ระเบยี บโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) วา่ ด้วยการวดั และประเมินผลการเรียน ห น้ า | ๑ หลกั สตู รโรงเรยี นโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ❖ ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ ว่าดว้ ยการวัดและประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๒ หลกั สตู รโรงเรียนโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ หลักสตู รโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศักราช 2563 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กลุ่มบริหารงานวิชาการ โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ ❖ ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ วา่ ด้วยการวัดและประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ก หลกั สตู รโรงเรยี นโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ คำนำ โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ได้จัดทำหลักสูตรโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ ขน้ึ ใชใ้ นปีการศกึ ษา 2563 โดยยึดตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ซึ่ง เปน็ หลักสตู รท่ีใชแ้ นวคดิ หลักสูตรอิงมาตรฐาน (Standard – based Currlculum) ระเบยี บโรงเรียนบ้าน พลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) ว่าด้วยการวดั และประเมินผลการเรยี น หลักสตู รโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุง ราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๕๕ (ปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) เป็นเอกสารประกอบหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ซึง่ เปน็ เอกสารหน่ึงทจ่ี ะชว่ ยขับเคลอ่ื นกระบวนการนำหลักสูตร ไปสู่การปฏิบตั ใิ ห้เป็นไปอย่างมีประสิทธภิ าพ โรงเรียนจึงได้จัดทำระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรียน หลักสูตรโรงเรียนบ้านพลวง (พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช 2563 เพื่ออธิบายขยายความให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายตั้งแต่ผู้บริหาร ครูผู้สอน ผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้อง มีความเข้าใจที่ชัดเจน ตรงกันรวมทั้งร่วมกันรับผิดชอบ และทำงาน รว่ มกนั อย่างเป็นระบบ เอกสารประกอบดว้ ย ๓ ตอนคอื ตอนที่ ๑ ระเบยี บโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ ว่าด้วยการวดั และประเมินผลการเรียน หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศักราช 2563 ตอนที่ ๒ แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ หลกั สตู รโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุง ราษฎร)์ พทุ ธศักราช 2563 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ตอนที่ ๓ ประกาศโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ เรื่อง แนวการปฏิบัตกิ ารดำเนนิ การ สอบแก้ตวั ตอนท่ี ๔ แนวการปฏิบตั กิ ารขอเอกสารหลกั ฐานทางการเรยี น คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารระเบียบว่าด้วยการวัด และประเมินผลการเรียนรู้ สถานศึกษา โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) คงจะเป็นประโยชนต์ ่อผู้ทีเ่ กี่ยวข้องทุกฝ่ายทีจ่ ะชว่ ย สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจ และปฏบิ ัติการวดั และประเมนิ ผลผเู้ รียนเปน็ แนวทางเดียวกนั และเป็นมาตรฐาน เดียวกัน ส่งผลให้พัฒนาผู้เรียนได้ตามหลักการ เจตนารมณ์ และวัตถุประสงค์ของหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ตอ่ ไป โรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) ❖ ฉบับปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวัดและประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ข หลกั สตู รโรงเรียนโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ สารบญั คำนำ ก ๑ ตอนท่ี ๑ ระเบยี บโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ว่าด้วยการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๒๓ หลกั สูตรโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์)พุทธศักราช ๒๕๕๕ ๕๔ (ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ๕๗ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ๖๐ ๖๑ ตอนท่ี ๒ แนวปฏิบัตกิ ารวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๖๒ หลักสูตรโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๕๕ (ปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตอนท่ี ๓ ประกาศโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) เรอื่ ง แนวปฏบิ ัตกิ ารดำเนินการสอบแก้ตวั ตอนที่ ๔ แนวปฏบิ ตั กิ ารขอเอกสารหลกั ฐานทางการเรยี น บรรณานกุ รม ภาคผนวก คณะจัดทำ - คำสั่งแตง่ ต้ังคณะกรรมการพัฒนาหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี น - บา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ ระดบั การศกึ ษาปฐมวยั และระดับ การศกึ ษาขั้นพื้นฐาน - คำสั่งแต่งตงั้ คณะกรรมการดำเนินการจัดทำหลักสูตร - ประกาศให้ใช้หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง (พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖3 ❖ ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวัดและประเมินผลการเรียน ห น้ า | ๑ หลักสูตรโรงเรยี นโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตอนที่ ๑ ระเบยี บโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ ว่าดว้ ยการวัดและประเมินผลการเรียน หลักสตู รโรงเรยี นโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ❖ ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ว่าดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๒ หลักสตู รโรงเรียนโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ระเบียบโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวัดและประเมินผลการเรียน พทุ ธศกั ราช 2563 ตามหลกั สตู รแกนกลางศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ………………………………………………………………………………………………………………………. โดยที่โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ได้ประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ตามคำสั่งกระทรวงศกึ ษา ท่ี สพฐ. ๒๘๓/๒๕๕๑ ลงวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๑ เรอื่ ง ใหใ้ ช้หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ จึงเปน็ การสมควรที่จะ กำหนดระเบียบสถานศึกษาว่าด้วยการวดั ผลและประเมินผลการเรียนหลักสูตรโรงเรียนบ้านพลวง(พรหม บำรุงราษฎร์) พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ซึ่ง เป็นกรอบทศิ ทางในการจดั ทำหลกั สูตรของสถานศึกษา โดยมีมาตรฐานการเรยี นร้จู ากหลกั สตู รแกนกลางไป พัฒนาให้สอดคลอ้ งกับสภาพปญั หาในชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท้องถนิ่ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ และ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน สำหรับจัดการศกึ ษาในสถานศกึ ษาของตน เพื่อพัฒนาให้ผูเ้ รยี นเปน็ สมาชิกท่ีดี ของครอบครัว ชุมชน สงั คม ประเทศชาติ และให้สอดคลอ้ งกบั คำสง่ั ดังกล่าว ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๙ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ และกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ คณะกรรมการบริหารหลักสูตร และวิชาการ โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน จึงวางระเบยี บไวด้ งั ต่อไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสถานศึกษาว่าด้วยการวัดผลและประเมินผลการเรียน หลกั สตู รโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ” ข้อ ๒ ระเบียบนใ้ี หใ้ ชบ้ งั คับตั้งแตป่ กี ารศึกษา ๒๕๖3 เป็นตน้ ไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบยี บ ข้อบังคับ หรือคำสั่งอืน่ ใด ในส่วนทีก่ ำหนดไว้ในระเบียบนี้ซึ่งขัดหรอื แยง้ กับระเบียบนี้ ใหใ้ ช้ระเบียบนแี้ ทน ข้อ ๔ ระเบียบนี้ให้ใช้ควบคู่กับหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช 2563 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ขอ้ ๕ ใหผ้ ู้บรหิ ารสถานศกึ ษารกั ษาการใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบนี้ หมวด ๑ ❖ ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ ว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรียน ห น้ า | ๓ หลักสูตรโรงเรียนโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หลกั การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ข้อ ๖ การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ ใหเ้ ป็นไปตามหลักการตอ่ ไปนี้ ๖.๑ สถานศกึ ษาเปน็ ผู้รบั ผิดชอบการประเมนิ ผลการเรียนของผู้เรียนโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการบรหิ ารหลักสตู รและวิชาการ ๖.๒ การวัดและประเมินผลการเรียนตอ้ งสอดคลอ้ งและครอบคลุมมาตรฐานการศึกษาท่ี กำหนดไว้ในหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ๖.๓ การวดั และประเมินผลการเรยี นร้ตู ้องสอดคล้องและครอบคลมุ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ชีว้ ัด เป็นรายวชิ าตามกลุม่ สาระการเรยี นรู้ท้งั ๘ กลมุ่ สาระ ๖.๔ การประเมินผลการเรยี นต้องประกอบด้วย การประเมินเพื่อปรบั ปรงุ พัฒนาผู้เรยี น การจดั การเรียนการสอนและการประเมนิ ผลเพือ่ ตดั สนิ ผลการเรียน ๖.๕ การประเมนิ ผลเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการเรียนการสอน ต้องดำเนินด้วย วิธกี ารที่หลากหลายเหมาะสมกับส่ิงท่ีตอ้ งการวดั ธรรมชาตขิ องวิชาและและระดับช้นั ของผู้เรียน โดยต้ังอยู่ บนพื้นฐานของความเที่ยงตรง ยุติธรรมและเชื่อถือได้ ๖.๖ ให้มกี ารประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผู้เรียนในแตล่ ะระดับช้ันของผเู้ รียน ๖.๗ ใหม้ ีการประเมินความสามารถของผเู้ รียน ในการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนในแต่ ละระดบั ชน้ั ของผู้เรยี น ๖.๘ การประเมินผู้เรียนพิจารณาจากพัฒนาของผู้เรียน ความประพฤติ การสังเกต พฤติกรรมการเรียนรู้ การรว่ มกจิ กรรม และการทดสอบ ควบคไู่ ปในกระบวนการสอนตามความเหมาะสม ของแตล่ ะระดบั และรูปแบบการศกึ ษา ๖.๙ ให้มีการประเมินคุณภาพการศึกษาระดับเขตพื้นที่ และระดับชาติในแต่ละระดับ การศกึ ษาในแตล่ ะระดบั ชั้นของผู้เรียน ๖.๑๐ เปดิ โอกาสให้ผู้เรียนตรวจสอบผลการประเมินการเรียนได้ ๖.๑๑ ใหม้ กี ารเทยี บโอนผลการเรยี นระหวา่ งสถานศึกษา และรปู แบบการศึกษาตา่ ง ๆ ๖.๑๒ ให้สถานศึกษาจัดทำเอกสารหลักฐานทางการศึกษา เพื่อเป็นหลักฐานการ ประเมินผลการเรียน รายงานผลการเรียนและเป็นหลกั ฐานแสดงวฒุ ิและรับรองผลการเรยี นของผู้เรียน ❖ ฉบับปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ วา่ ดว้ ยการวัดและประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๔ หลักสตู รโรงเรยี นโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ หมวด ๒ วิธกี ารวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ขอ้ ๗ สถานศกึ ษาต้องดำเนนิ การวดั และประเมินผลให้ครบทงั้ ๔ ดา้ น คอื กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ๘ กลุม่ สาระ การอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คา่ นยิ ม หลกั คนไทย 12 ประการ และกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น ๗.๑ การประเมินผลการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง ๘ กลุ่มสาระ เป็นการ ประเมินความรู้ ความสามารถ ทักษะ เจตคติ ทักษะการคิด ทก่ี ำหนดอยู่ในตวั ชี้วัดในหลักสูตร ซึ่งจะ นำไปสกู่ ารสรปุ ผลการเรียนรขู้ องผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้ โดยดำเนินการดังนี้ ๗.๑.๑ ผู้สอนแจ้งตัวชี้วัด วิธีการประเมินผลการเรียน เกณฑ์การผ่าน ตัวชี้วัด และเกณฑ์ขั้นต่ำของการผ่านรายวิชาก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนในแต่ละกลุ่มสาระการ เรียนรู้ ๗.๑.๒ จัดให้มีการประเมินผลก่อนเรียน เพื่อตรวจสอบความรู้พื้นฐานและ ความรอบรู้ในเรื่องที่จะเรียน ๗.๑.๓ จัดให้มีการประเมินผลระหวา่ งเรยี น เพื่อศึกษาผลการเรยี น เพื่อจัดสอน ซอ่ มเสริม และนำคะแนนจากการวดั ผล ไปรวมกบั การวดั ผลปลายปี ๗.๑.๔ จัดให้มีการประเมินผลปลายปี เพื่อตรวจสอบผลการเรียนโดยให้ ครอบคลมุ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั /ผลการเรียนรู้ ทสี่ ำคัญทคี่ รูผูส้ อนกำหนด ๗.๑.๕ ผู้สอนต้องให้ความสำคัญกับการประเมินระหว่างปี/ภาค มากกว่าการ ประเมนิ ปลายปี/ภาค ตามอตั ราสว่ นการประเมินผลการเรียนดงั น้ี ❖ ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวัดและประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๕ หลักสูตรโรงเรียนโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี 1 ภาคเรียนที่ 2 คะแนน ลำดับ วชิ า ระหว่าง กลาง ระหวา่ ง กลาง กลาง ปลาย คะแนน เรยี น ภาค 2 เรยี น ภาค 2 ปี ปี รวม รายวิชพ้ืนฐาน ๑ ภาษาไทย 25 5 25 5 10 ๓๐ ๑๐๐ ๒ คณิตศาสตร์ 25 5 25 5 10 ๓๐ ๑๐๐ ๓ วิทยาศาสตร์และ 25 5 25 5 10 ๓๐ ๑๐๐ เทคโนโลยี ๔ สงั คมศกึ ษา 25 5 25 5 10 ๓๐ ๑๐๐ ศาสนาและ วัฒนธรรม ประวตั ศิ าสตร์ 25 5 25 5 10 ๓๐ ๑๐๐ ๕ สุขศกึ ษาและพล 30 5 30 5 ๑๐ ๒๐ ๑๐๐ ศกึ ษา ๖ ศลิ ปะ 30 5 30 5 ๑๐ ๒๐ ๑๐๐ ๗ การงานอาชพี 30 5 30 5 ๑๐ ๒๐ ๑๐๐ ๘ ภาษาตา่ งประเทศ 25 5 25 5 10 ๓๐ ๑๐๐ (ภาษาอังกฤษ) รายวิชเพ่ิมเตมิ ๑ การปอ้ งกนั ทจุ ริต 30 5 30 5 ๑๐ ๒๐ ๑๐๐ 2 หน้าท่ีพลเมอื ง 30 5 30 5 ๑๐ ๒๐ ๑๐๐ ❖ ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ ว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๖ หลักสูตรโรงเรียนโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ภาคเรียนที่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ ลำดบั วิชา ระหว่าง ปลาย คะแนน ระหว่าง ปลาย คะแนน เรียน ภาค รวม เรียน ภาค รวม รายวชิ าพน้ื ฐาน ๑ ภาษาไทย ๗๐ ๓๐ ๑๐๐ ๗๐ ๓๐ ๑๐๐ ๒ คณิตศาสตร์ ๗๐ ๓๐ ๑๐๐ ๗๐ ๓๐ ๑๐๐ ๓ วทิ ยาศาสตร์แลเทคโนโลยี ๗๐ ๓๐ ๑๐๐ ๗๐ ๓๐ ๑๐๐ ๔ สงั คมศึกษา ๗๐ ๓๐ ๑๐๐ ๗๐ ๓๐ ๑๐๐ ศาสนาและวัฒนธรรม ๗๐ ๓๐ ๑๐๐ ๗๐ ๓๐ ๑๐๐ ประวัตศิ าสตร์ ๘๐ ๒๐ ๑๐๐ ๘๐ ๒๐ ๑๐๐ ๕ สุขศึกษาและพลศึกษา ๘๐ ๒๐ ๑๐๐ ๘๐ ๒๐ ๑๐๐ ๖ ศลิ ปะ ๘๐ ๒๐ ๑๐๐ ๘๐ ๒๐ ๑๐๐ ๗ การงานอาชีพ ๗๐ ๓๐ ๑๐๐ ๗๐ ๓๐ ๑๐๐ ๘ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ๘๐ ๒๐ ๑๐๐ ๘๐ ๒๐ ๑๐๐ รายวิชาเพ่ิมเติม ๘๐ ๒๐ ๑๐๐ ๘๐ ๒๐ ๑๐๐ ๑ รายวชิ าเพิ่มเติม ๘๐ ๒๐ ๑๐๐ ๘๐ ๒๐ ๑๐๐ ๒ การป้องกันการทจุ ริต 3 หนา้ ทพี่ ลเมือง ๗.๑.๖ การตัดสนิ ผลการเรยี นให้นำผลการประเมินระหวา่ งเรียนรวมกบั ผลการประเมิน ปลายปี ภาค ตามสัดส่วนคะแนนท่โี รงเรยี นกำหนด แล้วให้ระดบั ผลการเรยี น ๗.๒ การประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียนของผู้เรียน ให้ครูประจำช้ันดำเนินการวัดผล ตามเกณฑท์ ก่ี ำหนดดงั นี้ ๗.๒.๑ ครูแจ้งตัวชว้ี ดั ประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขียน ๗.๒.๒ ครูประเมินความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนของผู้เรียนในความ รับผิดชอบตามวิธีการและเครื่องมือที่กำหนดรวมสรุปผลการประเมินรายปี/รายภาค รายงานให้ คณะกรรมการ เมอ่ื ส้นิ ปกี ารศกึ ษา/ส้นิ ภาคเรียน ในกรณีที่ไม่ผ่านใหแ้ ก้ไข/ปรบั ปรุง ๗.๒.๓ คณะกรรมการประเมินของสถานศึกษาสรุปและให้ระดับผลการประเมนิ ❖ ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ วา่ ด้วยการวดั และประเมินผลการเรียน ห น้ า | ๗ หลักสูตรโรงเรยี นโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ๗.๓ การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน ให้ครูประจำชั้นดำเนินการวัดผลไป พรอ้ มกับการประเมนิ ผลระดับช้นั เรียนตามเกณฑ์ทก่ี ำหนดดงั น้ี ๗.๓.๑ ครูแจ้งตวั ชว้ี ัดการประเมนิ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ ๗.๓.๒ ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ผูเ้ รยี น ในความรับผิดชอบตามวิธกี ารและ เครื่องมือที่กำหนด รวมสรุปผลการประเมนิ รายปี/รายภาค รายงานให้คณะกรรมการ เมื่อสิ้นปกี ารศกึ ษา/ สิ้นภาคเรียน ในกรณที ไ่ี ม่ผ่านให้แก้ไขปรบั ปรุง ๗.๓.๓ คณะกรรมการประเมินของสถานศกึ ษาสรุปและให้ระดับผลการประเมนิ ๗.๔ การประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนให้ประเมินเปน็ รายปีในช้ันประถมศึกษาและประเมินราย ภาคเรียนในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โดยสถานศึกษาเป็นผู้กำหนดแนวทางการประเมิน ผู้รับผิดชอบ กจิ กรรมดำเนินการประเมนิ ตามจดุ ประสงค์ ๗.๔.๑ ครูผ้สู อนแจง้ วตั ถุประสงค์ของการจดั กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ๗.๔.๒ ครูผู้สอนประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามวิธีการและเครื่องมือที่กำหนด รวม สรุปผลการประเมินรายปี รายงานให้ผู้รับผิดชอบ เมื่อสิ้นปีการศึกษา/ สิ้นภาคเรียน ในกรณีที่ไม่ผ่านให้ แก้ไขปรับปรงุ ๗.๔.๓ คณะกรรมการประเมินของสถานศึกษา สรุปและให้ระดบั ผลการประเมนิ ๗.๕ การประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ให้ประเมินเปน็ รายปใี นชน้ั ประถมศกึ ษาและประเมนิ รายภาคเรียนในช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น โดยสถานศึกษาเป็นผู้กำหนดแนวทางการประเมิน ผู้รับผิดชอบ กิจกรรมดำเนนิ การประเมินตามจดุ ประสงค์ ๗.๔.๑ ครผู ้สู อนแจ้งวตั ถปุ ระสงค์ของสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ๗.๔.๒ ครูผู้สอนประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ตามวิธีการและเครื่องมือท่ีกำหนด รวมสรุปผลการประเมินรายปี รายงานให้ผู้รับผดิ ชอบ เม่ือสิน้ ปกี ารศึกษา/ ส้ินภาคเรยี น ในกรณที ไ่ี ม่ผ่านให้ แก้ไขปรบั ปรุง ๗.๔.๓ คณะกรรมการประเมนิ ของสถานศึกษา สรปุ และให้ระดบั ผลการประเมิน ๗.๖ ผู้เรียนต้องเข้ารับการประเมินปลายปี/ปลายภาค ทุกคน แต่ถ้าผู้เรียนไม่ได้เข้ารับการ ประเมินปลายปี/ปลายภาคเพราะเหตสุ ุดวิสัย ให้โรงเรียนจัดให้ผูเ้ รยี นเข้ารับการประเมนิ ผลไดใ้ นภายหลัง แตต่ ้องไม่เกนิ ๓๐ วนั ทำการหลงั จากเปิดภาคเรยี น ❖ ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ วา่ ดว้ ยการวดั และประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๘ หลกั สตู รโรงเรียนโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ หมวด ๓ เกณฑ์การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ข้อ ๘ การตัดสินผลการเรยี น ๘.๑ ระดับประถมศกึ ษา (๑) ผูเ้ รยี นต้องมีเวลาเรยี นไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทัง้ หมด (๒) ผ้เู รยี นตอ้ งได้รบั การประเมินทุกตัวช้ีวัด และผ่านตามเกณฑ์ทีสถานศกึ ษา กำหนด (๓) ผ้เู รยี นต้องได้รบั การตดั สนิ ผลการเรยี นทกุ รายวชิ า (๔) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมิน และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่ สถานศึกษากำหนด ในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ๘.๒ ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น (๑) ตัดสินผลการเรยี นเป็นรายวิชา ผูเ้ รยี นตอ้ งมีเวลาเรยี นตลอดภาคเรยี นไม่น้อย กวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นทง้ั หมดในรายวชิ านน้ั ๆ (๒) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา กำหนด (๓) ผูเ้ รียนตอ้ งได้รบั การตัดสินผลการเรียนทกุ รายวชิ า (๔) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมิน และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ท่ี สถานศึกษากำหนด ในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ และ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน การพจิ ารณาเล่ือนชัน้ ถ้าผเู้ รยี นมีข้อบกพร่องเพยี งเลก็ น้อย และสถานศึกษาพจิ ารณาเห็น ว่าสามารถพัฒนาและสอนซอ่ มเสริมได้ ใหอ้ ยู่ในดลุ พินิจของสถานศกึ ษาที่จะผอ่ นผนั ให้เลื่อนชั้นได้ แต่หากผเู้ รยี นไมผ่ า่ นรายวิชาจานวนมาก และมีแนวโนม้ วา่ จะเปน็ ปญั หาต่อการเรียนในระดับช้ันที่ สูงขึ้น สถานศึกษาอาจตั้งคณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้ำชั้นได้ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงวุฒิภาวะและ ความรู้ ความ สามารถของผูเ้ รียนเป็นสำคญั ❖ ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๙ หลกั สูตรโรงเรยี นโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ขอ้ ๙ การใหร้ ะดบั ผลการเรยี น ๙.๑ การตดั สนิ ผลการเรียนรายวิชาของกล่มุ สาระการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ในการตัดสนิ เพ่ือใหร้ ะดบั ผลการเรยี นรายวิชา สถานศึกษาสามารถ ให้ระดับผลการเรียนหรือระดับคุณภาพการปฏบิ ัติของผู้เรียน เป็นระบบตัวเลข ระบบตัวอักษร ระบบร้อยละ และระบบทใี่ ชค้ ำสำคญั สะทอ้ นมาตรฐาน ระดับมัธยมศึกษา ในการตัดสินเพื่อให้ระดับผลการเรียนรายวิชา ให้ใช้ตัวเลขแสดง ระดับผลการเรยี นเป็น ๘ ระดับ คะแนนร้อยละ ระดบั ผลการเรียน ความหมายของผลการประเมิน ๘๐-๑๐๐ ๔ ผลการเรยี นดเี ยยี่ ม ๗๕-๗๙ ๓.๕ ผลการเรยี นดีมาก ๗๐-๗๔ ๓ ๖๕-๖๙ ๒.๕ ผลการเรียนดี ๖๐-๖๔ ๒ ผลการเรียนคอ่ นข้างดี ๕๕-๕๙ ๑.๕ ผลการเรยี นปานกลาง ๕๐-๕๔ ๑ ๐-๔๙ ๐ ผลการเรียนพอใช้ ผลการเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ขั้นตำ่ ผลการเรียนไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ในกรณีที่ไม่สามารถให้ระดับผลการเรียนเป็น ๘ ระดับได้ ให้ใช้ตัวอักษรระบุเงื่อนไข ของผลการเรียน ดงั นี้ “มส” หมายถึง ผู้เรียนไม่มีสิทธเิ ข้ารบั การวัดผลปลายภาคเรียน เนื่องจากผูเ้ รยี นมี เวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนในแต่ละรายวิชา และไม่ได้รับการผ่อนผันให้ เขา้ รับการวดั ผลปลายภาคเรยี น “ร” หมายถึง รอการตัดสินและยังตัดสินผลการเรยี นไมไ่ ด้ เน่อื งจากผเู้ รยี นไมม่ ขี ้อมูล ผลการเรียนรายวิชานั้นครบถ้วน ได้แก่ ไม่ได้วัดผลระหว่างภาคเรียน/ปลายภาคเรียน ไมไ่ ดส้ ง่ งานท่ีมอบหมายใหท้ ำ ซงึ่ งานนนั้ เป็นสว่ นหนง่ึ ของการตัดสินผลการเรียนหรือมี เหตสุ ดุ วสิ ยั ท่ที ำให้ประเมนิ ผลการเรียนไม่ได้ ❖ ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) ว่าดว้ ยการวัดและประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๑๐ หลักสูตรโรงเรียนโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ๙.๒ การประเมินการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขียน กำหนดเกณฑ์การตัดสินเป็น ๔ ระดบั และความหมายของแต่ละระดบั ดังน้ี ดเี ยย่ี ม หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิด วเิ คราะห์ และเขียนท่มี คี ุณภาพดเี ลิศอย่เู สมอ ดี หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิด วเิ คราะห์ และเขียนท่มี ีคุณภาพเป็นท่ยี อมรับ ผ่าน หมายถึง มีผลงานทีแ่ สดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียนที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ แต่ยังมีข้อบกพร่องบาง ประการ ไมผ่ ่าน หมายถึง ไม่มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขยี นหรอื ถ้ามีผลงาน ผลงานนัน้ ยงั มขี อ้ บกพร่อง ทีต่ ้องไดร้ ับการปรบั ปรงุ แกไ้ ขหลายประการ ๙.๓ การประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ประเมินคณุ ลักษณะเพ่อื การเลือ่ นชั้น และ จบการศกึ ษา กำหนดเกณฑ์การตัดสินเป็น ๔ ระดับ และความหมายของแตล่ ะระดบั ดังนี้ ดเี ยย่ี ม หมายถึง ผู้เรียนปฏิบัติตนตามคุณลักษณะจนเป็นนิสัย และ นำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันเพอ่ื ประโยชน์สขุ ของตนเองและสังคม โดยพิจารณาจากผลการประเมินระดับดีเยี่ยม จำนวน ๕ - ๘ คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการประเมินต่ำกว่า ระดับดี ดี หมายถึง ผู้เรียนมีคุณลักษณะในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อให้เปน็ การยอมรบั ของสงั คม โดยพิจารณาจาก ๑) ได้ผลการประเมินระดับดีเยี่ยม จำนวน ๑ - ๔ คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการประเมินต่ำกว่า ระดบั ดี หรือ ๒) ได้ผลการประเมินระดับดีเยี่ยม จำนวน ๔ คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการประเมินต่ำกว่า ระดบั ผ่าน หรือ ๓) ได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน ๕ - ๘ คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการประเมินต่ำกว่า ระดับผ่าน ❖ ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ วา่ ด้วยการวัดและประเมินผลการเรียน ห น้ า | ๑๑ หลกั สูตรโรงเรียนโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ผา่ น หมายถึง ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ไมผ่ า่ น สถานศึกษากำหนดโดยพจิ ารณาจาก ๑) ได้ผลการประเมินระดับผ่าน จำนวน ๕ - ๘ คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการประเมินต่ำกว่า ระดับผา่ น หรือ ๒) ได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน ๔ คุณลักษณะ และไมม่ คี ุณลักษณะใดไดผ้ ลการประเมินตำ่ กวา่ ระดับผา่ น หมายถึง ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติได้ไม่ครบตามกฎเกณฑ์และ เงื่อนไขที่สถานศึกษากำหนด โดยพิจารณาจากผลการประเมิน ระดับไม่ผา่ น ตงั้ แต่ ๑ คุณลกั ษณะ ๙.๓ การประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน กำหนดเกณฑ์การตดั สินเป็น ๔ ระดับ และความหมายของแตล่ ะระดับ ดังนี้ ดีเย่ียม หมายถงึ ผู้เรยี นมสี มรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ในการปฏิบัติจน เป็นนิสัย และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อประโยชน์สุขของ ตนเองและสังคม ดี หมายถึง ผู้เรียนมสี มรรถนะสำคญั ของผู้เรียนในการปฏิบัติตาม กฎเกณฑ์ เพ่ือใหเ้ ปน็ ท่ียอมรบั ของสงั คม ผ่าน หมายถึง ผเู้ รยี นรับรแู้ ละปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์และเง่ือนไขท่ี สถานศึกษากำหนด ไม่ผา่ น หมายถึง ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติได้ไม่ครบตามกฎเกณฑ์และ เง่ือนไขที่สถานศกึ ษากำหนด ๙.4 การประเมินค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการ ประเมินค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการ กำหนดเกณฑก์ ารตดั สนิ เป็น ๔ ระดับ และความหมายของแตล่ ะระดบั ดงั นี้ ดีเยีย่ ม หมายถึง ผู้เรียนมีค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการ ในการ ปฏบิ ัติจนเปน็ นิสัย และนำไปใช้ในชีวติ ประจำวัน เพอ่ื ประโยชน์ สุขของตนเองและสงั คม ดี หมายถึง ผู้เรียนมีค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการในการ ปฏบิ ัติตามกฎเกณฑ์ เพ่อื ใหเ้ ป็นทย่ี อมรบั ของสงั คม ผา่ น หมายถึง ผู้เรียนรบั รแู้ ละปฏบิ ตั ติ ามกฎเกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขที่ สถานศึกษากำหนด ไม่ผา่ น หมายถึง ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติได้ไม่ครบตามกฎเกณฑ์และ เงอื่ นไขทส่ี ถานศึกษากำหนด ❖ ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๑๒ หลักสตู รโรงเรยี นโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ๙.5 การประเมินกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น จะตอ้ งพจิ ารณาทัง้ เวลาการเข้าร่วมกจิ กรรมการ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมและผลงานของผู้เรยี นตามเกณฑ์ท่สี ถานศกึ ษากำหนดและให้ผลการประเมนิ เป็นผ่านและไม่ ผา่ น กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น มี ๓ ลักษณะ คือ ๑) กิจกรรมแนะแนว ๒) กิจกรรมนักเรยี น ซง่ึ ประกอบด้วย (๒.๑) กจิ กรรมลูกเสอื เนตรนารี โดยผ้เู รยี นเลอื กอย่างใดอยา่ งหนง่ึ (๒.๒) กจิ กรรมชมุ นมุ (๒.๓) กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ ให้ใชต้ วั อกั ษรแสดงผลการประเมนิ ดังนี้ “ผ”ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ปฏิบัติ กิจกรรมและมีผลงานตามเกณฑ์ทส่ี ถานศึกษากำหนด “มผ”ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ปฏิบัติ กิจกรรมและมีผลงานไม่เป็นไปตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากำหนด ในกรณีที่ผเู้ รยี นได้ผลการเรียน “มผ” ครูผ้ดู แู ลกิจกรรมต้องจดั ซ่อมเสริมให้ผูเ้ รียนทำกิจกรรมใน ส่วนที่ผู้เรียนไม่ได้เข้าร่วมหรือไม่ได้ทำจนครบถ้วน แล้วจึงเปลี่ยนผลการเรียนจาก “มผ” เป็น “ผ” ได้ ทง้ั นี้ ตอ้ งดำเนินการใหเ้ สรจ็ สน้ิ ภายในปีการศึกษานั้น ยกเว้นมีเหตสุ ดุ วิสยั ให้อยใู่ นดุลยพินจิ ของสถานศกึ ษา ข้อ ๑๐ การเปล่ียนผลการเรียน ๑๐.๑ การเปล่ยี นผลการเรยี น “๐” สถานศึกษาจัดให้มีการสอนซ่อมเสริมในมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดที่ผู้เรียน สอบไม่ผ่านก่อน แล้วจึงสอบแก้ตัวได้ไม่เกิน ๒ ครั้ง ถ้าผู้เรียนไม่ดำเนินการสอบแก้ตัวตามระยะเวลาที่ สถานศึกษากำหนด ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาที่จะพิจารณาขยายเวลาออกไปอีก ๑ ภาคเรียน สำหรบั ภาคเรยี นท่ี ๒ ตอ้ งดำเนนิ การให้เสรจ็ ส้ินภายในปีการศกึ ษานน้ั การสอบแกต้ วั ใหไ้ ดร้ ะดบั ผลการเรียน ไม่เกิน “๑” ถา้ สอบแกต้ วั ๒ ครงั้ แลว้ ยงั ไดร้ ะดบั ผลการเรยี น “๐” อีก ใหส้ ถานศึกษาแตง่ ตงั้ คณะกรรมการ ดำเนนิ การเกย่ี วกับการเปลีย่ นผลการเรียนของผู้เรยี น โดยปฏิบัติดังน้ี ๑) ถา้ เป็นรายวชิ าพ้ืนฐาน ให้เรียนซ้ำรายวชิ าน้ัน ๒) ถ้าเป็นรายวิชาเพิม่ เติม ให้เรียนซ้ำหรือเปลี่ยนรายวชิ าเรียนใหม่ ทั้งนี้ ให้อยู่ ในดุลยพินิจของสถานศึกษาในกรณีที่เปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนว่า เรยี นแทนรายวชิ าใด ❖ ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ ว่าด้วยการวัดและประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๑๓ หลกั สตู รโรงเรียนโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ๑๐.๒ การเปล่ยี นผลการเรยี น “ร” การเปล่ียนผลการเรยี น “ร” มี ๒ กรณี ดงั น้ี ๑) มีเหตุสุดวิสยั ทำให้ประเมินผลการเรียนไม่ได้ เช่น เจ็บป่วย เมื่อผู้เรียนได้ เข้าสอบหรือส่งผลงานที่ติดค้างอยู่เสร็จเรียบร้อย หรือ แก้ปัญหาเสร็จสิ้นแล้ว ให้ได้ระดับผลการเรียน ตามปกติ (ต้ังแต่ ๐ - ๔) ๒) ถ้าสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ใช่เหตุสุดวิสัย เมื่อผู้เรียนได้เข้าสอบ หรอื สง่ ผลงานทต่ี ดิ ค้างอยเู่ สร็จเรียบร้อย หรือแกป้ ัญหาเสร็จส้ินแล้ว ใหไ้ ด้ระดับผลการเรยี นไม่เกนิ “๑” การเปลี่ยนผลการเรียน “ร” ให้ดำเนินการแก้ไขตามสาเหตุให้เสร็จสิ้นภายใน ปี การศึกษานั้น ถ้าผู้เรียนไม่มาดำเนินการแก้ “ร” ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ให้เรียนซ้ำรายวิชา ยกเวน้ มเี หตุสดุ วิสัย ให้อยใู่ นดุลยพินิจของสถานศึกษาท่จี ะขยายเวลาการแก้ “ร” ออกไปอีกไม่ เกนิ ๑ ภาคเรียนแตเ่ มื่อพ้นกำหนดน้ีแลว้ ใหป้ ฏิบตั ิดังน้ี (๑) ให้เรยี นซำ้ รายวิชา ถา้ เป็นรายวิชาพ้ืนฐาน (๒) ใหเ้ รยี นซำ้ หรือเปล่ียนรายวิชาเรียนใหม่ ถา้ เป็นรายวิชาเพิม่ เตมิ โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของสถานศึกษาในกรณีที่เปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียน แสดงผลการเรยี นวา่ เรยี นแทนรายวชิ าใด ๑๐.๓ การเปลย่ี นผลการเรียน “มส” การเปล่ียนผลการเรียน “มส” มี ๒ กรณี ดงั น้ี ๑) กรณีผเู้ รียนไดผ้ ลการเรียน “มส” เพราะมีเวลาเรียนไม่ถงึ รอ้ ยละ ๘๐ แตม่ ีเวลาเรียน ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๐ ของเวลาเรียนในรายวิชานั้น ให้สถานศึกษาจัดให้เรียนเพิ่มเติมจนมีเวลา เรียนครบตามทกี่ ำหนดแลว้ จึงให้วัดผลปลายภาคเปน็ กรณีพิเศษผลการแก้ “มส” ให้ได้ระดับผล การเรียนไม่เกิน “๑” การแก้ “มส” กรณีนี้ให้กระทำให้เสร็จสิ้นภายในปีการศึกษานั้นถ้า ผเู้ รียนไม่มาดำเนนิ การแก้ “มส” ตามระยะเวลาท่กี ำหนดไว้นี้ให้เรียนซ้ำ ยกเวน้ มีเหตุสุดวิสัยให้ อยู่ในดลุ ยพินิจของสถานศึกษาท่ีจะขยายเวลาการแก้ “มส” ออกไปอีกไม่เกิน ๑ ภาคเรียน สามารถ แกผ้ ลการเรียนเปน็ “๑ – ๔” แตเ่ มื่อพน้ กำหนดน้แี ลว้ ให้ปฏิบตั ดิ ังนี้ (๑) ถา้ เปน็ รายวิชาพ้นื ฐานใหเ้ รยี นซำ้ รายวิชาน้นั (๒) ถา้ เปน็ รายวชิ าเพ่มิ เตมิ ใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ ิจของสถานศึกษา ให้เรยี นซ้ำ หรือเปล่ยี นรายวิชาเรียนใหม่ ๒) กรณผี ู้เรียนได้ผลการเรยี น “มส” และมเี วลาเรยี นน้อยกวา่ ร้อยละ ๖๐ ของเวลาเรียน ทั้งหมด ใหส้ ถานศึกษาปฏบิ ัตดิ ังน้ี (๑) ถ้าเปน็ รายวิชาพ้ืนฐาน ใหเ้ รียนซ้ำรายวชิ านน้ั (๒) ถ้าเป็นรายวิชาเพิ่มเติม ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาให้เรยี น ซำ้ หรือเปล่ียนรายวชิ าเรียนใหม่ ❖ ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ วา่ ดว้ ยการวัดและประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๑๔ หลักสตู รโรงเรยี นโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ในกรณีทเ่ี ปล่ียนรายวชิ าเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนวา่ เรยี นแทนรายวิชาใด การเรียนซ้ำรายวิชา หากผู้เรียนได้รับการสอนซ่อมเสริม และสอบแก้ตัว ๒ ครั้ง แล้วไม่ผ่านเกณฑ์การ ประเมนิ ใหเ้ รียนซำ้ รายวิชาน้นั ทง้ั น้ใี หอ้ ยูใ่ นดุลยพนิ ิจของสถานศึกษาในการจัดให้เรียนซำ้ ในชว่ งใดช่วงหนึ่ง ที่สถานศกึ ษาเหน็ วา่ เหมาะสม เชน่ พักรบั ประทานอาหารกลางวนั วันหยุดช่ัวโมงวา่ งหลงั เลิกเรยี น ภาคฤดู รอ้ น เปน็ ต้น ในกรณภี าคเรียนท่ี ๒ หากผู้เรียนยังมผี ลการเรยี น “๐” “ร” “มส” ใหด้ ำเนนิ การให้เสร็จ สิ้นก่อนเปดิ เรยี นปกี ารศกึ ษาถดั ไป สถานศกึ ษาอาจเปิดการเรยี นการสอนในภาคฤดูรอ้ นเพอ่ื แก้ไขผลการ เรียนของผู้เรียนได้ ทั้งนี้หากสถานศึกษาใดไม่สามารถดำเนินการเปิดสอนภาคฤดูร้อนได้ให้สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษา/ต้นสงั กัดเป็นผู้พิจารณาประสานงาน ให้มีการดำเนนิ การเรียนการสอนในภาคฤดูร้อนเพื่อ แกไ้ ขผลการเรียนของผู้เรยี น ๑๐.๔ การเปลี่ยนผลการเรยี น “มผ” กรณีที่ผู้เรียนได้ผลการเรียน “มผ” สถานศึกษาต้องจัดซ่อมเสริมให้ผู้เรียนทำ กิจกรรมในส่วนที่ผู้เรียนไม่ได้เข้าร่วมหรือไม่ได้ทำจนครบถ้วน แล้วจึงเปลี่ยนผลการเรียนจาก “มผ” เป็น “ผ” ได้ ทั้งนี้ ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในภาคเรียนนั้น ๆ ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัยให้อยู่ในดุลยพินิจของ สถานศึกษาที่จะพิจารณาขยายเวลาออกไปอีกไม่เกนิ ๑ ภาคเรียนสำหรับภาคเรียนท่ี ๒ ต้องดำเนินการให้ เสร็จส้ินภายในปีการศกึ ษาน้ัน ข้อ ๑๑ การเลือ่ นช้นั ผ้เู รยี นจะไดร้ บั การตัดสินผลการเรียนทุกภาคเรยี นและได้รับการเลื่อนชน้ั เม่ือสิ้นปี การศึกษา โดยมคี ณุ สมบัตติ ามเกณฑ์ ดงั นี้ กำหนดเกณฑ์การเล่อื นชน้ั ไว้ ดังนี้ ๑) ผเู้ รียนตอ้ งมเี วลาเรยี นตลอดปีการศกึ ษาไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาทง้ั หมด ๒) ผเู้ รยี นต้องได้รับการประเมินทกุ ตัวชวี้ ดั ทั้งรายวิชาพนื้ ฐานและเพิม่ เตมิ และ ตอ้ งผ่าน ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๖๐ ของแตล่ ะรายวชิ า ๓) ผู้เรยี นตอ้ งไดร้ ับการตัดสินผลการเรียนท้ังรายวิชาพ้นื ฐาน และเพมิ่ เตมิ ผ่าน ทุก รายวชิ า ๔) ผ้เู รยี นตอ้ งได้รบั การประเมิน และมีผลการประเมนิ ผ่านตามเกณฑ์ทสี่ ถานศึกษา กำหนด ในการอา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญ ของผเู้ รียนและกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น ❖ ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ วา่ ด้วยการวดั และประเมินผลการเรียน ห น้ า | ๑๕ หลักสูตรโรงเรียนโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ขอ้ ๑๒ การสอนซอ่ มเสริม การสอนซ่อมเสริม เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจดั การเรียนรูแ้ ละเปน็ การใหโ้ อกาสแก่ผู้เรียนได้มีเวลาเรียนรู้ส่ิงตา่ งๆ เพิม่ ขึ้น จนสามารถบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด ที่กำหนดไว้ การสอนซ่อมเสริมเป็นการสอนกรณีพิเศษนอกเหนือไปจากการสอนตามแผนจัดการเรียนรู้ ปกติเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องที่พบในผู้เรียน โดยจัดกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายและคำนึงถึงความ แตกต่างระหวา่ งบุคคลของผู้เรยี นการสอนซ่อมเสรมิ สามารถดำเนินการไดใ้ นกรณีดงั ต่อไปน้ี ๑) ผู้เรียนมีความรู้/ทักษะพื้นฐานไม่เพียงพอที่จะศึกษาในแต่ละรายวิชานั้น ควรจัด การสอนซ่อมเสรมิ ปรับความร/ู้ ทักษะพนื้ ฐาน ๒) การประเมินระหวา่ งเรยี น ผเู้ รยี นไม่สามารถแสดงความรู้ ทกั ษะกระบวนการ หรือ เจตคติ / คณุ ลกั ษณะท่กี ำหนดไว้ตามมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ัด ๓) ผลการเรียนไม่ถึงเกณฑ์ และ/หรอื ต่ำกว่าเกณฑ์การประเมิน โดยผูเ้ รียนได้ระดับผล การเรียน “๐” ตอ้ งจัดการสอนซอ่ มเสรมิ ก่อนจะให้ผู้เรยี นสอบแก้ตวั ๔) ผู้เรียนมีผลการเรียนไมผ่ ่าน สามารถจัดสอนซอ่ มเสรมิ ในภาคฤดูร้อน ทั้งนี้ใหอ้ ยู่ ในดุลยพินิจของสถานศึกษา ข้อ ๑๓ การเรยี นซำ้ ชน้ั หากผเู้ รียนไม่ผ่านรายวิชาจำนวนมากและมีแนวโน้มวา่ จะเป็นปัญหาต่อ การเรียนในระดับชั้นที่สูงขึน้ สถานศึกษาอาจตั้งคณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซำ้ ชั้นได้ ทั้งนี้ให้คำนึงถงึ ความรู้ความสามารถของผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนที่ไม่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การอนุมัติเลื่อนชั้นเรียน สถานศกึ ษาจะต้องจัดให้เรียนซ้ำชัน้ ในกรณีท่ีผู้เรียนขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนง่ึ สถานศกึ ษาอาจใช้ดุลพินิจ ใหเ้ ล่ือนชนั้ ได้ หากพจิ ารณาเหน็ วา่ สถานศึกษาจะจดั ใหผ้ เู้ รียนเรยี นซำ้ ใน ๒ กรณี ดังนี้ กรณีที่ ๑ เรยี นซ้ำรายวิชา หากผเู้ รยี นไดร้ ับการสอนซอ่ มเสริมและสอบแก้ตัว ๒ ครง้ั แล้ว ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมิน ให้เรียนซำ้ รายวชิ านนั้ ท้งั น้ี ใหอ้ ยูใ่ นดุลยพนิ จิ ของสถานศกึ ษาในการจัดให้เรียน ซ้ำในช่วงใดช่วงหนึ่งที่สถานศึกษาเห็นว่าเหมาะสม เช่น พักกลางวัน วันหยุด ชั่วโมงว่างหลังเลิกเรียน ภาคฤดูรอ้ น เป็นตน้ กรณที ี่ ๒ เรียนซ้ำช้นั มี ๒ ลักษณะ คือ ๑) ผูเ้ รียนมีระดับผลการเรียนเฉลี่ยในปีการศึกษาน้นั ต่ำกวา่ ๑.๐๐ และมี แนวโน้มวา่ จะเปน็ ปญั หาต่อการเรยี นในระดบั ช้นั ท่ีสงู ขึน้ ๒) ผเู้ รียนมีผลการเรียน ๐ , ร , มส เกินครง่ึ หน่ึงของรายวชิ าที่ลงทะเบียนเรยี นใน ปกี ารศึกษานัน้ ทั้งนี้ หากเกิดลักษณะใดลักษณะหนึ่ง หรือทั้ง ๒ ลักษณะ ให้สถานศึกษาแต่งต้ัง คณะกรรมการพิจารณา หากเหน็ วา่ ไมม่ ีเหตุผลอนั สมควรก็ใหซ้ ้ำชั้น โดยยกเลกิ ผลการเรียนเดมิ และ ให้ใช้ ผลการเรียนใหม่แทน หากพิจารณาแลว้ ไม่ต้องเรียนซ้ำช้ัน ให้อยู่ในดุลยพินจิ ของสถานศกึ ษาในการแกไ้ ข ผลการเรียน ❖ ฉบับปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ ว่าดว้ ยการวดั และประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๑๖ หลกั สตู รโรงเรยี นโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ข้อ ๑๔ เกณฑ์การจบ โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ใช้ในการตัดสินผลการเรียน รายวิชา กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยมีเกณฑ์ การจบ ดงั น้ี ๑๔.๑ เกณฑ์การจบระดับประถมศกึ ษา (๑) ผ้เู รยี นเรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน และรายวชิ า/กจิ กรรมเพม่ิ เติมตามโครงสรา้ งเวลาเรียน ที่หลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐานกำหนด (๒) ผู้เรยี นต้องมผี ลการประเมนิ รายวิชาพ้ืนฐาน ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ตามทสี่ ถานศกึ ษากำหนด (๓) ผู้เรียนมีผลการประเมนิ การอ่านคิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับผ่านเกณฑ์ การประเมนิ ตามท่ี สถานศึกษากำหนด (๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามท่ี สถานศกึ ษากำหนด (๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามท่ี สถานศกึ ษากำหนด ๑๔.๒ เกณฑ์การจบระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ (๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติมโดยเป็นวิชาพื้นฐาน ๖๖ หน่วยกิตและ รายวชิ าเพิม่ เติมตามทส่ี ถานศกึ ษากำหนด (๒) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิต ตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๗๗ หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชา พื้นฐาน ๖๖ หนว่ ยกติ และรายวชิ าเพมิ่ เตมิ ไมน่ ้อยกว่า ๑๑ หน่วยกติ (๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ในระดับผ่าน เกณฑ์การ ประเมนิ ตามทสี่ ถานศกึ ษากำหนด (๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามท่ีสถานศึกษากำหนด (๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามที่สถานศกึ ษากำหนด ❖ ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวัดและประเมินผลการเรียน ห น้ า | ๑๗ หลักสูตรโรงเรียนโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หมวด ๔ การรายงานผลการเรยี น ข้อ ๑๕ ให้รายงานผลการเรียน เพื่อแจ้งผลการเรียนรู้และพัฒนาการในด้านต่างๆ ซึ่งเป็น ความก้าวหน้าของผู้เรียนให้ผู้เรียน ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องทราบอย่างน้อยภาค เรียนละ ๑ ครง้ั การรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเป็นระดบั คณุ ภาพการปฏิบัตขิ องผเู้ รียนทส่ี ะท้อน มาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุง แก้ไขและส่งเสริมพัฒนาการ เรียนของผู้เรียนให้ประสบความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งใช้เป็นข้อมูลสำหรับออกเอกสาร หลักฐานการศึกษา การตรวจสอบ ยืนยัน รับรองผลการเรียนและวุฒิการศึกษาของผู้เรยี น โดยใช้แบบที่ สถานศึกษากำหนดมีกรอบการรายงานอยา่ งน้อย ❖ ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวดั และประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๑๘ หลักสตู รโรงเรียนโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หมวด ๕ เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา ขอ้ ๑๖ ให้มกี ารจดั หาและจัดทำเอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา ดงั ต่อไปน้ี ๑๖.๑ เอกสารหลักฐานการศกึ ษาทกี่ ระทรวงศึกษาธิการกำหนด ประกอบดว้ ย ๑) ระเบียนแสดงผลการเรียน (Transcript) (ปพ.๑) เป็นเอกสารบันทึกผล การเรยี นของผู้เรยี นตามสาระการเรยี นรูก้ ลุ่มวชิ าและกจิ กรรมต่างๆ ทไ่ี ด้เรียนในแตล่ ะชว่ งช้ันของ หลักสูตรการศึกษาขัน้ พื้นฐาน เพื่อให้เป็นหลักฐานแสดงสถานภาพ และความสำเร็จในการศึกษา ของผ้เู รียนแตล่ ะคน ใชเ้ ป็นหลักฐานในการสมัครเข้าศึกษาตอ่ สมคั รทำงานหรือดำเนนิ การในเร่ือง อ่นื ทเี่ กย่ี วขอ้ ง ๒) หลักฐานแสดงวุฒกิ ารศกึ ษา (ใบประกาศนียบัตร) (ปพ.๒) เป็นเอกสารท่ี สถานศกึ ษาออกใหก้ ับผู้สำเร็จการศกึ ษาและรับรองวฒุ ิการศกึ ษาของผู้เรียน ใหผ้ ู้เรยี นนำไปใช้เป็น หลกั ฐานแสดงระดบั วุฒกิ ารศึกษาของตน ๓) แบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา (ปพ.๓) เป็นแบบรายงานรายชอ่ื และข้อมูล ของผู้สำเร็จการศึกษาภาคบังคับตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับ ตรวจสอบยืนยันและรับรองความสำเรจ็ และวุฒิการศึกษาของผู้สำเร็จการศึกษาแตล่ ะคน ต่อเขต พ้ืนท่ีการศึกษาและกระทรวงศึกษาธิการ ๑๖.๒ เอกสารหลักฐานการศกึ ษาท่สี ถานศึกษากำหนด ๑) แบบแสดงผลการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ปพ.๔) เป็น เอกสารรายงานพัฒนาการด้านคุณลักษณะของผู้เรียนเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม และ คุณลักษณะอันพึงประสงคท์ ี่สถานศกึ ษากำหนดขึ้นเพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นพิเศษ เพื่อการแก้ปัญหา หรือสร้างเอกลักษณ์ให้ผู้เรียนตามวสิ ัยทัศน์ของสถานศกึ ษา เป็นการรายงานผลการประเมนิ ที่แสดง ถึงสภาพหรอื ระดบั คุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม หรือคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของผเู้ รียนในแต่ละ ชว่ งช้ัน สถานศกึ ษาตอ้ งจัดทำเอกสารนีใ้ หผ้ ู้เรียนทกุ ๆ คน ควบคกู่ ับระเบยี นแสดงผลการเรยี นของ ผู้เรียนเพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานแสดงคุณลักษณะของผู้เรียนเพื่อประกอบในการสมัครศึกษาต่อ หรือสมัครทำงาน ๒) แบบแสดงผลการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน (ปพ.๕) เป็นเอกสารสำหรับ ผู้สอนใช้บันทึกเวลาเรียน ข้อมูลผลการวัดและประเมินผลการเรียน ข้อมูลการพฒั นาคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ของผู้เรียนแต่ละคนที่เรียนในห้องเรียนกลุ่มเดียวกัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจัด กจิ กรรมการเรียนการสอน ปรบั ปรุง แก้ไข สง่ เสรมิ และตดั สนิ ผลการเรยี นของผเู้ รยี น รวมทง้ั ใช้เปน็ หลักฐานสำหรบั ตรวจสอบยืนยนั สภาพการเรียน การมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ และผลสัมฤทธ์ิ ของผเู้ รียนแตล่ ะคน ❖ ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวัดและประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๑๙ หลักสูตรโรงเรียนโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ๓) แบบรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายบุคคล (ปพ.๖) เป็นเอกสาร สำหรับบันทึกขอ้ มลู เก่ยี วกบั ผลการเรียน พัฒนาการในดา้ นต่าง ๆและข้อมลู อื่น ๆ ของผเู้ รียน ๔) ใบรบั รองผลการศกึ ษา (ปพ.๗) เปน็ เอกสารท่ีสถานศกึ ษาออกใหผ้ ู้เรียนเป็น การเฉพาะกจิ เพ่ือรับรองสถานภาพทางการศึกษาของผูเ้ รียนเปน็ การชั่วคราว ทั้งกรณีผู้เรยี นยังไม่ สำเร็จการศึกษาและสำเรจ็ การศกึ ษาแลว้ ๕) ระเบียนสะสม (ปพ.๘) เป็นเอกสารสำหรับบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการและ ผลงานด้านต่าง ๆ ของผู้เรียนทั้งที่สถานศึกษาและท่ีบ้าน เพื่อประโยชน์ในการแนะแนวผู้เรียนใน ทุก ๆ ด้าน ๖) สมดุ บนั ทกึ ผลการเรยี น (ปพ.๙) เป็นสมดุ บนั ทกึ ผลการเรียนรทู้ ี่สถานศึกษา จัดทำขึ้นเพื่อบันทึกรายการรายวิชาต่างๆ ที่ผู้เรียนจะต้องเรียนในแต่ละช่วงชั้น ตามโครงสร้าง หลักสตู รของสถานศึกษา พร้อมด้วยผลการประเมนิ ผลการเรยี นของแต่ละรายวชิ า และสถานศกึ ษา ออกให้ผู้เรียนสำหรับใช้ศึกษาและนำไปแสดงให้บุคคลหรือหน่วยงานที่สนใจได้ทราบโครงสร้าง หลักสูตรและรายละเอียดของรายวิชาต่าง ๆ ของสถานศึกษา พร้อมด้วยผลการเรียนของผู้เรียน จากการเรียนแตล่ ะรายวิชา กรณที ีผ่ ้เู รยี นยา้ ยสถานศกึ ษาข้อมูลในสมุดบนั ทกึ ผลการเรียนรู้จะเป็น ประโยชน์ในการนำไปใช้เป็นขอ้ มูลในการเทียบโอนผลการเรียนจากสถานศึกษาเดิมไปเปน็ ผลการ เรยี นตามหลักสตู รของสถานศกึ ษาใหม่ ❖ ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวัดและประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๒๐ หลักสูตรโรงเรียนโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ หมวด ๖ การเทยี บโอนผลการเรยี น ข้อ ๑๗ ใหม้ กี ารเทียบโอนผลการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้จากสถานศกึ ษาได้ในกรณีต่างๆ ได้แก่ การยา้ ยสถานศึกษา การเปลยี่ นรปู แบบการศึกษา การยา้ ยหลกั สตู ร การละทิง้ การศกึ ษาและขอกลับเข้ารับ การศึกษาต่อ การศกึ ษาจากตา่ งประเทศและขอเข้าศกึ ษาต่อในประเทศ ท้ังนี้ วิธกี ารเทียบโอนผลการเรียนใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ และแนวปฏิบัติ ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ข้อ ๑๘ ให้สามารถเทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์จากแหล่งการเรียนรู้อื่นๆ เช่น สถาน ประกอบการ สถาบนั ทางศาสนา สถาบันการฝกึ อบรมอาชพี การศกึ ษาโดยครอบครวั ข้อ ๑๙ การเทียบโอนผลการเรียนให้ดำเนินการในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนแรกหรือต้นภาคเรียน แรก ทัง้ นนี้ กั เรียนท่ไี ดร้ ับการเทยี บโอนผลการเรยี นตอ้ งศกึ ษาต่อเน่ือง ในสถานศกึ ษาท่รี บั เทยี บโอนอย่าง น้อย ๑ ภาคเรียน โดยสถานศึกษาที่รับการเทียบโอนควรกำหนดรายวิชา จำนวนหน่วยกิต ที่จะรับเทียบ โอนตามความเหมาะสม ขอ้ ๒๐ การพจิ ารณาการเทียบโอน สามารถดำเนนิ การไดด้ ังนี้ ๒๐.๑ พจิ ารณาจากหลกั ฐานการศึกษา ซงึ่ จะใหข้ ้อมลู ทแ่ี สดงความรู้ ความสามารถของ นักเรยี นในดา้ นต่างๆ ๒๐.๒ พิจารณาจากความรู้ ประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติจริง การทดสอบ การสัมภาษณ์ เปน็ ต้น ๒๐.๓ พจิ ารณาจากความสามารถ และการปฏบิ ัติจรงิ ๒๐.๔ ในกรณีมีเหตผุ ลจำเป็นระหว่างเรียน นักเรียนสามารถแจ้งความจำนงขอไปศกึ ษาบาง รายวชิ าในสถานศกึ ษา/สถานประกอบการอ่นื แลว้ นำมาเทยี บโอนได้ โดยความเหน็ ชอบ ของคณะกรรมการบรหิ ารหลักสตู รและวชิ าการของสถานศกึ ษา ข้อ ๒๑ การเทียบโอนผลการเรียนให้ดำเนินการในรูปของคณะกรรมการการเทียบโอนจำนวนไม่ นอ้ ยกวา่ ๓ คน แต่ไม่ควรเกนิ ๕ คน การเทียบโอนให้ดำเนินการดงั นี้ ๒๑.๑ กรณีผู้ขอเทียบโอนมีผลการเรียนมาจากหลกั สตู รอ่นื ให้นำรายวิชา หรอื หน่วยกิต ที่มีตัวชี้วัด/มาตรฐานการเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง/จุดประสงค์/เนื้อหาที่สอดคล้องกนั ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๐ มาเทียบโอนผลการเรียนและพิจารณาให้ระดับผลการเรียนให้ สอดคล้องกบั หลักสูตรทีร่ ับเทยี บโอน ๒๑.๒ กรณีการเทียบโอนความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ให้พิจารณาจากเอกสาร หลักฐาน (ถ้ามี) โดยให้มีการประเมินด้วยเครื่องมือที่หลากหลายและให้ระดับผลให้ สอดคล้องกับหลกั สูตรทรี่ บั เทียบโอน ❖ ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวัดและประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๒๑ หลกั สูตรโรงเรยี นโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ขอ้ ๒๒ การเทยี บโอนระดับการศึกษา ใหด้ ำเนนิ การดงั นี้ ๒๒.๑ การเทยี บระดับการศึกษา หมายถึง การนำผลการเรียน ความรู้ และประสบการณ์ ที่ได้จากการศึกษาตามอัธยาศัย และการศึกษานอกระบบ ไม่แบ่งระดับมาประเมินเพื่อเทียบเท่า การศกึ ษาระดบั ใดระดับหนงึ่ มีแนวทางการเทียบระดับการศึกษาดังน้ี ๑) ผู้ขอเทียบระดับการศึกษา จะต้องไม่เป็นผู้ทีก่ ำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาใน ระบบ หรือสถานศกึ ษานอกระบบ ทีจ่ ัดการศกึ ษาเปน็ ระบบเดียวกันกับการศึกษาในระบบ และเป็นผู้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ในระดับที่ต่ำกว่าระดับ การศึกษาที่ขอเทียบ ๑ ระดับ ผู้ไม่เคยมีวุฒิการศึกษาใด ๆ จะขอเทยี บระดับการศึกษาได้ ไมเ่ กนิ ระดับประถมศึกษา ๒) ให้สถานศึกษาซึ่งเป็นที่ทำการเทียบระดับการศึกษา ดำเนินการเทียบระดับ ด้วยการประเมนิ ความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ของผู้ขอเทียบระดับ ด้วยวิธีการท่ี หลากหลายทั้งด้วยการทดสอบ การประเมินแฟ้มผลงาน การสังเกตพฤติกรรมต่าง ๆ ให้ ครอบคลุมคุณลักษณะของผู้เรียนทั้งด้านพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย ตามเกณฑ์ มาตรฐานของหลักสูตรที่ขอเทียบระดับ ๓) ผู้ผ่านการประเมินจะได้รับหลักฐานแสดงผลการประเมินเทียบระดับความรู้ และใบประกาศนียบัตรรบั รองระดับความรู้ของกระทรวงศึกษาธกิ าร ๒๒.๒ การเทยี บโอนผลการเรียน หมายถงึ การนำผลการเรยี นซึง่ เป็นความรู้ ทกั ษะ และ ประสบการณ์ของผู้เรยี นท่ีเกิดจากการศึกษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย และผลการศึกษาจากต่างสถานศึกษา มาประเมินเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา ตามหลักสูตรใด หลกั สูตรหนึ่งทก่ี ำลงั ศึกษา มแี นวการดำเนนิ การดงั นี้ ๑) คณะกรรมการบริหารหลักสูตร และวิชาการของสถานศึกษากำหนดจำนวน รายวิชา จำนวนหน่วยกิต ที่สถานศึกษาจำกัดให้ผู้เรียนสามารถขอเทียบโอนได้ใน การศึกษาตามหลักสูตรของสถานศึกษา แต่ละช่วงชั้น ทั้งนี้ผู้เรียนจะต้องเหลือรายวิชาที่ จะต้องศึกษาในสถานศึกษาอีกอย่างน้อย ๑ ภาคเรียน พร้อมกับการกำหนดแนวทางและ วิธีการเทียบโอน ทั้งกรณีเทียบโอนผลการเรียนเดิมที่ผู้เรียนศึกษาก่อนเข้าศึกษาใน สถานศึกษา และกรณีเทียบโอนผลการเรียนของสถานศกึ ษาให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงว่า ด้วยการเทียบโอนผลการเรียนด้วย ๒) สถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการเทียบโอนผลการเรียนของ สถานศึกษาให้ปฏิบัติหน้าที่กำหนดสาระ จัดสร้างเครื่องมือ สำหรับการเทียบโอนผลการ เรยี นและดำเนนิ การเทียบโอนผลการเรียน ๓) คณะกรรมการดำเนินการเทียบโอนผลการเรียน ทำการเทียบโอน ผลการเรยี นให้ผู้เรยี นในกรณตี ่อไปน้ี ❖ ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ วา่ ด้วยการวัดและประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๒๒ หลักสตู รโรงเรียนโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ กรณีการเทียบโอนผลการเรียนเดิม ที่ผู้เรียนศึกษามาก่อนเข้าศึกษาในสถานศึกษาให้ ดำเนินการดงั นี้ (๑) ใหด้ ำเนินการให้เสรจ็ ในภาคเรยี นแรกที่ผู้เรียนเข้าศึกษาในสถานศกึ ษา (๒) ให้เทียบโอนผลการเรียนเป็นรายวิชา (๓) ผู้เรียนยื่นคำร้องเป็นลายลักษณ์อักษรขอเทียบความรู้ ตามรายวิชาใน หลักสูตรของสถานศึกษา ตามจำนวนรายวิชาที่สถานศึกษากำหนดไว้ในระเบียบ การเทียบโอนผลการเรียนของสถานศึกษาให้ผู้เรียนยื่นคำร้อง พร้อมเอกสาร หลักสูตรทนี่ ำมาขอเทยี บ และเอกสารการศกึ ษาท่ีไดร้ ับมา (ถ้าผเู้ รยี นมี) (๔) คณะกรรมการดำเนินการเทียบโอนผลการเรียนพิจารณาหลักสูตรและ หลักฐานเอกสารเดิมของผู้เรียน เพื่อเปรียบเทียบหลักสูตรที่เรียนมากับหลักสูตร ของสถานศึกษาในรายวิชาที่ขอเทียบ ถ้ามีจุดประสงค์และเนื้อหาสาระตรงกันไม่ น้อยกว่าร้อยละ ๖๐ ใหร้ ับเทียบโอนได้ และใหไ้ ด้ระดับผลการเรียนที่ได้มาในกรณี ท่ีผเู้ รียนย้ายสถานศึกษา แตถ่ ้าเป็นกรณีเทียบโอนผลการเรียนจากสถานศึกษาต่าง ระบบ ให้คณะกรรมการดำเนินการเทียบโอนพิจารณาว่าควรยอมรับผลการเรียน เดิมหรอื ไม่ ถ้าไม่ยอมรบั กต็ อ้ งประเมินให้ใหมด่ ้วยวธิ ีการต่าง ๆ ทีเ่ หมาะสม (๕) คณะกรรมการดำเนินการเทียบโอนผลการเรียน จัดใหม้ กี าร ประเมินความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของผู้เรียนใหม่ ตามผลการเรียนที่ คาดหวังของรายวิชาที่ผู้เรียนขอเทียบในกรณีที่ผู้เรียนไม่มีเอกสารหลักฐาน การศึกษาเดิมมาแสดง หรอื หลกั สตู รท่ีผู้เรียนนำมาขอเทียบโอน มคี วามสอดคล้อง กับจดุ ประสงค์และเนื้อหาสาระของหลักสูตรท่ีขอเทียบไม่ถงึ ร้อยละ ๖๐ ผู้เรียนที่ ผ่านการประเมินจะได้รับการเทียบโอนผลการเรียนได้ โดยได้ระดับผลการเรียน ตามท่ีประเมนิ ได้ สว่ นผทู้ ่ไี มผ่ ่านการประเมินจะไมไ่ ดร้ ับการเทียบโอนผลการเรียน กรณีผูเ้ รียนขออนุญาตไปศึกษารายวิชาใดรายวิชาหน่ึง ต่างสถานศึกษาหรือขอศึกษาด้วย ตนเองใหด้ ำเนนิ การดังนี้ (๑) ให้ดำเนินการโดยผู้เรียนยื่นคำร้องไปศึกษาต่างสถานที่หรือต่างรูปแบบต่อ คณะกรรมการเทียบโอนผลการเรียน ซง่ึ จะพิจารณาผลการเรียนและความจำเป็น ของผู้เรียนตามระเบียบการจัดการศึกษา ๓ รูปแบบ ของสถานศึกษาที่จะจัด การศึกษาในระบบ (๒) รายวิชาที่ผู้เรียนขอไปศึกษาต่างสถานที่ หรือต่างรูปแบบต้องมีจุดประสงค์ และเน้อื หาสาระสอดคล้องกับรายวิชาในหลักสูตรของสถานศึกษาท่ีจะนำมาเทียบ โอนไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ ๖๐ ❖ ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ ว่าดว้ ยการวดั และประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๒๓ หลกั สตู รโรงเรียนโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (๓) กรณผี ู้เรียนขอไปศึกษาต่างสถานศกึ ษาหรือระบบทีม่ ีสถานศึกษาจัดการเรียน การสอนแน่นอน ถ้าเห็นควรอนุญาตให้ไปเรียนได้ให้มีการประสานงานเรื่องการ จัดการเรียนการสอน การประเมินผล และการรับโอนผลการเรียนก่อน เมื่อได้ตก ลงร่วมกันเรียบร้อยแล้วจึงจะอนุญาตเมื่อศึกษาสำเร็จ ให้รับโอนผลการเรียนได้ ทนั ที (๔) กรณีผู้เรียนขออนุญาตศึกษาด้วยตนเอง หรือศึกษาในสถานศึกษาที่ไม่ สามารถติดต่อประสานได้ ถ้าคณะกรรมการพิจารณาความจำเป็นแล้วเห็นควร อนุญาต เม่อื ผ้เู รียนมารายงานผลการเรียน ให้คณะกรรมการดำเนนิ การเทียบโอน ผลการสถานศึกษา (๕) คณะกรรมการดำเนินการเทียบโอนผลการเรียน รายงานผลการเทียบโอนให้ คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการของสถานศกึ ษาให้ความเห็นชอบ และ เสนอผู้บริหารสถานศึกษาอนุมัติผลการเทียบโอนผลการเรยี น (๖) คณะกรรมการดำเนินการเทียบโอนผลการเรียน รายงานผลการเทียบโอนให้ คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการของสถานศกึ ษาให้ความเหน็ ชอบ และ เสนอผู้บรหิ ารสถานศึกษาอนมุ ตั ิผลการเทยี บโอนผลการเรยี น ❖ ฉบับปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวัดและประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๒๔ หลักสตู รโรงเรียนโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ บทเฉพาะกาล ข้อ ๒๓ ในกรณีนักเรียนที่เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา พุทธศักราช 2563 ให้ใช้ระเบียบ โรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ วา่ ดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรยี น พทุ ธศักราช 2563 ซึ่งควร จะจบหลักสูตรในปีการศึกษา 2563 หรือก่อนปีการศึกษา 2563 แต่ไม่สามารถจบหลักสูตรได้ตาม กำหนดใหใ้ ชร้ ะเบยี บฉบับนี้ ข้อ ๒๔ ให้ประธานคณะกรรมการบริหารหลกั สตู รและวิชาการของโรงเรียนรักษาการให้เปน็ ไป ตามระเบยี บน้ี ข้อ ๒๕ กรณีมีการเปลี่ยนแปลงแกไ้ ข ให้เสนอคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐานอนุมัติและให้ ความเหน็ ชอบก่อนนำไปใช้ ประกาศ ณ วันท่ี ๑5 เดอื นพฤษาภาคม พ.ศ. ๒๕63 (ลงชอ่ื ) (นายสมทรง นิสสยั ดี) ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ❖ ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ วา่ ด้วยการวัดและประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๒๕ หลกั สูตรโรงเรยี นโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ตอนท่ี ๒ แนวปฏบิ ตั ิการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ หลักสตู รโรงเรยี นโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕63 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ สว่ นที่ ๑ การประเมินผลการเรยี นรู้ ๘ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สว่ นที่ ๒ การประเมินกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ส่วนท่ี ๓ การประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สว่ นท่ี ๔ การประเมนิ การอ่าน คิด วเิ คราะห์ และเขยี น ส่วนที่ 5 การประเมินสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น สว่ นที่ 6 การประเมินค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการ สว่ นท่ี 7 เกณฑก์ ารตดั สนิ การเลื่อนชน้ั และจบหลกั สูตร สว่ นท่ี 8 การประเมนิ ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นระดบั ชาติ ❖ ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) ว่าด้วยการวดั และประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๒๖ หลกั สูตรโรงเรยี นโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ แนวปฏิบตั ิการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ เปา้ หมายสำคัญของการประเมินผลการเรียนหลักสตู รสถานศึกษาตามแนวทางหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ คือ เพ่อื นำผลการประเมนิ ไปพัฒนาผู้เรยี นใหบ้ รรลุมาตรฐาน การเรียนรู้ในแต่ละรายวิชา ของกลุ่มสาระการเรียนรูต้ ่างๆ โดยการนำผลการประเมินไปใช้เป็นข้อมูลใน การปรับปรุง แก้ไข ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการของผู้เรียนโดยตรง นำผลไปปรับปรงุ แกไ้ ขผลการ จัด กระบวนการเรียนรูใ้ หม้ ีประสทิ ธภิ าพยิ่งข้ึน รวมทั้งนำไปใช้ในการพิจารณาตัดสินความสำเร็จทางการ ศึกษาของผู้เรยี น ตลอดจนความสำเร็จของผสู้ อนอีกด้วย การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาของสถานศึกษา โรงเรียนบ้านพลวง (พรหมบำรงุ ราษฎร์)ประกอบดว้ ย สว่ นที่ ๑ การประเมนิ ผลการเรยี นรตู้ ามกล่มุ สาระการเรยี นรู้ ๘ กลมุ่ การประเมนิ ผลการเรยี นรูต้ ามกล่มุ สาระการเรยี นรูท้ ง้ั ๘ กล่มุ โรงเรยี นไดด้ ำเนินการประเมินผล ในลกั ษณะต่างๆ ดังต่อไปนี้ ๑. การประเมนิ ผลกอ่ นเรียน การประเมินผลก่อนเรียน กำหนดให้ครูผู้สอนในแต่ละรายวิชาทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ต้อง ประเมินผลก่อนเรียน เพื่อหาสารสนเทศของผู้เรียนในเบื้องต้น สำหรับนำไปจัดกระบวนการเรียนรู้ให้ สอดคล้องกับพืน้ ฐานของผู้เรียน ตามแนวทางการจัดกระบวนการเรยี นรู้ที่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ แต่จะไม่ นำผลการประเมินนี้ไปใช้ในการพิจารณาตัดสินผลการเรียน การประเมินผลก่อนเรียนประกอบด้วยการ ประเมินดังตอ่ ไปน้ี ๑.๑ การประเมนิ ความพร้อมและพน้ื ฐานของผเู้ รยี น เป็นการตรวจสอบความรู้ ทักษะ และความพร้อมต่างๆ ของผู้เรียนที่เป็นพื้นฐานของ เร่ืองใหมๆ่ ท่ีผ้เู รียนตอ้ งเรียนโดยใช้วธิ ีการที่เหมาะสม เพ่อื จะไดท้ ราบว่าผู้เรยี นมีความพร้อมและพ้ืนฐานที่ จะเรียนทุกคนหรือไม่ แล้วนำผลการประเมินมาปรับปรุง ซ่อมเสริม หรือเตรียมผู้เรียนให้มีความพร้อม และพื้นฐานพอเพียงทุกคนซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนได้เป็นอยา่ งดี การประเมิน พื้นฐานและความพร้อมของผู้เรียนก่อนเรียน จงึ มีความสำคญั และจำเปน็ ที่ผู้สอนทุกคนจะต้องดำเนินการ เพือ่ เตรยี มผูเ้ รียนให้มคี วามพร้อมในการเรียนทกุ ครง้ั จะทำใหก้ ารเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถคาดหวังความสำเร็จได้อย่างแน่นอน การประเมินความพร้อมและพ้นื ฐานของผู้เรยี นก่อนเรียนมแี นวปฏบิ ตั ดิ ังน้ี ๑) วิเคราะหค์ วามรูแ้ ละทกั ษะทีเ่ ป็นพื้นฐานกอ่ นเรยี น ๒) เลือกวิธีการและจัดทำเครื่องมือสำหรับประเมินความรู้ และทักษะพื้นฐาน อยา่ งเหมาะสมและมีประสิทธภิ าพ ๓) ดำเนนิ การประเมินความรู้และทกั ษะพื้นฐานของผ้เู รยี น ❖ ฉบับปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ วา่ ด้วยการวัดและประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๒๗ หลักสตู รโรงเรียนโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ๔) นำผลการประเมินไปดำเนนิ การปรับปรงุ ผ้เู รยี นให้มคี วามรู้และทักษะพ้ืนฐาน อย่างพอเพยี งก่อนดำเนินการสอน ๕) จดั การเรยี นการสอนในเรอ่ื งทีจ่ ัดเตรยี มไว้ ๑.๒ การประเมินความรอบรใู้ นเรอื่ งท่จี ะเรียนกอ่ นการเรยี น เป็นการประเมินผ้เู รยี นในเรือ่ งท่จี ะทำการสอน เพอ่ื ตรวจสอบว่าผเู้ รยี นมคี วามรู้และทักษะในเร่ือง ที่จะเรียนน้ันมากน้อยเพียงไร เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเบื้องต้นของผู้เรียนแต่ละคนว่า เริ่มต้นเรียนเร่อื งน้นั ๆ โดยมีความรู้เดิมอยู่เท่าไรเพื่อจะได้นำไปเปรียบเทียบกับผลการเรียนภายหลัง การเข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนตามแผนการเรยี นรแู้ ล้ว วา่ เกิดพัฒนาการหรอื เกดิ การเรียนรู้เพิ่มข้ึนหรือไมเ่ พียงไร ซง่ึ จะทำให้ทราบ ถงึ ศักยภาพในการเรียนรู้ของผู้เรยี น และประสทิ ธิภาพในการจดั กิจกรรมการเรียน ซง่ึ จะใช้เป็นประโยชน์ ในการสนองตอบการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคนแต่ละกลุ่มต่อไป แตป่ ระโยชน์ที่เกิดขน้ึ ในเบ้ืองต้นของการ ประเมินผลก่อนเรียน ก็คือผู้สอนสามารถนำผลการประเมินไปใช้เป็นข้อมูลในการจัดเตรียม วิธีการจัด กจิ กรรมการเรยี นให้สอดคลอ้ งกับความรู้เดิมของผเู้ รียนว่าตอ้ งจัดอยา่ งเข้มข้นหรอื มากน้อยเพียงไร จึงจะ ทำให้แผนการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ สามารถทำให้ผู้เรียนเกดิ การเรียนรู้และพัฒนาการต่างๆ ตามตัวชี้วัด ดว้ ยกันทุกคน ในขณะทีไ่ ม่ทำให้ผู้เรียนมพี ืน้ ความรู้เดิมอยแู่ ล้วเกดิ ความรู้สึกเบอื่ หนา่ ย และเสียเวลาเรียน ในสิง่ ที่ตนร้แู ล้ว การประเมินความรอบรูก้ ่อนเรียนมีขนั้ ตอนการปฏิบัติเหมือนกับการประเมินความพร้อม และพ้นื ฐานของผู้เรยี นตา่ งกนั เฉพาะความรู้ ทกั ษะท่จี ะประเมนิ เทา่ นั้น ๒. การประเมินระหวา่ งเรียน การประเมินระหวา่ งเรียนเปน็ การประเมินที่ม่งุ ตรวจสอบพัฒนาการของผู้เรียนว่าบรรลุจุดประสงค์ การเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ทค่ี รูได้วางแผนไว้หรือไม่ เพ่ือนำสารสนเทศท่ไี ด้จากการประเมินไปสู่ การปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องของผูเ้ รียน และส่งเสริมผู้เรียนใหม้ คี วามรู้ความสามารถและเกิดพัฒนาการ สงู สุดตามศกั ยภาพ การประเมินผลระหว่างเรยี นมแี นวทางในการปฏบิ ัตติ ามขัน้ ตอน ดังนี้ ๒.๑ วางแผนการเรียนรูแ้ ละการประเมนิ ผลระหว่างเรียน ผ้สู อนจัดทำแผนการเรียนรู้ กำหนดแนวทางการประเมินผลให้สอดคล้องกับตัวชี้วัด ซึ่งในแผนการเรียนรู้จะระบุภาระงานที่จะทำให้ ผูเ้ รียนบรรลุตามตัวชีว้ ัดอยา่ งเหมาะสม ๒.๒ เลือกวิธกี ารประเมนิ ที่สอดคลอ้ งกบั ภาระงานหรอื กิจกรรมหลักทก่ี ำหนดใหผ้ เู้ รียน ปฏิบตั ิ ท้ังนี้วธิ กี ารประเมินทีเ่ หมาะสมอย่างย่ิงสำหรับการประเมนิ ระหว่างเรียน ไดแ้ ก่ การประเมินจาก ส่งิ ทผี่ ู้เรียนไดแ้ สดงให้เห็นว่ามีความรู้ ทักษะ และความสามารถ ตลอดจนมีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์อัน เป็นผลจากการเรียนรู้ ตามที่ผู้สอนไดจ้ ัดกระบวนการเรียนรู้ให้วิธีการประเมินที่ผูส้ อนสามารถเลือกใช้ใน การประเมินระหว่างเรียน มีดังน้ี ❖ ฉบับปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวัดและประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๒๘ หลกั สตู รโรงเรยี นโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ๑) การประเมนิ ดว้ ยการส่ือสารส่วนบุคคล ไดแ้ ก่ (๑) การถามตอบระหว่างทำกจิ กรรมการเรียน (๒) การพบปะสนทนาพดู คยุ กับผเู้ รียน (๓) การพบปะสนทนาพูดคุยกับผเู้ กีย่ วข้องกบั ผูเ้ รียน (๔) การสอบปากเปล่าเพอ่ื ประเมนิ ความรู้ ความเขา้ ใจ และทศั นคติ (๕) การอ่านบนั ทกึ เหตุการณ์ตา่ งๆ ของผูเ้ รียน (๖) การตรวจแบบฝึกหดั และการบ้าน พรอ้ มให้ขอ้ มูลปอ้ นกลับ ๒) การประเมินจากการปฏบิ ตั ิ (Performance Assessment) เปน็ วธิ ีการ ประเมนิ งานหรือกจิ กรรมท่ผี ู้สอนมอบหมายให้ผู้เรียนปฏิบัติเพือ่ ใหไ้ ดข้ ้อมลู สารสนเทศว่า ผเู้ รียน เกดิ การเรยี นร้มู ากนอ้ ยเพียงใด การประเมินการปฏบิ ตั ผิ ูส้ อนตอ้ งเตรียมการในสงิ่ สำคัญ ๒ ประการ คอื (๑) ภาระงานหรอื กิจกรรมท่ีจะให้ผู้เรียนปฏบิ ัติ (Tasks) (๒) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (Rubrics) วิธกี ารประเมินการปฏิบัตจิ ะเปน็ ไปตามลักษณะงาน ดงั นี้ ก. ภาระงานหรือกิจกรรมที่ผู้สอนกำหนดให้ผูเ้ รียนทำเป็นรายบุคคล/กลุม่ จะ ประเมินวิธีการทำงานตามข้ันตอนและผลงานของผเู้ รยี น ข. ภาระงานหรือกิจกรรมที่ผู้เรียนปฏิบตั ิเป็นปกติในชีวิตประจำวันจะประเมนิ ด้วยวิธีการสังเกต จดบนั ทึกเหตกุ ารณ์เก่ียวกบั ผเู้ รียน ค. การสาธติ ไดแ้ ก่ การใหผ้ ้เู รยี นแสดงหรอื ปฏิบัติกิจกรรมตามทก่ี ำหนด เช่น การใชเ้ คร่อื งมอื ปฏิบัตงิ าน การทำกายบริหาร การเล่นดนตรี จะประเมินวธิ ีการและข้ันตอนในการสาธิต ของผ้เู รยี นดว้ ยวิธีการสงั เกต ง. การทำโครงงาน การจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดให้ผู้สอนต้องมอบหมายให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติโครงงานอย่างน้อย ๑ โครงงานในทุกช่วงชั้น ดังน้ัน ผู้สอนจึงต้องกำหนดภาระงานในลักษณะของโครงงานให้ผู้เรียนปฏิบัติในรูปแบบหนึ่ง ใน ๔ รูปแบบ ตอ่ ไปนี้ (๑) โครงงานสำรวจ (๒) โครงงานส่งิ ประดษิ ฐ์ (๓) โครงงานแก้ปัญหาหรือการทดลองศึกษาค้นคว้า (๔) โครงงานอาชีพ ❖ ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) ว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๒๙ หลักสตู รโรงเรยี นโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ วิธีการประเมนิ ผลโครงงาน ใชก้ ารประเมนิ ๓ ระยะ คือ ๑) ระยะก่อนทำโครงงาน โดยประเมินความพร้อมด้านการเตรียมการ และ ความเป็นไปได้ในการปฏิบตั งิ าน ๒) ระยะทำโครงงาน โดยประเมินการปฏิบตั ิจริงตามแผน วิธีการและข้นั ตอน กำหนดไว้ และการปรบั ปรุงงานระหว่างปฏบิ ตั ิงาน ๓) ระยะสิ้นสุดการทำโครงงาน โดยประเมินผลงานและวิธกี ารนำเสนอผลการ ดำเนินโครงงาน การกำหนดใหผ้ ้เู รยี นทำโครงงาน สามารถทำได้ ๓ แบบ คือ ๑) โครงงานรายบุคคล เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เลือกปฏิบัติงานตาม ความสามารถ ความถนัด และความสนใจ ๒) โครงงานกลุ่ม เป็นการทำโครงงานขนาดใหญ่และซับซ้อนต้องใหผ้ ู้เรียนท่มี ี ความสามารถตา่ งกนั หลายด้านชว่ ยกันทำ การประเมนิ โครงงานควรเนน้ การประเมนิ กระบวนการกลมุ่ ๓) โครงงานผสมระหว่างรายบุคคลกับกลุ่ม เป็นโครงงานที่ผู้เรียนทำร่วมกัน แต่เมื่อเสร็จงานแลว้ ใหแ้ ต่ละคนรายงานผลด้วยตนเอง โดยไม่ตอ้ งได้รับการช่วยเหลือจากสมาชิกในกลมุ่ ในการประเมนิ การปฏิบัติงานดังกล่าวมาข้างต้น ผู้สอนจำเป็นต้องสร้างเครื่องมอื เพื่อใช้ ประกอบการประเมนิ การปฏิบตั ิ เช่น - แบบวัดภาคปฏบิ ัติ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - แบบตรวจสอบรายการ - เกณฑ์การใหค้ ะแนน (Rubrics)เปน็ ต้น ๓) การประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment) การประเมินสภาพจริง เปน็ การประเมนิ จากการปฏิบัตงิ านหรือกิจกรรมอย่างใด อยา่ งหนึ่ง โดยงานหรือกจิ กรรมท่ีมอบหมายให้ผู้เรียนปฏิบตั ิจะเปน็ งาน หรือสถานการณ์ที่เป็น จริง (Real life) หรือใกล้เคียงกับชีวิตจริง จึงเป็นงานที่มีสถานการณ์ซับซ้อน (Complexity) และเป็นองคร์ วม (Holistic) มากกว่างานปฏบิ ัติในกิจกรรมการเรียนทวั่ ไป วิธีการประเมินสภาพจริงไม่มีความแตกต่างจากการปฏิบัติ (Performance Assessment) เพยี งแต่อาจมีความยุ่งยากในการประเมินมากกว่า เนื่องจากเป็นสถานการณ์จริง หรือต้องจัดสถานการณ์ให้ใกล้จริง แต่จะเกิดประโยชน์กับผู้เรียนมาก เพราะจะทำให้ทราบ ความสามารถท่ีแทจ้ ริงของผู้เรียนว่า มีจุดเดน่ และขอ้ บกพร่องในเรอื่ งใด อนั จะนำไปสกู่ ารแก้ไข ท่ีตรงประเดน็ ทส่ี ุด ❖ ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ ว่าดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๓๐ หลกั สตู รโรงเรียนโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ๔) การประเมินดว้ ยแฟ้มสะสมงาน (Portfolio Assessment) การประเมนิ ด้วยแฟม้ สะสมงาน เปน็ วิธกี ารประเมนิ ทีช่ ว่ ยสง่ เสรมิ ใหก้ ารประเมิน ตามสภาพจรงิ มีความสมบูรณ์สะท้อนศักยภาพที่แท้จริงของผู้เรียนมากข้ึน โดยการให้ผ้เู รียนได้ เก็บรวบรวม (Collect) ผลงานจากการปฏิบัติจริงทั้งในชั้นเรียนหรือในชีวิตจริงที่เกี่ยวข้องกับ การเรียนรู้ตามสาระการเรียนรู้ต่างๆ มาจัดแสดงอย่างเป็นระบบ (Organized) โดยมี จุดประสงค์เพื่อสะท้อนให้เห็น (Reflect) ความพยายาม เจตคติ แรงจูงใจ พัฒนาการ และ ความสัมฤทธิ์ผล (Achievement) ของการเรียนรู้ของผู้เรียน การวางแผนดำเนินงาน การ ประเมินด้วยแฟ้มผลงานที่สมบรู ณ์จะช่วยให้ผู้สอนสามารถประเมนิ จากแฟ้มสะสมงานแทนการ ประเมนิ จากการปฏบิ ตั จิ ริง การประเมนิ ด้วยแฟ้มสะสมงานมีแนวทางในการดำเนนิ งานดงั น้ี ๑) กำหนดโครงสร้างของแฟ้มสะสมงานจากวัตถุประสงค์ของแฟ้มสะสมงานว่า ต้องการสะท้อนสงิ่ ใดเกี่ยวกับความสามารถและพัฒนาการของผู้เรียน ทั้งนี้อาจ พิจารณาจากตวั ชวี้ ัดตามสาระการเรยี นรทู้ ี่สะท้อนได้จากการให้ผู้เรยี นจัดทำแฟ้ม สะสมงาน ๒) กำหนดวิธีการเก็บรวบรวมผลงานให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของแฟ้ม สะสมงาน เพอื่ ให้ผูเ้ รียนไดท้ ำแฟม้ สะสมงาน ๓) กำหนดให้วิธีการประเมินงานเพื่อพัฒนาชิ้นงาน ซึ่งส่งผลถึงการพัฒนา ผู้เรียนให้มีความสามารถสูงสุด ทั้งนี้ครูควรจัดทำเกณฑ์การให้คะแนน (Rubrics) สำหรบั ให้ผเู้ รยี นนำไปใชเ้ ปน็ ข้อช้ีนำในการพัฒนางาน ๔) ส่งเสริมให้เกดิ ความรว่ มมือในการพัฒนางาน โดยมีส่วนร่วมในการประเมิน จากทุกฝ่าย แลว้ นำขอ้ มูลทีส่ อดคล้องกนั ไปเปน็ สารสนเทศหลกั ในการให้ขอ้ มลู ป้อนกลับ (Feedback) สำหรบั ให้ผ้เู รยี นใช้ในการปรบั ปรุงแก้ไขขอ้ บกพรอ่ ง ๕) จัดใหม้ ีการนำเสนอผลงานทไี่ ด้สะสมไว้ โดยใชว้ ิธีการที่เหมาะสม ซึ่งผู้สอน และผู้เรียนควรวางแผนร่วมกนั ในการคัดเลือกชนิ้ งานที่ดีที่สุด ทั้งน้ีการนำเสนอ ชน้ิ งานแตล่ ะช้ินควรมีหลักฐานการพฒั นางานและการประเมินผลงานด้วยตนเอง เกณฑ์การประเมินผลงานประกอบไว้ด้วย ในการใช้วิธีการประเมินโดยแฟ้ม สะสมงาน ผู้สอนควรคำนึงด้วยวา่ แฟ้มสะสมงานมีหลายประเภท การเลือกใช้ แฟ้มสะสมงานประเภทใด ควรคำนึงถึงรูปแบบและแนวทางในการพัฒนาแฟ้ม สะสมงานใหเ้ หมาะสม เพอื่ ใหแ้ ฟ้มสะสมงานช่วยพฒั นาความคิดสรา้ งสรรค์ของ ผูเ้ รียนด้วย ❖ ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) วา่ ด้วยการวดั และประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๓๑ หลกั สตู รโรงเรียนโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ๒.๓ กำหนดสัดส่วนการประเมินระหวา่ งเรียนกับการประเมินผลปลายภาคเรยี น หรือ ปลายปี การประเมินระหว่างเรียนมีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อมุ่งนำสารสนเทศ มาพัฒนาผู้เรียนและ ปรับปรุงกระบวนการจดั การเรียนของผ้เู รียน การประเมินระหวา่ งเรียนทดี่ ำเนินการอย่างถูกตอ้ ง เข้มงวด และจริงจัง จะให้ผลการประเมินทีส่ ะท้อนภาพความสำเร็จ และศักยภาพของผู้เรียนได้ถูกต้อง สมบูรณ์ และนา่ เชอ่ื ถอื ดงั น้ัน ควรใหน้ ำ้ หนกั ความสำคัญของการประเมนิ ระหว่างเรยี นในสดั ส่วนที่มากกวา่ การ ประเมินตอนปลายภาคเรียนหรือปลายปี ทั้งนี้โดยคำนึงถึงธรรมชาติของรายวิชาและตัวชี้วัดเป็นสำคญั แต่อย่างไรก็ตามในการประเมนิ เพ่ือตัดสินผลการเรียนรายวชิ าปลายภาคเรยี นหรือปลายปี ต้องนำผลการ ประเมินระหวา่ งเรียนไปใชใ้ นการตัดสนิ ผลการเรียนด้วย ทงั้ นี้ใหเ้ ปน็ ไปตามสดั ส่วนและแนวดำเนินการใน ระเบียบท่ีสถานศกึ ษาผูก้ ำหนด ๒.๔ จดั ทำเอกสารบนั ทึกขอ้ มลู สารสนเทศของผู้เรียน ผ้สู อนตอ้ งจัดทำเอกสารบันทึก ข้อมูลสารสนเทศเกยี่ วกับการประเมินผลระหวา่ งเรียนอย่างเป็นระบบชัดเจน เพอื่ ใช้เป็นแหลง่ ขอ้ มูลในการ ปรับปรุง แก้ไข ส่งเสริมผู้เรียน ใช้เป็นหลักฐานสำหรับการสื่อสารกับผู้เกี่ยวข้องและใช้เป็นหลักฐาน สำหรับตรวจสอบการปฏิบัติงานของผู้สอน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสและความยุติธรรมในการ ประเมิน ท้ังนใ้ี หเ้ ป็นไปตามระเบียบท่สี ถานศึกษากำหนด ข้อมลู หลกั ฐานการประเมนิ ระหวา่ งท่ีพึงแสดง ไดแ้ ก่ ๑) วิธีการและเคร่ืองมือท่ใี ช้ในการเก็บขอ้ มูล ๒) ข้อมลู เกี่ยวกับความสามารถของผ้เู รียนตามวิธีการประเมิน เช่น บนั ทกึ การ สังเกตพฤตกิ รรม บันทกึ คะแนนจากผลการประเมนิ ชนิ้ งาน บนั ทกึ คะแนนการ ประเมนิ โครงงาน บันทึกเก่ียวกบั การประเมนิ แฟม้ สะสมงาน เปน็ ตน้ ๓. การประเมนิ เพอ่ื สรปุ ผลการเรยี น การประเมินเพื่อสรุปผลการเรียนเป็นการประเมิน เพื่อมุ่งตรวจสอบความสำเร็จของผู้เรียนเม่ือ ผ่านการเรยี นรู้ในช่วงเวลาหนึ่ง หรือสิน้ สุดการเรียนรายวิชาปลายปี/ปลายภาคประกอบดว้ ย ๓.๑ การประเมนิ หลังเรียน เป็นการประเมินผู้เรียนในเรื่องที่ได้เรียนจบแล้ว เพื่อตรวจสอบว่าผู้เรียนเกิดการ เรียนรู้ตามตัวชี้วัดที่คาดหวังหรือไม่ เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับผลการประเมินก่อนเรียนว่าผู้เรียนเกิด พัฒนาการขึ้นมากน้อยเพียงไร ทำให้สามารถประเมินได้ว่าผู้เรียนมีศักยภาพในการเรียนรู้เพียงไร และ กิจกรรมการเรียนทีจ่ ัดขึน้ มีประสทิ ธิภาพในการพัฒนาผู้เรียนอย่างไร ข้อมูลจากการประเมนิ ภายหลังการ เรยี น สามารถนำไปใช้ประโยชน์ไดม้ ากมาย ไดแ้ ก่ ๑) ปรับปรงุ แก้ไขซอ่ มเสรมิ ผู้เรยี นให้บรรลุตวั ชว้ี ดั หรือจุดประสงค์ของการเรยี น ๒) ปรับปรุงแกไ้ ขวิธีเรียนของผู้เรยี นใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพยิง่ ข้ึน ๓) ปรบั ปรงุ แกไ้ ขและพัฒนาการจดั กจิ กรรมการเรยี น ❖ ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวัดและประเมินผลการเรียน ห น้ า | ๓๒ หลกั สูตรโรงเรียนโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ การประเมินหลังเรยี นนี้ ถา้ จะใหส้ อดคลอ้ งกับการประเมนิ กอ่ นเรยี นเพ่อื การเปรียบเทียบ พัฒนาการของผู้เรียนสำหรับการวิจัยในชั้นเรียน ควรใช้วิธีการและเคร่ืองมือประเมินชดุ เดียวกนั หรือคู่ขนานกนั ๓.๒ การประเมินผลการเรียนปลายภาค เป็นการประเมินผลเพื่อตรวจสอบผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนในการเรียนรายวิชาต่างๆ ตามตัวชี้วัด การประเมินผลนี้นอกจากจะมีจุดประสงค์เพื่อการสรุปตัดสินความสำเร็จของผู้เรียน ในแต่ละรายวิชา รายภาค เป็นสำคัญแล้ว ยังใช้เป็นข้อมูลสำหรับปรับปรุงแก้ไข ซ่อมเสริมผู้เรียนที่ไม่ ผ่านการประเมินตัวชี้วัดของแตล่ ะรายวิชา ให้เกิดพัฒนาการและมีผลการเรียนตามตัวชีว้ ัดอย่างครบถ้วน สมบรู ณ์ด้วย การประเมนิ ผลการเรยี นปลายภาค สามารถใช้วิธกี ารและเคร่อื งมือการประเมิน ไดอ้ ยา่ งหลากหลาย ให้สอดคลอ้ งกบั ตัวช้วี ัด เนอื้ หาสาระ กจิ กรรมและช่วงเวลาในการประเมนิ อย่างไร ก็ดเี พอ่ื ให้การประเมนิ ผลการเรยี นดงั กล่าวมสี ่วนท่ีเกย่ี วข้องสมั พนั ธแ์ ละสนับสนุนการเรียนการสอน จึงให้ นำผลการประเมินผลระหว่างเรียนไปใช้เป็นข้อมูลในการประเมินผลการเรียนปลายภาค โดยสัดส่วนการ ประเมินผลระหว่างเรยี นมากกวา่ การประเมนิ ผลปลายภาคเรียน ❖ ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) วา่ ด้วยการวัดและประเมินผลการเรียน ห น้ า | ๓๓ หลักสูตรโรงเรยี นโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ วิธีการปฏบิ ตั กิ ารประเมนิ ผลตามกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ๘ กลมุ่ การดำเนินการประเมินผลตามกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่ม โรงเรียนได้กำหนดวิธีการปฏิบัตดิ งั นี้ คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการร่วมกันกำหนดหลักการประเมินผล ๘ กลุ่มสาระ ดังนี้ ๑. ทุกกลุ่มสาระให้มีการประเมินผลทกุ รายวิชาให้ครอบคลุมท้งั ดา้ นความรู้ ทักษะ กระบวนการ และคุณลักษณะ โดยมีการประเมนิ ผลดงั นี้ ๑.๑ การประเมินผลกอ่ นเรยี น ๑.๑.๑ ประเมินผลก่อนเรียนเพื่อตรวจสอบความพร้อมและพื้นฐานของผู้เรียนและจัด กจิ กรรมซ่อมเสริมเพ่อื ใหม้ ีความรพู้ ้นื ฐานเพยี งพอทีจ่ ะเรียน ๑.๑.๒ ประเมินก่อนเรียนเพื่อตรวจสอบความรอบรู้ในเนื้อหา และทักษะที่จะเริ่มเรยี น เพอ่ื เป็นข้อมูลเปรียบเทยี บผลการเรยี นหลังเรยี น แสดงการพฒั นาการของผ้เู รียน ๑.๒ การประเมนิ ผลระหวา่ งเรียน ๑.๒.๑ การประเมนิ ผลกลางภาค ๑.๒.๒ ใหม้ ีการประเมินผลเปน็ ระยะๆ และสอดคลอ้ งกับตวั ชี้วดั โดยใช้การประเมินผล ตามสภาพจริงดว้ ยวธิ ีการท่หี ลากหลายทัง้ วิธกี ารวัด เครอ่ื งมอื และแหล่งข้อมูล เพอ่ื มุ่งตรวจสอบ พัฒนาการของผู้เรียน และนำผลการประเมนิ ไปปรับปรงุ แก้ไขจนผู้เรียนสามารถบรรลุตามเกณฑ์ ขั้นต่ำที่กำหนดไว้ โดยใช้วิธีการที่หลากหลายเหมาะสมกับศักยภาพของแต่ละบุคคล ในกรณีที่ ผู้เรียนต้องการพัฒนาปรับปรุงผลการเรียนให้สูงขึ้น ให้ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนา ปรับปรุงแกไ้ ขผลงาน/ชิน้ งานตนเองจนเตม็ ศกั ยภาพของผู้เรียนภายในเวลาท่ีกำหนดให้ ๑.๓ การประเมินรายภาค ในการประเมนิ ผลปลายภาคสามารถประเมนิ จากการปฏิบตั ิ การ สอื่ สาร เช่น การสมั ภาษณ์จากผลงาน / ชน้ิ งาน โครงงานหรอื แบบทดสอบ ทง้ั นใ้ี หส้ อดคล้องกบั ตวั ชว้ี ดั ๒. การกำหนดสดั ส่วนระหว่างเรยี นกับการประเมนิ ปลายภาค ให้กล่มุ สาระการเรยี นร้แู ตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันกำหนดตามหลกั การทคี่ ณะกรรมการการบรหิ ารหลกั สูตรและวชิ าการดงั นี้ ๒.๑ การประเมินผลระหว่างเรยี น ให้มกี ารประเมินผลไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของการ ประเมินผลทั้งหมด ยกเว้นบางกลุ่มสาระหรือบางวิชาที่มีความจำเป็นต้องปรับข้อมูลตัวเลขร้อยละก็ให้ เสนอผู้บรหิ ารทราบตามลำดับเพอ่ื ขออนุมตั ติ ่อไป ๒.๒ การประเมินผลระหวา่ งเรียนและการประเมินผลปลายภาค ใหม้ กี ารประเมินท้ังดา้ น ความรู้ ทักษะ กระบวนการ และคุณลกั ษณะ ๒.๓ ในรายวิชาเดียวกนั ใหม้ กี ารกำหนดสัดส่วนระหวา่ งเรียนกับปลายภาค และวางแผน ประเมนิ ผลตลอดภาคเรียนรว่ มกนั ๒.๔ ในกรณีท่มี ีการประเมนิ ผลดว้ ยแบบทดสอบ ให้มีการประเมนิ โดยใช้วธิ ีการให้ผู้เรียน ตอบแบบทดสอบทั้งปรนัยและอัตนัย โดยมีการให้คะแนนคิดเป็นอัตราส่วนร้อยละ ๗๐:๓๐ ของการ ทดสอบครงั้ นนั้ ❖ ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ วา่ ดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๓๔ หลักสูตรโรงเรยี นโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ๓. การจดั ทำเอกสารบนั ทกึ ขอ้ มูลสารสนเทศของผู้เรียน ประกอบด้วย ๓.๑ ผู้สอนแตล่ ะรายวชิ าจัดทำแผนการประเมนิ ผลในรายวิชาของตนเองตลอดภาคเรียน โดยมหี ัวขอ้ ดังนี้ ๑) การประเมนิ ผลกอ่ นเรียน ๒) การประเมนิ ระหว่างเรยี น ๓) การประเมนิ ปลายภาค ๔) อัตราส่วนน้ำหนักคะแนนระหว่างความรู้ (K) ทักษะกระบวนการ (P) และ คุณลกั ษณะ (A) และรายละเอียดนำ้ หนักคะแนนของแต่ละตวั ช้ีวัด พร้อมทั้งระบุวิธีการ วัด เครอื่ งมอื วดั และประเมินผลในแต่ละตัวชี้วดั ๕) กำหนดคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ประกอบดว้ ย คณุ ลักษณะตามธรรมชาติ วชิ า และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคข์ องสถานศึกษา ทั้งนใ้ี ห้ใชแ้ บบสรุปผลการประเมิน ตามแบบบันทึกที่แนบทา้ ยคมู่ ือน้ี ๓.๒ จัดทำแบบบันทึกข้อมูลผลการประเมินที่แสดงสารสนเทศของผู้เรียน ทั้งนี้เพื่อใช้ เป็นแหล่งข้อมูลในการปรับปรุงแก้ไข ส่งเสริมผู้เรียน และใช้เป็นหลักฐานสำหรับสื่อสารกับผู้เกี่ยวข้อง และใชเ้ ป็นหลกั ฐานสำหรับตรวจสอบการปฏิบัติงานของผู้สอน ดงั นน้ั ข้อมลู ควรแสดงถงึ ร่องรอยการพฒั นา พรอ้ มระบขุ ้อสังเกตท่เี น้นขอ้ ค้นพบทเ่ี ปน็ จุดเดน่ และจดุ ด้อยของผู้เรียนเป็นรายบุคคล ทงั้ ระหวา่ งเรยี นและ ปลายภาค ๓.๓ จัดทำแบบบันทึกการประเมนิ ความสามารถในการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียน เพอื่ แสดงรอ่ งรอยหลกั ฐานการพฒั นาความสามารถในการอา่ น คิด วเิ คราะห์ และเขยี น และสรปุ ผลการ ประเมินตามแบบสรุปผลการประเมนิ แนบท้ายคมู่ อื นี้ ๓.๔ จัดทำแบบบันทึกการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อแสดงร่องรอย หลักฐานการพฒั นาคุณลกั ษณะผเู้ รยี น และสรปุ ผลการประเมินตามแบบสรุปผลการประเมินแนบท้ายคู่มือ น้ี ๓.๕ นำผลการประเมนิ จากข้อ ๓.๒, ๓.๓ และ ๓.๔ มาสรุปและบันทึกลงในแบบ ปพ.๕ ❖ ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) วา่ ดว้ ยการวัดและประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๓๕ หลักสูตรโรงเรียนโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ๔. การตัดสินผลการเรียนกลุม่ สาระการเรียนรู้ ๘ กลมุ่ ๔.๑ การตัดสินผลการเรียนให้นำผลการประเมินระหว่างเรียนรวมกับผลการประเมิน ปลายภาค โดยใช้เกณฑด์ ังน้ี ตารางแสดงคะแนน และระดับผลการเรียน ช่วงคะแนนเป็นรอ้ ยละ ความหมาย ระดับผลการเรียน ๘๐ - ๑๐๐ ผลการเรียนดเี ยี่ยม ๔ ๗๕ - ๗๙ ผลการเรยี นดมี าก ๓.๕ ๗๐ - ๗๔ ผลการเรียนดี ๓ ๖๕ - ๖๙ ผลการเรียนคอ่ นข้างดี ๒.๕ ๖๐ - ๖๔ ผลการเรียนปานกลาง ๒ ๕๕ - ๕๙ ผลการเรยี นพอใช้ ๑.๕ ๕๐ - ๕๔ ผลการเรียนผา่ นเกณฑ์ขั้นตำ่ ท่ีกำหนด ๑ ๐ - ๔๙ ผลการเรยี นตำ่ กว่าเกณฑข์ นั้ ตำ่ ทกี่ ำหนด ๐ เม่ือครผู ู้สอนตดั สนิ ผลการเรียนแล้วใหด้ ำเนินการดงั น้ี ส่งผลการตัดสินให้อนุกรรมการกลุ่มสาระพิจารณาให้การเห็นชอบ / แก้ไข แล้วส่งให้ คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการพิจารณาเหน็ ชอบ เพื่อนำเสนอผู้บริหารสถานศึกษาอนมุ ัติผล การเรียน ส่งผลการเรียนให้ ครูที่ปรึกษากรอกผลการเรียนลงในแบบ ปพ.๖ และนายทะเบียน วดั ผลกรอกในแบบ ปพ.๑ ๕. การใหผ้ ลการเรียน “ร” ๕.๑ การใหผ้ ลการเรียน “ร” หมายถึง ผเู้ รียนทีม่ ีลกั ษณะดงั นี้ ๑) ผู้เรียนไมไ่ ด้รบั การประเมนิ หรอื ประเมนิ แล้วไมผ่ ่านเกณฑ์ระหว่างเรียน ๒) ผ้เู รยี นไมไ่ ด้รบั การประเมนิ ปลายภาค ๕.๒ วิธีการให้ผลการเรียน “ร” เมื่อผู้สอนพบว่าผู้เรียนไม่ได้เข้ารับการประเมินผล ระหว่างเรียนหรือปลายภาค ให้ผู้สอนรายงานพร้อมหลักฐานประกอบการพิจารณาเสนอผู้บริหารเพื่อ อนุมตั ิผลการเรยี น “ร” แล้วประกาศผลใหน้ กั เรยี นทราบ ๖. การใหผ้ ลการเรยี น “มส” ๖.๑ การให้ผลการเรยี น “มส” หมายถงึ ผ้เู รยี นมีเวลาเรยี นไม่ถึงรอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาทัง้ หมด ๖.๒ วิธีการให้ผลการเรียน “มส” ให้ผู้สอนรายงานพร้อมแนบเวลาเรียนของผู้เรียน เสนอผู้บรหิ ารเพ่อื อนุมัติผลการเรียน “มส” กอ่ นประเมนิ ผลปลายภาค ๒ สปั ดาห์ ❖ ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ว่าดว้ ยการวดั และประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๓๖ หลักสตู รโรงเรยี นโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ๗. การแกไ้ ข “๐” ๗.๑ ผู้เรยี นนำใบแจง้ ความจำนงการแก้ไข “๐” พบครผู ู้สอนประจำวชิ า ๗.๒ ผู้สอนดำเนินการพัฒนาผู้เรียนในผลการเรียนรู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ จนผู้เรียนสามารถ บรรลผุ ลตามเกณฑท์ ี่กำหนดไว้ โดยให้ผลการเรียนไมเ่ กนิ “๑” ๗.๓ ผสู้ อนรวบรวมและสรุปผลการแก้ไข “๐” ไปยงั งานวดั ผลของโรงเรยี นเพอ่ื เสนอตอ่ ผบู้ ริหารอนุมตั ิ และแจง้ ผเู้ ก่ียวข้อง ๘. การแกไ้ ข “ร” ๘.๑ ผเู้ รยี นนำใบแจ้งความจำนงการแก้ไข “ร” พบครูผสู้ อนประจำวิชา ๘.๒ ผู้สอนดำเนินการตามสาเหตุของผลการเรียน “ร” นั้นๆ โดยให้ผลการเรียนตาม เกณฑข์ ้อ ๔ ๘.๓ ผู้สอนรวบรวมและสรุปผลการแก้ไข “ร” ไปยังงานวัดผลของโรงเรียนผ่านคณะ กรรมการบรหิ ารหลกั สูตรและวชิ าการเหน็ ชอบ เพ่อื เสนอตอ่ ผบู้ ริหารอนมุ ตั ิ แลว้ แจ้งผเู้ กย่ี วขอ้ ง ๙. การแกไ้ ข “มส” ๙.๑ ผู้เรยี นนำใบแจง้ ความจำนงไปพบครูผสู้ อนประจำวชิ า ๙.๒ ผสู้ อนพิจารณาวา่ ผู้เรยี นมีข้อบกพรอ่ งอะไร ใหด้ ำเนนิ การพฒั นาแกไ้ ขในสงิ่ นน้ั จน บรรลเุ กณฑข์ ั้นต่ำท่กี ำหนดไว้ โดยให้ผลการเรียนไม่เกิน “๑” ๙.๓ ผู้สอนรวบรวมและสรปุ ผลการแกไ้ ข “มส” สง่ งานวัดผลของโรงเรยี นผา่ นคณะ กรรมการบรหิ ารหลกั สตู รและวิชาการเหน็ ชอบ เพอ่ื เสนอผู้บรหิ ารอนุมัติ แลว้ แจ้งผเู้ กี่ยวขอ้ ง ๑๐. การแกไ้ ข “๐” “ร” และ “มส” ให้ดำเนินการตามประกาศโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหม บำรุงราษฎร)์ เรอ่ื ง แนวทางการปฏบิ ัตกิ ารดำเนนิ การสอบแกต้ ัว ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ❖ ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ ว่าด้วยการวดั และประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๓๗ หลกั สตู รโรงเรียนโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ส่วนที่ ๒ การประเมินกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นกิจกรรมที่สถานศึกษาได้ให้ผู้เรียนในทุกระดับชั้นการศึกษาได้พัฒนา ความสามารถของตนเองตามความถนัดและความสนใจให้เต็มศักยภาพ โดยมุ่งเนน้ การพฒั นาองค์รวมของ ความเปน็ มนษุ ย์ท้งั ด้านรา่ งกาย สตปิ ัญญา อารมณ์ และสงั คม การจดั กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นโดยรวมของ สถานศึกษา มีการดำเนินการอย่างมีเป้าหมายชัดเจน มีรูปแบบ และวิธีการที่ครูที่ปรึกษากิจกรรมและ ผู้เรียนร่วมกันกำหนด ผู้เรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมินกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียนตามทีส่ ถานศึกษากำหนด จงึ จะผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับช้นั ๑. ลักษณะกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน แบ่งเป็น ๓ ลกั ษณะ คอื ๑.๑ กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาความสามารถของผู้เรียนให้ เหมาะสมตามความแตกต่างระหว่างบคุ คล สามารถคน้ พบและพัฒนาศกั ยภาพของตนเสรมิ สร้างทักษะชีวิต วฒุ ภิ าวะทางอารมณ์ การเรียนรูใ้ นเชงิ พหุปัญญา และการสร้างสมั พันธภาพท่ีดี ซ่ึงครูทกุ คนตอ้ งทำหน้าที่ แนะแนวให้คำปรึกษาด้านชีวิต การศึกษาต่อและการพัฒนาตนเองสโู่ ลกอาชีพและการมงี านทำ ๑.๒ กจิ กรรมนกั เรยี น เปน็ กจิ กรรมท่ผี เู้ รยี นเป็นผู้ปฏิบตั ิดว้ ยตนเองอย่างครบวงจรต้ังแต่ ศึกษาวเิ คราะห์ วางแผน ปฏบิ ัตติ ามแผน ประเมิน และปรับปรงุ การทำงาน โดยเนน้ การทำงานร่วมกัน อย่างเป็นกลุ่ม ได้แก่ โครงงาน กิจกรรมตามความสนใจชุมนุมวิชาการ กิจกรรมพัฒนานิสัยรักการอา่ น การคิด วิเคราะห์ และเขียน กิจกรรมสาธารณประโยชน์ ลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด และ ผู้บำเพ็ญประโยชน์ และกจิ กรรมพัฒนาคุณลกั ษณะอันพึงประสงคข์ องผเู้ รยี น ๑.๓ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมทีส่ ่งเสริมให้ผู้เรียนบำเพญ็ ตนใหเ้ ปน็ ประโยชนต์ ่อโรงเรยี น สงั คม ชมุ ชน และทอ้ งถ่นิ ตามความสนใจในลกั ษณะอาสาสมัครเพื่อแสดง ถงึ ความรบั ผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสังคม มจี ิตสาธารณะ เชน่ กจิ กรรมอาสาพัฒนาต่างๆ กจิ กรรมสรา้ งสรรค์สังคม กิจกรรมทำความสะอาดโรงเรยี น สาธารณประโยชน์ เป็นตน้ ๒. การประเมินกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนรายกจิ กรรม ๑) ผ้รู บั ผดิ ชอบกิจกรรมประเมนิ การปฏิบัติกจิ กรรมของผเู้ รียนตามจุดประสงค์ของแต่ละ กิจกรรม โดยประเมนิ จากพฤติกรรมการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมและผลการปฏิบตั กิ ิจกรรมด้วยวธิ ีการที่หลากหลาย ตามสภาพจริง ๒) ผ้รู บั ผดิ ชอบกิจกรรมตรวจสอบเวลาเข้ารว่ มกจิ กรรมของผเู้ รียนว่าเป็นไปตามเกณฑ์ท่ี สถานศกึ ษากำหนดไวห้ รอื ไม่ ๓) ตัดสินให้ผู้เรียนที่ผ่านจุดประสงค์สำคัญของกิจกรรม มีผลงานชิ้นงานหรือหลักฐาน ประกอบและมีเวลาเขา้ ร่วมกจิ กรรมครบตามเกณฑ์ ให้เป็นผผู้ า่ นการประเมินผลการร่วมกิจกรรม ผูเ้ รียนที่ มีผลการประเมินบกพร่องในเกณฑ์ใดเกณฑ์หนึ่ง จะเปน็ ผู้ไมผ่ ่านการประเมินผลการร่วมกิจกรรม จะต้อง ซ่อมเสรมิ ขอ้ บกพรอ่ งให้ผา่ นเกณฑ์กอ่ น จงึ จะไดร้ ับการตัดสินให้ผา่ นกิจกรรม ❖ ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ว่าด้วยการวัดและประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๓๘ หลกั สตู รโรงเรียนโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ๓. การประเมินกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี นเลอื่ นชน้ั /จบหลกั สูตร เปน็ การประเมินสรปุ ผลการผ่านกิจกรรมตลอดปีการศึกษาของผู้เรียนแต่ละคนเพ่ือนำผล ไปพิจารณาตดั สินการเลอื่ นชั้น โดยมขี นั้ ตอนปฏิบตั ดิ ังน้ี ๓.๑ คณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งรวบรวมผลการประเมินแต่ละกิจกรรมมาตัดสินตาม เกณฑ์การตัดสินการประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น และรายงานผลต่อผู้ปกครอง ๓.๒ คณะกรรมการสรุปผลการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ให้คณะกรรมการบริหาร หลกั สตู รและวชิ าการเพือ่ พจิ ารณาเห็นชอบ ๓.๓ ผบู้ ริหารสถานศึกษาพิจารณาตดั สินอนุมตั ผิ ลการประเมินรายภาค ๓.๔ คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการ รวบรวมผลการประเมินรายภาค ตัดสินผลการเลอ่ื นชน้ั /จบหลักสตู ร เสนอผบู้ รหิ ารอนมุ ตั ิ ๔. เกณฑต์ ัดสนิ ผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน ๔.๑ เกณฑก์ ารตดั สนิ รายกิจกรรมพิจารณาจาก ๑) เขา้ ร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาทัง้ หมด ๒) ผเู้ รยี นมพี ฤตกิ รรมด้านการเรียนรไู้ ม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๗๐ ๓) ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมและผ่านจุดประสงค์สำคัญของแต่ละกิจกรรมกำหนด ทุกข้อ ๔.๒ ผู้เรียนตอ้ งผ่านเกณฑ์ ข้อ ๔.๑ ถอื ว่าผ่านรายกิจกรรม ๔.๓ เกณฑ์การตัดสินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ผู้เรียนต้องได้รับผลการประเมินผ่านท้ัง กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียนทุกกิจกรรมและกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ถือว่าผ่าน กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น ๔.๔ เกณฑ์การผ่านเลื่อนชั้น / จบหลักสูตร ผู้เรียนต้องได้รับผลการประเมิน ผ่าน ทกุ กิจกรรมรายภาค ๕. แนวทางการซ่อมเสรมิ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน ๕.๑ กรณีไม่ผ่านเนื่องจากเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่ครบ คณะกรรมการพัฒนาและการ ประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กำหนดกิจกรรมให้ผู้เรียนไปปฏิบัติตามเวลาที่กำหนด ภายใต้การ ควบคมุ ดูแลของท่ปี รกึ ษากิจกรรมน้นั ๆ จนกวา่ ผู้เรียนปฏิบตั ิกจิ กรรมนั้นได้ อาจารยป์ ระจำกิจกรรม สรุป รายงานผลการปฏิบัติกิจกรรมให้คณะกรรมการพิจารณาผลการประเมนิ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อตัดสิน ผลการผา่ นกจิ กรรมรายภาค ๕.๒ กรณีไม่ผ่านจุดประสงค์สำคัญของกิจกรรมใหค้ ณะกรรมการมอบหมายภาระงานท่ี ผเู้ รียนไม่ผา่ นไปปฏบิ ตั ภิ ายใตก้ ารดูแลของอาจารยท์ ่ีปรกึ ษากิจกรรม จนกวา่ ผเู้ รียนจะปฏบิ ตั ติ ามภาระงาน นั้นได้ ให้ทีป่ รกึ ษาสรุปผลการปฏิบัติส่งใหค้ ณะกรรมการพจิ ารณาผลการประเมนิ การซอ่ มเสริม เพอื่ ตดั สิน ผลการผ่านกจิ กรรมเป็นรายภาค ๕.๓ คณะกรรมการสรุปผลการประเมินทั้งกรณีใน ข้อ ๕.๑ และ ข้อ ๕.๒ ส่ง คณะกรรมการบรหิ ารหลกั สูตรและวิชาการ เหน็ ชอบและเสนอผู้บริหารอนมุ ตั ิต่อไป ❖ ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ว่าด้วยการวดั และประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๓๙ หลักสูตรโรงเรยี นโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ สว่ นท่ี ๓ การพัฒนาและประเมินผลคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. ความสำคัญของคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของผเู้ รียน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยที่มีการจัดการศึกษาเปน็ วธิ กี ารหลกั ทส่ี ำคญั ท่ีสุด การจัดการศกึ ษาให้ผเู้ รียนเป็นมนุษย์ทส่ี มบูรณ์ จึงจำเปน็ ตอ้ งมีการพัฒนาผู้เรียน ให้เปน็ ผูท้ ่ีมีการพฒั นาการทัง้ ดา้ นปญั ญา จิตใจ รา่ งกาย และสงั คม การพัฒนาจิตใจจึงถือเปน็ ส่ิงที่สำคัญ อย่างยิ่ง ดังจะเห็นได้จากพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตราที่ ๒๓ “การจัดการ ศึกษา ทั้งการศึกษาในระบบ นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยต้องเน้นทั้งความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ และบูรณาการตามความเหมาะสมของแตล่ ะระดบั ” มาตรา ๒๔ วรรค ๔ “จัดการ เรียนการสอนโดยผสมผสานสาระความรู้ต่างๆ อย่างเป็นสัดส่วนสมดุลกัน รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรม คา่ นิยมทดี่ ีงาม และคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงคไ์ ว้ในทุกวิชา ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ จึง กำหนดไว้ใน จุดหมายของหลักสูตรเป็นข้อแรก คือ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณคา่ ของตนเอง มีวินัยและปฏบิ ัติตนตามหลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาท่ีตนนับถือ ยึด หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และกำหนดให้สถานศึกษาได้สร้างหลักสูตรสถานศึกษาด้วยตนเอง ทั้งนี้เพื่อให้เป็นหลักสูตรที่ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นไปตามความ ตอ้ งการจำเปน็ ของชมุ ชนทอ้ งถนิ่ ของตนอง โดยที่สถานศกึ ษาจะตอ้ งร่วมกับชุมชนกำหนดเปา้ หมายในการ พัฒนาผู้เรียน ด้านคุณธรรม จริยธรรมค่านยิ มที่สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความจำเป็นของชุมชน และ ทอ้ งถิน่ และกำหนด เปน็ เกณฑก์ ารจบหลกั สตู รขอ้ หนึ่ง ในแต่ละระดับ คอื ผเู้ รียนตอ้ งผา่ นการประเมิน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากำหนด ๒. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์เพื่อให้ สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ได้กำหนดให้ สถานศึกษาทกุ แห่ง พัฒนาผู้เรียน ดังนี้ ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๒. ซื่อสัตย์สุจรติ ๓. มวี นิ ยั ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๕. อยู่อยา่ งพอเพียง ๖. มุง่ มัน่ ในการทำงาน ๗. รกั ความเป็นไทย ๘. มจี ติ สาธารณะ ❖ ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ ว่าด้วยการวดั และประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๔๐ หลักสตู รโรงเรียนโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ความหมายและตวั บง่ ชี้คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๒.๑ คุณลกั ษณะ : รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ความหมาย รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หมายถึง ลักษณะของบุคคลที่ แสดงออกดว้ ยกาย วาจาและใจ ตวั บง่ ชค้ี ุณลักษณะ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๑) รว่ มกจิ กรรมแสดงความรักชาติ เช่น เชญิ ธง ยนื ตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลง ชาติ รกั ษาชื่อเสียง และหวงแหนสมบัติของชาติ ๒) ร่วมกิจกรรมทางศาสนา และปฏิบัติตามหลักธรรมของศาสนา เช่น รักษา ศลี ปฏิบตั ิธรรม ๓) รว่ มกิจกรรมเพ่ือแสดงความจงรกั ภกั ดตี อ่ พระมหากษตั ริย์ วาจาและใจ ๒.๒ คณุ ลักษณะ : ซ่อื สัตย์สจุ ริต ความหมาย ซ่ือสัตย์สจุ ริต หมายถึง ลักษณะของบุคคลท่ีแสดงออกด้วยกาย ตัวบ่งชค้ี ุณลักษณะ ซ่ือสัตยส์ ุจริต ๑) ให้ข้อมูลท่ีถกู ต้องและเป็นจริง ไม่โกหก ๒) ไมถ่ ือเอาสงิ่ ของหรือผลงานของผอู้ น่ื มาเปน็ ของตนเอง ไมล่ ักขโมย ๓) ไมห่ าผลประโยชน์ในทางทีไ่ ม่ถกู ตอ้ ง ไมค่ ดโกง ๒.๓ คุณลกั ษณะ : มวี นิ ัย ความหมาย มีวนิ ัย หมายถึง ลักษณะของบุคคลที่แสดงออกถึงความเอาใจ ใส่ จดจ่อ ตั้งใจ มุ่งมั่นต่อหน้าที่การงาน การศึกษาเล่าเรียน และการเป็นอยู่ของตนเอง และผู้อยู่ใน ความดแู ลตลอดจนสงั คมอย่างเต็มความสามารถด้วยความผูกพนั เพื่อใหบ้ รรลผุ ลสำเร็จตามความมุ่งหมาย ในเวลาทีก่ ำหนด ยอมรบั ผลการกระทำทงั้ ผลดแี ละผลเสยี ทเ่ี กดิ ขึ้น รวมทัง้ ปรบั ปรงุ การปฏบิ ตั ใิ ห้ดขี นึ้ ดว้ ย ตวั บง่ ช้คี ณุ ลกั ษณะ มีวินยั ๑) ปฏิบตั ิตนตามขอ้ ตกลง กฎระเบยี บของครอบครัว โรงเรยี นและสังคม ๒) ตรงต่อเวลาและรบั ผิดชอบในการเรียน การปฏบิ ัติงาน เรยี น ใฝ่รู้ ๒.๔ คุณลักษณะ : ใฝ่เรยี นรู้ ความหมาย ใฝ่เรียนรู้ หมายถึง ลักษณะของบุคคลที่แสดงออกถึงความใฝ่ ตัวบ่งช้คี ณุ ลักษณะ ใฝ่เรยี นรู้ ๑) ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรยี น สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรตู้ า่ ง ๆ ๒) แสวงหา ศึกษา ค้นคว้าความรู้จากแหลง่ การเรียนรตู้ ่าง ๆ ๓) บันทกึ ความรูว้ เิ คราะห์ตรวจสอบ แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ ❖ ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) ว่าดว้ ยการวัดและประเมินผลการเรียน ห น้ า | ๔๑ หลกั สูตรโรงเรยี นโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ๒.๕ คณุ ลักษณะ : อยูอ่ ย่างพอเพยี ง ความหมาย อยู่อย่างพอเพียง หมายถึง ลักษณะของบุคคลที่แสดงถึงการ ประพฤติปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้ประหยัดเวลา ทรัพย์ และแรงงาน ทั้งของตนเองและสว่ นรวม ตลอดจนวางแผน ออมเพื่ออนาคต ตวั บง่ ช้ีคุณลักษณะ อยู่อย่างพอเพียง ๑) ใช้ทรพั ย์สินของตนเองและของสว่ นรวมอยา่ งประหยัด คุม้ ค่า รวมท้ังใช้เวลา อย่างเหมาะสม ๒) ปฏิบัติตนและตัดสนิ ใจด้วยความรอบคอบมเี หตผุ ล ๓) วางแผนการเรียนการทำงานบนพื้นฐานของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร มี ภมู คิ มุ้ กนั ในตัวทด่ี ี ๒.๖ คณุ ลกั ษณะ : มงุ่ มนั่ ในการทำงาน ความหมาย มุ่งมั่นในการทำงาน หมายถึง ความสามารถทางร่างกาย ความคิด จิตใจ ที่จะปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่กำหนด ไม่ย่อท้อต่อปัญหา อุปสรรค ตวั บง่ ชค้ี ุณลกั ษณะ มุ่งมน่ั ในการทำงาน ๑) ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบในการทำงานให้สำเรจ็ ๒) ทุ่มเททำงาน อดทนไมย่ อ่ ท้อต่อปญั หาและอุปสรรค ๓) ปรบั ปรงุ พฒั นาการทำงานและผลงานดว้ ยตนเอง ๒.๗ คุณลกั ษณะ : รักความเป็นไทย ความหมาย รกั ความเปน็ ไทย หมายถงึ ลกั ษณะของบคุ คลทีแ่ สดงถงึ การปฏิบัติตน ทั้งกาย ใจ และความคดิ ท่ีคำนึงถงึ ความเปน็ ไทย ตวั บ่งชค้ี ุณลกั ษณะ รกั ความเป็นไทย ๑) ปฏบิ ัติตามขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย ๒) ใชภ้ าษาไทย เลขไทยในการสอ่ื สารได้อย่างถูกตอ้ ง ๓) ร่วมกิจกรรมท่เี กีย่ วขอ้ งกับภูมิปัญญาไทย นำมาใช้ให้เหมาะสมในวถิ ชี ีวติ ๒.๘ คุณลักษณะ : มีจติ สาธารณะ ความหมาย มีจิตสาธารณะ หมายถงึ ลักษณะของบุคคลท่ีแสดงถึงการใช้วาจา ใจ และกาย ตอ่ บุคคลอื่น ดว้ ยความเมตตา ให้ความช่วยเหลือ โดยไม่หวังสงิ่ ตอบแทน ตัวบง่ ชีค้ ณุ ลกั ษณะ มีจิตสาธารณะ ๑) ช่วยเหลือผู้อื่น แบ่งปันสิ่งของ อาสาทำงานให้ด้วยความเต็มใจ ไม่หวัง ผลตอบแทน ๒) เข้าร่วมกิจกรรมทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น ชมุ ชนและสงั คม ๓) ดแู ลรักษาสาธารณสมบัติและสิง่ แวดล้อมดว้ ย ความเตม็ ใจ ❖ ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ ว่าดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรียน ห น้ า | ๔๒ หลกั สูตรโรงเรยี นโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ๓. เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๓.๑ เกณฑ์การประเมินตวั บ่งชี้ ๑) เกณฑร์ ะดบั คุณภาพ ระดับคุณภาพ ดีเย่ียม หมายถึง ผู้เรยี นมพี ฤติกรรมตามตวั บ่งช้ี รอ้ ยละ ๘๐ – ๑๐๐ ของจำนวนครงั้ ของการประเมินทงั้ หมด ดี หมายถงึ ผู้เรยี นมพี ฤติกรรมตามตัวบง่ ชี้ ร้อยละ ๖๕ – ๗๙ ของจำนวนครงั้ ของการประเมินทง้ั หมด ผา่ น หมายถึง ผเู้ รยี นมีพฤติกรรมตามตวั บง่ ช้ี รอ้ ยละ ๕๐ – ๖๔ ของจำนวนคร้งั ของการประเมนิ ทงั้ หมด ไมผ่ ่าน หมายถึง ผเู้ รียนมพี ฤตกิ รรมตามตวั บง่ ชี้ รอ้ ยละต่ำ ๕๐ ของจำนวนครง้ั ของการประเมนิ ทง้ั หมด ๒) เกณฑก์ ารตัดสินการผ่านแต่ละตวั บ่งช้ี ผ้เู รียนตอ้ งมีพฤตกิ รรมตามตวั บ่งชอี้ ยใู่ นระดับผา่ นขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ นแต่ละตัวบง่ ชี้ ๓.๒ เกณฑ์การประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๓.๒.๑ ใหค้ ิดค่าฐานนิยม (Mode) จากเกณฑก์ ารประเมินตัวบ่งช้มี าเปน็ ระดับคณุ ภาพ ของคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ต่ละข้อ ๓.๒.๒ ให้คดิ คา่ ฐานนยิ ม จากเกณฑก์ ารประเมินคุณลักษณะ ๘ ขอ้ สรุปเปน็ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ของรายวิชานัน้ ๆ ๓.๒.๓ ให้คดิ คา่ ฐานนยิ ม จากคุณลักษณะอนั พึงประสงค์รายวชิ า สรปุ เป็นคุณลักษณะ อนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รียนรายบุคคล ๓.๓ เกณฑ์การตัดสินแตล่ ะคณุ ลกั ษณะ ผ้เู รียนต้องได้รบั การประเมนิ อย่ใู นระดบั คณุ ภาพ ผ่านข้นึ ไป ถอื วา่ ผา่ น แนวการพฒั นาและประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. ระดับผู้ปฏิบัติ ในการพัฒนาและประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น โรงเรียนกำหนดให้ผู้สอนทุกรายวิชา ผ้รู บั ผิดชอบงาน / โครงการ / กิจกรรม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนทีน่ อกเหนือจากครูผู้สอนรายวิชาต่างๆ ได้ดำเนนิ การดงั น้ี ๑.๑ ครผู ูส้ อนรายวิชาต่างๆ ทกุ รายวชิ า ใหจ้ ดั กิจกรรมการเรยี นรใู้ นรายวิชาของตนโดย สอดแทรกคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษาในคุณลักษณะใดคุณลักษณะหนึ่งที่เหมาะสม และ สอดคลอ้ งกบั การจัดกจิ กรรมการเรียนร้นู น้ั ๆ โดยให้ระบุไวใ้ นแผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรทู้ กุ แผน ๑.๒ ผูร้ ับผิดชอบงาน / โครงการ / กิจกรรม และกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียนทงั้ กิจกรรมแนะ แนว กจิ กรรมชุมนุมตา่ งๆ ซึง่ เป็นกจิ กรรมท่ีนอกเหนือจากรายวิชาต่างๆ ใหด้ ำเนนิ การจดั กิจกรรมพัฒนา คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ โดยระบไุ วใ้ นแผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ❖ ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ ว่าด้วยการวดั และประเมนิ ผลการเรยี น ห น้ า | ๔๓ หลกั สูตรโรงเรยี นโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ๑.๓ ผู้รับผิดชอบทั้ง ข้อ ๑.๑ และ ๑.๒ ดำเนินการพัฒนาพร้อมกับประเมินผลและ ปรับปรุงผู้เรียนเป็นระยะๆ เพื่อแสดงพัฒนาการของผู้เรียน บันทึกร่องรอยหลักฐานการประเมินและ ปรับปรุงอย่างต่อเนือ่ ง เมื่อเสร็จสิ้นภาคเรียน / ปลายปี หรือสิ้นโครงการ / กิจกรรม ให้มีการประเมิน และสรุปผลบันทึกลงใน แบบ ปพ. ๕ และระบุ จุดเด่น จุดด้อย ของผู้เรียนแต่ละคน ตามเกณฑ์ท่ี กำหนดไว้ พรอ้ มแนบข้อมูลบนั ทึกหลักฐานรอ่ งรอยการประเมนิ และปรับปรุงประกอบสง่ ใหค้ ณะกรรมการ ของกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ของตนเอง ไดต้ รวจสอบความถกู ตอ้ งสมบูรณ์ ๑.๔ คณะกรรมการแต่ละกลุ่มสาระรวบรวมผลการประเมินทั้งหมด และสรุปผลการ ประเมินลงในใบ แบบ ปพ. ๕ ส่งคณะกรรมการประเมินคุณลักษณะของสถานศึกษาที่ได้รับการแต่งต้ัง เพอื่ ดำเนนิ การต่อไป ๒. ระดบั คณะกรรมการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องสถานศึกษา ให้มีการประเมนิ และตัดสนิ ผลการประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ของผู้เรียนทุกภาคเรียน / ปี โดยสถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินและตัดสินผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั ช้นั ละ ๓ – ๕ คน ดำเนินการดงั น้ี ๒.๑ คณะกรรมการทุกระดบั ชน้ั ศึกษาและทำความเขา้ ใจร่วมกนั ในเรอ่ื งของเกณฑ์การ ประเมินระดบั คณุ ภาพ ตลอดจนแนวทางการประเมนิ ทส่ี ถานศึกษากำหนดไว้ ๒.๒ คณะกรรมการประเมินแต่ละระดบั ชั้น นำผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ จากผู้ปฏิบัติใน ข้อ ๑ มาร่วมกันพิจารณาผลการประเมิน และข้อมูลจากการบันทึกร่องรอยหลักฐานท่ี แนบมาเปน็ รายบุคคลเทยี บกับเกณฑ์ท่กี ำหนดไว้ แลว้ ตดั สนิ ผลการประเมนิ สรุปผลการประเมิน บันทึก ลงใน แบบ ปพ. ๕ ระบจุ ุดเด่นจดุ ดอ้ ยของผู้เรียนเป็นรายบุคคล สง่ คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและ วชิ าการเห็นชอบ และเสนอผู้บริหารอนุมตั ิผลการประเมนิ ๒.๓ กรณีที่คณะกรรมการไม่สามารถตัดสินผลการประเมิน เนื่องจากข้อมูลไม่เพยี งพอ ให้คณะกรรมการขอข้อมูลเพิม่ เติมจากผู้รบั ผดิ ชอบ จนสามารถตัดสนิ ผลการประเมนิ ได้ ๒ .๔ นายทะเบยี นนำผลการตัดสินมาดำเนินการจดั ทำ ปพ.๔ และหลักฐานการศึกษาอ่ืน ที่เก่ียวขอ้ ง และประกาศให้ผ้เู กย่ี วขอ้ งรบั ทราบตอ่ ไป ๔. การประเมินการเลอื่ นชั้น / การจบหลักสตู ร คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการ นำผลการประเมินรายภาค / รายปี มาร่วมพจิ ารณา และตัดสนิ ผลการเลอื่ นชน้ั / จบหลักสูตร แนวทางในการซอ่ มเสรมิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. คณะกรรมการประเมินคุณลักษณะร่วมกันพิจารณาว่า ผู้เรียนมีคุณลักษณะใดที่ต้องพัฒนา ปรับปรุง ๒. คณะกรรมการประเมินคุณลกั ษณะกำหนดแนวทางในการพฒั นาปรับปรงุ พรอ้ มระยะเวลาโดย มอบหมาย ใหท้ ่ปี รกึ ษาในระบบดูแลช่วยเหลอื นักเรียน ดำเนินการติดตามชว่ ยเหลือแนะนำการปฏิบัติงาน ตามแนวทางท่ีคณะกรรมการกำหนด ๓. กจิ กรรม ในการพฒั นาปรับปรุงผู้เรยี น ❖ ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรียน ห น้ า | ๔๔ หลกั สตู รโรงเรยี นโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ๓.๑ กำหนดภาระงานหรือกิจกรรมที่สอดคล้องกับตัวบ่งชี้ของคุณลักษณะที่ต้องพัฒนา ปรบั ปรงุ ๓.๒ ผู้เรียนร่วมกิจกรรมที่สอดคล้องกับคุณลักษณะที่ต้องพัฒนาปรับปรุงท้ังในและนอก โรงเรยี น ๓.๓ ผู้เรียนเสนอโครงงาน / งาน ที่สอดคล้องกับคุณลักษณะที่ต้องพัฒนาปรับปรุงให้ คณะกรรมการประเมนิ คณุ ลกั ษณะเหน็ ชอบ ๔. ผู้เรยี นปฏบิ ัติตามแนวทางทค่ี ณะกรรมการกำหนดหรอื เห็นชอบ และรายงานผลการปฏิบัติให้ ท่ีปรึกษาในระบบดแู ลทราบเปน็ ระยะๆ พร้อมกบั มีผรู้ บั รองผลการปฏิบตั ิโดยที่ปรึกษาบนั ทึกข้อคิดเห็นใน การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมจนเสรจ็ ส้นิ กิจกรรม ๕. ที่ปรึกษาในระบบดูแล บันทึกผลแสดงพัฒนาการคุณลักษณะของผู้เรียนที่แสดงร่องรอย หลักฐานการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ รวบรวมผลการปฏิบัติส่งคณะกรรมการประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ๖. คณะกรรมการประเมนิ คุณลักษณะพิจารณาร่องรอยหลักฐานผลการปฏบิ ัติกิจกรรมเทียบกับ เกณฑ์ที่กำหนด แล้วประเมินและตัดสินผลการซ่อมเสรมิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์สรุปผลเสนอตอ่ คณะ กรรมการบรหิ ารหลกั สตู รและวชิ าการเหน็ ชอบ เพ่อื เสนอต่อผู้บรหิ ารสถานศึกษาอนมุ ตั ติ อ่ ไป ๗. นายทะเบยี นวดั ผลดำเนินการจัดทำ ปพ.๔ และแจ้งแกผ่ ู้เกย่ี วข้องต่อไป ❖ ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบยี บโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ ว่าดว้ ยการวัดและประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๔๕ หลกั สตู รโรงเรียนโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ สว่ นท่ี ๔ การพฒั นาและประเมนิ ความสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี น การอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น จำนวน ๓ ข้อ คอื ๑. อา่ นและเขา้ ใจ สามารถคดิ วิเคราะห์ สังเคราะห์ไดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ลเปน็ ระบบ และเขยี นเสนอ ความคดิ ได้ ตวั บง่ ชี้ที่ ๑ เขยี นรายงานเร่ืองทศี่ ึกษาค้นคว้าได้ ตัวบ่งชี้ท่ี ๒ ตอบคำถามจากเรื่องทศ่ี กึ ษาคน้ คว้าได้ ตวั บ่งชท้ี ี่ ๓ เขยี นแสดงความคิดเหน็ จากเรือ่ งที่อา่ นได้ ตวั บ่งชี้ท่ี ๔ เขียนสรุปจากเรือ่ งทีอ่ า่ นได้ ๒. นำความร้คู วามเขา้ ใจทไี่ ดจ้ ากการอ่านไปใช้ในการแก้ปัญหา ตัดสนิ ใจ คาดคะเนเรอื่ งราวหรือ เหตุการณ์ และสรุปเป็นแนวปฏบิ ัตไิ ด้ ตัวบ่งชี้ที่ ๑ ทำโครงงาน / รายงานในเร่อื งท่ีสนใจไดต้ ามศักยภาพ ตัวบ่งช้ที ี่ ๒ นำเสนอโครงงาน / รายงานได้ตามศักยภาพ ตวั บง่ ชี้ท่ี ๓ เนื้อหาในการทำโครงงาน / รายงานสอดคล้องกับเร่อื งท่เี รยี น ตวั บง่ ชท้ี ี่ ๔ เขียนขัน้ ตอนในการปฏิบตั งิ านได้ ๓. มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ และสามารถเขียนถ่ายทอดความคดิ เพอื่ การส่ือสารได้ ตวั บง่ ชี้ที่ ๑ เขียนเร่อื งราวเชิงสร้างสรรค์ได้ตามศักยภาพ ตัวบ่งชท้ี ี่ ๒ เขยี น / วาดภาพจากจนิ ตนาการในเรือ่ งท่ตี นสนใจได้ แนวทางและวธิ กี ารประเมนิ การประเมินความสามารถในการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียน โรงเรียนจะใช้แนวทางการวัด และการประเมินจากการปฏิบัติจริง (Authentic Performance Measurement) จึงกำหนดแนวทาง และวิธกี ารประเมนิ ใหค้ รผู สู้ อนทุกกลมุ่ สาระการเรยี นรนู้ ำไปใช้ในการประเมนิ ดังน้ี ๑. วิธกี ารประเมนิ ๑.๑ ความสามารถจริงของผเู้ รียนในการปฏิบัติกิจกรรมทางการเรยี นรายวิชาต่างๆ ใน สว่ นทเ่ี กี่ยวกบั การอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขียน โดยการสังเกตของครู ๑.๒ มอบหมายให้ผเู้ รียนไปศกึ ษาค้นคว้า แลว้ เขียนเป็นรายงาน ๑.๓ ผลงานเชงิ ประจกั ษต์ า่ งๆ เกย่ี วกบั การอ่าน การคิด การวิเคราะห์ และเขียนที่ รวบรวมและนำเสนอในรปู ของแฟ้มสะสมงาน ๑.๔ การทดสอบโดยใช้แบบทดสอบแบบเขียนตอบ หรอื เขียนเรยี งความ ๑.๕ การเขียนรายงานจากการปฏบิ ัติโครงงาน ❖ ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ระเบียบโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ ว่าดว้ ยการวดั และประเมินผลการเรยี น ห น้ า | ๔๖ หลกั สูตรโรงเรียนโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ๒. เกณฑก์ ารประเมิน ผลงาน : การเขยี นจากการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ ๒.๑ การใชก้ ระบวนการอา่ นอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ๒.๒ การแสดงความคดิ เหน็ อย่างมีวจิ ารณญาณ ๒.๓ ใช้กระบวนการเขียนสอ่ื ความอย่างมีประสทิ ธิภาพ ๓. เกณฑ์ระดับคุณภาพ ความสามารถในการอา่ น คิด วเิ คราะห์ และเขียน เกณฑ์ระดบั คุณภาพ : การอา่ น ระดบั ดีเยีย่ ม ระบุสาระของเรื่องทอ่ี า่ นไดถ้ กู ต้องครบถ้วน ลำดบั เรอื่ งทอี่ ่านได้ถกู ตอ้ ง ระบุประเด็นสำคญั ของเรื่องที่อา่ นไดถ้ ูกตอ้ ง ระบจุ ดุ มงุ่ หมาย และเจตคติ ของผ้เู ขยี น ดี ระบสุ าระของเรอื่ งที่อ่านได้ถูกต้องครบถ้วน ลำดบั เรอื่ งที่อา่ นไดถ้ กู ตอ้ ง ระบุประเด็นสำคญั ของเรอ่ื งที่อา่ นได้ถกู ตอ้ ง ระบจุ ดุ ม่งุ หมาย และเจตคติ ของผเู้ ขยี นไมค่ รบถว้ น ผา่ น ระบสุ าระของเรอ่ื งทีอ่ า่ นได้ถกู ตอ้ งครบถ้วน ลำดับเรอ่ื งทอ่ี ่านค่อนขา้ งถูกต้อง ระบุประเด็นสำคัญของเร่อื งท่ีอ่านไดไ้ ม่สมบรู ณ์ ระบุจุดมงุ่ หมาย และเจตคติ ของผเู้ ขยี นเพียงเล็กน้อย ไม่ผ่าน ระบุสาระของเรื่องทอี่ ่านไดไ้ มค่ รบถว้ น ลำดับเรื่องทีอ่ า่ นผิดพลาดเลก็ นอ้ ย ระบปุ ระเด็นสำคญั ของเรอ่ื งทอ่ี า่ นไม่ถูกต้อง ไม่ระบจุ ุดมุ่งหมาย และเจตคติ ของผเู้ ขยี น เกณฑร์ ะดบั คุณภาพ : การคดิ วเิ คราะห์ ระดบั ดีเยย่ี ม แสดงความคิดเหน็ ชัดเจน มเี หตผุ ลระบขุ ้อมูลสนับสนนุ ทนี่ า่ เชอื่ ถือมีความคิด ที่แปลกใหม่ เป็นประโยชนต์ อ่ สงั คมโดยสว่ นรวม ดี แสดงความคิดเหน็ คอ่ นข้างชัดเจน มีเหตุผลระบุข้อมูลสนบั สนนุ มคี วามคิด ทเ่ี ปน็ ประโยชน์ตอ่ สงั คมโดยสงั คมรอบข้างตนเอง ผ่าน แสดงความคิดเห็นที่มเี หตผุ ลระบุข้อมลู สนับสนนุ ท่ีพอรบั ไดม้ ีความคิดที่เป็น ประโยชนต์ อ่ ตนเอง ไม่ผ่าน แสดงความคิดเหน็ มีเหตุผลไมช่ ัดเจน ขาดข้อมูลสนับสนุน มีความคดิ ที่ยงั มองไม่เหน็ ประโยชนท์ ช่ี ดั เจน เกณฑร์ ะดับคณุ ภาพ : การเขียน ระดับ ดีเยย่ี ม มีจดุ ประสงคใ์ นการเขยี นชัดเจนได้เนื้อหาสาระ รูปแบบการเขียนถูกตอ้ งมี ขน้ั ตอนการเขียนชดั เจนงา่ ยตอ่ การตดิ ตาม ใชไ้ วยากรณแ์ ละสะกดคำถูกตอ้ ง พัฒนาสำนวนภาษาทสี่ อื่ ความหมายได้ชัดเจนกะทดั รดั ❖ ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
Search