Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รักษ์ป่าน่าน ครั้งที่ ๔

รักษ์ป่าน่าน ครั้งที่ ๔

Published by E-book Prasamut chedi District Public Library, 2020-01-06 03:52:37

Description: สำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
หนังสือ,เอกสาร,บทความ นำมาเผยแพร่เพื่อการศึกษาเท่านั้น

Search

Read the Text Version

ในพื้นที่จังหวัดน่านอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า ๒๐ ปี ได้ทอดพระเนตรเห็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมอย่าง รวดเร็ว ทรงห่วงใยและทรงเห็นถึงความจาเป็นอย่างย่ิงที่จะต้องเร่งฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าไม้ให้คืนสู่สมดุล โดยเร็วท่ีสุด จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยงานต่าง ๆ ร่วมมือกันในการจัด ประชุมสมั มนา “รักษป์ ่านา่ น ครงั้ ท่ี ๔” ข้ึนในวนั จันทรท์ ่ี ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ณ ศูนย์การเรียนรู้ และบริการวิชาการ เครือข่ายแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตาบลผาสิงห์ อาเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน โดยมุ่งหวังที่จะให้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการจัดกิจกรรมเพ่ืออนุรักษ์และฟื้นฟูพ้ืนที่ป่าไม้ ให้ ผู้เข้าร่วมประชุมเกิดความตระหนักและเห็นความจาเป็น นาไปสู่ความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ ท่ีจะ ชว่ ยกนั สรา้ งสานกึ ให้เด็กและเยาวชนอนรุ ักษ์ปา่ และประชาชนรว่ มแรงร่วมใจกันอนุรกั ษแ์ ละฟ้ืนฟูพื้นท่ีป่า ไม้ของจงั หวดั น่าน ซ่งึ ถือวา่ เปน็ รากฐานสว่ นหน่ึงของประเทศให้มน่ั คงและย่งั ยืนตอ่ ไป หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วย ตัวอย่างของการดาเนินงานในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าไม้น่าน และการสร้าง สานึกให้เด็กและเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งทุกภาคส่วนที่เก่ียวข้องสามารถนาความรู้และ ประสบการณ์เหล่าน้ีไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างพลังเยาวชนและประชาชนที่จะช่วยกันอนุรักษ์ผืนป่าน่า น ตอ่ ไป สานกั งานโครงการสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี เมษายน ๒๕๖๒



D สรา้ งป่า สร้างรายได้ : สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ๑ D เยาวชนรกั ษป์ า่ นา่ น ผ่าน R-Radio Network ๕ ตามพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี : ศูนย์ภูฟ้าพัฒนาอนั เนื่องมาจากพระราชดาริ ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี D แนวการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้สาระท้องถิน่ “รกั ษ์ปา่ น่าน” ระดับชนั้ ประถมศกึ ษา : ๑๙ สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาน่าน เขต ๒ D การจดั ฐานกิจกรรมการเรียนรู้ “รักษป์ ่าต้นน้านา่ น” : โรงเรียนบา้ นหว้ ยฟอง ๒๖ D เยาวชน รกั ษ์พงไพร ใสใ่ จสิ่งแวดล้อม พร้อมพฒั นาสกู่ ารสร้างป่าสร้างรายได้ : ๓๐ โรงเรียนบ้านบ่อหยวก D รรู้ ักษ์อย่างยง่ั ยนื : โรงเรียนมธั ยมพระราชทานเฉลิมพระเกียรติ ๓๒ D มหงิ สาสายสืบ “เหด็ ราน่าร”ู้ : โรงเรยี นศรทั ธาศลิ าเพชรรังสรรค์ ๓๘ D ปนั โอกาส วาดอนาคต ฝายมชี วี ติ : โรงเรยี นพระธาตุพทิ ยาคม ๔๒ D ฅนตาลชมุ รกั ษ์ปา่ : โรงเรียนตาลชุมพิทยาคม ๔๖ D กระบวนการฝึกทกั ษะเทศนารกั ษป์ ่านา่ น : โรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรมวดั นโิ ครธาราม ๕๑ D จฬุ าฯ รักษป์ า่ น่าน ผสานนวตั กรรมสงั คม : ๕๖ ศูนยก์ ารเรียนรู้และบริการวิชาการ เครือขา่ ยแหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั จังหวัดนา่ น D ถอดบทเรยี น โครงการเรยี น-รู้-รกั ษน์ ก ๖๐ เพอื่ การพัฒนากจิ กรรมเสริมการเรยี นรดู้ า้ นการอนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ : ภาควชิ าชวี วิทยา คณะวทิ ยาศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ศนู ยก์ ารเรยี นรแู้ ละบริการวชิ าการ เครอื ข่ายแหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย จังหวดั น่าน D โครงการปลูกปา่ ในใจคนถวายเป็นพระราชกุศล ๖๕ แดส่ มเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ าร:ี การปลกู ปา่ ในใจเยาวชน ปที ่ี ๖ : สานักวชิ าทรัพยากรการเกษตร จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย



05.30 – 07.30 น. ลงทะเบียน 08.20 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดาเนินถึง ศนู ย์การเรียนรู้และบริการวิชาการ เครอื ขา่ ยแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั  ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดน่าน แม่ทัพภาคที่ ๓ ผ้บู ัญชาการตารวจภาค ๓ นายบัณฑูร ล่าซา นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธกิ ารบดจี ฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย เฝา้ ฯ รับเสด็จ  ทอดพระเนตรนทิ รรศการ  โครงการตามพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราช- กุมารี - แนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สาระท้องถิ่น “รักษ์ป่าน่าน” ระดบั ชน้ั ประถมศึกษา - เยาวชนรักษ์ปา่ น่าน ผา่ น R-Radio Network - สร้างป่า สรา้ งรายได้  ธนาคารกสกิ รไทย จากดั (มหาชน)  จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั  มหาวิทยาลยั แมฟ่ า้ หลวง  มณฑลทหารบกท่ี ๓๘  จังหวัดน่าน  เสด็จเขา้ สูห่ ้องประชมุ (อาคารยิมเนเซียม)  อธกิ ารบดจี ุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ทูลเกลา้ ฯ ถวายสูจบิ ัตร  นายบัณฑูร ล่าซา ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร กสิกรไทย จากัด (มหาชน) กราบบังคมทูลรายงานการจัดประชุมสัมมนา “รกั ษป์ า่ นา่ น” ครั้งที่ ๔  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดารัสเปิดการ ประชุมสมั มนา “รกั ษป์ ่าน่าน” คร้ังท่ี ๔  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงบรรยายเรื่อง “สร้าง ป่า สรา้ งรายได”้  บรรยายเรื่อง “สง่ิ ดดี กี าลงั จะเกดิ ขึ้นทน่ี า่ น” โดย ดร.วจิ ารย์ สมิ าฉายา ปลัดกระทรงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม นายบัณฑรู ล่าซา ประธานกรรมการธนาคารกสิกรไทย จากัด (มหาชน)  วดิ ีโอ สรุปการดาเนนิ งานของโครงการรกั ษป์ า่ น่านในรอบ ๒ ปี

11.30 – 12.30 น.  เสวนาเรอ่ื ง “วิถีคนนา่ นอยรู่ ่วมกับปา่ อยา่ งยั่งยืน” 12.30 น. โดย นายวิบูลย์ แววบณั ฑิต รองผ้วู า่ ราชการจังหวดั นา่ น 13.30 น. นายอรรถพล เจริญชันษา อธบิ ดกี รมป่าไม้ นางทิฆัมพร กองสอน รองประธานเครอื ขา่ ยวสิ าหกจิ ชุมชน เกษตรอนิ ทรยี น์ า่ น นายถนัด ใบยา รองประธานมูลนธิ ิฮักเมืองนา่ น ผ้ดู าเนินรายการ นางสาวภญิ ญาพชั ญ์ ดา่ นอุตรา  พระราชทานของที่ระลึกให้กบั วิทยากรและผู้ดาเนนิ รายการ (จานวน ๕ ราย)  เสด็จออกจากห้องประชมุ (อาคารยมิ เนเซียม) พกั รบั ประทานอาหารกลางวัน ประชมุ คณะกรรมการมลู นิธริ ักษ์ป่านา่ น ประทบั รถยนต์พระท่ีนง่ั เสดจ็ กลับ

เป็นแนวทางการพัฒนาฟ้ืนฟูป่าไม้ เพ่ือให้ประชาชนสามารถอยู่ร่วมกับป่า และมี รายได้เสริมจากการปลูกพืชโดยท่ีไม่ทาลายป่าไม้ โดยการปลูกไม้ป่าร่วมกับพืชเศรษฐกิจ มีการปลูกไม้ หลาย ๆ ระดับ หลาย ๆ ชนิด มที ้งั ไม้เรือนยอดสูงลดหลั่นกันลงมา นอกจากจะทาให้ชาวบ้านมีรายได้แล้ว ยงั ทาให้มปี ่าไม้เพิม่ ขึ้นอีกทางหนึ่งดว้ ย สร้างป่า สร้างรายได้ เริ่มดาเนินการเมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๖ ที่อาเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน และอาเภอนาแห้ว จังหวัดเลย ต่อมามีการขยายพื้นท่ีไปอีกหลายอาเภอ และยังขยายต่อไปในจังหวัดเชียงใหม่ ตาก และ แม่ฮ่องสอนด้วย ต้ังแต่เร่ิมต้นจนถึงปี ๒๕๖๑ จะเห็นว่ามีชาวบ้านเข้าร่วมโครงการรวมทั้งหมด ๑๙,๘๙๐ ครัวเรือน คิดเปน็ พืน้ ท่ปี า่ ทก่ี าลังฟ้นื ฟูและอนรุ กั ษ์รวมทัง้ หมด ๗๑,๗๘๖ ไร่ ในการดาเนินโครงการจาเป็นต้องมีการบูรณาการความรู้จากหลากหลายสาขา ความร่วมมือจากหลาย หน่วยงาน โดยมีสานักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นเหมือนกับ เจา้ ภาพ ทางานรว่ มกบั หนว่ ยงานต่าง ๆ เชน่ กรมปา่ ไม้ กรมการปกครอง กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริม การเกษตร สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และภาคธุรกิจ ท้ังน้ี การดาเนินงานในระยะแรก จาเป็นต้องมีการพัฒนารูปแบบการผสมผสานระหว่างชนิดของไม้ป่าและ พืชเศรษฐกิจที่เหมาะสมกับพ้ืนที่ ในลักษณะเป็นเรือนยอดส่ีชั้น ซ่ึงเป็นโครงสร้างใกล้เคียงธรรมชาติ รวมทั้งการอนรุ กั ษ์ดินและน้าดว้ ย นอกจากนีย้ งั มีความจาเปน็ ต้องพัฒนาการแปรรูปผลผลิตจากป่า เพื่อให้ สอดคลอ้ งกบั ความต้องการของตลาด และเกิดความคมุ้ ค่าในการปฏิบัติงานของประชาชน สรปุ พน้ื ท่ีโครงการสรา้ งปา่ สรา้ งรายได้ (พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงพ.ศ. ๒๕๖๑) จังหวัด ชุมชน สมาชิก พ้นื ที่ (แห่ง) (ครวั เรือน) (ไร)่ น่าน ๑๖๓ ๑๙,๓๕๐ เลย ๔,๑๑๒ ๑๑,๑๗๑ เชยี งใหม่ ๕๔ ๒,๕๓๐ ๑๕,๗๐๙ ตาก ๓๐๔ ๕,๖๐๓ ๑๒,๙๔๓ แมฮ่ ่องสอน ๒๒๖ ๔,๑๔๗ ๑๒,๖๑๓ รวม ๒๓๕ ๓,๔๙๘ ๗๑,๗๘๖ ๙๘๒ ๑๙,๘๙๐

ในส่วนจังหวัดน่าน เริ่มต้นครั้งแรกท่ีอาเภอบ่อเกลือ ปัจจุบันขยาย พน้ื ท่ีไปจนครบท้งั ๑๕ อาเภอของจังหวัดน่าน มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการรวมทั้งหมด ๔,๑๑๒ ครัวเรือน ใน ๔๘ ตาบล และมีพ้นื ทปี่ ่าท่ีกาลงั ฟื้นฟแู ละอนรุ ักษร์ วมทง้ั หมด ๑๙,๓๕๐ ไร่ ในการดาเนินงานโครงการสร้างป่า สร้างรายได้ ในพ้ืนที่จังหวัดน่านน้ี จะมีกรมป่าไม้ทางานร่วมกับ สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั (กศน.) โดยแบ่งพื้นท่ีรับผิดชอบ เพื่อให้ สามารถเข้าถึงกลุ่มเกษตรกรท่ีต้องการเข้าร่วมโครงการได้อย่างท่ัวถึงและรวดเร็ว และยังร่วมมือกับ ภาคเอกชน เชน่ ดอยคา ชว่ ยรับผลิตผลของเกษตรกรไปแปรรูปและจาหน่ายต่อ บางอย่างศูนย์ภูฟ้าพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดาริก็รับมาแปรรูป โดยมีภาคเอกชน มหาวิทยาลัยมาช่วยสนับสนุนทาง ด้านเทคนคิ การแปรรปู แลว้ ส่งขายรา้ นภฟู ้า บางอย่างสง่ ไปตา่ งประเทศ แต่ผูท้ ส่ี าคัญท่สี ุดคือคนในพื้นที่ จากการสารวจรายได้ของเกษตรกรท่ีเข้าร่วมโครงการจานวน ๑,๑๘๗ คน พบว่า ในรอบปี ๒๕๖๑ ท่ี ผ่านมา เกษตรกรมีรายได้จากโครงการสร้างป่าสร้างรายได้คิดเป็นเงิน ๕๐๘,๐๔๕ บาท (ท่ีมา: กลุ่ม ส่งเสริมปฏิบัติการ สานักงาน กศน. ข้อมูล ณ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๒) และจากการเก็บข้อมูลกลุ่มสร้างป่า สร้างรายได้ อาเภอบ่อเกลือ ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมป่าไม้ พบว่า กลุ่มสามารถสร้างรายได้เป็นจานวนเงิน ๖๔๘,๑๘๕ บาท (ทมี่ า: โครงการศูนยภ์ ฟู ้าพฒั นา กรมป่าไม)้ สรุปพน้ื ทีโ่ ครงการสรา้ งป่า สรา้ งรายได้ จังหวัดนา่ น (พ.ศ. ๒๕๕๖ ถงึ พ.ศ. ๒๕๖๑) อาเภอ ตาบล สมาชกิ พ้นื ที่ รายได้* (บาท) (ครวั เรือน) (ไร)่ (ปี ๒๕๖๑) ๒,๖๓๖ ๔,๒๒๐ เมืองนา่ น ๓ ๕๑๘ ๔,๕๔๔ ๑๕๑,๕๒๙ ๓,๒๗๕ ๑๐๓,๖๖๐ บอ่ เกลอื ๔ ๑,๒๔๑ ๑,๑๗๔ ๑๖,๒๓๐ ๔๓๐ - เฉลิมพระเกยี รติ ๒ ๖๔๓ ๔๓๑ ๒,๕๖๑ ๑,๕๕๐ ๕,๔๒๕ สนั ติสขุ ๓ ๑๗๖ ๑,๐๗๑ - ๕๒๕ - ภเู พียง ๑ ๘๕ ๕๓๐ ๑๕๙,๙๕๐ ๓๒๔ ๒๙,๘๒๐ แมจ่ ริม ๒ ๖๖ ๕๔๙ ๔,๒๐๐ ๔๔๑ ๓๐,๔๕๐ นาน้อย ๔ ๒๘๑ ๑,๑๑๕ - ๗๕๕ - เวียงสา ๙ ๒๓๖ ๑๙,๓๕๐ ๕๐๘,๐๔๕ ปวั ๒ ๕๗ ทา่ วงั ผา ๒ ๑๑๗ นาหมื่น ๓ ๑๒๒ ทุ่งชา้ ง ๒ ๑๐๓ เชียงกลาง ๔ ๑๓๕ สองแคว ๓ ๑๕๔ บา้ นหลวง ๔ ๑๗๘ รวม ๔๘ ๔,๑๑๒ * ข้อมูลรายไดเ้ กบ็ จากสมาชกิ จานวน ๑,๑๘๗ คน ท่ีมา : กล่มุ สง่ เสรมิ ปฏบิ ตั กิ าร สานักงาน กศน.



แปลงเกษตรกรตัวอยา่ ง นายธนวัฒน์ จรรมรัตน์ บา้ นหว้ ยขาบ ตาบลบอ่ เกลอื เหนอื อาเภอบ่อเกลอื จ.นา่ น พื้นที่ทเี่ อาเขา้ โครงการทั้งหมด ๑๐ ไร่ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๗ ปจั จุบนั มรี ายได้จากการขายกาแฟเฉล่ีย ๒๓,๙๖๐ บาทต่อปี สภาพพ้นื ทปี่ ่าก่อนเข้ารว่ มโครงการ สภาพพน้ื ทป่ี ่าปัจจบุ นั แปลงเกษตรกรตัวอยา่ ง นายพิพฒั น์ ศิริวัฒการณุ บา้ นหา่ งทางหลวง ตาบลภฟู า้ อาเภอบอ่ เกลือ จังหวดั นา่ น พืน้ ที่ที่เอาเขา้ โครงการทั้งหมด ๑๕ ไร่ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๙ ในปี ๒๕๖๑ มีรายได้จากการขายกาแฟโรบสั ตา้ กลว้ ย ขมิ้น ไพล เฉลย่ี ๑๐,๘๗๕ บาทตอ่ ปี นายพิพัฒน์ เล่าว่า “พอเข้าร่วมโครงการแล้ว ไม่ต้องไปทาไร่เลื่อนลอย มีหน่วยงานท่ีรองรับผลผลิต ที่ปลูก เช่น ศูนย์ภูฟ้าพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดาริ และโครงการศูนย์ภูฟ้าพัฒนา กรมป่าไม้ ได้ จาหนา่ ยผลผลติ ทป่ี ลูก” สภาพพนื้ ท่ีป่าปแี รกท่ีเขา้ รว่ มโครงการ สภาพพนื้ ท่ีป่าปจั จบุ ัน ผลผลติ ท่ขี ายได้

นางสาวนงคน์ ชุ พิศจาร ศูนย์ภูฟ้าพัฒนาอนั เน่อื งมาจากพระราชดาริ ปัญหาป่าไม้ของจังหวัดน่านเป็นปัญหาที่ทุกภาคส่วนให้ความสนใจ มีการดาเนินกิจกรรมเพื่อแก้ไขปัญหา หลากหลายรูปแบบ หนึ่งในกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้น่านท่ีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดาริคือ การสร้างสานึกให้เด็กและเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างย่ิงทรัพยากรป่าไม้ ดังนั้นภาคการศึกษาจึงเป็นผู้มีบทบาทสาคัญในการสร้างเด็กและ เยาวชนให้มีจิตสานึกและมีศักยภาพในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะป่าไม้ในชุมชนบ้านเกิด ของตนเอง ดงั ท่สี มเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดารัสในการประชุมสัมมนา “รกั ษ์ปา่ น่าน” คร้งั ที่ ๑ เม่อื วันจันทรท์ ่ี ๑๐ มนี าคม ๒๕๕๗ วา่ เน่ืองจากข้าพเจ้าเป็นครู และทางานเร่ืองโภชนาการเด็กอยู่แล้ว จึงคิดว่า การฝากแนวคิดให้เด็กศึกษาหาความรู้จากป่าไม้ซ่ึงเป็นส่ือการสอนท่ีดีที่สุด ให้รักหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นสมบัติลาค่าของพวกเขา และฝึกฝน เด็กให้อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และทรัพยากรอื่น ๆ จึงเร่ิมงานอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในโรงเรียน ตชด. อย่างจริงจังใน พ.ศ. ๒๕๓๐ หลักการในการดาเนินการเน้นเด็กและเยาวชนเป็นศูนย์กลางคือ ให้เด็กเป็น ผู้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง (learning by doing) มีชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม และ เชอ่ื มโยงกบั ทรพั ยากรของชุมชนที่อยูร่ อบ ๆ ตวั วิธกี าร คอื สอนให้นกั เรยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจ เหน็ ความงดงาม ความน่าสนใจ เกิดความปติ ทิ จ่ี ะศึกษาและอนรุ ักษ์ต่อไป เป็นความรัก ความผูกพัน หวงแหนใน ทรัพยากรของตน ในขณะเดียวกันสิ่งที่มีในธรรมชาติจะเป็นอุปกรณ์การสอนใน วชิ าตา่ ง ๆ ได้หลายอยา่ ง ที่ผ่านมาโรงเรียนหลายแห่งในพ้ืนท่ีจังหวัดน่านมีความต่ืนตัว และได้จัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ตามสภาพปัญหาและบริบทของแต่ละพื้นท่ี เช่น การปลูกป่า การบวชป่า สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน การจัดค่ายรักษ์ป่าน่าน หรือแม้กระท่ังการพัฒนาชุดการเรียนรู้ต่าง ๆ พร้อมท้ังได้นาผลงานไปแสดง นทิ รรศการและนาเสนอในการประชุมสัมมนา “รักษ์ปา่ นา่ น” ทุกครั้ง โดยทั้งหมดนี้มีจุดมุ่งหมายเพ่ือสร้าง สานึกให้เด็กและเยาวชนของจังหวัดน่านในการอนุรักษ์ป่าไม้ ตามพระราชดาริของสมเด็จพระเทพ - รตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี

ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ โรงเรียนบ้านผักเฮือก โรงเรียนบ้านสบมาง และโรงเรียนมัธยมบ่อเกลือ ซึ่งตั้งอยู่ท่ี ตาบลภูฟ้า อาเภอบ่อเกลือ เป็นพ้ืนที่หนึ่งที่ประสบปัญหาการตัดต้นไม้และเผาป่ามาอย่างต่อเน่ือง โรงเรียนทั้ง ๓ โรง จึงได้ร่วมกับศูนย์ภูฟ้าพัฒนาอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ ในสมเด็จพระเทพ- รัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี และจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดกิจกรรม “เยาวชนรักษ์ป่าน่าน ผ่าน R-Radio Network” ซึ่งเป็นอีกรูปแบบหน่ึงที่จะช่วยสร้างสานึกและให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ทรพั ยากรปา่ ไมแ้ ละพฒั นาท้องถน่ิ ของตน กิจกรรม “เยาวชนรักษ์ป่าน่าน ผ่าน R-Radio Network” มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นเวทีให้นักเรียนได้ เผยแพรอ่ งคค์ วามรู้และแลกเปล่ียนเรยี นรรู้ ะหว่างกันเก่ียวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และช่วยรณรงค์ เพื่อสร้างสานึกเก่ียวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนให้กับชุมชน เกิดเป็นความภาคภูมิใจ ความผูกพัน หวงแหนในทรัพยากรของตน พร้อม ๆ กับนักเรียนได้รับการพัฒนาความรู้และทักษะใน การส่ือสารท้ังในด้านการพูดและการเขียนบทวิทยุ ซ่ึงเป็นทักษะพื้นฐานของการผลิตรายการวิทยุที่ นักเรยี นสามารถนาไปใชใ้ นอนาคตตอ่ ไปได้ ในการดาเนินกิจกรรมนี้ จะแบ่งเปน็ ข้นั ตอนหลัก ๆ ดงั นี้ ข้ันตอนท่ี ๑ การพัฒนาศกั ยภาพของนกั เรียนด้านการผลติ รายการวทิ ยแุ ละดา้ นทรัพยากรปา่ ไม้ ศูนย์ภูฟ้าพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดาริ ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดการฝึกอบรมให้กับนักเรียนที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรมจากโรงเรียน บา้ นผกั เฮอื ก โรงเรียนบ้านสบมาง และโรงเรียนมธั ยมบอ่ เกลือ นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วย นักเรียนระดับประถมศึกษา (ประถม ๔-๖) ระดับมัธยมศึกษา ตอนต้น และระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย และครูผู้รับผิดชอบโครงการ รวมทั้งหมด ๓๒ คน (ภาคผนวก ข) โดยใช้ระยะเวลา ๒ วนั เน้ือหาการฝกึ อบรมประกอบดว้ ย ๑. กจิ กรรม “เปดิ หู....ส่โู ลกของเสยี ง” วทิ ยากร ผศ. มรรยาท อคั รจนั ทโชติ คณะนเิ ทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ผูช้ ่วยวทิ ยากร นางสาวปภาวรินท์ สขุ เลศิ ผล เป็นการพัฒนาความรู้และทักษะให้นักเรียนในเรื่องของส่ือวิทยุ หลักการพูดและการเขียนบทวิทยุ รายการวิทยุประเภทต่าง ๆ โดยเน้นให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงจากการฝึกปฏิบัติในสถานที่จริง ณ สถานวี ิทยุเพอ่ื การศึกษาและพัฒนาอาชีพ ศูนยภ์ ฟู ้าพัฒนาอันเนอื่ งมาจากพระราชดาริ หัวข้อการ ฝกึ อบรมได้แก่

 ธรรมชาติและองค์ประกอบของสอ่ื วิทยุ  หลกั การพดู และการเขยี นบทวทิ ยุ  รายการวทิ ยปุ ระเภทพูดคยุ และสัมภาษณ์  การดาเนนิ รายการวิทยุประเภทพดู คยุ และสัมภาษณ์  รายการวทิ ยุประเภทบรรยายนอกสถานท่ี  รูปแบบรายการวทิ ยุอน่ื ๆ และการออกแบบรายการวิทยุ ๒. กิจกรรม “กบั ดกั แสง” วทิ ยากร นายกติ ติภูมิ จันทรศ์ รี ศนู ยเ์ ครอื ขา่ ยการเรยี นรเู้ พอื่ ภมู ภิ าคจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั เป็นการเรียนรู้เร่ืองโลกของแมลง แมลงชนิดต่าง ๆ ที่มีอยู่ในธรรมชาติมีความสาคัญและสัมพันธ์กับ ระบบนิเวศ เป็นการสร้างความเข้าใจเก่ียวกับความหลากหลายของวัฏจักรส่ิงมีชีวิตท่ีมีความ ข้องเกย่ี วกนั กิจกรรมกับดักแสง เป็นกระบวนการเรียนรู้ โดยใช้แสงไฟล่อให้แมลงเข้ามาหาแสงไฟ แล้วจับแมลง มาศึกษาชนิด ขนาด เพศ และพฤติกรรมของแมลง นักเรียนเกิดการเรียนรู้โลกอีกมุมหนึ่งคือ โลกกลางคืน ซ่ึงส่ิงมีชีวิตที่สามารถออกหากินหรือทากิจกรรมในเวลากลางคืนย่อมมีอวัยวะใน การตอบสนองต่อแสงสว่างและความมืดแตกต่างกันออกไป วิธกี ารศึกษา จะใช้วิธีการหลอกแมลงด้วยหลอดไฟ ๒ ชนิด ประกอบด้วย หลอดแสงจันทร์-ให้แสงสี ขาว และหลอดยาวสีม่วง-ให้แสงสีม่วง เน่ืองจากแมลงบางชนิดชอบแสงสีท่ีไม่เหมือนกัน การใช้ กับดักแสง ต้องมีผ้าสีขาวตรึงเป็นแนวฉากใต้หลอดไฟเพ่ือให้แมลงที่หลงมาได้เกาะ ประโยชน์ของ กับดักแสงคือ เป็นการหลอกแมลงให้มาหาเราได้โดยไม่ต้องไปไล่ตามหาที่ไกล ๆ วิธีการจะต้องเร่ิม เปิดไฟท้ังสองสีไว้ตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ลับฟ้าไป จะช่วยหลอกให้แมลงเข้าใจว่าแสงท่ียังอยู่นั้นคือ พระอาทิตยท์ ยี่ ังมีแสงอยู่ ๓. การบรู ณาการกจิ กรรมท่ี ๑ และกิจกรรมที่ ๒ วิทยากร ผศ.มรรยาท อคั รจันทโชติ คณะนิเทศศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ผชู้ ่วยวทิ ยากร นางสาวปภาวรินท์ สุขเลศิ ผล เพ่ือให้นักเรียนได้ทดลองจัดรายการวิทยุประเภทบรรยายนอกสถานที่ โดยใช้ส่ิงท่ีนักเรียนค้นพบใน ธรรมชาติดว้ ยตวั เองในกจิ กรรม “กบั ดักแสง” นักเรยี นได้เลอื กชนิดแมลงที่หลงกับดักไปเป็นเนื้อเร่ือง เขียนบทวิทยุนอกสถานที่ แล้วฝึกบนั ทกึ เสยี งโดยใช้โทรศัพทม์ ือถอื เป็นเครื่องมือ

ขั้นตอนที่ ๒ การเตรยี มการเพื่อผลติ รายการวิทยุ หลังจากผ่านการฝึกอบรมแล้ว นักเรียนทาการเขียนบทวิทยุเกี่ยวกับเร่ืองการอนุรักษ์ป่าไม้ในพื้นที่อาเภอ บ่อเกลือ โดยมีผศ. มรรยาท อัครจันทโชติ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นอาจารย์ที่ ปรึกษา และมีครูผู้รับผิดชอบของแต่ละโรงเรียนและนางสาวนงค์นุช พิศจาร หัวหน้างานเผยแพร่ การพัฒนา ศูนย์ภูฟ้าพัฒนาอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ เป็นผู้ช่วย และร่วมกันจัดทาผังรายการ ออกอากาศของ R-Radio Network โดยกาหนดออกอากาศในช่วงวันจันทร์–วันเสาร์ เวลา ๑๒.๐๐– ๑๓.๐๐ น.  ผงั รวมรายการออกอากาศของ R-Radio Network เวลา จนั ทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ ๐๘.๐๐ – เคารพธงชาติ ๐๘.๐๒ น. ๐๘.๐๒ – รายการจากสานักงานโครงการสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ๐๙.๐๐ น. ๐๙.๐๐ – สาระนา่ รู้ (จากทางสถาน)ี ๑๐.๐๐ น. ๑๐.๐๐ – การอนุรกั ษ์ แวดวง อบต. แวดวงการศกึ ษา เกษตรนา่ รู้ กบั การอนรุ ักษ์ ตชด.สัมพันธ์ ๑๑.๐๐ น. ทรพั ยากรธรรมชาติ ครปู า่ ไม้ ทรัพยากรปา่ ไม้ และสง่ิ แวดล้อม อุทยานแหง่ ชาติ อบต.ภูฟา้ รร.บ้านสบมาง กรมป่าไม้ กรมอุทยาน ร้อย ตชด.๓๒๕๓ ขนุ น่าน บ้านสบมาง ๑๑.๐๐ – Link ข้อมูลจากสว่ นกลาง ๑๒.๐๐ น. ๑๒.๐๐ – การอนุรักษ์ป่าไม้ การอนรุ ักษ์ป่าไม้ การอนรุ ักษป์ ่าไม้ การอนุรักษ์ปา่ ไม้ การอนุรักษป์ ่าไม้ การอนุรักษป์ า่ ไม้ ๑๓.๐๐ น. ในพื้นท่ี ในพน้ื ที่ ในพื้นท่ี ในพ้นื ท่ี ในพื้นที่ ในพื้นที่ ๑๓.๐๐ – รร.บ้านสบมาง รร.บ้านผักเฮอื ก รร.มธั ยมบอ่ เกลือ รร.บา้ นสบมาง รร.บ้านผักเฮอื ก รร.มัธยมบ่อเกลือ ๑๔.๐๐ น. ศนู ย์ภฟู ้า กับ เกษตรนา่ รู้ กับ ศิลปวฒั นธรรม การอนุรักษ์ ศุกรส์ ดใส กับ แวดวงการศกึ ษา การพัฒนาท่ี การพัฒนาอาชพี และประเพณี ทรพั ยากรธรรมชาติ สขุ ภาพใกลต้ ัว การพัฒนาคณุ ภาพ ท้องถ่นิ อันดงี าม และสง่ิ แวดลอ้ ม ยัง่ ยนื ชีวติ เด็ก เยาวชน และราษฎรบนพ้นื ที่สูง ๑๔.๐๐ – นงค์นชุ พิศจาร ศกั ดรนิ ทร์ นแุ ปงถา นงคน์ ุช พิศจาร นงค์นุช พศิ จาร สอุ ภชิ ัย คาแคว่น นงค์นุช พิศจาร ๑๕.๐๐ น. Link ข้อมลู จากสว่ นกลาง ๑๕.๐๐ – รายการจากสานกั งานโครงการสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ๑๖.๓๐ น.

 กาหนดการออกอากาศ เยาวชนรักษ์ปา่ น่าน โรงเรยี น เรื่อง จานวน วันออกอากาศ นกั เรยี นผรู้ ับผดิ ชอบ ตอน ๑. บา้ นสบมาง ๑. บวชปา่ บวชตน้ ไม้ ๒ ๑๐ ส.ค./๕ ต.ค. ๒๕๖๑ ด.ญ.บวรรตั น/์ ด.ญ.รงุ่ นภา/ด.ญ.อนญั ญา ๒. ภยั ของน้าป่าไหลหลาก ๑ ๑๐ ส.ค. ๒๕๖๑ ด.ญ.จารมุ น/ด.ญ.ขวัญชนก/ด.ญ.อาภาภรณ์ ๓. ภัยจากดนิ โคลนถล่ม ๑ ๕ ต.ค. ๒๕๖๑ ด.ญ.กชกร/ด.ญ.ลดาวลั ย์ ๔. ฝายมีชีวิต ๑ ๑๗ ก.ย. ๒๕๖๑ ด.ญ.นารดา/ด.ญ.วลิ าวลั ย์ ๕. การสรา้ งฝายชะลอนา้ ๑ ๑๐ ส.ค. ๒๕๖๑ ด.ญ.อนญั ญา/ด.ญ.อาภาภรณ์ ๒. บ้านผักเฮอื ก ๑. ส้นิ ป่ากส็ ิน้ ชวี ติ ๑ ๒๘ ก.ย. ๒๕๖๑ ด.ช.นพรัตน/์ ด.ญ.ปยิ าพชั ร/ด.ญ.ตลุ ยา ๒. ถวายงานผา่ นภาษา ๑ ๑๗ ก.ย. ๒๕๖๑ ด.ญ.วิลาสนิ /ี ด.ญ.แพรวา รักษป์ า่ รกั แผน่ ดนิ ๓. เศรษฐกิจพอเพยี ง ๑ ๑๘ ก.พ. ๒๕๖๑ ด.ญ.ประกายดาว/ด.ช.ภรู ิทตั /ด.ญ.ศศิวิมล กับการใชช้ วี ิตประจาวนั ๓. มธั ยมบ่อเกลอื ๑. การทาเกษตรเชงิ เดีย่ วและ ๒ ๒๙ ก.ย. ๒๕๖๑ นายชัชวาล/น.ส.พิมลนาฏ ผสมผสาน ๒. การปลกู ปา่ ทดแทน ๒ ๑๐ ต.ค. ๒๕๖๑ น.ส.นัชชา/น.ส.ฐติ นิ นั ท์ ๓. ประโยชนข์ องป่าไม้ ๑ ๑๕ พ.ย. ๒๕๖๑ ด.ช.ภมู ปิ ญั ญา/ด.ญ.โชติกา ๔. ภเู ขาหัวโล้น ๑ ๑๐ ต.ค. ๒๕๖๑ ด.ช.ภควัท/ด.ญ.พมิ พส์ ิริ ๕. การปลกู ปา่ เฉลมิ พระเกยี รติ ๑ ๑๕ พ.ย. ๒๕๖๑ ด.ญ.ศิวชั ญา/ด.ญ.กมลพรรณ ๖. แนวทางการอนรุ ักษป์ ่าไมใ้ น ๑ ๑๕ พ.ย. ๒๕๖๑ นายชชั วาล พ้ืนท่ศี ูนย์ภูฟา้ พัฒนาฯ ๗. การอนุรกั ษป์ ่าเมอื งน่าน ๑ ๑๔ พ.ย. ๒๕๖๑ ด.ช.ภมู ปิ ญั ญา/ด.ญ.โชติกา ๘. ภยั จากดนิ โคลนถล่ม ๑ ๑๔ พ.ย. ๒๕๖๑ ด.ช.ภควัท/ด.ญ.พิมพส์ ิริ  ตวั อย่างบทวิทยุ เร่ือง ภัยจากดนิ โคลนถลม่ ที่ รายการ เวลา ๑ ชา่ งเทคนคิ : เพลงนาเข้ารายการ เพลง “เม่ือเราปรับ โลกกเ็ ปลี่ยน” ๑๒.๐๐ น. ผ้ดู าเนินรายการ: สวสั ดีค่ะ ท่านผูฟ้ ังทุกทา่ น พบกันวนั นี้ ในรายการเยาวชนคนตน้ น้า - ดาเนินรายการโดย ดเี จเบยี ทางสถานวี ิทยเุ พ่ือการศกึ ษาและพฒั นาอาชีพ อารเ์ รดิโอ เนต็ เวริ ์ค เอฟเอม็ ๑๐๒ เมกะเฮิรตซ์ เราจะอยดู่ ้วยกันตง้ั แตเ่ วลา ๑๒ นาฬกิ า ถงึ เวลา ๑๓ นาฬิกา นะคะ ๑๒.๐๕ น. ท่านผู้ฟังคะช่วงน้ีฝนตกตลอดเวลา ยากต่อการเดินทางและการทาไร่ทาสวน ดีเจเบียก็ขอเป็นกาลังใจให้กับ ทา่ นผู้ฟังทุก ๆ ท่าน ขอใหร้ กั ษาสุขภาพ ดแู ลคนท่ีเรารัก ด้วยความเป็นห่วงจากใจดีเจในวันนค้ี ่ะ ในช่วงน้ที ีอ่ าเภอบอ่ เกลือของเราเจอกับภยั พบิ ัติครัง้ ใหญ่ที่สดุ ก็ว่าได้ในรอบหลายสบิ ปี นั่นคือ น้าปา่ ไหลหลาก และดินโคลนถล่มทับบา้ นเรือนของพ่นี ้องทบี่ า้ นห้วยขาบ ตาบลบอ่ เกลอื เหนอื อาเภอบ่อเกลอื จงั หวัดนา่ น ซึ่ง เหตกุ ารณใ์ นครั้งน้ที าใหม้ ผี ู้เสียชีวติ จานวน ๘ รายด้วยกนั และทาใหอ้ กี หลายชีวติ ตอ้ งไรท้ ี่อยอู่ าศยั ดเี จเบีย ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ประสบภัยในครั้งน้ี และขอให้มีกาลังใจท่ีเข้มแข็งในการต่อสู้กับ ชีวติ พี่นอ้ งชาวตาบลภูฟ้าของเรากข็ อเปน็ กาลงั ใจให้ทุก ๆ ท่านก้าวผ่านฝันร้ายในครั้งน้ีไปให้ได้ และก้าวไป ข้างหนา้ อยา่ ยอมแพน้ ะคะ

ท่ี รายการ เวลา ดีเจขอมอบบทเพลงเพือ่ เป็นกาลงั ใจให้กับพี่นอ้ งผูป้ ระสบภยั และท่านผู้ฟังทุก ๆ ท่านด้วยเพลง “อย่าพ่ึงท้อ” ของไม้เมอื ง หลงั จากจบบทเพลงนเี้ ราจะกลับมาพูดคุยกันเกีย่ วกบั น้าปา่ ไหลหลากและดินโคลนถล่มกันนะคะ ๑๒.๐๕ น. วา่ มันเป็นอยา่ งไร ชว่ งนพ้ี บกบั บทเพลงเพราะ ๆ กนั ก่อนค่ะ ไปฟงั กนั เลยค่ะ – ชา่ งเทคนคิ : เปดิ เพลงในรายการ เพลง “อยา่ ยอมแพ”้ ๑๒.๒๕ น. ๒ เบีย: ค่ะบทเพลงท่ีจบลงไปนี้ ดีเจขอส่งไปเป็นกาลังใจให้กับพี่น้องของเราท่ีกาลังลาบาก ขอให้ทุก ๆ คนมี กาลงั ใจทีเ่ ขม้ แข็ง พร้อมสู้ รบั มอื กบั วนั ใหมด่ ว้ ยกันนะคะ สืบเนื่องจากฝนท่ีตกหนักติดต่อกันมาหลายวัน ทางตาบลภูฟ้าของเราก็เกิดดินโคลนถล่มปิดเส้นทางบริเวณ บ้านห่างทางหลวง ทาให้ไม่สามารถใช้เส้นทางได้เลยตั้งหลายวัน จนกว่าเจ้าหน้าที่จะเคลียร์เส้นทางให้ เรียบรอ้ ย เราตอ้ งใชเ้ ส้นทางอน่ื ในการเดนิ ทางกันก่อนนะคะ วันนด้ี ีเจมีผูร้ ่วมรายการอีกสองคนค่ะที่จะพูดคุย เกี่ยวกับน้าป่าไหลหลากและดนิ โคลนถลม่ ไปพบกับผู้ร่วมรายการเรากันเลยค่ะ คนแรกเลย ดีเจแตงโม หรือ ขวัญชนก จันทรา แตงโม: สวสั ดีคะ่ ดีเจแตงโม รายงานตัวนะคะ เบีย: คนทีส่ อง ดีเจเอสเทอร์ หรอื นารดา ม่ันอ่าว เอสเทอร:์ สวสั ดคี ะ่ ดีเจเอสเทอร์ รายงานตวั นะคะ เบีย: เป็นไงบา้ งคะสบายดหี รือเปลา่ คะทง้ั สองคน ขอตอ้ นรับดีเจท้ังสองเขา้ สรู่ ายการ สบายดนี ะคะ เอสเทอร:์ สบายดคี ่ะ แตก่ ม็ คี วามกังวลกบั สถานการณ์ดนิ โคลนถล่มทเ่ี กิดขึน้ ในบ้านเรา เบีย: ใชแ่ ลว้ ค่ะ ดีเจแตงโม คดิ อย่างไรกบั เรอ่ื งน้ีคะ เอสเทอร์: ก็ถ้าเป็นเมื่อก่อนต้องศึกษาจากอินเทอร์เน็ต หรือไม่ก็ฟังจากวิทยุ แต่ตอนนี้มันเกิดข้ึนใกล้ตัว มาก ๆ เลยค่ะ มนั นา่ กลัวจริง ๆ นะคะท่านผ้ฟู งั เบยี : แลว้ แตงโมล่ะ มคี วามคิดเห็นอยา่ งไรบ้าง แตงโม: ก็คล้าย ๆ กับเอสเทอร์ น่ันแหละค่ะ มนั เกดิ ใกล้ตวั นา่ กลัวมากคะ่ เบีย: ดเี จแตงโมคะ คิดว่าสาเหตหุ ลกั เลยที่ทาให้เกิดน้าปา่ ไหลหลากและดินโคลนถลม่ แตงโม: อย่างแรกเลยนะคะ แตงโมคิดว่า ปริมาณน้าฝนค่ะ เพราะจากเหตุการณ์ท่ีบ้านห้วยขาบฝนตก ติดต่อกนั หลายวนั ทาใหด้ ินและตน้ ไมด้ ูดซับนา้ ไมไ่ หว กเ็ ลยไหลมาทับบ้านเรือนจนทาให้เกิดการสูญเสียชีวิต และทรัพยส์ นิ ซึ่งเหตกุ ารณ์มนั เกิดข้ึนเรว็ มากอาจเพยี งแคเ่ สยี้ วนาทคี ่ะ เบยี : เอสเทอร์คะ มคี วามคดิ เหน็ อยา่ งไรบ้างคะ เกีย่ วกบั ดนิ โคลนถล่มรวมนา้ ปา่ ไหลหลาก เอสเทอร:์ จริง ๆ แลว้ มนั ก็มีหลายสาเหตุ อยา่ งเช่น การตัดไม้ทาลายปา่ การปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น การปลูก ขา้ วโพด การปลูกข้าวไร่ เบีย: ทา่ นผู้ฟังคะ เหน็ ไหมละคะวา่ น้าป่าไหลหลากมันน่ากลวั เพียงใด หลายคนอาจคิดว่า ทาไมไม่วิ่งหนีกัน ล่ะ อย่างที่เอสเทอร์บอกว่า มันมาเร็วมาก นับเป็นวินาทีกันเลยทีเดียว หรือบางทีมันอาจจะเกิดข้ึนตอน กลางคืน ตอนที่เรากาลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ก็ได้ค่ะ ความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีที่เหตุการณ์ท่ีบ้าน ห้วยขาบ เกิดตอนหกโมงเช้าซง่ึ พ่นี อ้ งของเราก็ตื่นข้นึ มาบางส่วนเพื่อเตรียมหุงหาอาหาร ถ้าเกิดตอนกลางคืน ตอนทเ่ี รา กาลังหลับสนิท อาจจะสูญเสียมากกว่านี้ แต่ถึงอย่างไร ดีเจก็ไม่อยากให้มันเกิดข้ึนกับใครเลยค่ะ แล้วทั้งสองพอมีวิธีมาแนะนาให้ท่านผู้ฟังหรือเปล่าคะ เผื่อว่าท่านผู้ฟังกาลังอยู่ที่ไร่ กาลังปลูกข้าว ปลูก ขา้ วโพดกัน หรอื กาลังจะเข้าไปหาของเหด็ หาปลา จะไดม้ วี ิธรี บั มอื หรือป้องกนั ภยั ค่ะ แตงโม เอสเทอร์: มีคะ่

ท่ี รายการ เวลา เบยี : กอ่ นท่ีจะไปฟงั สาระนา่ รวู้ ิธกี ารรบั มอื หรอื ปอ้ งกันภัยจากนา้ ปา่ ไหลหลาก ดเี จเบียขอทบทวนให้ท่านผู้ฟัง ๑๒.๒๕ น. อกี ครั้งนะคะว่า การเกิดน้าป่าไหลหลากมีสาเหตุมาจากอะไร สาเหตุของน้าป่าเกิดจากการอิ่มตัวของผืนดิน - จากฝนท่ตี กมากเกนิ ขดี ความสามารถในการดดู ซบั น้า ทาใหป้ รมิ าณของน้าฝนที่ตกลงมาทงั้ หมดไหลไปตามผวิ พื้นดินจากท่ีเคยถูกซึมซับไว้ได้ น้าจะรวมตัวไหลสู่ท่ีต่าอย่างรวดเร็ว ในระหว่างทางก็จะมีน้าป่าส่วนอ่ืนเพิ่ม ๑๒.๔๕ น. ปริมาณสมทบทะลักลงไปตามร่องน้าอย่างรวดเร็ว ยิ่งชันและมีพ้ืนที่รับน้ามาก ก็ย่ิงมีความเร็วและพลังท่ี รุนแรงมากข้ึน ผลที่ตามมาคือการเพ่ิมระดับน้าตามทางน้าอย่างรวดเร็ว เอาละค่ะ แตงโมกับเอสเทอร์คะ วธิ กี ารรับมือหรือปอ้ งกนั นา้ ปา่ ไหลหลาก จะทาอย่างไรคะ ลองแนะนาใหท้ ่านผู้ฟงั หนอ่ ยคะ่ เบยี : แต่กอ่ นท่จี ะไปฟงั วธิ ีการปอ้ งกันและรับมอื กับนา้ ป่าไหลหลาก จากท้ังสองคน ดีเจ ขอมอบบทเพลง เพ่ือ เป็นกาลังใจให้กับท่านผู้ฟังทุกท่านที่กาลังฟังอยู่ตอนนี้ ซักสองผลงานเพลงแล้วกลับมาฟังสาระดี ๆ กันต่อ นะคะ อยา่ พึ่งหมุนคลื่นหนีไปไหนอยู่เป็นเพ่ือนดีเจก่อนนะคะ หรือท่านผู้ฟังอยากฟังเพลงไหน แนะนามาได้ นะคะ ทางหมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๒ – ๘๙๒๔๙๐๖ ไปฟังเพลงกันเลยค่ะ ในผลงานเพลงของ พี่ไมค์ ภิรมย์พร เพลงบญุ ผลา และผลงานเพลงของ แซ็ก ชมุ แพ เพลงคาแพง ไปฟงั กนั เลยคะ่ ๓ เบีย: เป็นอย่างไรบ้างคะ ท่านผู้ฟัง ผลงานเพลงท่ีจบไปคงถูกใจท่านผู้ฟังกันใช่ไหมคะเรามาฟังสาระดี ๆ เกี่ยวกับน้าป่าไหลหลากกันต่อเลยค่ะ เอาละค่ะ แตงโมกับเอสเทอร์คะ วิธีการรับมือหรือป้องกันน้าป่า ไหลหลาก จะทาอยา่ งไรคะ ลองแนะนาใหท้ ่านผู้ฟังหน่อยคะ่ เอสเทอร:์ วธิ ีการรบั มอื อย่างแรกท่ีอยากจะแนะนานะคะ คือ ท่านผฟู้ ังตอ้ งหม่ันสังเกตสัญญาณความผิดปกติ ทางธรรมชาติ โดยในช่วงก่อนเกิดอุทกภัยจะมีสัญญาณความเปล่ียนแปลงทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้าใน แมน่ า้ เพิ่มสงู ข้นึ อยา่ งต่อเน่ือง นา้ ในแม่นา้ ลาคลอง ลาธาร เปล่ียนสีเปน็ สขี นุ่ ข้น หรือสีเดียวกับสีดินภูเขา ฝน ตกหนักต่อเน่ืองหลาย ๆ วัน สัตว์ป่าแตกตื่น มีเสียงดังอื้ออึงจากป่า มด แมลง ปลวกอพยพจานวนมาก เป็นตน้ หากสงั เกตพบสญั ญาณดงั กลา่ ว ให้ติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด จะได้เตรียมพร้อมรับมือและอพยพ หนภี ยั ไดอ้ ย่างทันท่วงที โดยเฉพาะเวลาทท่ี า่ นผ้ฟู งั ไปนอนไร่ ตอ้ งเตรียมตัวอยู่เสมอนะคะ แตงโม: ท่านผู้ฟังอย่าลืมนะคะ เวลาจะสร้างกระท่อมหรือเพิงพักควรสร้างให้ห่างจากทางน้าไหลผ่านด้วย นะคะ เพราะเราจะปลอดภยั เวลานา้ หลากลงมาคะ่ เบีย: เป็นอย่างไรบ้างคะ วิธีการป้องกันไม่ยากใช่ไหมคะ แล้วแตงโมมีวิธีอื่น ๆ อีกไหมคะที่จะป้องกันหรือ รบั มือกับน้าป่าไหลหลาก แตงโม: มีคะ่ เปน็ วิธกี ารงา่ ย ๆ และสามารถแกป้ ญั หาไดใ้ นระดบั หน่งึ เลยทเี ดยี วท้งั ยังไดป้ ระโยชนห์ ลายอยา่ ง คะ่ เบีย: มีประโยชนอ์ ยา่ งไรบ้างคะ แตงโมลองอธบิ ายสิคะ แตงโม: ปลูกป่าทดแทนค่ะ เป็นวธิ ีการงา่ ย ๆ แตไ่ ด้ประโยชนห์ ลายอย่าง เบยี : มันเก่ยี วข้องกนั อยา่ งไร การป้องกนั นา้ ปา่ ไหลหลาก กับการปลูกป่าทดแทนคะ แตงโม: การตัดไมท้ าลายป่า ในพื้นท่ีเส่ียงภัยเมื่อเกิดฝนตกหนักจะทาให้อัตราการไหลสูงสุดเพ่ิมมากข้ึนและ ไหลมาเร็วขึ้น เพราะไม่มีต้นไม้คอยดูดซับน้าและเป็นกาแพงก้ันน้า ทาให้เพ่ิมความรุนแรงของน้าในการ ทาลายและยงั เปน็ สาเหตุของดินถล่มด้วย นอกจากนี้ยังทาให้ดินและรากไม้ขนาดใหญ่ถูกชะล้างให้ไหลลงมา ในท้องนา้ ทาใหท้ อ้ งน้าตืน้ เขนิ ไมส่ ามารถระบายน้าไดท้ ันที กลายเป็นนา้ ปา่ ไหลหลากเลยทเี ดียว เบยี : แตงโมคะ ถา้ เป็นพ้ืนท่ีทาไรข่ องทา่ นผู้ฟังล่ะคะ เราไปปลูกปา่ ก็ไม่มพี นื้ ทเี่ พาะปลูกสคิ ะ แตงโม: ก็ให้ท่านผู้ฟัง หาไม้ผลปลูกก็ได้ค่ะ ได้ประโยชน์หลายอย่าง ปลูกป้องกันการพังทลายของหน้าดิน ปอ้ งกันการไหลของน้าและดูดซบั น้า ใหร้ ม่ เงา ผลก็กินได้ หากไมม่ ีก็ลองใหท้ า่ นผู้ฟงั ติดตอ่ ไปยังหน่วยงานของ ปา่ ไม้ดคู ่ะ รับรองได้ประโยชนแ์ น่ ๆ คะ่

ท่ี รายการ เวลา เบยี : เป็นอย่างไรบ้างคะท่านผู้ฟัง วิธีแนะนาของแตงโม คงมีประโยชน์ต่อท่านผู้ฟังใช่ไหมล่ะคะ การปลูกป่า มีประโยชน์มากมายจริง ๆ ค่ะ ช่วงหน้าเราลองมาฟัง ข้อแนะนาของเอสเทอร์กันนะคะว่า จะมีวิธีป้องกัน ๑๒.๔๕ น. น้าป่าไหลหลากอย่างไรกันบ้าง ช่วงน้ีมาฟังเพลงเพราะ ๆ กันอีกซักสองผลงานเพลงค่ะ อย่าลืมนะคะ ท่าน – ผฟู้ ังทตี่ ้องการฟังเพลงแนะนาเขา้ มาไดน้ ะคะ หรอื มขี ้อแนะนาเก่ยี วกบั การปอ้ งกนั หรือการรับมอื กบั น้าปา่ ไหล หลาก โทรศพั ท์เขา้ มาได้ที่ เบอร์ ๐๘๒-๘๙๒๔๙๐๖ คะ่ ตอนนไ้ี ปฟังเพลงกนั ก่อนนะคะ ด้วยผลงานเพลงของ ๑๓.๐๐ น. ............................ กับ เพลง................. ของ.................. ๔ เบยี : เป็นอยา่ งไรบ้างคะ ทา่ นผูฟ้ ัง ผลงานเพลงทจี่ บไปคงถูกใจทา่ นผู้ฟังกนั ใช่ไหมคะ เรามาฟังสาระ ดี ๆ กันต่อเลยค่ะ เอสเทอร์คะ เอสเทอร์มีวิธีอ่ืน ๆ อีกไหมคะ นอกจากการปลูกป่า ตามท่ี แตงโมได้แนะนาไปค่ะ เอสเทอร์: มีค่ะเมื่อเรามีป่า หรือปลูกป่าทดแทน เราก็ยังมีอีกวิธีหน่ึง คือการสร้างฝายค่ะ เราสร้างฝายแบบ ง่าย ๆ ใช้วสั ดุทีห่ าได้จากไรข่ องเราเอง ไม้ไผ่ ไมป้ ่า เรามาสร้างฝายกั้นลาห้วยตรงไร่ของเราหรือถ้าไร่ของเรา ติดกบั ของเพ่อื นบ้านเรากช็ วนกนั มาสร้าง เพอื่ ลดความแรงของน้าเวลาเกิดน้าหลากมา และยังช่วยเก็บกักน้า ไว้ใชใ้ นฤดูแล้งได้อกี ดว้ ย ท้ังยังเพ่มิ ความชุ่มชนื้ ให้กับดินหรอื ไรข่ องเราอีกคะ่ เบีย: เป็นอยา่ งไรบ้างคะท่านผฟู้ ังทุกท่าน สาระดี ๆ ที่เรานามาฝาก ท่านผู้ฟังค่ะ ป่าไม้มีประโยชน์นานัปการ ทาให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล เป็นต้นน้าลาธาร เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า และเป็นกาแพงธรรมชาติป้องกันการ พังทลายของหน้าดิน ปอ้ งกันการหลากของน้าปา่ ปอ้ งกันทรัพย์สินของเรา พืชผลทางการเกษตรของเราและ ท่ีสาคัญอาจป้องกันชีวิตของเราเม่ือเราเจอกับภัยธรรมชาติอย่างน้าป่าไหลหลาก บ้านเราเป็นป่าต้นน้าของ จังหวัดน่าน ถ้าเราช่วยกันดูแลรักษาป่าต้นน้า ช่วยกันปลูกป่าทดแทน ภัยธรรมชาติก็จะน้อยลง คนทั้ง ประเทศ จะได้รบั ประโยชน์จากการดแู ลรักษาป่าต้นน้าของเรา ปัญหาการเกิดน้าท่วม น้าป่าไหลหลากก็อาจ ลดน้อยลง หรอื บรรเทาความเสียหายลงไปได้บา้ ง ท่านผู้ฟังคะ เรามาช่วยกันปลูกป่าทดแทนกันนะคะ ปลูกไม้ผลตามไหล่เขาท่ีไร่ของเรา หรือเวลาท่ีท่านผู้ฟัง เข้าป่า หาของปา่ กห็ ยิบต้นไม้เข้าไปปลูกในปา่ ดว้ ยก็ได้ เพียงเราช่วยกันดูแลรักษาป่า การเกิดภัยธรรมชาติท่ี เราไมอ่ าจคาดเดาได้ อาจจะเกดิ น้อยลง ความรุนแรงนอ้ ยลงไปก็ได้ เบีย: ขอขอบคุณ แตงโมและเอสเทอร์ ที่มาพูดคุยนาสาระดี ๆ มาฝากผู้ฟังทุกๆ ท่าน สาหรับวันนี้ ดีเจเบีย ดเี จแตงโม และดเี จเอสเทอร์ ขอขอบคณุ ทา่ นผู้ฟงั ทุก ๆ ท่าน ท่ตี ิดตามรับฟังรายการเยาวชนคนต้นนา้ ดว้ ยดี เสมอมา สาหรับวันน้ี ดีเจเบียลาท่านผู้ฟังไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในวันต่อไป ก่อนจะจากกันไป ดีเจเบียขอ มอบบทเพลงเพราะ ๆ ทิ้งทา้ ยรายการ ขอให้ทา่ นผฟู้ งั ทกุ ท่านจงมีความสุขกับการทางานนะคะ ขอบคุณและ สวสั ดีคะ่ ข้ันตอนที่ ๓ การผลิตรายการวิทยุ เมื่อเขียนบทวิทยุเสร็จเรียบร้อย จึงทาการบันทึกเสียงการจัดรายการวิทยุ โดยนักเรียนผู้รับผิดชอบใน แต่ละวนั จะมาทาการผลิตรายการที่ R-Radio Network หรือ สถานีวิทยุเพื่อการศึกษาและพัฒนาอาชีพท่ี ศูนย์ภูฟ้าพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดาริ โดยจัดเป็นรายการสด ออกอากาศในช่วงเวลา ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. พร้อมกับบันทึกเสียงจัดเก็บลงเทปไว้ และได้ upload ขึ้นเผยแพร่ทาง youtube ด้วย (https://www.youtube.com/watch?v=hOjpcOSG๓eM&t=๖๘s)

ขั้นตอนท่ี ๔ การตดิ ตามและประเมนิ ผล ภายหลังจากการออกอากาศแล้ว ไดม้ ีการตดิ ตามและประเมินผลในกลมุ่ เปา้ หมาย ๒ กลมุ่ ดงั น้ี ๑. กลมุ่ นักเรียนผู้ผลิตรายการวิทยุ จากการสัมภาษณ์นักเรียนท่ีร่วมผลิตรายการวิทยุพบว่า การดาเนินงาน “เยาวชนรักษ์ป่าน่าน ผ่าน R-Radio Network ตามพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี” น้ันได้ กระตุ้นให้นักเรียนหันมาสนใจในปัญหาป่ารอบตัว ทาให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับ ทรพั ยากรป่าไม้ และท่ีสาคัญคือ ทาให้นักเรียนเกิดความตระหนัก รักและหวงแหนป่าไม้ของตน และ อยากมสี ว่ นร่วมในการแก้ไขปญั หา ดงั ปรากฏในบางตอนของบทสัมภาษณ์นกั เรียนผู้ผลติ รายการวิทยุ “รู้สึกว่าป่ามีบุญคุณต่อเราทุก ๆ คนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือส่ิงมีชีวิตอื่น ๆ และจากท่ีเอสเธอร์ ไดอ้ บรมการจัดรายการวิทยมุ า รสู้ ึกว่าเราควรอนุรักษ์ปา่ ฟ้ืนฟปู ่า เพอื่ ท่ีป่าจะทาประโยชน์ต่อพวกเรา ทุกคนคะ่ ” (ดเี จเอสเธอร์ เด็กหญงิ นารดา ม่ันอา่ ว ชันประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ โรงเรียนบ้านสบมาง) “การที่ผมได้เข้าร่วมจัดรายการวิทยุที่เกี่ยวกับป่าไม้ มันทาให้ผมได้ศึกษาปัญหาป่าไม้ท่ีมันเกิดขึ้น บนโลกของเราทาให้รูว้ า่ มีอีกหลาย ๆ ท่ีที่ประสบปญั หาหนกั กว่าเรา และทาใหผ้ มรสู้ กึ รกั และหวงแหน ป่าไม้บา้ นเรามากขน้ึ และอยากให้ทุกคนรู้สกึ เชน่ เดียวกนั กบั ผมครบั ” (ดีเจอัน๋ เด็กชายภมู ิปญั ญา พิศจาร มัธยมศึกษาปีท่ี ๓ โรงเรยี นมธั ยมบอ่ เกลือ) “รสู้ ึกเสยี ดายและรู้สกึ ใจหายมากค่ะ ทีธ่ รรมชาตเิ ราถูกทาลาย หนูร้สู กึ รกั ป่ามากขนึ้ ค่ะ อยากให้ป่าอยู่ กับเราไปนาน ๆ มากเลยค่ะ เพราะว่าลูกหลานของเราจะได้เห็น และได้อนุรักษ์ ได้เรียนรู้ศึกษา ค้นคว้าเกยี่ วกบั ป่า” (ดีเจแตงโม เด็กหญงิ ขวัญชนก จนั ทรา ชนั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ โรงเรยี นบา้ นสบมาง) “ในฐานะที่ผมเป็นเยาวชนนะครับ ส่ิงท่ีเราสามารถทาได้คือการให้ความร่วมมือและให้ความรู้แก่ ชาวบ้านในเร่ืองของปัญหาป่าที่มันเกิด โดยการเป็นส่ือกลางในการประชาสัมพันธ์และสร้างจิตสานึก ให้กับคนอ่ืนได้ตระหนักถึงความสาคัญของการอนุรักษ์ป่าไม้ เพื่อจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อไปใน ภายภาคหน้าครบั และจากท่ีผมไดร้ ว่ มจดั รายการวทิ ยกุ ารอนุรักษ์ป่าไม้ในพ้ืนท่ีอาเภอบ่อเกลือ มันทา ให้ผมรู้ว่าป่าไม้สาคัญต่อผู้คนในพ้ืนที่ รวมถึงสิ่งมีชีวิตบนโลกของเรา ป่าเปรียบเสมือนถังออกซิเจน ใบใหญ่บนโลก มันทาให้ผมอยากปกป้องป่าไม้ในบ้านของผมท่ีอาเภอบ่อเกลือ มาช่วยกันปกป้อง ถงั ออกซิเจนของเราด้วยกนั นะครับ” (ดเี จบอมบ์ นายชัชวาล พศิ จาร มธั ยมศึกษาปที ่ี ๕ โรงเรียนมัธยมบ่อเกลือ) ๒. กลุ่มผฟู้ ัง ได้สุ่มสารวจการติดตามรับฟังรายการการออกอากาศของ R-Radio Network และพบปะกับแฟน รายการทอ่ี ยใู่ นเขตตาบลภฟู า้ จานวน ๖ หม่บู ้าน ผลการสารวจความคิดเห็น (จากผู้รับฟังรายการ ๓๕ คน) พบว่า ผู้รับฟังรายการมากกว่าคร่ึง คือร้อยละ ๕๑.๔๓ เป็นผู้ท่ีไม่ได้เรียนหนังสือจนถึงจบ ระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔ ส่วนท่ีเหลืออีกร้อยละ ๔๘.๕๗ จบการศึกษาระดับช้ันมัธยมศึกษา โดย

ส่วนใหญ่จะเป็นเกษตรกรคิดเป็นร้อยละ ๖๘.๕๗ ร้อยละ ๑๑.๔๓ เป็นกลุ่มพ่อบ้านแม่บ้านไม่ได้ ประกอบอาชีพ นักเรียนนักศึกษามีเพียงร้อยละ ๘.๕๗ เท่าน้ัน ส่วนท่ีเหลืออีกร้อยละ ๑๑.๔๓ เป็น พนักงาน ลูกจ้างรายวันทั่วไป และผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ เม่ือสอบถามประเภทรายการท่ีน่าสนใจ พบว่า รายการท่ีผู้รับฟังสนใจมากที่สุดคือ รายการเกษตรน่ารู้กับการพัฒนาอาชีพ ส่วนรายการเร่ือง การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม มีผู้สนใจรับฟังเป็นอันดับ ๓ รายละเอียดดังในตาราง ข้างล่าง นอกจากน้ียังมีผู้รับฟังบางคนให้ข้อเสนอแนะเพ่ิมเติม เช่น อยากให้เพิ่มเวลาออกอากาศ ในชว่ งการจัดรายการสดมากข้ึน ตารางการจดั ลาดับรายการทีน่ า่ สนใจโดยผ้รู บั ฟงั อันดบั ที่ รายการ ความสนใจ (ร้อยละ) ๒๗.๒๗ ๑ เกษตรน่ารู้กับการพัฒนาอาชพี ๒๐.๗๘ ๑๘.๑๘ ๒ ศูนย์ภฟู า้ กับการพัฒนาท่ยี งั่ ยนื ๑๕.๕๘ ๙.๐๙ ๓ การอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม ๗.๗๙ ๔ ศิลปวัฒนธรรมทอ้ งถน่ิ และประเพณอี ันดงี าม ๕ สุขภาพใกลต้ วั ๖ แวดวงการศึกษากบั การพัฒนาคณุ ภาพชีวิตเดก็ และเยาวชน ในถ่นิ ทรุ กนั ดาร * หมายเหตุ สารวจเม่อื เมษายน ๒๕๖๒ ในปีการศึกษา ๒๕๖๒ ศูนย์ภูฟ้าพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดาริ ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะจัดการฝึกอบรมให้นักเรียนรุ่นที่ ๑/๖๑ เพ่ือเพิ่มพูน ศักยภาพในการผลิตรายการวิทยุและการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้น่าน และรับสมัครนักเรียนรุ่นใหม่รุ่นท่ี ๒/๖๒ เพอ่ื ขยายขอบเขตให้กว้างขวางยิ่งข้ึน ซงึ่ คาดว่าจะดาเนินการในเดอื นมิถุนายนหรอื กรกฎาคมนี้



R-Radio Network (สถานวี ิทยเุ พ่ือการศกึ ษาและพฒั นาอาชพี ) ศูนยภ์ ูฟ้าพัฒนาอันเน่อื งมาจากพระราชดาริ ในสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี  ความเป็นมา ในปี ๒๕๓๐ สานักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีและสานักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษาจัดการเรียนการสอนและฝึกอาชีพให้แก่นักเรียนและประชาชนในพื้นท่ี ทม่ี โี รงเรยี นในโครงการตามพระราชดาริ ซ่ึงอยู่ในพ้ืนที่ทุรกันดาร บางแห่งเดินทางลาบาก ต่อมาในปี ๒๕๔๙ ทั้งสองหน่วยงานได้เร่ิมนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการกระจายเสียงมาประยุกต์ใช้ในการ จัดการเรียนการสอนแบบสหวิทยาการควบคู่ไปกับการพัฒนาอาชีพในชุมชนทุรกันดารห่างไกล เพื่อ เสริมสรา้ งโอกาสการเรยี นรู้วิชาชีพอย่างต่อเนื่อง และเปิดโอกาสให้นักเรียนนักศึกษาได้ฝึกทักษะและ ประสบการณ์ที่ได้จากการเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน โดยถ่ายทอดสัญญาณทาง วิทยุกระจายเสียงและทางระบบอินเตอร์เนตร่วมกับสถานีวิทยุเพ่ือการศึกษาและพัฒนาอาชีพท่ัว ประเทศ ในเวลาต่อมาจึงน้อมเกล้าฯ ถวายเวลาการออกอากาศ จานวนร้อยละ ๓๐ ของผังรายการ เพ่ือเผยแพร่พระราชกรณียกิจ ข่าวสารโครงการตามพระราชดาริ ในปี ๒๕๕๐ ได้น้อมเกล้าฯ ถวาย สถานีวิทยุเพื่อการศึกษาและพัฒนาอาชีพ (R-Radio network) “ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา” คลื่น FM ๑๐๒.๐๐ MHz อาเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน และสถานีวิทยุเพื่อการศึกษาและพัฒนาอาชีพ R-Radio network “โรงเรียนบา้ นเกาะสาหร่ายชัยพัฒนา” คล่ืน FM ๑๐๑.๐๐ MHz อาเภอเมือง จังหวัดสตูล เมอ่ื วนั ท่ี ๔ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๒  วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพอื่ เผยแพรพ่ ระราชกรณียกจิ และขา่ วสารโครงการตามพระราชดาริ ๒. เพอื่ สง่ เสริมและพัฒนาอาชพี ให้กับชมุ ชนในพ้นื ท่ีทุรกนั ดารห่างไกลและด้อยโอกาส ๓. เพ่ือเผยแพร่ข่าวสารความรู้ด้านสังคม เศรษฐกิจ การประกอบอาชี พ ภูมิปัญญาท้องถ่ิน วฒั นธรรมของชาติ ตลอดจนสาระบนั เทงิ อันเปน็ ประโยชน์ต่อประชาชน ๔. เพ่ือเป็นส่ือการเรียนการสอน พัฒนาองค์ความรู้ แหล่งเรียนรู้ด้านวิชาชีพหลากหลายสาขา สาหรบั นักเรียน นักศกึ ษาอาชีวะ และประชาชนทส่ี นใจ ๕. เพื่อส่ือสารเหตุการณ์ กรณฉี กุ เฉนิ อุบัติภัย ศูนยแ์ จ้งเหตุ โดยเช่อื มโยงกบั หน่วยงานองค์กรอน่ื ๆ  ชอ่ งทางการรับฟังรายการ ๑. สถานีวิทยุสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กรุงเทพมหานคร ทางคล่ืนความถี่ FM ๙๗.๒๕ MHz ๒. สถานีวิทยุในสถานศึกษาจังหวัดต่าง ๆ ท่ัวประเทศ ในสังกัดสานักงานคณะกรรมการการ อาชวี ศกึ ษา ทางคล่นื ความถยี่ ่าน FM ของแตล่ ะแหง่ จานวน ๑๔๒ สถานี ๓. ระบบอินเตอร์เน็ต และระบบ Network ของสถานศึกษาท่ี www.r-radionetwork.com

 พืน้ ทีร่ ับสญั ญาณ สถานีวิทยุเพ่ือการศึกษาและพัฒนาอาชีพ (R-Radio Network) ศูนย์ภูฟ้าพัฒนาอันเน่ืองมาจาก พระราชดาริ มพี ้ืนท่ที ่ีสามารถรบั สญั ญาณการส่งกระจายเสยี งของสถานี ได้ดังแสดงในภาพ

รายช่อื นักเรียนและครูผ้รู ับผิดชอบจดั รายการวทิ ยุ R-radio รักษป์ า่ น่าน รุน่ ท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๑ (๑/๖๑) ชือ่ – นามสกุล โรงเรียน ระดบั ช้นั ๑. เดก็ หญิงตลุ ยา ภคั ดปี รชี านนท์ บา้ นผักเฮือก ป.๕ ๒. เด็กชายภูริทัต โนนจนั ทร์ บ้านผักเฮอื ก ป.๕ ๓. เด็กชายนพรตั น์ มูลคา บา้ นผักเฮอื ก ป.๕ ๔. เดก็ หญงิ วิลาสินี สอ่ งสี บา้ นผักเฮอื ก ป.๕ ๕. เดก็ หญิงปิยาพชั ร พงษ์ศรี บา้ นผักเฮอื ก ป.๕ ๖. เดก็ หญงิ ศศวิ ิมล ธมิ ิตร บ้านผกั เฮอื ก ป.๔ ๗. เดก็ หญงิ ประกายดาว สยุ ะ บ้านผกั เฮือก ป.๔ ๘. เดก็ หญงิ แพรวา หาญยทุ ธ บา้ นผกั เฮือก ป.๔ ๙. นางสาวอจั ฉรา บุญเกดิ บา้ นผักเฮือก ๑๐. เดก็ หญงิ บวรรัตน์ ใจปงิ บ้านสบมาง ครูผูช้ ว่ ย ๑๑. เด็กหญิงอาภาภรณ์ บุญอนิ ทร์ บ้านสบมาง ม.๓ ๑๒. เดก็ หญงิ กชกร ศกั ดิ์ศริ ิ บ้านสบมาง ม.๓ ๑๓. เดก็ หญิงจารมุ น บญุ อินทร์ บ้านสบมาง ม.๒ ๑๔. เด็กหญงิ ขวญั ชนก จนั ทรา บ้านสบมาง ม.๑ ๑๕. เดก็ หญิงลดาวัลย์ บญุ อินทร์ บา้ นสบมาง ป.๖ ๑๖. เดก็ หญิงนารดา ม่ันอา่ ว บ้านสบมาง ป.๖ ๑๗. เดก็ หญิงรุ่งนภา โพธเิ์ นตร บ้านสบมาง ป.๖ ๑๘. เด็กหญิงวลิ าวัลย์ บุญอินทร์ บา้ นสบมาง ป.๖ ๑๙. นายประภาส จนั ทรา บา้ นสบมาง ป.๕ ๒๐. นางสบูรตั น์ จันทรา บา้ นสบมาง ๒๑. เด็กหญิงโชติกา สาหลงั มัธยมบ่อเกลือ ครูชานาญการพิเศษ ๒๒. เดก็ หญิงพมิ พส์ ริ ิ คายนั ต์ มัธยมบ่อเกลือ ครูชานาญการพิเศษ ๒๓. เด็กหญิงกมลพรรณ ทองไชย มธั ยมบอ่ เกลอื ๒๔. เดก็ หญงิ ศวิ ัชญา ลานัย มัธยมบ่อเกลอื ม.๓/๑ ๒๕. เดก็ ชายภมู ปิ ญั ญา พิศจาร มัธยมบ่อเกลอื ม.๓/๒ ๒๖. เด็กชายภควัท จนั ทรา มธั ยมบ่อเกลอื ม.๓/๒ ๒๗. นายชัชวาล พิศจาร มธั ยมบ่อเกลอื ม.๓/๒ ๒๘. นางสาวฐติ นิ ันท์ พศิ จาร มธั ยมบ่อเกลอื ม.๓/๒ ๒๙. นางสาวนัชชา บวั จันทร์ มธั ยมบ่อเกลอื ม.๓/๑ ๓๐. นางสาวพิมลนาฏ ดวงพนั ธ์ มธั ยมบอ่ เกลอื ม.๕/๑ ๓๑. นางพะยอม ทิฆมั พรธรี วงศ์ มัธยมบอ่ เกลือ ม.๕/๑ ๓๒. นางสาวราตรี แปงอุด มธั ยมบอ่ เกลือ ม.๕/๑ ม.๖/๑ ครชู านาญการ ครู

นายมานพ ตรยั ตรากลุ นายจาลอง ไชยยา นางปรานอม จินะสาม สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต ๒ สำนักงำนเขตพื้นกำรศึกษำประถมศึกษำน่ำน เขต ๒ ได้มีโอกำสเข้ำร่วมกำรประชุมสัมมนำ “รักษ์ป่ำ น่ำน” ครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๕๗ และครัง้ ที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๕๘ ทำให้ไดร้ บั ทรำบแนวพระรำชดำริสมเด็จพระเทพ- รัตนรำชสุดำ ฯ สยำมบรมรำชกุมำรีในกำรอนุรักษ์และฟ้ืนฟูป่ำไม้ในจังหวัดน่ำนให้กลับคืนสู่ควำม อุดมสมบูรณ์ดังเดิม ดังนั้นในเดือนสิงหำคม ๒๕๕๘ สำนักงำนเขตพื้นกำรศึกษำประถมศึกษำน่ำน เขต ๒ ในฐำนะหน่วยงำนที่รับผิดชอบจัดกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนใน ๗ อำเภอของจังหวัดน่ำน และสำนักงำน โครงกำรสมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำ ฯ สยำมบรมรำชกุมำรีได้ประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทำงในกำร ผลักดนั ใหม้ ีกำรพัฒนำหลักสูตร “รักษ์ป่ำนำ่ น” ขึ้น เพื่อให้ครูใช้เป็นแนวทำงในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ อย่ำงต่อเนื่องในกำรปลูกฝังจิตสำนึกในกำรอนุรักษ์ป่ำไม้ให้แก่เด็กและเยำวชน อันจะส่งผลให้เกิด กำรอนรุ ักษท์ รพั ยำกรธรรมชำตแิ ละสิ่งแวดล้อมทย่ี ่ังยืนต่อไป สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำน่ำน เขต ๒ เริ่มต้นดำเนินกำรในปีงบประมำณ ๒๕๕๙ โดย พัฒนำแนวกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้สำระท้องถิ่น “รักษ์ป่ำน่ำน” ช้ันประถมศึกษำปีที่ ๑ ก่อน และใน ปงี บประมำณ ๒๕๖๐ ดำเนนิ กำรพฒั นำตอ่ สำหรบั ชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี ๒ จนถึงประถมศกึ ษำปีท่ี ๖ ในกำรพัฒนำแนวกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้สำระท้องถิ่น “รักษ์ป่ำน่ำน” มีกรอบแนวคิดสำคัญ ๓ ประกำร ดังน้ี ๑. แนวพระรำชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำ ฯ สยำมบรมรำชกุมำรีในกำรอนุรักษ์และฟื้นฟู ปำ่ ไม้ในจงั หวัดน่ำน ๒. กำรพัฒนำแนวกำรจัดกจิ กรรมสำระกำรเรียนรู้ “รักษ์ป่ำน่ำน” จะสอดคล้องกับมำตรฐำนตัวช้ีวัดและ สำระกำรเรียนรู้หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ โดยใช้หน่วยกำรเรียนรู้ เรื่อง ส่ิงมีชวี ิตกบั กระบวนกำรดำรงชีวติ ในกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตร์ โดยจัดกิจกรรมตำมแนว รำยวิชำพ้ืนฐำนวิทยำศำสตร์ของสถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี กระทรวง ศึกษำธิกำร และเพิ่มสำระกำรเรยี นรใู้ นบริบทท้องถิ่นจังหวดั นำ่ นเพม่ิ เติม ๓. กำรจัดกจิ กรรมจดั ในชว่ งกิจกรรมลดเวลำเรยี น เพ่ิมเวลำรู้ ภำยหลังจำกท่ีได้เรียนสำระกำรเรียนรู้ตำม หน่วยกำรเรียนรู้กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ในเวลำเรียนปกติในห้องเรียนแล้ว เพื่อให้นักเรียน ได้เพม่ิ พนู องคค์ วำมรู้และประสบกำรณจ์ ำกท่ีเรียนในห้องเรียนมำสู่กำรสัมผัสสภำพแวดล้อมหรือสื่อที่ เป็นธรรมชำติแท้จริงในชุมชนท้องถ่ินของนักเรียน ท้ังน้ีในแต่ละหน่วยกำรเรียนรู้ นักเรียนจะได้ทำ กิจกรรมอย่ำงหลำกหลำย ทุกกิจกรรมได้กำหนดจุดประสงค์กำรเรียนรู้ซึ่งสอดคล้องกับตัวชี้วัดชั้นปี เพ่ือให้ครูผสู้ อนทรำบว่ำ เมอื่ นกั เรยี นทำกจิ กรรมนั้นแลว้ นักเรียนเกิดกำรเรียนรู้อะไรบ้ำง โดยยึดหลัก

ให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติ สืบเสำะหำควำมรู้ด้วยกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ กระบวนกำร แก้ปัญหำ กำรสื่อสำร ควำมสำมำรถในกำรตัดสินใจ กำรนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงและใน สถำนกำรณ์ใหม่ จนก่อให้เกิดเจตคติ คุณธรรม จริยธรรม มีจิตสำนึก และมีพฤติกรรมในกำรอนุรักษ์ ทรัพยำกรธรรมชำตแิ ละสง่ิ แวดล้อมของชุมชนทอ้ งถิ่นและจังหวดั นำ่ นต่อไป จำกกรอบแนวทำงกำรพัฒนำข้ำงต้น บรรณำธิกำรกิจจะรวบรวม ตรวจสอบควำมสอดคล้องในแต่ละหน่วย กำรเรียนรู้ แล้วให้ผู้เช่ียวชำญตรวจสอบควำมสอดคล้องเชิงเนื้อหำและปรับแก้ให้สมบูรณ์ หลังจำกน้ันจึง ประชุมช้ีแจงกำรใช้เอกสำรแนวกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้สำระท้องถ่ิน “รักษ์ป่ำน่ำน” ให้แก่ครูผู้สอน เพื่อนำไปใช้จดั กิจกรรมกำรเรียนรใู้ หน้ กั เรยี นต่อไป สำนกั งำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศึกษำน่ำน เขต ๒ จะมีกำรนิเทศ ติดตำม ช่วยเหลือ และประเมินผลกำรใช้เอกสำรแนวกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้สำระ ท้องถิน่ “รกั ษ์ปำ่ นำ่ น” ของครูผ้สู อนควบคูไ่ ปดว้ ย แนวทางการจัดการเรียนรูส้ าระทอ้ งถ่ิน “รักษ์ป่านา่ น” หน่วย สิ่งมีชวี ติ กับกระบวนการดารงชวี ิต กิจกรรมที่ ๙ ตน้ ไมใ้ นใจคน (๒) การให้ปุ๋ยพืช เวลา ๑ ชว่ั โมง การเตรยี ม ๑. แบบบนั ทึกต้นไม้ในใจคน ๒. เศษใบไม้ เศษฟำง มลู สตั ว์ ขเ้ี ถำ้ แกลบ ฯลฯ ๓. จอบ เสยี ม บัวรดนำ้ พลำสตกิ สาระสาคัญ ปัจจัยสำคัญในกำรเจริญเติบโตของพืชหรือต้นไม้ ได้แก่ อำหำร น้ำ แสงแดด พืชหรือต้นไม้ท่ีหำ อำหำรเก่งก็จะเจริญเติบโตอย่ำงรวดเร็ว ต่ำงจำกพืชหรือต้นไม้ที่ไม่ค่อยได้รับอำหำร น้ำ เรำจึง ควรหมนั่ ใหป้ ุ๋ย และรดนำ้ พชื หรือต้นไมท้ ี่เรำดูแลอยำ่ งสมำ่ เสมอ จดุ ประสงค์ เม่ือจบกำรจัดกจิ กรรมนแี้ ลว้ นักเรยี นควร ๑. บอกข้อมูลของพืชหรือต้นไม้ที่นักเรียนดูแลรักษำได้ ๒. ปฏบิ ตั กิ ำรทำปุ๋ยหมักและบำรงุ รักษำพชื หรอื ตน้ ไม้ทดี่ แู ลได้

กิจกรรม ๑. นำสู่บทเรียนโดยสนทนำกับนักเรียนถึงพืช/ต้นไม้ต้องกำรอะไรในกำรดำรงชีวิต (ปัจจัย สำคัญในกำรดำรงชีวิตของพืช ได้แก่ อำหำร น้ำ อำกำศ แสงแดด ฯลฯ) จำกน้ันครู สรุปว่ำ พชื /ต้นไม้ก็เหมือนส่ิงมีชีวิตทั่ว ๆ ไปท่ีต้องกำรอำหำร (แร่ธำตุ) น้ำ และแสงแดด ใน กำรดำรงชีวิต โดยพืช/ต้นไม้จะใช้รำกในกำรหำอำหำรดูดแรธ่ ำตุจำกดนิ ถ้ำหำกรำกของพืช งอกงำมแผ่ขยำยมีมำกก็จะหำอำหำรได้มำกจะทำให้พืช/ต้นไม้โตเร็ว สูงใหญ่ เปรียบเหมือน คนหรือสัตว์ทีก่ ินเกง่ กินมำก ก็จะโตเรว็ กวำ่ คนหรือสัตวท์ ่กี นิ อำหำรน้อย ร่ำงกำยแคระแกรน ดังนั้น พืช/ต้นไม้ที่นักเรียนดูแลก็จะต้องพรวนดิน ใส่ปุ๋ย และรดน้ำอยู่อย่ำงสม่ำเสมอเป็น ประจำทุก ๆ วนั ๒. ให้นักเรียนวำดรปู /ถ่ำยภำพตน้ ไม้ท่ีนกั เรียนดูแล (พืช/ต้นไม้นักเรียนเคยปลูกที่บ้ำนหรือที่ครู กำหนดเม่ือเร่ิมเข้ำเรียนในชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๑) โดยวำดรูปหรือถ่ำยภำพพืช/ต้นไม้ใน สภำพปัจจุบันนี้ และเขียนข้อมูลเก่ียวกับพืช/ต้นไม้ที่นักเรียนปลูกตำมแบบบันทึกท่ีครูแจก ให้ (เป็นแบบบันทึกตำมตัวอย่ำง ต่ำงจำกแบบบันทึกข้อมูลต้นไม้ที่ให้นักเรียนบันทึกจนถึง ชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี ๖ ในคมู่ อื ของชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ ๑) ๓. แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม ๆ ละ ๔–๕ คน แล้วให้ทำปุ๋ยหมักโดยนำเศษใบไม้ เศษฟำง มูลสัตว์ ข้ีเถ้ำแกลบ ฯลฯ มำผสมเปน็ ป๋ยุ หมักเพ่ือให้นักเรียนนำกลับไปใช้ดูแลบำรุงรักษำพืช/ต้นไม้ท่ี นักเรียนดูแล (ตำมข้อ ๒) ท้ังน้ี ครูอำจส่ังให้นักเรียนเตรียมอุปกรณ์มำจำกบ้ำนแล้วสอน วธิ กี ำรทำปยุ๋ หมกั ทโ่ี รงเรียน ๔. ครูสรุปวิธีกำรดูแลและบำรุงรักษำพืช/ต้นไม้ท่ีให้นักเรียนปลูกดังกล่ำว พร้อมท้ังอธิบำย เพ่ิมเติม หำกมีพืช/ต้นไม้มำก ๆ ก็จะทำให้เกิดควำมชุ่มช้ืน ร่มรื่น และช่วยให้ไม่เกิดควำม แห้งแลง้ จึงควรช่วยกันปลูกและรักษำใหม้ พี ชื /ต้นไมม้ ำก ๆ สอื่ การเรียนรู้ ๑. แบบบันทึกต้นไม้ในใจคน ๒. เศษใบไม้ เศษฟำง มลู สตั ว์ ขี้เถำ้ แกลบ ฯลฯ ๓. จอบ เสียม บัวรดนำ้ พลำสตกิ การประเมินผล ๑. กำรบอกขอ้ มลู ของพืชหรอื ตน้ ไม้ที่นักเรียนดแู ลรักษำ ๒. กำรปฏิบตั ิกำรทำปุ๋ยหมกั และบำรงุ รักษำพชื หรือตน้ ไมท้ ี่ดูแล

เกณฑ์การประเมิน รายการประเมนิ ระดับ ๑ เกณฑ์การประเมนิ ระดับ ๓ ระดับ ๒ บอกข้อมูลของพืช ๑. กำรบอกข้อมลู บอกข้อมูลของพชื หรอื ต้นไม้ทน่ี ักเรยี น ของพืชหรือ หรอื ตน้ ไม้ทนี่ ักเรยี น บอกขอ้ มลู ของพืช ดแู ลรักษำไดค้ รบถว้ น ตน้ ไม้ทีน่ ักเรียน ดแู ลรักษำไดเ้ ลก็ น้อย หรือตน้ ไม้ท่นี กั เรียน สมบูรณ์ ดูแลรกั ษำ ไมค่ รบถว้ น ดูแลรกั ษำไดค้ รบถว้ น ไมค่ รอบคลุม ปฏบิ ัติกำรทำปุย๋ หมัก ๒. กำรปฏิบตั กิ ำร ปฏบิ ัตกิ ำรทำปยุ๋ หมัก และบำรงุ รักษำพืช ทำปยุ๋ หมักและ ปฏิบัติกำรทำปุ๋ยหมัก และบำรงุ รักษำพืช หรอื ตน้ ไม้ทีด่ ูแลได้ บำรุงรกั ษำพชื และบำรงุ รักษำพืช หรอื ตน้ ไม้ท่ดี ูแลได้ โดยใหค้ วำมร่วมมือ หรอื ต้นไม้ หรอื ต้นไม้ท่ดี แู ลได้ โดยใหค้ วำมรว่ มมือ ชว่ ยเหลอื ในกำรทำ ท่ีดแู ล เพยี งเลก็ น้อย ไม่ค่อย ชว่ ยเหลอื ในกำรทำ และปฏิบตั ิกำรดูแล ชว่ ยเหลือหรือลงมือ และปฏิบัตกิ ำรดูแล บำรุงรักษำพชื หรือ บำรุงรักษำพชื หรือ ตน้ ไม้ทตี่ ้นเองดูแล ตน้ ไมท้ ่ีต้นเองดูแล เป็นประจำสม่ำเสมอ ระดับการประเมิน ได้คะแนน ๕-๖ คะแนน ระดับดี คอื ไดค้ ะแนน ๓-๔ คะแนน ระดับพอใช้ คอื ได้คะแนน ตำ่ กวำ่ ๓ คะแนน ระดับปรบั ปรุง คือ

แบบบนั ทึกตน้ ไม้ในใจคน (๒) ช่อื .......................................................นำมสกุล................................................เลขท่ี..... .......... รูปพชื หรือต้นไมท้ ่ปี ลกู เมื่อ ช้ัน ป.๑ ชอ่ื พชื หรือต้นไม้................................................................ ควำมสูง...............................................................................เซนติเมตร เส้นรอบวงของลำตน้ ...........................................................เซนติเมตร จำนวนใบ............................................................................ใบ วิธกี ารดูแลและบารงุ รกั ษา ........................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................... .................................................................................................................................... .................... .............................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. ........................... ........................................................................................................................................................

โครงสร้างแนวการจัดกิจกรรมการเรยี นรูส้ าระทอ้ งถนิ่ “รักษ์ป่านา่ น”ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑-๖ สาระ ชวี ติ กับส่ิงแวดลอ้ ม ความสัมพนั ธร์ ะหว่าง ทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม ส่ิงมีชวี ติ กบั ส่งิ แวดล้อม หน่วย ส่ิงมีชวี ติ กบั ดิน พชื สตั ว์ เรยี นรู้ กระบวนการดารงชีวติ (๕ ชวั่ โมง) ๑. ระบบนิเวศของแหล่ง (๗ ชัว่ โมง) (๗ ชวั่ โมง) (๖ ชว่ั โมง) (๗ ชว่ั โมง) ๑. ป่ำไม้ในฝนั ๑. ฉนั คอื ใคร น้ำในชุมชน ๑.นักสำรวจนอ้ ย ๑. ดินเกดิ ขน้ึ ไดอ้ ย่ำงไร ๒. ป่ำให้คณุ อนนั ต์ ๒. ฉันเปน็ สัตวพ์ วกใด ๒. ระบบนิเวศของ ๓. ตน้ ไมท้ ่ีฉันรักษ์ ๓. รปู รำ่ งฉนั น้ันเปน็ อยำ่ งไร ๒.สนุกคิดกับสง่ิ มีชวี ติ และไมม่ ีชวี ิต ๒. ดนิ ในชุมชนของเรำ ๔. ใบไมม้ หี ลำยแบบ ๔. ตัวฉนั นนั้ เหมือนใคร ป่ำชมุ ชน ๕. เรียนร้ตู ้นไม้ในชมุ ชน ๕. วงจรชวี ติ ในปำ่ ชมุ ชน ๓. กำรปรับตวั ของตน้ ไม้ ป.๑ ๓.Walk Rally ๓. มีอะไรอยใู่ นดนิ ๖. ปลกู ต้นไมใ้ นใจคน ๖. หว่ งโซ่อำหำร ๗. ชีวิตสัมพนั ธใ์ นป่ำชมุ ชน ตำมฤดูกำล ๔.เธอฉนั นัน้ ผกู พนั ๔. เพื่อนรักของดนิ (๙ ช่ัวโมง) ๑. นเิ วศในป่ำชมุ ชน (๖ ชวั่ โมง) ๕.อยรู่ ่วมกันอยำ่ งพึ่งพำ ๕. ตรวจสอบสมบัติของดิน (๑) ๒. ชีวติ ในแหลง่ นำ้ ๑. มดในปำ่ ชมุ ชน ๓. ใครอยใู่ ต้ดิน ๒. แมลงช่วยผสมเกสร ๖.สงิ่ มีชีวติ ในปำ่ ชุมชน ๖. ตรวจสอบสมบัตขิ องดนิ (๒) ๔. พืชกบั ส่งิ เรำ้ ในชุมชน ๓. นกนอ้ ยนกั ปลกู ปำ่ ๕. ชวี ติ ใหม่ในเมลด็ พชื ๔. สัตวน์ กั พรำงตัว ๗.ฉนั เหมำะสมกบั ทอ่ี ยใู่ ด ๗. ร่วมกนั สร้ำงดินใหส้ มบูรณ์ ๖. หนนู ้อยนกั ปลกู ปำ่ ๕. สัตว์ป่ำสงวน ๗. พชื กระจำยพนั ธอ์ุ ยำ่ งไร ๖. กำรตอบสนองสิ่งเร้ำของสัตว์ ป.๒ ๘. กำรขยำยพนั ธุ์พชื โดยกำรปกั ชำรำก ๙. ต้นไม้ในใจคน (๓) กำรใหป้ ๋ยุ พืช (๖ ช่ัวโมง) ป.๓ ๑. กำรสำรวจแมลงในป่ำชมุ ชน (๓ ชวั่ โมง) ๒. กินแมป่ ลำทำให้ปลำหมดไป ๑. พืชใบเล้ยี งเด่ยี ว ใบเล้ยี งคใู่ นป่ำชุมชน ๓. สตั ว์ป่ำสงวนในประเทศไทย ๒. รำกของพืชใบเลี้ยงเดีย่ วและใบเลยี้ งคู่ ๔. กำรพรำงตวั ของสัตว์ ๓. กำรเตบิ โตของรำกในดนิ ชนดิ ตำ่ ง ๆ ๕. กำรถ่ำยทอดลักษณะทำง ๔. กำรขยำยพันธ์ุกิ่งไผ่ ๕. ต้นไม้ในใจคน (๔) กำรทำฮอร์โมน พนั ธุกรรม (มนษุ ย)์ บำรงุ ใบพชื ๖. กำรถำ่ ยทอดลักษณะพนั ธกุ รรมพชื

(๔ ช่วั โมง) (๓ ชั่วโมง) ๑. กำรลำเลียงอำหำรของพชื ๑. แมลงนน้ั เปน็ ฉนั ใด ป.๔ ๒. เห็ดมพี ษิ และไม่มพี ิษในปำ่ ชมุ ชน ๒. แมลงในปำ่ ชุมชน ๓. กำรขยำยพันธข์ุ องเหด็ ในป่ำชมุ ชน ๓. นกในป่ำชมุ ชน ๔. ตน้ ไมใ้ นใจคน (๕) ปยุ๋ หมักอำหำร ของพืช (๖ ชัว่ โมง) (๘ ชวั่ โมง) ๑. พชื มดี อกและพชื ไม่มีดอกในปำ่ ชมุ ชน ๑. สตั วม์ ีกระดกู สันหลังและไม่มี ๒. กำรขยำยพันธุ์แบบอำศยั เพศของพืช กระดูกสันหลังในป่ำชุมชน ๓. วัฏจกั รชีวิตของพืชดอกในป่ำชุมชน ๒. รักษ์นกในปำ่ ชุมชน ป.๕ ๔. กำรคดั เลือกพันธพุ์ ชื ๓. วงจรชีวติ แมลงในปำ่ ชมุ ชน ๕. กำรขยำยพนั ธเ์ุ ห็ดโดยสปอร์ ๔. แมลงศัตรูธรรมชำติ ๖. ตน้ ไม้ในใจคน (๖) กำรทำยำฆำ่ แมลง ๕. สัตวใ์ กลส้ ูญพันธุ์ จำกสมุนไพร ๖. กำรสญู พนั ธ์ุสตั ว์ดึกดำบรรพ์ ๗. กำรถำ่ ยทอดลกั ษณะทำง พนั ธกุ รรมของสตั ว์ ๘. กำรคดั เลอื กพนั ธุ์สัตว์ (๑๑ ชั่วโมง) ๑. ปำ่ ตน้ น้ำนั้นเป็นฉันใด ๒. กำรเพมิ่ ของประชำกรท่ีมีผลกระทบ สง่ิ แวดลอ้ ม ๓. กำรฟ้ืนฟูปำ่ เสอ่ื มโทรม (สำยน้ำพระรำชหฤทยั ) ๔. มหตั ภัยไฟปำ่ ป.๖ ๕. กำรพังทลำยของดนิ ๖. หญำ้ แฝกพชื คลุมดนิ ๗. กำรปนเปอื้ นสำรเคมใี นแหล่งนำ้ ๘. โครงงำนอนุรกั ษพ์ ชื สำคญั ในทอ้ งถิ่น ๙. ต้นไม้ในใจคน (๗) กำรทำปยุ๋ ฮอรโ์ มนบำรุงพืช ๑๐. ภำพยนตส์ นั้ กำรอนรุ กั ษ์ป่ำไม้ ๑๑. โครงงำนอนุรกั ษส์ ตั ว์สำคญั ใน ทอ้ งถ่ิน

นางสาวชิษณกุ าญ นาเมฆ โรงเรยี นบา้ นหว้ ยฟอง โรงเรียนบ้านห้วยฟอง ต้ังอยู่ตาบลขุนน่าน อาเภอเฉลิมพระเกียรติ เป็นโรงเรียนหนึ่งที่ดาเนินกิจกรรม ตามพระราชดาริ เพ่ือปลูกฝังจิตสานึกและพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชนในการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยท่ีนักเรียนทั้งหมดของโรงเรียนบ้านห้วยฟองมีภูมิลาเนาอยู่ใน บ้านห้วยฟอง บ้านสะจุก บ้านสะเก้ียง ซึ่งท้ัง ๓ หมู่บ้านน้ีเป็นบริเวณพ้ืนที่ป่าต้นน้าน่าน ดังนั้นการสร้าง จิตสานึกให้นักเรียนทุกระดับชั้นต้ังแต่ระดับปฐมวัยจนถึงมัธยมศึกษาตอนต้นอนุรักษ์พ้ืนท่ีป่ารอบ ๆ โรงเรียนและหม่บู า้ นของตนเองจงึ เป็นสงิ่ จาเป็นอย่างยงิ่ ตั้งแต่ปี ๒๕๕๗ เป็นต้นมา โรงเรียนได้เข้าร่วมการประชุมสัมมนา “รักษ์ป่าน่าน” และนาเสนอรูปแบบ กิจกรรมการสร้างจิตสานึกให้นักเรียนอนุรักษ์พ้ืนท่ีป่า ด้วยการนาแนวพระราชดาริมาเป็นหลักในการ ปฏิบัติ น่นั คอื การใชพ้ นื้ ที่ป่าไมร้ อบ ๆ โรงเรยี นและหมูบ่ ้านมาเป็นสื่อการเรียนรู้ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ สมั ผัสกบั ป่าของชมุ ชนรอบตัว อันเป็นแนวพระราชดารทิ จ่ี ะสรา้ งให้นกั เรียนเกิดความรัก ความผูกพัน และ ความหวงแหนทรพั ยากรของตน พรอ้ มทั้งฝึกฝนนักเรยี นให้อนุรักษ์ทรัพยากรปา่ ไม้ และทรัพยากรอน่ื ๆ ดว้ ย กิจกรรมที่โรงเรียนดาเนินการและนาเสนอในการประชมุ สัมมนา “รกั ษป์ า่ น่าน”  ปี ๒๕๕๗ เร่มิ ต้นดว้ ยการจดั ค่ายปลูกฝงั จติ สานกึ เด็กและเยาวชนในการอนุรักษ์ป่าไม้พ้ืนที่ป่าต้นน้า แตป่ ระสบปญั หาหลายอย่าง ท่ีสาคัญคือ มีขอ้ จากดั เร่อื งเวลา จึงทาใหไ้ ม่สามารถปฏิบัตไิ ดต้ อ่ เนือ่ ง  เพ่ือแก้ไขปัญหาดังกล่าว คณะครูจึงได้ร่วมกันหาแนวทางในการพัฒนาปรับปรุงและทดลองใช้ จนใน ที่สุดได้รูปแบบเป็น ชุดการเรียนรู้ “รักษ์ป่าต้นน้าน่าน” ซึ่งออกแบบเป็นการเรียนรู้แบบบูรณาการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ มจี ดุ มุง่ หมายให้นกั เรียนเกิดความตระหนักถงึ ปญั หาที่เกดิ ขนึ้ ในท้องถิ่นของตนเอง มีจิตสานกึ รักและหวงแหนในทรัพยากรธรรมชาติ ร่วมฟื้นฟูป่าต้นน้าน่านอย่างย่ังยืน ผลลัพธ์จากการ ดาเนินการในปี ๒๕๕๘ พบว่า การสอดแทรกเนื้อหาท้องถิ่นทาได้ไม่เต็มท่ี เวลาปฏิบัติกิจกรรม ไม่เพียงพอ  ในปี ๒๕๖๐ โรงเรียนจึงได้พัฒนาปรับรูปแบบเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดการเรียนรู้ “รักษ์ป่า ต้นน้าน่าน” กาหนดใช้เวลาในชั่วโมง ลดเวลาเรียนเพ่ิมเวลารู้ โดยเน้นการศึกษาที่ใช้บริบทของ ทอ้ งถน่ิ เป็นแหล่งเรียนรู้ ลงมอื ปฏบิ ัตไิ ด้มากข้นึ ชุดการเรียนรู้นแ้ี บง่ เนื้อหาออกเป็น ๔ ระดับการเรียนรู้ แยกตามระดบั ชนั้ ตั้งแต่ปฐมวัย ประถมศึกษาปที ี่ ๑-๓ ประถมศึกษาปีท่ี ๔-๖ และมัธยมศึกษาปีท่ี ๑-๓ เพื่อให้นักเรียนมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เม่ือจัดการเรียนรู้ครบถ้วนแล้ว ในปลายภาคเรียนที่ ๒ กาหนดให้มีการจัดค่ายกิจกรรมในรูปแบบค่ายวิทยาศาสตร์และค่ายลูกเสือสิ่งแวดล้อม เพ่ือเป็นการ ทบทวนความรู้และสะท้อนจิตสานึกในการอนุรักษ์ป่าไม้ของนักเรียน เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ร่วมกัน

ฟื้นฟูป่าต้นน้าน่าน และประเมินผลการจัดการเรียนรู้ “รักษ์ป่าต้นน้าน่าน” ของโรงเรียนในแต่ละ ปีการศึกษาด้วย ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ “รักษ์ป่าต้นน้าน่าน” พบว่านักเรียนได้มีโอกาสสัมผัส ตรงกับพ้ืนที่ป่าต้นน้าน่าน โดยเรียนจากแหล่งเรียนรู้ที่มีในบริเวณโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น และ นักเรียนร้อยละ ๘๒ สามารถนาความร้ไู ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ เพอื่ เปน็ การเปิดโอกาสให้นักเรยี นได้มโี อกาสสมั ผสั กับธรรมชาติพ้ืนที่ป่าต้นนา้ นา่ น เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ ธรรมชาติที่มีในบริเวณโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น และได้ลงมือปฏิบัติเองมากข้ึน การจัดกิจกรรม การเรียนรูใ้ นปี ๒๕๖๑ จึงเน้นการจัดในรูปแบบของฐานการเรียนรู้ โดยใช้เวลาในช่ัวโมงลดเวลาเรียนเพิ่ม เวลารู้ ฐานการเรยี นรู้ ประกอบดว้ ย ๖ ฐานดงั นี้ ฐานที่ ๑ สร้างปา่ สรา้ งรายได้ ฐานท่ี ๖ ฐานที่ ๒ สะทอ้ นคดิ คนตน้ น้า สมนุ ไพรลวั ะ ฐานท่ี ๕ ฐานท่ี ๔ ฐานที่ ๓ สายน้าแหง่ ชีวิต ปา่ ไมค้ ือชวี ิต สรรพสิ่ง คนหิวปา่ หาย ล้วนเก่ียวพัน แหลง่ เรียนรธู้ รรมชาติ “รักษ์ปา่ ตน้ น้านา่ น”  ฐานที่ ๑ สร้างปา่ สร้างรายได้ ศึกษาแนวทางพัฒนาฟ้ืนฟูป่าไม้เพื่อให้ประชาชนสามารถอยู่ร่วมกับป่า และมีรายได้เสริมจากการ ปลูกพืชโดยท่ีไม่ทาลายป่าไม้ โดยการปลูกป่าร่วมกับพืชเศรษฐกิจ ศึกษาการปลูกไม้หลาย ๆ ระดับ หลาย ๆ ชนดิ มที งั้ ไมเ้ รือนยอดสงู ลดหล่ันกันลงมา เป็นการศึกษาหาพันธุ์ไม้ป่า ไม้เศรษฐกิจท่ีเหมาะสมกับพื้นท่ี ตลอดจนการจัดการพ้ืนท่ีปลูก รูปแบบ การปลูกพืช การดแู ลรักษา การปรับปรงุ ดิน เปน็ ต้น  ฐานที่ ๒ สมนุ ไพรลวั ะ ศึกษาพืชสมุนไพรที่เป็นประโยชน์ และพืชสมุนไพรของชนเผ่าลัวะ โดยมีการปลูกพืชตัวอย่าง และให้ ความร้เู กย่ี วกับชนดิ และสรรพคณุ ทางยา  ฐานที่ ๓ คนหวิ ปา่ หาย สร้างความเข้าใจและสร้างจิตสานึกให้กับผู้เรียนตามแนวพระราชดาริ “ปลูกป่า ปลูกคน” ที่ให้ทุกคน มีส่วนร่วมทาให้ป่าเสื่อมโทรมถูกพลิกฟื้นกลับคืนเป็นป่าต้นน้า ป่าใช้สอยและกลายเป็นป่าเศรษฐกิจ ชมุ ชนมีคณุ ภาพชวี ิตทีด่ ขี ้ึนในทกุ ๆ ด้านและอยรู่ ว่ มกบั ป่าอย่างพ่ึงพา

 ฐานที่ ๔ ป่าไม้คอื ชีวติ สรรพสิ่งล้วนเกย่ี วพัน ศกึ ษาประโยชนแ์ ละความสาคัญของป่าไม้ ที่มีต่อส่ิงมีชีวิตรอบ ๆ ตัว ให้ความรู้เช่ือมโยงความเก่ียวพัน ของส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศแบบสายใยอาหาร ศึกษาผลกระทบของการขาดสิ่งมีชีวิต หรือความไม่ สมดลุ ในสายใยอาหาร  ฐานท่ี ๕ สายน้าแหง่ ชีวิต ศึกษาผลกระทบของภัยแล้ง การขาดน้า และแนวทางการทาให้มีน้าใช้อย่างยาวนานท่ามกลางภาวะ โลกร้อน ศึกษาสิ่งมชี วี ติ ในแหลง่ นา้ ความเกีย่ วพันของแหล่งตน้ นา้ น่านกับการดาเนินชีวิตของคนต้นน้า และคนล่มุ น้าน่าน  ฐานท่ี ๖ สะท้อนคดิ คนต้นน้า เปน็ ฐานการเรียนรู้ ท่ีให้นักเรียนสรุปองค์ความรู้ในฐานท่ี ๑ ถึงฐานท่ี ๕ ในรูปแบบการสนทนา พูดคุย การเขียนบันทกึ รูปแบบแผนผงั ความคดิ เพิ่มเติม: สาหรับนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาป่ีท่ี ๑ จะให้นักเรียนและผู้ปกครองร่วมกันปลูก ต้นไม้คนละ ๑ ต้น และบันทึกการเจริญเติบโต จนกระทั่งนักเรียนจบการศึกษาภาคบังคับ ซึ่งได้ ดาเนนิ การมาเป็นระยะเวลา ๒ ปี ผลการดา้ เนนิ งาน การจัดกิจกรรมเรียนรู้เพื่อปลูกฝังจิตสานึกเด็กและเยาวชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อมในพนื้ ท่ปี า่ ต้นน้านา่ น ส่งผลให้สถานศึกษามคี ุณภาพดงั น้ี  ดา้ นปริมาณ นักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยฟอง ในระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑–มัธยมศึกษาปีที่ ๓ ได้เข้าร่วมกิจกรรม ฐานการเรียนรู้ “รักษ์ป่าต้นน้าน่าน” เพื่อปลูกฝังจิตสานึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และ ส่ิงแวดล้อมในพื้นที่ต้นน้าน่าน บุคลากรในโรงเรียนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ ร่วมคดิ วางแผน ปฏิบตั ิ กากบั ตดิ ตาม ตรวจสอบประเมนิ ผล  ดา้ นคณุ ภาพ นกั เรยี นมีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม พัฒนาศักยภาพ ของตนเอง สามารถนาความร้ไู ปใชใ้ นชวี ิตประจาได้ มีจิตสานึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และ ส่ิงแวดล้อมเพ่ิมขึ้นร้อยละ ๘๕ นักเรียนร้อยละ ๙๐ มีความสุขกับการเรียนรู้ ผู้ปกครอง ชุมชน และ หนว่ ยงานอืน่ ๆ ใหค้ วามรว่ มมอื ในการอนุรกั ษ์และฟื้นฟูพื้นทป่ี ่าตน้ นา้ น่าน ปัญหาอุปสรรคและขอ้ เสนอแนะ  ปัญหาและอุปสรรค การศึกษาเกยี่ วกบั บริบทในท้องถิน่ โดยใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ ซ่ึงมีข้อมูลอีกมากมายท่ียังต้องศึกษาค้นคว้า ลงสู่บทเรียน ซ่ึงมีช่ือเรียกเป็นภาษาท้องถ่ิน (ลัวะ) ยากต่อการตีความหมาย รวมทั้งครูผู้สอนส่วนใหญ่

เป็นคนนอกพ้นื ทีจ่ งึ ตอ้ งศกึ ษาข้อมูลทาความเข้าใจให้มากขึ้นเพราะมีความแตกต่างทางด้านภาษา และ วัฒนธรรม  ขอ้ เสนอแนะ การจัดการเรียนรจู้ าเป็นต้องใช้ระยะเวลาเพ่ิมเติมข้อมูลใหม่ ๆ ลงสู่กิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และเชิญผู้รู้ ในท้องถิ่นหรอื ปราชญ์ชาวบา้ นและหน่วยงานราชการทเ่ี กี่ยวข้องมาร่วมถ่ายทอดความรใู้ หน้ ักเรยี น ทางโรงเรียนมีแนวทางในการปรับปรุงแหล่งเรียนรู้ สวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรียน และปรับปรุงศูนย์การ เรียนร้เู ศรษฐกจิ พอเพยี งให้มีความพร้อมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ “รักษ์ป่าต้นน้าน่าน” ให้ครอบคลุม นักเรียนและคนในชุมชน โดยจัดการเรียนรู้แบบต่อเน่ืองทุกปีการศึกษา ให้หน่วยงานเข้ามามีส่วนร่วม จดั กจิ กรรมใหม้ ีความหลากหลายและเหมาะสมกับบรบิ ทของโรงเรียนและชุมชน เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ เพ่ือให้นักเรียนเรียนรู้ได้อย่างมีความสุข ใกล้ชิดกับแหล่งเรียนรู้ ควบคู่กับการมีจิตสานึกตระหนักใน การอนุรักษ์ทรัพยากรปา่ ต้นน้านา่ นในลาดบั ตอ่ ไป

นางสาววนั ทนา สุฤทธ์ิ โรงเรียนบ้านบอ่ หยวก โรงเรียนบ้านบ่อหยวก ตั้งอยู่ที่อาเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน มีเขตบริการของโรงเรียน ๘ หมู่บ้าน ซึ่งมี สภาพภมู ปิ ระเทศส่วนใหญ่เป็นพ้ืนที่ป่าไม้และภูเขาสลับซับซ้อน มีแหล่งต้นกาเนิดแม่น้าท่ีสาคัญคือแม่น้า น่าน และแม่น้าว้า ดังน้ันโรงเรียนบ้านบ่อหยวกจึงให้ความสาคัญกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือสร้าง สานึกให้เด็กและเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ตามพระราชดาริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยาม- บรมราชกมุ ารี มาอย่างต่อเนอื่ ง ในปีการศึกษา ๒๕๖๐ โรงเรียนบ้านบ่อหยวกเข้าร่วม โครงการค่าย “เยาวชน...รักษ์พงไพร เฉลิม- พระเกียรติ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี๑” ซึ่งดาเนินการภายใต้ ความร่วมมือระหว่างมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิฯ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กรมพัฒนาท่ีดิน กรมส่งเสริมการเกษตร บริษัท ทรูคอร์ปปอเรช่ัน จากัด กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมหม่อนไหม องค์การสวนสัตว์ และสานักงานคณะกรรมการการศึกษา ขน้ั พื้นฐาน รวมทัง้ หมด ๑๒ หน่วยงาน โดยมวี ัตถปุ ระสงค์ดงั นี้ ๑. ให้เยาวชนได้ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่พระราชทานโครงการ พระราชดาริมากมาย ล้วนเพื่อประโยชนส์ ุขของประชาชนทง้ั สิน้ ๒. เยาวชนมีความเข้มแข็ง สามารถดูแลและพัฒนาตนเองได้ และมีศักยภาพในการเผชิญกับสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่จะเกิดข้ึนในอนาคตได้ อันเป็นแนวทางสู่ความม่ันคงและความย่ังยืน ตามพระราชดาริของ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั รชั กาลที่ ๙ ตามปรชั ญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ๓. เยาวชนได้เข้าใจประโยชน์ของทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ซึ่งเป็นรากฐานของประเทศ ที่ จะตอ้ งช่วยกันฟน้ื ฟูและรกั ษาใหม้ ่ันคงและยัง่ ยืน เพื่ออนาคตของตนเอง ลกู หลาน ตลอดจนถึงโลกนี้ ๔. เยาวชนได้รื้อฟ้ืนวิถีการดารงชีวิต วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท่ีดีงามของท้องถ่ิน มีความรู้และทักษะ พ้ืนฐานการเกษตรยง่ั ยนื ในการผลิตอาหารเพื่อการบริโภคและอาชีพในการดารงชีวิต เช่น การแปรรูป การเพาะขยายพนั ธุ์ ซง่ึ เป็นวิถีที่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน และรู้จักเสียสละ เพ่อื สว่ นรวม ๕. เยาวชนได้ปฏิบัติจริง เรียนรู้จากผู้เช่ียวชาญจริง ฝึกฝนทักษะท้ัง ๔ ด้าน คือ พุทธิศึกษา จริยศึกษา หัตถศึกษา และพลศึกษา ซ่ึงเป็นความรู้และทักษะที่นาไปใช้ในชีวิตจริง และถึงท่ีสุดสามารถพัฒนา ต่อไปได้ดว้ ยตนเอง โครงการคา่ ย “เยาวชน...รักษพ์ งไพร เฉลมิ พระเกยี รติ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยาม- บรมราชกุมารี” ปี ๒๕๖๐ จัดเป็นปีท่ี ๓ โดยรุ่นที่ ๑ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๓๑ มีนาคม–๒ เมษายน ๒๕๖๐ ณ ศูนย์เรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ตามแนวพระราชดาริ กรมป่าไม้ จังหวัดน่าน (ศูนย์ภูฟ้า ๑ http://www.rakpongprai.org/

พัฒนาอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี) คณะครู เข้ารว่ มอบรมเป็นครูแกนนาและร่วมเป็นวิทยากร และนานักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔-๖ จากโรงเรียน บ้านบ่อหยวกจานวน ๑๙ คนเข้าร่วมกิจกรรมร่วมกับนักเรียนจากโรงเรียนในโครงการตามพระราชดาริ สงั กัดสานักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาน่าน เขต ๒ หลังจากเข้าร่วมโครงการค่าย “เยาวชน...รักษ์พงไพร เฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระเทพ- รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี” แล้ว โรงเรียนบ้านบ่อหยวกได้จัดกิจกรรมต่อยอดช่ือ โครงการค่าย “เยาวชนรักษ์พงไพร ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมพัฒนา สู่การสร้างป่าสร้างรายได้”ระหว่างวันท่ี ๒๓-๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๐ ณ โรงเรยี นบา้ นบอ่ หยวก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมปลูกต้นกาแฟร่วมกันระหว่างครูและนักเรียน จานวน ๒๐๐ ต้น และมอบหมาย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ จัดตั้งชุมนุม “อนุรักษ์ทรัพยากร” จัดกิจกรรม การเรยี นการสอนในคาบชุมนุม และเชญิ วทิ ยากรมาอบรมใหค้ วามรูเ้ รอ่ื งกาแฟ ในปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ โรงเรียนไดด้ าเนินงานตอ่ โดยพัฒนาหลักสตู รการเรยี นรูส้ าระท้องถิ่นเร่ือง การผลิต กาแฟ สู่การสร้างป่าสร้างรายได้ ทั้งน้ีเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีจิตสานึกรักษ์ป่า ตระหนักถึงคุณค่าของ ทรพั ยากรปา่ ไม้ทีส่ ามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเอง ครอบครัว และชุมชนได้ เป็นการสร้างและพัฒนาแหล่ง เรียนรู้ ต่อยอดให้กับชุมชน ผู้ปกครอง โดยผ่านกระบวนการเรียนรู้ บอกเล่าถึงส่ิงที่เกิดขึ้นด้วยความ ภาคภูมิใจ ซึ่งทาให้ยืนยาวและย่ังยนื ตลอดไป

นางสาวชนติ า ศรเี รือง โรงเรยี นมัธยมพระราชทานเฉลมิ พระเกียรติ โรงเรียนมัธยมพระราชทานเฉลิมพระเกียรติ ต้ังอยู่ในอาเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน จากรายงาน สถานการณ์และคุณภาพอากาศประเทศไทย จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพ้ืนท่ีตาบลห้วยโก๋น อาเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๒ พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน (PM ๒.๕) มีค่า ๑๔๕ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m๓) ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อ สุขภาพ (กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ) ซ่ึงปัญหาดังกล่าวเกิดมาได้จากหลาย สาเหตุ เช่น การเผาป่าเพื่อเพ่ิมพื้นท่ีทางการเกษตร ชุมชนยังขาดความตระหนักในเรื่องการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และบางชุมชนยังยึดวิถีชุมชนแบบด้ังเดิมคือการเผา ทาลายป่า มากกวา่ ทีจ่ ะเรยี นรู้อยูร่ ว่ มกบั ป่าไม้ (สมั ภาษณ์นางบัวออน ทา้ วคาม ประชาชนหม่บู ้านห้วยโกน๋ , ๒๕๖๒) โรงเรียนมัธยมพระราชทานเฉลิมพระเกียรติได้ตระหนักถึงความสาคัญของปัญหาดังกล่าว จึงจัดตั้งกลุ่ม แกนนาเยาวชนจิตอาสาพารักษ์ป่าน่าน รุ่นท่ี ๒ เป็นตัวแทนในการขับเคลื่อนกิจกรรมรู้รักษ์อย่างย่ังยืน เพื่อให้นักเรียนมีจิตอาสาในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เพื่อให้นักเรียนแกนนา ถ่ายทอดความรู้และปลกุ จิตสานึกให้แกน่ กั เรียน เยาวชน และชุมชน ในเขตพน้ื ท่ีอาเภอเฉลิมพระเกียรติให้ เกิดความตระหนักในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนเป็นการสนองงานตามโครงการ พระราชดาริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ๑. เพ่ือพัฒนานักเรียนแกนนาเยาวชนจิตอาสาพารักษ์ป่าน่าน มีจิตอาสาในการอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมผ่านกจิ กรรมร้รู ักษอ์ ยา่ งยงั่ ยนื ๒. เพอื่ ให้นกั เรยี นแกนนาถา่ ยทอดองคค์ วามรู้และปลุกจิตสานึกด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มให้แกน่ กั เรยี น เยาวชน และชมุ ชนในอาเภอเฉลิมพระเกียรติ ๓. เพอื่ ให้ชมุ ชนตระหนักถึงความสาคญั ในการอนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ ม เชิงปรมิ าณ ๑. นักเรียนจานวน ๖๓ คน เข้ารับการพัฒนาเป็นแกนนาเยาวชนจิตอาสาพารักษ์ป่าน่าน เพ่ือเป็นกาลัง สาคัญในการขับเคลอ่ื นกจิ กรรมรู้รักษ์อย่างยั่งยืน

๒. นักเรียนจานวน ๖๓ คน สามารถขยายผลและถ่ายทอดองค์ความรู้และวิธีปฏิบัติด้านการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในชุมชนให้แก่นักเรียน เยาวชน และชุมชนในอาเภอเฉลิม- พระเกียรติ เชิงคณุ ภาพ ๑. นักเรียนตระหนักและเห็นความสาคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในชุมชน และสามารถถา่ ยทอดองคค์ วามรดู้ งั กลา่ วให้ผู้อ่นื ได้ ๒. โรงเรยี นและชุมชนมีเครอื ข่ายความรว่ มมอื ในการอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในชุมชน ที่มคี วามเขม้ แข็งและย่งั ยืน กิจกรรมรู้รักษ์อย่างยั่งยืน ใช้กระบวนการดาเนินงานตามรูปแบบ PDCAS เพ่ือให้เกิดการขับเคล่ือน กิจกรรมอย่างเป็นระบบและต่อเนอื่ ง ดงั นี้ ขัน้ ท่ี ๑ การวางแผน (PLAN) ผู้บริหาร คณะครูและนักเรียนแกนนา ร่วมกันวิเคราะห์สภาพปัญหาจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น สื่อ ออนไลน์ บทความทางวิชาการ และการสัมภาษณ์ผู้นาชุมชน นาข้อมูลที่ได้มาสังเคราะห์จัดทาแผนการ ดาเนินกิจกรรมท่ีช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ในพ้ืนท่ีอาเภอเฉลิม - พระเกียรติ ขน้ั ท่ี ๒ การดาเนนิ งาน (DO) กจิ กรรมรรู้ กั ษอ์ ยา่ งยั่งยนื แบง่ ได้ ๓ ด้าน ดงั นี้  ด้านท่ี ๑ ปลกุ นักเรียนแกนนาเยาวชนจิตอาสาพารักษ์ป่าน่าน จานวน ๖๓ คน ประชาสัมพันธ์เชิญชวนและรับสมัครให้ นักเรียนในโรงเรียนเข้าร่วมกลุ่มแกนนาเยาวชนจิตอาสาพารักษ์ป่าน่าน ปรากฏว่ามีนักเรียนมาสมัครเข้า ร่วมเป็นแกนนาเยาวชนจติ อาสาพารกั ษ์ปา่ นา่ น จานวน ๑๔ คน รวมเปน็ ๗๗ คน นักเรียนแกนนาเยาวชนจิตอาสาพารักษ์ป่าน่าน จานวน ๗๗ คน และครู ลงพ้ืนท่ีศึกษาแหล่งเรียนรู้ทาง ธรรมชาติภายในสวนป่าของโรงเรียน และหน่วยจัดการต้นน้า น้าปาด โดยนักเรียนทุกคนบันทึกความรู้ ลงในแบบบันทึกการศึกษาแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติและนาความรู้ท่ีได้มาอภิปรายร่วมกันเก่ียวกับการ อนุรกั ษ์ปา่ และนา้ ในชุมชนของตนเอง นักเรยี นแกนนาเยาวชนจิตอาสาพารกั ษ์ปา่ นา่ น จานวน ๙ คน และครู ได้ร่วมกันจัดทาเพลง “รักษ์นะ ป่า น่าน” และมิวสิกวิดีโอขึ้น เพ่ือถ่ายทอดจิตสานึกด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เนื้อหาของเพลงจะกล่าวถึงส่งิ ท่ีนักเรยี นกล่มุ แกนนาเยาวชนจิตอาสาพารักษป์ า่ น่านต้องการส่ือสารออกมา ใหผ้ ูท้ ีไ่ ด้รับชมและรบั ฟังได้เลง็ เห็นผลกระทบจากการทาลายป่าไม้และต้นน้า และการอนุรักษ์ที่แท้จริงน้ัน ควรเริ่มจากการปลูกฝังจิตสานึกการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมให้กับตัวเองก่อน ซ่ึงใน

ฐานะท่ีพวกเขาเป็นเยาวชนคนหน่ึงจึงได้รวมกลุ่มกันจัดตั้งกลุ่มแกนนาเยาวชนจิตอาสาพารักษ์ป่าน่านขึ้น เพอ่ื เป็นส่วนช่วยในการอนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม ผลงานดังกลา่ วมีการนาไปเผยแพร่ให้ แต่ละหมู่บ้านในอาเภอเฉลิมพระเกียรติเปิดเป็นเสียงตามสาย นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่ผ่านช่องทาง ออนไลน์ www.youtube.com  ดา้ นท่ี ๒ ปลูก นักเรียนแกนนาเยาวชนจิตอาสาพารักษ์ป่าน่าน จานวน ๗๗ คน ผู้บริหาร คณะครูและนักเรียนทุกคนใน โรงเรียนมัธยมพระราชทานเฉลิมพระเกียรติ ร่วมกันปลูกต้นไม้ในโรงเรียนคนละ ๑ ต้น และดูแล สังเกต การเจริญเติบโต โดยบนั ทึกการเปลีย่ นแปลงลงในสมุดบันทึก ๑ คน ๑ ต้น เพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสานึกใน การรูจ้ กั รักษาและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม ครูและนักเรียนแกนนาเยาวชนจิตอาสาพารักษ์ป่าน่าน จานวน ๑๐ คน ลงพ้ืนท่ีสารวจต้นไม้ที่ได้นาไป ปลูกร่วมกับชุมชนทั้งหมด ๗ หมู่บ้าน คือ หมู่บ้านปางหก หมู่บ้านปิน หมู่บ้านสบปืน หมู่บ้านห้วยดง หมู่บ้านใหม่ไชยธงรัตน์ หมู่บ้านห้วยโก๋น และหมู่บ้านห้วยทรายขาว หลังจากทาการบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการจัดการอนุรักษ์ป่าต้นน้าระหว่างโรงเรียนและชุมชน ในกิจกรรม ร้อยรักษ์สู่ชุมชม ในปีการศึกษา ๒๕๖๐ จากน้ันนาผลที่ได้มาอภิปรายร่วมกันเกี่ยวกับต้นไม้และสภาพ พ้นื ทีท่ ่ปี ลกู  ด้านที่ ๓ ปกป้อง นักเรียนแกนนาเยาวชนจิตอาสาพารักษ์ป่าน่าน จานวน ๗๗ คน ผู้บริหาร คณะครูและนักเรียนทุกคนใน โรงเรียนมัธยมพระราชทานเฉลิมพระเกียรติ ร่วมกันลงพ้ืนท่ีทาแนวกันไฟรอบบริเวณโรงเรียนมัธยม พระราชทานเฉลิมพระเกยี รติ เพื่อป้องกนั ไมใ่ ห้ไฟปา่ ลุกลามเขา้ ไปในพื้นท่ปี ่าของโรงเรยี น นักเรียนแกนนาเยาวชนจิตอาสาพารักษ์ป่าน่าน จานวน ๗๗ คน ผู้บริหาร คณะครูและนักเรียนทุกคนใน โรงเรียนมัธยมพระราชทานเฉลิมพระเกียรติ ร่วมกันปลูกหญ้าแฝกบริเวณอ่างเก็บน้าโรงเรียนมัธยม พระราชทานเฉลมิ พระเกียรติ เพ่อื ป้องกนั การพังทลายของหน้าดนิ นักเรียนแกนนาเยาวชนจิตอาสาพารักษ์ป่าน่าน จานวน ๖ คน และครู ได้ร่วมกันจัดทาส่ือออนไลน์เร่ือง ต๋าว เพื่อใช้เป็นสื่อในการเรียนรู้ของกระบวนการอัด (บีบ) ต๋าว ซ่ึงเป็นพืชประจาถิ่นของอาเภอเฉลิม- พระเกยี รติ มีการเผยแพรผ่ า่ นชอ่ งทางออนไลน์ www.youtube.com ข้นั ที่ ๓ การประเมนิ ผลการดาเนินงาน (CHECK) จากการดาเนินกิจกรรมต้นกล้าเยาวชนสู่ป่าชุมชนที่ย่ังยืนแบ่งการประเมินออกเป็น ๒ รูปแบบ คือ การ ประเมินกิจกรรมภายในโรงเรียน โดยผู้บริหาร และคณะกรรมการฝ่ายบริหารของโรงเรียน และการ ประเมนิ กจิ กรรมภายนอกโรงเรียน โดยการสมั ภาษณผ์ นู้ าและชาวบา้ นในชุมชนทีเ่ ขา้ รว่ มกจิ กรรม ขัน้ ท่ี ๔ การรายงานผลการดาเนินงาน (ACTION) นักเรียนแกนนาเยาวชนจิตอาสาพารักษ์ป่าน่านรายงานผลการดาเนินกิจกรรมรู้รักษ์อย่างยั่งยืน ต่อคณะ ครู ผูบ้ รหิ าร และนาขอ้ เสนอแนะทไ่ี ด้มาปรับปรุงพฒั นากระบวนการดาเนนิ งานในปีตอ่ ไป

ข้นั ท่ี ๕ การเผยแพร่ผลงาน (SHARE) ๑) เผยแพร่ข้อมูลผ่านทางเว็ปไซต์โรงเรียน www.mpcs.ac.th และ Facebook โรงเรียนมัธยม พระราชทานเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ๕๕๑๓๐ ๒) ประชาสัมพันธ์กิจกรรมและเพลง “รักษ์นะ ป่า น่าน” ผ่านทางหอกระจายข่าวหมู่บ้าน/ชุมชน ตาบลห้วยโก๋นและตาบลขุนน่าน อาเภอเฉลิมพระเกียรติ ๓) นาเสนอผลงานในงานเปดิ บ้านวิชาการโรงเรยี นมัธยมพระราชทานเฉลิมพระเกียรติ ประจาปีการศึกษา ๒๕๖๑ และ ๔) เผยแพร่ผา่ นชอ่ งทางออนไลน์ www.youtube.com เชงิ ปรมิ าณ ๑. นักเรียนแกนนาเยาวชนจิตอาสาพารักษ์ป่าน่าน รุ่นท่ี ๒ จานวน ๖๓ คน รุ่นท่ี ๓ จานวน ๑๔ คน รวมจานวน ๗๗ คน เขา้ รับการพัฒนาเป็นแกนนาเยาวชนจิตอาสาพารกั ษป์ ่านา่ น เพ่อื เป็นกาลังสาคัญ ในการขับเคล่อื นกิจกรรมรรู้ ักษอ์ ยา่ งยง่ั ยืน ๒. นักเรียนจานวน ๗๗ คน สามารถขยายผลและถ่ายทอดองค์ความรู้และวิธีปฏิบัติด้านการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชนให้แก่นักเรียน เยาวชน และชุมชนในอาเภอเฉลิม- พระเกียรติ เชงิ คณุ ภาพ ๑. นักเรียนตระหนักและเห็นความสาคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในชุมชน และสามารถถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ดงั กลา่ วสู่ผู้อ่ืนได้ ๒. โรงเรยี นและชมุ ชนมเี ครือขา่ ยความร่วมมอื ในการอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในชุมชน ทีม่ ีความเขม้ แขง็ และยัง่ ยนื ๑. นักเรียนรู้และเข้าใจการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ฝึกการทางาน ร่วมกับผู้อ่ืนเพื่อให้เกิดความสามัคคี สามารถเผยแพร่องค์ความรู้และวิธีปฏิบัติด้านการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ มผา่ นมวิ สิกวดี ิโอเพลง “รกั ษ์นะ ป่าน่าน” เพ่ือให้เกิดแรงกระตุ้นใน การช่วยกนั อนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม ๒. ครูและบุคลากร สนองงานตามพระราชดาริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้าน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีการทางานร่วมกันเป็นทีม เกิดความสามัคคี สามารถดาเนนิ งานตามรูปแบบ PDCAS และเผยแพรผ่ ลงานออกสู่สาธารณะได้ ๓. โรงเรียนได้รับการสนับสนุนจากชุมนุม หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ทาให้เกิดความร่วมมือในการ อนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม ๔. ชุมชนมีองค์ความรู้และวิธีปฏิบัติในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทาให้เกิดความ ร่วมมือระหว่างผู้นาหมู่บ้านและชาวบ้านในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ซ่ึงเป็น การสนับสนุนใหช้ ุมชนมคี วามเข้มแข็ง

๑. ผู้บริหารให้การสนับสนุนการดาเนินงานกิจกรรมรู้รักษ์อย่างยั่งยืนอย่างเต็มท่ี และสนับสนุนการ ประสานความรว่ มมือระหวา่ งโรงเรยี นและชมุ ชนทมี่ สี ่วนเก่ยี วข้อง ๒. ครูและบุคลากรในโรงเรียนให้ความร่วมมือในการดาเนินกิจกรรมรู้รักษ์อย่างยั่งยืน โดยให้องค์ความรู้ และวิธีปฏิบัติด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และควบคุมดูแลนักเรียนในการ ลงพนื้ ท่ดี าเนินกิจกรรมรรู้ กั ษอ์ ย่างย่งั ยนื ทั้งในโรงเรยี นและชมุ ชนอยา่ งใกล้ชิด ๓. นักเรียนต้องตระหนักและเห็นความสาคัญ มีจิตอาสา เป็นแกนนาในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม เชิญชวนชุมชนให้เข้าร่วมกิจกรรมรู้รักษ์อย่างยั่งยืน เพ่ือเผยแพร่แนวความคิดและ ความรดู้ ้านการอนรุ ักษท์ รพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มเกย่ี วกับการปลูกป่าและรักษาต้นนา้ นา่ น ๔. ชุมชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติด้วยการเป็นสื่อกลางในการช่วยประชาสัมพันธ์ ผลงานของนกั เรียนในเพลง “รกั ษ์นะ ป่านา่ น” และให้ความรู้ในเรื่องพืชประจาถ่นิ ๕. หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตลอดจนผู้ท่ีเก่ียวข้องให้ความร่วมมือ ส่งเสริม สนับสนุนกล้าไม้ต่าง ๆ และหญา้ แฝก เพื่อใชด้ าเนนิ งานตามกิจกรรมรู้รักษ์อยา่ งย่ังยืน ๑. เชิญชวนนักเรียนทกุ คนภายในโรงเรียนเข้าร่วมกลุ่มแกนนาเยาวชนจิตอาสาพารักษ์ป่าน่านเพ่ือดาเนิน กิจกรรมตอ่ ไปในอนาคต ๒. เชญิ วิทยากรในชุมชนมาใหค้ วามรู้เกี่ยวกับการปลกู และการแปรรูปพืชประจาถ่ินให้แก่นักเรียนภายใน โรงเรียน ๓. เพาะต้นกล้าไม้เพอ่ื แจกให้ชมุ ชนนาไปปลูก สานักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี. (๒๕๕๔). การประชุมวิชาการ “แนวปฏิบัติท่ีดีในการพัฒนาเด็กและเยาวชนตามพระราชดาริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี” กรงุ เทพฯ: พี.เอ.ลฟี วิ่ง จากดั . สานักอนรุ กั ษ์และจดั การตน้ นา้ . (๒๕๕๙). คู่มอื การเพาะกลา้ ไมท้ ้องถิ่นเพื่อใช้ปลูกเพื่อฟื้นฟูป่าต้นน้า ลาธาร ส่วนศกึ ษาการพัฒนาการอนุรักษ์ต้นน้า สานักอนุรักษ์และจัดการต้นน้า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพนั ธ์ุพชื . กรงุ เทพฯ: สานกั อนรุ กั ษ์และจัดการตน้ นา้ บัวออน ทา้ วคาม, ประชาชนหมบู่ ้านห้วยโกน๋ . (๒๕๖๒). สัมภาษณ์. ๑๗ มนี าคม ๒๕๖๒ ตารางแสดงคุณภาพอากาศ. กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง : กรมควบคุมมลพิษ. ออนไลน์. สืบค้น จากอนิ เตอร์เน็ต, http://www.pcd.go.th/index.cfm, ค้นเมื่อ ๑ เมษายน ๒๕๖๒



นางสาวจงรักษ์ ใหมค่ า โรงเรยี นศรัทธาศลิ าเพชรรงั สรรค์ โรงเรียนศรัทธาศิลาเพชรรังสรรค์ริเริ่มทาโครงการปลูกจิตสานึกรักษ์ป่าด้วยมหิงสาสายสืบ มาตั้งแต่ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ ด้วยการน้อมนาแนวพระราชดาริในการอนุรักษ์ป่าน่านมาดาเนินการ โดยมี วัตถุประสงค์ให้เยาวชนเห็นคุณค่า ความสาคัญของทรัพยากรธรรมชาติ และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ทรัพยากรปา่ ไมแ้ ละส่งิ แวดล้อมในท้องถิ่น พร้อม ๆ กับพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะ ทางสงั คม การช้บี ่งปัญหา และการทางานรว่ มกับผู้อ่นื มหิงสาสายสืบ เป็นกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ประกอบด้วย ๔ ข้ันตอน คือ (๑) “ค้นหา” พื้นท่ี ธรรมชาติท่ีกลุ่มมีความสนใจ (๒) ลงมือ “สารวจ” พื้นที่น้ันอย่างต่อเนื่องและสม่าเสมอ (๓) “อนุรักษ์” พ้ืนท่ีดังกล่าวด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่กลุ่มสามารถทาได้ (๔) นาประสบการณ์ที่กลุ่มได้รับ “แบ่งปัน” หรือ เผยแพร่ให้บุคคลอ่ืนได้รับรู้และเห็นถึงประโยชน์ความสาคัญของพื้นที่นั้นต่อไป การทากิจกรรมใน ปีการศึกษา ๒๕๖๐ ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันของนักเรียนได้เป็นกลุ่มกิจกรรม ๓ กลุ่มคือ กลุ่มมหิงสา@ น่านนคร โครงการกิ้งกือ..แสนตีน...สหัสบาท..ลูกก๋งพระอินทร์ กลุ่มมหิงสา@ปัว โครงการมหิงสาโล๊ะหา มดส้ม และกลุ่มพฤกษา@น่าน โครงการเห็ดราน่ารู้ กลุ่มกิจกรรมดาเนินกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่องใน ปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ และไดร้ ับประสบการณ์พรอ้ มท่ีจะแบง่ ปันและเผยแพร่ ดงั รายงานต่อไปน้ี ขัน้ ที่ ๑ คน้ หาพ้ืนทธ่ี รรมชาติ ด้วยสภาพแวดล้อมของโรงเรียนที่ร่มรื่น มีพืชพรรณไม้หลากหลายชนิด ทั้งไม้ดอกไม้ประดับท่ีมีสีสัน สวยงาม ให้รม่ เงา ใหอ้ อกซเิ จน ให้อากาศท่ีเย็นสบาย และให้ความสดช่ืน มีไม้ยืนต้นหลากหลายชนิดตาม บริเวณตา่ ง ๆ มีนกนานาชนิดอาศยั อยู่บนต้นไม้และกนิ ผลของตน้ ไมเ้ หล่านั้นเป็นอาหาร บริเวณสวนป่าหน้าโรงเรียนมีต้นมะขาม ต้นสัก ต้นบุนนาค ต้นสัตบรรณ ต้นไทรย้อยใบแหลม ต้นปาล์ม ขนนก ต้นพิกุล ต้นพะยอม ต้นลีลาวดี รอบอาคารพญาภูคา มีต้นประดู่ ต้นนนทรี ต้นกระถินณรงค์ ต้น มะคา่ โมง ตน้ หมาก ตน้ ปาลม์ ตน้ ไทรยอ้ ยใบแหลม ตน้ ไทรย้อยใบดา่ ง ต้นสนมงั กร ตน้ สมอพเิ ภก สวนป่าหลังอาคารวิทยาศาสตร์มีต้นกระบก ต้นเปือย ต้นประดู่ ต้นมะค่า ต้นคอแลน ต้นเงาะป่า ต้นตะเคยี น ตน้ ขี้เหล็ก ต้นราชพฤกษ์ จากการสารวจบริเวณเหล่านี้พบว่า มีการทับถมของใบไม้ก่ิงไม้แห้งเป็นจานวนมาก เม่ือฝนตกทาให้ใบไม้ ก่ิงไมเ้ หล่าน้ันผุพงั และยอ่ ยสลาย และจะมีเห็ดราข้นึ อยจู่ านวนมาก จากการคน้ หาพื้นที่ธรรมชาติในบริเวณ พ้ืนท่ีต่าง ๆ ของโรงเรียน กลุ่มพฤกษา@น่านจึงเลือกพ้ืนที่ในการศึกษาค้นหาเห็ดราน่ารู้ดังน้ีคือ บริเวณ สวนปา่ หน้าโรงเรยี น บริเวณหลังอาคารพญาภคู า หนา้ อาคารวทิ ยาศาสตร์ สวนปา่ หลงั อาคารวิทยาศาสตร์

ข้นั ที่ ๒ สารวจ เม่ือสารวจพ้ืนที่คัดเลือกพบว่า บริเวณท่ีพบเห็ดรามากท่ีสุดเรียงตามลาดับได้แก่ สวนป่าหลังอาคาร วิทยาศาสตร์ สวนป่าหน้าโรงเรียน รอบอาคารพญาภูคา และหน้าอาคารวิทยาศาสตร์ บริเวณเหล่านี้มี ต้นไม้ขึ้นอยู่หนาแน่น ทาให้มีการทับถมของใบไม้ตามบริเวณใต้ต้นไม้จนเป็นสีดา มีซากพืชเศษใบไม้ที่ถูก ย่อยสลายเป็นองค์ประกอบของดินเป็นส่วนใหญ่ จึงพบเห็ดราหลากหลายชนิด โดยเฉพาะราที่เกิดรูปร่าง เป็นดอก คือเหด็ ท้ังเหด็ ทร่ี ับประทานไดแ้ ละเห็ดท่รี ับประทานไม่ได้ ในการสารวจจะพบเห็ดมากในช่วงฤดู ฝน เพราะว่ามีอากาศร้อนชื้น เป็นสภาพแวดล้อมท่ีเหมาะแก่การเจริญเติบโต นอกจากน้ันการเจริญของ เส้นใยและดอกเห็ดมีปัจจัยทางกายภาพท่ีสาคัญ ได้แก่ อุณหภูมิ ความชื้น อากาศ ปริมาณแสงแดด และ ความเปน็ กรดดา่ งของดนิ ขณะท่ีทาการสารวจวัดอณุ หภมู บิ ริเวณสวนป่าหลังอาคารวิทยาศาสตร์ที่พบเห็ด มากที่สุดพบว่า บริเวณใดท่ีเกิดเส้นใยสีขาวของเห็ดจะมีอุณหภูมิสูง ๒๓-๒๗ °c เช่นบริเวณที่มีการทับถม ของใบไมแ้ หง้ หนา ๆ เม่ือเอามือไปสัมผสั ใต้ใบไมจ้ ะร้อน สว่ นบริเวณทเ่ี กิดดอกเห็ดอุณหภูมิจะต่าลงเล็กน้อย การทดี่ อกเหด็ จะเจรญิ เติบโตได้ความชื้นเป็นปัจจยั ทีส่ าคัญอย่างย่งิ ระยะเวลาที่กลมุ่ พฤกษา@น่าน ทาการ สารวจเหด็ เป็นช่วงฤดูฝน จึงทาให้บริเวณท่ีสารวจมีความช้ืนสูง เหมาะสาหรับการเกิดเส้นใยและดอกเห็ด มาก ทาให้พบเห็ดที่รับประทานได้ปริมาณมาก คือเห็ดน้าข้าว เห็ดน้าหมากหรือเห็ดหน้าม่อย เห็ดค่า แสงมีความสาคัญต่อการเจริญเติบโตของเห็ดเช่นกัน จากการสารวจเห็ด เส้นใยของเห็ดต้องการแสงน้อย ดินบริเวณท่ีพบเห็ดรา จากการตรวจสอบค่าความเป็นกรด-ด่างของดินด้วยกระดาษลิตมัสพบว่า การ เจริญเติบโตของเห็ดราดินอยู่ในสภาพเป็นกลาง ซึ่งเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเห็ดราที่สารวจพบเห็ด ตอ้ งการออกซเิ จนคอ่ นข้างมากในการเจรญิ เตบิ โต โดยเฉพาะอย่างย่ิงเวลาเกิดดอก จากการสารวจเห็ดราในบริเวณโรงเรียน พบเห็ดราอยู่ ๒ ไฟลัม คือ Ascomycota และ Basidiomycota ราในไฟลัม Ascomycota ที่พบ คือ ราท่ีอยู่ร่วมกับสาหร่ายแบบภาวะพึ่งพากัน (Mutualism) คือ ไลเคน (Lichen) ท่ีพบว่ามีการเจริญเติบโตอยู่บนต้นไม้ชนิดต่าง ๆ ได้แก่ ต้นสัตบรรณ ต้นหมาก ต้นสน ต้นไทรย้อย ใบดา่ ง ตน้ กระบก ตน้ มะขาม ต้นบุนนาค ต้นสมอพเิ ภก ต้นประดู่ ตน้ มะม่วง ต้นสารภี ไฟลัม Basidiomycota คือเห็ด (Mushroom) เป็นสิ่งมีชีวิตท่ีไม่มีคลอโรฟิลล์ ไม่สามารถสังเคราะห์แสง และไม่สามารถสร้างอาหารได้ด้วยตนเอง ไม่มีระบบประสาทและอวัยวะรับสัมผัส ไม่มีอวัยวะสาหรับการ เคล่ือนไหว เห็ดที่อยู่ในไฟลัมน้ีสารวจพบในโรงเรียนศรัทธาศิลาเพชรรังสรรค์ท้ังหมด ๓๒ ชนิด โดย สามารถจาแนกและระบุชนิดของเห็ดได้จานวน ๒๙ ชนิด แบ่งเป็นเห็ดท่ีรับประทานได้จานวน ๑๒ ชนิด ได้แก่ เห็ดนา้ ขา้ ว เหด็ นา้ หมาก เหด็ ถ่าน เห็ดหาด เหด็ หน้าม่วง เห็ดวุ้นพายทอง เห็ดดาวดินเล็ก เห็ดหูหนู เหด็ ค่า เหด็ แครง เหด็ โคน เห็ดด่าน และเห็ดท่ีรับประทานไม่ได้ ๑๘ ชนิด ได้แก่ เห็ดไข่พอกขาว เห็ดก้าน ขนรุงรัง เห็ดหิ้งเกือกม้ารวงผึ้ง เห็ดอบเชย เห็ดกระด้าง Genus Lepiotasp. Genus Agrocybesp. Genus Lacariasp Marasmius sp. Russula sp. Chorinus sp. Genus Xylariasp. Genus Favolussp Marasmiellus sp. Earliellascabrosa. Genus Favolus sp. Coriolopsis sp. Doldinia sp. Ceratiomyxy Fruticulosa. และไม่สามารถจาแนกได้ ๒ ชนิด เห็ดราทาหน้าที่เป็น “ผู้ย่อยสลาย” (Decomposer) ในระบบนิเวศที่ช่วยย่อยใบไม้แห้ง ต้นไม้ท่ีตายแล้ว จนกลายเป็นปุ๋ย นอกจากน้ี “เห็ดรา” ยังมีความพิเศษอีกคือ สามารถจะสร้างและทาหน้าท่ีเป็น “ถังเก็บ ไนโตรเจน” (Nitrogen Bank) ซ่ึงไนโตรเจนเป็นธาตุอาหารท่ีต้นไม้ต้องการ ดังนั้นต้นไม้จะสามารถซึมซับ

ธาตุไนโตรเจนจากซากท่ีตายแล้ว และบนต้นไม้ยังมีส่ิงมีชีวิตอ่ืน ๆ อีกจานวนมากท่ีอาศัยอยู่ เช่น นก เเมลงและสตั วพ์ วกนัน้ ก็จะกนิ เหด็ เปน็ อาหารรวมถงึ มนุษยด์ ้วย ระบบนิเวศบริเวณต่าง ๆ ของโรงเรียนศรัทธาศิลาเพชรรังสรรค์ จากการสารวจทาให้พบว่า มีเห็ดรา หลากหลายชนิดท่ีมบี ทบาทสาคัญทาหน้าท่ีเป็นผ้ยู ่อยสลายทาให้ซากใบ ก่ิงไม้แห้ง และขอนไม้ค่อย ๆ เกิด การเป่ือยหรือผุ จนกลายเป็นแร่ธาตุ ทาให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ และเป็นแหล่งอาหารที่สาคัญของพืช ตน้ ไม้ตา่ ง ๆ ถา้ ไมม่ ีเหด็ ราทาหน้าที่สาคัญนี้ ซากส่ิงมีชีวิตจะกองทับถมกันมากมายจนเต็มล้นไปทุกท่ี และ ไม่เกิดการหมุนเวียนของธาตุอาหาร ผู้ผลิตในระบบนิเวศ คือพืช และผู้บริโภค คือสัตว์ทั้งหลาย รวมถึง มนุษย์ด้วยกจ็ ะมีชวี ติ อยูไ่ มไ่ ด้ ภาวะพ่ึงพากัน (Mutualism) เป็นความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตที่ท้ังสองฝ่ายต่างได้รับประโยชน์ร่วมกันเมื่อ อาศัยอยู่ด้วยกันเท่านั้น แต่เม่ือท้ังสองฝ่ายแยกตัวออกจากกันก็ไม่สามารถดารงชีวิตอยู่ได้ เช่น ไลเคน เป็นการดารงชีวิตระหว่างรากับสาหร่าย โดยสาหร่ายสร้างอาหารได้เองด้วยการสังเคราะห์แสง แต่ต้อง อาศัยความช้ืนจากราคือน้าท่ีจะใช้ในสังเคราะห์แสง ส่วนราก็อาศัยดูดอาหารท่ีสาหร่ายสร้างขึ้นและให้ ความชื้นกับสาหร่าย ทั้งราและสาหร่ายจึงเป็นส่ิงมีชีวิตท่ีท้ังสองฝ่ายจาเป็นต้องพึ่งพาอาศัยซ่ึงกันและกัน เพ่ือความอยู่รอด ไม่สามารถแยกจากกันได้ เน่ืองจากฝ่ายหน่ึงขาดอาหาร อีกฝ่ายหนึ่งขาดความช้ืน จาก การสารวจราในบรเิ วณโรงเรียน พบความสัมพันธ์ในภาวะแบบนี้ได้อีก จากส่ิงมีชีวิตอื่นคือปลวกซ่ึงภายใน ลาไสป้ ลวกจะมโี ปรโตซัว ต่างกไ็ ด้ประโยชนซ์ งึ่ กนั และกนั ข้นั ท่ี ๓ อนุรักษ์ ดาเนนิ การเผยแพร่และใหค้ วามรู้เก่ียวกับเห็ดรากับเพื่อนนักเรียนในห้องเรียน ในโรงเรียนด้วยการจัดป้าย นิเทศ เสียงตามสาย เกี่ยวกับชนิดของเห็ดท่ีพบในสวนป่าหลังอาคารวิทยาศาสตร์ มีเห็ดท่ีรับประทานได้ คือ เห็ดด่าน เห็ดน้าข้าว เห็ดเผาะ (เห็ดถอบ) เห็ดน้าหมาก เห็ดหน้าม่วง เห็ดหาด เห็ดนอง พบที่สวนป่า หน้าโรงเรียน คือเห็ดโคนปลวกแหลม หรือเห็ดโคนปลวกจิก พบท่ีหน้าอาคารวิทยาศาสตร์ คือเห็ดค่า เหด็ แกน้ เห็ดหหู นู แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ความรเู้ ก่ยี วกบั การจาแนกเห็ดรบั ประทานและเห็ดพิษกับผู้ปกครอง ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีความรู้เกี่ยวกับเห็ดผ่านวิถีชีวิตในครอบครัว การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ การเกิดของเห็ดท่ีมีความสัมพันธ์กับป่าไม้แต่ละชนิด ร่วมกิจกรรมการปลูกต้นไม้ร่วมกับโรงเรียนและ ชุมชน และรณรงค์ให้ความรู้การเก็บเห็ดให้ถูกวิธี เพื่อท่ีจะทาให้เห็ดมีการแพร่และการกระจายพันธุ์ของ เห็ด ร่วมอนุรักษ์ป่า และสัตว์ป่า โดยการรณรงค์ให้เพื่อนนักเรียนในโรงเรียนได้มีความรู้ความเข้าใจ และ เกดิ ความตระหนักในเรื่องการไมต่ ัดไม้ทาลายปา่ ท่เี ป็นของสาธารณะ ข้นั ท่ี ๔ แบ่งปนั กลุ่มพฤกษา@น่าน ได้แบ่งปันโครงการเห็ดราน่ารู้ เก่ียวกับชนิดของเห็ดราคือ เห็ดท่ีรับประทานได้และ เห็ดที่รับประทานไม่ได้ โครงสร้างและวงชีวิตของเห็ด การจาแนกเห็ดพิษ บทบาทของเห็ดในระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ของเห็ดกับสิ่งมีชีวิตอ่ืนในระบบนิเวศ การจาแนกเห็ดและรา ประโยชน์และโทษของเห็ด อาหารจากเมนูเห็ด ด้วยรูปแบบดังต่อไปน้ี เผยแพร่ผ่านเสียงตามสายของโรงเรียน จัดป้ายนิเทศ และ เผยแพร่ใน Facebook สร้างเพจขึน้ ช่ือว่ามหิงสาสายสืบเหด็ ราน่ารู้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook