Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่4 โครงงานคอมพิวเตอร์

หน่วยที่4 โครงงานคอมพิวเตอร์

Published by lks.school57, 2020-01-27 08:28:53

Description: การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ให้ประสบผลสำเร็จน่าชื่นชม ควรเลือกหัวข้อโครงงานที่สามารถแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันได้ พัฒนาโครงงานตามขั้นตอนที่ถูกต้อง โดยมีผู้เชี่ยวชาญเป็นที่ปรึกษา
มีจิตสำนึกและความรับผิดชอบในการสร้างชิ้นงานหรือโครงงานโดยไม่คัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง

Search

Read the Text Version

การออกแบบเทคโนโลยี ช้ั น มั ธ ย ม ศึ ก ษ า ปี ที่ 5 โครงงาน คอมพวิ เตอร์

การพฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอร์ใหป้ ระสบผลสาเร็จ น่าชื่นชม ควรเลอื กหัวขอ้ โครงงานท่ีสามารถแก้ไข ปญั หาในชวี ิตประจาวันได้ พัฒนาโครงงานตาม ขน้ั ตอนที่ถกู ต้อง โดยมีผูเ้ ชย่ี วชาญเป็นทป่ี รกึ ษา มีจิตสานกึ และความรับผดิ ชอบในการสร้างชนิ้ งาน หรือโครงงานโดยไมค่ ดั ลอก ทาซา้ ดดั แปลงผลงาน ของผ้อู ืน่ มาเปน็ ของตนเอง

ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์ กิจกรรมเก่ียวกับการใช้คอมพิวเตอรท์ เ่ี ปดิ โอกาส ใหน้ กั เรียนได้ศกึ ษา ค้นควา้ และลงมอื ปฏบิ ตั ดิ ว้ ย ตนเองตามความสามารถ ความถนดั และความ สนใจ โดยอาศยั กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ หรอื กระบวนการอน่ื ๆ ในการศกึ ษาคาตอบใน เร่อื งนนั้ ๆ โดยมคี รูเป็นผกู้ ระต้นุ แนะนาและให้ คาปรึกษาแกน่ ักเรียน ตัง้ แตก่ ารเลือกหวั ข้อ การศกึ ษา คน้ คว้า ดาเนินการ วางแผน กาหนด ข้นั ตอนการดาเนนิ งาน โดย การทาโครงงาน สามารถทาทกุ ระดบั การศึกษา ซงึ่ อาจทาเปน็ รายบคุ คลหรอื รายกลมุ่ กไ็ ด้ ทั้งน้ีขนึ้ อยกู่ ับ ลกั ษณะโครงงาน อาจเปน็ โครงงานเล็กๆท่ไี ม่ ย่งุ ยากซับซ้อนหรอื โครงงานใหญท่ ่มี ีความยาก และซับซ้อนข้นึ กไ็ ด้

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความ เจริญก้าวหน้าของทุกๆสังคมในโลกปัจจุบันท้ังยังมี การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและก่อให้เกิดผลต่างๆ ตามมา เช่นสังคมส่วนใหญ่เปล่ียนจากสังคมยุค อุตสาหกรรมมาเป็นสังคมสารสนเทศ การตัดสินใจใน เรื่องต่างๆมักขึ้นกับข้อมูลซื้อได้จากคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้คอมพิวเตอร์ยังถูกใช้ในการออกแบบ ช้ินงาน จาลองสถานการณ์เก่ียวกับภัยธรรมชาติ เพ่ือคิดค้นวิธีป้องกันและแก้ปัญหา เขียนโปรแกรมเกม เขียนโปรแกรมเพื่อ แก้ปัญหาการทางานของคอมพิวเตอร์ ตดิ ตอ่ ส่อื สารผา่ นเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ นต็

ซึ่งความสามารถของคอมพิวเตอร์เล่านี้ต่างก็ถูก พัฒนามาจากโครงงานคอมพิวเตอร์ทั้งสิ้นการทา โครงงานคอมพิวเตอร์นอกจากจะเป็นกิจกรรมที่ สง่ เสรมิ ให้นักเรียนไดน้ าความรู้ทางคอมพิวเตอร์มา ใช้แก้ปัญหา พัฒนา คิดค้นผลิตภัณฑ์และสิ่งของ เครือ่ งใชต้ ่างๆแลว้ ยงั สง่ เสริมใหน้ กั เรยี นมคี วามสนใจ ที่จะทางานวจิ ัย และประกอบอาชีพทางคอมพิวเตอร์ มากยิ่งข้ึน เพ่ือให้สอดคล้องกับความต้องการ บุคลากรทางด้านคอมพิวเตอร์ที่เพิ่มมากขึ้นใน ปัจจุบัน



ประเภทของ โครงงาน คอมพวิ เตอร์

โครงงานคอมพวิ เตอรแ์ บ่งประเภทวัตถปุ ระสงค์ ของการใชง้ านได้ ดงั น้ี 1.การพัฒนาสื่อเพ่ือการศึกษา โครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานท่ีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตส่ือเพ่ือ การศึกษา โดยการสร้างโปรแกรม บทเรียน หรือ หน่วยการเรียนรู้ ซึ่งอาจต้องมีแบบฝึกหัดทบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อมให้ผู้เรียนสามารถเรียน แบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม ตัวอย่างโครงงาน ประเภทน้ี เช่น การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน พลังงาน ทดแทน อาหารสีภ่ าค สถานท่ที อ่ งเทยี่ วมหัศจรรย์ใน เมืองไทย สนุกกับตารางธาตุ สานวนไทยพาสนุก ท่องเทีย่ วมหัศจรรยใ์ นเมอื งไทย สนกุ กับตารางธาตุ

2.การพัฒนาเคร่ืองมือ โครงงานประเภทนี้ เป็น โครงงานเพ่อื พฒั นาเครือ่ งมือช่วยสร้างงานประยุกต์ ต่ า ง ๆ โ ด ย ส่ ว น ใ ห ญ่ อ ยู่ ใ น รู ป แ บ บ ช อ ฟ ต์ แ ว ร์ แ ล ะ เครื่องมอื ตวั อยา่ งโครงงานประเภทนเี้ ชน่ ซอฟต์แวร์ ระบบงานการกีฬา ซอฟต์แวร์สารบรรณสาเร็จรูป ซอฟต์แวร์ระบบฐานข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้น เครื่องช่วยคนพิการแขนอ่านหนังสือเคร่ืองรดน้า ต้นไม้และใหอ้ าหารปลาผา่ นโทรศัพท์เคล่ือนที่ เครื่อง ให้อาหารไก่อัตโนมตั ิ หนุ่ ยนตท์ างานบ้าน

3. การทดลองทฤษฎี โครงงานประเภทน้ีเป็น โครงงานท่ีใช้คอมพิวเตอร์ช่วยจาลองงาน ไม่ สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้และเป็น โ ค ร ง ง า น ที่ ผู้ ท า ต้ อ ง ศึ ก ษ า ร ว บ ร ว ม ค ว า ม รู้ หลักการ ขอ้ เท็จจริง และแนวคิดต่างๆ แล้วเสนอ เป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการอาจอยู่ในรูป ของสูตร สมการ หรือ คาอธิบาย พร้อมท้ังการ จาลองทฤษฎีดว้ ยคอมพวิ เตอรใ์ ห้ออกมาเป็นภาพ ภาพท่ีได้ก็จะเปล่ียนไปตามสูตรหรือสมการ น้ัน ซ่ึงจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดีย่ิงข้ึน การทาโครงงานประเภทน้ี มีจุดสาคัญอยู่ท่ีผู้ทา ตอ้ งมีความรู้ในเร่ืองน้ัน ๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่าง โครงงานประเภทนี้ เช่น การจุดระเบิด การเกิด คลื่นยักษ์สึนามิ การทดลองเรื่องการไหลของ ของเหลว

4. การประยุกต์ใช้งาน เป็นโครงงานท่ีใช้ คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้ งานจริงในชีวิตประจาวัน โดยประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปการณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจ เป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุง เปล่ียนแปลงของเดิมท่ีมีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพ สูงข้ึนโครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้ เกี่ยวกับเคร่ืองคอมพิวเตอร์ภาษาโปรแกรมและ เครื่องมือต่างๆ ท่ีเก่ียวข้อง ตัวอย่างโครงงาน ประเภทนี้ เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและ ตกแต่งภายในอาคาร ซอฟตแ์ วร์สาหรบั การผสมสี

5. การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ โครงงานประเภทน้ี เ น้ น โ ค ร ง ง า น ท่ี ใ ช้ ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ ใ น ก า ร พั ฒ น า ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมประยุกต์ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมี ใครทามาก่อนเพ่ือใช้เฉพาะงาน ตัวอย่างโครงงาน ประเภทนี้ เช่น โปรแกรมคัดแยกลูกค้าของธนาคาร โ ป ร แ ก ร ม ก า ร จั ด ร า ย ก า ร อ า ห า ร ใ ห้ ผู้ ป่ ว ย ใ น โรงพยาบาล

กิจกรรมที่ 5 ตอบคาถามต่อไปน้ลี งสมดุ ของตนเอง 1. บอกความหมายของโครงงานคอมพวิ เตอร์ 2. ความสาคญั ของโครงงานคอมพิวเตอร์ 3. โครงงานทใี่ ชค้ อมพิวเตอร์ชว่ ยจาลองงาน คือ โครงงาน ประเภทใด 4. โครงงานที่ใช้คอมพวิ เตอร์ในการผลิตสอื่ แบบฝกึ หัดทบทวน คอื โครงงานประเภทใด 5. โครงงานทีใ่ ช้คอมพิวเตอรส์ ร้างผลงานท่ีนามาใช้ในชวี ติ จรงิ คือ โครงงานประเภทใด 6. โครงงานเปฌนรปู แบบซอฟต์แวร์หรอื เครอื่ งมอื คอื โครงงานประเภทใด 7. โครงงานทีใ่ ช้คอมพวิ เตอรใ์ นการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ คือ โครงงานประเภทใด



“ขั้นตอนการพัฒนา โครงงานคอมพวิ เตอร์” โครงงานคอมพวิ เตอรเ์ ปน็ กิจกรรมทีต่ ้องทาอยา่ ง ต่อเน่อื งหลายขั้นตอน และแตล่ ะข้นั ตอนจะมี ความสาคัญต่อโครงงานนนั้ ๆ โดยข้นั ตอนของ การทาโครงงานแบ่งได้ 6 ขั้นตอน ดงั นี้

1.การคัดเลือกหวั ขอ้ ท่สี นใจ เรื่องทนี่ ามาพฒั นาเป็นโครงงานคอมพวิ เตอร์ มักจะไดม้ า จากปัญหา คาถาม ความสนใจ การสังเกต ส่ิงตา่ งๆ ประสบการณ์ ของตนเองหรอื สง่ิ ของตา่ งๆ รอบตัวที่เก่ยี วเนอ่ื งกับระบบคอมพิวเตอร์ เชน่ การอา่ นค้นควา้ จากหนังสือ เอกสาร หนงั สอื พิมพ์ วารสาร เว็บ ไซด์ ทางอินเทอรเ์ นต็ การไปเย่ียมชมสถานท่ตี ่างๆ การฟงั บรรยาย ทางวชิ าการ รายการวทิ ยแุ ละโทรทัศน์ รวมทงั้ การสนทนา อภิปราย แลกเปล่ียนความคดิ เห็นระหวา่ งเพ่ือน ผูเ้ รียน หรือกับบคุ คลอน่ื ๆ กจิ กรรมการเรียน การสอนในโรงเรียน งานอดิเรกของผเู้ รียน การเข้า ชมงานนิทรรศการ หรอื งานประกวดโครงงานคอมพิวเตอรอ์ ย่างไรก็ ตาม ในการตดั สินใจเลอื กหวั ขอ้ ทจี่ ะนามาพัฒนาการโครงงาน คอมพิวเตอร์ ควรคานึงถึงองคป์ ระกอบสาคญั ตอ่ ไปน้ี 1. ตอ้ งมคี วามรแู้ ละทักษะพื้นฐานอยา่ งเพียงพอในหวั ข้อทจี่ ะศึกษา 2. สามารถจัดหาเครื่องคอมพวิ เตอร์และซอฟตแ์ วรท์ ่ีเก่ยี วข้องได้ 3. มีแหล่งความรเู้ พยี งพอทจ่ี ะศึกษา 4. มีเวลาเพียงพอในการจัดทาโครงงาน 5. มงี บประมาณเพียงพอในการจดั ซื้อวัสดุ อุปกรณเ์ พ่อื ทา โครงงาน 6. มีความปลอดภยั จากอบุ ตั เิ หตทุ ่อี าจเกิดข้ึนจารการทางาน

2. การศกึ ษาคน้ คว้าเอกสาร การไดศ้ กึ ษาและเยยี่ มชมโครงงานคอมพิวเตอร์ในงาน นทิ รรศการและศกึ ษาค้นคว้าเอกสาร รายงาน โครงงานคอมพิวเตอรจ์ าก เวบ็ ไซดต์ ่างๆ ทว่ั โลก และแหล่งข้อมูลต่างๆ ซึง่ รวมถึงการขอคาปรกึ ษา จากผ้เู ชี่ยวชาญในเรื่องนนั้ ๆ จะช่วยใหม้ ีแนวคิดในการกาหนดขอบเขตของ เร่ืองที่จะศึกษาไดเ้ ฉพาะเจาะจงมากยงิ่ ขนึ้ รวมทัง้ ได้รบั ความรู้เพ่มิ เติมใน เรอื่ งท่จี ะศึกษาจนสามารถออกแบบและวางแผนดาเนินการทาโครงงาน นน้ั ไดอ้ ย่างเหมาะสม จงึ นาโครงงานคอมพิวเตอร์มาวเิ คราะห์ โดยมี ประเด็นทต่ี ้องพจิ ารณา ดังนี้ 1) มูลเหตุจูงใจ และเป้าหมายในการทาโครงงาน 2) การดาเนนิ การพัฒนาโครงงาน 3) วสั ดุ อปุ กรณต์ า่ งๆ ซง่ึ รวมถึงเครื่องคอมพวิ เตอร์ ซอฟต์แวร์ 4) ความต้องการของผใู้ ช้และคุณลกั ษณะของผลงาน 5) กลุ่มผูท้ ดลองใชโ้ ครงงานและวิธกี ารประเมินผล 6) วิธีการพฒั นาโครงงาน 7) ข้อสรุปของโครงงาน 8) ความแปลกใหม่ ความคิดสร้างสรรคข์ องผ้ทู าโครงงาน 9) แนวทางในการปรบั ปรุงหรือขยายการทดลองจากงานเดมิ ผลท่ีไดจ้ ากการดาเนนิ งานขน้ั ตอนนี้ จะชว่ ยให้ไดแ้ นวคิดในการ กาหนดขอบขา่ ยหรือเคา้ โครงของเร่ืองท่จี ะศกึ ษาชัดเจนว่า จะทาอะไร ทาไมต้องทา ต้องการใหเ้ กิดอะไร ทาอยา่ งไร ใชท้ รัพยากรอะไร ทากับใคร และจะเสนอผลงานอย่างไร

3. การจดั ทาขอ้ เสนอโครงงาน เป็นการกาหนดกรอบแนวคิดและวางแผนการพัฒนาไว้ ล่วงหน้าเพ่อื ช่วยให้สามารถคาดการณห์ รอื ทานายความเป็นไปได้ ของการทาโครงงานน้ี เสนอหัวข้อโครงงานเพอ่ื ขอคาปรกึ ษาจาก อาจารย์ทีป่ รกึ ษา หรือผู้เช่ยี วชาญทเี่ กีย่ วข้อง ซึง่ โดยทวั่ ไปการ ทาขอ้ เสนอโครงงานคอมพวิ เตอร์มขี ้นั ตอนทีส่ าคัญ ดงั น้ี 1) ศกึ ษาค้นควา้ เอกสารอ้างอิง และรวบรวมข้อมลู ทไ่ี ดจ้ ากผู้ เชยี วชาญ 2) วิเคราะห์ข้อมูล เพ่ือกาหนดขอบเขตและลักษณะของโครงงาน ที่จะพฒั นา 3) ออกแบบการพัฒนา มกี ารกาหนดลกั ษณะของเครอื่ ง คอมพวิ เตอร์ ซอฟต์แวร์และตวั แปล ภาษาโปรแกรม และวสั ดุ ต่างๆ ทต่ี อ้ งใช้ กาหนดคณุ ลักษณะของผลงาน ระบเุ ทคนิคท่ใี ชใ้ น การพฒั นา พรอ้ มทง้ั กาหนดตารางการปฏิบตั งิ าน 4) ทาการพัฒนาโครงการข้ันต้น เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ โดยอาจจะทาการพัฒนาสว่ นย่อยๆ บางส่วนตามมไ่ี ด้ออกแบบไว้ แล้วนาผลศึกษาไปปรบั ปรุงผลการทดลองท่ีได้ออกแบบให้เหมาะส หต่ออาจารยท์ ่ปี รึกษา เพอื่ ขอคาแนะนาและปรบั ปรงุ แก้ไข ให้ สามารถวางแผนและดาเนนิ การทาโครงงานตอ่ ไปเปน็ ขน้ั เปน็ ตอน ต้งั แตเ่ รม่ิ จนเรียบรอ้ ย

4. การพัฒนาโครงงาน เปน็ การลงมือทาโครงงานตามข้อเสนอโครงงานที่วางแผนไว้ ตามขั้นตอนต่อไปนี้ 1) การเตรียมการ เป็นการเตรยี มเคร่ือง คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดอุ น่ื ๆท่จี ะใช้ในการ ทดลอง พร้อมทั้งจดั เตรยี มสถานทีส่ าหรบั ใชใ้ นการทาโครงงาน 2) การลงมอื พัฒนา เป็นการปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ใน ขอ้ เสนอโครงงาน แต่อาจเปล่ยี รแปลงหรือเพ่ิมเตมิ ได้ ถ้าพบว่า จะชว่ ยทาใหผ้ ลงานดขี ึน้ 3) การตรวจสอบผลงานและแกไ้ ข เป็นการตรวจสอบความ ถกู ต้องของผลงานเพือ่ ใหแ้ นใ่ จวา่ ผลงานทีพ่ ัฒนาข้นึ มา นั้น ทางานได้ถูกตอ้ งตรงขกับความต้องการที่ระบุไวใ้ น เปา้ หมาย และมปี ระสทิ ธภิ าพหรือไม่ 4) การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ เปน็ การสรุปการพัฒนา โครงงานด้วยขอ้ ความท่กี ระชบั ครอบคลมุ และทาการอภิปราย ผลเพ่ือช่วยใหผ้ ู้อ่านไดเ้ ขา้ ใจถงึ สง่ิ ท่ีค้นพบจากการทาโครงงาน 5) แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและ ข้อเสนอแนะ เป็นการเขียนขอ้ เสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษา ต่อไป ซง่ึ อาจได้มาจากทน่ี ักเรียนพบข้อสังเกต ประเด็นท่สี าคญั หรือปญั หาต่างๆ ในระหว่างการพฒั นาโครงงาน

5.การจดั ทารายงาน เป็นการรวบรวมขอ้ มลู ผลการวเิ คราะห์และอภิปราย ผลการ พัฒนาโครงงานซึ่งรวมถึงคู่มือการใช้งานมาจดั ทาเป็นรายงาน เพือ่ สื่อความหมายใหผ้ ูอ้ ่นื ไดเ้ ข้าใจแนวคิด วิธกี ารดาเนินการศึกษา ค้นควา้ ขอ้ มลู ท่ไี ด้ ตลอดจนขอ้ สรปุ และข้อเสนอแนะตา่ งๆ เกีย่ วกบั โครงงาน ในการเขียนรายงานควรใชภ้ าษาท่เี ขา้ ใจงา่ ย ชัดเจน กระชบั และตรงไปตรงมา ใหค้ รอบคลมุ หัวข้อต่างๆดังตอ่ ไปนี้ 1) สว่ นนา เปน็ การใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกับโครงงาน ซ่งึ ประกอบด้วย ชอื่ โครงงาน ช่อื สาขาของงานวิจัย ชอ่ื ผทู้ าโครงงาน ชื่ออาจารยท์ ่ี ปรกึ ษา คาขอบคุณ บุคลากรหรือหนว่ ยงานตา่ งๆ ทีม่ ีสว่ ยช่วยให้ โครงงานนีส้ าเร็จ และบทคัดยอ่ ซง่ึ อธบิ ายทีม่ าความสาคัญของ โครงงาน วัตถปุ ระสงค์ วธิ กี ารดาเนินงาน และผลท่ไี ด้รบั ตลอดจนขอ้ สรุปตา่ งๆอย่างย่อ 2) บทนา เปน็ รายละเอยี ดเนื้อหาของโครงงานซึ่งประกอบดว้ ยทม่ี า และความสาคัญของโครงงาน วตั ถุประสงค์ และขอบเขตของ โครงงาน 3) หลกั การและทฤษฎี เปน็ ส่วนสรปุ ขอ้ มูลที่ได้จากการศึกษาหา ข้อมูลหรือหลกั การ ทฤษฎีหรือวธิ ีการที่จะนามาใช้ในการพฒั นา โครงงาน ซง่ึ รวมถึงการระบผุ ลงานของผอู้ ่ืนทน่ี ามาเปรยี บเทยี บหรอื พัฒนาเพม่ิ เติม

4) วิธีดาเนนิ การ เปน็ การอธิบายขัน้ ตอนการดาเนินงานโดย ละเอียด ระบปุ ัญหาหรืออุปสรรคทพ่ี บ วิธกี ารท่ีใชแ้ กไ้ ข พรอ้ มทงั้ ระบุ วัสดุ อุปกรณ์ทตี่ อ้ งใชใ้ นการทางาน 5) ผลการศกึ ษา เปน็ การนาเสนอขอ้ มลู ใหผ้ ู้อื่นเข้าใจโครงงานได้ โดยงา่ ย ด้วยการนาเสนอเปน็ ตาราง หรอื กราฟ หรือข้อความ 6) สรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ เปน็ การอธิบายผลสรุปทไี่ ด้จากการ ทางาน การนาผลการทดลองไปใชป้ ระโยชน์ อปุ สรรคของการทา โครงงาน ข้อสงั เกตที่สาคัญ หรือขอ้ ผดิ พลาดบางประการทเ่ี กดิ ข้ึน จากการทาโครงงานนี้ รวมท้ังขอ้ เสนอแนะเพื่อใชเ้ ปน็ แนวทางในการ ปรับปรงุ โครงงาน หากมผี ูส้ นใจศกึ ษาค้นคว้าในเรอื่ งน้ีและควรระบุ ประโยชนท์ ี่ไดร้ บั จากการทาโครงงาน รวมถงึ ประโยชนท์ ผี่ ใู้ ช้จะไดร้ ับ จากการนาผลงานของโครงงานไปใช้ 7) บรรณนุกรม เปน็ การรวบรวมรายชือ่ หนงั สือ วารสาร เอกสาร และเวบ็ ไซต์ตา่ งๆทผี่ ้ทู าโครงงานใช้คน้ ควา้ เพือ่ ศกึ ษาขอ้ มูลและ รายละเอยี ดต่างๆ เพ่ือนามาใช้ประโยชนใ์ นการทาโครงงานน้ี ซึง่ การ เขยี นเอกสารบรรณานุกรมตอ้ งให้ถกู ตอ้ งเขยี นตามหลักการเขียน 8) คูม่ อื การใช้งาน หากโครงงานทจี่ ัดทาเป็นการพฒั นาขน้ึ มาใหม่ ควรจดั ทาคู่มอื อธิบายวิธกี ารใช้งานผลงานน้ันโดยละเอยี ด

6.การนาเสนอและเผยแพร่ เป็นขน้ั ตอนท่ที าให้ผอู้ น่ื ไดร้ ับรแู้ ละเข้าใจถึงผลงานของ ผจู้ ดั ทาซึง่ อาจนาเสนอได้หลายรปู แบบ เชน่ การแสดงผลงานโดย ไม่มีการอธบิ ายประกอบการจดั นิทรรศการโดยใช้โปสเตอร์และ อธิบายดว้ ยคาพูด การใช้เครือ่ งฉายภาพทึบแสงหรอื โปร่งแสง รว่ มกบั เอกสารหรอื แผน่ ใส การใชค้ อมพิวเตอร์และซอฟแวร์ ไมโครซอฟตเ์ พาเวอ่ พอยต์ นาเสนอร่วมกบั โพรเจกเตอร์และ จอรบั ภาพ การสร้างเวบ็ เพจโดยผลงานทน่ี าเสนอหรอื จัดแสดง ควรประกอบไปด้วยรายละเอยี ดและวิธกี าร

กจิ กรรมท่ี 6 ตอบคาถามตอ่ ไปนี้ลงสมดุ ของตนเอง 1. การคดั เลอื กหัวข้อโครงงารควรคานงึ ถึง องค์ประกอบสาคัญใดบ้าง 2. ผลท่ีได้จากการดาเนินขน้ั ตอนการศกึ ษาคน้ ควา้ เอกสาร 3. จงบอกขั้นตอนสาคญั ในการจดั ทาข้อเสนอ โครงงาน 4. การจัดทารายงานมีสว่ นประกอบใดบา้ ง 5. การนาเสนอและเผยแพร่ คอื


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook