Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารเผยแพร่องค์ความรู้ หลักการทรงงาน

เอกสารเผยแพร่องค์ความรู้ หลักการทรงงาน

Published by E-book Prasamut chedi District Public Library, 2019-07-30 12:08:32

Description: สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงาน
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
(สำนักงาน กปร.)
หนังสือ,เอกสาร,บทความนี้นำมาเผยแพร่เพื่อการศึกษาเท่านั้น

Search

Read the Text Version

“…...การพัฒนาประเทศจ�ำเป็นต้องท�ำตาม ล�ำดับขั้น ต้องสร้างพ้ืนฐานคือความพอมี พอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เป็น เบอื้ งตน้ กอ่ น ใชว้ ธิ กี ารและอปุ กรณท์ ป่ี ระหยดั แต่ถูกตามหลักวิชาการ เม่ือได้พ้ืนฐานท่ี มั่นคงพร้อมพอสมควรและปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างเสริมความเจริญ และฐานะ เศรษฐกิจขน้ั ทส่ี งู ข้นึ โดยล�ำดับตอ่ ไป...” พระบรมราโชวาท พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว ในพิธพี ระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ณ หอประชมุ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วนั ที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๑๗

คำ� นำ� “หลกั การทรงงานในพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว” ส�ำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ (ส�ำนักงาน กปร.) ไดจ้ ดั ท�ำหนงั สือชุด “เผยแพร่องคค์ วามรู้ตามแนวพระราชดำ� ร”ิ ในปี ๒๕๕๘ เพือ่ เฉลมิ พระเกยี รติเนอ่ื งในโอกาสที่ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเจรญิ พระชนมายุ ๖๐ พรรษา ๒ เมษายน ๒๕๕๘ โดยรวบรวม หนังสือท่ีส�ำนักงาน กปร. จัดพิมพ์แล้วมาด�ำเนินการปรับปรุงเพ่ิมเติมสาระส�ำคัญ โดยเฉพาะอย่างย่ิงตัวอย่างของ ความส�ำเร็จที่เกิดข้ึนจากการพัฒนาตามแนวพระราชด�ำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการทรงงานสานต่อ พระราชด�ำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี รวมถึงเร่ืองราวการสนองพระราชด�ำริ ของส�ำนักงาน กปร. ที่ก่อเกิดโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริมากมายกว่า ๔,๐๐๐ โครงการท่ัวประเทศ และ การน้อมน�ำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติใช้ในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมตัวอย่างการประยุกต์ใช้ที่ถูกต้อง ตามคำ� แนะนำ� และขอ้ เสนอแนะของ ศาสตราจารยเ์ กยี รตคิ ณุ นายแพทย์ เกษม วฒั นชยั องคมนตรี ซง่ึ ไดใ้ หข้ อ้ คดิ ชแ้ี นะ การจัดท�ำเน้ือหาเพ่ือใช้ในการเผยแพร่องค์ความรู้สู่การประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อให้ประชาชนทั่วไป ได้ศึกษาอย่างง่าย ๆ และสามารถน�ำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างรวดเร็วจากผลส�ำเร็จและตัวอย่างท่ีชัดเจนในทุก ๆ ด้าน และทกุ มติ ิ

ดงั นั้น ส�ำนักงาน กปร. จงึ ไดจ้ ัดทำ� หนังสอื ชุด “เผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ตามแนวพระราชดำ� ร”ิ จำ� นวน ๔ เลม่ ประกอบดว้ ย ๑. หลกั การทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั ๒. เศรษฐกิจพอเพยี ง ๓. ทรงงานสานตอ่ สรา้ งสุขปวงประชา ๔. ๓ ทศวรรษ กปร. สำ� หรบั หนงั สอื ชดุ “เผยแพรอ่ งคค์ วามรตู้ ามแนวพระราชดำ� ร”ิ เลม่ ท่ี ๑ “หลกั การทรงงานในพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว” ไดร้ วบรวมหลกั การทรงงานท้ัง ๒๓ ประการ อาทิ การศกึ ษาข้อมูลอย่างเป็นระบบ ระเบดิ จากข้างใน การแก้ปัญหาที่จุดเล็ก ภูมิสังคม ไม่ติดต�ำรา ประหยัด เรียบง่ายใช้ประโยชน์สูงสุด การมีส่วนร่วม ขาดทุนคือก�ำไร การพง่ึ ตนเอง เศรษฐกจิ พอเพยี ง เปน็ ตน้ พรอ้ มนไ้ี ดม้ กี ารยกตวั อยา่ งโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� รหิ รอื กจิ กรรม ประกอบให้เห็นเป็นท่ีประจักษ์ว่า หลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ละข้อล้วนสามารถน�ำไป ปรับประยกุ ตใ์ ช้ได้ในการด�ำเนินชีวติ การปฏิบัติงานรว่ มกบั ผอู้ ื่น รวมถงึ สังคมสว่ นรวม อนั จะสง่ ผลถึงความมนั่ คง และ เปน็ ประโยชน์ตอ่ ตนเอง สงั คมและประเทศชาตอิ ย่างแทจ้ รงิ สำ� นกั งาน กปร. เมษายน ๒๕๕๙

สารบัญ หนา้ หลักการทรงงานในพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ๗ ๑. การศกึ ษาข้อมูลอย่างเป็นระบบ ๘ ๒. ระเบิดจากขา้ งใน ๑๐ ๓. แก้ปัญหาท่จี ุ ดเล็ก ๑๒ ๔. ท�ำตามลำ� ดบั ขนั้ ๑๔ ๕. ภมู ิสังคม ๑๘ ๖. องคร์ วม ๒๐ ๗. ไม่ตดิ ตำ� รา ๒๒ ๘. ประหยดั เรยี บง่าย ประโยชน์สูงสุด ๒๔ ๙. ท�ำใหง้ า่ ย ๒๖ ๑๐. การมสี ่วนร่วม ๒๘

๑๑. ประโยชนส์ ว่ นรวม หนา้ ๓๐ ๑๒. บริการรวมจุ ดเดยี ว ๓๔ ๑๓. ใช้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ ๓๘ ๑๔. ใช้อธรรมปราบอธรรม ๔๐ ๑๕. ปลกู ป่ าในใจคน ๔๒ ๑๖. ขาดทนุ คอื ก�ำไร ๔๔ ๑๗. การพ่ึงตนเอง ๔๘ ๑๘. พออยูพ่ อกิน ๕๐ ๑๙. เศรษฐกิจพอเพยี ง ๕๒ ๒๐. ความซ่ือสัตย์ สจุ รติ จริงใจตอ่ กนั ๕๔ ๒๑. ทำ� งานอย่างมคี วามสุข ๕๘ ๒๒. ความเพียร : พระมหาชนก ๕๙ ๒๓. รู้ รัก สามัคคี ๖๐

6z

\"หลกั การทรงงาน\" ในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว หในลพกั กระาบราททรสงงมาเดน็จพระเจา้ อยู่หวั พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทุ่มเทพระวรกาย ตรากตร�ำและมุ่งมั่น เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่พสกนิกร ไม่ว่าจะเช้ือชาติใด ศาสนาใด หรืออยู่ห่างไกลสักเพียงใด ก็มิทรง ย่อท้อ ทรงเข้าไปช่วยเหลือราษฎร ท้ังด้านสาธารณสุข การศึกษา สาธารณูปโภคขนั้ พน้ื ฐาน การเกษตร การฟืน้ ฟทู รัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ ม ดนิ นำ�้ ปา่ ไม้ และพลงั งาน หรอื แมก้ ระทงั่ การจราจร ทรงคดิ คน้ หาแนวทางแกไ้ ขปัญหาได้อย่างแยบยล การทรงงานในพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ทรงยึดการ ด�ำเนินงานในลักษณะทางสายกลางท่ีสอดคล้องกับสิ่งที่อยู่รอบตัว และสามารถปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ ทรงมคี วามละเอยี ดรอบคอบ และทรงคดิ คน้ หาแนวทางพฒั นา เพอ่ื มงุ่ ประโยชนแ์ กป่ ระชาชนอยา่ งสงู สดุ มคี ณุ คา่ และควรยดึ เปน็ แบบอยา่ งในการเจรญิ รอยตามเบอื้ งพระยคุ ลบาท น�ำมาปฏิบัติเพื่อให้บังเกิดผลต่อตนเอง สังคม และประเทศ ชาติตลอดไป หลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ ัว ท่รี วบรวมไดม้ ดี ังตอ่ ไปนี้ z7

ชุดเผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ ตามแนวพระราชด�ำริ ๑. การศึกษาข้อมูลอยา่ งเป็นระบบ การท่ีจะพระราชทานโครงการใดโครงการหนึ่งจะทรงศึกษาข้อมูล รายละเอียดอย่างเป็นระบบ ทั้งจากข้อมูลเบ้ืองต้นจากเอกสาร แผนที่ สอบถามจากเจ้าหนา้ ทนี่ ักวิชาการและราษฎรในพ้ืนท่ี ใหไ้ ด้รายละเอียด ทถ่ี กู ตอ้ ง เพอื่ ทจี่ ะพระราชทานความชว่ ยเหลอื ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและรวดเรว็ ตรงตามความต้องการของประชาชน 8z

“หลักการทรงงาน” ในพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ทฤษฎี “แกลง้ ดนิ ” อนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริ ทศี่ นู ยศ์ กึ ษาการพฒั นา พิกุลทองฯ จังหวัดนราธิวาส คือการศึกษาหาทางแก้ปัญหาดินเปร้ียวหรือดินเป็นกรด โดยมี การขังน้�ำไว้ในพ้ืนที่ ท�ำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีท�ำให้ดินเปร้ียวจัดจนถึงท่ีสุด แล้วจึงระบายน้�ำออก และปรบั สภาพฟ้นื ฟดู นิ ด้วยปนู ขาว จนกระทงั่ ดนิ มสี ภาพดีพอทจ่ี ะใช้ในการเพาะปลูกได้ z9

ชุดเผยแพร่องค์ความรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ ๒. ระเบิดจากขา้ งในพระองค์ทรงมุ่งเน้นเร่ืองการพัฒนา “คน” ทรงตรัสว่า “ต้องระเบิด จากขา้ งใน” หมายความวา่ ตอ้ งสรา้ งความเข้มแขง็ ให้คนในชมุ ชนทเี่ รา เข้าไปพัฒนาให้มีสภาพพร้อมท่ีจะรับการพัฒนาเสียก่อน แล้วจึงค่อย ออกมาสู่สังคมภายนอก มิใช่การน�ำเอาความเจริญหรือบุคคลจากสังคม ภายนอกเข้าไปหาชุมชนหมู่บ้านที่ยังไม่ทันได้มีโอกาสได้เตรียมตัวหรือ ตงั้ ตวั 10 z

“หลักการทรงงาน” ในพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ ัว ...การพฒั นาราษฎรในพื้นที่จะทรงมวี ิธขี องพระองค์ คือ การเสดจ็ ฯ ไปในป่า บนเขา ตอนแรกจะเสด็จฯ แบบยังไมไ่ ดม้ กี ารตดั ถนนเขา้ ไป พระองค์ตอ้ งเสดจ็ ฯ เข้าไปอย่างลำ�บาก เพราะวา่ พระองค์ไม่ต้องการจะให้คนอื่นมาเอาเปรยี บคน ข้างใน ในขณะท่ีเขายงั ไม่เขม้ แข็งพอ พอพฒั นาใหเ้ ขาเข้มแข็งแลว้ เขาจะออกมาเอง คอื “ระเบดิ จากขา้ งใน” พระราชดำ� รัสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี พระราชทานเกยี่ วกบั หลักการทรงงานพัฒนาประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั (หนังสอื พระมหากษตั รยิ ์นักพัฒนา เพอ่ื ประโยชนส์ ุขส่ปู วงประชา, หนา้ ๒๙) ๑. โครงการสร้างถนนเข้าสู่ ๒. โครงการธนาคารข้าวตามพระราชด�ำริ หมู่บ้านห้วยมงคล อ�ำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชาวเขาเผ่ากะเหร่ียง อ�ำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยต�ำรวจพลร่ม ค่ายนเรศวร ได้น�ำรถบูลโดเซอร์ ทรงต้ังพระราชหฤทัยท่ีจะให้ประชาชนพ่ึงตนเอง พระราชทานท�ำการเกล่ียพื้นผิวถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ โดยพระราชทานข้าวเปลือกจ�ำนวนหนึ่งแก่ผู้ใหญ่บ้าน ขนาดใหญ่ให้เรียบ ประชาชนชาวห้วยมงคลมีถนน หลายหมู่บ้านเพื่อเป็นทุนเริ่มต้นของกิจการธนาคารข้าว ใช้ในการเดินทางและน�ำผลผลิตจากภายในหมู่บ้านออกสู่ ทรงเห็นว่าการจัดสรรทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐาน ตลาดหวั หินเพ่อื จ�ำหน่ายไดอ้ ย่างสะดวก ทส่ี ำ� คญั ๆ ภายในหมบู่ า้ นหรอื ชมุ ชนจะชว่ ยแกไ้ ขปญั หาได้ ในระยะยาว ทรงพยายามท�ำทุกวิถีทางให้เกษตรกรมีข้าว พอกินและรู้จักประหยัด มีความสามัคคีเพ่ือพัฒนาชุมชน ให้มีความเขม้ แขง็ มั่นคงต่อไป z 11

ชุดเผยแพร่องค์ความรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ ๓. แก้ปัญหาท่จี ุดเลก็ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเปี่ยมไปด้วยพระปรีชาสามารถในการ แก้ไขปญั หา ทรงมองปัญหาในภาพรวม (Macro) กอ่ นเสมอ แต่การแก้ ปัญหาของพระองค์จะเร่ิมจากจุดเล็ก ๆ (Micro) คือการแก้ไขปัญหา เฉพาะหน้าที่คนมักจะมองขา้ ม ดงั พระราชด�ำรัสความตอนหน่ึงว่า 12 z

“หลักการทรงงาน” ในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ...ถา้ ปวดหัวก็คิดอะไรไมอ่ อกเป็นอย่างนนั้ ต้องแก้ไข การปวดหัวกอ่ น เพอื่ ท่ีจะใหอ้ ยู่ในสภาพทคี่ ิดได้แบบ (Macro) นี้ เขาจะทำ�แบบรอื้ ทั้งหมด ฉนั ไมเ่ หน็ ดว้ ย อยา่ งบ้านคนอยู่ เราบอกบา้ นน้ีมันผุตรงน้นั ผตุ รงนี้ ไม่คุ้มท่ีจะซ่อม เอาตกลงรื้อบา้ นนี้ ระเบิดเลย เราจะไปอยูท่ ี่ไหน ไม่มีที่อยู่ วธิ ีทำ�ตอ้ งคอ่ ย ๆ ทำ� จะไประเบิดหมดไมไ่ ด.้ .. โครงการแก้มลิง “คลองมหาชัย - คลอง ภาพรา่ งฝพี ระหตั ถโ์ ครงการแกม้ ลิง สนามชั ย” อันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร แก้ไขปัญหาการไหลของน�้ำในล�ำคลองเล็ก ๆ โดยด�ำเนินการก่อสร้างประตูระบายน้�ำชั่วคราว ปิดกั้นคลองต่าง ๆ จ�ำนวน ๑๐ แห่ง เพื่อบริหารจัดการน้�ำในคลอง ให้สอดคล้อง กับระดับข้ึน-ลงของน้�ำทะเล และต่อมาได้รื้อถอนประตูดังกล่าว เพอื่ กอ่ สรา้ งประตถู าวรแลว้ เสรจ็ และปจั จบุ นั ยงั ตดิ ตงั้ ระบบอตั โนมตั ิ ทีป่ ระตูเพ่อื บริหารจัดการนำ้� ให้ได้ผลอย่างมีประสทิ ธิภาพยง่ิ ขนึ้ z 13

ชุดเผยแพร่องค์ความรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ ๔. ท�ำตามล�ำดบั ขนั้ในการทรงงานพระองค์จะทรงเร่ิมต้นจากสิ่งท่ีจ�ำเป็นของประชาชน ทส่ี ดุ กอ่ น ไดแ้ ก่ สาธารณสขุ เมอ่ื มรี า่ งกายสมบรู ณแ์ ขง็ แรงแลว้ กจ็ ะสามารถ ท�ำประโยชน์ด้านอื่น ๆ ต่อไปได้ จากน้ันจะเป็นเรื่องสาธารณูปโภค ขั้นพน้ื ฐานและสิง่ จ�ำเปน็ ในการประกอบอาชพี อาทิ ถนน แหล่งนำ้� เพ่อื การเกษตร การอปุ โภคบรโิ ภค ทเ่ี ออ้ื ประโยชนต์ อ่ ประชาชนโดยไมท่ ำ� ลาย 14 z

“หลกั การทรงงาน” ในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว ทรพั ยากรธรรมชาติ รวมถงึ การใหค้ วามรทู้ างวชิ าการและเทคโนโลยที เี่ รยี บงา่ ย เนน้ การปรบั ใชภ้ มู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ทรี่ าษฎร สามารถน�ำไปปฏบิ ตั ิไดแ้ ละเกดิ ประโยชนส์ งู สุด ดงั พระบรมราโชวาท เมือ่ วนั ที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๑๗ ความตอนหนงึ่ ว่า ...การพัฒนาประเทศจำ�เป็นต้องทำ�ตามลำ�ดบั ขั้นต้องสรา้ งพนื้ ฐาน คือความพอมพี อกนิ พอใชข้ องประชาชนสว่ นใหญ่เป็นเบอื้ งตน้ กอ่ น ใชว้ ิธกี ารและอุปกรณท์ ีป่ ระหยดั แต่ถกู ตอ้ งตามหลักวชิ าการ เมือ่ ได้พนื้ ฐานทม่ี ่ันคงพรอ้ มพอสมควรและปฏิบัตไิ ดแ้ ลว้ จงึ ค่อยสรา้ ง ค่อยเสริมความเจริญและฐานะเศรษฐกิจขนั้ ทส่ี ูงขึ้นโดยลำ�ดบั ต่อไป หากมงุ่ แต่จะทุ่มเทสรา้ งความเจริญยกเศรษฐกจิ ใหร้ วดเรว็ แต่ประการเดยี ว โดยไม่ให้แผนปฏิบตั ิการสมั พันธก์ บั สภาวะของประเทศและของประชาชน โดยสอดคล้องด้วย ก็จะเกดิ ความไมส่ มดลุ ในเร่ืองต่าง ๆ ขึน้ ซ่ึงอารยประเทศกำ�ลงั ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรนุ แรงในเวลาน้ี… z 15

ชดุ เผยแพร่องค์ความรู้ ตามแนวพระราชด�ำริ การช่วยเหลือสนับสนุนประชาชน ในการประกอบอาชีพและ ตั้งตัวใหม้ คี วามพอกิน พอใชก้ อ่ นอืน่ เปน็ พ้นื ฐานนน้ั เป็นส่งิ สำ�คัญ อยา่ งยิ่งยวด เพราะผทู้ ม่ี อี าชีพและฐานะเพยี งพอทีจ่ ะพง่ึ ตนเอง ย่อมสามารถสรา้ งความเจรญิ ก้าวหน้าระดบั ทีส่ งู ตอ่ ไปโดยแนน่ อน สว่ นการถอื หลกั ทีจ่ ะส่งเสริมความเจริญให้คอ่ ยเปน็ ค่อยไปตามลำ�ดบั ด้วยความรอบคอบระมดั ระวังและประหยัดนน้ั กเ็ พอ่ื ปอ้ งกันความผดิ พลาดล้มเหลว และเพ่ือใหบ้ รรลผุ ลสำ�เร็จ ไดแ้ นน่ อนบรบิ รู ณ์... 16 z

“หลักการทรงงาน” ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจาก โทรสารพระราชทานเร่อื งดิน พระราชดำ� ริ ทง้ั ๖ แหง่ ท่ัวประเทศ ระยะแรกจะทรงเตรยี มพระองค์ ด้านข้อมูลและความรู้ที่จะทรงน�ำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา โดยมีขั้นตอนในการด�ำเนินงานตั้งแต่การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน เช่น สภาพภมู ปิ ระเทศ สภาพภมู อิ ากาศ แหลง่ นำ้� และการประกอบอาชพี กอ่ น จึงพระราชทานพระราชด�ำริ ซ่ึงการพัฒนานั้นต้องเป็นไปตามล�ำดับ ขั้นตอน ความจ�ำเป็นและประหยัด ผู้ได้รับประโยชน์ คือ ประชาชน ที่สามารถพ่ึงตนเองได้ในที่สุด ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์และพัฒนา ทรัพยากรธรรมชาติ ปจั จุบนั ศูนยศ์ กึ ษาการพัฒนาอนั เนือ่ งมาจากพระราชด�ำริ มี ๖ แห่ง ได้แก่ ๑. ศูนยศ์ กึ ษาการพฒั นาเขาหินซ้อนอันเนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ จังหวดั ฉะเชงิ เทรา ๒. ศูนยศ์ ึกษาการพฒั นาพิกลุ ทองอนั เนอ่ื งมาจากพระราชด�ำริ จงั หวดั นราธวิ าส ๓. ศูนยศ์ ึกษาการพฒั นาอา่ วคุ้งกระเบนอันเน่ืองมาจากพระราชดำ� ริ จงั หวัดจันทบรุ ี ๔. ศนู ยศ์ ึกษาการพฒั นาภูพานอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ จังหวัดสกลนคร ๕. ศูนยศ์ ึกษาการพฒั นาหว้ ยฮอ่ งไครอ้ ันเน่อื งมาจากพระราชดำ� ริ จังหวดั เชยี งใหม่ ๖. ศนู ย์ศกึ ษาการพฒั นาห้วยทรายอนั เนือ่ งมาจากพระราชดำ� ริ จังหวดั เพชรบุรี z 17

ชุดเผยแพร่องค์ความรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ ๕. ภูมิสังคมการพัฒนาใด ๆ ต้องค�ำนึงถึงสภาพภูมิประเทศของบริเวณน้ันว่าเป็น อย่างไร และสังคมวิทยาเก่ียวกับลักษณะนิสัยใจคอของคน ตลอดจน วัฒนธรรมแต่ละท้องถ่ินที่มีความแตกต่างกัน ดังพระราชด�ำรัส ความตอนหนง่ึ วา่ 18 z

“หลกั การทรงงาน” ในพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ ัว ...การพัฒนาจะต้องเปน็ ไปตามภมู ิประเทศทางภมู ศิ าสตร์ และภมู ปิ ระเทศทางสังคมศาสตร์ในสังคมวิทยา คอื นสิ ัยใจคอของคนเราจะไปบงั คบั ให้คนอนื่ คิดอยา่ งอน่ื ไม่ได้ เราต้องแนะนำ� เราเข้าไปดวู ่าเขาต้องการอะไรจริง ๆ แล้วก็อธิบายใหเ้ ขาเข้าใจหลักการของการพัฒนานี้ ก็จะเกิดประโยชน์อยา่ งยงิ่ ... ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเน่ือง มาจากพระราชด�ำริ อำ� เภอดอยสะเกด็ จังหวัดเชยี งใหม่ สภาพ ปัญหาจากการท�ำลายป่า ในฤดูฝนจะมีการชะล้างเนื่องจาก น้�ำเซาะจนเหลือแต่ หิน กรวด แก้ไขโดยการบริหารจัดการ แหล่งน�้ำที่เปน็ ธารนำ้� ธรรมชาติ เข่อื นและฝายทดน้ำ� ทสี่ ร้างขึน้ รวมท้ังอ่างเก็บน้�ำ ๗ อ่าง ที่ตั้งอยู่ลดหล่ันกันไปตามระดับ ความสูงและความลาดชันของพ้ืนท่ีซ่ึงเป็นภูเขา ควบคู่กับ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นท่ีให้ใช้ประโยชน์ จากปา่ ได้อยา่ งเก้ือกลู กันและยงั่ ยนื z 19

ชุดเผยแพร่องค์ความรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ ๖.องคร์ วมทรงมวี ธิ กี ารมองปญั หาอยา่ งองคร์ วมหรอื มองอยา่ งครบวงจร ในการทจ่ี ะ พระราชทานพระราชด�ำริเก่ียวกับโครงการใดโครงการหน่ึงจะทรงมอง เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นและแนวทางแก้ไขอย่างเชื่อมโยง ดังเช่นกรณีของ “ทฤษฎีใหม่” ที่พระราชทานให้แก่ปวงชนชาวไทย เป็นแนวทางในการ ประกอบอาชีพทางการเกษตรแนวทางหน่ึงที่พระองค์ทรงมองอย่าง 20 z

“หลกั การทรงงาน” ในพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั องค์รวม ตั้งแต่การถือครองที่ดินโดยเฉลี่ย ของประชาชนคนไทย จะถอื ครองทดี่ นิ ประมาณ ๑๐ - ๑๕ ไร่ มีการบริหารจัดการท่ีดินและ แหล่งน้�ำ อันเป็นปัจจัยพื้นฐานท่ีส�ำคัญในการ ประกอบอาชพี เมอื่ มนี ำ�้ ในการทำ� การเกษตรแลว้ จะส่งผลให้ผลผลิตดีข้ึน นอกจากนี้ยังต้องมี การจัดการการปลูกพชื หลากหลายชนิด ท้ังขา้ ว ไม้ผล พชื สวนครวั และเลย้ี งสัตวเ์ พือ่ ให้สามารถ ด�ำรงชวี ติ อยูไ่ ด้ ดว้ ยการพงึ่ พาตนเอง เมือ่ พึ่งพา ตนเองได้แล้วต้องรู้จักวิธีการหาตลาดรวมถึง การรวมกลุ่ม รวมพลังชุมชนให้มีความเข้มแข็ง เพ่ือพร้อมท่ีจะออกสู่การเปลี่ยนแปลงของสังคมภายนอกได้อย่างครบวงจร ตามแนวพระราชด�ำริเกษตรทฤษฎีใหม่ ทงั้ ๓ ข้นั คือข้นั ที่ ๑ พ่งึ ตนเอง, ข้นั ท่ี ๒ พงึ่ พิงกัน และ ข้ันท่ี ๓ พง่ึ พาอาศัย z 21

ชดุ เผยแพร่องคค์ วามรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ ๗.ไมต่ ดิ ต�ำราการพัฒนาตามแนวพระราชด�ำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีลักษณะของการพัฒนาที่อนุโลม และรอมชอมกับสภาพธรรมชาติ ส่งิ แวดล้อมและสภาพของสังคมจติ วิทยาแหลง่ ชุมชน คือ “ไม่ตดิ ตำ� รา” ไม่ผูกมัดติดกับวิชาการและเทคโนโลยีท่ีไม่เหมาะสมกับสภาพชีวิต ความเป็นอยูท่ แี่ ทจ้ รงิ ของคนไทย 22 z

“หลักการทรงงาน” ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน�้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นการแก้ไขปัญหาความเส่ือมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ โดยในปี ๒๕๓๘ ได้ก่อสร้างประตูระบายน้�ำ “อุทกวิภาชประสิทธิ” ซึง่ เป็นนามพระราชทาน หมายถึงความสามารถแบ่งแยกนำ้� จดื กับน้�ำเค็ม โดยการบริหารจัดการอย่างสมดุล ปิดก้ันน้�ำเค็มไม่ให้รุกเข้าไปในล�ำน้�ำ และกักเก็บน�้ำจืดไว้ใช้ในการเกษตรนับเป็นกลไกส�ำคัญของการพัฒนา ด้านอื่น ๆ ท่ีช่วยแก้ไขปัญหาให้ราษฎรได้ใช้ประโยชน์ท้ังทางการเกษตร ในการท�ำนาข้าวและประมงซ่ึงต้องใช้น�้ำเค็ม เป็นการจัดการที่สมบูรณ์ แก้ไขปัญหาความเดือนร้อนได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งช่วยป้องกันน�้ำท่วม อีกด้วย z 23

ชดุ เผยแพร่องคค์ วามรู้ ตามแนวพระราชด�ำริ ๘.ประหยัด เรียบง่าย ประโยชน์สงู สดุ ในเร่ืองของความประหยัดนี้ ประชาชนชาวไทยทราบกันดีว่าเรื่อง สว่ นพระองคก์ ท็ รงประหยดั มากดงั ทเี่ ราเคยเหน็ วา่ หลอดยาสพี ระทนตน์ น้ั ทรงใช้อย่างคุ้มค่าอย่างไร หรือฉลองพระองค์แต่ละองค์ทรงใช้อยู่เป็น เวลานาน ดงั ทน่ี ายสเุ มธ ตนั ตเิ วชกลุ เลขาธกิ ารมลู นธิ ชิ ยั พฒั นา เคยเลา่ วา่ “กองงานในพระองค์โดยท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ บอกว่า ปีหน่ึงพระองค์ เบิกดินสอ ๑๒ แท่ง เดือนละแท่ง ใชจ้ นกระทง่ั กดุ ใครอยา่ ไปทงิ้ ของทา่ นนะ จะกรวิ้ เลย ประหยัดทุกอย่าง เป็นต้นแบบทุกอย่าง ทุกอย่างนี้ 24 z

“หลักการทรงงาน” ในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว มีค่าส�ำหรับพระองค์หมด ทุกบาททุกสตางค์จะใช้อย่างระมัดระวัง จะส่ังให้เราปฏิบัติงานด้วยความรอบคอบ” ขณะเดียวกันการพัฒนาและการช่วยเหลือราษฎรทรงใช้หลักในการแก้ไขปัญหาด้วยความเรียบง่ายและประหยัด ราษฎรสามารถท�ำได้เอง หาได้ในท้องถ่ินและประยุกต์ใช้สิ่งที่มีอยู่ในภูมิภาคนั้น ๆ มาแก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องลงทุนสูง หรอื ใช้เทคโนโลยที ีไ่ มย่ ุ่งยากนกั แต่ให้ไดป้ ระโยชน์สงู สดุ ดังพระราชดำ� รสั ตอนหนึง่ ว่า ...ควรพจิ ารณาสรา้ งฝายเกบ็ กกั นำ้� โดยสรา้ งเปน็ ฝายแบบงา่ ย ๆ เช่น ฝายหินทิ้งคลมุ ด้วยตาข่าย และฝายแบบชาวบ้าน โดยดำ�เนนิ การก่อสรา้ งเป็นชว่ ง ๆ ทั้งในเขตพน้ื ทีพ่ ฒั นาป่าไม้ ดว้ ยน้ำ� ฝน เพอื่ สนบั สนนุ การพัฒนาปา่ ไม้ ใหไ้ ดผ้ ลอยา่ งสมบรู ณ์ตอ่ ไป... การท�ำฝายชะลอความชุ่มชื้น (check dam) เป็นการใช้ภูมิปัญญาที่เรียบง่าย ประหยัด โดยใช้วัสดุราคาถูกและหาง่ายในท้องถ่ิน เช่น ก่ิงไม้ และท่อนไม้ล้ม ขนาบด้วยก้อนหินขนาด ต่าง ๆ ในล�ำห้วย ในการก่อสร้างฝายชะลอน้�ำ แบบงา่ ย ๆ เพอื่ ชะลอการไหลของนำ้� และดกั ตะกอนไว้ ไม่ให้ไปทับถมด้านล่าง จึงช่วยทั้งเร่ืองการสร้างความ ชมุ่ ช้ืน อนรุ ักษ์ดิน และปอ้ งกันไฟป่า นบั เปน็ การสรา้ ง ประโยชนไ์ ด้อยา่ งสงู สุดโดยแทจ้ รงิ z 25

๙.ทำ� ให้ง่าย ด้วยพระปรีชาสามารถในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท�ำให้ การคิดค้น ดัดแปลง ปรับปรุงและแก้ไขงานการพัฒนาประเทศ ตามแนวพระราชด�ำริด�ำเนินไปได้โดยง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และ ที่ส�ำคัญอย่างยิ่ง คือ สอดคล้องกับสภาพความเป็นอยู่และระบบนิเวศ โดยส่วนรวม ตลอดจนสภาพทางสังคมของชุมชนน้ัน ๆ ทรงโปรด 26 z

“หลกั การทรงงาน” ในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว ที่จะท�ำสิ่งท่ียากให้กลายเป็นง่าย ท�ำสิ่งที่สลับซับซ้อนให้เข้าใจง่าย อันเป็นการแก้ปัญหาด้วยการใช้กฎแห่งธรรมชาติ เป็นแนวทางนั่นเอง แต่การท�ำสิ่งยากให้กลายเป็นง่ายน้ันเป็นของยาก ฉะนั้นค�ำว่า “ท�ำให้ง่าย” หรือ “Simplicity” จงึ เป็นหลักคดิ ส�ำคญั ทีส่ ดุ ของการพฒั นาประเทศในโครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชด�ำรทิ ั่วประเทศ โครงการบ�ำบัดน�้ำเสียบึงมักกะสัน อันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ เป็นการใช้ผักตบชวาซึ่งเป็น วชั พชื ทีต่ อ้ งการก�ำจดั อยู่แล้วมาดดู ซับความสกปรก รวมท้ัง สารพิษจากน้�ำเน่าเสีย โดยทรงเน้นให้ท�ำการปรับปรุง อย่างประหยัด และไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมบึง แนวพระราชด�ำรินั้นทรงให้ ท�ำง่าย ๆ โดยสูบน้�ำจากคลองสามเสนเข้าบึงทางหนึ่ง และสูบน�้ำออกจากคลองสามเสนอีกทางหนึ่ง ระยะห่างกัน ๑๐๐ - ๒๐๐ เมตร หรอื ฝงั ทอ่ ระบายนำ้� ออกทางระบายนำ้� อโศก-ดินแดง โดยให้คงมีผักตบชวาอยู่ในบึงและ ท�ำการตกแต่งให้ดีไว้บริเวณกลางบึงเพ่ือกรองน้�ำเสีย ซึง่ สามารถบำ� บัดน�้ำเสยี ไดว้ นั ละ ๓๐,๐๐๐ - ๑๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร แต่ถ้าจ�ำเป็นต้องเก็บผักตบชวาขึ้นบ้าง เป็นคร้งั คราวกใ็ หน้ �ำไปใชป้ ระโยชน์ เช่น ทำ� ปยุ๋ หมกั หรือ เช้อื เพลงิ แต่อย่านำ� ไปทำ� อาหารสตั ว์ เปน็ ต้น z 27

๑๐.การมสี ว่ นร่วม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นนักประชาธิปไตยจึงทรงน�ำ “ประชาพิจารณ์” มาใช้ในการบริหาร เพ่ือเปิดโอกาสให้สาธารณชน ประชาชน หรอื เจา้ หนา้ ทที่ กุ ระดบั ไดม้ ารว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั เร่ืองที่จะต้องค�ำนึงถึงความคิดเห็นของประชาชน หรือความต้องการ ของสาธารณชน ดังพระราชดำ� รัสความตอนหน่ึงว่า 28 z

“หลกั การทรงงาน” ในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ...สำ�คัญทส่ี ุดจะตอ้ งหดั ทำ�ใจใหก้ ว้างขวาง หนักแน่น รูจ้ ักฟงั ความคดิ เห็น แม้กระท่งั ความวพิ ากษว์ ิจารณ์ จากผ้อู นื่ ฉลาด เพราะการรู้จกั รบั ฟงั อย่างฉลาดนนั้ แท้จริง คือ การระดมสติปญั ญาและประสบการณอ์ นั หลากหลาย มาอำ�นวยการปฏบิ ตั บิ ริหารงาน ให้ประสบความสำ�เรจ็ ทีส่ มบรู ณน์ น่ั เอง... “เขื่อนป่าสักชลสิทธ์ิ” โครงการพัฒนาลุ่มน�้ำป่าสักอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จังหวัดลพบุรี เป็นตัวอย่างของการท�ำประชาพิจารณ์ตามแนวพระราชด�ำริกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม โดยมีการประชุมหารือ ระหว่างหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะประชาชนในพื้นท่ีท่ีจะมีการสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธ์ิ ก่อนท่ีจะมี การด�ำเนินโครงการฯ และจากการท�ำประชาพิจารณ์ ถามความคิดเห็นของประชาชนท่ีอยู่ในพ้ืนท่ี รวมทั้งรับทราบ ความเดือดร้อนและความต้องการเพ่ิมเติม สรุปว่าผลกระทบจากการสร้างเข่ือนป่าสักชลสิทธิ์ หน่วยงานราชการ และผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกันให้ความช่วยเหลือราษฎรในเขต ๒ จังหวัด ท้ังทางด้านสาธารณูปโภค ด้านไฟฟ้า ถนน น้ำ� ประปา ตลอดจนได้สรา้ งสิง่ อำ� นวยความสะดวก ไดแ้ ก่ โรงเรียน วัด และสถานีอนามัย สถานตี ำ� รวจ ทดแทนของเดิม ให้แก่พ้ืนท่ีชุมชนใหม่ พร้อมทั้งจัดการส่งเสริมพัฒนาอาชีพ ท้ังการเกษตร การประมง การปศุสัตว์ และอุตสาหกรรม ในครวั เรอื น เชน่ สอนการแปรรปู อาหารและการถนอมอาหาร การทำ� ดอกไมจ้ นั ทนแ์ ละดอกไมป้ ระดษิ ฐจ์ ากเปลอื กขา้ วโพด และการทอผ้าด้วยกีก่ ระตุก เปน็ ตน้ ซ่งึ ปจั จบุ นั เขื่อนป่าสักชลสทิ ธิเ์ ปน็ แหลง่ สร้างรายได้ใหแ้ กร่ าษฎรจากการท่องเท่ยี ว ไดเ้ ป็นอยา่ งดอี ีกด้วย z 29

๑๑.ประโยชน์ส่วนรวม การปฏิบัติพระราชกรณียกิจ และการพระราชทานพระราชด�ำริ การพัฒนาและช่วยเหลือพสกนิกรในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงค�ำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นส�ำคัญ ดังพระราชด�ำรัสความ ตอนหน่ึงว่า 30 z

“หลักการทรงงาน” ในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ...ใครตอ่ ใครบอกวา่ ขอให้เสียสละส่วนตัว เพ่อื สว่ นร่วมอันนี้ฟังจนเบือ่ อาจรำ�คาญด้วยซ�ำ้ วา่ ใครตอ่ ใครมาก็บอกว่า ขอใหค้ ดิ ถงึ ประโยชน์ส่วนรวม อาจมานกึ ในใจวา่ ให้ ๆ อยู่เรอื่ ยแลว้ ส่วนตวั จะได้อะไร ขอใหค้ ิดว่าคนท่ีให้เพ่ือส่วนรวมนน้ั มไิ ดส้ ่วนรวมแต่อยา่ งเดยี ว เป็นการใหเ้ พ่ือตัวเองสามารถท่ีจะมีสว่ นร่วมทีจ่ ะอาศยั ได้... จากพระราชดำ� รสั ในสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี สรุปความตอนหนึ่งว่า “การพัฒนา ไมไ่ ดเ้ ปน็ เรอื่ งการเสยี สละเพยี งอยา่ งเดยี ว เปน็ การทำ� เพอ่ื ตนเองด้วย เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ต้องอยู่ด้วยกัน ถา้ เราอยอู่ ยา่ งสขุ สบาย ในขณะทคี่ นอนื่ ทกุ ขย์ าก เรายอ่ ม อย่ไู มไ่ ด้ นกั พฒั นาควรมจี ิตสาธารณะ รกั ท่ีจะช่วยเหลอื ให้ผอู้ น่ื มชี วี ิตและความเปน็ อยทู่ ดี่ ีข้ึน” (พระมหากษตั รยิ ์นักพัฒนาฯ, หน้า ๒๙) z 31

ชดุ เผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ ตามแนวพระราชด�ำริ ๑. ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ อ�ำเภอพนมสารคาม จังหวัด ฉะเชงิ เทรา เดิมราษฎรถวายท่ดี นิ เพ่ือสรา้ งพระตำ� หนัก แต่ไมไ่ ดส้ ร้าง ดว้ ยพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ได้พระราชทาน พระราชด�ำริให้จัดต้ังเป็นศูนย์เพื่อพัฒนาทางการเกษตร ที่ปัจจุบันคือศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจาก พระราชดำ� ริ เพอ่ื ใชป้ ระโยชนส์ ว่ นรวมและประชาชนในพนื้ ที่ อนั จะเปน็ ประโยชนม์ ากกวา่ ทจ่ี ะสรา้ งพระตำ� หนกั นบั ไดว้ า่ พระองค์ทรงสร้างประโยชนเ์ พื่อส่วนรวมอย่างแทจ้ ริง 32 z

“หลักการทรงงาน” ในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัว ๒. โครงการเข่อื นแควน้อยบํารุงแดน ตําบลคันโช้ง อําเภอวัดโบสถ์ จังหวดั พษิ ณุโลก เป็นการ พัฒนาแหล่งน�้ำเพื่อช่วยเหลือราษฎรในฤดูแล้ง ส�ำหรับ พื้นท่ีเพาะปลูกในลุ่มน้�ำแควน้อย และแหล่งน้�ำเสริม ในพ้ืนท่ีลุ่มน้�ำเจ้าพระยา รวมถึงช่วยบรรเทาอุทกภัย บริเวณพ้ืนท่ีลุ่มน�้ำแควน้อยตอนล่าง ท�ำให้ราษฎร ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตอ�ำเภอ วดั โบสถ์ อำ� เภอเมอื ง และอำ� เภอวงั ทอง จงั หวดั พษิ ณโุ ลก ตลอดจนตัวเมืองของจังหวัดพิษณุโลกซึ่งประสบปัญหา น�้ำทว่ มเปน็ ประจ�ำ ปัจจุบนั ไม่ไดร้ ับผลกระทบจากภาวะ น้�ำท่วม อีกท้ังน้�ำในเข่ือนแควน้อยบ�ำรุงแดนได้ใช้ ประโยชนท์ างการเกษตรและการประมง สง่ ผลใหร้ าษฎร มคี วามเป็นอยู่ทดี่ ขี ้ึน z 33

ชุดเผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ ๑๒.บริการรวมจุดเดียว การบริการรวมที่จุดเดียวเป็นรูปแบบการบริการแบบเบ็ดเสร็จ หรือ One Stop Services ท่ีเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในระบบบริหารราชการ แผ่นดินของประเทศไทยมาตั้งแต่ปี ๒๕๒๒ โดยทรงให้ศูนย์ศึกษา การพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริเป็นต้นแบบในการบริการรวม ที่จุดเดียว เพ่ือประโยชน์ต่อประชาชนท่ีจะมาขอใช้บริการ ซ่ึงเป็นการ ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย โดยจะมีหน่วยงานราชการต่าง ๆ มาร่วม ด�ำเนินการและให้บริการประชาชน ณ ท่ีแห่งเดียว ดังพระราชด�ำรัส ความตอนหนึง่ วา่ 34 z

“หลักการทรงงาน” ในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว ...กรม กองต่าง ๆ ท่เี กย่ี วข้องกบั ชวี ติ ประชาชนทุกด้าน ไดส้ ามารถแลกเปล่ียนความคิดเหน็ ปรองดองกนั ประสานกัน ตามธรรมดาแต่ละฝ่ายต้องมีศูนย์ของตน แตว่ า่ อาจจะมีงานถือว่าเปน็ ศนู ย์ของตวั เองคนอืน่ ไม่เกี่ยวขอ้ ง และศนู ย์ศกึ ษาการพฒั นาเปน็ ศนู ย์ท่ีรวบรวมกำ�ลังท้งั หมด ของเจ้าหนา้ ท่ี ทกุ กรม กอง ทัง้ ในดา้ นเกษตรหรือ ในดา้ นสงั คม ทั้งในด้านหางาน การส่งเสรมิ การศกึ ษามาอยู่กัน ก็หมายความวา่ ประชาชน ซง่ึ จะต้องใชว้ ิชาการทัง้ หลาย กส็ ามารถทจ่ี ะมาดูสว่ นเจา้ หน้าทจี่ ะใหค้ วามอนุเคราะหแ์ กป่ ระชาชน กม็ าอยพู่ ร้อมกันในทเ่ี ดียวกนั เหมือนกัน ซ่ึงเป็นสองด้าน กห็ มายถงึ ว่า ทส่ี ำ�คัญปลายทางคอื ประชาชน จะได้รับประโยชนแ์ ละต้นทางของ ผู้เปน็ เจ้าหนา้ ทจ่ี ะให้ประโยชน.์ .. z 35

ชดุ เผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ ตามแนวพระราชด�ำริ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ ทั้ง ๖ แห่ง มีแนวทางและวัตถุประสงค์ในการ ดำ� เนินงานดังน้ี ๑) ทำ� การศึกษา คน้ คว้า ทดลอง วจิ ยั จนได้ผลส�ำเร็จก่อนน�ำไปขยายผลสู่เกษตรกร และ ประชาชนทั่วไปได้น�ำไปปฏิบัติในพ้ืนท่ีตนเอง เพื่อเป็น ตัวอยา่ งแห่งความสำ� เร็จของการศึกษา และการพฒั นา ๒) การแลกเปลี่ยนสื่อสารระหว่าง นักวิชาการ นักปฏิบัติ และประชาชน น�ำผลการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ที่ได้ผลไปใช้ประโยชน์ในพ้ืนท่ีจริง อีกทั้ง เป็นแหล่งผสมผสานวิชาการและการปฏิบัติ เป็นแหล่ง ความรู้ของราษฎร และเป็นแหล่งแลกเปล่ียนถ่ายทอด ประสบการณ์และแนวทางแก้ไขปัญหาระหวา่ งคน ๓ กลมุ่ คือ นักวิชาการ เจ้าหน้าที่ ซ่ึงท�ำหน้าท่ีพัฒนาส่งเสริม ใหป้ ระชาชนนำ� ไปใช้ในการประกอบอาชีพ ๓) การพัฒนาแบบผสมผสาน ศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ เป็นตัวอย่างที่ดีของแนวความคิดแบบสหวิทยาการโดยวิธีการท่ีเรียบง่าย และเหมาะสมกับพ้ืนที่ กอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสุด ๔) การประสานงานระหว่างส่วนราชการ ศูนย์ศึกษา การพฒั นาฯ ทกุ แหง่ เนน้ การประสานงาน การประสานแผน และการจดั การ ระหว่างกรม กอง และส่วนราชการต่าง ๆ เป็นการผสมผสานความรว่ มมอื ร่วมใจกนั ท�ำงานเพื่อให้บรกิ ารประชาชน 36 z

“หลกั การทรงงาน” ในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั ๕) เป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (one stop services) ศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ มีการศึกษาทดลอง และสาธิต ให้เห็นถึงความส�ำเร็จของ การดำ� เนนิ งานพร้อม ๆ กนั ในทกุ ดา้ น ทั้งด้านการเกษตร ปศุสัตว์ ประมง ตลอดจน การพัฒนาทางด้านสงั คม และงานศลิ ปาชีพ ในลกั ษณะของ “พพิ ิธภณั ฑ์ธรรมชาติ ท่ีมีชีวิต” ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าไปศึกษาดูงานได้ทุกเรื่องภายในศูนย์ศึกษา การพฒั นาอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� รทิ งั้ ๖ แหง่ โดยไมต่ อ้ งเดนิ ทางไปตดิ ตอ่ หลายที่ และสามารถนำ� ความรจู้ ากศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาฯ ทศี่ กึ ษาไดผ้ ลดแี ลว้ ไปปรบั ใชต้ าม ความต้องการของประชาชนเพอ่ื ประโยชนใ์ นการด�ำเนนิ ชวี ิตตอ่ ไป z 37

ชุดเผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ ๑๓.ใช้ธรรมชาตชิ ่วยธรรมชาติ ทรงเข้าใจถึงธรรมชาติและต้องการให้ประชาชนใกล้ชิดกับธรรมชาติ ทรงมองอย่างละเอียดถึงปัญหาธรรมชาติ หากเราต้องแก้ไขธรรมชาติ จะต้องใช้ธรรมชาติ โดย การปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก อันเป็นการ ปล่อยใหธ้ รรมชาติชว่ ยในการฟนื้ ฟูธรรมชาติ หรือแม้กระทั่ง การปลกู ป่า ๓ อยา่ ง ประโยชน์ ๔ อยา่ ง ไดแ้ ก่ ไมเ้ ศรษฐกจิ ไมผ้ ล และไมฟ้ นื นอกจาก ได้ประโยชน์ตามชื่อของไม้แล้วยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่พื้นดินด้วย เหน็ ไดว้ า่ ทรงเขา้ ใจธรรมชาติ และมนษุ ยอ์ ยา่ งเกอ้ื กลู กนั ทำ� ใหค้ นอยรู่ ว่ ม กบั ป่าได้อยา่ งย่งั ยืน 38 z

“หลักการทรงงาน” ในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเส่ือมโทรมเขาชะงุ้ม อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ ตำ� บลเขาชะงมุ้ อำ� เภอโพธาราม จงั หวดั ราชบรุ ี ได้ด�ำเนินการตามแนวพระราชด�ำริ ปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก ด้วยระบบ ภูเขาป่า คือการปลูกป่าบนยอดเขาซ่ึงเน้นการปลูกไม้โตเร็วและมีเมล็ด เม่ือเจริญเติบโต เมล็ดของต้นไม้ก็จะร่วงหล่นตามธรรมชาติ เกิดเป็น ไม้ยืนต้นใหม่ เกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องปลูก นอกจากน้ียังมีการฟื้นฟู ดินปนกรวดด้วยการปลูกหญ้าแฝก ซ่ึงรากของหญ้าแฝกมีลักษณะ เป็นร่างแหสานกันแน่นหนาใต้พื้นดิน สามารถเจริญเติบโตในแนวด่ิง ชว่ ยดดู ซบั นำ�้ สรา้ งความชมุ่ ชน้ื ในดนิ รากบางสว่ นยอ่ ยสลายไปตามธรรมชาติ เป็นปุ๋ยให้แก่พืช ท�ำให้ดินมีความร่วนซุยและมีความสมบูรณ์ขึ้น นับเป็น แนวพระราชด�ำรใิ นการใช้ธรรมชาตชิ ว่ ยธรรมชาติไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ z 39

ชุดเผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ ๑๔.ใช้อธรรมปราบอธรรม ทรงน�ำความจริง ในเร่ืองความเป็นไปแห่งธรรมชาติและกฎเกณฑ์ ของธรรมชาติมาเป็นหลักการแนวปฏิบัติที่ส�ำคัญในการแก้ปัญหาและ ปรับปรุงเปล่ียนแปลงสภาวะไม่ปกติเข้าสู่ระบบที่เป็นปกติ เช่น การ บ�ำบัดน้�ำเน่าเสียโดยใช้ผักตบชวาซึ่งมีตามธรรมชาติและก่อปัญหา ด้านการกีดขวางการไหลของน�้ำ ให้ดูดซึมส่ิงสกปรกปนเปื้อนในน้�ำ แต่ต้องมีการบริหารจัดการท่ีดีเพ่ือไม่ให้เป็นปัญหาด้านอ่ืน ๆ ได้อีก ดังพระราชดำ� รัสความว่า “ใช้อธรรมปราบอธรรม” 40 z

“หลักการทรงงาน” ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัว การฟน้ื ฟสู ภาพดนิ เสอ่ื มโทรมโดยใชไ้ มย้ คู าลปิ ตสั ในพนื้ ทศี่ นู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาหว้ ยทรายอนั เนอื่ งมาจาก พระราชดำ� ริ อ�ำเภอชะอ�ำ จังหวดั เพชรบุรี ดงั พระราชดำ� รสั เมอื่ วันท่ี ๖ สงิ หาคม ๒๕๓๙ ความตอนหน่ึงวา่ ...ตน้ ยคู าลิปตัสใหป้ ลกู ในทีท่ ป่ี ลกู อะไรไมไ่ ด้ ถา้ ปลกู ตน้ ไม้อ่นื ได้ กไ็ ม่ควรปลูกยูคาลิปตสั ... วิธีการน้ีเปรียบเสมือน การใช้อธรรมปราบอธรรม ไม้ยูคาลิปตัส เป็นพืชท่ีทนต่อสภาพความแห้งแล้งได้ดี ระบบรากมีความแข็งแรงและ หาอาหารไดเ้ กง่ เมอื่ นำ� มาปลกู ในสภาพดนิ ทเี่ ปน็ ทรายจดั และดา้ นลา่ งมสี ภาพ แข็งเป็นดาน ก็สามารถเจริญเติบโตได้ เม่ือล�ำต้นมีขนาดโตพอประมาณ ก็สามารถน�ำมาใชป้ ระโยชน์ได้ จากนั้นให้ปลูกไมช้ นดิ ตา่ ง ๆ ทดแทนลงไป z 41

ชดุ เผยแพรอ่ งค์ความรู้ ตามแนวพระราชด�ำริ ๑๕.ปลกู ป่าในใจคน เป็นการปลูกป่าลงบนแผ่นดิน ด้วยความต้องการอยู่รอดของมนุษย์ ท�ำให้ต้องมีการบริโภคและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง เพ่ือประโยชน์ของตนเองแต่กลับสร้างความเสียหายให้แก่ส่ิงแวดล้อม ปัญหาความไม่สมดุลจึงบังเกิดขึ้น ดังนั้นในการท่ีจะฟื้นฟูทรัพยากร ธรรมชาติให้กลับคืนมา จะต้องปลูกจิตส�ำนึกในการรักผืนป่าให้แก่คน เสียก่อน ดงั พระราชดำ� รัสความตอนหนึง่ ว่า 42 z

“หลักการทรงงาน” ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัว ...เจ้าหนา้ ทีป่ า่ ไม้ควรจะปลูกตน้ ไม้ ลงในใจคนเสียก่อน แล้วคนเหลา่ น้ันก็จะพากนั ปลูกต้นไม้ ลงบนแผน่ ดินและรกั ษาต้นไมด้ ว้ ยตนเอง... บ้านสามขา อ�ำเภอเสริมงาม จังหวัดล�ำปาง มกี ารเรยี นรแู้ ละอนรุ กั ษป์ า่ ตามแนวพระราชดำ� ริ โดยรว่ มกนั สรา้ งฝาย ชะลอความชุ่มช้ืน ส่งผลให้สภาพป่าได้ฟื้นคืนสู่ธรรมชาติท่ีสมบูรณ์ พ้ืนดินมีความชุ่มชื้น น�้ำตามล�ำห้วยกลับมามีตลอดท้ังปี มีการจัด ระเบยี บใชป้ ระโยชนร์ ว่ มกนั ของชมุ ชน เชน่ หา้ มตดั ไมใ้ นเขตปา่ อนรุ กั ษ์ การห้ามน�ำสัตว์เลี้ยง วัว ควาย ขึ้นไปในเขตต้นน้�ำ ห้ามจับสัตว์น�้ำ ในเขตอนุรักษ์ มีการใช้ประโยชน์จากป่าเป็นแหล่งอาหารได้ เช่น เหด็ ผลไม้ป่า หน่อไม้ ผัก สมุนไพรตา่ ง ๆ ท�ำแนวกนั ไฟยง่ั ยืน คอื สร้างเครือข่ายเพื่อนบ้าน และเครือข่ายลุ่มน�้ำจาง ให้เกิดกระบวน การคิดรว่ มกันดูแลปา่ ตน้ น�ำ้ ของตนเอง เมอื่ ป่าคนื ความอดุ มสมบรู ณ์ สรรพชวี ติ กลบั มาสปู่ ่า ชุมชนต่าง ๆ จะมที รพั ยากร ธรรมชาติตน้ ทุนของทอ้ งถิ่น และเรียนรูก้ ารอยู่อาศยั ร่วมกับธรรมชาติอย่างเก้ือกูลกัน z 43

ชุดเผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ ๑๖.ขาดทุนคือก�ำไร “....ขาดทุน คอื ก�ำไร Our loss is our gain.. การเสยี คอื การได้ ประเทศชาตกิ จ็ ะกา้ วหนา้ และการทค่ี นอยดู่ มี สี ขุ นน้ั เปน็ การนบั ทเี่ ปน็ มลู ค่าเงนิ ไมไ่ ด.้ ..” 44 z

“หลกั การทรงงาน” ในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั จากพระราชด�ำรัสดังกล่าว คือ หลักการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทม่ี ตี อ่ พสกนกิ รไทย “การให”้ และ “การเสยี สละ” เปน็ การกระทำ� อนั มผี ลเปน็ กำ� ไร คือ ความอยู่ดีมีสุขของราษฎร ซ่ึงสามารถสะท้อนให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนได้ ดังพระราชด�ำรัสที่ได้พระราชทานแก่ตัวแทนของปวงชนชาวไทยที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๔ ณ ศาลาดุสิดาลยั พระตำ� หนักจติ รลดารโหฐาน ความตอนหนึง่ ว่า ...ประเทศตา่ ง ๆ ในโลก ในระยะ ๓ ปี มาน้ี คนท่ีกอ่ ตั้งประเทศท่มี หี ลกั ทฤษฎใี นอดุ มคติ ทีใ่ ช้ในการปกครองประเทศ ลว้ นแต่ ลม่ สลายลงไปแล้ว เมืองไทยของเราจะสลายลงไป หรือ เมืองไทยนบั วา่ อยไู่ ด้มาอยา่ งดี เมอื่ ประมาณ ๑๐ วนั กอ่ น มีชาวตา่ งประเทศมาขอพบ เพื่อขอโอวาทเก่ียวกบั การปกครองประเทศ ว่าจะทำ�อย่างไร จงึ ไดแ้ นะนำ�วา่ ให้ปกครองแบบ คนจน แบบทีไ่ ม่ติดตำ�รามากเกินไป ทำ�อยา่ งสามัคคี มีเมตตากัน กจ็ ะอย่ไู ด้ตลอด ไมเ่ หมือนกับ คนท่ที ำ�ตามวชิ าการ ที่เวลาปดิ ตำ�ราแล้ว z 45

ชุดเผยแพร่องคค์ วามรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ ไมร่ ูจ้ ะทำ�อยา่ งไร ลงท้ายกต็ อ้ งเปิดหน้าแรกเร่ิมใหม่ ถอยหลังเข้าคลอง ถา้ เราใชต้ ำ�ราแบบอะล้มุ อล่วยกนั ในทีส่ ุดได้ก็เปน็ การดี ใหโ้ อวาทเขาไปว่าขาดทนุ เปน็ การไดก้ ำ�ไรของเรา นักเศรษฐศาสตร์คงค้านวา่ ไมใ่ ช่ แตเ่ ราอธิบายไดว้ ่าถา้ เราทำ�อะไรท่ีเราเสยี แตใ่ นที่สุดเราเสยี นัน้ เป็นการได้ทางออ้ มตรงกบั งานของรัฐบาลโดยตรง เงนิ ของรฐั บาล หรอื อีกนยั หนึง่ คือ เงินของประชาชน ถ้าอยากให้ประชาชนอยดู่ ี กินดี กต็ อ้ งลงทนุ ต้องสรา้ งโครงการซึง่ ต้องใชเ้ งินเปน็ รอ้ ย พนั หม่นื ลา้ น ถ้าทำ�ไป เปน็ การจา่ ยเงินของรัฐบาล แต่ในไมช่ า้ ประชาชนจะได้รบั ผล ราษฎรอยดู่ ี กนิ ดี ราษฎรได้กำ�ไรไป ถ้าราษฎรมรี ายได้ รัฐบาลก็เก็บภาษไี ดส้ ะดวก เพ่อื ให้รฐั บาลได้ทำ�โครงการตอ่ ไป เพือ่ ความก้าวหนา้ ของประเทศชาติ ถา้ รรู้ กั สามคั คี รเู้ สยี สละ คือการได้ ประเทศชาติก็จะ ก้าวหน้า และการท่ีคนอยู่ดีมีสขุ น้นั เปน็ การนับทเ่ี ป็นมลู ค่าเงนิ ไมไ่ ด้... 46 z

“หลกั การทรงงาน” ในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว เข่ือนต่าง ๆ ท่ีมีการลงทุนมาก แต่ผลท่ีได้สู่ประชาชนในหลากหลายด้านเกิดประโยชน์อย่างย่ังยืน ยาวนาน เช่น เข่ือนขุนด่านปราการชล อันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ ท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทาน พระราชด�ำริให้กรมชลประทานพิจารณาวางโครงการเพื่อก่อสร้างเขื่อนคลองท่าด่าน บริเวณบ้านท่าด่าน ต�ำบลหินต้ัง อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครนายก เพ่ือช่วยบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้�ำนครนายกที่เกิดเป็นประจ�ำ ด้วยระบบชลประทาน ท่จี ะชว่ ยควบคมุ ปรมิ าณน�้ำไมใ่ หไ้ หลเขา้ ท่วมพืน้ ที่ และยังสามารถช่วยราษฎรใหม้ นี �ำ้ ใชใ้ นการเกษตร การอุปโภคบริโภค ตลอดจนแก้ไขปัญหาดินเปร้ียว และสร้างรายได้ให้แก่ราษฎรจากการเป็นแหล่งท่องเท่ียวท่ีประชาชนเข้ามาพักผ่อน หย่อนใจ ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรดีข้ึน เป็นการสร้างรายได้ที่คิดเป็นมูลค่าได้อย่างมหาศาล เน่ืองจาก ประชาชนไดป้ ระโยชน์ มีอาชีพ มรี ายได้ มคี วามสุขกายสขุ ใจ ครอบครวั อบอนุ่ อนั เป็นผลก�ำไรท่คี ดิ เป็นมูลค่าเงนิ ไมไ่ ด้ ซง่ึ ตรงตามหลกั การทรงงาน ขาดทุนคือก�ำไร z 47

ชุดเผยแพรอ่ งค์ความรู้ ตามแนวพระราชดำ� ริ ๑๗.การพ่ึงตนเอง การพฒั นาตามแนวพระราชดำ� ริ ในเบอ้ื งตน้ เปน็ การแกป้ ญั หาเฉพาะหนา้ เพื่อให้ประชาชนมคี วามแข็งแรงพอท่ีจะด�ำรงชวี ิตได้ต่อไป แลว้ ขัน้ ตอ่ ไป แกล็คะือสกาามราพรัฒถน“พาใ่งึหต้ปนระเอชงาไชดน”้ สใานมทาส่ีรดุถอดยงั ู่ใพนรสะังรคาชมดไดำ� ร้ตสัาคมวสาภมาตพอแนวหดนลง่ึ ้อวมา่ 48 z

“หลักการทรงงาน” ในพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั ...การชว่ ยเหลอื สนบั สนนุ ประชาชนในการประกอบอาชีพและ ตัง้ ตัวใหม้ ีความพอกนิ พอใช้ ก่อนอื่นเป็นสิ่งสำ�คญั ย่งิ ยวด เพราะผ้มู อี าชพี และฐานะเพียงพอทจี่ ะพึง่ พาตนเองได้ ยอ่ มสามารถสร้างความเจริญในระดับสูงขัน้ ต่อไป... ๑. โครงการตามพระราชประสงค์ สหกรณ์การเกษตรหุบกะพง อ�ำเภอชะอ�ำ จังหวัดเพชรบุรี เป็นการเร่ิมต้นของการพึ่งพาตนเองและรวมกลุ่มโดยสมาชิก โดยมีสหกรณ์เป็นแกนกลางในการบริหารจาก ประชาชนเอง ซึ่งสหกรณ์จะต้องมีข้อตกลงผูกพันกับองค์กรอื่นใด ซึ่งรวมถึงหน่วยงานของรัฐบาลด้วย หรือจะต้อง เพ่ิมเงินลงทุน โดยอาศัยแหล่งเงินทุนจากภายนอกสหกรณ์ จะต้องกระท�ำการดังกล่าวภายใต้เงื่อนไขที่มั่นใจได้ว่า สมาชกิ จะยงั คงธำ� รงไวซ้ งึ่ อำ� นาจในการควบคมุ สหกรณต์ ามแนวทางประชาธปิ ไตย และสหกรณย์ งั คงดำ� รงความเปน็ อสิ ระ สมาชกิ มคี วามม่นั คงและสามารถพึ่งตนเองได้ โดยมีกลมุ่ เป็นพเี่ ลี้ยงใหก้ ารสนับสนุนให้มีความมัน่ คงยิง่ ข้นึ ๒. พลังงานทดแทน ได้แก่ เชื้อเพลิงชีวมวล (Biomass) ซึ่งเป็นวัสดุหรือสารอินทรีย์ท่ีสามารถ เปลี่ยนแปลงเป็นพลังงานได้ ชีวมวลนับรวมถึงวัสดุเหลือท้ิงทางการเกษตร เศษไม้ ปลายไม้จากอุตสาหกรรมไม้ ของเสยี จากโรงงานแปรรปู ทางการเกษตร และของเสยี จากชมุ ชน หรอื กากจากกระบวนการผลติ ในอตุ สาหกรรมการเกษตร แกลบ ชานออ้ ย เศษไม้ กากปาลม์ กากมนั สำ� ปะหลงั ซงั ขา้ วโพด กาบ กะลามะพรา้ ว และสา่ เหลา้ นำ� มาผลติ เปน็ เชอื้ เพลงิ ชวี ภาพ (Biofuel) เชอ้ื เพลิงไบโอแกส๊ (Biogass) เป็นพลังงานท่ีไดจ้ ากมูลสัตวท์ ี่เกษตรกรเลย้ี งไว้ เชน่ ววั สุกร เป็นต้น ซ่ึงมีวิธีการท�ำแบบง่าย เกษตรกรสามารถท�ำใช้เองเม่ือผ่านกระบวนการแล้ว จะผลิตเป็นก๊าซหุงต้มใช้ในครัวเรือน ลดค่าใชจ้ ่ายท�ำใหส้ ามารถพง่ึ พาตนเองได้ z 49


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook