอ้ มทัง้ ใหค้ วามสำ� คญั กับการพฒั นา ยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติงานความปลอดภัยทางถนนในทุกระดับ ทั้งระดับชาติระดับภูมิภาค และระดับท้องถิ่น ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายด้านความปลอดภัยทางถนนอย่างเข้มข้น รวมถึง กำ� หนดมาตรฐานความปลอดภยั ดา้ นการออกแบบและกอ่ สรา้ งถนน ดา้ นการปรบั ปรงุ โครงสรา้ งพน้ื ฐาน ด้านยานพาหนะ และด้านการใชถ้ นน โดยเฉพาะในดา้ นมาตรฐานยานพาหนะทกี่ ำ� หนดใหย้ านพาหนะ ทุกประเภทที่ผลิต ขาย และใช้งานภายในปี พ.ศ. 2573 ต้องติดต้ังอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ที่ได้มาตรฐาน นอกจากน้ีกรอบดังกล่าวยังได้เน้นการส่งเสริมการน�ำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ท้ังด้านการบังคับใช้กฎหมาย ด้านการช่วยเหลือและเยียวยา ผปู้ ระสบเหตุ 18 ความร่วมมอื ระหว่างประเทศดา้ นการจัดการภยั พิบตั ิ ท่รี ะลึกเน่อื งในวนั จัดการภยั พบิ ตั ิของอาเซยี นและวันลดความเส่ยี งจากภยั พิบัตสิ ากล

กรอบการดำ� เนนิ งาน ในระดบั ภูมภิ าคอาเซียน สถานการณ์ปัจจุบนั การรวมตวั ของประชาคมอาเซยี นเมอ่ื ปี พ.ศ. 2558 (2015) ทำ� ใหภ้ มู ภิ าคอาเซยี นมคี วามเขม้ แขง็ และเติบโตทางเศรษฐกิจมากข้ึน ภูมิภาคอาเซียนจะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจใหญ่เป็นอับดับ 7 ของโลก และอนั ดบั 3 ของเอเชยี นอกจากนน้ั ภมู ภิ าคอาเซียนยงั เปน็ ภมู ิภาคทีด่ งึ ดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ที่ก�ำลังเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด อย่างไรก็ดีภูมิภาคอาเซียนนั้นเป็นภูมิภาคที่มีความเสี่ยงจาก ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตสิ งู ทสี่ ดุ เชน่ กนั มลู คา่ ความเสยี หายจากภยั ธรรมชาตใิ นอาเซยี นสงู ถงึ 4.4 ลา้ นลา้ น ดอลล่าร์สหรัฐต่อปี (ยังไม่รวมถึงมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากพายุไต้ฝุ่นไห่เย่ียน ในปี 2556 ท่ีสาธารณรัฐฟิลิปปินส์) ดังนั้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคน้ีจึงต้องมีการวางมาตรการ และเสริมสร้างภูมิตา้ นทานจากภยั พิบตั ิทีจ่ ะเกิดข้ึน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีภัยพิบัติที่หลากหลายและรุนแรง อาทิ สึนามิ แผ่นดินไหว อทุ กภยั ไตฝ้ นุ่ ไซโคลน ภยั แลง้ ดนิ ถลม่ และภเู ขาไฟระเบดิ โดยในสว่ นของความรว่ มมอื ดา้ นการจดั การ ภยั พบิ ัตนิ ัน้ นับตั้งแตอ่ าเซยี นไดม้ ปี ฏิญญาอาเซียน ASEAN Declaration on Mutual Assistance on Natural Disasters ในวนั ท่ี 24 มิถุนายน 2519 ทวี่ างกรอบความรว่ มมอื กันในการเสริมสรา้ งศักยภาพ และการชว่ ยเหลอื ซงึ่ กนั และกนั ในยามเกดิ ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตเิ ปน็ ตน้ มา ความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศ สมาชิกอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติได้ด�ำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง จนในปัจจุบันความร่วมมือ ด้านการจัดการภัยพิบัติของอาเซียนถือได้ว่าเป็นหนึ่งในประเด็นมีความเข้มแข็งมากท่ีสุดในอาเซียน โดยมีกลไกการขับเคล่ือนท่ีมีความพร้อม มีแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการท่ีชัดเจนมีทรัพยากร บุคคลที่เพียงพอ มีการด�ำเนินการกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเน่ือง และมีการประชุมระดับนโยบาย เพ่อื ติดตามประเมินผลการปฏบิ ตั อิ ยา่ งสม�ำ่ เสมอ 19ความรว่ มมือระหวา่ งประเทศดา้ นการจัดการภัยพบิ ตั ิ ทร่ี ะลึกเนื่องในวันจัดการภัยพิบัติของอาเซียนและวันลดความเสีย่ งจากภัยพิบตั ิสากล

บทบาทไทยในอาเซยี นดา้ นการจัดการภัยพบิ ตั ิ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะผู้ประสานงานหลัก (National Focal Point) ของประเทศไทยในคณะกรรมการอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติ (ASEAN Committee on Disaster Management: ACDM) ท่ีไดร้ ับมอบหมายตามมติคณะรฐั มนตรี เมือ่ วนั ที่ 19 กรกฎาคม 2548 มีหน้าที่ในการประสานการด�ำเนินงานด้านการจัดการภัยพิบัติของประเทศไทยร่วมกับ ศูนย์ประสานงานอาเซียนในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม (ASEAN Coordinating Center for Humanitarian Assistance on disaster management : AHA Center) เพอ่ื กำ� กบั การดำ� เนนิ งาน ให้เป็นไปตามความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน (ASEAN Agreement on Disaster Management and Emergency Response: AADMER) และแผนงานความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน (AADMER Work Programme) นอกจากน้ียังมีหน้าที่ในการเป็นประธานคณะกรรมการอาเซียน ด้านการจัดการภยั พบิ ตั ิ (ACDM) ซงึ่ มกี ารผลัดเปลี่ยนหมนุ เวยี นกนั ของประเทศสมาชกิ โดยทีผ่ ่านมา ประเทศไทยเป็นประธาน ACDM เม่ือปี 2554 และจะเป็นประธาน ACDM อีกครั้งในปี 2565 (วาระประธานจะหมุนเวียนไปตามล�ำดบั อักษรชอื่ ประเทศ) ประเทศไทยมีบทบาทท่ีค่อนข้างโดดเด่นในเวทีอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติ โดยเฉพาะ ในด้านการป้องกันและลดผลกระทบจากการท่ีได้เป็นประธานร่วมกับสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว และสาธารณรัฐฟลิ ิปปนิ ส์ ในคณะท�ำงานด้านการปอ้ งกนั และลดผลกระทบ (Working Group on Prevention and Mitigation) ภายใตแ้ ผนงานความตกลงอาเซยี นวา่ ดว้ ยการจดั การภยั พบิ ตั ิ และการตอบโตส้ ถานการณฉ์ กุ เฉนิ (AADMER Work Programme) ทมี่ กี จิ กรรมการดำ� เนนิ งานทช่ี ดั เจน ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมวันจัดการภัยพิบัติของอาเซียนและวันลดความเสี่ยงจากภับพิบัติสากล เป็นประจ�ำทุกปีในห้วงเดือนตุลาคม และการเข้าร่วมการประชุมคณะท�ำงานอย่างเป็นประจ�ำ นอกจากนั้นแล้วประเทศไทยยังเคยเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกซ้อมแผนตอบโต้ภัยพิบัติในระดับ ภูมิภาคอาเซียน หรือ ARDEX เม่ือปี 2551 และประเทศไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับ AHA Centre ในการจัดตั้งคลังเก็บส่ิงของช่วยเหลือทางไกลของอาเซียน (DELSA Satellite Warehouse) ณ จงั หวัดชยั นาทอกี ดว้ ย การดำ� เนนิ งานของประเทศไทยตาม AADMER มกี ลไกท่ีชดั เจน ดงั นี้ 1 คณะรฐั มนตรไี ดม้ มี ตเิ มอ่ื วนั ท่ี 19 กรกฎาคม 2548 เหน็ ชอบใหร้ ฐั มนตรวี า่ การกระทรวง การต่างประเทศลงนามในความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ ฉุกเฉิน (AADMER) และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปน็ หน่วยงานรบั ผดิ ชอบหลกั ในการด�ำเนนิ การตามความตกลงฯ ดงั กลา่ ว 20 ความรว่ มมอื ระหว่างประเทศดา้ นการจัดการภัยพบิ ตั ิ ทร่ี ะลึกเนือ่ งในวนั จดั การภัยพิบตั ขิ องอาเซยี นและวันลดความเสยี่ งจากภยั พิบตั ิสากล

2 กระทรวงมหาดไทยไดม้ คี ำ� สงั่ ท่ี 57/2555 ลงวนั ที่ 27 มกราคม 2555 เรอื่ ง แตง่ ตง้ั คณะกรรมการดำ� เนนิ การตามความตกลงอาเซยี นวา่ ดว้ ยการจดั การภยั พบิ ตั แิ ละการตอบโตส้ ถานการณ์ ฉกุ เฉนิ แหง่ ชาติ โดยมรี องปลดั กระทรวงมหาดไทย (หวั หนา้ กลมุ่ ภารกจิ ดา้ นสาธารณภยั และพฒั นาเมอื ง) เปน็ ประธาน โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พ่อื เป็นการทบทวนผลการดำ� เนินการท่ผี า่ นมา และเพือ่ เปน็ การหารอื ถงึ การนำ� AADMER ไปสกู่ ารปฏบิ ตั ใิ นระดบั ชาติ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การจดั ตง้ั กลไกในระดบั อนกุ รรมการ ที่เก่ียวข้อง และการปรับปรุงข้อมูลรายการสินทรัพย์และศักยภาพเพื่อสนับสนุนระบบการเตรียม ความพร้อมเพ่ือการบรรเทาภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินของอาเซียน (The ASEAN Standby Arrangements for Disaster Relief and Emergency Response) 3 คณะกรรมการด�ำเนินการตามความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติ และการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ ได้มีค�ำส่ังท่ี 1/2558 ลงวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เรอ่ื ง แตง่ ตง้ั คณะทำ� งานเพอื่ ดำ� เนนิ การตามความตกลงอาเซยี นวา่ ดว้ ยการจดั การภยั พบิ ตั แิ ละการตอบโต้ สถานการณ์ฉุกเฉิน ซ่ึงมีองค์ประกอบคณะท�ำงาน 3 ด้าน ได้แก่ (1) ด้านการประเมินความเส่ียง แจ้งเตอื นภัย การป้องกันและลดผลกระทบ (2) ด้านการเตรียมความพร้อมและการตอบโตส้ ถานการณ์ ภยั พบิ ตั ฉิ กุ เฉิน และ (3) ด้านการฟื้นฟบู ูรณะภายหลงั การเกดิ ภัยพบิ ัติ วสิ ัยทศั น์อาเซยี นดา้ นการจดั การภัยพิบตั ิ พ.ศ. 2568 : ASEAN Vision on Disaster Management 2025 ความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน (ASEN Agreement on Disaster Management and Emergency Response: AADMER) มผี ลบงั คับใช้ เม่ือ พ.ศ. 2553 โดยมีวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งเพื่อการท�ำงานด้านการจัดการภัยพิบัติร่วมกันใน ภมู ิภาคอาเซียน การประสานงานรว่ มกัน การให้ความชว่ ยเหลือทางวิชาการ และการระดมทรพั ยากร เพ่ือการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ความตกลงดังกล่าวให้การสนับสนุน ในเรื่องของการริเร่ิมวางแผนของสมาชิกอาเซียน รวมไปถึงการให้ความสนับสนุนการด�ำเนินงาน ตามแผนงาน AADMER Work Programme นบั จากแผนงานเรม่ิ ตน้ ท�ำให้เกดิ สิง่ ใหม่ ๆ ข้ึนมากมาย ส่งผลให้อาเซียนเพ่ิมพูนขีดความสามารถท้ังในระดับประเทศและระดับภูมิภาคในการตอบโต้ภัยพิบัติ ที่เกิดข้ึนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอกสารนโยบายเชิงยุทธศาสตร์ฉบับน้ีช้ีให้เห็นถึงทิศทาง ใน 10 ปี ข้างหน้า และบ่งช้ีถึงประเด็นส�ำคัญในการขับเคล่ือนความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการ ภัยพิบัติฯ ไปสู่การมงุ่ เนน้ ประชาชนเปน็ ศนู ยก์ ลาง ยดึ ประชาชนเปน็ หลกั ระบบการเงนิ การคลงั ทย่ี ง่ั ยนื และเนน้ เครอื ขา่ ยภายในปี 2568 21ความร่วมมือระหว่างประเทศดา้ นการจดั การภัยพบิ ัติ ท่รี ะลกึ เนื่องในวนั จดั การภยั พิบตั ิของอาเซยี นและวันลดความเสี่ยงจากภยั พบิ ตั สิ ากล

ทิศทางการน�ำข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติฯ ไปสู่การปฏิบัติ ประกอบด้วย 3 ประเด็นยุทธศาสตร์ที่มีความเก่ียวเน่ืองกัน ประกอบด้วย 1) การจัดโครงสร้างเชิงสถาบันและ การสอ่ื สาร 2) การสรา้ งความมนั่ คงทางการเงนิ และการระดมทรพั ยากร และ 3) การสรา้ งพนั ธมติ ร และสนับสนุนนวัตกรรม ยุทธศาสตร์ ไดแ้ ก่ การนำ� เรอ่ื งการจดั การภยั พบิ ตั เิ ขา้ เปน็ วาระสำ� คญั ดา้ นนโยบายและการสอ่ื สาร ทหี่ นงึ่ ซึ่งบ่งช้ีถึงความจ�ำเป็นท่ีต้องใช้แนวทางการท�ำงานที่อาศัยความร่วมมือ จากหลายภาคส่วนและหลายระดับช้ัน (multi-layered and cross-sectorial governance approach) เพอ่ื จะขบั เคลอื่ นการบรู ณาการระหวา่ งเสาสงั คมและวฒั นธรรม เสาเศรษฐกจิ และเสาการเมืองความมั่นคงไปสู่การจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมุ่งม่ันว่า ในอนาคตยุทธศาสตร์นี้จะขยายไปในระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมท้ังพัฒนาความเข้มแข็งของ การจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินในระดับชาติและระดับจังหวัด เมืองและชุมชน เรอ่ื งนสี้ ำ� คญั อยา่ งยง่ิ ยวดตอ่ การกำ� หนด/คาดการณต์ อ่ ผลกระทบทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ กบั คนรนุ่ ตอ่ ไป นอกจากนี้ ยทุ ธศาสตร์น้ไี ด้ให้ความส�ำคญั ตอ่ การติดตอ่ ส่อื สารระหว่างผู้มีสว่ นได้ส่วนเสียที่เกย่ี วขอ้ งอีกดว้ ย ยทุ ธศาสตร์ คอื การสรา้ งความมน่ั คงทางการเงนิ และการระดมทรพั ยากร เพอ่ื ใหก้ ารดำ� เนนิ งาน ทีส่ อง ความตกลงอาเซยี นวา่ ดว้ ยการจดั การภยั พบิ ตั แิ ละการตอบโตส้ ถานการณฉ์ กุ เฉนิ เกิดผลส�ำเร็จ (ซึ่งเก่ียวข้องกับประเทศสมาชิกอาเซียน ส�ำนักเลขาธิการอาเซียน และศูนย์ประสานงานอาเซียนในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม) โดยยุทธศาสตร์น้ีจะเน้น ในเรื่องของการรวบรวมจ�ำนวนทุนและปริมาณของทรัพยากรในประเทศสมาชิกอาเซียนให้มีจ�ำนวน ท่ีเพิ่มมากข้ึนจากเดิมท่ีเคยมีการระดมทุนไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบไหน ท้ังน้ีการระดมทุนดังกล่าว จะด�ำเนินการโดยประเทศสมาชิกอาเซียน ซ่ึงท�ำให้ผู้สนับสนุนทุกภาคส่วนไม่ว่าจะในระดับเล็ก กลาง หรือใหญ่ก็สามารถให้การสนับสนุนเพื่อให้การด�ำเนินการด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติ ในภมู ิภาคอาเซียนประสบผลส�ำเรจ็ ยทุ ธศาสตร์ คือ การสร้างพันธมิตรและสนับสนุนนวัตกรรม เพ่ือให้ความตกลงอาเซียน ทสี่ าม ว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน (AADMER) บรรลุผลส�ำเร็จ โดยสามารถด�ำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายใหม่ที่ไม่เคย ด�ำเนินการร่วมกันมาก่อน ซึ่งยุทธศาสตร์น้ีท�ำให้การด�ำเนินงานเข้าถึงในทุกระดับตั้งแต่ระดับท้องถ่ิน ระดับชาติจนถึงระดับภูมิภาค ในการด�ำเนินงานทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม โดยจะท�ำให้บทบาทของศูนย์ประสานงานอาเซียนในการให้ความช่วยเหลือ 22 ความร่วมมอื ระหว่างประเทศดา้ นการจัดการภยั พบิ ตั ิ ท่ีระลึกเน่อื งในวันจดั การภัยพบิ ัติของอาเซยี นและวันลดความเสี่ยงจากภัยพบิ ัติสากล

ด้านมนุษยธรรม (AHA Centre) ชัดเจนมากขึ้น AHA Centre จะกลายเป็นศูนย์กลางเครือข่าย ความร่วมมือที่เป็นเลิศระดับภูมิภาคด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติที่สามารถให้การสนับสนุน ดา้ นองค์ความรู้ การวเิ คราะห์นโยบายและการฝึกปฏิบตั ิแก่ผู้ปฏิบัติการด้านการบรหิ ารจดั การภัยพิบัติ และการตอบโต้สถานการณฉ์ ุกเฉินรุน่ ต่อไป เม่อื ประชาคมอาเซยี นเขา้ สู่ ปี 2568 การรวมกันของสามยทุ ธศาสตร์ ได้แก่ การนำ� เรอื่ ง การจัดการภัยพิบัติเข้าเป็นวาระส�ำคัญด้านนโยบายและการส่ือสาร การสร้างความม่ันคง ทางการเงินและการระดมทรัพยากร และการสร้างพันธมิตรและสนับสนุนวัตกรรม จะเป็น นโยบายทพ่ี สิ จู นว์ า่ ประชาคมอาเซยี นเปน็ ผบู้ กุ เบกิ การปฏริ ปู การจดั การภยั พบิ ตั ขิ องภมู ภิ าค เอเชยี ตะวันออกและภมู ภิ าคอน่ื ๆ ความตกลงอาเซยี นว่าดว้ ยการจดั การภยั พบิ ัตแิ ละการตอบโต้ สถานการณ์ฉกุ เฉนิ : ASEAN Agreement on Disaster Management and Emergency Response: AADMER ความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน (AADMER) เปน็ ความตกลงทถี่ กู จดั ทำ� ขนึ้ จากคณะกรรมการอาเซยี นดา้ นการจดั การภยั พบิ ตั ิ (ACDM) โดยรฐั มนตรี ตา่ งประเทศอาเซยี นได้มกี ารร่วมลงนามใน AADMER เมือ่ วันที่ 21 กรกฎาคม 2548 ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจกั รกัมพชู า และมีผลบงั คบั ใชต้ ้ังแตว่ นั ท่ี 24 ธนั วาคม 2552 โดยมลี กั ษณะเปน็ ความตกลง ทมี่ พี นั ธกรณที ป่ี ระเทศภาคสี มาชกิ จะตอ้ งปฏบิ ตั ติ าม ซง่ึ มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื จดั หากลไกทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ ทสี่ ามารถลดความเสยี หายจากภยั พบิ ตั ติ อ่ ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ สงั คม เศรษฐกจิ และสงิ่ แวดลอ้ มของภาคี และเพ่ือร่วมกันตอบโต้ภัยพิบัติฉุกเฉิน ประกอบด้วย 11 ส่วน และ 36 มาตรา โดยก�ำหนดกรอบ ความร่วมมือและการจัดต้ังกลไกด้านการจัดการภัยพิบัติของอาเซียนในลักษณะครบวงจรของ การบริหารจัดการภัยพิบัติครอบคลุมท้ังในยามปกติ ก่อนเกิดภัย (การก�ำหนดความเส่ียงจากภัยพิบัติ การเฝ้าระวัง การแจ้งเตือนภัย การป้องกัน และการเตรียมความพร้อม) ในขณะเกิดภัย (การตอบโต้ สถานการณฉ์ กุ เฉนิ และการบรรเทาทกุ ข)์ และภายหลงั เกดิ ภยั (การบรู ณะฟน้ื ฟ)ู ตลอดจนความรว่ มมอื ทางดา้ นวิชาการ การวจิ ัยทางวทิ ยาศาสตร์ การเสริมสรา้ งศกั ยภาพและขีดความสามารถ เปน็ ต้น ท้งั นี้ จะเนน้ หลกั การทใ่ี หแ้ ตล่ ะประเทศสมาชกิ ไดช้ ว่ ยเหลอื ตนเองใหเ้ ตม็ ทก่ี อ่ น และหากเกนิ ขดี ความสามารถ จงึ ใชก้ ลไกท่ีกำ� หนดไว้ใน AADMER ในการชว่ ยเหลือต่อไป 23ความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศด้านการจดั การภัยพิบตั ิ ทร่ี ะลกึ เนอ่ื งในวันจดั การภัยพบิ ตั ขิ องอาเซยี นและวันลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติสากล

ปฏญิ ญาอาเซียนว่าด้วยความเปน็ หน่ึงเดยี วในการตอบโต้ภัยพบิ ตั ิ ท้งั ภายในและภายนอกภูมิภาค: Declaration on One ASEAN, One Response: ASEAN Responding to Disaster as One in the Region and Outside Region: OAOR วสิ ยั ทศั นข์ องอาเซยี นในเรอ่ื งการตอบโตภ้ ยั พบิ ตั ทิ สี่ ำ� คญั คอื “OneASEAN,OneResponse” หรอื “อาเซยี นรวมใจตอบโตภ้ ยั อยา่ งเปน็ หนง่ึ เดยี ว” แสดงใหเ้ หน็ ถงึ เจตนารมณข์ องภมู ภิ าคในการตอบโต้ และรบั มอื ภยั พบิ ตั ริ ว่ มกนั ทง้ั ในภมู ภิ าคอาเซยี นเองหรอื นอกภมู ภิ าค ในการนี้ การสรา้ งความเปน็ อนั หนงึ่ อันเดียวกันนั้น ทุกภาคส่วนจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในกลไกการจัดการภัยพิบัติของอาเซียน เพ่ือท่ีจะได้เข้ามามีส่วนร่วมและแบ่งปันจิตวิญญาณแห่งอาเซียนร่วมกัน ทั้งน้ีคณะกรรมการอาเซียน ดา้ นการจดั การภัยพิบตั ิ (ASEAN Committee on Disaster Management: ACDM) ได้รับมอบหมาย จากการประชุมสุดยอดผูน้ ำ� อาเซียน ครงั้ ที่ 26 ให้จัดทำ� ร่างปฏิญญาอาเซยี นว่าดว้ ยความเป็นหนงึ่ เดยี ว ในการตอบโต้ภัยพิบัติทั้งภายในและภายนอกภูมิภาค (Draft Declaration on One ASEAN, One Response: ASEAN Responding to Disaster as One in the Region and Outside Region) และต่อมาผู้น�ำอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ได้ร่วมลงนามในปฏิญญาฯ ดังกล่าว ในระหว่างการประชุม สุดยอดผนู้ �ำอาเซยี น ครัง้ ท่ี 28 (28th ASEAN Summit) ณ สาธารณรัฐประชาธปิ ไตยประชาชนลาว ในปี พ.ศ. 2559 ปฏญิ ญาอาเซยี นวา่ ดว้ ยความเปน็ หนง่ึ เดยี วในการตอบโตภ้ ยั พบิ ตั ทิ ง้ั ภายในและภายนอกภมู ภิ าค (Declaration on One ASEAN, One Response: ASEAN Responding to Disaster as One in the Region and Outside Region) มีวัตถุประสงค์เพ่ือผนึกก�ำลังกันระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ และผทู้ ี่มสี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ในอาเซยี น ในการตอบโตก้ บั ภยั พบิ ตั อิ ยา่ งมปี ระสทิ ธผิ ลทง้ั ในและนอกภมู ภิ าค โดยมสี าระสำ� คญั ดงั นี้ 1 ใหย้ ดึ ความตกลงอาเซยี นวา่ ดว้ ยการจดั การภยั พบิ ตั แิ ละตอบโตส้ ถานการณฉ์ กุ เฉนิ (ASEAN Agreement on Disaster Management and Emergency Response: AADMER) เปน็ แนวนโยบายหลกั 2 ศูนย์ประสานงานอาเซียนในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม หรือ AHA Centre เปน็ หน่วยประสานงานหลกั ในดา้ นการจดั การภยั พบิ ตั ิและตอบโต้สถานการณ์ฉกุ เฉนิ ของภูมภิ าค 3 รับรองในเคร่ืองมือและกลไกการจัดการภัยพิบัติของอาเซียน ได้แก่ มาตรฐานวิธีการ ปฏิบัติและระบบเตรียมความพร้อมด้านการประสานงานการบรรเทาทุกข์และการตอบโต้สถานการณ์ ภัยพิบัติฉุกเฉินของอาเซียน (SASOP) และทีมประเมินความเสียหายและตอบโต้เหตุฉุกเฉิน ของอาเซยี น (the ASEAN - Emergency Response and Assessment Team : ERAT) 24 ความร่วมมือระหว่างประเทศดา้ นการจดั การภยั พบิ ตั ิ ทีร่ ะลกึ เนือ่ งในวนั จัดการภัยพิบัตขิ องอาเซียนและวนั ลดความเสยี่ งจากภยั พิบัตสิ ากล

4 ใหจ้ ดั ทำ� บญั ชที รพั ยากรตามทป่ี ระเทศสมาชกิ สมคั รใจ ทงั้ ทรพั ยากรของพลเรอื นและทหาร ที่สามารถสนับสนุนได้ รวมถึงศักยภาพและขีดความสามารถเพ่ือระดมความช่วยเหลือจาก ประเทศสมาชกิ ไปช่วยพนื้ ทีป่ ระสบภัยไดอ้ ยา่ งทนั ที โดยการประสานงานจาก AHA Centre 5 ให้มีการแสดงธงชาติของประเทศสมาชิกพร้อมกับธงอาเซียน ในการเข้าตอบโต้ภัยพิบัติ เพ่ือเป็นส่วนหน่ึงในการแสดงถึงความเป็นหน่ึงเดียวกนั ของการตอบโตภ้ ัยพิบตั ิของอาเซยี น 6 เพมิ่ การบรจิ าคเขา้ สกู่ องทนุ อาเซยี นเพอ่ื การจดั การภยั พบิ ตั แิ ละบรรเทาทกุ ขใ์ นกรณฉี กุ เฉนิ (ASEAN Disaster Management and Emergency Relief (ADMER) Fund) และกองทนุ AHA Centre โดยสมัครใจ) รับรองให้เลขาธิการอาเซียนในฐานะผู้ประสานงานอาเซียนด้านการให้ความช่วยเหลือ เพ่ือมนุษยธรรม (ASEAN Humanitarian Assistance Coordinator: AHAC) ปฏิญญาอาเซยี นว่าด้วยการสร้างประชาคมและประชาชนอาเซยี น ทม่ี ีความเข้มแขง็ รู้รับ ปรับตวั ฟืน้ กลบั จากภยั พิบัติ และการเปล่ยี นแปลงสภาพภูมอิ ากาศอยา่ งเป็นทางการ : ASEAN Declaration on Institutionalising the Resilience of ASEAN and its Communities and Peoples to Disasters and Climate Change ปฏญิ ญาอาเซยี นวา่ ดว้ ยการสรา้ งประชาคมและประชาชนอาเซยี นทมี่ คี วามเขม้ แขง็ รรู้ บั ปรบั ตวั ฟนื้ กลบั จากภัยพบิ ัติ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู อิ ากาศอย่างเปน็ ทางการ มีสาระส�ำคัญคือ 1 เปน็ การแสดงเจตนารว่ มกันของอาเซยี น 10 ประเทศทจ่ี ะลดความเสย่ี งจากภยั พบิ ตั ติ ่าง ๆ โดยเฉพาะทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการเปลยี่ นแปลงของอากาศทที่ ำ� ใหเ้ กดิ ผลกระทบตอ่ เศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรม และสง่ิ แวดลอ้ มของภูมภิ าค 2 ให้ความส�ำคัญต่อการร่วมมือกันเพ่ือจัดท�ำมาตรการต่าง ๆ ให้รองรับการลดความเสี่ยง ดงั กลา่ ว 3 เชิญชวนให้ผู้มีส่วนร่วมทุกภาคส่วนเข้ามามีบทบาทในการป้องกันและบริหารจัดการ ความเส่ยี งในระดบั ท้องถิน่ ชาติ และภูมิภาค พรอ้ มกับสง่ เสรมิ การลงทนุ ในโครงการตา่ ง ๆ ท่ีจะช่วย ลดความเสยี่ งเหล่านี้ 4 ร่วมกันจัดท�ำฐานข้อมูลท่ีจะสามารถแบ่งปันกันได้ในภูมิภาค รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพ ของสถาบนั ระดับชาติและภูมภิ าคเพอ่ื เฝา้ ระวังและลดความเสย่ี งดังกล่าว 5 มอบหมายให้ ASEAN Committee on Disaster Management เปน็ ศนู ยก์ ลางสำ� หรับ ความร่วมมอื ข้ามเสาเพ่ือสรา้ งความแขง็ แกร่งในภูมภิ าคต่อความเส่ียงเหล่าน้ี 25ความร่วมมือระหว่างประเทศดา้ นการจัดการภัยพบิ ตั ิ ท่ีระลกึ เนือ่ งในวนั จัดการภัยพิบัตขิ องอาเซียนและวันลดความเสีย่ งจากภัยพิบตั ิสากล

ปฏญิ ญาอาเซยี นว่าดว้ ยการสรา้ งความเขม้ แขง็ ในการปรบั ตวั รบั ภยั แลง้ : ASEAN Declaration on Strengthening of Adaptation to Drought ผู้น�ำอาเซียนได้ริเร่ิมปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการสร้างความเข้มแข็งในการปรับตัวรับภัยแล้งขึ้น เพื่อเน้นย้�ำถึงความมุ่งม่ันที่มีต่อวิสัยทัศน์อาเซียน 2025 ด้านการจัดการภัยพิบัติ และความตกลง อาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน (ASEAN Agreement on Disaster Management and Emergency Response : AADMER) แผนงานคณะท�ำงานอาเซียน ดา้ นการเปล่ยี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ (ASEAN Working Group on Climate Change (AWGCC) action plan) แผนปฏบิ ตั กิ ารอาเซยี นในการตอบสนองตอ่ การเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศรว่ มกนั และ แผนยทุ ธศาสตรอ์ าเซียนในเร่ืองการบริหารจดั การทรัพยากรน�้ำ (ASEAN Working Group on Water Resource Management : AWGWRM) แถลงการณร์ ว่ มอาเซยี นดา้ นการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ เพ่ือให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ASEAN Joint Statement on climate change to the United Nations Framework Convention on Climate Change: UNFCCC) และต่อมาได้รับทราบระหว่างการประชุมสุดยอด อาเซยี น ครง้ั ที่ 37 ณ ประเทศไทย ในปี 2562 ทง้ั นปี้ ฏญิ ญาฯ ฉบบั น้ี มเี นอื้ หาทคี่ รอบคลมุ ถงึ การทำ� งาน ของอาเซยี นทส่ี �ำคญั 2 ด้าน ไดแ้ ก่ ด้านส่ิงแวดลอ้ ม และดา้ นการจัดการภยั พบิ ัติ ปฏิญญาฯ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้มแข็งของภูมิภาคในการจัดการภัยแล้ง โดยเฉพาะทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั แผนงานประชาคมอาเซยี นเพอ่ื ปรบั ตวั เขา้ กบั ภยั แลง้ การตงั้ เครอื ขา่ ยและชมุ ชน เพอ่ื ชว่ ยกนั เตรยี มพร้อมและปรบั ตัวรบั ภยั แล้งในภมู ภิ าคต่าง ๆ โดยมีสาระส�ำคัญ ดงั น้ี 1 สนับสนุนแนวทางการพัฒนาระยะยาวแบบองค์รวมทั้งแนวทางกลยุทธ์รวมถึง กรอบการท�ำงานในระดับภูมิภาคเพ่ือเสริมสร้างการปรับตัวต่อภัยแล้งท้ังในระยะส้ันและระยะยาว บนพ้ืนฐานของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมอิ ากาศในอนาคต 2 สง่ เสรมิ ความรว่ มมอื ระหวา่ งองคก์ รสาขาตา่ ง ๆ ของอาเซยี นเพอื่ จดั การกบั ปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ และประเมินผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม การเกษตร พลงั งาน และนำ�้ 3 เพ่ิมการส่งเสริมความร่วมมือและการท�ำงานร่วมกันในเรื่องการพัฒนางานวิจัย และสง่ิ ประดิษฐ์ (R&D) และการถ่ายโอนเทคโนโลยที เ่ี กยี่ วข้องกบั ภัยแลง้ 4 เพิ่มพูนศักยภาพบุคลากรของประเทศสมาชิกและภูมิภาคในการจัดการภัยแล้งซ่ึงรวมถึง การน�ำระบบบรหิ ารความเส่ยี งและการปรับปรงุ ระบบการเตอื นภัยแล้งลว่ งหนา้ และการบริหารจดั การ ภยั แลง้ เพ่อื ช่วยป้องกันและชว่ ยเหลือให้กับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางและสงิ่ แวดลอ้ ม 26 ความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศดา้ นการจดั การภัยพิบัติ ทร่ี ะลึกเนื่องในวันจดั การภัยพบิ ตั ขิ องอาเซยี นและวันลดความเสยี่ งจากภัยพิบตั สิ ากล

5 ส่งเสรมิ ความรว่ มมอื ระหว่างประเทศสมาชิกในการจดั การภยั แลง้ ขา้ มพรมแดน ผ่านกลไก ที่มอี ยูข่ องอาเซียน 6 ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลและสารสนเทศทางเทคโนโลยี บนพื้นฐานของการเคารพ ในกฎหมายและขอ้ บงั คบั แนวทางการปฏบิ ตั ขิ องรฐั สมาชกิ แตล่ ะประเทศ และศกึ ษาบทเรยี นทเ่ี กยี่ วกบั การจดั การภยั แลง้ ทต่ี า่ งกนั ตามทตี่ งั้ และสว่ นตา่ ง ๆ ของภมู ภิ าค และเอกสารเกยี่ วกบั การบรหิ ารจดั การ ภัยแลง้ และความสามารถในการฟ้นื ฟูในท้องถน่ิ 7 สนับสนุนเหล่าประเทศสมาชิกทุกประเทศให้มีนโยบายการปรับตัวสู้ภัยแล้งบนพ้ืนฐาน ของกฎหมาย ความต้องการตามแนวทางของประเทศนนั้ ๆ โดยพิจารณาดังต่อไปนี้ การยกระดบั การปรบั ตวั ในระบบสำ� คญั เพอื่ ผลติ อาหารอยา่ งยงั่ ยนื การบรหิ ารจดั การนำ้� การผลิตพลังงานสะอาด การป้องกันพื้นดิน การท�ำลายระบบนิเวศวิทยา และการรักษาส่ิงแวดล้อม ทางธรรมชาติ พยายามน�ำเอาแนวทางปฏบิ ัติ ASEAN 2018 ในการสง่ เสริมการลงทุนทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับ อาหารเกษตร และป่าไม้ (ASEAN-RAI) เพ่ือบรรเทาสาธารณภัย ช่วยเหลือและปรับตัวต่อภัยพิบัติ การเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ และภยั อื่น ๆ พัฒนากฎหมายและกรอบนโยบายท่ีเอื้อต่อเอกชนในการหาและประดิษฐ์สินค้าเพื่อ การใหบ้ รกิ ารทห่ี ลากหลายและสรา้ งสรรคบ์ นพน้ื ฐานของการพจิ ารณาความเสย่ี งทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการเพม่ิ ขนึ้ ของภัยแล้ง อุทกภัย และสภาพอากาศแปรปรวนที่เก่ียวข้อง โดยให้ความส�ำคัญกับบทบาทของ ขอ้ มูลส่ือสารและเทคโนโลยี ใช้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการประดิษฐ์เพ่ือพัฒนา ส�ำหรับ การเตรียมรับและตอบสนองต่อภัยแล้งผ่านทางการประเมินความเส่ียงที่มีประสิทธิภาพ การติดตาม และบริการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า และส�ำหรับการเสริมสร้างและการฟื้นฟูจากการอุบัติซ้�ำของภัยแล้ง ในอนาคตผ่านการสนับสนุนทางการเงนิ เพื่อลดความเสีย่ ง ส่งเสริมการช่วยเหลือระหว่างกันในภูมิภาคและสากลเพ่ือสร้างความสามารถให้แก่ ประชาคมและประเทศสมาชกิ ในการแกไ้ ขและปรับตัวกับปญั หาภยั แลง้ 8 ให้ความส�ำคัญกับการปรบั ตวั ตอ่ ภัยแล้งในระบบอาหาร น้�ำ พลังงาน แผ่นดนิ ส่ิงแวดล้อม และปรบั ปรงุ ระบบการตดิ ตามภยั แลง้ รวมทง้ั การแจง้ เตอื นลว่ งหนา้ เพอื่ เตรยี มตวั รบั ภยั แลง้ ในระยะสนั้ และระยะยาว และเพ่ือใหเ้ กิดการปกปอ้ งทางสังคม การคมุ้ ครองเศรษฐกิจและการวางแผน การลงทนุ 9 สรา้ งความรว่ มมอื ทเ่ี ขม้ แขง็ และใชป้ ระโยชนจ์ ากกระบวนการเกบ็ รกั ษาอาหารกรณฉี กุ เฉนิ ทม่ี ีอยู่เพ่อื ลดผลกระทบจากภัยแลง้ ต่อความมนั่ คงทางอาหารในภมู ิภาค 27ความรว่ มมือระหวา่ งประเทศดา้ นการจดั การภัยพิบตั ิ ทีร่ ะลกึ เนือ่ งในวันจดั การภยั พบิ ตั ิของอาเซยี นและวันลดความเสี่ยงจากภยั พบิ ตั สิ ากล

แผนงานความตกลงอาเซียนวา่ ด้วยการจดั การภัยพิบัติ และตอบโตส้ ถานการณฉ์ ุกเฉิน ปี พ.ศ. 2564–2568 : AADMER Work Programme 2021-2025 ภูมิภาคอาเซียนด�ำเนินการด้านการจัดการภัยพิบัติภายใต้กรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วย การจัดการภัยพิบตั ิและตอบโตส้ ถานการณฉ์ ุกเฉนิ (ASEAN Agreement on Disaster Management and Emergency Response : AADMER) ที่ก�ำหนดให้มีแผนงานที่ชัดเจนในการน�ำ AADMER ไปปฏิบัติ แผนงาน AADMER ฉบับแรกใช้ระหว่างปี ค.ศ. 2010-2015 และมีผลการด�ำเนินงาน ทเ่ี ปน็ รูปธรรม โดยในภาพรวมแผนงาน AADMER 2010-2015 ได้ถูกนำ� ไปปฏบิ ตั ิแลว้ รอ้ ยละ 95 แผนงาน AADMER ฉบับท่ี 2 พ.ศ. 2559-2563 (AADMER Work Programme 2016-2020) ได้มีการปรับเปลี่ยนแนวทางการน�ำ AADMER ไปสู่การปฏิบัติจากเดิมที่มี 5 ยุทธศาสตร์หลัก และ 5 ยทุ ธศาสตร์สนับสนุนไปเป็นการเนน้ ท่โี ครงการหลกั ที่ขบั เคลื่อนโดยคณะท�ำงาน 5 คณะท�ำงาน ได้แก่ (1) คณะท�ำงานด้านการประเมินความเสี่ยง การแจ้งเตือนภัยและการติดตามสถานการณ์ (2) คณะท�ำงานด้านการป้องกันและลดผลกระทบ (3) คณะท�ำงานด้านการเตรียมความพร้อมและ การตอบโต้สถานการณ์ (4) คณะท�ำงานด้านการฟื้นฟูบูรณะภายหลังจากเกิดภัยพิบัติ และ (5) คณะทำ� งานด้านการจดั การความรู้และนวัตกรรม ปจั จบุ นั การประชมุ ระดบั รฐั มนตรอี าเซยี นดา้ นการจดั การภยั พบิ ตั ิ ไดร้ บั รองแผนงาน AADMER ปี พ.ศ. 2564-2569 (AADMER Work Programme 2021-2025) ซ่ึงวางเป้าหมายยุทธศาสตร์ ทผ่ี นวกกรอบการดำ� เนนิ งานและเอกสารพนั ธกรณรี ะหวา่ งประเทศของอาเซยี นดา้ นการจดั การภยั พบิ ตั ิ เชน่ วสิ ยั ทศั น์อาเซยี นด้านการจัดการภัยพบิ ตั ิ พ.ศ. 2568 ปฏญิ ญาอาเซียนว่าด้วยความเปน็ หน่ึงเดียว ในการตอบโต้ภัยพิบัตทิ งั้ ภายในและภายนอกภูมิภาค (One ASEAN One Response) แผนการพฒั นา ด้าน ICS ในด้านการจัดการภัยพิบัติของอาเซียน เป็นต้น ตลอดจน มีการปรับยุทธศาสตร์ ใหส้ อดคลอ้ งกบั กรอบการดำ� เนนิ งานทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การจดั การความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั ิ การเปลย่ี นแปลง สภาพภมู อิ ากาศ และการพฒั นาท่ีย่ังยนื โดยเนน้ ยทุ ธศาสตร์สำ� คญั ไดแ้ ก่ 28 ความร่วมมือระหวา่ งประเทศด้านการจดั การภยั พบิ ัติ ท่ีระลกึ เนอ่ื งในวนั จัดการภยั พบิ ัติของอาเซียนและวนั ลดความเส่ียงจากภยั พิบตั ิสากล

1 การประเมินความเสย่ี งและการสรา้ งความตระหนัก 2 การป้องกันและลดผลกระทบ 3 การเตรียมความพร้อมและการเผชิญเหตกุ ารณฉ์ ุกเฉิน 4 การฟ้ืนฟอู ย่างเข้มแขง็ 5 การมุ่งส่กู ารเปน็ ผู้นำ� โลกดา้ นการจดั การภยั พบิ ัติ เพ่อื ใชเ้ ป็นกรอบส�ำหรบั การด�ำเนินงาน รปู หน้าปก AADMER สาหรับหน้า 28 29ความร่วมมอื ระหว่างประเทศด้านการจดั การภัยพบิ ตั ิ ทรี่ ะลึกเน่อื งในวนั จดั การภัยพบิ ัติของอาเซยี นและวันลดความเสี่ยงจากภยั พบิ ตั สิ ากล

มาตรฐานวิธีการปฏิบัติและระบบเตรียมความพร้อมด้านการประสานงาน การบรรเทาทกุ ขแ์ ละการตอบโตส้ ถานการณภ์ ยั พบิ ตั ฉิ กุ เฉนิ ของอาเซยี น : the ASEAN Standard Operating Procedure for Regional Standby Arrangements and Coordination of Joint Disaster Relief and Emergency Response Operations: SASOP AADMER ไดกําหนดใหมีการจัดทํามาตรฐานวิธีการปฏิบัติและระบบเตรียมความพร้อม ด้านการประสานงานการบรรเทาทุกข์และการตอบโต้สถานการณ์ภัยพิบัติฉุกเฉินของอาเซียน (SASOP) ซง่ึ เปน แนวทางในการปฏบิ ตั ขิ องประเทศภาคสี มาชกิ และศนู ยป ระสานงานเพอื่ การชว่ ยเหลอื ด้านมนุษยธรรมในการจัดการภัยพิบัติของอาเซียน (AHA Centre) เพ่ือดําเนินการในด้าน การเตรียมความพรอมระดับภูมิภาคเพ่ือการบรรเทาภัยพิบัติและการตอบโตสถานการณฉุกเฉิน การใช้ก�ำลังพลทางทหารและบุคลากรฝ่ายพลเรือน และการอ�ำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้าย ข้ามเขตแดน ตลอดจนการประสานงานในการปฏิบัติการร่วม (Joint Operation) ในการบรรเทา ภัยพบิ ตั ิและการรับมอื สถานการณฉ ุกเฉนิ SASOP ไดก �ำหนดรายละเอยี ดการปฏบิ ัติที่สำ� คญั ดังน้ี 1 แนวทางและแบบแผนในการริเริม่ การจัดต้ังระบบเตรียมพรอ ม ฯ 2 ระเบียบการปฏบิ ตั ิร่วมกนั ในการบรรเทาภยั พบิ ตั ิและการรบั มือสถานการณฉ์ กุ เฉิน 3 ระเบียบการปฏิบัติในการการอ�ำนวยความสะดวกและการใช้ประโยชนจากทรัพยากร และขดี ความสามารถของฝา่ ยทหารและฝ่ายพลเรือน 4 วิธีการในการจัดการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุภัยพิบัติฉุกเฉินระดับภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Regional Disaster Emergency Response Exercise : ARDEX) ซึ่งจะใช้เพ่ือทดสอบ ความมปี ระสทิ ธภิ าพของ SASOP SASOP ประกอบด้วย ได้แก่ บทน�ำ การจัดการองค์กร การเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ การประเมินและติดตามสถานการณ์ การตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน การอ�ำนวยความสะดวกและ การใชงานทรัพยากรและขีดความสามารถของฝา่ ยทหารและพลเรอื น และภาคผนวก (แบบฟอรม์ ) ส�ำหรับบทท่ี 6 ว่าด้วยการอ�ำนวยความสะดวกและการใช้งานทรัพยากรและขีดความสามารถ ของฝา่ ยทหาร (Chapter 6: Facilitation and Utilisation of Military Assets and Capacities) คณะกรรมการจัดการภัยพิบัติของอาเซียน (ACDM) ได้รับรองเอกสารส่วนน้ี เมื่อตุลาคม 2559 โดยมหี ลกั การโดยรวมวา่ กองทพั มติ รประเทศทเ่ี ขา้ มาใหค้ วามชว่ ยเหลอื จะตอ้ งเคารพในอำ� นาจอธปิ ไตย และบูรณภาพแห่งดนิ แดนของประเทศทปี่ ระสบภยั ตามหลักของกฎบัตรสหประชาชาติ (UN Charter) 30 ความรว่ มมอื ระหว่างประเทศดา้ นการจดั การภัยพิบตั ิ ท่ีระลึกเน่ืองในวันจัดการภยั พบิ ัติของอาเซียนและวนั ลดความเส่ียงจากภัยพิบัติสากล

และสนธิสัญญาสันติภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia) โดยการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทา ภัยพิบัติจะต้องสอดคล้องกับความต้องการหรือความยินยอมของประเทศที่ประสบภัย นอกจากน้ี กองทัพมิตรประเทศที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือจะต้องไม่พกพาอาวุธ รวมถึงน�ำพายานพาหนะและ ส่ิงของต่าง ๆ ที่ไม่สอดคล้องกับกฎหรือระเบียบทางศุลกากรของประเทศที่ประสบภัย รวมทั้ง ต้องยึดหลักการด้านมนุษยธรรม อันได้แก่ 1) ความเป็นมนุษย์ (Humanity) โดยการปกป้องชีวิต และสุขภาพของมนุษย์ รวมถึงการเคารพในความเป็นมนุษย์ 2) ความเป็นกลาง (Neutrality) โดยไม่เลอื กข้างในความขัดแยง้ หรอื การแบง่ ฝา่ ยทางความคิด และ 3) ความไมล่ ำ� เอยี ง (Impartiality) โดยไม่แบ่งแยกเช้ือชาติ เผ่าพันธุ์ เพศ ความเชื่อทางศาสนา ชนช้ัน หรือ ความคิดทางการเมือง รวมท้ังความตระหนักถึงผลกระทบจากการปฏิบัติการ) ท้ังน้ี การใช้ทรัพยากรทางทหาร ในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ ประกอบด้วย การช่วยเหลือโดยตรง การช่วยเหลือโดยอ้อม และการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยการประสานงานระหว่างฝ่ายทหาร และระหวา่ งพลเรอื นกบั ทหาร กรณสี ถานการณภ์ ยั พบิ ตั ขิ นาดใหญจ่ ะดำ� เนนิ การผา่ นศนู ยป์ ระสานงาน นานาชาติ (Multi-National Coordination Center: MNCC) แผนการตอบโตภ้ ัยพบิ ัติร่วมของอาเซียน: ASEAN Joint Disaster Response Plan: AJDRP แผนการตอบโต้ภยั พบิ ตั ิร่วมของอาเซยี น (AJDRP) มเี ป้าหมาย คือ การจัดใหม้ ีกรอบการปฏบิ ตั ิ ร่วมกันในการระดมสรรพก�ำลังเพื่อตอบโต้ภัยพิบัติร่วมกันอย่างทันต่อสถานการณ์และเหมาะสม โดยมวี ัตถุประสงคด์ ังนี้ 1 เพ่ิมความรวดเร็วในการตอบโต้ภัยพิบัติของอาเซียนด้วยการสนับสนุนของประเทศ สมาชกิ โดยจะสามารถแจง้ การตกลงใจไดอ้ ยา่ งทันต่อสถานการณ์ 2 ขยายขนาดของการตอบโต้ภัยพิบัติของอาเซียนด้วยการเสริมสร้างการเตรียมการ และจัดการความพร้อมของอาเซยี นในการตอบโตภ้ ัยพบิ ตั ิ 3 การสง่ เสริมความเป็นหนึง่ เดยี วของอาเซยี นในการตอบโตภ้ ัยพิบตั ิด้วยการเสรมิ สร้าง การประสานงานและการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน หุ้นส่วน ของอาเซยี น และผู้ปฏบิ ัตงิ านด้านมนษุ ยธรรม 31ความร่วมมอื ระหว่างประเทศดา้ นการจดั การภัยพบิ ตั ิ ท่รี ะลึกเนือ่ งในวันจดั การภยั พบิ ัติของอาเซียนและวันลดความเสีย่ งจากภัยพิบัตสิ ากล

ดังน้ัน เพ่ือให้การเตรียมการและจัดการความพร้อมของอาเซียนในการตอบโต้ภัยพิบัติ จึงได้มี การก�ำหนดสถานการณ์ตัวอย่าง ซึ่งมีพื้นฐานจากภัยพิบัติที่เกิดข้ึนบ่อยในภูมิภาคตามกรอบของ AADMER ไว้ในแผนการตอบโตภ้ ัยพิบตั ิรว่ มของอาเซียน (AJDRP) โดยใช้ 3 ประเทศท่ีประสบภัยพบิ ตั ิ มากท่ีสุดของภูมิภาค คือ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และสาธารณรัฐแห่งสหภาพ เมียนมา และได้ก�ำหนดสถานการณ์ตัวอย่างเพื่อใช้เป็นจุดเร่ิมต้นในการเตรียมการและการวางแผน รบั มือกับภัยพิบัติ ดงั น้ี 1 สถานการณแ์ ผน่ ดนิ ไหวกลางกรงุ มะนลิ า สาธารณรฐั ฟลิ ปิ ปนิ ส์ มผี เู้ สยี ชวี ติ ประมาณ 37,000 คน ประชาชนไดร้ ับผลกระทบมากกว่า 1.2 ลา้ นคน บา้ นเรอื นไดร้ บั ความเสยี หายมากกว่า 510,000 หลังคาเรือน เกิดอัคคภี ัยไปท่ัวพื้นทีส่ นามบินและทา่ เรือไมส่ ามารถใช้การได้ตามปกติ 2 สถานการณภ์ ยั จากสนึ ามใิ นสาธารณรฐั อนิ โดนเี ซยี มผี เู้ สยี ชวี ติ ประมาณ 39,321 คน ประชาชน ได้รบั ผลกระทบมากกวา่ 1.2 ลา้ นคน บา้ นเรอื นไดร้ ับความเสียหายมากกวา่ 35,000 หลงั คาเรอื น ส่ิงอ�ำนวยความสะดวกและสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหายอย่างมาก สนามบิน คลังน�้ำมัน และทา่ เรอื ไม่สามารถใช้การได้ตามปกติ 3 สถานการณ์พายุไซโคลนในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาไม่มียอดผู้เสียชีวิต ประชาชน ได้รับผลกระทบประมาณ 630,000 คน ไม่มีข้อมูลความเสียหายของบ้านเรือน ระบบคมนาคม การติดต่อสอื่ สาร และพลงั งานได้รบั ความเสยี หายไม่สามารถใช้การไดต้ ามปกติ ศูนยป์ ระสานงานอาเซยี นในการใหค้ วามชว่ ยเหลือด้านมนษุ ยธรรม : ASEAN Coordinating Centre for Humanitarian Assistance on disaster management (AHA Centre) AHA Centre นนั้ ตงั้ อยทู่ ก่ี รงุ จาการต์ า้ สาธารณรฐั อนิ โดนเี ซยี จดั ตงั้ ขนึ้ เมอ่ื วนั ที่ 17 พฤศจกิ ายน 2554 มบี ทบาทในการทำ� หนา้ ทเี่ ปน็ หนว่ ยงานกลางในการประสานงานกบั ภาคสว่ นตา่ งๆ ในการขบั เคลอ่ื น งานด้านการจัดการภัยพิบัติของอาเซียนภายใต้กรอบความตกลงอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติ และสถานการณ์ฉุกเฉิน ท่ีผ่านมา AHA Centre เป็นหน่วยงานหลักในการเฝ้าระวัง ประสานงาน และส่งความช่วยเหลือไปยังประเทศสมาชิกท่ีเกิดภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์มหาอุทกภัย ทป่ี ระเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2554 เหตกุ ารณ์พายไุ ตฝ้ ุน่ ไห่เยี่ยนทีป่ ระเทศฟิลิปปนิ ส์ เมือ่ ปี พ.ศ. 2556 32 ความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศด้านการจดั การภัยพบิ ัติ ที่ระลึกเน่ืองในวันจดั การภัยพิบัตขิ องอาเซยี นและวนั ลดความเสย่ี งจากภัยพิบัตสิ ากล

เหตุการณ์มหาอุทกภัยในเมียนมา เหตุการณ์สึนามิและภูเขาไฟระเบิดในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ตลอดจนภยั พบิ ตั ิขนาดใหญใ่ นภมู ภิ าคที่ผา่ นมา ประเทศไทยสนับสนุนการด�ำเนินงานของ AHA Centre มาโดยตลอด AHA Centre เป็นกลไกหลัก ในการจัดการภัยพิบัติของอาเซียน เป็นหน่วยงานท่ีเช่ือมโยงประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศเข้าดว้ ยกนั เพือ่ รบั มือกับภยั พบิ ตั ิขนาดใหญท่ ่ีคกุ คามภมู ภิ าคอาเซียนของเรา ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ร่วมมือกับ AHA Centre ในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะในการให้ และรับความช่วยเหลือกับประเทศสมาชิกอาเซียนเมื่อเกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่ และประเทศไทย ยงั ได้รบั เลือกใหเ้ ปน็ ที่ตง้ั “คลงั เก็บสิง่ ของชว่ ยเหลอื ทางไกลของอาเซียนภายใต้โครงการ DELSA” (Disaster Emergency Logistics System for ASEAN: Satellite Ware House) ณ ศูนยป์ อ้ งกัน และบรรเทาสาธารณภยั เขต 16 ชยั นาท อกี ดว้ ย AHA Centre นั้นมีบทบาทในการสนับสนุน ให้ความช่วยเหลือและเป็นพ่ีเลี้ยงให้กับประเทศ สมาชิกอาเซียนเพื่อให้พร้อมรับมือกับภัยพิบัติท่ีอาจจะเกิดขึ้น และเป็นเสมือนยามเฝ้าระวังภัยพิบัติ ของอาเซียนเมื่อเกิดภัยพิบัติในอาเซียนจะส่งข้อมูลเตือนภัย และการประเมินสถานการณ์ให้ประเทศ สมาชิกอย่างทันท่วงที และถ้าเป็นภัยขนาดใหญ่ก็จะส่งเจ้าหน้าท่ีเข้าร่วมประเมินความต้องการ ความชว่ ยเหลอื และประสานประเทศสมาชกิ อาเซยี น รวมถงึ อำ� นวยความสะดวกใหก้ บั ประเทศสมาชกิ อาเซยี นในการสง่ ความชว่ ยเหลอื เขา้ สู่พน้ื ท่ีประสบภยั ได้ทนั ที ทีมสำ� รวจและประเมินผลกระทบจากภัยพบิ ตั ิของอาเซยี น : ASEAN Emergency Response and Assessment Team (ASEAN ERAT) ASEAN–ERAT จัดต้ังขึ้นเพื่อเสริมสร้างศักยภาพและการเตรียมความพร้อมของอาเซียน รใูปนหกน้าาปรกตAอAบDMโตER้ภสัยาหพริบับหัตนิแา้ ล28ะเพื่อสร้างความม่ันใจในการใช้ทรัพยากรโดยรวมของอาเซียนท่ีรวดเร็ว ในสถานการณ์ภยั พิบตั ิขนาดใหญซ่ ง่ึ เกิดขึน้ ในประเทศสมาชิกอาเซียน นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยได้ส่งเจ้าหน้าท่ีเข้าร่วมการฝึกอบรมหลักสูตร ASEAN-ERAT มาแลว้ ใน 10 รนุ่ รวมมสี มาชกิ ASEAN-ERAT ในประเทศไทย 25 คน รูป ASEAN ERAT สาหรับหนา้ 33 33ความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศดา้ นการจดั การภัยพิบัติ ทีร่ ะลกึ เนื่องในวันจัดการภยั พบิ ัติของอาเซยี นและวันลดความเส่ยี งจากภยั พิบตั สิ ากล

ขณะนมี้ กี ารจดั ทำ� แผนพฒั นาศกั ยภาพ ASEAN ERAT โดยมกี ารแบง่ ออกเปน็ 3 ระดบั ดงั นี้ 1 ระดบั 1 สมาชกิ ASEAN ERAT ทกุ คนจะต้องผา่ นการอบรมในหลกั สูตรระดับนี้ 2 ระดับ 2 สมาชิก ASEAN ERAT ท่ีผ่านระดับ 1 แล้ว มีประสบการณ์ในการท�ำงานในพ้ืนท่ี สามารถเลือกเข้าหลักสูตรเฉพาะด้าน (ด้านการจัดการข้อมูล ด้านการประเมิน ความเสยี หายเบอ้ื งตน้ ดา้ นการจดั การ Logistics เพอ่ื มนษุ ยธรรม ดา้ นการประสานงาน พลเรือน-ทหาร และด้านการฟื้นฟูในระยะแรก) เพ่ือเพ่ิมคณสมบัติในการพิจารณา ออกปฏิบัตงิ าน 3 ระดับ 3 ระดับหวั หน้าทีม (Team Leader) สมาชกิ ทีผ่ ่านระดบั 1 และมีประสบการณ์ รวมถึง ผา่ นการอบรม UNDAC จะไดร้ ับการพิจารณาให้เขา้ ร่วมอบรมในหลกั สตู รนี้ การอบรมในหลักสูตรเบื้องต้น (ระดับ 1) ผู้เข้าร่วมการอบรมจะได้รับความรู้ในเร่ือง กลไก การจดั การภยั พบิ ตั แิ ละการตอบโตส้ ถานการณฉ์ กุ เฉนิ ภายใตก้ รอบอาเซยี น ขอบเขตและการปฏบิ ตั งิ าน ของ ASEAN-ERAT ศูนยป์ ฏบิ ตั งิ านฉกุ เฉนิ และการใช้เวปไซต์ การวางแผนภาคสนามและการประชุม ยอ่ ยกบั ผปู้ ระสานงานหลกั ของประเทศ การประสานงานและจดั ตง้ั ศนู ยป์ ระสานงานในพน้ื ทป่ี ระสบภยั การวางแผนงาน การเกบ็ ข้อมลู ปฐมภูมแิ ละทตุ ยิ ภูมิ การท�ำรายละเอยี ดตารางงาน การวเิ คราะหข์ ้อมลู การประเมนิ ความเสียหายเมอื่ เกิดภยั พบิ ตั ิ การจดั ทำ� รายงานสถานการณ์ ระบบโลจสิ ติกส์ การจัดการ สิ่งของทีส่ ง่ ใหค้ วามช่วยเหลือ ระบบการประสานงาน ด้านมนุษยธรรมระหวา่ งประเทศ ฯลฯ พรอ้ มท้งั การเข้ารว่ มการฝกึ ซอ้ มเสมือนจริงเพ่อื ปฏบิ ัติงานตอ่ เนื่อง 36 ช่วั โมง 34 ความร่วมมือระหวา่ งประเทศด้านการจดั การภัยพิบตั ิ ที่ระลกึ เนื่องในวันจดั รกูปารสภายัหพรบัิ หตั ขินอ้าง3อ4าเซียนและวันลดความเสยี่ งจากภยั พิบตั สิ ากล

ส่วนท่ี 2 การดำ� เนินงานของกรมปอ้ งกนั และบรรเทา สาธารณภัยในการขับเคล่ือนความร่วมมือ ด้านการจัดการภยั พบิ ตั ิระหวา่ งประเทศ

ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและภาวะโลกร้อน ท�ำให้ประเทศไทย มแี นวโนม้ เกดิ ภยั พบิ ตั ทิ ที่ วคี วามรนุ แรงมากขนึ้ มคี วามถใี่ นการเกดิ บอ่ ยครงั้ มรี ปู แบบซบั ซอ้ น และสรา้ ง ความสญู เสยี ตอ่ ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ อยา่ งมหาศาล รวมถงึ สง่ ผลกระทบตอ่ การพฒั นาประเทศในหลายมติ ิ ท้ังด้านเศรษฐกิจ สังคม และความม่ันคง กระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยงานกลางของภาครัฐ ในการบรู ณาการบรหิ ารจดั การสาธารณภยั ของประเทศ ไดข้ บั เคลอ่ื นกลไกการจดั การสาธารณภยั ภายใต้ พระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั พ.ศ. 2550 และแผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แห่งชาติ เชอื่ มโยงกบั กรอบการด�ำเนนิ งานเซนไดเพือ่ การลดความเส่ียงจากภยั พิบตั ิ พ.ศ. 2558-2573 และกรอบความร่วมมือด้านการจัดการภัยพิบัติระดับโลก โดยให้ความส�ำคัญกับการลดความเส่ียง จากภัยพิบัติบนพื้นฐานของความร่วมมือจากทุกภาคส่วนท้ังในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะ การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยภายใต้กรอบ การจัดการภัยพิบัติระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมถึงการเสริมสร้างเครือข่ายการจัดการภัยพิบัติ ภายในประเทศให้พร้อมรู้รับ ปรับตัว และฟื้นกลับจากภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็ว เพ่ือก้าวสู่เป้าหมาย ประเทศไทยปลอดภัยจากภัยอยา่ งย่งั ยนื การสง่ เสรมิ ความรว่ มมอื ระหว่างประเทศ ด้านการจดั การภัยพิบตั ิ การส่งเสริมความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระหว่างประเทศ ถือเป็นกลไก ส�ำคญั ท่ชี ่วยเพ่มิ ศกั ยภาพในการจัดการสาธารณภัยของประเทศ และสรา้ งบทบาทน�ำในเวทนี านาชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้มุ่งมั่นยกระดับการจัดการสาธารณภัยของประเทศ ใหม้ มี าตรฐานสากล โดยโครงการความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศทก่ี รมปอ้ งกนั เปน็ เจา้ ภาพในการผลกั ดนั และขับเคลอื่ นท่สี �ำคญั ไดแ้ ก่ 1 การจัดตัง้ คลงั เกบ็ ส่งิ ของช่วยเหลือทางไกลของอาเซียน (DELSA Satellite Warehouse) 2 การพัฒนาศักยภาพชุดค้นหาและกู้ภัยในเมืองแห่งชาติ (Nation Urban Search and Rescue : USAR) เพอ่ื สรา้ งประเทศไทยใหพ้ รอ้ มรบั มอื และฟน้ื กลบั จากภยั พบิ ตั ไิ ดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และมีประสทิ ธภิ าพ 3 การขบั เคลื่อนกรอบเซนไดเพอื่ การลดความเส่ยี งจากภัยพบิ ตั ใิ นประเทศไทย 36 ความรว่ มมือระหว่างประเทศด้านการจดั การภัยพบิ ตั ิ ท่รี ะลกึ เนือ่ งในวันจดั การภัยพบิ ตั ขิ องอาเซียนและวนั ลดความเส่ียงจากภยั พิบตั สิ ากล

คลังเกบ็ ส่ิงของชว่ ยเหลือทางไกล (Satellite Warehouse) ของอาเซียนความร่วมมอื ระหว่างประเทศดา้ นการจัดการภยั พบิ ตั ิ ภายใต้โครงการระบบโลจสิ ติกสเ์ พ่อื ชว่ ยเหลอื กเรมมปื่ออ้ เงกกนั ดิแลภะบัยรรพเทาิบสาัตธาริฉณุกภัยเฉินสำ� หรบั ณอาเศซนู ยี คยนโลค์ปงัร(เงอ้กDก(็บDงาiสรsiกsรงิ่ aaะขนัsบsอtแบeงtชrโeลล่วErจะยmบิสเEหeตรลmrกิ gรือสeทeเ์เnพทาrcงอ่ืgyาไชกeสLว่ลonยา(gเธcSหisaาyลttiรือecLเslณมloiStือ่ eygภเกsWitัยิดseภamtrเัยieขcพhfoติsบorัตuSA1ิฉse6Sุกy)EเsฉAขชนิtอNeัยสง:อาmนDหาEาเรซLับทfSียoอAนาr)ภเซาAยยี SในตE้ AN: DELSA) การจัดต้ังคณลศงั ูนเยก์ปบ็้องสกนัิง่ แขลอะบงรชรเ่วทยาสเาหธลารือณทภายั งเขไตก1ล6ขชอยั งนาอทาเซียน การจัดตั้งเควลทังสีกิ่งาขรอปงชร่วะยชเหุมลคือณทาะงกไกรลรขมอกงอาารเอซียานเซยี นด้านการจัดการภยั พบิ ตั ิ คร้งั ท่ี 28 (The 28th Meeting ส(ToณขShาaอfeธtาeเงATมรlอlSณอhืitEาeงeรAเเเัฐซNวWซอทAียมaCินีกSนrาoeโาEรmดรhงัAปน(omSNีรuเสซiaะstาีetยชtธeC)ุมeeาไoคภlดรolณm้าคณinยtัดะeรmใกDเตฐัลรis้iอโือรWtaคมนtิกsรetกaปโงeดeาrรกrรeนะาMอhเoรเี าทaซรonเnศซยีะuaไียบgทDไsนบeดยeiดmโsค้เ้า)ลปaeดนัจ็sนnภกเิสttลทาeา)ต่ีอืตริเยกrจ้ัมงกสใัดคื่อMป์ตเกลวพร้ัาโนัaงื่อะครเทnกชภเรี่ทa็่บวัย2งgศย6พสกeเิ่ไงิบห-าทขmัตรล2อยิ ื9อรeคงเปชเะรnเม้ัม่งวน็บtื่อทษย)ทบเี่เาก2หต่ีเยโิ8ดมลลง้ันภคื่ืออ(จ2ัTยทลวิส5hพงาััน5eติเงบ9ทกิกไ2ัตกบ็ี่8ณสิฉลt2สุhก์เขเ6ง่ิพเMมอฉข-ื่ืออeง2ินองอeช9สงเtาซช่iาวnเมหซเว่ยgมาียยรเรoัษบนหเังfหาลลยืออื นเทมา2่ือง5เไกก5ิดล9 อภาัเยซพียินบัต(DิฉisุกaเsฉteินrสEm�ำหeรrgับeอncาyเซLียogนist(icDSisyastsetmerfoErmASeErAgNen: DcEyLSLAo) gรiะsยtะicท่ี S2yถsือteเปm็นโคfรoงrกาAรSสEาคAัญN : DELSA) ภราะยยใตะ้แทผน่ี ง2านถควือาเมปต็กนลโงคอราเงซกียนารว่าสด�ำว้ คยัญกาภรจาดัยกใาตรภ้แัยผพนิบงัตาิแนละคตวอาบมโตต้สกถาลนงกอาราณเซ์ฉียุกเนฉนิว่า(AดA้วDยMกEาRรWจoัดrkการภัยพิบัติ Pแroลgะraตmอmบeโต) ส้ ถานการณฉ์ ุกเฉิน (AADMER Work Programme) FACT about DELSA Satellite Warehouse in C•• กกพhaออ่่ น้ื iสส-ทFรรnAีค่ า้้าaWCลงงtTังaดกจเสาr่อaว้ eนรสรbยhวรว็จนo้างoมงเuu1บดมt0้ว1sป่อืยe,Dล1รงว้า5บEiะนันnLป2มบทSรCาาะAตี่ทณhม1ราaSก0ณ.่อaมiป-สกtnป.ภรeaภัน(้า.l4ง.ltจยเi8สtำ�าeรนยจ็มวน. นX2152064ล0มา้ น.)บาท • เปิดตัวในเมกื่อวานั รทปี่ 1ร0ะกชันุมยาสยุดนย25อ6ด0อาเซียน คร้ังที่ 34 (มิ.ย.62)พ้ืนแทลค่ี ะลเงั ปรดิวมป1ฏ,1ิบ5ัต2 กิตรา.มร. (1438 มธ.ันวาคม 2562 X 24 ม.)  เปิดตัวในการประชมุ สดุ ยอดอาเซยี น ครัง้ ที่ 34 (มิ.ย. 62) และเปิด ปฏิบตั กิ าร 13 ธันวาคม 2562 รปู ที่ 5โคมรูลงคก่าสาิง่รขรอะงชบว่ ยบเหโลลอื จในิสคตลงักิ UสSเ์ Dพ่อื ช่วยเหลอื เมอื่ เกดิ ภยั 1พ,00บิ 0ตั,0ฉิ00กุ บเรฉิจนิาคสโด�ำยหรรัฐบับาอลญาปี่เซุ่นียน (DELSA) รูปท่ี 5 โครงข่ายระบบโลจสิ ตกิ ส์เพือ่ ชว่ ยเหลือเม่ือเกดิ ภัยพิบตั ิ ฉกุ เฉนิ สาหรบั อาเซียน ความร่วมมอื ระหว่างประเทศดา้ นการจัดการภยั พิบัติ 37 ที่ระลึกเนื่องในวันจดั การภัยพบิ ตั ขิ องอาเซียนและวนั ลดความเส่ยี งจากภยั พิบตั ิสากล 41

รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะ น่วยงานกลางขอรงัฐภบาาคลรไัดฐ้มในอกบหารมบายูรใณห้การกะาทรรบวรงิหมหาารดจไัดทกยารโดสยากธรามรปณ้อภงกัยันขแอลงะปบรระเเททาศสาปธารระณสภาัยนค(ปวภา.ม) ร่วมมือกับ นย์ประสาในนฐงาานนะอหนาเ่วซยีงยานนเกพล่ือางคขวอางภมาชค่วรยัฐใเนหกลาือรบดูร้าณนามกนาุรษบยรธิหรารรมจัดแกลาะรกสาาธราจรัดณกภาัยรขภอัยงปพริบะัตเทิ ศ(ASปEรAะNสาCนoordinating าeรnจtrัดeตfo้ังคr ลHCCคังueoวเmnากoมtr็บaedรnสri่ว)niิ่งtมaaแขมtrลอiiaือnะงnหกgชับนA่วCว่ศsยeยsูนเinงsหยาttarน์ปลenทืรอcีเ่ะfทกeoสย่ีาroาวงนnขHไงกอ้udางลmiนsขaขอaอsับnาtงเeเiคtซอraลียาmr่อืiนเaนซaใnกีnนยาaนกAรgาsจesร(ดั mSiใsตหateัง้at้คคnenวลtcl:าังleiเAมtกeHชo็บ่AวnสWยง่ิ Cเขdaหeอirsnลeงatชือhesว่ดtorยe)้าuเrแนหsลลมmeะอืน)aหทุษnณนายaง่วgธไศยกeรงูนลmราขยมนeอ์ปทnง(้ออA่ีtเก:างS่ียเกAEซวันHAียขNนAแอ้ ลงขะับบเรครลเทื่อนา าธารณภัย(Sเaขteตlli1te6Wชaัยreนhาoทusเeพ)่ือณเปศ็นนู ยศป์ูน้อยง์กกนัลแาลงะใบนรกราเทราสสนาธับาสรณนุภนัยควเขาตม1ช6่วยชัยเหนาลทือเเพมอ่ื่ือเเปก็นิดศภนู ัยยก์พลิบาังติในประเทศ มาชิกอาเซใียนนกาซร่ึงสสนาับมสานรุนถคสว่งาสมิ่งชข่วอยงเชห่วลยือเหม่ือลเือกไิดปภยัยังพ4ิบัตปิใรนะปเรทะศเทไศดส้แมกา่ ชเมิกียอนาเมซาียนกัมซพึ่งสูชาามสารปถปส.่งลสา่ิงวขอแงละเวียดนาม ภายใน 24ผชา่่วชนย่ัวเโโหคมลรงงือขผไา่ปา่ ยยนคังโมค4นรางปคขรม่าะขยเอทคงมศอนาไาเดซค้แยี มกนข่ ใเอนมงเียสอนน้ามทเซาาียงกรนัมะใเพนบูชเียสาง้นเสศทปราษปงฐร.ลกะาจิเวบภยีาแคงลเตะศะเรววษียันดฐอนกอาจิกมภาไคดต้ภะายวใันนอ2อ4ก ช่ัวโมง รปู ท่ี 6 ผ้นู าอารเซปู ยี ทน่ี 6ร่วผมนู้เปำ� ดิอตาวัเซคยีลนงั เรก่วบ็ มสเปง่ิ ขดิ อตงวั ชคว่ ลยงัเหเกลบ็ อื สทิ่งาขงอไกงลชข่วอยงเอหาลเือซทียานงใไนกปลรขะอเทงอศาไทเซยียน ในประหเทวศา่ ไงทกยารรปะรหะวชาุ่มงผก้นู าารอปารเซะชยี ุมนผคู้นร�ำั้งอทาี่ 3เซ4ียณน กครุง้ั เทท่ี พ34ฯ ณประกเรทุงศเทไทพยฯ ประเทศไทย นา 10 ปกรภผาะนู้ารเยทำ� ปใศ1ตร0อก้โะคาาปชรรเรุมซปงะกีรสยเาทะุนดรชศไรยมุอดะอสาบร้ เดุดซ่วบยอียมโอลนากดจไเันอดซิสา้รเีตยปเ่วซิกนมิดียสกตน์เคนัพัวเรค่ือโปั้รงคชิดง้ัท่รวทต่ียงัวี่ 3กเ3โหค44าลรรเืงอเจมกมเ่ือัดมาื่อวร่ืตอันวจเ้ังกดััทนคิดตี่ ทล1ภง้ั ังี่2คัย1เลพกม2ังิบถิบ็เกุนัตมส็บาิฉิ่ิงถสยุกขุนน่ิงเอขฉา2องินย5ชงสนช6ว่�ำว่2ยหย2เรณเห5หับ6ลลอกือ2ืาอรเทงุ ทซเณาทียางพงนไกกไฯกลหรปขลุงรอรขือเะทงออเDพทงาEอศเฯซLไาทยีSเปนซAยรียะนเทภศาไยทใตย้ รงการระณบบจโงั หลวจดั ิสชตยั ิกนสาท์เพปื่อรชะเ่วทยศเไหทลยือเพเมอ่ื แ่ือนเกะนิดำ�ภคัยลพงั เิบกบ็ัตสิฉง่ิ ุกขเอฉงินชว่ สยาเหหลรอืับทอาางไเกซลียขนองหอารเือซยี DนEในLปSรAะเณทศจไทังยหวัดชัยนาท ระเทศไทย เพ่ือแนะนาคลังเก็บส่ิงของช่วยเหลือทางไกลของอาเซียนในประเทศไทยในฐานะที่เป็นหน่ึงใน ลไกการตอบโต้ภัยพิบัติและการส่งความช่วยเหลือไปยังประเทศสมาชิกอาเซียนท่ีประสบภัยพิบัติได้อย่าง วฏดิบเัตร็วิงา3แน8ลคะลตังทค่อเรี่วกะามลม็บึการเนส่ว่ือพม่ิงงใมขนลอื วอเรันอะงจหัดชกวก่วา่ารงอยภปัยนเรพหะุพบิ เลทัตงิขศืออษดงขอา้์ านอเเผกซงยีา่าอนรจแจาลัดินเะกซวดนัาียรลาภดนคยั รวอพาัฐยมิบเมัต่สาี่ยินงงเจตปากร็ภนีวยั ทพ่าิบากัตงสิาากรกลากรรระ่วทมรกวับงผมู้แหทานดจไทากยปเรปะ็นเทปศรสะมธาานชิกในอพาเิธซีเียปนิด