ค. อานาจหนา้ ท่ีในการพฒั นางานดา้ นวชิ าการและจดั ใหม้ ีระบบประกนั คุณภาพภายใน สถานศึกษาร่วมกบั สถานศึกษา ง. วางระเบียบการปฏิบตั ิราชการเพ่อื ส่งเสริมและสนบั สนุนกิจการต่างๆ ร่วมกนั ของสถานศึกษา ของรัฐที่จดั การศึกษาระดบั อุดมศึกษาระดบั ปริญญาท่ีเป็นนิติบุคคลในสงั กดั อนั มิใช่กิจการของ สถาบนั แห่งหน่ึงแห่งใดโดยเฉพาะ ตอบ ค. อานาจหน้าทใี่ นการพฒั นางานด้านวชิ าการและจัดให้มรี ะบบประกนั คุณภาพภายใน สถานศึกษาร่วมกบั สถานศึกษา มาตรา ๔ ๑ เพ่ื อป ระโยชน์ ใน การดาเนิ น การตาม มาตรา ๔ ๐ ให้ รัฐม น ตรี ว่าก าร กระทรวงศึกษาธิการมีอานาจหนา้ ท่ี ดงั ต่อไปน้ี (๑) เสนอแนะการจัดสรรเงินงบประมาณ ให้แก่สถานศึกษาของรัฐท่ีจัดการศึกษา ระดบั อุดมศึกษาระดบั ปริญญาในสังกดั สถานศึกษาระดบั อุดมศึกษาระดบั ปริญญาในกากบั และ สถานศึกษาระดบั อุดมศึกษาระดบั ต่ากวา่ ปริญญาตอ่ คณะรัฐมนตรี (๒) ประสานงานจดั การศึกษาระหวา่ งสถานศึกษาของรัฐท่ีจดั การศึกษาระดบั อุดมศึกษาระดบั ปริญญาที่เป็ นนิติบุคคลในสังกดั สถานศึกษาระดบั อุดมศึกษาระดบั ปริญญาท่ีเป็ นนิติบุคคลใน กากบั สถานศึกษาเอกชนท่ีจดั การศึกษาระดบั ปริญญา และสถานศึกษาระดบั อุดมศึกษาระดบั ต่ากวา่ ปริญญา (๓ ) เส นอการจัดต้ัง ยุบ รวม ปรับปรุ งและเลิ กส ถานศึกษ าของรัฐที่ จัดการศึกษ า ระดบั อุดมศึกษาระดบั ปริญญาที่เป็ นนิติบุคคลในสังกัดและสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาระดบั ปริ ญญาที่เป็ นนิติบุคคลในกากบั (๔) วางระเบียบการปฏิบัติราชการเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกิจการต่างๆ ร่วมกันของ สถานศึกษาของรัฐท่ีจดั การศึกษาระดบั อุดมศึกษาระดบั ปริญญาท่ีเป็ นนิติบุคคลในสังกดั อนั มิใช่ กิจการของสถาบนั แห่งหน่ึงแห่งใดโดยเฉพาะ 40. คณะกรรมการขา้ ราชการพลเรือนในมหาวทิ ยาลยั เรียกโดยยอ่ วา่ อะไร ก. ค.ม. ค. ก.ข.ม. ข. ก.ม. ง. ข.ว. ตอบ ข. ก.ม. มาตรา ๔๒ ให้มีคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรือนในมหาวทิ ยาลยั เรียกโดยยอ่ วา่ ก.ม.ทาหนา้ ท่ี เป็ นองค์กรบริหารงานบุคคลสาหรับข้าราชการพลเรือนในสถานศึกษาของรัฐที่จดั การศึกษา ระดบั อุดมศึกษาระดบั ปริญญาในสงั กดั ตามหลกั เกณฑท์ ่ีกาหนดในกฎหมายวา่ ดว้ ยการดงั กล่าว 41. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ งเก่ียวกบั การมอบอานาจใหป้ ฏิบตั ิราชการแทนของผอู้ านวยการสถานศึกษา ก. ตอ้ งทาเป็ นหนงั สือ ค. ทาเป็นหนงั สือหรือมอบดว้ ยวาจาก็ได้ ข. มอบดว้ ยวาจาก็ได้ ง. ถา้ มอบดว้ ยวาจาแลว้ ใหท้ าเป็นหนงั สือ ตอบ ก. ต้องทาเป็ นหนังสือ เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
มาตรา ๔๕ อานาจในการส่ัง การอนุญาต การอนุมตั ิ การปฏิบตั ิราชการหรือการดาเนินการอื่นที่ ผดู้ ารงตาแหน่งใดในพระราชบญั ญตั ิน้ีจะพึงปฏิบตั ิหรือดาเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บงั คบั หรือคาส่ังใด หรือมติของคณะรัฐมนตรีในเรื่องใด ถา้ กฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บงั คบั หรือคาสั่งน้ัน หรือมติของคณะรัฐมนตรีในเรื่องน้นั มิไดก้ าหนดเร่ืองการมอบอานาจไวเ้ ป็ นอยา่ งอื่น หรือมิไดห้ า้ ม เร่ืองการมอบอานาจไว้ ผดู้ ารงตาแหน่งน้นั อาจมอบอานาจใหผ้ ดู้ ารงตาแหน่งอ่ืนปฏิบตั ิราชการแทน ได้ โดยคานึงถึงความเป็ นอิสระ การบริหารงานท่ีคล่องตวั ในการจดั การศึกษาของสถานศึกษาและ ของสานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาที่บญั ญตั ิในมาตรา ๔๔ (๑) และ (๒) ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) รัฐมน ตรี ว่าการกระท รวงศึกษ าธิ การอาจมอบอาน าจให้ รัฐมน ตรี ช่ วยว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ ปลดั กระทรวง เลขาธิการ หรือหวั หนา้ ส่วนราชการซ่ึงดารงตาแหน่งเทียบเท่า อธิการบดีในสถานศึกษาของรัฐท่ีจดั การศึกษาระดบั ปริญญาในสงั กดั หรือผวู้ า่ ราชการจงั หวดั (๒) ปลดั กระทรวงอาจมอบอานาจให้รองปลดั กระทรวง ผูช้ ่วยปลดั กระทรวงหรือเลขาธิการ อธิการบดีในสถานศึกษาของรัฐที่จดั การศึกษาระดบั ปริญญาในสังกดั หรือผอู้ านวยการสานกั งาน เขตพ้ืนท่ีการศึกษา หรือผอู้ านวยการสถานศึกษา หรือผวู้ า่ ราชการจงั หวดั (๓) เลขาธิการอาจมอบอานาจให้รองเลขาธิการ ผู้ช่วยเลขาธิการ อธิการบดีในสถานศึกษาของ รัฐท่ีจดั การศึกษาระดบั ปริญญาในสังกดั ผูอ้ านวยการสานกั ผูอ้ านวยการสานกั บริหารงานหรือผู้ ดารงตาแหน่งเทียบเท่า ผอู้ านวยการสานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา หรือผูอ้ านวยการสถานศึกษาหรือ ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั (๔) ผูอ้ านวยการสานัก ผูอ้ านวยการสานกั บริหารงาน หรือผูด้ ารงตาแหน่งเทียบเท่าอาจมอบ อานาจให้ผูอ้ านวยการสานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ผูอ้ านวยการสถานศึกษา หรือผดู้ ารงตาแหน่ง เทียบเทา่ (๕) ผูอ้ านวยการสานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาหรือผูด้ ารงตาแหน่งเทียบเท่า อาจมอบอานาจให้ ขา้ ราชการในสานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา หรือผูอ้ านวยการสถานศึกษาหรือหวั หน้าหน่วยงานที่ เรียกชื่ออย่างอื่นในเขตพ้ืนท่ีการศึกษาที่ตนรับผิดชอบไดต้ ามระเบียบที่เลขาธิการคณะกรรมการ การศึกษาข้นั พ้ืนฐานกาหนด (๖) ผูอ้ านวยการสถานศึกษาหรือผูด้ ารงตาแหน่งเทียบเท่า อาจมอบอานาจให้ขา้ ราชการใน สถานศึกษาหรือในหน่วยงานที่เรียกชื่ออยา่ งอื่นได้ ตามระเบียบที่คณะกรรมการเขตพ้ืนที่การศึกษา กาหนด (๗) ผูด้ ารงตาแหน่ง (๑) ถึง (๖) อาจมอบอานาจให้บุคคลอ่ืนไดต้ ามระเบียบท่ีคณะรัฐมนตรี กาหนด การมอบอานาจตามมาตราน้ีใหท้ าเป็นหนงั สือ 42. ขอ้ ใดเป็นหลกั การพิจารณาในการมอบอานาจใหป้ ฏิบตั ิราชการแทน ก. การอานวยความสะดวกแก่ประชาชน ข. ความรวดเร็วในการปฏิบตั ิราชการ เปิ ดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
ค. ความรับผดิ ชอบตามสภาพตาแหน่งของผรู้ ับมอบอานาจ ง. ถูกทุกขอ้ ตอบ ง. ถูกทุกข้อ 43. ในกรณีที่ไมม่ ีผดู้ ารงตาแหน่งรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ หรือมีแตไ่ มอ่ าจปฏิบตั ิราชการ ได้ ใครเป็นผรู้ ักษาราชการแทน ก. เลขานุการรัฐมนตรี ค. รัฐมนตรีช่วยวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ ข. ผชู้ ่วยเลขานุการรัฐมนตรี ง. ปลดั กระทรวง ตอบ ค. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาตรา ๔๘ ในกรณีที่ไมม่ ีผูด้ ารงตาแหน่งรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ หรือมีแต่ไม่อาจ ปฏิบตั ิราชการได้ ให้รัฐมนตรีช่วยวา่ การกระทรวงศึกษาธิการเป็นผรู้ ักษาราชการแทน ถา้ มีรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการหลายคน ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงศึกษาธิการคนใดคนหน่ึงเป็ นผรู้ ักษาราชการแทน ถา้ ไม่มีผูด้ ารงตาแหน่งรัฐมนตรีช่วยวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ ใหค้ ณะรัฐมนตรีมอบหมายใหร้ ัฐมนตรี คนใดคนหน่ึงเป็นผรู้ ักษาราชการแทน 44. ในกรณีที่ไม่มีผดู้ ารงตาแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี หรือมีแตไ่ มอ่ าจปฏิบตั ิราชการได้ ถา้ มี ผชู้ ่วยเลขานุการรัฐมนตรีหลายคน จะตอ้ งดาเนินการอยา่ งไร ก. ใหผ้ ชู้ ่วยเลขานุการรัฐมนตรีคนใดคนหน่ึงเป็นผรู้ ักษาราชการแทน ข. ใหผ้ ชู้ ่วยเลขานุการรัฐมนตรีคนใดคนหน่ึงเป็นผปู้ ฏิบตั ิราชการแทน ค. ใหร้ ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการมอบหมายใหผ้ ชู้ ่วยเลขานุการรัฐมนตรีคนใดคนหน่ึง เป็นผรู้ ักษาราชการแทน ง. ใหร้ ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการแต่งต้งั ขา้ ราชการในกระทรวงคนหน่ึงเป็ นผรู้ ักษา ราชการแทน ตอบ ค. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมอบหมายให้ผ้ชู ่วยเลขานุการรัฐมนตรีคนใดคน หนึ่งเป็ นผู้รักษาราชการแทน มาตรา ๔๙ ในกรณีที่ไม่มีผดู้ ารงตาแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี หรือมีแตไ่ ม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ ให้ผูช้ ่วยเลขานุการรัฐมนตรีเป็ นผูร้ ักษาราชการแทน ถา้ มีผูช้ ่วยเลขานุการรัฐมนตรีหลายคนให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมอบหมายให้ผูช้ ่วยเลขานุการรัฐมนตรีคนใดคนหน่ึงเป็ น ผูร้ ักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผูช้ ่วยเลขานุการรัฐมนตรี ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แตง่ ต้งั ขา้ ราชการในกระทรวงคนหน่ึงเป็นผรู้ ักษาราชการแทน 45. ถา้ ไม่มีผดู้ ารงตาแหน่งรองปลดั กระทรวง หรือมีแต่ไมอ่ าจปฏิบตั ิราชการได้ เป็นผรู้ ักษาราชการ แทนปลดั กระทรวง จะตอ้ งดาเนินการอยา่ งไร ก. ใหร้ องปลดั กระทรวงคนใดคนหน่ึงเป็ นผรู้ ักษาราชการแทน ข. ใหร้ องปลดั กระทรวงคนใดคนหน่ึงเป็ นผปู้ ฏิบตั ิราชการแทน เปิ ดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ค. ใหร้ ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการแตง่ ต้งั รองปลดั กระทรวงคนใดคนหน่ึงเป็นผรู้ ักษา ราชการแทน ง. ใหร้ ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการแตง่ ต้งั ขา้ ราชการในกระทรวงซ่ึงดารงตาแหน่งไมต่ ่า กวา่ เลขาธิการหรือเทียบเท่าเป็นผรู้ ักษาราชการแทน ตอบ ง. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแต่งต้ังข้าราชการในกระทรวงซึ่งดารงตาแหน่งไม่ ต่ากว่าเลขาธิการหรือเทยี บเท่าเป็ นผ้รู ักษาราชการแทน มาตรา ๕๐ ในกรณีที่ไม่มีผดู้ ารงตาแหน่งปลดั กระทรวง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ ให้ รองปลดั กระทรวงเป็ นผูร้ ักษาราชการแทน ถ้ามีรองปลัดกระทรวงหลายคน ให้รัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงศึกษาธิการแต่งต้งั รองปลดั กระทรวงคนใดคนหน่ึงเป็นผรู้ ักษาราชการแทน ถา้ ไม่มีผดู้ ารง ตาแห น่ งรองป ลัดก ระท รวง ห รื อมี แต่ไม่ อาจป ฏิ บัติ ราช ก ารได้ ให้ รัฐม น ตรี ว่าก าร กระทรวงศึกษาธิการแต่งต้งั ข้าราชการในกระทรวงซ่ึงดารงตาแหน่งไม่ต่ากว่าเลขาธิการหรือ เทียบเทา่ เป็นผรู้ ักษาราชการแทน 46. ในกรณีที่ไม่มีผดู้ ารงตาแหน่งเลขาธิการ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบตั ิราชการไดใ้ ครเป็ นผรู้ ักษาราชการ แทน ก. รองเลขาธิการ ค. ผชู้ ่วยเลขานุการรัฐมนตรี ข. ปลดั กระทรวง ง. รองปลดั กระทรวง ตอบ ก. รองเลขาธิการ มาตรา ๕๑ ในกรณีที่ไม่มีผูด้ ารงตาแหน่งเลขาธิการ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ ใหร้ อง เลขาธิ การเป็ น ผู้รัก ษ าราชก ารแท น ถ้ามี รองเล ขาธิ การห ลายคน ให้รัฐมน ตรี ว่าก าร กระทรวงศึกษาธิการแต่งต้งั รองเลขาธิการคนใดคนหน่ึงเป็ นผูร้ ักษาราชการแทน ถา้ ไม่มีผูด้ ารง ตาแหน่งรองเลขาธิการ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ ให้รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ แต่งต้งั ขา้ ราชการในสานกั งานซ่ึงดารงตาแหน่งเทียบเท่ารองเลขาธิการ หรือขา้ ราชการตาแหน่ง เลขาธิการสานกั หรือผูอ้ านวยการสานกั หรือเทียบเท่าข้ึนไปคนหน่ึงเป็ นผูร้ ักษาราชการแทน แต่ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการอาจแต่งต้งั ขา้ ราชการคนหน่ึงซ่ึงดารงตาแหน่งไม่ต่ากวา่ รอง เลขาธิการหรือเทียบเทา่ มาเป็นผรู้ ักษาราชการแทนกไ็ ด้ 47. ในกรณีที่ไมม่ ีผดู้ ารงตาแหน่งผอู้ านวยการสานกั หรือมีแตไ่ มอ่ าจปฏิบตั ิราชการได้ ใครเป็นผรู้ ักษา ราชการแทน ก. ผอู้ านวยการสานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ค. ผอู้ านวยการสถานศึกษา ข. รองเลขาธิการ ง. รองผอู้ านวยการสานกั ตอบ ง. รองผู้อานวยการสานัก มาตรา ๕๒ ในกรณีท่ีไม่มีผดู้ ารงตาแหน่งผอู้ านวยการสานกั หรือมีแต่ไมอ่ าจปฏิบตั ิราชการได้ ให้รองผู้อานวยการสานักเป็ นผูร้ ักษาราชการแทน ถ้ามีรองผูอ้ านวยการสานักหลายคน ให้ ปลดั กระทรวงหรือเลขาธิการ แลว้ แต่กรณี แต่งต้งั รองผูอ้ านวยการสานกั คนใดคนหน่ึงเป็ นผรู้ ักษา เปิ ดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ราชการแทน ถา้ ไม่มีผูด้ ารงตาแหน่งรองผูอ้ านวยการสานกั หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ ให้ ปลดั กระทรวงหรือเลขาธิการแต่งต้งั ขา้ ราชการในสานกั ซ่ึงดารงตาแหน่งเทียบเท่ารองผูอ้ านวยการ สานกั คนหน่ึง เป็ นผรู้ ักษาราชการแทน ในกรณีท่ีไม่มีผูด้ ารงตาแหน่งรองผอู้ านวยการสานกั หรือมี แต่ไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ ให้ปลัดกระทรวงหรือเลขาธิการ แล้วแต่กรณี แต่งต้งั ขา้ ราชการใน สานักบริหารงานหรือสานกั ซ่ึงดารงตาแหน่งเทียบเท่ารองผูอ้ านวยการสานกั เป็ นผูร้ ักษาราชการ แทนก็ได้ 48. ในกรณีท่ีผอู้ านวยการสถานศึกษาไม่อยู่ แตส่ ถานศึกษาแห่งน้นั มีตาแหน่งรองผอู้ านวยการ สถานศึกษาหลายคน จะตอ้ งดาเนินการอยา่ งไร ก. ใหร้ องผอู้ านวยการสถานศึกษาคนใดคนหน่ึงปฏิบตั ิราชการแทน ข. ใหร้ องผอู้ านวยการสถานศึกษาคนใดคนหน่ึงรักษาราชการแทน ค. ให้ ผอ.สพท. แตง่ ต้งั รองผอู้ านวยการสถานศึกษาคนใดคนหน่ึงปฏิบตั ิราชการแทน ง. ให้ ผอ.สพท. แตง่ ต้งั รองผอู้ านวยการสถานศึกษาคนใดคนหน่ึงรักษาราชการแทน ตอบ ง. ให้ ผอ.สพท. แต่งต้งั รองผู้อานวยการสถานศึกษาคนใดคนหนึ่งรักษาราชการแทน มาตรา ๕๔ ในกรณีที่ไม่มีผูด้ ารงตาแหน่งผูอ้ านวยการสถานศึกษา หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติ ราชการได้ ให้รองผูอ้ านวยการสถานศึกษารักษาราชการแทน ถ้ามีรองผูอ้ านวยการสถานศึกษา หลายคน ใหผ้ อู้ านวยการสานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาแต่งต้งั รองผอู้ านวยการสถานศึกษาคนใดคน หน่ึงรักษาราชการแทน ถา้ ไม่มีผูด้ ารงตาแหน่งรองผอู้ านวยการสถานศึกษา หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบตั ิ ราชการได้ ให้ผูอ้ านวยการสานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาแต่งต้งั ขา้ ราชการในสถานศึกษาคนใดคน หน่ึงเป็นผรู้ ักษาราชการแทนกไ็ ด้ 49. การแบง่ ส่วนราชการของ สพฐ.ออกเป็นกลุ่มงานตอ้ งดาเนินการตามขอ้ ใด ก. ทาเป็นประกาศ สพฐ. ข. ทาเป็นประกาศ สพฐ. โดยความเห็นชอบของ กพฐ. ค. ทาเป็นประกาศ สพท. ง. ทาเป็นประกาศ สพฐ.โดยความเห็นชอบของ กพท. ตอบ ง. ทาเป็ นประกาศ สพฐ.โดยความเห็นชอบของ กพท. 50. ขอ้ ใดกล่าวถูกเม่ือผูอ้ านวยการสถานศึกษามอบอาจใหข้ า้ ราชการปฏิบตั ิราชการแทนแลว้ ก. ผมู้ อบอานาจมีหนา้ ที่กากบั ติดตามผลการปฏิบตั ิงาน ข. ผมู้ อบอานาจแนะนาการปฏิบตั ิราชการของผรู้ ับมอบได้ ค. ผมู้ อบอานาจแกไ้ ขการปฏิบตั ิราชการของผรู้ ับมอบได้ ง. ถูกทุกขอ้ ตอบ ง. ถูกทกุ ข้อ เปิ ดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
แนวข้อสอบ พระราชบญั ญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 แก้ไขเพมิ่ เตมิ (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2545 และแก้ไขเพม่ิ เติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 ************************************* พระราชบญั ญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2553 1. พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 3 พ.ศ. 2553 ที่ปรับปรุงใหม่ มีกี่มาตรา ก. 4 มาตรา ข. 5 มาตรา ค. 6 มาตรา ง. 7 มาตรา ตอบ ก.4 มาตรา 2. พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 3 พ.ศ. 2553 ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ีใด ก. วนั ท่ี 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ข. วนั ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ค. วนั ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ง. วนั ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ตอบ ก.วนั ท่ี 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 3. เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 3 พ.ศ. 2553 เพื่อสิ่ง ใดตอ่ ไปน้ี ก. การบริหารและการจดั การศึกษามีประสิทธิภาพ ข. การพฒั นาการศึกษาแก่นกั เรียนท้งั สองระดบั ค. นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาและมธั ยมศึกษา พฒั นาการศึกษาใหม้ ีสัมฤทธิผลและมีคุณภาพยง่ิ ข้ึน ง. ถูกทุกขอ้ ตอบ ง.ถูกทกุ ข้อ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ โดยท่ีการจัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ประกอบดว้ ยการศึกษาระดบั ประถมศึกษาและระดบั มธั ยมศึกษา ซ่ึงมีระบบการบริหารและการจดั การศึกษาของท้งั สองระดบั รวมอยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ทาํ ให้การ บริหารและการจดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐานเกิดความไม่คล่องตวั และเกิดปัญหาการพฒั นาการศึกษา สมควรแยกเขตพ้ืนที่การศึกษาออกเป็ นเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาและเขตพ้ืนท่ีการศึกษา มธั ยมศึกษา เพื่อให้การบริหารและการจดั การศึกษามีประสิทธิภาพ อนั จะเป็ นการพฒั นาการศึกษา แก่นกั เรียนในช่วงช้นั ประถมศึกษาและมธั ยมศึกษาให้สัมฤทธิผลและมีคุณภาพยงิ่ ข้ึน จึงจาํ เป็นตอ้ ง ตราพระราชบญั ญตั ิน้ี 4. การประกาศใช้ พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ ฉบบั ที่ 3 พ.ศ. 2553 อยใู่ นหนงั สือ เล่มใด ก. อยใู่ นเล่ม 125 ตอนท่ี 35 ก ข. อยใู่ นเล่ม 127 ตอนที่ 45 ก เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
ค. อยใู่ นเล่ม 129 ตอนที่ 55 ก ง. อยใู่ นเล่ม 131 ตอนท่ี 65 ก ตอบ ข.อยู่ในเล่ม 127 ตอนที่ 45 ก 5. พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2553 ฉบบั ปัจจุบนั เป็นฉบบั ที่เทา่ ไร ก. ฉบบั ท่ี 2 ข. ฉบบั ที่ 3 ค. ฉบบั ท่ี 4 ง. ฉบบั ท่ี 5 ตอบ ข.ฉบบั ที่ 3 6. พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2553 ใชเ้ ป็นปี ท่ีเทา่ ไรในรัชการปัจจุบนั ก. เป็นปี ท่ี 35 ในรัชการปัจจุบนั ข. เป็นปี ที่ 45 ในรัชการปัจจุบนั ค. เป็นปี ที่ 55 ในรัชการปัจจุบนั ง. เป็นปี ที่ 65 ในรัชการปัจจุบนั ตอบ ง.เป็ นปี ที่ 65 ในรัชการปัจจุบนั 7. พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ ฉบบั ที่ 3 พ.ศ. 2553 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเม่ือใด ก. วนั ท่ี 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ข. วนั ท่ี 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ค. วนั ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ง. วนั ท่ี 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ตอบ ข.วนั ท่ี 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 8. พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ ฉบบั ที่ 3 พ.ศ. 2553 มีผลบงั คบั ใชเ้ ม่ือใด ก. วนั ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ข. วนั ท่ี 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ค. วนั ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ง. วนั ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ตอบ ค.วนั ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 มาตรา ๒ พระราชบญั ญตั ิน้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แต่วนั ถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นตน้ ไป 9. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ งตามพระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติฉบบั ปัจจุบนั ก. การจดั สรรโอกาสเขา้ ศึกษาต่อจะใชว้ ธิ ีการเดียวกนั ทว่ั ประเทศ ข. สถานศึกษาจะตอ้ งไดร้ ับการประกนั คุณภาพภายนอกอยา่ งนอ้ ย 1 คร้ัง ทุก 2 ปี ค. สถานศึกษาแต่ละแห่งจะมีการจาํ ทาํ หลกั สูตรเป็นของตนเอง ง. จะเนน้ ความรู้ทกั ษะดา้ นภาษาตา่ งประเทศในการเรียนการสอนมากกวา่ วชิ าอ่ืนๆ ตอบ ค. สถานศึกษาแต่ละแห่งจะมีการจําทาํ หลกั สูตรเป็ นของตนเอง 10. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง เก่ียวกบั การตราพระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ ฉบบั ที่ 3 พ.ศ. 2553 ก. การตรา พรบ.ข้ึนไวโ้ ดย คาํ แนะนาํ และยนิ ยอมของสภาการศึกษาแห่งชาติ ข. การตรา พรบ.ข้ึนไวโ้ ดย คาํ แนะนาํ ของสภาการศึกษาแห่งชาติ ค. การตรา พรบ.ข้ึนไวโ้ ดยคาํ แนะนาํ และยนิ ยอมของรัฐสภา ง. การตรา พรบ.ข้ึนไวโ้ ดยคาํ แนะนาํ ของรัฐสภา ตอบ ค. การตรา พรบ.ขนึ้ ไว้โดยคําแนะนําและยนิ ยอมของรัฐสภา เปิ ดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
11. มาตราใดในพระราชบญั ญตั ิ การศึกษาแห่งชาติ ฉบบั ที่ 3 พ.ศ. 2553 กล่าวถึงสถานศึกษา เอกชนและองคก์ ารบริหารส่วนทอ้ งถ่ิน (อปท.) ก. มาตรา 4 ข. มาตรา 3 ค. มาตรา 2 ง. มาตรา 1 ตอบ ก.มาตรา 4 มาตรา ๔ ให้เพ่ิมความต่อไปน้ีเป็ นวรรคห้าของมาตรา ๓๘ แห่งพระราชบญั ญัติการศึกษา แห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๒ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ “ในการดาํ เนินการตามวรรคหน่ึงในส่วนท่ีเก่ียวกบั สถานศึกษาเอกชนและองคก์ รปกครอง ส่วนทอ้ งถ่ินวา่ จะอยูใ่ นอาํ นาจหนา้ ท่ีของเขตพ้ืนท่ีการศึกษาใด ให้เป็ นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศ กาํ หนดโดยคาํ แนะนาํ ของคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน” 12. อาํ นาจในการประกาศกาํ หนดเขตพ้นื ที่การศึกษาไปตามขอ้ ใด ก. นายกรัฐมนตรีเป็ นผอู้ าํ นาจประกาศกาํ หนด ข. ตอ้ งเป็ นไปตามมติของคณะรัฐมนตรี ค. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการโดยคาํ แนะนาํ ของสภาการศึกษามีอาํ นาจประกาศกาํ หนด ง. เป็นอาํ นาจของเลขาธิการสภาการศึกษา ตอบ ค.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยคาํ แนะนําของสภาการศึกษามีอาํ นาจประกาศ กาํ หนด 13. จากมาตรา 4 ของ พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ ฉบบั ที่ 3 พ.ศ. 2553 ใหเ้ พ่มิ ความ ตอ่ ไปน้ีเป็นวรรคหา้ ของมาตราใดแห่ง พรบ.กศช. /2542 และ แกไ้ ข 2545 ก. มาตรา 37 ข. มาตรา 38 ค. มาตรา 39 ง. มาตรา 40 ตอบ ข.มาตรา 38 14. ในมาตรา 3 ของ พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 3 พ.ศ. 2553 และใหใ้ ช้ ขอ้ ความน้ีแทน “มาตรา 37 การบริหารและการจดั การศึกษาข้นั พ้นื ฐานใหส้ ถานศึกษา ไดย้ ดึ อะไรเป็ นสาํ คญั ของมาตราน้ี ก. เขตพ้ืนท่ีการศึกษา ข. ระดบั ของการศึกษา ค. จาํ นวนสถานศึกษา ง. จาํ นวนประชากร ตอบ ก.เขตพืน้ ทก่ี ารศึกษา 15. ใครเป็นผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ พระราชบญั ญตั ิ การศึกษาแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 3 พ.ศ. 2553 ก. นายอภิสิทธ์ิ เวชชาชีวะ ค. นายชวรัตน์ ชาญวรี กลู ง. นายสมชาย วงศส์ วสั ด์ิ ข. นายสมคั ร สุนทรเวช ตอบ ก. นายอภิสิทธ์ิ เวชชาชีวะ เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
พระราชบญั ญตั ิ การศึกษาแห่งชาติ (ฉบบั ที่ 2 ) พ.ศ. 2545 16. พระราชบญั ญตั ิ การศึกษาแห่งชาติ (ฉบบั ที่ 2 ) พ.ศ. 2545 มีกี่มาตรา ก. 4 มาตรา ค. 7 มาตรา ข. 9 มาตรา ง. 5 มาตรา ตอบ ข. 9 มาตรา 17. พระราชบญั ญตั ิ การศึกษาแห่งชาติ (ฉบบั ที่ 2 ) พ.ศ. 2545 ใหไ้ ว้ ณ วนั ใด ก. 6 ธนั วาคม 2545 ค. 8 ธนั วาคม 2545 ข. 7 ธนั วาคม 2545 ง. 9 ธนั วาคม 2545 ตอบ ค. 8 ธันวาคม 2545 18. พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ (ฉบบั ที่ 2 ) พ.ศ. 2545 ใชเ้ ป็นปี ที่เทา่ ไรในรัชการปัจจุบนั ก. เป็นปี ที่ 35 ในรัชการปัจจุบนั ข. เป็นปี ท่ี 45 ในรัชการปัจจุบนั ค. เป็นปี ท่ี 55 ในรัชการปัจจุบนั ง. เป็นปี ท่ี 57 ในรัชการปัจจุบนั ตอบ ง. เป็ นปี ท่ี 57 ในรัชการปัจจุบนั 19. พระราชบญั ญตั ิ การศึกษาแห่งชาติ (ฉบบั ท่ี 2 ) พ.ศ. 2545 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อใด ก. 19 มกราคม 2545 ค. 21 ธนั วาคม 2545 ข. 20 ธนั วาคม 2545 ง. 19 ธนั วาคม 2545 ตอบ ง. 19 ธันวาคม 2545 20. พระราชบญั ญตั ิ การศึกษาแห่งชาติ (ฉบบั ที่ 2 ) พ.ศ. 2545 มีผลบงั คบั ใชเ้ มื่อใด ก. 19 มกราคม 2545 ค. 21 ธนั วาคม 2545 ข. 20 ธนั วาคม 2545 ง. 19 ธนั วาคม 2545 ตอบ ข.20 ธันวาคม 2545 21. พระราชบญั ญตั ิ การศึกษาแห่งชาติ (ฉบบั ที่ 2 ) พ.ศ. 2545 ใหย้ กเลิกบทนิยาม คาํ วา่ “กระทรวง” ในมาตราใด แห่ง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ก. มาตรา 4 ค. มาตรา 31 ข. มาตรา 5 ง. มาตรา 32 ตอบ ก. มาตรา 4 22. ใครเป็นผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ พระราชบญั ญตั ิ การศึกษาแห่งชาติ (ฉบบั ท่ี 2 ) พ.ศ. 2545 ก. นายสมคั ร สุนทรเวช ค. นายชวรัตน์ ชาญวรี กูล ง. นายสมชาย วงศส์ วสั ด์ิ ข. พนั ตาํ รวจโท ทกั ษิณ ชนั วตั ร ตอบ ข. พนั ตาํ รวจโท ทกั ษิณ ชันวตั ร 23. ขอ้ ใดคือเหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิ การศึกษาแห่งชาติ (ฉบบั ที่ 2 ) พ.ศ. 2545 ก. รัฐบาลมีนโยบายในกาปฏิรูประบบราชการ ข. ปรับปรุงการบริหารและการจดั การศึกษาของเขตพ้นื ท่ีการศึกษา เปิ ดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
ค. ใหม้ ีคณะกรรมการอาชีวศึกษาทาํ หนา้ ที่พจิ ารณาเสนอนโยบาย แผนพฒั นามาตรฐานและ หลกั สูตรสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ ง. ถูกทุกขอ้ ตอบ ง. ถูกทุกข้อ พระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 แก้ไขเพมิ่ เติม (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2545 24. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มีจาํ นวนก่ีหมวด ก่ีมาตรา ก.8 หมวด 78 มาตรา ข.8 หมวด 87 มาตรา ค.9 หมวด 87 มาตรา ง.9 หมวด 78 มาตรา ตอบ ง. 9 หมวด 78 มาตรา 25. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ 2542 มีผลบงั คบั ใชต้ ้งั แต่ ก.19 ส.ค. 42 ข.20 ส.ค. 42 ค.1 ต.ค. 42 ง.1 พ.ย. 42 ตอบ ข.20 ส.ค. 42 26. หลกั ในการจดั การศึกษาตาม พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 เป็นไปตามขอ้ ใด ก. เป็นการศึกษาตลอดชีวติ ของประชาชน ข. ใหส้ งั คมมีส่วนร่วมในการจดั การศึกษา ค. พฒั นาสาระและกระบวนการเรียนรู้ใหเ้ ป็นไปอยา่ งต่อเน่ือง ง. ถูกทุกขอ้ ตอบ ง.ถูกทุกข้อ มาตรา ๘ การจดั การศึกษาให้ยดึ หลกั ดงั น้ี (๑) เป็นการศึกษาตลอดชีวติ สาํ หรับประชาชน (๒) ใหส้ ังคมมีส่วนร่วมในการจดั การศึกษา (๓) การพฒั นาสาระและกระบวนการเรียนรู้ใหเ้ ป็นไปอยา่ งต่อเนื่อง 27. พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ไดก้ าํ หนดใหร้ ัฐตอ้ งจดั ใหบ้ ุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกนั ใน การรับการศึกษาข้นั พ้ืนฐานไม่นอ้ ยกวา่ ก่ีปี ก. 7 ปี ข. 10 ปี ค. 12 ปี ง. 15 ปี ตอบ ค.12 ปี มาตรา ๑๐ การจดั การศึกษา ตอ้ งจดั ใหบ้ ุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกนั ในการรับการศึกษาข้นั พ้นื ฐานไมน่ อ้ ยกวา่ สิบสองปี ที่รัฐตอ้ งจดั ใหอ้ ยา่ งทว่ั ถึงและมีคุณภาพโดยไมเ่ ก็บคา่ ใชจ้ ่าย เปิ ดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
28. รูปแบบของการจดั การศึกษาตาม พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 กาํ หนดไวก้ ่ีรูปแบบ ก. รูปแบบเดียว ข. 2 รูปแบบ ค. 3 รูปแบบ ง. 4 รูปแบบ ตอบ ค. 3 รูปแบบ มาตรา ๑๕ การจดั การศึกษามีสามรูปแบบ คือ การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และ การศึกษาตามอธั ยาศยั 29. การศึกษาท่ีมีความยดื หยนุ่ ในการกาํ หนดจุดมุง่ หมาย รูปแบบ วธิ ีการจดั การศึกษา ระยะเวลาของ การศึกษา การวดั และประเมินผล เป็นเงื่อนไขสาํ คญั ของการสาํ เร็จการศึกษา โดยเน้ือหาและ หลกั สูตรจะตอ้ งมีความเหมาะสม สอดคลอ้ งกบั สภาพปัญหาและความตอ้ งหารของบุคคลแตล่ ะ กลุ่มหมายถึงการจดั การศึกษารูปแบบใด ก. การศึกษาในระบบ ข. การศึกษานอกระบบ ค. การศึกษาตามอธั ยาศยั ง. ถูกทุกขอ้ ตอบ ข.การศึกษานอกระบบ (๒) การศึกษานอกระบบ เป็ นการศึกษาท่ีมีความยดื หยนุ่ ในการกาํ หนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วธิ ีการจดั การศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวดั และประเมินผล ซ่ึงเป็นเง่ือนไขสาํ คญั ของการ สาํ เร็จการศึกษา โดยเน้ือหาและหลกั สูตรจะตอ้ งมีความเหมาะสมสอดคลอ้ งกบั สภาพปัญหาและ ความตอ้ งการของบุคคลแต่ละกลุ่ม 30. การศึกษาท่ีกาํ หนดจุดมุง่ หมาย วธิ ีการศึกษา หลกั สูตร ระยะเวลาของการศึกษา การวดั และ ประเมินผล เป็ นเงื่อนไขของการสาํ เร็จการศึกษาที่แน่นอน หมายถึงการศึกษารูปแบบใด ก. การศึกษาในระบบ ข.การศึกษานอกระบบ ค. การศึกษาตามอธั ยาศยั ง. ถูกทุกขอ้ ตอบ ก.การศึกษาในระบบ (๑) การศึกษาในระบบ เป็ นการศึกษาท่ีกาํ หนดจุดมุ่งหมาย วธิ ีการศึกษา หลกั สูตร ระยะเวลา ของการศึกษา การวดั และประเมินผล ซ่ึงเป็นเงื่อนไขของการสาํ เร็จการศึกษาท่ีแน่นอน 31. การศึกษาที่ใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนรู้ดว้ ยตนเองตามความสนใจ ศกั ยภาพ ความพร้อมและโอกาส โดย ศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์ สงั คม สภาพแวดลอ้ ม ส่ือ หรือแหล่งความรู้อื่น หมายถึงการจดั การศึกษารูปแบบใด ก. การศึกษามนระบบ ข.การศึกษานอกระบบ ค. การศึกษาตามอธั ยาศยั ง. ถูกทุกขอ้ ตอบ ค.การศึกษาตามอธั ยาศัย (๓) การศึกษาตามอธั ยาศยั เป็นการศึกษาที่ใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนรู้ดว้ ยตนเองตามความสนใจ ศกั ยภาพ ความพร้อม และโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์ สงั คม สภาพแวดลอ้ ม ส่ือ หรือแหล่งความรู้อ่ืน ๆ เปิ ดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
32. การศึกษาในระบบแบง่ ออกเป็นกี่ระดบั ก. มีระดบั เดียว ข. 2 ระดบั ค. 3 ระดบั ง. 4 ระดบั ตอบ ข.2 ระดบั มาตรา ๑๖ การศึกษาในระบบมีสองระดบั คือ การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน และการศึกษา ระดบั อุดมศึกษา การศึกษาข้นั พ้ืนฐานประกอบดว้ ย การศึกษาซ่ึงจดั ไม่นอ้ ยกวา่ สิบสองปี ก่อนระดบั อุดมศึกษา การแบง่ ระดบั และประเภทของการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ใหเ้ ป็นไปตามท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง การศึกษาระดบั อุดมศึกษาแบง่ เป็นสองระดบั คือ ระดบั ต่าํ กวา่ ปริญญา และระดบั ปริญญา 33. ขอ้ ใดเป็นการศึกษาระดบั อุดมศึกษา ก. ระดบั ต่าํ กวา่ ปริญญา ข. ระดบั ปริญญา ค. การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ง. ถูกเฉพาะขอ้ ก และขอ้ ข ตอบ ง.ถูกเฉพาะข้อ ก และข้อ ข 34. ระดบั ท่ีกาํ หนดไวส้ าํ หรับการศึกษาในระบบ คือขอ้ ใด ก. การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน และการศึกษาระดบั อุดมศึกษา ข. ระดบั ต่าํ กวา่ ปริญญา และระดบั ปริญญา ค. การศึกษาภาคบงั คบั และการศึกษาระดบั อุดมศึกษา ง. การศึกษาภาคบงั คบั การศึกษาระดบั อุดมศึกษา และการอาชีวศึกษา ตอบ ก.การศึกษาข้นั พื้นฐาน และการศึกษาระดบั อุดมศึกษา 35. พ.ร.บ. น้ีไดก้ าํ หนดการศึกษาภาคบงั คบั ไวจ้ าํ นวนกี่ปี ก. 5 ปี ข. 7 ปี ค. 9 ปี ง. 12 ปี ตอบ ค.9 ปี มาตรา ๑๗ ใหม้ ีการศึกษาภาคบงั คบั จาํ นวนเกา้ ปี โดยใหเ้ ดก็ ซ่ึงมีอายยุ า่ งเขา้ ปี ท่ีเจด็ เขา้ เรียนใน สถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานจนอายยุ า่ งเขา้ ปี ที่สิบหก เวน้ แต่สอบไดช้ ้นั ปี ท่ีเกา้ ของการศึกษาภาคบงั คบั หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการนบั อายใุ หเ้ ป็นไปตามที่กาํ หนดในกฎกระทรวง 36. เด็กตอ้ งเขา้ เรียนในสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานเม่ือมีอายเุ ท่าใด ก. ยา่ งเขา้ ปี ท่ี 5 ข. ยา่ งเขา้ ปี ที่ 7 ค. ยา่ งเขา้ ปี ที่ 9 ง. ยา่ งเขา้ ปี ที่ 11 ตอบ ข.ย่างเข้าปี ที่ 7 37. สถานศึกษาตามขอ้ ใดที่จดั การศึกษาปฐมวยั และการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ก. สถานพฒั นาเด็กปฐมวยั ข. โรงเรียน ค. ศูนยก์ ารเรียน ง. ถูกทุกขอ้ เปิ ดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ตอบ ง.ถูกทกุ ข้อ มาตรา ๑๘ การจดั การศึกษาปฐมวยั และการศึกษาข้นั พ้ืนฐานใหจ้ ดั ในสถานศึกษา ดงั ต่อไปน้ี (๑) สถานพฒั นาเด็กปฐมวยั ไดแ้ ก่ ศูนยเ์ ดก็ เล็ก ศูนยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ศูนยพ์ ฒั นาเดก็ ก่อนเกณฑ์ ของสถาบนั ศาสนา ศูนยบ์ ริการช่วยเหลือระยะแรกเร่ิมของเดก็ พกิ ารและเดก็ ซ่ึงมีความตอ้ งการ พเิ ศษ หรือสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ท่ีเรียกชื่ออยา่ งอื่น (๒) โรงเรียน ไดแ้ ก่ โรงเรียนของรัฐ โรงเรียนเอกชน และโรงเรียนท่ีสงั กดั สถาบนั พทุ ธศาสนา หรือศาสนาอื่น (๓) ศูนยก์ ารเรียน ไดแ้ ก่ สถานที่เรียนท่ีหน่วยงานจดั การศึกษานอกโรงเรียน บุคคล ครอบครัว ชุมชน องคก์ รชุมชน องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น องคก์ รเอกชน องคก์ รวชิ าชีพ สถาบนั ศาสนา สถานประกอบการ โรงพยาบาล สถาบนั ทางการแพทย์ สถานสงเคราะห์ และสถาบนั สังคมอ่ืนเป็น ผจู้ ดั 38. กาํ หนดระยะเวลาในการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาทุกแห่งเป็นไปตามขอ้ ใด ก. อยา่ งนอ้ ย 1 คร้ังทุกๆปี ข. อยา่ งนอ้ ย 1 คร้ังทุก 3 ปี ค. อยา่ งนอ้ ย 1 คร้ังทุก 5 ปี ง. อยา่ งนอ้ ย 2 คร้ังในแตล่ ะปี ตอบ ค. อย่างน้อย 1 คร้ังทกุ 5 ปี 39. กรณีผลการประเมินภายนอกของสถานศึกษาไม่ไดต้ ามมาตรฐานท่ีกาํ หนด และสถานศึกษาไมไ่ ด้ ปรับปรุงแกไ้ ขภายในเวลาท่ีกาํ หนด สาํ นกั งานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาตอ้ ง รายงานต่อบุคคลตามขอ้ ใด ก. คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ข. คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ค. คณะกรรมการการอุดมศึกษา ง. ถูกทุกขอ้ แลว้ แตก่ รณีวา่ สถานศึกษาที่ถูกประเมินอยภู่ ายใตก้ รมการคณะใด ตอบ ง.ถูกทกุ ข้อแล้วแต่กรณวี ่าสถานศึกษาทถี่ ูกประเมนิ อยู่ภายใต้กรมการคณะใด 40. พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติให้ความหมายการศึกษาหมายถึงกิจกรรมดงั ต่อไปน้ี ยกเวน้ ขอ้ ใด ก. กระบวนการเรียนรู้ ข. การฝึกอบรม ค. การสืบสานวฒั นธรรม ง. การศึกษาดูงาน ตอบ ง.การศึกษาดูงาน “การศึกษา” หมายความวา่ กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดย การถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสานทางวฒั นธรรม การสร้างสรรคจ์ รรโลง ความกา้ วหนา้ ทางวชิ าการ การสร้างองคค์ วามรู้อนั เกิดจากการจดั สภาพแวดลอ้ ม สงั คม การเรียนรู้ และปัจจยั เก้ือหนุนใหบ้ ุคคลเรียนรู้อยา่ งต่อเน่ืองตลอดชีวติ 41. ขอ้ ใดไม่สอดคล้องกบั การจดั กระบวนการเรียนรู้ตามความมุง่ หมายของ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ก. ปลูกฝังจิตสาํ นึกการเมือง การปกครองระบอบประชาธิปไตยมีพระมหากษตั ริยเ์ ป็ นประมุข เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
ข. รักษา และส่งเสริมสิทธิ หนา้ ที่ เสรีภาพเคารพกฎหมาย ค. รู้จกั รักษาผลประโยชน์ ส่วนรวมของประเทศชาติ ง. กระจายการพฒั นาไปสู่ชนบทโดยการมีส่วนร่วมของภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน ตอบ ง.กระจายการพฒั นาไปสู่ชนบทโดยการมีส่วนร่วมของภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ มาตรา ๗ ในกระบวนการเรียนรู้ตอ้ งมุ่งปลูกฝังจิตสาํ นึกท่ีถูกตอ้ งเกี่ยวกบั การเมืองการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็ นประมุข รู้จกั รักษาและส่งเสริมสิทธิ หนา้ ท่ี เสรีภาพ ความเคารพกฎหมาย ความเสมอภาค และศกั ด์ิศรีความเป็ นมนุษย์ มีความภาคภูมิใจใน ความเป็ นไทย รู้จกั รักษาผลประโยชน์ส่วนรวมและของประเทศชาติ รวมท้งั ส่งเสริมศาสนา ศิลปะ วฒั นธรรมของชาติ การกีฬา ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น ภูมิปัญญาไทย และความรู้อนั เป็ นสากล ตลอดจน อนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม มีความสามารถในการประกอบอาชีพ รู้จกั พ่งึ ตนเอง มี ความริเร่ิมสร้างสรรค์ ใฝ่ รู้และเรียนรู้ดว้ ยตนเองอยา่ งต่อเนื่อง 42. ขอ้ ใดไม่สอดคล้องการจดั ระบบโครงสร้างและกระบวนการการจดั การศึกษา ก. กระจายอาํ นาจสู่สถานศึกษาท้งั หมด ข. กาํ หนดมาตรฐานการศึกษา จดั ระบบประกนั คุณภาพ ค. มีหลกั การส่งเสริมมาตรฐานวชิ าชีพครูคณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ง. ระดมทรัพยากรจากแหล่งตา่ ง ๆ มาใชใ้ นการจดั การศึกษา ตอบ ก.กระจายอาํ นาจสู่สถานศึกษาท้ังหมด มาตรา ๙ การจดั ระบบ โครงสร้าง และกระบวนการจดั การศึกษา ใหย้ ดึ หลกั ดงั น้ี (๑) มีเอกภาพดา้ นนโยบาย และมีความหลากหลายในการปฏิบตั ิ (๒) มีการกระจายอาํ นาจไปสู่เขตพ้ืนท่ีการศึกษา สถานศึกษา และองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน (๓) มีการกาํ หนดมาตรฐานการศึกษา และจดั ระบบประกนั คุณภาพการศึกษาทุกระดบั และ ประเภทการศึกษา (๔) มีหลกั การส่งเสริมมาตรฐานวชิ าชีพครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา และการ พฒั นาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาอยา่ งตอ่ เน่ือง (๕) ระดมทรัพยากรจากแหล่งตา่ ง ๆ มาใชใ้ นการจดั การศึกษา (๖) การมีส่วนร่วมของบุคคล ครอบครัว ชุมชน องคก์ รชุมชน องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน เอกชน องคก์ รเอกชน องคก์ รวชิ าชีพ สถาบนั ศาสนา สถานประกอบการ และสถาบนั สงั คมอื่น 43. ขอ้ ใดต่อไปน้ีไม่กล่าวถึงสิทธิในการจดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ก. บุคคล ข. เอกชน ค. องคก์ รปกครองทอ้ งถิ่น ง. ครู อาจารย์ ตอบ ง.ครู อาจารย์ เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
มาตรา ๑๒ นอกเหนือจากรัฐ เอกชน และองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ใหบ้ ุคคล ครอบครัว องคก์ รชุมชน องคก์ รเอกชน องคก์ รวชิ าชีพ สถาบนั ศาสนา สถานประกอบการ และสถาบนั สงั คม อื่น มีสิทธิในการจดั การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ท้งั น้ี ใหเ้ ป็นไปตามท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง 44. ขอ้ ใดไม่ถกู ต้อง เกี่ยวกบั สิทธิประโยชน์ บิดามารดา ผปู้ กครอง พงึ ไดร้ ับในการจดั การศึกษา ก. การสนบั สนุนจากรัฐ ใหค้ วามรู้ความสามารถในการอบรมเล้ียงดู ข. การยกเวน้ เงินภาษีสาํ หรับค่าใชจ้ ่ายดา้ นการศึกษา ค. เงินอุดหนุนจากรัฐสาํ หรับการจดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐานของคนในการดูแล ง. การใหก้ ารศึกษาแก่บุตรหรือบุคคลในการดูแล ตอบ ข.การยกเว้นเงนิ ภาษีสําหรับค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา มาตรา ๑๓ บิดา มารดา หรือผปู้ กครองมีสิทธิไดร้ ับสิทธิประโยชน์ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) การสนบั สนุนจากรัฐ ใหม้ ีความรู้ความสามารถในการอบรมเล้ียงดู และการใหก้ ารศึกษาแก่ บุตรหรือบุคคลซ่ึงอยใู่ นความดูแล (๒) เงินอุดหนุนจากรัฐสาํ หรับการจดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐานของบุตรหรือบุคคลซ่ึงอยใู่ นความ ดูแลท่ีครอบครัวจดั ให้ ท้งั น้ี ตามท่ีกฎหมายกาํ หนด (๓) การลดหยอ่ นหรือยกเวน้ ภาษีสาํ หรับค่าใชจ้ า่ ยการศึกษาตามที่กฎหมายกาํ หนด 45. จุดท่ีตา่ งกนั ของการศึกษาในระบบ นอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ท่ีสาํ คญั คือขอ้ ใด ก. ระยะเวลาที่จดั การศึกษา ข. สถานที่จดั การศึกษา ค. ตวั ผเู้ ขา้ รับการศึกษา ง. จุดหมาย วธิ ีการ หลกั สูตร ตอบ ง.จุดหมาย วธิ ีการ หลักสูตร 46. ขอ้ ใดไม่ถกู ต้องเก่ียวกบั การศึกษาตามอธั ยาศยั ก. สถานศึกษา ตอ้ งจดั การศึกษา ท้งั ในระบบนอกระบบ และตามอธั ยาศยั ข. ผเู้ รียนไดเ้ รียนรู้ดว้ ยตนเองตามความสนใจศกั ยภาพ ความพร้อม และโอกาส ค. จดั การเรียนรู้ไดใ้ นทุกที่ ทุกเวลา ง. ธรรมชาติ สิ่งแวดลอ้ มเป็ นแหล่งเรียนรู้ได้ ตอบ ก. สถานศึกษา ต้องจัดการศึกษา ท้งั ในระบบนอกระบบ และตามอธั ยาศัย 47. ตอ่ ไปน้ี ขอ้ ใดไม่ใช่ สถานศกึ ษาสาํ หรับปฐมวยั และการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ก. โรงเรียน ข. ศูนยพ์ ฒั นาเด็กเลก็ ง. ศูนยพ์ ฒั นาเด็กก่อนเกณฑ์ สถาบนั ศาสนา ค. ศูนยพ์ ฒั นาชุมชน ตอบ ค.ศูนย์พฒั นาชุมชน มาตรา ๑๘ การจดั การศึกษาปฐมวยั และการศึกษาข้นั พ้ืนฐานใหจ้ ดั ในสถานศึกษา ดงั ตอ่ ไปน้ี เปิ ดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
(๑) สถานพฒั นาเด็กปฐมวยั ไดแ้ ก่ ศูนยเ์ ด็กเลก็ ศูนยพ์ ฒั นาเดก็ เล็ก ศูนยพ์ ฒั นาเดก็ ก่อนเกณฑ์ ของสถาบนั ศาสนา ศูนยบ์ ริการช่วยเหลือระยะแรกเร่ิมของเด็กพกิ ารและเด็กซ่ึงมีความตอ้ งการ พิเศษ หรือสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ที่เรียกช่ืออยา่ งอ่ืน (๒) โรงเรียน ไดแ้ ก่ โรงเรียนของรัฐ โรงเรียนเอกชน และโรงเรียนท่ีสังกดั สถาบนั พุทธศาสนา หรือศาสนาอ่ืน (๓) ศูนยก์ ารเรียน ไดแ้ ก่ สถานท่ีเรียนที่หน่วยงานจดั การศึกษานอกโรงเรียน บุคคล ครอบครัว ชุมชน องคก์ รชุมชน องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น องคก์ รเอกชน องคก์ รวชิ าชีพ สถาบนั ศาสนา สถานประกอบการ โรงพยาบาล สถาบนั ทางการแพทย์ สถานสงเคราะห์ และสถาบนั สังคมอ่ืนเป็น ผจู้ ดั 48. ขอ้ ใดไม่ถูกตอ้ งในดา้ นการกระจายอาํ นาจใหเ้ ขตพ้ืนท่ีและสถานศึกษา ก. ดา้ นวชิ าการ ข. งบประมาณ ค. หลกั สูตรการสอน ง. การบริหารทวั่ ไป ตอบ ค.หลกั สูตรการสอน 49. พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542ไมไ่ ด้ กาํ หนดใหห้ น่วยงานใดมีสิทธิในการจดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ก. หน่วยงานหรือสถานศึกษาของรัฐและเอกชน ข. มหาวทิ ยาลยั ของรัฐและเอกชน ค. องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ง. องคก์ รวชิ าชีพ สถาบนั ศาสนา สถานประกอบการ ตอบ ข.มหาวทิ ยาลยั ของรัฐและเอกชน 50. การจดั ระบบโครงสร้างและกระบวนการศึกษาใหย้ ดึ หลกั อะไรบา้ ง ก. มีเอกภาพดา้ นนโยบายและหลากหลายในการปฏิบตั ิ ข. มีการกระจายอาํ นาจไปสู่เขตพ้นื ท่ีการศึกษา ค. ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่างๆ มาใชใ้ นการจดั การศึกษา ง. ถูกท้งั ก ข และ ค ตอบ ง.ถูกท้งั ก ข และ ค 51. แนวการจดั การศึกษาตาม พรบ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ยดึ หลกั ตามขอ้ ใด ก. ผเู้ รียนทุกคนมีความสามารถเทา่ กนั ข. ถือวา่ ผเู้ รียนมีความสาํ คญั ท่ีสุด ค. หลกั สูตรมีความสาํ คญั ที่สุด ง. กระบวนการเรียนการสอนสาํ คญั ที่สุด ตอบ ข.ถือว่าผู้เรียนมคี วามสําคัญทส่ี ุด มาตรา ๒๒ การจดั การศึกษาตอ้ งยดึ หลกั วา่ ผเู้ รียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพฒั นา ตนเองได้ และถือวา่ ผูเ้ รียนมีความสาํ คญั ท่ีสุด กระบวนการจดั การศึกษาตอ้ งส่งเสริมใหผ้ เู้ รียน สามารถพฒั นาตามธรรมชาติและเตม็ ตามศกั ยภาพ เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
52. ขอ้ ใดไม่ใช่หลกั การจดั การศึกษาตามพระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ก. เป็นการศึกษาตลอดชีวติ สําหรับประชาชน ข. ใหส้ งั คมมีส่วนร่วมในการจดั การศึกษา ค. การพฒั นาสาระและกระบวนการเรียนรู้ใหเ้ ป็นไปอยา่ งตอ่ เน่ือง ง. การจดั การศึกษาสาํ หรับบุคคลซ่ึงมีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญาอารมณ์ และสังคม ตอบ ง.การจัดการศึกษาสําหรับบุคคลซึ่งมคี วามบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สตปิ ัญญาอารมณ์ และ สังคม มาตรา ๘ การจดั การศึกษาใหย้ ดึ หลกั ดงั น้ี (๑) เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสาํ หรับประชาชน (๒) ใหส้ ังคมมีส่วนร่วมในการจดั การศึกษา (๓) การพฒั นาสาระและกระบวนการเรียนรู้ใหเ้ ป็นไปอยา่ งต่อเนื่อง 53. พรบ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 เป็นกฎหมายที่ตราข้ึนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2540 มาตราใด ก. มาตรา 43 ข. มาตรา 81 ค. มาตรา 289 ง. มาตรา 336 ตอบ ข.มาตรา 81 54. องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นมีสิทธ์ิจดั การศึกษาระดบั ใด ก. การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ข. การศึกษาอุดมศึกษา ค. การศึกษานอกโรงเรียน ง. ทุกระดบั ตอบ ง.ทกุ ระดับ มาตรา ๔๑ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินมีสิทธิจดั การศึกษาในระดบั ใดระดบั หน่ึงหรือทุกระดบั ตามความพร้อม ความเหมาะสมและความตอ้ งการภายในทอ้ งถ่ิน 55. หน่วยงานท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ระบบประกนั คุณภาพภายในไดแ้ ก่ ก. สถานศึกษาเทา่ น้นั ข. สถานศึกษาและเขตพ้ืนที่ ค. สถานศึกษา เขตพ้ืนที่ คณะกรรมการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ง. สถานศึกษา เขตพ้ืนท่ี คณะกรรมการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ตอบ ง.สถานศึกษา เขตพืน้ ที่ คณะกรรมการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ 56. หลกั การจดั การศึกษาขอ้ ใด ไม่สอดคลอ้ งกบั สาระตามพระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ ก. ผเู้ รียนทุกคนสามารถเรียนรู้พฒั นาตนเองได้ ข. ครูตอ้ งมีจิตสาํ นึกท่ีจะพฒั นาเดก็ อยา่ งเตม็ ความสามารถ ค. ผเู้ รียนมีความสาํ คญั ที่สุด เปิ ดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ง. ตอ้ งส่งเสริมผเู้ รียนพฒั นาตามศกั ยภาพ ตอบ ข.ครูต้องมจี ิตสํานึกทจี่ ะพฒั นาเดก็ อย่างเตม็ ความสามารถ 57. ต่อไปน้ีขอ้ ใดกล่าวไม่ถูกตอ้ ง ก. การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน หมายความวา่ การศึกษาก่อนระดบั อุดมศึกษา ข. ผสู้ อน หมายความวา่ ครูและคณาจารยใ์ นสถานศึกษาระดบั ต่างๆ ค. กระทรวง หมายความวา่ กระทรวงการศึกษา ง. ครู หมายความวา่ บุคลากรวชิ าชีพซ่ึงทาํ หนา้ ท่ีหลกั ทางดา้ นการเรียนการสอนและส่งเสริมการ เรียนรู้ของผเู้ รียนดว้ ยวธิ ีการตา่ งๆ ในสถานศึกษาท้งั ของรัฐและเอกชน ตอบ ค.กระทรวง หมายความว่า กระทรวงการศึกษา “กระทรวง” หมายความวา่ กระทรวงศึกษาธิการ 58. จุดเนน้ ของการจดั การศึกษาตามแนวการจดั การศึกษาคือขอ้ ใด ก. ความรู้คูค่ ุณธรรม ข. ความรู้ คุณธรรม และกระบวนการเรียนรู้ ค. ความรู้กระบวนการเรียนรู้ และบูรณาการ ง. ความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ และบูรณาการตามความเหมาะสม ตอบ ง.ความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ และบูรณาการตามความเหมาะสม มาตรา ๒๓ การจดั การศึกษา ท้งั การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตาม อธั ยาศยั ตอ้ งเนน้ ความสาํ คญั ท้งั ความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้และบูรณาการตามความ เหมาะสมของแตล่ ะระดบั การศึกษาในเร่ืองต่อไปน้ี (๑) ความรู้เร่ืองเก่ียวกบั ตนเอง และความสัมพนั ธ์ของตนเองกบั สังคม ไดแ้ ก่ ครอบครัว ชุมชน ชาติ และสงั คมโลก รวมถึงความรู้เกี่ยวกบั ประวตั ิศาสตร์ความเป็นมาของสังคมไทยและระบบ การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข (๒) ความรู้และทกั ษะดา้ นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมท้งั ความรู้ความเขา้ ใจและ ประสบการณ์เร่ืองการจดั การ การบาํ รุงรักษาและการใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มอยา่ งสมดุลยง่ั ยนื (๓) ความรู้เกี่ยวกบั ศาสนา ศิลปะ วฒั นธรรม การกีฬา ภูมิปัญญาไทย และการประยกุ ตใ์ ชภ้ ูมิ ปัญญา (๔) ความรู้ และทกั ษะดา้ นคณิตศาสตร์ และดา้ นภาษา เนน้ การใชภ้ าษาไทยอยา่ งถูกตอ้ ง 59. ตามพระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ ไม่ไดก้ าํ หนดสิทธิในการรับการศึกษาสาํ หรับคนพกิ ารใน เรื่องใด ก. สิ่งอาํ นวยความสะดวก ข. สื่อ บริการ ค. ความช่วยเหลืออื่นใด ตอบ ง.เงนิ อดุ หนุนปัจจัยพื้นฐาน ง. เงินอุดหนุนปัจจยั พ้ืนฐาน เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
60. จากขอ้ 55 รัฐตอ้ งใหค้ วามช่วยเหลือเป็นกี่เทา่ ของเงินทุนดา้ นสื่อและวสั ดุการศึกษาท่ีจดั สรรใหแ้ ก่ เด็กนกั เรียนทว่ั ไปต่อคน ก. ไมเ่ กิน 2 เท่า ข. ไม่เกิน 3 เทา่ ค. ไม่เกิน 4 เท่า ง. ไมเ่ กิน 5 เท่า ตอบ ง.ไม่เกนิ 5 เท่า 61. การจดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐานแบ่งไดเ้ ป็น 3 ระดบั ยกเวน้ ขอ้ ใด ก. ระดบั ก่อนประถมศึกษา ข. ระดบั ประถมศึกษา ง. ระดบั ก่อนอุดมศึกษา ค. ระดบั มธั ยมศึกษา ตอบ ง.ระดบั ก่อนอดุ มศึกษา 62. การจดั การศึกษาเพื่อมุง่ วางรากฐานเพอื่ ใหผ้ เู้ รียนไดพ้ ฒั นาคุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงคท์ ้งั ดา้ น คุณธรรมจริยธรรม ดา้ นความรู้ความสามารถข้นั พ้ืนฐานหมายถึงการจดั การศึกษาระดบั ใด ก. ระดบั ก่อนประถมศึกษา ข. ระดบั ประถมศึกษา ค. ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ง. ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ตอบ ข.ระดบั ประถมศึกษา 63. การจดั การศึกษาเพื่อพฒั นาผเู้ รียนตามความถนดั ความสนใจ ศกั ยภาพและความสามารถพิเศษ เฉพาะดา้ น เพือ่ เป็นพ้ืนฐานสําหรับการศึกษาต่อในระดบั อุดมศึกษา ก. ระดบั ประถมศึกษา ข. ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ค. ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลายประเภทสามญั ศึกษา ง. ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีวศึกษา ตอบ ค.ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลายประเภทสามญั ศึกษา 64. การจดั การศึกษาระดบั ประถมศึกษาโดยปกติใชเ้ วลาเรียนก่ีปี ก. 4 ปี ข. 6 ปี ค. 9 ปี ง. 12 ปี ตอบ ข. 6 ปี 65. การนบั อายเุ ดก็ เพื่อเขา้ รับการศึกษาภาคบงั คบั ในสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานใหน้ บั ตามขอ้ ใด ก. ครบเจ็ดปี ในปี ใดนบั เด็กอายยุ า่ งเขา้ ปี ท่ีเจด็ ในปี น้นั ข. นบั ตามปี งบประมาณ ค. นบั ตามปี ปฏิทิน ง. ขอ้ ก และ ค ถูกตอ้ ง ตอบ ค.นับตามปี ปฏทิ นิ เปิ ดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
มาตรา ๑๗ ใหม้ ีการศึกษาภาคบงั คบั จาํ นวนเกา้ ปี โดยใหเ้ ด็กซ่ึงมีอายยุ า่ งเขา้ ปี ท่ีเจด็ เขา้ เรียนใน สถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานจนอายยุ า่ งเขา้ ปี ท่ีสิบหก เวน้ แต่สอบไดช้ ้นั ปี ท่ีเกา้ ของการศึกษาภาคบงั คบั หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการนบั อายใุ หเ้ ป็นไปตามท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง 66. การจดั การศึกษาระดบั ใดเป็ นการจดั การศึกษาเพ่ือพฒั นาความรู้และทกั ษะในการประกอบอาชีพให้ เป็นกาํ ลงั แรงงานที่มีฝีมือหรือการศึกษาต่อระดบั ในระดบั อาชีพช้นั สูงตอ่ ไป ก. ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ข. ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลายประเภทสามญั ศึกษา ค. ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีวศึกษา ง. ระดบั ที่ต่าํ กวา่ ปริญญา ตอบ ค.ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีวศึกษา 67. การจดั การศึกษาเพ่ือวางรากฐานชีวติ และการเตรียมความพร้อมของเดก็ ท้งั ร่างกายและจิตใจ สติปัญญาอารมณ์ บุคลิกภาพและการอยรู่ ่วมกนั ในสังคม ก. การศึกษาระดบั ก่อนประถมศึกษา ข. การศึกษาระดบั ประถมศึกษา ค. การศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ง. การศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ตอบ ก.การศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา 68. หากเด็กจะเขา้ เรียนการศึกษาภาคบงั คบั ในปี การศึกษา 2551 จะตอ้ งเป็ นเด็กที่เกิดในปี พ.ศ.ใด ก. 2541 ข. 2542 ค. 2543 ง. 2544 ตอบ ง.2544 มาตรา ๑๗ ใหม้ ีการศึกษาภาคบงั คบั จาํ นวนเกา้ ปี โดยใหเ้ ด็กซ่ึงมีอายยุ า่ งเขา้ ปี ท่ีเจด็ เขา้ เรียนใน สถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานจนอายยุ า่ งเขา้ ปี ที่สิบหก เวน้ แตส่ อบไดช้ ้นั ปี ท่ีเกา้ ของการศึกษาภาคบงั คบั หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการนบั อายใุ หเ้ ป็นไปตามท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง 69. ขอ้ ใดต่างจากพวก ก.ครู ข.คณาจารย์ ค.ผบู้ ริหารสถานศึกษา ง.ผบู้ ริหารการศึกษา ตอบ ข.คณาจารย์ 70. ความมุ่งหมายของการจดั การศึกษาตาม พรบ.น้ี ไดแ้ ก่ ก.ปรับปรุงการศึกษาใหส้ อดคลอ้ งกบั ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม ข.ปฏิรูปการศึกษาของไทย ค.พฒั นาคนให้เป็นมนุษยท์ ี่สมบูรณ์ท้งั ร่างกาย จิตใจ ง.พฒั นาศกั ด์ิศรีความเป็นมนุษย์ ตอบ ค.พฒั นาคนให้เป็ นมนุษย์ทสี่ มบูรณ์ท้ังร่างกาย จิตใจ เปิ ดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
71. ขอ้ ใดไมใ่ ช่หลกั การ พรบ.การศึกษาแห่งชาติ 2542 ก.เป็นการศึกษาข้นั พ้ืนฐานเพ่ือปวงชน ข.เป็นการศึกษาตลอดชีวติ สาํ หรับประชาชน ค.ใหส้ ังคมมีส่วนร่วมในการจดั การศึกษา ง.พฒั นา สาระ และกระบวนการเรียนรู้ใหเ้ ป็นไปอยา่ งต่อเนื่อง ตอบ ก.เป็ นการศึกษาข้นั พื้นฐานเพื่อปวงชน 72. ขอ้ ใดคือความหมายของคาํ วา่ การศึกษา ในพระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ก. การศึกษา คือกระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสงั คม ข. การศึกษา คือ การสร้างองคค์ วามรู้อนั เกิดจากการจดั สภาพแวดลอ้ มและสังคม ค. การศึกษา คือ การเจริญงอกงาม ง. การศึกษา คือ ชีวติ ตอบ ก. การศึกษา คือกระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคม 73. สมศ. หมายถึง ก. สาํ นกั งานรับรองมาตรฐานและประกนั คุณภาพการศึกษา ข. สาํ นกั งานรับรองมาตรฐานและเมินคุณภาพการศึกษา ค. สาํ นกั รับรองมาตรฐานและประกนั คุณภาพการศึกษา ง. สาํ นกั รับรองมาตรฐานและเมินคุณภาพการศึกษา ตอบ ข.สํานักงานรับรองมาตรฐานและเมินคุณภาพการศึกษา 74. ขอ้ ใดเป็นหลกั การของแนวการจดั การศึกษา ก. ยดึ หลกั วา่ ผเู้ รียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพฒั นาตนเองได้ ข. ถือวา่ ผเู้ รียนมีความสาํ คญั ท่ีสุด ค. กระบวนการจดั การศึกษาตอ้ งส่งเสริมให้ผเู้ รียนสามารถพฒั นาตามธรรมชาติและเต็มตาม ศกั ยภาพ ง. ถูกทุกขอ้ ตอบ ง.ถูกทุกข้อ 75. ขอ้ ใดเป็นองคก์ รท่ีจดั ต้งั ข้ึนตาม พ.ร.บ. การศึกษา ก. สภาการศึกษา ข. คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ค. คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ง. เลขาธิการสภาการศึกษา ตอบ ง.เลขาธิการสภาการศึกษา 76. ต่อไปน้ีขอ้ ใดไมใ่ ช่กรรมการโรงเรียน ก.ผแู้ ทนครู ข.ผแู้ ทนองคก์ รเอกชน ค.ผแู้ ทนศิษยเ์ ก่า ตอบ ข.ผู้แทนองค์กรเอกชน ง.ผแู้ ทนคุณวฒุ ิ เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
77. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ งเกี่ยวกบั ระดบั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ก. มี 3 ระดบั คือ ประถมศึกษา มธั ยมศึกษา และก่อนอุดมศึกษา ข. มี 3 ระดบั คือ ก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา มธั ยมศกึ ษา ค. มี 4 ระดบั คือ ก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนตน้ และมธั ยมศึกษาตอนปลาย ง. มี 5 ระดบั คือ ก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย และระดบั อาชีวศึกษา ตอบ ข.มี 3 ระดับ คือ ก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษา 78. องคก์ รตามขอ้ ใดมีหนา้ ที่พิจารณาเสนอนโยบายแผนพฒั นา และมาตรฐานการอุดมศึกษา ก. สภาการศึกษา ข. คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ค. คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ง. คณะกรรมการการอุดมศึกษา ตอบ ง.คณะกรรมการการอุดมศึกษา 79. ขอ้ ใดไมเ่ ป็นมาตรฐานวชิ าชีพ ก. มาตรฐานการปฏิบตั ิงาน ข. มาตรฐานการปฏิบตั ิการสอน ค. มาตรฐานการปฏิบตั ิตน ง. มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วชิ าชีพ ตอบ ข.มาตรฐานการปฏบิ ัติการสอน 80. สมาชิกคุรุสภามีกี่ประเภท ก. 3 ประเภท ข. 5 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 2 ประเภท ตอบ ง.2 ประเภท 81. ขอ้ ใดเป็นประเภทของสมาชิกคุรุสภา ข.สมาชิกกิติมศกั ด์ิ ก. สมาชิกวสิ ามญั ค. สมาชิกสามญั ง.ถูกท้งั ข และ ค ตอบ ง.ถูกท้งั ข และ ค 82. ขอ้ ใดไมใ่ ช่หลกั การจดั การศึกษาตาม พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ก. เป็นการศึกษาตลอดชีวติ ข. ใหส้ ังคมมีส่วนร่วมในการจดั การศึกษา ค. พฒั นาสาระและกระบวนการเรียนรู้ใหเ้ ป็นไปอยา่ งต่อเนื่อง ง. มีเอกภาพดา้ นนโยบาย มีความหลากหลายในการปฏิบตั ิ ตอบ ก.เป็ นการศึกษาตลอดชีวติ 83. การจดั การศึกษาสาหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางร่ายกาย จิตใจ กล่าวไวใ้ นหมวดใด ของ พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ ก. ความมุง่ หมายและหลกั การ ข. สิทธิและหนา้ ที่ทางการศึกษา เปิ ดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ค. ระบบการศึกษา ง. แนวการจดั การศึกษา ตอบ ข.สิทธิและหน้าทท่ี างการศึกษา 84. สิทธิประโยชน์ท่ีผจู้ ดั การศึกษาจะพงึ ไดร้ ับ ขอ้ ใดไมถ่ ูกตอ้ ง ก. การสนบั สนุนจากรัฐ ข. เงินอุดหนุนจากรัฐสาหรับการจดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ค. การลดหยอ่ นภาษีทวั่ ไป ง. การยกเวน้ ภาษีสาหรับคา่ ใชจ้ ่ายการศึกษาตามที่กฎหมายกาํ หนด ตอบ ค.การลดหย่อนภาษีทัว่ ไป 85. การศึกษาในระบบมีกี่ระดบั ก. 2 ระดบั คือ การศึกษาภาคบงั คบั และการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ข. 2 ระดบั คือ การศึกษาข้นั พ้นื ฐานและการศึกษาอุดมศึกษา ค. 3 ระดบั คือ ประถมศึกษา มธั ยมศึกษา และอุดมศึกษา ง. 4 ระดบั คือ ก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาและอุดมศึกษา ตอบ ข.2 ระดบั คือ การศึกษาข้ันพืน้ ฐานและการศึกษาอุดมศึกษา 86. ขอ้ ใดไม่ใช่สถานศึกษาในการจดั การศึกษาปฐมวยั และการศึกษาข้นั พ้ืนฐานตาม พรบ.การศึกษา แห่งชาติ ก. สถานพฒั นาเด็กปฐมวยั ข. โรงเรียน ค. ศูนยก์ ารเรียน ง. วทิ ยาลยั ตอบ ง.วทิ ยาลยั 87. การจดั การศึกษาตอ้ งส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนสามารถพฒั นาตามธรรมชาติและเตม็ ตามศกั ยภาพอยใู่ น มาตราใดของ พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ก. มาตรา 22 ข. มาตรา 23 ค. มาตรา 24 ง. มาตรา 25 ตอบ ก.มาตรา 22 88. องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นมีสิทธ์ิจดั การศึกษาระดบั ใด ก.การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ข.การศึกษาอุดมศึกษา ค.การศึกษานอกโรงเรียน ง.ทุกระดบั ตอบ ง.ทกุ ระดบั 89. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ งเก่ียวกบั การจดั การศึกษาภาคบงั คบั ของผปู้ กครอง ก.เป็ นสิทธิ ข.เป็นหนา้ ท่ี ค.เป็ นเสรี ภาพ ง.ถูกทุกขอ้ ตอบ ข.เป็ นหน้าท่ี เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
90. ต่อไปน้ี ขอ้ ใดกล่าวไม่ถูกตอ้ ง ก.การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน หมายความวา่ การศึกษาก่อนระดบั อุดมศึกษา ข.ผสู้ อน หมายความวา่ ครูและคณาจารยใ์ นสถานศึกษาระดบั ตา่ งๆ ค.กระทรวง หมายความวา่ กระทรวงการศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรมแห่งชาติ ง.ครู หมายความวา่ บุคลากรวิชาชีพซ่ึงทาํ หนา้ ที่หลกั ทางดา้ นการเรียนการสอนและส่ง เสริมการ เรียนรู้ของผเู้ รียนดว้ ยวธิ ีการตา่ งๆ ในสถานศึกษาท้งั ของรัฐและเอกชน ตอบ ค.กระทรวง หมายความว่ากระทรวงการศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรมแห่งชาติ 91. พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ไมไ่ ดก้ าํ หนดใหห้ น่วยงานใดมีสิทธิจดั การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ก.หน่วยงานหรือสถานศึกษาของรัฐและเอกชน ข.มหาวทิ ยาลยั ของรัฐและเอกชน ค.องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ง.องคก์ รวชิ าชีพ สถาบนั ศาสนา และสถานประกอบการ ตอบ ข.มหาวทิ ยาลยั ของรัฐและเอกชน 92. หน่วยงานตามขอ้ ใดมีอาํ นาจยบุ รวม หรือเลิกสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานในเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ก. คณะกรรมการเขตพ้ืนที่การศึกษา ข. คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ค. คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ง. เลขาธิการสภาการศึกษา ตอบ ก.คณะกรรมการเขตพื้นทกี่ ารศึกษา 93. องคก์ รตามขอ้ ใดทาํ หนา้ ที่กาํ กบั และส่งเสริมสนบั สนุนกิจการของสถานศึกษา ก. คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ข. คณะกรรมการสถานศึกษา ค. คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ง. คณะกรรมการเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ตอบ ข.คณะกรรมการสถานศึกษา 94. ขอ้ ใดไม่ใช่อาํ นาจหนา้ ที่ของคณะกรรมการและสานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา ก. กากบั ดูแลจดั ต้งั ยบุ รวมหรือเลิกสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ข. ประสานส่งเสริมและสนบั สนุนสถานศึกษาเอกชน ค. ประสานและส่งเสริมองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ง. ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการจดั การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ตอบ ง.ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน 95. ขอ้ ใดไม่ใช่องคป์ ระกอบของคณะกรรมการเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ก. ผแู้ ทนองคก์ รชุมชน ข. ผแู้ ทนองคก์ รเอกชน ค. ผแู้ ทนผปู้ ระกอบวชิ าชีพครู ง. ผทู้ รงคุณวฒุ ิ ตอบ ค.ผู้แทนผู้ประกอบวชิ าชีพครู 96. คณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐาน มีอาํ นาจหนา้ ท่ีตามขอ้ ใด เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ก. กาํ หนดนโยบายและแผนพฒั นา ข. กาํ กบั ส่งเสริมสนบั สนุนกิจการของสถานศึกษา ค. ประสานส่งเสริมสนบั สนุนการศึกษาเอกชน ง. สนบั สนุนทรัพยากรเพื่อการศึกษา ตอบ ข.กาํ กบั ส่งเสริมสนับสนุนกจิ การของสถานศึกษา 97. ขอ้ ใดเป็นหวั ใจสาํ คญั ของระบบการประกนั คุณภาพภายใน ก. ดาํ เนินการโดยหน่วยงานตน้ สงั กดั และสถานศึกษา ข. เป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการบริหารการศึกษา ค. มีการจดั ทารายงานประจาปี เสนอต่อหน่วยงานตน้ สังกดั หน่วยงานท่ีเก่ียวขอ้ งและเปิ ดเผยต่อ สาธารณชน ง. เพอ่ื พฒั นาคุณภาพของสถานศึกษา ตอบ ง. เพ่ือพฒั นาคุณภาพของสถานศึกษา 98. ขอ้ ใดไมไ่ ดก้ าํ หนดไวใ้ นระบบการประกนั คุณภาพภายนอก ก. ประเมินผลและติดตามตรวจสอบโดย สมศ. ข. คาํ นึงถึงความมุ่งหมาย หลกั การและแนวการจดั การศึกษา ค. ใหม้ ีการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาทุกแห่งอยา่ งนอ้ ย 1 คร้ังในทุก 5 ปี นบั แต่การ ประเมินคร้ังสุดทา้ ย ง. เสนอยบุ เลิกโรงเรียนท่ีไม่ผา่ นการประเมิน ตอบ ง.เสนอยุบเลกิ โรงเรียนทไ่ี ม่ผ่านการประเมิน 99. ใครเป็นผกู้ าํ หนดหลกั สูตรแกนกลางศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ก.กระทรวงศึกษาธิการ ศาสนา และวฒั นธรรม ข.สภาการศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรมแห่งชาติ ค.คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ง.คณะกรรมการจดั ทาํ หลกั สูตร การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ตอบ ค.คณะกรรมการการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน 100. การแบ่งเขตพ้นื ท่ีการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ใหค้ าํ นึงถึงเรื่องใดเป็นหลกั ก.ปริมาณสถานศึกษา และความเหมาะสม ดา้ นอื่น ข.จาํ นวนประชากร และความเหมาะสมดา้ นอื่น ค.ปริมาณสถานศึกษา และจาํ นวนประชากร ง.ปริมาณสถานศึกษา จาํ นวนประชากร และความเหมาะสมดา้ นอื่น ตอบ ง.ปริมาณสถานศึกษา จํานวนประชากร และความเหมาะสมด้านอื่น เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
101. ตามพระราชบญั ญตั ิน้ีกาํ หนดใหก้ ระทรวงกระจายอาํ นาจ ในดา้ นใดบา้ ง ก.บริหารบุคคล งบประมาณ บริหาร จดั การ และบริหารทว่ั ไป ข.วชิ าการ บริหารบุคคล งบประมาณและการ มีส่วนร่วม ค.วชิ าการ งบประมาณ บริหารบุคคลและการบริหารทว่ั ไป ง.งบประมาณ บริหารบุคคล การมีส่วนร่วม และการบริหารทว่ั ไป ตอบ ค.วชิ าการ งบประมาณ บริหารบุคคลและการบริหารทว่ั ไป 102. ใครเป็นผูจ้ ดั ใหม้ ีระบบการประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษา ก.หน่วยงานตน้ สงั กดั และสถานศึกษา ข.เขตพ้นื ที่การศึกษาข้นั พ้นื ฐานและสถานศึกษาหน่วยงานอิสระ และสถานศึกษา ค.หน่วยงานอิสระ และสถานศึกษา ง.องคก์ รมหาชน และสถานศึกษา ตอบ ก.หน่วยงานต้นสังกดั และสถานศึกษา มาตรา ๔๘ ให้หน่วยงานตน้ สังกดั และสถานศึกษาจดั ให้มีระบบการประกนั คุณภาพภายใน สถานศึกษาและใหถ้ ือวา่ การประกนั คุณภาพภายในเป็ นส่วนหน่ึงของกระบวนการบริหารการศึกษา ที่ต้องดําเนินการอย่างต่อเน่ือง โดยมีการจดั ทํารายงานประจาํ ปี เสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานท่ีเก่ียวขอ้ ง และเปิ ดเผยต่อสาธารณชน เพ่ือนําไปสู่การพฒั นาคุณภาพและมาตรฐาน การศึกษา และเพื่อรองรับการประกนั คุณภาพภายนอก 103. สถานศึกษาตามขอ้ ใดจะตอ้ งจดั ใหม้ ีคณะกรรมการสถานศึกษา ก. สถานศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ข. สถานศึกษาระดบั อุดมศึกษา ค. สถานศึกษาอาชีวศึกษา ง. ถูกทุกขอ้ ตอบ ง.ถูกทกุ ข้อ 104. สาํ นกั งานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา มีสถานภาพตามขอ้ ใด ก. เป็นส่วนราชการ ข. องคก์ ารมหาชน ค. เป็นรัฐวสิ าหกิจ ตอบ ข.องค์การมหาชน ง. เป็นเอกชน มาตรา ๔๙ ให้มีสํานกั งานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา มีฐานะเป็ นองคก์ าร มหาชนทาํ หน้าที่พฒั นาเกณฑ์ วิธีการประเมินคุณภาพภายนอก และทาํ การประเมินผลการจดั การศึกษาเพื่อให้มีการตรวจสอบคุณภาพของสถานศึกษา โดยคาํ นึงถึงความมุ่งหมายและหลกั การ และแนวการจดั การศึกษาในแต่ละระดบั ตามท่ีกาํ หนดไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิน้ี ให้ มี ก ารป ระ เมิ น คุ ณ ภาพ ภาย น อก ข องส ถ าน ศึ ก ษ าทุ ก แห่ งอ ย่างน้อ ยห น่ ึ งค ร้ ั งใน ทุ ก ห้ าปี นบั ต้งั แต่การประเมินคร้ังสุดทา้ ย และเสนอผลการประเมินต่อหน่วยงานท่ีเก่ียวขอ้ งและสาธารณชน เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
105. กระทรวงศึกษาธิการอาจจดั ใหม้ ีการศึกษาข้นั พ้ืนฐานเพ่อื เสริมการบริหารและการจดั การของ เขตพ้ืนท่ีการศึกษาขอ้ ใดกล่าวไม่ถูกตอ้ ง ก. การจดั การศึกษาทางไกลและการใหบ้ ริการในเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ข. การจดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐานท่ีจดั ในรูปแบบการศึกษานอกระบบหรือการศึกษาตามอธั ยาศยั ค. การจดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐานสาํ หรับบุคคลท่ีมีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ฯ ง. การจดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐานสาํ หรับบุคคลท่ีมีความสามารถพิเศษ ตอบ ก.การจัดการศึกษาทางไกลและการให้บริการในเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษา 106. ผลการประเมินไมไ่ ดต้ ามมาตรฐานท่ีกาํ หนด สมศ.ตอ้ งดาเนินการอยา่ งไรเป็นอนั ดบั แรก ก. รายงานต่อคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ข. จดั ทาํ ขอ้ เสนอแนะการปรับปรุงแกไ้ ขต่อหน่วยงานตน้ สงั กดั ค. แจง้ ใหส้ ถานศึกษาปรับปรุงแกไ้ ขภายในกาํ หนด ง. เสนอหน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งและเปิ ดเผยตอ่ สาธารณชน ตอบ ข.จัดทาํ ข้อเสนอแนะการปรับปรุงแก้ไขต่อหน่วยงานต้นสังกดั 107. ใครเป็นผปู้ ระเมินคุณภาพภายนอก ก.สาํ นกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ข.คณะกรรมการเขตพ้ืนที่การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ค.สาํ นกั งานรับรองมาตรฐาน และประเมิน คุณภาพการศึกษา ง.สาํ นกั งานประกนั คุณภาพการศึกษา ตอบ ค.สํานักงานรับรองมาตรฐาน และประเมนิ คุณภาพการศึกษา 108. ขอ้ ใดไม่อยใู่ นความหมายของคาํ วา่ สถานศึกษาตาม พ.ร.บ. น้ี ก. สถานพฒั นาเด็กปฐมวยั ข. โรงเรียน ค. มหาวทิ ยาลยั ง. ทุกขอ้ เป็นสถานศึกษาตาม พ.ร.บ. น้ี ตอบ ง.ทกุ ข้อเป็ นสถานศึกษาตาม พ.ร.บ. นี้ “สถานศึกษา” หมายความวา่ สถานพฒั นาเด็กปฐมวยั โรงเรียน ศูนยก์ ารเรียน วิทยาลยั สถาบนั มหาวิทยาลยั หน่วยงานการศึกษาหรือหน่วยงานอื่นของรัฐหรือของเอกชน ที่มีอาํ นาจหนา้ ท่ีหรือมี วตั ถุประสงคใ์ นการจดั การศึกษา 109. ขอ้ ใด คือ “ผู้สอน” ตามท่ีกาํ หนดไวใ้ น พ.ร.บ. น้ี ก. ครู ข. คณาจารย์ ค. ผบู้ ริหารสถานศึกษา ง. ถูกเฉพาะขอ้ ก และ ขอ้ ข ตอบ ง.ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข้อ ข “ผสู้ อน” หมายความวา่ ครูและคณาจารยใ์ นสถานศึกษาระดบั ตา่ ง ๆ เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
110. ผบู้ ริหารการศึกษา หมายถึงขอ้ ใด ก. บุคลากรวชิ าชีพที่รับผดิ ชอบการบริหารสถานศึกษาแต่ละแห่ง ท้งั ของรัฐและเอกชน ข. บุคลากรวชิ าชีพท่ีรับผดิ ชอบการบริหารการศึกษานอกสถานศึกษาต้งั แต่ระดบั เขตพ้ืนท่ี การศึกษาข้ึนไป ค. บุคลากรซ่ึงทาํ หนา้ ท่ีหลกั ทางดา้ นการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผเู้ รียนในสถานศึกษา ท้งั ของรัฐและเอกชน ง. บุคลากรซ่ึงทาํ หนา้ ท่ีหลกั ทางดา้ นการสอนและการวจิ ยั ในสถานศึกษาระดบั อุดมศึกษาระดบั ปริญญาของรัฐและเอกชน ตอบ ข.บุคลากรวชิ าชีพทรี่ ับผดิ ชอบการบริหารการศึกษานอกสถานศึกษาต้ังแต่ระดบั เขตพืน้ ที่ การศึกษาขึน้ ไป “ผบู้ ริหารการศึกษา” หมายความวา่ บุคลากรวชิ าชีพท่ีรับผดิ ชอบการบริหารการศึกษานอก สถานศึกษาต้งั แต่ระดบั เขตพ้ืนท่ีการศึกษาข้ึนไป เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
สรุปสาระสําคญั ของประชาคมอาเซียน ประชาคมอาเซียน (ASEAN: Association of South East Asian Nations) ทม่ี าและความสําคญั ของประชาคมอาเซียน เดิมการจดั ต้งั กลุ่มประเทศอาเซียน ในคร้ังแรก มีจุดมุ่งหมาย เพอื่ ใหเ้ กิดความ ร่วมมือเฉพาะในดา้ นเศรษฐกิจและสังคม เพราะแตล่ ะประเทศมีแนวคิดทางการเมืองท่ีแตกตา่ งกนั อยา่ งมาก การจดั ต้งั ข้ึนในวนั ที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๑๐ ณ วงั สราญรมย์ ในกระทรวงการ ต่างประเทศ กรุงเทพมหานคร ซ่ึงมีประเทศสมาชิกเร่ิมแรก ๕ ประเทศ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิ ลิปปิ นส์ สิงคโปร์ และไทย ตอ่ มา บรูไน ดารุสซาลามไดเ้ ขา้ ร่วมเป็นสมาชิกในวนั ท่ี ๘ มกราคม ๒๕๒๗ เวยี ดนามไดเ้ ขา้ ร่วมเมื่อวนั ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๓๘ ลาวและพม่าเขา้ ร่วมเมื่อวนั ท่ี ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๔๐ และกมั พชู าเม่ือวนั ที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๔๒ ปัจจุบนั ประชาคมอาเซียน จึงมี ประเทศสมาชิกท้งั หมด 10 ประเทศ ไดแ้ ก่ ไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิ ลิปปิ นส์ (๒๕๑๐) บรูไนดารุสซาลาม เวยี ดนาม ลาว พม่า และกมั พชู า มีประชากรรวมกนั ท้งั หมด 580 ลา้ นคน ASEAN+3 หมายถึง ประเทศสมาชิกสมาคมอาเซียน ร่วมกบั ประเทศจีน ญี่ป่ ุน และเกาหลี ASEAN+6 ไดแ้ ก่ กลุ่มประเทศ ASEAN+3 และเพ่มิ ประเทศอินเดียออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ โดยมีการรวมตวั กนั เพอ่ื เจรจาต่อรอง ซ่ึงส่วนใหญ่จะเป็นการเจรจาทางการคา้ โดยเกี่ยวขอ้ งกบั การยกเวน้ ยกเลิก หรือลดภาษีระหวา่ งกลุ่มประเทศคูค่ า้ ประชาคมอาเซียน มีประเทศสมาชิกท้งั หมด 10 ประเทศ ไดแ้ ก่ บรูไนดารุสซาลาม กมั พชู า อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พมา่ ฟิ ลิปปิ นส์ สิงคโปร์ ไทย และเวยี ดนาม คาํ ขวญั ของ ASEAN คือ One Vision, One Identity, One Community (หนึง่วสิ ยั ทศั น์ หน่ึง เอกลกั ษณ์ หน่ึงประชาคม) ประชาคมอาเซียน มคี วามร่วมมือ ๓ ด้าน หรือ ๓ เสาหลกั (pillars) คือ เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
สนธิสญั ญาความสามคั คีและความร่วมมือในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ไดม้ ีการสรุป แนวทางของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตไ้ วจ้ านวน ๖ ขอ้ ดงั น้ี ๑) ใหค้ วามเคารพแก่เอกราช อาํ นาจอธิปไตย ความเทา่ เทียม บูรณภาพแห่งดินแดนและเอกลกั ษณ์ ของชาติสมาชิกท้งั หมด ๒) รัฐสมาชิกแตล่ ะรัฐมีสิทธิท่ีจะปลอดจากการแทรกแซงจากภายนอก การรุกรานดินแดนและ การบงั คบั ข่เู ข็ญ ๓) จะไม่เขา้ ไปยงุ่ เก่ียวกบั กิจการภายในของรัฐสมาชิกอื่น ๆ ๔) ยอมรับในความแตกต่างระหวา่ งกนั หรือแกป้ ัญหาระหวา่ งกนั อยา่ งสันติ ๕) ประณามหรือไมย่ อมรับการคุกคามหรือการใชก้ าํ ลงั ๖) ใหค้ วามร่วมมือระหวา่ งกนั อยา่ งมีประสิทธิภาพ ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียน (ASEAN Economic Community – AEC) ๑. วตั ถุประสงค์ เพ่อื ที่จะใหภ้ ูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตม้ ีความมนั่ คง มง่ั คง่ั และสามารถ แขง่ ขนั กบั ภูมิภาคอื่นๆ ได้ โดย เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
•มุ่งใหเ้ กิดการไหลเวียนอยา่ งเสรีของสินคา้ การบริการ การลงทุน เงินทุน การพฒั นาทางเศรษฐกิจ และการลดปัญหาความยากจนและความเหลื่อมลา้ ทางสงั คม • มุ่งที่จะจดั ต้งั ใหอ้ าเซียนเป็นตลาดเดียวและเป็นฐานการผลิต (single market and production base) โดยจะริเริ่มกลไกและมาตรการใหม่ๆ ในการปฏิบตั ิตามขอ้ ริเร่ิมทางเศรษฐกิจที่มีอยแู่ ลว้ •ความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียน (กมั พูชา ลาว พม่า และ เวยี ดนาม หรือ CLMV) เพ่ือลดช่องวา่ งของระดบั การพฒั นา และช่วยใหป้ ระเทศเหล่าน้ีเขา้ ร่วมใน กระบวนการรวมตวั ทางเศรษฐกิจของอาเซียน • ส่งเสริมความร่วมมือในนโยบายการเงินและเศรษฐกิจมหภาค ตลาดการเงินและตลาดเงินทุน การประกนั ภยั และภาษีอากร การพฒั นาโครงสร้างพ้นื ฐานและการคมนาคมกรอบความร่วมมือดา้ น กฎหมาย การพฒั นาความร่วมมือดา้ นการเกษตร พลงั งาน การท่องเท่ียวการพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ โดย การยกระดบั การศึกษาและการพฒั นาฝีมือ ๒. กลุ่มสินคา้ และบริการนาํ ร่องท่ีสาํ คญั ที่จะเกิดการรวมกลุ่มกนั คือ สินคา้ เกษตร /สินคา้ ประมง / ผลิตภณั ฑไ์ ม้ / ผลิตภณั ฑย์ าง / สิ่งทอ / ยานยนต์ /อิเลก็ ทรอนิกส์ / เทคโนโลยสี ารสนเทศ (e-ASEAN) / การบริการดา้ นสุขภาพ, ทอ่ งเที่ยวและการขนส่งทางอากาศ (การบิน) กาํ หนดใหป้ ี พ.ศ. 2558 เป็นปี ท่ีเริ่ม รวมตวั กนั อยา่ งเป็ นทางการ โดยผอ่ นปรนใหก้ บั ประเทศ ลาวกมั พูชา พม่า และเวยี ดนาม ** ประเทศไทยไดร้ ับมอบหมายใหท้ าํ Roadmap ทางดา้ นท่องเท่ียวและการขนส่งทาง อากาศ (การบิน) บทบาทในการต้งั รับในการเขา้ เป็นสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของประเทศไทย ไดแ้ ก่ •ขา้ ราชการเกือบทุกกระทรวง ทบวง กรม จะตอ้ งเกี่ยวขอ้ งกบั เรื่องของอาเซียนมากยง่ิ ข้ึน จึงตอ้ งมี การปรับตวั เพอ่ื ใหท้ นั กบั ประเทศอาเซียนอ่ืน ๆ •ระบบราชการไทยตอ้ งทางานใหท้ นั กบั ระบบราชการของประเทศอาเซียนอื่นๆโดยตอ้ งมีความรู้ เพิม่ เติม และพ้นื ฐานการศึกษาความรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะในการปฏิบตั ิงานของขา้ ราชการตอ้ งมี มาตรฐานเพยี งพอ •การกระจายความรู้พ้นื ฐานเรื่องอาเซียนมากข้ึน ซ่ึงรวมถึงขอ้ ตกลงท่ีสาํ คญั ๆรวมท้งั วถิ ีทางของ อาเซียน หรือ ASEAN way • การศึกษาและใหค้ วามรู้เก่ียวกบั ประเทศเพื่อนบา้ น และประเทศสมาชิกอาเซียนควรมีมากข้ึน • การศึกษาและเรียนรู้ภาษาประเทศเพ่ือนบา้ นมากข้ึน • การปรับเปลี่ยนทศั นคติ และ mentality ต่อประเทศเพื่อนบา้ นใหเ้ ป็นเชิงบวกมากข้ึน • การสร้างคนรุ่นใหม่ท่ีใหค้ วามสาคญั กบั ประเทศเพ่ือนบา้ น พร้อมมองประเทศเพ่อื นบา้ นในเชิง บวก ไมใ่ ช่ศตั รู • การศึกษาและเรียนรู้ภาษาองั กฤษในฐานะภาษากลางของอาเซียน • ภาคราชการไทยตอ้ งรีบปรับปรุงประสิทธิภาพ เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
• การเพม่ิ จาํ นวนขา้ ราชการท่ีมีความรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะที่จาํ เป็นในการปฏิบตั ิงานที่เกี่ยวขอ้ ง กบั ประชาคมอาเซียน • การพฒั นาและจดั ฝึกอบรมขา้ ราชการในเร่ืองเกี่ยวกบั ประชาคมอาเซียนใหเ้ ป็นระบบ • การเพม่ิ จาํ นวนและเครือขา่ ยวทิ ยากรท่ีสามารถใหค้ วามรู้ในเรื่องอาเซียน • การเพ่มิ ทกั ษะความสามารถในการส่ือสาร และทกั ษะในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ • การตอ้ งมีการปรับทศั นคติของขา้ ราชการใหม้ องอาเซียนในเชิงบวก • การพฒั นาขา้ ราชการใหม้ ีทกั ษะ สมรรถนะ และทศั นคติที่เป็นสากล • การที่ขา้ ราชการตอ้ งมีความรู้พ้นื ฐานเกี่ยวกบั นโยบายตา่ งประเทศของไทย เพ่ือสามารถเชื่อมโยง ถึงความสาํ คญั ของประชาคมอาเซียนต่อไทยได้ • การเพม่ิ ทกั ษะความสามารถในการส่ือสาร และทกั ษะในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ • การสร้างทกั ษะการเจรจา ต่อรอง และกระบวนการทางการทูต • การมีทกั ษะเฉพาะทาง เฉพาะตาํ แหน่งท่ีเชี่ยวชาญ • การที่ขา้ ราชการมีความรู้เกี่ยวกบั การทางานขา้ มวฒั นธรรม (Cross-cultural Management) • การประสานงานระหวา่ งหน่วยงานต่างๆ ภายในประเทศอยา่ งมียทุ ธศาสตร์ และบูรณาการ • การจดั ต้งั หน่วยงานท่ีรับผดิ ชอบเร่ืองอาเซียนโดยตรงในกระทรวงตา่ งๆ บทบาทใน เชิงรุก ในการเข้าเป็ นสมาชิกประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียนของประเทศไทย ได้แก่ • การผลกั ดนั และเขา้ ไปมีส่วนร่วมในการจดั ต้งั ประชาคมอาเซียน เพื่อช่วยทาํ ใหไ้ ทยกลบั มามีบทบาท นาํ ในอาเซียนอีกคร้ัง • การที่ภาคราชการไทยเขา้ ไปมีบทบาทในการจดั ต้งั ประชาคมการเมืองและความมน่ั คงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสงั คมและวฒั นธรรมอาเซียน • การผลกั ดนั ใหอ้ าเซียนเป็นประชาคมท่ีมีประชาชนเป็ นศูนยก์ ลางอยา่ งแทจ้ ริง สรุปความรู้ทวั่ ไปเกยี่ วกบั ASEAN 1. ASEAN ยอ่ มาจากอะไร ตอบ Association of Southeast Asian Nations หรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ 2. อาเซียนเร่ิมก่อต้งั คร้ังแรกประกอบดว้ ยสมาชิกท้งั หมดกี่ประเทศ ประเทศใดบา้ ง ตอบ มี 5 ประเทศ ไดแ้ ก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิ ลิปปิ นส์ และสิงคโปร์ 3. ปัจจุบนั อาเซียน ประกอบดว้ ยประเทศใดบา้ ง ตอบ บรูไนดารุสซาลาม กมั พชู า ฟิ ลิปปิ นส์ อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พมา่ สิงคโปร์ ไทย เวยี ดนาม 4. คาํ ขวญั อาเซียน มีวา่ อยา่ งไร ตอบ หน่ึงวสิ ัยทศั น์, หน่ึงอตั ลกั ษณ์, หน่ึงประชาคม (One Vision, One Identity, One Community) เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
5. ใครคือเลขาธิการอาเซียนคนปัจจุบนั (2555) ตอบ ดร. สุรินทร์ พศิ สุวรรณ 6. สัญลกั ษณ์อาเซียนสื่อความหมายใดบา้ ง ตอบ รูปรวงขา้ วสีเหลืองบนพ้ืนสีแดงลอ้ มรอบดว้ ยวงกลมวขี าวและสีน้าํ เงินรวงขา้ ว 10 ตน้ มดั รวมกนั ไว้ หมายถึง ประเทศสมาชิกรวมกนั เพอื่ มิตรภาพและความเป็นน้าํ หน่ึงในเดียวกนั สีน้าํ เงิน หมายถึง สันติภาพและความมน่ั คง สีแดง หมายถึง ความกลา้ หาญ และ ความกา้ วหนา้ สีขาว หมายถึง ความบริสุทธ์ิ สีเหลือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง 7. ประชาคมอาเซียน 3 เสาหลกั ประกอบดว้ ยความร่วมมือดา้ นใดบา้ ง ตอบ 1. ประชาคมการเมืองและความมนั่ คงอาเซียน (ASEAN Political-Security Community: APSC) 2. ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) 3. ประชาคมสงั คมและวฒั นธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community: ASCC) 8. สาํ นกั เลขาธิการอาเซียน (ASEAN Secretariat) ต้งั อยทู่ ่ีใด ตอบ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย 9. อาเซียนต้งั เป้าหมายที่บรรลุประชาคมอาเซียนโดยสมบูรณ์ในปี ใด ตอบ ปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) 10. กฎบตั รอาเซียน เริ่มใชเ้ มื่อวนั ที่เทา่ ใด ตอบ 16 ธนั วาคม พ.ศ. 2551 11. ปฏิญญากรุงเทพ เกิดข้ึนเม่ือวนั ท่ีเท่าไร ตอบ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2510 12. ภาษาราชการของอาเซียน คือ ภาษาใด ตอบ ภาษาองั กฤษ 13. เพลงอาเซียน มีชื่อวา่ อะไร ตอบ เพลง The ASEAN Way 14. อาเซียน+3 ประกอบดว้ ยประเทศใดบา้ ง ตอบ กลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศ รวมประเทศ จีน เกาหลีใต้ และ ญ่ีป่ ุน 15.อาเซียน+6 ประกอบดว้ ยประเทศใดบา้ ง เปิ ดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ตอบ กลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศ กลุ่มประเทศ+3 และประเทศออสเตรเลีย อินเดีย และ นิวซีแลนด์ 16. กฎบตั รอาเซียน (ASEAN Charter) คืออะไร และมีความสาํ คญั อยา่ งไร ตอบ กฎบตั รอาเซียน (ASEAN Charter) คือ ธรรมนูญอาเซียนท่ีจะมีการวางกรอบของ กฎหมายและโครงสร้างองคก์ รเพอ่ื เพ่มิ ประสิทธิภาพของอาเซียนในการขบั เคลื่อนเพือ่ การรวมตวั เป็ นประชาคมอาเซียนภายในปี 2015 (พ.ศ.2558) เพ่ือให้อาเซียนเป็ นองคก์ ร ระหวา่ งรัฐบาลในภูมิภาคท่ีมีประสิทธิภาพมีประชาชนเป็ นศูนยก์ ลางและเคารพในกติกา การทาํ งานระหวา่ งกนั มากยง่ิ ข้ึน 17.ประชาคมอาเซียนดา้ นการเมืองและความมน่ั คง (ASEAN Political Security Community) ตอบ อาเซียนมุ่งส่งเสริมความร่วมมือในดา้ นการเมืองและความมน่ั คงเพอ่ื เสริมสร้างและธาํ รง ไวซ้ ่ึงสันติภาพและความมน่ั คงของภูมิภาค เพ่ือใหป้ ระเทศในภูมิภาคอยรู่ ่วมกนั อยา่ ง สนั ติสุข และสามารถแกไ้ ขปัญหาและความขดั แยง้ โดยสันติวธิ ี 18. ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community) ตอบ อาเซียนจะรวมตวั เป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2553 โดยมีเป้าหมายให้อาเซียนมี ตลาดและฐานการผลิตเดียวกนั และมีการเคลื่อนยา้ ยสินคา้ บริการ การลงทุน เงินทุน และ แรงงานมีฝีมืออยา่ งเสรี 19. ประชาคมสังคมและวฒั นธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community) ตอบ อาเซียนมุง่ หวงั ประโยชนจ์ ากการรวมตวั กนั เพื่อทาํ ใหป้ ระชาชนมีการอยดู่ ีกินดี ปราศจาก โรคภยั ไขเ้ จบ็ มีส่ิงแวดลอ้ มท่ีดีและมีความรู้สึกเป็นอนั หน่ึงอนั เดียวกนั โดยมีความ ร่วมมือเฉพาะดา้ น (Functional cooperation)ภายใตส้ ังคมและวฒั นธรรม ท่ีครอบคลุมใน หลายดา้ น ไดแ้ ก่ เยาวชน การศึกษาและการพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ สิทธิมนุษยชน สาธารณสุข วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่ิงแวดลอ้ ม สตรี แรงงาน การขจดั ความยากจน สวสั ดิการสงั คมและการพฒั นา วฒั นธรรมและสารนิเทศ กิจการพลเรือน การตรวจคน เขา้ เมืองและกงสุล ยาเสพติด การจดั การภยั พิบตั ิ โดยมีคณะทาํ งานอาเซียนรับผิดชอบ การดาํ เนินความร่วมมือในแต่ละดา้ น 20. ยทุ ธศาสตร์การกา้ วไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน มีจาํ นวนกี่ขอ้ อะไรบา้ ง ตอบ 4 ขอ้ ไดแ้ ก่ 1. การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกนั 2.การเป็นภูมิภาคที่มีขีด ความสามารถในการแข่งขนั สูง 3. การเป็นภูมิภาคท่ีมีการพฒั นาทางเศรษฐกิจท่ีเท่าเทียมกนั และ 4. การเป็นภูมิภาคที่มีการบูรณาการเขา้ กบั เศรษฐกิจโลก เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
21. ยทุ ธศาสตร์สาํ คญั ของการจดั ต้งั ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนซ่ึงจะทาํ ใหอ้ าเซียนมีความสามารถในการ แขง่ ขนั สูงข้ึน คือ ตอบ การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกนั 22. การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกนั ของอาเซียน มี องคป์ ระกอบหลกั กี่อยา่ ง อะไรบา้ ง ตอบ 5 อยา่ ง คือ (1) การเคลื่อนยา้ ยสินคา้ เสรี (2) การเคล่ือนยา้ ยบริการเสรี (3) การเคลื่อนยา้ ยการ ลงทุนเสรี (4) การเคลื่อนยา้ ยเงินทุนเสรีข้ึน และ (5) การเคล่ือนยา้ ยแรงงานฝีมือเสรี 23. อาเซียนไดก้ าํ หนด 12 สาขาอุตสาหกรรมสาํ คญั ลาํ ดบั แรกอยภู่ ายใตต้ ลาดและฐานการผลิตเดียวกนั ของอาเซียน ไดแ้ ก่ ตอบ เกษตร ประมง ผลิตภณั ฑย์ าง ผลิตภณั ฑไ์ ม้ สิ่งทอและเคร่ืองนุ่งห่ม อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ การขนส่งทางอากาศ สุขภาพ e-ASEAN ทอ่ งเที่ยว และโลจิสติกส์ รวมท้งั ความ ร่วมมือในสาขาอาหาร เกษตรและป่ าไม้ 24. การเป็นตลาดสินคา้ และบริการเดียว มีประโยชน์อยา่ งไร ตอบ ช่วยสนบั สนุนการพฒั นาเครือขา่ ยการผลิตในภูมิภาค และเสริมสร้างศกั ยภาพของอาเซียนใน การเป็นศูนยก์ ลางการผลิตของโลก และเป็นส่วนหน่ึงของห่วงโซ่อุปทานโลกโดยประเทศสมาชิกได้ ร่วมกนั ดาํ เนินมาตรการตา่ ง ๆ ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถแข่งขนั ของอาเซียน ไดแ้ ก่ ยกเลิกภาษี ศุลกากรใหห้ มดไป ทยอยยกเลิกอุปสรรคทางการคา้ ท่ีมิใช่ภาษี ปรับประสานพธิ ีการดา้ นศุลกากรให้ เป็นมาตรฐานเดียวกนั และง่ายข้ึน ซ่ึงจะช่วยลดตน้ ทุนทางธุรกรรม เคล่ือนยา้ ยแรงงานฝี มือเสรี นกั ลงทุนอาเซียน สามารถลงทุนไดอ้ ยา่ งเสรีในสาขาอุตสาหกรรมและบริการที่ประเทศสมาชิกอาเซียน เปิ ดให้ เป็นตน้ 25. เป้าหมายสาํ คญั ของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน คืออะไร ตอบ การสร้างภูมิภาคที่มีความสามารถในการแข่งขนั สูง มีความเจริญรุ่งเรือง และมีเสถียรภาพทาง เศรษฐกิจ 26. ภูมิภาคท่ีมีความสามารถในการแข่งขนั มี องคป์ ระกอบหลกั ก่ีอยา่ ง อะไรบา้ ง ตอบ 6 อยา่ ง ไดแ้ ก่ (1) นโยบายการแข่งขนั (2) การคุม้ ครองผบู้ ริโภค (3) สิทธิในทรัพยส์ ินทาง ปัญญา (IPR) (4) การพฒั นาโครงสร้างพ้นื ฐาน (5) มาตรการดา้ นภาษี (6) พาณิชยอ์ ิเล็กทรอนิกส์ 27. การพฒั นาทางเศรษฐกิจที่เทา่ เทียมกนั มี องคป์ ระกอบก่ีอยา่ ง อะไรบา้ ง ตอบ 2 อยา่ ง ไดแ้ ก่ (1) การพฒั นาวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (SME) (2) ความริเริ่มใน การรวมกลุ่มของอาเซียน (Initiatives for ASEAN Integration: IAI) 28. อาเซียนบูรณาการเขา้ กบั เศรษฐกิจโลก โดยดาํ เนิน 2 มาตรการคืออะไรบา้ ง ตอบ (1) การจดั ทาํ เขตการคา้ เสรี (FTA) และความเป็นหุน้ ส่วนทางเศรษฐกิจอยา่ งใกลช้ ิด (CEP)กบั ประเทศนอกอาเซียน (2) การมีส่วนร่วมในเครือขา่ ยห่วงโซ่อุปทานโลก 29. วตั ถุประสงคห์ ลกั ของการก่อต้งั อาเซียนคืออะไร ตอบ - ส่งเสริมการพฒั นาเศรษฐกิจ สงั คม และวฒั นธรรมในภูมิภาค เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
- รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมน่ั คงในภูมิภาค - ใชเ้ ป็นเวทีแกไ้ ขปัญหาความขดั แยง้ ภายในภูมิภาค 30. อาเซียนไดจ้ ดั ทาํ แผนงานเชิงบูรณาการดา้ นเศรษฐกิจโดยมีเป้าหมายท่ีจะส่งเสริมใหอ้ าเซียนมี คุณลกั ษณะที่สาํ คญั อยา่ งไร ตอบ 1.การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกนั มีการเคล่ือนยา้ ย บริการ การลงทุนและ แรงงานมีฝีมืออยา่ งเสรี และเงินทุนอยา่ งเสรีมากข้ึน รวมท้งั การส่งเสริมการรวมกลุ่มสาขา สาํ คญั ของอาเซียนใหเ้ ป็ นรูปธรรม 2. การเป็นภูมิภาคที่มีขีดความสามารถในการแข่งขนั สูง มีการประสานนโยบายท่ีจะ ส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ เช่น นโยบายการแขง่ ขนั การคุม้ ครองผบู้ ริโภค สิทธิใน ทรัพยส์ ินทางปัญญา พาณิชยอ์ ิเล็กทรอนิกส์ และนโยบายภาษี รวมถึงการพฒั นาโครงสร้าง พ้นื ฐานดา้ นการขนส่ง การเงิน เทคโนโลยสี ารสนเทศ และพลงั งาน 3. การเป็นภูมิภาคท่ีมีการพฒั นาเศรษฐกิจที่เทา่ เทียมกนั ส่งเสริมการพฒั นาและการ เสริมสร้างขีดความสามารถในการแขง่ ขนั ของ SME และการลดช่องวา่ งการพฒั นาทางเศรษฐกิจ ระหวา่ งประเทศสมาชิกอาเซียนผา่ นโครงการตา่ ง ๆ เช่น โครงการริเร่ิมเพื่อการรวมกลุ่มของ อาเซียน (Initiative for ASEAN Integration : IAI) 4. การเป็นภูมิภาคที่บูรณาการเขา้ กบั เศรษฐกิจโลก เนน้ การปรับประสานนโยบาย เศรษฐกิจของอาเซียนกบั ประเทศภายนอกภูมิภาค เพอื่ ใหอ้ าเซียนมีทา่ ทีร่วมกนั อยา่ งชดั เจน เช่น การจดั ทาํ เขตการคา้ เสรีของอาเซียนกบั ประเทศคูเ่ จรจาต่าง ๆ เป็นตน้ รวมท้งั การส่งเสริมการ สร้างเครือขา่ ยในดา้ นการผลิต/จาํ หน่ายภายในภูมิภาคใหเ้ ช่ือมโยงกบั เศรษฐกิจโลก 31. ณ ปัจจุบนั อาเซียนไดด้ าํ เนินงานตามแผนงานการจดั ต้งั AEC มีความคืบหนา้ ท่ีสาํ คญั โดยเฉพาะเรื่อง ใด ตอบ การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกนั 32. จากขอ้ 31 ความคืบหนา้ ท่ีสาํ คญั ไดแ้ ก่ ตอบ - การเคลื่อนยา้ ยสินคา้ อยา่ งเสรี - การเคลื่อนยา้ ยบริการอยา่ งเสรี - การเคล่ือนยา้ ยการลงทุนอยา่ งเสรี - การเคลื่อนยา้ ยเงินทุนอยา่ งเสรีมากข้ึน - การเคล่ือนยา้ ยแรงงานฝีมืออยา่ งเสรี 33. ASEAN Trade Facilitation Framework คืออะไร ตอบ เป็นกรอบการดาํ เนินงานดา้ นการอาํ นวยความสะถดวกทางการคา้ รวมถึงแผนงานเพ่อื กาํ หนด แนวทางการแกไ้ ขปัญหาอุปสรรคทางการคา้ ท่ีมิใช่ภาษี ไดแ้ ก่ พธิ ีการศุลกากร กระบวนการทาบ การคา้ มาตรฐานและการรับรอง มาตรการสุขอนามยั และสุขอนามยั พืช 34. เป้าหมายการเปิ ดเสรีสาขาบริการสาํ คญั 4 สาขา ไดแ้ ก่ ตอบ ท่องเท่ียว ICT สุขภาพ และสาขาการบิน ภายในปี 2553 (ค.ศ. 2010) ส่วนสาขาโลจิสติกส์ ภายในปี 2556 (2013) สาํ หรับสาขาบริการอ่ืน ๆ ไดก้ าํ หนดเป้าหมายไวภ้ ายในปี 2558 (ค.ศ. 2015) เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
35. ปัจจุบนั การจดั ทาํ ขอ้ ผกู พนั การเปิ ดตลาดการคา้ บริการ เป็นชุดท่ีเท่าใด ตอบ ชุดท่ี 8 โดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนไดล้ งนามพธิ ีสารเพอ่ื อนุมตั ิขอ้ ผกู พนั ชุดที่ 8 ภายใต้ ASEAN Framework Agreement on Services ( AFAS ) ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน คร้ังท่ี 17 และการประชุมอื่น ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งเม่ือวนั ท่ี 28 ตุลาคม 2553 ณ ประเทศเวยี ดนาม 36. การเคลื่อนยา้ ยการลงทุนอยา่ งเสรี มีสาระสาํ คญั 4 ดา้ น คืออะไร ตอบ เปิ ดเสรี การส่งเสริม การอาํ นวยความสะดวก และการคุม้ ครองการลงทุน โดยครอบคลุมท้งั การลงทุนทางตรง (Foreign Direct Investment FDI) และการลงทุนในหลกั ทรัพย์ (Portfolio Investment ) 37. ปัจจุบนั สมาชิกอาเซียนจาํ นวนก่ีประเทศท่ีไดใ้ หส้ ตั ยาบนั ความตกลงดา้ นการลงทุนอาเซียน (ASEAN Comprehensive Agreement on Investment : ACIA) ตอบ 8 ประเทศ 38. ประเทศใดไมไ่ ดใ้ หส้ ตั ยาบนั ความตกลงดา้ นการลงทุนอาเซียน (ASEAN Comprehensive Agreement on Investment : ACIA) ตอบ อินโดนีเซีย และไทย 39. การเคล่ือนยา้ ยเงินทุนอยา่ งเสรีมากข้ึน ดาํ เนินงานตามแผนงานการรวมกลุ่มทางการเงินและการคลงั ของอาเซียน มีสาระสาํ คญั 3 ดา้ น คือ ตอบ 1. การเปิ ดเสรีบริการทางการเงิน (Financial Liberalization) เจรจาทาํ ขอ้ ผกู พนั การเปิ ดตลาด บริการทางการเงินไปแลว้ 5 รอบ 2. การเปิ ดเสรีบญั ชีทุน (Capital Account Liberalization) มีการผอ่ นปรนขอ้ จาํ กดั ในการ เคล่ือนยา้ ยเงินทุน รวมถึงบญั ชีเดินสะพดั และการลงทุนในหลกั ทรัพยต์ ามความเหมาะสม 3. การพฒั นาตลาดทุน (Capital Market Development) เพ่อื พฒั นาโครงสร้างพ้นื ฐานและ เชื่อมโยงตลาดทุนในอาเซียน 40. AEC Blueprint คืออะไร ตอบ พมิ พเ์ ขียวเพ่อื จดั ต้งั ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 41. เพราะเหตุใดจึงตอ้ งมีการจดั ทาํ AEC Blueprint ตอบ - เพ่ือกาํ หนดทิศทางการดาํ เนินงานในดา้ นเศรษฐกิจใหช้ ดั เจนตามกรอบระยะเวลาท่ีกาํ หนด จนบรรลุเป้าหมาย AEC ในปี ค.ศ.2015 - เพ่ือสร้างพนั ธสัญญาระหวา่ งประเทศสมาชิกที่จะดาํ เนินการไปสู่เป้าหมายดงั กล่าวร่วมกนั องคป์ ระกอบสาํ คญั ของ AEC Blueprint 42. ปัจจุบนั การประชุมสุดยอดอาเซียน ในปี 2555 เป็นคร้ังท่ีเท่าใด ตอบ คร้ังท่ี 20 43. การประชุมสุดยอดอาเซียน คร้ังท่ี 20 จดั ข้ึนที่ใด เปิ ดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
ตอบ เมืองพนมเปญ ประเทศกมั พูชา 44. สัญลกั ษณ์อาเซียน คือ ตอบ ตน้ ขา้ วสีเหลือง 10 ตน้ มดั รวมกนั ไว้ หมายถึง ประเทศสมาชิกรวมกนั เพ่ือมิตรภาพและความ เป็นน้าํ หน่ึงใจเดียวกนั 45. คาํ ขวญั ของอาเซี่ยน คือ ตอบ \"One Vision, One Identity, One Community\" \"หน่ึงวสิ ัยทศั น์ หน่ึงเอกลกั ษณ์ หน่ึงประชาคม \" 46. ความเชื่อมโยงของ AEC Scorecard กบั กฎบตั รอาเซียน คือ ตอบ กฎบตั รอาเซียน เป็นเสมือนธรรมนูญของอาเซียนซ่ึงวางกฎเกณฑส์ าํ หรับประชาคมอาเซียน ท่ี ประกอบดว้ ย 3 เสาหลกั ไดแ้ ก่ ความมน่ั คง เศรษฐกิจ สังคมและวฒั นธรรม โดยในส่วนของเสา เศรษฐกิจจะมี AEC Scorecard เป็นแผนงานที่อาเซียนตอ้ งดาํ เนินการเพื่อใหบ้ รรลุการเป็นประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 47. แผนปฎิบตั ิการของประเทศไทยสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จดั ข้นั ระหวา่ งปี พ.ศ.ใด ตอบ พ.ศ. 2555-2558 48. เป้าหมายของการเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกนั ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง ตอบ 1. การยกเลิกภาษี 2. การขจดั มาตรการท่ีไมใ่ ช่ภาษี 3. กฎวา่ ดว้ ยแหล่งกาํ เนิดสินคา้ 4. การอานวยความสะดวกทางการคา้ 5. การรวมกลุ่มทางศุลกากร 6. การอานวยความสะดวกดา้ น ศุลกากรดว้ ยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของอาเซียน 7. มาตรฐานและอุปสรรคทางเทคนิค 8. การเปิ ดเสรีการคา้ บริการ 9. การลงทุนภายใตค้ วามตกลง ACIA 10. การขยายการเปิ ดเสรีตลาดทุน 11. การเคลื่อนยา้ ยแรงงานฝี มืออยา่ งเสรี (เฉพาะประเดน็ การอานวยความสะดวกและความร่วมมือใน การพฒั นาและยกระดบั แรงงานฝีมือ) 12. สาขาสาํ คญั ในการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ 49. การขจดั มาตรการท่ีไม่ใช่ภาษี มีวตั ถุประสงคอ์ ยา่ งไร ตอบ 1. สร้างความโปร่งใสระหวา่ งสมาชิกอาเซียนโดยดาเนินการตามแนวทางในพิธีสารวา่ ดว้ ย กระบวนการแจง้ และการจดั ต้งั กลไกการเฝ้าระวงั ที่มีประสิทธิภาพ (ใส่ช่ือพธิ ีสารภาษาองั กฤษ) 2. ป้องกนั มาตรการของไทยท่ีไม่สอดคลอ้ งกบั พนั ธกรณีซ่ึงอาจนาํ ไปสู่กรณีพิพาท 3. ป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาการใชม้ าตรการของสมาชิกอ่ืนท่ีเป็นอุปสรรคต่อการคา้ ของไทย 50. เป้าหมายของการไปสู่ภูมิภาคท่ีมีความสามารถในการแข่งขนั ไดแ้ ก่ ตอบ 1. นโยบายการแขง่ ขนั 2. การคุม้ ครองผบู้ ริโภค 3. การพฒั นาโครงสร้างพ้ืนฐาน 4. การขนส่งทางบก 5. การขนส่งทางนา้ และทางอากาศ 6. โครงสร้างพ้นื ฐานดา้ นขอ้ มูล (พฒั นาการเชื่อมโยงความเร็วสูง) 7. ความร่วมมือดา้ นพลงั งาน 8. ความร่วมมือดา้ นการทาํ เหมือง เปิ ดติวออนไลนแ์ ละติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
แร่ 9. การสนบั สนุนดา้ นการเงินแก่โครงการพฒั นาโครงสร้างพ้นื ฐานต่างๆ ภาษีอากร 10. พาณิชย์ อิเลก็ ทรอนิกส์ 51. เป้าหมายของการพฒั นาเศรษฐกิจอยา่ งเทา่ เทียมกนั ไดแ้ ก่ ตอบ 1. การพฒั นาวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม 2. ขอ้ ริเริ่มเพื่อการรวมตวั อาเซียน 52. เป้าหมายของการบูรณาการเขา้ กบั เศรษฐกิจโลก ไดแ้ ก่ ตอบ 1. แนวทางการสร้างความเป็นหน่ึงเดียวกนั ต่อปฏิสมั พนั ธ์ดา้ นเศรษฐกิจกบั ภายนอก 2. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในเครือข่ายอุปทานของโลก เปิ ดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
สรุป ข่าวเด่น สถานการณ์ปัจจุบัน ข่าวไทย และทว่ั โลก ใน ปี 2562 (อพั เดทเม่ือวนั ท่ี 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2562) **************************** คาขวัญวนั เดก็ ปี 2562 คาขวญั วนั เด็กปี 2562 โดยพลเอกประยทุ ธ์ จนั ทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไดม้ อบคาขวญั วนั เด็ก เป็นการ เขียนดว้ ยลายมือ มีขอ้ ความวา่ “เด็ก เยาวชน จติ อาสา ร่วมพัฒนาชาติ” นายกฯ มอบเพลง เพราะเธอคือประเทศไทย เป็ นของขวัญปี ใหม่ 2559 พล.อ. ประยทุ ธ์ จนั ทร์โอชา ปล่อยเพลง \"เพราะเธอคอื ประเทศไทย\" มอบเป็ นของขวญั ปี ใหม่ 2559 ใหแ้ ก่ประชาชน พล.อ. ประยทุ ธ์ จนั ทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิ ดเผยวา่ ไดแ้ ต่งเพลงเป็ นของขวญั ปี ใหม่ส่วนตวั ให้กบั ประชาชน โดยเพลงดงั กล่าวช่ือวา่ \"เพราะเธอคือประเทศไทย\" ซ่ึงตนไดใ้ ห้คนเอาไปเรียบเรียงให้ เพราะข้ึนแลว้ สาหรับเน้ือเพลงจะมีคาวา่ \"ฉัน\" ท่ีหมายถึงตน และยงั หมายถึงส่ืออีกดว้ ย เพราะทุกคนคือ หน่ึงเดียวท่ีตอ้ งเอาใจ เอาลมหายใจมาช่วยกนั ทาใหป้ ระเทศเดินหน้า โดยตนเขียนแลว้ ให้คนเอาไปเรียบ เรียงใหเ้ พราะข้นึ พล.อ.ประยทุ ธ์ ผเู้ ขยี นเน้ือเพลง กองดุริยางคท์ หารบก เรียบเรียงเน้ือรอ้ ง และ ขบั ร้องโดย จ.ส.ท.พงศธร พอจติ แห่งวงหสั ดนตรีกองดุริยางคก์ องทพั บก เปิดตวิ ออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอยี ดท่ี www.งานราชการไทย.com
เนื้อเพลง: เพราะเธอคือประเทศไทย ศลิ ปิ น: พงศธร พอจิต ชีวติ ที่เกิดมา เธอคือสิ่งท่ียดึ มนั่ ท้งั รักท้งั ผกู พนั ยง่ิ สิ่งใด เพราะเธอน้นั คือ ประเทศไทย จะไม่ยอมใหใ้ คร มาทาลาย ชีวติ ไม่จรี ัง แตแ่ ผน่ ดินตอ้ งยง่ั ยนื อยากเห็นเธอฟ้ืนคืน และสดใส ถา้ ตวั ฉนั เองยงั หายใจ จะยากเยน็ แคไ่ หน ก็ไม่ทอ้ แตม่ ีเพยี งสองมือ กบั หน่ึงลมหายใจ พลงั คงไม่พอจะสรา้ งฝันใหเ้ ป็ นไป แตห่ ากเราร่วมมือ ตอ่ เตมิ ลมหายใจ วนั ท่ีหวงั น้นั คงไม่ไกล เพอ่ื ประเทศไทยของทุกคน ชีวติ ไม่จีรงั แต่แผน่ ดินตอ้ งยง่ั ยนื อยากเห็นเธอฟ้ืนคืน และสดใส ถา้ ตวั ฉนั เองยงั หายใจ จะยากเยน็ แค่ไหน กไ็ ม่ทอ้ แต่มีเพยี งสองมือ กบั หน่ึงลมหายใจ พลงั คงไม่พอจะสรา้ งฝันใหเ้ ป็ นไป แตห่ ากเราร่วมมือ ตอ่ เตมิ ลมหายใจ วนั ที่หวงั น้นั คงไม่ไกล เพอื่ ประเทศไทยของทกุ คน ฉนั มีเพยี งสองมือ กบั หน่ึงลมหายใจ พลงั คงไม่พอจะสรา้ งฝันใหเ้ ป็ นไป แตห่ ากเราร่วมมือ ต่อเตมิ ลมหายใจ วนั ที่หวงั น้นั คงไม่ไกล เพอ่ื ประเทศไทยของทุกคน มีเพยี งสองมือ กบั หน่ึงลมหายใจ พลงั คงไม่พอจะสร้างฝันใหเ้ ป็นไป แตห่ ากเราร่วมมือ ตอ่ เติมลมหายใจ กา้ วสูค้ วามหวงั อนั ยงิ่ ใหญ่ จะคนื ความสุขใจใหท้ ุกคน เปิดติวออนไลน์และตวิ ทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
อทุ ยานราชภกั ด์ิ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานญุ าตให้ กองทพั บกจดั สร้าง \"พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษตั ริย์แห่งสยาม\" พร้อมจดั สร้างอุทยาน ประวตั ศิ าสตร์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั พระราชทานช่ือวา่ “อุทยานราชภกั ด์ิ\" ซ่ึงเป็นอุทยานท่สี ร้างข้นึ ดว้ ยความจงรักภกั ดีต่อพระมหากษตั ริย์ และเพอ่ื เป็นการเทิดทูนและประกาศเกียรตคิ ุณสมเด็จ พระมหากษตั ริยแ์ ห่งสยาม ๗ พระองค์ ไดแ้ ก่ ๑.พอ่ ขนุ รามคาแหง (สมยั กรุงสุโขทยั ) ๒.สมเด็จพระนเรศวร (สมยั กรุงศรีอยธุ ยา) ๓.สมเด็จพระนารายณ์ (สมยั กรุงศรีอยธุ ยา) ๔.สมเดจ็ พระเจา้ ตากสิน (สมยั กรุงธนบุรี) ๕.พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลก (รัชกาลท่ี 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) ๖.พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั (รชั กาลที่ 4 แห่งกรุงรตั นโกสินทร์) ๗.พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั (รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรตั นโกสินทร์) พื้นทแี่ ละกรอบแนวคดิ การจดั สร้าง กองทพั บก จะดาเนินการจดั สร้าง อุทยานราชภกั ด์ิ ภายในพ้ืนที่ของกองทพั บก อาเภอหัวหิน จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ โดยใช้พ้ืนที่ก่อสร้างรวมท้งั สิ้น ๒๒๒ ไร่เศษ ซ่ึงองคป์ ระกอบภาพรวมของ อุทยานราชภกั ด์ิ จะมีโครงสร้างหลกั ทสี่ าคญั จานวน ๓ ส่วนหลกั ประกอบดว้ ย ส่วนท่ี ๑ : พระบรมราชานุสาวรียส์ มเด็จพระบูรพกษตั ริย์ แห่งสยาม จานวน ๗ พระองค์ โดยน้อม ถวายพระเกียรติแด่พระมหากษตั ริยแ์ ต่ละยคุ สมยั ต้งั แต่สมยั กรุงสุโขทยั จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ช่ึงพระ นามแต่ละพระองคเ์ ป็ นที่ประจกั ษแ์ ก่ประชาชนท้งั ชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้แก่ พ่อขุนรามคาแหง มหาราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว ใชพ้ น้ื ที่ประมาณ ๕ ไร่ โดยรูปแบบของพระบรมราชานุสาวรีย์ จะจดั สร้างในลกั ษณะพระอิริยาบถทรงยนื ความสูงเฉลี่ยไม่เกิน ๑๓.๙ เมตร หล่อดว้ ยโลหะสาริดนอก ส่วนท่ี ๒ : ลานอเนกประสงค์ มีเน้ือท่ีประมาณ ๙๑ ไร่ ใชส้ าหรับกระทาพิธีท่ีสาคญั ของกองทพั และ รบั รองบคุ คลสาคญั จากต่างประเทศ ส่วนที่ ๓ : อาคารพิพธิ ภณั ฑ์ หรือห้องจดั แสดงนิทรรศการประวตั ิศาสตร์ โดยการคน้ ควา้ รวบรวม และจดั ทาพระราชประวตั ิและพระราชกรณียกิจท่สี าคญั ของบูรพกษตั ริยไ์ ทย ต้งั แต่สมยั กรุงสุโขทยั จนถึง สมยั กรุงรัตนโกสินทร์ โดยจะดาเนินการจดั สร้างบริเวณดา้ นล่างของฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ เปิดติวออนไลน์และตวิ ทางไปรษณีย์ รายละเอียดท่ี www.งานราชการไทย.com
พ้ืนที่ส่วนที่เหลือจานวน ๑๒๖ ไร่ จะเป็ นสภาพภูมิทัศน์โดยรอบ และการจัดสร้างระบบ สาธารณูปโภคเพอ่ื อานวยความสะดวก กรอบระยะเวลาดาเนนิ งาน ๑. การจดั สรา้ งพระบรมราชานุสาวรียส์ มเดจ็ พระบูรพกษตั ริยแ์ ห่งสยาม จานวน ๗ พระองค์ และ การก่อสร้างลานอเนกประสงค์ ต้งั แตเ่ ดือน พ.ย.๕๗-ส.ค.๕๘ รวมระยะเวลา ๑๐ เดือน ๒. การจดั ทานิทรรศการแสดงพระราชประวตั ิ และพระราชกรณียกิจของสมเดจ็ พระบูรพกษตั ริย์ ต้งั แตส่ มยั กรุงสุโขทยั จนถึงสมยั กรุงรตั นโกสินทร์ ภายในหอ้ งพพิ ธิ ภณั ฑ์ โดยเร่ิมต้งั แตเ่ ดือน ก.ย.๕๘ เป็น ตน้ ไป หรือภายหลงั จากการก่อสร้างฐานและพระบรมราชานุสาวรียเ์ สร็จเรียบร้อย อุทยานราชภกั ด์ิเปลี่ยนช่ือจากมูลนิธิราชภกั ด์ิ เป็ น มูลนิธิอุทยานราชภกั ด์ิ ในพระราชูปถมั ภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ช่ือยอ่ เป็ น “ร.ภ.” เปล่ียนคณะกรรมการใหม่ แต่ยงั มี บ๊ิกโด่ง หรือ พล.อ.อุดมเดช สีตบตุ ร เป็นประธาน มิสยูนิเวริ ์สไทยแลน 2019 การประกวดมิสยนู ิเวอร์สไทยแลนด์ 2019 รอบตดั สินเร่ิมข้นึ ในค่าวนั ท่ี 29 มิถุนายน 2562 ณ ธนั เดอร์ โดม เมืองทองธานี เซอร์ไพร์ซ คือ แก้ม วิชญาณี ศิลปิ นหญิง ที่ร่วมสร้างปรากฎการณ์สุดประทบั ใจสาหรับการประกวด รอบน้ี การประกวดไดท้ าการคดั เลือก 57 สาวงามสู่รอบ 20 คน 10 คน 5 คน และ 3 คนสุดทา้ ย ซ่ึงมีสาวงาม เพียงหน่ึงเดียวท่ีไดร้ ับเลือกใหเ้ ป็ นท่ีสุดแห่ง Empowering Beauty คือ ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น (หมายเลข 19) ควา้ ตาแหน่ง Miss Universe Thailand 2019 สวมมงกุฎที่สุดแห่งความเลอค่าที่พเิ ศษยงิ่ กวา่ คร้ังใดที่เคย มีมา ไดร้ ับเกียรติทาการออกแบบโดย คุณแคนด้ี มล. รจนาธร จิรประวตั ิ ณ สงขลา นกั จิวเวลรี่ดีไซนเ์ นอร์ ผคู้ ร่าหวอดในการออกแบบมานานกวา่ 30 ปี มิสยนู ิเวริ ์สไทยแลนด์ 2019 ไดแ้ ก่ หมายเลข 19 ฟ้าใส-ปวณี สุดา ดรูอ้ิน รองอนั ดบั 1 ไดแ้ ก่ หมายเลข 31 มิเรียม ศรพรหมมาศ รองอนั ดบั 2 ไดแ้ ก่ หมายเลข 3 เบลล่า-ธนชั พร บุญแสง ผเู้ ขา้ รอบ 3 คนสุดทา้ ย และตอบคาถามในคาถามเดียวกนั ไดแ้ ก่ หมายเลข 3 ธนชั พร บญุ แสง (เบลล่า) หมายเลข 31 มิเรียม ศรพรหมมาศ (มิเรียม) หมายเลข 19 ปวณี สุดา ดรูอิ้น (ฟ้าใส) ผูผ้ ่านเขา้ รอบ 5 คนสุดท้าย ที่ได้เขา้ รอบตอบคาถาม ไดแ้ ก่ หมายเลข 3 ธนัชพร บุญแสง (เบลล่า) หมายเลข 9 ภทั ราพร หวงั (เฟิ ร์ส) หมายเลข 19 ปวณี สุดา ดรูอ้ิน (ฟ้าใส) หมายเลข 31 มิเรียม ศรพรหม มาศ (มิเรียม) หมายเลข 22 คิม โดเชคาโลวา (คิมมี่) เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอยี ดท่ี www.งานราชการไทย.com
การประกาศผลสาวงามผผู้ า่ นเขา้ รอบ 10 คนสุดทา้ ยเดินอวดโฉมในชุดราตรี ไดแ้ ก่ หมายเลข 3 ธนัช พร บุญแสง (เบลล่า) หมายเลข 9 ภทั ราพร หวงั (เฟิร์ส) หมายเลข 10 ปทิตตา สนั ติวชิ ช์ (แพรว) หมายเลข 14 ชวลั ลกั ษณ์ องั เกอร์ (เกรซ) หมายเลข 18 เวธกา เพช็ รสุข (ปิ งปอง) หมายเลข 19 ปวีณสุดา ดรูอ้ิน (ฟ้า ใส) หมายเลข 21 กมลพร ทองพล (กิ๊ฟ) หมายเลข 22 คิม โดเชคาโลวา (คิมม่ี) หมายเลข 31 มิเรียม ศร พรหมมาศ (มิเรียม) หมายเลข 47 แพรววชั ร ชมิด (กวาง) มิสยูนิเวริ ์ส 2018 การประกวด Miss Universe จดั ข้ึนที่ ประเทศไทย ณ อิมแพค็ อารีน่า เมืองทองธานี โดยมีสาวงามท้งั 94 ประเทศ ร่วมชิงชยั ดว้ ยชุดประจาชาติ โดยมี \"นิ้ง โศภิดา กาญจนรินทร์\" มาในชุด \"ชุดชา้ งคู่แผ่นดิน\" หรือ \"Chang The icon of Siam\" มสิ ยูนิเวริ ์ส 2018 คือ Philippines Catriona Gray อายุ 26 ปี คว้ามงกฎุ มิสยูนิเวริ ์ส 2018 รองอนั ดบั 1 คอื South Africa รองอนั ดบั 2 คอื Venezuela ผเู้ ขา้ ประกวด ทผ่ี า่ นเขา้ รอบ 3 คนสุดทา้ ย ไดแ้ ก่ Philippines , South Africa , Venezuela ผเู้ ขา้ ประกวด ท่ีผา่ นเขา้ รอบ 5 คนสุดทา้ ย ไดแ้ ก่ Puerto Rico , Vietnam , Philippines , South Africa , Venezuela ผู้เข้าประกวด ท่ีผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ได้แก่ South Africa , Vietnam , Venezuela , , Philippines , Costa Rica , Curacao , Nepal , Canada , Thailand , Puerto Rico ผู้เข้าประกวด ที่ผ่านเข้ารอบ 20 คนสุดท้าย ได้แก่ South Africa , Philippines , Nepal , Vietnam , Thailand , Poland , Belgium , Great Britain , Hungary , Ireland , Curacao , Costa Rica , Canada , Puerto Rico , Jamaica , USA , Venezuela , Indonesia , Brazil , Australia นิ้ง โศภดิ า กาญจนรินทร์ ตวั แทนประกวดมิสยนู ิเวอร์ส 2018 ที่ประเทศไทย ณ อิมแพค็ อารีน่า เมืองทองธานี เขา้ รอบ 10 คนสุดทา้ ย เขา้ รอบลึก 10 คนสุดทา้ ย ไดเ้ ดินเฉิดฉายในชุดราตรีจาก \"Asava\" เป็นนางงามไทยทส่ี ร้างประวตั ิศาสตร์เขา้ รอบ 4 ปี ซอ้ น เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอยี ดท่ี www.งานราชการไทย.com
เปิดตวิ ออนไลน์และตวิ ทางไปรษณีย์ รายละเอยี ดท่ี www.งานราชการไทย.com
ฉายาตารวจประจาปี 2561 ลาดบั ท่ี 1 พล.ต.อ.จกั รทิพย์ ชยั จินดา ผบ.ตร. คานิยาม “ลูกผชู้ ายท่ีช่ือ แป๊ ะ” ลาดบั ท่ี 2 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ไดร้ บั ฉายา “ซานตา้ อวบ” ลาดบั ที่ 3 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกลุ รอง ผบ.ตร. ไดร้ ับฉายา “นายพล License” ลาดบั ที่ 4 พล.ต.อ.ดร.วริ ะชยั ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ไดร้ บั ฉายา “นายพล ลา้ นววิ ” ลาดบั ท่ี 5 พล.ต.ท.ดารงศกั ด์ิ กิตติประภสั ร์ ผชู้ ่วยผบู้ ญั ชาการตารวจแห่งชาติ ไดร้ ับฉายา “เด่น ปักกลด” ลาดบั ที่ 6 พล.ต.ท.สุวฒั น์ แจง้ ยอดสุข ผชู้ ่วยผบ.ตร. ไดร้ บั ฉายา “สวาทแคท ( S.W.A.T CAT)“ ลาดบั ที่ 7 พล.ต.ท.จติ ติ รอดบางยาง ผบู้ ญั ชาการตารวจภูธรภาค 2 ไดร้ ับฉายา “นายพล ตนี ตุก๊ แก” ลาดบั ท่ี 8 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หกั พาล ผบช.สตม. ไดร้ บั ฉายา “มือปราบดอกเบ้ียโหด” ลาดบั ท่ี 9 พล.ต.ต.สุทธิ พวงพกิ ลุ อดีต ผบู้ งั คบั การภูธรจงั หวดั กาญจนบุรี ไดร้ บั ฉายา “ผกู้ ารหวยเดง้ ” ลาดบั ท่ี 10 พล.ต.ท.ชินภทั ร สารสิน ผบู้ ญั ชาการตารวจปราบปรามยาเสพตดิ ไดร้ ับฉายา “บ๊กิ ป๋ อ สาย โหด” และสุดทา้ ยลาดบั ที่ 11 พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลกั บุญ รอง ผบช.น. ไดร้ ับฉายา “หลวงที่ถูกลืม” เปิดตวิ ออนไลน์และตวิ ทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
การระบาดของ Zika virus ไขซ้ ิกา (Zika Fever) เกิดจาการตดิ เช้ือไวรัสซิกา (Zika Virus-ZIKV) มียงุ ลายเป็นพาหะนาโรค ผไู้ ดร้ ับเช้ือจะมีอาการ ไขอ้ ่อนเพลีย ปวดศีรษะ กระสบั กระส่าย หนาวส่นั คล่ืนไสอ้ าเจียน ปวดหลงั และ ปวดขอ้ และปัจจุบนั ยงั ไม่มีวคั ซีนป้องกนั เฉพาะ ไวรัสซิกาเป็ นไวรัสท่ีมาสารพนั ธุกรรมชนิด อาร์เอ็นเอสายเด่ียว อย่ใู นตระกูลเฟลวิไวรัส (flavivirus) ซ่ึงมีลักษณะคลา้ ยคลึงกับ ไวรัสไขเ้ หลือง ไวรัสเดงกี ไวรัสเวสตไนล์ และไวรัสไข้สมอง อกั เสบ ไวรสั ซิกาถูกแยกเช้ือเป็นคร้ังแรกในปี พ.ศ. 2490 จากน้าเหลืองของลิง rhesus ท่ีใชใ้ นการศึกษา ไขเ้ หลืองในป่ าที่ช่ือวา่ ซิกา ประเทศยกู นั ดา และแยกเช้ือไดจ้ ากคนในปี พ.ศ. 2511 ที่ประเทศไนจีเรีย อาการของผตู้ ดิ เช้ือไวรสั ซิกา ไวรสั ซิกา มีระยะฟักตวั 4-7 วนั ผตู้ ดิ เช้ือน้นั จะมีอาการดงั น้ี 1.เป็ นไข้ 2.ปวดศรีษะรุนแรง,วงิ เวยี น 3.มีผน่ื แบบ maculopapular ข้ึนบริเวณลาตวั แขนขา 4.เยอื่ บตุ าอกั เสบ,ตาแดง 5.อาจจะมีอาการต่อมน้าเหลืองโตและอุจจาระร่วง การตรวจเพอื่ หาเช้ือไขซ้ ิกา ทางหอ้ งปฏิบตั ิการสามารถตรวจหาการตดิ เช้ือได้ 2 วธิ ีคอื การตรวจหาสารพนั ธุกรรมดว้ ยวธิ ีพีซีอาร์ โดยเป็ นการเก็บตวั อยา่ งน้าเหลืองอยา่ งเร็วท่ีสุด หลงั จากทผ่ี ปู้ ่ วยเริ่มมีอาการเจบ็ ป่ วย (ไม่เกิน 9 วนั หลงั มีอาการ) การตรวจหาแอนต้ีบอด้ีชนิดเอ็มที่จาเพาะต่อไวรสั ซิกาดว้ ยวธิ ีอิไลซ่า โดยเก็บตวั อยา่ ง 2 คร้ัง โดยคร้งั แรกเกบ็ ในวนั ท่เี ร่ิมมีอาการ และคร้ังทส่ี องน้นั จะห่างจากคร้งั แรก 2-3 สปั ดาห์ วธิ ีการรักษาโรคไขซ้ ิกา ปัจจุบนั ยงั ไม่มีวคั ซีนป้องกนั เฉพาะ การรกั ษาจะทาการรกั ษาตามอาการเพอ่ื บรรเทาความ เจบ็ ป่ วย เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
“มะกนั ”เรียกร้องปชช.คว่าบาตรเลกิ ซื้ออาหาร ทะเล“ไทย” ทางการสหรัฐฯเรียกร้องประชาชนชาวอเมริกัน คว่าบาตรเลิกซื้อ“อาหารทะเลของไทย”อ้างเกี่ยวพนั การ ใช้แรงงานทาส เจา้ หน้าท่ีทางการและกลุ่มเคล่ือนไหวดา้ นสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในสหรัฐอเมริกาไดอ้ อกมา เรียกร้องตอ่ ประชาชนชาวอเมริกนั ใหค้ วา่ บาตรเลิกซ้ืออาหารทะเลของไทยท้งั ปลาและกุง้ ท้งั หมด ที่มีการ นาเขา้ โดยบริษทั อาหารทะเลหลายแห่งของไทย โดยอา้ งเป็ นการสนับสนุนใชแ้ รงงานทาสของประเทศ ไทย ตามรายงานข่าวของสานักข่าวเอพี เผยวา่ การบงั คบั ใชแ้ รงงานทาสในกลุ่มษากมั การประมงของ ประเทศไทย ที่เป็ นการกระทาท่ีโหดรา้ ย ทารุณต่อเพื่อนมนุษยอ์ ยา่ งโจ่งแจง้ ซ่ึงชาวอเมริกนั ไม่สามารถที่ จะยอมรบั ในการกระทาดงั กล่าวของประเทศไทยได้ ที่บงั คบั ใชแ้ รงงานทาสอยา่ งกบั พวกเขาไม่ใช่คน ตอ้ ง ทางานหลงั ขดหลงั แข็งมาแกะกุง้ แกะปลานานถึง 16 ชว่ั โมงต่อวนั แต่กลบั ไดค้ า่ จา้ งเพียงเศษเส้ียว แถมยงั กกั ขงั ให้อยภู่ ายในโรงงานเป็นเดือนๆปี ๆ จากการสารวจของสานกั ข่าวเอพี ยงั บอกอีกวา่ ในหา้ งซุปเปอร์ มาร์เก็ตถูก 50 มลรัฐในสหรัฐอเมริกาพบผลิตภณั ฑ์ “กุง้ ” มาจากการใชแ้ รงงานทาส อยา่ งไรก็ตาม แมว้ า่ ผลการรายงานของสานกั ขา่ วเอพจี ะส่งผลใหก้ บั ผลิตภณั ฑอ์ าหารทะเลทน่ี าเขา้ จากไทยถูกมองในแง่ลบ แต่ก็ยงั มีอีกหลายบริษทั ในสหรัฐที่อย่างมน่ั ใจและไวว้ างใจในมาตรฐาน เช่น บริษทั เรด ล็อบสเตอร์ (Red Lobster) กบั ร้านอาหารดาร์เดน (Darden Restaurant) รวมท้งั ร้านอาหารและ บริษทั อื่นๆ ท่ีพวกเขาไดร้ ับประกนั จากบริษทั ผจู้ ดั ส่งอาหารทะเลของไทย หรือบริษทั ไทย ยเู นี่ยน (Thsi Union) ท่ีการันตีวา่ ผลิตภณั ฑ์ต่างๆ ของบริษทั ไม่ไดเ้ กิดจากการใชแ้ รงงานเด็กและกลุ่มแรงงานทาสแต่ อยา่ งใด โดยกระบวนการแปรรูปและการผลิตสินคา้ ท้งั หมดของบริษทั เป็ นไปอยา่ งถูกตอ้ งและยตุ ธิ รรม การใส่ รายได้และอาชีพลงในบัตรประชาชน หลังถูกวิพากษว์ ิจารณ์ในสงั คมเป็ นอยา่ งมาก กรณีแนวคิดการระบุอาชีพและรายได้ลงบนบตั ร ประจาตวั ประชาชน ล่าสุด พลเอก อนุพงษ์ เผา่ จนิ ดา รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ไดอ้ อกมาเผยถึง รายละเอียดแนวคิดดงั กล่าววา่ พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอ้ งการเพม่ิ ความสะดวกสบาย ให้แก่ประชาชนในการติดต่อหน่วยงานราชการ และเพ่ือใชใ้ นการบริหารจดั การขอ้ มูลอาชีพและรายได้ โดยจะมีการวางแผนการช่วยเหลือผมู้ ีรายไดน้ อ้ ย โดยใชข้ อ้ มูลดงั กล่าวเป็ นตวั ต้งั เนื่องจากท่ผี า่ นมายงั ไม่มี ฐานขอ้ มูลรายไดข้ องประชาชนท่ชี ดั เจน ท้งั น้ี ยงั ได้ยนื ยนั ว่าจะไม่มีการนาขอ้ มูลอาชีพ และรายได้มาใส่ไวห้ น้าบัตรประชาชน หรือ ไมโครชิพ แต่จะเก็บไวใ้ นฐานขอ้ มูลปกติ นอกจากน้ี ยงั ยืนยนั ว่าแนวทางน้ีไม่ได้เป็ นการละเมิดสิทธิ มนุษยชน เพราะมีกฎหมายเกี่ยวกบั บตั รประชาชนรองรับอยู่ อยา่ งไรก็ดี ตอ้ งรอใหน้ ายกรฐั มนตรีตดั สินใจ อีกคร้ัง เปิดตวิ ออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอยี ดท่ี www.งานราชการไทย.com
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226