Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore e-book6206910026

e-book6206910026

Published by katesu.varin, 2021-09-06 12:10:52

Description: e-book6206910026

Search

Read the Text Version

ภาษาไทยพืน้ ฐาน จดั ทาโดย นางสาวเกศสุดา วรินทรเวช ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๓ เสนอ เรื่อง … สระในภาษาไทย อาจารยป์ ิ ยวรรณ ขอจิตตเ์ มตต์

คานา ก เอกสารฉบบั น้ี เป็นเอกสารกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาํ หรับ ผ้จู ดั ทา นักเรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๓ เพ่ือใชป้ ระกอบการเรียนการสอนผูจ้ ดั ทาํ เกศสุดา วรินทรเวช พยายามมุ่งเนน้ พฒั นาผเู้ รียน เพื่อให้ผูเ้ รียนมีความรู้ในเน้ือหาของเร่ือง สระ ในภาษาไทย โดยผูเ้ รียนสามารถอธิบายความหมายและสามารถจาํ แนกในเร่ือง ของสระในภาษาไทยได้ เพื่อนาํ ไปใชใ้ นการเรียนการสอนคร้ังถดั ไปและ เพอื่ นาํ ไปใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั ผูจ้ ัดทาํ หวงั เป็ นอย่างยิ่งว่าเอกสารฉบับน้ีจะเป็ นประโยชน์ต่อ ผเู้ รียน ผปู้ กครอง และบุคคลทว่ั ไปท่ีมีความสนใจศึกษาในเร่ืองดงั กล่าว

ข คานา สารบญั สารบญั แบบฝึ กหัดก่อนเรียน ก สระในภาษาไทย ข ความหมายของสระ ๑ รูปสระ ตาแหน่งรูปสระ ๖ ๗ ๑๔

สารบญั ข ๑๖ เสียงสระ ๑๖ การแบ่งเสียงสระ ๑๙ วธิ ีใช้สระ ๒๒ แบบฝึ กหัดหลงั เรียน ๒๕ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน – หลงั เรียน ๒๗ อ้างองิ

๑ ก่อนจะเร่ิมบทเรียน เรามาทาแบบ ฝึ กหัดก่อนเรียนกนั เถอะ !! ต้งั ใจทานะคะเดก็ ๆ

๒ แบบฝึ กหัดก่อนเรียน คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนทาํ เคร่ืองหมายจากบาท (X) ทบั ตวั อกั ษร ก. ข. ค. หนา้ คาํ ตอบท่ีถูกตอ้ งที่สุดเพียงคาํ ตอบเดียวลงใน กระดาษคาํ ตอบ (๑๐ คะแนน) ๑. คาํ ท่ีมีสระ –ะ เม่ือมีตวั สะกดจะเปลี่ยนรูปตามขอ้ ใด ก. ไมเ้ อก ข. ไมไ้ ต่คู้ ค. ไมห้ นั อากาศ ๒. คาํ ในขอ้ ใด ประสมดว้ ยสระเสียงส้นั ทุกคาํ ก. ธนบตั ร พจิ ิตร ข. ดาดฟ้า ทยอย ค. ศกั ด์ิศรี รามเกียรต์ิ

๓ ๓. คาํ วา่ “จดั ” อ่านสะกดคาํ วา่ อยา่ งไร ๔. คาํ วา่ “นา้ ” มีรูปวรรณยกุ ตใ์ ด ก. จอ – อะ – ดอ – จดั ก. ไมเ้ อก ข. จอ – เอะ – ดอ – จดั ข. ไมโ้ ท ค. จอ – แอะ – ดอ – จดั ค. ไมต้ รี ๕. คาํ วา่ “ดี” มีรูปสระใดประสมอยู่ ๖. คาํ ในขอ้ ใดต่างจากพวก ก. ไมผ้ ดั และ ฟันหนู ก. เห็ด ข. หยาดน้าํ คา้ ง และ ฟันหนู ข. ทนั ค. พนิ ทุ และ ฝนทอง ค. กด

๔ ๗. คาํ วา่ “ตู”้ มีรูปสระใดประสมอยู่ ๘. สระในขอ้ ใดคือสระเอะ ก.ฟันหนู ข. ตีนคู้ ก. เ – ค. ลากขา้ ง ข. แ – ค. เ ก ะ ๙. “ฉนั ไปวดั กบั แม่ในวนั หยดุ ” จากขอ้ ความ ๑๐. ประโยคใดมีคาํ สระ –ะ เปล่ียนรูปมากท่ีสุด ก. แม่ซ้ือพดั ลม ท่ีกาํ หนดมีสระ –ะ เปลี่ยนรูปกี่คาํ ข. ฉนั ไปถอนฟัน ก. ๔ คาํ ข. ๕ คาํ ค. ระฆงั ดงั กงั วาน ค. ๖ คาํ

๕ ไปเรียนรู้เนื้อหากนั เลย !!

๖ สระในภาษาไทย ความหมายของสระ สระ คือ เสียงท่ีเปล่งออกจากลาํ คอโดยตรง โดยมีริมฝี ปาก หรือลิ้นกระทบอวยั วะใน ปากเป็นเคร่ืองช่วย ตามหลกั ภาษา ถือวา่ พยญั ชนะจาํ เป็นตอ้ งอาศยั สระจึงจะออกเสียงได้ รูปสระ รูปสระ คือ ส่วนประกอบของเคร่ืองหมายท่ีใชเ้ ขียนแทนเสียงสระ มีท้งั หมด ๒๑ รูป

รูปสระ ๗ ะ (วสิ รรชนีย์) - ็(ไม้ผดั , ไม้หันอากาศ) ๑. ะ (วสิ รรชนีย)์ ใชเ้ ป็นสระอะเมื่ออยหู่ ลงั ๒. - (ไมผ้ ดั , ไมห้ นั อากาศ) ใชเ้ ขียนบน พยญั ชนะ เช่น ปะ กะ และใชป้ ระสมกบั สระ พยญั ชนะแทนเสียงสระอะเมื่อมีตวั สะกด เช่น รูปอ่ืน ใหเ้ ป็นสระ อ่ืน เช่น เตะ แตะ โตะ๊ มดั และประสมกบั สระรูปอื่น เช่น ตวั ผวั ะ เอียะ อวั ะ า (ลากข้าง) -็ (ไม้ไต่คู้) ๔. า (ลากขา้ ง) ใชเ้ ป็นสระอา สาํ หรับ ๓. -็(ไมไ้ ต่คู)้ ใชเ้ ขียนไวบ้ นพยญั ชนะที่ประสม เขียนหลงั พยญั ชนะและใชป้ ระสม กบั รัสสระที่มีวสิ รรชนีย์ เพ่ือแทนวสิ รรชนียเ์ มื่อมี กบั รูปสระรูปอ่ืนเป็นสระ เอาะ อาํ ตวั สะกด เช่น เจด็ (เจะ+ด) และใชแ้ ทนสระเอาะ เอา เช่น เกาะ ลาํ เพา ท่ีมีวรรณยกุ ตโ์ ท ที่มีคาํ เดียวคือคาํ วา่ ก็ (เกา้ ะ)

รูปสระ ๘ -็ (ฝนทอง) ๖. -็(ฝนทอง) ใชเ้ ขียนไวข้ า้ งบนพินทอุ์ ิ ทาํ ให้ เป็นสระอี เช่น ผี มี ปี - (พนิ ท์ุอ)ิ -˝ (ฟันหนู) ๕. - (พินทุอ์ ิ) ใชเ้ ป็นสระอิ สาํ หรับเขียนไวบ้ น ๗. - ˝(ฟันหนู) ใชเ้ ขียนไวข้ า้ งบนพินทอุ์ ิเป็นสระอือ พยญั ชนะ เช่น ซิ ผลิ และใชป้ ระสมกบั สระรูป เอือะ เอือ เช่น มือ เสือ อ่ืนใหเ้ ป็นสระ อี อือ เอียะ เอีย เอือะ เอือ เช่น ผี คือ เกี๊ยะ เสีย เสือ

๙ รูปสระ -° (หยาดนา้ ค้าง, นฤคหิต) ๘. -° (หยาดน้าํ คา้ ง, นฤคหิต) ใชเ้ ขียนไวข้ า้ งบน ลากขา้ ง ทาํ ใหเ้ ป็นสระอาํ ( ำ็) และเขียน บนพนิ ทุอ์ ิเป็นสระอึ เช่น จาํ นาํ ปรึกษา ศึกษา -็(ตีนเหยยี ด) ๙. -็(ตีนเหยยี ด) ใชเ้ ป็นสระอุ เขียนไวข้ า้ งล่างตรง เส้นหลงั ของพยญั ชนะ เช่น ดุ ทะลุ กินจุ

รูปสระ ๑๐ -็(ตนี คู้) ๑๐. -็(ตีนคู)้ ใชเ้ ป็นสระอู เขียนไวข้ า้ งล่างตรงเสน้ หลงั ของพยญั ชนะตน้ เช่น ปู งู ดู เ- (ไม้หน้า) ๑๑. เ- (ไมห้ นา้ ) ใชเ้ ป็นสระเอ สาํ หรับเขียนไวข้ า้ งหนา้ พยญั ชนะ เช่น เกเร ถา้ ใชส้ องรูปดว้ ยกนั จะเป็นสระแอ และใชป้ ระสมกบั สระรูปอื่นใหเ้ ป็นสระอื่น เช่น เอือ เอา เออะ เอียะ เอีย เอาะ แอะ ใ- (ไม้ม้วน) ๑๒. ใ- (ไมม้ ว้ น) ใชเ้ ป็นสระใอ สาํ หรับเขียนไวห้ นา้ พยญั ชนะ เช่น ใคร ใต้ ฯลฯ

รูปสระ ๑๑ ไ- (ไม้มลาย) โ- (ไม้โอ) ๑๓. ไ- (ไมม้ ลาย) ใชเ้ ป็นสระไอ ๑๔. โ- (ไมโ้ อ) ใชเ้ ป็นสระโอ สาํ หรับเขียนไวข้ า้ งหนา้ พยญั ชนะ สาํ หรับเขียนไวข้ า้ งหนา้ พยญั ชนะ เช่น ไฟไหม้ เช่น โมโห ใชป้ ระสมกบั วสิ รรชนีย์ ทาํ ใหเ้ ป็นสระ โอะ เช่น โละ โปะ ย (ตัวยอ) ๑๕. ย (ตวั ยอ) ใชป้ ระสมกบั รูปสระรูปอ่ืน ทาํ ให้ เป็นสระอ่ืน เช่น สระเอีย เอียะ

รูปสร) ะ ๑๒ ว (ตวั วอ) ๑๖. ว (ตวั วอ) ใชป้ ระสมกบั สระ รูปอื่น เป็นสระ อวั ะ อวั ฤ (ตัวรึ) อ (ตวั ออ) ๑๘. ฤ (ตวั รึ)ใช้ เป็นสระ ฤ จะใชโ้ ดดๆ ๑๗. อ (ตวั ออ) ใชเ้ ขียนหลงั พยญั ชนะเป็น เช่น ฤดี หรือจะใชป้ ระสมกบั พยญั ชนะ (ตอ้ งเขียน สระ ออ และประสมกบั รูปสระรูปอ่ืน เป็น ไวห้ ลงั พยญั ชนะ) และออกเสียงสระไดห้ ลายเสียง ออกเสียงเป็น ริ เช่น กฤษณา ออกเสียงเป็น รึ เช่น สระ อือ เออะ เอือะ เอือ ฤดู ฤทยั พฤกษ์ ออกเสียงเป็น เรอ เช่น ฤกษ์

๑๓ รูปสระ ฤๅ (ตัวรือ) ฦ (ตวั ล)ึ ฦๅ (ตัวลือ) ๑๙. ฤๅ (ตวั รือ) ใชเ้ ป็นสระ ฤๅ ใชโ้ ดดๆ ๒๐. ฦ (ตวั ลึ) ใชเ้ ป็นสระ ฦ ๒๑. ฦๅ (ตวั ลือ) ใชเ้ ป็นสระ ฦๅ เช่น ฤๅไม่ หรือใชเ้ ป็นพยางคห์ นา้ ของคาํ (ปัจจุบนั เลิกใชแ้ ลว้ ) (ปัจจุบนั เลิกใชแ้ ลว้ ) เช่น ฤๅดี

ตาแหน่งรูปสระ ๑๔ ๑. สระหนา้ เป็นสระท่ีวางอยหู่ นา้ พยญั ชนะตน้ เช่น เ- แ- โ- ไ- ใ- เช่น เกเร แม่ แก่ โต ไม้ ใช้ ใกล้ ๒. สระหลงั เป็นสระท่ีวางอยหู่ ลงั พยญั ชนะตน้ เช่น -ะ -า - ๓. สระบนหรือสระเหนือ เป็นสระที่วางอยบู่ น อ ฤ –ว เช่น พระ มารดา พอ่ ฤกษ์ กวน พยญั ชนะตน้ เช่น - - - - - - เช่น กดั กิน ขีด ปรึกษา ขืน ก็

ตาแหน่งรูปสระ ๑๕ ๔. สระใตห้ รือสระล่าง เป็น ๕. สระหนา้ และหลงั เป็นสระท่ีวาง สระท่ีวางไวใ้ ตพ้ ยญั ชนะตน้ ไวห้ นา้ และหลงั พยญั ชนะตน้ เช่น เ-า แ-ะ โ-ะ เ-ะ เ-าะ เ-อะ เช่น เมาเหลา้ เช่น -็ -็เช่น หมู หนู ดุ พลุ เจอะเจอ โต๊ะ เละเทะ เยอะแยะ ๖. สระบนและหลงั เป็น ๗. สระหนา้ บนและหลงั เป็น ๘. สระหนา้ และบน เป็นสระท่ี สระที่วางไวบ้ นและหลงั สระท่ีวางอยหู่ นา้ บน และหลงั วางไวห้ นา้ และบนพยญั ชนะ ตน้ เช่น เ- เ-็เช่น เกิน เป็ด เช็ด พยญั ชนะตน้ เช่น -วะ -ว พยญั ชนะตน้ เช่น เ-ยะ เ-ย เ-อะ –ำ เช่น ลวั ะ กลวั จาํ นาํ เ-อ เช่น เกี๊ยะ เมีย เสือ ๙. สระท่ีอยไู่ ดต้ ามลาํ พงั ไม่ ตอ้ งประสมกบั พยญั ชนะ ตน้ เช่น ฤ ฤ

เสียงสระ ๑๖ เสียงสระในภาษาไทยมี ๓๒ เสียง ดงั น้ี ะ อา อิ อี อึ อื อุ อู เอะ เอ เเอะ เเอ เอียะ เอีย เอือะ เอือ อวั ะ อวั โอะ โอ เอาะ ออ เออะ เออ อา ใอ ไอ เอา ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ การแบ่งเสียงสระ แบ่งเสียงสระเป็นพวกใหญ่ๆ ได้ ๕ พวกดว้ ยกนั คือ ๑. สระเสียงส้นั ไดแ้ ก่ สระท่ีออกเสียงส้นั คือ อะ อิ อึ อุ เอะ แอะ โอะ เอาะ เออะ เอียะ เอือะ อวั ะ ฤ ฦ อาํ ไอ ใอ เอา

๑๗ การแบ่งเสียงสระ ๒. สระเสียงยาว ไดแ้ ก่ สระท่ีออกเสียงยาว คือ อา ๔. สระประสม คือ สระที่มีเสียงสระเด่ียว ๒ ตวั อี อื อู เอ แอ โอ ออ เออ เอีย เอือ อวั ฤๅ ฦๅ ประสมกนั เกิดการเลื่อนของลิ้นในระดบั สูงลดลง สู่ระดบั ต่าํ มี 6 ๖ ตวั ไดแ้ ก่ ๓. สระเด่ียว ไดแ้ ก่ สระที่เปล่งเสียงออกมาเป็น - เอียะ ประสมจากเสียงสระ อี กบั อะ เสียงเดียว ไม่มีเสียงอื่นประสมมี ๑๘ ตวั ไดแ้ ก่ อะ - เอีย ประสมจากเสียงสระ อี กบั อา อา อิ อี อึ อื อุ อู เอะ เอ แอะ แอ เออะ เออ โอะ โอ - เอือะ ประสมจากเสียงสระ อือ กบั อะ เอาะ ออ - เอือ ประสมจากเสียงสระ อือ กบั อา - อวั ะ ประสมจากเสียงสระ อู กบั อะ - อวั ประสมจากเสียงสระ อู กบั อา

การแบ่งเสียงสระ ๑๘ ๕. สระเกิน คือ สระท่ีมีเสียงซ้าํ กบั สระเด่ียว ต่างกนั กแ็ ต่วา่ สระเกินจะมีเสียงพยญั ชนะ ประสมหรือสะกดอยดู่ ว้ ย มี ๘ ตวั ไดแ้ ก่ - อาํ ประสมจากเสียงสระ อะ และพยญั ชนะ ม สะกด (อมั ) เช่น ขาํ บางคร้ังออกเสียงยาว (อาม) เช่น น้าํ - ใอ ประสมจากเสียงสระ อะ และพยญั ชนะ ย สะกด (อยั ) เช่น ใจ บางคร้ังออกเสียงยาว (อาย) เช่น ใต้ - ไอ ประสมจากเสียงสระ อะ และพยญั ชนะ ย สะกด (อยั ) เช่น ไหม้ บางคร้ังออกเสียงยาว (อาย) เช่น ไม้ - เอา ประสมจากเสียงสระ อะ และพยญั ชนะ ว สะกด (โอว) เช่น เกา บางคร้ังออกเสียงยาว (อาว) เช่น เกา้ - ฤ ประสมจากเสียงพยญั ชนะ ร และสระ อึ (รึ) เช่น พฤกษา บางคร้ังเปลี่ยนเสียงเป็น ริ เช่น กฤษณะ หรือ เรอ เช่นฤกษ์ - ฤๅ ประสมจากเสียงพยญั ชนะ ร และสระ อือ (รือ) - ฦ ประสมจากเสียงพยญั ชนะ ล และสระ อึ (ลึ) - ฦๅ ประสมจากเสียงพยญั ชนะ ล และสระ อือ (ลือ)

วธิ ีใช้สระ ๑๙ เมื่อพยญั ชนะประสมกบั สระและมีตวั สะกด จะมีวธิ ีใชส้ ระหลายวธิ ี ดงั น้ี ๑. คงรูป คือเขียนรูปสระใหป้ รากฏครบถว้ น ไดแ้ ก่ -า , -, -, -, -็, -็, เ- , แ- , โ- , -อ , เ -ย , เ -อ ก + -า + ง = กาง ด + - + น = ดิน ห + -อ + ม = หอม ม + แ- + ว = แมว ๒. แปลงรูป คือ แปลงสระเดิมใหเ้ ป็นอีกรูปหน่ึง ไดแ้ ก่ -ะ , เ-ะ , แ-ะ , เ-อ ร + -ะ + บ = รับ (แปลงวสิ รรชนียเ์ ป็นไมห้ นั อากาศ) ล + เ-ะ + ก = เลก็ (แปลงวสิ รรชนียเ์ ป็นไม่ไต่คู)้ ข + แ-ะ + ง = แขง็ (แปลงวสิ รรชนียเ์ ป็นไมไ้ ต่คู)้ ด + เ-อ + น = เดิน (แปลงตวั ออเป็นพินทุอ์ ิ)

วธิ ีใช้สระ ๒๐ ๓. ลดรูป คือไม่ตอ้ งเขียนรูปสระใหป้ รากฏ หรือปรากฏ ๓.๒ ลดรูปบางส่วน ไดแ้ ก่ สระท่ีลดรูปไม่หมดเหลือ บางส่วนแต่ยงั คงตอ้ งออกเสียงใหต้ รงกบั รูปสระที่ลดน้นั ไวบ้ างส่วน เช่น การลดรูปมี ๒ วธิ ีคือ ค + เ-อ + ย = เคย (เม่ือตวั ย สะกด จะลดรูปตวั อ เหลือ ไวแ้ ต่ไมห้ นา้ เช่น เชย เชย เลย เกย เอย เนย เงย ) ๓.๑ ลดรูปท้งั หมด ไดแ้ ก่ โ-ะ, -อ เช่น ส + -็ว + น = สวน (ลดไมห้ นั อากาศ คงเหลือไวแ้ ต่ตวั บ + โ-ะ + ก = บก ว เช่น กวน ลวน นวล ชวน ควร มวน อวน) ก + -อ + ร = กร (เม่ือมีตวั ร สะกดเท่าน้นั )

วธิ ีใช้สระ ๒๑ ๔. เติมรูป คือ เพมิ่ รูปนอกเหนือจากท่ีมีอยู่ ๕. ลดรูปและแปลงรูป แลว้ ไดแ้ ก่ - ท่ีใช้ ในแม่ ก กา จะเติม -อ เช่น ก + เ-าะ + - = ก็ ม + - = มือ ล + เ-าะ + ก = ลอ็ ก ค + - = คือ เคียง)

๒๒ เรียนรู้เนื้อหาจบแล้ว เป็ นไงบ้างคะเดก็ ๆ เราไปทาแบบฝึ กหัดหลงั เรียนกนั ต่อเถอะ !! ต้งั ใจทานะคะ

แบบฝึ กหัดหลงั เรียน ๒๓ คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนทาํ เคร่ืองหมายจากบาท (X) ทบั ตวั อกั ษร ก. ข. ค. หนา้ คาํ ตอบท่ีถูกตอ้ งที่สุดเพียงคาํ ตอบเดียวลงในกระดาษคาํ ตอบ (๑๐ คะแนน) ๑. ขอ้ ใดกล่าวไม่ถูกตอ้ ง ๒. ขอ้ ใดมีคาํ ที่ใชส้ ระลดรูป ๓. สระ \"อา\" เป็นสระเสียงชนิดใด ก. แลว้ สวมสอดกอดเอาไว้ ก. เสียงส้นั ก. สระ -ะ มีตวั สะกดจะเปล่ียนเป็น - ข. หลงชมเชยชื่นรื่นจิต ข. เสียงกลาง ข. สระ -ว็ มีตวั สะกด - จะหายไป ค. รักแลว้ ไม่แคลว้ ตอ้ งรอหน่อย ค. เสียงยาว ค. สระ -อ มีตวั สะกดจะเปล่ียนเป็น - ๔. ประโยคใดมีสระอาประสมอยดู่ ว้ ย ๕. คาํ ในขอ้ ใดประสมดว้ ยสระเสียงยาวทุกคาํ ก. ในนามีรูปู ข. ในรูปูมีงู ก. จาํ นง ซาบซ้ึง ค. ปูจะดุงูในรู ข. ประทบั เวทมนตร์ ค. ก๋วยเต๋ียว เครื่องราง

๒๔ ๖. ในขอ้ ใดไม่ประสมสระเออ ๗. คาํ ใดตรงกบั ภาพ ก. ชมเชย ก. ไบเตย ข. รอคอย ข. ใบเตย ค. ร่าํ เริง ค. บยั เตย ๘. ประโยคต่อไปน้ีขอ้ ใดประสมดว้ ย ๙. คาํ วา่ “จดั ” อ่านสะกดคาํ วา่ อยา่ งไร ๑๐. คาํ ในขอ้ ใดใช้ (ไ - ย) ไดถ้ ูกตอ้ ง สระอามากที่สุด ก. ไอยแดด ก. จอ – อะ – ดอ – จดั ข. สไบย ก. ตามาหาอาในนา ข. จอ – เอะ – ดอ – จดั ค. ไอยรา ข. ตามาหาอา ค. จอ – แอะ – ดอ – จดั ค. อีกาในนาอา

๒๕ ไปดูเฉลยกนั เลย !!

เฉลยแบบฝึ กก่อนเรียน-หลงั เรียน ๒๖ ก่อนเรียน หลงั เรียน ข้อท่ี เฉลย ข้อที่ เฉลย ๑. ค ๑. ค ๒. ก ๒. ข ๓. ก ๓. ค ๔. ข ๔. ก ๕. ค ๕. ค ๖. ก ๖. ข ๗. ข ๗. ข ๘. ค ๘. ก ๙. ก ๙. ก ๑๐. ค ๑๐. ค

๒๗ อ้างองิ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสุนนั ทา. (2564). สระในภาษาไทย. สืบคน้ เม่ือ 5 สิงหาคม 2564. จาก/https://sites.google.com/site/sraniphasathiy/home นางปราณี หม่ืนระยา้ . (2564). ขอ้ สอบสระ. สืบคน้ เมื่อ 5 สิงหาคม 2564. จาก/https://www.kroobannok.com/news_file/p32880441200.pdf

THANK YOU


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook