Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงการพัฒนายกระดับคุณภาพผ้าทอ วิถีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัสจรรย์ฝ้ายทอมือ

โครงการพัฒนายกระดับคุณภาพผ้าทอ วิถีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัสจรรย์ฝ้ายทอมือ

Published by due.love29, 2022-05-19 13:45:44

Description: รายงานผลการดำเนินงาน
โครงการพัฒนายกระดับคุณภาพผ้าทอ วิถีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัสจรรย์ฝ้ายทอมือ
กิจกรรมที่ 3 การประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือ

Search

Read the Text Version

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วิถีลุม่ น้ำโขง ชี มูล อศั จรรย์ฝา้ ยทอมือ ๑ สารบัญ หน้า สารบัญ………………………………………………………………………………………………………………………………. 1 สารบัญตาราง.................................................................................................................................... 2 บทท่ี 1 ความเป็นมา…………………………………………………………………………………………………………… 3 ๑.1 หลกั การและเหตุผล…………………………………………………………………………………………………. 3 1.๒ วัตถปุ ระสงค์……………………………………………………………………………………………………………. 3 1.3 งบประมาณ…………………………………………………………………………………………………………….. 4 1.4 สถานท่ีดำเนนิ งาน……………………………………………………………………………………………………. 4 1.5 รายช่ือกลมุ่ เป้าหมาย………………………………………………………………………………………………… 4 บทที่ 2 แผนและรายละเอียดการดำเนนิ งาน…………………………………………………………………………… 6 2.1 แผนการดำเนนิ งาน................................................................................................................ 6 2.2 ขอบเขตการดำเนนิ งาน…………………………………………………………………………………………….. 7 2.3 แนวคิดเกยี่ วกบั การผลติ ส่อื ประชาสมั พันธ์............................................................................ 7 บทท่ี 3 ผลการดำเนนิ งาน……………………………………………………………………………………………………. 15 3.1 การสง่ เสรมิ ความรแู้ ละทักษะในการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์................................................... 15 3.2 การผลติ และเผยแพรป่ ระชาสัมพนั ธ์ผ่านส่ือส่ิงพมิ พ์……………………………………………………… 32 3.3 การผลิตและเผยแพรส่ ่ือประชาสมั พนั ธ์ผา่ นสื่อวทิ ยุ............................................................... 72 3.4 การผลิตและเผยแพรส่ อ่ื ประชาสัมพันธ์ผา่ นสื่อออนไลน์……………………………………………………. 73 บทท่ี 4 ประเมินผลการดำเนนิ งาน………………………………………………………………………………………… 157 4.1 สรุปผลการประเมินความพึงพอใจของกล่มุ เป้าหมาย……….................................................... 157 4.2 ระดบั ความพึงพอใจตอ่ การเขา้ รว่ มกจิ กรรมของผ้ปู ระกอบการ.............................................. 158 บทที่ 5 ปญั หา อุปสรรค และขอ้ เสนอแนะ..……………………………………………………………………………. 160 5.1 ปญั หา และอปุ สรรค............................................................................................................... 160 5.2 ข้อเสนอแนะ....................................................................... .................................................... 160 ภาคผนวก ภาคผนวก ก เอกสารการลงทะเบียนผูเ้ ข้าอบรม............................................................................ 162 ภาคผนวก ข เอกสารใบสำคัญรับเงินผู้เขา้ อบรม............................................................................ 166 ภาคผนวก ค เอกสารการลงทะเบียนเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน (ศึกษาดงู าน).................................... 170 ภาคผนวก ง ประวัตผิ ู้เชี่ยวชาญและวทิ ยากร................................................................................. 174 ภาคผนวก จ แบบประเมนิ ความพึงพอใจของผู้เข้าอบรม............................................................... 191

โครงการ พฒั นายกระดับคณุ ภาพผ้าทอ วิถีลมุ่ น้ำโขง ชี มูล อัศจรรยฝ์ ้ายทอมือ ๒ สารบญั ตาราง หนา้ ตารางที่ 1 รายชอ่ื กลุ่มเป้าหมาย..……………………………………………………………………………………………….. 4 ตารางท่ี 2 แผนการดำเนินงาน……………………………………………………………………………………………………. 6 ตารางท่ี 3 สรุปจำนวนและร้อยละจำแนกตามเพศ ของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกจิ กรรม.………………….. 157 ตารางที่ 4 สรุปจำนวนและร้อยละจำแนกตามอายุ ของผปู้ ระกอบการท่เี ขา้ รว่ มกิจกรรม…………………… 157 ตารางท่ี 5 ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของผู้ประกอบการที่เขา้ ร่วมการจดั กิจกรรม……………………….. 158

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผา้ ทอ วถิ ีลมุ่ นำ้ โขง ชี มูล อศั จรรย์ฝ้ายทอมือ ๓ บทท่ี 1 ความเป็นมา กิจกรรมการประชาสมั พนั ธ์ผลิตภณั ฑผ์ า้ ทอ ภายใต้โครงการพัฒนายกระดับคุณภาพผา้ ทอ วถิ ลี ่มุ นำ้ โขง ชี มูล มีรายละเอยี ดการของโครงการดังตอ่ ไปน้ี ๑.1 หลกั การและเหตุผล ยุทธศาสตรช์ าตริ ะยะ 20 ปี (พ.ศ.2561-2579) ด้านการสรา้ งความสามารถในการแขง่ ขนั (1) การพัฒนา สมรรถนะทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการค้าการลงทุน พัฒนาสู่ชาติการค้า (2) การพัฒนาภาคการผลิตและบริการ เสริมสร้างฐานการผลิตเข้มแข็งยั่งยืน และส่งเสริมเกษตรกรรายย่อยสู่เกษตรยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (3) การพัฒนาผู้ประกอบการและเศรษฐกิจชุมชน พัฒนาทักษะผู้ประกอบการ ยกระดับผลิตภาพแรงงานและพัฒนา SMEs สูส่ ากล (4) การพฒั นาพืน้ ท่ีเศรษฐกจิ พเิ ศษและเมืองพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และพฒั นาระบบเมือง ศูนย์กลางความเจริญ (5) การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการขนส่ง ความมั่นคงและพลังงาน ระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการวจิ ัยและพัฒนา (6) การเชื่อมโยงกับภูมภิ าคและเศรษฐกิจโลก สรา้ งความเป็นหุ้นส่วน การพฒั นากบั นานาประเทศ ส่งเสรมิ ให้ไทยเป็นฐานของการประกอบธุรกิจ จังหวัดยโสธรได้ร่วมกับจังหวัดในกลุ่มจังหวัดฯ กำหนดเส้นทางแหล่งท่องเที่ยววิถีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัศจรรย์ฝ้ายทอมือ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่น คือ ผ้าทอ ได้แก่ ผ้าฝ้าย ผ้าย้อมครามที่เป็น อัตลักษณ์ของจังหวัดภาคอีสาน และเป็นอัตลักษณ์ของในแต่ละจังหวัด อีกทั้งเป็นแหล่งผลิตผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าย้อมครามที่สำคัญของประเทศ และสร้างรายได้ให้กับประชาชนในภาคอีสาน ซึ่งจังหวัดยโสธรได้ร่วมกำหนด เส้นทางแหล่งท่องเที่ยววิถีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัศจรรย์ฝ้ายทอมือ ปัจจุบันผู้บริโภคมีค่านิยมที่เปลี่ยนแปลงไปตาม กระแสวัฒนธรรมต่างชาติ มคี วามเป็นสากลมากขน้ึ และความนิยมในตา่ งประเทศในด้านวฒั นธรรมและภูมิปัญญา ด้านผ้าทอของไทย ดังนั้น การจะให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านผ้าทอของอีสาน เป็นที่นิยมและ ต้องการของตลาดเพ่ิมขึ้น จงึ มีความต้องการพฒั นาผลิตภณั ฑ์ผ้าทออีสาน ในรปู แบบต่าง ๆ ใหไ้ ด้มาตรฐานมีความ เป็นสากลเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลกสามารถขายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะส่งผลดีต่อการ เจริญเติบโตทางเศรษฐกจิ ตอ่ ไป 1.๒ วตั ถุประสงค์ 1.๒.1 เพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ผ้า และสร้างความเข้าใจเรื่องผ้าทอทุกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างการ รบั รู้อย่างกวา้ งขวาง 1.2.2 เพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่เชิงรุกและสร้างช่องทางสื่อสารประจำให้มีข่าวสารประชาสัมพันธ์ ของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดการส่งต่อข้อมูลที่ถูกต้อง และลดการบิดเบือนข้อมูลใน ชอ่ งทางท่ีไม่เปน็ ทางการ 1.2.3 เพือ่ สรา้ งภาพลักษณ์ท่ดี ีตอ่ กล่มุ ผู้ผลติ ผปู้ ระกอบการ 1.2.4 เพื่อส่งเสริมความรู้ทักษะในการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์แก่กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และ เจ้าหนา้ ทพ่ี ฒั นาชมุ ชน

โครงการ พฒั นายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วถิ ีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อศั จรรยฝ์ ้ายทอมือ ๔ 1.3 งบประมาณ งบประมาณ 487,725 (สี่แสนแปดหม่ืนเจ็ดพันเจด็ ร้อยย่สี บิ ห้าบาทถ้วน) 1.4 สถานที่ดำเนินงาน ทอ่ี ยู่ พื้นท่จี งั หวัดยโสธร 142 หมู่ 5 ตำบลโคกสำราญ อำเภอเลิงนกทา 384 หมู่ ๑๑ ต.ห้องแซง อ.เลงิ นกทา จ.ยโสธร 1.5 รายชือ่ กลุ่มเปา้ หมาย ๙๗ หมู่ ๓ ต.สวาท อ.เลงิ นกทา จ.ยโสธร ตารางที่ 1 รายช่ือกล่มุ เปา้ หมาย ๙๗ หมู่ ๓ ต.สวาท อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร 8 หมู่ 5 ต.กุดเชยี งหมี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ลำดบั ช่อื กลุ่ม ๖ ม.๙ ต.บงุ่ คา้ อ.เลงิ นกทา จ.ยโสธร 1 กลมุ่ ทอผา้ พฒั นาอาชีพ หมู่ ๕ 41 หมูท่ ่ี ๗ ต.หอ้ งแซง อ.เลงิ นกทา จ.ยโสธร 2 กลุ่มสมั มาชพี ทอผ้าบ้านหอ้ งแซงใต้ ม.11 80 ม.๙ ต.ศรแี ก้ว อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร 3 กลมุ่ ทอผ้าบ้านศรเี จรญิ ชัย 205ม.16 ต.ห้องแซง อ.เลงิ นกทา จ.ยโสธร 4 กลุ่มสัมมาชีพทอผ้าบ้านแย 28 ม.18 ต.หอ้ งแซง อ.เลงิ นกทา จ.ยโสธร 5 กลุ่มสัมมาชพี ทอผา้ บ้านกดุ แขด้ ่อน ม.๕ 27 ม.1 ต.บุง่ คา้ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร 6 กลุ่มทอผา้ ลายขิด 101 ม.๙ ต.หอ้ งแซง อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร 7 กลุ่มทอผา้ บา้ นดงยาง ม.๗ 37 ม.10 ต.พระเสาร์ อ.มหาชนะชยั 8 กลุ่มทอผา้ บา้ นศรีชุมพร 102 ม.1 ต.บงึ แก อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร 9 กลุ่มทอผา้ บ้านดงยาง ม.๑๖ 4 ม.1 ต.บงึ แก อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร 10 กลุ่มทอผ้าพ้นื เมือง-ผ้ามัดหมี่ หมู่ 18 36 ม.7 ต.คเู มือง อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร 11 กลุ่มอาชีพทอผา้ ขาวม้าลายขิด 12 ม.2 ต.กูจ่ าน อ.คำเขอ่ื นแกว้ จ.ยโสธร 12 กลุ่มทอผา้ บ้านป่าชาด ม.๙ 232 ม.8 ต.สงเปือย อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร 13 กล่มุ แม่บา้ นเกษตรกรบา้ นโนนยาง 14 กลุ่มทอผ้าภมู ิปัญญาท้องถ่นิ บ้านบึงแก 15 กลุ่มสตรีทอผ้าไหมบ้านบึงแก 16 กลุ่มผ้าพนั คอสัมมาชพี ชุมชนบา้ นสำโรงหมู่ 7 17 กลุ่มทอผา้ บา้ นกู่จาน 18 กลุ่มทอผา้ พื้นเมืองบ้านเมืองเตย

โครงการ พัฒนายกระดับคณุ ภาพผา้ ทอ วถิ ีลุ่มนำ้ โขง ชี มูล อัศจรรยฝ์ า้ ยทอมือ ๕ ลำดับ ชือ่ กลุ่ม ท่อี ยู่ 19 กล่มุ ทอผ้าพ้นื เมืองบ้านนาถ่ม 58 ม.12 ต.ดงแคนใหญ่ อ.คำเขอ่ื นแก้ว จ.ยโสธร 20 กลมุ่ ทอผา้ ขาวม้า 263 ม.5 ต.โพนทัน อ.คำเขื่อนแก้ว 21 กลุ่มสัมมาชีพสตรีทอผ้าบา้ นฟ้าห่วน จ.ยโสธร 22 กลมุ่ สตรีพัฒนาผา้ ไทยและแปรรูปยโสธร 102 ม.8 บา้ นฟ้าห่วน ต.ฟ้าหว่ น อ.คอ้ วงั จ.ยโสธร 24 ม.7 ต.ค้อวงั อ.ค้อวงั จ.ยโสธร 23 กลุ่มวิสาหกจิ ชุมชนแม่บ้านเกษตรกร 24 ม.6 บา้ นจานทงุ่ ต.น้ำออ้ ม อ.ค้อวงั จ.ยโสธร 24 กลมุ่ สตรีทอผา้ บ้านฟ้าห่วน 38 ม.1 บา้ นฟ้าห่วน ต.คอ้ วัง อ.นำ้ อ้อม จ.ยโสธร 25 กลุ่มทอผา้ ฝ้ายบา้ นโพธิไ์ ทร หมทู่ ี่ 9 3 ม.9 ต.โพธไิ์ ทร อ.ปา่ ติ้ว จ.ยโสธร 26 กลมุ่ ทอผ้าดอกฟา้ นามะเขือ 129 ม.1 ต.โพธไิ์ ทร อ.ปา่ ต้ิว จ.ยโสธร 27 กลุ่มทอผา้ ขาวมา้ 120 ม.12 ต.ร่มโพธ์ิ อ.ปา่ ตว้ิ จ.ยโสธร 28 กลุ่มอาชีพสตรีนาสะแบง 48 ม.6 ต.โนนเปือย อ.กุดชุม จ.ยโสธร 29 กลมุ่ ทอผา้ บ้านคำกา้ ว 12 ม.4 ต.หว้ ยแก้ง อ.กดุ ชมุ จ.ยโสธร 30 กลุ่มสตรีทอผ้าบ้านเก้ยี งเกา่ 68 ม.4 ต.โพนงาม อ.กุดชมุ จ.ยโสธร 31 กลุ่มสตรีทอผา้ ลายขติ บา้ นนาเฮือง 59 ม.4 ต.นำ้ คำ อ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร 32 กลมุ่ ทอผ้าย้อมสธี รรมชาติบ้านโคกสวาท ม.10 ต.นา่ โส่ อ.กดุ ชมุ จ.ยโสธร 33 กลุ่มสตรีทอผา้ บ้านกำแมด 34 กลมุ่ สตรที อผา้ นางชา้ งเฒ่า 134 ม.7 บา้ นกำแมด ต.กำแมด อ.กุดชุม จ.ยโสธร 39 ม.4 ต.น้ำคำ อ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร 35 กลุ่มสมั มาชีพชุมชนทอผ้าฝ้ายบ้านคำไผ่เหนือ 77 ม.4 ต.คำไผ่ อ.ไทยเจรญิ จ.ยโสธร 36 กลุ่มสตรีทอผ้าไหมคำไผ่เหนือ 94 ม.4 ต.คำไผ่ อ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร 37 กลมุ่ สตรที อผา้ บ้านศรีชมุ พร 17 ม.4 บ้านศรชี ุมพร ต.สม้ ผอ่ ไทยเจริญ จ.ยโสธร 38 กลมุ่ ทอผา้ ไหมบ้านโนนหนองผือ 167 ม.2 ต.คำไผ่ อ.ไทยเจรญิ จ.ยโสธร 39 กลมุ่ ทอผ้าบา้ นคำครตา 40 กลมุ่ ทอผ้าบา้ นหนองเรือ 160 ม.9 บ้านคำครตา ต.ดงมะไฟ อ.ทรายมูล จ.ยโสธร 58 ม.1 ต.หนองเรอื อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร

โครงการ พัฒนายกระดับคณุ ภาพผ้าทอ วิถีลุ่มนำ้ โขง ชี มูล อัศจรรยฝ์ ้ายทอมือ ๖ บทท่ี 2 แผนและรายละเอยี ดการดำเนินงาน 2.1 แผนการดำเนินงาน ตารางท่ี 2 แผนการดำเนินงาน สิงหาคม 2563 กันยายน 2563 ลำดับ รายละเอียดการดำเนนิ งาน สปั ดาหท์ ี่ สปั ดาหท์ ี่ 12 3 41234 1 การส่งเสริมความรแู้ ละทักษะในการผลติ สอื่ ประชาสมั พนั ธ์ 1) จดั ฝกึ อบรมและศึกษาดงู านการผลิตสื่อประชาสัมพนั ธ์ จำนวน 3 วัน 2) จัดหาโปรแกรมสำหรบั ผลิตสือ่ ประชาสมั พันธแ์ ละ โปรแกรมตัดต่อวิดิโอ 2 การผลิตและเผยแพรป่ ระชาสัมพนั ธ์ผา่ นสื่อสง่ิ พมิ พ์ 1) ผลิตส่อื ประชาสมั พนั ธผ์ ้าทอ ท่ีมีข้อมลู ผลติ ภัณฑ์และ ช่องทางติดตอ่ จำนวน 40 ผลติ ภัณฑ์ 3 การผลิตและเผยแพร่สอื่ ประชาสัมพันธผ์ า่ นสือ่ วิทยุ 1) ผลิตสอื่ ประชาสมั พนั ธ์ ความยาว 30-60 วินาที จำนวน 3 เรือ่ ง 2) วางแผนเผยแพรส่ ื่อประชาสมั พนั ธ์ทางสือ่ วิทยุ ความยาว 30-60 วนิ าที จำนวน 30 ครง้ั 4 การผลิตและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ผา่ นสอื่ ออนไลน์ 1) ผลติ สือ่ Video content กลมุ่ ผผู้ ลติ ผปู้ ระกอบการ OTOP จำนวน 40 ผลิตภัณฑ์ ๆ ละ ไม่เกนิ 3 นาที 2) เผยแพรส่ ่ือประชาสมั พันธ์ทางสอื่ ออนไลน์ 5 ผลิตส่อื Video content สรปุ ภาพรวมโครงการอำเภอ จำนวน 1 เร่ือง 3-5 นาที 6 สรุปรายงานผลการดำเนินงาน

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผา้ ทอ วถิ ีลมุ่ น้ำโขง ชี มูล อศั จรรย์ฝ้ายทอมือ ๗ 2.2 ขอบเขตการดำเนนิ งาน โครงการประชาสมั พนั ธ์การผลติ ผ้าทอ มุ่งเน้นที่จะส่อื สารไม่น้อยกว่า 3 ภารกจิ คือ 1. การส่งเสริมความรู้และทักษะในการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์แก่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และ เจา้ หน้าท่พี ัฒนาชมุ ชน 2. การผลิตและเผยแพรส่ ื่อประชาสัมพันธ์ 3. การประชาสมั พนั ธ์ผ่านส่ือมวลชน 2.1.1 การสง่ เสรมิ ความรู้และทักษะในการผลิตสือ่ ประชาสัมพนั ธ์ 1) จดั ฝึกอบรมและศกึ ษาดงู านการผลติ สือ่ ประชาสัมพนั ธ์ จำนวน 3 วนั กลุม่ เป้าหมายประกอบด้วย กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จำนวน 40 คน และเจ้าหน้าท่ีสังกัดสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดยโสธร จำนวน 60 คน รวมท้งั สิน้ 100 คน 2) จัดหาโปรแกรมสำหรับผลิตสื่อประชาสัมพันธ์และโปรแกรมตัดต่อวีดิโอในคอมพิวเตอร์และต้อง ตดั วีดโิ อด้วยแอฟพลิเคชั่นในสมารท์ โฟน 2.1.2 การผลติ และเผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์ผา่ นสอื่ สิ่งพิมพ์ 1) ผลติ สอ่ื ประชาสัมพนั ธผ์ า้ ทอ ขนาดไมน่ ้อยกวา่ เอ 4 เปน็ ภาพส่ีทมี่ ีข้อมูลผลติ ภัณฑ์และ ชอ่ งทางติดต่อ จำนวน 40 ผลิตภณั ฑ์ และนำสง่ มอบจำนวน 200 ชุด 2.1.3 การผลิตและเผยแพร่สื่อประชาสัมพนั ธผ์ า่ นสื่อวิทยุ 1) ผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ อาทิ พูดประชาสัมพันธ์ สัมภาษณ์พิเศษ สปอร์ตประชาสัมพันธ์ และงาน เผยแพรส่ ู่กจิ การรับรู้ไปสูก่ ลมุ่ เป้าหมายความยาวไม่น้อยกวา่ 30-60 วนิ าที ไมน่ ้อยว่า 3 เรอ่ื ง 2) วางแผนเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ทางสื่อวิทยุ ที่ได้รับตามความนิยมจากกลุ่มเป้าหมายของ โครงการ ความยาวไมน่ อ้ ยกว่า 30-60 วนิ าที จำนวนไม่น้อยกว่า 30 ครัง้ 2.1.4 การผลิตและเผยแพร่สือ่ ประชาสัมพนั ธผ์ ่านสื่อออนไลน์ (เนน้ เว็บไซต์ เฟสบคุ๊ ไลน์ และสอื่ ออนไลน์อื่น ๆ) 1) ผลิตส่อื Video content กลุ่มผูผ้ ลิต ผูป้ ระกอบการ OTOP จำนวน 40 ผลติ ภณั ฑ์ ๆ ละ ไม่เกิน 3 นาที 2) เผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ทางสื่อออนไลน์ของผู้รับจ้าง ในช่องหลักของสำนักงานพัฒนาชุมชน จังหวดั ยโสธร และ Social Media อื่น ๆ 2.1.5 ผลิตสื่อ Video content สรุปภาพรวมโครงการอำเภอ จำนวน 1 เรื่อง 3-5 นาที พร้อมท้ัง เผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธ์ทางสื่อออนไลน์ตา่ ง ๆ 2.3 แนวคดิ เกย่ี วกบั การผลติ สอื่ ประชาสัมพันธ์ สื่อประชาสัมพันธ์ คือหนทางหรือวิถีทางในการนำข่าวสารที่ต้องการประชาสัมพันธ์จากผู้ส่ง ไปสู่ผู้รับ ในปัจจุบันสื่อในการประชาสัมพันธ์มีมากมายและหลากหลาย อันเป็นผลเนื่องมาจากการพัฒนาด้าน เทคโนโลยี ของโลก โดยยกตวั อย่างการออกแบบสอื่ สิ่งพมิ พ์ท่ใี ชส้ ำหรับการโฆษณาประชาสัมพนั ธ์หรือ เชิญชวน ดงั น้ี 1) โปสเตอร์ (poster) คือภาพขนาดใหญ่พิมพ์บนกระดาษ ออกแบบเพื่อใช้ติดหรือแขวนบนผนังหรือกำแพงโปสเตอร์ อาจจะเป็น ภาพพิมพ์และ/หรือภาพเขียน หรืออาจจะเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ จุดประสงค์ก็เพื่อทำให้

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผา้ ทอ วถิ ีลุม่ นำ้ โขง ชี มูล อศั จรรยฝ์ ้ายทอมือ ๘ เตะตาผู้ดูและสื่อสารข้อมูลโปสเตอร์อาจจะใช้สอยได้หลายประการแต่ส่วนใหญ่มักจะใช้ในการเผยแพร่เพื่อการ ประชาสัมพันธ์ 2) แผน่ พบั (Brochure) แผ่นพับว่า หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่มีการกางพับเข้า และกางออก มีขนาดเล็ก หยิบง่ายให้ข้อมูล รายละเอียดได้มากพอสมควรมีวัตถุประสงค์เพื่อการโฆษณา ประชาสัมพันธ์สำหรับแผ่นพับที่ออกแบบในปัจจุบนั จะเน้นการออกแบบและการผลติ ที่ใช้ตน้ ทนุ ต่ำเป็นหลัก3และการออบแบบสำหรับงานพิมพ์ในรูปแบบหรหู รา เป็น อีกข้อได้เปรียบอกี ประเภทหน่งึ คือ รปู แบบสวย สะดดุ ตา เป็นงานพิมพ์ขน้ั สูง ราคากส็ งู ตามไปด้วย 2.3.1 องค์ประกอบของภาพโปสเตอร์โฆษณาและแผ่นพับ 1) รปู ภาพ (Picture) รูปภาพมีบทบาทและความสำคัญของการสื่อความหมายด้วยภาพมาก ซึ่งสามารถจำแนกข้อเดน่ ไดด้ ังนี้ - สะดดุ ตา - น่าสนใจ - สื่อความหมาย - ประทับใจ 2) พาดหวั (Headline) ในการเขียนข้อความโฆษณาจำเป็นจะต้องมีพาดหัวเสมอเพราะพาดหัวเป็นส่วนที่เด่นที่สุดในประเภท ของขอ้ ความโฆษณา มีไว้เพือ่ ให้สะดุดตาสะดดุ ใจชวนให้ติดตามอ่านเรื่องราวต่อไป ลักษณะของพาดหัวท่ีดีควรจะ มขี นาดตวั อกั ษรโตหรอื เดน่ เป็นข้อความทส่ี นั้ กะทัดรดั ชวนใหน้ ่าคดิ หรือน่าตดิ ตามอา่ นตอ่ ไป 3) พาดหวั รอง (Sub headline) คอื ข้อความที่มีขนาดและความสำคัญรองลงมาจากพาดหวั หรือในกรณีท่ีพาดหัวเป็นประโยคยาว ๆ ทำ ให้ไม่เด่นไม่สะดุดตาอาจจะตัดทอนตอนใดตอนหนึ่งลงมาให้เป็ นพาดหัวรองก็ได้โดยลดให้ตัวอักษรมีขนา ด รองลงมาจากพาดหัวถ้าเป็นพาดหัวประเภทอยากรู้อยากเห็นหรือแบบฉงน ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้อ่านสนเท่ห์ หรือประหลาดใจอาจจะต้องใชพ้ าดหวั รองทำหนา้ ที่ขยายความจากพาดหวั ให้เข้าใจเพิ่มขน้ึ 4) ข้อความบอกรายละเอียด (Body text) สำหรับสินค้าใหม่ที่ประชาชนยังไม่รู้ยังไม่เข้าใจประโยชน์ว่าใช้ทำอะไร ใช้อย่างไร หรือรู้จักแล้วแต่การ โฆษณาต้องการเนน้ ให้ถงึ ประโยชน์เพื่อการจูงใจซอ้ื จงึ ควรชีใ้ ห้เหน็ วาสนิ ค้าน้ีให้ประโยชน์คมุ้ คา่ อย่างไร แต่ถ้าเป็น สินค้าที่รู้จักกนดีโดยทั่วไป อาจจะไม่จำเป็นต้องเน้นประโยชน์ก็ได้เพื่อให้พื้นที่โฆษณาดูโปร่งตาไม่รกไปด้วย ข้อความ ซ่งึ จะดูดกี ว่าโฆษณาที่แนน่ ไปทั้งภาพด้วยเร่ืองราวต่าง ๆ เต็มพนื้ ที่ ประโยชน์อื่น ๆ หรือรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้ามีคุณสมบัติพิเศษ หรือมีประโยชน์เหนือกว่าสินค้า ธรรมดาโดยท่ัวไป การเขยี นข้อความโฆษณาจึงควรมรี ายละเอียดส่วนนี้ไว้ด้วย เพ่อื ชว่ ยสรา้ งความสนใจเป็นพิเศษ แกผ่ อู้ า่ น เช่น เครอื่ งดูดฝุ่น นอกจากใชด้ ดู ฝุ่นแลว้ ยงั สามารถใช้เป่าลมไดอ้ ีกด้วย 5) ขอ้ ความพสิ ูจนก์ ลา่ วอ้าง (Proof) ข้อความส่วนนี้มีไว้เพื่อสร้างความเชื่อถือหรือช่วยให้เกิดความมั่ นในสินค้าโดยมักจะอ้างอิงบุคคลท่ี สามารถอ้างอิงได้ตั้งแต่บุคคลธรรมดาท่ัวไปที่ใช้สินค้าหรือบริการแต่ถ้าเป็นดาราหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นที่ ยอมรับและรู้จักกนดีในสังคมก็จะได้รับความสนใจและได้รับความเชื่อถือเป็นพิเศษโดยเฉพาะคนเด่นคนดังใน สาขาอาชีพน้นั ๆ เชน่ นกั กีฬาที่มชี ื่อเสียงระดับชาติหรือระดับโลก โฆษณาสนิ ค้าที่เกี่ยวกบกีฬาประเภทน้ัน ๆ ผู้มี ชอื่ เสยี งเกยี่ วกบั อาหารการกนิ แนะนำเรื่องอาหารหรือเกย่ี วกบอาหาร

โครงการ พัฒนายกระดบั คณุ ภาพผ้าทอ วถิ ีลุม่ น้ำโขง ชี มูล อัศจรรยฝ์ ้ายทอมือ ๙ 6) ขอ้ ความปิดทา้ ย (Closing) ขอ้ ความเปน็ การจบโฆษณา โดยสรุปให้ทราบว่าผู้อ่านควรทำอยา่ งไร เชน่ ใหต้ ัดสินใจซื้อ ซ้ือได้ทีไ่ หน ซ้ือโดยวธิ ีใด ใครเปน็ ผู้ผลติ หรือตัวแทนจำหนา่ ย และคำขวัญ ก็เป็นทน่ี ยิ มในสว่ นขอ้ ความปิดทา้ ย เป็นตน้ 7) ผู้รบั ผิดชอบหรือผู้พิมพ์และโฆษณา (Publishers) คือสว่ นที่ต้องระบหุ น่วยงานต้นเรื่อง หรือหน่วยงานเจ้าของเร่ือง หรอื หนว่ ยงานทีร่ บั ผดิ ชอบ 2.3.2 การออกแบบจะตอ้ งเริ่มตน้ ทคี่ ำถาม - ตอ้ งการผลสมั ฤทธ์ิอะไร ? - ใครเป็นกลุ่มเป้าหมาย ? - ตอ้ งการจะพูดอะไร ? - ใชว้ ิธกี ารเสนอข่าวอยางไร ? - คา่ ใช้จ่ายหรืองบประมาณที่ใช้ ? 1) การสรา้ งภาพ เมื่อได้มีการพิจารณาเลือกสื่อที่จะทำการผลิตเพื่อให้เหมาะสมกบเนื้อหาสาระแล้ว ให้ทำการออกแบบ โดยเร่มิ จากการรา่ งภาพหยาบ ๆ ให้เหน็ เป็นเคา้ โครงจดั วางตำแหนง่ ของพ้ืนที่สำหรบั ใส่เนอ้ื หาและภาพเป็นหลัก 2) การร่างแบบหยาบ การสร้างภาพต้องเริ่มด้วยการร่างหยาบก่อนซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นออกแบบการร่างหยาบ หมายถึง การ นำเอาเนอ้ื หาท่กี ำหนดเขยี นและวาดลงบนกระดาษอย่างรวดเร็วและไม่ประณตี มากนัก พอให้เห็นว่าเปน็ เร่ืองอะไร มีเนื้อหามากเท่าไหร่ ภาพอยู่ตรงไหน ดูสมดุลและดูง่ายหรือไม่ การร่างหยาบทำให้ผู้ออกแบบได้ใช้ความคิด สร้างสรรค์งานขน้ึ มาหลายแบบ สะดวกในการเปลย่ี นแปลงรปู แบบ และคดั เลอื กงานที่ดีทสี่ ดุ มาใช้ 3) การรา่ งงานเทา่ แบบจริง การออกแบบต้องเริ่มต้นด้วยการร่างหยาบ คือ การขีดเส้นให้เห็นรูปร่างของงาน เช่น ส่วนใดจะเป็นภาพ สว่ นใดเปน็ ตัวพมิ พ์ ส่วนใดเป็นชอ่ งวา่ ง ส่วนใดเป็นเน้ือหาเด่นหรือเน้ือหารอง สว่ นใหญ่จะใช้ดินสอดำร่างเร็ว ๆ ให้ เป็นรปู ร่างคร่าว ๆ พรอ้ มท่จี ะเปลยี่ นแปลงแก้ไข โดยการพิจรณาถึงความเด่น ความกลมกลืน ความสมดลุ 2.3.3 องคป์ ระกอบในการผลิตสือ่ สิ่งพมิ พ์เพอ่ื การโฆษณาประชาสมั พนั ธ์ มีหลักการสำคญั ทใี่ ชเ้ ป็นเกณฑ์ ในการพิจารณาอยู่ 7 ประการ คือ 1) สว่ นสดั (Proportion) คือการกำหนดขนาดและสดั สว่ นของงานที่ทำการผลติ โดยเฉพาะงานชิน้ แรกท่ีจะทำการผลิต เพื่อเป็นแนวทางในการจัดวางองค์ประกอบย่อยอื่น ๆ การกำหนดกรอบของขอบเขตหรือขนาดของสิ่งพิมพ์ สดั ส่วนเหลา่ นี้ ไม่เพยี งแต่จะใช้ในการกำหนดขนาดของส่ือส่ิงพิมพ์เท่านนั้ แตส่ ามารถใชใ้ นการกำหนดสัดส่วนของ ขนาดองค์ประกอบย่อย ๆ ส่วนอ่นื ๆ ในสอื่ ส่ิงพมิ พไ์ ด้อกี ด้วยรปู แบบส่วนสดั มี 2 ประการคือ 1.1) ความสัมพันธ์ในเรื่องของขนาด ระยะหรือพื้นที่ระหว่างของสองสิ่ง เช่น กว้าง–ยาว สอดคล้องกับสัดส่วนของกระดาษมาตรฐานที่จำหน่ายทั่วไป การใช้มาตรฐานดังกล่าวเป็นการใช้กระดาษอย่าง คมุ้ คา่ ไมค่ วรกำหนดสว่ นสดั ให้เปน็ รูปสีเ่ หลี่ยมจัตรุ ัส หรอื สเ่ี หลี่ยมผนื ผา้ เพราะจะดไู มน่ ่าสนใจ 1.2) การเปรียบเทียบระหว่างองค์ประกอบย่อย และภาพรวมขององค์ประกอบทั้งหมด เช่น ขนาดตวั อกั ษรและภาพประกอบในแตล่ ะหนา้ คือไมค่ วรใชต้ ัวอกั ษรท่มี ีขนาดตา่ งกนั มากเกินไปในหน่ึงหน้า ยกเวน้ หนังสอื พิมพ์

โครงการ พฒั นายกระดับคณุ ภาพผา้ ทอ วิถีลมุ่ น้ำโขง ชี มูล อศั จรรย์ฝา้ ยทอมือ ๑๐ 2) ความสมดุล (balance) จะเกดิ ขึ้นได้ก็ต่อเม่ือองคป์ ระกอบย่อย ๆ ท่ีอย่ใู นส่ือสิง่ พมิ พ์ถูกจัดวางให้มีน้ำหนักเท่ากัน ทำให้ เกิดความรู้สึกสมดุลแกค่ นดูหรอื ผู้ท่ีมองน้ำหนักดังกลา่ วเกิดขึน้ จากรูปรา่ ง สี และความเข้มจาง หรือองค์ประกอบ ภายในผลงานน้นั ๆ ความสมดลุ ในการจัดวางรปู แบบมี 2 ประเภท คอื 2.1) ความสมดลุ แท้หรอื ทอ่ี งคป์ ระกอบทางซา้ ยและขวา หรอื บนและลา่ งมีนำ้ หนักเท่ากนั 2.2) ความสมดุลเทียม คือความสมดุลที่องค์ประกอบทางด้านซ้ายและขวา หรือบนและล่างมี น้ำหนักไม่เท่ากัน เมื่อมองรวมกันแล้วจะให้ค่าน้ำหนักของภาพเท่ากันรอบจุดกึ่งกลางของสายตา (optical center) โดยทั่วไปแล้วแบบที่1.2 จะให้ความรู้สึกมากกว่า เพราะเป็นการเปรียบเทียบและใช้รูปทรงของ องค์ประกอบภาพต่าง ๆ มาจัดแบ่งน้ำหนักของภาพให้อยู่ในสมดุลกันการทดสอบว่าการจัดวางตำแหน่งมีความ สมดุลกันหรือไม่อาจทำง่ายๆ ได้โดยการรี่ตามองในระยะห่างหลายๆฟุต ซึ่งจะทำให้มองไม่เห็นรายละเอียดของ ภาพ แต่จะมองเห็นเฉพาะส่วนประกอบใหญ่ๆที่มีน้ำหนักเท่านั้น ซึ่งจะทำให้พิจารณาไดว้ ่ามีส่วนใดใหญ่ไปเลก็ ไป เขม้ ไป หรอื ออ่ นไป หรือหนักไปทางดา้ นใดดา้ นหนึ่ง 3) ความแตกตา่ ง (Contrast ) การสื่อความหมายโดยทั่วไปย่อยจะมีบางสิ่งบางอย่างที่ต้องการมากกว่าส่วนอื่น ๆ นอกจากจะ เป็นการแสดงความสำคัญแล้ว ยังทำให้สิ่งที่ตอ้ งการแสดงนั้น มีความน่าสนใจมากขึ้น การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์เพือ่ การ โฆษณาเพอ่ื ประชาสมั พนั ธ์ ถ้าไม่เนน้ ใหเ้ ห็นความแตกตา่ ง งานก็จะดไู ม่นา่ สนใจ 3.1) การเน้นความแตกต่างโดยขนาด คือต้องการเน้นให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าปกติ ซึ่งมักพบใน งานโปสเตอร์ ปกหนงั สือ และงานโฆษณาต่าง ๆ 3.2) การเน้นความแตกต่างโดยรูปร่าง การใช้ขนาดที่แตกต่างกันเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ อาจตอ้ งใชว้ ธิ ีสรา้ งองคป์ ระกอบภาพให้มีรูปร่างที่ต่าง ๆ กนั ออกไปด้วย ซึง่ อาจทำโดยการบงั (crop) ภาพบางสว่ น การใช้ฮาฟโทน หรือการใสส่ กรีนขนาดต่าง ๆ เขา้ ช่วยในการทำตัวอกั ษรหรือภาพได้ การเนน้ ความแตกตา่ งโดย รปู ร่าง การเน้นความแตกต่างโดยใช้ความแก่–ออ่ นของสภี าพ การเน้นความแตกตา่ งด้วยทศิ ทาง 3.3) การเน้นความแตกต่างโดยการใช้ความแก่–อ่อนของสีภาพ อาจจะทำให้สวยงามน่าสนใจ มากขนึ้ หากกำหนดให้แต่ละส่วนมคี วามเขม้ แก่–ออ่ นไมเ่ ท่ากนั จะช่วยให้เห็นความลึกความชัดของภาพได้ดีขึ้นเพ่ือ เพิ่มความน่าสนใจใหส้ ิ่งพมิ พ์ และเร้าความรูส้ กึ ของผู้ดูได้โดยการใช้สีตัดกัน การใช้ตัวอักษรเว้นขาวในพื้นทึบหรือ การใช้เนอื้ ท่ีว่างแทรกระหวา่ งหนา้ ท่ีมเี นอื้ ความมาก ๆ เป็นตน้ 3.4) การเน้นความแตกต่างด้วยทิศทาง การใช้ทิศทางในการชี้แนะผู้อ่านให้ติดตามข้อความที่ ต้องการส่อื ความหมายไปตามลำดับ เชน่ ข้อความพาดหวั ทางด้านบนภาพจะไปสิน้ สุดข้อความด้านขาวมือ และจะ ถูกชักนำมาสู่ข้อความข้างล่าวงโดยเส้นทแยงมุมและเมื่อจบข้อความสุดท้าย แล้วจึงจะถึงข้อความปิดท้าย ส่วนกรอบสี่เหลย่ี ม จะทำหนา้ ทีเ่ ปน็ กรอบทีก่ ำหนดทศิ ทางให้องค์ประกอบภาพว่าจะอย่ใู นแนวตั้งหรือแนวนอน 4.) ลลี า (Rhythm) หมายถึง การเคลื่อนไหวที่มีความซ้ำและต่อเนื่องกันเป็นระยะ ๆ และจากการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ กัน ทำให้เกิดรูปรูปรา่ ง ขนาด รูปลกั ษณะตา่ ง ๆ กันออกไป 4.1) โดยกำหนดให้มีองค์ประกอบที่มีรปู แบบเดียวกันเรียงซ้ำกัน ความแตกต่างกันในรูปแบบที่ วางมไี มม่ ากนักเพอื่ ทำผู้อ่านไม่สบั สนเพราะมีรูปแบบคล้ายคลึงกนั และทำใหก้ ารดเู ป็นไปอยา่ งต่อเน่ืองยิ่งข้นึ

โครงการ พัฒนายกระดับคุณภาพผา้ ทอ วถิ ีลุม่ นำ้ โขง ชี มูล อัศจรรยฝ์ า้ ยทอมือ ๑๑ 4.2) โดยการใชเ้ สน้ เปน็ เครื่องบง่ ชี้ถงึ ลีลาของภาพ เปน็ การใช้เส้นหรือส่วนประกอบของรูปแบบ ช่วยนำสายตาผู้อ่านหรือผู้ดูไปสู่จุดสำคัญที่ต้องการสื่อความ ช่วยให้ส่วนประกอบต่าง ๆ แลดูคล้ายมีการ เคล่อื นไหว จากส่วนประกอบหนึง่ ไปอีกสว่ นประกอบหนง่ึ ทำใหภ้ าพไม่ “นง่ิ ” เกินไปช่วยป้องกนั ความสับสนจากการดูสิ่งพิมพ์ ดว้ ย วิธกี ารหน่ึงท่ชี ่วยให้สงิ่ พิมพ์ดูมลี ีลาโดยการใชล้ ูกศรหรือเส้น ซง่ึ อาจเป็นเส้นตรง เส้นโค้ง หรือเส้นในลักษณะ อื่นทีน่ ำไปสูจ่ ุดสนใจได้ 5.) ความมีเอกภาพ (Unity) เปน็ การจดั วางองค์ประกอบทงั้ หมดของรปู แบบตั้งแตข่ ้อความ ภาพ สัญลักษณ์ และอืน่ ๆ ใหม้ ี ความสมั พันธ์ซึง่ กันและกัน สามารถสะท้อนเร่ืองราวเปน็ หน่ึงเดียว ทำให้เกิดผลต่อผู้อา่ นหรือผู้ดูไปในทางเดียวกัน โดยสอดคล้องกับความต้องการและวตั ถุประสงค์ของเจ้าของงานและผู้ออกแบบการจัดองค์ประกอบใหม้ ีเอกภาพ ทำได้โดยการใช้จำนวนแบบตัวพิมพ์หรือแบบอักษรที่ไม่มากเกินไปในหนึ่งหน้า เพื่อไม่ให้เกิดความหลากหลาย หรอื ทำใหส้ ว่ นประกอบต่าง ๆ ของรูปแบบแยกออกจากกนั มากเกินไป 6.) การผสมกลมกลนื (Harmony) 6.1) การออกแบบจะต้องจัดให้องค์ประกอบของภาพให้มีความผสมกลมกลืนและ ได้ผลตาม ความตอ้ งการหลกั 2 ประการ - รปู แบบท่อี อกมาจะตอ้ งสะดุดตาผู้ชม - ภาพรวมทั้งหมดจะต้องสื่อความหมายหรือให้ผลในการมองเป็นสิ่งเดียวกัน ความผสม กลมกลืนจะจัดการไดใ้ นเรื่อง สี รูปทรงขององคป์ ระกอบตา่ ง ๆ และแบบตวั อกั ษร 7.) เน้นจุดแห่งความสนใจ (Center of interest) ควรจะต้องมีจุดหรือบริเวณหนึ่งซึ่งมีลักษณะเด่น น่าสนใจเป็นพิเศษกว่าบริเวณอื่นเพื่อดึงดูด สายตาของผดู้ ู ตำแหน่งจุดแหง่ ความสนใจนั้น อาจอยู่ในบรเิ วณ optical center 2.3.4 หลกั การใชส้ กี บั สอ่ื ประชาสัมพันธ์ 1) การใชส้ ีกลมกลนื สำหรบั การใช้สีในการออกแบบเพ่ือให้เกิดความกลมกลืน กค็ ือ การพิจารณาความสมั พันธ์ของสี ต่าง ๆ ที่จะเลือกนำมาใช้ว่ามีความสัมพันธ์ใกล้เคียงกันโดยไม่มีใดโดดเด่นแยกจากสีอื่น ๆ การใช้สีกลมกลืนมี หลายวิธี ดังน้ี 1.1) การใช้สีสันเดียว (Monochromatic scheme) เป็นการใช้สีแท้เพียงสีเดียวในการ ออกแบบหลกั การนเี้ ป็นพน้ื ฐานท่ีง่ายท่ีสุดในการสร้างความกลมกลนื 1.2) การใช้สีใกล้เคียงกัน (analogous scheme) เป็นการสร้างความกลมกลืนโดยเลือกใช้สีที่ คล้ายคลงึ หรอื ใกล้เคยี งกนั การเลือกสีใกล้เคียงกนั อาจเลือกจากสีที่อยเู่ รยี งติดกันในวงล้อสี ซึง่ สที ่ีเรียงติดกันเป็นสี ใกล้เคียงกัน เชน่ สีเหลอื งสม้ สีเหลอื ง และสีเหลืองเขยี ว 1.3) การใชส้ วี รรณะเดยี วกัน (tone harmony scheme) ในวงลอ้ สีจะสามารถแบ่งสีไดเ้ ปน็ 2 วรรณะ คือ วรรณะร้อน (warm tone) ซึ่งเป็นสีที่มีสเี น้นหนักไปทางสีแดง ได้แก่ สีม่วงแดง สีแดง สีส้มแดง สีสม้ สีส้มเหลือง และวรรณะเย็น (cool tone) ซึ่งเป็นสีที่มีสีเน้นหนักไปทางสีน้ำเงิน ได้แก่ สีเขียวอ่อน สีเขียว สีเขียว น้ำเงิน สีน้ำเงิน สีน้ำเงินม่วง ส่วนสีเหลืองและสีม่วงเป็นสีกลางที่จะอยู่ได้ทั้งสองวรรณะ ทั้งนี้ขึ้นกับสีอื่นซึ่งจะ นำมาใช้รว่ มกนั

โครงการ พัฒนายกระดบั คณุ ภาพผ้าทอ วถิ ีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัศจรรยฝ์ ้ายทอมือ ๑๒ 2) การใช้สีแตกตา่ ง การใช้สีแตกต่างเป็นการใช้สีสันต่างกันเพื่อใหต้ ัดกัน ทำให้งานออกแบบน่าสนใจต่ืนเต้น ความแรงของ การตัดกนั จะข้ึนกับความแตกต่างของสที เี่ ลอื กใช้ การทำให้สีแตกต่างสามารถทำไดห้ ลายวธิ ี ดังนี้ 2.1) การใช้สีคู่ตรงข้าม (complementary contrast) สีคู่ตรงข้ามเป็นสีที่อยู่ตรงข้ามกันในวงล้อสี เช่น สีเขียวเป็นสีคู่ตรงข้ามกับสีแดง สีที่ตรงข้ามกันมาอยู่ด้วยกันจะให้ความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ สีคู่ตรงข้ามที่เป็น ปฐมภูมิกับสีทุติยภูมจิ ะตดั กันรุนแรงกว่าสคี ู่ตรงขา้ มที่เปน็ สีตตยิ ภูมิ เช่น สีแดงกับสีเขียวจะตัดกนั รุนแรงกวา่ สีส้ม แดงกับสเี ขียวนำ้ เงนิ สำหรับสีทอี่ ยู่ในทิศทางตรงกนั ขา้ มในวงลอ้ สี มี 6 คู่ ได้แก่ สีเหลอื ง ตรงกนั ขา้ มกบั สมี ่วง สแี ดง ตรงกันขา้ มกบั สเี ขียว สีนำ้ เงิน ตรงกนั ข้ามกับ สสี ม้ สเี ขยี วเหลือง ตรงกันขา้ มกับ สีม่วงแดง สีสม้ เหลือง ตรงกันขา้ มกับ สีม่วงนำ้ เงิน สีส้มแดง ตรงกันข้ามกับ สีเขียวน้ำเงนิ 2.2) การใช้สีใกล้เคียงสีคู่ตรงข้าม (near or split complementary contrast) ถ้าการใช้สีตรงข้าม เพื่อให้เกิดความแตกต่างนั้นจะให้ความรู้สึกที่ขัดแย้งกันเกินไป อาจเลี่ยงมาใช้สีที่อยู่ใกล้เคียงกับสีคู่ตรงข้ามซึ่ง อาจจะให้ผลเป็นที่น่าพอใจขึ้น เช่น สีม่วงเป็นสีคู่ตรงข้ามแท้กับสีเหลือง อาจเลือกใช้สีน้ำเงินม่วงหรือแดงมาใช้คู่ กบั สีเหลอื งเพอ่ื ใหด้ แู ตกต่างกันแทนสมี ่วงได้ 2.3) การใช้สีสว่างสีต่างกัน (value contrast) สีที่มีความสว่างที่ใกล้เคียงกัน จะทำให้มองดูแล้ว รวมตัวกันในการรับรู้สีเป็นกลุ่มเดียวกัน แต่ถ้าเป็นสีที่มีความสว่างสีต่างกันมาอยู่ใกล้สีของภาพที่มองเห็นจะ ผิดเพี้ยนไปจากความเปน็ จริง ท้ังน้ขี ึน้ อย่กู บั อทิ ธิพลของความสวา่ งสีท่ีอยู่ขา้ งเคียง 2.4) การใช้สีท่มี ีวรรณะตา่ งกัน (tone contrast) เปน็ การใชส้ ที ง้ั สองวรรณะเขา้ ดว้ ยกันในภาพ สที ี่อยู่ ในวรรณะต่างกัน เช่น สีแดง เป็นสีวรรณะร้อน และ สีน้ำเงินเป็นสีวรรณะเย็น เมื่อนำมาใช้ด้วยกันจะรู้สึกตัดกัน โดยทั่วไปสีวรรณะร้อนเป็นสีที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้น เร้าใจ ใกล้ และหนัก มักใช้เป็นส่วนของภาพที่ต้องการเน้น ขณะที่สีวรรณะเยน็ เปน็ สีใหค้ วามร้สู ึกผอ่ นคลาย สงบ ไกล และเบา มกั จะใชเ้ ปน็ สว่ นของพื้นหลงั 3) การใชส้ สี มดลุ การใช้สีใหเ้ กิดความสมดุลในสายตา อาจทำได้อย่างง่ายๆ โดยการแบง่ พ้นื ที่เป็น 2 ส่วน คือ ซ้าย-ขวา หรอื บน-ล่าง เม่ือใชส้ ีใดด้านหน่ึงก็ใหใ้ ช้สีน้ันอีกด้านตรงข้ามกนั ด้วย การใช้สีที่ให้มองดูแล้วสมดุลยัง มหี ลายวิธดี งั น้ี 3.1) การใช้สีสามเส้า (triad balance) สีสามเส้า หมายถึง สี 3 สีซึ่งอยู่ในวงล้อสีโดยมีตำแหน่งห่าง กันเท่าๆ กัน ในการออกแบบวิธีนี้ต้องใช้สี 3 สีอยู่ด้วยกัน สีสามเส้าในวงล้อสีจะให้กลุ่มที่สมดุลที่สุด เช่น กลุ่มสี แดง สนี ้ำเงิน และสเี หลอื ง หรอื กลมุ่ สสี ้มแดง สีเหลืองเขยี ว และสีมว่ งน้ำเงนิ สแี ต่ละกลุ่มจะมีความโดดเด่นเท่าๆ กัน จึงทำให้ดูแล้วสมดุล อย่างไรก็ตามควรเลือกให้สีใดสีหนึ่งเป็นสีโดดเด่นซึ่งตอ้ งการเน้น และลดความแรงของ อีกสองสี ด้วยการลดความอ่ิมตัวหรือความสวา่ งสีลง 3.2) การใช้ปริมาณพื้นทส่ี มดุลกับความสว่างสี (quantization balance) ในการใช้สตี ง้ั แต่ 2 สีข้ึนไป สัดส่วนปริมาณพื้นที่ของสีที่ใชก้ ับความสว่างสขี องสีนั้นจะมีผลต่อความสมดุลในการมองเหน็ คือ สีที่มีความสว่าง สงู กว่าจะต้องมีปริมาณพนื้ ท่ีน้อยกว่าสีท่ีมีความสว่างต่ำกวา่ เพ่ือใหด้ ูวา่ มีพืน้ ทส่ี มดุล เช่น สีเหลืองมีความสว่างสูง กว่าสีน้ำเงินประมาณ 3 เท่า เมื่อนำสองสีนี้มาใช้ให้เกิดความสมดุลแล้วควรใช้พื้นที่ของสีเหลืองให้น้อยกว่าสีน้ำ

โครงการ พฒั นายกระดบั คณุ ภาพผ้าทอ วิถีลมุ่ น้ำโขง ชี มูล อศั จรรย์ฝ้ายทอมือ ๑๓ เงนิ ประมาณ 3 เทา่ สำหรบั สแี ดงกับสีเขยี ว เป็นสที ใี่ ห้ความสว่างประมาณเทา่ ๆ กันเม่ือนำสองสีมาใชใ้ ห้เกิดสมดุล พ้นื ทีข่ องสีแดงกค็ วรจะประมาณเท่าๆ กบั ของสีเขียว 2.3.5 หลกั การใชส้ ีส่อื ความร้สู กึ ตามบุคคลแต่ละคนอาจแสดงความรู้สึกต่อสีเดียวกันออกมาแตกต่างกันได้ ทั้งนี้ขึ้นกับการเรียนรู้ ประสบการณ์ แต่โดยทั่วไปสีที่จัดอยู่ในวรรณะร้อน จะให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา ตื่นเต้นเร้าใจ และสีที่จัดอยู่ใน วรรณะเย็น จะให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สงบ ยิ่งกว่านั้น สีแต่ละสียังมีลักษณะเฉพาะตัวที่มีการนำมาใช้ในลักษณะ ตา่ ง ๆ กนั ไดม้ ากดงั ตวั อย่างต่อไปน้ี 1) สีแดง เป็นสีที่มีความร้อนแรงมองเห็นได้รวดเร็วที่สุด จึงมักเลือกให้เป็นสีที่ใช้สำหรับดึงดูด ความสนใจมากท่ีสุดสหี นึ่ง สีแดงเปน็ สที ี่ให้ความร้สู ึกของการมีพละกำลังความก้าวรา้ ว รุนแรง รวดเร็ว และปราด เปรยี ว จงึ นิยมใชเ้ ปน็ สีสำหรับรถยนต์สปอร์ เส้ือทีมสำหรับนักกีฬา นอกจากน้ัน สแี ดงยงั เป็นสที ่ีแทนความรู้สึกรัก ชาติ ความเป็นชาตินิยม จึงมักจะพบว่าสีแดงประจำชาติ และสีแดงยังใช้เป็นสัญลักษณ์ของความรัก ตลอดจน อารมณต์ ่าง ๆ ท่ีเกย่ี วกบั ความเรา้ รอ้ น ความขดั แยง้ ทะเลาะวิวาทและอันตรายเปน็ ต้น 2) สนี ำ้ เงิน เปน็ สที ่ีมคี วามสว่างสตี ่ำ ให้ความรูส้ ึกเยือกเยน็ เงียบสงบ ความรับผิดชอบ ความจรงิ ใจ สีน้ำเงินเข้ม มักเป็นสีที่นักบริหารช้ันสูงเลือกใช้เป็นสขี องรถ เครื่องแต่งกาย สำหรับสีน้ำเงินอ่อน หรือสีฟ้า มักทำ ให้นึกถงึ ความสะอาด ความเยน็ และผอ่ นคลาย มักใช้เปน็ สีพน้ื หลงั บรรจุภัณฑ์ทีใ่ หค้ วามร้สู ึกเย็น และความชุ่มช่ืน เชน่ ลูกอมทีม่ ีเมนทอลผสมเป็นตน้ 3) สีเหลือง เป็นสีที่มีความสว่างสีสูง สีเหลืองที่สดใสเป็นสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์ให้ความรู้สึก อบอ่นุ ความสนุกสนานร่าเรงิ ความใหม่ ความทนั สมยั สุขภาพท่ีดี แตถ่ า้ เป็นสีเหลืองหม่น จะใหค้ วามรสู้ กึ ถงึ ความ ขี้ขลาด ความออ่ นแอ โรคภัยไข้เจ็บ 4) สีเขยี ว เป็นสีท่ีใหค้ วามรสู้ ึกใกล้เคียงกับสีน้ำเงนิ คอื รู้สกึ ผ่อนคลาย สงบ แตใ่ หค้ วามรู้สกึ สดช่ืน ความมีชีวิตชีวา การเติบโต ความเป็นธรรมชาตินิยมใช้สำหรับเป็นสีสินค้าที่ปลอดสารเคมี หรือการอนุรักษ์ ส่ิงแวดลอ้ ม 5) สีม่วง เป็นสีที่เกิดจากสีแดงผสมกับสีน้ำเงินจึงรวมคุณลักษณะของทั้งสองสีเข้าด้วยกัน คือ ความมีอำนาจของสีแดง และความมีคุณธรรม รับผิดชอบของสีน้ำเงิน สีม่วงมักจะให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ ความ หรูหราโออ่ า่ และความประทบั ใจ 6) สีขาว เป็นสีที่ให้ความสว่างสีสูงสุด ให้ความรู้สึกโปร่งเบา ละเอียดอ่อน บริสุทธิ์ ความดีงาม ความมีคุณธรรม การใช้ธงขาว หมายถึง การย้อมแพ้ สงบศึก ในบางประเทศใช้สีขาวแสดงถึงความเศร้าโศก การ พลดั พราก 7) สีดำ เป็นสีที่มีความสว่างสีต่ำที่สุด ให้ความรู้สึกหดหู่ เคร่งขรึม ลึกลับ น่ากลัว ชั่วร้าย ความ เป็นอมตะ ในบางประเทศใช้สดี ำแสดงถงึ ความเศร้าหมอง ความตาย 2.3.6 กลุ่มสที ี่ให้ความรู้สกึ ต่างกนั นักออกแบบโฆษณาได้ศกึ ษาและทดลองการใชก้ ลุ่มสขี องสี จำนวน 3-4 สี ในการสรา้ งความรู้สกึ แก่ กล่มุ เป้าหมายให้สอดคล้องกบั วตั ถปุ ระสงค์ของโฆษณา โดยสามารถสรปุ ลกั ษณะของกลมุ่ สี ไดด้ งั น้ี 1) กลุ่มสีที่ก่อให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ เหมาะสำหรับใช้กับการออกแบบประเภทป้ายเตือน ใหร้ ะวงั อันตราย ได้แก่ สีแดง สดี ำ สีเหลอื ง และสีแสด 2) กลุ่มสีที่แสดงความเป็นผู้หญิง เหมาะสำหรับใช้กับการออกแบบที่เน้นความเป็นผู้หญิง หรือ ผลิตภณั ฑส์ ำหรบั ผู้หญิง ไดแ้ ก่ สชี มพู สีฟา้ สเี หลอื งออ่ น และสเี ขยี วออ่ น

โครงการ พฒั นายกระดับคุณภาพผ้าทอ วถิ ีลุม่ น้ำโขง ชี มูล อศั จรรยฝ์ า้ ยทอมือ ๑๔ 3) กลุ่มสีที่แสดงความเป็นผู้ชาย เหมาะสำหรับใช้กับการออกแบบที่เน้นความเป็นผู้ชาย หรือ ผลิตภัณฑส์ ินคา้ สำหรบั ผชู้ าย ได้แก่ สีดำ สีน้ำเงนิ สีเทา และสแี ดง 4) กลุ่มสีที่เน้นความสด เหมาะสำหรับใช้กับการออกแบบที่เน้นความสดของสินค้า เช่น อาหาร เครอื่ งด่มื เป็นต้น ไดแ้ ก่ สเี หลอื ง สีเขียวเหลือง และสีน้ำเงนิ 5) กลมุ่ สที ่แี สดงออกถงึ สุขภาพ เหมาะสำหรับใชก้ ับการออกแบบผลิตภัณฑ์ทีเ่ น้นด้านสุขภาพ เช่น อาหารเสริม ยา ได้แก่ สเี หลอื ง สีน้ำตาล และสเี ขยี ว 6) กลุม่ สีที่แสดงออกถึงความสั่นสะเทือน เหมาะสำหรบั ใช้กบั การออกแบบ ซ่ึงต้องการแสดงความ เคลอื่ นไหว สั่นสะเทอื น ได้แก่ สีน้ำเงนิ สแี ดง สเี หลือง และสีเขยี ว 7) กลุ่มสีที่แสดงออกถึงความน่าเชื่อถือ เป็นสีที่เหมาะสำหรับใช้กับการออกแบบ ซึ่งต้องการจูงใจ ใหผ้ ดู้ เู ชอื่ ถอื ในสนิ ค้า หรอื ผลิตภัณฑ์น้นั ๆ ได้แก่ สีดำ สีเหลือง สีนำ้ ตาล และสีทอง 2.3.7 หวั ขอ้ การใช้สกี ับตวั อกั ษร การเลือกสีของตัวอักษรและพื้นหลังให้เกิดความประจักษ์ภาพ หรือสามารถอ่านได้ง่ายในระยะ สายตาของผู้อ่านมหี ลกั เกณฑ์ในการกำหนดสีเพอ่ื ใหเ้ กิดประจกั ษ์ภาพ ดงั น้ี 1) เมื่อต้องการใช้สีมากกว่า 1 สี ควรเลือกใช้สีเข้มที่สุดเป็นสีสำหรับข้อความซึ่งต้องการเน้นหรือ ตอ้ งการใหผ้ ู้อ่านอ่านก่อน สว่ นสอี ่ืน ๆ จะใชเ้ ปน็ สว่ นประกอบเพือ่ สรา้ งอารมณ์ให้กับผู้อ่านเทา่ น้นั 2) สีพ้นื หลังของตวั อักษรสีดำ หรือเข้ม ความเป็นสีออ่ นซงึ่ มีความสวา่ งสสี ูง เพอ่ื ให้อ่านข้อความได้ ง่ายขึ้น ยิ่งถ้าใช้ตัวอักษรขนาดเล็กลงเท่าใด ยิ่งควรใช้พื้นหลังเป็นสีอ่อนมากขึ้นเท่านั้น หรืออาจใช้วิธีเพิ่มความ สว่างสีให้กับสีพนื้ ดว้ ยการกำหนดเป็นพื้นสกรนี 3) เมอ่ื ตอ้ งการกำหนดตัวอักษรใหเ้ ป็นสีอ่ืนซึ่งไม่ใชส้ ีดำ ไม่ควรกำหนดสีตวั อักษรเป็นสีอ่อน หรือสี ที่มีความสว่างสูง เช่น สีเหลืองพิมพ์บนกระดาษสีขาว จะทำให้อ่านได้ยาก แต่ถ้าตัวอักษรมีขนาดใหญ่อาจช่วยให้ สามารถอ่านได้ง่ายขนึ้ เพอื่ ความแนใ่ จ ความกำหนดสใี ห้กับตัวอักษรทจ่ี ะพิมพเ์ ปน็ ข้อความส้ันๆ และต้องการเน้น เท่าน้นั สรปุ สีมีความสำคัญอย่างมากต่องานออกแบบ โดยเฉพาะในงานออกแบบกราฟฟิก และสิ่งพิมพ์เพราะ นอกจากจะทำใหภ้ าพหรอื สิ่งต่าง ๆ มีความสดใส สวยงาม นา่ สนใจแล้วยังมรบทบาทในการส่อื ความหมายได้อย่าง ถูกตอ้ ง เหมาะสมและมคี ุณภาพอกี ด้วย การใช้สีนัน้ มหี ลักการตามหลกั การออกแบบสามารถทำได้ 3 วิธไี ดแ้ ก่ 1. การใช้สกี ลมกลืน 2. การใชส้ ีแตกตา่ ง 3. การใช้สีสมดุล หลกั การใช้สีในการออกแบบทางการพมิ พ์นอกจากเพื่อสอ่ื ความหมายของงานพมิ พแ์ ลว้ อาจเปน็ การใช้สี เพื่อสื่อความรู้สึก เพื่อบอกขนาด เพื่อบอกระยะ และเพื่อลบอกความเคลื่อนไหว และการเลือกใช้สีเพื่อการ ออกแบบทางการพิมพ์ข้อความมีข้อควรคำนึงถึงในด้านการรับรู้สึกที่ผิดพลาด ปัญหาในการพิมพ์ ประจักษ์ภาพ และกลุม่ เป้าหมายเป็นส่วนสำคญั ในการพิจารณาเพอ่ื ให้การนเลือกใช้สีในงานพมิ พส์ ิ่งพิมพ์มคี วามเหมาะสมสูงสดุ

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผา้ ทอ วิถีลุ่มนำ้ โขง ชี มูล อศั จรรย์ฝา้ ยทอมือ ๑๕ บทท่ี 3 ผลการดำเนินงาน 3.1 การส่งเสริมความรแู้ ละทกั ษะในการผลติ สอ่ื ประชาสมั พนั ธ์ 1) จัดฝกึ อบรมและศกึ ษาดูงานการผลติ ส่ือประชาสัมพนั ธ์ จำนวน 3 วัน กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จำนวน 40 คน และเจ้าหน้าที่สังกัดสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดยโสธร จำนวน 60 คน รวมทง้ั สน้ิ 100 คน 1.1) จัดอบอรมเชิงปฏบิ ัติการผลติ ส่อื ประชาสัมพันธ์

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วถิ ีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัศจรรย์ฝา้ ยทอมือ ๑๖

โครงการ พฒั นายกระดบั คณุ ภาพผ้าทอ วิถีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อศั จรรย์ฝ้ายทอมือ ๑๗ 1.2) ศกึ ษาดงู านการผลติ สื่อประชาสมั พนั ธ์

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วถิ ีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัศจรรย์ฝา้ ยทอมือ ๑๘

โครงการ พัฒนายกระดับคุณภาพผา้ ทอ วถิ ีลุ่มนำ้ โขง ชี มูล อัศจรรยฝ์ ้ายทอมือ ๑๙ 2) จัดหาโปรแกรมสำหรับผลิตส่ือประชาสัมพนั ธ์และโปรแกรมตัดต่อวีดิโอในคอมพิวเตอร์และต้องตัดวีดิโอ ดว้ ยแอฟพลิเคชัน่ ในสมารท์ โฟน โปรแกรม Adobe After Effect คุณสมบตั ิของโปรแกรม เปน็ โปรแกรมทีช่ ่วยในการด้านการตกแต่งหรือเพ่ิมเติม Effect พเิ ศษให้กบั ภาพ ทำใหว้ ิดีโอมคี วามแปลกตา สวยงาม โดยทว่ั ไปจะใชโ้ ปรแกรม Adobe After Effects ในการสร้างงาน Animation หรือสรา้ งการ์ตนู ข้อความ หรือ motion Graphic มาประกอบในการตดั ต่อ และเราก็มกั ใช้วธิ ีการ rendered และ export Composition จาก โปรแกรม Adobe After Effects เปน็ ไฟล์ VDO

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วถิ ีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัศจรรย์ฝา้ ยทอมือ ๒๐

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วถิ ีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัศจรรย์ฝา้ ยทอมือ ๒๑

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วถิ ีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัศจรรย์ฝา้ ยทอมือ ๒๒

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วถิ ีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัศจรรย์ฝา้ ยทอมือ ๒๓

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วถิ ีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัศจรรย์ฝา้ ยทอมือ ๒๔

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วถิ ีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัศจรรย์ฝา้ ยทอมือ ๒๕

โครงการ พฒั นายกระดับคุณภาพผ้าทอ วถิ ีลมุ่ น้ำโขง ชี มูล อศั จรรยฝ์ า้ ยทอมือ ๒๖ ขน้ั ตอนผลติ สือ่ ประชาสัมพนั ธด์ ว้ ยโปรแกรม Adobe After Effect

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วถิ ีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัศจรรย์ฝา้ ยทอมือ ๒๗

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วถิ ีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัศจรรย์ฝา้ ยทอมือ ๒๘

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วถิ ีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัศจรรย์ฝา้ ยทอมือ ๒๙

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วถิ ีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัศจรรย์ฝา้ ยทอมือ ๓๐

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วถิ ีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อัศจรรย์ฝา้ ยทอมือ ๓๑

โครงการ พฒั นายกระดับคณุ ภาพผ้าทอ วถิ ีลมุ่ น้ำโขง ชี มูล อัศจรรยฝ์ า้ ยทอมือ ๓๒ 3.2 การผลติ และเผยแพรป่ ระชาสมั พันธผ์ า่ นส่อื ส่ิงพิมพ์ 1) ผลติ สอื่ ประชาสัมพันธ์ผ้าทอ ขนาดไมน่ อ้ ยกวา่ เอ 4 เป็นภาพส่ีทม่ี ีข้อมลู ผลติ ภณั ฑแ์ ละ ชอ่ งทางติดต่อ จำนวน 40 ผลิตภณั ฑ์ และนำส่งมอบจำนวน 200 ชุด ได้แก่ 1. กล่มุ ทอผ้าพัฒนาอาชพี หมู่ 5

โครงการ พฒั นายกระดับคุณภาพผ้าทอ วถิ ีลุ่มนำ้ โขง ชี มูล อัศจรรย์ฝ้ายทอมือ ๓๓ 2. กลมุ่ สัมมาชีพทอผา้ บา้ นห้องแซงใต้ ม.11

โครงการ พฒั นายกระดบั คณุ ภาพผ้าทอ วิถีลุม่ นำ้ โขง ชี มูล อศั จรรยฝ์ า้ ยทอมือ ๓๔ 3. กล่มุ ทอผา้ บ้านศรีเจริญชัย

โครงการ พฒั นายกระดับคณุ ภาพผ้าทอ วถิ ีลุ่มนำ้ โขง ชี มูล อศั จรรยฝ์ า้ ยทอมือ ๓๕ 4. กล่มุ สัมมาชีพทอผา้ บ้านแย

โครงการ พฒั นายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วิถีลุ่มนำ้ โขง ชี มูล อัศจรรย์ฝ้ายทอมือ ๓๖ 5. กลุม่ สัมมาชีพทอผา้ บา้ นกดุ แข้ด่อน หมู่ 5

โครงการ พัฒนายกระดบั คณุ ภาพผา้ ทอ วิถีลุ่มนำ้ โขง ชี มูล อศั จรรยฝ์ า้ ยทอมือ ๓๗ 6. กลุ่มทอผ้าลายขิด

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วิถีลุม่ นำ้ โขง ชี มูล อศั จรรยฝ์ า้ ยทอมือ ๓๘ 7. กลุ่มทอผา้ บ้านดงยาง หมู่ 7

โครงการ พฒั นายกระดับคณุ ภาพผา้ ทอ วถิ ีลุ่มนำ้ โขง ชี มูล อศั จรรย์ฝา้ ยทอมือ ๓๙ 8. กลมุ่ ทอผา้ บ้านศรีชมุ พร

โครงการ พัฒนายกระดับคณุ ภาพผา้ ทอ วถิ ีล่มุ น้ำโขง ชี มูล อศั จรรยฝ์ า้ ยทอมือ ๔๐ 9. กลมุ่ ทอผา้ มัดหมี่ บา้ นดงยาง หมู่ 16

โครงการ พัฒนายกระดับคุณภาพผา้ ทอ วิถีลุ่มนำ้ โขง ชี มูล อัศจรรย์ฝ้ายทอมือ ๔๑ 10. กลุ่มทอผา้ พื้นเมอื ง ผ้ามัดหม่ี หมู่ 18

โครงการ พัฒนายกระดับคณุ ภาพผา้ ทอ วถิ ีลุ่มน้ำโขง ชี มูล อศั จรรยฝ์ า้ ยทอมือ ๔๒ 11. กล่มุ อาชีพทอผ้าขาวม้าลายขิด

โครงการ พฒั นายกระดับคณุ ภาพผา้ ทอ วิถีล่มุ นำ้ โขง ชี มูล อศั จรรยฝ์ า้ ยทอมือ ๔๓ 12. กล่มุ ทอผ้าบ้านปา่ ชาด หมู่ 9

โครงการ พัฒนายกระดบั คณุ ภาพผา้ ทอ วิถีล่มุ นำ้ โขง ชี มูล อศั จรรยฝ์ ้ายทอมือ ๔๔ 13. กล่มุ แม่บา้ นเกษตรกรบ้านโนนยาง

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วิถีลุ่มนำ้ โขง ชี มูล อัศจรรย์ฝ้ายทอมือ ๔๕ 14. กลุ่มทอผ้าภมู ิปัญญาท้องถิ่นบา้ นบึงแก

โครงการ พฒั นายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วถิ ีลุม่ นำ้ โขง ชี มูล อศั จรรยฝ์ า้ ยทอมือ ๔๖ 15. กลุ่มสตรที อผ้าไหมบ้านบึงแก

โครงการ พัฒนายกระดับคุณภาพผา้ ทอ วิถีลมุ่ น้ำโขง ชี มูล อศั จรรยฝ์ า้ ยทอมือ ๔๗ 16. กลมุ่ ผา้ พันคอสัมมาชีพชุมชนบ้านสำโรง หมู่ 7

โครงการ พฒั นายกระดับคุณภาพผ้าทอ วิถีลุ่มนำ้ โขง ชี มูล อศั จรรยฝ์ า้ ยทอมือ ๔๘ 17. กลุ่มทอผ้าบ้านกจู่ าน

โครงการ พัฒนายกระดบั คุณภาพผ้าทอ วิถีล่มุ น้ำโขง ชี มูล อศั จรรยฝ์ า้ ยทอมือ ๔๙ 18. กล่มุ ทอผ้าพ้นื เมืองบา้ นเมืองเตย