แผนการเรียนรู้

ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ 2

สาระสาคญั ปัจจบุ นั การผลติ สนิ คา้ มกั จะทาควบคกู่ บั การใหบ้ รกิ าร สหธรุานกมึ่งจิามรต่งุถา่ เเงนพๆน้ มิ่ ไกยดาอใ้รหดบคข้รวกาิ ายามรรสแากายคผ่ไดญัูร้ เบ้ั พกบบมิ่ั รกมกิ าาารกรบหขรรนึ้ กิอื แาลลรกู ะมมคาผีาเ้ ปลท็ นตาออในัหบดร้ บบัั เคดวยี าวมพทงงึ้ั นพีเ้อปใ็ นจขเพอรงาละกู ลคกู า้คมา้ ามกคี กววาา่ มกตาอ้ รงขกาายรใสนนิ คดาา้้ เนพคยี ณุ งอภยา่าพง คสนิวาคมา้ รนบั ั้นผๆดิ กชาอรบบรแกิลาะหรจลงึ กั กปลราะยกเนัป็คนวสางิ่ มสพาคงึ พญั อขใจอจงกาการกดาารเซนอืิ้น ธรุ กจิ และการผลติ สนิ คา้ ในปัจจบุ นั ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ 3

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู ้ • อธบิ ายความหมายของธรุ กจิ บรกิ ารได ้ • บอกธรุ กจิ บรกิ ารสกู่ ารเป็ นอตุ สาหกรรม บรกิ ารได ้ • ระบปุ ระเภทของธรุ กจิ บรกิ ารได ้ • วเิ คราะหแ์ ละอธบิ ายแนวโนม้ ของอตุ สาหกรรม บรกิ ารได ้ ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ 4

สมรรถนะรายวชิ า สอื่ และแหล่งเรยี นรู ้ 1. รแู ้ ละเขา้ ใจความหมายของธรุ กจิ บรกิ าร • หนังสอื เรยี น 2. เขา้ ใจเกยี่ วกบั ธรุ กจิ บรกิ ารสกู่ ารเป็ นอตุ สาหกรรมบรกิ าร • กจิ กรรมการเรยี นการสอน • อนิ เตอรเ์น็ต 3. มคี วามรคู ้ วามเขา้ ใจในประเภทของธรุ กจิ บรกิ าร • ใบงาน 4. มคี วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั แนวโนม้ ของธรุ กจิ บรกิ าร สาระการเรยี นรู ้ หลกั ฐานการเรยี นรู ้ 1. ความหมายของธรุ กจิ บรกิ าร 2. ธรุ กจิ บรกิ ารสกู่ ารเป็ น • กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ อตุ สาหกรรมบรกิ าร • แบบทดสอบเพอื่ ประเมนิ ผลหลงั การเรยี นรู ้ • ใบงาน/ใบมอบหมายงาน 3. ประเภทของธรุ กจิ บรกิ าร ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ 5

วดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมือประเมนิ เคร่ืองมือวดั ผล  แบบประเมินพฤติกรรมผเู้ รียน กิจกรรม ตรวจแบบประเมินพฤติกรรมผเู้ รียน ตรวจสอบความเขา้ ใจ สงั เกตุพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกลุ่ม  แบบทดสอบเพื่อประเมินผลหลงั การเรียนรู้ ใบงาน/ใบมอบหมายงาน  แบบประเมินจากใบงาน/ใบมอบหมาย ชนกนาถ สนั ตสิ กุล 6

กจิ กรรมการจดั การเรยี นรูแ้ บบรว่ มมอื (Cooperative Learning) กกราะรบจวดั นกกาารรเกรยีลนุ่มใรหูแ้ ผบ้ ูบเ้ รรยี ว่ นมไมดอืม้ นโี อบั กวา่าสเปท็ นากงาารนจรดัว่ กมากรนั เรเพยี นอื่ ผกลารปสรอะโนยทชเี่ นนแ์้นลผะูเ้เรกยี ดิ นคเวปา็ นมสสาาคเรญั จ็ รโว่ดมยใกชนั ้ ของกลุม่ แบ่งเป็ นกลกุม่ าเลรจก็ ดๆั กปารระเมรายี ณนร4ูแ้ -บ6บครว่นมเมพอื อื่ ใหหมผ้ าูเ้ ยรถยี นงึ ไกดาเ้ รรจยี ดนั กรูาโ้ ดรเยรกยี านรกทาารงสาอนนรทว่ มผี่ กูส้ นัอนชจว่ ดั ยใเหหผ้ ลูเ้ อื รซยี นงึ่ กนั และกนั และรว่ มกนั รบั ผดิ ชอบงานในกลุม่ ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย เพอื่ ใหเ้ กดิ เป็ นความสาเรจ็ ของกลุม่ ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ 7

วตั ถุประสงคข์ องการจดั การเรยี นรูแ้ บบรว่ มมอื สาหรบั วตั ถุประสงคข์ องการจดั การเรยี นรูแ้ บบรว่ มมอื ดงั นี้ 1. เพอื่ ใหผ้ ูเ้ รยี นไดเ้ รยี นรูแ้ ละฝึ กทกั ษะกระบวนการกลุม่ ไดฝ้ ึ กบทบาทหน้าทแี่ ละความ รบั ผดิ ชอบในการทางานกลุ่ม 2. เพอื่ ใหผ้ ูเ้ รยี นไดพ้ ฒั นาทกั ษะการคดิ คน้ ควา้ ทกั ษะการแสวงหาความรูด้ ว้ ยตนเอง ทกั ษะการคดิ สรา้ งสรรค ์ การแกป้ ัญหา การตดั สนิ ใจ การตงั้ คาถาม ตอบคาถาม การใช้ ภาษา การพูด ฯลฯ 3. เพอื่ ใหผ้ ูเ้ รยี นไดฝ้ ึ กทกั ษะทางสงั คม การอยูร่ ว่ มกบั ผูอ้ นื่ การมนี ้าใจชว่ ยเหลอื ผูอ้ นื่ การเสยี สละ การยอมรบั กนั และกนั การไวว้ างใจ การเป็ นผูน้ า ผูต้ าม ฯลฯ ขอ้ มลู A ขอ้ มูล B ขอ้ มลู C ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ 8

ขน้ั ตอนการจดั กจิ กรรม ขน้ั เตรยี มการ ผูส้ อนชแี้ จงจดุ ประสงคข์ องบทเรยี น ผูส้ อนจดั กลุม่ ผูเ้ รยี นเป็ นกลุ่มยอ่ ย กลุ่มละประมาณ ขนั้ สอน ไมเ่ กนิ 6 คน มสี มาชกิ ทมี่ คี วามสามารถแตกตา่ งกนั ผูส้ อนแนะนาวธิ กี ารทางานกลุ่ม และบทบาทของสมาชกิ ในกลุ่ม ผูส้ อนนาเขา้ สูบ่ ทเรยี น บอกปัญหาหรอื งานทตี่ อ้ งการใหก้ ลุม่ แกไ้ ขหรอื คดิ วเิ คราะห ์ หา คาตอบผูส้ อนแนะนาแหล่งขอ้ มูล คน้ ควา้ หรอื ใหข้ อ้ มูลพนื้ ฐานสาหรบั การคดิ วเิ คราะห ์ ผูส้ อนมอบหมายงานทกี่ ลุ่มตอ้ งทาใหช้ ดั เจน ขน้ั ทากจิ กรรม ผูเ้ รยี นรว่ มมอื กนั ทางานตามบทบาทหน้าทที่ ไี่ ดร้ บั ทุกคนรว่ มรบั ผดิ ชอบ รว่ มคดิ รว่ ม แสดงความคดิ เห็น การจดั กจิ กรรในขน้ั นี้ ขนั้ ตรวจสอบผลงาน ขนั้ นีผ้ ูเ้ รยี นจะรายงานผลการทางานกลุ่ม ผูส้ อนและเพอื่ นกลุ่มอนื่ อาจซกั ถามเพอื่ ให้ เกดิ ความกระจา่ งชดั เจน เพอื่ เป็ นการตรวจสอบผลงานของกลุม่ และรายบุคคล ขนั้ สรุปและประเมนิ ผล การทางานกลุ่ม ขน้ั นีผ้ ูส้ อนและผูเ้ รยี นชว่ ยกนั สรุปบทเรยี น ผูส้ อนควรชว่ ยเสรมิ เพมิ่ เตมิ ความรู ้ ชว่ ยคดิ ใหค้ รบตาม เป้ าหมายการเรยี นทกี่ าหนดไว้ และชว่ ยกนั ประเมนิ ผลการทางานกลุม่ ทง้ั สว่ นทเี่ ดน่ และสว่ นทคี่ วร ปรบั ปรุงแกไ้ ข ชนกนาถ สนั ตสิ กุล 9

ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ 10

ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ 11

ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ 12

ประโยชนจ์ ากกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้แบบรว่ มมือ (Cooperative Learning) 1.สร้างความสัมพันธ์ท่ีดรี ะหวา่ งสมาชิก 2.สมาชกิ ทุกคนมโี อกาสคิด พูดแสดงออก แสดงความคดิ เหน็ 3.เสริมให้มคี วามช่วยเหลือกัน 4.รว่ มกนั คิดทกุ คน ทาใหเ้ กดิ การระดมความคดิ 5.สง่ เสริมทกั ษะทางสังคม ชนกนาถ สนั ตสิ กุล 13