Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่ม 3

เล่ม 3

Published by ห้องเรียนครูหยุ, 2018-08-20 20:21:28

Description: เล่ม 3

Search

Read the Text Version

ไอหยุ หมัดชูดชูโรงเรยี นบ้านโต ตาบลแม่หวาด อาเภอธารโต จงั หวดั ยะลา สานกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษายะลา เขต ๓

คำนำ การพฒั นาความสามารถในการอา่ นและการคิดเปน็ เปา้ หมายท่ีสาคัญของการศึกษา เนื่องจากการอา่ นโดยไม่ใช้วิจารณญาณในการพินิจพิเคราะห์ (Critical) หรือไม่พิจารณาแยกแยะ (Analytical)ขอ้ เท็จจริง อาจทาใหก้ ารอ่านนนั้ รบั ข้อมูลหรอื สือ่ สารผิดวัตถุประสงค์ แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์มีวัตถุประสงค์ท่ีจะพัฒนาทักษะการอ่านและการคิดวิเคราะห์ให้กับนักเรียนโดยเฉพาะนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ท้ังน้ีเพ่ือท่ีจะเป็นพ้ืนฐานในการอ่านในระดับสูงไม่ว่าจะเป็นการอ่านเพ่ือการคิดวิพากษ์ (Critical Thinking)การคิดสังเคราะห์ (Synthesis Thinking) และการอ่านเพ่ือพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ (CreativeThinking) แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ได้นาเน้ือหาท่ีหลากหลายมาใช้เป็นเนื้อหาท่ียังเป็นปัญหาในการอา่ นของนักเรียนในบทเรียน ทั้งท่เี ปน็ ประเดน็ ความสนใจตามเหตุการณ์ปัจจุบัน วัฒนธรรมและประเพณีในท้องถ่ินของนักเรียน และเน้ือหาที่มีการสอดแทรกแง่คิดในการใช้ชีวิตตามวัยของนักเรียนโดยแบ่งออกเปน็ ๘ เรื่องดว้ ยกนั คือ ๑) โคลงโลกนติ ิ (เนือ้ หาทน่ี กั เรียนมีปัญหา) ๒) กาพยเ์ หช่ มเคร่อื งคาวหวาน (เนือ้ หาท่ีนกั เรียนมีปัญหา) ๓) ตากใบ (นทิ านในทอ้ งถ่ิน) ๔) สขุ แสนลน้ ทุกข์แสนนาน (ให้แงค่ ดิ และเตือนสติ) ๕) ลเิ กฮลู ู (ประเพณแี ละวฒั นธรรมในทอ้ งถนิ่ ) ๖) ภัยพบิ ัตโิ ลกร้อน (ตระหนักถึงความสาคัญของเหตกุ ารณโ์ ลกปัจจุบนั ) ๗) กฎแห่งกรรม (ใหแ้ ง่คดิ และมมุ มองในการปฏิบัตติ นในชวี ิตประจาวนั ) ๘) พระอจั ฉริยะภาพทางดนตรี (บคุ คลสาคญั ) แบบฝึกการอ่านคิดวิเคราะห์อาจไม่นาเสนอเนื้อหาท้ังหมดโดยเฉพาะในส่วนของหลักภาษาต่าง ๆ เพราะมีในหนังสือเรียนและหนังสือต่าง ๆ ท่ีมีอยู่แล้ว เพียงแต่ได้ใช้แนวคิดต่าง ๆ มาช่วยให้นักเรียนได้เกิดทักษะดังกล่าว ผู้จัดทาขอขอบพระคุณสาหรับทุกๆ ท่าน รวมท้ังนักเรียนท่ีมีส่วนให้แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์เล่มนี้สาเร็จลง สิ่งใดท่ีไม่เหมาะ ไม่ควรหรือแม้แต่ข้อติชม ผู้จัดทาขอน้อมรับด้วยความยินดี โดยฝากข้อความดังกล่าวผ่านมาที่ [email protected] ผู้จัดทาจักขอบพระคณุ อยา่ งย่ิง ไอหยุ หมดั ชูดชู

แนวทำงในกำรใช้๑. แนวทำงของครู ๑.๑ การจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์น้ันครูควรทาความเข้าใจส่วนประกอบของแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทีพ่ ฒั นาการอา่ นคิดวิเคราะหใ์ หเ้ ขา้ ใจ โดยมี ๖ ข้ันตอนดังตอ่ ไปน้ีกาหนดสิ่งที่ กาหนดปัญหา กาหนดตอ้ งวิเคราะห์ หลกั การสรปุ และ ตรวจสอบ พิจารณานาเสนอ โครงสรา้ ง แยกแยะ ๑.๒ บทบาทของครูในการจัดกิจกรรมโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์น้ันควรเป็นลักษณะเคร่ืองช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ (Scaffolding) เป็นผู้สนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้(Facilitator) และเปน็ ผู้เรียนรรู้ ่วมไปกับนักเรยี น (Learner) ๑.๓ ครูต้องเข้าใจว่าน่ีไม่ใช่การเรียนหลักภาษา จุดเน้นอยู่ที่การอ่านและคิดวิเคราะห์ และการอ่านไม่ใช่อ่านออกเสียง แต่เป็นการอ่านจับใจความ สรุปความ และทาความเข้าใจเกี่ยวกั บบทความหรอื เนือ้ หา ๑.๔ ครูต้องให้ความยตุ ิธรรมและความเป็นธรรมในการวัดและประเมินผลเพื่อให้นักเรียนเกิดทัศนคตทิ ด่ี ตี อ่ การเรยี นรแู้ ละควรใหบ้ รรยากาศเปน็ ไปอย่างผ่อนคลาย

๒. แนวทำงของนักเรียน เพือ่ ทจ่ี ะใหเ้ กิดผลในการอ่านคิดวิเคราะห์น้นั มีแนวทางในการเรยี นรู้ดงั ตอ่ ไปนี้ ๒.๑ นักเรียนต้องทาความเข้าใจว่าน่ีไม่ใช่การอ่านสะกดคา แต่เป็นการอ่านเพ่ือทาความเขา้ ใจ โดยเน้นที่การทาความเข้าใจเนื้อหาหรือสารท่ีต้องการส่ือ ดังนั้นถ้านักเรียนไม่สามารถอ่านคาใดคาหน่ึงไดค้ วรที่จะข้ามไปก่อนโดยไม่ต้องกังวลและมาทาความเข้าใจภายหลัง โดยในแบบฝึกทักษะการอา่ นคิดวิเคราะหจ์ ะมี “อภธิ านคาศพั ท์” อยูด่ ้านหลังให้นักเรยี นได้ศึกษา ๒.๒ นักเรียนสามารถศึกษาเน้ือหาได้เพิ่มเติม ท้ังจากทางเว็บไซต์ (Web Site)หรือแหลง่ เรียนรู้อ่ืน ๆ โดยดไู ดจ้ ากบรรณานกุ รม ๒.๓ ขณะท่ีนักเรียนอ่านไม่ควรเคร่งเครียด ควรผ่อนคลายและไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับคาศัพท์หรอื หลักภาษามากนกั ๒.๔ นักเรียนควรให้เกียรติและเคารพสิทธิของผู้อื่น โดยให้ความร่วมมือ ความช่วยเหลือและเออ้ื เฟ้อื ในขณะดาเนินกิจกรรมในชัน้ เรยี น ๒.๕ นกั เรยี นสามารถใช้แบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ท้ังในและนอกเวลาเรียน โดยต้องระวงั ไม่ใหเ้ กดิ ความชารดุ เสียหาย ๒.๖ ถ้านักเรียนมีปัญหาและไม่สบายใจใด ๆ ในขณะดาเนินกิจกรรมให้นักเรียนบอกกับครผู จู้ ัดกจิ กรรมการเรยี นรไู้ ดท้ นั ที

๓. แนวทำงในกำรวดั และประเมนิ ผลกำรอ่ำนคิดวิเครำะห์ การวัดประเมินผลการอ่านคิดวิเคราะห์นั้นได้แยกออกเป็น ๔ ประเด็นด้วยกัน โดยใช้เกณฑ์การประเมินเชงิ คณุ ลกั ษณะ (Rubrics) ซง่ึ มรี ายละเอยี ดดังตอ่ ไปน้ีหัวข้อในกำร เกณฑก์ ำรประเมนิ เชิงคณุ ลกั ษณะประเมิน ๔ (ดมี ำก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรบั ปรุง)การระบุปญั หา สาม ารถ อ่านแล้ว ระ บุ สามารถอ่านแล้วระบุ สามารถอ่านแล้วระบุ เม่ือนักเรียนอ่านเนื้อ ประเด็น/หัวข้อ/ชื่อเรื่องที่ ประเด็น/หัวข้อ/ช่ือ ประเด็น/หัวข้อ/ช่ือ เรือ่ งแล้วไม่สามารถระบุ สื่อถึงเน้ือหาหรือบทความ เร่อื งทส่ี อื่ ถงึ เนอื้ หาหรือ เรอื่ งที่ส่ือถึงเนื้อหาหรือ ประเด็น/หัวข้อ/ช่ือเรื่อง ท่ีได้ศึกษา ได้ครบถ้วน บทความท่ีได้ศึกษาได้ บทความทีไ่ ด้ศึกษาได้ ท่ี สื่ อ ถึ ง เ นื้ อ ห า ห รื อ สมบูรณ์ พร้อมให้เหตุผล ครบถว้ นสมบรู ณ์ บทความทีศ่ ึกษาได้ ประกอบการแยกแยะ สามารถอ่านแล้วจาแนก ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ไม่ ส า ม า รถ อ่า นแ ล้ ว ค ว า ม แ ต ก ต่ า ง ร ะ บุ จาแนกความแตกต่าง จาแนกความแตกต่าง จาแนกความแตกต่าง ใจความสาคัญเกี่ยวกับ ร ะ บุ ใจ ค วา ม ส า คั ญ ร ะ บุ ใ จ ค ว า ม ส า คั ญ ระบุใจความสาคัญจาก ข้ อ มู ล จ า ก เ น้ื อ ห า ไ ด้ เ ก่ี ย ว กับ ข้อ มู ล จ า ก เ กี่ ย ว กั บ ข้ อ มู ล จ า ก เน้ือหาท่ีศึกษาได้ ถกู ต้องครบถ้วนสมบูรณ์ เนอื้ หา ได้ถูกต้อง เนอื้ หาการเปรียบเทียบ สามารถอ่านแล้วจัดลาดับ ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ไม่ ส า ม า รถอ่า นแ ล้ ว รวบรวมตีความ ให้เหตุผล จั ด ล า ดั บ ร ว บ ร ว ม จั ด ล า ดั บ ร ว บ ร ว ม จั ด ล า ดั บ ร ว บ ร ว ม ป ร ะ ก อ บ แ ล ะ เ ขี ย น ตี ค ว า ม ใ ห้ เ ห ตุ ผ ล ตี ค ว า ม ใ ห้ เ ห ตุ ผ ล ตี ค ว า ม ใ ห้ เ ห ตุ ผ ล แผนภาพโครงเร่ืองของ ประกอบ และเขียน ประกอบ และเขียน ป ร ะ ก อ บ แ ล ะ เ ขี ย น ข้ อ มู ล จ า ก เ น้ื อ ห า ไ ด้ แผนภาพโครงเรื่องของ แผนภาพโครงเรื่องของ แผนภาพโครงเรื่องจาก ถกู ต้อง ครบถว้ นสมบรู ณ์ ข้อมูลจากเน้ือหาได้ ขอ้ มูลจากเนือ้ หาได้ ข้ อ มู ล จ า ก เ น้ื อ ห า ที่ ถกู ต้อง ศึกษาได้ก า ร เ ช่ื อ ม โ ย ง สามารถอ่านแล้วเช่ือมโยง ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ส า ม า ร ถ อ่ า น แ ล้ ว ไม่ ส า ม า รถ อ่า นแ ล้ วสมั พนั ธ์ สรปุ และนาเสนอเนอื้ หาได้ เ ชื่ อ ม โ ย ง ส รุ ป แ ล ะ เ ชื่ อ ม โ ย ง ส รุ ป แ ล ะ เ ช่ื อ ม โ ย ง ส รุ ป แ ล ะ ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ น า เ ส น อ เ น้ื อ ห า ไ ด้ นาเสนอเนือ้ หาได้ นาเสนอเน้ือหาจากท่ี พร้อมท้ังให้ข้อคิดเห็น ถู ก ต้ อ ง ค ร บ ถ้ ว น ศกึ ษาได้ ประกอบ สมบูรณ์ หมำยเหตุครูผู้จดั กจิ กรรมการเรียนรแู้ ละนักเรียนควรที่จะศกึ ษาเกณฑ์ดงั กลา่ วให้ละเอยี ดเพอ่ื ผลประโยชนแ์ ละเกดิ ความสมั ฤทธผิ์ ลดงั จดุ ประสงค์ทีไ่ ดต้ ัง้ ไว้

มำตรฐำนและตัวชวี้ ดั ในแบบฝกึ ทักษะการอา่ นคิดวิเคราะห์ เรือ่ ง “ตากใบ” เลม่ นไี้ ด้วิเคราะหม์ าตรฐานและตัวชี้วัดรวมทั้งสังเคราะหเ์ ป็นจดุ ประสงคใ์ นการเรยี นรู้ โดยมรี ายละเอียดดงั ตอ่ ไปนี้๑. มำตรฐำนและตวั ชีว้ ดัมำตรฐำนกำรเรียนรู้ ตัวชวี้ ัดท ๑.๑ การใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และ ๑. อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองไดถ้ กู ตอ้ งความคิดเพื่อนาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการ เหมาะสมกับเรือ่ งทอี่ า่ นดาเนินชีวิตและมนี สิ ัยรักการอ่าน ๒. จบั ใจความสาคญั จากเร่อื งที่อา่ น ๓. ระบุเหตแุ ละผล และขอ้ เท็จจริงกับข้อคิดเห็นจาก เร่ืองที่อ่าน ๕. ตคี วามคายากในเอกสารวชิ าการ โดยพิจารณาจากบริบท ๘. วิเคราะหค์ ณุ คา่ ทไ่ี ด้รับจากการอา่ นงานเขียนอยา่ ง หลากหลายเพื่อนาไปใชแ้ ก้ปญั หาในชีวิต ๙. มมี ารยาทในการอ่านท ๓ . ๑ ส า ม า ร ถ เ ลื อ ก ฟั ง แ ล ะ ดู อ ย่ า ง มี ๑. พดู สรุปใจความสาคญั ของเรือ่ งทฟ่ี งั และดูวิจารณญาณและพูดแสดงความรู้ ความคิดและ ๒. เลา่ เรือ่ งย่อจากเร่ืองท่ีฟังและดูความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณ ๕. พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นท่ีศึกษาค้นคว้าจากการฟังและสรา้ งสรรค์ การดู และการสนทนา ๖. มมี ารยาทในการฟัง การดูและการพูดท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์ ๓. อธบิ ายคณุ ค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่อี ่านวรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า ๔. สรุปความร้แู ละขอ้ คิดจากการอา่ นไปประยุกตใ์ นชวี ิตจรงิและนามาประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จริง๒. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ๒.๑ นักเรยี นสามารถอา่ นออกเสยี งคาศพั ท์ในเนื้อเรื่อง ตากใบ ได้ถกู ตอ้ ง ๒.๒ นักเรยี นสามารถอ่านแล้วระบุหวั ขอ้ และใจความสาคญั ๒.๓ นักเรียนสามารถอ่านแล้วสรุปเน้ือหาและอธิบายรายละเอียดจากเนื้อเร่ืองท่ีอ่านได้ถกู ต้อง ๒.๔ นักเรียนสามารถทาแบบฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์เน้ือหาได้ถูกต้องผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๒.๕ นักเรียนสามารถนาเสนอและสรุปใจความสาคัญจากเนอื้ เร่อื งท่ีอา่ นได้ ๒.๖ นักเรยี นมีมารยาทในการอา่ น ฟัง การดูและการพูดโดยให้ความร่วมมือ เคารพสิทธิผู้อื่นพรอ้ มใหค้ วามช่วยเหลือและร่วมมอื ในขณะทากิจกรรมการเรยี นรทู้ ้ังใหห้ ้องเรียนและนอกหอ้ งเรียน

งล:งใในหก้นรกั ะเรดยีานษอค่าานตคอแาบถบามบในทแตดล่ สใหอ้ละบเอกียำดแรลอ้วเำ่ ลนอื กคข้อดิ ทวี่ถูกิเคท่ีสรุดำเพะียหง ๑์กอ่ข้อนเรียน: ตำกใบ๑. นกั เรยี นพอจะทราบจากเหตุการณใ์ ดทท่ี าให้ได้ชอื่ เรื่องว่า “ตากใบ” ก. การนาเรือสาเภาขนึ้ ฝั่งไดส้ าเรจ็ ข. การนาเอาใบเรอื และเสือ้ ผ้าข้นึ ไปตากตามต้นไม้และก่ิงไม้ ค. การจับแขกมลายูท่ีขโมยเสอ้ื ได้ ง. การทามาหากินบนเกาะที่อุดมสมบูรณ์๒. เหตใุ ดเรือสาเภาจึงจมนา้ ก. คลน่ื ซดั น้าเขา้ เต็มเรือ ข. ใบเรือเกาะกิ่งไมท้ าให้เรือจม ค. ลมพายุ คล่นื ลมแรง ง. เรือสาเภาชนหนิ ขนาดใหญ่๓. ขอ้ คดิ ใดทีน่ ักเรยี นคิดว่าเป็นส่งิ สาคัญในการกู้เรือสาเภาได้สาเรจ็ ก. ความอดทน ข. ความพยายาม ค. ความสามคั คี ง. ความซอื่ สตั ย์๔. ขอ้ ใดเปรยี บเทยี บได้ไม่เหมาะสม ก. คนจีน – เรือสาเภา ข. แขก – แหลมมลายู ค. ทะเล – คลืน่ ง. ไต๋กง – ลกู เรือ๕. “ส่วนใหญ่ทีน่ ามาขายมชี ามเบญจรงคฺ์ โอ่ง ไห ลายมังกร เครื่องลายคราม จนทาให้ชาวเกาะแหง่ นี้ มีเคร่ืองใช้เหลา่ น้ีทุกครวั เรอื น” จากข้อความน้ี คาที่ขีดเสน้ ใตห้ มายถึงอะไร ก. แม่สี ๕ สี ไดแ้ ก่ เขยี ว ดา เหลือง น้าเงนิ แดง ข. แม่สี ๕ สี ไดแ้ ก่ เขียว ขาว เหลือง นา้ เงิน แดง ค. แมส่ ี ๕ สี ไดแ้ ก่ ขาว ดา เหลือง เขยี ว แดง ง. แม่สี ๕ สี ได้แก่ ฟ้า ดา เหลือง ขาว แดง

๖. ขอ้ ใดไมเ่ ข้าพวก ก. เครื่องลายคราม ข. ชามเบญจรงค์ ค. ภาพวาด ง. ไห๗. ข้อใดไมเ่ ป็นความจรงิ ในเร่ืองตากใบ ก. แขกมลายเู ปน็ ขโมย ข. เรอื สาเภาจมทะเล ค. เกาะอดุ มสมบูรณ์ ง. แขกมลายูเปน็ พ่อคา้๘. จากเรอ่ื งตากใบ คาว่า “ประติมากรรม” หมายถึงส่ิงใด ก. ศลิ ปะสาขาหนึง่ ในจาพวกวจิ ิตรศิลปเ์ กย่ี วกบั การ แกะสลกั โลหะ หินออ่ น ไม้ ให้มีลกั ษณะ รูปรา่ งตามทอี่ อกแบบไว้ ข. ศลิ ปะประเภทหน่ึงในทัศนศิลปเ์ กี่ยวกบั การเขยี นภาพวาดภาพ, รปู ภาพทเี่ ขียนหรือวาดข้นึ ค. งานช่างทท่ี าดว้ ยมือ โดยถือประโยชนใ์ ชส้ อยเปน็ หลกั ง. สิ่งที่เป็นศลิ ปะ, สิ่งทสี่ รา้ งสรรค์ขึน้ เปน็ ศิลปะ๙. สานวนไมต่ รงกบั ลักษณะของเกาะตากใบ ก. ในนา้ มปี ลา ในนามีข้าว ข. ทรพั ย์ในดนิ สินในนา้ ค. ขา้ วยากหมากแพง ง. ขา้ วเหลือเกลอื อ่ิม๑๐. เหตกุ ารณ์ในข้อใดต่อไปนที้ เ่ี กิดขึ้นเปน็ ลาดบั แรก ก. เกิดลมพายุ คลืน่ ลมแรงจดั มาก จนในที่สดุ เรือกาลงั จะจม ข. พอ่ ค้าสาเภาจีนลาอนื่ ลอ่ งเรือมาค้าขายบนเกาะนี้มากข้นึ ค. แขกมลายูคนหนงึ่ มีอาชพี ตัดไม้ไปขาย ไดม้ าตัดไม้ใกล้บริเวณทพี่ ่อคา้ จนี ตากใบเรือและ เสอ้ื ผา้ ง. สมยั กรงุ ศรอี ยุธยาตอนต้น มีพ่อคา้ จีนคนหน่ึงล่องเรือสาเภามาจากประเทศจีน เพอ่ื ไปขาย สนิ ค้ายงั แหลมมลายู

กจิ กรรมที่ ๑ใหน้ ักเรยี นอ่านเน้อื หาทกี่ าหนดใหแ้ ล้วใหน้ ักเรียนอภปิ รายกบั เพือ่ นในห้อง แล้วเขยี นคาตอบลงในผงั มโนทัศน์ ทก่ี าหนดให้ นิทานพน้ื บ้าน : ตากใบตอนที่ ๑ เม่ือประมาณ ๔๐๐ ปีมาแล้ว ในราวสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น มีพ่อค้าจีนคนหนึ่งล่องเรือสาเภามาจากประเทศจีน เพ่ือไปขายสินค้ายังแหลมมลายูในเรือสาเภานั้นได้บรรทุกสินค้าเครื่องป้ันดินเผามาเต็มลาเรือ เช่น เคร่ืองลายคราม ชามเบญจรงค์ โอ่ง ไหลายมังกร เป็นต้น สินค้าเหล่านมี้ ลี วดลายสีสันงดงามมาก ~๑~

คาถาม คาตอบ๑. นกั เรียนจะตั้งช่ือเรื่องในตอนนี้วา่ อยา่ งไร๒. มสี ินค้าใดบา้ งท่ีเรือสาเภาบรรทกุ ไปขาย๒. นักเรียนคิดวา่ ใจความสาคัญของเนื้อหา ในตอนนี้คอื อะไร ~๒~

ตอนท่ี ๒ วันหนึง่ ขณะทเี่ รือสาเภาแล่นอยู่กลางทะเลใกล้ปากอ่าวทางตอนใต้ของไทย ได้บังเกิดลมพายุคล่ืนลมแรงจัดมาก จนในท่ีสุด เรือกาลังจะจม พ่อค้าจีนจึงได้สั่งให้ปลดใบเรือลง จากนั้นเรือค่อย ๆจมลงในท้องทะเล พ่อค้าจีน ไต้ก๋ง พร้อมลูกเรือทุกคนได้พยายามช่วยเหลือตัวเอง จนสามารถขึ้นเกาะที่อุดมสมบรู ณแ์ หง่ หน่ึงไดท้ กุ คน เม่ือคลื่นลมสงบทุกคนจงึ พากันไปกู้เรือและนาสินค้าขึ้นฝั่งได้สาเร็จ จากนั้นจึงเอาใบเรือเสอ้ื ผา้ ข้นึ ไปตากตามต้นไมแ้ ละก่งิ ไม้ ~๓~

คาถาม คาตอบ ๑. เกดิ เหตุการณใ์ ดขึ้น๒. นักเรียนคดิ วา่ เหตใุ ดพ่อค้าจีนจงึ ส่ังปลดใบเรือลง๓. นกั เรยี นคดิ ว่า การตากใบเรือ และเสือ้ ผา้ จะใหแ้ ห้งเร็วต้อง ทาอย่างไร ~๔~

ตอนท่ี ๓ มแี ขกมลายคู นหนึง่ มอี าชีพตัดไม้ไปขาย ไดม้ าตัดไม้ใกล้บริเวณท่ีพ่อค้าจนี ตากใบเรือ และเส้ือผา้ เมอ่ื เห็นสิ่งเหล่าน้นั แขกมลายจู ึงคิดทจ่ี ะขโมย จงึ ไปตัดตน้ ไม้ที่มเี ส้ือผ้าตากอยู่ แต่พอ่ คา้ จีนและลกู เรือกลบั มาเห็นเสยี กอ่ นจึงร้องตะโกนข้นึ ว่า “เจ๊ะ….เฮ้ ๆ ๆ ๆ เอาเสื้อผา้ อ้ัวะคนื มา” แขกมลายูตกใจมาก จงึ กล่าวขอโทษและรบั ปากว่าจะไม่ทาอยา่ งนี้อีก พ่อค้าจนี และลกู เรือท้ังหมดจึงยกโทษให้และได้อาศัยทามาหากินบนเกาะน้ีอยา่ งมีความสุข ตอ่ มาได้มีพอ่ ค้าสาเภาจนี ลาอน่ื ล่องเรือมาค้าขายบนเกาะนี้มากข้ึน สินค้าส่วนใหญท่ ่ีนามาขายมีชามเบญจรงคฺ์ โอง่ ไห ลายมงั กร เคร่ืองลายคราม จนทาใหช้ าวเกาะแห่งนีม้ เี คร่ืองใชเ้ หลา่ น้ที ุกครัวเรอื น นบั เปน็ การนาศลิ ปะ ประตมิ ากรรมมาเผยแพร่ในประเทศไทยจนถงึ ทุกวนั นี้ ซึ่งสามารถไปชมได้ทวี่ ดั ชลธาราสงิ เห อาเภอตากใบ จังหวดั นราธวิ าส ~๕~

คาถาม คาตอบ๑. นกั เรยี นจะตง้ั ชอ่ื เรื่องของตอนนว้ี ่าอย่างไร๒. นกั เรยี นคดิ ว่าพฤติกรรมของงแขกมลายู ทาถูกหรือไม่ (ตอนทที่ าผดิ แล้วยอมรับผิด) เพราะเหตใุ ด๓. นักเรยี นคดิ ว่าพฤติกรรมของพ่อค้าและลูกเรือ ทาถูกหรือไม่ (ทยี่ กโทษให้แขกมลายู) เพราะเหตใุ ด๔. นกั เรยี นไดแ้ ง่คดิ อะไรจากเน้อื เรือ่ งในตอนนี้ ~๖~

กจิ กรรมท่ี ๒ใหน้ กั เรยี นสรุปเนื้อหาทั้งหมดเก่ยี วกับเนอ้ื หาลงในตารางสรปุตอนที่ ชื่อย่อหนา้ ใจความสาคัญ ๑๒๓ ~๗~

กจิ กรรมที่ ๓ใหน้ กั เรยี นลาดบั เหตกุ ารณ์ของเนือ้ เรอ่ื งอุสาบารสให้ถูกต้องโดยโดยใส่หมายเลขกากับหน้าขอ้ ความ/เหตุการณท์ กี่ าหนดให้๑. _________มีแขกมลายคู นหน่งึ มอี าชีพตดั ไมไ้ ปขาย ได้มาตดั ไมใ้ กล้บรเิ วณท่พี ่อคา้ จีนตากใบเรือ และเสือ้ ผา้๒. _________พอ่ คา้ จนี และลกู เรือทง้ั หมดจึงยกโทษให้ และได้อาศยั ทามาหากินบนเกาะนอ้ี ย่างมี ความสุข๓. _________มีพอ่ คา้ จนี คนหนง่ึ ล่องเรือสาเภามาจากประเทศจีน เพ่ือไปขายสินคา้ ยังแหลมมลายู๔. _________แขกมลายูจึงคิดทจ่ี ะขโมย จงึ ไปตดั ตน้ ไม้ท่มี ีเส้ือผา้ ตากอยู่๕. _________ชาวเกาะแหง่ น้มี ีเคร่อื งใชเ้ หลา่ นท้ี กุ ครวั เรือน๖. _________พ่อค้าจีนจึงได้สัง่ ให้ปลดใบเรือลง จากนนั้ เรือค่อย ๆ จมลงในท้องทะเล๗. _________นบั เป็นการนาศิลปะ ประตมิ ากรรมมาเผยแพรใ่ นประเทศไทยจนถึงทุกวนั น้ี ซง่ึ สามารถไปชมได้ทวี่ ดั ชลธาราสงิ เห อาเภอตากใบ จังหวดั นราธิวาส๘. _________เมื่อคลืน่ ลมสงบทุกคนจงึ พากนั ไปกู้เรือและนาสินคา้ ขน้ึ ฝั่งได้สาเรจ็๙. _________ขณะท่ีเรือสาเภาแล่นอย่กู ลางทะเลใกลป้ ากอ่าวทางตอนใต้ของไทย ไดบ้ ังเกิดลมพายุ คลน่ื ลมแรงจดั มาก จนในทส่ี ดุ เรือกาลังจะจม๑๐. _________พอ่ คา้ จนี ไต้ก๋ง พร้อมลูกเรือทุกคนไดพ้ ยายามชว่ ยเหลือตวั เอง จนสามารถข้นึ เกาะท่ี อดุ มสมบูรณ์แหง่ หนงึ่ ได้ทุกคน ~๘~

กิจกรรมที่ ๔ ให้นักเรียนวาดภาพประกอบเกย่ี วกับเรือ่ งตากใบในตอนทีน่ ักเรยี นประทับใจมากทสี่ ดุ พรอ้ มบอกเหตุผลส้ัน ๆ ประกอบเหตุการณท์ ่ีขา้ พเจา้ ประทับในเร่อื ง “ตากใบ” คือ ...............................................................เหตุผลทีช่ อบ เพราะ ............................................................................................................................................................................................................................................ ................. ~๙~

แบบทดสอบการอา่ นคดิ วิเคราะหห์ ลังเรียน : นทิ านพน้ื บ้าน “ตากใบ”คาชแี้ จง: ให้นักเรียนอ่านคาถามในแต่ละข้อใหล้ ะเอียดแล้วเลอื กข้อที่ถกู ทส่ี ดุ เพยี ง ๑ ข้อ ลงในกระดาษคาตอบ๑. ขอ้ คดิ ใดทนี่ กั เรยี นคิดว่าเป็นสง่ิ สาคัญในการกเู้ รือสาเภาได้สาเร็จ ก. ความอดทน ข. ความพยายาม ค. ความสามัคคี ง. ความซอ่ื สัตย์๒. ข้อใดเปรียบเทียบได้ไมเ่ หมาะสม ก. คนจนี – เรือสาเภา ข. แขก – แหลมมลายู ค. ทะเล – คลืน่ ง. ไตก๋ ง – ลกู เรอื๓. “สว่ นใหญ่ทนี่ ามาขายมชี ามเบญจรงคฺ์ โอง่ ไห ลายมังกร เคร่อื งลายคราม จนทาใหช้ าวเกาะแห่งนี้ มีเคร่อื งใชเ้ หล่าน้ีทกุ ครัวเรือน” จากข้อความน้ี คาที่ขีดเส้นใต้หมายถึงอะไร ก. แม่สี ๕ สี ไดแ้ ก่ เขียว ดา เหลือง น้าเงิน แดง ข. แมส่ ี ๕ สี ไดแ้ ก่ เขียว ขาว เหลือง นา้ เงนิ แดง ค. แมส่ ี ๕ สี ไดแ้ ก่ ขาว ดา เหลือง เขียว แดง ง. แมส่ ี ๕ สี ได้แก่ ฟ้า ดา เหลอื ง ขาว แดง๔. นักเรียนพอจะทราบจากเหตกุ ารณใ์ ดทท่ี าให้ไดช้ อื่ เร่ืองวา่ “ตากใบ” ก. การนาเรอื สาเภาขึน้ ฝัง่ ได้สาเรจ็ ข. การนาเอาใบเรือ และเส้ือผา้ ขึน้ ไปตากตามตน้ ไม้และกิ่งไม้ ค. การจับแขกมลายทู ี่ขโมยเสอื้ ได้ ง. การทามาหากินบนเกาะท่ีอุดมสมบรู ณ์๕. เหตใุ ดเรอื สาเภาจงึ จมน้า ก. คลื่นซดั น้าเขา้ เต็มเรอื ข. ใบเรอื เกาะก่ิงไมท้ าใหเ้ รือจม ค. ลมพายุ คล่ืนลมแรง ง. เรอื สาเภาชนหนิ ขนาดใหญ่ ~ ๑๐ ~

๖. ขอ้ ใดไมเ่ ป็นความจริงในเร่ืองตากใบ ก. แขกมลายเู ปน็ ขโมย ข. เรอื สาเภาจมทะเล ค. เกาะอุดมสมบูรณ์ ง. แขกมลายูเป็นพอ่ คา้๗. จากเร่ืองตากใบ คาวา่ “ประตมิ ากรรม” หมายถงึ สิ่งใด ก. ศิลปะสาขาหนงึ่ ในจาพวกวจิ ติ รศลิ ปเ์ กี่ยวกบั การ แกะสลกั โลหะ หินออ่ น ไม้ ใหม้ ีลกั ษณะ รูปรา่ งตามทอ่ี อกแบบไว้ ข. ศิลปะประเภทหน่ึงในทัศนศิลป์เกยี่ วกับการเขียนภาพวาดภาพ,รปู ภาพท่ีเขียนหรือวาดขึ้น ค. งานชา่ งที่ทาด้วยมือ โดยถือประโยชน์ใชส้ อยเป็นหลัก ง. สิ่งท่ีเปน็ ศลิ ปะ, ส่ิงที่สรา้ งสรรค์ขึน้ เป็นศลิ ปะ๘. ข้อใดไมเ่ ขา้ พวก ก. เครื่องลายคราม ข. ชามเบญจรงค์ ค. ภาพวาด ง. ไห๙. เหตุการณใ์ นข้อใดต่อไปนี้ที่เกิดข้ึนเป็นลาดับแรก ก. เกดิ ลมพายุ คล่ืนลมแรงจัดมาก จนในท่ีสุดเรือกาลังจะจม ข. พอ่ ค้าสาเภาจีนลาอน่ื ล่องเรือมาค้าขายบนเกาะน้ีมากข้ึน ค. แขกมลายูคนหนึ่งมีอาชพี ตัดไม้ไปขาย ไดม้ าตัดไม้ใกล้บริเวณท่พี ่อค้าจนี ตากใบเรือและ เสื้อผ้า ง. สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนตน้ มีพ่อคา้ จีนคนหนึ่งลอ่ งเรือสาเภามาจากประเทศจนี เพื่อไปขาย สินคา้ ยงั แหลมมลายู๑๐. สานวนไมต่ รงกับลกั ษณะของเกาะตากใบ ก. ในน้ามปี ลา ในนามีข้าว ข. ทรัพย์ในดิน สนิ ในน้า ค. ข้าวยากหมากแพง ง. ขา้ วเหลือเกลืออ่มิ ~ ๑๑ ~

บรรณานกุ รมกระทรวงศกึ ษาธิการ. (๒๕๕๓). หนงั สอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษา ปีท่ี ๑ : ววิ ิธภาษา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพรา้ ว.กระทรวงศึกษาธกิ าร. (๒๕๕๓). หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีวิจักษ.์ พิมพ์คร้งั ท่ี ๒. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพรา้ ว.จุฬาลกั ษณ์ ดอกเขม็ . (๒๕๕๐). ผลสัมฤทธแ์ิ ละทักษะการอา่ นเชงิ วิเคราะห์ กลุ่มสาระ การเรยี นรภู้ าษาไทยของนกั เรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒ ด้วยรปู แบบการสอนแบบร่วมมอื กนั เรียนรู้ (เทคนิค STAD). วทิ ยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑติ (ศษ.ม.) (หลักสูตรและการสอน). ขอนแก่น : บัณฑติ วิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ .ปรางทอง แก้วหล่ายูง อิศเรศ พิพัฒนม์ งคลพร และ สถาพร ขันโต. (เมษายน – มิถนุ ายน 2549). รายงานการวจิ ยั เร่อื ง การพัฒนากจิ กรรมสง่ เสริมการอ่านสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เพอ่ื สรา้ งความเข้าใจและแรงจูงใจในการอา่ นของนักเรียน ช่วงชน้ั ท่ี ๓ (ชั้น มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒), วารสารศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ . ๒๖ (๒) : ๖๗ – ๗๖.พรทิพย์ ซงั ธาดา. (๒๕๔๕). วรรณกรรมท้องถนิ่ . พมิ พ์ครัง้ ที่ ๔. กรงุ เทพฯ : สุวีริยาสาส์ฟองจนั ทร์ สขุ ยง่ิ กัลยา สหชาตโิ กสีย์ ศรีวรรณ ชอ้ ยหิรญั ภาสกร เกิดอ่อน ระวีวรรณ อนิ ทรประพันธ์. (ม.ป.ป.). หนงั สือเรยี น รายวชิ าพนื้ ฐาน : ภาษาไทย วรรณคดี และวรรณกรรม. กรงุ เทพฯ : บรษิ ัทอักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จากัด.ราชบัณฑติ ยสถาน. (๒๕๔๖). พจนานกุ รม ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พุทธศกั ราช ๒๕๔๒. กรงุ เทพฯ : นานมีบคุ๊ ส์พบั ลเิ คชั่นส์._______________. (ม.ป.ป.). พจนานุกรมฉบบั บัณฑิตราชตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒. (ออนไลน์). Source : http://rirs3.royin.go.th/dictionary.aspโรงเรียนบ้านโต. (๒๕๕๓). หลักสูตรการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐานกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ (ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑). ยะลา : สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษายะลา เขต ๓.วเิ ชยี ร เกษประทุม. ๒๕๕๓. นทิ านพืน้ บา้ น. กรงุ เทพฯ : บริษทั สานักพิมพ์ พ.ศ. พัฒนา จากดั .สารยี ์ เจรญิ จิต และ คณะ. (มถิ ุนายน ๒๕๔๖). “การสรา้ งแบบทดสอบวนิ ิจฉยั การอ่านจบั ใจความสาหรับนกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ อาเภอปราสาท จงั หวดั สุรนิ ทร์”, วารสารวจิ ยั มข. (บศ.). ปที ่ี ๓ (๑) : ๗๖ – ๘๓. ~ ๑๒ ~

อภิธานศัพท์คาที่ คาศัพท์ ความหมาย ๑ เคร่ืองลายคราม เคร่ืองภาชนะกระเบื้องหรือเคร่อื งถว้ ยชามเนื้อขาว ชนดิ ทเี่ ขียน ๒ เบญจรงค์ ลายเป็นสคี ราม มีต้นกาเนดิ ในประเทศจีน แมส่ ที ง้ั ๕ คอื ดา แดง ขาว เขียว (คราม) เหลือง, เรยี กเคร่ืองถ้วย ๓ ไตก้ ๋ง ชามทเ่ี ขยี นลวดลายด้วยแม่สีทัง้ ๕ ว่า ถว้ ยเบญจรงค์ ชามเบญจ ๔ แขก รงค์ นายทา้ ยสาเภา ๕ มลายู ๖ ประติมากรรม คาเรียกชาวอนิ เดีย ศรลี ังกา ปากสี ถาน บงั กลาเทศ อฟั กานิสถาน เนปาล ชวา มลายู ชาวเอเชยี ตะวันออกกลางและตะวนั ออกใกล้ ชอ่ื ชนชาติหนงึ่ อยู่ทางตอนใต้ของแหลมมลายู ตอ่ เขตแดนกับไทย ศิลปะสาขาหนึ่งในจาพวกวจิ ติ รศลิ ปเ์ ก่ียวกับการแกะสลักไม้ หนิ อ่อน โลหะ เป็นต้น ใหเ้ ปน็ รูปหรอื ลวดลายต่าง ๆ ~ ๑๓ ~

แนวทางในการตอบกจิ กรรมที่ ๑ ๑. ตอนท่ี ๑ คาถาม แนวคาตอบ๑. นกั เรยี นจะตั้งชื่อเรื่องในตอนนว้ี ่า สอดคล้องกับเหตกุ ารณใ์ นเนอ้ื เรอื่ ง คือ พ่อค้าจนี ลอ่ งสาเภาขายของ หรอือย่างไร เครอื่ งป้ันดนิ เผาจากพ่อค้าชาวจีน เปน็ ตน้๒. มีสนิ คา้ ใดบ้างทเ่ี รือสาเภา  เครอื่ งป้ันดนิ เผา เช่น เครอ่ื งลายคราม ชามเบญจรงค์ โอง่ ไห ลายมังกรบรรทุกไปขาย๓. นักเรียนคดิ วา่ ใจความสาคญั พ่อค้าจีนคนหนง่ึ ล่องเรือสาเภามาจากประเทศจนี เพ่ือไปขายสนิ ค้า ของเนอ้ื หาในตอนน้ีคืออะไร ยังแหลมมลายู๒. ตอนที่ ๒ แนวคาถาม แนวคาตอบ๑.เกดิ เหตกุ ารณใ์ ดขนึ้ บังเกดิ ลมพายุ คลนื่ ลมแรงจดั มาก จนในที่สดุ เรือกาลงั จะจม๒. นกั เรียนคดิ วา่ เหตุใดพ่อค้าจีน เพราะกลวั ใบเรือสาเภาขาดเพราะแรงลมพายุ หรือ หากเรอื มใี บแรง ต้านลมจะมาก อาจทาใหเ้ รือลม่ ไดง้ ่ายจงึ ส่ังปลดใบเรอื ลง๓. นักเรียนคดิ วา่ การตากใบเรอื ตากทม่ี แี ดดจดั หรือตากบนที่สูง เชน่ บนต้นไม้ ก่ิงไม้ เพ่ือใหล้ มพดั โบก และเสือ้ ผา้ จะใหแ้ ห้งเร็วต้อง เอาความชน้ื ไป ทาใหแ้ หง้ เร็วทาอยา่ งไร๓. ตอนที่ ๓ แนวคาถาม แนวคาตอบ๑. นกั เรยี นจะต้ังชื่อเรอื่ งของตอนนี้ โจรกลบั ใจ หรอื การให้ทดี่ ีท่ีสดุ คอื การให้อภัย หรือ เศรษฐกจิ ดเี พราะว่าอยา่ งไร มเี พราะมีท่ีอดุ มสมบรู ณ์ เปน็ ตน้๒. นักเรียนคดิ ว่าพฤติกรรมของง ทาถูกที่สุด เพราะคนเราเมือ่ ทาผดิ แล้วกต็ อ้ งยอมรบั ผดิ คนอ่ืนกจ็ ะยก แขกมลายู ทาถกู หรือไม่ (ตอนท่ี โทษให้ เปน็ ต้น (ขน้ึ อยูก่ ับวิจารณญาณของครู)ทาผดิ แลว้ ยอมรบั ผิด)เพราะเหตใุ ด๓. นักเรยี นคดิ วา่ พฤติกรรมของ ทาถูกที่สดุ เพราะการให้ทย่ี งิ่ ใหญท่ ส่ี ดุ คอื การใหอ้ ภยั (หรอื ตาม พอ่ คา้ และลกู เรือ ทาถูกหรอื ไม่ วจิ ารณญาณของครู(ทีย่ กโทษให้แขกมลายู)เพราะเหตใุ ด๔. นกั เรียนไดแ้ ง่คิดอะไรจาก เวรยอ่ มระงับด้วยการไม่จองเวร หรอื เคร่อื งเบญจรงค์มีคณุ ค่าและมถี น่ิ เนอ้ื เรอ่ื งในตอนนี้ กาเนิดในจนี เป็นตน้ ~ ๑๔ ~

กจิ กรรมท่ี ๒ สรุปจากกจิ กรรมที่ ๑ ลงในตารางกจิ กรรมที่ ๓ ข้อท่ี คาตอบ ขอ้ ที่ คาตอบ ๑. ๖ ๖. ๓ ๒. ๘ ๗. ๑๐ ๓. ๑ ๘. ๕ ๔. ๗ ๙. ๒ ๕. ๙ ๑๐. ๔กจิ กรรมท่ี ๔ ๑ นกั เรยี นไม่สามารถระบุ ๔๓๒ ตอนที่ชนื่ ชอบในนกั เรยี นสามารถระบุ นักเรยี นสามารถระบุ นกั เรยี นสามารถระบุ เนือ้ เรือ่ ง พรอ้ มทัง้ บอกตอนทชี่ น่ื ชอบ ใน ตอนท่ีช่นื ชอบใน ตอนที่ชืน่ ชอบใน เหตผุ ลประกอบ และ/เน้ือเรอ่ื ง บอกเหตุผล เนอ้ื เรอ่ื ง บอกเหตุผล เนอ้ื เร่อื ง บอกเหตผุ ล หรือไมส่ ามารถวาดประกอบ และวาดภาพ ประกอบ และวาดภาพ ประกอบ ภาพประกอบได้สื่อไดส้ อดคลอ้ งกบั ได้เหตกุ ารณ์ดงั กล่าวแบบทดสอบวดั การอา่ นคิดวิเคราะห์ ก่อนเรยี น หลงั เรียนข้อที่ คาตอบ ข้อที่ คาตอบ ๑ข ๑ค ๒ค ๒ง ๓ค ๓ค ๔ง ๔ข ๕ค ๕ค ๖ค ๖ง ๗ง ๗ก ๘ก ๘ค ๙ค ๙ง๑๐ ง ๑๐ ค ~ ๑๕ ~

แบบฝึกทกั ษะการอ่านคดิ วเิ คราะห์ สาหรับนักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย เล่มท่ี ๓ เรื่อง“ตากใบ” โดย ไอหยุ หมดั ชูดชูเกยี่ วกบั ผู้แต่งช่อื นายไอหยุ หมัดชูดชูการศึกษา ศึกษาศาสตรมหาบัณฑติ (ศษ.ม.) การบริหารการศกึ ษา ครศุ าสตรบณั ฑิต (คบ.) ภาษาไทยตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการสถานทีท่ างาน โรงเรียนบา้ นโต ตาบลแมห่ วาด อาเภอธารโต จงั หวัดยะลา สังกัดสานักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษายะลา เขต ๓ขอ้ มูลทางบรรณานุกรม นายไอหยุ หมดั ชดู ชู ๑. แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นคิดวเิ คราะห์ สาหรับนักเรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เลม่ ท่ี ๓ เรื่อง “ตากใบ” (ช่ือเรือ่ ง) ๒.พมิ พค์ ร้ังท่ี ๒ ปพี ุทธศักราช ๒๕๕๖ พมิ พ์ท่ี โรงเรยี นบา้ นโต ตาบลแมห่ วาด อาเภอธารโต จงั หวดั ยะลา สงั กัดสานักงานเขตพื้นท่ี การศกึ ษาประถมศึกษายะลา เขต ๓ภาพประกอบ โดย นายไอหยุ หมัดชดู ชู ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ โรงเรยี นบ้านโต สังกดั สานักงาน เขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๓ท่ปี รึกษา ๑.นายประสิทธิ์ จนิ ากลุ ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียนบ้านโต ๒.นางอรวรรณ เรอื งหริ ัญ ตาแหนง ผู้อานวยการโรงเรียนบา้ นใหม่ (วันครู ๒๕๐๓) ๓.นายวัชระ จันทรัตน์ ตาแหนง่ ศึกษานเิ ทศก์ สพป ยะลา.๓ ( วดั ผล ) ๔.นางสาวสรุ างค์ ศกุ รวรรณ ตาแหนง่ ครูชานาญการพเิ ศษ ( ภาษาไทย ) ๕.นางสุขศิริ ทกั ษะกวิน ตาแหนง ครูชานาญการพเิ ศษ ( ภาษาไทย ) ติดตอ่ : โรงเรยี นบ้านโต อาเภอธารโต จังหวดั ยะลา ๙๕๑๗๐ Email : [email protected]


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook