Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore jobduangporn

jobduangporn

Published by Fang nosza, 2019-11-15 23:10:47

Description: jobduangporn

Search

Read the Text Version

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชวี ิตกับสิ่งแวดล้อม เร่อื ง ระบบนเิ วศ ชดุ ท่ี 3 การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนเิ วศ กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ (ว 23101) ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 วัตถปุ ระสงค์ของชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. เพอื่ ใชเ้ ป็นสื่อการเรียนการสอน วิชาวทิ ยาศาสตร์ ว 23101 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 ชีวติ กับสงิ่ แวดล้อม เรอื่ ง ระบบนิเวศ สาหรับนักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 2. เพื่อพฒั นากระบวนการเรียนการสอนและผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน วชิ า วทิ ยาศาสตร์ ที่เรียนโดยใช้ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ชวี ติ กบั ส่ิงแวดล้อม เรือ่ ง ระบบนเิ วศ สาหรับนกั เรียนช้นั มัธยม ศกึ ษาปีที่ 3 3. เพ่อื ส่งเสริมให้นักเรยี นได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง และสามารถคน้ หาคาตอบด้วยตนเองได้ ~1~

เอกสารสาหรับครู กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ชวี ิตกับสงิ่ แวดล้อม เร่ือง ระบบนิเวศ ชุดที่ 3 การถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศ ~2~

คาแนะนาสาหรบั ครู ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ชวี ติ กับสง่ิ แวดล้อม เรือ่ ง ระบบนเิ วศ กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ชุดที่ 3 การถา่ ยทอดพลงั งานในระบบนเิ วศ 1. ก่อนใชช้ ุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ควรตรวจสอบเอกสารให้ครบถว้ น ในแต่ละชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ประกอบด้วยเอกสารสาหรับครู ดังน้ี 1.1 คาอธิบายรายวิชา 1.2 แผนการจัดการเรียนรู้ 1.3 แนวทางแบบบันทึกผลการปฏบิ ัติกิจกรรม 1.4 แนวคาตอบใบงาน 1.5 แบบประเมนิ พฤติกรรมการทางานกลุ่ม 2. ส่ิงท่คี รูต้องปฏิบัติ 2.1 ก่อนสอน 2.1.1 ศึกษาคาอธิบายรายวชิ า 2.1.2 ศกึ ษาแผนการจัดการเรยี นรู้ 2.1.3 เตรียมวัสดุ-อปุ กรณเ์ อกสารท่ีตอ้ งใช้ตามแผนการจดั การเรยี นรูอ้ ย่างครบถว้ น 2.1.4. ศึกษาแหลง่ เรียนรู้ 2.1.5 ศกึ ษาเครื่องมือการวัดผลประเมนิ ผล 2.1.6 ครแู จ้งการแบ่งกลมุ่ นักเรียน กลุ่มละ 5-6 คน 2.1.7 ครูชี้แจงวิธกี ารสอนและกิจกรรมทน่ี กั เรียนตอ้ งปฏิบตั ิตามใบปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ~3~

2.2 ขณะสอน 2.2.1 ช้ีแจงกจิ กรรมการเรยี นการสอนให้นักเรยี นทราบ 2.2.2 จดั กล่มุ ตามที่กาหนด 2.2.3 ดาเนนิ การจดั กิจกรรมตามแผนการจดั การเรียนรู้ 2.2.3.1 ช้แี จงจดุ ประสงค์การเรยี นรู้และลักษณะการทางานร่วมกนั เปน็ กลุม่ 2.2.3.2 แจกเอกสาร เช่น เอกสารนกั เรียนและสือ่ ต่างๆ 2.2.3.3 เปิดโอกาสให้นกั เรยี นไดม้ ปี ฏิสัมพันธภ์ ายในกลุ่มเพื่อได้มาซ่งึ ข้อสรปุ ของกลมุ่ เช่น การอภปิ ราย ซักถามเสนอแนะ แลกเปลี่ยนความคิดเหน็ ซ่งึ กันและกัน 2.2.3.4 เปน็ ผู้ใหค้ าแนะนาและเป็นทีป่ รึกษาของนักเรยี นในขณะท่นี ักเรยี นทา กิจกรรม 2.2.3.5 ตรวจสอบการปฏิบตั กิ ิจกรรมต่าง ๆ ของนกั เรียน 2.2.3.6 ประเมนิ ผลการทากิจกรรมในกลุ่ม 2.3 หลังสอน 2.3.1 ตรวจใบงานใหค้ ะแนน 2.3.2 ตรวจแบบบนั ทึกผลการปฏิบตั ิกิจกรรม 2.3.3 ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี นใหค้ ะแนน 2.3.4 บนั ทึกแบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ~4~

คาอธบิ ายรายวิชา วชิ าวิทยาศาสตร์ (ว 23101) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ศกึ ษา สังเกต วิเคราะห์ ลักษณะของโครโมโซม ความสาคญั ของสารพนั ธกุ รรม กระบวนการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม โรคทางพันธุกรรมที่เกดิ จากความผิดปกติของยนี และ โครโมโซม ความหลายหลายทางชีวภาพในท้องถน่ิ ทท่ี าให้ส่งิ มชี วี ิตดารงชีวติ อยู่ได้อยา่ งสมดลุ ผลของ ความหลากหลายทางชีวภาพทมี่ ตี ่อมนุษย์ สัตว์ พชื และสงิ่ แวดล้อม ผลของเทคโนโลยชี วี ภาพตอ่ การดารงชวี ิตของมนุษย์และส่ิงแวดลอ้ ม ระบบนิเวศในท้องถนิ่ ความสัมพนั ธข์ ององคป์ ระกอบภายใน ระบบนิเวศ ความสมั พนั ธข์ องการถา่ ยทอดพลังงานของสงิ่ ชีวิตในรปู ของโซอ่ าหารและสายใยอาหาร วฏั จกั รนา้ วัฏจกั รคารบ์ อน และความสาคญั ที่มีต่อระบบนเิ วศ ปัจจยั ทมี่ ีผลต่อการเปลีย่ นแปลงขนาด ของประชากรในระบบนเิ วศ ปญั หาสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น และเสนอแนวทางใน การแกป้ ัญหา แนวทางการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ การใชท้ รัพยากรธรรมชาติอยา่ งยง่ั ยนื การใช้ ทรัพยากรธรรมชาตติ ามปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปญั หาสิ่งแวดล้อมและแนวทางการแกป้ ัญหา การ ดูแลและอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อมในท้องถนิ่ อย่างยง่ั ยืน โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมลู บนั ทึกข้อมูล จดั กลมุ่ ข้อมูล การอธบิ าย และการอภิปราย เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนาเสนอ สอ่ื สารส่งิ ที่เรยี นรู้ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ เห็นคณุ ค่าของการนาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวัน มคี วามซื่อสตั ย์สจุ ริต มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มุง่ มนั่ ในการทางาน มจี ติ สาธารณะ รหสั ตวั ชี้วัด (รวม 25 ตวั ชี้วดั ) รหสั ตัวชี้วัด ว1.2 ม.3/1,3/2,3/3,3/4,3/5,3/6 รหสั ตัวช้ีวดั ว2.1 ม.3/1,3/2,3/3,3/4 รหัสตัวชว้ี ัด ว2.2 ม.3/1,3/2,3/3,3/4,3/5,3/6 รหสั ตวั ชว้ี ดั ว8.1 ม.3/1,3/2,3/3,3/4,3/5,3/6,3/7,3/8,3/9 ~5~

แผนการจดั การเรยี นรู้ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ชีวติ กบั ส่งิ แวดลอ้ ม เร่อื ง ระบบนิเวศ ชุดที่ 3 การถา่ ยทอดพลังงานในระบบนิเวศ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระการเรียนร้ทู ่ี 2 : ชวี ิตกบั สง่ิ แวดลอ้ ม มาตรฐาน ว 2.1 : เข้าใจสง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ ความสัมพันธ์ระหว่างส่งิ แวดล้อมกบั ส่ิงมีชวี ติ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสิ่งมชี วี ติ ตา่ งๆในระบบนิเวศ มีกระบวนการสืบเสาะหาความรูแ้ ละ จติ วิทยาศาสตร์ สื่อสารสิง่ ทเ่ี รยี นรแู้ ละนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 8.1 : ใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละจิตวิทยาศาสตรใ์ นการสืบเสาะหา ความรู้ การแกป้ ัญหา รวู้ ่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ ีเ่ กดิ ข้นึ สว่ นใหญม่ ีรูปแบบที่แนน่ อน สามารถ อธิบายและตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมูลและเครอ่ื งมอื ทม่ี ีอยู่ในช่วงเวลานนั้ ๆ เข้าใจว่า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และส่งิ แวดลอ้ มมคี วามเกย่ี วข้องสมั พันธ์กนั ตวั ชีว้ ดั มฐ ว 2.1 ม.3/1 สารวจตรวจสอบระบบนเิ วศต่างๆ ในท้องถ่ิน และอธบิ ายความสัมพันธข์ อง องคป์ ระกอบภายในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลงั งาน วฏั จักรของสาร และการเปล่ยี นขนาดของ ประชากร มฐ ว 8.1 ม.3/1 ตั้งคาถามท่ีกาหนดประเดน็ หรือตวั แปรท่ีสาคัญในการสารวจตรวจสอบ หรอื ศกึ ษาคน้ ควา้ เร่ืองทส่ี นใจไดอ้ ย่างครอบคลมุ และเชือ่ ถือได้ ม.3/2 สร้างสมมติฐานที่สามารถตรวจสอบได้และวางแผนการสารวจตรวจสอบ หลายๆ วิธี ม.3/7 สรา้ งคาถามที่นาไปสู่การสารวจตรวจสอบ ในเรอ่ื งที่เก่ยี วข้อง และนาความรู้ ท่ีได้ไปใช้ในสถานการณ์ใหม่หรืออธิบายเกี่ยวกับแนวคิด กระบวนการ และผลของโครงงานหรือชิ้นงานให้ผู้อ่ืน เข้าใจ ม.3/8 บันทึกและอธิบายผลการสังเกต การสารวจ ตรวจสอบ ค้นคว้าเพ่ิมเติมจาก แหล่งความรู้ต่าง ๆ ให้ได้ข้อมูลที่เช่ือถือได้ และยอมรับการเปลี่ยนแปลงความรู้ท่ีค้นพบเม่ือมีข้อมูลและ ประจกั ษ์พยานใหม่เพม่ิ ขนึ้ หรือโต้แย้งจากเดิม ~6~

สาระสาคัญ กลุม่ สงิ่ มชี วี ติ ชนิดต่างๆ ที่อยู่ร่วมกันและมีความสัมพันธ์ซง่ึ กันและกนั ถ้าจาแนกตาม ลักษณะการดารงชีวติ หรือตามลักษณะการกนิ แบ่งออกเป็น 3 กลมุ่ ดังน้ี 1.1 ผู้ผลติ (producer) 1.2 ผบู้ ริโภค (consumer) 1.3 ผ้ยู อ่ ยสลายสาร (decomposer) กล่มุ สิ่งมชี ีวติ ตา่ งๆ ที่อาศัยอยู่ในระบบนเิ วศ จะมคี วามสัมพันธก์ นั ในแง่ทีเ่ ปน็ อาหาร ถ่ายเท พลงั งานต่อกันเปน็ ทอด ๆ ในลกั ษณะของหว่ งโซ่อาหาร(food chain) ดังน้ี ผผู้ ลิต ผู้บรโิ ภคอนั ดับ 1 ผบู้ รโิ ภคอนั ดบั 2 ผู้บริโภคอันดับ 3 ผยู้ อ่ ยสลาย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกปัจจยั ทางกายภาพทม่ี ีผลตอ่ การดารงชวี ติ ของส่ิงมีชีวิตได้ 2. จาแนกกลุม่ สิง่ มีชีวิตในระบบนิเวศต่างๆ และอธิบายการถ่ายทอดพลังงานในหว่ งโซอ่ าหาร และสายใยอาหารได้ 3. เขียนแผนภาพแสดงความสัมพันธ์ของส่ิงมีชวี ติ ในรูปของการถา่ ยทอดพลงั งานในระบบนเิ วศ ได้ สาระการเรยี นรู้ โซ่อาหาร สายใยอาหาร กิจกรรมการเรียนการสอน 1. นกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นตามบตั รคาส่ังท่ี 1 แบบทดสอบก่อนเรยี น ชดุ ท่ี 3 การ ถา่ ยทอดพลังงานในระบบนเิ วศ 2. จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ซึ่งมีข้ันตอนดงั น้ี 1. ขัน้ สรา้ งความสนใจ 1.1 ครูนาภาพเกยี่ วกับส่ิงมีชีวติ ชนดิ ต่าง ๆ เช่น ต้นขา้ ว แมลง กบ งู เหยยี่ ว ไก่ มาให้ นักเรียนดู พร้อมอธบิ ายเกย่ี วกบั ลักษณะการกินของส่ิงมีชีวิตท่มี ีความสัมพันธ์ในการกนิ ตอ่ กันเป็น ทอดๆ เรียกวา่ ห่วงโซอ่ าหาร 1.2 นกั เรียนและครูรว่ มกันสนทนาเก่ียวกบั ส่ิงมีชวี ิตที่อาศยั อยรู่ ว่ มกนั ในระบบนเิ วศซ่ึงมี ความสัมพันธ์กันหลายด้าน ด้านทีส่ าคญั ทสี่ ุดในการดารงชวี ติ คือ ด้านการถา่ ยทอดพลังงาน บทบาทของ สิง่ มชี ีวิตในรูปแบบของการกินตอ่ กันเปน็ ทอด ๆ ~7~

2. ขน้ั สารวจและคน้ หา 2.1 ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 5-6 คน โดย ใน แต่ละกล่มุ ประกอบดว้ ย นักเรยี นทเี่ รยี นเกง่ 1 คน เรียนปานกลาง 3 คน และเรียนอ่อน 1 คน เพ่ือการ ชว่ ยเหลอื ซ่ึงกนั และกนั ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการเรียนรู้ ให้แตล่ ะกลุ่มเลือกประธานกลุ่ม 2.2 ใหป้ ระธานแต่ละกลมุ่ รบั เอกสารสาหรับนักเรียนท่แี ต่ละกล่มุ ได้รับประกอบด้วย ใบคาส่งั ปฏิบตั ิกิจกรรม แบบบันทึกปฏบิ ตั ิกจิ กรรม แบบบันทกึ ใบงาน 2.3 นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันศึกษาตามบตั รคาส่ังท่ี 2 ใบคาสัง่ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม และปฏบิ ัติ กจิ กรรมตามใบคาสงั่ ปฏิบัตกิ ิจกรรมที่ 1 และ ใบคาสงั่ ปฏิบัติกิจกรรมท่ี 2 ชดุ ท่ี 3 การถ่ายทอดพลงั งาน ในระบบนเิ วศ 2.4 นกั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันอภิปรายเกย่ี วกบั อาหารของสตั ว์ที่กาหนดและระบุวา่ อาหารนั้น มาจากพืชหรอื สตั ว์ เขียนความสมั พันธข์ องส่ิงมีชวี ติ ที่กาหนดใหว้ ่าสิง่ มีชีวติ ชนดิ ใดกนิ อะไรเปน็ อาหาร และระบชุ นิดของสิง่ มชี ีวิตในภาพรวมท้งั บอกความสมั พันธ์ของสิ่งมชี ีวิตแตล่ ะภาพ โดยใหเ้ ขียนลกู ศรและ หันหวั ลูกศรไปทางผู้ลา่ แลว้ ตอบคาถามท้ายกิจกรรมโดยทาลงในแบบบนั ทึกผลการปฏิบัติกจิ กรรมที่ 1 และแบบบันทึกผลการปฏิบัติกิจกรรมที่ 2 ชดุ ที่ 3 การถา่ ยทอดพลงั งานในระบบนิเวศ 3. ขั้นอธบิ ายและลงข้อสรุป 3.1 นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนนาเสนอผลงาน จากแบบบันทกึ ผลการปฏิบัติกจิ กรรมที่ 1 แบบบนั ทกึ ผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมท่ี 2 และสรุปผลการปฏิบัติกจิ กรรม ต่อเพื่อนหนา้ ชัน้ เรียนเพอ่ื ให้ เพือ่ นๆ กล่มุ อนื่ ได้แสดงความคดิ เห็นร่วมกัน 3.2 ครูพิจารณาผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมว่าเปน็ อยา่ งไร โดยใหข้ ้อเสนอแนะ และอธิบายเพ่ิมเติม เก่ยี วกับความสัมพนั ธข์ องสิ่งมีชีวติ แต่ละภาพในการกนิ เปน็ อาหารให้นักเรยี นเขา้ ใจยิ่งขน้ึ และใหก้ าร เสรมิ แรงกลุม่ ท่ีทาได้ถูกตอ้ งและสมบูรณ์ 3.3 นกั เรียนและครูรว่ มกนั สรปุ กจิ กรรมเกยี่ วกับความสมั พันธร์ ะหว่างสภาวะแวดลอ้ มทาง กายภาพกับสิ่งมชี ีวิต ความสัมพันธ์ระหว่างสงิ่ มชี วี ติ ที่อาศัยอยรู่ ว่ มกนั ในแง่ของอาหาร 4. ขน้ั ขยายความรู้ 4.1 นักเรยี นแต่ละกล่มุ ร่วมกันศึกษาใบความรู้ ชดุ ท่ี 3 การถา่ ยทอดพลังงานในระบบนเิ วศ ตามบตั รคาสง่ั ท่ี 3 ใบความรู้ ~8~

4.2 นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั อภปิ รายภายในกลุ่ม เกี่ยวกับ การถา่ ยทอดพลงั งานในระบบ นิเวศ โดยอภิปรายเกยี่ วกับความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสภาวะแวดลอ้ มทางกายภาพกับสิง่ มีชีวิต ความสมั พนั ธ์ ระหว่างส่ิงมีชวี ิตที่อาศัยอยู่ร่วมกันในแง่ของอาหาร 4.3 นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรุป การถ่ายทอดพลงั งานของส่งิ มีชีวติ ในระบบนิเวศ อีกคร้ัง หน่งึ 5. ข้ันประเมินผล 5.1 นักเรียนแต่ละกลุม่ ร่วมกนั ตอบคาถามตามบัตรคาส่ังที่ 4 แบบบันทกึ ใบงาน ชดุ ที่ 3 การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนเิ วศ เปน็ การนาความรจู้ ากใบความรมู้ าใชใ้ นการตอบคาถาม 5.2 ครูทาการประเมนิ แบบบันทึกใบงาน ชดุ ท่ี 3 การถา่ ยทอดพลังงานในระบบนิเวศ 5.3 ครูสรปุ ผลคะแนนรวมท้ังรายกล่มุ และรายบคุ คล แจง้ ให้นักเรียนทราบ เพอื่ แก้ไข ขอ้ บกพร่องของตนเองและพัฒนาใหด้ ขี ้นึ 5.4 นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียนตามบตั รคาส่ังที่ 5 แบบทดสอบหลงั เรียน ชุดท่ี 3 การถา่ ยทอดพลังงานในระบบนิเวศ เป็นการประเมนิ ความรู้ของผเู้ รียนดว้ ยการทดสอบหลงั เรยี น สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้ 1. บัตรคาส่ังท่ี 1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ชุดท่ี 3 การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนเิ วศ 2. บตั รคาสง่ั ที่ 2 แบบบนั ทกึ ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ชุดที่ 3 การถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศ 3. บตั รคาสง่ั ท่ี 3 ใบความรู้ ชุดที่ 3 การถา่ ยทอดพลังงานในระบบนิเวศ 4. บัตรคาส่งั ท่ี 4 แบบบนั ทกึ ใบงาน ชุดที่ 3 การถา่ ยทอดพลังงานในระบบนิเวศ 5. บัตรคาสง่ั ที่ 5 แบบทดสอบหลงั เรียน ชดุ ท่ี 3 การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนเิ วศ 6. หนงั สอื เรียน วทิ ยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 ขององคก์ ารคา้ ครุ ุสภา 7. บตั รคา 8 ใบ 8. กระดาษบรพู๊ 9. ปากกาเคมี ~9~

การวดั และประเมนิ ผล 1. เครื่องมือวัดและประเมินผล 1.1 แบบทดสอบหลงั เรียน ชุดที่ 3 การถา่ ยทอดพลังงานในระบบนิเวศ 1.2 แบบบนั ทกึ การปฏิบตั ิกิจกรรม 1.3 แบบบนั ทกึ ใบงาน 1.4 แบบประเมนิ พฤตกิ รรมงานกลุ่ม 2. วธิ ีวัดและประเมินผล 2.1 ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน 2.2 ตรวจแบบบันทกึ การปฏิบตั กิ ิจกรรม 2.3 ตรวจแบบบนั ทึกใบงานให้คะแนน 2.4 สงั เกตพฤติกรรมและการทางานของนักเรยี น 3. เกณฑ์การวัดและประเมินผล 3.1 นกั เรียนทาแบบทดสอบ ชุดที่ 3 การถา่ ยทอดพลังงานในระบบนิเวศ ได้คะแนนรวมร้อยละ 70 ขึน้ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ 3.2 ผลการประเมนิ แบบบนั ทึกการปฏิบตั ิกิจกรรม ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 70 3.3 นกั เรียนทาแบบบันทกึ ใบงาน ได้คะแนนรวมร้อยละ 70 ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ 3.4 นักเรียนมีพฤตกิ รรมในการทางาน ได้คะแนนรวม 21 คะแนน ขน้ึ ไป ถือวา่ ผา่ น เกณฑ์ ~ 10 ~

แนวทางแบบบนั ทกึ ผลการปฏบิ ัติกิจกรรม กจิ กรรมที่ 1 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ชวี ิตกบั สง่ิ แวดล้อม เรอ่ื ง ระบบนเิ วศ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ชดุ ท่ี 3 การถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศ กลมุ่ ท่ี........................... สมาชิกในกลมุ่ 1……………………………………….…………2…………………………………………………….. 3……………………………………….…………4…………………………………………………….. 5……………………………………….…………6…………………………………………………….. จดุ ประสงค์ของกิจกรรม 1. บอกปัจจัยทางกายภาพทีม่ ีผลตอ่ การดารงชีวติ ของส่ิงมชี ีวติ ได้ 2. จาแนกกลุ่มสิง่ มีชวี ติ ในระบบนเิ วศต่างๆ และอธบิ ายการถ่ายทอดพลังงานในห่วงโซ่อาหารและ สายใยอาหารได้ 3. เขียนแผนภาพแสดงความสมั พันธข์ องสงิ่ มชี วี ติ ในรปู ของการถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศได้ ตารางบันทกึ ผล ชอ่ื สัตว์ อาหารที่กนิ ที่มาของอาหารสัตว์ พชื สตั ว์ คน ผกั ,หมู ✓ ✓ วัว หญา้ ✓ - จ้ิงจก แมลง - ✓ ต๊ักแตน ใบไม้ ✓ - เสือ กวาง - ✓ สงิ โต เกง้ - ✓ เหยีย่ ว งู - ✓ งู กระตา่ ย -✓ กระต่าย หญา้ ✓ - หนอน ใบไม้ ✓ - ~ 11 ~

สรุปผลการทากิจกรรม ส่งิ มีชีวิตบางชนิดกนิ พืชอย่างเดียว เชน่ หนอน กระต่าย เป็นตน้ บางชนิดกินสตั ว์อย่างเดียว เช่น เสือ สิงโต เป็นต้น แต่บางชนิดกนิ ทง้ั พชื และสัตว์ เช่น คน เป็นตน้ ถ้าใชช้ นดิ ของอาหารเป็นเกณฑจ์ ะจาแนกสัตว์ไดเ้ ป็น 4 ประเภท คือ พวกที่กนิ พืชอย่างเดยี ว พวกที่กินสัตว์อย่างเดยี ว พวกทก่ี ินทง้ั พืชและสตั ว์ และพวกทีก่ นิ ซากพชื ซากสตั ว์ จึงสรุปได้วา่ สิ่งมชี ีวติ ตา่ งๆ มีความสมั พันธ์กันในแง่การกนิ อาหาร คาถามท้ายกิจกรรม 1. สิ่งมีชวี ติ ทุกชนิดกินพชื หรือกินสตั ว์อย่างเดียวหรือไม่ อยา่ งไร ตอบ ไม่ สิ่งมชี ีวติ บางชนดิ กินพชื อย่างเดียว เชน่ หนอน กระต่าย เป็นตน้ บางชนิดกิน สัตวอ์ ยา่ งเดยี ว เช่น เสอื สิงโต เปน็ ตน้ แตบ่ างชนิดกนิ ท้ังพืชและสตั ว์ เชน่ คน เปน็ ตน้ 2. ถ้าใช้ชนดิ ของอาหารเป็นเกณฑ์ นักเรียนจะจาแนกสตั วไ์ ดเ้ ปน็ กี่ประเภท อะไรบา้ ง ตอบ 4 ประเภท คือ พวกที่กินพชื อย่างเดียว พวกทกี่ นิ สตั ว์อย่างเดียว พวกท่กี ินท้ังพชื และสตั ว์ และพวกทกี่ ินซากพืชซากสัตว์ 3. จงสรปุ ผลการทากจิ กรรม ตอบ สง่ิ มีชีวิตบางชนิดกินพืชอย่างเดียว บางชนดิ กนิ สัตว์อยา่ งเดียว บางชนิดกินท้ังพชื และสัตว์ 4. จงสรปุ โซ่อาหารและสายใยอาหารตา่ งๆ ตอบ สง่ิ มชี วี ติ ต่างๆ มีความสัมพนั ธ์กนั ในแงก่ ารกนิ อาหาร ~ 12 ~

แนวทางแบบบันทกึ ผลการปฏิบตั ิกิจกรรม กิจกรรมที่ 2 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชวี ิตกับส่ิงแวดล้อม เรอื่ ง ระบบนิเวศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ชุดท่ี 3 การถา่ ยทอดพลงั งานในระบบนิเวศ กลมุ่ ท.ี่ .......................... สมาชิกในกลุ่ม 1……………………………………….…………2…………………………………………………….. 3……………………………………….…………4…………………………………………………….. 5……………………………………….…………6…………………………………………………….. จดุ ประสงคข์ องกิจกรรม 1. เขียนความสมั พนั ธ์ของสิ่งมีชีวติ ชนดิ ตา่ ง ๆ ในแง่การกินกนั เป็นอาหารได้ 2. บอกความสาคัญของดวงอาทิตย์ต่อระบบนเิ วศได้ 3. บอกปจั จยั ที่รบกวนหรอื ทาลายสายใยอาหารต่างๆได้ 4. ระบชุ ื่อผู้บรโิ ภคอันดับตา่ งๆ ในสายใยอาหารได้ 5. บอกความแตกต่างของสายใยอาหารและห่วงโซ่อาหารได้ วัสดุอุปกรณ์ 1. บตั รคา 8 ใบ ดงั ต่อไปน้ี ต้นไม้สเี ขียว ดวงอาทติ ย์ เตา่ ทอง หนอน ตัก๊ แตน แมลงปกี แขง็ นก แมงมุม 2. กระดาษปรู๊พ 1 แผน่ 3. ปากกาเคมี 1 แทง่ วธิ ดี าเนนิ การ 1. นกั เรียนแต่ละกลุ่มศกึ ษาบัตรคาทีค่ รูแจก 2. เขียนความสัมพันธ์ของสง่ิ มีชีวติ ท่ีกาหนดใหว้ ่าสิ่งมชี วี ติ ชนิดใดกนิ อะไรเป็นอาหาร ~ 13 ~

บันทึกผลการทากจิ กรรม แบบท่ี 1 หนอน นก ดวงอาทิตย์ ตน้ ไมส้ เี ขยี ว ตก๊ั แตน แมงมุม แมลงปกี แข็ง เต่าทอง แบบที่ 2 ตัก๊ แตน แมงมุม ดวงอาทติ ย์ ต้นไมส้ เี ขยี ว หนอน นก แมลงปีกแข็ง เต่าทอง สรปุ ผลการทากจิ กรรม ดวงอาทิตยเ์ ป็นแหล่งพลงั งานท่พี ชื สีเขียวใช้ในการผลติ อาหาร จากนั้นแมลง ตั๊กแตน หนอน เปน็ ผู้บรโิ ภคลาดับท่ี 1 เต่าทอง แมงมมุ เป็นผู้บรโิ ภคลาดับท่ี 2 สว่ น นก เปน็ ผู้บรโิ ภคลาดับสดุ ทา้ ย การ กนิ ตอ่ กนั เปน็ ทอด ๆ เรยี กวา่ ห่วงโซ่อาหาร (food chain) และหลายๆหว่ งโซ่อาหารมารวมกนั จะเป็น สายใยอาหาร (food web) ในห่วงโซอ่ าหารถ้าขาดผผู้ ลติ สิง่ มีชวี ิตกจ็ ะตายหมดเพราะสงิ่ มีชวี ติ อ่นื สรา้ ง อาหารเองไม่ไดต้ ้องอาศัยอาหารผ้ผู ลิตซ่งึ เปน็ พชื สเี ขยี ว ~ 14 ~

คาถามทา้ ยกจิ กรรม 1. สิง่ ใดเปน็ ผ้ผู ลติ ตอบ พชื สีเขยี ว 2. ผู้บรโิ ภคอนั ดบั สุดทา้ ยคอื สิ่งมีชีวติ อะไร ตอบ นก 3. สายใยอาหารและห่วงโซ่อาหารเหมือนและตา่ งกันอยา่ งไร ตอบ เหมือนกัน ความสมั พนั ธ์ที่มกี ารถ่ายทอดพลังงานเปน็ ทอดๆไป ต่างกัน ห่วงโซ่อาหารมกี ารถา่ ยทอดพลงั งานเพียงสายเดยี วไม่ซบั ซ้อน สงิ่ มีชีวิตชนิดเดียว กนิ อาหารชนิดเดียว แต่สายใยอาหารมีการถา่ ยทอดพลงั งาน ซบั ซ้อนกวา่ โดยสงิ่ มชี วี ิตชนิดเดียวอาจกินอาหารหลายชนดิ 4. ดวงอาทติ ย์เกี่ยวขอ้ งกับระบบนิเวศน้ีอย่างไร ตอบ เปน็ แหล่งพลงั งานที่พชื ใช้ในการผลิตอาหาร 5. ถ้าไมม่ ีพืชจะมีผลอย่างไรกับระบบนเิ วศนี้ ตอบ สิ่งมชี ีวิตจะตายหมด เพราะ หนอน แมลง ตั๊กแตน ไมม่ ีอาหารกินกต็ าย แมงมมุ เต่าทอง นก กข็ าดอาหาร ในทีส่ ดุ จะตายหมด ~ 15 ~

แนวคาตอบแบบบนั ทกึ ใบงาน ใบงานท่ี 1 ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ชวี ิตกับสิ่งแวดล้อม เรอ่ื ง ระบบนิเวศ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ชุดที่ 3 การถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศ จงตอบคาถามต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง 1. จงเปรียบเทียบปริมาณของผู้ผลิต ผูบ้ รโิ ภคลาดบั ที่ 1, 2 และ 3 ตอบ ผ้ผู ลิตจะมปี รมิ าณมากท่ีสดุ ผู้บริโภคลาดับท่ี 1 มีปริมาณมากกวา่ ผ้บู ริโภคลาดับที่ 2 ผบู้ ริโภคลาดับที่ 2 มปี รมิ าณมากกวา่ ผู้บริโภคลาดบั ที่ 3 2. ผ้บู รโิ ภคลาดับที่ 1 บรโิ ภคอาหารประเภทใด และผู้บริโภคลาดบั ที่ 2, 3 บรโิ ภคอาหารประเภทใด ตอบ ผูบ้ รโิ ภคลาดบั ท่ี 1 บริโภคพืช ผู้บรโิ ภคลาดบั ท่ี 2, 3 บริโภคสัตว์ 3. การถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศจะเร่ิมต้นจากสง่ิ มชี ีวิตชนิดใด และส้นิ สดุ กลับคืนสู่ธรรมชาติดว้ ย สง่ิ มชี วี ิตชนิดใด ตอบ การถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศจะเร่ิมต้นจาก ผ้ผู ลิต และส้นิ สดุ กลับคืนสธู่ รรมชาติ ด้วยผ้ยู อ่ ยสลาย 4. ผยู้ อ่ ยสลายในระบบนเิ วศมลี าดบั การถ่ายทอดพลังงานของระบบนเิ วศเป็นลาดับ ตอบ สุดท้าย 5. ถ้าสงิ่ มีชวี ติ ในระบบนิเวศชนดิ ใดชนิดหนึ่งตายลง ระบบนเิ วศน้จี ะไดร้ บั ผลกระทบมากหรอื น้อย เพราะเหตุใด ตอบ ได้รับผลกระทบน้อย เนื่องจากระบบนเิ วศทม่ี ีสายใยอาหารทซ่ี บั ซ้อนจะประกอบดว้ ย ส่งิ มชี ีวิตหลายชนดิ ถ้ามีสิง่ มีชวี ิตชนดิ ใดชนิดหนึง่ ตายลง สิง่ มีชวี ติ อืน่ ๆ กส็ ามารถดารงชีวิตอยู่ได้ เพราะ สามารถกนิ อาหารชนิดอ่ืนได้ด้วย ~ 16 ~

แนวคาตอบแบบบนั ทึกใบงาน ใบงานท่ี 2 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชวี ติ กับสงิ่ แวดล้อม เรื่อง ระบบนเิ วศ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ชดุ ที่ 3 การถา่ ยทอดพลงั งานในระบบนเิ วศ จงตอบคาถามต่อไปน้ใี ห้ถูกต้อง 1. จากแผนภาพสายใยอาหาร ใหน้ ักเรียนยกตัวอย่างหว่ งโซอ่ าหาร มา 5 ห่วงโซ่อาหาร ตอบ 1. หญา้ แมลง กบ งู เหยย่ี ว 2. หญ้า วัว สงิ โต 3. หญา้ ต๊ักแตน กบ งู เหยีย่ ว 4. หญ้า ตั๊กแตน ไก่ งู เหย่ยี ว 5. หญ้า ไก่ งู เหยย่ี ว 2. นักเรียนคดิ วา่ ในแต่ละหว่ งโซอ่ าหาร ควรจะมผี ู้ผลติ และผบู้ ริโภคก่ีชนิด เพราะเหตใุ ด ตอบ ในหว่ งโซอ่ าหารควรประกอบดว้ ย ผผู้ ลิต และผู้บริโภคไม่มากนัก เพราะ พลังงานท่ีถา่ ยทอด ในแตล่ ะลาดบั ขน้ั มคี ่าลดลงตามลาดับ ~ 17 ~

แบบประเมนิ พฤติกรรมงานกล่มุ กลุ่มท.ี่ ..............ช้นั ................... สมาชิกในกลุ่ม 1……………………………………….…………2…………………………………………………….. 3……………………………………….…………4…………………………………………………….. 5……………………………………….…………6…………………………………………………….. คาช้ีแจง ใหท้ าเคร่ืองหมาย / ในช่องท่ตี รงกับความเปน็ จรงิ ลาดับท่ี รายการพฤติกรรม 32 1 1 มกี ารวางแผนร่วมกนั 2 การแบง่ งานรบั ผดิ ชอบ 3 การใหค้ วามช่วยเหลือกนั 4 การรบั ฟงั ความคิดเหน็ และแก้ปญั หารว่ มกนั 5 สามารถใหค้ าแนะนากลมุ่ อื่นได้ 6 เลือกอุปกรณ์ได้ถูกต้อง 7 ปฏบิ ัตกิ ารทดลองตามข้นั ตอนท่ีกาหนดให้ 8 ทาความสะอาดและเก็บอุปกรณ์ให้เรียบรอ้ ย 9 ร่วมกนั อภปิ รายและสรุปผลงานของกลุ่ม 10 ร่วมกันปรับปรงุ ผลงานของกลมุ่ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชอื่ ..........................................ผปู้ ระเมนิ พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัติชดั เจนและสมา่ เสมอ (.............................................) พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ัดเจนและบอ่ ยคร้งั พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตบิ างครั้ง ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน เกณฑ์การตดั สิน ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 24-30 3 = ดี 17-23 2 = พอใช้ 10-16 1 = ปรับปรุง ~ 18 ~

เอกสารสาหรบั นกั เรียน กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ชวี ติ กบั สิง่ แวดล้อม เรอ่ื ง ระบบนเิ วศ ชุดที่ 3 การถา่ ยทอดพลังงานในระบบนเิ วศ ~ 19 ~

คาช้ีแจงในการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้สาหรบั นักเรียน ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ชวี ิตกับส่ิงแวดล้อม เรอ่ื ง ระบบนิเวศ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ชุดท่ี 3 การถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ จดั ทาขึ้นเพ่ือให้นกั เรียนไดเ้ รียนรูด้ ว้ ยตนเองให้มากที่สุด มคี วามรอบรู้ เกิดทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และมีพฤติกรรมการทางานกลุม่ ท่ดี ี ช่วยเหลอื ซง่ึ กนั และกัน เป็นสอื่ การเรียนการสอนที่นักเรยี นสามารถใชเ้ ป็นคู่มอื เพอ่ื เรียนรู้ด้วยตนเองได้ นักเรยี นจะต้องเรยี นรู้ ด้วยตนเองให้มากทส่ี ุดตามลาดับขั้นตอนกิจกรรมตา่ งๆ ดังนี้ 1. อ่านทาความเขา้ ใจการใช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรใู้ หเ้ ข้าใจ 2. ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามขน้ั ตอนในชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ซง่ึ ประกอบด้วยกิจกรรมย่อย ดงั นี้ กิจกรรมท่ี 1 กระตุ้นสมอง : ทดสอบก่อนเรียน กจิ กรรมที่ 2 ประลองปญั ญา : ปฏิบัตกิ ิจกรรม กจิ กรรมท่ี 3 อธิบายปญั หา : ศึกษาความรู้ กจิ กรรมท่ี 4 นาพาซึ่งความรู้ : ตอบคาถามจากใบงาน กจิ กรรมท่ี 5 มงุ่ สคู่ วามสาเรจ็ : ทดสอบหลังเรยี น 3. ในการทากจิ กรรม ผู้เรยี นเปน็ ผ้สู ร้างองค์ความรู้หรอื ชว่ ยกันค้นควา้ ช่วยกันเรยี นด้วย ความตั้งใจ 4. ทุกกจิ กรรมมีเวลาจากัด นักเรยี นควรบริหารการทางานกลุ่มท่ดี ี ควรปฏบิ ตั งิ านให้ทันเวลา ไม่ควรปล่อยท้ิงสะสมงานค้าง เน่ืองจากผลงานของแต่ละกิจกรรมการเรียนเป็นองคค์ วามรู้สาหรบั กิจกรรมการเรียนในลาดับถัดไป 5. เมื่อเรียนจบแต่ละกิจกรรมการเรียน ควรเกบ็ อปุ กรณ์ให้เรยี บร้อยทุกครัง้ 6. ผูเ้ รียนควรมีความสามัคคี ร่วมมือร่วมใจ ในการสรา้ งสรรค์ผลงานขณะดาเนนิ กจิ กรรม การเรยี นการสอนทุกคร้ัง ~ 20 ~

สว่ นประกอบของชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม เร่อื ง ระบบนเิ วศ กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 ชดุ ท่ี 3 การถา่ ยทอดพลังงานในระบบนเิ วศ กิจกรรมที่ 1 กระตุ้นสมอง : ทดสอบกอ่ นเรยี น 1.1 บัตรคาสง่ั ท่ี 1 1.2 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น กจิ กรรมท่ี 2 ประลองปญั ญา : ปฏิบตั ิกจิ กรรม 2.1 บตั รคาสงั่ ท่ี 2 2.2 ใบปฏบิ ตั ิชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ กิจกรรมที่ 3 อธิบายปัญหา : ศึกษาความรู้ 3.1 บัตรคาสั่งที่ 3 3.2 ใบความรู้ เร่ือง การถา่ ยทอดพลังงานในระบบนิเวศ กิจกรรมท่ี 4 นาพาซึง่ ความรู้ : ตอบคาถามจากใบงาน 4.1 บัตรคาสง่ั ท่ี 4 4.2 แบบบนั ทกึ ใบงาน เรื่อง การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนเิ วศ กจิ กรรมที่ 5 มุ่งส่คู วามสาเร็จ : ทดสอบหลังเรยี น 5.1 บัตรคาสั่งท่ี 5 5.2 แบบทดสอบหลังเรียน ~ 21 ~

กิจกรรมที่ 1 กระตุ้นสมอง กจิ กรรมนเ้ี ปน็ การกระตนุ้ สมองนักเรยี นด้วยการทาแบบทดสอบก่อนเรยี น บัตรคำสั่งท่ี 1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน จานวน 10 ขอ้ เวลา 10 นาที ~ 22 ~

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ชีวิตกับสง่ิ แวดล้อม เรอื่ ง ระบบนิเวศ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3 ชดุ ท่ี 3 การถา่ ยทอดพลงั งานในระบบนิเวศ คาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นเลอื กคาตอบที่ถูกต้องทีส่ ดุ เพียงขอ้ เดียว แลว้ กาเครอ่ื งหมายกากบาท (X) ลงใน กระดาษคาตอบ 1. ปัจจยั ทีส่ าคัญท่ีสุดในระบบนเิ วศในน้า ประเภทบ่อน้า หรอื สระน้า ได้แก่ปัจจยั ใด ก. อณุ หภมู ิ ข. แสงสว่าง ค. ออกซิเจน ง. ก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ 2. ปัจจัยที่สาคญั ท่สี ุดท่สี ัตวท์ ะเลตอ้ งปรบั ตวั ใหไ้ ด้ แต่ไม่มีปญั หาสาหรบั สัตวน์ ้าจืดคือปัจจัยใด ก. ความเคม็ ข. ค่า pH ค. อุณหภมู ิ ง. ท่ียึดเกาะ 3. ทางผ่านของสารอาหารจากสงิ่ มีชวี ิตชนดิ หนึง่ ไปสสู่ ิง่ มชี ีวิตอืน่ เรื่อยๆ ไป ในกลมุ่ สิ่งมีชีวติ เรยี กว่าอะไร ก. food chain ข. food web ค. pyramid of energy ง. nutrient cycle 4. การถา่ ยทอดสารอาหารจากห่วงโซ่อาหารหนึ่งไปอีกหว่ งโซ่อาหารหนงึ่ เรียกวา่ อะไร ก. food cycle ข. food web ค. pyramid of energy ~ 23 ~

ง. complex food chain 5. โดยปกตสิ ัดสว่ นของปรมิ าณสงิ่ มชี ีวิตในธรรมชาตเิ ป็นอย่างไร ก. ผผู้ ลิตมีปรมิ าณมากกวา่ ผบู้ รโิ ภค ข. ผูผ้ ลิตมปี ริมาณนอ้ ยกวา่ ผ้บู รโิ ภค ค. ผผู้ ลติ มปี ริมาณเท่ากับผูบ้ รโิ ภค ง. ไม่แน่นอน ข้ึนอยู่กับชนิดของสงิ่ มีชวี ติ ทเ่ี ป็นองค์ประกอบ 6. ในระบบนเิ วศทั่ว ๆไป ประกอบดว้ ยส่ิงมีชีวิต 3 กลุ่ม คือ ....1.......... มีหนา้ ท่ีสังเคราะห์อาหารซึง่ เปน็ อนินทรยี สาร โดยใช้วัตถุดบิ ท่ไี รช้ ีวติ กับพลงั งาน ......2........... ต้องการพลังงานและสารอาหาร ทีไ่ ดจ้ ากการย่อยอินทรียสารจากสงิ่ มีชวี ิต ........3.......... เปน็ กลมุ่ ส่งิ มชี ีวิตทเี่ ปลี่ยนสารอินทรยี ์จาก สงิ่ มชี วี ิตที่ตายแล้วหรอื จากของเสียของสิ่งมีชีวติ ให้เป็นสารอนินทรยี ์ ทัง้ น้ี 1,2,3 คือข้อใด ก. ผ้ยู อ่ ยสลาย, ผู้ผลิต, ผ้บู รโิ ภค ข. ผ้ยู ่อยสลาย, ผูบ้ รโิ ภค, ผู้ผลิต ค. ผผู้ ลติ , ผู้ย่อยสลาย, ผูบ้ ริโภค ง. ผผู้ ลิต, ผู้บริโภค, ผูย้ ่อยสลาย 7. ถ้าปราศจากผู้ย่อยสลาย บนพื้นโลกน่าจะเกดิ เหตุการณใ์ ด ก. เหตุการณ์ปกติ เพราะธรรมชาตยิ อ่ มรักษาสมดุลของมนั ได้เอง ข. พืชเริม่ ตายเน่ืองจากขาดธาตุท่ีจาเปน็ ต่อการดารงชวี ิต ค. ซากพชื ซากสตั ว์ รวมท้ังอินทรียสารเตม็ ไปหมด ง. อาจเปน็ ไปไดท้ ัง้ ข้อ ก และ ข 8. ขอ้ ใดท่ีมีลาดบั ข้นั ตอนการกินอาหารครบสมบรู ณ์ ก. ตน้ ข้าว หนอน นก คน ข. หนู งู เหยี่ยว คน ค. ข้าวโพด ตัก๊ แตน นก ววั คน ง. หนอน ข้าวโพด หนู งู คน ~ 24 ~

9. คาว่า “ผูผ้ ลติ ” หมายถงึ สง่ิ ใดต่อไปนี้ เพราะเหตใุ ด ก. พชื สเี ขียวเท่านั้น เพราะสังเคราะหแ์ สงได้ ข. มนุษย์ผซู้ ่งึ สร้างและดดั แปลงสารอาหารได้ ค. สตั ว์ทม่ี ีชีวติ ทกุ ชนดิ เพราะสามารถปรุงแตง่ สารอาหารได้ ง. พืชทุกชนิด เพราะสามารถสร้างอาหารข้นึ ได้จากกระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง 10. “ต้นกหุ ลาบหน้าบา้ นพอใจมีหนอนทเ่ี กิดจากไข่ผเี สื้อมากินใบอ่อนเสมอ และยังพบว่ามีนกมาจิก กินหนอน ซง่ึ นกน้จี ะถูกแมวท่ีพอใจเล้ยี งจับกนิ เสมอ” จากข้อมูลดังกล่าวเราสามารถเขียนโซอ่ าหารได้ แบบใด ก. กหุ ลาบ หนอน นก แมว ข. แมว นก หนอน กุหลาบ ค. ผเี ส้ือ กุหลาบ หนอน นก แมว ง. กหุ ลาบ ผีเสอื้ หนอน นก แมว ~ 25 ~

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ชีวติ กับส่ิงแวดล้อม เรอ่ื ง ระบบนิเวศ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ชดุ ที่ 3 การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนเิ วศ 1. ค 2. ก 3. ก 4. ข 5. ก 6. ง 7. ค 8. ก 9. ง 10. ก ~ 26 ~

กจิ กรรมท่ี 2 ประลองปญั ญา กจิ กรรมน้เี ปน็ การค้นคว้าหาความรดู้ ้วยการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม บตั รคำสั่งที่ 2 ใบปฏิบัติกิจกรรม ~ 27 ~

ให้นกั เรยี นรว่ มกันทากจิ กรรมตามใบคาส่งั ปฏิบัตกิ จิ กรรม ใบคาสั่งปฏบิ ตั ิกิจกรรมที่ 1 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ชวี ิตกับส่ิงแวดล้อม เรอ่ื ง ระบบนเิ วศ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ชุดท่ี 3 การถา่ ยทอดพลงั งานในระบบนเิ วศ จุดประสงคข์ องกิจกรรม 1. บอกแหลง่ ท่ีมาของอาหารของสัตว์บางชนดิ ได้ 2. จาแนกสตั วโ์ ดยใช้ชนดิ ของอาหารเป็นเกณฑ์ได้ 3. สรปุ โซ่อาหารและสายใยอาหารตา่ งๆ ได้ ลาดบั ขน้ั ตอนในการปฏบิ ัติ ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ศึกษาเก่ยี วกับชื่อสตั ว์ที่กาหนดให้ในตาราง พร้อมทั้งระบวุ ่าอาหาร น้นั มาจากพืชหรือสัตว์ บนั ทึกผลลงในตารางบันทึกผล ชื่อสัตว์ อาหารท่ีกิน ทมี่ าของอาหาร พืช สัตว์ คน วัว จง้ิ จก ต๊ักแตน เสอื สิงโต เหยยี่ ว งู กระตา่ ย หนอน คาถามท้ายกจิ กรรม 1. สิ่งมชี วี ติ ทุกชนิดกินพชื หรือกินสัตว์อยา่ งเดียวหรอื ไม่ อย่างไร ~ 28 ~

2. ถ้าใช้ชนิดของอาหารเปน็ เกณฑ์ นักเรียนจะจาแนกสตั ว์ได้เปน็ ก่ีประเภท อะไรบา้ ง 3. จงสรปุ ผลการทากจิ กรรม 4. จงสรปุ โซอ่ าหารและสายใยอาหารต่างๆ ใบคาสงั่ ปฏิบัติกจิ กรรมที่ 2 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ชวี ติ กับส่งิ แวดล้อม เรอ่ื ง ระบบนิเวศ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 ชุดท่ี 3 การถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศ จุดประสงค์ของกจิ กรรม 1. เขยี นความสมั พันธ์ของสิ่งมีชวี ติ ชนิดต่างๆ ในแง่การกินกนั เป็นอาหารได้ 2. บอกความสาคญั ของดวงอาทิตย์ต่อระบบนิเวศได้ 3. บอกปจั จยั ที่รบกวนหรือทาลายสายใยอาหารตา่ งๆได้ 4. ระบุช่ือผ้บู รโิ ภคอนั ดบั ต่างๆในสายใยอาหารได้ 5. บอกความแตกต่างของสายใยอาหารและห่วงโซอ่ าหารได้ วสั ดุและอุปกรณ์ 1. บัตรคา 8 ใบ ดงั ต่อไปนี้ ต้นไมส้ ีเขยี ว ดวงอาทิตย์ เตา่ ทอง หนอน ต๊กั แตน แมลงปกี แขง็ นก แมงมมุ 2. กระดาษ 1 แผน่ 3. ปากกา 1 ดา้ ม ลาดบั ขน้ั ตอนในการปฏบิ ัติ 1. ใหน้ ักเรยี นแต่ละกล่มุ ศึกษาบัตรคาที่ครแู จก 2. เขยี นความสมั พนั ธ์ของสง่ิ มชี วี ิตท่ีกาหนดให้วา่ ส่ิงมีชวี ติ ชนิดใดกนิ อะไรเป็นอาหาร คาถามท้ายกจิ กรรม 1. สิ่งใดเป็นผผู้ ลิต 2. ผบู้ รโิ ภคอันดบั สุดทา้ ยคอื ส่ิงมชี วี ิตอะไร 3. สายใยอาหารและห่วงโซ่อาหารเหมอื นและตา่ งกันอยา่ งไร ~ 29 ~

4. ดวงอาทิตยเ์ กยี่ วขอ้ งกบั ระบบนิเวศนอ้ี ยา่ งไร 5. ถ้าไมม่ ีต้นไมจ้ ะมผี ลอย่างไรกับระบบนเิ วศน้ี แบบบันทึกผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม กิจกรรมที่ 1 ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ชีวติ กับสิง่ แวดล้อม เรื่อง ระบบนิเวศ กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ชดุ ที่ 3 การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนิเวศ กลุ่มท.่ี .......................... สมาชกิ ในกลุ่ม 1……………………………………….…………2…………………………………………………….. 3……………………………………….…………4…………………………………………………….. 5……………………………………….…………6…………………………………………………….. จดุ ประสงคข์ องกิจกรรม 1. บอกปจั จัยทางกายภาพท่ีมีผลตอ่ การดารงชวี ติ ของส่งิ มีชวี ิตได้ 2. จาแนกกล่มุ สิ่งมชี ีวิตในระบบนิเวศต่างๆ และอธิบายการถ่ายทอดพลังงานในห่วงโซ่อาหารและ สายใยอาหารได้ 3. เขียนแผนภาพแสดงความสัมพนั ธข์ องสิ่งมชี ีวติ ในรปู ของการถา่ ยทอดพลงั งานในระบบนิเวศได้ ตารางบันทึกผล ชื่อสัตว์ อาหารท่ีกนิ ที่มาของอาหารสัตว์ พืช สตั ว์ คน วัว จง้ิ จก ตั๊กแตน เสือ สงิ โต เหยี่ยว ~ 30 ~

งู กระตา่ ย หนอน สรุปผลการทากิจกรรม ............................................................................................................................. .................................... ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................... .................................................................................................................................... ............................. คาถามท้ายกจิ กรรม 1. ส่งิ มีชีวติ ทุกชนิดกินพชื หรือกินสัตว์อยา่ งเดียวหรอื ไม่ อย่างไร .............................................................................................................................................. ................... ............................................................................................................... .................................................. ............................................................................................................................. .................................... 2. ถา้ ใช้ชนิดของอาหารเป็นเกณฑ์ นักเรียนจะจาแนกสตั วไ์ ดเ้ ป็นก่ปี ระเภท อะไรบ้าง ............................................................................................................................. .................................... ............................................................................................................................. .................................... .............................................................................................. ................................................................... 3. จงสรุปผลการทากจิ กรรม ............................................................................................................................. .................................... ............................................................................................................................... .................................. ................................................................................................ ................................................................. 4. จงสรปุ โซอ่ าหารและสายใยอาหารตา่ ง ๆ ............................................................................................................................. .................................... .............................................................................................. ................................................................... ............................................................................................................................. .................................... ~ 31 ~

แบบบนั ทกึ ผลการปฏบิ ัติกิจกรรม กจิ กรรมที่ 2 ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ชวี ิตกับส่ิงแวดล้อม เร่อื ง ระบบนิเวศ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ชุดท่ี 3 โซอ่ าหารและสายใยอาหาร กลมุ่ ท่.ี .......................... สมาชิกในกลุ่ม 1……………………………………….…………2…………………………………………………….. 3……………………………………….…………4…………………………………………………….. 5……………………………………….…………6…………………………………………………….. จุดประสงคข์ องกจิ กรรม 1. เขยี นความสมั พันธ์ของส่งิ มชี วี ติ ชนิดตา่ ง ๆในแงก่ ารกนิ กนั เป็นอาหารได้ 2. บอกความสาคัญของดวงอาทิตยต์ อ่ ระบบนเิ วศได้ 3. บอกปัจจัยที่รบกวนหรือทาลายสายใยอาหารต่างๆ ได้ 4. ระบุชอ่ื ผ้บู ริโภคอนั ดบั ต่าง ๆ ในสายใยอาหารได้ 5. บอกความแตกต่างของสายใยอาหารและหว่ งโซ่อาหารได้ วสั ดุและอุปกรณ์ 1……………………………………………………2……………………………………………………….. 3…………………………………………………..4………………………………………………………… วธิ ีดาเนนิ การ .......................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................. ..... ................................................................................................................. ................. บันทึกผลการทากิจกรรม ~ 32 ~

............................................................................................................................. ..... ............................................................................................................................. ..... ............................................................................................................................ ...... สรุปผลการทากจิ กรรม ............................................................................................................................. ..... ............................................................................................. ..................................... ............................................................................................................................. ..... คาถามท้ายกจิ กรรม 1. สง่ิ ใดเปน็ ผู้ผลิต ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................ ............................................................... 2. ผบู้ ริโภคอนั ดับสุดทา้ ยคือส่ิงมชี วี ิตอะไร ............................................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................. ................................. 3. สายใยอาหารและหว่ งโซ่อาหาร เหมือนและต่างกันอยา่ งไร ............................................................................................................................................................. ... ............................................................................................................................. ................................... 4. ดวงอาทติ ย์เก่ียวขอ้ งกับระบบนิเวศอย่างไร ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................... ................................................................. 5. ถา้ ไม่มีต้นไม้จะมผี ลอย่างไรกับระบบนิเวศนี้ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ~ 33 ~

กิจกรรมที่ 3 อธิบายปัญหา กิจกรรมนีเ้ ป็นการอธิบายปญั หาดว้ ยใบความรู้ บตั รคำส่ังท่ี 3 ใบควำมรู้ ~ 34 ~

ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาใบความรู้เพือ่ ตอบคาถามในใบงานต่อไป ใบความรู้ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ชีวิตกับสิง่ แวดล้อม เรอื่ ง ระบบนิเวศ กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ชุดที่ 3 การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนิเวศ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสภาวะแวดลอ้ มทางกายภาพกบั สงิ่ มชี ีวิต ในธรรมชาติมสี ภาวะแวดล้อมตา่ งๆ ทมี่ ีผลตอ่ สิ่งมชี ีวติ มากมาย สภาวะแวดลอ้ มที่มตี ่อสง่ิ มีชีวิต จนทาให้สิ่งมีชีวติ ไม่เจรญิ เตบิ โตตามปกติ หรือตายไปเรียกว่า ปจั จัยจากัด (limiting factor) สภาวะ แวดลอ้ มทางกายภาพในธรรมชาติมดี งั ต่อไปน้ี คือ 1. แสงสว่าง มผี ลต่อผู้ผลติ โดยตรง และมผี ลในทางอ้อมต่อสตั วเ์ นอื่ งจากสัตวก์ นิ พชื เปน็ อาหาร นอกจากน้ี แสงสว่างยงั ใหค้ วามอบอุน่ แกส่ ัตว์อกี ดว้ ย ~ 35 ~

ภาพที่ 1 พชื ใชแ้ สงในกระบวนการสงั เคราะห์แสง 2. อณุ หภมู ิ มีความสาคญั ต่อการดารงชีวติ และมีผลทาให้ส่ิงมชี วี ิตต้องปรับตวั เพื่อความอยู่รอด เช่น 2.1 การอพยพยา้ ยถ่นิ ของสัตว์ (migration) 2.2 การพักตวั ในฤดรู ้อน (aestivation) 2.3 การจาศลี ในฤดหู นาว (hibernation) โดยสรปุ อุณหภมู จิ ะเป็นตัวกาหนดขอบเขต และขีดจากดั ในสภาพทนทานของสิ่งมีชีวิตแต่ละ ชนดิ ในการดารงชพี 3. ความกดดนั และก๊าซ สง่ิ มีชีวิตทุกชนดิ ตอ้ งอาศยั ออกซเิ จน การคงอยู่และสถานะของกา๊ ซข้ึนอยู่กบั การกดดันบรรยากาศ ซ่ึงจะมีผลตอ่ การหายใจและโครงสร้างของส่งิ มชี วี ติ เชน่ กรณอี ยบู่ นยอดเขาหรือ อยูบ่ นทส่ี งู ๆ มักจะมีปอดและหวั ใจโตกวา่ ปกติ และมีเมด็ เลือดแดงมากกว่าคนปกติด้วย 4. นา้ หรอื ความชืน้ เป็นองค์ประกอบในเน้ือเย่ือของส่งิ มีชีวติ ทุกชนดิ มีบทบาทในขวบการชวี เคมี ในร่างกาย น้าในดนิ มีความสาคัญต่อพชื เพราะเป็นตวั ทาละลายสารอาหารและเกลือแร่ในดนิ ปริมาณนา้ ฝน เปน็ ตน้ ล้วนแต่เปน็ ปจั จยั สาคญั ในการเจริญเติบโต ความอดุ มสมบรู ณ์และ การแพร่กระจายของสง่ิ มีชีวิต 5. ดิน เปน็ แหลง่ ผลติ ผลท่ีสาคัญของสง่ิ มีชีวติ พชื ใช้ดินเป็นแหลง่ อาหาร แรธ่ าตตุ า่ งๆ และน้า สาหรับ สัตวพ์ น้ื ดินจะเป็นแหลง่ ที่อยู่อาศัย 6. ความเป็นกรด-เบส ความเปน็ กรด-เบส ของตัวกลางในระบบนเิ วศท้งั ในนา้ และบนพื้นดิน จะมี อิทธพิ ลต่อการเจริญเติบโตและการดารงชีพของสงิ่ มีชวี ติ เชน่ พชื ต้องการความจาเปน็ กรด-เบส ประมาณ 6.5-7.0 ~ 36 ~

ภาพที่ 2 องคป์ ระกอบของระบบนิเวศ เชน่ ดนิ นา้ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างสงิ่ มีชีวติ ท่อี าศัยอย่รู ่วมกนั ในแง่ของอาหาร กลุ่มสิง่ มชี วี ติ ชนดิ ตา่ งๆ ที่อยรู่ ่วมกันและมีความสัมพนั ธซ์ ่งึ กันและกนั ถ้าจาแนกตามลักษณะ การดารงชีวติ หรอื ตามลกั ษณะการกิน แบง่ ออกเปน็ 3 กลมุ่ ดงั นี้ 1. ผผู้ ลิต (Producer) หมายถงึ ส่ิงมีชีวติ ที่สามารถสรา้ งอาหารเองได้ ได้แก่ พืชสีเขียว แบคทเี รียบางชนดิ ภาพท่ี 3 ผู้ผลติ ไดแ้ ก่ พืชสีเขียว เช่น ข้าวโพด หญ้า 2. ผบู้ ริโภค (Consumer) ไดแ้ ก่ สิง่ มีชีวติ สร้างอาหารเองไม่ได้ ไดแ้ ก่ สัตวท์ ุกชนดิ ทบ่ี รโิ ภคพชื หรือ บริโภคสัตวด์ ว้ ยกนั เองเป็นอาหาร ผบู้ ริโภคแบง่ กลมุ่ ออกเป็นกลุ่มยอ่ ย ไดด้ ังนี้ ก. ผู้บรโิ ภคพืช (Herbivores) ได้แก่ ผ้บู ริโภคท่ีกนิ พืชเป็นอาหาร ~ 37 ~

ภาพท่ี 4 ผู้บริโภคพืช ไดแ้ ก่ หมี ววั และ กวาง ข. ผู้บรโิ ภคสตั ว์ (Carnivores) ไดแ้ ก่ ผู้บรโิ ภคทีก่ ินสัตวเ์ ป็นอาหาร ภาพที่ 5 ผบู้ ริโภคสัตว์ ได้แก่ สิงโต งู และ กบ ค. ผ้บู รโิ ภคทงั้ พชื และสตั ว์ (Omnivores) ได้แก่ ผ้บู ริโภคท่กี นิ ท้ังพชื และสตั ว์เปน็ อาหาร ~ 38 ~

ภาพที่ 6 ผ้บู รโิ ภคทง้ั พืชและสัตว์ ไดแ้ ก่ นก หนู และ คน ง. ผู้บรโิ ภคซากสงิ่ มีชวี ติ (Scavenger) ได้แก่ ผบู้ ริโภคทีก่ ินซากพืชซากสตั ว์เปน็ อาหาร ถ้ากินซากสตั ว์ เปน็ อาหารอย่างเดยี ว เรยี กว่า สตั ว์กินซากสัตว์ (scavenger) ภาพที่ 7 ผบู้ ริโภคซากพืชซากสัตว์ ได้แก่ นกแร้ง 3. ผู้ย่อยสลาย (Decomposers) ได้แก่ พวกท่ียอ่ ยสลายสงิ่ มชี ีวติ ท่ตี ายแลว้ ส่ิงมีชวี ิตเหลา่ นจี้ ะกนิ อาหารในรูปของสารละลายและมีกลไกในการกินแบบ osmosis ได้แก่ จลุ นิ ทรีย์ แบคทีเรีย เห็ด รา เปน็ ต้น ~ 39 ~

ภาพท่ี 8 ผู้ย่อยสลาย ไดแ้ ก่ เห็ด รา และแบคทีเรยี กลมุ่ สิ่งมีชวี ิตต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในระบบนเิ วศ จะมีความสมั พันธก์ ันในแงท่ เ่ี ปน็ อาหารถา่ ยทอด พลงั งานต่อกันเป็นทอดๆ ในลกั ษณะของหว่ งโซ่อาหาร (food chain) ดงั น้ี คอื ผ้ผู ลิต ผบู้ รโิ ภคอันดบั 1 ผู้บริโภคอันดับ 2 ผบู้ รโิ ภคอนั ดบั 3 ผู้ย่อยสลาย ตวั อย่างเชน่ ต้นข้าว กบ หนู แมว เหด็ รา ภาพที่ 9 ห่วงโซ่อาหาร และในธรรมชาติ ห่วงโซ่อาหารจะมีความสัมพนั ธ์กันอย่างซับซอ้ นในรูปของสายใยอาหาร (food web) ดงั แผนภาพ ~ 40 ~

ภาพท่ี 10 สายใยอาหาร สงิ่ มีชีวิตในระบบนเิ วศจะมกี ารถ่ายทอดพลงั งานกันเปน็ ทอดๆในลกั ษณะห่วงโซ่อาหาร และ สายใยอาหาร การถ่ายทอดพลงั งานจากผ้ผู ลิตสู่ผู้บริโภค โดยการกนิ กนั เป็นทอดๆ ซง่ึ ถ่ายทอดเป็นแนว เดยี ว เรยี กว่า หว่ งโซ่อาหาร เชน่ นกกินขา้ วโพด งกู นิ นก เหยีย่ วกินงู เชน่ ภาพที่ 11 ตวั อย่างห่วงโซอ่ าหาร ข้าวโพดเป็นผผู้ ลติ นกเป็นผู้บรโิ ภคลาดับ 1 งเู ป็นผู้บริโภคอันดบั 2 และเหย่ียวเป็นผบู้ รโิ ภค อันดบั 3 ในธรรมชาติจริงๆ การกินเปน็ ทอดๆจะไมเ่ ปน็ ไปตามลาดับสายตรงเพยี งสายเดียว เพราะ ผบู้ รโิ ภคชนิดหนึ่งอาจกนิ อาหารไดห้ ลายชนิดและเป็นอาหารของผบู้ รโิ ภคในลาดบั ต่อไปได้หลายชนดิ เช่นกนั การถา่ ยทอดพลงั งานทส่ี ลับซบั ซ้อนแบบนเี้ ราเรียกวา่ สายใยอาหาร การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนิเวศจากผู้ผลิตสู่ผูบ้ รโิ ภคในลาดับต่างๆ จนถงึ ผูย้ ่อยสลาย อินทรยี สาร พลังงานจะมีค่าลดลงไปในแต่ละลาดับเร่ือยๆเพราะพลงั งานที่ไดร้ ับมาส่วนหนงึ่ สิง่ มชี ีวติ จะ ใชก้ ารประกอบกจิ กรรมในชีวิตประจาวัน จงึ มีพลังงานบางส่วนเทา่ นั้นท่สี ะสมไว้เพอ่ื การถา่ ยทอด พลังงาน จงึ ทาใหล้ าดับในการถา่ ยทอดพลังงานมีความยาวจากัด ปกติจะสิ้นสดุ ลาดับ ท่ี 4-5 เทา่ นนั้ ~ 41 ~

การถ่ายทอดพลังงานในห่วงโซอ่ าหาร อาจแสดงในลักษณะของพรี ะมิดของส่งิ มีชวี ิต (Ecological pyramid) แบ่งได้ 3 ประเภท ตามหนว่ ยที่ใชว้ ัดปรมิ าณของลาดับข้นั ในการกิน ดังน้ี 1. พรี ะมิดจานวนของส่งิ มีชีวิต (pyramid of number) แสดงจานวนส่งิ มชี วี ติ เป็นหนว่ ย ตัวตอ่ พ้นื ที่ โดยท่ัวไปพีระมดิ จะมฐี านกวา้ ง ซึ่งหมายถงึ มีจานวนผ้ผู ลิตมากที่สดุ และจานวน ผู้บรโิ ภค ลาดบั ต่างๆ ลดลงมา แต่การวดั ปรมิ าณพลงั งานโดยวิธนี ี้ อาจมคี วามคลาดเคลือ่ นไดเ้ นื่องจากสงิ่ มีชีวติ ไม่ว่าจะเป็นเซลลเ์ ดียว หรอื หลายเซลล์ ขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ เช่น ไส้เดอื น จะนับเป็นหน่งึ เหมอื นกัน หมด แตค่ วามเปน็ จรงิ นั้นในแงป่ รมิ าณพลังงานท่ีไดร้ ับหรืออาหารท่ผี ู้บริโภคได้รบั จะมากกว่า หลายเทา่ ดังนัน้ จึงมีการพัฒนารูปแบบในรปู ของพีระมดิ มวลของสงิ่ มีชีวติ ภาพท่ี 12 พระมิดแสดงจานวนของส่งิ มีชีวิต ~ 42 ~

2. พรี ะมดิ มวลของสิ่งมีชีวิต (pyramid of mass) โดยพีระมิดนแี้ สดงปรมิ าณของสงิ่ มีชีวติ ในแต่ละ ลาดบั ขน้ั ของการกนิ โดยใช้มวลรวมของนา้ หนักแหง้ (dry weight) ของสงิ่ มีชวี ิตต่อพ้นื ทแ่ี ทนการนับ จานวนพรี ามดิ แบบน้ีมีความแม่นยามากกวา่ แบบท่ี 1 แต่ในความเปน็ จริงจานวนหรอื มวล ของสงิ่ มชี วี ติ มีการเปลย่ี นแปลงตามช่วงเวลา เช่น ตามฤดกู าลหรอื ตามอัตราการเจรญิ เติบโต ปัจจยั เหลา่ น้ี จงึ เปน็ ตัวแปรที่สาคัญ อย่างไรกด็ ีถึงแมม้ วลท่มี ากขึน้ เชน่ ต้นไม้ใหญ่ จะผลติ เป็นสารอาหารของผบู้ ริโภค ไดม้ ากแตก่ ย็ ังน้อยกวา่ ทีผ่ ู้บริโภคไดจ้ าก สิ่งมีชีวติ เลก็ ๆ เชน่ สาหร่ายหรือแพลงก์ตอน ท้ังๆที่ มวล หรือ ปริมาณของสาหรา่ ยหรือแพลงกต์ อนน้อยกวา่ มาก ดงั นั้น จึงมกี ารพัฒนาแนวความคิดในการแก้ปัญหาน้ี โดยในการเสนอรูปของพรี ามิดมวลของส่ิงมีชวี ติ (pyramid of mass) ภาพที่ 13 พรี ะมิดแสดงมวลของส่ิงมีชีวติ ~ 43 ~

3. พรี ะมิดพลังงาน (pyramid of energy) เป็นพีระมิดแสดงปรมิ าณพลงั งานของแตล่ ะลาดับขน้ั ของการกนิ ซ่ึงจะมคี ่าลดลงตามลาดับข้ันของการบริโภค ภาพที่ 14 พีระมิดแสดงพลังงานของสิ่งมีชีวิต ~ 44 ~

กิจกรรมท่ี 4 นาพาซึ่งความรู้ กจิ กรรมนี้เป็นการนาความรจู้ ากใบความรู้มาใชใ้ นการตอบคาถาม บตั รคาส่ังท่ี 4 แบบบันทึกใบงาน ให้นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ รว่ มกนั ตอบคาถามจากแบบบันทึกใบงาน ~ 45 ~

แบบบนั ทึกใบงานที่ 1 ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ชีวติ กับสิ่งแวดล้อม เรื่อง ระบบนิเวศ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ชดุ ที่ 3 การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนเิ วศ จงตอบคาถามต่อไปน้ใี หถ้ ูกต้อง 1. จงเปรียบเทยี บปรมิ าณของผูผ้ ลิต ผ้บู ริโภคลาดับท่ี 1, 2 และ 3 .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 2. ผ้บู ริโภคลาดบั ที่ 1 บริโภคอาหารประเภทใด และผบู้ รโิ ภคลาดบั ท่ี 2, 3 บริโภคอาหารประเภทใด .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 3. การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนิเวศจะเร่ิมต้นจากสง่ิ มีชีวิตชนิดใด และส้ินสุดกลับคืนสู่ธรรมชาติดว้ ย สิง่ มีชวี ติ ชนดิ ใด .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 4. ผยู้ อ่ ยสลายในระบบนิเวศมีลาดบั การถ่ายทอดพลังงานของระบบนเิ วศเป็นลาดบั .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 5. ถ้าส่ิงมชี ีวติ ในระบบนเิ วศชนดิ ใดชนิดหนงึ่ ตายลง ระบบนิเวศนจ้ี ะไดร้ ับผลกระทบมากหรือนอ้ ย เพราะเหตุใด .............................................................................................................................................................. ~ 46 ~

.............................................................................................................................................................. แบบบันทกึ ใบงานท่ี 2 ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ชีวิตกับสง่ิ แวดล้อม เร่อื ง ระบบนิเวศ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ชุดท่ี 3 การถา่ ยทอดพลังงานในระบบนเิ วศ จงตอบคาถามต่อไปน้ีใหถ้ ูกต้อง 1. จากแผนภาพสายใยอาหาร ให้นักเรียนยกตวั อย่างห่วงโซอ่ าหารมา 5 หว่ งโซ่อาหาร ............................................................................................................................. .............................. .................................................................................................... ....................................................... ............................................................................................................................. .............................. ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................. 2. นักเรยี นคิดว่าในแต่ละหว่ งโซ่อาหาร ควรจะมีผู้ผลิตและผูบ้ ริโภคกชี่ นดิ เพราะเหตุใด ............................................................................................................................. .............................. ~ 47 ~

.................................................................................................................................. ......................... กจิ กรรมที่ 5 มงุ่ สคู่ วามสาเรจ็ กิจกรรมนีเ้ ปน็ การประเมนิ ความรู้ของผเู้ รียนดว้ ยการทดสอบหลังเรียน บัตรคาสงั่ ที่ 5 แบบทดสอบหลงั เรยี น ให้นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน ~ 48 ~

จานวน 10 ขอ้ ในเวลา 10 นาที แบบทดสอบหลงั เรยี น ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ชีวติ กับสงิ่ แวดล้อม เรอื่ ง ระบบนิเวศ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ชุดที่ 3 การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนิเวศ คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพยี งข้อเดียว แลว้ กาเครือ่ งหมายกากบาท (X) ลงใน กระดาษคาตอบ 1. ในระบบนิเวศทั่ว ๆไป ประกอบด้วยสงิ่ มีชวี ติ 3 กลุ่ม คือ ....1.......... มีหนา้ ทีส่ งั เคราะห์อาหารซึ่ง เปน็ อนินทรียสาร โดยใช้วตั ถุดิบที่ไร้ชวี ติ กบั พลังงาน ......2........... ตอ้ งการพลังงานและสารอาหาร ที่ไดจ้ ากการย่อยอินทรียสารจากสิ่งมชี ีวติ ........3.......... เปน็ กลมุ่ ส่งิ มชี ีวติ ทีเ่ ปลยี่ นสารอนิ ทรยี ์จาก สิง่ มีชีวิตที่ตายแล้วหรอื จากของเสยี ของส่ิงมชี ีวติ ใหเ้ ปน็ สารอนินทรีย์ ท้งั น้ี 1,2,3 คือข้อใด ก. ผู้ยอ่ ยสลาย, ผ้ผู ลติ , ผู้บริโภค ข. ผยู้ อ่ ยสลาย, ผบู้ ริโภค, ผู้ผลิต ค. ผผู้ ลติ , ผู้ยอ่ ยสลาย, ผู้บริโภค ง. ผผู้ ลติ , ผู้บรโิ ภค, ผูย้ อ่ ยสลาย 2. ทางผ่านของสารอาหารจากส่งิ มชี ีวติ ชนดิ หนง่ึ ไปสูส่ ิ่งมีชีวติ อน่ื เร่อื ยๆ ไป ในกลุม่ ส่ิงมชี ีวิตเรยี กวา่ อะไร ก. food chain ข. food web ค. pyramid of energy ง. nutrient cycle 3. ถ้าปราศจากผู้ย่อยสลาย บนพืน้ โลกน่าจะเกดิ เหตุการณ์ใด ก. เหตกุ ารณป์ กติ เพราะธรรมชาติย่อมรักษาสมดลุ ของมันได้เอง ข. พืชเร่ิมตายเนอ่ื งจากขาดธาตทุ ี่จาเปน็ ต่อการดารงชวี ิต ~ 49 ~

ค. ซากพืช ซากสัตว์ รวมทงั้ อินทรียสารเตม็ ไปหมด ง. อาจเปน็ ไปไดท้ งั้ ข้อ ก และ ข 4. ปัจจยั ท่ีสาคัญทีส่ ุดในระบบนิเวศในน้า ประเภทบ่อนา้ หรอื สระนา้ ได้แกป่ ัจจัยใด ก. อุณหภูมิ ข. แสงสว่าง ค. ออกซเิ จน ง. กา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ 5. ปัจจัยที่สาคัญทีส่ ดุ ท่สี ตั วท์ ะเลตอ้ งปรบั ตัวใหไ้ ด้ แต่ไม่มีปญั หาสาหรบั สตั ว์น้าจืดคอื ปัจจัยใด ก. ความเค็ม ข. ค่า pH ค. อุณหภมู ิ ง. ท่ียดึ เกาะ 6. การถ่ายทอดสารอาหารจากห่วงโซอ่ าหารหนงึ่ ไปอีกหว่ งโซอ่ าหารหนงึ่ เรียกวา่ อะไร ก. food cycle ข. food web ค. pyramid of energy ง. complex food chain 7. “ตน้ กุหลาบหน้าบ้านพอใจมหี นอนทเี่ กิดจากไขผ่ เี ส้ือมากินใบอ่อนเสมอ และยังพบวา่ มีนกมาจกิ กินหนอน ซ่งึ นกนจี้ ะถกู แมวที่พอใจเลีย้ งจบั กินเสมอ” จากขอ้ มูลดังกลา่ วเราสามารถเขียนโซ่อาหาร ไดแ้ บบใด ก. กหุ ลาบ หนอน นก แมว ข. แมว นก หนอน กุหลาบ ค. ผีเสือ้ กหุ ลาบ หนอน นก แมว ง. กหุ ลาบ ผีเสื้อ หนอน นก แมว ~ 50 ~


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook