(((กขก))) คำนำ กรมการพัฒนาชุมชน มอบหมายให้ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี เป็นหน่วย ดาเนนิ การโครงการฝึกอบรมพฒั นากรระหว่างประจาการ หลกั สูตร พัฒนากรนา OTOP ไทยสสู่ ากล ประจาปี งบประมาณ พ.ศ. โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรู้/ประสบการณ์การทางานในรอบปีท่ีผ่านมา และ ทราบทิศทางการทางานในปี 2563 และเพ่ือออกแบบ Model ในการส่งเสริมสนับสนุน OTOP ไทยสู่สากล กลุ่มเป้าหมาย คือพัฒนากรระหว่างประจาการ จานวน 225 คน จาก 7 จังหวัด ในเขตพื้นที่ให้บริการ ของศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี แยกดาเนินการ 3 รุ่น ๆ ละ 75 คน ดาเนินการรุ่นละ 3 วัน ดาเนินการ รุ่นที่ 1 ระหว่างวันท่ี 9 – 11 ธันวาคม 2562 รุ่นท่ี 2 ระหว่างวันท่ี 16 – 18 ธันวาคม 2562 และ รุ่นท่ี 3 ระหว่างวันที่ 23 – 25 ธันวาคม 2562 ณ ศนู ยศ์ ึกษาและพัฒนาชมุ ชนอบุ ลราชธานี ศูนยศ์ ึกษาและพัฒนาชมุ ชนอุบลราชธานี ไดส้ รุปผลการดาเนนิ งานโครงการฝกึ อบรมพัฒนากร ระหวา่ งประจาการ หลักสตู ร พฒั นากรนา OTOP ไทยสสู่ ากล รวมท้งั ประเมินผลโครงการ เพื่อทราบ ผลสมั ฤทธิ์ ข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการนาไปปรับใช้ในการดาเนนิ งานคร้ังต่อไป ศนู ยศ์ กึ ษาและพฒั นาชมุ ชนอุบลราชธานี มกราคม 2563
สำรบัญ (((กขก))) คำนำ หนำ้ สำรบญั (ก) สำรบญั ตำรำง (ข) บทสรุปสำหรบั ผู้บริหำร (ง) สว่ นท่ี 1 บทนำ (ฉ) ความสาคัญ 1 วัตถุประสงค์ 1 กลุ่มเปา้ หมาย 1 ขนึ้ ตอนและวิธดี าเนนิ งาน 1 งบประมาณดาเนินการ 2 ระยะเวลาดาเนินการ 2 ขอบเขตเน้ือหาหลักสูตร 2 ผลทีค่ าดว่าจะไดร้ บั 3 ตัวชี้วัดผลผลติ 3 ตวั ชีว้ ัดผลลพั ธ์ 3 สว่ นที่ 2 สรปุ เนื้อหำวิชำกำร เนอ้ื หาวชิ า 4 วิชาทบทวน/เรยี นรู้การขับเคลอื่ นงาน (4 งานหลัก) ในรอบปที ่ีผ่านมา (เหลียวหลัง) 5 วิชาเรียนร้จู ากสื่อ VDO กรณีศกึ ษา “รายการเปิดปมตอน ตลาดวายนวัตวถิ ี 8 และปัญหากลุ่มออมทรัพยเ์ พ่ือการผลติ วิชาการขบั เคลอื่ นยุทธศาสตร์กรมการพัฒนาชมุ ชน ปี 2563 (แลหน้า) 11 วชิ าศาสตร์พระราชา 13 วชิ านโยบายและทิศทางการขับเคล่อื นภารกิจกรมการพฒั นาชุมชน ปี 2563 14 วชิ า E-Commerce 16 วิชา OTOP Trader 17 ถอดบทเรยี นการเรยี นรูศ้ าสตรพ์ ระราชา, นโยบายและทิศทางการขบั เคลื่อนภารกิจ 18 กรมการพฒั นาชมุ ชน ปี 2563, E-Commerce วิชาการออกแบบงาน OTOP ไทยสูส่ ากล 20 วิชาการต้งั เป้าหมายองค์กร (Objectives and Key Results : OKRS) 22 สว่ นท่ี 3 กำรประเมินผลโครงกำร วธิ กี ารประเมนิ 24 การวเิ คราะห์ข้อมูล 26 เกณฑ์การประเมนิ 27 ผลการประเมิน 27
สำรบัญ (((คกขก))) ภำคผนวก หนำ้ ภาพกจิ กรรมการฝกึ อบรม รายชื่อกลมุ่ เปา้ หมาย 59 ตารางการฝึกอบรม 75 แบบประเมนิ รายวชิ า 84 แบบประเมินโครงการ 85 86
(ง(()(กขก))) สำรบัญตำรำง ตำรำงท่ี หนำ้ 1 แสดงระดบั ความคิดเหน็ เกย่ี วกบั เน้อื หาวชิ าทบทวน/เรียนรู้การขบั เคล่ือน (4 งานหลัก) 27 ในรอบปีทผี่ ่านมา 2 แสดงระดบั ความพึงพอใจต่อวิทยากรวชิ าทบทวน/เรียนร้กู ารขับเคลือ่ น (4 งานหลัก) 28 ในรอบปีท่ีผา่ นมา 3 แสดงระดบั ความคิดเห็นเกย่ี วกบั เน้อื หาวชิ าการขบั เคล่ือนยุทธศาสตรก์ รมการพฒั นาชมุ ชน 30 ปี 2563 4 แสดงระดับความพึงพอใจต่อวทิ ยากรวชิ าการขบั เคลอ่ื นยทุ ธศาสตร์กรมการพฒั นาชุมชน 31 ปี 2563 5 แสดงระดบั ความคิดเหน็ เกย่ี วกับเนอ้ื หาวิชาศาสตร์พระราชา 32 6 แสดงระดับความพึงพอใจต่อวทิ ยากรวชิ าศาสตร์พระราชา 33 7 แสดงระดับความคิดเหน็ เกี่ยวกบั เน้อื หาวชิ านโยบายและทิศทางการขบั เคลือ่ นภารกิจ 34 กรมการพัฒนาชมุ ชน ปี 2563 8 แสดงระดบั ความพึงพอใจต่อวทิ ยากรวชิ านโยบายและทิศทางการขบั เคล่ือนภารกิจ 35 กรมการพัฒนาชมุ ชน ปี 2563 9 แสดงระดบั ความคิดเห็นเกี่ยวกับเนอื้ หาวชิ า E – Commerce 36 10 แสดงระดับความพึงพอใจต่อวทิ ยากรวชิ า E – Commerce 37 11 แสดงระดับความคิดเห็นเกย่ี วกบั เนอ้ื หาวิชา OTOP Trader 38 12 แสดงระดับความพึงพอใจต่อวทิ ยากรวชิ า OTOP Trader 39 13 แสดงระดบั ความคิดเห็นเกยี่ วกบั เนื้อหาวิชาการถอดบทเรียนการเรียนรูศ้ าสตร์พระราชา, 40 นโยบายและทิศทางการขับเคลอื่ นภารกจิ กรมการพฒั นาชุมชน ปี 2563 และ วิชา E-Commerce 14 แสดงระดบั ความพึงพอใจต่อวทิ ยากรวชิ าการถอดบทเรียนการเรียนรศู้ าสตร์พระราชา, 41 นโยบายและทศิ ทางการขบั เคลอื่ นภารกจิ กรมการพฒั นาชมุ ชน ปี 2563 และ วิชา E-Commerce 15 แสดงระดับความคิดเหน็ เกยี่ วกบั เน้อื หาวชิ าการออกแบบงาน 4 งานหลักมุ่งส่อู นาคต 42 และออกแบบงาน OTOP ไทยสู่สากล 16 แสดงระดบั ความพึงพอใจต่อวทิ ยากรวิชาการออกแบบงาน 4 งานหลกั มุ่งส่อู นาคต 43 และออกแบบงาน OTOP ไทยสู่สากล 17 แสดงระดบั ความคิดเห็นเกี่ยวกบั เน้ือหาวิชาการต้ังเปา้ หมายองค์กร (OKRs) 44 18 แสดงระดบั ความพึงพอใจต่อวิทยากรวิชาการตัง้ เปา้ หมายองค์กร (OKRs) 45 19 แสดงขอ้ มลู ท่ัวไป 47 20 แสดงระดับการบรรลวุ ัตถุประสงค์ของโครงการ 48 21 แสดงระดบั ความร้แู ละความเข้าใจด้านวชิ าการ (ก่อนและหลังเขา้ ร่วมกจิ กรรม) 49 22 แสดงระดับความมั่นใจในการนาความรูท้ ไี่ ดร้ บั ไปปรับใช้ในการปฏบิ ตั ิงาน 52 23 แสดงระดบั ความพึงพอใจต่อการใหบ้ รกิ ารด้านวิทยากร 53
สำรบญั ตำรำง ((จ((กขก)))) ตำรำงท่ี หน้ำ 24 แสดงระดับความพึงพอใจต่อการให้บรกิ ารของเจา้ หนา้ ที่ 54 25 แสดงระดับความพึงพอใจต่อการให้บรกิ ารด้านอาคารและสถานที่ 55 26 แสดงระดบั ความพึงพอใจต่อการใหบ้ ริการด้านคุณภาพ 56
(((กฉขก))) บทสรุปสำหรับผูบ้ ริหำร รายงานผลการดาเนินงานโครงการฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจาการ หลักสูตรพัฒนากร นา OTOP ไทยสู่สากล ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ซ่ึงกรมการพัฒนาชุมชน ได้มอบหมายให้ศูนย์ศึกษา และพัฒนาชุมชนอุบลราชธานีเป็นหน่วยดาเนินการฝึกอบรม จานวน 3 รุ่น ๆ ละ 75 คน ดาเนินการรุ่นละ 3 วนั ดาเนนิ การรนุ่ ที่ 1 ระหว่างวนั ท่ี 9 – 11 ธันวาคม 2562 ร่นุ ท่ี 2 ระหว่างวนั ที่ 16 – 18 ธันวาคม 2562 และรนุ่ ที่ 3 ระหว่างวนั ที่ 23 – 25 ธันวาคม 2562 ณ ศูนย์ศกึ ษาและพฒั นาชุมชนอุบลราชธานี กลุ่มเป้าหมาย คือพัฒนากรระหว่างประจาการ จานวน 225 คน จาก 7 จังหวัด ในเขตพ้ืนท่ีให้บริการของศูนย์ศึกษาและ พัฒนาชุมชนอบุ ลราชธานี ประกอบด้วย จงั หวัดนครพนม จานวน 26 คน จงั หวัดมกุ ดาหาร จานวน 12 คน จังหวัดร้อยเอ็ด จานวน 48 คน จังหวัดอานาจเจริญ จานวน 14 คน จังหวัดศรีสะเกษ จานวน 49 คน จังหวัด ยโสธร จานวน 20 คน และจังหวัดอุบลราชธานี จานวน 56 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือแลกเปล่ียนเรียนรู้/ ประสบการณ์การทางานในรอบปที ผี่ ่านมา และทราบทิศทางการทางานในปี 2563 และเพ่ือออกแบบ Model ในการส่งเสริมสนับสนุน OTOP ไทยสู่สากล รูปแบบการฝึกอบรมใช้กระบวนการแบบมีส่วนร่วม ยึดผู้เรียน เป็นศูนย์กลาง การบรรยายประกอบสื่อ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเน้นการฝึกปฏิบัติจริง สาหรับการ ประเมินผล กลุ่มเป้าหมายคือ พัฒนากรระหว่างประจาการที่เข้ารับการฝึกอบรม จานวน 225 คน เครื่องมือที่ ใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมข้อมูลใช้แบบสอบถามประเมินผลรายวชิ า และประเมนิ ผลภาพรวม โดยการประเมินผ่าน ระบบออนไลน์ แล้วนาผลท่ีได้มาวิเคราะห์ข้อมูล เรียบเรียงแบบร้อยแก้วเชิงพรรณนา ใช้ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลยี่ ตามสรุปผลการฝึกอบรมที่ปรากฏ ดังนี้ ผลกำรฝึกอบรม 1. ขอ้ มูลทวั่ ไปของกลุ่มเป้ำหมำย พบ ผ้เู ข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่เปน็ เพศชหญิง จานวน 136 คน คิดเป็นร้อยละ 72.73 และเพศชายจานวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 27.27 ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 31-40 ปี จานวน 94 คน คิดเป็นร้อยละ 50.27 รองลงมาตามลาดับคืออายุระหว่าง 41-50 ปี จานวน 53 คน คิดเป็นร้อยละ 28.34 อายุระหว่าง 51-60 ปี จานวน 28 คน คิดเป็นร้อยละ 14.97 และอายุต่ากว่า 30 ปี จานวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 6.42 ส่วนใหญ่ดารงตาแหน่งนักวิชาการพัฒนาชุมชนชานาญการ จานวน 112 คน คิดเป็น ร้อยละ 59.89 รองลงมาตามลาดับคือตาแหน่งนักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ จานวน 61 คน คิดเป็นร้อยละ 32.62 และตาแหน่ง เจ้าพนักงานพัฒนชุมชนชานาญงาน จานวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 7.49 ส่วนใหญ่ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จานวน 124 คน คิดเป็นร้อยละ 66.31 รองลงมาตามลาดับคือจบการศึกษา ระดับปริญญาโท จานวน 61 คน คิดเป็นร้อยละ 32.62 และจบการศึกษาต่ากว่าระดับปริญญาตรี จานวน 2 คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.07 2. ควำมคิดเห็นต่อโครงกำร พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีระดับความคิดเห็น เกย่ี วกบั การบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก คา่ เฉลยี่ 3.66 และเมอ่ื พิจารณา เรียงลาดับเป็นรายประเด็น พบว่า ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ มากท่ีสุด คือ เพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรู้/ประสบการณ์การทางานในรอบปีท่ีผ่านมาและทราบทิศทางการทางานในปี 2563 อยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ีย 3.66 รองลงมาคือ เพ่ือออกแบบ Model ในการส่งเสริมสนับสนุน OTOP ไทย สู่สากล อยู่ในระดบั มาก คา่ เฉล่ยี 3.65
(((กขกช))) 3. ควำมคิดเห็นต่อควำมรู้ ควำมเข้ำใจด้ำนวิชำทั้งก่อนและหลังเข้ำร่วมกิจกรรม จำนวน 9 วชิ ำ สรุปได้ ดังน้ี ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีระดับความรู้ ความเข้าใจต่อเน้ือหาวิชาก่อนเข้ารับ การฝกึ อบรม โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง คา่ เฉลีย่ 2.60 และหลงั การฝกึ อบรมมีระดบั ความรคู้ วาม เขา้ ใจต่อเนอื้ หาวชิ า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.41 และเมอ่ื พจิ ารณาเรียงลาดบั คา่ เฉลยี่ เปน็ รายวิชาจากมากไปหานอ้ ย ได้ดังน้ี 1. วชิ าศาสตรพ์ ระราชา ผเู้ ข้ารบั การฝึกอบรมส่วนใหญม่ ีระดบั ความรู้ความเขา้ ใจต่อประเด็น เน้ือหาวชิ าก่อนเขา้ รับการฝึกอบรม อยใู่ นระดับปานกลาง 2.96 และหลงั การฝกึ อบรมมีระดับความรู้ ความเข้าใจ ตอ่ ประเด็นเน้อื วิชา อยใู่ นระดับมากท่สี ดุ ค่าเฉล่ยี 4.68 2. วชิ านโยบายและทิศทางการขบั เคลือ่ นภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน ปี 2563 ผู้เขา้ รับการ ฝกึ อบรมส่วนใหญ่มีระดับความรู้ความเข้าใจต่อประเดน็ เน้ือหาวิชาก่อนเข้ารับการฝึกอบรม อยู่ในระดับปานกลาง คา่ เฉล่ยี 2.72 และหลังการฝกึ อบรมมรี ะดบั ความรู้ ความเขา้ ใจต่อประเดน็ เน้อื วิชา อยใู่ นระดับมากทสี่ ุด คา่ เฉลี่ย 4.52 3. วิชาถอดบทเรยี นการเรยี นรู้ ศาสตร์พระราชา นโยบายและทิศทางการขบั เคล่อื นภารกิจ กรมการพัฒนาชมุ ชน ปี 2563 และ E-Commerce ผู้เขา้ รบั การฝึกอบรมส่วนใหญม่ ีระดบั ความรู้ความเขา้ ใจ ต่อประเด็นเน้อื หาวิชาก่อนเข้ารบั การฝกึ อบรม อยู่ในระดับปานกลาง คา่ เฉลีย่ 2.76 และหลงั การฝึกอบรมมี ระดับความรู้ ความเขา้ ใจตอ่ ประเดน็ เนอ้ื วิชา อยู่ในระดับมาก คา่ เฉล่ีย 4.49 4. วชิ า OTOP Trader ผเู้ ข้ารับการฝกึ อบรมส่วนใหญ่มรี ะดบั ความรคู้ วามเขา้ ใจต่อประเด็น เน้อื หาวิชาก่อนเขา้ รบั การฝกึ อบรมอย่ใู นระดับนอ้ ย ค่าเฉลี่ย 2.24 และหลังการฝึกอบรมมีระดับความรู้ ความ เข้าใจต่อประเดน็ เน้ือวิชา อยู่ในระดับมาก คา่ เฉลย่ี 4.46 5. วิชาการขบั เคลอื่ นยุทธศาสตร์กรมการพฒั นาชมุ ชนประจาปี 2563 ผเู้ ข้ารับการฝกึ อบรม ส่วนใหญ่มีระดับความรู้ความเข้าใจต่อประเด็นเนื้อหาวิชาก่อนเข้ารับการฝึกอบรมอยู่ในระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ย 2.91 และหลังการฝึกอบรมมีระดับความรู้ ความเขา้ ใจต่อประเด็นเน้ือวชิ า อยู่ในระดับมาก คา่ เฉลย่ี 4.39 6. วชิ า E-Commerce ผเู้ ข้ารับการฝึกอบรมสว่ นใหญ่มรี ะดับความรคู้ วามเขา้ ใจตอ่ ประเด็น เนอ้ื หาวิชาก่อนเขา้ รับการฝกึ อบรมอยใู่ นระดบั น้อย ค่าเฉลย่ี 2.46 และหลงั การฝึกอบรมมีระดับความรู้ ความเขา้ ใจตอ่ ประเด็นเนอ้ื วชิ า อยู่ในระดับมาก คา่ เฉลีย่ 4.39 7. วชิ าทบทวน/เรยี นรู้ การขบั เคลื่อนงาน (4 งานหลกั ) ในรอบปีที่ผ่านมา ผูเ้ ขา้ รบั การ ฝึกอบรมส่วนใหญม่ ีระดับความร้คู วามเข้าใจต่อประเด็นเน้ือหาวิชาก่อนเข้ารับการฝึกอบรมอย่ใู นระดับปานกลาง ค่าเฉลีย่ 2.81 และหลังการฝึกอบรมมีระดับความรู้ ความเขา้ ใจต่อประเด็นเนือ้ วชิ า อยใู่ นระดับมาก คา่ เฉลยี่ 4.31 8. วิชา การต้ังเป้าหมายองค์กร (OKRs) ผู้เข้ารบั การฝึกอบรมส่วนใหญ่มีระดับความรูค้ วาม เข้าใจต่อประเด็นเน้ือหาวิชาก่อนเข้ารับการฝึกอบรมอยู่ในระดับน้อย ค่าเฉล่ีย 2.27 และหลังการฝึกอบรม มีระดับความรู้ ความเขา้ ใจต่อประเด็นเน้ือวชิ า อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลีย่ 4.26 9. วิชาจดั ทาแผนปฏิบตั กิ าร ออกแบบงาน 4 งานหลกั ม่งุ ส่อู นาคต ออกแบบงาน OTOP ไทย สสู่ ากล ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสว่ นใหญ่มรี ะดับความร้คู วามเขา้ ใจต่อประเด็นเน้ือหาวิชาก่อนเขา้ รับการฝึกอบรม อยู่ในระดบั นอ้ ย ค่าเฉลย่ี 2.30 และหลังการฝกึ อบรมมีระดับความรู้ ความเขา้ ใจตอ่ ประเด็นเนอ้ื วิชา อยู่ใน ระดับมาก คา่ เฉลี่ย 4.17
(((กซขก))) 4. ควำมคดิ เห็นตอ่ กำรนำควำมรไู้ ปใช้ประโยชน์ จำนวน 9 ประเด็น สรุปได้ดงั น้ี ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความม่ันใจต่อการนาความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ในการ ปฏิบัติงาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ีย 4.41 และเมื่อพิจารณาเรียงลาดับเป็นรายประเด็น จากมากไปหาน้อย พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความม่ันใจในการนาความรู้ นโยบายและทิศทาง การขับเคล่อื นภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน ปี 2563 อยูใ่ นระดับมากที่สุด ค่าเฉลยี่ 4.62 รองลงมาตามลาดับ คือ ม่ันใจต่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กรมการพัฒนาชุมชนประจาปี 2563 อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.52 วิชาจัดทาแผนปฏบิ ัติการออกแบบงาน 4 งานหลักมุ่งสู่อนาคต ออกแบบงาน OTOP ไทยสู่สากล อยู่ใน ระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.48 วิชา ศาสตร์พระราชา อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.42 วิชาการต้ังเป้าหมายองคก์ ร (OKRs) อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.38 วิชา E-Commerce อยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ีย 4.37 วิชาทบทวน/ เรียนรู้ การขับเคล่ือนงาน (4 งานหลัก) ในรอบปีที่ผ่านมามีค่าเท่ากันกับวิชา OTOP Trader อยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ีย 4.36 และวิชาถอดบทเรียนการเรียนรู้ ศาสตร์พระราชา นโยบายและทิศทางการขับเคล่ือนภารกิจ กรมการพัฒนาชมุ ชน ปี 2563 และ E-Commerce อย่ใู นระดบั มาก มีคา่ เฉลยี่ น้อยสุด คอื 4.13 5. ควำมพึงพอใจต่อกำรบรหิ ำรโครงกำร ในแตล่ ะด้ำนสรปุ ได้ดงั นี้ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีระดับความพึงพอใจต่อการให้บริการด้านวิทยากร โดย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ีย 4.35 และเมื่อพิจารณาเป็นรายประเด็นพบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วน ใหญ่มีความพึงพอใจต่อความรู้ ความสามารถในการถ่ายทอด/บรรยาย อยู่ในระดับมากท่ีสุด ค่าเฉลี่ย 4.61 รองลงมาตามลาดับคือพึงพอใจต่อการเปิดโอกาสให้ซักถามแสดงความคิดเห็น อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.31 ความพึงพอใจต่อเทคนิคและวิธีการที่ใช้ในการถ่ายทอดความรู้ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.26 และความพึง พอใจตอ่ การสรา้ งบรรยากาศการเรยี นรู้ อยใู่ นระดับมาก คา่ เฉลี่ย 4.21 ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีระดับความพึงพอใจต่อการให้บริการด้านการให้บริการ โดย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.10 และเม่ือพิจารณาเป็นรายประเด็นพบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วน ใหญ่ มีความพึงพอใจต่อเจ้าหน้าท่ีมีกิริยา มารยาท และการแต่งกายเหมาะสม อยู่ในระดับมากท่ีสุด ค่าเฉล่ยี 4.64 รองลงมาตามลาดับ คือ พึงพอใจต่อสัญญาณ wifi ในห้องฝึกอบรม อยู่ในระดับมากท่ีสุด ค่าเฉลี่ย 4.58 ความพึงพอใจต่อเจ้าหน้าที่กระตือรือร้นในการให้บริการ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.37 ความพึงพอใจ ต่อสัญญาณ wifi ในห้องพัก อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.28 ความพึงพอใจต่อห้องฝึกอบรม ห้องพัก ห้องน้า โรงอาหาร และบริเวณโดยรอบมีความสะอาด อยใู่ นระดบั มาก คา่ เฉลีย่ 3.88 ความพึงพอใจต่ออาหาร/อาหาร ว่าง/เคร่ืองดื่ม มีคุณภาพเหมาะสม อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.73 และท่ีมีความพึงพอใจน้อยที่สุด โสตทัศนปู กรณ์ (ชดุ โปรเจคเตอร์ เครอื่ งเสียง ฯลฯ) เหมาะสม อยูใ่ นระดับปานกลาง คา่ เฉลี่ย 3.24 ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีระดับความพึงพอใจต่อการให้บรกิ ารด้านอาคารและสถานท่ี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.20 และเม่ือพิจารณาเป็นรายประเด็นพบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อประเด็นขนาดห้องฝึกอบรม มีความเหมาะสมกับจานวนผู้เข้าอบรม อยู่ในระดับ มาก ที่สุด ค่าเฉล่ีย 4.51 รองลงมาตามลาดับคือพึงพอใจต่อห้องน้าอาคารฝึกอบรม มีความสะอาด อยู่ใน ระดับมาก ค่าเฉล่ีย 4.40 ความพึงพอใจต่อห้องอาหาร มีความเหมาะสม ถูกสุขลักษณะ อยู่ในระดับมาก คา่ เฉล่ีย 4.06 และความพึงพอใจต่อหอ้ งพัก มคี วามเหมาะสม อย่ใู นระดับมาก ค่าเฉล่ีย 3.84 ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีระดับความพึงพอใจต่อการให้บริการด้านคุณภาพ โดย ภาพรวม อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.21 และเมื่อพิจารณาเป็นรายประเด็นพบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรม สว่ นใหญ่มีความพงึ พอใจต่อประเด็นเนื้อหาหลักสตู รเป็นปัจจุบันทันต่อการเปล่ียนแปลง อยู่ในระดับมาก 4.31 รองลงมาตามลาดับคือพึงพอใจต่อความรู้ที่ได้รับสามารถนาไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานได้ อยู่ในระดับมาก
(((กฌขก))) ค่าเฉลี่ย 4.29 ความพึงพอใจต่อความคุ้มค่าของการฝึกอบรม อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.28 และความพึง พอใจตอ่ ความสอดคลอ้ งของเน้อื หาหลักสูตรกับความต้องการ อยใู่ นระดับมาก คา่ เฉลีย่ 3.95 6. ผลกำรประเมนิ รำยวชิ ำ จำนวน 9 วชิ ำ สรปุ ผลการประเมินรายวชิ าได้ดังนี้ 6.1 วิชาทบทวน/เรียนรู้ การขับเคล่ือนงาน (4 งานหลัก) ในรอบปีท่ีผ่านมา (ผู้ตอบ แบบสอบถาม 216 คน คิดเป็นร้อยละ 96 ของกลมุ่ เป้าหมาย) ประเดน็ เกยี่ วกบั เน้ือหาวชิ า พบว่า ผู้เขา้ รบั การ ฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในภาพรวมต่อประเด็นของเน้ือหาวิชาการ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.33 และเมื่อพิจารณาเรียงลาดับค่าเฉล่ียที่ผู้เข้ารบั การฝกึ อบรมมีระดับความพึงพอใจต่อประเด็นต่าง ๆ ระดับมาก ท่ีสดุ คือ มคี วามพงึ พอใจต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของวชิ ามีค่าเท่ากับความพงึ พอใจต่อความรู้ ทักษะ ทไี่ ด้รับ เพ่ิมเตมิ จากวชิ านี้ มีค่าเฉล่ีย 4.38 รองลงมาตามลาดบั คอื พึงพอใจต่อความสามารถนาไปประยุกต์ใช้ คา่ เฉล่ีย 4.30 และพึงพอใจต่อความชัดเจนของเนื้อหาวิชา มีค่าเฉลี่ย 4.26 และประเด็นเก่ียวกับวิทยากร พบว่า ผู้เข้า รับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการดาเนินงานของวิทยากรในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.42 และเมื่อพิจารณาเรียงลาดับค่าเฉลี่ยที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีระดับความพึงพอใจต่อประเด็นต่าง ๆ ระดับมากที่สุด คือ พึงพอใจต่อบุคลิกภาพ (การแต่งกาย ท่าทาง น้าเสียง ฯลฯ) ค่าเฉล่ีย 4.53 รองลงมา ตามลาดับ คือ พึงพอใจต่อการเปิดโอกาสให้ซักถาม แสดงความคิดเห็น มีค่าเฉลี่ย 4.50 พึงพอใจต่อความรู้ ความสามารถในการถ่ายทอด/บรรยาย ค่าเฉลีย่ 4.44 พงึ พอใจตอ่ การสรา้ งบรรยากาศในการเรยี นรู้ มคี า่ เฉล่ยี 4.35 และพึงพอใจต่อเทคนคิ และวธิ กี ารทใี่ ช้ในการถ่ายทอดความรู้ ค่าเฉลยี่ 4.28 6.2 วิชาการขับเคลอ่ื นยุทธศาสตรก์ รมการพฒั นาชุมชนประจาปี 2563 (ผูต้ อบ แบบสอบถาม 222 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 98.67 ของกลุ่มเป้าหมาย) ประเด็นเก่ียวกบั เน้ือหาวชิ า พบวา่ ผเู้ ขา้ รับการฝกึ อบรมสว่ นใหญม่ ีความพงึ พอใจในภาพรวมต่อประเดน็ ของเน้ือหาวชิ าการ อยใู่ นระดบั มาก ค่าเฉลี่ย 4.41 และเมื่อพจิ ารณาเรียงลาดับค่าเฉล่ียทผ่ี ูเ้ ข้ารับการฝึกอบรมมรี ะดบั ความพงึ พอใจต่อประเดน็ ต่าง ๆ ระดับ มากทส่ี ุด คือ มีความพึงพอใจต่อการบรรลวุ ตั ถุประสงค์ของวชิ า คา่ เฉลย่ี 4.45 รองลงมาตามลาดับ คือพึง พอใจต่อความรู้ ทักษะ ท่ีได้รับเพ่มิ เติมจากวิชานี้ มีคา่ เฉล่ยี 4.44 พึงพอใจต่อความสามารถนาไปประยุกต์ใช้ คา่ เฉลย่ี 4.40 และพงึ พอใจต่อความชัดเจนของเนื้อหาวิชา ค่าเฉลยี่ 4.38 และประเดน็ เก่ียวกับวิทยากร พบวา่ ผเู้ ขา้ รับการฝกึ อบรมสว่ นใหญม่ คี วามพงึ พอใจต่อการดาเนินงานของวิทยากรในภาพรวมอยู่ในระดบั มาก คา่ เฉล่ยี 4.46 และเม่อื พจิ ารณาเรยี งลาดับค่าเฉล่ียทผ่ี เู้ ข้ารับการฝึกอบรมมรี ะดับความพึงพอใจต่อประเดน็ ตา่ ง ๆ ระดบั มากทส่ี ดุ คือ พึงพอใจต่อบุคลิกภาพ (การแต่งกาย ทา่ ทาง น้าเสียง ฯลฯ) ค่าเฉล่ยี 4.55 รองลงมาตามลาดับ คือ พงึ พอใจต่อความรู้ ความสามารถในการถ่ายทอด/บรรยาย มีค่าเฉลย่ี 4.48 พึงพอใจ ตอ่ การเปิดโอกาสให้ซักถาม แสดงความคดิ เหน็ ค่าเฉลีย่ 4.46 พึงพอใจต่อการสรา้ งบรรยากาศในการเรยี นรู้ คา่ เฉลีย่ 4.43 และมคี วามพึงพอใจตอ่ เทคนิคและวิธกี ารท่ีใช้ในการถา่ ยทอดความรู้ มีค่าเฉล่ยี 4.41 6.3 วิชาการประเมินผลวิชาศาสตร์พระราชา (ผู้ตอบแบบสอบถาม 158 คน คิด เป็นร้อยละ 70.22 ของกลุ่มเป้าหมาย) ประเด็นเก่ียวกับเนื้อหาวิชา พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มี ความพึงพอใจในภาพรวมต่อประเด็นของเน้ือหาวิชาการ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ีย 4.44 และเมื่อพิจารณา เรียงลาดับค่าเฉลี่ยท่ีผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีระดับความพึงพอใจต่อประเด็นต่าง ๆ ระดับมากที่สุด คือ มีความ พึงพอใจต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของวิชา มีค่าเฉล่ีย 4.48 รองลงมาตามลาดับ คือพึงพอใจต่อความรู้ ทักษะ ทไ่ี ดร้ บั เพิ่มเติมจากวชิ านี้ มีค่าเทา่ กับความพึงพอใจต่อความสามารถนาไปประยุกต์ใช้ มคี ่าเฉลี่ย 4.44 และพึง พอใจต่อความชัดเจนของเน้ือหาวิชา มีค่าเฉลี่ย 4.39 และประเด็นเก่ียวกับวิทยากร พบว่า ผู้เข้ารับการ ฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการดาเนินงานของวิทยากรในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.48 และเม่ือพิจารณาเรียงลาดับค่าเฉล่ียที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีระดับความพึงพอใจต่อประเด็นต่าง ๆ ระดับมาก ทสี่ ดุ คอื พงึ พอใจต่อความรู้ ความสามารถในการถา่ ยทอด/บรรยาย มีค่าเฉลีย่ 4.53 รองลงมาตามลาดับ คอื
((ญ(กขก))) พงึ พอใจตอ่ การเปดิ โอกาสให้ซักถาม แสดงความคดิ เหน็ มีค่าเฉล่ยี 4.51 พงึ พอใจตอ่ บุคลิกภาพ (การแต่งกาย ท่าทาง น้าเสียง ฯลฯ) มีค่าเฉลี่ย 4.50 พึงพอใจต่อเทคนิคและวิธีการที่ใช้ในการถ่ายทอดความรู้ มีค่าเฉล่ีย 4.44 และพึงพอใจต่อการสรา้ งบรรยากาศในการเรยี นรู้ ค่าเฉลยี่ 4.43 6.4 วิชานโยบายและทิศทางการขับเคลอ่ื นภารกิจกรมการพัฒนาชุมชนปี 2563 (ผู้ตอบแบบสอบถาม 171 คน คิดเป็นร้อยละ 76 ของกลุ่มเป้าหมาย) ประเด็นเกย่ี วกบั เน้อื หาวชิ า พบวา่ ผู้ เข้ารับการฝกึ อบรมส่วนใหญ่มคี วามพึงพอใจในภาพรวมต่อประเด็นของเน้ือหาวชิ าการ อย่ใู นระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.25 และเมอื่ พจิ ารณาเรยี งลาดับค่าเฉล่ียที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีระดบั ความพึงพอใจตอ่ ประเดน็ ตา่ ง ๆ ระดบั มากท่ีสุด คือ มคี วามพึงพอใจต่อความรู้ ทกั ษะ ท่ีไดร้ ับเพมิ่ เติมจากวิชานี้ มคี ่าเฉลี่ย 4.32 รองลงมา ตามลาดบั คือพงึ พอใจต่อความชัดเจนของเนื้อหาวชิ า คา่ เฉลยี่ 4.25 ความพึงพอใจต่อความสามารถนาไป ประยกุ ตใ์ ช้ คา่ เฉลย่ี 4.22 และพึงพอใจต่อการบรรลุวตั ถุประสงค์ของวิชา มีค่าเฉลย่ี 4.19 และประเด็น เกย่ี วกับวิทยากร พบว่า ผเู้ ข้ารบั การฝกึ อบรมส่วนใหญ่มคี วามพงึ พอใจตอ่ การดาเนินงานของวิทยากรในภาพ รวมอยู่ในระดับมาก คา่ เฉลีย่ 4.41 และเม่ือพิจารณาเรียงลาดับค่าเฉลี่ยทีผ่ ู้เข้ารบั การฝึกอบรมมีระดับความ พงึ พอใจต่อประเดน็ ตา่ ง ๆ ระดับมากทีส่ ุด คอื พึงพอใจต่อบุคลกิ ภาพ (การแตง่ กาย ทา่ ทาง นา้ เสยี ง ฯลฯ) ค่าเฉล่ยี 4.50 รองลงมาตามลาดับ คือ พึงพอใจต่อความรู้ ความสามารถในการถา่ ยทอด/บรรยายมีค่าเท่ากบั ความพงึ พอใจต่อการเปดิ โอกาสให้ซกั ถาม แสดงความคิดเหน็ มคี า่ เฉล่ยี 4.46 พงึ พอใจต่อการสร้าง บรรยากาศในการเรียนรู้ มีค่าเฉลย่ี 4.35 และพงึ พอใจต่อเทคนคิ และวิธีการท่ีใช้ในการถ่ายทอดความรู้ มี ค่าเฉลย่ี 4.27 6.5 วิชา E-Commerce (ผู้ตอบแบบสอบถาม 149 คน คิดเป็นร้อยละ 66.22 ของกลุ่มเป้าหมาย) ประเด็นเก่ียวกับเนื้อหาวิชา พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความพึงพอใจใน ภาพรวมตอ่ ประเด็นของเนื้อหาวิชาการ อยู่ในระดบั มาก คา่ เฉล่ยี 4.33 และเมอื่ พจิ ารณาเรียงลาดับค่าเฉลี่ยที่ผู้ เข้ารับการฝึกอบรมมีระดับความพึงพอใจต่อประเด็นต่าง ๆ ระดับมากท่ีสุด คือ มีความพึงพอใจต่อความรู้ ทักษะ ท่ีได้รับเพิ่มเติมจากวิชาน้ี มีค่าเฉล่ีย 4.40 รองลงมาตามลาดับ คือพึงพอใจต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ ของวิชา ค่าเฉลี่ย 4.32 พึงพอใจต่อความชัดเจนของเน้ือหาวิชา มีค่าเฉล่ีย 4.31 และความพึงพอใจต่อ ความสามารถนาไปประยุกต์ใช้ มีค่าเฉลี่ย 4.29 และประเด็นเก่ียวกับวิทยากร พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการดาเนินงานของวิทยากรในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ีย 4.41 และเม่ือ พิจารณาเรียงลาดบั ค่าเฉลี่ยที่ผู้เข้ารบั การฝึกอบรมมีระดบั ความพึงพอใจต่อประเด็นต่าง ๆ ระดับมากที่สุด คือ พงึ พอใจตอ่ บคุ ลิกภาพ (การแต่งกาย ทา่ ทาง นา้ เสียง ฯลฯ) ค่าเฉลยี่ 4.57 รองลงมาตามลาดับ คือ พงึ พอใจต่อ เทคนคิ และวธิ ีการท่ีใช้ในการถา่ ยทอดความรู้ ค่าเฉลีย่ 4.48 พงึ พอใจตอ่ ความรู้ ความสามารถในการถ่ายทอด/ บรรยาย คา่ เฉลีย่ 4.44 มคี วามพึงพอใจต่อการเปิดโอกาสให้ซักถาม แสดงความคดิ เหน็ มคี ่าเฉลย่ี 4.34 และมี ความพึงพอใจตอ่ การสรา้ งบรรยากาศในการเรียนรู้ มีค่าเฉลย่ี 4.21 6.6 วชิ า OTOP Trader (ผตู้ อบแบบสอบถาม 176 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 78.22 ของ กลมุ่ เป้าหมาย) ประเดน็ เก่ียวกับเน้ือหาวชิ า พบวา่ ผเู้ ข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มคี วามพึงพอใจในภาพรวม ตอ่ ประเด็นของเน้ือหาวิชาการ อยู่ในระดับมาก คา่ เฉลี่ย 4.27 และเมื่อพจิ ารณาเรียงลาดบั ค่าเฉลี่ยท่ีผู้เข้ารับ การฝกึ อบรมมรี ะดับความพึงพอใจต่อประเด็นตา่ ง ๆ ระดับมากที่สุด คือ มคี วามพึงพอใจต่อความสามารถนาไป ประยกุ ต์ใช้ มีค่าเฉล่ีย 4.34 รองลงมาตามลาดับ คือพึงพอใจต่อการบรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ของวิชามคี า่ เทา่ กับความ พึงพอใจต่อความรู้ ทักษะ ที่ได้รับเพมิ่ เติมจากวิชาน้ี มีค่าเฉลีย่ 4.27 และพงึ พอใจตอ่ ความชดั เจนของ เนอื้ หาวชิ า มีคา่ เฉล่ีย 4.20 และประเดน็ เก่ียวกบั วิทยากร พบวา่ ผู้เขา้ รบั การฝกึ อบรมส่วนใหญม่ คี วามพึงพอใจ ตอ่ การดาเนนิ งานของวิทยากรในภาพรวมอยูใ่ นระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.24 และเม่อื พิจารณาเรยี งลาดบั ค่าเฉลย่ี ที่ผูเ้ ข้ารับการฝึกอบรมมีระดับความพึงพอใจต่อประเด็นต่าง ๆ ระดบั มากท่สี ุด คือ พึงพอใจต่อบุคลิกภาพ
(((กฎขก))) (การแตง่ กาย ท่าทาง นา้ เสยี ง ฯลฯ) คา่ เฉล่ยี 4.33 รองลงมาตามลาดบั คือ พึงพอใจต่อการเปดิ โอกาสให้ซักถาม แสดงความคดิ เห็น คา่ เฉลย่ี 4.28 พึงพอใจต่อความรู้ ความสามารถในการถ่ายทอด/บรรยาย ค่าเฉลย่ี 4.24 พึงพอใจต่อเทคนิคและวิธีการที่ใชใ้ นการถ่ายทอดความรู้ มีค่าเฉลย่ี 4.18 และพงึ พอใจต่อการสรา้ งบรรยากาศ ในการเรยี นรู้ คา่ เฉลย่ี 4.16 6.7 วิชา ถอดบทเรียนการเรียนรู้ ศาสตร์พระราชา นโยบายและทิศทางการ ขับเคล่ือนภารกิจกรมการพัฒนาชมุ ชน ปี 2563 และ E-Commerce (ผู้ตอบแบบสอบถาม 144 คน คิดเป็น ร้อยละ 64 ของกลุ่มเป้าหมาย) ประเด็นเกี่ยวกับเน้ือหาวิชา พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความ พงึ พอใจในภาพรวมต่อประเด็นของเน้ือหาวชิ าการ อยู่ในระดบั มาก คา่ เฉลย่ี 4.07 และเมอื่ พิจารณาเรียงลาดับ ค่าเฉลี่ยท่ีผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีระดับความพึงพอใจต่อประเด็นต่าง ๆ ระดับมากท่ีสุด คือ มีความพึงพอใจ ต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของวิชา มีค่าเฉล่ีย 4.23 รองลงมาตามลาดับ คือความชัดเจนของเน้ือหาวิชา ค่าเฉล่ีย 4.10 พึงพอใจต่อความรู้ ทักษะ ที่ได้รับเพ่ิมเติมจากวิชานี้ มีค่าเฉล่ีย 3.99 และมีความพึงพอใจ ต่อความสามารถนาไปประยุกต์ใช้ มีค่าเฉล่ีย 3.96 และประเด็นเก่ียวกับวิทยากร พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการดาเนินงานของวิทยากรในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ีย 4.07 และเม่ือ พิจารณาเรียงลาดับค่าเฉลี่ยที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีระดับความพึงพอใจต่อประเด็นต่าง ๆ ระดับมากที่สุด คือ พึงพอใจต่อการเปิดโอกาสให้ซักถาม แสดงความคดิ เห็น มีค่าเทา่ กับความพึงพอใจต่อบุคลิกภาพ (การแต่ง กาย ท่าทาง น้าเสียง ฯลฯ) ค่าเฉลี่ย 4.24 รองลงมาตามลาดับ คือ พึงพอใจต่อการสร้างบรรยากาศในการ เรียนรู้ ค่าเฉล่ีย 4.12 พึงพอใจต่อความรู้ ความสามารถในการถ่ายทอด/บรรยาย ค่าเฉล่ยี 3.96 และพงึ พอใจ ตอ่ เทคนคิ และวธิ กี ารท่ใี ชใ้ นการถ่ายทอดความรู้ คา่ เฉล่ีย 3.79 6.8 วิชา จัดทาแผนปฏิบัตกิ าร ออกแบบงาน 4 งานหลักมุ่งสอู่ นาคต ออกแบบงาน OTOP ไทยสสู่ ากล (ผู้ตอบแบบสอบถาม 168 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 74.67 ของกลุ่มเป้าหมาย) ประเดน็ เก่ยี วกบั เนือ้ หาวชิ า พบวา่ ผูเ้ ขา้ รับการฝกึ อบรมส่วนใหญม่ ีความพงึ พอใจในภาพรวมต่อประเดน็ ของเนื้อหาวชิ าการ อยูใ่ นระดับมาก ค่าเฉลยี่ 4.23 และเม่ือพิจารณาเรยี งลาดับคา่ เฉล่ยี ทผี่ ู้เขา้ รับการฝึกอบรมมีระดบั ความพงึ พอใจต่อประเดน็ ต่าง ๆ ระดับมากทสี่ ุด คอื มีความพงึ พอใจต่อความสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้ มคี ่าเฉลีย่ 4.48 รองลงมาตามลาดบั คือพึงพอใจต่อความรู้ ทักษะ ทไ่ี ดร้ ับเพิ่มเติมจากวิชาน้ี มีค่าเฉลี่ย 4.26 ความพึงพอใจ ตอ่ ความชดั เจนของเนื้อหาวชิ า ค่าเฉลยี่ 4.14 และพึงพอใจตอ่ การบรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ของวชิ า มคี ่าเฉลี่ย 4.05 และประเด็นเกยี่ วกบั วทิ ยากร พบวา่ ผเู้ ขา้ รบั การฝึกอบรมสว่ นใหญ่มีความพึงพอใจต่อการดาเนนิ งานของ วทิ ยากรในภาพรวมอยใู่ นระดับมาก ค่าเฉลีย่ 4.35 และเมื่อพิจารณาเรยี งลาดบั คา่ เฉลย่ี ทผ่ี เู้ ขา้ รบั การฝึกอบรม มีระดับความพงึ พอใจต่อประเดน็ ต่าง ๆ ระดับมากที่สุด คือ พึงพอใจต่อการเปดิ โอกาสให้ซกั ถาม แสดงความ คิดเห็นมคี า่ เท่ากับความพึงพอใจต่อบคุ ลกิ ภาพ (การแต่งกาย ท่าทาง นา้ เสียง ฯลฯ) ค่าเฉล่ยี 4.54 รองลงมา ตามลาดับ คือ พึงพอใจต่อความรู้ ความสามารถในการถา่ ยทอด/บรรยาย คา่ เฉล่ีย 4.38 พึงพอใจต่อเทคนิค และวธิ ีการทใ่ี ช้ในการถ่ายทอดความรู้ มีคา่ เฉล่ยี 4.34 และพงึ พอใจต่อการสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ ค่าเฉล่ยี 3.95 6.9 วิชา การต้ังเป้าหมายองค์กร (OKRs) (ผู้ตอบแบบสอบถาม 177 คน คิดเป็น ร้อยละ 78.67 ของกลุ่มเป้าหมาย) ประเด็นเกี่ยวกับเน้ือหาวิชา พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความ พึงพอใจในภาพรวมต่อประเด็นของเน้ือหาวิชาการ อยใู่ นระดับมาก ค่าเฉลยี่ 4.45 และเมอ่ื พจิ ารณาเรียงลาดับ ค่าเฉลี่ยที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีระดับความพึงพอใจต่อประเด็นต่าง ๆ ระดับมากที่สุด คือ มีความพึงพอใจ ต่อความชัดเจนของเน้ือหาวิชา มีค่าเฉล่ีย 4.56 รองลงมาตามลาดับ คือพึงพอใจต่อความพึงพอใจต่อความรู้ ทักษะ ท่ีได้รับเพ่ิมเติมจากวิชาน้ี ค่าเฉล่ีย 4.53พึงพอใจต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของวชิ า ค่าเฉล่ีย 4.38 และ พึงพอใจต่อความสามารถนาไปประยุกต์ใช้ มีค่าเฉล่ีย 4.31 และประเด็นเก่ียวกับวทิ ยากร พบว่า ผู้เข้ารับการ
(((กฏขก))) ฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการดาเนินงานของวิทยากรในภาพรวมอยู่ในระดับมากท่ีสุด ค่าเฉล่ีย 4.51 และเมื่อพิจารณาเรียงลาดับค่าเฉลี่ยที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีระดับความพึงพอใจต่อประเด็นต่าง ๆ ระดับมากที่สุด คือ พึงพอใจต่อบุคลิกภาพ (การแต่งกาย ท่าทาง น้าเสียง ฯลฯ)ค่าเฉล่ีย 4.68 รองลงมา ตามลาดับ คือ พึงพอใจต่อเทคนิคและวิธีการท่ีใช้ในการถ่ายทอดความรู้ ค่าเฉลี่ย 4.63 พึงพอใจต่อความรู้ ความสามารถในการถ่ายทอด/บรรยาย ค่าเฉล่ีย 4.57 พึงพอใจต่อการเปิดโอกาสให้ซักถาม แสดงความ คิดเห็น คา่ เฉลย่ี 4.36 และพึงพอใจต่อการสรา้ งบรรยากาศในการเรียนรู้ คา่ เฉลย่ี 4.28 7. ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบำย 7.1 การพัฒนาหลักสูตร ควรจัดทาหลักสูตรให้ตรงกับความต้องการของ กลุม่ เป้าหมาย และให้ตรงตามวตั ถุประสงค์ของโครงการ 7.2 ควรเพิม่ ยทุ ธศาสตร์ การสรา้ งแรงใจในการทางานพัฒนาชุมชน 7.3 ควรมีกิจกรรมสาธิต/ศึกษาดงู านในแหล่งเรียนรู้ เชน่ ตาบลเข้มแขง็ ตน้ แบบ 7.4 ควรมกี ารพฒั นาศกั ยภาพพฒั นากรอยา่ งต่อเนอ่ื งทกุ ปี
1 สว่ นที่ 1 บทนำ ควำมสำคัญ กรมการพัฒนาชุมชน มีภารกิจในการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจและพัฒนาเศรษฐกิจ ชมุ ชนฐานรากให้มคี วามม่ันคง โดยส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้การพฒั นาอาชีพ การพฒั นาผลิตภัณฑท์ เ่ี กิดจาก ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน เช่ือมโยงไปสู่ การดาเนินงานโครงการหน่ึงตาบล หน่ึงผลิตภณั ฑ์ (OTOP) ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2544 จนถึงปัจจุบัน โดยมีเป้าหมาย ตอบสนองต่อโครงการหนึ่งตาบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) นโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ รวมทั้งยุทธศาสตร์ การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสู่การเติมโตอย่างย่ังยืนและมีคุณภาพ ซ่ึงมีการกาหนดกลยุทธ์ในการพัฒนาผผู้ ลติ ผู้ประกอบการ OTOP และการลาด โดยการเพิ่มประสิทธิภาพผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ให้มีรายได้ จากการจาหนา่ ยผลติ ภัณฑ์ พัฒนากร เป็นกลไกหลักท่ีสาคัญของกรมการพัฒนาชุมชนท่ีทางานใกล้ชิดกับผู้นา กลุ่ม/ องคก์ ร และเครอื ขา่ ยการพฒั นาชมุ ชนในระดับพ้ืนที่ โดยมหี นา้ ทีใ่ นการสง่ เสรมิ เศรษฐกจิ ฐานรากใหม้ น่ั คง และ ชุมชนมีความเข้มแข็งได้อย่างยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ การฝึกอบรมพัฒนากรให้มีความรู้ ความเข้าใจเนื้องาน ของกรมการพัฒนาชุมชนอย่างลึกซึ้ง และได้รับการพัฒนาสมรรถนะให้สามารถปฏิบัติงานภายใต้สถานการณ์ ความเปล่ียนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะส่งผลให้การผลักดันนโยบาย/เป้าหมาย/ยุทธศาสตร์ขององค์ กร ไปส่กู ารปฏบิ ตั ิจนเกิดความสาเรจ็ อยา่ งสมั ฤทธผิ์ ล ดังนั้น เพ่ือให้พัฒนากรได้รับการพัฒนา เพิ่มทักษะและสมรถนะข้าราชการของกรมการ พัฒนาชุมชน สถาบันการพัฒนาชุมชน จึงได้กาหนดให้มีโครงการฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจาการ หลักสูตร พัฒนากรนา OTOP ไทยสู่สากล เพื่อให้พัฒนากรมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถกาหนดกลยุทธ์ิ ในการพัฒนาผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และการตลาด โดยการเพิ่มประสิทธิภาพผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ให้มีรายได้จากการจาหน่ายผลิตภัณฑ์ และมีสมรรถนะท่ีเหมาะสมในการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง ภายใต้สถานการณค์ วามเปลีย่ นแปลง วัตถปุ ระสงค์ 1. เพอื่ แลกเปล่ียนเรยี นรู้ / ประสบการณ์การทางานในรอบปที ผี่ ่านมา และทราบทิศทางการ ทางานในปี 2563 2. เพือ่ ออกแบบ Model ในการส่งเสริมสนับสนุน OTOP ไทยสสู่ ากล กล่มุ เปำ้ หมำย พัฒนากรระหว่างประจาการ จานวน 225 คน จาก 7 จังหวัด ในเขตพื้นที่ให้บริการของ ศูนย์ศกึ ษาและพฒั นาชมุ ชนอบุ ลราชธานี แยกดาเนินการ 3 รุ่น ๆ ละ 75 คน ดาเนนิ การร่นุ ละ 3 วัน ขน้ั ตอนและวธิ ดี ำเนินงำน 1. รับมอบหลกั สูตรจากสถาบันการพฒั นาชมุ ชน 2. ประชุมเจ้าหน้าที่ของศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี เพื่อเตรียมความพร้อม ในการฝึกอบรม
2 3. เสนอประมาณการคา่ ใชจ้ า่ ยโครงการเพื่อขออนุมัตใิ ช้งบประมาณ 4. จดั ทาคาสัง่ แตง่ ตง้ั คณะทางาน 5. ประสานจงั หวัดกลุ่มเปา้ หมาย 6. ประสานวิทยากร 7. จัดเตรียมสถานที่พัก/ห้องฝกึ อบรม/วัสดุอปุ กรณ/์ โสตทัศนปู กรณ์/เครื่องเสียง 8. ดาเนนิ งานตามโครงการ 9. ประเมนิ ผล/สรปุ ผลการดาเนนิ งาน/รายงานผลต่อกรมการพัฒนาชมุ ชน งบประมำณดำเนนิ กำร งบประมาณดาเนินการ จานวนทั้งสิ้น 698,700 บาท (หกแสนเก้าหมื่นแปดพันเจ็ดร้อย บาทถว้ น) แยกดาเนนิ การ จานวน 3 รุ่น ๆ ละ 232,900 บาท ระยะเวลำดำเนนิ กำร ดาเนินการ จานวน 3 รุ่น ๆ ละ 3 วัน รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 9 – 11 ธันวาคม 2562 รุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 16 – 18 ธันวาคม 2562 และรุ่นที่ 3 ระหว่างวันที่ 23 – 25 ธันวาคม 2562 ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี ขอบเขตเนอ้ื หำหลักสูตร และกิจกรรม วชิ ำหลกั 1. ทบทวน/เรียนรู้การขับเคลือ่ นงาน (4 งานหลัก งานสัมมาชพี ชุมชน,งานขบั เคลื่อนหมู่บา้ น เศรษฐกจิ พอเพียง,งานชุมชนทอ่ งเท่ียว OTOP นวตั วถิ ี และงานทนุ ธรรมาภิบาล) ในรอบปที ีผ่ ่านมา (เหลียว หลังเรยี นรูจ้ ากประสบการณ์) 2. เรยี นรู้จากส่อื VDO กรณีศึกษา “รายการเปดิ ปม ตอนตลาดวาย นวตั วิถี และปัญหากลมุ่ ออมทรัพย์เพ่ือการผลติ ) 3. การขับเคลือ่ นยุทธศาสตร์กรมการพฒั นาชมุ ชน ปี 2563 (แลหน้า) โดยการชมคลปิ การให้ สมั ภาษณอ์ ธบิ ดีกรมการพัฒนาชมุ ชน สปู่ ีที่ 58 และคลปิ อบต.โก่งธนู ชมุ ชนไรข้ ยะ) 4. เปดิ มมุ มองศาสตร์พระราชา 5. นโยบายและทศิ ทางการขับเคลอื่ นภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน ปี 2563 6. เปดิ มมุ มอง E-Commerce 7. OTOP Trader 8. ถอดบทเรยี นการเรยี นรูเ้ รื่อง ศาสตร์พระราชา,นโยบายและทิศทางการขบั เคล่อื นภารกจิ กรมการพฒั นาชมุ ชน ปี 2563 และ E-Commerce 9. จัดทาแผนปฏบิ ัติการออกแบบงาน 4 งานหลกั มุ่งสู่อนาคต และออกแบบการ ขบั เคลอื่ น OTOP กับธรุ กิจในยคุ ดจิ ติ อล 10. การตงั้ เปา้ หมายองคก์ ร (OKRs)
3 กจิ กรรมเสรมิ 1. ปรับฐานการเรียนรูด้ ้วยการละลายพฤติกรรม 2. กจิ กรรมสขุ ภาพดี ชวี มี สี ขุ 3. ทบทวนบทเรยี น ผลท่คี ำดว่ำจะไดร้ ับ พฒั นากรเกดิ การแลกเปลย่ี นเรยี นรูป้ ระสบการณ์การทางานในรอบปที ี่ผา่ นมาและทราบทศิ ทางการทางานในปี 2563 และสามารถออกแบบ Model ในการสง่ เสริมสนับสนนุ OTOP ไทยสสู่ ากล ตัวชีว้ ัดผลผลิต ร้อยละ 90 ของผ้ทู ่ผี า่ นการฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจในเน้อื หาตามหลักสูตรไมต่ ่ากว่า ระดับมาก ตวั ชว้ี ดั ผลลัพธ์ รอ้ ยละ 100 ของผูท้ ่ีผ่านการฝกึ อบรมมีรปู แบบ Model ในการสง่ เสรมิ สนับสนุน OTOP ไทยสูส่ ากล
4 สว่ นที่ 2 สรปุ เนอ้ื หาวชิ าการ กรมการพัฒนาชุมชน มอบหมายให้ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี เป็นหน่วย ดาเนินงานโครงการฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจาการ หลักสูตร พัฒนากรนา OTOP สู่สากลประจาปี งบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลย่ี นเรียนรู้/ประสบการณ์การทางานในรอบปีท่ีผ่านมา และทราบทิศทางการทางานในปี 2563 ตลอดจนเพ่ือออกแบบ Model ในการส่งเสริมสนับสนุน OTOP ไทยสู่สากล กลุ่มเป้าหมายคือพัฒนากรระหว่างประจาการ จาก 7 จังหวัดในพื้นที่ให้บริการของศูนย์ศึกษา และพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี จานวน 225 คน แยกเป็น 3 รุ่น ๆ ละ 3 วัน โดยดาเนินการรุ่นท่ี 1 ระหว่างวันท่ี 9 – 11 ธันวาคม 2562 รุ่นที่ 2 ระหวา่ งวนั ที่ 16 – 18 ธนั วาคม 2562 และรุ่นท่ี 3 ระหว่างวนั ท่ี 23 – 25 ธันวาคม 2562 ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี การดาเนินงานตามโครงการดังกล่าว ได้กาหนดประเด็น เนอ้ื หาวิชาหลักตามหลักสตู ร จานวน 10 หวั ขอ้ วิชาหลัก กิจกรรมเสรมิ หลกั สตู ร จานวน 3 กิจกรรม ดังนี้ เน้ือหาวชิ าหลกั จานวน 10 วิชา ดังน้ี 1. ทบทวน/เรยี นรกู้ ารขับเคลือ่ นงาน (4 งานหลัก งานสัมมาชพี ชุมชน, งานขบั เคลือ่ นหมู่บา้ น เศรษฐกจิ พอเพียง, งานชุมชนทอ่ งเที่ยว OTOP นวตั วถิ ี และงานทุนธรรมาภบิ าล) ในรอบปีที่ผา่ นมา (เหลียวหลัง เรยี นรจู้ ากประสบการณ)์ 2. เรียนรู้จากส่ือ VDO กรณีศึกษา “รายการเปิดปม ตอน ตลาดวายนวัตวิถี และปัญหา กล่มุ ออมทรัพยเ์ พอ่ื การผลติ ) 3. การขบั เคลื่อนยุทธศาสตร์กรมการพฒั นาชุมชน ปี 2563 (แลหน้า) โดยการชมคลปิ การให้ สมั ภาษณ์อธิบดีกรมการพฒั นาชุมชน สูป่ ที ่ี 58 และคลิป อบต.โกง่ ธนู ชุมชนไร้ขยะ) 4. เปิดมุมมองศาสตร์พระราชา 5. นโยบายและทิศทางการขับเคลอื่ นภารกจิ กรมการพัฒนาชุมชน ปี 2563 6. เปดิ มมุ มอง E-Commerce 7. OTOP Trader 8. ถอดบทเรียนการเรียนรเู้ ร่ือง ศาสตร์พระราชา, นโยบายและทศิ ทางการขับเคล่อื นภารกิจ กรมการพัฒนาชุมชน ปี 2563 และ E-Commerce 9. จัดทาแผนปฏบิ ัติการออกแบบงาน 4 งานหลักมงุ่ ส่อู นาคต และออกแบบ OTOP ไทยสูส่ ากล 10. การต้งั เป้าหมายองค์กร (OKRs) กิจกรรมเสริม 1. ปรบั ฐานการเรียนรู้ดว้ ยการละลายพฤติกรรม 2. กจิ กรรมสุขภาพดี ชีวีมีสขุ 3. ทบทวนบทเรยี น
5 การเรียนรู้ในแต่ละวิชายึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ด้วยรูปแบบ วิธีการ เทคนิค ท่ีหลากหลายมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ จากประสบการณ์ตรง และการฝึกปฏิบัติจริงโดยใช้ กระบวนการแบบมสี ว่ นร่วมท่สี ามารถนาไปปรับใช้ในการปฏบิ ตั งิ านได้จริง โดยใชก้ ระบวนการฝกึ อบรม ดงั น้ี 1. การบรรยายประกอบส่ือ Power Point 2. ชมวีดีทัศน/์ ภาพประกอบการฝกึ อบรม 3. เวทแี ลกเปลีย่ นเรยี นรู้ 4. การฝกึ ปฏิบัติ สรปุ สาระสาคัญของเนอ้ื หาวชิ าได้ ดงั น้ี วิชา ทบทวน/เรียนรูก้ ารขบั เคล่ือนงาน (4 งานหลัก) ในรอบปที ผี่ ่านมา (เหลียวหลัง) วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝกึ อบรมทบทวนผลการดาเนินงาน 4 งานหลักในรอบปีที่ผ่านมา ได้แก่ งานสัมมาชพี ชมุ ชน งานหม่บู า้ นเศรษฐกจิ พอเพียง งานชมุ ชนทอ่ งเที่ยว OTOP นวตั วถิ ี และงานทนุ ชุมชน 2. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมวิเคราะห์ปัจจัยท่ีส่งผลให้งานประสบผลสาเร็จและสาเหตุ ที่ทาใหง้ านไมส่ าเรจ็ ระยะเวลา 6 ช่ัวโมง ขอบเขตเน้ือหาวชิ า 1. งานหลัก 4 งานของกรมการพัฒนาชุมชน ประจาปี พ.ศ. 2562 (งานสัมมาชีพชุมชน งานหมู่บา้ นเศรษฐกจิ พอเพียง งานชมุ ชนท่องเทย่ี ว OTOP นวตั วิถี และงานทุนชมุ ชน) 2. จาแนกกระบวนงาน ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง 3. วเิ คราะห์ประเด็นจากกระบวนงาน - อะไรคอื ความสาเรจ็ – ทาอยา่ งไรถงึ สาเรจ็ - อะไรท่ยี งั ไมบ่ รรลเุ ปา้ หมายความสาเรจ็ - เพราะอะไร - ปัจจัยที่มผี ลต่อความสาเรจ็ และปจั จยั เสย่ี งคืออะไร - เครอื ข่าย/กลไกการทางานมอี ะไรบา้ ง 4. นาเสนอผลการวิเคราะหก์ ระบวนงาน 4 งานหลกั ในรอบปที ่ีผา่ นมา เทคนคิ /วิธีการ ทีมวิทยากรแนะนาตัวและเกร่ินนาถึงวัตถุประสงค์ของวิชา แล้วเชื่อมโยงสู่การวิเคราะห์ งานพัฒนาชุมชนตามยุทธศาสตร์กรมการพัฒนาชุมชน 4 งานหลัก ภายใต้วิสัยทัศน์และนโยบายผู้บริหาร (การเหลียวหลัง) โดยแบ่งกลุ่มผู้เข้ารับการฝึกอบรมออกเป็น 4 กลุ่ม และแยกรับผิดชอบกลุ่มละ 1 งาน ซ่งึ ผเู้ ขา้ รบั การฝกึ อบรมตอ้ งเขา้ กลุ่มงานที่ตนเองรบั ผดิ ชอบตลอดหลกั สูตรการเรียนรู้ ดงั น้ี กล่มุ ท่ี 1 รับผดิ ชอบงานสัมมาชีพชมุ ชน กลมุ่ ที่ 2 รบั ผิดชอบงานหมู่บา้ นเศรษฐกจิ พอเพยี ง
6 กลุม่ ท่ี 3 รับผิดชอบงานชุมชนทอ่ งเท่ยี ว OTOP นวตั วถิ ี กลุ่มท่ี 4 รับผดิ ชอบงานทุนชมุ ชน ให้แต่ละกลุ่มระดมความคิดวิเคราะห์งานท่ีได้รับมอบหมายตามใบงาน โดยการจาแนกกระบวนงาน (ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง) เสร็จแล้ววิเคราะห์ความสาเร็จคืออะไร ทาอย่างไร อะไรที่ยังไม่สาเร็จ เพราะอะไร ปัจจัยที่มีผลต่อความสาเร็จ และปัจจัยเสี่ยงท่ีจะทาให้งานไม่สาเร็จคืออะไร กลไกการทางาน/เครือข่ายใด ในพื้นท่ีมีสว่ นร่วมบ้าง และมีส่วนร่วมอย่างไร เสรจ็ แลว้ ส่งตัวแทนนาเสนอ ปรากฏผล ดังนี้ รนุ่ ท่ี 1 รนุ่ ที่ 2
7 รนุ่ ที่ 2 รุ่นท่ี 3
8 วิชา เรียนรู้จากส่ือ VDO กรณีศึกษา “รายการเปิดปมตอน ตลาดวายนวัตวิถี และปัญหา กล่มุ ออมทรพั ยเ์ พอ่ื การผลติ ” วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ เรยี นรสู้ ง่ิ ท่เี กิดข้นึ จรงิ ในการดาเนนิ งานในพน้ื ที่ 2. เพอื่ ศกึ ษาสาเหตุและผลกระทบทเ่ี กิดข้นึ กบั งานพนื้ ที่ ผมู้ ีสว่ นเก่ียวขอ้ ง ระยะเวลา 2 ชั่วโมง ขอบเขตเนือ้ หาวชิ า 1. คลิป VDO กรณีศกึ ษารายการเปิดปม ตอน ตลาดวายนวตั วถิ ี 2. คลิป VDO รายการคนเฝา้ ข่าว ความคบื หนา้ คดเี งนิ ออมทรัพย์บา้ นคขู าด เทคนิค/วธิ กี าร วิทยากรเปิดคลิป VDO กรณีศึกษา “รายการเปิดปม ตอน ตลาดวายนวัตวิถี ให้ผู้เข้ารับ การฝึกอบรมชมและต่อด้วยคลิป VDO รายการ คนเฝ้าข่าว ความคืบหน้าคดีเงินออมทรัพย์บ้านคูขาด เสร็จแล้ววิทยากรมอบใบงาน ให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมถอดบทเรียนจากการชมคลิป VDO ในประเด็นจากการ ชมคลิป VDO ไดข้ ้อคดิ มุมมองอะไรบ้าง และให้แสดงความคิดเหน็ วา่ เราจะทาอยา่ งไร/ควรทาอย่างไรต่อไป จากนน้ั ให้แตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนนาเสนอกลุ่มละไมเ่ กิน 5 นาที ดังตัวอยา่ งทปี่ รากฏ คลิปตลาดวายนวตั วิถี 1. ได้ข้อคดิ /มุมมองอะไรบ้าง 1.1 เป้าหมายโครงการไม่ชดั เจน ทาใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีและชุมชน ไมช่ ดั เจนในการดาเนนิ โครงการ 1.2 การคัดเลอื กพนื้ ทไ่ี ม่เหมาะสมกบั โครงการ เชน่ บางพ้นื ทไ่ี ม่มคี วามพรอ้ มและไม่เปดิ รับ การพฒั นา ชมุ ชนขาดเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเทยี่ ว ไม่ตอบโจทยใ์ นเชงิ พื้นทเี่ พราะไม่มีความพรอ้ มด้านทรัพยากร ชมุ ชนไม่มีทนุ เดิม ผนู้ าไมเ่ ขม้ แข็ง ทาให้เกิดความล้มเหลวในการดาเนินโครงการ 1.3 ระยะเวลาในการดาเนนิ งานสน้ั เกนิ ไป ต้องรบี เร่งดาเนินการ เร่งเบิกจ่าย ทาใหข้ าดความ รอบคอบ และควรมีระยะเวลาดาเนนิ การมากกวา่ นี้ 1.4 ข้อจากัด/เง่อื นไข ของงบประมาณ ชุมชนต้องการงบลงทนุ เพ่ือการดาเนินงานจะได้ คงทนถาวร สว่ นงบดาเนนิ งานการจัดซอื้ วสั ดุไม่ตรงตามความต้องการของชมุ ชน 1.5 ขัน้ ตอนการทางานหลายภาคสว่ น จังหวัด อาเภอ ออแกไนเซอร์ ขาดการประสานงาน ซง่ึ กนั และกนั ตา่ งคนต่างทา ทาใหก้ ารปฏบิ ัติงานเกดิ ปัญหาไม่ต่อเนอ่ื ง 1.6 การนาเสนอข่าวบางเร่อื งไมศ่ ึกษาขอ้ มลู จริง 1.7 ผลิตภัณฑ์ไดร้ ับการพฒั นา/สร้างรายได้
9 2. อยากไดค้ วามคดิ เหน็ วา่ “เราจะทาอยา่ งไร/ควรทาอย่างไรตอ่ ไป” 1.1 การดาเนนิ ตามโครงการฯ ควรศึกษาข้อมลู และวเิ คราะหช์ ุมชน “ระเบดิ จากขา้ งใน” 1.2 การคดั เลอื กหมบู่ ้านเป้าหมาย ควรดคู วามพร้อม และต้นทุนทางธรรมชาติดา้ นการ ท่องเท่ียว พฒั นาชุมชนไปต่อยอดสงิ่ ท่ีมีอย่แู ลว้ ให้เข้มแข็ง สร้างและพฒั นาการท่องเทย่ี ว 1.3 ควรใช้เวทปี ระชาคม สร้างกระบวนการมีสว่ นรว่ มจากชุมชนทกุ ขนั้ ตอน 1.4 การเตรียมความพร้อม สรา้ งความรู้ ความเข้าใจ กับประชาชนในการกาหนดกรอบและ รปู แบบของโครงการกอ่ นดาเนนิ งาน 1.5 สร้างการรบั รู้ ขัน้ ตอน วิธีการ หลักการ กฎหมาย ระเบยี บทเ่ี กยี่ วข้อง 1.6 สง่ เสรมิ ใหช้ ุมชนเกิดความอยากทา และมีความรู้สึกเป็นเจา้ ของรว่ มกัน 1.7 กระตุน้ ประชาชนให้เห็นความสาคญั รายไดจ้ ากการขายสินคา้ ชมุ ชน และอบรมช่องทาง การจาหนา่ ยสนิ คา้ ท้ัง On line/Off line 1.8 ควรพลกิ วกิ ฤตใิ ห้เปน็ โอกาศใชส้ ่ิงที่ไดร้ บั ใหค้ ุ้มค่าและดูแลรกั ษาให้ดี 1.9 ควรมีการประชาสมั พันธ์ชมุ ชนท่องเที่ยว OTOP นวตั วิถี อย่างสม่าเสมอผ่านชอ่ งทาง สอ่ื ตา่ ง ๆ 1.10 ติดตาม สนับสนนุ พัฒนาต่อยอดอยา่ งต่อเน่ือง คลปิ ปัญหากลุ่มออมทรัพย์คูขาด 1. ไดข้ ้อคดิ /มุมมองอะไรบ้าง 1.1 มกี ารออมเงนิ ของคนในชุมชน 1.2 การบรหิ ารของกรรมการขาดหลักคุณธรรม 5 ประการ 1.3 คณะกรรมการไม่ปฏิบตั ติ ามบทบาทหนา้ ท่ีของตนเอง 1.4 คณะกรรมการ/สมาชิก ไมม่ กี ารตรวจสอบกนั เองเปน็ ระยะเวลานาน ทาให้เกิดการ บริหารจดั การไมโ่ ปร่งใส 1.5 คณะกรรมการไม่มีการประชุม ชีแ้ จงผลการดาเนนิ งานใหส้ มาชิกทราบ ทาให้เกิดช่องวา่ ง ในการทจุ ริต 1.6 ไมม่ ีการจัดทาทะเบยี นคุมเอกสารต่าง ๆ ไม่มีระเบยี บ กฎหมายรองรับ 1.7 เจา้ หน้าทขี่ าดการติดตาม/ตรวจสอบ อยา่ งสมา่ เสมอ 2. อยากได้ความคิดเหน็ วา่ “เราจะทาอยา่ งไร/ควรทาอยา่ งไรตอ่ ไป” 2.1 สง่ เสริมระบบบรหิ ารจัดการตามหลักคุณธรรม 5 ประการ 2.2 ส่งเสรมิ กระบวนการมีสว่ นรว่ มในชุมชน 2.3 ควรมกี ารประชมุ ชแ้ี จงผลการดาเนนิ งานให้สมาชิกทราบอย่างน้อยปีละ 2 ครงั้ 2.4 ควรมีการวางแผนติดตามผลการดาเนนิ งานของกลมุ่ ออมทรพั ยฯ์ อยา่ งสมา่ เสมอ 2.5 ควรมกี ารวางแผนประกนั ความเส่ียง
10 2.6 สง่ เสริมใหเ้ ป็นสถาบนั การเงินชุมชน 2.7 ควรมีผูต้ รวจสอบจากภายนอก และมีระเบยี บ กฎหมายรองรบั 2.8 จัดทาทะเบียนคมุ เอกสารต่าง ๆ ให้เปน็ ปจั จุบัน และมีการตรวจสอบบญั ชงี บดลุ ประจาปี 2.9 ไม่ควรเพิ่มยอดจานวนกลุ่ม แตใ่ หร้ ักษากล่มุ เดมิ ให้มีคุณภาพ 2.10 มีกจิ กรรมส่งเสริมอ่ืน เพ่อื เพมิ่ ความอยากจัดตง้ั มากกวา่ SSG อย่างเดยี ว เช่น กลุม่ ทาดี มที นุ หนุนอาชีพ เป็นต้น 2.11 เจ้าหน้าทล่ี งพ้ืนทใ่ี หค้ าแนะนา/ตดิ ตามอย่างตอ่ เน่ือง ผลจากการเรยี นรู้ พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมให้ความสนใจเป็นอย่างดีในการร่วมกิจกรรมการแลกเปล่ียน เรียนรู้จากประสบการณ์จริง สังเกตจากการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ได้อยา่ งชดั เจน
11 วชิ า การขับเคล่ือนยทุ ธศาสตร์กรมการพฒั นาชุมชน ปี 2563 (แลหน้า) วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเรียนรู้ความคาดหวังของผู้บริหาร และพ้ืนที่ท่ีประสบ ผลสาเร็จ 2. เพ่ือให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้ศึกษาและเตรียมความพร้อมการขับเคลื่อนภารกิจ กรมการพฒั นาชุมชน ระยะเวลา 3 ช่วั โมง ขอบเขตเนอ้ื หาวชิ า 1. คลิป VDO กรณีศึกษารายการ MMM Magazine on air การสัมภาษณ์ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ประเด็น “ภารกิจสาคัญในโอกาสก้าวสู่ 58 ปี กรมการพัฒนาชุมชน” และ “SMART ENERGY ตอน อบต.โกง่ ธนู ชุมชนไรข้ ยะ” 2. การถอดบทเรยี นจากการชมคลิป VDO ท้ัง 2 คลปิ “ไดอ้ ะไรจากคลิปการให้สัมภาษณ์ ของอธิบดีกรมการพฒั นาชมุ ชน สู่ปีท่ี 58 และถอด Model ชมุ ชนไรข้ ยะของ อบต.โกง่ ธนู เทคนคิ /วธิ ีการ วิทยากรเปิด คลิป VDO กรณีศึกษารายการ MMM Magazine on air การสัมภาษณ์ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ประเด็น “ภารกิจสาคัญในโอกาสก้าวสู่ 58 ปี กรมการ พัฒนาชุมชน” และต่อด้วยคลิป VDO “SMART ENERGY ตอน อบต.โก่งธนู ชุมชนไร้ขยะ” จากน้ัน เพื่อเป็นการ “แลหน้า” การขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์กรมการพัฒนาชุมชน ใน ปี 2563 วิทยากรจึงให้แต่ละกลุ่ม ถอดบทเรยี นท่ีไดจ้ ากการชมคลปิ VDO (ตามใบงาน) “ได้อะไรจากการคลิปการให้สัมภาษณข์ องอธิบดีกรมการ พัฒนาชุมชนสู่ปีท่ี 58 และถอด Model ชุมชนไร้ขยะของ อบต.โก่งธนู เสร็จแล้วให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทน นาเสนอผลต่อเวทใี หญ่ ปรากฏผล ดงั นี้ 1. ได้อะไรจากคลปิ การให้สัมภาษณ์ อพช. ส่ปู ีท่ี 58 1) การบรหิ ารจดั การชีวติ โดยการดาเนนิ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2) การนาข้อมลู จปฐ. มาใชป้ ระโยชน์ 3) นาทฤษฎีศาสตร์พระราชามาสู่การพฒั นาอย่างยั่งยนื สูต่ าบลมนั่ คง มง่ั ค่งั ยง่ั ยนื เกิดกระบวนการ เรยี นรูแ้ ละสร้างเครือข่ายการทางาน สรา้ งงาน สรา้ งรายได้ แก่ชมุ ชน 4) การขับเคลอ่ื นงานพัฒนาชุมชนในปี 2563 5) สรา้ งศูนยศ์ ึกษาและพฒั นาชุมชน ทัง้ 11 ศูนย์ เป็นศนู ย์เรียนรู้ 6) เปา้ หมายประชาชนมีความสุข
2. ถอด Model ชมุ ชนไร้ขยะของ อบต. โกง่ ธนู 12 Input กระบวนการ Output - ชุมชนลดขยะ/ปลอดขยะ - ปัญหาขยะเปยี ก - การบรหิ ารจัดการขยะ - การสรา้ งรายได้จาก การคดั แยกขยะ - ขยะ Recycle - ธนาคารขยะ - ความย่งั ยืนจากสวัสดกิ าร - พัฒนาคนในชุมชน - ปัญหาโลกรอ้ น - นาขยะเปียกทาปุย๋ ชวี ภาพ - ศนู ยเ์ รียนรใู้ ห้กบั ชุมชน - การตระหนกั เกยี่ วกับปัญหาขยะ - บรู ณาการจากองค์กรในชมุ ชน - นโยบายของ อบต. - นอ้ มนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผลจากการเรยี นรู้ พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจ และให้ความสนใจเป็นอย่างดีในการร่วม กิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สังเกตจากการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น การแลกเปล่ียนเรียนรู้ ได้อยา่ งชัดเจน
13 วิชา ศาสตรพ์ ระราชา วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจหลักการทรงงาน และพระราชดารัส “เข้าใจ เข้าถงึ และพัฒนา” ของในหลวงรัชกาลที่ 9 2. เพอื่ เป็นแนวทาง ตน้ แบบ ในการทางานของขา้ ราชการ ระยะเวลา 2 ชว่ั โมง ขอบเขตเนื้อหาวิชา 1. หลักการทรงงาน 2. “กษัตรยิ น์ ักพฒั นา” ต้นแบบของนักพฒั นาชุมชน 3. ถอดรหัส เขา้ ใจ เข้าถึง พัฒนา 4. เรยี นรจู้ ากกรณตี วั อย่าง “โคก หนอง นา โมเดล” เทคนิค/วธิ ีการ วิทยากรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากเครือข่ายมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติศรีโสธรพัฒนา แนะนาตัว และบอกเล่าประสบการณ์ในการน้อมนาศาสตร์พระราขามาสู่การปฏิบัติ โดยเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ตนเอง และทุนท่ีมี แล้วจึงมาศึกษาทาความเข้าใจหลักการทรงงาน และพระราชดารัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 อย่างจริงจัง มีการไปศึกษาดูงานสถานท่ีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการพระราชดาริหรือของหน่วยงานเอกชน แล้วนาองค์ความรู้ที่ได้รับมาปฏิบัติ โดยการนาไปปรับใช้ในพ้ืนที่ของตนเองมีการลองผิดลองถูก ใช้เวลา ประมาณ 5 ปี จึงเห็นผลเป็นรูปธรรมบางอย่างประสบความสาเร็จเหมาะสมกับสภาพพื้นท่ี บางอย่าง ประสบปัญหา ต้องปรับปรุง ก่อให้เกิดการศึกษาเรียนรู้ตลอดเวลา ในห้วงระยะเวลาดังกล่าวได้มีโอกาสไป เรียนรู้ท่ีมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติมาบเอ้ือง และได้นากรณีตัวอย่าง “โคก หนอง นา โมเดล” ซ่ึงเป็นการ นาแนวคิดทฤษฎีใหม่มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพพ้ืนที่ มาใช้เป็นรูปแบบในการดาเนินงาน ปัจจุบัน พร้อมให้บริการแก่ผู้ท่ีสนใจที่จะเรียนรู้ในการน้อมนาศาสตร์พระราชาไปสู่การปฏิบัติในนามของศูนย์กสิกรร ม ธรรมชาตศิ รีโสธรพัฒนา ผลจากการเรียนรู้ พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจ ในการน้อมนาศาสตร์พระราชาไปสู่ การปฏบิ ัติให้เปน็ รปู ธรรม จากการแปลงแนวคดิ ทฤษฎีใหมส่ ู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ตลอดจนการมีสว่ นร่วม ในการเรียนรู้เปน็ อยา่ งดี สงั เกตจากการใหค้ วามสนใจในการซกั -ถาม การแลกเปลยี่ นเรยี นรไู้ ด้อย่างชดั เจน
14 วชิ า นโยบายและทิศทางการขับเคล่อื นภารกิจกรมการพัฒนาชมุ ชน ปี 2563 วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือให้ผ้เู ขา้ รับการฝึกอบรมไดเ้ รยี นรูค้ วามคาดหวงั ของผูบ้ ริหาร 2. เพอ่ื ศกึ ษาและเตรียมความพร้อมการขบั เคล่อื นภารกจิ กรมการพัฒนาชุมชน 3. เพ่ือให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้รับแนวคิด/เทคนิค/มุมมอง/Idea สามารถนาไปใช้ในการ ออกแบบงานได้ ระยะเวลา 2 ชัว่ โมง ขอบเขตเนื้อหาวชิ า 1. การขับเคลือ่ นภารกจิ กรมการพัฒนาชมุ ชน ปี 2563 2. นโยบายสาคัญ และความคาดหวังของผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ในการขับเคล่ือน ตาบลเข้มแขง็ มนั่ คง มั่งคง่ั ย่งั ยนื เทคนิค/วธิ ีการ วิทยากรกล่าวทักทายผู้เข้ารับการฝึกอบรม และเกร่ินนาถึงวัตถุประสงค์ของหัวข้อวิชา แล้วเชอื่ มโยงสู่ประเด็นเน้ือหาการเรียนรู้ คือการขับเคลื่อนภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน ปี 2563 ตามนโยบาย ท่ีสาคัญและความคาดหวังของผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ในการขับเคลื่อนตาบลเข้มแข็ง ม่ันคง มั่งคั่ง ยง่ั ยนื โดยการบรรยายประกอบสือ่ Power Point สรุปผล ไดด้ ังน้ี พฒั นากรยุค 5 G เปรียบเทียบในแตล่ ะยคุ ไดด้ ังน้ี พฒั นากร 1G ใหค้ วามรู้ ดูแลการสุขาภบิ าล และพัฒนาหมบู่ ้าน (พช.3) พัฒนากร 2G พัฒนาสตรเี ดก็ และเยาวชนในหม่บู ้าน (สดย.) พฒั นากร 3G พัฒนาผู้นา จัดตั้งคณะกรรมการและกลมุ่ ตา่ ง ๆ ในหม่บู ้าน (กพม./กพต.) พัฒนากร 4G กระตนุ้ ความคดิ สร้างจิตสานกึ ในการพฒั นา (OTOP) พฒั นากร 5G ทางานพัฒนากบั ชาวบ้านผา่ นส่ือสังคม ผสมหลากหลายรปู แบบ (Media Mix) จดุ ม่งุ หมายของการพฒั นาชมุ ชน ชุมชนที่สุขสมบูรณ์ จุดมงุ่ หมาย คือ เพราะประชาชนอยเู่ ยน็ เป็นสุข ชุมชนทสี่ ขุ สมบูรณ์ เพราะความเป็นอย่ทู ีด่ ีขึน้ ประชาชนอยู่เยน็ เป็นสุข เพราะการงานการอาชพี ดขี ึ้น ความเปน็ อยู่ท่ดี ีขน้ึ เพราะทางานเป็นระบบกลุ่ม การงานดีขน้ึ เพราะสมาชกิ มคี วามสัมพันธ์ท่ีดีต่อกนั ระบบกลุ่มมปี ระสิทธิผล เพราะประชาชนมคี วามคดิ จติ ใจพึ่งตนเองและช่วยกนั เอง ความสัมพันธท์ ด่ี ีตอ่ กัน เพราะชมุ ชนสขุ สมบรู ณ์ ความคิด จิตใจ พง่ึ ตนเอง
15 เพอ่ื ให้บรรลุวสิ ยั ทัศน์ กรมการพฒั นาชมุ ชน “เศรษฐกิจฐานรากมั่นคงและชมุ ชนพ่ึงตนเองได้ ภายในปี 2565” ด้วยการน้อมนาศาสตร์พระราชาสู่การปฏบิ ตั ิ กอ่ ใหก้ ารสรา้ งงาน/สร้างอาชีพ สรา้ งรายได้ สรา้ งสุขภาพทีด่ ี เกอ้ื กูลคนด้อยโอกาส รกั ษาส่ิงแวดล้อม มีสวสั ดิการชุมชน และลดรายจ่าย นโยบายและทศิ ทางการขับเคลอ่ื นภารกิจกรมการพัฒนาชมุ ชน ปี 2563 1. โครงการพฒั นาหมบู่ า้ นและชุมชนทอ้ งถ่นิ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขัน้ ต้น ระดบั ครัวเรือน เพื่อการพออยู่ พอกนิ ขัน้ กา้ วหน้า ระดบั กลุ่ม ส่งเสริมและพัฒนากลุ่มอาชีพเพอื่ สรา้ งรายได้ให้อย่ดู ี มีสขุ ข้ันยงั่ ยนื ระดบั ชุมชน สง่ เสริมความร่วมมือพฒั นาชุมชนใหม้ ีกิจกรรมสร้าง หลักประกนั สวสั ดกิ าร ความสัมพันธ์ในชมุ ชน สรา้ งคุณภาพชวี ิตประชาชนหลากหลายและย่งั ยืน 2. โครงการบริหารการจัดเก็บข้อมูล จปฐ. ด้วยเคร่ืองมืออิเล็กทรอนิกส์ ปี 2563 เป็นการสนอง นโยบายรัฐบาลในการขับเคล่ือนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไปสู่ความม่ันคง มั่งค่ัง และย่ังยืน ด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล 3. นักการตลาดรนุ่ ใหม่เพอื่ สังคม 3.1 สบื สานและถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นส่คู นรุ่นใหม่ 3.2 แก้ไขปัญหาการว่างงาน 3.3 ผู้ผลิต ผปู้ ระกอบการ มีช่องทางการตลาดเพ่ิมข้ึน 4. โครงการผู้นาอาสาพฒั นาบา้ นเกิด ประโยคท่ีนักพฒั นาควรรู้ 1. โคก หนอง นา โมเดล 2. โก่งธนโู มเดล 3. COOK BOOK 4. Change for Good ผลจากการเรียนรู้ พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจ ในนโยบายและทิศทางการขับเคล่ือน ภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน ปี 2563 สังเกตจาการให้ความสนใจในการเรียนรู้ การมีส่วนร่วมการตอบ ข้อซัก-ถาม การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้
16 วิชา E-Commerce วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือเสรมิ สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจ รปู แบบ และความสาคัญของ E-Commerce 2. เพื่อให้ทราบถงึ บทบาทภาครฐั กบั การพาณชิ ยอ์ ิเล็กทรอนิกส์ 3. เพ่อื ใหส้ ามารถนาความรทู้ ไี่ ด้รับไปประยกุ ต์ใชใ้ นการปฏิบตั งิ านได้ ระยะเวลา 2 ช่วั โมง ขอบเขตเน้อื หาวิชา 1. เทคนคิ การใช้สือ่ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ 2. Domain name 3. การตงั้ ชอ่ื เวบ็ ไซต์ 4. การเขยี น Content 5. การส่งเสริมการตลาด 6. กลมุ่ การค้า 7. พฒั นาบรรจภุ ณั ฑ์ 8. เทคนิคการถา่ ยภาพ เทคนคิ /วิธีการ วิทยากรแนะนาตัว กล่าวทักทายผู้เข้ารับการฝึกอบรม และเกริ่นนาถึงวัตถุประสงค์ของ หัวข้อวิชาแล้วเชื่อมโยงสู่ประเด็นเน้ือหาการเรียนรู้ โดยการบรรยายประกอบส่ือ Power Point และเอกสาร ประกอบการเรียนรู้ เร่ิมจากประเด็น เทคนิคการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ Domain name การตั้งช่ือเว็บไซต์ การเขียน Content การสง่ เสริมการตลาด กลุ่มการคา้ พฒั นาบรรจภุ ณั ฑ์ และเทคนิคการถ่ายภาพ ซ่ึงใน การเรียนรู้แต่ละประเด็นวิทยากรจะยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ OTOP ประกอบการบรรยาย เพ่ือให้ผู้เข้ารับการ ฝึกอบรมได้รับความรู้ท่ชี ัดเจนยิ่งขึ้น ผลจากการเรียนรู้ พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่อง E-Commerce หรือการค้า อิเล็กทรอนิกส์ เพ่ือจะได้เป็นแนวทางนาไปปรับใช้ในการส่งเสริมสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ OTOP ถือเป็นภารกิจท่ีสาคัญของกรมการพัฒนาชุมชน ที่จะต้องขับเคลื่อนในปี 2563 ซ่ึงวิทยากรได้เปิด มุมมองท่ีชัดเจนยิ่งข้ึน สังเกตได้จาการให้ความสนใจในการเรียนรู้ การมีส่วนร่วมการตอบ ข้อซัก-ถาม และ การแลกเปลีย่ นเรยี นรู้
17 วิชา OTOP Trader วตั ถุประสงค์ 1. เพ่อื เสริมสรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจ รูปแบบ และความสาคญั ของ OTOP Trader 2. เพื่อให้ทราบถึงบทบาทพัฒนากรกบั การพัฒนา OTOP Trader 3. เพ่ือให้สามารถนาความรู้ที่ได้รบั ไปประยกุ ตใ์ ช้ในการปฏบิ ตั งิ านได้ ระยะเวลา 3 ช่ัวโมง ขอบเขตเนื้อหาวชิ า การดาเนินงาน OTOP Trader ที่ประสบผลสาเร็จ เติมเต็ม/จุดประกายความคิด/ ใหข้ อ้ เสนอแนะหรือคาแนะนา เพ่อื การพัฒนางานให้ดีย่งิ ขึ้น เทคนคิ /วิธกี าร วิทยากรประธาน OTOP Trader จังหวัดอุบลราชธานี แนะนาตัว กล่าวทักทายผู้เข้ารับการ ฝึกอบรม และเปิดมุมมองเก่ียวกับการดาเนินงาน OTOP Trader ท่ีประสบผลสาเร็จ โดยการบอกเล่า ประสบการณ์จริงประกอบส่ือ Power Point เพื่อเป็นการจุดประกายความคิดให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม มองเห็นกระบวนงาน/ข้ันตอน/วิธีการดาเนินงานที่ชัดเจนยิ่งข้ึน วิทยากรได้ต้ังประเด็นคาถามเพื่อให้ผู้เข้ารับ การฝึกอบรมได้มีโอกาสแลกเปล่ียน และเติมเต็ม ให้ข้อเสนอแนะ เพ่ือเป็นแนวทางในการนาไปประยุกต์ใช้ ในการปฏิบตั ิงาน ผลจากการเรียนรู้ พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจ ในเร่ือง การดาเนินงาน OTOP Trader ท่ีประสบผลสาเร็จ มีแนวทางการดาเนินงานอย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าท่ีพัฒนาชุมชนเป็นผู้ท่ีมีบทบาทสาคัญ ในการส่งเสริมสนับสนุนกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ OTOP ในพื้นที่ จึงจาเป็นต้องมีความชัดเจน สงั เกตได้จากการใหค้ วามสนใจในการเรยี นรู้ การมีส่วนรว่ มการตอบ ข้อซกั -ถาม และการแลกเปล่ยี นเรียนรู้
18 วชิ า ถอดบทเรียนการเรียนรูศ้ าสตรพ์ ระราชา นโยบายและทิศทางการขบั เคล่ือนภารกจิ กรมการพฒั นาชมุ ชน ปี 2563 และ E-Commerce วัตถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื ฝึกทกั ษะการวิเคราะห์และสรุปบทเรียน 2. เพอื่ ฝึกทกั ษะการจัดเก็บองค์ความรู้ 3. เพอ่ื ให้สามารถนาความรทู้ ่ีได้รบั ไปประยุกต์ใชใ้ นการปฏบิ ัติงานได้ ระยะเวลา 1 ชั่วโมง ขอบเขตเนอื้ หาวชิ า 1. ถอดบทเรียนศาสตรพ์ ระราชา 2. ถอดบทเรยี นนโยบายและทศิ ทางการขับเคลอ่ื นภารกจิ กรมการพัฒนาชมุ ชน ปี 2563 3. ถอดบทเรียน E-Commerce เทคนิค/วิธกี าร วิทยากรให้แต่ละกลมุ่ ระดมความคดิ เพอื่ ถอดบทเรียนจากการเรียนรู้ จานวน 3 หวั ข้อวิชา ประกอบดว้ ยศาสตร์พระราชา นโยบายและทิศทางการขับเคล่ือนภารกจิ กรมการพัฒนาชุมชน ปี 2563 และ E-Commerce เสร็จแลว้ ให้แต่ละกล่มุ ส่งตัวแทนนาเสนอกล่มุ ละ 5 นาที ปรากฏผล ดงั น้ี ศาสตรพ์ ระราชา 1. การนอ้ มนาหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง มาเปน็ แนวคิดในการดารงชวี ิต 2. การเรียนรวู้ ิธีการทาไรน่ าสวนผลม, เกษตรทฤษฎใี หม่ เชน่ การเล้ียงปลา, หมู เพอื่ ลด ต้นทนุ การผลติ จากวตั ถุดิบที่มีอยู่ 3. การจดั สรรพื้นทท่ี ากสกิ รรม การใช้ทดี่ ินใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สุด การใชท้ รพั ยากร อยา่ งคุ้มค่า 4. การวิเคราะห์ตวั เอง การบริหารจัดการตนเอง มองทกุ อย่างเปน็ บวก 5. มกี ารศึกษาข้อมลู อย่างเป็นระบบและยึดประโยชนส์ ่วนรว่ มมากกวา่ ส่วนตัว 6. ความเชื่อมนั่ และศรทั ราในปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึง่ นาไปส่คู วามสาเร็จ ดว้ ยการ เร่มิ ต้นจากทนุ ทีต่ นเองมี ปลูกกิน ทาใช้ เหลอื กินขาย เหลือใช้ขาย ค่อย ๆ ทา ทาไมห่ ยดุ ทาด้วยใจ เป็นการ สร้างภมู คิ ุ้มกันแกค่ รวั เรือน ให้รู้อยู่ รกู้ นิ ร้ใู ช้ 7. มีความขยนั /อดทน/ความเพยี ร/ไม่ทอ้ ถ้อย และที่สาคัญตอ้ งมสี ตติ ลอดเวลา 8. การพฒั นาพ้นื ทตี่ ามลาดบั ขัน้ ตอนคอ่ ยเปน็ ค่อยไป โดยการนาสิ่งที่อย่ใู กล้ตวั มาปรบั ใช้ อยา่ งฉลาด และต้องใช้ระยะเวลาในการพฒั นาไปส่คู วามยงั่ ยืน 9. เปิดใจ ไมป่ ิดกั้นความรจู้ ากภายนอก เพอ่ื เติมเต็มองคค์ วามร้ทู ต่ี นเองมี 10. เปลีย่ นความคิด ชวี ติ เปลยี่ น ลดละเลิกอบายมุข ทาให้คุณภาพชวี ติ ดีขึน้ และมีความสขุ ท่ีหาได้ในครอบครวั 11. การปลูกพ้ืน 3 อยา่ ง ประโยชน์ 4 อยา่ ง การปลูกต้มไม้ 5 ระดับ
19 นโยบายทศิ ทางการขับเคล่อื นภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน ปี 2563 1. ทิศทางการขบั เคล่ือนงานปี 2563 ของกรมการพฒั นาชุมชน ภายใตข้ ้อจากดั เร่ืองเวลา 2. มุมมอง แนวคิดของผ้บู รหิ าร ทาใหส้ ามารถวางแผนการทางานได้อยา่ งถูกต้อง 3. การขบั เคลอื่ นงานภายใต้ วิสยั ทัศน์ เศรษฐกิจฐานรากมัน่ คง และชมุ ชนพึ่งตนเองได้ ภายในปี 2565 4. การพฒั นาหม่บู า้ นและชมุ ชน ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 5. การดาเนินกจิ กรรมหมู่บา้ นเศรษฐกิจพอเพยี ง “ม่ันคง มัง่ ค่ัง ยง่ั ยืน” 6. สร้างสรรคช์ มุ ชนพง่ึ ตนเองได้ และสง่ เสรมิ เศรษฐกจิ ฐานรากไปส่ตู าบลเขม้ แข็ง 7. โครงการผูน้ าอาสาพฒั นาบา้ นเกดิ โดยชกั ชวนขา้ ราชการเกษียณอายุราชการ 8. วธิ กี ารขับเคลื่อนโครงการพฒั นาหมบู่ า้ นและชุมชน ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3 ระดบั ระดับครวั เรือน ระดบั กล่มุ ระดบั ชมุ ชน 9. การขับเคลอ่ื นตาบลเขม้ แข็ง โดยใช้ “ โคก หนอง นา Model” เป็นตน้ แบบ 10. การรวมกล่มุ ในรปู แบบเครอื ข่าย 11. การเสริมสรา้ งความเข้มแขง็ ของชมุ ชน ดว้ ยทุนชุมชน 12. การจัดเกบ็ ข้อมูล จปฐ. ด้วยเครอ่ื งมืออิเล็กทรอนิกส์ 13. เปดิ โอกาสให้ภาคี นักเรียน นกั ศึกษา มาจัดเก็บข้อมลู จปฐ. 14. การบรหิ ารข้อมลู จปฐ. ในการทางาน เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตใหด้ ีขน้ึ 15. การสร้างนักการตลาดรุ่นใหม่ 16. การพฒั นาชอ่ งทางการตลาด จาหนา่ ยผลติ ภัณฑ์ OTOP On line เพื่อเพิ่มรายได้ 17. พัฒนากรลงพ้ืนที่ใกลช้ ิดกบั ประชาชนใหม้ ากขึน้ E – Commerce 1. การเขยี น Content ใหโ้ ดดเดน่ 2. เทคนคิ การใช้ส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์ 3. การทาเวบ็ ไซต/์ การจดทะเบยี น 4. การขยายช่องทางการตลาด และชอ่ งทางการทาธุรกจิ อิเลก็ ทรอนิกส์ ธรุ กจิ ดิจิทลั การตลาด 4.0 ท้งั Off line/On line และขยายตลาดสสู่ ากล 5. เทคนิคการถ่ายภาพ แสง สี เงา และมุมกล้อง เพื่อใหเ้ ป็นทีน่ ่าสนใจ สามารถดึงดดู ลูกค้าได้ 6. ศกึ ษาข้อมลู เกบ็ ขอ้ มลู ลูกค้า เพื่อนามาวิเคราะหแ์ ละวางแผนการทาธุรกิจ เน่ืองจาก ยคุ 4.0 กลุ่มผ้บู ริโภคเปลีย่ นใจงา่ ย เลือกสนิ ค้าจากความคุ้มคา่ เชอ่ื คนรอบข้างมากกว่าแบรนด์สนิ ค้า 7. การพัฒนาสนิ คา้ ให้เปน็ ที่ตอ้ งการของลูกค้า รวมถงึ การออกแบบบรรจุภณั ฑ์ให้เปน็ ที่ นา่ สนใจ เพ่อื สร้างจุดเน้นความนา่ สนใจของสนิ ค้า บนสอื่ โฆษณา 8. การเรียนรู้หลกั การตัง้ ช่อื Domain 9. การส่อื สาร/การค้าที่ไร้พรมแดน ลงทนุ น้อย ตัดปัญหาการเดนิ ทาง และการใหบ้ รหิ าร ทเี่ ท่าเทียมกนั 10. การเรยี นร้กู ารสร้างเพจ/เวบ็ ไซต์/การตั้งชื่อเพจใหค้ นจางา่ ย เพ่ือสอ่ื ให้คนรูจ้ กั สนิ ค้า
20 11. การเรยี นรคู้ วามแตกตา่ งระหว่าง การโฆษณา (เปน็ การกระตุ้น เร่งเร้า/ปดิ การขาย) การประชาสัมพนั ธ์ (การสอ่ื สารอย่างต่อเนอ่ื ง การสะสมความด/ี ไม่เรง่ เรา้ ) 12. เทคนิคการอธบิ ายแบบไมบ่ ังคบั มากเกินไป การเรียนรแู้ บบทาให้ดูเหมาะสมตามวยั 13. เทคนิคการทาสื่อประชาสมั พนั ธ์สินค้า OTOP 14. เทคนคิ การนาเสนอสินค้าท่ที นั สมยั 15. ช่องทางการประยุกต์ใช้ในงานพัฒนาชมุ ชน ผลจากการเรยี นรู้ พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมให้ความสนใจเป็นอย่างดีในการร่วมกิจกรรมระดมความคิดเหน็ การถอดบทเรียนในแต่ละวิชา มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์จริง สังเกตจากกา รมีส่วนร่วม ในการแสดงความคดิ เหน็ ไดอ้ ยา่ งชัดเจน วิชา การออกแบบงาน 4 งานหลัก ม่งุ สู่อนาคต และ OTOP ไทยส่สู ากล วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ ออกแบบการขับเคล่อื นภารกจิ กรมการพฒั นาชุมชน ปี 2563 ไทยส่สู ากล 2. เพ่ือออกแบบ Model การขับเคล่ือนตาบลเข้มแข็ง “ม่ันคง มั่งค่ัง ยั่งยืน” และ OTOP ระยะเวลา 2 ช่ัวโมง ขอบเขตเนอ้ื หาวชิ า 1. การออกแบบการขบั เคล่อื นภารกจิ กรมการพัฒนาชุมชน ปี 2563 2. การออกแบบ Model การขบั เคลอื่ นตาบลเขม้ แข็ง มั่นคง มง่ั คงั่ ยัง่ ยนื และ OTOP ไทย สู่สากล เทคนคิ /วธิ ีการ วิทยากรให้แต่ละกล่มุ ระดมความคิด เพอื่ ออกแบบการขับเคลอื่ นภารกิจกรมการพฒั นาชุมชน ปี 2563 และออกแบบ Model การขับเคล่ือนตาบลเข้มแข็ง ม่ันคง ม่ังคั่ง ย่ังยืน และ OTOP ไทยสู่สากล เสรจ็ แล้วใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนนาเสนอกลมุ่ ละ 5 นาที สรุปเปน็ Model ไดด้ ังน้ี
รนุ่ 2 21 รนุ่ 3 ผลจากการเรยี นรู้ พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมให้ความสนใจเป็นอย่างดีในการร่วมกิจกรรมระดมความคิดเหน็ การออกแบบ Model การขับเคลื่อนตาบลเข้มแข็ง ม่ันคง ม่ังค่ัง ย่ังยืน และ OTOP ไทยสู่สากล มีการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์จริง สังเกตจากการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและผลงาน ทป่ี รากฏ
22 วิชา การตงั้ เปา้ หมายองค์กร (Objectives and Key Results : OKRs) วตั ถุประสงค์ 1. เพ่อื เรยี นรู้ความเป็นมา ความหมายการตั้งเป้าหมายองค์กร 2. เพื่อศึกษากระบวนการการใชเ้ ครอื่ งมือ (OKRs) ระยะเวลา 2 ช่วั โมง ขอบเขตเนอื้ หาวชิ า 1. ความเปน็ มาและความหมายของการต้งั คา่ เป้าหมายองค์กร (OKRS) 2. กระบวนการใชเ้ ครื่องมือ OKRS เทคนิค/วธิ ีการ วิทยากรกล่าวทักทายผู้เข้ารับการฝึกอบรม และชวนพูดคุยถึงหัวข้อวิชา แล้วเชื่อมโยง สู่ความเป็นมา ความหมาย รวมถึงการต้ังเป้าหมายองค์กร ด้วยการใช้เครื่องมือ OKRs โดยวิทยากรบรรยาย ประกอบสอื่ Power Point สรุปประเดน็ ท่สี าคัญได้ ดงั น้ี OKRs ย่อมาจาก Objectives and Key Results จากองค์กรสู่เป้าหมายบุคคล เริ่มนามาใช้ใน intel ในปี 1974 รู้จักแพรห่ ลายใน Google ในปี 1999 OKRs คอื อะไร วัตถุประสงค์และผลลพั ธ์ทสี่ าคญั - วัตถปุ ระสงค์หลักเป็นการบอกจุดมงุ่ หมายของหน่วยงาน ทมี หรอื บุคคล - ผลลพั ธท์ ี่สาคัญ เป็นการบอกว่าการดาเนินงานของเราบรรลุจดุ ม่งุ หมายตามท่ีกาหนดไว้ OKRs หมายถึง เครือ่ งมือตัง้ เป้าหมาย และกาหนดตวั วัดผลที่ทาให้เปา้ หมายเป็นจรงิ หลักการเขียนวัตถปุ ระสงค์ 1. ตอ้ งไมม่ ากเกินไป 2. เรอื่ งน้นั ตอ้ งไมย่ ากหรอื งา่ ยเกินไป 3. ต้องเปน็ รปู ธรรมจับต้องได้ 4. ตอ้ งเป็นเรื่องท่ีสาคญั ขององค์กร/ทีมงาน/บุคคล 5. เขียนให้ทา้ ทายยังไม่จาเปน็ ตอ้ งใส่ตัววดั ผลลงไป แตถ่ า้ ใสก่ ไ็ มผ่ ิด 6. ตอ้ งเปน็ ไปได้ 7. ตอ้ งทาใหเ้ กิดแรงบนั ดาลใจกับคนทางาน ข้อแนะนาในการสร้าง Objectives 1. ต้องสอดคล้องกบั กลยทุ ธ์ขององค์กร 2. ควรมีประมาณ 3-5 ข้อ 3. เป็นเชงิ คุณภาพ ไม่ใชเ่ ชงิ ปริมาณ 4. หลกี เลย่ี งการเขยี นในส่งิ ทตี่ ้องทาเป็นประจาอยแู่ ลว้ 5. ระบไุ ดช้ ัดเจนว่า Objective ของเราสัมพนั ธ์กับ Objective ในขน้ั ที่สงู ข้นึ อย่างไร
23 คณุ ลักษณะของผลลัพธ์ท่สี าคัญ 1. ต้องเฉพาะเจาะจง คือชัดเจนวา่ จะวดั จากอะไร 2. มีการกาหนดระยะเวลาที่แน่นอน และทาเสรจ็ ในเวลาทกี่ าหนด 3. ต้องเป็นผลลัพธห์ ลักไม่ใชก่ จิ กรรม 4. ต้องทา้ ทายแต่อยใู่ นวิสัยท่เี ปน็ ไปได้ 5. ตอ้ งสอดคลอ้ งทั้งระดับบนและระหวา่ งหน่วยงาน ประโยชน์ 4 ข้อ ทอี่ งคก์ รจะไดร้ ับจาก OKRs 1. เน้นเรอ่ื งท่สี าคัญ โฟกสั และจัดลาดับความสาคญั 2. ปรบั องค์กรให้ไปในทศิ ทางเดยี วกนั และทางานเป็นทมี 3. มผี ู้รับผดิ ชอบและติดตามได้งา่ ย 4. ตัง้ เปา้ หมายที่ท้าทาย 7 หลมุ พรางของการใช้ OKRs ในองค์กรใหญ่ 1. ตง้ั Objective ท่เี ป็นงานประจา 2. ตง้ั Objective ไมส่ อดคลอ้ งกัน 3. ตง้ั KRs เป็นกิจกรรมมากกวา่ เปน็ ผลลัพธ์ 4. KRs ทต่ี ง้ั ขน้ึ ยงั ขาดความชดั เจน 5. หัวหน้างานต้งั ค่าเปา้ หมายใน KRs ใหล้ กู น้อง 6. ต้ังค่าเปา้ หมายใน OKRs ไม่ทา้ ทาย 7. ต้งั OKRs มากหรือนอ้ ยจนเกินไป บทเรยี นท่ีได้จาก intel 1. น้อยแต่มาก 2. กาหนดเป้าหมายจากล่างขึ้นบน 3. ไม่เผดจ็ การ 4. มีความยึดหยนุ่ 5. กลา้ ลม้ เหลว 6. เปน็ เครือ่ งมอื ไม่ใชอ่ าวธุ ขอ้ ไดเ้ ปรยี บของการใชเ้ คร่ืองมอื OKRs 1. ยึดหยุ่นและทันต่อความเปลี่ยนแปลง เช่น การต้ังเป้าหมายเป็นรายไตรมาส/ การปรบั เปลี่ยนไดต้ ามสถานการณ์ 2. เปดิ โอกาสให้เกดิ การเรยี นรู้ 3. ทลายขดี จากดั ความสามารถและความเป็นไปไมไ่ ด้ 4. ให้ความสาคญั กับการพัฒนา “คน” 5. เปิดทางสาหรับความคิดสร้างสรรค์ ผลจากการเรียนรู้ พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจ ในการเรียนรู้การต้ังเป้าหมายองค์กร (Objectives and Key Results : OKRs) เพราะถือเป็นเรื่องใหมส่ าหรับคนกรมการพัฒนาชุมชน สังเกตจาก การให้ความสนใจในการเรยี นรู้เปน็ อยา่ งดี การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ การมสี ว่ นรว่ มการตอบ ขอ้ ซกั -ถาม ท่ีหลากหลาย
24 ส่วนที่ 3 การประเมินผลโครงการ การประเมินผลโครงการฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจาการ หลักสูตร พัฒนากรนา OTOP ไทยสสู่ ากล ประจาปงี บประมาณ 2563 ผ้ปู ระเมนิ ไดด้ าเนินการเกบ็ รวบรวมข้อมลู จากผ้เู ขา้ รับการ ฝกึ อบรม โดยใช้แบบประเมนิ ออนไลน์สาหรับกลุ่มเป้าหมาย จานวน 225 คน โดยแยกออกเปน็ 3 รนุ่ ดาเนินการร่นุ ละ 75 คน วธิ กี ารประเมนิ 1. กลุ่มเป้าหมายท่ีใช้ในการประเมินคือ ผู้เข้ารับการฝึกอบรม 225 คน โดยแยก ออกเป็น 3 ร่นุ ดาเนนิ การร่นุ ละ 75 คน 2. เครื่องมือท่ีใช้ในการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้แบบประเมินออนไลน์ โดยแยกการ ประเมินออกเปน็ 2 ส่วน ดงั นี้ สว่ นที่ 1 การประเมนิ ผลรายวชิ า แยกเปน็ 1. ความคิดเห็นเกี่ยวกับเน้อื หาวิชา จานวน 4 ประเดน็ ดงั น้ี 1.1 การบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคข์ องรายวิชา 1.2 ความชัดเจนของเนื้อหาวชิ า 1.3 ความรู้ ทกั ษะ ทไี่ ดร้ ับเพิม่ เติมจากวิชาน้ี 1.4 ความสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้ 2. ความพงึ พอใจต่อวิทยากร จานวน 5 ประเดน็ ดงั นี้ 2.1 ความรู้ ความสามารถในการถา่ ยทอด/บรรยาย 2.2 เทคนิคและวธิ กี ารท่ใี ช้ในการถา่ ยทอดความรู้ 2.3 การเปดิ โอกาสให้ซักถาม แสดงความคดิ เห็น 2.4 การสรา้ งบรรยากาศในการเรยี นรู้ 2.5 บคุ ลกิ ภาพ (การแต่งกาย ท่าทาง น้าเสยี ง ฯลฯ) 3. สง่ิ ท่ีประทบั ใจต่อวทิ ยากร 4. สิง่ ทว่ี ิทยากรควรปรบั ปรงุ 5. ข้อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ อน่ื ๆ ส่วนที่ 2 การประเมนิ ผลโครงการภาพรวม จานวน 5 ตอน ประกอบด้วย ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ทั่วไป แยกเปน็ 1.1 เพศ 1.2 อายุ 1.3 ตาแหน่งปจั จบุ นั 1.4 การศึกษา
25 ตอนท่ี 2 ความคิดเห็นต่อโครงการ 2.1 การบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ 2.2 การประเมินผลระดับความรู้ความเข้าใจและทักษะด้านวิชาการ (ก่อนและหลัง เข้า ร่วมกจิ กรรม) การฝกึ อบรม จานวน 9 ประเด็น ดงั น้ี 1) ทบทวน/เรียนรู้ การขับเคล่อื นงาน (4 งานหลกั ) ในรอบปีท่ผี ่านมา 2) การขับเคลือ่ นยุทธศาสตร์กรมการพัฒนาชมุ ชนประจาปี 2563 3) ศาสตรพ์ ระราชา 4) นโยบายและทศิ ทางการขบั เคล่ือนภารกจิ กรมการพฒั นาชุมชน ปี 2563 5) E-Commerce 6) OTOP Trader 7) ถอดบทเรียนการเรียนรู้ ศาสตร์พระราชา นโยบายและทิศทางการขับเคลอ่ื น ภารกจิ กรมการพฒั นาชุมชน ปี 2563 และ E-Commerce 8) จัดทาแผนปฏิบัติการ ออกแบบงาน 4 งานหลักมุ่งสู่อนาคต ออกแบบงาน OTOP ไทยสู่สากล 9) การตั้งเป้าหมายองคก์ ร (OKRs) 2.3 การประเมินผลระดับความคิดเห็นต่อการนาความรู้ไปปรับใช้ในการปฏิบัติงาน จานวน 9 ประเด็น ดงั นี้ 1) ทบทวน/เรยี นรู้ การขบั เคลือ่ นงาน (4 งานหลัก) ในรอบปที ผี่ า่ นมา 2) การขับเคล่ือนยุทธศาสตร์กรมการพฒั นาชุมชนประจาปี 2563 3) ศาสตร์พระราชา 4) นโยบายและทศิ ทางการขับเคลอ่ื นภารกิจกรมการพฒั นาชุมชน ปี 2563 5) E-Commerce 6) OTOP Trader 7) ถอดบทเรียนการเรียนรู้ ศาสตร์พระราชา นโยบายและทิศทางการขับเคล่ือน ภารกจิ กรมการพัฒนาชุมชน ปี 2563 และ E-Commerce 8) จัดทาแผนปฏิบัติการ ออกแบบงาน 4 งานหลักมุ่งสู่อนาคต ออกแบบงาน OTOP ไทยสู่สากล 9) การตั้งเปา้ หมายองค์กร (OKRs) 2.4 การประเมนิ ผลระดบั ความพงึ พอใจตอ่ ภาพรวมของโครงการ จานวน 3 ดา้ น ดงั นี้ 1) ดา้ นวิทยากร (1) ความรู้ ความสามารถในการถ่ายทอด/บรรยาย (2) เทคนิคและวิธกี ารที่ใชใ้ นการถา่ ยทอดความรู้ (3) การเปดิ โอกาสใหซ้ ักถามแสดงความคิดเหน็ (4) การสรา้ งบรรยากาศการเรียนรู้
26 มคี วามสะอาด 2) ดา้ นการให้บริการ (1) เจ้าหน้าทมี่ ีกริ ิยา มารยาท และการแต่งกายเหมาะสม (2) เจ้าหน้าท่ีกระตอื รือร้นในการให้บรกิ าร (3) สญั ญาณ wifi ในหอ้ งฝึกอบรม (4) สญั ญาณ wifi ในหอ้ งพัก (5) โสตทศั นูปกรณ์ (ชุดโปรเจคเตอร์ เคร่ืองเสียง ฯลฯ) เหมาะสม (6) ห้องฝึกอบรม ห้องพัก ห้องน้า โรงอาหาร และบริเวณโดยรอบ (7) อาหาร/อาหารวา่ ง/เคร่ืองดื่ม มคี ุณภาพเหมาะสม 3) ดา้ นอาคาร และสถานที่ (1) ขนาดหอ้ งฝึกอบรม มีความเหมาะสมกับจานวนผูเ้ ข้าอบรม (2) หอ้ งอาหาร มีความเหมาะสม ถกู สุขลักษณะ (3) ห้องพกั มคี วามเหมาะสม (4) หอ้ งนา้ อาคารฝึกอบรม มีความสะอาด 4) ด้านคุณภาพ (1) ความสอดคลอ้ งของเนื้อหาหลกั สูตรกับความต้องการ (2) เนื้อหาหลกั สตู รเปน็ ปัจจุบนั ทันตอ่ การเปล่ียนแปลง (3) ความรู้ที่ไดร้ บั สามารถนาไปปรับใช้ในการปฏิบตั ิงานได้ (4) ความคุ้มค่าของการฝกึ อบรม 2.5 กรมการพัฒนาชุมชนควรเพิม่ เติมความรู้เร่ืองใด หรอื ฝึกทักษะด้านใดให้แกท่ ่าน เพ่ือ ประโยชนใ์ นการปฏิบัติงาน นอกเหนอื จากทที่ า่ นได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตรน้ี ตอนที่ 3 ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะอน่ื ๆ การวิเคราะหข์ อ้ มูล 1. การวิเคราะห์ขอ้ มลู ทวั่ ไปของกลุ่มเปา้ หมายใช้คา่ ร้อยละ 2. การวิเคราะหค์ วามคดิ เห็นที่ได้จากแบบสอบถาม ใช้ค่าเฉล่ีย x ซง่ึ เป็นคาถาม เชิงนิมาน (เชิงบวก) คือ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยท่ีสุด โดยการกาหนดเกณฑ์ให้คะแนน ดงั น้ี มากทีส่ ุด มีคา่ เทา่ กบั 5 มาก มีคา่ เทา่ กับ 4 ปานกลาง มคี ่าเทา่ กบั 3 น้อย มคี า่ เทา่ กบั 2 นอ้ ยทีส่ ดุ มีค่าเท่ากับ 1
27 เกณฑ์การประเมิน การแปลความหมายระดับความคิดเห็นของผเู้ ข้ารับการฝึกอบรมโครงการฝึกอบรมพัฒนา กรระหว่างประจาการ หลักสูตร พัฒนากรนา OTOP ไทยสู่สากล ประจาปีงบประมาณ 2563 จานวน 225 คน โดยพิจารณาจากคะแนนที่ได้จากแบบสอบถามนามาหาค่าเฉลี่ย x แล้วใช้แปลความหมาย ตามเกณฑก์ ารประเมนิ คา่ ความคดิ เหน็ ดงั น้ี - ค่าเฉลยี่ ทไี่ ด้รับจากการวิเคราะหร์ ะหว่าง 4.50-5.00 มคี ่าเทา่ กบั มากท่ีสดุ - ค่าเฉลยี่ ที่ได้รบั จากการวิเคราะหร์ ะหวา่ ง 3.50-4.49 มคี า่ เท่ากบั มาก - คา่ เฉลยี่ ทไ่ี ด้รบั จากการวิเคราะหร์ ะหวา่ ง 2.50-3.49 มีคา่ เท่ากบั ปานกลาง - คา่ เฉล่ยี ทไ่ี ดร้ ับจากการวเิ คราะห์ระหวา่ ง 1.50-2.49 มคี ่าเท่ากับ น้อย - ค่าเฉลี่ยทไี่ ดร้ บั จากการวเิ คราะหร์ ะหวา่ ง 1.00-1.49 มคี ่าเท่ากับ น้อยที่สุด เกณฑก์ ารประเมนิ ท่ีถือวา่ ผา่ นเกณฑจ์ ะต้องมีค่าเฉลี่ยไมน่ ้อยกว่า 2.50 สว่ นท่ี 1 ผลการประเมนิ รายวิชา 1.1 การประเมินผลวิชา ทบทวน/เรียนรู้ การขบั เคลือ่ นงาน (4 งานหลัก) ในรอบปที ่ผี ่านมา (ผู้ตอบแบบสอบถาม 216 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 96 ของกลุม่ เป้าหมาย) ส่วนท่ี 1.1.1 ความคดิ เห็นเกี่ยวกับเนอ้ื หาวิชาการ ตารางท่ี 1 ความคดิ เห็นเกยี่ วกบั เนื้อหาวชิ าการ ระดับความคิดเห็น ค่า การ รายการ มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย เฉลย่ี แปรผล ทส่ี ุด กลาง ท่ีสุด ระดับ 1. การบรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ของวชิ า 95 109 12 0 0 มาก ระดบั (43.98) (50.46) (5.56) (0.00) (0.00) 4.38 มาก ระดับ 2. ความชัดเจนของเนื้อหาวิชา 67 138 11 0 0 มาก ระดับ (31.02) (63.89) (5.09) (0.00) (0.00) 4.26 มาก ระดับ 3. ความรู้ ทักษะ ท่ีไดร้ ับเพ่ิมเตมิ จาก 97 106 12 1 0 มาก วิชานี้ (44.91) (49.07) (5.56) (0.46) (0.00) 4.38 4. ความสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ 78 124 14 0 0 (36.11) (57.41) (6.48) (0.00) (0.00) 4.30 ภาพรวม 4.33
28 จากตารางที่ 1 พบวา่ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในภาพรวมต่อประเด็นของเน้ือหาวิชาการ อยู่ใน ระดับมาก ค่าเฉล่ีย 4.33 และเมื่อพิจารณาเรียงลาดับค่าเฉล่ียท่ีผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีระดับความพึงพอใจ ต่อประเดน็ ตา่ ง ๆ ระดับมากท่สี ดุ คือ มีความพงึ พอใจตอ่ การบรรลุวัตถปุ ระสงค์ของวิชามีค่าเทา่ กบั ความพึง พอใจต่อความรู้ ทักษะ ที่ได้รับเพ่ิมเติมจากวิชานี้ มีค่าเฉล่ีย 4.38 รองลงมาตามลาดับ คือพึงพอใจต่อ ความสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ ค่าเฉลย่ี 4.30 และพงึ พอใจต่อความชดั เจนของเนอื้ หาวิชา มคี า่ เฉลี่ย 4.26 ส่วนที่ 1.1.2 ความพึงพอใจตอ่ วิทยากร ตารางท่ี 2 ความพงึ พอใจต่อวิทยากร ระดบั ความคิดเหน็ ค่า การ รายการ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย เฉลี่ย แปรผล ท่ีสดุ กลาง ทส่ี ุด 1. ความรู้ ความสามารถในการ 108 97 10 0 1 ระดบั ถา่ ยทอด/บรรยาย (50.00) (44.91) (4.63) (0.00) (0.46) 4.44 มาก 2. เทคนคิ และวธิ ีการท่ีใชใ้ นการ 70 136 10 0 0 ระดับ ถ่ายทอดความรู้ (32.41) (62.96) (4.63) (0.00) (0.00) 4.28 มาก 3. การเปดิ โอกาสให้ซกั ถาม แสดง 120 86 9 0 1 ระดับ ความคดิ เหน็ (55.56) (39.81) (4.17) (0.00) (0.46) 4.50 มากท่สี ุด 4. การสรา้ งบรรยากาศในการเรียนรู้ 88 116 11 1 0 ระดับ (40.74) (53.70) (5.09) (0.46) (0.00) 4.35 มาก 5. บคุ ลิกภาพ (การแต่งกาย ท่าทาง 122 87 7 0 0 ระดบั น้าเสยี ง ฯลฯ) (56.48) (40.28) (3.24) (0.00) (0.00) 4.53 มากทส่ี ดุ ภาพรวม 4.42 ระดับ มาก จากตารางที่ 2 พบวา่ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการดาเนินงานของวิทยากรในภาพรวมอยู่ใน ระดบั มาก ค่าเฉลย่ี 4.42 และเมื่อพจิ ารณาเรยี งลาดับค่าเฉลี่ยท่ีผู้เขา้ รับการฝึกอบรมมรี ะดบั ความพึงพอใจ ต่อประเด็นต่าง ๆ ระดับมากที่สุด คือ พึงพอใจต่อบุคลิกภาพ (การแต่งกาย ท่าทาง น้าเสียง ฯลฯ) ค่าเฉล่ยี 4.53 รองลงมาตามลาดับ คือ พึงพอใจต่อการเปิดโอกาสให้ซักถาม แสดงความคิดเห็น มีค่าเฉลี่ย 4.50 พึงพอใจต่อความรู้ ความสามารถในการถา่ ยทอด/บรรยาย ค่าเฉลี่ย 4.44 พึงพอใจต่อการสร้างบรรยากาศ ในการเรยี นรู้ มคี ่าเฉลย่ี 4.35 และพงึ พอใจต่อเทคนคิ และวธิ ีการท่ีใช้ในการถา่ ยทอดความรู้ ค่าเฉลีย่ 4.28
29 สว่ นท่ี 1.1.3 สิง่ ทผ่ี เู้ ข้ารับการฝึกอบรมประทับใจในวิทยากร 1. เขา้ ใจผูอ้ บรม ใชเ้ ครอ่ื งมอื ในการสร้างการมีส่วนรว่ ม 2. สร้างความเข้าใจ ได้อย่างดมี าก 3. ศรัทธาหลกั การคิด 4. มีความรู้และเปน็ กันเอง 5. ความชัดเจน กระชบั ในเน้ือหา 6. เทคนิคการถา่ ยทอดความรู้ 7. วทิ ยากรกระบวนการ 8. บคุ ลกิ ดี มีมนุษยสมั พันธ์ 9. มคี วามรแู้ ละถ่ายทอดไดต้ รงประเดน็ 10. สรุปบทเรยี นไดช้ ดั เจน กระชบั เวลาไดด้ ี 11. ให้ผู้เข้าอบรมแลกเปลี่ยนเรียนร้กู ันเอง สว่ นที่ 1.1.4 สง่ิ ที่วิทยากรควรปรับปรงุ 1. เนือ้ หาเพ่ิมเตมิ 2. ความเข้มข้นของเน้ือหา และการสรา้ งแรงจงู ใจ ผู้รบั ฟงั 3. การเนน้ นา้ เสียง ให้ชวนติดตาม 4. กระชับเวลา สว่ นที่ 1.1.5 ข้อเสนอแนะเพิม่ เติมอื่น ๆ 1. คูม่ อื การอบรมตัวหนังสือเล็ก ไมเ่ หมาะกับสายตาผ้สู ูงวยั 2. เพิ่มการนาเสนอให้หลากหลาย 3. อบรมแบบเดมิ ๆ ทุกปี เสนอไปทางกรมบา้ งว่าควรปรบั อะไร 4. ตอ้ งการอบรมแบบความรู้ใหม่ๆ เพื่อพฒั นางานให้มีประสิทธภิ าพยงิ่ ข้นึ
30 1.2 การประเมินผลวิชาการขบั เคล่อื นยทุ ธศาสตรก์ รมการพัฒนาชมุ ชนประจาปี 2563 (ผูต้ อบแบบสอบถาม 222 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 98.67 ของกลุม่ เปา้ หมาย) สว่ นที่ 1.2.1 ความคิดเห็นเกี่ยวกบั เน้อื หาวิชาการ ตารางที่ 3 ความคดิ เห็นเกย่ี วกับเนอื้ หาวิชาการ ระดบั ความคดิ เห็น ค่า การ รายการ มาก มาก ปาน น้อย น้อย เฉลยี่ แปรผล ทส่ี ดุ กลาง ท่สี ุด 1. การบรรลุวัตถปุ ระสงค์ของวิชา 107 107 8 0 0 ระดบั 2. ความชดั เจนของเนื้อหาวิชา (48.20) (48.20) (3.60) (0.00) (0.00) 4.45 มาก 3. ความรู้ ทกั ษะ ท่ีได้รบั เพ่ิมเตมิ จากวิชานี้ 93 120 9 0 0 ระดบั 4. ความสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ (41.89) (54.05) (4.05) (0.00) (0.00) 4.38 มาก 103 113 6 0 0 ระดบั (46.40) (50.90) (2.70) (0.00) (0.00) 4.44 มาก 97 116 9 0 0 ระดบั (43.69) (52.25) (4.05) (0.00) (0.00) 4.40 มาก ภาพรวม 4.41 ระดบั มาก จากตารางที่ 3 พบวา่ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในภาพรวมต่อประเด็นของเนื้อหาวิชาการ อยู่ใน ระดับมาก ค่าเฉล่ีย 4.41 และเมื่อพิจารณาเรียงลาดับค่าเฉล่ียที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีระดับความพึงพอใจ ต่อประเด็นต่าง ๆ ระดับมากที่สุด คือ มีความพึงพอใจต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของวิชา ค่าเฉล่ีย 4.45 รองลงมาตามลาดับ คือพึงพอใจต่อความรู้ ทักษะ ท่ีได้รับเพิ่มเติมจากวิชานี้ มีค่าเฉลี่ย 4.44 พึงพอใจต่อ ความสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ ค่าเฉลี่ย 4.40 และพึงพอใจต่อความชัดเจนของเนื้อหาวชิ า ค่าเฉลีย่ 4.38
31 ส่วนท่ี 1.2.2 ความพึงพอใจตอ่ วทิ ยากร ตารางท่ี 4 ความพงึ พอใจต่อวิทยากร ระดบั ความคิดเหน็ ค่า การ รายการ มาก มาก ปาน น้อย น้อย เฉลีย่ แปรผล ทีส่ ดุ กลาง ท่ีสดุ 1. ความรู้ ความสามารถในการ ถ่ายทอด/บรรยาย 114 101 7 0 0 ระดับ 2. เทคนิคและวิธกี ารที่ใชใ้ นการ ถา่ ยทอดความรู้ (51.35) (45.50) (3.15) (0.00) (0.00) 4.48 มาก 3. การเปดิ โอกาสให้ซักถาม แสดง ความคดิ เหน็ 98 116 8 0 0 ระดบั 4. การสรา้ งบรรยากาศในการเรยี นรู้ (44.14) (52.25) (3.60) (0.00) (0.00) 4.41 มาก 5. บุคลกิ ภาพ (การแตง่ กาย ทา่ ทาง น้าเสยี ง ฯลฯ) 109 106 7 0 0 ระดบั (49.10) (47.75) (3.15) (0.00) (0.00) 4.46 มาก 105 108 8 1 0 ระดับ (47.30) (48.65) (3.60) (0.45) (0.00) 4.43 มาก 127 89 6 0 0 ระดับ (57.21) (40.09) (2.70) (0.00) (0.00) 4.55 มากทีส่ ุด ภาพรวม ระดบั 4.46 มาก จากตารางที่ 4 พบวา่ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการดาเนินงานของวิทยากรในภาพรวมอยู่ใน ระดบั มาก ค่าเฉล่ยี 4.46 และเมอ่ื พจิ ารณาเรยี งลาดับค่าเฉลี่ยท่ีผู้เข้ารบั การฝึกอบรมมรี ะดบั ความพึงพอใจ ต่อประเด็นต่าง ๆ ระดับมากที่สุด คือ พึงพอใจต่อบุคลิกภาพ (การแต่งกาย ท่าทาง น้าเสียง ฯลฯ) ค่าเฉลย่ี 4.55 รองลงมาตามลาดับ คือ พึงพอใจต่อความรู้ ความสามารถในการถ่ายทอด/บรรยาย มีค่าเฉล่ีย 4.48 พึงพอใจต่อการเปิดโอกาสให้ซักถาม แสดงความคิดเห็น ค่าเฉลี่ย 4.46 พึงพอใจต่อการสร้างบรรยากาศ ในการเรยี นรู้ คา่ เฉลยี่ 4.43 และมีความพึงพอใจต่อเทคนิคและวิธกี ารทใี่ ช้ในการถ่ายทอดความรู้ มคี ่าเฉลย่ี 4.41 ส่วนท่ี 1.2.3 สงิ่ ทผ่ี เู้ ข้ารับการฝึกอบรมประทับใจในวิทยากร 1. ความชดั เจนในประเดน็ บรรยายของวทิ ยากร 2. บคุ ลิกดี เปน็ กันเอง 3. ใช้คาพูดเข้าใจง่าย ส่วนท่ี 1.2.4 สงิ่ ทีว่ ทิ ยากรควรปรับปรุง 1. พูดใหช้ า้ กวา่ นี้ 2. ลงรายละเอยี ดในยทุ ธศาสตร์ทตี่ ้องขบั เคลื่อนใหม้ ากข้ึน
32 ส่วนที่ 1.2.5 ข้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ อืน่ ๆ 1. ควรมกี ิจกรรมสาธิต 2. อยากได้เอกสาร แบบสรุปใน PPT มากกวา่ เพราะเขา้ ใจง่าย 3. ควรเพม่ิ ยุทธศาสตร์ การสร้างแรงใจในการทางานพัฒนาชุมชน 1.3 การประเมนิ ผลวิชาศาสตร์พระราชา (ผ้ตู อบแบบสอบถาม 158 คน คิดเป็นร้อยละ 70.22 ของกล่มุ เป้าหมาย) ส่วนท่ี 1.3.1 ความคดิ เห็นเกีย่ วกับเนือ้ หาวิชาการ ตารางที่ 5 ความคดิ เห็นเกี่ยวกับเนอ้ื หาวชิ าการ ระดับความคดิ เห็น ค่า การ รายการ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย เฉลี่ย แปรผล 1. การบรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ของวิชา ทส่ี ุด กลาง ทส่ี ดุ 2. ความชดั เจนของเนื้อหาวิชา 80 74 4 0 0 ระดบั (50.63) (46.84) (2.53) (0.00) (0.00) 4.48 มาก 68 83 7 0 0 ระดบั 3. ความรู้ ทกั ษะ ทีไ่ ดร้ ับเพิ่มเตมิ (43.04) (52.53) (4.43) (0.00) (0.00) 4.39 มาก จากวิชานี้ ระดบั 75 77 6 0 0 มาก 4. ความสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ ระดบั (47.47) (48.73) (3.80) (0.00) (0.00) 4.44 มาก 74 79 5 0 0 (46.84) (50.00) (3.16) (0.00) (0.00) 4.44 ภาพรวม 4.44 ระดับ มาก จากตารางที่ 5 พบวา่ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในภาพรวมต่อประเด็นของเน้ือหาวิชาการ อยู่ใน ระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.44 และเมื่อพิจารณาเรียงลาดับค่าเฉล่ียท่ีผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีระดับความพึงพอใจ ต่อประเด็นต่าง ๆ ระดับมากที่สุด คือ มีความพึงพอใจต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของวิชา มีค่าเฉลี่ย 4.48 รองลงมาตามลาดับ คือพึงพอใจต่อความรู้ ทักษะ ท่ีได้รับเพ่ิมเติมจากวิชานี้ มีค่าเท่ากับความพึงพอใจต่อ ความสามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ มคี ่าเฉล่ยี 4.44 และพงึ พอใจต่อความชดั เจนของเน้ือหาวชิ า มคี า่ เฉลยี่ 4.39
33 ส่วนที่ 1.3.2 ความพึงพอใจตอ่ วทิ ยากร ตารางที่ 6 ความพึงพอใจต่อวทิ ยากร ระดับความคดิ เห็น คา่ การ รายการ มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย เฉลย่ี แปรผล ทส่ี ดุ กลาง ท่ีสดุ 1. ความรู้ ความสามารถในการ ระดับ ถา่ ยทอด/บรรยาย 88 66 4 0 0 4.53 มากทีส่ ดุ 2. เทคนคิ และวธิ กี ารท่ีใชใ้ นการ (55.70) (41.77) (2.53) (0.00) (0.00) ถ่ายทอดความรู้ ระดับ 3. การเปิดโอกาสให้ซักถาม แสดง 75 77 6 0 0 4.44 มาก ความคิดเหน็ (47.47) (48.73) (3.80) (0.00) (0.00) 4. การสรา้ งบรรยากาศในการเรียนรู้ ระดับ 86 67 5 0 0 4.51 มากที่สดุ 5. บุคลกิ ภาพ (การแต่งกาย ทา่ ทาง (54.43) (42.41) (3.16) (0.00) (0.00) น้าเสยี ง ฯลฯ) ระดับ 76 74 8 0 0 4.43 มาก (48.10) (46.84) (5.06) (0.00) (0.00) ระดับ 85 67 6 0 0 4.50 มากทสี่ ุด (53.80) (42.41) (3.80) (0.00) (0.00) ภาพรวม 4.48 ระดับ มาก จากตารางที่ 6 พบวา่ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการดาเนินงานของวิทยากรในภาพรวมอยู่ใน ระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.48 และเมอ่ื พิจารณาเรียงลาดับค่าเฉล่ียทผ่ี ู้เข้ารับการฝึกอบรมมีระดับความพึงพอใจ ต่อประเดน็ ต่าง ๆ ระดับมากทสี่ ดุ คือ พึงพอใจตอ่ ความรู้ ความสามารถในการถา่ ยทอด/บรรยาย มคี า่ เฉลีย่ 4.53 รองลงมาตามลาดับ คอื พึงพอใจต่อการเปดิ โอกาสให้ซักถาม แสดงความคิดเหน็ มคี า่ เฉลี่ย 4.51 พงึ พอใจตอ่ บคุ ลกิ ภาพ (การแต่งกาย ท่าทาง นา้ เสยี ง ฯลฯ) มีคา่ เฉล่ีย 4.50 พึงพอใจตอ่ เทคนิคและวธิ กี ารที่ใช้ ในการถา่ ยทอดความรู้ มีคา่ เฉลี่ย 4.44 และพึงพอใจตอ่ การสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ คา่ เฉลย่ี 4.43 ส่วนท่ี 1.3.3 ส่งิ ที่ผ้เู ข้ารบั การฝึกอบรมประทับใจในวทิ ยากร 1. ความชัดเจนเน้ือหา ประสบการณ์ 2. มีความมงุ่ มนั่ และการเรยี นรู้ 3. ถ่ายทอดองค์ความรู้ได้ดมี าก 4. สื่อสารเป็นกนั เอง 5. การเลา่ เรอ่ื ง พูดไดด้ ี ทาใหเ้ กิดแรงจูงใจ 6. ได้เรียนรู้จากวิทยากรท่ีปฏิบัติจรงิ สู้ไมย่ อมแพ้ จริงใจ ทุกปัญหา อปุ สรรค มีทางออก 7. พูดได้ดี ทาใหเ้ กิดแรงจงู ใจ
34 สว่ นที่ 1.3.4 สงิ่ ท่วี ิทยากรควรปรบั ปรุง 1. ควรมีการเพิ่มสือ่ การเรียนรู้ ภาพ วีดโี อประกอบ 2. วธิ ีการพูด ภาษา/ อักขระ 3. ตาแหนง่ ทย่ี ืนควรอยูต่ รงกลางผู้เข้าอบรม 4. เนน้ จดุ ทเี่ ปน็ ศาสตร์พระราชาใหช้ ัด ส่วนที่ 1.3.5 ข้อเสนอแนะเพม่ิ เติมอนื่ ๆ 1. ควรจดั ให้มกี ารดูงานในแหล่งเรยี นรู้ 1.4 การประเมนิ ผลวิชานโยบายและทศิ ทางการขบั เคล่ือนภารกิจกรมการพฒั นาชุมชน ปี 2563 (ผูต้ อบแบบสอบถาม 171 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 76 ของกลุม่ เปา้ หมาย) สว่ นที่ 1.4.1 ความคดิ เห็นเกีย่ วกับเนอ้ื หาวิชาการ ตารางท่ี 7 ความคิดเห็นเกย่ี วกบั เนื้อหาวิชาการ ระดบั ความคดิ เห็น ค่า การ เฉล่ยี รายการ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย แปรผล ท่ีสดุ กลาง ทีส่ ดุ 4.19 1. การบรรลุวัตถุประสงค์ของวิชา 4.25 ระดบั 51 102 17 1 0 4.32 มาก 2. ความชัดเจนของเนื้อหาวิชา (29.82) (59.65) (9.94) (0.00) (0.00) 4.22 ระดบั มาก 3. ความรู้ ทกั ษะ ทีไ่ ดร้ ับเพ่ิมเตมิ จาก 49 117 4 1 0 ระดบั วชิ าน้ี (28.65) (68.42) (2.34) (0.58) (0.00) มาก 4. ความสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ ระดับ 66 94 11 0 0 มาก (38.60) (54.97) (6.43) (0.00) (0.00) ระดบั มาก 44 121 6 0 0 (25.73) (70.76) (3.51) (0.00) (0.00) ภาพรวม 4.25 จากตารางที่ 7 พบวา่ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในภาพรวมต่อประเด็นของเน้ือหาวิชาการ อยู่ใน ระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.25 และเมื่อพิจารณาเรียงลาดับค่าเฉล่ียที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีระดับความพึงพอใจ ตอ่ ประเดน็ ต่าง ๆ ระดบั มากท่ีสดุ คอื มคี วามพงึ พอใจตอ่ ความรู้ ทักษะ ทีไ่ ดร้ บั เพิม่ เติมจากวิชานี้ มคี ่าเฉลีย่ 4.32 รองลงมาตามลาดับ คือพึงพอใจต่อความชัดเจนของเน้ือหาวิชา ค่าเฉลี่ย 4.25 ความพึงพอใจต่อ ความสามารถนาไปประยุกต์ใช้ ค่าเฉลี่ย 4.22 และพึงพอใจต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของวิชา มีค่าเฉล่ีย 4.19
35 สว่ นท่ี 1.4.2 ความพึงพอใจต่อวทิ ยากร ตารางที่ 8 ความพึงพอใจต่อวิทยากร ระดบั ความคิดเห็น คา่ การ รายการ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย เฉลี่ย แปรผล ทส่ี ดุ กลาง ท่สี ดุ 1. ความรู้ ความสามารถในการ 96 57 18 0 0 ระดับ ถา่ ยทอด/บรรยาย (56.14) (33.33) (10.53) (0.00) (0.00) 4.46 มาก 2. เทคนิคและวิธีการทใ่ี ชใ้ นการ 52 113 6 0 0 ระดบั ถา่ ยทอดความรู้ (30.41) (66.08) (3.51) (0.00) (0.00) 4.27 มาก 3. การเปดิ โอกาสให้ซักถาม แสดง 84 81 6 0 0 ระดบั ความคดิ เห็น (49.12) (47.37) (3.51) (0.00) (0.00) 4.46 มาก 4. การสร้างบรรยากาศในการเรยี นรู้ 71 89 11 0 0 ระดบั (41.52) (52.05) (6.43) (0.00) (0.00) 4.35 มาก 5. บคุ ลกิ ภาพ (การแตง่ กาย ทา่ ทาง 93 71 7 0 0 ระดบั นา้ เสียง ฯลฯ) (54.39) (41.52) (4.09) (0.00) (0.00) 4.50 มากทส่ี ุด ภาพรวม 4.41 ระดับ มาก จากตารางที่ 8 พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการดาเนินงานของวิทยากรในภาพรวมอยู่ใน ระดบั มาก คา่ เฉลี่ย 4.41 และเมือ่ พิจารณาเรยี งลาดับค่าเฉลี่ยท่ีผู้เขา้ รับการฝึกอบรมมรี ะดบั ความพึงพอใจ ต่อประเด็นต่าง ๆ ระดับมากที่สุด คือ พึงพอใจต่อบุคลิกภาพ (การแต่งกาย ท่าทาง น้าเสียง ฯลฯ) ค่าเฉลี่ย 4.50 รองลงมาตามลาดับ คือ พึงพอใจต่อความรู้ ความสามารถในการถ่ายทอด/บรรยายมีค่าเท่ากับความ พึงพอใจต่อการเปิดโอกาสให้ซักถาม แสดงความคิดเห็น มีค่าเฉลี่ย 4.46 พึงพอใจต่อการสร้างบรรยากาศ ในการเรียนรู้ มีค่าเฉล่ีย 4.35 และพึงพอใจต่อเทคนิคและวิธีการท่ีใช้ในการถ่ายทอดความรู้ มีค่าเฉลี่ย 4.27 สว่ นที่ 1.4.3 สิง่ ทผ่ี ้เู ขา้ รบั การฝึกอบรมประทับใจในวิทยากร 1. สบายๆ เปน็ กันเอง ทาใหผ้ ู้เข้าอบรมไม่เคลยี ด 2. ความตง้ั ใจในการถา่ ยทอด 3. ยม้ิ แยม้ แจ่มใส ส่วนที่ 1.4.4 สิ่งที่วิทยากรควรปรับปรงุ - ไม่มี
36 สว่ นท่ี 1.4.5 ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ อื่น ๆ 1. อยากให้ผอ.บรรยายนานกวา่ น้ีจะได้มีโอกาสรบั ทราบนโยบายผบู้ ริหารกรมมากย่งิ ข้นึ 2. ควรลดจานวนวันฝึกอบรม ให้นอ้ ยลง จะดที ีส่ ุด 3. ควรมีการฝกึ ปฏบิ ัติ 4. ระยะเวลาการบรรยายวิชา น้อยเกินไป 1.5 การประเมินผลวิชา E-Commerce (ผตู้ อบแบบสอบถาม 149 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 66.22 ของกลุ่มเป้าหมาย) ส่วนที่ 1.5.1 ความคิดเหน็ เก่ยี วกับเน้อื หาวิชาการ ตารางท่ี 9 ความคิดเห็นเกย่ี วกบั เน้อื หาวชิ าการ ระดับความคดิ เห็น ค่า การ รายการ มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย เฉลย่ี แปรผล ทีส่ ดุ กลาง ทส่ี ุด 1. การบรรลวุ ตั ถุประสงค์ของวิชา 59 79 11 0 0 ระดบั 2. ความชดั เจนของเนื้อหาวิชา (39.60) (53.02) (7.38) (0.00) (0.00) 4.32 มาก 3. ความรู้ ทักษะ ที่ได้รับเพิ่มเตมิ จากวชิ าน้ี 53 89 7 0 0 ระดับ 4. ความสามารถนาไปประยุกต์ใช้ (35.57) (59.73) (4.70) (0.00) (0.00) 4.31 มาก 67 75 7 0 0 ระดบั (44.97) (50.34) (4.70) (0.00) (0.00) 4.40 มาก 62 68 19 0 0 ระดบั (41.61) (45.64) (12.75) (0.00) (0.00) 4.29 มาก ภาพรวม 4.33 ระดับ มาก จากตารางที่ 9 พบวา่ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในภาพรวมต่อประเด็นของเน้ือหาวิชาการ อยู่ใน ระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.33 และเมื่อพิจารณาเรียงลาดับค่าเฉล่ียท่ีผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีระดับความพึงพอใจ ตอ่ ประเดน็ ตา่ ง ๆ ระดับมากทีส่ ุด คือ มคี วามพงึ พอใจต่อความรู้ ทักษะ ที่ไดร้ ับเพิ่มเติมจากวชิ านี้ มคี ่าเฉลย่ี 4.40 รองลงมาตามลาดับ คือพึงพอใจต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของวิชา ค่าเฉลี่ย 4.32 พึงพอใจต่อความ ชัดเจนของเน้ือหาวิชา มีค่าเฉลี่ย 4.31 และความพึงพอใจต่อความสามารถนาไปประยุกต์ใช้ มีค่าเฉลี่ย 4.29
37 ส่วนท่ี 1.5.2 ความพึงพอใจต่อวิทยากร ตารางท่ี 10 ความพงึ พอใจต่อวิทยากร ระดับความคิดเหน็ ค่า การ รายการ มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย เฉลีย่ แปรผล ทสี่ ุด กลาง ที่สดุ 1. ความรู้ ความสามารถในการ ระดับ ถา่ ยทอด/บรรยาย 76 63 9 1 0 4.44 มาก (51.01) (42.28) (6.04) (0.67) (0.00) 2. เทคนคิ และวธิ กี ารทใ่ี ชใ้ นการ ระดบั ถ่ายทอดความรู้ 77 67 5 0 0 4.48 มาก (51.68) (44.97) (3.36) (0.00) (0.00) 3. การเปดิ โอกาสให้ซกั ถาม แสดง ระดับ ความคิดเห็น 68 65 15 1 0 4.34 มาก (45.64) (43.62) (10.07) (0.67) (0.00) 4. การสร้างบรรยากาศในการ ระดับ เรยี นรู้ 48 85 16 0 0 4.21 มาก (32.21) (57.05) (10.74) (0.00) (0.00) 5. บคุ ลกิ ภาพ (การแต่งกาย ระดบั ท่าทาง น้าเสียง ฯลฯ) 89 56 4 0 0 4.57 มากทีส่ ุด (59.73) (37.58) (2.68) (0.00) (0.00) ภาพรวม 4.41 ระดบั มาก จากตารางท่ี 10 พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการดาเนินงานของวิทยากรในภาพรวมอยู่ใน ระดับมาก คา่ เฉล่ยี 4.41 และเม่อื พิจารณาเรียงลาดับค่าเฉลี่ยท่ผี ู้เข้ารบั การฝึกอบรมมีระดบั ความพึงพอใจ ต่อประเด็นต่าง ๆ ระดับมากที่สุด คือ พึงพอใจต่อบุคลิกภาพ (การแต่งกาย ท่าทาง น้าเสียง ฯลฯ) ค่าเฉล่ยี 4.57 รองลงมาตามลาดับ คือ พึงพอใจต่อเทคนิคและวิธีการท่ีใช้ในการถ่ายทอดความรู้ ค่าเฉลี่ย 4.48 พึง พอใจต่อความรู้ ความสามารถในการถ่ายทอด/บรรยาย ค่าเฉล่ีย 4.44 มีความพึงพอใจต่อการเปิดโอกาส ให้ซักถาม แสดงความคิดเห็น มีค่าเฉล่ีย 4.34 และมีความพึงพอใจต่อการสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ มี ค่าเฉล่ยี 4.21 สว่ นที่ 1.5.3 สง่ิ ที่ผเู้ ขา้ รบั การฝกึ อบรมประทับใจในวิทยากร 1. การถา่ ยทอดองค์ความรูไ้ ด้ดีมาก 2. การใชภ้ าษาทเ่ี ข้าใจงา่ ย สว่ นที่ 1.5.4 ส่งิ ทีว่ ทิ ยากรควรปรับปรุง 1. การแตง่ กาย 2. เนอ้ื หาทนั สมยั เป็นประโยชน์ แตเ่ วลาน้อย เน้อื หาอดั แนน่ เกนิ ไป ส่วนที่ 1.5.5 ข้อเสนอแนะเพ่ิมเติมอ่ืน ๆ 1. ควรมกี ารฝึกปฏิบตั ิการทาส่ือโฆษณา ประชาสัมพันธ์ เชน่ การสร้างเว็ปไซน์ 2. ควรเชญิ วิทยากรภายนอกแบบน้ใี นวชิ าอน่ื ด้วย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117