วสันต์ นาคเสนีย์

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 89 6. Source component ใช้ออปชันนี้ ขณะท่ีสร้าง Derived Part ซึ่งสามารถใช้ได้หลังจากท่ีสร้าง Derived Part แล้ว โดยคลิกขวาที่ช่ือของ Derived Part น้ันบนบราวเซอร์ เลือก Edit Derived Part แล้ว เคลียร์ Check box นเ้ี มอ่ื ไมต่ ้องการใช้สีของช้นิ งานต้นแบบ 7. Scale factorใชก้ าหนดมาตรส่วนในการสร้าง Derived Part ให้มีขนาดใหญห่ รอื เลก็ กว่าชิ้นงาน ต้นแบบ โดยสามารถกาหนดค่าทเี่ ปน็ เลขทศนยิ มได้ ซงึ่ ค่า Default จะตั้งไวเ้ ท่ากบั 1.0 8. Mirror partออปชันน้ใี ช้สาหรับการคัดลอกชิ้นงานแบบกระจกเงาจากระนาบที่ผใู้ ชก้ าหนด โดย เลอื กจากระนาบมาตรฐาน XY, XZ หรอื YZ การฝึกสรา้ งชิ้นงานโดยใชค้ าสงั่ Derive Part การสร้างช้นิ งานจากชน้ิ งานตน้ แบบโดยใช้ Derive Part 1.เปดิ ไฟล์สร้างชน้ิ สว่ น Standard(mm).ipt ถ้ายังอยูใ่ นโหมดสเกตซ์ ให้ออกจากโหมดสเกตซ์ก่อน 2.คลิกคาสง่ั Derive จะปรากฏกล่องโตต้ อบ Open ขน้ึ มาให้บราวหาไฟล์ช่ือ der_001 ทีอ่ ยู่ใน C:\\Program Files\\Autodesk\\Inventor 2012\\Tutorial Files 3. คลิกปุ่ม Open จะปรากฏกล่องโต้ตอบ Derive Part คลิกให้สัญลักษณ์ แสดงหน้า Sketch3 และเลือก Mirror Part โดยกาหนดระนาบของการ Mirror เปน็ ระนาบ XY ภาพท่ี 7.2 การสร้างชิ้นงานจากชนิ้ งานต้นแบบโดยใช้ Derive Part 4.คลกิ ปุม่ OK จะได้ชิ้นงาน ขอ้ สงั เกต : จะเห็นวา่ ไฟล์ต้นแบบช่ือ der_001.ipt และ Sketch3 ท่ีเป็นของชิ้นงานน้ี จะแสดงอยู่ใน บราวเซอร์ดงั รปู ซ่งึ สามารถท่จี ะแก้ไข หรอื สรา้ งฟีเจอร์เพม่ิ เตมิ ไดต้ ามทต่ี ้องการ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 90 5.เจาะรู โดยคลิกคาสั่ง Hole กล่องโต้ตอบ Hole จะปรากฏข้ึน เลือก Placement แบบ From Sketch โปรแกรมจะเลือกจุดบน Sketch3 เป็นจุดศูนย์กลางรูเจาะโดยอัตโนมัติ กาหนดความโตของรู 20 mm และกาหนดออปชนั 6.คลิกปุม่ OK จะไดร้ เู จาะขนาด 20 mm จานวน 3 รูดังภาพ บันทกึ ไฟลช์ ื่อ derive_test.ipt 7.เปิดไฟล์ต้นแบบเพื่อแก้ไขขนาด โดยคลิกขวาท่ี der_001.ipt บนบราวเซอร์ เลือก Open Base Component จากเมนูไฟล์ตน้ แบบ der_001.ipt จะถกู เปดิ ข้ึนมาอกี หนา้ ตา่ งหนง่ึ ภาพที่ 7.3 เปิดไฟลต์ ้นแบบเพอ่ื แก้ไขขนาด 8.แก้ไขขนาดของไฟล์ต้นแบบ der_001.ipt โดยคลิกแท็บ Manage บนริบบอน แล้วคลิกคาสั่ง Parameters จะปรากฏกล่องโต้ตอบ Parameters ข้ึนมา ให้แก้สมการของ d2 จาก d1*5 เป็น d1*7 เพ่ือ เปล่ยี นความยาวของชน้ิ งาน 9.คลกิ ปุ่ม Done จะสงั เกตเห็นวา่ ชน้ิ งาน จะมคี วามยาวเพ่มิ ข้ึนดงั รูป 10.สลับไปเปิดไฟล์ derive_test.ipt คลิกปุ่ม Update บนควิกแอคเซสทูลบาร์ ช้ินงานนี้ก็จะมีความ ยาวเพิ่มข้ึนเท่ากบั ชน้ิ งานตน้ แบบ ภาพที่ 7.4 รเู จาะขนาด 20 mm จานวน 3 รู

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 91 11.ตัดการเช่ือมต่อระหว่างไฟล์ต้นแบบกับไฟล์ Derive Part เพ่ือไม่ให้ไฟล์ Derive Part เปลี่ยนแปลงขนาดตามชิ้นงานต้นแบบเมื่อมีการแก้ไข โดยขวาท่ี der_001.ipt บนบราวเซอร์ เลือก Break Link with Base Component จากเมนูไฟล์ต้นแบบ der_001.ipt จะตัดการเชื่อมกับไฟล์ derive_test.ipt อย่างถาวร บนั ทกึ ไฟล์ ขอ้ สังเกต : จะเห็นว่าหน้าช่ือ der_001 บนบราวเซอร์ จะแสดงสัญลักษณ์ ซ่ึงเป็นการบอกถึงตัดการ เชอ่ื มตอ่ ระหว่างไฟล์ต้นแบบกับไฟล์ Derive Part อยา่ งถาวร 12.แกไ้ ขสมการของไฟล์ der_001.ipt โดยแก้สมการของ d2 เปน็ d1*5 เหมือนเดิม บนั ทึกไฟล์ ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ : นอกจากนนั้ ผอู้ อกแบบยังสามารถตดั การเช่ือมต่อระหว่างไฟล์ต้นแบบกับไฟล์ Derive Part แบบช่ัวคราว โดยคลิกขวาท่ีชื่อของช้ินงานต้นแบบน้ันบนบราวเซอร์ เลือก Suppress Link With Base Component จากเมนู และถ้าต้องการยกเลิกการตัดการเชื่อมต่อแบบชั่วคราวให้เลือก Unsuppress Link With Base Component จากเมนเู ช่นเดยี วกนั ความรู้พนื้ ฐานของคาสัง่ Bend Part Bend Part เป็นฟีเจอร์ที่ใช้งอหรือพับชิ้นงานตามตาแหน่งของเส้นแบ่ง (Bend line) ท่ีผู้ใช้ต้องการ โดยสามารถเลือกด้านของชิ้นงานที่ต้องการพับ หรือทิศทางการพับ รวมท้ังสามารถกาหนดขนาดของมุม (Angle) รัศมีความโค้ง (Radius) และความยาวส่วนโค้ง (Arc length) ได้ตามทตี่ ้องการ เม่ือคลิกไอคอน Bend Part บนริบบอน จะปรากฏกล่องโต้ตอบ Bend Part ข้ึนดังภาพที่ 7.2 ซ่ึงแต่ ละออปชันมีความหมายดงั นี้ ภาพท่ี 7.5 กล่องโต้ตอบของ Derived Part Bend Line ใช้คลกิ เสน้ แบ่ง (Bend line) ทอี่ ยู่บนผิวของช้ินงาน เพื่อใช้เป็นตาแหน่งอ้างอิงในการงอหรือพับ ชน้ิ งาน วิธกี ารงอหรอื พบั ชิน้ งานมีให้เลือก 3 วิธีคอื Radius + Angleกาหนดโดยใช้ค่าขนาดของมุมและค่ารัศมีความโค้ง ซ่ึงรัศมีความโค้งจะเป็นตัวกาหนดความ โค้งระหวา่ งด้านของชิน้ งานทัง้ สอง ส่วนมมุ จะใชก้ าหนดตาแหน่งการงอของดา้ นทั้งสอง Radius + Arc Length กาหนดโดยใช้ค่ารัศมีความโค้งและความยาวส่วนโค้ง ซ่ึงรัศมีความโค้งจะเป็น ตวั กาหนดความโคง้ ระหวา่ งดา้ นของชน้ิ งานท้งั สอง สว่ นความยาวส่วนโค้งจะใช้กาหนดความยาว ในการโค้งของชน้ิ งาน

92 Arc Length + Angle กาหนดโดยใช้คา่ ความยาวสว่ นโค้งและขนาดของมุม ซง่ึ ความยาวสว่ นโค้งจะใช้กาหนด ความยาวในการโค้งของช้ินงาน ส่วนมมุ จะใชก้ าหนดตาแหน่งการงอของดา้ นท้งั สอง ตารางที่ 7.1 ตัวอยา่ งการงอหรือพบั โดยใชฟ้ ีเจอร์ Bend Part Side ใช้คลิกเลอื กดา้ นทต่ี อ้ งการงอหรือพับ ด้านของชิ้นงานที่โปรแกรมเลือก จะงอไปตามทศิ ทางทกี่ าหนด มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง สลับด้านการงอของช้ินงานจาก โปรแกรมเลอื ก ชนิ้ งานจะงอพรอ้ มกนั ทงั้ สองดา้ น Direction ใชค้ ลิกเพือ่ กลบั ทิศทางการงอ (งอข้ึนด้านบนหรอื ลงดา้ นล่าง) Bend Minimum ปกติเส้นแบ่งจะแบ่งพื้นผิวของช้ินงานให้มีหลายส่วน เมื่อเลือกออปชันนี้ชิ้นส่วนที่มี เนือ้ ทีน่ ้อยกวา่ จะเปน็ สว่ นท่ีพบั หรอื งอ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 93 ตัวอยา่ งที่ 1 การใชฟ้ เี จอร์ Bend Part ช่วยสร้างชิน้ งาน 1.เปิดไฟล์ derive_test.ipt คลิกบนผวิ ของช้ินงาน เลอื ก Create Sketch เพอื่ เข้าสู่โหมดสเกตซ์ 2.ใชค้ าสัง่ Line สเกตซเ์ สน้ ตรงบนผิวของชนิ้ งาน และกาหนดขนาดดงั ภาพ ออกจากโหมด สเกตซ์ ภาพที่ 7.6 คาส่งั Line สเกตซเ์ ส้นตรงบนผิวของชิน้ งาน 3.คลกิ ไอคอน Bend Part จะปรากฏกล่องโต้ตอบ Bend Part ข้ึนมา คลิก Bend Line เลือกเส้นตรง ทเ่ี ขยี นไว้ กาหนดรัศมคี วามโค้ง 10 mm และขนาดของมุม 45 องศา ภาพท่ี 7.7 Bend Line กาหนดรัศมคี วามโค้ง 10 mm และขนาดของมุม 45 องศา 4.คลกิ ป่มุ OK จะไดช้ น้ิ งานดงั รูป บันทกึ ไฟล์

94 การใช้ Parameter ชว่ ยสรา้ งช้นิ งาน Parameters เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้กาหนดขนาดและรูปร่างของฟีเจอร์ของชิ้นส่วน และยัง สามารถใช้ควบคุมตาแหน่งการประกอบกันของชิ้นส่วน โดยการใช้สมการ (Equation) กาหนดความสัมพันธ์ ของ Parameters ผู้ออกแบบสามารถเชื่อมต่อไฟล์ข้อมูลของ Microsoft Excel กับ Parameter ของช้ินส่วน เพื่อใช้ ควบคุมขนาดและรูปร่างของฟีเจอร์ของช้ินส่วนนั้น และสามารถเพ่ิม Parameter ลงในรายการช้ินส่วน (Part lists) และใบรายการวสั ดุ (Bills of materials) ได้ มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง ภาพที่ 7.8 ไฟลข์ ้อมลู ของ Microsoft Excel กบั Parameter ของชนิ้ สว่ น ขณะท่ีผู้ออกแบบสร้างช้ินงาน ขนาดและฟีเจอร์ที่ใช้สร้างชิ้นงานจะถูกกาหนดให้แสดงในตารางของ Parameters ซึ่งคุณสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ตามเง่ือนไขในการออกแบบและความต้องการ เมื่อคลิก ไอคอน Parameters ทแ่ี ท็บ Manage บนรบิ บอน จะปรากฏกล่องโต้ตอบ Parameters ข้นึ ดงั รูปที่ 7.3 ซึ่งแต่ ละคอลมั นข์ องตารางมคี วามหมายดังนี้ Parameter Name ใช้แสดงช่ือ Parameter ของช้ินงาน ซ่ึงผู้ออกแบบสามารถที่จะแก้ไขชื่อเพื่อให้มี ความหมายสอดคล้องกับ Parameter น้ันได้ โดยการคลิกลงในช่องว่างของชื่อที่ Unit/Type ตอ้ งการแก้ แล้วพิมพ์ช่ือใหม่ไดท้ นั ที Equation ใช้แสดงหน่วยหรือชนิดของ Parameter ใช้สาหรับกาหนดสมการให้กับ Parameter ซึ่งสามารถแก้สมการได้โดยการคลิกลง Nominal Value ในช่องของสมการทต่ี ้องการแก้ แล้วพิมพ์สมการใหม่ลงไปแทนไดท้ ันที Tolerance แสดงค่าที่ไดจ้ ากการคานวณของสมการทก่ี าหนดให้กับ Parameter ใช้สาหรับปรับต้ังค่าพิกัดความเผื่อ (Tolerance) ของ Parameter โดยเลือกได้จาก สัญลกั ษณ์ต่างๆ ดังน้ี

95 Model Value + เพอ่ื กาหนดค่าความเผื่อสูงสดุ (Upper) Key + เพอ่ื กาหนดเปน็ ค่ากลาง (Median) + เพอ่ื กาหนดเป็นค่าขนาดปกตขิ องชน้ิ งาน (Nominal) Export parameter + เพื่อกาหนดคา่ ความเผื่อตา่ สดุ (Lower) แสดงคา่ ขนาดจริงของช้นิ งานท่ไี ด้จากการคานวณของ Parameter Comment ใชเ้ ลือกเพอ่ื กาหนดหรือบ่งชี้ Parameter ท่ีมีความสาคัญของช้ินงานโดยคลิก ใน ช่อง Check box ในคอลัมน์ Key ของ Parameter น้นั เปน็ ออปชันที่ใช้เพิ่ม Parameter เข้าไปเก็บไว้ใน Custom properties ของชิ้นงาน ซึง่ สามารถเพ่ิมลงในใบรายการชิ้นสว่ น และใบรายการวสั ดไุ ด้ การเขียนข้อสังเกตหรือข้อแนะนาให้แก่ Parameter โดยการคลิกลงในช่อง Comment ของ Parameter น้ัน แล้วพมิ พ์ขอ้ ความตามตอ้ งการ มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง Parameters ชว่ ยสร้างช้นิ งาน ตัวอย่าง การใช้ข้อมูลจาก Microsoft Excel เชื่อมตอ่ กบั Parameters เพ่อื ชว่ ยสร้างชน้ิ งาน การใช้ตารางข้อมูลของ Microsoft Excel เช่ือมต่อกับ Parameters เพื่อช่วยสร้างช้ินงาน จะช่วย อานวยความสะดวกในการสร้างชิน้ งานที่มีรูปร่างเหมือนกันแต่มีขนาดที่แตกต่างกัน เช่น เหล็กรูปพรรณขนาด ต่างๆ โดยจะลดเวลาในการสร้างหรือแก้ไขขนาดของชิ้นงาน แต่ผู้ใช้จะต้องมีการวางแผนและจาเป็นต้องมี ความรู้เบื้องต้นในการเขียนสมการลงในแผ่นตารางทาการ (Spread Sheet) ของโปรแกรม Microsoft Excel ซึ่งคงไม่ยากเกนิ ไปสาหรับผูท้ ่ีรักการออกแบบทกุ ทา่ น ในตัวอย่างนี้จะใช้ช้ินงาน Nozzle ท่ีประกอบด้วย 11 Parameter ที่ใช้ควบคุมการเปลี่ยนแปลง ขนาดและรูปร่างของชิ้นงานน้ี ซึ่งจะกาหนดให้ขนาดรัศมีฐานของ Nozzle เป็น Parameter เริ่มต้น และ 10 Parameter ท่ีเหลือจะเขียนในรูปของสมการที่สัมพันธ์กับ Parameter เริ่มต้น เมื่อเปล่ียนค่าขนาดของรัศมี ฐานของ Nozzle ทกุ Parameter ก็จะเปลี่ยนแปลงตามค่าของสมการที่ไดเ้ ขยี นไว้ ก) การสรา้ งตารางฐานขอ้ มลู จาก Microsoft Excel 1.เปิดโปรแกรม Microsoft Excel พิมพ์ข้อความและสมการลงในคอลัมน์ A และ B ของแผ่นตารางทาการ ดังตารางดา้ นล่าง ซง่ึ หมายเลขของแตล่ ะลาดบั จะเปน็ ขนาดต่างๆ ของชิน้ งาน Nozzle แสดงดังตารางที่ 7.2 ตารางท่ี 7.2 หมายเลขของแตล่ ะลาดบั จะเปน็ ขนาดต่างๆ ของชนิ้ งาน Nozzle AB ความหมาย 1 base 10 คา่ ของ base จะเก็บไว้ในเซลล์ B1 ซึ่งตอนน้มี คี ่าเทา่ กับ 10 mm 2 ht =B1*2.7 ค่าของ ht เท่ากับ 2.7 เทา่ ของ base และเกบ็ ไว้ในเซลล์ B2 3 lip =B1*0.6 ค่าของ lip เทา่ กบั 0.6 เทา่ ของ base และเก็บไว้ในเซลล์ B3 4 face =B1*2.4 คา่ ของ face เทา่ กับ 2.4 เทา่ ของ base และเกบ็ ไวใ้ นเซลล์ B4 5 tdepth =B1 คา่ ของ tdepth เท่ากับขนาดของ base และเก็บไวใ้ นเซลล์ B5 6 tarc =B1*0.6 ค่าของ tarc เท่ากบั 0.6 เทา่ ของ base และเก็บไว้ในเซลล์ B6 7 tfix =B1*0.6 คา่ ของ tfix เทา่ กับ 0.6 เท่าของ base และเกบ็ ไวใ้ นเซลล์ B7 8 chamfer =B1*0.2 คา่ ของ chamfer เทา่ กบั 0.2 เทา่ ของ base และเก็บไวใ้ นเซลล์ B8

9 extrude1 =B1*1.2 96 10 extrude2 =B1*0.6 11 holedia =B1*0.6 ค่าของ extrude1 เท่ากับ 1.2 เท่าของ base และเกบ็ ไว้ในเซลล์ B9 คา่ ของ extrude2 เทา่ กบั 0.6 เทา่ ของ base และเก็บไวใ้ นเซลล์ B10 คา่ ของ holedia เทา่ กบั 0.6 เทา่ ของ base และเก็บไวใ้ นเซลล์ B11 มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง ข) การเช่อื มตอ่ ระหวา่ งตารางข้อมลู ของ Microsoft Excel กบั Parameters 1.เปิดไฟล์ชอ่ื Nozzle.ipt ทอี่ ยูใ่ น C:\\Program Files\\Autodesk\\Inventor 2012\\Tutorial Files 2.คลิกแท็บ Manage บนริบบอน แล้วคลิกคาส่ัง Parameters จะปรากฏกล่องโต้ตอบ Parameters ขน้ึ มา ให้คลกิ ปุ่ม Link เม่อื กลอ่ งโตต้ อบ Open แสดงใหเ้ ลอื กไฟล์ Nozzle.xls แล้วคลิกปมุ่ Open 3.คลิกปุ่ม Done บนกล่องโต้ตอบ Parameters เป็นการเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อตารางข้อมูลของ Microsoft Excel กับ Parameters ของชิ้นงาน Nozzle ค) การแกไ้ ขชือ่ ขนาดของสเกตซ์และฟีเจอรใ์ หส้ มั พนั ธก์ ับตารางขอ้ มลู ของ Microsoft Excel ในขั้นตอนน้ีจะเป็นการแก้ไขชื่อขนาดของสเกตซ์และฟีเจอร์ให้ตรงกับชื่อของฐานข้อมูลในตาราง Microsoft Excel ซึ่งเม่อื เราทาการแก้ไขค่าที่อยู่ในตาราง Microsoft Excel ช้ินงาน Nozzle จะเปลี่ยนแปลง ตามสมการทไ่ี ด้จากการคานวณ ถ้าผอู้ า่ นจาไม่ไดใ้ หย้ ้อนกลบั ไปอา่ นหัวขอ้ (ก) การแกไ้ ขช่ือขนาดของสเกตซ์ 1.ดับเบลิ คลกิ ท่ี Sketch1 บนบราวเซอร์ เพือ่ เข้าสโู้ หมดการแกไ้ ขสเกตซ์ 2.คลิกขวาบนกราฟิกวินโดว์ คลิก Dimension Display แล้วเลอื ก Expression จากเมนู 3.ดับเบิลคลิกท่ีเลข 10 mm ของ d3 ให้กล่องโต้ตอบ Edit Dimension ปรากฏข้ึนให้พิมพ์คาว่า base กดปมุ่ Enter 4.แก้ไขช่ือของขนาด Sketch1 ทั้งหมดให้ตรงกับชื่อของสเกตซ์ในฐานข้อมูลของตาราง Microsoft Excel แสดงดังรูปโดยใช้วธิ ีเดยี วกับข้อท่ี 3 ออกจากโหมดการแก้ไขสเกตซ์ เป็นการเสร็จสิ้นการแก้ไขช่ือขนาด ของสเกตซ์ การแก้ไขชอื่ ของฟีเจอร์ 1.ดับเบิลคลิกที่ Extrusion1 บนบราวเซอร์ เพ่ือเข้าสู่โหมดการแก้ฟีเจอร์ ในช่องกาหนดขนาด 12 mm ให้พมิ พ์คาว่า extrude1แล้วคลิกปุ่ม OK 2.ดับเบิลคลิกท่ี Extrude2 บนบราวเซอร์ เพื่อเข้าสู่โหมดการแก้ฟีเจอร์ ในช่องกาหนดขนาด 6 mm ใหพ้ มิ พ์คาว่า extrude2 แล้วคลกิ ปมุ่ OK

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 97 3.ดบั เบลิ คลิกท่ี Chamfer1 บนบราวเซอร์ เพื่อเข้าสู่โหมดการแก้ฟีเจอร์ ในช่องกาหนดขนาด 2 mm ให้พมิ พค์ าวา่ Chamfer แล้วคลิกปุ่ม OK 4.ดับเบิลคลิกท่ี Hole1 บนบราวเซอร์ เพ่ือเข้าสู่โหมดการแก้ฟีเจอร์ ในช่องกาหนดขนาด 6 mmให้ พิมพ์คาวา่ holedia แลว้ คลกิ ปุ่ม OK เป็นการเสรจ็ สิน้ การแก้ไขชื่อของฟเี จอร์ 5.บันทกึ ไฟล์ ง) การสร้างชิ้นส่วนใหม่จากการเปลี่ยนค่าในตาราง Microsoft Excel 1.ดับเบลิ คลิกท่ี Nozzle.xls บนบราวเซอร์จะปรากฏหน้าต่างตารางฐานข้อมูลของ Microsoft Excel ข้นึ มา แกไ้ ขขนาดของ base เปน็ 20 mm บนั ทึกไฟล์ 2.สลับไปเปิดไฟล์ nozzle.ipt คลิกปุ่ม Update บนควิกแอคเซสทูลบาร์ โปรแกรมจะคานวณและ เปล่ยี นขนาดของช้ินงานตามค่าในตารางขอ้ มลู ของ Microsoft Excel บันทึกไฟล์ ภาพที่ 7.9 โปรแกรมจะคานวณและเปลยี่ นขนาดของชิ้นงานตามคา่ ในตารางข้อมลู ของ Microsoft Excel สรปุ คาส่งั Derived Component เป็นเครอื่ งมือทีใ่ ชใ้ นการสร้างชน้ิ งานข้นึ มาใหม่หรือเรียกวา่ Derived part โดยการคัดลอก Solid body และองค์ประกอบอนื่ ๆ เช่น 2D สเกตซ์ 3D สเกตซ์ Work features และ Parameters ทเ่ี ป็นของชิ้นงานที่มอี ยู่แลว้ (หรอื อาจจะเรียกว่าช้นิ ต้นแบบ) นอกจากนน้ั ยงั สามารถสร้างช้ินงาน ใหมโ่ ดยใชข้ อ้ มูลจากไฟล์ Assembly ที่มีอยู่ได้เช่นกนั เมื่อชน้ิ งานตน้ แบบถกู แก้ไขเปลย่ี นแปลงชิ้นงานท่ีเปน็ Derived part ก็จะเปลยี่ นแปลงตาม Bend Part เป็นฟเี จอร์ท่ใี ชง้ อหรือพับช้ินงานตามตาแหนง่ ของเส้นแบ่ง (Bend line) ท่ีผใู้ ช้ตอ้ งการ โดยสามารถเลอื กด้านของชน้ิ งานทีต่ ้องการพับ หรอื ทิศทางการพับ รวมทั้งสามารถกาหนดขนาดของมุม (Angle) รศั มคี วามโคง้ (Radius) และความยาวสว่ นโค้ง (Arc length) ไดต้ ามที่ตอ้ งการ

98 แบบฝึกหดั ทา้ ยบทที่ 7 จงใช้ Derived Component และ Parameters ฝกึ สร้างชน้ิ งานปรับเปล่ียนงานตามเน้ือหาบทที่ 7 1. C:\\Program Files\\Autodesk\\Inventor 2012\\Tutorial Files \\bracket 2. C:\\Program Files\\Autodesk\\Inventor 2012\\Tutorial Files \\ IV6_E06_03-SM_1 3. C:\\Program Files\\Autodesk\\Inventor 2012\\Tutorial Files \\ recpattern 4. C:\\Program Files\\Autodesk\\Inventor 2012\\Tutorial Files \\ retainer มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

99 5. C:\\Program Files\\Autodesk\\Inventor 2012\\Tutorial Files \\ basevsource มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏหม่บู า้ นจอมบงึ 100

101 บทท่ี 8 การสรา้ งชิ้นงานผนังบางและแผน่ ครบี บทนา Rib และ Shell เป็นฟีเจอร์ท่ีสำคัญอีกเคร่ืองมือหน่ึง สำหรับใช้สร้ำงชิ้นงำนผนังบำงและแผ่นครีบ โดยเฉพำะ ใช้งำนคอ่ นข้ำงง่ำย ซึง่ ในบทนี้จะไดศ้ กึ ษำและทรำบว่ำคำสั่งเหล่ำน้ีสำมำรถสร้ำงสรรค์งำน 3 มิติได้ อยำ่ งไร ดงั หัวข้อต่อไปนี้ - ควำมรพู้ น้ื ฐำนของคำสัง่ Rib -ควำมรพู้ ้นื ฐำนของคำส่งั Shell -กำรฝกึ ใช้คำสัง่ Rib และ Shell ช่วยสร้ำงชน้ิ งำน ความรพู้ ้ืนฐานของคาสัง่ Rib Rib เป็นฟีเจอร์ท่ีใช้สร้ำงเนื้อของช้ินงำนท่ีมีลักษณะคล้ำยครีบ นิยมใช้สำหรับงำนสร้ำงแม่พิมพ์และ งำนหล่อ โดยเฉพำะกำรผลิตชิ้นงำนพลำสติกจะใช้ Rib สร้ำงครีบ เพ่ือเพิ่มควำมแข็งแรงและช่วยป้องกันกำร บดิ หรอื โก่งตัวของชิ้นงำน กำรสร้ำงช้ินงำนโดยคำสั่ง Rib จะเร่ิมจำกกำรสเกตซ์เส้นแบบเปิด (Open profile) ซ่ึงจะเป็นเส้น สเกตซแ์ บบเสน้ เดียว เส้นสเกตซ์แบบหลำยๆ เส้นไมต่ ัดกนั หรือเส้นสเกตซ์หลำยเส้นตัดกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับงำนที่ ออกแบบ ต่อจำกนั้นใช้คำสั่ง Rib สร้ำงครีบโดยกำหนดควำมหนำและควำมลึกของครีบให้ยืดออกไปตำม ทิศทำงที่กำหนด หรือยดื ออกไปยงั พ้นื ผวิ ทีต่ ้องกำร นอกจำกน้ันยังสำมำรถกำหนดค่ำควำมเรียวของชิ้นงำนไป พร้อมกับกำรสร้ำง Rib อกี ดว้ ย ตวั อย่ำงกำรสร้ำงชิน้ งำนโดยคำส่ังนแ้ี สดงดังตำรำงต่อไปนี้ ตารางท่ี 8.1 ตัวอย่ำงกำรสร้ำงช้นิ งำนโดยคำสั่ง Rib ใชเ้ ส้นสเกตซ์เสน้ เดียว โดยกำหนดควำมหนำและยดื ออกไปยังพน้ื ผิวท่ีต้องกำร ซ่ึงเน้ือของช้ินงำนที่ได้จะขนำน ไปกับระนำบท่ใี ช้สเกตซ์ มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

102 ใช้เส้นสเกตซ์เส้นเดียว โดยกำหนดควำมหนำและควำมลึกของครีบให้ยืดออกไปตำมทิศทำงท่ีกำหนด ซึ่งเน้ือ ของชนิ้ งำนทไี่ ด้จะขนำนไปกับระนำบทใี่ ชส้ เกตซ์ ใช้เสน้ สเกตซห์ ลำยๆเส้นไมต่ ดั กนั โดยกำหนดควำมหนำและยืดออกไปยังพื้นผิวที่ต้องกำร ซ่ึงเนื้อของชิ้นงำนท่ี ได้จะตงั้ ฉำกกับระนำบท่ีใชส้ เกตซ์ ใช้เส้นสเกตซ์หลำยเส้นตัดกัน โดยกำหนดควำมหนำและยืดออกไปยังพ้ืนผิวที่ต้องกำร ซ่ึงเน้ือของช้ินงำนท่ีได้ จะตง้ั ฉำกกบั ระนำบทีใ่ ชส้ เกตซ์ มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 103 หมายเหตุ : เส้นสเกตซ์หลำยๆ เส้นตัดกันหรือไม่ตัดกัน สำมำรถที่จะใช้สร้ำงครีบได้โดยกำรกำหนด ควำมหนำและควำมลึกของครบี ให้ยืดออกไปตำมทิศทำงท่กี ำหนดไดเ้ ช่นเดยี วกบั กำรใช้เส้นสเกตซเ์ ส้นเดยี ว เม่ือคลิกไอคอน Rib บนริบบอน จะปรำกฏกล่องโต้ตอบ Rib ขึ้นดังภำพท่ี 8.1 ซึ่งแต่ละออปชันมีควำมหมำย ดังน้ี ภาพท่ี 8.1 แท็บ Shape บนกล่องโต้ตอบ Rib ตารางที่ 8.2 Type Specification ใช้กำหนดรูปแบบกำร Rib Normal to Sketch Plane เน้ือของชนิ้ งำนท่ีสรำ้ งจะต้ังฉำกกับระนำบท่ีใช้สเกตซ์ Parallel to Sketch Plane เน้ือของช้ินงำนทส่ี รำ้ งจะขนำนไปกบั ระนำบที่ใช้สเกตซ์ หมายเหตุ : เม่ือเลือก Type แบบ Normal to Sketch Plane แท็บ Draft และ Boss จะเปิดให้ใช้งำน รว่ มกับแทบ็ Shape แต่ถำ้ เลอื ก Type แบบ Parallel to Sketch Plane จะใชไ้ ด้เฉพำะแท็บ Shape เทำ่ น้นั ตารางท่ี 8.3 แทบ็ Shape ใชเ้ ลือกเส้นสเกตซ์ กำหนดควำมหนำ และกำหนดทิศทำงของกำร Rib Profile ใชค้ ลกิ เลือกเส้นสเกตซ์แบบปิดหรือแบบเปิด Solids ใชส้ ำหรับเลือก Solid body ที่ตอ้ งกำร (กรณีทชี่ ้นิ งำนมหี ลำย Solid bodyX กำรสรำ้ ง Rib จะสรำ้ งไปตำมทิศทำงท่โี ปรแกรมกำหนด ใช้กลับทศิ ทำงกำรสรำ้ ง Rib จำกทิศทำงท่ีเลอื กครัง้ แรก Extend ค่ำ Default ของโปรแกรมจะต้ังให้เลือกออปชันนี้ ซึ่งจะทำให้เนื้อของครีบท่ียืดไปตัดกับผิวของ profile ช้ินงำน ถำ้ ไม่ต้องกำรให้เนอ้ื ของครีบทยี่ ดื ไปตัดกบั ผิวของช้ินงำนใหเ้ คลยี ร์ Check Box ตารางที่ 8.4 Thickness เป็นช่องสำหรับกรอกค่ำควำมหนำของ Rib และสำมำรถกำหนดทิศทำงของกำร สร้ำงเนื้อของชน้ิ งำนโดยคลกิ ท่ไี อคอน จะสรำ้ งควำมหนำของครบี ท่ียดื ออกจำกเส้นสเกตซ์ไปตำมทศิ ทำงทีโ่ ปรแกรมเลือก จะสรำ้ งควำมหนำของครบี ทยี่ ืดออกจำกเสน้ สเกตซ์กลับทศิ ทำงจำกทศิ ทำงทเี่ ลอื กคร้ังแรก จะสร้ำงควำมหนำของครบี ใหย้ ดื ออกจำกเสน้ สเกตซ์ไปท้ังสองทิศทำงโดยโปรแกรมจะแบ่งระยะยืด ให้เทำ่ กนั ทัง้ 2 ทิศทำง

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 104 ตารางท่ี 8.5 Extents ใชเ้ ลอื กกำหนดลักษณะของครีบ To เลอื กออปชันนี้ สำมำรถกำหนดได้เฉพำะค่ำควำมหนำของครีบและจะถกู ยดื ไปถงึ พ้นื ผิวของช้ินงำน Next Finite เลือกออปชันน้ี สำมำรถกำหนดค่ำควำมหนำและควำมลึกของครีบให้ยืดออกไปตำมทิศทำงที่ กำหนด ภาพที่ 8.2 แท็บ Draft บนกลอ่ งโต้ตอบ Rib แทบ็ Draft ดงั ภำพที่ 8.2 ใช้กำหนดค่ำของกำร Draft Hold Thicknessใชก้ ำหนดตำแหนง่ ควำมหนำเริม่ ตน้ At Top เลอื กเพอ่ื กำหนดตำแหน่งควำมหนำเริม่ ต้นไว้ทร่ี ะนำบสเกตซ์ At Root เลอื กเพ่ือกำหนดตำแหนง่ ควำมหนำเริ่มต้นไว้ทจี่ ดุ ตดั ระหว่ำงฟีเจอร์ริบกบั พืน้ ผิวของช้ินงำน Draft Angle ใชก้ รอกคำ่ ของมมุ เอยี ง ภาพที่ 8.3 แท็บ Boss บนกลอ่ งโตต้ อบ Rib แทบ็ Boss ดงั ภำพที่ 8.3 ใช้กำหนดคำ่ ตำ่ งๆ ของ Boss Centers ใช้เลอื กจุดต่ำงๆทีต่ ัดผ่ำนกบั เสน้ สเกตซ์ทีจ่ ะใช้ในกำร Rib ตำมท่ี

105 ต้องกำร Select All กำหนดออปชนั นเี้ พอ่ื ใหเ้ ลอื กจดุ ทั้งหมดทีต่ ัดผำ่ นกบั เสน้ สเกตซท์ ี่จะใชใ้ น กำร Rib Diameter ใชก้ ำหนดขนำดเส้นผ่ำนศนู ยก์ ลำงของ boss สเกตซ์ Offset ใช้กำหนดระยะเยื้องทีเ่ ปน็ จุดเริ่มตน้ ของ boss ใหส้ ูงกวำ่ หรอื ต่ำกว่ำระนำบ Draft Angle ใช้กรอกคำ่ ของมุมเอยี ง ความร้พู ืน้ ฐานของคาสงั่ Shellมหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง Shell เป็นฟีเจอร์ท่ใี ช้สร้ำงชิ้นงำนผนังบำงจำกชนิ้ งำนเดิมที่เปน็ รูปทรงตัน นิยมใช้สร้ำงช้ินงำนสำหรับ สร้ำงแม่พิมพ์และงำนหล่อ โดยหลักกำรของ Shell จะเอำเนื้อด้ำนในของวัตถุออกแล้วเหลือผิวด้ำนนอกที่มี ลักษณะเป็นผนังบำง และมีควำมหนำตำมที่ผอู้ อกแบบกำหนด ซ่ึงจะต้องเลือกพ้ืนผิวที่ใช้เป็นช่องเปิด อำจเป็น พ้ืนผวิ เดียวหรอื หลำยพ้ืนผวิ ก็ได้ เมื่อคลิกไอคอน Shell บนริบบอน จะปรำกฏกล่องโต้ตอบ Shell ข้ึนดังภำพท่ี 8.4 ประกอบด้วย 2 แทบ็ คือ แทบ็ Shell และแทบ็ More ซ่ึงมคี วำมหมำยดังนี้ ภาพที่ 8.4 กล่องโตต้ อบ Shell ตารางท่ี 8.6 แทบ็ Shell มอี อปชัน Direction ใชก้ ำหนดวิธีกำรสร้ำง Shell Inside จะสร้ำงผนังบำง โดยให้ผิวด้ำน นอกของชิ้นงำนเดิมเป็นผิวด้ำน นอกของผนังบำง

Outside 106 จะสร้ำงผนังบำง โดยให้ผิวด้ำน นอกของช้นิ งำนเดิมเป็นผิวด้ำนใน ของผนงั บำง Both Sides จะสร้ำงผนังบำง โดยให้ผิวด้ำน นอกของช้ินงำนเดิมอยู่ตรงกลำง แล้วแบ่งผิวของผนังบำงให้เท่ำกัน ทงั้ สองดำ้ น มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง Remove Faces คลกิ ป่มุ นแ้ี ลว้ คลิกเลอื กพน้ื ผิวท่ตี ้องกำรให้เป็นช่องเปิดดังภำพที่ 8.5 เมื่อต้องกำรยกเลิกกำร เลือกพ้นื ทีไ่ ด้เลอื กไปแล้วใหก้ ดปุ่ม Ctrl ค้ำงไวแ้ ลว้ คลกิ ที่พ้ืนผวิ น้ันอกี ครั้ง ภาพท่ี 8.5 กำรเลือกพื้นผวิ ที่ต้องกำรใหเ้ ป็นชอ่ งเปิด Automatic Face Chain โปรแกรมจะตัง้ ออปชนั นีเ้ ป็นค่ำ Default เมื่อใช้ปุ่ม Remove Faces คลิก เลือกพ้ืนผิวหลำยๆ พ้ืนผิวท่ีมีควำมสัมพันธ์กันต่อเน่ืองแบบ Tangent จะถูกเลือกท้ังหมด แต่ถ้ำไม่เลือกออป ชันนส้ี ำมำรถเลือกพน้ื ผวิ ใดพื้นผวิ หนง่ึ ก็ได้ Thickness เป็นช่องที่ใช้ในกำรกำหนดค่ำควำมหนำของผนังบำง ซึ่งปกติจะมีควำมหมำยเท่ำกันท้ัง พ้ืนผวิ แทบ็ More มอี อปชันดังน้ี Allow กรณีที่โปรแกรมไม่สำมำรถคำนวณค่ำควำมหนำที่แม่นตรงในกำรสร้ำงผนังบำงได้ approximation ไวใ้ ห้เลือกกำหนดคำ่ เบี่ยงเบนในกำรคำนวณควำมหนำเพอ่ื สรำ้ งผนังบำง โดยมใี ห้ เลอื กดังนี้ - Mean ค่ำควำมหนำของผนงั บำงจะเป็นคำ่ เฉลี่ย ซ่ึงอยรู่ ะหว่ำงคำ่ สูงและคำ่ ต่ำสุดของค่ำ ควำมหนำที่ผ้ใู ชก้ ำหนด - Never too thin จะควบคมุ ใหค้ ่ำควำมหนำต่ำสดุ ของผนังบำง ใหส้ งู กว่ำค่ำควำมหนำทผ่ี ใู้ ช้ กำหนด - Never too thick จะควบคมุ ใหค้ ำ่ ควำมหนำสงู สุดของผนังบำง ใหต้ ำ่ กวำ่ คำ่ ควำมหนำท่ี

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 107 ผู้ใช้กำหนด Optimized เลอื กออปชนั นสี้ ำหรบั ใชค้ ่ำควำมเผือ่ ทเ่ี หมำะสม เพื่อใหโ้ ปรแกรมใชเ้ วลำในกำร คำนวณนอ้ ยที่สดุ Specify tolerance เลือกออปชนั น้ี เพื่อกำหนดค่ำควำมเผ่อื ท่ีต้องกำร นอกจำกน้ันผู้ออกแบบยังสำมำรถกำหนดค่ำควำมหนำของให้พื้นผิวที่ต้องกำร ซึ่งจะมีควำมหนำ แตกต่ำงจำกควำมหนำของผนังบำงท่ีกำหนดไว้ในแท็บ Shell โดยคลิกไอคอน ที่มุมด้ำนล่ำงขวำของกล่อง โต้ตอบ Shell กล่องโต้ตอบจะขยำยออกประกอบดว้ ยออปชันท่ีมคี วำมหมำยดงั น้ี Select สำหรบั แสดงจำนวนของพ้นื ผวิ ทตี่ ้องกำรกำหนดค่ำควำมหนำใหม่ Thickness ใช้กำหนดคำ่ ควำมหนำใหพ้ ้ืนผวิ ท่ีตอ้ งกำร การฝกึ ใชค้ าสั่ง Rib และ Shell ช่วยสร้างช้นิ งาน 1. ตวั อย่ำงกำรใชฟ้ ีเจอร์ Rib ช่วยสรำ้ งช้ินงำน ช้ินงำนท่ีผู้เขียนนำมำเป็นตัวอย่ำงในหัวข้อน้ีเขียนค่อนข้ำงง่ำยใช้เพียงคำสั่ง Extrude อย่ำงเดียวก็ สำมำรถเขียนได้ทั้งหมด แต่จะเสียเวลำในกำรสเกตซ์ภำพ 2 มิติ ซึ่งผู้อ่ำนอำจจะลองไปฝึกเขียนด้วยตนเอง สำหรับวิธีท่จี ะนำเสนอต่อไปนจ้ี ะใชค้ ำส่ัง Chamfer และคำส่งั Rib ชว่ ยสรำ้ ง เพื่อลดขั้นตอนและเวลำของกำร สเกตซ์ลง ภาพที่ 8.6 กำรใช้ฟีเจอร์ Extrude ชว่ ยสร้ำงชนิ้ งำน Rib 1.1เลอื กระนำบ YZ เป็นระนำบสเกตซ์ ใชค้ ำส่ัง Line สเกตซ์ภำพและกำหนดขนำด ให้ เริ่มวำดจำกจดุ Center point (จุดสีเหลือง) เสรจ็ แลว้ ออกจำกโหมดสเกตซ์ 1.2 ใชค้ ำสง่ั Extrude ยืดหนำ้ ตัดออก 50 mm และกำหนดออปชันของ Direction เป็น แบบสองทิศทำงดังรปู คลิกปุ่ม OK 1.3 ใชค้ ำสงั่ Chamfer ลบมุมท่ีขอบของช้ินงำน เลือกชนิดของกำร Chamfer แบบ Two distances โดยกำหนด Distance1 เทำ่ กับ 10 mm และ Distance2 เท่ำกบั 45 mm คลกิ ปุม่ OK 1.4 ใช้คำส่งั Chamfer ลบมมุ ทข่ี อบของช้ินงำนอกี ด้ำน โดยกำหนดคำ่ และใชว้ ธิ ีเช่นเดียวกับ ข้อที่ 3 ถ้ำทศิ ทำงของกำรลบมุมไม่เป็นไปตำมทีต่ ้องกำรใหค้ ลิกปุม่ (Flip)

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 108 ภาพที่ 8.7 กำรใชฟ้ เี จอร์ Chamfer ช่วยสรำ้ งชนิ้ งำน Rib 1.4 ใชพ้ ื้นผวิ ของชิน้ งำนดังรูปเปน็ ระนำบสเกตซ์ ใชค้ ำส่งั สเกตซ์ภำพและกำหนดขนำด5x15 แสดงดงั ภำพออกจำกโหมดสเกตซ์ 1.6 ใช้คำส่ัง Extrude ตัดหน้ำตัดท่สี เกตซ์ไว้ โดยใชอ้ อปชันของ Extent แบบ All 1.7 คลิกปุม่ OK จะได้ชิ้นงำนดังภำพ 1.8 เปลย่ี นมมุ มองภำพเปน็ แบบ Wireframe Model edges เพ่ือแสดงเส้นของชนิ้ งำน ทงั้ หมดซึ่งง่ำยต่อกำรสเกตซ์ภำพ เลอื กระนำบ YZ เปน็ ระนำบสเกตซ์ ใช้คำสั่ง Line สเกตซ์เส้นตรงดังรูป ออก จำกโหมดสเกตซ์ 1.9 คลิกคำสั่ง Rib กลอ่ งโต้ตอบ Rib จะปรำกฏขน้ึ เลอื ก Type แบบ Parallel to Sketch Plane โปรแกรมจะเลือกเส้นท่เี ขยี นไว้เป็น Profile โดยอัตโนมตั ิ กำหนดค่ำควำมหนำ 10 mm และเลือกออป ชนั Extents แบบ To Next 1.10 คลิกปมุ่ OK จะได้ชนิ้ งำนดังรปู บันทกึ ไฟล์ ภาพที่ 8.8 กำรใช้ฟเี จอร์ Rib แบบ Parallel to Sketch ช่วยสร้ำงชน้ิ งำน

109 ข้อเสนอแนะเพ่ิมเติม : ถ้ำเลือก Extents แบบ Finite สำมำรถกำหนดค่ำควำมลึกของครีบให้ยืด ออกไปตำมทศิ ทำงทีก่ ำหนด 2. ตัวอย่ำงกำรใชฟ้ เี จอร์ Shell ช่วยสรำ้ งชิ้นงำนขวดนำ้ ดม่ื 2.1 ใชร้ ะนำบ XZ เป็นระนำบสเกตซ์ ใช้คำสงั่ Line สเกตซภ์ ำพและกำหนดขนำดดังรูป โดย ใหเ้ ริ่มวำดจำกจุด Center point (จุดสเี หลือง) เสร็จแลว้ ออกจำกโหมดสเกตซ์ ภาพที่ 8.9 กำรใชค้ ำสัง่ Line สเกตซภ์ ำพและกำหนดขนำดขวด 2.2 ใช้คำสงั่ Revolve สร้ำงเนอื้ ของขวดน้ำจำกหน้ำตดั ที่วำดไว้โดยใช้เสน้ กลำงของขวดน้ำ เปน็ แกนหมนุ และกำหนด Extent เปน็ แบบ Full คลกิ ป่มุ OK 2.3 ใชค้ ำสงั่ Fillet ลบมมุ ขอบของขวดน้ำ -ขอบบนกำหนด Radius 30 mm -ขอบล่ำง 2 ขอบกำหนด Radius 28 mm คลกิ ปมุ่ OK 2.4 สร้ำงแกนใชง้ ำน (Work Axis) โดยคลิกคำสั่ง Through Revolved Face or Feature แลว้ ไปคลิกทีผ่ วิ ดำ้ นข้ำงของขวดน้ำ จะเกิด Work Axis1 ข้ึน มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 110 ภาพที่ 8.10 กำรใชค้ ำสง่ั Revolve สร้ำงเนื้อของขวด 2.5.ใชร้ ะนำบ XZ เปน็ ระนำบสเกตซ์ สเกตซ์ภำพและกำหนดขนำดดังรูป โดยเรม่ิ วำดทีข่ อบ ด้ำนล่ำงของขวดนำ้ ออกจำกโหมดสเกตซ์ 2.6 ใช้คำส่งั Revolve สร้ำงเน้อื ดำ้ นขำ้ งของขวดน้ำจำกหน้ำตัดทวี่ ำดไวโ้ ดยใช้ Work Axis1 เป็นแกนหมนุ และกำหนด Extent เป็นแบบ Full 2.7 คลิกปุม่ OK จะได้ผลดังภำพ ภาพที่ 8.11 หลังกำรใช้คำสั่ง Revolve สรำ้ งเน้อื ของขวด 2.8 คัดลอกเนื้อดำ้ นขำ้ งของขวด โดยคลิกคำสง่ั Rectangular กลอ่ งโตต้ อบ Rectangular Pattern จะปรำกฏขึ้น คลกิ ปมุ่ Features ลำกเมำสไ์ ปคลกิ เลือกเน้ือด้ำนข้ำงของขวด(Revolution2 ในข้อ 7) คลกิ ปมุ่ (Direction1) คลิกท่ี Work Axis1 2.9 ในส่วนของ Placement ใหก้ รอกคำ่ จำนวนกำรคัดลอกเทำ่ กบั 5 ลงในชอ่ ง Count และ Length เท่ำกบั 17 mm คลิกปุ่ม OK จะได้ขวดน้ำดงั ภำพ 2.10 คลกิ คำสั่ง Shell กลอ่ งโต้ตอบ Shell จะปรำกฏข้นึ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 111 -คลิกปมุ่ Remove Faces แล้วคลิกเลอื กผวิ ด้ำนบนของขวดนำ้ และกำหนดควำม หนำ 0.15 mm -คลกิ ปุม่ ที่มุมดำ้ นล่ำงขวำของกลอ่ งโต้ตอบ Shell คลกิ ท่ี Select แลว้ ลำกเมำส์ไป คลิกที่ผิวดำ้ นข้ำงของปำกขวดและกำหนดควำมหนำ 1.5 mm -คลกิ ปมุ่ OK จะไดข้ วดนำ้ ท่ีมคี วำมหนำของขวด 0.15 mm และปำกขวดหนำ 1.5 mm ดงั ภำพ 2.11 ใช้คำส่งั Fillet ลบมุมของปำกขวดและคอขวดดงั นี้ -ปำกขวดดำ้ นนอกและดำ้ นใน 0.5 mm -คอขวดดำ้ นนอก 4 mm -คอขวดดำ้ นใน 2 mm 2.12 สรำ้ งขอบของคอขวด โดยใชร้ ะนำบ XZ เป็นระนำบสเกตซ์ สเกตซ์ภำพและกำหนด ขนำดดังรปู แลว้ ใชค้ ำสงั่ Revolve สร้ำงเนื้อขอบของคอขวดน้ำจำกหน้ำตัดท่ีวำดไว้โดยใช้ Work Axis1 เป็น แกนหมุน และกำหนด Extent เปน็ แบบ Full บนั ทกึ ไฟล์ ภาพที่ 8.12 กำรสรำ้ งเน้ือขอบของคอขวดนำ้ จำกหนำ้ ตัด ข้อเสนอแนะ : ในตัวอย่ำงน้ีจะเน้นกำรใช้งำนของฟีเจอร์ Shell เท่ำนั้น ขั้นตอนท่ีเหลือคือกำรลบมุม ขอบของคอขวดโดยใช้คำสงั่ Fillet และกำรสรำ้ งเกลียวให้ปำกขวด 3.ตวั อยำ่ ง กำรใชฟ้ ีเจอร์ Shell ช่วยสร้ำงชิ้นงำน Wing-nut Stamped 3.1 เปดิ ไฟลส์ ร้ำงช้ินงำนหนว่ ยน้ิว ใช้ระนำบ XY เป็นระนำบสเกตซ์ สเกตซ์ภำพและกำหนด ขนำดดังภำพ โดยให้จุดศูนย์กลำงของวงกลมท้ังสองวงอยู่จุดเดียวกับจุด Center point (จุดสีเหลือง) เสร็จ แลว้ ออกจำกโหมดสเกตซ์

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 112 ภาพที่ 8.13 กำรสเกตซ์ภำพและกำหนดขนำดภำพ 3.2 ใช้คำสงั่ Extrude ยดื หน้ำตัดออกด้ำนหน้ำ 0.66 in ภาพที่ 8.14 คำส่งั Extrude ยืดหน้ำตัด 3.3 ใชร้ ะนำบ XZ เปน็ ระนำบสเกตซ์ กด F7 (Slice Graphics) เพอื่ ซ่อนเน้อื ชิ้นงำนท่บี ังกำร สเกตซ์ สเกตซภ์ ำพและกำหนดขนำด เสร็จแลว้ ออกจำกโหมดสเกตซ์ ภาพที่ 8.15 ใช้ระนำบ XZ เป็นระนำบสเกตซ์ กด F7 (Slice Graphics)

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 113 ภาพที่ 8.16 สเกตซ์ภำพและกำหนดขนำดในโหมด Slice Graphics 3.4 คลกิ คำส่ัง Extrude ลำกเมำส์ไปคลกิ เลือก Profile ที่เขยี นไว้ กำหนด Operation เป็น แบบ Intersect และ Extents แบบ All ทงั้ สองทิศทำง 3.5 คลิกปุ่ม OK จะได้ชน้ิ งำน ภาพที่ 8.17 คำส่งั Extrude เป็นแบบ Intersect และ Extents แบบ All 3.6 ใชค้ ำส่งั Fillet ลบมุมขอบดำ้ นขำ้ งทัง้ สขี่ อง Wing-nut Stamped รัศมเี ทำ่ กับ 0.10 in 3.7 ใชค้ ำสง่ั Fillet ลบมมุ ขอบดำ้ นหลังท้งั ส่วนบนและสว่ นลำ่ งของ Wing-nut Stamped รศั มเี ทำ่ กบั 0.175 in 3.8 คลิกคำส่ัง Shell กลอ่ งโต้ตอบ Shell จะปรำกฏขึ้น คลกิ ป่มุ Remove Faces แล้วคลกิ เลอื กผิวด้ำนหน้ำของชิน้ งำน และกำหนดควำมหนำ 0.04 in คลกิ ปุ่ม OK

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 114 ภาพท่ี 8.18 คำสง่ั Shell ทคี่ วำมหนำ 0.04 in 3.9 สรำ้ งเกลยี วในในรชู ิน้ งำน Wing-nut Stamped โดยคลกิ คำสัง่ Thread กล่องโตต้ อบ Thread จะปรำกฏข้ึน คลกิ ปุ่ม Face ลำกเมำสไ์ ปคลกิ เลอื กทผี่ ิวดำ้ นในรขู อง Wing-nut Stamped 3.10 คลกิ แทบ็ Specification กำหนดคุณสมบัติของเกลยี ว 3.11 คลิกป่มุ OK จะไดช้ ิน้ งำน Wing-nut Stamped ดังรปู บนั ทึกไฟล์ ภาพที่ 8.19 แท็บ Specification กำหนดคณุ สมบัตขิ องเกลียว 4. ตวั อยำ่ งกำรใช้ฟีเจอร์ Shell และ Rib ชว่ ยสร้ำงช้ินงำน 4.1 ใช้ระนำบ XY เป็นระนำบสเกตซ์ ใชค้ ำส่งั Ellipse สเกตซ์รปู วงรแี ละกำหนดขนำดรัศมี ด้ำนส้ัน 18 mm และด้ำนยำว 30 mm ดังรูป โดยให้จุดศูนย์กลำงของวงรีอยู่จุดเดียวกับจุด Center point (จดุ สีเหลือง) เสร็จแลว้ ออกจำกโหมดสเกตซ์

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 115 ภาพที่ 8.20 ระนำบ XY เป็นระนำบสเกตซ์ ใช้คำสงั่ Ellipse สเกตซ์รูปวงรี 4.2 ใช้คำสัง่ Extrude ยดื หนำ้ ตดั ลงดำ้ นลำ่ ง 20 mm 4.3 ใช้ระนำบ XZ เปน็ ระนำบสเกตซ์ กด F7 (Slice Graphics) เพอื่ ซอ่ นเน้อื ชิ้นงำนท่ีบงั กำร สเกตซ์ ใชค้ ำส่ัง Arc Three Point สเกตซภ์ ำพและกำหนดขนำดดังรปู เสรจ็ แล้วออกจำกโหมดสเกตซ์ 4.4 ใชค้ ำส่งั Split ตัดเนอื้ สว่ นท่ไี ม่ตอ้ งกำรทงิ้ เม่ือกลอ่ งโต้ตอบ Split ปรำกฏขน้ึ เลอื ก วิธีกำร Split แบบ Trim Solid แล้วคลิกปุ่ม Split Tool ไปคลกิ เลือกเส้นท่สี เกตซ์ไวใ้ นข้อ 3 ภาพที่ 8.21 คำส่ัง Split ตัดเน้อื สว่ นท่ไี มต่ ้องกำรท้งิ 4.5 คลกิ ปมุ่ OK เน้ือของชน้ิ งำนดำ้ นล่ำงจะถูกตัดออกไป เม่อื หมุนช้ินงำนขึ้นมำ จะไดช้ ้นิ งำน 4.6 กด F6 เพ่อื เปล่ียนมุมมองเป็น Isometric คลิกท่ีผวิ รำบดำ้ นบนของช้นิ งำนให้มนิ ิทลู บำร์ ปรำกฏ แล้วคลิกเลือกไอคอน Create Sketch โปรแกรมจะคัดลอกจุดศูนย์กลำงและเส้นขอบของวงรีบนผิว ของชิน้ งำนดังรูป ออกจำกโหมดสเกตซ์ 4.7 สร้ำงรูตรงกลำงของช้ินงำน โดยคลิกคำสง่ั Hole กลอ่ งโต้ตอบ Hole จะปรำกฏข้ึนคลิก

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 116 ปุ่ม Centers ลำกเมำส์ไปคลิกเลือกจุดศูนย์กลำงของวงรี กำหนดควำมโตของรู 5 mm และกำหนดออปชัน แบบ Through All ดังรปู คลกิ ปุ่ม OK 4.8 หมนุ ช้ินงำนขน้ึ มำใหไ้ ดม้ มุ มองดงั รูป ใช้คำสั่ง Fillet ลบมมุ ขอบด้ำนบนของชิ้นงำน 4 mm. ภาพที่ 8.22 คำสงั่ Shell กำหนดควำมหนำ 1 mm 4.9 คลกิ คำสง่ั Shell กล่องโต้ตอบ Shell จะปรำกฏขน้ึ -คลกิ ปมุ่ Remove Faces แล้วคลิกเลือกผวิ ดำ้ นบนชิ้นงำน และกำหนดควำมหนำ 1 mm -คลิกปมุ่ ทมี่ ุมด้ำนลำ่ งขวำของกล่องโตต้ อบ Shell คลกิ ท่ี Select แลว้ ลำกเมำสไ์ ป คลกิ ทผ่ี ิวด้ำนในรขู องชนิ้ งำนและกำหนดควำมหนำ 1.5 mm -คลกิ ปมุ่ Ok จะไดผ้ วิ ของชิน้ งำนหนำ 1 mm ดงั ภำพ 4.10 ใช้ผิวเรยี บดำ้ นบนของช้ินงำนเปน็ ระนำบสเกตซ์ สเกตซ์เสน้ ตำรำงและกำหนด ระยะห่ำงของเส้นตำมด้ำนยำวของวงรี 8 mm และด้ำนสนั้ 6 mm ดงั รปู เสร็จแลว้ ออกจำกโหมดสเกตซ์ ภาพท่ี 8.23 คำสงั่ Rib Type แบบ Normal to Sketch Plane 4.11 คลิกคำสั่ง Rib กล่องโตต้ อบ Rib จะปรำกฏขนึ้ -เลอื ก Type แบบ Normal to Sketch Plane -คลิกป่มุ Profile แล้วคลิกเลอื กเส้นทกุ เสน้ ท่ีวำดไว้ในขอ้ 10 -กำหนดควำมหนำ 1 mm และเลือก Extents แบบ To next

117 4.12 คลกิ แท็บ Draft กำหนดคำ่ ของกำร Draft Angle เท่ำกับ 4 deg 4.13 คลิกปุ่ม OK จะไดช้ ิ้นงำนดังรูป บันทึกไฟล์ ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม : ถ้ำเลือก Extents แบบ Finite สำมำรถกำหนดค่ำควำมลึกของครีบให้ยืด ออกไปตำมทิศทำงท่ีกำหนดได้ สรปุ Rib เป็นฟีเจอร์ที่ใช้สร้ำงเนื้อของชิ้นงำนท่ีมีลักษณะคล้ำยครีบ นิยมใช้สำหรับงำนสร้ำงแม่พิมพ์และ งำนหล่อ โดยเฉพำะกำรผลิตช้ินงำนพลำสติกจะใช้ Rib สร้ำงครีบ เพ่ือเพิ่มควำมแข็งแรงและช่วยป้องกันกำร บิดหรือโก่งตัวของช้ินงำนกำรสร้ำงชิ้นงำนโดยคำส่ัง Rib จะเร่ิมจำกกำรสเกตซ์เส้นแบบเปิด (Open profile) ซึ่งจะเป็นเส้นสเกตซ์แบบเส้นเดียว เส้นสเกตซ์แบบหลำยๆ เส้นไม่ตัดกัน หรือเส้นสเกตซ์หลำยเส้นตัดกันก็ได้ ข้ึนอยู่กับงำนที่ออกแบบ ต่อจำกน้ันใช้คำสั่ง Rib สร้ำงครีบโดยกำหนดควำมหนำและควำมลึกของครีบให้ยืด ออกไปตำมทศิ ทำงทีก่ ำหนด หรอื ยืดออกไปยงั พืน้ ผิวท่ีต้องกำร Shell เปน็ ฟเี จอรท์ ่ใี ชส้ ร้ำงช้ินงำนผนังบำงจำกช้นิ งำนเดิมที่เปน็ รปู ทรงตัน นิยมใช้สร้ำงชิ้นงำนสำหรับ สร้ำงแม่พิมพ์และงำนหล่อ โดยหลักกำรของ Shell จะเอำเนื้อด้ำนในของวัตถุออกแล้วเหลือผิวด้ำนนอกท่ีมี ลักษณะเป็นผนงั บำง และมคี วำมหนำตำมทีผ่ อู้ อกแบบกำหนด ซึ่งจะต้องเลือกพ้ืนผิวท่ีใช้เป็นช่องเปิด อำจเป็น พนื้ ผิวเดียวหรือหลำยพน้ื ผิวก็ได้ มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

118 แบบฝึกหดั ท้ายบทท่ี 8 จงสร้ำงชน้ิ งำนผนังบำงด้วยคำสง่ั Rib และแผ่นครีบดว้ ยคำส่ัง Shell 1. 2. มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

119 บรรณานุกรม กริชทอง ศรีบุญเรอื ง ,สรชยั จนทวงศ์ และสุเทพ บนั ลือศกั ด.์ิ (2554). Autodesk Inventor คู่มอื การใชง้ าน ภาษาไทยเลม่ ที่1. กรงุ เทพฯ . เอน็ อาร์ ออโตโ้ มชนั่ ซสิ เทม็ ส์ จากัด. กรชิ ทอง ศรีบุญเรอื ง ,สรชัย จนทวงศ์ และสเุ ทพ บนั ลือศกั ด.์ิ (2555). Autodesk Inventor คู่มอื การใชง้ าน ภาษาไทยเลม่ ที่2. กรุงเทพฯ . เอน็ อาร์ ออโต้โมชน่ั ซสิ เทม็ ส์ จากัด. จตุรงค์ ลังกาพนิ ธ์ุ และสมชาย ชูแก้ว.(2555). Autodesk INVENTOR Professional. กรงุ เทพฯ : สานกั พมิ พ์ ทรปิ เพ้ิล กรปุ๊ จากดั . ISBN 978-616-90671-4-6 เฉลิม พล บุญ ทศ. (2021). การพัฒนารูปแบบการฝึกอบรมสมรรถนะวชิ าชีพชา่ งจ๊กิ ฟิกซ์เจอร์(Jig & Fixture). Journal of Humanities and Social Sciences Nakhon Phanom University, 11(2), 184-196. Elyan, E., Moreno-García, C. F., & Johnston, P. (2020, June). Symbols in engineering drawings ( SIED) : an imbalanced dataset benchmarked by convolutional neural networks. In International Conference on Engineering Applications of Neural Networks (pp. 215-224). Springer, Cham. Elyan, E., Garcia, C. M., & Jayne, C. (2018, July). Symbols classification in engineering drawings. In 2018 International Joint Conference on Neural Networks (IJCNN) (pp. 1-8). IEEE. Elashry, E. Engineering Drawing part 2-2021. Telegin, V. V., Kozlov, A. M., & Kirichek, A. V. (2018, May). Solid modeling in Autodesk Inventor at initial stage of training of specialists in field mechanical engineering. In International Conference on Industrial Engineering (pp. 1241-1247). Springer, Cham. มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

120มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏหม่บู า้ นจอมบงึ ภาคผนวก

188.5 7.4มหา ิวทยา ัลยราช 76.5 3.0 TITLE TWIN CYLINDER HORIZONTAL STEAM ENGINE GENERAL ARRANGEMENT

ช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง STEAM OUT STEAM IN 111.5 4.4 STEAM OUT 70 2.8 JDW DRAUGHTING SERVICES DRAWN BY PROJECTION DRAWING NUMBER 12 BRIGHTWELL STREET J.A.M. DE WAAL DVSSE-01ASEPT/O6 DATE PAPAKURA NEW ZEALAND DATSEEPT-2006 SCALE CAD FILE REV TEL/FAX 0064-09-2988815 A ISSUED FOR CONSTRUCTION E-MAIL:[email protected] SHT:01 of 04 NTS @A3 OR DO NOT SCALE OF DRAWING REV DESCRIPTION AS SHOWN

QT11111114444444222222222222222222288222222222222222222111112680026Y. DDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS----------------------------------------------------------0133MM3300343103M304210M431042241M221MM2111M31MMM3120424024425107368984176345023067725356128901899365042132223222232------------A-------B--A----------------------xxx..xxxx-CPCCVC55FCCFFBCECCCRCLCCVCCBVVVVEEFVCV-CNNCC-WSEE3-456111SYYRYxxLYRLLIRAXROOO-RRRRAX505XLYCO-RRPEXXS5PAAAAAUUATATL11YYYOAAHLLLYAORNNHNOOOOACCSCLNCCAAICL85TICTTCELLLLLLLEISSCCCOIIWIWWNTNRNYEVSAEEWNSSSRSIENNNREEAVVVVVONNVVANYYYTCTDRRCRNDCCNNHKURKNSLKSSSUSNDENDHDHHINKKMEEEEEHEDEMRNORLLLOEOOOOOTEITTRBOTHHHBTEKEEEEENEEAIIIGNNANBCRHUUDDDSHHRNNNRERDHRHHHRHEREERESRSSEERODERIHNINSONNNAHESEILLDDDLASAIAIOOOOOGIOPHHILUCECHCDCECBBBEKAALHCBUTTTKGACDEEEHUDUUUUDDDIAARTPNOINEOISOEIRISREORRRHSOEEADDEDNEACSGGFSHSSSSDHFFLAKDLSTDUPTSAERRNPEDTGOHHHUIPTGGINSPIFOIIITTIEINDESRNNNNHNWSLTOTHPWSSDDEELUOUEEEBUUTEKTIUAGEPCNETGGGGAGCERNNKAOCIAAAAIIRIMPBCIINENNRS-DDDDID-ROFODDPMESFOYPDDDTLEB1KKINEPGSDE2ELTNVTRDEHCEAUISSAPURRAPOEPPGCORISSSEBOLSRSSBPNCSEMBEIIMSBOAARVNNPCCCARUIRCCEAGSENEBKEVERRRRRGDLETASRRPECASAGEEIEEEETTREWEEEPNREURRTRRWWWL--WWROGERIPI21NNRRBERGGTEEPASHHBLRSOOARIULNLATDRDGECEEEKRREPTLATE R20 25 10 117 16 13 58 4 38.25 R20 10 18 10 19.25 19.25 10 18 10 2.5 ALL 12 26 50.5 26 12 ALL HOLES TO BE C'SINK 38.25 FROM UNDERNEATH 01 SCALE 1:1.5 R4 4 R11 BRASS 08 10 4 08 M2.5 09 21.5 M3าช 10 12 7มหาวิทยา ัลยร 5 5525 6 M2.5 16 33 228 28 PCD 33 B 10 1 R0.5 8BRONZE SL 22 6 C 3 28 PCD 16 33 2.5 28 PCD 2.5 M2 22 8 1 2 18 20 24 2.5 B 25 10 5 SECTION B-B 11 8 M2 13 0.5mm THICK 15 BRASS PRESS FIT 2.5 5C SECTION C-C TEFLON 13 6 4 BRONZE 62 BRONZE BUSH 19.25 8 22 12 BRASS 8 6 4 7 14A 14A 4 5 15 BRASS 12 55 11 STEEL TITLE TWIN CYLINDER HORIZONTAL STEAM ENGINE BILL OF MATERIALS PARTS AND ASSEMBLIES

ALL FILLETS R1 2 DRILL AFTER ASSEMBLY BRASS BRASS 03 10 10 1 4 10 1 10 8 5 5 M3 5 5 7 25 15 15 18 7 02 R10 R1 15 MIRROR IMAGE OF PART 02 8 M2.5 M2.5 3 3 BRONZE BRASS 32 52 15 12 DRILL AFTER15 10 10 7 ASSEMBLY M3 M2.5 M2.5 32ู่ม ้บานจอม ึบง 7 7 M3 05 7 32 26 BRASS 10 19 19 8 06 33 6 18 6 44 10 20 28 PCD 3 R1 49 5 36 R13 16 25 10 10 45° R4 4.5 20 22 R4M2.53 45°M2.5 22 3 15 07 12 30° 48 8 ช ัภฏห BRASS 9 9 4 7 5 2 BRASS 25 86 10 10 A 28 PCD 3 5 07 M2 09 22 22 3 21 6 33 45° PRESS FIT 20 BRONZE 5 SLEEVE 83 3 2 75 L6EEVE 45 A6 SECTION A-A 75 16 6 6 22 66 65 6mm THICK D 8 14 STEEL STEEL STEEL 60° 60° 17 6 10 6 18 16mm THICK SCALE 1:2 19 15 33.5 D SECTION D-D BRASS 3 R20 BRASS SCALE 1 : 2 17 19 BRASS A ISSUED FOR CONSTRUCTION JDW DRAUGHTING SERVICES DRAWN BY PROJECTION DVSSE-02DRAWING NUMBER REV DESCRIPTION 12 BRIGHTWELL STREET PAPAKURA NEW ZEALAND J.A.M. DE WAAL TEL/FAX 0064-09-2988815 DATSEEPT-2006 E-MAIL:[email protected] SCALE @A3 OR CAD FILE AREV SHT:02 of 04 SHOWN SEPT/O6 1:1 DO NOT SCALE OF DRAWING DATE AS

15° BRASS 5 22 5 6.5 13 6.5 22 46 64 20 A M3 8 18 60° 20 3 8 20 3 15 3 5.5 13 13 8 4 2 13 20 A 60° BRASS 3 26 27 BRASS 16 SECTION A-A 26 12 3 BRONZE 28 16 6.5 6.5 25 11 11 60° R6 8 6 13 44 15 55 2 7 3 4 R3 10 3 3 11 4 27 PRESS FIT 16.5 3 26 2.5 BRASS 6 5 BRONZE BUSH 4 1 30A 11 11 21 TEFLON STEEL 31 10 22 4.5 13 13 6 M3 10 10 20 M3 3 4 B 22 B R13 M3มหา ิวทยา ัลยราช 30B STEEL 2.5 4 6 4 20 35 2.5 39 5 22.25 5 M3 10 STEEL 39 12.6 1 2 21 2 1.75 STE 40 40 2 10 8 BRASS SECTION B-B7 5 1 20 38 M2 1.5 1.5 3.5 6 2 77 M3 22 STEEL 20 6 38 9 PRESS FIT 4 14A 16 1 24 4 R14 BRONZE BUSH 16 R3 17 45 5 18 04 3 17 54 19 15 02 SCALE 1.5:1 19 14 04 04 19 20 03 45 23 22 45 26 26 23 21 07 19 27 08 33 19 19 30A 30B 30A 10 27 25 25 21 04 32 31 12 11 09 45 44 45 34 35 36 37 40 29 28 39 38 42 12 13 10 41 11 09 13 TITLE TWIN CYLINDER HORIZONTAL STEAM ENGINE PARTS AND ASSEMBLIES

BRASS 5 22 5 TEFLON 5 22 5 BRASS 7 6.5 6.5 35 M2 3 20 3 15 5.5 6825 3 4 55 5525 4 1.5 15 3 20 3 23 24 8 16 7 26 3 2mm THICK 2 9 0.5mm THICK STEEL 1.5 5 3 5 29 1.5 4.5 3 4.5 BRASS 5 6.3 3.75 13 BRASS 2 41 44 2.5อม ึบง 3 1 STEEL 2 2 32 4 38 16 15 R1.5 29 STEEL 4 3 10 35 27 7 1.5 DRILL OIL 33 2 8 2 R13 34.5 4.5 HOLE AFTER M3 44 1.5 M3 ASSEMBLY 8 EEL 93 34 7.5 3 49 M3 30° 4 2 34 44 2 7 1 41 STEEL M2 3mm DEEP 66 2.5 BRONZE 5 34 5 PRESS FIT 16 66 BRONZE BUSH 8 8 20ช ัภฏห ู่ม ้บานจ 4 4 36 6 2 BRONZE M2 GLUE DRILL AFTER 12 BRONZE ASSMBLY 36 35 8 37 BRASS 4 SHELL 44 4 16 3.5 FOR OTHER R8 STEEL 2 M2 4off DIMENSION DETAILS BRONZE REFER TO PART 36 BRASS 15 10 42 17 43 8 43 3.5 42 22 1.5 77 2 STEEL 44 45° 46 1 24 200 CRANKS 90DEG 46 OFF SET FROM EACH OTHER 90° 43 06 05 01 JDW DRAUGHTING SERVICES DRAWN BY PROJECTION DVSSE-03DRAWING NUMBER 12 BRIGHTWELL STREET PAPAKURA NEW ZEALAND J.A.M. DE WAAL TEL/FAX 0064-09-2988815 DATSEEPT-2006 E-MAIL:[email protected] SCALE @A3 OR CAD FILE AREV SHT:03 of 04 SHOWN A ISSUED FOR CONSTRUCTION SEPT/O6 1:1 DO NOT SCALE OF DRAWING REV DESCRIPTION DATE AS

มหา ิวทยา ัลยราชBB AA TITLE TWIN CYLINDER HORIZONTAL STEAM ENGINE SECTIONS

ช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง SECTION A-A B SECTION B-B JDW DRAUGHTING SERVICES DRAWN BY PROJECTION DRAWING NUMBER 12 BRIGHTWELL STREET J.A.M. DE WAAL DVSSE-04ASEPT/O6 DATE PAPAKURA NEW ZEALAND DATSEEPT-2006 SCALE CAD FILE REV TEL/FAX 0064-09-2988815 A ISSUED FOR CONSTRUCTION E-MAIL:[email protected] SHT:04 of 04 NTS @A3 OR DO NOT SCALE OF DRAWING REV DESCRIPTION AS SHOWN

NOTE: RTEFER TO MODELBOUWER OCTOBER AND NOVEMBER 1 FOR DESCRIPTION มหา ิวทยา ัลยราช SIDE TITLE FOUR CYLINDER STEAM ENGINE GENERAL ARRANGEMENT

MAGAZINE(S) 180 1987 284 TOP VIEW ช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 154 288 VIEW FRONT VIEW A ISSUED TO NVM REMOVE ALL BURRS AND SHARP EDGES REV DESCRIPTION JDW DRAUGHTING SERVICES DRAWN BY PROJECTION DRAWING NUMBER 12 BRIGHTWELL STREET J.A.M. DE WAAL 001 PAPAKURA NEW ZEALAND TEL/FAX 0064-09-2988815 DATE SCALE CAD FILE AREV 02/2007 E-MAIL:[email protected] DECEMBER-2006 AS SHOWN DO NOT SCALE OF DRAWING DATE

ASSEMBLY 200 28 28 2 64 16 20 46 ASSEMBLIES M6 94 103,104&105 10 10 2 1 6 36 M6 7 2SCALE 1:1 14 5 32 4 12 5200-09 1 3 12 2 2 32 288 5 60 200-16 SC 100 134 M4 4 PLACES 45° มหา ิวทยา ัลยราช 180 85 46 88 32 103/10 REFER 22 SECTION SECTION ON C/L 68 6 10 28 40 18 20 200-10 134 SCALE 1:2 24 26 8 103/104-02B 19 TITLE FOUR CYLINDER STEAM ENGINE ASSEMBLIES AND PARTS

44 ITNEOM. QTY. ASSEMBLY 200 MATERIAL 18 1 1 09-REVERSING VALVE KNOB BRASS M6 5 14 2 1 10-BASE PLATE BRASS 12 8 14 28 24 16 3 1 12-REVERSING VALVE HOUSING BRASS 4 1 15-SPINDLE BRACKET BRASS 6 4 5 1 16-REVERSING VALVE S/STEEL 14 6 2 20-EXHAUST PIPE 200-15 7 1 22-FRESH STEAM INLET PIPE COPPER 200-12 SCALE 1:1 COPPER SCALE 1:1 28 8 2 M8x30 BRASS 14 9 4 M4x30 CYLINDERHEAD SCREW BRASS 8 10 1 105-BEAM ASSEMBLY 1 103-HORIZONTAL BEAM ASSEMBLY 2 02A-CYLINDER BRASS 2 02B-CYLINDER TOP BRASS 1 05-HORIZONTAL BEAM BRASS 4 2 8A-CYLINDER FASTENER-1 BRASS 4 M6x8 HEX BOLT BRASS 1 104-VERTICAL BEAM ASSEMBLY 2 02A-CYLINDER BRASS 2 02B-CYLINDER TOP BRASS 1 06-VERTICAL BEAM BRASS 8ช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 2 8B-CYLINDER FASTENER-2 BRASS 4 M6x8 HEX BOLT 24 BRASS 12 1 13-CRANK SHAFT BEARING BRONZE 2 21A-VERTICAL CYLINDER INLET PIPE COPPER 2 21B-HORIZONTAL CYLINDER INLET PIPE COPPER 4 M6x24 COUNTERSINK SCREW BRASS 12 50 10 6 7 200-22 SCALE 1:1 8 CALE 1:1 6 22 6 ASSEMBLY 104 ASSEMBLY 103 64 26 04-02A SCALE 1:1 32 ASSEMBLY 105 10 130 130 2 20 12 12 20 12 12 6 6 6 6 13 R16 16 2816 16 114 24 6 6 13 36 32 36 8 SCALE 1:1 M6 M6 103-05 SCALE 1:2 REMOVE ALL BURRS AND SHARP EDGES JDW DRAUGHTING SERVICES DRAWN BY PROJECTION DRAWING NUMBER 12 BRIGHTWELL STREET J.A.M. DE WAAL 002 PAPAKURA NEW ZEALAND TEL/FAX 0064-09-2988815 DATE SCALE CAD FILE AREV A ISSUED TO NVM 02/2007 E-MAIL:[email protected] DECEMBER-2006 AS SHOWN DO NOT SCALE OF DRAWING REV DESCRIPTION DATE

40 28 6 R16 6 36 R16 0.5 20 0.5 32 32 103-08A SCALE 1:1 130 130 12 12 M6 16 16 12 12 6 13 36 72 104-06 24 M6 6 24 M6 116 R16 12 8 8 M8 10 10 M8 20 32 SCALE 1:2 36 36 PIPE 6x5 114 12 12 200-206 มหาวิทยา 2ัล4ย12ราช 122 16 64 SCALE 1:1.5 6mm 8 40 45° C/S 2x45 16 B A R7 4 PLACES 20 12 12 45° 3 24 1 105-13 28 6 2 48 SCALE 1:1 6 B A 6 1 3 45° SECTION B-B SECTION A-A ITNEOM. QTY. AS 1 2 03- 2 1 04- 3 2 18-P TITLE FOUR CYLINDER STEAM ENGINE ASSEMBLIES AND PARTS

40 PIPE 6x5 R7 50 R7 42 6 20 104-08B SCALE 1:1 6ช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 105-21A 105-21B 4 SCALE 1:1.5 26 SCALE 1:1.5 M6 R8 1 ITNEOM. QTY. ASSEMBLY 102 MATERIAL 81 1 01-FLYWHEEL BRASS 25.5 25.52 1 11-CRANK SHAFT 3 1 14-CRANK PLATE S/STAAL 107 4 BRASS 184 1 19-ROLLER BEARING SCREW BRASS 45 1 M4x10 CYLINDERHEAD SCREW BRASS 22 45° 1076 2 M4x15 COUNTERSINK SCREW BRASS M67 1 M6x12 CRUB SCREWBRASS 4 10 14 30 2 6 8 3 42 4 16 101-18 3 SCALE 1:1 1 102-19 SCALE 1:1 86 8 60 43 4 3 M6 2 DRILL & TAP M6 4 R17.5 51 2 PLACES 8 R17.5 R8 R8 R9.5 R9.5 SECTION ON C/L 102-14 55 R8 8 SCALE 1:1.5 25.5 25.5 101-04 SCALE 1:1.5 80 1 14 14 SSEMBLY 101 MATERIAL 8 M6 -PISTON ROD S/STAAL M6 -CROSSHEAD BRASS 101-03 SCALE 1:1 PISTON ALUMINIUM REMOVE ALL BURRS AND SHARP EDGES JDW DRAUGHTING SERVICES DRAWN BY PROJECTION DRAWING NUMBER 12 BRIGHTWELL STREET J.A.M. DE WAAL 003 PAPAKURA NEW ZEALAND TEL/FAX 0064-09-2988815 DATE SCALE CAD FILE AREV A ISSUED TO NVM 02/2007 E-MAIL:[email protected] DECEMBER-2006 AS SHOWN DO NOT SCALE OF DRAWING REV DESCRIPTION DATE

248 24 200 88 1 20° 78 M6 16 40 120 PCD 102-01 SCALE 1:1.5 2 92 5มหาวิทยา ัลยร110า0ช 16 41 M4 28 464 3.5 4 20 55 4 5 M4 41 6 TITLE SECTION ON C/L 102-11 SCALE 2:1 FOUR CYLINDER STEAM ENGINE ASSEMBLIES AND PARTS

ช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 28 5 20 3.5 A ISSUED TO NVM M4 REV DESCRIPTION REMOVE ALL BURRS AND SHARP EDGES JDW DRAUGHTING SERVICES DRAWN BY PROJECTION DRAWING NUMBER 12 BRIGHTWELL STREET J.A.M. DE WAAL 004 PAPAKURA NEW ZEALAND TEL/FAX 0064-09-2988815 DATE SCALE CAD FILE AREV 02/2007 E-MAIL:[email protected] DECEMBER-2006 AS SHOWN DO NOT SCALE OF DRAWING DATE

มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏหม่บู า้ นจอมบงึ DRAWING OF MACHINE ELEMENT