นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ นาํ (กระบวนการกลุม) ๙ การจดั สวนในภาชนะเพ่ือตกแตง่ ห้องตา่ งๆ ในบา้ น 1. ครูทบทวนความรจู ากชั่วโมงท่ีผานมา การตกแตง่ บา้ นจะช่วยใหบ้ า้ นมีความสวยงามและน่าอยูอ่ าศยั ซึง่ นอกจากจะตกแตง่ ด้วยการ 2. ครูถามนกั เรยี นวา จดั วางเครอื่ งเรอื นตา่ ง ๆ ใหเ้ หมาะสมแลว้ การจดั สวนในภาชนะยงั มสี ว่ นชว่ ยใหบ้ า้ นมคี วามสวยงาม มากยิง่ ข้นึ อกี ท้ังยังสรา้ งความประทับใจใหแ้ กผ่ ทู้ มี่ าเย่ยี มเยยี นอีกดว้ ย • มีใครรูจัก หรือเคยเห็นสวนถาด หรือ สวนแกวบาง และถารูจักนักเรียนเคยทํา ผ จู้ ดั ส๙กวา.น๑ร2 จ โัดดคสยววยานอ่ มใสนว่สภน�าาใคหชัญม้นขีะข นอเาปงดก็นเลากก็ราลรจงจัด ัดแสสลววว้ นนนเใา� พนม่ือภาจวา�าาชลงไนอวงะ ้ใทนิวภทาัศชนน์ทะทามงี่ ธขี รนรามดชเลาตก็ 1ิต สาามมจาินรตถนเคาลกอ่ื านรขยอา้ ยง สวนถาด หรอื สวนแกวดว ยตนเองหรอื ไม (แนวตอบ คําตอบข้ึนอยูกับดุลยพินิจของ ได้อยา่ งสะดวก และนา� ไปประดบั ตกแต่งอาคารบา้ นเรือน หอ้ งท�างาน ห้องรับแขก ใหด้ ูสวยงาม นกั เรยี น) การจดั สวนในภาชนะมคี วามสา� คัญในด้านตา่ ง ๆ ดงั นี้ ขนั้ สอน ด้านจติ ใจ • ช่วยลดความตึงเครียด 1. ครชู แี้ จงกจิ กรรมเกยี่ วกบั การจดั สวนในภาชนะ • ชว่ ยผอ่ นคลายความวติ กกงั วล เพอ่ื นาํ มาจดั และตกแตง หอ งตา งๆ ภายในบา น • ชว่ ยใหเ้ กิดความสนุกสนาน เพลดิ เพลิน โดยจะเลนเกมคนหาตามคาํ บอก โดยมีกตกิ า • ช่วยสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพจติ มีจิตใจทอ่ี ่อนโยน และวธิ ีการเลน ดังน้ี 1) ใหน กั เรยี นแบง กลมุ ออกเปน 4 กลมุ กลมุ ละ ด้านสนุ ทรียภาพ เทาๆ กัน จากนั้นสงตัวแทนกลุมออกมา • ช่วยใหบ้ า้ นนา่ อยูอ่ าศัยมากข้นึ หนา ชนั้ เรียน เพอ่ื เปนตัวแทนเขยี นคาํ ตอบ • ชว่ ยให้รสู้ กึ สดช่ืน กระปรกี้ ระเปร่า บนกระดาน • ช่วยเสรมิ สร้างบรรยากาศทด่ี ภี ายในบา้ น 2) สมาชกิ ในกลมุ ทเ่ี หลอื จะทาํ หนา ทใ่ี นการหา • ช่วยสร้างความสวยงามและสรา้ งความ คาํ ตอบจากโจทยท คี่ รกู าํ หนดให โดยสบื คน ประทับใจแกผ่ พู้ บเห็น หาคําตอบไดจากหนังสือเรียน หนวยการ เรยี นรทู ่ี 2 การดูแลรกั ษาบาน หรือสืบคน เพมิ่ เติมจากอนิ เทอรเ น็ต ด้านลกั ษณะนสิ ยั • ช่วยฝกความอดทน • ชว่ ยฝก ให้มีความละเอียดรอบคอบ • ชว่ ยฝกความรบั ผิดชอบตอ่ การท�างาน • ชว่ ยใหท้ า� งานไดอ้ ย่างประณตี และเรียบรอ้ ย ๓๘ นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด 1 ทวิ ทศั นท างธรรมชาติ การจดั สวนในภาชนะทจี่ าํ ลองทวิ ทศั นท างธรรมชาติ การจัดสวนในภาชนะเพ่ือนํามาใชในการจัดและตกแตงหอง สว นใหญจะจัดแบบใหเหน็ ภาพภเู ขา กอ นหนิ ดอกไม หรอื ตนไมข นาดเล็กขน้ึ ตางๆ ภายในบานมคี วามสาํ คัญอยา งไร แทรกอยู หรอื อาจมสี วนประกอบทเี่ ปนส่งิ กอ สรา งจําลอง เชน สะพาน เรือ คน สัตวต า งๆ รวมอยูดว ย (แนวตอบ การจดั สวนในภาชนะเพอ่ื นาํ มาใชใ นการจดั และตกแตง 2 ผูจัดสวน ควรมีความรู ความเขาใจเกี่ยวกับวิธีการจัดสวนและหลักการ หองตางๆ ภายในบาน จะชวยเสริมสรางบรรยากาศภายในบาน ทางทศั นศิลป มคี วามละเอียด รอบคอบ ใจเยน็ มีความคิดสรางสรรค มีทักษะ ใหรูสึกสดช่ืน ผอนคลาย ทําใหบานสวยงามและนาอยูย่ิงขึ้น ในการใชอุปกรณตางๆ และมีทักษะการจัดสวนไดอยางหลากหลาย ซ่ึงหาก อกี ทง้ั ยงั สามารถสรา งความประทบั ใจใหก บั แขกทมี่ าเยย่ี มเยอื นได ผูจัดสวนมีคุณสมบัติดังกลาวจะชวยใหการจัดสวนประสบผลสําเร็จและเปนท่ี อกี ดวย) นา พงึ พอใจสําหรับตนเองและผูอ่ืน T42
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๙.๒ ประเภทของการจดั สวนในภาชนะ ขนั้ สอน การจัดสวนในภาชนะมีหลากหลายประเภท โดยแต่ละประเภทจะมีลักษณะและวิธีการจัด ที่แตกต่างกัน รวมทั้งการน�าไปจัดวางในสถานท่ีต่าง ๆ ควรพิจารณาเลือกใช้ภาชนะให้เหมาะสม 3) ครทู าํ หนา ทใี่ นการควบคมุ เวลาการหาคาํ ตอบ กับรูปแบบของสวนท่ีต้องการจัด ซึ่งการจัดสวนในภาชนะ ในแตละขอ และเปน ผกู ําหนดโจทยปญหา แบง่ เป็น ๓ ประเภท ดงั นี้ สวนในถาด 4) เมื่อหมดเวลาในแตละขอ ครูผูตรวจสอบ ความถกู ตอ งของคาํ ตอบ พรอ มเฉลยคาํ ตอบ • ใช้ภาชนะท่ีทึบแสง เรียกว่า และอธิบายคําตอบที่ถูกตอง จากนั้นให “ถาด” มีก้นตน้ื ปากกวา้ ง คะแนนกลมุ ทต่ี อบไดม ากและถกู ตอ งที่สดุ • เลอื กใชพ้ รรณไมท้ มี่ ขี นาดเลก็ หรอื พรรณไม้แคระ 5) ปฏบิ ตั แิ บบนจี้ นครบทกุ โจทยท คี่ รกู าํ หนดให • ประดับตกแต่งด้วยดิน หิน และนับคะแนน เพ่ือคนหาผูชนะ กรวด และต๊กุ ตาประดบั สวนในตู้ • ใช้ตู้ปลา หรือตู้กระจกท่ีมี ลักษณะโปรง่ ใส • สวนบก ใชพ้ รรณไม้ในรม่ • สวนกง่ึ บกกงึ่ นา้� ใชพ้ รรณไม้ ทช่ี อบความชื้นสูง 1 • สวนไม้น�้า ใช้พรรณไม้น�้า สามารถเล้ยี งปลาได้ สวนในขวดแกว้ หรอื โหลแกว้ • ใช้ขวดปากกวา้ ง หรอื ใช้ โหลแกว้ ขนาดกลางไปจนถงึ ขนาดใหญ่ • ใชพ้ รรณไม้ ในรม่ ที่มี ขนาดเล็ก • ประดบั ตกแตง่ ด้วยทราย ยอ้ มสี หินสี การดูแล ๓๙ รักษาบ้าน ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู หากตองการจัดสวนใหเห็นทิวทัศนทางธรรมชาติในมุมกวาง ครอู าจใหน กั เรยี นรว มกนั อภปิ รายเกยี่ วกบั ความแตกตา งของสวนในภาชนะ และสามารถใชพรรณไมจัดและตกแตงไดหลายชนิด ควรเลือก แตละประเภทวา มลี ักษณะและรปู แบบท่ีแตกตา งกันอยางไร และนักเรียนคิดวา จัดสวนประเภทใด สวนแตล ะประเภทมวี ิธกี ารเลอื กใชพ รรณไม วัสดุปลูก และวัสดตุ กแตง รวมถงึ วธิ กี ารจดั สวนทเี่ หมือนกันหรือแตกตา งกนั อยางไร 1. สวนในตู 2. สวนในถาด นักเรียนควรรู 3. สวนในขวดแกว 4. สวนในโหลแกว 1 พรรณไมน า้ํ เปน พชื ทเ่ี จรญิ เตบิ โตไดด ใี นนาํ้ แบง เปน 3 ประเภท คอื พชื ลอยนาํ้ (วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะมีพื้นท่ีกวางขวางมากกวา เชน จอก ผักตบชวา พชื ในนา้ํ เชน สาหรา ย บวั และพืชริมนํา้ เชน ผกั แวน การจดั สวนในรปู แบบตา งๆ สามารถมองเหน็ ทวิ ทศั นท างธรรมชาติ กกกลม ไดใ นมมุ กวา ง และใชพ รรณไม รวมถงึ วสั ดตุ กแตง ไดอ ยา งหลากหลาย) T43
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๙.๓ องค์ประกอบของการจดั สวนในภาชนะ 2. ครใู หน กั เรยี นแบง กลมุ ออกเปน 4 กลมุ กลมุ ละ การจัดสวนในภาชนะให้มีความสวยงาม เพื่อเลียนแบบ หรือจ�าลองทิวทัศน์ทางธรรมชาต ิ เทา ๆ กนั และเรมิ่ เลน เกมคนหาตามคําบอก ผูจ้ ดั สวนควรค�านงึ ถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ดังน้ี • โจทยท ี่ 1 ความสาํ คญั การจดั สวนในภาชนะ (แนวตอบ ๑) ความรู้พื้นฐานทางด้านทัศนศิลป ผู้จัดสวนต้องมีความรู้ ความเข้าใจพื้นฐาน - ดา นจติ ใจ ชวยใหเพลดิ เพลนิ เสริมสรา ง สขุ ภาพจติ และผอนคลายความเครียด ทางด้านทัศนศิลป์ ในเรื่องของทศั นธาตแุ ละองคป์ ระกอบศลิ ป ์ เชน่ - ดานสนุ ทรียภาพ ชว ยเสรมิ สรา ง เส้น1 รูปทรง บรรยากาศท่ดี ี ทาํ ใหร ูสึกสดช่ืน และทาํ ใหบานนาอยูอาศัยมากขน้ึ เส้นตรงและเส้นโค้ง ช่วยสร้าง ดรู ปู ทรงของพรรณไม้ ภาชนะ และวสั ดุ - ดานลักษณะนิสัย ชวยใหการทํางาน อารมณ์และความรู้สึกผ่อนคลาย ตกแต่งให้มีความกลมกลนื กัน ฝกความอดทน ความละเอียดรอบคอบ มพี ืน้ ทก่ี ว้างขนึ้ งานที่ทําออกมาประณีต เรียบรอย และ สี สวยงาม) • โจทยท ี่ 2 ประเภทของภาชนะในการจดั สวน ควรเลือกใช้สีที่กลมกลืนกัน (แนวตอบ ถาด ตู ขวดแกว ) เพราะจะช่วยใหด้ ูสดชื่น และสบายตามากยง่ิ ข้ึน ผิวสมั ผัส ดูภาพรวมของพรรณไม้ เช่น ความหยาบของใบ ดอกไม้ที่จะ นา� มาจดั รวมกนั ความกลมกลืน จดั องคป์ ระกอบใหพ้ อดี อาจเกดิ จากความเหมอื น ความแตกตา่ ง มารวมกันอยา่ งสวยงาม จดุ สนใจ หรอื จุดเด่น สร้างจินตนาการว่าต้องการ น�าเสนอสิง่ ใด แล้วสร้างจุดรอง จุดเสริมทก่ี ลมกลนื กัน สดั สว่ น จงั หวะ หรอื ระยะ เปรยี บเทยี บขนาดของพรรณไม้ และวัสดุตกแต่งท่ีอยู่ในบริเวณ วางพรรณไมแ้ ละวสั ดุตกแต่ง เดยี วกนั ให้มสี ัดส่วนท่ีสมดลุ แตล่ ะช้นิ ใหส้ มดลุ กนั 4๐ เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคิด ครคู วรแนะนาํ นกั เรยี นวา การนาํ หลกั การทางทศั นศลิ ปม าใชในการจดั สวน เพราะเหตใุ ดการจดั สวนในภาชนะจงึ ตอ งอาศยั ความรพู นื้ ฐาน ในภาชนะนน้ั เปน สง่ิ สาํ คญั เพราะเปน สว นหนงึ่ ทท่ี าํ ใหส วนดสู วยงาม เชน ทาํ ให ทางดา นทัศนศลิ ป เขา ใจการจดั วางอยางเหมาะสม ความกลมกลนื ของรปู ทรงท่คี ลา ยคลงึ กนั ของ พรรณไมและสีสันท่ีใช (แนวตอบ เพราะการเขา ใจหลกั การทางทศั นศลิ ปส ามารถทาํ ให รเู ทคนคิ การจดั สวนใหส วยงาม เชน การเลอื กใชพ รรณไมใ หเ หมาะสม นักเรียนควรรู กบั รปู ทรงของภาชนะ การจดั วาง ความสมดลุ ของระยะหา ง สดั สว น ทเ่ี หมาะสม ความกลมกลนื จดุ เดน หรือจดุ สนใจ) 1 เสน เสน แตละเสนจะใหความรูสกึ ทแี่ ตกตางกนั เชน • เสนนอน ใหความรูสึกสงบ ผอ นคลาย • เสนโคง ใหความรูสกึ เคลือ่ นไหว มีชีวติ ชีวา • เสน ทแยงมมุ ใหค วามรูสึกตื่นเตน ไมห ยุดนิง่ T44
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๒) การเลอื กพรรณไม ้ การจดั สวนในภาชนะจะตอ้ งใชพ้ รรณไมห้ ลายชนดิ มาจดั รวมกนั ขน้ั สอน โดยเลอื กพรรณไมท้ ีม่ ีขนาดเล็ก เจรญิ เติบโตชา้ พรรณไม้ที่ใชส้ า� หรบั จดั สวนในภาชนะ มดี งั นี้ • โจทยท ี่ 3 ความรพู ้นื ฐานทางดานทศั นศิลป ในการจดั สวนในภาชนะ เปเปอร ์ โรเมยี ออมเงิน ออมทอง พรรณไม้ในร่ม (แนวตอบ ผจู ดั สวนถาดหรอื สวนแกว ควรศกึ ษา นกกระทา เ ป ็ น พ ร ร ณ ไ ม ้ ท่ี ต ้ อ ง ก า ร เกี่ยวกับเสน รูปทรง สี ผิวสัมผัส ความ แสงแดดร�าไร และอยู่ ในที่ กลมกลืน จุดสนใจ หรือจุดเดน สัดสวน คอ่ นข้างชืน้ เชน่ และระยะในการวาง) เปปเปอร์ โรเมีย เป็นไม้ ประดับ ล�าต้นเป็นกอหนา • โจทยท ่ี 4 พรรณไมท น่ี ยิ มนํามาจัดสวนใน ภาชนะ นแนกน่ กรใบะทหนา1าเเปป็น็นไมมนั้ประดบั ใบ (แนวตอบ พรรณไมในรม เชน เปปเปอรโ รเมยี นกกระทา ออมเงนิ ออมทอง กลมวี มีจุดสีเงินแต้มประอยู่ - พรรณไมกลางแจง เชน สนญี่ปุนแคระ ด้านล่างเสน้ ใบ เลบ็ ครุฑดาง พรมออสเตรเลยี ออมเงิน ออมทอง เป็นไม้ - พรรณไมอ วบนาํ้ เชน หยดนาํ้ กระบองเพชร เลอ้ื ย ลา� ตน้ เปน็ เถา กา้ นใบยาว อชิ เิ วเรยี ) ผวิ ใบมีสเี หลอื งและสเี ขยี ว พรรณไมก้ ลางแจง้ สนญ่ปี ุ่นแคระ เ ป ็ น พ ร ร ณ ไ ม ้ ที่ ต ้ อ ง ก า ร เลบ็ ครฑุ ด่าง แสงแดดมาก ตอ้ งอยกู่ ลางแจง้ จึงจะเจริญเติบโตไดด้ ี เช่น สนญ่ีปุ่นแคระ เป็นไม้แคระ ตน้ เปน็ ทรงคอ่ นข้างกลม พุม่ แน่น ก่ิงย่อยแผ่แบนซ้อนกัน เป็นกระจุก เลบ็ ครฑุ ดา่ ง เปน็ ไมพ้ มุ่ ขนาด เล็ก ขอบใบหยัก สีเขียวเข้ม พรมออสเตรเลีย และสีขาวอมเหลือง พรมออสเตรเลีย เป็นไม้ ล้มลุก ล�าต้นแตกกิ่งก้านแผ่ คลุมดิน ใบสีเขียวเข้มเป็นมัน มีขนสนั้ ปกคลุม การดูแล 41 รักษาบ้าน ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู หากตอ งการจัดสวนในถาด เพ่ือนาํ ไปวางไวรมิ ระเบียงบาน ครูควรแนะนํานักเรียนวา การเลือกพรรณไมท่ีนํามาใชในการจัดสวนใน ทมี่ แี สงแดดจัด ควรเลอื กพรรณไมช นิดใด เพราะเหตใุ ด ภาชนะนั้นจะตองมีหลกั การเลือก ดังน้ี 1. เฟน 1. เลือกพรรณไมทม่ี ขี นาดเลก็ ใบสวยงาม 2. แคคตัส 2. เลอื กพรรณไมท ส่ี ามารถอยรู ว มกบั พรรณไมช นดิ อน่ื ๆ ไดอ ยา งเหมาะสม 3. แพงพวย เชน ความตองการแสงแดด ความชนื้ ดิน นํ้า ปยุ ที่เหมือนกนั 4. กระบองเพชร 3. เลือกพรรณไมที่ขยายพันธไุ ดง า ย โดยการปกชํา หรือการเพาะเมล็ด (วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เพราะริมระเบียงบานเปนบริเวณ ทม่ี ีแสงแดดสอ งถงึ ดังนน้ั จึงควรเลือกพรรณไมก ลางแจง ซ่ึงก็คอื นักเรียนควรรู แพงพวย เนอ่ื งจากเปน พรรณไมท ที่ นตอ แสงแดด ชอบแดด มสี สี นั สวยงาม และออกดอกตลอดทง้ั ป) 1 นกกระทา จัดเปน ไมประดับทส่ี ามารถนํามาปลูกไวภ ายในหอ งตางๆ ของ บานได เน่ืองจากเปนไมพรรณเล็กท่ีมีความสูงประมาณ 15-30 ซม. ปลายใบ เรียวแหลม โคนใบมน ออกดอกขนาดเล็ก สขี าวอมสเี ขียวออ น ออกดอกตาม ซอกใบใกลปลายกง่ิ และจะออกดอกตลอดท้ังป T45
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน พรรณไมอ้ วบนา�้ หยดน้�า เป็นพรรณไม้ที่เก็บน�้าไว้ได้ กระบองเพชร • โจทยที่ 5 สิ่งท่ีตองคํานึงในการเลือกภาชนะ ทุกส่วนของต้น ทนต่อสภาพ ในการจัดสวน แหง้ แล้งได้ดี เชน่ (แนวตอบ ขนาดทเ่ี หมาะสมกับพรรณไม หยดน้�า ต้นสั้น เป็นพุ่มกลม การบรรจดุ นิ ที่ปลกู และความประหยดั ปลายใบมนใส มีริ้วสีเขียวเข้ม คา ใชจ า ย) กพราดะตบาอมงคเวพาชมรย1าทวขนอตง่อใบสภาพ • โจทยท ี่ 6 วสั ดทุ ใ่ี ชในการจัดสวนในภาชนะ (แนวตอบ วัสดุปลูก เชน ขุยมะพราว ขี้เถา แห้งแล้งได้ดี ดอกมีหลายสี แกลบ ทรายละเอียด และวัสดุตกแตง เชน แลว้ แต่ชนดิ หินสี กรวด ตกุ ตาประดบั ) อ ิชิเวเรีย ปลายต่ิงใบมีหนาม แหลม ขอบใบเรียว ใบหนา ซอ้ นกนั คล้ายกุหลาบ อิชิเวเรยี ๓) การเลือกภาชนะ การจัดสวนในภาชนะตอ้ งเลือกภาชนะให้เหมาะสมกับพรรณไม้ การบรรจดุ นิ ปลูก และความประหยดั ภาชนะที่นิยมนา� มาใช ้ มีดงั นี้ การเลือกภาชนะ ถาด ตู้ ขวดแกว้ หรือโหลแก้ว ถาด มที รงกวา้ ง เหมาะกบั การ จดั สวนแบบทวิ ทศั น์ เพอื่ แสดง เรอื่ งราวได้อยา่ งชดั เจน ขวดแก้ว หรอื โหลแกว้ มีท้ังแบบปากเปิดและปากปิด เหมาะกบั การจดั สวนท่ีเลอื กใช้ พรรณไม้ที่มีความช้ืน ท�าให้ เหน็ ลวดลายได้อยา่ งชัดเจน ตู้ มีพื้นท่กี วา้ ง เหมาะกบั การ จดั สวนที่ใชพ้ รรณไมท้ มี่ คี วามชน้ื เห็นลวดลายได้อย่างชดั เจน 4๒ นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคดิ 1 กระบองเพชร การดแู ลรักษากระบองเพชรใหม อี ายยุ าวนาน สามารถทาํ ได การเลอื กภาชนะที่ใชสําหรับจดั สวนควรคํานึงถงึ สงิ่ ใด ดังน้ี (แนวตอบ การเลือกภาชนะสําหรบั จัดสวน ควรคํานงึ ถึงรูปแบบ • ควรรดนา้ํ ในชว งเชา เพราะจะทาํ ใหน ํา้ ทคี่ า งบนตน ระเหยไปหมดในชว ง ของสวนที่ตองการจัด ความเหมาะสมกับพรรณไมที่นํามาใช กลางวนั จงึ ไมก อ ใหเกดิ ปญ หาการเนา หรอื ถกู แดดเผา การบรรจุดนิ ปลูก และราคาตอ งไมแ พงจนเกนิ ไป) • ไมชอบแสงแดดจดั ควรปลกู ในบรเิ วณทมี่ ีแสงแดดรําไร • ไมค วรใหป ยุ ทม่ี ไี นโตรเจนมาก เพราะจะไปเรง การเจรญิ เตบิ โต อาจทาํ ให ลําตน เปนลายแตกได • หากพบวามีสวนใดสวนหนง่ึ ของตน เกดิ เช้ือรา ใหต ดั สวนนน้ั ทิง้ แลวใช คอปเปอรซ ลั เฟต หรอื ยาฆาเชอ้ื ราทารอบๆ แผลและบรเิ วณใกลเ คียง T46
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๔) การเลือกวัสด ุ การจัดสวนในภาชนะ สงิ่ ส�าคญั ท่ตี ้องคา� นึงถงึ คอื การเลือกวัสดุ ขนั้ สอน ในการจัดสวน ควรเลอื กให้เหมาะสมกบั ภาชนะและพรรณไม้ที่ต้องการจดั ดงั นี้ 3. เม่ือเลนเกมเสร็จ ครูนับคะแนนเพ่ือหาผูชนะ จากน้ันครูใหนักเรียนสรุปความรูที่ไดรับจาก วสั ดปุ ลกู 1 การเลม เกมใสส มดุ บนั ทกึ หรอื กระดาษ แลว นาํ มาสงครูผสู อน ขยุ มะพร้าว เป็นวัสดุท่ี ใช้ ในการปลูกพืช มคี วามเปรยี้ ว รว่ นซยุ ระบาย 4. ครชู แี้ จงการเรยี นในชวั่ โมงถดั ไป โดยใหน กั เรยี น แบงกลมุ (กลุม เดิม) ออกแบบสวนถาด หรือ น ขุย�้าไมดะ้ดพี เรช้าน่ ว2 เปลอื กมะพร้าว สวนแกว และนาํ วสั ดุ อปุ กรณ เครอ่ื งมอื เครอื่ งใช เกี่ยวกับการจัดสวนถาด หรือสวนแกวมาใน ทปี่ นั เอาใยออก มลี กั ษณะเปน็ ชว่ั โมงถดั ไป จากน้ันครเู ปด โอกาสใหนกั เรียน ซักถามขอ สงสยั เพิม่ เติม ขุยละเอียด 3 ขีเ้ ถ้าแกลบ เปลือกข้าว หรือ แกลบท่ีถูกเผาไหม้เป็นถ่าน น�้าหนกั เบา อมุ้ น�้าไดด้ ี ท รายละเอยี ด ทรายทมี่ ขี นาด เล็กมากและมีความละเอียด ผา่ นการร่อนมาแลว้ ขเี้ ถ้าแกลบ ทรายละเอยี ด วัสดุตกแต่ง หินสี ตุ๊กตาประดบั เป็นวัสดุท่ี ใช้ ในการตกแต่ง ส ว น ใ ห ้ เ กิ ด ค ว า ม ส ว ย ง า ม กรวด โดดเดน่ และสะดุดตา เช่น หินสี หนิ กอ้ นเลก็ ๆ ทมี่ ีสสี ัน สวยงาม มีรปู ทรงและขนาดท่ี หลากหลาย น้�าหนักเบา กรวด หินตะกอนท่ีมีขนาด ใหญ่กว่าเม็ดทราย ผิวเรียบ มนและลน่ื ตุ๊กตาประดับ ตุ๊กตาท่ีท�า จากดินเผา หรือเซรามิก มี ขนาดเลก็ การดูแล 4๓ รักษาบ้าน กิจกรรม เสรมิ สรางคุณลักษณะอันพงึ ประสงค นักเรียนควรรู ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกันออกแบบสวน 1 วสั ดุปลูก ใชสาํ หรบั ปลูกตน ไมตางๆ เพอื่ ชวยเพ่ิมสารอาหารและบาํ รงุ ดนิ ในภาชนะตามความสนใจ 1 ประเภท ซง่ึ จะตอ งคาํ นงึ ถงึ หลกั ความ เชน ขุยมะพราว แกลบ ปยุ ตา งๆ ซงึ่ วสั ดุปลกู ควรมคี ณุ สมบัติ ดงั น้ี พอเพียง พรอมวาดภาพและระบายสีใหสวยงาม จากนั้นนําเสนอ ผลงานหนา ช้ันเรียน • ไมย บุ ตัวเมือ่ โดนน้าํ รากพืชสามารถกระจายไดท ั่วทกุ สว น • ไมม ีสารพิษเจือปน และไมเ ปนแหลงสะสมของเช้อื โรคและแมลง (กิจกรรมนี้เสริมสรางคุณลักษณะดานมีวินัย อยูอยางพอเพียง • ไมท ําปฏกิ ิรยิ ากับสารละลายธาตุอาหารของพืช และมุงมนั่ ในการทาํ งาน) 2 ขยุ มะพรา ว เปน วสั ดปุ ลกู ชนดิ หนงึ่ นาํ้ หนกั เบา อมุ นาํ้ ไดด ี และเกบ็ ความชน้ื ไดน าน นยิ มนาํ มาใชเ พอ่ื เพาะชาํ ตน ไม ในการใชง านควรนาํ ขยุ มะพรา วมาพรมนา้ํ ใหมคี วามช้นื พอเหมาะ ไมแ หง หรือเปย กมากจนเกินไป เพราะอาจทําใหตน ไม ตายได 3 ข้ีเถาแกลบ มีประโยชนม ากมาย เชน เปนวสั ดปุ รับปรุงดนิ ชว ยเพมิ่ ความ รว นซยุ เพมิ่ แรธ าตุ เปน วสั ดดุ ดู ซบั ในกระบวนการบาํ บดั นา้ํ เสยี ดดู ซบั มลพษิ ตา งๆ T47
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๙.๔ ขน้ั ตอนการจดั สวนในภาชนะ 5. ครูทบทวนความรูจากช่ัวโมงทผ่ี า นมา จากนั้น การจัดสวนในภาชนะเพื่อให้เกิดความสวยงามและต้นไม้ยังคงเจริญเติบโตงอกงามสมบูรณ์ดี กลา วเชอื่ มโยงเขา สกู จิ กรรมการเรยี นการสอน จะตอ้ งจดั สวนให้ถกู ตามขน้ั ตอน วา “กอ นทจ่ี ะทาํ การจดั สวนถาดหรือสวนแกว นน้ั นกั เรยี นควรออกแบบ หรือเขยี นแบบสวน ขัน้ ตอนการจดั สวนในภาชนะ ท่ีตอ งการกอ น จากนนั้ จัดเตรยี มวัสดุ อปุ กรณ เครื่องมือ เคร่ืองใช และควรทําความสะอาด ñ ออกแบบ หรอื ร่างแบบสวน ò เตรียมภาชนะ พรรณไม้ ó ทา� ความสะอาดภาชนะ โดย ภาชนะใหเรียบรอย เริ่มทําการจัดสวนถาด ในภาชนะท่ีต้องการ วสั ดปุ ลกู วสั ดตุ กแตง่ ใหพ้ รอ้ ม ล้างใหส้ ะอาด และผ่ึงให้แหง้ หรอื สวนแกว โดยเรียงลําดบั การวางจากดาน และเหมาะสมกับแบบสวน ลางไปดานบน จัดวางใหสวยงามเหมาะสม ตามหลักองคประกอบศิลป” กถราดะถาง/ ท�าความสะอาดภาชนะ พรรณไม้ 6. ครูใหสมาชิกแตละกลุมเตรียมวัสดุ อุปกรณ เครอ่ื งมอื เครอื่ งใชท ใี่ ชใ นการจดั สวนถาด หรอื สวนแกว ใหพ รอ ม จากนน้ั ใหน กั เรยี นแตล ะกลมุ รวมกันจัดสวนถาด หรือสวนแกวตามแบบท่ี ไดวางไว ô ภาชนะมรี รู ะบายน�้า วสั ดปุ ลกู และ หากเปน็ แกว้ ใสต้องล้าง • น�าอฐิ มอญกอ้ นเล็ก ๆ วางปิดรู วสั ดุตกแตง่ ใหส้ ะอาดและปลอ่ ยไว้ใหแ้ หง้ • ใรสอ่ดงนิกป้นลถูกา1ดดว้ ยขุยมะพร้าวชุ่มนา�้ • õ น�าพรรณไมท้ เ่ี ตรยี มไวล้ งปลกู ในภาชนะท่เี ตรียมไว้ ภาชนะไม่มีรรู 2ะบายนา้� ประดับดว้ ยวัสดุตกแตง่ รดนา้� ใหช้ ุ่ม น�าไป • ใสอ่ ฐิ มอญก้อนเล็ก ๆ ประดับ ลงในถาด ตกแต่งบ้าน • ใสข่ ีเ้ ถ้าแกลบ และดิน พรมนา�้ ใหท้ ั่ว 44 เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด ครอู าจเปด คลปิ วดิ โี อเกย่ี วกบั ขนั้ ตอนการจดั สวนในภาชนะใหน กั เรยี นดเู ปน ขอใดคือขัน้ ตอนแรกของการจดั สวนในภาชนะ ตัวอยา ง โดยสามารถเปด ไดจ าก https://www.youtube.com/watch?v=leP 1. จดั ซอ้ื วสั ดุ อปุ กรณ NPfO5AQE&index=22&list=PLjfBcpMviIyLrnUof1Fw3JF5SvaCV3CcC 2. ออกแบบสวนตามที่ตองการ 3. ประดบั ตกแตงสวนใหส วยงาม นักเรียนควรรู 4. เตรยี มภาชนะ พรรณไม วสั ดุปลูก และวสั ดุตกแตง 1 ดนิ ปลูก ดินทีน่ าํ มาใชใ นการปลกู พืช จะมคี ณุ สมบตั ทิ ่ีสําคัญ คอื รวนโปรง (วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 2. เพราะข้ันตอนแรกของการจัดสวน ระบายไดดี น้ําหนักเบา ดูดซับน้ําไดดี มีธาตุอาหารท่ีสมบูรณ ไมมีความเปน ในภาชนะ คือ การออกแบบหรือรางแบบสวนตามที่ตองการ กรดดา งมากเกนิ ไป ไมม สี ารเคมที เ่ี ปน อนั ตรายตอ พชื เนอ้ื ดนิ ยดึ เกาะลาํ ตน ไดด ี เพอื่ จะไดทราบวา สวนจะมรี ปู แบบเปน แบบใด ใชภ าชนะ พรรณไม 2 อิฐมอญ ทําจากดินเหนยี ว น้าํ ขเ้ี ถาแกลบ และทราย โดยนํามาผสมกนั วสั ดปุ ลกู และวสั ดตุ กแตง ใด) ในอตั ราสว นทเ่ี หมาะสม นวดผสมใหเปนเนอื้ เดียวกัน แลว ใสแบบพมิ พอ ัดเปน กอนส่ีเหลี่ยมตามขนาดที่ตองการ ทิ้งไวใหแหง จากน้ันนําไปเผาจนสุกก็จะได อฐิ มอญตามท่ีตอ งการ T48
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๙.๕ การดูแลรกั ษาสวนในภาชนะ ขน้ั สอน สวนในภาชนะจะมีความสวยงามและเจริญเติบโตได้ดีน้ัน จะต้องมีการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ซง่ึ วธิ ีการดูแลรกั ษาสวนในภาชนะ มดี งั นี้ 7. ครูอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกับการดูแลรักษา ๑. สวนชนื้ ควรวางไว ้ในทร่ี ม่ หรอื บรเิ วณทม่ี แี สงแดดรา� ไร สวนแหง้ ควรวางไว ้ในทอี่ ากาศ สวนถาด หรอื สวนแกว วา “เมอื่ นกั เรยี นจดั สวน ถ่ายเทไดส้ ะดวก เสร็จเรียบรอยแลว ควรนําสวนถาด หรือ ๒. สวนชื้นควรให้น�้าแบบฉดี พ่นฝอยอยา่ งนอ้ ย ๑ ครัง้ ต่อวนั สวนแหง้ ควรใหน้ า้� แบบฉีด สวนแกว ไปจดั และตกแตง หอ งตา งๆ ภายในบา น พน่ จนใบเปยกชื้นชมุ่ สัปดาห์ละ ๑ ครั้ง และควรใหน้ ้า� ในปรมิ าณทเ่ี หมาะสม ไมม่ าก หรือนอ้ ยจน ของนักเรียนใหสวยงาม แตสิ่งสําคัญที่ตอง เกินไป คํานึงถึง คือ ตองหม่ันดูแลรักษา เพื่อไมให ๓. หากพบตน้ ไม้ทเ่ี ปน็ โรคใหน้ า� ออกทนั ที เพ่อื ปอ้ งกันการลุกลามไปยงั ต้นอ่ืน ๆ ตนไมเห่ียวเฉา ดังน้ัน ควรรดน้ําตนไมและ ๔. ควรตัดแต่งต้นไม้ ให้ได้รูปทรงท่ีสวยงามอยู่เสมอ ในกรณีท่ีต้นไม้แตกก่ิงก้านยาว ใหแสงแดดตามความเหมาะสมของชนิดพืช ผดิ รปู ทรง และใชยากันเช้ือราฉีดปองกันโรคพืชและ แมลงดวย” การดแู ลรกั ษาสวนในภาชนะ ควรดูแลรักษาให้ถูกวิธี เพ่อื ให้สวนในภาชนะคงความสวยงามอยเู่ สมอ การทา� ความสะอาดบา้ น จัดตกแตง่ บา้ นและบรเิ วณบ้าน เป็นหน้าที่ของสมาชกิ ในบา้ นทกุ คนทจ่ี ะตอ้ งชว่ ยกนั ดแู ลและตกแตง่ ใหส้ วยงามอยเู่ สมอ โดยคา� นงึ ถงึ ความปลอดภยั ความเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย และความประหยัด นอกจากน้ี การรูจ้ กั จัดและตกแตง่ สวน ในภาชนะยงั เปน็ สว่ นหนงึ่ ทที่ า� ใหบ้ า้ นสวยงาม นา่ อยอู่ าศยั และสามารถสรา้ งความประทบั ใจ ให้แก่ผ้มู าเยย่ี มเยยี นไดอ้ กี ด้วย การดูแล 45 รักษาบ้าน กิจกรรม Mini Project แนวทางการวัดและประเมินผล ใหน ักเรยี นปฏิบตั กิ จิ กรรม ดังน้ี ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคลและการนําเสนอผลงาน 1. เลอื กหองที่ตอ งการตกแตงตามความสนใจ 1 หอ ง หนาช้ันเรียนของนักเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลท่ีแนบมา 2. ทาํ ความสะอาดหองทเี่ ลือกโดยปฏิบตั ติ าม ดังน้ี ทา ยแผนการจัดการเรียนรู หนว ยการเรยี นรทู ่ี 2 2.1 สงิ่ ท่ีตอ งการทาํ ความสะอาดมสี ง่ิ ใดบาง แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบประเมินการนาเสนอผลงาน 2.2 อปุ กรณทใ่ี ชในการทําความสะอาดมีสง่ิ ใดบา ง 2.3 มกี ารวางแผนการทํางานอยา งไร คาชแี้ จง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องที่ คาชี้แจง : ให้ผสู้ อนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขดี ลงในช่องที่ 3. จัดและตกแตง หอ งตามทีต่ องการ โดยปฏบิ ัติตาม ดงั นี้ ตรงกับระดับคะแนน ตรงกับระดบั คะแนน 3.1 ออกแบบหองตามความคดิ สรางสรรคแ ละจนิ ตนาการ 3.2 เลอื กเคร่อื งเรอื นท่ีนํามาใชในการจัดและตกแตงหอ ง ลาดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 4. จัดสวนในภาชนะเพ่อื นาํ ไปตกแตงหอง โดยปฏิบัตติ าม ดงั น้ี 321 32 4.1 ออกแบบสวนตามความคิดสรางสรรคแ ละจินตนาการ 4.2 เลือกภาชนะ พรรณไม วัสดุปลูก และวสั ดตุ กแตง 1 การแสดงความคดิ เห็น 1 ความถูกตอ้ งของเนอื้ หา 5. ประเมินผลการปฏิบตั งิ าน พรอมทงั้ ระบปุ ญหาในการทาํ งาน 2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผู้อืน่ และเสนอแนะแนวทางแกไข 3 การทางานตามหน้าท่ีทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 2 การลาดบั ขั้นตอนของเรื่อง 4 ความมนี า้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงานอยา่ งสร้างสรรค์ 4 การใชเ้ ทคโนโลยใี นการนาเสนอ 5 การมีสว่ นรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม รวม รวม ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมิน ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................ ............/................./................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 12 - 15 ดี 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 8 - 11 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรับปรงุ ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ T49
นาํ สอน สรุป ประเมนิ ขน้ั สรปุ กจิ กÊรรราé ÁงÊรร¤ì¾ั²นาการเรÂÕ นรéÙ ๒.1 ใบมอบหมายงานที่ ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเก่ียวกับ การจดั สวนในภาชนะ เพื่อนํามาใชในการจัดและ เรื่อง อปØ กร³อíานǤÇาÁÊะดÇกในการ·าí งานบา้ น ตกแตง หอ งตา งๆ ภายในบา นวา “การจดั สวนถาด หรอื สวนแกว เปน การจาํ ลองทวิ ทศั นท างธรรมชาติ คา� ชี้แจง ปฏบิ ตั ิงานเปน็ กลมุ่ ระดมสมอง วิเคราะห์ และเขียนคา� ตอบตามหวั ข้อท่กี �าหนด ใหมขี นาดเล็กลง ซึง่ ขอดี คอื สามารถเคล่อื นยาย ๑. เ พราะเหตุใดการเลือกใช้อุปกรณ์อ�านวยความสะดวกในการท�างานบ้านจึงต้องพิจารณาถึง ไดอ ยา งสะดวก และมคี วามสวยงาม ใหค วามรสู กึ สดช่ืน ผอนคลาย นอกจากนี้การจัดสวนถาด ส่ิงต่อไปน้ี หรือสวนแกว ยังชวยใหเกิดสมาธิในการทํางาน • ความปลอดภยั ในการทา� งาน มีความอดทนเกิดความเพลิดเพลิน สามารถทํา • การประหยดั เวลา แรงงาน และค่าใชจ้ ่ายในครอบครวั เปนงานอดิเรกหรอื สรางเปนรายได เม่อื นาํ ไปจดั • การท�างานสะดวกสบาย และตกแตงหองตางๆ ภายในบานจะทําใหบาน • ไมท่ า� ลายส่ิงแวดลอ้ ม มคี วามสวยงามและนาอยอู าศยั มากขึ้น” ๒. ส ภาพปัญหาของงานบ้านต่อไปน้ี ควรใช้วิธีการใด ใช้เคร่ืองอ�านวยความสะดวกชนิดใด ในการท�างาน และจดั เก็บเครื่องอา� นวยความสะดวกหลงั การใช้งานอยา่ งไร • ฝนุ่ บนพน้ื บ้าน • โตะ๊ เก้าอี ้ ขอบหนา้ ต่าง ม่ลู ่ี มีฝุน่ หนา • ใบไม้เกล่ือนสนามหญา้ • หยากไยบ่ นเพดาน • พืน้ ไม ้ พื้นซเี มนต ์ พ้ืนหนิ ขดั สกปรกมาก ๓. การท�างานบ้านเพอ่ื ใหเ้ กิดความปลอดภยั ต่อตนเองและคนรอบข้าง ควรปฏบิ ตั ิอย่างไร ๔. การทา� งานบ้านเพือ่ ใหเ้ กิดความปลอดภยั และส�าเรจ็ ในเรือ่ งต่อไปน ี้ ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร • การใช้อุปกรณเ์ คร่อื งอา� นวยความสะดวกในการท�างาน • การใช้สารซกั ฟอกและสารเคมี • การปฏบิ ตั ิงาน 46 เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคิด ครคู วรแนะนํานกั เรียนวา การทําความสะอาดอุปกรณ เครอื่ งมือ เครอื่ งใช ขอใดเปน วธิ ีการทาํ ความสะอาดพ้นื ไมท่ีถูกตอง และเครื่องเรือนตางๆ บางชนดิ ไมจําเปนตอ งใชส ารเคมีในการทาํ ความสะอาด 1. กวาดพื้นดว ยไมกวาดดอกหญา ขดั พนื้ ดว ยแปรงลวด เสมอไป แตสามารถนําวัตถุดิบจากธรรมชาติมาใชทดแทนได เชน การใช 2. กวาดพื้นดว ยไมก วาดเสี้ยนตาล ขดั พ้ืนดว ยแปรงขัด มะกรดู แทนนา้ํ ยาดบั กลน่ิ ในหอ งนาํ้ การใชม ะขามเปย กขดั เครอ่ื งทองเหลอื งและ 3. กวาดพื้นดวยไมกวาดดอกหญา ถพู น้ื ดวยไมถพู ื้นเสน ฝา ย เครื่องเงนิ 4. กวาดพ้ืนดวยไมกวาดเส้ียนตาล ลางพื้นดวยน้ํายาทําความ สะอาด (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการทําความสะอาดพ้ืนไม ทถี่ กู ตอ ง ควรเรม่ิ ตน จากใชไ มก วาดดอกหญา กวาดฝนุ ละอองออก ใหห มด แลว ใชไ มถ พู นื้ เสน ฝา ยชบุ นาํ้ บดิ หมาดๆ ถใู หท ว่ั จนสะอาด แลว ถดู วยน้ํายาถพู ้นื อกี ครั้งเพ่ือฆา เช้อื โรค) T50
นาํ สอน สรุป ประเมนิ ๒.๒ใบมอบหมายงานที่ ขนั้ สรปุ เรอ่ื ง การปฏบิ ัติงานบา้ น ขั้นนําเสนอผลงาน ค�าช้แี จง ใบมอบหมายงานมี ๒ ตอน ให้นกั เรียนปฏิบตั งิ านเป็นรายบคุ คล 1. ครใู หนักเรียนทาํ ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) ตอนที่ ๑ การวางแผนทา� งานบา้ น กิจกรรม Cleaning home ๑. วางแผนท�างานบา้ นตามภาระงานของตนเองและตามขั้นตอนการวางแผน ดงั นี้ • วิเคราะห์ภาระงานท่ตี นเองได้รบั มอบหมาย 2. ครใู หนักเรยี นทําแบบทดสอบหลังเรียน • วเิ คราะห์กจิ วตั รประจ�าวนั ของตนเอง หนวยการเรยี นรูท ี่ 2 • วางแผนท�างานบ้านในวันธรรมดาและวันเสาร์-วันอาทิตย์ 3. ครใู หนักเรียนทําแบบวัดฯ ๒. ก ารวางแผนท�างานบ้านจะใชร้ ปู แบบทม่ี อี ยู่ในหนงั สือเรยี น หรอื จะใช้รูปแบบอื่น ๆ ก็ได้ตาม หนวยการเรียนรูท ่ี 2 ความเหมาะสม ตอนท่ี ๒ การปฏบิ ัติงานบา้ นตามแผนการท�างาน ๑. การปฏบิ ัตงิ านนี ้ เป็นการฝกึ ลกั ษณะนสิ ัยของนักเรยี นใหท้ า� งานอยา่ งเป็นระบบ มีคณุ ธรรม และมคี วามรับผิดชอบต่อการท�างาน ดังนั้น จึงควรปฏบิ ัตติ ามขอ้ กา� หนดอย่างเคร่งครดั ๒. บนั ทกึ ภาพขณะทา� งาน (ถา้ ม)ี แนบมาในแบบรายงานกจ็ ะทา� ใหร้ ายงานมคี วามสมบรู ณย์ งิ่ ขน้ึ ๓. ปฏบิ ตั ิตามแผนท่ีไดว้ างไว้ ในตอนที ่ ๑ ดังน้ี • ปฏบิ ตั ิตามแผนท่ีได้วางไว้เปน็ ระยะเวลา ๑ สปั ดาห์ • ให้ผ้ปู กครองแสดงความคดิ เห็นพร้อมลงลายมือช่ือ • ประเมนิ ผลการท�างานของตนเองทกุ สปั ดาห์ • บนั ทกึ ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก ้ไขเกย่ี วกบั การวางแผนงาน หรอื การปฏบิ ตั งิ านทกุ ครง้ั • รายงานผลการทา� งาน โดยนา� สง่ ครผู สู้ อนตามรปู แบบตวั อยา่ ง หรอื รปู แบบอน่ื ๆ ทเ่ี หมาะสม • แนบตารางการท�างานบา้ นประจ�าวนั ทว่ี างแผนมาด้วยทุกครงั้ การดูแล 4๗ รักษาบ้าน กจิ กรรม สรางเสริม แนวทางการวัดและประเมินผล ใหนักเรียนสรุปข้ันตอนการวางแผนการทํางาน และอธิบาย ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคลและการนําเสนอผลงาน ประโยชนข องการวางแผนลงในกระดาษ A4 แลวนําสงครูผูส อน หนาช้ันเรียนของนักเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลท่ีแนบมา ทา ยแผนการจัดการเรยี นรู หนว ยการเรียนรทู ี่ 2 กจิ กรรม ทา ทาย แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ใหนักเรียนวางแผนการเรียน หรือการทํางานของตนเองใน แตละวัน โดยจดั ทําเปนตารางอยา งนอ ย 2 สปั ดาห จากน้ันปฏบิ ัติ คาชีแ้ จง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ งท่ี คาช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขีด ลงในชอ่ งที่ ตามแผนทไ่ี ดว างไว ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ าน พรอ มทงั้ ระบปุ ญ หา ตรงกบั ระดับคะแนน ตรงกับระดับคะแนน หรอื อุปสรรคท่พี บและแนวทางการแกไ ข แลวนําสงครูผสู อน ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 321 32 1 การแสดงความคิดเหน็ 1 ความถกู ตอ้ งของเนอื้ หา 2 การยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผอู้ ่นื 3 การทางานตามหน้าที่ท่ีไดร้ ับมอบหมาย 2 การลาดบั ขัน้ ตอนของเร่ือง 4 ความมีนา้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงานอยา่ งสร้างสรรค์ 4 การใชเ้ ทคโนโลยีในการนาเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลมุ่ รวม รวม ลงชอ่ื ...................................................ผูป้ ระเมิน ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ............../.................../................ ............/................./................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางสว่ น ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ T51
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ขนั้ ประเมนิ ๒.๓ใบมอบหมายงานที่ 1. ครูตรวจสอบความรู ความเขา ใจของนักเรยี น เร่ือง การจดั และตกแต่งห้องตา่ ง ๆ ในบ้าน จากการตอบคําถาม การทํางานกลุม และ การนาํ เสนอผลงาน คา� ชแี้ จง ๑. ปฏบิ ตั ิงานเป็นรายบคุ คล ๒. ก ารปฏบิ ตั งิ านน ี้ เปน็ การฝกึ ใหน้ กั เรยี นมลี กั ษณะนสิ ยั ในการทา� งานอยา่ งเปน็ ระบบและมคี วาม 2. ครูตรวจสอบใบงานและกิจกรรมสรางสรรค รบั ผดิ ชอบ พฒั นาการเรียนรู ๓. ค วรบันทึกภาพก่อนและหลังการปฏิบัติ (ถ้ามี) เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของตนเอง และน�าภาพมาใชป้ ระกอบการจดั ทา� รายงาน ๔. ว ิเคราะห์ขั้นตอนการจัดและตกแต่งห้องตามกระบวนการของงาน และให้ปฏิบัติกิจกรรม ตามขน้ั ตอนทก่ี า� หนดให้ ดังนี้ ๔.๑ ศึกษาเร่อื งการจัดและตกแตง่ ห้องต่าง ๆ ในบทเรียน ๔.๒ เลอื กแหล่งข้อมูลทีศ่ กึ ษาหาความรู้เพ่ิมเติม ๔.๓ ตดิ ภาพหอ้ งทป่ี ระทบั ใจลงในกระดาษและบรรยายความประทบั ใจใตภ้ าพ ๔.๔ จ ดั และตกแตง่ หอ้ งในบา้ นของตนเอง ๑ หอ้ ง โดยศกึ ษาหลกั การจากบทเรยี น แหลง่ ขอ้ มลู ที่ศกึ ษาความรู้เพมิ่ เตมิ หรอื ปรกึ ษาผรู้ ู ้ และกา� หนดรายละเอยี ดของงาน ดังนี้ • ชอ่ื ของหอ้ งทตี่ กแตง่ • บันทึกภาพกอ่ นและหลังการปฏบิ ตั งิ าน (ถา้ มี) • เคร่อื งเรือนที่มีในบา้ นท่เี ลือกใช้ • หลกั การจัดวางเครื่องเรือน • หลักการจัดเกบ็ สิ่งของ • ขน้ั ตอนการปฏิบัติงาน • วธิ ีการปฏบิ ัตงิ านแตล่ ะข้ันตอน • ผู้ ใหค้ า� ปรึกษาแนะนา� • ชื่อผู้ปกครองที่ประเมิน • ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ ไข • ความพงึ พอใจในผลส�าเร็จของงาน 4๘ เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคิด ครูอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกับการจัดและตกแตงหองใหสวยงามใหนักเรียน ขอ ใดคอื การจดั และตกแตง หอ งรบั ประทานอาหารไดอ ยา งเหมาะสม ฟงวา การจัดและตกแตงหองใหสวยงาม ไมจําเปนตองใชเฟอรนิเจอร 1. มีถังขยะท่ีมดิ ชิดวางไวห ลังหอ ง หรือเครื่องเรือนที่มีราคาแพง ซึ่งนักเรียนสามารถนําของท่ีไมใชแลวแตยังคง 2. จดั วางโตะ เขยี นหนงั สอื ไวท ี่มมุ หอง สภาพดีมาดัดแปลงใหเปนของตกแตงบานท่ีดูแปลกใหม ไมเหมือนใคร เชน 3. หาภาพเกยี่ วกับอาหารมาแขวนไวท่ผี นังหอ ง การนาํ เกา อต้ี วั เกา ทอี่ าจดไู มส วยงามมาทาสใี หมใ หด ดู ขี น้ึ หรอื นาํ แผน ไมท ถ่ี กู ทงิ้ 4. จัดหาหนังสอื นติ ยสารวางไวที่โตะรับประทานอาหาร แตอ ยูใ นสภาพดีมาตกแตง ผนงั หอ ง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการจัดและตกแตงหอง สื่อ Digital รบั ประทานอาหารใหส วยงามและมคี วามเหมาะสมนนั้ ควรหาภาพ เกยี่ วกบั อาหาร เชน ภาพผกั และผลไม ภาพเครอื่ งดมื่ ตา งๆ มาแขวน ศึกษาเพิ่มเติมเกีย่ วกบั การตกแตง บา นจากวัสดุเหลือใช ไดจาก ไวท่ีผนังหอง เพ่ือเสริมสรางบรรยากาศท่ีดีในการรับประทาน https://www.homify.co.th/ideabooks/2335905/21- อาหาร) T52
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๒.4ใบมอบหมายงานท่ี ขน้ั ประเมนิ เรื่อง การจดั ÊÇนในÀาªนะ 3. ครตู รวจสอบจากชน้ิ งานจากกจิ กรรม Cleaning home ค�าชแี้ จง ๑. ปฏบิ ตั ิงานเป็นกลุม่ ๒. ก ารปฏบิ ตั งิ านน ้ี เปน็ การฝกึ ใหน้ กั เรยี นทา� งานเปน็ กลมุ่ ฝกึ การทา� งานอยา่ งเปน็ ระบบรว่ มกนั 4. ครูตรวจสอบแบบทดสอบหลังเรียน หนวย และฝึกการแกป้ ัญหา การเรียนรูที่ 2 ๓. ปฏิบตั กิ ารจัดสวนในภาชนะ โดยปฏิบัตติ ามขั้นตอนทก่ี �าหนดให ้ ดงั นี้ 5. ครตู รวจสอบแบบวัดฯ หนวยการเรยี นรทู ี่ 2 ขั้นท ่ี ๑ การสังเกต เพ่ือรวบรวมข้อมลู ว่าจะจดั สวนในภาชนะอย่างไร ขัน้ ท ่ี ๒ การวเิ คราะหเ์ กี่ยวกับรปู แบบการจดั ภาชนะ เครื่องมือและวัสดุปลกู พรรณไม้ ที่นยิ มน�ามาจัดสวนในภาชนะ ขั้นท ่ี ๓ การสรา้ งทางเลอื กถึงรปู แบบ วัสด ุ อปุ กรณ์ และพรรณไม้ ขั้นท ี่ ๔ การประเมนิ ทางเลอื ก เพ่ือเลือกรปู แบบ วัสด ุ อปุ กรณ ์ พรรณไม้ และค่าใชจ้ ่าย ข้นั ท่ี ๕ ก ารวางแผนเพื่อการท�างาน โดยเขียนปฏิทินการปฏิบัติงานและก�าหนดช่วงเวลา ในการปฏิบตั ิงาน ขนั้ ท ่ี ๖ การลงมอื ปฏบิ ตั ิงาน ออกแบบ เขยี นแบบ และลงมอื ปฏบิ ัตกิ ารจดั สวนในภาชนะ ขั้นที่ ๗ การประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานวา่ บรรลุวัตถปุ ระสงค์ตามทก่ี �าหนดไวห้ รอื ไม่ ๔. น�าผลงานทจ่ี ัดเสรจ็ เรยี บร้อยแล้วไปจดั และตกแต่งห้องตา่ ง ๆ ในโรงเรียน หรือในบา้ น การดูแล 4๙ รักษาบ้าน ขอ สอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู พรรณไมในขอ ใดเหมาะสําหรับนาํ มาใชใ นการจัดสวนในภาชนะ ครูอาจใหนักเรียนวิเคราะหวา นักเรียนสามารถนําความรูเก่ียวกับการ 1. ไมยืนตน ไมผ ล จดั สวนในภาชนะไปประยกุ ตใ ชใ นชวี ติ ประจาํ วนั เรอ่ื งใดไดบ า ง เชน การปลกู และ 2. ไมย ืนตน ไมเ ลื้อย การดแู ลรักษาตน ไมที่บาน หรือโรงเรียน ศิลปะการจดั วาง เทคนคิ การตกแตง 3. ไมอ วบนํา้ ไมจําพวกกระบองเพชร 4. ไมประดบั ไมจําพวกกระบองเพชร (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะภาชนะท่ีใชจัดสวนมี ขนาดเล็ก พรรณไมท่ีนํามาใชจึงตองเปนพรรณไมท่ีมีขนาดเล็ก ทนตอสภาพแหงแลงไดดีและมีความทนทาน ซ่ึงก็คือ ประเภท ไมอ วบน้าํ และไมจ ําพวกกระบองเพชร) T53
Chapter Overview แผนการจดั สอ่ื ที่ใช้ จุดประสงค์ วธิ สี อน ประเมนิ ทักษะท่ีได้ คณุ ลักษณะ การเรียนรู้ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 - ห นงั สอื เรียน 1. อ ธิบายประโยชน์ของ กระบวนการ - ตรวจแบบทดสอบ - ท ักษะการคดิ - รกั ชาติ ศาสน์ อาหารและ การงานอาชีพและ อาหารท่ีมีต่อรา่ งกาย สรา้ งความ กอ่ นเรียน วิเคราะห์ กษัตริย์ โภชนาการ เทคโนโลยี ม.1 ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ตระหนกั - ตรวจใบงานที่ 3.1.1 - ทักษะ - ซื่อสตั ยส์ ุจริต ท่มี ีตอ่ สขุ ภาพ - แบบวัดและบันทกึ ผล 2. อ ธบิ ายหลักการเลอื ก กระบวนการคดิ - ม วี ินยั การเรยี นรู้ บรโิ ภคอาหารไดอ้ ยา่ ง - สงั เกตพฤติกรรม ตัดสนิ ใจ - ใฝเ่ รยี นรู้ 1 การงานอาชีพและ ถกู ตอ้ ง การท�ำงานรายบคุ คล - ท ักษะการ - อย่อู ย่าง เทคโนโลยี ม.1 3. เขยี นจ�ำแนกอาหาร - สงั เกตพฤติกรรม ประยกุ ต ์ใ ชค้ วามรู้ พอเพยี ง ชวั่ โมง - แ บบทดสอบก่อนเรยี น ตามหลักโภชนาการ การทำ� งานกลุ่ม - ม ุ่งมัน่ ในการ - ป ระเมินคณุ ลักษณะ - PowerPoint อาหาร 5 หมูไ่ ด้อย่าง อันพงึ ประสงค์ ทำ� งาน ถูกต้อง - รักความ 4. เห็นความสำ� คัญของ เป็นไทย การบริโภคอาหารตาม - มจี ติ สาธารณะ หลกั โภชนาการ แผนฯ ท่ี 2 - หนังสอื เรียน 1. อธิบายหลักการเลอื ก การสบื เสาะ - ต รวจใบงานที่ 3.2.1 - ท ักษะการคิด - รกั ชาติ ศาสน์ การเลอื กซอ้ื การงานอาชีพและ ซือ้ อาหารได้อยา่ ง หาความรู้ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน วิเคราะห์ กษัตรยิ ์ อาหาร เทคโนโลยี ม.1 ถกู ต้อง (5Es) - สังเกตพฤติกรรม - ทกั ษะการประยกุ ต์ - ซ่อื สัตยส์ ุจริต - แ บบวัดและบนั ทึกผล 2. สบื คน้ ข้อมลู การเลือก การทำ� งานรายบุคคล ใชค้ วามรู้ - ม วี นิ ัย 2 การเรยี นรู้ ซอ้ื อาหารไดอ้ ย่าง - ส ังเกตพฤติกรรม - ทักษะการ - ใฝเ่ รียนรู้ การงานอาชพี และ ถูกตอ้ ง การท�ำงานกลุม่ แกป้ ญั หา - อ ย่อู ย่าง ช่ัวโมง เทคโนโลยี ม.1 3. เหน็ ประโยชนข์ องการ - ป ระเมนิ คณุ ลักษณะ - ท กั ษะ พอเพียง - PowerPoint เลอื กซ้อื อาหารได้อย่าง อันพึงประสงค์ กระบวนการคดิ - มงุ่ ม่ันในการ ถกู ตอ้ ง ตัดสินใจ ทำ� งาน - รักความ เป็นไทย - มจี ติ สาธารณะ แผนฯ ที่ 3 - หนงั สอื เรยี น 1. อ ธิบายหลกั การเลือก การเรยี นรู้ - ต รวจใบงานท่ี 3.3.1 - ทักษะการคดิ - รักชาติ ศาสน์ อุปกรณ์ การงานอาชีพและ เคร่อื งมือเครือ่ งใช้ แบบร่วมมอื - ป ระเมินการนำ� เสนอผลงาน วเิ คราะห์ กษัตรยิ ์ เคร่อื งมอื เทคโนโลยี ม.1 และความปลอดภยั ใน เทคนคิ - สงั เกตพฤตกิ รรม - ทกั ษะการประยกุ ต์ - ซือ่ สตั ยส์ ุจริต เคร่ืองใช้ ในการ - แ บบวดั และบันทึกผล การประกอบอาหาร jigsaw การทำ� งานรายบุคคล ใชค้ วามรู้ - มวี ินัย ประกอบอาหาร การเรยี นรู้ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง - สงั เกตพฤตกิ รรม - ท กั ษะ - ใฝเ่ รียนรู้ การงานอาชีพและ 2. อ ธิบายหลักความ การทำ� งานกลุ่ม กระบวนการคิด - อ ยอู่ ย่าง 2 เทคโนโลยี ม.1 ปลอดภัยในการ - ประเมนิ คุณลกั ษณะ ตดั สินใจ พอเพียง - PowerPoint ประกอบอาหาร อันพึงประสงค์ - ทกั ษะการ - ม งุ่ ม่นั ในการ ชั่วโมง ได้อย่างถูกต้อง แกป้ ญั หา ทำ� งาน 3. สืบคน้ ข้อมูลเกีย่ วกับ - รักความ หลกั การดูแลรักษา เปน็ ไทย เครอ่ื งมือเครอ่ื งใช้ ใน - ม จี ติ สาธารณะ การประกอบอาหารได้ 4. เขยี นวิธีการใช้และการ เกบ็ รักษาเครอื่ งมือ เครอ่ื งใช้ ในการ ประกอบอาหารไดอ้ ยา่ ง ถูกต้อง T54
แผนการจดั สอื่ ที่ใช้ จดุ ประสงค์ วธิ ีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คณุ ลกั ษณะ การเรียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ แผนฯ ท่ี 4 - หนงั สอื เรยี น 1. อ ธบิ ายหลกั การเตรียม การสบื เสาะ - ตรวจใบงานท่ี 3.4.1 - ทักษะชวี ิต - รกั ชาติ ศาสน์ การเตรียม การงานอาชีพและ วัตถุดบิ ก่อนประกอบ หาความรู้ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - ทกั ษะการคิด กษัตริย์ วัตถดุ บิ เทคโนโลยี ม.1 อาหารได้ (5Es) - สงั เกตพฤตกิ รรม วเิ คราะห์ - ซ อ่ื สตั ย์สุจริต และการประกอบ - แบบวดั และบันทึกผล 2. ป ระกอบอาหารตาม การท�ำงานรายบุคคล - ทกั ษะการ - มีวนิ ัย อาหาร การเรยี นรู้ กระบวนการท�ำงาน - สงั เกตพฤตกิ รรม ประยกุ ต ์ใ ชค้ วามรู้ - ใฝ่เรยี นรู้ การงานอาชีพและ อยา่ งทีไ่ ด้วางแผน การท�ำงานกลุม่ - ท กั ษะ - อ ยู่อย่าง 2 เทคโนโลยี ม.1 3. ม ีความรบั ผดิ ชอบ - ป ระเมนิ คณุ ลกั ษณะ กระบวนการคดิ พอเพียง - แบบทดสอบก่อนเรยี น ในการเตรยี มวตั ถุดบิ อันพึงประสงค์ ตดั สนิ ใจ - ม ุ่งมน่ั ในการ ชัว่ โมง - PowerPoint ก่อนประกอบอาหารได้ - ท กั ษะการ ทำ� งาน แกป้ ญั หา - รกั ความ เปน็ ไทย - มจี ติ สาธารณะ แผนฯ ท่ี 5 - ห นงั สอื เรยี น 1. บอกวธิ ีการจัดและ การสอน - ตรวจใบงานที่ 3.5.1 - ทกั ษะชวี ิต - รกั ชาติ ศาสน์ การจดั ตกแต่ง การงานอาชีพและ ตกแตง่ อาหารไดอ้ ยา่ ง แบบสาธติ - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน - ทักษะการคิด กษัตริย์ และบรกิ าร เทคโนโลยี ม.1 สวยงามและเหมาะสม - สงั เกตพฤตกิ รรม วิเคราะห์ - ซ ่อื สตั ยส์ จุ ริต อาหาร - แบบวัดและบนั ทกึ ผล การท�ำงานรายบคุ คล - ท ักษะการ - มีวนิ ยั การเรียนรู้ 2. ป ฏิบตั กิ ารจดั ตกแต่ง - สังเกตพฤตกิ รรม ประยกุ ต ์ใ ชค้ วามรู้ - ใฝเ่ รียนรู้ 1 การงานอาชีพและ อาหารได้อยา่ งสวยงาม การท�ำงานกลุม่ - ท กั ษะ - อยอู่ ยา่ ง เทคโนโลยี ม.1 และเหมาะสม - ประเมินคณุ ลกั ษณะ กระบวนการคดิ พอเพียง ชว่ั โมง - PowerPoint อันพงึ ประสงค์ ตัดสินใจ - ม่งุ มัน่ ในการ 3. เห็นความสำ� คญั และ - ท กั ษะการ ท�ำงาน ประโยชนเ์ กี่ยวกบั การ แก้ปัญหา - รักความ บริการอาหาร เปน็ ไทย - ม จี ติ สาธารณะ แผนฯ ที่ 6 - ห นงั สอื เรยี น 1. อธิบายความหมาย กระบวนการ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - ทกั ษะชีวติ - รักชาติ ศาสน์ การแปรรูป การงานอาชีพและ ของการแปรรปู ผลผลิต ปฏบิ ตั ิ - สังเกตพฤติกรรม - ท กั ษะการ กษตั รยิ ์ ผลผลติ เทคโนโลยี ม.1 ทางการเกษตรไดอ้ ย่าง การท�ำงานกลุม่ แก้ปญั หา - ซอ่ื สตั ยส์ ุจริต ทางการเกษตร - แ บบวัดและบันทึกผล ถกู ตอ้ ง - ป ระเมนิ คณุ ลกั ษณะ - มวี ินัย การเรียนรู้ 2. บอกข้ันตอนการ อนั พงึ ประสงค์ - ใฝ่เรยี นรู้ 2 การงานอาชีพและ แปรรปู ผลผลิตทางการ - ต รวจแบบทดสอบ - อ ยู่อย่าง เทคโนโลยี ม.1 เกษตรได้อยา่ งถกู ต้อง หลังเรยี น พอเพยี ง ชวั่ โมง - PowerPoint 3. แ ปรรปู ผลผลติ ทางการ - ประเมนิ ชิ้นงาน/ - มุ่งมน่ั ในการ เกษตรตามขนั้ ตอน ภาระงาน (รวบยอด) ทำ� งาน ท่ไี ดว้ างแผนไว้ การจดั นทิ รรศการ - รกั ความ อยา่ งถูกตอ้ ง อาหาร เร่อื ง อาหารกบั เปน็ ไทย 4. เหน็ ถงึ ประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั การดำ� รงชีวิต - มจี ติ สาธารณะ จากการแปรรปู ผลผลิต ทางการเกษตร T55
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ (กระบวนการสรางความตระหนัก) หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1. ครูถามกระตนุ ความสนใจของนกั เรียนวา ๓ อากหาารรดา� รงชวี ติกบั • เพราะเหตุใดเราจึงตอ งรับประทานอาหาร (แนวตอบ เพราะอาหาร คือ ปจ จยั สี่ที่สาํ คัญ อาหารเปน็ สิ่งจา� เปน็ ส�าหรับทกุ คน การมนี สิ ัยบรโิ ภคท่ีดจี ะสง่ ผลดตี อ่ สขุ ภาพ ดังนัน้ สมาชกิ ตอการดํารงชีวิต ใหพลังงานและความ อบอุนแกรางกาย อีกท้ังยังเสริมสรางระบบ ในครอบครวั จงึ ควรรว่ มกนั ดแู ลเรอื่ งอาหาร โดยการจดั เมนอู าหารทม่ี คี ณุ คา่ ทางโภชนาการสงู ตางๆ และซอมแซมอวยั วะสวนที่สกึ หรอให รู้จักเลือกซื้ออาหารท่ีสดใหม่ และฝึกเตรียมประกอบ จัด ตกแต่ง และบริการอาหารให้แก่ กลบั คงสภาพด)ี สมาชกิ ในครอบครวั 2. ครูขออาสาสมัครนักเรียน 3-4 คน เพ่ือตอบ ตัวชวี้ ดั คําถามวา • หากตองการประกอบอาหารเพ่ือใหไดสาร ■ วเิ คราะห์ขน้ั ตอนการทาำ งานตามกระบวนการทาำ งาน (ง ๑.๑ ม.๑/๑) อาหารครบถวนใน 1 จาน นักเรียนจะเลอื ก ■ ใช้กระบวนการกลมุ่ ในการทาำ งานดว้ ยความเสียสละ (ง ๑.๑ ม.๑/๒) ประกอบอาหารเมนูใด เพราะเหตุใด ■ ตัดสนิ ใจแกป้ ัญหาการทาำ งานอย่างมเี หตุผล (ง ๑.๑ ม.๑/๓) (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) ขนั้ สอน ขนั้ ที่ 1 สงั เกต 1. ครูใหนักเรียนดูคลิปวิดีโอผูท่ีขาดสารอาหาร จากนน้ั ครถู ามกระตนุ ความสนใจของนกั เรยี นวา • นักเรียนมีความคิดเห็นอยางไรตอผูที่ขาด สารอาหาร (แนวตอบ ผูที่ขาดสารอาหารจะเสี่ยงตอ การเปนโรคตางๆ เชน โรคสมองเสื่อม โรคกระดกู ออ น โรคนวิ่ ในกระเพาะปส สาวะ โรคปญญาออนอยางถาวร โรคคอพอก โรคโลหติ จาง โรคเกลด็ กระดขี่ นึ้ ตา โรคเหนบ็ ชา โรคปากนกกระจอก โรคลกั ปด ลกั เปด อกี ทงั้ ยังสงผลตอปญหาทางกายและปญหาทาง อารมณ และจติ ใจอีกดวย) เกร็ดแนะครู ครคู วรจดั กิจกรรมการเรยี นรแู บบเนน ทักษะกระบวนการ เพ่ือใหนักเรยี นสามารถเลือกวตั ถุดิบ เตรยี มวตั ถดุ บิ เพอื่ นาํ มาประกอบ จดั ตกแตง บริการอาหาร และแปรรูปอาหารได โดยสามารถจดั กจิ กรรมได ดังนี้ • ใหน ักเรยี นแบง กลมุ เพ่ือประกอบ จดั ตกแตง บรกิ ารอาหาร และแปรรปู อาหาร • ใหนกั เรียนสืบคน ขอ มลู เก่ียวกบั การแปรรูปอาหารจากแหลงขอ มลู ทีน่ าเชื่อถือตา งๆ • ใหนกั เรยี นรวมกนั อภปิ รายและแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั การประกอบ จัด ตกแตง บรกิ ารอาหาร และแปรรปู อาหาร • การต้ังประเด็นคาํ ถามเกย่ี วกบั การประกอบ จัด ตกแตง บริการอาหาร และแปรรูปอาหารใหน ักเรยี นชว ยกนั ตอบ T56
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ หากตอ้ งการประกอบอาหาร ๑ อาหารและโภชนาการ1ทม่ี ีตอ่ สขุ ภาพ2 ขน้ั สอน ให้ได้สารอาหารครบถ้วน ใน ๑ จาน จะเลือกประกอบ การรบั ประทานอาหารทถี่ กู หลกั โภชนาการจะท�าใหร้ า่ งกาย ขน้ั ท่ี 1 สงั เกต อาหารเมนใู ด เพราะเหตใุ ด เจริญเตบิ โตอย่างสมวัย อวยั วะต่าง ๆ ภายในรา่ งกายท�างานได้ รตับามปประกทตาิ นแอลาะหชา่วรยทเ่ีมสีปริมระสโรย้าชงนภ์ ูมไิตด้า้สนัดทสา่วนน3โ รแคล ะโเดหยมคาวะรสเมลกือับก 2. ครอู ธบิ ายใหน กั เรยี นฟง เพมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั อาการ ความต้องการของรา่ งกาย ของโรคขาดสารอาหารวา “ผทู รี่ า งกายขาดสาร อาหารมอี าการทสี่ งั เกตไดโ ดยทว่ั ไป คอื ผมรว ง ๑.๑ ความสา� คัญของอาหารทมี่ ตี อ่ รา่ งกาย ตวั ซีด เวยี นศรี ษะ ไมม ีสมาธิ” อาหารเป็นปัจจัยสี่ของการด�ารงชีวิตของมนุษย์ และมี 3. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นจาก ประโยชน์ต่อร่างกาย หากรับประทานอย่างถูกหลักโภชนาการ การตง้ั คําถามของครูวา จะทา� ใหม้ ีสขุ ภาพดี โดยทว่ั ไปอาหารจะให้ประโยชน ์ ดงั น ้ี • การเลือกบริโภคอาหาร มีหลักการเลือก ๑. ชว่ ยใหร้ า่ งกายเจรญิ เตบิ โต สรา้ งกลา้ มเนอ้ื กระดกู อยา งไร เลือด ฮอร์โมน ฯลฯ ใหพ้ ลงั งานและความอบอนุ่ แก่รา่ งกาย (แนวตอบ ควรเลือกรับประทานอาหารท่ี ๒. ช่วยเสริมสร้างระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายให้ สดใหม หลีกเลี่ยงอาหารปรุงแตง อาหาร ท�างานได้ตามปกตแิ ละมปี ระสิทธภิ าพ หมักดอง อาหารสําเร็จรูป อาหารท่ีมี ๓. ซ่อมแซมอวัยวะของร่างกายที่เกิดการสึกหรอให้ รสหวานจัด เค็มจดั เปรยี้ วจัด และเผ็ดจัด) กลับคงสภาพดี ๔. ช่วยสร้างเซลลแ์ ละเนื้อเย่อื รวมถงึ ควบคุมอวยั วะ ขนั้ ที่ 2 วจิ ารณ ตา่ ง ๆ ใหท้ �างานได้ตามปกติ ๕. ชว่ ยสรา้ งภมู คิ มุ้ กนั และตา้ นทานโรคใหแ้ กร่ า่ งกาย 4. ครใู หน กั เรยี นแบง กลมุ กลมุ ละเทา ๆ กนั รว มกนั ศกึ ษาเรอื่ ง อาหารหลกั 5 หมู จากหนงั สอื เรยี น หนว ยการเรยี นรูท่ี 3 5. ครูใหนักเรียนเลนเกมอาหารและโภชนาการ จากนนั้ ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ วา “อาหารหลกั 5 หมู คอื สารอาหาร 5 ชนดิ ทร่ี า งกายตองการใน แตล ะวนั ดงั นนั้ อาหารทมี่ สี ารอาหารเหมอื นกนั จงึ จัดอยูในหมวดหมูเ ดยี วกนั ” สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง อาหาร 51 ■ กระบวนการกลมุ่ เปน็ วธิ กี ารทาำ งานตามขนั้ ตอน คอื การเลือกหวั หนา้ กล่มุ กำาหนดเปา้ หมาย วางแผน กับการด�ารงชีวิต แบง่ งานตามความสามารถ ปฏิบตั ิตามบทบาทหนา้ ท่ี ประเมินผลและปรบั ปรุงงาน เชน่ - การเตรียม ประกอบ จัด ตกแตง่ และบรกิ ารอาหาร - การแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู อาหารนอกจากจะทําใหรางกายเจริญเติบโตแลว อาหาร 1 โภชนาการ มคี วามสัมพนั ธเก่ยี วขอ งกับการคดั เลือกอาหารและการเตรยี ม ยงั มปี ระโยชนในดา นใด อาหาร เม่ือรับประทานแลวเกิดผลดีตอสุขภาพท้ังภายในและภายนอก ทําให สุขภาพรางกายแข็งแรง ไมเ กิดโรคภยั ตา งๆ อาหารมรี ูปลกั ษณทนี่ า รบั ประทาน (แนวตอบ ชวยเสริมสรางระบบตางๆ ของรางกายใหสามารถ ทําใหเ กิดความสขุ ขณะรบั ประทานอาหาร ทาํ งานไดอ ยา งสมบรู ณ ชว ยซอ มแซมสว นทสี่ กึ หรอใหก ลบั สสู ภาพ ปกติ ชว ยสรา งเซลลแ ละเนอื้ เยอ่ื เพอ่ื ควบคมุ อวยั วะตา งๆ ชว ยสรา ง 2 สุขภาพ การรับประทานอาหารทด่ี ี มปี ระโยชนตอ รางกาย ออกกําลังกาย ภูมติ า นทานโรคใหร า งกายแข็งแรงอยเู สมอ ใหพลังงานและความ อยา งสมาํ่ เสมอ มอี ารมณเ บกิ บานแจม ใส ยอ มสง ผลใหม สี ขุ ภาพทดี่ ี ควรหลกี เลยี่ ง อบอนุ แกร า งกาย) การรับประทานอาหารท่ีไมถูกสุขลักษณะ รวมถึงอาหารที่มีไขมันสูง เพราะจะ ทาํ ใหผ บู ริโภคเกิดโรคตา งๆ ได เชน โรคความดันโลหิตสงู โรคอวน โรคเกาต โรคเบาหวาน โรคกรดไหลยอ น โรคมะเรง็ ลําไสใหญ 3 ไดส ดั สว น การรบั ประทานอาหารใหไ ดส ดั สว น เปน การรบั ประทานอาหารใหไ ด รบั สารอาหารครบถว นและเพยี งพอตอ ความตอ งการของรา งกาย เพอื่ ใหร า งกาย เจริญเติบโตไดอยางเต็มที่ ซึ่งบุคคลในแตละชวงวัยจะมีความตองการอาหาร ในสัดสวนท่ีแตกตางกัน เชน เด็กชายและเด็กหญิงท่ีมีอายุระหวาง 16-19 ป เดก็ ชายจะตอ งการสารอาหารท่ีมากกวา เด็กหญิง T57
นาํ สอน สรุป ประเมนิ ขน้ั สอน ๑.๒ หลกั การเลือกบริโภคอาหาร ขนั้ ที่ 2 วจิ ารณ ปัจจุบันอาหารมีให้เลือกรับประทานมากมาย ซ่ึงมีท้ังให้ประโยชน์ต่อร่างกายและให้โทษ ตอ่ รา่ งกาย ดังนั้น จงึ ควรเลอื กบรโิ ภคใหถ้ ูกต้องตามหลกั โภชนาการ ดงั นี้ 6. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปรายผล ๑. เลือกรับประทานอาหารที่สด ใหม ่ และสะอาด หลงั การเลน เกมอาหารและโภชนาการ โดยครู ๒. รบั ประทานอาหารใหไ้ ดส้ ารอาหารครบทั้ง ๕ หมู ่ ในทกุ ม้อื อาหาร ถามกระตุนความสนใจของนกั เรียนวา ๓. รบั ประทานอาหารทห่ี ลากหลาย ไมร่ บั ประทานอาหารเดมิ ซ้า� ๆ ติดต่อกันหลายวัน • นกั เรยี นคดิ วา กจิ กรรมนม้ี ปี ระโยชนอ ยา งไร” ๔. หลกี เล่ยี งอาหารปรุงแต่ง อาหารหมักดอง และอาหารส�าเรจ็ รูป (แนวตอบ กิจกรรมนี้ทําใหสามารถจําแนก ๕. หลกี เลยี่ งขนมขบเค้ียว น้�าหวาน นา�้ อดั ลม และเครือ่ งด่ืมทีม่ แี อลกอฮอล์ อาหารตามหมวดหมูไดอยางถูกตอง และ ๖. หลีกเล่ยี งอาหารทมี่ รี สหวานจัด เค็มจัด เปรย้ี วจดั และเผด็ จัด ทําใหรูถึงประโยชนของอาหาร 5 หมูเพ่ิม ๗. รบั ประทานโปรตีนที่ได้จากพืชและสตั ว ์ในปริมาณท่ีเหมาะสม มากข้นึ ) ๘. รับประทานผกั ผลไม ้ ธญั พืช ทกุ มอื้ อาหาร 7. ครใู หน ักเรยี นทําใบงานที่ 3.1.1 เรอ่ื ง อาหาร ๑.๓ อาหารหลกั ๕ หมู่ และโภชนาการท่มี ตี อสขุ ภาพ ร่างกายต้องการสารอาหารให้ครบทั้ง ๕ หมู่ ในแต่ละวัน เพ่ือสร้างความเจริญเติบโตและ ขนั้ สรปุ ซ่อมแซมส่วนท่ีสึกหรอของร่างกาย แต่ไม่มีอาหารชนิดใดสามารถจะให้สารอาหารได้ครบถ้วน จงึ ตอ้ งรู้จักเลือกรับประทาน ซง่ึ อาหารหลัก ๕ หมู่ มีดงั นี้ ขนั้ ท่ี 3 สรปุ หมู่ท่ี 1 เนอ้ื สัตวต์ า่ ง ๆ นม ไข่ ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเกี่ยวกับ • สารอาหาร : โปรตีน หลกั การเลอื กบรโิ ภคอาหารและอาหารหลกั 5 หมู • ชว่ ยให้รา่ งกายเจรญิ เตบิ โต ซอ่ มแซมสว่ นท่ีสึกหรอ โดยครชู ว ยเสนอแนะเพิม่ เติม หม่ทู ่ี ๒ ขา้ ว แปง้ นา้� ตาล เผอื ก มนั • สารอาหาร : คาร์ โบไฮเดรต ขนั้ ประเมนิ • ใหพ้ ลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย หมูท่ ่ี ๓ ผักตา่ ง ๆ 1. ครตู รวจสอบความรู ความเขา ใจของนกั เรยี น • สารอาหาร : วติ ามนิ และเกลือแร่ เร่ือง อาหารและโภชนาการที่มีตอสุขภาพ • ชว่ ยเสรมิ สร้างการทา� งานของรา่ งกาย สรา้ งภูมติ ้านทานโรค จากการตอบคาํ ถามและการแสดงความคดิ เหน็ หมูท่ ่ี ๔ ผลไม้ตา่ ง ๆ • สารอาหาร : วติ ามนิ และเกลือแร่ 2. ครูตรวจใบงานที่ 3.1.1 เร่ือง อาหารและ • ชว่ ยเสรมิ สร้างการท�างานของรา่ งกาย สรา้ งภมู ติ ้านทานโรค โภชนาการท่ีมีตอ สุขภาพ หมู่ที่ 5 ไขมันจากพชื และสัตว์ • สารอาหาร : ไขมนั • ใหพ้ ลังงานและความอบอนุ่ แก่ร่างกาย ดูดซมึ วิตามนิ ต่าง ๆ 5๒ แนวทางการวัดและประเมินผล ขอสอบเนน การคดิ ครสู ามารถสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานรายบคุ คลและการสงั เกตพฤตกิ รรม การถือศีลกินเจควรรับประทานอาหารในขอใดเพ่ือทดแทน การทํางานกลุม โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผน โปรตีนจากเน้อื สัตว การจดั การเรียนรู หนว ยการเรยี นรูท่ี 3 1. นาํ้ เตา หู แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ 2. นมสดรสจดื 3. ขนมปง โฮลวตี คาชแ้ี จง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในช่องท่ี คาชี้แจง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งที่ 4. ครอกเกมันฝรง่ั ตรงกับระดบั คะแนน ตรงกบั ระดับคะแนน (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 1. เพราะนาํ้ เตาหทู าํ มาจากถ่ัวเหลอื ง ใหสารอาหารประเภทโปรตีนท่ีไดจากพืช สวนนมสดรสจืดและ ระดับคะแนน การมี ขนมปงโฮลวีตมีโปรตีนท่ีไดจากเนื้อสัตว ผูท่ีถือศีลกินเจ จึงควร 321 หลกี เลี่ยงอาหารทงั้ 2 ชนิดน้ี สวนครอกเกเปน ของทอดทท่ี ําจาก ลาดับท่ี รายการประเมิน ชอื่ – สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมี ส่วนร่วมใน รวม มันฝรั่ง การด่ืมน้ําเตาหูจึงดีตอสุขภาพมากกวาการรับประทาน ของนักเรียน ความ ฟงั คนอนื่ ตามทไ่ี ดร้ บั นา้ ใจ การ 15 ครอกเก) 1 การแสดงความคดิ เห็น ลาดับที่ คิดเห็น มอบหมาย คะแนน 2 การยอมรับฟังความคิดเหน็ ของผู้อื่น ปรับปรุง 3 การทางานตามหนา้ ที่ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ผลงานกลุม่ 4 ความมนี ้าใจ 5 การตรงต่อเวลา 3 2 13 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 รวม ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ประเมนิ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ............./.................../............... ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน 12 - 15 ดี เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ 8 - 11 พอใช้ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ต่ากวา่ 8 ปรับปรุง 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรงุ T58
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๒ การเลอื กซ้ืออาหาร ขน้ั นาํ (5Es) การประกอบอาหารแตล่ ะชนดิ จะตอ้ งมกี ารเตรยี มวตั ถดุ บิ ตา่ ง ๆ ซงึ่ วตั ถดุ บิ ทจ่ี ะนา� มาประกอบ ข้ันท่ี 1 กระตุน ความสนใจ อาหารนั้นจะต้องถูกหลักอนามัย สด สะอาด และมีคุณค่าทางโภชนาการ ดังนั้น การมีความรู้ ความเขา้ ใจในการเลอื กวตั ถดุ บิ ทนี่ า� มาประกอบอาหารจงึ เปน็ สงิ่ สา� คญั ทที่ กุ คนควรร ู้ เพอื่ จะไดเ้ ลอื ก 1. ครูถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา ได้อย่างถูกต้องตามหลกั การเลอื กซอ้ื อาหาร • นักเรียนคิดวาการรับประทานอาหารท่ีไมมี คุณภาพจะสง ผลเสยี ตอ รางกายอยา งไร ๒.๑ หลกั ในการเลอื กซ้อื อาหาร (แนวตอบ ทําใหรางกายขาดสารอาหาร ท่ีมีประโยชน เจ็บปวยไดงาย และขาด การเลือกซ้ืออาหารและวัตถุดิบมาประกอบอาหาร ผู้ซ้ือจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในหลัก ภมู ติ า นทานโรค) ของการเลือกซื้อ เพ่อื ทจ่ี ะได้อาหารและวตั ถุดิบทม่ี คี ุณภาพครบตามตอ้ งการ 2. ครูอธิบายวา “วัตถุดิบแตละชนิดมีคุณคาทาง หลักในการเลอื กซ้อื อาหาร โภชนาการทแี่ ตกตา งกนั บางชนดิ มคี ณุ คา ทาง โภชนาการตํ่าแตราคาแพง บางชนิดมีคุณคา ๑. เ ลอื กซ้ืออาหารทมี่ คี ณุ คา่ ทางโภชนาการ ใช้วัตถดุ บิ สด ใหม่ ทางโภชนาการสูงแตราคาถูก ดังน้ัน จึงตอง ๒. เลอื กซอ้ื อาหารทม่ี ีอยู่ในทอ้ งถน่ิ เพราะหาได้งา่ ย ไม่เสียค่าขนสง่ รูจ กั เลอื กซือ้ รจู ักสงั เกต เพอ่ื ใหไ ดวตั ถุดิบทม่ี ี ราคาถกู และมคี ณุ คา ทางโภชนาการมาประกอบ ทา� ใหไ้ ดข้ องสด มีคุณภาพด ี และราคาถูก อาหาร อีกทง้ั ยงั ชว ยในการประหยดั คา ใชจ า ย ๓. เลือกซื้ออาหารตามฤดูกาลจะท�าให้ได้ผักและผลไม้สด รสชาติดี ของครอบครวั ไดเปนอยางดี” มคี ณุ ภาพ หาซ้ืองา่ ย และราคาถกู ขนั้ สอน ๔. เลือกซ้ืออาหารโดยค�านึงถึงความประหยัด เช่น เลือกซ้ืออาหาร ขน้ั ที่ 2 สาํ รวจและคน หา ๕. แท เลล่ีมือะรี กสาาซคร้ืาอพถอษิกูา2แหตา่มรโคี ดุณยคคา่�าทนาึงงถโึงภคชวนาามกปารลคอรดบภถัยว้ นปราศจากเชื้อโรค1 1. ครใู หน ักเรียนแบงกลมุ (กลมุ เดิม) จากนัน้ ให ๖. เ ลอื กซอื้ อาหารใหม้ ปี รมิ าณเพยี งพอกบั จ�านวนสมาชกิ ในครอบครวั นักเรียนแตละกลุมรวมกันศึกษาโดยมีหัวขอ ไมซ่ ้ือมากเกนิ จา� เป็น และไมซ่ ือ้ นอ้ ยจนเกนิ ไป ดงั น้ี 1. หลักในการเลอื กซอ้ื อาหาร Trick : วิธีลา้ งผักลดสารฆา่ แมลง วิธีท่ ี ๓ ใช้ดา่ งทับทิม 2. การเลอื กซื้ออาหารสด วธิ ที ่ ี ๑ ใช้เบกกิ้งโซดา ดา่ งทบั ทมิ ๒๐-๓๐ เกลด็ + นา�้ ๔ ลติ ร 3. การเลอื กซ้ืออาหารแหง และอาหารกระปอง ๑ ช้อนโต๊ะ + น�า้ อนุ่ ๒๐ ลิตร แช่ท้ิงไว้ ๑๐ นาที แล้วล้างออกด้วยน�้า แช่ทิง้ ไว ้ ๑๕ นาท ี แล้วลา้ งออกดว้ ย สะอาด น้�าสะอาด วธิ ที ี่ ๔ ใชน้ า�้ ส้มสายชู วธิ ีที่ ๒ ให้น้า� ไหลผ่าน ๑ ช้อนโต๊ะ + น�้า ๔ ลิตร เด็ดผักเปน็ ใบ + ลา้ งน�า้ ไหลผา่ น แช่ทิ้งไว้ ๑๐ นาที แล้วล้างออกด้วยน�้า หลาย ๆ ครั้ง สะอาด อาหาร 5๓ กับการด�ารงชีวิต ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู การเลอื กซอ้ื อาหารใหพ อดกี บั สมาชกิ ในครอบครวั มคี วามสาํ คญั 1 เชอื้ โรค ในอาหารมกั มกี ารปนเปอ นของเชอื้ แบคทเี รยี แตเ มอ่ื นาํ มาประกอบ อยางไร อาหารโดยผานข้นั ตอนตางๆ ทถี่ ูกตอ งและถกู สขุ ลกั ษณะ เชื้อโรคเหลาน้ันก็จะ สลายไป แตห ากนาํ ไปประกอบอาหารไมถ กู วธิ ี เชอ้ื โรคเหลา นนั้ กจ็ ะเพม่ิ ปรมิ าณ (แนวตอบ การเลอื กซอ้ื อาหารใหพ อดกี บั สมาชกิ ในครอบครวั เปน มากขน้ึ ซงึ่ อาจสง ผลกระทบตอ รา งกายได เชน วบิ รโิ อ วลั นฟิ ค สั (Vibrio Vulnificfi us) หลักการเลือกซื้ออาหารท่ีสําคัญ เพราะการซื้อในปริมาณท่ีพอดี พบในอาหารดบิ ทกุ ชนดิ โดยเฉพาะหอยนางรม หอยแมลงภู หอยแครง ซาลโมเนลลา จะทําใหทุกคนในครอบครัวไดรับประทานอาหารท่ีสดใหม (Salmonella) พบในนาํ้ นม เนอื้ สตั วด บิ ปนเปอ นในไขแ ดง และอาหารทป่ี รงุ ไมส กุ ในทุกๆ ม้ือ ไดรับคุณคาทางสารอาหารอยางเต็มท่ี ไมมีอาหาร คลอสตรเิ ดยี มเพอรฟ รงิ เกนส (Clostridium Perfringens) พบในเนอ้ื สตั ว อาหารแหง เหลือทิ้ง ไมตองเก็บเขาตูเย็นคางคืน (อาหารคางคืนจะมีคุณคา อาหารแชแขง็ และอาหารทย่ี งั รอ นไมไดที่ ทางโภชนาการลดลง) ชวยใหสมาชิกในครอบครัวมีสุขภาพดี และแขง็ แรงสมวยั ) 2 สารพษิ ควรพจิ ารณาเลอื กซอื้ อาหาร หรอื วตั ถดุ บิ ประกอบอาหารทไี่ มม สี ารพษิ รวมถงึ สารปนเปอ นชนดิ ตา งๆ ซง่ึ สารปนเปอ นทต่ี อ งระวงั มที ง้ั สารเรง เนอ้ื แดงใน เนอ้ื สกุ ร สารกนั รา สารฟอกขาว สารบอแรกซ สารฟอรม าลนิ ยาฆา แมลง ดงั นนั้ กอ นเลือกซ้ืออาหาร จึงควรพจิ ารณาอยางละเอยี ดถ่ถี วนและเลือกซอื้ ในสถานที่ จาํ หนา ยทไ่ี ดร บั การรบั รองมาตรฐาน นอกจากนี้ การประกอบอาหารอยา งถกู วธิ ี จะชว ยใหส ารท่ปี นเปอนมากบั อาหารมปี รมิ าณลดนอ ยลงดว ย T59
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๒.๒ การเลอื กซื้ออาหารสด ขน้ั ที่ 2 สาํ รวจและคน หา อาหารสดควรเลอื กซ้ือทส่ี ด ใหม่ สะอาด และไมม่ ีสง่ิ เจอื ปน ดังน้ี 2. ครูถามนักเรยี นวา การเลือกซอื้ ผกั และผลไม้ • นักเรียนคิดวาการเลือกซื้ออาหารตามหลัก ในการเลอื กซือ้ มปี ระโยชนอ ยางไร ควรเลอื กที่สดใหมต่ ามลกั ษณะของผักและผลไม้แตล่ ะชนดิ และควรเลอื กตามฤดกู าล โดยมี (แนวตอบ ทําใหเลือกซื้ออาหารท่ีมีคุณคา หลักการเลือก ดังน้ี ทางโภชนาการ ไดผ กั และผลไมต ามฤดกู าล และไดวตั ถุดิบทส่ี ด ใหม ปราศจากเชือ้ โรค ผกั ผลไม้ และสารพิษ) เลือกผักที่สด เไพม่รเหาี่ยะอวเาฉจาเป็หนรยือาฆม่าีสแีเหมลลงือ1ทงี่ เลอื กผลไมท้ ม่ี ผี วิ ตงึ สดใหม่ ไมเ่ หยี่ ว เปลอื ก 3. ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ เกยี่ วกบั หลกั ในการเลอื กซอ้ื ไม่มีคราบขาว และผวิ ไมม่ รี อยชา้� ขวั้ กา้ นเขยี วและแขง็ เชน่ อาหารใหน กั เรยี นฟง วา “สงิ่ ทค่ี วรคาํ นงึ ในการ ตกคา้ ง เลอื กทม่ี รี พู รนุ บา้ ง ซงึ่ เปน็ รอยกดั แทะ ส้มเขยี วหวาน เลือกซื้ออาหาร นอกจากความสด ใหม ของหนอนและแมลง เพราะปลอดสารเคมี ผิวละเอียด เปลือกบาง และราคาถกู แลว ควรคาํ นึงถึงความปลอดภัย ต่าง ๆ เช่น ไมน่ ิม่ เกินไป ข้ัวไมน่ นู โดยเลือกซ้ืออาหารท่ีไดมาตรฐาน ผลิตจาก แหลงที่เช่ือถือไดในกรณีที่เปนอาหารที่มีการ กะหล่�าปลี ฝรัง่ ควบคมุ ตามกฎหมายจะตองมเี ครือ่ งหมาย อย. หวั มนี า�้ หนักมาก ผิวละเอยี ด ไม่ตกกระ ดูวันที่ผลิต และวันหมดอายุบรรจุภัณฑ เพื่อ ใบหอ่ สมบูรณ์ มีสีเขียว ไมช่ า�้ ไมเ่ นา่ เสยี เนอื้ แนน่ ความปลอดภัยในการรบั ประทานอาหาร” อ่อน ไมม่ ีรอยช้า� ไม่นิม่ เกนิ ไป ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู แตงกวา สบั ปะรด ผลตรง มสี เี ขยี ว ผวิ ขรขุ ระ ตาใหญ่ เลก็ และแหลม 4. ครูใหสมาชิกในกลุมผลัดกันอธิบายความรู ไมล่ บี จนเกนิ ไป ผลกลมกลงึ เปลือกสีเขียวเหลือง ที่ไดศกึ ษามา จากน้นั ใหแตล ะกลมุ สง ตัวแทน เสมอกัน เนอื้ ฉา่� ตลอดผล ออกมานําเสนอขอมูลหนาชั้นเรียน โดยครู เสนอแนะเพ่ิมเติมและถามนกั เรยี นวา มะเขอื กล้วยหอมทอง • การเลอื กซอื้ ผกั และผลไมค วรเลอื กซอ้ื อยา งไร ข้ัวมีสีเขียวติดอยู่กับ ผลมีสีเหลืองทอง หรือ (แนวตอบ ควรเลือกซ้ือท่ีสดใหม เลือกตาม ผลแนน่ กลบี เลยี้ งยาว มีสีเขียวเล็กน้อยท่ีก้าน ชนิดของผักและผลไม และควรเลือกตาม มีน�า้ หนักมาก ไม่มรี อยช้�า ฤดกู าล) ผวิ ไมเ่ หยี่ ว 5๔ นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด 1 ยาฆาแมลง ยาฆาแมลงที่ตกคางอยูในผัก เมื่อเขาสูรางกายจะสะสม สงิ่ ทค่ี วรคํานึงถงึ มากที่สุดในการเลือกซอื้ อาหาร คอื ขอ ใด ในรางกายและอาจเปนสาเหตุใหเกิดโรคมะเร็งได ท้ังยังทําใหสมาธิสั้น 1. รสชาตคิ วามอรอย ความจําเส่ือม มามและไตทํางานหนัก จึงตองลางใหสะอาดกอนรับประทาน 2. เปนของตางประเทศ ทุกคร้ัง เพ่ือปองกันสารเคมีตกคาง หรือปองกันการปนเปอนของเช้ือจุลินทรีย 3. ชว ยประหยัดคาใชจา ย โดยวิธลี า งผักอยางงายๆ ใหแชผ กั ในนาํ้ สะอาด ลางใบผักและถไู ปมา หรือนาํ 4. ใหค ุณคาทางโภชนาการ ผกั ไปแชในนาํ้ ผสมน้าํ สม สายชู แลว ลางดว ยนํ้าสะอาด (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะมนุษยตองการอาหารที่ให ส่ือ Digital คุณคาทางโภชนาการครบถวน มีสารอาหารท่ีหลากหลายเพื่อให การทํางานของระบบตางๆ ในรางกายทํางานไดอยางสมบูรณ ศกึ ษาเพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั วธิ กี ารรบั ประทานอาหารใหส ขุ ภาพดี ไดจ าก http:// การเลอื กซอ้ื อาหารจงึ ตอ งคาํ นงึ ถงึ คณุ คา ทางโภชนาการมากทส่ี ดุ www.thaihealth.or.th/Content/38511-อาหารสุขภาพด.ี ..กินอยา งไร.html สวนรสชาติความอรอย เปนของตางประเทศ และชวยประหยัด คาใชจ ายจะข้นึ อยกู บั ความตองการเฉพาะบคุ คล) T60
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ การเลือกซอื้ เนือ้ สัตว์ ไข่ ขนั้ สอน เปลือกไข่สะอาด ไม่มีรอยแตกร้าว ควรเลอื กทสี่ ะอาด สด ไมม่ กี ลน่ิ เหมน็ ไมม่ ี เมื่อส่องกบั ไฟ ภายในไข่จะไมม่ ีจุดสดี �า ขัน้ ท่ี 3 อธิบายความรู สเี ขยี วคลา�้ เนอ้ื สตั วแ์ ตล่ ะชนดิ มหี ลกั การเลอื ก หรอื ฟองอากาศ ทแ่ี ตกตา่ งกนั ดังนี้ • หากจะเลอื กซอื้ เนอื้ หมู ควรเลอื กซอ้ื อยา งไร (แนวตอบ ควรเลือกทส่ี ด สะอาด ไมมกี ลิ่น เนอื้ หมู เหม็น เมอ่ื ใชน ิ้วกดจะไมม รี อยบมุ ) เนื้อมีสชี มพสู ด ละเอียดแนน่ ไม่มกี ล่นิ เหมน็ เน่า เมอ่ื ใช้น้วิ กด จะไม่มรี อยบุ๋ม • เนื้อหมูที่มีสีแดงสด ควรเลือกซื้อหรือไม เพราะเหตุใด เนือ้ วัว เปด็ ไก่ (แนวตอบ ไมค วรซอ้ื เพราะเนอื้ หมทู มี่ สี แี ดงสด เนอื้ มสี ีแดงสด ไมด่ า� คล้�า ไม่มีเม็ดสีขาวใส เน้อื แน่น ไม่มีกลน่ิ เหมน็ ไมม่ ีสีคลา้� เกินไปอาจมีสารเรง เนอื้ แดงปนเปอ นอยู) เมื่อใช้นิ้วกดจะไม่มรี อยบุ๋ม เม่อื ใช้นิ้วกดจะไมม่ รี อยบุ๋ม • การเลอื กซอื้ ขา วสารทดี่ มี ารบั ประทาน มหี ลกั กุ้ง หอย ในการเลือกอยา งไร หัวตดิ กับตัวแน่น เปลือกใส ฝาหอยปิดสนิท ไมม่ ีกลิ่นเหม็น (แนวตอบ ควรเลอื กเมลด็ ทไ่ี มห กั ไมม ตี วั มอด ตวั ก้งุ แข็ง ไมน่ มิ่ แกะเปลือกออกจะมสี แี ดงสด ไมปนเปอ นสิง่ สกปรก) • อาหารกระปองท่ีดีจะตองมลี ักษณะอยา งไร (แนวตอบ กระปองตองไมบุบ ไมบวม หรือ เปน สนมิ และจะตอ งระบวุ นั เดอื น ป ทผี่ ลติ และวนั หมดอายกุ าํ กบั อยบู นบรรจภุ ณั ฑเ สมอ) ขน้ั สรปุ ขัน้ ท่ี 4 ขยายความเขา ใจ 1. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ ทาํ ใบงานท่ี 3.2.1 เรอื่ ง การเลือกซื้ออาหาร โดยใหนักเรียนรวมกัน อภปิ ราย ระดมความคดิ และนาํ เสนอแนวทาง ในการเลือกซ้ือวัตถุดิบท่ีใชในการประกอบ อาหารจากสถานการณท ก่ี าํ หนด และใหบ นั ทกึ คําตอบลงในใบงาน ปู ปลา ปูทะเลและปเู นอ้ื อกแขง็ กดไมล่ ง ส่วนปูไข่ เหงือกมีสีแดงสด ท้องไม่แตก เกล็ดแน่น เม่ือดีดกระดองด้านหลัง จะมีเสียงโปร่ง ไมห่ ลดุ ออกจากตัว ตาใส กา้ มปูไมห่ ลดุ ออกจากตวั อาหาร 55 กับการด�ารงชีวิต กิจกรรม เสรมิ สรา งคณุ ลักษณะอันพึงประสงค เกร็ดแนะครู ครูเปดคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการเลือกซื้ออาหารในตลาดสด ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ เกยี่ วกบั การเลอื กซอ้ื เนอื้ สตั วใ หน กั เรยี นฟง วา การเลอื กซอ้ื และในหางสรรพสนิ คา ซ่งึ มีอาหารหลากหลายประเภทใหเ ลอื กท้ัง เนือ้ หมูและเนือ้ ววั เพือ่ นําไปประกอบอาหาร ควรพิจารณา ดังน้ี อาหารสด อาหารกระปอ ง อาหารปรงุ สาํ เรจ็ ฯลฯ จากน้ันสมมติ ใหนกั เรียนเลอื กซือ้ อาหารทป่ี รากฏอยูใ นคลปิ วิดโี อ โดยใหน กั เรียน 1. เน้อื หมู อธิบายตามประเด็นท่ีกาํ หนดให ดังน้ี • สนั คอหมู เนอื้ นมิ่ ไมเ หนยี ว มมี นั แทรกตามเนอ้ื นยิ มนาํ ไปยา ง ทอด ผดั • เนื้อสนั นอก มมี ันนอ ยกวา สันคอ นิยมนําไปทําสเตก สุกี้ หมมู ะนาว • เลือกซือ้ ส่ิงใด • เน้อื สันใน เนอื้ นุม ไขมันนอย นําไปทําอาหารไดทุกประเภท • จะนําสงิ่ ที่ซ้อื ไปทาํ สิง่ ใด • เนื้อสวนสะโพก เน้ือคอ นขางแข็ง มีเอน็ แทรกตามเนอ้ื นิยมนําไปตุน • เพราะเหตใุ ดจึงซอ้ื และนาํ ไปทําส่ิงนัน้ หรือแปรรปู เปนหมูแผน หมสู วรรค (กจิ กรรมนสี้ รา งเสรมิ คณุ ลกั ษณะดา นใฝเ รยี นรู อยอู ยา งพอเพยี ง และมุงม่นั ในการทํางาน) 2. เนื้อวัว • เนอ้ื สนั นอก มมี นั แทรกตามเนอ้ื เรยี กวา “ลายหนิ ออ น” นยิ มนาํ ไปยา ง • เนือ้ สันใน เนื้อนุม ไมมมี ัน ราคาสงู • เนอ้ื สว นนอ งสะโพก ขาหนา เนอื้ คอ นขา งเหนยี ว นยิ มนาํ มาตนุ ทาํ นาํ้ ซปุ • เน้อื สวนทอง มีไขมนั มากท่ีสุด นยิ มนํามาทํานํ้าซปุ T61
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ขนั้ สรปุ ๒.๓ การเลือกซื้ออาหารแห้งและอาหารกระปอ๋ ง ขนั้ ที่ 4 ขยายความเขา ใจ เป็นอาหารท่ีเก็บไว้รับประทานได้นานกว่าอาหารสด ถ้าเป็นอาหารแห้งควรซื้อจากสถานที่ จา� หน่ายท่ีสะอาด มีทเ่ี ก็บเป็นระเบียบเรยี บร้อย ไม่ช้ืนแฉะ และมีภาชนะปดิ มดิ ชดิ ถา้ เป็นอาหาร 2. ครูและนักเรยี นรว มกนั สรปุ เกี่ยวกบั หลกั ทวั่ ไป กระป๋องจะตอ้ งดทู ภ่ี าชนะบรรจุวา่ มีรอยร่ัว บบุ และเป็นสนิมหรอื ไม ่ อา่ นฉลากให้ละเอยี ด รวมถึง ในการเลอื กซอ้ื อาหารมารบั ประทานในครอบครวั ดวู ันเดอื นปที ผ่ี ลิตและวันหมดอาย ุ หลักการเลอื กซื้ออาหารแหง้ และอาหารกระปอ๋ ง มีดังน้ี วา “การบรโิ ภคอาหารทด่ี ี ยอ มสง ผลใหส ขุ ภาพดี ตามไปดวย ดังน้ัน เราจึงควรบริโภคอาหาร การเลือกซ้อื การเกบ็ รักษา ใหถูกหลักโภชนาการ เลือกซ้ือวัตถุดิบที่สด สะอาด เพอื่ นาํ มาประกอบอาหารภายในครวั เรอื น” ข้าวสาร เลือกท่ีไม่มีตัวมอด ไม่มีเศษ เ กบ็ ในท่แี หง้ ไม่อับช้นื ใส่ใน ขน้ั ประเมนิ สง่ิ สกปรกเจอื ปน ผวิ เรยี บ แหง้ ภาชนะท่ีมีฝาปิดมิดชิด เพื่อ แขง็ ไมม่ รี อยแตกหกั ป้องกันหนูและแมลงสาบ ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล อาหารกระป๋อง เลอื กกระปอ๋ งไมบ่ บุ บวม หรอื ว างไว ้ในทแี่ หง้ ไมอ่ บั ชน้ื เพราะ 1. ครตู รวจใบงานที่ 3.2.1 เรอื่ ง การเลอื กซอ้ื อาหาร น�้ามนั เปน็ สนมิ ดรู ายละเอยี ดบนฉลาก ความชื้นจะท�าให้กระป๋องเป็น 2. ครูตรวจสอบความรู ความเขา ใจของนักเรยี น เช่น วนั ผลิต วันหมดอายุ สนมิ ได้ เรอ่ื ง การเลือกซื้ออาหารและการตอบคําถาม การแสดงความคดิ เหน็ รวมกันในชัน้ เรียน เ ลอื กที่ใสสะอาด ก้นขวดไม่มี บรรจขุ วด มฝี าปดิ มดิ ชดิ วางไว้ ตะกอน ดวู นั ผลติ วนั หมดอายุ ในท่ีไม่อับช้นื ไม ่ให้ โดนความ และเครือ่ งหมายการคา้ รอ้ นและแสงแดด กระเทียม เลือกที่เปลือกแห้งสนิท กลีบ น า� ไปผง่ึ แดดบอ่ ย ๆ ใสก่ ระจาด และหวั แนน่ ไมฝ่ อ่ ไมม่ เี ชอื้ รา หอ่ หรอื ใสก่ ลอ่ งเกบ็ ไว ้ในทแี่ หง้ ขนึ้ ทเี่ ปลือก น้า� ตาลทราย เลือกที่เม็ดน้�าตาลแห้ง ร่วน เก็บในภาชนะท่ีมีฝาปิดมิดชิด ไม่เกาะเป็นก้อน ไม่มีเศษผง ควรเก็บไว้ ในท่ีแห้ง ไม่ให้ถูก เจอื ปน ความชื้น กะปิ เ ลอื กท่ีเนอ้ื ละเอยี ดนุ่ม มีกล่นิ บรรจุกระปุก มีฝาปิดมิดชิด หอม ไมแ่ ฉะ หรอื กระดา้ ง ไมม่ ี น�าไปผึ่งแดดทุก ๒ สัปดาห์ ละอองเกลอื จับอยทู่ ผี่ ิวกะปิ เกบ็ ในตเู้ ยน็ หรอื ในที่ไมอ่ บั ชน้ื 56 แนวทางการวัดและประเมินผล กจิ กรรม สรา งเสรมิ ครสู ามารถสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานเปน รายบคุ คล การสงั เกตพฤตกิ รรม ใหนักเรียนอธิบายวิธีการเลือกซื้ออาหารท่ีนักเรียนชอบวา การทํางานกลุม โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลท่ีแนบทายแผน มวี ธิ กี ารเลอื กซอ้ื อยา งไร ทงั้ อาหารทเ่ี ปน ของสดตอ งนาํ มาประกอบ การจดั การเรียนรู หนว ยการเรยี นรูที่ 3 อาหารเอง รวมถึงอาหารปรุงสําเร็จที่นํามาอุนแลวรับประทาน ไดทนั ที แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม กจิ กรรม ทาทาย คาชแี้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในช่องที่ คาชี้แจง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ งที่ ตรงกบั ระดบั คะแนน ใหนกั เรียนเลอื กอาหารสดตามความสนใจ 4-6 ชนิด เพือ่ นาํ ตรงกับระดบั คะแนน มาประกอบอาหารใหได 3 รายการ นักเรียนจะเลือกอาหารสด ประเภทใด มวี ธิ กี ารเลอื กอยา งไร จะนาํ มาประกอบอาหารประเภทใด ระดับคะแนน การมี บันทึกผลการปฏิบัติงาน โดยติดภาพถายอาหารสดท่ีเลือกและ 321 อาหารทีป่ ระกอบเสร็จเรียบรอ ยแลว ทั้ง 3 รายการ นําสงครผู ูสอน ลาดับท่ี รายการประเมิน ชอ่ื – สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมี ส่วนร่วมใน รวม ของนกั เรียน ความ ฟังคนอืน่ ตามท่ไี ดร้ ับ นา้ ใจ การ 15 1 การแสดงความคดิ เหน็ ลาดับที่ คิดเหน็ มอบหมาย คะแนน 2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อน่ื ปรับปรุง 3 การทางานตามหนา้ ท่ีท่ีได้รับมอบหมาย ผลงานกล่มุ 4 ความมีนา้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา 3 2 13 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 รวม ลงชอ่ื ...................................................ผูป้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ประเมนิ ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ............./.................../............... ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน 12 - 15 ดี เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ 8 - 11 พอใช้ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ตา่ กว่า 8 ปรับปรงุ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง T62
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๓ อุปกรณ ์ เครอ่ื งมอื เครือ่ งใชใ้ นการประกอบอาหาร ขน้ั นาํ (การเรียนรูแบบรว มมือ เทคนคิ JIGSAW) ในการประกอบอาหารตอ้ งมอี ปุ กรณ ์ เครอื่ งมือ เครือ่ งใช้ส�าหรบั ประกอบอาหาร ซึง่ ปจั จบุ ัน มีหลากหลายรูปแบบและมีความทันสมัยมากย่ิงข้ึน เพื่อให้ท�าอาหารได้ง่ายข้ึน สะดวก รวดเร็ว 1. ครูใหนักเรียนรวมกันเลนเกม โดยมีกติกาใน และได้ปริมาณตามที่ต้องการ ดังนั้น จึงควรศึกษาวิธีการใช้งาน ตลอดจนเก็บรักษาให้ถูกต้อง การเลน ดงั น้ี เพือ่ ให้อุปกรณ ์ เครื่องมือ เครอื่ งใช้มีประสิทธภิ าพและมีอายุการใช้งานไดย้ าวนาน • ครูแบงผูเลนออกเปนกลุมยอยๆ กลุมละ 10-12 คน ๓.๑ หลกั การเลือกอปุ กรณ์ เครื่องมือ เคร่อื งใช ้ในการประกอบอาหาร • ใหผ ูเ ลน แตล ะกลุมยนื เขา แถวตอนลกึ อปุ กรณ์ เครื่องมอื เครือ่ งใช้ในการประกอบอาหารทา� จากวัสดุหลายชนิด มีความทนทานและ • ครูแสดงสัญญาณเร่ิมตนใหผูเลนคนแรก ราคาแตกต่างกัน ในการเลอื กซื้อควรพิจารณา ดงั นี้ วิ่งไปเขียนชื่ออุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช ๑. เหมาะสมกบั ชนดิ ของอาหาร ในการประกอบอาหารบนกระดานหนา ชน้ั เรยี น ๒. อยู่ในสภาพดี ไม่บุบ หรอื งอ เม่ือเขียนเสร็จใหสงตอไปยังผูเลนคนถัดไป ๓. สะดวกตอ่ การใชง้ าน ตามลาํ ดบั โดยกาํ หนดวา ผเู ลน แตล ะคนหา ม ๔. ดูแลรกั ษาท�าความสะอาดไดง้ า่ ย เขียนซ้ํากันภายในกลุม โดยครูมอบหมาย ๕. ประหยดั เวลาในการหุงต้ม เชน่ รอ้ นเรว็ เย็นเร็ว เวลาในการทาํ กจิ กรรมตามความเหมาะสม ๓.๒ ความปลอดภยั ในการใชอ้ ปุ กรณ ์ เครอื่ งมอื เครอื่ งใชใ้ นการประกอบอาหาร 2. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั แยกประเภทของอปุ กรณ การเลอื กอุปกรณ์ เครือ่ งมือ เคร่อื งใช้อยา่ งเหมาะสม ช่วยใหท้ า� งานไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ เคร่ืองมือ เครื่องใชในการประกอบอาหารบน ทงั้ น ้ี ผใู้ ชต้ อ้ งระมดั ระวงั เรอ่ื งความปลอดภยั ของตนเองและบคุ คลอน่ื เพราะความประมาทเลนิ เลอ่ กระดานหนา ชน้ั เรียนตามหมวดหมู เชน อาจก่อให้เกดิ อบุ ัตเิ หตุได ้ โดยยดึ หลักการ ดงั นี้ • ภาชนะสาํ หรบั หงุ ตม เชน หมอ กระทะ ลงั ถงึ ๑. เมื่อใชข้ องมีคมต้องระมดั ระวงั และเลอื กใช้ ให้เหมาะสมกบั ประเภทของงาน เชน่ • ภาชนะสําหรับใสอ าหารและตกั อาหาร เชน หากป อกผล๒ไ.ม ้ อไมปุ ค่กวรรณใชป์ ้มระีดเสภับท เเคพรรอ่ื างะใมชไ้ีดฟสฟบั า้ม1ตีนอ้ ้�างหศนกึ กัษมาาวกธิ กี อาารจใชทใ้ า�หใเ้หขม้า้ ใดี จบกาอ่ ดนมนือา� ไมดา้ ใช ้ และใชต้ าม จาน ชาม กะละมงั เล็ก ถว ย ชอ น คา� แนะนา� อยา่ งเคร่งครัด • เคร่ืองมอื ในการห่ัน สบั บดอาหาร เชน มีด ๓. เมื่อหุงต้มอาหาร ถ้าใช้เตาแก๊สจะต้องปิดวาล์ว Be careful เขียง ครก เคร่ืองบดอาหาร • อุปกรณใ หความรอน เชน เตาหงุ ตม เตาอบ ไฟฟา ถังแกส๊ และสวิตชท์ ่หี วั เตาแกส๊ ทุกคร้งั ถา้ เปดิ เตาแกส๊ แลว้ ไฟไมต่ ดิ ๔. เมอื่ ยกหมอ้ หรอื กระทะลงจากเตา ควรใชผ้ า้ หนา ๆ ห้ามเปิดซ�้าติดต่อกันหลายครั้ง จบั หรือใช้ถงุ มือกนั ความร้อน ให้ทิ้งไว้สักครู่จึงค่อยเปิดซ�้า ๕. ควรเกบ็ อปุ กรณ ์ เครอื่ งมอื เครอื่ งใชท้ มี่ นี า้� หนกั มาก เพราะแก๊สท่ีกระจายตัวจะสะสม ไว้ด้านล่างของช้ันวาง เพื่อความปลอดภัยจากการถูกอุปกรณ์ อยู่ในอากาศกลายเป็นเปลวไฟ ตกหลน่ ทบั ทา� ใหเ้ กิดเพลิงไหม้ ได้ อาหาร 57 กับการด�ารงชีวิต ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู ขอ ใดปฏิบัตถิ ูกตอ งในการใชอ ุปกรณป ระกอบอาหาร 1 เครอื่ งใชไ ฟฟา ควรเลอื กเคร่อื งใชไ ฟฟา ท่ไี ดมาตรฐาน มอก. และมฉี ลาก 1. ใชจ านเซรามกิ ใสอาหารแลวอนุ ดว ยไมโครเวฟ ประหยัดไฟเบอร 5 เพ่ือความปลอดภัย โดยเครื่องใชไ ฟฟา แตละชนดิ มีวิธกี าร 2. เมื่อขา วสุกใหถอดปลก๊ั หมอ หงุ ขาวออกทันที ใชงานและการดแู ลรักษาทแี่ ตกตางกนั เชน 3. เก็บมดี ปอกผลไมไ วบนหลังตูเกบ็ ของ 4. ปดเตาแกสทกุ คร้ังเมอ่ื ใชงานเสรจ็ • เครอ่ื งปรบั อากาศ ไมควรตดิ ตัง้ ใกลส าร หรอื วตั ถุไวไฟ ขณะใชงานหาก มเี สียงดงั ผิดปกติ ควรใหช างรีบตรวจสอบและแกไขทนั ที (วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะจานเซรามิกสามารถใชกับ ไมโครเวฟได สว นการถอดปลก๊ั หมอ หงุ ขา วเมอ่ื ขา วสกุ ควรปด สวติ ช • หมอ หงุ ขา ว ใสห มอ หงุ ขา วตวั ในพรอ มปด ฝาใหเ รยี บรอ ย แลว จงึ เสยี บปลก๊ั หมอหุงขาวกอนถอดปล๊ักออก การเก็บมีดปอกผลไมไวบนหลัง ใชง าน การจบั ยกถอื หมอ หงุ ขา วควรถอดปลกั๊ ออกกอ น และถอดปลก๊ั เมอื่ ตเู กบ็ ของเปน สงิ่ ทไ่ี มค วรกระทาํ เนอ่ื งจากอาจกอ ใหเ กดิ อนั ตรายได ใชง านเสรจ็ เรยี บรอยแลว และการปด เตาแกส ทกุ ครงั้ เมอื่ ใชง านเสรจ็ ยงั ไมเ พยี งพอ เพราะตอ ง ปดแกส ท่ีถังแกส ดว ย) • พดั ลมตงั้ พนื้ ขณะใชง านหากมเี สยี งดงั ผดิ ปกติ มกี ลนิ่ ไหม หรอื หยดุ หมนุ มเี สยี งผดิ ปกตใิ หห ยดุ ใชง านทนั ที แลว รบี ใหช า งตรวจสอบและแกไขทนั ที T63
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ ๓.๓ การดแู ลรกั ษาอุปกรณ ์ เคร่ืองมือ เคร่อื งใช้ในการประกอบอาหาร 3. ครถู ามกระตนุ ความสนใจของนกั เรียนวา อปุ กรณ ์ เครอ่ื งมอื เครอื่ งใชใ้ นการประกอบอาหารแตล่ ะชนดิ ผลติ จากวสั ดทุ แ่ี ตกตา่ งกนั ดงั นน้ั • นักเรียนคิดวาหลักการเลือกซื้ออุปกรณ เพื่อให้อุปกรณ์ เคร่ืองมือ เครื่องใช้มีอายุการใช้งานยาวนาน ควรดูแลรักษาและท�าความสะอาด เคร่ืองมือ เคร่ืองใชในการประกอบอาหาร ควรพจิ ารณาถงึ สิ่งใด หลังการใชง้ ๑า)น ทสกุ เตครนง้ั เ ลโดส1ย แเมบ่อืง่ ตโดานมคปวราะมเภรทอ้ น ดสังูงนมี้ ากเกินไป จะทา� ใหเ้ กดิ สดี า� สีเทาหรอื สีนา้� ตาล (แนวตอบ ความเหมาะสมกบั ชนดิ ของอาหาร ความสมบูรณของอุปกรณเครื่องมือ เครื่อง ซึ่งสามารถขัดออกได้โดยใช้ฟองน�า้ ชุบน้า� ผงซกั ฟอกผสมนา�้ ส้มสายช ู ขัดตรงรอยดา� แลว้ ล้างออก ใชโดยอยูในสภาพดี ไมบุบ ไมงอ ความ ดว้ ยน�้าสะอาด เชด็ ให้แห้ง สะดวกในการใชง าน และการดแู ลรกั ษาหลงั การใชงาน) ๒) เหล็ก ใหใ้ ชน้ ้า� ยาท�าความสะอาดขดั แลว้ ลา้ งให้สะอาด เช็ดด้วยผา้ สะอาดให้แห้ง 4. ครูอธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับการเลือกอุปกรณ หรือผ่ึงให้แหง้ สนิททกุ ครั้ง เพอื่ ป้องกันไม่ให้เปน็ สนิม และใช้นา�้ มันประกอบอาหารทาให้ทั่ว เคร่ืองมือ เคร่ืองใชใหนักเรียนฟงวา “การ ประกอบอาหารแตล ะประเภท ควรมกี ารเลอื กใช ๓) อะลูมิเนียม ท�าความสะอาดให้เศษอาหารท่ีติดกับภาชนะออกให้หมด และเช็ด อุปกรณ เคร่ืองมือ เคร่ืองใชใหเหมาะสม และส่ิงท่ีควรคํานึงถึงมากที่สุด คือ ความ ใหแ้ หง้ เพราะหากมเี ศษอาหารตกคา้ งในภาชนะนาน ๆ กรดและดา่ งในอาหารจะทา� ใหภ้ าชนะกรอ่ น ปลอดภัยท้ังของตนเองและบุคคลอื่น เชน มีผิวขรขุ ระ และเปน็ รู การเลอื กใชข องมคี มแตล ะชนดิ จะตอ งระมดั ระวงั และเลอื กใชใหเ หมาะสมกบั งาน อปุ กรณเ ครอื่ งใช ๔) เครอ่ื งเคลอื บ ควรระวงั ไม่ใหต้ ก หรอื กระแทกกบั พน้ื เพราะจะทา� ใหส้ ว่ นทก่ี ะเทาะ ไฟฟาควรศึกษาวิธีการใชงานใหเขาใจกอน นาํ มาใช และปฏบิ ตั ติ ามคาํ แนะนาํ อยา งเครง ครดั เกิดเปน็ สนิมได้ การเกบ็ อปุ กรณ เครอ่ื งมอื เครอื่ งใชท มี่ นี า้ํ หนกั มากควรจัดเก็บไวดานลางของช้ันวาง เพื่อ ๕) แก้ว ควรระวังไม่ให้ตกพื้นและไม่ควรใส่ของท่ีมีความร้อนสูง นอกจากแก้วชนิด ความปลอดภัยในการใชงาน” ทนไฟ นอกจากน ้ี ไมค่ วรวางซ้อนกัน เพราะจะท�าใหต้ กแตกได้ และอาจมีส๖่ว)น ผพสลมาขสอตงสกิ า รไตมะค่ กวั่วรแใสล่ขะอสงาทรป่ีมรคี อวทา2มละรล้อานย ปเพนรเปาะื้อจนะมทาา� กใหับพ้ อลาหาสาตร กิ ทบดิ�าใเหบ้เ้ียปว็นผอดิ ันรปูตทรารยง ต่อสุขภาพได้ และควรเปล่ียนภาชนะพลาสติกท่ีใช้ใส่อาหารเม่ือใช้งานไประยะเวลาหนึ่ง เช่น เนือ้ ภาชนะเร่มิ ขุ่นกวา่ เดมิ เหนยี วเหนอะ หรอื อ่อนลงกวา่ ทเ่ี คยเปน็ Tip สารพษิ ในพลาสตกิ ปนเปอื้ นอาหาร พลาสติกเปน็ ภาชนะบรรจอุ าหารท่ีไดร้ ับความนยิ มกันอย่างแพร่หลาย หากมกี ารนา� มาบรรจุอาหารและน้�าด่ืมด้วยวิธีการท่ีไม่ถูกต้องและไม่ปลอดภัย จะท�าให้มีความเส่ียงต่อ การเกิดโรคเร้ือรังได ้โดยเฉพาะโรคมะเรง็ เพราะในพลาสตกิ จะมีสาร Bisphenol A(2-4) หรอื BPA เมอื่ ถูกความรอ้ นจากการต้มจะทา� ใหส้ ารตวั นี้ละลายออกมาปนเปื้อนกับอาหาร หากรับประทานเข้าไปจะส่งผลต่อระบบประสาท และก่อให้เกิดมะเร็งต่อมลูกหมากและ มะเร็งเต้านมได้ 58 นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 สเตนเลส จะไมเปนสนิมเม่ือโดนน้ําเหมือนเหล็ก จึงนิยมนํามาผลิตเปน การดแู ลรกั ษาอปุ กรณเ ครอ่ื งมอื เครอ่ื งใชในการประกอบอาหาร เคร่ืองใชในครัวเรือน ในการทําความสะอาดควรใชผาไมโครไฟเบอร ใหส ะอาดอยเู สมอมีประโยชนอ ยา งไร หรือผาขนหนูเน้ือนุม เพื่อลดการขีดขวน โดยเช็ดไปตามแนวลายเสน ของสเตนเลส หากมรี อยดา งควรดแู ลรกั ษาอปุ กรณเ ครอื่ งมอื เครอ่ื งใชท เี่ ปน (แนวตอบ การดูแลรกั ษาอปุ กรณ เครอื่ งมอื เครื่องใชใหสะอาด สเตนเลส เชน มปี ระโยชน ดังนี้ • รอยนาํ้ หรือตะกรัน ควรแชใ นน้าํ สมสายชู 25% หรือกรดไนตรกิ 15% ลางออกดวยนํ้าสะอาด ตามดวยนํ้าสบู หรือนาํ้ ผสมผงซักฟอก ลางดวย 1. ชวยใหอาหารที่ไดจากการประกอบอาหารสะอาด ไมเปน น้าํ รอนอกี ครง้ั และใชผาสะอาดเช็ดใหแหง อันตรายตอ ผทู ร่ี บั ประทาน • รอยนิว้ มือ ใหใชน ้าํ ยาเช็ดกระจกฉีดพนลงบนผาไมโครไฟเบอร จากน้ัน นาํ ไปเชด็ ใหเงางาม 2. ชว ยใหส ะดวกตอ การหยบิ ใชงาน 3. ชวยยืดอายุการใชงาน ชวยประหยัดคาใชจายในการซ้ือ 2 ปรอท เปน โลหะชนดิ หนง่ึ มลี กั ษณะเหลวสเี งนิ เปน อนั ตรายเชน เดยี วกบั ตะกวั่ นิยมนาํ มาใชในอตุ สาหกรรมตา งๆ เชน อตุ สาหกรรมไฟฟา อตุ สาหกรรมเคมี อปุ กรณเครอ่ื งมือ เครื่องใช) T64
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๓.๔ การใชแ้ ละการเกบ็ รกั ษาอปุ กรณ ์ เครอ่ื งมอื เครอื่ งใชใ้ นการประกอบอาหาร ขน้ั สอน อุปกรณ์ เครอ่ื งมอื เครอื่ งใช้ในการประกอบอาหารมหี ลายประเภท แตล่ ะประเภทจะมวี ิธกี าร 1. ครใู หนักเรียนแบงกลุม กลมุ ละ 4 คน พรอ ม ใชง้ านทแี่ ตกต่างกันไปจึงควรเลือกใชใ้ หเ้ หมาะสม นอกจากน ้ี ยงั ควรดแู ลและเก็บรกั ษาให้ถกู ต้อง ตงั้ ชอื่ กลมุ ของตนเอง เลอื กหวั หนา กลมุ และ เพื่อช่วยยืดระยะเวลาการใชง้ านใหย้ าวนานย่ิงขนึ้ เลขานุการ เพ่ือทําการจดบันทึกขอมูล โดย เรียกกลุมนี้วา “กลุมบาน” และใหสมาชิก ภาชนะสา� หรบั หุงตม้ แตละคนเลือกหมายเลขประจําตัวของตนเอง ไดแก หมายเลข 1 หมายเลข 2 หมายเลข 3 ภาชนะที่ใช้ส�าหรับต้ม น่ึง ตุ๋นอาหาร มีหลากหลายรูปแบบ และท�าจากวัสดุที่แตกต่างกัน และหมายเลข 4 ดงั นี้ 2. ครใู หน กั เรยี นทม่ี หี มายเลขเดยี วกนั ของกลมุ บา น การเลอื กใช้ มารวมตัวกนั เพอ่ื จดั ตงั้ เปน กลุมใหม โดยเรียก กลมุ นีว้ า “กลุมผเู ชย่ี วชาญ” หมอ้ ๒ หู • ใช้ส�าหรับต้มหรือแกง ถ้าต้มปริมาณมากควรใช้หม้อ ๒ หู 3. ครูมอบหมายใหกลุมผูเชี่ยวชาญแตละกลุม เพราะยกได้สะดวกและปลอดภัยกวา่ ดาํ เนนิ การศกึ ษาเนอื้ หาตามทไ่ี ดร บั มอบหมาย • ตัวหมอ้ ทา� จากอะลูมิเนียม หรือสเตนเลส จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 หรือ • หจู บั ทา� จากไม้ หรอื ทา� ดว้ ยพลาสตกิ กนั ความรอ้ น ตดิ แนน่ แขง็ แรง คนควาเพ่ิมเติมจากอินเทอรเน็ต โดยมีหัวขอ ดังน้ี หม้อจบั ดา้ มยาว หมายเลข 1 ศึกษาเรอื่ งหลักการเลือก • ใช้สา� หรับต้มอาหาร แกงตา่ ง ๆ หรอื อุน่ อาหารท่ี อปุ กรณ เครื่องมอื เครือ่ งใช มีปรมิ าณไม่มาก ในการประกอบอาหาร • ตวั หมอ้ ทา� จากอะลมู ิเนยี ม หรือสเตนเลส หมายเลข 2 ศึกษาเรื่องความปลอดภยั • ด้ามจับท�าจากไม้ หรือท�าด้วยพลาสติกกันความร้อน ติดแน่น ในการใชอ ุปกรณ เครือ่ งมือ แขง็ แรง เครอ่ื งใชในการประกอบอาหาร หมายเลข 3 ศกึ ษาเรื่องการดูแลรกั ษา หม้อน่ึง อปุ กรณ เครื่องมอื เคร่ืองใช • ใชส้ �าหรับน่งึ อาหาร ในการประกอบอาหาร • ตัวหมอ้ ท�าจากอะลูมิเนียม หรอื สเตนเลส ๒ ช้ัน หมายเลข 4 ศกึ ษาเรอ่ื งการใชและการเก็บ รกั ษาอุปกรณ เครื่องมอื หม• อ้หตูจับนุ๋ ทแา� รจงาดกนั ไมไฟ้ หฟรา้ือ1ท�าดว้ ยพลาสติกกนั ความรอ้ น เครอ่ื งใชในการประกอบอาหาร • ใช้ส�าหรับตุ๋นอาหารใหเ้ ป่ือย โดยใช้ระยะเวลาน้อย • ตวั หมอ้ ท�าจากอะลูมเิ นยี ม หรอื สเตนเลส • หจู บั ทา� จากไม้ หรอื ท�าด้วยพลาสตกิ กันความรอ้ น • สายไฟเรียบรอ้ ย ไมช่ า� รุด การเก็บรกั ษา หม้อท่ีท�าจากสเตนเลส เมื่อใช้แล้วให้ ท�าความสะอาดและเช็ดให้แห้งก่อนน�า หมอ้ ๒ หู หมอ้ จับดา้ มยาว และหมอ้ นึ่ง ไปเก็บ • ลา้ งใหส้ ะอาด เช็ดให้แห้ง เกบ็ เขา้ ตู้ใหเ้ รยี บรอ้ ย อาหาร 59 หม้อตุน๋ แรงดันไฟฟ้า • ปิดสวิตช์ ถอดปล๊ัก แล้วม้วนสายไฟให้เรียบร้อย ล้างตัวหม้อ กับการด�ารงชีวิต ใหส้ ะอาด เช็ดให้แห้ง แล้วเก็บเขา้ ตู้ให้เรียบร้อย ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู หากกลองพลาสติกใสอาหารมีกลิ่นอาหารติด ควรกําจัดกล่ิน 1 หมอ ตนุ แรงดนั ไฟฟา หรอื หมอ อดั แรงดนั ชว ยทาํ ใหอ าหารสกุ และเปอ ยเรว็ อยา งไร ใชเ วลาในการปรงุ นอ ยกวา หมอ ทว่ั ไป ชว ยประหยดั พลงั งานไฟฟา อาหารทไี่ ด จะมีลักษณะเชนเดียวกันกับการตุน ผูใชงานควรศึกษาวิธีการใชใหเขาใจ 1. ลางดว ยน้าํ ยาลา งจานผสมนํ้ามะนาว เนอื่ งจากหมอแตละรนุ แตละย่ีหออาจมขี อ ควรระวังทแี่ ตกตางกนั โดยทวั่ ไป 2. ใชน ้ํายาทําความสะอาดขัดดวยฝอยแบบออน การเปดฝาหมอตอนหมอรอนจัดจะเกิดแรงอัดท่ีอาจทําใหเกิดอันตรายได 3. ลา งดว ยน้ําสมสายชู แลว ลา งออกดว ยนํา้ สะอาด ผใู ชง านจงึ ควรใชอ ยา งระมดั ระวงั หรอื เลอื กใชห มอ ทม่ี ปี มุ บอกแรงดนั ภายในหมอ 4. นํ้าไปตมในนา้ํ ผสมเกลือ แลวลางออกดวยน้าํ สะอาด อาหารที่นยิ มใชห มอชนิดน้ี เชน ซปุ ไก ขาหมพู ะโล เปด ตนุ ซ่โี ครงหมอู บซอส สตูไก (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เพราะนาํ้ สม สายชมู คี ณุ สมบตั ใิ นการ กําจัดกล่ินอาหาร หรือกลิ่นผลไม ไดดีกวานํ้ายาลางจาน นํ้ายา ทําความสะอาด และนํา้ ผสมเกลอื ) T65
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน อุปกรณ์สา� หรับทอด หรอื ป้งิ 4. ครูสังเกตพฤติกรรมการทํางานของนักเรียน ภาชนะที่ใช้ส�าหรับทอดหรือปิ้งอาหาร มีหลากหลายรูปแบบ และท�าจากวัสดุที่แตกต่างกัน แตล ะกลมุ พรอ มทงั้ ใหค าํ แนะนาํ เพมิ่ เตมิ ตาม ดังนี้ หวั ขอ ทน่ี ักเรยี นไดร ับมอบหมาย การเลอื กใช้ 5. ครูเปดโอกาสใหสมาชิกในกลุมผูเช่ียวชาญ อภิปรายขอมูลรวมกัน และตรวจสอบความ กระทะสเตนเลส ถูกตองของเนื้อหา พรอมท้ังจดบันทึกสาระ สําคัญตามหัวขอที่ตนเองไดรับมอบหมาย • ใชส้ า� หรบั ทอดและผดั อาหาร ไม่เปน็ สนมิ 1 ลงในสมุดประจําตัว • ตวั กระทะทา� จากสเตนเลส กน้ ลึก • ด้ามจับแขง็ แรง ท�าดว้ ยพลาสติกกันความรอ้ น 6. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนไดอภิปรายถายทอด กระทะเคลอื บ ความรูใหแกสมาชิกภายในกลุมบานถึงสิ่งท่ี ไดสืบคนและศึกษาเรียนรูในหัวขอท่ีตนเอง • ใชส้ �าหรบั ทอด ผดั ป้งิ อาหาร ไดร บั จากกลมุ ผเู ช่ยี วชาญ • เตทวั ฟกลรอะทน2ะเทซา� รจาามกิกทา�หจนิ าอก่อโลนหทะนเคควลาอื มบรด้อ้วนยสสงู ารลื่น เช่น • ดา้ มจับแข็งแรง ท�าด้วยพลาสติกกันความรอ้ น 7. หลงั จากทนี่ กั เรยี นไดร ว มกนั ศกึ ษาและอภปิ ราย กระทะทองเหลอื ง รว มกันแลว ครถู ามนักเรียนวา • การเลือกซ้ืออุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช • ใชส้ า� หรบั ทา� ขนม เช่น เช่อื ม กวน ในการประกอบอาหาร มหี ลกั ในการเลอื กซอ้ื • ตัวกระทะและหจู บั ท�าจากทองเหลืองแท้ อยางไร • มลี ักษณะมนั วาว อาหารค่อนขา้ งไมต่ ดิ กระทะ (แนวตอบ ควรเลือกซ้ือใหมีความเหมาะสม กระทะไฟฟา้ กับชนิดของอาหาร อยูในสภาพดี ทนทาน และดแู ลรกั ษาทาํ ความสะอาดงา ย) • ใชส้ �าหรบั ทอด ผดั อบอาหาร • ตวั กระทะทา� จากอะลูมิเนยี ม ปรบั ระดับความร้อนได้ • หูจบั ทา� ด้วยพลาสตกิ กันความร้อน ควรเลอื กกระทะใหเ้ หมาะสมกบั การประกอบ การเกบ็ รักษา อาหารแต่ละประเภทและเลือกขนาดให้ เหมาะสม กระทะสเตนเลสและกระทะเคลือบ • ลา้ งให้สะอาด เชด็ ใหแ้ ห้ง แล้วเก็บเขา้ ตู้ใหเ้ รียบรอ้ ย กระทะทองเหลือง • แชน่ า้� ทงิ้ ไวส้ กั ครู่ เพอ่ื ใหเ้ ศษอาหารทตี่ ดิ อยหู่ ลดุ ออก ใชฟ้ องนา�้ ขัดลา้ งให้สะอาด เชด็ ให้แห้ง แลว้ เกบ็ เขา้ ตู้ให้เรยี บร้อย กระทะไฟฟา้ • ปดิ สวติ ช์ ถอดปลกั๊ แลว้ มว้ นสายไฟใหเ้ รยี บรอ้ ย ลา้ งตวั หมอ้ ใหส้ ะอาด เช็ดใหแ้ ห้ง แล้วเกบ็ เขา้ ตใู้ หเ้ รียบร้อย 60 นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 สนมิ การกําจดั สนิมเคร่อื งครัว เชน มดี ควรสวมถุงมือ แลวนาํ เกลือไปทา กระทะอะลมู เิ นยี มมวี ิธกี ารเลือกใชและการเก็บรกั ษาอยางไร ใหท่ัวบริเวณที่เกิดสนิม ผามะนาวและบีบนํ้าลงไป ทิ้งไวสักพัก จึงขัดออก หากขัดแลวยังมีสนิมเหลืออยู ใหทําซ้ําอีกคร้ัง โดยทิ้งไวใหนานข้ึน ประมาณ (แนวตอบ กระทะอะลูมิเนียมมีน้ําหนักเบา นําความรอนไดดี 1 ช่ัวโมง เมื่อขัดสนิมออกแลวใหลางและเช็ดใหแหง สวนการกําจัดสนิม และราคาไมแพง ใชสําหรับทอดและผัดอาหาร ดามจับตองมี ที่เปอนเส้ือผา สามารถทําไดโดยการทานํ้ามะนาวลงบนเนื้อผา นําไปผ่ึงแดด ความแข็งแรงทนทาน ตัวกระทะทําจากอะลูมิเนียมที่มีคุณภาพดี ใหแหง แลวนาํ ไปซกั ตามปกติ เนอ่ื งจากอะลมู เิ นยี มทไี่ มม คี ณุ ภาพอาจเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมกี บั อาหาร 2 เทฟลอน ภาชนะทเ่ี คลือบดวยเทฟลอนไมค วรใชกับตะหลวิ หรือวัสดทุ เ่ี ปน ทม่ี ฤี ทธเ์ิ ปน กรด ทาํ ใหเ กดิ อนั ตรายตอ รา งกายได สว นการเกบ็ รกั ษา เหล็ก สเตนเลส หรืออะลูมเิ นียม และไมค วรใชไฟสูงกวา 250 องศาเซลเซียส สามารถทําไดโดยการลางใหสะอาด เช็ดใหแหง และเก็บเขาตู ในการประกอบอาหาร เพราะจะทาํ ใหส ารทเี่ คลอื บอยหู ลดุ รอ น สว นการทาํ ความ ใหเ รียบรอ ย) สะอาดควรรอใหภ าชนะคลายความรอ นกอ น แลว จงึ ทาํ ความสะอาดดว ยนาํ้ เปลา สามารถใชน า้ํ สมสายชูกับน้าํ ยาลา งจานในอตั ราสว นทเ่ี ทากันมาลา ง จะชวยให สะอาดมากขน้ึ หากมคี ราบมนั หรอื มกี ลนิ่ ควรใชน า้ํ ยาลา งจานถดู ว ยฟองนา้ํ ทน่ี ม่ิ ไมค วรใชฝอยขดั มาขดั ภาชนะ เพราะจะทาํ ใหเทฟลอนหลุดรอ นได T66
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ อปุ กรณ์สา� หรบั หั่น สบั บด และผสมอาหาร ขนั้ สอน เคร่ืองมือที่ใช้แยกชิ้นอาหารให้มีขนาดเล็กลงตามท่ีต้องการ และผสมอาหารให้เข้ากัน • การใชอุปกรณ เครื่องมือ เคร่ืองใชในการ เพอ่ื สะดวกในการปรงุ อาหาร มดี ังน้ี ประกอบอาหารประเภทตางๆ ควรคาํ นงึ ถงึ ความปลอดภยั ในเรื่องใด การเลือกใช้ อปุ กรณ์ห่นั สบั บด เป็นอุปกรณม์ ีคม ใน (แนวตอบ หากใชของมีคมตองใชอยาง การเลือกใช้ต้องค�านึงถึงความปลอดภัย ระมดั ระวงั หากใชอ ปุ กรณป ระเภทเครอื่ งใช มดี เป็นสา� คัญ ไฟฟา ตองศึกษาวิธีการใชใหเขาใจกอน • ใชส้ �าหรับหั่น สบั เนอื้ สตั ว์ ผัก และผลไม้ นํามาใช และปฏิบัติตามคําแนะนําอยาง • ใบมดี มีความคม เครง ครัด) • เลอื กดา้ มจับแน่นหนา หรือพลาสติก แข็งแรง ทนทาน • นักเรียนมีวิธีการใชมีดอยา งไรใหปลอดภัย เขยี ง (แนวตอบ ควรใชมีดใหเหมาะกับลักษณะ • ใชส้ �าหรบั รองรบั การหนั่ สับอาหาร ของงาน ใชดวยความระมัดระวัง มีสมาธิ • ท�าจากไมเ้ นอ้ื แขง็ หรือพลาสตกิ ไม่มีรอยแตกร้าว ไมประมาท และเก็บในท่ีสําหรับเก็บมีด มองเห็นไดช ัดเจน) ครก • ใช้ส�าหรบั บดสว่ นผสม หรอื เครือ่ งปรุงใหล้ ะเอียด • เพราะเหตใุ ดอปุ กรณ เครอื่ งมอื เครอ่ื งใชจ งึ มี • ครกหนิ เลอื กตัวครกและสากท่ีทา� จากหินแท้ วธิ ีการดแู ลรกั ษาทีแ่ ตกตา งกัน (แนวตอบ เพราะอุปกรณ เคร่ืองมอื เครอ่ื งใช เค•รคอื่ รงกบดดินอเาผหาาเรลไอื ฟกฟทา้ี่ม1นี ้�าหนักมาก มกี ้นลกึ สากทา� จากไม้ ในการประกอบอาหารมหี ลากหลายประเภท แตละประเภทผลิตจากวัสดุที่แตกตางกัน • ใชส้ า� หรบั บด หัน่ ปั่นอาหารใหล้ ะเอียด จงึ สง ผลใหก ารดแู ลรกั ษามคี วามแตกตา งกนั • ตวั โหลทา� จากแก้ว ใบมดี ท�าจากสเตนเลส สายไฟไม่ช�ารดุ ตามไปดวย) เครือ่ งผสมอาหารไฟฟ้า • ใชส้ �าหรบั ผสมส่วนผสมต่าง ๆ ให้เข้ากัน • ตวั โถและด้ามหวั ตีทา� จากสเตนเลส สายไฟไม่ช�ารุด การเก็บรักษา มีด • ล้างให้สะอาด ทงิ้ ไว้ใหแ้ ห้ง เกบ็ เข้าทใี่ ห้เรียบรอ้ ย และเก็บใหพ้ ้นมอื เดก็ เขยี ง • ล้างให้สะอาด เชด็ ใหแ้ หง้ น�าไปผง่ึ ลมใหแ้ หง้ สนิท เพอ่ื ปอ้ งกนั การขึน้ รา แล้วเกบ็ เขา้ ทใี่ ห้เรยี บร้อย ครก • ล้างใหส้ ะอาด เช็ด หรือคว่�าให้แหง้ แลว้ เก็บเข้าทใี่ หเ้ รียบรอ้ ย เครอ่ื งบดอาหาร • ถอดปล๊ักไฟ น�าโหลแก้วมาล้างใหส้ ะอาด แลว้ เชด็ ใหแ้ ห้ง เพอ่ื ปอ้ งกนั ใบมีดเป็นสนิม แลว้ เก็บเขา้ ที่ ใหเ้ รยี บร้อย เครอ่ื งผสมอาหาร • ถอดปล๊ักไฟ ถอดโถและดา้ มหวั ตีออกมาล้างใหส้ ะอาด เชด็ ใหแ้ ห้ง แล้วเก็บเขา้ ทใ่ี หเ้ รยี บร้อย 61 อาหาร กับการด�ารงชีวิต ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู หากอุปกรณ เครื่องมือ เคร่ืองใชในการประกอบอาหาร 1 เครอ่ื งบดอาหารไฟฟา ควรใชอ ยา งระมดั ระวงั เนอ่ื งจากเปน อปุ กรณไ ฟฟา มนี ํา้ หนกั มาก เชน ครกหิน เขียงไม ควรเก็บรกั ษาอยา งไรจงึ จะ ท่ีมีใบมีดอยูภายใน กอนบดควรห่ันวัตถุดิบใหเปนชิ้นเล็กๆ กอน ไมควรบด เหมาะสมมากทส่ี ดุ วตั ถดุ บิ ทแ่ี ขง็ ควรเปด สวติ ชเ มอ่ื พรอ มทจี่ ะใชง าน และไมค วรใชง านนานเกนิ ไป หรอื ใชง านจนเครอ่ื งรอ น ซงึ่ เครอ่ื งบดอาหารแตล ะรนุ จะทาํ งานไดน านไมเ ทา กนั 1. วางไวด า นบนของตูเก็บของ จงึ ควรศกึ ษาขอ มลู ใหเ ขา ใจกอ นนาํ มาใชง าน เมอื่ ปด สวติ ชค วรรอใหเ ครอื่ งหยดุ 2. วางไวด า นนอกของตเู กบ็ ของ ทาํ งาน จากนน้ั จึงนาํ โถ หรอื เหยอื กออกมา 3. วางไวช้ันลางสุดของตเู กบ็ ของ 4. วางไวดานขางของตเู กบ็ ของท้ังสองขา ง สว นการดูแลรักษาเครื่องใหมคี วามคมนน้ั ใหนําเศษสบูลางจานใสลงไป ในเครอ่ื ง แลว เปด สวติ ช สบจู ะทาํ ความสะอาดไปพรอ มๆ กบั การลบั มดี จากนน้ั (วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะเปนจดุ ท่ีสามารถหยบิ ใชงาน ลางเครอื่ งบดดวยนา้ํ รอนแลวเชด็ ใหแ หง ไดอยางสะดวกและปลอดภัย หากวางไวดานบนของตูเก็บของ อาจทําใหเกิดอุบัติเหตุไดงาย หากวางไวดานนอกตูเก็บของ T67 อาจทาํ ใหฝ นุ เกาะได และหากวางไวด า นขา งของตเู กบ็ ของทงั้ สองขา ง จะทาํ ใหห ยบิ ไมส ะดวกเนอื่ งจากอปุ กรณ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช เหลา นนั้ มนี า้ํ หนักมาก)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน อุปกรณส์ �าหรบั ให้ความรอ้ น 8. ครใู หน กั เรยี นชว ยกนั ยกตวั อยา งอปุ กรณ เครอ่ื งมอื อปุ กรณท์ ่ีใชส้ า� หรบั หงุ ตม้ อบ หรอื อนุ่ อาหารดว้ ยความรอ้ น มหี ลากหลายประเภทและมวี ธิ กี าร เคร่ืองใชใ นการประกอบอาหารท่ใี หความรอ น เลอื กใชแ้ ตกตา่ งกัน ดังนี้ เชน เตาแกส เตาอบระบบไฟฟา เตาอบไมโครเวฟ พรอมทั้งบอกวธิ กี ารเลอื กใช วธิ ใี ชง าน ขอ ควร การเลือกใช้ ระวงั ในการใชง าน การดแู ลรกั ษาความสะอาด เตาเซรามกิ ไฟฟา้ จากน้นั ครถู ามนกั เรยี นวา • หากตองการติดตั้งแกส ควรติดต้ังไวใน • ทา� จากกระจกเซรามกิ ทที่ นความรอ้ นและรบั แรงกระแทกได้ บรเิ วณใด • มรี ะบบป้องกันอนั ตรายจากไฟฟา้ ชอ็ ต (แนวตอบ ติดตั้งไวในหองครัวที่มีอากาศ • ซ้ือจากแหลง่ ที่ ไดม้ าตรฐาน ถายเทไดสะดวก ต้ังบนพ้ืนท่ีเรียบเสมอกัน เตาอบระบบไฟฟ้า และตดิ ตั้งในทแี่ หง ไมชื้น) • ตวั เตาทา� จากสเตนเลส หรือกระจก • หากเตาแกส มคี ราบนา้ํ มนั เกาะตดิ จนเหนยี ว • ตงั้ อุณหภมู ิได้ ปรบั อณุ หภูมิได้อัตโนมตั ิ นักเรียนจะมีวิธีการทาํ ความสะอาดอยางไร (แนวตอบ ใชนํ้ายาเช็ดคราบน้ํามันสําหรับ เต•าซออ้ื บจไามกโแคหรลเว่งฟท1ี่ ไดม้ าตรฐาน เตาแกสโดยเฉพาะ โดยการฉีดน้ํายาลงบน เตาแกสและบริเวณที่มีคราบน้ํามัน ใชผา • ตัวเคร่อื งแข็งแรง ทนทาน ท�าความสะอาดง่าย ชุบนํ้าบิดหมาดๆ หรือฟองนํ้าเช็ด และใช • มีระบบตรวจสอบอุณหภูมิของอาหารและระบบป้องกัน ผาสะอาดเช็ดซาํ้ อีกครง้ั ) อนั ตรายจากไฟฟ้าชอ็ ต • ซื้อจากแหล่งท่ีได้มาตรฐาน การเกบ็ รักษา เตาเซรามิกไฟฟา้ • ใชผ้ า้ ชบุ น้า� หรือน้า� ยาท�าความสะอาดเช็ดรอบ ๆ เตา แลว้ เชด็ ให้แห้งอีกครั้ง เตาอบระบบไฟฟ้า • ใชฟ้ องน�้าหรือผา้ ชบุ นา้� หรือน้�ายาท�าความสะอาดเชด็ รอบ ๆ ตวั เตา แลว้ ใชผ้ ้าเช็ดให้แห้ง เตาอบไมโครเวฟ • ตัวเคร่ืองด้านนอกและด้านในให้ใช้ผ้าชุบน�้า หรือน้�ายา ทา� ความสะอาดเชด็ จานรองดา้ นใน บางรนุ่ สามารถถอดออก มาล้างได้ แล้วเชด็ ใหแ้ หง้ ควรเลือกเตาให้เหมาะสมกับการใช้งาน มีความทนทาน และใชอ้ ยา่ งปลอดภยั 6๒ นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด 1 เตาอบไมโครเวฟ ในปจจุบันเตาอบไมโครเวฟมีใหเลือกซ้ือกันหลายรุน บุคคลในขอ ใดเลอื กใชอ ปุ กรณ เคร่อื งมอื เคร่อื งใชใ นการ หลายยห่ี อ หลายราคา ในการเลอื กซอื้ จงึ ควรพจิ ารณาใหเ หมาะสมตอ การนาํ มา ประกอบอาหารไดอยา งเหมาะสม ใชงาน โดยมีหลักการทค่ี วรคํานงึ ดังนี้ 1. โมกใชจานสงั กะสเี คลือบอนุ อาหารในไมโครเวฟ 1. ขนาด ควรเลือกใหเ หมาะสมตามการใชง าน ไมจาํ เปนตองมขี นาดใหญ 2. มน้ิ ตท ําแกงเขยี วหวานดวยหมอ ดา มยาว มาก เพราะจะทําใหส้ินเปลอื งพลงั งานไฟฟา 3. แมนอุนไกทอดดวยหมอ หงุ ขาวไฟฟา 4. เมยใชลังถึงนึง่ ขนมตาล 2. โครงสรา ง ควรเลอื กจากวสั ดทุ ใี่ ชว า มคี วามแขง็ แรง ทนทานมากเพยี งใด มีระบบความปลอดภยั หรือไม ทําความสะอาดไดงา ยหรือไม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะลังถึงเปนภาชนะสําหรับ น่ึงอาหาร โดยใชไอน้ําทําใหอาหารสุก สวนอุปกรณในขออ่ืนๆ 3. ระบบการทํางาน ควรเลือกท่ีมีระบบไมซับซอนมากจนเกินไป มีระบบ จานสงั กะสไี มค วรใชก บั ไมโครเวฟ หมอ ดา มยาวใชส าํ หรบั ตม แกงจดื ความปลอดภยั มรี ะบบทาํ ใหอาหารสุกและอาหารรอน และหมอหุงขา วไฟฟาใชส ําหรับหงุ ขา ว) 4. ผผู ลิตและจดั จําหนา ย ควรเลือกบรษิ ัทผูผลติ ท่มี คี วามนา เชื่อถือ มีศนู ย บริการ มกี ารรับประกนั สนิ คา และมบี รกิ ารงานซอมท่สี ะดวก รวดเรว็ 5. ฉลากประหยดั ไฟเบอร 5 ควรเลือกจากการใชก าํ ลังไฟฟา ทป่ี รากฏอยู บนฉลากไฟฟา ควรเลอื กชนดิ ทกี่ ินไฟนอย เพ่อื ชว ยประหยัดพลังงานไฟฟา T68
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ อปุ กรณส์ �าหรบั ใส่และตกั อาหาร ขน้ั สอน อปุ กรณท์ ่ีใช้ส�าหรบั ใสส่ ่วนผสม เครื่องปรงุ อาหาร และไวส้ า� หรบั ตักอาหาร มดี ังนี้ 9. ครใู หน กั เรยี นชว ยกนั ยกตวั อยา งอปุ กรณ เครอื่ งมอื เครอื่ งใชส าํ หรบั ใสแ ละตกั อาหาร เชน จาน ชาม การเลอื กใช้ ถวย ชอน ทัพพี กระบวย พรอมท้ังบอกวิธกี าร เลือกใช วิธีใชงาน ขอควรระวังในการใชงาน จาน การดูแลรักษาความสะอาด จากนั้นครูถาม • ใช้สา� หรับใสอ่ าหารประเภทผัด ทอด ยา� นกั เรยี นวา • ไม่มรี อยร้าว และไม่มลี วดลายบริเวณท่สี ัมผสั กบั อาหาร • หลักการเลือกซื้ออุปกรณสําหรับใสอาหาร จาํ พวก จาน ชาม ถว ย มหี ลกั ในการเลอื กซอื้ ชาม อยางไร • ใช้ส�าหรับใสอ่ าหารประเภทแกง ก๋วยเต๋ียว (แนวตอบ ไมมีรอยราวและไมมีลวดลาย • กว้างและก้นลึก ไม่มีรอยร้าว และไม่มีลวดลายบริเวณที่ บริเวณทส่ี ัมผัสกับอาหาร) สัมผสั กบั อาหาร • การดแู ลรักษาอปุ กรณ เครอ่ื งมือ เคร่ืองใช สาํ หรบั ใสแ ละตกั อาหาร มวี ธิ กี ารดแู ลรกั ษา ถ้วย อยา งไร • ใช้ส�าหรับใส่เคร่ืองปรุง เพื่อเตรียมประกอบอาหาร หรือใส่ (แนวตอบ จาน ชาม ถวย ควรลา งใหสะอาด ขนมหวาน เช็ดใหแหง หรือวางผึ่งไวใหแหง แลวเก็บ • มีขนาดเล็ก ก้นลึก ไม่มีรอยร้าว และไม่มลี วดลายบริเวณท่ี เขาตูใหเรียบรอย ชอน สอม ควรลางให สมั ผัสกับอาหาร สะอาด เชด็ ใหแ หง แลว เก็บในกลอ ง ทัพพี และกระบวย ควรลางใหส ะอาด เช็ดใหแ หง ชอ้ น นาํ ไปแขวน หรอื เกบ็ เขา ตูใหเ รยี บรอ ย) • ใชส้ า� หรบั ตกั อาหารที่มีขนาดเล็กและปรมิ าณน้อย • ไมม่ ีรอยรา้ ว ไม่หกั งอ หรอื บิดเบยี้ ว ทพั พแี ละกระบวย • ใช้ส�าหรับตักอาหารในปริมาณมาก • ทา� จากสเตนเลส ดา้ มจบั ทา� ด้วยพลาสตกิ กนั ความรอ้ น การเกบ็ รักษา อุปกรณ์ที่ใช้ใส่และตักอาหาร เม่ือใช้แล้ว ควรลา้ งใหส้ ะอาด เชด็ ใหแ้ หง้ แลว้ เกบ็ เขา้ ที่ จาน ชาม ถ้วย ใหเ้ รียบร้อย • ล้างให้สะอาด เช็ดให้แห้ง หรือวางผ่ึงให้แห้ง แล้วเก็บเข้าตู้ ให้เรียบรอ้ ย อาหาร 6๓ ช้อน ทัพพแี ละกระบวย กับการด�ารงชีวิต • ช้อน ล้างใหส้ ะอาด เชด็ ให้แห้ง แลว้ เกบ็ ในกล่อง • ทัพพี หรือกระบวย ล้างให้สะอาด เช็ดให้แห้ง น�าไปแขวน หรือเกบ็ เข้าตู้ใหเ้ รยี บรอ้ ย ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู การเลือกอุปกรณ เคร่ืองมือ เคร่ืองใชในการประกอบอาหาร ครใู หนกั เรยี นนําอปุ กรณสาํ หรบั ใสแ ละตักอาหารมาคนละ 1 ช้นิ จากนั้น ควรคํานึงถึงสิง่ ใดมากที่สุด รว มกนั อธบิ ายวา อปุ กรณชิน้ น้ันมชี ่ือเรียกวาอยา งไร สามารถนาํ ไปใชประโยชน ไดอ ยางไร แลวใหน ักเรยี นแบงกลมุ ตามอปุ กรณท ีน่ าํ มา เชน 1. ประเทศทผ่ี ลิต 2. ราคาและวันท่ผี ลิต • จาน • ชาม • ถวย 3. วัสดุท่ีเปนสวนประกอบหลัก • ชอ น • สอม • ทพั พี 4. รูปทรงของอปุ กรณ เครื่องมือ เครอ่ื งใช แตล ะกลมุ นาํ อปุ กรณข องกลมุ ตนเองมาพจิ ารณาถงึ ลกั ษณะ วสั ดุ ความเหมอื น และความแตกตาง การนําไปใชง าน สงิ่ ท่พี ึงระมัดระวงั ในการใชงาน จากน้ันสง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการใชเครื่องมือ เครื่องใช ตัวแทนกลมุ ออกมานําเสนอผลงานหนาชัน้ เรยี น อุปกรณในการประกอบอาหารใหเหมาะสมกับวัสดุท่ีเปนสวน ประกอบหลักจะทําใหเกิดความปลอดภัยจากการประกอบอาหาร แตห ากเลอื กใชอ ปุ กรณ เครอื่ งมอื เครอ่ื งใชท ไ่ี มเ หมาะสม อาจทาํ ให รา งกายไดร ับสารพิษจากอุปกรณท ีใ่ ชเ หลาน้นั ได) T69
นาํ สอน สรุป ประเมนิ ขนั้ สอน อุปกรณ์สา� หรบั ทา� ความสะอาด 10. ครูใหนักเรียนชวยกันยกตัวอยางอุปกรณ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ส�าหรับท�าความสะอาดอุปกรณ์ เคร่ืองมือ เครื่องใช้ในการประกอบอาหาร เครื่องมือ เครื่องใชสําหรับทําความสะอาด มีดงั นี้ พรอ มทงั้ บอกวธิ กี ารเลอื กใช วธิ ใี ชง าน ขอ ควร ระวงั ในการใชง าน จากนนั้ ครถู ามนกั เรยี นวา ฟองนา้� หลงั จากการใชง้ าน ควรลา้ งใหส้ ะอาด การเลือกใช้ • เพราะเหตุใดหลังจากการใชงานเครื่องครัว เพราะอาจเปน็ แหลง่ สะสมของเชือ้ โรคได้ จงึ ตองทําความสะอาดทันที สารท�าความสะอาด (แนวตอบ เพราะอุปกรณเครื่องใชในครัว • ใช้ส�าหรบั ลา้ งภาชนะ จะตอ งสะอาด ถกู หลกั อนามยั ไมเ ปน แหลง • ดูวันทผี่ ลิตและวนั หมดอายกุ ่อนเสมอ สะสมของเช้ือโรค จึงตองทําความสะอาด ทนั ทีหลังใชงานเสรจ็ ) ฝอยขดั • ใชส้ า� หรับขดั ภาชนะท่ลี า้ งออกยาก เช่น ก้นกระทะ ก้นหมอ้ 11. ครใู หน กั เรยี นทาํ ใบงานที่ 3.3.1 เรอื่ ง การเลอื ก • ทา� ด้วยไฟเบอร์ เสน้ ฝอยจับกนั เป็นกอ้ น ไม่หลุดลยุ่ อปุ กรณ เคร่ืองมอื เครื่องใชในการประกอบ อาหาร ฟองน�้าขัด • ใช้ส�าหรับทา� ความสะอาดภาชนะจา� พวกจาน ชาม ช้อน แก้ว ขน้ั สรปุ • เลอื กท่มี ีความหนานุ่ม อมุ้ นา้� ขนาดพอเหมาะ จับถนดั มือ ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเก่ียวกับอุปกรณ การเกบ็ รักษา เครื่องมือ เคร่ืองใชในการประกอบอาหารวา “ปจจุบันมีอุปกรณ เคร่ืองมือ เครื่องใชในการ สารท�าความสะอาด ประกอบอาหารหลากหลายรปู แบบ ดงั นนั้ จงึ ควร • หากเป็นถุงควรปดิ ปากถงุ ใหส้ นิท หรอื แบ่งใสข่ วดไว้ แลว้ ปดิ ฝาใหส้ นิท ศกึ ษาวธิ กี ารใชง าน ตลอดจนการเกบ็ รกั ษาทถ่ี กู ตอ ง เพอ่ื ใหอ ปุ กรณ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใชม ปี ระสทิ ธภิ าพ ฝอยขดั และมีอายุการใชงานที่ยาวนานขนึ้ ” • ลา้ งใหส้ ะอาด แลว้ ผงึ่ ให้แหง้ เกบ็ เขา้ ท่ีให้เรียบรอ้ ย ขน้ั ประเมนิ ฟองน้�าขดั • บีบฟองทีค่ า้ งอย่ทู ่ีฟองน�้าออกให้หมด ล้างให้สะอาด ผ่ึงใหแ้ ห้ง แล้ววางไว้ในกลอ่ งใกล้อ่างล้างจาน 1. ครตู รวจใบงานท่ี 3.3.1 เรอ่ื ง การเลอื กอปุ กรณ เคร่อื งมอื เครื่องใชในการประกอบอาหาร Tip เคล็ดลบั การทา� ความสะอาดฟองน้า� ขัด 2. ครตู รวจสอบความรู ความเขา ใจของนักเรยี น ฟองน�้าขัดมักเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียที่เกิดจากการใช้น�้ายา เรอื่ งอปุ กรณ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใชในการประกอบ ลา้ งจานแล้วไม่บีบล้างออกใหห้ มด ท�าให้นา้� ยาลา้ งจานและเศษอาหารที่เรารบั ประทานนน้ั อาหาร จากการตอบคําถาม การแสดงความ ค้างอย่ภู ายในฟองน้�าและสะสมไปเรอื่ ย ๆ ดังนั้น จึงควรท�าความสะอาดทุกคร้ัง มวี ธิ ี ดังน้ี คดิ เหน็ รว มกนั ในชน้ั เรยี น และการทาํ กจิ กรรม ๑. ใช้ความร้อน โดยหลังจากล้างภาชนะเสร็จให้บีบฟองจากฟองน�้าออกให้หมด ในชนั้ เรยี น ล้างด้วยน้า� สะอาด นา� ไปแช่น้�ารอ้ นและผง่ึ แดดให้แห้ง ๒. ใช้น�้าส้มสายชู โดยหลังจากล้างภาชนะเสร็จให้บีบฟองจากฟองน�้าออกให้หมด ล้างดว้ ยน�้าสะอาด น�านา�้ ส้มสายช ู ๑ ชอ้ นผสมกบั นา้� สะอาด ๑ แกว้ แลว้ น�าฟองน้�าแช่ไว ้ ๑ คืน ลา้ งดว้ ยนา้� สะอาด นา� ไปผ่งึ แดดให้แห้ง 6๔ แนวทางการวัดและประเมินผล กิจกรรม เสริมสรา งคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค ครสู ามารถสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานเปน รายบคุ คล การสงั เกตพฤตกิ รรม ใหน กั เรยี นแบง กลมุ ออกเปน 5 กลมุ กลมุ ละเทา ๆ กนั ใหแ ตล ะกลมุ การทํางานกลุม โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลท่ีแนบทายแผน นําอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชในการประกอบอาหาร เพ่ือนํามา การจดั การเรียนรู หนว ยการเรียนรทู ี่ 3 พิจารณาแลกเปล่ียนความคิดเห็นรวมกันในช้ันเรียน โดยนํามา กลุมละ 1 ประเภท ดงั น้ี แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม • กลมุ ท่ี 1 : ภาชนะสําหรบั หุงตม คาช้ีแจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ งที่ คาช้ีแจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งที่ • กลุมที่ 2 : อุปกรณส ําหรบั ทอดและปง ตรงกบั ระดับคะแนน • กลุม ที่ 3 : อุปกรณสําหรับหั่น สับ บด และผสมอาหาร ตรงกับระดับคะแนน • กลมุ ท่ี 4 : อุปกรณส าํ หรับใสแ ละตักอาหาร • กลมุ ที่ 5 : อปุ กรณส าํ หรับทําความสะอาด ระดับคะแนน การมี (กิจกรรมน้ีสรางเสริมคุณลักษณะดานมีวินัย อยูอยางพอเพียง 321 และมุง มนั่ ในการทํางาน) ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ชื่อ – สกลุ การแสดง การยอมรับ การทางาน ความมี สว่ นร่วมใน รวม ของนกั เรียน ความ ฟงั คนอ่ืน ตามท่ีได้รบั นา้ ใจ การ 15 1 การแสดงความคิดเหน็ ลาดบั ท่ี คดิ เห็น มอบหมาย คะแนน 2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผอู้ ื่น ปรบั ปรุง 3 การทางานตามหนา้ ท่ีที่ได้รับมอบหมาย ผลงานกลุ่ม 4 ความมีน้าใจ 5 การตรงต่อเวลา 3 2 13 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 รวม ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ประเมนิ ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ............./.................../............... ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครัง้ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน 12 - 15 ดี เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ 8 - 11 พอใช้ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ตา่ กว่า 8 ปรับปรงุ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง T70
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๔ การเตรยี มวัตถุดบิ ขน้ั นาํ (5Es) การประกอบอาหารจะตอ้ งมกี ารเตรียมวตั ถุดิบ โดยจะต้องจัดเตรยี มให้เหมาะสมกับชนดิ และ ขนั้ ท่ี 1 กระตนุ ความสนใจ ลกั ษณะของอาหาร ซง่ึ ควรเตรยี มวตั ถดุ บิ ไว ้ใหพ้ รอ้ ม เชน่ เนอื้ สตั ว ์ ผกั และผลไมต้ า่ ง ๆ ใหล้ า้ งเตรยี ม หรือห่ันแยกไว้ เคร่ืองปรุงที่จะต้องใช้ให้น�ามาวางเรียงใกล้ตัว เพื่อสะดวกต่อการประกอบอาหาร 1. ครูใหนักเรียนรวมกันตอบคําถามจากการดู โดยมีวิธีการเตรียมวตั ถดุ บิ ดังน้ี บัตรภาพ โดยมีคาํ ถาม ดงั น้ี “ในการประกอบ อาหารดงั กลา วควรใชว ตั ถดุ บิ ใด” และครบู นั ทกึ วัตถุดบิ ประเภทผัก คําตอบของนกั เรียนลงบนกระดาน ผกั ตอ้ งมีความสดใหม่ ไม่ช�้า มวี ิธกี ารเตรยี ม ดงั นี้ ๑. ผักที่ต้องหั่นควรล้างให้สะอาด ส�าหรับผักท่ีเป็นกอ เช่น 2. ครูและนักเรียนรวมกันแบงกลุมวัตถุดิบตางๆ ตามประเภทบนกระดาน โดยแบง เปน 3 ประเภท ผกั กาดขาว ควรปลดิ ออกทีละกาบ แลว้ ล้างให้สะอาด ขณะลา้ ง ดงั น้ี ระวังอยา่ ใหผ้ ักช้า� • วัตถุดบิ ประเภทผกั ๒. ผักที่ต้องรับประทานสด ควรแช่ในน้�าด่างทับทิม หรือน�้าเกลือ • วตั ถดุ บิ ประเภทเนอื้ สัตว ประมาณ ๑๐ นาที เพอื่ ลา้ งยาฆา่ แมลง • วัตถดุ ิบประเภทเครือ่ งปรงุ รส วตั ถุดิบประเภทเนื้อสตั ว์ 3. ครูสรุปคําตอบการแบงวัตถุดิบบนกระดาน เนอ้ื สตั วต์ ้องมคี วามสด ไมม่ ีกล่ินเหมน็ มีวิธีการเตรยี ม ดงั นี้ และเช่ือมโยงเขาสูบทเรยี น ๑. หมู ไก่ ปลา ควรตัดส่วนที่ไม่ตอ้ งการออกก่อนแลว้ จึงล้าง เช่น ขนั้ สอน ถา้ เปน็ ปลาใหข้ อดเกลด็ ตดั ครบี ตดั เหงอื ก แลพ่ งั ผดื ทงิ้ แลว้ ลา้ ง ด้วยน้�าเกลือเล็กน้อยเพ่ือดับกลิ่นคาว ส่วนเน้ือวัวและเน้ือหมู ขน้ั ที่ 2 สาํ รวจและคน หา ลา้ งใหส้ ะอาดกอ่ นหนั่ ถา้ ชนิ้ ใหญม่ ากควรหนั่ ตามความเหมาะสม เพือ่ ให้สกุ ทั่วถึง 1. ครูใหน ักเรยี นแบง กลุม (กลมุ เดมิ ) จากนนั้ ให ๒. หอยใหล้ ้างคร้ังแรกเพ่อื เอาดนิ และส่ิงสกปรกออก แลว้ จงึ แช่นา�้ นักเรียนแตละกลุมรวมกันศึกษาความรูจาก สะอาดทิ้งไว้ประมาณ ๒-๓ ชั่วโมง เพ่อื ให้หอยคายสิ่งสกปรก หนงั สือเรียน หนว ยการเรียนรูท ี่ 3 หรือศึกษา และล้างดว้ ยนา�้ สะอาดอกี ครัง้ เพมิ่ เตมิ จากแหลง ขอ มลู อนื่ ๆ โดยมหี วั ขอ ดงั น้ี 1. การเตรยี มวตั ถดุ ิบ วตั ถุดิบประเภทเคร่ืองปรุงรส • วัตถดุ ิบประเภทผัก เครอ่ื งปรงุ มหี ลากหลายชนดิ เชน่ นา้� ปลา นา้� ตาล เกลอื ปน่ ซอสปรงุ รส • วตั ถดุ ิบประเภทเนอื้ สัตว มีวิธีการเตรียม ดงั นี้ • วัตถุดิบประเภทเครอ่ื งปรุงรส ๑. น�าเคร่อื งปรุงรสตา่ ง ๆ ทจ่ี ะต้องใช้มาวางเรียงไว้ใกลต้ วั 2. หลักการทว่ั ไปในการประกอบอาหาร ๒. แบง่ หรือตวงจากภาชนะท่ีบรรจุมาใส่ในถ้วยเล็ก ๆ วางเรยี งไว้ 3. การกําหนดรายการอาหารสําหรับสมาชิก ในครอบครัว 1 สัปดาห ใกล้ตวั 4. วธิ ีการประกอบอาหาร 5. การสงวนคณุ คา อาหาร ก่อนการประกอบอาหารจะต้องเตรียม วัตถดุ บิ ตา่ ง ๆ ให้พร้อม เพอื่ สะดวกตอ่ การหยบิ ใชร้ ะหวา่ งประกอบอาหาร อาหาร 65 กับการด�ารงชีวิต ขอ สอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู ขอใดเปน ข้นั ตอนการเตรยี มวตั ถุดบิ ในการประกอบอาหาร ครูอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกับวิธีการลางผักและผลไมใหสะอาดและปลอดภัย 1. เลอื กปลาทับทิมทีส่ ดและสะอาด จากยาฆา แมลงตกคา งใหน กั เรยี นฟง วา การลา งผกั และผลไมใ หส ะอาดและปลอดภยั 2. จัดแตงกวาบนจานอาหาร สามารถปฏิบัติได ดังนี้ 3. ลอกผวิ ปลาหมกึ ใหขาว 4. นําเนือ้ หมูมาแชใ นซีอ๊ิว 1. ลา งผักและผลไมใ หส ะอาด จากนนั้ นําไปแชใ นดางทับทิมนาน 15 นาที 2. ลางผักและผลไม โดยเปดกอ กน้ําไหลผา น ถผู ักและผลไม 3-5 นาที (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เพราะการลอกผวิ ปลาหมกึ เปน ขนั้ ตอน 3. ลางผักและผลไมใหสะอาด จากน้ันนําไปแชในนา้ํ สม สายชู (ผสมนํา้ สม การเตรยี มเนอ้ื สตั ว เพอื่ นาํ ไปประกอบอาหาร สว นการเลอื กปลาทบั ทมิ ท่ีสดและสะอาดเปนข้ันตอนการเลือกซื้อวัตถุดิบ การจัดแตงกวา สายชู 250 ซซี ี : นา้ํ 2 ลติ ร) โดยแชท ง้ิ ไวน าน 5 นาที ตกแตงบนจานอาหารเปนขั้นตอนการจัดและตกแตงอาหาร 4. ลา งผกั และผลไมใหส ะอาด จากนนั้ นาํ ไปแชในนาํ้ เกลอื (เกลอื ปน 1 ชอ นโตะ และการนาํ เนอ้ื หมูมาแชใ นซีอ๊วิ เปน ขนั้ ตอนการประกอบอาหาร) ผสมนา้ํ 1 กะละมงั ) โดยแชท งิ้ ไวน าน 10 นาที แลว ลา งออกดว ยนาํ้ สะอาด อกี ครั้ง 5. ลอก หรือปอกเปลือกชั้นนอกของผักและผลไมออก เด็ดผักเปนใบๆ จากนั้นนาํ ไปแชในนาํ้ สะอาดทิ้งไวน าน 10-15 นาที T71
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ๕ การประกอบอาหาร การประกอบอาหารเปน็ การปรงุ อาหารดบิ ใหส้ กุ เพอ่ื รบั ประทานดว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ ทา� ใหอ้ าหาร 2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมทําการบันทึกขอมูล มสี ี กล่นิ และรสชาตทิ ่ีนา่ รบั ประทาน โดยจะต้องไมเ่ สียคณุ คา่ ทางอาหาร ทีไ่ ดจ ากการศกึ ษาลงในสมุดประจาํ ตวั ๕.๑ หลกั ทวั่ ไปในการประกอบอาหาร ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู การประกอบอาหารท่ีดีนั้น ไมว่ า่ จะเป็นการประกอบอาหารให้ผูอ้ น่ื หรือสมาชิกในครอบครัว 3. ครอู ธบิ ายเพ่ิมเตมิ วา “การประกอบอาหารทีด่ ี จะต้องคา� นึงส่งิ ตา่ ง ๆ ดังนี้ จะตอ งมกี ารจดั เตรยี มวตั ถดุ บิ ตา งๆ ใหเ หมาะสม กบั ชนดิ และลกั ษณะของอาหาร เพอื่ ความสะดวก ๑) ควรก�าหนดรายการอาหาร ตอ การประกอบอาหาร โดยวตั ถดุ บิ แตล ะประเภท แตล่ ะมอ้ื ใหไ้ ดร้ บั สารอาหารครบทง้ั ๕ หมู่ มีลักษณะในการจัดเตรียมท่ีไมเหมือนกัน” จากนน้ั ครูถามนักเรียนวา เลือกอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และมี • นักเรียนคิดวาส่ิงที่สําคัญในการเตรียม รสชาตทิ ่ีแตกต่างกัน วัตถดุ ิบคอื สิ่งใด ๒) ควรจดั อาหารแตล่ ะวนั ไมซ่ า�้ (แนวตอบ ความสดใหม ความสะอาดของ กัน เพ่อื ให้ผ้รู ับประทานไม่รู้สึกเบ่ืออาหารและ วัตถุดิบ และความปลอดภัยของผูบริโภค) • หลักการท่ัวไปในการประกอบอาหาร ไดร้ บั ประทานอาหารอยา่ งหลากหลาย ประกอบไปดว ยส่งิ ใด ๓) ความเหมาะสมของอาหาร (แนวตอบ กําหนดรายการอาหารท่ีมีสาร แต่ละม้ือ โดยมื้อเช้าควรเป็นอาหารที่ให้ การหน่ั ผกั ควรหนั่ ไวแ้ ตพ่ อด ี ไมค่ วรหนั่ ไวม้ ากเกนิ ไป เพราะ อาหารครบทั้ง 5 หมู มีความเหมาะสมกับ ผักทเ่ี หลอื เกบ็ ไวน้ านจะทา� ใหเ้ นา่ เสียไดง้ ่าย อาหาร มีการสงวนคุณคาของอาหารไวได มากท่ีสุด จัดเก็บอาหารใหถูกตอง และ แพลละังหงาลนีกสเลูง่ยีมงื้ออกาลหาางรวปันรเะปเ็นภอทาไหขามรันท1ี่ให้พลังงานแต่ไม่สูงมากนัก มื้อเย็นควรเป็นอาหารท่ีย่อยง่าย เปลย่ี นรายการอาหารในแตล ะสปั ดาห) ๔) ควรประกอบอาหารใหส้ งวนคุณค่าของอาหารไว ้ให้มากทสี่ ุด เช่น ไม่หน่ั ผกั ไวม้ ากเกนิ ไป เพราะผกั ท่เี หลอื เกบ็ ไวน้ านไมด่ ี ทา� ให้สญู เสยี วติ ามินและเนา่ เสียไดเ้ รว็ ๕) ควรท�างานให้เรว็ ขน้ึ หรือใช้เวลาน้อยลง เช่น ลา้ งและหัน่ ผกั ให้พรอ้ ม เม่อื ตดิ ไฟแลว้ สามารถประกอบอาหารไดท้ ันที ๖) ควรวางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้า โดยซื้ออาหารท่ีมีในท้องถิ่น หรือปลูกผักไว้ รบั ประทานเอง ๗) ควรจดั เกบ็ อาหารใหถ้ กู ต้อง เช่น เนอ้ื สตั ว์ควรเกบ็ ดว้ ยการแชแ่ ข็ง ผกั ให้ ใส่ถงุ แล้วปิดปากถุงให้มิดชิด น�าไปแช่ตู้เย็น หอมและกระเทียมควรเก็บในท่ีไม่อับช้ืนและน�าออกมา ตากแดดบ่อย ๆ เครื่องปรุงรสควรปิดปากถุง ปิดฝาขวด หรอื ใส่ภาชนะที่มีฝาปดิ สนิท จดั เกบ็ ให้ เรียบร้อย ๘) ควรสบั เปลย่ี นรายการอาหารแตล่ ะสปั ดาห ์ มกี ารทา� อาหารมอ้ื พเิ ศษในวนั พเิ ศษ เช่น ในวนั หยดุ สดุ สัปดาห ์ หรือวันหยุดตามเทศกาลตา่ ง ๆ เพอื่ เปน็ การสร้างความสุขให้กับสมาชกิ ในการรับประทานอาหาร 66 นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 อาหารประเภทไขมัน ไขมันที่รางกายไดรับจากการรับประทานอาหาร ขอใดเปนการประกอบอาหารโดยใชว ิธสี งวนคณุ คาทางอาหาร มีอยดู ว ยกนั หลายชนิด จงึ ควรบริโภคไขมนั อยางถกู วธิ ี และควรเลือกนํา้ มันท่ีมี 1. หนั่ หมชู ิ้นหนา เพ่ือประกอบอาหารประเภทตุน องคป ระกอบของกรดไขมนั อมิ่ ตวั ตา่ํ มไี ขมนั ไมอ ม่ิ ตวั สงู มาใชใ นการประกอบอาหาร 2. ใชนา้ํ ปริมาณมากเม่อื ตอ งการลวกผกั เชน นา้ํ มนั มะกอก นาํ้ มนั เมลด็ ชา นาํ้ มนั คาโนลา จะชว ยลดความเสยี่ งตอ การเกดิ 3. ทอดไกชน้ิ เล็กๆ ในนํ้ามันเดือด โรคตางๆ ชวยลดระดับคอเลสเตอรอล ชวยกําจัดไขมันตามผนังเสนเลือด 4. ผัดผักใหสกุ โดยใชไ ฟออน และยังชว ยลดไขมนั ในเลอื ด ทเ่ี รียกวา “ไตรกลีเซอไรด” (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 1. เพราะการประกอบอาหารประเภทตนุ นอกจากนี้ ผูบริโภคควรหลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานซท่ีพบใน ตอ งใชเ วลานานในการปรงุ จงึ ตอ งหนั่ เนอื้ ใหห นาเพอ่ื ใหเ นอ้ื อมุ นาํ้ เนยเทียม มารการนี กะทิ น้ํามนั มะพราว นํา้ มนั ปาลม เนอ้ื สตั วตดิ มนั เพราะ สว นการใชน าํ้ ปรมิ าณมากเมอื่ ตอ งการลวกผกั จะทาํ ใหผ กั เสยี วติ ามนิ จะทาํ ใหอ ว นและทาํ ใหร ะดบั คอเลสเตอรอลในเลอื ดสงู เสยี่ งตอ การเปน โรคหวั ใจ การทอดไกช้ินเล็กๆ จะมีผิวหนาท่ีถูกน้ํามันมาก ทําใหสูญเสีย และหลอดเลือด วติ ามนิ จากการทอด และการผดั ผกั ใหส กุ ควรใชไ ฟแรง เพอื่ ใหผ กั สกุ อยางรวดเร็ว ซ่งึ จะทาํ ใหเ สียคุณคาทางอาหารนอยลง) ปจจุบันมผี ลติ ภณั ฑต า งๆ ท่ีระบวุ า มีไขมนั ตาํ่ แตพบวามีน้าํ ตาล สารเพม่ิ ความเหนยี ว และสารปรงุ แตง อน่ื ๆ ผลติ ภณั ฑเ หลา นจ้ี ะใหพ ลงั งานสงู กวา อาหาร ทม่ี ไี ขมนั ตามธรรมชาติ ผบู รโิ ภคจงึ ควรพจิ ารณาและอา นฉลากกอ นซอื้ มาบรโิ ภค ทกุ คร้ัง T72
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ การกา� หนดรายการอาหาร สมาชกิ ในครอบครวั หรอื ผทู้ มี่ หี นา้ ทปี่ ระกอบอาหาร จะตอ้ ง ขนั้ สอน มกี ารวางแผนไว้ลว่ งหนา้ เพือ่ จะไดเ้ ตรียมวตั ถดุ บิ ไดอ้ ยา่ งครบถว้ น ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายความรู ตัวอยา่ งการก�าหนดรายการอาหารสา� หรับ 1 สปั ดาห์ 4. ครูใหนักเรียนดูตัวอยางการกําหนดรายการ จนั ทร์ เช้า กลางวัน เยน็ ของวา่ 1งระหว่างวนั อาหารสําหรับ 1 สัปดาห จากหนังสือเรียน ขนมปงั ไสก้ รอก หนวยการเรยี นรูท่ี 3 ทีก่ าํ หนดรายการอาหาร ข้าวหน้าเป็ด ๑ จาน ข้าวสวย ๑-๒ ทัพพ ี ปน้ั สบิ ไสป้ ลา ๕ ชนิ้ ไวใ นแตละม้อื โดยครเู ปนผแู นะนําเพ่มิ เติม ไขด่ าว โอวลั ตนิ ๑ แกว้ ฝร่งั ๖-๘ ชนิ้ แกงส้มผกั รวม น�้ามะตมู ๑ แกว้ สม้ ๑ ผล ผดั คะนา้ ปลาเค็ม 5. ครูใหนักเรียนแตละคนเขียนตารางรายการ เงาะ ๔-๕ ผล อาหารสําหรับการรับประทานอาหารภายใน องั คาร ขา้ วต้มปลา ๑ ชาม ก๋วยเต๋ยี วหลอด ขา้ วสวย ๑-๒ ทพั พ ี ขนมไข ่ ๒ ชน้ิ ครอบครัวของตนเอง 1 สัปดาห โดยวเิ คราะห ตามหลักการท่ัวไปในการประกอบอาหาร นมสด ๑ แกว้ ๑ จาน แกงเขียวหวานหมู นา�้ กระเจย๊ี บ ๑ แกว้ หรือจากตัวอยางในหนังสือเรียน หนวยการ กลว้ ยนา�้ ว้า ๑ ผล ส้ม ๑ ผล ยา� มะเขอื ยาวก้งุ สด เรยี นรูท่ี 3 มะละกอสกุ ๖-๘ ช้ิน พธุ ขา้ วผดั อเมรกิ นั 2 ๑ จาน ขนมจีนน้�ายา ข้าวสวย ๑-๒ ทพั พ ี ถว่ั เขยี วตม้ น้�าตาล 6. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ แลกเปลยี่ นประสบการณ นมสด ๑ แกว้ ๑ จาน แกงเผด็ เปด็ ย่าง ๑ ถ้วย เก่ียวกับการประกอบอาหารของตนเองวา แตงโม ๕-๖ ช้นิ ผดั หนอ่ ไมฝ้ รั่งกงุ้ ตรงตามหลักการท่ัวไปในการประกอบอาหาร ส้มเขียวหวาน ๑ ผล หรือไม และมีวิธีการประกอบอาหาร หรือ พฤหสั บดี โจ๊กใส่ไข ่ ๑ ชาม ขา้ วหมกไก ่ ๑ จาน ข้าวสวย ๑-๒ ทัพพี สาคูถว่ั ด�า ๑ ถ้วย การสงวนคุณคาของอาหารอยางไร พรอมทั้ง นมสด ๑ แก้ว นา้� มะนาวปน่ั ๑ แกว้ น�้าพริกกะป ิ ปลาทูทอด ใหนักเรียนคัดเลือกรายการอาหารที่นาสนใจ ชมพ่ ู ๑ ผล แกงเลยี ง โดยวางแผนการประกอบอาหารและจดั เตรยี ม ศกุ ร์ แตงโม ๕-๖ ชนิ้ วัตถุดิบในการประกอบอาหารมาในช่ัวโมง ถัดไป ขา้ วตม้ กงุ้ ๑ ชาม ราดหนา้ หมผู กั รวม ขา้ วสวย ๑-๒ ทพั พ ี ลอดชอ่ งน้�ากะท ิ กลว้ ยนา้� ว้า ๑ ผล ๑ จาน ปลาเกา๋ ราดพรกิ ๑ ถ้วย นา�้ ส้มค้นั ๑ แกว้ แกงจดื ต�าลงึ หมูสับ เสาร์ ชมพู ่ ๕-๖ ชิ้น แซนดว์ ชิ ทนู ่า ๑ ช้นิ บะหมี่หมแู ดง ข้าวสวย ๑ - ๒ ทัพพี ไอศกรีม ๑ ถว้ ย นมสด ๑ แกว้ ๑ จาน ต้มยา� รวมมิตร แอปเปิล ๕-๖ ชิน้ ฝร่ัง ๖-๘ ชิ้น ผดั ถ่ัวลนั เตาใสก่ ุ้ง อาทิตย์ 3 แตงโม ๕-๖ ช้ิน ขา้ วตงั หน้าตัง้ ขา้ วตม้ ทะเล ๑ ชาม ผัดมะกะโรนไี ก่ ข้าวสวย ๑-๒ ทพั พี นมสด ๑ แกว้ ๑ จาน แกงจดื เตา้ หหู้ มสู บั ผดั เผด็ ๒ ชิ้น สม้ เขียวหวาน ๑ ผล น้�าใบเตย ๑ แกว้ ปลาดกุ ฝรง่ั ๖-๘ ชน้ิ อาหาร 67 กับการด�ารงชีวิต ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู หากตองการกําหนดรายการอาหารสําหรับผูสูงอายุใน 1 วัน 1 ปนสิบ หรือปนขลิบ เปนอาหารวางที่มีมาต้ังแตสมัยโบราณ มีลักษณะ ควรประกอบไปดว ยรายการอาหารประเภทใด เหมือนกะหรี่ปบแตมีขนาดพอดีคํา ทําจากแปงขาวเจาเน้ือแปงจะกรอบแข็ง มากกวา กะหรีป่ บ ไสทีน่ ยิ ม คือ ไสห มแู ละไสปลา มที ้ังแบบนึง่ และแบบทอด (แนวตอบ รายการอาหารของผูสูงอายใุ น 1 วัน ควรประกอบไป นยิ มรบั ประทานคูกบั นํ้าชา โดยคําวา “ปนสบิ ” เพ้ียนมาจากคําวา “ปน ขลิบ” ดว ยรายการอาหาร ดังนี้ ซ่ึงขนมปนสิบจะตองมี 10 เกลียว สวนปนขลิบจะทําเปนขลิบงายๆ พอให แปงตดิ กนั เทาน้ัน มื้อเชา-ขาวตม ปลาชอน อาหารวา ง-นมถว่ั เหลือง ขนมกลวย 2 ขา วผดั อเมรกิ นั เปน การนาํ ขา วมาผดั กบั ซอสมะเขอื เทศ ใชเ นยแทนนา้ํ มนั พชื มือ้ กลางวัน-กว ยเตี๋ยวไก มะละกอสุก เพิม่ ความอรอยโดยการเตมิ ลกู เกด เมล็ดถว่ั ลนั เตา หัวหอม และแฮมช้นิ เลก็ ๆ อาหารวา ง-ถั่วเขียวตมน้าํ ตาล ผดั ใหเ ขา กนั เสริ ฟ พรอ มกบั ไกท อด ไสก รอก แฮม ไขด าว ผกั กาดแกว แตงกวา มอ้ื เยน็ -ขา วสวย นา้ํ พรกิ กะป ปลาททู อด แกงเลยี ง กลว ยนาํ้ วา และมะเขือเทศ ซึ่งขาวผัดอเมริกัน 1 จาน จะใหพลังงานประมาณ 790 กอ นนอน-นมอุนๆ) กโิ ลแคลอรี 3 มะกะโรนี ทาํ จากแปง ขา วสาลี ซงึ่ มปี รมิ าณของโปรตนี และกลเู ตนสงู นาํ มา Tนวดผสมกบั นา้ํ และรดี ใหเ ปน แผน หรอื ขนึ้ รปู เปน ทรงกระบอก มรี กู ลวง ตดั เปน ทอ ส้ันๆ สามารถนํามาใชปรงุ อาหารไดหลายชนดิ 73
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ๕.๒ วิธกี ารประกอบอาหาร 1 ๒ การประกอบอาหารเป็นการทา� ให้อาหารสุกพรอ้ มรบั ประทาน โดยทวั่ ไปมวี ธิ กี ารตา่ ง ๆ ดงั นี้ ขัน้ ท่ี 2 อธิบายความรู ประกอกบารอาหาร การต้ม การลวก 7. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การประกอบอาหาร วิธตี ่าง ๆ เป็นการท�าอาหารดิบให้สุก เป็นการน�าอาหารใส่ลงใน มีวิธีการท่ีหลากหลาย ซึ่งแตละวิธีเปนการ ในน้�าเดือด ท�าให้แร่ธาตุและ น้�าเดือดและรีบน�าอาหารข้ึน ปรุงอาหารใหสกุ พรอมรับประทาน โดยวิธีการ วิตามินละลายน้�าไปบางส่วน อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประมาณ ตา งๆ ทําใหร สชาติ หรอื ลกั ษณะของวตั ถดุ บิ บางส่วนละลายอยู่ ในน�้าที่ต้ม ๑-๕ นาที เพื่อเตรียมวัตถุดิบ มคี วามแตกตา งกนั ออกไป ไมว า จะเปน การตม นา้� ตม้ บางอยา่ งนา� มาปรงุ อาหาร ก่อนน�าไปแปรรปู การลวก การเคี่ยว การทอด การตนุ การผัด ๔ได้ การยาง ฯลฯ ซง่ึ แตละวิธีการมีขัน้ ตอนการทํา ๓ การเคี่ยว การทอด 5 การต๋นุ ท่ีแตกตางกันไป หากไมรูวิธีการทําที่ถูกตอง เป็นการต้มอาหารดิบให้สุก เป็นการทา� ให้อาหารสุก โดย เป็นการท�าอาหารให้สุกจน อาจกอ ใหเ กดิ อนั ตรายขณะประกอบอาหารได กอ่ นแล้วจงึ ตม้ ตอ่ ไปเรอ่ื ย ๆ โดย ใช้น�า้ มัน ทอดด้วยกระทะ หรือ เปื่อย โดยใช้หม้อตุ๋น ใช้ไฟอ่อน ดังน้ัน เพ่ือความปลอดภัย นักเรียนจึงตอง ใช้ไฟอ่อน ใชเ้ วลาประมาณ ๓-๔ หมอ้ ใชไ้ ฟปานกลาง รอจนนา�้ มนั ตุ๋นเป็นเวลานาน ซ่ึงจะท�าให้ ศึกษาวิธีการทํามาโดยละเอียดกอนลงมือ ชั่วโมง เพื่อให้อาหารเปื่อยนุ่ม รอ้ นจงึ ใสอ่ าหารลงไป เมอ่ื อาหาร อาหารสกุ อย่างช้า ๆ และมคี วาม ประกอบอาหาร” ตามต้องการ มสี เี หลอื งทองจงึ ตกั ขนึ้ เปือ่ ยนุ่ม 8. ครูถามนักเรยี นวา 6 การน่ึง1 7 การผดั 8 การย่างหรอื ปิ้ง • การประกอบอาหารวิธีใดท่ีจะไดรับวิตามิน เปน็ การท�าอาหารให้สุก โดย เปน็ การท�าอาหารใหส้ กุ โดย เปน็ การทา� อาหารใหส้ กุ โดย และแรธ าตจุ ากอาหารมากทสี่ ดุ เพราะเหตใุ ด ใช้ความร้อนจากไอน้�า ซ่ึงจะมี น�าอาหารใส่ลงในกระทะ ใช้ น�าอาหารมาวาง บนตะแกรง (แนวตอบ การตม เพราะการตม เปน การทาํ ให อุณหภูมิอยู่ระหว่าง ๑๐๐-๑๐๕ น้�ามันไม่มาก ใช้ไฟแรง และใช้ เหนือเปลวไฟ ใช้ไฟอ่อน หรือ อาหารสุกดวยการใชนํ้าเดือด วิตามินและ องศาเซสเซยี ส ดว้ ยภาชนะ ๒ ชน้ั ตะหลวิ ผดั ให้อาหารพอสุก ใช้ไฟปานกลางแล้วแต่ชนิดของ แรธาตุบางสวนจะละลายอยูในนํ้าที่ตม ซ่ึง อาหาร สามารถนํานา้ํ ตมนน้ั มาปรุงอาหารได) • การสงวนคณุ คา อาหารมคี วามจาํ เปน อยา งไร 9 การเผา 10 การควั่ (แนวตอบ เพอ่ื เปน การรกั ษาคณุ คา ของอาหาร เป็นการทา� ให้อาหารสกุ โดย เปน็ การท�าให้อาหารสุก โดย ไมใ หสญู เสยี ไปในขณะประกอบอาหาร) การใส่อาหารลงในกระทะท่ีแห้ง ใช้กระดาษอ2ะลูมิเนียม หรือ สนทิ ทลี ะนอ้ ย ใชไ้ ฟออ่ น จากนนั้ ใช้ตะหลิวคนไปมาให้อาหารสุก กระดาษฟอยลห์ อ่ อาหารไปหมก เหลืองกรอบ และมีกล่ินหอม ในไฟอ่อน ๆ แต่ถ้าอาหารดิบ มเี ปลอื ก ไมต่ อ้ งห่อหุม้ 68 นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด 1 การนง่ึ อาหารทผ่ี า นการนงึ่ ใหส กุ จะมคี วามชมุ ชนื้ มผี วิ นมุ โดยอาหารทส่ี กุ วิธีการตม ลวก และเคย่ี ว แตกตา งกนั ในเรื่องใด ดวยการนึ่งมีขอดี คือ เม่ือนํามาเปรียบเทียบกับการตมอาหารท่ีทําใหสุก 1. สารอาหาร ดว ยการนงึ่ ไมไ ดแชอยูในน้าํ เชนเดียวกบั การตม ทําใหส ารอาหารนอ ยกวา เชน 2. เคร่ืองครัว วติ ามนิ เอทลี่ ะลายในนา้ํ และสลายตวั ไดง า ยเมอื่ ถกู ความรอ น คลอโรฟล ลล ะลาย 3. ระยะเวลา ในนาํ้ และเมอื่ เทยี บกบั การทอด การทอดใชน าํ้ มนั เปน ตวั กลาง สว นการนงึ่ ไมต อ ง 4. วตั ถดุ ิบ ใชน้าํ มัน ทาํ ใหอ าหารทีผ่ านการนึง่ มพี ลงั งานตา่ํ กวาอาหารทอด 2 กระดาษฟอยล ทาํ จากโลหะทห่ี ลอมและรดั ใหเ ปน แผน บางๆ นยิ มนาํ มาใช (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เพราะการตม การลวก และการเคยี่ ว ในการหอ อาหารทต่ี อ งการนําไปเผา อบ ปง ยาง หรอื นํามาหอ อาหารเพอื่ รักษา เปนการประกอบอาหารดวยนํ้าเดือดทั้งหมด ตางกันที่การลวก ความสด ปอ งกนั การสญู เสยี นา้ํ ปอ งกนั สงิ่ แปลกปลอมเขา สอู าหาร และปอ งกนั จะรวดเร็วท่ีสุด เพื่อไมใหอาหารสุกมาก สวนการตมจะใชเวลา การซมึ ผา นของไขมันและนํ้า นานกวาการลวก และการเคย่ี วจะใชเวลานานกวา การตม ) T74
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ๕.๓ การสงวนคณุ ค่าอาหาร ขน้ั สรปุ การประกอบอาหารบางครง้ั อาจทา� ใหส้ ญู เสยี คณุ คา่ ทางอาหารทเ่ี ปน็ ประโยชน ์ การรจู้ กั ประกอบ ขน้ั ที่ 4 ขยายความเขา ใจ อาหารทสี่ งวนคณุ คา่ จงึ เปน็ ส่งิ ส�าคัญ มีวิธกี ารปฏบิ ัต ิ ดงั น้ี 1. ครใู หน กั เรยี นตรวจสอบความพรอ มของอปุ กรณ ๑) การหุงข้าวแบบไมเ่ ช็ดนา้� เป็นการหงุ ข้าวใหส้ กุ โดยไม่ต้องเทน�้าออก น�า้ จะแหง้ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใชใ นการประกอบอาหาร และ วัตถดุ ิบทค่ี รู หรอื นักเรยี นไดเ ตรยี มมา ไปพรอ้ มกับข้าวทส่ี กุ มวี ธิ ีการ ดงั นี้ 2. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั ประกอบอาหาร ๑ เก็บส่ิงเจือปนและกากข้าว ๒ ซาวขา้ ว ๒ ครงั้ ดว้ ยนา้� สะอาด ๓ ใสน่ า้� ในหมอ้ นา� ไปหงุ หรอื นงึ่ ตามการวางแผนของแตละกลุม โดยครูเปน ออกจากข้าวสาร แล้วน�าไป ถา้ เปน็ ขา้ วขาว ควรซาวเพยี ง โดยขา้ วเกา่ ใชข้ า้ ว ๒ สว่ นตอ่ ผูแนะนําเพิ่มเติมและใหความชวยเหลืออยาง ใสล่ งในหมอ้ หงุ ขา้ ว ๑ คร้ัง น้�า ๒ ส่วน ข้าวใหม่ใช้ข้าว ใกลชดิ ๒ สว่ น ต่อน�้า ๑/๒ สว่ น 3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันตรวจสอบ ๒) การประกอบอาหารประเภทเนอ้ื สัตว ์ จะตอ้ งท�าให้สกุ นุม่ โดยไม่เสียคณุ คา่ ทาง ผลลัพธท่ีไดจากการประกอบอาหารและสรุป ผลการปฏิบัติงานลงในใบงานท่ี 3.4.1 เร่ือง อาหาร มวี ิธกี าร ดงั น้ี การประกอบอาหาร ๑. ลา้ งเนื้อสัตว์ให้สะอาดกอ่ นหั่น ๒. ตม้ น้า� ให้เดอื ดโดยใช้ไฟแรง น�าเนอ้ื สตั ว์ใส่ลงไป และเมื่อน�า้ เดือดอกี คร้ังจงึ ลด ขนั้ ประเมนิ ระดับไฟใหอ้ ่อนลง ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล ๓) การประกอบอาหารประเภทผกั ผกั ตอ้ งสกุ ไมม่ กี ลนิ่ เหมน็ เขยี ว ซงึ่ มวี ธิ กี าร ดงั นี้ 1. ครตู รวจใบงานที่ 3.4.1 เรอื่ งการประกอบอาหาร ๑. ล้างผักหลาย ๆ คร้ัง เพ่ือล้างดิน ทราย ปุ๋ย และล้างผักด้วยวิธีน้�าไหลผ่าน 2. ครูตรวจสอบความรู ความเขาใจของนักเรียน เพ่อื ล้างสารพษิ ตกค้างออก ๒. ไม่ควรห่ันผักเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพราะจะท�าให้สูญเสียวิตามินมากกว่าการหั่นผัก เรือ่ งการประกอบอาหาร จากการตอบคําถาม ชิ้นใหญ่ และไม่ควรห่ันผักทิ้งไว้นาน การแสดงความคดิ เหน็ รว มกนั ในชนั้ เรยี น และ ๓. ผักท่จี �าเป็นต้องปอกเปลอื กออก ใหล้ า้ งแลว้ ปอกเปลือกออกให้บางทีส่ ุด การทาํ กิจกรรมในชัน้ เรยี นอาหาร ๔. หากน�าผักมาต้ม ผัด หรือลวก ไม่ควรต้ังไฟนานจนเกินไป เพราะความร้อน จะทา� ใหผ้ ักสูญเสยี วติ ามนิ ๕. ผักทม่ี ีขั้ว เชน่ พรกิ มะเขอื ใหล้ า้ งก่อนเด็ดขั้ว เคลด็ ลับหงุ ขา้ วใหน้ ุ่ม เมล็ดอวบสวย หอม นา่ รับประทาน อาหาร 69 กับการด�ารงชีวิต กจิ กรรม สรา งเสริม แนวทางการวัดและประเมินผล ใหนักเรียนเลือกอาหารยอดนิยมท่ีสามารถปฏิบัติไดเองตาม ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานเปนรายบุคคล และการสังเกต ความสนใจ 1 ชนดิ อธิบายวธิ กี ารเตรียมวัตถดุ ิบในการประกอบ พฤติกรรมการทํางานกลุม โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลท่ีแนบทาย อาหารอยางละเอยี ดใหเ พอ่ื นๆ ฟง หนา ชน้ั เรยี น จากนัน้ ใหค รแู ละ แผนการจดั การเรยี นรู หนวยการเรยี นรูท ่ี 3 เพอื่ นรว มกนั ตรวจสอบวา การเตรยี มวตั ถดุ บิ ในการประกอบอาหาร รายการทีเ่ ลอื กมคี วามถูกตองและครบถว นหรอื ไม แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ กิจกรรม ทาทาย คาชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในชอ่ งท่ี คาชแี้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในชอ่ งที่ ตรงกบั ระดบั คะแนน ใหน กั เรยี นประกอบอาหารตามความสนใจ 1 ชนดิ โดยใชเ วลา ตรงกับระดับคะแนน นอยทีส่ ดุ จากน้ันนําไปใหสมาชกิ ในครอบครัว เพ่อื น หรอื ครชู มิ และแสดงความคดิ เหน็ รวมถงึ จดบนั ทกึ ขน้ั ตอนการประกอบอาหาร ระดบั คะแนน การมี พรอ มดว ยภาพ เหตผุ ลทเ่ี ลอื กประกอบอาหารชนดิ น้ี ความคดิ เหน็ ของ 321 บคุ คลทช่ี มิ อาหาร ปญ หาทพ่ี บและแนวทางแกไข แลว นาํ สง ครผู สู อน ลาดบั ที่ รายการประเมิน ชื่อ – สกุล การแสดง การยอมรับ การทางาน ความมี ส่วนรว่ มใน รวม ของนักเรยี น ความ ฟังคนอน่ื ตามทีไ่ ด้รบั น้าใจ การ 15 1 การแสดงความคดิ เหน็ ลาดบั ที่ คิดเห็น มอบหมาย คะแนน 2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ น่ื ปรับปรงุ 3 การทางานตามหนา้ ที่ที่ไดร้ บั มอบหมาย ผลงานกลุม่ 4 ความมีน้าใจ 5 การตรงต่อเวลา 3 2 13 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 รวม ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่ือ...................................................ผู้ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ประเมิน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ............./.................../............... ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน 12 - 15 ดี เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 8 - 11 พอใช้ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง T75
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ (การสอนแบบสาธิต) ๖ การจดั และตกแต่งอาหาร ครูใหนักเรียนดูบัตรภาพ เร่ือง การจัดและ อาหารที่น่ารับประทานไม่ได้อยู่ที่รสชาติของอาหารเพียงอย่างเดียว การตกแต่งอาหารให้ ตกแตงอาหารประเภทตางๆ จากนั้นครูถาม สวยงาม รวมทงั้ ภาชนะท่ีใสอ่ าหาร ผา้ ปูโตะ๊ ทม่ี ลี วดลายสวยงาม ลว้ นชว่ ยใหอ้ าหารดนู า่ รบั ประทาน กระตนุ ความสนใจของนกั เรยี นวา ยงิ่ ขนึ้ นอกจากนี้ สามารถน�าหลกั การทางทัศนศิลปม์ าใช้ ในการจดั และตกแตง่ อาหาร เพอ่ื ท�าให้ อาหารดสู วยงามและน่ารบั ประทาน • เพราะเหตใุ ดจงึ ตอ งจดั และตกแตง อาหารให สวยงาม ข้าวสวย (แนวตอบ ชวยเสริมรสชาติของอาหารและ เพื่อใหอาหารนา รบั ประทานมากยง่ิ ขนึ้ ) ตักใส่โถขา้ ว มฝี าปดิ ขนั้ สอน อาหารประเภทแกง ขนั้ ท่ี 1 ขนั้ เตรยี มการสาธติ • แกงจดื ให้ตกั ใส่ชามขนาด พอเหมาะ 1. ครจู ดั เตรยี มวตั ถดุ บิ วัสดุ อุปกรณ เครื่องมือ • แกงเขยี วหวานตกั ใสช่ ามโรย เครื่องใชในการสาธิตใหนักเรียนดู จากน้ัน หน้าด้วยพริกช้ีฟ้าซอยและ ครูแจงวัตถุประสงคในการสาธิตใหนักเรียน ใบโหระพา เพอ่ื เพิม่ สสี ัน ทราบวา “ครจู ะสาธติ การจดั ตกแตง อาหารและ การบรกิ ารอาหารใหน กั เรยี นดเู ปน แบบอยา งกอ น อาหารประเภทผัด แลว จงึ ใหน กั เรยี นออกมาสาธติ ตามแบบอยา ง” จดั ใสจ่ านเปล หรือจานแบน ขน้ั ที่ 2 ขน้ั สาธติ ไมต่ กั อาหารใสล่ น้ ถึงขอบจาน 2. ครูดําเนินการสาธิตการจัดและตกแตงอาหาร อาหารประเภทยา� ทอด ประเภทอาหารคาว อาหารหวาน ผกั และผลไม ตามลาํ ดบั ขนั้ ตอน พรอ มอธบิ ายใหน กั เรยี นฟง จัดใส่จานแบน น�าผักกาดหอม เพ่ือใหนักเรียนไดเขาใจมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับ มาตกแต่งรอบ ๆ จาน ส่ิงที่ตองคํานึงถึงในการจัดและตกแตงอาหาร ใหส วยงาม เครื่องจม้ิ 3. ครใู หน ักเรียนแบงกลุม (กลมุ เดมิ ) รวมกนั จดั นา�้ พรกิ ผกั จมิ้ ใหต้ กั ใสถ่ ว้ ยกน้ ลกึ เตรยี มวตั ถดุ บิ วสั ดุ อปุ กรณ เครอ่ื งมอื เครอื่ งใช วางในจานเปล หรอื จานแบนใหญ่ ประเภทตางๆ ตามท่ีครูสาธิต โดยครูเปน วางผักสดรอบ ๆ อาจแกะสลัก ผูตรวจสอบความถูกตอง และใหคําแนะนํา หรือห่นั ให้สวยงาม เพิ่มเติม ผลไม้ การจดั และตกแต่งอาหารจะทา� ใหอ้ าหารน้ันดนู ่ารับประทานมากขึน้ หั่นเป็นช้ินพอค�า ท้ังผลไม้ท่ี รับประทานท้ังเปลือกและผลไม้ ทไ่ี ม่รบั ประทานเปลอื ก 70 บูรณาการอาเซียน ขอสอบเนน การคดิ ครูอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกับการตกแตงอาหารอาเซียนใหนักเรียนฟงวา ขอใดสะทอนใหเห็นถึงเอกลักษณในการจัดและตกแตงอาหาร อาหารหลายอยางท่ีมีลักษณะใกลเคียงกันจะมีการตกแตงคลายๆ กัน เชน ของไทยมากทส่ี ดุ การนําผักสีเขียวมาโรยใหตัดกับสีของอาหาร เพ่ือตกแตงอาหารใหเกิดความ สวยงาม นา รบั ประทานยงิ่ ขน้ึ การนาํ ใบตองมารองอาหารในจาน เพอ่ื เพมิ่ ความเปน 1. ยาํ ถ่ัวพูที่สวนประกอบมสี รรพคณุ ทางยา ธรรมชาตใิ หก บั อาหาร เนอื่ งจากประเทศในอาเซยี นมพี ชื ผกั หลายชนดิ ทเี่ หมอื นกนั 2. น้าํ พริกปลาทมู ีผกั สดแกะสลกั เปนเครื่องเคยี ง ดวยความที่มีภูมิประเทศและภูมิอากาศท่ีใกลเคียงกัน จากน้ันใหนักเรียน 3. ตม ยํากงุ โรยหนาดว ยพริกชี้ฟา และใบโหระพา ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารประจําชาติในอาเซียนท่ีมีการตกแตงหลากหลาย 4. ผลไมต ามฤดกู าลทีป่ อกเปลือกและหัน่ เปนชนิ้ เล็กๆ ตามสไตลของรานอาหารน้นั ๆ โดยนําภาพอาหารท่มี กี ารตกแตงมาแลกเปล่ยี น เรยี นรูซ ึ่งกนั และกนั (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 2. เพราะการแกะสลกั สะทอ นใหเห็น ถงึ เอกลกั ษณใ นการจดั และตกแตง อาหารของไทยผา นจนิ ตนาการ โดยมีลวดลายที่ละเอียดออน ซึ่งเกิดจากความประณีตและ ความตั้งใจของผูปรุงท่ีตองการใหอาหารมีความสวยงาม และนา รบั ประทานมากย่งิ ขน้ึ ) T76
นาํ สอน สรุป ประเมนิ ๗ การบริการอาหาร ขน้ั สอน การบริการเป็นการเสิร์ฟ หรือน�าอาหารมาให้ผู้รับประทานที่โต๊ะอาหาร ถ้าเป็นธุรกิจ ข้ันที่ 2 ขั้นสาธติ ร้านอาหาร พนักงานเสิร์ฟจะมีความส�าคัญมาก เพราะจะเป็นผู้ท่ีน�าอาหารมาให้ลูกค้า ดังนั้น จงึ ควรทา� ใหผ้ รู้ บั บรกิ ารเกดิ ความสะดวกสบายและประทบั ใจ สา� หรบั การบรกิ ารอาหารในครอบครวั 4. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันจัดตกแตง สมาชกิ ทกุ คนควรช่วยกนั เพราะจะท�าใหเ้ กดิ สัมพนั ธภาพที่ดีต่อกนั ควรปฏิบตั ิ ดังนี้ อาหาร และการบริการอาหารใหกับครูตาม ๑. เชิญสมาชิกในครอบครัวให้รับประทานอาหารร่วมกนั แบบอยางที่ไดดูการสาธิต โดยครูสังเกตการ ๒. จดั วางอุปกรณท์ ี่ใช ้ในการรับประทานอาหารให้พร้อม เช่น จาน ถว้ ย ช้อน ส้อม อยางใกลชิด และเนนยํ้าใหนักเรียนตระหนัก ๓. นา� อาหารวางไวท้ ี่โต๊ะให้พร้อมกอ่ นสมาชกิ เขา้ นั่งโต๊ะ ถงึ ความปลอดภัยในการทํางาน ๔. ตกั ขา้ วให้เพยี งพอกับจา� นวนสมาชิก ๕. รินน�้าใส่แกว้ ส�าหรบั สมาชิกแต่ละคน ขน้ั สรปุ ๖. ไม่ควรใช้มือจับตอ้ งอาหารโดยตรง ให้ใชช้ อ้ นกลาง ไมไ่ อ หรือจามรดอาหาร การบริการอาหารขณะท่ีสมาชิกในครอบครัวน่ังท่ีโต๊ะแล้ว ต้องท�าด้วยความระมัดระวัง และ ขน้ั ท่ี 3 ข้ันสรุป ในการรบั ประทานอาหารสมาชกิ ทกุ คนจะตอ้ งดแู ลซงึ่ กนั และกนั เชน่ คนทนี่ งั่ ใกลก้ บั ขา้ วแตล่ ะอยา่ ง จะต้องตักให้คนท่ีตักไม่ถึง เพ่ือเป็นการปลูกฝังนิสัยการเอื้อเฟื้อเผ่ือแผ่ ดูแลซึ่งกันและกัน และ 1. ใหน กั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั ตรวจสอบผลงาน เมือ่ รบั ประทานอาหารเสรจ็ จะตอ้ งชว่ ยกันทา� ความสะอาดโตะ๊ ล้างภาชนะตา่ ง ๆ โดยไมป่ ลอ่ ยให้ การจัดและตกแตงอาหารแตละประเภทของ เป็นหนา้ ท่ีของสมาชกิ คนใดคนหน่ึง กลุมตนเอง จากน้ันใหสงตัวแทนกลุมออกมา นาํ เสนอผลงานหนา ชน้ั เรียน โดยครูและเพ่ือน การบรกิ ารอาหารในครอบครัวช่วยเสริมสร้างบรรยากาศท่ดี ีในการรบั ประทานอาหาร และสรา้ งความสัมพนั ธ์อนั ดีในครอบครัว รว มชั้นเรียนรวมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ ง อาหาร 71 2. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ เนอ้ื หา เรอ่ื ง การจดั กับการด�ารงชีวิต ตกแตง อาหารและการบรกิ ารอาหารวา “อาหาร ทน่ี า รบั ประทานไมไ ดข น้ึ อยทู ร่ี สชาตขิ องอาหาร เพียงอยา งเดียว แตก ารจดั และตกแตง อาหาร ใหสวยงามเปนสวนหนึ่งที่จะสงผลใหอาหาร นา รับประทานมากยิง่ ขนึ้ ” 3. ครูใหนกั เรยี นทําใบงานที่ 3.5.1 เรือ่ ง การจัด และตกแตงอาหาร ขน้ั ประเมนิ ขัน้ ท่ี 4 วดั ผลประเมนิ ผล 1. ครตู รวจสอบผลงานการจดั ตกแตง อาหาร และ การบริการอาหารประเภทตางๆ ของนกั เรียน 2. ครตู รวจใบงานที่ 3.5.1 เรอื่ ง การจดั และตกแตง อาหาร ขอ สอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล หากตอ งบรกิ ารอาหารในงานตา งๆ ของครอบครวั ควรปฏบิ ตั ิ ครสู ามารถสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานเปน รายบคุ คล และการสงั เกตพฤตกิ รรม อยา งไร การทํางานกลุม โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผน การจดั การเรียนรู หนวยการเรียนรูท่ี 3 (แนวตอบ 1. แตงกายใหสุภาพและเหมาะสมกับลักษณะของ งาน รวมถงึ ดแู ลรักษาความสะอาดของตนเอง แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม 2. บรกิ ารอาหารดวยความระมดั ระวงั คาชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งที่ คาชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องท่ี 3. ย้ิมแยม แจมใสในขณะใหการบริการอาหาร ตรงกับระดบั คะแนน 4. เตรียมชอ นกลางไวใหเ พียงพอ) ตรงกบั ระดบั คะแนน ระดบั คะแนน การมี 321 ลาดบั ที่ รายการประเมิน ชือ่ – สกุล การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมี ส่วนรว่ มใน รวม ของนักเรียน ความ ฟงั คนอืน่ ตามท่ไี ดร้ ับ น้าใจ การ 15 1 การแสดงความคดิ เห็น ลาดบั ที่ คดิ เหน็ มอบหมาย คะแนน 2 การยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อนื่ ปรบั ปรุง 3 การทางานตามหนา้ ท่ีที่ไดร้ บั มอบหมาย ผลงานกลมุ่ 4 ความมีนา้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา 3 2 13 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 รวม ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ประเมิน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ............./.................../............... ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง เกณฑ์การให้คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน 12 - 15 ดี เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ 8 - 11 พอใช้ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรงุ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรุง T77
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ นาํ (เนนกระบวนการปฏิบัติ) ๘ การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร 1. ครูกลาวคําทักทายนักเรียน พรอมท้ังทบทวน การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เป็นกระบวนการปรบั ปรุง เปลีย่ นแปลงรปู รา่ งและรสชาติ ความรจู ากชว่ั โมงทผี่ า นมา แลว ถามนกั เรยี นวา ของผลผลติ ทางการเกษตรใหม้ ลี กั ษณะแปลกใหมแ่ ตกตา่ งไปจากเดมิ เพอื่ ชว่ ยเพม่ิ มลู คา่ และคณุ ภาพ • จากการเรยี นเรอ่ื งการจดั ตกแตง อาหาร และ สามารถเก็บไวร้ บั ประทานไดน้ าน การบริการอาหาร นักเรียนสามารถนํามา ปรับใชใ นชีวิตประจําวันไดอยา งไร ๘.๑ ประโยชน์ของการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร (แนวตอบ ชวยคุณแมจัดและตกแตงอาหาร เพอ่ื รบั ประทานภายในครอบครวั ใหบริการ การนา� ผลผลิตทางการเกษตรมาแปรรปู ท�าใหส้ ามารถเกบ็ ผลผลิตไวบ้ รโิ ภคไดย้ าวนาน ซ่งึ มี อาหารดว ยการรนิ นาํ้ ใสแ กว ใหแ กส มาชกิ ใน ประโยชน์ ดงั นี้ ครอบครัว) ๑. เพ่ือช่วยป้องกันการล้นตลาดของผลิตผล เนื่องจากผลผลิตในบางฤดูกาลจะออก มาพรอ้ ม ๆ กัน ทา� ใหม้ ีมากจนส่งผลใหร้ าคาตกตา่� การแปรรปู จึงเป็นสงิ่ ส�าคัญทจ่ี ะชว่ ยเกบ็ รกั ษา 2. ครถู ามกระตุน ความสนใจของนักเรยี นวา ผลผลิตไว้ได้นาน เพิ่มความหลากหลายในผลผลิต เช่น ล�าไยตากแห้ง กล้วยตาก กล้วยฉาบ • ในทองถิ่นของนักเรียนมีผลผลิตทางการ หมูแดดเดยี ว ปลาแดดเดียว เกษตรใดบาง ๒. เพ่ือช่วยเพิ่มมูลค่าและเพ่ิมรายได้ เน่ืองจากผลผลิตบางชนิดเม่ือน�าไปแปรรูป (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ สามารถจ�าหน่ายได้ในราคาท่ีสูงกว่าผลผลิตที่ยังไม่ได้แปรรูป เช่น ไอศกรีมมะม่วงมีราคาสูงกว่า นักเรียนและทองถ่นิ ทอ่ี าศยั อยู) มะมว่ งสกุ ผักกาดดองราคาสงู กว่าผักกาดเขยี วปลี และย ับย้ังก๓าร. ทเ�พางอื่ าชนว่ ขยอเกงจบ็ ุลผินลทผลรียติ1์บไวาบ้ งรชโิ นภิดค ไดทน้ �าาใหน ้สเนามอื่ างจรถากเกก็บารผแลปผรลริตปู ไผวล้บผรลิโภติ เคปไน็ดว้นธิ ากี นาขรึ้นปอ้ งเชก่นนั 3. ครูใหนักเรียนดูคลิปวิดีโอเกี่ยวกับศูนยการ ผกั กาดดอง ปลาหมึกแห้ง พรกิ แห้ง หอมแดง เรยี นรกู ารแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ๔. เพอื่ ชว่ ยใหส้ ะดวกในการบรโิ ภค เนอ่ื งจากผลผลติ ทางการเกษตรบางอยา่ งไมส่ ามารถ บริโภคได้ทันที ตอ้ งแปรรูปก่อนจึงจะบริโภคได ้ เช่น ขา้ วสาร ถัว่ เหลอื ง ถัว่ เขียว 4. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การแปรรูปผลผลิต ทางการเกษตร เปน การปรบั ปรงุ เปลย่ี นแปลง ๘.๒ หลกั การแปรรูปผลผลติ ทางการเกษตร รูปราง รสชาติของผลผลิตทางการเกษตรให แตกตางไปจากเดิม โดยใชก ระบวนการตางๆ การแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตรทกุ ชนดิ จะตอ้ งมวี ธิ กี ารปฏบิ ตั อิ ยา่ งถกู ตอ้ ง เพอื่ ให ้ไดผ้ ลผลติ เพ่ือเพิ่มมูลคาและคุณภาพใหกับผลผลิต ท่ีมีคุณภาพ มหี ลกั ในการปฏบิ ัติ ดงั น้ี ทางการเกษตร เพ่ือทําใหสามารถเก็บไวได ๑. ควรคดั สรรผลผลิตทมี่ ีคุณภาพ ใหม่ สด สะอาด ยาวนานขึน้ ” ๒. ควรเลอื กวธิ ีการแปรรูปผลผลติ ทางการเกษตรตามความนยิ มของผู้บรโิ ภค ๓. ควรรกั ษาความสะอาดทกุ ขน้ั ตอน เพอ่ื ปอ้ งกนั การปนเปอ้ื นของเชอื้ โรคและสง่ิ สกปรก ๔. ควรมีวธิ ีการป้องกันและยบั ยง้ั การเจริญเตบิ โตของจุลนิ ทรียท์ ่มี อี ยู่ในอาหาร ๕. รกั ษาคณุ คา่ ทางโภชนาการไว ้ใหม้ ากทส่ี ดุ และเพม่ิ รสชาตคิ วามอรอ่ ยหลงั การแปรรปู ๖. ควรคา� นงึ ถงึ ความประหยัดและความคุ้มค่าตอ่ เงนิ ทุนและเวลาทีเ่ สยี ไป 7๒ นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 จุลินทรีย เปนส่ิงมีชีวิตขนาดเล็ก ไมสามารถมองเห็นไดดวยตาเปลา ขอใดกลา วถงึ ประโยชนข องการแปรรูปอาหารไดอยางถกู ตอ ง จุลินทรียมีอยูในระบบยอยอาหารของมนุษย โดยอยูในลําไสเล็กและลําไสใหญ 1. อาหารมีรสชาตดิ ีกวา เดมิ จุลินทรียชนิดดีจะชวยปองกันภาวะอาหารเปนพิษจากเช้ือกอโรค จุลินทรีย 2. จุลนิ ทรียในอาหารเพ่ิมข้ึน ชนิดดีในลําไสใหญจะชวยเพ่ิมการบีบตัวของลําไส ทําใหขับถายไดสะดวก 3. สามารถเกบ็ อาหารไวไดนาน หากจุลินทรียภายในรางกายเสียสมดุล อาจกอใหเกิดโรคตางๆ เชน ทองผูก 4. อาหารสกุ โดยไมตองใชความรอน ทองเสีย มะเร็งลําไส นอกจากนี้ ยังมี “จุลินทรียกอโรค” ซ่ึงเปนจุลินทรีย ท่ีทําใหเกิดโรคในมนุษยและสัตว อาจเปนแบคทีเรีย รา ไวรัส หรือปรสิต (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะเปนการนําอาหารท่ีมีมาก โดยสว นใหญจะเปน แบคทเี รีย หรือมีเหลือตามฤดูกาลมาผานกระบวนการตา งๆ เพอื่ ใหส ามารถ เก็บรักษาอาหารไวรับประทานไดนานย่ิงขึ้น โดยไมเนาเสียและ การบริโภคอาหารที่มีจุลินทรียไมดี หรือสารพิษท่ีจุลินทรียสรางขึ้นอาจทํา สูญเสยี คุณคา ทางโภชนาการนอ ยทสี่ ดุ ) ใหเ กดิ “โรคอาหารเปน พษิ ” โดยจลุ นิ ทรยี อ าจตดิ มากบั อาหาร หรอื ปนเปอ นผา น อจุ จาระ สงิ่ แวดลอ ม ผปู ระกอบอาหาร การสมั ผสั กบั อาหารอยา งไมถ กู สขุ ลกั ษณะ และเขา สูรางกาย หรอื ทางเดนิ อาหาร อาการทีพ่ บทัว่ ไป คอื ปวดทอ ง ทองเสยี บางคร้งั มีอาการคลนื่ ไส อาเจียน และมไี ขรว มดว ย T78
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๘.๓ วธิ กี ารแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ขน้ั สอน การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรมีหลากหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีจะมีวิธีการท�าที่แตกต่างกัน และควรเลอื กวธิ กี ารแปรรูปใหเ้ หมาะสมกับวัตถดุ ิบแต่ละชนดิ ดงั น้ี ขนั้ ท่ี 1 สังเกตรับรู 1 การท�าแหง้ ๒การทา� เคม็ ๓ การหมกั ดอง เป็นการท�าให้น�้าระเหยออก เปน็ การใชเ้ กลอื เพอื่ เกบ็ รกั ษา เป็นการใช้ความเข้มข้นของ 1. ครถู ามกระตุนความสนใจของนกั เรยี นวา จากอาหาร คงความชื้นเหลืออยู่ อาหารให้อยู่ได้นาน ไม่เน่าเสีย เกลอื นา้� สม้ และนา้� ตาล ควบคมุ • นักเรียนเคยเห็นการแปรรูปผลผลิตทาง เล็กน้อยจนจุลินทรีย์ไม่สามารถ อาจมีการน�าสารเคมีบางอย่าง การเกษตรใด เจริญเติบโตได้ โดยน�าไปตาก เขา้ มาชว่ ยในการปรงุ แต่งรส เชน่ ไกมา่ใรหเ้อจารหิญารเตเนิบ่าโเตสขียอเงชจ่นุลินแทหนรียม1์ (แนวตอบ ผลไมแ ชอ่ิม กลวยตาก ปลาเค็ม แดด หรืออบในตู้อบความร้อน หัวผักกาดเคม็ กะหล่า� ปลีเคม็ กงุ แหง กะป กลว ยฉาบ ลําไยตากแหง) เช่น กล้วยตาก หมูแดดเดียว ผักดองตา่ ง ๆ • นักเรียนคิดวาเพราะเหตุใดจึงตองแปรรูป พรกิ แห้ง ผลผลติ ทางการเกษตร (แนวตอบ เพ่ือยกระดับ เพ่ิมมูลคาและชวย ๔ การเชื่อม 5 การแชอ่ ่ิม 6 การฉาบ ถนอมผลผลติ ทางการเกษตรใหเ กบ็ ไวบ รโิ ภค เป็นการเพิ่มปริมาณน้�าตาล เป็นการถนอมอาหาร โดย เป็นการท�าให้อาหารสุกก่อน ไดยาวนานขึน้ ) ในอาหาร โดยใช้ความร้อนทา� ให้ ค่อย ๆ เพ่ิมน�้าตาลเข้าไปในเนื้อ แล้วน�ามาคลุกเคล้ากับน�้าเช่ือม อาหารสุก น้�าตาลซึมผา่ นเขา้ ไป อาหารจนกระทง่ั อาหารนนั้ อม่ิ ตวั ที่อิ่มตัว ท�าให้น�้าตาลเกาะติด 2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับประโยชนของการ ในอาหาร อาหารจะเกบ็ ไวไ้ ดน้ าน ด้วยน้�าตาล เช่น มะม่วงแช่อิ่ม เป็นเกล็ดขาว ๆ เช่น กล้วยฉาบ แปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตรใหน กั เรยี นฟง วา เช่น มะตูมเชือ่ ม กลว้ ยเช่อื ม มะขามแชอ่ มิ่ เผอื กฉาบ “การนาํ ผลผลติ ทางการเกษตรมาแปรรปู จะชว ย ปองกันการลนตลาดของผลผลิตสด ชวยยก ระดบั ราคาผลผลติ ไมใ หต กตา่ํ และชว ยสง เสรมิ ใหผ ลติ ภณั ฑแ ปรรปู เปน ทยี่ อมรบั ชว ยเพม่ิ พนู รายไดใหกบั ตนเองและทอ งถิ่นไดเปน อยางดี” 7 การกวน 8 การท�าแยม2 9 การทา� น�า้ ผลไม้ เป็นการน�าผลไม้มาผสมกับ เป็นการน�าผลไม้มาต้มกับ เป็นการสกัดของเหลวออก น�้าตาล ใช้ความร้อนเค่ียวจน น�้าตาลด้วยไฟอ่อน แล้วค่อย ๆ จากผลไม้ อาจมีการเติมน้�าตาล ปริมาณน�้าลดลงและผสมเป็น เพมิ่ ไฟขน้ึ ทลี ะนอ้ ย คนสมา�่ เสมอ หรือน�้าเชื่อมลงไปเล็กน้อย เช่น เนื้อเดียวกัน เช่น ทุเรียนกวน ให้เข้ากันจนเหนียว เช่น แยมส้ม น้�าส้ม น้�ามะนาว น�้ามะพร้าว มะมว่ งกวน แยมสับปะรด นา้� สับปะรด อาหาร 7๓ กับการด�ารงชีวิต ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู เพราะเหตุใดภาชนะที่เปนโลหะจึงไมควรนํามาใสอาหารประเภท 1 แหนม เปนอาหารพ้ืนเมืองทางภาคเหนือของประเทศไทย ท่ีไดรับ หมักดอง ความนยิ มอยา งแพรห ลาย นอกจากการบรโิ ภคสดแลว ยงั สามารถนาํ ไปประกอบ อาหารไดอ ยา งหลากหลาย ซง่ึ จะใหท งั้ โปรตนี ไขมนั คารโ บไฮเดรต และแรธ าตุ (แนวตอบ เนื่องจากการหมักดองจะทําใหเกิดกรดและกรด ท่ีสาํ คญั เชน เหล็ก ฟอสฟอรสั วติ ามินบี 1 วิตามินบี 2 ปจจบุ ันมีการผลิต จะทาํ ปฏกิ ริ ยิ ากบั โลหะ เชน เหลก็ สเตนเลส อะลมู เิ นยี ม อาจทาํ ให “แหนมเพื่อสุขภาพ” โดยเพิ่มคุณคาทางโภชนาการใหกับแหนม จนไดแหนม เกิดสารพิษในอาหารท่ีหมักดองได จึงควรนําอาหารประเภท ที่มปี รมิ าณ “กาบา” (GABA) สูง ชวยลดความดนั โลหิต แหนมที่ไดป ลอดจาก หมกั ดองมาบรรจไุ วในภาชนะเครอ่ื งแกว หรอื เครอ่ื งเคลอื บเพอ่ื ให เช้ือโรคของระบบทางเดินอาหาร และมีคอเลสเตอรอลตํ่า มีรสชาติ กล่ิน เกดิ ความปลอดภยั ) และเนอื้ สมั ผสั เหมอื นแหนมทว่ั ไป สามารถเกบ็ รกั ษาในอณุ หภมู หิ อ งไดน าน 7 วนั โดยยงั คงรสชาตคิ วามอรอ ย เปน การสรา งมลู คา เพมิ่ ในการผลติ แหนมในระดบั ชุมชนและภาคอตุ สาหกรรม 2 แยม ทาํ จากผลไมผ สมกบั สารใหค วามหวาน หรอื ผสมนา้ํ ผลไมเ ขม ขน พอ ใหเ หนียว แยมที่ดีจะตอ งขนและเหนยี ว หรอื กงึ่ แขง็ กงึ่ เหลวพอเหมาะสําหรบั ใชทา มีกลน่ิ สี รสชาติ ตามชนดิ ของผลไมท ่ีนํามาทาํ T79
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน Know More เทคโนโลยีการถนอมอาหาร ขนั้ ที่ 1 สงั เกตรบั รู การใชเ้ ทคโนโลยกี ารถนอมอาหาร ทาำ ใหอ้ าหารมอี ายยุ าวนานขนึ้ ไมเ่ กดิ การเนา่ เสยี สญู เสยี คณุ ภาพ 3. ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ วา การถนอมอาหารในปจ จบุ นั และคณุ คา่ ทางโภชนาการนอ้ ยทส่ี ุด โดยเทคโนโลยกี ารถนอมอาหารมีวธิ ีการ เช่น มีหลากหลายวิธี และมีการใชเทคโนโลยีการ ถนอมอาหารเขามาชว ยมากข้นึ เพ่อื ใหอาหาร ๑๕๐ อุณหภูมิ ๑. การใชค้ วามร้อน มอี ายยุ าวนานขน้ึ ไมเกดิ การเนา เสีย สูญเสยี ๑๔๐ คุณภาพและคุณคาทางโภชนาการนอยที่สุด ๑๓๐ เป็นการทำาลายจลุ ินทรยี แ์ ละเอนไซมท์ ่ีมอี ยู่ในอาหาร ได้แก่ จากน้ันครูใหนักเรียนศึกษาเร่ือง เทคโนโลยี ๑๒๐ ยเู อชที (Ultra-heat treatment) การถนอมอาหาร จากหนังสอื เรียน หนวยการ ๑๑๐ เปน็ การใช้ความรอ้ นท่อี ุณหภมู ิ ๑๓๕-๑๕๐ องศาเซลเซียส เป็นระยะ เรียนรูท ี่ 3 ๑๐๐ เวลาสัน้ ๆ ประมาณ ๑-๔ วนิ าที เชน่ นมยเู อชท ี น้าำ ผลไม้ ๙๐ 4. ครูถามเพือ่ กระตนุ ความสนใจของนักเรยี นวา ๘๐ การสเตอรไิ ลซ์ (Sterilization) • อาหารกระปอ งตา งๆ มกี ารใชเ ทคโนโลยใี น ๗๐ เป็นการใช้ความร้อนท่ีอุณหภูมิ ๑๐๐ องศาเซลเซียส หรือสูงกว่า การถนอมอาหารดวยวิธีใด และมีลักษณะ เพ่ือทำาลายจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในอาหาร ทำาให้อาหารปลอดเชื้อ มีอายุ อยางไร ยาวนานขนึ้ ท่ีอณุ หภูมหิ ้อง เชน่ อาหารกระปอ๋ ง (แนวตอบ การสเตอรไิ ลซ (Sterilization) โดย ใชค วามรอนที่อณุ หภมู ิ 100 องศาเซลเซยี ส การพาสเจอไรซ์ (Pasteurization) หรือสูงกวา เพื่อทําลายจุลินทรียท่ีมีอยูใน เป็นการใช้ความร้อนท่ีอุณหภูมิตำ่ากว่า ๑๐๐ องศาเซลเซียส เพ่ือทำาลายจุลินทรีย์ท่ีทำาให้ อาหาร) อาหารเน่าเสยี แตย่ ังมีจลุ ินทรียห์ ลงเหลอื อย ู่ จึงต้องเกบ็ รักษาโดยใชเ้ ทคโนโลยีการถนอม • ความเย็นมีประโยชนอยางไรตอการถนอม อาหารแบบอ่นื ร่วมด้วย เชน่ การแชเ่ ยน็ การแช่แขง็ เชน่ นมโรงเรียน อาหาร ทีต่ ้องเกบ็ ไว้ในถงั แช่นา้ำ แขง็ หรอื ต้เู ยน็ ก่อนถึงมือผู้บรโิ ภค (แนวตอบ ชวยใหจุลินทรียที่อยูในอาหาร เติบโตชา ลง หรอื หยุดการเจริญเตบิ โต เพ่ือ ๖๐ ไมใ หอาหารเกดิ การเนา เสยี ) ๕๐ ๒. การใช้ความเยน็ ๔๐ เปน็ การลดอุณหภูมขิ องอาหาร เพ่ือลดการเจริญเตบิ โตของจลุ นิ ทรีย์ ม ี ๒ วิธ ี ได้แก่ ๓๐ การแช่เย็น เป็นการเกบ็ อาหารที่อณุ หภมู ิประมาณ ๓– ๕ องศาเซลเซยี ส ทาำ ให้ ๒๐ จุลินทรยี ์เจรญิ เติบโตไดช้ า้ ลง อาหารมอี ายุนานขึน้ เชน่ กุ้งแช่เยน็ ๑๐ การแช่เยือกแข็ง เป็นการเกบ็ อาหารท่อี ณุ หภูมิประมาณ -๑๕ ถงึ -๒๐ องศาเซลเซียส ๐ จุลินทรีย์จะถูกยับย้ังการเจริญเติบโต เป็นการเก็บรักษาวิตามินไว้ได้ มากกวา่ การถนอมอาหารแบบอน่ื เช่น ปลาทะเล มนั ฝร่งั 7๔ เกร็ดแนะครู กิจกรรม 21st Century Skills ใหน กั เรยี นรว มกนั สบื คน ขอ มลู เกย่ี วกบั อาหารและเครอ่ื งดม่ื ทใ่ี ชก ระบวนการ 1. ใหน กั เรยี นแบง กลมุ กลมุ ละเทา ๆ กนั เลอื กสนิ คา ทเี่ ปน การแปรรปู พาสเจอไรซ สเตอริไลซ ยูเอชที วา มีผลิตภัณฑในชีวิตประจําวันชนิดใดที่ใช จากผลผลติ ทางการเกษตรตามความสนใจ 1 ชนดิ โดยแตล ะกลมุ กระบวนการเหลานี้ในการถนอมอาหาร และแตละอยางมีความแตกตางกัน จะตองเลือกสินคา ทไ่ี มซา้ํ กัน อยา งไร จากน้ันนาํ ขอ มลู ท่ไี ดม าแลกเปลี่ยนเรยี นรซู ่ึงกันและกนั 2. ใหน กั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั ศกึ ษาขอ มลู ของสนิ คา ทเ่ี ลอื ก ในหวั ขอ สื่อ Digital ดงั นี้ • ช่ือสินคา ศกึ ษาเพ่มิ เติมเก่ยี วกับการถนอมผลผลิตทางการเกษตร ไดจาก • สวนประกอบสําคัญ http://www.kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/bookphp?book=19&c • ขอ มลู โภชนาการ hap=3&page=chap3.htm • วิธีการทใ่ี ชในการแปรรูปสนิ คา • อายุของสนิ คาและการเก็บรักษา T80 3. ใหแตละกลุมสงตัวแทนออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชม หนา ชนั้ เรยี น สรปุ ขอ มลู เปน แผน พบั หรอื รปู แบบทสี่ นใจ แลว นาํ สง ครผู สู อน
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๘.๔ ตวั อยา่ งการแปรรูปผลผลติ ทางการเกษตร ขนั้ สอน การแปรรูปผลผลติ ทางการเกษตร มที ั้งการน�าผัก ผลไม้ และเนอื้ สตั วม์ าแปรรูป เพือ่ ใหไ้ ด้ ขน้ั ที่ 1 สงั เกตรบั รู ผลิตผลใหม่ ๆ และเก็บไว้บริโภคไดน้ านขน้ึ โดยตัวอย่างการแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร มดี งั นี้ 5. ครใู หน กั เรยี นแบง กลมุ กลมุ ละเทา ๆ กนั รว มกนั การแปรรปู ผัก : กมิ จิผักกาดขาว ศกึ ษาเรอื่ งหลกั การแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร จากหนงั สอื เรียน หนว ยการเรยี นรทู ี่ 3 เพ่ือให อปุ กรณ์ นกั เรยี นทราบหลกั การปฏบิ ตั ทิ ถี่ กู ตอ ง โดยเรมิ่ จากการคัดสรรผลผลิตที่มีคุณภาพ ใหม สด ๑. มดี ๒. เขียง สะอาด เลือกวิธีการแปรรูปท่ีไดรับความนิยม ๓ อ่างผสม หรอื หมอ้ ๔. ตะกรา้ พลาสติก และมีความสะอาดทุกขั้นตอน รวมถึงวิธีการ ๕. ไห หรือภาชนะทม่ี ฝี าปดิ มดิ ชดิ ปองกัน ยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย เพ่ือรกั ษาคณุ คา ทางโภชนาการใหมากที่สดุ ส่วนผสมและเคร่อื งปรุง ๑. ผกั กาดขาวขนาดใหญ่ ๑ หัว 6. ครูดําเนินการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ๒. แครร์ อต ๑ หัว ใหนักเรียนดูเปนแบบอยางตามลําดับข้ันตอน ๓. ตน้ หอมห่ันขนาด ๑ นิ้ว ๕ ตน้ อยางชาๆ (ครูอาจเลือกสอนการทําไขเค็ม ๔. ขิงซอย ๑ ชอ้ นโต๊ะ เนอ้ื เคม็ การทาํ กมิ จิ (ผกั ดองเกาหล)ี กลว ยฉาบ ๕. หอมใหญ่ ๑/๔ หัว หรอื ผลผลติ ทางการเกษตรอน่ื ๆ ทห่ี าไดง า ยใน ๖. น้�าตาลทราย ๑ ชอ้ นโต๊ะ ๗. เกลือป่น ๒ ช้อนโต๊ะ ๘. กระเทยี มจนี กลบี ใหญ่ ๑๐ กลบี ทอ งถน่ิ ) พรอ มท้งั อธิบายขัน้ ตอนการทําอยา ง ๙. แป้งขา้ วเหนียว ๑/๔ ถ้วยตวง ๑๐. น้า� เปล่า ๒ ถว้ ยตวง ๑๑. น้า� ปลา ๒ ช้อนโตะ๊ ละเอียด เพ่ือใหนักเรียนสามารถสังเกตและ นําไปปฏิบตั ไิ ดอยางถูกตอง ๑๒. พรกิ เกาหลชี นดิ สบั หยาบ หรือพรกิ แห้งป่น (สบั หยาบ) ๑ ชอ้ นโต๊ะ ขน้ั ที่ 2 ทําตามแบบ วธิ ที า� 7. ครเู ปด โอกาสใหน กั เรยี นแตล ะกลมุ ไดแ ลกเปลย่ี น ผ่าแบ่งคร่ึงหัวผักกาดขาว ล้างน้�าให้สะอาด น�าอ่างผสม หรือ Trick : การเพ่ิมรสชาติ ความคิดเห็นรวมกันเกี่ยวกับประสบการณก าร ถ้าต้องการให้กิมจิมี แปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร ๑ หมอ้ ใสน่ า้� คร่ึงหน่ึง แลว้ ใสเ่ กลอื ลงไป ๒ ชอ้ นโตะ๊ คนใหล้ ะลาย ๒๒. โรยเกลอื ลงในใบผกั กาดขาว แลว้ แช่ในนา้� เกลอื พกั ไว้ ๒-๓ ชว่ั โมง กลับผักทุก ๑ ช่ัวโมง จนน้า� ในผักออกมา รสเปรี้ยวให้หมักนอกตู้เย็น ๓. นา� ผกั กาดขาวมาลา้ งนา�้ ใหส้ ะอาดและบบี นา้� ออก พกั ไว้ในตะกรา้ ๑ คืน แต่ถา้ ไม่ต้องการให้นา� กมิ จไิ ปหมกั ในตเู้ ยน็ ประมาณ ๓ พลาสตกิ ๒ สปั ดาห ์ และควรหมกั ไว ้ใน ตู้เย็นที่มีอุณหภูมิประมาณ ๔. น�าแป้งข้าวเหนียวและน้�าเปล่าผสมให้เข้ากัน ตั้งไฟปานกลาง ๓-๕ องศาเซลเซยี ส ๔ ต้องคนตลอดเวลา เมื่อแปง้ เรมิ่ เหนยี วให้ใสน่ า้� ตาลทราย เรง่ ไฟ ๕ เลก็ น้อย แป้งทก่ี วนจะเงาข้ึน ปิดไฟแล้วพกั ไว้ให้เย็น ๕. หั่นหัวไชเท้าและแคร์รอตเป็นเส้นยาวขนาดกว้างครึ่งเซนติเมตร ห่นั ต้นหอมยาว ๑ นวิ้ ๖. ท�าซอส โดยการน�ากระเทียม ขิง หัวหอมท่ีปอกเปลือกสับให้ละเอียด และเทใส่แป้งข้าวเหนียว ๖ ท่ีเยน็ แล้ว ปรุงรสดว้ ยนา้� ปลาและพรกิ ลงในอา่ งผสม และใสผ่ กั ท้ังหมดท่หี ั่นไวล้ งไป ๗. น�าภาชนะที่ปิดสนิทไปลวกน้�าร้อนเพ่ือฆ่าเชื้อให้สะอาด แล้วน�าผักกาดขาวที่พักไว้ทาซอสให้ทั่ว ๗ เรยี งใสภ่ าชนะและปดิ ฝาใหเ้ รียบร้อย อาหาร 75 กับการด�ารงชีวิต ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู การแปรรปู อาหารในขอ ใดสญู เสียคุณคาทางโภชนาการนอ ยทีส่ ดุ ครูอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกับกิมจิผักกาดขาวใหนักเรียนฟงวา ในกิมจิ 1. กลวยกวน ผกั กาดขาวจะอดุ มไปดว ยวติ ามนิ เอ วติ ามนิ บี 1 วติ ามนิ บี 2 และวติ ามนิ ซี รวมถงึ 2. นาํ้ มะนาว แคลเซยี ม ธาตเุ หลก็ และสารแคโรทนี (Carotene) กมิ จมิ สี ว นชว ยในการยอ ยอาหาร 3. มะมวงดอง เนอื่ งจากทาํ ขนึ้ จากผกั หลายชนดิ ซงึ่ มปี รมิ าณของเสน ใยอาหารสงู แตใ หพ ลงั งานตาํ่ 4. ลาํ ไยอบแหง ซึ่งในกิมจิ 100 กรัม จะมีพลังงานเพียง 32 กิโลแคลอรี ท้ังยังมีแบคทีเรีย แลกโตบาซิลลัส (Lactobacillus) ท่ีใหกรดแลกติก (Lactic Acid) ชวยลด (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 2. เพราะนาํ้ มะนาวไมไ ดผ า นกระบวนการ อาการทองเสีย ลดระดบั คอเลสเตอรอล ลดระดบั ความดันโลหติ และเพิม่ การ ท่ที าํ ใหส ญู เสียคณุ คาทางโภชนาการ เนอ่ื งจากคําตอบในขอ อ่นื ๆ ทํางานของระบบภูมิคุมกันภายในรางกาย นอกจากนี้ การดองกิมจิเปนเวลา มีการผานความรอน หรือการหมักดองนานๆ ซึ่งสงผลทําให 3 สปั ดาห จะทําใหร ะดบั ของวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และวติ ามนิ บี 12 เพ่ิมขนึ้ เสยี คณุ คาทางโภชนาการในปริมาณมาก) เปนสองเทา T81
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน การแปรรูปผลไม้ : กลว้ ย1ฉาบ ขั้นที่ 2 ทําตามแบบ อุปกรณ์ 8. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั แปรรปู ผลผลติ ๑. มดี ๒. เขยี ง ๓. ตะหลวิ ทางการเกษตรตามข้ันตอนแบบอยางท่ีครู ๔. กระชอน ๕. มดี สองคม ๖. เตาแก๊ส สาธิต โดยเลือกใชวัตถุดิบ วัสดุ อุปกรณ ๗. กระทะ ๘. ภาชนะใส่กลว้ ยฉาบ การแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตรทค่ี รเู ตรยี มมา ๙. กะละมงั หรืออ่างผสม ครคู อยดแู ลและใหค วามชว ยเหลอื พรอมท้ัง แนะนําเพิม่ เติมอยา งใกลชิด ๑ส.่วกนลผว้ สยมดแิบ2ล๑ะเคหรวอ่ืี งปรุง 9. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การแปรรูปผลผลิต ๒. นา้� มนั พืชส�าหรับทอด ๒ ถ้วยตวง ทางการเกษตรมีหลายวิธี แตควรคํานึงถึง ๓. น้�าตาลทราย ๒ ถว้ ยตวง ลักษณะของผลผลิตและความเปนไปไดของ ๔. เกลือป่น ๑/๔ ชอ้ นชา การแปรรปู ทางการเกษตร โดยวธิ กี ารแปรรปู สามารถทําได โดยการทําแหง การทําเค็ม วธิ ีทา� ๒ ใส่น้�ามันพืชลงในกระทะ น�าไปต้ังไฟด้วย การหมกั ดอง การเช่ือม การแชอ มิ่ การฉาบ ๔ ความร้อนคอ่ นข้างสูง การกวน การทาํ แยม และการทําน้าํ ผลไม” ๑ ปอกเปลือก ลา้ งท�าความสะอาดกลว้ ย และ ๓ แช่ไว้ในน�้าสะอาด ทอดจนกลว้ ยเปน็ สเี หลอื งสมา่� เสมอทว่ั ทงั้ ชน้ิ 10. ครูอธิบายตอวา “ปจจุบันมีเทคโนโลยีใน แลว้ จงึ ตกั ออกพักไว้ให้เย็น การถนอมอาหาร เพื่อทําใหอาหารมีอายุ ฝานกลว้ ยเปน็ แผ่นบาง ๆ ลงในกระทะนา้� มนั ท่ียาวนานข้ึน โดยการใชความรอนเพ่ือ ทนั ที ๖ ใส่กล้วยท่ีทอดไว้ทันทีที่ยกน้�าตาลลงจากเตา ทําลายจุลินทรียและเอนไซมที่มีในอาหาร คลกุ เคลา้ เบาๆ ให้น้�าตาลจบั ท่ัวช้ินของกลว้ ย หรือการใชความเย็นเพ่ือลดการเจริญเติบโต ๕ ตั้งกระทะ ผสมน้า� ตาลทราย นา�้ และเกลอื ของจลุ นิ ทรยี ” เค่ยี วจนนา�้ ตาลทรายเหนยี วเป็นยางมะตมู ๗ พกั ไว้ใหน้ า้� ตาลทเ่ี คลอื บกลว้ ยแหง้ สนทิ จงึ นา� บรรจใุ สภ่ าชนะ หรอื ถงุ บรรจทุ ป่ี ดิ สนิท Trick : เทคนิคการท�ากลว้ ยฉาบ กลว้ ยหกั มกุ3จะใหเ้ นอื้ ทฟี่ กู รอบมากกวา่ กล้วยน้�าว้า และการฝานกล้วยลงทอดทันที จะท�าให้กรอบและไม่บิดงอ นอกจากน ้ี การทอดกล้วยไม่ควรให้มีสีเหลืองทอง มากเกินไป เพราะความร้อนจะคลายตัวช้า อาจท�าให้กลว้ ยไหมแ้ ละมรี สขม 76 นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด 1 กลว ย อดุ มไปดว ยวิตามนิ และแรธาตุตางๆ ทสี่ ําคัญและจาํ เปนตอ รางกาย หากตอ งการเพมิ่ มลู คา ของทเุ รยี นและเพอื่ ใหส ามารถเกบ็ ทเุ รยี น เชน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม คารโบไฮเดรต โปรตีน ไวจ ําหนายไดนานข้นึ ควรนาํ มาแปรรปู เปนส่งิ ใด วติ ามนิ เอ วิตามินบี 6 วติ ามินบี 12 วิตามินซี มีนา้ํ ตาลตามธรรมชาติ ไดแ ก ซโู ครส ฟรกุ โตส และกลโู คส มกี ากใยอาหารที่สง ผลดตี อระบบขบั ถาย มสี าร 1. ทเุ รยี นฉาบ ตานอนุมูลอิสระท่ีชวยชะลอความแก อีกท้ังยังมีสารแทนนินท่ีชวยในการรักษา 2. ทเุ รียนแชอ มิ่ โรคกระเพาะอาหาร 3. ทเุ รียนแชแข็ง 2 กลวยดิบ นิยมนําผลดิบมาบดใหเปนผงละเอียด เพื่อใชในการปองกัน 4. ทุเรียนอบกรอบ และบาํ บัดโรคตางๆ เชน โรคแผลในกระเพาะอาหาร ยบั ยง้ั การหลง่ั นาํ้ ยอ ยใน กระเพาะอาหาร รกั ษาอาการทอ งเสยี บดิ มกู เลอื ด รกั ษาแผลเรอื้ รงั แผลตดิ เชอื้ (วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะเปน การยบั ยง้ั การเจรญิ เตบิ โต และแผลเนาเปอยตางๆ ของจลุ นิ ทรยี ท ที่ าํ ใหอ าหารเกดิ การเนา เสยี การนาํ ไปอบกรอบจะชว ย 3 กลว ยหกั มกุ ประโยชนข องกลว ยหกั มกุ มหี ลายประการ เชน ผลดบิ ชว ยรกั ษา ทําใหสามารถเก็บรักษาไวจําหนายไดนานขึ้นและชวยเพ่ิมมูลคา โรคแผลในกระเพาะอาหาร ผลสุกชวยบํารุงรางกาย เปนยาระบายชวยใหการ ของทุเรยี นได) Tขับถา ยดยี ิ่งขึ้น 82
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ การแปรรูปเน้ือสตั ว์ : เน้อื เคม็ หรือหม1ูเค็ม ขนั้ สอน อุปกรณ์ ขัน้ ท่ี 2 ทาํ ตามแบบ ๑. มดี ๒. เขยี ง ๓ ตะแกรงตากเน้ือสัตว์ 11. ครูใหนักเรียนแตละกลุมคัดเลือกการแปรรูป ๔. ภาชนะบรรจุทม่ี ฝี าปดิ สนิท ผลผลติ ทางการเกษตรท่นี า สนใจ และศึกษา ๕. กะละมงั หรืออ่างผสม ขน้ั ตอนการแปรรปู ผลผลติ พรอ มทงั้ จดั เตรยี ม วัตถุดิบ วัสดุ อุปกรณมาในชั่วโมงถัดไป ส๑.ว่ เนนผื้อสวมัวแหลระือเเคนรื้อือ่ หงมป2ู ร๑ุงกโิ ลกรัม โดยอาจศึกษาวิธีการและขั้นตอนการแปรรูป ตางๆ จากตัวอยางการแปรรูปผลผลิตทาง ๒. เกลอื ปน่ ๒ ชอ้ นโต๊ะ การเกษตร เชน การแปรรูปผัก โดยการทํา กิมจิผักกาดขาว การแปรรูปผลไม โดยการ วิธีทา� Trick : การตากแดดของเนอ้ื เคม็ หรอื หมเู คม็ ทํากลวยฉาบ หรือการแปรรูปเน้ือสัตว โดย การทา� เนอ้ื เคม็ หรอื หมเู คม็ ควรตากในวนั ที่ การทาํ เน้ือเคม็ และหมเู ค็ม ๑ ลา้ งเนอื้ ววั หรอื เนอื้ หมใู หส้ ะอาด แลว้ แลเ่ ปน็ มีแสงแดดจัด หากต้องการให้มีความนุ่มควร ๒ ช้นิ บางๆ ตากแดดจัดเพียง ๑ วัน และหากเน้ือสัตว์ ขน้ั ท่ี 3 ทําเองโดยไมมแี บบ ท่ีตากแดดเหลือจากการบริโภคควรเก็บไว้ใน ผสมเกลอื กบั เนอ้ื ววั หรือเน้อื หมใู หท้ ่วั ตู้เยน็ เพือ่ ยดื อายุการเก็บรักษา 12. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ ตรวจสอบความพรอ ม ของวัตถุดิบ วัสดุและอุปกรณท่ีใชในการ ๓ แลว้ หมกั ทิ้งไว้ในตเู้ ยน็ ประมาณ ๑ คนื แปรรูปผลผลิตทางการเกษตรที่นักเรียนได นา� มาตากแดดในตะแกรง แลว้ กลบั ด้านหนา้ เตรยี มมา ดา้ นหลังให้ทว่ั กัน ๑ วนั 13. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนแตละกลุมลงมือ ๔ นา� มาใส่ในภาชนะทม่ี ฝี าปดิ มดิ ชดิ เกบ็ ในตเู้ ยน็ ปฏบิ ตั งิ านตามขนั้ ตอนทไ่ี ดศ กึ ษามาโดยไมม ี ทอ่ี ุณหภมู ปิ ระมาณ ๓-๕ องศาเซลเซียส แบบอยา ง อาหารและโภชนาการมีความจ�าเป็นส�าหรับครอบครัว การมีนิสัยบริโภคท่ีดีย่อม 14. สมาชิกแตละกลุมรวมกันตรวจสอบความ ถูกตอง และความเรียบรอยของผลงาน ส่งผลดีต่อสุขภาพ อาหารท่ีสมาชิกในครอบครัวรับประทานต้องประกอบด้วยสารอาหาร การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร หากพบ หลักครบท้ัง ๕ หมู่ เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย มีการเตรียมและการ ขอบกพรองในผลงานใหสมาชิกภายในกลุม ประกอบอาหารทถี่ กู ตอ้ ง เพอื่ รกั ษาคณุ คา่ ของอาหาร ดงั นน้ั สมาชกิ ในครอบครวั จงึ ตอ้ งมี รวมกันหาแนวทางปรับปรุงแกไขใหผลงาน การฝกึ การประกอบอาหาร เลอื กซอื้ อาหารสด อาหารแหง้ เพอื่ นา� มาประกอบอาหาร และ ออกมาดยี ่ิงข้นึ เม่ือประกอบอาหารเสร็จจะต้องมีการจัดตกแต่งและบริการอาหารแก่สมาชิกในครอบครัว โดยสมาชกิ ทกุ คนจะตอ้ งชว่ ยกนั เพอื่ เปน็ การสรา้ งสมั พนั ธภาพทด่ี ตี อ่ กนั และทา� ใหค้ รอบครวั มคี วามสขุ อาหาร 77 กับการด�ารงชีวิต กจิ กรรม สรางเสริม นักเรียนควรรู ใหน กั เรยี นสบื คน วธิ กี ารแปรรปู อาหารตามความสนใจ 1 ชนดิ 1 หมู เน้อื หมสู ว นที่มีความนุมมากทีส่ ุด จะเปนสวนท่ีไมม ีมันแทรก เรยี กวา พรอ มทง้ั เขยี นอธบิ ายลกั ษณะและประโยชนข องการแปรรปู อาหาร “สันในหมู” นิยมนํามาใชปรุงอาหารหลากหลายประเภท โดยเฉพาะการนํามา ชนดิ นั้น ลงในกระดาษ A4 แลว นาํ สงครูผสู อน ทําหมทู อด หมยู า ง และหมปู ง 2 เนื้อวัว หรือเนื้อหมู การนําเน้ือสัตวมาตากนั้นนิยมใชเนื้อวัวและเน้ือหมู กิจกรรม ทาทาย เนอื่ งจากเปน สตั วท มี่ เี นอ้ื ปรมิ าณมาก เมอื่ นาํ มาตากแลว เนอื้ จะไมแ หง จนเกนิ ไป นําไปปรุงอาหารตอไดงาย สามารถรับประทานคูกับขาวสวยและขาวเหนียวได ใหน กั เรยี นคดิ คน และประกอบอาหารเมนใู หมต ามความสนใจ ทันที หรอื รับประทานเลน แตไมควรรับประทานในปริมาณท่มี ากเกนิ ไปเพราะ 1 ชนิด โดยระบุถึงโภชนาการของอาหาร รสชาติ วิธีการทํา อาจจะสงผลเสียตอ สุขภาพในระยะยาวได ปญหาท่ีพบ และแนวทางแกไข จากน้ันนําเสนอผลงานใหเพื่อน ชมหนา ชั้นเรียน นอกจากน้ี เนอ้ื ววั และเนอ้ื หมยู งั เปน แหลง ของโปรตนี คณุ ภาพดี อดุ มไปดว ย แรธาตุและวิตามิน โดยเน้ือวัวอุดมไปดวยวิตามินบี 12 ชวยปองกันโรคหัวใจ และโรคสมองเสอื่ ม รวมถึงธาตุเหล็กท่ีชวยบํารุงเลือด สวนเน้ือหมูอุดมไปดวย วิตามินเอ ชวยบํารุงสายตา วิตามินบี 1 ลดอาการเหน็บชา และวิตามินบี 3 ชว ยลดไขมันและการอกั เสบของผวิ หนัง T83
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน กจิ กสรรร้ามงสรรค์พฒั นาการเรยี นรู้ ๓.1 ใบมอบหมายงานท่ี ขนั้ ที่ 3 ทาํ เองโดยไมม แี บบ เร่ือง อุปกรณ ์ เครื่องมอื เครื่องใช ้ในการประกอบอาหาร 15. ครูตรวจสอบความถูกตองและใหคําแนะนํา เพมิ่ เตมิ ในสว นทบ่ี กพรอ งเกยี่ วกบั การแปรรปู ค�าช้แี จง ๑. ปฏบิ ตั งิ านเปน็ กลุ่ม ผลผลติ ทางการเกษตร ๒. เลือกหวั หน้ากลุม่ และแบง่ หน้าท่คี วามรบั ผดิ ชอบรว่ มกนั 16. ครูถามนกั เรียนวา • นักเรียนคิดวาการแปรรูปผลผลิตทางการ ๓. ส า� รวจอุปกรณ์ เครอ่ื งมือ เครื่องใชท้ ี่ใชใ้ นการประกอบอาหารที่ม ีในบา้ นของสมาชกิ ในกลุ่ม เกษตรทําใหคุณคาทางสารอาหารของ ผลผลติ ทางการเกษตรลดลงหรอื ไม เพราะ พร้อมอธิบายวิธีการดูแลรักษาและการจัดเกบ็ เหตุใด (แนวตอบ ไมสูญเสียคุณคาทางสารอาหาร ๔. วิเคราะห์อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ที่ใช้ พร้อมอธิบายวิธีการใช้ ในการประกอบอาหารที่ เพราะการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เปนการรักษาคุณคาทางโภชนาการของ ก�าหนดให้ ดังน้ี อาหารไว) • แกงสม้ • ไขต่ นุ๋ ขนั้ ที่ 4 ฝก ใหช าํ นาญ • แกงจืดเตา้ หู้ • ผดั ผกั 17. ครูใหนักเรียนฝกการแปรรูปผลผลิตทางการ เกษตรจนเกิดความชํานาญ โดยเลือกใช • ไก่อบ • หมูตุ๋น ผลผลิตทางการเกษตรที่มีอยูในทองถ่ินของ ตนเองตามสนใจ จากนน้ั มอบหมายใหน กั เรยี น • ปลาทนู ่ึง • ทองหยบิ ทาํ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) โดยใหน กั เรยี น จัดนิทรรศการอาหาร เรื่อง อาหารกับการ ๓.๒ใบมอบหมายงานที่ ดาํ รงชีวติ และทาํ กจิ กรรมสรา งสรรคพัฒนา การเรยี นรูทายหนว ย เรื่อง การเลือกซอ้ื อาหาร 18. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว ย คา� ช้แี จง ๑. ปฏบิ ตั งิ านเป็นกลุ่ม การเรียนรูท่ี 3 ๒. เลอื กหวั หนา้ กลุ่มและแบ่งหน้าที่ความรบั ผดิ ชอบรว่ มกัน ๓. ระดมสมอง อธบิ ายหลกั การเลอื กซอื้ อาหาร หรอื วตั ถดุ บิ สา� หรบั การประกอบอาหารทกี่ า� หนดให้ ลงในแบบรายงาน • ไข่เจียวหมูสบั • ผัดผกั กาดขาวกับกุ้งสด • ปลาทอด • สลัดผลไม้ • ต้มย�าไก่บา้ น • แกงเขียวหวานไก่ใส่มะเขือ 78 เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด ครูนาํ ภาชนะท่ีใชในการประกอบอาหารทม่ี ีลักษณะแตกตางกัน 4-5 ชนดิ นกั เรยี นมวี ธิ กี ารเลอื กรบั ประทานอาหารอยา งไรใหไ ดร บั ประโยชน มาใหน กั เรยี นดู เพอ่ื ใหน กั เรยี นฝก การสงั เกต มกี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรแู ละแสดง สงู สดุ ความคดิ เหน็ รว มกนั จากนน้ั ใหน กั เรยี นรว มกนั สรปุ วา ภาชนะเหลา นนั้ ใชท าํ สง่ิ ใด ทาํ มาจากวสั ดใุ ด และควรดูแลรักษาอยางไร (แนวตอบ เลือกรับประทานอาหารโดยคาํ นงึ ถึงหลักโภชนาการ ความสะอาด ความปลอดภัย และความประหยัด อาจรบั ประทาน สื่อ Digital อาหารทหี่ าไดง า ยในทอ งถน่ิ หรอื อาหารทม่ี ตี ามฤดกู าล รบั ประทาน อาหารท่ีใหคุณคาทางโภชนาการอยางหลากหลาย เพ่ือชวยให ศึกษาเพิ่มเติมเก่ียวกับการดูแลเครื่องครัวและอุปกรณที่ใชในการประกอบ สขุ ภาพรา งกายแขง็ แรงและมภี มู คิ มุ กันโรคทดี่ )ี อาหารไดจาก https://www.pstip/เคล็ดลับการทําอาหาร/การดูแลเครื่องครัว และอุปกรณ. html T84
นาํ สอน สรุป ประเมิน ๓.๓ใบมอบหมายงานท่ี ขนั้ สรปุ เร่ือง การเตรยี ม ประกอบ จดั และตกแต่งอาหาร ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ เกยี่ วกบั การแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตรวา “การนําผลผลิตทาง คา� ช้ีแจง ๑. ปฏิบตั งิ านเปน็ กล่มุ การเกษตรมาแปรรูป จะตองคัดสรรผลผลิตที่มี ๒. ฝกึ ปฏิบตั กิ ารประกอบอาหาร โดยอาหารท่เี ลอื กจะตอ้ งมีคุณคา่ ทางโภชนาการ และวางแผน คณุ ภาพ ใหม สด สะอาด เพ่อื ใหไ ดผ ลลพั ธท ม่ี ี การทา� งานลว่ งหน้า ดงั น้ี คณุ ภาพ และยกระดบั ใหแ กผ ลผลติ ทางการเกษตร ในทอ งถนิ่ ” • เลอื กหัวหน้ากล่มุ • ก�าหนดเปา้ หมายวา่ จะประกอบอาหารชนิดใด ปรมิ าณเท่าใด ขน้ั ประเมนิ • แบ่งงานให้สมาชกิ ในกลุม่ มีส่วนรว่ มอยา่ งท่ัวถึง • วางแผนการท�างาน ดังน้ี 1. ครตู รวจชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) จากการ ๑) หาสตู รอาหารและวิธที �าอาหาร จัดนิทรรศการอาหาร เรื่อง อาหารกับการ ๒) วางแผนการใช้อุปกรณ ์ เคร่ืองมอื เครื่องใช้ ในการท�างาน ดํารงชีวติ ๓) วางแผนการจดั เตรยี มเลอื กซ้ืออาหาร หรอื ซื้อวัตถุดิบในการประกอบอาหาร ๔) จดั หารูปแบบการจดั และตกแต่งอาหารท่ีปฏบิ ตั ิให้สวยงาม น่ารับประทาน 2. ครตู รวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว ยการเรยี นรู ที่ 3 ๓. ประกอบอาหารมอื้ กลางวนั กลมุ่ ละ ๑ อยา่ ง พรอ้ มจดั และตกแตง่ ใหส้ วยงาม จากนน้ั นา� อาหาร มาจดั วางท่ีโต๊ะอาหาร 3. ครูตรวจสอบความรู ความเขาใจของนกั เรียน เรอื่ ง การแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร จากการ ๓.๔ใบมอบหมายงานท่ี ตอบคาํ ถาม การแสดงความคดิ เหน็ รว มกันใน ชน้ั เรียน และการทํากิจกรรมในชัน้ เรียน เรอื่ ง การแปรรูปอาหาร คา� ช้แี จง ๑. ปฏบิ ัตงิ านเปน็ กลมุ่ ๒. ใหน้ ักเรยี นท�าการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร โดยให้ปฏบิ ตั ติ ามข้ันตอนท่กี า� หนดให้ ดงั น้ี • เลอื กหวั หนา้ กลมุ่ • กา� หนดเปา้ หมายพร้อมวัตถปุ ระสงค ์ในการท�างาน • วางแผนการท�างานและลงมอื ปฏบิ ัตงิ านตามหน้าที่ไดร้ ับมอบหมาย ดงั น้ี ขัน้ ที่ ๑ เตรียมอุปกรณ ์ เครื่องมือ เคร่ืองใช ้ สว่ นผสม และเคร่อื งปรุง ขนั้ ที่ ๒ ลงมอื ปฏิบัติ ขั้นที่ ๓ ตรวจสอบระหว่างการปฏบิ ตั งิ าน โดยตรวจสอบจากการบันทกึ ผล ขนั้ ที่ ๔ ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน ขน้ั ท่ ี ๕ เกบ็ รักษาเครือ่ งมอื เครอ่ื งใช ้ อุปกรณ์ใหเ้ รยี บรอ้ ย อาหาร 79 กับการด�ารงชีวิต กิจกรรม Mini Project แนวทางการวัดและประเมินผล 1. ใหนักเรียนสํารวจอาหาร ผัก และผลไม ที่มีอยูในทองถิ่นของ ครสู ามารถสังเกตพฤติกรรมการทาํ งานกลมุ และตรวจการจัดนทิ รรศการ ตนเอง จากนั้นเลือกส่ิงท่ีสนใจ หรือส่ิงที่มีมากในทองตลาด อาหาร เรอื่ ง อาหารกบั การดํารงชวี ติ โดยศกึ ษาเกณฑก ารวดั และประเมินผลท่ี ตามความสนใจ 1 ชนดิ แนบทา ยแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรยี นรูที่ 3 2. สืบคนขอมูลเก่ียวกับวิธีทําอยางละเอียด เพ่ือนําสิ่งที่เลือกมา แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ แบบประเมนิ การจดั นทิ รรศการ แปรรูป เพ่อื ใหส ามารถเก็บรักษาไดน านขึน้ คาชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในช่องที่ แบบประเมินการจดั นิทรรศการอาหาร : อาหารกบั การดารงชีวติ 3. ปฏบิ ัตกิ ารแปรรปู อาหารตามข้นั ตอนทไี่ ดศ ึกษามา ง 1.1 ม.1/1 วเิ คราะห์ขั้นตอนการทางานตามกระบวนการทางาน 4. นาํ เสนอผลงานใหเ พอื่ นชมหนา ชน้ั เรยี น พรอ มทง้ั อธบิ ายแนวทาง ตรงกับระดบั คะแนน ง 1.1 ม.1/2 ใช้กระบวนการกล่มุ ในการทางานดว้ ยความเสยี สละ ง 1.1 ม.1/3 ตดั สินใจแก้ปญั หาการทางานอย่างมีเหตุผล การดาํ เนนิ งาน ขน้ั ตอนการดาํ เนนิ งาน ปญ หา และแนวทางแกไ ข การมี รายการ เกณฑ์การประเมนิ (ระดับคุณภาพ) ระดับ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมี สว่ นรว่ มใน รวม ประเมิน ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) คุณภาพ ลาดบั ท่ี ชอ่ื – สกลุ ความ ฟังคนอน่ื ตามท่ีไดร้ บั น้าใจ การ 15 1. ขัน้ ตอนการทางาน จัดนิทรรศการได้ดีมาก ถกู ตอ้ ง จัดนิทรรศการไดด้ ี ถูกตอ้ ง จัดนทิ รรศการไดค้ อ่ นขา้ งดี จดั นทิ รรศการได้ไมถ่ กู ต้อง ของนกั เรียน คดิ เห็น มอบหมาย คะแนน ตามกระบวนการ ตามกระบวนการทางาน ตามกระบวนการทางาน ดีมาก ปรบั ปรงุ ในการจัดนทิ รรศการ ตามกระบวนการทางาน ถูกตอ้ ง ตามกระบวนการ ไม่มคี วามเสยี สละในการทา ดี ผลงานกลมุ่ 2. ทากจิ กรรมรว่ มกบั มคี วามเสยี สละในการทา ทางาน กิจกรรมรว่ มกบั สมาชกิ พอใช้ สมาชกิ ภายในกลุ่ม กิจกรรมรว่ มกบั สมาชิกภายใน มีความเสียสละในการทา มีความเสียสละในการทา ภายในกลุ่ม ปรับปรงุ 3 2 13 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ดว้ ยความเสยี สละ กล่มุ ดมี าก กจิ กรรมรว่ มกบั สมาชิกภายใน กิจกรรมร่วมกบั สมาชกิ ภายใน ไม่สามารถตัดสนิ ใจแกป้ ญั หา 3. ตัดสินแก้ปญั หาการ สามารถตดั สินใจแกป้ ัญหา การจัดนทิ รรศการอาหารได้ จดั นิทรรศการอาหาร การจัดนิทรรศการอาหาร กลุม่ ดี กลุ่มคอ่ นข้างดี ไม่สามารถเลอื กใชว้ ตั ถุดบิ ได้อยา่ งเหมาะสม ได้อย่างเหมาะสม ดมี าก วัสดอุ ปุ กรณใ์ นการแปรรปู 4. เลือกใชว้ ตั ถุดิบ สามารถเลอื กใชว้ ัตถดุ บิ สามารถตดั สินใจแกป้ ัญหา สามารถตัดสินใจแกป้ ัญหา ผลผลิตทางการเกษตรได้ วัสดุอปุ กรณ์ วัสดอุ ุปกรณใ์ นการแปรรปู การจัดนทิ รรศการอาหาร การจัดนทิ รรศการอาหาร ในการแปรรูปผลผลติ ผลผลติ ทางการเกษตร ไดด้ ี ไดค้ ่อนขา้ งดี ไมส่ ามารถแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร ไดอ้ ย่างเหมาะสมดีมาก ทางการเกษตรออกมาได้ ได้อยา่ งเหมาะสม สามารถเลอื กใชว้ ตั ถุดิบ สามารถเลอื กใช้วัตถดุ บิ 5. ผลลัพธ์การทางาน สามารถแปรรปู ผลผลติ วัสดอุ ุปกรณ์ในการแปรรูป วสั ดุอปุ กรณ์ในการแปรรปู การแปรรูปผลผลิต ทางการเกษตรออกมาดีมาก ผลผลติ ทางการเกษตร ผลผลิตทางการเกษตร ทางการเกษตร ได้อย่างเหมาะสมดี ไดค้ อ่ นข้างเหมาะสม สามารถแปรรูปผลผลิต สามารถแปรรปู ผลผลิต ทางการเกษตรออกมาดี ทางการเกษตรออกมา คอ่ นขา้ งดี ลงช่ือ...................................................ผู้ ประเมนิ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ............./.................../............... ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 17-20 ดมี าก 13-16 ดี ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน 7-12 พอใช้ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 1-6 ปรับปรุง ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ T85
Chapter Overview แผนการจัด สอื่ ที่ใช้ จดุ ประสงค์ วิธสี อน ประเมิน ทกั ษะท่ีได้ คณุ ลักษณะ การเรยี นรู้ อันพงึ ประสงค์ แผนฯ ท่ี 1 - หนังสือเรยี น 1. บ อกประโยชนแ์ ละ การเรียนรู้ - ตรวจแบบทดสอบ - ท กั ษะการคดิ - รักชาติ ศาสน์ การวางแผน ประดิษฐ์ของใช้ การงานอาชีพและ หลักการของการ แบบร่วมมือ ก่อนเรยี น วิเคราะห์ กษัตริย์ ของตกแต่งจาก วัสดใุ นท้องถ่นิ เทคโนโลยี ม.1 ประดษิ ฐ์ของตกแตง่ ได้ - ตรวจใบงานที่ 4.1.1 - ทักษะ - ซือ่ สัตย์สจุ ริต 2 - แบบวัดและบนั ทกึ ผล 2. วางแผนการประดิษฐ์ - ป ระเมินการน�ำเสนอผลงาน กระบวนการคิด - ม ีวินัย ชั่วโมง การเรยี นรู้ ของใช้ ของตกแตง่ จาก - สงั เกตพฤตกิ รรม ตดั สินใจ - ใฝเ่ รียนรู้ การงานอาชพี และ วัสดใุ นท้องถ่นิ ได้อย่าง การทำ� งานรายบคุ คล - ท กั ษะการ - อยู่อย่าง เทคโนโลยี ม.1 ถูกตอ้ ง - สังเกตพฤตกิ รรม ประยกุ ต ์ใ ชค้ วามรู้ พอเพยี ง - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 3. ใชง้ านอปุ กรณ์ เครอื่ งมอื การท�ำงานกลุ่ม - ท ักษะการ - มุ่งมั่นในการ - PowerPoint เครือ่ งใช ้ในการทำ� งาน - ป ระเมินคณุ ลักษณะ แกป้ ัญหา ทำ� งาน ประดษิ ฐ์ไดอ้ ยา่ ง อนั พงึ ประสงค์ - รกั ความ เหมาะสม เป็นไทย 4. ม เี จตคตทิ ีด่ ีตอ่ การ - ม จี ติ สาธารณะ ทำ� งานประดษิ ฐ์ แผนฯ ที่ 2 - หนงั สือเรยี น 1. อ ธิบายหลกั การ การสืบเสาะ - ตรวจใบงานที่ 4.2.1 - ท กั ษะการคดิ - รักชาติ ศาสน์ การออกแบบ การงานอาชีพและ งานประดิษฐ์ เทคโนโลยี ม.1 ออกแบบงานประดษิ ฐ์ หาความรู้ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน วิเคราะห์ กษตั รยิ ์ - แบบวัดและบนั ทึกผล 2 การเรยี นรู้ ได้ถกู ตอ้ ง เหมาะสม (5Es) - สงั เกตพฤตกิ รรม - ท กั ษะการประยกุ ต์ - ซอื่ สตั ยส์ ุจรติ การงานอาชพี และ ช่วั โมง เทคโนโลยี ม.1 2. ออกแบบงานประดิษฐ์ การทำ� งานกลุม่ ใชค้ วามรู้ - มีวนิ ยั - PowerPoint ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม - ป ระเมนิ คุณลกั ษณะ - ทกั ษะการ - ใฝ่เรียนรู้ 3. มเี จตคตทิ ีด่ ตี ่อการ อันพึงประสงค์ แก้ปญั หา - อยู่อย่าง ออกแบบงานประดษิ ฐ์ - ทักษะ พอเพยี ง กระบวนการคดิ - ม ุ่งมั่นในการ ตดั สนิ ใจ ทำ� งาน - รกั ความ เป็นไทย - ม จี ติ สาธารณะ T86
แผนการจดั สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทกั ษะที่ได้ คุณลักษณะ การเรยี นรู้ อันพงึ ประสงค์ แผนฯ ที่ 3 - ห นังสอื เรียน 1. อ ธิบายขัน้ ตอนการ กระบวนการ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - ทักษะการคิด - รักชาติ ศาสน์ การฝกึ ประดิษฐ์ ปฏิบัติ - สงั เกตพฤตกิ รรม ของใช้ การงานอาชีพและ ประดิษฐ์ของใช้ การท�ำงานรายบุคคล วเิ คราะห์ กษัตรยิ ์ ของตกแต่งจาก - สงั เกตพฤตกิ รรม วสั ดุในทอ้ งถิ่น เทคโนโลยี ม.1 ของตกแต่งจากวสั ดุ การท�ำงานกลมุ่ - ท กั ษะการ - ซ อ่ื สัตย์สจุ รติ - ประเมินคุณลักษณะ 2 - แบบวัดและบันทึกผล ในท้องถนิ่ ได้ อันพงึ ประสงค์ ประยกุ ต ์ใ ชค้ วามรู้ - ม วี ินยั - ตรวจแบบทดสอบ ชัว่ โมง การเรียนรู้ 2. จ�ำแนกงานประดิษฐ์ หลงั เรยี น - ทักษะ - ใฝเ่ รียนรู้ - การประเมนิ ช้ินงาน/ การงานอาชพี และ จากวสั ดใุ นทอ้ งถ่ินตาม ภาระงาน (รวบยอด) กระบวนการคดิ - อ ยูอ่ ยา่ ง จดั ทำ� งานประดษิ ฐ์ เทคโนโลยี ม.1 ลกั ษณะการนำ� ไปใชไ้ ด้ เร่ือง การประดิษฐ์ ตัดสินใจ พอเพยี ง จากวสั ดใุ นท้องถ่นิ - แ บบทดสอบกอ่ นเรยี น 3. ประดษิ ฐ์ของใชข้ อง - ท ักษะการ - มุ่งมนั่ ในการ - PowerPoint ตกแตง่ จากวสั ดุ แก้ปญั หา ทำ� งาน ในท้องถนิ่ ได้ - รกั ความ 4. ม ีทัศนคติทด่ี ตี อ่ เป็นไทย การประดิษฐ์ของใช้ - มจี ติ สาธารณะ ของตกแต่งจากวัสดุ ในท้องถิน่ ได้ T87
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ นาํ (การเรียนรูแบบรวมมือ) ๔ การประดษิ ฐ์หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ของใช้ ของตกแตง่ จากวสั ดใุ นทอ้ งถนิ่ 1. ครใู หนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรยี น การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น เป็นการใช้วัสดุท่ีมีในท้องถิ่นมา หนวยการเรยี นรูท ี่ 4 ประกอบเปน็ ชิ้นงาน เพื่อประโยชน์ ใชส้ อยในชวี ติ ประจา� วนั ของตนเอง และสามารถท�า เป็นอาชีพได้ อีกท้ังยังช่วยให้ได้เรียนรู้เก่ียวกับกระบวนการท�างานตามข้ันตอน เพื่อให้ 2. ครกู ลา วคาํ ทกั ทายนกั เรียน พรอ มถามกระตนุ สามารถทา� งานร่วมกับผู้อืน่ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี ความสนใจของนกั เรยี นวา • ในทองถิ่นของนักเรียนมีวัสดุใดท่ีสามารถ นาํ มาประดิษฐข องใช ของตกแตง ได (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียนและทอ งถน่ิ ทีอ่ าศัยอยู) 3. ครูคัดเลือกวัสดุในทองถิ่นที่นาสนใจมาให นักเรียนดู และใหนักเรียนรวมกันแสดงความ คดิ เห็น จากนนั้ ครูถามนกั เรยี นวา • วสั ดใุ นทอ งถนิ่ นสี้ ามารถนาํ มาประดษิ ฐเ ปน สงิ่ ใดได (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นกั เรียน) 4. ครูอธิบายนักเรียนเพ่ือเช่ือมโยงเขาสูบทเรียน วา “การประดิษฐของใช ของตกแตงจากวสั ดุ ในทองถ่ิน เปนการนําวัสดุภายในทองถิ่นมา สรางสรรค หรือออกแบบใหเปนผลิตภัณฑ ท่ีใหประโยชนใชสอยตรงกับความตองการ ของผูบริโภค” ตัวชว้ี ัด ■ วเิ คราะหข์ ั้นตอนการทำางานตามกระบวนการทำางาน (ง ๑.๑ ม.๑/๑) ■ ใชก้ ระบวนการกลมุ่ ในการทาำ งานด้วยความเสยี สละ (ง ๑.๑ ม.๑/๒) ■ ตดั สินใจแก้ปัญหาการทาำ งานอยา่ งมเี หตผุ ล (ง ๑.๑ ม.๑/๓) เกร็ดแนะครู ครคู วรจดั กจิ กรรมการเรยี นรู โดยเนน ทกั ษะกระบวนการทาํ งานและกระบวนการกลมุ เพอ่ื ใหน กั เรยี นสามารถนาํ วสั ดใุ นทอ งถนิ่ มาประดษิ ฐข องใช ของตกแตง ได โดยสามารถจัดกจิ กรรมได ดงั นี้ • การต้ังประเดน็ คาํ ถามเก่ยี วกบั วัสดใุ นทองถิ่นทีน่ ํามาใชใ นการประดษิ ฐของใช ของตกแตง • การต้งั ประเดน็ คาํ ถามเกี่ยวกับวัสดุ อปุ กรณ เครื่องมอื เครือ่ งใชในการประดิษฐของใช ของตกแตง จากวสั ดใุ นทอ งถ่นิ • การตั้งประเดน็ คําถามเกย่ี วกับการออกแบบและหลักการออกแบบงานประดษิ ฐข องใช ของตกแตง จากวสั ดุในทองถนิ่ • ใหน ักเรยี นแบง กลมุ เพือ่ ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม เชน การประดษิ ฐข องใช ของตกแตง จากวัสดุในทอ งถน่ิ บันทึกผล จากนนั้ นาํ เสนอผลงานหนาชน้ั เรียน T88
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ หากตอ้ งการประดษิ ฐช์ นิ้ งาน ๑ การประดษิ ฐข์ องใช้ ของตกแตง่ ขนั้ สอน จากวัสดุท่ีมีในท้องถิ่นเป็น จากวสั ดใุ นทอ้ งถิน่ ของขวัญให้เพ่อื น จะประดิษฐ์ การประดษิ ฐข์ องใช ้ ของตกแตง่ จากวสั ดใุ นทอ้ งถนิ่ เปน็ การ 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ศึกษา ส่งิ ใด เพราะเหตใุ ด ใช้วัสดุท่ีมีในแต่ละท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ หรือออกแบบเป็น เรอ่ื ง การประดษิ ฐข องใช ของตกแตง จากวสั ดุ ผลติ ภัณฑ์ที่ใหป้ ระโยชน์ใช้สอยตรงกับความตอ้ งการ เชน่ เป็น ในทอ งถนิ่ จากหนงั สอื เรยี น หนว ยการเรยี นรทู ี่ 4 ของตกแต่งบ้าน เปน็ ของขวญั เนือ่ งในโอกาสสา� คญั ต่าง ๆ หรอื ศกึ ษาเพม่ิ เตมิ จากอนิ เทอรเ นต็ โดยมหี วั ขอ ดังนี้ ๑.๑ หลักในการประดษิ ฐ์ของใช ้ ของตกแต่งจาก 1. หลักในการประดิษฐของใช ของตกแตง วัสดใุ นท้องถนิ่ จากวัสดุในทองถิ่น การประดษิ ฐข์ องใช ้ ของตกแตง่ จากวสั ดใุ นทอ้ งถน่ิ ผปู้ ระดษิ ฐ์ 2. ประโยชนของการประดิษฐของใช ของ ต้องมีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการท�างานประดิษฐ์ประเภท ตกแตงจากวสั ดใุ นทอ งถิน่ ตา่ ง ๆ เพื่อจะไดป้ ฏิบตั ิไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง โดยมหี ลักการ ดงั นี้ ๑. สา� รวจความตอ้ งการของตนเองวา่ จะประดษิ ฐช์ น้ิ งานใด 2. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนแตละกลุมอภิปราย ๒. ศกึ ษาวิธีการประดษิ ฐ์ให้ละเอยี ดกอ่ นลงมอื ปฏิบตั ิ รว มกันภายในกลุม ๓. สา� รวจความจา� เปน็ และประโยชนข์ องชนิ้ งานทป่ี ระดษิ ฐ์ ๕๔.. ศค�กาึ นษงึาถวงึิธคกี วาารมปประลดอิษดฐภช์ ยั 1้นิ รงะาหนวใ่าหง้มกาีครวปามระคดงษิ ทฐน์ช น้ิแงขา็งนแรง 3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนออกมา นําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยเพื่อนรวม ช้ันเรียนสามารถซักถามเพ่ือตรวจสอบความ ๑.๒ ประโยชนข์ องการประดษิ ฐข์ องใช ้ ของตกแตง่ เขาใจ และครูเปนผูแนะนําเพ่ิมเติมเกี่ยวกับ จากวสั ดุในท้องถ่ิน เนอ้ื หา เพอ่ื ใหน กั เรยี นเขา ใจมากยงิ่ ขน้ึ จากนนั้ การประดิษฐช์ ้ินงานจากวัสดใุ นทอ้ งถน่ิ มีประโยชน์ ดังนี้ ครถู ามนกั เรยี นวา ๑. ชว่ ยให้มีความละเอยี ดรอบคอบ มีสมาธิในการท�างาน • การประดษิ ฐของใช ของตกแตง จากวสั ดุใน ๒. เสริมสร้างความคิดสรา้ งสรรค์ ทอ งถ่ินมปี ระโยชนอ ยางไร ๓. พัฒนาฝีมอื และความช�านาญในการทา� งาน (แนวตอบ ชวยพัฒนาความคิดสรางสรรค ๔. รจู้ กั การทา� งานรว่ มกนั มคี วามเสยี สละและความสามคั คี ใชเ วลาใหเ ปนประโยชน นํามาใชป ระโยชน ๖๕.. นนา��าไไปปจใหา� ห้เปน็นา่ ยขเอปงน็ ขรวาญั ยไเนดเ้อ่ื สงรใมิน2ใโหอก้กบัาสตสน�าเอคงญั แตลา่ะคง รๆอบครวั หรือตกแตงบานได สามารถเพิ่มมูลคาให กับสินคา อีกทั้งยังสามารถยึดเปนอาชีพ เพอ่ื สรา งรายไดใ หก บั ตนเองและครอบครวั ) สาระการเรียนรู้แกนกลาง 81 ■ กระบวนการกลมุ่ เปน็ วธิ กี ารทาำ งานตามขนั้ ตอน คอื การเลอื กหวั หนา้ กลมุ่ กาำ หนดเปา้ หมาย วางแผน แบ่งงานตามความสามารถ ปฏิบตั ติ ามบทบาทหนา้ ที่ ประเมนิ ผลและปรบั ปรงุ งาน เช่น - การประดิษฐข์ องใช้ ของตกแตง่ จากวสั ดุในทอ้ งถนิ่ การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถ่ิน ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู ขอ ใดเปน การตงั้ คาํ ถามทมี่ คี วามเกย่ี วขอ งนอ ยทสี่ ดุ เกยี่ วกบั การ 1 ความปลอดภยั ในการทาํ งานประดษิ ฐต อ งมกี ารนาํ อปุ กรณ เครอื่ งมอื เครอ่ื งใช ประดิษฐข องใช ของตกแตงจากวัสดุในทองถ่ิน หลายชนิดมาชวยในการปฏิบัติงาน ดังน้ัน เพื่อใหเกิดความปลอดภัยใน ขณะปฏิบัติงานจึงควรศึกษาวิธีการใชและขอจํากัดของอุปกรณ เคร่ืองมือ 1. จะประดษิ ฐส งิ่ ใด เครอ่ื งใชต า งๆ ใหเ ขา ใจกอ นนาํ มาใชง าน ควรแตง กายรดั กมุ ไมส วมใสเ ครอ่ื งประดบั 2. จะประดิษฐอ ยา งไร หากผมยาวควรมัดผมใหเรียบรอย หากมีอารมณโกรธ ซึมเศรา งวงนอน 3. จะวางจําหนายทใ่ี ด ออนเพลยี ควรหยดุ ปฏิบัติงานทันที หากพบอุปกรณ เครอ่ื งมือ เครือ่ งใชชํารุด 4. จะใชป ระโยชนไดอยางไร ควรซอมแซมใหเรียบรอย และควรปฏิบตั งิ านในสถานทท่ี ม่ี ีแสงสวา งเพยี งพอ 2 รายไดเสริม การหารายไดเสริมสามารถทําไดหลายวิธี โดยใชเวลาวาง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการประดิษฐของใช ของ จากการทาํ งาน หรอื วนั หยดุ ประจาํ สปั ดาหป ฏบิ ตั ิ เชน การประดษิ ฐส นิ คา ทาํ มอื ตกแตงจากวสั ดใุ นทอ งถนิ่ มจี ุดมงุ หมายหลกั เพอื่ นําไปใชสาํ หรบั (Handmade) การขายสนิ คา ออนไลน การขายเสอ้ื ผา มือสอง ตนเองและครอบครัวเปนหลัก บางกรณีอาจผลิตข้ึนเพื่อจําหนาย ในทองถิ่นไดบาง ดังน้ัน การตั้งคําถามในเชิงธุรกิจจึงมีความ เกี่ยวของนอยทสี่ ุด) T89
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ๒ วัสดุในท้องถน่ิ ที่นาำ มาใช้ในงานประดิษฐ์ 4. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา “วัสดุธรรมชาติท่ีนํามา วัสดทุ ี่นา� มาใช้ทา� ผลติ ภัณฑ์มที ง้ั จากพชื สตั ว์ ดนิ หิน ฯลฯ แตกตา่ งกันไปในแตล่ ะท้องถนิ่ ประดษิ ฐม ที ง้ั พชื สตั วดนิ หนิ ฯลฯ ซง่ึ จะแตกตา ง ตามลกั ษณะสภาพภมู ปิ ระเทศ ประโยชนข์ องการใชส้ อย วถิ กี ารด�าเนนิ ชวี ติ และความตอ้ งการของ กันไปในแตละทองถิ่นตามลักษณะสภาพ ผบู้ รโิ ภค ตวั อย่างวสั ดใุ นท้องถ่นิ ทีน่ ยิ มนา� มาใช้ เชน่ ภูมิประเทศ หรือวิถีการใชชีวิต ซึ่งข้ึนอยูกับ ประโยชนของการใชงาน ความตองการของ มะพร้าว ผบู รโิ ภค เชน มะพรา ว กลว ย ผกั ตบชวา หวาย เปลอื กหอย” พืชยืนต้นอยู่ ในตระกูลปาล์ม มีท้ังตน้ เต้ยี และต้นสูง 5. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ชวยกัน ใบ ใช้สานทา� หมวก ภาชนะ ระดมสมองและสืบคนชื่อวัสดุธรรมชาติที่มี กา้ น ใชท้ า� ไมก้ วาด ทร่ี องจาน ในทองถ่ินของตนเองใหไดมากที่สุด จากนั้น ก ะลา ใช้ท�ากระบวยตักน้�า ใหนักเรียนแตละกลุมผลัดกันออกมานําเสนอ โคมไฟ ผลการสืบคนหนาช้ันเรียน โดยครูบันทึก คําตอบลงบนกระดาน กลว้ ย1 6. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ คดั เลอื กวสั ดธุ รรมชาติ พชื ลม้ ลกุ ลา� ตน้ สงู และแขง็ แรง ที่สนใจมากท่ีสุด และลงความเห็นรวมกัน ใบแบนยาว ใหญ่ กาบห่อหุ้ม เกี่ยวกับสว นประกอบของวสั ดธุ รรมชาตนิ น้ั วา ซ้อนกันเปน็ ลา� ต้น สามารถนาํ มาประดษิ ฐเ พอื่ ใชป ระโยชนอ ยา งไร ใบ ใช้ห่ออาหาร ท�ากระทง ไดบาง โดยดูตัวอยางการนําวัสดุในทองถ่ิน บายศรี ที่นํามาใชในงานประดิษฐจากหนังสือเรียน กา้ น ใชท้ า� ของเล่น ดอกไม้ หนว ยการเรยี นรูที่ 4 กาบ ใช้ทา� กระเป๋า เชอื ก ผักตบชวา วัชพืชท่ขี ้นึ อยู่ตามล�าน�า้ ล�าตน้ สั้น ออกใบเป็นกอ ก้านใบ กลมอวบนา�้ ดอกมสี มี ่วงออ่ น ก้าน ใช้ท�ากระเป๋า หมวก รองเท้า แผ่นรองความร้อน ถาด 82 เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคดิ ครูอธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับชนิดของใบตองที่นิยมนํามาใชในงานประดิษฐ บคุ คลในขอ ใดนําความรเู กยี่ วกบั การประดิษฐของใช ใหนักเรียนฟงวา ใบตองท่ีนิยมนํามาใชสวนใหญจะเปนใบตองตานี เพราะมี ของตกแตงจากวสั ดใุ นทองถิน่ มาใชไดอ ยา งเหมาะสม ลกั ษณะเหนยี วนมุ ไมเ ปราะ หรอื ฉกี ขาดไดง า ย ใบมสี เี ขยี วเขม มคี วามหนา และ มีขนาดพอเหมาะ นิยมนาํ มาใชใ นงานประเภทบายศรี กระทงลอย และใบตอง 1. ปนู จับแมลงปอและผเี สื้อมาสตาฟฟ เพอ่ื นํามาตกแตง กลว ยนา้ํ วา เพราะมลี กั ษณะเหนยี วนมุ แตม คี วามเปราะบางเลก็ นอ ย ใบสเี ขยี วออ น เคสโทรศพั ท นิยมนาํ มาใชห อ ขนมทมี่ ขี นาดเลก็ เชน ขนมกลว ย ขนมใสไ ส ขาวตมมดั 2. โปง นาํ กระปองนา้ํ อัดลมมาตัดและขดใหเปนรูปรถสามลอ นักเรียนควรรู 3. ปนนํากะลามะพราวมาประดษิ ฐเ ปนแกวใสเ คร่อื งดื่ม 4. เปาเก็บขวดพลาสตกิ มาทําเปนท่เี พาะพันธตุ น กลา 1 กลว ย ใบของกลวยจะเรียกวา “ใบตอง” หากตอ งการนาํ ใบตองมาใชงาน ควรเลอื กตดั ใน 2 ชวงเวลา คือ ตอนสาย เพื่อใหนา้ํ คา งทเ่ี กาะบนใบแหง และ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะกะลามะพราวเปนวัสดุใน ตอนเยน็ เพอ่ื ใหฟ น จากแดด ใบจะไดไ มเ หยี่ ว และเหมาะสมตอ การนาํ มาใชง าน ทอ งถนิ่ จดั เปน วสั ดธุ รรมชาตจิ ากพชื พบมากในจงั หวดั ทางภาคใต ภาคกลาง และภาคตะวันออก ซึ่งสามารถนําเอาสวนประกอบ T90 ตางๆ ของตนมาใชประโยชนไดอยา งหลากหลาย)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ หวาย ขนั้ สอน พืชท่ีข้ึนตามป่าทึบท่ัวไปเนื้อ 7. ครถู ามกระตนุ ความสนใจของนักเรียนวา เหนยี ว มคี วามยดื หยนุ่ สงู ลา� ตน้ • เพราะเหตใุ ดจงึ ควรนาํ วสั ดทุ ม่ี อี ยใู นทอ งถน่ิ และกาบใบมีหนาม มาประดิษฐของใช ของตกแตง (แนวตอบ เพราะเปนของที่มีอยูในทองถ่ิน เลข�า่งตต้นะกใชร้ท้า�าขเคนั รโ่ือตงก1จกั สาน เช่น ซึง่ สามารถนาํ มาผลิตเปนช้นิ งาน เพื่อสรา ง มูลคา เชน ในทองถิ่นมีไผจํานวนมาก แกน ใชท้ �าเก้าอี้ ชุดรบั แขก ซ่ึงสามารถนํามาประดิษฐเปนของใชได เชน ตะกรา ภาชนะใสข อง) ยา่ นลเิ ภา • ยานลิเภามีคุณสมบัติอยางไรท่ีเหมาะแก การนํามาประดิษฐข องใช ของตกแตง เฟินเถาชนิดหนึ่งที่มีมากในป่า (แนวตอบ มีความเหนียว แข็งแรง ทนทาน ล�าต้นมีลักษณะเป็นเหง้าสั้น ไมเสอื่ มคณุ ภาพงา ย) มขี นสีน้�าตาลเข้ม • เพราะเหตุใดหวายจึงนิยมนํามาใชในการ เปลือกเถา เใชช่ีย้ทน�าเหปม็นาเกค2ร่ือพงาในช้ ผลิตเกาอชี้ ดุ รบั แขก ต่าง ๆ เช่น (แนวตอบ เน่ืองจากเนื้อของหวาย มีความ กระเป๋าถอื เหนยี ว ยดื หยนุ ไดด กี วา ไผ หรอื ไมท น่ี ยิ มนาํ มา ทาํ งานจกั สาน มคี วามแขง็ แรง ทนทาน จกั เปน ลาน3 เสน หรอื แผน ไดง า ย โคง งอเปน รปู ทรงตา งๆ ไดด ี จงึ นยิ มนาํ มาผลติ เปน เครอ่ื งเรอื นประเภท ไมย้ นื ตน้ ในตระกลู ปาลม์ ลา� ตน้ เกา อ้ชี ุดรับแขก) แข็งและตรง มีหนามข้ึนตาม ขอบก้านใบ ยอดอ่อน ใชท้ �าหมวก พัด ใบ ใชท้ า� หลังคา ผนัง ก้าน ใช้ทา� กระบุง ตะกรา้ เปลือกหอย ฝาหอย หรือกาบหอย มสี แี ละ รูปทรงแตกต่างกันไปตามสาย พันธ์ุ เปลือก ใช้ท�าของใช้และของ ตกแต่งบ้าน เช่น กรอบรูป โมบาย เครอื่ งประดบั การประดิษฐ์ของใช้ 83 ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถ่ิน ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู “ครีมนําใบลานมาสานเปนปลาตะเพยี น เพ่อื นาํ ไปแขวนทเ่ี ปล 1 ขันโตก ภาชนะสําหรับวางอาหารของชาวลานนา ทําจากไมและหวาย ใหน อง” จากขอ ความนี้ นักเรียนเหน็ ดว ยกับการกระทาํ ของครมี มี 3 ขนาด คอื ขันโตกหลวง กวา ง 25-50 น้วิ ขนั โตกฮาม กวาง 17-24 นว้ิ หรอื ไม เพราะเหตุใด และขนั โตกหนอย กวาง 10 น้ิว 2 เช่ียนหมาก เปนอุปกรณเครื่องใชที่มีความเก่ียวของกับการกินหมากของ 1. เหน็ ดว ย เพราะจะชว ยใหเ ดก็ นอนหลบั ไดย าวนานยง่ิ ขนึ้ คนไทยในสมยั โบราณ ทาํ จากวัสดุหลายชนดิ เชน ไม เงนิ ทองเหลอื ง มลี กั ษณะ 2. ไมเ หน็ ดว ย เพราะเปน การทาํ ลายธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ ม กลมแบนคลายพาน หรือเปนเหล่ียม 6 เหลย่ี ม 3. ไมเ หน็ ดว ย เพราะปจ จบุ นั มขี องเลน เดก็ มากมายใหเ ลอื กซอื้ 3 ลาน เปน พรรณไมโ บราณ มถี นิ่ กาํ เนดิ อยใู นอเมรกิ าใตแ ละแถบเมดเิ ตอรเ รเนยี น 4. เห็นดวย เพราะเปนการนําวัสดุในทองถ่ินมาใชใหเกิด ในประเทศไทยนยิ มปลกู อยู 3 สายพนั ธุ คอื ลานปา ลานพรุ และลานวัด หรือ ลานหมน่ื เถดิ เทงิ คณุ สมบตั ทิ ่ีโดดเดน ของลาน คอื เนอื้ เหนยี ว เรยี บ และทนทาน ประโยชน จึงนยิ มนาํ มาทําเปนผลติ ภณั ฑหลายชนิด เชน หมวก กระเปา กลองใสก ระดาษ ชําระ จารหนังสือ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะการนําใบลานมาสานเปน ปลาตะเพยี น เปน การนาํ วสั ดใุ นทอ งถน่ิ มาใชใ หเ กดิ ประโยชนแ ละ คมุ คา อกี ทง้ั ยงั ชวยลดภาระคาใชจายภายในครอบครวั ) T91
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146