Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การฝึกประสบการณ์ในสถานศึกษาสถานศึกษาแห่งที่ ๑

การฝึกประสบการณ์ในสถานศึกษาสถานศึกษาแห่งที่ ๑

Published by NATTAWAT THEKAPORN, 2020-09-01 04:20:29

Description: การฝึกประสบการณ์ในสถานศึกษา
โดยนางสาวจิตราวรรณ บุตราช
สถานศึกษาแห่งที่ ๑ 1

Search

Read the Text Version

การฝึกประสบการณ์ในสถานศึกษา โดยนางสาวจิตราวรรณ บุตราช สถานศกึ ษาแหง่ ท่ี ๑ ระหวา่ งวันท่ี ๒๔ สิงหาคม - ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๓

1. วิเคราะห์บริบทของสถานศึกษาในดา้ นทปี่ ระสบความสาเรจ็ และส่งิ ทีค่ วรพฒั นา ศึกษาข้อมูลพืน้ ฐานสถานศึกษา ประวัติของวิทยาลัยแหง่ ที่ ๑ วิทยาลัยแห่งที่๑ ตั้งอยู่เลขที่ 392 หมู่ที่ 4 ตาบลมะขามเตี้ย อาเภอเมือง จังหวดั สุราษฏร์ธานี 2 รหสั ไปรษณีย์ 84000 โดยท่านเจ้าอาวาสวดั สามคั คีผดงุ พนั ธ์ (ท่านมหาธานี ปิยธัมโม) อนุญาตให้กรม อาชีวศึกษา เช่าจัดผลประโยชน์ทีด่ ินวดั และทาสญั ญากับกรมอาชีวศกึ ษา โดยนายจรูญ ชลู าภ รักษาการใน ตาแหน่งอธิบดีกรมอาชีวศึกษา มอบหมายตามหนังสือมอบอานาจ ลงวนั ที่ 9 มีนาคม 2535 มอบอานาจ ให้ นายจาลอง นิลจันทร์ ผู้ชว่ ยผู้อานวยการวทิ ยาลยั เทคนิคสรุ าษฎร์ธานี เป็นผู้ประสานงาน การจัดต้ัง วิทยาลัยสารพดั ช่างสรุ าษฎร์ธานีได้ทาสญั ญากบั เจ้าอาวาสวดั สามคั คีผดงุ พันธ์ เมือ่ วนั ที่ 12 มีนาคม 2535 จานวนพืน้ ที่ประมาณ 6 ไร่ ตั้งแต่วันที่ 25 กมุ ภาพันธ์ 2535 ต่อมากระทรวงศึกษาธิการ โดย ฯพณฯ ดร.ก่อ สวัสดิพ์ าณชิ ย์ รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ในสมัยนั้นประกาศจัดต้ังเปน็ วิทยาลยั สารพัด ช่างสุราษฎร์ธานี เมือ่ วนั ที่ 17 มิถุนายน 2535 สังกัดกองการศึกษาอาชีพ กรมอาชีวศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีวัตถปุ ระสงค์เพอ่ื ขยายการอาชีวศึกษา ประเภทวิทยาลยั สารพดั ช่าง เปิดทาการ สอนหลักสูตรวิชาชีพระยะส้ัน และหลักสูตรพิเศษอื่นๆ รวมทั้งการสอนวิชาชีพแก่นกั เรียนมัธยม เพือ่ ให้ สอดคล้องของตลาดแรงงานและท้องถนิ่ ซึง่ ได้เปิดการเรียนการสอนต้ังแต่ปีการศึกษา 2537

2. ขนาดและท่ตี ้งั วทิ ยาลัย วทิ ยาลยั สารพัดช่างสุราษฎรธ์ านี ตั้งอยูเ่ ลขท่ี 392 หมู่ท่ี 4 ตาบลมะขามเตีย้ อาเภอเมือง จงั หวัดสรุ าษฏรธ์ านี รหสั ไปรษณยี ์ 84000 โทรศัพท0์ 77-288360 โทรสาร 077-287577 อีเมล : [email protected] เวบ็ ไซต์ : www.srpc.ac.th 3

๓. การจัดการศกึ ษา วิทยาลยั สารพัดช่างสุราษฎร์ธานี จัดการศึกษา จานวน 2 ระบบ ได้แก่ ในระบบ และ นอกระบบ ดงั นี้ ในระบบ ประกอบด้วย หลักสตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพชน้ั สูง (ปวส.) หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ○ ๒.๑ ประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรม ๑.๑ ประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรม ๑.๑.๑ สาขาวิชาชา่ งยนต์ ○ ๒.๑.๑ สาขาวิชาชา่ งยนต์ ○ - สาขางานยานยนต์ - สาขางานยานยนต์ ○ ๑.๑.๒ สาขาวิชาชา่ งไฟฟ้า ○ ๒.๑.๒ สาขาวิชาไฟฟา้ - สาขางานไฟฟา้ กาลงั - สาขางานไฟฟ้ากาลงั ๑.๒ ประเภทวิชาพณชิ ยกรรม 4 - สาขางานบญั ชี - สาขางานคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ

๓. การจดั การศกึ ษา (ต่อ) วิทยาลัยสารพดั ชา่ งสรุ าษฎร์ธานี จดั การศึกษา จานวน 2 ระบบ ได้แก่ ในระบบ และ นอกระบบ ดังนี้ นอกระบบ ประกอบด้วย หลกั สูตรวิชาชพี ระยะส้ัน เป็นหลกั สูตรพฒั นายกระดับบคุ คล ให้มีความสามารถ ระดับฝมี ือ กึ่งฝมี ือ เพ่อื ประกอบอาชพี ใช้ในการปรับปรุงงานและนาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั จัดการเรียนการสอนชว่ งระยะเวลาสั้นๆ โดยกาหนดการเรียนการสอนเป็น จานวนรายช่ัวโมง ตั้งแต่จานวน 3 ช่วั โมง จนถึง 75 ช่วั โมง โดยแบ่งเป็น 4 ลักษณะ ดังนี้ 1. หลักสตู รวชิ าชพี ระยะสั้น/หลักสตู รหลากหลาย สาหรบั บุคคลทว่ั ไป 2. หลักสตู รวิชาชพี ระยะสั้นในสถานพนิ ิจและคมุ้ ครองเดก็ และเยาวชน 3. หลกั สตู รวชิ าชพี แกนมธั ยม 4. ฝกึ อบรมวิชาชพี ระยะส้ันพเิ ศษ ตามโครงการต่าง ๆ ดังนี้ 4.1 โครงการฝึกอบรมวิชาชพี ระยะสั้นแก่ประชาชนท่ัวไป 4.2 โครงการแก้ปญั หาความยากจน ผดู้ ้อยโอกาส และผพู้ กิ าร 4.3 โครงการพัฒนาและเพิม่ ประสิทธิภาพบุคลากรด้านเทคโนโลยีกบั หน่วยงานภาครัฐ 5

4. ด้านอาคารสถานที่ ○ ขอ้ มูลอาคารสถานที่ ○ อาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ 4 ช้ัน จานวน ๒ หลัง ๑ หลัง ○ อาคารสานักงานและหอประชมุ 1 จานวน ๑ หลงั ○ อาคารเอนกประสงค์ 2 ช้ัน 1 จานวน ○ สิง่ อานวยความสะดวก ○ หอประชุม - โรงอาหาร ○ ห้องเรียนรู้ด้วยตนเอง - ห้องวิทยาบรกิ ารและห้องสมดุ ○ ห้องพยาบาล - โทรศัพท์สาธารณะ ○ น้าดื่มสะอาด - โรงจอดรถ ○ ห้องพักครู - ห้องน้า 6

๕. ปรชั ญา อัตลกั ษณ์ เอกลกั ษณ์ ของสถานศึกษา ○ ○ วิสยั ทัศน์ ○ ผู้นาด้านฝีมือ เปน็ เลิศดา้ นคุณธรรม บรกิ ารวชิ าชีพที่หลากหลาย ได้มาตรฐานสากล ○ ○ พันธกิจ ○ ผลติ และพัฒนากาลังคนด้านวชิ าชีพให้มีคุณธรรม และมคี ุณภาพ สู่มาตรฐานสากลพัฒนา ศกั ยภาพของผู้เรียน ผู้ฝึกอบรมวชิ าชีพ ให้ตรงกบั ความต้องการของตลาดแรงงาน มีความสามารถใน การประกอบอาชีพอิสระบรหิ ารจดั การตามหลกั ธรรมาภิบาล สร้างเสริมบุคลากรให้มีคณุ ภาพที่ดี ทานบุ ารงุ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม รักษาส่งิ แวดล้อม ยึดหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงบรกิ าร วชิ าชีพสชู่ มุ ชน 7

๕. ปรัชญา อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ ของสถานศึกษา (ตอ่ ) ○ ปรัชญา : รู้หน้าที่ สามัคคี มีวินยั ต้ังใจฝึก ซึ่งเปน็ ปรัชญาการทางานของสถานศึกษา โดยใชเ้ ป็นหลกั เกณฑ์ใน การดาเนินการบริหารและพฒั นาวิทยาลัยฯ ตลอดจนกระบวนการจดั การเรียนการสอน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลสูงสุด ○ รหู้ น้าที่ => ให้บคุ ลากรของสถานศึกษา และนกั เรียน นักศึกษา มีสติ มีจิตสานึกมีความรบั ผิดชอบในหน้าที่ และ ภารกิจทีต่ ้องกระทาในชวี ิตประจาวัน ○ สามัคคี => ให้บคุ ลากรของสถานศึกษา และนักเรียน นกั ศึกษารว่ มกันคิดร่วมกนั ทา ร่วมกันแก้ปญั หา ร่วมมือ ร่วมใจกนั พัฒนาวิทยาลัยฯ ให้มีความเจริญก้าวหน้ายิง่ ขึน้ ○ มีวินยั => ให้บุคลากรของสถานศึกษา และนักเรียน นกั ศึกษา ยึดถือแนวทางและปฏิบัติตามระเบียบวินัย ตาม กฎหมาย ตามคาสงั่ ของทางราชการ ตลอดจนมีคณุ ธรรม จริยธรรม ในการปฏิบตั ิงาน ในการพัฒนาวิทยาลัยฯ และ พฒั นาตนเองให้มีความเจริญก้าวหน้ายิ่งขึน้ ○ ตั้งใจฝึก => ให้บุคลากรของสถานศึกษา และนักเรียน นกั ศึกษา ตั้งใจปฏิบัติหน้าทีฝ่ ึกฝนอบรมตนให้มีคณุ ภาพ มี ประสิทธิภาพในการใชว้ ิชาชีพออกไปทางานให้เกิดประโยชน์สูงสุดแกต่ นเองและผู้อื่น 8

๕. ปรชั ญา อัตลักษณ์ เอกลกั ษณ์ ของสถานศึกษา (ต่อ) อัตลกั ษณ์ : ทักษะดี มีจิตสาธารณะ สร้างภาวะผู้นา เอกลักษณ์ : บริการวิชาชพี สู่การพฒั นาสังคมและท้องถ่นิ 9

๖. วิสัยทศั น์ พนั ธกิจ เป้าประสงค์ ยทุ ธศาสตรก์ ลยุทธ์การพัฒนา คุณภาพการจัดการศึกษา ○ ๖.1 วิสยั ทศั น์ ○ ผสู้ าเรจ็ ด้านอาชีวศึกษามีคุณธรรม บรกิ ารวิชาชีพที่หลากหลาย ได้มาตรฐาน ตามหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ○ ๖.2 พันธกิจ ○ ๑. ผลิตและพัฒนากาลังคนด้านวิชาชีพให้มีคณุ ธรรมตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ○ ๒. บริหารจัดการตามหลักธรรมาภบิ าล ○ ๓. ส่งเสรมิ งานวิจัย สิง่ ประดิษฐ์ นวัตกรรม เทคโนโลยแี ละสรา้ งองค์ความรู้ ○ ๔. เปน็ แหล่งเรยี นรู้และบรกิ ารวิชาชีพทหี่ ลากหลาย ○ ๕. ทานบุ ารุงศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาท้องถิน่ 10

๖. วสิ ัยทศั น์ พนั ธกจิ เปา้ ประสงค์ ยุทธศาสตรก์ ลยุทธก์ ารพฒั นาคณุ ภาพ การจัดการศกึ ษา (ตอ่ ) ○ ๖.๓ เป้าประสงค์ ๑. ผู้เรียนและผู้สาเรจ็ การศึกษามีงานทาตรงกบั ความต้องการของตลาดแรงงาน 11 ๒. ยกระดับคุณภาพของผู้เรียนและผสู้ าเร็จการศึกษาให้ตรงตามเกณฑ์มาตรฐาน ○ ๓. พัฒนาคุณภาพกาลงั คนด้านอาชีวศกึ ษา ○ ๔. พฒั นาศกั ยภาพครูและบุคลากรทางอาชีวศึกษาสู่มาตรฐานวิชาชีพ ○ ๕. พัฒนาระบบบรหิ ารจัดการให้มีประสิทธิภาพ ○ ๖. สรา้ งเครือข่ายความร่วมมือการจดั การอาชีวศึกษาท้ังในและต่างประเทศ ○ ๗. ส่งเสรมิ ด้านการวิจยั ขององค์กร นวตั กรรม และเทคโนโลยีถ่ายทอดสู่สังคม ○ ๘. พฒั นาแหล่งเรียนรแู้ ละบรกิ ารวิชาชีพที่หลากหลาย ○ ๙. ส่งเสรมิ และปลูกจิตสานึกความเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลกที่ดี ○ ○

๖. วสิ ยั ทศั น์ พันธกจิ เปา้ ประสงค์ ยุทธศาสตรก์ ลยทุ ธก์ ารพฒั นาคณุ ภาพ การจัดการศกึ ษา (ต่อ) ○ ๖.๔ ยุทธศาสตร์ 12 1.จดั การเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน 2.ยกระดับคณุ ภาพผู้เรียนตามเกณฑ์มาตรฐานการอาชีวศึกษา 3.พฒั นาคณุ ภาพกาลังคนอาชีวศึกษาทุกระดับ 4.พฒั นาศกั ยภาพครแู ละบุคลากรทางอาชีวศึกษาสู่มาตรฐานวิชาชีพ 5.พฒั นาระบบบรหิ ารจัดการให้มีประสิทธิภาพ 6.สรา้ งเครือข่ายความร่วมมือการจดั การอาชีวศึกษาทั้งในและต่างประเทศ 7.ส่งเสรมิ ด้านการวิจัยขององค์กร นวัตกรรม และเทคโนโลยีถ่ายทอดสู่สังคม 8.พฒั นาแหล่งเรียนรแู้ ละบรกิ ารวิชาชีพที่หลากหลาย 9.ส่งเสรมิ และปลกู จิตสานึกความเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลกทีด่ ี

๖. วสิ ยั ทศั น์ พนั ธกจิ เป้าประสงค์ ยุทธศาสตร์กลยุทธก์ ารพฒั นาคุณภาพ การจัดการศกึ ษา (ต่อ) ๖.๕ กลยทุ ธ์ ๑. จัดการศึกษาให้มีรปู แบบทีห่ ลากหลาย ๒. เพิ่มปริมาณผู้เรียนด้านอาชีวศกึ ษา ๓. พฒั นากระบวนการ นิเทศ กากับ ติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนือ่ ง ๔. พฒั นาระบบการประกันคุณภาพภายในและภายนอกของสถานศึกษา ๕. พัฒนาคณุ ภาพและสมรรถนะผู้เรียนให้เปน็ ทีย่ อมรับของตลาดแรงงาน ๖. พัฒนารเู้ รียนให้มีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมพึงประสง์ ๗. พัฒนากาลังคนอาชีวศกึ ษาทกุ ระดบั ให้ได้มาตรฐานวิชาชีพ ๘. ส่งเสรมิ ให้ครูและบคุ ลากรได้รับการพัฒนาด้านวิชาชีพ ๙. สนับสนุนให้ครูปละบุคลากรให้มีความกา้ วหน้าอย่างต่อเนือ่ ง ๑๐. พฒั นาระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการบรหิ ารจัดการ 13

๖. วสิ ัยทัศน์ พนั ธกจิ เป้าประสงค์ ยุทธศาสตรก์ ลยทุ ธ์การพัฒนาคณุ ภาพ การจดั การศกึ ษา (ตอ่ ) ○ ๖.๕ กลยุทธ์ (ต่อ) ๑๑. สนบั สนนุ การใชน้ วัตกรรม เทคโนโลยี ๑๒. พฒั นาระบบการตรวจสอบภายในให้มีประสิทธิภาพ ๑๓. ส่งเสรมิ ให้มีการบรหิ ารจดั การแบบมีส่วนร่วม ๑๔. สรา้ งเครือข่ายความรว่ มมือในภาครัฐทงั้ ในและต่างประเทศ ๑๕. สรา้ งเครือข่ายความร่วมมือในภาคเอกชนในและต่างประเทศ ๑๖. พัฒนางานวิจยั นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ อย่างมีประสิทธิภาพ ๑๗. สนบั สนุนการให้บรกิ ารวิชาการ วิชาชีพ แลถ่ายทอดเทคโนโลยสี ู่สงั คม ๑๘. พฒั นาศกั ยภาพสถานศึกษาให้เป็นแหล่งบรกิ ารวิชาชีพแก่ผู้เรียนและสังคม ๑๙ ส่งเสรมิ และพัฒนาด้านอาชีวศกึ ษา ให้กบั ประชาชนในการสรา้ งงาน สรา้ งอาชีพ สรา้ งรายได้ ๒๐. ส่งเสรมิ และปลกู จิตสานึกความเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลก 14

๗. ข้อมลู ค่านิยม วัฒนธรรมทอ้ งถ่นิ สภาพชุมชน เศรษฐกิจ สงั คม การเมือง สภาพชมุ ชน วิทยาลัยสารพดั ช่างสุราษฎรธ์ านี ตั้งอยู่เลขที่ 392 หมู่ที่ 4 ถนนชนเกษม ตาบล มะขามเตี้ย อาเภอเมือง จังหวดั สรุ าษฎร์ธานี รหสั ไปรษณีย์ 84000 เปน็ พืน้ ทีต่ ้ังอยู่ในวัดสามคั คีผดุงพันธ์จานวนเนอื้ ที่ 5 ไร่ 96 ตารางวา ทาสัญญาเมือ่ วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2536 ระหว่าง พระมหาธานี ปิยธัมโม กับ กรมอาชีวศึกษา เจ้าของ ผู้ให้เช่าคือ วัดสามัคคีผดุงพนั ธ์ โดยมีค่าเช่า ปีละ 3,408 บาท ซึ่งอยหู่ ่างจากศาลา กลางจังหวดั สุราษฎร์ธานี 1 กิโลเมตร ห่างจากสานักงานเกษตรจงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี 500 เมตร บริเวณ โดยรอบมีลักษณะเปน็ ชุมชนเมือง สภาพเศรษฐกจิ ประชาชนประกอบอาชีพค้าขาย และแม่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ประชากรมีรายได้ โดยเฉลีย่ 5,500–6,500 บาท/เดือน (66,000 – 78,000 บาท/คน/ป)ี สภาพสังคม ประชาชนบรเิ วณโดยรอบวิทยาลัยสารพัดช่างสุราษฎร์ธานี อยู่ร่วมกนั แบบพึ่งพา อาศยั ระหว่างบ้าน วดั โรงเรียน 15

๗. ข้อมูล คา่ นิยม วัฒนธรรมทอ้ งถ่นิ (ตอ่ ) •วิเคราะห์ SWOT ของวิทยาลยั แหง่ ที่ ๑ (SWOT Analysis) จดุ แขง็ (STRENGTH) จดุ อ่อน (WEAKNESS) ๑. จัดการเรียนการสอนที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานได้เป็นอย่างดี ๑. บุคลากรทางการศึกษามีปริมาณน้อยไม่เพียงพอต่อการจดั การเรียนการสอน ๒. การจัดการเรียนในหลากหลายรูปแบบ ๒. บุคลากรหนึ่งคนได้รบั หมอหมายงานหลายหน้าทีส่ ่งผลให้การทางานบางส่วนล่าช้า ๓. บคุ ลากรเปน็ ผู้มีความรู้ความสามารถในทักษะวิชาวิชาชีพเฉพาะด้าน ๓. สถานประกอบการอยู่ห่างไกลจากสถานศึกษาการออกนิเทศติดตามการฝึกอาชีพยงั ไม่ ๔. อาคารสถานทีม่ ีความพร้อมและเพียงพอต่อจานวนนักเรียน เพียงพอ ๕. มีวสั ดุ ครภุ ัณฑ์ มีความพร้อมในการให้บรกิ ารทางด้านวิชาการ วิชาชีพ ๔. การออกกลางคนั ของนักศึกษาในปรมิ าณมาก ๖. การบรหิ ารแบบมสี ่วนร่วมทกุ ภาคส่วน ๕. ผลงานของผู้เรียนด้านนวตั กรรม สิง่ ประดิษฐ์ งานสร้างสรรค์ หรืองานวิจยั มีค่าเฉลีย่ ต่า ๗. บคุ ลากรมีความสมั พันธ์ที่ดีกบั ชุมชน กว่าเกณฑ์ ๘. มีเครือข่ายที่มีความเข้มแขง็ ทาให้การดาเนินงานท้ังภายในวิทยาลัยและภายนอกวิทยาลัย ได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดี ๙. มีการจดั การเรียนการสอนระบบทวิภาคี 100% ในระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชีพชั้นสงู (ปวส.) ๑๐. นักเรียน มีคุณธรรม จริยธรรม มีจติ รอาสา และจิตสาธารณะ ในการบรกิ ารชมุ ชน ๑๑. การส่งเสริมพฒั นาองคค์ วามรู้ของบคุ ลากรครู ในทุกรูปแบบ ๑๒. สถานศึกษาเปน็ ทีย่ อมรับ ยกย่อง จากหน่วยงานต้นสงั กดั องคก์ รภายนอก จนเปน็ สถานศึกษาต้นแบบ ๑๓. สถานศึกษาเปน็ แหล่งเรียนรู้อย่างหลากหลายให้กับสถานศึกษาและองคก์ รภายนอก อาทิเช่น สถานศึกษาคณุ ธรรม ๑๔. มีการน้อมนาโครงการต่างๆ ของในหลวงมาใช้ในการพฒั นา ครู นักเรียน เช่น โครงการ สืบสานอนรุ กั ษ์พนั ธุกรรมพืช เป็นต้น 16

๗. ข้อมูล คา่ นิยม วัฒนธรรมทอ้ งถ่นิ (ตอ่ ) โอกาส (OPPORTUNITY) อุปสรรค (THREAT) ๑. สถานทีต่ ั้งอยู่ใจกลางจังหวดั และแหลง่ ชมุ ชน ๑. สถานที่ต้ังวิทยาลยั อยู่ในซอยหา่ งจากถนนใหญ่ จึงทาให้ไม่มี ทีห่ นาแน่น จึงทาให้บริบทโดยรวมของวทิ ยาลยั เหมาะสาหรบั ทีจ่ ะเปิดทาการเรีนการสอนในหลกั สตู รวชิ าชพี จดุ สงั เกต (จุดเด่น)ระยะส้ัน เพือ่ เปน็ การสร้างโอกาสทางการศึกษา สร้างอาชพี สร้างรายได้ และเพื่อเปน็ การลดภาระคา่ ใชใ้ จของ ประชาชนทั่วไปหลงั จากเรียนจบหลกั สตู รวชิ าชพี ระยะสั้น เปน็ ต้น ๑. สถานศึกษามีการพฒั นาหลักสตู รวชิ าชพี ๒. ระยะทางในการเดินทางมาเรียนของนักเรียนบางคนไกล ทาให้ ระยะส้ันที่ หลากหลาย และหลกั สตู รใหม่ ๆ ทีส่ อดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปจั จบุ นั และในของโควดิ -๒๐๑๙ นักศึกษาต้องมาเช่าห้องพักอยใู่ นเมอื ง จึงทาให้นกั เรียนที่มีความ ๑. สถานศึกษามีการจดั การเรียนการสอนใน รับผดิ ชอบน้อยหลายรปู แบบ อาทิเชน่ หลกั สูตรวชิ าชพี ระยะสั้น หลกั สตู รการจัดการเรียนการสอนในระบบปกติ ระบบทวภิ าคี ต้องออกเรียนกลางคัน แกนมัธยม หลกั สูตรตามความต้องการของชมุ ชน ๓. พ้นื ท่ขี องวิทยาลยั มีน้อย (เช่ากับทางวดั ) จึงทาให้การวาง มกี ารประชาสัมพนั ธ์วิทยาลัยในหลากหลาย รูปแบบ เช่น ทางเว็บไซต์ , ลกั ษณะการบอกปากต่อปากจากผู้เรียนหลกั สูตรวชิ าชพี ระยะสั้น , ผ่านกระบวนการ แปลนอาคารจากดั ทาให้พืน้ ทีใ่ นการจัดกิจกรรมของผเู้ รียน ออกหน่วยให้บริการชุมชนของนกั เรียนกลมุ่ ทีเ่ ข้ามาเรียนวชิ าชพี ระยะสั้น , การออกหน่วย Fix it Center , การ คอ่ นข้างไม่เพยี งพอออกอาเภอยมิ้ , การออกหน่วยจังหวดั เคลือ่ นที่ เป็นต้น จึงทาให้จานวนนักเรียนในหลกั สตู รวชิ าชพี ระยะส้ันเปน็ จานวนมาก ๑. มีบุคลากรทีจ่ ดั ทาการเรียนการสอนใน หลกั สูตรวชิ าชพี ระยะส้ันทีม่ ีทกั ษะความรู้ ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญในศาสตร์สาขาวชิ าชพี ของตนเองสูง จะเห็นได้จากรางวลั ทีไ่ ด้รบั ในการเข้าแข่งขันทักษะวชิ าชพี ระยะสั้นทไี่ ด้รบั รางวลั ในระดบั ประเทศ และบุคลากรครู ได้รับการเชิญไปเปน็ ผู้เชย่ี วชาญสอนในวชิ าชพี เฉพาะด้านเปน็ จานวนมาก ๑. ผู้อานวยการให้การสนับสนุนส่งเสริมในทกุ ๆ ด้าน อาทิเชน่ การจดั การเรียนการสอนในทกุ รูปแบบเพื่อใหว้ ทิ ยาลยั สคู่ วามเปน็ เลิศ , การให้ขวญั กาลงั ใจกบั บุคลากร , การหาภาคเี ครือข่ายในการจดั การเรียนการสอนในระบบทวภิ าคแี ละใหก้ ารสนับสนันทุนการศกึ ษา ให้กับนกั เรียนอย่างเพียงพอ เป็นต้น 17

กรณีสถานศึกษาประสบความสาเรจ็ ในการนานโยบายสูก่ ารปฏิบัตใิ ห้ทา่ นศึกษา ปจั จยั และนวัตกรรมทีส่ ง่ ผลต่อความสาเรจ็ และเสนอแนวคิดการนาไปประยุกต์ใช้ 18

กรณีสถานศกึ ษาประสบความสาเร็จในการนานโยบายส่กู ารปฏิบตั ิใหท้ ่านศึกษา ปจั จยั และนวตั กรรมทีส่ ่งผลต่อความสาเรจ็ และเสนอแนวคิดการนาไปประยุกตใ์ ช้ การนานโยบายส่กู ารปฏิบตั ิของสถานศึกษา วิทยาลัยได้มีการร่วมกาหนด “กลยทุ ธ์” ในการพฒั นา สถานศึกษาไว้ท้ังหมด 20 ประการ “สคู่ วามสาเร็จ” ดังนี้ ○ 1.จดั การศึกษาให้มีรูปแบบที่หลากหลาย ○ 2.เพิ่มปรมิ าณผู้เรียนด้านอาชีวศกึ ษา ○ 3.พฒั นากระบวนการ นิเทศ กาลงั ติดตาม และประเมินผลอย่างต่อเนือ่ ง ○ ๔.พฒั นาระบบการประกันคณุ ภาพภายในและภายนอกของสถานศึกษา ○ ๕.พฒั นาคณุ ภาพและสมรรถนะผู้เรียนให้เป็นที่ยอมรบั ของตลาดแรงงาน ○ ๖.พฒั นาผู้เรียนให้มีคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยมพึงประสงค์ ○ ๗.พฒั นากาลงั คนอาชีวศกึ ษาทกุ ระดบั ให้ได้มาตรฐานวิชาชีพ ○ ๘.ส่งเสรมิ สนับสนนุ ให้ครแู ละบุคลากรได้รับการพฒั นาด้านรวิชาชีพ ○ ๙.สนับสนนุ ให้ครแู ละบคุ ลากรให้มีความกา้ วหน้าอย่างต่อเนื่อง 19

กรณีสถานศกึ ษาประสบความสาเร็จในการนานโยบายสกู่ ารปฏิบตั ิใหท้ ่านศึกษา ปจั จัยและนวตั กรรมที่สง่ ผลต่อความสาเร็จ และเสนอแนวคิดการนาไปประยุกตใ์ ช้ ○ ๑๐.พัฒนาระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การบรหิ ารจัดการ ○ ๑๑.สนบั สนนุ การใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี ○ ๑๒.พฒั นาระบบการตรวจสอบภายในให้มีประสิทธิภาพ ○ ๑๓.ส่งเสรมิ ให้มีการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม ○ ๑๔.สรา้ งเครือข่ายความร่วมมือในภาครฐั ท้ังในและต่างประเทศ ○ ๑๕.สรา้ งเครือข่ายความรว่ มมือในภาคเอกชนท้ังในและต่างประเทศ ○ ๑๖.พฒั นางานวิจัย นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ อย่างมีประสิทธิภาพ ○ ๑๗.สนับสนนุ การให้บริการวิชการ วิชาชีพ และถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่สงั คม ○ ๑๘.พฒั นาศกั ยภาพสถานศึกษาให้เป็นแหล่งบรกิ ารทางวิชาชีพแก่ผู้เรียนและสังคม ○ ๑๙.ส่งเสรมิ และพัฒนาอาชีพให้กับประชาชนในการสรา้ งงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ○ ๒๐.ส่งเสรมิ และปลกู จิตสานึกความเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก 20

นวตั กรรมที่ส่งผลต่อความสาเร็จของสถานศึกษา ดงั น้ี 1.จัดการเรียนการสอนทีห่ ลากหลายรูปแบบอย่างต่อเนือ่ งและสอดคล้องกับความต้องการของชมุ ชน สังคม ประเทศชาติ โดยยึดผู้เรียนเปน็ สาคญั ๒.สรา้ งเครือข่ายความร่วมมือในการจดั การศึกษาท้ังในภาครฐั และเอกชน ท้ังในประเทศและ ○ ต่างประเทศ ○ 3. ส่งเสรมิ และพฒั นาอาชีพให้กบั ประชาชน ในการสรา้ งงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ○ 4. จดั การเรียนการสอนโดยมุ่งเน้นสมรรถนะวิชาชีพ พฒั นาผู้เรียนในการประดิษฐค์ ิดค้นนวตั กรรมและ เทคโนโลยีใหม่ ๆ ○ 5. พัฒนาพืน้ ที่ในการจดั การเรียนการสอนให้เพียงพอ เหมาะสม และมีบรรยากาศทีเ่ อ้อื ○ ต่อการจัดการเรียนรู้ ○ 6. ส่งเสรมิ สนบั สนนุ ให้บริการวิชาการ วิชาชีพ และถ่ายทอดเทคโนโลยสี มัยใหม่เข้าสสู่ ังคมอยา่ งต่อเนือ่ ง ○ 7. พฒั นาและบารงุ รักษาสภาพแวดล้อมท้ังภายในและภายนอกหอ้ งเรียน ห้องปฏิบตั ิการ ให้มีบรรยากาศทีเ่ อ้ือ ต่อการเรียนการสอน ○ 8. พฒั นาสุนทรยี ภาพทางด้านศิลปะ ดนตรี และกีฬา 21 ○ 9. พฒั นาศักยภาพสถานศึกษาให้เป็นแหลง่ บรกิ ารทางวิชาชีพแก่ผู้เรียนและสงั คม

นวัตกรรมทีส่ ่งผลต่อความสาเร็จของสถานศึกษา ดังน้ี ○ 10. สนับสนนุ ส่งเสรมิ ในการสรา้ งงาน สรา้ งอาชีพ สรา้ งรายได้ ด้วยการจัดการสอนในเรือ่ งของศูนย์บ่มเพาะ , การหา รายได้ระหว่างเรียน และการเรียนในระบบทวิภาคี ○ 11. ร่วมมือกบั สถานประกอบการเพื่อพัฒนาผเู้ รียน และครู ด้านทักษะและประสบการณ์ในวิชาชีพเฉพาะ ○ 12. พัฒนาคณุ ภาพสถานศึกษาให้เปน็ ไปตามมาตรฐานการอาชีวศึกษา ○ 13. พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การบริหารจัดการและส่งเสรมิ การเรียนรู้ด้วยตนเอง ○ 14. ส่งเสรมิ ให้มีการบรหิ ารจัดการแบบมีส่วนร่วม ○ 15. พฒั นาระบบการตรวจสอบภายในให้มีประสิทธิภาพ ○ 16. พฒั นาผเู้ รียนให้มีคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พงึ ประสงค์ ○ 17. ส่งเสรมิ สนบั สนนุ ให้ครูและบคุ ลากรให้ได้รบั การพฒั นาด้านวิชาชีพ และมีความก้าวหน้าในด้านวิชาชีพ 22

แนวทางการประยุกต์ใช้ ประเด็น นกั เรียน ผ้ทู เี่ กีย่ วข้อง ชมุ ชน / สงั คม ครแู ละบคุ ลากรทางการ ศึกษา วทิ ยาลยั มีการจัดการเรียนการสอนทีห่ ลากหลาย - มีโอกาศทางการศกึ ษาทีม่ ากข้ึนและหลากหลาย - บุคลากรมีความเชี่ยวชาญที่ - มีช่องทางที่จะเข้าถึงการศกึ ษาใน ซึง่ เป็นการเพิ่มโอกาสทางการศึกษา และ ช่องทาง หลากหลายรูปแบบในการ หลากหลายรปู แบบ ประสบการณ์ให้กบั นกั เรียน ประชาชนทั่วไปได้ จดั การเรียนการสอนใหก้ ับ - สามารถเลือกรูปแบบการเรียนทีม่ ี เปน็ อย่างดี นกั เรียน ความเหมาะสมกับตนั เองได้เป็นอย่างดี วทิ ยาลัยมีการจดั การเรียนการสอนทีม่ ีคุณภาพ - ได้เรียนในรายวชิ าที่มีความทนั สมยั ทนั ต่อการ - ครูได้พัฒนาองค์ความรู้ - สามารถนาไปประกอบอาชีพได้เป็น และสมรรถนะสอดคล้องกับความตอ้ งการของ เปลีย่ นแปลงในยคุ ปจั จบุ นั ตลาดแรงงาน ของตนเองในการสร้าง อย่างดี รายวชิ าใหม่ๆ เพือ่ สอดรับกบั - สามาถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ ดงั ยคุ โลกาภิวัตน์ คาวา่ สร้างเงิน สร้างงาน สร้างอาชีพ วทิ ยาลัยมีการส่งเสริมใหม้ ีการบริหารจดั การ - เป็นการเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนได้มีสว่ นร่วมในการ - เป็นการเปิดโอกาสใหค้ รู - เปน็ การสร้างโอกาศในการแลกเปลี่ยน แบบมีสว่ นร่วม ทาใหก้ ารทางานได้รับความร่วม ดาเนนิ กิจกรรม/โครงการ เพือ่ สร้างการกล้าคิด กล้า และบุคลากรได้มีส่วนร่วมใน เรียนรู้กระบวนการความคิดเพือ่ นาไปสู่ จากทุกภาคส่วน แสดงออก และภาวะผู้นาใหก้ ับนกั เรียน การดาเนินกิจกรรม/โครงการ การเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมใหม่ๆ จาก เพื่อสร้างการกล้าคิด กล้า แรงบันดาลใจสู่ความสาเรจ็ แสดงออก และภาวะผู้นา ใหก้ บั บคุ ลากรในสถานศกึ ษา 23

แนวทางการประยุกต์ใช้ (ต่อ) ผู้ที่เกีย่ วข้อง ประเด็น นักเรยี น ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ชมุ ชน / สงั คม พฒั นาวิทยาลัยให้เปน็ แหลง่ บรกิ ารทางวิชาชีพ - เป็นแหลง่ เรียนรู้ที่มคี ณุ ภาพ - บคุ ลากรมีความสขุ ในการให้ - เป็นการจัดการสถานศึกษาแหลง่ แก่ผเู้ รียนและสังคม ชมุ ชนได้อย่างดีเยี่ยม สามารถเข้ามาศึกษาหาความรู้ สถานศึกษาเป็นแหล่งบริการ เรียนรู้เป็นมติ รกับสิ่งแวดล้อมอย่าง ได้ทกุ วนั ทางการวิชาชีพอย่างมีคณุ ภาพและ มีคุณภาพสามารถเข้ามาศึกษาหา - ใช้ทุกพนื้ ที่ภายในวิทยาลัยให้ ต่อเนือ่ ง ความรไู้ ด้ทุกวัน เพื่อให้เกิด เกิดประโยชน์สูงสุด ประโยชน์สงู สดุ มีการสร้างเครอื ขา่ ยความร่วมมอื ที่ - มีโอกาสได้เรียนรู้จริง ฝึก - มีโอกาสได้เรียนรู้จริง ฝึก - ได้เปิดประสบการณ์ที่ หลากหลายทั้งในภาครฐั และภาคเอกชน ประสบการณจ์ ริงจากภาคี ประสบการณจ์ ริงจากภาคี หลากหลายจากทกุ ภาคสว่ นและได้ เครอื ข่ายที่ทางสถานศึกษา เครอื ข่ายที่ทางสถานศึกษา สร้าง เป็นเครือข่ายทีเ่ ชื่อมโยงสู่การ สร้างความรว่ มมือ ความรว่ มมือ พัฒนาตนเองและสังคมต่อไปได้ วิทยาลัยส่งเสริมและพฒั นาอาชีพให้กับ - มีโอกาสทางได้ฝึกทกั ษะ - บุคลากรมีความเชีย่ วชาญที่ - สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั หลากหลายรปู แบบในการจัดการ และประกอบอาชีพเพื่อการ ประชาชน ชมุ ชน ในการสร้างงาน สร้างอาชีพ อาชีพทีม่ ากขนึ้ ในหลากหลาย เรียนการสอนให้กับนกั เรียน ดารงชีวิตได้ ดงั คาทีว่ ่า สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ 24 สร้างรายได้ รปู แบบ

แนวทางการประยุกต์ใช้ (ต่อ) ผู้ที่เกีย่ วข้อง ประเด็น นักเรยี น ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ชมุ ชน / สงั คม พฒั นาวิทยาลัยให้เปน็ แหลง่ บรกิ ารทางวิชาชีพ - เป็นแหลง่ เรียนรู้ที่มคี ณุ ภาพ - บคุ ลากรมีความสขุ ในการให้ - เป็นการจัดการสถานศึกษาแหลง่ แก่ผเู้ รียนและสังคม ชมุ ชนได้อย่างดีเยี่ยม สามารถเข้ามาศึกษาหาความรู้ สถานศึกษาเป็นแหล่งบริการ เรียนรู้เป็นมติ รกับสิ่งแวดล้อมอย่าง ได้ทกุ วนั ทางการวิชาชีพอย่างมีคณุ ภาพและ มีคุณภาพสามารถเข้ามาศึกษาหา - ใช้ทุกพนื้ ที่ภายในวิทยาลัยให้ ต่อเนือ่ ง ความรไู้ ด้ทุกวัน เพื่อให้เกิด เกิดประโยชน์สูงสุด ประโยชน์สงู สดุ มีการสร้างเครอื ขา่ ยความร่วมมอื ที่ - มีโอกาสได้เรียนรู้จริง ฝึก - มีโอกาสได้เรียนรู้จริง ฝึก - ได้เปิดประสบการณ์ที่ หลากหลายทั้งในภาครฐั และภาคเอกชน ประสบการณจ์ ริงจากภาคี ประสบการณจ์ ริงจากภาคี หลากหลายจากทกุ ภาคสว่ นและได้ เครอื ข่ายที่ทางสถานศึกษา เครอื ข่ายที่ทางสถานศึกษา สร้าง เป็นเครือข่ายทีเ่ ชื่อมโยงสู่การ สร้างความรว่ มมือ ความรว่ มมือ พัฒนาตนเองและสังคมต่อไปได้ วิทยาลัยส่งเสริมและพฒั นาอาชีพให้กับ - มีโอกาสทางได้ฝึกทกั ษะ - บุคลากรมีความเชีย่ วชาญที่ - สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั หลากหลายรปู แบบในการจัดการ และประกอบอาชีพเพื่อการ ประชาชน ชมุ ชน ในการสร้างงาน สร้างอาชีพ อาชีพทีม่ ากขนึ้ ในหลากหลาย เรียนการสอนให้กับนกั เรียน ดารงชีวิตได้ ดงั คาทีว่ ่า สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ 25 สร้างรายได้ รปู แบบ

แนวทางการประยกุ ต์ใช้ (ตอ่ ) ให้การสนับสนุนการให้บริการ - เป็นการสรา้ งโอกาสใน - เป็นการเปิดโอกาสให้ - เปน็ การสรา้ งโอกาส วิชาการ วิชาชีพ และถ่ายทอด การทีจ่ ะนาไปประกอบ ครู และบคุ ลากรได้มี ทางด้านธรุ กิจเพอ่ื นาชุมชม เทคโนโลยีสู่สงั คม อาชีพ สร้างรายได้ จาก ส่วนร่วมในการต่อยอด สู่สาเร็จ และเปน็ การต่อ การนาวัตถดุ ิบที่มีอยู่ใน ทางธรุ กิจและนา ยอดทางธุรกิจเพือ่ สร้าง ชมุ ชนมาพฒั นาต่อยอด เทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ รายได้ทีส่ งู ขนึ้ ให้กับชมุ ชน ให้เปน็ สินค้าทีม่ ีคุณภาพ ในการบรหิ ารจัดการ และต่อยอดทางธุรกิจ 26

แนวทางการประยกุ ตใ์ ช้ (ต่อ) ผู้ที่เกีย่ วข้อง ประเดน็ นกั เรยี น ครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ชมุ ชน / สงั คม วิทยาลัยให้การส่งเสรมิ สนับสนนุ ใน - ได้เป็นการเพิม่ แหล่ง - เป็นการพฒั นาตนเอง - ได้เข้าถึงการศึกษา การนานวตั กรรม เทคโนโลยสี มยั ใหม่ การเรียนรใู้ นรปู แบบ เพื่อให้ยุคของการศึกษาใน หลากหลายรูปแบบเพิ่มขนึ้ มาใชใ้ นการจัดการเรียนการสอนและ ใหม่ๆ เป็นอกี ช่องทางใน ศตวรรษที่ 21 ซึ่งสามารถนาเอาไปพฒั นา บรหิ ารจดั การ การเรียนรทู้ ี่ทนั สมัยในยคุ - เปน็ การจัดการเรียนใน ตนเองได้ ชุมชน สังคมได้ ของโลกาภิวัตน์ รปู แบบใหม่ทีท่ นั สมยั และ - สอดรับการเรียนรใู้ น ประยกุ ต์เข้ากบั โลกปจั จบุ ัน ศตวรรษที่ 21 ได้เป็น อย่างดี พัฒนาผเู้ รียนให้มีคณุ ธรรม - เป็นคนที่มีคณุ ธรรม - เปน็ ต้นแบบทางด้าน - ชุมชนที่น่าอยู่ น่าอาศยั มี จริยธรรมและค่านิยมอนั พึงประสงค์ จริยธรรม มีจิตสาธารณะ คุณธรรม จริยธรรมที่ดี เปน็ สภาพสังคมทีม่ ีความสขุ และ ดารงตนอยู่ในสงั คมได้ การสรา้ งแบบอย่างให้กบั ทาให้อยากส่งลูกหลานเข้า อย่างมีความสุข นักเรียน มาศึกษาต่อให้วทิ ยาลยั 27

การสร้างความเชอ่ื มนั่ ให้แก่ผมู้ ีส่วนเก่ยี วข้อง ○ 1.ได้รบั รางวัลสถานศึกษารางวัลพระราชทาน ปีการศึกษา ๒๕๔๗ ○ ๒.ได้รับรางวัลสถานศึกษารางวัลพระราชทาน ปีการศึกษา ๒๕๕๐ ○ ๓.ได้รับรางวลั สถานศึกษารางวลั พระราชทาน ปีการศึกษา ๒๕๕๖ ○ ๔.ได้รับรางวลั สถานศึกษารางวัลพระราชทาน ปีการศึกษา ๒๕๕๙ ○ ๕.ได้รับรางวลั นกั ศึกษารางวัลพระราชทาน ปีการศึกษา ๒๕๖๐ ○ ๖.ได้รบั รางวลั สถานศึกษา “สถานศึกษาพอเพียง” ประจาปีการศึกษา ๒๕๖๐ ○ ๗.สถานศึกษาทาควาร่วมมือ (MOU) ในการจดั การอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ร่วมกบั สถาน ○ ๘.ประกอบการ บุคคล ชมุ ชน องค์กรต่างๆ มีส่วนร่วมกบั สถานศึกษาในการจัดการเรยี นการสอนอาชีวศึกษาระบบ ทวภิ าคี ○ ๙.การระดมทรพั ยากรในการจัดการเรียนการสอนเพื่อยกระดับและพฒั นาคณุ ภาพสถานศึกษาและ ○ ๑๐.ส่งเสรมิ ให้ผู้เรียนเปน็ ผู้มีจิตอาสาโดยใช้วิชาชีพสรา้ งประโยชน์ให้กบั ชมุ ชนสงั คม 28

การจดั การศึกษาที่บรรลุเปา้ ประสงคข์ องหนว่ ยงานต้นสังกัด ○ วทิ ยาลยั ดาเนินการจดั การอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี โดยได้ดาเนินการตามโครงการขยายและ ยกระดับการจดั การอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี สู่ความเปน็ เลิศ ส่งเสริมการผลติ และพฒั นากาลงั คน อาชีวศึกษาให้มีสมรรถนะในสาขาทีต่ รงตามความต้องการ การเพิ่มปรมิ าณผู้เรียนด้านอาชีวศึกษา ระบบทวิภาคีเพิม่ ข้ึน มีการทาความร่วมมมือ (MOU) กับสถานประกอบการทั้งภาครฐั และเอกชน จัดประชมุ เชิงปฏิบตั ิการจัดทาแผนการฝึกอาชีพทีส่ อดคล้องกบั ความต้องการของสถานประกอบการ จานวน ๑๘ แห่ง นอกจากนยี้ ังให้บริการชุมชนและจิตอาสาส่งเสริมให้ผเู้ รียนเป็นผมู้ ีจติ อาสา เช่น โครงการอาชีวะอาสา โครงการศูนย์ซอ่ มสร้างเพือ่ ชุมชน (Fix it Center) และอีกหลายโครงการ ร่วมกบั ชมุ ชน จนเป็นทีพ่ ึงพอใจของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน และผู้ปกครอง 29

นวัตกรรมที่สง่ ผลต่อความสาเร็จของสถานศึกษา การพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศึกษาทีเ่ ป็นแบบอย่างที่ดี (Best Practice) ○ ความเปน็ มาและความสาคญั ○ ตามที่วิทยาลยั ได้ทาการเปิดการเรียนการสอน หลักสตู รประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสงู (ปวส.) หลักสตู รวิชาชีพระยะส้ัน และหลักสตู รพิเศษอน่ื ๆ โดยเฉพาะวิชาชีพระยะสั้น เพื่อ ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานในจังหวดั สรุ าษฎร์ธานี โดยในจังหวัดสรุ าษฎร์ธานีมีความต้องการจะพฒั นาใน วิชาชีพกลุ่มงานเสรมิ สวย จากปัญหาดังกล่าว ทางวิทยาลยั สารพดั ช่างสรุ าษฎร์ธานี ไดม้ ีการเปิดหลกั สตู รวิชาชีพระยะส้ัน สาขาวิชาคหกรรมศาสตรท์ วั่ ไป หลักสูตรเฉพาะทาง กลุ่มงานเสรมิ สวย ได้เปิดการสอนในสาขาวิชา การสระผม-เซ็ทผม 75 ช่วั โมง , เทคนิคการซอยผม 75 ช่วั โมง , การซอยผมดดั ผม Advance 75 ชว่ั โมง , การเกล้าผม-ถกั เปีย 30 ชวั่ โมง , การนวดหน้า 12 ชวั่ โมง , การเปลี่ยนสีผม การทาไฮไลท์ 12 ชว่ั โมง , การตัดผมสปาเฟิร์ม 12 ชั่วโมง และยืดผมรีด บอร์นดิง้ 12 ช่วั โมง เพือ่ ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานจังหวัดสรุ าษฎร์ธานี ○ วตั ถปุ ระสงค์ ○ 2.1 เพือ่ ให้ผู้เข้าเรียนมีความรู้ความสามารถในงานเสรมิ สวย ○ 2.2 เพือ่ ให้ผู้เข้าเรียนมีทกั ษะปฏิบัติงานเสริมสวย ○ 2.3 เพื่อให้ผู้เข้าเรยี นมีเจตคติที่ดีในวิชาชีพเสริมสวย 30

นวัตกรรมที่สง่ ผลต่อความสาเรจ็ ของสถานศึกษา การพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศึกษาที่เปน็ แบบอย่างทีด่ ี (Best Practice) ○ กรอบแนวคดิ ○ จากความเป็นมาของการเปิดหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น ในกลุ่มงานเสรมิ สวย สามารถนามากาหนด ○ กรอบแนวคดิ ○ ○ 31

นวัตกรรมที่สง่ ผลตอ่ ความสาเรจ็ ของสถานศึกษา การพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาของสถานศึกษาที่เป็นแบบอยา่ งที่ดี (Best Practice) ○ วธิ ีการดาเนินงาน ○ ใช้วธิ ีระบบ System Appoach ประกอบด้วย Input , Process , Output , Feedback และ ● ทุกข้ันตอนจะควบคุมโดยวงจรคณุ ภาพ (PDCA) ○ ○ 32

นวัตกรรมที่ส่งผลต่อความสาเร็จของสถานศึกษา การพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศึกษาที่เป็นแบบอยา่ งที่ดี (Best Practice) ○ - สิง่ ทีป่ ้อนเข้าไป (Input) : สิง่ ต่างๆ ทีจ่ าเปน็ ต้องใช้ในกระบวนการเรียนการสอน วสั ดุฝกึ ห้องเรียน ครู นักเรียน หลกั สูตรระยะสั้น ○ - กระบวนการ (Process) : การนาเอาสิ่งที่ป้อนเข้าไปมาจดั ทาให้เกิดผลบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตอ้ งการ กระบวนการสอนของครู กิจกรรมการเรียนการสอน การให้ผู้เรียนทากิจกรรม เปน็ ต้น ○ - ผลผลิต (Output) : ผลทีไ่ ด้จาการกระทาในชน้ั ทีส่ อง ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนกั เรียน ผลงานของผู้เรียน รางวลั การเข้าแข่งขนั ทกั ษะวิชาชีพอาชีวศึกษา ○ - ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) เปน็ วิธีการที่เอาผลทีไ่ ด้จากผลผลิตมาพิจารณา ปรบั ปรงุ ระบบให้มีประสิทธิภาพ ยิ่งขึน้ ผลจากการบันทึกหลังสอน การประเมินครผู ู้สอน ประเมินหลักสูตร การติดตามผเู้ รียนหลงั จากจบ การศึกษาไปแล้วของงานแนะแนว ○ - จากกระบวนการใชว้ ิธีระบบ System Appoach มาแสดงเป็นขั้นตอนการดาเนินงานแผนภมู ิของ ○ ระบบ (Flow Chart) 33

นวัตกรรมทีส่ ่งผลต่อความสาเร็จของสถานศึกษา การพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาของสถานศึกษาทีเ่ ปน็ แบบอยา่ งทีด่ ี (Best Practice) ○ ○ ○ 34

นวตั กรรมทีส่ ง่ ผลตอ่ ความสาเรจ็ ของสถานศึกษา การพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาของสถานศึกษาทีเ่ ป็นแบบอยา่ งทีด่ ี (Best Practice) ○ ผลการดาเนินงาน ผลการดาเนินงานตามวตั ถปุ ระสงค์ ในการศึกษา 2562 หลกั สตู รฝึกอบรมวิชาชพี เฉพาะทาง (หลกั สูตรระยะสั้น) ประเภทวิชาคหกรรมศาสตร์ท่ัวไป งานเสริมสวยน้ัน มีดงั นี้ ○ เชิงปริมาณ ○ ในสาขางานเสริมสวย เปิดสอนท้ังสิน้ 8 สาขาวิชา ดงั นี้ ○ การสระผม-เซท็ ผม มผี เู้ ข้าเรียน 77 คน ○ การซอยผมดัดผม Advance มผี เู้ ข้าเรียน 72 คน ○ เทคนิคการซอยผม มผี เู้ ข้าเรียน 22 คน ○ เกล้าผม-ถกั เปยี มีผู้เข้าเรียน 53 คน ○ การนวดหน้า มีผู้เข้าเรียน 27 คน ○ การทาไฮไลท์ มีผู้เข้าเรียน 27 คน ○ ดดั ผมสปาเฟิร์ม มีผู้เข้าเรียน 27 คน ○ ยึดผมรีบอร์นดงิ้ มีผู้เข้าเรียน 27 คน ○ โดยมีผู้เข้าเรียนหลกั สูตรระยะส้ัน กลุ่มงานเสริมสวย ปีการศึกษา 2562 จานวนท้ังสนิ้ 327 คน ○ จบการศึกษา 288 คน คิดเปน็ 88.07% 35

นวัตกรรมที่ส่งผลตอ่ ความสาเร็จของสถานศึกษา 36 การพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศึกษาทีเ่ ปน็ แบบอย่างที่ดี (Best Practice) ○ ผลการดาเนินงาน ○ เชิงคณุ ภาพ ○ นกั เรียนชนะเลิศ ระดบั จังหวัดสรุ าษฎร์ธานีในการแข่งขนั ทักษะอาชวี ศึกษา ○ นักเรียนชนะเลิศ ระดับภาคใต้ ○ นักเรียนรองชนะเลิศ ระดบั ประเทศ ประโยชน์ทีไ่ ดร้ บั ○ 6.1 นกั เรียนมีความรู้ในสาขางานเสริมสวย ○ 6.2 นกั เรียนมีทักษะในสาขาเสริมสวย ○ 6.3 ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานเสริมสวยในจงั หวัดสุราษฎร์ธานี ○ ○ ○

๒. วิเคราะห์ สังเคราะห์ สภาพทัว่ ไป การเชื่อมโยงนโยบายสกู่ ารปฏบิ ตั ิ กระบวนการบรหิ าร สถานศึกษา การบรหิ ารทรัพยากร จดุ เด่น จดุ ด้อยของสถานศึกษา การบริหารความเสีย่ ง ปจั จยั สู่ความสาเรจ็ และสรปุ แนวคิดการส่งเสริมพัฒนา หรือแนวทางการแกไ้ ขปญั หา โดยใชป้ ญั หา เปน็ ฐาน (Problem Based Learning : PBL) 37

๒. วเิ คราะห์ สังเคราะห์ สภาพทั่วไป การเชื่อมโยงนโยบายสกู่ ารปฏิบตั ิ กระบวนการบริหารสถานศกึ ษา การบริหาร ทรพั ยากร จุดเดน่ จดุ ดอ้ ยของสถานศึกษา การบริหารความเสีย่ ง ปจั จัยส่คู วามสาเรจ็ และสรปุ แนวคดิ การสง่ เสริม พฒั นา หรือแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยใช้ปัญหาเปน็ ฐาน (Problem Based Learning : PBL) ○ ประเดน็ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย คอื กระบวนการบรหิ ารจัดการอาชีวศึกษาทวิภาคี การยกระดับ การสรา้ งเครือข่าย ○ และความร่วมมือกับประชาคมการศึกษา ○ สภาพท่ัวไป ○ ๑. ประชาชนประกอบอาชีพค้าขาย และแม่บ้านเปน็ ส่วนใหญ่ ประชากรมีรายได้โดยเฉลี่ย ๕,๕๐๐ – ○ ๖,๕๐๐ บาท/เดือน ○ ๒. ผู้ปกครองและประชาชนที่อาศยั อยู่ในเขตพืน้ ที่บริการของวิทยาลัย ส่วนใหญ่เปน็ สงั คมเมอื ง และ ○ ประกอบอาชีพรบั จ้าง ค้าขาย เป็นต้น ○ ๓. สถานะครอบครวั ของผู้เรียนมีรายได้ไม่แน่นอนและไม่มากนกั ผู้เรียนของวิทยาลยั ส่วนใหญ่มีฐานะ ○ ยากจน ○ ๔. ประชาชนบรเิ วณโดยรอบวิทยาลัย อยู่ร่วมกนั แบบพึง่ พาอาศยั ระหว่างบ้าน วดั โรงเรียน ○ 38

๒. วเิ คราะห์ สังเคราะห์ สภาพทั่วไป การเชื่อมโยงนโยบายสูก่ ารปฏิบัติ กระบวนการบริหารสถานศกึ ษา การบริหาร ทรัพยากร จดุ เด่น จุดดอ้ ยของสถานศึกษา การบริหารความเสีย่ ง ปจั จัยสู่ความสาเร็จ และสรปุ แนวคดิ การสง่ เสริม พัฒนา หรือแนวทางการแกไ้ ขปัญหา โดยใช้ปญั หาเป็นฐาน (Problem Based Learning : PBL) ○ ๒. การเชื่อมโยงนโยบายสูก่ ารปฏิบตั ิ ○ 1. ส่งเสรมิ การจดั อาชีวศกึ ษาระบบทวิภาคีในทกุ สาขาวิชา โดยการนานโยบายลงสู่การปฎิบัติ ○ ๒. พฒั นาการจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีการและรปู แบบที่หลากหลาย ○ ๓.ส่งเสรมิ หลกั สูตรระยะส้ัน/หลกั สูตรที่หลากหลาย สาหรับบุคคลท่วั ไป ○ ๓.พฒั นาระบบและกลไกเพือ่ บูรณาการการเรียนการสอนและการบรกิ ารวิชาการ ○ ๔.พัฒนาศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาให้เป็นไปตามเกณฑ์ของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ○ ๖.สรา้ งภาคีเครือข่ายความรว่ มมือทางวิชาการวชิ าชีพ ที่เข้มแข็ง ○ ๗.สรา้ งจิตสานึกให้เกิดความรักความศรทั ธาความภมู ใิ จ เห็นคุณค่า และตระหนกั ในความสาคัญของวฒั นธรรมภูมิ ปัญญาท้องถิน่ และ การอนรุ ักษ์สิ่งแวดล้อม ○ 39 ○

๒. วเิ คราะห์ สังเคราะห์ สภาพทวั่ ไป การเชื่อมโยงนโยบายสกู่ ารปฏิบัติ กระบวนการบริหารสถานศกึ ษา การบริหาร ทรัพยากร จุดเด่น จุดด้อยของสถานศึกษา การบริหารความเสีย่ ง ปจั จยั สคู่ วามสาเรจ็ และสรปุ แนวคดิ การสง่ เสริม พฒั นา หรือแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยใช้ปญั หาเป็นฐาน (Problem Based Learning : PBL) ○ ๒. การเชือ่ มโยงนโยบายสูก่ ารปฏิบัติ ○ ๘. พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพบคุ ลากรด้านเทคโนโลยกี บั หน่วยงานของทั้งภาครฐั และเอกชน ○ ๙. พฒั นาแหล่งเรียนรู้และบรกิ ารวิชาชีพที่หลากหลาย ○ 10. พัฒนากาลังคนอาชีวศึกษาทกุ ระดับ ○ 11. จัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ○ ๑๒.ยกระดบั คุณภาพผู้เรียนตามเกณฑ์มาตรฐานการอาชีวศึกษา ○ ๑๓. ส่งเสรมิ ด้านการวิจัยขององค์กร นวัตกรรม และเทคโนโลยีถ่ายทอดสู่สงั คม ○ 14. พัฒนาศกั ยภาพครแู ละบคุ ลากรทางอาชีวศึกษาสู่มาตรฐานวิชาชีพ ○ 15. ส่งเสรมิ และปลูกจิตสานึกความเปน็ พลเมืองไทยและพลโลกที่ดี ○ 40 ○

๒. วเิ คราะห์ สังเคราะห์ สภาพท่วั ไป การเชือ่ มโยงนโยบายสูก่ ารปฏิบัติ กระบวนการบริหารสถานศกึ ษา การบริหาร ทรัพยากร จุดเด่น จดุ ด้อยของสถานศึกษา การบริหารความเสีย่ ง ปัจจัยส่คู วามสาเรจ็ และสรปุ แนวคดิ การส่งเสริม พัฒนา หรือแนวทางการแกไ้ ขปญั หา โดยใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน (Problem Based Learning : PBL) กระบวนการบรหิ ารสถานศกึ ษา วิทยาลัยนาโดยผู้อานวยการได้นา หลกั การบรหิ ารแบบ POSDC มาใช้ในการบริหารจดั การสถานศกึ ษาโดย มีหลกั หลักการดังน้ี ○ POSDC : หลักการบรหิ ารจัดการยุคคลาสสิกที่ยงั คงช่วยเพม่ิ ประสิทธิภาพองคก์ รไดด้ ีในยุคปัจจบุ นั หลักการบรหิ ารจัดการ POSDC มีการใส่ใจในการวางแผนการทางานต้ังแต่ต้นจนจบ ต้ังแต่การวางเป้าหายการดาเนนิ นโยบายการจัดสรรการ ทางานการควบคุมการทางาน ตลอดจนดาเนนิ การปฏิบัตกิ ารให้ลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพหลกั การบรหิ าร POSDC ให้ความสาคัญกับการบรหิ าร ทรัพยากรบุคคลด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยสาคัญสาหรับองค์กร ตั้งแต่การวางโครงสร้างองค์กร คดั สรรบคุ ลากร จดั สรรพนักงานคามหน้าที่ บริหาร จดั การทรัพยากรบคุ คล ดูแลสวัสดกิ าร ปฏิบตั งิ านให้มีประสทิ ธิภาพไปจนถึงแผนในการพัฒนาทรพั ยากรมนุษยห์ ลกั การบรหิ ารจดั การ POSDC ใส่ ใจการอานวยการและควบคมุ การทางานซึ่งนถี้ อื เป็นเคร่อื งมอื สาคัญที่จะทาให้ทรพั ยากรมนุษย์ทางานร่วมกันกับระบบงานทีว่ างแผนไว้ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ตรงตามแผนการที่วางไว้ และตามระยะเวลาทีก่ าหนดไว้ POSDC คืออะไร หลกั การนี้ประกอบไปดว้ ยกระบวนการบริหาร 5 ประการ ดงั น้ี ○ P-Planning > การวางแผน ○ O-Organizing > การจัดการองค์กร ○ S-Staffing > การจดั สรรและบริหารบุคลากร ○ D-Directing > การอานวยการ 41 ○ C-Controlling > การควบคุม

๒. วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ สภาพทว่ั ไป การเชื่อมโยงนโยบายสกู่ ารปฏิบัติ กระบวนการบริหารสถานศกึ ษา การบริหาร ทรพั ยากร จดุ เดน่ จดุ ดอ้ ยของสถานศึกษา การบริหารความเสีย่ ง ปัจจยั สคู่ วามสาเรจ็ และสรุปแนวคดิ การส่งเสริม พัฒนา หรือแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน (Problem Based Learning : PBL) กระบวนการบรหิ ารสถานศกึ ษา ○ P-Planning > การวางแผน การวางแผนน้ันเริม่ ต้ังแต่การกาหนดเปา้ หมายขององคก์ ร โครงสร้าง นโยบาย ตลอดจนลาดับกระบวนการปฎิบตั ิการในส่วน ต่างๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ ไปจนถึงวิธกี ารดาเนินงานในส่วนต่างๆ ให้บรรลผุ ล การวางแผนนีย้ งั ต้องสามารถรับรู้ ติดตาม เข้าใจ ตลอดจน วิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ได้ทั้งในและนอกองคก์ รทจ่ี ะเปน็ ประโยชน์ต่อการบริหารองคก์ รอีกด้วย ○ O-Organizing > การจัดการองคก์ ร การจดั การองค์กรนเี้ ริม่ ต้ังแต่การกาหนดโครงสร้างองค์กร กาหนดตาแหน่งงาน จดั สรรทรพั ยากรบคุ คลเพ่อื ลงในตาแหน่ง งานต่างๆ รวมถึงจัดระบบระเบยี บในการทางานทั้งหมดด้วย สิ่งทีต่ ้องคานึงถึงในการจดั โครงสร้างองคก์ รนั้นกค็ ือการแบ่งหน้าที่แต่ละ ส่วนให้ชัดเจน ไมท่ างานทบั ซ้อนกนั และต้องทางานประสานกันให้ราบรื่นได้ด้วย ครอบคลุมการทางานท้ังหมดไมใ่ ห้เกิดปัญหา ประเมนิ จานวนพนกั งานให้พอดี ไมม่ ากหรือน้อยจนเกนิ ไป และต้องลาดบั ความสาคญั ของตาแหน่ง เคลียร์บทบาทหน้าทีใ่ ห้ชดั เจน ตลอดจนให้อานาจในการสัง่ การที่เหมาะสมด้วย 42 ○

๒. วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ สภาพท่ัวไป การเชือ่ มโยงนโยบายส่กู ารปฏิบตั ิ กระบวนการบริหารสถานศกึ ษา การบริหาร ทรัพยากร จุดเดน่ จุดด้อยของสถานศึกษา การบริหารความเสี่ยง ปัจจัยสู่ความสาเรจ็ และสรุปแนวคดิ การสง่ เสริม พัฒนา หรือแนวทางการแกไ้ ขปญั หา โดยใช้ปญั หาเปน็ ฐาน (Problem Based Learning : PBL) กระบวนการบรหิ ารสถานศกึ ษา ○ S-Staffing > การจัดสรรและบริหารบุคลากร การบรหิ ารจดั การบุคลากรน้ันเริ่มตั้งแต่การคดั สรรบคุ ลากรที่มีคณุ ภาพและเหมาะสมเพ่อื จดั สรรให้ทางานใน ตาแหน่งต่างๆ ขององค์กร จากนั้นก็ต้องดแู ลบคุ ลากรตลอดระยะเวลาจนกว่าบุคลากรจะออกจากองคก์ ร ต้ังแต่การ บรหิ ารงานบุคคล งานสวสั ดิการ การพัฒนาทรพั ยากรบคุ คล การเลือ่ นตาแหน่ง โยกย้าย เป็นต้น D-Directing > การอานวยการ การอานวยการกค็ ือบรหิ ารจัดการตลอดจนดาเนินการทุกอย่างให้ปฎิบัติการได้อย่างราบรน่ื จนบรรลเุ ป้าหมายที่ วางไว้ การอานวยการนีเ้ กีย่ วเนื่องท้ังเรื่องของทรพั ยากรมนุษย์และทรพั ยากรอน่ื ๆ ไปพร้อมกนั ด้วย ให้สามารถทางาน ร่วมกันได้ ตลอดจนอานวยความสะดวกในการทางาน การอานวยการยังหมายถึงการสั่งการ อานาจหน้าที่ และการ ปฎิบตั ิการให้สามารถทางานได้ ตลอดจนการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นด้วย ซึ่งหนึ่งในหัวใจสาคญั ของการ อานวยการกค็ ือการสือ่ สารให้มีประสิทธิภาพด้วยนั่นเอง 43

๒. วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ สภาพท่วั ไป การเชื่อมโยงนโยบายสูก่ ารปฏิบตั ิ กระบวนการบริหารสถานศกึ ษา การบริหาร ทรัพยากร จุดเดน่ จุดดอ้ ยของสถานศึกษา การบริหารความเสี่ยง ปัจจัยสูค่ วามสาเรจ็ และสรปุ แนวคดิ การส่งเสริม พัฒนา หรือแนวทางการแกไ้ ขปัญหา โดยใชป้ ญั หาเป็นฐาน (Problem Based Learning : PBL) กระบวนการบรหิ ารสถานศกึ ษา ○ C-Controlling > การควบคมุ การควบคมุ นี้ก็คือการบรหิ ารจดั การทุกอย่างให้ตรงตามแผนและระยะเวลาที่วางไว้ การควบคุมนี้ ตั้งแต่การควบคมุ ทรัพยกร, เครื่องจักร, ไปจนถึงบุคลากร ให้การปฎิบัติการทกั อย่างมีความราบรน่ื และดาเนินการตาม แผนการได้สาเร็จ ทงั้ ยงั ตามมาตรฐานทีก่ าหนดไวด้ ้วย การควบคุมนี้นอกจากการสงั่ การ กาหนดการ บังคบั การแล้ว ก็ ยังรวมถึงการแนะนา ช่วยเหลือ รายงานผล ตลอดจนประเมินผลการทางานอย่างสมา่ เสมอเพื่อติดตามการทางานทุก กระบวนการไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ ด้วย ○ ○ 44

๒. วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ สภาพทว่ั ไป การเชือ่ มโยงนโยบายสู่การปฏิบัติ กระบวนการบริหารสถานศกึ ษา การบริหาร ทรพั ยากร จุดเดน่ จุดด้อยของสถานศึกษา การบริหารความเสีย่ ง ปัจจัยสคู่ วามสาเร็จ และสรุปแนวคดิ การส่งเสริม พัฒนา หรือแนวทางการแกไ้ ขปญั หา โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem Based Learning : PBL) ○ ประโยชน์ทน่ี าเอากระบวนการ POSDC มาใชบ้ ริหารจัดการองคก์ ร ○ ๑.มีการวางเป้าหมายองค์กรที่ชัดเจน ส่งผลให้มีทิศทางในการปฎิบตั ิงาน และสามารถบรรลุเป้าหมายได้ง่าย ○ ขนึ้ ○ ๒. องค์กรมีการวางแผนทีช่ ดั เจน ครบกระบวนการ ทาให้การทางานราบรื่น ดาเนินการไปด้วยดี ○ ๓.องค์กรมีการใส่ใจเรือ่ งบคุ ลากรและกาลงั คน ตลอดจนบริหารจดั การแรงงานให้สามารถทางานไดร้ าบร่นื ○ ไม่ติดขดั ○ ๔. กระบวนการนีม้ ีการใส่ใจเรือ่ งการอานวยการงานบคุ ลากร ตั้งแต่การจัดโครงสรา้ งองค์กร การแบ่งหน้าที่ ○ ความรบั ผดิ ชอบให้ครอบคลุม ไปจนถึงลาดับอานาจการสงั่ การ และให้อานาจการสง่ั การทีเ่ หมาะสม เพือ่ ให้ สามารถควบคุมการทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ○ ๕. มกี ารใส่ใจบคุ ลากรตั้งแต่การคัดสรร การทางาน สวัสดิการต่างๆ ไปจนกระทง่ั การพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์ ○ ตั้งแต่บคุ ลากรเข้ามาในองค์กร จนกระทั่งออกจากองค์กรไป ซึ่งทรัพยากรมนุษย์ถือเป็นหวั ใจสาคญั ขององค์กรเลย ทีเดียว 45

๒. วเิ คราะห์ สังเคราะห์ สภาพทั่วไป การเชือ่ มโยงนโยบายสู่การปฏิบัติ กระบวนการบริหารสถานศกึ ษา การบริหาร ทรพั ยากร จุดเดน่ จุดดอ้ ยของสถานศึกษา การบริหารความเสีย่ ง ปัจจยั สคู่ วามสาเรจ็ และสรุปแนวคดิ การสง่ เสริม พฒั นา หรือแนวทางการแกไ้ ขปัญหา โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem Based Learning : PBL) ○ ประโยชนท์ ่นี าเอากระบวนการ POSDC มาใช้บริหารจัดการองค์กร ○ ๖. กระบวนการนีม้ ีการควบคุมตลอดทกุ ขั้นตอน มีการติดตาม แก้ไข และประเมินผล เพื่อให้การทางานมี ○ ประสิทธิภาพ ○ ๗. กระบวนการนีใ้ ห้ความสาคญั กับการควบคุมและอานวยการที่เกีย่ วเนือ่ งกบั แผนการทางาน ไปจนถึง ○ ระยะเวลาที่กาหนด ทาให้การทางานมีประสิทธิภาพ สามารถปฎิบตั ิการตลอดจนผลิตผลผลิตได้ทันตาม กาหนดเวลา ไม่เกิดความเสียหายในเรื่องความล่าช้า ○ ๘.การใส่ใจทุกข้ันตอน ทุกกระบวนการ ช่วยเพิม่ ประสิทธิภาพการทางานตั้งแต่ระดับยอ่ ยไปจนถึงระดับ ○ องค์กร ทาให้ภาพรวมน้ันส่งเสรมิ ให้องค์กรมีศกั ยภาพเพิม่ ขนึ้ ไดอ้ ย่างยอดเยีย่ ม ○ 46

๒. วเิ คราะห์ สังเคราะห์ สภาพทั่วไป การเชือ่ มโยงนโยบายสกู่ ารปฏิบัติ กระบวนการบริหารสถานศกึ ษา การบริหาร ทรัพยากร จดุ เดน่ จุดด้อยของสถานศึกษา การบริหารความเสีย่ ง ปัจจัยสคู่ วามสาเร็จ และสรุปแนวคดิ การส่งเสริม พฒั นา หรือแนวทางการแกไ้ ขปญั หา โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem Based Learning : PBL) ○ สรปุ ○ หลักการบรหิ ารจดั การองค์กร POSDC นี้ถือเป็นการะบวนการบรหิ ารจดั การยุคคลาสสิกที่ยงั คงถกู นามาใช้กบั การบรหิ าร องค์กรในยุคปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึง่ หลกั การนี้มีการใส่ใจทุกรายละเอียดในองค์กร ตลอดจนทกุ กระบวนการ ทางานตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึงการบรหิ ารทรพั ยากรบุคคลอย่างมีคุณภาพเพือ่ ให้เกิดความราบร่นื ในการทางานด้วย นอกจากน้ันยงั คานึงถึงการวางแผนงานท้ังระบบทีม่ ีความสาคญั อย่างยิ่งในการควบคมุ การดาเนินงานใหส้ าเร็จลลุ ่วงไป ด้วยดี แล้วยังมีการใส่ใจเรือ่ งการดาเนินการตลอดจนการสง่ั การ ควบคุม เพื่อให้การปฎิบตั ิการดาเนินไปตามแผนและ กาหนดระยะเวลาที่วางไว้ ทาให้เกิดประสิทธิภาพในการทางานที่ยอดเยย่ี ม และสรา้ งศกั ยภาพให้กับองค์กรได้เปน็ อย่างที ที่สดุ ทีเดียว ○ ○ 47

๒. วเิ คราะห์ สังเคราะห์ สภาพทวั่ ไป การเชื่อมโยงนโยบายสกู่ ารปฏิบัติ กระบวนการบริหารสถานศกึ ษา การบริหาร ทรพั ยากร จุดเดน่ จุดด้อยของสถานศึกษา การบริหารความเสีย่ ง ปจั จัยสูค่ วามสาเรจ็ และสรปุ แนวคดิ การสง่ เสริม พัฒนา หรือแนวทางการแก้ไขปญั หา โดยใช้ปญั หาเปน็ ฐาน (Problem Based Learning : PBL) ○ ๔. การบรหิ ารทรัพยากร วิทยาลยั ได้มีการบรหิ ารจัดการทรัพยากรทีม่ ีอยู่ในให้เกิดประโยชน์สงู สุด ไม่ว่าจะเปน็ ส่วนของ ครู นักเรียน วัสดุอปุ กรณ์ สถานที่ ฯลฯ พร้อมกันนี้ วทิ ยาลยั ยังดาเนินการจดั การอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี โดยได้ดาเนินการตาม โครงการขยายและยกระดับการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี สคู่ วามเป็นเลิศ ส่งเสรมิ การผลิตและพฒั นากาลังคน อาชีวศึกษาให้มีสมรรถนะในสาขาที่ตรงตามความต้องการ การเพิม่ ปริมาณผู้เรียนด้านอาชีวศกึ ษาระบบทวิภาคีเพิม่ ขนึ้ มีการทาความรว่ มมมือ (MOU) กบั สถานประกอบการท้ังภาครัฐและเอกชน จดั ประชุมเชิงปฏิบตั ิการจัดทาแผนการฝึก อาชีพทีส่ อดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบการ จานวน ๑๘ แห่ง นอกจากนี้ยงั ให้บรกิ ารชมุ ชนและจิต อาสาส่งเสรมิ ให้ผู้เรียนเปน็ ผู้มีจติ อาสา เช่น โครงการอาชีวะอาสา โครงการศนู ย์ซ่อมสรา้ งเพื่อชมุ ชน (Fix it Center) และอกี หลายโครงการร่วมกบั ชมุ ชน จนเปน็ ทีพ่ งึ พอใจของหน่วยงานภาครฐั ภาคเอกชน ชุมชน และผู้ปกครอง ○ 48 ○

๒. วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ สภาพทัว่ ไป การเชือ่ มโยงนโยบายสู่การปฏิบัติ กระบวนการบริหารสถานศกึ ษา การบริหาร ทรัพยากร จดุ เดน่ จุดด้อยของสถานศึกษา การบริหารความเสี่ยง ปจั จัยสคู่ วามสาเรจ็ และสรุปแนวคดิ การส่งเสริม พัฒนา หรือแนวทางการแกไ้ ขปัญหา โดยใชป้ ญั หาเป็นฐาน (Problem Based Learning : PBL) ○ ๕. ปจั จยั สคู่ วามสาเร็จและแนวคิดการการสง่ เสรมิ พัฒนา ○ วิทยาลยั ได้นา ปจั จยั สาคญั ที่ทาให้องค์กรพฒั นาได้นนั้ มีอยู่หลายองค์ประกอบ แต่ปัจจัยหลกั ๆ มี ๔ ปัจจัยหลัก โดยรวมที่มีผลต่อการพัฒนาขององค์กรมากทีส่ ดุ ซึ่งผอู้ านวยการทีม่ ีหน้าที่ในการบรหิ ารองค์กรให้ความใส่ใจใน ๔ ปจั จยั หลักเหล่านี้เพ่อื ใหก้ ารบรหิ ารให้เกดิ ประสิทธิภาพสงู สดุ ภายในวทิ ยาลัย ○ ๑.โครงสรา้ งพื้นฐานขององค์กรในรปู แบบต่างๆ (Infrastructure) : โครงสรา้ งพนื้ ฐานขององค์กรนั้น รวมตั้งแต่อุปกรณ์เครือ่ งมือที่จาเป็นไปจนถึงเทคโนโลยตี ลอดจนข้อมลู สารสนเทศต่างๆ ทีต่ ้องพร้อมและช่วยส่งเสรมิ ให้ การทางานมีประสิทธิภาพ ถึงแม้ศกั ยภาพด้านทรพั ยากรบคุ คลจะพรอ้ มแค่ไหน แต่หากมีปัญหาทีท่ รัพยากรด้านอื่น ก็ ย่อมทาให้ลดประสิทธิภาพในการทางาน และทาให้องค์กรพฒั นาได้อย่างเชื่องช้าหรือติดขัดเช่นกัน ตรงกันข้ามกบั องค์กรทีใ่ ส่ใจในโครงสรา้ งพืน้ ฐานอย่างดีเพื่อรองรบั การทางานที่ดีที่สดุ กส็ ามารถมีส่วนช่วยให้บคุ ลากรในองค์กรใช้ ศกั ยภาพของตนในการทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเช่นกนั 49 ○

๒. วเิ คราะห์ สังเคราะห์ สภาพทวั่ ไป การเชือ่ มโยงนโยบายสูก่ ารปฏิบตั ิ กระบวนการบริหารสถานศกึ ษา การบริหาร ทรพั ยากร จดุ เดน่ จดุ ด้อยของสถานศึกษา การบริหารความเสี่ยง ปัจจยั สู่ความสาเรจ็ และสรุปแนวคดิ การส่งเสริม พฒั นา หรือแนวทางการแก้ไขปญั หา โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน (Problem Based Learning : PBL) ○ ๕. ปัจจัยสูค่ วามสาเรจ็ และแนวคดิ การการส่งเสริมพฒั นา (ตอ่ ) ○ ๒. กระบวนการทางานที่เปน็ ระบบระเบียบ (Process & System) : ระบบการทางานทีม่ ีมาตรฐาน ○ ชัดเจน มีระบบระเบียบ มีข้ันตอนที่เหมาะสม มีการประเมินผล รวมถึงมีการแก้ไขจดุ บกพร่องได้อย่างทันท่วงที ระบบการ ทางานทีด่ ีน้ันจะทาให้องค์กรพฒั นาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึน้ ๓. ทรพั ยากรมนุษย์ (Human Resource) : ทรัพยากรมนษุ ยถ์ ือเปน็ ปจั จยั สาคัญอนั ดับต้นๆ ของ องค์กร การที่องค์กรมีพนกั งานที่มีศกั ยภาพในการทางาน มีความมุ่งม่นั ในการพฒั นาตนเองและองค์กร ตลอดจนมี ทศั นคติทีด่ ีต่อองค์กร รวมถึงมีวสิ ยั ทศั น์ในการทางาน จะช่วยส่งเสรมิ ให้องค์กรพัฒนาได้ก้าวไกลและมงั่ คง 50 ○


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook