Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปิยนุช อินทรดิบ

ปิยนุช อินทรดิบ

Published by วิทย บริการ, 2022-07-04 01:45:43

Description: ปิยนุช อินทรดิบ

Search

Read the Text Version

40 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงตารางท่ี 1 (ต่อ) ตัวแบบ มโนทัศน์เกยี่ วกับ เง่ือนไขของการใช้ตวั ตัวบง่ ช/้ี สาระ ตวั แบบที่ 5 ตัวแบบ ประสิทธผิ ลของ แบบ หลักการประเมิน การดำเนนิ งานถกู ต้อง ตามหลักการ โรงเรยี น (legitimacy model) การดำเนนิ กิจกรรม มกี ารประเมินความ อยู่ ประชาสัมพันธ์ ตัวแบบท่ี 6 ตัวแบบ เนน้ การดำเนินงานที่ ตา่ ง ๆ ทง้ั ด้าน รอดของโรงเรยี ระหวา่ ง โรงเรยี นการตลาด บรรลเุ ปา้ หมาย (ineffectiveness การตลาด เปน็ ไปอยา่ ง โรงเรยี นตา่ ง ๆ ภาพลกั ษณ์ของ model) ตวั แบบท่ี 7 ตวั แบบ ถูกต้องเพ่ือให้โรงเรียน โรงเรยี นชือ่ เสยี ง การเรียนรอู้ งค์การ (organizational อยูร่ อดได้ กิตติศัพท์ การแสดง learning model) ความรับผิดชอบของ ตัวแบบที่ 8 ตัวแบบ การบรหิ ารคุณภาพ โรงเรยี นในการ โดยรวม (total quality ดำเนนิ งานต่อสังคม management model) การท่ีโรงเรยี นปลอด ยงั ไมส่ ามารถระบุตัว ตวั แบบที่ 6 ตัวแบบ จากคุณลักษณะท่ีไม่ บง่ ช้ีประสทิ ธผิ ลของ เน้นการดำเนนิ งานที่ พึงประสงค์ การดำเนนิ งานของ บรรลเุ ปา้ หมาย โรงเรียนได้ชดั เจน แต่มี (ineffectiveness กลวธิ ใี นการพัฒนา model) ความสามารถในการ โรงเรยี นกำลังมีการ การตระหนักถงึ ความ ปรบั ตัวใหเ้ ขา้ กับการ ปรับเปล่ียนและจะ ต้องการจำเป็น เปลี่ยนแปลงของ ละเลยตอ่ ภายนอกและการ สภาพแวดลอ้ มต่างๆ สภาพแวดล้อมที่กำลงั เปลีย่ นแปลงต่างๆที่ และอปุ สรรคขัดขวาง เปล่ียนแปลง เกดิ ขึ้น การกำกับ ภายใน ไม่ได้ ติดตามการทำงาน ภายใน การวางแผน และการพฒั นาการ ประเมนิ โครงการ ตา่ ง ๆ การบริหารบคุ คล ความตอ้ งการจำเป็น ความเปน็ ผนู้ ำการ ภายในและ ของทุกฝ่ายทีเ่ กี่ยวข้อง จัดการบุคลากร การ กระบวนการทจี่ ะสนอง ตรงกนั และมี วางแผนกลยุทธก์ าร ความตอ้ งการของ ทรัพยากรและ บริหารจดั การ การ บุคคลทกุ ฝ่ายท่ี เทคโนโลยีพร้อม ทำงาน ผลงานท่ีมี เกยี่ วข้อง สำหรับบรหิ ารจัดการ คุณภาพ ความพอใจ ทัง้ หมด ของผ้เู ก่ยี วขอ้ งทุกฝา่ ย ผลกระทบต่อสงั คม

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 41 2.5.3 ทฤษฎีประสิทธิผลของโรงเรียนของ มอทท์ (Mott cited in Hoy & Miskel, 2013, 319-320) ได้กำหนดประสิทธิผลของโรงเรียนไว้ว่าเป็นผลสำเร็จของการบริหารจัดการของผู้บริหาร ภายในโรงเรียนและการดำเนินงานท่ีมีประสิทธิภาพของบุคลากรในการจัดการศึกษาท่ีบรรลุผลตาม วัตถปุ ระสงคห์ รอื เปา้ หมายที่ตง้ั ไว้ของโรงเรียน ซง่ึ ประกอบด้วย 4 ด้าน ดังนี้ 1. ความสามารถในการผลิตนักเรียนให้มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเพิ่มข้ึน หมายถึง ความสามารถในการบรหิ ารและการจัดการศกึ ษาท่ีมีประสิทธภิ าพมีการวางแผนในการพัฒนาคณุ ภาพ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียน พัฒนานักเรียนด้วยกิจกรรมที่หลากหลายตามความเหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการและความสามารถของผู้เรียน สามารถผลิตนักเรียนให้มีระดับ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนท่ีมีเฉล่ียสูงเพ่ิมข้ึน นักเรียนมีความสามารถในการเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูง เพ่ิมขึ้น และจำนวนร้อยละของนักเรียนที่ได้รับรางวัลทางด้านวิชาการจากหน่วยงานภาครัฐและ เอกชนเพ่ิมขน้ึ 2. ความสามารถในการพัฒนานักเรียนให้มเี จตคติทางบวก หมายถึง ความสามารถใน การดำเนินงานในการสง่ เสรมิ นักเรียนให้มีคุณธรรม จริยธรรม คิดเชิงบวก มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ต่อสังคม เพื่อให้ผู้เรียนแสดงออกถึงพฤติกรรมในทางที่ดีงามเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม มีระเบียบ วินัย รู้จักพัฒนาตนเองในด้านการศึกษาเล่าเรียนมีเจตคติท่ีดีต่อการศึกษาและอยู่ในสังคมได้อย่างมี ความสขุ 3. ความสามารถในการปรบั เปลี่ยนและพัฒนาโรงเรียนใหเ้ ขา้ กับสิ่งแวดล้อม หมายถึง ความสามารถในการดำเนนิ งานด้านการบรหิ าร ด้านวชิ าการการจดั การเรียนการสอน เพ่ือให้โรงเรยี น มคี วามเจรญิ ก้าวหนา้ สามารถปรบั ตัวให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลง ครมู ีความกระตือรือรน้ ปรบั ปรุง วิธีการสอน นำความรู้และประสบการณ์จากการอบรมมาจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมีนวัตกรรม และส่ือสอนใหม่ ๆ มีการคน้ ควา้ และพฒั นาสื่ออุปกรณ์การสอนอยู่เสมอ 4. ความสามารถในการแก้ปัญหาภายในโรงเรียน หมายถึง ความสามารถในการ บริหารด้านการจัดการเรียนการสอน มีการกระตุ้นครูในโรงเรียนให้เห็นวิธีการหรือแนวทางในการ แก้ปัญหา ส่งเสริมให้ครูในโรงเรียนเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตน มีการกระตุ้นให้ครูในโรงเรียนแสดง ความคิดเห็นมองปัญหาในแง่มุมต่าง ๆ มีการวิเคราะห์ปัญหา โดยใช้เหตุผลและข้อมูลหลักฐาน มี ความคิดรเิ ริ่มสร้างสรรค์ ดแู ลเอาใจใส่และใหค้ วามชว่ ยเหลือผู้เรียนดว้ ยความเต็มใจ ปกครองนกั เรยี น ให้ปฏิบัติตนอยู่ในกฎระเบียบของโรงเรียนและสังคม การร่วมมือกันของบุคลากรในการพัฒนาและ แก้ไขปัญหาต่าง ๆ รวมถงึ งานรบั ผดิ ชอบอ่ืน ๆ โดยใชร้ ะบบการมสี ่วนรว่ มของทกุ ฝ่าย จากแนวคิดทฤษฎีประสิทธิผลของโรงเรียนของ มอทท์ พอสรุปได้ว่า เป็นแนวคิดทฤษฎีที่ กำหนดความมีประสทิ ธิผลในแง่ผลผลิตจนไปถงึ ระบบการบริหารจัดการในโรงเรียน เริ่มต้ังแต่ผลผลิต ที่เพิ่มขึ้นและมีคุณภาพสงู ขึ้นน่ันคือการผลิตนักเรียนให้มีผลสัมฤทธิ์เพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพของผลผลิต นั่นคือการพัฒนานักเรียนให้มีเจตคติทางบวก การรู้จักปรับตัวขององค์กรนั่นคือการปรับเปลี่ยนและ พฒั นาโรงเรยี นใหเ้ ขา้ กบั สง่ิ แวดลอ้ ม และการแกไ้ ขปญั หาภายในโรงเรียน การศึกษาวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยใช้ทฤษฎีประสิทธิผลของโรงเรียนของ มอทท์ เป็นตันแปรตาม เพราะเป็นทฤษฎีที่มีตัวแปรย่อยสามารถกำหนดประสิทธิครอบคลุมทุกองค์ประกอบของโรงเรียน ที่มี

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 42 ประสิทธิผล ตั้งแต่ระดับผลผลิตท่ีเพ่ิมข้ึนและมีคุณภาพจนไปถึงระดับการบริหารท่ีปรับองค์กรให้เข้า กับสภาพแวดล้อม และการแกไ้ ขปัญหาภายในองค์กร 3. ขอ้ มูลพื้นฐานของพ้ืนท่วี ิจัย การศึกษาวิจัยครั้งน้ี ผู้วิจัยกำหนดพื้นท่ีวิจัยเป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ี การศกึ ษาประถมศกึ ษาราชบุรี เขต 1 ซงึ่ มขี ้อมูลพนื้ ฐาน ดงั น้ี สภาพทวั่ ไปของโรงเรียนในสงั กดั สำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ต้ังอยู่ทางภาคกลาง ด้านทิศ ตะวนั ตกของประเทศไทย มเี น้อื ท่ีทั้งหมดประมาณ 4,030.03 ตารางกโิ ลเมตร มอี าณาเขตตดิ ตอ่ ดงั นี้ ทิศเหนือติดต่อกับอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี อำเภอด่านมะขามเต้ีย และอำเภอท่าม่วง จงั หวดั กาญจนบุรี ทศิ ใตต้ ิดตอ่ กับอำเภอเขาย้อย อำเภอหนองหญา้ ปลอ้ ง จังหวัดเพชรบรุ ี ทิศตะวันออกติดต่อกับอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี อำเภอบางคนที และอำเภอ อมั พวา จงั หวดั สมทุ รสงคราม ทิศตะวันตกติดต่อกับตำบลบางคายู อำเภอเมตตา จังหวัดทะวาย ประเทศสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) สภาพพ้ืนที่ทั่วไปเป็นพื้นท่ีสูง ทางด้านตะวันตกบริเวณชายแดนของจังหวัด ประกอบด้วย เทือกเขาน้อยใหญข่ องเทือกเขาตะนาวศรีตอนกลางของจังหวดั เปน็ ที่ราบลมุ่ แม่นา้ แม่กลอง ซ่ึงมีความ อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การทำนา การเพาะปลูกพืชสวน และพืชไร่ ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้เป็นท่ี ราบลุม่ ซึง่ เหมาะแก่การเพาะปลกู พืชผกั และผลไม้ ภูมิอากาศโดยท่ัวไปไม่ร้อนจัดหรือหนาวจัด อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 20.0-29.9 องศา เซลเซยี สมีฝนตกหนักในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนตลุ าคม ประชากรในพ้ืนที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 มีความ หลากหลายทางเช้ือชาติ โดยมีวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณีทเ่ี ป็นอัตลกั ษณ์ 8 ชาตพิ ันธ์ ได้แก่ ไทยพ้ืนบ้านไทยยวน ไทยเขมร ไทยมอญ ไทยทรงดำ ไทยกะเหรี่ยง และไทยลาวเวียง ซึ่งแต่ละกลุ่มมี วัฒนธรรมที่น่าสนใจ ท้ังด้านประเพณี พิธีกรรม หัตถกรรม เพลงพ้ืนบ้าน ฯลฯ แสดงให้เห็นถึงองค์ ความรทู้ ีส่ ำคญั ของแตล่ ะกลุ่มวฒั นธรรม สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 มีโรงเรียนในสังกัด จำนวน 175 โรงเรียน 2 สาขา มีเขตพ้ืนที่รับผิดชอบ จำนวน 6 อำเภอ ได้แก่อำเภอเมือง อำเภอปากท่อ อำเภอวดั เพลง อำเภอจอมบึง อำเภอสวนผึ้ง และอำเภอบ้านคา ซึ่งมีรายละเอียดดงั นี้ (สำนักงานเขต พนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาราชบุรี เขต 1, 2563, 1-15)

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 43 งานวจิ ยั ท่เี ก่ียวข้อง ในการวิจยั ครง้ั นีผ้ ูว้ จิ ัยได้รวบรวมงานวิจยั ในประเทศและต่างประเทศซ่งึ เก่ียวขอ้ งกบั ความสัมพันธ์ ระหวา่ งคณุ ภาพชีวิตการทำงานกบั ประสิทธผิ ลโรงเรียนซงึ่ มขี อ้ มูลผลการวจิ ยั ดังนี้ 1. งานวิจยั ในประเทศ กมลชนก สุกแสง (2559, 87-90) ได้ศึกษาวิจัยเร่ืองความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงกล ยุทธ์กับประสิทธิผลของโรงเรียน ตามทัศนะของผู้บริหารโรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่ การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 ผลวิจัยพบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 โดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับ มาก เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน และเมื่อเรียงลำดับภาวะผู้นำเชิงกล ยุทธ์จากด้านที่มีระดับมากที่สุดไปหาระดับน้อยที่สุด ได้แก่ การสร้างวัฒนธรรมองค์กร ด้านการ กำหนดทิศทางขององค์กรและด้านการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ ตามลำดับ ส่วนประสิทธิผลของโรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 โดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน และเม่ือเรียงลำดับประสิทธิผลของ โรงเรียนจากด้านทม่ี ีระดับมากทีส่ ุดไปหาระดบั น้อยทสี่ ุด ได้แก่ ความสามารถในการจัดสรรทรัพยากร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองลงมา ได้แก่ ความพึงพอใจในการทำงานของครู และความสามารถในการ ปรับเปลี่ยนต่อสภาพแวดล้อมที่กระทบท้ังภายในและภายนอก ส่วนด้านท่ีมีค่าเฉล่ียต่ำท่ีสุด ได้แก่ ด้านความใฝ่รู้ รักการอ่าน แสวงหาความรู้ด้วยตวั เองของนักเรยี น และความสัมพนั ธ์ระหว่างภาวะผู้นำ เชิงกลยุทธ์กับประสิทธิผล ในสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 มี ความสัมพันธ์กันในทางบวกในระดับค่อนข้างสูง เม่ือพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงกล ยุทธ์กับประสิทธิผล เป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านมีความสัมพันธ์โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ใน ระดับปานกลาง ได้แก่ การนำกลยทุ ธ์ไปปฏิบัติการสร้างวัฒนธรรมองค์กรและการกำหนดทิศทางของ องคก์ ร กรรณาภรณ์ พุฒชงค์ (2560, 87-89) ได้ศึกษาวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำ เชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนกับประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศกึ ษาจนั ทบุรี เขต 2 ผลวจิ ัยพบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยทุ ธ์ของผบู้ ริหารโรงเรียน สงั กัดสำนักงาน เขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 2 โดยรวมและรายด้านมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก โดย เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านความสามารถในการนำปัจจัยนำเข้าต่าง ๆ มา กำหนดกลยุทธ์ ด้านวิธีการคิดเชิงปฏิวัติ ด้านผู้นำที่มีความคิดความเข้าใจระดับสูง ด้านการมีความ คาดหวัง และการสร้างโอกาสสำหรับอนาคต และด้านการกำหนดวิสัยทัศน์ ตามลำดับ ส่วน ประสทิ ธผิ ลของโรงเรียน สังกัดสำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาจนั ทบุรี เขต 2 โดยรวมและ รายด้านมีคา่ เฉลีย่ อยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดบั ค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านความสามารถ ในการแก้ไขปัญหาภายในโรงเรียน ด้านความสามารถในการปรับเปล่ียนและพัฒนาโรงเรียน ด้าน ความสามารถในการผลิตนักเรียนให้มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูง และด้านความสามารถพัฒนา นักเรียนให้มีทัศนคติทางบวก ตามลำดับ ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนกับประสิทธิผล ของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 2 มีความสัมพันธ์ทางบวก ในระดับสูง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณารายด้านเรียงลำดับ ภาวะผู้นำเชิงกล

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 44 ยุทธ์ของผู้บรหิ ารโรงเรยี นที่มคี วามสมั พนั ธ์กับประสิทธิผลของโรงเรยี น ได้แก่ ด้านการมีความคาดหวัง และการสร้างโอกาสสำหรับอนาคต ด้านผู้นำที่มีความคิดความเข้าใจระดับสูง ด้านการกำหนด วิสัยทัศน์ ด้านความสามารถในการนำปัจจัยนำเข้าต่าง ๆ มากำหนดกลยุทธ์ และด้านวิธีการคิดเชิง ปฏวิ ตั ิ ตามลำดบั กัญญาณัฐ ไชยชะนะ (2563, 108-110) ได้ศึกษาวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำ เชิงกลยุทธ์ในศตวรรษท่ี 21 ของผู้บริหารโรงเรียนกับประสิทธิผลของโรงเรียนในอำเภอแม่สรวย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงรายเขต 2 ผลวิจัยพบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ ในศตวรรษท่ี 21 ของผู้บริหารโรงเรียนในอำเภอแม่สรวย สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ประถมศึกษาเชียงรายเขต 2 ผลการวิจัย พบว่า ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณา เป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านมีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับมาก โดยด้านท่ีมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการริเริ่ม สร้างสรรค์ รองลงมา คือ ด้านการมคี ุณธรรมจริยธรรม ด้านการกำหนดวสิ ัยทศั น์ และด้านการพัฒนา ทรัพยากร ตามลำดับ และด้านที่มีค่าเฉล่ียต่ำสุด คือ การส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร ส่วนประสิทธิผล ของโรงเรียนในอำเภอแมส่ รวย สังกัดสำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาเชียงรายเขต 2 พบว่า โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมือ่ พิจารณาเป็นรายด้าน พบวา่ ทุกดา้ นมีค่าเฉล่ียอยใู่ นระดับ มาก โดยด้านท่ีมีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ ความสามารถในการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อม รองลงมา คือ ความพึงพอใจในการทำงานของครู และการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ตามลำดับ และ ด้านท่ีมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูง และความสัมพันธ์ระหว่างภาวะ ผู้นำเชิงกลยุทธ์ในศตวรรษที่ 21 ของผู้บริหารโรงเรียนกับประสิทธิผลของโรงเรียนในอำเภอแม่สรวย สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงรายเขต 2 พบว่า มีความสัมพันธ์กันทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติท่ีระดับ .01 ทุกค่า โดยภาพรวมมีค่าความสัมพันธ์กันอยู่ในระดับสูง สำหรับ คู่ที่มีความสัมพันธก์ ันสูงสุด คอื การริเร่ิมสรา้ งสรรค์กบั ความสามารถในการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อม รองลงมา คือ การมีคุณธรรมจริยธรรมกับการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนา ทรัพยากรกับการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ตามลำดับ ส่วนคู่ที่มีความสัมพันธ์กันต่ำสุด คอื การกำหนดวิสยั ทศั นก์ บั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูง นพวรรณ บุญเจริญสุข (2560, 91-93) ได้ศึกษาวิจัยเร่ืองความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำ เชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนกับประสิทธิผลของโรงเรียน จังหวัดฉะเชิงเทรา สังกัดสำนักงานเขต พ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 6 ผลวิจัยพบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนจังหวัด ฉะเชิงเทรา สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 6 โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับ มาก เรียงลำดับคะแนนเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการคาดหวังและสร้างโอกาสสำหรับ อนาคต ด้านการคิดเชิงปฏิวัติ ด้านการมีความคิดความเข้าใจระดับสูง ส่วนอันดับสุดท้าย ได้แก่ ด้าน การรวบรวมปัจจัยสู่การกำหนดกลยุทธ์ ส่วนประสิทธิผลของโรงเรียน จังหวัดฉะเชิงเทรา สังกัด สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 6 โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับ คะแนนเฉล่ียจากมากไปหาน้อยได้แก่ ด้านความสามารถในการพัฒนานักเรียนให้มีเจตคติทางบวก ดา้ นความสามารถในการแก้ปัญหาภายในโรงเรียน ส่วนอนั ดับสดุ ท้าย ได้แก่ ด้านความสามารถในการ ปรับเปลี่ยนและพัฒนาโรงเรียน และภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนมีความสัมพันธ์ ทางบวกกับประสิทธิผลของโรงเรียน จังหวัดฉะเชิงเทรา สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 45 มธั ยมศึกษา เขต 6 โดยรวมมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับสูง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติท่ีระดับ .01 และเม่ือพิจารณารายดา้ น พบวา่ ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียน ด้านการรวบรวมปัจจัยสู่ การกำหนดกลยุทธ์ ด้านการกำหนดวิสัยทัศน์ และด้านการมีความคิดความเข้าใจระดับสูงมี ความสัมพันธก์ ับประสิทธิผลของโรงเรียนในระดับสงู อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ภาวะผู้นำ เชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียน ด้านการคิดเชิงปฏิวัติมีความสัมพันธ์กับประสิทธิผลของโรงเรียนใน ระดับปานกลาง อยา่ งมีนยั สำคัญทางสถิตทิ ่ีระดบั .01 และภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรยี น ด้านการคาดหวังและสร้างโอกาสสำหรับอนาคตมีความสัมพันธ์กับประสิทธิผลของโรงเรียนในระดับ ต่ำอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตทิ ่ีระดบั .01 วันวิสาข์ ทองติง (2555, 86-89) ได้ศึกษาวิจัยเร่ืองความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงกล ยุทธ์ของผู้บริหารกับประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา ขอนแก่น เขต 5 ผลวิจัยพบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เม่ือ พจิ ารณารายดา้ นพบว่า ด้านท่ีมคี ่าเฉล่ยี สูงสุด คือ ด้านที่ 5 การกำหนดวสิ ัยทัศน์ รองลงมาคือ ดา้ นท่ี 2 ความสามารถในการนำปัจจัยนำเข้าต่างๆ มากำหนดกลยุทธ์ ส่วนด้านท่ีมีค่าเฉล่ียต่ำสุด คือ ด้านท่ี 4 การมีวิธีการคิดเชิงปฏิวัติ 2) ประสิทธิผลของโรงเรียนโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณา รายด้าน พบว่า ด้านท่ีมีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านท่ี 2 ความสามารถในการพัฒนานักเรียนให้มีเจตคติ ทางบวก รองลงมาคือ ด้านท่ี 4 ความสามารถในการแก้ปัญหาภายในโรงเรียน ส่วนด้านที่ค่าเฉล่ีย ตำ่ สุด คือ ด้านท่ี 1 ความสามารถในการผลิตนักเรียนให้มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูง ภาวะผนู้ ำเชิงกล ยุทธ์ของผู้บริหารโดยภาพรวม มคี วามสัมพนั ธ์ทางบวกกับประสทิ ธผิ ลของโรงเรียนโดยภาพรวม อย่ใู น ระดับสูง อย่างมนี ัยสำคัญทางสถติ ิทร่ี ะดับ .01 เมอื่ พจิ ารณาเป็นรายด้านของประสิทธผิ ลของโรงเรยี น ทม่ี คี วามสัมพันธท์ างบวกกบั ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บรหิ ารสงู ที่สุด 3 ลำดับ คือ ดา้ นความสามารถ ในการผลิตนกั เรียนให้มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสงู รองลงมาคือ ดา้ นความสามารถในการปรับเปล่ียน และพัฒนาโรงเรียน และด้านความสามารถในการพัฒนานักเรียนให้มีเจตคติทางบวก ตามลำดับ อย่างมนี ยั สำคญั ทางสถติ ิท่ีระดบั .01 เพ็ญประภา สาริภา (2556, 91-94) ได้ศกึ ษาวิจยั เรอื่ งความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงกล ยทุ ธ์ของผู้บรหิ ารโรงเรยี นกบั ประสิทธิผลของโรงเรยี น สังกัดสำนกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 ผลวิจัยพบว่า ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีความคิดเห็นเก่ียวกับภาวะผู้นำ เชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ทุกด้าน อยู่ในระดับมาก ด้านกำหนดวิสัยทัศน์มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ ด้านการมีความคิดความเข้าใจ ระดับสูง และด้านการคิดเชิงปฏิวัติ มีค่าเฉลี่ยรองลงมา ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการ คาดหวังและสร้างโอกาสสำหรับอนาคต ส่วนประสิทธิผลของโรงเรียน ข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา มีความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิผลของโรงเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เม่ือ พิจารณารายด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก ด้านความสามารถในการปรับเปลี่ยนต่อสภาวะ แวดล้อมที่มากระทบทั้งภายในและภายนอกมีค่าเฉล่ียสูงสุด รองลงมาคือด้านความพึงพอใจในการ ทำงานของครู และด้านความสามารถในการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมีค่าเฉล่ียต่ำสุด และภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนกับประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ี การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 มีความสัมพันธ์กนั ในระดับสูง (r = 0.870) อย่างมนี ัยสำคัญทางสถิติท่ี

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 46 ระดับ .01 เม่ือพิจารณารายด้านของภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนกับประสิทธิผลของ โรงเรียน พบว่า มีความสัมพันธ์กันในระดับสูง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีค่า สมั ประสิทธ์สิ หสัมพนั ธ์ (r) อยใู่ นชว่ ง 0.632 - 0.829 โดยคทู่ ม่ี ีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (r) สงู สุด คือ ด้านการรวบรวมปัจจัยสู่การกำหนดกลยุทธ์กับด้านความสามารถในการจัดสรรทรัพยากรอย่างมี ประสิทธภิ าพ โดยมีคา่ สัมประสิทธ์ิสหสมั พันธ์ (r) = 0.829 รองลงมาคือ ดา้ นการกำหนดวิสัยทัศน์กับ ด้านความสามารถในการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (r)= 0.818 และด้านการคาดหวังและสร้างโอกาสสำหรับอนาคตกับด้านความสามารถในการจัดสรร ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีค่าสัมประสิทธ์ิสหสัมพันธ์ (r) = 0.801 มีความสัมพันธ์กัน รองลงมา ส่วนคู่ท่ีมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์(r) ต่ำสุด คือ ด้านการคิดเชิงปฏิวัติกับด้านความพึง พอใจในการทำงานของครู โดยมคี า่ สมั ประสิทธิส์ หสัมพนั ธ์ (r) = 0.632 นันท์นภัส สุทธิการ (2562, 90-92) ได้ศึกษาภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารที่ส่งผลต่อ ประสิทธิผลของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 11 จังหวัดสุราษฎร์ ธานี ผลวิจัยพบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 11 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ภาวะผนู้ ำเชิงกลยุทธ์ของผู้บรหิ ารโรงเรยี นอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยดา้ นการกำหนดทิศทาง ขององค์กร มีค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด รองลงมา ด้านการจูงใจและพัฒนาบุคลากร ด้านการสร้างและธำรง รักษาทีม และ ด้านมุ่งเน้นการปฏิบัติอย่างมีคุณธรรม ตามลำดับ ประสิทธิผลของโรงเรียนในสังกัด สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 11 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประสิทธิผลของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยม เขต 11 จังหวดั สุราษฎร์ธานี อยู่ในระดับมากทุกด้าน ดา้ นความสามารถในการพฒั นานักเรียนให้มีเจต คติทางบวก มีค่าเฉล่ียมากที่สุด รองลงมา ด้านความสามารถในการผลิตนักเรียนให้มีผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนสูง ด้านความสามารถในการแก้ปัญหาภายในโรงเรียน และด้านความสามารถในการ ปรับเปลี่ยนและพัฒนาโรงเรียน ตามลำดับ ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนท่ีส่งผลต่อ ประสิทธิผลของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 11 จังหวัดสุราษฎร์ ธานี พบว่า ตัวทำนาย (การกำหนดทิศทางขององค์กร, การสร้างและธำรงรักษาทีม, การจูงใจและ พัฒนาบุคลากร, มุ่งเน้นการปฏิบัติอย่างมีคุณธรรม) มีความสัมพันธ์ทางบวกกับประสิทธิผลของ โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 11 จังหวัดสุราษฎร์ธานีอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยการจูงใจและพัฒนาบุคลากรมีความสัมพันธ์กับประสิทธิผลของ โรงเรียนมากท่ีสุด รองลงมา การกำหนดทิศทางขององค์กร การสร้างและธำรงรักษาทีม และมุ่งเน้น การปฏิบัติอย่างมีคุณธรรม โดยมีค่าสัมประสิทธ์ิสหสัมพันธ์ (r) เท่ากับ 0.828, 0.741, 0.729 และ 0.709 ตามลำดับ เม่ือวิเคราะห์การการถดถอยพหุคุณแบบขั้นตอน (Stepwise) มีตัวแปรทำนาย 4 ตัว ได้แก่ การกำหนดทิศทางขององค์กร การสร้างและธำรงรักษาทีม การจูงใจและพัฒนาบุคลากร และมุ่งเน้นการปฏิบัติอย่างมีคุณธรรม มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขต พื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 11 จังหวดั สุราษฎร์ธานี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติท่รี ะดับ 0.05 และ มปี ระสิทธภิ าพของการพยากรณ์ประสทิ ธิผลของโรงเรียนได้ร้อยละ 76.2

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 47 เหมือนฝัน นันทิยกุล (2562, 159-160) ได้ศึกษาวิจัยเรื่องภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหาร โรงเรียนท่ีส่งผลต่อการบริหารโรงเรียนเอกชนสู่ความเป็นเลิศในจังหวัดนครปฐม ผลวิจัยพบว่า ภาวะ ผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนโรงเรียนเอกชนในจังหวัดนครปฐม โดยภาพรวมมีค่าเฉล่ียอยู่ใน ระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนมีค่าเฉล่ีย อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยความคดิ เชงิ ปฏิวัติ และการกำหนดวสิ ัยทัศน์อยู่ในลำดับสูงทสี่ ดุ รองลงมา ได้แก่ ความคาดหวังและสร้างโอกาสสำหรับอนาคต องค์ประกอบมุ่งคนและมุ่งสัมพันธ์ ทักษะด้าน ความคิดระดับสงู และความสามารถในการนำปัจจยั มากาหนดกลยุทธ์ ตามลำดบั การบริหารโรงเรียน เอกชนสู่ความเป็นเลิศในจังหวัดนครปฐม โดยภาพรวมมีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณา เปน็ รายด้านพบว่า การบรหิ ารโรงเรียนเอกชนส่คู วามเปน็ เลิศในจังหวดั นครปฐมมีคา่ เฉลยี่ อยู่ในระดับ มากทุกด้าน โดยภาวะผู้นามีค่าเฉล่ีย อยู่ในลาดับสูงที่สุด รองลงมา ได้แก่ ประสิทธิผลโรงเรียน นวัตกรรมการบริหาร และสมรรถนะผู้บริหาร ตามลำดับ ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียน ประกอบด้วย การกำหนดวิสัยทัศน์ ความคาดหวังและสร้างโอกาสสำหรับอนาคต ความคิดเชิงปฏิวัติ องค์ประกอบมุ่งคนและมุ่งสัมพันธ์ และทักษะด้านความคิดระดับสูง เป็นตัวแปรที่ได้รับเลือกเข้า สมการถดถอย และสามารถอภิปรายความผันแปรของการบริหารโรงเรียนเอกชนสู่ความเป็นเลิศใน จังหวัดนครปฐมได้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีค่าสัมประสิทธ์ิในการทำนาย เท่ากับ 0.927 ซึ่งแสดงว่าการกำหนดวิสัยทัศน์ ความคาดหวังและสร้างโอกาสสำหรับอนาคต ความคิดเชิง ปฏิวัติ องค์ประกอบมุ่งคนและมุ่งสัมพันธ์ และทักษะด้านความคิดระดับสูงส่งผลต่อการบริหาร โรงเรียนเอกชนสู่ความเป็นเลิศในจังหวัดนครปฐม และสามารถทำนายการบริหารโรงเรียนเอกชนสู่ ความเปน็ เลศิ ไดร้ อ้ ยละ 92.70 มัทนิตา คงช่วย (2563, 100-102) ได้ศึกษาวิจัยเร่ืองภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ที่ส่งผลต่อ ประสิทธิผลของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดส ำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 3 ผลวิจัยพบว่า ภาวะผู้นาเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาสังกัด สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3 โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับ มาก เรียงลำดับค่าเฉล่ียจากมากไปน้อย ได้แก่ ด้านการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ ด้านการควบคุมและการ ประเมินกลยุทธ์ และด้านการกำหนดทิศทางขององค์กร ประสิทธิผลของโรงเรียนประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3 พบว่า โดยรวมและรายด้านอยู่ใน ระดับมาก เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ได้แก่ ด้านความสามารถในการพัฒนานักเรียนให้มี ทัศนคติทางบวก ด้านความพึงพอใจในงานด้านความสามารถในการแก้ปัญหาภายในโรงเรียน ด้าน ความสามารถในการปรับเปลี่ยนและพัฒนาโรงเรียน และความสามารถในการผลิตนักเรียนให้มี ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูง ผลการวิเคราะห์ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ท่ีส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียน ประถมศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3 จากการหาค่า สัมประสิทธิ์การถดถอยของตัวพยากรณ์ พบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ ดา้ นการควบคุมและประเมินกล ยุทธ์และด้านการกำหนดทศิ ทางขององค์กร ส่งผลตอ่ ประสิทธผิ ลของโรงเรียนประถมศึกษาสานักงาน เขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3 ตามลำดับ สามารถร่วมกันพยากรณ์ ประสิทธิผล ของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 3 ได้รอ้ ยละ 68 (r2=0.68) อยา่ งมีนยั สำคัญทางสถิติทีร่ ะดับ .05

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 48 2. งานวจิ ยั ต่างประเทศ แมกกอน (Makgone, 2012, iv) ได้ศึกษาวิจัยเร่ืองการประเมินภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ใน โรงเรียนท่ถี ูกเลือกที่การดำเนนิ งานวิชาการที่มปี ระสิทธิภาพ ที่สอบถามจากทัศนะของครู จำนวน 46 คน ผลวิจยั พบวา่ โรงเรียน จำนวน 2 แห่ง ในภูมิภาคโอมาฮกี ี (Omaheke) มปี ระสิทธิภาพต่ำ และมี เพียงผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 2 คนท่ีมีภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ในระดับต่ำจากผู้บริหารโรงเรียนส่วน ใหญ่ท่ีมีภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ในระดับสูง ดังนั้นภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนไม่ได้มี เกยี่ วขอ้ งในการจดั การเรยี นการสอน ท่สี ่งผลให้ผลการเรยี นตกต่ำ แรมเบิร์ก ลาฟท์แมน และอัมควิสท์ (Ramberg, Laftman, & Almquist, 2019, 55) ได้ ศึกษาประสิทธิผลของโรงเรียนและการเอาใจใส่ของครูตามการรับรู้ของนักเรียน โดยกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนในโรงเรียนเมืองสต็อกโฮล์ม จำนวน 150 แห่ง ผลวิจัยพบว่า ภาวะผู้นำทางการศึกษา การร่วมมือและฉันทามติของครู และจรรยาบรรณของโรงเรียน สามรายด้านของประสิทธิผลของ โรงเรียนเหล่านี้ถกู นำมาหาความสัมพันธก์ ับการเอาใจใส่ของครูตามการรับรู้ของนกั เรยี น และจากการ วเิ คราะห์การถดถอยพหุคณู พบวา่ ประสทิ ธผิ ลของโรงเรยี นสามารถพยากรณ์การเอาใจใสข่ องครูตาม การรับรู้ของนักเรียนที่สูงข้ึนได้ ซ่ึงผลวิจัยช้ีให้เห็นว่ารากฐานท่ีสำคัญของประสิทธิผลของโรงเรียนคือ การสง่ เสรมิ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งครแู ละนักเรียน เอย์ดิน กูซลู และพิซาเพีย (Aydin, Güçlü, & Pisapia, 2014, 1) ได้ศึกษาความสัมพันธ์ ระหว่างภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนกับองค์กรแห่งการเรียนรู้ระดับประถมศึกษา ประเทศตุรกี โดยกลมุ่ ตัวอยา่ งคือ ครู จำนวน 606 คน จากการสุ่มแบ่งชัน้ จากโรงเรียนรัฐ จำนวน 24 แห่ง และโรงเรียนเอกชน 6 แห่งในเมืองอิสทันบูล ผลวิจัยพบว่า ทั้งในโรงเรียนของรัฐและเอกชน ผ้บู รหิ ารโรงเรียนมพี ฤติกรรมด้านจริยธรรมมากทีส่ ุด ผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นยังว่าภาวะผู้นำเชิงกล ยุทธ์มีความสัมพันธ์กับองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญ และการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมของ ผู้นำด้านการเมืองและด้านจริยธรรมเป็นตัวทำนายที่สำคัญขององค์กรแห่งการเรียนรู้ แต่ไม่พบว่า พฤติกรรมด้านการดำเนินการจดั การเปน็ ตัวทำนายท่ีสำคัญขององค์กรแห่งการเรียนรู้อยา่ งมีนยั สำคญั

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงบทท่ี 3 วิธีดำเนินการวิจยั การวิจัยในครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา ศึกษาภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหาร สถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียนสังกัดสำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ซง่ึ ผวู้ จิ ยั ไดด้ ำเนินการตามขั้นตอนดงั นี้ 1. ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง 2. ตวั แปรที่ศึกษา 3. เครอื่ งมือท่ีใชใ้ นการวิจัย 4. การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 5. การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติทีใ่ ชใ้ นการวจิ ัย ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง ประชากร ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครู สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 จำนวน 2,684 คน จำแนกเป็น ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 175 คน และครู จำนวน 2,509 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครู สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 จำนวน 338 คน ได้จากการเปิดตารางขนาดกลุ่มตัวอย่างของ เครจซ่ี และ มอร์แกน (Krejcie & Morgan, 1970, 607-610) จากน้ันผู้วิจัยทำการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น ตามสัดส่วน (stratified random sampling) โดยใช้ขนาดโรงเรียนเป็นช้ัน ประกอบด้วย ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ และขนาดใหญพ่ ิเศษ ได้กลุ่มตัวอย่างเปน็ ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา จำนวน 22 คน และครู จำนวน 316 คน เพื่อให้ได้ผู้ตอบแบบสอบถาม ผู้วิจัยทำการสุ่มอย่างง่ายด้วยวิธีการจับฉลาก ดังตารางท่ี 1 ตารางที่ 2 ประชากรและกลุ่มตัวอยา่ ง ที่ ขนาดโรงเรียน ประชากร รวม กลมุ่ ตวั อยา่ ง รวม ผู้บริหาร ครู ผู้บริหาร ครู สถานศกึ ษา 110 151 สถานศึกษา 883 12 98 19 1,200 8 143 58 1 ขนาดเลก็ 102 781 144 1 18 338 457 1 57 2 ขนาดกลาง 67 1,133 2,684 22 316 3 ขนาดใหญ่ 3 141 4 ขนาดใหญ่พเิ ศษ 3 454 รวม 175 2,509

50 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงตัวแปรที่ศึกษา 1. ตวั แปรต้น คือ ภาวะผูน้ ำเชิงกลยทุ ธ์ ประกอบดว้ ย 1. การมคี วามคิดความเขา้ ใจระดับสูง 2. การรวบรวมปัจจยั สกู่ ารกำหนดกลยทุ ธ์ 3. การคาดหวงั และสร้างโอกาสสำหรับอนาคต 4. การคดิ เชิงปฏวิ ัติ 5. การกำหนดวิสยั ทศั น์ 2. ตวั แปรตาม คือ ประสทิ ธิผลของโรงเรยี น ประกอบดว้ ย 1. ความสามารถในการผลิตนักเรียนให้มผี ลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนเพิ่มขน้ึ 2. ความสามารถในการพัฒนานักเรยี นให้มเี จตคติทางบวก 3. ความสามารถในการปรบั เปล่ียนและพฒั นาโรงเรยี นใหเ้ ข้ากบั สิง่ แวดล้อม 4. ความสามารถในการแกป้ ัญหาภายในโรงเรยี น เครอื่ งมือท่ีใช้ในการวจิ ยั 1. เครื่องมือทใี่ ชใ้ นการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคร้ังนี้เป็นแบบสอบถามภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา กับประสิทธิผลของโรงเรยี น สังกัดสำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 1 ซึง่ ผู้วิจัยได้ ศกึ ษารายละเอียดเกยี่ วกับแนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยที่เกย่ี วข้อง นำมาสร้างแบบสอบถามให้สอดคล้องกับ วตั ถุประสงคข์ องการศึกษา โดยแบง่ เน้ือหาของแบบสอบถามออกเปน็ 3 ตอนดงั ต่อไปนี้ ตอนที่ 1 เป็นแบบสอบถามเก่ียวกับข้อมูลท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถามมีลักษณะเป็นแบบ ตรวจสอบรายการ (check list) ประกอบด้วย เพศ อายุ ประสบการณ์ในการทำงาน ระดับการศึกษา ตำแหน่งปฏิบัติงาน และขนาดโรงเรียน ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ตามแนวคิด ดูบริน (DuBrin, 2010, 382-387) จำนวน 5 ด้าน มีข้อคำถาม ทัง้ สน้ิ จำนวน 25 ข้อ ดงั น้ี 1. การมคี วามคิดความเขา้ ใจระดับสงู จำนวน 5 ข้อ 2. การรวบรวมปัจจัยสู่การกำหนดกลยุทธ์ จำนวน 5 ข้อ 3. การคาดหวงั และสร้างโอกาสสำหรับอนาคต จำนวน 5 ขอ้ 4. ด้านการคดิ เชิงปฏวิ ัติ จำนวน 5 ข้อ 5. ดา้ นการกำหนดวสิ ยั ทศั น์ จำนวน 5 ขอ้ ตอนท่ี 3 เป็นแบบสอบถามเก่ียวกับประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ตามแนวคิดทฤษฎีของ มอทท์ (Mott cited in Hoy & Miskel, 2013, 319- 320) ซึ่งแบง่ ออกเปน็ 4 ดา้ น มีข้อคำถามทัง้ ส้ินจำนวน 20 ข้อ ดังน้ี

51 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง1. ความสามารถในการผลิตนักเรียนใหม้ ีผลสมั ฤทธ์ิจำนวน 5 ขอ้ ทางการเรยี นเพมิ่ ขึน้ 2. ความสามารถในการพัฒนานักเรยี นใหม้ เี จตคติทางบวก จำนวน 5 ขอ้ 3. ความสามารถในการปรบั เปล่ียนและพฒั นาโรงเรยี น จำนวน 5 ข้อ ให้เข้ากบั สิ่งแวดล้อม 4. ความสามารถในการแก้ปญั หาภายในโรงเรยี น จำนวน 5 ข้อ ลักษณะแบบสอบถามในตอนท่ี 2 และตอนท่ี 3 เป็นแบบสอบถามแบบมาตรประมาณคา่ 5 ระดบั ตามแนวคดิ ของ ลเิ คิร์ท (Likert, 1932, 15-17) โดยผวู้ จิ ยั กำหนดค่าคะแนนของชว่ งน้ำหนกั เปน็ 5 ระดับ มคี วามหมายดังนี้ ระดบั 5 หมายถึง ภาวะผู้นำเชิงกลยทุ ธ์/ประสิทธิผลของโรงเรยี น อยู่ในระดับมากทีส่ ดุ ให้มคี า่ น้ำหนักเท่ากับ 5 คะแนน ระดบั 4 หมายถึง ภาวะผู้นำเชิงกลยทุ ธ์/ประสทิ ธิผลของโรงเรยี น อย่ใู นระดบั มาก ให้มี ค่านำ้ หนัก เท่ากับ 4 คะแนน ระดับ 3 หมายถงึ ภาวะผู้นำเชงิ กลยทุ ธ์/ประสทิ ธิผลของโรงเรยี น อยใู่ นระดับปานกลาง ใหม้ คี า่ น้ำหนัก เท่ากับ 3 คะแนน ระดับ 2 หมายถงึ ภาวะผนู้ ำเชงิ กลยทุ ธ์/ประสทิ ธิผลของโรงเรยี น อยู่ในระดบั น้อย ให้มี คา่ น้ำหนกั เท่ากบั 2 คะแนน ระดบั 1 หมายถึง ภาวะผนู้ ำเชิงกลยทุ ธ์/ประสิทธิผลของโรงเรียน อยใู่ นระดบั น้อยท่สี ุด ให้มคี ่าน้ำหนัก เท่ากับ 1 คะแนน 2. การสรา้ งเครื่องมือวจิ ยั ผวู้ ิจยั ไดด้ ำเนนิ การสรา้ งเครอ่ื งมือสำหรบั การวจิ ัย โดยมีข้ันตอนการดำเนินงานดงั นี้ 1. ศึกษาแนวคิดทฤษฎีเก่ียวกับภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์และประสิทธิผลของโรงเรียนจากหนังสือ เอกสาร และงานวจิ ยั ทเี่ ก่ียวข้อง 2. นำข้อมูลที่ได้จากการศึกษามาประมวล เพ่ือมากำหนดเป็นโครงสร้างเครื่องมือโดยขอ คำแนะนำจากอาจารย์ท่ีปรกึ ษาวทิ ยานพิ นธ์ 3. สร้างแบบสอบถามโดยให้ครอบคลุมเนื้อหาแล้วเสนอต่ออาจารย์ท่ีปรึกษาตรวจสอบ เพอ่ื ใหข้ ้อเสนอแนะนำมาปรับปรุง 4. นำแบบสอบถามเสนอผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 คน เพื่อตรวจสอบความเท่ียงตรงของเน้ือหา (content validity) แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องเพ่ือความสมบูรณแ์ ละถูกต้องของเนื้อหาโดย ให้เทคนิค IOC (index of item objective congruence) โดยคัดเลือกเฉพาะข้อท่ีมีค่า 0.67 ขึ้นไป ซง่ึ ได้ค่า IOC ของแบบสอบถามเทา่ กับ 1.00 ทุกขอ้ 5. นำแบบสอบถามท่ีปรับปรุงแก้ไขแล้วไปทดลองใช้ (try out) กับผู้บริหารสถานศึกษาและ ครูท่ีไม่ใช่กล่มุ ตวั อยา่ ง จำนวน 30 คน 6. นำแบบสอบถามท่ีได้รับคืนมาคำนวณหาค่าความเชื่อมั่น (reliability) โดยใช้สมั ประสิทธ์ิแอลฟา (-coefficient) ตามวิธีการของครอนบาค (Cronbach, 1970, 161) โดยมีค่าความเช่ือม่ันของแบบสอบถาม ตอนท่ี 2 เทา่ กับ .95 ตอนท่ี 3 เทา่ กบั .84 และท้ังฉบับ เท่ากบั .92

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 52 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เพ่ือให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างถูกต้องและเป็นระบบ ผู้วิจัยดำเนินตาม ขน้ั ตอนดงั น้ี 1. ผู้ วิจั ยทำหนั งสื อถึ งคณบดี บั ณฑิ ตวิทยาลั ยมหาวิทยาลั ยราชภั ฏหมู่ บ้ านจอมบึ ง เพ่ือทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ไปยังผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ประถมศกึ ษาราชบุรี เขต1 เพ่ือขออนญุ าตทำแบบสอบถามขา้ ราชครูที่เป็นกลุ่มตวั อย่างในการวิจัยครัง้ น้ี 2. ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วจิ ัยดำเนินการเก็บข้อมูลและติดตามรวบรวมแบบสอบถามคืนจาก โรงเรียนตา่ ง ๆ ด้วยตนเอง การวิเคราะหข์ อ้ มูลและสถติ ิที่ใช้ในการวิจัย 1. การวิเคราะห์ข้อมลู ในการวิจัยคร้ังนี้ มีหน่วยวิเคราะห์ (unit of analysis) เป็นผู้บริหารสถานศึกษาและครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 โดยผู้วิจัยนำแบบสอบถามท่ีได้รับ กลับคืนมาจดั กระทำข้อมูลโดยมีขน้ั ตอนดงั น้ี 1. ตรวจสอบความสมบรู ณข์ องข้อมูลที่ได้รบั คนื มา 2. จดั ระบบขอ้ มลู ตรวจรวบรวมคะแนนแบบสอบถามที่สมบรู ณ์ 3. นำขอ้ มูลไปคำนวณหาค่าสถิติ โดยใชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รูป 2. สถิตทิ ี่ใช้ในการวจิ ัย เพ่ือให้การวิเคราะห์ข้อมูลตรงตามวัตถุประสงค์การวิจัย ผู้วิจัยได้ใช้สถิติในการวิเคราะห์ ขอ้ มลู ดงั น้ี 1. วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม ซ่ึงถามรายละเอียดเก่ียวกับ เพศ อายุ ประสบการณ์ในการทำงาน ระดับการศึกษา และตำแหน่งปฏิบัติงาน ใช้การแจกแจงความถ่ี (Frequency) และคา่ รอ้ ยละ (Percentage) 2. การวิเคราะห์ระดับภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์และประสิทธิผลของโรงเรียนใช้ค่าเฉล่ีย (X) และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สำหรับแบบสอบถามตอนท่ี 2 และ ตอนท่ี 3 ไดน้ ำค่าเฉลี่ยของน้ำหนัก ทไ่ี ดม้ าเทียบเคียงกับเกณฑ์ดงั นี้ (บญุ ชม ศรสี ะอาด, 2554, 121) ค่าเฉล่ีย 4.51-5.00 หมายถึง ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์/ประสิทธิผลของโรงเรียน อยใู่ นระดับมากทสี่ ดุ ค่าเฉล่ีย 3.51-4.50 หมายถึง ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์/ประสิทธิผลของโรงเรียน อยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ีย 2.51-3.50 หมายถึง ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์/ประสิทธิผลของโรงเรียน อยใู่ นระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ย 1.51-2.50 หมายถึง ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์/ประสิทธิผลของโรงเรียน อยูใ่ นระดบั นอ้ ย

53 ค่าเฉลี่ย 1.00-1.50 หมายถึง ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์/ประสิทธิผลของโรงเรียน อยู่ในระดับ นอ้ ยที่สุด 3. การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ใช้การวิเคราะห์ค่าสหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson’s product moment correlation coefficient) เพื่อวิเคราะหห์ าความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของ ผ้บู รหิ ารสถานศึกษากบั ประสิทธผิ ลของโรงเรียน เกณฑ์ในการพิจารณาความสัมพันธ์ ค่าสัมประสิทธ์ิสหสัมพันธ์ (r) ตามแนวคิดของ บาร์ทซ์ (Bartz, 1999, 184) ดงั น้ี ± 0.81 ถงึ ±1.00 หมายถึง มคี วามสัมพนั ธร์ ะดบั สงู มาก ± 0.61 ถึง ±0.80 หมายถงึ มีความสัมพนั ธร์ ะดบั สูง ± 0.41 ถึง ±0.60 หมายถงึ มคี วามสมั พนั ธร์ ะดบั ปานกลาง ± 0.21 ถงึ ±0.40 หมายถงึ มคี วามสัมพันธร์ ะดับตำ่ ± 0.00 ถึง ±0.20 หมายถึง มีความสัมพนั ธร์ ะดบั ต่ำมาก มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงบทที่ 4 ผลการวิเคราะหข์ ้อมูล ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยศึกษาเรื่องภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษากับ ประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 มี วัตถุประสงค์เพ่ือ 1) ศึกษาภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา 2) ศึกษาประสิทธิผลของ โรงเรียน และ 3) ศึกษาภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรีย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ผู้วิจัยนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล ตามลำดับ ดงั นี้ 1. สญั ลกั ษณท์ ่ใี ชใ้ นการวเิ คราะห์ขอ้ มลู 2. การวิเคราะหข์ อ้ มลู 3. ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล สญั ลกั ษณท์ ใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ในการเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัย และเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ผู้วิจัยจึงได้ กำหนดสญั ลักษณม์ าใชใ้ นการวิเคราะหข์ อ้ มูล ดังนี้ n แทน จำนวนกลุ่มตวั อย่าง X̅ แทน ค่าเฉลีย่ S.D. แทน สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน r แทน คา่ สัมประสทิ ธิ์สหสัมพนั ธ์แบบเพยี รส์ ัน Xtot แทน ภาวะผนู้ ำเชิงกลยุทธ์ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา X1 แทน การมคี วามคิดความเข้าใจระดับสูง X2 แทน การรวบรวมปัจจยั ส่กู ารกำหนดกลยทุ ธ์ X3 แทน การคาดหวังและสร้างโอกาสสำหรับอนาคต X4 แทน การคดิ เชิงปฏิวตั ิ X5 แทน การกำหนดวสิ ัยทัศน์ Ytot แทน ประสิทธิผลของโรงเรยี น Y1 แทน ความสามารถในการผลติ นกั เรียนให้มีผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นเพิ่มขนึ้ Y2 แทน ความสามารถในการพฒั นานักเรียนใหม้ ีเจตคติทางบวก Y3 แทน ความสามารถในการปรบั เปล่ยี นและพฒั นาโรงเรียนใหเ้ ข้ากบั สิ่งแวดลอ้ ม Y4 แทน ความสามารถในการแก้ปัญหาภายในโรงเรียน ** แทน มคี วามสมั พนั ธ์อยา่ งมีนัยสำคญั ทางสถติ ทิ ร่ี ะดับ .01 * แทน มคี วามสัมพนั ธอ์ ย่างมนี ัยสำคญั ทางสถิติทร่ี ะดบั .05

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 55 การวเิ คราะห์ข้อมลู เพ่ือให้การวิเคราะห์ข้อมูลตรงตามข้อมูลวัตถุประสงค์การวิจัย ในการวิจัยคร้ังน้ีได้ใช้สถิติใน การวิเคราะห์ข้อมูล ดังนี้ 1. การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม ซึ่งถามรายละเอียด เกยี่ วกับ เพศ อายุ ประสบการณ์ในการทำงาน ระดับการศึกษา ตำแหน่งปฏิบตั ิงาน และขนาดโรงเรยี น ใช้ การแจกแจงความถี่ (frequency) และค่ารอ้ ยละ (percentage) 2. การวิเคราะห์ระดับภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์และประสิทธิผลของโรงเรียนใช้ค่าเฉลี่ย (X̅) และ ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน (S.D.) 3. การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์กับประสิทธิผลของโรงเรียน ใช้การ วิเคราะห์ค่าประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson’s product moment correlation coefficient) ทดสอบทีร่ ะดบั นัยสำคัญทางสถติ ิที่ระดบั .01 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และตอบสมมติฐานของการวิจัยครั้งน้ี ผู้วิจัยได้นำข้อมูลท่ีได้ จากการตอบแบบสอบถามของผู้ให้ข้อมูลคือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ปีการศึกษา 2563 ท่ีเป็นกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 338 คน ซ่ึง ได้รับแบบสอบถามกลับคืนมา 338 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 100 นำมาวิเคราะห์และเสนอผลการ วเิ คราะห์โดยใชต้ ารางประกอบคำบรรยาย จำแนกเปน็ 4 ตอนคอื ตอนท่ี 1 สถานภาพของผูต้ อบแบบสอบถาม ตอนท่ี 2 ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ประถมศกึ ษาราชบุรี เขต 1 ตอนที่ 3 ประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ตอนที่ 4 ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัด สำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาราชบรุ ี เขต 1 ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม สถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม ซึ่งได้จากการตอบแบบสอบถามของผู้บริหารสถานศึกษา และครู สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ปีการศึกษา 2563 ท่ีเป็นกลุ่ม ตัวอย่างจำนวน 338 คน แยกพิจารณาตาม เพศ อายุ ประสบการณ์ในการทำงาน ระดับการศึกษา ตำแหนง่ ปฏิบัตงิ าน และขนาดโรงเรียน ดงั รายละเอียดในตารางที่ 3

56 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงตารางท่ี 3 สถานภาพของผูต้ อบแบบสอบถาม จำนวน(คน) (n=338) รอ้ ยละ ลำดับ ขอ้ ที่ สถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม 60 1 เพศ 278 17.75 2 338 82.25 1 1. ชาย 100.00 2. หญิง 108 174 31.95 2 รวม 46 51.48 1 2 อายุ 10 13.61 3 338 2.96 4 1. น้อยกว่า 30 ปี 100.00 2. 31-40 ปี 126 3. 41-50 ปี 138 37.28 2 4. มากกวา่ 50 ปี 44 40.83 1 30 13.02 3 รวม 338 8.88 4 3 ประสบการณ์ในการทำงาน 100.00 267 1. นอ้ ยกว่า 5 ปี 71 78.99 1 2. 5-10 ปี 0 21.01 2 3. 11-15 ปี 338 3 4. มากกวา่ 15 ปี 0 22 100.00 รวม 316 4 ระดับการศกึ ษา 338 6.51 1 93.49 2 1. ปริญญาตรี 110 100.00 2. ปรญิ ญาโท 151 3. ปรญิ ญาเอก 19 32.54 2 58 44.67 1 รวม 338 5.62 4 5 ตำแหน่งปฏบิ ัตงิ าน 17.17 3 100.00 1. ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา 2. ครู รวม 6 ขนาดโรงเรียน 1. ขนาดเล็ก 2. ขนาดกลาง 3. ขนาดใหญ่ 4. ขนาดใหญพ่ เิ ศษ รวม

57 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงจากตารางที่ 3 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นเพศหญิงมากที่สุด จำนวน 278 คน คิดเป็น ร้อยละ 82.25 และเป็นเพศชาย จำนวน 60 คน คิดเป็นร้อยละ 17.25 ผู้ตอบสอบถามเป็นผู้ที่มีอายุ 31-40 ปีมากที่สุด จำนวน 174 คน คิดเป็นร้อยละ 51.48 เป็นผู้มีอายุน้อยกว่า 30 ปี จำนวน 108 คน คิดเป็นร้อยละ 31.95 เป็นผู้ท่ีมีอายุ 41-50 ปี จำนวน 46 คน คิดเป็นร้อยละ 13.61 และเป็นผู้มี อายมุ ากกวา่ 50 ปี จำนวน 10 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2.96 ผตู้ อบสอบถามจบการศกึ ษาระดับปริญญาตรี มากที่สุด จำนวน 267 คน คิดเป็นร้อยละ 78.99 และจบการศึกษาระดับปริญญาโท จำนวน 71 คน คิดเป็นร้อยละ 21.01 ผู้ตอบแบบสอบถามมีประสบการณ์ในการทำงาน 5-10 ปีมากท่ีสุด จำนวน 138 คน คิดเป็นร้อยละ 40.83 มีประสบการณ์ในการทำงานน้อยกว่า 5 ปี จำนวน 126 คน คิดเป็น ร้อยละ 37.28 มีประสบการณ์ในการทำงาน 11-15 ปี จำนวน 44 คน คิดเป็นร้อยละ 13.02 และมี ประสบการณ์ในการทำงานมากกว่า 15 ปี จำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 8.88 ผู้ตอบแบบสอบถาม ปฏิบัติงานในตำแหน่งครูมากท่ีสุด จำนวน 316 คน คิดเป็นร้อยละ 93.49 และผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 6.51 และผู้ตอบแบบสอบถามปฏิบัติงานในสถานศึกษาขนาดกลาง มากที่สุด จำนวน 151 คน คิดเป็นร้อยละ 44.67 ขนาดเล็ก จำนวน 110 คน คิดเป็นร้อยละ 32.54 ขนาดใหญ่พเิ ศษ จำนวน 58 คน คิดเป็นร้อยละ 17.17 และขนาดใหญ่ จำนวน 19 คน คิดเปน็ ร้อยละ 5.62 ตอนท่ี 2 ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 1 ในการวิเคราะห์ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ี การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ผู้วิจัยวิเคราะห์โดยใช้ค่าเฉล่ีย (X̅) และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) จากกลุ่มตัวอย่าง 338 คน แล้วนำไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์ตามแนวคิดของ บุญชม ศรีสะอาด ทก่ี ำหนดไว้ ตารางที่ 4 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 โดยภาพรวม (n=338) ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา X̅ S.D. คา่ ระดับ ลำดับ 1. การมคี วามคิดความเข้าใจระดบั สูง (X1) 4.27 0.58 มาก 5 4 2. การรวบรวมปัจจยั ส่กู ารกำหนดกลยทุ ธ์ (X2) 4.29 0.53 มาก 2 3. การคาดหวงั และสรา้ งโอกาสสำหรับอนาคต (X3) 4.34 0.64 มาก 4. การคิดเชงิ ปฏิวัติ (X4) 4.36 0.68 มาก 1 5. การกำหนดวิสยั ทัศน์ (X5) 4.34 0.60 มาก 3 4.32 0.55 มาก รวม (Xtot) จากตารางท่ี 4 พบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขต พ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (X̅=4.32, S.D.=0.55) เม่ือ

58 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลำดับค่าเฉล่ียจากมากไปน้อยได้ดังนี้ การ คิดเชิงปฏิวัติ (X̅=4.36, S.D.=0.68) การคาดหวังและสร้างโอกาสสำหรับอนาคต (X̅=4.34, S.D.=0.64) การกำหนดวิสัยทัศน์ (X̅=4.34, S.D.=0.60) การรวบรวมปัจจัยสู่การกำหนดกลยุทธ์ (X̅=4.29, S.D.=0.53) และการมีความคดิ ความเข้าใจระดบั สงู (X̅=4.27, S.D.=0.58) ตารางท่ี 5 ค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ด้านการมีความคิดความเข้าใจ ระดับสูง การมีความคิดความเขา้ ใจระดับสงู X̅ S.D. คา่ ระดับ ลำดับ 4.23 0.68 มาก 5 1. ผบู้ ริหารมีความสามารถในการคิด วิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์ เพ่ือนำไปกำหนด 4.25 0.61 มาก 4 เป็นแผนปฏิบัติงาน 4.30 0.63 มาก 2 4.27 0.66 มาก 3 2. ผู้บรหิ ารมคี วามคิดเชิงระบบ สามารถ 4.31 0.67 มาก 1 บรหิ ารงานเพื่อให้บรรลุวตั ถุประสงค์ 4.27 0.58 มาก 3. ผู้บริหารมคี วามสามารถในการคิดแก้ไข ปัญหา 4. ผู้บรหิ ารนำความรู้ความเข้าใจทม่ี ีไปใช้ใน การแกป้ ัญหาอยา่ งมีวิจารณญาณ 5. ผู้บริหารสถานศึกษามที กั ษะและไหวพรบิ ในการคดิ เชงิ สร้างสรรค์ รวม จากตารางท่ี 5 พบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขต พ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ด้านการมีความคิดความเข้าใจระดับสูงอยู่ในระดับมาก (X̅=4.27, S.D.=0.58) เมื่อพิจารณาในรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ย จากมากไปน้อยได้ดังนี้ ผู้บริหารสถานศึกษามีทักษะและไหวพริบในการคิดเชิงสร้างสรรค์ (X̅=4.31, S.D.=0.67) ผู้บริหารมีความสามารถในการคิดแก้ไขปัญหา (X̅=4.30, S.D.=0.63) ผู้บริหารมีความรู้ ความเข้าใจที่มีไปใช้ในการแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ (X̅=4.27, S.D.=0.66) ผู้บริหารมีความคิด เชิงระบบ สามารถบริหารงานเพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ (X̅=4.25, S.D.=0.61) และผู้บริหารมี ความสามารถในการคิด วิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ เพ่ือนำไปกำหนดเป็นแผนปฏิบัติงาน (X̅=4.23, S.D.=0.68)

59 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงตารางท่ี 6 ค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ด้านการรวบรวมปัจจัยสู่การ กำหนดกลยทุ ธ์ (n=338) การรวบรวมปจั จัยส่กู ารกำหนดกลยุทธ์ X̅ S.D. คา่ ระดบั ลำดบั 1. ผ้บู ริหารมคี วามสามารถในการวิเคราะห์ 4.28 0.59 มาก 3 ปัจจยั ภายใน และปจั จัยภายนอก สถานศกึ ษาเพื่อเกบ็ เป็นข้อมูล 2. ผบู้ รหิ ารมีการบรหิ ารจดั การข้อมูลโดย 4.21 0.64 มาก 5 จดั เปน็ ขอ้ มลู สารสนเทศโดยใชเ้ ปน็ ฐานขอ้ มูลของโรงเรียน 3. ผู้บริหารมกี ารประเมนิ ผลและรายงานผล 4.36 0.68 มาก 1 แผนงาน และโครงการอยเู่ สมอ 4. ผบู้ รหิ ารนำขอ้ มูลสารสนเทศมาเป็น 4.35 0.61 มาก 2 แนวทางในการพัฒนางานใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ 5. ผบู้ ริหารสามารถนำขอ้ มูลทม่ี อี ยู่ไป 4.27 0.58 มาก 4 ประยกุ ตใ์ ช้ในการบรหิ ารโรงเรยี นใหเ้ กิด ประโยชน์สูงสดุ รวม 4.29 0.54 มาก จากตารางท่ี 6 พบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขต พ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ด้านการรวบรวมปัจจัยสู่การกำหนดกลยุทธ์อยู่ในระดับ มาก (X̅=4.29, S.D.=0.54) เมื่อพิจารณาในรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลำดับ ค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อยได้ดังน้ี ผู้บริหารมีการประเมินผลและรายงานผลแผนงาน และโครงการอยู่ เสมอ (X̅=4.36, S.D.=0.68) ผู้บริหารนำข้อมูลสารสนเทศมาเป็นแนวทางในการพัฒนางานให้มี ประสิทธภิ าพ (X̅=4.35, S.D.=0.61) ผู้บริหารมีความสามารถในการวิเคราะห์ปจั จยั ภายใน และปัจจัย ภายนอกสถานศึกษาเพ่ือเก็บเป็นข้อมูล (X̅=4.28, S.D.=0.59) ผู้บริหารสามารถนำข้อมูลท่ีมีอยู่ไป ประยุกต์ใช้ในการบริหารโรงเรียนให้เกดิ ประโยชนส์ งู สดุ (X̅=4.27, S.D.=0.58) และผู้บริหารมีการ บริหารจัดการข้อมูลโดยจัดเป็นข้อมูล สารสนเทศโดยใช้เป็นฐานข้อมูลของโรงเรียน (X̅=4.21, S.D.=0.64)

60 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงตารางท่ี 7 ค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ด้านการคาดหวังและสร้าง โอกาสสำหรับอนาคต (n=338) การคาดหวังและสรา้ งโอกาส X̅ S.D. คา่ ระดับ ลำดับ สำหรบั อนาคต 1. ผูบ้ ริหารมีความสามารถในการวาง 4.34 0.69 มาก 2 แผนการทำงานอย่างเปน็ ระบบเป็นขนั้ ตอน 2. ผ้บู ริหารสามารถคาดการณ์อนาคต 4.31 0.75 มาก 4 สถานการณ์และกำหนดทศิ ทางของโรงเรยี น 3. ผู้บริหารมกี ารทำงานเชิงรุกมกี ารวางแผน 4.30 0.70 มาก 5 งานล่วงหน้าอยา่ งละเอียดรอบคอบ 4. ผบู้ รหิ ารมที กั ษะและไหวพรบิ คดิ หาแนว 4.41 0.69 มาก 1 ทางแก้ไขปัญหาได้อยา่ งสร้างสรรค์ 5 ผ้บู ริหารสามารถวางแผนกลยทุ ธ์และ 4.34 0.64 มาก 3 ขับเคล่อื นกลยุทธใ์ ห้บรรลเุ ปา้ หมายของ โรงเรียน รวม 4.34 0.64 มาก จากตารางท่ี 7 พบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขต พ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ด้านการคาดหวังและสร้างโอกาสสำหรับอนาคตอยู่ใน ระดบั มาก (X̅=4.34, S.D.=0.64) เมอ่ื พจิ ารณาในรายข้อ พบวา่ อยู่ในระดับมากทกุ ขอ้ โดยเรียงลำดับ ค่าเฉล่ียจากมากไปน้อยได้ดังน้ี ผู้บริหารมีทักษะและไหวพริบ คิดหาแนวทางแก้ไขปัญหาได้อย่าง สร้างสรรค์ (X̅=4.41, S.D.=0.69) ผู้บริหารมีความสามารถในการวางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นตอน (X̅=4.34, S.D.=0.69) ผู้บริหารสามารถวางแผนกลยุทธ์และขับเคลื่อนกลยุทธ์ให้บรรลุ เป้าหมายของโรงเรียน (X̅=4.34, S.D.=0.64) ผู้บริหารสามารถคาดการณ์อนาคตสถานการณ์และ กำหนดทิศทางของโรงเรียน (X̅=4.31, S.D.=0.75) ผู้บริหารมีการทำงานเชิงรุกมีการวางแผนงาน ลว่ งหน้าอย่างละเอยี ดรอบคอบ (X̅=4.30, S.D.=0.70) ตารางที่ 8 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ดา้ นการคดิ เชิงปฏิวตั ิ (n=338) การคิดเชงิ ปฏิวัติ X̅ S.D. คา่ ระดับ ลำดบั 1. ผู้บริหารมีความสามารถในการคิดเชงิ 4.38 0.70 มาก 2 บูรณาการสามารถเชอื่ มโยงข้อมลู ตา่ ง ๆ ท่ี สัมพันธ์กันเพ่อื พฒั นาโรงเรียน

61 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงตารางที่ 8 (ต่อ) X̅ S.D. ค่าระดบั ลำดบั 4.27 0.70 มาก 5 การคิดเชิงปฏิวตั ิ 4.35 0.76 มาก 3 4.33 0.75 มาก 4 2. ผบู้ ริหารมีความคิดรเิ ริม่ สร้างสรรค์ และมี ความสามารถในการคิดแบบองค์รวม 4.46 0.74 มาก 1 3. ผบู้ รหิ ารคดิ เปล่ยี นแปลง คิดแปลกใหม่ 4.36 0.68 มาก เพื่อพฒั นาความเป็นเลิศของโรงเรียน 4. ผูบ้ รหิ ารมีการเรยี นรูป้ ระสบการณ์ใหม่ อย่างไมห่ ยุดนิง่ พฒั นาทกั ษะใหม่ๆ ภายใต้ กรอบการทำงานอยา่ งชัดเจน 5. ผบู้ ริหารมคี วามเขา้ ใจหลกั การพฒั นา โรงเรยี นแบบยัง่ ยนื รวม จากตารางท่ี 8 พบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขต พื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ด้านการคิดเชิงปฏิวัติอยู่ในระดับมาก (X̅=4.36, S.D.=0.68) เม่ือพิจารณาในรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไป น้อยไดด้ ังน้ี ผูบ้ ริหารมีความเข้าใจหลักการพัฒนาโรงเรียนแบบย่ังยืน (X̅=4.46, S.D.=0.74) ผู้บริหาร มีความสามารถในการคิดเชงิ บูรณาการสามารถเชอ่ื มโยงขอ้ มูลต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กันเพื่อพัฒนาโรงเรยี น (X̅=4.38, S.D.=0.70) ผู้บริหารคิดเปล่ียนแปลง คิดแปลกใหม่เพื่อพัฒนาความเป็นเลิศของโรงเรียน (X̅=4.35, S.D.=0.76) ผู้บริหารมีการเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่อย่างไม่หยุดนิ่ง พัฒนาทักษะใหม่ๆ ภายใต้กรอบการทำงานอยา่ งชัดเจน (X̅=4.33, S.D.=0.75) ผูบ้ ริหารมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และมี ความสามารถในการคดิ แบบองค์รวม (X̅=4.27, S.D.=0.70) ตารางท่ี 9 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สำนักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาราชบุรี เขต 1 ดา้ นการกำหนดวสิ ัยทศั น์ (n=338) การกำหนดวสิ ยั ทัศน์ X̅ S.D. คา่ ระดบั ลำดับ 1. ผู้บรหิ ารมคี วามสามารถในการแสดง 4.25 0.71 มาก 5 ศกั ยภาพของการเปน็ ผนู้ ำสูเ่ ป้าหมายแหง่ ความสำเร็จ 2. ผบู้ รหิ ารสามารถมองเห็นภาพรวมของ 4.27 0.70 มาก 4 โรงเรียน ในอนาคตทต่ี ้องการท่ีจะใหเ้ ป็นได้ อยา่ งชัดเจน

62 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงตารางที่ 9 (ต่อ)X̅S.D. ค่าระดบั ลำดับ 4.48 0.66 มาก 1 การกำหนดวสิ ัยทศั น์ 4.33 0.68 มาก 3 3. ผูบ้ ริหารมเี ป้าหมายและมีอดุ มการณ์ใน การพฒั นาโรงเรยี น 4.35 0.68 มาก 2 4. ผู้บรหิ ารสามารถชีแ้ จงให้บุคลากรทุกฝ่าย มองเหน็ ความเปน็ ไปได้ของวิสยั ทศั น์ 4.34 0.60 มาก 5. ผู้บรหิ ารสามารถกำหนดวิสยั ทัศน์ ตรงตามสถานการณ์ รวม จากตารางที่ 9 พบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขต พ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ด้านการกำหนดวิสัยทัศน์อยู่ในระดับมาก (X̅=4.34, S.D.=0.60) เมื่อพิจารณาในรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไป น้อยได้ดังน้ี ผู้บริหารมีเป้าหมายและมีอุดมการณ์ในการพัฒนาโรงเรียน (X̅=4.48, S.D.=0.66) ผู้บริหารสามารถกำหนดวิสัยทัศน์ตรงตามสถานการณ์ (X̅=4.35, S.D.=0.68) ผู้บริหารสามารถช้ีแจง ให้บุคลากรทุกฝ่าย มองเห็นความเป็นไปได้ของวิสัยทัศน์ (X̅=4.33, S.D.=0.68) ผู้บริหารสามารถ มองเห็นภาพรวมของโรงเรียน ในอนาคตที่ต้องการที่จะให้เป็นได้อย่างชัดเจน (X̅=4.27, S.D.=0.70) ผู้บริหารมีความสามารถในการแสดงศักยภาพของการเป็นผู้นำสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จ (X̅=4.25, S.D.=0.71) ตอนท่ี 3 ประสทิ ธิผลของโรงเรียน สังกดั สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 1 ในการวิเคราะห์ประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา ราชบุรี เขต 1 ผู้วจิ ัยวเิ คราะห์โดยใชค้ ่าเฉล่ยี (X̅) และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน (S.D.) จากกลุ่มตวั อย่าง 338 คน แลว้ นำไปเปรยี บเทียบกับเกณฑ์ตามแนวคิดของบญุ ชม ศรีสะอาด ทีก่ ำหนดไว้ ตารางที่ 10 ค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ี การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 โดยภาพรวม (n=338) ประสทิ ธิผลของโรงเรียน X̅ S.D. ค่าระดบั ลำดบั 1. ความสามารถในการผลติ นักเรยี นใหม้ ีผลสมั ฤทธิ์ 4.26 0.53 มาก 4 ทางการเรียนเพมิ่ ขึ้น (Y1) 2. ความสามารถในการพฒั นานักเรียนใหม้ เี จตคติ 4.52 0.60 มากทสี่ ดุ 1 ทางบวก (Y2) 3. ความสามารถในการปรบั เปลีย่ นและพัฒนา 4.42 0.64 มาก 2 โรงเรียนใหเ้ ขา้ กับส่ิงแวดล้อม (Y3)

63 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงตารางที่ 10 (ต่อ) ประสทิ ธผิ ลของโรงเรยี น X̅ S.D. คา่ ระดับ ลำดบั 4. ความสามารถในการแกป้ ัญหาภายในโรงเรียน (Y4) 4.39 0.68 มาก 3 รวม (Ytot) 4.40 0.46 มาก จากตารางท่ี 10 พบว่า ประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (X̅=4.40, S.D.=0.46) เม่อื พิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 1 ด้าน และระดับมาก 3 ด้าน โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อยได้ ดงั นี้ ความสามารถพัฒนาในการนักเรียนให้มีเจตคติทางบวก (X̅=4.52, S.D.=0.60) ความสามารถใน การปรับเปลี่ยนและพัฒนาโรงเรียนให้เข้ากับส่ิงแวดล้อม (X̅=4.42, S.D.=0.64) ความสามารถ แก้ปัญหาภายในโรงเรยี น (X̅=4.39, S.D.=0.68) และความสามารถในการผลติ นักเรียนให้มีผลสมั ฤทธิ์ ทางการเรยี นเพิ่มขนึ้ (X̅=4.26, S.D.=0.53) ตารางท่ี 11 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ด้านความสามารถในการผลิตนักเรียนให้มี ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นเพ่มิ ขน้ึ (n=338) ความสามารถในการผลิตนกั เรยี นใหม้ ี X̅ S.D. ค่าระดับ ลำดับ ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนเพมิ่ ข้ึน 1. โรงเรียนมีการจัดทำแผนกลยุทธ์/ 4.47 0.63 มาก 2 แผนปฏบิ ตั กิ าร ในการพฒั นาคุณภาพและ ยกระดับผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของ นักเรยี น 2. โรงเรยี นพัฒนานกั เรียนด้วยกิจกรรมที่ 4.51 0.59 มากที่สดุ 1 หลากหลาย ตามความเหมาะสมสอดคล้อง กับความต้องการ และความสามารถของ ผูเ้ รยี น 3. โรงเรียนสามารถผลติ นกั เรยี นให้มรี ะดับ 4.12 0.69 มาก 4 ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนที่มเี ฉลย่ี สงู เพม่ิ ขน้ึ 4. นกั เรียน สามารถเขา้ ศกึ ษาตอ่ ในระดบั สงู 4.35 0.69 มาก 3 ข้ึนไดจ้ ำนวนมาก 5. นักเรียนได้รับรางวัลจากการแข่งขัน 3.84 0.77 มาก 5 ทางด้านวิชาการจากหน่วยงานภาครัฐ และ เอกชน รวม 4.27 0.58 มาก

64 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงจากตารางที่ 11 พบว่า ประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ด้านความสามารถในการผลิตนักเรียนให้มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเพิ่ม ข้ึนอยู่ในระดับมาก (X̅=4.27, S.D.=0.58) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 1 ข้อ และระดับมาก 4 ข้อ โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อยได้ดังน้ี โรงเรียนพัฒนานักเรียนด้วย กิจกรรมที่หลากหลาย ตามความเหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการ และความสามารถของผู้เรียน (X̅=4.51, S.D.=0.59) โรงเรียนมีการจัดทำแผนกลยุทธ์/แผนปฏิบัติการในการพัฒนาคุณภาพและ ยกระดับผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนของนักเรียน (X̅=4.47, S.D.=0.63) นักเรียนสามารถเข้าศึกษาต่อใน ระดับสูงขึ้นได้จำนวนมาก (X̅=4.35, S.D.=0.69) โรงเรียนสามารถผลิตนักเรียนให้มีระดับผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนที่มีเฉล่ียสูงเพ่ิมข้ึน (X̅=4.12, S.D.=0.69) นักเรียนได้รับรางวัลจากการแข่งขัน ทางด้าน วชิ าการจากหนว่ ยงานภาครัฐ และเอกชน (X̅=3.84, S.D.=0.77) ตารางท่ี 12 ค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ี การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ด้านความสามารถในการพัฒนานักเรียนให้มีเจต คติทางบวก (n=338) ความสามารถในการพัฒนานักเรยี นใหม้ ี X̅ S.D. คา่ ระดับ ลำดับ เจตคตทิ างบวก 1. โรงเรียนมีการจดั กจิ กรรมพฒั นาระเบยี บ 4.56 0.66 มากทส่ี ุด 2 วนิ ยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรมของนักเรียนภายใน โรงเรยี น 2. โรงเรียนมกี ารส่งเสรมิ ผเู้ รยี นให้คิดเชิงบวก 4.53 0.59 มากท่สี ุด 3 คิดดตี อ่ ตนเอง ต่อผูอ้ ื่น ต่อการเรียนรูแ้ ละต่อโรงเรยี น 3. โรงเรยี นปลูกฝงั ดา้ นระเบียบวินยั การอยู่ 4.56 0.70 มากทสี่ ดุ 1 รว่ มกนั ในสงั คม 4. โรงเรยี นสง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นมเี จตคตทิ ่ดี ี ต่อ 4.43 0.70 มาก 5 การจดั การศึกษา 5. โรงเรียนปลกู ฝงั ให้นักเรยี นเปน็ บคุ คลแหง่ 4.50 0.63 มาก 4 การเรยี นรู้ และอยู่ในสงั คมได้อยา่ งมี ความสขุ รวม 4.52 0.60 มากทส่ี ุด จากตารางท่ี 12 พบว่า ประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ด้านความสามารถในการพัฒนานักเรียนให้มีเจตคติทางบวกอยู่ในระดับ มากที่สุด (X̅=4.52, S.D.=0.60) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 3 ข้อ และระดับ มาก 2 ข้อ โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อยได้ดังนี้ โรงเรียนปลูกฝังด้านระเบียบวินัย การอยู่

65 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงร่วมกันในสังคม (X̅=4.56, S.D.=0.70) โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมพัฒนาระเบียบวินัย คุณธรรม จริยธรรมของนกั เรียนภายในโรงเรียน (X̅=4.56, S.D.=0.66) โรงเรียนมีการส่งเสริมผู้เรียนให้คิดเชิง บวก คิดดีต่อ ตนเอง ต่อผู้อื่น ต่อการเรียนรแู้ ละตอ่ โรงเรยี น (X̅=4.53, S.D.=0.59) โรงเรยี นปลูกฝังให้ นักเรียนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ และอยู่ในสงั คมได้อย่างมีความสุข (X̅=4.50, S.D.=0.63) โรงเรียน ส่งเสรมิ ใหน้ กั เรียนมีเจตคตทิ ดี่ ตี ่อการจัดการศึกษา (X̅=4.43, S.D.=0.70) ตารางท่ี 13 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ี การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ด้านความสามารถในการปรับเปลี่ยนและพัฒนา โรงเรียนให้เข้ากับส่ิงแวดลอ้ ม (n=338) ความสามารถในการปรบั เปลย่ี นและ X̅ S.D. คา่ ระดับ ลำดับ พฒั นาโรงเรียนใหเ้ ขา้ กบั สิ่งแวดล้อม 1. โรงเรียนมีการดำเนินงานด้านการบริหาร 4.45 0.63 มาก 3 วชิ าการ สามารถปรบั ตัวใหก้ ้าวทนั ต่อการ เปล่ยี นแปลง 2. โรงเรยี นส่งเสรมิ ใหค้ รมู ีความกระตอื รือร้น 4.51 0.76 มากทีส่ ุด 1 ปรับปรงุ วธิ ีการสอน 3. ครไู ดร้ บั การอบรมและพัฒนาตนเองอยา่ ง 4.46 0.73 มาก 2 ต่อเนือ่ ง 4. ครูมีการสร้างนวัตกรรมและส่ือการสอน 4.39 0.73 มาก 4 ใหม่ ๆ 5. ครูมีการประเมินผลการใช้สอ่ื นวัตกรรม 4.29 0.71 มาก 5 เพอ่ื ปรับปรุงพัฒนาอยา่ งต่อเน่อื ง รวม 4.42 0.64 มาก จากตารางท่ี 13 พบว่า ประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ด้านความสามารถในการปรับเปล่ียนและพัฒนาโรงเรียนให้เข้ากับ สง่ิ แวดล้อมอย่ใู นระดบั มาก (X̅=4.42, S.D.=0.64) เมื่อพจิ ารณารายขอ้ พบวา่ อยู่ในระดบั มากท่ีสุด 1 ข้อ และระดับมาก 4 ข้อ โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อยได้ดังน้ี โรงเรียนส่งเสริมให้ครูมีความ กระตือรือร้น ปรับปรุงวิธีการสอน (X̅=4.51, S.D.=0.76) ครูได้รับการอบรมและพัฒนาตนเองอย่าง ต่อเน่ือง (X̅=4.46, S.D.=0.73) โรงเรียนมีการดำเนินงานด้านการบริหารวิชาการ สามารถปรับตัวให้ ก้าวทันต่อการเปล่ียนแปลง (X̅=4.45, S.D.=0.63) ครูมีการสร้างนวัตกรรมและสื่อการสอนใหม่ ๆ (X̅=4.39, S.D.=0.73) ครูมีการประเมินผลการใช้ส่ือนวัตกรรมเพ่ือปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเน่ือง (X̅=4.29, S.D.=0.71)

66 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงตารางท่ี 14 ค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่ การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ด้านความสามารถในการแก้ปัญหาภายใน โรงเรยี น (n=338) ความสามารถในการแกป้ ญั หาภายใน X̅ S.D. ค่าระดับ ลำดับ โรงเรียน 1. ครมู ีความสามารถในการปฏิบตั ิงานด้าน 4.32 0.78 มาก 4 การจัดการเรยี นการสอน 2. ผบู้ ริหารมกี ารกระต้นุ ครูในโรงเรยี นให้ 4.49 0.67 มาก 1 เหน็ วิธีการหรอื แนวทาง ในการแกป้ ัญหาที่ เกดิ ขนึ้ ในโรงเรียน 3. ผู้บริหารมีการส่งเสรมิ ใหค้ รใู นโรงเรียน 4.49 0.59 มาก 2 เขา้ ใจบทบาทหนา้ ที่ของตน 4. ผู้บริหารมกี ารกระตนุ้ ให้ครูในโรงเรียน 4.36 0.86 มาก 3 แสดงความคดิ เหน็ มองปัญหาในแง่มุมต่าง ๆ ในโรงเรียนและหาแนวทางแก้ไข 5. ครูมีการดแู ลเอาใจใส่และใหค้ วาม 4.30 0.83 มาก 5 ชว่ ยเหลอื ผู้เรียนด้วยความเต็มใจ ปกครอง นกั เรยี นใหป้ ฏบิ ัตติ นอยู่ในกฎระเบยี บของ โรงเรยี นและสังคม รวม 4.39 0.68 มาก จากตารางที่ 14 พบว่า ประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ด้านความสามารถในการแก้ปัญหาภายในโรงเรียนอยู่ในระดับมาก (X̅=4.39, S.D.=0.68) เม่ือพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจาก มากไปน้อยได้ดังน้ี ผู้บริหารมีการกระตุ้นครูในโรงเรียนให้เห็นวิธีการหรือแนวทาง ในการแก้ปัญหาท่ี เกิดขน้ึ ในโรงเรียน (X̅=4.49, S.D.=0.67) ผู้บรหิ ารมีการส่งเสริมให้ครูในโรงเรียนเข้าใจบทบาทหน้าที่ ของตน (X̅=4.49, S.D.=0.59) ผู้บริหารมีการกระตุ้นให้ครูในโรงเรียนแสดงความคิดเห็น มองปัญหา ในแง่มุมต่าง ๆ ในโรงเรียนและหาแนวทางแก้ไข (X̅=4.36, S.D.=0.86) ครูมีความสามารถในการ ปฏิบตั ิงานด้านการจดั การเรยี นการสอน (X̅=4.32, S.D.=0.78) ครูมีการดูแลเอาใจใส่และให้ ความช่วยเหลือผู้เรียนด้วยความเต็มใจ ปกครองนักเรียนให้ปฏิบัติตนอยู่ในกฎระเบียบของโรงเรียน และสังคม (X̅=4.30, S.D.=0.83)

67 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงตอนที่ 4 ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัด สำนักงานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 1 ในการวิเคราะห์ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียน สงั กดั สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 1 ผวู้ ิจยั ใช้การวิเคราะหห์ าค่าสมั ประสิทธิ์ สหสัมพนั ธ์แบบเพียรส์ ัน (Pearson’s product moment correlation coefficient) ดงั รายละเอยี ด ในตารางที่ 15 ตารางท่ี 15 ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัด สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาราชบุรี เขต 1 ภาวะผ้นู ำ X1 X2 X3 X4 X5 Xtot เชงิ กลยุทธ์ ประสิทธผิ ล 0.579** 0.571** 0.634** ของโรงเรยี น 0.797** 0.766** 0.798** 0.830** 0.775** 0.865** Y1 0.533** 0.674** 0.550** 0.760** 0.626** 0.719** Y2 0.688** 0.731** 0.660** 0.730** 0.687** 0.744** Y3 0.740** 0.800** 0.799** Y4 0.641** 0.779** 0.699** Ytot 0.614** 0.675** 0.682** ** มคี วามสัมพันธอ์ ยา่ งมีนยั สำคัญทางสถิติทีร่ ะดับ .01 จากตารางท่ี 15 พบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของ โรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 โดยภาพรวมและรายคู่มี ความสัมพันธก์ ันทางบวกในระดับสูงอยา่ งมีนัยสำคัญทางสถติ ทิ ่ีระดบั .01 (r=.744)

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง บทที่ 5 สรปุ อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ การวิจัยครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษา ประสิทธิผลของโรงเรียน และศึกษาภาวะผนู้ ำเชิงกลยุทธ์ของผู้บรหิ ารสถานศึกษากับประสิทธิผลของ โรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้บริหาร สถานศึกษาและครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 จำนวน 338 คน เคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามเก่ียวกับภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ตามทฤษฎีของ ดูบริน (DuBrin, 2010, 382-387) และแบบสอบถามเกี่ยวกับประสิทธิผลของโรงเรียนตามทฤษฎีของ มอทท์ (Mott cited in Hoy & Miskel, 2013, 319-320) สถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉล่ีย สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน และสหสัมพนั ธ์แบบเพียร์สนั สรปุ ผลการวิจยั 1. ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อแยกพิจารณาในรายด้าน พบว่า อยู่ใน ระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลำดับค่าเฉล่ียจากมากไปน้อยได้ดังนี้ การคิดเชิงปฏิวัติ การคาดหวังและ สร้างโอกาสสำหรับอนาคต การกำหนดวิสัยทัศน์ การรวบรวมปัจจัยสู่การกำหนดกลยุทธ์ และการมี ความคดิ ความเขา้ ใจระดับสูง 2. ประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อแยกพิจารณาในรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 1 ด้าน และ ระดับมาก 3 ทุกด้าน โดยเรียงลำดับค่าเฉล่ียจากมากไปน้อยได้ดังนี้ ความสามารถในการพัฒนา นักเรยี นใหม้ ีเจตคติทางบวก ความสามารถในการปรับเปลยี่ นและพัฒนาโรงเรียนใหเ้ ข้ากบั ส่งิ แวดล้อม ความสามารถในการแก้ปัญหาภายในโรงเรียน และความสามารถในการผลิตนักเรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนเพิ่มข้นึ 3. ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษากบั ประสิทธผิ ลของโรงเรยี น สงั กัดสำนักงาน เขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 โดยภาพรวมและรายคู่มีความสัมพันธ์กันทางบวกใน ระดับสงู อยา่ งมีนัยสำคญั ทางสถติ ทิ ี่ระดบั .01 อภปิ รายผลการวิจยั จากผลการวิเคราะหข์ ้อมูลการวจิ ยั ขา้ งตน้ สามารถอภปิ รายผลการวิจยั ได้ ดังนี้ 1. ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก จากผลวิจัยพออธิบายได้ว่าผู้บริหาร สถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 มีความสามารถในการ กำหนดทิศทาง และสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินงานภายในโรงเรียนให้สำเร็จลุล่วง รวมถึง ผ้บู รหิ ารสถานศึกษามลี กั ษณะและบุคลกิ ส่วนตัวทซี่ ับซ้อนหลากหลาย มีการคิดอย่างเป็นรปู แบบ และ

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 69 มีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ ปนัดดา วรกานต์ทิวัตถ์ (2555, 112) ที่ศึกษาวิจัยเรื่องภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนกรุงเทพมหานคร ตาม การรับรู้ของผู้บริหารและครู ผลวิจัยพบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนอาชีวศึกษา เอกชนกรุงเทพมหานคร โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก งานวิจัยของ มนสิชา ธรรมรักษ์ (2561, 171) ท่ีศึกษาวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษากับการ บริหารงานวชิ าการของโรงเรียนในเครือสวนกุหลาบวิทยาลัย ผลวิจัยพบว่า ภาวะผ้นู ำเชิงกลยุทธ์ของ ผ้บู ริหารสถานศึกษาในเครือสวนกุหลาบวิทยาลัย โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก และงานวิจัยของ มันทนา กองเงิน (2554, 104) ท่ีศึกษาวิจัยเร่ืองภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์กับการจัดการความขัดแย้งของ ผู้บริหารในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษานครปฐม เขต 1 ผลวิจัยพบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษานครปฐม เขต 1 ผลการวจิ ยั พบวา่ โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยท่ีภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของ ผู้บริหารสถานศึกษาด้านการคิดเชิงปฏิวัติมีค่าเฉล่ียมากที่สุด รองลงมาคือ การคาดหวังและสร้าง โอกาสสำหรับอนาคต การกำหนดวิสัยทัศน์ การรวบรวมปัจจัยสู่การกำหนดกลยุทธ์ และการมี ความคิดความเข้าใจระดับสูง จากผลวิจัยพออธิบายได้ว่าผู้บริหารสถานศึกษามีความสามารถในการ คิดเชิงบูรณาการ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความสามารถในการคิดแบบองค์รวม คิดเปลี่ยนแปลง คิดแปลกใหม่เพ่ือพัฒนาความเป็นเลิศขององค์กร มีการเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่อย่างไม่หยุดนิ่ง พัฒนาทักษะใหม่ ๆ ภายใต้กรอบการทำงานอย่างชัดเจนมีความเข้าใจหลักการพัฒนาองค์กรแบบ ยั่งยืน ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ นพวรรณ บุญเจริญสุข (2560, 91-93) ท่ีศึกษาวิจัยเร่ือง ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษากับ ประสิทธิผลของโรงเรียน จังหวัดฉะเชิงเทรา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 6 ผลวิจัยพบว่า ภาวะผู้นำ เชิงกลยุทธข์ องผูบ้ ริหารสถานศึกษาจงั หวัดฉะเชิงเทรา สังกดั สำนกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา เขต 6 โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก โดยที่ด้านการคาดหวังและสร้างโอกาสสำหรับอนาคต และด้านการคิดเชิงปฏิวัติอยู่ในลำดับสูงที่สุด และงานวิจัยของ เหมือนฝัน นันทิยกุล (2562, 159- 160) ที่ศึกษาวิจัยเรื่องภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษาท่ีส่งผลต่อการบริหารโรงเรียน เอกชนสู่ความเปน็ เลศิ ในจังหวัดนครปฐม ผลวิจยั พบว่า ภาวะผนู้ ำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา โรงเรียนเอกชนในจังหวัดนครปฐม โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นราย ด้านพบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษามีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดย ความคิดเชิงปฏวิ ัตอิ ยูใ่ นลำดับสงู ทีส่ ดุ 2. ประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก จากผลวิจัยพออธิบายได้ว่าโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 มีการดำเนินงานจนเกิดผลสำเร็จ ทั้งในด้านการบริหารจัดการของ ผู้บริหารภายในโรงเรียน และการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพของบุคลากรในการจัดการศึกษาท่ี บรรลุผลตามวตั ถปุ ระสงคห์ รือเป้าหมายทีต่ ง้ั ไวข้ องโรงเรียน ซึ่งสอดคล้องกับงานวจิ ัยของ เพ็ญประภา สาริภา (2556, 91-94) ที่ศึกษาวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหาร สถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 ผล

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 70 วิจัยพบว่า ประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 โดย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก งานวิจัยของ กัญญาณัฐ ไชยชะนะ (2563, 108-110) ได้ศึกษาวิจัยเร่ือง ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ในศตวรรษท่ี 21 ของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผล ของโรงเรียนในอำเภอแม่สรวย สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา เชียงรายเขต 2 ผล วิจัยพบว่า ประสิทธิผลของโรงเรียนในอำเภอแม่สรวย สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ประถมศึกษาเชียงรายเขต 2 โดยภาพรวมมีคา่ เฉล่ยี อยูใ่ นระดับมาก และงานวิจยั ของ นิศรา มลู วรรณ (2561, ก) ทศี่ ึกษาวิจัยเรื่องภาวะผู้นำของผู้บรหิ ารท่ีส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนมัธยมศึกษา ผล วจิ ยั พบว่า ประสทิ ธผิ ลของโรงเรียนมัธยมศกึ ษา โดยรวมมคี า่ เฉลยี่ อยใู่ นระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ความสามารถในการพัฒนานักเรียนให้มีเจตคติทางบวก มี ค่าเฉล่ียมากที่สุด รองลงมาคือ ความสามารถในการปรับเปลี่ยนและพัฒนาโรงเรียนให้เข้ากับ ส่ิงแวดล้อม ความสามารถในการแก้ปญั หาภายในโรงเรียน และความสามารถในการผลิตนักเรียนให้มี ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเพ่ิมขึ้น จากผลวิจัยพออธิบายได้ว่าโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 มีความสามารถในการดำเนินงานในการส่งเสริมนักเรียนให้มี คุณธรรม จริยธรรม คิดเชิงบวก มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ต่อสังคม เพื่อให้ผู้เรียนแสดงออกถึง พฤตกิ รรมในทางทีด่ งี ามเปน็ ผมู้ คี ุณธรรม จริยธรรม มรี ะเบยี บวนิ ัย รจู้ กั พัฒนาตนเองในดา้ นการศกึ ษา เล่าเรียนมีเจตคติท่ีดีต่อการศึกษาและอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ นพวรรณ บุญเจริญสุข (2560, 91-93) ท่ีศึกษาวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ ของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียน จังหวัดฉะเชิงเทรา สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ี การศึกษามัธยมศึกษา เขต 6 ผลวิจัยพบว่า ประสิทธิผลของโรงเรียน จังหวัดฉะเชิงเทรา สังกัด สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 6 โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก โดยด้าน ความสามารถในการพัฒนานักเรียนให้มีเจตคติทางบวกมีค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด งานวิจัยของ วันวิสาข์ ทองติง (2555, 86-89) ท่ีศึกษาวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารกับ ประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 ผลวิจัย พบว่า ประสิทธิผลของโรงเรียนโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มี ค่าเฉล่ียสูงสุดคือ ด้านความสามารถในการพัฒนานักเรียนให้มีเจตคติทางบวก และงานวิจัยของ นันท์นภัส สุทธิการ (2562, 90-92) ท่ีศึกษาภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผล ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 11 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผลวิจัย พบว่า ประสิทธิผลของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 11 จังหวัด สุราษฎร์ธานี ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประสิทธิผลของโรงเรียน ในสงั กัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยม เขต 11 จงั หวัดสุราษฎร์ธานีอยู่ในระดับมากทุกด้าน ด้าน ความสามารถในการพฒั นานกั เรยี นให้มีเจตคตทิ างบวกมีคา่ เฉลย่ี มากท่สี ดุ 3. ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธข์ องผบู้ ริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียน สังกดั สำนักงาน เขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 โดยภาพรวมและรายคู่มีความสัมพันธ์กันทางบวกใน ระดับสูงอย่างมนี ยั สำคญั ทางสถิติทีร่ ะดบั .01 จากผลวจิ ัยพออธิบายไดว้ ่า การที่ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษามี ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์จะสามารถในการวางแผนการทำงาน รู้จักวิเคราะห์ข้อมูลภายในและภายนอก รจู้ ักใชเ้ ทคนิค และวิธกี ารบูรณาการต่าง ๆ ในบรหิ ารงานให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงการมีวสิ ัยทัศนท์ จี่ ะ

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 71 นำพาโรงเรียนให้เป็นไปสอดคล้องกับเป้าหมายของโรงเรียน ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์เหล่าน้ีจึงก่อให้เกิด ประสิทธิผลในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ภายในโรงเรียน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ เพ็ญประภา สาริภา (2556, 91-94) ที่ศึกษาวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหาร สถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 ผล วิจัยพบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยทุ ธข์ องผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียน สงั กัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 งานวิจัยของ กมลชนก สุกแสง (2559, 87-90) ได้ศึกษาวิจัยเร่ืองความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำ เชิงกลยุทธ์กับประสิทธิผลของโรงเรียน ตามทัศนะของผู้บริหารสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขต พืน้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 ผลวิจัยพบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงกล ยุทธ์กับประสิทธิผล ในสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 มี ความสัมพันธ์กันในทางบวกในระดับค่อนข้างสูง และงานวิจัยของ กรรณาภรณ์ พุฒชงค์ (2560, 87- 89) ที่ศึกษาวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษากับ ประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 2 ผลวิจัย พบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรยี น สังกัดสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 2 มีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับสูง อย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติท่ีระดับ .01 ข้อเสนอแนะ จากการศึกษาภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทาง ในการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัด สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 และเป็นแนวทางในการศึกษาวิจัยคร้ังต่อไป ดงั นี้ ขอ้ เสนอแนะในการนำไปใช้ 1. ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ผลวิจัยพบว่า การมีความคิดความเข้าใจระดับสูงมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ผู้บริหารสถานศึกษาพัฒนาความสามารถในการคิด วิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ เพื่อนำไปกำหนดเป็น แผนปฏิบัติงาน พัฒนาความคิดเชิงระบบในการบริหารงานให้คนในองค์กรทำงานร่วมกัน และพัฒนา ความสามารถในการคิดแก้ไขปัญหา สามารถนำความรู้ความเข้าใจที่มีไปใช้ในการแก้ปัญหาอย่างมี วิจารณญาณ มีความคดิ ริเร่มิ สร้างสรรค์ในการทำงาน 2. ประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ผลวจิ ยั พบว่า ความสามารถในการผลติ นักเรียนให้มผี ลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนเพ่ิมขนึ้ มีค่าเฉลีย่ นอ้ ยท่ีสุด ผู้บริหารสถานศึกษาและครูควรให้ความสำคัญในการด้านการบริหารและการจัดการศึกษาที่มี ประสิทธิภาพ มีการวางแผนในการพัฒนาคุณภาพผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียน พัฒนา นักเรียนด้วยกิจกรรมท่ีหลากหลายตามความเหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการและ ความสามารถของผู้เรยี น

72 3. ภาวะผู้นำเชงิ กลยุทธ์ของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษากับประสทิ ธิผลของโรงเรยี น สังกัดสำนักงาน เขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 1 ผลวจิ ัยพบว่า ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ด้านการมคี วามคิด ความเข้าใจระดับสูงกับประสิทธผิ ลของโรงเรียนด้านความสามารถในการผลิตนักเรียนให้มีผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนเพิ่มขึ้นมีความสัมพันธ์กันน้อยที่สุด ผู้บริหารสถานศึกษาควรวิเคราะห์แนวทางในการ การบริหารและการจัดการศึกษาท่ีมีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปกำหนดเป็นแผนพัฒนาคุณภาพผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนของนักเรียน บริหารและแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้องกับ บุคลากรในโรงเรียนเพื่อให้ทำงานร่วมกันในการจัดการเรียนรู้ พัฒนานักเรียนด้วยกิจกรรมที่ หลากหลายตามความเหมาะสม และสอดคล้องกบั ความต้องการและความสามารถของผเู้ รยี น ข้อเสนอแนะในการวิจัยครง้ั ต่อไป ตามที่ผ้วู จิ ัยได้มีขอ้ เสนอแนะของการวจิ ยั ดังกล่าวไว้ข้างต้น เพื่อให้งานวิจัยเก่ียวกบั ภาวะผนู้ ำ เชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ได้เผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์สถานศึกษา/หน่วยงานอ่ืน ๆ ผู้วิจัยจึงมี ขอ้ เสนอแนะในการวิจยั คร้งั ตอ่ ไป ดังนี้ 1. ควรศกึ ษารปู แบบการพัฒนาภาวะผ้นู ำเชิงกลยุทธ์ของผบู้ ริหารสถานศึกษา 2. ควรศึกษาภาวะผนู้ ำเชงิ กลยทุ ธ์ของผู้บริหารสถานศกึ ษาท่ีส่งผลตอ่ ประสทิ ธผิ ลของ โรงเรียน สังกดั สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง

บรรณานกุ รมมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏหม่บู า้ นจอมบงึ

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 74 บรรณานุกรม กมลชนก สุกแสง. (2559). ความสัมพันธ์ระหวา่ งภาวะผู้นำเชงิ กลยทุ ธ์กบั ประสิทธผิ ลของโรงเรียน ตามทศั นะของผ้บู ริหารสถานศึกษา ในสงั กดั สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษา นครราชสมี า เขต 4. วทิ ยานิพนธ์ครศุ าสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าการบริหารการศึกษา บัณฑติ วทิ ยาลยั มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา. กรชนก แยม้ อทุ ัย. (2557). ประสิทธผิ ลสถานศกึ ษาตามทรรศนะของบคุ ลากรทางการศึกษา. การ คน้ คว้าศึกษาศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชาการบริหารการศึกษา บัณฑติ วิทยาลัย มหาวิทยาลัยศลิ ปากร. กรรณาภรณ์ พฒุ ชงค.์ (2560). ความสัมพนั ธ์ระหว่างภาวะผ้นู ำเชิงกลยุทธข์ องผบู้ รหิ ารสถานศึกษา กับประสิทธผิ ลของโรงเรยี น สังกัดสำนักงานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาจันทบรุ ี เขต 2. สารนพิ นธ์ศึกษามหาบัณฑิต สาขาวชิ าการบรหิ ารการศึกษา บัณฑติ วิทยาลัย มหาวิทยาลยั บรู พา. กรรณิการ์ สวุ รรณศรี. (2563) การบรหิ ารทรัพยากรมนุษย์. นครปฐม : คณะรฐั ประศาสนศาสตร์. มหาวิทยาลัยราชภฏั นครปฐม. กฤตัชญ์ สุริยนต์. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างความสุขในการทางานของครูกับประสิทธิผลของ โรงเรียนในเครือสวนกุหลาบวิทยาลัย สังกัดสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารสงั คมศาสตรว์ ิจัย, 10, 1-17. กญั ญาณฐั ไชยชะนะ. (2563). ความสมั พนั ธร์ ะหว่างภาวะผู้นำเชงิ กลยทุ ธใ์ นศตวรรษท่ี 21 ของ ผ้บู ริหารสถานศึกษากับประสิทธผิ ลของสถานศึกษาในอำเภอแมส่ รวย สังกัดสำนักงาน เขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศึกษา เชียงรายเขต 2. สารนิพนธก์ ารศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บณั ฑิตศึกษา มหาวทิ ยาลยั พะเยา. กันต์ชญาณี สง่ เจรญิ ทรัพย์. (2563). ภาวะผ้นู าเชิงกลยุทธ์ของผู้บรหิ ารสถานศึกษาทสี่ ่งผลต่อ ประสทิ ธผิ ลของโรงเรยี นสงั กัดสานักงานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร. วทิ ยานพิ นธ์ครุศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวชิ าการบรหิ ารการศกึ ษา บณั ฑติ วิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครปฐม. ขวัญพิชชา มีแก้ว. (2562). การบริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศกึ ษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภฏั รำไพพรรณี. คมกฤช พรหมฉิน. (2560). การวเิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของภาวะผู้นำเชงิ กลยุทธ์ใน ศตวรรษที่ 21ของผู้บรหิ ารสถานศึกษา. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าการ บรหิ ารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั รำไพพรรณ.ี จนั ทนา แสนสุข. (2557). ปัจจัยท่เี ปน็ เหตุและผลของความสามารถภาวะผูน้ ำเชงิ กลยทุ ธ์ของ สถาบนั อุดมศกึ ษาในประเทศไทย. วารสารสมาคมนักวิจัย, 19, 34-46. จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. (2553). การนำแผนยุทธศาสตร์สกู่ ารปฏิบตั ิ (Strategy implementation). กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณมหาวทิ ยาลัย.

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 75 บรรณานกุ รม (ตอ่ ) ซาฝนะ แอหลงั . (2561). ภาวะผู้นาํ เชิงกลยุทธของผู้บรหิ ารสถานศึกษา ตามความคดิ เห็นของครสู ังกดั สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 11 ในจงั หวดั สุราษฎรธาน.ี การค้นคว้าอิสระ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวชิ าการบริหารการศกึ ษา บณั ฑิตวทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สรุ าษฎรธานี. ฏมิ ากร บนุ้ กี้. (2563). การศึกษาบทบาทภาวะผูน้ ำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สงั กดั สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาตราด. วทิ ยานพิ นธค์ รุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบรหิ ารการศึกษา บัณฑติ วิทยาลยั มหาวิทยาลัยราชภฏั รำไพพรรณี. ธนณั ฎา ประจงใจ. (2557) ความสัมพนั ธร์ ะหว่างภาวะผู้นำการเปล่ยี นแปลงกบั การทำงานเปน็ ทมี ตามความคิดของครผู ูส้ อนในสถานศึกษา สงั กัดสำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา ประถมศกึ ษาตราด. วทิ ยานพิ นธ์ครุศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าการบริหารการศึกษา บัณฑติ วิทยาลัย มหาวิทยาลยั ราชภัฏรำไพพรรณ.ี นนทกร อรุณโน. (2563). การศกึ ษาภาวะผูน้ ำการเปล่ยี นแปลงของผ้บู ริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อ ประสิทธิผลของสถานศกึ ษา สังกัดสำนักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 17. วิทยานิพนธค์ รุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวชิ าการบริหารการศกึ ษา บัณฑติ วทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั ราชภัฏรำไพพรรณี. นพวรรณ บญุ เจรญิ สขุ . (2560). ความสัมพนั ธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชงิ กลยทุ ธข์ องผูบ้ ริหาร สถานศกึ ษากับประสิทธผิ ลของสถานศึกษา จังหวดั ฉะเชิงเทรา สังกดั สำนกั งานเขตพ้ืนท่ี การศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 6. ปรญิ ญานิพนธ์การศกึ ษามหาบณั ฑติ สาขาวิชาการบริหาร การศกึ ษา บัณฑิตวทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั บรู พา. นฤมล จิตรเอื้อ. (2560). บทบาทภาวะผู้นำในการพัฒนาองคก์ ารสู่องค์การแหง่ การเรยี นรู้. Veridian E-Journal ฉบับภาษาไทย สาขามนษุ ยศาสตร์ สังคมศาสตรแ์ ละศลิ ปะ, 10, 1738-1754. ค้นเมอ่ื สิงหาคม, 3, 2564, จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ Veridian-E-Journal/article/view/100347. นวลจันทร์ จนุ ทนพ. (2559). การศึกษาบทบาทภาวะผู้นำเชงิ กลยทุ ธข์ องผู้บริหารสถานศกึ ษา สงั กัดเทศบาลในจังหวัดจันทบรุ ี ระยอง และตราด. วทิ ยานิพนธค์ รุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบรหิ ารการศึกษา บณั ฑติ วทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี. นนั ท์นภสั สทุ ธิการ. (2562). ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธข์ องผบู้ รหิ ารท่สี ่งผลต่อประสิทธผิ ลของโรงเรยี น ในสังกดั สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 11 จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี. วิทยานพิ นธ์ครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าการบริหารการศกึ ษา บัณฑิตวทิ ยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎรธ์ านี. นศิ รา มูลวรรณ. (2561). ภาวะผนู้ ำของผู้บริหารทสี่ ่งผลต่อประสิทธผิ ลของโรงเรียนมธั ยมศึกษา. วทิ ยานิพนธค์ รศุ าสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบรหิ ารการศึกษา บัณฑติ วทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั ราชภฏั รำไพพรรณี. บญุ ชม ศรีสะอาด. (2554). การวิจยั เบือ้ งตน้ (พิมพ์ครงั้ ที่ 9). กรุงเทพฯ : สวุ ีรยิ าสาส์น.

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 76 บรรณานุกรม (ตอ่ ) เบ็ญจมาศ หนูไชยทอง. (2561). ความสมั พันธ์ระหว่างภาวะผ้นู ำเชิงสรา้ งสรรคข์ องผู้บริหาร สถานศกึ ษากบั ประสิทธิผลของโรงเรยี นตามความคิดเหน็ ของครู สังกดั สำนักงานเขตพ้ืนท่ี การศึกษาประถมศึกษาสรุ าษฎร์ธานี เขต 1. การค้นควา้ อสิ ระครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าการบรหิ ารการศึกษา บณั ฑติ วิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสุราษฎรธ์ านี. ปนดั ดา วรกานต์ทิวัตถ์. (2555). ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธข์ องผ้บู ริหารโรงเรยี นอาชีวศึกษาเอกชน กรงุ เทพมหานคร ตามการรบั รู้ของผูบ้ ริหารและคร.ู วทิ ยานพิ นธศ์ ึกษาศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าการจัดการการศึกษา บัณฑติ วทิ ยาลยั มหาวิทยาลยั ธุรกจิ บัณฑติ ย์. ประจญั เดชสภุ า. (2562). สมรรถนะการบรหิ ารงานวิชาการที่สง่ ผลต่อประสิทธิผลของสถานศกึ ษา เอกชน สงั กัดสำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1. วิทยานพิ นธ์ครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าการบริหารการศกึ ษา บัณฑิตวิทยาลยั มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณ.ี ปวณี า ศรนี าราง. (2560). คณุ ลักษณะของผู้บรหิ ารสถานศึกษาทส่ี ง่ ผลต่อประสิทธผิ ลของโรงเรยี น สังกัดสานักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาสมุทรสาคร. วิทยานพิ นธค์ รศุ าสตรมหา บัณฑติ สาขาวิชาการบรหิ ารการศึกษา บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครปฐม. พระครูสุตวรธรรมกิจ. (2561). ภาวะผู้นำเชงิ กลยทุ ธ์. พระนครศรอี ยุธยา : มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย. พชิ ญ์ณฐิ า พรรณศลิ ป์. (2558). บทบาทของผูบ้ ริหารท้องถิ่นในทศวรรษที่ 21. วารสารสันตศิ ึกษา ปริทรรศน์ มจร, 3, 146-161. พชิ ญาภา ยืนยาว. (2557). พื้นฐานของการศึกษา. นครปฐม : คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครปฐม. เพญ็ ประภา สารภิ า. (2556). ความสมั พันธร์ ะหวา่ งภาวะผู้นำเชิงกลยุทธข์ องผู้บริหารสถานศกึ ษา กับประสิทธผิ ลของโรงเรียน สังกดั สำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 19. วทิ ยานพิ นธ์ครศุ าสตรมหาบัณฑิต สาขาวชิ าการบรหิ ารการศึกษา บัณฑติ วิทยาลัย มหาวทิ ยาลัยราชภฏั เลย. ภารดี อนันต์นาวี. (2554). ปัจจยั ทีส่ ง่ ผลตอ่ การตัดสนิ ใจเลือกเขา้ ศกึ ษาตอ่ สาขาวิชาการบรหิ าร การศกึ ษา ศูนย์นวัตกรรมบริหารและผนู้ ำทางการศกึ ษา. ปริญญานพิ นธศ์ ึกษาศาสตร มหาบณั ฑิต สาขาวิชาการบริหารการศกึ ษา บัณฑติ วทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลยั บรู พา. มนสิชา ธรรมรักษ์. (2561). ความสัมพันธร์ ะหวา่ งภาวะผู้นำเชิงกลยทุ ธข์ องผู้บรหิ ารสถานศึกษา กบั การบรหิ ารวิชาการของโรงเรยี นในเครอื สวนกหุ ลาบวิทยาลัย. วิทยานิพนธ์ศกึ ษาศาสตร มหาบณั ฑติ สาขาบริหารการศึกษา คณะครศุ าสตร์อตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าช มงคลธญั บรุ ี. มยรุ ี วรรณสกลุ เจริญ. (2563). ประสิทธผิ ลขององคก์ าร. วารสารศิลปการจัดการ, 4, 193-204.

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 77 บรรณานุกรม (ตอ่ ) มัทนิตา คงช่วย. (2563). ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3. วิทยานิพนธ์ ครศุ าสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าการบริหารการศึกษา บัณฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสุ ราษฎร์ธานี. มันทนา กองเงิน. (2554). ภาวะผนู้ ำเชงิ กลยทุ ธ์กับการจัดการความขดั แยง้ ของผูบ้ รหิ ารใน สถานศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน สงั กัดสำนกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษานครปฐม เขต 1. วิทยานิพนธ์ ศกึ ษาศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าการบริหารการศึกษา บัณฑิตวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลัย ศิลปากร. ยุกตนันทน์ หวานฉำ่ . (2555). การบรหิ ารสถานศึกษากบั ประสิทธภิ าพของโรงเรียนในอำเภอคลอง หลวง สังกัดสำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต 1. วทิ ยานิพนธ์ ศกึ ษาศาสตรมหาบัณฑติ สาขาเทคโนโลยกี ารบริหารการศึกษา บณั ฑิตวิทยาลยั มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ .ี เยาวรนิ ทร์ ยิม้ รอด. (2559). ภาวะผนู้ ำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศกึ ษากับคุณภาพผู้เรียนของ โรงเรยี นมาตรฐานสากลระดับมธั ยมศึกษา สังกดั สำนกั งานศกึ ษาธกิ ารจงั หวัดในภาค ตะวันตก. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบณั พิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บณั ฑิต วิทยาลยั มหาวิทยาลัยศิลปากร. ริญญาภทั ร์ สภาศริ ธิ นานนท.์ (2563). บทบาทผบู้ ริหารกับบรรยากาศองค์กรของโรงเรยี น ประถมศึกษาจงั หวดั นนทบุรี. วทิ ยานพิ นธศ์ กึ ษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหาร การศกึ ษา บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวิทยาลัยศิลปากร. ฤทยั รตั น์ บญุ อินทร์. (2559). ปัจจยั ทสี ่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพืนที การศกึ ษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1. ปรญิ ญานิพนธก์ ารศึกษามหาบณั ฑติ สาขาวชิ าการ บริหารการศกึ ษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั บูรพา. วรนารถ แสงมณี. (2553). องค์การ : ทฤษฎีการออกแบบและการบริหารจดั การเชงิ กลยุทธ.์ กรุงเทพฯ : ระเบียงทองการพิมพ์. วรรณฤดี มณฑลจรสั . (2562). ภาวะผูน้ ำเชิงกลยุทธ์สำหรบั ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษาในโครงการโรงเรยี น ประชารฐั กรณศี ึกษาจงั หวัดพัทลุง. วารสารสถานบันวิจัยญาณสงั วร, 10, 244-260. วราภรณ์ ชาเรืองเดช. (2558). รปู แบบความสัมพนั ธโ์ ครงสร้างเชงิ เส้นของทีมคณุ ภาพที่ส่งผลต่อ ประสทิ ธิผลโรงเรยี นประถมศึกษาในภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ สงั กัดสำนกั งาน คณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน. วทิ ยานิพนธ์ปรชั ญาดษุ ฎีบณั ฑติ สาขาวชิ าการบริหาร และพัฒนาการศึกษา บัณฑิตวทิ ยาลยั มหาวิทยาลยั ราชภัฏสกลนคร. วนั วสิ าข์ ทองตงิ . (2555). ความสัมพนั ธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชงิ กลยุทธ์ของผบู้ ริหารกับประสิทธิผล ของโรงเรยี น สังกัดสำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาขอนแกน่ เขต 5. วิทยานพิ นธ์ครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าการบริหารการศึกษา บัณฑติ วิทยาลัย มหาวทิ ยาลัยราชภฏั เลย.

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 78 บรรณานกุ รม (ตอ่ ) วานชิ บญุ ครอบ. (2556). ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมรรถนะของผู้บริหารกบั ประสิทธิผลของโรงเรยี น สงั กดั สำนกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 20. วิทยานพิ นธค์ รุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าการบรหิ ารการศึกษา บณั ฑติ วิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏเลย. วารุณี ก๋งหมงึ . (2559). สมรรถนะภาวะผนู้ ำเชิงกลยทุ ธ์ของหวั หน้าหอผู้ปว่ ยในโรงพยาบาลเอกชน แห่งหนึ่งในจงั หวดั สมทุ รสาคร. วิทยานพิ นธพ์ ยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการ บรหิ ารการพยาบาล บณั ฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั คริสเตยี น. วิโรจน์ สารรัตนะ. (2555). แนวคดิ ทฤษฎี และประเดน็ เพ่ือการบริหารทางการศกึ ษา (พิมพค์ รัง้ ที่ 8). กรงุ เทพฯ : ทิพย์วสิ ทุ ธ.ิ์ วีระยทุ ธ ชาตะกาญจน์. (2555). เทคนคิ การบรหิ ารสำหรับนกั บริหารการศกึ ษามืออาชพี . กรงุ เทพฯ : จุฬาลงกรณมหาวทิ ยาลยั . ศรายทุ ธ เมอื งคำ. (2563). คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาในยคุ ประเทศไทย 4.0 ท่สี ่งผลต่อประสทิ ธผิ ลของสถานศกึ ษา สังกัดสานักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา มัธยมศกึ ษาเขต 18 จังหวดั ระยอง. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวิชาการบริหาร การศกึ ษา บัณฑติ วิทยาลัย มหาวิทยาลยั ราชภฏั รำไพพรรณี. สมชาย ภคภาสนว์ วิ ัฒน.์ (2552). การบริหารเชงิ กลยทุ ธ์ (พิมพค์ รง้ั ที่ 19). กรุงเทพฯ : อมรินทร์. สมหมาย ปวะบุตร. (2558). ตำราหลักการศกึ ษา. กรุงเทพฯ : คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏ สวนสุนันทา. สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษาราชบุรี เขต 1. (2563). แผนปฏิบัติการประจำปี งบประมาณ 2563. ราชบรุ ี : ผู้แต่ง. สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน. (2561). แนวทางการประเมินคุณภาพตามมาตรฐาน การศกึ ษาระดับปฐมวัยระดับการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐานและระดับการศึกษาขัน้ พ้ืนฐานศูนย์ การศึกษาพิเศษ. กรุงเทพฯ: ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด. สำนักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ. (2560). แผนพฒั นาเศรษฐกิจและ สงั คมแห่งชาติ ฉบับท่ีสิบสอง พ.ศ. 2560-2564. กรุงเทพฯ : ผแู้ ตง่ . ______. (2561). ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี พ.ศ. 2561-2580. กรงุ เทพฯ : ผ้แู ตง่ . สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร. (2560). แผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบบั ที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564). กรงุ เทพฯ : ผแู้ ต่ง สำนักงานเลขาธิการสภาการศกึ ษา. (2560). แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพฯ : ผแู้ ต่ง สุพรรณ ประศรี. (2555). การศกึ ษาความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งภาวะผนู้ ำเชงิ กลยทุ ธข์ องผู้บริหาร สถานศึกษากับการดำเนินการประกันคณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา สงั กัดสำนักงานเขต พ้ืนทก่ี ารศกึ ษาพระนครศรอี ยุธยา เขต 2. วิทยานิพนธค์ รุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวิชาการ บรหิ ารการศึกษา บณั ฑิตวิทยาลยั มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนครศรีอยธุ ยา.

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 79 บรรณานกุ รม (ตอ่ ) สุภทั รา สงครามศร.ี (2558). แบบจำลองความสัมพันธข์ องภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ ประสิทธิภาพการ จัดการทรัพยากรมนุษย์ และผลการปฏิบัติงาน ของสถานบนั อาชีวศกึ ษา. วิทยานิพนธ์การ จัดการดุษฎบี ณั ฑิต สาขาวิชาการบรหิ ารทรพั ยากรมนุษย์ วิทยาลยั บณั ฑติ ศึกษาด้านจัดการ มหาวิทยาลยั ศรีปทุม. สภุ าภรณ์ วงศก์ รเชาวลติ . (2560). ปจั จยั ท่ีส่งผลตอ่ ประสิทธิผลการปฏิบัตงิ านของจติ อาสาใน องคก์ ารไมแ่ สวงหาผลกำไร กรณีศึกษา : มลู นธิ แิ สงธรรมสอ่ งหลา้ กรุงเทพมหานคร. สาร นิพนธ์รฐั ศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาบรหิ ารรฐั กจิ และกิจการสาธารณะสำหรบั นักบริหาร คณะรฐั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์. เหมือนฝัน นนั ทิยกุล (2562, 159-160) ภาวะผนู้ ำเชิงกลยุทธ์ของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาทสี่ ่งผลต่อ การบรหิ ารโรงเรียนเอกชนสคู่ วามเปน็ เลิศในจงั หวัดนครปฐม. วทิ ยานพิ นธค์ รศุ าสตรมหา บัณฑติ สาขาวชิ าการบริหารการศกึ ษา บัณฑติ วิทยาลัย มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครปฐม. อลิษา สุคณุ พันธ์. (2555). การบรหิ ารแบบมุ่งคุณภาพท้งั องคก์ ารทสี่ ่งผลต่อประสิทธผิ ลของ สถานศกึ ษา สังกดั สำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาจนั ทบรุ ี. วทิ ยานิพนธ์ครุ ศาสตร์มหาบัณฑติ สาขาวชิ าการบรหิ ารการศึกษา บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลัยราชภฏั รำไพพรรณ.ี Aydin, M. K., Güçlü, N. & Pisapia, J. (2014). The Relationship between School Principals’ Strategic Leadership Actions and Organizational Learning: A Quantitative Study in Turkish Primary Schools. Arlington, VA: the American Institute of Higher Education. Baloch, Q. B., & Inam, M. (2007). Strategic thinking: Catalyst to competitive advantage. Journal of Managerial Science, 1, 1-26. Bartz, A. E. (1999). Basic statistical concepts (4th ed.). London: Pearson. Burušić, J., Babarović, T., & Velić, M.Š. (2016). School Effectiveness: An Overview of Conceptual, Methodological and Empirical Foundations. In School Effectiveness and Educational Management. Switzerland: Springer International Publishing. Christensen, C. M. (1997). \"Making strategy: learning by doing.\". Harvard Business Review, 75, 141-156. Cronbach, L. J. (1970). Essentials of psychological testing (3rd ed.). New York: Harper & Row. DuBrin, A. J. (2010). Leadership research findings, practice and skill (6th ed.). Mason, USA: South-Western Cengage Learning. Frederick, J. M. (1987). Measuring School Effectiveness: Guidelines for Educational Practitioners. New Jersey: ERIC Clearinghouse.

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 80 บรรณานกุ รม (ตอ่ ) Hitt, M. A., Ireland, R. D., & Hoskisson, R. E. (2007a). Management of strategy: Concepts and cases. Ohio: Thomson/South Western. ______. (2007b). Strategic Management: Competitiveness and Globalization (7th ed.). Ohio: Thomson/South Western. Hoy, W. K. & Miskel, C. G. (2013). Education administration: Theory research and Practice (9th ed.). New York: McGraw-Hill. Hoy, W. K. & Furguson, J. (1985). Theoretical framework and exploration organization effectiveness of schools. Educational Administrators Quarterly, 59, 732-746. Huey, J. (1994). The new post-heroic leadership. Fortune, 21, 42–50. Hughes, R. L., & Beatty, K. M. (2005). Becoming a strategic leader: Your role in your organization’s enduring success. San Francisco, CA: Jossey-Bass. Katz, D. & Kahn, R.L. (2003). The social psychology of organizations (2nd ed.). New York: McGraw-Hill. Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30, 607-610. Likert, R. (1932). A technique for the measurement of attitudes. New York: R. S. Woodworth. Makgone, S. G. (2012). An evaluation of strategic leadership in selected schools and its contribution to academic performance. Unpublished master’s thesis, University of South Africa, South Africa. Ramberg, J., Laftman, S. B., & Almquist, Y. B. (2019). School effectiveness and students’ perceptions of teacher caring: A multilevel study. Improving Schools 2019, 22, 55–71. Rowe, W. G. (2001). Creating Wealth in Organisations: The Role of Strategic Leadership. Academy of Management Review, 15, 81-94. Sallis, E. & Jones, G. (2002). Knowledge management in education. London: Kogan Page. Yukl, G. (2013). Leadership in organizations. New York: University of Albany State.

ภาคผนวกมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏหม่บู า้ นจอมบงึ

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 82 ภาคผนวก ก เครื่องมอื ทใี่ ช้ในการวิจยั

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 83 แบบสอบถามเพื่อการวจิ ยั เรอื่ ง ภาวะผ้นู ำเชิงกลยุทธข์ องผบู้ รหิ ารสถานศึกษากับประสิทธผิ ลของสถานศึกษา ในสงั กัดสำนักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ผู้วิจยั นางสาวปยิ นุช อินทรดิบ นักศึกษาปรญิ ญาโทครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าการบรหิ ารการศกึ ษา บณั ฑิตวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลัยราชภฎั หมู่บา้ นจอมบึง

มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึง 84 แบบสอบถามเพ่ือการวิจัย เรื่อง ภาวะผูน้ ำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของสถานศึกษา ในสงั กัดสำนกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 1 …………………………………………………..... คำชี้แจง 1. แบบประเมินนีส้ ร้างขน้ึ เพ่ือสอบถามความคิดเหน็ ของท่านภาวะผูน้ ำเชงิ กลยทุ ธข์ อง ผู้บรหิ ารสถานศึกษากับประสิทธผิ ลของสถานศกึ ษาในสังกัดสำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษา ประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 1 2. แบบประเมินน้ีแบ่งออกเป็น 3 ตอน คอื ตอนที่ 1 สถานภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 แบบสอบถามเก่ยี วกับภาวะผูน้ ำเชิงกลยุทธ์ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาในสังกัด สำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาราชบุรี เขต 1 ตอนที่ 3 ประสทิ ธิผลของสถานศกึ ษาในสงั กดั สำนักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษา ประถมศกึ ษาราชบุรี เขต 1 ขอ้ มูลทจี่ ะไดจ้ ากการตอบคำถามของท่านมีคา่ และเป็นประโยชน์ตอ่ งานวิจัยฉบับนเี้ ป็น อย่างย่งิ ฉะนน้ั จึงไมม่ ีข้อคำตอบท่ถี ูกต้องหรือผดิ การสรปุ ผลการวิจัยครงั้ นจี้ ะเปน็ การสรปุ ผลโดย ส่วนรวมไม่มกี ารระบชุ ่ือของผู้ตอบแบบสอบถาม ดังนนั้ จึงขอให้ท่านตอบตามความคดิ เห็นและ ข้อเทจ็ จรงิ ใหม้ ากท่สี ดุ ขอขอบพระคณุ อย่างยิง่ ในความอนุเคราะห์ นางสาวปยิ นุช อินทรดิบ นกั ศกึ ษาปรญิ ญาโท สาขาวชิ าการบรหิ ารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั หมบู่ ้านจอมบึง

85 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงตอนที่ 1 สถานภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม คำชีแ้ จง : โปรดใส่เครื่องหมาย () ทีต่ รงกับสถานภาพของท่าน 1. เพศ ( ) หญงิ ( ) ชาย 2. อายุ ( ) 30 - 40 ปี ( ) นอ้ ยกวา่ 30 ปี ( ) มากกว่า 50 ปี ( ) 41 - 50 ปี 3. ตำแหนง่ ( ) ผอู้ ำนวยการสถานศึกษา ( ) ครผู สู้ อน 4. ประสบการณท์ ำงาน ( ) 5 - 10 ปี ( ) น้อยกว่า 5 ปี ( ) มากกวา่ 15 ปี ( ) 11 - 15 ปี 5. ระดบั การศึกษา ( ) ปรญิ ญาโท ( ) ปริญญาตรี ( ) ปริญญาเอก 6. ขนาดโรงเรียน ( ) ขนาดกลาง ( ) ขนาดใหญพ่ ิเศษ ( ) ขนาดเล็ก ( ) ขนาดใหญ่

86 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงตอนที่ 2 แบบสอบถามเกี่ยวกบั ภาวะผนู้ ำเชิงกลยทุ ธ์ของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา สังกดั สำนักงานเขต พน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 1 คำช้ีแจง : โปรดเขียนเครอ่ื งหมาย () ทต่ี รงกับความคิดเหน็ ของท่านทมี่ ตี ่อระดบั ภาวะผนู้ ำเชิงกล ยทุ ธ์ของผูบ้ ริหารสถานศึกษาของท่านวา่ อยใู่ นระดบั ใด ซึง่ มีระดบั คะแนน 5 ระดับ มีความหมายดังนี้ 5 หมายถึง ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา อยู่ในระดบั มากทีส่ ุด 4 หมายถงึ ภาวะผู้นำเชงิ กลยุทธข์ องผบู้ ริหารสถานศกึ ษา อยู่ในระดับมาก 3 หมายถงึ ภาวะผู้นำเชงิ กลยุทธข์ องผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา อยู่ในระดับปานกลาง 2 หมายถึง ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธข์ องผู้บริหารสถานศึกษา อยู่ในระดบั น้อย 1 หมายถึง ภาวะผู้นำเชงิ กลยุทธ์ของผู้บรหิ ารสถานศึกษา อยใู่ นระดบั น้อยทส่ี ุด ข้อที่ ประเดน็ คำถาม 5 ระดบั ความคดิ เห็น 1 432 การมคี วามคิดความเข้าใจระดับสงู 1 ผบู้ รหิ ารมีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ คดิ สังเคราะห์ เพื่อนำไปกำหนดเป็น แผนปฏิบัตงิ าน 2 ผู้บริหารมคี วามคิดเชิงระบบ สามารถ บรหิ ารงานเพื่อใหบ้ รรลุวัตถปุ ระสงค์ 3 ผู้บริหารมคี วามสามารถในการคิดแก้ไข ปญั หา 4 ผ้บู รหิ าร มีความเข้าใจทมี่ ี ไปใช้ในการ แก้ปญั หาอย่างมีวิจารณญาณ 5 ผู้บริหารสถานศึกษามที ักษะและไหวพรบิ ใน การคดิ เชิงสร้างสรรค์ การรวบรวมปจั จยั สูก่ ารกำหนดกลยทุ ธ์ 1 ผู้บริหารมีความสามารถในการวเิ คราะห์ ปัจจยั ภายใน และปจั จัยภายนอก สถานศกึ ษาเพื่อเก็บเป็นข้อมูล 2 ผบู้ ริหารมีการบริหารจัดการข้อมลู โดย จดั เปน็ ขอ้ มูล สารสนเทศโดยใชเ้ ป็น ฐานขอ้ มูลของโรงเรียน 3 ผบู้ ริหารมีการประเมนิ ผลและรายงานผล แผนงาน และโครงการอยู่เสมอ 4 ผู้บรหิ ารนำข้อมลู สารสนเทศมาเป็นแนวทาง ในการพัฒนางานให้มีประสทิ ธภิ าพ

87 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงขอ้ ท่ี ประเด็นคำถาม 5 ระดบั ความคดิ เห็น 1 432 5 ผบู้ รหิ ารสามารถนำข้อมูลที่มีอยู่ไป ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการบรหิ ารโรงเรยี นใหเ้ กิด ประโยชน์สงู สุด การคาดหวังและสรา้ งโอกาสสำหรับอนาคต 1 ผบู้ รหิ ารมีความสามารถในการวางแผนการ ทำงาน อย่างเป็นระบบเป็นขั้นตอน 2 ผู้บริหารสามารถคาดการณ์อนาคต สถานการณ์และกำหนดทิศทางของโรงเรียน 3 ผู้บริหารมกี ารทำงานเชงิ รกุ มีการวางแผน งานล่วงหน้า อยา่ งละเอยี ดรอบคอบ 4 ผูบ้ รหิ ารมที กั ษะและไหวพรบิ คิดหาแนว ทางแก้ไขปัญหา ได้อยา่ งสรา้ งสรรค์ 5 ผบู้ รหิ ารสามารถวางแผนกลยุทธ์และ ขับเคล่ือนกลยทุ ธ์ ใหบ้ รรลุเป้าหมายของ โรงเรยี น การคิดเชิงปฏิวัติ 1 ผู้บรหิ ารมีความสามารถในการคดิ เชงิ บรู ณา การสามารถเช่ือมโยงข้อมูลตา่ ง ๆ ที่สมั พนั ธ์ กนั เพื่อพัฒนาโรงเรียน 2 ผบู้ ริหารมีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ และมี ความสามารถในการคิดแบบองคร์ วม 3 ผู้บริหารคิดเปลี่ยนแปลง คดิ แปลกใหมเ่ พือ่ พัฒนาความเปน็ เลิศของโรงเรียน 4 ผู้บรหิ ารมกี ารเรียนรู้ประสบการณใ์ หม่อยา่ ง ไม่หยุดนง่ิ พฒั นาทักษะใหม่ๆ ภายใต้กรอบ การทำงานอย่างชัดเจน 5 ผบู้ ริหารมีความเขา้ ใจหลักการพฒั นา โรงเรียนแบบยั่งยนื การกำหนดวิสยั ทัศน์ 1 ผ้บู รหิ ารมีความสามารถในการแสดง ศกั ยภาพของการเปน็ ผู้นำสู่เป้าหมายแหง่ ความสำเร็จ

88 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงข้อที่ ประเดน็ คำถาม5ระดับความคดิ เห็น1 432 2 ผู้บริหารสามารถมองเห็นภาพรวมของ โรงเรียน ในอนาคตท่ีต้องการท่ีจะใหเ้ ป็นได้ อย่างชดั เจน 3 ผู้บรหิ ารมีเป้าหมายและมอี ุดมการณ์ในการ พฒั นาโรงเรียน 4 ผ้บู ริหารสามารถชแ้ี จงใหบ้ คุ ลากรทุกฝา่ ย มองเหน็ ความเป็นไปได้ของวิสยั ทศั น์ 5 ผ้บู ริหารสามารถกำหนดวิสยั ทศั น์ ตรงตามสถานการณ์

89 มหา ิวทยา ัลยราชภัฏห ่มูบ้านจอมบึงตอนที่ 3 แบบสอบถามเกี่ยวกบั ประสิทธิผลของสถานศึกษา สงั กัดสำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษา ประถมศกึ ษาราชบรุ ี เขต 1 คำชแี้ จง : โปรดเขียนเคร่อื งหมาย () ที่ตรงกับความคดิ เห็นของท่านทีม่ ตี ่อระดับประสิทธิผลของ สถานศึกษา ของทา่ นว่าอยู่ในระดับใด ซ่ึงมีระดับคะแนน 5 ระดบั มีความหมายดงั นี้ 5 หมายถึง ประสิทธิผลของสถานศึกษา อยู่ในระดับมากทสี่ ดุ 4 หมายถึง ประสิทธผิ ลของสถานศึกษา อยู่ในระดบั มาก 3 หมายถึง ประสทิ ธิผลของสถานศึกษา อยู่ในระดับปานกลาง 2 หมายถึง ประสิทธิผลของสถานศึกษา อย่ใู นระดบั นอ้ ย 1 หมายถงึ ประสิทธผิ ลของสถานศึกษา อยูใ่ นระดบั น้อยทสี่ ดุ ขอ้ ที่ ประเด็นคำถาม ระดบั ความคดิ เห็น 5432 1 ความสามารถในการผลิตนกั เรยี นให้มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเพ่ิมขึน้ 1 โรงเรียนมีการจัดทำแผนกลยุทธ/์ แผนปฏิบัติการ ในการพัฒนาคณุ ภาพและ ยกระดับผลสมั ฤทธ์ิ ทางการเรยี นของ นักเรียน 2 โรงเรียนพฒั นานกั เรยี นดว้ ยกิจกรรมท่ี หลากหลาย ตามความเหมาะสมสอดคล้อง กับความต้องการ และความสามารถของ ผู้เรียน 3 โรงเรยี นสามารถผลติ นกั เรียนใหม้ ีระดบั ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนทม่ี ีเฉล่ยี สูงเพิม่ ขึน้ 4 นกั เรียน สามารถเขา้ ศึกษาต่อในระดบั สงู ข้นึ ได้ จำนวนมาก 5 นักเรยี นได้รบั รางวลั จากการแขง่ ขนั ทางดา้ น วิชาการจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ความสามารถในการพัฒนานักเรียนใหม้ เี จตคติทางบวก 1 โรงเรียนมีการจดั กิจกรรมพฒั นาระเบยี บ วนิ ยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรมของนกั เรียนภายใน โรงเรียน 2 โรงเรียนมีการส่งเสริมผ้เู รียนให้คดิ เชิงบวก คิดดตี อ่ ตนเอง ต่อผอู้ ่นื ตอ่ การเรยี นรู้และต่อโรงเรยี น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook