Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือ การประเมินวิทยฐานะแนวใหม่ ตำแหน่ง ครู ว21 Version ประชุมที่จังหวัดเชียงใหม่

คู่มือ การประเมินวิทยฐานะแนวใหม่ ตำแหน่ง ครู ว21 Version ประชุมที่จังหวัดเชียงใหม่

Published by dadeedy, 2019-08-12 23:28:21

Description: คู่มือ การประเมินวิทยฐานะแนวใหม่ ตำแหน่ง ครู ว21 Version ประชุมที่จังหวัดเชียงใหม่

Search

Read the Text Version

คมู่ อื การประเมินให้ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตาแหนง่ ครู มีวทิ ยฐานะและเลื่อนวทิ ยฐานะ สงั กดั สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน (ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 21 ลงวนั ที่ 5 กรกฎาคม 2560) สานกั งาน ก.ค.ศ. กระทรวงศึกษาธกิ าร เอกสารประกอบการประชุม ณ โรงแรมคมุ้ ภูคา จ.เชียงใหม่ วันท่ี 4-5 มกราคม 2561

-2- คูม่ ือ การประเมินใหข้ า้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ สงั กดั สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน (ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันท่ี 5 กรกฎาคม 2560)

-3- คานา สานักงาน ก.ค.ศ. ได้จัดทาคู่มือการประเมินให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะฉบับน้ีข้ึน โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือใช้เป็นแนวทางในการประเมินวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์และวธิ ีการให้ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ ตามหนังสอื สานกั งาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 โดยมีเน้ือหาประกอบด้วย บทนา สาระสาคัญของหลักเกณฑ์และวิธีการ การประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่และผลงานทางวิชาการ ข้ันตอนการดาเนนิ การขอมวี ิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ และแนวปฏิบัติการขอมีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ ในช่วงระยะเวลาเปล่ียนผ่าน การกาหนดชั่วโมงการปฏิบัติงาน ตัวช้ีวัด และคาชี้แจงการประเมิน รวมท้ัง แบบเสนอขอรับการประเมิน แบบรายงาน แบบสรุปผลการตรวจสอบและประเมิน เพ่ือช่วยให้การประเมิน วิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาบรรลุผลเป็นไปตามเจตนารมณ์ของหลักเกณฑ์ และวิธกี ารดังกลา่ ว สานกั งาน ก.ค.ศ. หวังเป็นอย่างย่ิงว่าคู่มือการประเมินให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะฉบับน้ีจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่เก่ียวข้อง สามารถนาไปใช้ ในการประเมินไดอ้ ยา่ งถกู ต้องและเปน็ มาตรฐานเดยี วกนั สานกั งาน ก.ค.ศ. ธนั วาคม 2560

-4- บทท่ี 1 บทนา ความนา ตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 บัญญัติว่า “การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะใดและการเล่ือนเป็นวิทยฐานะใด ต้องเป็นไปตาม มาตรฐานวิทยฐานะตามมาตรา 42 ซึ่งผ่านการประเมิน ท้ังนี้ ให้คานึงถึงความประพฤติด้านวินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี ประสบการณ์ คุณภาพการปฏบิ ัติงาน ความชานาญ ความเชี่ยวชาญ ผลงานที่เกิดจาก การปฏิบตั หิ นา้ ที่ในด้านการเรียนการสอน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี ก.ค.ศ. กาหนด” ก.ค.ศ. จึงประกาศใช้ หลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารใหข้ ้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 โดยมีหลักการและเหตุผล ประการสาคญั ในการประกาศใช้เพื่อใหเ้ กดิ คุณภาพการศกึ ษาและสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ มีความสามารถ และสมรรถนะทเี่ หมาะสม ประกอบกับยุทธศาสตร์การพฒั นาประเทศได้กาหนดให้มีการพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มี ความสามารถและสมรรถนะที่เหมาะสมรองรับการพัฒนาประเทศไทย 4.0 โดยครูเป็นกลไกสาคัญสูงย่ิง ในการเตรียมผเู้ รียนตามยุทธศาสตรด์ ังกล่าว ก.ค.ศ. จึงกาหนดมาตรฐานตาแหนง่ มาตรฐานวทิ ยฐานะ หลักเกณฑ์ และวธิ กี ารให้ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ และหลักเกณฑ์ และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน ให้มีความสอดคล้องเชื่อมโยงกัน ท้ังระบบ โดยในส่วนของหลกั เกณฑ์และวิธีการใหข้ ้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะ และเลอ่ื นวิทยฐานะ ซึ่งไดป้ ระกาศใช้ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 เปน็ หลกั เกณฑ์และวิธีการทม่ี ีการปรบั เปลย่ี นระบบการประเมนิ วิทยฐานะท่ีแตกต่างไปจากเดิม โดยมุ่งเน้นให้ครู ได้มีการสั่งสมประสบการณ์ มีความชานาญและเช่ียวชาญในการจัดการเรียนการสอน มีการพัฒนาตนเอง และพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเน่ือง นาผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีและการพัฒนาตนเองมาใช้ในการขอมี วิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ดังนั้น เพื่อให้การดาเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กาหนด เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกัน จึงจัดทาคู่มือการประเมินการให้ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศกึ ษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะและเล่ือนวทิ ยฐานะ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ฉบบั นขี้ น้ึ วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หน่วยงานการศึกษา และส่วนราชการต้นสังกัด ไดใ้ ช้เปน็ หลักปฏิบตั ิสาหรับการดาเนินการขอมีวิทยฐานะหรอื เล่ือนวทิ ยฐานะ 2. เพื่อให้ผู้ประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่และคณะกรรมการประเมินผลงานทางวิชาการ ใชเ้ ปน็ หลกั ปฏบิ ตั ิสาหรบั การประเมินการขอมวี ทิ ยฐานะหรอื เลือ่ นวทิ ยฐานะ 3. เพ่ือใหเ้ จ้าหนา้ ที่และผ้ทู ่เี ก่ียวขอ้ งใช้เป็นแนวปฏิบตั เิ กี่ยวกบั การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มวี ิทยฐานะหรือเล่อื นวทิ ยฐานะ ขอบข่ายเนอ้ื หา คู่มือการประเมินฉบับน้ี ประกอบด้วยสาระสาคัญของหลักเกณฑ์และวิธีการฯ การประเมินผลงาน ท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่และผลงานทางวิชาการ ขั้นตอนการดาเนินการขอมีวิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ และแนวปฏิบตั กิ ารขอมีวิทยฐานะและเลอ่ื นวิทยฐานะในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ดังนี้

-5- 1. สาระสาคญั ของหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารใหข้ า้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะ และเลื่อนวิทยฐานะ เป็นการสรุปรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ การประเมินผลงานทเี่ กดิ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ การประเมินผลงานทางวิชาการ เกณฑ์การตดั สิน และการพจิ ารณา อนมุ ตั ผิ ลการประเมนิ 2. การประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่และผลงานทางวิชาการ ประกอบด้วยตัวชี้วัด การประเมนิ ผลงานทีเ่ กดิ จากการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี วธิ ีการประเมนิ ผลงานท่ีเกดิ จากการปฏบิ ตั ิหน้าที่ คาอธิบายตวั ชี้วัด การประเมนิ ประเภทผลงานทางวชิ าการ การประเมินผลงานทางวชิ าการ และเกณฑก์ ารตัดสิน 3. ขน้ั ตอนการดาเนินการขอมีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะสาหรับผู้ดารงตาแหน่งครู ประกอบด้วย ขน้ั ตอนที่ 1 การดาเนินการในระดับสถานศกึ ษา ข้ันตอนที่ 2 การดาเนินการในระดบั สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษา ข้ันตอนท่ี 3 การดาเนินการในระดับสานักงานศึกษาธิการจังหวัดและคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด และขนั้ ตอนที่ 4 การดาเนินการในระดับสานกั งาน ก.ค.ศ. และ ก.ค.ศ. 4. แนวปฏิบัติในการขอมีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะในช่วงระยะเวลาเปล่ียนผ่าน สาหรับ ผ้ดู ารงตาแหน่งครอู ยกู่ ่อนวนั ท่ี 5 กรกฎาคม 2560 และประสงค์ขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตามหนังสือ สานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 หรือตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 21 ลงวนั ท่ี 5 กรกฎาคม 2560 พร้อมท้งั กรณีตัวอย่างเพ่ือให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติ

-6- บทท่ี 2 สาระสาคญั ของหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารให้ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตาแหนง่ ครู มีวิทยฐานะและเลือ่ นวิทยฐานะ ก.ค.ศ. กาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวทิ ยฐานะและเลือ่ นวิทยฐานะ โดยมีเจตนารมณ์เพ่ือส่งเสริมสนับสนุนให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผ้ดู ารงตาแหนง่ ครู ไดม้ ีการส่งั สมความชานาญและมีความเชีย่ วชาญในการจดั การเรียนการสอน การพฒั นาตนเอง อย่างตอ่ เน่ือง และสง่ เสรมิ ใหค้ รปู ระพฤติปฏิบตั ิตนเป็นแบบอย่างทด่ี ี มีวนิ ัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ วิชาชีพ ซึ่งสานักงาน ก.ค.ศ. ได้แจ้งให้ส่วนราชการเพื่อทราบและถือปฏิบัติ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 โดยมสี าระสาคัญสรุปได้ ดังนี้ 1. ระยะเวลาการดารงตาแหน่งคร/ู ขอมี/เล่ือนเปน็ วทิ ยฐานะ ชนก. ชนพ. ชช. และ ชชพ. วิทยฐานะทดี่ ารงอย่ปู จั จบุ ัน วิทยฐานะละ 5 ปี 2. ชั่วโมงการปฏบิ ัตงิ าน ประเภท/ระดบั ช่วั โมงการ เงือ่ นไข ชนก/ชนพ. รวมไม่นอ้ ยกว่า 800 ชม./ปี การศกึ ษา ปฏบิ ตั ิงานทงั้ หมด ชช/ชชพ. รวมไมน่ อ้ ยกวา่ 900 ชม./ปี - ประถม, มธั ยม ชนก/ชนพ. ตอ้ งมชี ่วั โมงสอนขนั้ ตา่ ตามที่ อาชวี ะ, กศน. 800 ชม./ปี ก.ค.ศ. กาหนด และปฏบิ ตั ิงานอ่ืน ฯลฯ ชช/ชชพ. โดยตอ้ งมชี ่ัวโมง PLC ขั้นต่า 900 ชม./ปี 50 ช่ัวโมงต่อปี 3. วนิ ัย คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ ไมถ่ กู ลงโทษทางวนิ ัย/จรรยาบรรณ วชิ าชีพ วชิ าชีพ ย้อนหลงั 5 ปี นับถึงวนั ทีย่ ืน่ คาขอ 4. ผา่ นการพัฒนาตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด มชี ่วั โมงการอบรมและพัฒนา ปีละ 12 - 20 ชวั่ โมง รวม 5 ปี จานวน 100 ช่ัวโมง 5. ผลงานท่ีเกดิ จากการปฏบิ ตั ิหน้าท่ี ย้อนหลัง 5 ปีการศึกษาตดิ ต่อกนั 1. ด้านการจดั การเรียนการสอน นบั ถึงวันสิ้นปกี ารศกึ ษากอ่ นวันที่ยนื่ คาขอ 2. ด้านการบรหิ ารจดั การชั้นเรียน 3. ด้านการพัฒนาตนเองและวชิ าชพี ต้องผา่ นเกณฑ์ 3 ปกี ารศกึ ษา ภายในระยะเวลาย้อนหลงั ** ชช. และ ชชพ.** เพ่ิม ผลงานทางวิชาการไม่นอ้ ยกวา่ 2 รายการ 5 ปีการศึกษาตดิ ตอ่ กนั ชช. เปน็ งานวิจัยชนั้ เรียน ไมน่ ้อยกว่า 1 รายการ ชชพ. เป็นงานวิจัยเกย่ี วกบั การศึกษา ไมน่ อ้ ยกว่า 1 รายการ

-7- 1. คณุ สมบัตขิ องผ้ขู อมวี ิทยฐานะและเลือ่ นวิทยฐานะ มีดังนี้ 1.1 ระยะเวลาการดารงตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครูชานาญการ ต้องดารงตาแหน่งครู มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันที่ย่ืนคาขอ หรอื ดารงตาแหน่งอน่ื ท่ี ก.ค.ศ. เทียบเท่า วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ต้องดารงตาแหน่งครูที่มีวิทยฐานะครูชานาญการ มาแล้ว ไม่น้อยกวา่ 5 ปี นบั ถึงวนั ท่ยี ่ืนคาขอ หรือดารงตาแหน่งอื่นท่ี ก.ค.ศ. เทยี บเทา่ วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ต้องดารงตาแหน่งครูที่มีวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ มาแล้ว ไมน่ ้อยกว่า 5 ปี นบั ถงึ วันท่ยี ่นื คาขอ หรือดารงตาแหนง่ อนื่ ที่ ก.ค.ศ. เทียบเทา่ วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ ต้องดารงตาแหน่งครูท่ีมีวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ มาแล้ว ไมน่ ้อยกวา่ 5 ปี นับถึงวันทย่ี น่ื คาขอ หรอื ดารงตาแหน่งอน่ื ท่ี ก.ค.ศ. เทียบเท่า 1.2 มีจานวนชว่ั โมงการปฏบิ ตั งิ านเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด 1.2.1 ช่ัวโมงการปฏิบัติงาน หมายถึง จานวนชั่วโมงสอนตามตารางสอน งานสนับสนุนการจัด การเรยี นรู้ การมสี ว่ นรว่ มในชมุ ชนการเรยี นร้ทู างวิชาชพี และงานตอบสนองนโยบายและจุดเนน้ จานวนช่ัวโมงสอนตามตารางสอน หมายถึง จานวนชั่วโมงสอนในวิชา/สาขา/กลุ่มสาระ การเรยี นรู้ทก่ี าหนดไวต้ ามหลกั สูตร การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ กจิ กรรมฟื้นฟสู มรรถภาพผเู้ รียน งานสนับสนุนการจดั การเรียนรู้ หมายถึง การปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริม และพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของสถานศึกษา และการมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ รวมท้ังงานสนับสนุน การบรหิ ารสถานศึกษา เชน่ งานวิชาการ งานบุคคล งานงบประมาณ และงานบรหิ ารทั่วไป เปน็ ต้น งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น หมายถึง การปฏิบัติงานที่ตอบสนองนโยบาย และจดุ เนน้ ของรฐั บาล กระทรวงศกึ ษาธิการ และสว่ นราชการตน้ สงั กัด 1.2.2 ผู้ดารงตาแหนง่ ครูทจ่ี ะขอมวี ิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ต้องมชี ว่ั โมงการปฏิบตั งิ าน ดังน้ี วิทยฐานะครูชานาญการหรอื วิทยฐานะครชู านาญการพเิ ศษ ต้องมีชั่วโมงการปฏิบัติงาน ในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 800 ชั่วโมง โดยในชั่วโมงการปฏิบัติงานต้องมีชั่วโมงการมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ ทางวชิ าชีพ ในแตล่ ะปีไมน่ อ้ ยกวา่ 50 ชัว่ โมง ทงั้ นี้ ต้องมีชั่วโมงสอนขัน้ ต่าตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนดดว้ ย วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญหรือวิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ ต้องมีชั่วโมงการปฏิบัติงาน ในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 900 ช่ัวโมง โดยในชั่วโมงการปฏิบัติงานต้องมีช่ัวโมงการมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ ทางวิชาชีพ ในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 50 ชวั่ โมง ท้งั นี้ ต้องมีช่วั โมงสอนข้นั ตา่ ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนดดว้ ย สาหรบั การเสนอผลงานทางวชิ าการในวชิ า/สาขา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ใด ในชว่ งระยะเวลา ย้อนหลัง 5 ปี ผขู้ อจะต้องมีชั่วโมงสอน ในวิชา/สาขา/กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ทเี่ สนอผลงานทางวชิ าการน้ันดว้ ย

-8- 1.2.3 จานวนช่วั โมงสอนตามตารางสอน ที่ ก.ค.ศ. กาหนด ดงั น้ี ประเภท/ระดบั การศกึ ษา ช่ัวโมงสอนตามตารางสอน ไมต่ ่ากว่า 6 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ 1. ปฐมวัย ไม่ตา่ กว่า 12 ชั่วโมง/สัปดาห์ 2. ประถมศึกษา (รวมโรงเรียนวัตถปุ ระสงค์พิเศษ หรอื โรงเรียนจดั การเรยี นรวม) ไมต่ ่ากวา่ 12 ช่วั โมง/สปั ดาห์ 3. มธั ยมศกึ ษา (รวมโรงเรียนวัตถปุ ระสงค์พเิ ศษ หรอื โรงเรยี นจัดการเรยี นรวม) ไมต่ ่ากวา่ 6 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ ไมต่ า่ กว่า 12 ชั่วโมง/สัปดาห์ 4. การศึกษาพเิ ศษ 4.1 เฉพาะความพิการและศนู ย์การศึกษาพิเศษ 4.2 ศึกษาสงเคราะหแ์ ละราชประชานเุ คราะห์ 1.3 มวี ินัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย หรือจรรยาบรรณ วชิ าชีพ ในช่วงระยะเวลาย้อนหลงั 5 ปี นับถึงวนั ทีย่ ่นื คาขอ ในกรณที ่ีผู้ดารงตาแหน่งครู อย่รู ะหว่างถูกดาเนินการทางวินัยหรือจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยยังไม่มี คาส่งั ลงโทษ ให้ถอื วา่ ผู้นนั้ มีคุณสมบัตใิ นข้อนี้ 1.4 ผา่ นการพัฒนา ตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ซึ่ง ก.ค.ศ. ได้กาหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.7/ว 22 ลงวนั ที่ 5 กรกฎาคม 2560 โดยมีสาระสาคญั ดงั นี้ 1.4.1 ครูต้องเข้ารับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยมีการประเมินตนเองเพื่อวิเคราะห์ ความจาเปน็ ในการพฒั นา และนาผลจากการวเิ คราะหม์ าจัดทาแผนการพัฒนาตนเองเป็นรายปี เสนอผู้อานวยการ สถานศกึ ษาเพอ่ื พจิ ารณาอนญุ าต 1.4.2 การเข้ารบั การพัฒนา ตอ้ งเขา้ รับการพัฒนาในหลกั สตู รทสี่ ถาบนั ครุ พุ ฒั นาให้การรับรอง จานวนไม่น้อยกวา่ 12 ช่วั โมง แต่ไมเ่ กนิ 20 ชวั่ โมงตอ่ ปี รวมภายในระยะเวลา 5 ปี จานวน 100 ชั่วโมง กรณีมีช่ัวโมง การพฒั นาไมค่ รบ 100 ช่ัวโมง ใหน้ าช่วั โมงการมสี ่วนร่วมในชมุ ชนการเรยี นรูท้ างวชิ าชีพ (Professional Learning Community : PLC) ส่วนที่เกินจาก 50 ชว่ั โมงในแตล่ ะปมี านับรวมได้ 1.4.3 การเขา้ รบั การพฒั นาตามข้อ 1.4.2 ในแตล่ ะปตี ้องครบ 3 องคป์ ระกอบ ซึ่งประกอบด้วย ด้านความรู้ ด้านทักษะ และด้านความเป็นครู เพ่ือให้มีคุณลักษณะท่ีคาดหวังตามมาตรฐานวิทยฐานะ ทจ่ี ะขอรบั การประเมินนั้น ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตาแหนง่ ครู ทีไ่ ดร้ ับการพัฒนาตามข้อ 1.4.1 - 1.4.3 ครบถ้วนแล้ว ให้ถือว่าผ่านการพัฒนาก่อนการแต่งตั้งให้มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ ตามมาตรา 80 แหง่ พระราชบัญญตั ริ ะเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ด้วย 1.5 มผี ลงานที่เกิดจากการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี สายงานการสอน ในชว่ งระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปีการศึกษา ติดต่อกัน นับถึงวันส้ินปีการศึกษาก่อนวันท่ียื่นคาขอ ซ่ึงจะต้องมีการประเมินและมีผลการประเมินเป็นไปตาม เกณฑ์การตัดสินแต่ละวิทยฐานะตามท่ีกาหนดไว้ในหลักเกณฑ์น้ี ไม่น้อยกว่า 3 ปีการศึกษา โดยพิจารณาจาก ข้อมูลทบ่ี นั ทกึ ไวใ้ นแบบรายงานผลงานทเี่ กดิ จากการปฏิบัติหนา้ ที่ ตาแหนง่ ครู รายปีการศกึ ษา (วฐ.2)

-9- การประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ตามข้อนี้ เป็นการประเมินการปฏิบัติงาน ตามหน้าท่ีความรับผิดชอบ ตามมาตรฐานตาแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะ ซ่ึงข้าราชการครูทุกคนต้องมี การประเมิน 3 ด้าน รวม 13 ตวั ชี้วดั คือ ดา้ นการจัดการเรียนการสอน (8 ตัวชวี้ ัด) ดา้ นการบริหารจดั การชั้นเรียน (3 ตัวชี้วัด) และด้านการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ (2 ตัวช้ีวัด) เป็นปกติทุกปีการศึกษา โดยเมื่อ สิ้นปีการศึกษาผู้ดารงตาแหน่งครูต้องประเมินผลการปฏิบัติงานของตนเอง ตามแบบ วฐ.2 เสนอผู้อานวยการ สถานศกึ ษา ผู้ขอรับการประเมินและผู้อานวยการสถานศึกษาต้องเป็นผู้รับรองข้อมูล เอกสาร และ หลักฐาน เกีย่ วกับคณุ สมบตั ขิ องผูข้ อด้วย หากภายหลังการตรวจสอบพบว่ามีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้ถอื วา่ เป็นผขู้ าดคณุ สมบตั ิ 2. การประเมิน 2.1 การประเมินผูด้ ารงตาแหน่งครู ให้มีการประเมิน ดังนี้ 2.1.1 ประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี สาหรับทุกวิทยฐานะ ต้องประเมินผลงาน ทีเ่ กิดจากการปฏิบตั ิหน้าที่ มี 3 ดา้ น 13 ตัวชวี้ ดั ดงั นี้ 2.1.1.1 ดา้ นการจัดการเรยี นการสอน มี 8 ตวั ช้ีวดั ประกอบด้วย 1) การสร้างและหรือ พฒั นาหลักสูตร จานวน 1 ตัวช้ีวดั 2) การจัดการเรียนรู้ จานวน 4 ตัวช้ีวัด ได้แก่ การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ กา ร จั ด ท าแ ผ น ก า ร จัด ก า ร เ รี ยน รู้ /แ ผ น กา ร จั ด ก า รศึ ก ษ า เ ฉ พา ะ บุ ค ค ล( IEP) /แ ผ น ก าร ส อ น ร า ยบุ ค ค ล ( IIP) / แผนการจัดประสบการณ์ กลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ และคุณภาพผู้เรียน 3) การสร้างและการพัฒนา สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหล่งเรียนรู้ จานวน 1 ตัวช้ีวัด 4) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ จานวน 1 ตัวชี้วดั และ 5) การวจิ ยั เพือ่ พฒั นาการเรียนรู้ จานวน 1 ตัวช้วี ัด 2.1.1.2 ด้านการบริหารจัดการชน้ั เรยี น มี 3 ตวั ชี้วดั ประกอบด้วย 1) การบริหารจัดการ ชน้ั เรยี น 2) การจัดระบบดแู ลชว่ ยเหลอื ผเู้ รยี น และ 3) การจัดทาข้อมูลสารสนเทศ และเอกสารประจาชั้นเรียน หรอื ประจาวชิ า 2.1.1.3 ดา้ นการพฒั นาตนเองและพัฒนาวชิ าชีพ มี 2 ตวั ชีว้ ดั ประกอบดว้ ย 1) การพัฒนา ตนเอง และ 2) การพัฒนาวิชาชีพ 2.1.2 ประเมนิ ผลงานทางวชิ าการ สาหรับวิทยฐานะครูเชยี่ วชาญและวทิ ยฐานะครูเช่ยี วชาญพิเศษ นอกจากต้องผ่านการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีแล้ว ต้องผ่านการประเมินผลงานทางวิชาการ ทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถึงสมรรถนะในการวิจัยเพื่อพฒั นากระบวนการเรยี นรแู้ ละการพัฒนาวิชาชีพ ดงั นี้ 2.1.2.1 วิทยฐานะครูเช่ียวชาญ ต้องมีผลงานทางวิชาการ ซ่ึงเป็นงานวิจัยในช้ันเรียน หรือรายงานผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ท่ีเกิดจากชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ หรือผลงานทางวิชาการ ในลกั ษณะอนื่ ทีม่ ีจดุ มุง่ หมายในการแก้ปัญหาด้านการเรียนรูข้ องผู้เรียนและสอดคล้องกับแผนการจัดการเรียนรู้ มีการศกึ ษาแนวคดิ ทฤษฎี และองค์ความร้ตู ่าง ๆ เพือ่ แก้ปญั หาและนาไปสกู่ ารสรุปองค์ความรู้เพอื่ พัฒนาคณุ ภาพ ของผู้เรยี น จานวนไมน่ อ้ ยกวา่ 2 รายการ โดยตอ้ งเปน็ งานวิจยั ในช้ันเรียน อยา่ งน้อย 1 รายการ 2.1.2.2 วิทยฐานะครเู ชีย่ วชาญพเิ ศษ ต้องมผี ลงานทางวชิ าการ ซ่ึงเป็นงานวิจัยเก่ียวกับ การจัดการเรียนการสอน หรือรายงานผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่เกิดจากชุมชน การเรียนรู้ทางวิชาชีพ หรอื ผลงานทางวิชาการในลักษณะอ่ืน ทมี่ ีจดุ มงุ่ หมายในการแก้ปัญหาด้านการเรียนรู้ของผู้เรียน และสอดคล้อง กบั แผนการจัดการเรียนรู้ มีการศึกษาแนวคิด ทฤษฎีและองค์ความรู้ต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหา และนาไปสู่การสรุป องค์ความรู้เพ่ือพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน จานวนไม่น้อยกว่า 2 รายการ โดยต้องเป็นงานวิจัยเก่ียวกับการจัด การเรียนการสอน อย่างนอ้ ย 1 รายการ

- 10 - ทั้งน้ี ผลงานทางวิชาการที่ผู้ขอเสนอ ต้องเป็นผลงานในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปี นับถึงวันท่ีย่ืนคาขอ และต้องไม่เป็นผลงานทางวิชาการท่ีใช้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาเพ่ือรับปริญญา หรือประกาศนียบัตรใด ๆ หรือเป็นผลงานทางวิชาการท่ีเคยใช้เพื่อเลื่อนตาแหน่งหรือเพื่อให้มีวิทยฐานะ หรอื เลื่อนวทิ ยฐานะมาแลว้ 2.2 ผู้ประเมนิ ผู้อานวยการสถานศึกษาในฐานะผบู้ ังคับบญั ชาเป็นผปู้ ระเมิน โดยใหด้ าเนินการ ดังนี้ 2.2.1 ให้ประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีของผู้ดารง ตาแหน่งครู ทุกคน ในสถานศึกษา ภาคเรียนละ 1 ครั้ง โดยภาคเรยี นท่ี 1 เปน็ การประเมนิ เพือ่ ให้คาแนะนาและพัฒนา และภาคเรียน ที่ 2 ให้ประเมนิ ภาพรวมทง้ั ปี 2.2.2 ให้ตั้งคณะกรรมการจากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาหรือ นอกสถานศกึ ษา เพอื่ ตรวจสอบและกลน่ั กรองขอ้ มลู ในแบบบันทกึ การประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ตาแหน่งครู และแบบรายงานผลงานท่เี กดิ จากการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ ตาแหนง่ ครู รายปีการศกึ ษา (วฐ.2) พรอ้ มทง้ั เสนอ ความเห็นประกอบการพิจารณาของผู้อานวยการสถานศึกษา ในการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ในแต่ละปกี ารศึกษา 2.2.3 เมื่อสิ้นปีการศึกษาให้พิจารณาผลการประเมินตนเองของผู้ดารงตาแหน่งครู ทัง้ 3 ดา้ น 13 ตวั ช้ีวดั ตามแบบบนั ทึกการประเมนิ ผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ตาแหน่งครู และตามแบบ รายงานผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ตาแหน่งครู รายปีการศึกษา (วฐ.2) อย่างต่อเน่ืองทุกปีการศึกษา 2.2.4 ให้สรุปผลการประเมินให้ผู้ดารงตาแหน่งครูทราบปีการศึกษาละ 1 คร้ัง หากผู้ดารง ตาแหน่งครู ไม่เห็นด้วย ให้เปิดโอกาสได้ปรึกษาและชี้แจง หากผู้ประเมินพิจารณาแล้วเห็นว่าถูกต้องตรงตาม ความเปน็ จริงแลว้ แตผ่ ู้ดารงตาแหนง่ ครูมคี วามเห็นไมส่ อดคลอ้ งกับผู้ประเมิน ให้สถานศึกษาแจ้งไปยังสานักงาน เขตพื้นท่ีการศึกษา เพ่ือแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผลการประเมิน และเมื่อได้ข้อยุติเป็นประการใด ให้ถอื เปน็ อันสน้ิ สดุ 2.2.5 กรณีการประเมินในปีการศึกษาใด หากผู้อานวยการสถานศึกษาไม่อาจประเมิน ผลงานทเ่ี กิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีของผู้ดารงตาแหน่งครูด้วยเหตุใด ๆ ให้เสนอ กศจ. แต่งต้ังข้าราชการครู และ บคุ ลากรทางการศกึ ษาในจงั หวัดนัน้ ที่มีความรู้ ความสามารถเหมาะสมเปน็ ผปู้ ระเมนิ แทน 2.2.6 เม่ือผู้ดารงตาแหน่งครูย่ืนคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะใด ให้เสนอคาขอ ตามแบบ วฐ.1 และผูอ้ านวยการสถานศกึ ษาต้องสรุปผลการประเมนิ 5 ปีการศกึ ษาย้อนหลังติดต่อกันนับแต่วันท่ี ย่นื คาขอตามแบบ วฐ.3 2.2.7 กรณีท่ีผู้ดารงตาแหน่งครูย่ืนคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ซ่ึงจะต้องมีการสรุป ผลการประเมิน 5 ปีการศึกษายอ้ นหลังตดิ ต่อกัน หากผู้อานวยการสถานศึกษานั้นมีวิทยฐานะต่ากว่าวิทยฐานะท่ีขอ ให้ผู้อานวยการสถานศึกษาดาเนินการ เสนอสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา เพื่อเสนอ กศจ. พิจารณาแต่งต้ัง ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ในจังหวัดนั้นท่ีมีวิทยฐานะไม่ต่ากว่าวิทยฐานะที่ขอ เป็นผู้ร่วมประเมิน และสรุปผลการตรวจสอบและประเมิน (5 ปกี ารศึกษา) ตามแบบ วฐ.3

- 11 - 2.2.8 การประเมินผลงานทางวิชาการ สาหรับวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญและวิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญพเิ ศษ ก.ค.ศ. เป็นผตู้ ง้ั คณะกรรมการประเมิน 3. เกณฑ์การตดั สนิ ผลการประเมนิ ผลงานทเ่ี กิดจากการปฏิบัติหนา้ ที่และผลงานทางวชิ าการกาหนดไว้ ดงั นี้ ตวั ชี้วดั เกณฑก์ ารตดั สนิ 1. ดา้ นการจัดการเรยี นการสอน ครูชานาญการ ครชู านาญการพิเศษ ครูเช่ยี วชาญ ครเู ชี่ยวชาญพิเศษ (8 ตวั ชี้วัด) ทกุ ตวั ชี้วัดตอ้ งได้ ทุกตวั ช้วี ัดตอ้ งได้ ทุกตวั ชีว้ ดั ต้องได้ ทุกตัวชี้วัดตอ้ งได้ 2. ดา้ นการบริหารจัดการ ไมต่ ่ากว่า ระดบั ไม่ตา่ กวา่ ระดบั 3 ไมต่ า่ กว่า ระดบั 4 ไม่ตา่ กวา่ ระดบั 5 ช้นั เรยี น (3 ตัวชีว้ ัด) 2 ด้าน 2 และ 3 ด้าน 2 และ ด้าน 2 และ 3. ด้านการพัฒนาตนเอง ท้งั 2 ด้าน 3 3 และพฒั นาวชิ าชีพ ด้าน 2 และ ไม่ตา่ กวา่ (2 ตวั ชว้ี ดั ) 3 ระดบั 2 ทง้ั 2 ดา้ น ทัง้ 2 ดา้ น และรวมกัน ไมต่ ่ากวา่ ไม่ต่ากว่า 4. ผลงานทางวชิ าการ แตล่ ะดา้ น ไมน่ ้อยกว่า ระดบั 3 ระดับ 4 ไมต่ า่ กว่า 3 ตัวชีว้ ัด และรวมกัน และรวมกัน ระดับ 2 ไมน่ ้อยกว่า ไม่นอ้ ยกว่า 3 ตัวชว้ี ัด 3 ตัวชวี้ ัด ไมน่ ้อยกวา่ 1 ตวั ชวี้ ัด ต้องได้คะแนนจาก กรรมการแตล่ ะคน ตอ้ งไดค้ ะแนนจาก ไมต่ ่ากวา่ ร้อยละ - กรรมการแตล่ ะคน 80 ไม่ตา่ กว่ารอ้ ยละ 75 4. การพจิ ารณาผลการประเมนิ 4.1 วิทยฐานะครชู านาญการและวิทยฐานะครูชานาญการพเิ ศษ 4.1.1 กรณีผลการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ผ่านเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กาหนด ใหส้ านักงานศกึ ษาธิการจังหวัด เสนอ อกศจ. และ กศจ. พจิ ารณาต่อไป 4.1.2 กรณผี ลการประเมินผลงานทีเ่ กดิ จากการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ไมผ่ า่ นเกณฑท์ ่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้ สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจงั หวัด นาผลการประเมนิ พรอ้ มท้งั ขอ้ สังเกต เสนอ อกศจ. และ กศจ. พิจารณาต่อไป 4.1.3 กรณี กศจ.อนุมัติ ใหม้ ีผลไม่กอ่ นวันท่ีสานักงานศึกษาธิการจังหวดั ได้รบั คาขอมีวทิ ยฐานะ หรือเล่ือนวทิ ยฐานะ และผลการประเมินผลงานทีเ่ กิดจากการปฏบิ ัติหนา้ ที่ พร้อมทง้ั เอกสารหลักฐาน ที่เก่ียวข้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ กรณี กศจ. ไม่อนมุ ตั ิ ใหส้ านักงานศกึ ษาธกิ ารจังหวัดแจ้งผลการพิจารณาและข้อสังเกต การประเมนิ ไปยังสานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา เพ่ือแจ้งผูข้ อทราบ 4.2 วทิ ยฐานะครเู ชย่ี วชาญและวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ 4.2.1 กรณีผลการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ผ่านเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้สานกั งานศึกษาธิการจังหวัด เสนอ อกศจ. และ กศจ. พิจารณา และส่งผลการประเมิน ผลงานทางวิชาการ และเอกสารหลักฐานตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้สานักงาน ก.ค.ศ. เพ่อื เสนอ ก.ค.ศ. พจิ ารณาตอ่ ไป

- 12 - 4.2.2 กรณีผลการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ไม่ผ่านเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กาหนด ให้สานักงานศกึ ษาธิการจงั หวดั นาผลการประเมินพรอ้ มทัง้ ขอ้ สังเกต เสนอ อกศจ. และ กศจ. พิจารณา และแจ้ง ผลการพิจารณาพร้อมขอ้ สังเกตการประเมนิ ไปยังสานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษา เพ่อื แจง้ ผขู้ อทราบ 4.2.3 กรณี ก.ค.ศ. อนุมัติ ให้มีผลไม่ก่อนวันท่ีสานักงาน ก.ค.ศ. ได้รับคาขอมีวิทยฐานะ หรือเลื่อนวิทยฐานะ ผลการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี และผลงานทางวิ ชาการ ซ่ึงมีเอกสาร หลักฐานท่ีเกย่ี วข้องครบถ้วนสมบรู ณ์ กรณีท่มี กี ารปรับปรุงผลงานทางวชิ าการ หาก ก.ค.ศ. อนมุ ัติ ให้มีผลไม่ก่อน วันทสี่ านกั งาน ก.ค.ศ. ไดร้ ับผลงานทางวชิ าการท่ีปรับปรุงครบถว้ นสมบูรณ์ครั้งหลังสุด และแจ้งผลการพิจารณา ไปยงั สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั เพื่อแจ้งสานักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษา ให้แจ้งผ้ขู อทราบ กรณี ก.ค.ศ. ไม่อนุมัติ ให้สานักงาน ก.ค.ศ. แจ้งผลการพิจารณาและข้อสังเกต การประเมนิ ไปยังสานักงานศึกษาธิการจงั หวดั เพื่อแจ้งสานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษา ให้แจ้งผขู้ อทราบ 5. การแต่งต้งั 5.1 วทิ ยฐานะครูชานาญการ กรณีท่ี กศจ. มีมติอนุมัติและผู้ขอมีวิทยฐานะผ่านการพัฒนาตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้ผู้มี อานาจตามมาตรา 53 สง่ั แต่งต้ังใหม้ วี ิทยฐานะครชู านาญการ และให้ไดร้ ับเงินเดอื นอนั ดบั คศ. 2 ในขั้นหรืออัตรา เงินเดอื นเทา่ เดิม ถ้าไมม่ ขี นั้ หรอื อตั ราเงนิ เดอื นเท่าเดิม ใหไ้ ดร้ ับในขัน้ หรอื อัตราเงนิ เดือนใกล้เคียงทีส่ ูงกวา่ 5.2 วิทยฐานะครูชานาญการพเิ ศษ กรณีท่ี กศจ. มีมตอิ นุมัติและผขู้ อเล่ือนวิทยฐานะผ่านการพัฒนาตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้ผู้มี อานาจตามมาตรา 53 สง่ั แต่งต้งั ให้เล่ือนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ และให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ. 3 ในขั้นหรืออตั ราเงนิ เดอื นเทา่ เดิม ถา้ ไมม่ ขี นั้ หรอื อัตราเงนิ เดอื นเทา่ เดิม ใหไ้ ดร้ ับในข้ันหรืออัตราเงินเดือนใกล้เคียง ท่สี งู กว่า 5.3 วทิ ยฐานะครูเชย่ี วชาญ กรณีท่ี ก.ค.ศ. มีมตอิ นุมตั แิ ละผูข้ อเล่อื นวทิ ยฐานะผ่านการพัฒนาตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ให้ผู้มี อานาจตามมาตรา 53 ส่ังแต่งตั้งให้เล่ือนเป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ และให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ. 4 ในข้ัน หรอื อตั ราเงนิ เดอื นเท่าเดิม ถ้าไมม่ ีขน้ั หรอื อัตราเงนิ เดอื นเท่าเดิม ใหไ้ ด้รับในขน้ั หรอื อัตราเงนิ เดอื นใกลเ้ คียงท่สี งู กว่า 5.4 วทิ ยฐานะครเู ช่ียวชาญพเิ ศษ กรณีที่ ก.ค.ศ. มีมติอนุมัติและผู้ขอเลื่อนวิทยฐานะผ่านการพัฒนาตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ใหผ้ ู้บังคบั บัญชาสูงสดุ ของส่วนราชการทีผ่ ้นู ั้นสังกดั อย่เู ป็นผู้สง่ั บรรจุและให้รัฐมนตรเี จา้ สงั กัดนาเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อนาความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งต้ังให้เล่ือนเป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ และให้ได้รบั เงนิ เดอื นอันดบั คศ. 5 ในข้ันหรืออตั ราเงินเดือนเท่าเดิม ถ้าไม่มีข้ันหรืออัตราเงินเดือนเท่าเดิม ให้ได้รับ ในขน้ั หรืออัตราเงนิ เดือนใกล้เคียงทีส่ งู กว่า

- 13 - บทที่ 3 การประเมนิ ผลงานทีเ่ กดิ จากการปฏบิ ัติหน้าทีแ่ ละผลงานทางวิชาการ การประเมินวิทยฐานะตามหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 มกี ารประเมนิ ดังน้ี 1. การประเมนิ ผลงานทีเ่ กิดจากการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี การประเมนิ ผลงานที่เกิดจากการปฏบิ ตั ิหน้าที่มตี วั ช้ีวัด เกณฑ์การตัดสนิ วิธีการประเมนิ และคาอธบิ าย ตัวชว้ี ัดการประเมนิ ดงั นี้ 1.1 ตวั ช้ีวัดการประเมนิ ผลงานทีเ่ กดิ จากการปฏิบัตหิ น้าที่ (3 ดา้ น 13 ตวั ชวี้ ดั ) มดี ังตอ่ ไปน้ี ด้านท่ี 1 ด้านการจัดการเรียนการสอน ตวั ช้ีวัดที่ 1.1 การสร้างและหรือพฒั นาหลกั สูตร ตวั ช้ีวดั ที่ 1.2 การจดั การเรียนรู้ ตัวช้ีวดั ที่ 1.2.1 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ ตวั ชวี้ ดั ท่ี 1.2.2 การจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้/แผนการจัดการศกึ ษา เฉพาะบุคคล (IEP)/แผนการสอนรายบคุ คล (IIP)/ แผนการจัดประสบการณ์ ตัวชว้ี ดั ท่ี 1.2.3 กลยทุ ธ์ในการจดั การเรียนรู้ ตวั ชว้ี ดั ท่ี 1.2.4 คณุ ภาพผเู้ รียน ตวั ชว้ี ัดท่ี 1.3 การสรา้ งและการพฒั นา ส่ือ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหล่งเรียนรู้ ตัวชี้วัดท่ี 1.4 การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ตวั ช้ีวัดที่ 1.5 การวจิ ัยเพือ่ พัฒนาการเรียนรู้ ดา้ นท่ี 2 ด้านการบริหารจดั การชน้ั เรยี น ตัวชี้วัดท่ี 2.1 การบรหิ ารจัดการชนั้ เรียน ตัวชี้วัดท่ี 2.2 การจดั ระบบดูแลชว่ ยเหลือผเู้ รียน ตัวช้ีวดั ท่ี 2.3 การจดั ทาข้อมลู สารสนเทศ และเอกสารประจาช้ันเรยี นหรอื ประจาวชิ า ดา้ นที่ 3 ด้านการพฒั นาตนเองและพัฒนาวชิ าชพี ตัวชี้วดั ที่ 3.1 การพฒั นาตนเอง ตวั ชี้วดั ท่ี 3.2 การพัฒนาวิชาชพี

- 14 - 1.2 เกณฑก์ ารตดั สนิ การประเมนิ ผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี (3 ด้าน 13 ตวั ช้วี ดั ) การประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี กาหนดเป็นระดับคุณภาพ 5 ระดับ ตั้งแต่ระดับ 1 ระดบั 2 ระดับ 3 ระดบั 4 และระดับ 5 โดยเกณฑก์ ารตัดสินการประเมนิ ไดก้ าหนดไว้ในแต่ละวิทยฐานะ ดงั นี้ ตวั ช้ีวัด เกณฑก์ ารตัดสิน 1. ด้านการจัดการเรียนการสอน ครชู านาญการ ครูชานาญการพเิ ศษ ครเู ช่ยี วชาญ ครเู ช่ียวชาญพิเศษ (8 ตัวชีว้ ัด) ทกุ ตวั ชี้วดั ต้องได้ ทกุ ตัวช้ีวดั ต้องได้ ทุกตวั ชี้วัดต้องได้ ทกุ ตวั ช้ีวัดตอ้ งได้ 2. ดา้ นการบรหิ ารจัดการ ไมต่ า่ กว่า ระดับ 2 ไมต่ า่ กวา่ ระดบั 3 ไม่ตา่ กว่า ระดับ 4 ไมต่ า่ กวา่ ระดับ 5 ช้นั เรียน (3 ตัวช้ีวดั ) ด้าน 2 และ 3 ด้าน 2 และ 3 ดา้ น 2 และ 3 ด้าน 2 และ 3 3. ดา้ นการพัฒนาตนเอง แตล่ ะด้าน ท้งั 2 ดา้ น ทั้ง 2 ดา้ น ท้งั 2 ด้าน และพัฒนาวชิ าชีพ ตอ้ งได้ ต้องได้ไม่ตา่ กว่า ตอ้ งไดไ้ ม่ต่ากว่า ต้องได้ไมต่ ่ากวา่ (2 ตัวช้วี ัด) ไม่ต่ากวา่ ระดบั 2 ระดบั 3 ระดับ 4 ระดับ 2 และรวมกันแล้ว และรวมกนั แล้ว และรวมกันแล้ว ไม่นอ้ ยกว่า ไม่นอ้ ยกว่า ไม่น้อยกวา่ ไมน่ อ้ ยกว่า 1 ตัวชวี้ ดั 3 ตวั ชีว้ ัด 3 ตัวชีว้ ัด 3 ตวั ช้วี ัด 1.3 วธิ กี ารประเมินผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏิบตั หิ น้าที่ ใหด้ าเนินการ ดังน้ี 1.3.1 การประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ รายปกี ารศกึ ษา 1.3.1.1 ให้ผ้อู านวยการสถานศึกษาในฐานะผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ประเมินผลงานที่เกิดจาก การปฏิบตั ิหน้าท่ี (3 ดา้ น 13 ตวั ชว้ี ัด) 1.3.1.2 ให้ผู้อานวยการสถานศึกษาต้ังคณะกรรมการจากข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาในสถานศึกษาหรือนอกสถานศึกษา เพื่อตรวจสอบและกล่ันกรองข้อมูล การประเมินตนเองของ ผู้ดารงตาแหน่งครู และเอกสารหลกั ฐาน แหล่งขอ้ มูล ทีแ่ สดงรอ่ งรอยวา่ ผดู้ ารงตาแหนง่ ครเู ปน็ ผู้มีผลงานท่เี กิดจาก การปฏบิ ตั ิหน้าที่จรงิ ในแบบบนั ทึกการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ตาแหน่งครู และแบบ วฐ.2 พร้อมท้ังเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของผู้อานวยการสถานศึกษาในการประเมินผลงานท่ีเกิดจาก การปฏิบัติหน้าทใ่ี นแต่ละปีการศกึ ษา 1.3.1.3 เมื่อสิ้นปีการศึกษาให้พิจารณาผลการประเมินตนเองของผู้ดารงตาแหน่งครู ท้ัง 3 ด้าน 13 ตัวช้ีวัด ตามแบบบันทึกการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ตาแหน่งครู และตามแบบ วฐ.2 อย่างต่อเนื่องทกุ ปีการศึกษา 1.3.1.4 การประเมินผลงานที่เกดิ จากการปฏบิ ตั ิหน้าท่ี ใหใ้ ชแ้ บบบันทึกการประเมินผลงาน ท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ตาแหน่งครู ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/0635 ลงวันท่ี 10 ตลุ าคม 2560 การประเมนิ ให้พจิ ารณาจากผลการปฏบิ ัติงานจริง โดยพิจารณาจากเอกสารหลักฐาน แหล่งข้อมูล ที่แสดงร่องรอยว่าผู้ดารงตาแหน่งครูเป็นผู้มีผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีในด้านการจัดการเรีย นการสอน ด้านการบริหารจัดการช้นั เรยี น และดา้ นการพฒั นาตนเองและพฒั นาวชิ าชพี ท้งั นี้ การประเมินอาจใช้วิธีการประเมิน ในรูปแบบอืน่ ทเี่ หมาะสม เชน่ การสังเกต การสมั ภาษณ์ หรือสอบถามข้อมูลจากผดู้ ารงตาแหน่งครู เพอื่ นร่วมงาน ผูร้ บั บรกิ าร และผทู้ ่ีเกีย่ วขอ้ งก่อนตดั สนิ ใจประเมินตามระดบั คณุ ภาพที่เปน็ จรงิ เมื่อประเมินได้ระดับคุณภาพใดแล้ว ใหน้ าไปกรอกลงในตารางสรุปผลการประเมิน และใหน้ าผลการประเมินไปบันทึกลงในแบบรายงานผลงานที่เกิดจาก การปฏิบัตหิ น้าท่ี ตาแหน่งครู รายปกี ารศึกษา (วฐ.2) 1.3.1.5 ให้สรุปผลการประเมินให้ผู้ดารงตาแหน่งครูทราบปีการศึกษาละ 1 ครั้ง หากผดู้ ารงตาแหน่งครู ไม่เห็นด้วย ให้เปิดโอกาสได้ปรึกษาและชี้แจง หากผู้ประเมินพิจารณาแล้วเห็นว่าถูกต้อง

- 15 - ตรงตามความเป็นจริงแลว้ แตผ่ ้ดู ารงตาแหนง่ ครูมีความเหน็ ไม่สอดคลอ้ งกบั ผ้ปู ระเมนิ ใหผ้ ู้อานวยการสถานศกึ ษา แจ้งไปยังสานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษา เพือ่ แตง่ ต้ังคณะกรรมการตรวจสอบผลการประเมิน และเมื่อได้ข้อยุติเป็น ประการใดใหถ้ อื เป็นอันสิ้นสุด 1.3.1.6 กรณีการประเมินในปีการศึกษาใด หากผู้อานวยการสถานศึกษาไม่อาจประเมิน ผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดารงตาแหน่งครูด้วยเหตุใด ๆ ให้เสนอ กศจ. แต่งตั้งข้าราชการครู และบคุ ลากรทางการศึกษาในจงั หวดั นน้ั ท่ีมคี วามรู้ ความสามารถเหมาะสมเปน็ ผู้ประเมนิ แทน 1.3.2 การประเมนิ ผลงานทีเ่ กดิ จากการปฏบิ ตั ิหน้าท่ี 5 ปกี ารศึกษา 1.3.2.1 เม่ือผู้ดารงตาแหน่งครูยื่นคาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนเป็นวิทยฐานะใด ให้เสนอ คาขอตามแบบ วฐ.1 และผู้อานวยการสถานศึกษานาผลการประเมินรายปีการศึกษา (วฐ.2) มาบันทึกลงในแบบ สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมิน (วฐ.3) 1.3.2.2 กรณีที่ผู้ดารงตาแหน่งครูยื่นคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ซ่ึงจะต้องมี การสรุปผลการประเมิน 5 ปีการศึกษาย้อนหลังติดต่อกัน หากผู้อานวยการสถานศึกษามีวิทยฐานะต่ากว่า วิทยฐานะท่ีขอ ให้ผู้อานวยการสถานศึกษาแจ้งสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา เพ่ือเสนอ กศจ. พิจารณาแต่งตั้ง ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดนั้นท่ีมีวิทยฐานะไม่ต่ากว่าวิทยฐานะท่ีขอเป็นผู้ร่วมประเมิน และสรปุ ผลการตรวจสอบและประเมนิ (วฐ.3) 1.4 คาอธิบายตัวชีว้ ัดการประเมินผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี การประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศกึ ษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะและเล่อื นวิทยฐานะ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ.ท่ี ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 กาหนดให้ผู้ขอมวี ิทยฐานะครูชานาญการและเล่ือนเปน็ วทิ ยฐานะครูชานาญการพิเศษ วิทยฐานะครเู ชี่ยวชาญและวทิ ยฐานะครูเชย่ี วชาญพิเศษ ต้องได้รับการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ (3 ด้าน 13 ตัวช้ีวัด) ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/0635 ลงวันท่ี 10 ตุลาคม 2560 โดยมีรายละเอียด คาอธิบายตัวชว้ี ดั การประเมินแตล่ ะดา้ น ดงั น้ี ด้านที่ 1 ดา้ นการจดั การเรียนการสอน หมายถึง การจัดทาหลักสูตรและหรือพัฒนาหลักสูตร เพ่ือพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี คนเก่ง มีปัญญา มีศักยภาพ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพตามมาตรฐาน ตัวชี้วดั สมรรถนะสาคญั และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรสถานศึกษา โดยจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการ รปู แบบทหี่ ลากหลาย และเหมาะสมเนน้ ผูเ้ รียนเปน็ สาคญั ใหผ้ ู้เรยี นเกิดการเรยี นรดู้ ้วยวธิ ีการปฏิบัติ มีจานวน 8 ตัวชี้วัด มีรายละเอียด ดังน้ี ตัวช้ีวัดท่ี 1.1 การสร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร หมายถึง การจัดทาและหรือพัฒนา หลกั สูตรรายวชิ าหรือสาระการเรยี นรทู้ ี่รบั ผดิ ชอบ โดยมีการวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดเพ่ือจัดทา คาอธิบายรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ รวมทั้งมีการประเมินความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด หรือผลการเรียนรู้ ตัวช้ีวัดท่ี 1.2 การจัดการเรียนรู้ หมายถึง การจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัด สมรรถนะสาคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญให้เรียนรู้ด้วยวิธีการปฏิบัติ ส่งเสริม ให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเอง ตามธรรมชาตแิ ละเต็มตามศักยภาพ โดยคานึงถงึ ความแตกต่างระหว่างบุคคล ประกอบด้วย 4 ตัวชี้วัดย่อย ดงั น้ี ตัวชี้วัดท่ี 1.2.1 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ หมายถึง การจัดทาและหรือพัฒนา หน่วยการเรียนรู้ ท่ีสอดคล้องกับคาอธิบายรายวิชา ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ เหมาะสมกับผู้เรียนบริบท ของสถานศึกษาและท้องถิ่น มีกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการปฏิบัติ โดยเลือกรูปแบบการจัดการเรียนรู้ สื่อ

- 16 - นวัตกรรม เทคโนโลยี แหล่งเรยี นรู้ และการวัดและประเมินผล เพื่อให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ บรรลตุ ามมาตรฐานการเรียนรู้ และประเมนิ ผลหนว่ ยการเรยี นรู้ ตวั ชี้วดั ท่ี 1.2.2 การจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้/แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP)/แผนการสอนรายบคุ คล (IIP)/แผนการจัดประสบการณ์ มีความหมาย ดงั นี้ จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ หมายถึง การกาหนดแนวทางการจัดการเรียนรู้ ตามหน่วยการเรียนรู้เป็นการเตรียมการสอนหรือการกาหนดกิจกรรมการเรียนรู้ล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ และเป็นลายลักษณอ์ ักษร จดั ทาแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล (IEP) หมายถงึ การวิเคราะห์ ความต้องการ จาเป็นพเิ ศษทางการศกึ ษาหรอื การบาบดั ฟ้ืนฟูของแต่ละบคุ คล โดยอาศัยความรว่ มมอื จากผู้ปกครอง ครู ผู้บริหาร และสหวชิ าชีพ เพ่ือกาหนดแนวทางการจัดการเรยี นรทู้ ่ีสอดคล้องกับความต้องการจาเป็นพิเศษของแต่ละบุคคล ตลอดจนกาหนด สื่อ ส่ิงอานวยความสะดวก บริการ และความช่วยเหลืออ่ืนใดทางการศึกษาให้เฉพาะบุคคล อย่างเปน็ ระบบ และเปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษร จัดทาแผนการสอนรายบคุ คล (IIP) หมายถงึ การกาหนดแนวทางการจัดการเรียนรู้ หรอื การบาบัดฟนื้ ฟู เป็นการเตรียมการสอนหรือการกาหนดกิจกรรมการเรียนรู้หรือการบาบัดฟื้นฟูไว้ล่วงหน้า อยา่ งเปน็ ระบบ และเปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษร ตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) จัดทาแผนการจัดประสบการณ์ หมายถึง การกาหนดแนวทางการจัดประสบการณ์ เพือ่ สง่ เสริมพัฒนาการท่สี มดลุ ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ผ่านกิจกรรม การเลน่ ทเ่ี หมาะสมกับวยั และความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล ตัวชี้วัดท่ี 1.2.3 กลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ หมายถึง วิธีการจัดการเรียนรู้ที่แยบยล โดยใช้เครอ่ื งมือ รูปแบบ เทคนิค และวธิ กี ารอย่างหลากหลายท่ีมีประสิทธภิ าพ บรรลุตามมาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชวี้ ดั ที่ 1.2.4 คุณภาพผเู้ รียน หมายถึง ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทาให้ผู้เรียน มีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะ ตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดของสาระการเรียนรู้ มีสมรรถนะสาคัญ และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลกั สูตร ตัวชี้วัดที่ 1.3 การสร้างและการพัฒนา สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหล่งเรียนรู้ หมายถึง การเลือก คัดสรร ใช้ สร้างและพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหล่งเรียนรู้ เพื่อนามาใช้ในการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียนสอดคล้องกับเน้ือหาสาระ มาตรฐาน การเรยี นรู้ ตวั ชี้วดั และจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ตัวช้ีวัดท่ี 1.4 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ หมายถึง กระบวนการที่ได้มาซ่ึงข้อมูล สารสนเทศที่เป็นผลจากการจัดการเรียนรู้ เพื่อปรับปรุง พัฒนา ตัดสินผลการเรียนรู้ ความก้าวหน้า และพัฒนาการของผู้เรียนท่ีสะท้อนระดับคุณภาพของผู้เรียน โดยใช้วิธีการ เครื่องมือวัดและประเมินผล ทห่ี ลากหลาย เหมาะสมและสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชวี้ ัด และจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ตัวชี้วัดที่ 1.5 การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ หมายถึง กระบวนการแก้ปัญหาหรือพัฒนา การจัดการเรยี นร้อู ยา่ งเปน็ ระบบที่สง่ ผลต่อคณุ ภาพผู้เรยี นได้เต็มตามศักยภาพ ด้านที่ 2 ด้านการบริหารจัดการชั้นเรียน หมายถึง การจัดกิจกรรมส่ิงอานวยความสะดวก จัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม ทีส่ ่งเสริม สนบั สนุน และช่วยเหลอื ผเู้ รยี นให้เกิดการเรียนรอู้ ยา่ งมคี วามสุข และเปน็ ผู้เสริมแรง ช้ีแนะแนวทางให้ผู้เรียนศึกษาแสวงหาความรู้ คิดวิเคราะห์ ปฏิบัติ และค้นพบคาตอบด้วยตนเอง มจี านวน 3 ตวั ชี้วัด ดงั น้ี

- 17 - ตัวช้ีวดั ท่ี 2.1 การบริหารจัดการช้ันเรียน หมายถึง การจัดสภาพแวดล้อม บรรยากาศ ในชั้นเรียน ท่ีส่งเสริมและเอื้อต่อการเรียนรู้ กระตุ้นความสนใจใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษา ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้เรียน เกดิ กระบวนการคิด ทกั ษะชีวิต ทกั ษะการทางาน และคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค่านิยมท่ีดีงาม ปลูกฝัง ความเป็นประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ สร้างแรงบันดาลใจ และเสริมแรงให้ผู้เรียน มีความม่นั ใจในการพัฒนาตนเองเต็มตามศกั ยภาพ มีความสขุ และมีความปลอดภยั ตัวชวี้ ดั ท่ี 2.2 การจดั ระบบดูแลชว่ ยเหลือผู้เรียน หมายถึง การดาเนินการดูแลช่วยเหลือ ผเู้ รยี นอย่างเปน็ ระบบ โดยการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ สังเคราะห์ จัดทาและใช้สารสนเทศของผู้เรียน จัดทาโครงการ และกจิ กรรมเชงิ สรา้ งสรรค์ด้วยวิธีการทหี่ ลากหลาย เพื่อสง่ เสรมิ ป้องกนั และแก้ปญั หาของผเู้ รียนรายบุคคล ตัวช้ีวัดที่ 2.3 การจัดทาข้อมูลสารสนเทศ และเอกสารประจาช้ันเรียนหรือประจาวิชา หมายถึง การดาเนนิ การรวบรวมข้อมูลของผู้เรียนในทุกด้านท่ีผ่านการวิเคราะห์ สังเคราะห์ อย่างเป็นระบบมีความถูกต้อง และเป็นปจั จบุ นั เพอ่ื เปน็ สารสนเทศในการเสริมสร้างและพัฒนาผเู้ รียนประจาชนั้ หรือประจาวิชาทีร่ บั ผดิ ชอบ ด้านที่ 3 ด้านการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ หมายถึง กระบวนการพัฒนาสมรรถนะ และวิชาชีพครู โดยมแี ผนการพัฒนาตนเอง และดาเนินการพัฒนาตนเองตามแผนอย่างเป็นระบบสอดคล้องกับ สภาพการปฏิบัติงานความต้องการจาเป็น องค์ความรู้ใหม่ นโยบาย แผนกลยุทธ์ของหน่วยงานการศึกษา หรือส่วนราชการต้นสงั กดั มกี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรรู้ ว่ มกนั ในระดบั สถานศกึ ษา หรือระดับเครือขา่ ย หรือระดับชาติ และแสดงบทบาทในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) ด้วยความสัมพันธ์ แบบกัลยาณมิตรที่มีวิสัยทัศน์ คุณค่า เป้าหมายและภารกิจร่วมกัน ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน เพ่ือให้เกิดเป็น วฒั นธรรมองค์กร และสร้างนวัตกรรมจากการเข้ารว่ มในชุมชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวชิ าชีพ มีจานวน 2 ตัวช้วี ัด ดงั นี้ ตัวชวี้ ัดที่ 3.1 การพฒั นาตนเอง หมายถึง กระบวนการพัฒนาสมรรถนะของครูรายบุคคล โดยมีแผนการพัฒนาตนเองและดาเนินการตามแผนอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องสอดคลอ้ งกบั สภาพการปฏบิ ตั ิงาน ความต้องการจาเปน็ องค์ความรใู้ หม่ หรือตามนโยบาย หรอื แผนกลยทุ ธข์ องหน่วยงานการศกึ ษาหรือส่วนราชการ ต้นสังกัด โดยนาความรู้ ความสามารถ ทักษะ ท่ีได้จากการพัฒนาตนเองมาพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ทสี่ ่งผลต่อคณุ ภาพผู้เรียน ตวั ชี้วดั ท่ี 3.2 การพัฒนาวิชาชีพ หมายถึง กระบวนการพัฒนาวิชาชีพครู โดยการมีส่วน รว่ มแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ร่วมกันในระดับสถานศกึ ษา หรือระดับเครือข่าย หรือระดับชาติ และแสดงบทบาทในชุมชน แห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) ด้วยความสัมพันธ์แบบกัลยาณมิตร มีวิสัยทัศน์ คุณคา่ เป้าหมายและภารกิจร่วมกัน เพื่อให้เกิดเปน็ วัฒนธรรมองค์กร และสร้างนวัตกรรมจากการเข้า ร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โดยนาความรู้ ความสามารถ ทักษะ ท่ีได้จากการพัฒนาวิชาชีพมาพัฒนา นวตั กรรมการจัดการเรยี นรทู้ ่ีส่งผลตอ่ คุณภาพผู้เรยี น 1.5 นยิ ามศพั ทท์ สี่ าคัญ ครพู ีเ่ ลี้ยง หมายถึง ข้าราชการครทู ไ่ี ด้รบั มอบหมายให้เปน็ ผู้ดแู ล ให้คาปรึกษา แนะนา ช่วยเหลือ ครูที่มีประสบการณ์น้อยกว่าได้หลากหลายรูปแบบ เพ่ือให้มีความรู้ ทักษะ และความเป็นครู ที่มีคุณภาพสูง เหมาะสมกับวิทยฐานะท่ีขอรบั การประเมนิ ครูท่ปี รึกษา หมายถึง ข้าราชการครูท่มี คี วามรู้ และทกั ษะความเป็นครู เปน็ ท่ยี อมรับ ในวงวิชาชีพ สามารถให้คาปรกึ ษา แนะนา ช่วยเหลอื ครทู ี่มีประสบการณ์นอ้ ยกว่าได้หลากหลายรูปแบบ เพ่ือให้ผู้ท่ีมาปรึกษา ได้มีความรแู้ ละทกั ษะความเป็นครทู ี่มคี ุณภาพสงู เหมาะสมกับวทิ ยฐานะทขี่ อรบั การประเมิน

- 18 - ผู้นาดา้ นการพฒั นาหรือสร้างหลักสตู ร หมายถงึ ครูที่มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ในการพัฒนา หลักสตู รที่มอี ยู่เดิมใหเ้ หมาะสมกบั ผ้เู รียนและบรบิ ทของสถานศึกษา นาไปจัดการเรยี นรไู้ ด้ผลดหี รอื สร้างหลกั สตู ร 2. การประเมินผลงานทางวิชาการ ก.ค.ศ. กาหนดให้การประเมินวิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญและวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ ตอ้ งเสนอผลงานทางวิชาการ ดงั นี้ วิทยฐานะครูเช่ียวชาญ ต้องมีผลงานทางวิชาการ ซึ่งเป็นงานวิจัยในช้ันเรียน หรือรายงานผล การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ท่ีเกิดจากชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ หรือผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น ท่ีมีจุดมุ่งหมายในการแก้ปัญหาด้านการเรียนรู้ของผู้เรียนและสอด คล้องกับแผนการจัดการเรียนรู้ มีการศึกษาแนวคดิ ทฤษฎี และองค์ความรูต้ ่าง ๆ เพ่ือแก้ปญั หาและนาไปสู่การสรุปองค์ความรเู้ พ่อื พัฒนาคณุ ภาพ ของผู้เรยี น จานวนไม่นอ้ ยกว่า 2 รายการ โดยต้องเปน็ งานวิจัยในชัน้ เรียน อยา่ งนอ้ ย 1 รายการ วทิ ยฐานะครเู ชยี่ วชาญพิเศษ ต้องมีผลงานทางวชิ าการ ซ่ึงเป็นงานวิจยั เก่ียวกบั การจัดการเรยี น การสอน หรือรายงานผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ท่ีเกิดจากชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ หรือผลงาน ทางวิชาการในลักษณะอื่น ที่มีจุดมุ่งหมายในการแก้ปัญหาด้านการเรียนรู้ของผู้เรียน และสอดคล้องกับ แผนการจัดการเรียนรู้ มีการศึกษาแนวคิด ทฤษฎีและองค์ความรู้ต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหา และนาไปสู่การสรุป องค์ความรู้เพ่ือพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน จานวนไม่น้อยกว่า 2 รายการ โดยต้องเป็นงานวิจัยเก่ียวกับการจัด การเรยี นการสอน อย่างน้อย 1 รายการ ท้ังน้ี ผลงานทางวิชาการที่ผู้ขอเสนอ ต้องเป็นผลงานในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปี นับถึงวันท่ีย่ืนคาขอ และต้องไม่เป็นผลงานทางวิชาการท่ีใช้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาเพ่ือรับปริญญา หรือประกาศนียบัตรใด ๆ หรือเป็นผลงานทางวิชาการท่ีเคยใช้เพ่ือเลื่อนตาแหน่งหรือเพื่อให้มีวิทยฐานะ หรอื เลือ่ นวทิ ยฐานะมาแลว้ ความหมายของผลงานทางวิชาการ ผลงานทางวชิ าการของสายงานการสอน หมายถึง รายงานการศึกษา ค้นคว้า หรือผลการวิจัย ในช้ันเรียน หรือผลการวจิ ัยเกย่ี วกับการจัดการเรยี นการสอน หรือรายงานผลการพัฒนา การจัดการเรียนรู้ท่ีเกิดจาก ชมุ ชนการเรยี นรูท้ างวิชาชีพ หรือผลงานทางวิชาการในลักษณะอ่ืนที่มีจุดมุ่งหมายในการแก้ปัญหาด้านการเรียน ของผู้เรียนและสอดคล้องกับแผนการจัดการเรียนรู้มีการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และองค์ความรู้ต่างๆ เพ่ือแก้ไข ปัญหาและนาไปสู่การสรปุ องค์ความรู้ เพ่อื พฒั นาคณุ ภาพของผูเ้ รยี น โดยมลี กั ษณะดังน้ี 1. ตรงกับสาขาวิชาทข่ี อเลือ่ นวทิ ยฐานะ 2. เป็นผลงานที่เก่ียวกับการพัฒนาการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้หรือสาขาวิชาต่าง ๆ และใชป้ ระโยชนใ์ นการเรยี นการสอน 3. เกิดจากการปฏิบัติงานตามหนา้ ท่ีความรับผิดชอบทางด้านการสอน 4. เปน็ ผลงานในชว่ งระยะเวลา 5 ปี นบั ถงึ วันที่ยื่นคาขอ 5. ต้องไม่เป็นผลงานทางวิชาการท่ีใช้เป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาเพ่ือรับปริญญา หรือ ประกาศนียบัตรใด ๆ หรือเป็นผลงานทางวิชาการที่ใช้เพ่ือเล่ือนตาแหน่งหรือเพื่อให้มีวิทยฐานะหรือเลื่อน วทิ ยฐานะมาแลว้ 6.กรณีผลงานทางวิชาการท่ีร่วมจัดทากับผู้อ่ืนในรูปคณะทางานหรือกลุ่ม ให้ช้ีแจง ให้ชัดเจนว่าผู้ขอรบั การประเมิน มีส่วนร่วมในการจัดทาในส่วนใด ตอนใด หน้าใดบ้าง คิดเป็นร้อยละเท่าไรของ ผลงานทางวชิ าการแต่ละเล่ม และให้ผู้รว่ มจัดทาทกุ คนรับรองพรอ้ มทงั้ ระบวุ ่าผูร้ ่วมจดั ทาแตล่ ะรายไดท้ าส่วนใดบ้าง

- 19 - ประเภทผลงานทางวชิ าการ ผลงานวิจัยในชั้นเรียน หมายถึง รายงานการแก้ปัญหาหรือการพัฒนาท่ีมีกระบวนการ วเิ คราะห์ปัญหาหรือความต้องการ ในการจัดการเรียนรู้ มีการศึกษาออกแบบเพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนาวิธีการ แนวทางการจัดการเรียนรู้ สื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการศึกษา โดยนาไปใช้ปฏิบัติจัดการเรียนรู้จริง และมีการประเมินผล ซงึ่ ปรากฏว่าแกป้ ญั หาหรือสนองความต้องการท่ีจะพัฒนาการเรียนรขู้ องผเู้ รยี นได้ รายงานผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ท่ีเกิดจากชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ หมายถึง รายงานเพ่ือแก้ปัญหาการจัดการเรียนรู้ที่ใช้วิธีการจัดการเรียนรู้ สื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการศึกษา ท่ไี ดจ้ ากชุมชนการเรียนร้ทู างวิชาชีพ ซ่ึงดาเนินการอยา่ งเปน็ ระบบ และได้ปฏบิ ัติการจดั การเรียนรจู้ รงิ มีผลสาเร็จ ในการแกป้ ญั หานัน้ การวิจัยเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน หมายถึง รายงานการวิจัยเพื่อแก้ปัญหา การจดั การเรียนรู้ การสรา้ งส่อื นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการศึกษา เทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้ วิธีการและ เคร่อื งมือทใี่ ช้วัดและประเมนิ ผล โดยมีการศกึ ษาค้นคว้าและดาเนนิ การวิจัย อย่างเป็นระบบ การวิเคราะห์ข้อมูล ถูกตอ้ ง มกี ารสรปุ ผลและเสนอแนะทเี่ ป็นประโยชนต์ ่อการจัดการศกึ ษา ผลงานทางวิชาการในลักษณะอ่นื ทมี่ ีจุดมงุ่ หมายในการแก้ปญั หาด้านการเรียนรขู้ องผเู้ รยี น และสอดคล้องกับแผนการจดั การเรียนรู้ เชน่ 1. การประเมินงาน หรือการประเมนิ โครงการที่เกีย่ วกบั การจดั การเรียนการสอน 2. ส่อื นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา เช่น ผลงานด้านการจัดทาสื่อการเรียน การสอน ผลงานด้านการคิดพัฒนารูปแบบนวัตกรรมที่นามาใช้ในการปฏิบัติงานทาให้เกิดประสิทธิภาพสูงข้ึน ซึ่งอาจจัดทาเป็นเอกสาร หรือส่ืออิเล็กทรอนิกส์ หรือสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ รวมท้ังเทคนิค วิธีการจัดการ เรียนรู้ อนั เป็นประโยชนต์ ่อการพัฒนาการจดั การเรียนการสอนและการพฒั นาคุณภาพการศึกษา องคป์ ระกอบการประเมินผลงานทางวิชาการ มีดงั น้ี 1. ด้านคุณภาพของผลงานทางวิชาการ 1.1 ความถกู ต้องตามหลกั วิชาการ ผลงานทางวิชาการต้องมีความถูกต้องตามหลักวิชาการและรูปแบบของผลงาน ประเภทนั้น ๆ เชน่ งานวิจยั ในช้ันเรียนหรืองานวิจัยเก่ียวกับการจัดการเรียนการสอน จัดทาถูกต้องตามวิธีการ รูปแบบและระเบียบวิธีวิจัย รายงานผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่เกิดจากชุมชนการเรียนรู้ทางวิ ชาชีพ จัดทาถูกต้องตามวิธีการและรูปแบบของการจัดการเรียนรู้ที่เกิดจากชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ รายงาน การประเมินโครงการจัดทาถูกต้องตามวิธีการและรูปแบบของการประเมินโครงการ หรือ รายงานการพัฒนา นวตั กรรมจัดทาถูกต้องตามวิธกี ารและรูปแบบของการพฒั นานวัตกรรม เปน็ ตน้ 1.2 ความสมบูรณ์ของเน้ือหาสาระ ผลงานทางวิชาการต้องมีเนื้อหาสาระสมบูรณ์ ครบถ้วนถูกต้องตามหลักวิชาการ ทนั สมัย มกี ารคน้ ควา้ อ้างองิ ถูกตอ้ งเชื่อถอื ได้ การเรียบเรยี งถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา และจัดหวั ขอ้ เปน็ ระบบเดยี วกัน ฯลฯ 1.3 ความคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ ผลงานทางวิชาการต้องแสดงใหเ้ ห็นถึงการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ พัฒนาและประยุกต์ใช้ หรอื สรา้ งองคค์ วามรู้ใหม่ โดยไมค่ ัดลอกหรือลอกเลียนผลงานทางวชิ าการของผอู้ ่นื โดยมชิ อบ

- 20 - 1.4 การจัดทา การพมิ พแ์ ละรปู เล่ม ผลงานทางวิชาการตอ้ งมีการจดั ทาอยา่ งประณีต การพิมพ์ถูกต้องตามหลักวิชาการ และสวยงาม เช่น การพมิ พ์หัวข้อ การย่อหนา้ การพมิ พ์ตาราง การพิมพเ์ ชงิ อรรถ บรรณานุกรม การจัดทารูปเล่ม ถูกต้อง มีปกหนา้ ปกใน คานา สารบญั เนื้อหา บรรณานุกรม ภาคผนวก ปกหลงั เป็นตน้ 2. ดา้ นประโยชนข์ องผลงานทางวชิ าการ 2.1ประโยชน์ต่อผู้เรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา การจัดการเรียนการสอน หนว่ ยงานการศกึ ษา และชมุ ชน พิจารณาจากผลท่ีปรากฏต่อผู้เรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา การจัดการเรียน การสอน หนว่ ยงานการศกึ ษา และชุมชน อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและประสิทธผิ ล 2.2 ประโยชน์ตอ่ ความกา้ วหน้าทางวชิ าการและการเผยแพร่ในวงวชิ าการ พจิ ารณาจากประโยชน์ต่อความก้าวหน้าทางวิชาการหรือวิชาชีพ สามารถเป็นแบบอย่าง ใช้เป็นแหล่งอ้างอิง หรือเป็นแบบในการปฏิบัติได้เป็นอย่างดี มีการนาผลงานไปเผยแพร่ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น จดั พิมพใ์ นรายงานประจาปี เอกสาร วารสาร การนาเสนอต่อที่ประชุม สัมมนา การจัดนิทรรศการ การเผยแพร่ ทางวิทยุ โทรทศั น์ เทคโนโลยีสารสนเทศ เปน็ ต้น เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลงานทางวชิ าการ (100 คะแนน) รายการประเมิน คะแนนเตม็ เกณฑ์การตัดสนิ ผลงานทางวชิ าการ 50 วิทยฐานะ (20) 1. คุณภาพของผลงานทางวชิ าการ (15) ครูเชี่ยวชาญ (10) 1.1 ความถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ (5) ผลงานทางวิชาการ 1.2 ความสมบรู ณ์ของเนอื้ หาสาระ 50 ต้องได้คะแนนจาก 1.3 ความริเรมิ่ สรา้ งสรรค์ (30) กรรมการแต่ละคน 1.4 การจดั ทา การพมิ พ์และรปู เลม่ ไม่ต่ากวา่ ร้อยละ 75 2. ประโยชนข์ องผลงานทางวิชาการ (20) วทิ ยฐานะ 2.1 ประโยชน์ตอ่ ผู้เรยี น ครู บุคลากรทางการศกึ ษา 100 ครเู ชย่ี วชาญพิเศษ การจัดการเรยี นการสอน หนว่ ยงานการศกึ ษาและ ผลงานทางวชิ าการ ชมุ ชน ตอ้ งไดค้ ะแนนจาก 2.2 ประโยชน์ตอ่ ความก้าวหน้าทางวชิ าการและ กรรมการแตล่ ะคน ไม่ตา่ กว่ารอ้ ยละ 80 เผยแพรใ่ นวงวิชาการ รวมคะแนนผลงานทางวิชาการ

- 21 - บทท่ี 4 ขน้ั ตอนการดาเนนิ การขอมวี ทิ ยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ สาหรบั ผดู้ ารงตาแหนง่ ครู ก.ค.ศ. กาหนดหลกั เกณฑ์และวิธกี ารให้ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะ และเลอ่ื นวิทยฐานะ โดยมีเจตนารมณ์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ดารง ตาแหน่งครู ได้มีการสั่งสมความชานาญและมีความเชี่ยวชาญในการจัดการเรียนการสอน มี การพัฒนาตนเอง อย่างตอ่ เน่อื ง และสง่ เสริมใหค้ รูประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดี มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ วิชาชีพ ซ่ึงสานักงาน ก.ค.ศ. ได้แจ้งให้ส่วนราชการเพื่อทราบและถือปฏิบัติ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 21 ลงวนั ท่ี 5 กรกฎาคม 2560 โดยสรปุ ข้นั ตอนการดาเนินการตามแผนภาพ ดังนี้ จากแ ผนภ าพ ดัง กล่าวจะ เห็ นว่ า ในการข อมีวิ ทย ฐ านะห รื อเ ลื่อนวิท ยฐ านะ ของผู้ ด าร งต าแห น่ง ค รู ต้อง ได้ รั บการ ป ร ะ เมิ นผ ล ง านที่ เ กิ ด จากการ ป ฏิบั ติ ห น้ าท่ี เป็ นร าย ปีการ ศึ กษา แ ล ะ ใ นบ าง วิ ท ย ฐานะ ต้ อง มี การประเมินผลงานทางวิชาการด้วย ดังน้ัน เพื่อให้เกิดความเข้าใจท่ีชัดเจน จึงขอกล่าวถึงขั้นตอนการดาเนินการ และบทบาท หนา้ ทข่ี องผู้เกี่ยวข้อง ดงั น้ี ข้ันตอนที่ 1 การดาเนินการในระดับสถานศกึ ษา

- 22 - 1. ผ้ดู ารงตาแหน่งครู ในแต่ละปีการศกึ ษาผู้ดารงตาแหนง่ ครู มบี ทบาทหนา้ ท่ี ดงั น้ี 1.1 ปฏิบัติงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบตามมาตรฐานตาแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะ ที่ ก.ค.ศ. กาหนด 1.2 มชี ว่ั โมงการปฏบิ ัตงิ าน 1.2.1 ผู้ดารงตาแหน่งครู ที่จะขอมีวิทยฐานะครูชานาญการหรือขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ ต้องมีชั่วโมงการปฏิบัติงานในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 800 ชั่วโมง โดยช่ัวโมงการปฏิบัติงาน ตอ้ งมชี ั่วโมงการมีสว่ นร่วมในชุมชนการเรียนรทู้ างวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) ไม่น้อยกว่า 50 ชว่ั โมง และตอ้ งมีชั่วโมงสอนขน้ั ตา่ ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด 1.2.2 ผู้ดารงตาแหน่งครู ที่จะขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญหรือวิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญพิเศษ ต้องมีช่ัวโมงการปฏิบัติงานในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 900 ชั่วโมง โดยช่ัวโมงการปฏิบัติงาน ต้องมีช่วั โมงการมสี ว่ นร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชพี (Professional Learning Community : PLC) ไมน่ ้อยกวา่ 50 ชัว่ โมง และตอ้ งมีช่วั โมงสอนขั้นตา่ ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด 1.3 ประพฤติตนอยู่ในวินยั คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี 1.4 มีการพฒั นาตนเองตามหลกั เกณฑ์และวิธีการท่ี ก.ค.ศ. กาหนด โดยพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกปี แตล่ ะปีไมน่ อ้ ยกว่า 12 ชัว่ โมง แต่ไม่เกิน 20 ช่วั โมง 1.5 ประเมินผลงานของตนเอง ที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ สายงานการสอน 3 ด้าน คือ ด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านการบริหารจัดการชั้นเรียน และด้านการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ โดยมีตัวชี้วัด รวม 13 ตัวชี้วัด และบันทึกผลการประเมินลงในแบบรายงานผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ตาแหนง่ ครู รายปีการศกึ ษา (วฐ.2) และเสนอผูอ้ านวยการสถานศกึ ษาพจิ ารณา 1.6 บันทึกข้อมูลลงในประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) โดยมีรายละเอียดตามคู่มือบันทึก ประวตั กิ ารปฏบิ ัตงิ าน 1.7 ผ้ดู ารงตาแหน่งครู ที่จะขอเลือ่ นเป็นวิทยฐานะครเู ชยี่ วชาญหรอื วิทยฐานะครูเชยี่ วชาญพิเศษ ต้องจัดทาผลงานทางวิชาการไม่น้อยกว่า 2 รายการ โดยวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญต้องเป็นงานวิจัยในช้ันเรียน อย่างน้อย 1 รายการ และ วิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษต้องเป็นงานวิจัยเก่ียวกับการจัดการเรียนการสอน อย่างน้อย 1 รายการ 2. ผอู้ านวยการสถานศึกษาหรือผู้ประเมนิ ในแตล่ ะปกี ารศึกษาผูอ้ านวยการสถานศึกษาหรอื ผูป้ ระเมิน มีบทบาทหนา้ ที่ ดงั นี้ 2.1 ประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ 3 ด้าน 13 ตัวชี้วัด ของผู้ดารงตาแหน่งครู ภาคเรยี นละ 1 คร้ัง โดยในการประเมินภาคเรียนที่ 1 เป็นการประเมินเพอ่ื ให้คาแนะนาและพฒั นา 2.2 ประเมนิ ผลงานทีเ่ กดิ จากการปฏิบัติหน้าที่ 3 ด้าน 13 ตัวชี้วัด ในภาพรวมทั้งปี เมื่อสิ้นภาคเรียนที่ 2 โดยตั้งคณะกรรมการจากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาน้ัน หรือนอกสถานศึกษา ตามความเหมาะสม เพ่ือตรวจสอบและกล่ันกรองข้อมูลผู้ดารงตาแหน่งครู รายงานและเสนอความเห็น เพือ่ ประกอบการพิจารณาประเมินผลงานท่ีเกดิ จากการปฏิบตั หิ นา้ ทใ่ี นแตล่ ะปีการศกึ ษา กรณีการประเมินในปีการศึกษาใด หากผู้อานวยการสถานศึกษาไม่อาจประเมินผลงาน ท่ีเกิดจากการปฏิบัตหิ นา้ ทข่ี องผ้ดู ารงตาแหน่งครูดว้ ยเหตุใด ๆ ให้เสนอ กศจ. แต่งต้ังข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศกึ ษาในจังหวัดน้ันท่มี คี วามรู้ ความสามารถเหมาะสมเปน็ ผปู้ ระเมนิ ผลงานที่เกิดจากการปฏิบตั หิ น้าทแี่ ทน ผู้อานวยการสถานศกึ ษา

- 23 - 2.3 บันทึกผลการประเมินในแบบรายงานผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ตาแหน่งครู (รายปกี ารศกึ ษา) ตามแบบ วฐ.2 และสรุปผลการประเมินระดับคุณภาพรายตัวชี้วัด ทั้งนี้ หากมีผลการประเมิน ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ท่ีกาหนดให้ระบุเหตุผลประกอบการประเมินตามตัวชี้วัด พร้อมให้คาแนะนา ในการพัฒนางานนน้ั ดว้ ย โดยผู้ดารงตาแหน่งครู และผู้อานวยการสถานศึกษาหรือผู้ประเมิน ต้องเก็บหลักฐาน ผลการประเมนิ ผลงานท่ีเกิดจากการปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ ตามแบบ วฐ.2 ไว้ คนละ 1 ชุด 2.4 สรุปผลการประเมินให้ผดู้ ารงตาแหน่งครู ทราบ ปีการศึกษาละ 1 ครั้ง กรณีที่ผู้ดารง ตาแหน่งครู ไม่เห็นด้วยกับผลการประเมนิ นน้ั ใหเ้ ปดิ โอกาสให้ไดป้ รึกษาและชแี้ จง หากผู้อานวยการสถานศึกษา หรือผู้ประเมินพิจารณาแล้วเห็นว่าผลการประเมินถูกต้องตรงตามความเป็นจริงแล้ว แต่ผู้ดารงตาแหน่งครู ยังมีความเห็นไม่สอดคล้องกับผู้อานวยการสถานศึกษาหรือผู้ประเมินอีก ให้สถานศึกษาแจ้งไปยังสานักงาน เขตพื้นท่ีการศึกษา เพื่อแต่งต้ังคณะกรรมการตรวจสอบผลการประเมินของปีการศึกษาน้ัน และเม่ือได้ข้อยุติ เป็นประการใดใหถ้ อื เป็นอนั สน้ิ สุด 3. คณะกรรมการตรวจสอบและกลั่นกรองข้อมูล การดาเนินการของคณะกรรมการตรวจสอบและกล่ันกรองข้อมูลในแต่ละปีการศึกษา ให้ดาเนินการ ตรวจสอบและกลัน่ กรองขอ้ มลู ชวั่ โมงการปฏิบัติงาน การพัฒนา ผลการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ ด้านการจัดการเรยี นการสอน ด้านการบริหารจัดการชัน้ เรยี น และด้านการพฒั นาตนเองและพัฒนา วิชาชีพ รวม 13 ตัวชี้วัด พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้อานวยการสถานศึกษาหรือผู้ประเมิน เพ่ือประกอบ การพิจารณาตอ่ ไป 4. การเสนอคาขอมวี ทิ ยฐานะและเลือ่ นวิทยฐานะ และการประเมนิ 4.1 ผดู้ ารงตาแหน่งครทู ่ปี ระสงคจ์ ะขอมีวิทยฐานะหรือเลอื่ นวทิ ยฐานะ ให้ดาเนนิ การ ดังนี้ 4.1.1 ตรวจสอบคณุ สมบตั ิของตนเองใหเ้ ปน็ ไปตามหลกั เกณฑท์ ี่ ก.ค.ศ.กาหนด 4.1.1.1 มีระยะเวลาการดารงตาแหน่งหรือวิทยฐานะปัจจุบัน ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันที่ ย่ืนคาขอ 800 ช่ัวโมง 4.1.1.2 มชี ว่ั โมงการปฏิบัติงานสาหรับวิทยฐานะที่จะขอมีวทิ ยฐานะหรือเลอ่ื นวทิ ยฐานะดังน้ี วิทยฐานะครูชานาญการและวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ไม่น้อยกว่า ต่อปี วิทยฐานะ ครูเช่ียวชาญและวิท ยฐานะครูเช่ียวชา ญพิเศษ ไม่น้อยกว่ า 900 ช่ัวโมงต่อปี โดยจานวนชว่ั โมงการปฏบิ ตั งิ านดังกลา่ ว ต้องมีช่ัวโมงการมีส่วนร่วมในชุมชน การเรยี นรูท้ างวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) ในแตล่ ะปี ไม่นอ้ ยกว่า 50 ชัว่ โมง และต้องมี ชว่ั โมงสอนขัน้ ต่าตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด สาหรบั ผ้ขู อเลอ่ื นเป็นวิทยฐานะครเู ช่ียวชาญและวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ การเสนอผลงานทางวชิ าการในวิชา/สาขา/กลมุ่ สาระการเรียนรู้ใด ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปี ผู้ขอจะต้องมี ชั่วโมงสอนในวิชา/สาขา/กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ทเี่ สนอผลงานทางวชิ าการนนั้ ดว้ ย 4.1.1.3 ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ภายในระยะเวลา 5 ปี นบั ถึงวันที่ยน่ื คาขอ 4.1.1.4 ผ่านการพฒั นาตามหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารที่ ก.ค.ศ. กาหนดแล้ว โดยเข้ารับ การพัฒนาจานวนไม่นอ้ ยกวา่ 12 ช่วั โมง แตไ่ ม่เกิน 20 ช่ัวโมงต่อปี รวมภายในระยะเวลา 5 ปี จานวน 100 ชั่วโมง กรณีมชี ่วั โมงการพัฒนาไม่ครบ 100 ชวั่ โมง ให้นาช่ัวโมงการมีสว่ นร่วมในชุมชนการเรียนรูท้ างวชิ าชีพ (Professional Learning Community : PLC) ส่วนทีเ่ กินจาก 50 ชั่วโมงในแต่ละปีมานับรวมได้

- 24 - 4.1.1.5 มีผลการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ผ่านเกณฑ์ ไม่น้อยกว่า 3 ปีการศึกษา ในช่วงระยะเวลายอ้ นหลงั 5 ปีการศกึ ษาติดตอ่ กัน นบั ถึงวันสิน้ ปกี ารศกึ ษากอ่ นวันทย่ี นื่ คาขอ โดยให้ผู้ขอและผู้อานวยการสถานศึกษารับรองข้อมูล เอกสาร และหลักฐานเก่ียวกับ คุณสมบตั ดิ ้วย 4.1.2 ย่ืนคาขอมวี ิทยฐานะหรอื เล่ือนวิทยฐานะต่อสถานศึกษาได้ตลอดปี รอบปีละ 1 คร้ัง พรอ้ มเอกสารหลกั ฐานเพ่ือประกอบการพิจารณา ดังน้ี 4.1.2.1 วิทยฐานะครูชานาญการและวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ให้ย่ืนเอกสาร จานวน 2 ชุด ดังน้ี 1) คาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอ มวี ิทยฐานะหรอื เลอ่ื นวทิ ยฐานะ ตาแหนง่ ครู (วฐ.1) 2) ผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏิบัตหิ นา้ ที่ รายปกี ารศึกษา จานวน 5 ปีการศึกษา ตามแบบ วฐ.2 3) บันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) โดยมีชั่วโมงการปฏิบัติงาน ช่ัวโมงการอบรมและพฒั นา และผ่านการรับรองจากผู้อานวยการสถานศกึ ษา พร้อมแนบไฟล์ 4) เอกสารหลักฐานอ่ืนท่ีเกี่ยวข้อง เช่น ตารางสอน คาส่ังมอบหมายงาน วฒุ บิ ัตรผ่านการพัฒนา เป็นต้น 4.1.2.2 วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญและวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ ให้ย่ืนเอกสาร จานวน 4 ชุด ดงั นี้ 1) คาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมี วิทยฐานะหรือเลอื่ นวทิ ยฐานะ ตาแหนง่ ครู (วฐ.1) 2) ผลงานทีเ่ กดิ จากการปฏิบัติหน้าที่ รายปีการศึกษา จานวน 5 ปีการศึกษา ตามแบบ วฐ.2 3) บันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) โดยมีช่ัวโมงการปฏิบัติงาน ชั่วโมงการอบรมและพฒั นา และผ่านการรบั รองจากผอู้ านวยการสถานศึกษา พรอ้ มแนบไฟล์ 4) ผลงานทางวิชาการ 5) เอกสารหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ตารางสอน คาส่ังมอบหมายงาน วฒุ ิบตั รผา่ นการพฒั นา เป็นต้น ทั้งนี้ ทุกวิทยฐานะ เอกสารหลักฐาน ตามข้อ 2) และ 3) ต้องมีการบันทึกข้อมูล เป็นระยะๆ ให้ครบถ้วนและเป็นปัจจุบนั กรณผี ู้ทจ่ี ะเกษียณอายรุ าชการและจะขอมวี ิทยฐานะครชู านาญการและขอเลือ่ นเป็น วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ให้ยื่นคาขอพร้อมเอกสารหลักฐานต่อสถานศึกษาเพ่ือตรวจสอบและรับรอง แล้วเสนอผู้บังคับบัญชาตามลาดับ ถึงสานักงานศึกษาธิการจังหวัด ก่อนวันที่จะเกษียณอายุราชการไม่น้อยกว่า 6 เดอื น สาหรับผู้ท่ีจะเกษียณอายุราชการและจะขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญและ วิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ ให้ย่ืนคาขอพร้อมเอกสารหลักฐาน ต่อสถานศึกษาเพ่ือตรวจสอบและรับรอง แล้วเสนอผ้บู งั คบั บัญชาตามลาดับและสานกั งานศึกษาธิการจังหวดั ถึงสานกั งาน ก.ค.ศ. กอ่ นวนั ท่จี ะเกษียณอายุราชการ ไมน่ ้อยกวา่ 6 เดือน 4.2 ให้ผู้อานวยการสถานศกึ ษาในฐานะผบู้ งั คบั บญั ชาเป็นผู้ประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติ หน้าที่ทุกวิทยฐานะ ดงั นี้

- 25 - 4.2.1 ตรวจสอบคณุ สมบัติของผู้ขอมวี ิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ที่ ก.ค.ศ. กาหนด 4.2.2 สรุปผลการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีของผู้ขอในแต่ละปีการศึกษา รวม 5 ปีการศึกษา และบันทึกลงในแบบสรุปผลการตรวจสอบและประเมิน ตาแหน่งครู รวม 5 ปีการศึกษา ตามแบบ วฐ.3 4.2.3 ผู้อานวยการสถานศึกษาส่งคาขอพร้อมเอกสารหลักฐานต่อสานักงานเขตพื้นท่ี การศกึ ษา ดังตอ่ ไปน้ี 1) คาขอมวี ิทยฐานะหรอื เลื่อนวทิ ยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวทิ ยฐานะหรอื เลอ่ื นวิทยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) 2) สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหนง่ ครู (5 ปกี ารศกึ ษา) ตามแบบ วฐ.3 3) บันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) โดยมีชั่วโมงการปฏิบัติงาน ช่ัวโมงการอบรม และพฒั นา และผา่ นการรับรองจากผอู้ านวยการสถานศึกษา พร้อมแนบไฟล์ 4) ผลงานทางวชิ าการ (สาหรับวิทยฐานะครูเชย่ี วชาญและครูเชีย่ วชาญพเิ ศษ) 5) เอกสารหลักฐานอน่ื ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เชน่ ตารางสอน คาสั่งมอบหมายงาน วุฒบิ ัตรผ่าน การพัฒนา เปน็ ตน้ กรณีที่ผู้ดารงตาแหน่งครูได้ยื่นคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ หากผู้อานวยการ สถานศึกษามีวิทยฐานะต่ากว่าวิทยฐานะที่ผู้ดารงตาแหน่งครูขอรับการประเมิน ให้ผู้อานวยการสถานศึกษา รายงานสานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษา เพอ่ื เสนอ กศจ. พิจารณาแต่งต้ังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในจังหวัดนั้นท่ีมีวิทยฐานะไม่ต่ากว่าวิทยฐานะท่ีขอ เป็นผู้ร่วมประเมินสรุปผลการตรวจสอบและประเมิน ตาแหนง่ ครู 5 ปกี ารศึกษา ตามแบบ วฐ.3 ข้ันตอนที่ 2 การดาเนนิ การในระดบั สานักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษา การดาเนินการของสานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษา ให้ดาเนนิ การ ดังนี้ 1. ตรวจสอบคณุ สมบตั ขิ องผ้ขู อมีวทิ ยฐานะหรือเลอ่ื นวทิ ยฐานะให้เปน็ ไปตามหลักเกณฑท์ ่ี ก.ค.ศ. กาหนด 2. ตรวจสอบผลการประเมนิ ผลงานทีเ่ กิดจากการปฏิบัตหิ นา้ ท่แี ละเอกสารหลกั ฐาน ดังนี้ 2.1 วิทยฐานะครูชานาญการและวทิ ยฐานะครชู านาญการพเิ ศษ 2.1.1 คาขอมวี ิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะหรือ เล่ือนวทิ ยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) 2.1.2 สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมิน ตาแหน่งครู (5 ปกี ารศึกษา) ตามแบบ วฐ.3 2.1.3 บนั ทึกประวตั ิการปฏบิ ตั งิ าน (Logbook) โดยมีชั่วโมงการปฏิบัติงาน ชั่วโมงการอบรม และพฒั นา และผ่านการรับรองจากผู้อานวยการสถานศึกษา พร้อมแนบไฟล์ 2.1.4 เอกสารหลักฐานอื่นท่ีเก่ียวข้อง เช่น ตารางสอน คาสั่งมอบหมายงาน วุฒิบัตรผ่าน การพัฒนา เป็นต้น 2.2 วิทยฐานะครเู ชี่ยวชาญและวทิ ยฐานะครเู ชยี่ วชาญพเิ ศษ 2.2.1 คาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะหรือ เลอ่ื นวทิ ยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) 2.2.2 สรุปผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหน่งครู (5 ปีการศึกษา) ตามแบบ วฐ.3 2.2.3 บันทกึ ประวตั ิการปฏบิ ัติงาน (Logbook) โดยมีชั่วโมงการปฏิบัติงาน ช่ัวโมงการอบรม และพฒั นา และผ่านการรบั รองจากผอู้ านวยการสถานศกึ ษา พรอ้ มแนบไฟล์

- 26 - 2.2.4 ผลงานทางวชิ าการ 2.3 กรณีที่ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเอกสารหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ให้สานักงาน เขตพ้ืนท่กี ารศึกษาแจ้งสถานศกึ ษาทราบและดาเนินการจัดส่งขอ้ มูลเพมิ่ เติมได้ 3. ให้สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้ความเห็นในแบบคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทย ฐานะ ตาแหนง่ ครู ตามแบบ วฐ.1 แลว้ จัดส่งเอกสารหลักฐานดงั กล่าวให้สานกั งานศึกษาธกิ ารจังหวัด 4. กรณีสถานศึกษาแจ้งว่าผู้ดารงตาแหน่งครูไม่เห็นด้วยกับผลการประเมินผลงานที่เกิดจาก การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ประเมิน ให้สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้ังคณะกรรมการตรวจสอบผลการประเมิน ของปีการศกึ ษานน้ั เมอื่ ได้ข้อยุติเป็นประการใดใหถ้ อื เป็นอนั สิน้ สดุ ขัน้ ตอนที่ 3 การดาเนนิ การในระดับสานกั งานศึกษาธิการจังหวดั และคณะกรรมการศกึ ษาธกิ ารจังหวัด 1. การดาเนนิ การของสานักงานศึกษาธกิ ารจงั หวัด ใหด้ าเนินการ ดังนี้ 1.1 ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ที่ ก.ค.ศ. กาหนด 1.2 ตรวจสอบผลการประเมินผลงานทเี่ กิดจากการปฏบิ ตั ิหน้าทแ่ี ละเอกสารหลกั ฐาน ดังนี้ 1.2.1 วิทยฐานะครชู านาญการและวิทยฐานะครชู านาญการพิเศษ 1.2.1.1 คาขอมวี ิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะ หรือเลื่อนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) 1.2.1.2 สรุปผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหน่งครู (5 ปกี ารศึกษา) ตามแบบ วฐ.3 1.2.1.3 บันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) โดยมีชั่วโมงการปฏิบัติงาน ชั่วโมง การอบรมและพัฒนา และผา่ นการรบั รองจากผูอ้ านวยการสถานศึกษา พร้อมแนบไฟล์ 1.2.1.4 เอกสารหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ตารางสอน คาสั่งมอบหมายงาน วุฒิบัตรผ่านการพัฒนา เป็นต้น 1.2.2 วทิ ยฐานะครเู ชยี่ วชาญและวิทยฐานะครเู ช่ยี วชาญพเิ ศษ 1.2.2.1 คาขอมีวทิ ยฐานะหรอื เลอื่ นวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมวี ิทยฐานะ หรือเลอ่ื นวทิ ยฐานะ ตาแหนง่ ครู (วฐ.1) 1.2.2.2 สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหนง่ ครู (5 ปกี ารศกึ ษา) ตามแบบ วฐ.3 1.2.2.3 บนั ทกึ ประวัตกิ ารปฏิบตั งิ าน (Logbook) โดยมีชั่วโมงการปฏิบัตงิ าน ชัว่ โมง การอบรมและพฒั นา และผา่ นการรับรองจากผู้อานวยการสถานศกึ ษา พรอ้ มแนบไฟล์ 1.2.2.4 ผลงานทางวิชาการ 1.3 ให้สานักงานศกึ ษาธิการจงั หวดั เสนอ อกศจ. และ กศจ. พิจารณาตามลาดับ 2. คณะกรรมการศกึ ษาธิการจังหวัด (กศจ.) คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด พิจารณาคุณสมบัติของผู้ขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ประกอบด้วย ระยะเวลาการดารงตาแหน่งและหรือวิทยฐานะปัจจุบัน ช่ัวโมงการปฏิบัติงาน วินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ การพัฒนาตามหลักเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด และผลการประเมินผลงาน ที่เกดิ จากการปฏิบตั ิหน้าที่ พร้อมทง้ั เอกสารหลักฐาน เมอ่ื พจิ ารณาแลว้ มีผลเป็นประการใดให้ดาเนินการ ดังน้ี 2.1 วทิ ยฐานะครูชานาญการและวิทยฐานะครูชานาญการพเิ ศษ

- 27 - 2.1.1 กรณีที่ กศจ. มีมติอนุมัติ ให้ผู้มีอานาจตามมาตรา 53 สั่งแต่งตั้งให้มีวิทย ฐานะ หรอื เลอื่ นวทิ ยฐานะ และใหส้ านกั งานศกึ ษาธิการจังหวัดแจ้งสานกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษา เพือ่ แจง้ ผู้ขอทราบ 2.1.2 กรณีท่ี กศจ. มีมติไม่อนุมัติ ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัดแจ้งผลการพิจารณา พร้อมทงั้ ขอ้ สงั เกตการประเมินไปยังสานกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษา เพอื่ แจ้งผู้ขอทราบ 2.2 วิทยฐานะครูเช่ยี วชาญและวิทยฐานะครเู ชีย่ วชาญพเิ ศษ 2.2.1 ก ร ณีที่ ก ศจ . มีม ติว่า เ ป็น ผู้มีคุณส ม บัติต า ม ที่ ก . ค. ศ. กา ห น ด ใ ห้ สานักงานศึกษาธิการจังหวัด ส่งเอกสารหลักฐาน จานวน 4 ชุด ไปยังสานักงาน ก.ค.ศ. ภายใน 30 วัน นับแต่ วั น ท่ี กศจ. มีมติเพ่ือเสนอ ก.ค.ศ. พิจารณา ดังน้ี 2.2.1.1 คาขอมีวิทยฐานะหรือเลอื่ นวิทยฐานะ ตาแหนง่ ครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะ หรอื เลอ่ื นวทิ ยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) 2.2.1.2 สรุปผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหน่งครู (5 ปีการศึกษา) ตามแบบ วฐ.3 2.2.1.3 มติ กศจ. คร้ังท่เี กย่ี วข้องและมกี ารรับรองสาเนาถกู ตอ้ ง 2.2.1.4 ผลงานทางวิชาการ 2.2.2 กรณีท่ี กศจ. มีมติว่าเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติหรือไม่ผ่านเกณฑ์ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัดแจ้งผลการพิจารณาพร้อมทั้งข้อสังเกตการประเมิน และเอกสารหลักฐาน ท่เี ก่ยี วขอ้ งไปยังสานักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา เพื่อแจ้งผูข้ อทราบ 2.3 ให้แต่งต้ังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดนั้นที่มีวิทยฐานะไม่ตา่ กว่า วิทยฐานะที่ผู้ดารงตาแหน่งครูขอรับการประเมินเป็นผู้ร่วมประเมินสรุปผลการตรวจสอบและประเมิน ตาแหน่งครู (5 ปีการศึกษา) กรณที ผ่ี ู้อานวยการสถานศึกษามวี ิทยฐานะต่ากว่าวิทยฐานะที่ผู้ดารงตาแหนง่ ครูขอรับการประเมิน ขั้นตอนที่ 4 การดาเนนิ การในระดบั สานกั งาน ก.ค.ศ. และ ก.ค.ศ. 1. เมอ่ื สานกั งาน ก.ค.ศ. ได้รับคาขอเล่ือนเปน็ วทิ ยฐานะครูเชี่ยวชาญหรือวิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ พร้อมทง้ั เอกสารหลกั ฐาน จานวน 4 ชดุ ดังนี้ 1.1 คาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อน วทิ ยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) 1.2 สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมิน ตาแหนง่ ครู (5 ปกี ารศกึ ษา) ตามแบบ วฐ.3 1.3 มติ กศจ. ครั้งทเ่ี กยี่ วข้องและมีการรบั รองสาเนาถกู ตอ้ ง 1.4 ผลงานทางวิชาการ 2. สานักงาน ก.ค.ศ. ตรวจสอบคุณสมบัติ ผลการประเมิน และเอกสารหลักฐานตามที่สานักงาน ศึกษาธกิ ารจังหวัดสง่ มาให้ถกู ตอ้ ง ครบถว้ นตามหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารน้เี พ่อื เสนอ ก.ค.ศ. พิจารณาตอ่ ไป 3. ก.ค.ศ. พจิ ารณา ดงั น้ี 3.1 ตั้งคณะกรรมการประเมินผลงานทางวิชาการ จากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ ความสามารถ และเชย่ี วชาญในสาขาวิชาท่จี ะตรวจและประเมนิ โดยผูข้ อ 1 ราย ให้มีคณะกรรมการประเมนิ จานวน 3 คน 3.2 กรณีคณะกรรมการประเมินผลงานทางวิชาการ พิจารณาแล้วเห็นควรให้ปรับปรุงผลงาน ทางวิชาการ ต้องมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 คน ท้ังนี้ ผลงาน ทางวิชาการต้องอยู่ในวิสัยท่ีสามารถปรับปรุงได้ และ ก.ค.ศ. มีมติให้ปรับปรุง ก็ให้ปรับปรุงตามข้อสังเกต

- 28 - ของกรรมการได้ ไมเ่ กิน 2 ครงั้ ครั้งแรก ภายใน 6 เดือน และครั้งท่ี 2 ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่สานักงาน ก.ค.ศ. แจ้งมติ ก.ค.ศ. ให้สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั ทราบ เมื่อผู้ขอปรับปรุงผลงานทางวิชาการแล้ว ให้สานักงาน ก.ค.ศ. เสนอคณะกรรมการ ประเมนิ ผลงานทางวชิ าการชดุ เดมิ ตรวจและประเมนิ ตอ่ ไป 3.3 กรณีผู้ขอไม่ส่งผลงานทางวิชาการที่ปรับปรุงตามข้อสังเกตภายในระยะเวลาที่กาหนด หรอื ส่งพ้นระยะเวลาทกี่ าหนด ใหถ้ อื วา่ สละสทิ ธิ์ 3.4 กรณีคณะกรรมการประเมินผลงานทางวิชาการ พิจารณาแล้วเห็นว่าผลงานทางวิชาการ มีคุณภาพและเป็นประโยชนใ์ นการจัดการเรียนการสอนต่อผเู้ รียน อาจให้ผู้ขอมานาเสนอกระบวนการและวิธีการ ดาเนินการในเรื่องดังกล่าว และคณะกรรมการอาจไปประเมิน ณ สถานที่ปฏบิ ตั งิ านจริงด้วยก็ได้ 3.5 กรณีท่ี ก.ค.ศ. มีมติอนุมัติ ให้สานักงาน ก.ค.ศ. แจ้งมติไปยังสานักงานศึกษาธิการจังหวัด เพือ่ ดาเนนิ การต่อไป สาหรบั วทิ ยฐานะครเู ช่ยี วชาญพิเศษ ใหผ้ ูบ้ ังคบั บญั ชาสูงสดุ ของส่วนราชการท่ีผู้น้ันสังกัดอยู่ เป็นผู้สั่งบรรจุและให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดนาเสนอนายกรัฐมนตรี เพ่ือนาความกราบบังคมทูลเพ่ือทรงพระกรุณา โปรดเกลา้ ฯ แต่งตง้ั ใหเ้ ล่ือนเป็นวทิ ยฐานะครูเช่ยี วชาญพิเศษ ต่อไป 3.6 กรณีที่ ก.ค.ศ. มีมติไม่อนุมัติ ให้สานักงาน ก.ค.ศ. แจ้งมติพร้อมทั้งข้อสังเกตให้สานักงาน ศึกษาธกิ ารจังหวดั เพอ่ื ให้สานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา แจง้ ผ้ขู อทราบตอ่ ไป บทที่ 5 แนวปฏิบตั ิการขอมวี ทิ ยฐานะและเลือ่ นวิทยฐานะในช่วงระยะเวลาเปล่ียนผ่าน ในช่วงระยะเวลาเปล่ียนผ่านจากหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูบุคลากรทางการศึกษา มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 มาใช้หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแห น่งครู

- 29 - มีวิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 ให้ผู้ดารงตาแหน่งครูอยู่ก่อนวันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 ท่ีมีคุณสมบัติตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด สามารถย่ืนคาขอ มีวิทยฐานะหรอื เลอื่ นวิทยฐานะ ตามหนังสอื สานกั งาน ก.ค.ศ. ดว่ นท่ีสดุ ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันที่ 30 กันยายน 2552 หรือตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 ได้ โดยมแี นวปฏิบตั ิ ดังนี้ การขอมีวิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวนั ท่ี 30 กนั ยายน 2552 ก.ค.ศ. กาหนดแนวปฏิบัติในการขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ สาหรับผู้ดารงตาแหน่งครู ในช่วงระยะเวลาเปล่ยี นผ่าน ทม่ี ีคณุ สมบัตคิ รบตามหลกั เกณฑ์และวิธกี ารฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวนั ที่ 30 กนั ยายน 2552 ไว้ดงั นี้ กรณีผู้ดารงตาแหน่งครูได้ยื่นคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ที่ ก.ค.ศ. กาหนดไว้เดิมก่อนวันที่หลักเกณฑ์และวิธีการน้ีใช้บังคับ แต่ยังดาเนินการไม่แล้วเสร็จ ให้ดาเนินการ ตามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการเดมิ น้นั ต่อไปจนกว่าจะแลว้ เสร็จ สาหรับการขอมวี ิทยฐานะหรอื เลอื่ นวทิ ยฐานะตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการฯ ตามหนงั สือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 หรือตามหลักเกณฑ์และวิธีการน้ีในครั้งต่อไป ใหด้ าเนนิ การดงั น้ี 1 ผปู้ ระสงคจ์ ะขอมวี ทิ ยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 ให้สามารถยื่นคาขอได้ 1 คร้ัง เพียงวิทยฐานะเดยี ว ดังน้ี 1.1 กรณีคาขอรับการประเมินท่ียื่นไว้เดิม ได้รับการอนุมัติ และในวันท่ีมีหนังสือแจ้งมติ มีคุณสมบตั ิครบทจี่ ะขอเลื่อนวิทยฐานะถัดไปได้อยู่แล้ว ให้ยื่นคาขอ ภายใน 1 ปี นับแต่วันท่ีมีหนังสือแจ้งมติน้ัน แต่หากวนั ท่มี หี นงั สือแจง้ มติดงั กล่าว ยงั มีคุณสมบัติไมค่ รบทจ่ี ะขอเล่ือนวิทยฐานะถัดไป ให้ยื่นคาขอ ภายใน 1 ปี นบั แต่วนั ทีม่ ีคณุ สมบตั คิ รบ 1.2 กรณีคาขอรับการประเมินที่ยื่นไว้เดิม ไม่ได้รับการอนุมัติ ให้ยื่นคาขอได้ ภายใน 1 ปี นับแต่ วันที่มีหนงั สอื แจง้ มติ 2. กรณีผู้ดารงตาแหน่งครูอยู่ก่อนวันที่หลักเกณฑ์และวิธีการน้ีใช้บังคับ หากมีคุณสมบัติครบ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ท่ี ก.ค.ศ. กาหนดไว้เดิม และตามหลักเกณฑ์และวิธีการน้ีด้วย ให้ยื่นคาขอได้ ตามหลกั เกณฑ์ใดหลกั เกณฑ์หน่ึงเพยี งหลกั เกณฑ์เดียว กรณีทไ่ี ดย้ ่ืนคาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการฯ ที่ ก.ค.ศ. กาหนดไว้ เดมิ ก่อนวันที่หลักเกณฑแ์ ละวิธีการน้ีใช้บังคับ แต่การดาเนินการพิจารณายังไม่แล้วเสร็จ หากผู้น้ันประสงค์จะยื่นคาขอรับ การประเมนิ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการน้ี ให้มีหนังสือแจ้งยกเลิกคาขอตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ เดิม โดยยื่น ต่อสานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา สว่ นราชการ หรอื สานกั งาน ก.ค.ศ. แลว้ แตก่ รณี 3. กรณีผู้ดารงตาแหนง่ ครูมคี ุณสมบัตเิ ฉพาะสาหรับวิทยฐานะที่จะขอรับการประเมิน ตามหลักเกณฑ์ และวิธกี ารฯ ตามหนังสอื สานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันที่ 30 กันยายน 2552 อยู่ก่อนวันท่ี หลักเกณฑ์และวธิ กี ารน้ีใชบ้ ังคับ หากประสงคจ์ ะขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ดว่ นทีส่ ุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันที่ 30 กันยายน 2552 ให้สามารถยื่นคาขอได้ ภายใน 1 ปี นับแตว่ นั ที่หลักเกณฑ์และวิธกี ารนใ้ี ชบ้ งั คับ

- 30 - 4. กรณผี ู้ดารงตาแหน่งครูมีคุณสมบัติเฉพาะสาหรับวิทยฐานะที่จะขอรับการประเมินตามหลักเกณฑ์ และวิธกี ารฯ ตามหนงั สือสานกั งาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสดุ ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 ตั้งแต่วันที่ หลกั เกณฑ์และวิธีการน้ีใช้บังคับเป็นต้นไป หากประสงค์จะขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์ และวธิ ีการฯ ตามหนงั สือสานกั งาน ก.ค.ศ. ดว่ นทส่ี ุด ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวนั ที่ 30 กันยายน 2552 ให้สามารถ ย่นื คาขอได้ภายใน 1 ปี นบั แตว่ นั ท่ีมคี ุณสมบตั คิ รบ 5. ผู้ดารงตาแหน่งครู ต้ังแต่วันท่ีหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ใช้บังคับเป็นต้นไป การดาเนินการขอ มวี ทิ ยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ ให้ดาเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ เว้นแต่ผู้ที่มีกรณีเป็นไปตามเงื่อนไข ที่ ก.ค.ศ. กาหนด ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 26 ลงวันท่ี 30 ธันวาคม 2559 หากประสงค์จะขอมี วทิ ยฐานะครูชานาญการ ตามหลักเกณฑ์และวธิ กี ารฯ ตามหนงั สือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 ให้สามารถย่ืนคาขอได้ 1 ครงั้ ภายใน 1 ปี นบั แตว่ นั ท่ีมีคณุ สมบัตคิ รบ 6. ผ้ทู ี่ได้ยื่นคาขอรับการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 ในช่วงระยะเวลาเปล่ียนผ่านไปแล้ว หรือมิได้ยื่นคาขอรับ การประเมิน ภายในระยะเวลาท่ีกาหนดตามข้อ 1 ข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 5 ของแนวปฏิบัติการดาเนินการ ในชว่ งระยะเวลาเปลย่ี นผา่ น แล้วแต่กรณี การดาเนินการขอมีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะต่อไป ให้ดาเนินการ ตามหลักเกณฑ์และวธิ กี ารนี้ การขอมีวิทยฐานะและเลอ่ื นวิทยฐานะ ตามหนังสือสานกั งาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 21 ลงวนั ท่ี 5 กรกฎาคม 2560 ก.ค.ศ. กาหนดแนวปฏิบัติในการขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ สาหรับผู้ดารงตาแหน่งครู ในช่วงระยะเวลาเปล่ียนผ่าน ที่มีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ใหต้ รวจสอบและดาเนินการ ดงั นี้ 1. คุณสมบตั ิ ใหผ้ ้ขู อมีวิทยฐานหรือเลื่อนวทิ ยฐานะ ตรวจสอบคุณสมบตั ใิ หเ้ ป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ดงั น้ี 1.1 ระยะเวลาการดารงตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครูชานาญการ ต้องดารงตาแหน่งครู มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันท่ีย่ืนคาขอ หรือดารงตาแหน่งอ่นื ท่ี ก.ค.ศ. เทียบเทา่ วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ต้องดารงตาแหน่งครูที่มีวิทยฐานะครูชานาญการ มาแล้ว ไม่น้อยกวา่ 5 ปี นบั ถึงวนั ทยี่ ื่นคาขอ หรอื ดารงตาแหนง่ อ่ืนที่ ก.ค.ศ. เทยี บเท่า วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ต้องดารงตาแหน่งครูท่ีมีวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ มาแล้ว ไมน่ ้อยกวา่ 5 ปี นับถงึ วันทยี่ ื่นคาขอ หรอื ดารงตาแหนง่ อ่ืนที่ ก.ค.ศ. เทยี บเท่า วิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ ต้องดารงตาแหน่งครูที่มีวิทยฐานะครูเช่ียวชาญ มาแล้ว ไม่นอ้ ยกวา่ 5 ปี นบั ถงึ วันท่ียื่นคาขอ หรอื ดารงตาแหน่งอ่นื ที่ ก.ค.ศ. เทยี บเทา่ 1.2 มจี านวนช่ัวโมงการปฏิบัติงานสะสมในตาแหน่งหรือวิทยฐานะท่ีดารงอยู่ในปัจจุบัน ย้อนหลัง เป็นเวลา 5 ปี นับถงึ วนั ที่ยืน่ คาขอ ดังน้ี 1.2.1 การขอมีวิทยฐานะครูชานาญการหรือเล่ือนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ต้องมีภาระงานสอน ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ท่ี ศธ 0206.3/3724 - 3725 ลงวันท่ี 21 กันยายน 2553 สะสมย้อนหลงั เป็นเวลา 5 ปี รวมกนั ไมน่ ้อยกว่า 4,000 ชัว่ โมง

- 31 - 1.2.2 การขอเลื่อนเปน็ วทิ ยฐานะครูเชี่ยวชาญหรือวิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ ต้องมีภาระงานสอน ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ที่ ศธ 0206.3/3724 - 3725 ลงวันท่ี 21 กันยายน 2553 สะสมย้อนหลัง เปน็ เวลา 5 ปี รวมกันไม่น้อยกวา่ 4,500 ชั่วโมง 1.3 มวี ินยั คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี โดยไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย หรือจรรยาบรรณ วชิ าชีพ ในช่วงระยะเวลายอ้ นหลัง 5 ปี นับถึงวันทย่ี ืน่ คาขอ ในกรณที ผี่ ดู้ ารงตาแหน่งครู อยรู่ ะหว่างถูกดาเนินการทางวินัยหรือจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยยังไม่มี คาสง่ั ลงโทษ ใหถ้ อื วา่ ผู้นน้ั มีคุณสมบตั ิในขอ้ นี้ 1.4 ผ่านการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กาหนด ซึ่งหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนา ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ตามหนังสือสานกั งาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.7/ว 22 ลงวนั ท่ี 5 กรกฎาคม 2560 กาหนดการดาเนินการในชว่ งระยะเวลาเปล่ยี นผา่ น ไวด้ งั น้ี 1.4.1 ผลการพฒั นาตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ก่อนแต่งตั้งให้มีและเล่ือนเป็นวิทยฐานะชานาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.7/ว 3 ลงวันที่ 7 เมษายน 2554 ที่ยังอยู่ภายในเวลา 3 ปี นับแต่วันท่ีสาเร็จหลักสูตรการพัฒนา ให้สามารถนามาใช้เป็นคุณสมบัติในการขอมีวิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ และการแต่งตั้งให้มีวิทยฐานะ และเล่ือนวทิ ยฐานะ ตามหลักเกณฑ์และวธิ กี ารฯ น้ี ไดอ้ ีก 1 คร้ัง 1.4.2 ผู้ดารงตาแหน่งครูหรือดารงวิทยฐานะมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 5 ปี ที่มีผลการพัฒนา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งต้ังให้มีและเล่ือนเป็นวิทยฐานะชานาญการพิเศษ และวิทยฐานะ เชี่ยวชาญ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.7/ว 3 ลงวันท่ี 7 เมษายน 2554หากพ้นกาหนดเวลา 3 ปี นับแต่วันที่สาเร็จหลักสูตรการพัฒนาแล้ว หรือไม่เคยเข้ารับการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว ให้เข้ารับการพฒั นาตามหลักสูตรท่สี ถาบันคุรุพัฒนารับรอง จานวน 20 ช่ัวโมง เพื่อใช้เป็นคุณสมบัติในการขอมี วิทยฐานะและเลอื่ นวิทยฐานะ และการแตง่ ต้งั ให้มวี ิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารฯ นีไ้ ด้อีก 1 ครั้ง 1.5 มผี ลงานทีเ่ กดิ จากการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี สายงานการสอน ในชว่ งระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปีการศึกษา ติดต่อกัน นับถึงวันสิ้นปีการศึกษาก่อนวันที่ยื่นคาขอ ท้ังน้ี ให้ผู้ขอรับการประเมิน รายงานผลงานที่เกิดจาก การปฏบิ ตั หิ นา้ ทีเ่ ปน็ รายปกี ารศึกษา ย้อนหลัง 5 ปกี ารศกึ ษา และรบั รองข้อมลู ดงั กล่าว ตามแบบรายงานผลงาน ที่เกิดจากการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ ตาแหน่งครู รายปกี ารศึกษา (วฐ.2) 2. การย่นื คาขอรับการประเมิน ผู้ดารงตาแหน่งครูท่ีมีคุณสมบัติตามข้อ 1 และประสงค์จะขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ให้ย่ืนคาขอรับการประเมินต่อสถานศึกษาได้ตลอดปี รอบปีละ 1 คร้ัง พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบ การพิจารณา ดงั นี้ 2.1 วิทยฐานะครชู านาญการและวิทยฐานะครชู านาญการพเิ ศษ ให้ยน่ื คาขอ พร้อมเอกสารหลักฐาน ทเ่ี ก่ียวข้อง จานวน 2 ชุด ดงั น้ี 2.1.1 คาขอมวี ทิ ยฐานะหรือเลือ่ นวิทยฐานะ ตาแหนง่ ครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อน วทิ ยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) 2.1.2 รายงานผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ตาแหน่งครู รายปีการศึกษา (วฐ.2) จานวน 5 ปีการศึกษา โดยแยกรายงานเป็นรายปีการศกึ ษา 2.1.3 บนั ทกึ ประวัตกิ ารปฏบิ ตั งิ าน (Logbook) เฉพาะกรณที ไี่ ด้มกี ารบันทกึ ประวตั กิ ารปฏบิ ัติงาน ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2560 เปน็ ต้นไป

- 32 - 2.1.4 เอกสารหลักฐานอ่ืนที่เก่ียวข้อง เช่น สาเนาทะเบียนประวัติข้าราชการ (ก.พ. 7) หรือ ก.ค.ศ. 16 ตารางสอน คาส่งั มอบหมายงาน วุฒิบตั รผา่ นการพฒั นา เป็นต้น 2.2 วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญและวิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ ให้ย่ืนคาขอ พร้อมเอกสารหลักฐาน ที่เกี่ยวขอ้ ง จานวน 4 ชดุ ดังน้ี 2.2.1 คาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะหรือ เลอ่ื นวทิ ยฐานะ ตาแหนง่ ครู (วฐ.1) 2.2.2 รายงานผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ตาแหน่งครู รายปีการศึกษา (วฐ.2) จานวน 5 ปกี ารศกึ ษา โดยแยกรายงานเป็นรายปีการศกึ ษา 2.2.3 ผลงานทางวชิ าการ จานวนไม่น้อยกว่า 2 รายการ ตามหลกั เกณฑท์ ่ี ก.ค.ศ.กาหนด 2.2.4 บนั ทกึ ประวตั กิ ารปฏิบัตงิ าน (Logbook) เฉพาะกรณที ่ไี ดม้ ีการบันทึกประวตั กิ ารปฏิบัตงิ าน ตง้ั แต่วนั ที่ 5 กรกฎาคม 2560 เปน็ ตน้ ไป 2.2.5 เอกสารหลักฐานอ่ืนท่ีเก่ียวข้อง เช่น สาเนาทะเบียนประวัติข้าราชการ (ก.พ. 7) หรือ ก.ค.ศ. 16 ตารางสอน คาสัง่ มอบหมายงาน วุฒิบัตรผ่านการพัฒนา เป็นตน้ 2.3 การขอมีวทิ ยฐานะหรอื เลือ่ นวทิ ยฐานะ สาหรบั ผู้ท่ีจะเกษยี ณอายุราชการในปที ่ีขอ 2.3.1 ผู้ขอมีวทิ ยฐานะครูชานาญการและเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ให้ยื่นคาขอ พร้อมเอกสารหลักฐาน ตามข้อ 2.1 ต่อสถานศึกษา เพ่ือตรวจสอบและรับรองแล้วเสนอผู้บังคับบัญชาตามลาดับ ถงึ สานักงานศกึ ษาธกิ ารจังหวัด ก่อนท่ีจะเกษียณอายุราชการไมน่ อ้ ยกวา่ 6 เดือน 2.3.2 ผู้ขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะครูเช่ียวชาญและวิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ ให้ยื่นคาขอ พรอ้ มเอกสารหลักฐาน ตามข้อ 2.2 ตอ่ สถานศกึ ษา เพื่อตรวจสอบและรับรองแล้วเสนอผู้บังคับบัญชาตามลาดับ ถงึ สานักงาน ก.ค.ศ. ก่อนทจี่ ะเกษยี ณอายุราชการไมน่ ้อยกวา่ 6 เดือน 3. คณะกรรมการตรวจสอบและกลัน่ กรองข้อมูล ให้ผู้อานวยการสถานศึกษาต้ังคณะกรรมการจากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในสถานศึกษานั้นหรือนอกสถานศึกษา เพื่อตรวจสอบและกลั่นกรองข้อมูลท่ีผู้ดารงตาแหน่งครูรายงานในแต่ละ ปีการศึกษา ได้แก่ ระยะเวลาการดารงตาแหน่ง การดารงวิทยฐานะ ชั่วโมงการปฏิบัติงาน การมีวินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี การพฒั นา ผลการประเมินผลงานทีเ่ กดิ จากการปฏบิ ตั หิ น้าที่ 3 ด้าน รวม 13 ตัวชี้วัด ไดแ้ ก่ ดา้ นการจดั การเรียนการสอน ด้านการบริหารจดั การชั้นเรียน และด้านการพฒั นาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ พร้อมทัง้ เสนอความเหน็ ต่อผู้อานวยการสถานศึกษาหรอื ผู้ประเมิน เพอื่ ประกอบการพจิ ารณาตอ่ ไป 4. การประเมนิ การประเมนิ ให้ผู้อานวยการสถานศกึ ษาหรือผ้ปู ระเมนิ ดาเนนิ การ ดงั น้ี 4.1 ตรวจสอบคณุ สมบตั ขิ องผขู้ อรบั การประเมินให้เป็นไปตามคณุ สมบัตขิ ้อ 1 4.2 ประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ขอรับการประเมิน 5 ปีการศึกษา โดยแยก ประเมินเปน็ รายปีการศกึ ษา (ตามแบบ วฐ.2) และนาผลการประเมินดังกล่าวบันทึกลงในแบบสรุปผลการตรวจสอบ และประเมิน (วฐ.3) 4.3 แจ้งผลการประเมินให้ผู้ขอรับการประเมินทราบ กรณีท่ีผู้ขอรับการประเมินไม่เห็นด้วยกับ ผลการประเมินน้นั ใหเ้ ปิดโอกาสใหช้ ้ีแจง หากผูป้ ระเมินพจิ ารณาแลว้ เห็นวา่ ผลการประเมินถูกต้องตรงตามความเป็นจริงแล้ว แต่ผ้นู น้ั มคี วามเหน็ ไม่สอดคลอ้ งกับผ้ปู ระเมนิ ให้แจง้ ไปยงั สานกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการ ตรวจสอบผลการประเมนิ เม่อื ได้ขอ้ ยตุ เิ ป็นประการใดใหถ้ ือเป็นอันสิน้ สุด 4.4 สง่ เอกสารหลกั ฐานท่ีเกยี่ วขอ้ งให้สานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา ดังน้ี

- 33 - 4.4.1 วิทยฐานะครชู านาญการและวทิ ยฐานะครชู านาญการพเิ ศษ (จานวน 2 ชุด) 4.4.1.1 คาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะ หรือเล่ือนวทิ ยฐานะ ตาแหนง่ ครู (วฐ.1) 4.4.1.2 สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหนง่ ครู (5 ปกี ารศึกษา) ตามแบบ วฐ.3 4.4.1.3 บันทึกประวตั ิการปฏิบัติงาน (Logbook) เฉพาะกรณีที่ได้มีการบันทึกประวัติการ ปฏบิ ัติงาน ต้งั แต่วันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 เปน็ ต้นไป 4.4.1.4 เอกสารหลักฐานอื่นทเ่ี กยี่ วข้อง เช่น สาเนาทะเบียนประวัติข้าราชการ (ก.พ. 7) หรือ ก.ค.ศ. 16 ตารางสอน คาส่งั มอบหมายงาน วุฒิบตั รผ่านการพฒั นา เปน็ ต้น 4.4.2 วิทยฐานะครเู ชย่ี วชาญและวทิ ยฐานะครเู ช่ียวชาญพเิ ศษ (จานวน 4 ชดุ ) 4.4.2.1 คาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะ หรอื เลือ่ นวทิ ยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) 4.4.2.2 สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมิน ตาแหนง่ ครู (5 ปีการศึกษา) ตามแบบ วฐ.3 4.4.2.3 บันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) เฉพาะกรณีท่ีได้มีการบันทึกประวัติ การปฏบิ ตั ิงาน ต้งั แตว่ ันที่ 5 กรกฎาคม 2560 เป็นตน้ ไป 4.4.2.4 ผลงานทางวิชาการ จานวนไม่น้อยกว่า 2 รายการ ตามหลักเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด 4.4.2.5 เอกสารหลกั ฐานอ่นื ที่เก่ียวข้อง เช่น สาเนาทะเบียนประวัติข้าราชการ (ก.พ. 7) หรอื ก.ค.ศ. 16 ตารางสอน คาสั่งมอบหมายงาน วฒุ ิบตั รผา่ นการพฒั นา เป็นต้น 4.5 กรณีที่ผู้ดารงตาแหน่งครูได้ยื่นคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ หากผู้อานวยการ สถานศึกษามีวิทยฐานะต่ากว่าวิทยฐานะที่ขอ ให้สถานศึกษาแจ้งสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาเพ่ือเสนอ กศจ. แต่งต้ังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดน้ันท่ีมีวิทยฐานะไม่ต่ากว่าวิทยฐานะที่ขอ เป็นผู้ร่วม ประเมนิ สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหน่งครู 5 ปีการศึกษา 5. การดาเนนิ การของสานกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษา เมอื่ สานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาไดร้ บั คาขอพร้อมทง้ั เอกสารหลกั ฐานแล้ว ให้ดาเนินการ ดงั น้ี 5.1 ตรวจสอบเอกสารหลกั ฐานทเี่ กี่ยวขอ้ งตามขอ้ 4.4 ใหถ้ ูกต้องและครบถว้ น กรณีที่ตรวจสอบ แล้วปรากฏว่าเอกสารหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ให้สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาแจ้งสถานศึกษา จดั ส่งขอ้ มลู หรือเอกสารหลกั ฐานเพ่มิ เตมิ ได้ 5.2 ตรวจสอบคณุ สมบตั ิของผขู้ อมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะให้เป็นไปตามคุณสมบัติข้อ 1 และให้ ผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้ความเห็นว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติครบตามหลักเ กณฑ์หรือ ขาดคุณสมบัติ และบันทึกความเห็นลงในแบบคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) แลว้ จดั สง่ เอกสารหลักฐานดังกล่าวให้สานักงานศกึ ษาธิการจงั หวัดดาเนินการต่อไป 5.3 กรณีที่สถานศึกษาแจ้งว่าผู้ดารงตาแหน่งครูไม่เห็นด้วยกับผลการประเมินผลงานที่เกิด จากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ประเมิน ให้สานักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาต้ังคณะกรรมการตรวจสอบผลการประเมิน ของปกี ารศกึ ษานนั้ เมื่อได้ข้อยุติเป็นประการใดใหถ้ ือเป็นอนั สน้ิ สดุ 5.4 กรณีที่สถานศึกษา แจ้งว่าผู้ดารงตาแหน่งครูได้ย่ืนคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ แต่ผู้อานวยการสถานศึกษามีวิทยฐานะต่ากว่าวิทยฐานะที่ขอ ให้สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาแจ้งสานักงาน ศึกษาธกิ ารจังหวดั เพื่อนาเสนอ กศจ. แตง่ ต้ังขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดนั้นท่ีมีวิทยฐานะ ไม่ต่ากวา่ วทิ ยฐานะทข่ี อ เปน็ ผู้รว่ มประเมนิ สรุปผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหน่งครู 5 ปกี ารศึกษา

- 34 - 6. การดาเนินการของสานกั งานศึกษาธกิ ารจังหวดั และคณะกรรมการศึกษาธกิ ารจงั หวดั 6.1 การดาเนนิ การของสานกั งานศึกษาธิการจังหวดั เม่อื สานักงานศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั ไดร้ ับคาขอพรอ้ มทงั้ เอกสารหลกั ฐานแล้ว ให้ดาเนินการ ดังนี้ 6.1.1 ตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามข้อ 4.4 ให้ถูกต้องและครบถ้วน กรณีท่ี ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเอกสารหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัด แจง้ สานักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาจดั สง่ ขอ้ มลู หรอื เอกสารหลักฐานเพิม่ เติมได้ 6.1.2 ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะให้เป็นไปตามคุณสมบัติข้อ 1 และหากสานักงานศึกษาธิการจังหวัดเห็นว่าผู้ขอรับการประเมินเป็นผู้มีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์ หรือขาดคุณสมบัติ ให้นาเสนอ อกศจ. พิจารณาให้ความเห็นก่อนนาเสนอ กศจ. พิจารณาต่อไป 6.1.3 สาหรบั วิทยฐานะครเู ชี่ยวชาญและวิทยฐานะครูเชยี่ วชาญพเิ ศษ เมื่อ กศจ. มีมติว่าเป็น ผู้มีคุณสมบัติตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัด ส่งเอกสารหลักฐาน จานวน 4 ชุด ไปยัง สานกั งาน ก.ค.ศ. ภายใน 30 วนั นับแต่วนั ที่ กศจ. มีมติเพอื่ เสนอ ก.ค.ศ. พิจารณา ดังน้ี 1) คาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอ มวี ทิ ยฐานะหรือเลื่อนวทิ ยฐานะ ตาแหนง่ ครู (วฐ.1) 2) สรุปผลการตรวจสอบและประเมิน ตาแหนง่ ครู (5 ปกี ารศึกษา) ตามแบบ วฐ.3 3) มติ กศจ. ครงั้ ที่เก่ียวขอ้ งและมีการรับรองสาเนาถกู ตอ้ ง 4) ผลงานทางวชิ าการ กรณีท่ี กศจ. มีมติว่าเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติหรือไม่ผ่านเกณฑ์ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ให้สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั แจง้ ผลการพจิ ารณาพรอ้ มทั้งข้อสังเกตการประเมนิ และเอกสารหลักฐาน ท่เี กีย่ วขอ้ งไปยังสานักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา เพ่ือแจ้งผู้ขอทราบ 6.1.4 การแต่งตัง้ 6.1.4.1 วทิ ยฐานะครูชานาญการ กรณที ี่ กศจ. มีมติอนุมัติและผู้ขอมีวิทยฐานะผ่านการพัฒนาตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้ผู้มีอานาจตามมาตรา 53 สั่งแต่งต้ังให้มีวิทยฐานะครูชานาญการ และให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ. 2 ในข้ันหรอื อตั ราเงินเดือนเทา่ เดมิ ถา้ ไม่มีขัน้ หรอื อัตราเงนิ เดือนเท่าเดิม ให้ได้รับในขั้นหรืออัตราเงินเดือนใกล้เคียง ทส่ี ูงกวา่ 6.1.4.2 วทิ ยฐานะครชู านาญการพิเศษ กรณีที่ กศจ. มีมติอนุมตั ิและผขู้ อเลอื่ นวิทยฐานะผา่ นการพฒั นาตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ใหผ้ ูม้ อี านาจตามมาตรา 53 สัง่ แตง่ ตั้งให้เล่ือนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ และให้ได้รับเงินเดือน อันดับ คศ. 3 ในข้ันหรืออัตราเงินเดือนเท่าเดิม ถ้าไม่มีข้ันหรืออัตราเงินเดือนเท่าเดิม ให้ได้รั บในข้ันหรืออัตรา เงินเดือนใกลเ้ คียงท่สี ูงกว่า 6.1.4.3 วิทยฐานะครูเชยี่ วชาญ กรณีที่ ก.ค.ศ. มีมติอนมุ ัตแิ ละผขู้ อเลอ่ื นวทิ ยฐานะผา่ นการพัฒนาตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้ผ้มู ีอานาจตามมาตรา 53 สั่งแต่งตั้งให้เลื่อนเป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ และให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ. 4 ในขนั้ หรอื อตั ราเงนิ เดือนเท่าเดมิ ถ้าไม่มีข้ันหรืออัตราเงินเดือนเท่าเดิม ให้ได้รับในขั้นหรืออัตราเงินเดือน ใกล้เคียงทส่ี ูงกว่า

- 35 - 6.1.5 เม่ือ กศจ. พิจารณา มีมติอนุมัติหรือไม่อนุมัติ สาหรับวิทยฐานะครูชานาญการ และวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัดแจ้งมติของ กศจ. ไปยังสานักงานเขตพื้นที่ การศกึ ษา เพือ่ แจง้ ผูข้ อมีวิทยฐานะหรอื เล่อื นวทิ ยฐานะทราบ 6.1.6 เมื่อ ก.ค.ศ. พิจารณา มีมติอนุมัติหรือไม่อนุมัติ สาหรับวิทยฐานะครูเช่ียวชาญ และวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัดแจ้งมติของ ก.ค.ศ. ไปยังสานักงานเขตพื้นท่ี การศกึ ษา เพอื่ แจง้ ผู้ขอมีวทิ ยฐานะหรอื เลือ่ นวทิ ยฐานะทราบ 6.2 การดาเนนิ การของคณะกรรมการศกึ ษาธิการจงั หวัด (กศจ.) 6.2.1 กรณีที่สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษา แจ้งว่าผู้ดารงตาแหน่งครูได้ยื่นคาขอมีวิทยฐานะ หรอื เลอ่ื นวิทยฐานะ แต่ผอู้ านวยการสถานศกึ ษามวี ิทยฐานะต่ากวา่ วทิ ยฐานะทข่ี อ ให้สานักงานศึกษาธกิ ารจังหวัด เสนอ กศจ. แต่งต้งั ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดนั้นท่ีมีวิทยฐานะไม่ต่ากว่าวิทยฐานะที่ขอ เปน็ ผรู้ ว่ มประเมนิ สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหนง่ ครู 5 ปกี ารศึกษา 6.2.2 เมื่อ อกศจ. ได้พิจารณากลั่นกรองแล้ว ให้ กศจ. พิจารณาให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด เมือ่ มีมติเป็นประการใดแล้ว ให้สานกั งานศกึ ษาธิการจงั หวดั ดาเนินการในส่วนท่ีเกยี่ วข้องต่อไป 7. การดาเนินการของสานักงาน ก.ค.ศ. และ ก.ค.ศ. 7.1 การดาเนินการของสานกั งาน ก.ค.ศ. เม่ือสานักงาน ก.ค.ศ. ได้รับคาขอพร้อมท้ังเอกสารหลักฐานจากสานักงานศึกษาธิการจังหวัดแล้ว ให้ดาเนนิ การ ดงั น้ี 7.1.1 ตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกย่ี วขอ้ งให้ถูกต้องและครบถ้วน (จานวน 4 ชุด) 1) คาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะ หรอื เลื่อนวิทยฐานะ ตาแหนง่ ครู (วฐ.1) 2) สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหน่งครู (5 ปีการศึกษา) ตามแบบ วฐ.3 3) มติ กศจ. ครง้ั ทีเ่ กย่ี วข้องและมีการรบั รองสาเนาถกู ตอ้ ง 4) ผลงานทางวิชาการ 5) สาเนาทะเบียนประวตั ิข้าราชการ ( ก.พ. 7) หรือ ก.ค.ศ. 16 กรณีที่ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเอกส ารหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ให้สานักงานก.ค.ศ. แจ้งสานักงานศึกษาธิการจังหวัด จัดส่งข้อมูลหรือเอกสารหลักฐานเพ่ิมเติม ท้ังน้ี ก.ค.ศ. อาจเรียกใหจ้ ดั ส่งเอกสารหลักฐานอ่นื เพ่ิมเติมก็ได้ 7.1.2 ตรวจสอบคุณสมบัติ ผลการประเมิน และเอกสารหลักฐานตามท่ีสานักงานศึกษาธิการจังหวัด ส่งมา ให้ถูกต้องครบถว้ นตามหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารนก้ี ่อนนาเสนอ ก.ค.ศ. พจิ ารณาต่อไป 7.1.3 เมื่อ ก.ค.ศ. พิจารณา มีมติอนมุ ัตหิ รอื ไมอ่ นมุ ัติ สาหรับวิทยฐานะครเู ช่ียวชาญและวิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญพิเศษ ให้สานักงาน ก.ค.ศ. แจ้งมติ ก.ค.ศ. ไปยังสานักงานศึกษาธิการจังหวัด เพื่อให้สานักงาน เขตพื้นทกี่ ารศกึ ษา แจ้งผขู้ อมวี ทิ ยฐานะหรอื เลอื่ นวทิ ยฐานะทราบ 7.2 การดาเนินการของ ก.ค.ศ. 7.2.1 ตั้งคณะกรรมการประเมินผลงานทางวิชาการ จากผู้ทรงคุณวุฒิท่ีมีความรู้ ความสามารถ และเช่ยี วชาญในสาขาวิชาท่จี ะตรวจและประเมนิ โดยผ้ขู อ 1 ราย ใหม้ คี ณะกรรมการประเมนิ จานวน 3 คน 7.2.2 กรณีคณะกรรมการประเมนิ ผลงานทางวชิ าการ พิจารณาแล้วเห็นควรให้ปรับปรุงผลงาน ทางวิชาการ ต้องมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 คน ท้ังน้ี ผลงาน

- 36 - ทางวิชาการต้องอยู่ในวิสัยท่ีสามารถปรับปรุงได้ และ ก.ค.ศ. มีมติให้ปรับปรุง ก็ให้ปรับปรุงตามข้อสังเกต ของกรรมการได้ ไม่เกนิ 2 ครัง้ คร้ังแรก ภายใน 6 เดือน และครั้งท่ี 2 ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่สานักงาน ก.ค.ศ. แจ้งมติ ก.ค.ศ. ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวดั ทราบ 7.2.3 กรณีผู้ขอไม่ส่งผลงานทางวิชาการท่ีปรับปรุงตามข้อสังเกตภายในระยะเวลาท่ีกาหนด หรือสง่ พ้นระยะเวลาทก่ี าหนด ใหถ้ ือวา่ สละสิทธ์ิ เมอื่ ก.ค.ศ. พจิ ารณามมี ติอนุมตั ิหรอื ไมอ่ นมุ ตั ิ ให้สานักงาน ก.ค.ศ. ดาเนินการในส่วนทีเ่ ก่ียวขอ้ งต่อไป คาอธิบายและตัวอย่างประกอบหลักเกณฑ์และวธิ กี ารฯ ว 21/2560 ในการน้ีเพ่ือให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติ สานักงาน ก.ค.ศ. จึงได้ยกกรณีตัวอย่าง การดาเนินการในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านสาหรับการยื่นขอมีวิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์ และวธิ กี ารฯ ว 17/2552 และ ว 21/2560 ไว้ ดงั น้ี 1. การยื่นคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน กรณีผู้ดารงตาแหน่งครูได้ยื่นคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อน วิทยฐานะตามหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารฯ ที่ ก.ค.ศ. กาหนดไวเ้ ดิม (ว 17/2552, ว 10/2554, ว 13/2556) ก่อนวันท่ี หลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 21/2560 ใช้บังคับ แต่ยังดาเนินการไม่แล้วเสร็จ ให้ดาเนินการตามหลักเกณฑ์ และวธิ ีการเดมิ น้นั ตอ่ ไปจนกว่าจะแล้วเสรจ็ “ขอ้ 1.1 กรณีคาขอรบั การประเมนิ ท่ยี ่ืนไว้เดิม ได้รับการอนุมัติ และในวันท่ีมีหนังสือแจ้งมติ มีคณุ สมบตั คิ รบทจี่ ะขอเลื่อนวทิ ยฐานะถัดไปได้อยู่แล้ว ให้ย่ืนคาขอ ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่มีหนังสือแจ้งมติน้ัน แต่หากวันที่มีหนังสือแจ้งมติดังกล่าว ยังมีคุณสมบัติไม่ครบท่ีจะขอเล่ือนวิทยฐานะถัดไป ให้ย่ืนคาขอ ภายใน 1 ปี นับแตว่ นั ทมี่ ีคณุ สมบตั ิครบ” ตามกรณีตัวอย่าง ดงั ต่อไปน้ี ตวั อยา่ งท่ี 1 นาง ก ได้ย่ืนคาขอรบั การประเมินเพอ่ื เลื่อนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการฯ ว 13/2556 ส่งถึงสานักงาน ก.ค.ศ. เม่ือวันท่ี 20 กันยายน 2556 และได้รับหนังสือแจ้งมติอนุมัติ เมอ่ื วนั ท่ี 15 กรกฎาคม 2560 โดยมผี ลอนมุ ัตยิ ้อนหลงั ต้งั แตว่ ันที่ 20 กนั ยายน 2556 ซึ่ง ณ วันท่ีได้รับแจ้งมติน้ัน ถอื ว่าเปน็ ผูด้ ารงตาแหน่งครู วทิ ยฐานะครชู านาญการพิเศษ มาแล้วเปน็ เวลาไมน่ อ้ ยกว่า 3 ปี กรณนี ี้ จึงเปน็ กรณีท่ี มีคุณสมบัตคิ รบและสามารถขอเลอ่ื นเปน็ วิทยฐานะถดั ไปคอื วิทยฐานะครูเชยี่ วชาญ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการฯ ว 17/2552 ได้อยู่แล้ว ต้ังแต่วันที่ 20 กันยายน 2559 ดังน้ัน หาก นาง ก ประสงค์จะขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารฯ ว 17/2552 ให้ยื่นคาขอไดภ้ ายใน 1 ปี นับแต่วันท่ี 15 กรกฎาคม 2560 ซ่ึงเป็นวนั ทม่ี ีหนังสอื แจ้งมติ จะครบกาหนด 1 ปี ในวนั ที่ 14 กรกฎาคม 2561 “ขอ้ 1.2 กรณคี าขอรบั การประเมนิ ทย่ี นื่ ไวเ้ ดมิ ไม่ได้รบั การอนมุ ตั ิ ให้ย่นื คาขอได้ ภายใน 1 ปี นับแต่วันท่ีมีหนงั สอื แจ้งมติ” ตามกรณีตวั อยา่ ง ดงั ต่อไปนี้ ตวั อยา่ งที่ 2 นาย ค ได้ยื่นคาขอรับการประเมินเพื่อเล่ือนเป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ตามหลักเกณฑ์ และวธิ กี ารฯ ว 17/2552 ส่งถงึ สานกั งาน ก.ค.ศ. เม่อื วันท่ี 19 พฤษภาคม 2559 และไดร้ ับหนังสอื แจ้งมติไม่อนุมัติ เม่ือวันท่ี 15 สิงหาคม 2560 หาก นาย ค ประสงค์จะขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการฯ ว 17/2552 อกี ครั้งหนงึ่ ใหย้ ื่นคาขอได้ภายใน 1 ปี นับแต่วนั ที่ 15 สิงหาคม 2560 ซง่ึ เปน็ วันท่ีมีหนังสือ แจ้งมติ จะครบกาหนด 1 ปี ในวันท่ี 14 สงิ หาคม 2561

- 37 - “ขอ้ 3. กรณผี ดู้ ารงตาแหน่งครูมีคุณสมบัติเฉพาะสาหรับวิทยฐานะท่ีจะขอรับการประเมิน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันที่ 30 กันยายน 2552 อยู่ก่อนวันที่หลักเกณฑ์และวิธีการนี้ใช้บังคับ หากประสงค์จะขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อน วิทยฐานะตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 ให้สามารถยื่นคาขอได้ภายใน 1 ปี นับแต่วันท่ีหลักเกณฑ์และวิธีการน้ีใช้บังคับ ” ตามกรณี ตัวอย่าง ดงั ต่อไปน้ี ตวั อยา่ งที่ 3 นางสาว ง ได้ดารงตาแหน่งครู วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2557 ซึง่ มคี ุณสมบตั คิ รบตามหลักเกณฑแ์ ละวิธกี าร ว 17/2552 และสามารถย่ืนคาขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะครูเช่ียวชาญ ได้ต้ังแต่วันท่ี 9 มิถุนายน 2560 แต่ยังมิได้ย่ืนคาขอไว้ก่อนวันที่ประกาศใช้หลักเกณฑ์และวิธีการ ว 21/2560 (5 กรกฎาคม 2560) หาก นางสาว ง ประสงค์จะขอเลอื่ นเป็นวิทยฐานะครเู ชี่ยวชาญ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 ให้ย่ืนคาขอได้ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ซ่ึงเป็นวันที่หลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 21/2560 ใชบ้ ังคับ กลา่ วคอื ต้องยน่ื คาขอ ภายในวันท่ี 4 กรกฎาคม 2561 “ข้อ 4. กรณีผ้ดู ารงตาแหน่งครูมีคุณสมบัติเฉพาะสาหรับวิทยฐานะท่ีจะขอรับการประเมิน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันที่ 30 กนั ยายน 2552 ตั้งแตว่ ันท่หี ลกั เกณฑ์และวิธีการนีใ้ ชบ้ ังคบั เป็นตน้ ไป หากประสงค์จะขอมีวทิ ยฐานะหรือเล่ือน วิทยฐานะตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันที่ 30 กนั ยายน 2552 ให้สามารถย่ืนคาขอไดภ้ ายใน 1 ปี นับแตว่ ันที่มีคณุ สมบัติครบ” ตามกรณีตวั อยา่ ง ดงั ตอ่ ไปนี้ ตัวอย่างที่ 4 นาย จ ดารงตาแหน่งครู วิทยฐานะครูชานาญการ เม่ือวันที่ 9 กันยายน 2559 อยู่ก่อน ประกาศใช้หลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 21/2560 (5 กรกฎาคม 2560) ซึ่งจะมีคุณสมบัติในการขอเลื่อนเป็น วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ (ครบ 1 ปี) ในวันที่ 8 กันยายน 2560 (มีคุณสมบัติหลังประกาศใช้หลักเกณฑ์ และวิธีการฯว 21/2560) หาก นาย จ ประสงค์จะขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ตามหลักเกณฑ์ และวธิ กี ารฯ ว 17/2552 ให้ยน่ื คาขอไดภ้ ายใน 1 ปี นับแต่วันที่ 9 กนั ยายน 2560 ถึงวนั ท่ี 8 กันยายน 2561 “ข้อ 5. ผู้ดารงตาแหน่งครู ต้ังแต่วันที่หลักเกณฑ์และวิธีการน้ีใช้บังคับเป็นต้นไป การดาเนินการขอมีวิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ ให้ดาเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการน้ี เว้นแต่ผู้ท่ีมี กรณเี ป็นไปตามเง่อื นไขท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ตามหนงั สือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 26 ลงวันท่ี 30 ธนั วาคม 2559 หากประสงค์จะขอมีวิทยฐานะครูชานาญการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 ใหส้ ามารถย่ืนคาขอได้ 1 ครั้ง ภายใน 1 ปี นับแต่วันท่ีมีคุณสมบัติ ครบ” ตามกรณตี วั อย่าง ดังต่อไปนี้ ตัวอยา่ งที่ 5 นางสาว น วุฒิ ค.บ. (คอมพิวเตอร์ศึกษา) ดารงตาแหน่งครู เม่ือวันท่ี 1 ตุลาคม 2560 แต่ในขณะที่ดารงตาแหน่งครูผู้ช่วย ได้รายงานการไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโท สาขาคอมพิวเตอร์ศึกษา โดยไมใ่ ช้เวลาราชการตามระเบยี บของทางราชการ ในวันท่ี 12 ธนั วาคม 2559 ซึง่ เปน็ ไปตามเง่ือนไขที่ ก.ค.ศ. กาหนด ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 26 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2559 (รายงานการศึกษาต่อเรียนหลังวันที่

- 38 - 9 ธนั วาคม 2559 ต้องเป็นวุฒิในสาขาเดียวกันกับวุฒิปริญญาตรีท่ีสาเร็จการศึกษามาแล้ว) หาก นางสาว น ประสงค์ จะขอมวี ิทยฐานะครชู านาญการ ตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารฯ ว 17/2552 สามารถนาคุณวุฒิดังกล่าวมาลดระยะเวลา ในการดารงตาแหน่งเพ่อื ขอมีวทิ ยฐานะครูชานาญการได้ โดยให้ยืน่ คาขอได้ภายใน 1 ปี นับแต่วันท่ี 1 ตลุ าคม 2564 ถึงวันท่ี 30 กันยายน 2565 2. การยืน่ คาขอมวี ิทยฐานะหรอื เล่ือนวิทยฐานะ ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารฯ ว 21/2560 ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน กรณีผู้ดารงตาแหน่งครูประสงค์ยื่นคาขอมีวิทยฐานะ หรือเลื่อนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 21/2560 ตามขอ้ 7 ใหด้ าเนินการ ดงั นี้ “ข้อ 7. ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน หากผู้ดารงตาแหน่งครูมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์นี้ ขอ้ 2.1 ระยะเวลาการดารงตาแหน่ง และขอ้ 2.3 วนิ ยั คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ แตค่ ณุ สมบตั ิ ตามข้อ 2.2 ช่ัวโมงการปฏิบัติงาน ข้อ 2.4 การพัฒนา และข้อ 2.5 ผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ไม่เป็นไปตามท่ีหลักเกณฑ์กาหนดไว้ หากประสงค์จะขอรับการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ และมีคุณสมบตั ดิ งั ต่อไปนใี้ หน้ าไปใชใ้ นการขอมีวิทยฐานะและเลอื่ นวทิ ยฐานะได้ 7.1 มีจานวนชั่วโมงการปฏิบัติงานสะสมในตาแหน่งหรือวิทยฐานะท่ีดารงอยู่ ในปจั จบุ นั ยอ้ นหลังเป็นเวลา 5 ปี นับถึงวันทยี่ ่ืนคาขอ ดังนี้ 7.1.1 การขอมีวิทยฐานะครูชานาญการหรอื เล่ือนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ต้องมีภาระงานสอนไม่ต่ากว่าภาระงานขั้นต่าตามที่ส่วนราชการกาหนด โดยความเห็นชอบของ ก.ค.ศ. ตามหนงั สือสานักงาน ก.ค.ศ. ดว่ นทส่ี ุดท่ี ศธ 0206.3/3724 - 3725 ลงวันที่ 21 กันยายน 2553 และต้องมีภาระ งานสอนสะสมยอ้ นหลงั เปน็ เวลา 5 ปี รวมกันไม่น้อยกวา่ 4,000 ชว่ั โมง 7.1.2 การขอเลอ่ื นเปน็ วทิ ยฐานะครเู ชย่ี วชาญหรอื วทิ ยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ ต้องมีภาระงานสอนไม่ต่ากว่าภาระงานขั้นต่าตามที่ส่วนราชการกาหนด โดยความเห็นชอบของ ก. ค.ศ. ตามหนงั สอื สานักงาน ก.ค.ศ. ดว่ นท่สี ุดที่ ศธ 0206.3/3724 - 3725 ลงวนั ท่ี 21 กันยายน 2553 และต้องมีภาระ งานสอนสะสมย้อนหลังเปน็ เวลา 5 ปี รวมกนั ไมน่ อ้ ยกวา่ 4,500 ชวั่ โมง 7.2 ผ่านการพฒั นาตามหลกั เกณฑ์และวิธกี ารที่ ก.ค.ศ. กาหนด 7.3 มีผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ สายงานการสอน ในช่วงระยะเวลา ย้อนหลัง 5 ปีการศึกษาติดต่อกัน นับถึงวันส้ินปีการศึกษาก่อนวันที่ย่ืนคาขอ ทั้งน้ี ให้ผู้ขอรับการประเมินรายงาน ผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีเป็นรายปีการศึกษา ย้อนหลัง 5 ปีการศึกษา และรับรองข้อมูลดังกล่าว ตามแบบรายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ตาแหน่งครู รายปีการศึกษา (วฐ.2)” ตามกรณีตัวอย่าง ดงั ตอ่ ไปน้ี ตัวอยา่ งท่ี 1 นาง ก ได้ย่นื คาขอรับการประเมนิ เพอื่ เลื่อนเปน็ วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ตามหลักเกณฑ์ และวธิ กี ารฯ ว 21/2560 เมื่อวนั ท่ี 31 ตุลาคม 2560 โดยมีคุณสมบัติ ดังน้ี 1. ดารงตาแหน่งครู วิทยฐานะครูชานาญการ มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 - วนั ที่ 31 ตุลาคม 2560 รวมระยะเวลา 5 ปี 10 เดือน) 2. มีจานวนชั่วโมงการปฏิบัติงานสะสมในตาแหน่งครู วิทยฐานะครูชานาญการ ย้อนหลัง เปน็ เวลา 5 ปี นบั ถงึ วนั ทีย่ ่ืนคาขอ ดังน้ี ปีท่ี 1 วนั ท่ี 1 พฤศจกิ ายน 2555 – 31 ตุลาคม 2556

- 39 - มีภาระงานสอนสะสม 800 ช่วั โมงตอ่ ปี โดยมีภาระงานสอน 18 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (ช่วั โมงสอนตามตารางสอน 12 ชัว่ โมงต่อสัปดาห์ และภาระงานอน่ื 6 ชวั่ โมงตอ่ สปั ดาห์) ปที ี่ 2 วนั ที่ 1 พฤศจกิ ายน 2556 – 31 ตลุ าคม 2557 มภี าระงานสอนสะสม 800 ชวั่ โมงตอ่ ปี โดยมีภาระงานสอน 20 ชั่วโมงตอ่ สัปดาห์ (ชวั่ โมงสอนตามตารางสอน 12 ชั่วโมงต่อสปั ดาห์ และภาระงานอน่ื 8 ชั่วโมงต่อสปั ดาห์) ปีที่ 3 วนั ที่ 1 พฤศจิกายน 2557 – 31 ตลุ าคม 2558 มีภาระงานสอนสะสม 900 ชั่วโมงตอ่ ปี โดยมีภาระงานสอน 21 ชว่ั โมงตอ่ สปั ดาห์ (ช่วั โมงสอนตามตารางสอน 18 ชว่ั โมงต่อสปั ดาห์ และภาระงานอืน่ 3 ชั่วโมงต่อสปั ดาห)์ ปีท่ี 4 วันท่ี 1 พฤศจกิ ายน 2558 – 31 ตลุ าคม 2559 มีภาระงานสอนสะสม 650 ชั่วโมงต่อปี โดยมีภาระงานสอน 12 ชั่วโมงตอ่ สปั ดาห์ (ชว่ั โมงสอนตามตารางสอน 12 ชัว่ โมงต่อสัปดาห์ และไม่มภี าระงานอ่ืน) ปที ่ี 5 วันท่ี 1 พฤศจกิ ายน 2559 – 31 ตุลาคม 2560 มภี าระงานสอนสะสม 850 ช่ัวโมงตอ่ ปี โดยมีภาระงานสอน 19 ช่ัวโมงต่อสปั ดาห์ (ชว่ั โมงสอนตามตารางสอน 15 ชวั่ โมงตอ่ สปั ดาห์ และภาระงานอ่นื 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห)์ 3. ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ในระยะเวลา ยอ้ นหลัง 5 ปี นับถงึ วันที่ย่ืนคาขอ (วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555–31 ตุลาคม 2560) 4. ผ่านการพัฒนาตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารท่ี ก.ค.ศ. กาหนด นาง ก เคยผ่านการพัฒนาก่อนแต่งตั้ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 3/2554 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2558 ซ่ึงผลการพัฒนายังไม่หมดอายุ (หมดอายุวันท่ี 4 มิถุนายน 2561) 5. มีผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ สายงานการสอน ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปีการศึกษาตดิ ต่อกัน นับถงึ วนั สน้ิ ปีการศกึ ษาก่อนวนั ท่ยี ่ืนคาขอ ทั้งน้ี ให้ผขู้ อรับการประเมนิ รายงานผลงานท่ีเกิดจาก การปฏบิ ัติหนา้ ท่ีเปน็ รายปีการศึกษา ย้อนหลัง 5 ปกี ารศึกษา นาง ก ต้องประเมนิ ผลงานทเี่ กิดจากการปฏิบตั หิ นา้ ที่ ในตาแหน่งครู ท้ัง 3 ด้าน 13 ตัวช้ีวัด ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/0635 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2560 ย้อนหลังรายปีการศึกษา จานวน 5 ปีการศึกษา ดังน้ี ปกี ารศึกษาที่ 1 (ปีการศกึ ษา 2555) วนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2555 – 31 มนี าคม 2556 ผลการประเมินไมผ่ ่านเกณฑ์การตดั สนิ ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ปีการศกึ ษาที่ 2 (ปีการศึกษา 2556) วนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2556 – 31 มนี าคม 2557 ผลการประเมนิ ผา่ นเกณฑก์ ารตดั สนิ ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ปีการศกึ ษาท่ี 3 (ปีการศึกษา 2557) วันท่ี 1 พฤษภาคม 2557 – 31 มีนาคม 2558 ผลการประเมนิ ผ่านเกณฑก์ ารตัดสนิ ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ปีการศึกษาที่ 4 (ปีการศึกษา 2558) วนั ที่ 1 พฤษภาคม 2558 – 31 มนี าคม 2559 ผลการประเมินผา่ นเกณฑ์การตดั สนิ ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ปกี ารศกึ ษาที่ 5 (ปีการศึกษา 2559) วันที่ 1 พฤษภาคม 2559 – 31 มีนาคม 2560 ผลการประเมินผ่านเกณฑก์ ารตัดสนิ ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด

- 40 - สรุป นาง ก เป็นผู้มีคุณสมบัติในการขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารฯ ว 21/2560 ในชว่ งระยะเวลาเปลย่ี นผ่าน กลา่ วคอื 1. มีระยะเวลาการดารงตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครูชานาญการ เปน็ ระยะเวลา 5 ปี 10 เดอื น 2. มีช่ัวโมงการปฏิบัติงานสะสมในตาแหน่งหรือวิทยฐานะที่ดารงอยู่ในปัจจุบัน ย้อนหลังเป็นเวลา 5 ปี นบั ถึงวนั ท่ยี ่นื คาขอ รวม 4,000 ชว่ั โมง 3. ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ในระยะเวลายอ้ นหลงั 5 ปี นับถงึ วันทย่ี ่ืนคาขอ (วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555–31 ตุลาคม 2560) 4. ผ่านการพัฒนาตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารท่ี ก.ค.ศ. กาหนด โดยผ่านการพัฒนา ก่อนแต่งตั้ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 3/2554 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2558 ซึ่งผลการพัฒนา ยังไม่หมดอายุ (หมดอายุวันที่ 4 มิถุนายน 2561) ทั้งน้ี ในวันท่ีนาง ก ย่ืนคาขอและในวันที่สานักงานศึกษาธิการจังหวัดรับคาขอ ผลการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 3/2554 ต้องยังไม่หมดอายุ เน่ืองจากการแต่งต้ังให้เลื่อน เป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ มีผลไม่ก่อนวันที่สานักงานศึกษาธิการจังหวัดรับคาขอ 5. มีผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ สายงานการสอน ในช่วงระยะเวลา ย้อนหลัง 5 ปีการศึกษาติดต่อกัน นับถึงวันสิ้นปีการศึกษาก่อนวันที่ย่ืนคาขอ (ปีการศึกษา 2555 – 2559) โดยมี ผลการประเมินผ่านเกณฑ์ จานวน 4 ปีการศึกษา ตัวอยา่ งที่ 2 นาง ข ดารงตาแหน่งครู วทิ ยฐานะครูชานาญการ เม่ือวันที่ 5 กันยายน 2556 และประสงค์ ย่ืนคาขอรับการประเมินเพ่ือเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 21/2560 แต่ในวันท่ีประกาศใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าว (วันท่ี 5 กรกฎาคม 2560) มีระยะเวลาดารงตาแหน่ง 3 ปี 10 เดือน จงึ มรี ะยะเวลาการดารงตาแหน่งไม่ครบ 5 ปี ขาดอยู่ 1 ปี 2 เดือน ซึ่งจะมีระยะเวลาการดารงตาแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ ครบ 5 ปี ในวันที่ 4 กันยายน 2561 โดยจะต้องมีคุณสมบัติ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการฯ ว 21/2560 ดังน้ี 1. ดารงตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครชู านาญการ ครบ 5 ปี ในวันที่ 4 กันยายน 2561 2. ต้องมจี านวนช่ัวโมงการปฏิบัติงานสะสมในตาแหน่งครู วิทยฐานะครูชานาญการ ย้อนหลัง เป็นเวลา 5 ปี นับถึงวนั ที่ย่ืนคาขอ ดังนี้ ปีที่ 1 วนั ที่ 5 กันยายน 2556 – 4 กนั ยายน 2557 มีภาระงานสอนสะสม 850 ชัว่ โมงตอ่ ปี โดยมภี าระงานสอน 18 ช่ัวโมงต่อสปั ดาห์ (ชั่วโมงสอนตามตารางสอน 12 ชว่ั โมงตอ่ สปั ดาห์ และภาระงานอ่นื 6 ชว่ั โมงต่อสปั ดาห์) ปีท่ี 2 วันท่ี 5 กันยายน 2557 – 4 กันยายน 2558 มภี าระงานสอนสะสม 720 ชัว่ โมงตอ่ ปี โดยมีภาระงานสอน 18 ชวั่ โมงตอ่ สปั ดาห์ (ชั่วโมงสอนตามตารางสอน 18 ช่ัวโมงตอ่ สัปดาห์ และไมม่ ีภาระงานอน่ื ) ปีที่ 3 วนั ท่ี 5 กนั ยายน 2558 – 4 กนั ยายน 2559 มีภาระงานสอนสะสม 950 ช่วั โมงตอ่ ปี โดยมีภาระงานสอน 20 ช่ัวโมงตอ่ สปั ดาห์ (ชั่วโมงสอนตามตารางสอน 14 ชว่ั โมงตอ่ สัปดาห์ และภาระงานอืน่ 6 ชว่ั โมงต่อสปั ดาห์)

- 41 - ปที ่ี 1 - 3 เป็นการปฏิบัติงานอยู่ก่อนท่ีหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 21/2560 ประกาศใช้ ต้องมภี าระงานสอนไมต่ ่ากว่าภาระงานขนั้ ต่าตามที่ส่วนราชการกาหนดโดยความเห็นชอบของ ก.ค.ศ. ตามหนังสือ สานกั งาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสดุ ที่ ศธ 0206.3/3724-3725 ลงวันที่ 21 กันยายน 2553 ปที ี่ 4 วันที่ 5 กันยายน 2559 – 4 กนั ยายน 2560 (เป็นช่วงเปล่ียนผ่านในการประกาศใช้ หลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารฯ ว 21/2560) ช่วงที่ 1 วันท่ี 5 กันยายน 2559 – 4 กรกฎาคม 2560 (10 เดอื น) มีภาระงานสอนสะสม 576 ช่ัวโมง โดยมีภาระงานสอน 18 ช่ัวโมงต่อสัปดาห์ (ช่ัวโมงสอนตามตารางสอน 14 ช่ัวโมงต่อสัปดาห์ และมภี าระงานอ่นื 4 ช่วั โมง) ชว่ งที่ 2 วันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 – 4 กนั ยายน 2560 (2 เดือน) มชี ัว่ โมงการปฏิบัตงิ าน รวม 154 ชั่วโมง โดยมีชว่ั โมงสอนตามตารางสอน 14 ช่ัวโมงต่อสัปดาห์ (112 ชั่วโมง) มีช่ัวโมงการปฏิบัติงานอื่น 32 ช่ัวโมง และมชี ัว่ โมงการมสี ว่ นรว่ มในชุมชนการเรียนรู้ทางวชิ าชีพ จานวน 10 ชั่วโมง สรปุ ปีที่ 4 มีช่ัวโมงการปฏิบตั ิงาน รวม 730 ชัว่ โมงต่อปี ปีที่ 5 วันท่ี 5 กันยายน 2560 – 4 กันยายน 2561 (เป็นการปฏิบัติงานหลังวันท่ี หลักเกณฑ์และวธิ ีการฯ ว 21/2560 ประกาศใชแ้ ล้ว) มีช่ัวโมงการปฏิบัติงานรวม 850 ชั่วโมงต่อปี โดยมีช่ัวโมงสอนตามตารางสอน 19 ช่ัวโมงต่อสัปดาห์ (760 ช่ัวโมงต่อปี) มีช่ัวโมงการปฏิบัติงานอื่น 40 ช่ัวโมงต่อปี และมีชว่ั โมงการมีสว่ นร่วมในชมุ ชนการเรยี นรทู้ างวชิ าชีพ จานวน 50 ช่ัวโมงต่อปี ตามหลักเกณฑ์ ว 21/2560 ต้องมีช่ัวโมงการปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 800 ช่ัวโมงต่อปี โดยในชั่วโมงการปฏิบัติงานต้องมีชั่วโมงสอนตามตารางสอนตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด และมีชั่วโมงการมีส่วนร่วม ในชมุ ชนการเรียนรูท้ างวชิ าชพี ไมน่ ้อยกวา่ 50 ช่วั โมงตอ่ ปี 3. ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ในระยะเวลา ยอ้ นหลัง 5 ปี นับถงึ วนั ทย่ี ่ืนคาขอ (วันท่ี 5 กันยายน 2556–4 กันยายน 2561) 4. ผ่านการพัฒนาตามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการที่ ก.ค.ศ. กาหนด นาง ข เคยผา่ นการพัฒนาก่อนแต่งตั้ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 3/2554 เม่ือวันท่ี 5 มิถนุ ายน 2558 ซงึ่ ผลการพฒั นาหมดอายุเม่ือวันท่ี 4 มิถุนายน 2561 นาง ข ย่ืนขอรับการประเมินเพื่อเล่ือนเป็น วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ เมือ่ วนั ท่ี 4 กนั ยายน 2561 ดังนน้ั นาง ข ต้องเข้ารับการพัฒนาตามหลกั สตู รท่สี ถาบนั คุรพุ ฒั นารับรอง จานวน 20 ชัว่ โมง ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารฯ ว 22/2560 เพ่อื นามาใชเ้ ป็นคณุ สมบัติในการขอเล่อื นเป็นวทิ ยฐานะครชู านาญพเิ ศษ 5. มีผลงานที่เกดิ จากการปฏบิ ัติหนา้ ที่ สายงานการสอน ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปีการศึกษา ติดต่อกัน นับถึงวันส้ินปีการศึกษาก่อนวันท่ีย่ืนคาขอ ท้ังนี้ ให้ผู้ขอรับการประเมิน รายงานผลงานท่ีเกิดจาก การปฏิบตั หิ นา้ ท่เี ปน็ รายปีการศึกษา ยอ้ นหลงั 5 ปกี ารศกึ ษา นาง ข ตอ้ งประเมินผลงานท่เี กดิ จากการปฏิบตั หิ นา้ ท่ี ในตาแหน่งครู ทั้ง 3 ด้าน 13 ตัวชี้วัด ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/0635 ลงวันท่ี 10 ตุลาคม 2560 ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปกี ารศกึ ษาติดตอ่ กัน นบั ถงึ วนั สนิ้ ปกี ารศกึ ษากอ่ นวันท่ยี นื่ คาขอ ดงั นี้ ปีการศึกษาท่ี 1- 4 ผู้ดารงตาแหน่งครูไม่เคยได้รับการประเมินรายปีการศึกษา ตาม ว 21/2560 มากอ่ น ดงั นน้ั ในปีทีจ่ ะยน่ื ขอรับการประเมินให้ผู้ดารงตาแหน่งครู รวบรวมผลงานที่เกิดจาก

- 42 - การปฏิบัติหน้าที่และประเมินตนเองย้อนหลังเป็นรายปีการศึกษา จานวน 4 ปีการศึกษา และเสนอให้ ผู้อานวยการสถานศกึ ษาพิจารณาต่อไป ปกี ารศกึ ษาท่ี 1 (ปีการศึกษา 2556) วนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2556 – 31 มนี าคม 2557 ผลการประเมินไม่ผา่ นเกณฑ์การตดั สนิ ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ปีการศึกษาท่ี 2 (ปีการศึกษา 2557) วนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2557 – 31 มีนาคม 2558 ผลการประเมนิ ผ่านเกณฑ์การตัดสนิ ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ปีการศกึ ษาที่ 3 (ปีการศกึ ษา 2558) วนั ที่ 1 พฤษภาคม 2558 – 31 มนี าคม 2559 ผลการประเมินไม่ผ่านเกณฑก์ ารตดั สิน ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ปีการศึกษาที่ 4 (ปกี ารศกึ ษา 2559) วนั ที่ 1 พฤษภาคม 2559 – 31 มีนาคม 2560 ผลการประเมนิ ผ่านเกณฑก์ ารตดั สิน ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ปีการศึกษาท่ี 5 (ปีการศกึ ษา 2560) วนั ที่ 1 พฤษภาคม 2560 – 31 มนี าคม 2561 ผลการประเมนิ ผา่ นเกณฑก์ ารตดั สนิ ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด เน่ืองจากในปีการศึกษาท่ี 5 ก.ค.ศ. ประกาศใช้หลกั เกณฑ์และวธิ ีการฯ ว 21/2560 เม่อื วนั ที่ 5 กรกฎาคม 2560 ดงั น้นั เม่อื สิ้นปีการศกึ ษาที่ 5 ให้ผู้ดารงตาแหน่งครู ประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ของตนเอง ตาม ว 21/2560 เม่อื ผดู้ ารงตาแหนง่ ครูมีคณุ สมบัตคิ รบตามหลักเกณฑ์ ว 21/2560 ในช่วงระยะเวลา เปล่ียนผ่านและประสงค์จะขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษให้นาผ ลการประเมินผลงานท่ีเกิดจาก การปฏิบตั ิหน้าที่ของตนเอง ในปที ก่ี ารศึกษาที่ 1 – 5 เสนอใหผ้ อู้ านวยการสถานศกึ ษาพจิ ารณาดาเนนิ การต่อไป สรุป นาง ข จะเป็นผู้มีคุณสมบัติในการขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ไม่ก่อนวันท่ี 4 กันยายน 2561 ตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการฯ ว 21/2560 ในชว่ งระยะเวลาเปล่ยี นผ่าน กลา่ วคอื 1. มีระยะเวลาการดารงตาแหน่งครู วทิ ยฐานะครชู านาญการ เป็นระยะเวลา 5 ปี 2. มีชั่วโมงการปฏิบัติงานสะสมในตาแหน่งหรือวิทยฐานะท่ีดารงอยู่ในปัจจุบัน ยอ้ นหลงั เป็นเวลา 5 ปี นบั ถงึ วนั ที่ยื่นคาขอ รวม 4,100 ช่ัวโมง 3. ไมเ่ คยถกู ลงโทษทางวนิ ยั คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชีพ ในระยะเวลา ยอ้ นหลงั 5 ปี นบั ถงึ วันท่ีย่ืนคาขอ (วันที่ 5 กันยายน 2555 - 4 กันยายน 2561) 4. ผ่านการพัฒนาก่อนแต่งตั้ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 3/2554 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2558 ซ่ึงผลการพัฒนาหมดอายุเม่ือวันที่ 4 มิถุนายน 2561 ดังนั้น นาง ข ต้องเข้ารับการพัฒนา ตามหลักสตู รทสี่ ถาบันครุ ุพัฒนารบั รอง จานวน 20 ชั่วโมง ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการฯ ว 22/2560 เพ่ือนามาใช้ เป็นคุณสมบตั ใิ นการขอเลือ่ นเป็นวทิ ยฐานะครูชานาญพิเศษ 5. มีผลงานที่เกิดจากการปฏิบัตหิ นา้ ที่ สายงานการสอน ในช่วงระยะเวลาย้อนหลงั 5 ปีการศึกษาติดต่อกนั นับถงึ วันสนิ้ ปีการศกึ ษากอ่ นวันทีย่ ืน่ คาขอ (ปีการศึกษา 2555 – 2559) โดยมผี ลการประเมนิ