Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือครู การงานอาชีพฯ ม.1 (ใหม่ ปี 62)

คู่มือครู การงานอาชีพฯ ม.1 (ใหม่ ปี 62)

Published by mamarklover, 2021-03-20 08:52:42

Description: คู่มือครู การงานอาชีพฯ ม.1 (ใหม่ ปี 62)

Search

Read the Text Version

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ นาํ (กระบวนการกลุม) ๙ การจดั สวนในภาชนะเพ่ือตกแตง่ ห้องตา่ งๆ ในบา้ น 1. ครูทบทวนความรจู ากชั่วโมงท่ีผานมา การตกแตง่ บา้ นจะช่วยใหบ้ า้ นมีความสวยงามและน่าอยูอ่ าศยั ซึง่ นอกจากจะตกแตง่ ด้วยการ 2. ครูถามนกั เรยี นวา จดั วางเครอื่ งเรอื นตา่ ง ๆ ใหเ้ หมาะสมแลว้ การจดั สวนในภาชนะยงั มสี ว่ นชว่ ยใหบ้ า้ นมคี วามสวยงาม มากยิง่ ข้นึ อกี ท้ังยังสรา้ งความประทับใจใหแ้ กผ่ ทู้ มี่ าเย่ยี มเยยี นอีกดว้ ย • มีใครรูจัก หรือเคยเห็นสวนถาด หรือ สวนแกวบาง และถารูจักนักเรียนเคยทํา ผ จู้ ดั ส๙กวา.น๑ร2 จ โัดดคสยววยานอ่ มใสนว่สภน�าาใคหชัญม้นขีะข นอเาปงดก็นเลากก็ราลรจงจัด ัดแสสลววว้ นนนเใา� พนม่ือภาจวา�าาชลงไนอวงะ ้ใทนิวภทาัศชนน์ทะทามงี่ ธขี รนรามดชเลาตก็ 1ิต สาามมจาินรตถนเคาลกอ่ื านรขยอา้ ยง สวนถาด หรอื สวนแกวดว ยตนเองหรอื ไม (แนวตอบ คําตอบข้ึนอยูกับดุลยพินิจของ ได้อยา่ งสะดวก และนา� ไปประดบั ตกแต่งอาคารบา้ นเรือน หอ้ งท�างาน ห้องรับแขก ใหด้ ูสวยงาม นกั เรยี น) การจดั สวนในภาชนะมคี วามสา� คัญในด้านตา่ ง ๆ ดงั นี้ ขนั้ สอน ด้านจติ ใจ • ช่วยลดความตึงเครียด 1. ครชู แี้ จงกจิ กรรมเกยี่ วกบั การจดั สวนในภาชนะ • ชว่ ยผอ่ นคลายความวติ กกงั วล เพอ่ื นาํ มาจดั และตกแตง หอ งตา งๆ ภายในบา น • ชว่ ยใหเ้ กิดความสนุกสนาน เพลดิ เพลิน โดยจะเลนเกมคนหาตามคาํ บอก โดยมีกตกิ า • ช่วยสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพจติ มีจิตใจทอ่ี ่อนโยน และวธิ ีการเลน ดังน้ี 1) ใหน กั เรยี นแบง กลมุ ออกเปน 4 กลมุ กลมุ ละ ด้านสนุ ทรียภาพ เทาๆ กัน จากนั้นสงตัวแทนกลุมออกมา • ช่วยใหบ้ า้ นนา่ อยูอ่ าศัยมากข้นึ หนา ชนั้ เรียน เพอ่ื เปนตัวแทนเขยี นคาํ ตอบ • ชว่ ยให้รสู้ กึ สดช่ืน กระปรกี้ ระเปร่า บนกระดาน • ช่วยเสรมิ สร้างบรรยากาศทด่ี ภี ายในบา้ น 2) สมาชกิ ในกลมุ ทเ่ี หลอื จะทาํ หนา ทใ่ี นการหา • ช่วยสร้างความสวยงามและสรา้ งความ คาํ ตอบจากโจทยท คี่ รกู าํ หนดให โดยสบื คน ประทับใจแกผ่ พู้ บเห็น หาคําตอบไดจากหนังสือเรียน หนวยการ เรยี นรทู ่ี 2 การดูแลรกั ษาบาน หรือสืบคน เพมิ่ เติมจากอนิ เทอรเ น็ต ด้านลกั ษณะนสิ ยั • ช่วยฝกความอดทน • ชว่ ยฝก ให้มีความละเอียดรอบคอบ • ชว่ ยฝกความรบั ผิดชอบตอ่ การท�างาน • ชว่ ยใหท้ า� งานไดอ้ ย่างประณตี และเรียบรอ้ ย ๓๘ นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด 1 ทวิ ทศั นท างธรรมชาติ การจดั สวนในภาชนะทจี่ าํ ลองทวิ ทศั นท างธรรมชาติ การจัดสวนในภาชนะเพ่ือนํามาใชในการจัดและตกแตงหอง สว นใหญจะจัดแบบใหเหน็ ภาพภเู ขา กอ นหนิ ดอกไม หรอื ตนไมข นาดเล็กขน้ึ ตางๆ ภายในบานมคี วามสาํ คัญอยา งไร แทรกอยู หรอื อาจมสี วนประกอบทเี่ ปนส่งิ กอ สรา งจําลอง เชน สะพาน เรือ คน สัตวต า งๆ รวมอยูดว ย (แนวตอบ การจดั สวนในภาชนะเพอ่ื นาํ มาใชใ นการจดั และตกแตง 2 ผูจัดสวน ควรมีความรู ความเขาใจเกี่ยวกับวิธีการจัดสวนและหลักการ หองตางๆ ภายในบาน จะชวยเสริมสรางบรรยากาศภายในบาน ทางทศั นศิลป มคี วามละเอียด รอบคอบ ใจเยน็ มีความคิดสรางสรรค มีทักษะ ใหรูสึกสดช่ืน ผอนคลาย ทําใหบานสวยงามและนาอยูย่ิงขึ้น ในการใชอุปกรณตางๆ และมีทักษะการจัดสวนไดอยางหลากหลาย ซ่ึงหาก อกี ทง้ั ยงั สามารถสรา งความประทบั ใจใหก บั แขกทมี่ าเยย่ี มเยอื นได ผูจัดสวนมีคุณสมบัติดังกลาวจะชวยใหการจัดสวนประสบผลสําเร็จและเปนท่ี อกี ดวย) นา พงึ พอใจสําหรับตนเองและผูอ่ืน T42

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๙.๒ ประเภทของการจดั สวนในภาชนะ ขนั้ สอน การจัดสวนในภาชนะมีหลากหลายประเภท โดยแต่ละประเภทจะมีลักษณะและวิธีการจัด ที่แตกต่างกัน รวมทั้งการน�าไปจัดวางในสถานท่ีต่าง ๆ ควรพิจารณาเลือกใช้ภาชนะให้เหมาะสม 3) ครทู าํ หนา ทใี่ นการควบคมุ เวลาการหาคาํ ตอบ กับรูปแบบของสวนท่ีต้องการจัด ซึ่งการจัดสวนในภาชนะ ในแตละขอ และเปน ผกู ําหนดโจทยปญหา แบง่ เป็น ๓ ประเภท ดงั นี้ สวนในถาด 4) เมื่อหมดเวลาในแตละขอ ครูผูตรวจสอบ ความถกู ตอ งของคาํ ตอบ พรอ มเฉลยคาํ ตอบ • ใช้ภาชนะท่ีทึบแสง เรียกว่า และอธิบายคําตอบที่ถูกตอง จากนั้นให “ถาด” มีก้นตน้ื ปากกวา้ ง คะแนนกลมุ ทต่ี อบไดม ากและถกู ตอ งที่สดุ • เลอื กใชพ้ รรณไมท้ มี่ ขี นาดเลก็ หรอื พรรณไม้แคระ 5) ปฏบิ ตั แิ บบนจี้ นครบทกุ โจทยท คี่ รกู าํ หนดให • ประดับตกแต่งด้วยดิน หิน และนับคะแนน เพ่ือคนหาผูชนะ กรวด และต๊กุ ตาประดบั สวนในตู้ • ใช้ตู้ปลา หรือตู้กระจกท่ีมี ลักษณะโปรง่ ใส • สวนบก ใชพ้ รรณไม้ในรม่ • สวนกง่ึ บกกงึ่ นา้� ใชพ้ รรณไม้ ทช่ี อบความชื้นสูง 1 • สวนไม้น�้า ใช้พรรณไม้น�้า สามารถเล้ยี งปลาได้ สวนในขวดแกว้ หรอื โหลแกว้ • ใช้ขวดปากกวา้ ง หรอื ใช้ โหลแกว้ ขนาดกลางไปจนถงึ ขนาดใหญ่ • ใชพ้ รรณไม้ ในรม่ ที่มี ขนาดเล็ก • ประดบั ตกแตง่ ด้วยทราย ยอ้ มสี หินสี การดูแล ๓๙ รักษาบ้าน ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู หากตองการจัดสวนใหเห็นทิวทัศนทางธรรมชาติในมุมกวาง ครอู าจใหน กั เรยี นรว มกนั อภปิ รายเกยี่ วกบั ความแตกตา งของสวนในภาชนะ และสามารถใชพรรณไมจัดและตกแตงไดหลายชนิด ควรเลือก แตละประเภทวา มลี ักษณะและรปู แบบท่ีแตกตา งกันอยางไร และนักเรียนคิดวา จัดสวนประเภทใด สวนแตล ะประเภทมวี ิธกี ารเลอื กใชพ รรณไม วัสดุปลูก และวัสดตุ กแตง รวมถงึ วธิ กี ารจดั สวนทเี่ หมือนกันหรือแตกตา งกนั อยางไร 1. สวนในตู 2. สวนในถาด นักเรียนควรรู 3. สวนในขวดแกว 4. สวนในโหลแกว 1 พรรณไมน า้ํ เปน พชื ทเ่ี จรญิ เตบิ โตไดด ใี นนาํ้ แบง เปน 3 ประเภท คอื พชื ลอยนาํ้ (วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะมีพื้นท่ีกวางขวางมากกวา เชน จอก ผักตบชวา พชื ในนา้ํ เชน สาหรา ย บวั และพืชริมนํา้ เชน ผกั แวน การจดั สวนในรปู แบบตา งๆ สามารถมองเหน็ ทวิ ทศั นท างธรรมชาติ กกกลม ไดใ นมมุ กวา ง และใชพ รรณไม รวมถงึ วสั ดตุ กแตง ไดอ ยา งหลากหลาย) T43

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๙.๓ องค์ประกอบของการจดั สวนในภาชนะ 2. ครใู หน กั เรยี นแบง กลมุ ออกเปน 4 กลมุ กลมุ ละ การจัดสวนในภาชนะให้มีความสวยงาม เพื่อเลียนแบบ หรือจ�าลองทิวทัศน์ทางธรรมชาต ิ เทา ๆ กนั และเรมิ่ เลน เกมคนหาตามคําบอก ผูจ้ ดั สวนควรค�านงึ ถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ดังน้ี • โจทยท ี่ 1 ความสาํ คญั การจดั สวนในภาชนะ (แนวตอบ ๑) ความรู้พื้นฐานทางด้านทัศนศิลป  ผู้จัดสวนต้องมีความรู้ ความเข้าใจพื้นฐาน - ดา นจติ ใจ ชวยใหเพลดิ เพลนิ เสริมสรา ง สขุ ภาพจติ และผอนคลายความเครียด ทางด้านทัศนศิลป์ ในเรื่องของทศั นธาตแุ ละองคป์ ระกอบศลิ ป ์ เชน่ - ดานสนุ ทรียภาพ ชว ยเสรมิ สรา ง เส้น1 รูปทรง บรรยากาศท่ดี ี ทาํ ใหร ูสึกสดช่ืน และทาํ ใหบานนาอยูอาศัยมากขน้ึ เส้นตรงและเส้นโค้ง ช่วยสร้าง ดรู ปู ทรงของพรรณไม้ ภาชนะ และวสั ดุ - ดานลักษณะนิสัย ชวยใหการทํางาน อารมณ์และความรู้สึกผ่อนคลาย ตกแต่งให้มีความกลมกลนื กัน ฝกความอดทน ความละเอียดรอบคอบ มพี ืน้ ทก่ี ว้างขนึ้ งานที่ทําออกมาประณีต เรียบรอย และ สี สวยงาม) • โจทยท ี่ 2 ประเภทของภาชนะในการจดั สวน ควรเลือกใช้สีที่กลมกลืนกัน (แนวตอบ ถาด ตู ขวดแกว ) เพราะจะช่วยใหด้ ูสดชื่น และสบายตามากยง่ิ ข้ึน ผิวสมั ผัส ดูภาพรวมของพรรณไม้ เช่น ความหยาบของใบ ดอกไม้ที่จะ นา� มาจดั รวมกนั ความกลมกลืน จดั องคป์ ระกอบใหพ้ อดี อาจเกดิ จากความเหมอื น ความแตกตา่ ง มารวมกันอยา่ งสวยงาม จดุ สนใจ หรอื จุดเด่น สร้างจินตนาการว่าต้องการ น�าเสนอสิง่ ใด แล้วสร้างจุดรอง จุดเสริมทก่ี ลมกลนื กัน สดั สว่ น จงั หวะ หรอื ระยะ เปรยี บเทยี บขนาดของพรรณไม้ และวัสดุตกแต่งท่ีอยู่ในบริเวณ วางพรรณไมแ้ ละวสั ดุตกแต่ง เดยี วกนั ให้มสี ัดส่วนท่ีสมดลุ แตล่ ะช้นิ ใหส้ มดลุ กนั 4๐ เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคิด ครคู วรแนะนาํ นกั เรยี นวา การนาํ หลกั การทางทศั นศลิ ปม าใชในการจดั สวน เพราะเหตใุ ดการจดั สวนในภาชนะจงึ ตอ งอาศยั ความรพู นื้ ฐาน ในภาชนะนน้ั เปน สง่ิ สาํ คญั เพราะเปน สว นหนงึ่ ทท่ี าํ ใหส วนดสู วยงาม เชน ทาํ ให ทางดา นทัศนศลิ ป เขา ใจการจดั วางอยางเหมาะสม ความกลมกลนื ของรปู ทรงท่คี ลา ยคลงึ กนั ของ พรรณไมและสีสันท่ีใช (แนวตอบ เพราะการเขา ใจหลกั การทางทศั นศลิ ปส ามารถทาํ ให รเู ทคนคิ การจดั สวนใหส วยงาม เชน การเลอื กใชพ รรณไมใ หเ หมาะสม นักเรียนควรรู กบั รปู ทรงของภาชนะ การจดั วาง ความสมดลุ ของระยะหา ง สดั สว น ทเ่ี หมาะสม ความกลมกลนื จดุ เดน หรือจดุ สนใจ) 1 เสน เสน แตละเสนจะใหความรูสกึ ทแี่ ตกตางกนั เชน • เสนนอน ใหความรูสึกสงบ ผอ นคลาย • เสนโคง ใหความรูสกึ เคลือ่ นไหว มีชีวติ ชีวา • เสน ทแยงมมุ ใหค วามรูสึกตื่นเตน ไมห ยุดนิง่ T44

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๒) การเลอื กพรรณไม ้ การจดั สวนในภาชนะจะตอ้ งใชพ้ รรณไมห้ ลายชนดิ มาจดั รวมกนั ขน้ั สอน โดยเลอื กพรรณไมท้ ีม่ ีขนาดเล็ก เจรญิ เติบโตชา้ พรรณไม้ที่ใชส้ า� หรบั จดั สวนในภาชนะ มดี งั นี้ • โจทยท ี่ 3 ความรพู ้นื ฐานทางดานทศั นศิลป ในการจดั สวนในภาชนะ เปเปอร ์ โรเมยี ออมเงิน ออมทอง พรรณไม้ในร่ม (แนวตอบ ผจู ดั สวนถาดหรอื สวนแกว ควรศกึ ษา นกกระทา เ ป ็ น พ ร ร ณ ไ ม ้ ท่ี ต ้ อ ง ก า ร เกี่ยวกับเสน รูปทรง สี ผิวสัมผัส ความ แสงแดดร�าไร และอยู่ ในที่ กลมกลืน จุดสนใจ หรือจุดเดน สัดสวน คอ่ นข้างชืน้ เชน่ และระยะในการวาง) เปปเปอร์ โรเมีย เป็นไม้ ประดับ ล�าต้นเป็นกอหนา • โจทยท ่ี 4 พรรณไมท น่ี ยิ มนํามาจัดสวนใน ภาชนะ นแนกน่ กรใบะทหนา1าเเปป็น็นไมมนั้ประดบั ใบ (แนวตอบ พรรณไมในรม เชน เปปเปอรโ รเมยี นกกระทา ออมเงนิ ออมทอง กลมวี มีจุดสีเงินแต้มประอยู่ - พรรณไมกลางแจง เชน สนญี่ปุนแคระ ด้านล่างเสน้ ใบ เลบ็ ครุฑดาง พรมออสเตรเลยี ออมเงิน  ออมทอง เป็นไม้ - พรรณไมอ วบนาํ้ เชน หยดนาํ้ กระบองเพชร เลอ้ื ย ลา� ตน้ เปน็ เถา กา้ นใบยาว อชิ เิ วเรยี ) ผวิ ใบมีสเี หลอื งและสเี ขยี ว พรรณไมก้ ลางแจง้ สนญ่ปี ุ่นแคระ เ ป ็ น พ ร ร ณ ไ ม ้ ที่ ต ้ อ ง ก า ร เลบ็ ครฑุ ด่าง แสงแดดมาก ตอ้ งอยกู่ ลางแจง้ จึงจะเจริญเติบโตไดด้ ี เช่น สนญ่ีปุ่นแคระ เป็นไม้แคระ ตน้ เปน็ ทรงคอ่ นข้างกลม พุม่ แน่น ก่ิงย่อยแผ่แบนซ้อนกัน เป็นกระจุก เลบ็ ครฑุ ดา่ ง เปน็ ไมพ้ มุ่ ขนาด เล็ก ขอบใบหยัก สีเขียวเข้ม พรมออสเตรเลีย และสีขาวอมเหลือง พรมออสเตรเลีย เป็นไม้ ล้มลุก ล�าต้นแตกกิ่งก้านแผ่ คลุมดิน ใบสีเขียวเข้มเป็นมัน มีขนสนั้ ปกคลุม การดูแล 41 รักษาบ้าน ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู หากตอ งการจัดสวนในถาด เพ่ือนาํ ไปวางไวรมิ ระเบียงบาน ครูควรแนะนํานักเรียนวา การเลือกพรรณไมท่ีนํามาใชในการจัดสวนใน ทมี่ แี สงแดดจัด ควรเลอื กพรรณไมช นิดใด เพราะเหตใุ ด ภาชนะนั้นจะตองมีหลกั การเลือก ดังน้ี 1. เฟน 1. เลือกพรรณไมทม่ี ขี นาดเลก็ ใบสวยงาม 2. แคคตัส 2. เลอื กพรรณไมท ส่ี ามารถอยรู ว มกบั พรรณไมช นดิ อน่ื ๆ ไดอ ยา งเหมาะสม 3. แพงพวย เชน ความตองการแสงแดด ความชนื้ ดิน นํ้า ปยุ ที่เหมือนกนั 4. กระบองเพชร 3. เลือกพรรณไมที่ขยายพันธไุ ดง า ย โดยการปกชํา หรือการเพาะเมล็ด (วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เพราะริมระเบียงบานเปนบริเวณ ทม่ี ีแสงแดดสอ งถงึ ดังนน้ั จึงควรเลือกพรรณไมก ลางแจง ซ่ึงก็คอื นักเรียนควรรู แพงพวย เนอ่ื งจากเปน พรรณไมท ที่ นตอ แสงแดด ชอบแดด มสี สี นั สวยงาม และออกดอกตลอดทง้ั ป) 1 นกกระทา จัดเปน ไมประดับทส่ี ามารถนํามาปลูกไวภ ายในหอ งตางๆ ของ บานได เน่ืองจากเปนไมพรรณเล็กท่ีมีความสูงประมาณ 15-30 ซม. ปลายใบ เรียวแหลม โคนใบมน ออกดอกขนาดเล็ก สขี าวอมสเี ขียวออ น ออกดอกตาม ซอกใบใกลปลายกง่ิ และจะออกดอกตลอดท้ังป T45

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน พรรณไมอ้ วบนา�้ หยดน้�า เป็นพรรณไม้ที่เก็บน�้าไว้ได้ กระบองเพชร • โจทยที่ 5 สิ่งท่ีตองคํานึงในการเลือกภาชนะ ทุกส่วนของต้น ทนต่อสภาพ ในการจัดสวน แหง้ แล้งได้ดี เชน่ (แนวตอบ ขนาดทเ่ี หมาะสมกับพรรณไม หยดน้�า ต้นสั้น เป็นพุ่มกลม การบรรจดุ นิ ที่ปลกู และความประหยดั ปลายใบมนใส มีริ้วสีเขียวเข้ม คา ใชจ า ย) กพราดะตบาอมงคเวพาชมรย1าทวขนอตง่อใบสภาพ • โจทยท ี่ 6 วสั ดทุ ใ่ี ชในการจัดสวนในภาชนะ (แนวตอบ วัสดุปลูก เชน ขุยมะพราว ขี้เถา แห้งแล้งได้ดี ดอกมีหลายสี แกลบ ทรายละเอียด และวัสดุตกแตง เชน แลว้ แต่ชนดิ หินสี กรวด ตกุ ตาประดบั ) อ  ิชิเวเรีย ปลายต่ิงใบมีหนาม แหลม ขอบใบเรียว ใบหนา ซอ้ นกนั คล้ายกุหลาบ อิชิเวเรยี ๓) การเลือกภาชนะ การจัดสวนในภาชนะตอ้ งเลือกภาชนะให้เหมาะสมกับพรรณไม้ การบรรจดุ นิ ปลูก และความประหยดั ภาชนะที่นิยมนา� มาใช ้ มีดงั นี้ การเลือกภาชนะ ถาด ตู้ ขวดแกว้  หรือโหลแก้ว ถาด มที รงกวา้ ง เหมาะกบั การ จดั สวนแบบทวิ ทศั น์ เพอื่ แสดง เรอื่ งราวได้อยา่ งชดั เจน ขวดแก้ว หรอื โหลแกว้ มีท้ังแบบปากเปิดและปากปิด เหมาะกบั การจดั สวนท่ีเลอื กใช้ พรรณไม้ที่มีความช้ืน ท�าให้ เหน็ ลวดลายได้อยา่ งชัดเจน ตู้ มีพื้นท่กี วา้ ง เหมาะกบั การ จดั สวนที่ใชพ้ รรณไมท้ มี่ คี วามชน้ื เห็นลวดลายได้อย่างชดั เจน 4๒ นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคดิ 1 กระบองเพชร การดแู ลรักษากระบองเพชรใหม อี ายยุ าวนาน สามารถทาํ ได การเลอื กภาชนะที่ใชสําหรับจดั สวนควรคํานึงถงึ สงิ่ ใด ดังน้ี (แนวตอบ การเลือกภาชนะสําหรบั จัดสวน ควรคํานงึ ถึงรูปแบบ • ควรรดนา้ํ ในชว งเชา เพราะจะทาํ ใหน ํา้ ทคี่ า งบนตน ระเหยไปหมดในชว ง ของสวนที่ตองการจัด ความเหมาะสมกับพรรณไมที่นํามาใช กลางวนั จงึ ไมก อ ใหเกดิ ปญ หาการเนา หรอื ถกู แดดเผา การบรรจุดนิ ปลูก และราคาตอ งไมแ พงจนเกนิ ไป) • ไมชอบแสงแดดจดั ควรปลกู ในบรเิ วณทมี่ ีแสงแดดรําไร • ไมค วรใหป ยุ ทม่ี ไี นโตรเจนมาก เพราะจะไปเรง การเจรญิ เตบิ โต อาจทาํ ให ลําตน เปนลายแตกได • หากพบวามีสวนใดสวนหนง่ึ ของตน เกดิ เช้ือรา ใหต ดั สวนนน้ั ทิง้ แลวใช คอปเปอรซ ลั เฟต หรอื ยาฆาเชอ้ื ราทารอบๆ แผลและบรเิ วณใกลเ คียง T46

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๔) การเลือกวัสด ุ การจัดสวนในภาชนะ สงิ่ ส�าคญั ท่ตี ้องคา� นึงถงึ คอื การเลือกวัสดุ ขนั้ สอน ในการจัดสวน ควรเลอื กให้เหมาะสมกบั ภาชนะและพรรณไม้ที่ต้องการจดั ดงั นี้ 3. เม่ือเลนเกมเสร็จ ครูนับคะแนนเพ่ือหาผูชนะ จากน้ันครูใหนักเรียนสรุปความรูที่ไดรับจาก วสั ดปุ ลกู 1 การเลม เกมใสส มดุ บนั ทกึ หรอื กระดาษ แลว นาํ มาสงครูผสู อน ขยุ มะพร้าว เป็นวัสดุท่ี ใช้ ในการปลูกพืช มคี วามเปรยี้ ว รว่ นซยุ ระบาย 4. ครชู แี้ จงการเรยี นในชวั่ โมงถดั ไป โดยใหน กั เรยี น แบงกลมุ (กลุม เดิม) ออกแบบสวนถาด หรือ น ขุย�้าไมดะ้ดพี เรช้าน่ ว2 เปลอื กมะพร้าว สวนแกว และนาํ วสั ดุ อปุ กรณ เครอ่ื งมอื เครอื่ งใช เกี่ยวกับการจัดสวนถาด หรือสวนแกวมาใน ทปี่ นั เอาใยออก มลี กั ษณะเปน็ ชว่ั โมงถดั ไป จากน้ันครเู ปด โอกาสใหนกั เรียน ซักถามขอ สงสยั เพิม่ เติม ขุยละเอียด 3  ขีเ้ ถ้าแกลบ เปลือกข้าว หรือ แกลบท่ีถูกเผาไหม้เป็นถ่าน น�้าหนกั เบา อมุ้ น�้าไดด้ ี ท  รายละเอยี ด ทรายทมี่ ขี นาด เล็กมากและมีความละเอียด ผา่ นการร่อนมาแลว้ ขเี้ ถ้าแกลบ ทรายละเอยี ด วัสดุตกแต่ง หินสี ตุ๊กตาประดบั เป็นวัสดุท่ี ใช้ ในการตกแต่ง ส ว น ใ ห ้ เ กิ ด ค ว า ม ส ว ย ง า ม กรวด โดดเดน่ และสะดุดตา เช่น หินสี หนิ กอ้ นเลก็ ๆ ทมี่ ีสสี ัน สวยงาม มีรปู ทรงและขนาดท่ี หลากหลาย น้�าหนักเบา กรวด หินตะกอนท่ีมีขนาด ใหญ่กว่าเม็ดทราย ผิวเรียบ มนและลน่ื  ตุ๊กตาประดับ ตุ๊กตาท่ีท�า จากดินเผา หรือเซรามิก มี ขนาดเลก็ การดูแล 4๓ รักษาบ้าน กิจกรรม เสรมิ สรางคุณลักษณะอันพงึ ประสงค นักเรียนควรรู ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกันออกแบบสวน 1 วสั ดุปลูก ใชสาํ หรบั ปลูกตน ไมตางๆ เพอื่ ชวยเพ่ิมสารอาหารและบาํ รงุ ดนิ ในภาชนะตามความสนใจ 1 ประเภท ซง่ึ จะตอ งคาํ นงึ ถงึ หลกั ความ เชน ขุยมะพราว แกลบ ปยุ ตา งๆ ซงึ่ วสั ดุปลกู ควรมคี ณุ สมบัติ ดงั น้ี พอเพียง พรอมวาดภาพและระบายสีใหสวยงาม จากนั้นนําเสนอ ผลงานหนา ช้ันเรียน • ไมย บุ ตัวเมือ่ โดนน้าํ รากพืชสามารถกระจายไดท ั่วทกุ สว น • ไมม ีสารพิษเจือปน และไมเ ปนแหลงสะสมของเช้อื โรคและแมลง (กิจกรรมนี้เสริมสรางคุณลักษณะดานมีวินัย อยูอยางพอเพียง • ไมท ําปฏกิ ิรยิ ากับสารละลายธาตุอาหารของพืช และมุงมนั่ ในการทาํ งาน) 2 ขยุ มะพรา ว เปน วสั ดปุ ลกู ชนดิ หนงึ่ นาํ้ หนกั เบา อมุ นาํ้ ไดด ี และเกบ็ ความชน้ื ไดน าน นยิ มนาํ มาใชเ พอ่ื เพาะชาํ ตน ไม ในการใชง านควรนาํ ขยุ มะพรา วมาพรมนา้ํ ใหมคี วามช้นื พอเหมาะ ไมแ หง หรือเปย กมากจนเกินไป เพราะอาจทําใหตน ไม ตายได 3 ข้ีเถาแกลบ มีประโยชนม ากมาย เชน เปนวสั ดปุ รับปรุงดนิ ชว ยเพมิ่ ความ รว นซยุ เพมิ่ แรธ าตุ เปน วสั ดดุ ดู ซบั ในกระบวนการบาํ บดั นา้ํ เสยี ดดู ซบั มลพษิ ตา งๆ T47

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๙.๔ ขน้ั ตอนการจดั สวนในภาชนะ 5. ครูทบทวนความรูจากช่ัวโมงทผ่ี า นมา จากนั้น การจัดสวนในภาชนะเพื่อให้เกิดความสวยงามและต้นไม้ยังคงเจริญเติบโตงอกงามสมบูรณ์ดี กลา วเชอื่ มโยงเขา สกู จิ กรรมการเรยี นการสอน จะตอ้ งจดั สวนให้ถกู ตามขน้ั ตอน วา “กอ นทจ่ี ะทาํ การจดั สวนถาดหรือสวนแกว นน้ั นกั เรยี นควรออกแบบ หรือเขยี นแบบสวน ขัน้ ตอนการจดั สวนในภาชนะ ท่ีตอ งการกอ น จากนนั้ จัดเตรยี มวัสดุ อปุ กรณ เครื่องมือ เคร่ืองใช และควรทําความสะอาด ñ ออกแบบ หรอื ร่างแบบสวน ò เตรียมภาชนะ พรรณไม้ ó ทา� ความสะอาดภาชนะ โดย ภาชนะใหเรียบรอย เริ่มทําการจัดสวนถาด ในภาชนะท่ีต้องการ วสั ดปุ ลกู วสั ดตุ กแตง่ ใหพ้ รอ้ ม ล้างใหส้ ะอาด และผ่ึงให้แหง้ หรอื สวนแกว โดยเรียงลําดบั การวางจากดาน และเหมาะสมกับแบบสวน ลางไปดานบน จัดวางใหสวยงามเหมาะสม ตามหลักองคประกอบศิลป” กถราดะถาง/ ท�าความสะอาดภาชนะ พรรณไม้ 6. ครูใหสมาชิกแตละกลุมเตรียมวัสดุ อุปกรณ เครอ่ื งมอื เครอื่ งใชท ใี่ ชใ นการจดั สวนถาด หรอื สวนแกว ใหพ รอ ม จากนน้ั ใหน กั เรยี นแตล ะกลมุ รวมกันจัดสวนถาด หรือสวนแกวตามแบบท่ี ไดวางไว ô ภาชนะมรี รู ะบายน�้า วสั ดปุ ลกู และ หากเปน็ แกว้ ใสต้องล้าง • น�าอฐิ มอญกอ้ นเล็ก ๆ วางปิดรู วสั ดุตกแตง่ ใหส้ ะอาดและปลอ่ ยไว้ใหแ้ หง้ • ใรสอ่ดงนิกป้นลถูกา1ดดว้ ยขุยมะพร้าวชุ่มนา�้ • õ น�าพรรณไมท้ เ่ี ตรยี มไวล้ งปลกู ในภาชนะท่เี ตรียมไว้ ภาชนะไม่มีรรู 2ะบายนา้� ประดับดว้ ยวัสดุตกแตง่ รดนา้� ใหช้ ุ่ม น�าไป • ใสอ่ ฐิ มอญก้อนเล็ก ๆ ประดับ ลงในถาด ตกแต่งบ้าน • ใสข่ ีเ้ ถ้าแกลบ และดิน พรมนา�้ ใหท้ ั่ว 44 เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด ครอู าจเปด คลปิ วดิ โี อเกย่ี วกบั ขนั้ ตอนการจดั สวนในภาชนะใหน กั เรยี นดเู ปน ขอใดคือขัน้ ตอนแรกของการจดั สวนในภาชนะ ตัวอยา ง โดยสามารถเปด ไดจ าก https://www.youtube.com/watch?v=leP 1. จดั ซอ้ื วสั ดุ อปุ กรณ NPfO5AQE&index=22&list=PLjfBcpMviIyLrnUof1Fw3JF5SvaCV3CcC 2. ออกแบบสวนตามที่ตองการ 3. ประดบั ตกแตงสวนใหส วยงาม นักเรียนควรรู 4. เตรยี มภาชนะ พรรณไม วสั ดุปลูก และวสั ดุตกแตง 1 ดนิ ปลูก ดินทีน่ าํ มาใชใ นการปลกู พืช จะมคี ณุ สมบตั ทิ ่ีสําคัญ คอื รวนโปรง (วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 2. เพราะข้ันตอนแรกของการจัดสวน ระบายไดดี น้ําหนักเบา ดูดซับน้ําไดดี มีธาตุอาหารท่ีสมบูรณ ไมมีความเปน ในภาชนะ คือ การออกแบบหรือรางแบบสวนตามที่ตองการ กรดดา งมากเกนิ ไป ไมม สี ารเคมที เ่ี ปน อนั ตรายตอ พชื เนอ้ื ดนิ ยดึ เกาะลาํ ตน ไดด ี เพอื่ จะไดทราบวา สวนจะมรี ปู แบบเปน แบบใด ใชภ าชนะ พรรณไม 2 อิฐมอญ ทําจากดินเหนยี ว น้าํ ขเ้ี ถาแกลบ และทราย โดยนํามาผสมกนั วสั ดปุ ลกู และวสั ดตุ กแตง ใด) ในอตั ราสว นทเ่ี หมาะสม นวดผสมใหเปนเนอื้ เดียวกัน แลว ใสแบบพมิ พอ ัดเปน กอนส่ีเหลี่ยมตามขนาดที่ตองการ ทิ้งไวใหแหง จากน้ันนําไปเผาจนสุกก็จะได อฐิ มอญตามท่ีตอ งการ T48

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๙.๕ การดูแลรกั ษาสวนในภาชนะ ขน้ั สอน สวนในภาชนะจะมีความสวยงามและเจริญเติบโตได้ดีน้ัน จะต้องมีการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ซง่ึ วธิ ีการดูแลรกั ษาสวนในภาชนะ มดี งั นี้ 7. ครูอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกับการดูแลรักษา ๑. สวนชนื้ ควรวางไว ้ในทร่ี ม่ หรอื บรเิ วณทม่ี แี สงแดดรา� ไร สวนแหง้ ควรวางไว ้ในทอี่ ากาศ สวนถาด หรอื สวนแกว วา “เมอื่ นกั เรยี นจดั สวน ถ่ายเทไดส้ ะดวก เสร็จเรียบรอยแลว ควรนําสวนถาด หรือ ๒. สวนชื้นควรให้น�้าแบบฉดี พ่นฝอยอยา่ งนอ้ ย ๑ ครัง้ ต่อวนั สวนแหง้ ควรใหน้ า้� แบบฉีด สวนแกว ไปจดั และตกแตง หอ งตา งๆ ภายในบา น พน่ จนใบเปยกชื้นชมุ่ สัปดาห์ละ ๑ ครั้ง และควรใหน้ ้า� ในปรมิ าณทเ่ี หมาะสม ไมม่ าก หรือนอ้ ยจน ของนักเรียนใหสวยงาม แตสิ่งสําคัญที่ตอง เกินไป คํานึงถึง คือ ตองหม่ันดูแลรักษา เพื่อไมให ๓. หากพบตน้ ไม้ทเ่ี ปน็ โรคใหน้ า� ออกทนั ที เพ่อื ปอ้ งกันการลุกลามไปยงั ต้นอ่ืน ๆ ตนไมเห่ียวเฉา ดังน้ัน ควรรดน้ําตนไมและ ๔. ควรตัดแต่งต้นไม้ ให้ได้รูปทรงท่ีสวยงามอยู่เสมอ ในกรณีท่ีต้นไม้แตกก่ิงก้านยาว ใหแสงแดดตามความเหมาะสมของชนิดพืช ผดิ รปู ทรง และใชยากันเช้ือราฉีดปองกันโรคพืชและ แมลงดวย” การดแู ลรกั ษาสวนในภาชนะ ควรดูแลรักษาให้ถูกวิธี เพ่อื ให้สวนในภาชนะคงความสวยงามอยเู่ สมอ การทา� ความสะอาดบา้ น จัดตกแตง่ บา้ นและบรเิ วณบ้าน เป็นหน้าที่ของสมาชกิ ในบา้ นทกุ คนทจ่ี ะตอ้ งชว่ ยกนั ดแู ลและตกแตง่ ใหส้ วยงามอยเู่ สมอ โดยคา� นงึ ถงึ ความปลอดภยั ความเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย และความประหยัด นอกจากน้ี การรูจ้ กั จัดและตกแตง่ สวน ในภาชนะยงั เปน็ สว่ นหนงึ่ ทที่ า� ใหบ้ า้ นสวยงาม นา่ อยอู่ าศยั และสามารถสรา้ งความประทบั ใจ ให้แก่ผ้มู าเยย่ี มเยยี นไดอ้ กี ด้วย การดูแล 45 รักษาบ้าน กิจกรรม Mini Project แนวทางการวัดและประเมินผล ใหน ักเรยี นปฏิบตั กิ จิ กรรม ดังน้ี ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคลและการนําเสนอผลงาน 1. เลอื กหองที่ตอ งการตกแตงตามความสนใจ 1 หอ ง หนาช้ันเรียนของนักเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลท่ีแนบมา 2. ทาํ ความสะอาดหองทเี่ ลือกโดยปฏิบตั ติ าม ดังน้ี ทา ยแผนการจัดการเรียนรู หนว ยการเรยี นรทู ่ี 2 2.1 สงิ่ ท่ีตอ งการทาํ ความสะอาดมสี ง่ิ ใดบาง แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบประเมินการนาเสนอผลงาน 2.2 อปุ กรณทใ่ี ชในการทําความสะอาดมีสง่ิ ใดบา ง 2.3 มกี ารวางแผนการทํางานอยา งไร คาชแี้ จง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องที่ คาชี้แจง : ให้ผสู้ อนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขดี ลงในช่องที่ 3. จัดและตกแตง หอ งตามทีต่ องการ โดยปฏบิ ัติตาม ดงั นี้ ตรงกับระดับคะแนน ตรงกับระดบั คะแนน 3.1 ออกแบบหองตามความคดิ สรางสรรคแ ละจนิ ตนาการ 3.2 เลอื กเคร่อื งเรอื นท่ีนํามาใชในการจัดและตกแตงหอ ง ลาดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 4. จัดสวนในภาชนะเพ่อื นาํ ไปตกแตงหอง โดยปฏิบัตติ าม ดงั น้ี 321 32 4.1 ออกแบบสวนตามความคิดสรางสรรคแ ละจินตนาการ 4.2 เลือกภาชนะ พรรณไม วัสดุปลูก และวสั ดตุ กแตง 1 การแสดงความคดิ เห็น 1 ความถูกตอ้ งของเนอื้ หา 5. ประเมินผลการปฏิบตั งิ าน พรอมทงั้ ระบปุ ญหาในการทาํ งาน 2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผู้อืน่ และเสนอแนะแนวทางแกไข 3 การทางานตามหน้าท่ีทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 2 การลาดบั ขั้นตอนของเรื่อง 4 ความมนี า้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงานอยา่ งสร้างสรรค์ 4 การใชเ้ ทคโนโลยใี นการนาเสนอ 5 การมีสว่ นรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม รวม รวม ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมิน ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................ ............/................./................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 12 - 15 ดี 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 8 - 11 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรับปรงุ ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ T49

นาํ สอน สรุป ประเมนิ ขน้ั สรปุ กจิ กÊรรราé ÁงÊรร¤ì¾ั²นาการเรÂÕ นรéÙ ๒.1 ใบมอบหมายงานที่ ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเก่ียวกับ การจดั สวนในภาชนะ เพื่อนํามาใชในการจัดและ เรื่อง อปØ กร³อíานǤÇาÁÊะดÇกในการ·าí งานบา้ น ตกแตง หอ งตา งๆ ภายในบา นวา “การจดั สวนถาด หรอื สวนแกว เปน การจาํ ลองทวิ ทศั นท างธรรมชาติ คา� ชี้แจง ปฏบิ ตั ิงานเปน็ กลมุ่ ระดมสมอง วิเคราะห์ และเขียนคา� ตอบตามหวั ข้อท่กี �าหนด ใหมขี นาดเล็กลง ซึง่ ขอดี คอื สามารถเคล่อื นยาย ๑. เ พราะเหตุใดการเลือกใช้อุปกรณ์อ�านวยความสะดวกในการท�างานบ้านจึงต้องพิจารณาถึง ไดอ ยา งสะดวก และมคี วามสวยงาม ใหค วามรสู กึ สดช่ืน ผอนคลาย นอกจากนี้การจัดสวนถาด ส่ิงต่อไปน้ี หรือสวนแกว ยังชวยใหเกิดสมาธิในการทํางาน • ความปลอดภยั ในการทา� งาน มีความอดทนเกิดความเพลิดเพลิน สามารถทํา • การประหยดั เวลา แรงงาน และค่าใชจ้ ่ายในครอบครวั เปนงานอดิเรกหรอื สรางเปนรายได เม่อื นาํ ไปจดั • การท�างานสะดวกสบาย และตกแตงหองตางๆ ภายในบานจะทําใหบาน • ไมท่ า� ลายส่ิงแวดลอ้ ม มคี วามสวยงามและนาอยอู าศยั มากขึ้น” ๒. ส ภาพปัญหาของงานบ้านต่อไปน้ี ควรใช้วิธีการใด ใช้เคร่ืองอ�านวยความสะดวกชนิดใด ในการท�างาน และจดั เก็บเครื่องอา� นวยความสะดวกหลงั การใช้งานอยา่ งไร • ฝนุ่ บนพน้ื บ้าน • โตะ๊ เก้าอี ้ ขอบหนา้ ต่าง ม่ลู ่ี มีฝุน่ หนา • ใบไม้เกล่ือนสนามหญา้ • หยากไยบ่ นเพดาน • พืน้ ไม ้ พื้นซเี มนต ์ พ้ืนหนิ ขดั สกปรกมาก ๓. การท�างานบ้านเพอ่ื ใหเ้ กิดความปลอดภยั ต่อตนเองและคนรอบข้าง ควรปฏบิ ตั ิอย่างไร ๔. การทา� งานบ้านเพือ่ ใหเ้ กิดความปลอดภยั และส�าเรจ็ ในเรือ่ งต่อไปน ี้ ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร • การใช้อุปกรณเ์ คร่อื งอา� นวยความสะดวกในการท�างาน • การใช้สารซกั ฟอกและสารเคมี • การปฏบิ ตั ิงาน 46 เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคิด ครคู วรแนะนํานกั เรียนวา การทําความสะอาดอุปกรณ เครอื่ งมือ เครอื่ งใช ขอใดเปน วธิ ีการทาํ ความสะอาดพ้นื ไมท่ีถูกตอง และเครื่องเรือนตางๆ บางชนดิ ไมจําเปนตอ งใชส ารเคมีในการทาํ ความสะอาด 1. กวาดพื้นดว ยไมกวาดดอกหญา ขดั พนื้ ดว ยแปรงลวด เสมอไป แตสามารถนําวัตถุดิบจากธรรมชาติมาใชทดแทนได เชน การใช 2. กวาดพื้นดว ยไมก วาดเสี้ยนตาล ขดั พ้ืนดว ยแปรงขัด มะกรดู แทนนา้ํ ยาดบั กลน่ิ ในหอ งนาํ้ การใชม ะขามเปย กขดั เครอ่ื งทองเหลอื งและ 3. กวาดพื้นดวยไมกวาดดอกหญา ถพู น้ื ดวยไมถพู ื้นเสน ฝา ย เครื่องเงนิ 4. กวาดพ้ืนดวยไมกวาดเส้ียนตาล ลางพื้นดวยน้ํายาทําความ สะอาด (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการทําความสะอาดพ้ืนไม ทถี่ กู ตอ ง ควรเรม่ิ ตน จากใชไ มก วาดดอกหญา กวาดฝนุ ละอองออก ใหห มด แลว ใชไ มถ พู นื้ เสน ฝา ยชบุ นาํ้ บดิ หมาดๆ ถใู หท ว่ั จนสะอาด แลว ถดู วยน้ํายาถพู ้นื อกี ครั้งเพ่ือฆา เช้อื โรค) T50

นาํ สอน สรุป ประเมนิ ๒.๒ใบมอบหมายงานที่ ขนั้ สรปุ เรอ่ื ง การปฏบิ ัติงานบา้ น ขั้นนําเสนอผลงาน ค�าช้แี จง ใบมอบหมายงานมี ๒ ตอน ให้นกั เรียนปฏิบตั งิ านเป็นรายบคุ คล 1. ครใู หนักเรียนทาํ ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) ตอนที่ ๑ การวางแผนทา� งานบา้ น กิจกรรม Cleaning home ๑. วางแผนท�างานบา้ นตามภาระงานของตนเองและตามขั้นตอนการวางแผน ดงั นี้ • วิเคราะห์ภาระงานท่ตี นเองได้รบั มอบหมาย 2. ครใู หนักเรยี นทําแบบทดสอบหลังเรียน • วเิ คราะห์กจิ วตั รประจ�าวนั ของตนเอง หนวยการเรยี นรูท ี่ 2 • วางแผนท�างานบ้านในวันธรรมดาและวันเสาร์-วันอาทิตย์ 3. ครใู หนักเรียนทําแบบวัดฯ ๒. ก ารวางแผนท�างานบ้านจะใชร้ ปู แบบทม่ี อี ยู่ในหนงั สือเรยี น หรอื จะใช้รูปแบบอื่น ๆ ก็ได้ตาม หนวยการเรียนรูท ่ี 2 ความเหมาะสม ตอนท่ี ๒ การปฏบิ ัติงานบา้ นตามแผนการท�างาน ๑. การปฏบิ ัตงิ านนี ้ เป็นการฝกึ ลกั ษณะนสิ ัยของนักเรยี นใหท้ า� งานอยา่ งเป็นระบบ มีคณุ ธรรม และมคี วามรับผิดชอบต่อการท�างาน ดังนั้น จึงควรปฏบิ ัตติ ามขอ้ กา� หนดอย่างเคร่งครดั ๒. บนั ทกึ ภาพขณะทา� งาน (ถา้ ม)ี แนบมาในแบบรายงานกจ็ ะทา� ใหร้ ายงานมคี วามสมบรู ณย์ งิ่ ขน้ึ ๓. ปฏบิ ตั ิตามแผนท่ีไดว้ างไว้ ในตอนที ่ ๑ ดังน้ี • ปฏบิ ตั ิตามแผนท่ีได้วางไว้เปน็ ระยะเวลา ๑ สปั ดาห์ • ให้ผ้ปู กครองแสดงความคดิ เห็นพร้อมลงลายมือช่ือ • ประเมนิ ผลการท�างานของตนเองทกุ สปั ดาห์ • บนั ทกึ ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก ้ไขเกย่ี วกบั การวางแผนงาน หรอื การปฏบิ ตั งิ านทกุ ครง้ั • รายงานผลการทา� งาน โดยนา� สง่ ครผู สู้ อนตามรปู แบบตวั อยา่ ง หรอื รปู แบบอน่ื ๆ ทเ่ี หมาะสม • แนบตารางการท�างานบา้ นประจ�าวนั ทว่ี างแผนมาด้วยทุกครงั้ การดูแล 4๗ รักษาบ้าน กจิ กรรม สรางเสริม แนวทางการวัดและประเมินผล ใหนักเรียนสรุปข้ันตอนการวางแผนการทํางาน และอธิบาย ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคลและการนําเสนอผลงาน ประโยชนข องการวางแผนลงในกระดาษ A4 แลวนําสงครูผูส อน หนาช้ันเรียนของนักเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลท่ีแนบมา ทา ยแผนการจัดการเรยี นรู หนว ยการเรียนรทู ี่ 2 กจิ กรรม ทา ทาย แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ใหนักเรียนวางแผนการเรียน หรือการทํางานของตนเองใน แตละวัน โดยจดั ทําเปนตารางอยา งนอ ย 2 สปั ดาห จากน้ันปฏบิ ัติ คาชีแ้ จง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ งท่ี คาช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขีด ลงในชอ่ งที่ ตามแผนทไ่ี ดว างไว ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ าน พรอ มทงั้ ระบปุ ญ หา ตรงกบั ระดับคะแนน ตรงกับระดับคะแนน หรอื อุปสรรคท่พี บและแนวทางการแกไ ข แลวนําสงครูผสู อน ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 321 32 1 การแสดงความคิดเหน็ 1 ความถกู ตอ้ งของเนอื้ หา 2 การยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผอู้ ่นื 3 การทางานตามหน้าที่ท่ีไดร้ ับมอบหมาย 2 การลาดบั ขัน้ ตอนของเร่ือง 4 ความมีนา้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงานอยา่ งสร้างสรรค์ 4 การใชเ้ ทคโนโลยีในการนาเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลมุ่ รวม รวม ลงชอ่ื ...................................................ผูป้ ระเมิน ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ............../.................../................ ............/................./................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางสว่ น ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ T51

นาํ สอน สรปุ ประเมิน ขนั้ ประเมนิ ๒.๓ใบมอบหมายงานที่ 1. ครูตรวจสอบความรู ความเขา ใจของนักเรยี น เร่ือง การจดั และตกแต่งห้องตา่ ง ๆ ในบ้าน จากการตอบคําถาม การทํางานกลุม และ การนาํ เสนอผลงาน คา� ชแี้ จง ๑. ปฏบิ ตั ิงานเป็นรายบคุ คล ๒. ก ารปฏบิ ตั งิ านน ี้ เปน็ การฝกึ ใหน้ กั เรยี นมลี กั ษณะนสิ ยั ในการทา� งานอยา่ งเปน็ ระบบและมคี วาม 2. ครูตรวจสอบใบงานและกิจกรรมสรางสรรค รบั ผดิ ชอบ พฒั นาการเรียนรู ๓. ค วรบันทึกภาพก่อนและหลังการปฏิบัติ (ถ้ามี) เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของตนเอง และน�าภาพมาใชป้ ระกอบการจดั ทา� รายงาน ๔. ว ิเคราะห์ขั้นตอนการจัดและตกแต่งห้องตามกระบวนการของงาน และให้ปฏิบัติกิจกรรม ตามขน้ั ตอนทก่ี า� หนดให้ ดังนี้ ๔.๑ ศึกษาเร่อื งการจัดและตกแตง่ ห้องต่าง ๆ ในบทเรียน ๔.๒ เลอื กแหล่งข้อมูลทีศ่ กึ ษาหาความรู้เพ่ิมเติม ๔.๓ ตดิ ภาพหอ้ งทป่ี ระทบั ใจลงในกระดาษและบรรยายความประทบั ใจใตภ้ าพ ๔.๔ จ ดั และตกแตง่ หอ้ งในบา้ นของตนเอง ๑ หอ้ ง โดยศกึ ษาหลกั การจากบทเรยี น แหลง่ ขอ้ มลู ที่ศกึ ษาความรู้เพมิ่ เตมิ หรอื ปรกึ ษาผรู้ ู ้ และกา� หนดรายละเอยี ดของงาน ดังนี้ • ชอ่ื ของหอ้ งทตี่ กแตง่ • บันทึกภาพกอ่ นและหลังการปฏบิ ตั งิ าน (ถา้ มี) • เคร่อื งเรือนที่มีในบา้ นท่เี ลือกใช้ • หลกั การจัดวางเครื่องเรือน • หลักการจัดเกบ็ สิ่งของ • ขน้ั ตอนการปฏิบัติงาน • วธิ ีการปฏบิ ัตงิ านแตล่ ะข้ันตอน • ผู้ ใหค้ า� ปรึกษาแนะนา� • ชื่อผู้ปกครองที่ประเมิน • ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ ไข • ความพงึ พอใจในผลส�าเร็จของงาน 4๘ เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคิด ครูอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกับการจัดและตกแตงหองใหสวยงามใหนักเรียน ขอ ใดคอื การจดั และตกแตง หอ งรบั ประทานอาหารไดอ ยา งเหมาะสม ฟงวา การจัดและตกแตงหองใหสวยงาม ไมจําเปนตองใชเฟอรนิเจอร 1. มีถังขยะท่ีมดิ ชิดวางไวห ลังหอ ง หรือเครื่องเรือนที่มีราคาแพง ซึ่งนักเรียนสามารถนําของท่ีไมใชแลวแตยังคง 2. จดั วางโตะ เขยี นหนงั สอื ไวท ี่มมุ หอง สภาพดีมาดัดแปลงใหเปนของตกแตงบานท่ีดูแปลกใหม ไมเหมือนใคร เชน 3. หาภาพเกยี่ วกับอาหารมาแขวนไวท่ผี นังหอ ง การนาํ เกา อต้ี วั เกา ทอี่ าจดไู มส วยงามมาทาสใี หมใ หด ดู ขี น้ึ หรอื นาํ แผน ไมท ถ่ี กู ทงิ้ 4. จัดหาหนังสอื นติ ยสารวางไวที่โตะรับประทานอาหาร แตอ ยูใ นสภาพดีมาตกแตง ผนงั หอ ง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการจัดและตกแตงหอง สื่อ Digital รบั ประทานอาหารใหส วยงามและมคี วามเหมาะสมนนั้ ควรหาภาพ เกยี่ วกบั อาหาร เชน ภาพผกั และผลไม ภาพเครอื่ งดมื่ ตา งๆ มาแขวน ศึกษาเพิ่มเติมเกีย่ วกบั การตกแตง บา นจากวัสดุเหลือใช ไดจาก ไวท่ีผนังหอง เพ่ือเสริมสรางบรรยากาศท่ีดีในการรับประทาน https://www.homify.co.th/ideabooks/2335905/21- อาหาร) T52

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๒.4ใบมอบหมายงานท่ี ขน้ั ประเมนิ เรื่อง การจดั ÊÇนในÀาªนะ 3. ครตู รวจสอบจากชน้ิ งานจากกจิ กรรม Cleaning home ค�าชแี้ จง ๑. ปฏบิ ตั ิงานเป็นกลุม่ ๒. ก ารปฏบิ ตั งิ านน ้ี เปน็ การฝกึ ใหน้ กั เรยี นทา� งานเปน็ กลมุ่ ฝกึ การทา� งานอยา่ งเปน็ ระบบรว่ มกนั 4. ครูตรวจสอบแบบทดสอบหลังเรียน หนวย และฝึกการแกป้ ัญหา การเรียนรูที่ 2 ๓. ปฏิบตั กิ ารจัดสวนในภาชนะ โดยปฏิบัตติ ามขั้นตอนทก่ี �าหนดให ้ ดงั นี้ 5. ครตู รวจสอบแบบวัดฯ หนวยการเรยี นรทู ี่ 2 ขั้นท ่ี ๑ การสังเกต เพ่ือรวบรวมข้อมลู ว่าจะจดั สวนในภาชนะอย่างไร ขัน้ ท ่ี ๒ การวเิ คราะหเ์ กี่ยวกับรปู แบบการจดั ภาชนะ เครื่องมือและวัสดุปลกู พรรณไม้ ที่นยิ มน�ามาจัดสวนในภาชนะ ขั้นท ่ี ๓ การสรา้ งทางเลอื กถึงรปู แบบ วัสด ุ อปุ กรณ์ และพรรณไม้ ขั้นท ี่ ๔ การประเมนิ ทางเลอื ก เพ่ือเลือกรปู แบบ วัสด ุ อปุ กรณ ์ พรรณไม้ และค่าใชจ้ ่าย ข้นั ท่ี ๕ ก ารวางแผนเพื่อการท�างาน โดยเขียนปฏิทินการปฏิบัติงานและก�าหนดช่วงเวลา ในการปฏิบตั ิงาน ขนั้ ท ่ี ๖ การลงมอื ปฏบิ ตั ิงาน ออกแบบ เขยี นแบบ และลงมอื ปฏบิ ัตกิ ารจดั สวนในภาชนะ ขั้นที่ ๗ การประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานวา่ บรรลุวัตถปุ ระสงค์ตามทก่ี �าหนดไวห้ รอื ไม่ ๔. น�าผลงานทจ่ี ัดเสรจ็ เรยี บร้อยแล้วไปจดั และตกแต่งห้องตา่ ง ๆ ในโรงเรียน หรือในบา้ น การดูแล 4๙ รักษาบ้าน ขอ สอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู พรรณไมในขอ ใดเหมาะสําหรับนาํ มาใชใ นการจัดสวนในภาชนะ ครูอาจใหนักเรียนวิเคราะหวา นักเรียนสามารถนําความรูเก่ียวกับการ 1. ไมยืนตน ไมผ ล จดั สวนในภาชนะไปประยกุ ตใ ชใ นชวี ติ ประจาํ วนั เรอ่ื งใดไดบ า ง เชน การปลกู และ 2. ไมย ืนตน ไมเ ลื้อย การดแู ลรักษาตน ไมที่บาน หรือโรงเรียน ศิลปะการจดั วาง เทคนคิ การตกแตง 3. ไมอ วบนํา้ ไมจําพวกกระบองเพชร 4. ไมประดบั ไมจําพวกกระบองเพชร (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะภาชนะท่ีใชจัดสวนมี ขนาดเล็ก พรรณไมท่ีนํามาใชจึงตองเปนพรรณไมท่ีมีขนาดเล็ก ทนตอสภาพแหงแลงไดดีและมีความทนทาน ซ่ึงก็คือ ประเภท ไมอ วบน้าํ และไมจ ําพวกกระบองเพชร) T53

Chapter Overview แผนการจดั สอ่ื ที่ใช้ จุดประสงค์ วธิ สี อน ประเมนิ ทักษะท่ีได้ คณุ ลักษณะ การเรียนรู้ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 - ห นงั สอื เรียน 1. อ ธิบายประโยชน์ของ กระบวนการ - ตรวจแบบทดสอบ - ท ักษะการคดิ - รกั ชาติ ศาสน์ อาหารและ การงานอาชีพและ อาหารท่ีมีต่อรา่ งกาย สรา้ งความ กอ่ นเรียน วิเคราะห์ กษัตริย์ โภชนาการ เทคโนโลยี ม.1 ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ตระหนกั - ตรวจใบงานที่ 3.1.1 - ทักษะ - ซื่อสตั ยส์ ุจริต ท่มี ีตอ่ สขุ ภาพ - แบบวัดและบันทกึ ผล 2. อ ธบิ ายหลักการเลอื ก กระบวนการคดิ - ม วี ินยั การเรยี นรู้ บรโิ ภคอาหารไดอ้ ยา่ ง - สงั เกตพฤติกรรม ตัดสนิ ใจ - ใฝเ่ รยี นรู้ 1 การงานอาชีพและ ถกู ตอ้ ง การท�ำงานรายบคุ คล - ท ักษะการ - อย่อู ย่าง เทคโนโลยี ม.1 3. เขยี นจ�ำแนกอาหาร - สงั เกตพฤติกรรม ประยกุ ต ์ใ ชค้ วามรู้ พอเพยี ง ชวั่ โมง - แ บบทดสอบก่อนเรยี น ตามหลักโภชนาการ การทำ� งานกลุ่ม - ม ุ่งมัน่ ในการ - ป ระเมินคณุ ลักษณะ - PowerPoint อาหาร 5 หมูไ่ ด้อย่าง อันพงึ ประสงค์ ทำ� งาน ถูกต้อง - รักความ 4. เห็นความสำ� คัญของ เป็นไทย การบริโภคอาหารตาม - มจี ติ สาธารณะ หลกั โภชนาการ แผนฯ ท่ี 2 - หนังสอื เรียน 1. อธิบายหลักการเลอื ก การสบื เสาะ - ต รวจใบงานที่ 3.2.1 - ท ักษะการคิด - รกั ชาติ ศาสน์ การเลอื กซอ้ื การงานอาชีพและ ซือ้ อาหารได้อยา่ ง หาความรู้ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน วิเคราะห์ กษัตรยิ ์ อาหาร เทคโนโลยี ม.1 ถกู ต้อง (5Es) - สังเกตพฤติกรรม - ทกั ษะการประยกุ ต์ - ซ่อื สัตยส์ ุจริต - แ บบวัดและบนั ทึกผล 2. สบื คน้ ข้อมลู การเลือก การทำ� งานรายบุคคล ใชค้ วามรู้ - ม วี นิ ัย 2 การเรยี นรู้ ซอ้ื อาหารไดอ้ ย่าง - ส ังเกตพฤติกรรม - ทักษะการ - ใฝเ่ รียนรู้ การงานอาชพี และ ถูกตอ้ ง การท�ำงานกลุม่ แกป้ ญั หา - อ ย่อู ย่าง ช่ัวโมง เทคโนโลยี ม.1 3. เหน็ ประโยชนข์ องการ - ป ระเมนิ คณุ ลักษณะ - ท กั ษะ พอเพียง - PowerPoint เลอื กซ้อื อาหารได้อย่าง อันพึงประสงค์ กระบวนการคดิ - มงุ่ ม่ันในการ ถกู ตอ้ ง ตัดสินใจ ทำ� งาน - รักความ เป็นไทย - มจี ติ สาธารณะ แผนฯ ที่ 3 - หนงั สอื เรยี น 1. อ ธิบายหลกั การเลือก การเรยี นรู้ - ต รวจใบงานท่ี 3.3.1 - ทักษะการคดิ - รักชาติ ศาสน์ อุปกรณ์ การงานอาชีพและ เคร่อื งมือเครือ่ งใช้ แบบร่วมมอื - ป ระเมินการนำ� เสนอผลงาน วเิ คราะห์ กษัตรยิ ์ เคร่อื งมอื เทคโนโลยี ม.1 และความปลอดภยั ใน เทคนคิ - สงั เกตพฤตกิ รรม - ทกั ษะการประยกุ ต์ - ซือ่ สตั ยส์ ุจริต เคร่ืองใช้ ในการ - แ บบวดั และบันทึกผล การประกอบอาหาร jigsaw การทำ� งานรายบุคคล ใชค้ วามรู้ - มวี ินัย ประกอบอาหาร การเรยี นรู้ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง - สงั เกตพฤตกิ รรม - ท กั ษะ - ใฝเ่ รียนรู้ การงานอาชีพและ 2. อ ธิบายหลักความ การทำ� งานกลุ่ม กระบวนการคิด - อ ยอู่ ย่าง 2 เทคโนโลยี ม.1 ปลอดภัยในการ - ประเมนิ คุณลกั ษณะ ตดั สินใจ พอเพียง - PowerPoint ประกอบอาหาร อันพึงประสงค์ - ทกั ษะการ - ม งุ่ ม่นั ในการ ชั่วโมง ได้อย่างถูกต้อง แกป้ ญั หา ทำ� งาน 3. สืบคน้ ข้อมูลเกีย่ วกับ - รักความ หลกั การดูแลรักษา เปน็ ไทย เครอ่ื งมือเครอ่ื งใช้ ใน - ม จี ติ สาธารณะ การประกอบอาหารได้ 4. เขยี นวิธีการใช้และการ เกบ็ รักษาเครอื่ งมือ เครอ่ื งใช้ ในการ ประกอบอาหารไดอ้ ยา่ ง ถูกต้อง T54

แผนการจดั สอื่ ที่ใช้ จดุ ประสงค์ วธิ ีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คณุ ลกั ษณะ การเรียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ แผนฯ ท่ี 4 - หนงั สอื เรยี น 1. อ ธบิ ายหลกั การเตรียม การสบื เสาะ - ตรวจใบงานท่ี 3.4.1 - ทักษะชวี ิต - รกั ชาติ ศาสน์ การเตรียม การงานอาชีพและ วัตถุดบิ ก่อนประกอบ หาความรู้ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - ทกั ษะการคิด กษัตริย์ วัตถดุ บิ เทคโนโลยี ม.1 อาหารได้ (5Es) - สงั เกตพฤตกิ รรม วเิ คราะห์ - ซ อ่ื สตั ย์สุจริต และการประกอบ - แบบวดั และบันทึกผล 2. ป ระกอบอาหารตาม การท�ำงานรายบุคคล - ทกั ษะการ - มีวนิ ัย อาหาร การเรยี นรู้ กระบวนการท�ำงาน - สงั เกตพฤตกิ รรม ประยกุ ต ์ใ ชค้ วามรู้ - ใฝ่เรยี นรู้ การงานอาชีพและ อยา่ งทีไ่ ด้วางแผน การท�ำงานกลุม่ - ท กั ษะ - อ ยู่อย่าง 2 เทคโนโลยี ม.1 3. ม ีความรบั ผดิ ชอบ - ป ระเมนิ คณุ ลกั ษณะ กระบวนการคดิ พอเพียง - แบบทดสอบก่อนเรยี น ในการเตรยี มวตั ถุดบิ อันพึงประสงค์ ตดั สนิ ใจ - ม ุ่งมน่ั ในการ ชัว่ โมง - PowerPoint ก่อนประกอบอาหารได้ - ท กั ษะการ ทำ� งาน แกป้ ญั หา - รกั ความ เปน็ ไทย - มจี ติ สาธารณะ แผนฯ ท่ี 5 - ห นงั สอื เรยี น 1. บอกวธิ ีการจัดและ การสอน - ตรวจใบงานที่ 3.5.1 - ทกั ษะชวี ิต - รกั ชาติ ศาสน์ การจดั ตกแต่ง การงานอาชีพและ ตกแตง่ อาหารไดอ้ ยา่ ง แบบสาธติ - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน - ทักษะการคิด กษัตริย์ และบรกิ าร เทคโนโลยี ม.1 สวยงามและเหมาะสม - สงั เกตพฤตกิ รรม วิเคราะห์ - ซ ่อื สตั ยส์ จุ ริต อาหาร - แบบวัดและบนั ทกึ ผล การท�ำงานรายบคุ คล - ท ักษะการ - มีวนิ ยั การเรียนรู้ 2. ป ฏิบตั กิ ารจดั ตกแต่ง - สังเกตพฤตกิ รรม ประยกุ ต ์ใ ชค้ วามรู้ - ใฝเ่ รียนรู้ 1 การงานอาชีพและ อาหารได้อยา่ งสวยงาม การท�ำงานกลุม่ - ท กั ษะ - อยอู่ ยา่ ง เทคโนโลยี ม.1 และเหมาะสม - ประเมินคณุ ลกั ษณะ กระบวนการคดิ พอเพียง ชว่ั โมง - PowerPoint อันพงึ ประสงค์ ตัดสินใจ - ม่งุ มัน่ ในการ 3. เห็นความสำ� คญั และ - ท กั ษะการ ท�ำงาน ประโยชนเ์ กี่ยวกบั การ แก้ปัญหา - รักความ บริการอาหาร เปน็ ไทย - ม จี ติ สาธารณะ แผนฯ ที่ 6 - ห นงั สอื เรยี น 1. อธิบายความหมาย กระบวนการ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - ทกั ษะชีวติ - รักชาติ ศาสน์ การแปรรูป การงานอาชีพและ ของการแปรรปู ผลผลิต ปฏบิ ตั ิ - สังเกตพฤติกรรม - ท กั ษะการ กษตั รยิ ์ ผลผลติ เทคโนโลยี ม.1 ทางการเกษตรไดอ้ ย่าง การท�ำงานกลุม่ แก้ปญั หา - ซอ่ื สตั ยส์ ุจริต ทางการเกษตร - แ บบวัดและบันทึกผล ถกู ตอ้ ง - ป ระเมนิ คณุ ลกั ษณะ - มวี ินัย การเรียนรู้ 2. บอกข้ันตอนการ อนั พงึ ประสงค์ - ใฝ่เรยี นรู้ 2 การงานอาชีพและ แปรรปู ผลผลิตทางการ - ต รวจแบบทดสอบ - อ ยู่อย่าง เทคโนโลยี ม.1 เกษตรได้อยา่ งถกู ต้อง หลังเรยี น พอเพยี ง ชวั่ โมง - PowerPoint 3. แ ปรรปู ผลผลติ ทางการ - ประเมนิ ชิ้นงาน/ - มุ่งมน่ั ในการ เกษตรตามขนั้ ตอน ภาระงาน (รวบยอด) ทำ� งาน ท่ไี ดว้ างแผนไว้  การจดั นทิ รรศการ - รกั ความ อยา่ งถูกตอ้ ง อาหาร เร่อื ง อาหารกบั เปน็ ไทย 4. เหน็ ถงึ ประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั การดำ� รงชีวิต - มจี ติ สาธารณะ จากการแปรรปู ผลผลิต ทางการเกษตร T55

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ (กระบวนการสรางความตระหนัก) หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1. ครูถามกระตนุ ความสนใจของนกั เรียนวา ๓ อากหาารรดา� รงชวี ติกบั • เพราะเหตุใดเราจึงตอ งรับประทานอาหาร (แนวตอบ เพราะอาหาร คือ ปจ จยั สี่ที่สาํ คัญ อาหารเปน็ สิ่งจา� เปน็ ส�าหรับทกุ คน การมนี สิ ัยบรโิ ภคท่ีดจี ะสง่ ผลดตี อ่ สขุ ภาพ ดังนัน้ สมาชกิ ตอการดํารงชีวิต ใหพลังงานและความ อบอุนแกรางกาย อีกท้ังยังเสริมสรางระบบ ในครอบครวั จงึ ควรรว่ มกนั ดแู ลเรอื่ งอาหาร โดยการจดั เมนอู าหารทม่ี คี ณุ คา่ ทางโภชนาการสงู ตางๆ และซอมแซมอวยั วะสวนที่สกึ หรอให รู้จักเลือกซื้ออาหารท่ีสดใหม่ และฝึกเตรียมประกอบ จัด ตกแต่ง และบริการอาหารให้แก่ กลบั คงสภาพด)ี สมาชกิ ในครอบครวั 2. ครูขออาสาสมัครนักเรียน 3-4 คน เพ่ือตอบ ตัวชวี้ ดั คําถามวา • หากตองการประกอบอาหารเพ่ือใหไดสาร ■ วเิ คราะห์ขน้ั ตอนการทาำ งานตามกระบวนการทาำ งาน (ง ๑.๑ ม.๑/๑) อาหารครบถวนใน 1 จาน นักเรียนจะเลอื ก ■ ใช้กระบวนการกลมุ่ ในการทาำ งานดว้ ยความเสียสละ (ง ๑.๑ ม.๑/๒) ประกอบอาหารเมนูใด เพราะเหตุใด ■ ตัดสนิ ใจแกป้ ัญหาการทาำ งานอย่างมเี หตุผล (ง ๑.๑ ม.๑/๓) (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) ขนั้ สอน ขนั้ ที่ 1 สงั เกต 1. ครูใหนักเรียนดูคลิปวิดีโอผูท่ีขาดสารอาหาร จากนน้ั ครถู ามกระตนุ ความสนใจของนกั เรยี นวา • นักเรียนมีความคิดเห็นอยางไรตอผูที่ขาด สารอาหาร (แนวตอบ ผูที่ขาดสารอาหารจะเสี่ยงตอ การเปนโรคตางๆ เชน โรคสมองเสื่อม โรคกระดกู ออ น โรคนวิ่ ในกระเพาะปส สาวะ โรคปญญาออนอยางถาวร โรคคอพอก โรคโลหติ จาง โรคเกลด็ กระดขี่ นึ้ ตา โรคเหนบ็ ชา โรคปากนกกระจอก โรคลกั ปด ลกั เปด อกี ทงั้ ยังสงผลตอปญหาทางกายและปญหาทาง อารมณ และจติ ใจอีกดวย) เกร็ดแนะครู ครคู วรจดั กิจกรรมการเรยี นรแู บบเนน ทักษะกระบวนการ เพ่ือใหนักเรยี นสามารถเลือกวตั ถุดิบ เตรยี มวตั ถดุ บิ เพอื่ นาํ มาประกอบ จดั ตกแตง บริการอาหาร และแปรรูปอาหารได โดยสามารถจดั กจิ กรรมได ดังนี้ • ใหน ักเรยี นแบง กลมุ เพ่ือประกอบ จดั ตกแตง บรกิ ารอาหาร และแปรรปู อาหาร • ใหนกั เรียนสืบคน ขอ มลู เก่ียวกบั การแปรรูปอาหารจากแหลงขอ มลู ทีน่ าเชื่อถือตา งๆ • ใหนกั เรยี นรวมกนั อภปิ รายและแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั การประกอบ จัด ตกแตง บรกิ ารอาหาร และแปรรปู อาหาร • การต้ังประเด็นคาํ ถามเกย่ี วกบั การประกอบ จัด ตกแตง บริการอาหาร และแปรรูปอาหารใหน ักเรยี นชว ยกนั ตอบ T56

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ หากตอ้ งการประกอบอาหาร ๑ อาหารและโภชนาการ1ทม่ี ีตอ่ สขุ ภาพ2 ขน้ั สอน ให้ได้สารอาหารครบถ้วน ใน ๑ จาน จะเลือกประกอบ การรบั ประทานอาหารทถี่ กู หลกั โภชนาการจะท�าใหร้ า่ งกาย ขน้ั ท่ี 1 สงั เกต อาหารเมนใู ด เพราะเหตใุ ด เจริญเตบิ โตอย่างสมวัย อวยั วะต่าง ๆ ภายในรา่ งกายท�างานได้ รตับามปประกทตาิ นแอลาะหชา่วรยทเ่ีมสีปริมระสโรย้าชงนภ์ ูมไิตด้า้สนัดทสา่วนน3โ รแคล ะโเดหยมคาวะรสเมลกือับก 2. ครอู ธบิ ายใหน กั เรยี นฟง เพมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั อาการ ความต้องการของรา่ งกาย ของโรคขาดสารอาหารวา “ผทู รี่ า งกายขาดสาร อาหารมอี าการทสี่ งั เกตไดโ ดยทว่ั ไป คอื ผมรว ง ๑.๑ ความสา� คัญของอาหารทมี่ ตี อ่ รา่ งกาย ตวั ซีด เวยี นศรี ษะ ไมม ีสมาธิ” อาหารเป็นปัจจัยสี่ของการด�ารงชีวิตของมนุษย์ และมี 3. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นจาก ประโยชน์ต่อร่างกาย หากรับประทานอย่างถูกหลักโภชนาการ การตง้ั คําถามของครูวา จะทา� ใหม้ ีสขุ ภาพดี โดยทว่ั ไปอาหารจะให้ประโยชน ์ ดงั น ้ี • การเลือกบริโภคอาหาร มีหลักการเลือก ๑. ชว่ ยใหร้ า่ งกายเจรญิ เตบิ โต สรา้ งกลา้ มเนอ้ื กระดกู อยา งไร เลือด ฮอร์โมน ฯลฯ ใหพ้ ลงั งานและความอบอนุ่ แก่รา่ งกาย (แนวตอบ ควรเลือกรับประทานอาหารท่ี ๒. ช่วยเสริมสร้างระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายให้ สดใหม หลีกเลี่ยงอาหารปรุงแตง อาหาร ท�างานได้ตามปกตแิ ละมปี ระสิทธภิ าพ หมักดอง อาหารสําเร็จรูป อาหารท่ีมี ๓. ซ่อมแซมอวัยวะของร่างกายที่เกิดการสึกหรอให้ รสหวานจัด เค็มจดั เปรยี้ วจัด และเผ็ดจัด) กลับคงสภาพดี ๔. ช่วยสร้างเซลลแ์ ละเนื้อเย่อื รวมถงึ ควบคุมอวยั วะ ขนั้ ที่ 2 วจิ ารณ ตา่ ง ๆ ใหท้ �างานได้ตามปกติ ๕. ชว่ ยสรา้ งภมู คิ มุ้ กนั และตา้ นทานโรคใหแ้ กร่ า่ งกาย 4. ครใู หน กั เรยี นแบง กลมุ กลมุ ละเทา ๆ กนั รว มกนั ศกึ ษาเรอื่ ง อาหารหลกั 5 หมู จากหนงั สอื เรยี น หนว ยการเรยี นรูท่ี 3 5. ครูใหนักเรียนเลนเกมอาหารและโภชนาการ จากนนั้ ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ วา “อาหารหลกั 5 หมู คอื สารอาหาร 5 ชนดิ ทร่ี า งกายตองการใน แตล ะวนั ดงั นนั้ อาหารทมี่ สี ารอาหารเหมอื นกนั จงึ จัดอยูในหมวดหมูเ ดยี วกนั ” สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง อาหาร 51 ■ กระบวนการกลมุ่ เปน็ วธิ กี ารทาำ งานตามขนั้ ตอน คอื การเลือกหวั หนา้ กล่มุ กำาหนดเปา้ หมาย วางแผน กับการด�ารงชีวิต แบง่ งานตามความสามารถ ปฏิบตั ิตามบทบาทหนา้ ท่ี ประเมินผลและปรบั ปรุงงาน เชน่ - การเตรียม ประกอบ จัด ตกแตง่ และบรกิ ารอาหาร - การแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู อาหารนอกจากจะทําใหรางกายเจริญเติบโตแลว อาหาร 1 โภชนาการ มคี วามสัมพนั ธเก่ยี วขอ งกับการคดั เลือกอาหารและการเตรยี ม ยงั มปี ระโยชนในดา นใด อาหาร เม่ือรับประทานแลวเกิดผลดีตอสุขภาพท้ังภายในและภายนอก ทําให สุขภาพรางกายแข็งแรง ไมเ กิดโรคภยั ตา งๆ อาหารมรี ูปลกั ษณทนี่ า รบั ประทาน (แนวตอบ ชวยเสริมสรางระบบตางๆ ของรางกายใหสามารถ ทําใหเ กิดความสขุ ขณะรบั ประทานอาหาร ทาํ งานไดอ ยา งสมบรู ณ ชว ยซอ มแซมสว นทสี่ กึ หรอใหก ลบั สสู ภาพ ปกติ ชว ยสรา งเซลลแ ละเนอื้ เยอ่ื เพอ่ื ควบคมุ อวยั วะตา งๆ ชว ยสรา ง 2 สุขภาพ การรับประทานอาหารทด่ี ี มปี ระโยชนตอ รางกาย ออกกําลังกาย ภูมติ า นทานโรคใหร า งกายแข็งแรงอยเู สมอ ใหพลังงานและความ อยา งสมาํ่ เสมอ มอี ารมณเ บกิ บานแจม ใส ยอ มสง ผลใหม สี ขุ ภาพทดี่ ี ควรหลกี เลยี่ ง อบอนุ แกร า งกาย) การรับประทานอาหารท่ีไมถูกสุขลักษณะ รวมถึงอาหารที่มีไขมันสูง เพราะจะ ทาํ ใหผ บู ริโภคเกิดโรคตา งๆ ได เชน โรคความดันโลหิตสงู โรคอวน โรคเกาต โรคเบาหวาน โรคกรดไหลยอ น โรคมะเรง็ ลําไสใหญ 3 ไดส ดั สว น การรบั ประทานอาหารใหไ ดส ดั สว น เปน การรบั ประทานอาหารใหไ ด รบั สารอาหารครบถว นและเพยี งพอตอ ความตอ งการของรา งกาย เพอื่ ใหร า งกาย เจริญเติบโตไดอยางเต็มที่ ซึ่งบุคคลในแตละชวงวัยจะมีความตองการอาหาร ในสัดสวนท่ีแตกตางกัน เชน เด็กชายและเด็กหญิงท่ีมีอายุระหวาง 16-19 ป เดก็ ชายจะตอ งการสารอาหารท่ีมากกวา เด็กหญิง T57

นาํ สอน สรุป ประเมนิ ขน้ั สอน ๑.๒ หลกั การเลือกบริโภคอาหาร ขนั้ ที่ 2 วจิ ารณ ปัจจุบันอาหารมีให้เลือกรับประทานมากมาย ซ่ึงมีท้ังให้ประโยชน์ต่อร่างกายและให้โทษ ตอ่ รา่ งกาย ดังนั้น จงึ ควรเลอื กบรโิ ภคใหถ้ ูกต้องตามหลกั โภชนาการ ดงั นี้ 6. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปรายผล ๑. เลือกรับประทานอาหารที่สด ใหม ่ และสะอาด หลงั การเลน เกมอาหารและโภชนาการ โดยครู ๒. รบั ประทานอาหารใหไ้ ดส้ ารอาหารครบทั้ง ๕ หมู ่ ในทกุ ม้อื อาหาร ถามกระตุนความสนใจของนกั เรียนวา ๓. รบั ประทานอาหารทห่ี ลากหลาย ไมร่ บั ประทานอาหารเดมิ ซ้า� ๆ ติดต่อกันหลายวัน • นกั เรยี นคดิ วา กจิ กรรมนม้ี ปี ระโยชนอ ยา งไร” ๔. หลกี เล่ยี งอาหารปรุงแต่ง อาหารหมักดอง และอาหารส�าเรจ็ รูป (แนวตอบ กิจกรรมนี้ทําใหสามารถจําแนก ๕. หลกี เลยี่ งขนมขบเค้ียว น้�าหวาน นา�้ อดั ลม และเครือ่ งด่ืมทีม่ แี อลกอฮอล์ อาหารตามหมวดหมูไดอยางถูกตอง และ ๖. หลีกเล่ยี งอาหารทมี่ รี สหวานจัด เค็มจัด เปรย้ี วจดั และเผด็ จัด ทําใหรูถึงประโยชนของอาหาร 5 หมูเพ่ิม ๗. รบั ประทานโปรตีนที่ได้จากพืชและสตั ว ์ในปริมาณท่ีเหมาะสม มากข้นึ ) ๘. รับประทานผกั ผลไม ้ ธญั พืช ทกุ มอื้ อาหาร 7. ครใู หน ักเรยี นทําใบงานที่ 3.1.1 เรอ่ื ง อาหาร ๑.๓ อาหารหลกั ๕ หมู่ และโภชนาการท่มี ตี อสขุ ภาพ ร่างกายต้องการสารอาหารให้ครบทั้ง ๕ หมู่ ในแต่ละวัน เพ่ือสร้างความเจริญเติบโตและ ขนั้ สรปุ ซ่อมแซมส่วนท่ีสึกหรอของร่างกาย แต่ไม่มีอาหารชนิดใดสามารถจะให้สารอาหารได้ครบถ้วน จงึ ตอ้ งรู้จักเลือกรับประทาน ซง่ึ อาหารหลัก ๕ หมู่ มีดงั นี้ ขนั้ ท่ี 3 สรปุ หมู่ท่ี 1 เนอ้ื สัตวต์ า่ ง ๆ นม ไข่ ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเกี่ยวกับ • สารอาหาร : โปรตีน หลกั การเลอื กบรโิ ภคอาหารและอาหารหลกั 5 หมู • ชว่ ยให้รา่ งกายเจรญิ เตบิ โต ซอ่ มแซมสว่ นท่ีสึกหรอ โดยครชู ว ยเสนอแนะเพิม่ เติม หม่ทู ่ี ๒ ขา้ ว แปง้ นา้� ตาล เผอื ก มนั • สารอาหาร : คาร์ โบไฮเดรต ขนั้ ประเมนิ • ใหพ้ ลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย หมูท่ ่ี ๓ ผักตา่ ง ๆ 1. ครตู รวจสอบความรู ความเขา ใจของนกั เรยี น • สารอาหาร : วติ ามนิ และเกลือแร่ เร่ือง อาหารและโภชนาการที่มีตอสุขภาพ • ชว่ ยเสรมิ สร้างการทา� งานของรา่ งกาย สรา้ งภูมติ ้านทานโรค จากการตอบคาํ ถามและการแสดงความคดิ เหน็ หมูท่ ่ี ๔ ผลไม้ตา่ ง ๆ • สารอาหาร : วติ ามนิ และเกลือแร่ 2. ครูตรวจใบงานที่ 3.1.1 เร่ือง อาหารและ • ชว่ ยเสรมิ สร้างการท�างานของรา่ งกาย สรา้ งภมู ติ ้านทานโรค โภชนาการท่ีมีตอ สุขภาพ หมู่ที่ 5 ไขมันจากพชื และสัตว์ • สารอาหาร : ไขมนั • ใหพ้ ลังงานและความอบอนุ่ แก่ร่างกาย ดูดซมึ วิตามนิ ต่าง ๆ 5๒ แนวทางการวัดและประเมินผล ขอสอบเนน การคดิ ครสู ามารถสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานรายบคุ คลและการสงั เกตพฤตกิ รรม การถือศีลกินเจควรรับประทานอาหารในขอใดเพ่ือทดแทน การทํางานกลุม โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผน โปรตีนจากเน้อื สัตว การจดั การเรียนรู หนว ยการเรยี นรูท่ี 3 1. นาํ้ เตา หู แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ 2. นมสดรสจดื 3. ขนมปง โฮลวตี คาชแ้ี จง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในช่องท่ี คาชี้แจง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งที่ 4. ครอกเกมันฝรง่ั ตรงกับระดบั คะแนน ตรงกบั ระดับคะแนน (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 1. เพราะนาํ้ เตาหทู าํ มาจากถ่ัวเหลอื ง ใหสารอาหารประเภทโปรตีนท่ีไดจากพืช สวนนมสดรสจืดและ ระดับคะแนน การมี ขนมปงโฮลวีตมีโปรตีนท่ีไดจากเนื้อสัตว ผูท่ีถือศีลกินเจ จึงควร 321 หลกี เลี่ยงอาหารทงั้ 2 ชนิดน้ี สวนครอกเกเปน ของทอดทท่ี ําจาก ลาดับท่ี รายการประเมิน ชอื่ – สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมี ส่วนร่วมใน รวม มันฝรั่ง การด่ืมน้ําเตาหูจึงดีตอสุขภาพมากกวาการรับประทาน ของนักเรียน ความ ฟงั คนอนื่ ตามทไ่ี ดร้ บั นา้ ใจ การ 15 ครอกเก) 1 การแสดงความคดิ เห็น ลาดับที่ คิดเห็น มอบหมาย คะแนน 2 การยอมรับฟังความคิดเหน็ ของผู้อื่น ปรับปรุง 3 การทางานตามหนา้ ที่ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ผลงานกลุม่ 4 ความมนี ้าใจ 5 การตรงต่อเวลา 3 2 13 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 รวม ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ประเมนิ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ............./.................../............... ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน 12 - 15 ดี เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ 8 - 11 พอใช้ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ต่ากวา่ 8 ปรับปรุง 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรงุ T58

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๒ การเลอื กซ้ืออาหาร ขน้ั นาํ (5Es) การประกอบอาหารแตล่ ะชนดิ จะตอ้ งมกี ารเตรยี มวตั ถดุ บิ ตา่ ง ๆ ซงึ่ วตั ถดุ บิ ทจ่ี ะนา� มาประกอบ ข้ันท่ี 1 กระตุน ความสนใจ อาหารนั้นจะต้องถูกหลักอนามัย สด สะอาด และมีคุณค่าทางโภชนาการ ดังนั้น การมีความรู้ ความเขา้ ใจในการเลอื กวตั ถดุ บิ ทนี่ า� มาประกอบอาหารจงึ เปน็ สงิ่ สา� คญั ทที่ กุ คนควรร ู้ เพอื่ จะไดเ้ ลอื ก 1. ครูถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา ได้อย่างถูกต้องตามหลกั การเลอื กซอ้ื อาหาร • นักเรียนคิดวาการรับประทานอาหารท่ีไมมี คุณภาพจะสง ผลเสยี ตอ รางกายอยา งไร ๒.๑ หลกั ในการเลอื กซ้อื อาหาร (แนวตอบ ทําใหรางกายขาดสารอาหาร ท่ีมีประโยชน เจ็บปวยไดงาย และขาด การเลือกซ้ืออาหารและวัตถุดิบมาประกอบอาหาร ผู้ซ้ือจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในหลัก ภมู ติ า นทานโรค) ของการเลือกซื้อ เพ่อื ทจ่ี ะได้อาหารและวตั ถุดิบทม่ี คี ุณภาพครบตามตอ้ งการ 2. ครูอธิบายวา “วัตถุดิบแตละชนิดมีคุณคาทาง หลักในการเลอื กซ้อื อาหาร โภชนาการทแี่ ตกตา งกนั บางชนดิ มคี ณุ คา ทาง โภชนาการตํ่าแตราคาแพง บางชนิดมีคุณคา ๑. เ ลอื กซ้ืออาหารทมี่ คี ณุ คา่ ทางโภชนาการ ใช้วัตถดุ บิ สด ใหม่ ทางโภชนาการสูงแตราคาถูก ดังน้ัน จึงตอง ๒. เลอื กซอ้ื อาหารทม่ี ีอยู่ในทอ้ งถน่ิ เพราะหาได้งา่ ย ไม่เสียค่าขนสง่ รูจ กั เลอื กซือ้ รจู ักสงั เกต เพอ่ื ใหไ ดวตั ถุดิบทม่ี ี ราคาถกู และมคี ณุ คา ทางโภชนาการมาประกอบ ทา� ใหไ้ ดข้ องสด มีคุณภาพด ี และราคาถูก อาหาร อีกทง้ั ยงั ชว ยในการประหยดั คา ใชจ า ย ๓. เลือกซื้ออาหารตามฤดูกาลจะท�าให้ได้ผักและผลไม้สด รสชาติดี ของครอบครวั ไดเปนอยางดี” มคี ณุ ภาพ หาซ้ืองา่ ย และราคาถกู ขนั้ สอน ๔. เลือกซ้ืออาหารโดยค�านึงถึงความประหยัด เช่น เลือกซ้ืออาหาร ขน้ั ที่ 2 สาํ รวจและคน หา ๕. แท เลล่ีมือะรี กสาาซคร้ืาอพถอษิกูา2แหตา่มรโคี ดุณยคคา่�าทนาึงงถโึงภคชวนาามกปารลคอรดบภถัยว้ นปราศจากเชื้อโรค1 1. ครใู หน ักเรียนแบงกลมุ (กลมุ เดิม) จากนัน้ ให ๖. เ ลอื กซอื้ อาหารใหม้ ปี รมิ าณเพยี งพอกบั จ�านวนสมาชกิ ในครอบครวั นักเรียนแตละกลุมรวมกันศึกษาโดยมีหัวขอ ไมซ่ ้ือมากเกนิ จา� เป็น และไมซ่ ือ้ นอ้ ยจนเกนิ ไป ดงั น้ี 1. หลักในการเลอื กซอ้ื อาหาร Trick : วิธีลา้ งผักลดสารฆา่ แมลง วิธีท่ ี ๓ ใช้ดา่ งทับทิม 2. การเลอื กซื้ออาหารสด วธิ ที ่ ี ๑ ใช้เบกกิ้งโซดา ดา่ งทบั ทมิ ๒๐-๓๐ เกลด็ + นา�้ ๔ ลติ ร 3. การเลอื กซ้ืออาหารแหง และอาหารกระปอง ๑ ช้อนโต๊ะ + น�า้ อนุ่ ๒๐ ลิตร แช่ท้ิงไว้ ๑๐ นาที แล้วล้างออกด้วยน�้า แช่ทิง้ ไว ้ ๑๕ นาท ี แล้วลา้ งออกดว้ ย สะอาด น้�าสะอาด วธิ ที ี่ ๔ ใชน้ า�้ ส้มสายชู วธิ ีที่ ๒ ให้น้า� ไหลผ่าน ๑ ช้อนโต๊ะ + น�้า ๔ ลิตร เด็ดผักเปน็ ใบ + ลา้ งน�า้ ไหลผา่ น แช่ทิ้งไว้ ๑๐ นาที แล้วล้างออกด้วยน�้า หลาย ๆ ครั้ง สะอาด อาหาร 5๓ กับการด�ารงชีวิต ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู การเลอื กซอ้ื อาหารใหพ อดกี บั สมาชกิ ในครอบครวั มคี วามสาํ คญั 1 เชอื้ โรค ในอาหารมกั มกี ารปนเปอ นของเชอื้ แบคทเี รยี แตเ มอ่ื นาํ มาประกอบ อยางไร อาหารโดยผานข้นั ตอนตางๆ ทถี่ ูกตอ งและถกู สขุ ลกั ษณะ เชื้อโรคเหลาน้ันก็จะ สลายไป แตห ากนาํ ไปประกอบอาหารไมถ กู วธิ ี เชอ้ื โรคเหลา นนั้ กจ็ ะเพม่ิ ปรมิ าณ (แนวตอบ การเลอื กซอ้ื อาหารใหพ อดกี บั สมาชกิ ในครอบครวั เปน มากขน้ึ ซงึ่ อาจสง ผลกระทบตอ รา งกายได เชน วบิ รโิ อ วลั นฟิ ค สั (Vibrio Vulnificfi us) หลักการเลือกซื้ออาหารท่ีสําคัญ เพราะการซื้อในปริมาณท่ีพอดี พบในอาหารดบิ ทกุ ชนดิ โดยเฉพาะหอยนางรม หอยแมลงภู หอยแครง ซาลโมเนลลา จะทําใหทุกคนในครอบครัวไดรับประทานอาหารท่ีสดใหม (Salmonella) พบในนาํ้ นม เนอื้ สตั วด บิ ปนเปอ นในไขแ ดง และอาหารทป่ี รงุ ไมส กุ ในทุกๆ ม้ือ ไดรับคุณคาทางสารอาหารอยางเต็มท่ี ไมมีอาหาร คลอสตรเิ ดยี มเพอรฟ รงิ เกนส (Clostridium Perfringens) พบในเนอ้ื สตั ว อาหารแหง เหลือทิ้ง ไมตองเก็บเขาตูเย็นคางคืน (อาหารคางคืนจะมีคุณคา อาหารแชแขง็ และอาหารทย่ี งั รอ นไมไดที่ ทางโภชนาการลดลง) ชวยใหสมาชิกในครอบครัวมีสุขภาพดี และแขง็ แรงสมวยั ) 2 สารพษิ ควรพจิ ารณาเลอื กซอื้ อาหาร หรอื วตั ถดุ บิ ประกอบอาหารทไี่ มม สี ารพษิ รวมถงึ สารปนเปอ นชนดิ ตา งๆ ซง่ึ สารปนเปอ นทต่ี อ งระวงั มที ง้ั สารเรง เนอ้ื แดงใน เนอ้ื สกุ ร สารกนั รา สารฟอกขาว สารบอแรกซ สารฟอรม าลนิ ยาฆา แมลง ดงั นนั้ กอ นเลือกซ้ืออาหาร จึงควรพจิ ารณาอยางละเอยี ดถ่ถี วนและเลือกซอื้ ในสถานที่ จาํ หนา ยทไ่ี ดร บั การรบั รองมาตรฐาน นอกจากนี้ การประกอบอาหารอยา งถกู วธิ ี จะชว ยใหส ารท่ปี นเปอนมากบั อาหารมปี รมิ าณลดนอ ยลงดว ย T59

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๒.๒ การเลอื กซื้ออาหารสด ขน้ั ที่ 2 สาํ รวจและคน หา อาหารสดควรเลอื กซ้ือทส่ี ด ใหม่ สะอาด และไมม่ ีสง่ิ เจอื ปน ดังน้ี 2. ครูถามนักเรยี นวา การเลือกซอื้ ผกั และผลไม้ • นักเรียนคิดวาการเลือกซื้ออาหารตามหลัก ในการเลอื กซือ้ มปี ระโยชนอ ยางไร ควรเลอื กที่สดใหมต่ ามลกั ษณะของผักและผลไม้แตล่ ะชนดิ และควรเลอื กตามฤดกู าล โดยมี (แนวตอบ ทําใหเลือกซื้ออาหารท่ีมีคุณคา หลักการเลือก ดังน้ี ทางโภชนาการ ไดผ กั และผลไมต ามฤดกู าล และไดวตั ถุดิบทส่ี ด ใหม ปราศจากเชือ้ โรค ผกั ผลไม้ และสารพิษ) เลือกผักที่สด เไพม่รเหาี่ยะอวเาฉจาเป็หนรยือาฆม่าีสแีเหมลลงือ1ทงี่ เลอื กผลไมท้ ม่ี ผี วิ ตงึ สดใหม่ ไมเ่ หยี่ ว เปลอื ก 3. ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ เกยี่ วกบั หลกั ในการเลอื กซอ้ื ไม่มีคราบขาว และผวิ ไมม่ รี อยชา้� ขวั้ กา้ นเขยี วและแขง็ เชน่ อาหารใหน กั เรยี นฟง วา “สงิ่ ทค่ี วรคาํ นงึ ในการ ตกคา้ ง เลอื กทม่ี รี พู รนุ บา้ ง ซงึ่ เปน็ รอยกดั แทะ ส้มเขยี วหวาน เลือกซื้ออาหาร นอกจากความสด ใหม ของหนอนและแมลง เพราะปลอดสารเคมี ผิวละเอียด เปลือกบาง และราคาถกู แลว ควรคาํ นึงถึงความปลอดภัย ต่าง ๆ เช่น ไมน่ ิม่ เกินไป ข้ัวไมน่ นู โดยเลือกซ้ืออาหารท่ีไดมาตรฐาน ผลิตจาก แหลงที่เช่ือถือไดในกรณีที่เปนอาหารที่มีการ กะหล่�าปลี ฝรัง่ ควบคมุ ตามกฎหมายจะตองมเี ครือ่ งหมาย อย. หวั มนี า�้ หนักมาก ผิวละเอยี ด ไม่ตกกระ ดูวันที่ผลิต และวันหมดอายุบรรจุภัณฑ เพื่อ ใบหอ่ สมบูรณ์ มีสีเขียว ไมช่ า�้ ไมเ่ นา่ เสยี เนอื้ แนน่ ความปลอดภัยในการรบั ประทานอาหาร” อ่อน ไมม่ ีรอยช้า� ไม่นิม่ เกนิ ไป ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู แตงกวา สบั ปะรด ผลตรง มสี เี ขยี ว ผวิ ขรขุ ระ ตาใหญ่ เลก็ และแหลม 4. ครูใหสมาชิกในกลุมผลัดกันอธิบายความรู ไมล่ บี จนเกนิ ไป ผลกลมกลงึ เปลือกสีเขียวเหลือง ที่ไดศกึ ษามา จากน้นั ใหแตล ะกลมุ สง ตัวแทน เสมอกัน เนอื้ ฉา่� ตลอดผล ออกมานําเสนอขอมูลหนาชั้นเรียน โดยครู เสนอแนะเพ่ิมเติมและถามนกั เรยี นวา มะเขอื กล้วยหอมทอง • การเลอื กซอื้ ผกั และผลไมค วรเลอื กซอ้ื อยา งไร ข้ัวมีสีเขียวติดอยู่กับ ผลมีสีเหลืองทอง หรือ (แนวตอบ ควรเลือกซ้ือท่ีสดใหม เลือกตาม ผลแนน่ กลบี เลยี้ งยาว มีสีเขียวเล็กน้อยท่ีก้าน ชนิดของผักและผลไม และควรเลือกตาม มีน�า้ หนักมาก ไม่มรี อยช้�า ฤดกู าล) ผวิ ไมเ่ หยี่ ว 5๔ นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด 1 ยาฆาแมลง ยาฆาแมลงที่ตกคางอยูในผัก เมื่อเขาสูรางกายจะสะสม สงิ่ ทค่ี วรคํานึงถงึ มากที่สุดในการเลือกซอื้ อาหาร คอื ขอ ใด ในรางกายและอาจเปนสาเหตุใหเกิดโรคมะเร็งได ท้ังยังทําใหสมาธิสั้น 1. รสชาตคิ วามอรอย ความจําเส่ือม มามและไตทํางานหนัก จึงตองลางใหสะอาดกอนรับประทาน 2. เปนของตางประเทศ ทุกคร้ัง เพ่ือปองกันสารเคมีตกคาง หรือปองกันการปนเปอนของเช้ือจุลินทรีย 3. ชว ยประหยัดคาใชจา ย โดยวิธลี า งผักอยางงายๆ ใหแชผ กั ในนาํ้ สะอาด ลางใบผักและถไู ปมา หรือนาํ 4. ใหค ุณคาทางโภชนาการ ผกั ไปแชในนาํ้ ผสมน้าํ สม สายชู แลว ลางดว ยนํ้าสะอาด (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะมนุษยตองการอาหารที่ให ส่ือ Digital คุณคาทางโภชนาการครบถวน มีสารอาหารท่ีหลากหลายเพื่อให การทํางานของระบบตางๆ ในรางกายทํางานไดอยางสมบูรณ ศกึ ษาเพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั วธิ กี ารรบั ประทานอาหารใหส ขุ ภาพดี ไดจ าก http:// การเลอื กซอ้ื อาหารจงึ ตอ งคาํ นงึ ถงึ คณุ คา ทางโภชนาการมากทส่ี ดุ www.thaihealth.or.th/Content/38511-อาหารสุขภาพด.ี ..กินอยา งไร.html สวนรสชาติความอรอย เปนของตางประเทศ และชวยประหยัด คาใชจ ายจะข้นึ อยกู บั ความตองการเฉพาะบคุ คล) T60

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ การเลือกซอื้ เนือ้ สัตว์ ไข่ ขนั้ สอน เปลือกไข่สะอาด ไม่มีรอยแตกร้าว ควรเลอื กทสี่ ะอาด สด ไมม่ กี ลน่ิ เหมน็ ไมม่ ี เมื่อส่องกบั ไฟ ภายในไข่จะไมม่ ีจุดสดี �า ขัน้ ท่ี 3 อธิบายความรู สเี ขยี วคลา�้ เนอ้ื สตั วแ์ ตล่ ะชนดิ มหี ลกั การเลอื ก หรอื ฟองอากาศ ทแ่ี ตกตา่ งกนั ดังนี้ • หากจะเลอื กซอื้ เนอื้ หมู ควรเลอื กซอ้ื อยา งไร (แนวตอบ ควรเลือกทส่ี ด สะอาด ไมมกี ลิ่น เนอื้ หมู เหม็น เมอ่ื ใชน ิ้วกดจะไมม รี อยบมุ ) เนื้อมีสชี มพสู ด ละเอียดแนน่ ไม่มกี ล่นิ เหมน็ เน่า เมอ่ื ใช้น้วิ กด จะไม่มรี อยบุ๋ม • เนื้อหมูที่มีสีแดงสด ควรเลือกซื้อหรือไม เพราะเหตุใด เนือ้ วัว เปด็ ไก่ (แนวตอบ ไมค วรซอ้ื เพราะเนอื้ หมทู มี่ สี แี ดงสด เนอื้ มสี ีแดงสด ไมด่ า� คล้�า ไม่มีเม็ดสีขาวใส เน้อื แน่น ไม่มีกลน่ิ เหมน็ ไมม่ ีสีคลา้� เกินไปอาจมีสารเรง เนอื้ แดงปนเปอ นอยู) เมื่อใช้นิ้วกดจะไม่มรี อยบุ๋ม เม่อื ใช้นิ้วกดจะไมม่ รี อยบุ๋ม • การเลอื กซอื้ ขา วสารทดี่ มี ารบั ประทาน มหี ลกั กุ้ง หอย ในการเลือกอยา งไร หัวตดิ กับตัวแน่น เปลือกใส ฝาหอยปิดสนิท ไมม่ ีกลิ่นเหม็น (แนวตอบ ควรเลอื กเมลด็ ทไ่ี มห กั ไมม ตี วั มอด ตวั ก้งุ แข็ง ไมน่ มิ่ แกะเปลือกออกจะมสี แี ดงสด ไมปนเปอ นสิง่ สกปรก) • อาหารกระปองท่ีดีจะตองมลี ักษณะอยา งไร (แนวตอบ กระปองตองไมบุบ ไมบวม หรือ เปน สนมิ และจะตอ งระบวุ นั เดอื น ป ทผี่ ลติ และวนั หมดอายกุ าํ กบั อยบู นบรรจภุ ณั ฑเ สมอ) ขน้ั สรปุ ขัน้ ท่ี 4 ขยายความเขา ใจ 1. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ ทาํ ใบงานท่ี 3.2.1 เรอื่ ง การเลือกซื้ออาหาร โดยใหนักเรียนรวมกัน อภปิ ราย ระดมความคดิ และนาํ เสนอแนวทาง ในการเลือกซ้ือวัตถุดิบท่ีใชในการประกอบ อาหารจากสถานการณท ก่ี าํ หนด และใหบ นั ทกึ คําตอบลงในใบงาน ปู ปลา ปูทะเลและปเู นอ้ื อกแขง็ กดไมล่ ง ส่วนปูไข่ เหงือกมีสีแดงสด ท้องไม่แตก เกล็ดแน่น เม่ือดีดกระดองด้านหลัง จะมีเสียงโปร่ง ไมห่ ลดุ ออกจากตัว ตาใส กา้ มปูไมห่ ลดุ ออกจากตวั อาหาร 55 กับการด�ารงชีวิต กิจกรรม เสรมิ สรา งคณุ ลักษณะอันพึงประสงค เกร็ดแนะครู ครูเปดคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการเลือกซื้ออาหารในตลาดสด ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ เกยี่ วกบั การเลอื กซอ้ื เนอื้ สตั วใ หน กั เรยี นฟง วา การเลอื กซอ้ื และในหางสรรพสนิ คา ซ่งึ มีอาหารหลากหลายประเภทใหเ ลอื กท้ัง เนือ้ หมูและเนือ้ ววั เพือ่ นําไปประกอบอาหาร ควรพิจารณา ดังน้ี อาหารสด อาหารกระปอ ง อาหารปรงุ สาํ เรจ็ ฯลฯ จากน้ันสมมติ ใหนกั เรียนเลอื กซือ้ อาหารทป่ี รากฏอยูใ นคลปิ วิดโี อ โดยใหน กั เรียน 1. เน้อื หมู อธิบายตามประเด็นท่ีกาํ หนดให ดังน้ี • สนั คอหมู เนอื้ นมิ่ ไมเ หนยี ว มมี นั แทรกตามเนอ้ื นยิ มนาํ ไปยา ง ทอด ผดั • เนื้อสนั นอก มมี ันนอ ยกวา สันคอ นิยมนําไปทําสเตก สุกี้ หมมู ะนาว • เลือกซือ้ ส่ิงใด • เน้อื สันใน เนอื้ นุม ไขมันนอย นําไปทําอาหารไดทุกประเภท • จะนําสงิ่ ที่ซ้อื ไปทาํ สิง่ ใด • เนื้อสวนสะโพก เน้ือคอ นขางแข็ง มีเอน็ แทรกตามเนอ้ื นิยมนําไปตุน • เพราะเหตใุ ดจึงซอ้ื และนาํ ไปทําส่ิงนัน้ หรือแปรรปู เปนหมูแผน หมสู วรรค (กจิ กรรมนสี้ รา งเสรมิ คณุ ลกั ษณะดา นใฝเ รยี นรู อยอู ยา งพอเพยี ง และมุงม่นั ในการทํางาน) 2. เนื้อวัว • เนอ้ื สนั นอก มมี นั แทรกตามเนอ้ื เรยี กวา “ลายหนิ ออ น” นยิ มนาํ ไปยา ง • เนือ้ สันใน เนื้อนุม ไมมมี ัน ราคาสงู • เนอ้ื สว นนอ งสะโพก ขาหนา เนอื้ คอ นขา งเหนยี ว นยิ มนาํ มาตนุ ทาํ นาํ้ ซปุ • เน้อื สวนทอง มีไขมนั มากท่ีสุด นยิ มนํามาทํานํ้าซปุ T61

นาํ สอน สรปุ ประเมิน ขนั้ สรปุ ๒.๓ การเลือกซื้ออาหารแห้งและอาหารกระปอ๋ ง ขนั้ ที่ 4 ขยายความเขา ใจ เป็นอาหารท่ีเก็บไว้รับประทานได้นานกว่าอาหารสด ถ้าเป็นอาหารแห้งควรซื้อจากสถานที่ จา� หน่ายท่ีสะอาด มีทเ่ี ก็บเป็นระเบียบเรยี บร้อย ไม่ช้ืนแฉะ และมีภาชนะปดิ มดิ ชดิ ถา้ เป็นอาหาร 2. ครูและนักเรยี นรว มกนั สรปุ เกี่ยวกบั หลกั ทวั่ ไป กระป๋องจะตอ้ งดทู ภ่ี าชนะบรรจุวา่ มีรอยร่ัว บบุ และเป็นสนิมหรอื ไม ่ อา่ นฉลากให้ละเอยี ด รวมถึง ในการเลอื กซอ้ื อาหารมารบั ประทานในครอบครวั ดวู ันเดอื นปที ผ่ี ลิตและวันหมดอาย ุ หลักการเลอื กซื้ออาหารแหง้ และอาหารกระปอ๋ ง มีดังน้ี วา “การบรโิ ภคอาหารทด่ี ี ยอ มสง ผลใหส ขุ ภาพดี ตามไปดวย ดังน้ัน เราจึงควรบริโภคอาหาร การเลือกซ้อื การเกบ็ รักษา ใหถูกหลักโภชนาการ เลือกซ้ือวัตถุดิบที่สด สะอาด เพอื่ นาํ มาประกอบอาหารภายในครวั เรอื น” ข้าวสาร  เลือกท่ีไม่มีตัวมอด ไม่มีเศษ  เ กบ็ ในท่แี หง้ ไม่อับช้นื ใส่ใน ขน้ั ประเมนิ สง่ิ สกปรกเจอื ปน ผวิ เรยี บ แหง้ ภาชนะท่ีมีฝาปิดมิดชิด เพื่อ แขง็ ไมม่ รี อยแตกหกั ป้องกันหนูและแมลงสาบ ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล อาหารกระป๋อง  เลอื กกระปอ๋ งไมบ่ บุ บวม หรอื  ว างไว ้ในทแี่ หง้ ไมอ่ บั ชน้ื เพราะ 1. ครตู รวจใบงานที่ 3.2.1 เรอื่ ง การเลอื กซอ้ื อาหาร น�้ามนั เปน็ สนมิ ดรู ายละเอยี ดบนฉลาก ความชื้นจะท�าให้กระป๋องเป็น 2. ครูตรวจสอบความรู ความเขา ใจของนักเรยี น เช่น วนั ผลิต วันหมดอายุ สนมิ ได้ เรอ่ื ง การเลือกซื้ออาหารและการตอบคําถาม การแสดงความคดิ เหน็ รวมกันในชัน้ เรียน  เ ลอื กที่ใสสะอาด ก้นขวดไม่มี  บรรจขุ วด มฝี าปดิ มดิ ชดิ วางไว้ ตะกอน ดวู นั ผลติ วนั หมดอายุ ในท่ีไม่อับช้นื ไม ่ให้ โดนความ และเครือ่ งหมายการคา้ รอ้ นและแสงแดด กระเทียม  เลือกที่เปลือกแห้งสนิท กลีบ  น า� ไปผง่ึ แดดบอ่ ย ๆ ใสก่ ระจาด และหวั แนน่ ไมฝ่ อ่ ไมม่ เี ชอื้ รา หอ่ หรอื ใสก่ ลอ่ งเกบ็ ไว ้ในทแี่ หง้ ขนึ้ ทเี่ ปลือก น้า� ตาลทราย  เลือกที่เม็ดน้�าตาลแห้ง ร่วน  เก็บในภาชนะท่ีมีฝาปิดมิดชิด ไม่เกาะเป็นก้อน ไม่มีเศษผง ควรเก็บไว้ ในท่ีแห้ง ไม่ให้ถูก เจอื ปน ความชื้น กะปิ  เ ลอื กท่ีเนอ้ื ละเอยี ดนุ่ม มีกล่นิ  บรรจุกระปุก มีฝาปิดมิดชิด หอม ไมแ่ ฉะ หรอื กระดา้ ง ไมม่ ี น�าไปผึ่งแดดทุก ๒ สัปดาห์ ละอองเกลอื จับอยทู่ ผี่ ิวกะปิ เกบ็ ในตเู้ ยน็ หรอื ในที่ไมอ่ บั ชน้ื 56 แนวทางการวัดและประเมินผล กจิ กรรม สรา งเสรมิ ครสู ามารถสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานเปน รายบคุ คล การสงั เกตพฤตกิ รรม ใหนักเรียนอธิบายวิธีการเลือกซื้ออาหารท่ีนักเรียนชอบวา การทํางานกลุม โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลท่ีแนบทายแผน มวี ธิ กี ารเลอื กซอ้ื อยา งไร ทงั้ อาหารทเ่ี ปน ของสดตอ งนาํ มาประกอบ การจดั การเรียนรู หนว ยการเรยี นรูที่ 3 อาหารเอง รวมถึงอาหารปรุงสําเร็จที่นํามาอุนแลวรับประทาน ไดทนั ที แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม กจิ กรรม ทาทาย คาชแี้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในช่องที่ คาชี้แจง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ งที่ ตรงกบั ระดบั คะแนน ใหนกั เรียนเลอื กอาหารสดตามความสนใจ 4-6 ชนิด เพือ่ นาํ ตรงกับระดบั คะแนน มาประกอบอาหารใหได 3 รายการ นักเรียนจะเลือกอาหารสด ประเภทใด มวี ธิ กี ารเลอื กอยา งไร จะนาํ มาประกอบอาหารประเภทใด ระดับคะแนน การมี บันทึกผลการปฏิบัติงาน โดยติดภาพถายอาหารสดท่ีเลือกและ 321 อาหารทีป่ ระกอบเสร็จเรียบรอ ยแลว ทั้ง 3 รายการ นําสงครผู ูสอน ลาดับท่ี รายการประเมิน ชอ่ื – สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมี ส่วนร่วมใน รวม ของนกั เรียน ความ ฟังคนอืน่ ตามท่ไี ดร้ ับ นา้ ใจ การ 15 1 การแสดงความคดิ เหน็ ลาดับที่ คิดเหน็ มอบหมาย คะแนน 2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อน่ื ปรับปรุง 3 การทางานตามหนา้ ท่ีท่ีได้รับมอบหมาย ผลงานกล่มุ 4 ความมีนา้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา 3 2 13 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 รวม ลงชอ่ื ...................................................ผูป้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ประเมนิ ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ............./.................../............... ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน 12 - 15 ดี เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ 8 - 11 พอใช้ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ตา่ กว่า 8 ปรับปรงุ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง T62

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๓ อุปกรณ ์ เครอ่ื งมอื เครือ่ งใชใ้ นการประกอบอาหาร ขน้ั นาํ (การเรียนรูแบบรว มมือ เทคนคิ JIGSAW) ในการประกอบอาหารตอ้ งมอี ปุ กรณ ์ เครอื่ งมือ เครือ่ งใช้ส�าหรบั ประกอบอาหาร ซึง่ ปจั จบุ ัน มีหลากหลายรูปแบบและมีความทันสมัยมากย่ิงข้ึน เพื่อให้ท�าอาหารได้ง่ายข้ึน สะดวก รวดเร็ว 1. ครูใหนักเรียนรวมกันเลนเกม โดยมีกติกาใน และได้ปริมาณตามที่ต้องการ ดังนั้น จึงควรศึกษาวิธีการใช้งาน ตลอดจนเก็บรักษาให้ถูกต้อง การเลน ดงั น้ี เพือ่ ให้อุปกรณ ์ เครื่องมือ เครอื่ งใช้มีประสิทธภิ าพและมีอายุการใช้งานไดย้ าวนาน • ครูแบงผูเลนออกเปนกลุมยอยๆ กลุมละ 10-12 คน ๓.๑ หลกั การเลือกอปุ กรณ์ เครื่องมือ เคร่อื งใช ้ในการประกอบอาหาร • ใหผ ูเ ลน แตล ะกลุมยนื เขา แถวตอนลกึ อปุ กรณ์ เครื่องมอื เครือ่ งใช้ในการประกอบอาหารทา� จากวัสดุหลายชนิด มีความทนทานและ • ครูแสดงสัญญาณเร่ิมตนใหผูเลนคนแรก ราคาแตกต่างกัน ในการเลอื กซื้อควรพิจารณา ดงั นี้ วิ่งไปเขียนชื่ออุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช ๑. เหมาะสมกบั ชนดิ ของอาหาร ในการประกอบอาหารบนกระดานหนา ชน้ั เรยี น ๒. อยู่ในสภาพดี ไม่บุบ หรอื งอ เม่ือเขียนเสร็จใหสงตอไปยังผูเลนคนถัดไป ๓. สะดวกตอ่ การใชง้ าน ตามลาํ ดบั โดยกาํ หนดวา ผเู ลน แตล ะคนหา ม ๔. ดูแลรกั ษาท�าความสะอาดไดง้ า่ ย เขียนซ้ํากันภายในกลุม โดยครูมอบหมาย ๕. ประหยดั เวลาในการหุงต้ม เชน่ รอ้ นเรว็ เย็นเร็ว เวลาในการทาํ กจิ กรรมตามความเหมาะสม ๓.๒ ความปลอดภยั ในการใชอ้ ปุ กรณ ์ เครอื่ งมอื เครอื่ งใชใ้ นการประกอบอาหาร 2. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั แยกประเภทของอปุ กรณ การเลอื กอุปกรณ์ เครือ่ งมือ เคร่อื งใช้อยา่ งเหมาะสม ช่วยใหท้ า� งานไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ เคร่ืองมือ เครื่องใชในการประกอบอาหารบน ทงั้ น ้ี ผใู้ ชต้ อ้ งระมดั ระวงั เรอ่ื งความปลอดภยั ของตนเองและบคุ คลอน่ื เพราะความประมาทเลนิ เลอ่ กระดานหนา ชน้ั เรียนตามหมวดหมู เชน อาจก่อให้เกดิ อบุ ัตเิ หตุได ้ โดยยดึ หลักการ ดงั นี้ • ภาชนะสาํ หรบั หงุ ตม เชน หมอ กระทะ ลงั ถงึ ๑. เมื่อใชข้ องมีคมต้องระมดั ระวงั และเลอื กใช้ ให้เหมาะสมกบั ประเภทของงาน เชน่ • ภาชนะสําหรับใสอ าหารและตกั อาหาร เชน หากป อกผล๒ไ.ม ้ อไมปุ ค่กวรรณใชป์ ้มระีดเสภับท เเคพรรอ่ื างะใมชไ้ีดฟสฟบั า้ม1ตีนอ้ ้�างหศนกึ กัษมาาวกธิ กี อาารจใชทใ้ า�หใเ้หขม้า้ ใดี จบกาอ่ ดนมนือา� ไมดา้ ใช ้ และใชต้ าม จาน ชาม กะละมงั เล็ก ถว ย ชอ น คา� แนะนา� อยา่ งเคร่งครัด • เคร่ืองมอื ในการห่ัน สบั บดอาหาร เชน มีด ๓. เมื่อหุงต้มอาหาร ถ้าใช้เตาแก๊สจะต้องปิดวาล์ว Be careful เขียง ครก เคร่ืองบดอาหาร • อุปกรณใ หความรอน เชน เตาหงุ ตม เตาอบ ไฟฟา ถังแกส๊ และสวิตชท์ ่หี วั เตาแกส๊ ทุกคร้งั ถา้ เปดิ เตาแกส๊ แลว้ ไฟไมต่ ดิ ๔. เมอื่ ยกหมอ้ หรอื กระทะลงจากเตา ควรใชผ้ า้ หนา ๆ ห้ามเปิดซ�้าติดต่อกันหลายครั้ง จบั หรือใช้ถงุ มือกนั ความร้อน ให้ทิ้งไว้สักครู่จึงค่อยเปิดซ�้า ๕. ควรเกบ็ อปุ กรณ ์ เครอื่ งมอื เครอื่ งใชท้ มี่ นี า้� หนกั มาก เพราะแก๊สท่ีกระจายตัวจะสะสม ไว้ด้านล่างของช้ันวาง เพื่อความปลอดภัยจากการถูกอุปกรณ์ อยู่ในอากาศกลายเป็นเปลวไฟ ตกหลน่ ทบั ทา� ใหเ้ กิดเพลิงไหม้ ได้ อาหาร 57 กับการด�ารงชีวิต ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู ขอ ใดปฏิบัตถิ ูกตอ งในการใชอ ุปกรณป ระกอบอาหาร 1 เครอื่ งใชไ ฟฟา ควรเลอื กเคร่อื งใชไ ฟฟา ท่ไี ดมาตรฐาน มอก. และมฉี ลาก 1. ใชจ านเซรามกิ ใสอาหารแลวอนุ ดว ยไมโครเวฟ ประหยัดไฟเบอร 5 เพ่ือความปลอดภัย โดยเครื่องใชไ ฟฟา แตละชนดิ มีวิธกี าร 2. เมื่อขา วสุกใหถอดปลก๊ั หมอ หงุ ขาวออกทันที ใชงานและการดแู ลรักษาทแี่ ตกตางกนั เชน 3. เก็บมดี ปอกผลไมไ วบนหลังตูเกบ็ ของ 4. ปดเตาแกสทกุ คร้ังเมอ่ื ใชงานเสรจ็ • เครอ่ื งปรบั อากาศ ไมควรตดิ ตัง้ ใกลส าร หรอื วตั ถุไวไฟ ขณะใชงานหาก มเี สียงดงั ผิดปกติ ควรใหช างรีบตรวจสอบและแกไขทนั ที (วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะจานเซรามิกสามารถใชกับ ไมโครเวฟได สว นการถอดปลก๊ั หมอ หงุ ขา วเมอ่ื ขา วสกุ ควรปด สวติ ช • หมอ หงุ ขา ว ใสห มอ หงุ ขา วตวั ในพรอ มปด ฝาใหเ รยี บรอ ย แลว จงึ เสยี บปลก๊ั หมอหุงขาวกอนถอดปล๊ักออก การเก็บมีดปอกผลไมไวบนหลัง ใชง าน การจบั ยกถอื หมอ หงุ ขา วควรถอดปลกั๊ ออกกอ น และถอดปลก๊ั เมอื่ ตเู กบ็ ของเปน สงิ่ ทไ่ี มค วรกระทาํ เนอ่ื งจากอาจกอ ใหเ กดิ อนั ตรายได ใชง านเสรจ็ เรยี บรอยแลว และการปด เตาแกส ทกุ ครงั้ เมอื่ ใชง านเสรจ็ ยงั ไมเ พยี งพอ เพราะตอ ง ปดแกส ท่ีถังแกส ดว ย) • พดั ลมตงั้ พนื้ ขณะใชง านหากมเี สยี งดงั ผดิ ปกติ มกี ลนิ่ ไหม หรอื หยดุ หมนุ มเี สยี งผดิ ปกตใิ หห ยดุ ใชง านทนั ที แลว รบี ใหช า งตรวจสอบและแกไขทนั ที T63

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ ๓.๓ การดแู ลรกั ษาอุปกรณ ์ เคร่ืองมือ เคร่อื งใช้ในการประกอบอาหาร 3. ครถู ามกระตนุ ความสนใจของนกั เรียนวา อปุ กรณ ์ เครอ่ื งมอื เครอื่ งใชใ้ นการประกอบอาหารแตล่ ะชนดิ ผลติ จากวสั ดทุ แ่ี ตกตา่ งกนั ดงั นน้ั • นักเรียนคิดวาหลักการเลือกซื้ออุปกรณ เพื่อให้อุปกรณ์ เคร่ืองมือ เครื่องใช้มีอายุการใช้งานยาวนาน ควรดูแลรักษาและท�าความสะอาด เคร่ืองมือ เคร่ืองใชในการประกอบอาหาร ควรพจิ ารณาถงึ สิ่งใด หลังการใชง้ ๑า)น ทสกุ เตครนง้ั เ ลโดส1ย แเมบ่อืง่ ตโดานมคปวราะมเภรทอ้ น ดสังูงนมี้ ากเกินไป จะทา� ใหเ้ กดิ สดี า� สีเทาหรอื สีนา้� ตาล (แนวตอบ ความเหมาะสมกบั ชนดิ ของอาหาร ความสมบูรณของอุปกรณเครื่องมือ เครื่อง ซึ่งสามารถขัดออกได้โดยใช้ฟองน�า้ ชุบน้า� ผงซกั ฟอกผสมนา�้ ส้มสายช ู ขัดตรงรอยดา� แลว้ ล้างออก ใชโดยอยูในสภาพดี ไมบุบ ไมงอ ความ ดว้ ยน�้าสะอาด เชด็ ให้แห้ง สะดวกในการใชง าน และการดแู ลรกั ษาหลงั การใชงาน) ๒) เหล็ก ใหใ้ ชน้ ้า� ยาท�าความสะอาดขดั แลว้ ลา้ งให้สะอาด เช็ดด้วยผา้ สะอาดให้แห้ง 4. ครูอธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับการเลือกอุปกรณ หรือผ่ึงให้แหง้ สนิททกุ ครั้ง เพอื่ ป้องกันไม่ให้เปน็ สนิม และใช้นา�้ มันประกอบอาหารทาให้ทั่ว เคร่ืองมือ เคร่ืองใชใหนักเรียนฟงวา “การ ประกอบอาหารแตล ะประเภท ควรมกี ารเลอื กใช ๓) อะลูมิเนียม ท�าความสะอาดให้เศษอาหารท่ีติดกับภาชนะออกให้หมด และเช็ด อุปกรณ เคร่ืองมือ เคร่ืองใชใหเหมาะสม และส่ิงท่ีควรคํานึงถึงมากที่สุด คือ ความ ใหแ้ หง้ เพราะหากมเี ศษอาหารตกคา้ งในภาชนะนาน ๆ กรดและดา่ งในอาหารจะทา� ใหภ้ าชนะกรอ่ น ปลอดภัยท้ังของตนเองและบุคคลอื่น เชน มีผิวขรขุ ระ และเปน็ รู การเลอื กใชข องมคี มแตล ะชนดิ จะตอ งระมดั ระวงั และเลอื กใชใหเ หมาะสมกบั งาน อปุ กรณเ ครอื่ งใช ๔) เครอ่ื งเคลอื บ ควรระวงั ไม่ใหต้ ก หรอื กระแทกกบั พน้ื เพราะจะทา� ใหส้ ว่ นทก่ี ะเทาะ ไฟฟาควรศึกษาวิธีการใชงานใหเขาใจกอน นาํ มาใช และปฏบิ ตั ติ ามคาํ แนะนาํ อยา งเครง ครดั เกิดเปน็ สนิมได้ การเกบ็ อปุ กรณ เครอ่ื งมอื เครอื่ งใชท มี่ นี า้ํ หนกั มากควรจัดเก็บไวดานลางของช้ันวาง เพื่อ ๕) แก้ว ควรระวังไม่ให้ตกพื้นและไม่ควรใส่ของท่ีมีความร้อนสูง นอกจากแก้วชนิด ความปลอดภัยในการใชงาน” ทนไฟ นอกจากน ้ี ไมค่ วรวางซ้อนกัน เพราะจะท�าใหต้ กแตกได้ และอาจมีส๖่ว)น ผพสลมาขสอตงสกิ า รไตมะค่ กวั่วรแใสล่ขะอสงาทรป่ีมรคี อวทา2มละรล้อานย ปเพนรเปาะื้อจนะมทาา� กใหับพ้ อลาหาสาตร กิ ทบดิ�าใเหบ้เ้ียปว็นผอดิ ันรปูตทรารยง ต่อสุขภาพได้ และควรเปล่ียนภาชนะพลาสติกท่ีใช้ใส่อาหารเม่ือใช้งานไประยะเวลาหนึ่ง เช่น เนือ้ ภาชนะเร่มิ ขุ่นกวา่ เดมิ เหนยี วเหนอะ หรอื อ่อนลงกวา่ ทเ่ี คยเปน็ Tip สารพษิ ในพลาสตกิ ปนเปอื้ นอาหาร พลาสติกเปน็ ภาชนะบรรจอุ าหารท่ีไดร้ ับความนยิ มกันอย่างแพร่หลาย หากมกี ารนา� มาบรรจุอาหารและน้�าด่ืมด้วยวิธีการท่ีไม่ถูกต้องและไม่ปลอดภัย จะท�าให้มีความเส่ียงต่อ การเกิดโรคเร้ือรังได ้โดยเฉพาะโรคมะเรง็ เพราะในพลาสตกิ จะมีสาร Bisphenol A(2-4) หรอื BPA เมอื่ ถูกความรอ้ นจากการต้มจะทา� ใหส้ ารตวั นี้ละลายออกมาปนเปื้อนกับอาหาร หากรับประทานเข้าไปจะส่งผลต่อระบบประสาท และก่อให้เกิดมะเร็งต่อมลูกหมากและ มะเร็งเต้านมได้ 58 นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 สเตนเลส จะไมเปนสนิมเม่ือโดนน้ําเหมือนเหล็ก จึงนิยมนํามาผลิตเปน การดแู ลรกั ษาอปุ กรณเ ครอ่ื งมอื เครอ่ื งใชในการประกอบอาหาร เคร่ืองใชในครัวเรือน ในการทําความสะอาดควรใชผาไมโครไฟเบอร ใหส ะอาดอยเู สมอมีประโยชนอ ยา งไร หรือผาขนหนูเน้ือนุม เพื่อลดการขีดขวน โดยเช็ดไปตามแนวลายเสน ของสเตนเลส หากมรี อยดา งควรดแู ลรกั ษาอปุ กรณเ ครอื่ งมอื เครอ่ื งใชท เี่ ปน (แนวตอบ การดูแลรกั ษาอปุ กรณ เครอื่ งมอื เครื่องใชใหสะอาด สเตนเลส เชน มปี ระโยชน ดังนี้ • รอยนาํ้ หรือตะกรัน ควรแชใ นน้าํ สมสายชู 25% หรือกรดไนตรกิ 15% ลางออกดวยนํ้าสะอาด ตามดวยนํ้าสบู หรือนาํ้ ผสมผงซักฟอก ลางดวย 1. ชวยใหอาหารที่ไดจากการประกอบอาหารสะอาด ไมเปน น้าํ รอนอกี ครง้ั และใชผาสะอาดเช็ดใหแหง อันตรายตอ ผทู ร่ี บั ประทาน • รอยนิว้ มือ ใหใชน ้าํ ยาเช็ดกระจกฉีดพนลงบนผาไมโครไฟเบอร จากน้ัน นาํ ไปเชด็ ใหเงางาม 2. ชว ยใหส ะดวกตอ การหยบิ ใชงาน 3. ชวยยืดอายุการใชงาน ชวยประหยัดคาใชจายในการซ้ือ 2 ปรอท เปน โลหะชนดิ หนง่ึ มลี กั ษณะเหลวสเี งนิ เปน อนั ตรายเชน เดยี วกบั ตะกวั่ นิยมนาํ มาใชในอตุ สาหกรรมตา งๆ เชน อตุ สาหกรรมไฟฟา อตุ สาหกรรมเคมี อปุ กรณเครอ่ื งมือ เครื่องใช) T64

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๓.๔ การใชแ้ ละการเกบ็ รกั ษาอปุ กรณ ์ เครอ่ื งมอื เครอื่ งใชใ้ นการประกอบอาหาร ขน้ั สอน อุปกรณ์ เครอ่ื งมอื เครอื่ งใช้ในการประกอบอาหารมหี ลายประเภท แตล่ ะประเภทจะมวี ิธกี าร 1. ครใู หนักเรียนแบงกลุม กลมุ ละ 4 คน พรอ ม ใชง้ านทแี่ ตกต่างกันไปจึงควรเลือกใชใ้ หเ้ หมาะสม นอกจากน ้ี ยงั ควรดแู ลและเก็บรกั ษาให้ถกู ต้อง ตงั้ ชอื่ กลมุ ของตนเอง เลอื กหวั หนา กลมุ และ เพื่อช่วยยืดระยะเวลาการใชง้ านใหย้ าวนานย่ิงขนึ้ เลขานุการ เพ่ือทําการจดบันทึกขอมูล โดย เรียกกลุมนี้วา “กลุมบาน” และใหสมาชิก ภาชนะสา� หรบั หุงตม้ แตละคนเลือกหมายเลขประจําตัวของตนเอง ไดแก หมายเลข 1 หมายเลข 2 หมายเลข 3 ภาชนะที่ใช้ส�าหรับต้ม น่ึง ตุ๋นอาหาร มีหลากหลายรูปแบบ และท�าจากวัสดุที่แตกต่างกัน และหมายเลข 4 ดงั นี้ 2. ครใู หน กั เรยี นทม่ี หี มายเลขเดยี วกนั ของกลมุ บา น การเลอื กใช้ มารวมตัวกนั เพอ่ื จดั ตงั้ เปน กลุมใหม โดยเรียก กลมุ นีว้ า “กลุมผเู ชย่ี วชาญ” หมอ้ ๒ หู • ใช้ส�าหรับต้มหรือแกง ถ้าต้มปริมาณมากควรใช้หม้อ ๒ หู 3. ครูมอบหมายใหกลุมผูเชี่ยวชาญแตละกลุม เพราะยกได้สะดวกและปลอดภัยกวา่ ดาํ เนนิ การศกึ ษาเนอื้ หาตามทไ่ี ดร บั มอบหมาย • ตัวหมอ้ ทา� จากอะลูมิเนียม หรือสเตนเลส จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 หรือ • หจู บั ทา� จากไม้ หรอื ทา� ดว้ ยพลาสตกิ กนั ความรอ้ น ตดิ แนน่ แขง็ แรง คนควาเพ่ิมเติมจากอินเทอรเน็ต โดยมีหัวขอ ดังน้ี หม้อจบั ดา้ มยาว หมายเลข 1 ศึกษาเรอื่ งหลักการเลือก • ใช้สา� หรับต้มอาหาร แกงตา่ ง ๆ หรอื อุน่ อาหารท่ี อปุ กรณ เครื่องมอื เครือ่ งใช มีปรมิ าณไม่มาก ในการประกอบอาหาร • ตวั หมอ้ ทา� จากอะลมู ิเนยี ม หรือสเตนเลส หมายเลข 2 ศึกษาเรื่องความปลอดภยั • ด้ามจับท�าจากไม้ หรือท�าด้วยพลาสติกกันความร้อน ติดแน่น ในการใชอ ุปกรณ เครือ่ งมือ แขง็ แรง เครอ่ื งใชในการประกอบอาหาร หมายเลข 3 ศกึ ษาเรื่องการดูแลรกั ษา หม้อน่ึง อปุ กรณ เครื่องมอื เคร่ืองใช • ใชส้ �าหรับน่งึ อาหาร ในการประกอบอาหาร • ตัวหมอ้ ท�าจากอะลูมิเนียม หรอื สเตนเลส ๒ ช้ัน หมายเลข 4 ศกึ ษาเรอ่ื งการใชและการเก็บ รกั ษาอุปกรณ เครื่องมอื หม• อ้หตูจับนุ๋ ทแา� รจงาดกนั ไมไฟ้ หฟรา้ือ1ท�าดว้ ยพลาสติกกนั ความรอ้ น เครอ่ื งใชในการประกอบอาหาร • ใช้ส�าหรับตุ๋นอาหารใหเ้ ป่ือย โดยใช้ระยะเวลาน้อย • ตวั หมอ้ ท�าจากอะลูมเิ นยี ม หรอื สเตนเลส • หจู บั ทา� จากไม้ หรอื ท�าด้วยพลาสตกิ กันความรอ้ น • สายไฟเรียบรอ้ ย ไมช่ า� รุด การเก็บรกั ษา หม้อท่ีท�าจากสเตนเลส เมื่อใช้แล้วให้ ท�าความสะอาดและเช็ดให้แห้งก่อนน�า หมอ้ ๒ หู หมอ้ จับดา้ มยาว และหมอ้ นึ่ง ไปเก็บ • ลา้ งใหส้ ะอาด เช็ดให้แห้ง เกบ็ เขา้ ตู้ใหเ้ รยี บรอ้ ย อาหาร 59 หม้อตุน๋ แรงดันไฟฟ้า • ปิดสวิตช์ ถอดปล๊ัก แล้วม้วนสายไฟให้เรียบร้อย ล้างตัวหม้อ กับการด�ารงชีวิต ใหส้ ะอาด เช็ดให้แห้ง แล้วเก็บเขา้ ตู้ให้เรียบร้อย ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู หากกลองพลาสติกใสอาหารมีกลิ่นอาหารติด ควรกําจัดกล่ิน 1 หมอ ตนุ แรงดนั ไฟฟา หรอื หมอ อดั แรงดนั ชว ยทาํ ใหอ าหารสกุ และเปอ ยเรว็ อยา งไร ใชเ วลาในการปรงุ นอ ยกวา หมอ ทว่ั ไป ชว ยประหยดั พลงั งานไฟฟา อาหารทไี่ ด จะมีลักษณะเชนเดียวกันกับการตุน ผูใชงานควรศึกษาวิธีการใชใหเขาใจ 1. ลางดว ยน้าํ ยาลา งจานผสมนํ้ามะนาว เนอื่ งจากหมอแตละรนุ แตละย่ีหออาจมขี อ ควรระวังทแี่ ตกตางกนั โดยทวั่ ไป 2. ใชน ้ํายาทําความสะอาดขัดดวยฝอยแบบออน การเปดฝาหมอตอนหมอรอนจัดจะเกิดแรงอัดท่ีอาจทําใหเกิดอันตรายได 3. ลา งดว ยน้ําสมสายชู แลว ลา งออกดว ยนํา้ สะอาด ผใู ชง านจงึ ควรใชอ ยา งระมดั ระวงั หรอื เลอื กใชห มอ ทม่ี ปี มุ บอกแรงดนั ภายในหมอ 4. นํ้าไปตมในนา้ํ ผสมเกลือ แลวลางออกดวยน้าํ สะอาด อาหารที่นยิ มใชห มอชนิดน้ี เชน ซปุ ไก ขาหมพู ะโล เปด ตนุ ซ่โี ครงหมอู บซอส สตูไก (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เพราะนาํ้ สม สายชมู คี ณุ สมบตั ใิ นการ กําจัดกล่ินอาหาร หรือกลิ่นผลไม ไดดีกวานํ้ายาลางจาน นํ้ายา ทําความสะอาด และนํา้ ผสมเกลอื ) T65

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน อุปกรณ์สา� หรับทอด หรอื ป้งิ 4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทํางานของนักเรียน ภาชนะที่ใช้ส�าหรับทอดหรือปิ้งอาหาร มีหลากหลายรูปแบบ และท�าจากวัสดุที่แตกต่างกัน แตล ะกลมุ พรอ มทงั้ ใหค าํ แนะนาํ เพมิ่ เตมิ ตาม ดังนี้ หวั ขอ ทน่ี ักเรยี นไดร ับมอบหมาย การเลอื กใช้ 5. ครูเปดโอกาสใหสมาชิกในกลุมผูเช่ียวชาญ อภิปรายขอมูลรวมกัน และตรวจสอบความ กระทะสเตนเลส ถูกตองของเนื้อหา พรอมท้ังจดบันทึกสาระ สําคัญตามหัวขอที่ตนเองไดรับมอบหมาย • ใชส้ า� หรบั ทอดและผดั อาหาร ไม่เปน็ สนมิ 1 ลงในสมุดประจําตัว • ตวั กระทะทา� จากสเตนเลส กน้ ลึก • ด้ามจับแขง็ แรง ท�าดว้ ยพลาสติกกันความรอ้ น 6. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนไดอภิปรายถายทอด กระทะเคลอื บ ความรูใหแกสมาชิกภายในกลุมบานถึงสิ่งท่ี ไดสืบคนและศึกษาเรียนรูในหัวขอท่ีตนเอง • ใชส้ �าหรบั ทอด ผดั ป้งิ อาหาร ไดร บั จากกลมุ ผเู ช่ยี วชาญ • เตทวั ฟกลรอะทน2ะเทซา� รจาามกิกทา�หจนิ าอก่อโลนหทะนเคควลาอื มบรด้อ้วนยสสงู ารลื่น เช่น • ดา้ มจับแข็งแรง ท�าด้วยพลาสติกกันความรอ้ น 7. หลงั จากทนี่ กั เรยี นไดร ว มกนั ศกึ ษาและอภปิ ราย กระทะทองเหลอื ง รว มกันแลว ครถู ามนักเรียนวา • การเลือกซ้ืออุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช • ใชส้ า� หรบั ทา� ขนม เช่น เช่อื ม กวน ในการประกอบอาหาร มหี ลกั ในการเลอื กซอ้ื • ตัวกระทะและหจู บั ท�าจากทองเหลืองแท้ อยางไร • มลี ักษณะมนั วาว อาหารค่อนขา้ งไมต่ ดิ กระทะ (แนวตอบ ควรเลือกซ้ือใหมีความเหมาะสม กระทะไฟฟา้ กับชนิดของอาหาร อยูในสภาพดี ทนทาน และดแู ลรกั ษาทาํ ความสะอาดงา ย) • ใชส้ �าหรบั ทอด ผดั อบอาหาร • ตวั กระทะทา� จากอะลูมิเนยี ม ปรบั ระดับความร้อนได้ • หูจบั ทา� ด้วยพลาสตกิ กันความร้อน ควรเลอื กกระทะใหเ้ หมาะสมกบั การประกอบ การเกบ็ รักษา อาหารแต่ละประเภทและเลือกขนาดให้ เหมาะสม กระทะสเตนเลสและกระทะเคลือบ • ลา้ งให้สะอาด เชด็ ใหแ้ ห้ง แล้วเก็บเขา้ ตู้ใหเ้ รียบรอ้ ย กระทะทองเหลือง • แชน่ า้� ทงิ้ ไวส้ กั ครู่ เพอ่ื ใหเ้ ศษอาหารทตี่ ดิ อยหู่ ลดุ ออก ใชฟ้ องนา�้ ขัดลา้ งให้สะอาด เชด็ ให้แห้ง แลว้ เกบ็ เขา้ ตู้ให้เรยี บร้อย กระทะไฟฟา้ • ปดิ สวติ ช์ ถอดปลกั๊ แลว้ มว้ นสายไฟใหเ้ รยี บรอ้ ย ลา้ งตวั หมอ้ ใหส้ ะอาด เช็ดใหแ้ ห้ง แล้วเกบ็ เขา้ ตใู้ หเ้ รียบร้อย 60 นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 สนมิ การกําจดั สนิมเคร่อื งครัว เชน มดี ควรสวมถุงมือ แลวนาํ เกลือไปทา กระทะอะลมู เิ นยี มมวี ิธกี ารเลือกใชและการเก็บรกั ษาอยางไร ใหท่ัวบริเวณที่เกิดสนิม ผามะนาวและบีบนํ้าลงไป ทิ้งไวสักพัก จึงขัดออก หากขัดแลวยังมีสนิมเหลืออยู ใหทําซ้ําอีกคร้ัง โดยทิ้งไวใหนานข้ึน ประมาณ (แนวตอบ กระทะอะลูมิเนียมมีน้ําหนักเบา นําความรอนไดดี 1 ช่ัวโมง เมื่อขัดสนิมออกแลวใหลางและเช็ดใหแหง สวนการกําจัดสนิม และราคาไมแพง ใชสําหรับทอดและผัดอาหาร ดามจับตองมี ที่เปอนเส้ือผา สามารถทําไดโดยการทานํ้ามะนาวลงบนเนื้อผา นําไปผ่ึงแดด ความแข็งแรงทนทาน ตัวกระทะทําจากอะลูมิเนียมที่มีคุณภาพดี ใหแหง แลวนาํ ไปซกั ตามปกติ เนอ่ื งจากอะลมู เิ นยี มทไี่ มม คี ณุ ภาพอาจเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมกี บั อาหาร 2 เทฟลอน ภาชนะทเ่ี คลือบดวยเทฟลอนไมค วรใชกับตะหลวิ หรือวัสดทุ เ่ี ปน ทม่ี ฤี ทธเ์ิ ปน กรด ทาํ ใหเ กดิ อนั ตรายตอ รา งกายได สว นการเกบ็ รกั ษา เหล็ก สเตนเลส หรืออะลูมเิ นียม และไมค วรใชไฟสูงกวา 250 องศาเซลเซียส สามารถทําไดโดยการลางใหสะอาด เช็ดใหแหง และเก็บเขาตู ในการประกอบอาหาร เพราะจะทาํ ใหส ารทเี่ คลอื บอยหู ลดุ รอ น สว นการทาํ ความ ใหเ รียบรอ ย) สะอาดควรรอใหภ าชนะคลายความรอ นกอ น แลว จงึ ทาํ ความสะอาดดว ยนาํ้ เปลา สามารถใชน า้ํ สมสายชูกับน้าํ ยาลา งจานในอตั ราสว นทเ่ี ทากันมาลา ง จะชวยให สะอาดมากขน้ึ หากมคี ราบมนั หรอื มกี ลนิ่ ควรใชน า้ํ ยาลา งจานถดู ว ยฟองนา้ํ ทน่ี ม่ิ ไมค วรใชฝอยขดั มาขดั ภาชนะ เพราะจะทาํ ใหเทฟลอนหลุดรอ นได T66

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ อปุ กรณ์สา� หรบั หั่น สบั บด และผสมอาหาร ขนั้ สอน เคร่ืองมือที่ใช้แยกชิ้นอาหารให้มีขนาดเล็กลงตามท่ีต้องการ และผสมอาหารให้เข้ากัน • การใชอุปกรณ เครื่องมือ เคร่ืองใชในการ เพอ่ื สะดวกในการปรงุ อาหาร มดี ังน้ี ประกอบอาหารประเภทตางๆ ควรคาํ นงึ ถงึ ความปลอดภยั ในเรื่องใด การเลือกใช้ อปุ กรณ์ห่นั สบั บด เป็นอุปกรณม์ ีคม ใน (แนวตอบ หากใชของมีคมตองใชอยาง การเลือกใช้ต้องค�านึงถึงความปลอดภัย ระมดั ระวงั หากใชอ ปุ กรณป ระเภทเครอื่ งใช มดี เป็นสา� คัญ ไฟฟา ตองศึกษาวิธีการใชใหเขาใจกอน • ใชส้ �าหรับหั่น สบั เนอื้ สตั ว์ ผัก และผลไม้ นํามาใช และปฏิบัติตามคําแนะนําอยาง • ใบมดี มีความคม เครง ครัด) • เลอื กดา้ มจับแน่นหนา หรือพลาสติก แข็งแรง ทนทาน • นักเรียนมีวิธีการใชมีดอยา งไรใหปลอดภัย เขยี ง (แนวตอบ ควรใชมีดใหเหมาะกับลักษณะ • ใชส้ �าหรบั รองรบั การหนั่ สับอาหาร ของงาน ใชดวยความระมัดระวัง มีสมาธิ • ท�าจากไมเ้ นอ้ื แขง็ หรือพลาสตกิ ไม่มีรอยแตกร้าว ไมประมาท และเก็บในท่ีสําหรับเก็บมีด มองเห็นไดช ัดเจน) ครก • ใช้ส�าหรบั บดสว่ นผสม หรอื เครือ่ งปรุงใหล้ ะเอียด • เพราะเหตใุ ดอปุ กรณ เครอื่ งมอื เครอ่ื งใชจ งึ มี • ครกหนิ เลอื กตัวครกและสากท่ีทา� จากหินแท้ วธิ ีการดแู ลรกั ษาทีแ่ ตกตา งกัน (แนวตอบ เพราะอุปกรณ เคร่ืองมอื เครอ่ื งใช เค•รคอื่ รงกบดดินอเาผหาาเรลไอื ฟกฟทา้ี่ม1นี ้�าหนักมาก มกี ้นลกึ สากทา� จากไม้ ในการประกอบอาหารมหี ลากหลายประเภท แตละประเภทผลิตจากวัสดุที่แตกตางกัน • ใชส้ า� หรบั บด หัน่ ปั่นอาหารใหล้ ะเอียด จงึ สง ผลใหก ารดแู ลรกั ษามคี วามแตกตา งกนั • ตวั โหลทา� จากแก้ว ใบมดี ท�าจากสเตนเลส สายไฟไม่ช�ารดุ ตามไปดวย) เครือ่ งผสมอาหารไฟฟ้า • ใชส้ �าหรบั ผสมส่วนผสมต่าง ๆ ให้เข้ากัน • ตวั โถและด้ามหวั ตีทา� จากสเตนเลส สายไฟไม่ช�ารุด การเก็บรักษา มีด • ล้างให้สะอาด ทงิ้ ไว้ใหแ้ ห้ง เกบ็ เข้าทใี่ ห้เรียบรอ้ ย และเก็บใหพ้ ้นมอื เดก็ เขยี ง • ล้างให้สะอาด เชด็ ใหแ้ หง้ น�าไปผง่ึ ลมใหแ้ หง้ สนิท เพอ่ื ปอ้ งกนั การขึน้ รา แล้วเกบ็ เขา้ ทใี่ ห้เรยี บร้อย ครก • ล้างใหส้ ะอาด เช็ด หรือคว่�าให้แหง้ แลว้ เก็บเข้าทใี่ หเ้ รียบรอ้ ย เครอ่ื งบดอาหาร • ถอดปล๊ักไฟ น�าโหลแก้วมาล้างใหส้ ะอาด แลว้ เชด็ ใหแ้ ห้ง เพอ่ื ปอ้ งกนั ใบมีดเป็นสนิม แลว้ เก็บเขา้ ที่ ใหเ้ รยี บร้อย เครอ่ื งผสมอาหาร • ถอดปล๊ักไฟ ถอดโถและดา้ มหวั ตีออกมาล้างใหส้ ะอาด เชด็ ใหแ้ ห้ง แล้วเก็บเขา้ ทใ่ี หเ้ รยี บร้อย 61 อาหาร กับการด�ารงชีวิต ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู หากอุปกรณ เครื่องมือ เคร่ืองใชในการประกอบอาหาร 1 เครอ่ื งบดอาหารไฟฟา ควรใชอ ยา งระมดั ระวงั เนอ่ื งจากเปน อปุ กรณไ ฟฟา มนี ํา้ หนกั มาก เชน ครกหิน เขียงไม ควรเก็บรกั ษาอยา งไรจงึ จะ ท่ีมีใบมีดอยูภายใน กอนบดควรห่ันวัตถุดิบใหเปนชิ้นเล็กๆ กอน ไมควรบด เหมาะสมมากทส่ี ดุ วตั ถดุ บิ ทแ่ี ขง็ ควรเปด สวติ ชเ มอ่ื พรอ มทจี่ ะใชง าน และไมค วรใชง านนานเกนิ ไป หรอื ใชง านจนเครอ่ื งรอ น ซงึ่ เครอ่ื งบดอาหารแตล ะรนุ จะทาํ งานไดน านไมเ ทา กนั 1. วางไวด า นบนของตูเก็บของ จงึ ควรศกึ ษาขอ มลู ใหเ ขา ใจกอ นนาํ มาใชง าน เมอื่ ปด สวติ ชค วรรอใหเ ครอื่ งหยดุ 2. วางไวด า นนอกของตเู กบ็ ของ ทาํ งาน จากนน้ั จึงนาํ โถ หรอื เหยอื กออกมา 3. วางไวช้ันลางสุดของตเู กบ็ ของ 4. วางไวดานขางของตเู กบ็ ของท้ังสองขา ง สว นการดูแลรักษาเครื่องใหมคี วามคมนน้ั ใหนําเศษสบูลางจานใสลงไป ในเครอ่ื ง แลว เปด สวติ ช สบจู ะทาํ ความสะอาดไปพรอ มๆ กบั การลบั มดี จากนน้ั (วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะเปนจดุ ท่ีสามารถหยบิ ใชงาน ลางเครอื่ งบดดวยนา้ํ รอนแลวเชด็ ใหแ หง ไดอยางสะดวกและปลอดภัย หากวางไวดานบนของตูเก็บของ อาจทําใหเกิดอุบัติเหตุไดงาย หากวางไวดานนอกตูเก็บของ T67 อาจทาํ ใหฝ นุ เกาะได และหากวางไวด า นขา งของตเู กบ็ ของทงั้ สองขา ง จะทาํ ใหห ยบิ ไมส ะดวกเนอื่ งจากอปุ กรณ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช เหลา นนั้ มนี า้ํ หนักมาก)

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน อุปกรณส์ �าหรบั ให้ความรอ้ น 8. ครใู หน กั เรยี นชว ยกนั ยกตวั อยา งอปุ กรณ เครอ่ื งมอื อปุ กรณท์ ่ีใชส้ า� หรบั หงุ ตม้ อบ หรอื อนุ่ อาหารดว้ ยความรอ้ น มหี ลากหลายประเภทและมวี ธิ กี าร เคร่ืองใชใ นการประกอบอาหารท่ใี หความรอ น เลอื กใชแ้ ตกตา่ งกัน ดังนี้ เชน เตาแกส เตาอบระบบไฟฟา เตาอบไมโครเวฟ พรอมทั้งบอกวธิ กี ารเลอื กใช วธิ ใี ชง าน ขอ ควร การเลือกใช้ ระวงั ในการใชง าน การดแู ลรกั ษาความสะอาด เตาเซรามกิ ไฟฟา้ จากน้นั ครถู ามนกั เรยี นวา • หากตองการติดตั้งแกส ควรติดต้ังไวใน • ทา� จากกระจกเซรามกิ ทที่ นความรอ้ นและรบั แรงกระแทกได้ บรเิ วณใด • มรี ะบบป้องกันอนั ตรายจากไฟฟา้ ชอ็ ต (แนวตอบ ติดตั้งไวในหองครัวที่มีอากาศ • ซ้ือจากแหลง่ ที่ ไดม้ าตรฐาน ถายเทไดสะดวก ต้ังบนพ้ืนท่ีเรียบเสมอกัน เตาอบระบบไฟฟ้า และตดิ ตั้งในทแี่ หง ไมชื้น) • ตวั เตาทา� จากสเตนเลส หรือกระจก • หากเตาแกส มคี ราบนา้ํ มนั เกาะตดิ จนเหนยี ว • ตงั้ อุณหภมู ิได้ ปรบั อณุ หภูมิได้อัตโนมตั ิ นักเรียนจะมีวิธีการทาํ ความสะอาดอยางไร (แนวตอบ ใชนํ้ายาเช็ดคราบน้ํามันสําหรับ เต•าซออ้ื บจไามกโแคหรลเว่งฟท1ี่ ไดม้ าตรฐาน เตาแกสโดยเฉพาะ โดยการฉีดน้ํายาลงบน เตาแกสและบริเวณที่มีคราบน้ํามัน ใชผา • ตัวเคร่อื งแข็งแรง ทนทาน ท�าความสะอาดง่าย ชุบนํ้าบิดหมาดๆ หรือฟองนํ้าเช็ด และใช • มีระบบตรวจสอบอุณหภูมิของอาหารและระบบป้องกัน ผาสะอาดเช็ดซาํ้ อีกครง้ั ) อนั ตรายจากไฟฟ้าชอ็ ต • ซื้อจากแหล่งท่ีได้มาตรฐาน การเกบ็ รักษา เตาเซรามิกไฟฟา้ • ใชผ้ า้ ชบุ น้า� หรือน้า� ยาท�าความสะอาดเช็ดรอบ ๆ เตา แลว้ เชด็ ให้แห้งอีกครั้ง เตาอบระบบไฟฟ้า • ใชฟ้ องน�้าหรือผา้ ชบุ นา้� หรือน้�ายาท�าความสะอาดเชด็ รอบ ๆ ตวั เตา แลว้ ใชผ้ ้าเช็ดให้แห้ง เตาอบไมโครเวฟ • ตัวเคร่ืองด้านนอกและด้านในให้ใช้ผ้าชุบน�้า หรือน้�ายา ทา� ความสะอาดเชด็ จานรองดา้ นใน บางรนุ่ สามารถถอดออก มาล้างได้ แล้วเชด็ ใหแ้ หง้ ควรเลือกเตาให้เหมาะสมกับการใช้งาน มีความทนทาน และใชอ้ ยา่ งปลอดภยั 6๒ นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด 1 เตาอบไมโครเวฟ ในปจจุบันเตาอบไมโครเวฟมีใหเลือกซ้ือกันหลายรุน บุคคลในขอ ใดเลอื กใชอ ปุ กรณ เคร่อื งมอื เคร่อื งใชใ นการ หลายยห่ี อ หลายราคา ในการเลอื กซอื้ จงึ ควรพจิ ารณาใหเ หมาะสมตอ การนาํ มา ประกอบอาหารไดอยา งเหมาะสม ใชงาน โดยมีหลักการทค่ี วรคํานงึ ดังนี้ 1. โมกใชจานสงั กะสเี คลือบอนุ อาหารในไมโครเวฟ 1. ขนาด ควรเลือกใหเ หมาะสมตามการใชง าน ไมจาํ เปนตองมขี นาดใหญ 2. มน้ิ ตท ําแกงเขยี วหวานดวยหมอ ดา มยาว มาก เพราะจะทําใหส้ินเปลอื งพลงั งานไฟฟา 3. แมนอุนไกทอดดวยหมอ หงุ ขาวไฟฟา 4. เมยใชลังถึงนึง่ ขนมตาล 2. โครงสรา ง ควรเลอื กจากวสั ดทุ ใี่ ชว า มคี วามแขง็ แรง ทนทานมากเพยี งใด มีระบบความปลอดภยั หรือไม ทําความสะอาดไดงา ยหรือไม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะลังถึงเปนภาชนะสําหรับ น่ึงอาหาร โดยใชไอน้ําทําใหอาหารสุก สวนอุปกรณในขออ่ืนๆ 3. ระบบการทํางาน ควรเลือกท่ีมีระบบไมซับซอนมากจนเกินไป มีระบบ จานสงั กะสไี มค วรใชก บั ไมโครเวฟ หมอ ดา มยาวใชส าํ หรบั ตม แกงจดื ความปลอดภยั มรี ะบบทาํ ใหอาหารสุกและอาหารรอน และหมอหุงขา วไฟฟาใชส ําหรับหงุ ขา ว) 4. ผผู ลิตและจดั จําหนา ย ควรเลือกบรษิ ัทผูผลติ ท่มี คี วามนา เชื่อถือ มีศนู ย บริการ มกี ารรับประกนั สนิ คา และมบี รกิ ารงานซอมท่สี ะดวก รวดเรว็ 5. ฉลากประหยดั ไฟเบอร 5 ควรเลือกจากการใชก าํ ลังไฟฟา ทป่ี รากฏอยู บนฉลากไฟฟา ควรเลอื กชนดิ ทกี่ ินไฟนอย เพ่อื ชว ยประหยัดพลังงานไฟฟา T68

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ อปุ กรณส์ �าหรบั ใส่และตกั อาหาร ขน้ั สอน อปุ กรณท์ ่ีใช้ส�าหรบั ใสส่ ่วนผสม เครื่องปรงุ อาหาร และไวส้ า� หรบั ตักอาหาร มดี ังนี้ 9. ครใู หน กั เรยี นชว ยกนั ยกตวั อยา งอปุ กรณ เครอื่ งมอื เครอื่ งใชส าํ หรบั ใสแ ละตกั อาหาร เชน จาน ชาม การเลอื กใช้ ถวย ชอน ทัพพี กระบวย พรอมท้ังบอกวิธกี าร เลือกใช วิธีใชงาน ขอควรระวังในการใชงาน จาน การดูแลรักษาความสะอาด จากนั้นครูถาม • ใช้สา� หรับใสอ่ าหารประเภทผัด ทอด ยา� นกั เรยี นวา • ไม่มรี อยร้าว และไม่มลี วดลายบริเวณท่สี ัมผสั กบั อาหาร • หลักการเลือกซื้ออุปกรณสําหรับใสอาหาร จาํ พวก จาน ชาม ถว ย มหี ลกั ในการเลอื กซอื้ ชาม อยางไร • ใช้ส�าหรับใสอ่ าหารประเภทแกง ก๋วยเต๋ียว (แนวตอบ ไมมีรอยราวและไมมีลวดลาย • กว้างและก้นลึก ไม่มีรอยร้าว และไม่มีลวดลายบริเวณที่ บริเวณทส่ี ัมผัสกับอาหาร) สัมผสั กบั อาหาร • การดแู ลรักษาอปุ กรณ เครอ่ื งมือ เคร่ืองใช สาํ หรบั ใสแ ละตกั อาหาร มวี ธิ กี ารดแู ลรกั ษา ถ้วย อยา งไร • ใช้ส�าหรับใส่เคร่ืองปรุง เพื่อเตรียมประกอบอาหาร หรือใส่ (แนวตอบ จาน ชาม ถวย ควรลา งใหสะอาด ขนมหวาน เช็ดใหแหง หรือวางผึ่งไวใหแหง แลวเก็บ • มีขนาดเล็ก ก้นลึก ไม่มีรอยร้าว และไม่มลี วดลายบริเวณท่ี เขาตูใหเรียบรอย ชอน สอม ควรลางให สมั ผัสกับอาหาร สะอาด เชด็ ใหแ หง แลว เก็บในกลอ ง ทัพพี และกระบวย ควรลางใหส ะอาด เช็ดใหแ หง ชอ้ น นาํ ไปแขวน หรอื เกบ็ เขา ตูใหเ รยี บรอ ย) • ใชส้ า� หรบั ตกั อาหารที่มีขนาดเล็กและปรมิ าณน้อย • ไมม่ ีรอยรา้ ว ไม่หกั งอ หรอื บิดเบยี้ ว ทพั พแี ละกระบวย • ใช้ส�าหรับตักอาหารในปริมาณมาก • ทา� จากสเตนเลส ดา้ มจบั ทา� ด้วยพลาสตกิ กนั ความรอ้ น การเกบ็ รักษา อุปกรณ์ที่ใช้ใส่และตักอาหาร เม่ือใช้แล้ว ควรลา้ งใหส้ ะอาด เชด็ ใหแ้ หง้ แลว้ เกบ็ เขา้ ที่ จาน ชาม ถ้วย ใหเ้ รียบร้อย • ล้างให้สะอาด เช็ดให้แห้ง หรือวางผ่ึงให้แห้ง แล้วเก็บเข้าตู้ ให้เรียบรอ้ ย อาหาร 6๓ ช้อน ทัพพแี ละกระบวย กับการด�ารงชีวิต • ช้อน ล้างใหส้ ะอาด เชด็ ให้แห้ง แลว้ เกบ็ ในกล่อง • ทัพพี หรือกระบวย ล้างให้สะอาด เช็ดให้แห้ง น�าไปแขวน หรือเกบ็ เข้าตู้ใหเ้ รยี บรอ้ ย ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู การเลือกอุปกรณ เคร่ืองมือ เคร่ืองใชในการประกอบอาหาร ครใู หนกั เรยี นนําอปุ กรณสาํ หรบั ใสแ ละตักอาหารมาคนละ 1 ช้นิ จากนั้น ควรคํานึงถึงสิง่ ใดมากที่สุด รว มกนั อธบิ ายวา อปุ กรณชิน้ น้ันมชี ่ือเรียกวาอยา งไร สามารถนาํ ไปใชประโยชน ไดอ ยางไร แลวใหน ักเรยี นแบงกลมุ ตามอปุ กรณท ีน่ าํ มา เชน 1. ประเทศทผ่ี ลิต 2. ราคาและวันท่ผี ลิต • จาน • ชาม • ถวย 3. วัสดุท่ีเปนสวนประกอบหลัก • ชอ น • สอม • ทพั พี 4. รูปทรงของอปุ กรณ เครื่องมือ เครอ่ื งใช แตล ะกลมุ นาํ อปุ กรณข องกลมุ ตนเองมาพจิ ารณาถงึ ลกั ษณะ วสั ดุ ความเหมอื น และความแตกตาง การนําไปใชง าน สงิ่ ท่พี ึงระมัดระวงั ในการใชงาน จากน้ันสง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการใชเครื่องมือ เครื่องใช ตัวแทนกลมุ ออกมานําเสนอผลงานหนาชัน้ เรยี น อุปกรณในการประกอบอาหารใหเหมาะสมกับวัสดุท่ีเปนสวน ประกอบหลักจะทําใหเกิดความปลอดภัยจากการประกอบอาหาร แตห ากเลอื กใชอ ปุ กรณ เครอื่ งมอื เครอ่ื งใชท ไ่ี มเ หมาะสม อาจทาํ ให รา งกายไดร ับสารพิษจากอุปกรณท ีใ่ ชเ หลาน้นั ได) T69

นาํ สอน สรุป ประเมนิ ขนั้ สอน อุปกรณ์สา� หรบั ทา� ความสะอาด 10. ครูใหนักเรียนชวยกันยกตัวอยางอุปกรณ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ส�าหรับท�าความสะอาดอุปกรณ์ เคร่ืองมือ เครื่องใช้ในการประกอบอาหาร เครื่องมือ เครื่องใชสําหรับทําความสะอาด มีดงั นี้ พรอ มทงั้ บอกวธิ กี ารเลอื กใช วธิ ใี ชง าน ขอ ควร ระวงั ในการใชง าน จากนนั้ ครถู ามนกั เรยี นวา ฟองนา้� หลงั จากการใชง้ าน ควรลา้ งใหส้ ะอาด การเลือกใช้ • เพราะเหตุใดหลังจากการใชงานเครื่องครัว เพราะอาจเปน็ แหลง่ สะสมของเชือ้ โรคได้ จงึ ตองทําความสะอาดทันที สารท�าความสะอาด (แนวตอบ เพราะอุปกรณเครื่องใชในครัว • ใช้ส�าหรบั ลา้ งภาชนะ จะตอ งสะอาด ถกู หลกั อนามยั ไมเ ปน แหลง • ดูวันทผี่ ลิตและวนั หมดอายกุ ่อนเสมอ สะสมของเช้ือโรค จึงตองทําความสะอาด ทนั ทีหลังใชงานเสรจ็ ) ฝอยขดั • ใชส้ า� หรับขดั ภาชนะท่ลี า้ งออกยาก เช่น ก้นกระทะ ก้นหมอ้ 11. ครใู หน กั เรยี นทาํ ใบงานที่ 3.3.1 เรอื่ ง การเลอื ก • ทา� ด้วยไฟเบอร์ เสน้ ฝอยจับกนั เป็นกอ้ น ไม่หลุดลยุ่ อปุ กรณ เคร่ืองมอื เครื่องใชในการประกอบ อาหาร ฟองน�้าขัด • ใช้ส�าหรับทา� ความสะอาดภาชนะจา� พวกจาน ชาม ช้อน แก้ว ขน้ั สรปุ • เลอื กท่มี ีความหนานุ่ม อมุ้ นา้� ขนาดพอเหมาะ จับถนดั มือ ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเก่ียวกับอุปกรณ การเกบ็ รักษา เครื่องมือ เคร่ืองใชในการประกอบอาหารวา “ปจจุบันมีอุปกรณ เคร่ืองมือ เครื่องใชในการ สารท�าความสะอาด ประกอบอาหารหลากหลายรปู แบบ ดงั นนั้ จงึ ควร • หากเป็นถุงควรปดิ ปากถงุ ใหส้ นิท หรอื แบ่งใสข่ วดไว้ แลว้ ปดิ ฝาใหส้ นิท ศกึ ษาวธิ กี ารใชง าน ตลอดจนการเกบ็ รกั ษาทถ่ี กู ตอ ง เพอ่ื ใหอ ปุ กรณ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใชม ปี ระสทิ ธภิ าพ ฝอยขดั และมีอายุการใชงานที่ยาวนานขนึ้ ” • ลา้ งใหส้ ะอาด แลว้ ผงึ่ ให้แหง้ เกบ็ เขา้ ท่ีให้เรียบรอ้ ย ขน้ั ประเมนิ ฟองน้�าขดั • บีบฟองทีค่ า้ งอย่ทู ่ีฟองน�้าออกให้หมด ล้างให้สะอาด ผ่ึงใหแ้ ห้ง แล้ววางไว้ในกลอ่ งใกล้อ่างล้างจาน 1. ครตู รวจใบงานท่ี 3.3.1 เรอ่ื ง การเลอื กอปุ กรณ เคร่อื งมอื เครื่องใชในการประกอบอาหาร Tip เคล็ดลบั การทา� ความสะอาดฟองน้า� ขัด 2. ครตู รวจสอบความรู ความเขา ใจของนักเรยี น ฟองน�้าขัดมักเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียที่เกิดจากการใช้น�้ายา เรอื่ งอปุ กรณ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใชในการประกอบ ลา้ งจานแล้วไม่บีบล้างออกใหห้ มด ท�าให้นา้� ยาลา้ งจานและเศษอาหารที่เรารบั ประทานนน้ั อาหาร จากการตอบคําถาม การแสดงความ ค้างอย่ภู ายในฟองน้�าและสะสมไปเรอื่ ย ๆ ดังนั้น จึงควรท�าความสะอาดทุกคร้ัง มวี ธิ ี ดังน้ี คดิ เหน็ รว มกนั ในชน้ั เรยี น และการทาํ กจิ กรรม ๑. ใช้ความร้อน โดยหลังจากล้างภาชนะเสร็จให้บีบฟองจากฟองน�้าออกให้หมด ในชนั้ เรยี น ล้างด้วยน้า� สะอาด นา� ไปแช่น้�ารอ้ นและผง่ึ แดดให้แห้ง ๒. ใช้น�้าส้มสายชู โดยหลังจากล้างภาชนะเสร็จให้บีบฟองจากฟองน�้าออกให้หมด ล้างดว้ ยน�้าสะอาด น�านา�้ ส้มสายช ู ๑ ชอ้ นผสมกบั นา้� สะอาด ๑ แกว้ แลว้ น�าฟองน้�าแช่ไว ้ ๑ คืน ลา้ งดว้ ยนา้� สะอาด นา� ไปผ่งึ แดดให้แห้ง 6๔ แนวทางการวัดและประเมินผล กิจกรรม เสริมสรา งคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค ครสู ามารถสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานเปน รายบคุ คล การสงั เกตพฤตกิ รรม ใหน กั เรยี นแบง กลมุ ออกเปน 5 กลมุ กลมุ ละเทา ๆ กนั ใหแ ตล ะกลมุ การทํางานกลุม โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลท่ีแนบทายแผน นําอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชในการประกอบอาหาร เพ่ือนํามา การจดั การเรียนรู หนว ยการเรียนรทู ี่ 3 พิจารณาแลกเปล่ียนความคิดเห็นรวมกันในช้ันเรียน โดยนํามา กลุมละ 1 ประเภท ดงั น้ี แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม • กลมุ ท่ี 1 : ภาชนะสําหรบั หุงตม คาช้ีแจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ งที่ คาช้ีแจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งที่ • กลุมที่ 2 : อุปกรณส ําหรบั ทอดและปง ตรงกบั ระดับคะแนน • กลุม ที่ 3 : อุปกรณสําหรับหั่น สับ บด และผสมอาหาร ตรงกับระดับคะแนน • กลมุ ท่ี 4 : อุปกรณส าํ หรับใสแ ละตักอาหาร • กลมุ ที่ 5 : อปุ กรณส าํ หรับทําความสะอาด ระดับคะแนน การมี (กิจกรรมน้ีสรางเสริมคุณลักษณะดานมีวินัย อยูอยางพอเพียง 321 และมุง มนั่ ในการทํางาน) ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ชื่อ – สกลุ การแสดง การยอมรับ การทางาน ความมี สว่ นร่วมใน รวม ของนกั เรียน ความ ฟงั คนอ่ืน ตามท่ีได้รบั นา้ ใจ การ 15 1 การแสดงความคิดเหน็ ลาดบั ท่ี คดิ เห็น มอบหมาย คะแนน 2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผอู้ ื่น ปรบั ปรุง 3 การทางานตามหนา้ ท่ีที่ได้รับมอบหมาย ผลงานกลุ่ม 4 ความมีน้าใจ 5 การตรงต่อเวลา 3 2 13 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 รวม ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ประเมนิ ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ............./.................../............... ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครัง้ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน 12 - 15 ดี เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ 8 - 11 พอใช้ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ตา่ กว่า 8 ปรับปรงุ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง T70

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๔ การเตรยี มวัตถุดบิ ขน้ั นาํ (5Es) การประกอบอาหารจะตอ้ งมกี ารเตรียมวตั ถุดิบ โดยจะต้องจัดเตรยี มให้เหมาะสมกับชนดิ และ ขนั้ ท่ี 1 กระตนุ ความสนใจ ลกั ษณะของอาหาร ซง่ึ ควรเตรยี มวตั ถดุ บิ ไว ้ใหพ้ รอ้ ม เชน่ เนอื้ สตั ว ์ ผกั และผลไมต้ า่ ง ๆ ใหล้ า้ งเตรยี ม หรือห่ันแยกไว้ เคร่ืองปรุงที่จะต้องใช้ให้น�ามาวางเรียงใกล้ตัว เพื่อสะดวกต่อการประกอบอาหาร 1. ครูใหนักเรียนรวมกันตอบคําถามจากการดู โดยมีวิธีการเตรียมวตั ถดุ บิ ดังน้ี บัตรภาพ โดยมีคาํ ถาม ดงั น้ี “ในการประกอบ อาหารดงั กลา วควรใชว ตั ถดุ บิ ใด” และครบู นั ทกึ วัตถุดบิ ประเภทผัก คําตอบของนกั เรียนลงบนกระดาน ผกั ตอ้ งมีความสดใหม่ ไม่ช�้า มวี ิธกี ารเตรยี ม ดงั นี้ ๑. ผักที่ต้องหั่นควรล้างให้สะอาด ส�าหรับผักท่ีเป็นกอ เช่น 2. ครูและนักเรียนรวมกันแบงกลุมวัตถุดิบตางๆ ตามประเภทบนกระดาน โดยแบง เปน 3 ประเภท ผกั กาดขาว ควรปลดิ ออกทีละกาบ แลว้ ล้างให้สะอาด ขณะลา้ ง ดงั น้ี ระวังอยา่ ใหผ้ ักช้า� • วัตถุดบิ ประเภทผกั ๒. ผักที่ต้องรับประทานสด ควรแช่ในน้�าด่างทับทิม หรือน�้าเกลือ • วตั ถดุ บิ ประเภทเนอื้ สัตว ประมาณ ๑๐ นาที เพอื่ ลา้ งยาฆา่ แมลง • วัตถดุ ิบประเภทเครือ่ งปรงุ รส วตั ถุดิบประเภทเนื้อสตั ว์ 3. ครูสรุปคําตอบการแบงวัตถุดิบบนกระดาน เนอ้ื สตั วต์ ้องมคี วามสด ไมม่ ีกล่ินเหมน็ มีวิธีการเตรยี ม ดงั นี้ และเช่ือมโยงเขาสูบทเรยี น ๑. หมู ไก่ ปลา ควรตัดส่วนที่ไม่ตอ้ งการออกก่อนแลว้ จึงล้าง เช่น ขนั้ สอน ถา้ เปน็ ปลาใหข้ อดเกลด็ ตดั ครบี ตดั เหงอื ก แลพ่ งั ผดื ทงิ้ แลว้ ลา้ ง ด้วยน้�าเกลือเล็กน้อยเพ่ือดับกลิ่นคาว ส่วนเน้ือวัวและเน้ือหมู ขน้ั ที่ 2 สาํ รวจและคน หา ลา้ งใหส้ ะอาดกอ่ นหนั่ ถา้ ชนิ้ ใหญม่ ากควรหนั่ ตามความเหมาะสม เพือ่ ให้สกุ ทั่วถึง 1. ครูใหน ักเรยี นแบง กลุม (กลมุ เดมิ ) จากนนั้ ให ๒. หอยใหล้ ้างคร้ังแรกเพ่อื เอาดนิ และส่ิงสกปรกออก แลว้ จงึ แช่นา�้ นักเรียนแตละกลุมรวมกันศึกษาความรูจาก สะอาดทิ้งไว้ประมาณ ๒-๓ ชั่วโมง เพ่อื ให้หอยคายสิ่งสกปรก หนงั สือเรียน หนว ยการเรียนรูท ี่ 3 หรือศึกษา และล้างดว้ ยนา�้ สะอาดอกี ครัง้ เพมิ่ เตมิ จากแหลง ขอ มลู อนื่ ๆ โดยมหี วั ขอ ดงั น้ี 1. การเตรยี มวตั ถดุ ิบ วตั ถุดิบประเภทเคร่ืองปรุงรส • วัตถดุ ิบประเภทผัก เครอ่ื งปรงุ มหี ลากหลายชนดิ เชน่ นา้� ปลา นา้� ตาล เกลอื ปน่ ซอสปรงุ รส • วตั ถดุ ิบประเภทเนอื้ สัตว มีวิธีการเตรียม ดงั นี้ • วัตถุดิบประเภทเครอ่ื งปรุงรส ๑. น�าเคร่อื งปรุงรสตา่ ง ๆ ทจ่ี ะต้องใช้มาวางเรียงไว้ใกลต้ วั 2. หลักการทว่ั ไปในการประกอบอาหาร ๒. แบง่ หรือตวงจากภาชนะท่ีบรรจุมาใส่ในถ้วยเล็ก ๆ วางเรยี งไว้ 3. การกําหนดรายการอาหารสําหรับสมาชิก ในครอบครัว 1 สัปดาห ใกล้ตวั 4. วธิ ีการประกอบอาหาร 5. การสงวนคณุ คา อาหาร ก่อนการประกอบอาหารจะต้องเตรียม วัตถดุ บิ ตา่ ง ๆ ให้พร้อม เพอื่ สะดวกตอ่ การหยบิ ใชร้ ะหวา่ งประกอบอาหาร อาหาร 65 กับการด�ารงชีวิต ขอ สอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู ขอใดเปน ข้นั ตอนการเตรยี มวตั ถุดบิ ในการประกอบอาหาร ครูอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกับวิธีการลางผักและผลไมใหสะอาดและปลอดภัย 1. เลอื กปลาทับทิมทีส่ ดและสะอาด จากยาฆา แมลงตกคา งใหน กั เรยี นฟง วา การลา งผกั และผลไมใ หส ะอาดและปลอดภยั 2. จัดแตงกวาบนจานอาหาร สามารถปฏิบัติได ดังนี้ 3. ลอกผวิ ปลาหมกึ ใหขาว 4. นําเนือ้ หมูมาแชใ นซีอ๊ิว 1. ลา งผักและผลไมใ หส ะอาด จากนนั้ นําไปแชใ นดางทับทิมนาน 15 นาที 2. ลางผักและผลไม โดยเปดกอ กน้ําไหลผา น ถผู ักและผลไม 3-5 นาที (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เพราะการลอกผวิ ปลาหมกึ เปน ขนั้ ตอน 3. ลางผักและผลไมใหสะอาด จากน้ันนําไปแชในนา้ํ สม สายชู (ผสมนํา้ สม การเตรยี มเนอ้ื สตั ว เพอื่ นาํ ไปประกอบอาหาร สว นการเลอื กปลาทบั ทมิ ท่ีสดและสะอาดเปนข้ันตอนการเลือกซื้อวัตถุดิบ การจัดแตงกวา สายชู 250 ซซี ี : นา้ํ 2 ลติ ร) โดยแชท ง้ิ ไวน าน 5 นาที ตกแตงบนจานอาหารเปนขั้นตอนการจัดและตกแตงอาหาร 4. ลา งผกั และผลไมใหส ะอาด จากนนั้ นาํ ไปแชในนาํ้ เกลอื (เกลอื ปน 1 ชอ นโตะ และการนาํ เนอ้ื หมูมาแชใ นซีอ๊วิ เปน ขนั้ ตอนการประกอบอาหาร) ผสมนา้ํ 1 กะละมงั ) โดยแชท งิ้ ไวน าน 10 นาที แลว ลา งออกดว ยนาํ้ สะอาด อกี ครั้ง 5. ลอก หรือปอกเปลือกชั้นนอกของผักและผลไมออก เด็ดผักเปนใบๆ จากนั้นนาํ ไปแชในนาํ้ สะอาดทิ้งไวน าน 10-15 นาที T71

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ๕ การประกอบอาหาร การประกอบอาหารเปน็ การปรงุ อาหารดบิ ใหส้ กุ เพอ่ื รบั ประทานดว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ ทา� ใหอ้ าหาร 2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมทําการบันทึกขอมูล มสี ี กล่นิ และรสชาตทิ ่ีนา่ รบั ประทาน โดยจะต้องไมเ่ สียคณุ คา่ ทางอาหาร ทีไ่ ดจ ากการศกึ ษาลงในสมุดประจาํ ตวั ๕.๑ หลกั ทวั่ ไปในการประกอบอาหาร ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู การประกอบอาหารท่ีดีนั้น ไมว่ า่ จะเป็นการประกอบอาหารให้ผูอ้ น่ื หรือสมาชิกในครอบครัว 3. ครอู ธบิ ายเพ่ิมเตมิ วา “การประกอบอาหารทีด่ ี จะต้องคา� นึงส่งิ ตา่ ง ๆ ดังนี้ จะตอ งมกี ารจดั เตรยี มวตั ถดุ บิ ตา งๆ ใหเ หมาะสม กบั ชนดิ และลกั ษณะของอาหาร เพอื่ ความสะดวก ๑) ควรก�าหนดรายการอาหาร ตอ การประกอบอาหาร โดยวตั ถดุ บิ แตล ะประเภท แตล่ ะมอ้ื ใหไ้ ดร้ บั สารอาหารครบทง้ั ๕ หมู่ มีลักษณะในการจัดเตรียมท่ีไมเหมือนกัน” จากนน้ั ครูถามนักเรียนวา เลือกอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และมี • นักเรียนคิดวาส่ิงที่สําคัญในการเตรียม รสชาตทิ ่ีแตกต่างกัน วัตถดุ ิบคอื สิ่งใด ๒) ควรจดั อาหารแตล่ ะวนั ไมซ่ า�้ (แนวตอบ ความสดใหม ความสะอาดของ กัน เพ่อื ให้ผ้รู ับประทานไม่รู้สึกเบ่ืออาหารและ วัตถุดิบ และความปลอดภัยของผูบริโภค) • หลักการท่ัวไปในการประกอบอาหาร ไดร้ บั ประทานอาหารอยา่ งหลากหลาย ประกอบไปดว ยส่งิ ใด ๓) ความเหมาะสมของอาหาร (แนวตอบ กําหนดรายการอาหารท่ีมีสาร แต่ละม้ือ โดยมื้อเช้าควรเป็นอาหารที่ให้ การหน่ั ผกั ควรหนั่ ไวแ้ ตพ่ อด ี ไมค่ วรหนั่ ไวม้ ากเกนิ ไป เพราะ อาหารครบทั้ง 5 หมู มีความเหมาะสมกับ ผักทเ่ี หลอื เกบ็ ไวน้ านจะทา� ใหเ้ นา่ เสียไดง้ ่าย อาหาร มีการสงวนคุณคาของอาหารไวได มากท่ีสุด จัดเก็บอาหารใหถูกตอง และ แพลละังหงาลนีกสเลูง่ยีมงื้ออกาลหาางรวปันรเะปเ็นภอทาไหขามรันท1ี่ให้พลังงานแต่ไม่สูงมากนัก มื้อเย็นควรเป็นอาหารท่ีย่อยง่าย เปลย่ี นรายการอาหารในแตล ะสปั ดาห) ๔) ควรประกอบอาหารใหส้ งวนคุณค่าของอาหารไว ้ให้มากทสี่ ุด เช่น ไม่หน่ั ผกั ไวม้ ากเกนิ ไป เพราะผกั ท่เี หลอื เกบ็ ไวน้ านไมด่ ี ทา� ให้สญู เสยี วติ ามินและเนา่ เสียไดเ้ รว็ ๕) ควรท�างานให้เรว็ ขน้ึ หรือใช้เวลาน้อยลง เช่น ลา้ งและหัน่ ผกั ให้พรอ้ ม เม่อื ตดิ ไฟแลว้ สามารถประกอบอาหารไดท้ ันที ๖) ควรวางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้า โดยซื้ออาหารท่ีมีในท้องถิ่น หรือปลูกผักไว้ รบั ประทานเอง ๗) ควรจดั เกบ็ อาหารใหถ้ กู ต้อง เช่น เนอ้ื สตั ว์ควรเกบ็ ดว้ ยการแชแ่ ข็ง ผกั ให้ ใส่ถงุ แล้วปิดปากถุงให้มิดชิด น�าไปแช่ตู้เย็น หอมและกระเทียมควรเก็บในท่ีไม่อับช้ืนและน�าออกมา ตากแดดบ่อย ๆ เครื่องปรุงรสควรปิดปากถุง ปิดฝาขวด หรอื ใส่ภาชนะที่มีฝาปดิ สนิท จดั เกบ็ ให้ เรียบร้อย ๘) ควรสบั เปลย่ี นรายการอาหารแตล่ ะสปั ดาห ์ มกี ารทา� อาหารมอ้ื พเิ ศษในวนั พเิ ศษ เช่น ในวนั หยดุ สดุ สัปดาห ์ หรือวันหยุดตามเทศกาลตา่ ง ๆ เพอื่ เปน็ การสร้างความสุขให้กับสมาชกิ ในการรับประทานอาหาร 66 นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 อาหารประเภทไขมัน ไขมันที่รางกายไดรับจากการรับประทานอาหาร ขอใดเปนการประกอบอาหารโดยใชว ิธสี งวนคณุ คาทางอาหาร มีอยดู ว ยกนั หลายชนิด จงึ ควรบริโภคไขมนั อยางถกู วธิ ี และควรเลือกนํา้ มันท่ีมี 1. หนั่ หมชู ิ้นหนา เพ่ือประกอบอาหารประเภทตุน องคป ระกอบของกรดไขมนั อมิ่ ตวั ตา่ํ มไี ขมนั ไมอ ม่ิ ตวั สงู มาใชใ นการประกอบอาหาร 2. ใชนา้ํ ปริมาณมากเม่อื ตอ งการลวกผกั เชน นา้ํ มนั มะกอก นาํ้ มนั เมลด็ ชา นาํ้ มนั คาโนลา จะชว ยลดความเสยี่ งตอ การเกดิ 3. ทอดไกชน้ิ เล็กๆ ในนํ้ามันเดือด โรคตางๆ ชวยลดระดับคอเลสเตอรอล ชวยกําจัดไขมันตามผนังเสนเลือด 4. ผัดผักใหสกุ โดยใชไ ฟออน และยังชว ยลดไขมนั ในเลอื ด ทเ่ี รียกวา “ไตรกลีเซอไรด” (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 1. เพราะการประกอบอาหารประเภทตนุ นอกจากนี้ ผูบริโภคควรหลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานซท่ีพบใน ตอ งใชเ วลานานในการปรงุ จงึ ตอ งหนั่ เนอื้ ใหห นาเพอ่ื ใหเ นอ้ื อมุ นาํ้ เนยเทียม มารการนี กะทิ น้ํามนั มะพราว นํา้ มนั ปาลม เนอ้ื สตั วตดิ มนั เพราะ สว นการใชน าํ้ ปรมิ าณมากเมอื่ ตอ งการลวกผกั จะทาํ ใหผ กั เสยี วติ ามนิ จะทาํ ใหอ ว นและทาํ ใหร ะดบั คอเลสเตอรอลในเลอื ดสงู เสยี่ งตอ การเปน โรคหวั ใจ การทอดไกช้ินเล็กๆ จะมีผิวหนาท่ีถูกน้ํามันมาก ทําใหสูญเสีย และหลอดเลือด วติ ามนิ จากการทอด และการผดั ผกั ใหส กุ ควรใชไ ฟแรง เพอื่ ใหผ กั สกุ อยางรวดเร็ว ซ่งึ จะทาํ ใหเ สียคุณคาทางอาหารนอยลง) ปจจุบันมผี ลติ ภณั ฑต า งๆ ท่ีระบวุ า มีไขมนั ตาํ่ แตพบวามีน้าํ ตาล สารเพม่ิ ความเหนยี ว และสารปรงุ แตง อน่ื ๆ ผลติ ภณั ฑเ หลา นจ้ี ะใหพ ลงั งานสงู กวา อาหาร ทม่ี ไี ขมนั ตามธรรมชาติ ผบู รโิ ภคจงึ ควรพจิ ารณาและอา นฉลากกอ นซอื้ มาบรโิ ภค ทกุ คร้ัง T72

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ การกา� หนดรายการอาหาร สมาชกิ ในครอบครวั หรอื ผทู้ มี่ หี นา้ ทปี่ ระกอบอาหาร จะตอ้ ง ขนั้ สอน มกี ารวางแผนไว้ลว่ งหนา้ เพือ่ จะไดเ้ ตรียมวตั ถดุ บิ ไดอ้ ยา่ งครบถว้ น ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายความรู ตัวอยา่ งการก�าหนดรายการอาหารสา� หรับ 1 สปั ดาห์ 4. ครูใหนักเรียนดูตัวอยางการกําหนดรายการ จนั ทร์ เช้า กลางวัน เยน็ ของวา่ 1งระหว่างวนั อาหารสําหรับ 1 สัปดาห จากหนังสือเรียน ขนมปงั ไสก้ รอก หนวยการเรยี นรูท่ี 3 ทีก่ าํ หนดรายการอาหาร ข้าวหน้าเป็ด ๑ จาน ข้าวสวย ๑-๒ ทัพพ ี ปน้ั สบิ ไสป้ ลา ๕ ชนิ้ ไวใ นแตละม้อื โดยครเู ปนผแู นะนําเพ่มิ เติม ไขด่ าว โอวลั ตนิ ๑ แกว้ ฝร่งั ๖-๘ ชนิ้ แกงส้มผกั รวม น�้ามะตมู ๑ แกว้ สม้ ๑ ผล ผดั คะนา้ ปลาเค็ม 5. ครูใหนักเรียนแตละคนเขียนตารางรายการ เงาะ ๔-๕ ผล อาหารสําหรับการรับประทานอาหารภายใน องั คาร ขา้ วต้มปลา ๑ ชาม ก๋วยเต๋ยี วหลอด ขา้ วสวย ๑-๒ ทพั พ ี ขนมไข ่ ๒ ชน้ิ ครอบครัวของตนเอง 1 สัปดาห โดยวเิ คราะห ตามหลักการท่ัวไปในการประกอบอาหาร นมสด ๑ แกว้ ๑ จาน แกงเขียวหวานหมู นา�้ กระเจย๊ี บ ๑ แกว้ หรือจากตัวอยางในหนังสือเรียน หนวยการ กลว้ ยนา�้ ว้า ๑ ผล ส้ม ๑ ผล ยา� มะเขอื ยาวก้งุ สด เรยี นรูท่ี 3 มะละกอสกุ ๖-๘ ช้ิน พธุ ขา้ วผดั อเมรกิ นั 2 ๑ จาน ขนมจีนน้�ายา ข้าวสวย ๑-๒ ทพั พ ี ถว่ั เขยี วตม้ น้�าตาล 6. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ แลกเปลยี่ นประสบการณ นมสด ๑ แกว้ ๑ จาน แกงเผด็ เปด็ ย่าง ๑ ถ้วย เก่ียวกับการประกอบอาหารของตนเองวา แตงโม ๕-๖ ช้นิ ผดั หนอ่ ไมฝ้ รั่งกงุ้ ตรงตามหลักการท่ัวไปในการประกอบอาหาร ส้มเขียวหวาน ๑ ผล หรือไม และมีวิธีการประกอบอาหาร หรือ พฤหสั บดี โจ๊กใส่ไข ่ ๑ ชาม ขา้ วหมกไก ่ ๑ จาน ข้าวสวย ๑-๒ ทัพพี สาคูถว่ั ด�า ๑ ถ้วย การสงวนคุณคาของอาหารอยางไร พรอมทั้ง นมสด ๑ แก้ว นา้� มะนาวปน่ั ๑ แกว้ น�้าพริกกะป ิ ปลาทูทอด ใหนักเรียนคัดเลือกรายการอาหารที่นาสนใจ ชมพ่ ู ๑ ผล แกงเลยี ง โดยวางแผนการประกอบอาหารและจดั เตรยี ม ศกุ ร์ แตงโม ๕-๖ ชนิ้ วัตถุดิบในการประกอบอาหารมาในช่ัวโมง ถัดไป ขา้ วตม้ กงุ้ ๑ ชาม ราดหนา้ หมผู กั รวม ขา้ วสวย ๑-๒ ทพั พ ี ลอดชอ่ งน้�ากะท ิ กลว้ ยนา้� ว้า ๑ ผล ๑ จาน ปลาเกา๋ ราดพรกิ ๑ ถ้วย นา�้ ส้มค้นั ๑ แกว้ แกงจดื ต�าลงึ หมูสับ เสาร์ ชมพู ่ ๕-๖ ชิ้น แซนดว์ ชิ ทนู ่า ๑ ช้นิ บะหมี่หมแู ดง ข้าวสวย ๑ - ๒ ทัพพี ไอศกรีม ๑ ถว้ ย นมสด ๑ แกว้ ๑ จาน ต้มยา� รวมมิตร แอปเปิล ๕-๖ ชิน้ ฝร่ัง ๖-๘ ชิ้น ผดั ถ่ัวลนั เตาใสก่ ุ้ง อาทิตย์ 3 แตงโม ๕-๖ ช้ิน ขา้ วตงั หน้าตัง้ ขา้ วตม้ ทะเล ๑ ชาม ผัดมะกะโรนไี ก่ ข้าวสวย ๑-๒ ทพั พี นมสด ๑ แกว้ ๑ จาน แกงจดื เตา้ หหู้ มสู บั ผดั เผด็ ๒ ชิ้น สม้ เขียวหวาน ๑ ผล น้�าใบเตย ๑ แกว้ ปลาดกุ ฝรง่ั ๖-๘ ชน้ิ อาหาร 67 กับการด�ารงชีวิต ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู หากตองการกําหนดรายการอาหารสําหรับผูสูงอายุใน 1 วัน 1 ปนสิบ หรือปนขลิบ เปนอาหารวางที่มีมาต้ังแตสมัยโบราณ มีลักษณะ ควรประกอบไปดว ยรายการอาหารประเภทใด เหมือนกะหรี่ปบแตมีขนาดพอดีคํา ทําจากแปงขาวเจาเน้ือแปงจะกรอบแข็ง มากกวา กะหรีป่ บ ไสทีน่ ยิ ม คือ ไสห มแู ละไสปลา มที ้ังแบบนึง่ และแบบทอด (แนวตอบ รายการอาหารของผูสูงอายใุ น 1 วัน ควรประกอบไป นยิ มรบั ประทานคูกบั นํ้าชา โดยคําวา “ปนสบิ ” เพ้ียนมาจากคําวา “ปน ขลิบ” ดว ยรายการอาหาร ดังนี้ ซ่ึงขนมปนสิบจะตองมี 10 เกลียว สวนปนขลิบจะทําเปนขลิบงายๆ พอให แปงตดิ กนั เทาน้ัน มื้อเชา-ขาวตม ปลาชอน อาหารวา ง-นมถว่ั เหลือง ขนมกลวย 2 ขา วผดั อเมรกิ นั เปน การนาํ ขา วมาผดั กบั ซอสมะเขอื เทศ ใชเ นยแทนนา้ํ มนั พชื มือ้ กลางวัน-กว ยเตี๋ยวไก มะละกอสุก เพิม่ ความอรอยโดยการเตมิ ลกู เกด เมล็ดถว่ั ลนั เตา หัวหอม และแฮมช้นิ เลก็ ๆ อาหารวา ง-ถั่วเขียวตมน้าํ ตาล ผดั ใหเ ขา กนั เสริ ฟ พรอ มกบั ไกท อด ไสก รอก แฮม ไขด าว ผกั กาดแกว แตงกวา มอ้ื เยน็ -ขา วสวย นา้ํ พรกิ กะป ปลาททู อด แกงเลยี ง กลว ยนาํ้ วา และมะเขือเทศ ซึ่งขาวผัดอเมริกัน 1 จาน จะใหพลังงานประมาณ 790 กอ นนอน-นมอุนๆ) กโิ ลแคลอรี 3 มะกะโรนี ทาํ จากแปง ขา วสาลี ซงึ่ มปี รมิ าณของโปรตนี และกลเู ตนสงู นาํ มา Tนวดผสมกบั นา้ํ และรดี ใหเ ปน แผน หรอื ขนึ้ รปู เปน ทรงกระบอก มรี กู ลวง ตดั เปน ทอ ส้ันๆ สามารถนํามาใชปรงุ อาหารไดหลายชนดิ 73

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๕.๒ วิธกี ารประกอบอาหาร 1 ๒ การประกอบอาหารเป็นการทา� ให้อาหารสุกพรอ้ มรบั ประทาน โดยทวั่ ไปมวี ธิ กี ารตา่ ง ๆ ดงั นี้ ขัน้ ท่ี 2 อธิบายความรู ประกอกบารอาหาร การต้ม การลวก 7. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การประกอบอาหาร วิธตี ่าง ๆ เป็นการท�าอาหารดิบให้สุก เป็นการน�าอาหารใส่ลงใน มีวิธีการท่ีหลากหลาย ซึ่งแตละวิธีเปนการ ในน้�าเดือด ท�าให้แร่ธาตุและ น้�าเดือดและรีบน�าอาหารข้ึน ปรุงอาหารใหสกุ พรอมรับประทาน โดยวิธีการ วิตามินละลายน้�าไปบางส่วน อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประมาณ ตา งๆ ทําใหร สชาติ หรอื ลกั ษณะของวตั ถดุ บิ บางส่วนละลายอยู่ ในน�้าที่ต้ม ๑-๕ นาที เพื่อเตรียมวัตถุดิบ มคี วามแตกตา งกนั ออกไป ไมว า จะเปน การตม นา้� ตม้ บางอยา่ งนา� มาปรงุ อาหาร ก่อนน�าไปแปรรปู การลวก การเคี่ยว การทอด การตนุ การผัด ๔ได้ การยาง ฯลฯ ซง่ึ แตละวิธีการมีขัน้ ตอนการทํา ๓ การเคี่ยว การทอด 5 การต๋นุ ท่ีแตกตางกันไป หากไมรูวิธีการทําที่ถูกตอง เป็นการต้มอาหารดิบให้สุก เป็นการทา� ให้อาหารสุก โดย เป็นการท�าอาหารให้สุกจน อาจกอ ใหเ กดิ อนั ตรายขณะประกอบอาหารได กอ่ นแล้วจงึ ตม้ ตอ่ ไปเรอ่ื ย ๆ โดย ใช้น�า้ มัน ทอดด้วยกระทะ หรือ เปื่อย โดยใช้หม้อตุ๋น ใช้ไฟอ่อน ดังน้ัน เพ่ือความปลอดภัย นักเรียนจึงตอง ใช้ไฟอ่อน ใชเ้ วลาประมาณ ๓-๔ หมอ้ ใชไ้ ฟปานกลาง รอจนนา�้ มนั ตุ๋นเป็นเวลานาน ซ่ึงจะท�าให้ ศึกษาวิธีการทํามาโดยละเอียดกอนลงมือ ชั่วโมง เพื่อให้อาหารเปื่อยนุ่ม รอ้ นจงึ ใสอ่ าหารลงไป เมอ่ื อาหาร อาหารสกุ อย่างช้า ๆ และมคี วาม ประกอบอาหาร” ตามต้องการ มสี เี หลอื งทองจงึ ตกั ขนึ้ เปือ่ ยนุ่ม 8. ครูถามนักเรยี นวา 6 การน่ึง1 7 การผดั 8 การย่างหรอื ปิ้ง • การประกอบอาหารวิธีใดท่ีจะไดรับวิตามิน เปน็ การท�าอาหารให้สุก โดย เปน็ การท�าอาหารใหส้ กุ โดย เปน็ การทา� อาหารใหส้ กุ โดย และแรธ าตจุ ากอาหารมากทสี่ ดุ เพราะเหตใุ ด ใช้ความร้อนจากไอน้�า ซ่ึงจะมี น�าอาหารใส่ลงในกระทะ ใช้ น�าอาหารมาวาง บนตะแกรง (แนวตอบ การตม เพราะการตม เปน การทาํ ให อุณหภูมิอยู่ระหว่าง ๑๐๐-๑๐๕ น้�ามันไม่มาก ใช้ไฟแรง และใช้ เหนือเปลวไฟ ใช้ไฟอ่อน หรือ อาหารสุกดวยการใชนํ้าเดือด วิตามินและ องศาเซสเซยี ส ดว้ ยภาชนะ ๒ ชน้ั ตะหลวิ ผดั ให้อาหารพอสุก ใช้ไฟปานกลางแล้วแต่ชนิดของ แรธาตุบางสวนจะละลายอยูในนํ้าที่ตม ซ่ึง อาหาร สามารถนํานา้ํ ตมนน้ั มาปรุงอาหารได) • การสงวนคณุ คา อาหารมคี วามจาํ เปน อยา งไร 9 การเผา 10 การควั่ (แนวตอบ เพอ่ื เปน การรกั ษาคณุ คา ของอาหาร เป็นการทา� ให้อาหารสกุ โดย เปน็ การท�าให้อาหารสุก โดย ไมใ หสญู เสยี ไปในขณะประกอบอาหาร) การใส่อาหารลงในกระทะท่ีแห้ง ใช้กระดาษอ2ะลูมิเนียม หรือ สนทิ ทลี ะนอ้ ย ใชไ้ ฟออ่ น จากนนั้ ใช้ตะหลิวคนไปมาให้อาหารสุก กระดาษฟอยลห์ อ่ อาหารไปหมก เหลืองกรอบ และมีกล่ินหอม ในไฟอ่อน ๆ แต่ถ้าอาหารดิบ มเี ปลอื ก ไมต่ อ้ งห่อหุม้ 68 นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด 1 การนง่ึ อาหารทผ่ี า นการนงึ่ ใหส กุ จะมคี วามชมุ ชนื้ มผี วิ นมุ โดยอาหารทส่ี กุ วิธีการตม ลวก และเคย่ี ว แตกตา งกนั ในเรื่องใด ดวยการนึ่งมีขอดี คือ เม่ือนํามาเปรียบเทียบกับการตมอาหารท่ีทําใหสุก 1. สารอาหาร ดว ยการนงึ่ ไมไ ดแชอยูในน้าํ เชนเดียวกบั การตม ทําใหส ารอาหารนอ ยกวา เชน 2. เคร่ืองครัว วติ ามนิ เอทลี่ ะลายในนา้ํ และสลายตวั ไดง า ยเมอื่ ถกู ความรอ น คลอโรฟล ลล ะลาย 3. ระยะเวลา ในนาํ้ และเมอื่ เทยี บกบั การทอด การทอดใชน าํ้ มนั เปน ตวั กลาง สว นการนงึ่ ไมต อ ง 4. วตั ถดุ ิบ ใชน้าํ มัน ทาํ ใหอ าหารทีผ่ านการนึง่ มพี ลงั งานตา่ํ กวาอาหารทอด 2 กระดาษฟอยล ทาํ จากโลหะทห่ี ลอมและรดั ใหเ ปน แผน บางๆ นยิ มนาํ มาใช (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เพราะการตม การลวก และการเคยี่ ว ในการหอ อาหารทต่ี อ งการนําไปเผา อบ ปง ยาง หรอื นํามาหอ อาหารเพอื่ รักษา เปนการประกอบอาหารดวยนํ้าเดือดทั้งหมด ตางกันที่การลวก ความสด ปอ งกนั การสญู เสยี นา้ํ ปอ งกนั สงิ่ แปลกปลอมเขา สอู าหาร และปอ งกนั จะรวดเร็วท่ีสุด เพื่อไมใหอาหารสุกมาก สวนการตมจะใชเวลา การซมึ ผา นของไขมันและนํ้า นานกวาการลวก และการเคย่ี วจะใชเวลานานกวา การตม ) T74

นาํ สอน สรปุ ประเมิน ๕.๓ การสงวนคณุ ค่าอาหาร ขน้ั สรปุ การประกอบอาหารบางครง้ั อาจทา� ใหส้ ญู เสยี คณุ คา่ ทางอาหารทเ่ี ปน็ ประโยชน ์ การรจู้ กั ประกอบ ขน้ั ที่ 4 ขยายความเขา ใจ อาหารทสี่ งวนคณุ คา่ จงึ เปน็ ส่งิ ส�าคัญ มีวิธกี ารปฏบิ ัต ิ ดงั น้ี 1. ครใู หน กั เรยี นตรวจสอบความพรอ มของอปุ กรณ ๑) การหุงข้าวแบบไมเ่ ช็ดนา้� เป็นการหงุ ข้าวใหส้ กุ โดยไม่ต้องเทน�้าออก น�า้ จะแหง้ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใชใ นการประกอบอาหาร และ วัตถดุ ิบทค่ี รู หรอื นักเรยี นไดเ ตรยี มมา ไปพรอ้ มกับข้าวทส่ี กุ มวี ธิ ีการ ดงั นี้ 2. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั ประกอบอาหาร ๑ เก็บส่ิงเจือปนและกากข้าว ๒ ซาวขา้ ว ๒ ครงั้ ดว้ ยนา้� สะอาด ๓ ใสน่ า้� ในหมอ้ นา� ไปหงุ หรอื นงึ่ ตามการวางแผนของแตละกลุม โดยครูเปน ออกจากข้าวสาร แล้วน�าไป ถา้ เปน็ ขา้ วขาว ควรซาวเพยี ง โดยขา้ วเกา่ ใชข้ า้ ว ๒ สว่ นตอ่ ผูแนะนําเพิ่มเติมและใหความชวยเหลืออยาง ใสล่ งในหมอ้ หงุ ขา้ ว ๑ คร้ัง น้�า ๒ ส่วน ข้าวใหม่ใช้ข้าว ใกลชดิ ๒ สว่ น ต่อน�้า ๑/๒ สว่ น 3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันตรวจสอบ ๒) การประกอบอาหารประเภทเนอ้ื สัตว ์ จะตอ้ งท�าให้สกุ นุม่ โดยไม่เสียคณุ คา่ ทาง ผลลัพธท่ีไดจากการประกอบอาหารและสรุป ผลการปฏิบัติงานลงในใบงานท่ี 3.4.1 เร่ือง อาหาร มวี ิธกี าร ดงั น้ี การประกอบอาหาร ๑. ลา้ งเนื้อสัตว์ให้สะอาดกอ่ นหั่น ๒. ตม้ น้า� ให้เดอื ดโดยใช้ไฟแรง น�าเนอ้ื สตั ว์ใส่ลงไป และเมื่อน�า้ เดือดอกี คร้ังจงึ ลด ขนั้ ประเมนิ ระดับไฟใหอ้ ่อนลง ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล ๓) การประกอบอาหารประเภทผกั ผกั ตอ้ งสกุ ไมม่ กี ลนิ่ เหมน็ เขยี ว ซงึ่ มวี ธิ กี าร ดงั นี้ 1. ครตู รวจใบงานที่ 3.4.1 เรอื่ งการประกอบอาหาร ๑. ล้างผักหลาย ๆ คร้ัง เพ่ือล้างดิน ทราย ปุ๋ย และล้างผักด้วยวิธีน้�าไหลผ่าน 2. ครูตรวจสอบความรู ความเขาใจของนักเรียน เพ่อื ล้างสารพษิ ตกค้างออก ๒. ไม่ควรห่ันผักเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพราะจะท�าให้สูญเสียวิตามินมากกว่าการหั่นผัก เรือ่ งการประกอบอาหาร จากการตอบคําถาม ชิ้นใหญ่ และไม่ควรห่ันผักทิ้งไว้นาน การแสดงความคดิ เหน็ รว มกนั ในชนั้ เรยี น และ ๓. ผักท่จี �าเป็นต้องปอกเปลอื กออก ใหล้ า้ งแลว้ ปอกเปลือกออกให้บางทีส่ ุด การทาํ กิจกรรมในชัน้ เรยี นอาหาร ๔. หากน�าผักมาต้ม ผัด หรือลวก ไม่ควรต้ังไฟนานจนเกินไป เพราะความร้อน จะทา� ใหผ้ ักสูญเสยี วติ ามนิ ๕. ผักทม่ี ีขั้ว เชน่ พรกิ มะเขอื ใหล้ า้ งก่อนเด็ดขั้ว เคลด็ ลับหงุ ขา้ วใหน้ ุ่ม เมล็ดอวบสวย หอม นา่ รับประทาน อาหาร 69 กับการด�ารงชีวิต กจิ กรรม สรา งเสริม แนวทางการวัดและประเมินผล ใหนักเรียนเลือกอาหารยอดนิยมท่ีสามารถปฏิบัติไดเองตาม ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานเปนรายบุคคล และการสังเกต ความสนใจ 1 ชนดิ อธิบายวธิ กี ารเตรียมวัตถดุ ิบในการประกอบ พฤติกรรมการทํางานกลุม โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลท่ีแนบทาย อาหารอยางละเอยี ดใหเ พอ่ื นๆ ฟง หนา ชน้ั เรยี น จากนัน้ ใหค รแู ละ แผนการจดั การเรยี นรู หนวยการเรยี นรูท ่ี 3 เพอื่ นรว มกนั ตรวจสอบวา การเตรยี มวตั ถดุ บิ ในการประกอบอาหาร รายการทีเ่ ลอื กมคี วามถูกตองและครบถว นหรอื ไม แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ กิจกรรม ทาทาย คาชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในชอ่ งท่ี คาชแี้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในชอ่ งที่ ตรงกบั ระดบั คะแนน ใหน กั เรยี นประกอบอาหารตามความสนใจ 1 ชนดิ โดยใชเ วลา ตรงกับระดับคะแนน นอยทีส่ ดุ จากน้ันนําไปใหสมาชกิ ในครอบครัว เพ่อื น หรอื ครชู มิ และแสดงความคดิ เหน็ รวมถงึ จดบนั ทกึ ขน้ั ตอนการประกอบอาหาร ระดบั คะแนน การมี พรอ มดว ยภาพ เหตผุ ลทเ่ี ลอื กประกอบอาหารชนดิ น้ี ความคดิ เหน็ ของ 321 บคุ คลทช่ี มิ อาหาร ปญ หาทพ่ี บและแนวทางแกไข แลว นาํ สง ครผู สู อน ลาดบั ที่ รายการประเมิน ชื่อ – สกุล การแสดง การยอมรับ การทางาน ความมี ส่วนรว่ มใน รวม ของนักเรยี น ความ ฟังคนอน่ื ตามทีไ่ ด้รบั น้าใจ การ 15 1 การแสดงความคดิ เหน็ ลาดบั ที่ คิดเห็น มอบหมาย คะแนน 2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ น่ื ปรับปรงุ 3 การทางานตามหนา้ ที่ที่ไดร้ บั มอบหมาย ผลงานกลุม่ 4 ความมีน้าใจ 5 การตรงต่อเวลา 3 2 13 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 รวม ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่ือ...................................................ผู้ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ประเมิน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ............./.................../............... ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน 12 - 15 ดี เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 8 - 11 พอใช้ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง T75

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ (การสอนแบบสาธิต) ๖ การจดั และตกแต่งอาหาร ครูใหนักเรียนดูบัตรภาพ เร่ือง การจัดและ อาหารที่น่ารับประทานไม่ได้อยู่ที่รสชาติของอาหารเพียงอย่างเดียว การตกแต่งอาหารให้ ตกแตงอาหารประเภทตางๆ จากนั้นครูถาม สวยงาม รวมทงั้ ภาชนะท่ีใสอ่ าหาร ผา้ ปูโตะ๊ ทม่ี ลี วดลายสวยงาม ลว้ นชว่ ยใหอ้ าหารดนู า่ รบั ประทาน กระตนุ ความสนใจของนกั เรยี นวา ยงิ่ ขนึ้ นอกจากนี้ สามารถน�าหลกั การทางทัศนศิลปม์ าใช้ ในการจดั และตกแตง่ อาหาร เพอ่ื ท�าให้ อาหารดสู วยงามและน่ารบั ประทาน • เพราะเหตใุ ดจงึ ตอ งจดั และตกแตง อาหารให สวยงาม ข้าวสวย (แนวตอบ ชวยเสริมรสชาติของอาหารและ เพื่อใหอาหารนา รบั ประทานมากยง่ิ ขนึ้ ) ตักใส่โถขา้ ว มฝี าปดิ ขนั้ สอน อาหารประเภทแกง ขนั้ ท่ี 1 ขนั้ เตรยี มการสาธติ • แกงจดื ให้ตกั ใส่ชามขนาด พอเหมาะ 1. ครจู ดั เตรยี มวตั ถดุ บิ วัสดุ อุปกรณ เครื่องมือ • แกงเขยี วหวานตกั ใสช่ ามโรย เครื่องใชในการสาธิตใหนักเรียนดู จากน้ัน หน้าด้วยพริกช้ีฟ้าซอยและ ครูแจงวัตถุประสงคในการสาธิตใหนักเรียน ใบโหระพา เพอ่ื เพิม่ สสี ัน ทราบวา “ครจู ะสาธติ การจดั ตกแตง อาหารและ การบรกิ ารอาหารใหน กั เรยี นดเู ปน แบบอยา งกอ น อาหารประเภทผัด แลว จงึ ใหน กั เรยี นออกมาสาธติ ตามแบบอยา ง” จดั ใสจ่ านเปล หรือจานแบน ขน้ั ที่ 2 ขน้ั สาธติ ไมต่ กั อาหารใสล่ น้ ถึงขอบจาน 2. ครูดําเนินการสาธิตการจัดและตกแตงอาหาร อาหารประเภทยา� ทอด ประเภทอาหารคาว อาหารหวาน ผกั และผลไม ตามลาํ ดบั ขนั้ ตอน พรอ มอธบิ ายใหน กั เรยี นฟง จัดใส่จานแบน น�าผักกาดหอม เพ่ือใหนักเรียนไดเขาใจมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับ มาตกแต่งรอบ ๆ จาน ส่ิงที่ตองคํานึงถึงในการจัดและตกแตงอาหาร ใหส วยงาม เครื่องจม้ิ 3. ครใู หน ักเรียนแบงกลุม (กลมุ เดมิ ) รวมกนั จดั นา�้ พรกิ ผกั จมิ้ ใหต้ กั ใสถ่ ว้ ยกน้ ลกึ เตรยี มวตั ถดุ บิ วสั ดุ อปุ กรณ เครอ่ื งมอื เครอื่ งใช วางในจานเปล หรอื จานแบนใหญ่ ประเภทตางๆ ตามท่ีครูสาธิต โดยครูเปน วางผักสดรอบ ๆ อาจแกะสลัก ผูตรวจสอบความถูกตอง และใหคําแนะนํา หรือห่นั ให้สวยงาม เพิ่มเติม ผลไม้ การจดั และตกแต่งอาหารจะทา� ใหอ้ าหารน้ันดนู ่ารับประทานมากขึน้ หั่นเป็นช้ินพอค�า ท้ังผลไม้ท่ี รับประทานท้ังเปลือกและผลไม้ ทไ่ี ม่รบั ประทานเปลอื ก 70 บูรณาการอาเซียน ขอสอบเนน การคดิ ครูอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกับการตกแตงอาหารอาเซียนใหนักเรียนฟงวา ขอใดสะทอนใหเห็นถึงเอกลักษณในการจัดและตกแตงอาหาร อาหารหลายอยางท่ีมีลักษณะใกลเคียงกันจะมีการตกแตงคลายๆ กัน เชน ของไทยมากทส่ี ดุ การนําผักสีเขียวมาโรยใหตัดกับสีของอาหาร เพ่ือตกแตงอาหารใหเกิดความ สวยงาม นา รบั ประทานยงิ่ ขน้ึ การนาํ ใบตองมารองอาหารในจาน เพอ่ื เพมิ่ ความเปน 1. ยาํ ถ่ัวพูที่สวนประกอบมสี รรพคณุ ทางยา ธรรมชาตใิ หก บั อาหาร เนอื่ งจากประเทศในอาเซยี นมพี ชื ผกั หลายชนดิ ทเี่ หมอื นกนั 2. น้าํ พริกปลาทมู ีผกั สดแกะสลกั เปนเครื่องเคยี ง ดวยความที่มีภูมิประเทศและภูมิอากาศท่ีใกลเคียงกัน จากน้ันใหนักเรียน 3. ตม ยํากงุ โรยหนาดว ยพริกชี้ฟา และใบโหระพา ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารประจําชาติในอาเซียนท่ีมีการตกแตงหลากหลาย 4. ผลไมต ามฤดกู าลทีป่ อกเปลือกและหัน่ เปนชนิ้ เล็กๆ ตามสไตลของรานอาหารน้นั ๆ โดยนําภาพอาหารท่มี กี ารตกแตงมาแลกเปล่ยี น เรยี นรูซ ึ่งกนั และกนั (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 2. เพราะการแกะสลกั สะทอ นใหเห็น ถงึ เอกลกั ษณใ นการจดั และตกแตง อาหารของไทยผา นจนิ ตนาการ โดยมีลวดลายที่ละเอียดออน ซึ่งเกิดจากความประณีตและ ความตั้งใจของผูปรุงท่ีตองการใหอาหารมีความสวยงาม และนา รบั ประทานมากย่งิ ขน้ึ ) T76

นาํ สอน สรุป ประเมนิ ๗ การบริการอาหาร ขน้ั สอน การบริการเป็นการเสิร์ฟ หรือน�าอาหารมาให้ผู้รับประทานที่โต๊ะอาหาร ถ้าเป็นธุรกิจ ข้ันที่ 2 ขั้นสาธติ ร้านอาหาร พนักงานเสิร์ฟจะมีความส�าคัญมาก เพราะจะเป็นผู้ท่ีน�าอาหารมาให้ลูกค้า ดังนั้น จงึ ควรทา� ใหผ้ รู้ บั บรกิ ารเกดิ ความสะดวกสบายและประทบั ใจ สา� หรบั การบรกิ ารอาหารในครอบครวั 4. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันจัดตกแตง สมาชกิ ทกุ คนควรช่วยกนั เพราะจะท�าใหเ้ กดิ สัมพนั ธภาพที่ดีต่อกนั ควรปฏิบตั ิ ดังนี้ อาหาร และการบริการอาหารใหกับครูตาม ๑. เชิญสมาชิกในครอบครัวให้รับประทานอาหารร่วมกนั แบบอยางที่ไดดูการสาธิต โดยครูสังเกตการ ๒. จดั วางอุปกรณท์ ี่ใช ้ในการรับประทานอาหารให้พร้อม เช่น จาน ถว้ ย ช้อน ส้อม อยางใกลชิด และเนนยํ้าใหนักเรียนตระหนัก ๓. นา� อาหารวางไวท้ ี่โต๊ะให้พร้อมกอ่ นสมาชกิ เขา้ นั่งโต๊ะ ถงึ ความปลอดภัยในการทํางาน ๔. ตกั ขา้ วให้เพยี งพอกับจา� นวนสมาชิก ๕. รินน�้าใส่แกว้ ส�าหรบั สมาชิกแต่ละคน ขน้ั สรปุ ๖. ไม่ควรใช้มือจับตอ้ งอาหารโดยตรง ให้ใชช้ อ้ นกลาง ไมไ่ อ หรือจามรดอาหาร การบริการอาหารขณะท่ีสมาชิกในครอบครัวน่ังท่ีโต๊ะแล้ว ต้องท�าด้วยความระมัดระวัง และ ขน้ั ท่ี 3 ข้ันสรุป ในการรบั ประทานอาหารสมาชกิ ทกุ คนจะตอ้ งดแู ลซงึ่ กนั และกนั เชน่ คนทนี่ งั่ ใกลก้ บั ขา้ วแตล่ ะอยา่ ง จะต้องตักให้คนท่ีตักไม่ถึง เพ่ือเป็นการปลูกฝังนิสัยการเอื้อเฟื้อเผ่ือแผ่ ดูแลซึ่งกันและกัน และ 1. ใหน กั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั ตรวจสอบผลงาน เมือ่ รบั ประทานอาหารเสรจ็ จะตอ้ งชว่ ยกันทา� ความสะอาดโตะ๊ ล้างภาชนะตา่ ง ๆ โดยไมป่ ลอ่ ยให้ การจัดและตกแตงอาหารแตละประเภทของ เป็นหนา้ ท่ีของสมาชกิ คนใดคนหน่ึง กลุมตนเอง จากน้ันใหสงตัวแทนกลุมออกมา นาํ เสนอผลงานหนา ชน้ั เรียน โดยครูและเพ่ือน การบรกิ ารอาหารในครอบครัวช่วยเสริมสร้างบรรยากาศท่ดี ีในการรบั ประทานอาหาร และสรา้ งความสัมพนั ธ์อนั ดีในครอบครัว รว มชั้นเรียนรวมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ ง อาหาร 71 2. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ เนอ้ื หา เรอ่ื ง การจดั กับการด�ารงชีวิต ตกแตง อาหารและการบรกิ ารอาหารวา “อาหาร ทน่ี า รบั ประทานไมไ ดข น้ึ อยทู ร่ี สชาตขิ องอาหาร เพียงอยา งเดียว แตก ารจดั และตกแตง อาหาร ใหสวยงามเปนสวนหนึ่งที่จะสงผลใหอาหาร นา รับประทานมากยิง่ ขนึ้ ” 3. ครูใหนกั เรยี นทําใบงานที่ 3.5.1 เรือ่ ง การจัด และตกแตงอาหาร ขน้ั ประเมนิ ขัน้ ท่ี 4 วดั ผลประเมนิ ผล 1. ครตู รวจสอบผลงานการจดั ตกแตง อาหาร และ การบริการอาหารประเภทตางๆ ของนกั เรียน 2. ครตู รวจใบงานที่ 3.5.1 เรอื่ ง การจดั และตกแตง อาหาร ขอ สอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล หากตอ งบรกิ ารอาหารในงานตา งๆ ของครอบครวั ควรปฏบิ ตั ิ ครสู ามารถสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานเปน รายบคุ คล และการสงั เกตพฤตกิ รรม อยา งไร การทํางานกลุม โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผน การจดั การเรียนรู หนวยการเรียนรูท่ี 3 (แนวตอบ 1. แตงกายใหสุภาพและเหมาะสมกับลักษณะของ งาน รวมถงึ ดแู ลรักษาความสะอาดของตนเอง แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม 2. บรกิ ารอาหารดวยความระมดั ระวงั คาชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งที่ คาชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องท่ี 3. ย้ิมแยม แจมใสในขณะใหการบริการอาหาร ตรงกับระดบั คะแนน 4. เตรียมชอ นกลางไวใหเ พียงพอ) ตรงกบั ระดบั คะแนน ระดบั คะแนน การมี 321 ลาดบั ที่ รายการประเมิน ชือ่ – สกุล การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมี ส่วนรว่ มใน รวม ของนักเรียน ความ ฟงั คนอืน่ ตามท่ไี ดร้ ับ น้าใจ การ 15 1 การแสดงความคดิ เห็น ลาดบั ที่ คดิ เหน็ มอบหมาย คะแนน 2 การยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อนื่ ปรบั ปรุง 3 การทางานตามหนา้ ท่ีที่ไดร้ บั มอบหมาย ผลงานกลมุ่ 4 ความมีนา้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา 3 2 13 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 รวม ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ประเมิน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ............./.................../............... ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง เกณฑ์การให้คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน 12 - 15 ดี เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ 8 - 11 พอใช้ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรงุ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรุง T77

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ นาํ (เนนกระบวนการปฏิบัติ) ๘ การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร 1. ครูกลาวคําทักทายนักเรียน พรอมท้ังทบทวน การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เป็นกระบวนการปรบั ปรุง เปลีย่ นแปลงรปู รา่ งและรสชาติ ความรจู ากชว่ั โมงทผี่ า นมา แลว ถามนกั เรยี นวา ของผลผลติ ทางการเกษตรใหม้ ลี กั ษณะแปลกใหมแ่ ตกตา่ งไปจากเดมิ เพอื่ ชว่ ยเพม่ิ มลู คา่ และคณุ ภาพ • จากการเรยี นเรอ่ื งการจดั ตกแตง อาหาร และ สามารถเก็บไวร้ บั ประทานไดน้ าน การบริการอาหาร นักเรียนสามารถนํามา ปรับใชใ นชีวิตประจําวันไดอยา งไร ๘.๑ ประโยชน์ของการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร (แนวตอบ ชวยคุณแมจัดและตกแตงอาหาร เพอ่ื รบั ประทานภายในครอบครวั ใหบริการ การนา� ผลผลิตทางการเกษตรมาแปรรปู ท�าใหส้ ามารถเกบ็ ผลผลิตไวบ้ รโิ ภคไดย้ าวนาน ซ่งึ มี อาหารดว ยการรนิ นาํ้ ใสแ กว ใหแ กส มาชกิ ใน ประโยชน์ ดงั นี้ ครอบครัว) ๑. เพ่ือช่วยป้องกันการล้นตลาดของผลิตผล เนื่องจากผลผลิตในบางฤดูกาลจะออก มาพรอ้ ม ๆ กัน ทา� ใหม้ ีมากจนส่งผลใหร้ าคาตกตา่� การแปรรปู จึงเป็นสงิ่ ส�าคัญทจ่ี ะชว่ ยเกบ็ รกั ษา 2. ครถู ามกระตุน ความสนใจของนักเรยี นวา ผลผลิตไว้ได้นาน เพิ่มความหลากหลายในผลผลิต เช่น ล�าไยตากแห้ง กล้วยตาก กล้วยฉาบ • ในทองถิ่นของนักเรียนมีผลผลิตทางการ หมูแดดเดยี ว ปลาแดดเดียว เกษตรใดบาง ๒. เพ่ือช่วยเพิ่มมูลค่าและเพ่ิมรายได้ เน่ืองจากผลผลิตบางชนิดเม่ือน�าไปแปรรูป (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ สามารถจ�าหน่ายได้ในราคาท่ีสูงกว่าผลผลิตที่ยังไม่ได้แปรรูป เช่น ไอศกรีมมะม่วงมีราคาสูงกว่า นักเรียนและทองถ่นิ ทอ่ี าศยั อยู) มะมว่ งสกุ ผักกาดดองราคาสงู กว่าผักกาดเขยี วปลี และย ับย้ังก๓าร. ทเ�พางอื่ าชนว่ ขยอเกงจบ็ ุลผินลทผลรียติ1์บไวาบ้ งรชโิ นภิดค ไดทน้ �าาใหน ้สเนามอื่ างจรถากเกก็บารผแลปผรลริตปู ไผวล้บผรลิโภติ เคปไน็ดว้นธิ ากี นาขรึ้นปอ้ งเชก่นนั 3. ครูใหนักเรียนดูคลิปวิดีโอเกี่ยวกับศูนยการ ผกั กาดดอง ปลาหมึกแห้ง พรกิ แห้ง หอมแดง เรยี นรกู ารแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ๔. เพอื่ ชว่ ยใหส้ ะดวกในการบรโิ ภค เนอ่ื งจากผลผลติ ทางการเกษตรบางอยา่ งไมส่ ามารถ บริโภคได้ทันที ตอ้ งแปรรูปก่อนจึงจะบริโภคได ้ เช่น ขา้ วสาร ถัว่ เหลอื ง ถัว่ เขียว 4. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การแปรรูปผลผลิต ทางการเกษตร เปน การปรบั ปรงุ เปลย่ี นแปลง ๘.๒ หลกั การแปรรูปผลผลติ ทางการเกษตร รูปราง รสชาติของผลผลิตทางการเกษตรให แตกตางไปจากเดิม โดยใชก ระบวนการตางๆ การแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตรทกุ ชนดิ จะตอ้ งมวี ธิ กี ารปฏบิ ตั อิ ยา่ งถกู ตอ้ ง เพอื่ ให ้ไดผ้ ลผลติ เพ่ือเพิ่มมูลคาและคุณภาพใหกับผลผลิต ท่ีมีคุณภาพ มหี ลกั ในการปฏบิ ัติ ดงั น้ี ทางการเกษตร เพ่ือทําใหสามารถเก็บไวได ๑. ควรคดั สรรผลผลิตทมี่ ีคุณภาพ ใหม่ สด สะอาด ยาวนานขึน้ ” ๒. ควรเลอื กวธิ ีการแปรรูปผลผลติ ทางการเกษตรตามความนยิ มของผู้บรโิ ภค ๓. ควรรกั ษาความสะอาดทกุ ขน้ั ตอน เพอ่ื ปอ้ งกนั การปนเปอ้ื นของเชอื้ โรคและสง่ิ สกปรก ๔. ควรมีวธิ ีการป้องกันและยบั ยง้ั การเจริญเตบิ โตของจุลนิ ทรียท์ ่มี อี ยู่ในอาหาร ๕. รกั ษาคณุ คา่ ทางโภชนาการไว ้ใหม้ ากทส่ี ดุ และเพม่ิ รสชาตคิ วามอรอ่ ยหลงั การแปรรปู ๖. ควรคา� นงึ ถงึ ความประหยัดและความคุ้มค่าตอ่ เงนิ ทุนและเวลาทีเ่ สยี ไป 7๒ นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 จุลินทรีย เปนส่ิงมีชีวิตขนาดเล็ก ไมสามารถมองเห็นไดดวยตาเปลา ขอใดกลา วถงึ ประโยชนข องการแปรรูปอาหารไดอยางถกู ตอ ง จุลินทรียมีอยูในระบบยอยอาหารของมนุษย โดยอยูในลําไสเล็กและลําไสใหญ 1. อาหารมีรสชาตดิ ีกวา เดมิ จุลินทรียชนิดดีจะชวยปองกันภาวะอาหารเปนพิษจากเช้ือกอโรค จุลินทรีย 2. จุลนิ ทรียในอาหารเพ่ิมข้ึน ชนิดดีในลําไสใหญจะชวยเพ่ิมการบีบตัวของลําไส ทําใหขับถายไดสะดวก 3. สามารถเกบ็ อาหารไวไดนาน หากจุลินทรียภายในรางกายเสียสมดุล อาจกอใหเกิดโรคตางๆ เชน ทองผูก 4. อาหารสกุ โดยไมตองใชความรอน ทองเสีย มะเร็งลําไส นอกจากนี้ ยังมี “จุลินทรียกอโรค” ซ่ึงเปนจุลินทรีย ท่ีทําใหเกิดโรคในมนุษยและสัตว อาจเปนแบคทีเรีย รา ไวรัส หรือปรสิต (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะเปนการนําอาหารท่ีมีมาก โดยสว นใหญจะเปน แบคทเี รีย หรือมีเหลือตามฤดูกาลมาผานกระบวนการตา งๆ เพอื่ ใหส ามารถ เก็บรักษาอาหารไวรับประทานไดนานย่ิงขึ้น โดยไมเนาเสียและ การบริโภคอาหารที่มีจุลินทรียไมดี หรือสารพิษท่ีจุลินทรียสรางขึ้นอาจทํา สูญเสยี คุณคา ทางโภชนาการนอ ยทสี่ ดุ ) ใหเ กดิ “โรคอาหารเปน พษิ ” โดยจลุ นิ ทรยี อ าจตดิ มากบั อาหาร หรอื ปนเปอ นผา น อจุ จาระ สงิ่ แวดลอ ม ผปู ระกอบอาหาร การสมั ผสั กบั อาหารอยา งไมถ กู สขุ ลกั ษณะ และเขา สูรางกาย หรอื ทางเดนิ อาหาร อาการทีพ่ บทัว่ ไป คอื ปวดทอ ง ทองเสยี บางคร้งั มีอาการคลนื่ ไส อาเจียน และมไี ขรว มดว ย T78

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๘.๓ วธิ กี ารแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ขน้ั สอน การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรมีหลากหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีจะมีวิธีการท�าที่แตกต่างกัน และควรเลอื กวธิ กี ารแปรรูปใหเ้ หมาะสมกับวัตถดุ ิบแต่ละชนดิ ดงั น้ี ขนั้ ท่ี 1 สังเกตรับรู 1 การท�าแหง้ ๒การทา� เคม็ ๓ การหมกั ดอง เป็นการท�าให้น�้าระเหยออก เปน็ การใชเ้ กลอื เพอื่ เกบ็ รกั ษา เป็นการใช้ความเข้มข้นของ 1. ครถู ามกระตุนความสนใจของนกั เรยี นวา จากอาหาร คงความชื้นเหลืออยู่ อาหารให้อยู่ได้นาน ไม่เน่าเสีย เกลอื นา้� สม้ และนา้� ตาล ควบคมุ • นักเรียนเคยเห็นการแปรรูปผลผลิตทาง เล็กน้อยจนจุลินทรีย์ไม่สามารถ อาจมีการน�าสารเคมีบางอย่าง การเกษตรใด เจริญเติบโตได้ โดยน�าไปตาก เขา้ มาชว่ ยในการปรงุ แต่งรส เชน่ ไกมา่ใรหเ้อจารหิญารเตเนิบ่าโเตสขียอเงชจ่นุลินแทหนรียม1์ (แนวตอบ ผลไมแ ชอ่ิม กลวยตาก ปลาเค็ม แดด หรืออบในตู้อบความร้อน หัวผักกาดเคม็ กะหล่า� ปลีเคม็ กงุ แหง กะป กลว ยฉาบ ลําไยตากแหง) เช่น กล้วยตาก หมูแดดเดียว ผักดองตา่ ง ๆ • นักเรียนคิดวาเพราะเหตุใดจึงตองแปรรูป พรกิ แห้ง ผลผลติ ทางการเกษตร (แนวตอบ เพ่ือยกระดับ เพ่ิมมูลคาและชวย ๔ การเชื่อม 5 การแชอ่ ่ิม 6 การฉาบ ถนอมผลผลติ ทางการเกษตรใหเ กบ็ ไวบ รโิ ภค เป็นการเพิ่มปริมาณน้�าตาล เป็นการถนอมอาหาร โดย เป็นการท�าให้อาหารสุกก่อน ไดยาวนานขึน้ ) ในอาหาร โดยใช้ความร้อนทา� ให้ ค่อย ๆ เพ่ิมน�้าตาลเข้าไปในเนื้อ แล้วน�ามาคลุกเคล้ากับน�้าเช่ือม อาหารสุก น้�าตาลซึมผา่ นเขา้ ไป อาหารจนกระทง่ั อาหารนนั้ อม่ิ ตวั ที่อิ่มตัว ท�าให้น�้าตาลเกาะติด 2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับประโยชนของการ ในอาหาร อาหารจะเกบ็ ไวไ้ ดน้ าน ด้วยน้�าตาล เช่น มะม่วงแช่อิ่ม เป็นเกล็ดขาว ๆ เช่น กล้วยฉาบ แปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตรใหน กั เรยี นฟง วา เช่น มะตูมเชือ่ ม กลว้ ยเช่อื ม มะขามแชอ่ มิ่ เผอื กฉาบ “การนาํ ผลผลติ ทางการเกษตรมาแปรรปู จะชว ย ปองกันการลนตลาดของผลผลิตสด ชวยยก ระดบั ราคาผลผลติ ไมใ หต กตา่ํ และชว ยสง เสรมิ ใหผ ลติ ภณั ฑแ ปรรปู เปน ทยี่ อมรบั ชว ยเพม่ิ พนู รายไดใหกบั ตนเองและทอ งถิ่นไดเปน อยางดี” 7 การกวน 8 การท�าแยม2 9 การทา� น�า้ ผลไม้ เป็นการน�าผลไม้มาผสมกับ เป็นการน�าผลไม้มาต้มกับ เป็นการสกัดของเหลวออก น�้าตาล ใช้ความร้อนเค่ียวจน น�้าตาลด้วยไฟอ่อน แล้วค่อย ๆ จากผลไม้ อาจมีการเติมน้�าตาล ปริมาณน�้าลดลงและผสมเป็น เพมิ่ ไฟขน้ึ ทลี ะนอ้ ย คนสมา�่ เสมอ หรือน�้าเชื่อมลงไปเล็กน้อย เช่น เนื้อเดียวกัน เช่น ทุเรียนกวน ให้เข้ากันจนเหนียว เช่น แยมส้ม น้�าส้ม น้�ามะนาว น�้ามะพร้าว มะมว่ งกวน แยมสับปะรด นา้� สับปะรด อาหาร 7๓ กับการด�ารงชีวิต ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู เพราะเหตุใดภาชนะที่เปนโลหะจึงไมควรนํามาใสอาหารประเภท 1 แหนม เปนอาหารพ้ืนเมืองทางภาคเหนือของประเทศไทย ท่ีไดรับ หมักดอง ความนยิ มอยา งแพรห ลาย นอกจากการบรโิ ภคสดแลว ยงั สามารถนาํ ไปประกอบ อาหารไดอ ยา งหลากหลาย ซง่ึ จะใหท งั้ โปรตนี ไขมนั คารโ บไฮเดรต และแรธ าตุ (แนวตอบ เนื่องจากการหมักดองจะทําใหเกิดกรดและกรด ท่ีสาํ คญั เชน เหล็ก ฟอสฟอรสั วติ ามินบี 1 วิตามินบี 2 ปจจบุ ันมีการผลิต จะทาํ ปฏกิ ริ ยิ ากบั โลหะ เชน เหลก็ สเตนเลส อะลมู เิ นยี ม อาจทาํ ให “แหนมเพื่อสุขภาพ” โดยเพิ่มคุณคาทางโภชนาการใหกับแหนม จนไดแหนม เกิดสารพิษในอาหารท่ีหมักดองได จึงควรนําอาหารประเภท ที่มปี รมิ าณ “กาบา” (GABA) สูง ชวยลดความดนั โลหิต แหนมที่ไดป ลอดจาก หมกั ดองมาบรรจไุ วในภาชนะเครอ่ื งแกว หรอื เครอ่ื งเคลอื บเพอ่ื ให เช้ือโรคของระบบทางเดินอาหาร และมีคอเลสเตอรอลตํ่า มีรสชาติ กล่ิน เกดิ ความปลอดภยั ) และเนอื้ สมั ผสั เหมอื นแหนมทว่ั ไป สามารถเกบ็ รกั ษาในอณุ หภมู หิ อ งไดน าน 7 วนั โดยยงั คงรสชาตคิ วามอรอ ย เปน การสรา งมลู คา เพมิ่ ในการผลติ แหนมในระดบั ชุมชนและภาคอตุ สาหกรรม 2 แยม ทาํ จากผลไมผ สมกบั สารใหค วามหวาน หรอื ผสมนา้ํ ผลไมเ ขม ขน พอ ใหเ หนียว แยมที่ดีจะตอ งขนและเหนยี ว หรอื กงึ่ แขง็ กงึ่ เหลวพอเหมาะสําหรบั ใชทา มีกลน่ิ สี รสชาติ ตามชนดิ ของผลไมท ่ีนํามาทาํ T79

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน Know More เทคโนโลยีการถนอมอาหาร ขนั้ ที่ 1 สงั เกตรบั รู การใชเ้ ทคโนโลยกี ารถนอมอาหาร ทาำ ใหอ้ าหารมอี ายยุ าวนานขนึ้ ไมเ่ กดิ การเนา่ เสยี สญู เสยี คณุ ภาพ 3. ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ วา การถนอมอาหารในปจ จบุ นั และคณุ คา่ ทางโภชนาการนอ้ ยทส่ี ุด โดยเทคโนโลยกี ารถนอมอาหารมีวธิ ีการ เช่น มีหลากหลายวิธี และมีการใชเทคโนโลยีการ ถนอมอาหารเขามาชว ยมากข้นึ เพ่อื ใหอาหาร ๑๕๐ อุณหภูมิ ๑. การใชค้ วามร้อน มอี ายยุ าวนานขน้ึ ไมเกดิ การเนา เสีย สูญเสยี ๑๔๐ คุณภาพและคุณคาทางโภชนาการนอยที่สุด ๑๓๐ เป็นการทำาลายจลุ ินทรยี แ์ ละเอนไซมท์ ่ีมอี ยู่ในอาหาร ได้แก่ จากน้ันครูใหนักเรียนศึกษาเร่ือง เทคโนโลยี ๑๒๐ ยเู อชที (Ultra-heat treatment) การถนอมอาหาร จากหนังสอื เรียน หนวยการ ๑๑๐ เปน็ การใช้ความรอ้ นท่อี ุณหภมู ิ ๑๓๕-๑๕๐ องศาเซลเซียส เป็นระยะ เรียนรูท ี่ 3 ๑๐๐ เวลาสัน้ ๆ ประมาณ ๑-๔ วนิ าที เชน่ นมยเู อชท ี น้าำ ผลไม้ ๙๐ 4. ครูถามเพือ่ กระตนุ ความสนใจของนักเรยี นวา ๘๐ การสเตอรไิ ลซ์ (Sterilization) • อาหารกระปอ งตา งๆ มกี ารใชเ ทคโนโลยใี น ๗๐ เป็นการใช้ความร้อนท่ีอุณหภูมิ ๑๐๐ องศาเซลเซียส หรือสูงกว่า การถนอมอาหารดวยวิธีใด และมีลักษณะ เพ่ือทำาลายจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในอาหาร ทำาให้อาหารปลอดเชื้อ มีอายุ อยางไร ยาวนานขนึ้ ท่ีอณุ หภูมหิ ้อง เชน่ อาหารกระปอ๋ ง (แนวตอบ การสเตอรไิ ลซ (Sterilization) โดย ใชค วามรอนที่อณุ หภมู ิ 100 องศาเซลเซยี ส การพาสเจอไรซ์ (Pasteurization) หรือสูงกวา เพื่อทําลายจุลินทรียท่ีมีอยูใน เป็นการใช้ความร้อนท่ีอุณหภูมิตำ่ากว่า ๑๐๐ องศาเซลเซียส เพ่ือทำาลายจุลินทรีย์ท่ีทำาให้ อาหาร) อาหารเน่าเสยี แตย่ ังมีจลุ ินทรียห์ ลงเหลอื อย ู่ จึงต้องเกบ็ รักษาโดยใชเ้ ทคโนโลยีการถนอม • ความเย็นมีประโยชนอยางไรตอการถนอม อาหารแบบอ่นื ร่วมด้วย เชน่ การแชเ่ ยน็ การแช่แขง็ เชน่ นมโรงเรียน อาหาร ทีต่ ้องเกบ็ ไว้ในถงั แช่นา้ำ แขง็ หรอื ต้เู ยน็ ก่อนถึงมือผู้บรโิ ภค (แนวตอบ ชวยใหจุลินทรียที่อยูในอาหาร เติบโตชา ลง หรอื หยุดการเจริญเตบิ โต เพ่ือ ๖๐ ไมใ หอาหารเกดิ การเนา เสยี ) ๕๐ ๒. การใช้ความเยน็ ๔๐ เปน็ การลดอุณหภูมขิ องอาหาร เพ่ือลดการเจริญเตบิ โตของจลุ นิ ทรีย์ ม ี ๒ วิธ ี ได้แก่ ๓๐ การแช่เย็น เป็นการเกบ็ อาหารที่อณุ หภมู ิประมาณ ๓– ๕ องศาเซลเซยี ส ทาำ ให้ ๒๐ จุลินทรยี ์เจรญิ เติบโตไดช้ า้ ลง อาหารมอี ายุนานขึน้ เชน่ กุ้งแช่เยน็ ๑๐ การแช่เยือกแข็ง เป็นการเกบ็ อาหารท่อี ณุ หภูมิประมาณ -๑๕ ถงึ -๒๐ องศาเซลเซียส ๐ จุลินทรีย์จะถูกยับย้ังการเจริญเติบโต เป็นการเก็บรักษาวิตามินไว้ได้ มากกวา่ การถนอมอาหารแบบอน่ื เช่น ปลาทะเล มนั ฝร่งั 7๔ เกร็ดแนะครู กิจกรรม 21st Century Skills ใหน กั เรยี นรว มกนั สบื คน ขอ มลู เกย่ี วกบั อาหารและเครอ่ื งดม่ื ทใ่ี ชก ระบวนการ 1. ใหน กั เรยี นแบง กลมุ กลมุ ละเทา ๆ กนั เลอื กสนิ คา ทเี่ ปน การแปรรปู พาสเจอไรซ สเตอริไลซ ยูเอชที วา มีผลิตภัณฑในชีวิตประจําวันชนิดใดที่ใช จากผลผลติ ทางการเกษตรตามความสนใจ 1 ชนดิ โดยแตล ะกลมุ กระบวนการเหลานี้ในการถนอมอาหาร และแตละอยางมีความแตกตางกัน จะตองเลือกสินคา ทไ่ี มซา้ํ กัน อยา งไร จากน้ันนาํ ขอ มลู ท่ไี ดม าแลกเปลี่ยนเรยี นรซู ่ึงกันและกนั 2. ใหน กั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั ศกึ ษาขอ มลู ของสนิ คา ทเ่ี ลอื ก ในหวั ขอ สื่อ Digital ดงั นี้ • ช่ือสินคา ศกึ ษาเพ่มิ เติมเก่ยี วกับการถนอมผลผลิตทางการเกษตร ไดจาก • สวนประกอบสําคัญ http://www.kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/bookphp?book=19&c • ขอ มลู โภชนาการ hap=3&page=chap3.htm • วิธีการทใ่ี ชในการแปรรูปสนิ คา • อายุของสนิ คาและการเก็บรักษา T80 3. ใหแตละกลุมสงตัวแทนออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชม หนา ชนั้ เรยี น สรปุ ขอ มลู เปน แผน พบั หรอื รปู แบบทสี่ นใจ แลว นาํ สง ครผู สู อน

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๘.๔ ตวั อยา่ งการแปรรูปผลผลติ ทางการเกษตร ขนั้ สอน การแปรรูปผลผลติ ทางการเกษตร มที ั้งการน�าผัก ผลไม้ และเนอื้ สตั วม์ าแปรรูป เพือ่ ใหไ้ ด้ ขน้ั ที่ 1 สงั เกตรบั รู ผลิตผลใหม่ ๆ และเก็บไว้บริโภคไดน้ านขน้ึ โดยตัวอย่างการแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร มดี งั นี้ 5. ครใู หน กั เรยี นแบง กลมุ กลมุ ละเทา ๆ กนั รว มกนั การแปรรปู ผัก : กมิ จิผักกาดขาว ศกึ ษาเรอื่ งหลกั การแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร จากหนงั สอื เรียน หนว ยการเรยี นรทู ี่ 3 เพ่ือให อปุ กรณ์ นกั เรยี นทราบหลกั การปฏบิ ตั ทิ ถี่ กู ตอ ง โดยเรมิ่ จากการคัดสรรผลผลิตที่มีคุณภาพ ใหม สด ๑. มดี ๒. เขียง สะอาด เลือกวิธีการแปรรูปท่ีไดรับความนิยม ๓ อ่างผสม หรอื หมอ้ ๔. ตะกรา้ พลาสติก และมีความสะอาดทุกขั้นตอน รวมถึงวิธีการ ๕. ไห หรือภาชนะทม่ี ฝี าปดิ มดิ ชดิ ปองกัน ยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย เพ่ือรกั ษาคณุ คา ทางโภชนาการใหมากที่สดุ ส่วนผสมและเคร่อื งปรุง ๑. ผกั กาดขาวขนาดใหญ่ ๑ หัว 6. ครูดําเนินการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ๒. แครร์ อต ๑ หัว ใหนักเรียนดูเปนแบบอยางตามลําดับข้ันตอน ๓. ตน้ หอมห่ันขนาด ๑ นิ้ว ๕ ตน้ อยางชาๆ (ครูอาจเลือกสอนการทําไขเค็ม ๔. ขิงซอย ๑ ชอ้ นโต๊ะ เนอ้ื เคม็ การทาํ กมิ จิ (ผกั ดองเกาหล)ี กลว ยฉาบ ๕. หอมใหญ่ ๑/๔ หัว หรอื ผลผลติ ทางการเกษตรอน่ื ๆ ทห่ี าไดง า ยใน ๖. น้�าตาลทราย ๑ ชอ้ นโต๊ะ ๗. เกลือป่น ๒ ช้อนโต๊ะ ๘. กระเทยี มจนี กลบี ใหญ่ ๑๐ กลบี ทอ งถน่ิ ) พรอ มท้งั อธิบายขัน้ ตอนการทําอยา ง ๙. แป้งขา้ วเหนียว ๑/๔ ถ้วยตวง ๑๐. น้า� เปล่า ๒ ถว้ ยตวง ๑๑. น้า� ปลา ๒ ช้อนโตะ๊ ละเอียด เพ่ือใหนักเรียนสามารถสังเกตและ นําไปปฏิบตั ไิ ดอยางถูกตอง ๑๒. พรกิ เกาหลชี นดิ สบั หยาบ หรือพรกิ แห้งป่น (สบั หยาบ) ๑ ชอ้ นโต๊ะ ขน้ั ที่ 2 ทําตามแบบ วธิ ที า� 7. ครเู ปด โอกาสใหน กั เรยี นแตล ะกลมุ ไดแ ลกเปลย่ี น ผ่าแบ่งคร่ึงหัวผักกาดขาว ล้างน้�าให้สะอาด น�าอ่างผสม หรือ Trick : การเพ่ิมรสชาติ ความคิดเห็นรวมกันเกี่ยวกับประสบการณก าร ถ้าต้องการให้กิมจิมี แปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร ๑ หมอ้ ใสน่ า้� คร่ึงหน่ึง แลว้ ใสเ่ กลอื ลงไป ๒ ชอ้ นโตะ๊ คนใหล้ ะลาย ๒๒. โรยเกลอื ลงในใบผกั กาดขาว แลว้ แช่ในนา้� เกลอื พกั ไว้ ๒-๓ ชว่ั โมง กลับผักทุก ๑ ช่ัวโมง จนน้า� ในผักออกมา รสเปรี้ยวให้หมักนอกตู้เย็น ๓. นา� ผกั กาดขาวมาลา้ งนา�้ ใหส้ ะอาดและบบี นา้� ออก พกั ไว้ในตะกรา้ ๑ คืน แต่ถา้ ไม่ต้องการให้นา� กมิ จไิ ปหมกั ในตเู้ ยน็ ประมาณ ๓ พลาสตกิ ๒ สปั ดาห ์ และควรหมกั ไว ้ใน ตู้เย็นที่มีอุณหภูมิประมาณ ๔. น�าแป้งข้าวเหนียวและน้�าเปล่าผสมให้เข้ากัน ตั้งไฟปานกลาง ๓-๕ องศาเซลเซยี ส ๔ ต้องคนตลอดเวลา เมื่อแปง้ เรมิ่ เหนยี วให้ใสน่ า้� ตาลทราย เรง่ ไฟ ๕ เลก็ น้อย แป้งทก่ี วนจะเงาข้ึน ปิดไฟแล้วพกั ไว้ให้เย็น ๕. หั่นหัวไชเท้าและแคร์รอตเป็นเส้นยาวขนาดกว้างครึ่งเซนติเมตร ห่นั ต้นหอมยาว ๑ นวิ้ ๖. ท�าซอส โดยการน�ากระเทียม ขิง หัวหอมท่ีปอกเปลือกสับให้ละเอียด และเทใส่แป้งข้าวเหนียว ๖ ท่ีเยน็ แล้ว ปรุงรสดว้ ยนา้� ปลาและพรกิ ลงในอา่ งผสม และใสผ่ กั ท้ังหมดท่หี ั่นไวล้ งไป ๗. น�าภาชนะที่ปิดสนิทไปลวกน้�าร้อนเพ่ือฆ่าเชื้อให้สะอาด แล้วน�าผักกาดขาวที่พักไว้ทาซอสให้ทั่ว ๗ เรยี งใสภ่ าชนะและปดิ ฝาใหเ้ รียบร้อย อาหาร 75 กับการด�ารงชีวิต ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู การแปรรปู อาหารในขอ ใดสญู เสียคุณคาทางโภชนาการนอ ยทีส่ ดุ ครูอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกับกิมจิผักกาดขาวใหนักเรียนฟงวา ในกิมจิ 1. กลวยกวน ผกั กาดขาวจะอดุ มไปดว ยวติ ามนิ เอ วติ ามนิ บี 1 วติ ามนิ บี 2 และวติ ามนิ ซี รวมถงึ 2. นาํ้ มะนาว แคลเซยี ม ธาตเุ หลก็ และสารแคโรทนี (Carotene) กมิ จมิ สี ว นชว ยในการยอ ยอาหาร 3. มะมวงดอง เนอื่ งจากทาํ ขนึ้ จากผกั หลายชนดิ ซงึ่ มปี รมิ าณของเสน ใยอาหารสงู แตใ หพ ลงั งานตาํ่ 4. ลาํ ไยอบแหง ซึ่งในกิมจิ 100 กรัม จะมีพลังงานเพียง 32 กิโลแคลอรี ท้ังยังมีแบคทีเรีย แลกโตบาซิลลัส (Lactobacillus) ท่ีใหกรดแลกติก (Lactic Acid) ชวยลด (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 2. เพราะนาํ้ มะนาวไมไ ดผ า นกระบวนการ อาการทองเสีย ลดระดบั คอเลสเตอรอล ลดระดบั ความดันโลหติ และเพิม่ การ ท่ที าํ ใหส ญู เสียคณุ คาทางโภชนาการ เนอ่ื งจากคําตอบในขอ อ่นื ๆ ทํางานของระบบภูมิคุมกันภายในรางกาย นอกจากนี้ การดองกิมจิเปนเวลา มีการผานความรอน หรือการหมักดองนานๆ ซึ่งสงผลทําให 3 สปั ดาห จะทําใหร ะดบั ของวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และวติ ามนิ บี 12 เพ่ิมขนึ้ เสยี คณุ คาทางโภชนาการในปริมาณมาก) เปนสองเทา T81

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน การแปรรูปผลไม้ : กลว้ ย1ฉาบ ขั้นที่ 2 ทําตามแบบ อุปกรณ์ 8. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั แปรรปู ผลผลติ ๑. มดี ๒. เขยี ง ๓. ตะหลวิ ทางการเกษตรตามข้ันตอนแบบอยางท่ีครู ๔. กระชอน ๕. มดี สองคม ๖. เตาแก๊ส สาธิต โดยเลือกใชวัตถุดิบ วัสดุ อุปกรณ ๗. กระทะ ๘. ภาชนะใส่กลว้ ยฉาบ การแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตรทค่ี รเู ตรยี มมา ๙. กะละมงั หรืออ่างผสม ครคู อยดแู ลและใหค วามชว ยเหลอื พรอมท้ัง แนะนําเพิม่ เติมอยา งใกลชิด ๑ส.่วกนลผว้ สยมดแิบ2ล๑ะเคหรวอ่ืี งปรุง 9. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การแปรรูปผลผลิต ๒. นา้� มนั พืชส�าหรับทอด ๒ ถ้วยตวง ทางการเกษตรมีหลายวิธี แตควรคํานึงถึง ๓. น้�าตาลทราย ๒ ถว้ ยตวง ลักษณะของผลผลิตและความเปนไปไดของ ๔. เกลือป่น ๑/๔ ชอ้ นชา การแปรรปู ทางการเกษตร โดยวธิ กี ารแปรรปู สามารถทําได โดยการทําแหง การทําเค็ม วธิ ีทา� ๒ ใส่น้�ามันพืชลงในกระทะ น�าไปต้ังไฟด้วย การหมกั ดอง การเช่ือม การแชอ มิ่ การฉาบ ๔ ความร้อนคอ่ นข้างสูง การกวน การทาํ แยม และการทําน้าํ ผลไม” ๑ ปอกเปลือก ลา้ งท�าความสะอาดกลว้ ย และ ๓ แช่ไว้ในน�้าสะอาด ทอดจนกลว้ ยเปน็ สเี หลอื งสมา่� เสมอทว่ั ทงั้ ชน้ิ 10. ครูอธิบายตอวา “ปจจุบันมีเทคโนโลยีใน แลว้ จงึ ตกั ออกพักไว้ให้เย็น การถนอมอาหาร เพื่อทําใหอาหารมีอายุ ฝานกลว้ ยเปน็ แผ่นบาง ๆ ลงในกระทะนา้� มนั ท่ียาวนานข้ึน โดยการใชความรอนเพ่ือ ทนั ที ๖ ใส่กล้วยท่ีทอดไว้ทันทีที่ยกน้�าตาลลงจากเตา ทําลายจุลินทรียและเอนไซมที่มีในอาหาร คลกุ เคลา้ เบาๆ ให้น้�าตาลจบั ท่ัวช้ินของกลว้ ย หรือการใชความเย็นเพ่ือลดการเจริญเติบโต ๕ ตั้งกระทะ ผสมน้า� ตาลทราย นา�้ และเกลอื ของจลุ นิ ทรยี ” เค่ยี วจนนา�้ ตาลทรายเหนยี วเป็นยางมะตมู ๗ พกั ไว้ใหน้ า้� ตาลทเ่ี คลอื บกลว้ ยแหง้ สนทิ จงึ นา� บรรจใุ สภ่ าชนะ หรอื ถงุ บรรจทุ ป่ี ดิ สนิท Trick : เทคนิคการท�ากลว้ ยฉาบ กลว้ ยหกั มกุ3จะใหเ้ นอื้ ทฟี่ กู รอบมากกวา่ กล้วยน้�าว้า และการฝานกล้วยลงทอดทันที จะท�าให้กรอบและไม่บิดงอ นอกจากน ้ี การทอดกล้วยไม่ควรให้มีสีเหลืองทอง มากเกินไป เพราะความร้อนจะคลายตัวช้า อาจท�าให้กลว้ ยไหมแ้ ละมรี สขม 76 นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด 1 กลว ย อดุ มไปดว ยวิตามนิ และแรธาตุตางๆ ทสี่ ําคัญและจาํ เปนตอ รางกาย หากตอ งการเพมิ่ มลู คา ของทเุ รยี นและเพอื่ ใหส ามารถเกบ็ ทเุ รยี น เชน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม คารโบไฮเดรต โปรตีน ไวจ ําหนายไดนานข้นึ ควรนาํ มาแปรรปู เปนส่งิ ใด วติ ามนิ เอ วิตามินบี 6 วติ ามินบี 12 วิตามินซี มีนา้ํ ตาลตามธรรมชาติ ไดแ ก ซโู ครส ฟรกุ โตส และกลโู คส มกี ากใยอาหารที่สง ผลดตี อระบบขบั ถาย มสี าร 1. ทเุ รยี นฉาบ ตานอนุมูลอิสระท่ีชวยชะลอความแก อีกท้ังยังมีสารแทนนินท่ีชวยในการรักษา 2. ทเุ รียนแชอ มิ่ โรคกระเพาะอาหาร 3. ทเุ รียนแชแข็ง 2 กลวยดิบ นิยมนําผลดิบมาบดใหเปนผงละเอียด เพื่อใชในการปองกัน 4. ทุเรียนอบกรอบ และบาํ บัดโรคตางๆ เชน โรคแผลในกระเพาะอาหาร ยบั ยง้ั การหลง่ั นาํ้ ยอ ยใน กระเพาะอาหาร รกั ษาอาการทอ งเสยี บดิ มกู เลอื ด รกั ษาแผลเรอื้ รงั แผลตดิ เชอื้ (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะเปน การยบั ยง้ั การเจรญิ เตบิ โต และแผลเนาเปอยตางๆ ของจลุ นิ ทรยี ท ที่ าํ ใหอ าหารเกดิ การเนา เสยี การนาํ ไปอบกรอบจะชว ย 3 กลว ยหกั มกุ ประโยชนข องกลว ยหกั มกุ มหี ลายประการ เชน ผลดบิ ชว ยรกั ษา ทําใหสามารถเก็บรักษาไวจําหนายไดนานขึ้นและชวยเพ่ิมมูลคา โรคแผลในกระเพาะอาหาร ผลสุกชวยบํารุงรางกาย เปนยาระบายชวยใหการ ของทุเรยี นได) Tขับถา ยดยี ิ่งขึ้น 82

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ การแปรรูปเน้ือสตั ว์ : เน้อื เคม็ หรือหม1ูเค็ม ขนั้ สอน อุปกรณ์ ขัน้ ท่ี 2 ทาํ ตามแบบ ๑. มดี ๒. เขยี ง ๓ ตะแกรงตากเน้ือสัตว์ 11. ครูใหนักเรียนแตละกลุมคัดเลือกการแปรรูป ๔. ภาชนะบรรจุทม่ี ฝี าปดิ สนิท ผลผลติ ทางการเกษตรท่นี า สนใจ และศึกษา ๕. กะละมงั หรืออ่างผสม ขน้ั ตอนการแปรรปู ผลผลติ พรอ มทงั้ จดั เตรยี ม วัตถุดิบ วัสดุ อุปกรณมาในชั่วโมงถัดไป ส๑.ว่ เนนผื้อสวมัวแหลระือเเคนรื้อือ่ หงมป2ู ร๑ุงกโิ ลกรัม โดยอาจศึกษาวิธีการและขั้นตอนการแปรรูป ตางๆ จากตัวอยางการแปรรูปผลผลิตทาง ๒. เกลอื ปน่ ๒ ชอ้ นโต๊ะ การเกษตร เชน การแปรรูปผัก โดยการทํา กิมจิผักกาดขาว การแปรรูปผลไม โดยการ วิธีทา� Trick : การตากแดดของเนอ้ื เคม็ หรอื หมเู คม็ ทํากลวยฉาบ หรือการแปรรูปเน้ือสัตว โดย การทา� เนอ้ื เคม็ หรอื หมเู คม็ ควรตากในวนั ที่ การทาํ เน้ือเคม็ และหมเู ค็ม ๑ ลา้ งเนอื้ ววั หรอื เนอื้ หมใู หส้ ะอาด แลว้ แลเ่ ปน็ มีแสงแดดจัด หากต้องการให้มีความนุ่มควร ๒ ช้นิ บางๆ ตากแดดจัดเพียง ๑ วัน และหากเน้ือสัตว์ ขน้ั ท่ี 3 ทําเองโดยไมมแี บบ ท่ีตากแดดเหลือจากการบริโภคควรเก็บไว้ใน ผสมเกลอื กบั เนอ้ื ววั หรือเน้อื หมใู หท้ ่วั ตู้เยน็ เพือ่ ยดื อายุการเก็บรักษา 12. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ ตรวจสอบความพรอ ม ของวัตถุดิบ วัสดุและอุปกรณท่ีใชในการ ๓ แลว้ หมกั ทิ้งไว้ในตเู้ ยน็ ประมาณ ๑ คนื แปรรูปผลผลิตทางการเกษตรที่นักเรียนได นา� มาตากแดดในตะแกรง แลว้ กลบั ด้านหนา้ เตรยี มมา ดา้ นหลังให้ทว่ั กัน ๑ วนั 13. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนแตละกลุมลงมือ ๔ นา� มาใส่ในภาชนะทม่ี ฝี าปดิ มดิ ชดิ เกบ็ ในตเู้ ยน็ ปฏบิ ตั งิ านตามขนั้ ตอนทไ่ี ดศ กึ ษามาโดยไมม ี ทอ่ี ุณหภมู ปิ ระมาณ ๓-๕ องศาเซลเซียส แบบอยา ง อาหารและโภชนาการมีความจ�าเป็นส�าหรับครอบครัว การมีนิสัยบริโภคท่ีดีย่อม 14. สมาชิกแตละกลุมรวมกันตรวจสอบความ ถูกตอง และความเรียบรอยของผลงาน ส่งผลดีต่อสุขภาพ อาหารท่ีสมาชิกในครอบครัวรับประทานต้องประกอบด้วยสารอาหาร การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร หากพบ หลักครบท้ัง ๕ หมู่ เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย มีการเตรียมและการ ขอบกพรองในผลงานใหสมาชิกภายในกลุม ประกอบอาหารทถี่ กู ตอ้ ง เพอื่ รกั ษาคณุ คา่ ของอาหาร ดงั นน้ั สมาชกิ ในครอบครวั จงึ ตอ้ งมี รวมกันหาแนวทางปรับปรุงแกไขใหผลงาน การฝกึ การประกอบอาหาร เลอื กซอื้ อาหารสด อาหารแหง้ เพอื่ นา� มาประกอบอาหาร และ ออกมาดยี ่ิงข้นึ เม่ือประกอบอาหารเสร็จจะต้องมีการจัดตกแต่งและบริการอาหารแก่สมาชิกในครอบครัว โดยสมาชกิ ทกุ คนจะตอ้ งชว่ ยกนั เพอื่ เปน็ การสรา้ งสมั พนั ธภาพทด่ี ตี อ่ กนั และทา� ใหค้ รอบครวั มคี วามสขุ อาหาร 77 กับการด�ารงชีวิต กจิ กรรม สรางเสริม นักเรียนควรรู ใหน กั เรยี นสบื คน วธิ กี ารแปรรปู อาหารตามความสนใจ 1 ชนดิ 1 หมู เน้อื หมสู ว นที่มีความนุมมากทีส่ ุด จะเปนสวนท่ีไมม ีมันแทรก เรยี กวา พรอ มทง้ั เขยี นอธบิ ายลกั ษณะและประโยชนข องการแปรรปู อาหาร “สันในหมู” นิยมนํามาใชปรุงอาหารหลากหลายประเภท โดยเฉพาะการนํามา ชนดิ นั้น ลงในกระดาษ A4 แลว นาํ สงครูผสู อน ทําหมทู อด หมยู า ง และหมปู ง 2 เนื้อวัว หรือเนื้อหมู การนําเน้ือสัตวมาตากนั้นนิยมใชเนื้อวัวและเน้ือหมู กิจกรรม ทาทาย เนอื่ งจากเปน สตั วท มี่ เี นอ้ื ปรมิ าณมาก เมอื่ นาํ มาตากแลว เนอื้ จะไมแ หง จนเกนิ ไป นําไปปรุงอาหารตอไดงาย สามารถรับประทานคูกับขาวสวยและขาวเหนียวได ใหน กั เรยี นคดิ คน และประกอบอาหารเมนใู หมต ามความสนใจ ทันที หรอื รับประทานเลน แตไมควรรับประทานในปริมาณท่มี ากเกนิ ไปเพราะ 1 ชนิด โดยระบุถึงโภชนาการของอาหาร รสชาติ วิธีการทํา อาจจะสงผลเสียตอ สุขภาพในระยะยาวได ปญหาท่ีพบ และแนวทางแกไข จากน้ันนําเสนอผลงานใหเพื่อน ชมหนา ชั้นเรียน นอกจากน้ี เนอ้ื ววั และเนอ้ื หมยู งั เปน แหลง ของโปรตนี คณุ ภาพดี อดุ มไปดว ย แรธาตุและวิตามิน โดยเน้ือวัวอุดมไปดวยวิตามินบี 12 ชวยปองกันโรคหัวใจ และโรคสมองเสอื่ ม รวมถึงธาตุเหล็กท่ีชวยบํารุงเลือด สวนเน้ือหมูอุดมไปดวย วิตามินเอ ชวยบํารุงสายตา วิตามินบี 1 ลดอาการเหน็บชา และวิตามินบี 3 ชว ยลดไขมันและการอกั เสบของผวิ หนัง T83

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน กจิ กสรรร้ามงสรรค์พฒั นาการเรยี นรู้ ๓.1 ใบมอบหมายงานท่ี ขนั้ ที่ 3 ทาํ เองโดยไมม แี บบ เร่ือง อุปกรณ ์ เครื่องมอื เครื่องใช ้ในการประกอบอาหาร 15. ครูตรวจสอบความถูกตองและใหคําแนะนํา เพมิ่ เตมิ ในสว นทบ่ี กพรอ งเกยี่ วกบั การแปรรปู ค�าช้แี จง ๑. ปฏบิ ตั งิ านเปน็ กลุ่ม ผลผลติ ทางการเกษตร ๒. เลือกหวั หน้ากลุม่ และแบง่ หน้าท่คี วามรบั ผดิ ชอบรว่ มกนั 16. ครูถามนกั เรียนวา • นักเรียนคิดวาการแปรรูปผลผลิตทางการ ๓. ส า� รวจอุปกรณ์ เครอ่ื งมือ เครื่องใชท้ ี่ใชใ้ นการประกอบอาหารที่ม ีในบา้ นของสมาชกิ ในกลุ่ม เกษตรทําใหคุณคาทางสารอาหารของ ผลผลติ ทางการเกษตรลดลงหรอื ไม เพราะ พร้อมอธิบายวิธีการดูแลรักษาและการจัดเกบ็ เหตุใด (แนวตอบ ไมสูญเสียคุณคาทางสารอาหาร ๔. วิเคราะห์อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ที่ใช้ พร้อมอธิบายวิธีการใช้ ในการประกอบอาหารที่ เพราะการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เปนการรักษาคุณคาทางโภชนาการของ ก�าหนดให้ ดังน้ี อาหารไว) • แกงสม้ • ไขต่ นุ๋ ขนั้ ที่ 4 ฝก ใหช าํ นาญ • แกงจืดเตา้ หู้ • ผดั ผกั 17. ครูใหนักเรียนฝกการแปรรูปผลผลิตทางการ เกษตรจนเกิดความชํานาญ โดยเลือกใช • ไก่อบ • หมูตุ๋น ผลผลิตทางการเกษตรที่มีอยูในทองถ่ินของ ตนเองตามสนใจ จากนน้ั มอบหมายใหน กั เรยี น • ปลาทนู ่ึง • ทองหยบิ ทาํ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) โดยใหน กั เรยี น จัดนิทรรศการอาหาร เรื่อง อาหารกับการ ๓.๒ใบมอบหมายงานที่ ดาํ รงชีวติ และทาํ กจิ กรรมสรา งสรรคพัฒนา การเรยี นรูทายหนว ย เรื่อง การเลือกซอ้ื อาหาร 18. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว ย คา� ช้แี จง ๑. ปฏบิ ตั งิ านเป็นกลุ่ม การเรียนรูท่ี 3 ๒. เลอื กหวั หนา้ กลุ่มและแบ่งหน้าที่ความรบั ผดิ ชอบรว่ มกัน ๓. ระดมสมอง อธบิ ายหลกั การเลอื กซอื้ อาหาร หรอื วตั ถดุ บิ สา� หรบั การประกอบอาหารทกี่ า� หนดให้ ลงในแบบรายงาน • ไข่เจียวหมูสบั • ผัดผกั กาดขาวกับกุ้งสด • ปลาทอด • สลัดผลไม้ • ต้มย�าไก่บา้ น • แกงเขียวหวานไก่ใส่มะเขือ 78 เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด ครูนาํ ภาชนะท่ีใชในการประกอบอาหารทม่ี ีลักษณะแตกตางกัน 4-5 ชนดิ นกั เรยี นมวี ธิ กี ารเลอื กรบั ประทานอาหารอยา งไรใหไ ดร บั ประโยชน มาใหน กั เรยี นดู เพอ่ื ใหน กั เรยี นฝก การสงั เกต มกี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรแู ละแสดง สงู สดุ ความคดิ เหน็ รว มกนั จากนน้ั ใหน กั เรยี นรว มกนั สรปุ วา ภาชนะเหลา นนั้ ใชท าํ สง่ิ ใด ทาํ มาจากวสั ดใุ ด และควรดูแลรักษาอยางไร (แนวตอบ เลือกรับประทานอาหารโดยคาํ นงึ ถึงหลักโภชนาการ ความสะอาด ความปลอดภัย และความประหยัด อาจรบั ประทาน สื่อ Digital อาหารทหี่ าไดง า ยในทอ งถน่ิ หรอื อาหารทม่ี ตี ามฤดกู าล รบั ประทาน อาหารท่ีใหคุณคาทางโภชนาการอยางหลากหลาย เพ่ือชวยให ศึกษาเพิ่มเติมเก่ียวกับการดูแลเครื่องครัวและอุปกรณที่ใชในการประกอบ สขุ ภาพรา งกายแขง็ แรงและมภี มู คิ มุ กันโรคทดี่ )ี อาหารไดจาก https://www.pstip/เคล็ดลับการทําอาหาร/การดูแลเครื่องครัว และอุปกรณ. html T84

นาํ สอน สรุป ประเมิน ๓.๓ใบมอบหมายงานท่ี ขนั้ สรปุ เร่ือง การเตรยี ม ประกอบ จดั และตกแต่งอาหาร ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ เกยี่ วกบั การแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตรวา “การนําผลผลิตทาง คา� ช้ีแจง ๑. ปฏิบตั งิ านเปน็ กล่มุ การเกษตรมาแปรรูป จะตองคัดสรรผลผลิตที่มี ๒. ฝกึ ปฏิบตั กิ ารประกอบอาหาร โดยอาหารท่เี ลอื กจะตอ้ งมีคุณคา่ ทางโภชนาการ และวางแผน คณุ ภาพ ใหม สด สะอาด เพ่อื ใหไ ดผ ลลพั ธท ม่ี ี การทา� งานลว่ งหน้า ดงั น้ี คณุ ภาพ และยกระดบั ใหแ กผ ลผลติ ทางการเกษตร ในทอ งถนิ่ ” • เลอื กหัวหน้ากล่มุ • ก�าหนดเปา้ หมายวา่ จะประกอบอาหารชนิดใด ปรมิ าณเท่าใด ขน้ั ประเมนิ • แบ่งงานให้สมาชกิ ในกลุม่ มีส่วนรว่ มอยา่ งท่ัวถึง • วางแผนการท�างาน ดังน้ี 1. ครตู รวจชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) จากการ ๑) หาสตู รอาหารและวิธที �าอาหาร จัดนิทรรศการอาหาร เรื่อง อาหารกับการ ๒) วางแผนการใช้อุปกรณ ์ เคร่ืองมอื เครื่องใช้ ในการท�างาน ดํารงชีวติ ๓) วางแผนการจดั เตรยี มเลอื กซ้ืออาหาร หรอื ซื้อวัตถุดิบในการประกอบอาหาร ๔) จดั หารูปแบบการจดั และตกแต่งอาหารท่ีปฏบิ ตั ิให้สวยงาม น่ารับประทาน 2. ครตู รวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว ยการเรยี นรู ที่ 3 ๓. ประกอบอาหารมอื้ กลางวนั กลมุ่ ละ ๑ อยา่ ง พรอ้ มจดั และตกแตง่ ใหส้ วยงาม จากนน้ั นา� อาหาร มาจดั วางท่ีโต๊ะอาหาร 3. ครูตรวจสอบความรู ความเขาใจของนกั เรียน เรอื่ ง การแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร จากการ ๓.๔ใบมอบหมายงานท่ี ตอบคาํ ถาม การแสดงความคดิ เหน็ รว มกันใน ชน้ั เรียน และการทํากิจกรรมในชัน้ เรียน เรอื่ ง การแปรรูปอาหาร คา� ช้แี จง ๑. ปฏบิ ัตงิ านเปน็ กลมุ่ ๒. ใหน้ ักเรยี นท�าการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร โดยให้ปฏบิ ตั ติ ามข้ันตอนท่กี า� หนดให้ ดงั น้ี • เลอื กหวั หนา้ กลมุ่ • กา� หนดเปา้ หมายพร้อมวัตถปุ ระสงค ์ในการท�างาน • วางแผนการท�างานและลงมอื ปฏบิ ัตงิ านตามหน้าที่ไดร้ ับมอบหมาย ดงั น้ี ขัน้ ที่ ๑ เตรียมอุปกรณ ์ เครื่องมือ เคร่ืองใช ้ สว่ นผสม และเคร่อื งปรุง ขนั้ ที่ ๒ ลงมอื ปฏิบัติ ขั้นที่ ๓ ตรวจสอบระหว่างการปฏบิ ตั งิ าน โดยตรวจสอบจากการบันทกึ ผล ขนั้ ที่ ๔ ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน ขน้ั ท่ ี ๕ เกบ็ รักษาเครือ่ งมอื เครอ่ื งใช ้ อุปกรณ์ใหเ้ รยี บรอ้ ย อาหาร 79 กับการด�ารงชีวิต กิจกรรม Mini Project แนวทางการวัดและประเมินผล 1. ใหนักเรียนสํารวจอาหาร ผัก และผลไม ที่มีอยูในทองถิ่นของ ครสู ามารถสังเกตพฤติกรรมการทาํ งานกลมุ และตรวจการจัดนทิ รรศการ ตนเอง จากนั้นเลือกส่ิงท่ีสนใจ หรือส่ิงที่มีมากในทองตลาด อาหาร เรอื่ ง อาหารกบั การดํารงชวี ติ โดยศกึ ษาเกณฑก ารวดั และประเมินผลท่ี ตามความสนใจ 1 ชนดิ แนบทา ยแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรยี นรูที่ 3 2. สืบคนขอมูลเก่ียวกับวิธีทําอยางละเอียด เพ่ือนําสิ่งที่เลือกมา แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ แบบประเมนิ การจดั นทิ รรศการ แปรรูป เพ่อื ใหส ามารถเก็บรักษาไดน านขึน้ คาชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในช่องที่ แบบประเมินการจดั นิทรรศการอาหาร : อาหารกบั การดารงชีวติ 3. ปฏบิ ัตกิ ารแปรรปู อาหารตามข้นั ตอนทไี่ ดศ ึกษามา ง 1.1 ม.1/1 วเิ คราะห์ขั้นตอนการทางานตามกระบวนการทางาน 4. นาํ เสนอผลงานใหเ พอื่ นชมหนา ชน้ั เรยี น พรอ มทง้ั อธบิ ายแนวทาง ตรงกับระดบั คะแนน ง 1.1 ม.1/2 ใช้กระบวนการกล่มุ ในการทางานดว้ ยความเสยี สละ ง 1.1 ม.1/3 ตดั สินใจแก้ปญั หาการทางานอย่างมีเหตุผล การดาํ เนนิ งาน ขน้ั ตอนการดาํ เนนิ งาน ปญ หา และแนวทางแกไ ข การมี รายการ เกณฑ์การประเมนิ (ระดับคุณภาพ) ระดับ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมี สว่ นรว่ มใน รวม ประเมิน ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) คุณภาพ ลาดบั ท่ี ชอ่ื – สกลุ ความ ฟังคนอน่ื ตามท่ีไดร้ บั น้าใจ การ 15 1. ขัน้ ตอนการทางาน จัดนิทรรศการได้ดีมาก ถกู ตอ้ ง จัดนิทรรศการไดด้ ี ถูกตอ้ ง จัดนทิ รรศการไดค้ อ่ นขา้ งดี จดั นทิ รรศการได้ไมถ่ กู ต้อง ของนกั เรียน คดิ เห็น มอบหมาย คะแนน ตามกระบวนการ ตามกระบวนการทางาน ตามกระบวนการทางาน ดีมาก ปรบั ปรงุ ในการจัดนทิ รรศการ ตามกระบวนการทางาน ถูกตอ้ ง ตามกระบวนการ ไม่มคี วามเสยี สละในการทา ดี ผลงานกลมุ่ 2. ทากจิ กรรมรว่ มกบั มคี วามเสยี สละในการทา ทางาน กิจกรรมรว่ มกบั สมาชกิ พอใช้ สมาชกิ ภายในกลุ่ม กิจกรรมรว่ มกบั สมาชิกภายใน มีความเสียสละในการทา มีความเสียสละในการทา ภายในกลุ่ม ปรับปรงุ 3 2 13 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ดว้ ยความเสยี สละ กล่มุ ดมี าก กจิ กรรมรว่ มกบั สมาชิกภายใน กิจกรรมร่วมกบั สมาชกิ ภายใน ไม่สามารถตัดสนิ ใจแกป้ ญั หา 3. ตัดสินแก้ปญั หาการ สามารถตดั สินใจแกป้ ัญหา การจัดนทิ รรศการอาหารได้ จดั นิทรรศการอาหาร การจัดนิทรรศการอาหาร กลุม่ ดี กลุ่มคอ่ นข้างดี ไม่สามารถเลอื กใชว้ ตั ถุดบิ ได้อยา่ งเหมาะสม ได้อย่างเหมาะสม ดมี าก วัสดอุ ปุ กรณใ์ นการแปรรปู 4. เลือกใชว้ ตั ถุดิบ สามารถเลอื กใชว้ ัตถดุ บิ สามารถตดั สินใจแกป้ ัญหา สามารถตัดสินใจแกป้ ัญหา ผลผลิตทางการเกษตรได้ วัสดุอปุ กรณ์ วัสดอุ ุปกรณใ์ นการแปรรปู การจัดนทิ รรศการอาหาร การจัดนทิ รรศการอาหาร ในการแปรรูปผลผลติ ผลผลติ ทางการเกษตร ไดด้ ี ไดค้ ่อนขา้ งดี ไมส่ ามารถแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร ไดอ้ ย่างเหมาะสมดีมาก ทางการเกษตรออกมาได้ ได้อยา่ งเหมาะสม สามารถเลอื กใชว้ ตั ถุดิบ สามารถเลอื กใช้วัตถดุ บิ 5. ผลลัพธ์การทางาน สามารถแปรรปู ผลผลติ วัสดอุ ุปกรณ์ในการแปรรูป วสั ดุอปุ กรณ์ในการแปรรปู การแปรรูปผลผลิต ทางการเกษตรออกมาดีมาก ผลผลติ ทางการเกษตร ผลผลิตทางการเกษตร ทางการเกษตร ได้อย่างเหมาะสมดี ไดค้ อ่ นข้างเหมาะสม สามารถแปรรูปผลผลิต สามารถแปรรปู ผลผลิต ทางการเกษตรออกมาดี ทางการเกษตรออกมา คอ่ นขา้ งดี ลงช่ือ...................................................ผู้ ประเมนิ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ............./.................../............... ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 17-20 ดมี าก 13-16 ดี ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน 7-12 พอใช้ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 1-6 ปรับปรุง ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ T85

Chapter Overview แผนการจัด สอื่ ที่ใช้ จดุ ประสงค์ วิธสี อน ประเมิน ทกั ษะท่ีได้ คณุ ลักษณะ การเรยี นรู้ อันพงึ ประสงค์ แผนฯ ท่ี 1 - หนังสือเรยี น 1. บ อกประโยชนแ์ ละ การเรียนรู้ - ตรวจแบบทดสอบ - ท กั ษะการคดิ - รักชาติ ศาสน์ การวางแผน ประดิษฐ์ของใช้ การงานอาชีพและ หลักการของการ แบบร่วมมือ ก่อนเรยี น วิเคราะห์ กษัตริย์ ของตกแต่งจาก วัสดใุ นท้องถ่นิ เทคโนโลยี ม.1 ประดษิ ฐ์ของตกแตง่ ได้ - ตรวจใบงานที่ 4.1.1 - ทักษะ - ซือ่ สัตย์สจุ ริต 2 - แบบวัดและบนั ทกึ ผล 2. วางแผนการประดิษฐ์ - ป ระเมินการน�ำเสนอผลงาน กระบวนการคิด - ม ีวินัย ชั่วโมง การเรยี นรู้ ของใช้ ของตกแตง่ จาก - สงั เกตพฤตกิ รรม ตดั สินใจ - ใฝเ่ รียนรู้ การงานอาชพี และ วัสดใุ นท้องถ่นิ ได้อย่าง การทำ� งานรายบคุ คล - ท กั ษะการ - อยู่อย่าง เทคโนโลยี ม.1 ถูกตอ้ ง - สังเกตพฤตกิ รรม ประยกุ ต ์ใ ชค้ วามรู้ พอเพยี ง - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 3. ใชง้ านอปุ กรณ์ เครอื่ งมอื การท�ำงานกลุ่ม - ท ักษะการ - มุ่งมั่นในการ - PowerPoint เครือ่ งใช ้ในการทำ� งาน - ป ระเมินคณุ ลักษณะ แกป้ ัญหา ทำ� งาน ประดษิ ฐ์ไดอ้ ยา่ ง อนั พงึ ประสงค์ - รกั ความ เหมาะสม เป็นไทย 4. ม เี จตคตทิ ีด่ ีตอ่ การ - ม จี ติ สาธารณะ ทำ� งานประดษิ ฐ์ แผนฯ ที่ 2 - หนงั สือเรยี น 1. อ ธิบายหลกั การ การสืบเสาะ - ตรวจใบงานที่ 4.2.1 - ท กั ษะการคดิ - รักชาติ ศาสน์ การออกแบบ การงานอาชีพและ งานประดิษฐ์ เทคโนโลยี ม.1 ออกแบบงานประดษิ ฐ์ หาความรู้ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน วิเคราะห์ กษตั รยิ ์ - แบบวัดและบนั ทึกผล 2 การเรยี นรู้ ได้ถกู ตอ้ ง เหมาะสม (5Es) - สงั เกตพฤตกิ รรม - ท กั ษะการประยกุ ต์ - ซอื่ สตั ยส์ ุจรติ การงานอาชพี และ ช่วั โมง เทคโนโลยี ม.1 2. ออกแบบงานประดิษฐ์ การทำ� งานกลุม่ ใชค้ วามรู้ - มีวนิ ยั - PowerPoint ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม - ป ระเมนิ คุณลกั ษณะ - ทกั ษะการ - ใฝ่เรียนรู้ 3. มเี จตคตทิ ีด่ ตี ่อการ อันพึงประสงค์ แก้ปญั หา - อยู่อย่าง ออกแบบงานประดษิ ฐ์ - ทักษะ พอเพยี ง กระบวนการคดิ - ม ุ่งมั่นในการ ตดั สนิ ใจ ทำ� งาน - รกั ความ เป็นไทย - ม จี ติ สาธารณะ T86

แผนการจดั สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทกั ษะที่ได้ คุณลักษณะ การเรยี นรู้ อันพงึ ประสงค์ แผนฯ ที่ 3 - ห นังสอื เรียน 1. อ ธิบายขัน้ ตอนการ กระบวนการ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - ทักษะการคิด - รักชาติ ศาสน์ การฝกึ ประดิษฐ์ ปฏิบัติ - สงั เกตพฤตกิ รรม ของใช้ การงานอาชีพและ ประดิษฐ์ของใช้ การท�ำงานรายบุคคล วเิ คราะห์ กษัตรยิ ์ ของตกแต่งจาก - สงั เกตพฤตกิ รรม วสั ดุในทอ้ งถิ่น เทคโนโลยี ม.1 ของตกแต่งจากวสั ดุ การท�ำงานกลมุ่ - ท กั ษะการ - ซ อ่ื สัตย์สจุ รติ - ประเมินคุณลักษณะ 2 - แบบวัดและบันทึกผล ในท้องถนิ่ ได้ อันพงึ ประสงค์ ประยกุ ต ์ใ ชค้ วามรู้ - ม วี ินยั - ตรวจแบบทดสอบ ชัว่ โมง การเรียนรู้ 2. จ�ำแนกงานประดิษฐ์ หลงั เรยี น - ทักษะ - ใฝเ่ รียนรู้ - การประเมนิ ช้ินงาน/ การงานอาชพี และ จากวสั ดใุ นทอ้ งถ่ินตาม ภาระงาน (รวบยอด) กระบวนการคดิ - อ ยูอ่ ยา่ ง จดั ทำ� งานประดษิ ฐ์ เทคโนโลยี ม.1 ลกั ษณะการนำ� ไปใชไ้ ด้ เร่ือง การประดิษฐ์ ตัดสินใจ พอเพยี ง จากวสั ดใุ นท้องถ่นิ - แ บบทดสอบกอ่ นเรยี น 3. ประดษิ ฐ์ของใชข้ อง - ท ักษะการ - มุ่งมนั่ ในการ - PowerPoint ตกแตง่ จากวสั ดุ แก้ปญั หา ทำ� งาน ในท้องถนิ่ ได้ - รกั ความ 4. ม ีทัศนคติทด่ี ตี อ่ เป็นไทย การประดิษฐ์ของใช้ - มจี ติ สาธารณะ ของตกแต่งจากวัสดุ ในท้องถิน่ ได้ T87

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ นาํ (การเรียนรูแบบรวมมือ) ๔ การประดษิ ฐ์หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ของใช้ ของตกแตง่ จากวสั ดใุ นทอ้ งถนิ่ 1. ครใู หนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรยี น การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น เป็นการใช้วัสดุท่ีมีในท้องถิ่นมา หนวยการเรยี นรูท ี่ 4 ประกอบเปน็ ชิ้นงาน เพื่อประโยชน์ ใชส้ อยในชวี ติ ประจา� วนั ของตนเอง และสามารถท�า เป็นอาชีพได้ อีกท้ังยังช่วยให้ได้เรียนรู้เก่ียวกับกระบวนการท�างานตามข้ันตอน เพื่อให้ 2. ครกู ลา วคาํ ทกั ทายนกั เรียน พรอ มถามกระตนุ สามารถทา� งานร่วมกับผู้อืน่ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี ความสนใจของนกั เรยี นวา • ในทองถิ่นของนักเรียนมีวัสดุใดท่ีสามารถ นาํ มาประดิษฐข องใช ของตกแตง ได (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียนและทอ งถน่ิ ทีอ่ าศัยอยู) 3. ครูคัดเลือกวัสดุในทองถิ่นที่นาสนใจมาให นักเรียนดู และใหนักเรียนรวมกันแสดงความ คดิ เห็น จากนนั้ ครูถามนกั เรยี นวา • วสั ดใุ นทอ งถนิ่ นสี้ ามารถนาํ มาประดษิ ฐเ ปน สงิ่ ใดได (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นกั เรียน) 4. ครูอธิบายนักเรียนเพ่ือเช่ือมโยงเขาสูบทเรียน วา “การประดิษฐของใช ของตกแตงจากวสั ดุ ในทองถ่ิน เปนการนําวัสดุภายในทองถิ่นมา สรางสรรค หรือออกแบบใหเปนผลิตภัณฑ ท่ีใหประโยชนใชสอยตรงกับความตองการ ของผูบริโภค” ตัวชว้ี ัด ■ วเิ คราะหข์ ั้นตอนการทำางานตามกระบวนการทำางาน (ง ๑.๑ ม.๑/๑) ■ ใชก้ ระบวนการกลมุ่ ในการทาำ งานด้วยความเสยี สละ (ง ๑.๑ ม.๑/๒) ■ ตดั สินใจแก้ปัญหาการทาำ งานอยา่ งมเี หตผุ ล (ง ๑.๑ ม.๑/๓) เกร็ดแนะครู ครคู วรจดั กจิ กรรมการเรยี นรู โดยเนน ทกั ษะกระบวนการทาํ งานและกระบวนการกลมุ เพอ่ื ใหน กั เรยี นสามารถนาํ วสั ดใุ นทอ งถนิ่ มาประดษิ ฐข องใช ของตกแตง ได โดยสามารถจัดกจิ กรรมได ดงั นี้ • การต้ังประเดน็ คาํ ถามเก่ยี วกบั วัสดใุ นทองถิ่นทีน่ ํามาใชใ นการประดษิ ฐของใช ของตกแตง • การต้งั ประเดน็ คาํ ถามเกี่ยวกับวัสดุ อปุ กรณ เครื่องมอื เครือ่ งใชในการประดิษฐของใช ของตกแตง จากวสั ดใุ นทอ งถ่นิ • การตั้งประเดน็ คําถามเกย่ี วกับการออกแบบและหลักการออกแบบงานประดษิ ฐข องใช ของตกแตง จากวสั ดุในทองถนิ่ • ใหน ักเรยี นแบง กลมุ เพือ่ ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม เชน การประดษิ ฐข องใช ของตกแตง จากวัสดุในทอ งถน่ิ บันทึกผล จากนนั้ นาํ เสนอผลงานหนาชน้ั เรียน T88

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ หากตอ้ งการประดษิ ฐช์ นิ้ งาน ๑ การประดษิ ฐข์ องใช้ ของตกแตง่ ขนั้ สอน จากวัสดุท่ีมีในท้องถิ่นเป็น จากวสั ดใุ นทอ้ งถิน่ ของขวัญให้เพ่อื น จะประดิษฐ์ การประดษิ ฐข์ องใช ้ ของตกแตง่ จากวสั ดใุ นทอ้ งถนิ่ เปน็ การ 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ศึกษา ส่งิ ใด เพราะเหตใุ ด ใช้วัสดุท่ีมีในแต่ละท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ หรือออกแบบเป็น เรอ่ื ง การประดษิ ฐข องใช ของตกแตง จากวสั ดุ ผลติ ภัณฑ์ที่ใหป้ ระโยชน์ใช้สอยตรงกับความตอ้ งการ เชน่ เป็น ในทอ งถนิ่ จากหนงั สอื เรยี น หนว ยการเรยี นรทู ี่ 4 ของตกแต่งบ้าน เปน็ ของขวญั เนือ่ งในโอกาสสา� คญั ต่าง ๆ หรอื ศกึ ษาเพม่ิ เตมิ จากอนิ เทอรเ นต็ โดยมหี วั ขอ ดังนี้ ๑.๑ หลักในการประดษิ ฐ์ของใช ้ ของตกแต่งจาก 1. หลักในการประดิษฐของใช ของตกแตง วัสดใุ นท้องถนิ่ จากวัสดุในทองถิ่น การประดษิ ฐข์ องใช ้ ของตกแตง่ จากวสั ดใุ นทอ้ งถน่ิ ผปู้ ระดษิ ฐ์ 2. ประโยชนของการประดิษฐของใช ของ ต้องมีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการท�างานประดิษฐ์ประเภท ตกแตงจากวสั ดใุ นทอ งถิน่ ตา่ ง ๆ เพื่อจะไดป้ ฏิบตั ิไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง โดยมหี ลักการ ดงั นี้ ๑. สา� รวจความตอ้ งการของตนเองวา่ จะประดษิ ฐช์ น้ิ งานใด 2. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนแตละกลุมอภิปราย ๒. ศกึ ษาวิธีการประดษิ ฐ์ให้ละเอยี ดกอ่ นลงมอื ปฏิบตั ิ รว มกันภายในกลุม ๓. สา� รวจความจา� เปน็ และประโยชนข์ องชนิ้ งานทป่ี ระดษิ ฐ์ ๕๔.. ศค�กาึ นษงึาถวงึิธคกี วาารมปประลดอิษดฐภช์ ยั 1้นิ รงะาหนวใ่าหง้มกาีครวปามระคดงษิ ทฐน์ช น้ิแงขา็งนแรง 3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนออกมา นําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยเพื่อนรวม ช้ันเรียนสามารถซักถามเพ่ือตรวจสอบความ ๑.๒ ประโยชนข์ องการประดษิ ฐข์ องใช ้ ของตกแตง่ เขาใจ และครูเปนผูแนะนําเพ่ิมเติมเกี่ยวกับ จากวสั ดุในท้องถ่ิน เนอ้ื หา เพอ่ื ใหน กั เรยี นเขา ใจมากยงิ่ ขน้ึ จากนนั้ การประดิษฐช์ ้ินงานจากวัสดใุ นทอ้ งถน่ิ มีประโยชน์ ดังนี้ ครถู ามนกั เรยี นวา ๑. ชว่ ยให้มีความละเอยี ดรอบคอบ มีสมาธิในการท�างาน • การประดษิ ฐของใช ของตกแตง จากวสั ดุใน ๒. เสริมสร้างความคิดสรา้ งสรรค์ ทอ งถ่ินมปี ระโยชนอ ยางไร ๓. พัฒนาฝีมอื และความช�านาญในการทา� งาน (แนวตอบ ชวยพัฒนาความคิดสรางสรรค ๔. รจู้ กั การทา� งานรว่ มกนั มคี วามเสยี สละและความสามคั คี ใชเ วลาใหเ ปนประโยชน นํามาใชป ระโยชน ๖๕.. นนา��าไไปปจใหา� ห้เปน็นา่ ยขเอปงน็ ขรวาญั ยไเนดเ้อ่ื สงรใมิน2ใโหอก้กบัาสตสน�าเอคงญั แตลา่ะคง รๆอบครวั หรือตกแตงบานได สามารถเพิ่มมูลคาให กับสินคา อีกทั้งยังสามารถยึดเปนอาชีพ เพอ่ื สรา งรายไดใ หก บั ตนเองและครอบครวั ) สาระการเรียนรู้แกนกลาง 81 ■ กระบวนการกลมุ่ เปน็ วธิ กี ารทาำ งานตามขนั้ ตอน คอื การเลอื กหวั หนา้ กลมุ่ กาำ หนดเปา้ หมาย วางแผน แบ่งงานตามความสามารถ ปฏิบตั ติ ามบทบาทหนา้ ที่ ประเมนิ ผลและปรบั ปรงุ งาน เช่น - การประดิษฐข์ องใช้ ของตกแตง่ จากวสั ดุในทอ้ งถนิ่ การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถ่ิน ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู ขอ ใดเปน การตงั้ คาํ ถามทมี่ คี วามเกย่ี วขอ งนอ ยทสี่ ดุ เกยี่ วกบั การ 1 ความปลอดภยั ในการทาํ งานประดษิ ฐต อ งมกี ารนาํ อปุ กรณ เครอื่ งมอื เครอ่ื งใช ประดิษฐข องใช ของตกแตงจากวัสดุในทองถ่ิน หลายชนิดมาชวยในการปฏิบัติงาน ดังน้ัน เพื่อใหเกิดความปลอดภัยใน ขณะปฏิบัติงานจึงควรศึกษาวิธีการใชและขอจํากัดของอุปกรณ เคร่ืองมือ 1. จะประดษิ ฐส งิ่ ใด เครอ่ื งใชต า งๆ ใหเ ขา ใจกอ นนาํ มาใชง าน ควรแตง กายรดั กมุ ไมส วมใสเ ครอ่ื งประดบั 2. จะประดิษฐอ ยา งไร หากผมยาวควรมัดผมใหเรียบรอย หากมีอารมณโกรธ ซึมเศรา งวงนอน 3. จะวางจําหนายทใ่ี ด ออนเพลยี ควรหยดุ ปฏิบัติงานทันที หากพบอุปกรณ เครอ่ื งมือ เครือ่ งใชชํารุด 4. จะใชป ระโยชนไดอยางไร ควรซอมแซมใหเรียบรอย และควรปฏิบตั งิ านในสถานทท่ี ม่ี ีแสงสวา งเพยี งพอ 2 รายไดเสริม การหารายไดเสริมสามารถทําไดหลายวิธี โดยใชเวลาวาง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการประดิษฐของใช ของ จากการทาํ งาน หรอื วนั หยดุ ประจาํ สปั ดาหป ฏบิ ตั ิ เชน การประดษิ ฐส นิ คา ทาํ มอื ตกแตงจากวสั ดใุ นทอ งถนิ่ มจี ุดมงุ หมายหลกั เพอื่ นําไปใชสาํ หรบั (Handmade) การขายสนิ คา ออนไลน การขายเสอ้ื ผา มือสอง ตนเองและครอบครัวเปนหลัก บางกรณีอาจผลิตข้ึนเพื่อจําหนาย ในทองถิ่นไดบาง ดังน้ัน การตั้งคําถามในเชิงธุรกิจจึงมีความ เกี่ยวของนอยทสี่ ุด) T89

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ๒ วัสดุในท้องถน่ิ ที่นาำ มาใช้ในงานประดิษฐ์ 4. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา “วัสดุธรรมชาติท่ีนํามา วัสดทุ ี่นา� มาใช้ทา� ผลติ ภัณฑ์มที ง้ั จากพชื สตั ว์ ดนิ หิน ฯลฯ แตกตา่ งกันไปในแตล่ ะท้องถนิ่ ประดษิ ฐม ที ง้ั พชื สตั วดนิ หนิ ฯลฯ ซง่ึ จะแตกตา ง ตามลกั ษณะสภาพภมู ปิ ระเทศ ประโยชนข์ องการใชส้ อย วถิ กี ารด�าเนนิ ชวี ติ และความตอ้ งการของ กันไปในแตละทองถิ่นตามลักษณะสภาพ ผบู้ รโิ ภค ตวั อย่างวสั ดใุ นท้องถ่นิ ทีน่ ยิ มนา� มาใช้ เชน่ ภูมิประเทศ หรือวิถีการใชชีวิต ซึ่งข้ึนอยูกับ ประโยชนของการใชงาน ความตองการของ มะพร้าว ผบู รโิ ภค เชน มะพรา ว กลว ย ผกั ตบชวา หวาย เปลอื กหอย” พืชยืนต้นอยู่ ในตระกูลปาล์ม มีท้ังตน้ เต้ยี และต้นสูง 5. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ชวยกัน ใบ ใช้สานทา� หมวก ภาชนะ ระดมสมองและสืบคนชื่อวัสดุธรรมชาติที่มี กา้ น ใชท้ า� ไมก้ วาด ทร่ี องจาน ในทองถ่ินของตนเองใหไดมากที่สุด จากนั้น ก ะลา ใช้ท�ากระบวยตักน้�า ใหนักเรียนแตละกลุมผลัดกันออกมานําเสนอ โคมไฟ ผลการสืบคนหนาช้ันเรียน โดยครูบันทึก คําตอบลงบนกระดาน กลว้ ย1 6. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ คดั เลอื กวสั ดธุ รรมชาติ พชื ลม้ ลกุ ลา� ตน้ สงู และแขง็ แรง ที่สนใจมากท่ีสุด และลงความเห็นรวมกัน ใบแบนยาว ใหญ่ กาบห่อหุ้ม เกี่ยวกับสว นประกอบของวสั ดธุ รรมชาตนิ น้ั วา ซ้อนกันเปน็ ลา� ต้น สามารถนาํ มาประดษิ ฐเ พอื่ ใชป ระโยชนอ ยา งไร ใบ ใช้ห่ออาหาร ท�ากระทง ไดบาง โดยดูตัวอยางการนําวัสดุในทองถ่ิน บายศรี ที่นํามาใชในงานประดิษฐจากหนังสือเรียน กา้ น ใชท้ า� ของเล่น ดอกไม้ หนว ยการเรยี นรูที่ 4 กาบ ใช้ทา� กระเป๋า เชอื ก ผักตบชวา วัชพืชท่ขี ้นึ อยู่ตามล�าน�า้ ล�าตน้ สั้น ออกใบเป็นกอ ก้านใบ กลมอวบนา�้ ดอกมสี มี ่วงออ่ น ก้าน ใช้ท�ากระเป๋า หมวก รองเท้า แผ่นรองความร้อน ถาด 82 เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคดิ ครูอธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับชนิดของใบตองที่นิยมนํามาใชในงานประดิษฐ บคุ คลในขอ ใดนําความรเู กยี่ วกบั การประดิษฐของใช ใหนักเรียนฟงวา ใบตองท่ีนิยมนํามาใชสวนใหญจะเปนใบตองตานี เพราะมี ของตกแตงจากวสั ดใุ นทองถิน่ มาใชไดอ ยา งเหมาะสม ลกั ษณะเหนยี วนมุ ไมเ ปราะ หรอื ฉกี ขาดไดง า ย ใบมสี เี ขยี วเขม มคี วามหนา และ มีขนาดพอเหมาะ นิยมนาํ มาใชใ นงานประเภทบายศรี กระทงลอย และใบตอง 1. ปนู จับแมลงปอและผเี สื้อมาสตาฟฟ เพอ่ื นํามาตกแตง กลว ยนา้ํ วา เพราะมลี กั ษณะเหนยี วนมุ แตม คี วามเปราะบางเลก็ นอ ย ใบสเี ขยี วออ น เคสโทรศพั ท นิยมนาํ มาใชห อ ขนมทมี่ ขี นาดเลก็ เชน ขนมกลว ย ขนมใสไ ส ขาวตมมดั 2. โปง นาํ กระปองนา้ํ อัดลมมาตัดและขดใหเปนรูปรถสามลอ นักเรียนควรรู 3. ปนนํากะลามะพราวมาประดษิ ฐเ ปนแกวใสเ คร่อื งดื่ม 4. เปาเก็บขวดพลาสตกิ มาทําเปนท่เี พาะพันธตุ น กลา 1 กลว ย ใบของกลวยจะเรียกวา “ใบตอง” หากตอ งการนาํ ใบตองมาใชงาน ควรเลอื กตดั ใน 2 ชวงเวลา คือ ตอนสาย เพื่อใหนา้ํ คา งทเ่ี กาะบนใบแหง และ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะกะลามะพราวเปนวัสดุใน ตอนเยน็ เพอ่ื ใหฟ น จากแดด ใบจะไดไ มเ หยี่ ว และเหมาะสมตอ การนาํ มาใชง าน ทอ งถนิ่ จดั เปน วสั ดธุ รรมชาตจิ ากพชื พบมากในจงั หวดั ทางภาคใต ภาคกลาง และภาคตะวันออก ซึ่งสามารถนําเอาสวนประกอบ T90 ตางๆ ของตนมาใชประโยชนไดอยา งหลากหลาย)

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ หวาย ขนั้ สอน พืชท่ีข้ึนตามป่าทึบท่ัวไปเนื้อ 7. ครถู ามกระตนุ ความสนใจของนักเรียนวา เหนยี ว มคี วามยดื หยนุ่ สงู ลา� ตน้ • เพราะเหตใุ ดจงึ ควรนาํ วสั ดทุ ม่ี อี ยใู นทอ งถน่ิ และกาบใบมีหนาม มาประดิษฐของใช ของตกแตง (แนวตอบ เพราะเปนของที่มีอยูในทองถ่ิน เลข�า่งตต้นะกใชร้ท้า�าขเคนั รโ่ือตงก1จกั สาน เช่น ซึง่ สามารถนาํ มาผลิตเปนช้นิ งาน เพื่อสรา ง มูลคา เชน ในทองถิ่นมีไผจํานวนมาก แกน ใชท้ �าเก้าอี้ ชุดรบั แขก ซ่ึงสามารถนํามาประดิษฐเปนของใชได เชน ตะกรา ภาชนะใสข อง) ยา่ นลเิ ภา • ยานลิเภามีคุณสมบัติอยางไรท่ีเหมาะแก การนํามาประดิษฐข องใช ของตกแตง เฟินเถาชนิดหนึ่งที่มีมากในป่า (แนวตอบ มีความเหนียว แข็งแรง ทนทาน ล�าต้นมีลักษณะเป็นเหง้าสั้น ไมเสอื่ มคณุ ภาพงา ย) มขี นสีน้�าตาลเข้ม • เพราะเหตุใดหวายจึงนิยมนํามาใชในการ เปลือกเถา เใชช่ีย้ทน�าเหปม็นาเกค2ร่ือพงาในช้ ผลิตเกาอชี้ ดุ รบั แขก ต่าง ๆ เช่น (แนวตอบ เน่ืองจากเนื้อของหวาย มีความ กระเป๋าถอื เหนยี ว ยดื หยนุ ไดด กี วา ไผ หรอื ไมท น่ี ยิ มนาํ มา ทาํ งานจกั สาน มคี วามแขง็ แรง ทนทาน จกั เปน ลาน3 เสน หรอื แผน ไดง า ย โคง งอเปน รปู ทรงตา งๆ ไดด ี จงึ นยิ มนาํ มาผลติ เปน เครอ่ื งเรอื นประเภท ไมย้ นื ตน้ ในตระกลู ปาลม์ ลา� ตน้ เกา อ้ชี ุดรับแขก) แข็งและตรง มีหนามข้ึนตาม ขอบก้านใบ ยอดอ่อน ใชท้ �าหมวก พัด ใบ ใชท้ า� หลังคา ผนัง ก้าน ใช้ทา� กระบุง ตะกรา้ เปลือกหอย ฝาหอย หรือกาบหอย มสี แี ละ รูปทรงแตกต่างกันไปตามสาย พันธ์ุ เปลือก ใช้ท�าของใช้และของ ตกแต่งบ้าน เช่น กรอบรูป โมบาย เครอื่ งประดบั การประดิษฐ์ของใช้ 83 ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถ่ิน ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู “ครีมนําใบลานมาสานเปนปลาตะเพยี น เพ่อื นาํ ไปแขวนทเ่ี ปล 1 ขันโตก ภาชนะสําหรับวางอาหารของชาวลานนา ทําจากไมและหวาย ใหน อง” จากขอ ความนี้ นักเรียนเหน็ ดว ยกับการกระทาํ ของครมี มี 3 ขนาด คอื ขันโตกหลวง กวา ง 25-50 น้วิ ขนั โตกฮาม กวาง 17-24 นว้ิ หรอื ไม เพราะเหตุใด และขนั โตกหนอย กวาง 10 น้ิว 2 เช่ียนหมาก เปนอุปกรณเครื่องใชที่มีความเก่ียวของกับการกินหมากของ 1. เหน็ ดว ย เพราะจะชว ยใหเ ดก็ นอนหลบั ไดย าวนานยง่ิ ขนึ้ คนไทยในสมยั โบราณ ทาํ จากวัสดุหลายชนดิ เชน ไม เงนิ ทองเหลอื ง มลี กั ษณะ 2. ไมเ หน็ ดว ย เพราะเปน การทาํ ลายธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ ม กลมแบนคลายพาน หรือเปนเหล่ียม 6 เหลย่ี ม 3. ไมเ หน็ ดว ย เพราะปจ จบุ นั มขี องเลน เดก็ มากมายใหเ ลอื กซอื้ 3 ลาน เปน พรรณไมโ บราณ มถี นิ่ กาํ เนดิ อยใู นอเมรกิ าใตแ ละแถบเมดเิ ตอรเ รเนยี น 4. เห็นดวย เพราะเปนการนําวัสดุในทองถ่ินมาใชใหเกิด ในประเทศไทยนยิ มปลกู อยู 3 สายพนั ธุ คอื ลานปา ลานพรุ และลานวัด หรือ ลานหมน่ื เถดิ เทงิ คณุ สมบตั ทิ ่ีโดดเดน ของลาน คอื เนอื้ เหนยี ว เรยี บ และทนทาน ประโยชน จึงนยิ มนาํ มาทําเปนผลติ ภณั ฑหลายชนิด เชน หมวก กระเปา กลองใสก ระดาษ ชําระ จารหนังสือ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะการนําใบลานมาสานเปน ปลาตะเพยี น เปน การนาํ วสั ดใุ นทอ งถน่ิ มาใชใ หเ กดิ ประโยชนแ ละ คมุ คา อกี ทง้ั ยงั ชวยลดภาระคาใชจายภายในครอบครวั ) T91


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook