Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ธรรมของฆราวาส ๔

ธรรมของฆราวาส ๔

Published by E-book Prasamut chedi District Public Library, 2019-12-12 01:43:05

Description: สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ)
หนังสือ,เอกสาร,บทความนี้นำมาเผยแพร่เพื่อการศึกษา

Search

Read the Text Version

สว่ นการสละใหป้ นั อนั เปน็ การเกอื้ กลู แกค่ นทว่ั ไป ซงึ่ ไดแ้ ก่ การสละทรพั ยเ์ พอ่ื สว่ นรวม และการบ�ำรงุ กจิ การทเี่ ปน็ ประโยชน์ แก่คนท่ัวไป เชน่ การศาสนา และการพยาบาล เป็นต้นนน้ั เป็นการสละใหป้ นั ท่มี ี ประโยชน์กวา้ งขวาง แสดงใหเ้ หน็ น้�ำใจ อันงามของผู้ให้ คนทั้งหลายบรรดาที่ ไดท้ ราบการเสยี สละอันน้นั ย่อมจะพลอยชืน่ ชมยินดีดว้ ย และจะบังเกดิ ความรกั และความนับถอื ในผูใ้ ห้ ฉนั ใด การสละให้ปันอันเป็นการเก้ือกูลแก่คนท่ัวไป ก็ท�ำให้คนทั่วไป บงั เกดิ ความรกั และความนบั ถือในผู้ให้ ฉนั นัน้ การสละให้ปัน เป็นกิจส�ำคัญอย่างนี้ อันฆราวาสผู้ครอง เรือนจะงดเว้นเสียมิได้ เพราะฉะนั้น ท่านจึงจัดเข้าในธรรมของ ฆราวาสอกี อย่างหนง่ึ เปน็ ขอ้ สดุ ทา้ ย 47

ค�ำ ถามประจ�ำ บท ๑. การสละให้ปัน คืออะไร ? ๒. ๓. ท�ำไมคนเราจึงตอ้ งมี การสละให้ปนั อย่างไร การสละใหป้ ัน ? เปน็ การเฉพาะตัว จงยกตัวอย่าง ? ๔. ๕. เหตไุ ร เราจงึ ตอ้ งสละ การสละให้ปนั ดีอยา่ งไร ทรัพย์เพื่อประโยชน์ ทา่ นจึงจดั เข้าในธรรม ส่วนรวม ? ของฆราวาส ? 48

บ๖ทท่ี ใจความแหง่ ธรรม ของฆราวาส ธรรมของฆราวาส ๔ อยา่ ง คือ ความสตั ยซ์ ื่อแกก่ ัน ความรู้จกั ข่มใจของตน ความอดทน และ การสละใหป้ ัน ไดก้ ลา่ วมาแลว้ โดยล�ำดบั ตอ่ ไปนจ้ี ะเกบ็ ใจความมากลา่ วไว้ เพ่อื ใหม้ ีความเขา้ ใจตดิ ตอ่ กัน 49

แบง่ กันนะ ขอบใจมาก เพอ่ื น ฆราวาส คือ ผ้คู รองเรือน ยอ่ มเกย่ี วข้องกับคนมาก จ�ำเป็น ต้องมีธรรมเป็นหลักที่ยึดถือ จึงจะประพฤติต่อบุคคลน้ัน ๆ โดยชอบ ก่อให้เกิดความรักความนับถือ เป็นผลดีอย่างย่ิงใน กจิ การนั้น ๆ ธรรมข้อตน้ คือ ความสัตยซ์ ่อื แก่กนั ไมม่ ใี ครเลยที่ตอ้ งการ ความเท็จความหลอกลวง ล้วนแต่ต้องการความสัตย์ความจริง ด้วยกันทั้งนนั้ เรามีความสัตย์ซ่ือต่อบุคคลใด ความสัตย์ซื่อของเรานั้น จะเป็นรสอันประเสริฐ จับใจบุคคลนั้น ให้รัก และนับถือเราอยู่ มิร้วู าย 50

อนง่ึ ใจของคนเรา มกั ถกู อ�ำนาจฝา่ ยตำ�่ เข้าครอบง�ำ ท�ำให้ นึกคิดไปในทางท่ีไม่ดี ไม่งามต่าง ๆ หากพูดหรือท�ำอะไรลงไป ตามความคิดเช่นน้ัน ก็จะเป็นอาการที่น่าเกลียด น่าละอาย คล้ายอาการของคนบ้า หรือคนเมา ท�ำความเดือดร้อนร�ำคาญ แกผ่ ู้อ่ืน อาจท�ำใหผ้ อู้ ่ืนส้นิ รักส้ินนับถอื เพราะฉะนั้น ควรมีธรรมอีกข้อหนึ่งคือ ความรู้จักข่มใจ ของตน หักห้ามใจทจ่ี ะคิดนึกไปในทางทไ่ี มด่ ี ไม่งาม ฝึกหัดดดั ใจ ใหค้ ดิ ไปแตใ่ นทางดี ทางงาม โอ๊ย..! กฉ็ ันหมนั่ ไส้แก อะไรกนั นี่ นะ่ สิ มอี ะไร คณุ ต่อยผมทำ� ไม ไหมละ่ 51

เอ่อ...คอื ... ไมเ่ ปน็ ไร เรื่องเมือ่ เชา้ นี้ ผมไมถ่ ือสา ผมขอโทษดว้ ยนะ แต่การข่มใจนี้ท�ำได้ยาก คนโดยมากไม่ค่อยรู้จักข่มใจ ของตน คนเราอยู่ด้วยกัน จึงมักจะมีการกระทบกระท่ังล่วงเกิน กันอยู่บ่อย ๆ จ�ำเป็นต้องมีธรรมอีกข้อหนึ่ง คือ ความอดทน ไมถ่ อื โกรธ ในเม่ืออกี ฝ่ายหนึ่งล่วงเกิน ใจจงึ จะเป็นสขุ และอาจ ตัดตน้ เหตุของการทะเลาะวิวาทเสยี ได้ 52

นอกจากน้ี วิธีท่ีดีอย่างย่ิง ที่จะปลูกความรักความนับถือ ในกันและกัน ป้องกันมิให้มีการแตกร้าวกันได้โดยง่าย ก็คือ การสละให้ปันเอื้อเฟื้อเผ่ือแผ่ช่วยเหลือกันและกัน ซ่ึงท่านจัด เปน็ ธรรมของฆราวาสข้อสุดท้าย 53

ธรรมของฆราวาส ๔ อย่างน้ี มีผลดแี ก่ผปู้ ระพฤตอิ ยา่ งไร ได้กล่าวมาแล้วในบทที่ว่าดว้ ยขอ้ ธรรมน้นั ๆ แมเ้ พยี งอยา่ งหนงึ่ ๆ ยงั ใหผ้ ลดอี ยา่ งยง่ิ แลว้ ถา้ เราสามารถ อบรมให้มีครบท้ัง ๔ อย่าง จะเป็นผลดีสักเพียงไรไม่ต้องพูดถึง พระพุทธเจ้าได้ตรัสรับรองไว้ว่า ฆราวาสผู้ใดมีธรรม ๔ อย่างนี้ ผนู้ ัน้ จะไมต่ อ้ งโศกเศรา้ เสยี ใจในภายหน้าเลย กอดคอกันไว้ แล้วไปด้วยกนั 54

ฆราวาสธรรม ๔ มีผลดีทกุ ขอ้ ค่ะ เด็กทุกคน คงจะมีความมุ่งหวังที่จะสร้างตนเองให้มีความ เจริญรงุ่ เรืองในภายหน้า คงจะไมม่ ีใครปรารถนาที่จะไดร้ ับความ โศกเศรา้ เสยี ใจ เพราะฉะนั้น เม่ือได้ศึกษาให้มีความเข้าใจดีในธรรมของ ฆราวาส ๔ อย่างน้ีแล้ว จงพยายามประพฤติตาม จะเป็นผลดี แม้แก่การเล่าเรียนของตน และจะเกิดความเคยชินเป็นนิสัย เมอ่ื เติบโตเป็นผ้ใู หญ่ กจ็ ะมคี ุณธรรม ๔ อย่างน้ตี ดิ ตัวไป ท�ำให้ เป็นท่ีรักท่นี ับถือของคนทวั่ ไป จะท�ำการงานอะไรก็มคี วามเจริญ จกั สามารถสรา้ งตนเองใหม้ คี วามเจรญิ รงุ่ เรอื งไดส้ มความมงุ่ หมาย 55

คำ�ถามประจ�ำ บท ๑. ความรู้จกั ขม่ ใจของตน กับความอดทน ต่างกันอย่างไร ? ๒. ๓. พระพทุ ธเจ้าทรงแสดง เราเป็นเดก็ ประพฤติ ผลของการตัง้ อยู่ใน ตามธรรมของฆราวาส ๔ อยา่ งนจ้ี ะไดร้ บั ผลดี ธรรม ๔ อย่างนี้ ไวอ้ ยา่ งไร ? อยา่ งไรบ้าง ? 56

ภาคผนวก ธรรมของฆราวาส ๔ หนงั สอื สอนพระพุทธศาสนาแก่เดก็ นายทนิ กร ทองเศวต เปรยี ญ แต่ง ไดร้ ับพระราชทานรางวลั ช้ันท่ี ๑ ในการประกวดประจ�ำ พุทธศักราช ๒๔๘๕ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ิมพพ์ ระราชทาน เนอ่ื งในงานพระราชพธิ ีวิศาขบูชา พทุ ธศกั ราช ๒๔๘๕



ด่วน (สำ�เนา) ท่ี ๔๗๐/๒๔๘๕ ส�ำ นักงานราชเลขานุการในพระองค์ ๑๖ พฤษภาคม ๒๔๘๕ เรื่อง การประกวดแต่งหนงั สือสอนพระพุทธศาสนาแกเ่ ดก็ จาก ราชเลขานกุ ารในพระองค์ ทลู นายกราชบัณฑิตยสถาน ลายพระหตั ถท์ ี่ ๒๒๐/๒๔๘๕ ลงวนั ที่ ๘ พฤษภาคม ๒๔๘๕ ว่า การประกวดแต่งหนังสือสอนพระพุทธศาสนาแก่เด็ก เพ่ือรับ พระราชทานรางวลั และพมิ พพ์ ระราชทานในงานพระราชพธิ ที รงบำ�เพญ็ พระราชกุศลวิศาขบูชา ประจำ�พุทธศักราช ๒๔๘๕ ราชบัณฑิตย- สถานได้ประกาศให้แต่งประกวดตามหัวข้อธรรมเร่ือง “ธรรมของ ฆราวาส ๔” มีผู้แต่งส่งเข้าประกวด ๙ ราย ราชบัณฑิตยสถาน ได้ต้ังให้สมเด็จพระวันรัต ภาคีสมาชิกแห่งราชบัณฑิตยสถาน สำ�นัก ธรรมศาสตร์และการเมือง ประเภทวิชาศาสนา เป็นกรรมการตรวจ ในทางหลักธรรม ซึ่งเป็นการตรวจช้ันต้น และได้ตรวจคัดเลือก ไดฉ้ ะบบั ทถ่ี กู ตอ้ งตามหลกั ธรรม ซง่ึ ควรไดร้ บั พจิ ารณาตอ่ ไป ๖ ฉะบบั ราชบัณฑิตยสถานจึ่งได้ส่งหนังสือท้ัง ๖ ฉะบับ ให้สำ�นักศิลปกรรม ตรวจในเชงิ วรรณคดอี กี ชน้ั หน่ึง แล้วเสนอความเห็นว่า ไมม่ ีฉะบับใด ดีถึงระดับท่ีควรได้รับพระราชทานรางวัลเลย เนื่องจากยังมีเวลาพอ จึงได้ประกาศให้แต่งส่งเข้าประกวดอีก โดยกำ�หนดให้แต่งตาม หัวข้อธรรมเร่ืองเดิม ในคร้ังนี้มีผู้แต่งส่งเข้าประกวด ๑๑ ราย ราชบัณฑิตยสถานได้ดำ�เนินการตรวจด่ังครั้งแรก ปรากฏผลตาม

ความเห็นของสำ�นักศิลปกรรมว่า ฉะบับท่ีแต่งดีถึงระดับควรได้รับ พระราชทานรางวัลมีเพียง ๒ ฉะบับ คือ ฉะบับหมายเลขท่ี ๗ กับ ฉะบับหมายเลขที่ ๑๑ ความเห็นของสำ�นักศิลปกรรมนี้ ภาคีสมาชิก แห่งราชบัณฑิตยสถานส่วนข้างมากเห็นพ้องด้วย จึงให้เปิดช่ือผู้แต่ง ปรากฏว่า ฉะบับหมายเลขที่ ๗ นายทินกร ทองเศวต เปรียญ เป็น ผู้แต่ง ฉะบับหมายเลขท่ี ๑๑ พระครูธรรมาธิการ (ฟ้ืน ปาสาทิโก) เปรยี ญ ๗ ประโยค วัดราชบพธิ เป็นผแู้ ต่ง ราชบณั ฑิตยสถานจึงเสนอ สำ�เนาหนังสือ ๒ ฉะบับนั้นไปเพื่อทรงวินิจฉัยเลือกสำ�นวนไหนให้ ได้รบั พระราชทานรางวัลที่ ๑ และรางวัลที่ ๒ นัน้ คณะผสู้ �ำ เรจ็ ราชการแทนพระองค์ ในพระปรมาภไิ ธยสมเดจ็ - พระเจ้าอยู่หัวพิจารณาแล้ว เห็นว่า สำ�นวนหมายเลขท่ี ๗ สมควร ท่ีจะได้รับรางวัลท่ี ๑ เพราะถ้อยคำ�และสำ�นวนโวหารก็เหมาะแก่ เด็ก นอกจากนั้นยังได้ยกอุทาหรณ์อันเป็นเชิงนิยายเหมาะแก่ในการ สอนเด็ก ส่วนสำ�นวนหมายเลขที่ ๑๑ นั้น แม้ว่าข้อความที่เขียนจะ อธบิ ายละเอยี ดกวา่ ส�ำ นวนหมายเลขท่ี ๗ ก็ตาม แต่ลักษณะเขา้ ไปใน ทำ�นองที่เป็นการกล่าวในทางทฤษฎีมากเกินไป เหมาะสำ�หรับผู้ใหญ่ มากกว่า เด็กที่อ่านสำ�นวนหมายเลขท่ี ๑๑ จะเข้าใจได้ยาก เมื่อ เปรียบเทียบและพิจารณาในแง่จิตตวิทยาของเด็กแล้ว สำ�นวน หมายเลขท่ี ๗ เหมาะแก่เด็กมากกว่าสำ�นวนหมายเลขที่ ๑๑ เหตฉุ ะน้ันจงึ ลงมติให้ส�ำ นวนหมายเลขท่ี ๗ ไดร้ บั รางวลั ที่ ๑ ส�ำ นวน หมายเลขท่ี ๑๑ ไดร้ ับรางวัลท่ี ๒ จง่ึ ทลู มาเพอื่ ทรงทราบ (ลงนาม) ส.ว. นิรันดร (นายพันตรี สเหวก นิรนั ดร)

ท่ี ๒๒๐/๒๔๘๕ (ส�ำเนา) ราชบัณฑติ ยสถาน ๘ พฤษภาคม ๒๔๘๕ เรื่อง ประกวดแตง่ หนังสือสอนพระพุทธศาสนาแกเ่ ดก็ ขอประทานกราบทูล พระเจ้าวรวงศเ์ ธอพระองค์เจา้ อาทติ ยท์ พิ อาภา ประธานคณะผ้สู �ำเร็จราชการแทนพระองค์ เกลา้ กระหมอ่ มขอประทานกราบทลู รายงานการประกวดแตง่ หนงั สอื สอนพระพทุ ธศาสนาแกเ่ ดก็ เพอ่ื รบั พระราชทานรางวลั และพมิ พพ์ ระราช- ทานในงานพระราชพิธีวศิ าขบูชา ประจ�ำพทุ ธศักราช ๒๔๘๕ ดังตอ่ ไปน้ี การประกวดแต่งหนังสือสอนพระพุทธศาสนาแก่เด็กประจ�ำปีน้ี ราชบณั ฑติ ยสถานไดป้ ระกาศใหแ้ ต่งประกวดตามหัวข้อธรรมเร่ือง “ธรรม ของฆราวาส ๔” มีผู้แต่งส่งเข้าประกวด ๙ ราย เป็นพระภิกษุ ๗ ราย สามเณร ๑ ราย คฤหสั ถ์ชาย ๑ ราย ราชบณั ฑิตยสถานไดต้ งั้ ใหส้ มเด็จ- พระวันรัต ภาคีสมาชิกแห่งราชบัณฑิตยสถาน ส�ำนักธรรมศาสตร์และ การเมอื ง ประเภทวชิ าศาสนา เปน็ กรรมการตรวจในทางหลกั ธรรม ซงึ่ เปน็ การตรวจช้ันต้น สมเด็จพระวันรัต ตรวจคัดเลือกได้ฉะบับท่ีถูกต้องตาม หลักธรรม ซ่งึ ควรได้รับพจิ ารณาตอ่ ไป ๖ ฉะบับ ราชบัณฑติ ยสถานได้ส่งหนังสือท้ัง ๖ ฉะบบั นนั้ ให้ส�ำนักศิลปกรรม ตรวจในเชิงวรรณคดีอีกช้ันหนึ่ง ส�ำนักศิลปกรรมได้ตรวจคัดเลือกแล้ว เสนอความเหน็ วา่ ไมม่ ฉี ะบบั ใดดถี งึ ระดบั ทค่ี วรไดร้ บั พระราชทานรางวลั เลย เนอ่ื งจากยงั มเี วลาพอทจี่ ะใหแ้ ตง่ สง่ เขา้ ประกวดกนั ใหมไ่ ดอ้ กี ราชบณั ฑติ ย- สถานจึงได้ประกาศให้แต่งส่งเข้าประกวดอีกโดยก�ำหนดให้แต่งตามหัวข้อ ธรรมเร่ืองเดิมคอื “ธรรมของฆราวาส ๔” ในครั้งน้ี มผี แู้ ต่งสง่ เขา้ ประกวด ๑๑ ราย เป็นพระภกิ ษุ ๗ ราย คฤหัสถ์ชาย ๔ ราย ราชบณั ฑติ ยสถาน

ไดด้ �ำเนนิ การตรวจดงั่ ครง้ั แรก ปรากฏผลตามความเหน็ ของส�ำนกั ศลิ ปกรรม ว่า ฉะบับที่แต่งดีถึงระดับควรได้รับพระราชทานรางวัลมีเพียง ๒ ฉะบับ คือ ฉะบบั หมายเลขที่ ๗ กบั ฉะบบั หมายเลขท่ี ๑๑ ความเห็นของส�ำนกั ศลิ ปกรรมนี้ ภาคีสมาชิกแหง่ ราชบณั ฑิตยสถานส่วนขา้ งมากเห็นพอ้ งด้วย จงึ ให้เปดิ ชื่อผแู้ ตง่ ปรากฏวา่ ฉะบบั หมายเลขที่ ๗ นายทินกร ทองเศวต เปรียญ เป็นผู้แต่ง ฉะบับหมายเลขท่ี ๑๑ พระครูธรรมาธิการ (พื้น ปาสาทิโก) เปรียญ ๗ ประโยค วดั ราชบพิธ เป็นผู้แต่ง ตามประกาศประกวดแต่งหนังสือสอนพระพุทธศาสนาแก่เด็กมี ความว่า “ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ราชบัณฑิตยสภาเป็นพนักงาน ตรวจตัดสินตามวิธีซึ่งเห็นสมควรแล้วคัดที่ดีที่สุดข้ึนทูลเกล้า ฯ ถวาย ๓ ราย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดรายไหนย่ิงกว่าเพื่อน จะทรง เลอื กพิมพ์เป็นหนังสือพระราชทานในวนั วิศาขบชู า และจะทรงพระกรณุ า โปรดเกลา้ ฯ พระราชทานรางวลั ท่ี ๑ ราคา ๒๐๐ บาท แกผ่ แู้ ตง่ อกี สองราย ที่รองลงมาน้นั จะพระราชทานรางวัลที่ ๒ ราคา ๑๐๐ บาท” ดงั นี้ แต่ใน คร้ังน้ีมีหนังสือท่ีแต่งดีถึงระดับได้รับพระราชทานรางวัลเพียง ๒ ฉะบับ เท่าน้ัน เกล้ากระหม่อมจึงขอประทานถวายส�ำเนาหนังสือ ๒ ฉะบับน้ัน มาพร้อมกับรายงานฉะบับน้ีขอได้ทรงวินิจฉัยเลือกส�ำนวนไหนให้ได้รับ พระราชทานรางวัลท่ี ๑ เมื่อทรงเลือกแล้วอีกส�ำนวนหน่ึงก็อยู่ในเกณฑ์ รางวลั ท่ี ๒ ตามความในประกาศประกวดแตง่ หนงั สอื สอนพระพทุ ธศาสนา แก่เด็กดังกล่าวแลว้ ควรมคิ วรแล้วแตจ่ ะโปรดเกลา้ ฯ (ลงพระนาม) เกลา้ กระหม่อม วรรณไวทยากร (พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจา้ วรรณไวทยากร) นายกราชบัณฑิตยสถาน

นายทินกร ทองเศวต เปรยี ญ ผ้แู ตง่

ธรรมของฆราวาส ๔ หนังสือสอนพระพุทธศาสนาแกเ่ ดก็ ISBN : 978-616-91977-5-1 แตง่ โดย นายทนิ กร ทองเศวต เปรยี ญ แต่ง ไดร้ ับพระราชทานรางวัล ช้ันที่ ๑ ในการประกวดหนังสอื สอนพระพทุ ธศาสนาแก่เดก็ ประจ�ำ ปี พ.ศ. ๒๔๘๕ พิมพ์คร้งั ท่ี ๑ พ.ศ. ๒๔๘๕ พมิ พค์ รั้งที่ ๒ (ปรับปรุง) พ.ศ. ๒๕๕๗ จำ�นวน ๓,๐๐๐ เลม่ จดั พิมพโ์ ดย ส�ำ นักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี สวนจติ รลดา พระราชวังดสุ ิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๘๒ ๖๕๑๑ โทรสาร ๐ ๒๒๘๑ ๓๙๒๓ ออกแบบปก/รูปเลม่ /และภาพประกอบโดย ไพยนต์ กาสี สุกญั ญา ศรีสงคราม และ อนันต์ กิตตกิ นกกุล พมิ พ์ท่ี หจก. แอลซพี ี ฐิติพรการพมิ พ์ ๑๐๕/๖๖-๖๗ ถนนประชาอุทศิ ซอย ๔๕ แขวงบางมด เขตทุง่ ครุ กรุงเทพฯ ๑๐๑๔๐


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook