Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช 2563 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช 2563 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Published by KroorachaneChanel, 2021-06-08 11:08:54

Description: หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช 2563 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Search

Read the Text Version

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๔๗ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พนั ธกุ รรม การเปล่ยี นแปลงทางพนั ธกุ รรมที่มีผลต่อสง่ิ มีชวี ิต ความหลากหลายทางชวี ภาพและววิ ฒั นาการของ สิ่งมชี วี ติ รวมทั้งนำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ รหสั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่ ตัวชี้วดั ว 1.3 ป 1. จำแนกสง่ิ มชี วี ิตโดยใช้ - สง่ิ มชี ีวติ มหี ลายชนิด สามารถ - สำรวจ จดั กลมุ่ สิง่ มีชีวติ ที่ 4/1 ความเหมือนและ ความ จดั กลุ่มไดโ้ ดยใช้ ความเหมอื น พบบริเวณชายหาดหน้า แตกตา่ งของลักษณะของ และความแตกต่างของลักษณะ โรงเรียน และบริเวณชุมชน ส่ิงมชี วี ติ ออกเปน็ กลุ่มพชื ต่าง ๆ เช่น กลุ่มพืชสร้างอาหาร โดยรอบ กลมุ่ สตั ว์ และกลุ่มที่ไม่ใช่พชื เองได้ และเคล่ือนที่ดว้ ยตนเอง และสตั ว์ ไม่ได้ กลมุ่ สตั ว์กินสงิ่ มชี ีวิตอน่ื เปน็ อาหารและเคลือ่ นท่ไี ด้ กล่มุ ทไี่ ม่ใช่พชื และสัตว์ เชน่ เห็ด รา จุลนิ ทรีย์ ว 1.3 ป 2. จำแนกพชื ออกเปน็ พชื ดอก - การจำแนกพชื สามารถใช้ - 4/2 และพืชไมม่ ดี อก โดยใชก้ ารมี การมดี อกเป็นเกณฑ์ ในการ ดอกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ขอ้ มูล จำแนก ไดเ้ ปน็ พืชดอกและพืช ท่รี วบรวมได้ ไมม่ ีดอก การจำแนกสตั ว์ สามารถใชก้ ารมีกระดูกสนั หลัง เป็นเกณฑใ์ นการจำแนก ได้เป็น สัตว์มีกระดูกสนั หลงั และสัตว์ไม่ มกี ระดูกสนั หลงั ว 1.3 ป 3. จำแนกสัตวอ์ อกเป็นสัตว์มี - สัตว์มกี ระดกู สันหลังมหี ลาย - 4/3 กระดูกสันหลังและสตั วไ์ มม่ ี กลุ่ม ไดแ้ ก่ กลมุ่ ปลา กลมุ่ สัตว์ กระดูกสนั หลัง โดยใชก้ ารมี สะเทินนำ้ สะเทินบก กลุ่ม กระดูกสันหลังเปน็ เกณฑ์ โดย สตั วเ์ ลือ้ ยคลาน กลุ่มนก และ ใช้ขอ้ มลู ท่ีรวบรวมได้ กลมุ่ สัตว์เล้ยี งลกู ด้วยนำ้ นม ซ่ึง ว 1.3 ป 4. บรรยายลักษณะเฉพาะท่ี แตล่ ะกลุ่มจะมลี ักษณะเฉพาะท่ี 4/4 สังเกตได้ของสตั วม์ ีกระดกู สนั สงั เกตได้ หลังในกลุ่มปลา กลมุ่ สัตว์ สะเทนิ น้ำสะเทนิ บก กลุม่ สัตว์เลอ้ื ยคลาน กลุม่ นก และ กลุม่ สัตวเ์ ลยี้ งลกู ด้วยน้ำนม และยกตวั อยา่ งส่ิงมชี ีวิตในแต่ ละกลุ่ม  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๔๘ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัตขิ องสสาร กบั โครงสร้างและแรงยดึ เหน่ยี วระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาตขิ องการเปลยี่ นแปลงสถานะของสสาร การ เกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี รหัส ตวั ชี้วั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถนิ่ ด ว 2.1 1. เปรยี บเทียบสมบัติทาง - วสั ดุแตล่ ะชนดิ มสี มบตั ิทาง - สำรวจ ขยะที่พบบรเิ วณ ป 4/1 กายภาพดา้ นความแขง็ สภาพ กายภาพแตกตา่ งกัน วสั ดุทีม่ ี ชายหาด และเปรียบเทยี บ ยืดหยุ่น การนำความร้อน และ ความแขง็ จะทนต่อแรงขูดขีด สมบตั ิของวัสดุ การนำไฟฟ้าของวสั ดุโดยใช้ วสั ดทุ ี่มสี ภาพยดื หยนุ่ จะ หลักฐานเชิงประจกั ษจ์ ากการ เปลย่ี นแปลงรูปร่างเม่ือมแี รง ทดลองและระบุการนำสมบตั ิ มากระทำและกลบั สภาพเดิม เร่อื งความแข็ง สภาพยืดหยุน่ ได้ วัสดุท่ีนำความร้อนจะร้อน การนำความร้อน และการนำ ไดเ้ ร็วเม่อื ได้รับความรอ้ น ไฟฟา้ ของวสั ดไุ ปใช้ใน และวสั ดุทน่ี ำไฟฟ้าได้ จะให้ ชวี ิตประจำวัน ผ่านกระบวน กระแสไฟฟา้ ไหลผ่านได้ กำรออกแบบช้ินงาน ดังนั้นจงึ อาจนำสมบตั ิตา่ ง ๆ ว 2.1 2. แลกเปล่ยี นความคดิ กบั ผู้อ่ืน มาพิจารณาเพ่ือใช้ใน ป 4/2 โดยการอภิปรายเกยี่ วกับสมบัติ กระบวนการออกแบบชน้ิ งาน ทางกายภาพของวัสดุอยา่ งมี เพื่อใช้ประโยชนใ์ น เหตผุ ลจากการทดลอง ชวี ติ ประจำวนั ว 2.1 3. เปรียบเทยี บสมบตั ขิ องสสาร - วัสดเุ ปน็ สสารเพราะมมี วล ป 4/3 ท้ัง 3 สถานะ จากข้อมลู ทีไ่ ด้จาก และต้องการที่อยู่ สสารมี การสังเกต มวล การต้องการท่ีอยู่ สถานะเปน็ ของแข็ง ของเหลว รปู ร่างและปริมาตรของสสาร หรอื แกส๊ ของแขง็ มีปรมิ าตร ว 2.1 4. ใช้เครือ่ งมอื เพื่อวัดมวล และ และรปู รา่ งคงท่ี ของเหลวมี ป 4/4 ปริมาตรของสสารท้งั 3 สถานะ ปริมาตรคงที่ แต่มรี ปู รา่ ง เปล่ยี นไปตามภาชนะเฉพาะ สว่ นทบ่ี รรจขุ องเหลว ส่วน แกส๊ มปี รมิ าตรและรปู ร่าง เปลย่ี นไปตามภาชนะทีบ่ รรจุ  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๔๙ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ลักษณะการ เคล่อื นท่ีแบบต่าง ๆ ของวตั ถุ รวมทั้งนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ รหสั ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถิน่ ตวั ชวี้ ัด - ว 2.2 ป 1. ระบผุ ลของแรงโนม้ ถว่ งท่ีมี - แรงโนม้ ถ่วงของโลกเปน็ แรง 4/1 - ว 2.2 ป ตอ่ วตั ถจุ ากหลักฐานเชิง ดึงดดู ท่ีโลกกระทำต่อวัตถุ มีทิศ 4/2 ประจักษ์ ทางเข้าสู่ศนู ย์กลางโลก และเปน็ ว 2.2 ป 4/3 2. ใชเ้ ครื่องชัง่ สปรงิ ในการวดั แรงไม่สมั ผัส แรงดึงดดู ที่โลก น้ำหนักของวัตถุ กระทำกับวัตถหุ นง่ึ ๆ ทำให้วัตถตุ ก ลงสพู่ ้นื โลก และทำใหว้ ัตถุมี นำ้ หนัก วดั นำ้ หนักของวัตถุไดจ้ าก เคร่อื งช่ังสปริง นำ้ หนกั ของวัตถุ ขึน้ กับมวลของวตั ถุ โดยวตั ถุท่ีมี มวลมากจะมีน้ำหนกั มาก วัตถุท่ีมี มวลนอ้ ยจะมีน้ำหนักนอ้ ย 3. บรรยายมวลของวตั ถทุ มี่ ี - มวล คือ ปรมิ าณเนื้อของสาร ผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงการ ทง้ั หมดท่ปี ระกอบกนั เปน็ วตั ถุ ซ่ึงมี เคลื่อนที่ของวตั ถุจากหลักฐาน ผลต่อความยากง่ายในการ เชิงประจกั ษ์ เปลยี่ นแปลงการเคลื่อนท่ขี องวตั ถุ วตั ถุท่ีมมี วลมากจะเปลย่ี นแปลง การเคลอ่ื นทไ่ี ด้ยากกวา่ วตั ถุท่ีมีมวล นอ้ ย ดงั นั้น มวลของวตั ถุนอกจาก จะหมายถึงเนอ้ื ท้งั หมดของวัตถุนนั้ แลว้ ยงั หมายถึงการต้านการ เปลย่ี นแปลง การเคลื่อนท่ีของวัตถุ น้นั ดว้ ย  ระดับประถมศึกษา

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๕๐ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้อง กบั เสียง แสง และคลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟา้ รวมทัง้ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ รหัส ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ ตัวชี้วดั - ว 2.3 1. จำแนกวตั ถเุ ปน็ ตวั กลาง - เมือ่ มองสง่ิ ต่าง ๆ โดยมวี ัตถุ ป 4/1 โปรง่ ใส ตัวกลางโปร่งแสง และ ต่างชนิดกนั มากั้นแสง จะทำให้ วัตถทุ ึบแสง จากลักษณะ การ ลักษณะการมองเห็นสิ่งนน้ั ๆ มองเห็นส่งิ ตา่ ง ๆ ผ่านวตั ถนุ ้ัน ชัดเจนตา่ งกัน จงึ จำแนกวัตถุ เปน็ เกณฑโ์ ดยใช้หลักฐานเชงิ ทม่ี าก้นั ออกเป็นตวั กลาง ประจักษ์ โปรง่ ใส ซ่งึ ทำให้มองเหน็ สิง่ ตา่ ง ๆ ได้ชดั เจน ตัวกลางโปร่ง แสงทำให้มองเห็น ส่ิงต่าง ๆ ได้ ไมช่ ดั เจน และ วัตถุทึบแสงทำ ใหม้ องไม่เห็นส่ิงต่าง ๆ นั้น สาระที่ 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแลก็ ซีดาวฤกษ์ และระบบสรุ ยิ ะ รวมทงั้ ปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะท่ีสง่ ผลต่อสงิ่ มชี ีวิตและการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอวกาศ รหสั ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ตวั ชี้วัด - - ดวงจันทร์เป็นบริวารของโลก ว 3.1 1. อธบิ ายแบบรปู เส้นทางการ โดยดวงจันทรห์ มุนรอบตัวเอง ขณะโคจรรอบโลก ขณะท่ีโลก ป 4/1 ข้นึ และตก ของดวงจันทร์ โดย กห็ มุน รอบตวั เองดว้ ยเชน่ กัน การหมุนรอบตวั เองของโลก ใช้หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ จากทศิ ตะวันตกไปทิศ ตะวันออกในทศิ ทางทวนเข็ม นาฬิกาเมอื่ มองจากขว้ั โลก เหนือ ทำให้มองเหน็ ดวงจันทร์ ปรากฏข้นึ ทางด้านทิศ ตะวนั ออกและตกทางดา้ นทิศ  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๕๑ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน - รหสั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตวั ช้ีวดั - ตะวนั ตกหมุนเวยี นเปน็ แบบรูป ว 3.1 2. สรา้ งแบบจำลองท่อี ธิบาย ซ้ำ ๆ ป 4/2 แบบรปู การเปล่ียนแปลง - ดวงจันทร์เป็นวัตถุท่เี ปน็ ทรง รปู ร่างปรากฏของดวงจนั ทร์ กลม แต่รูปรา่ งของดวงจนั ทร์ที่ และพยากรณ์รปู รา่ งปรากฏ มองเห็นหรือรูปร่างปรากฏของ ของดวงจันทร์ ดวงจนั ทรบ์ นท้องฟ้าแตกตา่ ง กนั ไปในแตล่ ะวนั โดยในแต่ละ ว 3.1 3. สรา้ งแบบจำลองแสดง วนั ดวงจนั ทรจ์ ะมรี ูปร่างปรากฏ ป 4/3 องคป์ ระกอบของระบบสุรยิ ะ เป็นเสยี้ วทม่ี ขี นาดเพ่ิมขนึ้ อย่าง ตอ่ เนอ่ื งจนเตม็ ดวง จากน้นั และอธบิ ายเปรยี บเทียบคาบ รูปรา่ งปรากฏของดวงจนั ทร์จะ การโคจรของดาวเคราะหต์ ่าง แหว่งและมีขนาดลดลง อย่าง ๆ จากแบบจำลอง ต่อเนือ่ งจนมองไม่เห็นดวง จนั ทร์ จากนน้ั รูปร่างปรากฏ ของดวงจนั ทรจ์ ะเปน็ เสี้ยวใหญ่ ข้นึ จนเตม็ ดวงอีกครั้ง การ เปล่ียนแปลงเชน่ นเี้ ป็นแบบรูป ซำ้ กัน ทกุ เดือน - ระบบสรุ ยิ ะเปน็ ระบบท่ีมีดวง อาทติ ยเ์ ป็นศูนยก์ ลางและมี บริวารประกอบดว้ ย ดาว เคราะห์แปดดวงและบรวิ าร ซึ่ง ดาวเคราะห์แตล่ ะดวงมีขนาด และระยะหา่ งจากดวงอาทติ ย์ แตกตา่ งกัน และยัง ประกอบดว้ ย ดาวเคราะห์ แคระ ดาวเคราะหน์ ้อย ดาว หาง และวัตถขุ นาดเลก็ อ่นื ๆ โคจรอยูร่ อบดวงอาทิตย์ วตั ถุ ขนาดเลก็ อ่นื ๆ เมอื่ เขา้ มาใน ชนั้ บรรยากาศเน่อื งจากแรง โน้มถ่วงของโลก ทำให้เกิดเป็น ดาวตกหรอื ผีพุ่งไต้และ อกุ กาบาต  ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๕๒ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระท่ี 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณพี ิบตั ิภยั กระบวนการเปลยี่ นแปลงลมฟ้าอากาศและภมู ิอากาศโลกรวมท้ังผลต่อ สิง่ มชี ีวิตและส่ิงแวดล้อม รหสั ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถ่นิ ตัวชว้ี ดั - - - - สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคำนงึ ถึงผลกระทบต่อชีวิต สงั คม และส่ิงแวดล้อม รหัส ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น ตัวชีว้ ัด - - - - สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ ร้เู ท่าทัน และมีจริยธรรม รหัส ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน ตัวชี้วดั - ว 4.2 1. ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการ - การใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะเป็น ป 4/1 แก้ปญั หา การอธบิ ายการ การนำกฎเกณฑ์ หรือเงอ่ื นไขที่ ทำงาน การคาดการณผ์ ลลัพธ์ ครอบคลุมทุกกรณีมาใช้ จากปัญหาอย่างง่าย พิจารณาในการแก้ปัญหา การ อธบิ ายการทำงาน หรอื การ คาดการณ์ผลลัพธ์ - สถานะเร่มิ ต้นของการทำงาน ที่แตกตา่ งกนั จะใหผ้ ลลพั ธ์ที่ แตกต่างกนั  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๕๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน - รหสั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ตัวชว้ี ัด - - ตวั อยา่ งปัญหา เชน่ เกม OX, โปรแกรมทีม่ ี การคำนวณ, โปรแกรมท่มี ีตัวละครหลายตัว และ มกี ารส่งั งานทแ่ี ตกต่าง หรอื มกี ารสื่อสารระหว่างกนั , การเดนิ ทางไปโรงเรยี นโดย วธิ กี ารตา่ ง ๆ ว 4.2 2. ออกแบบ และเขยี น - การออกแบบโปรแกรมอย่าง ป 4/2 โปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใช้ งา่ ย เช่น การออกแบบโดยใช้ ซอฟตแ์ วร์ หรอื ส่ือ และ storyboard หรือการ ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดและแกไ้ ข ออกแบบอลั กอรทิ มึ - การเขยี นโปรแกรมเป็นการ สร้างลำดับของคำสง่ั ให้ คอมพิวเตอร์ทำงาน เพอื่ ให้ได้ ผลลพั ธ์ตาม ความต้องการ หากมขี ้อผดิ พลาดใหต้ รวจสอบ การทำงานทีละคำส่ัง เมอ่ื พบ จดุ ทีท่ ำใหผ้ ลลัพธ์ ไม่ถกู ต้อง ใหท้ ำการแก้ไขจนกว่าจะได้ ผลลัพธท์ ถี่ ูกต้อง - ตวั อย่างโปรแกรมที่มี เรอื่ งราว เช่น นทิ านทม่ี ี การ ตอบโตก้ บั ผู้ใช้ การต์ นู สัน้ เลา่ กิจวตั รประจำวัน ภาพเคล่อื นไหว การฝกึ ตรวจหาข้อผดิ พลาด จากโปรแกรมของผู้อืน่ จะช่วย พัฒนาทกั ษะการหาสำเหตุของ ปัญหาไดด้ ยี ง่ิ ขึน้ -ซอฟต์แวร์ทใ่ี ช้ในการเขยี น โปรแกรม เช่น Scratch, logo 3. ใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ คน้ หาความรู้ - การใชค้ ำค้นท่ตี รงประเดน็ และประเมินความน่าเช่ือถือ กระชับ จะทำใหไ้ ด้ ผลลัพธ์ที่ ของขอ้ มลู  ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๕๔ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน รหัส ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง - ตวั ชี้วดั 4. รวบรวม ประเมนิ นำเสนอ รวดเร็วและตรงตามความ ข้อมูลและสารสนเทศ โดยใช้ ตอ้ งการ ซอฟตแ์ วร์ทห่ี ลากหลาย เพื่อ - การประเมนิ ความนา่ เชื่อถอื แก้ปญั หาในชวี ติ ประจำวนั ของข้อมูล เชน่ พจิ ารณา ประเภทของเวบ็ ไซต์ ผู้เขยี น วันทเ่ี ผยแพร่ข้อมูล การอ้างอิง - เมื่อได้ข้อมลู ทต่ี ้องการจาก เว็บไซต์ตา่ ง ๆ จะตอ้ งนำ เน้ือหามาพจิ ารณา เปรยี บเทยี บ แลว้ เลือกขอ้ มลู ทีม่ ีความสอดคล้องและสัมพันธ์ กนั - การทำรายงานหรือการ นำเสนอข้อมลู จะต้อง นำข้อมูล มาเรยี บเรยี ง สรปุ เป็นภาษา ของตนเอง ท่ีเหมาะสมกบั กลุ่มเป้าหมายและวิธกี าร นำเสนอ (บูรณาการกับวชิ า ภาษไทย) - การรวบรวมข้อมูล ทำได้โดย กำหนดหวั ขอ้ ท่ีต้องการ เตรียมอุปกรณ์ในการจดบนั ทึก - การประมวลผลอยา่ งง่าย เชน่ เปรยี บเทียบ จดั กล่มุ เรยี งลำดับ การหาผลรวม - วิเคราะห์ผลและสร้าง ทางเลือกที่เปน็ ไปได้ ประเมิน ทางเลอื ก (เปรียบเทยี บ ตดั สิน) - การนำเสนอข้อมลู ทำได้ หลายลกั ษณะตาม ความ เหมาะสม เช่น การบอกเล่า เอกสารรายงาน โปสเตอร์ โปรแกรมนำเสนอ  ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๕๕ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน รหสั ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง - ตวั ช้วี ดั 5. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ - การใชซ้ อฟตแ์ วร์เพื่อ อยา่ งปลอดภยั เขา้ ใจสิทธแิ ละ แกป้ ัญหาในชวี ิตประจำวัน เชน่ หนา้ ที่ของตน เคารพในสทิ ธิ การสำรวจเมนูอาหารกลางวัน ของผู้อ่ืน แจ้งผูเ้ กี่ยวข้องเม่ือ โดยใชซ้ อฟต์แวร์สร้าง แบบสอบถามและเก็บข้อมูล พบข้อมูล หรอื บุคคลที่ไม่ ใช้ซอฟต์แวร์ตารางทำงานเพ่ือ เหมาะสม ประมวลผลขอ้ มูล รวบรวม ขอ้ มูลเกย่ี วกบั คุณคา่ ทาง โภชนาการและสร้างรายการ อาหารสำหรับ 5 วัน ใช้ ซอฟตแ์ วร์นำเสนอผลการ สำรวจ รายการอาหารทเ่ี ป็น ทางเลือก และข้อมูลด้าน โภชนาการ - การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ อยา่ งปลอดภัย เขา้ ใจสทิ ธแิ ละ หนา้ ที่ของตน เคารพในสิทธิ ของผู้อน่ื เชน่ ไมส่ รา้ งข้อความ เท็จและส่งให้ผู้อน่ื ไม่สร้าง ความเดือดร้อนต่อผูอ้ ืน่ โดยการ สง่ สแปม ข้อความลกู โซ่ ส่งต่อ โพสตท์ ่ีมีข้อมลู ส่วนตัวของผู้อื่น ส่งคำเชิญเล่นเกม ไม่เข้าถึง ขอ้ มูลส่วนตัวหรือการบ้านของ บคุ คลอ่ืนโดยไม่ไดร้ ับอนุญาต ไมใ่ ช้เครื่องคอมพวิ เตอร์/ ชอ่ื บัญชีของผู้อื่น - การส่ือสารอยา่ งมมี ารยาท และรกู้ าลเทศะ - การปกป้องข้อมลู ส่วนตัว เช่น การออกจากระบบเม่ือเลิก ใช้งาน ไม่บอกรหสั ผา่ น ไม่ บอกเลขประจำตัวประชำชน  ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๕๖ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ตัวชว้ี ัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลาง ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5 สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับ สิ่งมีชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ เปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม แนวทางในการอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาติและการแกไ้ ขปญั หาสิง่ แวดล้อมรวมทั้งนำความรู้ไป ใช้ประโยชน์ รหัส ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น ตวั ชี้วดั ว 1.1 1. บรรยายโครงสร้างและ - สง่ิ มีชวี ติ ท้งั พชื และสัตวม์ ี - ป 5/1 ลักษณะของส่งิ มชี ีวิตที่ โครงสร้างและลกั ษณะ ที่ เหมาะสมกับการดำรงชวี ิตซง่ึ เหมาะสมในแต่ละแหลง่ ท่อี ยู่ เปน็ ผลมาจากการปรับตัวของ ซ่งึ เปน็ ผลมาจาก การปรับตวั สงิ่ มชี วี ติ ในแตล่ ะแหลง่ ที่อยู่ ของสงิ่ มีชีวติ เพ่ือให้ดำรงชีวติ และอยรู่ อดไดใ้ นแตล่ ะแหลง่ ท่ี อยู่ เช่น ผักตบชวามีช่อง อากาศในก้านใบ ชว่ ยใหล้ อย น้ำได้ ตน้ โกงกางที่ข้ึนอยู่ใน ป่า ชายเลนมรี ากค้ำจนุ ทำให้ลำต้น ไมล่ ม้ ปลามีครบี ชว่ ยในการ เคลือ่ นที่ในน้ำ ว 1.1 2. อธบิ ายความสัมพนั ธ์ - ในแหลง่ ท่ีอยูห่ นึง่ ๆ ส่ิงมชี ีวิต - สำรวจ และอธบิ าย ป 5/2 ระหว่างสงิ่ มชี วี ิตกบั ส่งิ มีชวี ิต จะมีความสัมพันธ์ ซง่ึ กนั และ ความสมั พนั ธ์ของสง่ิ มชี ีวติ ที่พบ และความสัมพนั ธ์ระหว่าง สงิ่ มชี ีวิตกบั กันและสมั พันธ์กับสงิ่ ไมม่ ีชีวติ ในโรงเรียน และชายฝงั่ ทะเล ว 1.1 3. เขยี นโซอ่ าหารและระบุ เพอ่ื ประโยชนต์ อ่ การดำรงชวี ิต ป 5/3 บทบาทหนา้ ท่ีของสง่ิ มชี ีวติ ที่ เช่น ความสัมพนั ธก์ นั ด้านการ - เขยี นโซอ่ าหารแสดง เปน็ ผผู้ ลติ และผู้บรโิ ภคในโซ่ อาหาร กินกนั เป็นอาหาร เปน็ แหลง่ ท่ี ความสมั พันธ์ของสิง่ มีชีวิต ว 1.1 4. ตระหนักในคุณคา่ ของ อยู่อาศยั หลบภัยและเลย้ี งดู ภายในโรงเรยี น และบรเิ วณ ป 5/4 ส่งิ แวดลอ้ มท่ีมีตอ่ การ ลกู ออ่ น ใช้อากาศในการ ชายหาด ดำรงชวี ิตของสิ่งมีชีวติ โดยมี หายใจ - ส่งิ มชี ีวิตมีการกนิ กนั เปน็ อาหารโดยกนิ ต่อกัน เป็นทอด ๆ ในรปู แบบของโซ่อาหารทำ  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๕๗ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น รหสั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตัวชว้ี ัด ใหส้ ามารถระบุบทบาทหนา้ ที่ สว่ นรว่ ม ในการดูแลรกั ษา ของสิง่ มชี ีวติ เป็นผผู้ ลติ และ ผบู้ รโิ ภค สิง่ แวดล้อม สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารผ่านเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหนา้ ทขี่ องระบบต่าง ๆ ของสตั ว์และมนุษย์ทท่ี ำงานสัมพนั ธ์กัน ความสัมพันธ์ ของโครงสร้าง และหน้าทข่ี องอวยั วะตา่ ง ๆ ของพชื ทท่ี ำงานสัมพนั ธก์ ันรวมทั้งนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ รหสั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน ตัวช้ีวัด - - - - สาระที่ 1 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พนั ธกุ รรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธกุ รรมทมี่ ีผลต่อสง่ิ มีชวี ิต ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวฒั นาการของ สงิ่ มีชวี ิต รวมทง้ั นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ รหสั ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ ตัวชีว้ ดั - ว 1.2 1. อธบิ ายลกั ษณะทาง - ส่ิงมชี วี ติ ท้ังพชื สตั ว์ และ - ป 5/1 พนั ธกุ รรมท่ีมีการถ่ายทอดจาก มนุษย์ เมื่อโตเต็มทีจ่ ะมีการ พอ่ แม่สูล่ ูกของพืช สัตว์ และ สืบพนั ธุ์เพ่อื เพิ่มจำนวนและ มนุษย์ ดำรงพนั ธ์ุ โดยลกู ท่ีเกิดมาจะ ว 1.2 2. แสดงความอยากรู้อยาก ได้รับการถา่ ยทอดลักษณะทาง พันธุกรรมจากพ่อแม่ทำให้มี ป 5/2 เหน็ โดยการถามคำถาม เกย่ี วกบั ลักษณะทีค่ ลา้ ยคลงึ กัน ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมทเี่ ฉพาะ ของตนเองกบั พ่อแม่ แตกต่าง  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๕๘ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของ สสารกบั โครงสรา้ งและแรงยดึ เหน่ียวระหวา่ งอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี รหสั ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิน่ ตวั ชีว้ ัด ว 2.1 1. อธบิ ายการเปลีย่ นสถานะ - การเปลี่ยนสถานะของสสาร - ทดลอง และอธิบายการ ป 5/1 ของสสาร เมื่อทำให้สสารร้อน เป็นการเปลย่ี นแปลงทาง เปลย่ี นสถานะของนำ้ ทะเล ขึ้นหรอื เยน็ ลง โดยใช้หลักฐาน กายภาพ เมื่อเพ่ิมความร้อน เมอ่ื ไดร้ ับความร้อน เชงิ ประจกั ษ์ ใหก้ ับสสารถงึ ระดับหนึ่งจะทำ - วิเคราะห์ผลผลติ ทไ่ี ด้ เมื่อให้ ให้สสารท่เี ปน็ ของแข็งเปล่ยี น ความร้อนกบั น้ำทะเลจนนำ้ สถานะเปน็ ของเหลว เรยี กว่า ระเหยออกหมด การหลอมเหลว และเมื่อเพิ่ม ความร้อนต่อไปจนถงึ อีกระดับ หน่ึงของเหลวจะเปลี่ยนเป็น แกส๊ เรยี กวา่ การกลายเป็นไอ แต่เมอื่ ลดความร้อนลงถงึ ระดับ หน่งึ แกส๊ จะเปลี่ยนสถานะเป็น ของเหลว เรยี กวา่ การ ควบแนน่ และถ้าลดความร้อน ตอ่ ไปอีกจนถึงระดบั หนงึ่ ของเหลวจะเปลยี่ นสถานะเป็น ของแขง็ เรยี กว่า การแข็งตวั สสารบางชนดิ สามารถเปล่ียน สถานะจากของแข็งเป็นแก๊ส โดยไมผ่ ่านการเปน็ ของเหลว เรียกวา่ การระเหิด สว่ นแก๊ส บางชนดิ สามารถเปลีย่ น สถานะเป็นของแข็งโดยไม่ผ่าน การเป็นของเหลว เรียกวา่ กา ระเหิดกลบั ว 2.1 2. อธบิ ายการละลายของสาร - เม่ือใส่สารลงในน้ำแล้วสาร - ป 5/2 ในนำ้ โดยใช้หลกั ฐานเชิง น้นั รวมเป็นเน้ือเดยี วกันกับน้ำ ประจกั ษ์ ท่ัวทุกส่วน แสดงว่าสารเกิด การละลาย เรียกสารผสมท่ีได้ ว่าสารละลาย  ระดับประถมศึกษา

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กล่มุ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๕๙ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน - รหัส ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตวั ช้วี ัด - - เมอื่ ผสมสาร 2 ชนิดข้ึนไป ว 2.1 3. วิเคราะห์การเปลยี่ นแปลง แล้วมีสารใหมเ่ กิดขึน้ ซึ่งมี สมบัติตา่ งจากสารเดิม หรือ ป 5/3 ของสาร เม่ือเกิดการ เมอ่ื สารชนิดเดยี ว เกิดการ เปลีย่ นแปลงแลว้ มสี ารใหม่ เปล่ียนแปลงทางเคมี โดยใช้ เกิดข้ึน การเปล่ียนแปลงนี้ เรียกว่า การเปล่ียนแปลงทาง หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ เคมี ซงึ่ สงั เกตได้จากมีสี หรือ กลิ่นตา่ งจากสารเดิม หรอื มี ว 2.1 4. วเิ คราะหแ์ ละระบุการ ฟองแกส๊ หรือมตี ะกอนเกดิ ขึ้น ป 5/4 เปลย่ี นแปลงท่ผี ันกลบั ได้และ หรือมกี ารเพมิ่ ขน้ึ หรอื ลดลง ของอุณหภมู ิ การเปล่ียนแปลงที่ผันกลบั เมื่อสารเกิดการเปล่ยี นแปลง ไมไ่ ด้ แลว้ สารสามารถเปล่ียนกลับ เปน็ สารเดิมได้ เป็นการ เปลีย่ นแปลงท่ีผันกลบั ได้ เชน่ การหลอมเหลว การกลายเป็น ไอ การละลาย แต่สาร บางอย่างเกิดการเปลย่ี นแปลง แล้วไม่สามารถเปล่ยี นกลับเป็น สารเดมิ ได้ เป็นการ เปลี่ยนแปลงทผ่ี ันกลบั ไมไ่ ด้ เช่น การเผาไหม้ การเกดิ สนมิ  ระดับประถมศึกษา

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๖๐ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ลักษณะการ เคลื่อนท่แี บบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมท้งั นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ รหสั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น ตัวชว้ี ัด 1. อธิบายวธิ ีการหาแรงลัพธ์ - ว 2.1 ของแรงหลายแรงในแนว - แรงลพั ธเ์ ปน็ ผลรวมของแรงท่ี - ป 5/1 เดยี วกนั ทีก่ ระทำต่อวัตถใุ น กระทำต่อวัตถุ โดยแรงลัพธ์ - กรณที ่ีวัตถุอยู่น่ิงจากหลักฐาน ของแรง 2 แรงท่ีกระทำต่อ ว 2.1 เชงิ ประจักษ์ วตั ถเุ ดียวกันจะมีขนาดเท่ากับ - ป 5/2 2. เขยี นแผนภาพแสดงแรงท่ี ผลรวมของแรงท้ังสองเม่ือแรง - กระทำตอ่ วตั ถุท่ีอยู่ในแนว ท้ังสอง อยใู่ นแนวเดียวกนั และ ว 2.1 เดยี วกันและแรงลัพธท์ ก่ี ระทำ มีทิศทางเดยี วกัน แต่จะมีขนาด ป 5/3 ต่อวตั ถุ เท่ากับผลต่างของแรงทัง้ สอง 3. ใช้เครอ่ื งช่งั สปรงิ ในการวัด เมอ่ื แรงทั้งสอง อยู่ในแนว ว 2.1 แรงท่กี ระทำต่อวัตถุ เดียวกันแตม่ ีทิศทางตรงขา้ ม ป 5/4 กัน สำหรบั วตั ถุที่อยู่น่ิง แรง 4. ระบุผลของแรงเสยี ดทานท่ี ลพั ธท์ ่ีกระทำต่อวตั ถุมีค่าเปน็ ว 2.1 มีต่อ การเปลยี่ นแปลงการ ศนู ย์ ป 5/5 เคลอ่ื นที่ของวัตถจุ ากหลักฐาน - การเขยี นแผนภาพของแรงที่ เชงิ ประจักษ์ กระทำต่อวตั ถสุ ามารถเขียนได้ 5. เขยี นแผนภาพแสดงแรง โดยใชล้ กู ศร โดยหัวลูกศร เสยี ดทานและแรง ท่ีอยู่ในแนว แสดงทศิ ทางของแรง และ เดียวกนั ที่กระทำต่อวัตถุ ความยาวของลกู ศรแสดงขนาด ของแรงทกี่ ระทำตอ่ วตั ถุ -แรงเสียดทานเปน็ แรงทเี่ กดิ ข้ึน ระหว่างผวิ สัมผัสของวตั ถุ เพ่ือ ตา้ นการเคลื่อนทีข่ องวัตถนุ ั้น โดยถ้าออกแรงกระทำต่อวัตถุท่ี อย่นู ิง่ บนพน้ื ผิวหน่ึงใหเ้ คล่ือนที่ แรงเสยี ดทานจากพืน้ ผิวน้ันก็ จะต้านการเคลอ่ื นที่ของวตั ถุ แต่ถ้ำวัตถุกำลังเคลื่อนท่ี แรง เสียดทานก็จะทำใหว้ ัตถนุ ้นั เคล่อื นท่ีช้ำลง หรอื หยดุ น่ิง  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๖๑ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้อง กับเสียง แสง และคลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมทง้ั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ รหสั ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ ตวั ชี้วัด - - การไดย้ ินเสยี งนน้ั ตอ้ งอาศัย ว 2.3 1. อธบิ ายการได้ยนิ เสียงผา่ น ตวั กลางโดยอาจเป็นของแขง็ - ของเหลว หรืออากาศ เสยี งจะ - ป 5/1 ตัวกลาง จากหลกั ฐานเชิง สง่ ผา่ นตัวกลางมายงั หู - ความถ่ีของการสัน่ ของ - ประจกั ษ์ แหล่งกำเนดิ เสยี ง โดยเมื่อ แหล่งกำเนิดเสียงสัน่ ด้วย ว 2.3 2. ระบุตวั แปร ทดลองและ ความถต่ี ่ำจะเกดิ เสยี งตำ่ แตถ่ ้ำ ป 5/2 อธบิ าย ลกั ษณะและการเกิด สน่ั ดว้ ยความถ่สี งู จะเกิดเสียง สูง ส่วนเสียงดังค่อยที่ไดย้ ิน เสยี งสงู เสยี งตำ่ ขน้ึ กับพลังงานการสนั่ ของ แหล่งกำเนดิ เสยี ง โดยเม่ือ ว 2.3 3. ออกแบบกำรทดลองและ แหลง่ กำเนดิ เสยี งสน่ั พลงั งาน ป 5/3 อธิบาย ลักษณะและการเกดิ มากจะเกดิ เสยี งดัง แต่ถ้า แหลง่ กำเนิดเสียงสัน่ ดว้ ย เสียงดงั เสียงคอ่ ย พลงั งานน้อยจะเกดิ เสียงค่อย - เสียงดงั มาก ๆ เป็นอันตราย ว 2.3 4. วดั ระดับเสียงโดยใช้ ต่อการไดย้ ินและเสยี งท่ี ป 5/4 เครื่องมือวดั ระดับเสียง ก่อใหเ้ กดิ ความรำคาญเป็น มลพษิ ทางเสยี ง เดซเิ บลเปน็ ว 2.3 5. ตระหนักในคุณค่ำของ หนว่ ยทบ่ี อกถึงความดังของ ป 5/5 ความร้เู รื่องระดับเสียงโดย เสยี ง เสนอแนะแนวทางในการ หลีกเลี่ยงและลดมลพิษทาง เสียง  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๖๒ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบริหารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระที่ 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกิด และววิ ัฒนาการของเอกภพ กาแลก็ ซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตและการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยอี วกาศ รหัส ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน ตัวชว้ี ดั - - ดาวท่ีมองเห็นบนท้องฟ้าอยู่ ว 3.1 1. เปรยี บเทยี บความแตกต่าง ในอวกาศซ่งึ เปน็ บรเิ วณที่อยู่ - นอกบรรยากาศของโลกมที ้ัง ป 5/1 ของดาวเคราะห์และดาวฤกษ์ ดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์ ดาว ฤกษเ์ ปน็ แหลง่ กำเนดิ แสงจงึ จากแบบจำลอง สามารถมองเหน็ ได้ ส่วนดาว เคราะห์ ไม่ใชแ่ หล่งกำเนิดแสง ว 3.1 2. ใชแ้ ผนทดี่ าวระบุตำแหน่ง แตส่ ามารถมองเหน็ ได้ ป 5/2 และเสน้ ทาง การขนึ้ และตก เน่ืองจากแสงจากดวงอาทิตย์ ตกกระทบดาวเคราะห์แลว้ ของกลุ่มดาวฤกษบ์ นท้องฟ้า สะท้อนเข้าสู่ตำ และอธิบายแบบรปู เสน้ ทาง การข้ึนและตก ของกล่มุ ดาว - การมองเหน็ กลมุ่ ดาวฤกษ์มี ฤกษบ์ นท้องฟา้ ในรอบปี รปู รา่ งต่าง ๆ เกดิ จาก จนิ ตนาการของผสู้ งั เกต กล่มุ ดาวฤกษต์ ่าง ๆ ทปี่ รากฏใน ท้องฟ้าแตล่ ะกลมุ่ มดี าวฤกษแ์ ต่ ละดวงเรียงกันที่ตำแหนง่ คงที่ และมีเส้นทางการขึ้นและตก ตามเสน้ ทางเดิมทุกคนื ซ่ึงจะ ปรากฏตำแหนง่ เดิมการสังเกต ตำแหนง่ และการขน้ึ และตก ของดาวฤกษ์และกลุ่มดาวฤกษ์ สามารถทำได้โดยใช้แผนทีด่ าว ซง่ึ ระบมุ ุมทิศและมุมเงยท่ีกลุ่ม ดาวนน้ั ปรากฏ ผู้สงั เกต สามารถใชม้ ือในการประมาณ คา่ ของมมุ เงยเมื่อสงั เกตดาวใน ท้องฟ้า  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณพี ิบัตภิ ัย กระบวนการเปลย่ี นแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลกรวมท้ังผลต่อ ส่งิ มชี ีวิตและสิ่งแวดลอ้ ม รหสั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ ตัวช้วี ัด - ว 3.2 1. เปรียบเทียบปริมาณน้ำใน - โลกมที ้ังน้ำจดื และนำ้ เคม็ ซ่ึง - - ป 5/1 แตล่ ะแหลง่ และระบปุ ริมาณ อยู่ในแหล่งนำ้ ต่าง ๆ ที่มีท้งั น้ำท่ีมนุษย์สามารถนำมาใช้ แหล่งน้ำผิวดิน เชน่ ทะเล ประโยชน์ได้ จากข้อมูลท่ี มหาสมทุ ร บึง แม่น้ำ และ รวบรวมได้ แหล่งนำ้ ใต้ดิน เช่น น้ำในดิน และน้ำบาดาล น้ำทั้งหมดของ โลกแบง่ เปน็ น้ำเค็มประมาณ รอ้ ยละ 97.5ซ่งึ อยใู่ น มหาสมุทรและแหลง่ น้ำอื่น ๆ และที่เหลอื อกี ประมาณร้อยละ 2.5 เป็นนำ้ จืด ถ้ำเรยี งลำดบั ปริมาณนำ้ จืดจากมากไปน้อย จะอยทู่ ่ี ธารนำ้ แข็งและพืด นำ้ แข็ง นำ้ ใตด้ ิน ช้นั ดินเยอื ก แข็งคงตัวและน้ำแขง็ ใต้ดิน ทะเลสาบ ความชื้นในดิน ความช้ืนในบรรยากาศ บงึ แมน่ ำ้ และนำ้ ในสิ่งมีชวี ติ ว 3.2 2. ตระหนักถงึ คุณค่าของนำ้ - นำ้ จืดทีม่ นุษย์นำมาใชไ้ ด้มี ป 5/2 โดยนำเสนอแนวทาง การใชน้ ำ้ ปริมาณนอ้ ยมาก จึงควรใช้นำ้ อยา่ งประหยดั และการอนรุ ักษ์ อยา่ งประหยัดและร่วมกัน น้ำ อนุรักษ์น้ำ ว 3.2 3. สร้างแบบจำลองทีอ่ ธบิ าย - วฏั จกั รนำ้ เป็นการหมนุ เวยี น ป 5/3 การหมนุ เวียน ของน้ำในวัฏ ของนำ้ ท่ีมแี บบรปู ซ้ำเดิม และ จกั รนำ้ ต่อเน่อื งระหว่างน้ำใน บรรยากาศ นำ้ ผิวดิน และน้ำ ใตด้ นิ โดยพฤติกรรมการ ดำรงชวี ติ ของพืชและสตั ว์สง่ ผล ต่อวัฏจักรนำ้  ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ รหัส ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิน่ ตัวชว้ี ดั - - ไอน้ำในอากาศจะควบแน่น ว 3.2 4. เปรียบเทยี บกระบวนการ เปน็ ละอองนำ้ เลก็ ๆ โดยมี - ละอองลอย เชน่ เกลือ ฝนุ่ ป 5/4 เกิดเมฆ หมอก นำ้ คา้ ง และ ละออง เกสรดอกไม้ เปน็ อนุภาคแกนกลาง เม่ือละออง นำ้ ค้างแข็ง จากแบบจำลอง น้ำจำนวนมากเกาะกล่มุ รวมกัน ลอยอยูส่ ูงจากพืน้ ดินมาก ว 3.2 5. เปรียบเทียบกระบวนการ เรียกวา่ เมฆ แตล่ ะอองนำ้ ท่ี ป 5/5 เกิดฝน หมิ ะ และลกู เห็บ จาก เกาะกลุ่มรวมกนั อยู่ใกล้พื้นดิน เรยี กวา่ หมอก สว่ นไอนำ้ ท่ี ขอ้ มูลทร่ี วบรวมได้ ควบแนน่ เปน็ ละอองน้ำเกาะอยู่ บนพืน้ ผิววตั ถุใกล้พื้นดิน เรยี กวา่ น้ำค้าง ถ้ำอณุ หภมู ิ ใกลพ้ ื้นดินต่ำกวา่ จุดเยือกแข็ง นำ้ ค้างกจ็ ะกลายเปน็ น้ำคา้ ง แข็ง - ฝน หมิ ะ ลกู เหบ็ เปน็ หยาด น้ำฟ้าซ่ึงเปน็ น้ำทม่ี สี ถานะตา่ ง ๆ ทีต่ กจากฟ้าถึงพืน้ ดนิ ฝน เกดิ จากละอองนำ้ ในเมฆที่ รวมตัวกนั จนอากาศไมส่ ามารถ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสมโดยคำนึงถงึ ผลกระทบตอ่ ชีวิต สงั คม และส่ิงแวดล้อม รหสั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน ตัวชวี้ ดั - - - -  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๖๕ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รเู้ ท่าทัน และมีจริยธรรม รหัส ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถน่ิ ตวั ชว้ี ัด - - การใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะเปน็ ว 4.2 1. ใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการ การนำกฎเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่ ครอบคลุมทกุ กรณีมาใช้ ป 5/1 แกป้ ญั หา การอธบิ ายการ พจิ ารณา ในการแก้ปัญหา การ อธิบายการทำงาน หรอื การ ทำงาน การคาดการณผ์ ลลพั ธ์ คาดการณผ์ ลลัพธ์ - สถานะเริม่ ต้นของการทำงาน จากปญั หาอย่างงา่ ย ทแี่ ตกต่างกันจะใหผ้ ลลพั ธท์ ี่ แตกตา่ งกัน ว 4.2 2. ออกแบบและเขียน - ตวั อยา่ งปญั หา เชน่ เกม ป 5/2 โปรแกรมท่ีมีการใช้เหตุผลเชิง Sudoku , โปรแกรมทำนาย ตัวเลข, โปรแกรมสร้างรปู ตรรกะอย่างง่าย ตรวจหา เรขาคณติ ตามค่าข้อมลู เขา้ , ข้อผดิ พลาดและแก้ไข การจดั ลำดบั การทำงานบา้ น ในช่วงวันหยุด, จัดวางของใน ครัว - การออกแบบโปรแกรม สามารถทำไดโ้ ดยเขยี น เป็น ขอ้ ความ หรอื ผงั งาน - การออกแบบและเขียน โปรแกรมทม่ี ีการตรวจสอบ เงอื่ นไขที่ครอบคลุมทุกกรณี เพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธท์ ี่ถกู ต้องตรง ตามความต้องการ - หากมขี ้อผดิ พลาดให้ ตรวจสอบการทำงาน ทีละ คำสัง่ เม่ือพบจุดท่ีทำใหผ้ ลลัพธ์ ไม่ถูกต้อง ใหท้ ำการแก้ไข จนกว่าจะได้ผลลัพธท์ ี่ถูกต้อง  ระดับประถมศึกษา

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๖๖ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น รหัส ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตัวชีว้ ัด - การฝึกตรวจหาข้อผิดพลาด ว 4.2 3. ใชอ้ นิ เทอร์เนต็ ค้นหาขอ้ มูล จากโปรแกรมของผู้อ่นื จะชว่ ย ป 5/3 ตดิ ต่อสอื่ สารและทำงาน พัฒนาทกั ษะการหาสาเหตุของ ปญั หาได้ดยี ง่ิ ขน้ึ รว่ มกัน ประเมนิ ความ - ตัวอย่างโปรแกรม เชน่ น่าเช่ือถอื ของข้อมลู โปรแกรมตรวจสอบเลขคู่เลขค่ี โปรแกรมรับข้อมูลน้ำหนกั หรือ สว่ นสงู แล้วแสดงผลความสม สว่ นของร่างกาย, โปรแกรมสั่ง ให้ ตัวละครทำตามเง่ือนไขท่ี กำหนด - ซอฟตแ์ วรท์ ี่ใชใ้ นการเขียน โปรแกรม เชน่ Scratch, logo - การค้นหาข้อมูลใน อนิ เทอรเ์ น็ต และการพจิ ารณา ผลการค้นหา - การตดิ ตอ่ สื่อสารผา่ น อนิ เทอรเ์ นต็ เชน่ อเี มล บล็อก โปรแกรมสนทนา - การเขยี นจดหมาย (บูรณา การกับวิชาภาษาไทย) - การใช้อนิ เทอร์เน็ตในการ ตดิ ต่อส่ือสารและทำงาน ร่วมกัน เชน่ ใชน้ ดั หมายในการ ประชมุ กลุ่ม ประชำสัมพันธ์ กิจกรรมในห้องเรียน การ แลกเปลยี่ นความรู้ ความ คดิ เห็นในการเรียน ภายใต้การ ดแู ลของครู - การประเมนิ ความนา่ เชื่อถือ ของขอ้ มูล เช่น เปรียบเทยี บ ความสอดคล้อง สมบูรณ์ของ ข้อมลู จากหลายแหลง่ แหล่ง  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๖๗ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ รหัส ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตวั ช้วี ัด ตน้ ตอของข้อมูล ผเู้ ขียน วันท่ี ว 4.2 4. รวบรวม ประเมนิ นำเสนอ เผยแพร่ข้อมูล ป 5/4 ข้อมลู และสารสนเทศ ตาม - ข้อมลู ทดี่ ตี ้องมีรายละเอียด ครบทุกด้าน เช่น ข้อดแี ละ วัตถปุ ระสงค์โดยใช้ซอฟต์แวร์ ข้อเสยี ประโยชน์และโทษ หรอื บริการบนอินเทอร์เน็ตที่ หลากหลาย เพอื่ แก้ปญั หาใน - การรวบรวมขอ้ มูล ชีวิตประจำวัน ประมวลผล สรา้ งทางเลือก ประเมินผล จะทำให้ได้ ว 4.2 5. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ สารสนเทศเพื่อใช้ในการ ป 5/5 อยา่ งปลอดภยั มีมารยาท แก้ปญั หาหรือการตัดสนิ ใจได้ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ เข้าใจสิทธิและหนา้ ทขี่ องตน - การใช้ซอฟต์แวร์หรอื บรกิ าร เคารพในสิทธขิ องผู้อ่ืน แจง้ บนอินเทอร์เนต็ ที่หลากหลาย ผูเ้ ก่ียวขอ้ งเมอ่ื พบข้อมูลหรือ ในการรวบรวม ประมวลผล บุคคลท่ีไม่เหมาะสม สร้างทางเลือก ประเมนิ ผล นำเสนอ จะชว่ ยให้การ แก้ปญั หาทำได้อยา่ งรวดเรว็ ถกู ต้อง และแม่นยำ - ตวั อยา่ งปัญหา เชน่ ถา่ ยภาพ และสำรวจแผนที่ ในท้องถน่ิ เพ่อื นำเสนอแนวทางในการ จดั การพืน้ ท่ีวา่ งให้เกิด ประโยชน์ ทำแบบสำรวจ ความคิดเห็นออนไลน์ และ วิเคราะห์ข้อมลู นำเสนอข้อมูล โดยการใช้ Blog หรอื web page อนั ตรายจากการใชง้ านและ อาชญากรรม ทางอินเทอร์เน็ต - มารยาทในการติดต่อส่ือสาร ผา่ นอินเทอร์เน็ต (บูรณาการ กบั วชิ าท่เี กี่ยวข้อง)  ระดับประถมศึกษา

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๖๘ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ตวั ช้วี ัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลาง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับ สิ่งมีชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ เปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและการแก้ไขปญั หาสง่ิ แวดล้อมรวมทั้งนำความรู้ไป ใชป้ ระโยชน์ รหัส ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน ตัวชี้วดั - - - - สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลียงสารผ่านเซลล์ ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้าง และหน้าท่ีของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนษุ ย์ที่ทางานสัมพนั ธ์กัน ความสัมพันธ์ ของโครงสร้าง และหนา้ ทขี่ องอวยั วะตา่ ง ๆ ของพชื ท่ีทางานสมั พันธก์ ันรวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ รหัส ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน ตัวชว้ี ดั - - ว 1.2 1. ระบุสารอาหารและบอก - สารอาหารทอี่ ยู่ในอาหารมี 6 - ป 6/1 ประโยชนข์ องสารอาหารแตล่ ะ ประเภท ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต ประเภทจากอาหารทตี่ นเอง โปรตีน ไขมัน เกลือแร่ วติ ามิน รับประทาน และนำ้ ว 1.2 2. บอกแนวทางในการเลือก - อาหารแตล่ ะชนิด ประกอบดว้ ยสารอาหาร ที่ ป 6/2 รับประทานอาหารให้ได้ สารอาหารครบถ้วนในสัดสว่ น แตกตา่ งกนั อาหารบางอย่าง ท่เี หมาะสมกับเพศและวัย ประกอบด้วยสารอาหาร รวมท้งั ความปลอดภยั ตอ่ ประเภทเดียว อาหารบางย่าง สุขภาพ ประกอบดว้ ยสารอาหาร ว 1.2 3. ตระหนกั ถงึ ความสำคญั ของ มากกว่าหนึ่งประเภท ป 6/3 สารอาหาร โดยการเลือก - สารอาหารแต่ละประเภทมี รับประทานอาหารที่มีสารอำ ประโยชน์ตอ่ ร่างกายแตกต่าง หารครบถว้ นในสดั ส่วนที่ กัน โดยคารโ์ บไฮเดรต โปรตีน และไขมนั เป็นสารอาหารที่ให้  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๖๙ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน รหสั ตวั ช้วี ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง - ตวั ชีว้ ดั - เหมาะสมกับเพศและวยั พลงั งานแก่ร่างกาย ส่วนเกลือ รวมท้งั ปลอดภยั ต่อสุขภาพ แร่ วิตามินและนำ้ เป็น สารอาหารทไ่ี มใ่ ห้พลงั งานแก่ รา่ งกาย แต่ชว่ ยให้ร่างกาย ทำงานได้เปน็ ปกติ – การ รบั ประทานอาหารเพอ่ื ให้ ร่างกายเจรญิ เตบิ โต มกี าร เปลีย่ นแปลงของร่างกายตาม เพศและวัย และ มีสขุ ภาพดี จำเปน็ ตอ้ งรบั ประทานให้ได้ พลังงานเพียงพอกบั ความ ต้องการของรา่ งกาย และให้ได้ สารอาหารครบถ้วนในสัดส่วน ท่เี หมาะสมกบั เพศ และวยั รวมทงั้ ต้องคำนึงถึงชนิดและ ปริมาณของวตั ถุ เจือปนใน อาหารเพ่ือความปลอดภยั ต่อ สุขภาพ ว 1.2 4. สร้างแบบจำลองระบบย่อย - ระบบยอ่ ยอาหาร ป 6/4 อาหาร และบรรยายหน้าที่ของ ประกอบดว้ ยอวยั วะตา่ ง ๆ อวยั วะในระบบยอ่ ยอาหาร ไดแ้ ก่ ปาก หลอดอาหาร รวมทง้ั อธบิ ายการย่อยอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก และการดดู ซมึ สารอาหาร ลำไสใ้ หญ่ ทวารหนัก ตับ และ ว 1.2 5. ตระหนกั ถึงความสำคัญของ ตบั ออ่ น ซ่ึงทำหนา้ ทีร่ ่วมกนั ใน ป 6/5 ระบบยอ่ ยอาหาร โดยการบอก การยอ่ ยและดดู ซึมสารอาหาร แนวทางในการดแู ลรกั ษา - ปาก มีฟนั ชว่ ยบดเค้ียวอำ อวยั วะในระบบย่อยอาหารให้ หารใหม้ ขี นาดเล็กลงและมีลิน้ ทำงานเป็นปกติ ชว่ ยคลกุ เคลา้ อาหารกับนำ้ ลาย ในน้ำลาย มเี อนไซมย์ ่อยแป้ง ใหเ้ ป็นน้ำตาล – หลอดอาหาร ทำหนา้ ท่ี ลำเลยี งอาหารจากปาก ไปยัง กระเพาะอาหาร ภายใน กระเพาะอาหารมีการย่อย  ระดับประถมศึกษา

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๗๐ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถน่ิ รหัส ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ตวั ช้ีวัด โปรตนี โดยกรดและเอนไซม์ท่ี สรา้ งจากกระเพาะอาหาร - ลำไส้เลก็ มีเอนไซมท์ ส่ี ร้าง จากผนงั ลำไส้เลก็ เองและจาก ตับอ่อนทีช่ ว่ ยยอ่ ยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน โดย โปรตนี คารโ์ บไฮเดรต และ ไขมัน ที่ผ่านการย่อยจนเป็น สารอาหารขนาดเล็กพอท่จี ะ ดูดซึมได้ รวมถงึ น้ำ เกลือแร่ และวติ ามิน จะถูกดดู ซึม ทีผ่ นงั ลำไสเ้ ล็กเข้าส่กู ระแสเลือด เพ่อื ลำเลยี งไปยังสว่ นต่าง ๆ ของร่างกาย ซ่ึงโปรตนี คาร์โบไฮเดรต และไขมนั จะ ถูกนำไปใช้เปน็ แหลง่ พลังงาน สำหรบั ใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ส่วนนำ้ เกลอื แร่ และวิตามิน จะชว่ ยใหร้ ่างกายทำงานได้เป็น ปกติ - ตบั สรา้ งน้ำดแี ล้วสง่ มายัง ลำไส้เล็กช่วยให้ไขมนั แตกตวั - ลำไส้ใหญท่ ำหน้าทดี่ ดู น้ำ และเกลือแร่ เป็นบริเวณที่มี อาหารท่ีย่อยไม่ได้ หรือยอ่ ยไม่ หมด เป็นกากอาหาร ซงึ่ จะถูก กำจดั ออกทางทวารหนัก - อวัยวะต่าง ๆ ในระบบย่อย อาหาร มีความสำคัญ จงึ ควร ปฏบิ ัตติ น ดแู ลรกั ษาอวยั วะให้ ทำงานเปน็ ปกติ  ระดบั ประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๗๑ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม สาร พนั ธกุ รรม การเปลีย่ นแปลงทางพันธุกรรมที่มผี ลตอ่ สิ่งมชี วี ิต ความหลากหลายทางชวี ภาพและววิ ัฒนาการของ สง่ิ มีชีวิต รวมทัง้ นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ รหสั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น ตวั ชว้ี ดั - - - - สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของ สสารกบั โครงสรา้ งและแรงยดึ เหน่ียวระหว่างอนภุ าค หลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การเกดิ สารละลาย และการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี รหัส ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ ตวั ช้วี ดั - ว 2.1 1. อธบิ ายและเปรียบเทยี บการ - สารผสมประกอบด้วยสาร ป 6/1 แยกสารผสม โดยการหยิบออก ต้ังแต่ 2 ชนิดขน้ึ ไปผสมกัน การรอ่ น การใชแ้ ม่เหล็กดึงดูด เช่น นำ้ มนั ผสมนำ้ ขา้ วสารปน การรินออก การกรอง และการ กรวดทราย วิธีการ ทเ่ี หมาะสม ตกตะกอน โดยใชห้ ลักฐานเชิง ในการแยกสารผสมขึ้นอยู่กับ ประจักษ์ รวมท้ังระบวุ ธิ ี ลกั ษณะและสมบัตขิ องสารที่ แกป้ ัญหาในชวี ติ ประจำวัน ผสมกันถา้ องคป์ ระกอบของ เกี่ยวกับการแยกสาร สารผสมเปน็ ของแข็งกบั ของแขง็ ที่มขี นาดแตกต่างกัน อย่างชัดเจน อาจใชว้ ธิ ีการหยิบ ออกหรือการรอ่ นผา่ นวสั ดุ ท่ีมี รู ถำ้ มีสารใดสารหนึ่งเป็นสาร แมเ่ หล็กอาจใชว้ ธิ ี การใช้ แมเ่ หล็กดงึ ดูด ถ้ำองค์ประกอบ เปน็ ของแขง็ ทีไ่ มล่ ะลายในของเหลว อาจใช้ วิธีการรนิ ออก การกรอง หรอื การตกตะกอน ซ่งึ วธิ ีการแยก สารสามารถนำไปใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจำวันได้  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๗๒ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชีวิตประจำวนั ผลของแรงที่กระทาต่อวตั ถุ ลกั ษณะ การเคลือ่ นทีแ่ บบตา่ ง ๆ ของวตั ถุ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ รหสั ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ ตัวช้ีวัด - ว 2.2 1. อธิบายการเกดิ และผลของ - วตั ถุ ๒ ชนิดทผี่ า่ นการขดั ถู ป 6/1 แรงไฟฟา้ ซ่ึงเกดิ จากวตั ถทุ ผ่ี า่ น แลว้ เม่ือนำเข้าใกล้กนั อาจ การขัดถโู ดยใช้หลักฐานเชิง ดึงดูดหรอื ผลักกนั แรงท่เี กดิ ข้ึน ประจกั ษ์ น้เี ป็นแรงไฟฟา้ ซึ่งเป็นแรงไม่ สัมผัส เกิดข้ึนระหวา่ งวัตถุที่มี ประจไุ ฟฟา้ ซึ่งประจุไฟฟา้ มี 2 ชนิด คอื ประจไุ ฟฟ้าบวก และประจุไฟฟ้าลบ วตั ถทุ ่ีมี ประจไุ ฟฟา้ ชนิดเดียวกนั ผลกั กนั ชนดิ ตรงขา้ มกันดงึ ดูดกนั สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้อง กบั เสียง แสง และคลนื่ แม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมทัง้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ รหสั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ตัวชี้วดั - - วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย ว 2.3 1. ระบสุ ่วนประกอบและ ประกอบด้วยแหลง่ กำเนิด - ไฟฟา้ สายไฟฟา้ และ ป 6/1 บรรยายหน้าที่ ของแต่ละ เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าหรืออปุ กรณ์ ไฟฟ้า แหลง่ กำเนดิ ไฟฟ้า เช่น สว่ นประกอบของวงจรไฟฟา้ ถ่านไฟฉาย หรอื แบตเตอรี่ ทำ หนา้ ทใ่ี ห้พลงั งานไฟฟ้า อยา่ งงา่ ยจากหลักฐานเชงิ สายไฟฟ้าเป็นตวั นำไฟฟ้าทำ หนา้ ท่เี ชื่อมต่อระหวา่ ง ประจกั ษ์ แหล่งกำเนดิ ไฟฟา้ และ เคร่ืองใช้ไฟฟา้ เข้าด้วยกัน ว 2.3 2. เขยี นแผนภาพและต่อ ป 6/2 วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๗๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน รหสั ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง - ตัวช้ีวัด - เคร่อื งใช้ไฟฟ้ามีหนา้ ทีเ่ ปลย่ี น - ว 2.3 3. ออกแบบกำรทดลองและ พลังงานไฟฟา้ เป็นพลังงานอ่ืน - ป 6/3 ทดลองด้วยวิธี - วงจรไฟฟา้ อยา่ งง่าย ทเ่ี หมาะสมในการอธบิ าย ประกอบดว้ ยแหลง่ กำเนิด วิธกี ารและผลของการต่อ ไฟฟา้ สายไฟฟ้า และ เซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนกุ รม เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ หรอื อปุ กรณ์ ไฟฟ้า แหล่งกำเนดิ ไฟฟ้า เช่น ว 2.3 4. ตระหนกั ถงึ ประโยชน์ของ ถา่ นไฟฉาย หรอื แบตเตอรี่ ทำ ป 6/4 ความรู้ของการต่อ หนา้ ที่ใหพ้ ลังงานไฟฟา้ สายไฟฟา้ เปน็ ตัวนำไฟฟ้าทำ เซลล์ไฟฟา้ แบบอนุกรมโดย หนา้ ท่เี ช่ือมต่อระหว่าง บอกประโยชน์และการ แหล่งกำเนิดไฟฟ้า และ ประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวัน เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ เข้าดว้ ยกนั เครอื่ งใช้ไฟฟา้ มหี นา้ ท่เี ปล่ียน ว 2.3 3. ออกแบบกำรทดลองและ พลังงานไฟฟ้าเป็นพลงั งานอ่ืน ป 6/3 ทดลองด้วยวิธี - เม่อื นำเซลลไ์ ฟฟ้าหลายเซลล์ ท่ีเหมาะสมในการอธบิ าย มาตอ่ เรยี งกนั โดยใหข้ ้ัวบวก วธิ ีการและผลของการต่อ ของเซลล์ไฟฟา้ เซลลห์ นึ่งต่อกับ เซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนกุ รม ขวั้ ลบของอกี เซลล์หนงึ่ เปน็ การ ว 2.3 4. ตระหนักถึงประโยชน์ของ ตอ่ แบบอนุกรม ทำให้มี ป 6/4 ความรู้ของการต่อ พลังงานไฟฟา้ เหมาะสมกับ เซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนุกรมโดย เครอ่ื งใช้ไฟฟ้า ซง่ึ การต่อ บอกประโยชนแ์ ละการ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รม ประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจำวนั สามารถนำไปใช้ประโยชนใ์ น ชวี ติ ประจำวนั เชน่ การตอ่ ว 2.3 5. ออกแบบการทดลองและ เซลลไ์ ฟฟ้าในไฟฉาย ป 6/5 ทดลองด้วยวิธีที่เหมาะสมใน - การต่อหลอดไฟฟ้าแบบ การอธบิ ายการต่อหลอดไฟฟ้า อนุกรมเม่ือถอดหลอดไฟฟา้ แบบอนุกรมและแบบขนาน ดวงใดดวงหน่ึงออกทำใหห้ ลอด ว 2.3 6. ตระหนกั ถึงประโยชนข์ อง ไฟฟ้าทเ่ี หลือดบั ทั้งหมด สว่ น ป 6/6 ความรขู้ องการต่อหลอดไฟฟา้ การตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบขนาน แบบอนุกรมและแบบขนาน เมอ่ื ถอดลอดไฟฟ้าดวงใดดวง โดยบอกประโยชน์ ข้อจำกดั หนงึ่ ออก หลอดไฟฟา้ ท่ีเหลือ  ระดับประถมศึกษา

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๗๔ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ รหสั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถิน่ ตัวช้ีวัด และการประยกุ ต์ใช้ใน - ชีวิตประจำวัน กย็ งั สวา่ งได้ การต่อหลอด ว 2.3 ไฟฟ้าแต่ละแบบสามารถ ป 6/7 7. อธบิ ายการเกิดเงามืดเงามัว นำไปใช้ประโยชนไ์ ด้ เชน่ การ ว 2.3 จากหลกั ฐานเชิงประจักษ์ ต่อหลอดไฟฟา้ หลายดวงใน ป 6/8 8. เขียนแผนภาพรงั สีของแสง บา้ นจึงตอ้ งต่อหลอดไฟฟา้ แบบ แสดงการเกิดเงามืดเงามัว ขนานเพ่ือเลือกใช้หลอดไฟฟา้ ดวงใดดวงหนึ่งไดต้ ามต้องการ - เมื่อนำวตั ถทุ บึ แสงมากั้นแสง จะเกิดเงาบนฉากรับแสงท่ีอยู่ ด้านหลังวตั ถุ โดยเงามีรปู ร่าง คล้ายวตั ถทุ ่ีทำให้เกดิ เงา เงามัว เป็นบริเวณท่มี แี สงบางสว่ นตก ลงบนฉาก สว่ นเงามืดเป็น บรเิ วณทีไ่ ม่มแี สงตกลงบนฉาก เลย สาระที่ 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์ และระบบสรุ ยิ ะ รวมท้ังปฏสิ มั พันธภ์ ายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชวี ติ และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยอี วกาศ รหัส ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น ตัวชว้ี ัด - - เม่ือโลกและดวงจนั ทร์ โคจร ว 3.1 1. สร้างแบบจำลองท่ีอธิบาย มาอยูใ่ นแนวเส้นตรงเดียวกัน กบั ดวงอาทติ ย์ในระยะทางที่ ป 6/1 การเกิด และเปรยี บเทยี บ เหมาะสม ทำให้ดวงจนั ทรบ์ ัง ดวงอาทติ ย์ เงาของดวงจันทร์ ปรากฏการณส์ รุ ยิ ุปราคา และ ทอดมายังโลก ผ้สู ังเกตท่ีอยู่ บรเิ วณเงาจะมองเหน็ ดวง จันทรุปราคา อาทิตย์มดื ไป เกดิ ปรากฏการณ์สรุ ิยุปรำคำ ซึ่งมี ทัง้ สรุ ยิ ุปราคาเต็มดวง  ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๗๕ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่ิน รหสั ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง - ตัวชว้ี ดั สรุ ยิ ปุ ราคาบางส่วน และ ว 3.1 2. อธบิ ายพฒั นาการของ สุรยิ ปุ ราคาวงแหวน ป 6/2 เทคโนโลยอี วกาศ และ หากดวงจันทรแ์ ละโลกโคจร มาอยู่ในแนวเส้นตรงเดยี วกนั ยกตวั อย่างการนำเทคโนโลยี กบั ดวงอาทติ ย์ แล้วดวงจันทร์ อวกาศมาใชป้ ระโยชน์ใน เคลื่อนท่ีผา่ นเงาของโลก จะ ชวี ติ ประจำวัน จากข้อมูลที่ มองเห็นดวงจันทร์มืดไป เกดิ รวบรวมได้ ปรากฏการณ์จันทรุปราคา ซึง่ มีท้ังจันทรุปราคาเตม็ ดวง และ จันทรปุ ราคาบางส่วน - เทคโนโลยอี วกาศเรม่ิ จาก ความตอ้ งการของมนษุ ยใ์ นการ สำรวจวตั ถทุ ้องฟ้าโดยใชต้ า เปล่า กล้อง-โทรทรรศน์ และ ไดพ้ ัฒนาไปส่กู ารขนส่งเพ่ือ สำรวจอวกาศดว้ ยจรวดและ ยานขนสง่ อวกาศ และยังคง พัฒนาอย่างต่อเน่ือง ปจั จบุ นั มี การนำเทคโนโลยีอวกาศบาง ประเภทมาประยกุ ต์ใชใ้ น ชวี ติ ประจำวัน เช่น การใช้ ดาวเทยี มเพ่ือการสื่อสาร การ พยากรณ์อากาศ หรือการ สำรวจทรพั ยากรธรรมชำติ การใชอ้ ุปกรณ์วัดชีพจรและ การเต้นของหัวใจ หมวกนริ ภัย ชดุ กฬี า  ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๗๖ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบตั ิภยั กระบวนการเปลีย่ นแปลงลมฟ้าอากาศและภมู ิอากาศโลกรวมท้ังผลต่อ สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม รหัส ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่ ตัวชว้ี ัด ว 3.2 1. เปรียบเทยี บกระบวนการ - หนิ เปน็ วสั ดแุ ข็งเกิดข้นึ เอง -สังเกต เปรยี บเทียบ หินท่ีพบ ป 6/1 เกดิ หนิ อัคนี หินตะกอน และ ตามธรรมชำติ ประกอบ ด้วย บรเิ วณชายหาดและหนิ ท่ีพบ หินแปรและอธิบายวฏั จักรหนิ แร่ตง้ั แต่หน่ึงชนดิ ขนึ้ ไป ทว่ั ไป จากแบบจำลอง สามารถจำแนกหินตำมกระ บวนการเกิดได้เปน็ 3 ประเภท ได้แก่ หนิ อคั นี หนิ ตะกอน และ หินแปร - หนิ อคั นีเกดิ จากการเย็นตัว ของแมกมา เนอื้ หิน มีลักษณะ เป็นผลกึ ทั้งผลกึ ขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก บางชนิดอาจ เปน็ เน้อื แก้ว หรอื มรี ูพรุน - หนิ ตะกอน เกิดจากการทับ ถมของตะกอนเม่ือถูกแรงกด ทับและมสี ารเชื่อมประสานจึง เกิดเปน็ หิน เนือ้ หนิ กลุ่มนส้ี ว่ น ใหญ่มีลักษณะเปน็ เม็ดตะกอน มีท้ังเนื้อหยาบและเนื้อละเอยี ด บางชนิดเปน็ เนอื้ ผลึกท่ียึดเกาะ กนั เกดิ จากการตกผลึกหรอื ตกตะกอนจากนำ้ โดยเฉพาะน้ำ ทะเล บางชนดิ มลี ักษณะเป็น ชน้ั ๆ จงึ เรยี กอีกช่อื วา่ หนิ ชน้ั - หนิ แปร เกดิ จากการแปร สภาพของหินเดิมซึ่งอาจเปน็ หนิ อัคนี หินตะกอน หรอื หิน แปร โดยการกระทำของความ รอ้ น ความดัน และปฏกิ ิริยา เคมี เน้อื หนิ ของหินแปรบาง  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๗๗ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กล่มุ งานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่ิน รหัส ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - ตัวช้ีวัด - ชนิดผลกึ ของแรเ่ รยี งตวั ขนาน กนั เปน็ แถบ บางชนดิ แซะ ออกเป็นแผ่นได้ บางชนดิ เป็น เน้ือผลึกท่มี ีความแข็งมาก - หินในธรรมชาติทง้ั ประเภท มกี ารเปล่ยี นแปลงจากประเภท หนึง่ ไปเป็นอีกประเภทหนึ่ง หรอื ประเภทเดิมได้ โดยมีแบบ รปู การเปลี่ยนแปลงคงทแ่ี ละ ตอ่ เนอ่ื งเป็นวฏั จักร ว 3.2 2. บรรยายและยกตวั อยา่ งการ หินและแรแ่ ตล่ ะชนดิ มีลักษณะ ป 6/2 ใช้ประโยชนข์ องหินและแร่ใน และสมบัตแิ ตกต่างกนั มนษุ ย์ ชวี ติ ประจำวันจากข้อมลู ท่ี ใช้ประโยชนจ์ ากแร่ใน รวบรวมได้ ชีวิตประจำวนั ในลกั ษณะตา่ ง ๆ เช่น นำแร่มาทำ เคร่ืองสำอาง ยำสฟี ัน เครอ่ื งประดบั อุปกรณ์ทาง การแพทย์ และนำหินมาใช้ใน งานกอ่ สรา้ งต่าง ๆ เปน็ ต้น ว 3.2 3. สรา้ งแบบจำลองทีอ่ ธบิ าย - ซากดกึ ดำบรรพเ์ กิดจากการ ป 6/3 การเกดิ ซากดึกดำบรรพ์และ ทับถม หรอื การประทบั รอย คาดคะเนสภาพแวดลอ้ มใน ของส่ิงมชี ีวิตในอดีต จนเกิด อดตี ของซากดกึ ดำบรรพ์ เป็นโครงสรา้ งของซากหรือ รอ่ งรอยของสิง่ มชี ีวติ ท่ปี รากฏ อยู่ในหนิ ในประเทศไทยพบ ซากดึกดำบรรพ์ ทห่ี ลากหลาย เช่น พชื ปะกำรงั หอย ปลา เต่า ไดโนเสาร์ และรอยตีนสัตว์ - ซากดกึ ดำบรรพส์ ามารถใช้ เปน็ หลกั ฐานหน่ึงท่ีชว่ ยอธิบาย สภาพแวดล้อมของพน้ื ท่ีใน อดีตขณะเกดิ ส่งิ มชี วี ติ นัน้ เช่น หากพบซากดึกดำบรรพ์ของ หอยน้ำจดื สภาพแวดลอ้ ม  ระดับประถมศึกษา

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๗๘ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่ิน - รหสั ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตวั ชีว้ ัด - บรเิ วณนั้นอาจเคยเปน็ แหลง่ น้ำ ว 3.2 4. เปรยี บเทยี บการเกดิ ลมบก จดื มาก่อน และหากพบซากดึก ป 6/4 ลมทะเล และมรสุม รวมท้ัง ดำบรรพ์ของพืช สภาพแวดลอ้ มบรเิ วณนั้นอาจ อธิบายผลทมี่ ีต่อสิ่งมีชวี ิตและ เคยเปน็ ปา่ มากอ่ น นอกจากนี้ สงิ่ แวดล้อม จากแบบจำลอง ซากดกึ ดำบรรพย์ งั สามารถใช้ ระบุอายุของหนิ และเปน็ ว 3.2 5. อธิบายผลของมรสุมต่อการ ข้อมลู ในการศึกษาววิ ฒั นาการ ป 6/5 เกิดฤดูของประเทศไทย จาก ของสงิ่ มชี วี ติ ขอ้ มลู ท่รี วบรวมได้ - ลมบก ลมทะเล และมรสุม เกิดจากพืน้ ดินและ พ้ืนนำ้ ร้อน และเยน็ ไมเ่ ทา่ กันทำให้ อุณหภูมิอากาศเหนอื พนื้ ดิน และพ้นื นำ้ แตกต่างกัน จึงเกิด การเคล่ือนที่ของอากาศจาก บริเวณทมี่ ีอุณหภมู ิต่ำ ไปยัง บรเิ วณทมี่ อี ุณหภูมสิ ูง - ลมบกและลมทะเลเปน็ ลม ประจำถน่ิ ท่ีพบบริเวณชายฝั่ง โดยลมบกเกิดในเวลากลางคนื ทำให้มีลมพดั จากชายฝ่ังไปสู่ ทะเล สว่ นลมทะเลเกดิ ในเวลา กลางวนั ทำให้มีลมพัดจาก ทะเลเข้าสชู่ ายฝง่ั - มรสุมเปน็ ลมประจำฤดเู กดิ บรเิ วณเขตรอ้ นของโลก ซงึ่ เป็น บริเวณกวา้ งระดบั ภมู ิภาค ประเทศไทยได้รบั ผลจากมรสุม ตะวนั ออกเฉียงเหนือในช่วง ประมาณกลางเดือนตลุ ำคม จนถงึ เดือนกุมภาพันธท์ ำให้เกิด ฤดหู นาว และไดร้ บั ผลจาก มรสมุ ตะวันตกเฉียงใต้ในชว่ ง ประมาณกลางเดือนพฤษภาคม  ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๗๙ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบริหารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน รหัส ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - ตัวช้ีวดั - จนถึงกลางเดือนตลุ ำคมทำให้ เกิดฤดูฝน สว่ นชว่ งประมาณ กลางเดือนกมุ ภาพันธ์จนถงึ กลางเดอื นพฤษภาคมเป็นช่วง เปลี่ยนมรสุมและประเทศไทย อยูใ่ กล้เสน้ ศนู ย์สูตร แสงอาทิตย์เกือบต้ังตรงและตั้ง ตรงประเทศไทย ในเวลาเทีย่ ง วันทำให้ได้รับความร้อนจำกด วงอาทิตย์อย่างเต็มท่ีอากาศจึง ร้อนอบอา้ วทำให้เกิดฤดูร้อน ว 3.2 6. บรรยายลักษณะและ - นำ้ ทว่ ม การกดั เซาะชายฝัง่ ป 6/6 ผลกระทบของ นำ้ ท่วม การกัด ดินถลม่ แผ่นดินไหว และ สนึ า เซาะชายฝ่ัง ดินถล่ม มิ มผี ลกระทบตอ่ ชวี ิตและ แผน่ ดนิ ไหว สึนามิ สง่ิ แวดลอ้ มแตกต่างกนั ว 3.2 7. ตระหนักถงึ ผลกระทบของ - มนษุ ยค์ วรเรียนรวู้ ิธีปฏบิ ตั ิตน ป 6/7 ภัยธรรมชำติและธรณพี บิ ตั ภิ ยั ให้ปลอดภยั เช่น ติดตาม โดยนำเสนอแนวทางในการเฝ้า ขา่ วสารอย่างสมำ่ เสมอ เตรียม ระวงั และปฏบิ ัตติ นใหป้ ลอดภัย ถงุ ยังชีพ ให้พร้อมใช้ จากภยั ธรรมชำติและธรณีพบิ ัติ ตลอดเวลา และปฏบิ ัติตาม ภัยทอี่ าจเกดิ ในท้องถน่ิ คำสงั่ ของผปู้ กครองและ เจ้าหนา้ ท่อี ย่างเคร่งครดั เมื่อ เกดิ ภยั ทางธรรมชำติและธรณี พบิ ตั ภิ ยั ว 3.2 8. สรา้ งแบบจำลองท่ีอธิบาย - ปรากฏการณเ์ รือนกระจก ป 6/8 การเกิดปรากฏการณ์เรอื น เกิดจากแกส๊ เรือนกระจกในชั้น กระจกและผลของ บรรยากาศของโลก กักเก็บ ปรากฏการณเ์ รือนกระจกต่อ ความรอ้ นแล้ว คายความรอ้ น ว 3.2 สิ่งมีชวี ิต บางสว่ นกลับสู่ผวิ โลก ทำให้ ป 6/9 9. ตระหนักถึงผลกระทบของ อากาศ บนโลกมอี ุณหภูมิเหมะ ปรากฏการณเ์ รือนกระจกโดย สมตอ่ การดำรงชีวิต นำเสนอแนวทางการปฏบิ ัตติ น - หากปรากฏการณ์เรือน เพ่อื ลดกจิ กรรมทก่ี ่อให้เกิดแก๊ส กระจกรนุ แรงมากขนึ้ จะมีผล เรอื นกระจก ต่อการเปล่ียนแปลงภมู ิอากาศ  ระดับประถมศึกษา

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๘๐ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบรหิ ารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ รหสั ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ ตวั ชีว้ ดั โลก มนษุ ย์ จึงควรร่วมกนั ลด กจิ กรรมที่ก่อใหเ้ กิดแกส๊ เรือน กระจก สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ชีวติ สังคม และสิ่งแวดลอ้ ม รหัส ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรูท้ ้องถิ่น ตัวชวี้ ดั - - - สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ิตจริงอย่างเป็นข้ันตอน และเป็นระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ ร้เู ท่าทนั และมีจริยธรรม รหัส ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่ิน ตวั ชวี้ ดั - ว 4.2 1. ใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะในการ - การแก้ปญั หาอย่างเปน็ ป 6/1 อธิบายและออกแบบวธิ ีการ ข้ันตอนจะชว่ ยให้แก้ปญั หาได้ แกป้ ัญหาที่พบใน อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ชวี ติ ประจำวัน - การใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะเปน็ การนำกฎเกณฑ์ หรือเงอื่ นไขที่ ครอบคลุมทุกกรณีมาใช้ พิจารณา ในการแกป้ ัญหา - แนวคิดของการทำงานแบบ วนซำ้ และเงื่อนไข - กำรพจิ ารณากระบวนการ ทำงานทมี่ ีการทำงานแบบวน ซ้ำ หรือเงือ่ นไขเป็นวธิ ีการทจี่ ะ ช่วยให้การออกแบบวธิ ีการ  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๘๑ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบริหารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน - รหัส ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตัวชวี้ ัด - แก้ปญั หาเปน็ ไปอย่างมี ประสิทธิภาพ - ตัวอย่างปญั หา เช่น การ คน้ หาเลขหนา้ ท่ีต้องการให้เร็ว ทส่ี ุด, การทายเลข 1 – 1,000,000 โดยตอบ ใหถ้ กู ภายใน 20 คำถาม, การ คำนวณเวลาในการเดินทาง โดยคำนึงถงึ ระยะทาง เวลา จดุ หยดุ พกั ว 4.2 2. ออกแบบและเขยี น - การออกแบบโปรแกรม ป 6/2 โปรแกรมอยา่ งงา่ ย เพ่ือ สามารถทำได้โดยเขยี น เปน็ แก้ปัญหาในชวี ิตประจำวัน ข้อความ หรอื ผงั งาน ตรวจหำข้อผดิ พลาดของ - การออกแบบและเขยี น โปรแกรมและแก้ไข โปรแกรมที่มีการใช้ตวั แปร กา รวนซ้ำ การตรวจสอบเงอ่ื นไข – หากมขี ้อผดิ พลาดให้ ตรวจสอบการทำงาน ทีละ คำสง่ั เมอื่ พบจุดที่ทำใหผ้ ลลัพธ์ ไมถ่ ูกตอ้ ง ให้ทำการแก้ไข จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง - การฝกึ ตรวจหำขอ้ ผดิ พลาด จากโปรแกรมของผู้อ่นื จะช่วย พฒั นาทกั ษะการหาสาเหตุของ ปญั หาได้ดยี ง่ิ ข้ึน - ตวั อย่างปญั หา เช่น โปรแกรมเกม โปรแกรมหาค่า ค.ร.น เกมฝกึ พิมพ์ - ซอฟตแ์ วรท์ ่ีใชใ้ นการเขียน โปรแกรม เชน่ Scratch, logo ว 4.2 3. ใช้อินเทอรเ์ นต็ ในการค้นหา - การค้นหาอยา่ งมี ป 6/3 ข้อมูลอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ประสทิ ธภิ าพ เปน็ การคน้ หา ข้อมูลท่ีได้ตรงตามความ ต้องการในเวลาท่รี วดเร็วจาก  ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๘๒ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่ิน รหสั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - ตวั ช้วี ดั 4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ แหลง่ ขอ้ มูลท่นี า่ เชอื่ ถือหลาย ว 4.2 ทำงานรว่ มกนั อย่างปลอดภยั แหลง่ และข้อมูล มีความ ป 6/4 เข้าใจสิทธแิ ละหน้าทข่ี องตน สอดคล้องกัน – การใชเ้ ทคนิค เคารพในสิทธิของผู้อื่น แจง้ การค้นหาข้นั สงู เช่น การใช้ ผเู้ ก่ียวข้องเมือ่ พบข้อมูลหรือ ตัวดำเนินการ การระบุรูปแบบ ของข้อมลู หรอื ชนดิ ของไฟล์ บุคคลที่ไม่เหมาะสม - การจดั ลำดับผลลัพธ์จากกา คน้ หาของโปรแกรมค้นหา - การเรยี บเรียง สรปุ สำระ สำคัญ (บูรณาการกับวิชา ภาษาไทย) - อนั ตรายจากการใช้งานและ อาชญากรรม ทางอินเทอรเ์ น็ต แนวทางในการป้องกัน - วธิ ีกำหนดรหสั ผ่าน - การกำหนดสิทธก์ิ ารใช้งาน (สิทธิใ์ นการเข้าถึง) - แนวทางการตรวจสอบและ ป้องกนั มัลแวร์ – อนั ตรายจาก การตดิ ตั้งซอฟต์แวรท์ ่ีอยบู่ น อินเทอร์เน็ต  ระดับประถมศึกษา

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๙๐ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ คำอธิบายรายวชิ า คำอธิบายรายวิชา กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 รหสั วิชา ว11101 เวลา ๑๐๐ ช่ัวโมง / ปี ............................................................................................................................. ................................ ศึกษา วิเคราะห์ พืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่บริเวณต่างๆ สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการ ดำรงชีวิตของสตั ว์ในบรเิ วณทีอ่ าศัยอยู่ หน้าที่ของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ สัตว์และพืช การทำ หน้าที่ร่วมกนั ของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ การจัดกลุ่มวัสดุตามสมบตั ิ การเกิดเสียงและทิศทาง การเคลือ่ นทีข่ องเสียง ปรากฏการณบ์ นท้องฟา้ ในเวลากลางวันและกลางคืน ลกั ษณะภายนอกของหิน การแก้ปัญหาโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์หรือข้อความ การเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้สื่อซอฟต์แวร์ การใชเ้ ทคโนโลยใี นการสรา้ ง จดั เก็บ เรยี กใชข้ อ้ มูล การใชค้ อมพวิ เตอร์และการดแู ลรกั ษาอุปกรณ์ โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจ ตรวจสอบ การ สืบค้นข้อมูล การเปรียบเทียบข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ์และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่ เหมาะสม รหสั ตัวชี้วัด ป.1/1 , ป.1/2 มาตรฐาน ว 1.1 ป.1/1 , ป.1/2 มาตรฐาน ว 1.2 ป.1/1 , ป.1/2 มาตรฐาน ว 2.1 ป.1/1 มาตรฐาน ว 2.3 ป.1/1 , ป.1/2 มาตรฐาน ว 3.1 ป.1/1 มาตรฐาน ว 3.1 ป.1/1 , ป.1/2 , ป.1/3 , ป.1/4 , ป.1/5 มาตรฐาน ว 4.2 รวม 15 ตัวชี้วดั  ระดบั ประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๙๑ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ คำอธบิ ายรายวิชา กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 2 รหัสวชิ า ว12101 เวลา ๑๐0 ช่ัวโมง / ปี ............................................................................................................................. ................................ ศึกษา วิเคราะห์ ความต้องการแสงและน้ำเพื่อการเจริญเติบโตของพืช วัฏจักรชีวิตของพืชดอก ลักษณะของสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต สมบัติของวัสดุ การนำสมบัติของวัสดุไปประยุกต์ใช้ในการทำวัตถุใน ชีวติ ประจำวนั ประโยชนข์ องการนำวสั ดทุ ใ่ี ชแ้ ลว้ กลับมาใชใ้ หม่ การเคล่ือนทีข่ องแสงจากแหล่งกำเนิดแสง การ มองเห็นวัตถุโดยเสนอแนะแนวทางการป้องกันอันตราย ส่วนประกอบของดิน การจำแนกชนิดของดินโดยใช้ ลักษณะเนื้อดินและการจับตัวเป็นเกณฑ์ การใช้ประโยชน์จากดิน การแก้ปัญหาโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์หรือ ข้อความ การเขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้สอ่ื ซอฟตแ์ วร์ การใช้เทคโนโลยใี นการสรา้ ง จัดเกบ็ เรยี กใช้ข้อมูล การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจ ตรวจสอบ การสบื คน้ ข้อมูล การเปรียบเทียบข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ์และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ใน ชีวิตประจำวัน มจี ิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม รหัสตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ว 1.2 ป.2/1, ป.2/2 , ป.2/3 มาตรฐาน ว 1.3 ป.2/1 มาตรฐาน ว 2.1 ป.2/1, ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4 มาตรฐาน ว 2.3 ป.2/1 , ป.2/2 มาตรฐาน ว 3.2 ป.2/1 , ป.2/2 มาตรฐาน ว 4.2 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4 รวม 16 ตัวชี้วดั  ระดับประถมศกึ ษา

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๙๒ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ คำอธบิ ายรายวชิ า กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ รหัสวิชา ว13101 เวลา ๑๐0 ชัว่ โมง / ปี ............................................................................................................................. ................................ ศึกษา วิเคราะห์ สิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชวี ิต และการเจริญเติบโตของมนุษย์และสัตว์ ประโยชน์ของ อาหาร น้ำ และอากาศ การดูแลตนเองและสัตว์ให้ได้รับสิ่งเหล่านี้อย่างเหมาะสม วัฏจักรชีวิตของสัตว์ ส่วนประกอบของวัตถุ และการเปลี่ยนแปลงของวัสดุเมื่อทำให้ร้อนขึ้นหรือทำให้เย็นลง แรงที่มีต่อการ เปล่ยี นแปลงการเคล่ือนท่ขี องวัตถุ แรงสมั ผัสและแรงไมส่ มั ผสั ท่มี ผี ลต่อการเคลอื่ นทข่ี องวัตถุ การดึงดูดระหว่าง แม่เหล็กกับวตั ถุ ขั้วแม่เหล็ก การเปลี่ยนพลังงาน การทำงานของเครือ่ งกำเนิดไฟฟ้า และแหล่งพลงั งานในการ ผลิตไฟฟ้า ประโยชน์และโทษของไฟฟ้า วิธีการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด และปลอดภัย เส้นทางการขึ้นและตก ของดวงอาทิตย์ การเกิดกลางวันกลางคืน และการกำหนดทิศ ความสำคัญของดวงอาทิตย์ต่อสิ่งมีชีวิต ส่วนประกอบของอากาศ ความสำคัญของอากาศ และผลกระทบของมลพิษทางอากาศต่อส่ิงมีชีวิต การปฏิบัติ ตนในการลดการเกดิ มลพิษทางอากาศ การเกดิ ลม ประโยชนแ์ ละโทษของลม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจ ตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การเปรียบเทียบข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ์ และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งทีเ่ รียนรู้ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ นำความรู้ไปใช้ ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มท่เี หมาะสม รหสั ตัวชี้วัด ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 มาตรฐาน ว 1.2 ป.3/1 , ป.3/2 มาตรฐาน ว 2.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3, ป.3/4 มาตรฐาน ว 2.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 มาตรฐาน ว 2.3 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 มาตรฐาน ว 3.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3 , ป.3/4 มาตรฐาน ว 3.2 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3 , ป.3/4, ป3/5 มาตรฐาน ว 4.2 รวม 25 ตัวชี้วัด  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๙๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ คำอธิบายรายวชิ า กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ รหสั วชิ า ว14101 เวลา 120 ชั่วโมง / ปี ............................................................................................................................. ................................ ศึกษา วิเคราะห์ หน้าที่ของราก ลำต้น ใบ และดอกของพืชดอก ส่วนประกอบของพืชดอก ความ แตกต่างของลักษณะของสิ่งมีชวี ติ ออกเปน็ กลุ่มพืช กลุ่มสัตว์ และกลุ่มที่ไมใ่ ช่พืชและสัตว์ จำแนกพืชออกเป็น พืชดอกและพืชไม่มีดอก จำแนกสัตว์ออกเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลงั และสัตวไ์ ม่มีกระดูกสันหลัง ลักษณะเฉพาะ ของสัตว์มีกระดูกสันหลังในกลมุ่ ปลา กล่มุ สตั ว์สะเทินน้ำสะเทนิ บก กลุม่ สตั วเ์ ลอื้ ยคลาน กลมุ่ นก และกลุ่มสัตว์ เลี้ยงลูกด้วยนม ตัวอย่างของสัตว์ในแต่ละกลุ่ม สมบัติทางกายภาพของวัสดุจากการทดลองและระบุการนำ สมบัติของวัสดุไปใช้ในชีวิตประจำวันโดยผ่านกระบวนการออกแบบชิ้นงาน แลกเปลี่ยนความคิดกับผู้อื่นโดย การอภิปรายเกี่ยวกับสมบัติทางกายภาพของวัสดุอย่างด้านความแข็ง สภาพความยืดหยุ่น การนำความร้อน การนำไฟฟ้า ของวัสดุ สมบัติของสสารทั้ง 3 สถานะ การสังเกต มวล การต้องการที่อยู่ รูปร่างและปริมาตร ของสสาร เครื่องมือที่ใช้วัดมวล และปริมาตรของสสาร ทั้ง 3 สถานะ ผลของแรงโน้มถ่วงที่มีต่อวัตถุ การใช้ เครื่องชั่งสปริงในการวัดน้ำหนักของวัตถุ มวลของวัตถุที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ วัตถุท่ี เป็นตัวกลางโปร่งใส ตัวกลางโปร่งแสง และวัตถุทึบแสง ลักษณะการมองเห็นผ่านวัตถุ แบบรูปเส้นทางการข้ึน และตกของดวงจันทร์ แบบจำลองอธิบายแบบรูปการเปลี่ยนแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจันทร์ และพยากรณ์ รูปร่างปรากฏของดวงจันทร์ แบบจำลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และเปรียบเทียบคาบ การโคจร ของดาวเคราะหต์ า่ ง ๆ จากแบบจำลอง ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์ จากปัญหาอย่าง ง่าย ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไขใช้ อินเทอรเ์ น็ตค้นหาความรู้ รวบรวม ประเมิน นำเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศ โดยใชซ้ อฟต์แวร์ท่ีหลากหลาย เพื่อ แก้ปัญหาในชีวติ ประจำวัน ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย เขา้ ใจสิทธแิ ละหน้าที่ของตน เคารพในสิทธิ ของผู้อน่ื โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสบื ค้นข้อมูล การเปรียบเทียบข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ์ และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่อื สารสงิ่ ทเ่ี รยี นรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน มีจิตวทิ ยาศาสตร์ มจี ริยธรรม คุณธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม รหัสตวั ชี้วัด มาตรฐาน ว 1.2 ป.4/1 มาตรฐาน ว 1.3 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4 มาตรฐาน ว 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4 มาตรฐาน ว 2.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 มาตรฐาน ว 2.3 ป.4/1 มาตรฐาน ว 3.1 ป.4/1 , ป.4/2, ป.4/3 มาตรฐาน ว 4.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5 รวม 21 ตัวชี้วัด  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๙๔ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ คำอธบิ ายรายวิชา กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ รหัสวชิ า ว 15101 เวลา 120 ช่ัวโมง / ปี ............................................................................................................................. ................................ ศึกษา วิเคราะห์ โครงสร้างและลกั ษณะของสงิ่ มีชวี ิตท่เี หมาะสมกับการดำรงชวี ติ ซึง่ เปน็ ผลมาจากการ ปรบั และความสมั พันธข์ องสิ่งมีชวี ิตทเ่ี หมาะสมกับการดำรงชวี ิตซ่ึงเป็นผลมาจากการปรับตัวของสง่ิ มชี ีวิตในแต่ ละแหลง่ ทอ่ี ยู่ ความสมั พันธ์ระหว่างส่ิงมชี วี ิตกับส่งิ มชี ีวิต และความสมั พนั ธร์ ะหว่างสงิ่ มชี ีวิตกับสิง่ ไม่มีชวี ิต เพ่ือ ประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต โซ่อาหารและบทบาทหน้าที่ของสิ่งมีชีวิตที่เป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคในโซ่อาหาร คุณค่าของสิ่งแวดล้อมที่มีต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต โดยมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ลักษณะ ทางพันธุกรรมที่มีการถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกของพืช สัตว์ และมนุษย์ ลักษณะที่คล้ายคลึงกันของตนเองกับ พ่อแม่ การเปลี่ยนสถานะของสสารเมื่อทำให้สสารร้อนขึ้นหรือเย็นลง การละลายของสารในน้ำ การ เปลย่ี นแปลงของสารเม่ือเกดิ การเปล่ยี นแปลงทางเคมี การเปลย่ี นแปลงทผี่ ันกลบั ได้และการเปลี่ยนแปลงท่ีผัน กลับไม่ได้ วิธีการหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรงในแนวเดียวกันที่กระทำต่อวัตถุอยู่นิ่ง แผนภาพแสดงแรงที่ กระทำต่อวตั ถทุ ี่อยู่ในแนวเดียวกนั และแรงลัพธ์ที่กระทำตอ่ วัตถุ การใชเ้ ครือ่ งช่งั สปริงในการวดั แรงท่ีกระทำต่อ วัตถุ ผลของแรงเสยี ดทานทีม่ ีต่อการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ การเขียนแผนภาพแสดงแรงเสยี ดทาน และแรงทีอ่ ยใู่ นแนวเดยี วกันทีก่ ระทำต่อวัตถุ การได้ยินเสียงผา่ นตวั กลาง ลกั ษณะและการเกดิ เสยี งสงู เสียงต่ำ ออกแบบการทดลองและอธิบายลักษณะและการเกิดเสียงดัง เสียงค่อย การวัดระดับเสียงโดยใช้เครื่องมือวัด ระดับเสียง แนวทางในการหลีกเลี่ยงและลดมลพิษทางเสียง ความแตกต่างของดาวเคราะห์และดาวฤกษ์จาก แบบจำลอง การใช้แผนที่ดาวระบุตำแหน่งและเส้นทางการขึ้นและตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้า แบบรูป เส้นทางการขึ้นและตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้าในรอบปี ปริมาณน้ำในแต่ละแหล่ง ปริมาณน้ำที่มนุษย์ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ แนวทางการใช้นน้ำอยา่ งประหยัดและการอนรุ ักษ์น้ำ แบบจำลองการหมุนเวยี น ของนำ้ ในวฏั จักรน้ำ กระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำค้าง และนำ้ คา้ งแข็ง จากแบบจำลอง และกระบวนการเกิด ฝน หิมะ และลูกเห็บ ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์จาก ปัญหาอย่างง่าย ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาด และแก้ไข ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล ติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกันประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอนิ เตอร์เน็ต ท่ีหลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิ และหน้าทขี่ องตน เคารพในสิทธิของผู้อ่ืน แจ้งผูเ้ กี่ยวขอ้ งเมอ่ื พบขอ้ มูลหรอื บุคคลท่ีไม่เหมาะสม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การเปรียบเทียบข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ์ และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมท่เี หมาะสม  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๙๕ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ รหสั ตวั ช้ีวดั ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4 มาตรฐาน ว 1.1 ป5/1, ป5/2 มาตรฐาน ว 1.3 ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4 มาตรฐาน ว 2.1 ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4, ป5/5 มาตรฐาน ว 2.2 ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4 มาตรฐาน ว 2.3 ป5/1, ป5/2 มาตรฐาน ว 3.1 ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4, ป5/5 มาตรฐาน ว 3.2 ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4, ป5/5 มาตรฐาน ว 4.2 รวม 31 ตัวชี้วดั  ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๙๖ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ คำอธิบายรายวชิ า กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ รหัสวิชา ว16101 เวลา 120 ช่ัวโมง / ปี ............................................................................................................................. ................................ ศึกษา วิเคราะห์ สารอาหารประโยชน์ของสารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารที่ตนเองรับประทาน การเลือกรับประทานอาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วนในสัดส่วนที่เหมาะสมกับเพศและวัย รวมทั้งความ ปลอดภัยตอ่ สุขภาพ แบบจำลอง ระบบย่อยอาหาร หน้าท่ขี องอวัยวะในระบบย่อยอาหาร การย่อยอาหารและ การดูดซึมสารอาหาร ความสำคัญของระบบย่อยอาหาร การดูแลรักษาอวัยวะในระบบย่อยอาหารให้ทำงาน เป็นปกติ การแยกสารผสม โดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็กดึงดูด การรินออก การกรอง และการ ตกตะกอน วธิ กี ารแก้ปญั หาในชีวติ ประจำวันเกยี่ วกับการแยกสาร การเกดิ และผลของแรงไฟฟ้าซงึ่ เกิดจากวัตถุ ที่ผ่านการขัดถู ส่วนประกอบ หน้าที่ ของวงจรไฟฟ้าแต่ละส่วนอย่างง่าย แผนภาพการต่อวงจรไฟฟ้าอนุกรม และแบบขนาน การตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนุกรมและขนานด้วยวธิ กี ารท่เี หมาะสม ประโยชน์ ขอ้ จำกดั การเกิด เงามืด เงามัว แผนภาพรังสีของแสงแสดงการเกิดเงามืดเงามัว แบบจำลองปรากฏการณ์สุริยุปราคา และ จันทรุปราคา พัฒนาการของเทคโนโลยีอวกาศและการใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวนั กระบวนการเกิดหนิ อัคนี หนิ ตะกอน และหินแปร แบบจำลองวัฏจกั รหนิ การใช้ประโยชน์ของหินและแรใ่ นชีวติ ประจำวัน แบบจำลอง การเกิด ซากดึกดำบรรพ์สภาพแวดล้อมในอดีต การเกิดลมบก ลมทะเล และมรสุม จากแบบจำลอง ผลของ มรสุมต่อการเกิดฤดูของประเทศไทย ลักษณะและผลกระทบของ น้ำท่วม การกัดเซาะชายฝั่ง ดินถล่ม แผ่นดินไหว สึนามิ ผลกระทบของภัยธรรมชาติและธรณีพิบัติภัย แนวทางการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ แบบจำลองอธิบายการเกิดและผลของปรากฏการณ์เรือนกระจก กิจกรรมท่ี กอ่ ให้เกดิ แกส๊ เรือนกระจก ผลกระทบของปรากฏการณเ์ รอื นกระจกลกู เหบ็ ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแก้ปญั หา การทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์ จากปัญหาอยา่ งงา่ ย ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไขใช้อินเทอร์เน็ต คน้ หาความรู้ รวบรวม ประเมนิ นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศ โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ท่ีหลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาใน ชวี ิตประจำวนั ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย เขา้ ใจสทิ ธิและหนา้ ท่ขี องตน เคารพในสทิ ธขิ องผอู้ ่นื โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การเปรียบเทียบข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ์ และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่อื สารสิง่ ท่เี รยี นรู้ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ นำความร้ไู ปใช้ในชวี ติ ประจำวนั มีจิตวิทยาศาสตร์ มจี ริยธรรม คณุ ธรรมและคา่ นยิ มที่เหมาะสม  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๙๗ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ รหสั ตัวชี้วัด ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5 มาตรฐาน ว 1.2 ป.6/1 มาตรฐาน ว 2.1 ป.6/1 มาตรฐาน ว 2.2 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3 , ป.6/4 , ป.6/5 , ป.6/6 , ป.6/7 , ป.6/8 มาตรฐาน ว 2.3 ป.6/1 , ป.6/2 มาตรฐาน ว 3.1 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3 , ป.6/4 , ป’6/5 , ป.6/6 , ป.6/7 , ป.6/8 , มาตรฐาน ว 3.2 ป.6/9 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3, ป.6/4 มาตรฐาน ว 4.2 รวม 30 ตัวชี้วัด  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๙๘ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ โครงสร้างรายวชิ าพืน้ ฐาน โครงสร้างรายวชิ า รายวิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 รหัสวิชา ว11101 เวลา ๑๐0 ชว่ั โมง / ปี ช่อื หน่วยการเรียนรู้ ตวั ชว้ี ัด จำนวน น้ำหนกั คะแนน ตวั เรา พืชและสตั ว์ (ช่วั โมง) 100 พืชและสัตวใ์ นท้องถนิ่ ว 1.1 ป1/1, ป1/2 วสั ดแุ ละการเกิดเสยี ง ว 1.2 ป1/1, ป1/2 ๑๐0 ว 2.1 ป1/1, ป1/2 หนิ และท้องฟ้า ว 2.3 ป1/1 ว 3.1 ป1/1, ป1/2 วทิ ยาการคำนวณ ว 3.2 ป1/1 ว 4.2 ป1/1, ป1/2, ป1/3, ป1/4, รวม ป1/5 15 โครงสร้างรายวชิ า รายวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 2 รหสั วิชา ว12101 เวลา ๑๐0 ชั่วโมง / ปี จำนวน(ชว่ั โมง) นำ้ หนักคะแนน ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ ตวั ชี้วดั วัฏจักรชีวติ ของพชื ดอก ว 1.2 ป2/1, ป2/2, ป2/3 ๑๐0 100 ส่งิ มีชีวิตและสิง่ ไม่มีชีวติ ว 1.3 ป2/1 ธรรมชาตขิ องสสาร ว 2.1 ป2/1, ป2/2, ป2/3, ป2/4 แสงและการเคลอ่ื นท่ี ว 2.3 ป2/1, ป2/2 ดนิ ว 3.2 ป2/1, ป2/2 วทิ ยาการคำนวณ ว 4.2 ป2/1 ,ป2/2, ป2/3, ป2/4 รวม 16  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๙๙ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลา ๑๐0 ชว่ั โมง / ปี โครงสรา้ งรายวิชา รายวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว13101 ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ ตวั ชวี้ ดั จำนวน(ชั่วโมง) น้ำหนักคะแนน วฏั จกั รชีวิตของสตั ว์ ว 1.2 ป3/1, ป3/2, ป3/3, ป 40 100 3/4 วัสดุรอบตวั ว 2.1 ป3/1, ป3/2 ธรรมชาติของแรง ว 2.2 ป3/1, ป3/2, ป3/3, ป พลังงานและไฟฟ้า 3/4 ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ว 2.3 ป3/1, ป3/2, ป3/3 อากาศ ว 3.1 ป3/1, ป3/2, ป3/3 ว 3.2 ป3/1, ป3/2, ป3/3, ป วทิ ยาการคำนวณ 3/4 ว 4.2 ป3/1, ป3/2, ป3/3, ป รวม 3/4, ป3/5 25 โครงสรา้ งรายวิชา รายวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 รหสั วชิ า ว14101 เวลา 120 ชวั่ โมง / ปี ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ ตัวชีว้ ัด จำนวน(ชัว่ โมง) นำ้ หนกั คะแนน สว่ นตา่ งๆของพืช ว.1.2 ป.4/1 120 100 พชื และสตั ว์ ว.1.3 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป 4/4 สมบัตทิ างกายภาพ ว.2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป 4/4 แรงโน้มถว่ งของโลก ว.2.2 ป.4/1, ป.4/2, ป4/3 ตวั กลางของแสง ดวงจันทรแ์ ละระบบสุริยะ ว.2.3 ป.4/1 วิทยาการคำนวณ ว 3.1 ป4/1, ป4/2, ป4/3 รวม ว 4.2 ป4/1, ป4/2, ป4/3, ป 4/4, ป4/5 21  ระดับประถมศกึ ษา

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๑๐๐ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กล่มุ งานบรหิ ารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ โครงสร้างรายวชิ า รายวิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 5 รหัสวิชา ว15101 เวลา 120 ชว่ั โมง / ปี ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ ตวั ชว้ี ัด จำนวน(ชวั่ โมง) น้ำหนักคะแนน ส่งิ มชี ีวิตและส่งิ ไม่มชี วี ติ 100 ว 1.1 ป 5/1, ป 5/2, ป 5/3, พนั ธุกรรมของพืชและสัตว์ ป 5/4 สถานะของสาร ว 1.3 ป 5/1, ป 5/2 แรง ว 2.1 ป 5/1, ป 5/2, ป 5/3, ป 5/4 เสยี ง ว 2.2 ป 5/1, ป 5/2, ป 5/3, ดาว ป 5/4, ป5/5 นำ้ และการเปลีย่ นแปลง ว 2.3 ป 5/1, ป 5/2, ป 5/3, วิทยาการคำนวณ ป 5/4 รวม ว 3.1 ป 5/1, ป 5/2 ว 3.2 ป 5/1, ป 5/2, ป 5/3, 120 ป 5/4, ป5/5 ว 4.2 ป4/1, ป4/2, ป4/3, ป4/4, ป4/5 31  ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๑๐๑ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ โครงสร้างรายวชิ า รายวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 รหสั วิชา ว16101 เวลา 120 ชัว่ โมง / ปี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ตวั ชี้วัด จำนวน(ชวั่ โมง) น้ำหนักคะแนน 100 สารอาหารและระบบย่อย ว 1.2 ป6/1, ป6/2, ป6/3, ป6/4, อาหาร ป6/5 การแยกสาร ว 2.1 ป6/1 แรงไฟฟา้ ว 2.2 ป6/1 วงจรไฟฟ้า ว 2.3 ป6/1, ป6/2, ป6/3, ป6/4, ป6/5, ป6/6, ป6/7, ป6/8 สรุ ิยปุ ราคา จันทรปุ ราคาและ ว 3.1 ป6/1, ป6/2 เทคโนโลยีอวกาศ โลกและการเปลีย่ นแปลง ว 3.2 ป6/1, ป6/2, ป6/3, ป6/4, ป6/5, ป6/6, ป6/7, ป6/8, ป6/9 วิทยาการคำนวณ ว 4.2 ป6/1, ป6/2, ป6/3, ป6/4 รวม 30 120

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๑๐๒ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ อภิธานศัพท์ กำหนดปญั หา (Define problem) ระบคุ ำถาม ประเดน็ หรือสถานการณ์ ที่เป็น ข้อสงสยั เพื่อนำไปสกู่ ารแก้ปญั หา หรืออภิปราย ร่วมกัน แกป้ ัญหา (Solve problem) หาคำตอบของปญั หาท่ียังไม่รู้วิธีการมากอ่ น ทงั้ ปญั หาท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั วิทยาศาสตรโ์ ดยตรง และ ปัญหา ในชีวิตประจำวัน โดยใชเ้ ทคนิคและ วธิ ีการต่าง ๆ เขียนแผนผงั / วาดภาพ (Construct diagram/ illustrate) นำเสนอข้อมลู หรือผลการสำรวจตรวจสอบดว้ ย แผนผัง กราฟ หรอื ภาพวาด คาดคะเน (Predict) คาดการณผ์ ลที่จะเกดิ ข้นึ ในอนาคต โดยอาศัย ข้อมูลทสี่ งั เกตได้ และประสบการณท์ ี่มี คำนวณ (Calculate) หาผลลัพธ์จากข้อมูลโดยใช้หลกั การ ทฤษฎี หรือ วิธีการทางคณติ ศาสตร์ จำแนก (Classify) จัดกลุ่มของสงิ่ ตา่ ง ๆ โดยอาศัยลกั ษณะท่ี เหมือนกันเป็นเกณฑ์ ตงั้ คำถาม (Ask question) พดู หรอื เขยี นประโยค หรือวลีเพอื่ ใหไ้ ดม้ าซ่ึง การค้นหำคำตอบท่ีต้องการ ทดลอง (Conduct/ experiment) ปฏบิ ตั กิ ารเพ่ือหำคำตอบของคำถาม หรือปญั หา ในกำรทดลอง โดยต้ังสมมติฐานเพอ่ื เป็นแนวทาง ใน การกำหนดตวั แปรและวางแผนดำเนนิ การ เพ่ือตรวจสอบสมมตฐิ าน นำเสนอ (Present) แสดงขอ้ มลู เรอ่ื งราว หรอื ความคดิ เพ่ือใหผ้ อู้ นื่ รบั ร้หู รือพจิ ารณา บรรยาย (Describe) ใหร้ ายละเอียดของเหตกุ ารณ์หรอื ปรากฏการณท์ ่ี เกิดขึน้ ให้ผูอ้ นื่ ไดร้ บั รู้ดว้ ยการบอกหรือเขียน บอก (Tell) ให้ขอ้ มลู ขอ้ เทจ็ จรงิ แก่ผู้อน่ื ด้วยการพูด หรือเขยี น บนั ทึก (Record) เขียนขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากการสังเกต เพอื่ ชว่ ยจำ หรือ เพื่อเป็นหลักฐาน เปรียบเทียบ (Compare) บอกความเหมือน และ/หรือ ความแตกตา่ งของ สิง่ ทเ่ี ทียบเคยี งกนั แปลความหมาย (Interpret) แสดงความหมายของข้อมลู จากหลกั ฐานท่ปี รากฎ เพ่ือลงข้อสรุป ยกตวั อย่าง (Give examples) ใหข้ อ้ มลู เหตกุ ารณ์ หรือสถานการณ์ เพื่อแสดง ความเข้าใจในสิ่งที่ไดเ้ รียนรู้

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๑๐๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบริหารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ระบุ (Identify) ช้บี อกสง่ิ ตา่ ง ๆ โดยใชข้ ้อมลู ประกอบอย่างเพยี งพอ เลือกใช้ (Select) พจิ ารณาและตดั สนิ ใจนำวัสดุ ส่งิ ของ อปุ กรณ์ หรือวิธีการมาใช้ได้อยา่ งเหมาะสม วดั (Measure) หาขนดหรอื ปริมาณของสง่ิ ต่าง ๆ โดยใช้เครอื่ งมือ ท่ีเหมาะสม วเิ คราะห์ (Analyze) แยกแยะ จัดระบบ เปรยี บเทียบ จัดลำดบั จัดจำแนก หรอื เชื่อมโยงข้อมลู สร้างแบบจำลอง (Construct model) นำเสนอแนวคิดหรือเหตุการณใ์ นรูปของ แผนภาพ ชนิ้ งาน สมการ ข้อความ คำพดู และ/หรอื ใช้ แบบจำลองเพ่อื อธิบายความคดิ วัตถุ หรอื เหตุการณ์ต่าง ๆ สังเกต (Observe) หาข้อมลู ดว้ ยการใชป้ ระสาทสัมผัสทงั้ ห้ำ ท่เี หมาะสม ตามข้อเท็จจริงทป่ี รากฏ โดยไมใ่ ช้ ประสบการณ์ เดมิ ของผู้สังเกต สำรวจ (Explore) หาข้อมูลเก่ียวกับส่งิ ตา่ ง ๆ โดยใชว้ ีธกี ารและ เทคนิคท่เี หมาะสมเพ่ือนำข้อมลู มาใชต้ าม วัตถุประสงค์ท่ี กำหนดไว้ สบื ค้นข้อมูล (Search) หาขอ้ มูล หรือข้อสนเทศที่มผี ู้รวบรวมไว้แล้วจาก แหล่งต่าง ๆ มาใชป้ ระโยชน์ สื่อสาร (Communicate) นำเสนอและแลกเปล่ยี นความคดิ ขอ้ มูล หรือผล จากการสำรวจตรวจสอบดว้ ยวิธที ่ีเหมาะสม อธิบาย (Explain) กล่าวถงึ เรอ่ื งราวต่าง ๆ อย่างมเี หตุผล และมี ข้อมูล หรือประจักษ์พยานอา้ งอิง อภปิ ราย (Discuss) แสดงความคดิ เห็นตอ่ ประเดน็ หรอื คาถามอย่าง มเี หตุผลโดยอาศัยความรู้และประสบการณ์ของ ผู้ อภปิ รายและข้อมูลประกอบ ออกแบบกำรทดลอง (Design experiment) กำหนดและวางแผนวิธีกำรทดลองให้สอดคล้องกับ สมมติฐานและตวั แปรตา่ ง ๆ รวมทั้งการบนั ทึก ขอ้ มลู