สาระ มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั พ ๓.๒ รักการออกกาลังกาย การเล่นเกม และ - ประ การเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอ สุขภาพ ส มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้าใจนักกีฬา มี บุคลกิ ภาพ - การเ จิตวิญญาณในการแข่งขัน และช่ืนชมใน - การ สนุ ทรียภาพของการกีฬา การเคลือ่ ตวั ช้ีวัด - การ 1. อธิบายประโยชน์และหลักการออกกาลัง ทีมทช่ี น่ื ช กายเพ่ือสุขภาพ สมรรถภาพทางกาย และการ - การป - กฎ สร้างเสริมบคุ ลกิ ภาพ 2. เล่นเกมท่ีใช้ทักษะการวางแผน และ ตามชนิดก สามารถเพิ่มพูนทักษะการออกกาลังกาย และ - กลว เคลอ่ื นไหวอย่างเป็นระบบ - การ 3. เล่นกีฬาที่ตนเองชื่นชอบและสมารถ นกั กีฬาใน ประเมนิ ทักษะของตนเป็นประจา 4. ปฏิบัติตามกฎ กติกาตามชนิดกีฬาท่ีเล่น โดยคานงึ ถงึ ความปลอดภัยของตนเองและผ้อู ่นื 5. จาแนกกลวิธีการรุก การป้องกัน และ นาไปใชใ้ นการเล่นกีฬา 6. เล่นเกมและกีฬาด้วยความสามัคคีและมี น้าใจนักกฬี า
๒๘ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น ต้องรู้ ควรรู้ ะโยชน์และหลักการออกกาลังกายเพื่อ เกม/การละเล่น/กีฬาพ้ืนเมืองท่ีนิยม สมรรถภาพทางกาย และการสร้างเสริม เลน่ ในท้องถิน่ พ เล่นเกมทใี่ ช้ทักษะการวางแผน รเพ่ิมพูนทักษะการออกกาลังกาย และ อนไหวอย่างเปน็ ระบบ รเล่นกีฬาประเภทบุคคล และประเภท ชอบ ประเมินทกั ษะการเลน่ กฬี าของตน กติกาในการเล่นกีฬาไทย กีฬาสากล กีฬาที่เล่น วธิ ีการรกุ การปอ้ งกันในการเลน่ กีฬา รสร้างความสามัคคี และความมีน้าใจ นการเลน่ เกมและกฬี า
สาระ มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด สาระที่ ๔ การสร้างเสริม พ ๔.๑ เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริม - ควา สุขภาพ สมรรถภาพ และ สุขภาพ การดารงสุขภาพ การป้องกันโรค และ สขุ ภาพ - ปัญห การปอ้ งกนั โรค การสรา้ งเสริมสมรรถภาพเพอ่ื สุขภาพ - การป ตวั ชี้วดั ทมี่ ีผลต่อส 1. แสดงพฤติกรรมในการป้องกันและแก้ไข - โรคต ปัญหาสงิ่ แวดล้อมท่ีมผี ลต่อสุขภาพ - ผลก 2. วิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจากการระบาด ข อ ง โ ร ค แ ล ะ เ ส น อ แ น ว ท า ง ก า ร ป้ อ ง กั น - การป โรคติดต่อสาคัญทพ่ี บในประเทศไทย - พฤต 3. แสดงพฤติก รรมที่บ่งบ อกถึงคว า ม รับผิดชอบต่อสขุ ภาพของส่วนรวม ต่อสขุ ภาพ สรา้ งเสรมิ และปรบั ปรงุ สมรรถภาพทางกายเพื่อ - วิธที - การส สขุ ภาพอย่างตอ่ เนื่อง กายตามผ
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถ่ิน ๒๙ า ม ส า คั ญ ข อ ง ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม ที่ มี ผ ล ต่ อ ต้องรู้ ควรรู้ หาของสง่ิ แวดล้อมที่มผี ลต่อสุขภาพ ป้องกนั และการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม สุขภาพ ตดิ ตอ่ สาคัญทรี่ ะบาดในปัจจุบนั กระทบท่เี กดิ จากการระบาดของโรค ปอ้ งกนั และระบาดของโรค ติกรรมที่แสดงออกถึงความรับผิดชอบ พของส่วนรวม ทดสอบสมรรถภาพทางกาย สร้างเสริมและปรับปรุงสมรรถภาพทาง ผลการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
สาระ มาตรฐาน/ตัวชี้วดั สาระที่ ๕ ความปลอดภยั ใน พ ๕.๑ ป้องกันและหลีกเล่ียงปัจจัยเส่ียงต่อ - ภยั ธ ชวี ติ สุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และ ล ความรุนแรง - ผลก ธรรมชาต ตวั ชี้วัด - การ 1. วิเคราะห์ผลกระทบจากความรุนแรงของ ธรรมชาต ภยั ธรรมชาตทิ ีม่ ีตอ่ ร่างกาย จิตใจ และสงั คม - สาเห 2. ระบุวิธีปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยจาก ท เสพตดิ ธรรมชาติ 3. วิเคราะห์สาเหตุของการติดสารเสพติด และชกั ชวนใหผ้ อู้ ่นื หลกี เลี่ยงสารเสพตดิ
สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ ๓๐ ธรรมชาติ ต้องรู้ ควรรู้ ลกั ษณะของภยั ธรรมชาติ ก ร ะ ท บ จา ก ค ว า ม รุ นแ ร ง ข อ ง ภั ย ติที่มีต่อรา่ งกาย จิตใจ และสงั คม รปฏิบัติตนเพ่ือความปลอดภัยจากภัย ติ หตขุ องการตดิ สารเสพติด ทักษะการส่ือสารให้ผู้อ่ืนหลีกเล่ียงสาร
สาระ มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด สาระที่ ๕ ความปลอดภัยใน พ ๕.๑ ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเส่ียงต่อสุขภาพ - ป ชวี ิต อบุ ัตเิ หตุ การใชย้ า สารเสพติด และความรนุ แรง - แ 1ตัว. ช้ีววดัิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและพฤติกรรมเส่ียงที่ม--ี - ปญั ห ผลตอ่ สขุ ภาพและแนวทางปอ้ งกนั - รุนแร -อ 2. หลีกเล่ียงการใช้ความรุนแรงและชักชวน ความ เพ่ือนให้หลีกเล่ียงการใช้ความรุนแรงในการ อินเตอ -ค แกป้ ัญหา 3. วิเคราะหอ์ ทิ ธิพลของสอ่ื ตอ่ พฤติกรรมสุขภาพ แอลก -ว และความรนุ แรง 4. วเิ คราะห์ความสัมพันธ์ของการด่ืมเคร่ืองด่ืมท่ี มีแอลกอฮอล์ต่อสุขภาพและการเกิดอุบัติเหตุ แสดงวธิ กี ารชว่ ยฟ้นื คนื ชีพอย่างถูกวธิ ี
๓๑ สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิน่ ต้องรู้ ควรรู้ -ปัจจัยเส่ียงในชุมชน เช่น ปจั จยั เส่ียงและพฤติกรรมเส่ียงตอ่ สขุ ภาพ สถานบันเทิงที่มีอยู่เป็นจานวน มาก ค่านิยมท่ีไม่ถูกต้องในการ แนวทางการปอ้ งกันความเสี่ยงตอ่ สขุ ภาพ บริโภคของคนในท้องถิ่น หาและผลกระทบจากการใช้ความ -การช่วยคนตกน้า จมน้า ทะเล รงวธิ ีหลกี เลย่ี งการใช้ความรุนแรง -การช่วยเหลือตนเองกรณี จมน้าเน่ืองจากเกิดธรณีวิบัติ อิทธิพลของส่ือต่อพฤติกรรมสุขภาพและ ภยั สึนามิ มรุนแรง (คลิปวีดีโอการทะเลาะวิวาท - ความรู้เรื่องสิ่งเสพติดใน อรเ์ น็ต เกม ฯลฯ) ชุมชน ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ข อ ง ก า ร ด่ื ม เ ค ร่ื อ ง ดื่ ม ท่ี มี กอฮอลต์ อ่ สุขภาพและการเกดิ อบุ ัติเหตุ วิธีการชว่ ยฟนื้ คนื ชพี อยา่ งถกู วธิ ี
๓๒ โครงสร้างเวลาเรยี น โรงเรียนเทศบาล ๒ บา้ นกะทู้ ประจาปี ๒๕๖๓ ประถมศกึ ษา กล่มุ สาระการเรียนรู/้ กจิ กรรม ป.๒ เวลาเรยี น ป.๕ ป.๖ ป.๑ ๒๐๐ ระดับประถมศึกษา ๑๖๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๒๐๐ ภาษาไทย ๒๐๐ ๘๐ ป.๓ ป.๔ ๒๐๐ ๘๐ คณติ ศาสตร์ ๒๐๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ วิทยาศาสตร์ ๘๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๘๐ ๘๐ ๔๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๔๐ สงั คมศึกษา ศาสนา และ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ วฒั นธรรม ๘๐ ๘๐ ๔๐ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ศิลปะ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๔๐ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ภาษาต่างประเทศ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๘๐ ๘๐ รวมเวลาเรียน(พ้ืนฐาน) ๒๐ ๘๘๐ ๘๘๐ ๘๘๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๔๐ รายวิชาเพ่มิ เตมิ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๑,๐๐๐ กิจกรรมแนะแนว กจิ กรรมนักเรยี น ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ลกู เสือ/เนตรนารี ชมรม/ชุมนุม ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ *กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ สาธารณะประโยชน์ รวมเวลาเรยี นท้ังหมด
๓๓ คาอธิบายรายวิชา รหัสวชิ า พ ๑๑๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ เวลา ๘๐ ชั่วโมง/ปี ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาวิเคราะห์อธิบายเกี่ยวกับหน้าท่ีวิธีการดูแลรักษาอวัยวะภายนอก เห็นคุณค่าของครอบครัวที่ อบอุ่น ความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวมีความภูมิใจในตนเองและบอกลักษณะความแตกต่างของเพศ ชาย เพศหญิง มีความรู้ ทักษะในการเคล่ือนไหวร่างกาย กิจกรรมทางกาย เกมเบ็ดเตล็ด การออกกาลังกาย ตามคาแนะนา โดยใช้หลักวิทยาศาสตร์การกีฬา ปฏิบัติตนตามกฎกติกาข้อตกลง และการเล่นเกมตาม คาแนะนา ปฏิบัติตนตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ บอกอาการเจ็บปุวยท่ีเกิดขึ้นกับตนเองและปฏิบัติตาม คาแนะนาเมอ่ื มอี าการเจ็บปุวย บอกสาเหตุวิธีการปูองกันอันตรายจากการเล่นอันตรายที่บ้าน ที่โรงเรียน และ ขอความชว่ ยเหลอื จากผ้อู ื่นเม่อื เกดิ เหตรุ า้ ยที่บา้ นและโรงเรยี น เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิต โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์การกีฬา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สืบค้นข้อมูล อภิปราย วิเคราะห์ เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สานึกในคุณค่าศักยภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม สามารถนาส่ิงท่ีเรียนรู้ ไปใช้ประโยชนใ์ นการดารงชีวติ มาตรฐาน / รหัสตวั ชีว้ ดั พ ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ พ ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ พ ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ พ ๓.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒ พ ๔.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ พ ๕.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓
๓๔ โครงสรา้ งรายวชิ า ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ เวลา ๘๐ ช่วั โมง ลาดับ ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา น้าหนกั ที่ เรยี นรู้/ตวั ช้ีวัด (ช่วั โมง) คะแนน ๑ ตวั เรา พ ๑.๑ ป.๑/๑ อวัยวะภายนอกมีความสาคัญเราควร ๒ ครอบครวั สุขสันต์ พ ๑.๑ ป.๑/๒ รักษาอวัยวะทุกสว่ นใหท้ างานได้ ๘ ๑๐ ตามปกติอยู่ในสภาพท่ีดแี ละศึกษา ๓ กิจกรรมหรรษา พ ๒.๑ ป.๑/๑ หนา้ ทกี่ ารทางานของอวัยวะ ๑๒ ๑๐ พ ๒.๑ ป.๑/๒ สมาชกิ ในครอบครัวต่างมีความ ๔ สร้างเสรมิ สุขภาพ พ ๒.๑ ป.๑/๓ สัมพนั ธก์ บั เรา ต้องรักครอบครวั ตอ้ งมีความภมู ิใจตนเองและในความ ๕ ความปลอดภยั ในชวี ติ แตกตา่ งระหวา่ งชายหญงิ พ ๓.๑ ป.๑/๑ การเคลอื่ นไหวรา่ งกายเป็นประจา ๓๙ ๔๐ พ.๓.๑ ป.๑/๒ ทาใหร้ ่างกายแข็งแรงเคลื่อนไหวได้ พ ๓.๒ ป.๑/๑ คลอ่ งแคลว่ เกมเบ็ดเตลด็ เป็นการ พ ๓.๒ ป.๑/๒ ออกกาลงั กายประเภทหนง่ึ ทาให้ เกดิ ความเพลดิ เพลนิ สนุกสนาน มีระเบียบวนิ ยั มีนา้ ใจนักกีฬา รกู้ ฎ กติกาการเล่นเพ่ือความปลอดภยั พ ๔.๑ ป.๑/๑ ปฏบิ ัตติ นตามสขุ บัญญัติแหง่ ชาติ ๘ ๑๐ พ ๔.๑ ป.๑/๒ ทาให้มสี ุขภาพรา่ งกายแขง็ แรงและ พ ๔.๑ ป.๑/๓ จะไม่มอี าการเจบ็ ปุวยและสามารถดู ๑๒ ๑๐ และตนเองได้เมอื่ เกดิ อาการเจ็บปุวย -- พ ๕.๑ ป.๑/๑ อุบตั เิ หตเุ กิดขนึ้ ได้จากเวลาและ ๑ ๑๐ พ ๕.๑ ป.๑/๒ สถานท่ี แต่เราสามารถปูองกันได้ ๘๐ ๑๐๐ พ ๕.๑ ป.๑/๓ ถ้าเราเลน่ อยา่ งระมัดระวังและเล่น ในท่ปี ลอดภยั ไมป่ ระมาทและร้วู ิธี ขอความช่วยเหลือ สอบกลางภาค สอบปลายภาค รวม
๓๕ คาอธิบายรายวชิ า รหสั วชิ า พ ๑๒๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ช้ัน ประถมศึกษาปที ี่ ๒ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง/ปี ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาวเิ คราะห์อธิบายความสาคัญของอวยั วะภายใน บทบาท หน้าท่ขี องสมาชิกในครอบครัว พฤติกรรมท่เี หมาะสม ความแตกตา่ งของเพศชาย เพศหญงิ มีความรู้ทักษะในการเคล่ือนไหวรา่ งกาย การเล่น เกมเบด็ เตล็ด การออกกาลังกาย ปฏิบตั ิตามกฎกติกา ข้อตกลงในการเล่นเกม การดแู ลสุขภาพและบรโิ ภค อาหารท่มี ีความปลอดภยั ต่อสุขภาพ สามารถปูองกันการเจ็บปุวย การบาดเจบ็ และหลกี เลยี่ งอบุ ัตเิ หตุ การใช้ ยา สารเสพติด การปูองกันอคั คภี ยั เพ่ือสุขภาพและความปลอดภัยในชีวติ โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรก์ ารกีฬา ทักษะทางพลศึกษา กระบวนการสืบค้นข้อมูล สบื เสาะหาความรู้ อภปิ ราย วิเคราะห์ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สานกึ ในคุณค่าศกั ยภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม สามารถนาสิ่งทเี่ รยี นรู้ไปใช้ประโยชนใ์ นการดารงชีวิต มาตรฐาน / รหัสตวั ชี้วัด พ ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๒/๓ พ ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๓, ป.๒/๔ พ ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒ พ ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ พ ๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ พ ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕
๓๖ โครงสร้างรายวิชา ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา ๘๐ ชัว่ โมง ลาดบั ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก ที่ (ช่ัวโมง) คะแนน ๑ ภายในตวั ฉนั เรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั ๖ ๑๐ ๒ สมั พนั ธ์กับชวี ิต พ ๑.๑ ป.๒/๑ อวยั วะภายในมสี ว่ นสาคัญเราควรดแู ลรกั ษา ๘ ๑๐ ๓ ปฏบิ ัติกจิ บงั คับกาย พ ๑.๑ ป.๒/๒ และศึกษาหนา้ ที่การทางานของอวยั วะภายใน ๓๙ ๔๐ ๔ หลากหลายวิธีดูแลตวั พ ๑.๑ ป.๒/๓ และธรรมชาติชวี ิตของมนุษย์ตงั้ แตแ่ รกเกดิ เรา จนตาย ๑๓ ๑๐ ๕ รู้เอาตัวรอดปลอดภยั พ ๒.๑ ป.๒/๑ ทุกคนเกิดมาจากบคุ คล ๒ คน คอื พ่อแม่ พ ๒.๑ ป.๒/๒ แลว้ รวมกันเปน็ ครอบครัว เราตอ้ งรักและ พ ๒.๑ ป.๒/๓ ภมู ใิ จในครอบครัวของเรา ตอ้ งรู้หน้าท่ี การ พ ๒.๑ ป.๒/๔ เลอื กคบเพ่ือน ควรปฏบิ ตั ิตนให้เหมาะสมทั้ง เพศชายและเพศหญงิ พ ๓.๑ ป.๒/๑ ในการดารงชวี ติ จะต้องมกี ารเคลือ่ นไหว พ ๓.๑ ป.๒/๒ รา่ งกายไม่ว่าจะเดนิ วงิ่ จบั และเปน็ การออก พ ๓.๒ ป.๒/๑ กาลังกายในตวั เราตอ้ งรู้เกยี่ วกบั ประโยชน์ พ ๓.๒ ป.๒/๒ ของการออกกาลังกาย เกม ปฏบิ ตั ิตามกฎ กตกิ า ข้อตกลงเพ่ือความปลอดภัยในชวี ติ พ ๔.๑ ป.๒/๑ ทกุ คนสามารถปูองกนั โรคไดด้ ้วยวธิ กี ารต่างๆ พ ๔.๑ ป.๒/๒ การดูแลสุขภาพ ออกกาลงั กาย กนิ อาหาร พ ๔.๑ ป.๒/๓ เพอ่ื สขุ ภาพ และศึกษาอาการเจ็บปุวยและวธิ ี พ ๔.๑ ป.๒/๔ ปฏิบตั ติ นเมอื่ เจ็บปุวยด้วยตนเอง พ ๔.๑ ป.๒/๕ พ ๕.๑ ป.๒/๑ ปัจจบุ นั มีการเกิดอุบตั ิเหตบุ อ่ ยครง้ั เราต้องรู้ ๑๓ ๑๐ พ ๕.๑ ป.๒/๒ วิธปี ูองกันและสาเหตุทเ่ี กิดข้นึ ต้องทราบช่ือยา พ ๕.๑ ป.๒/๓ ทน่ี ามาใช้และยาทใ่ี ห้โทษ สารเสพติดตา่ งๆ - - พ ๕.๑ ป.๒/๔ ตลอดจนปอู งกันอัคคภี ยั และปูายเตอื น ๑ ๑๐ พ ๕.๑ ป.๒/๕ อนั ตรายตา่ งๆ ๘๐ ๑๐๐ สอบกลางภาค สอบปลายภาค รวม
๓๗ คาอธิบายรายวชิ า รหสั วชิ า พ ๑๓๑๐๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ช้ัน ประถมศึกษาปที ่ี ๓ เวลา ๘๐ ชั่วโมง/ปี ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….. คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาวิเคราะห์อธิบายเกี่ยวกับลักษณะการเจริญเติบโตของร่างกาย ความแตกต่างของเพศชาย และเพศหญิง ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโต ความสาคัญและความแตกต่างของครอบครัว เข้าใจ การมีพฤติกรรมเส่ียง และการปฏิบัติตนท่ีเหมาะสม มีความรู้ทักษะการเคล่ือนไหวร่างกาย กิจกรรมทางกาย เกมเบ็ดเตล็ด การละเล่นพ้ืนเมือง ปฏิบัติตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเล่นเกม ออกกาลังกาย และ การละเล่นพ้ืนเมือง การปูองกันหลีกเล่ียงโ รคติดต่อ เลือกรับประทานอาหารตามสัดส่ว น สร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย รู้และปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยจากอุบั ติเหตุ การบาดเจ็บ และสามารถปฐมพยาบาลเบอ้ื งตน้ เพ่ือสขุ ภาพและความปลอดภยั ในชวี ิต โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์การกีฬา ทักษะทางพละศึกษา กระบวนการสืบค้นข้อมูล สืบเสาะหาความรู้ อภิปราย วิเคราะห์ ปฏิบัติเพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สานึกในคุณค่าศักยภาพ มีคณุ ธรรม จริยธรรม สามารถนาส่ิงทเี่ รยี นรไู้ ปใช้ประโยชน์ในการดารงชีวิต มาตรฐาน / รหัสตัวชี้วัด พ ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ พ ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ พ ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒ พ ๓.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒ พ ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕ พ ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓
๓๘ โครงสรา้ งรายวชิ า ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ เวลา ๘๐ ชัว่ โมง ลาดบั ช่อื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั (ชว่ั โมง) คะแนน ท่ี เรยี นรู้ เรียนรู้/ตวั ชี้วดั ๑๐ ๑๐ ๑ เติบโตสมวยั พ ๑.๑ ป.๓/๑ มนษุ ยท์ ุกคนต้องมีการเจริญเตบิ โตแต่ละคนจะโตไม่เท่ากัน ๙ ๑๐ พ ๑.๑ ป.๓/๒ ขนึ้ อยกู่ ับปจั จัยหลายอย่างเราต้องเรียนรู้เกยี่ วกับปจั จัยท่ี พ ๑.๑ ป.๓/๓ ช่วยให้มีการเจรญิ เตบิ โตเปรยี บเทยี บกับแกนมาตรฐานและ ๓๙ ๔๐ อธบิ ายความแตกตา่ งของการเจริญเตบิ โต ๑๒ ๑๐ ๒ รรู้ กั ใคร่ตัว พ ๒.๑ ป.๓/๑ ครอบครัวมีความสาคญั มาก ทกุ คนในครอบครัวต้องสร้าง เปน็ สุข สัมพันธภาพในครอบครัวและเพือ่ น รู้วธิ ีการหลกี เล่ียง พ ๒.๑ ป.๓/๒ พฤติกรรมท่นี าไปสกู่ ารล่วงละเมิดทางเพศ การเลือกคบ พ ๒.๑ ป.๓/๓ เพือ่ น ๓ สนุกจติ ขยับ พ ๓.๑ ป.๓/๑ ทุกคนทากิจกรรมต่างๆตอ้ งมีการเคลอื่ นไหวรา่ งกายอยู่ กาย ตลอดเราต้อทราบวิธีควบคุมการเคล่ือนไหวเพื่อใช้เป็น พ ๓.๑ ป.๓/๒ ทักษะในการทากจิ กรรมทางกายและเลน่ เกมต่างๆ พ ๓.๒ ป.๓/๑ การละเล่นพ้ืนเมอื ง ปฏบิ ัติตามกฎ กติกา และข้อตกลงใน พ ๓.๒ ป.๓/๒ การเลน่ เกม ๔ แสนสบาย พ ๔.๑ ป.๓/๑ ปัจจบุ ันโรคตดิ ตอ่ ไดแ้ พร่กระจายอย่างรวดเรว็ เราต้องรวู้ ธิ ี สุขภาพดี ปอู งกันและส่งเสรมิ สขุ ภาพการแปรงฟันให้ถกู วธิ ี เลอื ก พ ๔.๑ ป.๓/๒ รับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ใหค้ รบ ๕ หมู่ พ ๔.๑ ป.๓/๓ พ ๔.๑ ป.๓/๔ ๕ มชี ีวติ อย่าง พ ๕.๑ ป.๓/๑ อบุ ัติเหตเุ กิดขึ้นได้ทุกทีท่ ุกเวลาหากเราประมาท เราต้องรู้ ๙ ๑๐ ปลอดภัย วธิ ปี อู งกนั ปฏิบัติตนในการเดินทางท่ปี ลอดภัยท้ังที่บ้าน พ ๕.๑ ป.๓/๒ และโรงเรยี น รู้วธิ ขี อความช่วยเหลอื และการปฐมพยาบาล พ ๕.๑ ป.๓/๓ เมอื่ บาดเจ็บ สอบกลางภาค ๐๐ สอบปลายภาค ๑ ๑๐ ๘๐ ๑๐๐ รวม
๓๙ คาอธิบายรายวิชา รหสั วชิ า พ ๑๔๑๐๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ เวลา ๘๐ ชั่วโมง/ปี ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. คาอธิบายรายวิชา ศึกษาวิเคราะห์ความสาคัญเกี่ยวกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ เกี่ยวกับกล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อและวิธีการดูแล อธิบายลักษณะของครอบครัวที่ดี มีความเข้าใจในการปฏิบัติตนท่ีเหมาะสม เกี่ยวกับเพศตามวัฒนธรรมไทย มีความเข้าใจและทักษะในการเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน การเล่นเกม และ กีฬาพื้นฐาน การออกกาลังกายและปฏิบัติตามกฎ กติกา การเล่นเพ่ือความปลอดภัย บอกความสัมพันธ์ของ ส่ิงแวดล้อมกับสุขภาพ อธิบายสภาวะอารมณ์ ความรู้สึกที่มีผลต่อสุขภาพ พร้อมทั้งวิเคราะห์ข้อมูลบนฉลาก อาหาร และผลิตภัณฑ์สุขภาพ สามารถทดสอบสมรรถภาพง่ายๆ ด้วยตนเอง รู้และเข้าใจเก่ียวกับการใช้ยา สามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ และสามารถวิเคราะห์ผลเสียและหลกี เลีย่ งสารเสพตพิ ดเพ่อื ความปลอดภยั ต่อสขุ ภาพ โดยใชก้ ระบวนการ ทกั ษะทางพลศึกษา วิทยาศาสตร์การกีฬา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สืบค้น ขอ้ มลู อภิปราย ปฏิบตั ิ วิเคราะหเ์ พื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ สานึกในคุณค่าศักยภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม สามารถนาสง่ิ ทเ่ี รยี นร้ไู ปใช้ประโยชน์ในการดารงชีวิต มาตรฐาน / รหัสตัวช้ีวัด พ ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒ พ ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ พ ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ พ ๓.๒ ป.๔/๑ พ ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒ พ ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
๔๐ โครงสร้างรายวิชา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ เวลา ๘๐ ชั่วโมง ลาดบั ท่ี ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา(ช่ัวโมง) นา้ หนกั เรียนรู้ เรียนรู้/ตวั ช้วี ดั คะแนน ๑ เรยี นร้เู ร่ืองสรรี ะ พ ๑.๑ ป.๔/๑ - มนษุ ยท์ ุกคนต้องไดร้ บั การพัฒนาการเจริญ ๑๐ ๑๐ พ ๑.๑ ป.๔/๒ เติบโตในระบบตา่ งๆกลา้ มเนื้อกระดกู ข้อต่อ พ ๑.๑ ป.๔/๓ - เราควรทราบวธิ ดี ูแล รกั ษาให้ส่วนต่างๆ เหลา่ นีท้ างานได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ๒ สมาชกิ ครอบครัว พ ๒.๑ ป.๔/๑ - ครอบครวั ประกอบด้วย พ่อ แม่ ลกู ทุกคน ๑๐ ๑๐ ไทย พ ๒.๑ ป.๔/๒ ต้องเปน็ สมาชิกของครอบครัวทีด่ ี มี พ ๒.๑ ป.๔/๓ พฤติกรรมทเ่ี หมาะสมตามวฒั นธรรมไทยและ หลีกเลย่ี งอันตรายในเร่ืองเพศทไี่ ม่เหมาะสม ๓ เกมการเคล่อื นไหว พ ๓.๑ ป.๔/๑ - การเคลอ่ื นไหวเป็นสิง่ ทีท่ ุกคนกระทาใน ๓๙ ๔๐ พ ๓.๑ ป.๔/๒ กิจกรรมประจาวันทัง้ อยกู่ บั ที่และเคล่ือนท่ี พ ๓.๑ ป.๔/๓ แบบผสมผสานประกอบอุปกรณก์ ายบริหาร พ ๓.๑ ป.๔/๔ มือเปลา่ พ ๓.๒ ป.๔/๑ - เลน่ เกมเลียนแบบเพื่อพัฒนาไปสกู่ ีฬาอื่นๆ พ ๓.๒ ป.๔/๒ และวิเคราะหผ์ ลการพฒั นาการของตนเอง - เราต้องปฏบิ ัตติ ามกฎ กติกาการเลน่ กีฬา พืน้ ฐานตามชนิดทเี่ ล่นเพ่อื ความปลอดภยั ๔ สขุ ภาพดีท้งั กายใจ พ ๔.๑ ป.๔/๑ - ความสาคญั ของการปฏิบตั ิตามสุขบญั ญัติ ๑๑ ๑๐ พ ๔.๑ ป.๔/๒ แห่งชาติ พ ๔.๑ ป.๔/๓ - แหล่งและวิธคี น้ หาข้อมูลขา่ วสารทางสุขภาพ พ ๔.๑ ป.๔/๔ และการใช้ขอ้ มลู ข่าวสารในการสรา้ งเสริม สขุ ภาพ - การตัดสินใจเลือกซื้ออาหารและผลติ ภณั ฑ์ สุขภาพ - การปฏบิ ตั ิตนในการปอ้ งกันโรคท่ีพบบ่อยใน ชีวติ ประจาวนั ๕ ความปลอดภัยใน พ ๕.๑ ป.๔/๑ - มนุษย์ทุกคนต้องมีการเจ็บไข้ เราควรรู้หลัก ๙ ๑๐ ชีวติ พ ๕.๑ ป.๔/๒ พ ๕.๑ ป.๔/๓ ในการเลอื กใช้ยาใหถ้ ูกวธิ ี - การปฐมพยาบาลจากสารเคมี สตั ว์กัดต่อย การบาดเจบ็ จากการเล่นกีฬา - วิเคราะห์ผลเสยี ของการดม่ื สรุ าและการสบู บุหรพ่ี ร้อมวิธปี ้องกนั สอบกลางภาค สอบปลายภาค ๑ ๑๐ รวม ๘๐ ๑๐๐
๔๑ คาอธบิ ายรายวชิ า รหัสวชิ า พ ๑๕๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลา ๘๐ ชั่วโมง/ปี ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาวิเคราะห์อธิบายการทางานระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย การเปลี่ยนแปลงทางด้าน ร่างกาย เห็นคุณค่าของครอบครัวที่อบอุ่น แก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ปฏิบัติตนได้เหมาะสมบอกความสาคัญ ของการเคล่ือนไหว ปฏิบัติกิจกรรมทางกายและการเล่นกีฬา กีฬาไทย กีฬาสากล และกิจกรรมนันทนาการ ออกกาลงั กายการเลน่ เกมและกีฬาทีต่ นเองชอบ มีน้าใจเป็นนักกีฬา ปฏิบัติตามกฎ กติกา กีฬาไทย กีฬาสากล ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น เห็นความสาคัญของสุขบัญญัติแห่งชาติ สืบค้นข้อมูลข่าวสารเพื่อสุขภาพ วิเคราะห์ เลือกซื้ออาหารและผลิตภัณฑ์อย่างมีเหตุผล มีพฤติกรรมสุขภาพเพ่ือป้องกันโรค ทดสอบสมรรถภาพทางกาย ด้วยวิธีง่ายๆ วิเคราะห์ หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติด การใช้ยา สื่อท่ีมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมสุขภาพ และการ ปอ้ งกนั อนั ตรายจากการเลน่ กฬี า โดยใช้ทักษะทางพลศกึ ษา วทิ ยาศาสตรก์ ารกีฬามาใชเ้ ปน็ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ สืบค้นข้อมูล อภิปราย ปฏิบัติ วิเคราะห์ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สานึกในคุณค่า ศักยภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม สามารถนาส่งิ ทเี่ รยี นรูไ้ ปใชใ้ นการดารงชีวิต มาตรฐาน / รหัสตวั ช้วี ัด พ ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒ พ ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ พ ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖ พ ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ พ ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ พ ๕.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
๔๒ โครงสรา้ งรายวิชา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง ลาดบั ชือ่ หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั ท่ี เรียนรู้/ตัวชี้วดั (ชวั่ โมง) คะแนน ๑ หอ้ งครัวในร่างกาย พ ๑.๑ ป.๕/๑ มนุษย์ทกุ คนตอ้ งรับประทานอาหารเพ่ือการ พ ๑.๑ ป.๕/๒ เจรญิ เตบิ โต ๘ ๖ ๒ ครอบครัวไทย อาหารจะถกู ส่งไปย่อยในระบบย่อยอาหารและ สุขสันต์ พ ๒.๑ ป.๕/๑ ระบบขบั ถ่าย เราควรทราบเก่ียวกบั วธิ ีการดแู ล ๑๐ ๙ พ ๒.๑ ป.๕/๒ รักษาเพือ่ ให้ระบบทางานตาม ปกติ ๓ ไทย-สากล ปนกนั พ ๒.๑ ป.๕/๓ ๓๙ ๔๕ สมัยกอ่ นครอบครวั ของคนไทยจะต้องปฏิบัติตาม ๔ ผลติ ภณั ฑ์อาหาร พ ๓.๑ ป.๕/๑ วฒั นธรรมไทย ผู้หญิงจะตอ้ งปฏิบตั ติ นใหเ้ หมาะสม ๑๐ ๑๐ พ ๓.๑ ป.๕/๒ วางตวั ใหถ้ กู ตอ้ งตอ่ การเปลย่ี นทางเพศและการดแู ล ๕ สารรา้ ยไมค่ วรลอง พ ๓.๑ ป.๕/๓ ตนเองในพฤติกรรมทพ่ี ึงประสงค์และแกป้ ัญหา ๑๒ ๑๕ พ ๓.๑ ป.๕/๔ ความขัดแยง้ ในครอบครัวและกลมุ่ เพื่อนๆ พ ๓.๑ ป.๕/๕ - - พ ๓.๑ ป.๕/๖ การเคลือ่ นไหวรา่ งกายช่วยให้แขง็ แรงควรปฏิบตั ิ ๑ ๑๕ พ ๓.๒ ป.๕/๑ กจิ กรรมทางกายอยกู่ ับทเี่ คล่อื นท่ี มอี ปุ กรณ์ เกมท่ี ๘๐ ๑๐๐ พ ๓.๒ ป.๕/๒ นาไปสกู่ ีฬาการรบั แรงการใชแ้ รง พ ๓.๒ ป.๕/๓ กฬี าไทย กฬี าสากล พ ๓.๒ ป.๕/๔ รปู แบบของการออกกาลังกายการละเลน่ พนื้ เมือง พ ๔.๑ ป.๕/๑ กฬี าที่ตนเองชอบและต้องปฏิบตั ติ ามกฎ กตกิ าการ พ ๔.๑ ป.๕/๒ เลน่ ตามกีฬาที่ชื่นชอบ พ ๔.๑ ป.๕/๓ พ ๔.๑ ป.๕/๔ การทค่ี นเรามีสขุ ภาพดนี ั้นต้องข้ึนอยู่กบั ปัจจัยหลาย อยา่ งไม่วา่ จะเป็นสงิ่ แวดล้อม อารมณ์ ความรสู้ กึ พ ๕.๑ ป.๕/๑ อาหารฉลากผลติ ภณั ฑ์ สุขภาพต่างๆ และตอ้ ง พ ๕.๑ ป.๕/๒ ทดสอบสมรรถภาพทางกายและวเิ คราะห์ขอ้ มลู บน พ ๕.๑ ป.๕/๓ ฉลากอาหารเพอ่ื ในการบรโิ ภค พ ๕.๑ ป.๕/๔ สารเสพตดิ ใหโ้ ทษต่อร่างกาย จติ ใจด้วยเราควร พ ๕.๑ ป.๕/๕ วเิ คราะหผ์ ลกระทบการใชย้ าและสารเสพตดิ การปฏิบตั ติ นเพื่อความปลอดภยั วิเคราะห์อิทธิพลของส่อื ที่มผี ลตอ่ พฤตกิ รรมสขุ ภาพ และการปอ้ งกนั อันตรายจากการเลน่ กฬี า สอบกลางภาค สอบปลายภาค รวม
๔๓ คาอธิบายรายวชิ า รหสั วชิ า พ ๑๖๑๐๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เวลา ๘๐ ชั่วโมง/ปี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………. คาอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาวเิ คราะหอ์ ธิบาย การทางานของระบบต่างๆ ทมี่ ผี ลตอ่ การเจริญเติบโตและพัฒนาการพร้อมการ ดูแลรักษา สร้างความสัมพันธภาพกับผู้อื่น วิเคราะห์พฤติกรรมเส่ียงต่อการมีเพศสัมพันธ์ การต้ังครรภ์ รู้และ ปฏิบัติตน มที ักษะการเคล่ือนไหว การเล่นเกม กีฬา กีฬาไทย กีฬาสากล ใช้ทักษะเพิ่มพูนความสามารถในการ เล่นกีฬา กิจกรรมนันทนาการ อธิบายประโยชน์การออกกาลังกาย เล่นเกม กีฬาท่ีตนเองชอบ ปฏิบัติตามกฎ กติกา โดยคานึงถงึ ความปลอดภัยของตนเอง เล่นกีฬาด้วยความสามคั คี มีน้าใจเป็นนักกีฬา มีพฤติกรรมในการ ป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมท่ีมีผลต่อสุขภาพ วิเคราะห์ผลกระทบและความรุนแรง วิธีปฏิบัติตนเพื่อ ความปลอดภัยจากธรรมชาติ พร้อมรู้วธิ ีหลีกเล่ียง สาเหตุการตดิ สารเสพตดิ เพือ่ ดาเนินชวี ติ ที่ปลอดภยั โดยใช้ทักษะทางพลศึกษา และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อสืบเสาะหาความรู้ สืบค้น ข้อมูล อภิปราย ปฏิบัติ วิเคราะห์ เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สานึกในคุณค่า ศักยภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม สามารถนาส่ิงทเ่ี รียนรไู้ ปใช้ในการดารงชีวติ มาตรฐาน / รหัสตวั ชีว้ ัด พ ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒ พ ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒ พ ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕ พ ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ พ ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ พ ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
๔๔ โครงสร้างรายวชิ า ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง ลาดบั ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก ที่ เรียนรู้/ตวั ชว้ี ัด (ชั่วโมง) คะแนน ๑ ร่างกายน่ารู้ พ ๑.๑ ป.๖/๑ ในรา่ งกายมนุษยม์ รี ะบบการทางานอย่หู ลาย ๘ ๑๐ พ ๑.๑ ป.๖/๒ ระบบท่สี าคัญ ไดแ้ ก่ ระบบสืบพันธุ์ ระบบไหวเวยี นโลหิต ระบบหายใจจะมผี ลต่อสุขภาพ และการเจรญิ เตบิ โตของ มนุษย์ เราควรมวี ิธีดูแลรกั ษาทถี่ กู ตอ้ ง ๒ หมเู่ พื่อนชวนทาดี พ ๒.๑ ป.๖/๑ การทางานทัว่ ไปเกือบทกุ อย่างจะต้องรวมกล่มุ ๘ ๑๐ พ ๒.๑ ป.๖/๒ กันทางาน เราจะตอ้ งสรา้ งความสมั พันธ์ทด่ี กี บั บุคคลใน กลมุ่ และสามารถวเิ คราะห์พฤติกรรมเส่ยี งที่อาจนาไปสู่ การมเี พศสมั พันธ์ การติดเอดส์และตง้ั ครรภ์ ๓ กีฬาดี สขุ ภาพเด่น พ ๓.๑ ป.๖/๑ ในการเคลือ่ นไหวทกุ ครั้งเราต้องจาแนกในเรอื่ ง ๓๙ ๔๐ พ ๓.๑ ป.๖/๒ การรับแรง การใชแ้ รงความสมดลุ ในการเคลอื่ นไหว เลน่ กฬี าไทย สากล ประเภทบุคคลประเภททมี พ ๓.๑ ป.๖/๓ ใช้ทักษะเพิ่มพูนความสามารถในการเลน่ พ ๓.๑ ป.๖/๔ พ ๓.๑ ป.๖/๕ มีส่วนร่วมในกจิ กรรมนนั ทนาการเลน่ กีฬาท่ี พ ๓.๒ ป.๖/๑ ตนเองชอบ พ ๓.๒ ป.๖/๒ พ ๓.๒ ป.๖/๓ ปฏิบตั ิตามกฎกติกา การเลน่ เพือ่ ความปลอดภัย รู้วิธีรบั -รุก และมีนา้ ใจเปน็ นกั กีฬา พ ๓.๒ ป.๖/๔ พ ๓.๒ ป.๖/๕ พ ๓.๒ ป.๖/๖ ๔ ส่ิงแวดล้อมเป็น พ ๔.๑ ป.๖/๑ ส่ิงแวดลอ้ มมคี วามสาคัญต่อสุขภาพสิ่งแวดล้อม ๑๒ ๑๐ เหตุ พ ๔.๑ ป.๖/๒ ดีสขุ ภาพของเรากจ็ ะดดี ว้ ย เราควรแก้ปญั หาสิ่งแวดลอ้ ม ป้องกนั การเกดิ พ ๔.๑ ป.๖/๓ โรคระบาดในชุมชน พ ๔.๑ ป.๖/๔ วิเคราะหผ์ ลท่ีเกดิ ขึน้ เพ่อื แสดงถงึ ความ รบั ผิดชอบต่อสว่ นรวมและสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกาย อย่างตอ่ เนือ่ ง ๕ เภทภัยจาก พ ๔.๑ ป.๖/๔ ธรรมชาตใิ หอ้ ะไรกบั มนุษยม์ ากมายแต่มนุษย์ ๑๐ ๑๐ ธรรมชาติ เป็นผทู้ าลายธรรมชาติมผี ลกระทบตอ่ เน่ืองเราตอ้ ง วิเคราะหผ์ ลกระทบทีจ่ ะตามมา และปฏิบตั ติ นเพื่อความ ปลอดภยั จากธรรมชาติ วิเคราะห์ สาเหตุการติดสารเสพตดิ และมีทกั ษะ ในการหลกี เลย่ี งสารเสพตดิ สอบกลางภาค -- สอบปลายภาค ๑ ๑๐ รวม ๘๐ ๑๐๐
๔๕ การวัดและประเมินผล วธิ ีการประเมิน การวัดและการประเมินผลการเรียนเป็นส่วนหน่ึงของการจัดการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน ซ่ึงต้องดาเนินควบคู่ กันไป การบูรณาการการวัดและการประเมินผลกับการจัดการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพ ผเู้ รยี นหลายประการ อาทิ ได้ข้อมูลย้อนกลับที่จะช่วยติดตาม กากับ ดูแลความก้าวหน้าของผู้เรียน นาผลมาปรับแนวทางการจัด กิจกรรมให้สอดคล้องกับสภาพผ้เู รยี น ชว่ ยใหผ้ ูเ้ รียนตระหนักในความสามารถและพัฒนาการเรียนรู้ของตนเอง อยา่ งต่อเน่อื งและมคี ุณธรรม สามารถค้นพบความรู้ใหม่ และคิดแกป้ ญั หาดว้ ยตนเองได้ พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2544 มาตรา 26 กาหนดชัดเจนให้สถานศึกษาจัดการประเมิน ผู้เรยี น โดยพิจารณาจากพัฒนาการของผู้เรียน ความประพฤติ การสังเกตพฤติกรรม พฤติกรรมการเรียน การ รว่ มกิจกรรม และการทดสอบ ควบคไู่ ปกับกระบวนการเรียนการสอน ตามความเหมาะสมของแต่ละระดับและ รูปแบบการศึกษา น่ันหมายถึงผู้สอนจะต้องวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ของผู้เรียนด้วยการเก็บรวบรวม ข้อมูลเก่ียวกับผู้เรียนจากหลายส่วน ก่อนที่จะตัดสินใจให้ระดับผลการเรียนดังน้ัน เพ่ือให้การวัดและ ประเมินผลการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ และเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน ผู้สอนควรดาเนินการวัดและประเมินผลโดย คานงึ ถงึ หลกั การตอ่ ไปน้ี 1. เนน้ กระบวนการประเมินเพื่อพัฒนาการผู้เรียน ( Formative Evaluation ) และประเมินเพ่ือตัดสินใจ ผลการเรียน ( Summative Evaluation ) ครอบคลุมท้ังด้านความรู้ ทักษะ กระบวนการ รวมทั้งคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ หรือตามปรัชญาของวิชา โดยให้ความสาคัญท้ังความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ และการบูรณาการความรู้ตามความเหมาะสม เน้นการนาผลการประเมินมาใช้เป็นข้อมูล ในการวางแผนปรับปรุงกระบวนการสอนของตนและปรับกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน เพื่อความสาเร็จตาม จุดหมายของหลกั สูตร 2.เนน้ การประเมนิ ด้วยวิธีที่หลากหลาย สอดคลอ้ งกบั กระบวนการเรียนรู้ท่จี ัดใหผ้ ู้เรยี นตามสภาพจริงหรือ ใกล้เคียงสถานการณ์ที่เป็นจริง ( Authentic Learning and Assessment ) สะท้อนความสามารถและการ แสดงออกของผู้เรียน ( Student Performance ) อย่างชดั เจน 3.เนน้ การบูรณาการการประเมินผลควบคู่ไปกับการเรียนการสอนและการกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยประเมินจากคุณภาพของงานและกระบวนการทางานของผเู้ รียน 4.เน้นการให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการกาหนดเกณฑ์การประเมิน ส่งเสริมให้มีการประเมินตนเอง ประเมิน โดยเพื่อนและกลุม่ เพ่ือน และประเมินโดยผมู้ ีสว่ นเกี่ยวขอ้ ง 5.เน้นการประเมินผู้เรียนที่ต้องเน้นการพิจารณาอย่างครอบคลุมจากพัฒนาการของผู้เรียน ความ ประพฤติ การสังเกตพฤติกรรมการเรียน การร่วมกิจกรรมและการทดสอบตามความเหมาะสมในแต่ละกลุ่ม สาระและระดบั ช้นั
๔๖ ส่ิงที่ตอ้ งการวัดและประเมนิ ผล จากปรัชญาและวิสัยทัศน์การเรียนรู้กลุ่มศึกษาและพลศึกษา คุณภาพของผู้เรียน รวมถึงมาตรฐานและ สาระการเรียนรู้ตามช่วงชั้นท่ีกาหนดไว้ข้างต้น ผู้สอนจะต้องวิเคราะห์ส่ิงท่ีต้องการวัดและประเมินผลให้ ละเอียด ครอบคลุม และชัดเจน เพ่ือความเท่ียงตรงในการดาเนินงานและอธิบายผลการเรียนรู้ตามมาตรฐาน ท่ีคาดหวังของผู้เรียนแต่ละระดับชั้นได้ผลการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนพึงได้รับจากกลุ่มสุขศึกษาและพละศึกษาต้อง ครอบคลุมทัง้ ดา้ นความรู้ เจตคติ คุณธรรม ค่านิยม และการปฏิบัติเกี่ยงกับสุขภาพและสมรรถภาพดังตัวอย่าง เชน่ ก. ด้านความรู้ สามารถแบ่งออกเปน็ ความรเู้ ชงิ เนอ้ื หา ความรเู้ ชงิ กระบวนการ ความร้เู ชงิ บรบิ ท - ความรู้เชิงเน้ือหา เช่น ลักษณะของโรคชนิดต่างๆ พัฒนาการตามวัยของมนุษย์ ความสาคัญของการ พักผ่อนและนันทนาการ กติกาการเล่นกีฬาชนิดต่างๆ รูปแบบการออกกาลังกาย หลักการสร้างเสริม สมรรถภาพทางการ ชนดิ ของกฬี า หลกั การดแู ลสขุ ภาพ หลักวิทยาศาสตร์การเคล่ือนไหวเป็นตน้ - ความรู้เชิงกระบวนการ เช่น ระบบการทางานของอวัยวะภายในร่างกายมนุษย์การเคลื่อนไหวใน ชีวิตประจาวัน การออกกาลังกายและเล่นกีฬาอย่างถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ วิธีทดสอบและสร้างเสริม สมรรถภาพทางกาย วิธีจดั การกบั อารมณ์และความเครียด วิธีดารงชีวิตเพ่อื การมสี ุขภาพทด่ี ี เป็นตน้ - ความรู้เชิงบริบท เช่น การมีสติการรู้จักและเข้าใจตนเอง การสื่อสารเกี่ยวกับสุขภาพ ข้อมูล สารสนเทศดา้ นสขุ ภาพ ความปลอดภยั การออกกาลังกายและการเล่นกีฬาเปน็ ตน้ ข. ด้านทักษะ เน่ืองจากหลักสูตรเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง วิธีการวัดและประเมิน จึงควรวัด ความสามารถในการทางาน และการแสดงออกของผ้เู รียนภายใต้สถานการณ์และเงื่อนไขที่สอดคล้องกับสภาพ ความเป็นจริงมากท่ีสุด โดยวัดท้ังกระบวนการ ( Process ) และผลงาน ( Product ) ท่ีผู้เรียนกระทาและ แสดงออก เช่น การเลือกบริโภคอาหาร และการดูแลสุขภาพ การจัดการกับอารมณ์และความเครียด การฝึก จิต การออกกาลงั กาย การเขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่ือสขุ ภาพ การเล่นเกม การเล่นกีฬาชนิดตา่ งๆ เปน็ ต้น ค. ด้านคุณธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ การวัดและประเมินผลการเรียนด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านยิ มของผูเ้ รยี นต้องกระทาอย่างต่อเนื่องตลอดภาคเรียน เพ่ือให้ได้ข้อมูลท่ีสอดคล้องกับความ เป็นจริงของผู้เรียน จึงควรใช้วิธีการวัดและประเมินที่หลากหลาย เน้นให้ผู้เรียนได้ตรวจสอบและประเมิน ตนเองเป็นสาคัญ ร่วมกับเพ่ือน ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง เช่น สุขนิสัยในการรับประทานอาหาร การควบคุม อารมณ์ การปรับตัวเข้ากับผู้อ่ืน ความเช่ือม่ันในตนเอง การมีวินัย การปฏิบัติตามกฎระเบียบ กติกา รักการ ออกกาลังกาย มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน มีน้าใจนักกีฬา มีมนุษยสัมพันธ์ท่ีดี มีบุคลิกภาพและสุขภาพที่ดี มี ภาวะการเปน็ ผู้นาและผูต้ ามทดี่ ี วธิ ีวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ผสู้ อนสามารถเลอื กวธิ ีวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรูไ้ ด้หลายวิธี ดงั นี้ 1.การสังเกตพฤติกรรมและความสามารถในการปฏิบัติ ใช้การสังเกตผลการเรียนรู้ที่กาหนดออกมา เปน็ จุดมุ่งหมายเชงิ พฤตกิ รรมแลว้ บนั ทึกไว้เป็นลายลกั ษณ์อักษร ( Record ) 2.การทดสอบ เช่น การทดสอบความสามารถในการปฏิบัติด้วยแบบทดสอบทักษะต่างๆ การ ทดสอบสมรรถภาพทางกาย ทางจิต การทดสอบความร้คู วามเข้าใจ 3.การวัด เชน่ การวดั เจตคติ คุณธรรม/จริยธรรม คา่ นยิ ม บคุ ลิกภาพ การปรบั ตวั ด้วยแบบวัดต่างๆ 4.การสัมภาษณ์ เช่น การสัมภาษณ์อย่างไม่เป็นทางการเพื่อทราบข้อมูลทั่วไป การสัมภาษณ์อย่าง เป็นทางการเพอ่ื ทดสอบความร้คู วามเขา้ ใจ ( Inventory )
๔๗ 5.การสารวจ เช่น แบบสอบถามข้อมูลต่างๆ อาจเป็นด้านความรู้ เจตคติ และด้านอื่นๆรวมทั้ง ความรู้หรือความคิดเหน็ ความประทบั ใจ 6. แฟูมผลงาน ( Portfolio ) เป็นแหล่งรวบรวมความรู้ด้วยการใช้วิธีการวัดท่ีหลากหลายต้ังแต่ข้อ 1-5 ในลักษณะแสดงความสามารถของผู้เรียนโดยรวมแฟูมผลงาน ( Portfolio ) เป็นเคร่ืองมือประเมินอีกชิ้น หนงึ่ ทก่ี าลงั เปน็ ทน่ี ิยม แฟมู ผลงานของผูเ้ รยี นจะช่วยให้ผู้สอนติดตาม ดแู ลการเรียนรู้และผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน ช่วยให้ผู้เรียนกาหนดเปูาหมายการเรียนรู้ เห็นภาพพัฒนาการการทางานของผู้เรียน และยังเป็นเครื่องมือ สื่อสารระหวา่ งผสู้ อนกับผู้ปกครองอกี ทางหนง่ึ ด้วย
๔๘ สอ่ื การเรียนการสอน สื่อการเรียนรู้เป็นเคร่ืองมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้ ทักษะ กระบวนการและคุณลักษณะตามมาตรฐานการเรียนรู้ของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่ือการเรียนรู้มี หลากหลายประเภท ท้ังสื่อธรรมชาติ ส่ือสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครือข่ายการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่มีในท้องถ่ิน การเลอื กใชส้ ือ่ ควรเลือกให้มีความเหมาะสมกบั ระดับพัฒนาการและลลี าการเรียนรู้ทหี่ ลากหลายของผ้เู รียน การจดั หาส่อื การเรยี นรู้ ผเู้ รยี นและผู้สอนสามารถจัดทาและพัฒนาข้ึนเองหรือปรับปรุงเลือกใช้อย่างมี คุณภาพจากสอ่ื ต่าง ๆ ทม่ี อี ย่รู อบตัวเพ่ือนามาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ท่ีสามารถส่งเสริมและส่ือสารให้ ผู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ โดยสถานศกึ ษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียงเพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง สถานศึกษา เขตพื้นท่ีการศึกษา หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องและผู้มีหน้าท่ีจัดการศึกษาข้ันพื้นฐาน ควรดาเนินการ ดงั นี้ ๑. จดั ให้มแี หล่งการเรียนรู้ ศูนยส์ อ่ื การเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรยี นรแู้ ละเครือข่ายการเรียนรู้ท่ีมี ประสิทธภิ าพทั้งในสถานศึกษาและในชมุ ชน เพอ่ื การศกึ ษาค้นคว้าและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ ระหว่างสถานศึกษา ทอ้ งถ่ิน ชุมชน สังคมโลก ๒. จัดทาและจัดหาสื่อการเรียนรู้สาหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรียน เสริมความรู้ให้ผู้สอน รวมทั้ง จดั หาสิ่งทม่ี อี ยูใ่ นท้องถิน่ มาประยกุ ตใ์ ช้เปน็ สื่อการเรยี นรู้ ๓. เลือกและใช้ส่ือการเรียนรู้ท่ีมีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้องกับวิธีการ เรยี นรู้ ธรรมชาติของสาระการเรยี นร้แู ละความแตกต่างระหวา่ งบคุ คลของผเู้ รยี น ๔. ประเมนิ คุณภาพของสอ่ื การเรียนร้ทู ีเ่ ลือกใชอ้ ย่างเป็นระบบ ๕. ศกึ ษาค้นควา้ วิจัย เพ่ือพฒั นาส่ือการเรยี นร้ใู ห้สอดคล้องกบั กระบวนการเรยี นรูข้ องผู้เรยี น ๖. จัดให้มีการกากับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเกี่ยวกับสื่อและการใช้ส่ือการเรียนรู้ เป็นระยะ ๆ และสมา่ เสมอ ในการจัดทา การเลือกใช้ และการประเมินคุณภาพส่ือการเรียนรู้ท่ีใช้ในสถานศึกษาควรคานึงถึง หลักการสาคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เน้ือหามีความถูกต้องและทันสมัย ไม่กระทบความมั่นคง ของชาติ ไมข่ ดั ต่อศีลธรรม มีการใชภ้ าษาท่ถี กู ต้อง รูปแบบการนาเสนอทีเ่ ข้าใจงา่ ยและน่าสนใจ
๔๙ แหล่งการเรียนรู้ การเรียนรู้สาระสุขศึกษาและพลศึกษาในยุคโลกไร้พรมแดนน้ัน ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกเวลาและทุก สถานที่ ทงั้ น้ีเพราะแหลง่ เรียนรู้ไดเ้ ปิดกวา้ ง ผู้เรียนสามารถเรยี นรู้ได้ตลอดเวลาและตลอดชีวิต ท้ังในการศึกษา ในระบบ นอกระบบและตามอธั ยาศยั แหลง่ เรียนรสู้ าหรับสาระสุขศึกษาและพลศึกษาเท่าน้ันรวมถึงสถานที่ต่าง ๆ ในชุมชน เช่น ห้องสมุด โรงพยาบาล สานักงานสาธารณสุข สถานท่ีออกกาลังกาย(Fitness) สวนสาสาธารณะ สนามกีฬา วิทยาลัย มหาวทิ ยาลัย ห้องกิจกรรมหรือห้องปฏิบัติการด้านอาหารและโภชนาการ ห้องพลศึกษา ส่ือ สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) ซอฟท์แวร์ (Software) Internet หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) รวมท้ัง การศึกษาธรรมชาติรอบๆ ตัวและศึกษาจากผู้รู้ ผู้มีความสามารถ ทั้งนี้หากได้มีการส่งเสริมและพัฒนา ตลอดจนจัดเตรียมแหล่งการเรียนรู้ที่ได้กล่าวมาข้างต้นให้มีความเหมาะสม สอดคล้องและพอเพียงกับผู้เรียน และผู้สอนก็จะได้ช่วยพัฒนาการเรียนการสอนสาระสุขศึกษาและพลศึกษาให้มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ย่ิงขึ้นอย่างไรก็ตามผู้ใช้แหล่งเรียนรู้ควรมีวิจารณญาณในการใช้แหล่งเรียนรู้ให้เหมาะสมกับวัย วุฒิภาวะและ ความสนใจของผู้เรียนตลอดจนความถูกตอ้ งตามหลกั วิชาการ
๕๐ อภิธานศพั ท์ กลไกของร่างกายท่ีใช้ในการเคล่อื นไหว (Body Mechanism) กระบวนการตามธรรมชาติในการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายตามลักษณะโครงสร้าง หน้าท่ี และการทางานร่วมกนั ของข้อต่อ กล้ามเนื้อ กระดูกและระบบประสาทที่เก่ียวข้องภายใต้ขอบข่าย เง่ือนไข หลักการ และปัจจัยด้านชีวกลศาสตร์ท่ีมีผลต่อการเคลื่อนไหว เช่น ความมั่นคง (Stability) ระบบคาน (Leverage) การเคลอื่ น (Motion) และแรง (Force) การเคล่อื นไหวเฉพาะอย่าง (Specialized Movement) การผสมผสานกันระหว่างทักษะย่อยของทักษะการเคลื่อนไหวพื้นฐานต่าง ๆ การออกกาลังกาย การเล่น เกม และการเล่นกีฬาตา่ ง ๆ ซง่ึ มีความจาเป็นสาหรบั กิจกรรมทางกาย เช่น การขว้างลูกซอฟท์บอล ต้อง อาศัยการผสมผสานของทักษะการสไลด์ (การเคล่ือนไหวแบบเคล่ือนท่ี) การขว้าง (การเคลื่อนไหวแบบ ประกอบอุปกรณ์) การบิดตัว (การเคลื่อนไหวแบบไม่เคล่ือนท่ี) ทักษะท่ีทาบางอย่างยิ่งมีความซับซ้อนและ ตอ้ งใชก้ ารผสมผสานของทกั ษะการเคล่ือนไหวพื้นฐานหลาย ๆ ทักษะรวมกนั การเคล่อื นไหวในชวี ิตประจาวนั (Daily Movement) รูปแบบหรอื ทักษะการเคล่ือนไหวร่างกายในอริ ิยาบถตา่ ง ๆ ทีบ่ ุคคลท่ัวไปใช้ในการดาเนินชีวิต ไม่ว่า เพอ่ื การประกอบกิจวัตรประจาวัน การทางาน การเดินทางหรือกิจกรรมอ่ืน ๆ เช่น การยืน ก้ม นั่ง เดิน วิง่ โหนรถเมล์ ยกของหนกั ปนี ปาุ ย กระโดดลงจากทสี่ ูง ฯลฯ การเคลอื่ นไหวพน้ื ฐาน (Fundamental Movements) ทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายที่จาเป็นสาหรับชีวิตและการดาเนินชีวิตของมนุษย์ ในการปฏิบัติ กิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นทักษะท่ีมีการพัฒนาในช่วงวัยเด็ก และจะเป็นพื้นฐานสาหรับ การประกอบกิจกรรมต่าง ๆ เม่ือเจริญวัยสูงข้ึน ตลอดจนเป็นพ้ืนฐานของการ มีความสามารถในการ เคล่ือนไหว โดยเฉพาะอย่างย่ิงในการเล่นกีฬา การออกกาลังกาย และการประกอบกิจกรรมนันทนาการ การเคล่ือนไหวพน้ื ฐาน สามารถแบ่งออกไดเ้ ปน็ ๓ ประเภท คือ ๑. การเคลือ่ นไหวแบบเคลือ่ นท่ี (Locomotors Movement) หมายถึง ทักษะการเคลื่อนไหว ที่ ใช้ในการเคลื่อนร่างกายจากท่ีหน่ึงไปยังอีกที่หน่ึง ได้แก่ การเดิน การว่ิง การกระโดด สลับเท้า การ กระโจน การสไลด์ และการวิ่งควบม้า ฯลฯ หรือการเคลื่อนท่ีในแนวดิ่ง เช่น การกระโดด ทักษะการ เคลื่อนไหวเหล่านี้เป็นพ้ืนฐานของการทางานประสานสัมพันธ์ทางกลไกแบบไม่ซับซ้อน และเป็นการ เคลื่อนไหวร่างกายที่ใช้กลา้ มเนือ้ มดั ใหญ่ ๒. การเคล่ือนไหวแบบอยู่กับท่ี (Non-locomotors Movement) หมายถึง ทักษะการ เคลอ่ื นไหวท่ปี ฏิบตั ิโดยร่างกายไม่มีการเคลื่อนที่ของร่างกาย ตัวอย่างเช่น การก้ม การเหยียด การผลักและ ดัน การบดิ ตัว การโยกตวั การไกวตัว และการทรงตัว เปน็ ตน้ ๓. การเคลื่อนไหวแบบประกอบอุปกรณ์ (Manipulative Movement) เปน็ ทักษะการเคลื่อนไหวที่ มีการบังคับหรือควบคุมวัตถุ ซึ่งส่วนใหญ่จะเก่ียวข้องกับการใช้มือและเท้า แต่ส่วนอ่ืน ๆ ของร่างกายก็ สามารถใช้ได้ เช่น การขวา้ ง การตี การเตะ การรบั เป็นตน้
๕๑ การจดั การกับอารมณแ์ ละความเครยี ด (Emotion and Stress Management) วิธีควบคุมอารมณ์ความเครียดและความคับข้องใจ ท่ีไม่เป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อ่ืนแล้วลงมือ ปฏิบัติอย่างเหมาะสม เช่น ทาสมาธิ เล่นกีฬา การร่วมกิจกรรม นันทนาการ การคลายกล้ามเน้ือ (muscle relaxation) การชว่ ยฟืน้ คนื ชีพ (Cardiopulmonary Resuscitation = CPR) การชว่ ยชีวติ เบื้องต้นกอ่ นสง่ ต่อให้แพทย์ในกรณีผู้ปุวยหัวใจหยุดเต้น โดยการนวดหัวใจและผายปอด ไปพรอ้ ม ๆ กนั การดแู ลเบ้อื งต้น (First Care) การใหก้ ารดูแลสขุ ภาพผปู้ ุวยในระยะพกั ฟนื้ และ / หรือการปฐมพยาบาล การพัฒนาทยี่ ัง่ ยืน (Sustainable Development) การพัฒนาที่เป็นองค์รวมของความเป็นมนุษย์ตามแนวทางของพระธรรมปิฏก (ประยุทธ์ ปยุตโต) เป็น การพัฒนาท่ีเป็นบูรณาการ คือ ทาให้เกิดเป็นองค์รวมหมายความว่า องค์ประกอบท้ังหลายที่เก่ียวข้อง จะต้องประสานกันครบทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณ และมีดุลยภาพ สอดคล้องกับ กฎเกณฑ์ของธรรมชาติ การละเลน่ พืน้ เมอื ง (Folk Plays) กิจกรรมเล่นด้ังเดิมของคนในชุมชนแต่ละท้องถิ่น ซึ่งเป็นส่วนหน่ึงของการดาเนินชีวิตหรือวิถีชีวิต เพื่อเป็นการผอ่ นคลายอารมณ์ ความเครียด และสร้างเสริมให้มีกาลังกายแข็งแรง สติปัญญาดี จิตใจเบิก บานสนุกสนาน อันก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม เช่น กิจกรรมการ เล่นของชุมชนท้องถ่ิน ว่ิงเปี้ยว ชักเย่อ ข่ีม้าส่งเมือง ตีจับ มอญซ่อนผ้า รีๆข้าวสาร วิ่งกระสอบ สะบ้า กระบ่กี ระบอง มวยไทย ตะกร้อวง ตะกรอ้ ลอดบ่วง กจิ กรรมเขา้ จงั หวะ (Rhythmic Activities) การแสดงออกของร่างกาย โดยการเคล่ือนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้เข้ากับอัตราความ ช้า – เร็วของตัวโนต้ กจิ กรรมนนั ทนาการ (Recreation Activities) กิจกรรมที่บุคคลได้เลือกทาหรือเข้าร่วมด้วยความสมัครใจในเวลาว่าง และผลท่ีได้รับเป็นความพึง พอใจ ไม่เป็นภัยต่อสงั คม กิจกรรมรบั น้าหนักตนเอง (Weight Bearing Activities) กิจกรรมการออกกาลังกายท่ีมีการเคลื่อนไหวบนพ้ืน เช่น การเดิน การว่ิง การกระโดดเชือก ยิมนาสติก การเต้นราหรือการเต้นแอโรบิก โดยกล้ามเนื้อส่วนท่ีรับน้าหนักต้องออกแรงกระทากับน้าหนัก ของตนเองในขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรม กฬี าไทย (Thai Sports) กีฬาที่มีพ้ืนฐานเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของท้องถิ่นและสังคมไทย เช่น กระบ่ีกระบอง มวยไทย ตะกรอ้ กฬี าสากล (International Sports) กฬี าที่เป็นท่ยี อมรบั จากมวลสมาชกิ ขององคก์ รกฬี าระดบั นานาชาติใหเ้ ปน็ ชนดิ กฬี าที่บรรจุอยู่ในเกม การแขง่ ขัน เช่น ฟตุ บอล วอลเลยบ์ อล เทนนสิ แบดมินตนั เกณฑส์ มรรถภาพทางกาย (Physical Fitness Reference) คา่ มาตรฐานที่ไดก้ าหนดข้ึน (จากการศึกษาวจิ ยั และกระบวนการสถิติ) เพ่ือเป็นดัชนีสาหรับประเมิน เปรียบเทียบว่าบุคคลท่ีได้รับคะแนน หรือค่าตัวเลข (เวลา จานวน คร้ัง น้าหนัก ฯลฯ)จากการทดสอบ
๕๒ สมรรถภาพทางกายแต่ละรายการทดสอบนั้น มีสมรรถภาพทางกายตามองค์ประกอบดังกล่าวอยู่ในระดับ คุณภาพใด โดยท่ัวไปแลว้ นิยมจัดทาเกณฑใ์ น ๒ ลกั ษณะ คอื ๑. เกณฑ์ปกติ (Norm Reference) เป็นเกณฑ์ท่ีจัดทาจากการศึกษากลุ่มประชากร ท่ีจาแนกตาม กลมุ่ เพศและวยั เปน็ หลกั สว่ นใหญ่แล้วจะจดั ทาในลกั ษณะของเปอร์เซ็นไทล์ ๒. เกณฑ์มาตรฐาน (Criterion Reference) เป็นระดับคะแนนหรือค่ามาตรฐานที่กาหนดไว้ ล่วงหน้า สาหรับแต่ละราย การทดสอบเพ่ือเป็นเกณฑ์การตัดสินว่าบุคคลที่รับการทดสอบมีสมรรถภาพหรือ ความสามารถผ่านตามเกณฑ์ทไ่ี ดก้ าหนดไวห้ รือไม่ มิได้เป็นการเปรยี บเทียบกับบุคคลอน่ื ๆ ความคดิ รวบยอดเกี่ยวกับการเคลอ่ื นไหว (Movement Concepts) ความสัมพันธร์ ะหว่างขนาด จงั หวะ เวลา พืน้ ท่ี และทศิ ทางในการเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย ความเข้าใจถึงความเกี่ยวข้องเช่ือมโยง และความพอเหมาะพอดีระหว่างขนาดของแรงท่ีใช้ ในการ เคลื่อนไหวร่างกายหรือวัตถุ ด้วยห้วงเวลา จังหวะและทิศทางที่เหมาะสมภายใต้ข้อจากัดของพ้ืนที่ ท่ีมีอยู่ และสามารถแปรความเขา้ ใจดังกล่าวทั้งหมดไปสู่การปฏบิ ัติการเคล่ือนไหวในการเลน่ หรอื แข่งขนั กฬี า ความเสีย่ งต่อสุขภาพ (Health Risk) การประพฤตปิ ฏบิ ตั ทิ อี่ าจนาไปสูก่ ารเกดิ อันตรายต่อชวี ิตและสุขภาพของตนเองและผู้อ่ืน เช่น การขับ รถเร็ว การกินอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ความสาส่อนทางเพศ การมีน้าหนักตัวเกิน การขาดการออกกาลังกาย การสูบบุหร่ี การดม่ื สุรา การใชย้ าและสารเสพติด คา่ นยิ มทางสงั คม (Health Value) คุณสมบัติของส่ิงใดก็ตาม ซ่ึงทาให้ส่ิงนั้นเป็นประโยชน์น่าสนใจ ส่ิงที่บุคคลยึดถือในการตัดสินใจ และกาหนดการกระทาของตนเองเก่ยี วกับพฤติกรรมสขุ ภาพ คณุ ภาพชวี ิต (Quality of Life) ความรับรู้หรือเข้าใจของปัจเจกบุคคลที่มีต่อสถานภาพชีวิตของตนเองภายใต้บริบทของระบบ วัฒนธรรมและค่านิยมท่ีเขาใช้ชีวิตอยู่ และมีความเช่ือมโยงกับจุดมุ่งหมาย ความคาดหวัง มาตรฐาน รวมทั้งความกังวลสนใจที่เขามีต่อส่ิงต่าง ๆ คุณภาพชีวิตเป็นมโนคติท่ีมีขอบเขตกว้างขวาง ครอบคลุมเรื่อง ตา่ ง ๆ ทสี่ ลับซบั ซอ้ น ได้แก่ สุขภาพทางกาย สภาวะทางจิต ระดับความเป็นตัวของตัวเอง ความสัมพันธ์ ต่าง ๆ ทางสังคม ความเชอื่ สว่ นบคุ คล และสัมพันธภาพทีด่ ตี อ่ สง่ิ แวดลอ้ ม จิตวญิ ญาณในการแข่งขัน (Competitive Spiritual) ความมุ่งม่ัน การทุ่มเทกาลังกาย กาลังใจ ความรู้ ความสามารถในการแข่งขัน และร่วมมืออย่าง สันติเต็มความสามารถ เพอื่ ให้ได้มาซง่ึ ผลทีต่ นเองต้องการ ทักษะชวี ติ (Life Skills) เป็นคุณลักษณะหรือความสามารถเชิงสังคมจิตวิทยา (Psychosocial Competence) และเป็น ความสามารถทางสติปญั ญา ทท่ี ุกคนจาเป็นต้องใชใ้ นการเผชญิ สถานการณต์ า่ ง ๆ ท่ีเกิดข้ึนในชีวิตประจาวัน ไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ สามารถพัฒนาขึ้นไดด้ ว้ ยการฝกึ และกระทาซา้ ๆ ให้เกดิ ความคล่องแคล่ว เคยชินจน เป็นลักษณะนิสัย ประกอบด้วยทักษะต่าง ๆ ดังน้ี คือ การรู้จักตนเอง เข้าใจตนเองและเห็นคุณค่าของ ตนเอง การรู้จักคิดอย่างมีวิจารณญาณและคิดสร้างสรรค์ การรู้จักคิดตัดสินใจและแก้ปัญหา การรู้จัก แสวงหาและใช้ข้อมูลความรู้ การสื่อสารและการสร้างสัมพันธภาพกับผู้อ่ืน การจัดการกับอารมณ์และ ความเครียด การปรับตัวท่ามกลางการเปล่ียนแปลง การตั้งเปูาหมาย การวางแผนและดาเนินการตามแผน ความเห็นใจผ้อู ่นื ความรับผิดชอบต่อสงั คมและซาบซึ้งในสิง่ ทีด่ งี ามรอบตัว
๕๓ ธงโภชนาการ (Nutrition Flag) เป็นเคร่ืองมือท่ีช่วยอธิบายและทาความเข้าใจโภชนบัญญัติ ๙ ประการ เพ่ือนาไปสู่การปฏิบัติ โดย กาหนดเป็นภาพ “ธงปลายแหลม” แสดงกลุ่มอาหารและสัดส่วนการกินอาหารในแต่ละกลุ่ม มากน้อยตาม พนื้ ที่ สงั เกตได้ชดั เจนว่า ฐานใหญด่ า้ นบนเนน้ ให้กินมากและปลายธงข้างล่างบอกให้กินน้อย ๆ เท่าท่ีจาเป็น โดยมฐี านมาจากข้อปฏบิ ตั ิการบรโิ ภคอาหารเพื่อสุขภาพท่ีดีของคนไทย หรือโภชนบัญญตั ิ ๙ ประการ คือ ๑. กนิ อาหารครบ ๕ หมู่ แต่ละหมใู่ ห้หลากหลายและหมัน่ ดูแลน้าหนกั ตัว ๒. กินขา้ วเป็นอาหารหลักสลบั กับอาหารประเภทแปูงเปน็ บางม้ือ ๓. กนิ พชื ผักให้มากและกนิ ผลไมเ้ ป็นประจา ๔. กินปลา เนื้อสตั ว์ไมต่ ดิ มัน ไข่ และถว่ั เมลด็ แหง้ เป็นประจา ๕. ดืม่ นมให้เหมาะสมตามวยั ๖. กนิ อาหารที่มไี ขมนั แต่พอควร ๗. หลกี เลยี่ งการกินอาหารรสหวานจดั และเคม็ จดั ๘. กนิ อาหารทสี่ ะอาด ปราศจากการปนเป้ือน ๙. งดหรือลดเคร่อื งดื่มท่มี แี อลกอฮอล์ นา้ ใจนกั กีฬา (Spirit) เป็นคุณธรรมประจาใจของการเล่นร่วมกัน อยู่ร่วมกันและมีชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างปกติสุข และมีประสิทธภิ าพ พฤติกรรมท่ีแสดงถงึ ความมนี ้าใจนักกฬี า เชน่ การมีวินัย เคารพกฎกติกา รู้แพ้ รู้ชนะ ร้อู ภัย บรกิ ารสขุ ภาพ (Health Service) บรกิ ารทางการแพทยแ์ ละสาธารณสุขท้ังของรัฐและเอกชน ประชาสังคม (Civil Society) เครือข่ายกลุ่ม ชมรม สมาคม มูลนิธิ สถาบัน องค์กร หรือชุมชนท่ีมีกิจกรรมการเคล่ือนไหวทาง สังคม เพอ่ื ประโยชนร์ ่วมกนั ของกลุ่ม ผลิตภณั ฑส์ ุขภาพ (Health Products) ยา เคร่ืองสาอาง อาหารสาเร็จรปู เคร่อื งปรุงรสอาหาร อาหารเสริม วติ ามิน พฤติกรรมเบีย่ งเบนทางเพศ (Sex Abuse) การประพฤติปฏิบัติใด ๆ ที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติทางเพศตนเอง เช่น มีจิตใจรักชอบในเพศ เดยี วกัน การแตง่ ตัวหรือแสดงกริ ิยาเปน็ เพศตรงข้าม พฤติกรรมสุขภาพ (Health Behaviour) การปฏิบัติหรือกิจกรรมใด ๆ ในด้านการปูองกัน การสร้างเสริม การรักษาและการฟื้นฟูสุขภาพ อันมผี ลต่อสภาวะทางสุขภาพของบคุ คล พฤตกิ รรมเส่ียง (Risk Behaviour) รปู แบบจาเพาะของพฤติกรรม ซงึ่ ไดร้ ับการพิสูจนแ์ ล้วว่า มีความสัมพันธก์ ับการเพิ่มโอกาส ท่ีจะ ปุวยจากโรคบางชนดิ หรอื การเส่อื มสุขภาพมากข้ึน พลังปัญญา (Empowerment) กระบวนการสร้างเสริมศักยภาพแก่บุคคลและชุมชนให้เป็นผู้สนใจใฝุรู้ และมีอานาจในการคิด การ ตัดสินใจ การแก้ปัญหาด้วยชุมชนเองได้เป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นบุคคลและชุมชนยังสามารถควบคุม สภาพแวดลอ้ มท่ีมีผลกระทบตอ่ ปัญหาสขุ ภาพให้อยู่ในสภาพท่เี อือ้ ต่อการสรา้ งเสรมิ และพฒั นาสขุ ภาพ
๕๔ ภาวะทุพโภชนาการ (Malnutrition) การขาดสารอาหารท่ีจาเปน็ ตอ่ การเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของเดก็ ทาใหม้ ีผลกระทบตอ่ สขุ ภาพ ภาวะผนู้ า (Leadership) การมีคุณลักษณะในการเป็นหัวหน้า สามารถชักชวนและช้ีนาสมาชิกในกลุ่มร่วมมือร่วมใจกัน ปฏบิ ัตงิ านใหส้ าเร็จลลุ ว่ งไปดว้ ยดี ภมู ปิ ัญญาไทย (Thai Wisdom) สติปัญญา องค์ความรู้และค่านิยมท่ีนามาใช้ในการดาเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม เป็นมรดกทาง วัฒนธรรมท่เี กิดจากการส่งั สมประสบการณ์ ความรู้แขนงต่าง ๆ ของบรรพชนไทยนับแต่อดีต สอดคล้องกับ วถิ ชี วี ติ ภูมปิ ัญญาไทย จงึ มคี วามสาคัญต่อการพัฒนาชวี ิตความเปน็ อยขู่ องคนไทย ท้งั ด้านเศรษฐกจิ สงั คม ลักษณะของภูมปิ ัญญาไทย มีองค์ประกอบตอ่ ไปน้ี ๑. คติ ความเช่ือ ความคดิ หลักการที่เปน็ พนื้ ฐานขององค์ความรูท้ ่ีเกิดจากส่งั สมถา่ ยทอดกันมา ๒. ศิลปะ วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณี ๓. การประกอบอาชีพในแตล่ ะทอ้ งถ่นิ ท่ีได้รับการพัฒนาให้เหมาะสมกบั สมยั ๔. แนวคิด หลักปฏิบัติ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่นามาใช้ในชุมชน ซ่ึงเป็นอิทธิพลของ ความกา้ วหนา้ ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตัวอย่างภูมิปัญญาไทยที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น การแพทย์แผนไทย สมุนไพร อาหารไทย ยาไทย ฯลฯ แรงขับทางเพศ (Sex Drive) แรงขับทเี่ กดิ จากสัญชาตญาณทางเพศ ลว่ งละเมดิ ทางเพศ (Sexual Abuse) การใช้คาพูด การจับ จูบ ลูบ คลา และ / หรือร่วมเพศ โดยไม่ได้รับการยินยอมจากฝุายตรงข้าม โดยเฉพาะกับผู้เยาว์ สติ (Conscious) ความรู้สึกตัวอยู่เสมอในการรับรู้สิ่งต่าง ๆ การให้หลักการและเหตุผลในการปูองกัน ยับย้ังช่ังใจ และควบคุมตนเองเพื่อไม่ให้คิดผิดทาง ไม่หลงลืม ไม่เครียด ไม่ผิดพลาด ก่อให้เกิดพฤติกรรมที่ถูกต้องดี งาม สมรรถภาพกลไก (Motor Fitness)หรอื สมรรถภาพเชิงทักษะปฏิบัติ (Skill-Related Physical Fitness) ความสามารถของร่างกายท่ีช่วยให้บุคคลสามารถประกอบกิจกรรมทางกาย โดยเฉพาะอย่างย่ิงการ เล่นกีฬาไดด้ ี มีองคป์ ระกอบ ๖ ด้าน ดงั น้ี ๑. ความคลอ่ ง (Agility) หมายถึง ความสามารถในการเปลี่ยนทิศทางการเคล่ือนท่ีได้อย่างรวดเร็ว และสามารถควบคุมได้ ๒. การทรงตัว (Balance) หมายถึง ความสามารถในการรักษาดุลของร่างกายเอาไว้ได้ทั้งในขณะ อย่กู ับที่และเคลือ่ นที่ ๓. การประสานสัมพันธ์ (Co – ordination) หมายถึง ความสามารถในการเคลื่อนไหวได้อย่าง ราบรน่ื กลมกลืน และมีประสิทธภิ าพ ซ่ึงเปน็ การทางานประสานสอดคล้องกันระหว่างตา-มือ-เท้า ๔. พลังกล้ามเนื้อ (Power) หมายถึง ความสามารถของกล้ามเนื้อส่วนหนึ่งส่วนใดหรือหลาย ๆ ส่วนของร่างกายในการหดตัวเพ่ือทางานด้วยความเร็วสูง แรงหรืองานที่ได้เป็นผลรวมของความแข็งแรงและ ความเร็วทีใ่ ชใ้ นชว่ งระยะเวลานั้น ๆ เชน่ การยนื อยู่กับท่ี กระโดด การท่มุ นา้ หนกั เป็นตน้
๕๕ ๕. เวลาปฏิกิริยาตอบสนอง (Reaction time) หมายถึง ระยะเวลาท่ีร่างกายใช้ในการตอบสนองต่อ ส่ิงเร้าตา่ ง ๆ เช่น แสง เสียง สมั ผสั ๖. ความเร็ว (Speed) หมายถึง ความสามารถในการเคลื่อนท่ีจากที่หน่ึงไปยังอีกหน่ึงได้อย่าง รวดเร็ว สมรรถภาพทางกาย (Physical Fitness) ความสามารถของระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ในการทางานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล บุคคลท่ีมสี มรรถภาพทางกายดีนน้ั จะสามารถประกอบกิจกรรมในชีวิตประจาวันได้อย่างกระฉับกระเฉง โดย ไม่เหนื่อยล้าจนเกินไปและยังมีพลังงานสารองมากพอ สาหรับกิจกรรมนันทนาการหรือกรณีฉุกเฉิน ใน ปจั จุบนั นักวชิ าชพี ดา้ นสุขศกึ ษาและพลศึกษาได้เห็นพอ้ งตอ้ งกันว่า สมรรถภาพทางกายสามารถจัดกลุ่มได้เป็น สมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ (Health – Related Physical Fitness) และหรือสมรรถภาพกลไก (Motor Fitness) สมรรถภาพเชงิ ทักษะปฏิบัติ (Skill – Related Physical Fitness) สมรรถภาพทางกายเพือ่ สขุ ภาพ (Health – Related Physical Fitness) ความสามารถของระบบต่าง ๆ ในร่างกายประกอบด้วย ความสามารถเชิงสรีรวิทยาด้านต่าง ๆ ท่ี ช่วยปูองกันบุคคลจากโรคที่มีสาเหตุจากภาวะการขาดการออกกาลังกาย นับเป็นปัจจุบันหรือตัวบ่งชี้สาคัญ ของการมีสุขภาพดี ความสามารถหรือสมรรถนะเหล่านี้ สามารถปรับปรุงพัฒนาและคงสภาพได้ โดยการออก กาลังกายอยา่ งสม่าเสมอ สมรรถภาพทางกายเพ่ือสขุ ภาพมอี งค์ประกอบดังนี้ ๑. องค์ประกอบของร่างกาย (Body Composition) ตามปกติแล้วในร่างกายมนุษย์ประกอบด้วย กลา้ มเนื้อ กระดกู ไขมัน และส่วนอ่ืน ๆ แต่ในส่วนของสมรรถภาพทางกายนัน้ หมายถึง สัดส่วนปริมาณ ไขมันในร่างกายกับมวลร่างกายท่ีปราศจากไขมัน โดยการวัดออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ไขมัน (% fat) ด้วย เครื่อง ๒. ความทนทานของระบบไหลเวียนโลหติ (Cardiorespiratory Endurance) หมายถงึ สมรรถนะ เชิงปฏบิ ัติของระบบไหลเวียนโลหิต (หวั ใจ หลอดเลือด) และระบบหายใจในการลาเลียงออกซิเจนไปยังเซลล์ กล้ามเนอ้ื ทาให้ร่างกายสามารถยืนหยดั ทีจ่ ะทางานหรือออกกาลังกายที่ใชก้ ลา้ มเนื้อมดั ใหญเ่ ป็นระยะเวลา ยาวนานได้ ๓. ความอ่อนตัวหรือความยืดหยุ่น (Flexibility) หมายถึง พิสัยของการเคลื่อนไหวสูงสุดเท่าท่ีจะ ทาไดข้ องขอ้ ตอ่ หรือกลุ่มขอ้ ต่อ ๔. ความทนทานหรอื ความอดทนของกล้ามเนือ้ (Muscular Endurance) หมายถงึ ความสามารถ ของกล้ามเน้ือมดั ใดมดั หนง่ึ หรือกลมุ่ กลา้ มเนื้อ ในการหดตัวซ้า ๆ เพ่ือต้านแรงหรอื ความสามารถในการคง สภาพการหดตัวคร้ังเดียวได้เป็นระยะเวลายาวนาน ๕. ความแขง็ แรงของกลา้ มเน้อื (Muscular Strength) หมายถงึ ปริมาณสงู สดุ ของแรงท่กี ล้ามเน้ือ มดั ใดมดั หนึ่งหรือกลุ่มกลา้ มเนือ้ สามารถออกแรงต้านทานได้ ในชว่ งการหดตัว ๑ คร้ัง สขุ บัญญตั ิแห่งชาติ (National Health Disciplines) ข้อกาหนดท่ีเด็กและเยาวชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป พึงปฏิบัติอย่างสม่าเสมอ จนเป็นสุขนิสัย เพือ่ ใหม้ ีสขุ ภาพดที ัง้ รา่ งกาย จติ ใจ และสงั คม ซงึ่ กาหนดไว้ ๑๐ ประการ ดังน้ี ๑. ดูแลรักษารา่ งกายและของใช้ให้สะอาด ๒. รักษาฟนั ให้แข็งแรงและแปรงฟันทุกวนั อยา่ งถูกต้อง ๓. ล้างมือให้สะอาดกอ่ นกินอาหารและหลังการขบั ถ่าย ๔. กินอาหารสกุ สะอาด ปราศจากสารอันตราย และหลกี เล่ยี งอาหารรสจดั สีฉูดฉาด ๕. งดบุหรี่ สุรา สารเสพติด การพนนั และการสาสอ่ นทางเพศ
๕๖ ๖. สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวใหอ้ บอนุ่ ๗. ปอู งกนั อุบัตภิ ัยดว้ ยการไมป่ ระมาท ๘. ออกกาลงั กายสมา่ เสมอและตรวจสุขภาพประจาปี ๙. ทาจิตใจให้รา่ เรงิ แจม่ ใสอยู่เสมอ ๑๐.มสี านกึ ตอ่ สว่ นรวม รว่ มสร้างสรรคส์ งั คม สุขภาพ (Health) สุขภาวะ (Well – Being หรือ Wellness) ท่ีสมบูรณ์และเชื่อมโยงกันเป็นองค์รวมอย่างสมดุลทั้ง มิติทางจิตวิญญาณ (มโนธรรม) ทางสังคม ทางกาย และทางจิต ซ่ึงมิได้หมายถึงเฉพาะความไม่พิการและ ความไม่มีโรคเทา่ นน้ั สุนทรยี ภาพของการเคล่อื นไหว (Movement Aesthetic) ศิลปะและความงดงามของท่วงท่าในการเคล่ือนไหวร่างกายในอิริยาบถต่าง ๆ ซ่ึงเป็นผลมาจาก ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบท่าทางการเคลื่อนไหวและการฝึกฝนจนเกิดความชานาญ สามารถแสดง ออกมาเปน็ ความกลมกลืนและตอ่ เน่ือง แอโรบิก (Aerobic) กระบวนการสร้างพลังงานแบบต้องใช้อากาศ ซ่ึงในท่ีนี้ หมายถึง ออกซิเจน (Aerobic -energy delivery) ในการสร้างพลังงานของกล้ามเนื้อ เพื่อทางานหรือเคล่ือนไหว น้ัน กล้ามเน้ือจะมีวิธีการ ๓ แบบที่จะได้พลงั งานมา แบบท่ี ๑ เป็นการใชพ้ ลงั งานทีม่ ีสารองอย่ใู นกล้ามเน้อื ซ่งึ จะใชไ้ ด้ในเวลาไมเ่ กิน ๓ วินาที แบบท่ี ๒ การสังเคราะห์พลังงานโดยไม่ใช้ออกซิเจน (Anaerobic energy delivery) ซ่ึงใช้ได้ ไม่ เกิน ๑๐ วนิ าที แบบที่ ๓ การสงั เคราะหส์ ารพลงั งาน โดยใชอ้ อกซเิ จน ซ่งึ จะใชพ้ ลงั งานได้ระยะเวลานาน
๕๗ บรรณานุกรม กรมวชิ าการ กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๔๕). คู่มือการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สาระสุขศึกษาและ พลศึกษา.กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์องค์การรับสง่ สนิ คา้ และพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.) . _________.(๒๕๔๕). แนวทางการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักฐานการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พ.ศ. ๒๕๔๔. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพช์ ุมชนสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทยจากดั . ________.(๒๕๕๑). ผังมโนทัศน์และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพล ศกึ ษา.กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพ์ชมุ ชนสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทยจากัด. _________ .(๒๕๕๑). สาระและมาตรฐานการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาในหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษา ขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑.กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศ ไทยจากัด. _________ กระทรวงศึกษาธิการ.(๒๕๕๑). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพช์ ุมชนสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทยจากัด.
๕๘ รายชอ่ื คณะผจู้ ดั ทา คณะที่ปรกึ ษา 1. นางวไิ ลวรรณ ทองหนูน้ยุ ผู้อานวยการสถานศกึ ษา 2. นางสาวอาภาพนั ธ์ แสงดารา รกั ษาราชการแทนรองผ้อู านวยการสถานศึกษา 3. นางเบญจวรรณ ดาบทอง หวั หน้างานวิชาการ ระดับประถมศึกษา 4. คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล๒บ้านกะทู้ คณะทางาน รกั ษาราชการแทนรองผู้อานวยการสถานศึกษา 1. นางสาวอาภาพันธ์ แสงดารา หวั หนา้ งานวชิ าการ 2. นางเบญจวรรณ ดาบทอง หวั หน้าหมวดกลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ุขศึกษาและพลศึกษา 3. นายนรารกั ษ์ สมาแอ รองหัวหน้าหมวดกลุม่ สาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา 4. นายธีรศกั ดิ์ กาญจนรกั ษ์ ครูผู้สอน 5. นายนธกิ รณ์ อาวุธเพชร คณะผ้จู ดั พิมพ์ 1. นายนรารกั ษ์ สมาแอ 2. นายนธิกรณ์ อาวุธเพชร 3. นายธรี ศักดิ์ กาญจนรกั ษ์ 4. คณะครูกลุม่ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา
๕๙ คานา คณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน โดยสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ได้ดาเนินการ ทบทวนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 เพื่อพัฒนาไปสู่หลักสูตรแกนกลางสถานศึกษาขั้น พ้ืนฐาน 2551 โดยนาข้อมูลที่ได้จากการศึกษาวิจัยดังกล่าว และข้อมูลจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) มาใช้ในการพัฒนาหลักสูตรให้มีความเหมาะสมชัดเจนย่ิงข้ึน ดังนั้น กลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๒ บ้านกะทู้ จึงได้จัดทาหลักสูตรกลุ่มสาระการ เรียนรู้คณิตศาสตรข์ ึน้ โดยดาเนนิ การจัดทาตามรูปแบบและกระบวนการท่ีกาหนด ครอบคลุมสาระการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และมาตรฐานต่างๆท่ีกาหนดไว้ในแต่ละช้ัน การวิเคราะห์ เน้ือหาสาระ มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพ ของผู้เรียนใช้เพ่ือการแสวงหาความรู้ ตลอดจนการอยู่ร่วมกัน ในสังคมโลก สนองตอบความแตกต่างของ สภาพท้องถ่ิน สังคม และสิ่งแวดล้อมของผู้เรียน การจัดการเรียนการสอนมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการการ เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยใช้ทักษะกระบวนการสร้างองค์ความรู้ให้เกิดขึ้น มีการวัดผล ประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ ขอขอบคุณฝุายวิชาการ ผู้อานวยการโรงเรียนเทศบาล ๒ บ้านกะทู้ คณะครู กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพละศึกษา ที่ให้ความร่วมมือในการจัดทาหลักสูตรในครั้งนี้ ให้มีความสมบูรณ์และเหมาะสมสาหรับการ จัดการเรียนการสอนในแตล่ ะระดับช้ัน สามารถพฒั นาผู้เรยี นให้มคี ณุ ภาพ ตามมาตรฐานและตัวชี้วัดทีกาหนด ในหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 หวังเป็นอย่างยิ่งว่า หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพละศึกษา เล่มน้ีจะเป็นแนวทางให้การจัด การเรียนการสอนวิชาสุขศึกษาและพละศึกษา ของโรงเรียนเทศบาล ๒ บ้านกะทู้ ดาเนินไปอย่างมี ประสิทธิภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพละศึกษา โรงเรยี นเทศบาล ๒ บา้ นกะทู้
สารบัญ ๖๐ คานา หน้า สารบญั ความสาคญั ๑ ธรรมชาติและลักษณะเฉพาะ ๑ วสิ ัยทศั น์กลมุ่ สาระกรเรียนร้สู ุขศึกษาและพละศึกษา ๒ คุณภาพผู้เรียน ๒ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ๓ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๓ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ๔ ตัวช้ีวดั และสาระการเรียนร้แู กนกลางและสาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน ๕ โครงสร้างเวลาเรยี น ๓๒ คาอธบิ ายรายวิชา ป.๑ ๓๓ โครงสรา้ งรายวิชา ป.๑ ๓๔ คาอธบิ ายรายวชิ า ป.๒ ๓๕ โครงสร้างรายวิชา ป.๒ ๓๖ คาอธบิ ายรายวชิ า ป.๓ ๓๗ โครงสรา้ งรายวิชา ป.๓ ๓๘ คาอธบิ ายรายวชิ า ป.๔ ๓๙ โครงสร้างรายวิชา ป.๔ ๔๐ คาอธิบายรายวชิ า ป.๕ ๔๑ โครงสร้างรายวิชา ป.๕ ๔๒ คาอธิบายรายวชิ า ป.๖ ๔๓ โครงสร้างรายวชิ า ป.๖ ๔๔ การวัดและประเมนิ ผล ๔๕ ส่อื การเรยี นรู้ ๔๘ แหลง่ การเรยี นรู้ ๔๙ อภธิ านศพั ท์ ๕๐ ภาคผนวก บรรณานุกรม ๕๗ คณะผจู้ ดั ทา ๕๘
Search