คู่มือการใช้หลักสูตร วิชาชีววิทยา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

100 ผลการเรียนร้ ู 4. อธิบายและยกตัวอย่างการจ�ำ แนกสง่ิ มีชีวติ จากหมวดหมู่ใหญ่จนถึงหมวดหมู่ย่อย และวธิ ีการเขยี นช่ือวิทยาศาสตร์ในล�ำ ดบั ขั้นสปีชีส์การวิเคราะหผ์ ลการเรยี นรู้ แนวทางการจดั การเรียนรู้ แนวทางการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ดา้ นความรู้ 1. นำ�เข้าสู่บทเรียนโดยใช้คำ�ถามเก่ียวกับวิธีการแก้ปัญหาเร่ืองการเรียกชื่อ ด้านความรู้ ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจไดต้ รงกนั ทว่ั โลก เพอ่ื เชอ่ื มโยงเขา้ สเู่ รอ่ื งหลกั ในการเขยี น1. การจ�ำ แนกสงิ่ มชี วี ติ จากหมวดหมใู่ หญจ่ นถงึ การจำ�แนกสิ่งมีชีวิตจากหมวดหมู่ใหญ่จนถึง หมวดหมู่ยอ่ ย ชือ่ วิทยาศาสตรข์ องสิ่งมชี ีวิตในลำ�ดับข้ันสปีชสี ์ หมวดหมู่ย่อย และวิธีการเขียนชื่อวิทยาศาสตร์ 2. อธบิ ายและยกตวั อยา่ งการเขยี นชอ่ื วทิ ยาศาสตรข์ องสง่ิ มชี วี ติ ในล�ำ ดบั ขนั้ ในลำ�ดับขั้นสปชี สี ์จากการท�ำ แบบทดสอบ2. วิธีการเขียนช่ือวิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิต ในลำ�ดับข้นั สปชี ีส์ สปีชีส์ในระบบทวินาม และร่วมกันสรุปวิธีการเขียนช่ือวิทยาศาสตร์ของ ดา้ นทกั ษะ ส่ิงมชี วี ติ ในล�ำ ดับขั้นสปีชีส์ 1. การลงความเห็นจากขอ้ มูล จากการศกึ ษาแผนภาพดา้ นทักษะ 3. ให้นกั เรียนศกึ ษาแผนภาพการจำ�แนกพืชและสัตว์ เชน่ ข้าว มะม่วง หมกึทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และแมว จากหมวดหมใู่ หญจ่ นถงึ หมวดหมยู่ อ่ ยคอื ตง้ั แตล่ �ำ ดบั ขน้ั คงิ ดอม และการตอบค�ำ ถาม การลงความเหน็ จากขอ้ มูล ไฟลมั คลาส ออรเ์ ดอร์ แฟมิลี จนี ัส และสปชี ีส์ 2. การส่ือสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ จากการทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 4. ให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลและนำ�เสนอตัวอย่างการจำ�แนกสิ่งมีชีวิตท่ีสนใจ การสอ่ื สารสารสนเทศและการรเู้ ท่าทันส่อื จากหมวดหมู่ใหญ่จนถึงหมวดหมู่ย่อยและเขียนช่ือวิทยาศาสตร์ของสิ่งมี สบื คน้ ข้อมลู และการนำ�เสนอ ชีวติ ที่ยกตัวอย่างด้านจิตวิทยาศาสตร์ 5. ใหค้ วามรเู้ สรมิ เกย่ี วกบั แนวคดิ การจ�ำ แนกสงิ่ มชี วี ติ ออกเปน็ 5 คงิ ดอมของ - วิทเทเกอร์ และแนวคิดการจำ�แนกส่ิงมีชีวิตออกเป็น 3 โดเมนของโวสซ์ และคณะ

ชีววทิ ยา ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6ผลการเรยี นรู้ 5. สร้างไดโคโทมสั คียใ์ นการระบุส่งิ มชี วี ติ หรอื ตวั อย่างทก่ี �ำ หนดออกเป็นหมวดหมู่ 101การวเิ คราะหผ์ ลการเรียนรู้ แนวทางการจัดการเรยี นรู้ แนวทางการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ดา้ นความรู้ 1. นำ�เข้าสู่บทเรียนโดยแบ่งกลุ่มนักเรียนทำ�กิจกรรมใช้ไดโคโทมัสคีย์ ดา้ นความรู้ ในการระบุหมวดหมู่ของส่ิงมีชีวิตตามลักษณะต่าง ๆ ที่ศึกษาได้จาก การสรา้ งไดโคโทมัสคีย์ โครงสรา้ งภายนอกและขอ้ มูลท่กี �ำ หนดให้ การสรา้ งไดโคโทมสั คยี ใ์ นการระบสุ งิ่ มชี วี ติ ออกเปน็ หมวดหมู่จากการนำ�เสนอ การทำ�แบบฝึกหัดหรือด้านทักษะ 2. รว่ มกนั อภปิ รายผลทไ่ี ดจ้ ากการใชไ้ ดโคโทมสั คยี ์ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นระบชุ นดิ แบบทดสอบทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกล่มุ ของสงิ่ มชี ีวติ และสรุปหลกั การของไดโคโทมสั คีย์1. การสงั เกต ด้านทกั ษะ2. การลงความเหน็ จากข้อมลู 3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทำ�กิจกรรมสร้างไดโคโทมัสคีย์เพื่อใช้ 1. การสงั เกต การลงความเหน็ จากขอ้ มลู และความรว่ มมอืทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ในการระบุส่ิงมีชีวิตหรือตัวอย่างท่ีกำ�หนดให้ 5-7 ตัวอย่าง นำ�เสนอและ การท�ำ งานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ �ำ จากการท�ำ กจิ กรรม1. การสื่อสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสอ่ื รว่ มกนั อภปิ รายเกณฑ์ในการสรา้ ง 2. การสอื่ สารสารสนเทศและการร้เู ทา่ ทันสอื่ จากการ2. ความรว่ มมอื การท�ำ งานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ �ำ นำ�เสนอด้านจติ วิทยาศาสตร์ ดา้ นจติ วทิ ยาศาสตร์1. ความใจกวา้ ง ความใจกวา้ ง และความเชอ่ื มน่ั ตอ่ หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์2. ความเช่อื มั่นต่อหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ จากการสังเกตพฤติกรรมจากการ ทำ�กิจกรรม การ อภปิ รายร่วมกัน และการน�ำ เสนอ

102 5. เขา้ ใจแนวคดิ เกย่ี วกบั ระบบนเิ วศ กระบวนการถา่ ยทอดพลงั งานและการหมนุ เวยี นสารในระบบนเิ วศ ความหลากหลายของไบโอม การเปลย่ี นแปลงแทนท่ี ของสง่ิ มีชีวติ ในระบบนิเวศ ประชากรและรปู แบบการเพิ่มของประชากร ทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม ปัญหาและผลกระทบที่เกดิ จาก การใชป้ ระโยชนแ์ ละแนวทางการแกไ้ ขปญั หา ผลการเรยี นรู ้ 1. วเิ คราะห์ อธบิ าย และยกตัวอยา่ งกระบวนการถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศ 2. อธิบาย ยกตวั อยา่ งการเกดิ ไบโอแมกนิฟิเคชัน และบอกแนวทางในการลดการเกดิ ไบโอแมกนฟิ ิเคชัน การวเิ คราะหผ์ ลการเรียนรู้ แนวทางการจัดการเรียนรู้ แนวทางการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ 1. น�ำ เขา้ สบู่ ทเรยี นโดยทบทวนความหมายเรอื่ งระบบนเิ วศ วา่ เปน็ ระบบทมี่ ี ดา้ นความรู้ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งสงิ่ มีชวี ติ กบั ส่ิงมชี วี ิต และส่ิงมีชวี ิตกบั ส่งิ แวดล้อม 1. กระบวนการถา่ ยทอดพลงั งานในระบบนเิ วศ 1. กระบวนการถา่ ยทอดพลงั งานในระบบนเิ วศ จากการ 2. การเกิดไบโอแมกนิฟิเคชัน และแนวทาง 2. น�ำ ภาพหรอื วดี ทิ ศั น์ เกย่ี วกบั ระบบนเิ วศ แบบตา่ ง ๆ มาใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั เขยี นแผนภาพการท�ำ แบบฝกึ หดั และแบบทดสอบ วิเคราะห์เก่ียวกับองค์ประกอบและความสัมพันธ์ขององค์ประกอบ 2. การเกดิ ไบโอแมกนฟิ เิ คชนั และการลดการเกดิ ไบโอ ในการลดการเกดิ ไบโอแมกนิฟเิ คชนั ทางกายภาพและชวี ภาพในระบบนเิ วศ แมกนิฟิเคชัน จากการนำ�เสนอ การทำ�แบบฝึกหัด ด้านทกั ษะ 3. อภิปรายร่วมกันและให้นักเรียนยกตัวอย่างความสัมพันธ์ในระบบนิเวศ และแบบทดสอบ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 1. การสงั เกต เพ่ือให้นกั เรียนสรปุ ได้วา่ องค์ประกอบทางกายภาพและชีวภาพในระบบ ดา้ นทักษะ 2. การจ�ำ แนกประเภท นิเวศมีความสัมพันธ์กัน เนื่องจากส่ิงมีชีวิตต้องอาศัยปัจจัยต่าง ๆ ทั้งที่ 1. การสังเกต การจำ�แนกประเภท จากการศึกษาภาพ 3. การลงความเห็นจากข้อมลู ไม่มชี ีวติ และที่มีชีวิต เพอ่ื ใช้ในการดำ�รงชวี ติ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 4. ใช้คำ�ถามเพ่ิมเติมเพ่ือให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับกระบวนการ ระบบนิเวศแบบต่าง ๆ 1. การสื่อสารสารสนเทศและการรูเ้ ท่าทันสือ่ ท่ีสำ�คัญที่ทำ�ให้ระบบนิเวศสามารถคงสภาพอยู่ได้ เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า 2. การลงความเห็นจากข้อมูล จากการทำ�กิจกรรม 2. การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและการแกป้ ญั หา การถ่ายทอดพลังงาน และการหมุนเวียนสารต่าง ๆ เกิดข้ึนในระบบเป็น 3. ความรว่ มมอื การท�ำ งานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ �ำ กระบวนการส�ำ คญั ทที่ �ำ ใหร้ ะบบนเิ วศสามารถคงสภาพอย่ไู ด้ การน�ำ เสนอ และการอภิปรายร่วมกนั 5. ใหน้ กั เรยี นท�ำ กจิ กรรมกลมุ่ โดยสบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ระบบนเิ วศแบบตา่ งๆ 3. การส่ือสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ ความ ด้านจิตวิทยาศาสตร์ พร้อมทั้งระบุชนิดและจำ�นวน ของสิ่งมีชีวิตที่พบได้ และเขียนแผนภาพ การใชว้ ิจารณญาณ แสดงกระบวนการถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศในรูปของโซ่อาหาร ร่วมมือการทำ�งานเป็นทีมและภาวะผู้นำ� จากการ สายใยอาหาร และพีระมิดทางนเิ วศวิทยา แล้วน�ำ เสนอหน้าช้ันเรียน ท�ำ กจิ กรรม การสบื ค้นข้อมลู และการนำ�เสนอ 6. ให้ความรู้เพิ่มเติมเก่ียวกับการสูญเสียพลังงานในการถ่ายทอดพลังงาน 4. การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา ในแต่ละลำ�ดับข้ันของการกินอาหาร กฎสิบเปอร์เซนต์ การตกค้างของ จ า ก ก า ร บ อ ก แ น ว ท า ง ใ น ก า ร ล ด ก า ร เ กิ ด ไ บ โ อ สารเคมีในการเกษตร แมกนิฟิเคชนั ได้อยา่ งเปน็ รูปธรรม

ชวี วิทยา ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 6 103การวิเคราะหผ์ ลการเรียนรู้ แนวทางการจัดการเรยี นรู้ แนวทางการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 7. ร่วมกันวิเคราะห์แผนภาพโซ่อาหาร หรือสายใยอาหาร หรือ พีระมิด ดา้ นจิตวทิ ยาศาสตร์ จ�ำ นวน ทจี่ ดั ท�ำ ขน้ึ ในขอ้ 5 และอภปิ รายรว่ มกนั เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสรปุ ไดว้ า่ การใช้วิจารณญาณ ท่ีได้จากการสืบค้นข้อมูลแล้ว การสะสมสารพษิ ในสง่ิ มชี วี ติ สามารถถา่ ยทอดไดต้ ามล�ำ ดบั ขนั้ ของการกนิ นำ�มาอธบิ ายในเร่ืองนัน้  ๆ ได้อยา่ งมีเหตุผล และระดับความเข้มข้นของสารพิษจะมากขึ้นตามลำ�ดับข้ันของการกิน เรียกว่า การเกดิ ไบโอแมกนฟิ ิเคชัน 8. ใหน้ กั เรยี นท�ำ กจิ กรรมกลมุ่ โดยสบื คน้ ขอ้ มลู น�ำ เสนอเกย่ี วกบั ตวั อยา่ งการเกดิ ไบโอแมกนิฟิเคชัน จากการสะสมสารพิษชนิดใดชนิดหน่ึงในระบบนิเวศ พร้อมท้ังเสนอแนะแนวทางในการลดการเกดิ ไบโอแมกนิฟเิ คชนั

104 ผลการเรยี นร้ ู 3. สืบค้นข้อมูล และเขียนแผนภาพเพอ่ื อธบิ ายวฏั จักรไนโตรเจน วัฏจักรกำ�มะถนั และวฏั จักรฟอสฟอรัสการวเิ คราะหผ์ ลการเรยี นรู้ แนวทางการจัดการเรียนรู้ แนวทางการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ด้านความรู้ 1. นำ�เข้าสู่บทเรียนโดยใช้ภาพใบไม้หรือดอกไม้ท่ีร่วงหล่นบนพื้นแล้ว ดา้ นความรู้ ใช้ประเด็นคำ�ถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการหมุนเวียน วัฏจักรไนโตรเจน วัฏจักรกำ�มะถัน และ ของสารอินทรีย์และสารอนินทรีย์ในธรรมชาติ เพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่เร่ือง วัฎจักรไนโตรเจน วัฏจักรกำ�มะถัน และวัฏจักร วัฏจักรฟอสฟอรัส เปน็ วฏั จักรสาร ฟอสฟอรสั จากการทำ�แบบฝึกหัดและแบบทดสอบด้านทกั ษะ 2. ทบทวนความรโู้ ดยรว่ มกนั อภปิ รายและสรปุ เกยี่ วกบั วฎั จกั รน�้ำ และวฏั จกั ร ด้านทกั ษะทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คารบ์ อน การหมนุ เวยี นน�ำ้ และคารบ์ อนทเ่ี กดิ ผา่ นสง่ิ มชี วี ติ และสง่ิ ไมม่ ชี วี ติ 1. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป จากการ การตีความหมายข้อมลู และลงขอ้ สรุปทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 3. นกั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู น�ำ เสนอ เกย่ี วกบั วฏั จกั รไนโตรเจน วฏั จกั รก�ำ มะถนั อภปิ ราย และนำ�เสนอขอ้ มลู การสื่อสารสารสนเทศและการรเู้ ทา่ ทันสอื่ และวัฏจักรฟอสฟอรัส ท่ีเกิดผ่านส่ิงมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต อภิปรายและ 2. การส่ือสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ จากการ สรุปร่วมกันเป็นแผนภาพของวัฏจักรไนโตรเจน วัฏจักรกำ�มะถัน และดา้ นจิตวทิ ยาศาสตร์ วัฏจกั รฟอสฟอรสั สืบค้นข้อมลู และการน�ำ เสนอ การใช้วิจารณญาณ ดา้ นจิตวิทยาศาสตร์ การใช้วิจารณญาณ จากการสังเกตพฤติกรรมใน การอภปิ รายร่วมกนั

ชีววิทยา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6ผลการเรยี นร้ ู 4. สืบคน้ ขอ้ มูล ยกตัวอย่าง และอธบิ ายลกั ษณะของไบโอมทกี่ ระจายอยูต่ ามเขตภูมศิ าสตร์ตา่ ง ๆ บนโลก 105การวเิ คราะหผ์ ลการเรียนรู้ แนวทางการจัดการเรียนรู้ แนวทางการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ด้านความรู้ 1. น�ำ เขา้ สบู่ ทเรยี นโดยทบทวนเกย่ี วกบั ระบบนเิ วศบนบกและระบบนเิ วศในน�ำ้ ด้านความรู้ ใชค้ �ำ ถามใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเกย่ี วกบั ระบบนเิ วศแบบตา่ งๆ ทพ่ี บ ลักษณะและตัวอย่างของไบโอมท่ีกระจาย ความรเู้ กยี่ วกบั ลกั ษณะของไบโอมทก่ี ระจายอยตู่ าม อย่ตู ามเขตภูมิศาสตร์ต่าง ๆ บนโลก ตามเขตภูมิศาสตร์โลกเพือ่ เชื่อมโยงเขา้ ส่เู รอ่ื ง ไบโอม เขตภูมิศาสตร์ต่าง ๆ บนโลก จากการนำ�เสนอ 2. ให้นักเรียนทำ�กิจกรรมกลุ่ม เรื่องทัวร์ไบโอม โดยแต่ละกลุ่มเลือกศึกษาด้านทกั ษะ การอภิปรายร่วมกัน การทำ�แบบฝึกหัดและทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กลุม่ ละ 1 ไบโอม ดังนี้ แบบทดสอบ1. การจดั กระทำ�และสอ่ื ความหมายข้อมูล 1.1 กำ�หนดโจทย์สถานการณ์ให้ว่า มีบริษัทหนึ่งต้องการให้โบนัสแก่2. การลงความเหน็ จากขอ้ มูล พนกั งานเนอ่ื งจากสามารถท�ำ ผลก�ำ ไรใหบ้ รษิ ทั ทะลเุ ปา้ ทกี่ �ำ หนดไว้ ด้านทักษะ3. การตีความหมายข้อมลู และลงขอ้ สรปุ โดยพาไปทัวร์ต่างประเทศในลักษณะของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ 1. การจดั กระท�ำ และสอ่ื ความหมายขอ้ มลู การลงความเหน็ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 โดยได้ลงประกาศให้บริษัททัวร์นำ�เสนอแพ็คเกจทัวร์เพื่อคัดเลือก จากขอ้ มลู และการตคี วามหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรปุ1. การสื่อสารสารสนเทศและการรู้เท่าทนั สื่อ สถานทน่ี า่ สนใจทส่ี ดุ จากการจัดท�ำ แพค็ เกจทัวรใ์ นการน�ำ เสนอข้อมลู2. การสรา้ งสรรค์และนวตั กรรม 1.2 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มไปสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ ไบโอมที่เลือกไว้ 2. การส่ือสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ และ3. ความรว่ มมอื การท�ำ งานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ �ำ แล้วให้แสดงบทบาทสมมติเป็นเจ้าของกิจการทัวร์ไบโอม นำ�เสนอแพค็ เกจทัวรโ์ ดยต้องมกี าร ความร่วมมือ การทำ�งานเป็นทีมและภาวะผู้นำ�จากดา้ นจติ วทิ ยาศาสตร์ - กำ�หนดช่ือทวั ร์ไบโอม การสบื ค้นขอ้ มลู การนำ�เสนอ และการท�ำ กจิ กรรม ความสนใจในวทิ ยาศาสตร์ - อธิบายและบอกลักษณะเด่นของไบโอมในเชิงนิเวศ ได้แก่ 3. การสร้างสรรค์และนวัตกรรม จากการออกแบบ องค์ประกอบทางกายภาพ (สภาพภูมิศาสตร์ ภูมิประเทศ นำ�เสนอข้อมูลเก่ียวกับแพ็คเกจทัวร์ที่ได้ท้ังข้อมูล และภูมิอากาศ) และองค์ประกอบทางชีวภาพ (ลักษณะเด่น ทางวชิ าการ การท่องเทยี่ วท่ีนา่ สนใจ ของส่ิงมชี ีวิตท่ีพบในไบโอมน)้ี - จัดโปรแกรมทัวร์ในลักษณะของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ระบุ ด้านจิตวทิ ยาศาสตร์ ชว่ งของเดอื นและจ�ำ นวนวันในการจัด ความสนใจในวทิ ยาศาสตร์ จากการท�ำ กจิ กรรมกลมุ่ - ประโยชนท์ จ่ี ะไดร้ บั จากการไปทวั รไ์ บโอมน ้ี พรอ้ มทง้ั คา่ ใชจ้ า่ ย ในการทวั ร์ไบโอม 1.3 แตล่ ะกลมุ่ น�ำ เสนอแพค็ เกจทวั รไ์ บโอม พรอ้ มทง้ั จดั ท�ำ แผน่ พบั ทวั ร์ ไบโอมหรือโปสเตอรป์ ระชาสมั พนั ธ์ประกอบการนำ�เสนอ 2. อภิปรายร่วมกันเพ่ือให้นักเรียนสรุปและอธิบายลักษณะของไบโอม ท่ีกระจายอยู่ตามเขตภมู ศิ าสตร์ต่างๆ บนโลก

106 ผลการเรียนรู้ 5. สืบคน้ ข้อมูล ยกตัวอยา่ ง อธบิ าย และเปรียบเทียบการเปลย่ี นแปลงแทนทีแ่ บบปฐมภมู แิ ละการเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบทตุ ิยภมู ิการวิเคราะห์ผลการเรียนรู้ แนวทางการจดั การเรยี นรู้ แนวทางการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ดา้ นความรู้ 1. น�ำ เขา้ สบู่ ทเรยี นโดยใชค้ �ำ ถามและยกตวั อยา่ งปรากฏการณท์ างธรรมชาติ ดา้ นความรู้ เกย่ี วกบั ภาวะภยั แลง้ และภาวะอทุ กภยั เพอ่ื เชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ วา่ ปรากฏการณ์ การเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบปฐมภูมิและ ทางธรรมชาติมีผลทำ�ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแทนท่ีของสิ่งมีชีวิตใน ความรเู้ กย่ี วกบั การเปลยี่ นแปลงแทนทแ่ี บบปฐมภมู ิ ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง แ ท น ที่ แ บ บ ทุ ติ ย ภู มิ ใ น และการเปลี่ยนแปลงแทนท่ีแบบทุติยภูมิ จากการ ระบบนเิ วศ ระบบนเิ วศ ตอบคำ�ถาม อธิบาย เปรียบเทียบและยกตัวอย่าง 2. ให้นักเรียนสืบค้นข้อมูล เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างเหตุการณ์ท่ีแสดง ประกอบ รวมทงั้ การท�ำ แบบฝกึ หดั และแบบทดสอบดา้ นทกั ษะทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบปฐมภูมิและการเปล่ียนแปลงแทนที่ ทา้ ยบท แบบทุตยิ ภูม ิ - 3. ให้นักเรียนนำ�เสนอ อภิปรายร่วมกัน และสรุปการเปลี่ยนแปลงแทนที่ ด้านทกั ษะทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 แบบปฐมภมู แิ ละการเปลย่ี นแปลงแทนทแ่ี บบทตุ ยิ ภมู โิ ดยการเขยี นแผนภาพ การส่ือสารสารสนเทศและการรู้เทา่ ทนั ส่อื จากการ การสื่อสารสารสนเทศและการรู้เท่าทนั ส่อื สบื คน้ ขอ้ มลู และการน�ำ เสนอ เกย่ี วกบั การเปลย่ี นแปลง แทนที่แบบปฐมภูมิและการเปลี่ยนแปลงแทนที่ ดา้ นจิตวิทยาศาสตร์1. การใช้วิจารณญาณ แบบทตุ ยิ ภมู ิ2. ความสนใจในวทิ ยาศาสตร์ ด้านจติ วิทยาศาสตร์ 1. การใช้วิจารณญาณ จากการสังเกตพฤติกรรม ในการอภิปรายรว่ มกัน 2. ความสนใจในวทิ ยาศาสตร์ เกย่ี วกบั เหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ ในธรรมชาติ

ชีววิทยา ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6ผลการเรยี นร ู้ 6. สบื คน้ ขอ้ มลู อธบิ าย ยกตัวอย่างและสรุปเก่ียวกับลักษณะเฉพาะของประชากรของสิ่งมีชวี ติ บางชนดิ 107การวเิ คราะห์ผลการเรยี นรู้ แนวทางการจดั การเรยี นรู้ แนวทางการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ดา้ นความรู้ 1. นำ�เข้าสู่บทเรียนโดยให้นักเรียนศึกษาภาพสิ่งมีชีวิตต้ังแต่ระดับสิ่งมีชีวิต ด้านความรู้ จนถึงกลุ่มส่ิงมชี วี ิต เพ่อื เชือ่ มโยงเขา้ ส่คู วามหมายของประชากร ตัวอย่างและลักษณะเฉพาะของประชากร ตัวอย่างและลักษณะเฉพาะของประชากรของ ส่งิ มชี วี ติ 2. นักเรียนสืบค้นข้อมูล นำ�เสนอ เกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของประชากร สิ่งมีชีวิต จากการตอบคำ�ถาม การอภิปรายร่วมกัน ในหัวขอ้ ต่อไปน้ี การท�ำ แบบฝกึ หดั และแบบทดสอบด้านทกั ษะทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ - ขนาดของประชากร ดา้ นทกั ษะ1. การใชจ้ ำ�นวน - อัตราการเกิดและอัตราการตาย การอพยพเข้าการอพยพออก 1. การใชจ้ �ำ นวน การพยากรณ์ การตคี วามหมายขอ้ มลู2. การพยากรณ์ ของประชากร3. การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรุป - ความหนาแนน่ ของประชากร และลงข้อสรุป จากการนำ�เสนอและการอภิปรายทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 - การรอดชวี ติ ของประชากร รว่ มกัน การสือ่ สารสารสนเทศและการรเู้ ท่าทันสอ่ื - การแพรก่ ระจายของประชากร 2. การสื่อสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันส่ือ จากการ - โครงสรา้ งอายขุ องประชากร สบื ค้นขอ้ มูล และการนำ�เสนอด้านจติ วิทยาศาสตร์ 3. อภิปรายร่วมกันเพ่ือให้นักเรียนสรุปเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของ การใชว้ จิ ารณญาณ ด้านจติ วทิ ยาศาสตร์ ประชากรสิง่ มชี วี ิต การใช้วิจารณญาณ จากการสังเกตพฤติกรรม ในการอภิปรายร่วมกัน

108 ผลการเรยี นร ู้ 7. สบื ค้นขอ้ มูล อธิบาย เปรยี บเทียบ และยกตัวอยา่ งการเพ่ิมของประชากรแบบเอก็ โพเนนเชยี ลและการเพ่ิมของประชากรแบบลอจิสติก 8. อธิบายและยกตัวอยา่ งปัจจัยที่ควบคุมการเตบิ โตของประชากรการวเิ คราะหผ์ ลการเรยี นรู้ แนวทางการจัดการเรียนรู้ แนวทางการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ดา้ นความรู้ 1. น�ำ เขา้ สบู่ ทเรยี นโดยใชส้ ถานการณจ์ รงิ จากขา่ ว เกย่ี วกบั การเพมิ่ ขน้ึ อยา่ ง ด้านความรู้ รวดเรว็ ของประชากรสงิ่ มชี วี ติ เพอื่ เชอ่ื มโยงเขา้ สเู่ รอ่ื งรปู แบบการเพมิ่ ของ1. การเพ่ิมของประชากรแบบแบบเอ็กโพเนน ประชากร 1. รปู แบบการเพม่ิ ประชากรแบบเอก็ โพเนนเชยี ล จากการ เชยี ลและการเพม่ิ ของประชากรแบบลอจสิ ตกิ อภิปราย 2. ใหน้ กั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั การเพม่ิ ของประชากรแบบเอก็ โพเนนเชยี ล 2. การเพมิ่ ของประชากรแบบเอก็ โพเนนเชยี ล การเพมิ่2. ปจั จัยทีค่ วบคมุ การเติบโตของประชากร และแบบลอจสิ ตกิ พรอ้ มทง้ั อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และยกตวั อยา่ งสงิ่ มชี วี ติ ของประชากรแบบลอจิสติก และปัจจัยท่ีควบคุมด้านทกั ษะ ที่มรี ูปแบบการเพม่ิ ประชากรดงั กลา่ ว การเตบิ โตของประชากร จากการตอบค�ำ ถาม การยกทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3. บรรยายเกยี่ วกบั ปจั จยั ทค่ี วบคมุ การเตบิ โตของประชากร เพอ่ื ใหน้ กั เรยี น ตวั อยา่ งประกอบ การท�ำ แบบฝกึ หดั และแบบทดสอบ -ทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ยกตวั อยา่ งปจั จยั ทข่ี น้ึ กบั ความหนาแนน่ ของประชากรและปจั จยั ทไ่ี มข่ น้ึ กบั ดา้ นทกั ษะ การส่ือสารสารสนเทศและการรเู้ ทา่ ทนั สอ่ื ความหนาแน่นของประชากร การส่ือสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันส่ือ จากการ 4. ให้นักเรียนวิเคราะห์ข้อมูลเก่ียวกับอัตราการเติบโตของประชากรมนุษย์ดา้ นจติ วทิ ยาศาสตร์ สืบค้นข้อมูล และการนำ�เสนอ การใช้วิจารณญาณ ก่อนและหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม เพ่ือสรุปเก่ียวกับปัจจัยท่ีควบคุม การเติบโตของประชากรมนุษย์ ด้านจิตวทิ ยาศาสตร์ การใช้วิจารณญาณ จากการสังเกตพฤติกรรม ในการอภปิ รายรว่ มกนั

ชวี วทิ ยา ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6ผลการเรยี นรู้ 9. วิเคราะห์ อภปิ ราย และสรุปปญั หาการขาดแคลนน�ำ้ การเกิดมลพษิ ทางน้�ำ และผลกระ 109การวเิ คราะหผ์ ลการเรยี นรู้ แนวทางการจดั การเรียนรู้ แนวทางการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ด้านความรู้ 1. นำ�เข้าสู่บทเรียนโดยนำ�ภาพข่าวหรือหัวข้อข่าวเกี่ยวกับวิกฤติภัยแล้ง ดา้ นความรู้ ให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลจากหัวข้อข่าว เพ่ือเชื่อมโยงเข้าสู่ ปัญหาการขาดแคลนนำ้� การเกิดมลพิษทางน้ำ�และ1. ปั ญ ห า แ ล ะ ผ ล ก ร ะ ท บ ที่ เ กิ ด จ า ก ก า ร เรอ่ื งปญั หาและผลกระทบทีเ่ กดิ จากการใชท้ รพั ยากรน้ำ� ใช้ทรัพยากรนำ�้ ผลกระทบที่เกิดจากการใช้ทรัพยากรนำ้� และการ 2. อภิปรายร่วมกันในประเด็น สาเหตุ ผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม จัดการทรพั ยากรน้ำ�จากการร่วมกนั อภปิ ราย2. แนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการ เพ่ือให้นักเรียนสรุปได้ว่า สาเหตุท่ีทำ�ให้เกิดภัยแล้งนั้นเกิดได้ทั้ง ใช้ทรพั ยากรนำ�้ จากปรากฏการณท์ างธรรมชาติ และเกิดจากมนษุ ย์เปน็ ผู้กระทำ� ดา้ นทกั ษะ 1. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุปจากการด้านทกั ษะ 3. ใหน้ กั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู และอภปิ รายรว่ มกนั เกย่ี วกบั ปญั หามลพษิ ทางน�ำ้ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และการจัดการทรัพยากรน้�ำ ในประเด็น สาเหตผุ ลกระทบต่อมนุษย์และ อภิปรายเกี่ยวกับปัญหาการเกิดมลพิษทางนำ้�และ การตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรุป สง่ิ แวดลอ้ ม การตรวจสอบมลพษิ ทางน�ำ้ แนวทางการวางแผนการจดั การน�ำ้ แนวทางในการแกไ้ ขปญั หาทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 2. การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและการแกป้ ญั หา จากการ การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและการแกป้ ญั หา และการแก้ไขปัญหามลพษิ ทางน้�ำ สามารถแยกแยะประเด็นต่าง ๆ ที่ทำ�ให้เกิดมลพิษ ทางน้ำ� และบอกแนวทางในการแก้ไขปัญหามลพิษดา้ นจิตวทิ ยาศาสตร์ ทางน�ำ้ ได้อยา่ งเปน็ รปู ธรรม1. การใช้วจิ ารณญาณ2. ความสนใจในวทิ ยาศาสตร์ ด้านจิตวทิ ยาศาสตร์ 1. การใช้วิจารณญาณ จากการสังเกตพฤติกรรม ในการอภปิ รายร่วมกนั 2. ความสนใจในวิทยาศาสตร์ เก่ียวกับเหตุการณ์ที่ เกดิ ขนึ้ ในชีวติ จรงิ

110 ผลการเรียนร ู้ 10. วเิ คราะห์ อภปิ ราย และสรปุ ปญั หามลพิษทางอากาศ และผลกระทบทม่ี ตี ่อมนษุ ยแ์ ละสิง่ แวดลอ้ ม รวมท้ังเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาการวเิ คราะห์ผลการเรียนรู้ แนวทางการจัดการเรยี นรู้ แนวทางการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ดา้ นความรู้ 1. นำ�เข้าสู่บทเรียนโดยใช้คำ�ถามจากเหตุการณ์หรือสถานการณ์จริง เช่น ด้านความรู้ ปญั หาหมอกควนั ทเี่ กดิ จากการเผาปา่ หรอื การเตรยี มทดี่ นิ ทางการเกษตร1. ปญั หามลพษิ ทางอากาศ เพอ่ื เชอื่ มโยงเขา้ ส่เู ร่ืองผลกระทบจากมลพษิ ทางอากาศ ปญั หาและผลกระทบทเ่ี กดิ จากการมลพษิ ทางอากาศ2. แนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากมลพิษ และแนวทางในการแก้ไขปญั หา จากการอภปิ ราย 2. อภปิ รายรว่ มกนั เพอื่ ใหน้ กั เรยี นสรปุ ปญั หามลพษิ ทางอากาศ ในประเดน็ ทางอากาศ สาเหตุ ผลกระทบทม่ี ตี อ่ มนษุ ยแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม และแนวทางการแกไ้ ขปญั หา ดา้ นทักษะ 1. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุปจากการด้านทกั ษะ 3. ให้ความรู้เพ่ิมเติมว่า ปัญหามลพิษทางอากาศ เป็นปัญหาท่ีเกิดขึ้นได้ในทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทุกระดับ ต้ังแตร่ ะดบั ท้องถน่ิ ระดบั ประเทศ และระดบั โลก เนอื่ งจาก อภิปรายเก่ียวกับปัญหาการเกิดมลพิษทางอากาศ การตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ สามารถเคลือ่ นยา้ ยจากทีห่ นง่ึ ไปยงั อีกท่หี นึ่งได้ ตามทศิ ทางของลม และแนวทางในการแกไ้ ขปัญหาทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 2. การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและการแกป้ ญั หา จากการ การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและการแกป้ ญั หา สามารถแยกแยะประเด็นต่าง ๆ ท่ีทำ�ให้เกิดมลพิษ ทางอากาศ และจากการบอกแนวทางในการแก้ไขดา้ นจติ วทิ ยาศาสตร์ ปญั หามลพษิ ทางอากาศได้อยา่ งเป็นรูปธรรม1. การใช้วิจารณญาณ2. ความสนใจในวทิ ยาศาสตร์ ดา้ นจติ วิทยาศาสตร์ 1. ความใช้วิจารณญาณ จากการสังเกตพฤติกรรม ในการอภิปรายรว่ มกนั 2. ความสนใจในวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ เกดิ ข้ึนในชวี ติ จริง

ชีววิทยา ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6ผลการเรยี นร ู้ 11. วเิ คราะห์ อภิปราย และสรปุ ปัญหาทเ่ี กิดกับทรัพยากรดนิ และผลกระทบทีม่ ตี อ่ มนษุ ยแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม รวมท้งั เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา 111การวเิ คราะหผ์ ลการเรยี นรู้ แนวทางการจดั การเรยี นรู้ แนวทางการวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ด้านความรู้ 1. นำ�เข้าสู่บทเรียนโดยใช้คำ�ถามจากเหตุการณ์หรือสถานการณ์จริง เช่น ด้านความรู้ กรณีการทิ้งขยะบนท่ีดินรกร้าง แล้วส่งผลกระทบต่อประชาชนท่ีอาศัย1. ปั ญ ห า แ ล ะ ผ ล ก ร ะ ท บ ท่ี เ กิ ด จ า ก ก า ร อยู่บรเิ วณนน้ั 1. ปัญหาและผลกระทบท่ีเกิดจากการมลพิษทางดิน ใชท้ รัพยากรดนิ และแนวทางในการแก้ไขปัญหา จากการอภิปราย 2. อภิปรายร่วมกันเพ่ือให้นักเรียนและสรุปเก่ียวกับปัญหาที่เก่ียวกับมลพิษ2. แนวทางการแก้ไขปัญหาท่ีเกิดจากการ ทางดิน สาเหตุ ผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม และเสนอแนวทาง ด้านทักษะ ใช้ทรพั ยากรดนิ การแก้ไขปญั หา 1. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุปจากการดา้ นทกั ษะ 3. ใหน้ กั เรยี นท�ำ กจิ กรรมกลมุ่ เพอ่ื เชอ่ื มโยงความสมั พนั ธข์ องการเกดิ ปญั หา อภิปรายเก่ียวกับปัญหาการเกิดมลพิษทางดินและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เกย่ี วกบั มลพษิ ทางน�ำ้ มลพษิ ทางอากาศ และมลพษิ ทางดนิ ทส่ี ง่ ผลกระทบ แนวทางในการแก้ไขปญั หา การตีความหมายขอ้ มลู และลงข้อสรปุ 2. การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและการแกป้ ญั หา จากการทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 ตอ่ มนษุ ยแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ ม โดยยกตัวอยา่ งประกอบการอธบิ าย เช่ือมโยงความสัมพันธ์ของการเกิดปัญหาและ การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณและการแก้ปญั หา ผลกระทบ และการบอกแนวทางในการแกไ้ ขปญั หา มลพิษทางดินได้อย่างเปน็ รูปธรรมด้านจติ วิทยาศาสตร์1. การใช้วิจารณญาณ ด้านจิตวทิ ยาศาสตร์2. ความสนใจในวทิ ยาศาสตร์ 1. การใช้วิจารณญาณ จากการสังเกตพฤติกรรม ในการอภิปรายร่วมกนั 2. ความสนใจในวิทยาศาสตร์ เก่ียวกับเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นในชวี ติ จรงิ

112 ผลการเรยี นร ู้ 12. วเิ คราะห์ อภปิ ราย และสรปุ ปญั หา ผลกระทบท่ีเกดิ จากการทำ�ลายปา่ ไม้ รวมทง้ั เสนอแนวทางในการปอ้ งกันการท�ำ ลายป่าไมแ้ ละการอนุรกั ษ์ปา่ ไม้การวเิ คราะห์ผลการเรียนรู้ แนวทางการจัดการเรยี นรู้ แนวทางการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ดา้ นความรู้ 1. นำ�เข้าสู่บทเรียนโดยทบทวนเก่ียวกับทรัพยากรป่าไม้ว่า เป็นทรัพยากร ด้านความรู้ ที่ใช้แล้วสามารถเกิดขึ้นทดแทนใหม่ได้ และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้1. ปญั หาและผลกระทบทเ่ี กดิ จากการท�ำ ลายปา่ ไม้ ของมนษุ ยแ์ ละสง่ิ มชี วี ติ อน่ื  ๆ เพอื่ เชอ่ื มโยงเขา้ สเู่ รอ่ื งผลกระทบทเี่ กดิ จาก ปญั หาและผลกระทบทเี่ กดิ จากการการท�ำ ลายปา่ ไม้2. แนวทางในการป้องกันการทำ�ลายป่าไม้และ การใช้ทรัพยากรปา่ ไม้ และแนวทางในการป้องกันการทำ�ลายป่าไม้และ การอนุรักษป์ า่ ไม ้ 2. ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาภาพถา่ ยทางดาวเทยี มทน่ี �ำ เสนอขอ้ มลู เกย่ี วกบั พน้ื ทป่ี า่ ไม้ การอนุรกั ษ์ปา่ ไมจ้ ากการอภปิ รายร่วมกัน ในประเทศไทย อภปิ รายรว่ มกนั เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสรปุ เกย่ี วกบั สาเหตทุ ที่ �ำ ให้ดา้ นทกั ษะ ด้านทกั ษะทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ พื้นที่ป่าไม้ลดลง ปัญหาและผลกระทบต่อมนุษย์และส่ิงแวดล้อม รวมท้ัง 1. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุปจากการ การตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรุป แนวทางในการจัดการทรพั ยากรป่าไมเ้ พ่ือการใช้ประโยชน์อย่างยัง่ ยืนทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 อภิปรายเก่ียวกับผลกระทบที่เกิดจากการการ การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและการแกป้ ญั หา ท�ำ ลายปา่ ไม้ 2. การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและการแกป้ ญั หา จากการด้านจิตวิทยาศาสตร์ สามารถแยกแยะประเด็นที่เก่ียวกับปัญหาการ1. การใชว้ ิจารณญาณ ทำ�ลายป่าไม้ และการบอกแนวทางในการป้องกัน2. ความสนใจในวทิ ยาศาสตร์ การท�ำ ลายปา่ ไมแ้ ละการอนรุ ักษป์ า่ ไม้ ด้านจิตวิทยาศาสตร์ 1. การใช้วิจารณญาณ จากการสังเกตพฤติกรรม ในการอภิปรายรว่ มกนั 2. ความสนใจในวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับเหตุการณ์ ทเ่ี กดิ ข้ึนในชวี ติ จริง

ชวี วทิ ยา ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 6ผลการเรียนร้ ู 13. วิเคราะห์ อภิปราย และสรปุ ปญั หาผลกระทบทท่ี �ำ ให้สตั วป์ า่ มจี �ำ นวนลดลง และแนวทางในการอนรุ กั ษ์สตั วป์ า่ 113การวิเคราะหผ์ ลการเรยี นรู้ แนวทางการจัดการเรียนรู้ แนวทางการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ดา้ นความรู้ 1. น�ำ เขา้ สบู่ ทเรยี นโดยใหน้ กั เรยี นยกตวั อยา่ งสตั วป์ า่ ทร่ี จู้ กั ใชค้ �ำ ถามเกย่ี วกบั ด้านความรู้ ชนดิ และปรมิ าณสตั วป์ า่ ทเี่ หลอื อยู่ เพอื่ เชอื่ มโยงเขา้ สเู่ รอ่ื งผลกระทบทเ่ี กดิ1. ปั ญ ห า แ ล ะ ผ ล ก ร ะ ท บ ท่ี ทำ � ใ ห้ สั ต ว์ ป่ า 1. ปญั หาและผลกระทบทที่ ท่ี �ำ ใหส้ ตั วป์ า่ มจี �ำ นวนลดลง มจี �ำ นวนลดลง จากการใชท้ รัพยากรสัตว์ปา่ และแนวทางในการอนรุ กั ษส์ ตั วป์ า่ จากการอภปิ ราย 2. นำ�ภาพ ข่าวเหตุการณ์ต่าง ๆ เก่ียวกับการจับกุมผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่า 2. แนวทางในการอนุรกั ษ์สัตวป์ า่ ดา้ นทักษะ มาใหน้ กั เรียนรว่ มกนั วิเคราะห์ อภิปราย และสรปุ เกี่ยวกบั สาเหตทุ ท่ี �ำ ให้ 1. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุปจากการด้านทักษะ สัตวป์ า่ ลดจำ�นวนลง และแนวทางในการจัดการและการอนุรกั ษส์ ัตว์ป่าทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3. นักเรียนทำ�กิจกรรมกลุ่มเพ่ือเช่ือมโยงความสัมพันธ์ของการเกิดปัญหา อภปิ รายเกย่ี วกบั ทที่ �ำ ใหส้ ตั วป์ า่ มจี �ำ นวนลดลง และ การตีความหมายขอ้ มลู และลงข้อสรุป เก่ียวกับทรัพยากรป่าไม้ ท่ีส่งผลกระทบต่อทรัพยากรสัตว์ป่า โดยยก แนวทางในการอนุรกั ษส์ ตั ว์ปา่ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ตัวอย่างประกอบการอธบิ าย 2. การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและการแกป้ ญั หา จากการ การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและการแกป้ ญั หา สามารถแยกแยะประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับปัญหา ผลกระทบทท่ี �ำ ใหส้ ตั วป์ า่ มจี �ำ นวนลดลง และการบอกด้านจิตวทิ ยาศาสตร์ แนวทางในการในการอนุรักษ์สัตว์ป่าได้อย่างเป็น 1. การใชว้ ิจารณญาณ รูปธรรม2. ความสนใจในวิทยาศาสตร์ ด้านจติ วทิ ยาศาสตร์ 1. การใชว้ จิ ารณญาณ จากการสงั เกตพฤตกิ รรมในการ อภิปรายร่วมกัน 2. ความสนใจในวิทยาศาสตร์ เก่ียวกับเหตุการณ์ที่ เกิดขน้ึ ในชีวติ จริง