Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สุนิสา โพธิ์พรม

สุนิสา โพธิ์พรม

Published by วิทย บริการ, 2022-07-07 01:32:28

Description: สุนิสา โพธิ์พรม

Search

Read the Text Version

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 91 (2010) และมากกว่าคร่งึ หน่งึ ของยส่ี ิบอันดับแรกที่ประสบความสําเร็จทางการเงินมากท่ีสุดภาพยนตร์ มมี ติ ิขององั กฤษมากมาย อิทธิพลของอังกฤษสามารถเห็นได้จากภาพยนตร์การ์ตูนเร่ือง'English Cycle'ของดิสนีย์ซ่ึงรวมถึง Alice in Wonderland (1951), Peter Pan (1953), One Hundred and One Dalmatians (1961), The Sword in the Stone (1963), และThe Jungle Book (2510) ดิสนีย์ เริ่มให้ความสนใจในภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันเป็นคร้ังแรกโดยใช้ทุนสํารองทางการเงินที่สร้างขึ้นในส หราชอาณาจักรและไม่สามารถส่งตัวกลับประเทศได้เนื่องจากการควบคุมการแลกเปลี่ยนโดยการ สร้างภาพยนตร์สองเรื่องจากแหล่งท่ีมาของสก็อตและอังกฤษ เหล่าน้ีคือTreasure Island (1950) และThe Story of Robin Hood และ His Merrie Men (1952) ซ่ึงประสบความสําเร็จท้ังในบ็อกซ์ ออฟฟิศ สตูดิโอยังคงใช้แหล่งข้อมูลของอังกฤษสําหรับภาพยนตร์แอนิเมชั่นหลังจากการเสียชีวิตของ วอลต์ดิสนีย์ในปี 2510 โดยมีภาพยนตร์การ์ตูนเร่ืองRobin Hood (1973), The Rescuers (1976) และThe Many Adventures of Winnie the Pooh (1977) หนง่ึ ในดสิ นีย์หลาย ๆ คนทีว่ าดภาพตัว ละครของAA Milne ในปี 1970 และ 1980 สตูดิโออังกฤษจัดตั้งช่ือเสียง[ ต้องการอ้างอิง ]สําหรับเทคนิคพิเศษ ยอดเยี่ยมในภาพยนตร์เช่นซูเปอร์แมน (1978), คนต่างด้าว (1979) และแบทแมน (1989) บางส่วน ของชือ่ เสียงน้กี ่อตง้ั ขึ้นบนหลักของความสามารถนํามารวมกันสําหรับการถ่ายทําของ2001: A Space Odyssey (1968) ซึ่งต่อมาทํางานร่วมกันในซีรีส์และภาพยนตร์สารคดีสําหรับเจอร์ร่ีเดอร์สัน Aardman Animationsจากบรสิ ตอลเป็นท่ีร้จู ักกันดใี นเรอ่ื งแอนิเมชนั สต็อปโมชัน ในช่วงปลายปี 1998 4 ช่องทางเปิดตัวของพวกเขาฟรีเพื่ออากาศฟิล์มช่องภาพยนตร์ 4 - ช่องท่ีออกแบบมาเพื่อแสดงภาพยนตร์ มันออกอากาศต้ังแต่เวลา 11.00 น. BST และแข่งขันกับ โทรทศั นจ์ ่ายเครือข่ายภาพยนตร์Sky Cinema ลอนดอนตามผลภาพบริษัท Framestore กับทิมเบอร์ ผลภาพผู้บังคับบัญชาได้ทํางานในภาพยนตร์เร่ืองThe Dark Knight (2008) และแรงโน้มถ่วง (2013) ดว้ ยเทคนิคใหม่ ๆ ท่ีเกีย่ วขอ้ งในแรงโน้มถว่ งการสามปที ่จี ะเสร็จสมบูรณ์ โปแลนด์ ประวัติความเป็นมาของCinema of Polandนั้นยาวนานพอ ๆ กับประวัติศาสตร์ของ ภาพยนตร์และมีความสําเร็จที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลแม้ว่าภาพยนตร์ของโปแลนด์จะมีจําหน่าย

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 92 ในเชิงพาณิชย์น้อยกว่าภาพยนตร์จากหลายประเทศในยุโรปอื่นๆ หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองที่ รัฐบาลคอมมิวนิสต์สร้างกํากับ -based ภาพยนตร์แห่งชาติได้รับการฝึกฝนหลายร้อยกรรมการใหม่ และเพิ่มขีดความสามารถให้พวกเขาทําหนัง ผู้สร้างภาพยนตร์เช่นRoman Polański , Krzysztof Kieślowski , Agnieszka Holland , Andrzej Wajda , Andrzej Żuławski , Andrzej Munkและ Jerzy Skolimowski ส่งผลต่อการพัฒนาการสร้างภาพยนตร์ของโปแลนด์ ในช่วงไม่ก่ีปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมนี้มีผู้อํานวยการสร้างเป็นผู้นําโดยมีเงินทุนเป็นกุญแจสําคัญในการสร้างภาพยนตร์และ ด้วยผู้สร้างภาพยนตร์อิสระทุกประเภทผลงานของโปแลนด์มักจะได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ อเมริกันมากกว่า โรงเรียนภาพยนตร์โปแลนด์ตกอยู่ใต้อิทธิพลหนักของ neorealists อิตาเล่ียน มักใช้ ประโยชนจ์ ากการเปลีย่ นแปลงแบบเสรนี ิยมในโปแลนด์หลงั ปี 1956 ของโปแลนด์ในเดือนตุลาคมเพื่อ แสดงให้เห็นถงึ ความซับซอ้ นของประวัติศาสตรโ์ ปแลนด์ในช่วงสงครามโลกคร้ังที่สองและการยึดครอง ของเยอรมัน ท่ามกลางหัวข้อท่ีสําคัญที่สุดคือการสร้างอดีตบ้านกองทัพทหารและบทบาทของตนใน หลงั สงครามโปแลนด์และโศกนาฏกรรมแห่งชาติเหมือนค่ายกักกันเยอรมันและการปฏิวัติวอร์ซอ การ เปล่ียนแปลงทางการเมืองทําให้กลุ่มสามารถพูดถึงประวัติศาสตร์ล่าสุดของโปแลนด์ได้อย่างเปิดเผย มากขึ้น อยา่ งไรกต็ ามกฎการเซน็ เซอร์ยงั คงแข็งแกรง่ เมือ่ พดู ถงึ ประวตั ศิ าสตร์หลังปี พ.ศ. 2488 และมี ภาพยนตร์เก่ียวกับเหตุการณ์ร่วมสมัยน้อยมาก น่ีเป็นความแตกต่างท่ีสําคัญระหว่างสมาชิกของ โรงเรยี นภาพยนตร์โปแลนด์และนักประสาทวทิ ยาชาวอิตาลี ภาพยนตร์ของโรงเรียนโปแลนด์เป็นคนแรกที่ขีดเส้นใต้ตัวอักษรแห่งชาติของโปแลนด์และ เป็นหนึ่งในการเคล่ือนไหวทางศิลปะคร้ังแรกในยุโรปกลางท่ีจะเปิดเผยคัดค้านแนวทางอย่างเป็น ทางการของความสมจริงสังคมนิยม สมาชิกของขบวนการมักจะเน้นยํ้าบทบาทของปัจเจกบุคคลเมื่อ เทียบกับการรวมกลุ่ม มีแนวโน้มสองประการในการเคล่ือนไหว: ผู้กํากับรุ่นเยาว์ เช่น Andrzej Wajda มักศึกษาแนวคิดเก่ียวกับความกล้าหาญในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่ง (ที่โดดเด่นที่สุดคือ Andrzej Munk ) วเิ คราะห์ตัวละครชาวโปแลนด์ผา่ นการประชดอารมณข์ ันและการผา่ ตํานานของชาติ ไนจเี รีย โรงหนังไนจีเรียมักจะเรียกเป็นทางการว่า Nollywood เป็นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ใหญ่ ท่ีสุดเป็นอันดับสองในแง่ของการส่งออกในปี 2009 และคนที่สามที่ใหญ่ที่สุดในแง่ของรายได้โดยรวม

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 93 ท่ีสร้างขึ้นในปี 2013 ]วันท่ีประวัติของมัน ย้อนกลับไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และเข้าสู่ยุคอาณา นิคมในต้นศตวรรษที่ 20 ประวัติความเป็นมาและการพัฒนาของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไนจีเรีย บางคร้ังจัดโดยท่ัวไปในยุคส่ีหลัก: ยุคโคโลเนียล , โกลเด้นอายุ , ยุคหนังวิดีโอและท่ีเกิดขึ้นใหม่ในโรง ภาพยนตรใ์ หมไ่ นจีเรยี อียปิ ต์ ต้ังแต่ปี 1976 ไคโรได้จัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติไคโร (CIFF) ประจําปีซึ่งได้รับการ รับรองโดยสมาพันธ์ผู้ผลิตภาพยนตร์นานาชาติ ในปี 2539 เมืองการผลิตส่ือของอียิปต์ (EMPC) เปิดตัวในวันท่ี 6 ตุลาคมเมืองทางตอนใต้ของกรุงไคโรแม้ว่าในปี 2544 สตูดิโอท่ีวางแผนไว้เพียง 29 แหง่ เท่าน้ันท่ีเปิดให้บริการ การเซ็นเซอร์ซึ่งเดิมเคยเป็นอุปสรรคต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ลดลงอย่างมากในปี 2555 เมื่อโรงภาพยนตร์อียิปต์เริ่มจัดการกับประเด็นต่างๆอย่างกล้าหาญตั้งแต่ ประเด็นทางเพศไปจนถึงการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างหนัก โดยท่ัวไปแล้วทศวรรษท่ี 1940, 1950 และ 1960 ถือเป็นยุคทองของภาพยนตร์อียิปต์ เช่นเดียวกับทางตะวันตกภาพยนตร์ตอบสนองต่อ จินตนาการท่ีได้รับความนิยมโดยส่วนใหญ่ตกอยู่ในประเภทท่ีคาดเดาได้(ตอนจบท่ีมีความสุขเป็น บรรทดั ฐาน) และนกั แสดงหลายคนก็ไม่ไดร้ บั บทบาทจากการเล่นส่วนท่ีพิมพ์ผิดอย่างรุนแรง ในคําพูด ของนักวิจารณ์คนหน่ึง \"หากภาพยนตร์อียิปต์ที่สร้างข้ึนสําหรับผู้ชมที่เป็นที่นิยมไม่มีข้อกําหนด เบื้องต้นใด ๆ เหล่านี้จะถือว่าเป็นการทรยศต่อสัญญาท่ีไม่ได้เขียนไว้กับผู้ชมซึ่งผลลัพธ์จะปรากฏในบ็ อกซ์ออฟฟิศ\" ตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เป็นต้นมาโรงภาพยนตร์ของอียิปต์ได้แยกทางกัน ภาพยนตร์ ศลิ ปะขนาดเล็กดึงดูดความสนใจจากต่างประเทศ แต่มีผู้เข้าร่วมท่ีบ้านน้อย ภาพยนตร์ยอดนิยมซ่ึงมัก เป็นภาพยนตร์แนวตลกเช่นWhat A Lie! และผลงานท่ีสร้างผลกําไรอย่างมากของนักแสดงตลกโมฮา เหมด็ ซาอดั การตอ่ สู้เพอื่ ดงึ ดดู ผ้ชู มไมว่ า่ จะเป็นภาพยนตร์ตะวันตกหรือระวังการรับรู้ว่าภาพยนตร์เรื่อง นีผ้ ิดศีลธรรมมากขึ้น อหิ รา่ น โรงหนังแห่งอิหร่าน ( เปอร์เซีย : ‫ ) سینمایایران‬หรือโรงหนังแห่งเปอร์เซียหมายถึง ภาพยนตร์และภาพยนตร์อุตสาหกรรมในอิหร่านซ่ึงผลิตท่ีหลากหลายของภาพยนตร์ในเชิงพาณิชย์ เป็นประจําทุกปี ภาพยนตร์ศิลปะของอิหร่านได้รับชื่อเสียงในระดับนานาชาติและตอนนี้ได้รับความ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 94 นิยมจากทั่วโลกพร้อมกับประเทศจีน อิหร่านได้รับการยกย่องว่าเป็นหน่ึงในผู้ส่งออกที่ดีที่สุดของโรง ภาพยนตร์ในปี 1990 ตาม Jamsheed Akrami นักวิจารณ์บางคน จัดอันดับให้อิหร่านเป็นโรง ภาพยนตร์ระดับชาติท่ีสําคัญท่ีสุดในโลกโดยมีความสําคัญท่ีเชิญชวนให้เปรียบเทียบกับลัทธินีโอเรียล ของอติ าลแี ละการเคลื่อนไหวที่คล้ายคลึงกนั ในทศวรรษท่ผี ่านมาเวอร์เนอร์เฮอร์ซ็อกผู้สร้างภาพยนตร์ ชาวเยอรมันยกยอ่ งให้โรงภาพยนตร์ของอิหร่านเป็นโรงภาพยนตร์ที่มีศิลปะท่ีสําคัญที่สุดแห่งหน่ึงของ โลก ญ่ปี ุน่ ญี่ปุนเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ท่ีเก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลก ในปี 2010 มีจํานวน ภาพยนตร์ที่ผลิตมากเป็นอันดับส่ี มีการผลิตภาพยนตร์ในญ่ีปุนต้ังแต่ปี พ.ศ. 2440 เมื่อมีตากล้อง ชาวต่างชาติคนแรกมาถึง ในรายการ Sight & Sound ของภาพยนตร์ท่ีดีท่ีสุดที่ผลิตในเอเชียผลงาน ของญ่ีปุนมี 8 อันดับจาก12 อันดับแรกโดยTokyo Story (1953) ครองอันดับหนึ่ง โตเกียวเร่ืองราว ยังราด 2012 & ภาพเสียงกรรมการการสํารวจความคิดเห็นของ50 สุดยอดภาพยนตร์ท่ียิ่งใหญ่ที่สุด ของเวลาทั้งหมด , dethroning Citizen Kane , ในขณะท่ีอากิระคุโรซาวา 's เจ็ดซามูไร (1954) ได้รับการโหวตมากที่สุด ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศตลอดกาลในการสํารวจความคิดเห็นของนัก วิจารณ์ 209 คนในปี 2018 ของBBCจาก 43 ประเทศ ญี่ปุนได้รับรางวัลออสการ์สําหรับภาพยนตร์ ภาษาตา่ งประเทศยอดส่คี รง้ั ( Rashomon , ประตนู รก , ซามไู รฉัน: มูซาชิโมะและขาออก ) มากกว่า ประเทศในเอเชียอื่น ๆ เกาหลี คาํ วา่ โรงหนงั เกาหลี (หรือเกาหลีโรงภาพยนตร์) ครอบคลุมอุตสาหกรรมภาพเคล่ือนไหวของ นอร์ทและเกาหลีใต้ เช่นเดียวกับทุกแง่มุมของชีวิตชาวเกาหลีในช่วงศตวรรษที่ผ่านมาอุตสาหกรรม ภาพยนตร์มักตกอยู่ในความเมตตาของเหตุการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ช่วงปลายราชวงศ์โชซอนจนถึง สงครามเกาหลีไปจนถึงการแทรกแซงของรัฐบาลในประเทศ ในขณะที่ทั้งสองประเทศมีอุตสาหกรรม ภาพยนตร์ท่ีค่อนข้างแข็งแกร่งในปัจจุบัน]มีเพียงภาพยนตร์เกาหลีใต้เท่าน้ันท่ีได้รับเสียงช่ืนชมจาก นานาประเทศ ภาพยนตร์ของเกาหลีเหนือมีแนวโน้มที่จะแสดงถึงรูปแบบคอมมิวนิสต์หรือการปฏิวัติ ของพวกเขา

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 95 ภาพยนตร์เกาหลีใต้มีความสุขในช่วง \"ยุคทอง\" ในช่วงปลายทศวรรษ 1950 และ 1960 ภายในปี 2548 เกาหลีใต้กลายเป็นหน่ึงในไม่ก่ีประเทศท่ีรับชมภาพยนตร์ในประเทศมากกว่า ภาพยนตร์นําเข้าในโรงภาพยนตร์เน่ืองจากกฎหมายกําหนดจํานวนภาพยนตร์ต่างประเทศท่ีสามารถ ฉายได้ต่อปี ในโรงภาพยนตร์ต้องฉายภาพยนตร์เกาหลีเป็นเวลา 73 วันต่อปีตั้งแต่ปี 2549 โควต้า ภาพยนตรใ์ นประเทศของเคเบิลทีวี 25% จะลดลงเหลือ 20% หลังจาก FTA KOR-US โรงภาพยนตร์ ของเกาหลีใต้มียอดบ็อกซ์ออฟฟิศโดยรวมในประเทศในปี 2015 ของ₩ 884,000,000,000 และมี การรับสมคั ร 113,000,000, 52% ของการรับสมัครทัง้ หมด ฮ่องกง ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการสร้างภาพยนตร์สําหรับโลกท่ีพูดภาษาจีน (รวมถึงคนพลัดถ่ินทั่ว โลก) และเอเชียตะวันออกโดยทัว่ ไป หลายทศวรรษทผ่ี า่ นมาถอื เปน็ อตุ สาหกรรมภาพยนตร์ที่ใหญ่เป็น อันดับสามของโลก (รองจากบอลลีวูดและฮอลลีวูด) และเป็นผู้ส่งออกภาพยนตร์รายใหญ่อันดับสอง แม้จะเกิดวิกฤตอุตสาหกรรมในช่วงกลางทศวรรษ 1990 และฮ่องกงกลับคืนสู่อํานาจอธิปไตยของจีน ในเดือนกรกฎาคม 1997 ภาพยนตร์ฮ่องกงยังคงรักษาเอกลักษณ์ท่ีโดดเด่นไว้ได้มากและยังคงมี บทบาทสําคัญในเวทีภาพยนตร์โลก ฮ่องกงต่างจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์หลายแห่งท่ีฮ่องกงได้รับ การสนับสนุนโดยตรงจากรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นเงินอุดหนุนหรือโควต้าการนําเข้า เป็นภาพยนตร์เชิง พาณิชย์อย่างละเอียดโดยมุ่งเน้นไปท่ีประเภทที่ถูกใจผู้ชม เช่น ตลก และแอ็คชั่น และพึ่งพาสูตรภาค ต่อและการรีเมคเป็นอย่างมาก โดยปกติแล้วสําหรับโรงภาพยนตร์เชิงพาณิชย์หัวใจของมันคือระบบ ดาราท่ีได้รบั การพัฒนาอย่างมากซ่ึงในกรณนี ้ยี ังมีความทับซ้อนกับอุตสาหกรรมเพลงปฺอปอกี ดว้ ย อนิ โดนเี ซยี ที่ใหญ่ท่ีสุดฟิล์มสตูดิโอในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับการเปิดอ่อนวันที่ 5 พฤศจิกายน 2011 เม่ือ 10 ไร่ที่ดินใน Nongsa ในเกาะบาตัม , อินโดนีเซีย Infinite Frameworks (IFW) เป็น บริษัท ที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ (ปิดเกาะบาตัม) ซ่ึงเป็นเจ้าของโดยกลุ่ม บริษัท ที่ถือหุ้นโดยนักธุรกิจและ ผู้ผลิตภาพยนตร์ชาวอินโดนีเซียร้อยละ 90 Mike Wiluan ในปี 2553-2554 เน่ืองจากภาษีมูลค่าเพ่ิม ทเี่ พ่ิมขึน้ อย่างมากกับภาพยนตร์ต่างประเทศโรงภาพยนตร์จึงไม่สามารถเข้าถึงภาพยนตร์ต่างประเทศ ได้อีกต่อไปรวมถึงภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลออสการ์ ภาพยนตร์ต่างประเทศ ได้แก่ บ็อกซ์ออฟฟิศราย

96 ใหญ่จากตะวันตกและผู้ผลิตภาพยนตร์รายใหญ่อ่ืน ๆ ของโลก ทําให้เกิดแรงกระเพ่ือมครั้งใหญ่ต่อ เศรษฐกจิ ของประเทศ สันนิษฐานว่าเป็นการเพิ่มการซ้ือดีวีดีที่ไม่มีลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตามแม้กระท่ังดีวี ดีท่ีละเมิดลิขสิทธิ์ก็ยังใช้เวลานานกว่าจะได้มา ค่าใช้จ่ายข้ันตํ่าในการดูภาพยนตร์ต่างประเทศที่ไม่ได้ ฉายในประเทศคือ 1 ล้านรูเปียห์ ซ่ึงเท่ากับ 100 ดอลลาร์สหรัฐเน่ืองจากรวมตั๋วเคร่ืองบินไปสิงคโปร์ แลว้ มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง อตุ สาหกรรมทีใ่ หญ่ที่สดุ ตามจานวนการผลติ ภาพยนตร์ รายชือ่ ประเทศ 15 อนั ดับแรกตามจํานวนภาพยนตร์สารคดี (นิยายแอนิเมชั่นและสารคดี) ท่ี จดั ทําขึน้ โดยUNESCO Institute for Statistics เว้นแต่จะระบไุ วเ้ ป็นอยา่ งอ่นื อนั ดับ ประเทศ จานวนเร่ือง ปี พ.ศ. 1 อนิ เดยี 1,813 2561 2 ไนจีเรยี 997 2554 3 จีน 874 2560 4 ญ่ปี นุ 689 2562 5 สหรฐั 660 2560 6 เกาหลใี ต้ 339 2559 7 ฝรง่ั เศส 300 2560 8 อังกฤษ 285 2560 9 สเปน 241 2560 10 เยอรมนี 233 2560 11 อาร์เจนตินา 220 2558 12 เมก็ ซโิ ก 176 2560 13 อติ าลี 173 2560 14 บราซลิ 160 2560 15 ไกง่ วง 148 2560 ตารางที่ 6-1 แสดงจํานวนภาพยนตร์สารคดี (นิยายแอนิเมชั่นและสารคดี) ที่จัดทําข้ึนโดยUNESCO Institute for Statistics

97 ตลาดทใ่ี หญท่ ่สี ดุ ตามรายได้จากบอ็ กซอ์ อฟฟิศ รายช่ือประเทศ10 อันดับที่เป็นตลาดบ็อกซ์ออฟฟิศท่ีใหญ่ที่สุดในแง่ของรายได้รวมบ็อกซ์ ออฟฟิศตาม THEME Report 2020 โดยMPA (Motion Picture Association) อันดบั ประเทศ รายรับจากบอ็ กซอ์ อฟฟศิ ปี บ็อกซ์ออฟฟิศจาก (พนั ล้านดอลลาร์สหรัฐ ) ภาพยนตร์ 1 จนีมหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง ระดับประเทศ 2 สหรฐั 3.0 พ.ศ. 2563 3 ญปี่ ุน 2.2 พ.ศ. 2563 62 % (2561) 4 ฝร่ังเศส 1.3 พ.ศ. 2563 88.8 % (2558) 5 เกาหลีใต้ 0.5 พ.ศ. 2563 76.9 % (2563) 6 องั กฤษ 0.4 พ.ศ. 2563 36.2 % (2560) 7 อินเดยี 0.4 พ.ศ. 2563 52.2 % (2558) 8 เยอรมนี 0.4 พ.ศ. 2563 44.3 % (2560) 9 รสั เซยี 0.4 พ.ศ. 2563 85 % (2558) 10 ออสเตรเลยี 0.3 พ.ศ. 2563 26.3 % (2560) 0.3 พ.ศ. 2563 17.4 % (2558) ตารางที่ 6-2 แสดงตลาดบ็อกซ์ออฟฟิศที่ใหญ่ท่ีสุดในแง่ของรายได้รวมบ็อกซ์ออฟฟิศตาม THEME Report 2020 โดยMPA (Motion Picture Association)

98 ตลาดที่ใหญ่ทส่ี ดุ ตามจานวนการรบั สมัครบ็อกซ์ออฟฟศิ รายชือ่ ประเทศทเี่ ป็นตลาดบอ็ กซ์ออฟฟิศทใี่ หญ่ท่ีสดุ ในแง่ของจํานวนตั๋วที่ขายได้ในปี 2019 มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบงอันดบั ประเทศจานวนการรบั สมัครปี พ.ศ. (ต๋วั นับลา้ นใบ) 1 จีน 1,650 พ.ศ. 2562 2 อนิ เดีย 1,514 พ.ศ. 2562 3 สหรฐั 1,170 พ.ศ. 2562 4 เม็กซิโก 352 พ.ศ. 2562 5 เกาหลใี ต้ 239 พ.ศ. 2562 6 รัสเซยี 209 พ.ศ. 2562 7 ฝรัง่ เศส 205 พ.ศ. 2562 8 ญ่ปี นุ 194 พ.ศ. 2562 9 บราซลิ 177 พ.ศ. 2562 10 องั กฤษ 175 พ.ศ. 2562 ตารางท่ี 6-2 แสดงตลาดบ็อกซอ์ อฟฟิศท่ีใหญ่ทส่ี ุดในแง่ของจํานวนตวั๋ ท่ขี ายได้ในปี 2019 สรปุ ปัจจุบันภาพยนตร์ไทยได้รับความนิยมจากหลายประเทศมากข้ึน ทั้งในประเทศและ ตา่ งประเทศ ทําให้ทีมผู้สร้างภาพยนตร์ไทยและผู้ร่วมลงทุนมีโอกาสรับรู้รายได้เพิ่มมากข้ึนภาพยนตร์ คือ สือ่ ที่ถา่ ยทอดอารมณ์ เหตกุ ารณ์ ศิลปะ วรรณกรรม สารคดี และ จินตนาการ ออกสู่สาธารณะชน ในรูปแบบภาพเคล่ือนไหว โดยเน้นไปทคี่ วามบันเทิง จากคนกลุ่มหนึง่ ที่รวมตวั กันลงทุนเพื่อสร้างสรรค์ เร่ืองราวหรือเหตุการณ์ขึ้นมา โดยอาศัยเทคนิค และความชํานาญในการจัดสร้าง มีวัตถุประสงค์เน้น การขายความบันเทิง และ เพอื่ การศึกษา เพือ่ กอ่ ใหเ้ กดิ ความพึงพอใจแก่ผู้รับชมภาพยนตร์ จัดว่าเป็น สื่อท่ีต้องใช้เงินลงทุนในการจัดสร้างค่อนข้างสูง เพราะมีองค์ประกอบและปัจจัยต่างๆหลายอย่าง ร่วมกัน เพ่อื ใหง้ านออกมาสําเรจ็ ถ้าในแง่ของธรุ กิจบันเทงิ ตอ้ งเข้าใจทิศทางของตลาด ว่า ณ เวลาน้ัน ตลาดต้องการความบันเทิงรูปแบบไหน เพราะถ้ามาถูกทางก็จะสามารถสร้างรายได้ให้คุ้มค่ากับเงิน และแรงที่ลงทุนไป และอาจทํากําไรได้เป็นกอบเป็นกําด้วยเช่นกัน ในแง่ของการศึกษา ก็สามารถ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 99 ถ่ายทอดความรู้ที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้ชมได้เป็นวงกว้างและสามารถกระจายออกไปได้อย่างรวดเร็ว และตอ่ เนอื่ ง เพราะ ภาพยนตร์ เปน็ สื่อท่ีสร้างความเข้าใจได้ง่ายกว่าสื่อรูปแบบอ่ืนๆ ภาพยนตร์ ถือว่า ชว่ ยสรา้ งธุรกจิ บนั เทิงรปู แบบอ่ืนๆ ตามมาด้วย อย่างธุรกิจภาพยนตร์โฆษณา ที่ถือว่าเข้ามามีบทบาท สําคญั ไม่ว่าจะช่วยในเรอื่ งเงนิ ทนุ สนับสนนุ หรือเอื้ออํานวยสถานที่ในการถ่ายทํา ถือเป็นการพ่ึงพากัน ในเชงิ ธรุ กจิ ยุคสมัยใหม่ ขึน้ อยูก่ บั ความสามารถของผู้อาํ นวยการสรา้ งในการระดมทุน สิ่งที่คนให้ความ สนใจและจับตามองกับหนังเร่ืองหนึ่ง นอกจากเน้ือเร่ืองและความแปลกใหม่ของการดําเนินเร่ืองแล้ว ยังมีองค์ประกอบอื่นๆร่วมอีกด้วย อย่างเช่น นักแสดงนําในเรื่อง ถือว่าช่วยดึงดูดความสนใจได้มาก เลยทีเดียว หากมีแอคต้ิงในการแสดงท่ีดี ก็จะสามารถถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกสู่ผู้ชมได้ดีด้วย เช่นกัน เทคนิค สถานที่ท่ีใช้ในการถ่ายทํา การจําลองเหตุการณ์อย่างสมเหตุสมผล รวมไปถึงเครื่อง แตง่ กายของนกั แสดงดว้ ย ท้ังหมดเหล่านี้ถือว่าเป็นองค์ประกอบหลักๆท่ีสําคัญ ย่ิงถ้าได้ร่วมงานกับ ผู้ กาํ กับภาพยนตร์ ทีม่ ากฝมี อื แล้ว ก็สามารถส่งให้บทภาพยนตร์โด่งดังเป็นพลุแตกได้ นักแสดงโนแนมก็ สามารถก้าวเข้าสู่วงการ กลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายได้เช่นกัน ภาพยนตร์ มีการพัฒนาเทคนิคท่ี เสมือนจริงมากขึ้น ทั้งเสียงประกอบและภาพท่ีคมชัด มีการตัดต่อภาพท่ีต่อเน่ืองและได้อารมณ์ มี เทคนคิ ท่ีอาศัยมุมกล้องจนทําให้ฉากประกอบในหนังดูมีชีวิตชีวา เรียกได้ว่า แสง สี เสียง ของหนังใน ปัจจุบันคุ้มค่าต๋ัวท่ีเข้าไปดูในโรงภาพยนตร์ มากทีเดียว จินตนาการถือว่ามีความสําคัญต่อธุรกิจ ภาพยนตร์มาก ยิ่งฉากท่ีเหนือธรรมชาติหรือฉากท่ีไม่สามารถเกิดข้ึนได้ในชีวิตจริง เรียกได้ว่าต้องใช้ ความรู้สึกนึกคิดของผู้สร้างถ่ายทอดกันออกมาเป็นพอตเรื่องกันเองเลย กว่าจะออกมาเป็นหนังให้เรา ไดด้ ไู ดช้ มกัน ต้องถือว่าไม่ใช่เร่ืองง่าย ไม่แปลกใจกันเลยที่หนังเร่ืองหนึ่งต้องใช้เวลาถ่ายทํากันเป็นปีๆ หลังจากถ่ายทําเสร็จต้องมาน่ังตัดต่อเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดและเพิ่มเติมเพื่อความสมบูรณ์แบบก่อน ออกมาสู่สาธารณะชน ยิ่งหนังท่ีสร้างข้ึนมาโดยอิงประวัติศาสตร์แล้ว ยิ่งต้องประณีต มีการศึกษา องค์ประกอบหลักของยุคสมัยนั้น และต้องทําการนําเสนอโดยรักษาความดีงาม และทรงคุณค่าของ ประวัตศิ าสตร์ไว้ บทภาพยนตร์ จะมีคุณค่าต่อการศึกษาหรือไม่ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการเผยแพร่ หากต้องการแค่ขายความบันเทิง ส่วนมากจะขึ้นอยู่กับอินเนอร์ของนักแสดง เน้นส่งบทให้นักแสดง ถ่ายทอดความรูส้ ึกกันมากกวา่ ถา้ เปรียบก็คงจะเหมือน ละครน้ําเน่าบ้านเรา แต่หนังแบบน้ีขายได้ทุก ยุคทกุ สมัย เพราะคนสว่ นมากที่ซอ้ื ต๋ัวเข้ามาดูหนงั ก็เพ่อื ต้องการผ่อนคลายหรือหากิจกรรมทํากันยาม ว่าง มากกว่าท่ีจะมาแสวงหาความรู้ แต่หากเน้นการศึกษา ภาพยนตร์แนวประวัติศาสตร์ถือว่าให้ ประโยชนด์ า้ นการศึกษาไดด้ มี ากทีเดียว รวมท้ังภาพยนตร์ท่ีเกี่ยวกับสารคดี ที่นําเสนอภาพเหตุการณ์ จริงเผยแพร่ตอ่ สาธารณะชน

100 ภาพยนตร์ ถือว่าเป็นศิลปะความบันเทิงที่ดีเยี่ยมและมีบทบาทสําคัญในสังคม ช่วยทําให้ มนุษย์เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆในชีวิต บางครั้งก็ได้เห็นในสิ่งท่ีไม่คิดว่าจะมีคนจินตนาการสร้างมันข้ึนมา ได้ ภาพยนตร์ยังชว่ ยให้คนเราใช้เวลาว่างในการพักผ่อน ได้ทํากิจกรรมร่วมกับครอบครัวและคนท่ีเรา รัก จับมือกันเขา้ โรงภาพยนตร์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ภาพยนตร์บางเร่ืองก็แฝงไปด้วยแง่คิดในการ ใชช้ วี ิตท่ดี ี มีคณุ คา่ และยงั ชใ้ี ห้เหน็ ผลลัพธข์ องการทําในสิ่งที่เลวร้าย ทุกอย่างมีเหตุและมีผลในตัวบท ภาพยนตร์ตลอด แถมภาพยนตรย์ ังสามารถสร้างค่านิยมใหม่ๆในสังคมด้วย ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์แฟช่ัน รับวัฒนธรรมที่ดีงามเข้ามาในชีวิต แม้บางครั้งจะมีการควบคุมการเผยแพร่ในบางฉากบางตอนท่ี ค่อนข้างล่อแหลมและเป็นส่ิงที่ไม่ดีงาม แต่ทั้งหมดเพ่ือคุ้มครองผู้เยาว์ท่ียังต้องได้รับคําแนะนําจาก ผใู้ หญ่หรือผู้ปกครอง ถือว่าเป็นสิ่งท่ีเหมาะที่ควรแล้ว เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของกอง ภาพยนตร์ ยงั ไงแลว้ เราควรรบั ชมเพ่ือหาความสุขให้ตัวเอง การเลือกภาพยนตร์ท่ีดี คือเลือกในเรื่องที่ ดูแลว้ ตวั เองจะมีความสขุ ละทิ้งอคติ ทัง้ หลาย จะทาํ ให้เรามอี รรถรสในการรับชมมากข้ึน มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

101 คาถามท้ายบทท่ี 6 1. ภาพยนตรค์ ืออะไร 2. ประเภทของภาพยนตร์มีอะไรบ้าง 3. ภาพยนตรใ์ นประเทศไทยมแี นวโนม้ อยา่ งไร 4. กระแสความนยิ มของภาพยนตร์สําหรับวัยรนุ่ เป็นอย่างไร 5. ธุรกจิ ภาพยนตร์ในสถานการณ์ปจั จุบนั เป็นอย่างไร 6. ฮอลลวี ดู คืออะไร 7. ธรุ กิจภาพยนตร์ในประเทศไทยมีบรษิ ัทใดบ้าง 8. อตุ สาหกรรมภาพยนตร์ หมายถงึ อะไร 9. การลงทุนในธรุ กจิ ภาพยนตร์ มีอะไรบ้าง 10. รายไดข้ องธุรกิจภาพยนตรค์ อื อะไร มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 102 บทท่ี 7 ธรุ กิจวิทยุกระจายเสยี ง “สื่อคือสาร” the medium is the message มาร์แชลล์ แมคลูฮัน นักคิดด้าน สื่อสารมวลชนคนสาคัญ ให้ความหมายว่า ช่องสารกับตัวสารนั้นมีความสัมพันธ์กันเหมือนภาชนะใส่ น้ากับน้า “น้าจะปรับเปลี่ยนตามรูปแบบของภาชนะน้ัน ๆ” สื่อไม่ว่า ประเภทใดก็ตามจาเป็นต้องทา ความรู้จักกับคุณลักษณะเฉพาะของส่ือแต่ละประเภท เพื่อจะได้เข้าใจและออกแบบเนื้อหาได้ เหมาะสมกับชอ่ งทาง ส่อื เสียง คุณลักษณะดั้งเดิมคือเป็นส่ือสาหรับการฟัง เนื้อหาสารนาเสนอมีลักษณะลอยอยู่ในอากาศ ผา่ นมาแลว้ ก็ผ่านไป เพราะฉะนน้ั ควรใชเ้ นอ้ื หาผา่ นวิทยุแบบสั้น กระชับ เข้าใจง่าย หรือบางกรณีต้อง บรรยายอยา่ งละเอียดเพอื่ ใหผ้ ู้ฟังนึกภาพตามได้ ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้าทาให้วิทยุไม่ได้เป็นส่ือท่ีมี แค่เสียงอีกต่อไป เพราะผู้ฟังเลือกรับฟังผ่านอินเตอร์เน็ตท่ีมีท้ังภาพและเสียงผ่านเทคโนโลยี ดังน้ัน การออกแบบเนอื้ หาสารสาหรบั รายการวิทยุที่ออกอากาศให้ผู้รับสารดูและฟังได้พร้อม ๆ กัน จึงต้อง ปรับวิธีการออกแบบสาร กระบวนการผลิตรายการหรือคุณสมบัติของบุคลากรให้เหมาะสมกับ ชอ่ งทางที่ ออกอากาศ สื่อเสียงเป็นสื่อที่เน้นจินตนาการของผู้ฟัง การเขียนบทโฆษณาหรือละครวิทยุสามารถใส่ ลกู เล่นเพอื่ สรา้ งจนิ ตนาการใหผ้ ้รู บั สารได้ เป็นคุณลักษณะท่ีแตกต่างจากสื่อโทรทัศน์หรือภาพยนตร์ท่ี มที งั้ ภาพและเสียง ส่ือเสียงเป็นส่ือที่ราคาถูก ทั้งในแง่ของการผลิตและการบริโภค มีทุนเพียงหน่ึงแสนบาทก็ สามารถตง้ั สถานีวทิ ยเุ ลก็ ๆ ได้ ซึ่งนับว่าถูกมากเม่ือเทยี บกับโฆษณาทางโทรทัศน์ ส่วนการบริโภควิทยุ เป็นส่ือที่ผู้รับสารไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายทางตรงในการซ้ือรายการมาฟัง (จ่ายเพื่อซ้ือ เครื่องรับวิทยุคร้ัง เดียว) ต่างจากสื่อบางประเภท เช่น ภาพยนตร์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร (ต้องจ่ายเงินทุกครั้งท่ีปิดรับ ส่ือ) ปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ทาหน้าท่ีเป็นเคร่ืองรับวิทยุได้แล้วจึงพูดได้ว่าสื่อวิทยุเป็นส่ือที่ ราคาถูกทง้ั แง่การผลิตและการบรโิ ภค

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 103 สื่อเสียง มีรูปแบบรายการหลากหลาย เพราะวิทยุเข้าถึงกลุ่มผู้รับสารในวงกว้างมีลักษณะ เปน็ มวลชน คอื มีจานวนมาก อยกู่ นั กระจัดกระจาย และมีความแตกต่างทางประชากรศาสตร์ รวมถึง รปู แบบการใชช้ วี ิต จากนนั้ แต่ละคลนื่ แบง่ ในลักษณะทีม่ คี วามเฉพาะเจาะจง target audience ส่ือเสียง อยู่ที่ไหนก็ฟังได้ สามารถเปิดรับได้ทั้งภายในและภายนอกสถานท่ีเพราะการรับสาร ผ่านเครอ่ื งรบั เทคโนโลยีสมัยใหม่ทาให้เคร่ืองรับมีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ พกสะดวก และยังรวมอุปกรณ์ ท่ีใชใ้ นชีวติ ประจาวนั อยา่ งโทรศัพท์มอื ถือ คอมพิวเตอร์ ทาให้ ลดข้อจากัดเรื่องการพกพาเครื่องรับไป ที่ตา่ ง ๆ และสามารถรบั สารจากวิทยุในรถยนตไ์ ด้ดว้ ย สื่อเสียง กระบวนการผลิตไม่ซับซ้อน แบ่งได้ 3 ข้ันตอนหลัก ได้แก่ กระบวนการก่อนผลิต pre-production กระบวนการผลิต และกระบวนการหลังการผลิต คล้ายกับกระบวนการของการ ผลิตรายการโทรทัศน์ ส่ือเสียงมีกระบวนการผลิตรายการไม่ซับซ้อน ไม่เหมือนการผลิตสื่อโทรทัศน์ น้าหนักของการผลิตจะอยู่ในช่วงการเตรียมการมากท่ีสุด ท้ังบทพูดและตารางออกอากาศ ผังรายการ มีการไหลไปและขัดจังหวะ flow and interruption มีลักษณะคือ มีการวางโฆษณาคั่นช่วงรายการ คล้ายการวางผังของรายการโทรทัศน์ กฎหมายกาหนดให้วิทยุและโทรทัศน์ ประเภทธุรกิจโฆษณาได้ ไมเ่ กนิ 12.30 นาทีตอ่ ชัว่ โมงและเฉล่ยี ไมเ่ กนิ 10 นาทตี อ่ ช่วั โมง พัฒนาการวทิ ยุในประเทศไทย วทิ ยใุ นประเทศไทยเข้ามาในประเทศไทยคร้ังแรก ปี 2470 จุดเปล่ียนสาคัญของการขยายตัว ของ เคร่ืองรับวทิ ยใุ นประเทศไทยคือ ปี 2492 รัฐบาลยกเลิกการจดทะเบียนเคร่ืองรับวิทยุ ประชาชน มีเครื่องรับได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ส่ือวิทยุจึงขยายตัวอย่างมาก เน่ืองจากอุปสรรคที่ขัดขวางการ ขยายตวั ทงั้ ในสว่ นผสู้ ่งสารและผ้รู ับสารถูกทาลาย วิทยกุ บั ตวั แปรด้านการเมอื งกอ่ นการเกิดข้นึ ของ กสทช. วิทยุถูกใช้เป็นเคร่ืองมือในการรักษา เสถียรภาพทางการเมืองของผู้นา และเป็นช่องทางการขายสินค้าและแสวงหากาไรในภาคธุรกิจ ตวั แปรดา้ นการเมืองและเศรษฐกิจในยุค ก่อนที่จะเกิด กสทช. พอผ่านช่วงเหตุการณ์ “พฤษภาทมิฬ\" นายอนันต์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้เปิดเสรี ส่ือของรัฐ โดยออกระเบียนว่าด้วย วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ.2535 เกิดกองงานคณะกรรมการ วิทยุกระจายเสียงและ โทรทัศน์แห่งชาติ (กกช.) ข้ึนเพ่ือปฏิบัติหน้าที่แทน กบว. โดยกกช. จะทาหน้าที่กากับดูแลกิจการ วิทยุและโทรทัศน์ มิใช่ควบคุมหรือครอบงา จากความพยายามในการสร้างเสรีภาพในการทาหน้าที่

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 104 ใหก้ บั สอ่ื วิทยุ เสรภี าพดังกล่าวเร่ิมเบง่ บานมากข้นึ ในช่วงปี 2540 เพราะรัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2540 เปิด โอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากคลื่นความถี่ได้มากข้ึน จึงทาให้ เกิดวิทยุ โครงสรา้ งใหมเ่ รยี กวา่ “วทิ ยุชุมชน” วิทยุกับตัวแปรด้านเศรษฐกิจก่อนการเกิดขึ้นของ กสทช. หลังจากวิทยุถูกใช้เป็นเครื่องมือ ทางการเมอื ง ต้ังแต่ช่วงปี 2505-2515 ก็เร่ิมมีการนาวิทยุเป็นเครื่องมือแสวงหาผลกาไรเชิงธุรกิจมาก ขึ้น จากท่ีกรมประชาสัมพันธ์และกองทัพเปิดให้เอกชนเช่าเวลาสถานี ซ่ึงโดยมากมักเป็นการให้ สัมปทานวิทยุแก่บุคคลที่เป็นญาติเพื่อขยายเครือข่ายอิทธิพลโดยใช้วิทยุเป็นฐานทางการเมืองและ เศรษฐกิจ ลกั ษณะการสัมปทานมี 2 ลกั ษณะ 1. ดาเนินการผลติ เองทั้งหมดหลงั ได้รบั สัมปทาน - รัฐให้สัมปทานเอกชน โดยเอกชนนา คลื่นท่ีไดร้ ับมาดาเนินการผลติ ดว้ ยตวั เอง ภาพท่ี 7-1 แสดงการดาเนนิ การผลิตเองทงั้ หมดหลงั ไดร้ บั สมั ปทาน 2. ดาเนินการผลิตเองเพียงบางส่วน และปล่อยให้ผู้ผลิตรายย่อยเช่าเวลา เอกชนที่ ได้รับสัมปทานจะผลิตรายการเองบางส่วน และให้ผู้ผลิตรายย่อยเช่าช่วงเวลาท่ีเหลือ ระบบพ่อค้า คนกลางลกั ษณะนสี้ ง่ ผลทาให้ตน้ ทนุ ในการผลิตรายการ วิทยสุ ูงข้นึ ตามไปดว้ ย

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 105 ภาพท่ี 7-2 แสดงการดาเนินการผลิตเองท้งั หมดหลงั ได้รับสัมปทาน การสมั ปทานคล่ืนช่วงแรกเป็นสัมปทานระยะยาวประมาณ 10-15 ปีและสถานีวิทยุส่วนใหญ่ มักนาเสนอรายการบันเทิง สรุป สภาพการณ์วิทยุของไทยในช่วงก่อนที่จะเกิด กสทช. ประเทศไทยมีสถานีวิทยุท่ัว ประเทศกวา่ 522 สถานี โดยสหภาพ โทรคมนาคมระหว่างประเทศ ITU เป็นหน่วยงานที่กาหนดการ ส่งกระจายเสียงของแต่ละประเทศ เช่น ในเขตกรุงเทพฯจะ ใช้ช่องความถี่ในระบบ FM ตั้งแต่ 87.5- 108 เมกะเฮิร์ตซห์ า่ งกนั 0.5 เมกะเฮิร์ต เปน็ ต้น วิทยุหลังยุคคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจกรรมโทรคมนาคม แหง่ ชาติ หรอื กสทช. – การกากบั ดูแลจากหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องยังขาดความชัดเจนเจ้าของสัมปทาน คล่ืนเข้ามาทาธุรกิจแข่งกับเอกชนด้วยตัวเอง องค์กรอิสระที่จะควบคุมดูแลตามข้อกาหนดของ รัฐธรรมนูญยังไม่สามารถเกดิ ไดจ้ รงิ จน กสทช. ขน้ึ นบั เปน็ จดุ เปลย่ี นสาคัญของการกากับกิจการคล่ืน ความถ่ขี องไทย มหี น้าทโี่ ดยสงั เขป คือ - เป็นหนว่ ยงานกากบั ดแู ลกจิ การวทิ ยุ โทรทัศน์ และโทรคมนาคม ซึ่ง กสทช. เข้ามาทา หน้าที่เป็นองค์กรกลางกากับการ ทางานของกิจการวิทยุและโทรทัศน์ในประเทศไทยให้เป็นระบบ และมีบทบาทการทางานใหช้ ดั เจนมากขึ้น - จัดทาแผนแมบ่ ทคลื่นความถ่ี และปรับส่กู ารรับส่งสัญญาณในระบบดิจิทัลในเวลา 1 ปี นับต้งั แตไ่ ด้รับแต่งตัง้ กสทช.ได้ จัดทาแผนแมบ่ ทเสรจ็ จานวน 4 แผน 1. แผนแม่บทบริหารคลน่ื ความถี่ 2555 2. แผนแม่บทกจิ การกระจายเสยี งและกิจการโทรทัศน์ ฉบบั ที่ 1 (2555-2559)

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 106 3. แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม ฉบับท่ี 1 (2555-2559) 4. ร่างแผนการจัดให้มีบรหิ ารโทรคมนาคมพ้ืนฐานโดยทว่ั ถงึ และบริการเพ่ือสงั คม เกณฑ์การแบ่งประเภทสถานีวทิ ยุกระจายเสียง เกณฑ์การแบ่งประเภทสถานีวิทยุกระจายเสียงตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการ กระจายเสยี งและกจิ การโทรทศั น์ พ.ศ. 2551 – เกณฑก์ ารแบ่งประเภทวทิ ยุ กระจายเสยี ง สามารถแบง่ ไดห้ ลายลกั ษณะ ดังน้ี 1. แบ่งตามความครอบคลมุ ของพนื้ ที่ เชน่ วิทยรุ ะดับชาติ ระดับภาค ระดบั ทอ้ งถิน่ : ชมุ ชน รูปแบบอืน่ ๆ (วิทยุ ออนไลน์) 2. แบ่งตามวัตถปุ ระสงคข์ องสถานี เชน่ สถานขี า่ ว/ สถานเี พือ่ การศึกษา สถานบันเทงิ / สถานีกีฬา/ อ่ืน ๆ 3. แบ่งตามการประกอบการ เช่น วิทยุภาครัฐ ภาคธุรกิจ/ ใต้ดิน(underground/pirate radio)/ ชุมชน วิทยุสาธารณะและยังใช้เกณฑ์การแบ่งประเภทวิทยุตามพระราชบัญญัติการประกอบ กจิ การกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ พ.ศ. 2551 ใบอนญุ าตประกอบกิจการบริการสาธารณะ - ใบอนญุ าตประกอบกิจการบรกิ ารสาธารณะประเภทหน่ึง - ใบอนญุ าตประกอบกจิ การบรกิ ารสาธารณะประเภทที่สอง - ใบอนญุ าตประกอบกิจการบริการสาธารณะประเภทที่สาม ใบอนุญาตประกอบกิจการบริการชุมชน - ใบอนญุ าตประกอบกจิ การทางธรุ กิจระดับชาติ - ใบอนุญาตประกอบกจิ การทางธุรกจิ ระดับภูมิภาค - ใบอนญุ าตประกอบกจิ การทางธุรกิจระดบั ท้องถิน่ สาระสาคัญของใบอนุญาตการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง สรุปสาระสาคัญของ ใบอนญุ าตการประกอบ กิจการวทิ ยุ ดังนี้ - อายุใบอนญุ าตกจิ การไม่เกนิ 7 ปี

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 107 - อาจออกระเบียบเพื่อลดเพื่อยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตท่ีมีรายการข่าวสาร หรอื สาระทีเ่ ป็นประโยชน์ สาธารณะเกนิ กว่าสัดสว่ นท่ี กสทช. กาหนด - ใบอนญุ าตประกอบกจิ การและใชค้ ลืน่ ความถี่เปลยี่ นมอื ไม่ได้ การเตรียมผังรายการ มีหลักการพอสังเขปที่สามารถนาไปปรับประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของสถานี วทิ ยุตา่ ง ๆ - ความสอดคลอ้ งเหมาะสมกับกลุ่มเปา้ หมาย ต้องคานงึ ถงึ ความต้องการของกล่มุ เปา้ หมาย - แบบแผนทางพฤติกรรมในการรับฟังรายการของกลุม่ เปา้ หมาย เช่น ศึกษาช่วงเวลา ความถี่ หรือสถานทใ่ี นการเปิดรับฟัง เปน็ ตน้ - การควบคุมการไหลเวียนของผ้ฟู งั รายการ เพื่อจับกลุ่มและรักษากลุ่มให้รับฟังรายการ จาก รายการหนง่ึ ไปสอู่ ีกรายการ หนึ่ง หรือจากชว่ งดีเจคนหนึง่ ไปสอู่ ีกคน เช่น 1. ดงึ หรือลากผฟู้ ังด้วยเนอ้ื หา 2. ตอกย้าการจดจา เปดิ jingle แนะนาช่วงอย่างสม่าเสมอ 3. ใหน้ กั จัดรายการคนก่อนหน้าชว่ ยแนะนา หรือชกั จงู เขา้ ชว่ งตอ่ ไป 4. สร้างลกู เลน่ (gimmick) หรอื จุดเดน่ ของรายการแต่ละช่วง - การรักษารายการ (รักษากลุ่มเป้าหมายเดิม) หาวิธีนารายการประเภทต่าง ๆ ที่มีคุณภาพ และน่าสนใจมานาเสนอให้ สอดคล้องกับกลมุ่ เปา้ หมาย ซง่ึ อาจผลิตรายการเองหรอื ซื้อลิขสิทธ์มิ า - การเพิ่มความน่าสนใจ (ขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่) เพ่ือขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น เช่น การขยายพื้นที่การรับฟัง รายการ หรือการปรับ concept หลังพบจุดอ่อนจากการประเมินผู้ฟัง เป็นต้น การจัดผังรายการวิทยุยังต้องคานึงถึงความเหมาะสมของช่วงเวลา แบ่งช่วงเวลาตามความ นยิ มสามารถแบง่ ได้ ดงั น้ี 1. AA เวลา 6.00-9.00 น. “drive time” เป็นช่วงท่ีมีจานวนผู้ฟังมากท่ีสุด อัตราโฆษณาจะ แพงทสี่ ดุ 2. A เวลา 15.00-19.00 น. “afternoon drive time” เปน็ ช่วงขับรถกลบั บ้านตอนเย็น

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 108 3. B เวลา 9.00-15.00 น. “run of station” (ROS) เป็นกลุ่มแม่บ้านรวมไปถึงกลุ่มวัยรุ่น และคนทางานออฟฟิศ 4. C ต้ังแต่เวลา 19.00 ปจนถึงปิดสถานี เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนจะอยู่บ้านฟังน้อย และผู้ฟังจะ เพิม่ ขึ้นหลังละครทีวจี บ (หลัง 4 ท่มุ ) การสารวจพฤตกิ รรมและปริมาณของผู้ฟังในแต่ละช่วงเวลามีความจาเป็นและเป็นประโยชน์ ย่ิงต่อการจัดผังรายการหรือ การวางตัวนักจัดรายการ ทาให้ผู้ผลิตทราบความต้องการ needs ของ ผรู้ บั สารและสามารถวางผังรายการที่มีเนื้อหา สอดคล้องกับความสนใจซึ่งส่งผลให้รายการมีแนวโน้ม ได้รับการยอมรับมากข้ึน ส่วนปริมาณผู้ฟังในแต่ละช่วงเวลาก็มีผลต่อการวางผังรายการและเลือก นักจัดรายการวทิ ยุเช่นกัน การจัดช่วงเวลาไพรม์ไทม์ของสื่อวิทยุกระจายเสียงต้องพิจารณาบริบทของ สังคมรว่ มดว้ ย เพราะวิทยุธุรกิจในท้องถิ่นบาง แห่งเวลาไพรม์ไทม์อาจแตกต่างจากข้อมูลที่หยิบยกไป ข้างตน้ เพราะวถิ ีชวี ิตของคนในท้องถ่นิ น้นั ๆ มคี วามแตกต่างจากวถิ ี ชวี ติ ของคนเมือง บคุ ลากรท่ที าหนา้ ที่ผลิตรายการวทิ ยุ บุคลากรที่ทาหน้าท่ีเกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตรายการวิทยุสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1. บุคลากรท่ีทาหน้าท่ีผลิตรายการวิทยุ คือ บุคลากรที่อยู่ในฝ่ายรายการ มีหน้าที่เกี่ยวข้อง สมั พันธโ์ ดยตรงกับการผลิต รายการ ได้แก่ - หัวหน้าฝ่ายรายการ program director หรือ PD รับผิดชอบรายงานและ งบประมาณในการผลิตรายการ ออกอากาศทงั้ หมด - ผู้ควบคุมเพลง music director ดูแลเพลงที่ออกอากาศทั้งหมด ต้ังแต่การเลือกเพลง การถ่ายโอนข้อมูลเพลงลงในเซริ ์ฟ ใสร่ หสั และรายละเอียดของเพลงให้เป็นระบบ - ผู้ควบคุมการผลิตรายการ producer ควบคุมดูแลการผลิตช้ินงานวิทยุหรือการ ออกอากาศโดยรวมให้มีเน้ือหา สอดคล้องกับรูปแบบรายการที่ต้ังไว้ ดูแลการผลิตชิ้นงานของ creative ทั้งเกม สปอตโฆษณา สปอตโปรโมท สารคดีสั้น จิงเกิ้ล หรือเน้ือหาที่ผู้ดาเนินรายการต้อง พดู ออกอากาศ - เจ้าหน้าท่ีฝ่ายสร้างสรรค์ creative คิดและเขียนส่ิงที่ได้รับมอบหมาย เกม สารคดี จงิ เก้ิล สปอตโฆษณา สก๊ปู และ เนอ้ื หารายการในชว่ งต่าง ๆ มคี วามเป็นเอกลักษณ์และโดดเดน่

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 109 - ผู้ดาเนินรายการวิทยุ on-air personalities/DJ(disc jockey) /PU (program jockey) ดาเนนิ รายการวิทยตุ าม รปู แบบท่วี างไว้ ปจั จุบันจะจัดรายการสดและควบคุมเครื่องมือและ อุปกรณใ์ นการจัดรายการเอง - ผู้ช่วยผู้ดาเนินรายการวิทยุ (program coordinator/station coordinator) - รับ โทรศัพท์จากผู้ฟัง จดข้อมูลต่าง ๆ ที่ ได้รับจากผู้ฟังให้ผู้ดาเนินรายการวิทยุช่วยเหลือ! หาข้อมูลท่ีผู้ ดาเนนิ รายการต้องการ และยงั ช่วยเตือนผู้ดาเนนิ รายการ ตาม program ตา่ ง ๆ ของคลืน่ - ผู้ประกาศ announcer/ผู้ประกาศข่าว newscaster - ประกาศสถานี แจ้งรายการ ข้อมลู หรอื การประกาศข่าวต้นช่ัวโมง 2. บุคลากรที่ทาหน้าที่สนับสนุนการผลิตรายการวิทยุ คือ บุคลากรที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง กับการผลิตรายการ แต่จะอยใู่ น ส่วนงานสนับสนุน ไดแ้ ก่ - ฝา่ ยบัญชี accounting รบั ผดิ ชอบการบญั ชขี ององค์กร เช่น ค่าจดั รายการของดีเจแต่ ละคนไมเ่ ทา่ กัน โดยคิดเป็นราย ช่วั โมง บางทคี่ ิดเป็นรายเดอื น - ฝ่ายขาย sale management รับผิดชอบการขายโฆษณา เพ่ือหารายได้เข้ารายการ เช่น ขายเวลาโฆษณา ขายเวลา เล่นเกม หรือทาสารคดีส้ัน ขายพ่วงเป็นชุดแพ็กเกจ การคิดกลยุทธ์ สาคญั มาก ฝา่ ยขายต้องมคี วามเขา้ ใจพฤตกิ รรมของ ลูกค้าหรือกล่มุ ผู้ซ้อื สอ่ื โฆษณาในแตล่ ะช่วงเวลา - ฝ่ายเทคนิค engineering ดูแลระบบเทคนิค เคร่ืองส่งกระจายเสียงและอุปกรณ์ ตา่ ง ๆ ให้อยใู่ นสภาพพร้อมใชง้ านตลอดเวลา - ฝ่ายวิจัยและพัฒนา research and development - เพ่ือพัฒนาองค์กรอย่าง สม่าเสมอ ซงึ่ แบง่ ตามเกณฑ์การใช้ ประโยชนไ์ ด้ 2 ประเภทคือ ก) การวจิ ัยเพือ่ การขาย sales research ขอ้ มลู จากผลการวิจยั มคี วามสาคัญต่อ วทิ ยุประเภทธรุ กจิ หากสารวจพบว่า สถานีใดที่ผู้ฟังนิยมมาก บริษัทย่อมตัดสินใจลงโฆษณากับสถานี วิทยุคลื่นนั้นตามไปด้วย ดังน้ันสถานีวิทยุต่าง ๆ จึ แสวงหาบริษัทสารวจความนิยมอิสระที่มีความ นา่ เช่อื ถอื ให้เข้ามารับผิดชอบการทาวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูลในบริษัทตน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีความ ทันสมัยสมบูรณ์และทันต่อเหตุการณ์มากท่ีสุด จึงเกิด “การวัดอัตราความนิยมรายการ” หรือ “การ ทาเรตตง้ิ ” ขึน้

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 110 - ฝ่ายการตลาด marketing วางแผนการตลาดให้แก่สถานี คิดกิจกรรมที่น่าสนใจและ ดึงดดู กลุ่มเป้าหมาย มักวางแผน เป็นรายปี “year plan” เพอ่ื จะไดม้ ที ิศทางในการดาเนินงานในรอบ ปอี ยา่ งชดั เจน - ฝ่ายประชาสัมพันธ์ promotion ดูแลงานประชาสัมพันธ์ท้ังในและนอกองค์กร และ สร้างภาพลักษณ์ท่ีดีในกลุ่มผู้ฟัง และบุคคลภายนอก การติดต่อสัมพันธ์กับส่ือมวลชน รวมถึงการ เผยแพร่ข่าวสาร กิจกรรมต่าง ๆ ท่ีองค์กรจัดให้ส่ือมวลชน และบุคลากรภายนอกทราบ ปัจจุบัน กลยุทธ์ที่วิทยุธุรกิจจานวนมากใช้คือ CSR หรือการช่วยเหลือสังคมในรูปแบบต่าง ๆ คุณลักษณะ สาคัญอีกอย่างหนึ่งของผู้ส่งสารวิทยุประเภทธุรกิจคือ จะไม่สลับบทบาทกับผู้รับสาร จะแตกต่างจาก ระบบ บริหารของวิทยุชุมชนที่เปิดโอกาสให้อาสาสมัครท่ีเคยเป็นผู้ฟังขยับเข้ามามีส่วนร่วมเป็นผู้ผลิต หรือผู้จัดรายการได้ ดังน้ันผู้ส่งสารของวิทยุประเภทธุรกิจมีลักษณะตายตัวไม่สามารสลับบทบาท เหมอื นวทิ ยุชมุ ชน การแพรก่ ระจาย distribution ความก้าวหนา้ ของเทคโนโลยีส่งผลใหร้ ปู แบบการส่งกระจายเสยี งของส่ือวิทยุหลากหลายมาก ข้นึ สามารถขยายเนอื้ หาสาร จากสอ่ื เสียง ไปส่อื ภาพและเสียงด้วย - รูปแบบการส่งกระจายเสียง (FM/AM, satellite, local cable tv, internet radio/radio on demand: live) - รูปแบบการรับสารที่ไม่ใช่แค่เสียงแต่มีภาพด้วย (web cam, radio on tv, YouTube, Facebook) ถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจะทาให้ช่องทางการกระจายเสียงของสื่อ วทิ ยุมีมากขนึ้ แต่ชอ่ งทางหลักก็ยังคงเป็นการ กระจายเสียงผ่านคลื่นความถี่ โดยการใช้สิทธิในการใช้ ประโยชน์จากคลื่นความถี่ของผู้ผลิตรายการวิทยุมี 2 ระบบสาคัญ คือ ระบบสัมปทาน และ ระบบ ใบอนุญาต ระบบสมั ปทาน - จะเกิดกอ่ น กสทช. จะใช้ระบบการประมลู คล่ืนความถี่ คือไม่แยกกลุ่ม ผู้ประมูลตามความครอบคลุมของพื้นท่ีการกระจายเสียง ลักษณะความเป็นเจ้าของและการใช้ ประโยชนค์ ลน่ื ความถ่มี ี 4 ลักษณะ 1. รฐั เป็นเจ้าของและดาเนนิ การเอง 2. รฐั เปน็ เจา้ ของและดาเนินการโดยเอกชน

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 111 3. รัฐวิสาหกิจเปน็ เจ้าของและดาเนนิ การเอง 4. รัฐวสิ าหกิจให้สมั ปทานแกเ่ อกชนในระยะยาว ระบบการประมูลใช้ต้ังแต่ 2505-2515 โดยกรมประชาสัมพันธ์และกองทัพเปิดให้ เอกชนเช่าเวลาสถานีและรบั สัมปทาน 10-15 ปตี ่อสถานี ระยะหลังลดจาก 10-15 ปี เหลือ 1-3 ปีต่อ สถานีเพราะต้องการกระจายสิทธิในการใช้ประโยชน์ คล่ืนวิทยุให้มีประสิทธิภาพไม่ผูกขาดกับ ผู้ประกอบการรายเดิม ๆ แตพ่ บว่าไม่ใชท่ างแก้ปญั หาของระบบผูกขาด ระบบใบอนุญาตพิจารณาตามคุณสมบัติและการประมูลแบบแยกสนามตามขนาดพื้นที่ กระจายเสียง – หลังเกิด กสทช.และมีการคืนคลื่นกลับมาเพ่ือจัดสรรใหม่ มีการเปล่ียนวิธีการความ เป็นเจ้าของคลื่นใหม่ วิทยุประเภทสาธารณะและวิทยุ ชุมชนใช้วิธีย่ืนข้อเสนอ เพ่ือพิจารณาขอรับ ใบอนุญาตในระบบ “beauty contest” (การประกวดราคาในการสัมปทาน คลื่นความถี่เน้นความ โปร่งใสและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ โดยจัดคณะกรรมการผู้ทรงวุฒิสาขานิเทศฯ และ สาขาทีเ่ ก่ยี วขอ้ งมากกว่ากึง่ หนึ่งรา่ งเกณฑค์ ณุ สมบตั แิ ละคัดเลือกผู้ท่ีเหมาะสมท่ีสุด โดยให้ความสาคัญ กับผผู้ ลิตหน้าใหม่ทอี่ ุดมการณส์ รา้ งสรรคเ์ น้อื หาที่มีคณุ ภาพเพื่อการพัฒนาประเทศ) ส่วนวิทยุธุรกิจใช้ วิธีการประมูลคลื่นเพ่ือรับใบอนุญาต มีการแยกสนามการประมูลที่ชัดเจนเพื่อความเป็นธรรมในการ แข่งขัน แบ่งสนามการประมูลเป็น 3 ระดับ 1 ระดับชาติ 2 ระดับภูมิภาค 3 ระดับท้องถ่ิน เพื่อให้ แนวทางการได้มาซ่งึ คลืน่ ความถี่สอดคลอ้ งกับเจตนารมณ์ในรัฐธรรมนูญ “คล่ืน ความถ่ีเป็นทรัพยากร ของชาติ ทกุ คนควรมีสิทธเิ ข้าถึงและใช้ประโยชน์ การบรโิ ภค consumption ผู้ฟังวิทยุเป็นกลุ่มคนจานวนมาก อยู่กันอย่างกระจัดกระจาย ไม่รู้จักกันและมีความแตกต่าง หลากหลายทาง ประชากรศาสตร์ แต่ผู้รับสารของสื่อวิทยุประเภทธุรกิจ นอกจากจะมีความเป็น มวลชนแล้ว ยังจัดอยู่ในประเภทผู้รับสาร แบบตลาด market ผู้รับสารคือ ผู้มีอานาจซื้อของ สื่อมวลชน ผลงานของสื่อมวลชนมีฐานะเป็นสินค้าที่ทาขึ้นเพื่อ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ดังนั้นบริษัทสินค้าหรือเอเยนซี่โฆษณา จึงนาตัวแปรเรื่องปริมาณผู้ฟังมาเป็นเกณฑ์ หน่ึงท่ีใช้ ประกอบการตัดสินใจเลือกลงโฆษณากับสถานีวิทยุ และถ้ารายการของสถานีวิทยุใดมีบริษัทสินค้า เลือกลงโฆษณามาก รายได้ก็จะมากขึ้นไปด้วย การเลือกลงโฆษณาบริษัทดูความสอดคล้องของ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 112 กลุ่มเป้าหมายร่วมด้วยไม่ใช่ดูแค่ ปริมาณผู้ฟังเพียงอย่างเดียว เป้าหมายของผู้ผลิตรายการวิทยุ สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คอื เปา้ หมายเชิงปริมาณ ก) กาไร – สถานีวิทยธุ รุ กิจตอ้ งวางแผนบริหารจัดการทางการเงนิ อย่างรอบคอบ โดยเฉพาะการวางแผนรายรับรายจ่าย และหากลยุทธ์สร้างรายได้เพ่ิม เพื่อต่อยอดเป็นผลกาไร มี รายรับของสถานีแบ่งได้ 2 ลักษณะ คือ การหารายได้เชิงรุก (จะมีฝ่ายการตลาดวางแผนหารายได้ใน รูปแบบต่าง ๆ ทัง้ การโฆษณา การจัดกจิ กรรมนอก สถานท่ี เป็นตน้ ) และการหารายได้เชงิ รับ (สาหรับ สถานีวทิ ยทุ ไ่ี มม่ ีการตลาด จะมีการแบ่งสรรงบประมาณ จากภาครัฐหรือสว่ นราชการทีส่ ังกดั เปน็ ต้น) ข) พัฒนาจากผฟู้ งั ขาจรเป็นขาประจา โดยผู้ฟังขาจรคือผู้ฟังทไ่ี มไ่ ดย้ ึดติดกับรายการ วิทยุ มีพฤติกรรมการฟังเปล่ียนไปตามความพึงพอใจ พฤติกรรมการรับฟังรายการวิทยุไม่สม่าเสมอ ส่วนผู้ฟังขาประจา คือ ผู้ฟังที่มีความภักดีต่อรายการวิทยุใด ๆ ซ่ึงมากกว่า 1 รายการ ในการปรับ สถานะขาจรเป็นขาประจาอาจใช้กลยุทธ์ เช่น ระบบแฟนคลบั หรือการทา CSR เป็นตน้ ค) การรักษาปริมาณผรู้ ับสาร จานวนผฟู้ ังมผี ลต่อรายได้ในคุณลกั ษณะของผู้รับสาร แบบ “ตลาด” ผู้ผลิตต้องทาความรู้จักผู้รับสารให้ถ่องแท้ก่อน เพื่อออกแบบเนื้อหาสาร กิจกรรมใน รายการ รวมถึงคัดเลอื กนกั จัดรายการที่ สอดคล้องกบั ความสนใจ ตัวชว่ ยสาคัญคือการทาวิจัย เพื่อทา ความรจู้ กั ผูร้ บั สารก่อนการตั้งคลน่ื วิทยุหรอื ก่อน ผลิตรายการ และควรทาวิจัยเพื่อประเมินผลรายการ หลังออกอากาศดว้ ย เพ่ือนาขอ้ มลู มาปรบั ประยุกตร์ ายการให้ตรงใจผู้ฟงั อย่างต่อเนอื่ ง ง) ขยายพนื้ ทก่ี ารรบั ฟงั มากขึน้ coverage area - จะทาใหจ้ านวนกลุ่มผู้ฟงั เพมิ่ ขึน้ ได้ เพ่ือวัตถุประสงค์หลักคือผลกาไรที่มากข้ึน ผู้ผลิตต้องคานึงถึงตัวแปรเร่ืองการจัดผังรายการด้วย 2 แบบ คือ แบบ blocking program เหมาะกับสถานีหลายรูปแบบและจับกลุ่มเป้าหมายหลายกลุ่ม ขยายพื้นที่ควบคู่กับขยายกลุ่มผู้ฟัง และ แบบ format station- เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่มีความ เฉพาะเจาะจง เสนอวถิ ชี ีวติ ของกลมุ่ เปา้ หมายแบบก้าวกระโดด) เป้าหมายเชงิ คณุ ภาพ หมายถึงการสร้าง K-A-P (knowledge-attitude-practice) แม้ว่า วิทยุประเภทธุรกิจจะมุ่งเน้นเป้าหมายเชิงปริมาณเป็น สาคัญการทาให้ผู้ฟังเกิดการรับรู้ ปรับทัศนคติ และเปลย่ี นพฤติกรรม กจ็ าเปน็ ตอ้ งคานงึ ถึงดว้ ย ผอู้ อกแบบเนอ้ื หารายการ หรือครีเอทีฟออกแบบสาร ให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย สปอตโปรโมตคลื่นสามารถสร้างให้เกิดการรับรู้เกี่ยวกับสถานี ทาให้

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 113 ผู้ฟังมีทัศนคติเชิงบวกต่อคลื่น ส่งผลต่อการปฏิบัติ คือผู้ฟังเกิดการติดตามรับฟังรายการของสถานี อยา่ งตอ่ เนือ่ ง ก็จะถอื ว่าการสอ่ื สารนนั้ มีประสิทธิผลและประสทิ ธิภาพ อย่างไรก็ดี องค์กรส่ือวิทยุมีลักษณะ \"content-led organization” หรือองค์กรท่ีมีเน้ือหา เป็นตัวนา โดยธรรมชาติของ องค์กรประเภทน้ีจะเรียกร้องคนทางานมีความเช่ียวชาญทักษะเฉพาะ ดา้ นสงู ผลกาไรเปน็ เป้าหมายรอง แตเ่ ป้าหมายหลักคือความเป็นเลิศในการทาหน้าที่ และเน้ือหาหรือ ผลผลิตหลักเกิดจากการสร้างสรรค์ของมนุษย์ ไม่ใช่เครื่องจักร มุ่งสร้าง คุณค่าให้เนื้อหารายการและ ตัวองค์กร แนวทางการดาเนินงานวิทยกุ ระจายเสยี งจากมมุ มองของผู้ประกอบการมืออาชีพ เอไทม์ มีเดีย ภายใต้การบริหารของ พี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา เคยให้สัมภาษณ์ แพรว หวั ขอ้ “เคลด็ ลับของการ ประสบความสาเร็จในวงการวทิ ยุ” มี 3 องค์ประกอบ คือ 1. แนวคิดหลัก Concept ของสถานีวิทยุหรือรายการต้องชัดเจน - ถ้าไม่กาหนดแนวคิดให้ ชัดเจน จะไม่มีความแตกต่างความโดเด่น เป็นท่ีจดจาได้ (เปรียบได้กับมีแผนท่ีในการทางานน่ันเอง) เพอื่ จะได้รจู้ ดุ ยนื ของสถานีตนเองวา่ จะจับกลุม่ เป้าหมายใด เป็นตน้ นักจัดรายการควรมีคุณลักษณะสอดคล้องกับบแนวคิดหลักหรือ concept ของคล่ืน เพราะ ผู้ฟังจะทาความรู้จักรายการหรือสถานีวิทยุน้ัน ๆ ผ่านนักจัดรายการวิทยุ ภาพลักษณ์ของนักจัด รายการวิทยุท่ีความสัมพันธ์อย่างย่ิงกับการ กาหนดภาพลักษณ์ของคลื่น ทาให้ผู้ฟังรู้สึกถึงความเป็น พวกเดียวกัน รู้สึกคล้อยตามง่าย เพราะฉะน้ันผู้ดาเนิน รายการวิทยุยังควรมีทักษะในการส่ือสารท่ีดี พูดชัดถ้อยชัดคา มีไหวพริบการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีเพราะวิทยุเป็นรายการสดอาจเกิดความ ผดิ พลาดได้เสมอ ตอ้ งมีผ้ชู ่วยที่ดีงานวิจยั การวิจยั สามารถชว่ ยเก็บรวบรวมข้อมูลเพ่ือนามาใช้ประโยชน์ในด้าน ตา่ ง ๆ ประกอบการวางแผนของคล่นื วทิ ยุใหห้ มาะสมกับความต้องการของผู้ฟัง ทิศทางวทิ ยุกระจายเสยี งในอนาคต – ทิศทางที่โดดเด่นมีดังน้ี 1. ปริมาณวิทยุกระจายเสียงประเภทธุรกิจจะเพิ่มข้ึนอย่างมาก เพราะการปรับระบบจากแอ นะล็อก เป็นระบบ ออกอากาศแบบดิจิทัล ทาให้สามารถบีบอัดสัญญาณเพื่อนาคลื่นความถี่ไปใช้งาน ได้มากข้นึ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง114 2. แนวโน้มผู้รับสารจะสามารถสลับบทบาทกับผู้ส่งสารได้ง่ายข้ึน เพราะเทคโนโลยีเอ้ือต่อ การจัดรายการเองได้ สรปุ ผู้ประกอบธุรกิจคลื่นวิทยุน้ัน มีแนวโน้มของรายได้ และกาไรที่ลดลง บางรายก็ขาดทุน ต่อเนื่องเพราะนอกจากภาพรวมธุรกิจสื่อวิทยุ ท่ีชะลอตัวลงแล้วภายในอุตสาหกรรมยังมีการแข่งขัน กันรุนแรงมาก เนื่องจากมีจานวนคลื่นจานวนมาก และแต่ละรายก็มีฐานกลุ่มผู้ฟังของตนเอง ทาให้ บริษัทคล่ืนวิทยุต้องทาการปรับตัวเอง จริงๆแล้ว การฟังเพลงไม่เคยเปลี่ยนไป ทุกคนยังมีดนตรีใน หัวใจเสมอ เพียงแต่คนเปล่ียนพฤติกรรมการฟังเท่าน้ันเอง ดังน้ันส่ือวิทยุจึงได้ปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัล แพลตฟอร์ม นาเสนอรายการในรูปแบบออนไลน์ ในหลายๆช่องทาง เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคช่ันของ ตนเอง และ Facebook Fanpage ซ่ึงทาให้มีรายได้ใหม่ๆ จากโฆษณาทางออนไลน์เพ่ิมขึ้น ที่ผ่านมา เราได้เห็น Grammy เปิดตัว Chill Online ซ่ึงเม่ือก่อน เคยเป็นคลื่นวิทยุออฟไลน์ เปลี่ยนมา ออกอากาศออนไลน์เพียงอย่างเดียว RS ได้รีแบรนด์คลื่น โดยตัดเลข 93 ออก เหลือแค่ Cool Fahrenheit เพ่ือให้ตรงกับพฤติกรรมคนฟังที่ไม่ยึดติดกับช่องทางการออกอากาศ รวมทั้งเปิดตัว แอปพลิเคช่ัน COOLISM บนมือถือ ช่อง 3 ก็หันมาเปิดตัวแอปพลิเคชั่น BEC-Tero Radio ที่ รวบรวมคลื่นวิทยุในเครือมาออกอากาศออนไลน์ เช่น Virgin Hitz และการรายงานข่าวท่ีเป็นจุดเด่น การจัดรายการวิทยุนั้น ยังคงมีข้อได้เปรียบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ มีคนคอยคัดสรรเพลง เพราะๆให้ ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาหาเพลงเอง รวมท้ังเพลงที่เปิด ก็มีความหลากหลาย ทันต่อยุคสมัย นอกจากนี้ การใช้ส่ือออนไลน์ ยังทาให้รายการมีรูปแบบการนาเสนอ Content ท่ีแปลกใหม่ มี ปฏิสัมพันธ์กับคนฟังได้มากขึ้น และตอบสนองความต้องการได้อย่างรวดเร็วบทเรียนจากธุรกิจ คลื่นวิทยุ สอนให้รู้ว่า.. แม้จะมีเทคโนโลยีใหม่ ท่ีอาจเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาด ไม่ใช่ว่ามันจะน่ากลัว เสมอไป แค่ปรับตัวอยู่ร่วมกับมันให้เป็น ใช้ประโยชน์จากมันให้ได้ เราอาจจะเจอลู่ทางใหม่ให้เดินไป ข้างหน้าต่อ เพราะในทุกวิกฤติ ย่อมมีโอกาสที่แฝงอยู่เสมอ แต่ว่าจะประสบความสาเร็จหรือไม่ กาลเวลาเทา่ นน้ั ท่ีเป็นเครอ่ื งพิสจู น์

115 คาถามท้ายบทที่ 7 1. มารแ์ ชลล์ แมคลฮู นั คอื ใคร 2. ลกั ษณะการสัมปทานคล่นื วทิ ยุมีก่ีลกั ษณะ อะไรบา้ ง 3. การจดั สรรคล่นื ความถ่ีวทิ ยุ เป็นหนา้ ทข่ี องใคร 4. การให้บรกิ ารสาธารณะมีการจดั สรรอยา่ งไร 5. ธรุ กิจสื่อวทิ ยุตอ้ งปรับตัวอย่างไร 6. จงยกตวั อย่างบริษัทส่อื วิทยใุ นประเทศไทยจานวน 3 บรษิ ทั 7. จงอธบิ ายคากลา่ วท่ีวา่ “ชนใดไม่มดี นตรีกาล ในสันดานเปน็ คนชอบกลนกั ” 8. ความนยิ มการฟงั วทิ ยขุ องวยั รุน่ ในปจั จุบันเปน็ อย่างไร 9. แนวโนม้ ของธุรกจิ สอื่ วทิ ยเุ ปน็ อย่างไร 10. ประเภทของรายการวิทยุท่วี ยั ร่นุ ให้ความสนใจคอื อะไร มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 116 บทที่ 8 จรยิ ธรรมและความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมของผปู้ ระกอบการธรุ กิจส่ือ ปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่นิยมใช้ส่ือสังคมออนไลน์ในการติดต่อสื่อสารมาเป็นอันดับหนึ่ง We are social และ Hootsuite ไดท้ ําการสํารวจพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต มือถือ โซเชียลมีเดีย และ แพลตฟอร์มต่าง ๆ ของคนท่ัวโลกออกมาเป็นรายงานที่ชื่อว่า ‘Digital in 2018’ พบส่ิงท่ีน่าสนใจ เก่ียวกับพฤติกรรมของคนไทยในยุคดิจิทัลจํานวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศเรา 57 ล้านคน (82% ของประชากร) มผี ู้ใชโ้ ซเชียลมเี ดีย 51 ล้านคน ประเทศไทยใช้เวลาสูงสุด เฉล่ีย 9 ช่ัวโมง 38 นาทีต่อ วนั ตามมาด้วยฟลิ ิปปินส์ (9 ชว่ั โมง 29 นาที) และบราซิล (9 ชั่วโมง 14 นาที) ส่วนโซเชียลมีเดียที่คน ไทยใช้เยอะท่ีสุดคือ Facebook (75%) การสํารวจยังพบว่าคนไทยใช้สมาร์ทโฟนใช้เพื่อถ่ายรูปหรือ วดิ โี อสงู ถึง 54%, ใช้แทนนาฬิกาปลุก 42%, ใชเ้ ชค็ ข่าวสาร 26%, ใชจ้ ัดตารางนดั หมายหรือจดบันทึก สิง่ ตา่ ง ๆ 25% (Brand Buffet, 2561: ออนไลน์ 2561) ความก้าวหนา้ ของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ได้มีบทบาทในการเปล่ียนแปลงรูปแบบการนําเสนอ ข่าว เพม่ิ ช่องทางที่ส่อื มวลชนสามารถรายงานขา่ วได้อย่างรวดเร็ว ไมว่ ่าจะเป็น ส่ือโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ท้ังเฟซบุ๊ก (Facebook) และ ทวิตเตอร์ (Twitter) พฤติกรรมในการเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียส่งผลให้ “ทกุ คนเปน็ สื่อได้” เพราะถูกออกแบบใหใ้ ชง้ ่ายบนโทรศัพท์มือถือ ทุกคนสามารถนําเสนอข่าวผ่านสื่อ ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าสื่อดังกล่าวมีอิทธิพลเร่ืองความเร็วของการนําเสนอข้อมูล ข่าวสาร (เทยี นทพิ ย์ เดยี วก่ี,2559) นักวิชาชีพวงการสื่อมวลชนถือได้ว่าได้รับผลกระทบโดยตรงความ รวดเร็วที่เกดิ ขน้ึ ทาํ ให้การเสนอขอ้ มูลขา่ วสารไม่มีความรอบคอบเท่าทคี่ วร (เทยี นทพิ ย์ เดยี วก,ี่ 2559) ปญั หาของการนาเสนอเนือ้ หาขา่ วสารในยคุ ดิจิทลั จากความเปล่ียนแปลงของพฤติกรรมคนในสังคมยุคดิจิตอลและลักษณะการทําข่าวแบบ คอนเวอรเ์ จนซ์ เราจะพบว่าสาธารณชนมีความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลทั่วไปสามารถค้นหาข้อมูล ต่าง ๆ ด้วยตนเอง มีช่องทางเปิดให้ผู้รับสารกับองค์กรส่ือมีช่องทางปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันได้ (interactive) ทําใหค้ นในสังคมสามารถเข้าถึงสือ่ ไดห้ ลากหลายประเภทและช่องทางมากขนึ้

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 117 ยุคข่าวสารไร้พรมแดนท่ีผู้รับสารสามารถตัดสินใจเลือกรับสารได้ตามความพอใจของตนเอง (Active audience)(Little John, 1999) ทาํ ให้การบริโภคเนื้อหาข่าวสารมีความหลากหลาย องค์กร สื่อลดบทบาทของส่ือในการเป็นนายทวารข่าวสารหรือ Gatekeeper และบทบาทในการกําหนดสิ่งท่ี ประชาชนจะรับรู้ผ่านส่ือในการรับรู้เร่ืองราวต่าง ๆ เกิดการพัฒนารูปแบบข่าวและการเล่าเรื่องที่ใช้ เทคโนโลยีมัลติมีเดียมากข้ึนจนเกิดการต้ังคําถามเรื่องจริยธรรมจรรยาบรรณของส่ือสรุปไว้ดังนี้ (Kendyl Salcito, 2561: ออนไลน์, อิสรานิวส์,2558: ออนไลน)์ ความรวดเรว็ และความหลากหลายของขอ้ มูลทาํ ใหเ้ กดิ การบดิ เบือนขอ้ เทจ็ จริงเกิดข่าวลือเกิด ความคิดเห็นที่ตรวจสอบไม่ได้ มีแรงกดดันให้ส่ือบางสื่อลดเพดานจริยธรรมลงหันไปทําข่าวท่ีเต็มไป ดว้ ยอารมณส์ สี ันดงึ เรตติ้งของผูช้ ม เพิ่มพน้ื ท่ีการขายข่าวเพ่ือความอยู่รอดขององค์กร สาธารณชนเริ่ม ตงั้ คําถามตอบประเด็นการละเมิดสิทธสิ ว่ นบุคคล การเข้าถึงข้อมูลหรือการนําข้อมูลท่ีมีอยู่ในออนไลน์ มาใชโ้ ดยไมไ่ ด้ขออนุญาต หรือขาดการอ้างอิงท่ีถูกต้อง เกิดความสับสนต่อการนิยามใครคือนักข่าวใน เมอื่ ใคร ๆ กส็ ามารถทจ่ี ะเผยแพร่ขอ้ มลู และรายงานเหตุการณ์ท่ีเกดิ ขนึ้ ได้ ปัญหาจริยธรรมสื่อในปัจจุบันตกต่ํามากข้ึน เช่น การนําเสนอข่าวเกินจริง ใส่ความคิดเห็น ตั้งตนเองเป็นผู้พิพากษาตีตราผู้ตกเป็นข่าว ไม่แยกแยะระหว่างผลประโยชน์องค์กรกับส่วนรวม สาเหตุอาจเกิดจากคนในแวดวงวิชาชีพไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ ฝึกปฏิบัติ หรือตั้งคําถามเก่ียวกับเรื่อง จริยธรรม (อิสรานวิ ส์,2558: ออนไลน)์ จรรยาบรรณทางวิชาชีพส่อื มวลชน จรรยาบรรณ หมายถงึ ประมวลกฎเกณฑ์ความประพฤตหิ รือประมวลมารยาทของผู้ประกอบ อาชีพต้องเป็นเอกลักษณ์ทางวิชาชีพ ใช้ความรู้ มีองค์กรหรือสมาคมควบคุม (จรวยพร ธรณินทร์, 2554) จรยิ ธรรมสอ่ื มวลชน หมายถงึ ธรรมทเ่ี ปน็ ขอ้ ประพฤติปฏิบัติของส่ือมวลชน (สมสุข หินวิมาน และคณะ, 2557) จรรยาบรรณของส่ือมวลชน หมายถึง หลักคุณธรรมของผู้ประกอบอาชีพนักสื่อสารมวลชน ที่มารวมตวั กนั เปน็ สมาคมวิชาชีพ สรา้ งข้ึนเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติแก่ผู้ประกอบ อาชพี นกั สือ่ สารมวลชนใหม้ ีความรับผิดชอบ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 118 เสรีภาพบนความรับผิดชอบในวิชาชีพสือ่ มวลชน ข้อปฏิบัติสําคัญที่ส่ือมวลชนที่มีความรับผิดชอบพึงกระทํา ได้แก่ ส่ือจะต้องรายงาน เหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนบนพ้ืนฐานของความเป็นจริงอย่างละเอียดรอบด้าน และตรวจสอบอย่างรอบคอบ โดยพิจารณาดูบริบทท่ีเหตุการณ์น้ันได้เกิดขึ้นสื่อมวลชนจะต้องสร้างเวทีแห่งการแสดงและการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงเป็นช่องทางที่จะแสดงความคิดเห็นของสาธารณะสื่อมวลชนจะต้อง เป็นตัวแทนของคนทกุ ๆ กลุม่ ในสงั คมและจะต้องนําเสนอเป้าหมายและคุณค่าของสังคมอย่างชัดเจน (กาญจนา แก้วเทพ, 2556) Lasswell (1948) และ Wright (1974) (อ้างถึงใน อรอนงค์ สวัสด์ิบุรี และพงศ์ภัทร อนุมัติ ราชกิจ, 2554) ได้กล่าวถึง การทําหน้าท่ีของส่ือมวลชนว่ามีบทบาทหน้าที่ในการสอดส่องดูแล (Surveillance) และรายงานเหตกุ ารณ์ในสงั คมปทัสถานส่ือมวลชนตามทฤษฎีว่าด้วยความรับผิดชอบ ทางสังคม (The social Responsibility Theory) มหี ลกั 3 ประการคือ 1. ให้ประชาชนมสี ทิ ธิเสรภี าพในการมสี ว่ นรว่ มและเลอื กรับขา่ วสาร 2. สือ่ ต้องมอี ิสรภาพและเสรภี าพในการนําเสนอขา่ ว 3. สอ่ื ต้องตระหนักถงึ ประโยชนท์ ่ีสังคมจะไดร้ บั McQuail (1994 อ้างถึงใน พงษ์ วิเศษสังข์, 2554) ได้กล่าวถึงความรับผิดชอบของ สอ่ื มวลชนมอี ยู่ 5 ประการ ไดแ้ ก่ 1. สอดส่องดูแล ระแวดระวัง เหตุการณ์ที่คาดว่าจะมีผลกระทบต่อประชาชนโดยสื่อจะต้อง ตื่นตัวในการสอดส่องเหตกุ ารณ์สาํ คญั ๆ ปอ้ งกันเหตุการณท์ ี่กาํ ลังเกดิ ขึน้ 2. ประสานความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ ให้ประชาชนได้รับรู้ความคิดเห็นในหลากหลาย มิติ 3. สัง่ สอน ถา่ ยทอดมรดกทางวฒั นธรรมและประเพณีท่ดี ีต่อสงั คม 4. ให้ความบนั เทิงถ่ายทอดผา่ นวฒั นธรรมและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ 5. รณรงคท์ า่ มกลางปัญหาเก่า ปัญหาใหม่ที่เกิดข้ึนมากมายเป็นหน้าที่ของสื่อในการรวบรวม พลงั และผลักดันประชาชนใหเ้ กิดทัศนคติและพฤตกิ รรมที่สร้างสรรค์ทางสังคมร่วมกัน สร้างความเป็น นํ้าหนึ่งใจเดียวกันหลักการสําคัญของทฤษฎีความรับผิดชอบต่อสังคม สามารถสรุปได้ดังนี้ (พีระ จิระโสภณ, 2551)

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 119 5.1 สอื่ มวลชนควรจะตอ้ งยอมรับและปฏิบัติให้ลุล่วงในภาระหน้าที่ท่ีเป็นพันธกิจต่อ สงั คม 5.2 ส่อื มวลชนจะตอ้ งบรรลุถงึ มาตรฐานวิชาชีพสือ่ มวลชน 5.3 สื่อมวลชนควรจะต้องควบคุมตนเองภายใต้กรอบแห่งกฎหมายและสถาบันที่ ธาํ รงอยู่ 5.4 ส่ือมวลชนควรจะต้องหลีกเลี่ยงสิ่งใดก็ตามที่อาจนําไปสู่อาชญากรรม ความ รุนแรง หรอื ความไม่สงบ หรือแสดงความก้าวร้าวต่อเช้อื ชาติหรอื ศาสนาของชนกลุ่มนอ้ ยในสงั คม 5.5 ส่อื มวลชนโดยท่วั ไปควรจะเปิดกว้างและสะท้อนความหลากหลายของสงั คม 5.6 สังคมและสาธารณะมีสิทธิที่จะคาดหวังการปฏิบัติในระดับมาตรฐานท่ีสูงของ สอื่ มวลชนและการเขา้ แทรกแซงอาจจะตอ้ งถอื ว่าไม่เป็นเร่ืองผิด หากเพอ่ื ความดีงามของสาธารณะ 5.7 นักวารสารศาสตร์และนักวิชาชีพสื่อมวลชนจะต้องเป็นท่ีวางใจหรือเช่ือถือได้ ของสังคม จะเห็นได้ว่า มีนักวิชาการได้กล่าวถึงข้อปฏิบัติท่ีเป็นแนวทางความรับผิดชอบของสื่อมวลชน อยู่อย่างมากมาย ส่วนใหญ่เน้นไปที่บทบาทหน้าที่ที่เหมาะสมในการนําเสนอข่าวสารของสื่อมวลชน ภายใต้เสรีภาพและความรับผิดชอบ ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านจริยธรรมและจรรยาบรรณของ สื่อมวลชนในโซเชียลมีเดีย (Social Media) ท่ีผ่านมาในวงการวิชาการด้านสื่อมวลชนและวิชาชีพ ได้ ร่วมระดมความคิดเห็น ผ่านบทความวิชาการ งานวิจัย บทสัมภาษณ์ หรือเวทีการประชุมสัมมนา วงการวิชาชีพสื่อมวลชน เป็นต้น เพ่ือให้ได้ข้อเสนอแนะที่เป็นแนวทางร่วมกันในการพัฒนาจริยธรรม และจรรยาบรรณกลุ่มคนท่ีทํางานในวงการส่ือมวลชน ผู้เขียนได้สรุปแนวทางการแก้ปัญหาทางด้าน จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณ ดังนี้ (สทุ ธิชัย หยนุ่ (2555), วัฒนี ภูวทิศ (2556),การดา ร่วมพุ่ม (2557), ศิรวิ รรณ อนนั ต์โท (2558), เทยี นทพิ ย์ เดยี วกี่ (2559) 1.ระดับองค์กรต่าง ๆ ท่ีทําหน้าที่กํากับดูแลส่ือมวลชน ควรสร้างความตระหนักในเร่ือง จริยธรรมและจรรยาบรรณสื่อแก่ผู้ที่ทําหน้าที่สื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การฝึกอบรมวิชาชีพ ส่ือมวลชนแก่ผู้ปฏิบัติงาน การประชุมสัมมนาอย่างต่อเน่ืองเพ่ือเป็นเวทีแลกเปลี่ยน (เทียนทิพย์ เดียวก,ี่ 2559)

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 120 2.ระดับองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ควรสร้างความเช่ือม่ันให้กับสังคมด้วยการเปิดโอกาสให้ องค์กรหรือบุคคลภายนอกเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบจริยธรรมจริยธรรมวิชาชีพของสื่อได้ทั้ ง ทางตรงและทางออ้ ม (ศิรวิ รรณ อนันตโ์ ท, 2558) ท้ังน้ีกระบวนการทํางานระดับผู้บริหารในองค์กรสื่อมวลชนควรมีการวางมาตรการการรับ บุคคลเข้าทํางานในองค์กร ให้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ในความรับผิดชอบต่อสังคมมากยิ่งข้ึนและ ควรออกใบอนุญาตผูป้ ระกอบวิชาชีพสือ่ มวลชนเมือ่ กระทําผิดสามารถยึดคืนได้ (วัฒนี ภูวทิศ, 2556) สว่ นระดบั ผูป้ ฏิบตั ิการในองค์กรส่ือมวลชน ควรช่วยกันตรวจสอบการกรองข่าวสารก่อนออก สู่สาธารณะ (เทียนทิพย์ เดียวกี่, 2559) ลดความเส่ียงในผิดพลาดด้วยการประชุมโต๊ะข่าวในกอง บรรณาธิการแสดงให้เห็นว่าได้ผ่านกระบวนการถกเถียงแสดงความคิดเห็นร่วมกันมาแล้ว (การดา ร่วมพ่มุ , 2557) 3.ระดับสถาบันการศึกษา คณาจารย์ นักวิชาการต่าง ๆ มีส่วนสําคัญท่ีจะเน้นย้ําถึง ความสําคัญของจริยธรรมและจรรยาบรรณของวิชาชีพสอื่ มวลชนในระบบการเรียนการสอนและควรปู พ้ืนฐานสร้างนักขา่ วรุ่นใหมต่ ง้ั แตร่ ะดับเยาวชนด้วย (สทุ ธชิ ัยหยุ่น, 2555) จริยธรรมสอื่ ก่อนท่ีจะทาความเข้าใจในเรื่องจริยธรรมสื่อมวลชน จะต้องเข้าใจบทบาท หน้าที่ ความ รับผิดชอบของส่อื มวลชนก่อน เพราะเม่อื พูดถึงสิทธิ เสรีภาพ แต่เพียงประการเดียว ก็อาจตีความได้ วา่ สื่อมวลชนมีสิทธิ เสรีภาพ ซึง่ รฐั ธรรมนญู บญั ญัติรับรองไว้ในมาตรา 45อย่างไร้ขอบเขต และอาจมี มากกว่าผู้ประกอบอาชีพอ่ืนๆในสังคม แต่แท้จริงแล้ว สื่อมวลชนไม่สามารถใช้พื้นท่ีสาธารณะในการ นําเสนอขา่ วสาร ขอ้ มูล หรือวิพากษ์วิจารณ์ ตามความต้องการ โดยไม่มีความรับผิดชอบและคํานึงถึง ผลกระทบต่อบคุ คลอนื่ ได้เลย ความรบั ผดิ ชอบของนกั ขา่ ว ในการปฏบิ ตั ิงานข่าวทกุ แขนงย่อมมีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้ทุกขั้นตอนของกระบวนการ ทํางาน ในการนี้ นักข่าวพึงต้องมีความรับผิดชอบควบคู่ไปกับสิทธิเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร ต้อง คาํ นึงถงึ ความรบั ผดิ ชอบท่ีสาํ คญั อยา่ งนอ้ ย 2 ประการ คอื

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 121 1. ความรบั ผิดชอบทางกฎหมาย ในฐานะท่ีนักข่าวเป็นนายประตูข่าวสาร หรือเป็นด่านแรกในการทํางานข่าว ควรจะต้อง ศึกษากฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทํางาน เช่น พระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ ประมวล กฎหมายอาญาว่าด้วยความผิดฐานหมิ่นประมาท โดยเฉพาะความผิดฐานหม่ินประมาทด้วยการ โฆษณา ประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยความผิดเก่ียวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ พระราชบัญญัติ ความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ พระราชบัญญัติว่าด้วยคดีเด็กและเยาวชน ประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ ว่าด้วยความผิดฐานละเมิดต่อชื่อเสียง เกียรติยศ และทางทํามาหาได้ ท้ังนี้เพราะความ รับผิดชอบทางกฎหมายเป็นข้อจํากัด ในการใช้สิทธิ เสรีภาพประการหน่ึง ภายใต้หลักประกันสิทธิ เสรีภาพในการแสดงความคดิ เหน็ ของประชาชน ตามบทบญั ญัตริ ัฐธรรมนญู สําหรับความผิดทางกฎหมายที่นักข่าว หรือบรรณาธิการจะต้องเผชิญอยู่เสมอ คือความผิด ฐานหม่ินประมาท ละเมิดต่อช่ือเสียง เกียรติยศ และทางทํามาหาได้ของบุคคลอื่น ละเมิดอํานาจศาล นกั ข่าวจงึ ตอ้ งระมัดระวงั ในการใช้ถ้อยคาํ การรายงานขา่ วทตี่ อ้ งเคารพหลกั การพดู ความจริง 2. ความรับผิดชอบทางจรยิ ธรรม ความรับผิดชอบทางจรยิ ธรรม (ethics) เป็นความรับผิดชอบที่ต้องใช้จิตสํานึก พิจารณาและ ใครค่ รวญถงึ ผลกระทบท่จี ะเกิดขนึ้ กับผูท้ ่ีเป็นขา่ ว ญาตพิ ี่นอ้ ง และครอบครัว ในแง่ของการกํากับ ดูแล และควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชน ให้อยู่ในกรอบของจริยธรรมนั้น สภาการหนังสือพิมพ์ แห่งชาติ จะเป็นองค์กรหลักในการควบคุมการทํางานของผู้ประกอบวิชาชีพ โดยมีข้อบังคับว่าด้วย จริยธรรมแห่งวิชาชีพกําหนดไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เพ่ือให้สมาชิกใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการ ทํางาน นอกจากน้ัน องค์กรสื่อบางแห่ง เช่น กลุ่มเนช่ัน โพสต์ ก็ได้ตราข้อกําหนด แนวทางประพฤติ ปฏิบัติในเร่ืองจริยธรรมเป็นลายลักษณ์อักษรแสดงรายละเอียดของการประพฤติท่ีพึงกระทําหรืองด เวน้ เพ่ือให้พนักงานใช้เป็นหลักในการทาํ งานดว้ ย คําว่า จริยธรรม มาจากรากของคําว่า “จริยศาสตร์” เป็นคําที่ พลตรีศาสตราจารย์ พระเจ้า บรมวงศ์เธอ กรมหม่ืนนราธิปพงศ์ประพันธ์ ทรงบัญญัติข้ึนใช้เป็นคร้ังแรก สําหรับคําว่า ethics และ ถือเป็นศัพท์บัญญัติในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน แต่คนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยและใช้คํา ว่า จริยธรรรมมากกว่าจริยศาสตร์ อาจสรุปได้ว่า จริยธรรม หมายถึง ความเชื่อ ค่านิยม และหลัก ศลี ธรรม ซง่ึ แตล่ ะสงั คมกาํ หนดข้ึน เพอ่ื ใชใ้ นการตัดสินว่า ส่ิงใดถูก ส่ิงใดผิด ส่ิงใดควรทํา ส่ิงใดไม่ควร

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 122 ทํา ท้งั นี้ หมายถงึ แนวทางปฎบิ ตั ิของบุคคลในสาขาอาชีพต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่ือมวลชนที่สังคม เรียกร้องความรบั ผดิ ชอบในเชิงจรยิ ธรรมสูง ประเดน็ ปัญหาทางจริยธรรมทมี่ กี ารพูดถึงกนั อยู่เสมอ ได้แก่ การรายงานข่าวที่มีผลกระทบ ต่อบุคคลอื่น ถึงแม้บางเหตุการณ์จะมีคุณค่าข่าวท่ีควรนําเสนอ แต่ข่าวก็อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อ บคุ คลอื่นทงั้ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งและไม่เก่ียวข้องในเหตุการณ์ ด้วยสไตล์การเขียน การเขียนเนื้อข่าวและความ นาํ การให้หัวข่าวหรือการใช้ภาพประกอบท่ีอาจสร้างความเจ็บปวดซํ้าๆให้แก่ผู้เคราะห์ร้ายที่เป็นข่าว ได้ หลายครั้งทส่ี ่อื มวลชนถกู วพิ ากษ์วิจารณ์ และมีเสียงเรียกร้องให้ใช้จิตสํานึกชั่งนํ้าหนักระหว่างสิทธิ ในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และผลกระทบที่จะเกิดข้ึนกับบุคคล นักข่าวจึงต้องใช้วิจารณญาณในการ คดั เลอื ก และรายงานข่าวดว้ ย ในหนงั สือค่มู ือจริยธรรม สําหรับทุกสือ่ ในเครอื เนชั่นฯ Nation Way ผดิ จากน้ีไม่ใช่เรา หมวด 2 ว่าด้วยจริยธรรมของส่ือในเครือเนช่ันฯข้อ 2.10 เขียนไว้ว่า ในการเสนอข่าวหรือภาพใด ๆ ต้อง หลีกเล่ียงการล่วงละเมิดศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลท่ีตกเป็นข่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องให้ ความคุ้มครองอยา่ งเครง่ ครัดตอ่ สิทธมิ นุษยชนของเดก็ สตรี และผ้ดู ้อยโอกาส ตัวอย่างเช่น นายตํารวจคนหน่ึง นําผู้ต้องหาคดียาเสพติดมาแถลงข่าว โดยมีการเขียน ข้อความตั้งวางไว้หน้าผู้ต้องหาว่า “อมนุษย์” ซ่ึงแปลว่า ผู้ที่ไม่ใช่คน หมายถึงภูตผีปีศาจ การกระทํา ของตํารวจนายนน้ั ถอื ว่าเปน็ การละเมิดศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ต้องหา เช่นเดียวกับ หัวข่าวของ หนังสือพิมพ์ เมื่อมีการจับกุมตัวผู้กระทําความผิดอาญา หนังสือพิมพ์ ก็ใช้หัวข่าวตัดสินความผิดของ เขาทันที เช่น พาดหัว หรอื บรรยายภาพวา่ ไอโ้ หด เดนนรก ทั้งท่ีในทางกฎหมาย ผู้ต้องหาหรือจําเลย ต้องสนั นษิ ฐานไว้กอ่ นว่า เขาเปน็ ผู้บรสิ ุทธิ์ จนกว่าจะมีคําพิพากษาของศาลว่า เขาเป็นผู้กระทําผิดจริง ฉะนั้น นักข่าวหรือบรรณาธิการ พึงหลีกเล่ียงที่จะตกเป็นเครื่องมือในการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็น มนุษย์เช่นนั้น ในหนังสอื ค่มู อื จรยิ ธรรม หมวดเดียวกัน ขอ้ 2.11 ตอ้ งไม่เสนอภาพที่อุจาด ลามกอนาจาร น่า หวาดเสียว หรือท่ีอาจละเมิดศีลธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีของสังคม ในช่วงเร่ิมต้นของ คม ชัด ลึก มีขอ้ ตกลงรว่ มกนั ประการหน่ึงวา่ หนงั สอื พมิ พห์ ัวสีฉบบั นี้ จะไม่มีภาพที่สยอง และสยวิ คําว่าไม่สยอง หมายถึง หนังสือพิมพ์จะไม่ตีพิมพ์ภาพคนตาย ซึ่งเคยเป็นขนบของ หนังสือพิมพ์หัวสียุคก่อนน้ัน ที่นิยมนําภาพศพท่ีแสดงถึงสภาพน่าอเน็จอนาจ มาตีพิมพ์ไว้ที่หน้า 1 เพื่อจูงใจให้คนอ่านตัดสินใจซื้อหนังสือพิมพ์ ส่วนคําว่า ไม่สยิว หมายถึงหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ จะไม่มี

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 123 ภาพโป๊ อนาจาร หรือภาพที่ส่อไปในทางเพศ นี่ก็เป็นหลักสําคัญอีกข้อหนึ่งในเร่ืองจริยธรรม ในการ นําเสนอขา่ ว วิธีการหาขา่ ว ในการทําข่าว นักข่าวควรต้องคํานงึ ถงึ วิธกี ารได้มาซงึ่ ข้อมูล ขา่ วสารนั้น เช่น การบุกรุกเข้าไป ในบ้านของแหล่งข่าว การดักฟังหรือแอบบันทึกเสียงการติดต่อ สนทนาของผู้อื่น การสะกดรอย ติดตาม และแอบถ่ายด้วยอุปกรณ์ท่ีใช้เทคโนโลยีสูง การลอบถ่ายเอกสารข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล เป็นวิธีการท่ีไม่เป็นธรรม ท่ีเข้าไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของบุคคลอ่ืน รวมท้ังการไม่แสดงตัวว่า เป็น นกั ข่าวขณะปฏบิ ัติหนา้ ที่ คู่มอื จรยิ ธรรมของสื่อในเครอื เนช่นั หมวด 1 ข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพ ส่ือ ข้อ 1.6 เขียนว่า “ต้องใช้วิธีท่ีสุภาพและสุจริตในการหาข้อมูล ข่าวสาร และภาพต่างๆ” ข้อ 1.8 เขียนว่า “ละเว้นการล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เว้นแต่กรณีที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นการกระทําไปเพ่ือ ประโยชน์ของสาธารณะ” อคติส่วนตวั ของนักข่าว นักข่าวก็เป็นเช่นเดียวกับคนทั่วไป คือ อาจมีความเช่ือ หรือทัศนคติในเร่ืองต่างๆ เช่น แนวคิดทางการเมือง ศาสนา หรือมีความรู้สึกไม่พึงพอใจแหล่งข่าว ไม่ถูกชะตา หรืออารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ นอกเหนือเหตุผล ซึ่งในการทําข่าว นักข่าวจะต้องแยกแยะอคติส่วนตัวออกจากการ รายงานขา่ ว สทิ ธสิ ่วนบุคคล สิทธิส่วนบุคคล (Right to Privacy) เป็นเรื่องที่คาบเก่ียวระหว่างกฎหมายและจริยธรรม บ่อยครั้งท่ีนักข่าวจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า นําเสนอข่าวท่ีเป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลต่างๆในสังคม โดยเฉพาะคนที่มีช่ือเสียง หรือบุคคลสาธารณะ (Public Figure) เช่น นักการเมือง ดารานักแสดง นักร้อง นักข่าวมักจะเฝ้าติดตามเสนอข่าว ทั้งที่เร่ืองราวส่วนตัวของเขาไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ เลย

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 124 เร่อื งของสิทธสิ ่วนบคุ คล นับวา่ เป็นปญั หาใหญ่มากข้นึ เน่ืองจากปัญหาการตีความว่า แค่ไหน เพียงใดท่ีนักข่าวจะนําเสนอได้ในฐานะบุคคลสาธารณะ เพราะความเป็นบุคคลสาธารณะจะทําให้ ความเป็นส่วนตัว (Privacy) น้อยลง แต่โดยหลักจริยธรรม บุคคลเหล่านี้ก็ยังได้รับความคุ้มครองใน การใช้ชีวิตส่วนตัวอยู่ดี ดังนั้นนักข่าวต้องแยกให้ออกระหว่างขอบเขตสิทธิส่วนบุคคลกับสิทธิในการ รับรู้ของประชาชน โดยนักข่าวต้องยึดถือหลักการรายงานข่าวด้วยความรับผิดชอบทางจริยธรรม คือ มีความยตุ ธิ รรมต่อบคุ คลทต่ี กเปน็ ขา่ ว ขอ้ มลู และขอ้ เทจ็ จรงิ ท่ีนําเสนอในขา่ วต้องมีความถูกถว้ น ตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือการเสนอข่าวบันเทิง ผู้บริโภคข่าวสารมักเข้าใจว่า ข่าวบันเทิง คือ ข่าว เรื่องราวชีวิตครอบครัวของดารา ข่าวรักๆใคร่ๆ ซ่ึงในความเป็นจริง นั่นเป็นการละเมิดสิทธิส่วน บคุ คลทั้งสิ้น นิยามของความเป็นข่าวบันเทิง ซึ่งน่าจะเป็นเร่ืองบทบาทการแสดง หรือการท่ีดาราบาง คน เป็นตัวอย่างท่ีดีในการดําเนินชีวิต มีความใส่ใจในการศึกษา หรือมีจิตสาธารณะในการช่วยสังคม กลับปรากฏในพน้ื ที่ข่าวบนั เทิงนอ้ ยมาก จรยิ ธรรมในการสื่อข่าวและการเขยี นขา่ ว ในการสื่อข่าวและการเขียนข่าว ภาระหน้าท่ีของนักข่าวในฐานะผู้แจ้งข่าวสาร คือการนํา ข้อเท็จจริงสู่สาธารณชน (The duty of journalists is to serve the truth) ดังน้ัน นักข่าวควรต้อง มีจรยิ ธรรมในการสอ่ื ข่าว และเขยี นข่าว ดงั นี้ 1. ความเที่ยงธรรมและความเปน็ ภววสิ ยั ในการรายงานข่าว ตามหลกั การส่ือข่าวได้มีข้อกําหนดเกี่ยวกับคุณสมบัติข่าวที่ดีไว้ว่า จะต้องมีความเป็นภววิสัย ปราศจากอคตแิ ละความรู้สึกส่วนตัวของนักข่าว ข่าวท่ีนําเสนอจะต้องเสนอเฉพาะข้อเท็จจริง มีความ เทยี่ งธรรม สมดุล ในกรณีที่เกิดการขัดแย้งเกิดขึ้น ต้องให้โอกาสในการชี้แจง และแสดงข้อเท็จจริงท้ัง สองฝา่ ย ไม่ว่านักข่าวจะเหน็ พ้องกับฝ่ายหนึ่งฝา่ ยใดหรอื ไม่ก็ตาม ท้ังน้เี พื่อความเป็นกระจกเงาสะท้อน ภาพสังคมทีช่ ดั เจน เทย่ี งตรง ไม่บิดเบี้ยว 2. ความเป็นส่วนบคุ คลกับสทิ ธิในการรบั รูข้ องผ้บู รโิ ภคขา่ วสาร ปัญหาความเปน็ สว่ นตัวกับสทิ ธใิ นการรบั รขู้ องผู้รบั สาร นักขา่ วมักถูกทว้ งตงิ จากสังคมว่า ปฏิบัติหน้าท่ีล่วงลํ้าความเป็นส่วนตัวของผู้อ่ืน หรืออาจจะเป็นความรู้สึกท่ีเข้าไปเก่ียวข้องกับ เหตุการณ์ในลักษณะมองต่างมุมระหว่างสังคม กับนักข่าว ซ่ึงนักข่าวควรมีวิจารณญาณในการ ไตร่ตรอง ชั่งนํ้าหนักในความเหมาะควรขณะปฏิบตั งิ านอยเู่ สมอว่า การเสนอข่าวและภาพผู้ถูกคุกคาม

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 125 ทางเพศ หรือการระบุช่ือบุคคลที่มีความสัมพันธ์เป็นญาติมิตรทําให้สามารถเข้าใจได้ว่า ผู้ถูกคุกคาม ทางเพศเป็นใคร การนาํ เสนอภาพเปลอื ยของผตู้ าย หนังสือพิมพย์ กั ษ์ใหญ่ 2 ฉบับ ฉบับหน่ึงเสนอภาพ เปลอื ยหญิงสาวท่ถี ูกข่มขืนในท่ีเกิดเหตุ ภาพเปลือยเดวิด คาราดีน ดาราฮอลลีวู๊ดที่ฆ่าตัวตายในตู้เก็บ เสื้อผ้าโรงแรมปาร์คนายเลิศ อีกฉบับหนึ่งเสนอภาพเปลือยหญิงชาวต่างชาติถูกคล่ืนสึนามิ พัดพาข้ึน ไปค้างอยู่บนกิ่งต้นโกงกางในลกั ษณะทอี่ จุ าดตา น่กี ็เปน็ การละเมดิ ศกั ดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ถึงแม้ว่าเธอ ทั้งสอง และเขาจะเสยี ชวี ิตแลว้ 3. การใช้แหล่งข่าวปิด (Unidentified Sources) บางครั้งนักข่าวอาจต้องใช้แหล่งข่าวปิด กรณีท่ีเป็นข่าวเชิงสืบสวนสอบสวน ซ่ึงไม่สามารถ เปิดเผยคุณลักษณะ (Identification) ของแหล่งข่าวได้ เนื่องเพราะอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของ แหล่งข่าวและครอบครัว ซึ่งหากนักข่าวละเมิดสิทธิของเขาในการป้องกันตัวเองเท่ากับทําผิดหน้าที่ แต่ในขณะเดียวกัน การใช้แหล่งข่าวปิดมากจนเกินไปอาจถูกต้ังข้อสังเกตหรือวิพากษ์วิจารณ์จากคน อ่านได้ ว่าอาจนําไปสู่การบิดเบือน หรือทําให้การนําเสนอข่าวคลาดเคล่ือนจากความเป็นจริงได้ เพราะคนอ่านไมแ่ น่ใจวา่ แหลง่ ขา่ วน้ันมตี ัวตนอยู่จรงิ หรือไม่ ในอีกแง่มุมหนึ่ง แหล่งข่าวอาจมีเจตนาให้ข้อมูลหรือความเห็นท่ีบิดเบือนเพื่อประโยชน์ ส่วนตัว หรอื ใหร้ ้ายแกผ่ ู้อน่ื ในกรณีเช่นน้ี อาจมีผลถึงความน่าเชื่อถือได้ เพื่อไม่ให้สูญเสียความเชื่อถือ นักข่าวจึงไม่ควรเสนอข่าวที่เลื่อนลอย ปราศจากที่มา ข่าวลือหรือแผ่นปลิว ควรระบุช่ือบุคคลท่ีให้ สัมภาษณ์หรือให้ข้อมูลอย่างชัดเจน เว้นแต่จะมีเหตุอันควรปกปิดเพ่ือสวัสดิภาพและความปลอดภัย ของแหล่งข่าว โดยข่าวสารน้ันเป็นประโยชน์ และสิทธิในการรับรู้ข่าวสารของสาธารณชนด้วย หรือ อาจใช้วิธีอธิบายภูมิหลังของแหล่งข่าว เพื่อให้ผู้อ่าน ผู้ชมและผู้ฟังทราบความสัมพันธ์ หรือบทบาท ทัศนคติ แนวความคิดของแหลง่ ข่าว ต่อเหตุการณห์ รือบุคคลทเี่ กี่ยวข้อง คู่มือจริยธรรมของสื่อในเครือเนช่ัน หมวด 2 ข้อ 2.8 เขียนว่า “ต้องไม่เสนอข่าวอย่างเล่ือน ลอยปราศจากแหล่งที่มาท่ีชัดเจน ข่าวลือหรือข่าวจากแผ่นปลิว พึงระบุช่ือบุคคลที่ให้สัมภาษณ์ หรือ บุคคลที่ให้ข้อมูลอย่างเปิดเผย เว้นแต่จะมีเหตุอันควรปกปิด เพื่อสวัสดิภาพ และความปลอดภัยของ แหล่งข่าว และต้องเป็นประโยชน์ต่อสิทธิในการรับรู้ข่าวสารของสาธารณชน” ส่วนข้อ 2.9 เขียนว่า “ต้องปกปิดชื่อและฐานะของบุคคลที่ให้ข่าวไว้เป็นความลับ หากได้ให้คํามั่นแก่แหล่งข่าวนั้นไว้ เช่นเดียวกับต้องปกปิดช่ือจริงของ ผู้ใช้ “นามปากกา” หรือ “นามแฝง” ในการเขียนหรือรายงาน ด้วย”

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 126 การเปิดเผยชื่อและฐานะของบุคคลที่ให้ข่าว ในบางกรณี อาจมีผลถึงสวัสดิภาพและความปลอดภัย ของเขาได้ เช่น เขาเป็นพยานสําคัญในคดี การเปิดเผยชื่อ อาจทําให้จําเลยหรือฝ่ายตรงข้ามถูกปอง ร้ายได้ หรือในบางกรณี การปกปิดชื่อจะทําให้เขาไม่ต้องเดือดร้อน กรณีท่ีข้อมูล คําให้สัมภาษณ์จะ เป็นผลตอ่ อาชีพการงานของเขา 4. การรับของขวัญจากแหลง่ ข่าว แมว้ า่ การรับของขวัญจากแหล่งข่าว จะเป็นส่ิงท่ีนักข่าวส่วนใหญ่เห็นว่า เป็นการกระทําที่ผิด หลักจริยธรรม แต่ก็มีข้อถกเถียงกันว่า ของขวัญมีมูลค่าเท่าใดควรปฏิเสธ องค์กรข่าวบางแห่ง เช่น กลุ่มเนช่นั เขยี นชัดเจนในประมวลจริยธรรมว่า ปฏิทิน ดินสอ พวงกุญแจ เป็นของขวัญท่ีมีค่าทางเงิน เลก็ นอ้ ย สามารถรับได้ เพราะการปฏิเสธอาจทําให้ผู้ให้รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ แต่ถ้าเป็นของขวัญท่ีมี ราคาสงู ควรสง่ คนื ทันที พร้อมอธบิ ายถงึ หลักปฏิบัติและนโยบายของบริษัทอย่างสุภาพ อย่างไรก็ตาม นกั ขา่ วต้องใช้วิจารณญาณ และสามัญสํานึกของการเป็นสื่อมวลชนท่ีต้องทําหน้าท่ีเพื่อสังคมมากกว่า หวงั ประโยชน์ส่วนตัว คู่มือจริยธรรม ของส่ือในเครือเนช่ัน หมวดท่ี 6 ว่าด้วยสิทธิพิเศษและผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of Interest) ข้อ 6.3 การรับของขวัญท่ีมีมูลค่า เขียนไว้ว่า ผู้สื่อข่าวไม่ควรรับของขวัญที่มี มลู คา่ สูง หรือเรียกร้องการยกเว้นค่าที่พัก หรือขอราคาพิเศษในการซื้อสินค้า หรือการใช้บริการ หรือ รอ้ งขอสิทธิพิเศษอนื่ ใดท่ปี ระชาชนทวั่ ไปไม่ไดร้ ับ อย่างไรก็ดีหากเป็นของชําร่วยท่ีแจกตามงานแถลงข่าวที่มูลค่าไม่สูง เช่น พวงกุญแจ ท่ีใส่ ดินสอ ปฏิทิน และอื่นๆ อาจจะรับไว้ได้ แต่ต้องใช้วิจารณญาณและสามัญสํานึกของการเป็น ส่ือมวลชน ท่ตี อ้ งทาํ หน้าท่เี พือ่ สงั คมมากกวา่ หวังประโยชน์สว่ นตน 5. การไม่แสดงตัวว่าเป็นนักข่าวขณะปฏิบัติหน้าท่ี หรือแสดงตัวเป็นนักข่าวเพ่ือใช้ อภสิ ทิ ธ์ิ หลกี เล่ยี งความผดิ แมว้ ่าการไม่แสดงตัวว่าเปน็ นกั ข่าว ขณะกําลังทําข่าวจะเป็นข้อยกเว้น ในกรณีที่จะต้องมีการ รวบรวมขอ้ มูล ข่าวสารในการทําข่าวเชิงสืบสอบ สอบสวน เน่ืองจากการเปิดเผยตัวต่อแหล่งข่าวอาจ ทําให้ไม่ได้รับความร่วมมือ หรืออาจเกิดอันตรายได้ แต่ตามหลักจริยธรรมในการทําข่าวแล้วไม่ว่า นักข่าวจะกําลังทําข่าวลักษณะใดก็ตาม นักข่าวต้องแนะนําตัวเองและแจ้งถึงวัตถุประสงค์ ของการ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 127 สัมภาษณ์ให้แหล่งข่าวทราบ ไม่ควรทําให้แหล่งข่าวประหลาดใจว่า ทําไมคําพูดของเขาจึงไปปรากฏ เป็นข่าวได้ ในอีกกรณีหนึ่ง การแสดงตัวเป็นนักข่าว เพ่ือใช้อภิสิทธิ์ในการได้รับบริการสาธารณะก่อน บุคคลอ่ืนๆ หรือการใช้ความเป็นนักข่าวอวดอ้างหรืออาศัยตําแหน่งหน้าที่ เพื่อเรียกร้องสิทธิหรือ ผลประโยชน์ใดๆ ที่ไม่ชอบธรรม ก็ถอื วา่ เป็นการกระทําทข่ี ัดกับหลกั จรยิ ธรรมดว้ ย 6. การขัดกันในด้านผลประโยชน์ สิทธพิ เิ ศษและผลประโยชนท์ บั ซ้อน ปญั หาการทําข่าวโดยมกี ารแอบแฝงในเรื่องผลประโยชน์ทัง้ ทางตรงและทางอ้อม หรือเรียกว่า ผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of Interest) มักจะถูกท้วงติงจากสังคมเรื่องความเป็นกลางในการ นําเสนอข่าวของนักข่าวอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการรับเชิญไปทําข่าวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ตามคําเชญิ ของแหลง่ ข่าว การได้ขอ้ เสนอเปน็ หุ้นราคาพาร์หรือหุ้นราคาถูกเป็นค่าตอบแทน การเขียน คําชมสินค้าหรือบริการ หรือกรณีที่นักข่าวมีความสัมพันธ์เก่ียวข้องกับบุคคลในแวดวงต่างๆ เช่น การเมือง เศรษฐกิจ โดยการเปน็ สมาชกิ กรรมการ หรือผถู้ ือหุ้น แนวทางในการปฏิบัติของนักข่าวในเรื่องนี้ คือ ในการรายงานข่าวหรือบทความอันสืบเน่ือง จากการที่ได้รับเชิญจากแหล่งข่าว ในการรายงานข่าวควรมีการระบุให้ชัดเจนไว้ท้ายบทความ หรือ รายงานชิ้นนั้นว่า ข้อมูลมาจากที่ใด และใครเป็นผู้จัดการในการเดินทางคร้ังนั้น หรือกรณีท่ีได้รับ มอบหมายให้ไปทาํ ขา่ วที่นักข่าวมีความสัมพนั ธ์เก่ียวข้องดว้ ย บรรณาธิการอาจเปล่ียนให้นักข่าวคนอ่ืน ไปทําข่าวแทน 7. ความสงสาร หรอื เหน็ ใจในการนาเสนอขา่ ว ปัญหาอีกประการหนึ่งท่ีกระทบต่อจริยธรรมในการส่ือข่าวและเขียนข่าว คือ ความอึดอัดใจ ของนักข่าวกับแหล่งข่าวท่ีสนิทสนมหรือใกล้ชิด และนักข่าวถูกขอร้องให้ปกปิดหรือไม่ให้ระบุชื่อ แหลง่ ขา่ ว ญาตมิ ติ ร หรือเพ่ือนพอ้ งที่ตกเปน็ ข่าวเนื่องจากตายโดยผิดธรรมชาติ หรือมีการกระทําท่ีน่า ละอายในการเสนอข่าว หรือขอให้ปิดข่าว เพราะกลัวว่าจะทําให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียงหรืออับอาย โดยนักข่าวเองก็รู้สึกอึดอัด และเกิดความขัดแย้งต่อภาระหน้าท่ีของตน ขณะเดียวกันก็กลัวว่าหากไม่ กระทําตามที่แหล่งข่าวขอร้อง ต่อไปอาจจะไม่ได้รับความร่วมมือในครั้งต่อไปอีก แนวทางแก้ไขคือ นกั ข่าวควรปรกึ ษากับบรรณาธกิ าร เพอื่ ใหน้ ักขา่ วคนอนื่ ทาํ ขา่ วน้นั แทน

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 128 8. การนาเสนอข้อมลู ที่กระทบกระเทอื นความมัน่ คงของชาติ เศรษฐกจิ พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสาร พ.ศ. 2540 เปิดโอกาสให้สาธารณชนเข้าตรวจสอบเอกสาร ราชการได้ แต่ข้อมูลความลับของราชการ หากเปิดเผยอาจมีผลต่อความม่ันคงของชาติได้ หรือการรู้ ข้อมูลการลดคา่ เงินบาท และนําไปเผยแพรก่ ่อนประกาศกระทรวงการคลงั ทาํ ให้มีการใช้ข้อมูลภายใน ไปเปน็ ประโยชนใ์ นการเกง็ กําไรอัตราแลกเปลี่ยน 9. การเสนอข่าวทพ่ี าดพิงถึงสถาบนั กษตั ริย์ สถาบันกษัตริย์สําหรับประเทศไทยเป็นสถาบันสูงสุดที่ผู้คนให้การเคารพเทิดทูน การเสนอ ข่าวสารเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเป็นเร่ืองท่ีอ่อนไหวอย่างยิ่ง และส่งผลกระทบต่อจิตใจ ของคนในวงกว้าง การเสนอข่าวเก่ียวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ท่ีไม่ระมัดระวัง ไม่เพียงมีผลให้ต้อง ถูกดาํ เนินคดตี ามกฎหมายเท่านั้น หากยงั นํามาซงึ่ ความแตกแยกของคนในชาตดิ ้วย ในสถานการณค์ วามขัดแยง้ ของคนในสงั คมปัจจบุ ัน มักมีการนําเรอื่ งสถาบัน มาเป็นเครื่องมือ โจมตีกันเสมอ สื่อจึงพึงไม่ประมาท และใคร่ครวญก่อนเขียนว่าจะกลายเป็นส่ือในการขยายความ ขัดแย้ง หรือต้องรับผดิ ในข้อหาหมน่ิ สถาบนั หรอื ไม่ จริยธรรมในการสื่อข่าวและเขียนข่าวเป็นเรื่องที่นักข่าวต้องใช้วิจารณญาณและสํานึกของ ตนเอง ช่ังนํ้าหนักระหว่างความเหมาะควร กับสิทธิเสรีภาพท่ีได้รับ ด้วยเหตุว่า การกระทําผิดทาง จริยธรรมจะไม่มีการกําหนดบทลงโทษไว้อย่างชัดเจน แต่นักข่าวท่ีไม่มีจริยธรรมมักจะถูกตําหนิจาก สาธารณชน และผรู้ ่วมวชิ าชีพ กรณีตัวอย่าง ราชประสงค์ ข่าวยกทัพข่าวเช้า ทางช่อง PPTV HD36 ดําเนินรายการโดย บรรจง ชีวมงคลกานต์//รวิฌา ทงั สุบตุ ร//กาลเวลา เสาเรอื น จรรยาบรรณสื่อสารมวลชนสากล 1. ต้องกระทาํ ตนให้อยู่ในขอบเขตของความเหมาะสมมีกริยาดี (The bounds of decency) 2. ไมส่ รา้ งขา่ วข้นึ เอง (Do not attempt to make news) 3. ตอ้ งเสนอขอ้ เทจ็ จรงิ ทัง้ หมดแก่ผู้รับสาร (The truth and the whole truth) 4. ไม่กา้ วกา่ ยสิทธสิ ว่ นตวั ของบคุ คลอ่นื (Do not to invade the private rights) 5. ไมบ่ งั คับบคุ คลให้พูด (Do not to force individuals to speak) 6. ซ่ือสตั ย์ตอ่ บุคคลทีต่ ่อสเู้ พือ่ สงั คม (Play fair with a person against whom

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 129 derogatory charges) 7. ซ่อื สัตยต์ ่อบคุ คลที่นํามากลา่ วถงึ ในคอลมั น์ (Play fair with persons quoted in its columns) 8. รักษาไวซ้ ่ึงความลับของแหลง่ ข่าว (Keep the confidence of its news sources) 9. ไม่ปดิ บังอาํ พรางข่าวท่ีนาํ เสนอ (Do not suppress news) 10.ไม่ควรขายข่าว ขายคอลัมนเ์ พ่ือเงนิ หรอื ความพอใจส่วนตัว (Do not \"sell\" its news columns for money or courtesies) 11. ละเว้นจากการเขา้ ร่วมพรรคการเมือง (Refrain from allowing party politics) 12. ต้องบริการคนสว่ นรวม มิใชบ่ ริการคนกล่มุ ใดกลมุ่ หนึ่ง (Serve the whole society, not just one \"class\") 13. ชว่ ยตอ่ ส้แู ละปราบปรามอาชญากร (Fight and discourage crime) 14. ตอ้ งเคารพ และช่วยผดุงกฎหมายบ้านเมือง (Must respect and aid the law and the courts) 15. สรา้ งความสัมพันธ์อันดแี กช่ มุ ชน (Seek to build its community) 16. ไม่ทาํ ลายความสัมพันธ์ระหว่างญาตแิ ละเพอื่ นของผู้อืน่ (Not injure the relatives and friends) 17. คํานึงวา่ การหย่าร้าง การฆา่ ตัวตายนั้น เป็นปัญหาสังคมส่งิ หนง่ึ ไม่ควรเสนอข่าวไปในเชิง ไม่สภุ าพ (To recognize divorce, suicide as an unfortunate social problem) 18. อย่ากล่าวโจมตคี ่แู ข่ง (Do not attack on competitive) 19. อยา่ หวั เราะเยาะความวกิ ลจริต จิตทราม หรอื พลาดโอกาสของบคุ คล (Do not ridicule the insane or the feebleminded or misfortunes) 20. เคารพนบั ถือวัด โบสถ์ เช้อื ชาติ และเผ่าพันธุ์ของบคุ คล (Respect churches, nationalities and races) 21. หนา้ กีฬาควรเขียนถงึ ทุกๆ คน (Sports page is written for everybody) 22. แก้ไขขอ้ ผดิ พลาดทพี่ บในทนั ที (Be prompt in correcting errors) 23. จําไว้ว่าขา่ วที่นําเสนอน้ัน มีเยาวชนชายหญิงอ่านดว้ ย (Remember that the new is

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 130 read by young boys and girls) กรณีศึกษา 'ท็อปนิวส์' กราบขออภัย 'พระมหาไพรวลั ย์' เผยเหตผุ ล รายงานข่าวคลาดเคล่ือน⁣⁣ 30 พฤศจิกายน : เพจเฟซบ๊กุ \"ไพรวลั ย์ วรรณบุตร\" โพสตภ์ าพหนงั สอื จากกองบรรณาธกิ าร ข่าวออนไลน์ ท็อปนวิ ส์ เรื่อง กราบขออภัย \"พระมหาไพรวลั ย\"์ จากการรายงานขา่ ว คลาดเคลอ่ื น⁣⁣ จากกรณีที่เจ้าหนา้ ทีป่ ระจํากองบรรณาธกิ ารข่าวออนไลน์ ท็อปนวิ ส์ ทมี ข่าวเด่น ไดน้ าํ เสนอ ข่าวหวั ข้อเรื่อง \"รวยขนาดนี้ใช้ยังไงหมด!! พระมหาไพรวัลย์ บวช 18 ปี อู้ฟู่หลายร้อยล้าน!! ด้านพระ มหาสมปองเตรยี มมอบเวสปา้ เป็นของขวญั วนั สกึ \" เผยแพรท่ างเฟซบ๊กุ TOPNEWS เมื่อวันที่ 29 พ.ย.64 เวลา 17.45 น.⁣⁣ ทั้งน้ี กองบรรณาธิการข่าวออนไลน์ ได้กราบขออภัยพระมหาไพรวัลย์ และจะใช้ความระมัดระวังใน การนําเสนอข่าวสารให้มากกว่านี้ พร้อมกับทิ้งท้ายว่า ยังคงยืนยันยึดมั่นในมาตรฐานจริยธรรมในการ ดําเนนิ ข่าวต่อไป⁣⁣นอกจากนี้ พระมหาไพรวัลย์ ยังเขียนแคปชั่นเอาไว้ว่า \"ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากไป ช่วยเกลียดอาตมาให้น้อยลงกว่าน้ีอีกสักนิดเถอะนะ นี่คือส่ิงเดียวที่อาตมาอยากได้พร้อมๆ กับคําขอ อภยั ในครง้ั นี\"้ ⁣ พระมหาไพรวลั ย์เตอื นถา้ ไม่ขอโทษ จะฟอ้ ง สรยทุ ธ สทุ ัศนะจินดา กรรมกรขา่ ว เมอื่ พระมหาไพรวลั ย์ เตือนสือ่ … “หลงั อาตมาสกึ ทนายท่านไหนอยากได้เงนิ ไวเ้ ลย้ี งชีพ อาตมาจะมอบอํานาจให้นะ อาตมาจะ ฟ้อง เงินทไี่ ด้จากการฟอ้ งจากส่ือขยะ อาตมาจะไม่เอาสักบาท อาตมาจะมอบใหท้ นายทา่ นนั้น” “จะชอบจะชงั อาตมาไม่วา่ แต่อย่าทํารา้ ยกนั ดว้ ยความเท็จทีไ่ มจ่ ริงเลย อยา่ เป็นเหยอ่ื ของ ความเกลียดชัง อย่าเป็นเหยื่อของความอคติ อย่าทําร้ายใครเพียงเพราะเขาเห็นตรงกันข้ามกับเรา อาตมาจะรอการขอโทษอย่างเปน็ ทางการนะ แลว้ อาตมาจะยุติการดาํ เนินคดี”

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 131 สรุป ในปัจจุบันช่องทางการสื่อสารมีให้เลือกหลากหลายทาง และเดี๋ยวน้ีใครๆ ก็เป็นสื่อได้ เพียง แค่มีพื้นท่ี social media และสําหรับใครที่อยากเป็นนักสื่อสารมวลชน แต่ไม่ได้เรียนสายนิเทศ วารสารมาโดยตรง ก็อาจจะไม่คุ้นชินกับจรรยาบรรณสื่อเท่าไหร่นัก เพราะการสื่อสารไม่ใช่เรื่องของ การนําเสนอข้อมูลที่น่าสนใจ และถูกต้องเพียงเท่านั้น แต่ยังมีประเด็นท่ีอ่อนไหวอื่นๆ อีกมากมาย จรรยาบรรณของสื่อมวลชน หมายถึงหลักคุณธรรมของผู้ประกอบอาชีพนักส่ือสารมวลชน ท่ีสร้าง ขึ้นมาเพ่ือเป็นแนวทางปฏิบัติแก่ผู้ประกอบอาชีพนักส่ือสารมวลชนให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ ละเมดิ สิทธผิ ู้อนื่ รวมถึงกอ่ ให้เกดิ ประโยชน์แก่สังคมสูงสดุ จรรยาบรรณสื่อสากลทีน่ ่าสนใจมีทง้ั หมด 13 ข้อโดยสรุปดงั น้ี 1. ประพฤติ ปฏบิ ตั ิหน้าทใี่ ห้อยใู่ นขอบเขตท่เี หมาะสม 2. ไม่สรา้ งขา่ ว หรือเขยี นข้อมูลขน้ึ มาเอง 3. ข่าว และขอ้ มูลทน่ี ําเสนอทง้ั หมดต้องเปน็ ความจรงิ 4. ไม่นําเสนอข้อมูล แลว้ ไปละเมิดสทิ ธสิ ว่ นบุคคลของผู้อน่ื 5. นาํ เสนอขา่ ว ขอ้ มลู โดยใหค้ วามเป็นธรรมกับทกุ ฝ่าย 6. ไม่ปิดบงั อาํ พรางขา่ วที่ควรนาํ เสนอ 7. ไมข่ ายขา่ ว เพ่ือเอาไปใชห้ าเงิน ในทางไมช่ อบ 8. ไม่เข้าร่วมกบั พรรคการเมอื งฝา่ ยใด ฝ่ายหนง่ึ 10. นําเสนอข่าว และข้อมูลสําหรับคนทุกภาคส่วนในสังคม ไม่ใช่แค่กลุ่มใดกลุ่มหน่ึง โดยเฉพาะ 11. ไม่เหยียดเชอ้ื ชาติ ศาสนา และเผา่ พนั ธข์ุ องบคุ คล 12. พร้อมท่ีจะแก้ไขความผดิ พลาดเสมอ 13. การเสนอขา่ ว และข้อมูลตอ้ งคํานึงถงึ วา่ ยังมเี ยาวชนท่ีจะไดร้ ับรู้เรื่องราวเหลา่ นั้นอยูด่ ว้ ย ถ้าส่ือไม่มีความโปร่งใส สังคมก็พร้อมตรวจสอบ แล้วถ้าสื่อไม่ปฏิบัติตามแนวทางจรรยาบรรณที่วาง เอาไว้? สังคมก็พร้อมตรวจสอบการทํางานของส่ือเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลแบบนี้ ข้อมูลมี

132 ท่ีมาจากหลายแหล่ง ผู้รับสารสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูลได้จากหลายหลายช่องทาง ถ้า ส่ือไหนทํางานไมด่ ีกม็ สี ทิ ธโิ์ ดนแบนจากคนดู หรอื คนอ่านเหมอื นกนั ตวั อย่างการแบนส่อื กรณศี กึ ษาเนชน่ั ทวี ี จากกรณกี ารนําเสนอข่าวของช่องเนช่ันทีวี ที่ปล่อย คลิปเสียงของนักการเมืองออกมา แต่หลายคนก็ออกมาบอกว่านั่นเป็นคลิปเสียงตัดต่อ และก็เกิด คาํ ถามกับการทํางานของส่ือว่า ส่ือควรกล่ันกรองข้อมูลให้น่าเช่ือถือก่อนนําเสนอหรือไม่ จากน้ันกลุ่ม คนส่วนหนง่ึ ก็ออกมาเคลอื่ นไหว แสดงความไม่พอใจต่อการทํางานของนักข่าว จนทําให้เกิดกระแส # เนช่นั โป๊ะแตก #ถอนโฆษณาเนชั่น เนื้อหาของคลิปเสียงที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้ คือคลิปเสียงท่ีทําให้ เกิดความเข้าใจว่าเป็นเสียงของนายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ คุยกับนายทักษิณ ชินวัตร ซ่ึง นายธนาธรก็ออกมาปฏิเสธว่า เสียงในคลิปไม่ใช่ตนเอง และชาวเน็ตหลายคนก็ออกมายืนยันว่าคลิป เสียงนั้นเป็นคลิปตัดต่อ กลายเป็นว่า ความเชื่อใจของคนดูที่มีต่อข่าวช่องน้ีก็น่าจะลดน้อยลง น่ีก็เป็น ผลจากการทํางานที่ไมป่ ฏิบัติตามจรรยาบรรณ มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

133 คาถามทา้ ยบทท่ี 8 1. จริยธรรมหมายถงึ อะไร 2. จริยธรรมของการเป็นผ้ปู ระกอบการคืออะไร 3. ปัญหาจรยิ ธรรมสอ่ื ในปจั จบุ นั เปน็ อยา่ งไร 4. จรรยาบรรณสือ่ สารสากลมกี ่ขี ้อ อะไรบา้ ง 5. คนทาํ สื่อท่ขี าดจรยิ ธรรมจะเป็นเชน่ ไร 6. นักธรุ กิจส่ือท่ไี รจ้ ริยธรรมสง่ ผลอย่างไรต่อประชาชน 7. คาํ ว่าจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณ เหมือนหรือตา่ งกัน จงอธบิ าย 8. การควบคุมในทางจริยธรรมจะตอ้ งรบั โทษตามกฎหมาย หรอื ไมอ่ ยา่ งไร 9. ธรุ กิจสื่อท่ีประสบความสําเร็จมลี ักษณะอยา่ งไร 10. ธุรกจิ สื่อที่ล้มเหลวในการประกอบการเป็นอย่างไร มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 134 บรรณานุกรม เวบ็ ไซด์ วิกิพีเดยี . 2559. สือ่ ใหม่. (New Media New Media New Media). เข้าถึงจาก: https://th.wikipedia.org/wiki/สอ่ื ใหม่ พุทธวรรณ แก้วเกต.ุ 2556. เครอื ขา่ ยสงั คมออนไลน์ เขา้ ถึงจาก:http://phutthawan.blogspot.com วรวุฒิ อ่อนน่วม. 2555. ปรากฏการณ์ทางการสื่อสารยุคดิจิทัล: บทบาทใหม่ผู้รับสาร. เข้าถึงจาก: http://kmcenter.rid.go.th/kmc08/km_59/cop_59/mom.pdf วรวุฒิ อ่อนน่วม. 2555. ปรากฏการณ์ทางการสื่อสารยุคดิจิทัล: แนวโน้มทางการส่ือสารภายใต้ ป ร า ก ฏ ก า ร ณ์ ห ล อ ม ร ว ม ส่ื อ . เ ข้ า ถึ ง จ า ก : ป ร า ก ฏ ก า ร ณ์ ห ล อ ม ร ว ม สื่ อ . http://kmcenter.rid.go.th/kmc08/km_59/cop_59/mom.pd อดศิ กั ด์ิ จาํ ปาทอง มหาวทิ ยาลัยเนชั่น. Digital Sphere โลกยคุ ใหม่ของสอ่ื ดจิ ทิ ัล. เขา้ ถึงจาก: http://www.nation.ac.th/courseworksdetail.php?main=7/19/134/148&content=255 อตุ สาหกรรมแห่งประเทศไทย. (2542). จรรยาบรรณของผูป้ ระกอบการอุตสาหกรรม. เข้าถึงจาก: http://www.internet1.off.fti.or.th/จรรยาบรรณ/จรรยาบรรณ ผู้ประกอบการ. ภาษาไทย ณฐั วุฒิ วิเศษ. (2555). ปจั จัยในการดาํ เนินธุรกจิ ของการเปน็ ผปู้ ระกอบการธรุ กจิ ขนาดกลางและ ขนาดยอม ( ่ SMEs) จงั หวัดนนทบรุ ี. คณะบริหารธรุ กจิ วิทยาลัยราชพฤษ์.

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 135 ผุสดี รมุ าคม. (2538). การบริหารธรุ กจิ ขนาดย่อม. พิมพ์คร้งั ที่ 4 กรุงเทพฯ : ฟิสกิ ส์เซน็ เตอร์. ศิริวรรณ เสรรี ัตน์และคณะ. (2549).การวจิ ัยการตลาด. กรุงเทพฯ: บรษิ ทั ธรรมสาร จํากัด. สถิต นิยมญาติ. (2546).โครงการคุณลักษณะของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวที่ประสบ ความสําเรจ็ . กรงุ เทพมหานคร: สถาบนั พัฒนาวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม สภา เสน่ห์จยุ้ โต. (2549). พจนานกุ รมสมรรถนะ(Competency Dictionary) บริษทั ขนสง่ จํากดั (มหาชน). สธุ ี พนาวร และอภชิ าต สริ ผิ าติ. (2548). คมู่ ือการจัดตั้งธุรกจิ ขนาดเลก็ . กรงุ เทพมหานคร : BUSY-DAY สุภาคย์ อนิ ทองคง. (2550). การศกึ ษา คือ การพฒั นาชวี ิต:กรณกี ารออม เศรษฐกจิ พอเพยี งและการ ทําบัญชีครัวเรือน. สืบค้นจากhttp://www.thaingo.org/writer/view.php?id=376 (เม่ือวันท่ี 12 ธนั วาคม 2559) สุมาลี จิวะมิตร. (2541). การบริหารการเงิน เล่ม (2). กรุงเทพมหานคร : ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. สรุ ชยั ภัทรบรรเจิด. (2552). โครงการศึกษาวิเคราะห์เตือนภัย SMEs รายสาขา (SAW). สืบค้นเมื่อ 20 เมษายน 2554, จากhttp://www.oknation.net สุรศักดิ์ อํานวยประวิทย์. (2559). กลยุทธ์การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาด กลางและขนาดย่อมในเขตพ้ืนท่ีกรุงเทพมหานคร. ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขานโยบาย สาธารณะและการจัดการ มหาวทิ ยาลัยเกษมบัณฑติ . ภาษาอังกฤษ Allen J.Scott (2005) ใน Hollywood: The Place The Industry สาํ นกั พมิ พ์มหาวิทยาลัยพรินซ์ตนั Arnab Jan Deka (27 ต.ค. 1996) บิดาแห่งภาพยนตร์อินเดีย Bhatawdekar และ Torney , Dainik Asam

136 Firoze Rangoonwalla (1979) ภาพประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์อินเดีย The Hamlyn Publishing Group Limited Robertson, Patrick (1988) The Guinness Book of Movie Facts & Feats . ลอนดอน: Guinness Publishing Limited Sanjit Narwekar (1995) Marathi Cinema: In Retrospect , Maharashtra Film, Stage & Cultural Development Corporation Ltd. บาร์คินจอร์แดน 25 เมษายน 2021 \"When you enjoy Oscar Night, America Wins\". USA Today ออนไลน์, ลิงก์ภายนอก คมู่ อื การสรา้ งภาพยนตร์ wikibook หอดูดาวแห่งยุโรป สถิติอตุ สาหกรรมภาพยนตร์ มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง