เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 2 หนงั สอื เรยี น Team up in English 2 ม. 2 หน้า 71
เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 3 ส่อื PowerPoint เร่ือง Grammar Focus
เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 4 แบบบันทกึ การประเมนิ คณุ ภาพชิ้นงาน / ภาระงาน เรือ่ ง Grammar Focus ประเด็น/คะแนน ความสมบูรณ์ ความคดิ สร้างสรรค์ รวมคะแนน ของชน้ิ งาน 8 20 เลขท่ี ชื่อ - สกุล 12 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 ลงชอ่ื ............................................................ผูป้ ระเมนิ (................................................................) วนั ที่..........เดอื น.................................พ.ศ. ................
เกณฑ์การใหค้ ะแนนคุณภาพชิ้นงาน / ภาระงาน ระดับ เกณฑ์การให้คะแนน น้ำหนัก/ คะแนน คะแนน ความสำคญั รวม ประเด็น 4321 3 12 การประเมิน 2 8 ความสมบูรณข์ อง ชนิ้ งานมีราย ชนิ้ งานมรี าย ช้ินงานมีราย ช้นิ งานมีราย 5 20 ชนิ้ งาน ละเอยี ดครอบ ละเอียดครอบ ละเอยี ดครอบ ละเอยี ดครอบ คลุมวงคำศพั ท์ คลมุ วงคำศพั ท์ คลมุ วงคำศพั ท์ คลมุ วงคำศพั ท์ ความคดิ สร้างสรรค์ ทเี่ รียนสมบรู ณ์ ทีเ่ รยี นเปน็ ทีเ่ รยี นพอ ที่เรียนน้อย ส่วนใหญ่ สมควร เปน็ ช้ินงาน เป็นชนิ้ งานที่ ทแ่ี ปลกใหม่ เป็นชิน้ งาน เปน็ ช้นิ งาน เหมือนกับ คดิ ขึ้นเอง ทแี่ ปลกใหม่ ที่ปรับปรุง ตัวอย่าง ไมเ่ หมอื น แตม่ ีบางส่วน ดดั แปลง ตัวอย่าง คล้ายกบั เลก็ นอ้ ยจาก ตัวอย่าง ตวั อย่าง รวม
1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 10 ท่ี ช่อื – สกลุ 1 2 1.ถามคำถามได้ดว้ ยตนเอง การถาม เอกสารแนบท้ายหมายเลข 5 3 2. ถามคำถามด้วยโครงสร้างไดถ้ กู ต้อง แบบประเมนิ การอ่านออกเสียง เรอื่ ง Grammar Focus 4 3.ถามคำถามและบอกความหมายได้ ทักษะทส่ี งั เกต 5 การตอบ 6 4.มคี วามตั้งใจในการเรยี นและทำกิจกรรม 7 1.ตอบคำถามดว้ ยโครงสรา้ งไดถ้ กู ต้อง การรว่ มกจิ จกรม 8 2.ตอบคำถามได้อย่างคล่องแคลว่ ถาม-ตอบ 9 ประโยค 10 3.ตอบคำถามไดด้ ว้ ยตนเอง 11 1.รว่ มกจิ กรรมด้วยความสนุกสนาน 12 13 2.รว่ มกจิ กรรมด้วยความเต็มใจ 14 15 3.ถามหรือตอบคำถามด้วยความสนใจ 16 รวม ระดับ คะแนน คุณภาพ
เกณฑก์ ารประเมนิ และระดบั คณุ ภาพ คะแนน 9 – 10 คะแนน หมายถึง ดมี าก คะแนน 7 – 8 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 5 – 6 คะแนน หมายถึง ปานกลาง คะแนน 1 – 4 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ จำนวนคนทผ่ี า่ นระดบั คณุ ภาพ......................คน ร้อยละ............... จำนวนคนที่ไม่ผา่ นระดบั คุณภาพ..................คน ร้อยละ............... ลงชื่อ.........................................................ผู้ประเมิน (................................................................) วนั ท.ี่ .........เดือน.................................พ.ศ. ................
เอกสารแนบท้ายหมายเลข 6 ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 8 ดา้ น เรอื่ ง Grammar Focus คำชี้แจง ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียนแลว้ ขดี ลงใน ชอ่ งวา่ งให้ตรงกับระดบั คะแนน และตามความเปน็ จริง โดยมเี กณฑ์การให้คะแนน ดังน้ี 4 = พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติชดั เจนมาก และบ่อยคร้ัง สม่ำเสมอ 3 = พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัตชิ ดั เจนและสม่ำเสมอ 2 = พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ 1 = พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั บิ างคร้ัง คุณลกั ษณะอนั รายการประเมนิ ระดบั คะแนน พึงประสงค์ดา้ น 4 32 1 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มคี วามรัก และภูมิใจในความเปน็ ชาติ กษัตริย์ 1.2 ปฏบิ ัติตนตามหลกั ธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถงึ ความจงรักภกั ดตี อ่ สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ 2. ซ่ือสัตย์สุจรติ 2.1 ปฏิบตั ติ ามระเบยี บการสอน และไมล่ อกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจรงิ ต่อตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเปน็ จริงต่อผู้อน่ื 3. มีวนิ ัย 3.1 เขา้ เรยี นตรงเวลา 4. ใฝ่เรียนรู้ 3.2 แต่งกายเรียบร้อยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบียบของหอ้ ง 4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหล่งการเรยี นรูต้ า่ งๆ 4.2 มกี ารจดบันทึกความรู้อย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรุปความร้ไู ดอ้ ยา่ งมเี หตุผล 5. อยูอ่ ยา่ ง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินและสงิ่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั พอเพียง 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ุณคา่ 5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงิน 6. มุ่งมัน่ ในการ 6.1 มีความต้ังใจ และพยายามในการทำงานที่ไดร้ ัมอบหมาย ทำงาน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแท้ตอ่ อปุ สรรค เพ่อื ให้งานสำเรจ็ 7. รกั ความเป็น 7.1 มีจติ สำนึกในการอนุรักษ์วฒั นธรรม และภูมปิ ัญญาไทย ไทย 7.2 เหน็ คุณค่า และปฏิบตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รจู้ กั การให้เพื่อสว่ นรวม และเพ่ือผูอ้ น่ื 8.2 แสดงออกถึงการมนี ำ้ ใจหรอื การให้ความช่วยเหลอื ผ้อู ่ืน 8.3 เข้าร่วมกิจกรรมบำเพ็ญตนเพอื่ ส่วนรวมเมื่อมีโอกาส
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 14 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รหัสวชิ า อ22102 รายวชิ าภาษาองั กฤษ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 8 เร่ือง Electricity ปกี ารศึกษา 2564 จำนวน 1 ช่วั โมง ระดับชั้นระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนท่ี 2 โรงเรียนวดั ลาดสนนุ่ สอนวนั ท่ี 21,22,24 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ผูส้ อน นางสาวประภัสสร ประจงตุม้ 1. สาระสำคัญ การรแู้ ละเข้าใจเรื่องท่ีได้ศึกษา เป็นพืน้ ฐานในการค้นคว้า รวบรวมข้อมูลทเี่ กี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการ เรียนรู้อื่น นอกจากนี้ยังสามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาตนเองต่อยอดองค์ความรู้ในการเรียนบทเรียนถัดไป เป็นการเสริมสร้างคุณลักษณะการมีเหตุผล มีวิจารณญาณที่ดี และมีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษในการ สอื่ สาร 2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชว้ี ดั สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมีเหตผุ ล ตัวช้ีวัด ต 1.1 ม.2/4 เลือกหวั ข้อเร่ือง ใจความสำคัญ บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเร่ืองที่ฟงั และอา่ น พรอ้ มท้งั ให้เหตผุ ลและ ยกตวั อยา่ งง่ายๆ ประกอบ สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพันธก์ ับกลุ่มสาระการเรียนรอู้ ืน่ มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่นื และเป็น พนื้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน ตัวชว้ี ดั ต 3.1 ม.2/1 ค้นควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เทจ็ จรงิ ท่ีเกย่ี วขอ้ งกับกลุม่ สาระการเรยี นร้อู ่ืน จากแหลง่ การเรียนรู้ และนำเสนอดว้ ยการพดู /การเขียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ซื่อสัตย์สุจริต มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยู่อยา่ งพอเพยี ง มุ่งมน่ั ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ
ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ความสามารถในการส่ือสาร พดู อ่าน และเขยี นภาษาองั กฤษ ความสามารถในการคิด คดิ อย่างสร้างสรรค์ ความสามารถในการแก้ปัญหา - ความสามารในการใชท้ ักษะชวี ิต - ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ดา้ นการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น การอา่ น สามารถอา่ นเปน็ คำและออกเสยี งคำศัพท์ไดถ้ ูกต้อง คดิ วเิ คราะห์ - เขยี น เขยี นคำศพั ท์ และประโยคได้อยา่ งถูกต้อง บูรณาการ ขา้ มกลุ่มสาระการเรียนรู้ - ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง - สิง่ แวดลอ้ ม - อน่ื ๆ (ระบ)ุ - 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1) จุดประสงคป์ ลายทาง 1. นักเรยี นสามารถใหข้ ้อมลู เกี่ยวกับการเกดิ และการคน้ พบไฟฟ้าได้ 3.2) จดุ ประสงคน์ ำทาง 1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง และบอกความหมายของคำศัพท์เกี่ยวกับการเกิดและการ คน้ พบไฟฟ้าได้ 2. นกั เรยี นสามารถเขยี นนำเสนอข้อมูลจากการคน้ คว้าได้ 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1) คำศัพท์ (Vocabulary): คำศัพท์ทเ่ี ป็นความร้เู ดิม : atom, nucleus, particle, proton, electron, charge คำศัพท์ท่เี ปน็ ความรูใ้ หม่ : energy, movement, produce, contain, orbit 4.2) การออกเสยี ง (Pronunciation): การเน้นเสียง (Stress) energy, movement, produce, contain, orbit 4.3) โครงสร้างประโยค / ไวยากรณ์ (Structure): -
5. บรู ณาการทักษะเฉพาะวชิ า / ทักษะกระบวนการ ทักษะเฉพาะวิชา ทักษะการฟัง ฟังเพ่ือรบั ข้อมูลคำศัพท์ ประโยค และนำไปใชไ้ ด้อยา่ ง ถกู ต้อง Franklin ทกั ษะการพดู พดู ประโยค ถาม-ตอบ ได้อยา่ งถกู ต้อง ทักษะกระบวนการ ทักษะการอา่ น อา่ นเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ ทักษะการเขียน เขียนนำเสนอเก่ยี วกบั การทดลองวา่ วของ Benjamin ทกั ษะกระบวนการกลุ่ม 6. สือ่ การเรียนรแู้ ละแหล่งการเรียนรู้ ประเภท รายการ 1. เอกสาร 1) หนังสือเรียน Team up in English 2 ม. 2 หน้า 72 (เอกสารแนบทา้ ย หมายเลข 1) 2. บตั ร / ป้ายสารสนเทศ / 1) สือ่ PowerPoint เร่อื ง Electricity (เอกสารแนบท้าย หมายเลข 2) ส่ือ ICT 2) ไฟล์เสียง Class Audio CDs (เอกสารแนบทา้ ย หมายเลข 3) 3. อปุ กรณ์กจิ กรรม - 4. แหลง่ การเรียนรู้ 1) ห้องปฏิบัติการทางภาษา 2) หอ้ งสมดุ โรงเรยี น 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั ที่ 1 Warm Up 5 นาที (ขน้ั ทบทวนความรเู้ ดมิ และนำเขา้ ส่บู ทเรียน) 1. ครใู ห้นกั เรียนสังเกตรอบๆ ตัววา่ มีสง่ิ ใดบ้างทีใ่ ชไ้ ฟฟา้ ให้นกั เรยี นชว่ ยกันบอกครู จากน้ันกระตุ้นให้ นักเรียนแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั ประโยชน์ของไฟฟ้า 2. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ ว่าบทเรียนนี้นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเกิด ไฟฟา้ และการทดลองเกี่ยวกับไฟฟา้ ของนกั วิทยาศาสตร์ ข้ันที่ 2 Presentation 15 นาที (ขั้นนำเสนอเน้อื หา) 1. ครูเปิดสื่อ PowerPoint เรื่อง Electricity (เอกสารแนบท้าย หมายเลข 2) นำเสนอคำศัพท์ท่ี เกี่ยวข้องกับวิชาวิทยาศาสตร์พร้อมอธิบบายรายละเอียด เพื่อให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาในบทเรียนนี้มากข้ึน ได้แก่ atom, nucleus, particle, proton, electron, charge 2. ครนู ำเสนอคำใหม่ โดยใหน้ กั เรยี นช่วยกันเดาความหมาย หรือเปิดพจนานุกรมเพื่อหาความหมาย energy (n) power that is used to provide heat, operate machines etc [พลงั งาน] movement (n) an act of moving from one place to another [การเคล่อื นท]ี่
produce (v) to cause a particular result or effect [ทำใหเ้ กดิ ขนึ้ ] contain (v) to have something inside or include something as a part [ม]ี orbit (v) to move in a curved path around a much larger object [หมนุ รอบ] 3. ครูสอนนักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์ทีละคำ โดยเน้นเสียงหนักในคำ (stress) เช่น energy, movement ครูอ่านออกเสียงให้นักเรียนฟังก่อนแล้วให้นักเรียนออกเสียงตามจนครบทุกคำ จากนั้นให้ นักเรียนฝกึ อา่ นออกเสยี งพรอ้ มกัน ถา้ ยังไมถ่ กู ตอ้ งใหพ้ ดู ตามครู แล้วลองพดู เอง 4. ให้นักเรยี นจดคำศัพทใ์ หมล่ งในสมุด ข้ันที่ 3 Practice 20 นาที (ขนั้ ฝกึ ปฏิบตั ิ / ฝึกทักษะ) 1. ครูอ่านคำถาม What is electricity? ในหนังสือเรียน หน้า 72 Ex.1(เอกสารแนบท้าย หมายเลข 1) และถามนกั เรียนว่ารคู้ ำตอบหรือไม่ ครใู ห้นักเรียนตอบเปน็ ภาษาไทยได้ จากนัน้ ครอู ธิบายว่าข้อความท่ยี ังไม่ สมบรู ณน์ คี้ อื คำตอบของคำถาม What is electricity? แล้วให้นกั เรยี นทำงานเดี่ยวหรอื งานคู่ โดยนำคำท่ีให้มา ในกรอบสสี ม้ เตมิ ลงในประโยคใหถ้ ูกต้อง เสรจ็ แลว้ ครเู ฉลยคำตอบ 2. ครูเปิด CD 2/Track 15 ให้นักเรียนฟัง เมื่อฟังจบใหน้ กั เรียนช่วยกนั ระบวุ ่าได้ยินคำศัพท์คำใดบ้าง ท่ีครูสอนไปแล้ว ขน้ั ที่ 4 Production 15 นาที (ขน้ั นำไปใช้) 1. ครูเปิด CD 2/Track 15 (เอกสารแนบทา้ ย หมายเลข 3) ให้นกั เรยี นฟงั และอา่ นข้อความในหนังสือ เรียน หนา้ 72 Ex.2 ตามไปด้วยจากน้นั ให้นักเรียนอา่ นประโยค 1-6 ที่ให้มา เมอื่ อา่ นประโยคจนเข้าใจแล้ว ครู ให้นักเรียนสังเกตคำหรือวลีในประโยค แล้วดูข้อความท่ีอา่ น เพื่อดูว่าประโยคที่ใหม้ านัน้ เกีย่ วกับเน้ือเรื่องส่วน ใดในข้อความ โดยดูจากคำหรือวลีในประโยค เมื่อพบแล้วให้อ่านข้อมูลในส่วนที่ประโยคที่ให้มาพาดพิงไปถึง หรืออ่านข้อความแวดล้อมประมาณ 1-2 ประโยคก่อนหน้าหรือถัดไปที่มีข้อมูลพาดพิงไปถึง เมื่อเข้าใจแล้วจึง ตอบวา่ ประโยคท่ีให้มาถูกหรอื ผดิ 2. ครูรวบรวมคำตอบจากนักเรียนและเขยี นเฉลยทีถ่ ูกตอ้ งบนกระดาน ขน้ั ที่ 5 Wrap up 5 นาที (ข้ันสรุปบทเรียน/เนอ้ื หา) 1. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายวา่ ถ้าไม่มีไฟฟ้าชีวติ ของนักเรียนจะเป็นอย่างไร โดยนักเรียนอาจจะ อภิปรายในด้านการดำเนินชีวติ ดา้ นความบันเทงิ ดา้ นความปลอดภัย เปน็ ตน้ 2. นักเรียนและครรู ่วมกนั สรุปเน้อื หาทีเ่ รยี น และอภปิ รายรว่ มกัน
8. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมือทีใ่ ช้วัดและประเมนิ ผล ความสามารถทตี่ ้องการ/ เกณฑ์ วิธวี ัดและประเมินผล 1. แบบประเมนิ การอา่ นออกเสียง 1. นกั เรยี นสามารถอ่านออกเสยี ง 1. สังเกต (ทักษะการพูด / การ ออกเสียงคำศัพท์ /การตอบ เรือ่ ง Electricity และบอกความหมายของคำศัพท์ คำถาม) (เอกสารแนบทา้ ย หมายเลข 4) เก่ยี วกับการเกิดและการค้นพบ ไฟฟ้าได้ถูกต้องร้อยละ 70% 2. ประเมนิ การคน้ ควา้ และเขียน 2. แบบประเมินช้ินงานการ 2. นกั เรียนสามารถเขียนนำเสนอ นำเสนอข้อมูลเกย่ี วกับการ สำรวจ/คน้ คว้าขอ้ มูล เร่ือง ขอ้ มูลจากการคน้ ควา้ ไดถ้ ูกตอ้ ง ทดลองของ Benjamin Franklin Electricity (เอกสารแนบทา้ ย รอ้ ยละ 70% หมายเลข 4) 3. สังเกตพฤติกรรมการเรียน 3. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง 3. นกั เรยี นมีวินัย ใฝเ่ รียนรแู้ ละ ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ประสงค์ เรอื่ ง Electricity ม่งุ มั่นในการทำกจิ กรรม ร้อยละ ของผเู้ รยี น (เอกสารแนบท้าย หมายเลข 4) 70% 9. ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เติม ควรหาสอื่ การสอน หรือจดั กิจกรรมเลน่ เกมในคาบเรียน เพ่ือสง่ เสรมิ ใหน้ กั เรียนจดจำคำศพั ท์ใหม่ได้ มากยงิ่ ขน้ึ 10. บนั ทกึ หลงั สอน 10.1 ดา้ นความรู้ (K) นกั เรียนมคี วามรู้ความเข้าใจบทเรยี นเกี่ยวกับการเกดิ และการค้นพบไฟฟา้ สามารถแปลความหมาย ของคำศัพท์ได้ 10.2 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) นกั เรียนยังอ่านออกเสยี งคำศัพท์ใหม่ได้ไม่ค่อยถูกต้อง เนอื่ งจากยงั ไม่คุ้นชนิ คำศัพท์ ครใู หน้ ักเรียนฝกึ อา่ นออกเสียงตามครู แลว้ ลองพูดเอง ครแู ก้ไขข้อผดิ พลาดของนักเรยี นจนกว่าจะถกู ต้อง 10.3 ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A) นกั เรียนมคี วามใฝร่ ใู้ ฝเ่ รยี น ตัง้ ใจและมีส่วนร่วมในชั้นเรียน โดยเฉล่ีย 70% ของนักเรียนในหอ้ ง ท้งั หมด 10.4 ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน (C) นักเรยี นมีความกล้าแสดงออกในการตอบคำถาม ไมเ่ ขินอาย กลา้ คดิ และแสดงความคิดเห็น ตอบ คำถามอย่างมีวิจารณญาณ
10.5 ปญั หาและอุปสรรคที่พบในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ มีนกั เรียนบางคนที่ไมต่ ้งั ใจเรียน สง่ เสียงดัง ไม่น่ังท่ีของตนเอง และเล่นกบั เพื่อนในคาบเรียน ซ่งึ จะทำ ให้นักเรียนคนอ่ืนไมม่ ีสมาธิในการเรียน 10.6 ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางปรับปรุง ทำข้อตกลงในห้องเรยี น ถ้านักเรียนคนไหนพดู คุยและเลน่ กนั สง่ เสยี งดังรบกวนเพ่อื นๆ คุณครูก็จะทำ การหักคะแนนความประพฤติของนักเรียน (ลงช่อื )…................................................... ผู้สอน (นางสาวประภัสสร ประจงตุ้ม) นักศึกษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชพี ครู สาขาวชิ าภาษาอังกฤษ คณะครุศาสตร์ มรภ.วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ 11. ข้อเสนอแนะ / แนวทางการปรับปรุงจากครูพี่เลีย้ ง ........................................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................ .................. ................................................................................................................. ............................................................. (ลงชอื่ )......................................................... (นางสาวพชิ ญวดี รสั ปตั ) ครูพเี่ ล้ยี ง โรงเรยี นวดั ลาดสนุ่น
เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 1 หนงั สอื เรยี น Team up in English 2 ม. 2 หน้า 72
เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 2 ส่อื PowerPoint เร่ือง Electricity
เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 3 ไฟลเ์ สยี ง Class Audio CDs CD2/Track 15
1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 10 ที่ ช่อื – สกลุ 1 2 1.ถามคำถามได้ดว้ ยตนเอง การถาม เอกสารแนบท้ายหมายเลข 4 3 2. ถามคำถามด้วยโครงสร้างไดถ้ กู ต้อง แบบประเมนิ การอ่านออกเสียง เรอ่ื ง Electricity 4 3.ถามคำถามและบอกความหมายได้ ทกั ษะทสี่ ังเกต 5 การตอบ 6 4.มคี วามตั้งใจในการเรยี นและทำกิจกรรม 7 1.ตอบคำถามดว้ ยโครงสรา้ งไดถ้ กู ต้อง การรว่ มกจิ จกรม 8 2.ตอบคำถามได้อย่างคล่องแคลว่ ถาม-ตอบ 9 ประโยค 10 3.ตอบคำถามไดด้ ว้ ยตนเอง 11 1.รว่ มกจิ กรรมด้วยความสนุกสนาน 12 13 2.รว่ มกจิ กรรมด้วยความเต็มใจ 14 15 3.ถามหรือตอบคำถามด้วยความสนใจ 16 รวม ระดับ คะแนน คุณภาพ
เกณฑก์ ารประเมนิ และระดบั คณุ ภาพ คะแนน 9 – 10 คะแนน หมายถึง ดมี าก คะแนน 7 – 8 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 5 – 6 คะแนน หมายถึง ปานกลาง คะแนน 1 – 4 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ จำนวนคนทผ่ี า่ นระดบั คณุ ภาพ......................คน ร้อยละ............... จำนวนคนที่ไม่ผา่ นระดบั คุณภาพ..................คน ร้อยละ............... ลงชื่อ.........................................................ผู้ประเมิน (................................................................) วนั ท.ี่ .........เดือน.................................พ.ศ. ................
เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 5 แบบบนั ทึกการประเมนิ คุณภาพชิ้นงาน / ภาระงาน เรอ่ื ง Electricity ประเดน็ /คะแนน ความสมบูรณ์ ความคิดสร้างสรรค์ รวมคะแนน ของชน้ิ งาน 8 20 เลขที่ ชอื่ - สกลุ 12 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 ลงชอื่ ............................................................ผปู้ ระเมนิ (................................................................) วนั ท.่ี .........เดอื น.................................พ.ศ. ................
เกณฑ์การใหค้ ะแนนคุณภาพชิ้นงาน / ภาระงาน ระดับ เกณฑ์การให้คะแนน น้ำหนัก/ คะแนน คะแนน ความสำคญั รวม ประเด็น 4321 3 12 การประเมิน 2 8 ความสมบูรณข์ อง ชนิ้ งานมีราย ชนิ้ งานมรี าย ช้ินงานมีราย ช้นิ งานมีราย 5 20 ชนิ้ งาน ละเอยี ดครอบ ละเอียดครอบ ละเอยี ดครอบ ละเอยี ดครอบ คลุมวงคำศพั ท์ คลมุ วงคำศพั ท์ คลมุ วงคำศพั ท์ คลมุ วงคำศพั ท์ ความคดิ สร้างสรรค์ ทเี่ รียนสมบรู ณ์ ทีเ่ รยี นเปน็ ทีเ่ รยี นพอ ที่เรียนน้อย ส่วนใหญ่ สมควร เปน็ ช้ินงาน เป็นชนิ้ งานที่ ทแ่ี ปลกใหม่ เป็นชิน้ งาน เปน็ ช้นิ งาน เหมือนกับ คดิ ขึ้นเอง ทแี่ ปลกใหม่ ที่ปรับปรุง ตัวอย่าง ไมเ่ หมอื น แตม่ ีบางส่วน ดดั แปลง ตัวอย่าง คล้ายกบั เลก็ นอ้ ยจาก ตัวอย่าง ตวั อย่าง รวม
เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 6 ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ด้าน เร่อื ง Electricity คำช้แี จง ให้ผ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียนแลว้ ขดี ลงใน ช่องวา่ งให้ตรงกับระดับคะแนน และตามความเป็นจรงิ โดยมเี กณฑ์การให้คะแนน ดงั นี้ 4 = พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบัติชดั เจนมาก และบ่อยคร้งั สมำ่ เสมอ 3 = พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัติชัดเจนและสม่ำเสมอ 2 = พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบัติชัดเจนและบ่อยครง้ั 1 = พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ างครงั้ คุณลกั ษณะอนั รายการประเมนิ ระดับคะแนน พงึ ประสงค์ด้าน 4 32 1 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 มคี วามรัก และภมู ใิ จในความเป็นชาติ กษตั รยิ ์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามหลักธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถงึ ความจงรักภกั ดตี อ่ สถาบนั พระมหากษตั ริย์ 2. ซ่ือสตั ย์สจุ รติ 2.1 ปฏบิ ตั ิตามระเบยี บการสอน และไม่ลอกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเปน็ จริงต่อตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏบิ ัติ ตรงต่อความเปน็ จริงต่อผู้อืน่ 3. มีวินยั 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 4. ใฝ่เรยี นรู้ 3.2 แต่งกายเรียบร้อยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบียบของห้อง 4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหลง่ การเรียนรูต้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทึกความรู้อย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ด้อย่างมีเหตุผล 5. อยอู่ ย่าง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยัด พอเพียง 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ ค่า 5.3 ใช้จา่ ยอย่างประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงิน 6. มุ่งมัน่ ในการ 6.1 มคี วามตั้งใจ และพยายามในการทำงานที่ไดร้ มั อบหมาย ทำงาน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแท้ตอ่ อุปสรรค เพ่ือให้งานสำเร็จ 7. รกั ความเปน็ 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรม และภมู ปิ ญั ญาไทย ไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่า และปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 ร้จู ักการใหเ้ พื่อสว่ นรวม และเพ่ือผู้อ่ืน 8.2 แสดงออกถึงการมีนำ้ ใจหรือการให้ความช่วยเหลือผ้อู ่ืน 8.3 เข้ารว่ มกิจกรรมบำเพญ็ ตนเพือ่ ส่วนรวมเมื่อมีโอกาส
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 15 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ รหสั วชิ า อ22102 รายวชิ าภาษาอังกฤษ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 8 เร่ือง Electricity ปกี ารศึกษา 2564 จำนวน 1 ชั่วโมง ระดับชั้นระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 2 โรงเรียนวัดลาดสนนุ่ สอนวนั ท่ี 27 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ผ้สู อน นางสาวประภัสสร ประจงตมุ้ 1. สาระสำคญั การรู้และเข้าใจเร่ืองที่ได้ศึกษา เปน็ พ้ืนฐานในการค้นคว้า รวบรวมข้อมูลทเี่ ก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการ เรียนรู้อื่น นอกจากนี้ยังสามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาตนเองต่อยอดองค์ความรู้ในการเรียนบทเรียนถัดไป เป็นการเสริมสร้างคุณลักษณะการมีเหตุผล มีวิจารณญาณที่ดี และมีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษในการ สอื่ สาร 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ัด สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่อื สาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ีฟังและอ่านจากสอื่ ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมีเหตุผล ตวั ชวี้ ดั ต 1.1 ม.2/4 เลอื กหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ บอกรายละเอียดสนับสนนุ (supporting detail) และแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับเรื่องที่ฟังและอา่ น พร้อมทั้งใหเ้ หตุผลและ ยกตัวอยา่ งง่ายๆ ประกอบ สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธก์ ับกล่มุ สาระการเรียนร้อู ื่น มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กลุม่ สาระการเรยี นร้อู ืน่ และเป็น พ้ืนฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศนข์ องตน ตัวช้ีวัด ต 3.1 ม.2/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ข้อเทจ็ จริงท่เี กยี่ วขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื จากแหล่งการเรยี นรู้ และนำเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ซอื่ สัตย์สุจรติ มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยูอ่ ย่างพอเพียง มุ่งมน่ั ในการทำงาน รกั ความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการส่ือสาร พดู อ่าน และเขยี นภาษาองั กฤษ ความสามารถในการคิด คดิ อย่างสร้างสรรค์ ความสามารถในการแก้ปัญหา - ความสามารในการใชท้ กั ษะชวี ิต - ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ดา้ นการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น การอา่ น สามารถอา่ นเปน็ คำและออกเสยี งคำศัพท์ไดถ้ ูกต้อง คดิ วเิ คราะห์ - เขยี น เขยี นคำศพั ท์ และประโยคได้อยา่ งถูกต้อง บูรณาการ ขา้ มกลุ่มสาระการเรียนรู้ - ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง - สิง่ แวดลอ้ ม - อน่ื ๆ (ระบ)ุ - 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1) จุดประสงคป์ ลายทาง 1. นักเรยี นสามารถใหข้ ้อมลู เกี่ยวกับการเกดิ และการคน้ พบไฟฟ้าได้ 3.2) จดุ ประสงค์นำทาง 1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง และบอกความหมายของคำศัพท์เกี่ยวกับการเกิดและการ คน้ พบไฟฟ้าได้ 2. นกั เรยี นสามารถเขยี นนำเสนอข้อมูลจากการคน้ คว้าได้ 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1) คำศัพท์ (Vocabulary): คำศัพท์ทเ่ี ป็นความร้เู ดิม : atom, nucleus, particle, proton, electron, charge คำศัพท์ท่เี ป็นความรูใ้ หม่ : energy, movement, produce, contain, orbit 4.2) การออกเสยี ง (Pronunciation): การเน้นเสียง (Stress) energy, movement, produce, contain, orbit 4.3) โครงสร้างประโยค / ไวยากรณ์ (Structure): -
5. บรู ณาการทักษะเฉพาะวิชา / ทักษะกระบวนการ ทักษะเฉพาะวิชา ทักษะการฟงั ฟังเพื่อรบั ข้อมลู คำศัพท์ ประโยค และนำไปใชไ้ ด้อยา่ ง ถูกต้อง Franklin ทักษะการพูด พูดประโยค ถาม-ตอบ ได้อย่างถกู ต้อง ทักษะกระบวนการ ทักษะการอ่าน อา่ นเพ่ือหาข้อมลู เฉพาะ ทักษะการเขียน เขยี นนำเสนอเกย่ี วกบั การทดลองว่าวของ Benjamin ทกั ษะกระบวนการกล่มุ 6. ส่ือการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ ประเภท รายการ 1. เอกสาร 1) หนงั สือเรยี น Team up in English 2 ม. 2 หน้า 72 (เอกสารแนบทา้ ย หมายเลข 1) 2. บัตร / ป้ายสารสนเทศ / 1) สื่อ PowerPoint เรือ่ ง Electricity (เอกสารแนบท้าย หมายเลข 2) สื่อ ICT 2) ไฟลเ์ สยี ง Class Audio CDs (เอกสารแนบท้าย หมายเลข 3) 3. อปุ กรณ์กิจกรรม - 4. แหลง่ การเรยี นรู้ 1) ห้องปฏบิ ตั ิการทางภาษา 2) ห้องสมดุ โรงเรยี น 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ ท่ี 1 Warm Up 5 นาที (ขน้ั ทบทวนความรู้เดมิ และนำเขา้ สู่บทเรียน) 1. ครูทบทวนคำศัพท์เรื่องไฟฟ้าจากที่เรียนเมื่อคาบที่แล้ว จากนั้นครูให้นักเรียนบอกชื่อ นักวทิ ยาศาสตรท์ ่ตี นเองรู้จัก 2. ให้นักเรียนอ่านคำถาม Who discovered electricity? ในหนังสือเรียน หน้า 72 Ex.3 (เอกสารแนบท้าย หมายเลข 1) แล้วครูบอกนักเรียนว่าในคาบน้ี นักเรียนจะได้รู้จักนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบ ไฟฟ้า ข้นั ท่ี 2 Presentation 15 นาที (ขัน้ นำเสนอเนือ้ หา) 1. ให้นักเรียนดูภาพนักวิทยาศาสตร์ แล้วอ่านชื่อบุคคลพร้อมกัน จากนั้นครูถามนักเรียนว่ารู้ข้อมูล อะไรบ้างเกี่ยวกับ Benjamin Franklin และ Thomas Alva Edison 2. ครูนำเสนอคำศัพท์สำคัญบนกระดาน (เอกสารแนบท้าย หมายเลข 2) แล้วให้นักเรียนเปิด พจนานุกรมหาความหมาย invent (v) to produce something that has not existed before [ประดิษฐ]์
experiment (n) a scientific test that is done in order to study what happens and to gain new knowledge [การทดลองทางวิทยาศาสตร์] light bulb (n) the glass part that fits into an electric lamp, etc. to give light when it is switched on [หลอดไฟ] lightning (n) a powerful flash of light in the sky caused by electricity and usually followed by thunder [ฟ้าแลบ, ฟา้ ผา่ ] 3. ครูสอนนักเรียนอ่านออกเสียงคำศพั ท์ทีละคำ โดยเน้นเสียงหนกั ในคำ (stress) เช่น experiment, lightning ครูอ่านออกเสียงให้นักเรียนฟังก่อนแล้วให้นักเรียนออกเสียงตามจนครบทุกคำ จากนั้นให้นักเรียน ฝกึ อา่ นออกเสียงพร้อมกัน ถ้ายงั ไมถ่ กู ต้องใหพ้ ดู ตามครู แลว้ ลองพูดเอง 4. ใหน้ กั เรยี นจดคำศพั ท์ใหม่ลงในสมดุ ขน้ั ท่ี 3 Practice 20 นาที (ข้ันฝกึ ปฏบิ ตั ิ / ฝึกทกั ษะ) 1. ให้นักเรียนอ่านข้อความทั้ง 2 ส่วน ในหนังสือเรียน หน้า 72 Ex.3 (เอกสารแนบท้าย หมายเลข 1 ทางฝั่งซ้ายและขวา แล้วจับคู่ข้อความทั้ง 2 ส่วน ให้เป็นประโยคที่ถูกต้อง เสร็จแล้วครูรวบรวมคำตอบจาก นักเรียน และเฉลยคำตอบบนกระดาน ครูอาจให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์ซึ่งมีผลงานเกี่ยวข้อง กบั ไฟฟ้า ขน้ั ท่ี 4 Production 15 นาที (ขั้นนำไปใช)้ 1. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 72 หัวข้อ Project Time ว่า ให้นักเรียนทำงานกลุ่ม ค้นควา้ ขอ้ มูลเก่ยี วกับการทดลองว่าวของ Benjamin Franklin จากสารานุกรมหรืออนิ เทอร์เนต็ แล้วนำข้อมูล ที่ค้นคว้าได้มาเขียนรายงานสั้นๆ เกี่ยวกับการทดลองว่าวของ Benjamin Franklin ครูแนะนำให้นักเรียน นำเสนอข้อมูลด้วยภาพรว่ มกบั คำอธิบาย 2. ใหแ้ ต่ละกล่มุ นำผลงานไปติดไวท้ ่ีบอร์ดเพื่อแสดงใหเ้ พ่ือนดู ครูให้เวลา 5-10 นาที เพอ่ื ดูผลงานของ เพื่อนๆ ครอู าจให้นกั เรียนลงคะแนนเลือกกลุ่มทที่ ำผลงานได้ดีทีส่ ุด ขน้ั ท่ี 5 Wrap up 5 นาที (ขน้ั สรปุ บทเรียน/เน้อื หา) 1ครูทบทวนคำศัพท์เก่ียวกับไฟฟา้ โดยครูพูดคำเป็นภาษาไทย และใหน้ กั เรยี นทุกคนช่วยกันตอบเป็น ภาษาอังกฤษ 2. นกั เรยี นและครูร่วมกันสรปุ เน้ือหาทเี่ รียน และอภปิ รายรว่ มกัน
8. การวัดและประเมนิ ผล เครือ่ งมือท่ีใช้วัดและประเมินผล ความสามารถท่ตี ้องการ/ เกณฑ์ วธิ วี ัดและประเมนิ ผล 1. แบบประเมนิ การอ่านออกเสยี ง 1. นกั เรยี นสามารถอา่ นออกเสยี ง 1. สังเกต (ทักษะการพูด / การ ออกเสียงคำศัพท์ /การตอบ เรอ่ื ง Electricity และบอกความหมายของคำศัพท์ คำถาม) (เอกสารแนบทา้ ย หมายเลข 4) เกย่ี วกบั การเกดิ และการคน้ พบ ไฟฟ้าได้ถกู ต้องร้อยละ 70% 2. ประเมนิ การคน้ ควา้ และเขียน 2. แบบประเมนิ ช้นิ งานการ 2. นักเรยี นสามารถเขยี นนำเสนอ นำเสนอข้อมลู เกี่ยวกับการ สำรวจ/คน้ ควา้ ขอ้ มูล เรื่อง ขอ้ มูลจากการค้นคว้าไดถ้ กู ต้อง ทดลองของ Benjamin Franklin Electricity รอ้ ยละ 70% (เอกสารแนบท้าย หมายเลข 5) 3. สงั เกตพฤติกรรมการเรียน 3. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ 3. นักเรียนมวี ินยั ใฝ่เรยี นรแู้ ละ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ประสงค์ เรือ่ ง Electricity ม่งุ ม่ันในการทำกจิ กรรม ร้อยละ ของผูเ้ รยี น (เอกสารแนบท้าย หมายเลข 6) 70% 9. ข้อเสนอแนะเพิม่ เตมิ ควรหาสอื่ การสอน หรือจัดกจิ กรรมเล่นเกมในคาบเรยี น เพ่ือสง่ เสริมใหน้ ักเรียนจดจำคำศัพท์ใหม่ได้ มากย่ิงขน้ึ 10. บันทึกหลงั สอน 10.1 ดา้ นความรู้ (K) นักเรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจบทเรียนเก่ียวกับการเกดิ และการค้นพบไฟฟา้ สามารถแปลความหมาย ของคำศัพท์ได้ 10.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) นกั เรียนออกเสยี งคำศัพท์ได้ถูกตอ้ งมากกว่าคาบเรยี นท่แี ลว้ สามารถเขยี นนำเสนอข้อมลู เกยี่ วกบั การ กำเนิดไฟฟา้ เป็นภาษาองั กฤษได้ 10.3 ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) นกั เรียนมคี วามใฝ่รู้ใฝ่เรียน ตั้งใจและมีสว่ นร่วมในช้นั เรยี น โดยเฉล่ีย 70% ของนักเรียนในห้อง ทั้งหมด 10.4 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (C) นักเรียนมคี วามกล้าแสดงออกในการตอบคำถาม ไมเ่ ขนิ อาย กล้าคิดและแสดงความคิดเห็น ตอบ คำถามอย่างมีวจิ ารณญาณ
10.5 ปัญหาและอุปสรรคท่ีพบในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ มนี ักเรียนบางคนที่ไม่ต้งั ใจเรยี น สง่ เสียงดงั ไม่น่ังท่ีของตนเอง และเลน่ กับเพื่อนในคาบเรียน ซงึ่ จะทำ ใหน้ ักเรยี นคนอื่นไม่มีสมาธใิ นการเรียน 10.6 ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางปรบั ปรุง ทำข้อตกลงในห้องเรยี น ถ้านักเรียนคนไหนพดู คยุ และเล่นกนั ส่งเสยี งดังรบกวนเพือ่ นๆ คณุ ครูก็จะทำ การหักคะแนนความประพฤติของนักเรยี น (ลงชื่อ)…................................................... ผสู้ อน (นางสาวประภสั สร ประจงตุ้ม) นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครู สาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะครศุ าสตร์ มรภ.วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ 11. ข้อเสนอแนะ / แนวทางการปรบั ปรงุ จากครพู เ่ี ล้ยี ง ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. (ลงชื่อ)......................................................... (นางสาวพชิ ญวดี รสั ปัต) ครูพ่ีเลยี้ ง โรงเรยี นวดั ลาดสนุ่น
เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 1 หนงั สอื เรยี น Team up in English 2 ม. 2 หน้า 72
เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 2 ส่อื PowerPoint เร่ือง Electricity
เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 3 ไฟลเ์ สยี ง Class Audio CDs CD2/Track 15
1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 10 ที่ ช่อื – สกลุ 1 2 1.ถามคำถามได้ดว้ ยตนเอง การถาม เอกสารแนบท้ายหมายเลข 4 3 2. ถามคำถามด้วยโครงสร้างไดถ้ กู ต้อง แบบประเมนิ การอ่านออกเสียง เรอ่ื ง Electricity 4 3.ถามคำถามและบอกความหมายได้ ทกั ษะทสี่ ังเกต 5 การตอบ 6 4.มคี วามตั้งใจในการเรยี นและทำกิจกรรม 7 1.ตอบคำถามดว้ ยโครงสรา้ งไดถ้ กู ต้อง การรว่ มกจิ จกรม 8 2.ตอบคำถามได้อย่างคล่องแคลว่ ถาม-ตอบ 9 ประโยค 10 3.ตอบคำถามไดด้ ว้ ยตนเอง 11 1.รว่ มกจิ กรรมด้วยความสนุกสนาน 12 13 2.รว่ มกจิ กรรมด้วยความเต็มใจ 14 15 3.ถามหรือตอบคำถามด้วยความสนใจ 16 รวม ระดับ คะแนน คุณภาพ
เกณฑก์ ารประเมนิ และระดบั คณุ ภาพ คะแนน 9 – 10 คะแนน หมายถึง ดมี าก คะแนน 7 – 8 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 5 – 6 คะแนน หมายถึง ปานกลาง คะแนน 1 – 4 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ จำนวนคนที่ผา่ นระดบั คณุ ภาพ......................คน ร้อยละ............... จำนวนคนท่ีไม่ผา่ นระดบั คุณภาพ..................คน ร้อยละ............... ลงชื่อ.........................................................ผ้ปู ระเมิน (................................................................) วนั ท.ี่ .........เดือน.................................พ.ศ. ................
เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 5 แบบบนั ทึกการประเมนิ คุณภาพชิ้นงาน / ภาระงาน เรอ่ื ง Electricity ประเดน็ /คะแนน ความสมบูรณ์ ความคิดสร้างสรรค์ รวมคะแนน ของชน้ิ งาน 8 20 เลขที่ ชอื่ - สกลุ 12 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 ลงชอื่ ............................................................ผปู้ ระเมนิ (................................................................) วนั ท.่ี .........เดอื น.................................พ.ศ. ................
เกณฑ์การใหค้ ะแนนคุณภาพชิ้นงาน / ภาระงาน ระดับ เกณฑ์การให้คะแนน น้ำหนัก/ คะแนน คะแนน ความสำคญั รวม ประเด็น 4321 3 12 การประเมิน 2 8 ความสมบูรณข์ อง ชนิ้ งานมีราย ชนิ้ งานมรี าย ช้ินงานมีราย ช้นิ งานมีราย 5 20 ชนิ้ งาน ละเอยี ดครอบ ละเอียดครอบ ละเอยี ดครอบ ละเอยี ดครอบ คลุมวงคำศพั ท์ คลมุ วงคำศพั ท์ คลมุ วงคำศพั ท์ คลมุ วงคำศพั ท์ ความคดิ สร้างสรรค์ ทเี่ รียนสมบรู ณ์ ทีเ่ รยี นเปน็ ทีเ่ รยี นพอ ที่เรียนน้อย ส่วนใหญ่ สมควร เปน็ ช้ินงาน เป็นชนิ้ งานที่ ทแ่ี ปลกใหม่ เป็นชิน้ งาน เปน็ ช้นิ งาน เหมือนกับ คดิ ขึ้นเอง ทแี่ ปลกใหม่ ที่ปรับปรุง ตัวอย่าง ไมเ่ หมอื น แตม่ ีบางส่วน ดดั แปลง ตัวอย่าง คล้ายกบั เลก็ นอ้ ยจาก ตัวอย่าง ตวั อย่าง รวม
เอกสารแนบท้ายหมายเลข 6 ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 ดา้ น เรอ่ื ง Electricity คำช้แี จง ให้ผ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียนแลว้ ขีด ลงใน ช่องวา่ งให้ตรงกับระดับคะแนน และตามความเปน็ จรงิ โดยมีเกณฑก์ ารให้คะแนน ดงั นี้ 4 = พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิชัดเจนมาก และบ่อยครั้ง สม่ำเสมอ 3 = พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ 2 = พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ 1 = พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางครัง้ คุณลักษณะอนั รายการประเมิน ระดับคะแนน พงึ ประสงค์ด้าน 4 32 1 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 มคี วามรัก และภมู ิใจในความเป็นชาติ กษตั รยิ ์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภกั ดตี ่อสถาบันพระมหากษัตริย์ 2. ซ่ือสตั ย์สจุ รติ 2.1 ปฏิบตั ิตามระเบยี บการสอน และไมล่ อกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ัติ ตรงต่อความเปน็ จรงิ ตอ่ ตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงต่อผู้อืน่ 3. มีวนิ ยั 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 4. ใฝ่เรยี นรู้ 3.2 แตง่ กายเรยี บร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บของห้อง 4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆ 4.2 มกี ารจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ย่างมเี หตุผล 5. อยอู่ ย่าง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินและส่ิงของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั พอเพียง 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยัดและรคู้ ณุ ค่า 5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงิน 6. มุ่งมัน่ ในการ 6.1 มคี วามตั้งใจ และพยายามในการทำงานที่ได้รมั อบหมาย ทำงาน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออปุ สรรค เพ่อื ให้งานสำเร็จ 7. รกั ความเปน็ 7.1 มีจติ สำนึกในการอนุรักษ์วฒั นธรรม และภูมิปญั ญาไทย ไทย 7.2 เห็นคณุ ค่า และปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 ร้จู ักการให้เพ่ือส่วนรวม และเพื่อผ้อู นื่ 8.2 แสดงออกถึงการมีนำ้ ใจหรือการให้ความชว่ ยเหลอื ผ้อู ่ืน 8.3 เข้ารว่ มกิจกรรมบำเพ็ญตนเพือ่ สว่ นรวมเม่ือมโี อกาส
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 16 กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ รหสั วิชา อ22102 รายวชิ าภาษาอังกฤษ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 8 เรือ่ ง Staying Safe in a Lightning Storm ระดับช้ันระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 สอนวันท่ี 28,29,30 ธนั วาคม พ.ศ. 2564 จำนวน 1 ช่วั โมง ผสู้ อน นางสาวประภสั สร ประจงต้มุ โรงเรยี นวัดลาดสนุ่น 1. สาระสำคัญ การรู้และเข้าใจเรื่องที่ได้ศึกษา ช่วยให้รู้สาเหตุของการเกิดปรากฏการณ์ฟ้าแลบ และสามารถให้ คำแนะนำและปฏบิ ตั ติ ัวได้อย่างถกู ต้อง นอกจากนย้ี ังสามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาตนเองต่อยอดองค์ความรู้ ในการเรียนบทเรียนถัดไป เป็นการเสริมสร้างคุณลักษณะการมีเหตุผล มีวิจารณญาณทีด่ ี และมีความมั่นใจใน การใชภ้ าษาอังกฤษในการสอื่ สาร 2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้ีวัด สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสอ่ื สาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่ืองท่ีฟังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เห็น อย่างมเี หตผุ ล มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ และ ความคดิ เห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ตัวช้วี ดั ต 1.1 ม.2/3 ระบุ/เขยี นประโยคและขอ้ ความใหส้ ัมพนั ธ์กับสอ่ื ที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบตา่ งๆ ท่ี อ่าน ต 1.2 ม.2/2 ใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำชีแ้ จง และคำอธิบายตามสถานการณ์ สาระที่ 3 ภาษากับความสมั พันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่ มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรอู้ ื่น และเป็น พน้ื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน ตวั ช้ีวัด ต 3.1 ม.2/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเทจ็ จริงทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ่นื จากแหลง่ การเรยี นรู้ และนำเสนอดว้ ยการพูด/การเขยี น
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ มจี ิตสาธารณะ อยู่อยา่ งพอเพียง มุ่งม่ันในการทำงาน รักความเป็นไทย ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ความสามารถในการสอ่ื สาร พูด อา่ น และเขียนภาษาอังกฤษ ความสามารถในการคดิ คิดอยา่ งสร้างสรรค์ ความสามารถในการแก้ปญั หา - ความสามารในการใชท้ กั ษะชวี ติ - ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - ด้านการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี น การอา่ น สามารถอา่ นเป็นคำและออกเสยี งคำศัพท์ได้ถูกต้อง คิดวเิ คราะห์ - เขยี น เขยี นคำศัพท์ และประโยคไดอ้ ย่างถกู ต้อง บูรณาการ ข้ามกลุ่มสาระการเรยี นรู้ - ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง - สิ่งแวดล้อม - อ่ืนๆ (ระบุ) - 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1) จุดประสงคป์ ลายทาง 1. นักเรียนสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดฟ้าแลบและการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดพายุฝนฟ้า คะนองได้ 3.2) จดุ ประสงค์นำทาง 1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง และบอกความหมายของคำศัพท์เกี่ยวกับการเกิดฟ้าแลบ และการปฏบิ ตั ติ ัวเม่ือเกิดพายุฝนฟา้ คะนองได้ 2. ใหค้ ำแนะนำและอธบิ ายเกี่ยวกบั วิธกี ารปฏิบตั ติ ัวเม่ือเกิดพายุฝนฟา้ คะนองได้
4. สาระการเรียนรู้ 4.1) คำศัพท์ (Vocabulary): คำศัพทท์ เ่ี ป็นความรู้เดมิ : energy, movement, produce, contain, orbit คำศัพทท์ เี่ ป็นความรูใ้ หม่ : shelter, shed, radiator, crowded, isolated, get away 4.2) การออกเสียง (Pronunciation): การเน้นเสียง (Stress) shelter, radiator, crowded, isolated 4.3) โครงสร้างประโยค / ไวยากรณ์ (Structure) : - 5. บูรณาการทกั ษะเฉพาะวิชา / ทักษะกระบวนการ ทกั ษะเฉพาะวิชา ทกั ษะการฟงั ฟงั เพ่ือรับข้อมูลคำศัพท์ ประโยค และนำไปใชไ้ ด้อยา่ ง ถกู ต้อง ทกั ษะการพดู พูดประโยค ถาม-ตอบ ได้อยา่ งถกู ต้อง ทักษะการอา่ น ระบุประโยค/ข้อความใหส้ ัมพันธ์กับสื่อที่ไมใ่ ชค่ วามเรยี งที่ อ่าน ทกั ษะการเขียน เขยี นข้อควรปฏบิ ตั ิในระหว่างเกดิ พายฝุ นฟา้ คะนอง ทกั ษะกระบวนการ ทกั ษะกระบวนการกลุ่ม 6. สอื่ การเรียนรแู้ ละแหล่งการเรียนรู้ ประเภท รายการ 1. เอกสาร 1) หนังสือเรยี น Team up in English 2 ม. 2 หนา้ 72 (เอกสารแนบ หมายเลข 1) 2. บตั ร / ปา้ ยสารสนเทศ / 2) หนังสือเรยี น Team up in English 2 ม. 2 หน้า 73 (เอกสารแนบ หมายเลข สื่อ ICT 2) 1) สอ่ื PowerPoint เรือ่ ง Staying Safe in a Lightning Storm (เอกสารแนบ 3. อุปกรณ์กิจกรรม หมายเลข 3) 4. แหล่งการเรียนรู้ 2) Class Audio CDs (เอกสารแนบ หมายเลข 4) - 1) ห้องปฏิบัติการทางภาษา 2) ห้องสมดุ โรงเรียน
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันที่ 1 Warm Up 5 นาที (ขน้ั ทบทวนความรูเ้ ดมิ และนำเข้าสบู่ ทเรียน) 1. ทบทวนความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเกิดไฟฟ้า ถ้านักเรียนจำไม่ได้ ครูอาจให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หนา้ 72 แลว้ ตอบครู 2. ครถู ามนกั เรียนวา่ เคยเห็นฟา้ แลบหรอื ไม่ และกระตุ้นใหน้ ักเรยี นช่วยกนั อธบิ ายลกั ษณะของฟ้าแลบ 3. ครูแจ้งจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ใหน้ กั เรยี นทราบ ขน้ั ที่ 2 Presentation 15 นาที (ขน้ั นำเสนอเนอ้ื หา) 1. ครูถามนักเรียนว่า รู้หรือไม่ว่า lightning เกิดขึ้นได้อย่างไร ให้นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า 73 Ex.1 (เอกสารแนบ หมายเลข 2) แลว้ ตอบครู จากนัน้ ครูถามว่าถา้ เกดิ ฟา้ แลบนกั เรียนควรปฏบิ ตั ติ วั อย่างไร แลว้ ใหน้ กั เรยี นดูภาพใน Ex.2 และช่วยกนั บอกส่ิงท่เี หน็ ในภาพ 2. ครูนำเสนอคำศัพท์ที่จำเป็นต่อการอ่าน (เอกสารแนบ หมายเลข 3) โดยครูพูดคำศัพท์ พร้อมท้ัง เขียนบนกระดาน แล้วให้นักเรยี นเปดิ หาความหมายจากพจนานกุ รม crowded (adj) full of something. [หนาแน่น] shelter (n) a place that protect you from bad weather, danger or attack. [ทกี่ ำบัง] shed (n) a small building, usually made of wood, used for storing things. [โรงเกบ็ ของ] isolated (adj) far away from any others [ห่างไกลจากสิ่งอนื่ ] radiator (n) a device, usually a container filled with water, that sends out heat, often as part of a heating or cooling system. [เคร่ืองนำความรอ้ น] get away (phr v) to leave or escape from a person or place. [หลกี เล่ยี ง] 3. ให้นักเรยี นจดคำศพั ท์ใหมล่ งในสมุด ขนั้ ที่ 3 Practice 20 นาที (ขน้ั ฝกึ ปฏบิ ตั ิ / ฝึกทักษะ) 1. ให้นักเรียนอ่านประโยค A-C ที่ให้มาในหนังสือเรียน หน้า 73 Ex.1 (เอกสารแนบ หมายเลข 2) แล้วจบั คู่ภาพกบั ประโยคท่ีสมั พนั ธ์กนั เสรจ็ แล้วครูเปดิ CD2/Track 16 (เอกสารแนบ หมายเลข 4) ให้นักเรยี น ฟัง เพื่อตรวจคำตอบ จากนั้นครูเฉลยคำตอบ ครูอาจจะให้นักเรียนคัดลอกประโยคตามลำดับการเกิดฟ้าแลบ ลงในสมุดเปน็ การบ้านเพื่อทบทวน 2. ให้นักเรียนอ่านประโยค A-J ในหนังสือเรียน หน้า 73 Ex.2 (เอกสารแนบ หมายเลข 2) แล้วให้ นักเรยี นดตู ัวอยา่ งคำตอบ C กบั F จากนั้นให้นกั เรยี นจับคู่ประโยคกับภาพทเ่ี หลือ เม่ือทำเสรจ็ แล้วครูรวบรวม คำตอบจากนกั เรียน และเฉลยคำตอบบนกระดาน ขน้ั ที่ 4 Production 15 นาที (ข้ันนำไปใช)้ 1. ครูอธิบายภาระงานในหนังสอื เรียน หน้า 73 (เอกสารแนบ หมายเลข 2) หัวข้อ Project Time ว่า ให้นักเรียนทำใบปลิวในหัวข้อ ‘Safety in a Storm’ โดยนักเรียนสามารถใช้ข้อมูลจาก Ex.2 ได้ และใส่ ภาพประกอบ เพอ่ื ให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย และใบปลิวมีความน่าสนใจ จากน้ันใหน้ ักเรยี นทำงานกลุ่ม ครูแนะนำว่า
นักเรียนสามารถใช้กระดาษใบปลวิ สขี าว และใชส้ ีทแ่ี ตกต่างกันเพื่อเขียนข้อมูล โดยใช้ 1 สสี ำหรับพฤติกรรมท่ี ควรทำ และใช้อกี 1 สสี ำหรับพฤติกรรมทีไ่ ม่ควรทำ 2. เมื่อนักเรียนทำใบปลิวเสร็จสมบูรณ์แล้ว ให้นำผลงานมาติดแสดงให้เพื่อนดู ครูให้เวลานักเรียน 5 นาที เพ่อื ดูผลงานของเพอื่ น ถ้าครูคดิ ว่าเหมาะสมใหน้ กั เรียนลงคะแนนเลือกผลงานที่ดที สี่ ุด ขน้ั ที่ 5 Wrap up 5 นาที (ขั้นสรุปบทเรียน/เนอื้ หา) 1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มทบทวนคำศพั ท์ทเี่ รยี นในวันนอ้ี ีกครั้ง 2. นกั เรียนและครรู ่วมกนั สรุปเนื้อหาท่ีเรยี น และอภปิ รายรว่ มกัน 8. การวัดและประเมนิ ผล วธิ วี ัดและประเมนิ ผล เคร่อื งมือท่ีใช้วดั และประเมนิ ผล ความสามารถท่ตี อ้ งการ/ เกณฑ์ 1. สงั เกต (ทกั ษะการพูด / การ 1. แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง 1. นักเรยี นสามารถอ่านออกเสยี ง ออกเสยี งคำศพั ท์ /การตอบ เร่ือง Staying Safe in a และบอกความหมายของคำศัพท์ คำถาม) Lightning Storm เก่ียวกบั การเกิดฟา้ แลบและการ (เอกสารแนบท้าย หมายเลข 4) ปฏิบตั ิตวั เม่ือเกิดพายุฝนฟ้า 2. ประเมินการคน้ ควา้ และเขียน คะนองได้ถูกต้องร้อยละ 70% นำเสนอข้อมลู เก่ยี วกับการ 2. แบบประเมินชนิ้ งานการ 2. ให้คำแนะนำและอธบิ าย ทดลองของ Benjamin Franklin สำรวจ/ค้นควา้ ขอ้ มลู เร่ือง เกยี่ วกบั วิธีการปฏบิ ัตติ วั เม่ือเกิด Staying Safe in a Lightning พายฝุ นฟ้าคะนองได้ถูกตอ้ งร้อย 3. สงั เกตพฤติกรรมการเรยี น Storm ละ 70% ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (เอกสารแนบทา้ ย หมายเลข 5) ของผเู้ รียน 3. แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ 3. นักเรยี นมวี ินัย ใฝเ่ รยี นร้แู ละ ประสงค์ เรอื่ ง Staying Safe in a มุ่งมั่นในการทำกจิ กรรม ร้อยละ Lightning Storm 70% (เอกสารแนบท้าย หมายเลข 6) 9. ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ ควรจัดกจิ กรรมให้เหมาะสมกับเวลาเรียน เนอื่ งจากการจดั กิจกรรมกลุ่มโดยให้นกั เรียนไดศ้ ึกษา แลกเปลี่ยนขอ้ มลู ของแตล่ ะกลมุ่ ค่อนขา้ งใช้เวลามาก อาจทำใหเ้ วลาในคาบเรียนไมพ่ อ ดังนนั้ ควรคำนึงถึงเรือ่ ง เวลาในการทำกจิ กรรมของนักเรยี น
10. บันทกึ หลังสอน 10.1 ด้านความรู้ (K) นกั เรยี นส่วนใหญ่มคี วามรู้เร่ืองการเกิดฟา้ แลบและการปฏบิ ตั ติ วั เมื่อเกิดพายฝุ นฟา้ คะนอง แต่ยงั ไม่ คอ่ ยร้คู ำศพั ท์ภาษาองั กฤษ เนื่องจากเป็นคำศัพท์ใหม่นักเรียนยังไมค่ ้นุ ช้นิ 10.2 ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) นกั เรยี นยงั อา่ นออกเสยี งคำศัพท์ใหม่ไม่คอ่ ยถูกต้อง ออกเสียงและบอกความหมายของคำศัพท์สลับคำ กนั ครฝู ึกนกั เรยี นออกเสียงคำศพั ทห์ ลายๆรอบและใหน้ ักเรยี นคน้ หาความหมายของคำศพั ทจ์ ากดกิ ชนั นารี 10.3 ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) นกั เรียนมคี วามใฝ่รใู้ ฝเ่ รียน ตัง้ ใจและมสี ว่ นรว่ มในช้นั เรียน โดยเฉลี่ย 70% ของนักเรียนในหอ้ ง ท้ังหมด 10.4 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (C) นักเรยี นมคี วามกลา้ แสดงออกในการตอบคำถาม ไม่เขินอาย กล้าคดิ และแสดงความคิดเห็น ตอบ คำถามอย่างมวี ิจารณญาณ 10.5 ปัญหาและอุปสรรคท่ีพบในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ เวลาท่ใี ช้ในการจัดกิจกรรมกลุ่มน้อยเกนิ ไป จงึ ทำใหน้ ักเรียนไมส่ ามารถแลกเปล่ยี นขอ้ มูลกับเพื่อนๆ ไดค้ รบทุกกลมุ่ 10.6 ข้อเสนอแนะ / แนวทางปรบั ปรงุ ควรเลอื กกิจกรรมทเ่ี หมาะสมกบั เวลาเรยี น เพอื่ ใหน้ ักเรียนได้แลกเปล่ียนข้อมูล และมสี ่วนร่วมในการ ทำกจิ กรรมได้อย่างเต็มท่ี (ลงชื่อ)…................................................... ผู้สอน (นางสาวประภสั สร ประจงตุม้ ) นักศึกษาฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครู สาขาวิชาภาษาองั กฤษ คณะครุศาสตร์ มรภ.วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
11. ข้อเสนอแนะ / แนวทางการปรบั ปรงุ จากครพู ่เี ล้ยี ง ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. (ลงชื่อ)......................................................... (นางสาวพชิ ญวดี รสั ปตั ) ครพู ่ีเลี้ยง โรงเรยี นวดั ลาดสนุ่น
เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 1 หนงั สอื เรยี น Team up in English 2 ม. 2 หน้า 72
เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 2 หนงั สอื เรยี น Team up in English 2 ม. 2 หน้า 73
เอกสารแนบท้ายหมายเลข 3 ส่อื PowerPoint เรื่อง Staying Safe in a Lightning Storm
เอกสารแนบทา้ ยหมายเลข 4 ไฟลเ์ สยี ง Class Audio CDs CD2/Track 16
1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 10 ท่ี ชื่อ – สกลุ เอกสารแนบท้ายหมายเลข 5 1 แบบประเมนิ การอ่านออกเสียง เร่ือง Staying Safe in a Lightning Storm 2 1.ถามคำถามได้ดว้ ยตนเอง การถาม 3 2. ถามคำถามด้วยโครงสร้างไดถ้ กู ต้อง 4 3.ถามคำถามและบอกความหมายได้ ทักษะที่สังเกต 5 การตอบ 6 4.มคี วามตั้งใจในการเรยี นและทำกิจกรรม 7 1.ตอบคำถามดว้ ยโครงสรา้ งไดถ้ กู ต้อง การรว่ มกิจจกรม 8 2.ตอบคำถามได้อย่างคล่องแคลว่ ถาม-ตอบ 9 ประโยค 10 3.ตอบคำถามไดด้ ว้ ยตนเอง 11 1.รว่ มกจิ กรรมด้วยความสนุกสนาน 12 13 2.รว่ มกจิ กรรมด้วยความเต็มใจ 14 15 3.ถามหรือตอบคำถามด้วยความสนใจ 16 รวม ระดบั คะแนน คุณภาพ
เกณฑก์ ารประเมนิ และระดบั คณุ ภาพ คะแนน 9 – 10 คะแนน หมายถึง ดมี าก คะแนน 7 – 8 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 5 – 6 คะแนน หมายถึง ปานกลาง คะแนน 1 – 4 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ จำนวนคนทผ่ี า่ นระดบั คณุ ภาพ......................คน ร้อยละ............... จำนวนคนที่ไม่ผา่ นระดบั คุณภาพ..................คน ร้อยละ............... ลงชื่อ.........................................................ผู้ประเมิน (................................................................) วนั ท่ี..........เดือน.................................พ.ศ. ................
เอกสารแนบท้ายหมายเลข 6 แบบบนั ทึกการประเมินคณุ ภาพช้ินงาน / ภาระงาน เร่อื ง Staying Safe in a Lightning Storm ประเดน็ /คะแนน ความสมบูรณ์ ความคิดสร้างสรรค์ รวมคะแนน ของชน้ิ งาน 8 20 เลขท่ี ชื่อ - สกุล 12 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 ลงช่ือ............................................................ผู้ประเมิน (................................................................) วันท่.ี .........เดอื น.................................พ.ศ. ................
เกณฑ์การใหค้ ะแนนคุณภาพชิ้นงาน / ภาระงาน ระดับ เกณฑ์การให้คะแนน น้ำหนัก/ คะแนน คะแนน ความสำคญั รวม ประเด็น 4321 3 12 การประเมิน 2 8 ความสมบูรณข์ อง ชนิ้ งานมีราย ชนิ้ งานมรี าย ช้ินงานมีราย ช้นิ งานมีราย 5 20 ชนิ้ งาน ละเอยี ดครอบ ละเอียดครอบ ละเอยี ดครอบ ละเอยี ดครอบ คลุมวงคำศพั ท์ คลมุ วงคำศพั ท์ คลมุ วงคำศพั ท์ คลมุ วงคำศพั ท์ ความคดิ สร้างสรรค์ ทเี่ รียนสมบรู ณ์ ทีเ่ รยี นเปน็ ทีเ่ รยี นพอ ที่เรียนน้อย ส่วนใหญ่ สมควร เปน็ ช้ินงาน เป็นชนิ้ งานที่ ทแ่ี ปลกใหม่ เป็นชิน้ งาน เปน็ ช้นิ งาน เหมือนกับ คดิ ขึ้นเอง ทแี่ ปลกใหม่ ที่ปรับปรุง ตัวอย่าง ไมเ่ หมอื น แตม่ ีบางส่วน ดดั แปลง ตัวอย่าง คล้ายกบั เลก็ นอ้ ยจาก ตัวอย่าง ตวั อย่าง รวม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152