tomato ban-na

CBR SNRU Community Based Research Sakon Nakhon Rajabhat University

พระเมตตาเปี่ยมล้นสู่ประชาชนบ้านนางอย ในปี พ.ศ. 2523 พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั รชั กาลที่ 9 ได้เสดจ็ พระราชดำ�เนนิ เย่ยี มราษฎรบ้านนางอย ตำ�บลเต่างอย อำ�เภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร โดยไม่มีหมายกำ�หนดการ และทรงประทับแรมที่วัดบ้านนางอย ทำ�ให้ พระองค์ท่านได้รับทราบถึงปัญหาของคนในหมู่บ้านนางอย จึงทรงมีพระราชดำ�ริในการพัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎร โดยเริ่มจากการแก้ไขปัญหาสุขภาพของคนในชุมชน ทรงมีพระราชด�ำ ริสร้างอา่ งเกบ็ นาํ้ ห้วยคอ้ เพอ่ื เป็นแหลง่ นา้ํ ส�ำ หรบั การบริโภคและการเกษตร และทรงมีพระราชดำ�ริก่อต้งั โรงงานหลวงอาหารส�ำ เร็จรูปที่ 3 (เตา่ งอย) จงั หวดั สกลนคร เพื่อ รองรับผลผลิตทางการเกษตรและส่งเสริมให้เกษตรกรเพาะปลูกพืช เพื่อส่งจำ�หน่ายให้แก่โรงงานหลวงฯ ซึ่งมะเขือเทศ เปน็ พืชสำ�คญั ล�ำ ดบั ตน้ ๆ ทีม่ ีการสง่ เสริมให้ปลูกเปน็ พชื หลงั นา ในปี พ.ศ. 2527 โรงงานหลวงสรา้ งเสร็จ ท�ำ ให้เกษตรกร บ้านนางอยได้ขายผลผลิตมะเขือเทศให้กับโรงงานหลวงฯ นับจากนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้มะเขือเทศเป็น พืชเศรษฐกจิ ทส่ี ำ�คญั ของหมบู่ า้ น สรา้ งอาชพี สรา้ งรายได้เปรยี บเสมอื นเส้นเลอื ดทคี่ อยหล่อเลยี้ งทอ้ งถ่นิ ชมุ ชนนางอย

กมาระเเพขิ่มือ“เมทลู ศคบ่า”้านแลนะ “าคงณุ อคยา่ ” มหาวิทยาลัยราชภัฏกลนคร ร่วมกับสำ�นักงาน อยู่ดีกินดีของชุมชนตามแนวพระราชดำ�ริของพระบาท กองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้สนับสนุนทุนวิจัยเพื่อ สมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั โดยเร่ิมตน้ จากการจัดเวทีระดมความ ท้องถิ่น “โครงการวิจัยกระบวนการเพิ่มคุณค่าและมูลค่า คิดร่วมกับชาวบ้านที่ปลูกมะเขือเทศบ้านนางอย โดยใช้ ผลิตภัณฑ์มะเขือเทศโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนบ้าน กระบวนการวิจัยเพื่อท้องถิ่น เพื่อเป็นแนวทางในการวิจยั นางอย ต�ำ บลเตา่ งอย อ�ำ เภอเตา่ งอย จงั หวดั สกลนคร” พบวา่ กระบวนการเพม่ิ คณุ คา่ และมลู คา่ ผลติ ภณั ฑม์ ะเขอื เทศ โดย ดร.ปยิ ะจนิ ต์ ปทั มดลิ ก ผศ.ยุพนิ สมคำ�พ่ี และคณะ บ้านนางอยเกิดจากการศึกษาเพือ่ ค้นหาค�ำ ตอบทั้ง 4 ขอ้ โดยมีเป้าหมายเพ่ือให้ชุมชนบ้านนางอยได้มีส่วนร่วมในการ ท่ีผ่านมาทำ�ให้ทราบว่ามะเขือเทศบ้านนางอยมีคุณค่ามาก สร้างมูลค่าและคุณค่าของมะเขือเทศ เพื่อเป็นทางเลือก ตอ่ ชมุ ชนบา้ นนางอย โดยมะเขอื เทศท�ำ ใหเ้ กดิ อาชพี ในชมุ ชน ในการประกอบอาชีพท่ีม่ันคงและสามารถพัฒนาสู่ความ บา้ นนางอย เศรษฐกิจของชมุ ชนดีขนึ้ มีงานทำ�ทบ่ี ้านไม่ตอ้ ง ออกไปทำ�งานนอกหม่บู ้าน ดนิ ดีขน้ึ ปลูกขา้ วงาม ทดี่ นิ ถกู ใช้ประโยชนอ์ ย่างคมุ้ คา่ สามารถนำ�มาใช้เลี้ยงโคและเล้ียง ไก่ กอ่ ใหเ้ กดิ รายไดจ้ ากการขายมะเขือเทศ นอกจากน�ำ ไป ชำ�ระหนี้ เกษตรกรยังนำ�ไปใช้ในส่วนอื่น ๆ ได้แก่ เป็น ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เป็นเงินส่งลูกเรียนหนังสือ เป็นเงิน ซื้อพาหนะ เป็นเงินซื้อโคกระบือ และซื้อที่ดิน จากคุณค่าที่กล่าวมาข้างต้นแสดงให้เห็นว่า ม ะ เ ขื อ เ ท ศ มี ค ว า ม สำ � คั ญ ต่ อ ชี วิ ต ค ว า ม เ ป็ น อ ยู่ ข อ ง เกษตรกรบ้านนางอยเปรียบเสมือนเส้นเลือดท่ีคอยหล่อ เล้ยี งชมุ ชน อย่างไรก็ตามมลู คา่ ของมะเขือเทศบ้านนางอย ยังถือว่ามีค่าน้อยเน่ืองจากยังไม่มีการเพ่ิมมูลค่าอะไรเลย นอกจากขายเปน็ ผลสดใหโ้ รงงานหลวง และบางส่วนขาย ให้กบั พอ่ คา้ คนกลาง ดงั นั้นหากมแี นวทางในการเพ่มิ มลู คา่ ของมะเขือเทศบ้านนางอยในหลากหลายรูปแบบ เกษตรกร น่าจะมีทางเลือกมากกว่าน้ีในการจัดการผลผลิตมะเขือเทศ ของตนให้เกิดมูลค่าเพ่ิมและสามารถใช้มูลค่าน้ีในการสร้าง คณุ คา่ เพม่ิ ของมะเขือเทศให้แก่ชมุ ชนได้

ท�ำ ใหเ้ กิดอาชีพ ทำ�ให้เศรษฐกจิ ของชุมชนดขี ึน้ ทำ�ใหม้ งี านทำ�ท่ีบ้าน ท�ำ ใหด้ ินดีขน้ึ ปลกู ข้าวงาม ท�ำ ให้ท่ีดนิ ถกู ใช้ประโยชน์อยา่ งคุ้มคา่ นำ�มาใช้เลยี้ งโคและเลี้ยงไก่ ทำ�ใหม้ เี งนิ ไปชำ�ระหน้ี มีรายไดเ้ ปน็ ค่าใชจ้ ่ายในครัวเรือน สรปุ คณุ คา่ มะเขือเทศต่อชมุ ชนบา้ นนางอย การระดมความคดิ ของผู้มีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี กับ มะเขือเทศบ้านนางอยเพื่อสร้างกระบวนการ เพิ่ม “มูลค่า” และ “คุณค่า”มะเขือเทศ 1 การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อให้ความรู้แก่ เกษตรกรในเร่อื ง “การแปรรปู เพ่อื เพ่มิ มลู ค่า” เพอ่ื ใหผ้ มู้ ี ส่วนไดส้ ่วนเสยี เกดิ มมุ มองใหม่ ๆ เกี่ยวกับการเพิม่ มูลคา่ ของมะเขอื เทศ

2 การประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ าร เพอ่ื คน้ หาผลติ ภณั ฑแ์ ปรรปู จากมะเขือเทศที่เหมาะสมกบั ชุมชนบา้ นนางอย โดยใชว้ ิธีการ ระดมสมองจากผูม้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสีย สรุปว่าผลิตภณั ฑแ์ ปรรูป จากมะเขือเทศท่ีเหมาะสมกับชุมชนบ้านนางอยควรจะเป็น ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตแล้วจำ�หน่ายได้ ใช้วัสดุอุปกรณ์ที่สามารถ หาไดง้ า่ ย ขน้ั ตอนการผลติ ไมย่ งุ่ ยาก ปรมิ าณการผลติ เหมาะสม ในเบื้องต้นชุมชนได้ข้อสรุปเป็น 3 ผลิตภัณฑ์ได้แก่ สบู่ มะเขือเทศ มะเขือเทศแช่อิ่มอบแห้ง และนํ้าหมักมะเขือเทศ ทีมวิจัยจึงได้เสนอให้มีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติเพื่อทดลอง ผลติ ผลติ ภณั ฑด์ งั กลา่ วใหแ้ กเ่ กษตรกรทส่ี นใจ เพอ่ื ใหท้ ราบถงึ วสั ดอุ ปุ กรณ์ ขั้นตอนการผลติ รวมถงึ การคดิ ตน้ ทนุ กอ่ นที่ จะตดั สนิ ใจเลอื กแปรรูปเพื่อเพ่มิ มูลค่าต่อไป 3 การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การผลิต สบู่มะเขือเทศ” “การผลิตมะเขอื เทศแชอ่ ่มิ อบแห้ง” และ “การผลติ น้ําหมกั มะเขือเทศ” 4 การประชุมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร เพ่อื สรุปผลจาก การทดลองผลิต ผลิตภณั ฑแ์ ปรรปู จากมะเขอื เทศทงั้ 3 ผลติ ภณั ฑ์ ซงึ่ พบว่า ผลติ ภัณฑท์ นี่ ่าสนใจมากทส่ี ดุ คือ สบู่มะเขือเทศ รองลงมาคอื มะเขอื เทศแชอ่ ม่ิ อบ แหง้ และนํ้าหมักมะเขือเทศตามลำ�ดบั

โคขนุ สารเสรมิ การเจริญเติบโต กลมุ่ สตั ว์น้ํา สัตว์ปีก ปุย๋ ชีวภาพ ปุ๋ยหมัก ผลิตภัณฑอ์ าหารสตั ว์ ผลิตภณั ฑป์ จั จัยการผลิต การเพ่มิ มูลค่า มะเขอื เทศผลสด บา้ นนางอย ผลติ ภณั ฑ์เพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์สำ�หรับบรโิ ภค อาหารเสรมิ (ไลโคปนี ) อาหารสขุ ภาพ ผลติ ภัณฑ์ความงาม - ผสู้ ูงอายุ - มะเขอื เทศผลสด - สุภาพสตรี - มะเขือเทศอินทรีย์ ผลติ ภัณฑ์ความงาม แชมพู - สภุ าพบุรุษ อาหารแปรรูป - เครื่องสำ�อาง - ผปู้ ว่ ย สบู่ - ผลิตภณั ฑส์ ปา - แยม ขนมขบเค้ียว - ซนอาํ้ ผสลไมม้ ะเขอื เทศแช่อมิ่ อบแห้งมะเขอื เทศผง -

การสรา้ งกระบวนการเพม่ิ มลู คา่ และคณุ คา่ มะเขอื เทศ ในเบื้องต้นจะผลิตเป็นสบู่มะเขือเทศเพื่อสุขภาพบ้าน จากการดำ�เนินการวิจัยเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ ทำ�ให้ นางอย ทั้งนี้กลุ่มมีเป้าหมายว่า เกษตรกรผู้ผลิตมะเขือเทศบ้านนางอยส่วนหนึ่งมีแนวคิด “มูลค่าเพิ่มที่จะเกิดขึ้นจากการแปรรูป ร่วมในการรวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชน โดยใช้ชื่อว่า มะเขือเทศนี้ จะเป็นเครื่องมือในการเพิ่มคุณค่าของ “วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรผู้ปลูกมะเขือเทศปลอดสาร มะเขือเทศบ้านนางงอยเพื่อสร้างการอยู่ดีกินดีให้แก่ พิษและการแปรรูปบ้านนางอย” ขึ้นเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ชุมชนได้ เพื่อเป็นการสนองพระราชดำ�ริของพระบาท พ.ศ. 2559 มี นางวัดชัย ยะพลหา เป็นประธานกลุ่มฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้มีพระเมตตาชาวบ้านนางอย โดยมวี ตั ถุประสงค์เพื่อทำ�การผลิตมะเขือเทศปลอดสารพษิ ตั้งแต่ต้น” เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า โดย

การหอ่ หุ้มสารสำ�คัญในนา้ํ มะเขอื เทศ ดว้ ยวธิ ีระเหยน้าํ แบบพ่นฝอย ดร.ธนกร ราชพิลา Encapsulation of Tomato juice by Spray Drying กงิ่ กาญจน์ ป้องทอง ส่วนผสมของสาร ถกู เคลอื บ ยดึ จบั หรอื ห่อหุ้มอยา่ งมิดชดิ ด้วยสารชนิดอื่น เพื่อรักษาและ คงคุณค่าของสารสำ�คัญเอาไว้ ให้อยู่ในรูปของไมโครแคปซูล ในมะเขือเทศมีสารสำ�คัญคือ บีตาแคโรทีนและไลโคปีน การ เอนแคปซูเลช่ันสารสำ�คัญใน มะเขือเทศโดยวิธีระเหยนํ้าแบบ พ่นฝอย (spray drying) เป็น กระบวนการที่นำ�ไปเป็นสาร เคลือบทเ่ี ปน็ คอร์ (core) ซึง่ มัก จะเป็นสารอิมัลชันของสารท่ีไม่ ละลายน้ํา ผสมลงในสารละลาย เชลล์ (shell) ซึ่งเป็นสารเคลือบ มะเขือเทศ (Lycopersicon esculentum แลว้ น�ำ ไปบรรจใุ น เครอ่ื งระเหยนา้ํ แบบพน่ ฝอย (spray dryer) P.Mill.) มีสารแคโรทีนอยด์อยู่มากซึง่ เปน็ รงควตั ถุ สีส้ม และฉดี พน่ ออกมาผ่านหัวพ่น นํ้าจะระเหยไปกับลมร้อนที่มี แดง 2 ชนิด คือ บีตา-แคโรทีน (Beta-carotene) และ อณุ หภมู ิ 100-190 องศาเซลเซยี ส ท�ำ ใหไ้ ดอ้ นภุ าคขนาดเลก็ ไลโคปิน (Lycopene) ที่จัดอยู่ในกลุ่มย่อยของแคโร- มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10-150 ไมครอน ซึ่งเป็น ทีนอยด์ท่ีมีสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถ วิธีที่นิยมมากในอุตสาหกรรมอาหาร ตัวอย่างสารที่ใช้เป็น ยับย้ังอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกัน สารเคลอื บ เชน่ มอลโทเดก็ ซท์ รนิ (maltodextrin) กมั อารบกิ การก่อตัวของเซลล์มะเร็งในต่อมลูกหมาก ปอดและ (gum arabic) โซเดยี มอลั จเิ นต (sodium alginate) และ กระเพาะอาหาร แปง้ ดดั แปร (modifiefi d starch) เปน็ ต้น วิธีการห่อหุ้มสารสำ�คัญ หรือ วิธีเอนแคป วิธีการทำ�มะเขือเทศผงด้วยวิธีการห่อหุ้มสาร ซูเลชั่น (encapsulation) คือ กระบวนการที่สารหรือ สำ�คญั ดว้ ยเครือ่ งระเหยนํา้ แบบพ่นฝอยมีขั้นตอนดังน้ี

1. คัดเลือกมะเขือเทศผลสดที่มีลักษณะสุกแดง 3.5 - 4.2 ปรมิ าณกรดร้อยละ 0.35 - 0.41 ค่าสีของ มากกว่าร้อยละ 80 (มีอายุไม่น้อยกว่า 50 วัน นับจากวัน ในระบบ Hunter Lab พบวา่ ค่าความสว่าง เทา่ กับ ออกดอก) และมปี รมิ าณของแขง็ ทล่ี ะลายน้าํ ไดท้ ง้ั หมดไมน่ อ้ ย 51.15 คา่ สีแดงเท่ากบั 65.08 และคา่ สีเหลอื ง เท่ากบั กว่าร้อยละ 4.0 นำ�มาล้างด้วยนํ้าสะอาด จากนั้นนำ�ผล 40.24 คาการละลายในเทอมของรอ ยละตะกอนท่ีเหลือ มะเขือเทศไปแช่ในนํ้าเย็นที่อุณหภูมิ 8-15 องศาเซลเซียส เทากับ 1.23 -1.85 คาดัชนีการแยกชั้นเมื่อตั้งทิ้งไว เปน็ ระยะเว2ล.า 5 นาที 30 นาที รอยละ 0.08-0.17 ค่าความหนาแน่น (Bulk นำ�ผลมะเขือเทศไปแชเ่ ยน็ ท่อี ณุ หภมู ิ 12-15 density) 0.35 - 0.47 กรัม/มลิ ลลิ ติ ร องศาเซลเ3ซีย.สนำ�ผลมะเขือเทศไปบดและแยกส่วนที่เป็นเนื้อ “ผงมะเขือเทศท่ีได้สามารถนำ�ไปใช้เป็น ออกจากส่วนที่เป็นเมล็ด และเปลือก โดยเครื่องสลัดกาก ผลติ ภณั ฑ์เสรมิ อาหารไดใ้ นหลายรปู แบบ ไดแ้ ก่ ใช้ (pulper) เ4พ.อื่ คนน้ัำ�เนปํ้าน็ มนะ้ําเมขะือเขเอืทเศทไศปผสมกับสารเคลือบชนิด บรโิ ภคโดยตรงในรปู ของแคปซลู อดั เมด็ หรอื บรรจซุ อง เพอ่ื ใช้ผสมในอาหารหรือเครอ่ื งดม่ื ตามความตอ้ งการ มอลโทเดกซ์ทริน (maltodextrin) ที่มีค่าสมมูลเด็กซ์โทรส ใชเ้ ปน็ สารเสรมิ อาหารผสมในผลิตภัณฑ์อาหารทั่วไป (Dextrose Equivalent, DE) อยูร่ ะหวา่ ง 10-20 ในอตั ราสว่ น เชน่ เครื่องดื่มมะเขือเทศสำ�เร็จรูปพร้อมชง ลูกอม ร้อยละ 5-15 ละลายและผสมจนเป็นเนอื้ เดยี วกันปรบั ให้ได้ อัดเม็ดกลิ่นรสมะเขอื เทศ เป็นต้น” ปรมิ าณขอ5ง.แขนง็ �ำ ทนี่ลา้ํ ะมละาเขยือนเํ้าทไดศ้ทจาั้งกหขมอ้ดร4้อยทล�ำ แะ ห1ง้ 0โด- ย2ใ0ช เ้ ค รอ่ื ง ระเหยนํ้าแบบพ่นฝอย โดยใช้วิธีการไหลของการฉีดพ่นนํ้า มะเขอื เทศแบบสวนทางกบั ความร้อน (counter flow dryer) กำ�หนดอณุ หภมู ลิ มร้อนขาเขา้ 160-180 องศาเซลเซยี ส อณุ หภมู ลิ มรอ้ นขาออก 90 องศาเซลเซยี ส ความความเรว็ ลม 90 เมตร/นาที จนกระทั่งความชื้นลดลงเหลอื ร้อยละ 2-5 มาตรฐานแหง้ สำ�หรับผลิตภัณฑ์มะเขือเทศผงที่ได้จาก วิธีการผลิตดังกล่าวประกอบด้วยผงมะเขือเทศและ มอลโทเดกซ์ทรินในอัตราส่วนระหว่าง 80-95 และ 5-20 รอ้ ยละโดยนํ้าหนัก ผลการศึกษาอายุการ เก็บรักษาผลิตภัณฑที่บรรจุในถุงลามิเนต (PE/ AL/PE) แบบสุญญากาศที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส เปนเวลา 20 สปั ดาหพ์ บ วา่ ปรมิ าณ นา้ํ อสิ ระ (Water a-ctดiv่าiงty,(paHw)) 0.45 - 0.51 ค่าความเปน็ กรด

นํ้าสะอาด / หัวเช้ือสบู่ มะเขอื เทศสุก กล่ินสังเคราะห์ ล้างให้สะอาด (เติม/ไมเ่ ติม) หั่นเปน็ ชน้ิ ปนั่ ใหล้ ะเอยี ด กรองเอาเฉพาะน้าํ น้าํ ผง้ึ ปา่ ภาชนะผสม กากกาแฟ คนใหเ้ ข้ากนั เทใสบ่ รรจุภณั ฑ์ จมกู ขา้ ว สบู่เหลวมะเขือเทศผสมน้าํ ผึ้งปา่ สบเู่ หลวมะเขอื เทศผสมกากกาแฟ สบเู่ หลวมะเขอื เทศผสมจมกู ขา้ ว สบู่เหลว

สบเู่ บสกลีเซอรนี กระบวนการผลิต สบู่มะเขือเทศ กล่ินสงั เคราะห์ (เตมิ /ไม่เติม) รงั ไหม/ใยบวบ ตนุ๋ ไฟ น้าํ ผงึ้ ป่า (ใส/่ ไมใ่ ส)่ เทใส่พมิ พ์ กากกาแฟ รอใหแ้ หง้ แกะออกจากพมิ พ์ จมกู ขา้ ว สบู่มะเขอื เทศผสมนา้ํ ผง้ึ ปา่ สบมู่ ะเขอื เทศผสมกากกาแฟ สบู่มะเขอื เทศผสมจมกู ข้าว สบ่แู บบกอ้ นใส

ขั้นตอนการผลติ สบจู่ ากมะเขอื เทศ ขน้ั ตอนการเตรยี มนํ้ามะเขอื เทศ 1. น�ำ ผลมะเขอื เทศสกุ มาลา้ งดว้ ยนา้ํ สะอาด พกั ไวใ้ หส้ ะเดด็ นา้ํ 2. น�ำ ผลมะเขอื เทศมาหน่ั เปน็ ชน้ิ เลก็ ๆ ใสล่ งในเครอ่ื งปน่ั ใหล้ ะเอยี ด 3. กรองมะเขอื เทศทป่ี น่ั แลว้ เพอ่ื แยกเปลอื กและเมลด็ ออก เหลอื ไวเ้ ฉพาะสว่ นทเ่ี ปน็ นา้ํ ขน้ั ตอนการผลติ สบู่มะเขอื เทศ ขน้ั ตอนการผลิตสบ่มู ะเขอื เทศแบบสบู่เหลว แบบก้อนใส 1. นำ�หัวเชื้อสบู่เทลงในภาชนะผสม เติมนํ้าสะอาดที่ ต้มจนเดือดลงไป ใช้ไม้พายคนในทิศทางเดียวกนั จนสว่ นผสมผสม 1. นำ�เบสสบู่กลีเซอรีนใส่ลงในภาชนะตุ๋นตั้งไฟ เขา้ กันดี ความร้อนขนาดปานกลาง ใชท้ ัพพหี รือไม้พายคนไปเรอ่ื ยๆ 2. เติมนํ้ามะเขอื เทศลงไป คนใหส้ ่วนผสมเขา้ กัน ในทิศทางเดียวกันจนกระทั่งเบสสบู่กลีเซอรีนหลอมละลาย 3. เติมนํ้าผึ้งลงไป คนให้เข้ากัน (ถ้าต้องการเติมกลิ่น เปน็ นา้ํ ขณะรอเบสสบูก่ ลีเซอรีนหลอมละลาย ให้เตรยี มพมิ พ์ ใหเ้ ตมิ ลงไปหลงั จากการเตมิ น้าํ ผ้งึ ) สบู่ โดยวางในถาดพนื้ เรียบใหม้ รี ะยะหา่ งกันพอสมควร จาก 4. พักทิ้งไว้ให้ฟองยุบตัว แล้วจึงบรรจุใส่ภาชนะที่ นัน้ ใส่รังไหมลงไปในพมิ พ์ใหเ้ ตม็ พิมพ์ แล้วพักรอไว้ เตรยี มไว้ 2. เม่ือเบสสบกู่ ลเี ซอรนี หลอมละลายหมดแลว้ ให้ ปิดไฟ จากนั้นเติมนาํ้ มะเขือเทศท่ีเตรียมไว้ลงไปผสมคอ่ ยๆ คนใหส้ ว่ นผสมเปน็ เนือ้ เดยี วกนั เตมิ น้าํ ผึง้ ลงไป คนให้เขา้ กนั (ถ้าต้องการเติมกลนิ่ ให้เติมลงไปหลงั จากการเติมนา้ํ ผึ้ง) 3. นำ�ส่วนผสมที่ได้จากข้อ 2 เทลงในพิมพ์ท่ี เตรยี มไว้ โดยคอ่ ยๆ เทประมาณครง่ึ หน่งึ ของพิมพ์ จากนั้น ใช้ไม้ปลายแหลมกดให้รังไหมจมแล้วจึงเทส่วนผสมลงไปอีก จนกระทั่งเต็มพมิ พ์ พักท้ิงไว้ประมาณ 15-20 นาที แลว้ แต่ ขนาดของพมิ พห์ รอื จนกวา่ สบู่จะแข็งตัว 4. เมือ่ สบูแ่ ขง็ ตัวแลว้ แกะสบอู่ อกจากพิมพ์ พกั ไว้ ใหแ้ หง้ สนทิ จากนั้นจงึ นำ�ไปหมุ้ พลาสตกิ ก่อนนำ�ไปใสใ่ นบรรจุ ภณั ฑ์ท่เี ตรียมไว้

ผลิตภัณฑ์ปลอดภัย ใส่ใจผู้บริโภค ทางเลือกสำ�หรบั ผทู้ ร่ี กั สขุ ภาพ ผลิตภัณฑจ์ ากมะเขือเทศปลอดสารพษิ Tel. : 08 6230 2924 ID Line : Tomato Ban-na

งานวิจัยเพื่อทอ้ งถ่ิน มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั สกลนคร เป็นสถาบันอุดมศกึ ษาเพ่อื การ พัฒนาท้องถน่ิ ได้มองเหน็ ความสำ�คญั ของการแก้ปัญหาให้ชุมชน SNRUCommunity Based Research จึงร่วมกับสำ�นักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ผลักดัน ให้เกิด CBR ผ่านการร่วมคิด ร่วมทำ� ร่วมวิเคราะห์ ร่วมจัดการ ร่วมวางแผนของชุมชน ในการค้นหาปัญหาและแนวทางแกไ้ ขปญั หา ให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นท่ีเพื่อตอบสนองความต้องการ ของชมุ ชนอย่างแทจ้ รงิ สกู่ ารพัฒนาอยา่ งสมดุลและย่ังยนื 2549 2555 - 2556 งานวิจยั เพอื่ การบริการวิชาการในพน้ื ที่ ภูพาน หนองหาร “การวิจัยชุมชน” เพื่อพัฒนาศักยภาพนักวิจัย โดย และหมู่บา้ นราชภัฏ รศ.ดร.โยธิน แสวงดี โหนดวิจัยเพื่อท้องถิ่น ได้ปิดตัวลงเนื่องจากขาดกลไก โครงการสนับสนนุ การพัฒนาศูนย์วจิ ยั เพอื่ พฒั นา การขับเคล่อื นงานวิจัยเพ่ือทอ้ งถิ่น ท้องถนิ่ อสี านตอนบน 2557 - 2558 2C5B5R9-SNRU #1 โครงการวจิ ยั ดำ�เนินการแล้วเสรจ็ และสามารถสรา้ งองค์ “การวจิ ัยเพอื่ ท้องถิน่ ” โดย ผศ.ดร.บญั ชร แกว้ สอ่ ง ความรู้ใหเ้ กดิ ขึน้ กบั คนในชุมชนเพือ่ การแก้ไขปัญหาของชมุ ชน โครงการ มรสน. กับ บทบาทการพัฒนาชุมชนและ ทำ�ใหช้ ุมชนเข้มแขง็ จำ�นวน 5 โครงการ ท้องถิน่ สังคมเพ่ือการพัฒนาศักยภาพ ผลิตภัณฑ์ท้องถนิ่ และพฒั นาชุมชนความเป็นอย่ทู ด่ี ีข้นึ ระบบกลไกการสนับสนนุ และติดตามงานวิจยั เพอื่ ใหง้ านวิจัย MOU (สกว.+มรสน.) 3 ปี เพอื่ ท้องถ่ินในมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนครสามารถขับเคลอ่ื น วางแผนการทำ�งานรว่ มกบั เครอื ขา่ ย (TRF+IERD+SNRU) ไดต้ อ่ ไป โครงการพฒั นาศักยภาพนกั วจิ ยั และแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ กบั เครอื ขา่ ยการวจิ ยั เพ่อื ท้องถิ่น โครงการระบบและกลไกในการขบั เคลอ่ื นงานวจิ ยั เพอ่ื ทอ้ งถน่ิ ของมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร และโครงการวจิ ยั 5 โครงการ โดยใช้พื้นที่อำ�เภอเต่างอยเป็นฐานการวิจัย

ผลส�ำ เร็จของการดำ�เนนิ งาน การพัฒนาและขับเคล่ือนงานวิจัยเพ่ือท้องถิ่นของ สนับสนุนงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น ระบบและกลไกการขับเคลื่อน มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร สามารถพฒั นาศกั ยภาพอาจารย์ งานวิจัยเพื่อท้องถิ่น ชุดความรู้การสนับสนุนงานวิจัยเพื่อ นักวจิ ยั นกั วิชาการในมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสกลนคร และนกั วิจัย ท้องถิ่นของมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร และเกิดโครงการ ชาวบ้าน ในพื้นที่อำ�เภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร จำ�นวน วจิ ยั เพอื่ ท้องถิ่นที่สามารถตอบโจทย์ชุมชนทอ้ งถิน่ จ�ำ นวน 6 107 คน ทำ�ให้เกดิ องค์ความรู้ดา้ นการพฒั นาระบบและกลไกการ โครงการ ดังน้ี SNRU

มหาวสิทถยาบาันลวัยจิ รัยาแชลภะพัฏัฒสนกาลนคร 680 ถ.นิตโย ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร โทรศัพท์/โทรสาร 0 4274 4010 http://rdi.snru.ac.th TomผaลtoิตภBัณanฑ~์ Na Tel. : 08 6230 2924 ID Line : Tomato Ban-na