Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Chirstmas day

Chirstmas day

Published by Chakkaphat Jaikaewma, 2021-12-22 16:22:27

Description: คริสต์มาส (อังกฤษ: Christmas; อังกฤษเก่า: Crīstesmæsse, หมายถึง "พิธีมิสซาของพระคริสต์") หรือ วันสมโภชพระคริสตสมภพ (อังกฤษ: Feast of the Nativity) จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู[6][7] เป็นวันหยุดทางศาสนาและวัฒนธรรม ประชากรหลายพันล้านคนทั่วโลกจัดการเฉลิมฉลองในวันที่ 25 ธันวาคม วันดังกล่าวเน้นปีพิธีกรรมของคริสต์ศาสนิกชนเป็นสำคัญ วันคริสต์มาสเป็นวันปิดเทศกาลเตรียมการรับเสด็จ (Advent) และวันเริ่มต้นเทศกาลพระคริสตสมภพ (Christmastide) สิบสองวัน[8] คริสต์มาสเป็นวันหยุดราชการในหลายประเทศทั่วโลก และมีผู้ที่ไม่ใช่คริสต์ศาสนิกชนหันมาเฉลิมฉลองกันมากขึ้น[1][9][10] และเป็นส่วนสำคัญในคริสต์มาสและฤดูวันหยุด

Keywords: Chirstmas day

Search

Read the Text Version

ประวัตวิ นั ครสิ ตม์ าส 25 ธนั วาคม วันคริสตม์ าส ครสิ ตม์ าส ประวัตเิ ป็นมาอย่างไร ซานตาคลอส เกยี่ วข้องอะไรในวันครสิ ตม์ าส เรามีขอ้ มูลมาฝาก ค่ะ ถงึ ช่วงปลายปที ีไร ชาวไทยเราก็มีเร่อื งฉลองอกี แลว้ ไมว่ ่าจะเปน็ วันปีใหมห่ รือวนั ครสิ ตม์ าส ทก่ี าลงั จะ เขา้ มาถึง แมว้ า่ วนั ครสิ ต์มาสนีด่ เู หมอื นจะไม่ค่อยเก่ยี วข้องกบั คนไทยทน่ี บั ถอื ศาสนาพุทธสักเทา่ ไร แต่กม็ คี น ไทยบางคนที่นบั ถือศาสนาคริสตอ์ ยจู่ านวนไมน่ ้อย วา่ แต่ประวัติครสิ ต์มาสเป็นมาอย่างไร วนั นเ้ี รามขี ้อมูลมา ฝาก

ตานานวันครสิ ต์มาส คาว่า \"คริสตม์ าส\" เป็นคาทับศัพทภ์ าษาอังกฤษวา่ Christmas มาจากคาภาษาองั กฤษโบราณวา่ Christes Maesse ทีแ่ ปลว่า \"บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า\" ซึ่งพบครง้ั แรกในเอกสารโบราณทีเ่ ปน็ ภาษาองั กฤษในปี ค.ศ. 1038 และในปจั จุบนั คานีก้ ็ได้เปล่ียนมาเปน็ คาวา่ Christmas เทศกาล Christmas หรอื X’ Mas ตรงกบั วันท่ี 25 ธันวาคมของทกุ ปี ซ่ึงวนั ท่ี 25 ธันวาคมนนั้ เปน็ วนั ประสตู ิของพระเยซู ศาสดาแหง่ ศาสนาคริสต์ โดยพระองค์ประสูตทิ ่ีเมืองเบธเลเฮมและเติบโตทเ่ี มืองนาซาเรท ซึ่งปจั จุบันคอื ประเทศอสิ ราเอล ตามหลกั ฐานในพระคัมภีร์ไดบ้ ันทกึ ไวว้ า่ พระเยซเู จา้ ประสูติในสมัยท่ี จักรพรรดิซซี าร์ ออกุสตุส แห่งจกั รวรรดโิ รมนั ซ่งึ ทรงสั่งให้จดทะเบียนสามะโนครัวท่ัวทงั้ แผ่นดนิ โดยฝ่ายคีรี นิอัส เจ้าเมอื งซีเรยี กร็ บั นโยบายไปปฏบิ ตั ิใหม้ ีการจดทะเบียนสามะโนครวั ทัว่ ทัง้ อาณาเขต แต่ในพระคัมภีร์ ไมไ่ ดร้ ะบวุ า่ พระเยซูประสตู ิวันหรอื เดือนอะไร ด้านนกั ประวัติศาสตร์กม็ คี วามเห็นทีต่ า่ งออกไปโดยไดว้ เิ คราะห์วา่ เดิมทีวันที่ 25 ธนั วาคม เป็นวนั ท่ี จักรพรรดิเอาเรเลียนแห่งโรมัน กาหนดให้เป็นวันฉลองวันเกดิ ของสุริยเทพ ตง้ั แต่ปี ค.ศ. 274 ชาวโรมันซ่งึ สว่ น ใหญน่ ับถอื เทพเจ้าฉลองวนั นเ้ี สมือนว่า เปน็ วนั ฉลองของพระจักรพรรดไิ ปในตัวด้วย เพราะจกั รพรรดิก็ เปรยี บเสมอื นดวงอาทติ ย์ ที่ให้ความสว่างแก่ชีวิตมนษุ ย์ แต่ชาวคริสตท์ ี่อยใู่ นจักรวรรดิโรมนั รวมถึงชาวโรมนั ท่ี เปลย่ี นไปนับถือคริสต์อึดอัดใจทจ่ี ะฉลองวันเกิดของสรุ ยิ เทพ จึงหันมาฉลองการบังเกิดของพระเยซซู ึ่ง เปรียบเสมอื นความสวา่ งของโลก และเหมือนดวงจันทรเ์ ป็นความสว่างในตอนกลางคืนแทน หลังจากที่ชาว คริสตถ์ ูกควบคมุ เสรีภาพทางศาสนาตั้งแตป่ ี ค.ศ. 64-313 จนถงึ วนั ท่ี 25 ธันวาคม ปี ค.ศ. 330 ชาวครสิ ต์จึง เร่ิมฉลองครสิ ตม์ าสอย่างเปน็ ทางการและเปิดเผย เทศกาลคริสตม์ าสจงึ เปน็ วนั แหง่ การเฉลมิ ฉลองวันประสตู ิของพระเยซู และเป็นการฉลองความรกั ที่ พระเจา้ มีตอ่ มนุษยโ์ ลก โดยส่งบุตรชาย คอื \"พระเยซู\" ลงมาเกิดเปน็ มนุษยเ์ พ่ือชว่ ยไถบ่ าป และช่วยใหม้ นษุ ย์ รอดพน้ จากการทาชั่วนน่ั เอง ดังนั้นในวันนี้ถอื เป็นวันท่ีมีความหมายสาคัญต่อชาวคริสตท์ ั่วโลก และมกี ารส่ง บตั รอวยพร ให้ของขวัญ แกก่ ันและกัน รวมทั้งประดับประดาตกแตง่ บ้านเรอื นดว้ ยแสงไฟ และต้นครสิ ต์มาส อย่างสวยงาม

องคป์ ระกอบในงานคริสต์มาส ซานตาคลอส เปน็ สิง่ แรก ๆ ทค่ี นจะนึกถึงในฐานะสัญลักษณ์ของวันครสิ ตม์ าส ซึ่งวา่ กันว่าซานตาคลอสคนแรก คือ นกั บญุ (เซนต์) นโิ คลาส ผู้เป็นสงั ฆราชแหง่ เมืองไมรา มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 4 และเหตุทไ่ี ดร้ บั การยกย่องว่า เป็นซานตาคลอสคนแรก มาจากวนั หนง่ึ ทที่ า่ นปนี ขึน้ ไปบนหลงั คาบา้ นของเด็กหญงิ ยากจนคนหนง่ึ แล้วท้ิงถุง เงนิ ลงไปทางปลอ่ งไฟ บังเอิญถงุ เงนิ หลน่ ไปทางถุงเทา้ ทเ่ี ด็กหญิงแขวนตากไวข้ า้ งเตาผิงพอดี นกั บุญนโิ คลสั น้ันเปน็ นกั บุญทชี่ าวฮอลแลนดน์ บั ถือวา่ เปน็ นกั บญุ ผู้อุปถัมภข์ องเด็ก ๆ เมือ่ ชาว ฮอลแลนด์กล่มุ หนง่ึ อพยพไปอย่ใู นสหรัฐฯ ก็ยงั รักษาประเพณกี ารฉลองนักบญุ นโิ คลาส ในวนั ท่ี 5 ธนั วาคม เอาไว้ ซงึ่ หมายถงึ นักบญุ นจี้ ะมาเยยี่ มเด็ก ๆ และเอาของขวัญมาให้เด็กอน่ื ๆ ที่ไม่ใชล่ กู หลานของชาว ฮอลแลนด์ทอ่ี พยพมา ประเพณีนี้จึงเรมิ่ เปน็ ท่ีรูจ้ ักและแพร่หลายในอเมริกา โดยมกี ารเปลยี่ นแปลงบางอยา่ ง คือ ชอื่ นักบุญนิโคลัสกเ็ ปลี่ยนเปน็ ซานตาคลอส และแทนที่จะเปน็ สงั ฆราชก็กลายเปน็ ชายแก่ที่อว้ นและใส่ชุด สแี ดง อาศยั อย่ทู ี่ข้วั โลกเหนือ มเี ล่อื นเป็นยานพาหนะที่มกี วางเรนเดยี ร์ลาก และจะมาเยี่ยมเดก็ ทุกคนในโลกน้ี ในโอกาสครสิ ต์มาส โดยลงมาทางปล่องไฟของบา้ นเพ่ือเอาของขวัญมาใหเ้ ด็กเหล่านนั้ ตามความประพฤติของ เขา ถงึ แมซ้ านตาคลอสจะเปน็ เพยี งตานานท่เี กดิ ข้นึ มาเพอื่ เฉลิมฉลองวนั คริสตม์ าสก็ตาม แต่กเ็ ปน็ สัญลกั ษณท์ ี่รวมเอาวญิ ญาณและความหมายของคริสตม์ าสไว้อยา่ งมากมาย อาทิ ความปีติยินดีชื่นชม ความ โอบอ้อมอารี ความรัก และความเปน็ กันเอง

ถงุ เท้า จากที่นกั บุญนโิ คลัสไดป้ นี ขึน้ ไปบนปลอ่ งไฟของบ้านเด็กหญงิ ยากจน เพ่ือท่จี ะมอบเหรียญเงนิ ใหเ้ ป็น ของขวัญ แต่เหรียญน้นั กลบั ตกไปอยูใ่ นถุงเทา้ ท่ีเด็กหญงิ แขวนตากไว้หนา้ เตาผงิ พอรงุ่ เช้าเด็กหญงิ ตน่ื มาเจอ เหรียญเงนิ ในถุงเท้าจึงดีใจมาก และกลายเป็นจดุ เริม่ ตน้ ของการทีผ่ ้คู นมากมายตา่ งพากันแขวนถุงเทา้ ครสิ ต์มาสไว้ เพื่อหวังจะได้รับของขวัญเช่นเดียวกนั บ้าง ตน้ ครสิ ตม์ าส นอกจากนอี้ ีกอยา่ งท่ีขาดไม่ได้กค็ ือ ตน้ คริสต์มาส ซึ่งต้นคริสต์มาสก็คือตน้ สนท่ีนามาประดับประดา ด้วยลกู แอปเปิลและขนมปังเพื่อระลึกถึงศีลมหาสนิท และกไ็ ด้มวี ิวฒั นาการทเ่ี ปล่ยี นแปลงไปเรอ่ื ยจนมาถึงการ ประดบั ด้วยดวงไฟหลากสสี ัน ขนม และของขวญั อยา่ งในทุกวันน้ี การตกแต่งแบบนี้ต้องย้อนไปในศตวรรษที่ 8 เมอื่ เซนต์บอนเิ ฟส มิชชันนารชี าวอังกฤษที่เดินทางไปประกาศเรื่องพระเจ้าในเยอรมนี ไดช้ ่วยเดก็ ทีก่ าลงั จะ ถูกฆา่ เปน็ เคร่ืองสงั เวยบูชาทใ่ี ตต้ น้ โอก๊ โดยเมือ่ โคน่ ต้นโอ๊กทิ้งก็ได้พบตน้ สนเล็ก ๆ ต้นหนึ่งขึ้นอยทู่ ่โี คนต้นโอ๊ก ท่านจึงขุดให้คนทีร่ ่วมพิธีกรรม เหล่านน้ั เพือ่ เป็นสัญลักษณ์ของชวี ติ และตัง้ ช่อื วา่ ตน้ กุมารพระคริสต์ ต่อมา มารต์ นิ ลเู ธอร์ ผนู้ าคริสตจกั รชาว เยอรมัน ตัดต้นสนไปต้ังในบา้ นในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 1540 หลงั จากนั้นในศตวรรษท่ี 19 ตน้ ครสิ ต์มาสจงึ เรม่ิ แพร่ไปสปู่ ระเทศองั กฤษและท่วั โลก และอีกเหตุผลท่ีใช้ต้นสนกเ็ พราะว่ามันหางา่ ย

ในสมยั โบราณนนั้ ต้นครสิ ตม์ าส หมายถงึ ต้นไมใ้ นสวนสวรรค์ ซ่งึ อาดัมและเอวาไปหยบิ ผลไมม้ ากนิ และทาบาป ไม่เชอื่ ฟงั พระเจ้า โดยตามพระคัมภรี ์นั้นไดเ้ ปรียบพระเยซูเจ้าเสมอื นเปน็ ต้นไมแ้ หง่ ชวี ิต ซงึ่ เป็น ตน้ ไมท้ ่ีเขียวเสมอในทุกฤดูกาล สือ่ ถงึ นิรันดรภาพของพระเยซเู จ้า อกี ท้งั ความสว่างของพระองคย์ ังเหมือนแสง เทยี นที่ส่องสว่างในความมดื และรวมถึงความชืน่ ชมยนิ ดี และความสามัคคี ที่พระเยซปู ระทานให้ เพราะต้นไม้ นัน้ เป็นจุดศนู ย์รวมของครอบครัวในเทศกาลครสิ ต์มาส ต้นฮอลล่ี ต้นฮอลลี่ เปน็ ตน้ ไมพ้ ุ่มเตย้ี และเป็นอีกหน่ึงสญั ลักษณข์ องวันคริสต์มาส เช่ือกนั ว่า สีเขียวของต้น ฮอลล่ีมีความหมายถงึ การมีชีวิตอยู่ชว่ั นิรันดร์ และมีความสัมพันธก์ ับพระเยซู โดยผลสแี ดงของต้นฮอลล่นี ้นั หมายถึงหยดเลือดของพระเยซทู ่ีไหลลงบนไมก้ างเขน ซง่ึ เปรยี บเสมือนสญั ลักษณข์ องความรักทีม่ ีตอ่ พระเจ้า ใบไม้ท่มี หี นามของตน้ ฮอลลีเ่ ปน็ สง่ิ ที่เตอื นพวกเราถึงมงกุฎหนามทพ่ี วกชาวทหารโรมันไดน้ ามาวางไวบ้ นศีรษะ ของพระเยซคู รสิ ต์

ดอกไมค้ รสิ ต์มาส หรือ Poinsettia ตานานของดอก Poinsettia ที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์หนงึ่ ของวนั ครสิ ตม์ าส มาจากเรื่องราวของ เดก็ หญิงจน ๆ คนหนึง่ ท่ีต้องการหาของขวัญไปมอบให้พระแม่มารีในวนั คริสตม์ าสอีฟ แต่เนอ่ื งจากเธอไมม่ ี ส่ิงของใด ๆ ติดตัว จึงเดนิ ทางไปตัวเปลา่ และระหว่างทางเธอได้พบกบั นางฟ้าท่ีบอกใหเ้ ธอเกบ็ เมล็ดพชื ไว้ ต่อมาเมล็ดพืชนั้นกลับเจริญเติบโตเปล่ยี นเปน็ ดอกไม้สีเลอื ดหมสู ดใส ซง่ึ กค็ ือดอก Poinsettia ตั้งแต่นนั้ ดอก Poinsettia กไ็ ด้รบั ความนยิ มใชป้ ระดับประดาบ้านในงานครสิ ต์มาส ดอกครสิ ต์มาส Christmas Rose มตี น้ กาเนดิ ท่ปี ระเทศอังกฤษ ลักษณะเป็นดอกสขี าว และมกั ออกดอกในชว่ งฤดหู นาว ตานานของดอก คริสต์มาสนี้มอี ยวู่ า่ ในช่วงทีพ่ ระเยซปู ระสตู ิ มีผรู้ อบรู้ 3 คน กบั คนเลีย้ งแกะเดินทางมาพบพระเยซู ระหวา่ ง ทางพวกเขาพบกับ มาเดลอน เด็กหญงิ ทเี่ ลี้ยงแกะคนหนงึ่ เมื่อเธอทราบวา่ ท้งั หมดเดนิ ทางมาเพ่ือมอบ ของขวัญใหพ้ ระเยซู มาเดลอนก็เสยี ใจท่ไี มม่ ีของขวญั ใดไปมอบให้พระเยซบู ้าง ก่อนทน่ี างฟา้ ทีเ่ ฝ้ามองเธออยู่ จะเกิดความเหน็ ใจจึงร่ายมนตรเ์ สกดอกไม้สีขาวนา่ รักและมสี ชี มพูอยู่ตรงปลายกลบี ใหเ้ ธอ และดอกไม้นั้นคือ ดอกคริสตม์ าสนั่นเอง เพลงวนั ครสิ ตม์ าส เพลงครสิ ตม์ าสเร่ิมมีข้นึ ในศตวรรษท่ี 5 แต่งโดยพระสงฆ์และฆราวาส มเี นื้อรอ้ งเป็นภาษาละตนิ ลักษณะของเพลงเปน็ แบบสง่า เน้นถงึ ความหมายของการเสด็จมาของพระเยซเู จา้ แต่ในศตวรรษที่ 12 ไดม้ ี การแต่งในท่วงทานองที่รา่ เริงสนกุ สนานมากขน้ึ เริ่มจากประเทศอติ าลี โดยนกั บญุ ฟรังซสิ อสั ซีซี และนักบวช คณะฟรงั ซิสกนั เปน็ ผูส้ นับสนุน ใหม้ ีเพลงครสิ ต์มาสแบบใหม่ เพลงครสิ ตม์ าสแบบใหม่นี้ เปน็ ทชี่ ่นื ชอบของชาวบ้าน เพราะมที ว่ งทานองท่รี ่าเริงกว่า และเน้นถึง

ความชืน่ ชมยนิ ดใี นโอกาสคริสตม์ าส เพลงเหล่านม้ี ีทั้งที่เป็นภาษาละติน และภาษาพื้นเมือง เพลงหน่ึงท่ีแต่งใน สมัยนัน้ (แตง่ คาร้องในปี ค.ศ. 1274) และยงั ใชอ้ ย่จู นถึงปจั จุบัน คือ เพลง Oh Come, All Ye Faithful หรือ Adeste Fideles ในภาษาละติน เพลงครสิ ตม์ าสทนี่ ิยมร้องมากทส่ี ุดในปัจจบุ นั ได้แต่งข้นึ ในศตวรรษที่ 19 จาก ประเทศเยอรมนี และประเทศองั กฤษเปน็ ส่วนใหญ่ เพลงที่มีชอ่ื เสยี งมากได้แก่ เพลง Silent Night, Holy Night ความเปน็ มาของเพลงนี้มาจากวนั ก่อนวนั ฉลองคริสตม์ าส ของปี ค.ศ. 1818 คณุ พ่อโจเซฟ โมห์ (Joseph Mohr) เจา้ อาวาสวดั ที่โอเบริ ์นดอฟ (Oberndorf) ประเทศออสเตรีย ได้ขา่ วว่าออรแ์ กนในวดั เสยี ทา ให้วงขับรอ้ งไมส่ ามารถร้องเพลงตามทีซ่ ้อมไวไ้ ด้ จงึ มีการแต่งเพลงครสิ ตม์ าสใหม่ นาไปให้เพอื่ นช่ือ ฟรานซ์ กรู เบอร์ (Franz Gruber) ใสท่ านองในคืนวันที่ 24 นนั่ เอง และเลน่ เพลง Silent Night เป็นครง้ั แรก โดยมีการ เลน่ กตี าร์ประกอบการขับร้อง ซง่ึ กลายเปน็ เพลงทนี่ ยิ มมากท่ีสดุ ทว่ั โลก คาอวยพรวนั คริสตม์ าส ในวันคริสต์มาสเรามักจะใชค้ าอวยพรให้แก่กันและกันวา่ Merry X'mas คาว่า Merry ใน ภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า \"สนั ตสิ ุขและความสงบทางใจ\" คาน้ีจงึ เปน็ คาที่ใช้อวยพรขอใหเ้ ขาได้รบั สันตสิ ุข และความสงบทางใจ และได้จัดใหม้ ีการฉลองเพ่ือระลึกถึงการบังเกดิ ของพระเยซู ท่ีเขายกย่องเหมือนกษัตริยผ์ ู้ ยง่ิ ใหญแ่ หง่ สากลโลก ผู้ทรงเกียรติเลอเลศิ ประเพณนี ี้ไดเ้ ร่ิมมาจากรงุ โรมในศตวรรษที่ 4 และค่อย ๆ เผยแพร่ ไปทุกทวปี

สปี ระจาวนั คริสต์มาส สีทีเ่ ก่ยี วขอ้ งในวันครสิ ต์มาสประกอบดว้ ย สแี ดง : เปน็ สีของผลฮอลล่ี หรอื ซานตาคลอส เปน็ สีของเดือนธนั วาคม ทแี่ สดงถึงความตืน่ เต้น และ หากเปน็ สญั ลักษณ์ตามศาสนา สแี ดงจะหมายถงึ ไฟ, เลอื ด และความโอบอ้อมอารี สเี ขียว : เปน็ สีของต้นไม้ สญั ลกั ษณ์ของธรรมชาตื หมายถึงความอ่อนเยาว์และความหวงั ทีจ่ ะมีชวี ติ เปน็ นิรันดร์ เปรยี บไดก้ ับว่าเทศกาลคริสตม์ าสคือเทศกาลแหง่ ความหวัง สขี าว : เปน็ สขี องหมิ ะ และเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนา คือแสงสว่าง ความบรสิ ุทธิ์ ความสุข และความ รุ่งเรือง สีขาวนจี้ ะปรากฏบนเส้อื คลุมนางฟ้า, เคราและชายเสอ้ื ของซานตาคลอส สีทอง : เปน็ สีของเทียนและดวงดาว เป็นสญั ลักษณ์ของแสงอาทิตยแ์ ละความสวา่ งไสว การทามิสซาเที่ยงคนื การถวายมิสซาน้เี กดิ ขนึ้ หลงั จากพระสันตะปาปาจูเลยี สที่ 1 ได้ประกาศใหว้ นั ที่ 25 ธนั วาคมเป็นวัน ฉลองพระครสิ ตสมภพ (วันคริสตม์ าส) ในปีน้นั เองพระองค์และสัตบุรษุ ได้พากันเดินสวดภาวนา และขับร้องไป ยงั ตาบลเบธเลเฮม และไปยงั ถ้าทพี่ ระเยซเู จา้ ประสตู ิ เม่ือไปถึงตรงกบั เวลาเทีย่ งคนื พอดี พระสันตะปาปาทรง ถวายบูชามซิ ซา ณ ทน่ี ั้น เมอื่ เดนิ ทางกลบั มาที่พักไดเ้ วลาตี 3 พระองค์ก็ถวายมสิ ซาอีกคร้ัง และสัตบุรษุ เหล่าน้ันก็พากันกลบั แตย่ ังมีสตั บุรษุ หลายคนไม่ได้รว่ มขบวนไปด้วยในตอนแรก พระสันตะปาปาก็ทรงถวาย บูชามสิ ซาอกี ครัง้ หนึง่ เป็นคร้งั ที่ 3 เพื่อสตั บรุ ุษเหล่านนั้ ด้วยเหตุนเี้ องพระสนั ตะปาปาจึงทรงอนุญาตใน พระสงฆถ์ วายบูชามิสซาได้ 3 ครงั้ ในวันคริสต์มาส เหมือนกับการปฏิบัตขิ องพระองค์ นับตงั้ แตน่ น้ั เปน็ ต้นมา จงึ มีธรรมเนียมถวายมสิ ซาเที่ยงคนื ในวันคริสตม์ าส และพระสงฆก์ ็สามารถถวายมสิ ซาได้ 3 มิสซา ในโอกาส วนั คริสต์มาส เทยี นและพวงมาลัย พวงมาลยั นนั้ เปน็ สญั ลักษณ์ท่คี นสมยั ก่อนใชห้ มายถึงชัยชนะ แต่สาหรบั การแขวนพวงมาลยั ในวนั ครสิ ตม์ าสนน้ั หมายถงึ การที่พระองค์มาบังเกดิ ในโลก และทาให้ทุกสิ่งทุกอยา่ งครบบริบูรณ์ตามแผนการของ พระเป็นเจ้า ซ่ึงธรรมเนยี มนี้ เกดิ จากกลมุ่ ครสิ ตชนกลุ่มหนงึ่ ในประเทศเยอรมนไี ด้เอาก่งิ ไม้มาประกอบเป็น วงกลมคล้ายพวงมาลัย แล้วเอาเทียน 4 เลม่ วางไว้บนพวงมาลัยน้ัน ในตอนกลางคนื ของวันอาทติ ย์แรกของ เทศกาลเพ่ือเตรียมรับเสดจ็ ทุกคนในครอบครัวจะจุดเทยี นหน่งึ เลม่ สวดภาวนา และร้องเพลงครสิ ตม์ าส ร่วมกันเปน็ เวลา 4 อาทติ ย์ก่อนถงึ วันครสิ ตม์ าส ประเพณีน้ีเปน็ ท่ีนิยมอยางมากในประเทศอเมริกา ต่อมาไดม้ ี การเปลยี่ นแปลงโดยนาเทียน 1 เลม่ นั้นมาจดุ ไว้ตรงกลางพวงมาลัยสีเขียว และนาไปแขวนไวท้ ่หี น้าตา่ ง เพ่ือ

เป็นการเตอื นใหค้ นที่เดินผ่านไปมาได้รู้วา่ ใกล้ถึงวนั ครสิ ตม์ าสแล้ว ส่วนเหตผุ ลที่พวงมาลัยมีสีเขยี วน้ัน เป็น เพราะมีการเชื่อกันว่าสีเขยี วจะช่วยป้องกันบ้านเรอื นจากพวกพลงั อนั ชว่ั รา้ ยได้ ระฆังวันครสิ ต์มาส เสียงระฆังในวันคริสต์มาสคอื การเฉลิมฉลองให้กบั การประสูตขิ องพระพทุ ธเจ้า โดยมีตานานเล่าวา่ มี การตรี ะฆังช่วงก่อนเวลาเที่ยงคืนของวันคริสต์มาสเพือ่ ลดพลังความมดื และบ่งบอกถึงความตายของปีศาจ ก่อนที่พระเยซผู ้ทู ี่จะมาช่วยไถ่บาปใหก้ ับมวลมนุษยจ์ ะถือกาเนดิ ขนึ้ และระฆังน้ีมีเสยี งดังกังวาลนานนบั ชั่วโมง ก่อนท่ีในเวลาเทยี่ งคืนเสียงระฆังน้ีจะกลบั กลายมาเป็นเสยี งแห่งความสุข ดาว ดาว ในความหมายของชาวคริสเตียน หมายถึงการแสดงออกที่ดีของพระเยซูครสิ ต์ ท่บี ัญญตั ิไว้ในพระ คมั ภรี ์ไบเบิลว่า \"The bright and morning star\" มีความหมายพิเศษเหมือนกบั ว่า ดวงดาวเหล่านั้นได้ แบง่ ทอ่ี ยู่กับสรวงสวรรค์ ไมว่ ่าจะมกี าแพงอะไรขวางกน้ั ระหว่างพื้นผวิ โลกดว้ ยกต็ าม เครอื่ งประดับและแอปเปิล ในบางแหง่ เชอ่ื วา่ ลาต้นของแอปเปลิ มองดูคล้ายกับต้นไม้ในสรวงสวรรค์ จงึ มีการนาเอาแอปเปลิ มา ประดับตามตน้ ไม้ในวันครสิ ต์มาส สว่ นเคร่ืองประดบั ชนิ้ เลก็ ๆ ท่ตี กแตง่ ต้นคริสต์มาสน้ันเป็นงานศิลปะที่ จาลองจากผลไม้ และท่ีมีสีสนั สดใสนั้นเพ่ือให้เกดิ ความรนื่ เริงในบ้าน อีกท้งั แสงระยบิ ระยับทสี่ ะท้อนไปมา ยงั ดู สวยงามคลา้ ยแสงเทียนและแสงไฟ

ของขวญั วันคริสตม์ าส การแลกเปลย่ี นของขวญั ในวนั คริสต์มาสน้นั เร่ิมต้นจากเมือง Saturnalia ในช่วงยุคโรมัน ต่อมาชาว ครสิ ตร์ ับประเพณีนเี้ ข้ามา ด้วยความเช่อื วา่ การให้ของขวัญนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับของขวัญประเภททอง, ยาง สนท่มี กี ลนิ่ หอม และยางไมห้ อม ซ่งึ พวกนกั เวทย์จากตะวันออกทีเ่ ดนิ ทางมาคารวะพระเยซคู รสิ ต์ นามาใหต้ อน ทีท่ า่ นประสตู ิ ทั้งหมดน้นั ก็คอื การเฉลิมฉลองใหก้ ับพระเยซู ที่เกดิ มาเพ่อื ชาระบาปให้แกช่ าวครสิ ต์ทัง้ หลาย และ เป็นเทศกาลที่นาความสุข สนกุ สนาน มาส่หู มู่มวลมนษุ ย์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook