Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เกวลี ตระกูลสุขทรัพย์

เกวลี ตระกูลสุขทรัพย์

Published by วิทย บริการ, 2022-07-04 01:47:16

Description: เกวลี ตระกูลสุขทรัพย์

Search

Read the Text Version

37 การผลิต การกาจัดของเสีย วิธีการด้านการตลาด การจ้างงาน และการมีส่วนร่วมในการรณรงค์ด้าน การเมือง 3. ขอ้ มูลพื้นฐานของพ้ืนทวี่ จิ ัย การศึกษาวิจัยครั้งน้ี ผู้วิจัยกาหนดพ้ืนที่วิจัยเป็นสถานศึกษาในสังกัดสานักงานเขตพื้นที่ การศึกษามธั ยมศกึ ษาประจวบครี ขี นั ธ์ ซึง่ มีข้อมูลพืน้ ฐาน ดงั นี้ สภาพท่ัวไปของโรงเรยี นในสงั กดั สานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษาประจวบคีรีขันธ์ ต้ังอยู่ในบริเวณ 304 ถนนสละชีพ ตาบลประจวบครี ขี นั ธ์ อาเภอเมอื งประจวบครี ขี ันธ์ จงั หวัดประจวบคีรขี นั ธ์ 77000 สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ จัดต้ังขึ้นตามประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศ ณ วนั ท่ี 17 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เรอื่ ง การกาหนดและแก้ไขเปล่ียนแปลง เขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 และ พระราชบัญญัติระเบียบบรหิ ารราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2553 กาหนดใหม้ ีเขตพ้ืนท่ี การศึกษามัธยมศึกษา จานวน 62 เขต โดยสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ มสี ถานศกึ ษาระดบั มธั ยมศกึ ษาในสงั กัด จานวน 18 โรง จาแนกตามอาเภอ ดังน้ี ตารางที่ 1 ข้อมูลบุคลากรสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ จาแนกตาม อาเภอ ท่ี อาเภอ จานวนสถานศึกษา ผบู้ รหิ าร จานวนบุคลากร รวม 4 ครู 162 1 หวั หนิ 3 3 158 126 2 ปราณบรุ ี 3 3 123 86 3 สามร้อยยอด 1 2 83 56 4 กุยบรุ ี 2 4 54 131 5 เมืองประจวบครี ีขันธ์ 3 2 127 47 6 ทับสะแก 2 3 45 153 7 บางสะพาน 3 1 150 29 8 บางสะพานน้อย 1 22 28 790 18 768 รวม

38 งานวิจยั ที่เก่ียวขอ้ ง 1. งานวจิ ยั ในประเทศ ผู้วิจัยได้ศึกษางานวิจัยในประเทศเก่ียวข้องกับบรรยากาศองค์การท่ีส่งผลต่อคุณภาพชีวิต การทางานของครใู นโรงเรยี น โดยนาเสนอข้อคน้ พบจากงานวจิ ัยโดยสรุปได้ดังนี้ พรรนิภา ม่วงคร้าม (2550, 60) ได้ศึกษามิติบรรยากาศองค์การท่ีส่งผลต่อคุณภาพชีวิต การทางานของครูโรงเรียนเอกชนในจังหวัดขอนแก่น ผลการวิจัย พบว่า 1) มิติบรรยากาศองค์การของ โรงเรียนเอกชนในจังหวัดขอนแก่น โดยภาพรวมอยู่ในระดับสูง โดยด้านท่ีมีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้าน มาตรฐานการปฏิบัตงิ าน และด้านท่ีมคี ่าเฉล่ียน้อยท่ีสดุ คือ ดา้ นมิติรางวลั 2) คุณภาพชีวติ การทางาน ของครโู รงเรียนเอกชนในจังหวัดขอนแก่น โดยภาพรวมอยู่ในระดับสูง โดยด้านที่มีด้านเฉล่ียสูงสุดถือ ด้านการเก่ียวพันกับสังคม และด้านที่อยู่ในระดับต่าที่สุด คือ การได้รับค่าตอบแทนที่เพียงพอและ ยุติธรรม 3) มิติบรรยากาศองค์การของโรงเรียนมีความสัมพันธ์ทางบวกกับคุณภาพชีวิตการทางาน ของครูโรงเรียนเอกชนในจังหวัดขอนแก่น อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) มิติบรรยากาศ องค์การของโรงเรียนที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทางานของครูโรงเรียนเอกชนในจังหวัดขอนแก่น อยา่ งมีนยั สาคัญทางสถติ ิทร่ี ะดับ .05 สุชานุช พันธนียะ (2553, 130–132) ได้ศึกษาวิจัย เรื่องบรรยากาศองค์การท่ีส่งผลต่อ คณุ ภาพชีวิตการทางานของข้าราชการครู ผลการวิจัย พบว่า 1) ระดบั ความคิดเหน็ ของข้าราชการครู ต่อบรรยากาศองค์การของโรงเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านอยู่ใน ระดับมากทุกด้าน 2) ระดับความคิดเห็นของข้าราชการครูต่อคุณภาพชีวิตการทางาน โดยรวมอยู่ใน ระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านอยู่ในระดับมากทุกด้าน 3) ข้าราชการครูที่ปฏิบัติงานใน โรงเรียนท่ีสังกัดเครือข่ายแตกต่างกันต่อบรรยากาศองค์การของโรงเรียนแตกต่างกันอย่างไม่มี นยั สาคัญทางสถติ ิ ส่วนข้าราชการครทู ี่ปฏิบัติงานในโรงเรียนท่ีมีขนาดแตกต่างต่อบรรยากาศองค์การ ของโรงเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ 4) ข้าราชการครูท่ีปฏิบัติงานในโรงเรียนท่ีสังกัด เครือข่ายแตกต่างกัน จะมีคุณภาพชีวิตการทางานที่แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสาคัญทางสถิติ ส่วน ข้าราชการครูท่ีปฏิบัติงานในโรงเรยี นที่มีขนาดแตกตา่ งจะมีคณุ ภาพชีวิตการทางานทแ่ี ตกต่างกันอยา่ ง มนี ัยสาคญั ทางสถติ ิ 5) ปัจจยั บรรยากาศองค์การท่ีสง่ ผลต่อคณุ ภาพชวี ิตการทางานของขา้ ราชการครู อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ โดยปัจจัยด้านบรรยากาศองค์การที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทางานของ ขา้ ราชการครู มี 3 ด้าน ไดแ้ ก่ ด้านโครงสร้างองค์การ ดา้ นสนับสนุน และด้านความเป็นอนั หน่งึ อนั เดียวกนั วีรวัฒน์ จตุรวงค์ (2554, 84–88) ได้ศึกษาวิจัย เร่ือง การศึกษาบรรยากาศองค์การของ โรงเรียนสังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 ผลการวิจัย พบว่า 1) บรรยากาศองค์การในโรงเรียนสังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 2

39 ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน และเม่ือเรียงลาดับ จากด้านท่ีมีระดับมากท่ีสุดไปหาระดับน้อยท่ีสุด คือ ด้านการผนึกกาลังในการทางาน ด้านการมีขวัญ กาลังใจสูง ด้านการเอ้ืออาทรต่อกัน ด้านการมีโอกาสในการทางาน ด้านการก้าวหน้าทางวิซาการและ สังคมอย่างต่อเน่ือง ด้านการปรับปรุงสถานศึกษา ด้านการไว้วางใจ และด้านการยอมรับนับถือ ตามลาดับ 2) ผลการเปรียบเทียบบรรยากาศองค์การในโรงเรียนสังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประถมศึกษานครราชสมี า เขต 2 ตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรยี นและครจู าแนกตามสภาพทาง ตาแหน่ง โดยภาพรวมและรายด้าน พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยผู้บริหารโรงเรียนค่าเฉลี่ยสูงกว่าครู 3) ผลการเปรียบเทียบบรรยากาศองค์การในโรงเรียนสังกัด สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 ตามความคิดเหน็ ของผู้บริหารโรงเรียน และครู จาแนกตามขนาดของโรงเรียน โดยภาพรวม พบว่า ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ ระดับ .05 เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการเอ้ืออาทร มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทาง สถิตทิ ี่ระดบั .05 อัจฉราภรณ์ บัวลังกา (2554, 98) ได้ศึกษาสมรรถนะผู้บริหารกับบรรยากาศองค์การ ในโรงเรียน สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2 ผลการวิจัย พบว่า 1) สมรรถนะผู้บริหารในโรงเรียนสังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2 โดยภาพรวม และรายด้านพบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยเรียงตามค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ดังนี้ ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ด้านการบริหารงานและด้านการบริหารตนเอง ด้านการนาผู้อื่นและ ดา้ นนวัตกรรม 2) บรรยากาศองค์การในโรงเรยี นสงั กดั สานกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษากาญจนบุรี เขต 2 โดยภาพรวม และรายด้านพบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยเรียงตามค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ดงั นี้ ดา้ นความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน ด้านความไว้วางใจ ด้านความเอาใจใส่ ดา้ นความเคารพนบั ถือ การมีขวัญกาลังใจสูง ด้านความเติบโตทางวิชาการและสังคมอย่างต่อเน่ือง ด้านโอกาสในการมีส่วนร่วม และด้านการปรับปรุงโรงเรียน 3) ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะผู้บริหารกับบรรยากาศองค์การ ในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2 โดยภาพรวมและรายด้าน มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซ่ึงสมรรถนะของผู้บริหารสัมพันธ์กับโอกาส ในการมีส่วนร่วม ความเจริญเติบโตทางวิชาการและสังคมอย่างต่อเนื่อง ความเอาใจใส่ ความเป็น อนั หนง่ึ อนั เดียวกนั การมขี วัญกาลงั ใจสูง การปรับปรุงโรงเรียน ความไวว้ างใจ และความเคารพนบั ถือ จินดากานต์ คงเดชาชาญ (2555, 103–104) ได้ศึกษาคุณภาพชีวิตการทางานของพนักงานครู เทศบาลในสถานศึกษา สังกัดเทศบาลนครนครปฐม ผลการวิจัย พบว่า 1) คุณภาพชีวิตการทางานของ พนักงานครูเทศบาลในสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครนครปฐม โดยภาพรวมระดับคุณภาพชีวิตการทางาน ของพนักงานครเู ทศบาลมีคา่ อยู่ในระดับมาก เมื่อพจิ ารณาแยกเป็นรายด้าน พบว่า คุณภาพชีวิตการทางาน ของพนักงานครูเทศบาลที่อยู่ในระดับมาก มีจานวน 7 ด้าน โดยเรียงตามมัชฌิมเลขคณิตจากมากไปน้อย

40 ดังนี้ ด้านการพัฒนาความสามารถของบุคคล ด้านการบูรณาการด้านสังคม ด้านความเจริญก้าวหน้าและ ความมั่นคงในงาน ด้านการเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับสังคม ด้านประชาธิปไตยในการทางาน ด้านสภาพแวดล้อม ท่ีปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาพ และด้านจังหวะชีวิต ส่วนด้านการให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสมและยุติธรรม อยู่ในระดับปานกลาง 2) การวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างของระดับคุณภาพชีวิตการทางานของ พนักงานครูเทศบาลในสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครนครปฐมตามทัศนะของพนักงานครูเทศบาล ประกอบด้วย ผ้บู ริหารและครใู นภาพรวมแตกต่างกัน โดยจาแนกเป็นรายด้าน ทั้งหมดจานวน 8 ด้าน ส่วนใหญ่แตกต่างกัน จานวน 7 ด้าน ได้แก่ ด้านที่ 1 การให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสมและยุติธรรม ด้านท่ี 2 สภาพแวดล้อมท่ีปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาพ ด้านท่ี 3 การพัฒนาความสามารถของบุคคล ด้านที่ 4 ความเจริญก้าวหน้าและความม่ันคงในงาน ด้านที่ 5 การบูรณาการด้านสังคม ด้านท่ี 6 ประชาธิปไตยในการทางาน และด้านที่ 8 การเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับสังคม ยกเว้นด้านท่ี 7 จังหวะชีวิต ท่ี ไม่แตกต่างกันอยา่ งมนี ยั สาคญั ทางสถติ ิทร่ี ะดับ .05 วินันทา ลีลายิ่งยศ (2556, 84–87) ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะของผู้บริหารกับ บรรยากาศองค์การของธนาคารออมสิน ผลการวิจัย พบว่า 1) ผู้บริหารธนาคารออมสินมีสมรรถนะ ทางการบริหาร โดยรวมอยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณารายด้านพบว่า ผู้บริหารธนาคารออมสินมี สมรรถนะทางการบริหารทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยมีสมรรถนะทางการบริหารมากที่สุดในด้าน ภาวะผู้นา รองลงมาคือ ดา้ นการบริหารการเปล่ยี นแปลง ด้านการแกไ้ ขปัญหาและการตัดสินใจ ดา้ น วสิ ัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ และด้านการวางแผนงาน ตามลาดบั 2) บรรยากาศองค์การของธนาคารออมสิน โดยรวมอย่ใู นระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบวา่ การรับรู้ตอ่ บรรยากาศองค์การของธนาคารออมสิน มากที่สดุ คือ ดา้ นความรักในหมคู่ ณะ ดา้ นความอบอ่นุ และการสนับสนุน ด้านการยอมรบั ความขัดแย้ง ด้านความเป็นอิสระ ด้านระบบรางวัลตอบแทน และด้านโครงสร้างการทางาน ตามลาดับ 3) สมรรถนะ ของของผ้บู ริหารกับบรรยากาศองคก์ ารของธนาคารออมสนิ มีความสมั พันธ์ในทศิ ทางบวกกับการรบั รู้ ต่อบรรยากาศองค์การของพนักงานธนาคารออมสิน โดยรวม อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมรี ะดบั ความสมั พนั ธใ์ นระดับปานกลาง เบญจมาภรณ์ เครือสุวรรณ (2557, 133–134) ได้ศึกษาวัฒนธรรมองค์การของโรงเรียนกับ คุณภาพชีวิตในการทางานของครูในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 ผลการวิจัย พบว่า 1) วัฒนธรรมองค์การของโรงเรียน สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษา นครปฐม เขต 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อจาแนกตามรายด้าน พบว่า วัฒนธรรมองค์การของ โรงเรียน สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลาดับจากค่ามัชฌิมเลขคณิตจากมากไปหาน้อย ดังน้ี ด้านการวางแผนกลยุทธ์และการสร้าง สัมพันธภาพ ด้านความมีเสถียรภาพของบุคลากร ด้านการกาหนดเป้าหมายและความคาดหวังที่ ชัดเจน ด้านความมีระเบียบวินัย ด้านความมีเสถียรภาพของบุคลากร ด้านการจัดทาหลกั สูตรและการ

41 จัดองค์กร ด้านการได้รับการยกย่องในความสาเร็จของคุณภาพทางวิชาการของโรงเรียน ด้านการ จัดการเวลาเรียนให้มากท่ีสุด ด้านการมีส่วนร่วมและการสนับสนุนของผู้ปกครอง ด้านการได้รับการ สนับสนุนจากเขตพื้นที่การศึกษา ด้านการพัฒนาบุคลากร ด้านการบริหารอาคารสถานที่ และการ ตัดสนิ ใจด้วยความเสมอภาค และดา้ นภาวะผูน้ า 2) คุณภาพชีวติ ในการทางานของครู สังกัดสานักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณาด้าน พบว่า คุณภาพชีวิตในการทางานของครู สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลาดับจากค่ามัชฌิมเลขคณิตมากไปหาน้อย ดังน้ี ด้าน ความก้าวหน้าและความมั่นคงในงาน ด้านแนวคิดเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของคนภายในองค์การท่ี ทางาน ด้านโอกาสในการใช้และพัฒนาศักยภาพของความเป็นมนุษย์ ด้านความเก่ียวเน่ืองของชีวิต การทางานกับสังคม ด้านส่ิงแวดล้อมในการทางานท่ีถูกสุขลักษณะและปลอดภัย ด้านความสัมพันธ์ ระหว่างงานกับชีวิตโดยรวม ด้านการปรับตัวเข้ากับส่ิงแวดล้อมทางสังคมภายในองค์การที่ทางาน และ ด้านค่าตอบแทนหรือเงินชดเชยที่เพียงพอและเป็นธรรม 3) วัฒนธรรมองค์การของโรงเรียนกับ คณุ ภาพชีวติ ในการทางานของครู สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 มี ความสัมพันธ์กันโดยภาพรวมในระดับสูง อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ แบบคลอ้ ยตามกนั เพ็ญศรี เวชประพันธ์ (2557, 93–94) ได้ศึกษาคุณภาพชีวิตการทางานของข้าราชการครู สงั กัดสานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาจังหวัดสงขลา ผลการวจิ ัย พบว่า 1. คุณภาพชีวิตการ ทางานของข้าราชการครูสังกัดสานักงานเขตเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาจังหวัดสงขลาในภาพ รวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาแยกตามดา้ นคุณภาพชีวิตการทางานพบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงลาดับค่าเฉล่ียจากมากไปน้อย ดังนี้ ด้านความภูมิใจในองค์การ ด้านธรรมนูญในองค์การ ด้านสังคม สมั พันธ์ ด้านความก้าวหน้าและมั่นคงในงาน ด้านพัฒนาศักยภาพ ด้านภาวะอิสระจากงาน ดา้ นการสร้าง สภาพแวดล้อมการทางานที่ปลอดภัยและด้านรายได้และประโยชน์ตอบแทน 2) คุณภาพชีวิตการ ทางานของข้าราชการครูสังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาจังหวัดสงขลา จาแนก ตามรายได้ ประสบการณ์ในการทางาน และขนาดโรงเรียนแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสาคัญทางสถิติ ท่ีระดับ .05 ยกเว้นจาแนกตามเพศ และตาแหน่งงานแตกตา่ งกนั อย่างมีนัยสาคญั ทางสถิตทิ ร่ี ะดับ .05 3) การศึกษาแนวทางในการพัฒนาหรือส่งเสริมคุณภาพชีวิตในการทางานของข้าราชการครูสังกัดเขต พ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดสงขลา พบว่าผู้บริหารสังกัดเขตเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา สงขลา ส่งเสริมให้ข้าราชการครูสร้างผลงานทางวิชาการ ตลอดจนการสรา้ งสรรค์ด้านต่าง ๆ เก่ียวกับ สื่อการสอนหรือวิธีการสอน ครูผู้สอนควรให้ความสาคัญกับสื่อการสอนและพัฒนาส่ือการสอนให้มี ประสิทธิภาพมากข้ึน เพราะสื่อการสอนน้ันเป็นสิ่งท่ีทาให้นักเรียนเข้าใจบทเรียนมากย่ิงข้ึน และส่ือ การสอนน้ันสามารถจะเปลี่ยนมุมมองที่เป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรม เพ่ือง่ายต่อการเข้าใจ ส่วนใน

42 เร่ืองความปลอดภัยนั้นมุ่งสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนและชุมชน ครูก็จะเป็นครูของชุมชน เพราะการสรา้ งความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนและชมุ ชนน้ัน จะเป็นการสร้างรั้วที่ยั่งยืนและเป็นเกราะ กาบังให้แก่ครูและโรงเรียน และเปิดโอกาสให้ทุกคนทากิจกรรมตามความถนัดและตามความสามารถ โดยผู้บริหารคอยสนับสนุนและเป็นท่ีปรึกษา รวมทั้งพัฒนาตนเองและสนับสนุนให้บุคลากรพัฒนา ตนเองรวมท้ังพัฒนางานในหน้าท่ีให้เหมาะสมกบั การเปลี่ยนแปลงอยเู่ สมอและใหโ้ อกาสข้าราชการครู แสดงความรู้ความสามารถแก่สาธารชนท้ังในองค์การและภายนอก รวมทั้งส่งเสริมกิจกรรมชุมชน สมั พันธท์ ี่เช่ือมโยงนักเรียน ครู และผู้ปกครองเข้าด้วยกัน ในเรอื่ งการปฏิบัติตน และบังคับใช้ระเบียบ อย่างเสมอภาค และยุติธรรมยอมรับความคิดเห็นท่ีมีเหตุผล แก้ไขปรับปรุงงานท่ีบกพร่อง และกาหนด ช่วงเวลาในการทางานที่ชัดเจนตามความยากง่ายของงาน ให้สามารถหยุดพักผ่อนคลายในความกังวล มีท่ีปรึกษาสร้างทีมท่ีช่วยเหลือกันและร่วมกันทา และท่ีสาคัญคือส่งเสริมให้ครูและบุคลากรทาง การศกึ ษามีจติ วิญญาณของความเปน็ ครู การเปน็ ครูมอื อาชีพ และยดึ มั่นในจรรยาบรรณของวิชาชีพ เมธาพร เชื้อหอม (2557, 111–113) ได้ศึกษาแบบบรรยากาศองค์การในโรงเรียนท่ีส่งผลต่อ คณุ ภาพชวี ติ การทางานของข้าราชการครู สังกดั สานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 1 ผลการวิจัยพบว่า 1) แบบบรรยากาศองค์การในโรงเรียน สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 1 ทุกแบบ อยู่ในระดับมาก เรียงลาดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย คือ บรรยากาศอิสระ รองลงมาคอื บรรยากาศแบบควบคมุ บรรยากาศแบบสนิทสนม ส่วนดา้ นที่มีคา่ เฉลี่ย น้อยท่ีสุด คือบรรยากาศแจ่มใส หรือแบบเปิด 2) คุณภาพชีวิตการทางานของข้าราชการครูสังกัด สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 1 โดยภาพรวมและรายด้าน มีค่าเฉลี่ยอยู่ใน ระดับมาก เรียงลาดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย คือ ค่าตอบแทนท่ีเพียงพอและยุติธรรม รองลงมามี ค่าเฉลี่ยเท่ากัน คือ ความก้าวหน้าและความม่ันคงในงานระเบียบข้อบังคับในการปฏิบัติงาน ส่วนด้านท่ี มีค่าเฉล่ียน้อยที่สุด คือ ความสมดุลระหว่างชีวิตกับการทางาน 3) ความสัมพันธ์ระหว่างแบบบรรยากาศ องค์การในโรงเรยี น และคณุ ภาพชวี ิตการทางานของข้าราชการครสู ังกดั สานักงานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษา ประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 1 มีความสัมพันธ์ในทางบวกในระดับมาก อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ท่ีระดับ .05 4) แบบบรรยากาศองคก์ ารในโรงเรียนคือ ด้านบรรยากาศแจ่มใสหรือแบบเปดิ ดา้ นบรรยากาศ อสิ ระ ด้านบรรยากาศแบบควบคุม ดา้ นบรรยากาศแบบสนิทสนม ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทางาน ของข้าราชการครู สงั กดั สานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาฉะเชงิ เทรา เขต 1 สิรพิ รรณ เมฆวิลัย (2557, 89) ได้ศกึ ษางานวิจัย เร่ือง การวเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธ์การรบั รู้ ภาวะผู้นาและคุณภาพชวี ิตการทางานกับความผกู พันต่อองคก์ รของพนักงานธนาคารกรุงไทย จงั หวัด นครปฐม ผลการศึกษา พบว่า 1) พนักงานธนาคารกรุงไทย จงั หวัดนครปฐม มกี ารรับรูภ้ าวะผนู้ าแบบ เปลี่ยนแปลงและภาวะผู้นาแบบแลกเปล่ยี นอยู่ในระดับสูง มีระดับคณุ ภาพชีวิตการทางานโดยรวมอยู่ ในระดับสูง เมื่อพิจารณาในผลของแต่ละด้านปรากฏว่าปัจจัยด้านการบูรณการทางสังคม มีระดับ

43 ความคิดเห็นอยู่ในระดับสูง รองลงมาคือปัจจัยด้านความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับสังคมมีระดับความ คิดเห็นอยู่ในระดับสูง และน้อยที่สุดคือปัจจัยด้านค่าตอบแทนท่ีเพียงพอและยุติธรรม มีระดับความ คิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง และพนักงานธนาคารกรุงไทย จังหวัดนครปฐม มีระดับความผูกพันต่อ องค์การเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับสูง 2) เม่ือจาแนกตามคุณลักษณะส่วนบุคคลของพนักงาน ธนาคารกรุงไทย จังหวัดนครปฐม พบว่า เพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา ระยะเวลาการทางาน ท่ีแตกต่างกันมีความผูกพันต่อองค์กรไม่แตกต่างกัน ยกเว้นปัจจัยด้านระดับตาแหน่งงาน และรายได้ ท่ีได้รับในแต่ละเดือนมีความผูกพันต่อองค์กรแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3) ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ภาวะผู้นาท้ังสองแบบและความผูกพันต่อองค์ของพนักงานธนาคาร กรุงไทย จังหวัดนครปฐม มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ี 0.05 4) ความสัมพันธ์ระหว่าง คุณภาพชีวิตการทางานและความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานธนาคารกรุงไทย จังหวัดนครปฐม มีความสัมพนั ธ์กนั อย่างมีนยั สาคัญทางสถติ ทิ ี่ 0.05 ฉวีวรรณ เอี่ยมพญา (2559, 95) ได้ศึกษาบรรยากาศองค์การที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการ ทางานของครูในโรงเรียน สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 8 ผลการศึกษาพบว่า 1) บรรยากาศองค์การสังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 8 โดยรวมอยู่ในระดับมาก และเม่ือพิจารณาเป็นรายด้านอยู่ในระดับมากทุกด้าน 2) คุณภาพชีวิตการทางานของครูในโรงเรียนสังกัด สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 8 โดยรวมอยู่ในระดับมากและเม่ือพิจารณาแยกเป็นราย ด้านอยู่ในระดับมากทุกด้าน 3) บรรยากาศองค์การโดยรวมส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทางานของครูใน โรงเรียนสังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 8 โดยภาพรวม อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ี ระดับ .01 ฉัตรชัย มีพฤกษ์ (2559, 88–90) ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้บรรยากาศองค์การ กับความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ผลการวิจัยพบว่า 1) การรับรู้ บรรยากาศองค์การของบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณา ตามรายด้านแล้ว พบว่า บุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตมีระดับการรับรบู้ รรยากาศองค์การด้านความ เป็นอันหน่ึงอันเดียวกันในระดับมาก รองลงมา คือ ด้านความอบอุ่น ด้านโครงสร้างองค์การ ด้านความ รับผิดชอบ ด้านความเสี่ยงภัย ด้านความขัดแย้ง และด้านการสนับสนุน และมีการรับรู้บรรยากาศ องค์การในระดับปานกลาง คือ ด้านมาตรฐานการปฏิบัติงาน และด้านการให้รางวัล ตามลาดั บ 2) ความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และเม่ือ พิจารณาตามรายละเอียดของแต่ละด้าน พบว่า บุคลากรมหาวทิ ยาลัยราชภัฏภูเก็ตมีความเต็มใจท่ีจะ ท่มุ เทความพยายามอย่างมากเพื่อองคก์ ารในระดับมาก รองลงมา คือด้านความปรารถนาอยา่ งย่งิ ท่จี ะ รักษาไว้ซ่ึงความเป็นสมาชิกภาพในองค์การ และด้านความเช่ือและการยอมรับเป้าหมายและค่านิยม ขององค์การ ตามลาดับ 3) ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้บรรยากาศองค์การและความผูกพันต่อ

44 องค์การของบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต พบว่า ระดับการรับรู้บรรยากาศองค์การและความ ผูกพันต่อองค์การมีความสัมพันธ์กัน โดยพบว่าด้านความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมีความสัมพันธ์กัน มากที่สดุ สุจิรารัตน์ รัชตพงศ์บวร (2560, 92–93) ได้ศึกษาบรรยากาศองค์การกับความพึงพอใจในการ ปฏิบัติงานของบุคลากรคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผลการวิจัย พบว่า 1) บรรยากาศ องค์การของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ท้ังภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมากเรียงลาดับ ตามค่ามัชฌิมเลขคณิตจากมากไปน้อยได้ดังน้ี ความเคารพนับถือ ความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน ความไว้วางใจ ความเติบโตทางวิชาการและสังคมอย่างต่อเนื่อง ความเอาใจใส่ โอกาสในการมีส่วนร่วม การปรบั ปรุงสถานศึกษา และการมีขวญั กาลงั ใจสูง ตามลาดบั 2) ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของ บุคลากรคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ท้ังในภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดบั มากเรียงลาดับ ตามค่ามัชฌิมเลขคณิตจากมากไปน้อยได้ดังนี้ เพ่ือนร่วมงาน เงินเดือน ลักษณะงาน ผลประโยชน์ เกื้อกูล การนิเทศ การได้รับการยอมรับ หน่วยงานและการจัดการ สภาพการทางาน และการเล่ือน ตาแหน่ง ตามลาดับ 3) บรรยากาศองค์การกับความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากร คณะ ศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร มคี วามสัมพันธก์ ันเชงิ บวกในระดบั สูง อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ ระดบั .01 จนิ ตนา อุ่มครุฑ (2562, บทคัดย่อ) ไดศ้ ึกษาแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทางานของ ขา้ ราชการครูในสหวิทยาเขตชาวดอย สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 3 ผลการวิจัย พบว่า 1) คุณภาพชีวิตการทางานของข้าราชการครูในสหวิทยาเขตชาวดอย สังกัดสานักงาน เขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 3 โดยรวมมีคุณภาพชีวิตการทางานอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านท่ีมีคุณภาพชีวิตการทางานต่าท่ีสุดคือ ด้านค่าตอบแทนท่ีเพียงพอ และยุติธรรม รองลงมาคือ ดา้ นความสมดุลระหวา่ งชวี ิตการทางานกับชวี ิตส่วนตัว และด้านสภาพแวดลอ้ ม ที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ ตามลาดับ 2) แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทางานของข้าราชการ ครใู นสหวทิ ยาเขตชาวดอยมีดงั นี้ ควรวิเคราะหค์ วามตอ้ งการดา้ นทรัพยากรด้านการเงนิ มีการกาหนด แนวทางการให้สวัสดิการเสริมแก่ครู ควรจัดสรรบ้านพักครูให้เพียงพอกับความต้องการของครู จดั รถรับส่ง ให้ครูท่ีมีความยากลาบากในการเดินทาง ควรประชุมช้ีแจงหลักเกณฑ์การอบรมเพ่ือพัฒนาทักษะใน การทางาน ให้ครูทราบและเปิดโอกาสให้ครูไปอบรม ควรจัดประชุมครูในโรงเรียน ควรมีการส่งเสริม งานอดิเรกภายในสถานศึกษาให้แก่ครู เปิดโอกาสให้ครูได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน อย่างสร้างสรรค์ และควรมกี ารจัดกจิ กรรมเสริมสรา้ งความสมั พันธใ์ หแ้ กค่ รู ดวงสุดา ผาติอภินันท์ (2562, 100–103) ได้ศึกษาวิจัย เร่ือง การบรหิ ารแบบมสี ่วนร่วมที่สง่ ผล ต่อคุณภาพชีวิตการทางานของข้าราชการครู สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 10 ผลการวิจัย พบว่า 1) การบริหารแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหาร สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา

45 มัธยมศึกษา เขต 10 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และเม่ือพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับมาก ทุกด้าน โดยการมีส่วนร่วมด้านการดาเนินงานอยู่ในลาดับสูงที่สุด รองลงมาคือ ด้านการตัดสินใจ ด้าน การรบั ผลประโยชน์ และดา้ นการตง้ั เป้าหมายรว่ มกนั ตามลาดับ 2) คณุ ภาพชีวติ การทางานของขา้ ราชการครู สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 10 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และเม่ือพิจารณา เป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยคณุ ภาพชวี ิตการทางานด้านความก้าวหน้าและความมั่นคง ในงาน อยู่ในลาดับสูงสุด รองลงมาคือ ด้านการพัฒนาศักยภาพของผู้ปฏิบัติงาน ด้านสังคมสัมพันธ์ ด้านภาวะอิสระจากงาน ด้านสถานท่ีทางานปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และด้านค่าตอบแทน ที่เพียงพอและยุติธรรม ตามลาดับ 3) การบริหารแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารท่ีส่งผลต่อการพัฒนา คุณภาพชีวิตการทางานของข้าราชการครู สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 10 เรียง ตามลาดับอิทธิพลจากมากไปหาน้อย ดงั นี้ การมีส่วนร่วมด้านการรับผลประโยชน์ การมีส่วนร่วมด้าน การตั้งเป้าหมายร่วมกัน การมีส่วนร่วมด้านการดาเนินงาน การมีส่วนร่วมด้านการตัดสินใจ เป็นปัจจัยท่ี ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทางานของข้าราชการครู สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 10 อยา่ งมนี ัยสาคญั ทางสถิตทิ ีร่ ะดบั .05 พัชชานันท์ โภชฌงค์ (2562, 84–85) ได้ศึกษาบรรยากาศองค์การกับประสิทธิผลของ โรงเรียนสังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 ผลการวิจัย พบว่า 1) บรรยากาศองค์การ ของโรงเรียนสังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับสูง เม่ือ พจิ ารณาเป็นรายด้าน พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดบั สูง โดยเรยี งลาดับจากมากไปหาน้อย ดงั น้ี เป้าหมาย ขององค์การ เครือข่ายของการติดต่อส่ือสาร แบบของความเป็นผู้นา ความซับซ้อนของระบบ ยกเว้น ด้านขนาดและโครงสร้างขององค์การอยู่ในระดับปานกลาง 2) ประสิทธิผลของโรงเรียนสังกัดสังกัด สานักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 3 โดยภาพรวมอย่ใู นระดับสงู เม่ือพิจารณาเปน็ รายด้าน พบว่า อยู่ในระดับสูงทุกด้าน โดยเรียงลาดับจากมากไปหาน้อย ดังน้ี ความสามารถในการปรับตัว ความสามารถในการพัฒนาศักยภาพ ความสามารถในการผลิตนักเรยี นท่ีมีผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนสูง และลาดับสุดท้ายคือ ความสามารถในการผสมผสาน 3) บรรยากาศองค์การกับประสิทธิผลของโรงเรียน สงั กัดสานักงานเขตพื้นที่การศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 3 มีความสมั พันธก์ นั ศลิลดา สายศรี (2562, 155–156) ได้ศึกษาคุณภาพชีวิตการทางานที่ส่งผลต่อความผูกพัน ตอ่ องค์การของครูโรงเรยี นเอกชนจังหวัดยโสธร ผลการวิจัย พบว่า 1) คุณภาพชวี ิตการทางานของครู โรงเรียนเอกชนจังหวัดยโสธร โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าทุกด้านอยู่ใน ระดับมาก โดยด้านความภูมิใจและความสมั พันธ์กบั สังคมมีคา่ เฉล่ยี สูงสดุ รองลงมาคือ ด้านการบรู ณา การทางสังคมภายในองค์การ ด้านสุขภาพและความปลอดภยั ในสถานที่ทางาน ดา้ นการพฒั นาความรู้ ความสามารถในงาน ด้านการบริหารงานท่ีเป็นธรรมและเสมอภาค ด้านความสมดุลระหว่างชีวิตกับ การทางาน ด้านความม่ันคงและก้าวหน้าในงาน และด้านค่าตอบแทนที่เป็นธรรมและเพียงพอ

46 ตามลาดับ 2) ความผูกพันต่อองค์การของครูโรงเรียนเอกชนจังหวัดยโสธร โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยด้านจิตใจและคุณธรรมมีค่าเฉล่ียสูงสุด รองลงมาคือ ด้านบรรทัดฐานทางสังคม และด้านการคงอยู่เป็นสมาชิกขององค์การ ตามลาดับ 3) คุณภาพ ชวี ติ การทางานที่ส่งผลต่อความผกู พนั ตอ่ องค์การของครโู รงเรยี นเอกชนจงั หวัดยโสธร อนั ธิกา บุญเลิศ (2562, 129–130) ได้ศึกษาทักษะการบริหารของผู้บริหารกับคุณภาพชีวิตการ ทางานของครูในโรงเรียนสังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 ผลการศึกษา พบว่า 1) ทักษะการบริหารของผู้อานวยการโรงเรียนสังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลาดับ จากค่ามัชฌิมเลขคณิตจากมากท่ีสุดไปหาน้อยทส่ี ุด ดังน้ี ทักษะด้านความสัมพันธร์ ะหว่างบุคคล ทักษะ ด้านนโยบาย ทักษะด้านการวินิจฉัย ทักษะด้านเทคนิค และทักษะด้านมโนภาพตามลาดับ 2) คุณภาพ ชวี ติ การทางานของครูในโรงเรียนสงั กัดสานักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 1 พบวา่ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงค่ามัชฌิมเลขคณิตจาก มากท่ีสุดไปหาน้อยที่สดุ ดังนี้ บทบาทที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม โอกาสในการใช้ความรู้ ความสามารถ ในการพัฒนา การยอมรับทางสังคมในองค์การ โอกาสในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ืองและมีความ ก้าวหน้ามั่นคงในหน้าท่ีการงาน การกาหนดระเบียบ ข้อบังคับความเป็นสิทธิส่วนบุคคลในองค์การ ความสมดุลอันเหมาะสมระหว่างเวลาของหน้าท่ีการงานและเวลาส่วนบุคคล สภาพการทางานที่คานึงถึง ความปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาพอนามัย และค่าตอบแทนท่ีเพียงพอและเป็นธรรม ตามลาดับ 3) ทักษะ การบริหารของผู้บริหารมีความสัมพันธ์กับกับคุณภาพชีวิตการทางานของครูในโรงเรียนสังกัดสานัก งานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง อย่างมีนัยสาคัญทาง สถติ ทิ รี่ ะดบั 0.01 2. งานวิจยั ต่างประเทศ ผวู้ ิจัยได้ศึกษางานวิจยั ต่างประเทศเกี่ยวข้องกับบรรยากาศองค์การที่ส่งผลต่อคณุ ภาพชีวิต การทางานของครูในโรงเรยี น โดยนาเสนอขอ้ ค้นพบจากงานวจิ ัยโดยสรปุ ได้ดงั นี้ ทาบาสซัม, เราะห์มาน, และ จาฮาน (Tabassum, Rahman, & Jahan, 2012, 36–56) ได้ ศึกษาเร่ืองการประเมินคุณภาพชีวิตการทางานของคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยเอกชนในบังคลาเทศ เป็นการสารวจเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่เป็นอาจารย์เต็มเวลาของคณะต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย 11 แห่ง มีมติ ิในการรับรู้คุณภาพชวี ิตการทางาน 3 ดา้ น คือ ชีวิตการทางานทางสังคม สภาพการทางานที่ ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ และการเป็นส่วนหนึ่งของการทางานในองค์การ ทั้งน้ีการวิเคราะห์ สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ พบว่า คุณภาพชีวิตในการทางานมีความสัมพันธ์กับมิติต่าง ๆ การทดสอบ เปรียบเทียบความแตกต่างจาแนกตามเพศคณะ การศึกษา ตาแหน่งงาน ประสบการณ์ และ

47 สถานภาพสมรส ที่มีต่อการรับรู้คุณภาพชีวิตในการทางาน พบว่ามีความแตกต่างกันของเพศและคณะ ในมหาวิทยาลัย ส่วนการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธถ์ิ ดถอย พบว่า มิติด้านชวี ิตการทางานทางสังคม มิติ ด้ า น ค ว าม พึงพอใจและความยุติธรรมของค่าตอบแทน และ มิติด้านธรรมนูญในองค์การ โดยมิติท้ังสามด้าน สามารถร่วมกันพยากรณ์ตัวแปรคณุ ภาพชวี ิตในการทางานได้ พูลสุข กิจรัตนภร และวิเชียร พันธ์เครือบุตร (Poonsook & Vichian, 2016, 134) ได้ ศึกษาเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตการทางานและบรรยากาศองค์การของโรงเรียนต้ังอยู่ตามแนวชายแดน ไทย–กัมพูชา โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 1) เพ่ือศึกษาคุณภาพชีวิตการทางานและบรรยากาศ องค์การของโรงเรียนที่ต้ังอยู่ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัย พื้นฐานท้ังสองตัวแปรคุณภาพชีวิตการทางานและบรรยากาศองค์การ ซึ่งใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างเป็นวิธี สุ่มอย่างง่าย จากผู้ตอบแบบสอบถาม 384 คน ผู้บริหารและครูจากโรงเรียนต่าง ๆ ตามพื้นท่ีชายแดน เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามสร้างโดยผู้วิจัยและทดสอบความน่าเชื่อถือซึ่งมีความ น่าเชื่อถือที่ดี และเครอ่ื งมือทางสถิติท่ีใช้สาหรับการศึกษาคือ ค่าเฉล่ีย ( ) การทดสอบที (t–test) และ ค่าสหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson’s simple correlation) ผลการศึกษา พบว่าคุณภาพชีวิตในการ ทางานและบรรยากาศองค์การในโรงเรียนอยู่ในระดับสูง แต่ด้านสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย การส่งเสริม สุขภาพและความเส่ียง และการยอมรับความเสี่ยงอยู่ในระดับต่า นอกจากนี้ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ พบว่า คณุ ภาพชีวิตการทางานและบรรยากาศองค์การมคี วามสมั พนั ธเ์ ชงิ บวกท่รี ะดบั .759 ชัง (Chung, 2020, 70) ได้ศึกษาบรรยากาศองค์กรและความมุ่งมั่นของครูในโรงเรียน มัธยมสราวัก ประเทศมาเลเซีย โดยมีวัตถุประสงค์คือการตรวจสอบความสัมพันธ์ของบรรยากาศ องค์กร 4 มิติและความมุ่งม่ันของครูในบริบทของโรงเรียนมัธยมสราวัก ประเทศมาเลเซีย จากสถิติ ของการศึกษาน้ีแสดงให้เห็นว่าระดับบรรยากาศองค์กรของครูในรัฐซาราวักอยู่ในระดับสูงพอสมค วร และระดบั ความมุง่ มัน่ อย่ใู นระดับคอ่ นข้างสงู เชน่ กนั

บทท่ี 3 วธิ ีดาเนินการวิจัย การวิจัยในครั้งน้ีเป็นการวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive research) ศึกษาบรรยากาศองค์การ ท่ีส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ประจวบคีรขี ันธ์ ซึ่งผ้วู จิ ัยได้ดาเนินการตามข้ันตอนดังน้ี 1. ประชากรและกล่มุ ตัวอยา่ ง 2. ตวั แปรที่ศกึ ษา 3. เครอื่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นการวิจยั 4. การเก็บรวบรวมข้อมูล 5. การวิเคราะห์ข้อมลู และสถิตทิ ใ่ี ชใ้ นการวิจัย ประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง ประชากร ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งน้ี ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครู สังกัดสานักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรขี ันธ์ จานวน 790 คน โดยจาแนกเป็นผู้บริหารสถานศึกษา จานวน 166 คน และครู จานวน 624 คน กลุม่ ตัวอยา่ ง กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการวิจัยคร้ังน้ี ได้แก่ ผูบ้ ริหารสถานศึกษาและครู สังกัดสานักงานเขต พนื้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาประจวบครี ีขันธ์ จานวน 260 คน โดยจาแนกเป็นผู้บริหาร จานวน 55 คน และครู จานวน 205 คน ซึ่งได้มาจากการเปิดตารางขนาดตัวอย่างของเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan, 1970, 607–610) จากนน้ั ทาการสมุ่ ตวั อยา่ ง ซึง่ มขี น้ั ตอนดงั น้ี 1. ผู้วิจัยแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 8 กลุ่ม จาแนกตามอาเภอ ได้แก่ หัวหิน ปราณบุรี สามร้อยยอด กุยบุรี เมืองประจวบคีรีขันธ์ ทับสะแก บางสะพาน และบางสะพานน้อย จากน้ันทาการสุ่ม ตัวอย่างแบบแบ่งช้ันอย่างเป็นสัดส่วน (stratified random sampling) โดยใช้อาเภอเป็นช้ัน ทาให้ได้ยอด รวมของตัวอย่างในแตล่ ะอาเภอ 2. เพื่อให้ตัวอย่างจาแนกตามตาแหน่ง อันประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษาและครู ผู้วิจัยทาการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นอย่างเป็นสัดส่วน (stratified random sampling) โดยใช้ตาแหน่ง เป็นช้นั ทาใหไ้ ดจ้ านวนตัวอย่างในแต่ละตาแหนง่

49 3. เพ่ือใหไ้ ด้ผูต้ อบแบบสอบถาม ผูว้ ิจัยทาการสมุ่ อยา่ งง่าย โดยใชว้ ิธีจบั สลาก เพือ่ ให้ได้ผูใ้ ห้ข้อมูลครบตามจานวน ดงั ในตารางท่ี 2 ตารางท่ี 2 จานวนประชากรและกล่มุ ตวั อยา่ ง ประชากร กลมุ่ ตวั อย่าง ที่ อาเภอ ผบู้ ริหาร ครู รวม ผู้บรหิ าร ครู รวม สถานศึกษา สถานศึกษา 1 หัวหิน 2 ปราณบรุ ี 28 134 162 9 44 53 3 สามรอ้ ยยอด 4 กุยบรุ ี 27 99 126 9 33 42 5 เมืองประจวบครี ีขนั ธ์ 6 ทบั สะแก 11 75 86 4 25 29 7 บางสะพาน 8 บางสะพานน้อย 18 38 56 6 12 18 รวม 28 103 131 9 34 43 18 29 47 6 9 15 27 126 153 9 41 50 9 20 29 3 7 10 166 624 790 55 205 260 ตัวแปรท่ศี ึกษา 1. ตัวแปรต้น คอื บรรยากาศองค์การ ประกอบดว้ ย 1.1 โครงสรา้ งองคก์ าร 1.2 ความรบั ผิดชอบ 1.3 การใหร้ างวัล 1.4 ความเสีย่ งของงาน 1.5 ความอบอ่นุ 1.6 การสนบั สนุน 1.7 มาตรฐานการปฏิบัตงิ าน 1.8 การยอมรับความขัดแยง้ 1.9 ความเปน็ หน่งึ เดียวในองคก์ าร 2. ตัวแปรตาม คอื คุณภาพชวี ติ การทางานของครู ประกอบดว้ ย 2.1 การใหส้ ิ่งตอบแทนทเ่ี หมาะสมและยตุ ิธรรม

50 2.2 สภาพแวดล้อมทีป่ ลอดภยั และส่งเสริมสุขภาพ 2.3 การพฒั นาความสามารถของบุคคล 2.4 ความเจรญิ เตบิ โตและความมน่ั คงในงาน 2.5 การบูรณาการดา้ นสังคม 2.6 ประชาธปิ ไตยในการทางาน 2.7 ความสมดุลระหวา่ งชีวิตโดยรวม 2.8 ความสัมพันธก์ ับสังคม เคร่ืองมอื ทใี่ ช้ในการวิจยั 1. เครอื่ งมอื ท่ใี ชใ้ นการวจิ ยั การวิจัยคร้ังนี้ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือสาหรับเก็บข้อมูล จานวน 1 ฉบับ แบ่งออก เป็น 3 ตอน มีรายละเอยี ดดงั น้ี ตอนท่ี 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม ประกอบด้วย เพศ อายุ ระดบั การศึกษา ประสบการณใ์ นการทางาน และตาแหนง่ ปจั จบุ ัน ตอนท่ี 2 เป็นแบบสอบถามเก่ียวกับบรรยากาศองค์การ ตามแนวคิดของลิทวินและ สตริงเกอร์ (Litwin & Stringer, 1968, 81–82) จานวน 9 องค์ประกอบ โดยมีตัวแปรย่อยในแต่ละ องค์ประกอบรวม 9 ตวั แปรยอ่ ย มีข้อคาถามท้ังส้นิ จานวน 50 ขอ้ ดังน้ี 1. โครงสร้างองค์การ จานวน 6 ขอ้ 2. ความรับผดิ ชอบ จานวน 5 ข้อ 3. การใหร้ างวลั จานวน 7 ขอ้ 4. ความเสยี่ งของงาน จานวน 5 ขอ้ 5. ความอบอุ่น จานวน 5 ขอ้ 6. การสนบั สนนุ จานวน 5 ข้อ 7. มาตรฐานการปฏบิ ัติงาน จานวน 6 ขอ้ 8. การยอมรบั ความขัดแยง้ จานวน 5 ข้อ 9. ความเป็นหน่งึ เดียวในองค์การ จานวน 6 ข้อ ตอนที่ 3 เป็นแบบสอบถามเก่ียวกับคุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา ตามแนวคิดของวอลตัน (Walton, 1974, 12) จานวน 8 องค์ประกอบ โดยมีตัวแปรย่อยในแต่ละ องคป์ ระกอบรวม 8 ตัวแปรยอ่ ย มขี ้อคาถามทั้งส้ิน จานวน 42 ข้อ ดงั นี้ 1. การให้สิง่ ตอบแทนที่เหมาะสมและยตุ ธิ รรม จานวน 5 ขอ้ 2. สภาพแวดล้อมที่ปลอดภยั และสง่ เสรมิ สุขภาพ จานวน 5 ขอ้

51 3. การพัฒนาความสามารถของบุคคล จานวน 5 ข้อ 4. ความเจริญเตบิ โตและความมน่ั คงในงาน จานวน 5 ข้อ 5. การบรู ณาการด้านสงั คม จานวน 5 ขอ้ 6. ประชาธปิ ไตยในการทางาน จานวน 6 ขอ้ 7. ความสมดุลระหว่างชีวิตโดยรวม จานวน 6 ข้อ 8. ความสมั พันธ์กับสงั คม จานวน 5 ขอ้ ลกั ษณะแบบสอบถามในตอนที่ 2 และตอนที่ 3 เป็นแบบสอบถามแบบมาตรประมาณคา่ 5 ระดับ (rating scale) ตามแนวคิดของลิเคิร์ท (Likert, 1967, 90–95) โดยผู้วิจัยกาหนดค่าคะแนน ของชว่ งนา้ หนักเป็น 5 ระดับ มคี วามหมายดงั นี้ ระดับ 5 หมายถึง บรรยากาศองค์การ หรือ คุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา อยใู่ นระดบั มากทสี่ ดุ ให้มคี า่ น้าหนัก เท่ากับ 5 คะแนน ระดับ 4 หมายถึง บรรยากาศองค์การ หรือ คุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา อยใู่ นระดับมาก ใหม้ คี า่ น้าหนกั เทา่ กบั 4 คะแนน ระดับ 3 หมายถึง บรรยากาศองค์การ หรือ คุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา อยูใ่ นระดบั ปานกลาง ให้มีค่านา้ หนัก เทา่ กบั 3 คะแนน ระดับ 2 หมายถึง บรรยากาศองค์การ หรือ คุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา อยใู่ นระดบั น้อย ให้มีคา่ น้าหนกั เท่ากับ 2 คะแนน ระดับ 1 หมายถึง บรรยากาศองค์การ หรือ คุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา อยูใ่ นระดบั นอ้ ยท่สี ุด ให้มีคา่ นา้ หนัก เท่ากับ 1 คะแนน 2. การสร้างเครอื่ งมอื วจิ ยั ผูว้ จิ ยั ได้ดาเนินการสร้างเครอื่ งมือสาหรับการวจิ ยั โดยมขี ั้นตอนการดาเนนิ งานดังนี้ 2.1 ศึกษาวรรณกรรม หลักการ แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้องจากหนังสือ ตารา เอกสารและงานวจิ ยั ทเี่ ก่ียวขอ้ งกับบรรยากาศองค์การ และคณุ ภาพชวี ติ การทางานของครู 2.2 นาข้อมูลท่ีได้จากการศึกษามาประมวล เพ่ือมากาหนดเป็นโครงสร้างเคร่ืองมือ โดยขอคาแนะนาจากอาจารยท์ ่ปี รกึ ษาวทิ ยานิพนธ์ 2.3 สร้างแบบสอบถามโดยให้ครอบคลุมเน้ือหาเสนออาจารย์ที่ปรึกษาตรวจสอบ เพื่อใหข้ ้อเสนอแนะนามาปรบั ปรุง 2.4 นาแบบสอบถามเสนอผู้เช่ียวชาญเพื่อตรวจสอบความเที่ยงตรงของเนื้อหา (content validity) เพื่อปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องเพ่ือความสมบูรณ์และถูกต้องของเน้ือหาโดยให้ เทคนิค IOC (index of item objective congruence) แล้วนามาปรับปรุงแก้ไขอีกคร้ังโดยคัดเลือก เฉพาะข้อท่มี ีค่า 0.67

52 2.5 นาแบบสอบถามที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วไปทดลองใช้ (try out) กับผู้บริหารสถานศึกษา และครูท่ไี มใ่ ชก่ ล่มุ ตวั อย่าง จานวน 30 คน 2.6 นาแบบสอบถามท่ีได้รับคืนมาคานวณหาค่าความเช่ือม่ัน (reliability) โดยใช้ สมั ประสทิ ธแิ อลฟา (–coefficient) ตามวิธกี ารของครอนบาค (Cronbach, 1970, 161) โดยมีคา่ ความ เชอ่ื มนั่ ของของแบบสอบถามทงั้ ฉบบั เท่ากบั 0.96 เพ่ือนาไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายต่อไป การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เพ่ือให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างถูกต้องและเป็นระบบ ผู้วิจัยดาเนิน ตามข้ันตอนดงั ต่อไปนี้ 1. ผู้วิจัยทาหนังสือถึงคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง เพื่อทา หนังสือขอความอนุเคราะห์ไปยังสถานศึกษาในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา ประจวบคีรขี นั ธ์ ทเ่ี ปน็ ตวั อยา่ งชว่ ยอนเุ คราะห์ตอบแบบสอบถามในการวจิ ยั ครง้ั นี้ 2. ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยดาเนินการเก็บข้อมูลและติดตามรวบรวมแบบสอบถาม คืนจากสถานศึกษาตา่ ง ๆ ด้วยตนเอง การวเิ คราะหข์ อ้ มูลและสถิติท่ใี ช้ในการวจิ ัย 1. การวิเคราะหข์ อ้ มูล ในการวิจัยครั้งนี้ มีหน่วยวิเคราะห์ (unit of analysis) ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครู โดยผ้วู ิจยั นาแบบสอบถามทีไ่ ด้รับกลับคืนมาจัดกระทาข้อมลู โดยมีขั้นตอนดังนี้ 1.1 ตรวจสอบความสมบรู ณ์ของขอ้ มลู ท่ไี ดร้ บั คนื มา 1.2 จดั ระบบข้อมูล ตรวจรวบรวมคะแนนแบบสอบถามที่สมบรู ณ์ 1.3 นาขอ้ มลู ไปคานวณหาคา่ สถิติ โดยใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรปู 2. สถติ ิทใี่ ชใ้ นการวิจัย เพ่ือใหก้ ารวิเคราะห์ข้อมูลตรงตามข้อมูลตรงตามวัตถปุ ระสงค์การวิจยั ผวู้ ิจัยไดใ้ ช้สถิติ ในการวิเคราะห์ขอ้ มลู ดังน้ี 2.1 วิเคราะห์ข้อมูลเก่ียวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม ซ่ึงถามรายละเอียด เก่ียวกับ เพศ อายุ ระดับการศกึ ษา ประสบการณใ์ นการทางาน และตาแหน่งปจั จุบัน ใช้การแจกแจง ความถ่ี (frequency) และค่ารอ้ ยละ (percentage) 2.2 การวิเคราะห์ระดับบรรยากาศองค์การ และคุณภาพชีวิตการทางานของครูใน สถานศกึ ษา ใชค้ า่ เฉลีย่ ( ) และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน (S.D.)

53 สาหรับแบบสอบถามตอนที่ 2 และ ตอนท่ี 3 ได้นาคา่ เฉล่ียของน้าหนักทไ่ี ด้มาเทียบเคียง กับเกณฑด์ งั น้ี (บุญชม ศรสี ะอาด, 2554, 121) ค่าเฉลี่ย 4.51–5.00 หมายถึง ระดับบรรยากาศองคก์ าร/คณุ ภาพชีวติ การทางานของครู ในสถานศกึ ษา อยู่ในระดับมากทสี่ ดุ คา่ เฉลย่ี 3.51–4.50 หมายถึง ระดับบรรยากาศองคก์ าร/คณุ ภาพชวี ิตการทางานของครู ในสถานศึกษา อยู่ในระดบั มาก คา่ เฉลย่ี 2.51–3.50 หมายถงึ ระดบั บรรยากาศองคก์ าร/คุณภาพชวี ิตการทางานของครู ในสถานศกึ ษา อยใู่ นระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ย 1.51–2.50 หมายถึง ระดบั บรรยากาศองค์การ/คุณภาพชวี ติ การทางานของครู ในสถานศึกษา อยใู่ นระดบั นอ้ ย คา่ เฉลย่ี 1.00–1.50 หมายถึง ระดบั บรรยากาศองคก์ าร/คณุ ภาพชีวิตการทางานของครู ในสถานศกึ ษา อยู่ในระดบั นอ้ ยทสี่ ุด 2.3 การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างบรรยากาศองค์การกับคุณภาพชีวิตการทางาน ของครูในสถานศึกษา ใช้การวิเคราะห์ค่าสหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson’s product moment correlation coefficient) เกณฑ์ในการพิจารณาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (r) ของบาร์ทซ์ (Bartz, 1999, 184) ดงั นี้ ± 0.81 ถงึ ±1.00 หมายถงึ มคี วามสมั พนั ธร์ ะดับสูงมาก ± 0.61 ถึง ±0.80 หมายถึง มคี วามสมั พนั ธ์ระดบั สูง ± 0.41 ถึง ±0.60 หมายถึง มคี วามสัมพันธร์ ะดบั ปานกลาง ± 0.21 ถึง ±0.40 หมายถึง มคี วามสัมพันธร์ ะดบั ตา่ ± 0.00 ถงึ ±0.20 หมายถงึ มีความสมั พันธร์ ะดับต่ามาก เกณฑ์ในการพิจารณาทิศทางความสัมพันธ์ของค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (กัลยา วานิชยบ์ ัญชา, 2545, 311–312) ดงั น้ี 1. ค่า r เป็น ลบ แสดงว่า X และ Y มีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงข้าม คือ ถ้า X เพม่ิ Y จะลด แต่ถา้ X ลด Y จะเพ่ิม 2. ค่า r เป็น บวก แสดงว่า X และ Y มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกัน คือ ถ้า X เพ่มิ Y จะเพ่มิ แตถ่ ้า X ลด Y จะลด 3. ค่า r เข้าใกล้ 1 แสดงว่า X และ Y มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกัน และมคี วามสัมพนั ธก์ ันมาก

54 4. ค่า r เข้าใกล้ –1 แสดงว่า X และ Y มีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงข้าม และมคี วามสัมพันธ์กนั มาก 5. ค่า r เท่ากบั 0 แสดงว่า X และ Y ไม่มีความสัมพนั ธก์ ัน 2.4 การวิเคราะห์บรรยากาศองค์การท่ีส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทางานของครู ใช้ การวเิ คราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขนั้ ตอน (stepwise multiple regression analysis)

บทที่ 4 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล ในการวิจยั ครงั้ นี้ ผูว้ ิจัยศึกษาบรรยากาศองค์การที่ส่งผลต่อคุณภาพชวี ิตการทางานของครู ในสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ มีวัตถุประสงค์เพ่ือ 1) ศึกษาบรรยากาศองค์การของสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาประจวบครี ีขันธ์ 2) ศึกษาคุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ประจวบคีรีขันธ์ 3) ศึกษาบรรยากาศองค์การท่ีส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ผู้วิจัยนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล ตามลาดบั ดังน้ี 1. สญั ลกั ษณท์ ่ีใช้ในการวิเคราะหข์ ้อมลู 2. การวเิ คราะหข์ ้อมูล 3. ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู สญั ลักษณ์ท่ีใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ในการเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัย และเพ่ือให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ผู้วิจัยจึงได้ กาหนดสญั ลักษณ์มาใช้ในการวเิ คราะหข์ อ้ มูลดงั นี้ n แทน จานวนกลุ่มตวั อยา่ ง Xtot แทน บรรยากาศองค์การ X1 แทน โครงสร้างองคก์ าร X2 แทน ความรับผดิ ชอบ X3 แทน การใหร้ างวลั X4 แทน ความเสีย่ งของงาน X5 แทน ความอบอ่นุ X6 แทน การสนบั สนนุ X7 แทน มาตรฐานการปฏบิ ัตงิ าน X8 แทน การยอมรับความขดั แยง้ X9 แทน ความเป็นหนงึ่ เดยี วในองค์การ Ytot แทน คณุ ภาพชวี ติ การทางานของครู Y1 แทน การให้สง่ิ ตอบแทนทเี่ หมาะสมและยุติธรรม Y2 แทน สภาพแวดลอ้ มที่ปลอดภยั และสง่ เสริมสุขภาพ

56 Y3 แทน การพัฒนาความสามารถของบุคคล Y4 แทน ความเจรญิ เตบิ โตและความม่นั คงในงาน Y5 แทน การบรู ณาการด้านสงั คม Y6 แทน ประชาธิปไตยในการทางาน Y7 แทน ความสมดุลระหวา่ งชวี ติ โดยรวม Y8 แทน ความสัมพนั ธก์ ับสังคม แทน ค่าเฉลยี่ S.D. แทน สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน r แทน คา่ สมั ประสิทธส์ิ หสมั พนั ธข์ องเพยี ร์สัน R แทน ค่าสมั ประสทิ ธ์สิ หสัมพนั ธ์พหคุ ณู R2 แทน คา่ สัมประสทิ ธกิ์ ารทานาย S.E. แทน ค่าความคลาดเคลอ่ื นมาตรฐานการทานาย F แทน ค่าสถติ ิทใี่ ชท้ ดสอบนัยสาคญั ทางสถติ ิ B แทน ค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยของตัวแปรในรปู คะแนนดิบ Beta แทน คา่ สมั ประสิทธิก์ ารถดถอยของตัวแปรในรูปคะแนนมาตรฐาน t แทน ค่าสถิติท่ีใช้ในการทดสอบนัยสาคัญทางสถิติของสมการ ถดถอยแตล่ ะค่าท่อี ย่ใู นสมการ Y แทน สมการพยากรณใ์ นรูปคะแนนดบิ Z แทน สมการพยากรณ์ในรปู คะแนนมาตรฐาน ** แทน มีความสมั พันธอ์ ยา่ งมนี ัยสาคญั ทางสถติ ทิ ่ีระดับ .01 * แทน มคี วามสัมพนั ธอ์ ย่างมนี ัยสาคญั ทางสถติ ิทร่ี ะดบั .05 การวิเคราะหข์ อ้ มลู เพ่ือให้การวิเคราะห์ข้อมูลตรงตามข้อมูลวัตถุประสงค์การวิจัย ในการวิจัยครั้งน้ีได้ใช้สถิติใน การวิเคราะห์ขอ้ มูลดงั น้ี 1. การวิเคราะห์ข้อมูลเก่ียวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม ซ่ึงถามรายละเอียด เก่ียวกับเพศ อายุ ระดับการศึกษา ประสบการณ์ในการทางาน และตาแหน่งปัจจุบัน ใช้การแจกแจง ความถ่ี (frequency) และค่ารอ้ ยละ (percentage) 2. การวิเคราะห์ระดับบรรยากาศองค์การ และคุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา ใช้คา่ เฉลย่ี ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

57 3. การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างบรรยากาศองค์การกับคุณภาพชีวิตการทางานของครู ในสถานศึกษา ใช้การวิเคราะห์ค่าสหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson’s product moment correlation coefficient) 4. การวิเคราะห์บรรยากาศองค์การที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทางานของครู ใช้การวิเคราะห์ การถดถอยพหุคูณแบบข้ันตอน (stepwise multiple regression analysis) ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และตอบสมมติฐานของการวิจัยคร้ังนี้ ผู้วิจัยได้นาข้อมูลท่ี ได้จากการตอบแบบสอบถามของผู้บริหารสถานศึกษา และครู สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา มัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง จานวน 260 คน ซึ่งได้รับแบบสอบถามกลับคืนมา 242 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 93.08 นามาวิเคราะห์และเสนอผลการวิเคราะห์โดยใช้ตารางประกอบคาบรรยาย จาแนกเป็น 4 ตอนคอื ตอนท่ี 1 สถานภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม ตอนท่ี 2 บรรยากาศองค์การ สงั กัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบครี ีขันธ์ ตอนท่ี 3 คุณภาพชีวิตการทางานของครู สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา ประจวบคีรขี ันธ์ ตอนที่ 4 ความสัมพันธ์ระหว่างบรรยากาศองค์การกับคุณภาพชีวิตการทางานของครูใน สถานศึกษา สังกัดสานกั งานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศกึ ษาประจวบครี ขี นั ธ์ ตอนท่ี 5 บรรยากาศองค์การท่ีส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา สังกัด สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษาประจวบคีรขี ันธ์ ตอนท่ี 1 สถานภาพของผูต้ อบแบบสอบถาม สถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม ซึ่งได้จากการตอบแบบสอบถามของผู้บริหารสถานศึกษา และครู สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจานวน 242 คน แยกพิจารณาตาม เพศ อายุ ระดับการศึกษา ประสบการณ์ในการทางาน และตาแหน่งปัจจุบัน ดงั รายละเอียดในตารางที่ 3

58 ตารางที่ 3 จานวนและร้อยละสถานภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม ขอ้ ท่ี สถานภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม จานวน(คน) (n=242) 1 เพศ ร้อยละ 54 1. ชาย 188 22.31 2. หญิง 242 77.69 100.00 รวม 69 2 อายุ 94 28.51 45 38.84 1. 21–30 ปี 34 18.60 2. 31–40 ปี 242 14.05 3. 41–50 ปี 100.00 4. 51–60 ปี 194 47 80.17 รวม 1 19.42 3 ระดับการศึกษา 0 0.41 242 0.00 1. ปรญิ ญาตรี 100.00 2. ปริญญาโท 83 3. ปริญญาเอก 50 34.30 4. อ่นื ๆ ระบุ...... 42 20.66 24 17.36 รวม 20 9.92 4 ประสบการณใ์ นการทางาน 15 8.26 8 6.20 1. 1–5 ปี 242 3.30 2. 6–10 ปี 100.00 3. 11–15 ปี 4. 16–20 ปี 5. 21–25 ปี 6. 26–30 ปี 7. มากกวา่ 30 ปี รวม

59 ตารางท่ี 3 (ต่อ) จานวน(คน) (n=242) รอ้ ยละ ข้อที่ สถานภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม 5 5 ตาแหน่งปัจจุบัน 1 2.07 48 0.41 1. ผอู้ านวยการสถานศึกษา 188 19.83 2. รองผู้อานวยการสถานศกึ ษา 242 77.69 3. หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ 100.00 4. ครู รวม จากตารางท่ี 3 พบว่า สถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศผู้หญิง จานวน 188 คน คิดเป็นร้อยละ 77.69 และเป็นเพศชาย จานวน 54 คน คิดเป็นร้อยละ 22.31 ซึ่งผู้ตอบ แบบสอบถามเป็นผู้ที่มีอายุ 31–40 ปี มากท่ีสุด จานวน 94 คน คิดเป็นร้อยละ 38.84 รองลงมาคือ อายุ 21–30 ปี จานวน 69 คน คิดเป็นร้อยละ 28.51 อายุ 41–50 ปี จานวน 45 คน คิดเป็นร้อยละ 18.60 และอายุ 51–60 ปี จานวน 34 คน คิดเป็นร้อยละ 14.50 ตามลาดับ ระดับการศึกษาของ ผู้ตอบแบบสอบถาม จบการศึกษาระดับปริญญาตรีมากที่สุด จานวน 194 คน คิดเป็นร้อยละ 80.17 รองลงมาคือระดับปริญญาโท จานวน 47 คน คิดเป็นร้อยละ 19.42 และระดับปริญญาเอก จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 0.41 ตามลาดับ ประสบการณ์ในการทางานของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า มีประสบการณ์ ในการทางาน 1–5 ปี มากที่สุด จานวน 83 คน คิดเป็นร้อยละ 34.30 รองลงมาคือ ประสบการณ์ใน การทางาน 6–10 ปี จานวน 50 คน คิดเป็นร้อยละ 20.66 ประสบการณ์ในการทางาน 11–15 ปี จานวน 42 คน คิดเป็นร้อยละ 17.36 ประสบการณ์ในการทางาน 16–20 ปี จานวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 9.92 ประสบการณ์ในการทางาน 21–25 ปี จานวน 20 คน คดิ เป็นร้อยละ 8.26 ประสบการณใ์ นการ ทางาน 26–30 ปี จานวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 6.20 และประสบการณ์ในการทางาน มากกว่า 30 ปี จานวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 3.30 ตามลาดับ และตาแหน่งปัจจุบนั ของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า คือ ครู จานวน 188 คน คิดเป็นร้อยละ 77.69 รองลงมาคือ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ จานวน 48 คน คิดเป็นร้อยละ 19.83 ผู้อานวยการสถานศึกษา จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 2.07 และรองผู้อานวยการ สถานศึกษา จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 0.41 ตามลาดบั

60 ตอนท่ี 2 บรรยากาศองค์การ สงั กดั สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษามัธยมศกึ ษาประจวบครี ขี ันธ์ ในการวิเคราะห์บรรยากาศองค์การ สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา ประจวบคีรีขันธ์ ผู้วิจัยวิเคราะห์โดยใช้ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) จากกลุ่ม ตัวอย่าง 242 คน แล้วนาไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์ตามแนวคิดของบุญชม ศรีสะอาด (2554, 121) ท่ี กาหนดไว้ ตารางท่ี 4 คา่ เฉล่ีย สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐานของบรรยากาศองค์การ สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษา มธั ยมศกึ ษาประจวบคีรขี นั ธ์ โดยภาพรวม (n=242) บรรยากาศองค์การ S.D. คา่ ระดับ ลาดบั 1. โครงสรา้ งองค์การ (X1) 4.27 0.65 มาก 2 2. ความรับผิดชอบ (X2) 4.27 0.65 มาก 2 3. การให้รางวัล (X3) 4.16 0.70 มาก 8 4. ความเสีย่ งของงาน (X4) 4.20 0.65 มาก 5 5. ความอบอนุ่ (X5) 4.22 0.71 มาก 3 6. การสนับสนุน (X6) 4.17 0.71 มาก 7 7. มาตรฐานการปฏิบตั งิ าน (X7) 4.21 0.69 มาก 4 8. การยอมรบั ความขดั แยง้ (X8) 4.20 0.70 มาก 6 9. ความเป็นหน่งึ เดยี วในองค์การ (X9) 4.28 0.68 มาก 1 4.22 0.64 มาก รวม (Xtot) จากตารางที่ 4 พบว่า บรรยากาศองค์การ สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา ประจวบคีรีขันธ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.22, S.D.=0.64) เมื่อพิจารณารายด้าน พบวา่ อยู่ ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลาดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อยดังน้ี ความเป็นหน่ึงเดียวในองค์การ ( =4.28, S.D.=0.68) โครงสร้างองค์การและความรบั ผิดชอบ ( =4.27, S.D.=0.65) ความอบอนุ่ ( =4.22, S.D.=0.71) มาตรฐานการปฏิบัติงาน ( =4.21, S.D.=0.69) ความเส่ียงของงาน ( =4.20, S.D.=0.65) การยอมรับความขัดแย้ง ( =4.20, S.D.=0.70) การสนับสนุน ( =4.17, S.D.=0.71) และการให้รางวัล ( =4.16, S.D.=0.70)

61 ตารางท่ี 5 ค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของบรรยากาศองค์การ สังกดั สานักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษา มัธยมศกึ ษาประจวบคีรขี นั ธ์ ด้านโครงสร้างองค์การ (X1) (n=242) โครงสร้างองคก์ าร S.D. ค่าระดับ ลาดับ 1. สถานศกึ ษามกี ารจดั ทาโครงสร้างการปฏิบัติ งานและภาระหน้าทอ่ี ย่างชัดเจน 4.33 0.70 มาก 2 2. สถานศึกษามีการแบง่ สายงานการบังคับบัญชา อย่างชัดเจนและเปน็ ระบบ 4.36 0.70 มาก 1 3. ครูมีความเขา้ ใจลักษณะงาน กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ ข้ันตอนในการปฏิบัติงานและสามารถ แลกเปลย่ี นความคิดเหน็ กับผู้บริหารในเรือ่ งต่าง ๆ ได้เสมอ 4.20 0.75 มาก 6 4. สถานศึกษามีการจัดทาคู่มือปฏิบัติงานโดยมี การกาหนดหน้าทีแ่ ละความรับผดิ ชอบไว้อยา่ ง ชดั เจน สาหรับไว้ใชใ้ นการปฏิบตั ิงานของครู 4.24 0.73 มาก 5 5. สถานศกึ ษามีกฎระเบียบเอ้อื ต่อการปฏบิ ตั ิ งาน และมีความคล่องตัวต่อการปฏิบตั งิ าน 4.25 0.70 มาก 3 6. สถานศึกษามบี รรยากาศในการทางานที่มี สภาพแวดลอ้ มทสี่ บาย มีความยืดหยุ่นในการ ปฏิบตั งิ าน 4.24 0.72 มาก 4 รวม 4.27 0.65 มาก จากตารางที่ 5 พบว่า บรรยากาศองค์การ สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ประจวบคีรีขันธ์ ด้านโครงสรา้ งองค์การ โดยภาพรวมอย่ใู นระดบั มาก ( =4.27, S.D.=0.65) เมื่อพิจารณา รายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลาดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อยดังนี้ สถานศึกษามีการแบ่ง สายงานการบังคับบัญชาอย่างชัดเจนและเป็นระบบ ( =4.36, S.D.=0.70) สถานศึกษามีการจัดทา โครงสร้างการปฏิบัติงานและภาระหน้าท่ีอย่างชัดเจน ( =4.33, S.D.=0.70) สถานศึกษามีกฎระเบียบเอื้อ ตอ่ การปฏิบัติงานและมีความคล่องตัวต่อการปฏิบัติงาน ( =4.25, S.D.=0.70) สถานศึกษามีบรรยากาศ ในการทางานที่มีสภาพแวดล้อมท่ีสบาย มีความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน ( =4.24, S.D.=0.72) สถานศึกษา มีการจัดทาคู่มือปฏิบัติงาน โดยมีการกาหนดหน้าที่และความรับผิดชอบไว้อย่างชัดเจน สาหรับไว้ใช้ใน

62 การปฏิบัติงานของครู ( =4.24, S.D.=0.73) และครูมีความเข้าใจลักษณะงาน กฎเกณฑ์ขอ้ บังคับ ข้ันตอน ในการปฏิบัติงาน และสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารในเร่ืองต่าง ๆ ได้เสมอ ( =4.20, S.D.=0.75) ตารางท่ี 6 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานของบรรยากาศองคก์ าร สังกัดสานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษา มธั ยมศกึ ษาประจวบคีรีขนั ธ์ ดา้ นความรับผิดชอบ (X2) (n=242) ความรับผิดชอบ S.D. ค่าระดบั ลาดับ 1. ครรู ้บู ทบาทหนา้ ที่ความรบั ผดิ ชอบของตนเอง 4.36 0.66 มาก 1 2. ครูรู้สึกไดร้ ับความไว้วางใจจากผบู้ รหิ ารในการ ปฏบิ ัติงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 4.29 0.72 มาก 3 3. ผบู้ ริหารสถานศกึ ษาใหอ้ านาจครใู นการปฏิบตั ิ งานและตดั สนิ ใจในการดาเนินงานต่าง ๆ ท่ีไดร้ บั มอบหมาย 4.21 0.77 มาก 4 4. ผบู้ ริหารสถานศึกษาให้อสิ ระแก่ครูในการ ปฏิบัติงานและแก้ไขปัญหาได้ดว้ ยตนเองใน แนวทางที่ถูกต้อง 4.20 0.73 มาก 5 5. ครยู อมรับความผดิ พลาดและรับผดิ ชอบใน ผลการปฏบิ ตั ิงานของตนเอง 4.29 0.71 มาก 2 รวม 4.27 0.65 มาก จากตารางท่ี 6 พบว่า บรรยากาศองค์การ สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา ประจวบคีรีขันธ์ ด้านความรับผิดชอบ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.27, S.D.=0.65) เม่ือพิจารณา รายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลาดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อยดังนี้ ครูรู้บทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบของตนเอง ( =4.36, S.D.=0.66) ครูยอมรับความผิดพลาดและรับผิดชอบในผลการ ปฏิบัติงานของตนเอง ( =4.29, S.D.=0.71) ครูรู้สึกได้รับความไว้วางใจจากผู้บริหารในการปฏิบัติงานที่ ได้รบั มอบหมาย ( =4.29, S.D.=0.72) ผู้บรหิ ารสถานศึกษาให้อานาจครูในการปฏิบัติงานและตัดสนิ ใจ ในการดาเนินงานต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมาย ( =4.21, S.D.=0.77) และผู้บริหารสถานศึกษาให้อิสระแก่ ครใู นการปฏบิ ัตงิ านและแก้ไขปญั หาได้ดว้ ยตนเองในแนวทางทีถ่ ูกตอ้ ง ( =4.20, S.D.=0.73)

63 ตารางที่ 7 ค่าเฉลี่ย สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานของบรรยากาศองคก์ าร สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา มัธยมศึกษาประจวบคีรขี ันธ์ ดา้ นการใหร้ างวัล (X3) (n=242) การใหร้ างวลั S.D. คา่ ระดับ ลาดับ 1. ครูได้รบั การยกย่องชมเชยเม่ือปฏิบตั ิงานได้ สาเร็จบรรลุตามเป้าหมายของสถานศึกษา 4.14 0.76 มาก 5 2. ครไู ด้รับการเล่ือนขั้นเงนิ เดือนหรอื ตาแหนง่ ใน สถานศกึ ษา ท่ีพจิ ารณาจากคุณภาพของผลการ ปฏิบัตงิ านของครูตามเกณฑก์ ารประเมินที่กาหนด ไว้ 4.11 0.77 มาก 6 3. ครไู ดร้ ับความเทา่ เทียมกันในการเล่ือนขน้ั เงนิ เดือน หรอื ตาแหน่งในสถานศึกษา 4.08 0.78 มาก 7 4. ครูทมี่ ีผลงานดีเด่นจะไดร้ ับโอกาสเจรญิ ก้าวหนา้ ในหน้าท่ีการงาน 4.15 0.76 มาก 4 5. ผู้บริหารสถานศกึ ษาใหค้ าชน่ื ชมในทางบวก และสรา้ งความผูกพนั และแรงจูงใจในการ ปฏิบตั งิ าน 4.21 0.73 มาก 2 6. ผูบ้ ริหารสถานศึกษาใหก้ าลงั ใจในการปฏบิ ตั ิ งาน เม่ือครปู ฏิบัติงานได้เปน็ อยา่ งดี และไมส่ ร้าง ความหวาดกลวั ตอ่ ความล้มเหลวในการปฏบิ ัติงาน ของครูโดยการตาหนหิ รือลงโทษ 4.21 0.75 มาก 3 7. ครูท่ีมผี ลปฏบิ ัตงิ านดีจะได้รบั การยอมรบั จาก เพื่อนครภู ายในสถานศึกษา 4.24 0.71 มาก 1 รวม 4.16 0.70 มาก จากตารางท่ี 7 พบว่า บรรยากาศองค์การ สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา ประจวบคีรีขันธ์ ด้านการให้รางวลั โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.16, S.D.=0.70) เม่ือพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลาดับค่าเฉล่ียจากมากไปน้อยดังน้ี ครูท่ีมีผลปฏิบัติงานดีจะได้รับ การยอมรับจากเพ่ือนครูภายในสถานศึกษา ( =4.24, S.D.=0.71) ผู้บริหารสถานศึกษาให้คาชื่นชม ในทางบวก และสร้างความผูกพันและแรงจูงใจในการปฏบิ ตั งิ าน ( =4.21, S.D.=0.73) ผ้บู ริหารสถานศกึ ษา ให้กาลังใจในการปฏิบัติงาน เมื่อครปู ฏิบัติงานได้เป็นอย่างดี และไม่สร้างความหวาดกลัวต่อความลม้ เหลว

64 ในการปฏิบัติงานของครูโดยการตาหนิหรือลงโทษ ( =4.21, S.D.=0.75) ครูท่ีมีผลงานดีเด่นจะได้รับ โอกาสเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ( =4.15, S.D.=0.76) ครูได้รับการยกย่องชมเชยเม่ือปฏิบัติงาน ได้สาเร็จบรรลตุ ามเปา้ หมายของสถานศึกษา ( =4.14, S.D.=0.76) ครูได้รับการเลื่อนขั้นเงนิ เดือนหรือ ตาแหนง่ ในสถานศึกษาท่ีพิจารณาจากคุณภาพของผลการปฏิบัติงานของครู ตามเกณฑ์การประเมินท่ี กาหนดไว้ ( =4.11, S.D.=0.77) และครูได้รับความเท่าเทียมกันในการเล่ือนขน้ั เงินเดือน หรือตาแหน่ง ในสถานศกึ ษา ( =4.08, S.D.=0.78) ตารางท่ี 8 ค่าเฉล่ีย ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานของบรรยากาศองค์การ สังกัดสานักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษา มธั ยมศกึ ษาประจวบครี ีขนั ธ์ ดา้ นความเส่ียงของงาน (X4) (n=242) ความเสี่ยงของงาน S.D. คา่ ระดับ ลาดบั 1. ครรู บั รแู้ ละเขา้ ใจถึงความเสย่ี งที่อาจเกดิ ข้ึนใน การปฏิบัตงิ านอยู่ตลอดเวลา 4.25 0.66 มาก 1 2. สถานศึกษาเปดิ โอกาสใหค้ รูได้ปฏบิ ัติงานและ กจิ กรรมที่ทา้ ทายต่อความสามารถของตนเอง 4.24 0.67 มาก 2 3. สถานศกึ ษามกี ารเพม่ิ ปริมาณงานอย่าง เหมาะสมกับทรัพยากรในสถานศึกษา 4.19 0.71 มาก 3 4. สถานศึกษามีการจดั ทาแผนบริหารความเส่ียงที่ เหมาะสม 4.14 0.75 มาก 5 5. สถานศกึ ษามกี ารวางแผน ดาเนินการหาวธิ ีที่ดี ท่ีสดุ กอ่ นการปฏิบตั งิ าน เพื่อลดความผิดพลาดใน การปฏิบตั งิ าน 4.19 0.73 มาก 4 รวม 4.20 0.65 มาก จากตารางที่ 8 พบว่า บรรยากาศองค์การ สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา ประจวบคีรขี ันธ์ ด้านความเส่ียงของงาน โดยภาพรวมอยูใ่ นระดับมาก ( =4.20, S.D.=0.65) เมื่อพิจารณา รายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลาดับค่าเฉล่ียจากมากไปน้อยดังน้ี ครรู ับรู้และเขา้ ใจถึง ความเสี่ยงทอ่ี าจเกิดขนึ้ ในการปฏบิ ัตงิ านอยู่ตลอดเวลา ( =4.25, S.D.=0.66) สถานศึกษาเปิดโอกาสให้ ครูได้ปฏิบัติงาน และกิจกรรมที่ท้าทายต่อความสามารถของตนเอง ( =4.24, S.D.=0.67) สถานศึกษา มีการเพิ่มปริมาณงานอย่างเหมาะสมกับทรัพยากรในสถานศึกษา ( =4.19, S.D.=0.71) สถานศึกษามี

65 การวางแผน ดาเนินการหาวิธที ี่ดีที่สุดก่อนการปฏิบัติงาน เพื่อลดความผิดพลาดในการปฏิบัติงาน ( =4.19, S.D.=0.73) และสถานศึกษามีการจัดทาแผนบรหิ ารความเสย่ี งที่เหมาะสม ( =4.19, S.D.=0.73) ตารางที่ 9 ค่าเฉล่ีย สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐานของบรรยากาศองค์การ สังกัดสานักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษา มธั ยมศกึ ษาประจวบคีรขี นั ธ์ ดา้ นความอบอนุ่ (X5) (n=242) ความอบอุ่น S.D. คา่ ระดับ ลาดบั 1. ครใู นสถานศึกษามีความสัมพนั ธ์ทีด่ ตี ่อกัน 4.26 0.74 มาก 1 2. ครแู ละผ้บู รหิ ารสถานศึกษามคี วามสัมพนั ธท์ ี่ดี ต่อกัน 4.19 0.76 มาก 4 3. ครใู นสถานศึกษามีความไว้วางใจกนั 4.21 0.77 มาก 3 4. ครูในสถานศึกษาให้ความช่วยเหลือและเอ้ือ อาทรซึ่งกนั และกัน 4.26 0.76 มาก 2 5. ครูในสถานศึกษาเป็นมติ รภาพทด่ี ตี ่อกนั สามารถปฏิบตั งิ านโดยไมแ่ บง่ พรรคแบ่งพวก 4.18 0.77 มาก 5 รวม 4.22 0.71 มาก จากตารางที่ 9 พบว่า บรรยากาศองค์การ สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ประจวบคีรขี ันธ์ ด้านความอบอุ่น โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.22, S.D.=0.71) เม่ือพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลาดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อยดังนี้ ครูในสถานศึกษามีความสัมพันธ์ ที่ดีต่อกัน ( =4.26, S.D.=0.74) ครูในสถานศึกษาให้ความช่วยเหลือและเอ้ืออาทรซ่ึงกันและกัน ( = 4.26, S.D.=0.76) ครูในสถานศึกษามีความไว้วางใจกัน ( =4.21, S.D.=0.77) ครูและผู้บริหารสถานศึกษามี ความสัมพันธ์ท่ีดีต่อกัน ( =4.19, S.D.=0.76) และครูในสถานศึกษาเป็นมิตรภาพที่ดีต่อกัน สามารถ ปฏิบตั ิงานโดยไมแ่ บง่ พรรคแบง่ พวก ( =4.18, S.D.=0.77)

66 ตารางท่ี 10 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของบรรยากาศองค์การ สงั กัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา มธั ยมศึกษาประจวบครี ีขันธ์ ดา้ นการสนบั สนุน (X6) (n=242) การสนับสนุน S.D. คา่ ระดบั ลาดับ 1. ครไู ดร้ ับการช่วยเหลือจากผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา และเพื่อนรว่ มงาน 4.23 0.71 มาก 1 2. ผู้บรหิ ารสถานศึกษาเปิดโอกาสในการพดู คยุ และรับฟังปญั หาหรือความต้องการของครู 4.16 0.76 มาก 3 3. ผ้บู รหิ ารสถานศึกษาใหค้ วามสาคญั กับครู มากกวา่ งานทป่ี ฏบิ ัติ 4.10 0.76 มาก 5 4. เม่ือครูปฏิบตั ิงานผิดพลาดจะไดร้ บั การให้อภยั และความเหน็ ใจจากผู้บรหิ ารสถานศึกษา 4.15 0.73 มาก 4 5. เมอื่ ครูได้รับมอบหมายงานทีย่ ากเกนิ ความ สามารถ ครูสามารถขอความชว่ ยเหลือจากเพื่อน ร่วมงานและผู้บรหิ ารสถานศกึ ษาได้ 4.22 0.75 มาก 2 รวม 4.17 0.71 มาก จากตารางท่ี 10 พบว่า บรรยากาศองค์การ สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ประจวบคีรีขันธ์ ด้านการสนับสนุน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.17, S.D.=0.71) เม่ือพิจารณา รายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลาดับค่าเฉล่ียจากมากไปน้อยดังนี้ ครูได้รับการช่วยเหลือ จากผู้บริหารสถานศึกษาและเพ่ือนร่วมงาน ( =4.23, S.D.=0.71) เม่ือครูได้รับมอบหมายงานที่ยากเกิน ความสามารถครูสามารถขอความช่วยเหลือจากเพ่ือนร่วมงานและผู้บริหารสถานศึกษาได้ ( =4.22, S.D.=0.75) ผู้บริหารสถานศึกษาเปิดโอกาสในการพูดคุยและรับฟังปัญหาหรือความต้องการของครู ( =4.16, S.D.=0.76) เม่ือครูปฏิบัติงานผิดพลาดจะได้รับการให้อภัยและความเห็นใจจากผู้บริหาร สถานศึกษา ( =4.15, S.D.=0.73) และผู้บริหารสถานศึกษาให้ความสาคัญกับครูมากกว่างานที่ปฏิบัติ ( =4.10, S.D.=0.76)

67 ตารางที่ 11 ค่าเฉลี่ย สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานของบรรยากาศองค์การ สังกดั สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษา มัธยมศกึ ษาประจวบครี ีขนั ธ์ ดา้ นมาตรฐานการปฏิบัตงิ าน (X7) (n=242) มาตรฐานการปฏบิ ัตงิ าน S.D. คา่ ระดบั ลาดบั 1. สถานศกึ ษามีการกาหนดระดับเป้าหมายและ มาตรฐานการปฏิบตั งิ านที่ชัดเจน 4.21 0.75 มาก 3 2. ครูรบั รู้และเขา้ ใจเปา้ หมายและมาตรฐานการ ปฏิบัตงิ านของสถานศึกษา 4.21 0.76 มาก 4 3. สถานศกึ ษามกี ารปรับปรุงมาตรฐานการปฏบิ ัติ งานอยู่เสมอ เพื่อใหส้ อดคล้องกบั ทรัพยากรและ เวลา 4.16 0.75 มาก 6 4. สถานศกึ ษามีการตรวจสอบและประเมนิ ผล การปฏบิ ตั งิ านตามมาตรฐาน 4.22 0.72 มาก 2 5. ครูปฏบิ ัตงิ านโดยเนน้ การปฏบิ ตั งิ านทด่ี แี ละ สถานศกึ ษายกระดบั มาตรฐานในการปฏิบตั งิ าน ของครูให้มปี ระสทิ ธิภาพทส่ี ูงข้ึนอยเู่ สมอ 4.25 0.72 มาก 1 6. ครมู ีความพึงพอใจในการปฏิบัตงิ าน แม้อยู่ใน สถานการณ์ท่ีกดดนั เพอ่ื ให้บรรลุวตั ถปุ ระสงค์ของ ตนเองและสถานศึกษาทก่ี าหนดไว้ 4.20 0.71 มาก 5 รวม 4.21 0.69 มาก จากตารางท่ี 11 พบว่า บรรยากาศองค์การ สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา ประจวบคีรีขันธ์ ด้านมาตรฐานการปฏิบัตงิ าน โดยภาพรวมอยู่ในระดบั มาก ( =4.21, S.D.=0.69) เมื่อ พิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลาดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อยดังนี้ ครูปฏิบัติงาน โดยเน้นการปฏิบัติงานท่ีดี และสถานศึกษายกระดับมาตรฐานในการปฏิบัติงานของครูให้มีประสิทธิภาพ ที่สูงขึ้นอยู่เสมอ ( =4.25, S.D.=0.72) สถานศึกษามีการตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติงานตาม มาตรฐาน ( =4.22, S.D.=0.72) สถานศึกษามีการกาหนดระดับเป้าหมายและมาตรฐานการปฏิบัติงานท่ี ชัดเจน ( =4.21, S.D.=0.75) ครูรับรู้และเข้าใจเป้าหมายและมาตรฐานการปฏิบัติงานของสถานศึกษา ( =4.21, S.D.=0.76) ครูมีความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน แมอ้ ยูใ่ นสถานการณ์ที่กดดัน เพอื่ ใหบ้ รรลุ

68 วัตถุประสงค์ของตนเองและสถานศึกษาที่กาหนดไว้ ( =4.20, S.D.=0.71) และสถานศึกษามีการปรับปรุง มาตรฐานการปฏิบตั งิ านอยู่เสมอ เพอ่ื ให้สอดคล้องกับทรัพยากรและเวลา ( =4.16, S.D.=0.75) ตารางท่ี 12 ค่าเฉล่ีย สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐานของบรรยากาศองคก์ าร สังกดั สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา มัธยมศกึ ษาประจวบคีรขี ันธ์ ดา้ นการยอมรบั ความขดั แยง้ (X8) (n=242) การยอมรับความขัดแยง้ S.D. ค่าระดับ ลาดับ 1. ครยู อมรับความคดิ เหน็ ที่แตกตา่ งของผบู้ ริหาร และครูในสถานศึกษา 4.24 0.72 มาก 1 2. ผบู้ รหิ ารสถานศึกษารับฟงั เหตุผลและยอมรับ ความคิดเห็นที่แตกต่างของครู 4.12 0.78 มาก 4 3. ผบู้ ริหารสถานศึกษาเปิดโอกาสใหค้ รูได้พดู คยุ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ปญั หาต่าง ๆ 4.18 0.74 มาก 3 4. ครรู บั ฟังความคิดเหน็ ท่ีแตกตา่ ง เพื่อนามา ปรับปรุงและแกไ้ ขปัญหาร่วมกัน 4.24 0.72 มาก 1 5. ครไู ม่เพกิ เฉยต่อปัญหาท่เี กิดขน้ึ มีการเปิดเผย ปญั หา เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไขท่ีเหมาะสม 4.21 0.77 มาก 2 รวม 4.20 0.70 มาก จากตารางท่ี 12 พบว่า บรรยากาศองค์การ สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา ประจวบคีรขี ันธ์ ด้านการยอมรบั ความขัดแย้ง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.20, S.D.=0.70) เม่ือ พิจารณารายข้อ พบวา่ อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลาดับค่าเฉล่ียจากมากไปน้อยดังน้ี ครูยอมรับ ความคิดเห็นที่แตกต่างของผู้บริหารและครูในสถานศึกษา ครูรับฟังความคิดเห็นท่ีแตกต่าง เพ่ือนามา ปรับปรุงและแก้ไขปัญหาร่วมกัน ( =4.24, S.D.=0.72) ครูไม่เพิกเฉยต่อปัญหาท่ีเกิดข้ึน มีการเปิดเผย ปญั หา เพ่ือรว่ มกันหาทางแก้ไขท่ีเหมาะสม ( =4.21, S.D.=0.77) ผบู้ ริหารสถานศึกษาเปิดโอกาสให้ครูได้ พูดคุยและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับปัญหาต่าง ๆ ( =4.18, S.D.=0.74) และผู้บริหารสถานศึกษา รับฟัง เหตุผลและยอมรบั ความคิดเหน็ ท่ีแตกตา่ งของครู ( =4.12, S.D.=0.78)

69 ตารางที่ 13 ค่าเฉล่ีย สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐานของบรรยากาศองคก์ าร สังกัดสานักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษา มธั ยมศกึ ษาประจวบคีรขี ันธ์ ดา้ นความเป็นหนึ่งเดยี วในองคก์ าร (X9) (n=242) ความเป็นหนง่ึ เดียวในองคก์ าร S.D. คา่ ระดับ ลาดบั 1. ครรู สู้ กึ เปน็ ส่วนหน่งึ ของสถานศกึ ษา 4.26 0.75 มาก 4 2. ครรู ู้สึกถึงการเป็นสมาชกิ ที่สาคัญคนหน่งึ ของ เพอื่ นครู 4.23 0.76 มาก 5 3. ครมู ีความสามัคคีและทางานกันเปน็ ทมี ในการ ปฏิบัตงิ าน โดยไมม่ ีการแบ่งพรรคแบ่งพวก 4.21 0.75 มาก 6 4. ครมู ีความภาคภูมิใจท่ไี ด้ปฏิบตั ิงานใน สถานศึกษาแหง่ น้ี และมีความจงรักภกั ดีต่อ สถานศึกษา 4.31 0.74 มาก 3 5. ครูมีความร้สู กึ ว่าเป็นสมาชิกที่ดีและมีคุณคา่ ของสถานศกึ ษา 4.31 0.73 มาก 2 6. ครคู านึงถงึ ผลประโยชนส์ ่วนรวมมากกว่า ผลประโยชน์ส่วนตน 4.36 0.68 มาก 1 รวม 4.28 0.68 มาก จากตารางท่ี 13 พบว่า บรรยากาศองค์การ สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา ประจวบคีรีขนั ธ์ ดา้ นความเป็นหน่ึงเดียวในองค์การ โดยภาพรวมอย่ใู นระดับมาก ( =4.28, S.D.=0.68) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลาดับค่าเฉล่ียจากมากไปน้อยดังน้ี ครูคานึงถึง ผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตน ( =4.36, S.D.=0.68) ครูมีความรู้สึกว่าเป็นสมาชิก ท่ีดีและมีคุณค่าของสถานศึกษา ( =4.31, S.D.=0.73) ครูมีความภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติงานในสถานศึกษา แห่งน้ี และมีความจงรักภักดีต่อสถานศึกษา ( =4.31, S.D.=0.74) ครูร้สู ึกเป็นส่วนหน่ึงของสถานศึกษา ( =4.26,S.D.=0.75) ครูรู้สึกถึงการเป็นสมาชิกท่ีสาคัญคนหน่ึงของเพ่ือนครู ( =4.26, S.D.=0.75) และครูมี ความสามัคคีและทางานกันเป็นทีมในการปฏิบัติงาน โดยไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก ( =4.21, S.D.=0.75)

70 ตอนที่ 3 คุณภาพชวี ติ การทางานของครู สังกดั สานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาประจวบครี ีขนั ธ์ การวิเคราะห์คุณภาพชีวิตการทางานของครู สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา ประจวบคีรีขันธ์ ผู้วิจัยวิเคราะห์โดยใช้ค่าเฉล่ีย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) จากกลุ่มตัวอย่าง 242 คน แลว้ นาไปเปรยี บเทยี บกับเกณฑต์ ามแนวคิดของบญุ ชม ศรสี ะอาด (2554, 121) ทีก่ าหนดไว้ ตารางที่ 14 คา่ เฉลี่ย สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐานของคณุ ภาพชีวิตการทางานของครู สงั กัดสานักงานเขตพ้นื ที่ การศกึ ษามัธยมศึกษาประจวบคีรขี นั ธ์ โดยภาพรวม (n=242) คณุ ภาพชวี ิตการทางานของครู S.D. คา่ ระดบั ลาดบั 1. การใหส้ ิ่งตอบแทนท่ีเหมาะสมและยุติธรรม (Y1) 4.05 0.79 มาก 8 5 2. สภาพแวดล้อมทป่ี ลอดภยั และสง่ เสริมสขุ ภาพ (Y2) 4.19 0.71 มาก 1 4 3. การพัฒนาความสามารถของบคุ คล (Y3) 4.32 0.65 มาก 3 6 4. ความเจรญิ เติบโตและความม่ันคงในงาน (Y4) 4.28 0.67 มาก 7 2 5. การบรู ณาการด้านสังคม (Y5) 4.28 0.66 มาก 6. ประชาธปิ ไตยในการทางาน (Y6) 4.17 0.73 มาก 7. ความสมดลุ ระหว่างชีวิตโดยรวม (Y7) 4.14 0.72 มาก 8. ความสัมพันธ์กบั สังคม (Y8) 4.31 0.68 มาก รวม (Ytot) 4.22 0.65 มาก จากตารางที่ 14 พบว่า คุณภาพชีวิตการทางานของครู สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.22, S.D.=0.65) เม่ือพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลาดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อยดังนี้ การพัฒนาความสามารถของ บุคคล ( =4.32, S.D.=0.65) ความสัมพันธ์กับสังคม ( =4.31, S.D.=0.68) การบูรณาการด้านสังคม ( =4.28, S.D.=0.66) ความเจรญิ เติบโตและความม่ันคงในงาน ( =4.28, S.D.=0.67) สภาพแวดล้อม ที่ปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาพ ( =4.19, S.D.=0.71) ประชาธิปไตยในการทางาน ( =4.17, S.D.=0.93) ความสมดุลระหว่างชีวิตโดยรวม ( =4.14, S.D.=0.72) และการให้สิ่งตอบแทนท่ีเหมาะสมและยุติธรรม ( =4.05, S.D.=0.79)

71 ตารางที่ 15 ค่าเฉล่ยี ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานของคุณภาพชีวิตการทางานของครู สงั กดั สานักงานเขตพ้นื ท่ี การศึกษามธั ยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ดา้ นการให้สง่ิ ตอบแทนที่เหมาะสมและยตุ ธิ รรม (Y1) (n=242) การให้สงิ่ ตอบแทนทเ่ี หมาะสมและยุติธรรม S.D. ค่าระดบั ลาดบั 1. ครไู ด้รบั คา่ ตอบแทน สวสั ดิการ และ ผลประโยชนจ์ ากการปฏิบัตงิ านท่มี คี วาม เหมาะสมกบั งานทรี่ บั ผิดชอบ 4.06 0.79 มาก 1 2. ครูมีความพึงพอใจในคา่ ตอบแทน สวัสดกิ าร และผลประโยชนท์ ่ีได้รบั 4.02 0.83 มาก 5 3. ครไู ดร้ บั คา่ ตอบแทน สวสั ดิการ และ ผลประโยชน์ท่เี พียงพอในการดารงชีวิตตาม มาตรฐานการครองชีพท่ีสมเหตสุ มผล 4.06 0.82 มาก 3 4. ครูไดร้ ับค่าตอบแทน สวัสดกิ าร และ ผลประโยชนอ์ ย่างยุติธรรมเม่ือเปรียบเทียบค่า ตอบแทนจากการปฏิบตั งิ านในตาแหน่งหน้าท่ี และความรับผดิ ชอบท่ีคล้ายคลึงกนั 4.06 0.81 มาก 2 5. ครูไดร้ ับค่าตอบแทน สวสั ดกิ าร และ ผลประโยชน์ โดยพิจารณาจากผลการปฏิบตั ิงาน อย่างเทา่ เทยี มกนั 4.04 0.83 มาก 4 รวม 4.05 0.79 มาก จากตารางท่ี 15 พบว่า คุณภาพชีวิตการทางานของครู สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศกึ ษาประจวบครี ขี ันธ์ ดา้ นการให้สิง่ ตอบแทนทเี่ หมาะสมและยุติธรรม โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มาก ( =4.05, S.D.=0.79) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลาดับค่าเฉลี่ยจาก มากไปน้อยดังนี้ ครูไดร้ ับค่าตอบแทน สวัสดิการ และผลประโยชน์จากการปฏบิ ัติงานท่ีมีความเหมาะสม กับงานท่ีรับผิดชอบ ( =4.06, S.D.=0.79) ครูได้รับค่าตอบแทน สวัสดิการ และผลประโยชน์อย่าง ยุติธรรมเมื่อเปรียบเทียบค่าตอบแทนจากการปฏิบัติงานในตาแหน่งหน้าที่และความรับผิดชอบท่ี คล้ายคลึงกัน ( =4.06, S.D.=0.81) ครูได้รับค่าตอบแทน สวัสดิการ และผลประโยชน์ท่ีเพียงพอในการ ดารงชีวิตตามมาตรฐานการครองชีพที่สมเหตุสมผล ( =4.06, S.D.=0.82) ครไู ดร้ ับค่าตอบแทน สวสั ดิการ และผลประโยชน์ โดยพิจารณาจากผลการปฏิบัติงานอย่างเท่าเทียมกัน ( =4.04, S.D.=0.83) และครูมี ความพึงพอใจในค่าตอบแทน สวัสดกิ าร และผลประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับ ( =4.02, S.D.=0.83)

72 ตารางท่ี 16 ค่าเฉลย่ี สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานของคุณภาพชีวิตการทางานของครู สังกัดสานักงานเขตพืน้ ที่ การศึกษามัธยมศึกษาประจวบครี ีขนั ธ์ ด้านสภาพแวดลอ้ มท่ีปลอดภยั และส่งเสรมิ สขุ ภาพ (Y2) (n=242) สภาพแวดลอ้ มทปี่ ลอดภัยและสง่ เสริมสุขภาพ S.D. คา่ ระดบั ลาดับ 1. ครูอยใู่ นสภาพแวดล้อมทด่ี ี และมคี วาม ปลอดภยั ต่อการปฏบิ ตั ิงาน 4.20 0.75 มาก 3 2. สถานศึกษามกี ารกาหนดมาตรฐานเกีย่ วกบั สภาพแวดล้อมภายในสถานศึกษา 4.20 0.73 มาก 2 3. สถานศกึ ษามีการส่งเสรมิ สุขภาพของครู ใน สถานศกึ ษา 4.13 0.77 มาก 5 4. สถานศึกษามกี ารควบคุมเกย่ี วกับมลพิษ เช้ือโรค และส่ิงรบกวนในการปฏิบตั งิ าน 4.17 0.76 มาก 4 5. สถานศึกษามีมาตรการในการป้องกนั อนั ตราย จากการปฏิบัติงานที่เหมาะสมปลอดภัย และท่ี เอือ้ อานวยใหป้ ฏบิ ตั ิงานไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ 4.22 0.75 มาก 1 รวม 4.19 0.71 มาก จากตารางที่ 16 พบว่า คุณภาพชีวิตการทางานของครู สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา มัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ด้านสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาพ โดยภาพรวมอยู่ใน ระดบั มาก ( =4.19, S.D.=0.71) เม่ือพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกขอ้ โดยเรียงลาดับคา่ เฉลี่ย จากมากไปน้อยดังนี้ สถานศึกษามีมาตรการในการป้องกันอันตรายจากการปฏิบัติงานที่เหมาะสม ปลอดภัย และที่เอื้ออานวยให้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ( =4.22, S.D.=0.75) สถานศึกษามีการ กาหนดมาตรฐานเกีย่ วกับสภาพแวดล้อมภายในสถานศึกษา ( =4.20, S.D.=0.73) ครอู ยูใ่ นสภาพแวดล้อมท่ี ดี และมีความปลอดภัยต่อการปฏิบัติงาน ( =4.20, S.D.=0.75) สถานศึกษามีการควบคุมเก่ียวกับมลพิษ เชอื้ โรค และสิง่ รบกวนในการปฏิบตั งิ าน ( =4.17, S.D.=0.76) และสถานศึกษามกี ารส่งเสริมสุขภาพของ ครูในสถานศกึ ษา ( =4.13, S.D.=0.77)

73 ตารางที่ 17 ค่าเฉลย่ี สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐานของคุณภาพชีวติ การทางานของครู สงั กดั สานกั งานเขตพืน้ ที่ การศกึ ษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ดา้ นการพฒั นาความสามารถของบุคคล (Y3) (n=242) การพัฒนาความสามารถของบุคคล S.D. ค่าระดับ ลาดับ 1. ครไู ด้รับโอกาสในการส่งเสริมและพัฒนาความรู้ ความสามารถของตนเองเพ่ือให้มคี วามรูแ้ ละ ทักษะใหม่ ๆ 4.30 0.70 มาก 4 2. ครมู ีโอกาสได้ใชท้ กั ษะและความรู้ ความ สามารถของตนเองในการปฏิบัตงิ านทตี่ นเอง รบั ผิดชอบ 4.30 0.70 มาก 4 3. ครไู ด้มีสว่ นรว่ มในการปฏิบัติงานต่าง ๆ ของ สถานศกึ ษา 4.36 0.69 มาก 1 4. ครูมีความร้สู กึ ภาคภมู ิใจในตนเอง เม่ือได้เป็น สว่ นหน่งึ ในการปฏิบัติงานตา่ ง ๆ ของสถานศึกษา 4.32 0.67 มาก 2 5. ครูมคี วามรูส้ ึกท้าทายในการปฏบิ ัตงิ านจากการ ใช้ความสามารถของตนเองในการปฏบิ ตั งิ านอย่าง เต็มศักยภาพ 4.32 0.69 มาก 3 รวม 4.32 0.65 มาก จากตารางท่ี 17 พบว่า คุณภาพชีวิตการทางานของครู สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ด้านการพัฒนาความสามารถของบุคคล โดยภาพรวมอยใู่ นระดับมาก ( =4.32, S.D.=0.65) เม่ือพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลาดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ดังนี้ ครูได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานต่าง ๆ ของสถานศึกษา ( =4.36, S.D.=0.69) ครูมีความรู้สึก ภาคภูมิใจในตนเอง เมื่อได้เป็นส่วนหน่ึงในการปฏิบัติงานต่าง ๆ ของสถานศึกษา ( =4.32, S.D.=0.67) ครูมีความรู้สึกท้าทายในการปฏิบัติงาน จากการใช้ความสามารถของตนเองในการปฏิบัติงานอย่างเต็ม ศักยภาพ ( =4.32, S.D.=0.69) และครูมีโอกาสได้ใช้ทักษะและความรู้ ความสามารถของตนเองในการ ปฏิบัติงานที่ตนเองรับผิดชอบ ครูได้รับโอกาสในการส่งเสริมและพัฒนาความรู้ ความสามารถของตนเอง เพอ่ื ให้มคี วามรู้และทักษะใหม่ ๆ ( =4.30, S.D.=0.70)

74 ตารางท่ี 18 ค่าเฉลีย่ สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐานของคุณภาพชีวิตการทางานของครู สังกดั สานักงานเขตพน้ื ท่ี การศึกษามัธยมศึกษาประจวบครี ขี ันธ์ ด้านความเจรญิ เติบโตและความม่ันคงในงาน (Y4) (n=242) ความเจรญิ เตบิ โตและความมั่นคงในงาน S.D. ค่าระดบั ลาดบั 1. ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาใหค้ วามสาคัญในการ มอบหมายงานใหม่หรืองานที่ต้องใชค้ วามรู้และ ทักษะที่เพิ่มขน้ึ ของครู 4.22 0.71 มาก 5 2. ครูไดด้ ารงไวห้ รอื เพิ่มความสามารถในการ ปฏิบตั งิ านของตน 4.30 0.68 มาก 1 3. ครูไดร้ ับโอกาสในการส่งเสริมให้เพม่ิ พนู ความรู้ และทกั ษะใหม่ ๆ ท่ีครสู ามารถนาไปใช้ประโยชน์ ตอ่ งานที่ไดร้ บั มอบหมายในอนาคตได้ 4.29 0.71 มาก 3 4. สถานศกึ ษาเปิดโอกาสให้ครไู ด้มีความกา้ วหน้า ในสถานศกึ ษาหรือในสายงานของตน 4.27 0.70 มาก 4 5. ครูเป็นทยี่ อมรบั ของเพื่อนครูที่ปฏบิ ัตงิ าน รว่ มกัน สมาชกิ ในครอบครัวหรือผทู้ ่ีเกีย่ วข้อง 4.30 0.74 มาก 2 รวม 4.28 0.67 มาก จากตารางที่ 18 พบว่า คุณภาพชีวิตการทางานของครู สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา มัธยมศึกษาประจวบครี ีขันธ์ ด้านความเจรญิ เติบโตและความมัน่ คงในงาน โดยภาพรวมอย่ใู นระดับมาก ( =4.28, S.D.=0.67) เมอื่ พิจารณารายข้อ พบวา่ อยู่ในระดบั มากทุกข้อ โดยเรยี งลาดับค่าเฉลี่ยจากมาก ไปน้อยดังนี้ ครูได้ดารงไว้หรือเพ่ิมความสามารถในการปฏิบัติงานของตน ( =4.30, S.D.=0.68) ครเู ป็นท่ี ยอมรับของเพ่ือนครูท่ีปฏิบัติงานร่วมกัน สมาชิกในครอบครัวหรือผู้ท่ีเกี่ยวข้อง ( =4.30, S.D.=0.74) ครูได้รับโอกาสในการส่งเสริมให้เพ่ิมพูนความรู้และทักษะใหม่ ๆ ท่ีครูสามารถนาไปใช้ประโยชน์ต่องานท่ี ได้รับมอบหมายในอนาคตได้ ( =4.29, S.D.=0.71) สถานศึกษาเปิดโอกาสให้ครูได้มีความก้าวหน้าใน สถานศึกษาหรือในสายงานของตน ( =4.27, S.D.=0.70) และผู้บริหารสถานศึกษาให้ความสาคัญในการ มอบหมายงานใหมห่ รืองานทีต่ ้องใช้ความร้แู ละทักษะที่เพมิ่ ข้นึ ของครู ( =4.22, S.D.=0.71)

75 ตารางท่ี 19 ค่าเฉลยี่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคุณภาพชีวติ การทางานของครู สงั กดั สานกั งานเขตพ้ืนท่ี การศกึ ษามธั ยมศกึ ษาประจวบคีรขี ันธ์ ดา้ นการบูรณาการด้านสงั คม (Y5) (n=242) การบรู ณาการด้านสังคม S.D. ค่าระดบั ลาดับ 1. ครูมคี วามร้สู กึ ว่าตนเองประสบความสาเรจ็ ใน การปฏบิ ัตงิ าน เม่ือสามารถปฏิบตั ิงานให้ประสบ ความสาเรจ็ ได้ 4.24 0.73 มาก 5 2. ครูได้รับการยอมรบั ในผลงานจากเพ่ือนครู และ เปน็ มิตรกับเพื่อนครใู นสถานศึกษา 4.29 0.71 มาก 3 3. ครไู ด้มีสว่ นร่วมในการปฏิบัตงิ านและมีความ สมั พันธก์ ับบุคคลอ่นื 4.31 0.68 มาก 1 4. ครูมคี วามรู้สึกวา่ ตนเองมีคุณคา่ ต่อสถานศึกษา และเป็นสว่ นหน่งึ ของสถานศึกษา 4.26 0.71 มาก 4 5. ครไู ดร้ ับเกยี รติที่เทา่ เทียมจากเพื่อนครูคนอื่น ๆ ในสถานศึกษา 4.29 0.66 มาก 2 รวม 4.28 0.66 มาก จากตารางที่ 19 พบว่า คุณภาพชีวิตการทางานของครู สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา มัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ด้านการบูรณาการด้านสังคม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.28, S.D.=0.66) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลาดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อยดังน้ี ครูได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานและมีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ( =4.31, S.D.=0.68) ครูได้รับเกียรติท่ี เท่าเทียมจากเพื่อนครูคนอื่น ๆ ในสถานศึกษา ( =4.29, S.D.=0.66) ครูได้รับการยอมรับในผลงาน จากเพ่ือนครู และเป็นมิตรกับเพื่อนครูในสถานศึกษา ( =4.29, S.D.=0.71) ครูมีความรู้สึกว่าตนเองมี คุณค่าต่อสถานศึกษาและเป็นส่วนหน่ึงของสถานศึกษา ( =4.26, S.D.=0.71) และครูมีความรู้สึกว่า ตนเองประสบความสาเร็จในการปฏิบัติงาน เม่ือสามารถปฏิบัติงานให้ประสบความสาเร็จได้ ( =4.24, S.D.=0.73)

76 ตารางท่ี 20 ค่าเฉลย่ี สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานของคุณภาพชีวิตการทางานของครู สงั กัดสานักงานเขตพ้นื ที่ การศึกษามธั ยมศกึ ษาประจวบครี ขี ันธ์ ดา้ นประชาธปิ ไตยในการทางาน (Y6) (n=242) ประชาธิปไตยในการทางาน S.D. คา่ ระดบั ลาดับ 1. ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษาเคารพสิทธิสว่ นบุคคลของ ครใู นสถานศึกษา 4.21 0.77 มาก 1 2. ครไู ด้รับความเสมอภาคในการมอบหมายงาน จากผู้บรหิ ารสถานศึกษาอย่างเหมาะสม 4.20 0.75 มาก 2 3. ครไู ด้รับความเสมอภาคและความเทา่ เทยี มกัน ในการปฏิบัติงาน 4.18 0.76 มาก 3 4. ผบู้ ริหารสถานศึกษามกี ารกาหนดวธิ ีพจิ ารณา การเลือ่ นตาแหนง่ และการพจิ ารณาความดี ความชอบอย่างยตุ ธิ รรม 4.12 0.80 มาก 5 5. ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาและครูมอี ิสระในการแสดง ความคดิ เห็น ยอมรบั ในความขัดแย้งทางความคิด 4.16 0.76 มาก 4 6. ครูไดร้ บั ความเป็นธรรมจากผ้บู รหิ าร สถานศกึ ษา 4.16 0.76 มาก 4 รวม 4.17 0.73 มาก จากตารางที่ 20 พบว่า คุณภาพชีวิตการทางานของครู สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา มัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ด้านประชาธิปไตยในการทางาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.17, S.D.=073) เม่ือพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลาดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อยดังน้ี ผู้บริหารสถานศึกษาเคารพสิทธิส่วนบุคคลของครูในสถานศึกษา ( =4.21, S.D.=0.77) ครูได้รับความ เสมอภาคในการมอบหมายงานจากผู้บริหารสถานศึกษาอย่างเหมาะสม ( =4.20, S.D.=0.75) ครูได้รับ ความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันในการปฏิบัติงาน ( =4.18, S.D.=0.76) ผู้บริหารสถานศึกษาและครู มีอิสระในการแสดงความคิดเห็น ยอมรับในความขัดแย้งทางความคิด ครูได้รับความเป็นธรรมจาก ผู้บริหารสถานศึกษา ( =4.16, S.D.=0.76) และผู้บริหารสถานศึกษามีการกาหนดวิธีพิจารณาการเลื่อน ตาแหนง่ และการพิจารณาความดีความชอบอยา่ งยุติธรรม ( =4.20, S.D.=0.75)

77 ตารางท่ี 21 ค่าเฉล่ยี สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐานของคุณภาพชีวติ การทางานของครู สงั กัดสานักงานเขตพื้นท่ี การศกึ ษามธั ยมศกึ ษาประจวบคีรขี นั ธ์ ดา้ นความสมดุลระหว่างชวี ติ โดยรวม (Y7) (n=242) ความสมดุลระหวา่ งชีวติ โดยรวม S.D. คา่ ระดับ ลาดับ 1. ครูสามารถแบง่ เวลาทางาน และเวลาส่วนตัวได้ อยา่ งเหมาะสม 4.13 0.78 มาก 3 2. ครมู ีเวลาวา่ งสาหรบั ตนเองและครอบครัวอยา่ ง เพยี งพอ 4.09 0.81 มาก 6 3. ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษามีการเปิดโอกาสให้ครูได้ใช้ ชวี ิตในการปฏิบตั ิงานและชวี ิตส่วนตัวอย่างสมดุล 4.15 0.73 มาก 2 4. ผู้บริหารสถานศกึ ษาไม่กดดนั ครูมากเกนิ ไป ใหค้ รูมีความสุขปฏบิ ัตงิ านในสถานศกึ ษา 4.12 0.83 มาก 5 5. ผ้บู ริหารสถานศกึ ษาเปิดโอกาสให้ครูได้ ผ่อนคลายความเครยี ดระหว่างปฏบิ ัติงาน 4.12 0.78 มาก 4 6. ครูมคี วามก้าวหนา้ ในตาแหน่งและไดร้ บั การ สนบั สนุนจากครอบครัวในการปฏิบตั ิงาน 4.24 0.72 มาก 1 รวม 4.14 0.72 มาก จากตารางที่ 21 พบว่า คุณภาพชีวิตการทางานของครู สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา มัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ด้านความสมดุลระหว่างชีวิต โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.14, S.D.=0.72) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลาดับค่าเฉล่ียจากมากไปน้อย ดังนี้ ครูมีความก้าวหน้าในตาแหน่ง และได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวในการปฏิบัติงาน ( =4.24, S.D.=0.72) ผบู้ ริหารสถานศึกษามกี ารเปิดโอกาสให้ครูได้ใช้ชวี ติ ในการปฏิบัตงิ านและชวี ติ สว่ นตัวอย่าง สมดุล ( =4.15, S.D.=0.73) ครูสามารถแบ่งเวลาทางานและเวลาส่วนตัวได้อย่างเหมาะสม ( =4.13, S.D.=0.78) ผู้บริหารสถานศึกษาเปิดโอกาสให้ครูได้ผ่อนคลายความเครียดระหว่างปฏิบัติงาน ( =4.12, S.D.=0.78) ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษาไม่กดดันครูมากเกินไปให้ครมู ีความสุขปฏิบัตงิ านในสถานศึกษา ( =4.12, S.D.=0.83) และครมู เี วลาว่างสาหรับตนเองและครอบครวั อย่างเพยี งพอ ( =4.09, S.D.=0.81)

78 ตารางท่ี 22 ค่าเฉล่ีย ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานของคุณภาพชีวติ การทางานของครู สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ี การศึกษามธั ยมศกึ ษาประจวบครี ขี ันธ์ ดา้ นความสัมพันธก์ บั สังคม (Y8) (n=242) ความสมั พนั ธก์ บั สงั คม S.D. คา่ ระดับ ลาดบั 1. สถานศกึ ษามคี วามรับผิดชอบต่อสงั คมและ ชมุ ชน 4.31 0.70 มาก 3 2. สถานศึกษามีการดาเนินกิจกรรมการทางาน ตา่ ง ๆ โดยคานึงถึงประโยชน์ตอ่ สงั คมและชมุ ชน 4.31 0.69 มาก 2 3. สถานศึกษามสี ่วนรว่ มในการสร้างความเจริญ กา้ วหน้าใหก้ ับชมุ ชน 4.29 0.70 มาก 4 4. สถานศกึ ษาสนบั สนุนและใหค้ วามร่วมมอื ใน การช่วยเหลือ สร้างประโยชนแ์ ละพฒั นาสังคม ชมุ ชนหรอื หน่วยงานอนื่ ๆ 4.34 0.70 มาก 1 5. ครรู ู้สกึ ภาคภูมใิ จท่ีได้มีส่วนร่วมและเป็นส่วน หนงึ่ ของสถานศึกษาในการสร้างความเจรญิ กา้ วหนา้ ใหก้ บั ชุมชน 4.31 0.69 มาก 2 รวม 4.31 0.68 มาก จากตารางที่ 22 พบว่า คุณภาพชีวิตการทางานของครู สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา มัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ด้านความสัมพันธ์กับสังคม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.31, S.D.=0.68) เม่ือพิจารณารายข้อ พบวา่ อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลาดับค่าเฉล่ียจากมากไปน้อย ดังน้ี สถานศึกษาสนับสนุนและให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือ สร้างประโยชน์และพัฒนาสังคม ชุมชนหรือหน่วยงานอื่น ๆ ( =4.34, S.D.=0.70) ครูรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมและเป็นส่วนหน่ึง ของสถานศึกษาในการสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับชุมชน และสถานศึกษามีการดาเนินกิจกรรม การทางานต่าง ๆ โดยคานึงถึงประโยชน์ต่อสังคมและชุมชน ( =4.31, S.D.=0.69) สถานศึกษามีความ รับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน ( =4.31, S.D.=0.70) และสถานศึกษามีส่วนร่วมในการสร้างความเจริญ ก้าวหน้าให้กับชมุ ชน ( =4.29, S.D.=0.70)

79 ตอนที่ 4 ความสัมพันธ์ระหว่างบรรยากาศองค์การกับคุณภาพชวี ิตการทางานของครูในสถานศกึ ษา สังกดั สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษาประจวบคีรขี นั ธ์ การวิเคราะห์ความสัมพนั ธ์ระหว่างบรรยากาศองคก์ ารกับคุณภาพชีวิตการทางานของครใู น สถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ผู้วิจัยใช้การวิเคราะห์หา ค่าสัมประสิทธ์ิสหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson’s product moment correlation coefficient) ดงั มีรายละเอยี ดในตารางที่ 23 ตารางที่ 23 ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างบรรยากาศองค์การกับคุณภาพชีวิตการทางานของครูใน สถานศกึ ษา สังกัดสานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาประจวบครี ขี ันธ์ ตัวแปร X1 X2 X3 X4 X5 X6 X7 X8 X9 Xtot Ytot X1 1 X2 .742** 1 X3 .625** .612** 1 X4 .339** .307** .429** 1 X5 .553** .465** .574** .298** 1 X6 .584** .542** .705** .432** .545** 1 X7 .649** .678** .684** .422** .601** .674** 1 X8 .644** .582** .659** .387** .624** .654** .757** 1 X9 .530** .386** .545** .270** .606** .464** .519** .551** 1 Xtot .820** .786** .830** .561** .755** .801** .868** .841** .680** 1 Ytot .844** .897** .912** .866** .873** .922** .903** .931** .896** .960** 1 ** มคี วามสมั พนั ธอ์ ย่างมีนยั สาคญั ทางสถิติทร่ี ะดับ .01 จากตารางท่ี 23 พบว่า บรรยากาศองค์การกับคุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ โดยภาพรวมมีความสัมพันธ์กันทางบวก ในระดับสูงมาก อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .01 (r=.960) เม่ือพิจารณารายคู่ พบว่า มีความสัมพันธ์ กันในทางบวกทุกคู่ โดยที่บรรยากาศองค์การด้านการยอมรับความขัดแย้งกับคุณภาพชีวิตการทางาน ของครู มีความสัมพันธ์กันสูงท่ีสุด (r=.931) และบรรยากาศองค์การด้านโครงสร้างองค์การกับคุณภาพ ชีวติ การทางานของครู มคี วามสมั พันธ์กนั ต่าทีส่ ุด (r=.844)

80 ตอนท่ี 5 บรรยากาศองคก์ ารทส่ี ่งผลตอ่ คณุ ภาพชีวติ การทางานของครใู นสถานศกึ ษา สังกัดสานกั งาน เขตพื้นทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศึกษาประจวบคีรีขนั ธ์ การวิเคราะห์บรรยากาศองค์การที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา สงั กัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามธั ยมศึกษาประจวบคีรีขนั ธ์ ผู้วิจัยใช้การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ แบบขนั้ ตอน (stepwise multiple regression analysis) ตารางที่ 24 ผลการวิเคราะห์บรรยากาศองค์การที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา สงั กดั สานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษามัธยมศกึ ษาประจวบคีรีขนั ธ์ โดยภาพรวม (Ytot) ตวั แปรท่ถี ูกคัดเลือกเข้าสมการ R สัมประสิทธิ์ t Sig ตามลาดับการคัดเลอื กเขา้ R2 S.E. การถดถอย B Beta การยอมรับความขัดแยง้ (X8) .931 .867 .051 .164 .177 3.215** .001 การสนับสนนุ (X6) .948 .899 .046 .193 .211 4.189** .000 มาตรฐานการปฏบิ ัติงาน (X7) .956 .914 .038 .189 .201 5.003** .000 ความเป็นหน่งึ เดยี วในองค์การ (X9) .962 .925 .038 .195 .207 5.168** .000 การใหร้ างวลั (X3) .964 .929 .046 .114 .124 2.501* .013 ความรบั ผดิ ชอบ (X2) .965 .930 .044 .103 .103 2.331* .021 ค่าคงท่ี (Constant) .077 .179 2.328* .021 ** มีนยั สาคัญทางสถติ ิท่รี ะดบั .01 * มีนัยสาคญั ทางสถิติที่ระดบั .05 R = .960 R2 = .921 Residual = 6.988 F = 345.635 Sig F = .000 จากตารางท่ี 24 พบว่า ตัวแปรบรรยากาศองค์การท่ีส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทางานของครูใน สถานศึกษา โดยภาพรวม ท่ีได้รับการคดั เลือกเขา้ สมการตามลาดับขั้นตอน คือ การยอมรับความขัดแยง้ (X8) การสนับสนุน (X6) มาตรฐานการปฏิบัติงาน (X7) ความเป็นหนึ่งเดียวในองค์การ (X9) การให้รางวัล (X3) และความรับผิดชอบ (X2) ตามลาดับ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์การถดถอย (Beta) เท่ากับ .177 .211 .201 .207 .124 และ .103 ตามลาดับ มีค่าสมั ประสิทธ์ิสหสัมพันธ์พหุคณู (R) เท่ากับ .931 .948 .956 .962 .964 และ .965 ตามลาดับ ค่าสัมประสิทธ์ิการทานาย (R2) เท่ากับ .867 .899 .914 .925

81 .929 และ .930 ตามลาดับ ค่าความคลาดเคล่ือนมาตรฐานการทานาย (S.E.) เท่ากับ .051 .046 .038 0.38 .046 และ .044 ตามลาดับ ความสัมพันธ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ตัวแปรท้ังหกตัวสามารถร่วมกัน ทานายคุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา ได้ร้อยละ 92.10 อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ทรี่ ะดบั .01 ซ่ึงเขียนสมการพยากรณไ์ ดด้ งั น้ี สมการพยากรณใ์ นรูปคะแนนดิบ Ytot = .179 + .164(X8) + .193(X6) + .189(X7) + .195(X9) + .114(X3) + .103(X2) สมการพยากรณใ์ นรปู คะแนนมาตรฐาน Ztot = .177(X8) + .211(X6) + .201(X7) + .207(X9) + .124(X3) + .103(X2)

บทท่ี 5 สรปุ อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัยครงั้ นม้ี ีวัตถุประสงค์เพือ่ 1) ศึกษาบรรยากาศองคก์ ารของสถานศึกษา 2) ศกึ ษาคณุ ภาพ ชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา และ 3) ศึกษาบรรยากาศองค์การที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการ ทางานของครูในสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครู สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา มธั ยมศึกษาประจวบคีรีขนั ธ์ จานวน 242 คน โดยใช้วธิ ีสุ่มแบบแบ่งชั้น เครือ่ งมือท่ีใช้ในการเก็บรวบรวม ข้อมูลคือ แบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า 5 ระดบั มีค่าความเช่ือม่ันเท่ากับ .96 สถิติท่ีใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถ่ี ค่ารอ้ ยละ ค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ การถดถอยพหุคูณแบบข้ันตอน ซ่ึงผู้วิจัยได้สรุปผลการวิจัย อภิปรายผลการวิจัย และข้อเสนอแนะ จากผลการวิจยั ไว้ดงั รายละเอียดตอ่ ไปน้ี สรุปผลการวจิ ัย จากการวิจัยศึกษาบรรยากาศองค์การที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา สงั กดั สานกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษามัธยมศึกษาประจวบคีรขี ันธ์ สรปุ ผลไดด้ ังน้ี 1. บรรยากาศองค์การของสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรขี ันธ์ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เม่ือพจิ ารณาเป็นรายดา้ นพบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลาดับค่าเฉลี่ย จากมากไปหาน้อยดังนี้ ด้านความเป็นหนึ่งเดียวในองค์การ ด้านโครงสร้างองค์การ ด้านความรับผิดชอบ ด้านความอบอุ่น ด้านมาตรฐานการปฏิบัติงาน ด้านความเสี่ยงของงาน ด้านการยอมรับความขัดแย้ง ด้านการสนบั สนุน และด้านการใหร้ างวัล 2. คุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา ประจวบคีรีขันธ์ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลาดบั ค่าเฉลีย่ จากมากไปหานอ้ ยดังน้ี ด้านการพัฒนาความสามารถของบุคคล ด้านความสมั พันธ์ กับสังคม ดา้ นการบูรณาการด้านสังคม ด้านความเจริญเติบโตและความมั่นคงในงาน ด้านสภาพแวดล้อมที่ ปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาพ ด้านประชาธิปไตยในการทางาน ด้านความสมดุลระหว่างชีวิตโดยรวม และด้านการใหส้ ง่ิ ตอบแทนทีเ่ หมาะสมและยตุ ธิ รรม 3. บรรยากาศองค์การของสถานศึกษา ด้านการยอมรับความขัดแย้ง (X8) ด้านการสนับสนุน (X6) ดา้ นมาตรฐานการปฏิบัติงาน (X7) ด้านความเป็นหน่ึงเดียวในองค์การ (X9) ด้านการให้รางวัล (X3) และ ด้านความรับผิดชอบ (X2) ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขต

83 พ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ โดยสามารถร่วมกันทานายคุณภาพชีวิตการทางานของครูใน สถานศกึ ษา ได้ร้อยละ 92.10 อยา่ งมีนัยสาคัญทางสถติ ิทร่ี ะดบั .01 ซง่ึ เขียนสมการพยากรณไ์ ดด้ ังน้ี สมการพยากรณ์ในรปู คะแนนดิบ Ytot = .179 + .164(X8) + .193(X6) + .189(X7) + .195(X9) + .114(X3) + .103(X2) สมการพยากรณใ์ นรูปคะแนนมาตรฐาน Ztot = .177(X8) + .211(X6) + .201(X7) + .207(X9) + .124(X3) + .103(X2) อภปิ รายผลการวจิ ัย จากผลการวิจัย เร่อื ง บรรยากาศองค์การทส่ี ่งผลต่อคุณภาพชวี ิตการทางานของครใู นสถานศึกษา สงั กดั สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาประจวบคีรีขนั ธ์ สามารถอภปิ รายผลการวิจยั ได้ ดงั น้ี 1. จากผลการวิจัยท่ีพบว่าบรรยากาศองค์การของสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ี การศกึ ษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ โดยภาพรวมอย่ใู นระดบั มาก ทง้ั น้ีอาจเป็นเพราะสถานศึกษาใน สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูสามารถ รับรู้ถึงสภาพแวดล้อมท่ดี ีในการปฏิบัติงานของสถานศึกษา ครแู ละผู้บริหารสถานศกึ ษามีความสัมพันธ์ที่ ดีต่อกัน ครูมีมิตรภาพท่ีดีต่อกัน มีความสามัคคี ทางานกันเป็นทีม สามารถปฏิบัติงานโดยไม่แบ่งพรรค แบ่งพวก และได้รับการช่วยเหลือจากผู้บริหารสถานศึกษาและเพื่อนร่วมงานอยู่เสมอ อีกท้ังสถานศึกษา ยังมีการแบ่งสายงานการบังคับบัญชา จัดทาโครงสร้างการปฏิบัติงานอย่างชัดเจนและเป็นระบบ ให้มี ความคล่องตัวและมีความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน ส่งผลให้ครูรู้บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของ ตนเอง และเน้นการปฏิบัติงานที่ดี นอกจากนี้ผู้บริหารสถานศึกษายังเปิดโอกาสให้ครูได้แสดงความ คิดเห็น โดยครูและผู้บริหารสถานศึกษายอมรับความคิดเห็นท่ีแตกต่างเพื่อนามาปรับปรุงและแก้ไข ปัญหาร่วมกัน เมื่อใดที่ครูมีผลปฏิบัติงานดีจะได้รับการยอมรับจากเพ่ือนครูภายในสถานศึกษา และ ผบู้ ริหารสถานศึกษาจะให้คาช่ืนชมในทางบวก ให้กาลังใจ ซึ่งเป็นการสร้างความผูกพัน และแรงจูงใจ ในการปฏิบัติงานของครู ทาให้ครูเกิดความพึงพอใจในการปฏิบัตงิ าน ส่งผลใหเ้ กดิ บรรยากาศองค์การที่ดีใน การปฏิบตั ิงานของครู เพราะบรรยากาศองค์การที่ดี จะทาให้ครสู ามารถปฏิบัติงานได้ประสบความสาเร็จ บรรลตุ ามเปา้ หมายของสถานศกึ ษา ซ่ึงสอดคลอ้ งกับงานวิจยั ของ วีรวฒั น์ จตรุ วงค์ (2554, 84–88) ทศ่ี กึ ษา การศึกษาบรรยากาศองค์การของโรงเรียนสังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 ผลการวิจัยพบว่า บรรยากาศองค์การในโรงเรียนสังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษา นครราชสีมา เขต 2 โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก และสอดคล้องกับงานวิจัยของ ชัง (Chung, 2020, 70) ได้ศึกษาบรรยากาศองค์กรและความมุ่งมั่นของครูในโรงเรียนมัธยมสราวัก ประเทศมาเลเซีย ผลการวิจัย พบว่าระดับบรรยากาศองค์กรของครูในรัฐซาราวักอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ พัชชานันท์ โภชฌงค์ (2562, 84–85) ที่ได้ศึกษาบรรยากาศ

84 องคก์ ารกับประสิทธิผลของโรงเรยี นสังกัดสานกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 ผลการวิจัย พบว่า บรรยากาศองค์การของโรงเรียนสังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 โดยภาพรวม อยใู่ นระดบั สูง เม่ือพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยด้านความเป็นหน่ึงเดียวในองค์การ มีค่าเฉล่ียมากเป็นลาดับที่ 1 ท้ังน้ีอาจเป็นเพราะในการปฏิบตั ิงานของสถานศกึ ษา ครูคานึงถึงผลประโยชน์ ส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตน โดยรู้สึกว่าตนเองน้ันเป็นส่วนหนึ่งของสถานศึกษา เป็นสมาชิกท่ีดี และมีคุณค่าต่อสถานศึกษา จึงทาให้ครูเกิดความภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติงานในสถานศึกษาของตนเอง มีความจงรักภักดีต่อสถานศึกษา และรู้สึกถึงการเป็นสมาชิกท่ีสาคัญคนหน่ึงของเพื่อนครู ซ่ึงสอดคล้อง กับงานวิจัยของ อัจฉราภรณ์ บัวลังกา (2554, 98) ได้ศึกษาสมรรถนะผู้บริหารกับบรรยากาศองค์การใน โรงเรียน สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2 ผลการวิจัยพบว่า บรรยากาศ องค์การในโรงเรียนสังกดั สานักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษากาญจนบุรี เขต 2 เม่ือพิจารณาใน รายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยมีด้านความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกันมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด และ สอดคล้องกับงานวิจยั ของ ฉัตรชัย มีพฤกษ์ (2559, 88–90) ได้ทาการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการ รบั รู้บรรยากาศองค์การกับความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ผลการวิจัย พบว่า บุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตมีระดับการรับรู้บรรยากาศองค์การด้านความเป็นอันหน่ึงอัน เดียวกันอยู่ในระดับมาก ซึ่งมีค่าเฉล่ียมากท่ีสุด นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับ สุจิรารัตน์ รัชตพงศ์บวร (2560, 92–93) ที่ได้ศึกษาบรรยากาศองค์การกับความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรคณะ ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผลการวิจัยพบว่า บรรยากาศองค์การของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศิลปากร ในด้านความเปน็ อันหนึ่งอันเดยี วกันอยู่ในระดบั มาก และเมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการให้รางวลั มีค่าเฉล่ียที่น้อยกว่าด้านอ่นื ๆ ทั้งน้ีอาจ เป็นเพราะครูท่ีมีผลงานดีเด่น อาจได้รับการสนับสนุนโอกาสในการเจริญก้าวหน้าในหน้าท่ีการงานได้ ไมม่ ากเท่าท่ีควร ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษาขาดการเสรมิ แรงทางบวก เช่น การกล่าวยกย่องชมเชยครูท่ีปฏิบัติงาน ได้สาเร็จบรรลุตามเป้าหมายของสถานศึกษา และครูยังมีความรู้สึกว่าการเลื่อนขั้นเงินเดือนหรือ ตาแหน่งในสถานศึกษายังไม่ค่อยเท่าเทียมกัน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ พรรนิภา ม่วงคร้าม (2550, 60) ที่ศึกษามิติบรรยากาศองค์การที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทางานของครูโรงเรียนเอกชนในจังหวัด ขอนแก่น ผลการวิจัยพบว่า มิติบรรยากาศองค์การของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดขอนแก่น ด้านท่ีมี ค่าเฉล่ียนอ้ ยทสี่ ุด คอื ดา้ นมิติรางวลั และสอดคล้องกับงานวจิ ัยของ ฉัตรชยั มีพฤกษ์ (2559, 88–90) ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้บรรยากาศองค์การกับความผูกพันต่อองค์การของบุคลากร มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ภเู ก็ต ผลการวจิ ยั พบวา่ บุคลากรมหาวทิ ยาลัยราชภฏั ภเู ก็ต มีระดับการรบั รู้บรรยากาศ องค์การในด้านการให้รางวัล อยู่ในระดับระดับปานกลาง ซึ่งมีค่าเฉล่ียอยู่ในลาดับต่าสุด นอกจากน้ียัง สอดคล้องกับงานวิจัยของ วินันทา ลีลาย่ิงยศ (2556, 84–87) ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะ

85 ของผู้บริหารกับบรรยากาศองค์การของธนาคารออมสิน ผลการวิจัยพบว่า บรรยากาศองค์การของธนาคาร ออมสนิ ในดา้ นระบบรางวัลตอบแทน มีค่าเฉลีย่ อยูใ่ นลาดับต่า 2. จากผลการวิจัยท่ีพบว่าคุณภาพชีวิตการทางานของครูในสถานศึกษา สังกัดสานักงาน เขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ทั้งน้ีอาจเป็นเพราะ สถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ครูได้มีส่วนร่วมในการ ปฏิบัติงานต่าง ๆ และมีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ครูได้ดารงไว้หรือเพิ่มความสามารถในการปฏิบัติงาน ของตน มีความก้าวหน้าในตาแหน่งและได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวในการปฏิบัติงาน สถานศึกษา เปิดโอกาสให้ครูได้มีความก้าวหน้าในสถานศึกษาหรือในสายงานของตน และให้ครูได้ใช้ชีวิตในการ ปฏิบัติงานและชีวิตส่วนตัวอย่างสมดุล มีมาตรการที่เอื้ออานวยให้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้บริหารสถานศึกษาเคารพสิทธิส่วนบุคคลของครูในสถานศึกษา ครูได้รับความเสมอภาคและความ เท่าเทียมกันในการปฏิบัติงาน มีอิสระในการแสดงความคิดเห็น ยอมรับในความขัดแย้งทางความคิด สถานศึกษาสนับสนุนและให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือสรา้ งประโยชน์และพัฒนาสังคม ชุมชนหรือ หน่วยงานอื่น ๆ นอกจากน้ีครูได้รับค่าตอบแทน สวัสดิการ และผลประโยชน์จากการปฏิบัติงานอย่าง ยุติธรรม และความเหมาะสมกบั งานท่ีรบั ผดิ ชอบ โดยพิจารณาจากผลการปฏิบัตงิ านอย่างเท่าเทียมกัน หากสถานศึกษาสามารถตอบสนองต่อความต้องการของครูท่ีเก่ียวข้องกับคุณภาพชีวิตการทางานได้ จะทาให้ครูเกิดความพึงพอใจ เสริมสร้างขวัญกาลังใจในการทางาน สร้างความผูกพันต่อสถานศึกษา และมีเปล่ียนแปลงทางทัศนะคติและพฤติกรรมของครูไปในทางท่ีดีขึ้น เพ่ิมประสิทธิภาพในการทางาน สง่ ผลให้การปฏบิ ัตงิ านของครูประสบความสาเรจ็ และบรรลุเป้าหมายของสถานศึกษา ซึง่ สอดคลอ้ งกับ งานวิจยั ของ ทาบาสซมั , เราะห์มาน, และ จาฮาน (Tabassum, Rahman, & Jahan, 2012, 36–56) ท่ีได้ศึกษาเรื่องการประเมินคุณภาพชีวิตการทางานของคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยเอกชนในบังคลาเทศ ผลการวิจัยพบว่า มิติด้านชีวิตการทางานทางสังคม มิติด้านความพึงพอใจและความยุติธรรมของ ค่าตอบแทน และมิติด้านธรรมนูญในองค์การ โดยมิติท้ังสามด้านสามารถร่วมกันพยากรณ์ตัวแปร คุณภาพชีวิตในการทางานได้ และสอดคล้องกับงานวิจัยของ เพ็ญศรี เวชประพันธ์ (2557, 93–94) ที่ได้ศึกษาคุณภาพชีวิตการทางานของข้าราชการครูสังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดสงขลา ผลการวิจัยพบว่า คุณภาพชีวิตการทางานของข้าราชการครูสังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ี การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดสงขลาในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณาแยกตามด้านพบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน นอกจากน้ียังสอดคล้องกับงานวิจัยของ จินตนา อุ่มครุฑ (2562, บทคัดย่อ) แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทางานของข้าราชการครูในสหวิทยาเขตชาวดอย สังกัดสานักงาน เขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาสุพรรณบุรี เขต 3 ผลการวจิ ัยพบว่า คณุ ภาพชวี ิตการทางานของข้าราชการ ครูในสหวิทยาเขตชาวดอย สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 3 โดยรวม มีคุณภาพชีวิตการทางานอยใู่ นระดับมาก

86 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดบั มากทกุ ด้าน โดยด้านการพัฒนาความสามารถของ บุคคล มีค่าเฉลี่ยมากเป็นลาดับท่ี 1 ทั้งนี้อาจเป็นเพราะสถานศึกษาเปิดโอกาสให้ครูได้ใช้ทักษะและ ความรู้ ความสามารถของตนเองในการปฏิบัติงานที่ตนเองรับผิดชอบ มีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานต่าง ๆ ของสถานศึกษา ทาให้ครูเกิดความรู้สึกท้าทายและความภาคภูมิใจในการปฏิบัติงาน จากการใช้ ความสามารถของตนเองในการปฏิบัติงานอย่างเต็มศักยภาพ นอกจากนี้ครูยังได้รับโอกาสในการส่งเสริม และพัฒนาความรู้ความสามารถของตนเองเพ่ือให้มีความรู้และทักษะใหม่ ๆ อยู่เสมอ ซึ่งสอดคล้อง กับงานวิจัยของ จินดากานต์ คงเดชาชาญ (2555, 103–104) ได้ศึกษาคุณภาพชีวิตการทางานของ พนักงานครูเทศบาลในสถานศึกษา สังกัดเทศบาลนครนครปฐม ผลการวิจัยพบว่า คุณภาพชีวิตการ ทางานของพนักงานครูเทศบาลในสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครนครปฐม เม่ือพิจารณาแยกเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการพัฒนาความสามารถของบุคคล อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉล่ียสูงท่ีสุด และสอดคล้องกับ งานวิจัยของ เบญจมาภรณ์ เครือสุวรรณ (2557, 133–134) ได้ศึกษาวัฒนธรรมองค์การของโรงเรียน กับคุณภาพชีวิตในการทางานของครูในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 ผลการวิจัยพบว่า คุณภาพชีวิตในการทางานของครู สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครปฐม เขต 1 ในด้านโอกาสในการใช้และพัฒนาศักยภาพของความเป็นมนุษย์ อยู่ในระดับมาก นอกจากนยี้ งั สอดคลอ้ งกบั งานวจิ ัยของ ดวงสดุ า ผาติอภินันท์ (2562, 100–103) การบรหิ ารแบบมสี ว่ นร่วม ที่สง่ ผลตอ่ คุณภาพชีวติ การทางานของขา้ ราชการครู สังกัดสานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 10 ผลการวจิ ัยพบวา่ ด้านการพฒั นาศกั ยภาพของผู้ปฏบิ ัตงิ าน อยู่ในระดับมาก และเม่ือพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการให้สิ่งตอบแทนที่เหมาะสมและยุติธรรม มีค่าเฉล่ียที่ น้อยกว่าด้านอ่ืน ๆ ท้ังนี้อาจเป็นเพราะครูมีความพึงพอใจในค่าตอบแทน สวัสดิการ และผลประโยชน์ ท่ีได้รับค่อนข้างน้อย เนื่องจากค่าตอบแทน สวัสดิการ และผลประโยชน์ท่ีได้รับอาจยังไม่เพียงพอ ในการดารงชีวิตตามมาตรฐานการครองชีพที่สมเหตุสมผล และในการพิจารณาการให้ ค่าตอบแทน สวัสดิการ และผลประโยชน์จากผลการปฏิบัติงานนั้นมคี วามไม่เท่าเทียมกัน ซึ่งสอดคลอ้ งกับงานวิจัยของ สิริพรรณ เมฆวิลยั (2557, บทคัดย่อ) ได้ศึกษาการวิเคราะห์ความสัมพันธ์การรับรู้ภาวะผู้นาและคุณภาพ ชีวิตการทางานกับความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานธนาคารกรุงไทย จังหวัดนครปฐม ผลการวิจัยพบว่า ระดับคุณภาพชวี ติ การทางาน ในด้านที่มคี ่าเฉลย่ี ตา่ ท่ีสุด คือปจั จัยดา้ นคา่ ตอบแทนที่เพียงพอและยตุ ิธรรม ซง่ึ อย่ใู นระดบั ปานกลาง และสอดคลอ้ งกับงานวจิ ยั ของ ศลิลดา สายศรี (2562, 155–156) ได้ศึกษาคณุ ภาพ ชีวิตการทางานที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์การของครูโรงเรียนเอกชนจังหวัดยโสธร ผลการวิจัยพบว่า คุณภาพชีวิตการทางานของครูโรงเรียนเอกชนจังหวัดยโสธร ในด้านค่าตอบแทนท่ีเป็นธรรมและเพียงพอ มคี ่าเฉล่ียต่าที่สุด นอกจากนีย้ ังสอดคล้องกับงานวิจัยของ อันธิกา บุญเลิศ (2562, 129–130) ไดศ้ ึกษา ทักษะการบริหารของผู้บริหารกับคุณภาพชีวิตการทางานของครูในโรงเรียนสังกัดสานักงานเขตพื้นท่ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook