Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายวิชาคณิตศาสตร์ เพิ่มเติม

รายวิชาคณิตศาสตร์ เพิ่มเติม

Description: รายวิชาคณิตศาสตร์ เพิ่มเติม

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าคณิตศาสตร์ ค21201 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 โรงเรียนวัดสันติการามวทิ ยา ในพระบรมราชานุเคราะห์ จดั ทาโดย นาย ศักดินนท์ ชัยภมู ิ รหสั นกั ศึกษา 584143111 หมู่ 4 คบ.5 คณิตศาสตร์ สาขาวชิ าคณติ ศาสตร์ คณะวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลัยราชภัฏหมูบ่ า้ นจอมบึง ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2562

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดบั มธั ยมศึกษาชัน้ ปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา 2562 หน้า ก คานา แผนการจัดการเรียนการสอน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับ มัธยมศึกษาช้ันปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา 2562 จดั ทาข้ึนเพอื่ เปน็ แนวทางากรจัดการเรียนรู้ มีเน้ือหาสาระ เก่ียวกับโครงสรา้ งหลักสตู ร แผนการจดั การเรียนรแู้ ละแนวทางการจดั กระบวนการเรยี นรู้ที่ครอบคลุมเน้ือหา รายวิชา คณิตศาสตร์ ในภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศึกษา 2562 ในการจัดทาแผนการจัดการเรียนการสอนคร้ังน้ี ได้รับความร่วมมืออย่างดีจาก ผู้อานวยการ คณะครูผู้สอน ร่วมกันระดมความคิดและแลกเปลี่ยนเรียนรู้นามาจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้สามารถนาไปใช้ในการ จัดการเรยี นการสอนใหน้ ักเรยี นในระดับมัธยมศกึ ษาชน้ั ปที ่ี ๑ โรงเรยี นวัดสนั ติการามวิทยาในพระบรมราชา นุเคราะห์ จังหวัดราชบุรี หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้ จะเป็นประโยชน์สาหรับผู้นาไปจัดกระบวนการเรียน การสอนไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ หากพบข้อผิดพลาดประการใดผู้จัดทาขอนอ้ มรบั ไว้แก้ไขปรับปรุงในโอกาสต่อไป นายศักดินนท์ ชัยภมู ิ ครผู ู้สอน

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มัธยมศกึ ษาชน้ั ปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา 2562 หน้า ข สารบัญ คานา หนา้ สารบญั ก แผนจัดการเรยี นรู้ที่ ๑ ข แผนจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๒ ๑ แผนจัดการเรียนรู้ท่ี ๓ ๑๑ แผนจัดการเรยี นรู้ท่ี ๔ ๒๒ แผนจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๕ ๓๓ แผนจดั การเรียนรทู้ ่ี ๖ ๔๒ แผนจดั การเรียนรู้ที่ ๗ ๕๐ ๕๙

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดับมัธยมศึกษาชั้นปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา 2562 หน้า ๑ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 รหัสวิชา ค21201 ชอื่ รายวิชา คณติ ศาสตรเ์ พ่ิมเตมิ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรื่องจานวนเตม็ ระดบั ชั้น ม.1ภาคเรยี นท่ี 1 จานวน 6ชวั่ โมง/สัปดาห์ แผนการเรียนรูท้ ่ี 1เร่ือง จานวนเต็ม เวลา 2ชั่วโมง ผู้สอน นาย ศักดนิ นท์ ชัยภูมโิ รงเรยี นวัดสนั ตกิ ารามวิทยาในพระบรมราชานุเคราะห์ จังหวดั ราชบุรี 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/สาระ มาตรฐาน ค ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลท่ี เกดิ ขนึ้ จากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนินการ และการนาไปใช้ 2. ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ ตวั ชี้วดั ม. 1/1เขา้ ใจจานวนตรรกยะ และความสัมพนั ธ์ของจานวนตรรกยะและใช้สมบัติของจานวนตรรกยะใน การแกป้ ัญหาคณิตศาสตรแ์ ละปัญหาในชวี ติ จริง 3. สาระสาคญั และความคิดรวบยอด จานวนเต็ม คอื จานวนท่ีไมม่ ีเศษสว่ นและทศนิยมรวมอย่ใู นจานวนน้นั จานวนเต็มประกอบดว้ ย 1. จานวนเต็มบวก ไดแ้ ก่ 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , ... 2. จานวนเตม็ ลบ ไดแ้ ก่ ... , -4 , -3 , -2 , -1 3. ศูนย์ ได้แก่ 0 การเปรยี บเทียบจานวนเตม็ สองจานวนใดๆ บนเสน้ จานวน จานวนเตม็ ท่ีอย่ทู างขวาจะมีค่ามากกวา่ จานวน เต็มทอ่ี ยู่ทางซ้าย 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรยี นสามารถระบจุ านวนเตม็ บวก จานวนเต็มลบ และจานวนเต็มศูนยไ์ ด้(K) ๒. นักเรยี นสามารถแยกแยะ จานวนเต็มบวก จานวนเต็มลบ และจานวนเต็มศนู ย์ได(้ K) ๓. เปรยี บเทยี บจานวนเตม็ ได้(K) ๔. มีความสามารถในการให้เหตุผล(P) ๕. มคี วามสามารถในการสอ่ื สาร ส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ และการนาเสนอ(P) ๖. มคี วามรับผิดชอบ (A) ๗. มีความรอบคอบ(A) ๘. มคี วามซ่ือสตั ย์ (A)

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดบั มัธยมศึกษาช้ันปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศึกษา 2562 หน้า ๒ 5. สาระการเรยี นรู้ 1.จานวนเตม็ 2.จานวนเตม็ บวก 3.จานวนเตม็ ลบ 4.จานวนเต็มศนู ย์ 6. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1.1 การอธิบายและบอกความหมายและการเปรยี บเทียบของจานวนเต็ม 2. ความสามารถในการคิด 2.1 ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ 2.2 ทักษะการคิดสรา้ งสรรค์ 2.3 ทักษะการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ 2.4 ทักษะการคดิ เป็นระบบ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 3.1 ทกั ษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 3.2 ทกั ษะการแปลความ 3.3 ทักษะการใหเ้ หตุผล 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 4.1 ทักษะการสื่อสารฟังและพดู 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5.1 ใช้อินเตอรเ์ น็ตในการสบื ค้นข้อมูล และใช้ Power Point แสดงเนอ้ื หาทส่ี อน รวมถึงข้นึ โจทย์ แบบฝึกทกั ษะแต่ละชดุ 7. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 มวี นิ ัยความรบั ผดิ ชอบ 1. มวี นิ ัย ความรบั ผิดชอบ ในการทาแบบฝึกทักษะแต่ละชุด 7.2 ใฝเ่ รียนรู้ 1. ศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ และชดุ ฝกึ ทักษะแต่ละชุด 2. กระตอื รือร้นสนใจสืบคน้ ความร้ใู หม่ 3. ตั้งใจเรียน

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดับมธั ยมศกึ ษาชัน้ ปที ่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศึกษา 2562 หน้า ๓ 7.3 มุ่งมั่นในการทางาน 1. อดทนทางานสาเร็จตามทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย 7.4 อยู่อย่างพอเพียง 1. คดิ และตัดสินใจในการปฏิบตั กิ จิ กรรมทไ่ี ด้รบั มอบหมายเหมาะสมกับศักยภาพตนเอง/กลมุ่ และเลอื กใช้ วสั ดอุ ปุ กรณใ์ นการปฏิบัตกิ จิ กรรมอย่างประหยดั คุ้มคา่ 2. ใช้ความรสู้ ตปิ ัญญาเตรียมพร้อมและวางแผนการปฏิบตั ิกิจกรรมอย่างอดทนเปน็ ระบบ รอบคอบ สมเหตสุ มผล 8. ค่านยิ ม ๑๒ประการ 8.1. ซอื่ สตั ย์ เสียสละ อดทนมอี ุดมการณ์ในสิง่ ที่ดงี ามเพ่ือส่วนรวม 8.2 ใฝห่ าความรู้ หม่ันศึกษาเลา่ เรยี นทั้งทางตรง และทางอ้อม 8.3. มีศีลธรรม รกั ษาความสัตย์ หวงั ดีตอ่ ผูอ้ นื่ เผื่อแผ่และแบง่ ปนั 8.4. เข้าใจเรยี นรกู้ ารเปน็ ประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมขุ ท่ีถกู ต้อง 8.5 มรี ะเบียบวนิ ัย เคารพกฎหมายผนู้ อ้ ยรจู้ กั การเคารพผ้ใู หญ่ 8.6. มสี ติรูต้ วั รู้คิด รูท้ ารปู้ ฏบิ ัตติ ามพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั 9. การวดั และประเมนิ ผล จดุ ประสงค/์ ตัวช้ีวดั วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมิน ๑. ความร(ู้ K) ๑. นักเรียนสามารถระบุ - ตรวจแบบฝึกทักษะ แบบทดสอบกอ่ นเรียน รอ้ ยละ 85 ผ่าน เกณฑ์ จานวนเต็มบวก จานวนเต็มลบ และจานวนเตม็ ศนู ย์ได(้ K) ๒. นกั เรียนสามารถแยกแยะ จานวนเต็มบวก จานวนเต็มลบ และจานวนเต็มศูนย์ได(้ K) ๓. เปรยี บเทยี บจานวนเต็ม ได(้ K ๒. ทักษะ/กระบวนการ(P) ๑. มคี วามสามารถในการให้ - ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ แบบฝึกหดั รอ้ ยละ ๘๕ผ่าน เกณฑ์ เหตผุ ล(P) ๒. มีความสามารถในการ ส่ือสาร สอ่ื ความหมายทาง คณิตศาสตร์ และการนาเสนอ (P)

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดับมธั ยมศกึ ษาชน้ั ปที ่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา 2562 หน้า ๔ ๓. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์(A) ๑.มคี วามรับผดิ ชอบ (A) สังเกตพฤตกิ รรมการ - การสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ ๒. มีความรอบคอบ(A) ทางานกล่มุ ความมวี นิ ยั การทางานกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์ ๓. มคี วามซอื่ สัตย์ (A) ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่ันใน การทางาน 10. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ชว่ั โมงท่ี 1) ข้นั นา 1. แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรใู้ ห้นักเรยี นทราบวา่ เมื่อเรียนจบแผนการจดั การเรียนรนู้ แี้ ลว้ นักเรียนจะสามารถ -เปรียบเทยี บจานวนเต็มได้ - หาผลบวก ผลลบ ผลคณู และผลหารของจานวนเตม็ - นาความร้เู ร่ืองจานวนเตม็ ไปใช้ในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ ขั้นสอน 1. ครผู สู้ อนอธบิ ายเก่ียวกับจานวนเตม็ ว่า จานวนเต็มแบ่งออกไดเ้ ป็น 3 ประเภท คือ 1. จานวนเตม็ บวก หรอื จานวนนบั ไดแ้ ก่ 1, 2, 3, 4, 5, … ซึง่ 1 เปน็ จานวนนับทน่ี อ้ ยทส่ี ุด จานวนนับอื่นๆ เกิดจาก 1 ดงั น้ี 1 + 1 แทนด้วย 2 2 + 1 แทนดว้ ย 3 3 + 1 แทนด้วย 4 โดยการนบั เพ่มิ ทีละ 1 เช่นนไี้ ปเรือ่ ยๆ จะไดจ้ านวนนับอื่นๆ เพิม่ ข้นึ เร่ือยๆ ซึง่ แสดงดว้ ยเสน้ จานวนทีน่ ับเพิ่ม จาก 1 ไปทางขวาทลี ะ 1 หน่วย ได้ดังนี้ 2. จานวนเต็มลบ ไดแ้ ก่ –1, -2, -3, -4, -5, … ถา้ เรานบั ลดลงทีละ 1 กจ็ ะได้ 0, -1, -2, -3, … ไปเร่ือยๆ ซึ่งแสดงดว้ ยเสน้ จานวนทน่ี ับลดจาก 1 ไปทางซา้ ยที ละ 1 หน่วย ไดด้ ังนี้ 3. ศูนย์ ได้แก่ 0 ดงั น้นั เมอ่ื กล่าวถงึ จานวนเตม็ จะหมายถึง จานวนเตม็ บวก หรอื จานวนเตม็ ลบ หรอื ศนู ย์ เขยี นแสดงจานวน เตม็ ท้งั หมดโดยใช้เส้นจานวน ดงั น้ี

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดับมัธยมศึกษาช้ันปที ่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศึกษา 2562 หน้า ๕ นนั่ คอื บนเสน้ จานวน จานวนเตม็ ที่อยู่ทางขวาของ 0 เปน็ จานวนเตม็ บวก จานวนเตม็ ท่ีอยู่ทางซา้ ยของ 0 เป็นจานวน เต็มลบ และจานวนที่อยู่ทางขวาจะมากกวา่ จานวนทอี่ ยู่ทางซ้ายเสมอ 2. ครผู สู้ อน ถาม - ตอบ กบั นักเรียนวา่ ขอ้ ความต่อไปนเ้ี ป็นจริงหรือเป็นเทจ็ เช่น - 0 เปน็ จานวนเตม็ ทไ่ี มเ่ ป็นจานวนเตม็ บวก และไม่เปน็ จานวนเตม็ ลบ - ไม่มจี านวนเต็มลบท่นี ้อยทส่ี ุด - จานวนเต็มลบที่มากท่ีสุดคือ -1 - จานวนเตม็ บวกท่ีนอ้ ยที่สดุ คือ 1 - ไม่มจี านวนเต็มบวกทีม่ ากท่ีสดุ - ไม่มีจานวนเต็มท่ีมากทส่ี ุด - ไมม่ จี านวนเตม็ ทนี่ ้อยทีส่ ดุ 3. ครูผูส้ อนยกตัวอย่างการเขียนจานวนเต็มที่เพิ่มขนึ้ และลดลง บนเส้นจานวน ตวั อย่างท่ี 1จงเขียนจานวน 3 จานวนต่อจาก 8 โดยลดลงทีละ 3 ตอบ5, 2, -1 ตวั อย่างที่ 2จงเขยี นจานวน 3 จานวนต่อจาก -3 โดยเพม่ิ ขน้ึ ทีละ 3 ตอบ0, 3, 6 4. ครผู ู้สอนสนทนาและต้ังประเด็นคาถามเกีย่ วกับจานวนเต็ม เชน่ 5 มากกวา่ 3 หรือไม่ -1นอ้ ยกวา่ 0 หรือไม่ 1 มากกว่า0 หรือไม่ -5 นอ้ ยกว่า -2 หรือไม่ 5. ครูผ้สู อนยกตวั อยา่ ง โดยให้นกั เรยี นพจิ ารณาว่าจานวนใดนอ้ ยกว่าหรือจานวนใดมากกวา่ โดยใชเ้ ส้นจานวน 5 อยูท่ างขวาของ3 แสดงวา่ 5 มากกวา่ 3 ใช้สญั ลกั ษณ์ 5 > 3 2 อย่ทู างขวาของ1 แสดงวา่ 2 มากกว่า 1 ใช้สัญลกั ษณ์ 2 > 1 1 อยทู่ างขวาของ0 แสดงว่า 1 มากกวา่ 0 ใชส้ ญั ลักษณ์ 1 > 0 -1อยูท่ างซา้ ยของ 0 แสดงว่า -1 น้อยกวา่ 0 ใช้สญั ลกั ษณ์ -1 < 0 -2 อยทู่ างซา้ ยของ -1 แสดงวา่ -2 น้อยกวา่ -1 ใช้สญั ลักษณ์ -2 < -1 -5 อยทู่ างซ้ายของ -3 แสดงวา่ -5 น้อยกว่า -3 ใช้สญั ลักษณ์ -5 < -3 ดงั นนั้ บนเสน้ จานวน จานวนเต็มทอ่ี ยู่ทางขวาของ 0 เป็นจานวนเตม็ บวก จานวนเตม็ ที่อยทู่ างซ้าย ของ 0 เป็นจานวนเตม็ ลบ และจานวนทอ่ี ยู่ทางขวาจะมากกวา่ จานวนที่อยูท่ างซา้ ยเสมอ

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดบั มธั ยมศกึ ษาช้นั ปีท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศึกษา 2562 หน้า ๖ 6. ครผู สู้ อนให้นกั เรยี นทาใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง จานวนเตม็ ขัน้ สรปุ 1. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปเรอ่ื งจานวนเต็มและการเปรียบเทียบจานวนเต็มดงั นี้ - จานวนเตม็ บวก หรือ จานวนนับ หรอื จานวนธรรมชาติ ได้แก่ 1, 2, 3, 4, 5,…. - จานวนเตม็ ศนู ย์ ได้แก่ 0 - จานวนเต็มลบ ไดแ้ ก่ -1, -2, -3, -4, -5,… 2. ครูแจกใบความรเู้ รื่องจานวนเตม็ (ช่ัวโมงท่ี 2) ข้นั นา 1. ครผู ้สู อนใชค้ าถามเก่ยี วกบั จานวนเต็มบวก ศนู ย์ และจานวนเต็มลบ เพือ่ กระตุ้นความคดิ ตามประเด็นต่อไปน้ี 1 เปน็ จานวนเตม็ ลบใชห่ รือไม่ -2 เป็นจานวนเต็มลบใชห่ รือไม่ 0 เป็นจานวนเต็มบวกใช่หรือไม่ จานวนเตม็ บวกท่นี ้อยทสี่ ดุ คือ 1 ใช่หรอื ไม่ ขน้ั สอน 1. ครูผู้สอนสนทนาและต้ังประเดน็ คาถามเก่ยี วกับจานวนเตม็ เชน่ 5 มากกว่า 3 หรือไม่ -1 น้อยกวา่ 0 หรอื ไม่ 1 มากกวา่ 0 หรือไม่ -5 นอ้ ยกวา่ -2 หรือไม่ 2. ครผู ูส้ อนยกตวั อย่าง โดยให้นกั เรยี นพจิ ารณาวา่ จานวนใดน้อยกว่าหรือจานวนใดมากกวา่ โดยใช้เส้นจานวน 5 อยู่ทางขวาของ 3 แสดงว่า 5 มากกว่า 3 ใช้สญั ลกั ษณ์ 5 > 3 2 อยู่ทางขวาของ 1 แสดงวา่ 2 มากกวา่ 1 ใช้สญั ลักษณ์ 2 > 1 1 อยทู่ างขวาของ 0 แสดงว่า 1 มากกวา่ 0 ใช้สญั ลกั ษณ์ 1 > 0 -1 อยู่ทางซ้ายของ 0 แสดงวา่ -1 น้อยกวา่ 0 ใช้สัญลักษณ์ -1< 0 -2 อยู่ทางซ้ายของ -1 แสดงว่า -2 นอ้ ยกว่า -1 ใช้สญั ลักษณ์ -2 < -1 -5 อยทู่ างซ้ายของ -3 แสดงวา่ -5 นอ้ ยกวา่ -3 ใช้สญั ลกั ษณ์-5 < -3 ดงั น้ัน บนเสน้ จานวน จานวนเต็มท่ีอยู่ทางขวาของ 0 เปน็ จานวนเต็มบวก จานวนเต็มท่ีอยู่ทางซา้ ยของ 0 เป็น จานวนเต็มลบ และจานวนทอี่ ยทู่ างขวาจะมากกว่าจานวนท่ีอยทู่ างซ้ายเสมอ

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดับมธั ยมศึกษาชั้นปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา 2562 หน้า ๗ ขั้นสรุป 1. ครผู ู้สอนและนกั เรียนรว่ มกันสรุปเรอ่ื ง การเปรยี บเทยี บจานวนเต็ม 2. ครูผ้สู อนให้นักเรยี นทกุ คนทาแบบฝกึ หดั 11. สอ่ื และแหล่งเรียนรู้ 11.1 สอื่ การเรยี นรู้ - แบบฝึกทักษะท่ี 1 11.2 แหล่งเรยี นรู้ - ห้องสมุดโรงเรียน - ห้องสืบค้นอินเตอร์เนต็ 12. การใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการจัดการเรียนรทู้ เี่ กดิ กบั ผเู้ รียน ความพอประมาณ มเี หตุผล มีภมู คิ ุ้มกันในตัวทด่ี ี 1. นกั เรยี นมพี ืน้ ฐานความรู้ทางวิชา 1. นกั เรยี นมเี หตผุ ลในการระบแุ ละ 1. นักเรยี นนาความรเู้ รอื่ งจานวน คณิตศาสตร์ท่ีเหมาะสมกบั เนื้อหา แยกแยะจานวนเตม็ ได้ เตม็ และการดาเนินการไปใช้ในการ 2. นกั เรยี นวเิ คราะห์และตัดสนิ ใจ แก้ปญั หาได้ถูกต้อง ในการทาแบบฝึกทักษะเน้นการคดิ 2. นักเรยี นนาความรทู้ ีไ่ ด้รบั จาก ได้ การเรยี นมาเป็นขอ้ มูลพื้นฐานเพอ่ื ประกอบการตัดสนิ ใจในการท กิจกรรมไดโ้ ดยไมเ่ กิดปัจจัยเสี่ยง เงอ่ื นไขความรู้ 1.นักเรยี นมีความรอบรู้ เรอ่ื ง จานวนเต็ม 2. นักเรียนนาความรู้ที่ไดร้ ับไปประยกุ ต์ใช้ในการแก้ปญั หาได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ เงือ่ นไขคณุ ธรรม 1. นักเรยี นมคี วามซื่อสัตย์ สจุ รติ และตรงต่อเวลา 2. นกั เรยี นมีวินยั ในตนเอง นักเรียนได้เรียนร้กู ารใชช้ วี ิตท่ีสมดลุ และพร้อมรับต่อการเปลีย่ นแปลงใน 4 มติ ิ ตามหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง ดังนี้ ดา้ น สมดุลและพร้อมรับการเปลย่ี นแปลงในดา้ นตา่ ง ๆ องคป์ ระกอบ เศรษฐกจิ สงั คม สง่ิ แวดล้อม วัฒนธรรม ความรู้ 1. ได้ความรูเ้ กยี่ วกับ 1. มีการวางแผนใน 1. มคี วามรอบรู้ใน 1. การเรยี นรู้ จานวนเต็มและการ การทางานเปน็ การใช้แหล่งเรยี นรใู้ น สอดคล้องกบั วถิ ชี วี ิต เปรยี บเทียบจานวน กระบวนการกลุ่ม ทอ้ งถน่ิ ของคนในชมุ ชน เตม็ นาไปประยกุ ตใ์ ช้ 2. นักเรียนมกี าร 2. รู้สาเหตุและ 2. เห็นคณุ ค่าในภมู ิ กับชนิ้ งาน แลกเปล่ียนเรยี นรู้ ปญั หาของการผลติ ปัญญาท้องถิ่น และ

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดับมธั ยมศกึ ษาชนั้ ปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา 2562 หน้า ๘ ทักษะ 1. มที ักษะในการใช้ 3. นกั เรยี นได้ การบริการผลิตภณั ฑ์ 1. ดารงตนอยู่ใน คา่ นยิ ม วัสดุ อุปกรณอ์ ย่า ชว่ ยเหลือซึ่งกันและ ในทอ้ งถิน่ สังคมอยา่ งมีความสขุ ประหยดั และคมุ้ คา่ กัน 2. มีทักษะในการ 2. การเลอื กใชว้ ัสดุ 1. มีทักษะในการ 1. ใชป้ ระโยชนข์ าก คานวณและนาไปใช้ อุปกรณ์ได้อยา่ งเมาะ ทางาน ส่ิงแวดลอ้ มระมดั ระวัง ได้อยา่ งเหมาะสม สม 2. มคี วามสามารถใน และคุม้ ค่า 1. ตระหนักถึงผลที่ การนาความรทู้ ี่ไดร้ ับ 1. สบื สานการ เกดิ จากการใช้วัสดุ ไปร่วมกันแกป้ ัญหา 1. มจี ิตสานึกในการ อนุรกั ษ์ภมู ปิ ัญญา อปุ กรณ์ในการ เพอ่ื หาขอ้ สรุปได้ อนรุ กั ษ์ภมู ิปัญญา ท้องถิ่น ปฏิบัตงิ าน 1. มคี วามรับผดิ ชอบ ทอ้ งถน่ิ 2. การใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ ต่อการทางานของ 2. ใช้ทรัพยากรและ โดยใช้ภูมิปญั ญา กล่มุ ส่งิ แวดลอ้ มอย่าง ทอ้ งถิ่น 2. ยอมรับความ ประหยดั คดิ เหน็ ซึ่งกนั ละกนั มี ความเสยี สละละ อดทน 12. บนั ทึกผลหลังการจดั การเรียนรู้ 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. ปัญหา/อุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดบั มธั ยมศึกษาชั้นปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา 2562 หน้า ๙ 3.แนวทางแก้ไขปญั หา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………..ผสู้ อน (นาย ศักดนิ นท์ ชัยภูมิ) ความคิดเหน็ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………..ผตู้ รวจ (นางวริทยา ชุนเกษา) หวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มัธยมศกึ ษาชั้นปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา 2562 หน้า ๑๐ ใบงาน ครงั้ ที่ 1 ให้นกั เรยี นพจิ ารณาข้อความตอ่ ไปนี้วา่ เปน็ จรงิ หรือเทจ็ ถา้ จริงให้ใส่ T ถ้าเป็นเท็จใหใ้ ส่ F ............. 1.) 0 เป็นจานวนเตม็ บวก ............. 2.) -23 เปน็ จานวนเตม็ ลบ ............. 3.) 500 เป็นจานวนเต็มบวก ............. 4.) -500 ไมเ่ ป็นจานวนเตม็ บวก ............. 5.) 1.5 เปน็ จานวนเตม็ บวก ............. 6.) ไมเ่ ปน็ จานวนเต็ม ............. 7.) จานวนเตม็ บวกเป็นจานวนนับ ............. 8.) จานวนเตม็ บวกมมี ากมายนับไมถ่ ว้ น ............. 9.) ถา้ a เป็นจานวนเต็มบวก จะหาจานวนเต็มบวกท่ีมากกว่า a ได้เสมอ ............. 10.) ถา้ a เปน็ จานวนเตม็ แล้ว จะหาจานวนเต็มทีน่ อ้ ยกวา่ a ไดเ้ สมอ

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดับมธั ยมศกึ ษาชัน้ ปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา 2562 หน้า ๑๑ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒ รหัสวิชา ค21201 ช่ือรายวชิ า คณติ ศาสตร์เพิ่มเติมกลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เรอ่ื งจานวนเต็มระดบั ชนั้ ม.1ภาคเรียนที่ 1 จานวน 6ช่ัวโมง/สัปดาห์ แผนการเรยี นรูท้ ่ี 2เรอื่ ง การบวกจานวนเต็มเวลา 3ช่ัวโมง ผสู้ อน นาย ศกั ดินนท์ ชัยภมู ิโรงเรียนวดั สันตกิ ารามวทิ ยาในพระบรมราชานุเคราะห์ จังหวัดราชบุรี 1. มาตรฐานการเรียนรู้/สาระ มาตรฐาน ค ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่ี เกดิ ขน้ึ จากการดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนินการ และการนาไปใช้ 2. ตัวชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ ตัวชีว้ ดั ม. 1/1เขา้ ใจจานวนตรรกยะ และความสมั พนั ธ์ของจานวนตรรกยะและใชส้ มบัติของจานวนตรรกยะใน การแกป้ ัญหาคณิตศาสตรแ์ ละปัญหาในชวี ิตจริง 3. สาระสาคัญและความคิดรวบยอด การบวกจานวนเต็มบวกด้วยจานวนเต็มบวก ให้บวกกนั เหมือนจานวนเต็ม การบวกจานวนเต็มลบด้วยจานวนเตม็ ลบ ให้นาค่าสัมบูรณ์มาบวกกัน แลว้ ตอบเปน็ จานวนเตม็ ลบ การบวกจานวนเตม็ บวกกบั จานวนเตม็ ลบท่มี ีคา่ สัมบูรณ์ไม่เทา่ กัน ให้นาค่าสัมบรู ณ์ท่มี ากกว่าลบด้วยค่า สมั บรู ณ์ทนี่ ้อยกว่า แล้วตอบเปน็ จานวนเต็มบวกหรือจานวนเต็มลบตามจานวนที่มีคา่ สัมบรู ณ์มากกวา่ การบวกระหว่างจานวนเต็มบวกกบั จานวนเตม็ ลบท่ีมคี ่าสมั บรู ณเ์ ทา่ กัน ผลบวกเท่ากับ 0 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑.นกั เรียนสามารถบวกจานวนเตม็ บวกดว้ ยจานวนเต็มบวก(K) ๒. นักเรยี นสามารถบวกจานวนเตม็ ลบดว้ ยจานวนเตม็ ลบได(้ K) ๓. นกั เรียนสามารถหาผลบวกของการบวกระหว่างจานวนเตม็ บวกกบั จานวนเต็มลบ และการบวกจานวนเต็ม ลบดว้ ยจานวนเตม็ บวกได(้ K) ๔. มีความสามารถในการใหเ้ หตุผล(P) ๕. มีความสามารถในการสื่อสาร ส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ(P) ๖. มีความรับผิดชอบ (A) ๗. มคี วามรอบคอบ(A) ๘. มีความซ่ือสัตย์ (A)

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มัธยมศึกษาช้นั ปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศึกษา 2562 หน้า ๑๒ 5. สาระการเรียนรู้ การบวกจานวนเต็มบวกดว้ ยจานวนเตม็ บวก ใหบ้ วกกันเหมือนจานวนเตม็ การบวกจานวนเตม็ ลบด้วยจานวนเต็มลบ ใหน้ าค่าสมั บรู ณ์มาบวกกัน แล้วตอบเป็นจานวนเต็มลบ การบวกจานวนเตม็ บวกกับจานวนเต็มลบทมี่ ีคา่ สมั บูรณไ์ ม่เท่ากนั ใหน้ าค่าสมั บรู ณ์ท่ีมากกว่าลบด้วยค่า สัมบูรณ์ท่นี ้อยกว่า แล้วตอบเปน็ จานวนเตม็ บวกหรอื จานวนเต็มลบตามจานวนที่มีคา่ สัมบรู ณม์ ากกวา่ การบวกระหว่างจานวนเต็มบวกกับจานวนเตม็ ลบที่มีค่าสมั บรู ณเ์ ท่ากัน ผลบวกเท่ากบั 0 6. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1.1 การอธิบายและบอกการบวกจานวนเต็มบวกดว้ ยจานวนเต็มบวก การบวกจานวนเต็มลบดว้ ยจานวนเตม็ ลบเต็มบวกกับจานวนเตม็ ลบทีม่ คี ่าสัมบรู ณ์ไม่เท่ากัน 2. ความสามารถในการคิด 2.1 ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 2.2 ทักษะการคดิ สร้างสรรค์ 2.3 ทกั ษะการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ 2.4 ทักษะการคดิ เป็นระบบ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3.1 ทกั ษะการประยุกต์ใชค้ วามรู้ 3.2 ทกั ษะการแปลความ 3.3 ทกั ษะการใหเ้ หตุผล 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4.1 ทกั ษะการสื่อสารฟงั และพูด 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.1 ใช้อนิ เตอร์เนต็ ในการสืบค้นขอ้ มูล และใช้ Power Point แสดงเนอื้ หาทสี่ อน รวมถงึ ขนึ้ โจทย์ แบบฝกึ ทักษะแตล่ ะชดุ 7. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 มวี ินยั ความรบั ผิดชอบ 1. มวี ินัย ความรบั ผดิ ชอบ ในการทาแบบฝึกทักษะแตล่ ะชดุ

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดบั มธั ยมศึกษาชนั้ ปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา 2562 หน้า ๑๓ 7.2 ใฝ่เรียนรู้ 1. ศกึ ษาเน้ือหาจากใบความรู้ และชุดฝึกทักษะแต่ละชุด 2. กระตือรือรน้ สนใจสืบคน้ ความร้ใู หม่ 3. ตัง้ ใจเรียน 7.3 มงุ่ มน่ั ในการทางาน 1. อดทนทางานสาเร็จตามทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 7.4 อยู่อยา่ งพอเพียง 1. คดิ และตัดสินใจในการปฏิบัติกจิ กรรมท่ีได้รับมอบหมายเหมาะสมกับศักยภาพตนเอง/กลุ่ม และเลอื กใช้ วสั ดอุ ปุ กรณใ์ นการปฏิบตั ิกิจกรรมอยา่ งประหยดั คุ้มคา่ 2. ใช้ความรู้สติปัญญาเตรยี มพร้อมและวางแผนการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมอยา่ งอดทนเปน็ ระบบ รอบคอบ สมเหตสุ มผล 8. คา่ นิยม ๑๒ประการ 8.1. ซอ่ื สัตย์ เสยี สละ อดทนมีอดุ มการณ์ในสิง่ ทด่ี ีงามเพ่ือส่วนรวม 8.2 ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเลา่ เรียนทง้ั ทางตรง และทางอ้อม 8.3. มศี ลี ธรรม รกั ษาความสัตย์ หวงั ดตี ่อผูอ้ ื่นเผื่อแผแ่ ละแบ่งปนั 8.4. เขา้ ใจเรียนรู้การเปน็ ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุขท่ีถกู ต้อง 8.5 มรี ะเบียบวินยั เคารพกฎหมายผูน้ ้อยรู้จกั การเคารพผู้ใหญ่ 8.6. มีสติรตู้ ัว รู้คดิ รู้ทารปู้ ฏิบัติตามพระราชดารัสของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั 9. การวดั และประเมินผล จุดประสงค/์ ตวั ชีว้ ัด วธิ กี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมิน ๑. ความร(ู้ K) ๑.นกั เรียนสามารถบวกจานวน - ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ร้อยละ 85 ผ่าน เต็มบวกดว้ ยจานวนเตม็ บวก(K) เกณฑ์ ๒. นักเรียนสามารถ บวกจานวนเต็มลบด้วยจานวน เต็มลบได(้ K) ๓. นักเรียนสามารถ หาผลบวกของการบวกระหวา่ ง จานวนเต็มบวกกับจานวนเตม็ ลบ และการบวกจานวนเต็มลบ ดว้ ยจานวนเตม็ บวกได้(K)

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดับมัธยมศกึ ษาชน้ั ปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา 2562 หน้า ๑๔ ๒. ทักษะ/กระบวนการ(P) แบบฝึกหัด รอ้ ยละ ๘๕ผ่าน ๑. มีความสามารถในการให้ - ตรวจแบบฝึกทักษะ เกณฑ์ เหตผุ ล(P) ๒. มคี วามสามารถในการ ส่อื สาร สอ่ื ความหมายทาง คณติ ศาสตร์ และการนาเสนอ (P) ๓. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์(A) ๑.มคี วามรบั ผดิ ชอบ (A) สังเกตพฤตกิ รรมการ - การสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ การทางานกล่มุ ผ่านเกณฑ์ ๒. มคี วามรอบคอบ(A) ทางานกลุ่ม ความมีวินัย ๓. มคี วามซอ่ื สตั ย์ (A) ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมั่นใน การทางาน 10. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมงท่ี 1-2 (การบวกจานวนเต็มบวกดว้ ยจานวนเตม็ บวกและการบวกจานวนเตม็ ลบดว้ ยจานวนเต็มลบ) ขัน้ นา 1. ครูผสู้ อนทบทวนเรื่อง การบวกจานวนเต็มบวกด้วยจานวนเตม็ บวก บนเสน้ จานวนทีน่ กั เรยี นเคยเรียนมาแล้ว การบวกจานวนเตม็ บวกด้วยจานวนเตม็ บวก คือ การบวกจานวนนบั ด้วยจานวนนับ เชน่ 5 + 3 สามารถ แสดงการหาผลบวกโดยใชเ้ สน้ จานวนไดด้ งั นี้ เรมิ่ ต้นท่ี 0 นบั ไปทางขวาถงึ 5 เมอื่ บวกดว้ ย 3 ใหน้ ับเพิ่มไปทางขวา 3 หน่วย ซึ่งจะไปสิ้นสุดที่ 8 จะได้ 8 เปน็ ผลบวกของ 5 + 3 ดังนัน้ 5 + 3 = 8 ข้ันสอน 1.ครูผู้สอนอธิบายเรื่อง ค่าสมั บรู ณ์ โดยให้นกั เรียนพจิ ารณาการหาคา่ สัมบรู ณ์ของจานวนเตม็ โดยใช้เสน้ จานวน ต่อไปนี้ 2 อยู่หา่ งจาก 0 เป็นระยะ 2 หน่วย กลา่ วว่า ค่าสมั บูรณข์ อง 2 เท่ากับ 2

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดับมธั ยมศึกษาชัน้ ปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา 2562 หน้า ๑๕ -2 อยูห่ า่ งจาก 0 เปน็ ระยะ 2 หน่วย กล่าววา่ ค่าสัมบูรณข์ อง -2 เทา่ กับ 2 ค่าสัมบรู ณ์ของจานวนเต็มใดๆ จะหาไดจ้ ากระยะท่จี านวนเต็มนั้นอยู่หา่ งจาก 0 บนเส้นจานวน เช่น คา่ สัมบรู ณ์ของ 8 เทา่ กับ 8 เน่อื งจาก 8 อยู่หา่ งจาก 0 เป็นระยะ 8 หน่อย คา่ สมั บรู ณ์ของ -8 เท่ากบั 8 เนอื่ งจาก -8 อยหู่ า่ งจาก 0 เปน็ ระยะ 8 หน่อย ค่าสัมบรู ณ์ของ 0 เท่ากับ 0 เนือ่ งจาก 0 อย่หู า่ งจาก 0 เป็นระยะ 0 หน่อย นนั่ คอื ค่าสัมบูรณข์ องจานวนเตม็ หมายถึง ระยะหา่ งระหว่างจานวนเตม็ นั้นกับศนู ย์ บนเส้นจานวน ดังนนั้ ค่า สมั บูรณข์ องจานวนเตม็ จึงเป็นบวกและศูนย์ ซึ่งค่าสัมบรู ณ์ของศนู ย์มีค่าเท่ากับศนู ย์ 2. ครผู สู้ อนอธิบายเรอ่ื ง การบวกจานวนเตม็ ลบด้วยจานวนเต็มลบ การบวกจานวนเต็มลบด้วยจานวนเตม็ ลบ เช่น (-5) + (-3) สามารถแสดงการหาผลบวกโดยใช้เสน้ จานวนได้ดังนี้ เริ่มตน้ ท่ี 0 นับไปทางซา้ ยถึง -5 เมื่อบวกดว้ ย -3 ให้นับเพ่ิมไปทางซ้าย 3 หน่วย ซง่ึ จะไปสน้ิ สดุ ที่ -8 จะได้ -8 เปน็ ผลบวกของ (-5) + (-3) ดงั นนั้ (-5) + (-3) = -8 พิจารณาการหาผลบวก (-5) + (-3) โดยใชค้ ่าสัมบรู ณ์ ดงั นี้ ค่าสมั บูรณข์ อง -5 เทา่ กบั 5 ค่าสัมบูรณ์ของ -3 เท่ากับ 3 จะเหน็ วา่ ถา้ นาค่าสัมบูรณ์ของ -5 บวกดว้ ยค่าสัมบรู ณ์ของ -3 แลว้ ตอบเปน็ จานวนเตม็ ลบ จะไดผ้ ลลพั ธเ์ ทา่ กบั -8 เช่นเดยี วกับการหาผลบวกโดยใชเ้ ส้นจานวน การบวกจานวนเต็มลบดว้ ยจานวนเต็มลบขา้ งต้น เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้ 1. การบวกจานวนเต็มลบด้วยจานวนเตม็ ลบ ให้นาค่าสัมบูรณ์มาบวกกัน แล้วตอบเปน็ จานวนเต็มลบ 3. ครผู ู้สอนยกตวั อย่างการบวกจานวนเตม็ ลบด้วยจานวนเตม็ ลบ ดงั น้ี ตวั อยา่ งที่ 1 จงหาผลบวก (-20) + (-5) วิธที า (-20) + (-5) = -25 ตอบ -25

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มธั ยมศึกษาชั้นปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา 2562 หน้า ๑๖ ตวั อย่างที่ 2 จงหาผลบวก (-21) + (-19) วิธีทา (-21) + (-19) = -40 ตอบ -40 ตัวอย่างท่ี 3 จงหาผลบวก (-14) + (-9) วธิ ีทา (-14) + (-9) = -21 ตอบ -21 ตัวอยา่ งท่ี 4 จงหาผลบวก (-29) + (-119) วิธที า (-19) + (-119) = -148 ตอบ -148 ตวั อย่างท่ี 5 จงหาผลบวก (-77) + (-12) วธิ ีทา (-77) + (-12) = -89 ตอบ -40 4.ครูผู้สอนสุ่มเลขทีน่ ักเรียนออกมาทาโจทย์หนา้ กระดานทีละคน พร้อมถามวธิ ีในการคดิ ขั้นสรปุ 1. ครูผสู้ อนและนักเรียนร่วมกันสรุปเร่ือง การบวกจานวนเต็มลบด้วยจานวนเตม็ ลบวา่ มีหลกั เกณฑ์ ดงั นี้ การบวก จานวนเต็มลบด้วยจานวนเตม็ ลบ ให้นาค่าสัมบรู ณม์ าบวกกัน แล้วตอบเปน็ จานวนเตม็ ลบ 2.ครูผู้สอนใหน้ ักเรยี นทาแบบฝกึ หดั ในสมุด ชว่ั โมงที่ 3(การบวกจานวนเตม็ สามจานวน) ขั้นนา 1. ครูผูส้ อนทบทวนความรเู้ ร่ือง การบวกจานวนเต็ม 2 จานวน ตัวอยา่ งเชน่ 1. จงหาผลบวก 7 + 4 วิธีทา 7 + 4 = 11 ตอบ 11 2. จงหาผลบวก (-9) + (-4) วธิ ีทา (-9) + (-4)= -13 ตอบ -13 3. จงหาผลบวก (-15) + 42 วิธีทา (-15) + 42= 27 ตอบ 27

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มัธยมศกึ ษาชน้ั ปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศึกษา 2562 หน้า ๑๗ 4. จงหาผลบวก (-34) + 11 วธิ ที า (-34) + 11= -23 ตอบ -23 5. จงหาผลบวก 10 + (-10) วิธีทา 10 + (-10) = 0 ตอบ 0 ขัน้ สอน 1. ครผู สู้ อนยกตวั อย่างการบวกจานวนเต็มสามจานวน ดงั นี้ ตัวอยา่ งที่ 1 จงหาผลบวก (7 + 8)+ 3 วธิ ีทา (7 + 8)+ 3 = 15 + 3 = 18 ตอบ 18 ตวั อยา่ งที่ 2 จงหาผลบวก [(-3) + (-1)] + (-6) วธิ ีทา [(-3) + (-1)] + (-6)= (-4) + (-6) ตอบ -10 = -10 ตัวอยา่ งที่ 3 จงหาผลบวก 3 + [(-5) + 4] วธิ ีทา 3 + [(-5) + 4] = 3 + (-1) ตอบ 2 =2 ตวั อยา่ งท่ี 4 จงหาผลบวก (-4) + [6 + (-2)] วธิ ีทา (-4) + [6 + (-2)] = (-4) + 4 ตอบ 0 =0 2. ครผู ้สู อนสุ่มเลขท่ีนกั เรียนออกมาทาโจทย์หนา้ ช้นั เรยี นทลี่ ะข้อ และถามวิธกี ารคิด ข้นั สรปุ 1. ครูผสู้ อนและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปเรื่อง การบวกจานวนเต็มสามจานวน ว่าการบวกจานวนเต็มสามจานวน ใช้ หลกั เกณฑ์ในการบวกคือ ขนั้ แรกใหบ้ วกในวงเล็บก่อน เมื่อไดผ้ ลลัพธแ์ ลว้ ให้นาผลลพั ธท์ ไ่ี ด้ไปบวกกบั จานวนท่ีเหลือ และครผู สู้ อนให้นักเรยี นทุกคนทาใบงานที่ 2

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดับมธั ยมศึกษาชั้นปีท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา 2562 หน้า ๑๘ 11. สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้ 11.1 ส่ือการเรยี นรู้ - แบบฝึกทกั ษะ 11.2 แหล่งเรยี นรู้ - ห้องสมดุ โรงเรยี น - หอ้ งสืบคน้ อนิ เตอร์เนต็ 12. การใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการจัดการเรยี นรู้ที่เกดิ กับผเู้ รียน ความพอประมาณ มเี หตุผล มีภูมิค้มุ กนั ในตัวท่ดี ี 1. นกั เรียนมีพนื้ ฐานความรู้ทางวิชา 1.นักเรยี นมีเหตุผลในการเขียนและ 1. นกั เรยี นนาความรูเ้ รื่องการบวก คณติ ศาสตร์ที่เหมาะสมกับเน้ือหา สามารถบอกวิธีการบวกจานวนเต็ม จานวนเตม็ ไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาได้ ได้ ถกู ต้อง 2. นกั เรยี นวิเคราะห์และตัดสนิ ใจ 2. นักเรยี นนาความรทู้ ไี่ ด้รับจาก ในการทาแบบฝกึ ทักษะเนน้ การคิด การเรียนมาเปน็ ขอ้ มลู พนื้ ฐานเพือ่ ได้ ประกอบการตัดสินใจในการท กิจกรรมไดโ้ ดยไมเ่ กดิ ปัจจยั เส่ียง เงือ่ นไขความรู้ 1.นักเรยี นมีความรอบรู้ เรือ่ ง การบวกจานวนเต็ม 2. นกั เรยี นนาความรทู้ ่ไี ดร้ ับไปประยุกต์ใชใ้ นการแกป้ ัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ เงอ่ื นไขคุณธรรม 1. นักเรียนมคี วามซื่อสตั ย์ สุจรติ และตรงต่อเวลา 2. นกั เรียนมีวินัยในตนเอง นกั เรยี นไดเ้ รียนรู้การใชช้ วี ติ ท่สี มดุลและพรอ้ มรับต่อการเปลี่ยนแปลงใน 4 มิติ ตามหลักปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ดงั นี้ ดา้ น สมดุลและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ องคป์ ระกอบ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ความรู้ 1. ไดค้ วามร้เู กีย่ วกบั 1. มกี ารวางแผนใน 1. มคี วามรอบรใู้ น 1. การเรียนรู้ การบวกจานวนเต็ม การทางานเปน็ การใชแ้ หล่งเรยี นร้ใู น สอดคล้องกบั วิถชี วี ิต และการบวกจานวน กระบวนการกลมุ่ ทอ้ งถนิ่ ของคนในชุมชน เต็มสามจานวนเพื่อ 2. นกั เรียนมกี าร 2. ร้สู าเหตุและ 2. เหน็ คณุ คา่ ในภูมิ นาไปประยุกตใ์ ชก้ บั แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ปญั หาของการผลติ ปัญญาท้องถน่ิ ชนิ้ งาน 3. นักเรยี นได้ และการบริการ ช่วยเหลือซ่งึ กันและ ผลติ ภัณฑ์ในท้องถิน่

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดับมัธยมศึกษาชั้นปที ่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา 2562 หน้า ๑๙ กนั ทักษะ 1. มีทักษะในการใช้ 1. มีทักษะในการ 1. ใช้ประโยชน์ขาก 1. ดารงตนอยใู่ น คา่ นิยม วสั ดุ อปุ กรณอ์ ยา่ ทางาน สิง่ แวดลอ้ มระมัดระวัง สงั คมอย่างมีความสขุ ประหยัดและคุ้มคา่ 2. มคี วามสามารถใน และคมุ้ คา่ 2. มีทักษะในการ 2. การเลือกใช้วสั ดุ การนาความรู้ที่ได้รับ คานวณและนาไปใช้ อุปกรณ์ได้อย่างเมาะ ไปรว่ มกนั แก้ปญั หา 1. มจี ิตสานึกในการ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม สม เพื่อหาขอ้ สรุปได้ อนุรกั ษภ์ ูมปิ ัญญา 1. ตระหนกั ถงึ ผลท่ี 1. มคี วามรบั ผิดชอบ ท้องถ่ิน 1. สืบสานการ เกิดจากการใช้วัสดุ ตอ่ การทางานของ 2. ใชท้ รัพยากรและ อนุรกั ษภ์ มู ปิ ัญญา อปุ กรณ์ในการ กลุ่ม สงิ่ แวดล้อมอย่าง ทอ้ งถ่นิ ปฏบิ ัตงิ าน 2. ยอมรบั ความ ประหยัด 2. การใช้แหลง่ เรียนรู้ คดิ เหน็ ซึง่ กนั ละกันมี โดยใช้ภมู ปิ ญั ญา ความเสยี สละละ ทอ้ งถนิ่ อดทน 13. บนั ทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มัธยมศกึ ษาชน้ั ปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา 2562 หน้า ๒๐ 3.แนวทางแก้ไขปญั หา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………..ผสู้ อน (นาย ศักดินนท์ ชัยภมู ิ) ความคิดเหน็ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………..ผตู้ รวจ (นางวรทิ ยา ชนุ เกษา) หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มัธยมศึกษาช้ันปีท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา 2562 หน้า ๒๑ แบบฝึกหัด 1. จงหาผลลัพธ์ของการบวกจานวนเต็มบวกด้วยจานวนเตม็ บวก กระดาษทด 1. 5 + 6 =…………. 2. 12 + 89 =…………. 3. 159 + 799 =…………. 2.การบวกจานวนเต็มลบด้วยจานวนเต็มลบ 1. (-5) + (-9) =…………. 2. (-12) + (-8) =………….. 3. (-55) + (-65) =…………. 3.การบวกจานวนเต็มลบด้วยจานวนเต็มบวก 1. (-5) + 8 =…………. 2. (-15) + 45 =…………. 3.(-20) + 5 =………… 4. (-54) + 4 =…………. 4.การบวกจานวนเต็มบวกด้วยจานวนเตม็ ลบ 1. 10+ (-8) =…………. 2. 12 + (-6) =…………. 3. 45 + (-35) =............. 4.29 + (-18) =………… 5. (-2) + (-2) =…………. 5. จงหาผลลัพธข์ องการบวกจานวนเตม็ สามจานวน 1.( 5 + 3 ) + 8 = ………… 2. 9 + ( 7 + 3 ) =………… 3. [ (-2) + (-5) ] + 10 =………… 4. [ (-8) + (-5) ] + 2 =………… 5. [ 2 + (-3) ] + 5 =………… 6. 10 + [ 5 + (-9) ] =………… 7. [ (-20) + 7 ] + 15 =………… 8. 9 + [ (-50) + 13 ] =………… 9. [ (-2) + 3 ] + (-5) =………… 10. (-10) + [ (-8)+(-9)] =…………

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดับมัธยมศกึ ษาชัน้ ปที ่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศึกษา 2562 หน้า ๒๒ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 3 รหสั วชิ า ค21201 ชือ่ รายวชิ า คณิตศาสตร์เพ่ิมเตมิ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เรอื่ งจานวนเตม็ ระดับช้ัน ม.1ภาคเรียนท่ี 1 จานวน 6ชัว่ โมง/สัปดาห์ แผนการเรียนรู้ที่ 3เรื่อง การลบจานวนเตม็ เวลา 3ช่ัวโมง ผสู้ อน นาย ศกั ดินนท์ ชัยภูมิโรงเรียนวัดสันตกิ ารามวิทยาในพระบรมราชานเุ คราะห์ จังหวัดราชบรุ ี 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/สาระ มาตรฐาน ค ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่ี เกิดขึ้นจากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนนิ การ และการนาไปใช้ 2. ตวั ช้ีวดั /ผลการเรยี นรู้ ตวั ช้ีวัดม. 1/1เขา้ ใจจานวนตรรกยะ และความสัมพันธ์ของจานวนตรรกยะและใชส้ มบัติของจานวนตรรกยะใน การแกป้ ัญหาคณิตศาสตรแ์ ละปัญหาในชีวติ จริง 3. สาระสาคญั และความคดิ รวบยอด จานวนตรงขา้ ม คือ ถา้ a เป็นจานวนเต็มใดๆ จานวนตรงข้ามของ a เขยี นแทนดว้ ย –a และ a + (-a) = (-a) + a = 0 ถ้า a เป็นจานวนใดๆ จานวนตรงข้ามของ –a คือ a เขยี นแทนดว้ ย -(-a) = a การลบจานวนเต็มน้ันเราอาศัยการบวกตามข้อตกลงดังน้ี ตวั ตง้ั – ตัวลบ = ตัวตงั้ + จานวนตรงข้ามของตวั ลบ นัน่ คือ เมื่อ a และ b แทนจานวนเต็มใดๆ a – b = a + จานวนตรงขา้ มของ b หรือ a – b = a +(-b) 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรยี นสามารถหาผลลบของจานวนเต็มได้(K) ๒. นกั เรยี นสามารถอธิบายผลท่เี กิดข้ึนจากการลบจานวนเต็มได(้ K) ๓. มคี วามสามารถในการใหเ้ หตุผล(P) ๔. มคี วามสามารถในการสอ่ื สาร สอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ(P) ๕. มคี วามรบั ผิดชอบ (A) ๖. มีความรอบคอบ(A) ๗. มคี วามซ่ือสัตย์ (A)

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มัธยมศึกษาชัน้ ปที ่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา 2562 หน้า ๒๓ 5. สาระการเรียนรู้ จานวนตรงข้าม คือ ถา้ a เป็นจานวนเต็มใดๆ จานวนตรงขา้ มของ a เขียนแทนดว้ ย –a และ a + (-a) = (-a) + a = 0 ถ้า a เป็นจานวนใดๆ จานวนตรงขา้ มของ –a คือ a เขยี นแทนดว้ ย -(-a) = a การลบจานวนเต็มนั้นเราอาศัยการบวกตามขอ้ ตกลงดังนี้ ตวั ตั้ง – ตวั ลบ = ตวั ต้งั + จานวนตรงข้ามของตัวลบ นน่ั คือ เมื่อ a และ b แทนจานวนเตม็ ใดๆ a – b = a + จานวนตรงขา้ มของ b หรอื a – b = a +(-b) 6. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1.1 การอธิบายและบอกวิธีการลบจานวนเตม็ 2. ความสามารถในการคิด 2.1 ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 2.2 ทักษะการคดิ สร้างสรรค์ 2.3 ทักษะการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ 2.4 ทกั ษะการคดิ เป็นระบบ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3.1 ทกั ษะการประยกุ ต์ใชค้ วามรู้ 3.2 ทักษะการแปลความ 3.3 ทักษะการใหเ้ หตผุ ล 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 4.1 ทักษะการส่ือสารฟังและพูด 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.1 ใช้อินเตอรเ์ นต็ ในการสืบคน้ ขอ้ มูล และใช้ Power Point แสดงเน้ือหาทส่ี อน รวมถงึ ขึ้นโจทย์ แบบฝกึ ทักษะแตล่ ะชุด 7. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 มวี นิ ัยความรับผิดชอบ 1. มีวนิ ัย ความรบั ผดิ ชอบ ในการทาแบบฝกึ ทักษะแต่ละชุด

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดบั มัธยมศึกษาช้ันปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา 2562 หน้า ๒๔ 7.2 ใฝ่เรยี นรู้ 1. ศกึ ษาเน้ือหาจากใบความรู้ และชุดฝกึ ทักษะแต่ละชุด 2. กระตือรือรน้ สนใจสบื ค้นความรใู้ หม่ 3. ต้งั ใจเรยี น 7.3 ม่งุ ม่นั ในการทางาน 1. อดทนทางานสาเร็จตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย 7.4 อยู่อยา่ งพอเพียง 1. คดิ และตดั สินใจในการปฏิบัตกิ ิจกรรมท่ีไดร้ ับมอบหมายเหมาะสมกบั ศักยภาพตนเอง/กลมุ่ และเลอื กใช้ วัสดุอปุ กรณใ์ นการปฏิบัตกิ ิจกรรมอย่างประหยัดคุ้มค่า 2. ใช้ความรู้สตปิ ญั ญาเตรยี มพร้อมและวางแผนการปฏบิ ตั ิกิจกรรมอย่างอดทนเป็นระบบ รอบคอบ สมเหตสุ มผล 8. คา่ นิยม ๑๒ประการ 8.1. ซอื่ สัตย์ เสียสละ อดทนมอี ุดมการณ์ในสิ่งทด่ี งี ามเพ่ือส่วนรวม 8.2 ใฝ่หาความรู้ หมนั่ ศึกษาเล่าเรียนทงั้ ทางตรง และทางอ้อม 8.3. มีศีลธรรม รกั ษาความสัตย์ หวงั ดีต่อผู้อ่นื เผื่อแผ่และแบง่ ปัน 8.4. เขา้ ใจเรยี นรกู้ ารเป็นประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุขที่ถกู ต้อง 8.5 มรี ะเบียบวินัย เคารพกฎหมายผ้นู ้อยรู้จกั การเคารพผ้ใู หญ่ 8.6. มีสติรตู้ วั ร้คู ดิ รทู้ ารู้ปฏิบตั ติ ามพระราชดารัสของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั แนวทางบรู ณาการ ศิลปะ วาดภาพแสดงแผนผงั ความคิดการลบจานวนเตม็ 9. การวดั และประเมนิ ผล จุดประสงค์/ตัวชีว้ ดั วธิ ีการ เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑. ความรู้(K) ๑. นกั เรยี นสามารถหาผลลบ - ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น รอ้ ยละ 85 ผา่ น เกณฑ์ ของจานวนเต็มได้(K) ๒. นกั เรียนสามารถอธิบายผล ทเี่ กิดขึน้ จากการลบจานวนเต็ม ได(้ K)

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดับมัธยมศกึ ษาชนั้ ปที ่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา 2562 หน้า ๒๕ ๒. ทักษะ/กระบวนการ(P) แบบฝึกหดั ร้อยละ ๘๕ผา่ น ๑. มคี วามสามารถในการให้ - ตรวจแบบฝกึ ทักษะ เกณฑ์ เหตผุ ล(P) ๒. มีความสามารถในการ ส่อื สาร สอื่ ความหมายทาง คณติ ศาสตร์ และการนาเสนอ (P) ๓. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์(A) ๑.มีความรับผิดชอบ (A) สงั เกตพฤตกิ รรมการ - การสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ การทางานกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์ ๒. มคี วามรอบคอบ(A) ทางานกลุม่ ความมีวินัย ๓. มคี วามซอ่ื สัตย์ (A) ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมน่ั ใน การทางาน 10. กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1-2 (การลบจานวนเตม็ ) ขั้นนา 1. ครูผู้สอนอธบิ ายเรอื่ ง จานวนตรงข้าม โดยใหน้ กั เรยี นพิจารณาบนเสน้ จานวนจะพบว่า จานวนเต็มบวกและ จานวนเตม็ ลบท่มี คี ่าสัมบูรณ์เท่ากันจะอยู่คนละข้างของ 0 และอยู่ห่างจาก 0 เป็นระยะเทา่ กนั เช่น -2 และ 2 เรากลา่ ววา่ -2 เป็นจานวนตรงข้ามของ 2 2 เป็นจานวนตรงข้ามของ -2 และ 2 + (-2) = (-2) + 2 = 0 ถา้ a เปน็ จานวนเต็มใดๆ จานวนตรงข้ามของ a เขียนแทนดว้ ย –a และ a + (-a) = (-a) + a = 0 ในทางคณติ ศาสตร์ จานวนตรงข้ามของจานวนเต็มแตล่ ะจานวนมีเพยี งจานวนเดยี วเท่าน้ัน สาหรับจานวนเตม็ เช่น -5 จานวนตรงข้ามของ -5 คือ 5 และจานวนตรงขา้ มของ -5 เขียนแทนด้วย -(-5)

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดับมธั ยมศกึ ษาช้ันปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา 2562 หน้า ๒๖ เนื่องจากจานวนตรงขา้ มของ -5 มีเพยี งจานวนเดยี ว ดงั นัน้ -(-5) = 5 ถา้ a เป็นจานวนใดๆ จานวนตรงข้ามของ –a คอื a เขยี นแทนดว้ ย -(-a) = a 2. ครูผสู้ อนให้นักเรียนพิจารณาผลลบและผลบวกของจานวนต่อไปน้ี 3 – 2 = 1 และ 3 + (-2) = 1 จะเหน็ ว่า 3 – 2 = 3 + (-2) 2 - 4 = -2 และ 2 + (-4) = -2 จะเห็นวา่ 2 – 4 = 2 + (-4) (-7) – 3 = -10 และ (-7) + (-3) = -10 จะเหน็ ว่า (-7) – 3 = (-7) + (-3) การลบจานวนเตม็ เราอาศัยการบวกตามข้อตกลงดงั นี้ ตวั ตัง้ – ตัวลบ = ตัวตัง้ + จานวนตรงขา้ มของตัวลบ นัน่ คอื เมื่อ a และ b แทนจานวนเต็มใดๆ a – b = a + จานวนตรงขา้ มของ b หรือ a – b = a +(-b) 3.ครผู ้สู อนยกตัวอยา่ งการลบจานวนเตม็ ดังนี้ 1. ลบดว้ ยจานวนเตม็ บวก ตวั อย่างท่ี 1 จงหาผลลบของ (-7) – 9 วธิ ที า (-7) – 9 = (-7) + (-9) = -16 ตอบ -16 ตัวอยา่ งที่ 2 จงหาผลลบของ 7 – 9 วธิ ีทา 7 – 9 = 7 + (-9) ตอบ -2 = -2 2. ลบด้วยจานวนเตม็ ลบ ตวั อย่างที่ 1 จงหาผลลบของ 7 – (-9) วิธที า 7 – (-9) = 7 + 9 = 16 ตอบ 16

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มธั ยมศึกษาช้นั ปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา 2562 หน้า ๒๗ ตัวอย่างท่ี 2 จงหาผลลบของ (-7) – (-9) วิธีทา (-7) – (-9) = (-7) + 9 ตอบ 2 =2 ขน้ั สรุป 1. ครผู สู้ อนและนกั เรยี นร่วมกันสรุปเรอ่ื ง การลบจานวนเต็ม วา่ การลบจานวนเตม็ เราอาศยั การบวกตามข้อตกลงดงั นี้ ตวั ต้งั – ตวั ลบ = ตัวตัง้ + จานวนตรงข้ามของตัวลบ น่นั คอื เมื่อ a และ b แทนจานวนเตม็ ใดๆ a – b = a + จานวนตรงข้ามของ b หรือ a – b = a +(-b) และตรวจสอบผลลบโดยใช้ความสมั พันธ์ ดังน้ี ผลลบ + ตัวลบ = ตวั ตัง้ 2. ครูผ้สู อนให้นักเรียนทุกคนทาแบบฝกึ หดั ชัว่ โมงที่ 3(การลบจานวนเต็มสามจานวน) ข้ันนา 1. ครูผสู้ อนทบทวน เรื่องการลบจานวนเตม็ สองจานวน โดยยกตัวอย่าง เช่น 1. จงหาผลลบของ 7 –15 วิธที า 7 –15 = 7 + (-15) = -8 ตอบ -8 2. จงหาผลลบของ (-3) –4 วธิ ที า (-3) –4 = (-3) + (-4) = -7 ตอบ -7 3. จงหาผลลบของ 2 – (-3) วิธีทา 2 – (-3) = 2 + 3 =5 ตอบ 5 4. จงหาผลลบของ (-2) – (-6) วธิ ีทา (-2) – (-6) = (-2) + 6 =4 ตอบ 4

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดบั มัธยมศกึ ษาช้ันปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา 2562 หน้า ๒๘ ขน้ั สอน 1. ครผู ู้สอนยกตัวอย่างการลบจานวนเต็มสามจานวน ดงั น้ี ตัวอยา่ งท่ี 1 จงหาผลลบ (7 - 8)- 3 วธิ ที า (7 - 8)- 3 = [7 + (-8)] + (-3) = (-1) + (-3) = -4 ตอบ -4 ตัวอย่างที่ 2 จงหาผลลบ [(-3) - (-1)] - (-6) วิธีทา [(-3) - (-1)] - (-6) = [(-3) + 1] + 6 ตอบ 4 = (-2) + 6 =4 ตวั อย่างท่ี 3 จงหาผลลบ 3-[(-5) - 4] วธิ ีทา 3-[(-5) - 4] = 3 - [(-5) + (-4)] ตอบ 12 = 3 - (-9) = 3+9 = 12 ตวั อย่างที่ 4 จงหาผลลบ (-4) - [6 - (-2)] วิธีทา (-4) - [6 - (-2)] = (-4) - (6 + 2) ตอบ -12 = (-4) - 8 = (-4) + (-8) = -12 2. ครผู ู้สอนให้นักเรียนทกุ คนทาแบบฝึกหัด ข้ันสรุป 1. ครผู สู้ อนและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ เรอื่ ง การลบจานวนเต็มสามจานวน ว่า การลบจานวนเตม็ สามจานวน ใชห้ ลกั เกณฑใ์ นการลบคือ ขั้นแรกให้ทาอยู่ในรปู การบวก และทาการบวกใน วงเล็บก่อน เม่ือไดผ้ ลลพั ธ์แล้ว ใหน้ าผลลพั ธท์ ีไ่ ดไ้ ปบวกกับจานวนที่เหลือ 2. ครูผู้สอนแจกใบงานใหน้ ักเรยี น

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มัธยมศึกษาชนั้ ปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา 2562 หน้า ๒๙ 11. สอื่ และแหล่งเรยี นรู้ 11.1 สอ่ื การเรยี นรู้ - แบบฝึกทักษะ 11.2 แหล่งเรียนรู้ - ห้องสมดุ โรงเรียน - ห้องสืบคน้ อินเตอรเ์ น็ต 12. การใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการจดั การเรียนรู้ทีเ่ กดิ กบั ผู้เรียน ความพอประมาณ มีเหตผุ ล มีภูมิคุ้มกันในตวั ท่ดี ี 1. นกั เรียนมพี ื้นฐานความรู้ทางวิชา 1.นกั เรยี นมเี หตุผลในการเขยี นและ 1. นกั เรียนนาความรู้เรื่องการลบ คณติ ศาสตร์ที่เหมาะสมกับเน้ือหา สามารถบอกวิธกี ารลบจานวนเต็ม จานวนเตม็ ไปใช้ในการแกป้ ัญหาได้ ได้ ถูกต้อง 2. นักเรียนวเิ คราะหแ์ ละตัดสินใจ 2. นักเรียนนาความรู้ท่ไี ดร้ ับจาก ในการทาแบบฝกึ ทักษะเนน้ การคิด การเรียนมาเป็นขอ้ มลู พ้ืนฐานเพือ่ ได้ ประกอบการตัดสินใจในการท กจิ กรรมไดโ้ ดยไม่เกดิ ปัจจยั เสี่ยง เง่อื นไขความรู้ 1.นักเรียนมคี วามรอบรู้ เรอื่ ง การลบจานวนเต็ม 2. นกั เรียนนาความรทู้ ่ีได้รับไปประยกุ ต์ใช้ในการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธภิ าพ เงื่อนไขคุณธรรม 1. นกั เรียนมคี วามซื่อสตั ย์ สจุ ริตและตรงต่อเวลา 2. นกั เรียนมีวินัยในตนเอง

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดับมัธยมศกึ ษาชั้นปที ่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา 2562 หน้า ๓๐ นักเรยี นไดเ้ รียนร้กู ารใช้ชวี ติ ทสี่ มดุลและพร้อมรบั ต่อการเปลยี่ นแปลงใน 4 มิติ ตามหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ดงั นี้ ด้าน สมดลุ และพร้อมรบั การเปลี่ยนแปลงในดา้ นตา่ ง ๆ องค์ประกอบ เศรษฐกิจ สงั คม สง่ิ แวดล้อม วฒั นธรรม ความรู้ 1. ได้ความรูเ้ ก่ยี วกบั 1. มกี ารวางแผนใน 1. มีความรอบรใู้ น 1. การเรยี นรู้ การลบจานวนเต็ม การทางานเป็น การใช้แหลง่ เรียนรใู้ น สอดคลอ้ งกับวถิ ชี วี ติ และการลบจานวน กระบวนการกลมุ่ ทอ้ งถ่นิ ของคนในชมุ ชน เต็มสามจานวนเพื่อ 2. นกั เรยี นมีการ 2. รสู้ าเหตุและ 2. เห็นคณุ ค่าในภูมิ นาไปประยุกต์ใช้กบั แลกเปล่ียนเรยี นรู้ ปญั หาของการผลิต ปัญญาท้องถิ่น ชน้ิ งาน 3. นักเรียนได้ และการบริการ ช่วยเหลอื ซึง่ กันและ ผลติ ภัณฑ์ในท้องถิน่ กนั ทักษะ 1. มที กั ษะในการใช้ 1. มที ักษะในการ 1. ใชป้ ระโยชน์ขาก 1. ดารงตนอยูใ่ น วสั ดุ อุปกรณ์อยา่ ทางาน สง่ิ แวดล้อมระมดั ระวัง สงั คมอยา่ งมคี วามสุข ประหยัดและคุ้มคา่ 2. มีความสามารถใน และค้มุ ค่า 2. มีทักษะในการ 2. การเลือกใช้วสั ดุ การนาความรู้ที่ได้รบั คานวณและนาไปใช้ อุปกรณ์ได้อยา่ งเมาะ ไปรว่ มกันแกป้ ญั หา ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม สม เพ่ือหาขอ้ สรปุ ได้ คา่ นิยม 1. ตระหนกั ถึงผลท่ี 1. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 1. มีจิตสานึกในการ 1. สืบสานการ เกดิ จากการใชว้ ัสดุ ตอ่ การทางานของ อนรุ ักษภ์ มู ิปัญญา อนุรักษ์ภูมิปัญญา อปุ กรณ์ในการ กลุ่ม ทอ้ งถ่นิ ท้องถิ่น ปฏบิ ตั งิ าน 2. ยอมรับความ 2. ใช้ทรพั ยากรและ 2. การใช้แหล่งเรียนรู้ คิดเห็นซงึ่ กันละกันมี สงิ่ แวดลอ้ มอย่าง โดยใช้ภมู ิปัญญา ความเสียสละละ ประหยดั ทอ้ งถนิ่ อดทน 12. บนั ทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดับมัธยมศึกษาชน้ั ปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา 2562 หน้า ๓๑ 2. ปญั หา/อปุ สรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3.แนวทางแก้ไขปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………..ผู้สอน (นายศกั ดนิ นท์ ชยั ภูม)ิ ความคิดเหน็ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………..ผู้ตรวจ (นางวรทิ ยา ชนุ เกษา) หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มัธยมศกึ ษาชัน้ ปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา 2562 หน้า ๓๒ ใบงาน เร่อื งการบวกและการลบจานวนเตม็ ลบ 1. จงหาผลลัพธข์ องการลบจานวนเตม็ 11.)(-200) – 30 – 50 + 27 = …………….. 12.) 5 – (-9) = …………….. 1. 7 - 8 =………… 13.) 18 + 19 – 20 – 50 = …………….. 14.) 1 – 3 – 4 – 5 – 9 = …………….. 2. 10 - 90 =………… 15.)(-9) + (-9) + (-9) + (-9) + (-9) = …………….. 16.)[ (-400) + (100) ] + [ - 250 – 250 ] = ……………. 3. 10 - (-10) =………… 17.) - 900 + 450 – (-500) + (-650) = …………..... 4. 55 - (-2) =…………. 5. 78 - (-80) =…………. 6. (-25) –20 =………… 7. (-12) – 25 =…………. 8. – 5 – 6 =………… 9. (-12) - (-5) =………….. 10. (-50) – (-7) =…………… 2. จงหาผลลัพท์ = ………….. 18.) (45 – 50) + (-5) – 10 = …………… 1.) 15 + (-29) = ………….. 19.)-100 + 25 + (-20) = ………….. 2.) (-9) + (-13) 20.) 20 + (-12) – 19 – 26 + 14 = ………….. 3.) (-98) + (-113) = …………… กระดาษทด 4.) 42 + (-49) = ..…………. 5.) (-2) + 3 + 4 = …………… 6.) 4 + 8 + (-12) = ……………. 7.) 71 + (-5) + (-9) = ……………. 8.) [ (-3) + (-4) ] + (-6) = …………….. 9.) [ (-4) + (-6) ] + (-5) = …………….. 10.) (-8) + [ (-12) + (-5) ]= ……………..

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดบั มัธยมศกึ ษาช้นั ปที ่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา 2562 หน้า ๓๓ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 รหสั วชิ า ค21201 ช่อื รายวชิ า คณติ ศาสตร์เพิ่มเติมกลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอ่ื งจานวนเต็มระดับช้ัน ม.1ภาคเรยี นที่ 1 จานวน 6 ช่ัวโมง/สัปดาห์ แผนการเรยี นรู้ที่ 4เรือ่ ง การคณู จานวนเต็มเวลา 3ช่ัวโมง ผู้สอน นาย ศกั ดนิ นท์ ชัยภมู โิ รงเรยี นวดั สนั ตกิ ารามวทิ ยาในพระบรมราชานุเคราะห์ จังหวดั ราชบุรี 1. มาตรฐานการเรียนรู้/สาระ มาตรฐาน ค ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลที่ เกิดขึน้ จากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และการนาไปใช้ 2. ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ตัวชวี้ ดั ม. 1/1เข้าใจจานวนตรรกยะ และความสมั พนั ธ์ของจานวนตรรกยะและใชส้ มบตั ิของจานวนตรรกยะใน การแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาในชีวติ จริง 3. สาระสาคัญและความคิดรวบยอด การคูณจานวนเต็ม มหี ลักการดังน้ี 1. จานวนเตม็ บวกคณู กบั จานวนเตม็ บวก ผลลัพธ์เปน็ จานวนเตม็ บวก 2. จานวนเต็มลบคูณกับจานวนเต็มลบ ผลลพั ธ์เปน็ จานวนเตม็ บวก 3. จานวนเตม็ บวกคณู กับจานวนเตม็ ลบ หรอื จานวนเตม็ ลบคูณกับจานวนเตม็ บวก ผลลพั ธเ์ ป็นจานวนเต็มลบ 4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. นกั เรยี นสามารถหาผลคณู ของจานวนเต็มท่กี าหนดให้ได้(K) ๒. นกั เรยี นสามารถอธิบายผลท่เี กิดขึน้ จากการคณู จานวนเต็มได้ (K) ๓. มคี วามสามารถในการใหเ้ หตุผล(P) ๔. มคี วามสามารถในการสือ่ สาร ส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ(P) ๕. มีความรับผิดชอบ (A) ๖. มคี วามรอบคอบ(A) ๗. มีความซ่อื สตั ย์ (A) 5. สาระการเรียนรู้ การคูณจานวนเต็ม มหี ลกั การดังนี้

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดับมัธยมศกึ ษาชัน้ ปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศึกษา 2562 หน้า ๓๔ 1. จานวนเตม็ บวกคูณกับจานวนเต็มบวก ผลลพั ธเ์ ป็นจานวนเตม็ บวก 2. จานวนเต็มลบคูณกบั จานวนเต็มลบ ผลลพั ธเ์ ปน็ จานวนเตม็ บวก 3. จานวนเต็มบวกคูณกับจานวนเต็มลบ หรือจานวนเต็มลบคณู กบั จานวนเต็มบวก ผลลพั ธ์เปน็ จานวนเต็มลบ ตัวอยา่ ง จงหาผลลัพธ์ของ 1. 3×4 = 12 2. (-5) × (-4) = 20 3. (-2)×6 = -12 4. 7×(-3) = -21 6. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1.1 การอธบิ ายและบอกวิธีการลบจานวนเต็ม 2. ความสามารถในการคดิ 2.1 ทักษะการคิดวเิ คราะห์ 2.2 ทกั ษะการคิดสรา้ งสรรค์ 2.3 ทักษะการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ 2.4 ทกั ษะการคิดเปน็ ระบบ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.1 ทกั ษะการประยกุ ต์ใช้ความรู้ 3.2 ทักษะการแปลความ 3.3 ทกั ษะการให้เหตุผล 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 4.1 ทกั ษะการสื่อสารฟงั และพดู 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5.1 ใชอ้ นิ เตอรเ์ น็ตในการสบื ค้นข้อมูล และใช้ Power Point แสดงเน้อื หาทีส่ อน 7. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 มวี นิ ยั ความรบั ผิดชอบ 1. มวี ินัย ความรบั ผดิ ชอบ ในการทาแบบฝกึ ทักษะแต่ละชุด 7.2 ใฝเ่ รยี นรู้ 1. ศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้ และชุดฝึกทักษะแต่ละชุด 2. กระตอื รือรน้ สนใจสืบคน้ ความรใู้ หม่ 3. ตงั้ ใจเรียน

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดบั มัธยมศกึ ษาชน้ั ปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา 2562 หน้า ๓๕ 7.3 มุ่งมนั่ ในการทางาน 1. อดทนทางานสาเร็จตามท่ไี ดร้ บั มอบหมาย 7.4 อยู่อยา่ งพอเพียง 1. คิดและตัดสนิ ใจในการปฏิบัตกิ จิ กรรมที่ได้รบั มอบหมายเหมาะสมกับศักยภาพตนเอง/กลมุ่ และเลอื กใช้ วสั ดุอปุ กรณ์ในการปฏิบตั ิกจิ กรรมอยา่ งประหยดั คุ้มค่า 2. ใชค้ วามร้สู ติปญั ญาเตรียมพร้อมและวางแผนการปฏบิ ัติกจิ กรรมอย่างอดทนเปน็ ระบบ รอบคอบ สมเหตสุ มผล 8. ค่านิยม ๑๒ประการ 8.1. ซื่อสตั ย์ เสยี สละ อดทนมอี ุดมการณ์ในสง่ิ ทดี่ งี ามเพ่ือส่วนรวม 8.2 ใฝ่หาความรู้ หมนั่ ศึกษาเลา่ เรียนทัง้ ทางตรง และทางอ้อม 8.3. มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีตอ่ ผู้อืน่ เผื่อแผ่และแบง่ ปนั 8.4. เข้าใจเรียนรูก้ ารเป็นประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุขที่ถกู ต้อง 8.5 มรี ะเบียบวินยั เคารพกฎหมายผนู้ อ้ ยร้จู ักการเคารพผู้ใหญ่ 8.6. มีสตริ ตู้ ัว รคู้ ดิ รทู้ าร้ปู ฏิบัติตามพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แนวทางบูรณาการ สุขศึกษาศึกษา เล่นกจิ กรรมประกอบการทอ่ งสตู รคูณ 9. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการ เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ จดุ ประสงค์/ตัวชีว้ ัด - ตรวจแบบฝึกทกั ษะ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น รอ้ ยละ 85 ผา่ น ๑. ความรู้(K) เกณฑ์ ๑. นักเรยี นสามารถหาผลคณู ของจานวนเต็มท่กี าหนดให้ได้ (K) ๒. นักเรยี นสามารถอธบิ ายผล ทีเ่ กิดข้นึ จากการคณู จานวน เตม็ ได้ (K) ๒. ทักษะ/กระบวนการ(P) แบบฝึกการเขยี นเซต ร้อยละ ๘๕ผา่ น ๑. มคี วามสามารถในการให้ - ตรวจแบบฝึกทักษะ เกณฑ์ เหตุผล(P) ๒. มคี วามสามารถในการ

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดับมธั ยมศกึ ษาช้นั ปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา 2562 หน้า ๓๖ สอื่ สาร ส่ือความหมายทาง คณิตศาสตร์ และการนาเสนอ (P) ๓. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์(A) ๑.มคี วามรับผดิ ชอบ (A) สังเกตพฤตกิ รรมการ - การสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ ๒. มคี วามรอบคอบ(A) ทางานกลุ่ม ความมวี ินัย การทางานกลุม่ ผา่ นเกณฑ์ ๓. มคี วามซ่ือสตั ย์ (A) ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่ันใน การทางาน 10. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1-2 ข้นั นา 1. ครผู ู้สอนให้นักเรยี นทากิจกรรมท่องสตู รคูณ โดยใชเ้ พลง สูตรคูณคลน่ื เคลงมาช่วยเพ่ิมความสนุก ขน้ั สอน 1. ครผู ูส้ อนอธิบายเรอ่ื งการคูณจานวนเต็ม 1. การคณู จานวนเต็มบวกด้วยจานวนเต็มบวกคอื การหาผลคูณโดยเปล่ียนเป็นการบวก เชน่ 2×5 = 5+5 = 10 3×6 = 6+6+6 = 18 4 × 7 = 7 + 7 + 7 + 7 = 28 จะได้ว่า การคณู จานวนเตม็ บวกดว้ ยจานวนเตม็ บวกข้างต้น จะได้คาตอบเปน็ จานวนเตม็ บวก 2.การคณู จานวนเต็มบวกด้วยจานวนเต็มลบสามารถหาผลคณู โดยใช้ความหมายของการคูณและหลกั การ บวกจานวนเต็มลบ เช่น 2 × (-9)= (-9) + (-9) = -18 3 × (-8)=(-6) + (-6) + (-6) = -24 4 ×(-7)=(-7) + (-7) + (-7) + (-7) =-28 จะได้ว่า การคูณจานวนเตม็ บวกด้วยจานวนเต็มลบ จะได้ผลคูณเปน็ จานวนเตม็ ลบ 3. การคูณจานวนเตม็ ลบดว้ ยจานวนเตม็ บวก พจิ ารณาการหาผลคณู ไดจ้ าก สมบัติการสลบั ที่ของการคูณ ถา้ a และ b เปน็ จานวนเต็มใดๆแลว้ a × b = b × a เช่น (-7) × 3 = 3 × (-7) ใชส้ มบตั ิการสลบั ที่ของการคูณ = (-7) + (7 + (-7) จาก การคูณจานวนเต็มลบดว้ ยจานวนเต็มบวก = -21 เทา่ กับ การคูณจานวนเตม็ บวกด้วยจานวนเตม็ ลบ

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดับมัธยมศึกษาชน้ั ปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศึกษา 2562 หน้า ๓๗ ครูผู้สอนยกตวั อย่างให้นกั เรยี นทาโดยการตอบดว้ ยวาจา 1. -9 × 5 = 2. -2 × 8 = จะได้วา่ การคณู จานวนเตม็ ลบด้วยจานวนเต็มบวก จะมผี ลคูณเปน็ จานวนเตม็ ลบ 4. การคูณจานวนเตม็ ลบดว้ ยจานวนเต็มลบพจิ ารณาโดยการนาคา่ สัมบรู ณ์ของแตล่ ะตัวมาคูณกนั แล้ว คาตอบเป็นจานวนเตม็ บวก เช่น (-4)× (-5) = 20 (-7)× (-7) = 49 (-3)× (-9)= 27 5. ครูผู้สอนอธบิ ายรูปแบบของการคูณ เมอ่ื a และ b แทนจานวนใดๆ ในทางคณติ ศาสตร์อาจเขยี นแทน a × b ดว้ ย a • b หรือ abหรอื (a)(b) เช่น 3 . (-5) หมายถึง 3 × (-5) (-2)5 หมายถึง (-2) × 5 (-3)(-2) หมายถึง (-3) × (-2) ขน้ั สรปุ ๑.ครผู ู้สอนและนักเรยี นช่วยกันสรปุ การคูณจานวนเตม็ 1.การคณู จานวนเต็มชนิดเดียวกนั ใหน้ าคา่ สมั บรู ณ์มาคูณกันแลว้ ตอบเป็นจานวนเตม็ บวก 2.การคณู จานวนเต็มต่างชนิดกนั ให้นาค่าสัมบูรณม์ าคูณกนั แลว้ ตอบเป็นจานวนเต็มลบ ๒.ครผู ู้สอนทดสอบความเข้าใจของนักเรียน โดยการใชส้ ื่อการสอน ๓. ครผู สู้ อนใหน้ ักเรยี นทาใบงาน เรอ่ื ง การคูณจานวนเต็ม ชั่วโมงที่ 3(ทบทวนการคณู จานวนเตม็ ) ๑. ครผู ู้สอนทบทวนเรื่อง การคูณจานวนเตม็ ๒. ครูผู้สอนให้นักเรียนหาผลลัพธข์ องการบวก ลบ และคูณแบบระคน ตัวอย่างเช่น 1. 20 × ( 5 + 2 ) = 20 × 7 = 27 2. ( -20 + 5) ×(-6) = -15 ×(-6) = 90

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มัธยมศึกษาชั้นปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา 2562 หน้า ๓๘ ข้ันสรุป ๑.ครผู ู้สอนและนกั เรียนร่วมกันสรปุ เรอ่ื ง การบวก การลบ และการคณู แบบระคน หลกั เกณฑ์ในการบวกการ ลบการคณู คอื ข้ันแรกให้ทาในวงเลบ็ ก่อน เม่ือได้ผลลพั ธแ์ ลว้ ใหน้ าผลลพั ธ์ทีไ่ ดไ้ ปบวกลบหรือคณู กับจานวนทเ่ี หลือ และครผู ู้สอนใหน้ ักเรยี นทุกคนทาใบงานเร่ืองการคูณจานวนเตม็ 11. ส่ือและแหล่งเรียนรู้ 11.1 ส่อื การเรยี นรู้ - แบบฝึกทกั ษะ 11.2 แหลง่ เรียนรู้ - ห้องสมุดโรงเรียน - ห้องสบื ค้นอินเตอรเ์ น็ต 12. การใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการจัดการเรยี นรทู้ ีเ่ กดิ กบั ผเู้ รียน ความพอประมาณ มีเหตผุ ล มภี มู คิ ุ้มกันในตัวทีด่ ี 1. นกั เรยี นมพี นื้ ฐานความรู้ทางวชิ า 1.นักเรยี นมเี หตุผลในการเขยี นและ 1. นักเรียนนาความรเู้ ร่ืองการคณู คณติ ศาสตร์ทเ่ี หมาะสมกับเนื้อหา สามารถบอกวิธีการคูณจานวนเตม็ จานวนเตม็ ไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาได้ ได้ ถกู ต้อง 2. นักเรยี นวเิ คราะห์และตัดสินใจ 2. นักเรียนนาความรทู้ ่ไี ด้รบั จาก ในการทาแบบฝึกทักษะเน้นการคดิ การเรยี นมาเปน็ ข้อมลู พนื้ ฐานเพอื่ ได้ ประกอบการตัดสนิ ใจในการท กจิ กรรมได้โดยไม่เกดิ ปจั จัยเสี่ยง เงื่อนไขความรู้ 1.นกั เรยี นมีความรอบรู้ เร่ือง การคณู จานวนเต็ม 2. นกั เรียนนาความร้ทู ่ีได้รับไปประยกุ ต์ใชใ้ นการแกป้ ญั หาได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ เงอ่ื นไขคุณธรรม 1. นักเรียนมคี วามซ่ือสตั ย์ สจุ ริตและตรงต่อเวลา 2. นักเรยี นมีวินยั ในตนเอง นักเรียนได้เรยี นรู้การใชช้ ีวติ ทสี่ มดุลและพรอ้ มรับต่อการเปลยี่ นแปลงใน 4 มิติ ตามหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง ดงั นี้ ด้าน สมดุลและพร้อมรบั การเปลย่ี นแปลงในด้านต่าง ๆ องค์ประกอบ เศรษฐกจิ สังคม ส่งิ แวดล้อม วัฒนธรรม ความรู้ 1. ได้ความรเู้ กีย่ วกับ 1. มีการวางแผนใน 1. มีความรอบรู้ใน 1. การเรียนรู้ การคณู จานวนเต็ม การทางานเป็น การใชแ้ หล่งเรยี นรู้ใน สอดคล้องกับวถิ ชี วี ิต

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดับมัธยมศกึ ษาชน้ั ปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา 2562 หน้า ๓๙ ทกั ษะ เพื่อนาไปประยุกต์ใช้ กระบวนการกลุ่ม ทอ้ งถน่ิ ของคนในชุมชน ค่านิยม กบั ชน้ิ งาน 2. นกั เรยี นมีการ 2. รสู้ าเหตแุ ละ 2. เหน็ คุณค่าในภูมิ แลกเปลยี่ นเรียนรู้ ปัญหาของการผลติ ปญั ญาท้องถิน่ 1. มีทกั ษะในการใช้ 3. นักเรียนได้ และการบริการ วสั ดุ อปุ กรณ์อยา่ ชว่ ยเหลือซ่ึงกนั และ ผลิตภณั ฑ์ในท้องถ่ิน 1. ดารงตนอยูใ่ น ประหยดั และคุม้ คา่ กัน สงั คมอย่างมีความสขุ 2. การเลือกใชว้ สั ดุ 1. มที ักษะในการ 1. ใช้ประโยชน์ขาก 2. มที กั ษะในการ อุปกรณ์ได้อยา่ งเมาะ ทางาน สง่ิ แวดล้อมระมดั ระวงั คานวณและนาไปใช้ สม 2. มคี วามสามารถใน และคุ้มคา่ ได้อย่างเหมาะสม 1. ตระหนกั ถึงผลท่ี การนาความรทู้ ี่ได้รบั เกดิ จากการใชว้ สั ดุ ไปร่วมกนั แกป้ ญั หา 1. มจี ิตสานกึ ในการ 1. สบื สานการ อุปกรณ์ในการ เพ่ือหาข้อสรุปได้ อนุรกั ษภ์ มู ิปัญญา อนรุ ักษ์ภมู ปิ ัญญา ปฏบิ ตั งิ าน 1. มีความรบั ผิดชอบ ท้องถ่ิน ทอ้ งถ่นิ ต่อการทางานของ 2. ใชท้ รัพยากรและ 2. การใช้แหลง่ เรียนรู้ กลมุ่ สิง่ แวดลอ้ มอย่าง โดยใชภ้ ูมิปัญญา 2. ยอมรับความ ประหยัด ท้องถิ่น คิดเหน็ ซ่งึ กนั ละกนั มี ความเสยี สละละ อดทน 13. บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อปุ สรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มธั ยมศกึ ษาชนั้ ปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา 2562 หน้า ๔๐ 3.แนวทางแก้ไขปญั หา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………..ผสู้ อน (นาย ศักดินนท์ ชยั ภมู )ิ ความคดิ เห็น ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………..ผ้ตู รวจ (นางวรทิ ยา ชุนเกษา) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดบั มัธยมศกึ ษาชัน้ ปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา 2562 หน้า ๔๑ ใบงาน ครัง้ ที่ 3 เรือ่ ง การคูณจานวนเต็ม 1. จงหาผลลพั ธข์ องการคณู จานวนเต็ม 3. จงหาผลลัพธ์ของการคณู จานวนเตม็ 1. 16 × 9 = ................. 1. ( 10 × 9 ) × 5 = ................. 2. (-8) × (-21) = ................ 2. [ (-8) × (-1) ] × 4 = ................ 3. (-5) × 9 = ................. 3. 2 × [ (-6) × 9 ] = ................. 4. (-2)15 = ………………. 4. [ (-2)15 ] × (-2) = ……………. 5. 5 .(-6) = ………………. 5. 12[ (-5) × (-6) ] = ……………. 6. (-8)(-5) = ……………… 6. -5[ (-5) × (-6) ] = ……………. 7. 5(-20) = ……………… 7. [ 9(-7) ]. 2 = ……………. 8. (-7) × 35 = …………….. 8. 5 .[ (-7) × (-35) ] = …………… 9. -95 × 1 = ……………… 9. [ (-12) + (-8) ] × 2 = ……………. 10. 35 . 0 = …………….. 10. (-2)[(-35). 0 ] = …………… 11. [(-6)(-5)] × 4 = ................. 2. จงหาจานวนเต็มที่เตมิ ลงใน แลว้ ใหป้ ระโยคน้นั เปน็ จริง 12. (-2)[5(-6)] = .................. 1.× 7 = 63 13. (-11)[(-3)(-10)] = ................. 2. × 10 = -50 14. (-6)[(-8)5] = ................ 3. × -20 = -100 15. [16 × (-2)] × (-5) = ................. 4. -8 × = 72 5. -12 × = 36 6. × 45 = -90 4. จงหาผลลพั ธ์ = ................. 1.( 5 + 2 ) × 5 = ................ 2. ( -5 + 3 ) × 4 = ................. 3. 2 × (6 – 9 ) = ……………. 4. [ (-2) + (-3) ] × (2) = ……………. 5. 12[ (-5) + (-6) ] = ……………. 6. -5[ (-5) - (-6) ] = ……………. 7. [ 5 + (-5) ]. (-10) = …………… 8. [ (-2)5 ] + [ (-7) × (-1) ] = ……………. 9. 2 × [ 27 + (-9) ] = …………… 10. [ (-6) . (-20) ] + [ -10(-5) ]

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดับมัธยมศกึ ษาช้นั ปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา 2562 หน้า ๔๒ แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 5 รหสั วิชา ค21201 ช่อื รายวชิ า คณิตศาสตร์เพิ่มเติมกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรือ่ งจานวนเต็มระดบั ช้ัน ม.1ภาคเรยี นที่ 1 จานวน 6ชัว่ โมง/สัปดาห์ แผนการเรยี นร้ทู ี่ 5เรื่อง การหารจานวนเตม็ เวลา 3ชวั่ โมง ผ้สู อน นาย ศักดินนท์ ชัยภูมโิ รงเรยี นวัดสันติการามวทิ ยาในพระบรมราชานุเคราะห์ จงั หวัดราชบรุ ี 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/สาระ มาตรฐาน ค ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่ี เกิดข้ึนจากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนนิ การ และการนาไปใช้ 2. ตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ดั ม. 1/1เข้าใจจานวนตรรกยะ และความสัมพันธข์ องจานวนตรรกยะและใชส้ มบัติของจานวนตรรกยะใน การแก้ปัญหาคณิตศาสตรแ์ ละปัญหาในชวี ิตจริง 3. สาระสาคญั และความคดิ รวบยอด การหารจานวนเตม็ มีหลกั การดงั น้ี 1. จานวนเตม็ บวกหารกบั จานวนเตม็ บวก ผลลัพธ์เปน็ จานวนเตม็ บวก 2. จานวนเตม็ ลบหารกับจานวนเตม็ ลบ ผลลพั ธ์เป็นจานวนเตม็ บวก 3. จานวนเตม็ บวกคูหารกับจานวนเต็มลบ หรอื จานวนเตม็ ลบหารกับจานวนเตม็ บวก ผลลัพธเ์ ปน็ จานวน เต็ม ลบ 4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. นักเรียนสามารถหาผลหารของจานวนเต็มท่ีกาหนดใหไ้ ด้(K) ๒. นกั เรียนสามารถอธบิ ายผลท่ีเกดิ ข้นึ จากการหารจานวนเต็มได้(K) ๓. มีความสามารถในการให้เหตุผล(P) ๔. มคี วามสามารถในการสือ่ สาร ส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ(P) ๕. มีความรบั ผดิ ชอบ (A) ๖. มคี วามรอบคอบ(A) ๗. มีความซ่ือสัตย์ (A)

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มัธยมศกึ ษาช้นั ปีท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา 2562 หน้า ๔๓ 5. สาระการเรยี นรู้ การหารจานวนเต็ม นาค่าสัมบรู ณ์ของตวั ตัง้ และค่าสมั บรู ณข์ องตัวหารมาหารกัน แลว้ พจิ ารณาดงั นี้ – ถ้าทั้งตวั ตง้ั และตวั หารเปน็ จานวนเต็มบวกทัง้ คู่หรือจานวนเตม็ ลบท้งั คู่ จะได้คาตอบเป็นจานวนเตม็ บวก – ถ้าตัวตัง้ หรือตวั หารตัวใดตัวหนงึ่ เปน็ จานวนเต็มลบโดยที่อีกตัวหนึ่งเป็นจานวนเต็มบวกจะไดค้ าตอบ เป็น จานวนเตม็ ลบ 6. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1.1 การอธิบายและบอกวิธีการหารจานวนเตม็ 2. ความสามารถในการคดิ 2.1 ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ 2.2 ทักษะการคดิ สร้างสรรค์ 2.3 ทกั ษะการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ 2.4 ทกั ษะการคดิ เป็นระบบ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3.1 ทักษะการประยกุ ต์ใช้ความรู้ 3.2 ทกั ษะการแปลความ 3.3 ทกั ษะการใหเ้ หตุผล 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 4.1 ทักษะการสื่อสารฟังและพูด 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5.1 ใช้อินเตอร์เนต็ ในการสืบคน้ ข้อมูล และใช้ Power Point แสดงเนอื้ หาทส่ี อน รวมถึงข้ึน โจทย์แบบฝกึ ทกั ษะแต่ละชุด 7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 7.1 มวี ินัยความรบั ผิดชอบ 1. มีวินัย ความรับผิดชอบ ในการทาแบบฝกึ ทักษะแต่ละชุด 7.2 ใฝ่เรยี นรู้ 1. ศกึ ษาเนื้อหาจากใบความรู้ และชุดฝึกทกั ษะแต่ละชดุ 2. กระตือรือร้นสนใจสบื คน้ ความร้ใู หม่ 3. ตัง้ ใจเรียน

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มธั ยมศึกษาช้ันปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศึกษา 2562 หน้า ๔๔ 7.3 มุ่งม่ันในการทางาน 1. อดทนทางานสาเร็จตามท่ีไดร้ บั มอบหมาย 7.4 อยู่อย่างพอเพียง 1. คิดและตัดสนิ ใจในการปฏิบตั ิกจิ กรรมที่ไดร้ ับมอบหมายเหมาะสมกบั ศักยภาพตนเอง/กล่มุ และเลือกใช้ วัสดุอุปกรณใ์ นการปฏิบัติกจิ กรรมอยา่ งประหยัดคุ้มค่า 2. ใช้ความรู้สติปญั ญาเตรยี มพร้อมและวางแผนการปฏิบตั ิกิจกรรมอยา่ งอดทนเปน็ ระบบ รอบคอบ สมเหตสุ มผล 8. คา่ นิยม ๑๒ประการ 8.1. ซ่อื สตั ย์ เสียสละ อดทนมอี ุดมการณ์ในสงิ่ ทดี่ ีงามเพื่อส่วนรวม 8.2 ใฝห่ าความรู้ หม่นั ศึกษาเลา่ เรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม 8.3. มศี ลี ธรรม รักษาความสัตย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ ื่นเผื่อแผ่และแบ่งปัน 8.4. เขา้ ใจเรยี นรู้การเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมขุ ท่ีถกู ต้อง 8.5 มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมายผนู้ ้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ 8.6. มีสตริ ตู้ วั รคู้ ดิ ร้ทู ารปู้ ฏิบัตติ ามพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั แนวทางบรู ณาการ ศิลปะ วาดภาพแสดงแผนผังความคิดการหารจานวนเต็ม 9. การวดั และประเมินผล วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน - ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ จดุ ประสงค/์ ตวั ชีว้ ัด แบบทดสอบกอ่ นเรียน รอ้ ยละ 85 ผา่ น ๑. ความร(ู้ K) เกณฑ์ ๑. นกั เรยี นสามารถหาผลหาร ของจานวนเต็มทก่ี าหนดได้(K) ๒. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายผล ท่เี กิดขน้ึ จากการหารจานวน เต็มได้ (K) ๒. ทกั ษะ/กระบวนการ(P) - ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ แบบฝกึ หดั ร้อยละ ๘๕ผ่าน ๑. มีความสามารถในการให้ เกณฑ์ เหตผุ ล(P) ๒. มีความสามารถในการ สอ่ื สาร ส่อื ความหมายทาง คณติ ศาสตร์และการนาเสนอ(P)

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดับมัธยมศึกษาชั้นปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา 2562 หน้า ๔๕ ๓. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์(A) ๑.มคี วามรบั ผิดชอบ (A) สังเกตพฤตกิ รรมการ - การสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ ๒. มคี วามรอบคอบ(A) ทางานกลุ่ม ความมี ๓. มคี วามซื่อสตั ย์ (A) วินัย ใฝ่เรียนรู้ และ การทางานกล่มุ ผ่านเกณฑ์ มงุ่ ม่ันในการทางาน 10. กิจกรรมการเรยี นรู้ ( ช่ัวโมงที่ 1 ) ขน้ั นา 1. ครูผู้สอนทบทวนเรือ่ ง การคณู จานวนเตม็ โดยยกตวั อยา่ งเชน่ ครูแสดงการคณู และการหารตอ่ ไปนบ้ี นกระดาน การคูณ กา1ร4หาร 14 6) 84 6  24 6 84 24 0 ใหน้ ักเรียนพิจารณาการคูณและการหารบนกระดาน และใหห้ าความสมั พนั ธ์ของ การคูณและการหารขา้ งต้นโดยการ แสดงความคดิ เหน็ จะไดว้ ่า 14x6 84 สมั พนั ธก์ ับ 846 14 และ 8414 6 2. ครูและนกั เรยี นชว่ ยกันเขยี นความสมั พนั ธด์ งั กลา่ ว จนสรุปเป็นกรณที ว่ั ไปไดด้ ังน้ี เม่ือ a, b และ c เปน็ จานวนเต็มใดๆ และ b ไมเ่ ท่ากบั ศนู ย์ ถ้า ab  c แลว้ cb  a และ ถา้ cb  a แล้ว ab  c สาหรับ cb เมือ่ b  0 สามารถเขยี นเป็น c b

แผนการจดั การเรียนการสอน ระดบั มธั ยมศกึ ษาชน้ั ปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศึกษา 2562 หน้า ๔๖ ครใู หน้ กั เรยี นลองหาคาตอบต่อไปน้ี 2×5 = 10 5 × 2 = 10 4 × (-6) = -24 3 × (-4) = -12 (-9) × 2 = -18 (-7) × 6 = -42 (-8) × (-5) = 40 (-7) × (-3) = 21 ( ชั่วโมงที่ 2– 3) ขน้ั สอน 1. ครูผสู้ อนอธบิ ายเรือ่ ง การหารจานวนเต็ม วา่ การหารจานวนเตม็ อาจหารลงตัวหรอื ไม่ลงตัวก็ได้ แต่ในบทน้ีจะ กล่าวถงึ เฉพาะการหารทหี่ ารลงตวั โดยการหารจานวนเตม็ ตอ้ งอาศยั การคณู ตามข้อตกลงดงั น้ี ตวั หาร × ผลหาร = ตวั ต้งั น่ันคอื เมอื่ a, b และ c แทนจานวนเตม็ ใดๆ ท่ี b ไมเ่ ท่ากบั 0 ถา้ a ÷ b = c แล้ว a = b × c และ ถ้า a = b × c แล้ว a ÷ b = c เชน่ - การหาผลหาร (-30) ÷ 5 ทาไดโ้ ดยการหาจานวนเตม็ ทคี่ ูณกบั 5 แลว้ ได้ -30 เน่ืองจาก 5 × (-6) = -30 จานวนเต็มทต่ี อ้ งการคอื -6 นั่นคือ (-30) ÷ 5 = -6 - การหาผลหาร 30 ÷ (-5) ทาได้โดยการหาจานวนเต็มที่คูณกบั (-5) แล้วได้ 30 เนื่องจาก (-5) × (-6) = 30 จานวนเต็มท่ตี อ้ งการคอื -6 นั่นคือ 30 ÷ (-5) = -6 - การหาผลหาร (-30) ÷ (-5) ทาได้โดยการหาจานวนเตม็ ที่คูณกบั (-5) แล้วได้ -30 เนือ่ งจาก (-5) × 6 = -30 จานวนเตม็ ทต่ี อ้ งการคอื 6 นัน่ คอื (-30) ÷ (-5) = 6 2. ครผู ูส้ อนสรปุ หลักเกณฑ์การหารจานวนเต็ม มดี งั นี้ 1.ถ้าตวั ต้งั และตัวหารเปน็ จานวนเต็มบวกทั้งคู่ ใชว้ ิธีเดียวกับการหารจานวนนบั ด้วยจานวนนับ ซง่ึ จะได้ คาตอบเปน็ จานวนเตม็ บวก 2. ถา้ ตัวตง้ั และตัวหารเปน็ จานวนเต็มลบท้งั คู่ ใหน้ าค่าสัมบูรณ์ของตวั ต้งั และค่าสัมบูรณ์ของตัวหารมาหาร กนั แลว้ ตอบเปน็ จานวนเตม็ บวก 3. ถา้ ตัวตงั้ หรือตัวหารตัวใดตัวหน่งึ เป็นจานวนเต็มลบโดยทอ่ี กี ตวั หนึ่งเปน็ จานวนเต็มบวก ใหน้ าค่าสมั บรู ณ์ ของตวั ต้ังและค่าสัมบูรณ์ของตัวหารมาหารกัน แล้วตอบเป็นจานวนเตม็ ลบ 3. ครูผูส้ อนยกตัวอย่างการหารจานวนเต็มดงั น้ี

แผนการจดั การเรยี นการสอน ระดบั มธั ยมศึกษาชน้ั ปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศึกษา 2562 หน้า ๔๗ ตัวอยา่ งที่ 1 จงหาผลหารของ 24 ÷ (-2) วธิ ีทา 24 ÷ (-2) = -12 ตอบ -12 ตวั อย่างที่ 2 จงหาผลหารของ (-45) ÷ 5 วธิ ที า (-45) ÷ 5 = -9 ตอบ –9 ตวั อยา่ งท่ี 3 จงหาผลหารของ (-80) ÷ (-4) วิธที า (-80) ÷ (-4) = 20 ตอบ 20 ข้นั สรปุ 1. ครผู สู้ อนและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ เรือ่ ง หลักเกณฑก์ ารหารจานวนเต็มวา่ ถา้ ตัวตั้งและตัวหารเปน็ จานวนเตม็ บวกทั้งคู่ และจานวนเตม็ ลบทงั้ คู่ ให้นาค่าสัมบูรณ์ของตัวต้งั และค่าสัมบูรณ์ของตัวหารมาหารกัน แลว้ ตอบเป็นจานวน เตม็ บวก ถา้ ตวั ต้ังหรือตัวหารตัวใดตวั หนงึ่ เป็นจานวนเต็มลบโดยทอ่ี ีกตัวหน่ึงเป็นจานวนเต็มบวก ใหน้ าค่าสมั บรู ณ์ของตัว ตั้งและค่าสัมบรู ณ์ของตวั หารมาหารกัน แลว้ ตอบเปน็ จานวนเต็มลบ 2. ครผู ู้สอนให้นักเรยี นทกุ คนทาแบบฝกึ หัด ในหนังสือเรยี นสาระการเรียนรู้พืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เล่ม 1 11. ส่ือและแหล่งเรียนรู้ 11.1 ส่ือการเรยี นรู้ - แบบฝึกทกั ษะ 11.2 แหล่งเรยี นรู้ - ห้องสมดุ โรงเรียน - ห้องสบื คน้ อินเตอรเ์ น็ต 12. การใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการจดั การเรยี นรู้ท่เี กิดกบั ผู้เรยี น ความพอประมาณ มีเหตผุ ล มภี ูมคิ มุ้ กนั ในตวั ทดี่ ี 1. นกั เรียนมีพืน้ ฐานความรู้ทางวิชา 1.นักเรียนมีเหตุผลในการเขียนและ 1. นกั เรียนนาความร้เู รือ่ งการหาร คณติ ศาสตร์ทเี่ หมาะสมกบั เน้ือหา สามารถบอกวิธกี ารหารจานวนเต็ม จานวนเตม็ ไปใช้ในการแก้ปัญหาได้ ได้ ถกู ต้อง 2. นักเรยี นวิเคราะหแ์ ละตัดสนิ ใจ 2. นกั เรยี นนาความรทู้ ีไ่ ด้รับจาก ในการทาแบบฝกึ ทักษะเนน้ การคดิ การเรียนมาเปน็ ขอ้ มูลพน้ื ฐานเพื่อ ได้ ประกอบการตัดสนิ ใจในการท กจิ กรรมได้โดยไม่เกิดปัจจยั เส่ียง เงอ่ื นไขความรู้ 1.นกั เรียนมีความรอบรู้ เรื่อง การหารจานวนเต็ม 2. นกั เรียนนาความรทู้ ีไ่ ดร้ บั ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาไดอ้ ย่างมี