Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปั๊บผะหญา ล้านนาสร้างสุขภาวะ

ปั๊บผะหญา ล้านนาสร้างสุขภาวะ

Published by E-book Prasamut chedi District Public Library, 2020-01-05 22:29:35

Description: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
หนังสือ,เอกสาร,บทความนี้นำมาเผยแพร่เพื่อการศึกษาเท่านั้น

Search

Read the Text Version

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ การบริหารจัดการขยะในชุมชน พ้ืนท่ี: เทศบาลตําบลแมแรง อําเภอปาซาง จังหวัดลําพูน วิทยากร: นางจิราภรณ เสวะกะ ตําแหนง: ผู้อํานวยการกองสาธารณสุขและส่ิงแวดล้อม เทศบาลตําบลแมแรง เบอรโทรศัพท: ๐๘๖-๙๒๐-๙๘๒๘ ๒. ขอ้ มลู พ้นื ฐานของพื้นที่ บา้ นป่ าบุก เดิมเป็นส่วนหน่ึงของหมู่ ๓ บา้ นต้นผ้ึง จนเม่ือปี ๒๕๑๓ แยกออกมาเป็น หมูท่ ี่ ๑๐ บา้ นป่ าบุก ทนี่ ีเ่ ป็นทีต่ งั้ ของชุมชนไทล้อื ซ่ึงอพยพมาจากแควน้ สิบสองปั นนา แตก่ อ่ น บริเวณนี้เป็นป่ า มีต้นบุกข้ึนหนาแนน่ จึงได้ตัง้ ช่ือหมูบ่ า้ นว่า “บา้ นป่ าบุก” กลายมาเป็นช่ือของ ต�าบล ส�าหรับลกั ษณะภมู ิประเทศ ตัง้ อยทู่ างใตข้ องแมน่ า ปิง เป็นพ้ืนทีร่ าบลมุ่ ไมม่ ีป่ าไมแ้ ละภเู ขา ลักษณะดนิ เป็นดนิ ร่วนปนทราย มีเพียงคลองไหลตามสวน ชาวบา้ นเรยี กวา่ “เหมือง” สว่ นใหญ่ ปลูกล�าไยและไมอ้ ่นื ๆ บา้ งประปราย โดยมีประชากรทงั้ หมด ๓๘๕ คน ๙๐ ครัวเรอื น ๓. ที่มา ขอ้ มลู ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง แนวคิดเร่อื ง “ป่ าบกุ ไมท่ ิง้ ไมเ่ ผา บรรเทาโลกร้อน” เกิดจากการร่วมมือของคนในชมุ ชน ทีร่ ่วมกนั จดั การขยะทกุ ครัวเรือน โดยยอ้ นกลบั ไปเม่อื ปี ๒๕๔๘ พบวา่ โรคไขเ้ ลอื ดออกระบาดใน พ้ืนที่ เน่ืองจากทีน่ ีเ่ ป็นแหลง่ เพาะพันธุย์ ุงจ�านวนมาก เทศบาลต�าบลแมแ่ รงจึงไดจ้ ัดท�าโครงการ หมูบ่ า้ นนา่ อยูช่ ุมชนนา่ มอง โดยมีกิจกรรมการประกวดหมูบ่ า้ นทีม่ ีการจัดการสภาพแวดล้อมให้ นา่ อยู่ เป็นระเบียบ สะอาด และลดปั จจัยเสย่ี งทีท่ �าให้เกิดโรค ซ่ึงได้รับความร่วมมือทีด่ ีจากทุก ชมุ ชน สามารถขยายผลจนเกดิ เป็นโครงการชมุ ชนสขุ ภาพดใี นปีถดั มา ตอ่ มาผใู้ หญบ่ า้ นหมทู่ ี่ ๑๐ ไดเ้ ลง็ เหน็ วา่ ปรมิ าณขยะเพมิ่ อยา่ งตอ่ เน่อื ง โดยเฉพาะช่วงทมี่ งี านประเพณหี รอื กจิ กรรมสา� คญั เช่น วันข้ึนบา้ นใหม่ งานแตง่ งาน หรืองานศพ และคนในชุมชนเองก็ไมเ่ คยแยกขยะ จึงมีแนวคิดทีจ่ ะ กระตุ้นให้ประชาชนหันมาสนใจเร่ืองนี้อย่างจริงจัง เพราะถ้าไม่รีบจัดการจะส่งผลกระทบไปสู่ สขุ ภาพและสิง่ แวดลอ้ มได้ จึงนา� หลกั ๓R ไดแ้ ก่ Reuse การใช้ซา Reduce การลดการใช้ และ Recycle การน�ากลับไปใช้ใหม่ มาประยุกต์ พร้อมกับรณรงคใ์ ห้ทุกครัวเรือนแยกขยะ และจัด กิจกรรมเสริมเพ่ือจูงใจ กระทัง่ เร่ืองนีก้ ลายเป็นวิถีทีอ่ ยูค่ ูค่ นป่ าบุก และยังช่วยท�าให้สุขภาพของ ประชาชนดีข้ึนตามไปดว้ ย ๔. เปา หมาย วัตถปุ ระสงค์ ๑) เพ่ือลดปริมาณขยะ ๒) เพ่อื ให้ประชาชนตระหนกั ในเร่อื งของการจดั การสิง่ แวดลอ้ ม ๒๐๐ | ปบผะหญา ลา นนาสรางสขุ ภาวะ

๕. วิธีการด�าเนินงาน ๑) สา� รวจปั ญหาทเี่ กดิ ข้นึ โดยเฉพาะในช่วงงานสา� คญั อยา่ ง งานข้นึ บา้ นใหม่ งานแตง่ งาน งานศพ และงานประเพณีต่างๆ ซ่ึงคนในชุมชนไมไ่ ด้คัดแยกขยะ และน�าขยะมาวางไว้หนา้ บา้ น ในวันทรี่ ถเทศบาลไมม่ าเก็บขยะ จนเกดิ กลนิ่ เหมน็ ๒) ประชาสมั พนั ธใ์ ห้ชมุ ชนตระหนกั ถงึ ปั ญหาสงิ่ แวดลอ้ ม เพ่อื ให้ครวั เรอื นสมคั รใจคดั แยก ขยะ รวมทงั้ แยกขยะในงานพิธีการตา่ งๆ ๓) สง่ เสรมิ การปลกู ผกั ปลอดสารพษิ ทกุ ครวั เรอื น ลดรายจา่ ยคา่ อาหารไดเ้ ป็นจา� นวนมาก ๔) ยึดหลกั การมสี ว่ นร่วมจากทุกภาคสว่ น ๖. ทุนทางสังคมทีเ่ กีย่ วข้อง แหลง่ เรียนรู้ตา่ งๆ ในพ้ืนที่ เช่น ๑) แหลง่ เรียนรู้ กลุม่ ออมทรัพยว์ ันละบาท บา้ นป่ าบุก ๒) แหลง่ เรียนรู้ การบริหารขยะโดยชุมชนป่ าบกุ ๓) แหลง่ เรยี นรู้ กลุม่ ผลติ นา ยาเอนกประสงค์ และ ๔) แหลง่ เรียนรู้ กนิ อยู่ ร้คู ิด กวู้ กิ ฤตโลกร้อน ตลอดจนกลมุ่ ตา่ งๆ ในชมุ ชน เช่น กลมุ่ ตดั เย็บ กลมุ่ กองทนุ ขา้ วสาร กลุม่ สารวตั รขยะ และกลมุ่ ดนตรีพ้ืนเมอื ง สะลอ้ ซอ ซึง ๗. ผลการดา� เนนิ งาน เทศบาลสามารถลดขยะในงานศพไดป้ ระมาณ ๕๐๐-๘๐๐ กโิ ลกรมั ตอ่ งาน โดยจากขอ้ มลู ในเดอื นมกราคม ๒๕๕๔ ถงึ ตลุ าคม ๒๕๕๕ พบวา่ ปรมิ าณขยะรไี ซเคลิ สงู ถงึ ๘,๐๔๘.๖ กโิ ลกรมั และขยะอินทรียท์ ีส่ ามารถน�าไปท�าเป็นป๋ ุยหมักกวา่ ๗,๐๐๐ กิโลกรัม สามารถช่วยลดการปลอ่ ย กา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซดไ์ ดก้ วา่ ๑,๗๕๐ กโิ ลกรมั นอกจากนยี้ งั มกี ารตอ่ ยอดไปสกู่ ารรณรงคอ์ ่นื ๆ เช่น เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดพลังงาน ปลูกต้นไม้เพ่ือเพิ่มพ้ืนที่สีเขียว ท�านายา อเนกประสงคใ์ ช้ในครวั เรอื น ฯลฯ โดยผลจากการดา� เนนิ งานทา� ให้ชมุ ชนไดร้ บั รางวลั รองชนะเลศิ อันดับ ๓ และรางวลั นวัตกรรมดเี ดน่ ดา้ นการลดปริมาณขยะในงานศพ ของโครงการลดเมอื งร้อน ดว้ ยมอื เราปีที่ ๗ จนกระทัง่ ปี ๒๕๕๖ ไดร้ บั รางวลั ชนะเลศิ อนั ดบั ๒ ระดบั ประเทศ โครงการชมุ ชน ปลอดขยะ (Zero Waste) เฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษา ๘๐ ชมุ ชน ๘. ปจั จัยเงอ่ื นไขทส่ี �าคัญ ๑) การสนับสนนุ ของเทศบาลต�าบลแมแ่ รง ทงั้ ดา้ นวิชาการและบคุ ลากรพเี่ ลีย้ ง ๒) ผูน้ �าชมุ ชนรวมทงั้ แกนน�าชมุ ชนมคี วามรู้ มคี วามตระหนัก และเป็นตัวอยา่ งทดี่ ี ๓) ประชาชนและทุกภาคส่วนในชุมชนมีส่วนร่วมในการท�ากิจกรรม เขา้ ร่วมกิจกรรมทุก หลงั คาเรือน รวมทงั้ วัดป่ าบุกและโรงเรยี นวัดป่ าบกุ ดว้ ย ๔) ใช้หลักประชาธิปไตยและธรรมาภบิ าลในการขับเคล่อื นงาน และบูรณาการนวัตกรรม ตา่ งๆ ตามแนวทางปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๒๐๑ปบ ผะหญา ลา นนาสรางสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ท่ี ศูนย์ลดโลกร้อนตําบลอุโมงค์ พื้นท่ี: เทศบาลตําบลอุโมงค อําเภอเมืองลําพูน จังหวัดลําพูน วิทยากร: นางปานทิพย นาคชวย ตําแหนง: นักบริหารงานศึกษา เบอรโทรศัพท: ๐๘๙-๕๖๐-๙๐๑๕ ๒. ข้อมลู พ้นื ฐานของพื้นท่ี เทศบาลต�าบลอุโมงค์มีพ้ืนที่ ๒๐.๐๙ ตารางกิโลเมตร จ�านวน ๑๑ หมู่บ้าน สภาพ ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มตามแนวชายฝั่ งตะวันตกแม่นากวง และมีล�าเหมืองปิ งห่าง ไหลผา่ นสว่ นกลางของพ้นื ทเี่ พ่อื หลอ่ เลยี้ งพ้นื ทเี่ กษตรกรรม สภาพดนิ เป็นดนิ รว่ นซยุ เหมาะแกก่ าร ท�าไร่ ท�านา และ ท�าสวน โดยเฉพาะสวนลา� ไย ราษฎรสว่ นใหญต่ ัง้ รกรากสบื ตอ่ มาจากบรรพบรุ ุษ มีชุมชนหนาแนน่ บริเวณสองขา้ งถนนสายหลัก คือ ทางหลวงหมายเลข ๑๐๖ เป็นถนนสายเกา่ เช่ือมระหว่างจังหวัดล�าพูน เชียงใหม่ ปั จจุบันมีประชากรทัง้ สิ้น ๑๓,๐๔๔ คน ประกอบอาชีพ เกษตรกรรม ท�าสวน เป็นอาชีพหลัก รองลงมาคือรับจ้าง คา้ ขาย รับราชการ อุตสาหกรรมใน ครวั เรอื น และอาชพี อ่นื ๆ สว่ นปรมิ าณขยะมเี ฉลยี่ เดอื นละ ๑๒๐ ตนั สว่ นใหญเ่ ป็นขยะในครวั เรอื น และขยะอนิ ทรีย์ ๓. ที่มา ข้อมลู ที่เกีย่ วข้อง ในปี ๒๕๔๘ เทศบาลตา� บลอุโมงคไ์ ดร้ ่วมกับโรงเรียนอุโมงคว์ ิทยาคม จัดท�า “โครงการ ลดเมืองร้อนด้วยมือเรา” เพ่ือให้สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยพิจารณา และได้รับคัดเลือกให้เริ่มต้น รณรงคเ์ ร่อื งสิง่ แวดลอ้ มแกค่ นในทอ้ งถนิ่ เพ่อื ให้ตระหนักถึงความสา� คญั ของพลังทอ้ งถนิ่ และพลงั ของเยาวชน ในการลดการปลอ่ ยกา๊ ซเรือนกระจกสชู่ ัน้ บรรยากาศ จงึ นา� ไปออกแบบเป็นกจิ กรรม ต่างๆ มากมาย หน่ึงในนั้นคือ ศูนยอ์ ุโมงค์ลดโลกร้อน ต่อมามหาวิทยาลัยเชียงใหมไ่ ด้เลือก ศนู ยแ์ ห่งนใี้ ห้เป็นศนู ยก์ ารเรยี นรู้ภูมิปั ญญาเชิงนิเวศ โดยมนี ักเรยี นนักศกึ ษาเขา้ มาหาความรู้ ซ่งึ วทิ ยากรเองก็พยายามชใี้ ห้ทุกคนเหน็ วา่ ภาวะโลกร้อนนนั้ สง่ ผลกระทบตอ่ ชวี ติ ของทุกคนอยา่ งไร พร้อมปลกู จิตสา� นกึ การรักษาสงิ่ แวดลอ้ มให้กบั เยาวชนและคนทกุ วยั ๔. เปาหมาย วัตถุประสงค์ ๑) เพ่ือสง่ เสรมิ ให้ผูเ้ ขา้ ชมริเรมิ่ ลดการใช้พลังงานและลดการปลอ่ ยกา๊ ซเรือนกระจก ๒) เพ่อื เรียนรู้ร่วมกนั ในการแกป้ ั ญหาและร่วมพัฒนาสงิ่ แวดลอ้ มอยา่ งตอ่ เน่อื งและยงั่ ยืน ๒๐๒ | ปบผะหญา ลานนาสรางสุขภาวะ

๓) เพ่อื สร้างความเขา้ ใจถงึ ผลกระทบของภาวะโลกร้อน ๔) เพ่ือสร้างความตระหนกั ในการสง่ เสริมการเรยี นรู้ดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถิน่ ๕) เพ่ือสง่ เสริมการมสี ว่ นร่วมและเป็นสว่ นหน่งึ ในการร่วมรกั ษาสิง่ แวดลอ้ ม ๖) เพ่ือให้ผูม้ าเรียนรู้มีแนวทางในการบูรณาการ ๔ องค์กรหลักร่วมกันขับเคล่ือนงาน ปรบั ใช้ในการบรหิ ารจดั การสงิ่ แวดลอ้ มในพ้ืนที่ ๕. วธิ ีการด�าเนนิ งาน ๑) ร่วมมือกับหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง เช่น สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย มหาวทิ ยาลัยตา่ งๆ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม เป็นตน้ ๒) กระตุ้นความสนใจของผูค้ นผา่ นการจัดนิทรรศการ การสร้างเครือขา่ ยภายในพ้ืนที่ พร้อมกับประชาสัมพันธ์เพ่ือชี้ให้เห็นว่าศูนย์อุโมงค์ลดโลกร้อนสามารถสร้างองค์ความรู้เร่ือง ลดภาวะโลกร้อนไปสูท่ ุนทกุ ระดับในชมุ ชน ๓) ฝึกวิทยากรและพฒั นาศักยภาพของวิทยากรอยา่ งสมา เสมอ รวมทัง้ ยงั จัดนทิ รรศการ ให้นา่ ดูและทันสมัย เหมาะสมกับเหตกุ ารณป์ ั จจบุ ัน ๖. ทนุ ทางสงั คมท่เี กย่ี วข้อง ภาคีเครอื ขา่ ย สถานทเี่ หมาะสม และงบประมาณจากภายนอก ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) เกิดแหล่งเรียนรู้ในพ้ืนที่ที่มีองค์ประกอบสมบูรณ์ ทั้งด้านวิชาการและบุคลากรท่ีมี คณุ ภาพ โดยผเู้ ขา้ ชมไดเ้ รยี นรู้จากแหลง่ เรียนร้ไู ดอ้ ยา่ งสมบูรณ์ ๒) สง่ เสรมิ การทอ่ งเทยี่ วเชิงความร้ทู อ้ งถิน่ ๓) เกิดปราชญค์ นในชุมชนทเี่ ป็นแกนน�าลดโลกร้อน ตลอดจนสร้างเยาวชน คนร่นุ ใหม่ เรยี นรู้ผลกระทบของโลกร้อน ๔) ประชาชนตระหนกั ถงึ สงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ มากข้ึน ๕) เทศบาลต�าบลอุโมงคเ์ ป็นทีร่ ู้จัก เป็นทีย่ อมรับและเป็นแกนน�าในการลดโลกร้อน ซ่ึง ถอื เป็นศูนยเ์ รียนรู้แหลง่ ที่ ๒ ของประเทศ ๘. ปจั จัยเงื่อนไขท่ีสา� คญั การเรียนรู้กับชุมชนในพ้ืนที่และการขยายผลสู่เครือขา่ ย เพ่ือต่อยอดเป็นแหล่งความรู้ที่ ผคู้ นสามารถเขา้ ถงึ ได้ ขณะเดยี วกนั กต็ อ้ งพัฒนาศกั ยภาพของบคุ ลากรให้เชยี่ วชาญมากข้ึน เช่น สง่ ไปศกึ ษาดงู าน จดั อบรมความรเู้ ชงิ ปฏบิ ตั กิ าร และระดมทนุ จากภาคเี ครอื ขา่ ยตา่ งๆ ทสี่ า� คญั คอื การตัง้ เป้ าหมายให้พ้ืนทเี่ ป็น Zero Waste และ Low Carbon City อกี ดว้ ย ๒๐๓ปบ ผะหญา ลานนาสรางสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ท่ี กลุมอาสาสมัครพิทักษปา บานแมเต๋ีย พื้นท่ี: องคการบริหารสวนตําบลทาผาปุม อําเภอแมลานอย จังหวัด แมฮองสอน วิทยากร: นายธวัชชัย ใจแสน ตําแหนง: ปลัดองคการบริหารสวนตําบลทาผาปุม เบอรโทรศัพท: ๐๘๔-๙๓๓-๕๒๘๖ ๒. ขอ มลู พืน้ ฐานของพน้ื ท่ี บา้ นแมเ่ ตยี๋ มพี ้นื ทที่ งั้ หมด ๑,๒๒๐ ไร่ มปี ระชากร ๘๕๘ คน สว่ นใหญน่ บั ถอื ศาสนาครสิ ต์ คดิ เป็นร้อยละ ๘๑.๐๑ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม คดิ เป็นร้อยละ ๔๖.๙๙ ๓. ที่มา ขอ มูลทเ่ี กย่ี วขอ ง ในอดีตเคยมีชาวบา้ นทัง้ ในและนอกพ้ืนที่ลักลอบตัดไมข้ ายให้แกน่ ายทุน ประกอบกับมี สมั ปทานป่ าไม้ ภายหลังจากทปี่ ่ าถกู ทําลาย หมบู่ า้ นเกิดภยั แลง้ นาในแมน่ า เรมิ่ แห้ง พืชผลทาง การเกษตรเสียหาย ผูน้ ําหมูบ่ า้ นในอดีตจึงรวมชาวบา้ น เพ่ือต่อตา้ น และเริม่ การอนุรักษ์ มีการ ปลกู ป่ าทดแทน ทงั้ อาศยั ความเช่อื เร่อื งผเี จ้าทซี่ ่งึ คนทนี่ ยี่ งั ให้ความเคารพ ในการรวมพลงั ตอ่ ตา้ น ผมู้ อี ิทธพิ ล จนบา้ นแมเ่ ตีย๋ เป็นหมบู่ า้ นจัดการตนเองดา้ นการอนรุ ักษท์ รัพยากรป่ าตน้ นา ทุกวันนี้ป่ าต้นนาบ้านแม่เตี๋ยยังคงความอุดมสมบรูณ์ เป็นแหล่งกําเนิดของลําห้วย หลายสาย โดยเฉพาะแมน่ า แมเ่ ตยี๋ ซ่งึ เป็นแมน่ า ทไี่ หลผา่ นหมบู่ า้ นและพ้นื ทที่ างการเกษตร ทาํ ให้ ชาวบา้ นมนี า ใช้ตลอดปี อดุ มสมบรู ณด์ ว้ ยสตั วน์ า สงิ่ ทชี่ าวบา้ นทาํ ไมพ่ ง่ึ งบประมาณของทางราชการ แต่อาศัยการร่วมแรงร่วมใจกัน เป็นพลังที่เขม้ แข็งจนสามารถอนุรักษ์และฟ้ืนฟูป่ ามานานกว่า ชวั่ อายคุ น ทงั้ หมดมรี ากฐานมาจากแนวคดิ ทวี่ า่ “การทมี่ นี า และป่ าจะเกดิ ความสมบรู ณแ์ ละยงั่ ยนื ” ๔. เปาหมาย วตั ถุประสงค ๑) ฟ้ืนฟูผืนป่ าต้นนาบา้ นแมเ่ ตีย๋ สร้างสมดุลของระบบนิเวศ ทีส่ ง่ ผลตอ่ การผลิตอาหาร และเป็นแห่งอาหารทมี่ คี วามยงั่ ยืน ๒) สร้างพลังสามัคคีของคนในชุมชน เพ่อื ตอ่ สกู้ บั ผูม้ ีอิทธิพล ๒๐๔ | ปบ ผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ

๕. วธิ กี ารดําเนินงาน คณะกรรมการหมบู่ า้ นเกดิ ความคดิ ทจี่ ะอนรุ กั ษป์ ่ าตน้ นา บา้ นแมเ่ ตยี๋ ซง่ึ เป็นแหลง่ ทรพั ยากร และแหล่งอาหารของชุมชน โดยมีการพูดคุยในการประชุมประจําเดือนทุกครัง้ เพ่ือแลกเปล่ยี น ความคิดของชาวบา้ นในชุมชน พร้อมทัง้ ได้มีการวางแผนการอนุรักษ์ป่ าชุมชน โดยชาวบา้ นได้ แบง่ ป่ าออกเป็น ป่ าตน้ นา ป่ าอนรุ ักษ์ ป่ าใช้สอย มีการใช้ความเช่อื เร่ืองการบวชป่ าและบวชปลา มาเป็นกุศโลบาย นอกจากนยี้ งั ร่วมกนั ทาํ ฝายชะลอนา เพ่อื เพิม่ ความชุ่มช้ืน ทัง้ มกี ฎระเบยี บของชมุ ชน เพ่ือ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รักษาความสมบูรณ์ให้ระบบนิเวศ ดิน นา ป่ า เคียงคู่ชุมชน อยา่ งยัง่ ยืน มีการออกตรวจตราป่ าต้นนา ระแวดระวังภัยจากคนนอก ป้ องกันไมใ่ ห้มีผูล้ ักลอบ ขนไมอ้ อกไปจากหมบู่ า้ น กําหนดบทลงโทษผทู้ ฝี่ ่ าฝืน ๖. ทุนทางสงั คมที่เก่ยี วขอ ง ๑) แกนนาํ บา้ นแมเ่ ตยี๋ และกลมุ่ ราษฎรอาสาสมคั รพทิ กั ษป์ ่ า ทรี่ ว่ มกนั ขบั เคล่อื นงานอนรุ กั ษ์ ป่ าชมุ ชนบา้ นแมเ่ ตยี๋ ๒) กลุม่ การใช้ขอ้ มูลเพ่อื จดั การทรพั ยากรดนิ นา ป่ า โดยนาํ ขอ้ มลู ระบบสารสนเทศทาง ภูมิศาสตร์ (GIS) มาทําการแบ่งแยกโซนที่ดิน แบ่งเขตที่ดินทํากิน ป่ าชุมชน ป่ าต้นนา และ เช่ือมโยงกับสภาองค์กรชุมชนตําบลท่าผาป้ ุมที่มีการสนับสนุนทั้งนโยบาย งบประมาณ และ บคุ ลากรในการดําเนินงาน ๗. ผลการดําเนินงาน ๑) ป่ าชมุ ชนบา้ นแมเ่ ตยี๋ กลบั มามคี วามอดุ มสมบรู ณ์ เป็นแหลง่ อาหารและแหลง่ ทรพั ยากร ทมี่ คี วามยงั่ ยืน ๒) ชุมชนเกิดความสามัคคี สามารถจัดการตนเองไดอ้ ยา่ งยงั่ ยืน ๓) เกดิ ความร่วมมือระหวา่ งชมุ ชนกับหนว่ ยงานตา่ งๆ ในการปกปั กรกั ษาดิน นา ป่ า ๘. ปจ จยั เงอื่ นไขท่ีสําคัญ ความร่วมแรงร่วมใจของคนบา้ นแมเ่ ตยี๋ ทลี่ กุ ข้ึนมาจัดการปั ญหาดว้ ยตนเอง ๒๐๕ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ท่ี กลุ่มผู้ใช้นํ้าฝายห้วยผ้ึง พื้นท่ี: องคการบริหารสวนตําบลบ้านกาด อําเภอแมวาง จังหวัด เชียงใหม วิทยากร: นายพิชาญ ปญญามงคล ตําแหนง: ประธานกลุมผู้ใช้นํ้าฝายห้วยผึ้ง เบอรโทรศัพท: ๐๘๙-๕๕๖-๑๘๔๐ ๒. ข้อมลู พ้นื ฐานของพ้ืนที่ ครัวเรือนทีม่ ีนาสะอาดบริโภค คิดเป็นร้อยละ ๗๔.๑๗ ครัวเรือนทข่ี าดแคลนนาสะอาด ในการอปุ โภค คิดเป็นร้อยละ ๓๒.๑๒ ครวั เรือนทมี่ กี ารกกั เกบ็ นาฝนไวใ้ ช้ คดิ เป็นร้อยละ ๒.๓๒ หมูบ่ ้านหรือชุมชนที่ใช้นาประปาหมูบ่ ้าน คิดเป็นร้อยละ ๙๗.๓๙ ครัวเรือนที่มีการใช้นาจาก แหลง่ นาธรรมชาติ คดิ เป็นร้อยละ ๑๔.๓๗ ครวั เรือนทมี่ กี ารใช้นา กรอง คิดเป็นร้อยละ ๓.๔๘ ๓. ท่มี า ขอ้ มลู ท่ีเกย่ี วขอ้ ง พ้นื ทขี่ องตา� บลบา้ นกาดเลยี บเคยี งลา� นา แมว่ างยาวไปทางดา้ นทศิ เหนอื สว่ นมากเป็นทรี่ าบ ลมุ่ นา สลบั เนนิ เขา ผคู้ นทนี่ ที่ า� เกษตรกรรมเป็นหลกั และใช้ลา� นา แมว่ างเป็นหลกั แตก่ ม็ กั มปี ั ญหา ขาดแคลนนา ในฤดแู ลง้ จงึ มกี ารแตง่ ตงั้ คณะกรรมการในการบรหิ ารจดั การแหลง่ นา เพ่อื ลดปั ญหา และความขดั แยง้ ของคนในตา� บล ขณะเดียวกันต�าบลบา้ นกาดมีล�าเหมืองห้วยผ้ึง ความยาว ๗ กิโลเมตร กัน้ ล�านาแมว่ าง ไหลผา่ นหมทู่ ี่ ๑, ๒, ๓, ๘ และ ๙ ในอดีตเป็นลา� เหมอื งสาธารณะ มเี พยี งสะพานขา้ มลา� เหมือง ต่อมากลุ่มเกษตรกรทีไ่ ด้รับประโยชนจ์ ากการใช้นาในล�าเหมืองห้วยผ้ึงได้รวมตัวกันสร้างฝายไม้ เพ่ือกักเก็บนา และรวมตัวกันจัดตัง้ กลุ่มเกษตรกรผูใ้ ช้นาฝายห้วยผ้ึง เพ่ือบริหารจัดการนาและ บา� รงุ รกั ษาเหมอื งฝาย จนกระทัง่ กรมชลประทานไดเ้ ขา้ มาตรวจสอบลา� นา ในความรบั ผดิ ชอบ และ ไดท้ า� การสนบั สนนุ การกอ่ สรา้ งฝายกกั เกบ็ นา ตามแบบแปลนของกรมชลประทานมาจนถงึ ปั จจบุ นั ๔. เปาหมาย วัตถุประสงค์ ๑) เพ่ือรวมกลุ่มเกษตรกรในพ้ืนที่ให้ร่วมกันดูแลรักษาฝายห้วยผ้ึง รู้จักคุณค่าของ ทรัพยากรนา ๒) จัดสรรปั นนา อยา่ งเป็นระบบ และมีความเทา่ เทยี มกนั ๒๐๖ | ปบ ผะหญา ลานนาสรางสุขภาวะ

๕. วิธกี ารดา� เนนิ งาน ๑) สมาชิกกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้นาฝายห้วยผ้ึงฝึกอบรม ศึกษาดูงาน จนเขา้ ใจระบบการ บริหารจัดการนา ให้เกิดประโยชนแ์ กส่ มาชกิ มากทสี่ ุด และจดั ท�าฐานขอ้ มลู เบ้อื งตน้ เช่น จา� นวน สมาชิกกลมุ่ เกษตรกรผูใ้ ช้นาฝายห้วยผ้งึ และพ้ืนทีถ่ ือครอง ๒) ก�าหนดกฎ ระเบียบ ขอ้ บงั คับการใช้นา เพ่อื เป็นแนวทางการปฏบิ ตั ิอยา่ งเสมอภาค ๓) สมาชิกกลุ่มเกษตรกรผูใ้ ช้นาฝายห้วยผ้ึงร่วมกันดูแลรักษาเหมืองฝาย โดยจะร่วมกัน ท�าฝายในฤดูแลง้ ราวปลายเดือนพฤษภาคม เพ่อื ให้พร้อมสา� หรับการปลูกขา้ วตามฤดูกาล ๔) เก็บคา่ บริการใช้นา กับสมาชกิ เพ่อื นา� เงินมาบริหารกิจกรรมของกลมุ่ โดยจะเกบ็ ปีละ ๑ ครงั้ แบง่ การจดั เกบ็ ตามลกั ษณะ ดังนี้ สมาชิกลุม่ ลา� ไย เกบ็ คา่ บรกิ าร ๑๐๐ บาทตอ่ ปี ผูป้ ลกู หอมหวั ใหญ่ ไร่ละ ๕๐ บาทตอ่ ปี เกษตรกรทวั่ ไป ๒๐๐ บาทตอ่ ปี และทนี่ า พชื สวนอ่ืนๆ ไร่ละ ๑๐ บาทตอ่ ปี ๖. ทุนทางสังคมทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ๑) กลุ่มเกษตรกรผูใ้ ช้นาฝายห้วยผ้ึงทีร่ วมตัวกัน และมีเจ้าหนา้ ทีก่ รมชลประทานเขา้ มา ส่งเสริมความรู้อยา่ งต่อเน่ือง เพ่ือเพิม่ ความเขา้ ใจในการบริหารจัดสรรนา บ�ารุงรักษาฝาย และ บรหิ ารกองทุนนา ๒) ทวี่ า่ การอา� เภอแมว่ าง สนบั สนนุ โครงการของกลุม่ เกษตรกรผูใ้ ช้นา ฝายห้วยผ้ึง ในการ ซ่อมแซม บา� รงุ รกั ษาเคร่อื งมอื อปุ กรณ์ ๓) องค์การบริหารส่วนต�าบลบ้านกาดสนับสนุนงบประมาณในการอบรมให้ความรู้แก่ สมาชกิ กลมุ่ เกษตรกรผูใ้ ช้นาฝายห้วยผ้ึง ๗. ผลการดา� เนินงาน ๑) กลมุ่ เกษตรกรผใู้ ช้นา ฝายหว้ ยผง้ึ เกดิ ความสามคั คี ลดปั ญหาความขดั แยง้ หรอื แยง่ นา กนั ๒) เกิดกฎ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ทสี่ มาชกิ ยอมรบั ร่วมกัน และปฏบิ ัตอิ ยา่ งเคร่งครดั ๓) สมาชิกกลุม่ เกษตรกรผูใ้ ช้นาฝายห้วยผ้งึ ร่วมกันดแู ล บ�ารงุ รกั ษา ซ่อมแซม ปรบั ปรุง ท�าความสะอาดฝายอยูเ่ สมอ ๔) สมาชกิ กลุม่ เกษตรกรผูใ้ ช้นา ฝายห้วยผ้ึงมกี ารปรกึ ษา ประสานงาน เพ่ือแกไ้ ขปั ญหา ทนั ทว่ งที ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขท่สี า� คญั การรวมกลมุ่ ของเกษตรกรผใู้ ช้นาฝายห้วยผ้ึง เพ่ือบริหารจัดการนา และความช่วยเหลือ จากหนว่ ยงานทีเ่ กีย่ วขอ้ ง เช่น กรมชลประทาน ทวี่ า่ การอา� เภอแมว่ าง องคก์ ารบริหารสว่ นต�าบล บา้ นกาด ทา� ให้กลุม่ มีความเขม้ แขง็ รู้จักการบริหารจดั การอยา่ งเป็นระบบ ๒๐๗ปบผะหญา ลานนาสรางสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ ศูนย์เรียนรู้การทําเกษตรอินทรีย์ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงบ้านหล่ายทุ่ง พ้ืนที่: องคการบริหารสวนตําบลวอแก้ว อําเภอห้างฉัตร จังหวัดลําปาง วิทยากร: วาที่ร้อยตรีแสวง ไชยลังกา ตําแหนง: กรรมการศูนยเรียนรู้การทําเกษตรอินทรียตามแนวเศรษฐกิจ พอเพียงบ้านหลายทุง เบอรโทรศัพท: ๐๘๑-๘๘๓-๙๓๗๙ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพน้ื ท่ี ตา� บลวอแกว้ มปี ระชากรทงั้ สนิ้ ๔,๒๐๘ คน แยกเป็นชาย จา� นวน ๒,๐๙๘ คน หญงิ จา� นวน ๒,๑๑๐ คน มีครัวเรือนทัง้ หมด ๑,๖๕๒ ครัวเรือน มีพ้ืนทีท่ �าการเกษตรทัง้ หมด ๒๗,๔๐๐ ไร่ จากข้อมูลของพ้ืนที่พบว่ามีครัวเรือนที่ท�านา ๖๑๔ ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ ๓๗.๑๗ ของ ครัวเรอื นทงั้ หมด ทา� ไร่ ๑๕ ครวั เรอื น คิดเป็นร้อยละ ๐.๙๑ ท�าสวน ๒๐ ครวั เรอื น คดิ เป็นร้อยละ ๑.๒๑ ทา� เกษตรอินทรยี แ์ ละลดปรมิ าณการใช้สารเคมี ๑๓๖ ครัวเรือน คดิ เป็นร้อยละ ๘.๒๓ และ ทา� เกษตรโดยใช้สารเคมี ๗๐๐ ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ ๔๒.๓๗ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เม่อื ปี ๒๕๕๘ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลวอแกว้ ทา� โครงการสง่ เสรมิ การทา� เกษตรอนิ ทรยี ์ วถิ พี อเพยี ง (โรงเรยี นเกษตรอนิ ทรยี ์ อบต.วอแกว้ ) เพ่อื ให้เกษตรกรไดเ้ รยี นรกู้ ารทา� เกษตรอนิ ทรยี ์ ทา� ให้ตอ้ งมสี ถานทฝี่ ึกอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร โดย ร.ต.ต.ชยั กจิ สทุ ธวิ ฒั น์ ขา้ ราชการตา� รวจบา� นาญ ได้อนุเคราะห์ที่ดินของตนเองในพ้ืนที่บ้านหล่ายทุ่ง ซ่ึงเป็นสวนผลไม้ และสวนผัก เพ่ือใช้เป็น สถานทีด่ �าเนินการ ปรากฏวา่ เกษตรกรให้ความสนใจโครงการนเี้ ป็นจา� นวนมาก แมแ้ ตป่ ระชาชน ในพ้ืนที่ใกล้เคียงก็เขา้ มาเรียนรู้ ในที่สุดจึงพัฒนาข้ึนเป็นศูนยเ์ รียนรู้การท�าเกษตรอินทรียต์ าม แนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งบา้ นหลา่ ยทงุ่ โดยองคก์ ารบริหารสว่ นตา� บลวอแกว้ ให้การสนับสนนุ ๒๐๘ | ปบ ผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื ถ่ายทอดองคค์ วามร้กู ารทา� เกษตรอนิ ทรียแ์ กผ่ ทู้ สี่ นใจ ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ร่วมกับเกษตรกรผู้เป็นปราชญช์ าวบ้านด้านเกษตรอินทรีย์ เปิดพ้ืนที่สวนไร่นาของ ตนเองให้เป็นสถานทฝี่ ึกอบรม ๒) พฒั นาและจดั หาวสั ดอุ ปุ กรณใ์ นการฝึกอบรม สาธติ ให้สอดคลอ้ งกบั เน้อื หาทฝี่ ึกอบรม ๓) ตดิ ตามเกษตรกรทผี่ า่ นการฝึกอบรมแลว้ วา่ กลบั ไปปรบั ใช้ในพ้ืนทีข่ องตนเองหรอื ไม่ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ผูถ้ ่ายทอดองคค์ วามร้เู ร่อื งเกษตรอนิ ทรีย์ ๒ คน คือ ๑) ร.ต.ต.ชัยกิจ สทุ ธิวัฒน์ ประธานศนู ยเ์ รียนร้ฯู ๒) วา่ ทรี่ ้อยตรแี สวง ไชยลงั กา รองประธานศนู ยเ์ รยี นร้ฯู รวมถงึ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บล วอแกว้ ทชี่ ่วยสนบั สนนุ ดา้ นวชิ าการและประสานกบั หนว่ ยงานตา่ งๆ ทงั้ ภาครฐั และเอกชน ๗. ผลการดา� เนนิ งาน เกษตรกรทผี่ า่ นการฝึกอบรมจากศนู ยเ์ รยี นรฯู้ สามารถนา� องคค์ วามรไู้ ปขยายผลปฏบิ ตั จิ รงิ ปรับเปลี่ยนจากเกษตรเคมีมาท�าเกษตรอินทรีย์ผสมผสาน ส่งผลให้อาหารในชุมชนมีความ ปลอดภัยมากข้ึน ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั คณะกรรมการกลุม่ มวี ธิ บี รหิ ารจดั การอยา่ งเป็นระบบ โดยมกี ฎ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ตา่ งๆ ที่ สมาชกิ สามารถปฏบิ ตั ติ าม สง่ ผลให้กลมุ่ ด�าเนนิ งานไดอ้ ยา่ งมัน่ คงและตอ่ เน่ือง ๒๐๙ปบ ผะหญา ลานนาสรางสขุ ภาวะ |



๖ ประเด็นการพัฒนา ระบบการดูแลเด็กปฐมวัย โดยชุมชนท้องถิ่น

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตําบลปาสัก พื้นที่: องคการบริหารสวนตําบลปาสัก อําเภอภูซาง จังหวัดพะเยา วิทยากร: นางเย็น หนอคําหล้า ตําแหนง: ครูผู้ดูแลเด็ก เบอรโทรศัพท: ๐๘๖-๑๘๓-๓๒๗๔ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี พ้นื ทตี่ า� บลป่ าสกั มเี ดก็ ปฐมวยั ช่วงอายุ ๐-๕ ปี จา� นวน ๑๐๗ คน แยกเป็นช่วงอายุ ๐-๓ ปี จ�านวน ๓๕ คน ๓-๕ ปี จ�านวน ๗๒ คน ในจ�านวนนี้อาศัยอยูก่ ับป่ ูยา่ หรือตายาย จ�านวน ๒๔ คน อยูก่ ับบดิ ามารดา ๘๓ คน และในจา� นวนนเี้ ขา้ เรียนทศี่ ูนยพ์ ัฒนาเดก็ เลก็ (อายุ ๒-๕ ปี) จา� นวน ๗๑ คน ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เน่อื งจากจา� นวนเดก็ ปฐมวยั เพมิ่ ขน้ึ ทา� ให้อาคารศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ตา� บลป่ าสกั เรมิ่ แออดั เกินไป ทั้งยังมีปั ญหาเร่ืองส่ือการเรียนการสอนที่ไม่เพียงพอกับจ�านวนเด็ก ทางศูนย์พัฒนา เดก็ เล็กต�าบลป่ าสกั จึงสมคั รเขา้ ร่วมโครงการมหศั จรรยส์ ่ือสร้างสรรคใ์ นศนู ยพ์ ฒั นาเด็กเลก็ ของ สา� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) โดยสา� นกั สรา้ งสรรคโ์ อกาสและนวตั กรรม (ส�านัก ๖) เพ่ือพัฒนาศักยภาพด้านการผลิตส่ือการเรียนการสอนของครู นอกจากน้ียังขอรับ งบประมาณจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพ่ือสร้างอาคารให้เพียงพอต่อจ�านวนเด็ก ในพ้ืนที่ ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพ่ือเพมิ่ พ้นื ทใี่ นศูนยพ์ ัฒนาเดก็ เลก็ ๒) เพ่อื ให้มสี ่อื การเรยี นการสอนทีเ่ พียงพอกับจา� นวนเดก็ ภายในศนู ยพ์ ัฒนาเด็กเล็ก ๒๑๒ | ปบผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ประสานของบประมาณจากกรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถนิ่ เพ่อื ขยายพ้นื ทเี่ รยี นรขู้ อง ศูนยพ์ ัฒนาเด็กเลก็ ๒) สมคั รเขา้ รว่ มโครงการมหศั จรรยส์ ่อื สรา้ งสรรคใ์ นศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ กบั สสส. สา� นกั ๖ ได้รับสนับสนุนงบประมาณ ๕๐,๐๐๐ บาท เพ่ือผลิตส่ือการเรียนการสอนส�าหรับเด็ก เร่มิ จาก จัดมุมกิจกรรมเพ่ือการเรียนรู้และจินตนาการของเด็ก โดยใช้วัสดุที่มีอยูใ่ นท้องถิ่น ได้แก่ มุม การเลน่ บา้ นในฝั นของหนู มุมการเลน่ นา-เล่นทราย มุมการเลน่ การทรงตัว มุมการเลน่ บอ่ บอล โรงละคร พร้อมชุดตวั ละคร วงลอ้ มมหัศจรรย์ ปีนป่ าย กะลาพาเพลนิ คัพซองไมไ้ ผอ่ ักษรหรรษา และส่ือการเรยี นรู้อาหารหลกั ๕ หมู่ นอกจากนยี้ งั คดิ กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ ไดแ้ ก่ งานศลิ ปะสา� หรบั เดก็ กจิ กรรมปั น ปั่ น ปั้ น กจิ กรรมศลิ ปะจากธรรมชาติ กจิ กรรมประดษิ ฐห์ มวกรูปสัตว์ และกจิ กรรมศิลปะจากการประยกุ ต์ ใช้วสั ดทุ ีม่ ีในทอ้ งถิน่ หรอื ภูมปิ ั ญญาทอ้ งถิน่ ทัง้ หมดเพ่อื กระตุน้ และสง่ เสรมิ ให้เดก็ มพี ฒั นาการที่ สมวัย ครอบคลุมทงั้ ๔ ดา้ น คือ ดา้ นร่างกาย ดา้ นอารมณ์ จิตใจ ดา้ นสังคม และดา้ นสตปิ ั ญญา ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) ทนุ ทางสงั คมทดี่ า� เนนิ การหลกั คอื สา� นกั ปลดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลป่ าสกั ประสาน รับงบประมาณจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพ่ือน�ามาใช้จ่ายเป็นค่าอาหารกลางวัน อาหารเสริม ส่ือรายหัว คา่ ตอบแทนครู และพนักงานจ้าง ส�านักงานกองทุนสนับสนุนการสร้าง เสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) สา� นกั ๖ สนบั สนนุ งบประมาณจดั ทา� กจิ กรรมพ้นื ทดี่ ี ส่อื ดี ภมู ดิ ี ในศนู ยพ์ ฒั นา เด็กเลก็ ๒) ทุนทางสังคมทดี่ �าเนินการหนุนเสรมิ ประกอบดว้ ย โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพต�าบล ป่ าสกั ทเี่ ขา้ มาใหค้ วามรดู้ า้ นพฒั นาการรา่ งกาย จติ ใจ และสขุ ภาพ แกค่ รแู ละผปู้ กครอง ตลอดจน ตรวจดแู ลสุขภาพประจา� ปี โรงเรียนวัดมว่ งชมุ เป็นแหลง่ เรยี นร้ขู องศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็ก สภาเด็ก และเยาวชน ใช้เวลาช่วงปิดภาคเรียน รวมตวั กนั มาเป็นครพู เี่ ลยี้ ง และทา� ส่อื การเรียนการสอนให้ เดก็ ๆ กลุม่ จกั สานผสู้ ูงอายุ หมูท่ ี่ ๙ ช่วยทา� ส่อื การเรียนการสอนจากวัสดธุ รรมชาติในทอ้ งถนิ่ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ปั จจบุ นั ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ตา� บลป่ าสกั มอี าคารเรยี นเพยี งพอกบั จา� นวนเดก็ มสี ่อื การเรยี น การสอนทีเ่ พียงพอและได้มาตรฐาน จัดเป็นพ้ืนที่แห่งการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย ช่วยเสริมสร้าง พฒั นาการดา้ นร่างกายและจิตใจ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ตา� บลป่ าสกั บรู ณาการการดา� เนนิ งานรว่ มกบั ภาคเี ครอื ขา่ ย โดยจดั เกบ็ ขอ้ มูลเกี่ยวกับปั ญหาและความต้องการของเด็กอายุ ๐-๕ ปี ที่ครอบคลุมทุกมิติและเช่ือถือได้ เพ่อื ใช้เป็นฐานขอ้ มูลในการแกไ้ ขปั ญหาและวางแนวทางการพฒั นา ๒๑๓ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เทศบาลตําบลปาก่อดํา พ้ืนท่ี: เทศบาลตําบลปากอดํา อําเภอแมลาว จังหวัดเชียงราย วิทยากร: อรทัย ขวัญชัย ตําแหนง: ครูผู้ดูแลเด็ก ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ท่ี ตามขอ้ มูลทะเบียนราษฎร ในเขตเทศบาลตา� บลป่ ากอ่ ด�ามีเดก็ ช่วงอายุ ๐-๕ ปี ๒๐๔ คน แตเ่ ม่ือรวมประชากรแฝงแลว้ จะมอี ยดู่ ว้ ยกัน ๒๔๒ คน ในพ้ืนที่มีสถานศึกษาก่อนวัยเรียน ๔ แห่ง ได้แก่ โรงเรียนชุมชนบ้านป่ าก่อด�า ดูแล เดก็ ปฐมวยั จา� นวน ๑๕ คน โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ป่ ากอ่ ดา� ) ดแู ลเดก็ ปฐมวยั ๑๒๓ คน ศนู ยพ์ ฒั นา เด็กเล็กต�าบลป่ ากอ่ ด�า ดูแลเด็กปฐมวัย ๕๘ คน สถานรับเลีย้ งเด็กบา้ นครูดม ดูแลเด็กปฐมวัย ๑๑ คน รวมจ�านวนเดก็ ปฐมวยั ทอี่ ยูใ่ นสถานศึกษา ๒๐๗ คน ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ศูนยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ เทศบาลต�าบลป่ ากอ่ ดา� กอ่ ตงั้ เม่อื ๑ มิถนุ ายน ๒๕๓๙ แรกนัน้ อยใู่ น ความดูแลของกรมการพัฒนาชุมชน โดยขอใช้อาคารของ รพ.สต.ป่ ากอ่ ด�า ตอ่ มาในปี ๒๕๔๕ กรมการพฒั นาชมุ ชนไดถ้ า่ ยโอนศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ใหเ้ ทศบาลตา� บลป่ ากอ่ ดา� เป็นผดู้ แู ล จงึ เปลยี่ น มาใช้อาคารภายในบรเิ วณโรงเรียนเทศบาล ๑ (ป่ ากอ่ ด�า) ซ่งึ เป็นพ้ืนทขี่ องเทศบาล ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลต�าบลป่ าก่อด�า ตั้งข้ึนเพ่ือเป็นสถานที่รับเลี้ยงเด็ก จัด ประสบการณ์ และส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย ให้มีพัฒนาการสมวัยครบทั้ง ๔ ดา้ น คือร่างกาย อารมณ-์ จติ ใจ สังคม และสติปั ญญา ๒๑๔ | ปบ ผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน เทศบาลตา� บลป่ ากอ่ ดา� ดแู ลจดั หาอาหารกลางวนั อาหารวา่ ง อาหารเสรมิ วสั ดุ ส่อื อปุ กรณ์ การศึกษา วัสดุครุภัณฑ์ และจัดหาครูผูด้ ูแลเด็ก ตลอดจนประสานหนว่ ยงานสาธารณสุขเขา้ มา ให้บริการตรวจสขุ ภาพประจา� ปี กิจกรรมของศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็กเทศบาลต�าบลป่ ากอ่ ด�ามีความหลากหลาย ใช้หลักสูตร แกนกลางของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเป็นแนวทาง โดยพยายามส่งเสริมพัฒนาการ ของเด็กผา่ นกิจกรรมส่งเสริมทักษะ เนน้ สร้างประสบการณท์ ี่เอ้ือต่อพัฒนาการที่สมวัย ทัง้ ด้าน ร่างกาย อารมณ์ สงั คม และสติปั ญญา ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เทศบาลต�าบลป่ าก่อด�า กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมการพัฒนาชุมชน โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตา� บลป่ ากอ่ ดา� โรงพยาบาลอา� เภอแมล่ าว สา� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ โดยสา� นัก ๓ และสา� นกั ๔ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน จากการประเมินด้วยแบบทดสอบที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลต�าบลป่ าก่อด�า และ โรงเรียนเทศบาล ๑ (ป่ ากอ่ ด�า) ร่วมกันจัดท�าข้ึน พบว่าเด็กมีพัฒนาการที่ดีสมวัยทัง้ ๔ ด้าน อนั เป็นรากฐานทีเ่ ขม้ แข็งส�าหรบั อนาคต ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั ๑) กรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถิน่ สนบั สนนุ งบประมาณให้ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ เทศบาล ตา� บลป่ ากอ่ ดา� ๒) เทศบาลตา� บลป่ ากอ่ ด�า สนับสนนุ สง่ เสริม และบรหิ ารจัดการดแู ลศูนยพ์ ฒั นาเดก็ เล็ก ให้เป็นไปตามมาตรฐานของกรมสง่ เสริมการปกครองทอ้ งถนิ่ และกรมอนามัย ๓) สา� นกั งานกองทนุ สนับสนนุ การสร้างเสรมิ สุขภาพ โดยสา� นกั ๓ และส�านัก ๔ ร่วมกับ ศนู ยพ์ ฒั นาเด็กเลก็ เทศบาลต�าบลป่ ากอ่ ด�า ท�าขอ้ ตกลงความร่วมมอื เพ่ือเป็นศนู ยเ์ รียนร้ตู น้ แบบ ของการพัฒนาเด็กปฐมวัย ๒๑๕ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี ศูนย์พัฒนาครอบครัว และคลินิกครอบครัวตําบลนํ้าแพร่ พื้นท่ี: เทศบาลตําบลนํ้าแพรพัฒนา ตําบลนํ้าแพร อําเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม วิทยากร: นายเกรียงไกร ใจกว้าง ตําแหนง: ผู้ชวยนักพัฒนาชุมชน เบอรโทรศัพท: ๐๘๕-๗๐๗-๖๘๓๔ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพนื้ ท่ี ศูนย์พัฒนาครอบครัวและคลินิกครอบครัวต�าบลนาแพร่ส�ารวจข้อมูลของชุมชน พบ ผดู้ อ้ ยโอกาสทีค่ รอบครัวยากจน จ�านวน ๗๐ ครอบครัว เป็นผสู้ งู อายุ ๖๐ คน ผพู้ ิการ ๒๗ คน ผู้ติดเช้ือเอดส์ ๕ คน ผู้ได้รับผลกระทบและครอบครัวผู้ติดเช้ือเอดส์ ๑๕ คน ผู้ป่ วยติดเตียง ๑๒ คน กลุม่ สตรี ๓๒ คน และกลุม่ เด็กครอบครวั ยากจน ๑๐ คน ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ส�านักงานพัฒนาสังคมและความมัน่ คงของมนุษยจ์ ังหวัดเชียงใหม่ สนับสนุนให้เทศบาล ต�าบลนา แพร่พฒั นาจัดตงั้ ศูนยพ์ ัฒนาครอบครัวตา� บลนาแพร่ เพ่ือเป็นศนู ยก์ ลางดา้ นการพัฒนา สถาบันครอบครวั โดยมคี ณะทา� งานศูนยพ์ ฒั นาครอบครัวในชมุ ชน คอยท�าหนา้ ทีพ่ ัฒนา ป้ องกัน และแกไ้ ขปั ญหาครอบครวั ในชมุ ชน เป็นแกนกลางจัดกจิ กรรมและโครงการตา่ งๆ เช่น โครงการ สวัสดิการเติมเต็ม คลินิกครอบครัว โครงการขว่ งละอ่อนเตวต�าบลนาแพร่ โครงการครอบครัว ธรรมมะ ตลอดจนกระตุน้ ให้แตล่ ะครอบครวั ออกมาท�ากิจกรรมร่วมกัน ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) การศกึ ษา ประชาชนไดค้ วามร้แู ละทกั ษะตา่ งๆ ในการด�ารงชวี ิตอยา่ งมคี ุณภาพตอ่ ไป ๒) สุขภาพอนามัย ประชาชนได้รับการดูแลรักษาและส่งเสริมสนับสนุนสุขภาพกายใจ อยา่ งทวั่ ถึงและเทา่ เทียม ๓) ทีอ่ ยูอ่ าศัย ประชาชนมีทีอ่ ยูอ่ าศยั ทเี่ หมาะสมตามควรแกอ่ ัตภาพ สอดคลอ้ งกับการมี คณุ ภาพชีวิตทดี่ ี ๔) การมงี านท�าและมีรายได้ มีสวัสดิการเพยี งพอแกก่ ารด�ารงชีพ ๒๑๖ | ปบผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ

๕) กระบวนการยุติธรรม มีความเสมอภาค เทา่ เทียม และยุติธรรม ไมผ่ ิดศีลธรรมหรือ ผิดกฎหมาย ๖) มีกจิ กรรมนันทนาการ เพ่อื ความบันเทิงและการพักผอ่ นหยอ่ นใจอยา่ งมคี ณุ ภาพ ๗) ประชาชน โดยเฉพาะผูค้ นยากจน ผูด้ ้อยโอกาส และกลุ่มเป้ าหมายพิเศษ สามารถ เขา้ ถงึ บริการตา่ งๆ ของรฐั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ส�ารวจพ้ืนที่สร้างสรรค์/อันตราย พร้อมเปิดโอกาสให้เด็ก เยาวชน และเครือขา่ ย ครอบครัว ได้แสดงความคิดเห็นผา่ นการจัดกิจกรรมระดมสมอง เพ่ือให้ชุมชนสามารถวางแผน สร้างสรรคส์ ิง่ แวดลอ้ มทเี่ อ้อื ตอ่ การคมุ้ ครองครอบครัว ๒) การรณรงคย์ ุติความรุนแรงในครอบครัว แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณด์ ้านความ รนุ แรงและการป้องกนั ความรนุ แรง สรา้ งเครอื ขา่ ยในการทา� งานดา้ นการคมุ้ ครองเดก็ และครอบครวั ระหวา่ งทอ้ งถิน่ และชุมชน ๓) สง่ เสรมิ การใช้เวลาวา่ งของเยาวชน เพ่อื เปิดโอกาสให้เดก็ ๆ ไดท้ า� กจิ กรรมนนั ทนาการ ร่วมกันเสรมิ สร้าง พัฒนาศักยภาพตามวัยทเี่ หมาะสม ๔) เสริมสร้างความสัมพนั ธข์ องครอบครวั ให้ครอบครวั ไดใ้ ช้เวลาร่วมกนั อยา่ งมีคุณภาพ ๕) ป้องกนั และแกไ้ ขปั ญหายาเสพตดิ ในครอบครวั ผา่ นการแลกเปลยี่ นเรยี นรปู้ ระสบการณ์ และสนบั สนนุ ให้สมาชกิ ในครอบครัวและชุมชนช่วยดแู ลกนั เอง ๖) สง่ เสรมิ ความเสมอภาคหญงิ ในครอบครัว ๗) รณรงคป์ ้ องกันแกไ้ ขปั ญหาการตัง้ ครรภ์ไมพ่ ึงประสงคข์ องเยาวชน พร้อมให้ความรู้ เร่ืองเพศศึกษา ๘) พฒั นาศักยภาพสตรีเพ่อื ความเขม้ แขง็ ของครอบครวั ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง สถานทหี่ ลักเพ่อื ท�ากิจกรรม ๓ แห่ง คือ ห้องประชมุ เฉลิมพระเกยี รติ ๘๔ พรรษา ห้อง คลินกิ ครอบครวั และอาคารศาลาสร้างสขุ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) เกิดศูนย์บริการให้ค�าปรึกษาแนะน�าด้านครอบครัว เพ่ือเสริมสร้างความสัมพันธ์ แกส่ มาชิกในครอบครวั ๒) เกิดเวทีพัฒนาความร้คู วามเขา้ ใจของพอ่ แมก่ ลมุ่ ตา่ งๆ ในพ้ืนทีร่ ะดับ ต�าบล ๓) เกิดกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เป็นแหล่งเผยแพร่และเสริมความรู้เกี่ยวกับ ครอบครัวและพัฒนาการเด็กทุกช่วงวัยในชมุ ชน ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั ส่วนร่วมของภาคประชาชน ทั้งการจัดเวทีครอบครัว คลินิกครอบครัว ตลอดจนความ เสียสละของคณะท�างาน ๒๑๗ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ที่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตําบลบัวใหญ่ พื้นที่: องคการบริหารสวนตําบลบัวใหญ อําเภอนาน้อย จังหวัดนาน วิทยากร: นางเนตรนภา แก้วกันทา ตําแหนง: ครู เบอรโทรศัพท: ๐๘๔-๓๗๒-๑๙๒๐ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพนื้ ท่ี เดิมต�าบลบัวใหญเ่ ป็นส่วนหน่ึงของต�าบลสันทะ อ�าเภอนานอ้ ย จังหวัดนา่ น ต่อมาในปี ๒๕๒๕ ได้มีการแยกพ้ืนที่บางส่วนออกมาจัดตัง้ เป็นต�าบลใหม่ เรียกว่า ต�าบลบัวใหญ่ โดยได้ แรงบันดาลใจจากดอกบัวหลวงที่ข้ึนอยู่เต็มหนองปวน ซ่ึงเป็นหนองนาธรรมชาติในหมู่ที่ ๑ บา้ นอ้อย ปั จจุบนั ต�าบลบวั ใหญแ่ บง่ เขตปกครองออกเป็น ๘ หมบู่ า้ น ดังนี้ หมูท่ ี่ ๑ บา้ นอ้อย หมู่ ที่ ๒ บา้ นใหมม่ งคล หมูท่ ี่ ๓ บา้ นนาแหน หมูท่ ี่ ๔ บา้ นทัพมา่ น หมูท่ ี่ ๕ บา้ นนาไค้ หมูท่ ี่ ๖ บา้ นตน้ มว่ ง หมทู่ ี่ ๗ บา้ นสันพยอม และหมทู่ ี่ ๘ บา้ นหนองห้า ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เดมิ ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ในตา� บลบวั ใหญม่ จี า� นวน ๓ แห่ง คอื ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ บา้ นอ้อย ศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็กบา้ นนาแหน และศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็กบา้ นทัพมา่ น จัดตัง้ ข้ึนเพ่ืออบรมเลีย้ งดู เด็กเลก็ และช่วยแบง่ เบาภาระของผปู้ กครองทตี่ อ้ งหารายไดเ้ ลยี้ งครอบครัว ตอ่ มาในปี ๒๕๕๗ สภาองค์การบริหารส่วนต�าบลบัวใหญ่มีมติเอกฉันท์ให้รวมศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็กทั้ง ๓ แห่งเขา้ ด้วยกัน เพ่ือให้การจัดการเรียนการสอนมีคุณภาพมากข้นึ เกิดเป็นศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็กองคก์ าร บรหิ ารสว่ นตา� บลบวั ใหญ่ ตงั้ อยู่ ณ เลขที่ ๑๓๙ หมทู่ ี่ ๒ บา้ นใหมม่ งคล ปั จจุบันศูนย์ฯ รับเด็กช่วงอายุตั้งแต่ ๒-๕ ปี มีการอบรมเลี้ยงดูและจัดประสบการณ์ สง่ เสริมพัฒนาการ เตรียมความพร้อมให้เด็ก ๔ ดา้ น คอื ดา้ นร่างกาย อารมณ-์ จติ ใจ สงั คม และ สติปั ญญา ตลอดจนน�าอุปกรณท์ ีเ่ ป็นภูมิปั ญญาทอ้ งถิน่ เขา้ มาเป็นส่ือการเรียนการสอนเพม่ิ เติม โดยมปี ราชญช์ าวบา้ นเป็นวิทยากร ๒๑๘ | ปบผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) จดั ประสบการณใ์ ห้เด็กไดเ้ หมาะสมตามช่วงวัย โดยแบง่ ห้องเรยี นตามช่วงอายุ ๒) นา� อปุ กรณป์ ระกอบอาชพี ทเี่ ป็นภมู ปิ ั ญญาทอ้ งถนิ่ ของคนในชมุ ชนมาเป็นส่อื การเรยี นรู้ ๓) เชญิ ปราชญช์ าวบา้ นมาเป็นวทิ ยากร เพ่อื สง่ เสรมิ การเรยี นรดู้ า้ นศลิ ปวฒั นธรรมพ้นื บา้ น ให้กบั เด็ก ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน น�าไมไ้ ผม่ าจักสานหมวก ใบมะพร้าวมาสานเป็นกบหรือปลา สว่ นกะลามะพร้าวน�ามาท�า กบเดินได้ นอกจากนยี้ ังสอนเด็กท�าขนมพ้ืนบา้ น สอนรูปทรงและเรขาคณิตจากกระติบขา้ ว เพ่ือ ให้เด็กฝึกสงั เกตและปฏิบัตจิ รงิ ท�าได้ คิดเป็น ทา� เป็น ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) องคก์ ารบริหารสว่ นต�าบลบัวใหญ่ ๒) ผปู้ กครองและบุตรหลาน ๓) โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพต�าบลบวั ใหญ่ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน เดก็ มีพัฒนาการเหมาะสมตามช่วงวัย เหน็ ความส�าคญั ของการดแู ลสขุ ภาพร่างกาย ทัง้ ยงั เหน็ ความสา� คญั ของภมู ปิ ั ญญาชาวบา้ น พรอ้ มเตบิ โตไปเป็นกา� ลงั สา� คญั ในการพฒั นาประเทศชาติ ตอ่ ไป ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั การร่วมคิด ร่วมวางแผน และร่วมให้การบรกิ ารดแู ลเด็กเลก็ ตลอดจนการมีสว่ นร่วมของ ทุกภาคส่วนในชุมชน ทั้งการน�าทุนภูมิปั ญญาวัฒนธรรมมาต่อยอด เป็นส่วนหน่ึงของการจัด กระบวนการเรียนรู้ให้กับเด็ก และการหนุนเสริมจากหนว่ ยงานตา่ งๆ ทีเ่ ห็นความส�าคัญของการ พัฒนาเด็ก ซ่งึ ถือเป็นลูกหลานของทุกคนในชมุ ชน ๒๑๙ปบ ผะหญา ลานนาสรางสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ท่ี โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเพชร พื้นที่: เทศบาลตําบลงิม อําเภอปง จังหวัดพะเยา วิทยากร: นายนเรศ อภัยลุน ตําแหนง: ผู้อํานวยการโรงเรียนเทศบาลตําบลงิม (คือเวียงจํ่า) เบอรโทรศัพท: ๐๕๔-๔๔๘-๓๑๙ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ท่ี โรงเรียนเทศบาลต�าบลงมิ (คือเวียงจา ) กอ่ ตงั้ เพ่ือจดั การศกึ ษาให้เดก็ ในชนบทไดเ้ รยี นรู้ อยา่ งมคี ณุ ภาพ จากการวเิ คราะห์สภาพองคก์ ร (SWOT) พบวา่ นกั เรยี นมปี ั ญหาดา้ นสขุ ภาพอนามยั การเจริญเตบิ โตไมเ่ ป็นไปตามเกณฑ์ โดยพบนักเรียนทมี่ นี า หนกั เกนิ เกณฑ์ ร้อยละ ๑๓.๖๖ และ นกั เรยี นทมี่ สี ว่ นสงู ตา กวา่ เกณฑ์ ร้อยละ ๑๐.๙๘ นอกจากนี้ เม่ือปีการศึกษา ๒๕๕๖ พบนกั เรียน เป็นโรคเหา ๘ คน และเพิม่ ข้ึนเป็น ๓๙ คนในปีถัดมา ทัง้ ยังพบนักเรียนทีม่ ีปั ญหาสุขภาพจิต อีก ๒๙ คน ผูบ้ ริหารจึงแกไ้ ขปั ญหาด้วยการเขา้ ร่วมโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ จนผา่ น การประเมิน ไดร้ บั การรับรองให้เป็นโรงเรยี นสง่ เสริมสขุ ภาพระดบั ทอง ตอ่ มาสาธารณสขุ จงั หวดั พะเยาสนบั สนนุ ให้เขา้ รบั การประเมนิ เป็นโรงเรยี นสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ระดับเพชร เพ่ือแก้ไขปั ญหาทุกด้านในโรงเรียน ท�าให้ปั ญหาต่างๆ ได้รับการแก้ไข โดยใช้ นวตั กรรมและภมู ปิ ั ญญาทอ้ งถนิ่ จนสามารถผา่ นทกุ ตวั ชวี้ ดั ของโรงเรยี นสง่ เสรมิ สขุ ภาพระดบั เพชร เม่อื ปี ๒๕๕๗ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง โรงเรยี นเทศบาลตา� บลงิม (คอื เวยี งจา ) ตอ้ งการพัฒนานกั เรยี นในทกุ ดา้ น แตย่ ังประสบ ปั ญหาเร่ืองสุขภาพกาย ทัง้ ภาวะโภชนาการ สุขภาพช่องปาก และโรคเหา ทผี่ า่ นมาใช้วิธีส�ารวจ และแกไ้ ขเป็นรายกรณี เช่น ให้คา� แนะนา� และควบคมุ เมนอู าหารกลางวนั ของนกั เรยี นทีน่ า หนกั เกนิ ซ่ึงไดผ้ ลระดับหน่ึง รณรงคใ์ ห้เด็กแปรงฟั นทุกวันและรอเจ้าหนา้ ทีจ่ ากสถานีอนามัยประจ�าต�าบล มาตรวจ ใช้ใบนอ้ ยหนา่ กบั ผลมะกรดู ปั่ นแลว้ นา� นา มาหมกั ผมและหนงั ศรี ษะเพ่อื กา� จดั เหา เป็นตน้ แตว่ ธิ กี ารเหลา่ นยี้ งั ไมส่ ามารถแกไ้ ขปั ญหาไดอ้ ยา่ งยงั่ ยนื ทางโรงเรยี นจงึ เขา้ รว่ มโครงการโรงเรยี น สง่ เสรมิ สขุ ภาพระดบั ทอง เพ่อื สรา้ งแนวทางการแกป้ ั ญหาระยะยาว โดยมเี ป้าหมาย “ทา� สงิ่ ทดี่ ที สี่ ดุ ให้ลกู ” สร้างความมนั่ ใจให้ชุมชน ผปู้ กครอง และนักเรียน ตามมาตรฐาน ๓ ดา้ น ๑๙ ตวั ชวี้ ดั ของ โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเพชร นอกจากนยี้ ังน�านวัตกรรมต่างๆ มาประยุกต์ใช้ จนปั จจุบัน สามารถแกป้ ั ญหาไดอ้ ยา่ งเป็นระบบและยงั่ ยนื ๒๒๐ | ปบผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพ่ือวางแนวทาง และสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการด�าเนินงาน โรงเรยี นสง่ เสริมสุขภาพ ๒) เพ่ือสร้างแรงบันดาลใจ ส่งเสริมให้นักเรียนดูแลสุขภาพของตนเอง และสามารถน�า องคค์ วามร้ไู ปประยุกตใ์ ช้ ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ศึกษาสภาพปั ญหาสุขภาพในโรงเรียน โดยประชุมผู้บริหาร ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรในโรงเรียน นักเรยี น รวมทงั้ ผูป้ กครองและชุมชน เพ่อื วิเคราะห์สภาพองคก์ ร (SWOT) ๒) วางแผนเขา้ รว่ มโครงการโรงเรยี นสง่ เสรมิ สขุ ภาพ โดยคณะผบู้ รหิ าร ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา บุคลากรในโรงเรียน และนักเรียน ร่วมกนั วางแผน ๓) จัดท�าโครงการเพ่ือขอรับการสนับสนุนงบประมาณ เช่น โครงการโรงเรียนส่งเสริม สุขภาพระดับเพชร โครงการแก้ไขปั ญหาเด็กที่นาหนักเกินเกณฑ์และส่วนสูงตากว่าเกณฑ์ มาตรฐาน โครงการเรารกั ฟั น โครงการปรบั ปรงุ ซ่อมแซมอาคารสถานที่ โครงการปรบั ปรงุ ภมู ทิ ศั น์ โครงการห้องเรยี นสะอาดบรรยากาศวชิ าการ เป็นตน้ ๔) จดั ตงั้ คณะท�างาน วางแผนและมอบหมายงาน จดั ท�าเอกสาร ตามเกณฑก์ ารประเมิน โรงเรียนสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ทีป่ ระกอบดว้ ยมาตรฐาน ๓ ดา้ น และ ๑๙ ตวั ชวี้ ัด ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เทศบาลต�าบลงิม โรงเรียนเทศบาลต�าบลงิม ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ รพ.สต.ในพ้ืนที่ หนว่ ยบริการประชาชนดอนไชย กลมุ่ หมอเมือง และกลมุ่ ผสู้ งู อายุ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) ปั ญหาเด็กที่มีนาหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน จากเดิมมีอยูร่ ้อยละ ๙.๑๔ หลังด�าเนิน โครงการเหลอื เพยี ง ร้อยละ ๔.๙๔ ๒) ปั ญหาเด็กที่มีส่วนสูงตากว่าเกณฑ์มาตรฐาน กอ่ นเริ่มโครงการอยูท่ ีร่ ้อยละ ๑๐.๒๒ หลงั ด�าเนนิ โครงการเหลอื ร้อยละ ๔.๓๙ ๓) ไมม่ เี ด็กคนใดทตี่ อ้ งถอนฟั นแท้ ๔) หลังจากใช้ยาสมุนไพรธรรมชาตริ กั ษาเหา พบวา่ แกป้ ั ญหาไดโ้ ดยสมบูรณ์ ๕) ผลการประเมนิ พฤตกิ รรมนกั เรยี นจากการใช้นวตั กรรรมคพั ซอง พบวา่ จากระดบั พอใช้ กลายเป็นระดบั ดี ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั นโยบายของผบู้ รหิ ารทใี่ ห้ความสา� คญั กบั การศกึ ษา โดยเฉพาะการพฒั นาเดก็ ปฐมวยั และ การมีสว่ นร่วมของทุกภาคสว่ นไดแ้ ก่ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ทอ้ งที่ กา� นัน ผใู้ หญบ่ า้ น ชมุ ชน และหนว่ ยงานอ่นื ทัง้ ภาครฐั และเอกชน รวมถงึ ภาคีเครอื ขา่ ยตา่ งๆ ๒๒๑ปบผะหญา ลานนาสรางสุขภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ท่ี โรงเรียนเศรษฐกิจพอเพียง พ้ืนที่: เทศบาลตําบลทุงหัวช้าง อําเภอทุงหัวช้าง จังหวัดลําพูน วิทยากร: วาท่ีร้อยตรีหญิงรัฐกานต ศุภกา ตําแหนง: ครูผู้สอน เบอรโทรศัพท: ๐๘๓-๒๐๐-๓๔๙๙ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพนื้ ท่ี เทศบาลต�าบลทุง่ หัวช้างแบง่ การปกครองออกเป็น ๔ หมูบ่ า้ น ประกอบดว้ ยบา้ นทุง่ เป็ด หมูท่ ี่ ๑ บา้ นหนองป่ าตงึ หมูท่ ี่ ๒ บา้ นทงุ่ หัวช้าง หมูท่ ี่ ๓ และบา้ นจริญญา หมูท่ ี่ ๘ สว่ นทเี่ หลือ อยูใ่ นความดแู ลของ อบต.ทงุ่ หัวช้าง ดา้ นการจดั การศกึ ษา ในเขตรบั ผดิ ชอบของเทศบาลตา� บลทุง่ หวั ช้างมสี ถานศกึ ษา ๓ แห่ง คือโรงเรียนเทศบาลทุ่งหัวช้าง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลต�าบลทุ่งหัวช้าง และศูนย์พัฒนา เด็กเลก็ บา้ นทงุ่ เป็ด โรงเรียนเทศบาลทุ่งหัวช้างรับถ่ายโอนจากส�านักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาล�าพูน เขต ๒ ปั จจุบันเปิดสอนชัน้ อนุบาล ๑-๓ และชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ และ ๒ มีเด็กนักเรียน ๑๕๗ คน ครู ๘ คน ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ เทศบาลตา� บลทงุ่ หวั ช้าง ซง่ึ ถา่ ยโอนมาจากกรมการศาสนา ใช้หอ้ งเรยี น ของโรงเรียนเทศบาลต�าบลทุง่ หัวช้าง จัดการเรียนรู้ส�าหรับเด็กอายุ ๒ ปีข้ึนไป แตไ่ มเ่ กิน ๓ ปี มีดว้ ยกัน ๒ ห้องเรยี น ปีลา่ สดุ มีนักเรยี น ๒๐ คน ครูผูด้ ูแลเด็ก ๒ คน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านทุ่งเป็ด ถ่ายโอนมาจากองค์การบริหารส่วนต�าบลทุ่งหัวช้าง (เดิมอยใู่ นความดูแลของกรมการศาสนาเช่นเดียวกัน) โดยใช้อาคารอเนกประสงคข์ องวัดทุง่ เป็ด เป็นอาคารเรียน จัดการเรียนรู้ส�าหรับเด็กอายุ ๒ ปีข้ึนไป แต่ไมเ่ กิน ๓ ปี มีอยู่ ๑ ห้องเรียน ปีลา่ สดุ มีนกั เรียนจา� นวน ๑๐ คน ๒๒๒ | ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ

๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เดมิ โรงเรยี นเทศบาลทงุ่ หวั ช้างไดจ้ ดั การศกึ ษาทมี่ งุ่ เนน้ ดา้ นวชิ าการเป็นหลกั ไมไ่ ดม้ งุ่ เนน้ ให้ผู้เรียนมีทักษะชีวิตตามรูปแบบของท้องถิ่น ทางเทศบาลจึงได้ให้นโยบายกับทางโรงเรียน เพ่ือหาแนวทางจัดการเรียนการสอนทีพ่ ัฒนาคุณภาพผูเ้ รียนตามวิถีชีวิตของชุมชน ตอ่ มาจึงเกิด วสิ ยั ทัศน์ “โรงเรยี นดีใกลบ้ า้ น สบื สานงานเศรษฐกจิ พอเพียง ร้อยเรียงร้อยวิถีชีวิตทอ้ งถนิ่ ” และ เพ่ือให้ด�าเนินการตามวิสัยทัศนด์ ังกล่าว จึงได้ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา พร้อมประชุม ผูป้ กครองเพ่ือหารือและวางแผนจัดการศึกษา จนออกมาเป็นหลักสูตรทน่ี �าเอาหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาบูรณาการ สอดแทรกเขา้ ไปในสาระการเรียนร้แู ตล่ ะวชิ า ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพ่อื ให้มโี รงเรียนดีใกลบ้ า้ น อาคารสถานที่ และสภาพแวดลอ้ มทปี่ ลอดภยั มบี คุ ลากร ทเี่ หมาะสมเพยี งพอตอ่ ความตอ้ งการ จัดการศึกษาไดเ้ ป็นทีย่ อมรับของประชาชน ๒) เพ่ือให้นักเรียนไดเ้ รียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยน�าเขา้ มาบูรณาการ ในหลกั สตู รสถานศึกษา ให้นักเรียนเกิดความเขา้ ใจหลักการสามห่วง สองเง่ือนไข สามารถน�ามา ปรับใช้ในชวี ติ ประจ�าวนั สง่ เสรมิ พัฒนาการดา้ นร่างกาย อารมณจ์ ติ ใจ สังคม และสตปิ ั ญญา ๓) เพ่ือให้นักเรยี นไดเ้ รียนรู้วิถีชีวติ ทอ้ งถนิ่ ทีต่ นอาศยั สภาพสังคม เศรษฐกจิ วฒั นธรรม ประเพณี เกดิ ความเขา้ ใจ ปรบั ตวั และใช้ชวี ิตไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ๔) ยกระดบั คุณภาพการจดั การศกึ ษาของทอ้ งถนิ่ ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา และประชุมผปู้ กครอง เพ่ือหารือ วางแผนจัดการ ศกึ ษา จนออกมาเป็นหลักสูตรสถานศกึ ษาทีบ่ รู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเขา้ มา เป็นส่วนหน่ึงของการเรียนรู้ นอกจากนีย้ ังมีกิจกรรมฐานการเรียนรู้ ได้แก่ ๑) หนว่ ยทุง่ รวงทอง ๒) กา้ วตามพอ่ สานต่อความพอเพียง ร้อยเรียงชาติพันธุ์ สานสัมพันธป์ กาเกอะญอ ๓) หนว่ ย สองมือนอ้ ย ร้อยดอกผ้งึ ใจเป็นหน่ึง พงึ บชู า ๔) หนว่ ยประดิษฐโ์ คมดว้ ยมอื นอ้ ย ลอยประทปี ใน คงคา เพ่อื ให้นกั เรยี นไดเ้ รยี นรแู้ ละสบื สานวถิ ชี วี ติ แบบดงั้ เดมิ ให้คงอยคู่ สู่ งั คมของทงุ่ หวั ช้างสบื ไป ๒) ผลติ ส่อื การเรยี นรเู้ พ่อื ใช้ประกอบการเรยี นการสอนหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๓) บรู ณาการแหลง่ เรยี นรใู้ นชมุ ชน โดยนา� นกั เรยี นออกไปศกึ ษาแหลง่ เรยี นรวู้ ถิ ชี วี ติ ชมุ ชน อาชพี ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ในทอ้ งถนิ่ อยา่ งตอ่ เน่อื ง เพ่อื ให้นกั เรยี นไดเ้ รยี นร้จู ากปฏิบัตกิ าร จริง โดยให้ชมุ ชนเป็นวิทยากรให้ความรู้ ๔) ประสานกับผมู้ ีสว่ นเกยี่ วขอ้ งทุกภาคสว่ นในทอ้ งถิน่ เพ่ืออ�านวยการการจัดการศึกษา ให้เป็นไปในทศิ ทางเดียวกัน ๒๒๓ปบ ผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ |

๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) เทศบาลต�าบลทงุ่ หวั ช้าง ๒) คณะกรรมการสถานศึกษา ผบู้ ริหาร ครู ๓) ผปู้ กครอง ๔) ชมุ ชน ๕) แหลง่ เรยี นรู้ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) นกั เรยี นในโรงเรยี นมีคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาตามเกณฑท์ ีก่ �าหนด ๒) เกดิ หลักสตู รทบี่ ูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเขา้ มาสง่ เสรมิ การเรียนรู้ และพานกั เรยี นลงชมุ ชนเพ่อื เรยี นรวู้ ถิ ชี วี ติ ทอ้ งถนิ่ จากแหลง่ เรยี นรภู้ มู ปิ ั ญญา โดยมวี ทิ ยากรเจา้ ของ แหลง่ เรียนร้เู ป็นผนู้ �าการเรียนรู้ ๓) สร้างเครือข่ายการเรียนรู้โรงเรียนเศรษฐกิจพอเพียง ผ่านการจัดการแลกเปลี่ยน เรียนรู้กบั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ อ่นื ๆ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั ๑) เทศบาลต�าบลทุ่งหัวช้างจัดบริการสาธารณะด้านการศึกษาครบถ้วนรอบด้าน เช่น หลกั สูตรเรยี นรู้แบบบรู ณาการ อาคารสถานที่ วสั ดุครุภณั ฑ์ ส่ือการเรยี นรู้ บุคลากร สถานศกึ ษา รถรบั สง่ ฯลฯ ๒) การบริหารจัดการทดี่ ี โดยบริหารสถานศึกษาตามโครงสร้าง เนน้ การท�างานเป็นทีม และการมีสว่ นร่วมของทุกฝ่ าย มกี ารกระจายงาน กระจายอา� นาจ ระบบงานมคี วามตอ่ เน่อื ง ๓) งบประมาณสนับสนุนด้านการพัฒนาการศึกษาที่ได้รับการจัดสรรจากกรมส่งเสริม การปกครองทอ้ งถิน่ ๒๒๔ | ปบผะหญา ลา นนาสรางสขุ ภาวะ

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล บ้านเมืองกลาง พื้นท่ี: เทศบาลตําบลบ้านหลวง อําเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม วิทยากร: นายเอกสิทธ์ิ วงคธรหัส ตําแหนง: เจ้าพนักงานสาธารณสุข เบอรโทรศัพท: ๐๘๔-๘๘๕-๖๖๑๒ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี เทศบาลต�าบลบา้ นหลวงมีพ้ืนที่ ๓๖๔ ตารางกิโลเมตร ส่วนใหญเ่ ป็นพ้ืนทีเ่ ชิงเขาอยูใ่ น เขตอทุ ยานแหง่ ชาตดิ อยอนิ ทนนท์ แบง่ การปกครองออกเป็น ๑๙ หมบู่ า้ น ประกอบดว้ ย ๓ ชนเผา่ ไดแ้ ก่ ชนเผา่ มง้ จ�านวน ๒ หมบู่ า้ น ชนเผา่ ปกาเกอะญอ จ�านวน ๘ หมบู่ า้ น ชนพ้นื เมอื ง จา� นวน ๙ หมูบ่ า้ น สว่ นใหญป่ ระกอบท�าเกษตรกรรม มีนาขา้ ว สวนผลไม้ ไมด้ อกไมป้ ระดับ ภายในพ้นื ที่ ยังมีสถานทที่ อ่ งเทีย่ วทางธรรมชาติ คืออุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง สถานอี นามัยบา้ นเมอื งกลางกอ่ ตงั้ ข้นึ ในปี ๒๕๒๒ กระทงั่ ปี ๒๕๕๒ ไดย้ กฐานะจากสถานี อนามัยมาเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�าบล ต่อมาในปี ๒๕๖๐ มีนโยบายจากกระทรวง สาธารณสขุ ให้สง่ เสรมิ สขุ ภาพเดก็ อายุ ๐-๕ ปี รพ.สต.บา้ นเมอื งกลางจงึ ดา� เนนิ การ และพบปั ญหา วา่ ผปู้ กครองไมพ่ าเดก็ มารบั บรกิ ารตามเกณฑ์ จงึ คดิ หาวธิ ใี ห้ผปู้ กครองพาลกู หลานมารบั บรกิ าร ต�าบลบา้ นหลวงมี รพ.สต. ๔ แห่ง คอื รพ.สต.บา้ นแมห่ อย รพ.สต.บา้ นเมืองกลาง รพ.สต. ดอยอินทนนท์ และ รพ.สต.บา้ นใหมห่ ้วยเฮยี๊ ะ มจี า� นวนเด็กช่วงอายุ ๐-๕ ปี จา� นวน ๑,๒๗๕ คน อยใู่ นช่วงอายุ ๐-๓ ปี จา� นวน ๗๒๖ คน เป็นชาย ๓๙๔ คน หญงิ ๓๔๒ คน ช่วงอายุ ๓-๕ ปี จา� นวน ๕๔๙ คน เป็นชาย ๒๗๓ คน หญงิ ๒๗๖ คน สถานภาพการอยอู่ าศยั แบง่ เป็นอาศัยอยู่ กับพอ่ แม่ ๑,๑๒๐ คน อาศัยอยูก่ บั ตายาย หรอื ป่ ยู า่ ๑๓๗ คน อาศยั อยกู่ บั ญาติ ๑๘ คน กลุม่ เดก็ ช่วงอายุ ๐-๓ ปี มีภาวะสุขภาพปกติ ๖๓๒ คน มีปั ญหาสขุ ภาพ ๕๐ คน มีปั ญหา ด้านพัฒนาการสติปั ญญาล่าช้า ๑๓ คน ปั ญหาด้านจิตใจ (ถูกกระท�ารุนแรง) ๒ คน มีภาวะ ขาดสารอาหาร ๙ คน มีปั ญหาสขุ ภาพในช่องปากและฟั น ๒๖ คน มีภาวะเจ็บป่ วย ๒ คน เป็นโรค หอบหดื ๒ คน มภี าวะเสีย่ ง (นา หนักนอ้ ย) ๒๒ คน กลุม่ เด็กช่วงอายุ ๓-๕ ปี มภี าวะสุขภาพปกติ ๕๐๘ คน มปี ั ญหาสขุ ภาพ ๒๐ คน มปี ั ญหา ดา้ นพฒั นาการสตปิ ั ญญาลา่ ช้า ๒ คน ปั ญหาดา้ นจติ ใจ (ถกู กระทา� รนุ แรง) ๒ คน มปี ั ญหาสขุ ภาพ ในช่องปากและฟั น ๑๖ ป่ วยโรคธาลัสซีเมีย ๒ คน กลุ่มเด็กที่มีปั ญหาทางการได้ยินหรือส่ือ ความหมาย ๑ คน และเดก็ ไร้สัญชาติ ๒๕ คน ๒๒๕ปบ ผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ |

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ การจัดบริการด้านสุขภาพส�าหรับเด็กช่วงวัย ๐-๕ ปี ให้เด็กมีพัฒนาการทางร่างกาย เป็นไปตามเกณฑม์ าตรฐาน ดแู ลสขุ ภาพช่องปากและฟั น ไดร้ บั วคั ซนี ตามช่วงอายุ ตลอดจนไดร้ บั การดูแลตามกรณีพเิ ศษตา่ งๆ ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ให้บรกิ ารดา้ นสาธารณสุขแกเ่ ดก็ ๐-๕ ปี ทมี่ ารับบริการใน รพ.สต. ตามวันและเวลา ท�าการ (เชงิ รับ) ๒) สร้างระบบการติดตามเดก็ ให้มารบั บรกิ าร โดยบรู ณาการร่วมกบั หนว่ ยงานตา่ งๆ ใน ชมุ ชน เช่น ผนู้ า� ชุมชน อสม. ผา่ นการเพมิ่ ช่องทางการติดตอ่ ดว้ ยแอปพลิเคชนั่ เช่น ไลน์ ๓) เจา้ หนา้ ทตี่ ดิ ตามเยยี่ มบา้ นเดก็ ในรายทปี่ ่ วยหรอื มคี วามผดิ ปกตริ ว่ มกบั อสม. (เชงิ รกุ ) ทผี่ า่ นการอบรมความร้จู นมคี วามเชยี่ วชาญเร่อื งการดแู ลเดก็ เลก็ เช่น ตรวจฝากครรภ์ ตรวจเยยี่ ม หญงิ หลังคลอดเพ่อื สง่ เสรมิ ให้นมแม่ ๔) จัดทา� โครงการสา� หรับแกไ้ ขปั ญหาของเด็ก ๐-๕ ปี เช่น โครงการแกไ้ ขปั ญหาเด็กทีม่ ี นาหนักตากวา่ เกณฑ์ ๕) จัดคลินิกตรวจคัดกรองพัฒนาการเด็กในสถานบริการเดือนละ ๑ ครั้ง โดยจัด สภาพแวดล้อมเพ่ือให้เด็กแสดงพัฒนาการออกมาตามจริง พร้อมจัดท�าสมุดประจ�าตัวเด็ก และ ระบปุ ระวตั ิการไดร้ บั วัคซีนทจี่ า� เป็น ๖) จดั มมุ สง่ เสรมิ พฒั นาการเดก็ ปฐมวยั ในดา้ นตา่ งๆ โดยให้ผปู้ กครองทา� กจิ กรรมรว่ มกบั เด็ก และให้ความรู้ผู้ปกครองเร่ืองการดูแลบุตรหลาน เช่น แนวทางส่งเสริมพัฒนาการ และ การป้ องกันโรคในเดก็ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ระดบั บุคคลและครอบครัว ไดแ้ ก่ ผูป้ กครอง ปราชญช์ าวบา้ น ผบู้ ริหารเทศบาล เจ้าหนา้ ที่ เทศบาล เจ้าหนา้ ที่ รพ.สต. ระดับกลุ่มทางสังคม องคก์ รชุมชน ได้แก่ กลุ่ม อสม. กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแมบ่ า้ น กองทนุ หมูบ่ า้ น กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ศูนยก์ ารเรยี นร้เู ศรษฐกิจพอเพยี ง ระดบั หนว่ ยงานและแหลง่ ประโยชน์ ไดแ้ ก่ เทศบาลตา� บลบา้ นหลวง รพ.สต. ๔ แห่ง มลู นธิ ิ นักบญุ คามลิ โลแห่งประเทศไทย กศน. กองทนุ หลักประหลกั กนั สุขภาพระดับทอ้ งถิน่ ชมรม อสม. อาสาสมัครกูช้ ีพกภู้ ยั ๗. ผลการดา� เนนิ งาน เด็กช่วงวัย ๐-๕ ปี ได้รับบริการด้านสุขภาพทั้งเชิงรับและเชิงรุกครบทุกคน ทั้งด้าน การรกั ษา ป้ องกันโรค และสง่ เสริมดา้ นพฒั นาการ เพ่อื สขุ ภาพทีด่ ีอยา่ งตอ่ เน่อื ง ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ศนู ยพ์ ฒั นาครอบครวั รพ.สต. อสม. และ ก�านัน ผใู้ หญบ่ า้ น ทา� งานร่วมกนั เพ่อื ดแู ลเดก็ ช่วงวัย ๐-๕ ปี ตลอดจนทุกกลุม่ อยา่ งครอบคลมุ ๒๒๖ | ปบผะหญา ลานนาสรางสขุ ภาวะ

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก บ้านน้ําตกแม่กลาง พื้นท่ี: เทศบาลตําบลบ้านหลวง อําเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม วิทยากร: นายสุรัช อุนนันกาศ ตําแหนง: ผู้อํานวยการกองการศึกษา เบอรโทรศัพท: ๐๘๓-๕๑๕-๓๕๓๙ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพน้ื ท่ี เทศบาลต�าบลบา้ นหลวงมศี ูนยพ์ ฒั นาเดก็ เล็กในเขตพ้ืนทีใ่ ห้บริการ ๑๐ แห่ง ไดแ้ ก่ ศูนย์ พัฒนาเด็กเล็กบา้ นป่ าแขม (บรกิ ารหมูท่ ี่ ๖) ศูนยพ์ ัฒนาเดก็ เลก็ บา้ นขุนกลาง (บรกิ ารหมทู่ ี่ ๗) ศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็กบา้ นผาหมอน (บริการหมูท่ ี่ ๘) ศนู ยพ์ ัฒนาเด็กเล็กบา้ นแมป่ อน (บรกิ ารหมูท่ ี่ ๑๕) ศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็กบา้ นแมก่ ลางหลวง (บริการหมูท่ ี่ ๑๗ หยอ่ มบา้ นแมก่ ลางหลวง) ศูนย์ พัฒนาเด็กเล็กบา้ นอ่างกานอ้ ย (บริการหมูท่ ี่ ๑๗ หยอ่ มบา้ นอ่างกานอ้ ย) ศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็ก แมย่ ะนอ้ ย (บรกิ ารหมทู่ ี่ ๑๘) ศนู ยพ์ ัฒนาเดก็ เล็กบา้ นนา ตกแมก่ ลาง (บริการหมทู่ ี่ ๑๐, ๑๑, ๑๒, ๑๓, ๑๔, ๑๖, ๒๐ และ ๒๑) ศูนยพ์ ัฒนาเดก็ เลก็ บา้ นหนองหลม่ (บริการหมูท่ ี่ ๒๒) ศนู ยพ์ ัฒนา เดก็ เลก็ เดน่ สนั (บรกิ ารหมทู่ ี่ ๕ และ ๒๓) นอกจากนยี้ งั จดั ตงั้ ศนู ยพ์ ฒั นาครอบครวั ตา� บลบา้ นหลวง เพ่อื สง่ เสริมให้ทุกภาคสว่ นเขา้ มามีสว่ นร่วมในการสร้างความเขม้ แข็งให้กบั สถาบนั ครอบครัว ตา� บลบา้ นหลวงมจี �านวนเดก็ ช่วงอายุ ๐-๕ ปี จา� นวน ๑,๒๗๕ คน อยูใ่ นช่วงอายุ ๐-๓ ปี จ�านวน ๗๒๖ คน เป็นชาย ๓๙๔ คน หญิง ๓๔๒ คน ช่วงอายุ ๓-๕ ปี จ�านวน ๕๔๙ คน เป็นชาย ๒๗๓ คน หญิง ๒๗๖ คน สถานภาพการอยูอ่ าศยั แบง่ เป็นอาศยั อยกู่ บั พอ่ แม่ ๑,๑๒๐ คน อาศยั อยกู่ บั ตายายหรอื ป่ ูยา่ ๑๓๗ คน อาศยั อยกู่ ับญาติ ๑๘ คน ๒๒๗ปบ ผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ |

๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็กนาตกแมก่ ลางกอ่ ตั้งในปี ๒๕๒๕ โดยเจ้าอาวาสวัดนาตกแมก่ ลาง ในขณะนัน้ ได้รับงบประมาณจากกรมศาสนามาสร้างศูนยเ์ ด็กกอ่ นเกณฑ์ รับดูแลเด็กตัง้ แต่อายุ ๓-๖ ปี ตอ่ มาในปี ๒๕๓๖ ไดร้ ับการถ่ายโอนจากกรมการศาสนามาอยใู่ นความรับผิดชอบของ ส�านกั งานพฒั นาชุมชนอ�าเภอจอมทอง ซ่ึงจัดสรรคา่ ตอบแทนผดู้ ูแลเด็ก อาหารกลางวัน และนม จนในปี ๒๕๔๓ ทางเจ้าอาวาสวดั นาตกแมก่ ลางไดใ้ ช้บรเิ วณทีต่ ัง้ ศูนยส์ ร้างเจดีย์ จงึ ตอ้ งยา้ ยมา ใช้อาคารอเนกประสงคห์ ลงั เกา่ ของโรงเรยี นบา้ นแมห่ อย และไดเ้ ปลยี่ นช่อื เป็นศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ บา้ นแมห่ อย ปี ๒๕๔๕ ถ่ายโอนศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็กมาอยกู่ บั องคก์ ารบริหารสว่ นต�าบลบา้ นหลวง แต่ ยังมีพัฒนากรชุมชนคอยเป็นพี่เลี้ยงต่อประมาณ ๒ ปี หลังจากนั้นจึงมาอยู่ในความดูแลของ ทอ้ งถิน่ อยา่ งเต็มระบบ ปี ๒๕๕๐ มีการปรับปรุงอาคารเรียน โดยของบประมาณสนับสนุนจากกองทุนเงินล้าน หมูท่ ี่ ๑๐ และหมูท่ ี่ ๒๐ และพัฒนาศักยภาพของบุคลากรศูนยฯ์ รวมถึงปรับกิจกรรมทีส่ ง่ เสริม พัฒนาการของเดก็ ปี ๒๕๕๑ องคก์ ารบริหารสว่ นต�าบลบา้ นหลวงยกฐานะเป็นเทศบาลตา� บลบา้ นหลวง ปี ๒๕๕๗ ได้กอ่ สร้างอาคารศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็กหลังใหมข่ ้ึนในพ้ืนที่ด้านหลังเทศบาล ต�าบลบา้ นหลวง เปิดท�าการเม่อื วนั ที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๗ มคี รู ๒ คน เด็กจ�านวน ๒๕ คน ปี ๒๕๕๘ ไดด้ า� เนนิ การยา้ ยรวมศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ บา้ นเมอื งกลางมารวมกบั ศนู ยพ์ ฒั นา เดก็ เลก็ นา ตกแมก่ ลาง และยบุ ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ วดั พระบาท เน่อื งจากปั ญหาเร่อื งกรรมสทิ ธิท์ ดี่ นิ ปี ๒๕๕๙ ถงึ ปั จจบุ นั มกี ารจดั ตงั้ ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ บา้ นป่ าแขม เพ่อื อา� นวยความสะดวก เร่อื งการเดนิ ทาง ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ สง่ เสริมพฒั นาการทางดา้ นร่างกาย จิตใจ สังคม และสติปั ญญาของเด็กช่วงอายุ ๒-๕ ปี ครอบคลุมทวั่ พ้นื ที่ ๒๒๘ | ปบผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) จดั ทา� โครงการของบจากกองทนุ หลกั ประกนั สขุ ภาพระดบั ทอ้ งถนิ่ เพ่อื อบรมให้ความรู้ ผูป้ กครอง ผา่ นกจิ กรรมสานสายใยชมุ ชน ๒) บคุ ลากรของศนู ยฯ์ เขา้ รบั การพฒั นาศกั ยภาพผา่ นการอบรม ศกึ ษาดงู าน จากหนว่ ยงาน ตน้ สงั กดั เช่น กรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถนิ่ และหนว่ ยงานภาคี เช่น สา� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ และเครอื ขา่ ยองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ อ่ืน ๓) สรา้ งความเขา้ ใจในบทบาท หนา้ ทขี่ องแตล่ ะฝ่าย ผา่ นทปี่ ระชมุ คณะกรรมการสถานศกึ ษา และการประชมุ ผปู้ กครอง โดยพยายามสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มในทกุ ภาคสว่ น เพ่อื ใหเ้ กดิ การบรู ณาการ ความร่วมมือในการออกแบบ และพฒั นางานการดแู ลเด็กปฐมวยั ๔) สง่ เสริมพฒั นาดา้ นร่างกาย จิตใจ สตปิ ั ญญา และสงั คม ผา่ นหลักสตู รการเรียนร้ขู อง กรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถิน่ และการบูรณาการภูมปิ ั ญญาทอ้ งถิน่ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) ระดับต�าบล ได้แก่ เทศบาลต�าบลบ้านหลวง รพ.สต. ๔ แห่ง ศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็ก ๑๐ แห่ง วดั นาตกแมก่ ลาง ๒) ระดบั บุคคล ไดแ้ ก่ หลวงพอ่ วริ ิยัง นายกอ่ ชิ เพชรไพรพนาวลั ย์ ๓) ระดับกลมุ่ องคก์ รชมุ ชน ไดแ้ ก่ กองทุนเงินลา้ น กลุม่ แมบ่ า้ น กลุม่ อสม. ๔) ระดบั เครอื ขา่ ย ไดแ้ ก่ ศนู ยจ์ ดั การเครอื ขา่ ยเทศบาลตา� บลอโุ มงค์ ศนู ยจ์ ดั การเครอื ขา่ ย องคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�าบลป่ าสัก ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) เกดิ หลกั สตู รและคูม่ ือการด�าเนนิ งานเพ่อื การดูแลเด็กปฐมวยั โดยชมุ ชนทอ้ งถนิ่ ๒) เกดิ คมู่ อื การจดั การอาหารสา� หรบั เดก็ ปฐมวยั ทส่ี อดคลอ้ งกบั การเจรญิ เตบิ โตทางดา้ น ร่างกายและสติปั ญญาภายในศนู ยพ์ ัฒนาเด็กเลก็ ๓) บุคลากรผู้ดูแลเด็กปฐมวัยได้รับการฝึ กอบรมให้มีความรู้ความเข้าใจในการดูแล เด็กปฐมวัยทุกมิติอยา่ งนอ้ ยปีละ ๑ ครัง้ และต้องผา่ นการประเมินคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน ทกี่ รมสง่ เสริมการปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ กา� หนด ๔) จัดกจิ กรรมการสร้างสรรคร์ ะหวา่ งศนู ยพ์ ัฒนาเดก็ เลก็ กับชมุ ชนอยา่ งนอ้ ยปีละ ๒ ครัง้ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ศนู ยพ์ ฒั นาครอบครวั รพ.สต. อสม. และ ก�านัน ผูใ้ หญบ่ า้ น ท�างานร่วมกนั เพ่ือดูแลเด็กช่วงวัย ๐-๕ ปี ให้มีพฒั นาทางดา้ นร่างกาย จิตใจ สังคม และสติปั ญญา ๒๒๙ปบ ผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ |



๗ ประเด็นการพัฒนาระบบ การดูแลกลุ่มเปราะบาง โดยชุมชนท้องถ่ิน

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ท่ี กองทุนตักบาตรตานต้อด ตําบลปาสัก พนื้ ท:่ี องคก ารบรหิ ารสว นตาํ บลปา สกั อาํ เภอเชยี งแสน จงั หวดั เชยี งราย วิทยากร: นางลําจวน จันโทสุทธิ ตําแหนง: รองนายกองคการบริหารสวนตําบลปาสัก เบอรโทรศัพท: ๐๘๗-๑๘๒-๕๘๓๘ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพนื้ ท่ี ชนกลุม่ แรกของตา� บลป่ าสักอพยพมาจากจงั หวดั ลา� พนู และจงั หวดั เชียงใหม่ เขา้ มาในรปู พอ่ คา้ วัวต่าง น�าสินคา้ ข้ึนไปขายยังหัวเมืองสิบสองปั นนา และตัง้ ถิ่นฐานอยูบ่ ริเวณบา้ นป่ าแดด เม่อื ปี ๒๓๔๔ จนในปี ๒๔๗๐ กระทรวงมหาดไทยไดป้ ระกาศจดั ตงั้ ต�าบล โดยใช้ช่อื ตา� บลป่ าสกั เน่อื งจากบรเิ วณนมี้ ตี น้ สกั อยหู่ นาแนน่ ตา� บลป่ าสกั ขน้ึ ตรงกบั กงิ่ อา� เภอเชยี งแสน ตอ่ มาในปี ๒๕๒๒ ได้เปลีย่ นช่ือต�าบลมาเป็นต�าบลปางหมอปวง และในปี ๒๕๒๓ ได้เปลีย่ นช่ือกลับมาเป็นต�าบล ป่ าสักจนถึงปั จจุบัน โดยมีการปกครองรูปแบบสภาต�าบลในช่วงปี ๒๕๓๗-๒๕๓๘ และได้รับ การยกฐานะจากสภาต�าบลเป็นองคก์ ารบริหารส่วนต�าบล ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเม่ือ ๒๙ มีนาคม ๒๕๓๙ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง กองทนุ ตกั บาตรตานตอ้ ดตา� บลป่ าสกั เกิดข้ึนจากการประชมุ เวที ๔ ฝ่ าย ของตา� บลป่ าสกั มกี ารพดู คยุ กนั ถงึ ประเดน็ การสงเคราะห์ผยู้ ากไร้ ซ่งึ แตเ่ ดมิ ตอ้ งรอภาครฐั ทา� ให้บางครงั้ ไมท่ นั ตอ่ สถานการณ์ หรอื สมุ่ เสยี่ งตอ่ การผดิ ระเบยี บราชการ ทปี่ ระชมุ จงึ ระดมความคดิ และไดเ้ สนอวธิ กี าร “ตานต้อด” ซ่ึงเป็นประเพณีดั้งเดิมของคนป่ าสัก โดยมีพระครูพิศาลธรรมาทร เจ้าอาวาสวัด ป่ าสกั นอ้ ย เป็นผูข้ บั เคล่ือน กอ่ ตงั้ กองทุนข้ึนในปี ๒๕๕๘ การท�าบุญตานต้อดเป็นการช่วยเหลือหรือสงเคราะห์กันเองของชาวบ้าน หรือเรียกว่า ทานมยั เป็นการสรา้ งกศุ ลอนั ยงิ่ ใหญ่ ในแตล่ ะปีจะทา� วนั ใดกไ็ ด้ ขน้ึ อยกู่ บั ความเดอื ดรอ้ นของผคู้ น หรือตามทีพ่ ระสงฆส์ ะดวกก็ได้ นอกจากนี้ ชาวบา้ นเช่ือกันว่า หากท�าให้ผูท้ ีไ่ ด้รับตกใจมาก ยิง่ ไดบ้ ญุ กุศลมาก ๒๓๒ | ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ สง่ เสรมิ การช่วยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั ของคนในตา� บล และเป็นการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมประเพณี ภายในต�าบล ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน อบต.ป่ าสัก และภาคีเครือขา่ ย ร่วมกับวัดในต�าบลป่ าสัก จัดพิธีตักบาตรขา้ วสารอาหาร แห้งร่วมกัน หมุนเวียนไปตามวัดต่างๆ ที่ผลัดกันเป็นเจ้าภาพ เม่ือประชาชนต�าบลป่ าสักร่วม ใส่บาตรแล้ว คณะสงฆจ์ ะมอบของทีไ่ ด้รับบิณฑบาตให้แก่ อบต.ป่ าสัก เพ่ือให้ทาง อบต.ป่ าสัก น�าไปคัดแยกและจัดเป็นถุงยังชีพ เม่ือถึงวันทีน่ ัดหมายท�าตานต้อด คณะสงฆ์ ผูบ้ ริหาร สมาชิก สภา อบต.ป่ าสัก ชมรม อสม. รพ.สต. ชมรมกา� นันผูใ้ หญบ่ า้ น ตลอดจนภาคเี ครือขา่ ย จะร่วมกัน นา� ของไปมอบให้กลุม่ เป้ าหมายทที่ างหมูบ่ า้ นเลือกไว้ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลป่ าสกั โรงเรียน รพ.สต. คณะสงฆใ์ นตา� บลป่ าสัก ผูบ้ ริหารและ เจ้าหนา้ ที่ อบต.ป่ าสัก ประชากร เดก็ และเยาวชน ผสู้ งู อายุ ผพู้ ิการ ผดู้ อ้ ยโอกาส ผยู้ ากไร้ ผปู้ ่ วย ติดเตยี งในต�าบล ชมรม อสม. กลมุ่ อผส. กลมุ่ อพม. ผูน้ �าทอ้ งทใี่ นต�าบลป่ าสัก ๗. ผลการดา� เนนิ งาน เกิดการช่วยเหลือซ่ึงกันและกันของคนในต�าบล เพ่ือสร้างคุณภาพชีวิตความเป็นอยูท่ ี่ดี ให้กันและกัน ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั การมีส่วนร่วมที่สุดทา้ ยเกิดเป็นจิตสาธารณะ ต้องการช่วยเหลือผูอ้ ่ืน ท�าให้สังคมต�าบล ป่ าสักมีความนา่ อยู่ ๒๓๓ปบผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ การบริหารจัดการตําบล เทศบาลตําบลน้ําแพร่พัฒนา พื้นที่: เทศบาลตําบลน้ําแพรพัฒนา ตําบลน้ําแพร อําเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม วิทยากร: นายธันยา รวมชัย ตําแหนง: นิติกร เบอรโทรศัพท: ๐๕๓-๒๙๖-๖๐๑ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี นายอนุชา รีบเร่ง นายกเทศบาลต�าบลนาแพร่พัฒนาในขณะนัน้ ต้องการให้ประชาชน มสี ว่ นร่วมในการพฒั นาทอ้ งถนิ่ ให้มากทสี่ ดุ จงึ จดั เวทปี ระชาคมหมบู่ า้ น และประชาคมตา� บล เพ่อื น�าขอ้ เสนอต่างๆ มาจัดท�าเป็นนโยบายที่มุง่ พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีข้ึน ภายใต้ วิสัยทัศน์ “ต�าบลแห่งความสุข และความมัน่ คงในชีวิต” กระทัง่ เกิดเป็นแนวทางการบริหารพ้ืนที่ ตามหลัก “๓ ร่วม ๔ สร้าง” คือ ร่วมมือ ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ เพ่ือสร้างความมั่นคง สร้าง ความเทา่ เทยี ม สร้างคณุ ธรรม และสร้างความสขุ ให้เกิดข้ึนในตา� บลนาแพร่อยา่ งเป็นรปู ธรรม ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ในปี ๒๕๕๕ ศนู ยพ์ ัฒนาสงั คม หนว่ ยที่ ๑๓ จงั หวดั เชยี งใหม่ คดั เลอื กให้องคก์ ารบริหาร ส่วนต�าบลนาแพร่เข้าร่วมโครงการ “ต�าบลต้นแบบ” ซ่ึงหน่ึงในภารกิจที่ส�าคัญ คือการจัดตั้ง ศนู ยพ์ ฒั นาครอบครวั ตา� บลนา แพร่ โดยมคี ณะทา� งานเป็นแกนกลางดา� เนนิ งานกจิ กรรมตา่ งๆ เช่น โครงการสวัสดิการเติมเต็ม เพ่ือสงเคราะห์ครอบครัวทีป่ ระสบความเดือดร้อนทางสังคมเร่งด่วน โครงการข่วงละอ่อนเตวต�าบลนาแพร่ เพ่ือสนับสนุนให้ครอบครัวและชุมชนมีส่วนร่วมพัฒนา ศักยภาพของสภาเด็กและเยาวชนต�าบลนาแพร่ โครงการครอบครัวธรรมะ เพ่ือให้ครอบครัว ไดป้ ฏบิ ัติกิจกรรมทางพุทธศาสนาร่วมกนั ในวนั สา� คัญทางศาสนา เป็นตน้ ทัง้ ยงั มีหนา้ ทสี่ นับสนุน การดา� เนินงานของศนู ยพ์ ฒั นาครอบครัวระดับชุมชน ๒๓๔ | ปบ ผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) ประชาชนมสี ว่ นร่วมพัฒนาต�าบลนา แพร่ผา่ นกิจกรรมตา่ งๆ ๒) เกิดการถ่ายทอดภูมปิ ั ญญาทอ้ งถนิ่ ๓) เกิดการตรวจสอบการทา� งานโดยภาคประชาชน เพ่ือสร้างความไวว้ างใจ และกระตนุ้ ให้ประชาชนเขา้ มามสี ว่ นร่วมในการบรหิ ารและพัฒนาชุมชนทอ้ งถิน่ มากข้ึน ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) งานบรกิ าร จดั บรกิ ารจดั เกบ็ ภาษนี อกสถานที่ โดยประชาชนไมต่ อ้ งเดนิ ทางไปเทศบาล ตลอดจนให้ค�าปรกึ ษาดา้ นกฎหมาย จดั ตงั้ ศูนยไ์ กลเ่ กลีย่ ขอ้ พิพาทชมุ ชนตา� บลนาแพร่ ให้บริการ ด้านการก่อสร้างและงานออกแบบแก่ประชาชน เช่น การปรับปรุงบ้านหรือต่อเติมตัวอาคาร ให้บริการอินเทอร์เน็ตต�าบล บริการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า พ่นหมอกควันป้ องกันไข้เลือดออก แจกหนา้ กากอนามยั ป้ องกนั หมอกควนั จดั ตงั้ ศูนย์ อปพร. ต�าบลนาแพร่ เพ่ือให้ความช่วยเหลือ เม่ือเกิดเหตุด่วนเหตุร้าย บริการรับส่งผูป้ ่ วย จัดท�าสนามฟุตบอล สนามฟุตซอล สนามเปตอง สนามวอลเลย่ บ์ อล และบรกิ ารห้องซ้อมดนตรสี ากล รวมทงั้ ให้บรกิ ารขอ้ มลู ขา่ วสารดา้ นการเกษตร แจกกลา้ พันธุไ์ ม้ ป๋ ยุ อนิ ทรยี ์ และสารชวี ภาพตา่ งๆ ๒) งานเฝ้ าระวงั เตรียมความพร้อมและเฝ้ าระวงั ภยั พบิ ัตติ า่ งๆ เช่น ไฟไหม้ นาทว่ ม พายุ รวมถงึ อบุ ตั เิ หตุฉุกเฉิน ป้ องกนั และควบคุมโรคติดตอ่ ตา่ งๆ เช่น ไขเ้ ลือดออก พิษสนุ ัขบา้ ๓) งานแกไ้ ขปั ญหา แกไ้ ขปั ญหาภัยแลง้ โดยจัดรถบรรทกุ นาสง่ ให้ตามบา้ น สงเคราะห์ เด็ก ผู้พิการ และผู้สูงอายุ ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีข้ึน ตลอดจนตั้งงบประมาณส�าหรับกิจกรรม สง่ เสริมสุขภาพ เช่น แขง่ กีฬา ปั่ นจักรยาน ๔) งานพัฒนา กอ่ สร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก หรือถนนลาดยาง ส่งเสริมกลุ่มอาชีพ ต่างๆ ในชุมชน สืบสานภูมิปั ญญาท้องถิ่น เช่น จัดท�าโครงการประเพณีรดนาด�าหัวผู้สูงอายุ โครงการส่งเสริมวัฒนธรรมหมู่บ้านและประเพณีสรงนาพระธาตุ ส่งเสริมการอนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติ ผา่ นโครงการอนรุ กั ษแ์ ละฟ้ืนฟทู รพั ยากรสตั วน์ า และโครงการเฝ้ าระวงั ไฟป่ า รวมทัง้ ให้ความรู้เร่อื งกฎหมายแกผ่ ูน้ า� ชุมชน เดก็ และเยาวชนในพ้นื ที่ ๒๓๕ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ |

๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) ศาลจงั หวดั เชียงใหม่ ช่วยสง่ อาสาสมัครมาร่วมไกลเ่ กลยี่ ขอ้ พิพาทในศนู ยไ์ กลเ่ กลีย่ ฯ และอบรมให้ความร้ดู า้ นกฎหมายแกผ่ ูน้ �าชมุ ชนและเยาวชนในตา� บล ๒) ศนู ยพ์ ัฒนาสังคม หนว่ ยที่ ๑๓ จงั หวดั เชยี งใหม่ สนบั สนุนการจัดตงั้ คลนิ ิกครอบครัว ๓) ส�านักงานพัฒนาสงั คมและความมนั่ คงของมนษุ ยจ์ ังหวดั เชียงใหม่ สนับสนนุ โครงการ ขบั เคล่อื นสังคมนา่ อยูแ่ บบองคร์ วมบนพ้ืนฐานของจิตสาธารณะ ๔) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�าบลนาแพร่ ช่วยขับเคล่ือนนโยบายด้านสุขภาพและ อนามยั ในพ้นื ที่ ๕) โรงเรยี นบา้ นนา แพร่ พฒั นาและสง่ เสริมการเรียนร้ขู องเดก็ และเยาวชน ๖) เทศบาลต�าบลเชิงดอย ช่วยพัฒนาศักยภาพของวิทยากร แหลง่ ปฏิบัติการ และคณะ ท�างานของเทศบาลตา� บลนา แพร่พฒั นา ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ประชาชนเขา้ มามีส่วนร่วมพัฒนาพ้ืนที่ของตัวเอง เกิดการรวมกลุ่มกลายเป็นองค์กรที่ เขม้ แข็ง และต่อยอดไปสู่การสร้างเครือขา่ ยในทุกภาคส่วน โดยหน่ึงในเคร่ืองมือที่สะทอ้ นภาพ ดังกล่าวคือ ขอ้ บัญญัติขององคก์ ารบริหารส่วนต�าบลนาแพร่ ที่มาจากการรับฟั งขอ้ คิดเห็นของ ทุกภาคสว่ นผา่ นเวทปี ระชาคม นอกจากนยี้ งั มกี ารจดั ตงั้ กลุม่ สภาเด็กและเยาวชน เพ่อื ให้เด็กและ เยาวชนเป็นกา� ลังส�าคัญในการสร้างสรรคพ์ ้นื ทีต่ อ่ ไปในอนาคต ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั การมสี ว่ นร่วมของภาคประชาชน เพราะภาคีเครอื ขา่ ยทเี่ ขม้ แขง็ ช่วยให้การส่ือสารและนา� ขอ้ มูลไปใช้มีประสิทธิภาพมากข้ึน ขณะเดียวกัน การก�าหนดนโยบายของผูบ้ ริหาร โดยค�านึงถึง การมีสว่ นร่วมของทกุ ภาคสว่ น ช่วยให้การแกไ้ ขปั ญหาสอดคลอ้ งกบั สภาพความเป็นจริง และงา่ ย ต่อการวางแผนขอ้ มูลในระยะยาว นอกจากนี้ การสนับสนุนงบประมาณในกิจกรรมต่างๆ อยา่ ง สมา เสมอ กม็ สี ว่ นช่วยให้เกดิ การพฒั นาไมน่ อ้ ย และยงั เป็นแรงกระตนุ้ ให้ทกุ ภาคสว่ นออกมาแสดง พลงั และศกั ยภาพของตนเองมากข้ึน ๒๓๖ | ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ที่ ศูนย์มิตรภาพบําบัด เทศบาลตําบลปาก่อดํา พ้ืนที่: เทศบาลตําบลปากอดํา อําเภอแมลาว จังหวัดเชียงราย วิทยากร: นางสายอรุณ ใต้ฟาพูล ตาํ แหนง : ตวั แทนกลมุ จติ อาสา ศนู ยม ติ รภาพบาํ บดั เทศบาลตาํ บลปา กอ ดาํ เบอรโทรศัพท: ๐๘๙-๖๓๔-๘๖๕๙ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ท่ี พ้นื ทีเ่ ทศบาลต�าบลป่ ากอ่ ด�ามผี ูอ้ ยูอ่ าศยั ๑,๒๐๕ ครัวเรือน ประชากร ๓,๖๗๔ คน เป็น ชาย ๑,๗๗๓ คน หญิง ๑,๙๐๑ คน ในจา� นวนนเี้ ป็นคนพกิ าร ๑๐๓ คน แบง่ เป็นชาย ๔๗ คน หญงิ ๕๖ คน ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ศูนย์มิตรภาพบ�าบัดเทศบาลต�าบลป่ าก่อด�าเกิดจากการรวมตัวของคนที่มีหัวใจแห่ง ความเอ้ืออาทร อยากช่วยเหลือดูแลผู้ป่ วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ยากไร้ ตามศักยภาพ ทีส่ ามารถทา� ได้ โดยไมห่ วงั ผลตอบแทนใดๆ จากกลุ่มคนจ�านวนนอ้ ยขยายเป็นกลุ่มใหญ่ มีเครือขา่ ยมากกว่า ๗๐๐ คนทัว่ ทัง้ อ�าเภอ แมล่ าว ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือเป็นศูนย์รวมของกลุ่มจิตอาสา เป็นเครือข่ายเพ่ือนช่วยเพ่ือนดูแลผู้ป่ วยติดเตียง ผูป้ ่ วยเร้ือรงั ผูส้ งู อายุ ผพู้ กิ าร ผยู้ ากไร้ ผชู้ ่วยเหลอื ตัวเองไดน้ อ้ ย และผถู้ ูกทอดทิง้ ในชุมชน ๒๓๗ปบ ผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ |

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน เรมิ่ จากเปิดเวทแี ลกเปลยี่ นเรยี นรู้ เชญิ ทกุ หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ ง สา� รวจขอ้ มลู และแบง่ กลมุ่ ผูท้ ีต่ อ้ งไดร้ บั การดแู ลเป็น ๓ กลมุ่ สี ตามเกณฑป์ ระเมินความสามารถในการท�ากจิ วตั รประจา� วนั และจัดตารางการท�างานของจติ อาสา โดยจติ อาสา ๑ คน ดูแลผทู้ ตี่ อ้ งไดร้ บั การดูแล ๑-๕ คน ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง โรงพยาบาลแมล่ าว โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตา� บลป่ ากอ่ ดา� คณะสงฆ์ สา� นกั งานพฒั นา สังคมและความมนั่ คงของมนุษยจ์ งั หวัดเชยี งราย กลมุ่ จิตอาสาในพ้นื ทีเ่ ทศบาลต�าบลป่ ากอ่ ดา� ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ผูป้ ่ วยสามารถดูแลสุขภาพตนเองไดถ้ ูกตอ้ งมากข้ึน อาการทุเลาลง และบางรายสามารถ กลบั คนื สูส่ งั คมไดต้ ามปกติ นอกจากนี้ การรวมกลมุ่ เพ่อื นช่วยเพ่อื นยงั ช่วยให้เกดิ การแลกเปลีย่ น เรยี นรู้ ระหวา่ งจิตอาสา และทีมท�างานดา้ นสขุ ภาพ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั ชมุ ชนมสี ว่ นรว่ ม มกี ารประสานงานระหวา่ ง รพ.สต. องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ อสม. ผนู้ า� ชมุ ชน จิตอาสากลมุ่ ตา่ งๆ หนว่ ยงานตา่ งๆ ทเี่ กีย่ วขอ้ ง และความเขม้ แข็งของชุมชน ในลักษณะ “จว้ ยกนั๋ ” ตามแนวคดิ “จว้ ยกนั๋ คดิ จว้ ยกนั๋ แกไ้ ขปั๋ นหา จว้ ยกนั๋ วางแผน และจว้ ยกนั๋ พฒั นา” เสมอื น ทกุ คนคือคนในครอบครัวเดยี วกัน ๒๓๘ | ปบผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ สุขศาลา สองสุข พื้นท่ี: เทศบาลตําบลงิม อําเภอปง จังหวัดพะเยา วิทยากร: นายทองชิต คิดดี ตําแหนง: นักวิชาการกองการศึกษา เทศบาลตําบลงิม เบอรโทรศัพท: ๐๙๙-๙๔๘-๙๙๘๙ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ท่ี โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตา� บลบา้ นเลยี้ ว ตงั้ อยหู่ มทู่ ี่ ๑๐ บา้ นเลยี้ ว จดั ตงั้ เม่อื ปี ๒๕๒๖ ปั จจุบันมีบุคลากร ๖ คน รับผิดชอบดูแลประชาชนในเขตพ้ืนที่ ๕ หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านแบ่ง หมูท่ ี่ ๕ บา้ นปั วลมุ่ หมูท่ ี่ ๖ บา้ นเลีย้ ว หมูท่ ี่ ๑๐ บา้ นดอนไชยป่ าแขม หมูท่ ี่ ๓ และหมูท่ ี่ ๑๔ (ตา� บลออย) รวมประชากรจา� นวน ๓,๒๐๐ คน โดยขอ้ มูลผูป้ ่ วยในพ้ืนทมี่ ีดงั นี้ ผปู้ ่ วยโรคเร้อื รังใน ชมุ ชน ร้อยละ ๑๓.๔๔ เบาหวาน ร้อยละ ๒๑ ความดนั โลหิตสงู ร้อยละ ๔๗ หลอดเลือดสมอง ร้อยละ ๑.๖๙ หวั ใจ ร้อยละ ๕.๓๔ ไตวาย ร้อยละ ๑.๓๓ มะเรง็ ร้อยละ ๑.๓๓ และขอ้ เขา่ เส่ือม ร้อยละ ๒๒.๕๗ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง ชาวบา้ นสว่ นใหญเ่ ช่ือวา่ สภาวะจิตสุดทา้ ยกอ่ นเสียชีวติ เป็นเร่อื งส�าคัญมาก หากจติ ตัง้ มนั่ ในกุศลกรรม ยอ่ มไปสูส่ คุ ติ ในทางกลับกนั หากสภาวะจิตไมส่ งบ ผูต้ ายจะไปสทู่ ุคติ นายวรี ชยั คา� มา ผูอ้ า� นวยการโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตา� บลบา้ นเลีย้ ว เหน็ ผูป้ ่ วยระยะ สดุ ทา้ ยทปี่ ระสงคก์ ลบั มาเสยี ชวี ติ ทีบ่ า้ น และไดร้ บั การปฏบิ ตั ติ ามพธิ กี รรมทีถ่ กู ตอ้ ง แตค่ รอบครวั หรือญาตใิ กลช้ ดิ ไมเ่ ขา้ ใจหรอื ปฏิบัติไมถ่ กู ตอ้ ง สง่ ผลให้อาการป่ วยทรดุ หนักเร็วข้ึนหรือเสียชวี ิต อยา่ งไมส่ งบ ในปี ๒๕๕๕ รพ.สต.บา้ นเลีย้ วจึงสง่ เสริมให้เกิดการรวมกลุม่ ของจิตอาสาเพ่ือแกป้ ั ญหา ดงั กลา่ ว ประกอบดว้ ยกลุม่ อสม. ๑๒๕ คน พระสงฆ์ ๔ รูป ปราชญช์ าวบา้ นดา้ นพิธีกรรม ๔ คน และผูส้ ูงอายุ ๕ คน น�าพิธกี รรมตามความเช่อื เขา้ มาใช้ กระทงั่ อกี ๒ ปีถดั มา กลมุ่ หมอเมืองจึง เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ป่ วยบางรายที่มีลักษณะเร้ือรัง ด้วยการน�าภูมิปั ญญาด้าน สมุนไพรมาบรรเทารักษาอาการ จนอาการสงบลง ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื ให้กลมุ่ เป้ าหมายหลกั คอื ผปู้ ่ วยโรคเร้ือรงั ผปู้ ่ วยตดิ เตยี ง ตลอดจนผูพ้ กิ าร และผปู้ ่ วย ระยะสุดท้าย ได้รับการดูแลแบบองค์รวม ทัง้ ด้านร่างกาย จิตใจ สังคม โดยความร่วมมือจาก เครือข่ายสุขภาพ ซ่ึงน�าภูมิปั ญญาพ้ืนบ้านที่เป็นพิธีกรรมความเช่ือของท้องถิ่น ประกอบกับ ความเช่อื ดา้ นศาสนา มาปรับใช้ดแู ลผทู้ มี่ ีสภาวะเปราะบาง ๒๓๙ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ |

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ประชุมหารือ ก�าหนดแนวทางการศึกษา การจัดพิธีกรรม ความเช่ือต่างๆ ที่ใช้เพ่ือ ผปู้ ่ วยระยะสุดทา้ ย จากปราชญช์ าวบา้ น ผูส้ ูงอายุ และจากตา� ราพ้นื เมืองโบราณ ๒) ถอดองคค์ วามรู้ดา้ นพิธีกรรมในชุมชน จัดเวทีประชุมแลกเปลย่ี นเรียนรู้ และก�าหนด พิธีกรรมที่เหมาะสม ออกส�ารวจขอ้ มูลผูป้ ่ วยเร้ือรัง ผูป้ ่ วยติดบ้าน และผูป้ ่ วยติดเตียงในชุมชน พร้อมแบง่ หนา้ ทีร่ ับผิดชอบของเจ้าหนา้ ทีโ่ รงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�าบลบา้ นเลีย้ วและ อสม. พร้อมทงั้ จดั ท�าป้ ายช่อื เจ้าหนา้ ทแี่ ละหมายเลขโทรศพั ท์ ๓) ประสานงานกบั กลมุ่ หมอเมอื ง ให้เขา้ มาช่วยขบั เคล่อื นงาน โดยเฉพาะกลมุ่ ผปู้ ่ วยเร้อื รงั และผู้ป่ วยระยะสุดท้าย โดยเจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านเลี้ยวท�างานร่วมกับกลุ่ม อสม. พระสงฆ์ ผูน้ �าพิธีกรรม และกลุ่มจิตอาสา น�าแบบประเมินระดับผูป้ ่ วยแบบประคับประคองฉบับสวนดอก หรือ PPS Adult Suandok มาปรับใช้ให้เขา้ กับพิธีกรรมความเช่อื ทอ้ งถิน่ ๔) อบรมพัฒนาความรู้แกนน�าเยีย่ มบา้ น เดือนละ ๑ ครัง้ เพ่ือแลกเปลีย่ นความรู้ และ เยยี่ มบา้ นผูป้ ่ วย สปั ดาห์ละ ๑ ครงั้ โดยมี อสม.เป็นแกนนา� พร้อมประสานการระดมทนุ ช่วยเหลือ และการดแู ลสุขภาพโดยใช้ภูมิปั ญญาจากหมอพ้ืนบา้ น ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง กลุ่มทางสังคม/กลุ่มกิจกรรม ประกอบด้วย ๑) กลุ่ม อสม. ๒) กลุ่มผูส้ ูงอายุ ๓) กลุ่ม หมอเมือง ระดับหนว่ ยงาน ระดับนโยบาย ประกอบด้วย ๑) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�าบล บ้านเลี้ยว ๒) วัดบ้านเลี้ยว ๓) เทศบาลต�าบลงิม และแหล่งสาธารณประโยชน์ ประกอบด้วย ๑) วัดบา้ นเลีย้ ว ๒) โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตา� บลบา้ นเลยี้ ว ๓) ธนาคารขยะ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ผปู้ ่ วยระยะสดุ ทา้ ยไดร้ บั การช่วยเหลอื ดแู ล จา� นวน ๖๒ ราย จากผเู้ สียชีวิตทงั้ หมด ๗๒ ราย คิดเป็นร้อยละ ๘๘.๕๗ ขณะทคี่ รอบครัวของผูป้ ่ วยทงั้ หมดพึงพอใจการช่วยเหลอื ดแู ลของ กลุ่มจิตอาสา และเกิดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไมน่ อ้ ยกว่าปีละ ๑๒ ครัง้ ขณะเดยี วกนั ยงั เกดิ การอนรุ กั ษ์ สบื สานภมู ปิ ั ญญาทอ้ งถนิ่ ดา้ นพธิ กี รรม มกี ารช่วยเหลอื เก้อื กลู กนั ในชุมชน เช่น กจิ กรรมการเยีย่ มบา้ น หรือกองทนุ ขยะเพ่อื ผูส้ งู อายแุ ละผูป้ ่ วยติดเตยี ง นอกจากนี้ ผปู้ ่ วยหรอื ญาติยงั มีทางเลอื กในการตดั สนิ ใจเกีย่ วกบั สุขภาพของตนเองและครอบครวั ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั แกนน�าส�าคัญที่ด�าเนินการและติดตามผลอย่างต่อเน่ืองคือ ผู้อ�านวยการโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพต�าบลบา้ นเลี้ยว และความมือร่วมใจอยา่ งเขม้ แข็งของกลุ่ม อสม. กลุ่มผูส้ ูงอายุ พระสงฆ์ ปราชญช์ าวบา้ น ผูน้ �าชุมชน ประกอบกับองคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความร่วมมือ สง่ เสริมสนบั สนนุ ๒๔๐ | ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ท่ี ศูนย์พัฒนาคนสู่คน พ้ืนที่: เทศบาลตําบลงิม อําเภอปง จังหวัดพะเยา วิทยากร: นางสาวบุญสิตา วงศรี ตําแหนง: ครูประจําศูนยการศึกษาพิเศษ เบอรโทรศัพท: ๐๕๓-๔๔๘-๓๑๙ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี ในพ้นื ทพี่ บเดก็ พกิ าร ๗ คน ทีม่ ฐี านะยากจน การเดนิ ทางไปรบั บรกิ ารการศกึ ษาและฟ้ืนฟู สมรรถภาพทางรา่ งกาย ณ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษ ประจา� จงั หวดั พะเยา เป็นไปอยา่ งยากลา� บาก เพ่อื แกป้ ั ญหาดังกลา่ ว เทศบาลต�าบลงมิ จึงปรกึ ษากบั ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษ ประจา� จงั หวัดพะเยา และ จดั ตงั้ หนว่ ยบรกิ ารของศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษ (ศนู ยส์ าขา) ข้นึ เม่อื วนั ที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เพ่อื ให้คนพิการสามารถเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพ ได้อย่างทั่วถึงและสะดวกรวดเร็วข้ึน รวมทั้ง เปิดโอกาสให้ครอบครวั ชมุ ชน และผเู้ กยี่ วขอ้ ง มสี ว่ นร่วมในการพัฒนาศกั ยภาพคนพิการ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กยี่ วขอ้ ง เม่ือปี ๒๕๕๖ เทศบาลตา� บลงมิ สนับสนุนการสร้างอาคารสถานทแี่ ละวัสดอุ ปุ กรณใ์ นการ จดั การเรยี นการสอนและฟ้ืนฟสู มรรถภาพรา่ งกายแกผ่ พู้ กิ ารอายุ ๐-๑๙ ปี ปั จจบุ นั มผี เู้ ขา้ รบั บรกิ าร ๓๗ คน มารบั บรกิ ารทกุ วนั จนั ทร-์ ศกุ ร์ จา� นวน ๑๓ คน และเขา้ รว่ มโครงการปรบั บา้ นเป็นหอ้ งเรยี น เปลีย่ นพอ่ แมเ่ ป็นครู จา� นวน ๑๓ คน โดยมีครูพเี่ ลยี้ งออกพ้นื ทใี่ ห้บริการ สัปดาห์ละ ๒ วัน เฉพาะ วนั ศกุ ร์มีครูประจา� สายร่วมออกพ้นื ทดี่ ว้ ย รวม ๒๖ คน กจิ กรรมนีไ้ ดร้ ับการตอบรบั จากผปู้ กครอง และผูร้ บั บรกิ ารเป็นอยา่ งดี ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพ่อื เรยี นรู้ความเป็นมาและสถานการณป์ ั ญหาของคนพกิ ารในพ้ืนทเี่ ทศบาลตา� บลงมิ ๒) เพ่อื เรยี นร้วู ธิ กี ารและขนั้ ตอนจดั ตงั้ ศนู ยก์ ารเรยี นร้ชู มุ ชนเพ่อื พฒั นาศกั ยภาพคนพกิ าร ๓) เพ่อื เรยี นรู้กระบวนการด�าเนินงานของศูนยพ์ ฒั นาคนสูค่ น ๔) เพ่อื นา� แนวคดิ และกระบวนการดา� เนนิ งานไปปรบั ใช้กบั การดา� เนนิ งานพฒั นาคณุ ภาพ ชวี ิตคนพกิ ารในพ้นื ที่ ๒๔๑ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ |

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ประชมุ ชแี้ จงโครงการจัดตงั้ ศนู ยฯ์ ๒) ประชุมสร้างความเข้าใจการจัดบริการทางการศึกษาให้แก่คนพิการ และวางแผน การด�าเนินงาน ๓) แตง่ ตัง้ คณะกรรมการศนู ยฯ์ ๔ ฝ่ าย ไดแ้ ก่ การแพทย์ การศึกษา สวัสดกิ ารทางสังคม และการมงี านทา� ๔) สรรหาครูพีเ่ ลีย้ งจาก ๒ สว่ น คอื ครูพเี่ ลยี้ งเดมิ ๒ คน และครูพเี่ ลีย้ งใหมจ่ ากในพ้นื ที่ ของศูนยส์ าขา ๕) จดั อบรม ประชุม และท�าแผนการเรยี นการสอน โดยมคี รูศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษ ประจ�า จังหวัดพะเยา มาอบรมให้ครูพเี่ ลีย้ งเป็นประจา� ทกุ ปี ๖) น�าแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) ร่วมกับโครงการ/กิจกรรมการพัฒนา นวตั กรรม และกิจกรรมอ่นื ๆ มาผนวกกับกจิ กรรมการเรียนการสอนของเด็กพิการ ๗) จัดท�ากจิ กรรมเพ่อื พัฒนาการดา้ นการเรยี นรู้ เช่น กจิ กรรมกลมุ่ กจิ กรรมวงกลมดนตรี บ�าบดั นบั เลข เป่ าสี ระบายสี จุ่มสี กลิง้ บอล โยนบอล รวมถงึ กจิ กรรมสง่ เสริมสมรรถภาพร่างกาย เช่น นวดผอ่ นคลายกลา้ มเน้ือ ฝึกรบั ประทานอาหาร ใสเ่ ส้อื ผา้ เอง เป็นตน้ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจ�าจังหวัดพะเยา ศูนย์พัฒนาคนสู่คน เทศบาลต�าบลงิม โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพตา� บลในพ้ืนที่ และโรงพยาบาลปง ๗. ผลการดา� เนนิ งาน เด็กพิการทุกคนมีพัฒนาการท่ีดีข้ึน และหลายคนยังได้รับบริการทางการศึกษาเพิ่มเติม โดยส่งต่อเด็กพิการซาซ้อน ๒ คน ไปยังโรงเรียนบ้านบอน และเด็กที่มีความบกพร่องทาง การมองเหน็ ๒ คน ไปยังโรงเรยี นการศกึ ษาเดก็ ตาบอดแมส่ าย ขณะเดยี วกนั ครอบครัวมีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การดแู ลคนพกิ ารแตล่ ะประเภทมากขน้ึ และมสี ว่ นรว่ มสง่ เสรมิ พฒั นาศกั ยภาพ ของคนพกิ าร เพ่อื ให้พวกเขาอยใู่ นสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุข และเป็นทีย่ อมรับของคนในชุมชน ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั - ๒๔๒ | ปบผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ที่ เสริมงามอยู่ดีมีสุข วิถีคนเมืองเสริม เปงปาอาศัยแบบปแบบน้อง พื้นที่: เทศบาลตําบลเสริมงาม อําเภอเสริมงาม จังหวัดลําปาง วิทยากร: นายชัยยา ลาดปาละ ตําแหนง: นายกเทศมนตรีตําบลเสริมงาม เบอรโทรศัพท: ๐๘๑-๙๕๒-๙๖๑๘ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพน้ื ท่ี เทศบาลตา� บลเสรมิ งาม มพี ้ืนทรี่ บั ผดิ ชอบทงั้ หมด ๑๗.๕ ตารางกโิ ลเมตร ครอบคลมุ ๑๒ หมูบ่ า้ น ซ่ึงอยูใ่ น ๓ ตา� บล ไดแ้ ก่ ต�าบลทงุ่ งาม ๖ หมูบ่ า้ น ต�าบลเสริมกลาง ๕ หมบู่ า้ น และตา� บล เสริมซ้าย ๑ หมูบ่ า้ น มี ๒,๘๙๗ หลงั คาเรอื น ประชากร ๘,๕๔๒ คน แบง่ เป็นชาย ๔,๒๕๖ คน หญงิ ๔,๒๘๖ คน โดยมผี ูส้ งู อายุ ๒,๒๖๗ คน คดิ เป็นร้อยละ ๒๖.๕๔ หรอื มากกวา่ ๑ ใน ๔ ของ ประชากรในพ้ืนที่ จึงต้องก�าหนดแนวทางพัฒนาคุณภาพชีวิตของผูส้ ูงอายุที่เหมาะสมและยัง่ ยืน โดยเปิดโอกาสให้ผสู้ งู อายุมสี ว่ นร่วมอยา่ งเตม็ ที่ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ปั จจุบันโรงพยาบาลในพ้ืนที่ก�าลังจัดท�าข้อมูล โดยอาศัยข้อมูลจาก International Classification of Functioning, Disability and Health หรือบัญชีสากลเพ่ือการจ�าแนก การท�างาน ความพิการ และสุขภาพ ทีใ่ ช้อธบิ ายสขุ ภาพในมติ ิการท�างานของร่างกาย โครงสร้าง กจิ กรรม และการมสี ว่ นร่วม รวมถงึ ขอ้ มูลจากระบบวจิ ัยชมุ ชน และโปรแกรม TCNAP ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ สร้างเมืองเสริมเมืองอยดู่ ีมีสุข วิถีคนเมืองเสริม เปิ้งปาอาศัยแบบปี้แบบนอ้ ง บูรณาการ คน เงนิ และงาน เพ่อื สง่ เสริมให้มีพ้นื ทจี่ ัดบริการ กิจกรรมทพี่ ฒั นาศกั ยภาพดา้ นสังคม เศรษฐกิจ สุขภาพกายและจติ ใจ แบบมสี ว่ นร่วมทุกภาคสว่ น ๒๔๓ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ |

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ดา้ นวชิ าการและงานวจิ ยั จดั ตงั้ โรงเรยี นผสู้ งู อายใุ นนาม “เสรมิ เกษยี ณ” จดั ทา� หลกั สตู ร และจัดกิจกรรม ๒) ด้านศิลปวัฒนธรรมและประเพณี น�าศิลปวัฒนธรรมประเพณีความเช่ือมาเป็นอาชีพ สบื ตอ่ จากรุ่นสรู่ ุ่น การอนรุ ักษภ์ มู ิปั ญญาภาษาค�าเมอื ง จ้อย ซอ และดนตรพี ้นื บา้ น ๓) ดา้ นสง่ เสรมิ อาชพี และสวสั ดกิ าร นา� วถิ ชี วี ติ มาเป็นรายได้ สร้างช่องทางการลดรายจ่าย เพิม่ ช่องทางสวัสดกิ ารทเี่ อ้ือตอ่ ผูส้ ูงอายุ เพมิ่ สวัสดกิ ารนอกเหนอื จากกรณเี จบ็ ป่ วยและเสยี ชวี ติ ๔) ดา้ นการดูแลสขุ ภาพ สร้างเครือขา่ ยการดแู ลจากทุกภาคสว่ น ทกุ กลุม่ ในชุมชน เพ่ือ สร้างระบบการดแู ลชมุ ชนบ�าบดั ๕) ดา้ นการปรบั สภาพบา้ นและสิง่ แวดลอ้ ม สา� รวจประเมินเพ่ือจดั หาและปรับปรงุ สภาพ บา้ นทอี่ ยูอ่ าศยั ให้เอ้อื ตอ่ การดา� รงชีวติ ประจา� วัน ๖) ดา้ นส่อื สารประชาสมั พนั ธแ์ ละเทคโนโลยี สรา้ งส่อื และช่องทางการตดิ ตอ่ ประชาสมั พนั ธ์ ระหวา่ งชุมชนกบั ครอบครวั ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ทุนบุคคล ประกอบด้วย กรรมการศูนยพ์ ัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผูส้ ูงอายุ (ศพอส.) ๗ คน คอื ๑) นายศรี โป่ งแกว้ ดา้ นศลิ ปวัฒนธรรม ๒) นางละเอียด ทิพกุลกานต์ ดา้ นอาชีพ ๓) นางอ่อนศรี คัมภีร์พิทกั ษ์ งานกาชาดอ�าเภอ ๔) นายกฤษดา บุญสูง งานกาชาดอา� เภอ และประธานสภาฯ ๕) นางพิน บญุ ยนื งานสุขภาพ ผสู้ ูงอายพุ ่ึงพงิ ๖) นางอ้อมทพิ ย์ ทา่ จนั ทร์ งานประชาสัมพนั ธ์ ๗) นายทวี ขตั ิยะ งานปรับสภาพบา้ นและสงิ่ แวดลอ้ ม นอกจากนยี้ งั มี ๘) นายเรืองศักดิ์ คมั ภรี ์พิทักษ์ ผูอ้ �านวยการเสรมิ เกษียณ ๙) นายชัยยา ลาดปาละ นายกเทศมนตรีตา� บลเสรมิ งาม ๑๐) นายสันติพงษ์ ศลิ ปสมบูรณ์ หวั หนา้ ฝ่ ายบรกิ ารงานสาธารณสขุ กลุม่ ตา่ งๆ ประกอบดว้ ย ๑) ชมรมคนพกิ ารต�าบลทงุ่ งาม เป็นทมี ดา� เนินการปรับสภาพบา้ นและสงิ่ แวดลอ้ ม ๒) ชมรมผสู้ งู อายตุ า� บลทงุ่ งาม เป็นทมี ดา� เนนิ การดแู ลผูส้ งู อายใุ นเทศบาลตา� บลเสรมิ งาม ๓) ชมรมผสู้ งู อายอุ า� เภอเสรมิ งาม เป็นทมี ดา� เนนิ การสนบั สนนุ การดแู ลผสู้ งู อายใุ นเทศบาล ต�าบลเสรมิ งาม ๒๔๔ | ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ

หนว่ ยงานองคก์ ร ประกอบดว้ ย ๑) เทศบาลต�าบลเสริมงาม ๒) สา� นกั งานสาธารณสุขอ�าเภอเสริมงาม ๓) ส�านกั งานพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงของมนุษยจ์ งั หวัดล�าปาง ๔) ศนู ยพ์ ัฒนาการจดั สวสั ดกิ ารผูส้ ูงอายุจงั หวัดล�าปาง ๕) โรงพยาบาลเสรมิ งาม โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพต�าบลบา้ นนาเอีย้ ง ๖) ศนู ยบ์ ริการคนพิการทัว่ ไปจงั หวดั ล�าปาง ๗) ศูนยซ์ ่อมบ�ารงุ กายอุปกรณ์ ชมรมคนพิการต�าบลทงุ่ งาม ๘) มลู นธิ พิ ิทักษด์ วงตาลา� ปาง ๙) มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ล�าปาง ๑๐) มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ศนู ยล์ า� ปาง ๑๑) มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม ๑๒) สา� นกั สนบั สนนุ สขุ ภาวะชมุ ชน (สา� นกั ๓) สา� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ ๑๓) ศูนยเ์ รยี นรู้สขุ ภาวะ สสส. ๑๔) สา� นกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอา� เภอเสริมงาม แหลง่ ประโยชน์ ไดแ้ ก่ ๑) ห้องประชมุ เทศบาล ๒) ลานอเนกประสงคเ์ ทศบาลตา� บลเสริมงาม ๓) ห้องประชมุ ส�านกั งานสาธารณสขุ อ�าเภอเสริมงาม ๔) ศาลาอเนกประสงคอ์ า� เภอเสรมิ งาม ๕) ศนู ยบ์ ริการคนพกิ ารเทศบาลตา� บลเสรมิ งาม ๗. ผลการดา� เนนิ งาน สามารถปรับสภาพบา้ นและสงิ่ แวดลอ้ ม จ�านวน ๑๖ หลงั และอยูร่ ะหวา่ งดา� เนินการ ๑๖ หลัง โดยใช้งบประมาณจากทัง้ ส�านักงานพัฒนาสังคมและความมัน่ คงของมนุษยจ์ ังหวัดล�าปาง สา� นกั งานการจดั สวสั ดกิ ารผสู้ งู อายจุ งั หวดั ลา� ปาง มลู นธิ พิ ทิ กั ษด์ วงตาลา� ปาง และเงนิ บรจิ าค/เงนิ ผา้ ป่ า กองทนุ พัฒนาคุณภาพชวี ิตและปรบั สภาพบา้ นอา� เภอเสริมงาม ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั การบรู ณาการความรว่ มมอื ของภาคเี ครอื ขา่ ยทงั้ ในและนอกพ้นื ที่ เพ่อื พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของผสู้ ูงอายแุ ละคนพิการในพ้ืนที่ โดยเนน้ “วิถคี นเมอื งเสริม เปิ้งปาอาศยั แบบปี้แบบนอ้ ง” ๒๔๕ปบ ผะหญา ลานนาสรางสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ท่ี ชมรมอาสาปันสุข “คนตําบลอุโมงค์ ไม่ทอดท้ิงกัน” พ้ืนท่ี: เทศบาลตําบลอุโมงค อําเภอเมืองลําพูน จังหวัดลําพูน วิทยากร: นายไกรฤทธ์ิ หมื่นโพธิ์ ตําแหนง: ประธานชมรมอาสาปนสุข “คนตําบลอุโมงค ไมทอดทิ้งกัน” เบอรโทรศัพท: ๐๘๘-๒๕๑-๙๒๕๐ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ท่ี ต�าบลอุโมงคม์ พี ้นื ที่ ๒๐.๐๙ ตารางกโิ ลเมตร ห่างจากตวั จงั หวัด ๑๐ กโิ ลเมตร มีจา� นวน ๑๑ หมู่บ้าน โดยได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาลต�าบล เม่ือวันท่ี ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๔๒ สภาพภมู ปิ ระเทศสว่ นใหญเ่ ป็นทรี่ าบลมุ่ ตามแนวชายฝั่ งตะวนั ตกแมน่ า กวง และมลี า� เหมอื งปิงห่าง ไหลผา่ นส่วนกลางของพ้ืนที่เพ่ือหล่อเลี้ยงพ้ืนที่เกษตรกรรม สภาพดินเป็นดินร่วนซุยเหมาะแก่ การทา� ไร่ ท�านา และทา� สวน โดยเฉพาะสวนล�าไย สภาพภูมิอากาศมีลกั ษณะเป็นเช่นเดียวกันกับ อ�าเภอเมืองล�าพูนและจังหวัดล�าพูน คือ ฤดูร้อนเริม่ ตัง้ แตเ่ ดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ฤดูฝนเริม่ ตัง้ แตเ่ ดือนมิถุนายนถึงเดอื นตลุ าคม และฤดูหนาวเรมิ่ ตงั้ แตเ่ ดอื นพฤศจกิ ายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ราษฎรสว่ นใหญต่ งั้ รกรากสบื ตอ่ มาจากบรรพบรุ ษุ มชี มุ ชนหนาแนน่ บรเิ วณสองขา้ งถนนสายหลกั คือ ทางหลวงหมายเลข ๑๐๖ เป็นถนนสายเกา่ เช่อื มระหวา่ งจงั หวดั ล�าพูนและเชียงใหม่ ปั จจุบนั มีประชากรทัง้ สิ้น ๑๓,๐๔๔ คน ส่วนใหญป่ ระกอบอาชีพเกษตรกรรม ท�าสวน เป็นอาชีพหลัก รองลงมา คอื รบั จ้าง คา้ ขาย รับราชการ อุตสาหกรรมในครัวเรือน และอาชีพอ่นื ๆ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง จากขอ้ มลู สถานการณแ์ นวโนม้ จา� นวนผสู้ งู อายุ ผพู้ กิ าร ผดู้ อ้ ยโอกาสในพ้นื ทตี่ า� บลอโุ มงค์ มี ๓,๒๔๑ คน และมี ๖๕๒ คนทมี่ ีปั ญหาขาดผูด้ ูแล เช่น ญาติพีน่ อ้ งต้องไปท�างาน หรือญาติ ไมใ่ สใ่ จดูแล ทา� ให้มคี ณุ ภาพชีวิตความเป็นอยูไ่ มด่ ี เทศบาลต�าบลอุโมงคจ์ งึ ไดห้ ยิบประเดน็ นมี้ า พจิ ารณาเพ่อื หาแนวทางแกไ้ ข สง่ เสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของประชาชนใหม้ คี วามเป็นอยทู่ ดี่ ี ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพ่อื พฒั นาศกั ยภาพสมาชกิ อาสาปั นสขุ ในการดแู ลผปู้ ่ วย ผสู้ งู อายุ ผดู้ อ้ ยโอกาส ผพู้ กิ าร ๒) เพ่อื ให้ผปู้ ่ วย ผูส้ ูงอายุ ผูด้ อ้ ยโอกาส ผูพ้ ิการ ไดร้ บั การดแู ลสุขภาพแบบองคร์ วมจาก อาสาปั นสขุ ต�าบลอโุ มงค์ ๒๔๖ | ปบผะหญา ลา นนาสรา งสุขภาวะ

๓) เพ่อื ให้ชมุ ชนตระหนกั และให้ความสา� คญั ในการดแู ลสมาชกิ ในครอบครวั รวมทงั้ สร้าง อาสาสมคั รนักสังคมสงเคราะห์พ้นื บา้ นมืออาชีพ ท�าหนา้ ทดี่ แู ลคนในชมุ ชน ให้เป็นสงั คมแห่งการ เอ้อื อาทรซ่ึงกันและกัน ๔) เพ่ือเตรียมความพร้อมผสู้ งู อายกุ อ่ นเขา้ สสู่ ังคมผูอ้ ายอุ ยา่ งมคี ณุ ภาพ ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) เรมิ่ จากการเอาปั ญหาในพ้นื ทขี่ องชมุ ชนทงั้ ๑๑ หมบู่ า้ นในตา� บลอโุ มงคเ์ ป็นตวั ตงั้ โดย ให้กา� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น อสม. และเจา้ หนา้ ทผี่ รู้ บั ผดิ ชอบงานดา้ นสวสั ดกิ ารสงั คมของเทศบาล สา� รวจ ขอ้ มลู ในพ้นื ที่ เพ่อื ให้ทราบจา� นวนผสู้ งู อายุ ผพู้ กิ าร ผปู้ ่ วยเร้อื รงั และผดู้ อ้ ยโอกาสของแตล่ ะชมุ ชน หลังจากนนั้ จึงดูวา่ ปั ญหาการขาดการดแู ลนนั้ เกีย่ วขอ้ งกบั ใครบา้ ง ๒) จัดประชุมภาคีเครือขา่ ยที่เกี่ยวขอ้ ง ทัง้ ระดับครอบครัวและชุมชน เช่น กลุ่ม อสม. กลมุ่ กองทนุ ออมทรพั ยส์ วสั ดกิ ารประชาชน กลุม่ ธนาคารความดี กลมุ่ สมนุ ไพร สถานอี นามยั (รพ. สต.) เทศบาล และพฒั นาสงั คม เพ่อื ออกแบบการทา� งานวา่ ใครมหี นา้ ทอี่ ะไร ไดม้ ตทิ จี่ ะเขา้ ไปช่วย จดั การปั ญหา โดยจัดภารกิจการช่วยเหลือดแู ลออกเป็น ๕ ดา้ น คอื การรกั ษาพยาบาลเบ้ืองตน้ การดูแลสิ่งแวดล้อมภายในบา้ น การดูแลสิ่งแวดล้อมภายนอกบา้ น การดูแลอนามัยส่วนบุคคล และการจดั เก็บรวบรวมขอ้ มลู ๓) จัดประชุมประเมินผลการด�าเนินกิจกรรมทุกเดือน เพ่ือติดตามความคืบหน้าและ ปรับปรงุ แนวทางการท�างานให้สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ทุนทางสังคมประกอบด้วย ภาคีเครือขา่ ย กลุ่มจิตอาสา งบประมาณจากภายนอก การ บรหิ ารจัดการของหนว่ ยงานตา่ งๆ และการสนบั สนุนวสั ดุ อปุ กรณ์ และเคร่อื งมอื ตา่ งๆ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) ผปู้ ่ วย ผพู้ ิการ ผดู้ อ้ ยโอกาส ไดร้ บั การดูแลสุขภาพแบบองคร์ วมจากอาสาปั นสุขตา� บล อุโมงค์ และมคี วามเช่อื มัน่ วา่ จะไมถ่ กู ทอดทงิ้ ๒) ครอบครวั และชมุ ชนเกดิ ความตระหนกั ในการดูแลผถู้ ูกทอดทงิ้ ๓) พัฒนาศักยภาพสมาชกิ ชมรมอาสาปั นสขุ ในการดูแลผูป้ ่ วย ผดู้ อ้ ยโอกาส ๔) เพมิ่ จ�านวนกลมุ่ เด็กและเยาวชนทเี่ ป็นจิตอาสาท�าความดีเพ่อื ชุมชน ๕) เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างเทศบาลต�าบลอุโมงค์และหน่วยงานภาครัฐ เอกชน เพ่อื ดแู ลกลุม่ เป้ าหมาย ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั ประชาชนมสี ว่ นร่วมกับเทศบาลทกุ กระบวนการ มีการประชาคมกันกอ่ นทจี่ ะเริม่ โครงการ เพ่ือปลูกฝั งให้คนในชุมชนร้สู กึ รักและเป็นเจ้าของชุมชนทอ้ งถนิ่ ของตน ๒๔๗ปบ ผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ กองทุนสวัสดิการชุมชน ตําบลอุโมงค์ พ้ืนที่: เทศบาลตําบลอุโมงค อําเภอเมืองลําพูน จังหวัดลําพูน วิทยากร: นางอรวรรณ ขว้างจิตต ตําแหนง: รองนายกเทศมนตรีตําบลอุโมงค และเลขานุการกองทุน สวัสดิการชุมชนตําบลอุโมงค เบอรโทรศัพท: ๐๘๖-๑๙๔-๗๗๙๓ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพนื้ ท่ี ต�าบลอุโมงคม์ ีพ้นื ที่ ๒๐.๐๙ ตารางกิโลเมตร ห่างจากตัวจงั หวัด ๑๐ กิโลเมตร มีจ�านวน ๑๑ หมู่บ้าน โดยได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาลต�าบล เม่ือวันท่ี ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๔๒ สภาพภมู ปิ ระเทศสว่ นใหญเ่ ป็นทรี่ าบลมุ่ ตามแนวชายฝั่ งตะวนั ตกแมน่ า กวง และมลี า� เหมอื งปิงห่าง ไหลผา่ นสว่ นกลางของพ้นื ทเี่ พ่อื หลอ่ เลยี้ งพ้นื ทเี่ กษตรกรรม สภาพดนิ เป็นดนิ รว่ นซยุ เหมาะแกก่ าร ทา� ไร่ ทา� นา และทา� สวน โดยเฉพาะสวนลา� ไย สภาพภมู อิ ากาศมลี กั ษณะเป็นเช่นเดยี วกนั กบั อา� เภอ เมืองล�าพูนและจังหวัดล�าพูน คือ ฤดูร้อนเริ่มตัง้ แต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ฤดูฝนเริ่มตัง้ แต่ เดอื นมถิ นุ ายนถงึ เดอื นตลุ าคม และฤดหู นาวเรม่ิ ตงั้ แตเ่ ดอื นพฤศจกิ ายนถงึ เดอื นกมุ ภาพนั ธ์ ราษฎร ส่วนใหญต่ ัง้ รกรากสืบต่อมาจากบรรพบุรุษ มีชุมชนหนาแนน่ บริเวณสองขา้ งถนนสายหลัก คือ ทางหลวงหมายเลข ๑๐๖ เป็นถนนสายเกา่ เช่ือมระหว่างจังหวัดล�าพูนและเชียงใหม่ ปั จจุบันมี ประชากรทั้งสิ้น ๑๓,๐๔๔ คน ส่วนใหญป่ ระกอบอาชีพเกษตรกรรม ท�าสวน เป็นอาชีพหลัก รองลงมา คือ รับจ้าง คา้ ขาย รบั ราชการ อุตสาหกรรมในครวั เรือน และอาชีพอ่นื ๆ ๒๔๘ | ปบผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ

๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง หลงั วกิ ฤตเศรษฐกจิ เม่อื ปี ๒๕๔๐ หลายชมุ ชนสามารถผา่ นพน้ มาดว้ ยเศรษฐกจิ ชมุ ชนหรอื เศรษฐกิจพอเพยี ง นายขยัน วิพรหมชยั นายกเทศมนตรีตา� บลอโุ มงค์ ไดเ้ ลง็ เหน็ วา่ การออมตาม แนวพระราชดา� รขิ องพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชสง่ ผลดแี ละสามารถปฏบิ ตั ิ ไดจ้ ริง จึงเรมิ่ ตน้ ท�าโครงการในพ้ืนทีห่ มทู่ ี่ ๑๐ กอ่ น ดว้ ยการจัดตงั้ กลุม่ เงินออม จากนนั้ กข็ ยายไป ยงั ทกุ หมบู่ า้ น โดยมหี ลกั คดิ ทวี่ า่ “ขา้ ราชการ เจา้ พนกั งานของรฐั กลมุ่ รฐั วสิ าหกจิ พนกั งานหา้ งรา้ น บริษัท ได้รับสวัสดิการจากหนว่ ยงานทีต่ นเองสังกัด แต่ยังมีประชาชนกล่มุ หน่ึงทีย่ ังไมไ่ ด้รับการ จัดสวัสดิการอยา่ งทัว่ ถึง จ�าเป็นอยา่ งยิง่ ทีจ่ ะตอ้ งให้ประชาชนกลุม่ นีไ้ ดร้ ับการดูแลให้มีความเป็น อยทู่ ดี่ ี ไดร้ บั การดแู ลจากหนว่ ยงาน ทา� ให้ตวั เองเป็นคนทีม่ ีคุณคา่ ในสงั คม” พอปี ๒๕๕๐ ก็ได้ ตอ่ ยอดความคดิ ดว้ ยการสง่ เสรมิ ให้ประชาชนออมเงนิ วนั ละ ๑ บาท จนกลายเป็น “กลุม่ ออมทรพั ย์ สวสั ดิการประชาชนต�าบลอโุ มงค”์ พร้อมกระตนุ้ ให้ชุมชนคดิ กิจกรรมตา่ งๆ เช่น นา� เงนิ ออมมาใช้ เป็นสวสั ดกิ ารให้แกส่ มาชกิ เงินออม ทงั้ การเกดิ แก่ เจบ็ ตาย จนกระทงั่ เป็นแนวทางสา� คัญในการ สร้างความยงั่ ยนื ให้แกป่ ระชาชนในพ้นื ที่ ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพ่ือให้ผเู้ ขา้ อบรมไดท้ ราบถึงแนวคดิ การจดั ตงั้ กองทนุ ออมทรัพยส์ วัสดกิ ารประชาชน ตา� บลอุโมงค์ ๒) เพ่อื ให้ผูเ้ ขา้ อบรมไดท้ ราบถึงรูปแบบการบริหารจัดการกองทนุ ๓) เพ่อื ให้ผเู้ ขา้ ร่วมอบรมไดน้ า� แนวคดิ ไปปรบั ใช้งานในบรบิ ทของตนเอง ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน เทศบาลตา� บลอโุ มงคแ์ ละชมุ ชนไดป้ ระชมุ รว่ มกนั และพจิ ารณาคดั เลอื กบคุ ลากรทเี่ หมาะสม มาเป็นผูด้ �าเนินการ พร้อมให้ความรู้แกบ่ ุคลากรเหล่านัน้ เพ่ือเป็นก�าลังหลักในการหาสมาชิก เพมิ่ เตมิ และทา� ให้กองทนุ ฯ สามารถทา� งานในระดบั ทอ้ งถนิ่ อยา่ งเตม็ ที่ เม่อื คณะกรรมการทา� งาน ไดม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ เทศบาลตา� บลอโุ มงคก์ จ็ ะปรบั บทบาทมาเป็นผสู้ นบั สนนุ นอกจากนยี้ งั พยายาม สร้างภาคเี ครือขา่ ยให้มากข้ึน เช่น ประสานงานกับสถาบันอดุ มศึกษา จดั ท�าวจิ ยั กองทุนเพ่ือเป็น การพัฒนากองทุนให้มัน่ คง เป็นต้น การด�าเนินการดังกล่าวท�าให้กองทุนฯ เขม้ แข็ง และเป็น ทีย่ อมรบั ของสมาชกิ ๒๔๙ปบผะหญา ลา นนาสรา งสุขภาวะ |


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook