มหา ิวทยาลัยราชภัฏหมู่ ้บานจอมบึง สภาพการประกอบอาชพี นกั ดนตรสี ากลในจังหวดั ราชบรุ ี วชั ระ แสนเดช งานวิจัยนไี้ ดผ้ า่ นการพจิ ารณาจากมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั หมบู่ า้ นจอมบึง และไดร้ ับทนุ อุดหนนุ การวจิ ยั จากมหาวิทยาลัยราชภฏั หม่บู ้านจอมบึง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 มหาวิทยาลัยราชภฏั หม่บู า้ นจอมบึง พ.ศ. 2565 ลขิ สิทธ์ิเป็นของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมบู่ ้านจอมบึง
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง สภาพการประกอบอาชพี นกั ดนตรสี ากลในจังหวดั ราชบรุ ี วชั ระ แสนเดช งานวิจัยนไี้ ดผ้ า่ นการพจิ ารณาจากมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั หมบู่ า้ นจอมบึง และไดร้ ับทนุ อุดหนนุ การวจิ ยั จากมหาวิทยาลัยราชภฏั หม่บู ้านจอมบึง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 มหาวิทยาลัยราชภฏั หม่บู า้ นจอมบึง พ.ศ. 2565 ลขิ สิทธ์ิเปน็ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมบู่ ้านจอมบึง
การวิจยั เรื่อง สภาพการประกอบอาชพี นักดนตรสี ากลในจงั หวัดราชบรุ ี ผูว้ จิ ัย อาจารย์วชั ระ แสนเดช คณะ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ สถาบนั มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏหมบู่ ้านจอมบึง ปีการศกึ ษา 2565 บทคัดย่อ มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง การศกึ ษาเรื่อง “สภาพการประกอบอาชีพนักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรี” มีวัตถุประสงค์ เพื่อทราบความเป็นมา ลักษณะของวงดนตรีสากลท่ีใช้บรรเลงเพ่ือการประกอบอาชีพในอดีตและ ปจั จุบัน สภาพการบรรเลงดนตรีสากล การขับร้อง การจัดแสดงดนตรีสากล และสภาพการใช้ดนตรี สากลเพอื่ การประกอบอาชพี ของนักดนตรสี ากลในจังหวัดราชบุรี จากการศึกษาพบว่าจังหวัดราชบุรีมีการก่อตั้งวงดนตรีสากลเพื่อใช้ประกอบอาชีพมากว่า 50 ปี ในปัจจุบันมีวงดนตรีสากลหลากหลายประเภทจัดแสดงในสถานท่ีต่าง ๆ นักดนตรีส่วนใหญ่ ฝึกหดั การบรรเลงดนตรดี ว้ ยตนเอง โดยจัดซ้อื เครือ่ งดนตรีและอปุ กรณป์ ระกอบการบรรเลง เพลงท่ีใช้ บรรเลง ได้แก่ เพลงปอ๊ ปปูลาร์ เพลงเพ่ือชีวิต เพลงสากล เพลงลูกทุ่ง เพลงราวงย้อนยุค เป็นต้น นัก ดนตรสี ากลสว่ นใหญป่ ระกอบอาชพี นกั ดนตรสี ากลเป็นอาชพี รอง มีรายไดจ้ ากการบรรเลงดนตรีในแต่ ละเดือนท่ีไม่แน่นอนโดยมีต้ังแต่เดือนละ 1,400 – 30,000 บาท การติดต่อว่าจ้างวงดนตรีสามารถ ติดต่อหัวหน้าวงดนตรี และนักดนตรี นักดนตรีสากลมีความเช่ือเกี่ยวกับส่ิงศักด์ิสิทธิ์เพื่อความ ปลอดภัย ความสาเร็จในการประกอบอาชีพ และมีความคิดเห็นที่ดีเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ นักดนตรสี ากล ปัญหาในการประกอบอาชีพนักดนตรีสากลเกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่ การรบกวน และ การทะเลาะวิวาทของผู้ฟังผู้ชม นักดนตรีขาดความรับผิดชอบ ผู้ว่าจ้างขาดความเข้าใจในดนตรีและ อุปกรณ์สาหรับการบรรเลงดนตรี สถานท่ี สภาพอากาศ และปัญหาโรคระบาดโควิด – 19 ซ่ึงบาง สาเหตเุ ปน็ ปจั จัยภายนอกที่นกั ดนตรีไม่สามารถควบคุมได้ ทาให้มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดารงชีวิต
ข ไม่สามารถประกอบอาชีพนักดนตรีเป็นอาชีพหลักได้ มีความเส่ียงจากภัยอันตราย และอาจประสบ ปัญญาทางด้านครอบครวั ผูว้ ิจัยขอเสนอใหน้ ักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรีต้องพัฒนาตนเองอยู่สม่าเสมอ ปรับตัวให้ ทันต่อการเปล่ียนแปลงของความนิยม รู้จักการดูแลตนเอง เก็บออมเงินไว้ใช้ในอนาคต และหาแนว ทางการพฒั นาทกั ษะการประกอบอาชีพดา้ นอนื่ ควรมีการสร้างเครือข่ายของนักดนตรีสากลเพ่ือเป็น ชอ่ งทางในการพดู คุย ปรกึ ษา แลกเปล่ียนความคิดเหน็ แกไ้ ขปัญหา และจดั กิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความ เหมาะสม มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง
ค Research Title: Occupational Conditions of Musicains in Ratchaburi Province Researcher: Watchara Sandet Faculty: Humanity and Social Sciences มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง Institute: Muban Chom Bueng Rajabhat University Year: 2022 ABSTRACT The study of “the status quo of a western musician in Rachaburi province” aims to understand a background, characteristics of western music bands using for their living in past and present, characteristics of producing western music, singing, exhibiting western music and conditions of performing western music in their occupation in Rachatburi province. The study found that, in the Rachaburi province, western music bands have been established for over fifty years. At the present, there are many types of western music bands performing in different places. A majority of musicians practice by themselves, and they buy all instruments and musical props, such as popular songs, Thai folk songs, western songs, country songs, and old Thai-dancing songs, to name a few. A majority of Western musicians carry western musicians as the second occupation. An income from playing music is uncertain in each month from 1,400 to 30,000 Baht. A contact for playing a music can be made via a leader of the band. The musicians have some spiritual believes for a safety, success in carrying the occupation, and positive opinion toward this music occupation.
ง Problems in carrying western musicians can be occurred from various factors, such as disturbing and fighting from the audiences, an irresponsibility of the musicians, a misunderstanding of the employers towards music and musical instruments, places, weather, and a pandemic of Covid-19 becoming an uncontrollable external factors. The musicians have not enough cost of living and cannot carry this occupation as a primary job. It also causes some risks and family issues for the musicians. The researcher suggests that the musicians in Rachatburi province must often develop themselves and adapt for any change. They must understand themselves, save some money for their future, develop other skills for other jobs. Expanding a musician’ networks can become a channel for talking, consulting, exchanging ideas. Solving any problems and arranging any proper activities. มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง
จ กิตติกรรมประกาศ การศกึ ษางานวจิ ยั เร่ือง “สภาพการประกอบอาชีพนักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรี” สาเร็จ ได้เป็นอย่างดเี นอ่ื งจากไดร้ ับความอนเุ คราะหจ์ ากหัวหน้าวงดนตรี และนักดนตรีสากลประเภทวงต่าง ๆ ไดแ้ ก่ วงสตริง วงโฟลค็ ซอง วงสตริงคอมโบ วงราวงย้อนยุค และนักดนตรีอิสระ ผู้วิจัยรู้สึกซาบซ้ึง ในมิตรไมตรีของหัวหน้าวงดนตรี และนักดนตรีสากลทุกท่านที่ให้การต้อนรับ ให้ข้อมูลจากการ สัมภาษณ์ การสงั เกตการณเ์ ปน็ อยา่ งดี ผู้วิจัยขอขอบคุณหัวหน้าวงดนตรี และนักดนตรีสากลทุกท่านท่ีเสียสละเวลาให้ข้อมูลการ สมั ภาษณ์ สาธติ การบรรเลง และเชิญชวนผู้วิจยั เข้าสังเกตการณ์กจิ กรรมตา่ ง ๆ ของวงดนตรี ผู้วิจัยจะ พยายามนาข้อมูลที่ค้นพบจากการศึกษานามาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการศึกษา และต่อวงการดนตรี สากลในจงั หวดั ราชบรุ ตี อ่ ไป ผวู้ ิจยั หวงั เป็นอย่างยิ่งวา่ ขอ้ มูลจากการศึกษาครง้ั นจ้ี ะเปน็ ประโยชน์ต่อวงวิชาการทางดนตรี สากล และขอขอบคุณมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง รองศาสตราจารย์พีระชัย ลี้สมบูรณ์ผล และผ้ใู หก้ ารสนับสนนุ ทุกท่านที่ให้กาลังใจ ใหค้ วามอนเุ คราะหด์ า้ นต่าง ๆ ด้วยดเี สมอมา มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง วัชระ แสนเดช ผวู้ ิจยั
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง สารบญั ฉ บทคัดยอ่ ภาษาไทย หน้า บทคัดยอ่ ภาษาอังกฤษ กติ ติกรรมประกาศ ก สารบัญ ค สารบัญภาพ จ ฉ บทท่ี 1 บทนา ฌ ความสาคัญและที่มาของปัญหา วัตถปุ ระสงคง์ านวจิ ยั 1 โจทย์วจิ ัย 1 กรอบแนวคดิ 2 ขอบเขตการวิจัย 2 ข้อตกลงเบื้องต้น 3 วธิ ดี าเนนิ การวจิ ยั 3 ระยะเวลาทาการวิจัย 3 ผลที่คาดวา่ จะไดร้ บั 4 4 บทท่ี 2 วรรณกรรมและงานวจิ ยั ท่เี ก่ยี วขอ้ ง 4 ราวงย้อนยคุ เพลงลูกทงุ่ 5 เพลงเพอ่ื ชีวิต 5 ดนตรสี มยั นยิ ม 8 การระบาดของเชือ้ ไวรสั โควดิ – 19 11 15 17
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบงบทที่ 3 วิธีดาเนินการวจิ ัย ช ประชากร การสัมภาษณ์ หน้า การสังเกตการณ์ การวเิ คราะห์ข้อมูล 19 19 บทที่ 4 สภาพการประกอบอาชีพนกั ดนตรสี ากลในจังหวัดราชบุรี 19 ความเป็นมาของวงดนตรสี ากลในจงั หวัดราชบุรี 20 ประเภทวงดนตรีสากลท่ใี ช้บรรเลงเพือ่ การประกอบอาชีพ 20 การฝึกหดั ฝึกซอ้ มของนกั ดนตรีสากลในจังหวดั ราชบรุ ี การบรรเลงดนตรีสากลเพ่ือการประกอบอาชีพ 21 การขบั รอ้ งประกอบการบรรเลง 21 ความนยิ มของผู้ฟงั ผู้ชม 32 การประกอบอาชีพของนักดนตรสี ากลในจงั หวัดราชบุรี 37 การรบั งานบรรเลงดนตรีสากล 44 ความเช่อื ของนกั ดนตรสี ากลในจังหวัดราชบุรี 57 ความคดิ เหน็ ทีม่ ีต่อการประกอบอาชพี นกั ดนตรีสากล 60 สภาพปัญหาในการประกอบอาชพี นกั ดนตรสี ากล 64 แนวทางการแก้ไขปญั หาในการประกอบอาชีพนกั ดนตรีสากล 71 73 บทที่ 5 สรุป อภปิ รายผลการศกึ ษา และข้อเสนอแนะ 74 สรุปผลการศึกษา 76 อภปิ รายผลการศึกษา 80 ข้อเสนอแนะแนวทางการแกไ้ ขปญั หา 85 บรรณานุกรม 85 95 ภาคผนวก 98 104 106
ซ หน้า ภาคผนวก ก รายชื่อผูใ้ ห้สมั ภาษณ์ 107 ภาคผนวก ข เอกสารรบั รองโครงการวจิ ยั (Certificate of Approval) โดย คณะกรรมการจริยธรรมการวจิ ัยในคน มหาวิทยาลัยรังสติ (ภาษาไทย) 108 มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง ภาคผนวก ค เอกสารรบั รองโครงการวจิ ยั (Certificate of Approval) โดย คณะกรรมการจรยิ ธรรมการวจิ ัยในคน มหาวิทยาลัยรงั สิต (ภาษาองั กฤษ) 109 ประวัติผู้วจิ ัย 110
ฌ สารบญั ภาพ ภาพท่ี 1 วงหนิ กองคอมโบ้ ไดร้ บั รางวัลชนะเลศิ การประชนั ราวงย้อนยคุ หน้า ในปี พ.ศ. 2554 29 ภาพท่ี 2 การบรรเลงวงโฟล์คซอง โดยวงยอดชาย 34 ภาพที่ 3 การบรรเลงกลองไฟฟ้ารว่ มกบั วงโฟลค์ ซอง โดยนายวงศกร บรบิ ูรณ์ 34 ภาพท่ี 4 การรวมตัวบรรเลงดนตรีของนกั ดนตรอี ิสระในการบรรเลงนอกสถานท่ี 37 ภาพท่ี 5 การฝึกซอ้ มคียบ์ อร์ด โดยนายชมุ พร แสนเสน 42 ภาพที่ 6 การฝึกซอ้ มแอคคอรเ์ ดยี น โดยนายชุมพร แสนเสน 42 ภาพท่ี 7 โนต้ เพลงท่จี ดบันทกึ จากการฟงั เพลงต้นฉบบั โดยนายวหิ าร มุสิกวฒั ร์ 43 ภาพท่ี 8 การถ่ายทอดสดการบรรเลงดนตรผี ่านสอื่ สงั คมออนไลน์ โดยวง 3Doors 84 มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง บทที่ 1 บทนา ความสาคัญและท่ีมาของปญั หา ดนตรีสากลได้แพร่กระจายผ่านสื่อสังคมต่าง ๆ ท่ีทันสมัย และรวดเร็ว ทาให้ดนตรีสากล เข้าถึงผู้คนทั่วทุกมุมโลก ดนตรีสากลเป็นสื่อที่สาคัญในการสร้างสุนทรียะให้แก่ผู้ฟัง ก่อให้เกิดความ สนุกสนาน สงบ ผ่อนคลาย และความคิดสร้างสรรค์ ดนตรีสากลยังเป็นตัวบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอดีต เชน่ ดนตรเี พอ่ื ชวี ิตทบี่ อกเลา่ ถงึ เหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ ในสงั คม หรือดนตรีลูกทุ่งท่ีบอกเล่าถึงสภาพ การใช้ชีวิตของผู้คนในอดตี นอกจากนนั้ ดนตรสี ากลยังสร้างอาชีพใหแ้ กผ่ ทู้ ่ีช่ืนชอบในดนตรีสากล และ มคี วามสามารถในการบรรเลงเคร่อื งดนตรีสากล จนสามารถใช้เปน็ อาชีพหลักได้ โดยสถานที่ประกอบ อาชีพของนักดนตรีสากลส่วนใหญ่บรรเลงในร้านอาหาร โรงแรม สถานท่ีท่องเที่ยว เวทีการแสดง งานเทศกาล งานแตง่ งาน งานบวช และงานเลย้ี งฉลองตา่ ง ๆ เปน็ ตน้ ในอดีตจังหวัดราชบุรีมีการว่าจ้างวงดนตรีในรูปแบบวงสตริงคอมโบ หรือวงสตริง ซ่ึงมี จานวนนกั ดนตรีต้ังแต่ 4 - 10 คน เมือ่ มีการเปลย่ี นมาใช้อิเลก็ โทน (Electone) ทาให้จานวนนักดนตรี ในการจ้างลดลงเหลือ 1 - 3 คน ต่อมามีการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เพ่ือเปิดโปรแกรมเพลงท่ีเรียกว่า “คาราโอเกะ” (Karaoke) แทนการจ้างวงดนตรีในร้านอาหาร เพราะร้านอาหารจะได้เงินจากลูกค้า เพิ่มขึ้นจากการขอเปิดเพลงจากโปรแกรมคาราโอเกะ หรือได้ค่าบริการเพ่ิมขึ้นจากการเลือกใช้ หอ้ งอาหารทม่ี ีอุปกรณท์ ใ่ี ช้เปดิ เพลงด้วยโปรแกรมคาราโอเกะ นอกจากนั้นการให้ความสาคัญต่อการ บรรเลงดนตรสี ากลลดน้อยลง เช่น คุณภาพการบรรเลง ลักษณะของวงดนตรี เน่ืองจากอัตราค่าจ้าง หากมีนักดนตรีหลายคนต้องใช้เงินค่าจ้างสูง เมื่อใช้นักดนตรีจานวนน้อยอัตราค่าจ้างถูกลง บวกกับ ผูฟ้ ังผชู้ มไม่ได้ให้ความสาคญั ต่อคณุ ภาพของดนตรี ไม่ไดใ้ หค้ วามสาคญั ต่อสนุ ทรยี ะทางดนตรี (พีระชัย ลีส้ มบรู ณผ์ ล. 2552, หนา้ 115 - 117) ในปัจจบุ ันจังหวดั ราชบรุ มี ีการประกอบอาชพี นักดนตรีสากลเป็นจานวนมาก มีลักษณะของ วงดนตรหี ลากหลาย มีข้ันตอนการบรรเลงที่แตกต่างกันในการจัดแสดงดนตรีสากลในสถานท่ีต่าง ๆ ปัญหาท่ีพบคือ ร้านอาหารท่ีมีการบรรเลงดนตรีสากลจานวนมากขาดความมั่นคง มักเปิดให้บริการ 1 – 2 ปี และปิดกิจการลง มีการทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่นในร้านอาหาร และในงานประจาปี
2 นักดนตรีบางรายขาดความพร้อมในการบรรเลง มาบรรเลงไม่ตรงเวลา มีความเหนื่อยล้า บางคร้ัง วงดนตรมี กี ารเปลี่ยนแปลงนกั ดนตรี จานวนนกั ดนตรี และลักษณะของวงดนตรีในการบรรเลง ผู้วิจัย จึงสนใจศึกษาเรื่อง “สภาพการประกอบอาชีพนักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรี” โดยศึกษาตาม กระบวนการวิจัยเชิงคณุ ภาพ วัตถปุ ระสงคก์ ารวิจัย 1. เพื่อทราบความเป็นมาของวงดนตรีสากล ลักษณะของวงดนตรีสากลท่ีใช้บรรเลง เพื่อการประกอบอาชีพในอดีตและปัจจบุ ันของนกั ดนตรีสากลในจังหวัดราชบรุ ี 2. เพื่อทราบสภาพการบรรเลงดนตรีสากล การขับร้อง และการจัดแสดงดนตรีสากล เพ่ือการประกอบอาชีพของนักดนตรีสากลในจังหวดั ราชบรุ ี 3. เพ่ือทราบสภาพการใชด้ นตรสี ากลเพอ่ื การประกอบอาชีพ ปัญหา และแนวทางการแก้ไข ปญั หาในการประกอบอาชีพของนกั ดนตรสี ากลในจังหวัดราชบรุ ี โจทย์วจิ ัย 1. ความเป็นมาของวงดนตรีสากลในจงั หวัดราชบุรี เปน็ อยา่ งไร 2. สภาพการบรรเลงดนตรีสากลเพ่ือการประกอบอาชพี เป็นอย่างไร 3. สภาพการขับร้องเพือ่ การประกอบอาชีพ เป็นอยา่ งไร 4. สภาพการจดั แสดงดนตรีสากลเพ่ือการประกอบอาชีพ เป็นอยา่ งไร 5. สภาพการใช้ดนตรสี ากลเพ่ือการประกอบอาชีพ เปน็ อย่างไร 6. ปญั หาในการประกอบอาชีพนกั ดนตรสี ากล เปน็ อยา่ งไร มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง
3 กรอบแนวคดิ ดนตรสี ากล นกั ดนตรีสากล - การประกอบอาชพี ในจงั หวดั ราชบรุ ี - การฝึกหัด/ฝึกซ้อม นกั ดนตรีสากล - เครือ่ งดนตรี - สภาพความเป็นอยู่ - วงดนตรี - ปญั หาการประกอบอาชพี - รูปแบบการแสดง นกั ดนตรสี ากล มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง แนวทางการแก้ไขปญั หา การประกอบอาชีพนกั ดนตรีสากล ขอบเขตการวิจัย การศึกษาเร่ือง “สภาพการประกอบอาชีพนักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรี” มีขอบเขต การศึกษาดงั น้ี 1. ด้านพื้นที่ ศึกษาผู้ประกอบอาชีพนักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรี ไม่นับรวมนักดนตรี สากลในสถานศึกษา หน่วยงานราชการ และนักดนตรีพื้นบ้านอื่น ๆ เช่น แตรวงชาวบ้าน แคนวง แตรแห่ หรอื แตรร้อง เป็นตน้ 2. ด้านเน้ือหา ศึกษาผู้ประกอบอาชีพนักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรี ได้แก่ นักดนตรี ประจาวงดนตรี นกั ดนตรอี ิสระ นาผลการศึกษามาวเิ คราะห์ และหาแนวทางแก้ไขปญั หาการประกอบ อาชีพนกั ดนตรสี ากลในจงั หวัดราชบรุ ี 3. ด้านเวลา ใชร้ ะยะเวลาในการศึกษา 1 ปี 10 เดอื น ขอ้ ตกลงเบื้องตน้ การวิจัยคร้ังนี้เป็นการศึกษาสภาพการประกอบอาชีพนักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรี ไมน่ บั รวมนักดนตรีสากลในสถานศึกษา หน่วยงานราชการ และนักดนตรีพื้นบ้านอื่น ๆ เช่น แตรวง ชาวบา้ น แคนวง แตรแห่ หรือแตรรอ้ ง เปน็ ต้น
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 4 วธิ ดี าเนินการวจิ ยั 1. ศึกษาข้อมูลโดยการสัมภาษณ์แบบไม่เป็นทางการในประเด็นเก่ียวกับความเป็นมา การฝึกซ้อม การบรรเลง การใช้เคร่ืองดนตรีเพ่ือการประกอบอาชีพ เพลงท่ีใช้ในการบรรเลง สภาพ ความเปน็ อยู่ สภาพปญั หาในการประกอบอาชพี และแนวทางการแก้ไขปญั หา โดยสมั ภาษณ์นักดนตรี สากลในจงั หวัดราชบรุ ี 2. ศกึ ษาโดยใชว้ ิธีสังเกตการณ์แบบไม่มีส่วนร่วม โดยสังเกตการณ์บรรเลงดนตรีสากลจาก วงดนตรีประเภทต่าง ๆ คอื วงสตริงคอมโบ วงสตริง และวงอคูสติก สังเกตสภาพการประกอบอาชีพ สภาพการฝึกซ้อม สภาพความเป็นอยู่ของนกั ดนตรี และสภาพการณ์ท่ีเกี่ยวข้อง 3. ศึกษาโดยการสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วม โดยเข้าร่วมการฝึกซ้อมเพ่ือศึกษาข้อมูล เกยี่ วกบั การบรรเลง 4. บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวการบรรเลงของนักดนตรีสากล สภาพการประกอบ อาชีพ ความเป็นอยู่ และขอ้ มูลที่เก่ียวขอ้ ง 5. วเิ คราะหข์ อ้ มลู ตามระเบียบวิธวี ิจัยเชิงคณุ ภาพ ระยะเวลาทาการวจิ ยั ใชร้ ะยะเวลาในการศกึ ษา 1 ปี 10 เดอื น (เดอื นตุลาคม 2562 – กรกฎาคม 2564) ผลท่คี าดวา่ จะได้รับ 1. ได้รวบรวมข้อมูลประเด็นที่เก่ียวข้องกับการประกอบอาชีพนักดนตรีสากลในจังหวัด ราชบุรี 2. นาผลการศกึ ษามาเปน็ แนวทางในการแก้ไขปญั หาการประกอบอาชพี ของนกั ดนตรีสากล ในจงั หวัดราชบุรี
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง บทที่ 2 วรรณกรรมและงานวจิ ยั ทเี่ กี่ยวข้อง การศึกษาเร่อื ง สภาพการประกอบอาชีพนกั ดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรี มีประเด็นความรู้ ทีค่ วรศกึ ษาจากเอกสาร ตารา และงานวิจัยต่าง ๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกับเร่อื งราวทตี่ อ้ งศึกษา ดังตอ่ ไปนี้ - ราวงยอ้ นยคุ - เพลงลกู ทุง่ - เพลงเพ่ือชีวติ - ดนตรีสมยั นิยม - การระบาดของเชอื้ ไวรสั โควิด – 19 ราวงยอ้ นยคุ 1. ความเปน็ มา ศิลปะแห่งการราวงได้พัฒนามาจากการราโทน ซ่ึงเป็นการละเล่นพ้ืนเมืองของชาวไทย ท่ีนิยมเล่นกันในช่วงเทศกาลท้องถิ่นในบางจังหวัด เครื่องดนตรีประกอบด้วย ฉ่ิง ฉับ และโทน โดยส่วนใหญ่บรรเลงจังหวะหน้าทับท่ีสร้างขึ้นมาเพ่ือประกอบการฟ้อนราโดยเฉพาะ จึงเรียกฟ้องรา ประเภทนีว้ ่า “ราโทน” มาต้ังแต่อดีต ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2473 มีการนาราโทนไปเล่นในท้องถ่ิน อื่น ๆ และเล่นกันตลอดไม่เฉพาะในฤดูเทศกาล จึงทาให้มีผู้นาไปเล่นกันแพร่หลายในจังหวัดต่าง ๆ มีผู้คิดแต่งบทร้องและแต่งทานองเพลงให้เข้ากับจังหวะหน้าทับของโทนท่ีใช้อยู่เดิม บทขับร้องโดย ปกตเิ ปน็ บทเชิญชวน บทหยอกเย้า บทชมโฉม และบทราพันรักระหว่างหนุ่มสาวตลอดจนบทพลอด พรา่ ล่าลาจากกนั เมอื่ จะเลิกเล่น บทร้องท่ีใช้จะไม่พิถีพิถันในการใช้คาและสัมผัสมากนัก จะมีบทร้อง ใหม่ เกดิ ขนึ้ ตลอดเวลา โดยไม่ทราบวา่ ใครเผน็ ผู้แตง่ บทร้องและทานองเพลง เม่ือมีบทร้องใหม่เกิดข้ึน บทเกา่ กเ็ สอื่ มความนิยมลง บางบทก็สูญหายไปจากความทรงจา พ.ศ. 2487 รัฐบาลไทยได้มอบให้กรมศิลปากรพิจารณาปรับปรุงการเล่นราโทนข้ึนใหม่ เพือ่ เชิดชูศิลปะการละเล่นราโทนให้มีระเบียบแบบแผนตามแบบฉบับนาฏศิลป์ไทย กรมศิลปากรจึง สร้างบทรอ้ งขึน้ ใหม่ 4 บท โดยปรบั ปรงุ ทานองเพลงและเครือ่ งดนตรีทใ่ี ช้ประกอบการละเล่นพรอ้ มท้ัง จัดท่าราให้งดงามถูกต้องตามแบบฉบับนาฏศิลป์ไทย แต่ท่าราเหล่านี้ก็เพียงแต่กาหนดไว้เป็นแบบ
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 6 มาตรฐานเทา่ นั้น ผู้สันทัดทางนาฎศลิ ปอาจเปลยี่ นแปลกท่าราไปได้ตามควมเหมาะสม ส่วนผู้ท่ีรักสนุก และตอ้ งการรว่ มเลน่ ราวง แต่ไม่ถนัดทางนาฏศิลป์ ก็สามารถเข้าร่วมราเพ่ือความบันเทิงได้ เพียงแต่ รักษาจังหวะเทา้ และการเคลื่อนไหวลาตวั ให้เข้ากับจังหวะดนตรีและบทขบั รอ้ งของแต่ละเพลง ในการ ปรบั ปรงุ คร้ังนนั้ กรมศิลปากรได้เปลีย่ นช่ือ “ราโทน” มาเป็น “ราวง” โดยเหน็ ว่าผ้เู ลน่ ส่วนใหญ่ร่วมวง กันเล่น หรือรามีการเคลื่อนที่เป็นวง ในระยะต่อมา ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม ได้กรุณาช่วย แต่งบทรอ้ งให้ใหมอ่ กี 6 บท (กรมศิลปากร, 2505, หนา้ 7 - 8) 2. พฒั นาการของราวง ประมาณปี พ.ศ. 2500 เป็นช่วงท่ีเพลงลูกทุ่งเร่ิมเป็นท่ีนิยมและถูกนามาขับร้อง ประกอบการราวงกันอย่างแพร่หลาย มีการนาเครื่องเสียงเคร่ืองดนตรีประกอบการเล่นมากขึ้น ในยุคน้ีได้มีการจัดให้รากันบนเวที โดยการนาถังน้ามันขนาด 200 ลิตรหรือขอนตาลมาหนุนพื้นเวที แล้วปูพน้ื ดว้ ยกระดานไม้ มีการตกแตง่ ดว้ ยสายรุ้งหลากสี ซุม้ ทางมะพร้าว เพือ่ ความสวยงาม ดึงดูดใจ ผู้ชม ในยุคสมัยน้ันเริ่มมีคณะนางราและการขายบัตรเพื่อขึ้นไปราวง นางราคณะหน่ึงจะมีประมาณ 15 – 20 คน ส่วนใหญ่เป็นสาวที่มีอายุและวัยรุ่นบ้าง ทุกคนจะแต่งตัวเหมือนกันด้วยชุดที่มีสีสัน สวยงาม กระโปรงสามช้ันจีบรอบ เส้ือมีแขนมิดชิด เคร่ืองประดับเล็กน้อยตามความเหมาะสม นางราแต่ละคนจะมีหลายเลขติดประจาตัว บัตรราวงจาหน่ายในราคา 1 บาท เมื่อผู้ชมถูกใจนางราก็ จะซื้อบตั ร และขอราด้วยอย่างสุภาพ ผู้ชมกับนางราจะจับคู่กันราไปจนจบเพลง ส่วนใหญ่มักเรียกว่า “หมดรอบ” หรอื ภาษาชาวบา้ นเรยี กวา่ “1 กระเบ่ือง” รอบหน่ึงใชเ้ วลาประมาณ 3 – 4 นาที เมื่อจบ รอบกองเชียร์ราวงจะเป่านกหวีดเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าหมดรอบ นอกจากน้ันยังมีกระดานสาหรับ เขียนช่ือนางราที่ผู้ชมมีความช่ืนชอบ นางราเป็นปัจจัยสาคัญที่จะดึงดูดผู้ชมให้ซื้อบัตรข้ึนมาราวง นอกจากความสามารถในการราในจังหวะต่าง ๆ แล้ว รูปร่าง หน้าตา และชุดของนางราก็เป็นเสน่ห์ เฉพาะตัวทีส่ ร้างความประทับใจใหก้ บั ผ้ชู ม (กฤษฎา สรุ ิยวงศ์, 2563, หน้า 182 - 183) 3. การเสือ่ มความนยิ มของราวง ประมาณปี พ.ศ. 2530 การจัดราวงมีการทะเลาะวิวาทกันระหว่างผู้ชมอยู่บ่อยครั้ง เพราะจุดท่ีดึงดูดผชู้ มคือนางรา นางราในยุคนั้นส่วนมากเป็นวัยรุ่น มีรูปร่าง หน้าตาดี ซึ่งเป็นท่ีสนใจ ของผูช้ มที่ตอ้ งการซ้อื บตั รเพื่อมารว่ มรากบั นางราท่ตี นเองชืน่ ชอบ และมีการติดตามนางราที่ตนเองชื่น ชอบไปตามงานตา่ ง ๆ ทาใหบ้ อ่ ยครง้ั ทีม่ กี ารแย่งนางรากันขึ้น จนเป็นสาเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาท
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 7 จนยากแก่การควบคมุ ทาให้ทางราชการตอ้ งสั่งหา้ มจดั ราวงตามงานต่าง ๆ ทาให้ความนิยมของราวง คอ่ ย ๆ ลดลง (กฤษฎา สรุ ิยวงศ์, 2563, หน้า 183 - 184) 4. ราวงยอ้ นยุคในปจั จุบัน ประมาณปี พ.ศ. 2543 การราวงเร่ิมมีการจัดขึ้นตามงานต่าง ๆ แต่ยังไม่ค่อยได้รับ ความนิยมมากนกั จนถงึ ปี พ.ศ. 2548 นักร้องอ๊อด โฟร์เอส ได้ออกอลั บมั้ ท่นี าเพลงราวงซึ่งเป็นที่นิยม ในอดีตมาขับร้องใหม่ออกสู่จอโทรทัศน์ จนได้รับความนิยมและมีกระแสตอบรับจากผู้สนใจเป็น จานวนมากมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ทาให้มีผู้ตั้งคณะราวงข้ึนมารับงานกันอีกครั้ง และเรียกการ ราวงท่ีเกดิ ข้ึนใหม่ว่า “ราวงยอ้ นยคุ ” (กฤษฎา สุรยิ วงศ์, 2563, หน้า 184) ราวงย้อนยุคในปัจจุบันมีรูปแบบการเล่นเหมือนกับการเล่นราวงในปี พ.ศ. 2500 คือ เริ่มจากการราถวายมอื ของนางราแกค่ รูบาอาจารย์ เจ้าทีเ่ จา้ ทาง ต่อด้วยรอบหวาน 2 รอบ รอบหวาน เป็นการเปิดให้ผู้ชมเข้ามาราโดยไม่เสียค่าบัตร จากน้ันเป็นการราในรอบบัตรธรรมดาและรอบเหมา ไปจนเลกิ งาน รอบเหมาเป็นการเหมารอบราวงเพ่ือให้ผู้ชมขึ้นไปราได้อย่างอิสระ และสามารถขอให้ วงดนตรีบรรเลงเพลงหรือจังหวะที่ตนช่ืนชอบได้ บัตรธรรมดาจาหน่ายในราคา 5 บาท เมื่อผู้ชม ต้องการรากับนางราคนใดก็ซื้อบัตรแล้วไปโค้งนางรา คือ การโค้งตัวลงเล็กน้อยเพื่อขอร่วมราคู่กับ นางราคนนั้น ซ่ึงบัตร 1 ใบสามารถราได้ 1 รอบ บัตรเหมาจาหน่ายในราคา 50 – 100 บาท เมื่อครบรอบจะมีผู้เป่านกหวดี เปน็ สัญญาณบง่ บอกว่าหมดรอบ ในปัจจุบนั นางราท่ีไม่มีคู่สามารถราได้ ต่างกับสมัยก่อนนางราที่ไม่มีคู่จะต้องน่ังรอผู้ชมมาโค้งก่อนถึงจะออกไปราได้ ผู้ชมอาจไม่ต้องโค้ง นางรากอ่ นขึ้นไปรา หรือผู้ชมที่ขึ้นมาแล้วไม่มีคู่นางราก็สามารถราเด่ียวหรือรากับผู้ชมด้วยกันเองได้ บางรอบผชู้ มข้ึนไปรามีท้ังเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ บางทีมีจานวนมากกว่านางราบนเวที (กฤษฎา สรุ ิยวงศ์, 2563, หนา้ 184 - 185) ราวงย้อนยุคในปัจจุบันจะใช้ผู้เชียร์ราวงประมาณ 5 - 8 คน เคร่ืองดนตรีท่ีใช้คือ กีตาร์ ไฟฟ้า กีตารเ์ บส คียบ์ อร์ด อเิ ล็กโทน แซกโซโฟน กลองชดุ และนักร้อง 1 – 2 คน จังหวะที่ใช้เล่นส่วน ใหญ่เป็นจังหวะรุมบ้า ปัตตะโนว่า แทงโก้ แมช ทวิส โนรา ตะลุง ออบบิท วาซูซ่ี สลูฟป้ี ราวง ราวงกลองยาว ลาตัด ลิเก ราแคน เพลงที่ใช้ในการเชียร์ราวงส่วนมากเป็นเพลงลูกทุ่งที่ได้รับความ นยิ มตามยคุ สมยั บางครั้งเป็นเพลงสตรงิ เพ่อื ให้เข้ากับยคุ สมัย (กฤษฎา สรุ ิยวงศ์, 2563, หน้า 186) เวทีสาหรบั ราวงยอ้ นยคุ ในปจั จบุ ันสว่ นใหญเ่ ป็นเวทีเชา่ ยกพื้นสงู เวทมี ี 2 ระดับ ระดับแรก สาหรับนางราและผู้ชม ระดับถัดไปสาหรับนักร้องนักดนตรี บางคนเรียกว่า “กองเชียร์” เพ่ือความ
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 8 สะดวกในการจดั วางเครือ่ งดนตรีที่มีหลายประเภท และเพ่ือแยกสัดส่วนระหว่างนักดนตรี กับนางรา มกี ารประดบั ไฟ ราวธงหลากสเี พื่อความสวยงาม ดึงดูดความสนใจจากผู้ชม (กฤษฎา สุริยวงศ์, 2563, หน้า 186) เพลงลกู ทุ่ง 1. ความเป็นมา จากความคิดเห็นของนักดนตรี นักวิชาการ และผู้สนใจในเพลงลูกทุ่งส่วนมากจะมี แนวความคดิ วา่ เพลงลกู ทุ่งมวี ิวฒั นาการมาจากเพลงพื้นบ้านพื้นเมืองและเพลงไทยเดิม โดยใช้ดนตรี สากลบรรเลงประกอบในการร้อง เพลงลกู ทงุ่ สามารถนาทานองเพลงประเภทตา่ ง ๆ มาสร้างเป็นเพลง แบบใหม่ออกมาอย่างมากมาย มีเน้ือหาเก่ียวกับชนบท ชีวิตของผู้คน เน้นความสนุกสนาน (ฉกาจ ราชบุรี, 2537, หน้า 21 - 22) เพลงท่ีน่าเช่ือถือว่า เป็นเพลงลูกทุ่งเพลงแรกของประเทศไทย คือ เพลงสาวชาวไร่ แต่งคาร้องและทานองโดย เหม เวชกร ขับร้องโดย คารณ สัมบุณณานนท์ เป็นเพลง ประกอบละครวทิ ยุ เริ่มออกอากาศทางสถานีวิทยขุ องกรมโฆษณาการเมอ่ื ปี พ.ศ. 2481 ในยุคแรกเริ่มเพลงไทยสากลยังไม่มีการแยกประเภทเป็นเพลงลูกทุ่ง และเพลงลูกกรุง เพิ่งจะมีการแบ่งในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2498 โดย ป.วรานนท์ นักจัดรายการวิทยุพล 1 โดยเรียก นักร้องอย่าง คารณ สัมบุณณานนท์ สมยศ ทัศนพันธ์ พยงค์ มุกดา ว่า “นักร้องตลาด” และเรียก เพลงของนักร้องกลุ่มน้ีว่า “เพลงตลาด” ส่วนเพลงของสุเทพ วงศ์คาแหง ชรินทร์ นันทนาคร สวลี ผกาพันธ์ เรียกวา่ “เพลงผู้ดี” (ฉกาจ ราชบุรี, 2537: หน้า 25 - 26) ซ่ึง นคร ถนอมทรัพย์ ไดอธิบาย ว่า “คาว่าตลาดไม่ไดห้ มายถึงวา่ ตา่ มนั กว้าง เพลงพวกนี้ได้รับความนิยมกว้าง มีแฟนเพลงกว้าง โดย วดั จากแผ่นเสยี ง เพลงพวกน้ีพวกเคร่อื งไฟ เคร่อื งขยายเสียงตามงานต่าง ๆ เขาจะซอื้ แผน่ เสียงเหล่าน้ี รวมท้งั ตามวัดตามวาต่าง ๆ พระก็มาซือ้ บา้ ง เพลงเหล่าน้ีจะเป็นเพลงท่ีขายดีกว่าเพลงลีลาศ” (ศิริพร กรอบทอง, 2541, หนา้ 58) ปี พ.ศ. 2507 ประกอบ ไชยพิพัฒน์ นักจัดรายการเพลงทางสถานีไทยโทรทัศน์ ได้ต้ังช่ือ รายการทีแ่ สดงการขับร้องเพลงตลาดวา่ “เพลงลูกท่งุ ” และมีการนาคาวา่ “เพลงลุกทงุ่ ” ไปใช้เป็นชื่อ ภาษาไทยของภาพยนตร์เพลงอเมริกันที่เข้ามาฉายในประเทศไทยเรื่อง “Your Cheating Heart” ทาให้คาว่า “เพลงลูกทุ่ง” ติดอยู่ในความรู้สึกของผู้ฟัง โดยหมายถึง เพลงท่ีมีเน้ือหาเกี่ยวกับชนบท ชีวิตผู้คน ชวนให้นึกถึงบรรยากาศสถานท่ีต่าง ๆ ในปี พ.ศ. 2509 มีการจัดงานแผ่นเสียงทองคา
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 9 พระราชทานคร้ังทีส่ อง ไดม้ ีการมอบรางวลั แผ่เสยี งทองคาพระราชทานในฐานะนักร้องลูกทุ่งชายยอด เยี่ยมให้แก่ สมยศ ทัศนพันธ์ ได้รับรางวัลจากเพลง ช่อทิพย์รวงทอง (ทัศน์วศิน ธูสรานนท์, 2560, หนา้ 5 - 6) 2. ยุครุ่งเรอื งของเพลงลูกทงุ่ ในช่วงปี พ.ศ. 2506 – 2513 เป็นยุคที่ศิลปินอย่าง สุรพล สมบัติเจริญ ได้ทาเพลงลูกทุ่ง และมีความนิยมสูง ด้วยเอกลักษณ์ ลีลา รูปแบบเฉพาะตัว ผลงานเพลงส่วนใหญ่ของ สรุ พล สมบตั ิเจริญ มลี ลี าสนุกสนาน ครึกครื้น เช่น เพลงเสียวไส้ เพลงของปลอม เป็นต้น สอดคล้อง กับท่ี เจนภพ จบกระบวนวรรณ กล่าวไว้ในหนังสือ ดวลเพลงลูกทุ่ง ว่า “เพลงลูกทุ่งเฟ่ืองฟูสุดขีด ในยุคสมัยครูสุรพล สมบัติเจริญ (ประมาณปี พ.ศ. 2504 - 2511) และหลังจากครูสุรพลถูกลอบยิง ตายในขณะทช่ี ื่อเสียงกาลงั เกรียงไกร หลังจากน้ันเพลงลูกทุ่งก็พุ่งข้ึนสู่ความนิยมชมชอบของผู้คนทั่ว ประเทศ ไมว่ ่าจะเปน็ ชนบท หรอื ในเมอื ง..” (ทัศนว์ ศนิ ธสู รานนท์, 2560, หนา้ 6) มนี กั ร้องหนา้ ใหมเ่ กดิ ขึ้นจากการเลยี นแบบเสยี งของสรุ พล สมบัติเจรญิ โดยเป็นลกู ศษิ ย์ของ ครูสุรพล สมบัติเจริญ และเป็นนักร้องคนอื่น ๆ ตลอดจนมีการตั้งวงดนตรีใหม่ ๆ เช่น วงดนตรีศิษย์สุรพลของ กังวาลไพร ลูกเพชร วงดนตรีศรีนวล สมบัติเจริญของภรรยา สุรพล สมบัติเจรญิ เปน็ ต้น (ฉกาจ ราชบุรี, 2537: หนา้ 77) 3. ยุคการแข่งขันเพลงลกู ทงุ่ ในช่วงปี พ.ศ. 2513 – 2515 มีการแข่งขันระหว่างเพลงลกู ทุง่ และเพลงลกู กรุงสูง ประกอบ กบั ในวงการเพลงลกู ทุ่งก็มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง เน่ืองจากมีนักร้องหน้าใหม่เกิดขึ้นเป็นจานวน มาก นกั แตง่ เพลงพยายามสร้างเอกลักษ์ประจาตัวของนักร้องแต่ละคน นักร้องเพลงลูกทุ่งบางคนไป แสดงภาพยนตร์เป็นตัวเอกโดยเฉพาะในภาพยนตร์เพลง ภาพยนตร์บางเร่ืองนาเพลงลูกทุ่งมา ประกอบ อยา่ งเชน่ เร่ือง มนต์รกั ลูกทุง่ ทปี่ ระสบความสาเรจ็ อยา่ งมาก ซึ่งแสดงนาโดย มิตร ชัยบัญชา และมนี ักร้องลูกทุ่งอกี หลายคนท่รี ่วมแสดงภาพยนตรเ์ ร่ืองน้ี หลังจากความสาเร็จของภาพยนตร์เรื่อง มนตร์รกั ลกู ทุ่ง ทาให้มกี ารสร้างภาพยนตร์โดยมีการแสดงเพลงลกู ทุ่งประกอบอกี หลายเรื่อง อาจเรียก ได้ว่าเป็นยุคของภาพยนตร์เพลงลูกทุ่ง นักร้องที่ประสบความสาเร็จจากการแสดงภาพยนตร์ เพลงลกู ทุ่ง ไดแ้ ก่ สงั ขท์ อง สีใส ไชยา สุริยนั ระพิน ภไู ท เสกศกั ดิ์ พู่กันทอง เป็นต้น (ทัศน์วศิน ธูสรา นนท์, 2560, หนา้ 6 - 7)
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 10 เสยี งรอ้ งของนักร้องลูกทงุ่ ในยุคน้ี เริ่มมกี ารเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมท่ีออกเสียงตรงตาม วรรณยุกต์ของภาษาไทย เป็นออกเสยี งเพ้ยี นไปจากเสียงวรรณยุกต์ของภาษาไทย สาเหตุท่ีเป็นเช่นนี้ อาจเนื่องจากเป็นสาเนียงติดตัวมากับนักร้องที่มาจากท้องถ่ินต่าง ๆ ในประเทศไทย หรือเป็นการ เจตนารอ้ งเพ้ยี นเสยี ง เพอื่ ใหด้ ูแปลก และเดน่ เป็นการสรา้ งจดุ สนใจสร้างจุดขายให้กับนักร้องในช่วงท่ี มีการแขง่ ขนั สงู นักรอ้ งลูกทุ่งท่ีมีการเพี้ยนเสียงวรรณยุกต์ ได้แก่ ชาย เมืองสิงห์ รุ่งเพชร แหลมสิงห์ ศรศิริ ศรีประจวบ เป็นต้น (จินตนา ดารงเลิศ, 2533: หน้า 59) นักร้องบางรายสร้างจุดเด่นให้กับ ตนเองโดยการร้องเพลงผสมพูด นักรอ้ งทีส่ าคัญคือ เพลิน พรหมแดน ซ่ึงเน้ือหาของเพลงเหล่านี้ส่วน ใหญ่มีลักษณะ การเอาเหตุการณ์ทางการเมืองหรือเหตุการณ์ประจาวันในชีวิตจริงมาล้อเลียน สร้างความสนุกสนานให้กับผู้ฟัง และฝากแง่คิดและคาวิพากษ์วิจารณ์ไว้ในบทเพลง (ฉกาจ ราชบุรี, 2537, หน้า 79) 4. ยคุ ธรุ กจิ เพลงลกู ทุ่ง ในช่วงปี พ.ศ. 2520 – 2528 เป็นช่วงที่เกิดนักร้องลูกทุ่งจานวนมาก มีการแข่งขันสูง การแสดงเพลงลกู ทุง่ มีการประกวดประชนั การเตน้ และเคร่อื งแตง่ กายของหางเครือ่ งประกอบดว้ ย วง ดนตรีลูกทุ่งได้เข้าสู่ระบบนายทุนมาข้ึน นักร้องชายท่ีได้รับความนิยม ได้แก่ สายันห์ สัญญา เกรียงไกร กรุงสยาม สรุ ชัย วมบัติเจริญ ยอดรกั สลกั ใจ ศรเพชร ศรสพุ รรณ เป็นต้น นอกจากน้ันได้มี ปรากฎการณ์ใหมท่ ่ีเกิดขึ้นคือ นกั ร้องเพลงลกู ทงุ่ หญงิ ท่ไี ด้รบั การขนานนามว่าราชินีลูกทุ่งแห่งยุค คือ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ซึ่งเป็นนักร้องหญิงที่ได้รับความนิยมสูง นักร้องหญิงที่ได้รับความนิยม ได้แก่ นันทิดา แก้วบัวสาย ดาวใต้ เมืองตรัง สดศรี พรหมเสกสรร เป็นต้น (ทัศน์วศิน ธูสรานนท์, 2560, หนา้ 7) การซื้อขายตัวนักร้องมาเข้าสังกัดบริษัทแผ่นเสียง นักร้องท่ีไม่ได้อยู่ในสังกัดหรือไม่รู้จัก นายทนุ จะหมดโอกาสในการอัดแผ่นเสยี ง นอกจากนั้นมีระบบจ้างนักจัดรายการวิทยุให้เปิดเพลงของ นกั ร้องที่สังกัดบริษทั แผ่นเสียงของตนเอง เพื่อให้ได้รับความนิยม และจ้างไม่ให้เปิดเพลงของนักร้อง บางคนเพ่ือไมใ่ หไ้ ด้รบั ความนิยม (ฉกาจ ราชบุรี, 2537, หนา้ 82) พ.ศ. 2528 เป็นต้นมา เกิดกระแสความนิยมการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องแนวสตริง ซง่ึ เป็นการแสดงของดนตรีรูปแบบใหม่ ส่งผลกระทบต่อความนิยมเพลงลูกทุ่งลดนอ้ ยลง
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 11 5. เพลงลูกทุ่งในปจั จบุ ัน ปัจจุบันเพลงลูกทุ่งมีศิลปินนักร้องหน้าใหม่เข้าสู่วงการเพลงลูกทุ่งของค่ายเพลงหน้าใหม่ เพลงลกู ทงุ่ กลบั มาได้รบั ความนยิ มอกี คร้ัง เนอ่ื งจากการทาละครมนตรร์ ักลกู ทุ่ง ของค่ายอาร์เอส และ การสรา้ งผลงานเพลงของ ก๊อด จักรพรรณ์ ซ่ึงเป็นที่ชน่ื ชอบของบรรดาแม่ยก และกลุ่มนักฟังเพลงรุ่น ใหม่ในกรุงเทพฯ การเกดิ ข้นึ ของเพลงลกู ท่งุ ในสื่อออนไลน์ ซึง่ กลายเป็นสื่อกระแสหลกั ประเภทหนึ่งใน สงั คม ศิลปินเพลงลกู ท่งุ หลายคนทไ่ี ด้รบั ความนยิ มจากการเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ อย่างเช่น หญิงลี ศรจี มุ พล นักร้องเพลงลกู ท่งุ สงั กัดค่าย แกรมมโ่ี กลด์ โดยสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้วงการเพลงลูกทุ่ง เม่ือเพลง ขอใจเธอแลกเบอร์โทร มียอดวิวบนยูทูบทะลุ 100 ล้านวิว หลังจากเพลงดังกล่าวเร่ิม เผยแพร่บนเว็บไซตย์ ูทูบ 14 เดือน นอกจากนั้นนกั รอ้ งลูกทงุ่ หลายคนได้รบั ความนิยมจากการเผยแพร่ ผลงานบนเวบ็ ไซตย์ ทู ูบ ได้แก่ แมน มณีวรร ก้อง หว้ ยไร่ ธันวา ราศธี นู เป็นต้น (ทัศน์วศิน ธูสรานนท์, 2560, หนา้ 8) เพลงเพ่ือชีวติ 1. ความเปน็ มา เพลงเพ่ือชีวิต เป็นการจัดประเภทของเพลงไทยตามลักษณะของเน้ือหา คาว่า “เพลงเพ่ือชวี ติ ” มีทีม่ าจากหนังสอื ของ จิตร ภมู ิศกั ด์ิ ช่ือ “ศิลปะเพือ่ ชวี ติ ศลิ ปะเพื่อประชาชน” จิตร เสนอวา่ ศิลปะควรทาหน้าทีเ่ พ่ือรบั ใชป้ ระชาชน มากกว่านาเสนอเร่ืองราวประโลมโลกย์ จากแนวคิด ดังกล่าวทาใหศ้ ลิ ปินจานวนหนึ่งเลอื กทจ่ี ะนาเสนอบทเพลงท่ีมีเนอื้ หาจริงจงั ตา่ งจากเพลงรักที่พบเห็น ได้ท่ัวไปในทุกยุคทุกสมัย ศิลปินไทยในอดีตท่ีนาเสนอบทเพลงในลักษณะน้ีคือ แสงนภา บุญราศรี เสน่ห์ โกมารชุม ไพบูลย์ บุตรขัน และคารณ สัมบุณณานนท์ เป็นต้น ซ่ึงในขณะนั้นเรียกเพลงท่ี สะท้อนความยากลาบากของผู้คน และความไม่เปน็ ธรรมทางสงั คมตา่ ง ๆ วา่ “เพลงชีวิต” เพลงท่ีเป็น ทรี่ ้จู ักกนั ดีในชว่ งเวลาน้นั เช่น คนปาดตาล ของแสงนภา บุญราศรี ผู้แทนควายและสามล้อแค้น ของ เสน่ห์ โกมารชุม กลิ่นโคลนสาบควาย และค่าน้านม ของไพบูลย์ บุตรขัน รอยไถและมนต์การเมือง ของคารณ สัมบุณณานนท์ วรรณกรรมเพ่อื ชวี ิตได้กาเนิดและเฟื่องฟูอยู่ระยะหน่ึงจนกระทั้งปี พ.ศ. 2495 เสรีภาพของ นักเขียนถูกจากัด มีการจับกุมนักเขียน นักหนังสือพิมพ์ นักวิชาการ รวมท้ังทหาร ในข้อหา “กบฎ สันติภาพ” (ร่ืนฤทัย สัจจพันธุ์, 2541, หน้า 166) เป็นการจากัดเสรีภาพทางปัญญาในแวดวง
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 12 หนังสือพิมพ์และวรรณกรรมอย่างส้ินเชิง มีผลกระทบต่อนักประพันธ์ในยุคนั้นเป็นอย่างมาก นกั ประพันธ์แนวเพ่ือชีวิตคนสาคัญหลายคนจาต้องยุติบทบาทโดยส้ินเชิง (เสถียร จันทิมาธร, 2525, หน้า 349) วรรณกรรมในยุคปี พ.ศ. 2501-2506 จึงถอื เปน็ ยคุ มดื อับทางปญั ญา วรรณกรรมส่วนใหญ่ เปลี่ยนไปเน้นความบันเทิงและเร้าอารมณ์เป็นหลัก มีเน้ือหาเกี่ยวกับความรักและกามารมณ์ บู๊ล้างผลาญหรือเรื่องลึกลับ จวบจบเมื่อจอมพลสฤษด์ิ ธนะรัชต์ ถึงแก่อสัญกรรม รัฐบาลจอมพล ถนอม กติ ตขิ จร ปล่อยตวั นกั โทษทางการเมือง อนุญาตใิ ห้ออกหนงั สือพิมพ์ใหม่และให้เสรีภาพในการ เขียนวจิ ารณ์รฐั บาลมากข้ึน (รน่ื ฤทยั สัจจพนั ธ์ุ, 2541, หนา้ 21) แต่ความขัดแย้งทางการเมืองยังไม่ได้ หมดไป โดยเฉพาะเม่อื มีกระแสตอ่ ต้านสงครามเวียดนาม เม่ือไทยยอมให้สหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐาน ทัพและสง่ ทหารไปร่วมรบดว้ ย ขบวนการนกั ศึกษาเตบิ โตข้ึนโดยมีความสานึกทางการเมืองเป็นปัจจัย สาคัญ จนสามารถจัดตั้ง “ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย” ข้ึนเม่ือเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2513 (เสถียร จนั ทมิ าธร, 2525, หน้า 385) ส่งผลให้วรรณกรรมเพือ่ ชีวติ ได้รับความนิยมมากข้ึน มีการนาวรรณกรรมระหว่างปี พ.ศ. 2490-2501 มาตีพิมพ์ซ้า นอกจากนี้นักศึกษาและนักเขียนรุ่น ใหมไ่ ด้วิพากษว์ ิจารณ์และโจมตีวรรณกรรมประเภท “นา้ เน่า” อย่างจรงิ จัง (เสถียร จันทิมาธร, 2525, หน้า 404) สุรชัย จันทิมาธร ได้แต่งเพลงเพื่อชีวิตเพลงแรกของเขาขึ้น คือ “สานแสงทอง” โดยใช้ ทานองเพลง “Find the Cost of Freedom” ของ Bob Dylan และ เสกสรร ประเสริฐกุล ก็แต่ง เพลง “สู้ไม่ถอย” (ตานานเพลงเพ่ือชีวิต สายธารแห่งการต่อสู้, 2532, หน้า 145) เพื่อปลุกเร้าจิตใจ ของนกั ศึกษาที่มาร่วมชุมนุม เพลงเพ่ือชวี ติ จึงได้ถอื กาเนิดขนึ้ โดยมีพน้ื ฐานมาจากสถานการณ์เหล่าน้ี 2. เพลงปฏวิ ัติ หลังจากที่นักศึกษาได้รับชัยชนะในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ประชาชน นักเขียน และนกั วชิ าการมเี สรภี าพในการแสดงความคิดเพิ่มขึน้ มีการรวมตวั กันของกลมุ่ ต่าง ๆ เพ่ือนาประเทศ ไปส่รู ะบอบประชาธปิ ไตยอย่างเต็มรูป แนวคิดเรื่องศิลปะเพื่อชีวิตได้แผ่ขยายอย่างรวดเร็ว นักศึกษา จัดกจิ กรรมแนวเพอ่ื ชวี ติ อยา่ งคกึ คัก เป็นตน้ ว่า จัดนทิ รรศการวรรณกรรมแนวสังคมนิยม เชน่ ปรัชญา นิพนธเ์ หมาเจอ๋ ตงุ ปรัชญานิพนธ์ลทั ธิมาร์กซิสม์ หลักลัทธิเลนิน จนฝ่ายตรงข้ามเร่ิมโจมตีว่าฝักใฝ่ลัก ทธคิ อมมวิ นสิ ต์ (สมหญงิ เมืองแมน, 2537, หน้า 75) ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2517 กลุ่มนักศึกษาได้จัดงานมหากรรมเพลงเพื่อชีวิตข้ึนท่ี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สุรชัย จันทิมาธร และวีรศักด์ิ สุนทรศรี ได้ร่วมกันเล่นดนตรีโดยใช้ช่ือ
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 13 วงดนตรีว่า ท.เสนและสัญจร เสนอเพลง คนกับควาย และ เปิปข้าว (ตานานเพลงเพ่ือชีวิต สายธาร แหง่ การต่อสู้, 2532, หน้า 144) ทั้งสองเพลงน้ีได้รับความสนใจจากผู้ฟังเป็นอย่างมาก และได้กลาย มาเป็นจุดกระตุ้นให้เพลงเพื่อชีวิตได้รับความนิยมในเวลาต่อมา เพลงเพื่อชีวิตในช่วงน้ีมีเน้ือหา เกี่ยวกับการนาเสนออุดมการณ์ใหม่และสะท้อนปัญหาด้านต่าง ๆ รวมทั้งสดุดีวีรชนท่ีได้ต่อสู้เพ่ือ เสรภี าพ เช่น จติ ร ภมู ศิ ักด์ิ ระหว่างช่วงปี พ.ศ. 2517-2519 นักศึกษามีบทบาทชี้นามวลชนและเสนออุดมการณ์ใหม่ แก่มวลชน และยังเป็นผู้นาการประท้วงเกือบทุกกรณี เพลงเพื่อชีวิตซ่ึงเป็นเคร่ืองมือของนักศึกษา ในการประทว้ งจงึ มีบทบาทมากขน้ึ ในทุกสถานการณ์ สถานการณเ์ รม่ิ รนุ แรงขึน้ ถึงข้ันที่นักศึกษาคิดว่า การเมืองในระบอบปัจจุบันไม่สามารถแก้ปัญหาได้ นักศึกษาที่มีความคิดก้าวหน้าจึงสามัคคีกันต่อสู้ อย่างแข็งกร้าวและมุ่งที่จะเปล่ียนแปลงสังคมให้ได้ จนเกิดการปะทะท้ังทางด้านกองกาลังและ แนวความคิด “มีการลอบฆ่าผู้นาชาวนา กรรมกรและผู้มีอุดมการณ์ฝ่ายซ้าย” (รื่นฤทัย สัจจพันธุ์, 2541ก, หน้า 23) ส่งผลให้ฝ่ายนักศึกษาเกิดความแค้นมากขึ้น บทเพลงเพื่อชีวิตรวมท้ังวรรณกรรม เพ่ือชีวิตประเภทอื่นในช่วงนี้จึงมีเนื้อหาและภาษาที่รุนแรงมากขึ้น ดังที่ รื่นฤทัย สัจจพันธ์ุ (2541, หนา้ 23) กล่าวว่า “น่าสังเกตว่าบทกวีในช่วงน้ีมักแสดงอารมณ์รุนแรงกร้าวกระด้าง ภาษาค่อนข้าง หยาบ เพื่อเป็นเอกภาพกับการแสดงอารมณ์ นอกจากน้ียังแสดงแนวคิดสังคมนิยมและอุดมการณ์ ของลัทธกิ ารเมืองฝา่ ยซ้ายอยา่ งชดั เจน” ตัวอย่าง เชน่ เพลง “กูจะปฏิวัติ” “เลือดต้องล้างด้วยเลือด” ขณะเดยี วกนั ฝ่ายขวาจดั หรอื ฝา่ ยอนรุ ักษน์ ิยมกม็ ีเพลงปลุกใจเพ่อื ปลกุ ระดมความคิดของประชาชนให้ ฮึกเหิม รักสถาบัน สร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และ ต่อต้านฝ่ายนักศึกษา เช่นเพลง “หนักแผ่นดิน” “สุดแผน่ ดิน” “ดุจบิดรมารดา” นักศึกษาจึงถูกประชาชนที่ไม่ชอบความวุ่นวายมอง ว่าเป็นฝ่ายคอมมวิ นิสต์และเปน็ อันตรายตอ่ บ้านเมอื ง จนกระท่ังเกิดเหตุการณ์นองเลือดอันน่าสลดใจในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 “มีการเผา ทาลายวรรณกรรมเพือ่ ชีวติ นับล้านเล่มและกลายเป็นหนังสือหายากจนทุกวันนี้” (รื่นฤทัย สัจจพันธ์ุ, 2541ก, หน้า 27) รัฐบาลนายธานินท์ กรัยวิเชียร “ส่ังปิดหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ปิดสถาบันการศึกษา ทุกแห่งทกุ ระดบั และกวาดล้างจบั กุมผตู้ ้องสงสัยว่าเปน็ คอมมิวนิสต์อยา่ งเขม้ งวด จึงเป็นแรงกดดันให้ นิสิตนักศึกษา นักวิชาการ นักเขียน และประชาชนจานวนมาก ‘ขึ้นเขาเข้าป่า’ ร่วมขบวนการต่อสู้ แบบจรยุทธ์กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย” (รื่นฤทัย สัจจพันธุ์, 2541ก, หน้า 27) วรรณกรรมเพ่ือชวี ิตรวมถึงบทเพลงเพื่อชวี ิตกไ็ ด้ยตุ บิ ทบาทลงชว่ั ขณะ
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 14 3. ธุรกิจเพลงเพ่ือชีวิต ในปี พ.ศ. 2523 รัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ดาเนินนโยบาย 66/23 ให้ผู้เข้าป่า มีโอกาสกลับสู่เมืองอีกคร้ัง บทเพลงเพ่ือชีวิตก็ยังไม่ได้สลายไป มีผลงานใหม่ในรูปเทปคาสเซท เช่น เพลงชดุ ขเ้ี มา ในปี พ.ศ. 2523 และชุดเมดอินไทยแลด์ ในปี พ.ศ. 2526 ของวงคาราบาว ส่งผลให้บท เพลงเพื่อชีวิตกระจายสู่กลุ่มผู้ฟังท่ีหลากหลายข้ึน ไม่จากัดแต่เฉพาะแต่กลุ่มปัญญาชน เน้ือหาเพลง เพ่ือชีวิตในยุคหลัง พ.ศ. 2519 จึงหลากหลายกว่าในยุคเริ่มต้น และ ไม่ผูกติดกับการเมืองเหมือน ช่วงแรก แนวเพลงทีเ่ ก่ียวกบั การนาเสนออุดมการณ์ท้าทายอานาจรัฐและแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง ไดห้ ายไป ดงั ทวี่ รี ะศกั ดิ์ สุนทรศรี (2541, หน้า 157) กลา่ วถึง เพลงเพ่ือชีวิตหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ว่า “เน้ือหาของเพลงเพื่อชีวิตในบริบทของสังคม ณ ช่วงเวลานี้ไม่มีความจาเป็นต้อง สะท้อนชีวิตของคนยากไร้ หรือปลุกระดมผู้คนให้ลุกข้ึนสู้กับความอยุติธรรมในสังคมอีกต่อไป” ท้ังน้ี อธิบายได้ว่าเป็นเพราะในประสบการณ์คนหนุ่มสาวที่เข้าป่า และเกิดความขัดแย้งกับพรรค คอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พ.ค.ท.) อุดมการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ไม่ใช้ทางออกอย่างท่ีเคย คาดหวงั แต่ถึงแม้จะพบว่าทางแก้ไขปัญหาไม่ได้อยู่ท่ีการเปลี่ยนแปลงการปกครองหรือแก้ไขปัญหา ดว้ ยกาลงั ในความจริงปญั หาตา่ ง ๆ ในสงั คมปจั จบุ ันยงั คงมอี ยู่ นกั ศึกษา นกั วิชาการ นักเขียนและนัก ประพันธ์เพลงเพ่ือชีวิตยังแสดงความสานึกในหน้าที่ต่อสังคมด้วยความพยายามท่ีจะรับรู้ปัญหาของ ผูด้ ้อยโอกาส เพลงเพ่อื ชวี ติ ในยคุ ปัจจุบันจงึ คงเอกลกั ษณ์ไว้คือ การเสนอปัญหาท่ีพบเห็นในสังคมโดย อาจแฝงแนวทางแก้ไขปัญหาไวใ้ นบทเพลง การกระตุ้นความเห็นอกเห็นใจและการช้ีคุณค่าของมนุษย์ มากกวา่ การตอ่ สดู้ ้วยความรนุ แรง เนอื้ หาเพลงเพ่ือชีวิตในปัจจุบันจึงมีหลากหลายกว่าในช่วงแรก คือ “สะทอ้ นปัญหาชีวิต อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม อนุรักษ์ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ปลอบขวัญให้กาลังใจ ยกย่องสรรเสรญิ เสียดสีการเมือง” (สมหญิง เมืองแมน, 2537, หน้า 96) เพ่ือกระตุ้นให้ผู้ฟังครุ่นคิด และสานึกในปัญหาต่าง ๆ ของสังคม เช่น เพลงเพ่ือชีวิตของ พงษ์เทพ กระโดนชานาญ เพลง “หยดุ พักสายตา” ทเี่ รียกร้องให้ผคู้ นมนี า้ ใจต่อกัน เอ้อื เฟอื้ เผอ่ื แผ่กัน (สมหญงิ เมอื งแมน, 2537, หน้า 155) เพลง “เฉย” ทส่ี ะทอ้ นภาพคนทขี่ าดความรับผิดชอบ ดาเนนิ ชีวิตอย่างเห็นแก่ตัวและเอารัดเอา เปรียบผู้อ่ืน เพลง “สาวเสื้อลาย” กล่าวถึงสาวชนบทที่มีความอดทนในการทางานหาเล้ียงชีพ (สมหญิง เมอื งแมน, 2537, หน้า 159-160)
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 15 ดนตรสี มัยนิยม “ดนตรีสมัยนิยม” (Popular Music) หมายถึง ดนตรีเพ่ือความบันเทิง ฟังง่าย คนท่ัวไป นิยมฟัง มีองค์ประกอบทางดนตรีแบบตะวันตกท่ีไม่ซับซ้อน เป็นดนตรีท่ีเปล่ียนไปตามยุคสมัย (ณชั ชา พันธเ์ุ จรญิ , 2564, หน้า 295) 1. ความเปน็ มา พ.ศ. 2433 การเกดิ อุตสาหกรรมโนต้ เพลงโดยเฉพาะอย่างย่ิงอุตสาหกรรมโน้ตเพลงในย่าน ทินแพนอัลเลย์ (Tin Pan Alley) ในนิวยอร์ก (New York) ซ่ึงถือเป็นจุดเร่ิมต้นของดนตรีป๊อปปูลาร์ บริษัทเขียนโน้ตเพลงและสานักพิมพ์ได้ผลิตโน้ตเพลงออกมาจาหน่าย เพลงท่ีได้รับความนิยม ได้แก่ เพลงมาร์ช (March) เพลงแรกไทม์ (Ragtime) และเพลงบรอดเวย์ (Broadway) หลังจาก สงครามโลกคร้ังท่ี 2 ธุรกิจเก่ียวกับความบันเทิงในสหรัฐอเมริกามีการพัฒนาอย่างรวดเร็วจาก เทคโนโลยีการบันทึกเสียง วิทยุกระจายเสียง โทรทัศน์ และการเข้ามาของเสียงดนตรีประกอบ ภาพยนตร์ฮอลลีวู๊ด (Hoolywood) ทาให้เสียงเพลงจากการบรรเลงได้ถูกบันทึก และแพร่กระจาย ไปสผู่ ู้ฟังผชู้ มอย่างรวดเรว็ (Grout et al, 2006, pp. 845 - 846) พ.ศ. 2493 ประเทศในแถบตะวันตกมีการเปล่ียนแปลงทางวัฒนธรรมในหลายด้านท่ีส่งผล ต่อชวี ิตความเป็นอยขู่ องผู้คนในยุคนั้น รวมถึงดนตรีสมัยนิยมก็เป็นผลส่วนหนึ่งจากการเปล่ียนแปลง ซึง่ ดนตรียคุ แรกทเี่ กดิ มาพรอ้ มกบั วฒั นธรรมสมัยนยิ ม (Pop Culture) และถูกเรียกว่า เพลงสมัยนิยม (Popular Music) ในยคุ นั้นคือเพลงร็อค (Rock and Roll) และเพลงสมัยนิยมของชาติตะวันตกก็ได้ แพร่กระจายไปยังสังคมและวัฒนธรรมอื่นของโลก ประเทศไทยได้รับวัฒนธรรมดนตรีสมัยนิยม ตะวันตกในช่วงเวลาน้ีด้วยเช่นกัน นักดนตรีไทยนามาบรรเลงแล้วใส่เนื้อร้องท่ีเป็นภาษาไทย มี เรื่องราวท่ีเล่าถึงวิถีชีวิตของสังคมไทย แต่มีลักษณะโครงสร้างทางดนตรีเป็นแบบตะวันตก (จิรัฐ มัธยมนนั ทน์, 2562, หนา้ 225) 2. ดนตรีรอ็ ค พ.ศ. 2503 เป็นยุคท่ีเพลงร็อคแอนด์โรลในสไตล์เอลวิส เพรสล่ี (Elvis Presley) กาลัง มชี ่ือเสียงโด่งดัง หลังจากนนั้ อกี 4 ปี คณะเดอะบที เตลิ ส์ (The Beatles) ไดเ้ ปิดศักราชของดนตรีร็อค ยุคใหม่ ท่ีทาให้ดนตรีร็อคกลายเป็นกระแสหลักของดนตรีสมัยนิยมในสหรัฐและยุโรป ประเทศไทย นอกจากได้รับอิทธิพลจากผลงานเพลงของ เอลวิส เพรสล่ี และวงเดอะบีทเติลส์แล้ว วงดนตรีท่ี มีบทบาทสาคัญต่อนักดนตรีสากลของไทยในระยะแรกอย่างมาก คือ วงเดอะชาโดวส์
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 16 (The Shadows) และนักร้องของวงเดอะชาวโดวส์ คือ คลิฟ ริชาร์ด (Cliff Richard) จากประเทศ อังกฤษ มกี ารนาคาว่า “ชาโดวส์” มาเรียกช่ือประเภทวงดนตรที บ่ี รรเลงเพลงสากลท่ีใช้เครื่องดนตรี 4 ชิ้น คือ กีตาร์ 2 ตัว กีตาร์เบส 1 ตัว และกลองชุด 1 ชุด การบรรเลงเพลงสากลเป็นการเลียนแบบ วงดนตรีของตะวันตกท่ีมีช่ือเสียง ในขณะน้ันไม่นิยมดัดแปลงเป็นเพลงไทยสากล ผู้ฟังส่วนใหญ่เป็น วัยรุ่นท่ีอยู่ในเมือง ดนตรีร็อคในระยะแรกจึงไม่เป็นท่ีนิยมในวงกว้าง นิยมบรรเลงตามไนต์คลับและ งานสังสรรค์ที่มีการเต้นราในหมู่วัยรุ่นท่ีอยู่ในเมือง ในสมัยน้ันคนไทยส่วนใหญ่ยังนิยมฟังเพลงแบบ ลูกกรุงของสุนทราภรณ์และสุเทพ วงศ์คาแหง และเพลงลูกทุ่งก็ได้รับความนิยมควบคู่ไปด้วย โดยเฉพาะจากแฟนเพลงชาวชนบท (ลาเนา เอี่ยมสอาด, 2539, หนา้ 63 - 64) สหรัฐอเมริกาซ่ึงเป็นพันธมิตรกับประเทศไทยได้เข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทยอย่าง เปิดเผยในปี พ.ศ. 2513 เพอื่ ใชเ้ ปน็ ท่ีสาหรบั เก็บอาวธุ ยทุ โธปกรณ์ เปน็ ทเ่ี ติมน้ามันเช้ือเพลิงเคร่ืองบิน รบ และเป็นท่พี ักฟืน้ ทหารทเี่ หน็ดเหน่ือยจากการรบ การทที่ หารอเมริกันมาต้ังฐานทัพในเมืองไทยทา ให้เกิดความต้องการท่ีจะมีวงดนตรีเล่นในค่ายทหารอมเริกันมาก ทาให้มีนักดนตรีที่มาจาก สหรัฐอเมริกา และนักดนตรีคนไทยแต่เล่นดนตรีเลียนแบบดนตรีร็อคอเมริกันเข้าไปเล่นดนตรีใน คา่ ยทหารอเมริกันจานวนมาก (ลาเนา เอ่ียมสอาด, 2539: หน้า 64 - 65) ในยุคน้ีนอกจากดนตรีร็อคจะเป็นที่นิยมเล่นกันในค่ายทหารอเมริกันแล้ว ดนตรีร็อคได้ แพรก่ ระจายสูส่ งั คมไทย ทาใหเ้ กดิ สถานเรงิ รมณ์ เชน่ บาร์ ไนทค์ ลับ เกิดข้ึนมากมาย โดยเฉพาะเมือง ใหญ่ ๆ และเมืองท่ีมีค่ายทหารอเมริกันอยู่ ด้วยจังหวะลีลาและทานองที่เร้าใจของดนตรีร็อคทาให้ กลุ่มวยั รนุ่ หลงใหล การตั้งไนต์คลับท่ีมีการบรรเลงดนตรีร็อคเร่ิมเฟื่องฟูในช่วงปี พ.ศ. 2515 เป็นต้น มา (สกุ รี เจริญสขุ , 2532 อ้างถงึ ใน ลาเนา เอี่ยมสะอาด, 2539, หนา้ 66 - 67) ในเวลาตอ่ มาดนตรีรอ็ คได้ผสมผสานเข้ากับดนตรีต่าง ๆ ทาให้เกิดแนวดนตรีที่หลากหลาย ได้แก่ ดนตรีดิสโก้ (Disco) ที่เป็นการผสมผสานของดนตรีร็อคกับดนตรีโซล (Soul) ดนตรีฟิวช่ัน (Fusion) ท่ีเปน็ การผสมผสานดนตรรี อ็ คกบั ดนตรีแจส๊ และดนตรีปอ๊ ปร็อค (Pop Rock) เป็นตน้ การระบาดของเชื้อไวรสั โควิด – 19 1. ความเปน็ มา โควิด – 19 นบั เป็นโรคระบาดอุบัติใหม่ท่ีเกิดขึ้นจากค้างคาว ซ่ึงเป็นสัตว์ป่า แต่มีสายพันธ์ ใกล้ชิดกบั คนตรงที่เปน็ สัตวเ์ ล้ียงลูกด้วยนม ไม่ใช้สตั วป์ กี อย่างนกหรือไก่ ที่เคยก่อโรคระบาดอุบัติใหม่
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 17 (ไข้หวดั นก) มาแลว้ เมือ่ ชว่ งปี พ.ศ. 2547 – 2549 ซงึ่ ไมเ่ กิดความเสียหายรายแรงนัก ตอนน้ันคนไทย เสียชวี ิต 17 คน แต่ไวรัสโคโรนาสายพันธใุ์ หม่ที่แพร่มาจากค้างคาว ในช่วงแรกดูเหมือนไม่ร้ายแรงไป กว่าไข้หวดั ใหญ่ท่วั ไป เพราะอัตราการตายต่า ท้ังผู้นาและประชาชนชาติต่าง ๆ จึงเกิดความประสาท ขาดความรู้ และขาดเอกภาพในการจัดการปัญหา (วิชัย โชควิวัฒน, 2564: หน้า 11 - 12) ทาให้เชื้อ ไวรสั โควดิ – 19 ไดแ้ พรร่ ะบาดไปอยา่ งรวเร็ว สรา้ งความเสียหายตอ่ ชวี ิตของผูค้ นทัว่ ทัง้ โลก แม้ปัจจุบนั จะยงั ไมม่ ีข้อพสิ จู นแ์ นช่ ดั เรื่องจดุ กาเนิดของการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ครัง้ น้ี ทงั้ ยังมีข่าวเทจ็ ข่าวลวง (Fake News) เกิดขึ้นมากมาย แต่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในวง วชิ าการว่าจดุ เร่ิมต้นของการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 อยู่ที่นครอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีประชากรราว 11 ล้านคน โดย วันท่ี 22 ธันวาคม พ.ศ. 2562 จีน แถลงอย่างเป็นทางการและ รายงานการเกิดการระบาดของโรคปอดอักเสบรุนแรงที่ยังไม่ทราบสาเหตุ ต่อองค์การอนามัยโลก วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2563 องค์การอนามัยโลกแถลงยืนยันการเกิด “โรคติดเชื้ออุบัติใหม่ (Emerging Infectious Disease)” (วิชัย โชควิวฒั น, 2564: หนา้ 21 - 22) 2. มาตรการการควบคมุ การระบาดของเชือ้ ไวรสั โควทิ – 19 ของไทย เมื่อจีนรายงานการระบาดของโรคโควิด – 19 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ประเทศไทยไดเ้ ตรียมการต้ังแตว่ ันท่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2563 และเร่ิมการ “เฝ้าระวังโรค” ที่สนามบิน 4 แห่ง ตั้งแต่วันท่ี 3 มกราคม พ.ศ. 2563 หลังจากนั้นวันท่ี 13 มกราคม ประเทศไทย ประกาศยนื ยันพบผ้ตู ดิ เชอื้ รายแรกซงึ่ เป็นผู้หญิงชาวจีนจากเมืองอู่ฮั่น และเป็นรายแรกของโลกที่พบ นอกประเทศจีน ทาให้กระทรงสาธารณสุขประกาศยกระดับการรับมือในสถานการณ์ใก้ลเทศกาล ตรุษจีน นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุกธ์ จันทร์โอชา ต้ังศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรีเพ่ือรับมือ สถานการณ์โรค วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 กระทรวงสาธารณสุขประกาศให้โควิด – 19 เป็น โรคตดิ ตอ่ อนั ตราย ตาม พ.ร.บ. โรคตดิ ตอ่ พ.ศ. 2558 (วชิ ยั โชคววิ ฒั น, 2564: หนา้ 94 - 95) วันท่ี 12 มีนาคม พ.ศ. 2563 รัฐบาลไทยจัดตั้ง “ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (โควิด - 19)” ชื่อย่อ ศบค. หลังจากตรวจพบผู้ติดเช้ือจากการเข้า ชมการแข่งขันชกมวยที่สนามมวยลุมพินี และทาให้มีกลุ่มเสี่ยงมากกว่า 4,500 คน วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2563 รฐั บาลประกาศใชพ้ ระราชกาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉนิ ตั้งแต่วันท่ี 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 (วิชัย โชควิวัฒน, 2564: หน้า 95) มอบอานาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถ พิจารณาสั่งปิดสถานที่ซ่ึงมีคนจานวนมากไปทากิจกรรมร่วมกันและเส่ียงต่อการแพร่เช้ือโรค
18 โควดิ – 19 เป็นการชั่วคราว ทาให้ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายชยาวุธ จันทร ออกคาสั่งประกาศ ปิดสถานบรกิ ารตามกฏหมายว่าด้วยสถานบริการ และสถานบนั เทิงอื่น ทม่ี ีลกั ษณะคล้ายสถานบริการ คือ มีการจาหน่ายอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ โดยมีดนตรีหรือการละเล่นอ่ืนเพื่อสร้างความ บนั เทงิ แกล่ ูกคา้ และงดจัดกจิ กรรมทม่ี กี ารรวมคนจานวนมากที่มีความเสี่ยงสูงในการแพร่ระบาดโรค ติดเชอื้ โควดิ – 19 รวมถงึ การจดั แสดงคอนเสริ ต์ หรอื มหรสพต่าง ๆ มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง บทท่ี 3 วิธดี าเนนิ การวิจยั การศึกษาเรื่อง “สภาพการประกอบอาชีพนักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรี” ผ่านการ พิจารณาและได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการวิจัยในคน สานักงานจริยธรรมการวิจัย มหาวทิ ยาลยั รงั สิต กอ่ นการลงพืน้ ท่ีปฏิบัติงานภาคสนามเพ่ือเก็บรวบรวมข้อมูลตามข้ันตอนการวิจัย ผู้วิจยั ดาเนินการศกึ ษาโดยใช้กระบวนการวิจยั เชงิ คุณภาพ มวี ธิ ดี าเนินการวจิ ัยดังนี้ ประชากร การศึกษาเรื่อง “สภาพการประกอบอาชีพนักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรี” ผู้วิจัยศึกษา ข้อมูลจากหัวหนา้ วงดนตรี และนักดนตรที บ่ี รรเลงดนตรีสากลเพอื่ การประกอบอาชีพในจังหวัดราชบุรี จานวน 19 วงดนตรี รวมผู้ให้สมั ภาษณ์ทัง้ หมด 20 คน โดยศึกษาจากหัวหน้าวงดนตรี นักดนตรี จาก ทุกวงดนตรที ่ีสามารถใหส้ ัมภาษณ์ได้ การสมั ภาษณ์ การศึกษาเร่ือง “สภาพการประกอบอาชีพนักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรี” ผู้วิจัยศึกษา ข้อมูลพ้ืนฐานและข้อมูลเชิงลึกโดยการสัมภาษณ์ผู้ท่ีประกอบอาชีพนักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรี ได้แก่ หวั หนา้ วงดนตรี นักดนตรปี ระจาวงดนตรี นกั ดนตรีอสิ ระ และผทู้ ีม่ ีความรู้เกย่ี วกับการประกอบ อาชีพนกั ดนตรีสากลในจงั หวัดราชบรุ ี ผู้วิจัยใช้วธิ ีการสมั ภาษณแ์ บบไม่เปน็ ทางการในประเด็นที่เก่ียวกับความเป็นมาของวงดนตรี สากล สภาพการบรรเลงดนตรีสากล สาพการขับร้อง สภาพการจัดแสดง การใช้ดนตรีเพื่อการ ประกอบอาชีพ สภาพปัญหา และแนวทางการแก้ไขปัญหาในการประกอบอาชีพนักดนตรีสากลใน จงั หวดั ราชบุรี ผู้ให้สมั ภาษณ์ได้แก่ หัวหน้าวงดนตรี และนักดนตรีที่บรรเลงดนตรีสากลเพื่อการประกอบ อาชีพในจงั หวัดราชบรุ ี จานวน 19 วงดนตรี ผู้ใหส้ มั ภาษณท์ ้ังหมด 20 คน
20 การสงั เกตการณ์ ศึกษาจากการสังเกตการณ์แบบไม่มีส่วนร่วม โดยสังเกตการณ์บรรเลงดนตรีสากลจาก วงดนตรปี ระเภทตา่ ง ๆ คือ วงสตริงคอมโบ วงสตริง และวงอคูสติก สังเกตสภาพการประกอบอาชีพ สภาพการฝกึ ซอ้ ม สภาพความเปน็ อยูข่ องนกั ดนตรี และสภาพการณท์ ่เี ก่ยี วข้อง การสังเกตการณแ์ บบมสี ว่ นรว่ ม โดยเขา้ ร่วมการฝึกซ้อม ผู้ฟังผู้ชมเพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ การบรรเลง การวิเคราะห์ขอ้ มูล ผู้วิจัยมีการรวบรวมข้อมูลท่ีศึกษาค้นหว้าจากเอกสารตารา รวบรวมข้อมูลจากการ สมั ภาษณ์และสังเกตการณ์ ตรวจสอบข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลที่ค้นพบจากการศึกษาตามระเบียบ วธิ ีการวจิ ยั เชิงคณุ ภาพ มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง บทที่ 4 สภาพการประกอบอาชพี นกั ดนตรสี ากลในจังหวดั ราชบรุ ี จากการศึกษาเรอ่ื งสภาพการประกอบอาชีพนักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรี พบว่า อาชีพ นักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรี มีประเด็นท่นี ่าสนใจ ดงั นี้ - ความเปน็ มาของวงดนตรีสากลในจังหวดั ราชบรุ ี - ประเภทวงดนตรีสากลทใี่ ช้บรรเลงเพอ่ื การประกอบอาชพี - การฝกึ หัดฝึกซ้อมของนักดนตรีสากลในจงั หวัดราชบุรี - การบรรเลงดนตรสี ากลเพอื่ การประกอบอาชพี - การขบั รอ้ งประกอบการบรรเลง - ความนิยมของผ้ฟู งั ผชู้ ม - การประกอบอาชพี ของนักดนตรีสากลในจังหวดั ราชบรุ ี - การรับงานบรรเลงดนตรสี ากล - ความเช่ือของนักดนตรสี ากลในจังหวดั ราชบรุ ี - ความคดิ เหน็ ท่มี ีต่อการประกอบอาชีพนักดนตรีสากล - สภาพปัญหาในการประกอบอาชีพนกั ดนตรีสากล - แนวทางการแก้ไขปญั หาในการประกอบอาชพี นกั ดนตรสี ากล ความเป็นมาของวงดนตรสี ากลในจงั หวัดราชบรุ ี จากการสัมภาษณ์หัวหน้าวงดนตรี นักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรี (สัมภาษณ์เมื่อ 10 ตุลาคม 2563 –29 กรกฎาคม 2564) ประเด็นเก่ียวกับ ความเป็นมาของวงดนตรีสากลในจังหวัด ราชบุรี พบว่า พ.ศ. 2515 นายสมศักดิ์ กฤษณะเศรณี ปัจจุบันอายุ 74 ปี ก่อตั้งวง “Four Singles” ข้ึน จากการรวมตัวนักดนตรีสากลที่อาศัยอยู่ในจังหวัดราชบุรี วงดนตรีประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟ้า 2 ตัว กีตาร์เบส 1 ตัว คียบ์ อร์ด 1 ตัว กลองชดุ เทนเนอร์แซกโซโฟน 1 ตัว ทรัมเป็ต 1 ตัว ทรอมโบน 1 ตัว และเคร่ืองกากับจังหวะต่าง ๆ มีนักร้องนักดนตรีร่วมบรรเลง 11 คน เพลงที่บรรเลงส่วนใหญ่เป็น
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 22 เพลงลกู กรงุ จัดการแสดงในลักษณะบอลลูมเต้นรา ต่อมาชาวจังหวัดราชบุรีมีความนิยมวงสตริงเพ่ิม มากข้ึน วง Four Singles เร่ิมรับงานแสดงในรูปแบบวงสตริง ประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟ้า 2 ตัว กีตาร์เบส 1 ตัว คีย์บอร์ด และกลองชดุ มีนกั รอ้ งนกั ดนตรีร่วมบรรเลง 7 คน เพลงที่บรรเลงส่วนใหญ่ เป็นเพลงสากล วง Four Singles มนี ักร้องหญิงเปน็ ชาวฟิลิปปินส์ ทาให้สามารถขับร้องเพลงได้อย่าง ถูกต้อง เป็นที่ชื่นชอบของผู้ฟังผู้ชม วง Four Singles รับจ้างบรรเลงในพ้ืนที่จังหวัดราชบุรี และ จังหวัดใกล้เคียง มีนักดนตรีรุ่นใหม่หมุนเวียนเข้าร่วมบรรเลง ประมาณ 10 คน บรรเลงเพลงสากล เพลงลูกกรุงในรูปแบบสุนทราภรณ์ และเพลงไทยสากลต่าง ๆ ประมาณปี พ.ศ. 2545 วง Four Singles ทาสัญญากับบริษัทสิงห์ คอร์เปอเรช่ัน เป็นวงดนตรีสาหรับจัดกิจกรรมการแสดง ต่าง ๆ ของบริษัท ฯ วง Four Singles ไม่ได้บรรเลงในพื้นที่จังหวัดราชบุรีจนถึงปัจจุบัน (จากการ สัมภาษณ์ นายเจตน์พัฒน์ เรืองวรธนกร เมื่อวันท่ี 10 ตุลาคม 2563 และนายจุฬานันท์ จินดา เม่ือ วนั ที่ 29 กรกฎาคม 2564) พ.ศ. 2521 นายวานิช อนันตเทียน อดีตนักดนตรีวง Four Singles (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) ก่อตั้งวงสตริงช่ือ “โรแมนติค” นักดนตรีบางส่วนเป็นนักดนตรีจากวง Four Singles โดยนายชาตรี คงสวุ รรณ นักร้องนักดนตรี และผู้บริหารบริษัทมิสเตอร์มิวสิค (Mister Music) ร่วมเป็นนักดนตรีใน ตาแหนง่ กตี ารไ์ ฟฟ้า ไดผ้ ลิตผลงานเพลงมนตไ์ ทรโยค และเพลงบา้ นสเี ทา วงโรแมนตคิ ก่อต้งั ข้ึนในช่วง ทีว่ งสตริงกาลังได้รับความนิยมและได้รับจ้างไปบรรเลงในพ้ืนที่ต่าง ๆ ในจังหวัดราชบุรี และจังหวัด ใกล้เคยี ง เพลงทบี่ รรเลงมคี วามหลากหลายท้ังเพลงสากล เพลงไทยสากล และเพลงลูกกรุง (จากการ สัมภาษณ์ นายจฬุ านนั ท์ จนิ ดา เม่ือวนั ที่ 29 กรกฎาคม 2564) พ.ศ. 2522 นายจุฬานันท์ จินดา (ปัจจุบันอายุ 71 ปี) ประกอบอาชีพนักดนตรีสากลโดย บรรเลงอิเล็กโทนในร้านอาหาร มีนกั ร้องหญิง 2 คนร่วมขับร้อง บางครั้งนายจุฬานันท์ จินดา ขับร้อง ขณะการบรรเลงอเิ ล็กโทน โดยบรรเลงประจาทุกวนั ทีร่ า้ นนอาหารชงโค ตาบลหน้าเมือง อาเภอเมือง จังหวัดราชบุรี (ปัจจุบันปิดกิจกรแล้ว) ในช่วงเวลา 20.00 – 24.00 น. ได้รับค่าตอบแทนคืนละ 300 บาท นายจฬุ านันท์ จินดา กล่าวว่า “ในช่วงนน้ั มีกฎห้ามบรรเลงดนตรีเกิน 3 ช้ินในร้านอาหาร ทาให้ อิเล็กโทนเป็นเคร่ืองดนตรีที่ร้านอาหารต่าง ๆ ต้องการ เพราะสามารถบรรเลงได้ครบทุกแนวเสียง” ซึ่งนายจฬุ านนั ท์ จนิ ดา ได้ซอ้ื อิเล็กโทน เครอ่ื งเสียง และอปุ กรณ์สาหรับบรรเลงต่าง ๆ เปน็ ของตนเอง และฝากไวท้ ร่ี ้านอาหาร เพลงท่ีใช้บรรเลงสว่ นใหญ่เป็นเพลงลูกทุ่ง และเพลงลูกกรุง พ.ศ. 2527 นาย จุฬานนั ท์ จินดา ชักชวนนักดนตรกี ตี าร์ไฟฟ้ามาบรรเลงร่วมกับอิเล็กโทน เนื่องจากในช่วงเวลาน้ันวง
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 23 ดนตรีประเภทวงสตริงได้รับความนิยม การนากีตาร์ไฟฟ้ามาร่วมบรรเลง ทาให้สามารถบรรเลงได้ ใกล้เคียงกับเพลงต้นฉบับ จงึ สร้างความประทบั ใจใหแ้ กผ่ ู้ชมและเจ้าของร้านเป็นอย่างยิ่ง พ.ศ. 2522 นายจุฬานันท์ จินดา ประกอบอาชีพนักดนตรีโดยการบรรเลงอิเล็กโทนใน ร้านอาหาร ซึ่งถอื เป็นจดุ เรม่ิ ตน้ ของการประกอบอาชพี นกั ดนตรีอิสระในจังหวัดราชบุรี ในเวลาต่อมา ผู้ท่ีประกอบอาชีพนักดนตรีอิสระนาอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่พัฒนาข้ึนตามยุคสมัย เช่น ริทึมบ็อกซ์ ซเี ควนเซอร์ และคอมพวิ เตอร์ดนตรีมาประกอบการบรรเลงเพ่อื ให้การบรรเลงมีความสมบูรณ์มากข้ึน ในปัจจุบันเครื่องดนตรี และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ดนตรีมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ ราคาท่ีต่าลง และนักดนตรีสากลมีช่องทางในการติดต่อสื่อสารผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ (Line) เฟสบุ๊ค (Facebook) ที่สะดวกสบาย ทาให้นักดนตรีอิสระบางรายรวมตัวกับนักดนตรีในจังหวัดราชบุรีเป็น วงดนตรีสากล เพ่ือบรรเลงในงานที่จัดขึ้นเป็นคร้ังคราว เช่น งานแต่งงาน งานเลี้ยงสังสรรค์ หรือ รวมตัวกันเพ่ือบรรเลงในร้านอาหารร้านใดร้านหน่ึง ซ่ึงสามารถปรับเปล่ียนรูปแบบวงดนตรีได้ตาม ความตอ้ งการของเจา้ ภาพ หรือเจา้ ของร้านอาหาร นกั ดนตรีอสิ ระบางรายขับร้องขณะทาการบรรเลง กีตาร์โปร่งไฟฟ้า และคีย์บอร์ดไฟฟ้าเพียงคนเดียว นักดนตรีอิสระบางรายบรรเลงเดี่ยวไวโอลิน ประกอบเสียงดนตรีที่จัดเตรียมไว้ (Backing track) นักดนตรีอิสระบางรายรับจ้างบรรเลงทั่วไป ตามวงดนตรีต่าง ๆ โดยการเป็นนักดนตรีทดแทนเมื่อนักดนตรีประจาวงดนตรีไม่สามารถมาทาการ บรรเลงได้ นักดนตรีอิสระและวงดนตรีสากลต่าง ๆ ในจังหวัดราชบุรีจึงมีความหลากหลาย จานวนวงดนตรสี ากลท่ีเป็นการรวมตวั กันของนักดนตรีอิสระเพมิ่ มากขึ้น และกาลังได้รับความนิยมใน กลุม่ นักดนตรสี ากลรนุ่ ใหมใ่ นจงั หวดั ราชบรุ ี พ.ศ. 2530 นายจุฬานันท์ จินดา ได้ก่อต้ังวงสตริง โดยใช้ช่ือวงออย ประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟ้า 1 ตัว กีตาร์เบสไฟฟ้า 1 ตัว คีย์บอร์ด กลองชุด และนักร้องชาย มีนักร้องนักดนตรี รว่ มบรรเลง 5 คน โดยบรรเลงประจาอยู่ท่ีร้านอาหารสวนป่า ตาบลคูบัว อาเภอเมือง จังหวัดราชบุรี และรับงานแสดงนอกสถานท่ี พ.ศ. 2537 นายจุฬานันท์ จินดา มีเคร่ืองดนตรีและอุปกรณ์ ประกอบการแสดงต่าง ๆ ครบครัน เป็นวงดนตรีขนาดใหญ่ ได้รับการติดต่อจากผู้ว่าจ้าง บรษิ ทั ค่ายเพลงใหไ้ ปทาการแสดงเกือบทุกภูมิภาคในประเทศไทย เนื่องจากในช่วงเวลานั้นค่ายเพลง ต่าง ๆ มีนักร้องออกผลงานเพลงจานวนมาก จึงติดต่อวงออยให้ไปทาการแสดงร่วมกับศิลปินใน ลักษณะวงเปิดให้กับศิลปิน และเป็นนักดนตรีให้กับศิลปิน ปัจจุบันนายจุฬานันท์ จินดา ประกอบ
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 24 ธุรกิจให้เช่าเครื่องเสียงและเวที แต่หากผู้ว่าจ้างต้องการวงดนตรีก็สามารถจัดหาให้ได้ (จากการ สัมภาษณ์ นายจุฬานนั ท์ จนิ ดา เม่ือวนั ท่ี 29 กรกฎาคม 2564) พ.ศ. 2506 นายลอง คาสแี กว้ ก่อตง้ั คณะแคนวงสามมิตร ทบี่ ้านตน้ มะพรา้ ว ตาบลอ่างทอง อาเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ต่อมาเปลี่ยนช่ือคณะแคนวงเป็น “ดาวเรืองรุ่งหิรัญ” ประมาณปี พ.ศ. 2522 นายลอง คาสีแก้ว ได้ก่อต้ังวงดนตรีสากลควบคู่ไปกับคณะแคนวง ประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟ้า 2 ตัว กีตาร์เบสไฟฟ้า 1 ตัว คีย์บอร์ด 1 ตัว กลองชุด และนักร้องชาย 1 คน มีนักร้อง นักดนตรีร่วมบรรเลง 6 คน เพื่อบรรเลงในช่วงเวลารับประทานอาหารเย็นในงานบวช หรืองาน สังสรรค์ต่าง ๆ เพลงท่ีบรรเลงส่วนใหญ่เป็นเพลงไทยสากลที่ได้รับความนิยมในยุคสมัยนั้น นักดนตรีในวงดนตรีสากลเป็นนักดนตรีคณะแคนวงดาวเรืองรุ่งหิรัญ และเป็นลูกของ นายลอง คาสีแก้ว พ.ศ. 2524 นายลอง คาสีแก้ว ตัดสินใจเลิกกิจการคณะแคนวง เน่ืองจากนักดนตรี มีความเหนือ่ ยลา้ เพราะนกั ดนตรตี อ้ งบรรเลงในคณะแคนวงในการแหน่ าคงานบวชตอนกลางวัน และ บรรเลงดนตรสี ากลในงานเล้ยี งตอนกลางคืน ประกอบกับจานวนงานติดต่อว่าจ้างของวงดนตรีสากล เพิ่มมากข้ึน นายลอง คาสีแก้ว ได้มอบหมายให้ลูก ๆ ประกอบด้วย นายสาเริง คาสีแก้ว นายศุภวทิ ย์ คาสแี กว้ (ช่ือเดิม สมั ฤทธิ์ คาสีแกว้ ) และนายชาญยุทธ คาสีแก้ว ดูแลวงสตริง เปล่ียนชื่อ วงดนตรเี ปน็ “ฟอรย์ ู” ประมาณปี พ.ศ. 2540 วงฟอรย์ ูไดน้ าเครอื่ งดนตรซี ีเควนเซอรม์ าใช้รว่ มกับการ บรรเลง โดยนายชาญยุทธ คาสีแก้ว เป็นผู้บรรเลง พ.ศ. 2552 นายเจนณรงค์ คาสีแก้ว บุตรชายของ นายศุภวทิ ย์ คาสีแกว้ เข้ามารับหน้าที่หัวหน้าวงฟอร์ยู นักดนตรีของวงฟอร์ยูได้เปลี่ยนมาสู่รุ่นหลาน ของนายลอง คาสแี ก้ว และเพื่อนสนิทท่ีอาศัยอยู่ในระแวงใกล้เคียง วงฟอร์ยูในปัจจุบันประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟา้ 2 ตัว กตี าร์เบส 1 ตัว กลองชุด นักร้องชาย 2 คน นักร้องหญิง 3 คน มีนักร้องนักดนตรี ร่วมบรรเลง 9 คน เปล่ียนจากเครื่องดนตรีซีเควนเซอร์มาเป็นคอมพิวเตอร์เพื่อเปิดเสียงดนตรี ประกอบการบรรเลง รับงานแสดงนอกสถานท่ี งานเลี้ยงสังสรรค์ต่าง ๆ เพลงท่ีใช้บรรเลงส่วนใหญ่ เปน็ เพลงไทยสากลที่กาลังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน (จากการสัมภาษณ์นายเจนณรงค์ คาสีแก้ว เมอ่ื วนั ท่ี 11 กรกฎาคม 2564) พ.ศ. 2524 นายบญุ ชู แยม้ เกสร (ปจั จบุ นั อายุ 66 ปี) กอ่ ตง้ั คณะแคนวงไพรจรัสแสง ที่บ้าน ไพรสะเดา ตาบลดอนทราย อาเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เครื่องดนตรีประกอบด้วยแคน 5 - 6 เต้า กลองทอม กลองมะละกัน ฉิ่ง และฉาบ มีนักดนตรีร่วมบรรเลงประมาณ 10 - 12 คน นักดนตรีใน คณะแคนวงเป็นลูกหลานของนายบุญชู แย้มเกสร ท่ีพักอาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง ประมาณปี
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 25 พ.ศ. 2528 นายบุญชู แย้มเกสร ได้ก่อต้ังวงดนตรีสากล ประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟ้า 2 ตัว กีตาร์เบสไฟฟ้า คีย์บอร์ด และกลองชุด มีนักร้องนักดนตรีร่วมบรรเลง 6 คน โดยให้นักดนตรี คณะแคนวงมาฝึกหัดฝึกซ้อมบรรเลงเครื่องดนตรีสากลและขับร้อง เพลงที่ใช้บรรเลงส่วนใหญ่เป็น เพลงลูกทุ่ง และเพลงราวง ทาให้สามารถรับงานแสดงดนตรีได้หลากหลายขึ้น เช่น งานกินเลี้ยง งานวัด และงานวคิ คอื งานจดั แสดงดนตรที ี่มีการลอ้ มรว้ั และเกบ็ เงนิ ค่าเข้าชมสาหรับผู้ที่ต้องการเข้า ไปรับฟังรบั ชมการแสดงของวงดนตรี พ.ศ. 2533 นายบุญชู แย้มเกสร ต้องโทษจาคุกท่ีเรือนจากลาง จังหวัดราชบุรี มีโอกาสได้ฝึกหัดฝึกซ้อมปฏิบัติเคร่ืองดนตรี ศึกษาทฤษฎีดนตรีสากลจากนายโกมล แจ่มดว้ ง และนายบุญเลี้ยม อินทรบุตร ขณะอยู่ในเรือนจา พ.ศ. 2538 นายบุญชู แย้มเกสร พ้นโทษ และได้รับการชักชวนจากนายโกมล แจ่มด้วง ให้ไปเป็นนักดนตรีในกรุงเทพมหานคร โดยบรรเลง อัลโต้แซกโซโฟนให้กับวงดนตรีของนักร้องที่มีชื่อเสียงหลายคน เช่น สมโภชน์ ดวงสมพงษ์ พรศกั ดิ์ ส่องแสง สรพงศ์ ชาตรี เอกชัย ศรีวชิ ยั ยุ้ย ญาติเยอะ บุญโทน ท่าไมจ้ ันทร์ สลกั จติ ดวงจันทร์ สุนารี ราชสีมา และไชยา มิตรชัย เป็นต้น และบรรเลงกลองชุดให้กับวงดนตรีของคณะตลกหลาย คณะในกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2549 นายบุญชู แย้มเกสร กลับมาอาศัยที่บ้านไพรสะเดา ตาบลดอน ทราย อาเภอปากท่อ จงั หวัดราชบรุ ี ชกั ชวนเพอ่ื นนกั ดนตรีที่เคยร่วมแสดงดนตรีด้วยกันเมื่ออาศัยอยู่ ที่กรงุ เทพมหานครมาก่อต้งั วงสตริงคอมโบข้ึน ประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟ้า 2 ตัว กีตาร์เบสไฟฟ้า 1 ตัว คีย์บอร์ด 1 ตัว อัลโต้แซกโซโฟน 1 ตัว เทนเนอร์แซกโซโฟน 1 ตัว ทรัมเป็ต 1 ตัว กลองชุด และ เคร่ืองกากับจังหวะต่าง ๆ มีนักร้องนักดนตรีร่วมบรรเลง 11 คน แต่นักดนตรีเร่ิมมีอายุมากและมี หนา้ ท่ีความรับผิดชอบเยอะขน้ึ ทาใหบ้ างคร้ังเกิดอุปสรรค์ต่าง ๆ ในการแสดง เช่น ป่วย มีธุระส่วนตัว นกั ดนตรบี างรายตอ้ งเดนิ ทางมาจากกรุงเทพมหานคร ทาให้นายบุญชู แย้มเกสร ได้สอนดนตรีสากล ให้แก่ลูก และหลาน เพ่ือทดแทนนักดนตรีท่ีเร่ิมมีอายุมากและไม่สามารถเข้าร่วมบรรเลงได้ เมอ่ื วงสตริงคอมโบเรม่ิ เป็นทรี่ ู้จัก จงึ ได้ตัง้ ช่ือว่า “ลกู ท่งุ กรงุ ไทย” นอกจากน้ันนายบุญชู แย้มเกสร ได้ เปดิ สอนดนตรสี าหรบั ผทู้ สี่ นใจ โดยคา่ เรยี นเดือนละ 500 บาท และมีผู้ที่มาฝึกหัดฝึกซ้อมเป็นจานวน มาก ทาใหช้ าวบ้านและนกั ดนตรสี ากลในจังหวัดราชบรุ บี างรายเรยี กนายบุญชู แย้มเกสรว่า “อาจารย์ บุญช”ู (จากการสมั ภาษณ์นายบุญชู แย้มเกสร เมื่อ 7 พฤศจิกายน 2563) พ.ศ. 2535 นายอนุภาพ วิยาภรณ์ (ปัจจบุ ันอายุ 53 ปี) เป็นนักดนตรีบรรเลงในร้านอาหาร Bossy ตาบลหนา้ เมอื ง อาเภอเมือง จงั หวดั ราชบุรี (ปดิ กิจการ) นายอนภุ าพ วิยาภรณ์ บรรเลงเปียโน รว่ มกับนกั ดนตรีกีตารโ์ ปร่งไฟฟา้ และนกั รอ้ งหญงิ เพลงท่บี รรเลงส่วนใหญ่เปน็ เพลงสากลท่ีกาลังได้รับ
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 26 ความนิยมอยู่ในยุคสมัยน้ัน เช่นผลงานของ ชาคิน สตีเวนซ์ (Shakin Steven) เดอะคาร์เพนเตอร์ (The Carpenters) เป็นต้น บรรเลงดนตรีในร้านอาหารกาลเวลา ตาบลบ้านไร่ อาเภอเมือง จงั หวดั ราชบุรี นายอนุภาพ วิยาภรณ์ บรรเลงคีย์บอร์ด ร่วมกับนักดนตรีกีตาร์ไฟฟ้า นักดนตรีกีตาร์ เบสไฟฟ้า มีการใช้ริทึมบอกซ์ (Rhythm box) ในการเปิดเสียงกลองชุดประกอบการบรรเลง นายอนภุ าพ วิยาภรณ์ เป็นผจู้ ดั ทาเสยี งกลองชดุ ไว้ลว่ งหน้า ส่วนใหญ่บรรเลงเพลงสากลและเพลงไทย ท่ีได้รับความนิยม เช่นผลงานของ แกรนด์เอ็กซ์ และดิโอฬารโปรเจ็คท์ เป็นต้น พ.ศ. 2540 นายอนุภาพ วิยาภรณ์ นาซีเควนเซอร์ (Sequencer) มาใช้ร่วมกับการบรรเลงกีตาร์ไฟฟ้า และกตี ารโ์ ปร่งไฟฟา้ โดยนายอนภุ าพ วิยาภรณ์ เป็นผู้ควบคุมซีเควนเซอร์ เสียงดนตรีในซีเควนเซอร์ สว่ นใหญ่นายอนุภาพ วยิ าภรณ์ เปน็ ผจู้ ดั ทาขึ้น แต่บางเพลงได้ซื้อเสียงดนตรีในซีเควนเซอร์สาเร็จรูป จากรา้ นขายเคร่ืองดนตรีแล้วนามาปรับแต่งให้เหมาะสมกับการบรรเลงของตน หลังจากนั้นไม่นานมี การนาคาราโอเกะ (Karaoke) มาใชแ้ ทนนักดนตรี ซึ่งในชว่ งเวลานั้นประเทศไทยเกิดปัญหาเศรษฐกิจ ตกต่า ทาให้ร้านอาหารต่าง ๆ หันมาใช้คาราโอเกะ เพราะมีค่าจ้างถูกกว่าจ้างนักดนตรี มีความสะดวกสบายมากกวา่ นอกจากนั้นร้านอาหารขนาดกลางและขนาดเล็กมีการนาตู้คาราโอเกะ หยอดเหรยี ญมาบรกิ ารในร้าน สง่ ผลให้นายอนภุ าพ วยิ าภรณ์ และนกั ดนตรคี นอื่น ๆ ได้รับผลกระทบ จากการถูกเลิกจ้าง หรือให้ราคาค่าจ้างท่ีต่าลง (จากการสัมภาษณ์นายอนุภาพ วิยาภรณ์ เม่ือวันที่ 9 ตลุ าคม 2563) พ.ศ. 2540 นายทองแดง จันทร (ปัจจุบันอายุ 74 ปี) ได้ก่อต้ังวงดนตรีแห่นาคในงาน อปุ สมบท ขึ้นทหี่ มบู่ า้ นวงั มะเด้ือ ตาบลจอมบึง อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ประกอบด้วย ทรัมเป็ต ยูโฟเนียม อัลโตแซกโซโฟน กลองใหญ่ ฉิ่ง และฉาบ มีนักดนตรีร่วมบรรเลงประมาณ 10 คน ในช่วง เวลากลางคืนมีการบรรเลงดนตรีเพื่อการฉลองนาค นาเครอ่ื งดนตรคี ยี ์บอร์ดเข้ามาร่วมกับวงดนตรีแห่ นาค มกี ารขบั รอ้ งรว่ มด้วย ส่วนใหญบ่ รรเลงเพลงราวงในจังหวะ ชะชะชา่ ราวง ตลุง และรุมบ้า อาจมี การบรรเลงเพลงลูกทุ่งอยู่บ้าง พ.ศ. 2547 นายทองแดง จันทร ได้ต้ังช่ือวงดนตรีว่า “วงผู้ใหญ่แดงคอมโบ” ซึ่งสอดคล้องกับบทบาทหน้าท่ีและช่ือเล่นของนายทองแดง จันทร ปรับเปลี่ยนเครื่องดนตรียูโฟเนียมเป็นทรอมโบน ซึ่งนายสมปอง พงษ์พา เรียกว่า “สไลต์” นากีตาร์ไฟฟ้า กีตาร์เบสไฟฟ้า กลองชุด และเครื่องกากับจังหวะต่าง ๆ มาร่วมบรรเลงเฉพาะการ ฉลองนาคในเวลากลางคนื พ.ศ. 2550 ไดน้ ากตี าร์เบสไฟฟา้ และกตี ารไ์ ฟฟ้า เขา้ ไปร่วมในการแห่นาค โดยใช้รถเข็นบรรทุกเคร่ืองป่ันไฟและแอมป์ขยายเสียง ทาให้เป็นที่แปลกตาของผู้มาร่วมงาน ได้รับ
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 27 การตอบรบั ที่ดี รบั งานแหน่ าคได้ประมาณ 1 ปกี ็ตอ้ งยกเลกิ เพราะนกั ดนตรีเรม่ิ มีอายุทม่ี ากขน้ึ ในช่วง เวลานั้นการแสดงราวงย้อนยุคของ “อ๊อด โฟร์เอส” เร่ิมเป็นท่ีนิยม ทาให้วงผู้ใหญ่แดงคอมโบปรับ รูปแบบการแสดงและรูปแบบวงมาเป็นราวงย้อนยุค ประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟ้า 1 ตัว กีตาร์เบสไฟฟ้า 1 ตัว คีย์บอร์ด 1 ตัว ทรัมเป็ต 2 ตัว ทรอมโบน 1 ตัว อัลโตแซ็กโซโฟน 1 ตัว กลองชุด เครอ่ื งกากับจงั หวะตา่ ง ๆ นกั ร้องชาย 4 คน และนักร้องหญิง 3 คน มีนักร้องนักดนตรีร่วม บรรเลง 16 คน มาจนถึงปจั จบุ นั (จากการสมั ภาษณน์ ายสมปอง พงษพ์ า เมอื่ วนั ที่ 24 ตลุ าคม 2563) พ.ศ. 2546 นายพสั กร พเิ ศษประสานกุล (ปัจจุบันอายุ 33 ปี) ร่วมกับเพื่อนก่อต้ังวงดนตรี สากลข้ึนขณะกาลังศกึ ษาอยู่ในระดับประกาศนยี บัตรวิชาชีพ (ปวช.) ท่ีวิทยาลัยเทคนิคราชบุรี โดยใช้ ช่อื วงวา่ “Zerple” ประกอบด้วย กตี าร์ไฟฟ้า 1 ตัว กีตาร์เบสไฟฟ้า 1 ตัว กลองชุด และนักร้องชาย 1 คน มนี ักร้องนักดนตรีร่วมบรรเลง 4 คน โดยนายพัสกร พิเศษประสานกุล ทาหน้าท่ีบรรเลงกีตาร์ เบสไฟฟ้าและขับร้อง วง Zerple ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 จากการเข้าร่วมประกวดวง ดนตรีท่จี ดั ข้ึนโดยเทศบาลเมอื งราชบุรใี นปี พ.ศ. 2546 และทาการแสดงท่รี ้านอาหารเพ่อื นชีวิต ตาบล หน้าเมือง อาเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี ในช่วงเวลา 22.00 - 24.00 น. ของทุกวัน พ.ศ. 2548 วง Zerple ได้ปรับเปลี่ยนนักดนตรี โดยชักชวนเพื่อนนักดนตรีที่เคยทาการแสดงในร้านอาหาร เดยี วกัน และเจา้ ของร้านเพือ่ นชีวิต คือนายกร กระดังงา มาร่วมบรรเลงกลองชุด ทาให้ลักษณะของ วงดนตรเี ปล่ยี นแปลงไป ประกอบดว้ ย กตี ารไ์ ฟฟ้า 1 ตวั กตี ารโ์ ปรง่ ไฟฟ้า 1 ตัว กตี าร์เบสไฟฟ้า 1 ตัว กลองชุด และนักร้องชาย 1 คน มีนักร้องนักดนตรีร่วมบรรเลง 5 คน โดยนายพัสกร พิเศษประสาน กุล เปล่ียนไปบรรเลงกีตาร์โปร่งไฟฟ้าและขับร้อง ต้ังช่ือวงใหม่ว่าวง “ยอดชาย” พ.ศ. 2555 วงยอดชายมีการบรรเลงทุกวันท่ีร้านอาหารสหายพันตา ตาบลบ้านไร่ อาเภอเมืองราชบุรี จังหวัด ราชบุรี ในช่วงเวลา 22.00 - 24.00 น. ได้นาเครื่องดนตรีคีย์บอร์ด ไวโอลิน และเคร่ืองกากับจังหวะ เข้ามาร่วมกับการบรรเลง โดยนักดนตรีคีย์บอร์ดเป็นนักดนตรีประจาวงคันไถ หากวงคันไถไม่มี งานแสดง ก็จะมาร่วมบรรเลงกับวงยอดชาย พ.ศ. 2562 วงยอดชายมีการบรรเลงดนตรีประจาที่ ร้านอาหารหลายร้าน เช่น ร้านอาหาร The Boss ตาบลหน้าเมือง อาเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ในวันจันทร์ เวลา 19.00 - 21.00 น. และร้านอาหาร 13 Club ตาบลหน้าเมือง อาเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ในวันพฤหัสบดี เวลา 22.45 - 24.00 น. และร้านอาหาร ครัวรับลมชมน้า ตาบลบ้านหม้อ อาเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ในวันเสาร์ เวลา 22.00 - 24.00 น. เป็นต้น นับว่าเป็น ยุคกระจายตัวของนักดนตรีวงยอดชาย เพราะนักดนตรีท่ีทาการแสดงในแต่ละร้านอาหารมีความ
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 28 แตกต่างกัน คือ นักดนตรีบางรายบรรเลงเฉพาะร้านอาหาร The Boss นักดนตรีบางรายบรรเลง รา้ นอาหาร 13 Club และ ครัวรับลมชมน้า แต่นายพัสกร พิเศษประสานกุล และนักดนตรีอีก 2 คน ทบ่ี รรเลงกตี ารเ์ บสไฟฟ้า และกลองชดุ เปน็ นกั ดนตรีประจาของวงยอดชายและบรรเลงทุกร้านอาหาร พ.ศ. 2563 เพ่ือนสนิทของนายพัสกร พิเศษประสานกุล เปิดร้านอาหารในจังหวัดราชบุรี และให้ชักชวนให้วงดนตรียอดชายมาเป็นวงดนตรีประจาท่ีร้านอาหาร และขอใช้ช่ือร้านอาหารว่า ร้านอาหาร “ยอดชาย” เหมือนกับชื่อวงดนตรี (จากการสัมภษณ์นายพัสกร พิเศษประสานกุล เมอื่ วนั ท่ี 30 มกราคม 2564) พ.ศ. 2550 นายโอภาศ บุลากร (ปัจจุบันอายุ 38 ปี) ก่อตั้งวงดนตรีสากลข้ึน ช่ือว่า “ราชบุรีบลอสซั่ม” ประกอบด้วย กีตาร์โปร่งไฟฟ้า 2 ตัว และนักร้องหญิง 1 คน มีนักร้องนักดนตรี รว่ มบรรเลง 3 คน บางครัง้ นายโอภาศ บุลากร ขับรอ้ งขณะทาการบรรเลงกีตาร์โปร่งไฟฟ้า วงราชบุรี บลอสซัม่ ทาการแสดงทกุ คืนวันศุกร์ และคืนวนั เสาร์ ทร่ี า้ นอาหาร Station R ตาบลดอนตะโก อาเภอ เมือง จังหวัดราชบุรี ในช่วงเวลา 20.00 - 21.45 น. และคืนวันอาทิตย์ ท่ีร้านอาหาร The Book อาเภอเมือง จังหวดั ราชบรุ ี ในชว่ งเวลาเดยี วกัน นอกจากน้ันบางครั้งได้ทาการแสดงนอกสถานที่ เช่น งานแตง่ งาน งานเล้ียง และงานวนั เกิด เปน็ ตน้ เพลงทบี่ รรเลงส่วนใหญ่เป็นเพลงไทยสากล และเพลง สากลที่ได้รับความนิยมในยุค 1980 – 1990 (พ.ศ. 2523 - 2542) โดยนามาเรียบเรียงใหม่ให้เหมาะ กับเครื่องดนตรี พ.ศ. 2553 วงราชบุรีบลอสซั่มได้ปรับเปลี่ยนลักษณะวงดนตรีเป็นวงสตริง ประกอบด้วย กีตาร์โปร่งไฟฟ้า 1 ตัว กีตาร์ไฟฟ้า 1 ตัว กีตาร์เบสไฟฟ้า 1 ตัว คีย์บอร์ด 1 ตัว กลอง ชุด และนักร้องหญิง 1 คน มีนักร้องนักดนตรีร่วมบรรเลง 6 คน เพ่ือให้สามารถบรรเลงดนตรีได้ สมบูรณ์และหลากหลายมากขนึ้ นักดนตรที ่เี พิ่มเขา้ มาเป็นเพ่ือนที่เคยเรียนในระดับมัธยมและเป็นนัก ดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรี นักดนตรีที่บรรเลงคีย์บอร์ด คือนายจิตติพล ถาวรกิจ เป็นนักดนตรี ประจาวง No one else จะมาร่วมบรรเลงกับวงราชบลอสซั่มเป็นบางคร้ังเม่ือว่างจากงานแสดงของ วง No one else (จากการสัมภาษณ์นายอดศิ ักด์ิ สายบัว เมื่อวนั ท่ี 16 มกราคม 2564) พ.ศ. 2551 นายสนุ ทร บุญเคลือบ (ปัจจุบนั อายุ 50 ปี) ก่อต้ังวงดนตรีหินกองคอมโบ ข้ึนท่ี ชมุ ชนหินกอง ตาบลหนิ กอง อาเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เพื่อบรรเลงในงานสงกรานต์ของวัดหินกอง เน่ืองจากในปีก่อน ๆ งานเทศกาลสงกรานต์ของวัดหินกองค่อนข้างเงียบ ไม่มีการแสดง นายสุนทร บญุ เคลือบ จงึ ชกั ชวนพ่ีน้อง ลูก หลาน และนักดนตรีที่สนิท ก่อตั้งวงดนตรีในรูปแบบวงสตริงคอมโบ ขนึ้ ประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟ้า 2 ตัว กีตาร์เบสไฟฟ้า 1 ตัว คีย์บอร์ด 1 ตัว เทเนอร์แซกโซโฟน 1 ตัว
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 29 กลองชุด เครือ่ งกากับจงั หวะตา่ ง ๆ นักรอ้ งชาย 1 คน และนักรอ้ งหญิง 2 คน มีนักร้องนักดนตรีร่วม บรรเลง 10 คน โดยนายวิหาร มุสิกวัฒร์ (ปัจจุบันอายุ 67 ปี) ซ่ึงเป็นนักดนตรีแตรวงชาวบ้านท่า มะขามเข้ามาร่วมบรรเลงเทเนอร์แซกโซโฟน ในช่วงเวลาน้ันการแสดงราวงย้อนยุคของ “อ๊อด โฟร์ เอส” กาลังได้รับความนิยม เป็นท่ีช่ืนชอบของนักดนตรีวงหินกองคอมโบเกือบทุกคน นายสุนธร บุญเคลือบ และนักดนตรีวงหินกองคอมโบจึงเดินทางไปชมการแสดงของอ๊อด โฟร์เอส ที่มาทาการแสดงในจังหวัดราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียงอยู่หลายครั้ง เพ่ือสังเกตรูปแบบการแสดง เพลงที่ใช้ในการแสดง แล้วนากลับมาปรับใช้กับวงหินกองคอมโบจนเป็นการแสดงราวงย้อนยุค ปัจจุบันวงหินกองคอมโบได้นาเคร่ืองดนตรีอัลโตแซกโซโฟน ทรัมเป็ต และทรอมโบน เข้ามาร่วม บรรเลง โดยนายวิหาร มสุ ิกวฒั ร์ ได้ชักชวนเพือ่ นนักดนตรแี ตรวงชาวบ้านเขา้ มาร่วมบรรเลง ปจั จุบันมี นักร้องชายจานวน 6 คน และนักร้องหญิง 2 คน (จากการสัมภษณ์นายสุนทร บุญเคลือบ เม่ือวันท่ี 30 ตุลาคม 2563) ภาพที่ 1 วงหินกองคอมโบ้ ได้รบั รางวลั ชนะเลศิ การประชันราวงย้อนยุค ในปี พ.ศ. 2554 (ถ่ายเม่อื วนั ท่ี 30 ตลุ าคม 2563 โดย นายวัชระ แสนเดช)
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 30 พ.ศ. 2556 นายธีรพต คาสีแก้ว (ปัจจุบันอายุ 24 ปี) นักดนตรีประจาวงฟอร์ยูได้ก่อต้ังวง ดนตรีสากลร่วมกับเพ่ือนนักดนตรีจานวน 2 คนเพื่อไปบรรเลงในร้านอาหาร โดยใช้ชื่อวงว่า “3 Door” ประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟ้า 1 ตัว กีตาร์เบสไฟฟ้า 1 ตัว และกลองชุด มีนักร้องนักดนตรีร่วม บรรเลง 3 คน โดยนายธีรพต คาสีแก้ว ขับรอ้ งขณะทาการบรรเลงกีตาร์ไฟฟ้า วง 3 Door บรรเลงทุก คืนวันอังคาร และคืนวันพฤหัสบดี ท่ีร้านอาหารบ้านกู ตาบลหน้าเมือง อาเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ในชว่ งเวลา 20.00 – 23.30 น. โดยบรรเลง 2 รอบ ซ่ึงนายธีรพต คาสีแก้ว เรียกว่า “เบรก” รอบละ 1 ช่ัวโมงครึ่ง และพักการแสดงประมาณ 30 นาที เพลงทบี่ รรเลงส่วนใหญ่เปน็ เพลงป๊อปของศิลปินคน ไทยในยุค 1990 เช่น เพลงของศิลปิน Blackhead เพลงของศิลปิน Labanoon และเพลงของศิลปิน Loso เปน็ ตน้ แตต่ อ้ งยตุ ิวงดนตรีลงในปีต่อมาเพราะร้านอาหารบ้านกูย้ายกิจการไปอยู่ท่ี ตาบลจอม บึง อาเภอจอมบงึ จงั หวัดราชบรุ ี ซึง่ ต้องใช้ระยะเวลาและคา่ เดนิ ทางเยอะขนึ้ ไมค่ ้มุ กับคา่ จา้ งท่ีได้ พ.ศ. 2558 นายธรี พต คาสีแกว้ นายเสกสิทธิ์ คาสีแก้ว (อายุ 26 ปี) และนายพงษ์ศักดิ์ เลขวัฒนโรส (อายุ 26 ปี) ก่อต้งั วงดนตรีสากลขึน้ และใช้ชื่อวา่ “3 Door” ตามเดมิ และเป็นวงสตรงิ ในรูปแบบเดิม ทาการ แสดงทุกคืนวันอังคาร และคืนวันพุธ ท่ีร้านอาหารกาลครั้ง ตาบลหน้าเมือง อาเภอเมือง จังหวัด ราชบุรี ในชว่ งเวลา 22.00 - 24.00 น. เพลงทบี่ รรเลงส่วนใหญ่เป็นเพลงป๊อปของศิลปินคนไทยในยุค 1990 และเพลงแดนซข์ องศิลปนิ คนไทย (เพลงทมี่ จี ังหวะสนุกสนาน) เช่น เพลง To must so much very musch ของเบิร์ด ธงไชย เพลงใจง่าย ของไอซ์ ศรัณยู เป็นต้น พ.ศ. 2560 ได้นาเคร่ืองดนตรี คียบ์ อรด์ และนักรอ้ งหญงิ จานวน 2 คนเข้ามาร่วมการแสดง ปัจจุบันนาคอมพิวเตอร์มาใช้แทนเครื่อง ดนตรีคีย์บอร์ดเพ่ือเปิดเสียงดนตรีประกอบการบรรเลง (จากการสัมภาษณ์นายธีรพต คาสีแก้ว เมอื่ วันท่ี 11 กรกฎาคม 2564) พ.ศ. 2557 นายชุมพร แสนเสน (ปัจจุบันอายุ 35 ปี) และนายเสกสิทธิ์ สุขอร่าม (ปัจจุบัน อายุ 37 ปี) ร่วมกับเพ่ือนนักดนตรีจานวน 3 คน ก่อต้ังวงดนตรี “Freedom band Ratchaburi” ในลักษณะวงสตริง ประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟ้า 1 ตัว กีตาร์เบสไฟฟ้า 1 ตัว คีย์บอร์ด 1 ตัว กลองชุด และนกั ร้องชาย มีนกั ร้องนักดนตรีรว่ มบรรเลง 5 คน โดยเปน็ การรวมกลุ่มของนักดนตรีที่เคยบรรเลง ดนตรีใหก้ บั นายทุนเจ้าของเวที เครื่องเสียง และเคร่ืองดนตรีในจังหวัดราชบุรี ซึ่งนักดนตรีส่วนใหญ่ เรยี กวา่ “โตะ๊ โผ” วง Freedom band Ratchaburi ทาการแสดงในร้านอาหารร้านอาหารสหายพัน ตา ตาบลบ้านไร่ อาเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี ร้านอาหารสองนอ ตาบลบ้านไร่ อาเภอเมือง จังหวัดราชบุรี และร้านอาหาร The Terrace Pub & Restaurant ตาบลโคกหม้อ อาเภอเมือง
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 31 จังหวัดราชบุรี เพลงทบ่ี รรเลงสว่ นใหญเ่ ป็นเพลงลูกทงุ่ เพลงเพือ่ ชีวติ และเพลงไทยสากลท่ีได้รับความ นิยม ต่อมาวง Freedom band Ratchaburi เริ่มเป็นที่รู้จัก มีงานแสดงนอกสถานท่ีเพ่ิมมากข้ึน ทาให้นักดนตรที นุ คนตัดสินใจหยุดบรรเลงประจาในร้านอาหาร รับงานแสดงนอกสถานท่ีเพียงอย่าง เดียวจนถงึ ปัจจบุ ัน (จากการสัมภาษณ์นายชมุ พร แสนเสน เมื่อวันที่ 6 กมุ ภาพันธ์ 2564) พ.ศ. 2558 นายธนู ชมชื่น (ปัจจุบันอายุ 56 ปี) เจ้าของธุรกิจให้เช่าเครื่องเสียงและ คาราโอเกะ ได้ชักชวนลูกหลานมาร่วมก่อตั้งวงดนตรีขึ้น เพราะความช่ืนชอบ และต้องการมี วงดนตรีสากลเปน็ ของตนเอง เนอ่ื งจากบางครั้งผู้ว่าจ้างต้องการวงดนตรีสากล จึงต้องจัดหาวงดนตรี วงอ่ืนมาทาการแสดง และเกิดปัญหาเรื่องคุณภาพในการบรรเลง รูปแบบการแสดงไม่ตรงกับ ความต้องการของเจ้าภาพ โดยใช้ช่ือวงดนตรีว่า “วงลูกน้าคอมโบ” เป็นวงดนตรีรูปแบบ วงสตรงิ คอมโบ ประกอบดว้ ย กตี ารไ์ ฟฟา้ 2 ตัว กตี าร์เบสไฟฟา้ 1 ตวั คียบ์ อรด์ 1 ตัว ทรัมเป็ต 1 ตัว ทรอมโบน 1 ตัว อัลโตแซกโซโฟน 1 ตัว เทเนอร์แซกโซโฟน 1 ตัว กลองชุด นักร้องชาย 3 คน และ นักร้องหญิง 2 คน มีนักร้องนักดนตรีร่วมบรรเลง 14 คน โดยจ้างนายบุญชู แย้มเกสร หัวหน้าวงลูกทุ่งกรุงไทย มาฝึกหัดฝึกสอนให้แก่นักดนตรีในวงดนตรี เพลงที่ใช้บรรเลงส่วนใหญ่เป็น เพลงลูกทุ่ง และเพลงราวง พ.ศ. 2560 อาจารย์พะยอม (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 54 ปี อาศัยอยู่ท่ี ตาบลพกิ ลุ ทอง อาเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เข้ามาเป็นนักดนตรีประจาของวงลูกน้าคอมโบ อาจารย์ พะยอมเป็นนักดนตรีสากลมากประสบการณ์ มีความรู้ทางด้านทฤษฎีดนตรีสากล จึงสามารถแต่ง เพลง และเรยี บเรียงเสยี งประสานให้กับวงลูกน้าคอมโบ โดยใช้การบันทึกโน้ตแบบดนตรีสากล (จาก การสัมภาษณน์ ายไชยสิทธ์ิ ชมชื่น เม่อื วนั ท่ี 30 ตลุ าคม 2563) พ.ศ. 2559 นายภราดร ร่มโพธ์ิทอง (ปัจจุบันอายุ 33 ปี) รวมกลุ่มกับเพื่อนนักดนตรีใน จังหวัดราชบรุ กี ่อตั้งวงดนตรสี ากลขึน้ ประกอบดว้ ย กีตาร์ไฟฟ้า 1 ตัว กีตาร์เบสไฟฟ้า 1 ตัว กลองชุด และนักร้องชาย มนี ักรอ้ งนักดนตรีร่วมบรรเลง 4 คน เพอ่ื บรรเลงในรา้ นอาหาร 13 club ในทุกคืนวัน ศุกร์ เวลา 22.00 – 23.30 น. และบรรเลงกีตาร์โปร่งไฟฟ้าคู่กับนักร้องหญิง ที่ร้านอาหาร Buono Dine&Wine โดยเป็นการบรรเลงใชอ้ ุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์ท่ีสามารถบันทึกเสียงขณะบรรเลงและเล่น เสียงที่บันทึกนั้นออกมาได้ ทาให้นักดนตรีสามารถสร้างเสียงดนตรีได้มากซับซ้อนมากข้ึน นักดนตรี ส่วนใหญ่เรียกว่า “เอฟเฟคลูปเปอร์” (Looper) (จากการสัมภาษณ์นายภราดร ร่มโพธ์ิทอง เมื่อวันที่ 10 กมุ ภาพันธ์ 2564)
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 32 พ.ศ. 2561 นายนเรศ หนูนัน (ปัจจุบันอายุ 35 ปี) ก่อตั้งวงสตริงคอมโบขึ้น ชอื่ วา่ วง “พาราไดซแ์ บนดร์ าชบุรี” ประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟ้า 2 ตัว กีตาร์เบสไฟฟ้า 1 ตัว อัลโตแซก โซโฟน 1 ตัว เทนเนอร์แซกโซโฟน 1 ตัว ทรัมเป็ต 1 ตัว กลองชุด เคร่ืองกากับจังหวะต่าง ๆ นักร้องชาย 1 คน นักร้องหญิง 2 คน มีนักร้องนักดนตรีร่วมบรรเลง 11 คน นักดนตรีบางรายเป็น นักดนตรีสากลท่ีเคยร่วมบรรเลงดนตรีสากลกับนายนเรศ หนูนัน ในเขตจังหวัดนครปฐม ช่ือ “พาราไดซ์แบนดร์ าชบุรี” เป็นการตงั้ ชื่อตามบรษิ ทั ผลิตและจาหน่ายมุ้งเต้นทพ์ าราไดซ์ ตาบลบ้าน สิงห์ อาเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ซึ่งเจ้าของบริษัทมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับนายนเร ศ หนนู ัน และเปน็ ผสู้ นับสนุนเงนิ ทนุ ในการบรหิ ารจดั การวงดนตรี วงพาราไดซ์แบนด์ราชบุรี แบ่งหน้าที่ บรหิ ารและรับผิดชอบให้กับบุลคลในเครือญาติ ออกเป็น 4 ส่วน คือ 1) วงดนตรี 2) เวที และเครื่อง ขยายเสียง 3) ระบบไฟส่องสว่าง และไฟประดับ 4) อุปกรณ์ประกอบการบรรเลง (Band Gear) นัก ดนตรีส่วนใหญ่เรียกว่า \"เครื่องบน\" ซ่ึงหมายถึง กลองชุด และแอมป์สาหรับเคร่ืองดนตรีไฟฟ้า โดย นายนเรศ หนูนัน เป็นนักดนตรีประจาของวงพาราไดซ์แบนด์ราชบุรี รับหน้าท่ีเป็นหัวหน้าวงดนตรี ควบคุมการฝึกซ้อม การบรรเลง และติดต่อรับงานแสดง ปัจจุบันวงพาราไดซ์แบนด์ราชบุรีรับงาน แสดงนอกสถานที่ งานบวช งานกนิ เล้ยี งต่าง ๆ เพลงท่ใี ช้บรรเลงส่วนใหญ่เป็นเพลงลูกทุ่ง และเพลงท่ี กาลังได้รบั ความนยิ มอยใู่ นปัจจุบัน (จากการสมั ภาษณ์นายนเรศ หนูนัน เมื่อวนั ที่ 1 มนี าคม 2564) ประเภทวงดนตรสี ากลทใี่ ช้บรรเลงเพอ่ื การประกอบอาชีพ จากการสัมภาษณ์หัวหน้าวงดนตรี และนักดนตรีสากลในจังหวดั ราชบุรี (สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2563 – 29 กรกฎาคม 2564) ในประเด็นที่เกี่ยวกับ ประเภทวงดนตรีสากลท่ีใช้บรรเลง เพ่อื การประกอบอาชพี พบว่า 1. วงสตริง นักดนตรีบางรายเรียกว่า “วงแบนด์” เกิดข้ึนในราชบุรีประมาณปี พ.ศ. 2520 โดยวง Four Singles และวงโรแมนติด ท่ีก่อตั้งขึ้นและมีช่ือเสียงในขณะนั้น วงดนตรี ประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟ้า กีตาร์เบสไฟฟ้า ออร์แกน หรือคีย์บอร์ด และกลองชุด มีนักดนตรีร่วม บรรเลง 5 – 6 คน ปัจจุบันวงสตริงบางวงดนตรีไม่มีคีย์บอร์ด บางคร้ังนักดนตรีท่ีบรรเลงกลองชุด เปล่ียนไปบรรเลงกลองไฟฟา้ และกระเดืองไฟฟ้าสาหรับเหยียบเพ่ือสร้างเสียงกลองใหญ่ ด้วยขนาดท่ี กะทัดรัด และเคล่ือนย้ายได้สะดวก ทาให้วงสตริงที่บรรเลงงานนอกสถานที่ในห้องอาหาร หรือใน อาคารทม่ี ขี นาดเวที หรือพ้ืนที่จากัดมักนิยมนามาใช้บรรเลง บางวงดนตรีมีการนาเครื่องดนตรีอ่ืน ๆ
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 33 เข้ามาร่วมการบรรเลง เช่น นายชุมพร แสนเสน ได้นาขลุ่ยเพียงออในกุญแจเสียงสากล และเม้าท์ ออรแ์ กน (Harmonica) มาบรรเลงในเพลงเพอ่ื นชีวิต นาแคน มาบรรเลงในเพลงลูกทุ่ง และนาคีตาร์ (Keytar) มาบรรเลงแทนคยี บ์ อร์ดในเพลงร็อค คีตาร์เป็นเคร่ืองดนตรีท่ีมีลักษณะคล้ายคีย์บอร์ดแต่มี ส่วนท่ีย่ืนออกมาคลา้ ยกับคอกตี ารไ์ ว้สาหรับเพ่มิ ลกู เลน่ ในการบรรเลงของกีตาร์ เช่น การดันสาย หรือ การโยกสาย เป็นต้น ทาใหส้ ามารถบรรเลงเสียงทแี่ ตกต่างออกไปจากคีย์บอร์ดทั่วไปได้ นักดนตรีส่วน ใหญ่เรียกว่า “คีย์บอร์ดสะพาย” บางวงดนตรีนาไวโอลิน และแอคคอร์เดียนมาร่วมบรรเลงใน เพลงเพื่อชีวิต แอคคอร์เดียนเป็นเครื่องดนตรีท่ีมีลักษณะคล้ายกับกล่องหรือหีบที่สามารถบีบอัด อากาศได้ มีลิ่มน้ิวไว้สาหรับบรรเลงทานอง แล้วปุ่มไว้สาหรับบรรเลงคอร์ด ทาให้สามารถบรรเลง คอร์ดและทานองได้พร้อมกัน บางวงดนตรีใช้เสียงดนตรีจากคอมพิวเตอร์ร่วมทาการแสดง วงสตริง ส่วนใหญ่บรรเลงในร้านอาหาร และงานแสดงนอกสถานที่ในงานต่าง ๆ ปัจจุบันวงสตริงในจังหวัด ราชบุรีที่มีการก่อตั้งข้ึนอย่างชัดเจน มีนักดนตรีประจาวงดนตรี บรรเลงในร้านอาหารและ งานนอกสถานท่ี มีจานวนประมาณ 7 – 8 วงดนตรี 2. วงโฟลค์ ซอง นกั ดนตรีบางรายเรยี กวา่ “วงโฟล์ค หรอื วงอคูสตกิ ” เร่มิ ไดร้ บั ความนิยมใน จังหวัดราชบุรีประมาณปี พ.ศ. 2523 มีการจัดประกวดวงโฟล์คซองเยาวชนของเทศบาล จังหวัดราชบุรี มีวงดนตรโี ฟลค์ ซองเขา้ ร่วมประกวดจานวนมาก เครอื่ งดนตรีหลักของวงโฟล์คซองเป็น กีตาร์โปร่ง 1 – 2 ตัว และเครื่องกากับจังหวะต่าง ๆ เช่น คาฮอง (Cajon) กลองคองก้า (Conga) กลองบองโก้ (Bongo) เป็นตน้ มีนักดนตรีร่วมบรรเลง 3 - 4 คน ปัจจุบันวงโฟล์คซองบางวงนากลอง ไฟฟ้า (Drum pad) ซึ่งมีลักษณะเป็นแป้นยางสาหรับเคาะ 8 – 12 แป้น โดยนักดนตรีสามารถ ปรับแต่งเสียงของแต่ละแป้นได้อย่างอิสระ วงโฟล์คซองนิยมบรรเลงในร้านอาหารช่วงเวลาหัวค่า และงานแสดงนอกสถานท่ีต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในห้องอาหาร หรือรีสอร์ท ปัจจุบันวงโฟล์คซองใน จงั หวัดราชบรุ ที ่ีมีการกอ่ ตัง้ ข้ึนอยา่ งชัดเจน มนี ักดนตรีประจาวงดนตรี ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบวงดนตรี เปน็ วงสตรงิ จานวนมาก วงโฟลค์ ซองบางวงเปน็ การรวมตัวของนักดนตรีสากลในรูปแบบวงโฟล์คซอง เพอื่ บรรเลงในรา้ นอาหารรา้ นใดร้านหนึ่ง หรือบรรเลงในงานนอกสถานท่ตี า่ ง ๆ
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 34 ภาพท่ี 2 การบรรเลงวงโฟล์คซอง โดยวงยอดชาย (ถ่ายเม่อื วันที่ 30 ตลุ าคม 2563 โดย นายวชั ระ แสนเดช) ภาพท่ี 3 การบรรเลงกลองไฟฟา้ รว่ มกับวงโฟล์คซอง โดยนายวงศกร บรบิ รู ณ์ (ถ่ายเมอ่ื วันท่ี 30 ธนั วาคม 2562 โดยนายวชั ระ แสนเดช)
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 35 3. วงสตริงคอมโบ นักดนตรีบางรายเรียกว่าวง “คอมโบ” เกิดขึ้นในจังหวัดราชบุรีราว ปี พ.ศ. 2514 โดยมีวงสตริงคอมโบท่ีทาการแสดงประจาอยู่ที่บาร์สายฝน ซ่ึงผู้คนในยุคสมัยน้ันบาง รายเรียกว่า “บาร์ลุงเชย” (ปัจจุบันปิดกิจการแล้ว) ประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟ้า 2 ตัว กีตาร์เบสไฟฟ้า 1 ตัว คีย์บอร์ด 1 ตัว อัลโตแซกโซโฟน 1 ตัว เทนเนอร์แซกโซโฟน 1 ตัว ทรัมเป็ต 1 ตวั ทรอมโบน 1 ตัว กลองชุด และเครื่องประกอบจังหวะ มีนักดนตรีร่วมทาการบรรเลง 10 คน โดยการจ้างนักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียงมาเป็นนักดนตรีประจา ในเวลาต่อมาวงดนตรีสตริงคอมโบบางวงดนตรีก่อต้ังขึ้นโดยการปรับเปลี่ยนเคร่ืองดนตรี เช่น บางวงดนตรีไม่มีอัลโตแซกโซโฟน แต่มีทรัมเป็ต 2 ตัว บางวงดนตรีมีเพียงทรัมเป็ต และแซกโซโฟน บางวงดนตรีนากลองไฟฟ้ามาบรรเลงแทนเคร่ืองประกอบจังหวะ บางคร้ังมีการนาเคร่ืองดนตรี พน้ื เมืองอสี าน เช่น แคน และโหวดมาร่วมบรรเลง ความนิยมของวงสตริงคอมโบในปัจจุบันวงสตริง คอมโบในจังหวัดราชบุรีมีจานวนประมาณ 3 – 4 วง ได้รับการติดต่อไปบรรเลงในงานบวช งานแตง่ งาน และงานเทศกาลประจาปีของวดั ซงึ่ เป็นงานขนาดใหญ่ และเป็นเวทีกลางแจ้ง 4. วงราวงย้อนยุค หรือวงราวงชาวบ้าน ในอดีตการแสดงราวงได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก แต่เน่ืองจากการทะเลาะวิวาทที่เกิดข้ึนบ่อยคร้ังเมื่อมีการจัดแสดงราวง ทาให้ภาครัฐ ต้องออกประกาศห้ามจัดการแสดงราวง กระแสความนิยมจึงลดหายไป แต่เมื่อนายจรินทร์ เกตุแดง หรือ อ๊อด โฟร์เอส ได้ผลิตผลงานเพลงในปี พ.ศ. 2548 ทาให้กระแสราวงกลับมาได้รับความนิยม เครอ่ื งดนตรที ี่ใชบ้ รรเลงในวงราวงย้อนยุคประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟ้า 1 – 2 ตัว กีตาร์เบสไฟฟ้า 1 ตัว คีย์บอร์ด 1 ตัว เทนเนอร์แซกโซโฟน 1 ตัว ทรัมเป็ต 1 ตัว ทรอมโบน 1 ตัว กลองชุด และเคร่ือง ประกอบจังหวะต่าง ๆ เช่น กลองทอม กลองคองก้า ฉ่ิง และฉาบ เป็นต้น มีนักร้องนักดนตรีร่วมทา การบรรเลงประมาณ 13 - 15 คน นกั ดนตรีบางรายเรียกนักร้องว่า “นักเชียร์ราวง” การบรรเลงของ วงราวงย้อนยุคส่วนใหญ่มีคณะนางราร่วมทาการแสดง จัดข้ึนในงานเทศกาลประจาปี และงานบวช ปจั จบุ ันในจังหวดั ราชบรุ มี ีวงราวงย้อนยุคที่มีการก่อตั้งข้ึน มีนักดนตรีประจา และมีการบรรเลงเพลง ราวงย้อนยุคเปน็ หลัก มจี านวนประมาณ 3 – 4 วงดนตรี 5. นกั ดนตรีอิสระ เป็นการบรรเลงดนตรสี ากลโดยนกั ดนตรีไม่ได้สังกัดวงใด ๆ แต่ประกอบ อาชพี นกั ดนตรีสากลโดยบรรเลงดนตรีตามที่ตนถนัด ดว้ ยเคร่ืองดนตรีท่ีมีรูปแบบตามความเหมาะสม ของตนเอง หรอื ผู้รว่ มบรรเลง ดงั น้ี
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 36 5.1 การบรรเลงเดย่ี วส่วนใหญ่เป็นการขับร้องขณะทาการบรรเลงเคร่ืองดนตรี บางครั้ง เป็นการบรรเลงในลักษณะดนตรีบรรเลง และมีการเปิดเสียงดนตรีประกอบขณะบรรเลง เช่น การเปิดเสียงกลองชุดจากริทึมบอกซ์ (Rhythm box) การเปิดเสียงเครื่องดนตรีจากซีเควนเซอร์ (Sequencer) และการเปิดเสียงเครื่องดนตรีจากคอมพิวเตอร์โน้ตบุค นักดนตรีที่บรรเลงกีตาร์ บางรายใช้อุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์ที่เรียกว่า เอฟเฟคลูปเปอร์ (Looper) สามารถบันทึกเสียงขณะ บรรเลงและเลน่ เสยี งท่บี ันทึกน้นั ออกมาได้ ทาให้นักดนตรีสามารถสร้างเสียงดนตรีได้ซับซ้อนมากข้ึน การบรรเลงเดี่ยวส่วนใหญ่เป็นการบรรเลงในร้านอาหาร การบรรเลงในสถานที่ท่องเท่ียวต่าง ๆ ในจังหวดั ราชบรุ ี และจังหวดั ใกลเ้ คยี ง เช่น ตลาดโอ๊ะป่อย อาเภอสวนผ้ึง จังหวัดราชบุรี ถนนคนเดิน ตลาดเก่าโคยก้ี อาเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ตลาดน้าอัมพวา อาเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นต้น โดยเป็นการแสดงแบบเปิดรับเงินบริจาคจากนักท่องเที่ยว นักดนตรีส่วนใหญ่เรียกว่า “การเปิดหมวก” 5.2 การรวมตัวบรรเลงอย่างอิสระ ในลักษณะวงดนตรี 2 คน (Duet) เป็นการรวมตัว บรรเลงกีตาร์โปร่งไฟฟ้า และนักร้อง วงดนตรี 3 คน (trio) เป็นการรวมตัวบรรเลงกีตาร์โปร่งไฟฟ้า คีย์บอร์ด นักร้อง หรือกีตาร์โปร่งไฟฟ้า กลองไฟฟ้า นักร้อง และวงสตริง เป็นการตัวรวมตัว ของนักดนตรีอิสระ และนักดนตรีประจาวงดนตรีท่ีว่างจากการบรรเลงของวงดนตรีหลัก ส่วนใหญ่ เปน็ การบรรเลงในร้านอาหารรา้ นใดรา้ นหนงึ่ หรือบรรเลงในงานนอกสถานที่ต่าง ๆ 5.3 การรับจ้างบรรเลงทั่วไป บางคร้ังนักดนตรีอิสระ และนักดนตรีประจาวงดนตรีสากล ในจังหวัดราชบุรีได้รับการติดต่อให้ไปบรรเลงร่วมกับวงดนตรีสากลอื่น ในฐานะนักดนตรีทดแทน เนอื่ งจากนักดนตรีประจาวงดนตรไี ม่สามารถมาทาการบรรเลงได้ หรอื เปน็ การบรรเลงพิเศษท่ีต้องการ เคร่อื งดนตรเี พม่ิ ข้ึน โดยสว่ นใหญเ่ ปน็ การชักชวนกะทันหันซ่ึงนักดนตรีอิสระจะไม่มีโอกาสได้ฝึกซ้อม ร่วมกับวงดนตรี เป็นการอาศัยไหวพริบในการฟังและการสังเกตจากนักดนตรีคนอ่ืนในวงดนตรี นักดนตรีบางคนเรียกว่า “บายฮาร์ท” นักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรีมีการใช้ส่ือสังคมออนไลน์ (Social network) ในการพดู คุย ทาความรู้จัก นักดนตรีสากลในจังหวดั ราชบุรีมีการติดต่อการรับจ้าง บรรเลงทวั่ ไปเกิดขึน้ เดอื นละ 3 – 4 ครั้ง โดยตดิ ต่อสือ่ สารทางโทรศพั ท์ และช่องทางการติดต่อส่ือสาร ออนไลน์ เชน่ เฟชบุ๊ค (Facebook) ไลน์ (Line)
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 37 ภาพท่ี 4 การรวมตวั บรรเลงดนตรีของนักดนตรีอสิ ระในการบรรเลงนอกสถานท่ี (ถา่ ยเม่อื วนั ที่ 30 ธนั วาคม 2562 โดย นายวชั ระ แสนเดช) การฝกึ หดั ฝกึ ซ้อมของนกั ดนตรีสากลในจงั หวดั ราชบรุ ี จากการสัมภาษณ์หวั หน้าวงดนตรี และนกั ดนตรีสากลในจังหวดั ราชบุรี (สัมภาษณ์เม่ือวันที่ 10 ตุลาคม 2563 – 29 ตุลาคม 2564) ในประเดน็ ท่เี กี่ยวกับ การฝกึ หดั ฝึกซ้อมของนักดนตรีสากลใน จงั หวดั ราชบุรี พบวา่ 1. การฝกึ หดั บรรเลงดนตรสี ากล นักดนตรีสากลในจังหวัดราชบุรีส่วนใหญ่ฝึกหัดการบรรเลงด้วยตนเอง อาศัยการสังเกต สอบถาม ได้รับคาแนะนาจากนักดนตรีรุ่นพี่ หรือศิลปิน โดยแต่ละเครื่องดนตรีมีข้ันตอน และ รายละเอียดในการฝกึ หัดท่ีแตกต่างกัน 1.1 กีตาร์ 1.1.1 นักดนตรีที่บรรเลงกีตาร์ในจังหวัดราชบุรีส่วนใหญ่ฝึกหัดด้วยตนเอง โดยใช้ หนงั สือเพลงที่สามารถหาซื้อได้ง่าย มีเพลงให้เลือกเป็นจานวนมาก มีราคาถูกกว่าการเรียนดนตรีใน โรงเรียนสอนดนตรี หนังสือเพลงประกอบด้วยเนื้อร้องและสัญลักษณ์คอร์ด (Chord) กากับ มีรูป ตาแหน่งในการกดคอร์ดแต่ละคอร์ด (Chord diagram) เม่ือทราบวิธีการกดคอร์ดต่าง ๆ
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 38 แล้วนักดนตรีจะใช้การสงั เกตวธี ีการดีดสาย จดจาเสียงจากการบรรเลงเพลงน้ัน ๆ ของนักดนตรีรุ่นพ่ี นักดนตรีที่มีชื่อเสียงผ่านทางรายการโทรทัศน์ และเทปบันทึกเสียง นักดนตรีส่วนใหญ่เรียกว่า “การตีคอร์ด” แล้วนามาฝึกหัดด้วยตนเองจนเกิดความชานาญ สามารถกดคอร์ดต่าง ๆ ได้อย่าง ถูกต้องและเปล่ยี นคอร์ดได้ตามจงั หวะของเพลง นักดนตรสี ่วนใหญ่เลือกเพลงที่ไม่มีการกดคอร์ดทาบ (Barre chord) มาใช้ในฝึกหัดในช่วงแรก คอร์ดทาบ คือ การใช้นิ้วช้ีทาบลงบนสายท่ี 1 – 6 หรือ 1 - 5 ของกีตาร์ เช่น คอรด์ F และคอร์ด Bm การกดให้คอร์ดทาบให้มีความไพเราะนั้นเป็นเร่ืองยาก สาหรับคนที่เร่ิมฝึกหัด สร้างความเจ็บปวดให้กับนิ้วของผู้ฝึกหัด เม่ือกดคอร์ดต่าง ๆ จนเกิดความ ชานาญจึงเร่ิมฝึกหัดเพลงท่ีมีคอร์ดทาบ นักดนตรีท่ีฝึกหัดด้วยตนเองส่วนใหญ่ฝึกหัดบรรเลงด้วย กีตาร์โปร่ง เนอื่ งจากกตี าร์โปร่งสามารถบรรเลงไดส้ ะดวก ไม่ต้องใช้อุปกรณ์สาหรับการบรรเลงต่าง ๆ เหมือนกับกีตาร์ไฟฟ้าท่ีจาเป็นต้องมีสายสัญญาณ และแอมป์ขยายเสียง กีตาร์โปร่งมีเสียงไม่ดังมาก นุ่มนวล สามารถฝึกหัดได้ในบ้านพักอาศัย กีตาร์โปร่งที่ใช้ในการฝึกหัดส่วนใหญ่นักดนตรีซ้ือ กีตารโ์ ปร่งเป็นของตนเอง จากเงนิ ที่เกบ็ ออม และได้รับการสนบั สนุนจากครอบครัว นักดนตรีบางราย เข้าไปคลุกคลีกับเพอื่ น หรือร่นุ พ่ที ่ีมีกตี าร์โปร่งเพื่อจะได้มีโอกาศในการฝกึ หัดกีตาร์ 1.1.2 เม่ือนักดนตรีเริ่มบรรเลงคอร์ดได้ จึงเร่ิมฝึกหัดบรรเลงทานอง (Solo) โดยการสังเกตวีธีการบรรเลงและจดจาเสียงจากการบรรเลงของนักดนตรีรุ่นพ่ี นักดนตรีท่ีมีชื่อเสียง แล้วนามาฝึกหัดด้วยตนเอง ในช่วงแรกนักดนตรีส่วนใหญ่ฝึกหัดตามท่ีตนเองถนัด เช่น การกดสาย ด้วยนิ้วช้ี หรอื นว้ิ กลางของมอื ซ้ายเพียงนิ้วเดยี ว การดดี สายลงเพียงอย่างเดียว เมอื่ เร่ิมบรรเลงได้คล่อง แคร่วจงึ ปรบั เปลยี่ นวิธีการบรรเลงใหใ้ กล้เคียงกับการบรรเลงของนักดนตรีรุ่นพ่ี นักดนตรีที่มีช่ือเสียง นักดนตรีบางรายฝกึ หัดการบรรเลงทานองจากการรับชมเทปบันทึกภาพการสอนการบรรเลงทานอง ของเพลงตา่ ง ๆ ของนักดนตรีท่ีมีช่ือเสียงในเว็บไซต์ (Youtube.com) การฝึกหัดบรรเลงทานองส่วน ใหญ่นกั ดนตรใี ช้กตี าร์ไฟฟา้ ในการฝกึ หดั เน่ืองจากภาพลกั ษณ์ของการบรรเลงทานองของนักดนตรีที่มี ชือ่ เสยี งสว่ นใหญ่ใชก้ ตี าร์ไฟฟา้ และเสียงของกีตาร์ไฟฟ้าท่ีสามารถสร้างความเด่นชัดได้มากกว่าเสียง ของกตี าร์โปร่ง 1.1.3 นักดนตรีบางรายได้รับการฝึกหัดจากครูผู้สอนในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา และโรงเรียนสอนดนตรีเอกชนในจังหวัดราชบุรี ทาให้นักดนตรีท่ีบรรเลงกีตาร์ส่วนใหญ่มีวิธีการ บรรเลงที่เหมาะสม นักดนตรีบางรายมีความรู้เก่ียวกับพื้นฐานทฤษฎีดนตรีสากล สามารถนามาเป็น พื้นฐานในการพฒั นาการบรรเลงกตี ารด์ ้วยตนเองได้
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 39 1.2 กตี าร์เบสไฟฟา้ 1.2.1 นักดนตรีทีบ่ รรเลงกีตาร์เบสไฟฟ้าส่วนใหญ่ฝึกหัดด้วยตนเอง โดยการสังเกต วิธีการบรรเลงและจดจาเสยี งจากนักดนตรีรุ่นพี่ นกั ดนตรีทมี่ ชี อื่ เสียง แล้วนามาฝึกหัดด้วยตนเองตาม ความถนดั เชน่ นกั ดนตรีบางรายใช้น้ิวช้ีของมือขวาในการดีดสายเพียงนิ้วเดียว นักดนตรีบางรายนา ปิก๊ กีตาร์มาใชใ้ นการดีดสาย นกั ดนตรีบางรายบรรเลงกีตาร์เบสไฟฟ้าด้วยมือซ้าย กดสายด้วยมือขวา ซ่งึ เปน็ การบรรเลงทตี่ รงขา้ มกบั การบรรเลงปกติ นักดนตรสี ่วนใหญ่ฝึกหัดด้วยกีตาร์โปร่ง โดยบรรเลง เฉพาะสาย 3 – 6 ซ่งึ มชี ื่อโนต้ และชอ่ ง (Flet) ทใ่ี กลเ้ คียงกับกีตารเ์ บสไฟฟา้ 1.2.2 นักดนตรที ี่บรรเลงกตี ารเ์ บสไฟฟ้าบางรายได้รบั คาแนะนาจากเพ่อื น และรุ่นพี่ ที่มคี วามรูค้ วามสามารถในการบรรเลงกตี ารเ์ บส จากการไปซ้อมดนตรีด้วยกันในห้องซ้อมดนตรี จึงมี โอกาสไดฝ้ กึ หัดดว้ ยกีตาร์เบสไฟฟา้ ท่ีหอ้ งซ้อมดนตรีจัดเตรียมไว้ให้ หลังจากนั้นกลับมาฝึกหัดฝึกซ้อม ด้วยตนเองในบา้ นพักอาศยั ด้วยกตี ารโ์ ปรง่ 1.2.3 นักดนตรีที่บรรเลงกีตาร์เบสไฟฟ้าเม่ือเริ่มบรรเลงได้ พอรู้จักตัวโน้ตบนสาย ต่าง ๆ ของกีตาร์เบสไฟฟ้า สว่ นใหญ่จะฝึกหัดเพ่ิมเติมด้วยตนเอง โดยการใช้หนังสือเพลงที่มีเนื้อร้อง และคอรด์ กากับไว้ บรรเลงโนต้ ตามช่ือคอร์ดท่กี าหนดไว้ เช่น คอร์ด C ก็จะบรรเลงโน้ต C หรือคอร์ด Am ก็จะบรรเลงโน้ต A เป็นต้น 1.2.4 นักดนตรีที่บรรเลงกีตาร์เบสไฟฟ้าบางรายได้รับการฝึกหัดจากครูผู้สอนใน โรงเรียนมธั ยมศึกษา และโรงเรยี นสอนดนตรเี อกชนในจังหวดั ราชบุรี นกั ดนตรีบางรายมีประสบการณ์ การบรรเลงในวงดนตรีต่าง ๆ ท่ีสถานศึกษาจัดขึ้น ทาให้นักดนตรีท่ีบรรเลงกีตาร์เบสไฟฟ้ามีวิธีการ บรรเลงท่เี หมาะสม และมคี วามรู้พน้ื ฐานเกย่ี วกับทฤษฎีดนตรสี ากล ทาให้สามารถในมาเป็นพ้ืนฐานใน การพฒั นาการบรรเลงกีตารเ์ บสไฟฟ้าของตนเองได้ 1.3 คยี บ์ อร์ด 1.3.1 นกั ดนตรีทบ่ี รรเลงคีย์บอร์ดส่วนใหญ่ฝึกหัดด้วยตนเอง โดยใช้หนังสือเพลงท่ี หาซ้อื ไดง้ า่ ย มเี พลงใหเ้ ลอื กเปน็ จานวนมาก มรี าคาถูกกวา่ การเรียนดนตรใี นโรงเรียนสอนดนตรี ซ่ึงใน หนังสอื จะมรี ูปตาแหน่งในการกดคอร์ดแต่ละคอร์ด ใชก้ ารสงั เกตวิธกี ารบรรเลง การจดจาเสียงที่ได้ยิน จากการบรรเลงของนักดนตรีรุ่นพ่ี นักดนตรีที่มีช่ือเสียง แล้วนามาฝึกหัดด้วยตนเองด้วยคีย์บอร์ดใน หอ้ งซ้อมดนตรี และคีย์บอรด์ ทไี่ ดจ้ ดั ซอื้ ด้วยตนเองตามความถนัด ทาให้นักนตรที บี่ รรเลงคีย์บอร์ดบาง รายมีการใช้นว้ิ ในการกดลิ้มคียบ์ อรด์ ท่ีแตกต่างไปจากนกั ดนตรที ่านอื่น นกั ดนตรบี างรายมีพืน้ ฐานการ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121