Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง แบบหน่วยการเรียน11.1

ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง แบบหน่วยการเรียน11.1

Description: ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง แบบหน่วยการเรียน11.1

Search

Read the Text Version

ส่ือการเรียนรู้แบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ( Self – Learning Package ) แบบหน่วยการเรียน ( Instructional Module ) เล่ม 11.1 วชิ างานซ่อมเคร่ืองยนต์ดเี ซล ชื่องานตรวจสอบช่องว่างนา้ มันหล่อล่ืนแบริงเจอร์ นัลหลกั ด้วยพลาสตเิ กจและระยะรุนเพลาข้อเหวยี่ ง ด้วยไดอลั เกจ จัดทาโดย กลุ่มปลูกต้นกล้าอาชีพ

เริ่มต้น ศึกษาและทาแบบฝึ กหัด เรียนซ่อมเสริม ผ่านเกณฑ์ 80 % ศึกษาบทเรียนต่อไป ไม่ผ่านเกณฑ์

ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง แบบหน่วยการเรียน ❄เม่ือท่านศึกษาชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง แบบหน่วยการเรียน ชื่องานตรวจสอบช่องว่างนา้ มนั หล่อลื่นแบริงเจอร์นัลหลกั ด้วย พลาสตเิ กจและระยะรุนเพลาข้อเหวย่ี งด้วยไดอลั เกจนีแ้ ล้ว ท่านจะสามารถ......... 1. บอกหน้าที่ของแบริงในเครื่องยนต์ได้ถูกต้อง 2. บอกประเภทของแบริงในเคร่ืองยนต์ได้ถูกต้อง 3. บอกโครงสร้างของแบริงในเครื่องยนต์ได้ถูกต้อง 4. บอกหน้าทส่ี ่วนประกอบต่าง ๆ ของเพลาข้อเหวย่ี งได้ถูกต้อง 5. อธิบายการบริการเพลาข้อเหวยี่ งในการซ่อมใหญ่ ได้ถูกต้อง 6. อธิบายสาเหตุทวั่ ไปบางประการของความเสียหายของแบริง ในการใช้งานได้ถูกต้อง 7. บอกระยะห่างหล่อล่ืนผวิ หน้าสัมผสั ระหว่างแบริง และเพลา ข้อเหวย่ี งได้ถูกต้อง 8. บอกการตรวจสอบระยะรุนเพลาข้อเหวย่ี งได้ถูกต้อง 9. วธิ ีใช้เครื่องมืออปุ กรณ์ทใี่ ช้ตรวจสอบช่องว่างนา้ มนั หล่อลื่น ทแ่ี บริงหลกั และระยะรุนเพลาข้อเหวยี่ งได้ถูกต้อง 10. บอกสถานทเ่ี กบ็ เคร่ืองมืออุปกรณ์ทใี่ ช้ตรวจสอบได้ถูกต้อง

11. บอกวธิ ีเบิกเครื่องมืออุปกรณ์ทใ่ี ช้ตรวจสอบได้ถูกต้อง 12. บอกข้อควรระวงั ในการเตรียมเคร่ืองมืออุปกรณ์ทใ่ี ช้ ตรวจสอบได้ถูกต้อง 13. อธิบายวธิ ีถอดเพลาข้อเหวย่ี งได้ถูกต้อง 14. บอกข้อควรระวงั ในการถอดเพลาข้อเหวยี่ งได้ถูกต้อง 15. อธิบายวธิ ีทาความสะอาดเพลาข้อเหวยี่ งได้ถูกต้อง 16. บอกข้อควรระวงั ในการทาความสะอาดเพลาข้อเหวย่ี ง ได้ถูกต้อง

ใบเนื้อหา ( Information Sheet ) ชื่อวชิ า : งานซ่อมเครื่องยนต์ดีเซล รหัสวชิ า 20101 – 2002 ชื่องาน : งานตรวจสอบช่องว่างนา้ มนั หล่อล่ืนแบริงเจอร์นัลหลกั ด้วยพลาสตเิ กจและระยะรุนเพลาข้อเหวย่ี งด้วยไดอลั เกจ 1. หน้าทีข่ องแบริงเคร่ืองยนต์ ( Bearing ) แบริง คืออุปกรณ์ทใ่ี ช้รับแรงและส่งต่อแรงจากเพลาไปยงั อุปกรณ์ต่างๆ ทม่ี กี ารเคล่ือนไหวในลกั ษณะการหมุน ช่วยลดแรง เสียดทานและความฝื ดของตัวเพลาทาให้เพม่ิ สมรรถภาพของ เคร่ืองยนต์ ในขณะทีเ่ กดิ การหมุน ในงานของการซ่อมบารุง แบริง เป็ นอุปกรณ์ทส่ี ามารถถอดเปลยี่ นได้ เมื่อเกดิ การสึกหรอหรือชารุด เพ่ือประหยดั เวลาหรือค่าใช้จ่ายแทนทก่ี ารเปลย่ี นเพลา แบริงเป็ น ส่วนทต่ี ้องมกี ารเสียดสีมาก จะสึกหรอเร็วต้องถูกหล่อลื่นด้วยสาร หล่อล่ืน ทาให้การหมุนคล่องตวั และตรวจสอบเปลย่ี นใหม่เม่ือสึก หรอหรือชารุด

2. ประเภทของแบริงในเครื่องยนต์ แบริง สามารถแบ่งออกเป็ น 2 ประเภทใหญ่ ได้แก่ 2.1 แบริงกาบ (plain bearing) มี ลกั ษณะเป็ นรูปทรงกระบอกกลวง โดยมแี กนหมุนอยู่ภายในส่วนของ แกนหมุนหรือเพลาทห่ี มุนอยู่ ภายในแบริงเรียกว่า เจอร์นัล ( Journal ) ส่วนรูปทรงกระบอก กลวง เรียกว่า เจอร์นัลแบริง ( Journal bearing ) อาจทาด้วย โลหะ ส่วนผสมของโลหะหรือ พลาสตกิ ท่ีมีเนื้ออ่อนกว่าเจอร์นัล การทางานของแบริงกาบชิ้นส่ วน ของแบริงกาบจะสัมผสั กนั โดยตรง ซ่ึงแบริงกาบจะมกี ารดูดซับแรงมากกว่าแบริงลูกปื น ( rolling bearings ) แต่เนื่องจากมแี รงเสียดทานทส่ี ูงกว่าทาให้แบริงกาบมี อตั ราการสึกหรอท่มี ากกว่าแบริงกาบโดยทวั่ ไปจะใช้นา้ มนั เป็ นตวั หล่อล่ืนมากกว่าจาระบี

แบริงกาบยงั สามารถแบ่งออกเป็ น ทรัสต์แบริง (trust bearing) ซึ่งตัวเจอร์ นัลได้รับแรงกดและหมุนอยู่ภายใน เจอร์นัลแบริงกบั ไกด์แบริง ( guide bearing ) ซ่ึงตวั เจอร์นัลเคลื่อนท่ี กลบั ไปกลบั มาตามแนวยาวของเจอร์ นัลแบริง 2.2 แบริงลูกปื น ( rolling bearing ) ประกอบด้วยอุปกรณ์ทชี่ ่วยการ หมุนเคล่ือนทอ่ี ยู่ระหว่างวงแหวน ช้ันในและช้ันนอกเช่น ลกู ปื นทท่ี า ด้วยโลหะแข็ง อาจจะมลี กั ษณะกลม เหมือนลูกบอล แบริงลูกปื นส่วน ใหญ่จะใช้ จาระบเี ป็ นตวั หล่อล่ืน จาระบยี ังทาหน้าที่เป็ นซีลป้องกนั ไม่ให้ความชื้นหรือส่ิงสกปรกต่าง ๆ เข้าไปทาความเสียหายแก่ ลูกปื น การเลือกชนิดของ จาระบี ขนึ้ อยู่กบั ความเร็วรอบแรงกด และอุณหภูมขิ องแบริงในขณะใช้งาน โดยทวั่ ไปมักใช้ จาระบี

เอนกประสงค์ ทท่ี าด้ายสบู่ลเิ ทยี มในงานบางประเภทอาจมคี วาม ต้องการ จาระบี ทส่ี ามารถทนต่ออณุ หภูมสิ ูงและอุณหภูมติ า่ คือไม่ เหลวและไม่ทาปฏกิ ริ ิยาอ๊อคซิเดช่ันในขณะทใ่ี ช้งานภายใต้อุณหภูมิ ตา่ เช่น จาระบี สาหรับเครื่องบนิ เป็ นต้น ในบางสภาวะ จาระบี ยงั ต้องมคี ุณสมบัตทิ นต่อการถูกชะล้างโดยนา้ และนา้ มนั จะต้องไม่ แยกตัวออก จาระบี เป็ นต้น 3. โครงสร้างของแบริงเครื่องยนต์ แบริงเพลาข้อเหวยี่ งประกอบด้วยช้ัน อลูมเิ นียมผสม ของวสั ดุทตี่ ่างชนิดกนั ทส่ี ่วนนอกสุด ของแบริงเป็ นแผ่นเหลก็ กล้าซ่ึงช่วย ช้ันพนั ธะอลูมิเนียม รองรับช้ันของวสั ดุแบริงช้ันทต่ี ิดกบั แผ่นเหลก็ กล้านีก้ ค็ ือผวิ ของแบริงทีท่ า แผ่นเหลก็ กล้า ด้วยอลูมเิ นียมผสมซ่ึงเป็ นส่วนหน้าสุด ของแบริง คุณสมบตั พิ เิ ศษของ อลูมเิ นียมกค็ ือ มนี า้ หนักเบา มคี วาม แขง็ แรงอยู่ในเกณฑ์สูงจงึ ทาให้อลูมเิ นียมสามารถเข้าไปแทนที่ เหลก็ ได้ แทนท่ีทองแดงได้กเ็ พราะมีความต้านทานไฟฟ้าอยู่ใน เกณฑ์ตา่ รองจากทองแดง นอกจากนีอ้ ลูมเิ นียมยงั มคี ุณสมบตั ทิ น

ต่อการกดั กร่อนได้ดใี นบรรยากาศทว่ั ไปช้ันต่อไปกค็ ือช้ันเคลือบ ของพนั ธะโลหะ ได้แก่ โลหะทุกชนิดรวมท้งั โลหะผสม เช่น Li, Mg, Na, Al, นาก, ทองเหลือง เป็ นต้น การเกดิ พนั ธะโลหะ เกดิ จาก โลหะจ่ายอเิ ลก็ ตรอน ทาให้อเิ ลก็ ตรอนเคลื่อนทบี่ นแท่งโลหะ ประจุ ลบของอเิ ลก็ ตรอนเข้าใกล้ประจุบวกตวั ใด จะส่งแรงดงึ ดูดกบั ประจุ บวกตัวน้ัน ทาให้เกดิ พนั ธะขนึ้ เรียกว่า “พนั ธะโลหะ” พนั ธะ โลหะมคี วามสาคญั ต่อคุณสมบตั ทิ างฟิ สิกส์หลายอย่างเช่นจุด หลอมเหลวสูง, ความแขง็ แรง, ตแี ผ่เป็ นแผ่นได้, ดงึ เป็ นเส้นได้, นา ความร้อนได้ด,ี นาไฟฟ้าได้ดี แบริงเมื่อเสียดสีกบั เพลาข้อเหวยี่ ง จะทาให้แบริงซ่ึงเป็ นโลหะ อ่อนสึกกร่อน โดยไม่ทาให้เพลาข้อเหวย่ี งชารุดเสียหาย เป็ นการยืด อายุการใช้งานของเพลาข้อเหวย่ี ง ช่องว่างของเพลาข้อเหวยี่ งท่ี สัมผสั กบั แบริงจะต้องให้นา้ มันหล่อล่ืนแทรกตวั ไหลซึมเข้าไปได้ เมื่อเพลาข้อเหวยี่ งหมุนนา้ มนั หล่อลื่นจะเข้าไปรองรับ ช่วยให้การ เสียดสีระหว่างเพลาข้อเหวย่ี งกบั แบริงน้อยลง ช่องว่างระหว่าง เพลาข้อเหวย่ี งและแบริงมีค่ามาตรฐาน ไม่เกนิ 0.001 - 0.004 นิว้ ช่องว่างดงั กล่าวนีม้ นี า้ มนั หล่อล่ืนข้นั อยู่ การเลือกใช้นา้ มนั หล่อลื่น ทม่ี คี ุณภาพสูง จะช่วยยืดอายกุ ารใช้งานของแบริง

4. หน้าท่สี ่วนประกอบต่าง ๆ ของเพลาข้อเหวย่ี ง เพลาข้อเหวยี่ ง มหี น้าที่สาคญั คือ รับกาลงั จากแรงระเบิดที่ ส่งผ่านลูกสูบ สลกั ลูกสูบ ก้านสูบในแนวแรงทเ่ี ล่ือนเป็ นแนวดงิ่ หรือ ( Reciprocating motion ) ในลกั ษณะหมุนเพื่อส่งถ่ายกาลงั ใน ลกั ษณะหมุนนีผ้ ่านล้อช่วยแรง ระบบส่งกาลงั ไปหมุนล้อเพื่อให้รถ ขบั เคล่ือนได้ เพลาข้อเหวยี่ งทาจากเหลก็ กล้าผสมเพื่อให้มคี วาม แขง็ แรงสูงระหว่างเหลก็ กล้ากบั นิกเกลิ การออกแบบเพลาข้อเหวยี่ ง จะต้องให้มคี วามสมดุลขณะอยู่กบั ที่ ( Static balance ) และการ สมดุลเคลื่อนที่ ( Dynamic balance ) ท้ังนีต้ ้องการต้านอาการส่ัน จากแรงระเบิด จากความสมดุลท้งั 2 แบบจะช่วยให้เคร่ืองยนต์ เดนิ เรียบ ลดการส่ันสะเทือน แต่อย่างไรกต็ ามการออกแบบเพลา ข้อเหวย่ี งมคี วามจาเป็ นอย่างยงิ่ ทจ่ี ะต้องตดิ ต้งั ล้อช่วยแรง ควบคู่ กนั ไปอกี ด้วย เพราะการหมุนของเพลาข้อเหวยี่ งเพยี งอย่างเดยี วไม่ อาจทาให้เครื่องยนต์ทางานได้ เนื่องจากไม่มีพลงั งานสะสมทจ่ี ะ ทาให้เพลาข้อเหวยี่ งหมุนอย่างสมดุลและต่อเน่ืองไปสู่รอบต่างๆ การตดิ ต้งั ล้อช่วยแรง จะช่วยให้เครื่องยนต์มีพลงั งานสะสมและ สามารถนาไปใช้งานได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ หน้าทสี่ ่วนประกอบ ต่าง ๆ เพลาข้อเหวย่ี งมีดงั นี้

1. นา้ หนักถ่วง ( Courter weight ) เนื่องจากเพลาข้อเหวย่ี งเคลื่อนไหว ในลกั ษณะหมุนย่อมมแี รงหนี ศูนย์กลางของนา้ หนักบนเพลาที่ นา้ หนกั ถ่วง แตกต่างกนั ซึ่งมผี ลต่อการส่ันของ เครื่องยนต์ จึงต้องมีนา้ หนักถ่วงด้านตรงกนั ข้ามกบั สลกั ข้อก้าน ซึ่งเป็ นทย่ี ดึ ตดิ ท้งั ของชุดก้านสูบ เพื่อให้นา้ หนักบนเพลาข้อเหวย่ี ง สมดุลกนั ด้วยเหตุนีบ้ นเพลาข้อเหวยี่ งจงึ ต้องมนี า้ หนักถ่วงทุกอนั 2. สลกั ข้อก้าน ( Crank pin ) คือส่วนท่ี ก้านสูบด้านใหญ่จบั ยึดโดยมแี บริง รองรับอยู่และได้รับแรงระเบดิ สลกั ข้อก้าน โดยตรงในจงั หวะกาลงั 3. แขนเพลาข้อเหวย่ี ง ( Crank arm ) คือระยะระหว่างกงึ่ กลางของสลกั ข้อ เพลากบั ระยะกงึ่ กลางของสลกั ข้อ ก้าน ระยะนีจ้ ะมีระยะเท่ากบั แขนเพลาข้อเหวยี่ ง ครึ่งหน่ึงของระยะชัก ( Storke ) ของเคร่ืองยนต์เคร่ืองน้ัน

สลกั ข้อเพลา 4. สลกั ข้อเพลา ( Crank journal ) ทา หน้าทย่ี ดึ ตดิ กบั เสื้อสูบโดยมีแบริง และฝาครอบแบริงเพลาข้อเหวย่ี ง เป็ นตวั รองลื่นสลกั เพลา จานวนสลกั ข้อเพลาจะมากน้อยขนึ้ อยู่กบั จานวน สูบน่ันคือถ้าจานวนสูบมาก สลกั ข้อเพลาจะมาก และเพลาข้อ เหวยี่ งจะยาวตามด้วย 5. รูนา้ มนั ( Oil passage ) รูนา้ มนั ใน เพลาข้อเหวย่ี งจะรองรับนา้ มันที่ รูนา้ มัน ส่งผ่านมาจากเสื้อสูบเพ่ือส่งมาหล่อ ล่ืนแบริงเพลาข้อเหวย่ี งหลกั หล่อล่ืน แบริงก้านสู บแล้วส่ งผ่านรูของก้าน สูบไปหล่อลื่นสลกั ลูกสูบ และส่งผ่าน ก้านสูบในจงั หวะอดั เพื่อฉีดไปหล่อลื่นเพื่อลดแรงตบข้างจาก จงั หวะระเบดิ ทผ่ี นังกระบอกสูบเพลาข้อเหวยี่ งทห่ี มุนถูกป้อน ตลอดเวลาด้วยนา้ มนั เครื่องทผี่ ่านช่องนา้ มนั ทส่ี ่งผ่านมาจากเสื้อ สูบเพื่อส่งมาหล่อล่ืนแบริงก้านสูบ ( Connecting rod bearing ) เพลาข้อเหวย่ี งทหี่ มุนถูกป้อน

รูนา้ มนั ทเ่ี สื้อสูบ ตลอดเวลาด้วยนา้ มนั เคร่ือง ทผี่ ่านช่อง นา้ มนั ทส่ี ่งผ่านมาจากเสื้อสูบเพ่ือ ส่งมา หล่อลื่นแบริงก้านสูบ ( Connecting rod bearing ) แล้วส่งผ่านรูของก้านสูบไป หล่อลื่นสลกั ลูกสูบและส่งผ่านก้านสูบ ในจงั หวะอดั เพื่อฉีดไปหล่อล่ืนเพื่อ ลดแรงตบข้างจากจังหวะระเบิดทีผ่ นัง รูน้ำมนั แบริงคร่ึงบน กระบอกสูบคุณลกั ษณะแบริงเพลาข้อ เหวยี่ ง ( Main Bearing ) แบริงคร่ึงบน มรี ูนา้ มนั เคร่ืองอยู่ใช้เพ่ือการหล่อลื่น ข้อหลกั เพลาข้อเหวย่ี ง (Main journal) จมูกแบริง และร่องนา้ มันเคร่ืองเพื่อการหล่อล่ืน แบริงก้านสูบเน่ืองจากว่าเพลาข้อเหวย่ี ง ( Crankshaft ) จะต้องรับแรงกระแทกอนั หนักหน่วงจากลูกสูบ ดงั น้ันครึ่งล่างของแบริงจงึ ไม่มรี ่องนา้ มนั อยู่แบริงท้งั สองส่วนมี จมูกแบริง ( Retaining Lug ) กนั เลื่อนโผล่ย่ืนออกมาเพ่ือป้องกนั มิ ให้แบริงกนั รุน ( Thrust bearing ) ด้านทต่ี ดิ อยู่กบั เพลาข้อเหวยี่ ง มรี ่องนา้ มนั เคร่ืองเช่นกนั แบริงกนั รุนจะช่วยจากดั การขยบั ตวั ตาม

แนวแกนของเพลาข้อเหวย่ี ง ด้านล่างของแบริงกนั รุนมีปี กทย่ี ่ืน ออกเพ่ือป้องกนั แบริงกนั รุนหมุนตามเพลาข้อเหวยี่ งไป ถ้าแบริงกนั รุนสึกหรอจะทาให้เพลาข้อ เหวย่ี งขยบั ตวั ไปตามแนวแกนมาก เกนิ ไปสิ่งนีจ้ ะก่อให้เกดิ เสียงน็อคขนึ้ ซึ่ง จะไม่สมา่ เสมอ ในกรณขี องห้องเกยี ร์ แบริงกนั รุน ธรรมดา เสียงน็อคจะเกดิ ขนึ้ ทุกคร้ัง ที่คลชั ทางาน เนื่องจากเพลาข้อเหวยี่ ง จะขยบั ตวั ตามแนวแกน การตรวจสอบระยะรุนทาได้โดยดนั เพลา ข้อเหวยี่ งไปตามแนวแกนจนกระท้ังไม่สามารถขยบั ตวั ได้อกี ต่อไป แล้วใช้ฟิ ลเลอร์เกจวดั ระยะรุนทแ่ี บริงกนั รุนหรือใช้ไดอลั เกจ ตรวจสอบ 5. การบริการเพลาข้อเหวยี่ งในการซ่อมใหญ่ ( Overhaul ) เพลาข้อเหวย่ี งเป็ นชิ้นส่วนหลกั และสาคญั ของเคร่ืองยนต์ท่ี จะต้องให้บริการตามสภาพและอายุการใช้งานเพ่ือให้การบริการ เพลาข้อเหวย่ี งมคี วามหมายมากยง่ิ ขนึ้ ต้องเข้าใจวธิ ีตรวจสอบและ การซ่อมทีใ่ ช้ร่วมกบั ระยะห่างและเกณฑ์ความคลาดเคลื่อนจะ

แสดงถงึ วธิ ีการซ่อมใหญ่ ( Overhaul ) ดงั น้ันจงึ ต้องอ้างองิ จาก คู่มือการซ่อมเครื่องยนต์ของบริษทั ผู้ผลติ เมื่อถอดเพลาข้อเหวย่ี งออกจากเสื้อสูบแล้ว ใช้เครื่องฉีดนา้ ร้อน ฉีด เพ่ือเอาคราบนา้ มนั และยางเหนียวต่างๆออกแล้ว ใช้แปรงทา ความสะอาดช่องทางเดนิ นา้ มันหล่อล่ืนท้งั หมดด้วยแปรงลวด ขนาดเลก็ ร่วมกบั ลมอดั เป่ าไล่ส่ิงสกปรกออก ในข้นั สุดท้ายให้ทา ความสะอาดเพลาข้อเหวยี่ งด้วยหรือแปรงขนอ่อน ทาความสะอาด ฝาแบริงเจอร์นัลข้อหลกั และแบริงเจอร์นัลข้อหลกั ใช้ลมเป่ า 5.1 ตรวจสอบและวเิ คราะห์สภาพผวิ , สี, 5.1.1 วางเพลาข้อเหวยี่ งลงบนแท่น วี – บลอ็ ก ตรวจดูบริเวณมกี าร เปลย่ี นสี โดยรอบเจอร์นัลหลกั และหน้ากนั รุนถ้าการเปลยี่ นสีมี บริเวณเปลย่ี นสี มากเน่ืองจากความร้อนเกนิ เพลา กจ็ ะล้าถ้าจาเป็ นต้องเปลย่ี นใหม่

ผวิ หยาบขรุขระ 5.1.2 ตรวจดูผวิ ของเจอร์นัลท้งั หมด เหรียญ 5 บาทขูด ด้วยว่ามผี วิ หยาบขรุขระหรือมี ผวิ สัมผสั กบั ซีลเป็ นร่อง รอยขีดข่วนหรือไม่ การตรวจ สภาพเพลาข้อเหวยี่ งมวี ธิ ีการ ตรวจง่ายๆ คือใช้เหรียญทองแดง ( เหรียญ 5 บาท ) ขูดไปทาง ขวางกบั เจอร์นัล ถ้าเจอร์นัลของ เพลาข้อเหวย่ี งมีเศษทองแดงติด แสดงว่าสภาพผวิ ของเจอร์นัล เพลาข้อเหวย่ี งหยาบขรุขระ เกนิ ไปต้องทาการขัดมันหรือเจยี เจอร์นัลใหม่ 5.1.3 ตรวจดูการสึกหรอผวิ สัมผสั กบั ซีลทีป่ ลายด้านหน้าและด้านหลงั ของเพลาข้อเหวย่ี งถ้ามรี อยของ ร่องในบริเวณนีอ้ าจเป็ นผลให้ นา้ มันร่ัวผ่านซีล

5.1.4 ตรวจร่องลม่ิ ดูความเสียหายและ เฟื องขบั ของเพลาข้อเหวยี่ งดู ความเสียหายของฟันการเปลยี่ น สีหรือการสึกหรอ 5.1.5 บริเวณเพลาข้อเหวย่ี งที่มักจะพบรอยแตกร้าวกค็ ือบริเวณ มุมโค้งของเจอร์นัลรอบ ๆ รูนา้ มนั ของเจอร์นัลและบริเวณข้อ เหวยี่ งระหว่างเจอร์นัลหลกั และเจอร์นัลก้านสูบเพลาข้อเหวย่ี งถูก กระทาด้วยแรงซ้าๆ กนั ระหว่างทีเ่ ครื่องยนต์ทางานดงั น้ันอาจเกดิ รอยแตกร้าวขนึ้ ในเพลาข้อเหวย่ี งได้ เพลาข้อเหวย่ี งทแี่ ตกร้าวไม่ สามารถใช้ต่อไปอกี ได้ต้องเปลย่ี นใหม่ ส่ิงสาคญั ต้องตรวจสอบ ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์อย่างทัว่ ถงึ เพื่อพจิ ารณาถงึ สภาวะทม่ี ผี ลต่อ ความเสียหายของเพลาข้อเหวย่ี งเกดิ ซ้าขนึ้ อกี จะต้องค้นหาส่ิงท่ี ผดิ ปกตทิ เี่ กดิ ขนึ้ และทาการแก้ไข การตรวจสอบรอยแตกร้าวของ เพลาข้อเหวย่ี งสามารถทาได้โดยวธิ ีการใช้ผงแม่เหลก็ หรือการใช้ชุด สารฉีดพ่นมดี งั ต่อไปนี้

5.1.5.1 ทาความสะอาดบริเวณพืน้ ที่ ที่จะทาการทดสอบอย่างทั่วถงึ ด้วยสารละลายจากกระป๋ อง สเปร์ “ สารทาความสะอาด ” 5.1.5.2 เมื่อชิ้นส่วนสะอาดและแห้ง ให้ฉีดพ่นสารดูดซึมลงไปบน บริเวณท่ีจะทาการตรวจสอบ และปล่อยทงิ้ ไว้ประมาณ 5 นาที ซึ่งจะเป็ นการให้เวลาแก่สี ย้อมทจ่ี ะซึมเข้าไปในรอย แตกร้าว 5.1.5.3 ใช้สารละลายล้างโดยการฉีด พ่นและใช้เศษผ้าทาความ สะอาดเอาสีย้อมออกจากบริเวณ ทท่ี ดสอบท้งั หมด

5.1.5.4 เม่ือชิ้นส่วนแห้งและสะอาดดี แล้วให้ฉีดสารสร้างภาพลงไป บริเวณทดสอบอย่างสมา่ เสมอ 5.1.5.5 สารสร้างภาพจะดึงเอาสีย้อมท่ี ซ่อนอยู่ในรอยแตกร้าวออกมา ทาให้มองเห็นเป็ นเส้นสีบนพืน้ สีขาว วเิ คราะห์สภาพผวิ ,สี , บนเจอร์นัลหลกั สลกั ข้อเหวยี่ งและรอย แตกร้าว ถ้าตรวจพบพืน้ ทม่ี กี ารเปลย่ี นสีโดยรอบเจอร์นัลหลกั และหน้า กนั รุนและการเปลย่ี นสีมมี ากเน่ืองจากความร้อนเกนิ เพลาข้อ เหวยี่ งจะล้าจาเป็ นเปลยี่ นเพลาข้อเหวย่ี งใหม่และเพลาข้อเหวยี่ งมี รอยแตกร้าวต้องเปลย่ี นเพลาข้อเหวยี่ งใหม่เช่นกนั ถ้าตรวจพบสภาพผวิ ที่เจอร์นัลหลกั และสลกั ข้อเหวย่ี งมีผวิ ที่ หยาบขรุขระมรี อยขูดขดี ต้องนาไปเพลาข้อเหวยี่ งไปเจยี

6. สาเหตุทวั่ ไปบางประการของความเสียหายของแบริงในการใช้ งาน 6.1 นา้ มนั หล่อล่ืนสามารถถูกปนเปื้ อน ได้หลายทางได้แก่ผลที่ได้จากการ เผาไหม้ทหี่ ลงเหลืออยู่ภายใน นา้ มันหล่อลื่นมีเศษโลหะขนาด เลก็ ๆ ทส่ี ึกหรอจากชิ้นส่วนของ เคร่ืองยนต์เข้าไปในนา้ มนั หล่อล่ืน และฝ่ ุนผงทเี่ ข้าไปในเคร่ืองยนต์ ผ่านทางหม้อกรองอากาศและทางรูระบายอากาศของห้องเพลาข้อ เหวย่ี ง ซ่ึงท้งั หมดนีส้ ามารถนาไปสู่ระดบั การปนเปื้ อนเพ่ือลด ระดบั การปนเปื้ อนให้เหลือน้อยทส่ี ุดถ้าเครื่องกรองอากาศถูก เปลยี่ นสม่าเสมอลกั ษณะผวิ หน้าของแบริงทม่ี ฝี ่ ุนผงปนเปื้ อน สังเกตทีผ่ วิ หน้าแบริงจะเห็นรอยเส้นละเอยี ดอยู่เป็ นแนว 6.2 การติดเคร่ืองยนต์ทีข่ าดการหล่อลื่น คร้ังแรก อาจเกดิ จากการทางานของ เครื่องยนต์ในขณะทนี่ า้ มนั เครื่องยงั ไม่ขึน้ ไปหล่อล่ืนหรือ นา้ มนั หล่อลื่นมีปริมาณน้อยและ

ระยะห่างของแบริงกบั ข้อของเพลาข้อเหวยี่ งมีระยะห่างน้อย เกนิ ไป จงึ เป็ นสาเหตุทาให้ขาดนา้ มนั หล่อลื่นหรือเกดิ จากการทส่ี ่ง นา้ มนั เครื่องเข้าไปหล่อลื่นในแบริงเพลาข้อเหวย่ี งไม่เพยี งพอจาก กรณดี ังกล่าวความร้อนจะเกดิ ขนึ้ ทีบ่ ริเวณรอบ ๆ แบริงสูงมากจงึ ทาให้เนื้อโลหะของแบริงหลอมละลายตวั เองเข้ากบั เจอร์นัลของ เพลาข้อเหวย่ี งซ่ึงทาให้ผวิ ของแบริงและเจอร์นัลเป็ นรอย จากสาเหตุดงั กล่าวลกั ษณะผวิ หน้าแบริงจงึ มกี ารปาดหรือขูด ที่ผวิ หน้าแบริง ทาให้ผวิ หน้าแบริงละลายเกดิ จากการท่ี นา้ มันเครื่องมนี ้อยหรือไม่มนี า้ มัน หรือเกดิ จากระยะห่างของแบริง กบั ข้อของเพลาข้อเหวยี่ งมรี ะยะห่างน้อยเกนิ ไปหรือเกดิ จาก นา้ มันหล่อลื่นเจือจาง 6.3 การตดิ ต้งั แบริงที่ผดิ พลาดจะเป็ น สาเหตุให้แบริงและเจอร์นัลเพลาข้อ เหวย่ี งเสียหายได้อย่างรวดเร็ว ความผดิ พลาดทั่วไปคือ ฝาแบริง ไม่ได้ขันสลกั เกลยี วยดึ ให้แน่นเป็ น ผลให้กดบบี้ นแบริงไม่มีหรือมนี ้อย เกนิ ไป ไม่ได้ทาความสะอาดรูนา้ มนั ทเ่ี พลาข้อเหวยี่ งเป็ นผลทาให้

สิ่งสกปรกเข้าไป ทาให้แบริงเป็ นรอยขูดขดี ในช่วงการเร่ิมการใช้ งานและการตดิ ต้งั แบริงโดยมฝี ่ ุนผงตดิ อยู่ด้านหลงั หรือประกอบ แบริงผดิ โดยใส่แบริงทไ่ี ม่มรี ูนา้ มนั ไปปิ ดรูนา้ มนั เคร่ืองเมื่อไม่มรี ู นา้ มันเครื่องทาให้นา้ มนั เครื่องเข้ามาหล่อล่ืนไม่ได้จงึ ชารุด การวเิ คราะห์สภาพแบริ่งเจอร์นัลหลกั ตรวจผวิ แบริงดูการหลดุ ออกเป็ นแผ่น รอยขดี ลกึ หลมุ การ เปลยี่ นสี การเสียเนื้อโลหะและรูปแบบของการสึกหรอท่ไี ม่ สม่าเสมอถ้าตรวจพบแบริงจะต้องถูกเปลยี่ น ตรวจรูและด้านหลงั ของแบริงดูรอยการสึกหรอหรือขดั ถูซึ่ง แสดงว่ามกี ารสูญเสียการบดบแี้ ละมกี ารเคลื่อนท่ีในฝาแบริงหรือ เสื้อ แบริงซ่ึงแสดงอาการเช่นนีจ้ ะต้องถูกเปลยี่ น 7. ระยะห่างหล่อล่ืน ( Clearance ) ผวิ หน้าสัมผสั ระหว่างแบริง และเพลาข้อเหวย่ี ง เพลา ผวิ หน้าสัมผสั ระหว่างแบริงและเพลา ข้อเหวย่ี งท่ีหมุนอยู่ภายในแบริงจะต้อง มกี ารหล่อลื่นด้วยนา้ มนั อย่างเพยี งพอ นา้ มนั หล่อล่ืน แบริง เพ่ือให้นา้ มันเคร่ืองก่อตัวเป็ นฟิ ล์ม สาหรับการหล่อลื่น ระยะห่างขณะ

ทางานระหว่างแบริงหลกั เพลาข้อเหวย่ี งและเจอร์นัลหลกั ( Main Journal ) จะมีค่าจากดั สูงสุดตามทผี่ ู้ผลติ เคร่ืองยนต์กาหนดใน คู่มือการ ซ่อม ระยะช่องว่างนา้ มนั หล่อล่ืนมากเกนิ ขดี จากดั ทาให้ ความดนั นา้ มนั เคร่ืองตา่ โดยเฉพาะเม่ือนา้ มันร้อนเนื่องจากความ ต้านทานในการไหลออกจากช่องว่างระหว่างแบริงและเจอร์นัล น้อยลง และนา้ มนั ท่สี ่งไปยงั ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ไม่เพยี งพอซ่ึงทา ให้เจอร์นัลเพลาข้อเหวย่ี งและแบริงเสียหายเน่ืองจากการกระทบ กนั ระหว่างแบริงและเจอร์นัลในทางตรงกนั ข้ามถ้าช่องว่างนา้ มนั น้อยเกนิ ไปนา้ มันเคลือบไม่พอเพยี งแบริงจะติดเสียหายเน่ืองจาก แบริงร้อน วธิ ีใช้พลาสตเิ กจตรวจสอบและวเิ คราะห์ระยะช่องว่าง นา้ มนั หล่อลื่นทเี่ จอร์นัลหลกั ระยะช่องว่างข้อเหวย่ี งและแบริงต้องพอดเี พื่อจะให้นา้ มนั หล่อลื่น เคลือบอยู่บนผวิ หน้าระหว่างทเี่ คร่ืองยนต์ทางาน ถ้าช่องว่างนา้ มนั นีม้ ากเกนิ ไปแรงดนั ของนา้ มนั เครื่องตา่ ก้านสูบจะเต้นแบริงทางาน เกนิ ภาระในทางตรงกนั ข้าม ถ้าช่องว่างนา้ มนั น้อยเกนิ ไป นา้ มันหล่อล่ืนเคลือบไม่เพยี งพอทาให้เจอร์นัลเพลาข้อเหวย่ี งและ แบริงติดและเสียหายจากแบริงร้อนจดั การวดั ช่องว่างนา้ มันทาได้

โดยการใช้พลาสตเิ กจวางบนเจอร์นัลเพลาข้อเหวยี่ งแล้วขนั สลกั เกลยี วยดึ ฝาแบริงตามค่าแรงขนั ท่ีกาหนด พลาสตเิ กจเป็ นเส้น พลาสตกิ อ่อน เมื่อถูกกดระหว่างเจอร์นัลและแบริงจะแบนแล้วนา สเกลบนซองพลาสตเิ กจมาเทยี บความแบนจะได้ระยะช่องว่าง นา้ มนั มีข้นั ตอนดังนี้ 1. ถอดฝาแบริงหลกั ออกแล้วทาความ สะอาดคราบนา้ มนั หล่อล่ืนทีบ่ ริเวณ เจอร์นัลและเช็ดนา้ มนั หล่อล่ืนที่ ผวิ หน้าแบริงออกให้หมด 2. วางพลาสตเิ กจลงบนเจอร์นัลตาม แนวขวางของแบริง 3. ประกอบฝาแบริงเจอร์นัลหลกั แล้ว ขันสลกั เกลยี วยดึ ด้วยประแจวดั แรงบิดด้วยแรงขัน 1,050 กก. – ซม. ( 76 ฟุต – ปอนด์ ) ( ตามค่ากาหนด ทร่ี ะบุไว้ในคู่มือการซ่อม )

4. เปิ ดฝาแบริงหลกั ออกอกี คร้ังแล้ว ตรวจสภาพการแบนของพลาสติ เกจซ่ึงอาจอยู่ทเี่ จอร์นัลหลกั หรือฝาแบริงกไ็ ด้ 5. ให้เอาแถบซองพลาสตทิ มี่ สี เกล ขนาดความแบนต่าง ๆ เทยี บกบั ความแบนของพลาสตเิ กจส่วนที่ แบนมากทส่ี ุดตวั เลขบนแถบพลาสติ เกจแสดงระยะช่องว่างของเจอร์นัล หลกั กบั แบริงนาค่าระยะช่องว่างนา้ มันท่วี ดั ได้มาเปรียบเทียบกบั ค่ากาหนดทบ่ี ริษทั ผู้ผลติ ระบุไว้ในคู่มือการซ่อม 8. การตรวจสอบระยะรุนของเพลาข้อเหวย่ี ง ขณะเคร่ืองยนต์ทางานเพลาข้อเหวยี่ งหมุนโดยให้มกี ารเคล่ือนท่ี ด้านข้าง ( แนวแกน ) น้อยทสี่ ุด เพื่อรักษาการเคลื่อนทด่ี ้านข้างให้ อยู่ในขดี จากดั จะต้องใส่แบริงก้านสูบไว้ทดี่ ้านข้างของเจอร์นัลข้อ เหวย่ี งอนั เดยี วกนั ส่วนอกี แบบหนึ่งใช้แผ่นกนั รุนซึ่งถูกตดิ ต้งั เข้า ไปท่ดี ้านของเจอร์นัลข้อเหวย่ี ง ร่องบนแผ่นกนั รุนด้านทห่ี ันไปทาง เพลาข้อเหวย่ี งจะถูกให้กระจายนา้ มนั ไปบนหน้าแบริงกนั รุน

ตดิ ต้งั ไดอลั อนิ ดเิ คเตอร์เข้ากบั บริเวณเสื้อสูบ ให้แกนวดั สัมผสั เพลาข้อเหวยี่ งแล้วปรับเขม็ ยาวที่หน้าปัดให้ตรงตาแหน่ง “O” ใช้ ปลายไขควงปากแบนงัดเพลาข้อเหวยี่ งไปด้านหน้าและด้านหลงั อ่านค่าท่เี บี่ยงเบนไปแล้วจดบันทกึ ค่าไว้เพ่ือนาผลมาวเิ คราะห์ 9. เคร่ืองมืออุปกรณ์ทใี่ ช้ตรวจสอบช่องว่างนา้ มันหล่อลื่นแบริง หลกั และระยะรุนเพลาข้อเหวยี่ ง 9.1 วธิ ีใช้งานไดอลั เกจ ( Dial gauge ) หรือ นาฬิกาวดั ส่วนประกอบของไดอลั เกจ มดี งั นี้ 6 หัววดั มลี กั ษณะปลายมนเป็ นจุด 3 สัมผสั งานเพื่อวดั ตรวจสอบชิ้นงาน 4 โดยตรง 5 แกนเล่ือน เป็ นตวั จบั ยดึ หัววดั และ 7 จะเล่ือนขนึ้ – ลง ขณะวดั ชิ้นงาน เขม็ ยาวของนาฬิกาวดั แสดงการ 2 เคล่ือนทข่ี องแกนเลื่อนชิ้นงาน 1 ภายหลงั การสัมผสั ชิ้นงานของ หัววดั เพ่ือบอกขนาดท่สี ัมผสั งาน

เขม็ ส้ัน แสดงจานวนหมุนของเขม็ ยาวว่าหมุนกร่ี อบเป็ นระยะทาง 9 10 เท่าไร ( มม. ) มที ศิ ทางการการ หมุนตรงข้ามกบั เขม็ ยาว 8 ขีดสเกลบนหน้าปัด จะบอกความ ละเอยี ดโดยแบ่งออกเป็ น 100 ช่อง เท่าๆ กนั เมื่อเขม็ ยาวหมุนไป 1 รอบ จะอ่านค่าได้ 1 มม. หรือ 1 ช่องจะ ค่าเท่ากบั 0.01 มม. ขอบนอกนาฬิกาวดั หมุนปรับให้ตาแหน่ง“ 0 ”( ขีด 0 ) ของขีด สเกลตรงกบั เขม็ ยาวเพื่อทจี่ ะกาหนดจุดเริ่มต้นในการอ่านค่า หรือตรวจสอบชิ้นงานในข้นั ตอนต่อไป ก้านยดึ สาหรับจบั ยดึ อุปกรณ์ ใช้ในการตรวจสอบชิ้นงาน แท่นสวติ ช์หรือฐานแม่เหลก็ ใช้ยดึ ตดิ ต้งั ในบริเวณทจ่ี ะ ตรวจสอบ แขนยดึ ไดอลั เกจกบั เสาแท่นแม่เหลก็ สวติ ช์แม่เหลก็

ไดอลั เกจหรือนาฬิกาวดั ใช้ตรวจสอบ ความคลาดเคล่ือนจากขนาดกาหนดที่ ระบุไว้ในคู่มือซ่อม ไดอลั เกจ ประกอบด้วยสเกลหยาบและ สเกลละเอยี ด โดยสเกลละเอยี ดอยู่วงนอกมเี ขม็ ยาวเป็ นตวั ชี้ สเกล หยาบเป็ นวงกลมเลก็ อยู่ในสเกลละเอยี ดมีเข็มส้ันเป็ นตัวชี้ใน 1 ช่อง ของสเกลละเอยี ดจะมคี ่าเท่ากบั 0.01 มม. เมื่อเขม็ ยาวหมุนครบ 1 รอบเข็มยาวจะผ่านช่องเลก็ ๆ บนหน้าปัดสเกลละเอยี ด 100 ช่องซึ่ง เท่ากบั ระยะท่ีแกนวดั เคลื่อนท่ีไป 1 มม. ในขณะเดยี วกนั เข็มส้ันที่ สเกลหยาบจะหมุนไป 1 ช่อง หรือถ้าเขม็ ยาวหมุนไป 2 รอบเขม็ ส้ันกจ็ ะหมุนไป 2 ช่อง วธิ ีใช้ให้ตดิ ต้งั ฐานสวติ ช์แม่เหลก็ ซึ่งมี สวติ ช์ ปิ ด – เปิ ด เพ่ือความสะดวก ปลอดภัยในการตดิ ต้งั ทบี่ ริเวณ ตรวจสอบ ประกอบไดอลั เกจเข้ากบั แขนยดึ จัดหัววดั ให้สัมผสั กบั ผวิ งานแล้วปรับเข็มยาวให้ตรง ตาแหน่ง “O” แล้วหมุนชิ้นงานไปช้าๆ 1 รอบ ถ้าเข็มยาวบน หน้าปัดไม่เบีย่ งเบนไปจากตาแหน่ง “O” แสดงว่าชิ้นงานน้ันเรียบ

9.2 วธิ ีใช้งานพลาสตเิ กจ ช่องว่างนา้ มนั หล่อล่ืนระหว่างแบริง หลกั ( Main Bearing ) กบั เจอร์นัล หลกั ( Main Journal ) และแบริงก้าน สูบ ( Connecting Rod Bearing ) กบั เจอร์นัลก้านสูบ ( Connecting Rod Journal ) และช่องว่างนา้ มันหล่อล่ืน ระหว่างเจอร์นัลเพลาลูกเบยี้ วกบั แบริง เจอร์นัลเพลาลูกเบยี้ วถ้าระยะช่องว่าง นา้ มันหล่อลื่นพอดเี พื่อจะให้นา้ มนั หล่อล่ืน เคลือบอยู่บนผวิ หน้า ระหว่างที่เครื่องยนต์ทางาน ถ้าช่องว่างนา้ มนั นีม้ ากเกนิ ไปแรงดนั ของนา้ มนั เครื่องตา่ ก้านสูบจะเต้นแบริงทางานเกนิ ภาระ ในทาง ตรงกนั ข้ามถ้าช่องว่างนา้ มันน้อยเกนิ ไปนา้ มันหล่อลื่นเคลือบไม่ เพยี งพอทาให้เจอร์นัลเพลาข้อเหวย่ี งและแบริงตดิ และเสียหายจาก แบร่ิงร้อนจดั พลาสตเิ กจมลี กั ษณะเป็ นเส้นพลาสตกิ อ่อนเม่ือถูก กดทบั จะแบนท่ีซองพลาสตเิ กจมสี เกลบอกความกว้างไว้มีหน่วย วดั เป็ นมลิ ลเิ มตรและนิว้ การตรวจสอบช่องว่างนา้ มนั หล่อล่ืนทา ได้โดยการใช้พลาสติกเกจวางบนเจอร์นัลหลกั เพลาข้อเหวย่ี งแล้ว

ขันสลกั เกลยี วยดึ ฝาประกบั แบริง ตามค่าแรงขนั ทีก่ าหนด พลาสตเิ กจเป็ นเส้นพลาสตกิ อ่อนเมื่อถูกกดระหว่างเจอร์นัลและ แบริงจะแบน แล้วนาสเกลบนแถบซองพลาสตเิ กจมาเทียบความ แบนจะได้ระยะช่องว่างนา้ มันหล่อลื่น 9.3 วธิ ีใช้งานประแจวดั แรงบิด ( Torque Wrench ) ประแจวดั แรงบดิ หรือประแจปอนด์ใช้วดั แรงบดิ ในการขนั สลกั เกลยี ว แป้นเกลยี วและสกรูหัวเหลยี่ มชนิดต่าง ๆ ประแจวดั แรงบดิ จะช่วยให้การทางานมปี ระสิทธิภาพมากขนึ้ คือทาให้ สามารถขนั เกลยี วเพื่อตดิ ต้งั ชิ้นส่วนอปุ กรณ์ต่างๆ ด้วยแรงบิด ตามทก่ี าหนดไว้ ทาให้ชิ้นส่วนน้ันตดิ ต้งั อย่างถาวรทส่ี ุดในขณะท่ี สลกั เกลยี วหรือแป้นเกลยี วกร็ ับแรงกด – แรงดงึ ได้เต็มทโ่ี ดยไม่ เป็ นอนั ตรายต่อตวั เกลยี ว การใช้ประแจวดั แรงบิดเป็ นการหาค่า ของแรงทก่ี ระทาในการขนั เกลยี ว คูณด้วยระยะทางจากเส้นผ่าน ศูนย์กลางของสลกั เกลยี วมาถึงมือทอ่ี อกแรงดึงด้ามประแจ ค่าที่ได้ จะแสดงบนหน้าปัทม์ หรือเข็มชี้ท่ตี ดิ ต้งั บนประแจ น้ันสามารถ อ่านค่าได้ทนั ที อ่านค่าเป็ น \" ฟุต – ปอนด์ \" หรือ \" กโิ ลกรัม – เมตร \" หรือ \" กโิ ลกรัม – เซนติเมตร \" เครื่องมือวดั แรงบิด สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภทคือ

ประเภทท่ี 1 Indicating Torque Tool เป็ นเครื่องมือทีบ่ ่งชี้โดยจะแสดงผล แบบสเกลทางกลแบบเข็มชี้หรือเป็ น แบบตัวเลขดจิ ิทัล ประเภทท่ี 2 Setting Torque Tool ประเภทนีจ้ ะต้องต้งั แรงบดิ ตามท่ีต้อง การก่อนเมื่อออกแรงกระทาต่อเกลยี ว ถงึ ขีดทก่ี าหนดจะมสี ัญญาณเสียงหรือ อื่นๆ แสดงออกมาว่าถึงขดี ท่ตี ้องการใช้ แรงกระทาต่อเกลยี วแล้ว หัวขับประแจ กระบอกของประแจวดั แรงบดิ จะเป็ น หัวขบั ชนิดส่ีเหลย่ี มจตั ุรัสสาหรับตดิ กบั ตวั ประแจกระบอกทว่ั ไป หัวขบั นีจ้ ะทามา 2 ขนาดคือ 1/4 นิว้ และ 1/2 นิว้ ( 6 และ 12 มม. ) เน่ืองจาก ประแจปอนด์เป็ นเคร่ืองมือทต่ี ้องวดั แรงบดิ ที่กระทาต่อ เกลยี ว ดงั น้ันเกลยี วของสลกั เกลยี วและแป้นเกลยี วจะต้องสะอาด

และไม่มสี ิ่งแทรกซ้อน อ่ืนท่จี ะทาให้การวดั แรงผดิ ปกติ เช่น การ สั่นไหว เกลยี วเป็ นสนิม เกลยี วตาย เกลยี วเยนิ ฯลฯ ซ่ึงเป็ นผลให้ ต้องใช้แรงเกนิ กว่าทก่ี าหนดซึ่งอาจทาให้เกลยี วชารุดได้ ปัจจุบัน ความก้าวหน้าในวชิ าโลหะวทิ ยาเป็ นไปอย่างรวดเร็ว ทาให้การ พฒั นาการผลติ สลกั เกลยี วและแป้นเกลยี วอย่างมากมาย ดังน้ัน การทางานในปัจจุบันจงึ จาเป็ นต้องใช้ประแจวดั แรงบดิ มากขนึ้ เพื่อ เพม่ิ ประสิทธิภาพในการทางาน แรงที่ใช้ในการขนั เกลยี ว หน้าที่ ของผู้ปฏบิ ัตงิ านจะต้องศึกษาตารางกาหนดแรงขนั เกลยี วซ่ึง บริษทั ผู้ผลติ เคร่ืองยนต์ได้กาหนดไว้ในคู่มือซ่อม เพื่อให้ทางาน อย่างมปี ระสิทธิภาพและได้ผลงานสูงสุด การใช้ประแจวดั แรงบิด มดี งั นี้ 1. ต้องรู้ค่ากาหนดการขนั โดยดูจากคู่มือซ่อม 2. ใช้ประแจให้มขี นาด แรงขนั เหมาะสมกบั งาน ไม่ใช้ประแจวดั แรงบิดด้วยการต่อด้าม 3. การขันดงึ เข้าหาตนเองเพ่ือความปลอดภยั ใช้แรงขนั ทส่ี มา่ เสมอ อย่ากระชากจะชารุด 4. ประแจวดั แรงบิดที่หัวประแจเป็ นแบบกร๊อกแกร๊กหลงั ใช้งาน ควรหยอดนา้ มันหล่อล่ืนทใ่ี ส

5. ประแจวดั แรงบดิ เป็ นเครื่องมือวดั แยกเกบ็ ไว้ในกล่องท่ี แขง็ แรง ไม่ปะปนกบั เครื่องมืออื่น 9.4 วธิ ีใช้งานประแจกระบอก (Socket Wrench) ประแจกระบอก ใช้ครอบบนหัวแป้น เกลยี วหรือหัวสลกั เกลยี ว ปากประแจมี ลกั ษณะภายในคล้ายประแจแหวน ประแจกระบอกส่วนบนจะทาเป็ น รูส่ีเหลย่ี มไว้ แล้วใช้ด้ามต่อหรือด้าม ขันแบบต่างๆ ทีม่ ปี ลายทาเป็ นสี่เหลย่ี ม เพ่ือสวมลงไปประกอบการใช้งานในรู สี่เหลย่ี มของตวั ประแจจะเซาะร่องรูป ครึ่งวงกลมไว้ระหว่างกลางของ ความ ลกึ ของรูไว้ท้งั ส่ีด้านเพื่อเป็ นทล่ี อ็ กให้ตวั ประแจตดิ กบั ด้าม โดยที่ ด้ามกจ็ ะฝังลูกปื นกลม มสี ปริงดนั ให้ยื่นพ้นผวิ เรียบของข้อต่อ ส่ีเหลย่ี ม ประแจกระบอกใช้ขันหรือคลายแป้นเกลยี วและสลกั เกลยี วได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ คือไม่ทาให้หัวแป้นเกลยี วหรือหัว สลกั เกลยี วเยนิ หรือชารุด เพราะปากประแจมีลกั ษณะภายในคล้าย ประแจแหวนสามารถจบั ได้ทุกเหลย่ี ม ประแจกระบอกส้ันจะใช้

ครอบบนหัวแป้นเกลยี วหรือหัวสลกั เกลยี วท่ียื่นพ้นผวิ งานไม่ลกึ มากนักเพ่ือกวดเข้าหรือคลายออก ประแจกระบอกมีประโยชน์ใช้ งานได้ดที ส่ี ุดและใช้กนั มากกว่าประแจชนิดอ่ืนๆ เพราะใช้งานได้ คล่องไม่ล่ืนไถลหลุดง่าย 9.5 วธิ ีใช้งานด้ามต่อ ( Extension ) ด้ามต่อใช้สาหรับต่อกบั ประแจกระบอก และด้ามขันเลื่อนหรือด้ามขนั เหวย่ี ง เพ่ือขนั สลกั เกลยี วหรือแป้นเกลยี วทอ่ี ยู่ ลกึ โดยทป่ี ระแจอื่นๆ ไม่สามารถใช้งาน ได้ด้ามต่อมที ้งั แบบยาวและแบบส้ันจึง ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกบั งานทท่ี าไม่ ควรใช้ด้ามต่อแทนค้อนหรือเหลก็ ตอกจะทาให้ชารุดเสียหาย 9.6 วธิ ีใช้งานด้ามขันเหวยี่ ง (Thickened handle) ใช้สาหรับคลายแป้นเกลยี วหรือสลกั เกลยี วทต่ี ้องการแรงขันมาก ด้ามที่ยาว จะเหมือนกบั ต่อคาน ให้ยาวทาให้ขนั หรือคลายออกได้ง่ายขนึ้ ด้ามขันจะ แกว่งเป็ นส่วนโค้งของวงกลม ทาให้

สามารถเลือกมุมทถี่ นัดในการขนั และคลายได้ตามความต้องการ 9.7 วธิ ีใช้งานคู่มือการซ่อม ในคู่มือการซ่อมเม่ือเปิ ดหน้าแรกจะพบ วธิ ีการใช้คู่มือประกอบด้วย คานา, คู่มือ การซ่อมเคร่ืองยนต์ ( สารบญั ) ซึ่งได้ ระบุ ชื่อหมวด และหัวข้อหลกั ไว้ที่ ด้านบนของทุก ๆ หน้า ซึ่งหัวข้อเร่ือง ได้ถูกระบุไว้ในหน้าแรกของแต่ละ หมวดเพื่อนาไปสู่หัวข้อทต่ี ้องการซ่อม เช่น บทนา บน , กลไกเครื่องยนต์ กย , ระบบเชื้อเพลงิ ชพ , ระบบหล่อเยน็ ลย , ระบบหล่อล่ืน ลล, ระบบสตาร์ท สต , ระบบ ไฟชาร์จ ฟช ,ค่ากาหนดการบริการ ก, ค่ากาหนดแรงขันโบลท์ มาตรฐาน ข, เคร่ืองมือพเิ ศษและวสั ดุพเิ ศษสาหรับบริการ ค, นักเรียนต้องการจะซ่อมหัวข้อหลกั ใดให้นักเรียนเปิ ดดูทด่ี ้านบน หน้ากจ็ ะพบวธิ ีการซ่อมและค่ากาหนด

9.8 วธิ ีใช้งานผ้าเช็ดมือ การปฏบิ ตั งิ านต้องกระทาอย่างมี ประสิทธิภาพและถูกต้องตามหลกั การ ท้ังนีก้ เ็ พ่ือให้ผลงานน้ันออกมาดมี ี คุณภาพ มอี ายุการใช้งานยืนยาว การ ปฏบิ ัตงิ านความสะอาดเป็ นสิ่งสาคญั อย่างยิ่ง เพราะการประกอบชิ้นส่วนท่ี เคล่ือนไหวเข้าในตาแหน่งเดมิ ถ้ามสี ่ิง สกปรกหลงเหลืออยู่จะทาให้ ชิ้นส่ วน เกดิ การเสียดสีบด บี้ กบั สิ่งสกปรกเกดิ การสึกหรอเร็วกว่าปกติและ อาจชารุดเสียหายโดยทนั ทกี ไ็ ด้ฉะน้ันต้องระมดั ระวงั ในเรื่องความ สะอาด ก่อนประกอบต้องไม่ลืมว่าชิ้นส่วนทม่ี กี ารเคล่ือนไหวด้วย การหมุนหรือเคล่ือนท่ี ขนึ้ – ลง ต้องใช้นา้ มันหล่อลื่นท่ีสะอาดมี คุณภาพคุณภาพชโลมชิ้นส่ วนก่อนประกอบเสมอ 9.9 วธิ ีใช้งานแปรงขนอ่อน ใช้ ล้างทาความสะอาดชิ้นส่ วนของ เคร่ืองยนต์ ใช้ทาความสะอาดสิ่ง สกปรกและคราบนา้ มัน การทาความ

สะอาดแปรงหลงั การใช้งาน ใช้มือบบี ขนแปรงให้สะเดด็ นา้ มันแล้ว ใช้ผ้าแห้งเช็ดขนแปรง 9.10 วธิ ีใช้งานกระบะใส่เคร่ืองมืออุปกรณ์ กระบะใช้ใส่เครื่องมืออปุ กรณ์ในการ ปฏบิ ตั ิงานและใช้สาหรับใส่นา้ มนั เพื่อ ล้างชิ้นส่วนต่างๆ ให้สะอาด กระบะต้อง มขี อบทส่ี ูงพอสมควรท้งั นีก้ เ็ พ่ือไม่ให้ นา้ มันทใ่ี ช้ทาความสะอาดน้ันกระเดน็ ลงพืน้ โต๊ะท่ีใช้ปฏิบัตงิ านการทาความสะอาดกระบะควรใช้ลมเป่ า และผ้าเช็ดให้แห้งไม่ควรเคาะกระบะกบั พืน้ เพราะจะทาให้ขอบ กระบะบุบเสียรูปทรง 9.11 วธิ ีใช้งานสายลมและปื นเป่ าลม สายลมและปื นเป่ าลมใช้เป่ าสิ่งสกปรก ทาความสะอาดชิ้นส่ วนของเครื่ องยนต์ ข้อควรระวงั ห้ามนาปื นเป่ าลมทาความ สะอาดสิ่งทต่ี ดิ อยู่บนเสื้อผ้าหรือบริเวณ ศีรษะอาจเกดิ อนั ตรายได้

10. สถานทเ่ี กบ็ เคร่ืองมืออปุ กรณ์ทใ่ี ช้ตรวจสอบช่องว่าง นา้ มันหล่อล่ืนทแี่ บริงเจอร์นัลหลกั และระยะรุนเพลาข้อเหวยี่ ง เคร่ืองมือและอุปกรณ์ทใ่ี ช้ตรวจสอบช่องว่างนา้ มนั หล่อลื่นท่ี แบริงเจอร์นัลหลกั และระยะรุนเพลาข้อเหวย่ี งจดั เกบ็ ไว้ในตู้ทหี่ ้อง เคร่ืองมือ ( Tool room ) การเบิกเคร่ืองมือไปใช้งานมดี งั ต่อไปนี้ 10.1 นาใบเบกิ เครื่องมือให้กบั ผู้เกบ็ รักษาเครื่องมือ ผู้เกบ็ รักษา เคร่ืองมือจ่ายเคร่ืองมือให้กบั นักเรียน 10.2 ผู้เกบ็ รักษาเครื่องมือจะเกบ็ ใบเบิกเคร่ืองมือไว้จนกว่าจะนา เคร่ื องมือมาส่ งคืน 11. วธิ ีเบกิ เครื่องมืออุปกรณ์ทใี่ ช้ตรวจสอบช่องว่างนา้ มนั หล่อล่ืนที่ แบริงเจอร์นัลหลกั และระยะรุนเพลาข้อเหวย่ี ง การเขยี นใบเบกิ เครื่องมือเป็ นการสร้าง จติ สานึกให้ช่วยกนั รักษาเคร่ืองมือไม่ให้ สูญหายและมวี นิ ัยในการทางาน รับผดิ ชอบร่วมกนั การนาเครื่องมือไป ใช้งานจะต้องเขยี นใบเบิกเครื่องมือ ให้กบั เจ้าหน้าทผี่ ู้ควบคุมดงั นี้

11.1 เขยี นช่ือ นามสกลุ ช้ันปี กลุ่ม รหัส แผนกวชิ า เขยี นวนั ที่ เดือน พ.ศ. 11.2 เขยี นรายการเคร่ืองมือ จานวนทเ่ี บิก ลงช่ือผู้เบิกและ ลงช่ือ อาจารย์ผ้สู อน 12. ข้อควรระวงั ในการเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ทใี่ ช้ตรวจสอบ ช่องว่างนา้ มันหล่อลื่น 12.1 ไม่นาเครื่องมืออุปกรณ์วางทบั พลาสตเิ กจจะทาให้เสียหาย 12.2 ประแจวดั แรงบดิ ระวงั การตกลงพืน้ จะทาให้ชารุดเสียหาย 12.3 นักเรียนต้องแต่งกายให้ถูกต้องตามระเบียบของโรงงาน และใช้เครื่องป้องกนั อนั ตรายทุกคร้ังทป่ี ฏบิ ตั งิ านที่ กาหนดให้ใช้เคร่ืองป้องกนั 12.4 ห้ามสัมผสั นา้ มันเคร่ืองท่ใี ช้งานแล้วเป็ นเวลานาน เพราะมี โอกาสเกดิ มะเร็งผวิ หนังได้ ถ้ามคี วามจาเป็ นควรสวมถุง มือ ถ้าใส่ผ้าเปี ยกนา้ มันเครื่องควรเปลย่ี นทนั ที

13. วธิ ีถอดเพลาข้อเหวย่ี งออก 13.1 คลายสลกั เกลยี วยึดฝาประกบั แบริงเจอร์นัลหลกั ให้คลายออกท่ี ละน้อยแบ่งเป็ น 3 ระยะ ตามลาดบั ตวั เลขทบ่ี ริษทั ผู้ผลติ กาหนดดงั แสดงในรูป 13.2 ใช้ประแจกระบอกขนาด 14 มม. คลายสลกั เกลยี วยึดฝาแบริงเจอร์ นัลหลกั 10 ตวั ออก 13.3 ถอดฝาแบริงหลกั เพลาข้อเหวย่ี ง ออก ถ้าฝาแบริงติดแน่นให้ใช้สลกั เกลยี วใส่ในรูแล้วใช้สลกั เกลยี วทา หน้าที่คล้ายเหลก็ งดั ถอดฝา แบริงออกห้ามใช้ค้อนตอกหรือตี

13.4 ถอดแบริงตวั ล่างและแหวนกนั รุน ตัวล่าง ( เฉพาะฝาแบริงตัวท่ี 3 ) ออก เม่ือถอดแบริงทส่ี าคญั กค็ ือ ต้องถอดอย่างระมดั ระวงั โดยไม่ ทาให้แบริงเสียหายเนื่องจาก จาเป็ นต้องนาแบริงกลบั มาใช้อกี 13.5 ยกเพลาข้อเหวยี่ งออกด้วยความ ระมัดระวงั 13.6 ถอดแบริงตวั บนและแหวนกนั รุน ตวั บนออกจากเสื้อสูบ 13.7 จดั เรียงฝาแบริงเจอร์นัลหลกั แบริงและแหวนกนั รุนให้ถูกต้อง ตามลาดบั

14. ข้อควรระวงั ในการถอดเพลาข้อเหวยี่ งออก 14.1 ระวงั เจอร์นัลเพลาข้อเหว่ียงและแบริงหลกั เป็ นรอยขูดขดี 14.2 หลกี เลย่ี งการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือหรือเครื่องจกั รทชี่ ารุด เสียหาย หรืออยู่ในสภาพทไี่ ม่เหมาะสมต่อการใช้งาน 15. การทาความสะอาดเพลาข้อเหวยี่ ง ใช้นา้ มันล้างเครื่องและแปรงขนอ่อนทา ความสะอาดเจอร์นัลหลกั และเจอร์นัล ก้านสูบ ล้างคราบนา้ มนั และยางเหนียว ออก ทาความสะอาดช่องทางเดิน นา้ มันหล่อลื่นร่วมกบั ลมอดั เป่ าไล่สิ่ง สกปรกออก 16. ข้อควรระวงั ในการทาความสะอาดเพลาข้อเหวย่ี ง 16.1 ระวงั มใิ ห้เจอร์นัลหลกั และเจอร์นัลก้านสูบเป็ นรอยขูดขดี 16.2 ใช้ปื นลมเป่ ารูนา้ มนั ระวงั ส่ิงสกปรกกระเดน็ เข้าตา