Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรการเรียนรู้ศาสตร์พระราชาสู่หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ฉบับสมบูรณ์

หลักสูตรการเรียนรู้ศาสตร์พระราชาสู่หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ฉบับสมบูรณ์

Published by นายชัยธวัช สมนึก, 2022-07-23 13:22:45

Description: หลักสูตรการเรียนรู้ศาสตร์พระราชาสู่หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ กศน.อำเภอแสวงหา สำนักงาน กศน.จังหวัดอ่างทอง

Keywords: หลักสูตร,เศรษฐกิจพอเพียง,กศน.

Search

Read the Text Version

หลักสูตรการเรยี นรศู้ าสตร์พระราชา สู่หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ศนู ย์การเรยี นรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา ส่กู ารพฒั นาอย่างย่งั ยนื กศน.อาเภอแสวงหา สานักงาน กศน.จงั หวดั อ่างทอง สานกั งานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

~ก~ การอนุมัติหลักสตู รการเรยี นรูศ้ าสตร์พระราชาฯ ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอแสวงหา สานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวดั อ่างทอง ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖5 เพ่ือให้การจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบรรลุเปูาประสงค์ตามที่ สถานศึกษากาหนด สถานศึกษาได้จัดทาหลักสูตรการเรียนรู้ศาสตร์พระราชาสู่หลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖5 ประกอบด้วย หลักสูตรประจาฐานการเรียนรู้ จานวน 6 หลักสูตร ซ่ึงคณะกรรมการสถานศึกษาได้พิจารณาหลักสูตรการเรียนรู้ศาสตร์พระราชาสู่หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖5 ของศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย อาเภอแสวงหา และเหน็ ชอบหลักสตู รการจัดการศกึ ษาต่อเนือ่ ง ประจาปี พ.ศ. 2565 ดงั กล่าว ลงชื่อ.................................................ผู้เห็นชอบ (นายวีระชาติ มาลยั ) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา ลงช่อื .................................................ผู้อนมุ ัติ (นางจริ ัชยา เฟื่องฟรู ตั น์) ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอสามโก้ รักษาการในตาแหน่ง ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอแสวงหา

~ข~ คานา การจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของสานักงาน กศน.เป็นการจัด การศึกษาตลอดชีวิต เพ่ือส่งเสริมให้นักศึกษาและประชาชน เกิดการเรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างพอเพียง เห็นคุณค่าของทรัพยากรต่าง ๆ ฝึกการอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนอย่างเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และแบ่งปัน มีจิตสานึก รักษาสิ่งแวดล้อม และเห็นคุณค่าของวัฒนธรรม ค่านิยม ตลอดจนเอกลักษณ์ความเป็นไทย จนเกิด กระบวนการปรับเปล่ียนวิธีคิดและวิถีปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิต และน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงมาใช้ในชีวิตประจาวัน ผ่านวิธีการและรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย ตอบสนองตามความ ต้องการและสนใจของกล่มุ เปาู หมาย ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอแสวงหา จึงได้พัฒนาหลักสูตรการ เรียนร้ศู าสตร์พระราชาสู่หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖5 ซึ่งเปน็ หลกั สูตรของ สถานศึกษา โดยนามาพัฒนาเน้ือหาสาระให้ครบถ้วนสมบรูณ์และกาหนดระยะเวลาในการเรียนให้ เหมาะสมต่อการจดั การเรยี นการสอนทที่ าให้การดาเนนิ งานการพัฒนาหลักสูตรของสถานศกึ ษาในครง้ั น้ี สาเรจ็ ไปดว้ ยดี งานวิจัยและพัฒนาหลกั สูตร สอื่ นวตั กรรม และเทคโนโลยี กศน.อาเภอแสวงหา จังหวดั อ่างทอง มิถนุ ายน พ.ศ. 2565

~ค~ สารบัญ แนวทางการจดั การศึกษาตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ..........................................................1 หลักสตู รการเรียนรู้ศาสตรพ์ ระราชาสหู่ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖5..........4 หลักสตู รการถอดบทเรียนแนวทางการดาเนนิ ชีวติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง จานวน 5 ช่วั โมง............................................................................................................................5 หลักสูตรการทาบญั ชีครวั เรือน จานวน ๕ ชวั่ โมง.............................................................................9 หลักสตู รการทาเห็ดสวรรค์ จานวน 5 ชว่ั โมง ..............................................................................12 การปลูกผักไร้สารเคมี จานวน 10 ชั่วโมง.....................................................................................15 การทาปุย๋ หมักชีวภาพ จานวน 10 ชัว่ โมง....................................................................................22 หลักสูตรจลุ นิ ทรียแ์ ละผลติ ภณั ฑช์ ีวภาพ จานวน 10 ช่ัวโมง......................................................26 การเพาะเห็ดนางฟาู -นางรม จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ...........................................................................30 แผนการจัดการเรยี นรู้หลักสตู รการเรียนรศู้ าสตรพ์ ระราชาสู่หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖5..........................................................................................................................37 ฐานเรยี นรู้ “การถอดบทเรียนแนวทางการดาเนนิ ชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง” 38 ฐานเรียนรู้ “บญั ชีครัวเรือน” .......................................................................................................40 ฐานเรยี นรู้ “แปรรูปปลายทางสผู่ บู้ ริโภค”.....................................................................................42 ฐานเรยี นรู้ “การปลกู ผักไรส้ ารเคม”ี .............................................................................................44 ฐานเรียนรู้ “การทาปุ๋ยหมกั ชีวภาพ”.............................................................................................46 ฐานเรียนรู้ “จุลนิ ทรยี ์และผลิตภัณฑ์ชวี ภาพ”...............................................................................48 ฐานเรียนรู้ “การเพาะเหด็ นางฟาู -นางรม”....................................................................................50 คณะผ้จู ดั ทา.........................................................................................................................................52

~1~ แนวทางการจัดการศกึ ษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดารัสท่ี ทรงแนะแนวทางการดาเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทย เพื่อเป็นแนวทางแก้ไขให้รอดพ้น และสามารถ ดารงอยู่ไดอ้ ยา่ งม่ันคงและยั่งยืนภายใช้กระแสโลกาภิวัตน์ และความเปล่ียนแปลงหรือแนวทางของการ ดารงอยู่ และปฏบิ ัตติ นของประชาชนในทกุ ระดับตงั้ แต่ระดับครอบครัว ระดบั ชุมชนจนถึงระดับชาติ ทั้ง ในดา้ นการพฒั นาและบรหิ ารประเทศให้ดาเนินทางสายกลาง โดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกิจเพ่ือให้ก้าว ต่อโลกาภิวตั น์ มคี วามพอเพียง ความพอประมาณ และความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นที่จะต้องมี ระบบคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควรต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงท้ังภายนอกและ ภายใน ท้ังนี้จะตอ้ งอาศยั ความรอบรู้ ความรอบคอบและความระมดั ระวังอยา่ งยิ่ง ในการนาวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการ และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนใน ชาติให้ดาเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ มีปัญญา และความรอบคอบเพ่ือให้สมดุลและ พร้อมต่อการรองรับการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม ส่ิงแวดล้อม และ วฒั นธรรมจากโลกภายในอกได้อย่างดี หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้รับการกล่าวถึง เป็นที่ยอมรับและมีบทบาทมากขึ้น ใน สังคมไทยเรม่ิ จากการทีร่ ัฐบาลได้นาหลักปรัชญาเศรษฐกิจมาเปน็ แนวทางในการบรหิ ารประเทศซ่ึงส่งผล ให้แต่ละกระทรวงต่างมีการนาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงข้าไปเป็นส่วนหน่ึงของการบริหารงานต่าง ๆ โดยในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 10 ไดบ้ รรจุแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงได้จึงได้ยึด หลกั \"ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง\" เป็นแนวทางปฏิบัตคิ วบคู่ไปกับการพัฒนาแบบบูรณาการเป็นองค์รวม ท่ียึด \"คนเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเพื่อให้มีการพัฒนาและบริหารประเทศเป็นไปในทางสายกลาง บน พื้นฐานดุลยพินิจพลวัตของการพัฒนาอย่างบูรณาการ ทั้งมติตัวคน สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและ การเมืองโดยมกี ารวิเคราะห์อยา่ งมีเหตผุ ล และใช้หลักความพอประมาณ และใช้หลักความพอประมาณ ให้เกิดความสมดุลระว่างทางมิติทางวัตถุกับจิตใจของคนในชาติ ความสมดุลระหว่างความสามารถใน การพึ่งพาตนเองกับความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก ความสมดุลระหว่างสังคมชนบทกับสังคม เมอื ง โดยมีการเตรียมระบบภูมิคุ้มกัน ด้วยบริหารจัดการความเส่ียงให้เพียงพอพร้อมรับผลกระทบจาก การเปลี่ยนแปลงทั้งจากภายนอกและภายในประเทศการขับเคล่ือนกระบวนการพัฒนาทุกขั้นตอนต้อง ใชค้ วามรอบรใู้ นการพัฒนาค้านต่าง ๆ ด้วยความรอบคอบ เป็นไปตามลาดับข้ันตอน และสอดคล้องกับ วิถีชีวิตของสังคมไทย รวมท้ังเสริมสร้างศีลธรรมและศีลธรรมและสานักในคุณธรรม จริยธรรมในการ ปฏิบัติหน้าท่ีและดาเนินชีวิตด้วยความเพียร อันจะเป็นตุ้มภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีให้พร้อมเผชิญกับการ เปล่ียนแปลงท่ีเกิดขึน้ ทง้ั ในระดับ ชมุ ชน สงั คมและประเทศชาติ กระทรวงศึกษาธกิ ารในฐานะหนว่ ยงานหลักในการพฒั นาคนและสรา้ งเยาวชนให้มีคุณภาพของ ประเทศได้ตระหนักและเห็นคุณค่า จึงมีนโยบายท่ีจะสร้างกระบวนการเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาท เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง โดยอัญเชิญมาเป็นหลักในการพัฒนาคนให้มีคุณภาพสามารถพ่ึงพาตนเองได้ เกิดความพอพอมีพอกิน พอมีพอใช้ ในการดาเนนิ ชีวิตโดยใช้เหลักความพอประมาณ การคานึงถึงความ มีเหตุผล มภี มู คิ ุ้มกันทด่ี ีในตัว และมคี ุณธรรมกากับความรู้เป็นกรอบในการดาเนินชีวิต และเป็นพลเมือง ท่ดี ีของชาติ โดยนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงสกู่ ารปฏิบตั ิในทุกสังกัดโดยเฉพาะการนาแนวคิดหลัก

~2~ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งของสถานศึกษาอย่างจริงจังในทุกระดบั ให้กบั ผ้เู รยี น เพ่ือใหเ้ กดิ ความตระหนกั มีความรูค้ วามเข้าใจ ทักษะและเจตคติ สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างสมดุลและยุ่ง ยืน โดยมีกระบวนการให้ความรู้ทุกรูปแบบ ส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษาจัดการศึกษาการสอนโดย ใชห้ ลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง นบั เป็นแนวคดิ ท่ีดีของกระทรวงศึกษาธิการที่ได้น้อมนาแนวเศรษฐกิจ พอเพียงมาเป็นส่วนหน่ึงของการเรียนการสอน ซึ่งเป็นการปลูกฝังให้เยาวชนไทยรักการดารงชีวิตแบบ พอเพยี ง การศกึ ษาเปน็ หัวใจสาคญั ของการพฒั นา \"คน\" อันเป็นทรพั ยากรที่ทรงคุณค่าของสังคมให้ไดร้ ับ การพัฒนาไปสู่คุณภาพตามเปูาหมายและมีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ สามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคม ข่าวสารและสังคมแห่งการเรียนรู้ เช่น ปัจจุบันได้อย่างมีความสุข พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 กาหนดความหมายของการศึกษา หมายถึง กระบวนการเรียนรู้เพ่ือความเจริญ งอกงามของบคุ คลและสงั คมโดยการถา่ ยทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การ สร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อม สงั คม การเรยี นรู้ และปจั จยั เกือ้ หนนุ ให้บุคคลเรียนรูอ้ ยา่ งต่อเนือ่ งตลอดชีวิต สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ จัดกระบวนการเรียนรู้แประชาชนทั้งการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้กาหนด แนวทางในการจดั กระบวนการจดั กจิ กรรมการศึกษานอกโรงเรยี น เน้นการเรียนรแู้ บบบูรณาการที่ผสม กลมกลืนไปกับชีวิตผู้เรียนแต่ละคน แต่ละครอบครัว และแต่ละชุมชนทั้งในเน้ือหาและวิธีการ นั่นคือ การยึดเอาสภาพชุมชนมาเป็นตัวกาหนดแนวทางที่เหมาะสมเป็นเง่ือนไขหลักการของการเรียนรู้อย่าง เป็นธรรมชาติและตลอดชวี ิต ทาให้ผู้เรยี นได้รับขา่ วสารจากแหล่งวทิ ยาการและวิธกี ารที่หลากหลาย ใน แต่ละชุมชนจะต้องพัฒนากระการเรียนรู้ขยายเครือข่ายการเรียนรู้ แต่ละชุมชนควรมีการสารวจแหล่ง เรยี นรู้ของชาวบ้านในชมุ ชน ในอนาคตสังคมจะตอ้ งประกอบไปดว้ ยกลุ่มคน หรอื ชมุ ชนท่ีเข้ามาเช่ือมโยง กันเป็นตาข่ายในแต่ละชุมชนยังเช่ือม โยงกับชุมชนอื่นเกิดเป็นตาข่ายแห่งการเรียนรู้ (Leamning network) การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาต้องเร่ิมจากการเห็นคุณค่า ศรัทธา ท่ีจะใช้ชีวิต อย่างพอเพียงและมีแรงจูงใจในการดาเนินการต่อเนื่องของบุคลากรในสถานศึกษา การบรรจุหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงพอไว้ในหลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐานรวมถึงระดับอาชีวศึกษา และ การศึกษานอกโรงเรียน เน้นการเรียนรู้จากการปฏิบัติ ฝึกฝนให้เด็กและเยาวชน คิดวิเคราะห์เป็นตาม แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และสร้างค่านิยมในการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง และทาให้ตนให้เป็นประโยชน์ ต่อสังคม และรักษาสิ่งแวดล้อมผู้บริหารสถานศึกษาในฐานะกลไกทางสังคม และเป็นผู้บังคับบัญชาครู ในสถานศึกษา จึงเป็นผู้ที่มีบทบาทท่ีสาคัญที่จะต้องรับรู้ทราบหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ นาเร่ืองที่รับรู้ถ่ายทอดให้แก่ครู เพื่อทาการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสถานศึกษา โดยสอดแทรกแนวคิด ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรและสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ เพ่ือสอนให้เด็ก รู้จักการใช้ชีวิต ครูต้องจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยใช้คู่คุณธรรมเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อน เศรษฐกจิ พอเพยี งอย่างไรกด็ ี

~3~ การศึกษานอกโรงเรียนเป็นเพียงส่วนหน่ึงของระบบการศึกษา โดยรวมความย่ังยืนของการพัฒนา บน พื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง จะเป็นจริงได้ต้องมีการปลูกฝังจิตสานึกพอเพียงให้กลายเป็นส่วนสาคัญใน วัฒนธรรมการพฒั นาของประเทศ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอแสวงหา เปน็ หน่ึงในสถานศกึ ษาที่มี การบูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน โดยมีการสอนแทรกท้ัง สว่ นทีเ่ ป็นเนือ้ หา เจตคติ และคุณธรรม รวมทั้งทักษะท่ีปรากฏในหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ใน การจัดการเรยี นการสอน เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นได้เรียนรู้ และตระหนักในการพัฒนาตนเองและสังคม ดังนั้น ใน การพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ศาสตร์พระราชาสู่หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖5 คร้ังนี้ กศน.อาเภอแสวงหา จึงมุ่งเน้นส่งเสริมให้นักศึกษาและประชาชน เกิดการเรียนรู้การใช้ ชีวิตอย่างพอเพียง เห็นคุณค่าของทรัพยากรต่าง ๆ ฝึกการอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนอย่างเอ้ือเฟ้ือเผื่อแผ่และ แบ่งปัน มีจิตสานึกรักษาส่ิงแวดล้อม และเห็นคุณค่าของวัฒนธรรม ค่านิยม ตลอดจนเอกลักษณ์ความ เป็นไทย สนู่ ้อมนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้ในชวี ิตประจาวนั ตอ่ ไป

~4~ หลกั สูตรการเรียนรูศ้ าสตรพ์ ระราชาสู่หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖5

~5~ หลักสูตรการถอดบทเรยี นแนวทางการดาเนินชวี ติ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จานวน 5 ชัว่ โมง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอแสวงหา สานกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจงั หวดั อ่างทอง ความเป็นมา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นหลักปรัชญาท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอ ดลุ ยเดช รัชกาลท่ี 9 ทรงมพี ระราชดาริ ให้ประชาชนนอ้ มนาไปปฏิบตั ิ เพื่อจะยงั ความเจริญ ความมนั่ คง ในการดาเนินชีวิต อย่างย่ังยืน ม่ันคง แต่การสร้างความเข้าใจ และนาไปปรับใช้ในการดาเนินชีวิต จาเป็นต้องเข้าใจอย่างชัดเจน การถอดบทเรียนแนวทางการดาเนินชีวิต ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง จึงจาเป็นอย่างย่ิงที่จะช่วยเป็นตัวบ่งชี้ ได้ว่า แนวทางท่ีดาเนินอยู่ อยู่ภายใต้กรอบปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงมากน้อยเพียงใด มีสว่ นทจี่ ะเตมิ เตม็ อยา่ งไร หลักการของหลกั สตู ร 1. หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ด้านการศกึ ษา 2. แนวทางการดาเนนิ ชวี ิตตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3. การถอดบทเรียนการดาเนนิ ชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง จดุ มุง่ หมาย 1.เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง ดา้ นการศกึ ษา 2.เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจแนวทางการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง 3.เพ่ือให้ผู้เรียน สามารถถอดบทเรียนแนวทางการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงได้ เปา้ หมาย  นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอแสวงหา  ประชาชนทว่ั ไป ระยะเวลา ระยะเวลาเรยี นตลอดหลกั สูตร จานวน 5 ชว่ั โมง ภาคทฤษฎี 3 ชว่ั โมง ภาคปฏบิ ตั ิ 2 ชวั่ โมง

~6~ โครงสรา้ งหลักสตู ร ที่ เร่อื ง จุดประสงค์ เนือ้ หา กระบวนการเรียนรู้ จานวนช่วั โมง การเรยี นรู้ ทฤษฎี ปฏิบัติ 1 หลักปรชั ญาของ เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนเข้าใจ ๑.ในหลวงรชั กาลที่ ๑.วทิ ยากรให้ความรู้ 1.30 เศรษฐกจิ หลักปรชั ญาของ 9 ผู้พระราชทาน พระราชกรณยี กิจของ พอเพียง เศรษฐกจิ พอเพียง หลกั ปรชั ญาของ ในหลวง รชั กาลท่ี 9 ถึง และหลักปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง ที่มาของหลักปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพียง ๒.หลกั ปรัชญาของ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง ด้านการศกึ ษา เศรษฐกจิ พอเพียง ๒.วทิ ยากรใหค้ วามรู้ 3.หลักปรัชญาของ เรอื่ งหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง 3 ดา้ นการศกึ ษา หว่ ง 2 เงื่อนไข 4 มิติ ๓.วิทยากรให้ความรู้ เร่อื งหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ด้าน การศึกษา (2-3-4) 2 เงือ่ นไข 3 หลกั การ 4 มติ ิ 2 แนวทางการ เพอ่ื ให้ผู้เรยี นมีความรู้ การดาเนินชวี ิตตาม 1.วทิ ยากรใหค้ วามรู้ 1.00 ดาเนินชวี ติ ตาม ความเข้าใจแนว หลกั ปรชั ญาของ เรื่องความสาคญั ของ หลักปรชั ญาของ ทางการดาเนินชีวิต เศรษฐกจิ พอเพียง การดาเนินชีวิต ตาม เศรษฐกิจ ตามหลกั ปรัชญาของ (Way Of Life) หลกั ปรัชญาของ พอเพยี ง เศรษฐกจิ พอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง (Way Of Life) 2.วทิ ยากรใหค้ วามรู้ แนวทางการดาเนินชวี ติ ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง (Way Of Life) 3 การถอดบทเรียน เพอื่ ให้ผู้เรียน 1.ความสาคัญของ 1.วิทยากรให้ความรู้ 0.30 2.00 แนวทางการ สามารถถอดบทเรียน การถอดบทเรียนการ เรอ่ื งความสาคัญของ ดาเนนิ ชีวติ ตาม การดาเนินชีวิต ตาม ดาเนนิ ชวี ติ ตามหลกั การถอดบทเรยี นการ หลกั ปรชั ญาของ หลักปรัชญาของ ปรชั ญาของ ดาเนนิ ชีวิต ตามหลัก เศรษฐกจิ เศรษฐกิจพอเพียงได้ เศรษฐกิจพอเพียง ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง 2.ฝึกปฏบิ ตั กิ ารถอด พอเพยี ง บทเรยี นการดาเนิน 2.ฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารถอด ชวี ติ ตามหลัก บทเรยี นวทิ ยากรสาธิต ปรัชญาของ การถอดบทเรียนการ เศรษฐกจิ พอเพียง ดาเนินชีวติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพียง

~7~ ที่ เรื่อง จดุ ประสงค์ เน้ือหา กระบวนการเรียนรู้ จานวนชัว่ โมง การเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 2.1 วทิ ยากรสาธิตการ ถอดบทเรียนฯ 2.2 แบง่ กล่มุ ผู้เรยี นฝกึ ปฏิบัตถิ อดบทเรียนฯ 2.3 ตัวแทนกลุ่ม นาเสนอผลการถอด บทเรียนฯ 2.4 วิทยากรสรปุ ผล ของการถอดบทเรียนฯ ส่อื การเรยี นรู้ สอ่ื เอกสารใบความรใู้ นการบรรยาย การวัดและประเมินผล กรอบการประเมนิ วิธีการประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ความรู้ความเข้าใจ - สอบถามความรคู้ วามเขา้ ใจจากแบบ - คะแนนเต็ม ๒๐ คะแนน ในเน้ือหา ประเมนิ ความรูค้ วามเข้าใจ (๒๐ คะแนน) 2. ทักษะการปฏิบตั ิ - สงั เกตการปฏบิ ตั ใิ นระหว่างการ - ปฏิบัติได้ถกู ต้องตามข้ันตอน 20 คะแนน (๔๐ คะแนน) เรยี นรู้/การจดั กิจกรรม - ปฏิบัติอยา่ งคลอ่ งแคลว่ รวดเรว็ 10 คะแนน 3. คุณภาพผลงาน/ผล การปฏิบัติ - ประเมนิ โดยให้สาธิต/แสดงข้ันตอน/ - ไม่มีข้อผิดพลาด/ปัญหาระหวา่ งการปฏิบตั ิ หรือ (๔๐ คะแนน) ลงมอื ปฏิบัต/ิ วิธีการปฏิบัติ หากมปี ญั หาสามารถแกไ้ ขไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 10 รวมคะแนน (๑๐๐) คะแนน - สังเกตพฤติกรรมการเรียน - ความถกู ตอ้ ง/ความสมบรู ณ์ 10 คะแนน - ตรวจสอบผลงาน/ผลการปฏบิ ตั ิ ว่า - ใช้งานได/้ รับประทานได้ 10 คะแนน เป็นไปตามเกณฑ์ทกี่ าหนดหรอื ไม่ - ความสวยงาม/ประณีต 10 คะแนน - ความประหยดั /คมุ้ คา่ 10 คะแนน ผเู้ รียนต้องได้ผลการประเมินในแต่ละดา้ น ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

~8~ เกณฑก์ ารจบหลักสตู ร 1. ระยะเวลาเรียนและฝกึ ปฏิบตั ติ ลอดหลักสูตร ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 100 2. ผลการประเมินผา่ นตลอดหลกั สูตร ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 ตามเกณฑท์ ก่ี าหนด ดงั น้ี 2.1 ภาคทฤษฎี สดั ส่วนร้อยละ 50 2.2 ภาคปฏบิ ัติ สดั ส่วนรอ้ ยละ 50 เอกสารหลักฐานการศึกษา หลกั ฐานการเข้าเรียนตลอดหลักสูตร

~9~ หลกั สูตรการทาบัญชีครวั เรือน จานวน ๕ ช่ัวโมง ศูนย์ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอแสวงหา สานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจังหวดั อ่างทอง ความเป็นมา เศรษฐกิจในยุคปัจจุบันเป็นยุคที่ต้องประหยัด ซ่ึงต้องใช้จ่ายอย่างรอบคอบที่สุด การทาบัญชี ครัวเรือน ทาให้ประชาชนรู้ถึงรายรับ -รายจ่ายของตนเอง ซึ่งถ้าเรานับรายจ่ายที่เราใช้จ่ายใช้ในแต่วัน แยกเปน็ รายรบั -รายจา่ ย ทาใหส้ ามารถบรหิ ารจัดการรายไดข้ องครอบครัวได้ตรง และชัดเจน โดยน้อม นาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซ่ึงเป็นปรัชญาท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลท่ี 9 ทรงพระราชดารัสชี้แนะแนวทางการดารงชีวิต โดยสร้างแนวคิดความพอมีพอกินพอใช้ มุ่งเน้นการใช้ จา่ ยอย่างประหยดั เมอ่ื เปรยี บเทียบกบั รายไดท้ ่ีมาตามกาลงั ของบคุ คล โดยปราศจากหน้ีสินด้วยการลด รายจา่ ยเพมิ่ รายไดด้ ้วยการออม กศน.อาเภอแสวงหา ได้ตระหนักถึงความสาคัญ ในการส่งเสริมความรู้เพิ่มพูนทักษะเกี่ยวกับ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษาในการพ่ึงพาตนเอง การทาบัญชีครัวเรือนเป็นการจด บนั ทึกรายรบั -รายจ่ายประจาวนั ของครวั เรอื น และสามารถนาข้อมูลมาวางแผนการใชจ้ า่ ยเงนิ ในอนาคต ได้อย่างเหมาะสมจึงได้จัดทาหลักสูตรการทาบัญชีครัวเรือนขึ้นมา ทาให้ตนเองและครอบครัวทราบ รายรับ รายจ่าย หนี้สิน และเงินคงเหลือในแต่ละวัน เพ่ือส่งเสริมให้ครัวเรือนได้มีการดารงชีวิตตาม แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี ง หลักการของหลกั สูตร เป็นหลกั สูตรท่เี นน้ การฝกึ ปฏิบตั ิจริง เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รียนได้แลกเปล่ียนเรียนรู้ ตามแนวคิดของ หลกั ปรัชญาคิดเปน็ บูรณาการกับหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เพ่ือให้ผ้เู รียนสามารถนาความรู้ไป ปรบั ใช้ไดจ้ ริงในชีวิตประจาวันของตนเองและครอบครัว วัตถปุ ระสงค์ของหลกั สตู ร 1. เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจในการน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา ประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวนั ๒. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นเกดิ ทักษะกระบวนการทาบญั ชรี ายรับ-รายจา่ ยของตนเองและครัวเรอื น 3. เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนตระหนักถึงประโยชน์และความสาคญั ของการจัดทาบญั ชีครวั เรือน กลุ่มเปา้ หมาย  นักศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา  ประชาชนท่วั ไป

~ 10 ~ ระยะเวลา ระยะเวลาการเรยี นรู้ของหลกั สูตร จานวน ๕ ชว่ั โมง ภาคทฤษฎี 3 ช่ัวโมง ภาคปฏิบตั ิ ๒ ชวั่ โมง โครงสรา้ งหลกั สตู ร จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนือ้ หา การจัดกระบวน จานวน การเรียนรู้ ชว่ั โมง ท่ี เรอ่ื ง ๑. ผเู้ รียนสามารถบอก ความหมาย ความสาคัญ ๑. เศรษฐกิจ ๑. การศึกษาเรียนรู้ 1 ชม. 1 1. การนาหลัก ของหลักปรชั ญาของ ปรชั ญา เศรษฐกิจ เศรษฐกิจพอเพียงได้ พอเพยี งเพ่อื การ หลกั ปรัชญาของ พอเพียงมา ๒. ผเู้ รียนเข้าใจแนว ประยุกต์ใชใ้ น ทางการดารงชีวิตแบบ ดารงชีวิต เศรษฐกจิ พอเพียงมา การดารงชวี ติ เศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้ ในการดารงชีวิต ๑.๑ ความหมาย ประยุกต์ใช้ในการ ประจาวันได้ ความสาคัญของหลกั ดารงชีวติ กจิ กรรม ปรัชญาของ แลกเปลย่ี นเรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพียง ๑.๑ เศรษฐกิจ ๑.๒ การนาหลัก พอเพยี ง คอื อะไร ใน ปรชั ญาของ ความคดิ ของทา่ น เศรษฐกิจพอเพียงมา ๑.๒ แนวทางการ ประยุกต์ใช้ในการ ดารงชวี ติ ของทา่ น ดารงชีวิต โดยยึดหลกั ปรัชญา ของเศรษฐกิจ พอเพียง ๑.๓ สรุปความรู้ รว่ มกนั 2 ๒. ข้ันตอนการ ๓. ผเู้ รียนเขา้ ใจและ ๒. ข้ันตอนการทา ๒.ข้นั ตอนการจัดทา 1 ชม. จัดทาบญั ชี สามารถทาบัญชี บัญชี รายรบั - บญั ชีครัวเรือน รายรับ-รายจา่ ย ครวั เรือนได้ รายจ่าย รายรบั -รายจา่ ย ๒.๑ การจด เรียนรู้ภาคทฤษฎี บนั ทึก ๒.๑ การจดบนั ทกึ ๒.๒ การจัด ๒.๒ การจัด หมวดหมู่ หมวดหมู่ ๒.๓ การสรุปผล ๒.๓ การสรุปผล ๒.๔ การวเิ คราะห์ ๒.๔ การวเิ คราะห์ ตคี วาม ตคี วาม 3 ๓. ประโยชนข์ อง ๔. ผเู้ รียนสามารถนาไป ๓. ประโยชนข์ อง ๓.ปฏบิ ัติทาบัญชี 2 ชม. ครัวเรอื นในสมุดเปน็ การจัดทาบัญชี ปรบั ใช้ในชีวติ ประจาวัน การจัดทาบัญชี รายบุคคล ครวั เรอื น ได้ ครวั เรือน

~ 11 ~ ท่ี เรอื่ ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนื้อหา การจัดกระบวน จานวน การเรียนรู้ ชว่ั โมง ๔. ประโยชน์ของการ 1 ชม. จดั ทาบญั ชคี รัวเรือน และแลกเปล่ียน เรยี นรูร้ ว่ มกัน สอ่ื /วัสดอุ ปุ กรณก์ ารเรียนรู้ ๑. สื่อบคุ คล/วิทยากร ๒. เอกสารประกอบการเรียนร/ู้ สมุด รายรับ- รายจ่าย ๓. สื่อ YOUTUBE การวัดผลประเมนิ ผล กรอบการประเมนิ วธิ ีการประเมิน เกณฑก์ ารประเมิน 1. ความรู้ความเข้าใจ - สอบถามความรู้ความเขา้ ใจจากแบบ - คะแนนเตม็ ๒๐ คะแนน ในเนือ้ หา ประเมินความรคู้ วามเข้าใจ (๒๐ คะแนน) 2. ทกั ษะการปฏิบตั ิ - สังเกตการปฏบิ ตั ิในระหว่างการ - ปฏิบตั ิไดถ้ กู ต้องตามข้ันตอน 20 คะแนน (๔๐ คะแนน) เรียนรู้/การจดั กิจกรรม - ปฏิบตั ิอยา่ งคลอ่ งแคลว่ รวดเร็ว 10 คะแนน 3. คุณภาพผลงาน/ผล การปฏิบัติ - ประเมนิ โดยให้สาธิต/แสดงขัน้ ตอน/ - ไม่มีข้อผดิ พลาด/ปัญหาระหว่างการปฏิบัติ หรือ (๔๐ คะแนน) ลงมอื ปฏบิ ัติ/วิธกี ารปฏบิ ตั ิ หากมปี ญั หาสามารถแก้ไขไดอ้ ย่างรวดเรว็ 10 รวมคะแนน (๑๐๐) คะแนน - สังเกตพฤติกรรมการเรียน - ความถกู ต้อง/ความสมบรู ณ์ 10 คะแนน - ตรวจสอบผลงาน/ผลการปฏบิ ัติ ว่า - ใชง้ านได้/รับประทานได้ 10 คะแนน เปน็ ไปตามเกณฑ์ทก่ี าหนดหรือไม่ - ความสวยงาม/ประณตี 10 คะแนน - ความประหยดั /คมุ้ คา่ 10 คะแนน ผูเ้ รยี นตอ้ งได้ผลการประเมินในแต่ละดา้ น รอ้ ยละ 60 ข้นึ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ เกณฑก์ ารจบหลักสตู ร 1. ระยะเวลาเรียนและฝกึ ปฏิบตั ิตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 2. ผลการประเมินผา่ นตลอดหลกั สูตร ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 60 ตามเกณฑท์ ่กี าหนด ดังน้ี 2.1 ภาคทฤษฎี สดั ส่วนร้อยละ 20 2.2 ภาคปฏิบตั ิ สดั ส่วนร้อยละ 80 เอกสารหลักฐานการศกึ ษา หลักฐานการเข้าเรียนตลอดหลักสูตร

~ 12 ~ หลักสูตรการทาเหด็ สวรรค์ จานวน 5 ชวั่ โมง ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอแสงหา สานักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดอ่างทอง ความเปน็ มา สานักงาน กศน.ได้ นานโยบายและยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษา เก่ียวกับการจัดการ การศกึ ษาอาชีพมาส่กู ารปฏิบตั ิ เพือ่ จดั การ ศึกษาเพือ่ พฒั นาอาชีพให้กบั กลุม่ เปาู หมายและประชากรให้ มีรายได้และมีงานทาอย่างย่ังยืน มีความสามารถ เชิงการแข่งขันท้ังในระดับภูมิภาคเอเชียและระดับ สากล เพ่ือให้การจัดการศึกษาของสานักงาน กศน. เป็นการ ศึกษาตลอดชีวิตอย่างแท้จริง ปัจจุบัน กศน.อาเภอแสงหาได้มฐี านเรียนรู้ของศูนย์เรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา ซึ่งมฐี านเรียนรูท้ ัง้ หมด 7 ฐานเรียนรู้ซ่ึงหน่ึงในน้ันคือฐานเห็ดดัชนีชี้วัดสารเคมี กศน.อาเภอแสวงหา จึง จัดทาหลักสูตร “การทาเห็ดสวรรค์” เพื่อเป็นการให้ความรู้ให้กับกลุ่มผู้ไม่มีอาชีพและผู้ต้องการพัฒนา อาชพี ในการเพม่ิ มูลคา่ ของผลผลิตจนสามารถนาไปประกอบเปน็ อาชพี เพื่อกอ่ ให้เกิดรายได้ใหก้ ับตนเอง และครอบครัวเป็นการสร้างอาชีพ ให้เกิดความม่ังค่ังและมั่นคงต่อไปศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอแสวงหา จึงได้เล็งเห็นความสาคัญในการจัดอาชีพ รูปแบบกลุ่มสนใจ หลักสูตร การทาเห็ดสวรรค์ เพื่อตอบสนองความต้องการ และเป็นทางเลือกในการประกอบอาชีพ จึง จดั ทาหลักสูตรการทาเหด็ สวรรค์ขน้ึ หลกั การของหลักสูตร 1. เป็นการจัดทาหลักสูตรอุตสาหกรรมที่มีความยืดหยุ่นด้านหลักสูตร การจัดกระบวนการ เรียนรู้ การวดั และการประเมินผล 2. มุ่งพัฒนาประชาชนให้ได้รับการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพและการมีงานทาอย่างมีคุณภาพ ทั่วถึง และเท่าเทียม สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง เป็นบุคคลที่มีวินัยเป่ียมไปด้วยคุณธรรม จรยิ ธรรม มจี ิตสานกึ ความ รบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง ผูอ้ ่ืนและสงั คม 3. มุ่งเนน้ การฝกึ ปฏิบัติเพอ่ื ใหเ้ กิดทักษะทางอาชพี สามารถนาไปประกอบอาชีพได้ จดุ มงุ่ หมาย 1. มีความสามารถในการประกอบอาชีพ สอดคล้องกับความสนใจ ความถนัด และเหมาะสม กบั ศักยภาพของตนเอง 2. มคี วามรู้ความสามารถ ทักษะ ในการประกอบอาชีพการทาเห็ดสวรรค์ 3. มีคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ มทดี่ ีงามต่อการประกอบอาชีพการทาเห็ดสวรรค์ กล่มุ เปา้ หมาย  นักศกึ ษา กศน.อาเภอแสวงหา  ประชาชนทวั่ ไป

~ 13 ~ ระยะเวลา ระยะเวลาเรยี นตลอดหลกั สตู ร จานวน 5 ชว่ั โมง ทฤษฎี จานวน 1 ชวั่ โมง ปฏบิ ตั ิ จานวน 4 ชัว่ โมง โครงสรา้ งหลกั สูตร ที่ เรื่อง จุดประสงค์ เนือ้ หา กระบวนการเรียนรู้ จานวนชัว่ โมง การเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ ๑ ช่องทางการ ๑. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี น ๑. การทาเหด็ ๑. ความรทู้ ั่วไปเกี่ยวกบั การ 1- ประกอบอาชพี มคี วามร้คู วาม สวรรค์ คัดเลอื กพนั ธ์เห็ดท่นี ามาทาเหด็ ธรุ กิจ เข้าใจในการทา สวรรค์ เหด็ สวรรค์ ๒. วทิ ยากรบรรยายและสาธิต 2. เพือ่ ใหผ้ เู้ รียน การทาเหด็ สวรรค์ มคี วามรู้ความ ๓. วทิ ยากรบรรยายการเลือกเหด็ เข้าใจในการใช้ ให้เหมาะกบั การแปรรปู แบบต่าง อุปกรณ์ในการทา ๆ เหด็ สวรรค์ ๔. วทิ ยากรบรรยายและสาธิต อุปกรณ์ในการทาเหด็ สวรรค์ ๕. ให้ผ้เู รยี นปฏิบัติการใช้วัสดุใน การทาเหด็ สวรรค์ ๒ ทักษะการ ๑. เพื่อให้ผเู้ รียน ๑. การทาเห็ด ๑. การฝกึ ปฏบิ ัติการทาเห็ด -4 ประกอบ มคี วามรู้ความ สวรรค์ อาชีพการทา เขา้ ใจและทักษะ สวรรค์ เหด็ สวรรค์ ในการทาเหด็ สวรรค์ 5 ชัว่ โมง ๒. เพื่อใหผ้ เู้ รยี น มีความรคู้ วาม เข้าใจและทกั ษะ ในการทาเหด็ สวรรค์ รวม ส่ือการเรยี นรู้ ๑. สื่อเอกสารใบความร้ใู นการบรรยายและสาธิตอาชพี ๒. ผูร้ ู้ /ภูมิปญั ญา ๓. วตั ถุดบิ ของจรงิ ที่นามาใช้ในการปฏบิ ัติ

~ 14 ~ การวดั ผลประเมินผล กรอบการประเมิน วธิ กี ารประเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน 1. ความรคู้ วามเข้าใจ - สอบถามความรู้ความเข้าใจจากแบบ - คะแนนเต็ม ๒๐ คะแนน ในเน้อื หา ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ (๒๐ คะแนน) 2. ทกั ษะการปฏิบตั ิ - สงั เกตการปฏิบัติในระหว่างการ - ปฏบิ ตั ิได้ถกู ตอ้ งตามข้นั ตอน 20 คะแนน (๔๐ คะแนน) เรียนรู้/การจัดกิจกรรม - ปฏบิ ัติอย่างคลอ่ งแคลว่ รวดเร็ว 10 คะแนน 3. คุณภาพผลงาน/ผล การปฏบิ ัติ - ประเมินโดยใหส้ าธิต/แสดงขั้นตอน/ - ไม่มขี อ้ ผดิ พลาด/ปญั หาระหว่างการปฏิบตั ิ หรอื (๔๐ คะแนน) ลงมือปฏบิ ัต/ิ วธิ ีการปฏิบัติ หากมีปญั หาสามารถแก้ไขไดอ้ ย่างรวดเรว็ 10 รวมคะแนน (๑๐๐) คะแนน - สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียน - ความถูกตอ้ ง/ความสมบูรณ์ 10 คะแนน - ตรวจสอบผลงาน/ผลการปฏบิ ัติ วา่ - ใช้งานได้/รบั ประทานได้ 10 คะแนน เป็นไปตามเกณฑ์ท่กี าหนดหรือไม่ - ความสวยงาม/ประณีต 10 คะแนน - ความประหยัด/คมุ้ คา่ 10 คะแนน ผเู้ รยี นตอ้ งไดผ้ ลการประเมินในแตล่ ะด้าน รอ้ ยละ 60 ข้ึนไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ เกณฑ์การจบหลักสตู ร 1. ระยะเวลาเรยี นและฝกึ ปฏบิ ตั ิตลอดหลักสตู ร ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 2. ผลการประเมนิ ผา่ นตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 ตามเกณฑท์ ่ีกาหนด ดงั น้ี 2.1 ภาคทฤษฎี สดั สว่ นร้อยละ 20 2.2 ภาคปฏิบตั ิ สดั ส่วนร้อยละ 80 เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา หลกั ฐานการเข้าเรยี นตลอดหลกั สตู ร

~ 15 ~ การปลกู ผักไรส้ ารเคมี จานวน 10 ชัว่ โมง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอแสวงหา สานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวัดอา่ งทอง ความเป็นมา เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดารัสช้ีแนะแนว ทางการ ดารงอยู่ ของการปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับให้ดาเนินชีวิตไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนา เศรษฐกิจ พอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุมีผล รวมถึงความ จาเป็นทจ่ี ะต้องมรี ะบบภูมคิ ุ้มกนั ในตัวท่ีดี พอสมควรต่อ ผลกระทบใดๆอันเกิดจากการเปล่ียนแปลงทั้ง ภายนอกและภายใน ทง้ั นจ้ี ะตอ้ งอาศยั ความรอบรู้ ท่เี หมาะสมดาเนนิ ชีวิตในแตล่ ะวนั พร้อมท้งั สามารถ นาแนวคดิ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้ หลกั การของหลักสูตร 1. นากรอบแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฏีใหม่ เป็นสาระหลักในการ ดาเนนิ งาน 2. ใชก้ ระบวนการจัดการความรูเ้ ป็นวธิ ีการในการสรา้ งสรรคก์ ระบวนการเรยี นรู้ 3. ใช้ กศน.อาเภอแสวงหาเป็นฐานการเรียนรู้ วตั ถุประสงค์ 1. เพอื่ ให้ผูเ้ รียนมคี วามรูค้ วามเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตร ทฤษฏีใหม่ การปลูกผกั ไรส้ ารเคมี 2. ผู้เรยี นสามารถนาความร้ไู ปใช้ในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม และปลูกฝังปรับเปลี่ยนวิถี ชีวติ ให้อยู่บนพน้ื ฐานของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง กลุ่มเป้าหมาย  นักศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา  ประชาชนทั่วไป ระยะเวลา ระยะเวลาเรียนตลอดหลกั สูตร จานวน 10 ชั่วโมง ทฤษฎี จานวน 4 ช่วั โมง ปฏบิ ตั ิ จานวน 6 ช่วั โมง

~ 16 ~ โครงสร้างหลกั สตู ร ท่ี เรื่อง จุดประสงค์ เนอ้ื หา กระบวนการเรียนรู้ จานวนชวั่ โมง การเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 1. 1. ชอ่ ง 1.1 บอก 1.1 1.1 ศึกษาข้อมลู จากเอกสาร ส่ือ 1 ทางการ ความสาคัญการ ความสาคัญการ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ สถาน ประกอบอาชีพ เห็น ชอ่ งทางของ เหน็ ช่องทางของ ประกอบการ สอ่ื ของจรงิ สื่อ การปลกู ผกั ไร้ การประกอบ การประกอบ บุคคลในชมุ ชน เพอื่ นาข้อมูลมา สารเคมี อาชีพ การปลกู อาชีพการปลกู วิเคราะหแ์ ละใชใ้ นการประกอบ ผักไร้สารเคมี ผกั ไรส้ ารเคมี อาชพี ท่มี คี วาม เปน็ ไปได้ใน 1.2 บอกความ 1.2 ความ ชุมชน เปน็ ไปไดใ้ นการ เป็นไปได้ในการ 1.2 วิเคราะห์อาชีพทจ่ี ะสามารถ ประกอบอาชพี ประกอบ อาชพี เลอื กประกอบอาชีพได้ใน ชุมชน การปลกู ผักไร้ การปลูกผักไร้ จากขอ้ มูลต่างๆ 1.3 ศกึ ษาดงู าน สารเคมคี วาม สารเคมี ในสถานประกอบการ แหล่ง ตอ้ งการของ 1.2.1 ความ เรยี นรู้ตา่ งๆ ในอาชีพทต่ี ดั สินใจ ตลาด แรงงาน ต้องการของ เลอื ก วสั ดุ อปุ กรณ์ ตลาด 1.4 ครู ผ้เู รียน และผูร้ ู้ รว่ มกนั ทาเลทตี่ ง้ั และ 1.2.2 การ อภิปรายเกี่ยวกบั ทิศทาง การ ทุน ใช้แรงงาน ประกอบอาชีพการปลูกผกั ไร้ 1.3 บอกและหา 1.2.3 การ สารเคมีในรปู แบบที่ เหมาะสมกับ แหล่งเรียนรู้ 1.4 จดั หาวสั ดุ ตนเอง เช่น ลกู จ้าง เจ้าของ บอกทศิ ทางการ อุปกรณ์ กจิ การ รว่ มทนุ พอ่ คา้ คนกลาง ประกอบ อาชีพ 1.2.4 การ แปรรูปผลติ ภณั ฑ์ ฯลฯ โดย การปลกู ผักไร้ เลือกทาเลที่ตงั้ คานึงถึงความ เสย่ี งจากภัย สารเคมี 1.2.5 ทุน ธรรมชาติ ความคมุ้ ค่า และความ 1.3 แหลง่ ต้องการของ ตลาด เรยี นรู้ 1.4 ทิศทางการ ประกอบอาชพี การ ปลกู ผกั ไร้ สารเคมี 2. 2. ทกั ษะการ 2.1 เตรียมการ 2.1 ขัน้ 2.6 ดาเนินการวดั และ 12 ประกอบ ประกอบอาชพี เตรียมการ ประเมนิ ผลตามที่หลกั สตู ร อาชีพการ การปลกู ผกั ไร้ ประกอบอาชพี กาหนด ปลกู ผกั ไร้ สารเคมี ได้แก่ การ ปลกู ผกั ไร้ สารเคมี สถานที่ / พ้นื ที่ สารเคมี วัสดุ อุปกรณ์ 2.1.1 ความรู้เบือ้ งต้น สถานที่ / พืน้ ท่ี เกี่ยวกบั การปลูก 2.1.2 วัสดุ ผักไร้สารเคมี อุปกรณ์ ทีใ่ ช้ - ประกอบอาชีพ

~ 17 ~ ที่ เรอ่ื ง จดุ ประสงค์ เน้อื หา กระบวนการเรยี นรู้ จานวนช่วั โมง การเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ จรรยาบรรณของ การปลกู ผกั ไร้ ผปู้ ระกอบ อาชีพ สารเคมี – การ 2.1.3 คดั เลือกพันธุ์ ความรเู้ บ้ืองตน้ - ลกั ษณะ เกีย่ วกับการ ของผกั และการ ปลูกผักไร้ เจริญเติบโต สารเคมี - การใชป้ ุ๋ยที่ - เหมาะสมกับการ จรรยาบรรณ ปลกู ของผปู้ ระกอบ 2.2 การปลกู ผัก อาชีพ ปลอดสารพิษ - การ ได้แก่ การจดั ทา/ คัดเลอื กชนดิ จัดหาผัก การให้ ของผัก น้า ,ปยุ๋ โรคและ - ลกั ษณะ ศตั รขู องผกั และ ของผักท่ี การปอู งกัน เจรญิ เตบิ โตได้ดี 2.3 ปฏิบัตกิ าร ในพน้ื ท่ี ปลูกผกั ไร้ - การใช้ป๋ยุ ที่ สารเคมี เหมาะสมกับ การปลกู 2.2 ขั้นตอน การปลูกผัก ปลอดสารพิษ 2.2.1 การ จดั เตรียมพ้ืนที่ ปลูก 2.2.2 การ ใหน้ ้าและปุ๋ย 2.2.3 โรคและ ศตั รขู องพืชและ การ ปอู งกนั 2.2.4 การ ดูแลผักในระยะ ตา่ งๆ 2.3 ขั้น การฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารปลกู ผกั ไรส้ ารเคมี

~ 18 ~ ที่ เรอ่ื ง จดุ ประสงค์ เนอ้ื หา กระบวนการเรียนรู้ จานวนชว่ั โมง การเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 3. 3. การ 3.1 การบริหาร 3.1 การบริหาร 3.1.4 ศึกษา วเิ คราะห์ ปัจจัย 1 2 บรหิ ารจดั การ จดั การปลูกผัก ไร้ จัดการปลูกผกั ความเสี่ยงทค่ี าดว่า จะเกดิ ข้ึน ในการ สารเคมี ได้แก่ ไร้สารเคมี และมแี นวทางในการจดั การความ ประกอบ - ควบคมุ คุณภาพ 3.1.1 การ เสยี่ ง อาชพี การ ในการปลูก ผักไร้ จัดการควบคุม 3.2 การบริหารจัดการการตลาด ปลกู ผักไร้ สารเคมี คณุ ภาพ ในการ จดั ให้ผู้เรยี นศึกษา สารเคมี - ลดตน้ ทนุ ใน ปลูกผกั ไร้ 3.2.1 ขอ้ มลู การตลาด และ การปลกู ผักไร้ สารเคมี วิเคราะห์ความต้องการ ของ สารเคมี 3.1.2 การลด ตลาด - การวางแผน ตน้ ทุนในการ 3.2.2 กาหนดทิศทาง เปาู หมาย การผลิต ปลูกไร้สารเคมี และแผนการ จัดการตลาดท่ี 3.2 การจดั การ 3.1.3 การ เก่ยี วขอ้ งกบั การปลูกผักไร้ ตลาดในการปลกู วางแผนการ สารเคมี ผกั ไรส้ ารเคมี ผลิต 3.2.3 ดาเนนิ การตาม - ทาฐานข้อมูล 3.2 การจัดการ กระบวนการจดั การการตลาด ลูกค้า ตลาดในการ เช่น การคดิ ต้นทนุ การผลิต การ - การจาหน่ายผกั ปลกู ผกั สินคา้ ไร้ กาหนดราคาขาย การ ส่งเสรมิ ไร้สารเคมไี ปสู่ สารเคมี การขาย จาหน่ายสนิ คา้ ฯลฯ ผ้บู ริโภค 3.2.1 การทา 3.3 การจัดการความเส่ียง จัดให้ 3.2.3 การ ฐานข้อมลู ลกู คา้ ผูเ้ รียนศึกษา 3.3.1 ใหผ้ ูเ้ รียน วางแผน 3.2.2 การ ศึกษาเอกสารเร่ืองการจัดการ การตลาด จาหน่ายผักไร้ ความ เส่ียง 3.3 การจดั การ สารเคมไี ปสู่ 3.3.2 ฝกึ การวเิ คราะหก์ าร ความเสย่ี ง - ผบู้ รโิ ภค จดั การความเส่ียง พร้อม การ วเิ คราะห์และ 3.2.3 การ วางแผนการจดั การความเสี่ยง ควบคมุ ความ วางแผน 3.4 การวางแผนการดาเนินงาน เสีย่ ง ได้แก่ การตลาด 3.4.1 ให้ความรูเ้ กย่ี วกับเร่ือง ระยะเวลา ขนาด 3.3 การจัดการ การวางแผนการ ดาเนนิ งานใน ของ ราคาขาย คู่ ความเส่ยี ง แบบตารางการปฏบิ ัตงิ าน แขง่ ขนั และ 3.3.1 การ (Gantt Chart) 3.4.2 ฝึก วางแผน การ วิเคราะห์และ ปฏิบัตกิ ารทาแผนการประกอบ จดั การความเสี่ยง ควบคมุ ความ อาชีพการ ปลูกผักไร้สารเคมตี าม 3.4 การวางแผน เส่ียง แบบตารางการปฏบิ ตั งิ าน การดาเนนิ งาน 1) ระยะเวลาท่ี (Gantt Chart) ตามแบบตาราง ปลูกกบั การ การ ปฏบิ ตั งิ าน จาหน่าย (Gantt Chart) 2) ปรมิ าณของ ผกั ไรส้ ารเคมกี ับ ความต้องการ ของตลาด

~ 19 ~ ที่ เรื่อง จดุ ประสงค์ เน้ือหา กระบวนการเรยี นรู้ จานวนชัว่ โมง การเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏิบัติ 4. โครงการ 3) ราคาขาย 4.1 จัดให้ผู้เรียนศึกษาเน้อื หา ประกอบ 4.1 บอก 4) คู่แขง่ ขัน จากใบความรู้ เร่ือง ความสาคัญ 12 อาชีพการ ความสาคญั ของ 3.3.2 การ ของโครงการอาชพี ประโยชน์ ปลูกผกั ไร้ โครงการ อาชีพ วางแผนการ ของโครงการ อาชพี สารเคมี การปลกู ผักไร้ จดั การ ความ องค์ประกอบของโครงการอาชพี สารเคมีได้ 4.2. เสี่ยง แล้วจดั กจิ กรรม การสนทนา บอกประโยชน์ 3.4 การ แลกเปลี่ยนขอ้ มูลความคดิ เห็น ของโครงการ วางแผนการ เพอื่ สร้าง แนวคดิ ในการดาเนนิ อาชพี การปลูกผัก ดาเนินงาน ตาม กจิ กรรมการเรียนรู้ ไร้สารเคมไี ด้ 4.3 แบบตารางการ 4.2 จดั ให้ผเู้ รยี นศึกษาสาระ บอก ปฏบิ ตั งิ าน ข้อมูลจากใบความรู้ เร่อื ง องคป์ ระกอบของ (Gantt Chart) ตัวอย่างการเขียนโครงการอาชีพ โครงการ อาชีพ ทด่ี ี เหมาะสม และ ถูกต้อง การปลูกผักไร้ 4.1 พร้อมจัดการอภิปราย เพ่อื สรุป สารเคมี ความสาคัญของ แนวคดิ เป็น แนวทางในการเขียน 4.4 อธบิ าย โครงการอาชพี โครงการอาชีพท่ดี ี เหมาะสม ความหมายของ การปลูกผักไร้ และ ถูกตอ้ ง องค์ประกอบของ สารเคมี 4.3 จดั ให้ผเู้ รียนฝกึ ปฏบิ ัติ การ โครงการอาชพี 4.2 ประโยชน์ เขยี นโครงการอาชพี การปลูกผักไร้ ของโครงการ 4.4 กาหนดให้ผู้เรยี นฝกึ สารเคมีได้ อาชพี การ ปลูก ปฏิบตั กิ ารประเมนิ ความ 4.5 อธบิ าย ผกั ไรส้ ารเคมี เหมาะสมและสอดคล้องของ ลกั ษณะการเขียน 4.3 โครงการอาชีพ ทีด่ ี ของ องคป์ ระกอบ 4.5 จัดใหผ้ ู้เรยี นปรบั ปรงุ องค์ประกอบของ ของโครงงาน โครงการอาชพี ให้มคี วาม โครงการ อาชีพ อาชพี การปลกู เหมาะสมและถกู ต้อง การปลูกผักไร้ ผกั ผักไรส้ ารเคมี 4.6 กาหนดให้ผเู้ รยี นเขยี น สารเคมีได้ 4.6 4.4 การเขียน โครงการอาชีพของตนเอง เพื่อ เขียนโครงการใน โครงการอาชีพ การปลูก ผกั ไร้ สารเคมี 4.5 การ ประเมินความ เหมาะสมและ สอดคลอ้ งของ โครงการอาชพี การปลกู ผักไร้ สารเคมี

~ 20 ~ ท่ี เรือ่ ง จุดประสงค์ เนือ้ หา กระบวนการเรยี นรู้ จานวนชว่ั โมง การเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ัติ แตล่ ะ เสนอขอรับการสนบั สนุน องค์ประกอบให้ งบประมาณดาเนนิ งาน อาชพี เหมาะสมและ และใช้ในการดาเนินการประกอบ ถูกต้องได้ อาชีพตอ่ ไป 4.7 ตรวจสอบ ความเหมาะสม และสอดคลอ้ ง ของโครงการ อาชีพ การปลูก ผักไรส้ ารเคมีได้ รวม 5 ชว่ั โมง สื่อ/วสั ดอุ ุปกรณก์ ารเรียนรู้ 1. วิทยากร/ภูมิปญั ญาทอ้ งถนิ่ ให้ความรู้ 2. VCD / หนังสือ 3. Internet 4. ศกึ ษาดงู านจากกลมุ่ อาชพี ตวั อยา่ ง/แหลง่ เรียนรู้ 5. เอกสารความรู้เกยี่ วกบั การปลูกผกั ไร้สารเคมี การวัดผลประเมนิ ผล กรอบการประเมนิ วิธีการประเมนิ เกณฑ์การประเมิน 1. ความรคู้ วามเขา้ ใจ - สอบถามความรคู้ วามเข้าใจจากแบบ - คะแนนเต็ม ๒๐ คะแนน ในเนื้อหา ประเมินความรคู้ วามเขา้ ใจ (๒๐ คะแนน) 2. ทกั ษะการปฏิบตั ิ - สงั เกตการปฏบิ ัติในระหวา่ งการ - ปฏิบตั ิไดถ้ กู ต้องตามข้นั ตอน 20 คะแนน (๔๐ คะแนน) เรียนรู้/การจัดกิจกรรม - ปฏบิ ัติอย่างคล่องแคล่ว รวดเร็ว 10 คะแนน 3. คณุ ภาพผลงาน/ผล การปฏบิ ตั ิ - ประเมนิ โดยใหส้ าธิต/แสดงขั้นตอน/ - ไมม่ ีขอ้ ผดิ พลาด/ปญั หาระหวา่ งการปฏบิ ัติ หรอื (๔๐ คะแนน) ลงมอื ปฏิบตั ิ/วิธีการปฏิบตั ิ หากมปี ญั หาสามารถแกไ้ ขได้อยา่ งรวดเรว็ 10 รวมคะแนน (๑๐๐) คะแนน - สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียน - ความถูกต้อง/ความสมบรู ณ์ 10 คะแนน - ตรวจสอบผลงาน/ผลการปฏบิ ัติ ว่า - ใช้งานได/้ รับประทานได้ 10 คะแนน เปน็ ไปตามเกณฑท์ ก่ี าหนดหรือไม่ - ความสวยงาม/ประณตี 10 คะแนน - ความประหยัด/คมุ้ คา่ 10 คะแนน ผเู้ รียนต้องได้ผลการประเมินในแต่ละด้าน รอ้ ยละ 60 ขึ้นไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์

~ 21 ~ เกณฑก์ ารจบหลักสตู ร 1. ระยะเวลาเรียนและฝกึ ปฏบิ ตั ติ ลอดหลกั สตู ร ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 2. ผลการประเมินผ่านตลอดหลักสตู ร ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 ตามเกณฑท์ ี่กาหนด ดงั น้ี 2.1 ภาคทฤษฎี สดั ส่วนร้อยละ 20 2.2 ภาคปฏิบตั ิ สดั ส่วนรอ้ ยละ 80 เอกสารหลกั ฐานการศึกษา หลกั ฐานการเข้าเรยี นตลอดหลกั สตู ร

~ 22 ~ การทาปุ๋ยหมกั ชวี ภาพ จานวน 10 ช่ัวโมง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอแสวงหา สานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวดั อ่างทอง ความเป็นมา อาชีพเกษตรกรรม นับเป็นอาชีพหลักของเกษตรกรของประเทศ และผลผลิตทางการเกษตร สว่ นใหญ่ใชป้ ุ๋ยเคมเี ป็นหลัก เนื่องจากหาซ้ือง่าย ใช้แล้วเห็นผลรวดเร็ว แต่ในระยะยาวส่งผลให้ดินเส่ือม โทรม รวมท้ังผลกระทบด้านสารตกค้างในผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของ ผบู้ รโิ ภค การใชป้ ุย๋ ชวี ภาพ ซ่ึงผลิตจากสารธรรมชาติ เปน็ ทางเลือกหนง่ึ ในการแก้ปัญหาผลกระทบที่เกิด จากการใช้ปุ๋ยเคมี และการทาปุ๋ยชีวภาพ สามารถทาเป็นอาชีพสร้างรายได้ให้กับประชาชนได้อีกอาชีพ หนง่ึ กศน. อาเภอแสวงหา ได้น้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการจัดการศึกษา โดยได้สง่ เสรมิ ให้ประชาชน นาเทคโนโลยีการทาปุ๋ยหมักหมักชีวภาพ มาใช้ในครัวเรือน เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และส่งเสริมการพึ่งพาตนเองของชุมชน การดาเนินการดังกล่าวจาเป็นต้องมีหลักสูตรท่ี สอดคล้องความต้องการของประชาชนในชุมชน หลักสูตรการทาปุ๋ยหมักชีวภาพจึงเป็นหลักสูตรหน่ึงที่ สามารถตอบสนองความตอ้ งการของชุมชน หลักการของหลกั สูตร 1. เป็นหลักสูตรที่น้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ตามศักยภาพของพ้ืนที่ และ วถิ ีชวี ติ ของคนในชุมขน 2. เปน็ หลกั สตู รท่ีสง่ เสริมการประกอบอาชพี ดา้ นการปลูกพชื ผกั เกษตรอนิ ทรยี ์ธรรมชาติมุ่งเน้น ใหผ้ ู้ประกอบอาชีพ ใช้ปุย๋ หมกั ชวี ภาพ 3. สง่ เสรมิ ให้มีความรว่ มมือในการดาเนนิ งานร่วมกบั ภาคเี ครือขา่ ย 4. การจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นการอบรมสัมมนาเพื่อพัฒนากลุ่มเปูาหมาย ผู้ไม่มีอาชีพหรือผู้ที่มี อาชีพแลว้ และตอ้ งการพฒั นาอาชีพของตนเองให้มีความมั่นคง ให้มีความพร้อมท่ีจะทา1งานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อใหผ้ ู้เรยี นมที กั ษะในการทาปยุ๋ หมักชวี ภาพ 2. เพื่อใหผ้ ู้เรียนเพมิ่ ชอ่ งทางการประกอบอาชพี สรา้ งรายไดใ้ หก้ ับตนเองและครอบครวั 3. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นผลติ ปุ๋ยหมักชวี ภาพใชใ้ นการปลกู พชื เกษตรธรรมชาติ กลุ่มเปา้ หมาย  นกั ศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา  ประชาชนท่ัวไป

~ 23 ~ ระยะเวลา ระยะเวลาเรียนตลอดหลักสูตร จานวน 10 ชว่ั โมง ทฤษฎี จานวน 4 ชั่วโมง ปฏบิ ตั ิ จานวน 6 ชั่วโมง โครงสรา้ งหลกั สตู ร ที่ เรือ่ ง จดุ ประสงค์ เนอ้ื หา กระบวนการเรยี นรู้ จานวนชั่วโมง การเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 1. ชอ่ งทางในการ 1.อธิบาย 1.ความสาคญั 1.วิทยากรบรรยายใหค้ วามรู้ 2 ประกอบ ความสาคญั ใน ในการประกอบ เกีย่ วกับประวัตคิ วามเปน็ มา และ อาชีพการทา การ อาชีพ การทา ของช่องทางในการประกอบ ปุย๋ หมกั ประกอบอาชีพได้ ปุ๋ยหมักชีวภาพ อาชพี การทาปุ๋ยหมัก ชวี ภาพ ชวี ภาพ 2.วเิ คราะหค์ วาม 2.แหลง่ เรยี นรู้ 2.วทิ ยากรและกลุ่มเปูาหมายร่วม เป็นไปได้ ในการ ประกอบ สนทนาแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ในการประกอบ อาชีพ การทา อาชพี ปุ๋ยหมกั ชีวภาพ 3.สารวจ 3.ทศิ ทางในการ ทรพั ยากรในการ ประกอบ อาชพี ประกอบอาชพี การทาปุ๋ย หมักชวี ภาพได้ 4.ทิศทางในการ ประกอบ อาชพี 2. ทักษะการทา 1.อธิบาย 1.ประเภทของ 14 ปยุ๋ หมกั เกย่ี วกับปุ๋ย ป๋ยุ หมกั ชีวภาพ ชวี ภาพ ชีวภาพ ประเภท 2.วัสดโุ รงเรือน ตา่ งๆได้ เก่ียวกับการทา 2.จัดเตรียมวัสดุ ปุ๋ยหมักชีวภาพ โรงเรือน เก่ยี วกบั ได้ การทาปยุ๋ หมกั 3.ข้นั ตอนการ ชีวภาพได้ ทา และฝกึ 3.อธบิ ายขัน้ ตอน ปฏิบัติการ และสามารถ ทาปุย๋ หมัก ปฏิบตั กิ ารทาป๋ยุ ชีวภาพสตู ร หมกั ชวี ภาพสตู ร ตา่ งๆได้ ต่างๆได้ 4.การนาป๋ยุ 3.ให้คาแนะนา หมักชวี ภาพไป ในการใช้ และ ใชเ้ กบ็ รกั ษาปุ๋ย เกบ็ รักษาปยุ๋ หมัก หมัก

~ 24 ~ ท่ี เรอ่ื ง จุดประสงค์ เนอ้ื หา กระบวนการเรยี นรู้ จานวนชัว่ โมง การเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 3. การบรรจุ 5.การเกบ็ รักษา ภัณฑแ์ ละปิด ชวี ภาพได้ถูกตอ้ ง ปุ๋ยหมกั ชวี ภาพ ฉลากสนิ ค้า 1.เพอ่ี ให้ผ้เู รียน การเลือกบรรจุ 1.วิทยากรใหค้ วามรู้เก่ยี วกับ 12 เลือกบรรจุภัณฑ์ ภัณฑแ์ ละปดิ เลือกบรรจุภัณฑท์ ่เี หมาะสม กบั 10 ช่ัวโมง ทเี่ หมาะสม ฉลากสินคา้ ป๋ยุ หมกั ชีวภาพแต่ละชนดิ แตล่ ะ เกี่ยวกับปุย๋ หมกั สูตรและเหมาะสมกับ ราคาที่จะ ชีวภาพแต่ละ รวม จาหนา่ ย ชนดิ แตล่ ะสตู ร ๒.วทิ ยากร ใหค้ วามรูเ้ ก่ียวกับการ และเหมาะสมกับ ปิดฉลากสนิ ค้าท่ี เหมาะสมกับ ราคาทีจ่ ะ ผลิตภณั ฑ์ จาหนา่ ยได้ ๓.วทิ ยากรใหผ้ ้เู รียนลงมือปฏิบัติ 2.สามารถบรรจุ เลือกบรรจุภัณฑ์ ฝกึ บรรจปุ ุ๋ย บรรจุปยุ๋ หมกั หมักชวี ภาพและปิดสลากสินคา้ ชีวภาพในบรรจุ ภัณฑท์ ีจ่ ะ จาหนา่ ยได้ 3.สามารถปดิ ฉลากสินคา้ ท่ี เหมาะสมกบั ผลิตภณั ฑไ์ ด้ สื่อการเรียนรู้ 1.สอื่ VCD การทาป๋ยุ หมกั ชีวภาพ 2.ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรตาบล 3.เอกสารความรู้เกีย่ วกบั การทาปุ๋ยชวี ภาพ การวดั ผลประเมนิ ผล กรอบการประเมิน วธิ ีการประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ความรู้ความเข้าใจ - สอบถามความรูค้ วามเขา้ ใจจากแบบ - คะแนนเต็ม ๒๐ คะแนน ในเนื้อหา ประเมินความรู้ความเขา้ ใจ (๒๐ คะแนน) 2. ทักษะการปฏบิ ัติ - สงั เกตการปฏบิ ัติในระหว่างการ - ปฏบิ ัติไดถ้ ูกต้องตามข้ันตอน 20 คะแนน (๔๐ คะแนน) เรียนรู้/การจัดกิจกรรม - ปฏบิ ัติอย่างคลอ่ งแคล่ว รวดเร็ว 10 คะแนน - ประเมินโดยใหส้ าธติ /แสดงขั้นตอน/ - ไม่มขี ้อผิดพลาด/ปัญหาระหว่างการปฏบิ ตั ิ หรือ ลงมอื ปฏิบตั /ิ วธิ กี ารปฏบิ ัติ หากมีปญั หาสามารถแกไ้ ขไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 10 คะแนน

~ 25 ~ กรอบการประเมิน วิธีการประเมิน เกณฑก์ ารประเมิน 3. คณุ ภาพผลงาน/ผล การปฏิบตั ิ - สงั เกตพฤติกรรมการเรียน - ความถูกต้อง/ความสมบรู ณ์ 10 คะแนน (๔๐ คะแนน) - ตรวจสอบผลงาน/ผลการปฏิบตั ิ ว่า - ใชง้ านได/้ รบั ประทานได้ 10 คะแนน รวมคะแนน (๑๐๐) เปน็ ไปตามเกณฑท์ ี่กาหนดหรอื ไม่ - ความสวยงาม/ประณตี 10 คะแนน - ความประหยัด/คมุ้ คา่ 10 คะแนน ผเู้ รยี นตอ้ งไดผ้ ลการประเมินในแตล่ ะดา้ น ร้อยละ 60 ข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ เกณฑ์การจบหลักสตู ร 1. ระยะเวลาเรียนและฝกึ ปฏิบตั ติ ลอดหลกั สูตร ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 2. ผลการประเมนิ ผา่ นตลอดหลักสูตร ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 60 ตามเกณฑท์ กี่ าหนด ดงั น้ี 2.1 ภาคทฤษฎี สดั สว่ นร้อยละ 20 2.2 ภาคปฏิบตั ิ สดั สว่ นร้อยละ 80 เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา หลกั ฐานการเข้าเรยี นตลอดหลักสตู ร

~ 26 ~ หลกั สูตรจุลนิ ทรียแ์ ละผลติ ภัณฑ์ชวี ภาพ จานวน 10 ชั่วโมง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอแสวงหา สานักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจงั หวัดอ่างทอง ความเป็นมา อาชีพด้านเกษตรกรรม นับเป็นอาชีพหลักของเกษตรกรของประเทศไทย และผลผลิตทางการ เกษตร ส่วนใหญ่ใช้ปุ๋ยเคมีเป็นหลัก เนื่องจากหาซื้อง่าย ใช้แล้วเห็นผลรวดเร็ว แต่ในระยะยาวส่งผลให้ ดินเสื่อมโทรม รวมท้ังผลกระทบด้านสารตกค้างในผลผลิตทางการเกษตร ซ่ึงส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ ของผบู้ รโิ ภค การใชจ้ ุลินทรีย์และผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ซึ่งผลิตจากสารธรรมชาติ เป็นทางเลือกหน่ึงในการ แก้ปัญหาผลกระทบที่เกิดจากการใช้ปุ๋ยเคมีและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ สามารถทาเป็นอาชีพสร้างรายได้ ใหก้ ับประชาชนไดอ้ กี อาชีพหนง่ึ หลกั การของหลกั สูตร 1. เป็นการจัดหลักสตู รด้านเกษตรกรรม ทีม่ ีความยืดหย่นุ ดา้ นการจัดกระบวนการเรยี นรู้ 2. การจดั หลักสตู รการทาจลุ ินทรีย์และผลิตภณั ฑ์ชวี ภาพ มุ่งเน้นกลุ่มเปาู หมายประชาชนผู้ไม่มี อาชพี หรอื ผู้ที่มอี าชีพแตต่ ้องการพฒั นาอาชพี ให้มคี วามมั่นคงย่งิ ขนึ้ 3. เป็นการสง่ เสริมความร่วมมือในการดาเนนิ งานร่วมกับเครอื ขา่ ย 4. เป็นการส่งเสริมให้มีการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์เข้าสู่หลักสูตรการศึกษาข้ัน พื้นฐาน 5. การจดั กระบวนการเรยี นรู้ มุ่งเน้นการอบรม สัมมนา ศึกษาดูงาน การฝึกปฏิบัติ การเรียนรู้ ดว้ ยตนเอง เพอ่ื พฒั นากลุม่ เปาู หมายใหม้ คี วามพร้อมในการประกอบอาชพี ใหเ้ กิดความเขม้ แข็ง มัน่ คง จุดมุ่งหมาย 1. ผเู้ รยี นน้อมนาศาสตร์พระราชามาปรบั ใช้ในชีวิตประจาวันเพอ่ื ใหเ้ กิดความพอเพยี ง 2. ผูเ้ รยี นศึกษาการทาจุลนิ ทรยี ์และผลิตภัณฑ์ชีวภาพเพ่ือประหยัดต้นทุนและลดปัญหาการใช้ สารเคมี 3. ผู้เรยี นสามารถทาจลุ นิ ทรียแ์ ละผลิตภัณฑช์ วี ภาพ ไวใ้ ชใ้ นครัวเรอื นตนเองได้ กลมุ่ เป้าหมาย  นกั ศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา  ประชาชนทวั่ ไป

~ 27 ~ ระยะเวลา ระยะเวลาเรียนตลอดหลักสูตร จานวน 10 ช่วั โมง ทฤษฎี จานวน 1 ชัว่ โมง ปฏบิ ัติ จานวน 4 ช่ัวโมง โครงสรา้ งหลกั สูตร ท่ี เร่ือง จุดประสงค์ เน้ือหา กระบวนการเรียนรู้ จานวนช่ัวโมง การเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 1 ช่องทางการ ๑. เพือ่ ผเู้ รยี นมี ๑.การวิเคราะห์ ๑.วทิ ยากรและผูเ้ รียนร่วม ๒- ประกอบอาชพี ความรู้ ความ บรบิ ทของชุมชน แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ บรบิ ทของ เข้าใจ สามารถ สงั คม และ ชุมชน สงั คม และสิ่งแวดล้อม วเิ คราะห์ข้อมลู สิ่งแวดล้อม เพ่อื เพือ่ ประกอบอาชีพ บรบิ ทชุมชน ประกอบอาชพี ๒.ผูเ้ รยี นสรปุ ผลการวิเคราะห์ สังคมสิง่ แวดลอ้ ม ๒.ทางเลอื กการ การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้เพ่ือใช้ใน ได้ สร้างอาชพี อย่าง การตดั สินใจในเรือ่ งจลุ ินทรีย์และ ๒. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียน สร้างสรรค์และ ผลติ ภณั ฑช์ ีวภาพ สามารถตัดสนิ ใจ เพิ่มมูลค่าของ ๓.วิทยากรอธิบายถึงทางเลือก การเลือกทา การการทาจลุ นิ ทรีย์และ จลุ ินทรยี แ์ ละ ผลติ ภัณฑช์ วี ภาพอย่างถาวร ผลติ ภัณฑช์ ีวภาพ ได้ 2 การทา เพ่ือใหผ้ เู้ รยี น มี 1. ความรู้ 1.วิทยากร/ภูมปิ ญั ญาให้ ความรู้ - 2 จลุ ินทรยี ์ ความรู้ มีทกั ษะ สบั ปะรด ในการทา เบ้อื งต้น จดั เตรยี มวัสดอุ ุปกรณ์ จุลินทรยี ์ สับปะรด - ความหมาย 2. ลงมือฝึกปฏบิ ัติการการทา ความสาคัญและ จุลินทรยี ์สบั ปะรด ประเภทของ 3. จดบนั ทกึ ผลการเรียนรู้และ จลุ นิ ทรีย์ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ สับปะรด 4. วทิ ยากร/ภูมิปญั ญา - การเตรียมวสั ดุ ตรวจสอบผลงาน ให้ อปุ กรณ์ ขอ้ เสนอแนะ สรปุ องคค์ วามร้ทู ไี่ ด้ 2. การการทา จุลนิ ทรยี ์ สบั ปะรดแบบ ผสมผสาน การ นาไปใชแ้ ละ ประโยชน์ของ การทาจุลินทรีย์ สับปะรด

~ 28 ~ ที่ เร่อื ง จุดประสงค์ เน้ือหา กระบวนการเรียนรู้ จานวนชัว่ โมง การเรยี นรู้ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 3 การทาฮอร์โมน เพื่อให้ผู้เรยี น มี 1. ความรู้ 1.วิทยากร/ภูมิปญั ญาให้ ความรู้ - 3 ผลไม้ ความรู้ มีทักษะ เบ้อื งต้น จดั เตรยี มวัสดอุ ปุ กรณ์ ในการทา - ความหมาย 2. ลงมอื ฝกึ ปฏบิ ตั ิการการทา ฮอร์โมนผลไม้ ความสาคัญและ ฮอร์โมนผลไม้ ประเภทของการ 3. จดบนั ทึกผลการเรียนรู้และ ทาฮอรโ์ มน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผลไม้ 4. วทิ ยากร/ภมู ิปัญญา - การเตรียมวัสดุ ตรวจสอบผลงาน ให้ อุปกรณ์ ขอ้ เสนอแนะ สรปุ องค์ความรทู้ ไี่ ด้ 2. การการทา การทาฮอรโ์ มน ผลไม้ แบบผสมผสาน การนาไปใช้และ ประโยชนข์ อง การทาฮอร์โมน ผลไม้ 4 การทาสารขบั เพ่ือให้ผู้เรียน มี 1. ความรู้ 1.วิทยากร/ภมู ิปัญญาให้ ความรู้ - 3 ไลแ่ มลง ความรู้ มที กั ษะ ในการทาสารขับ เบอ้ื งต้น จดั เตรียมวสั ดุอปุ กรณ์ ไลแ่ มลงรสขม - ความหมาย 2. ลงมอื ฝกึ ปฏิบัติการ การทา (เม็ดสะเดาบด บอระเพด็ ความสาคัญและ สารขับไล่แมลงรสขม (เม็ดสะเดา ยาสบู ) ประเภทของการ บด บอระเพด็ ยาสูบ) ทาสารขบั ไล่ 3. จดบันทกึ ผลการเรียนรแู้ ละ แมลงรสขม แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ (เม็ดสะเดาบด 4. วิทยากร/ภมู ิปญั ญา บอระเพด็ ตรวจสอบผลงาน ให้ ยาสบู ) ข้อเสนอแนะ สรปุ องคค์ วามรู้ที่ได้ - การเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ 2. การทาสาร ขับไล่แมลงรส ขม (เม็ดสะเดา บด บอระเพ็ด ยาสูบ) แบบ ผสมผสาน การ นาไปใชแ้ ละ ประโยชนข์ อง การทาสารขบั ไล่ แมลง รวม 10 ชว่ั โมง

~ 29 ~ สอ่ื การเรียนรู้ ๑. ส่ือเอกสารใบความรใู้ นการบรรยายและสาธิตอาชพี ๒. ผ้รู ู้ /ภมู ิปญั ญา ๓. วัตถุดบิ ของจรงิ ทนี่ ามาใช้ในการปฏิบตั ิ การวัดผลประเมนิ ผล กรอบการประเมนิ วิธกี ารประเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน 1. ความรู้ความเข้าใจ - สอบถามความรูค้ วามเข้าใจจากแบบ - คะแนนเตม็ ๒๐ คะแนน ในเนือ้ หา ประเมนิ ความรู้ความเขา้ ใจ (๒๐ คะแนน) 2. ทักษะการปฏบิ ตั ิ - สังเกตการปฏบิ ัติในระหวา่ งการ - ปฏิบตั ิไดถ้ ูกตอ้ งตามขนั้ ตอน 20 คะแนน (๔๐ คะแนน) เรียนรู้/การจัดกิจกรรม - ปฏิบัติอยา่ งคล่องแคล่ว รวดเร็ว 10 คะแนน 3. คณุ ภาพผลงาน/ผล การปฏิบัติ - ประเมินโดยให้สาธติ /แสดงขน้ั ตอน/ - ไมม่ ีข้อผิดพลาด/ปัญหาระหวา่ งการปฏบิ ัติ หรอื (๔๐ คะแนน) ลงมือปฏบิ ตั /ิ วิธกี ารปฏบิ ัติ หากมีปญั หาสามารถแก้ไขไดอ้ ย่างรวดเรว็ 10 รวมคะแนน (๑๐๐) คะแนน - สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียน - ความถกู ตอ้ ง/ความสมบูรณ์ 10 คะแนน - ตรวจสอบผลงาน/ผลการปฏบิ ตั ิ วา่ - ใช้งานได้/รบั ประทานได้ 10 คะแนน เปน็ ไปตามเกณฑท์ ่กี าหนดหรอื ไม่ - ความสวยงาม/ประณตี 10 คะแนน - ความประหยดั /คมุ้ คา่ 10 คะแนน ผู้เรยี นตอ้ งได้ผลการประเมินในแต่ละด้าน รอ้ ยละ 60 ข้ึนไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ เกณฑ์การจบหลักสตู ร 1. ระยะเวลาเรยี นและฝกึ ปฏบิ ัตติ ลอดหลกั สตู ร ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 2. ผลการประเมินผ่านตลอดหลกั สูตร ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 ตามเกณฑท์ ก่ี าหนด ดงั น้ี 2.1 ภาคทฤษฎี สดั สว่ นร้อยละ 20 2.2 ภาคปฏบิ ัติ สดั ส่วนรอ้ ยละ 80 เอกสารหลกั ฐานการศึกษา หลักฐานการเข้าเรยี นตลอดหลักสตู ร

~ 30 ~ การเพาะเหด็ นางฟ้า-นางรม จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอแสวงหา สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวัดอา่ งทอง ความเป็นมา จากสภาพสังคมในปัจจุบันได้รับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงในด้านต่าง ๆ เช่น ด้าน เศรษฐกิจ การเมือง สังคมและส่ิงแวดล้อมเป็นอย่างมาก ประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทรัพยากรมี น้อยลง จึงมีความจาเป็นต้องใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจากัดให้มีความคุ้มค่าย่ิงข้ึน โดยเฉพาะด้านการ ดารงชีพ และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน นอกจากจะมีการประกอบอาชีพเพ่ือเป็นการเลี้ยงตัวเอง และครอบครัวแล้ว ยังมีส่ิงท่ีถือว่าเป็นภาระหนักคืออาหารเพ่ือบริโภคประจาวัน จึงจาเป็นอย่างยิ่งที่ มนุษย์เราจะต้องสร้างขนึ้ หรอื หามาทดแทน โดยวธิ กี ารต่าง ๆ เพ่ือการอยรู่ อด การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้มีความรู้ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและ ส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน สานักงาน กศน. จึงได้กาหนดหลักการในการจัดทา แผนพัฒนาการศึกษาอาชพี เพ่ือการมีงานทาไว้วา่ ตอ้ งเปน็ การดาเนินงานท่ีมีความยืดหยุ่นด้านหลักสูตร การจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล รวมทั้งเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพ ด้านต่าง ๆ ตลอดจนมีความสามารถเชิงการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคอาเซียน และระดับสากล ประเทศไทยเปน็ ประเทศเกษตรกรรม ผลิตสินค้าทางการเกษตรสาหรับการบริโภคทั้งภายในชุมชน และ ส่งขายพื้นท่ีใกล้เคียง ดังนั้นการจัดทาหลักสูตรอาชีพที่เกี่ยวข้องกับสาขาการเกษตรจึงนับว่ามี ความสาคัญอย่างย่ิง อาชีพการเพาะเห็ดนางฟูา-นางรม เป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจและน่าลงทุน เนื่องจากให้ผลผลิตเร็วมีการดูแลรักษาที่ไม่ยาก นอกจากน้ีให้ผลผลิตทางการเกษตรซึ่งมีคุณค่าทาง อาหารสูง สามารถบริโภคได้ทุกเพศทุกวัย ปัจจุบันมีการแปรรูปเป็นอาหารหลากหลายรูปแบบ นิยม บริโภคกันในช่วงเทศกาลกินเจ และวิวัฒนาการทางการแพทย์มีการนาเห็ดนางฟูา-นางรม มาปรุงเป็น ส่วนประกอบของยาสมุนไพร จึงมีหน่วยงานที่เก่ียวข้องกับอาชีพการเพาะเห็ดนางฟูา หรือหน่วยงานท่ี รับผิดชอบในด้านการพัฒนาคน โดยเฉพาะหน่วยงานทางการศึกษาเกิดขึ้น มีหน้าที่จัดการศึกษา และ สง่ เสริมให้ประชาชนเกิดความสนใจในการประกอบอาชพี เพาะเห็ดนางฟูา-นางรม เพม่ิ ข้ึน วัตถุประสงค์ 1. เพื่อเป็นช่องทางในการประกอบอาชีพและเพื่อให้ประชาชนมีรายได้จากการเพาะเห็ด นางฟูา-นางรม 2. เพอ่ื สง่ เสริมความรู้ และทักษะ ในการเพาะเหด็ นางฟูาเพือ่ ประกอบเป็นอาชีพได้ กลมุ่ เป้าหมาย  นกั ศกึ ษา กศน.อาเภอแสวงหา  ประชาชนทว่ั ไป

~ 31 ~ ระยะเวลา ระยะเวลาเรยี นตลอดหลักสตู ร จานวน 40 ชว่ั โมง ทฤษฎี จานวน 6 ชั่วโมง ปฏบิ ัติ จานวน 34 ชว่ั โมง โครงสรา้ งหลักสตู ร ท่ี เรื่อง จดุ ประสงค์ เน้อื หา กระบวนการเรียนรู้ จานวนช่ัวโมง การเรยี นรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 1. ความสาคญั ๑.ศกึ ษาข้อมูลจากแหลง่ เรยี นรู้ ๑ ชอ่ งทางการ ๑. เพอ่ื ให้ผเู้ รียน ในการประกอบ ภมู ิปัญญาสื่ออเิ ล็กทรอนิกส์ -๑ อาชพี การเพาะ เอกสาร สถานประกอบการ ประกอบอาชีพ บอกความสาคัญ เห็ดนางฟาู - สถานทจี่ ดั จาหนา่ ย นางรม การเพาะเหด็ ในการประกอบ ๒.วิทยากรสาธิตและใหค้ วามรู้ 2. ความเปน็ ไป การประกอบอาชีพการเพาะเหด็ นางฟาู -นางรม อาชีพการเพาะ ได้ในการ นางฟูา-นางรม ความเป็นไปไดใ้ น ประกอบอาชีพ การประกอบอาชีพ แหลง่ เรียนรู้ เห็ดนางฟาู - การเพาะเหด็ ที่เก่ยี วขอ้ งกบั การประกอบอาชีพ นางฟาู -นางรม การเพาะเหด็ นางฟาู -นางรม นางรม ทศิ ทางการประกอบอาชีพการ 3. แหลง่ เรียนรู้ เพาะเห็ดฟาง เหด็ นางฟาู -นางรม 2. เพื่อใหผ้ ูเ้ รียน การประกอบ สามารถวเิ คราะห์ อาชีพ การ ๓. สรปุ ความรทู้ ไี่ ด้จากการ ความเป็นไปได้ เพาะเหด็ แลกเปล่ยี นเรียนรู้ ในการประกอบ นางฟาู -นางรม อาชีพการเพาะ เหด็ นางฟาู - 4. ทศิ ทางการ นางรม ประกอบอาชพี การเพาะเหด็ 3. เพือ่ ใหผ้ ้เู รียน นางฟาู -นางรม บอกแหลง่ เรียนรู้ การประกอบ อาชีพการเพาะ เหด็ นางฟูา- นางรม 4. เพอ่ื ให้ผ้เู รยี น บอก ทิศทางการ ประกอบอาชพี การเพาะเหด็ นางฟาู -นางรม ได้ ด้วยกระบวนการ คดิ เป็น

~ 32 ~ ที่ เรอ่ื ง จุดประสงค์ เนอื้ หา กระบวนการเรียนรู้ จานวนชั่วโมง การเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ ๒ ทกั ษะการ ๑. การ ๑. ขั้น ๑. ศกึ ษาขอ้ มลู เรียนร้ขู อบข่าย 2 1.30 ประกอบอาชพี เตรียมการ เตรยี มการ การประกอบอาชีพทีเ่ กี่ยวข้องกบั ประกอบอาชพี ประกอบอาชีพ การเพาะเห็ดนางฟาู -นางรม จาก ไดแ้ ก่ การเพาะเหด็ สือ่ ต่าง ๆ ท้งั เอกสาร ส่อื บุคคล - สร้างโรงเรอื น ๑.๑ สรา้ ง ส่อื - เตรียมวัสดทุ า โรงเรอื น อิเลก็ ทรอนิกสต์ า่ ง ๆ กอ้ นเหด็ ๑.๒ เตรียมวัสดุ ๒. ศึกษาแหลง่ เรียนรู้เกีย่ วกับ - เตรียมวัสดุ ทากอ้ นเหด็ อาชีพท่ีเลือกการ เพาะเชอ้ื เห็ด ๑.๓ เตรยี มวสั ดุ เพาะเห็ดนางฟาู -นางรม - เพาะเชอ้ื เหด็ เพาะเชอ้ื เห็ด ๓. ฝกึ ทกั ษะการประกอบอาชีพท่ี ๒. การเพาะเหด็ ๑.๔ เพาะเชอ้ื เกีย่ วขอ้ งกับการ นางฟูา-นางรม เห็ด เพาะเห็ดนางฟูา-นางรม - แยกเชื้อเห็ด ๒. ข้ันตอนการ ๔. ดาเนินการเรียนรู้และฝึก และการ เพาะเห็ด ทักษะตามหลักสูตร เลย้ี งเนอื้ เย่ือบน นางฟาู -นางรม เกี่ยวขอ้ งกบั การเพาะเห็ดนางฟูา- อาหาร ๒.๑ การแยก นางรม วุน้ P.D.A เชื้อเหด็ และการ ๕. ซกั ถาม / แลกเปล่ียนเรียนรู้ - ทาหัวเช้อื เห็ด เลย้ี งเน้ือเยื่อบน ประสบการณ์ นางฟูา-นางรม อาหารวนุ้ ๖. จดบนั ทึกผลการเรียนรู้ - ทาก้อนเช้อื ๒.๒ การทาหัว บรรจุ เช้อื เห็ดนางฟูา- ถุงพลาสตกิ นางรม - เพาะเห็ดให้เกิด ๒.๓ การทากอ้ น ดอก เชอื้ บรรจุใน ๓. เกบ็ ดอกและ ถุงพลาสตกิ ดูแลรกั ษาเหด็ ๒.๔ การเพาะ นางฟูา-นางรม เห็ดให้เกิดดอก เพ่ือการบริโภค ๓. ข้ันการเกบ็ และจาหน่าย ดอกและดแู ล รกั ษาเหด็ นางฟูา-นางรม เพ่อื การบรโิ ภค และจาหนา่ ย

~ 33 ~ ท่ี เรื่อง จุดประสงค์ เนอื้ หา กระบวนการเรียนรู้ จานวนช่ัวโมง การเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏิบัติ ๓ การบรหิ าร ๑. การบริหาร ๑. ศึกษาข้อมูลการตลาดและ 2- จัดการใน ๑. สามารถ จัดการในการ อาชีพ วิเคราะหค์ วาม ประกอบอาชพี วเิ คราะห์ความตอ้ งการของตลาด ตอ้ งการของ การเพาะเหด็ ตลาดได้ นางฟาู -นางรม ในชมุ ชน ประเทศ และโลกจาก ๒. สามารถคดิ ๑.๑ สามารถ คานวณ บริหาร ส่อื ตา่ ง ๆ ทง้ั เอกสาร สื่อบุคคล ต้นทุน ผลกาไร/ จดั การในการ ขาดทุนได้ ประกอบอาชพี สือ่ อเิ ล็กทรอนกิ สต์ า่ งๆ และ ๓. สามารถวาง การเพาะเห็ด แผนการจดั การ นางฟูา-นางรม แหลง่ เรยี นรู้ เกย่ี วกับผลผลติ ๑.๒ การจดั การ ได้ เกย่ี วกับการ ๒. แบ่งกลมุ่ ศกึ ษาวเิ คราะห์ และ ๔. สามารถ ควบคมุ คุณภาพ วิเคราะห์ การเพาะเหด็ ระดมความคิดเห็นเกยี่ วกบั ปจั จัย และบอกวิธี นางฟูา-นางรม แกป้ ัญหาความ ๑.๓ การคดิ ความเส่ยี งที่คาดวา่ จะเกิดข้ึน เส่ียงในการ คานวณตน้ ทุน ประกอบอาชีพได้ การเพาะเหด็ รวมท้ังหาแนวทางในการจัดการ ๕. บอกวิธีการ นางฟาู -นางรม ปูองกันปัญหาท่ี ๑.๔ การ ความเสยี่ ง เกดิ จากความ วางแผนการ เส่ยี ง ผลิต ๓. ฝึกปฏิบัตกิ ารคิดคานวณ ๒. การจดั การ ตลาดในการ ตน้ ทุน-กาไร การจดั ทาบัญชี ประกอบอาชพี การเพาะเห็ด ฟารม์ การกาหนดราคาการ นางฟูา-นางรม ๒.๑ การจดั ทา สง่ เสริมการขาย การ ฐานขอ้ มูลลกู ค้า ๒.๒ การ กระจายสินคา้ กระจายผลผลติ เห็ดนางฟาู - ๔. ร่วมกนั อภปิ ราย / เสวนา นางรม ไปสู่ ผู้บรโิ ภค แลกเปล่ียนเรียนรูใ้ นชัน้ เรียน ๒.๓ การ วางแผน การตลาด

~ 34 ~ ท่ี เรือ่ ง จดุ ประสงค์ เนอ้ื หา กระบวนการเรียนรู้ จานวนชว่ั โมง การเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏิบัติ ๓. การจดั การ ความเสี่ยงทจ่ี ะ เกิดขน้ึ กับการ ประกอบอาชีพ การเพาะเห็ด นางฟูา-นางรม ๓.๑ การ วเิ คราะห์ ศกั ยภาพในการ ประกอบอาชพี การเพาะเหด็ นางฟูา-นางรม - ความต้องการ ของลูกค้า - การขาดแคลน วสั ดกุ ารเพาะ เห็ดนางฟูา- นางรม - ค่าใชจ้ ่ายใน การทาโรงเรือน และการเพาะ เห็ดนางฟาู - นางรม - คู่แข่งทางการ ผลติ และ จาหนา่ ยเหด็ นางฟูา-นางรม ๓.๒ การ แก้ปญั หาความ เสี่ยงในการ ประกอบอาชีพ การเพาะเห็ด นางฟาู -นางรม

~ 35 ~ ท่ี เรื่อง จุดประสงค์ เน้อื หา กระบวนการเรียนรู้ จานวนชั่วโมง การเรยี นรู้ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ ๔ โครงการ ๑. บอก ๑. ความสาคญั ๑. จดั ให้ผู้เรียนศกึ ษาเนอื้ หาจาก ๑ 2 ประกอบอาชีพ ความสาคญั ของ ของโครงการ ใบความรู้เรื่องความสาคัญของ การเพาะเห็ด โครงการอาชพี ได้ อาชพี โครงการอาชีพ องค์ประกอบของ ๒. บอประโยชน์ ๒ ประโยชนข์ อง โครงการอาชพี แล้วจดั กจิ กรรม ของโครงการ โครงการอาชีพ การสนทนาแลกเปลย่ี นข้อมูล อาชีพได้ ๓. องคป์ ระกอบ ความคิดเหน็ เพอ่ื สรา้ งแนวคดิ ใน ๓. บอก ของโครงการ การดาเนนิ กจิ กรรมการเรยี นรู้ องค์ประกอบของ อาชีพ ๒. จัดใหผ้ เู้ รียนศึกษาสาระข้อมลู โครงการอาชีพได้ ๔. การเขยี น จากจากใบความรู้ ๔. อธบิ าย โครงการอาชีพ เรอ่ื งตัวอยา่ งการเขียนโครงการ ความหมายของ ๕. การประเมนิ อาชีพ ท่ีดเี หมาะสม และถูกต้อง องค์ประกอบของ ความเหมาะสม พร้อมการจัดอภิปรายเพ่ือสรปุ โครงการอาชพี ได้ และสอดคลอ้ ง แนวคิดเปน็ แนวทางในการเขียน ๕. อธบิ าย ของโครงการ โครงการอาชีพที่ดีเหมาะสมและ ลกั ษณะการเขียน อาชพี ถกู ต้อง ทดี่ ขี อง ๓. จดั ให้ผู้เรยี นปฏบิ ัติการเขียน องค์ประกอบของ โครงการอาชีพ โครงการอาชพี ได้ ๔. กาหนดใหผ้ ู้เรยี นฝึกปฏบิ ัติการ 6. เขียนโครงการ ประเมินความ ในแต่ละ เหมาะสมและสอดคล้องของ องค์ประกอบให้ โครงการอาชพี เหมาะสมและ ๕. จดั ใหผ้ ู้เรยี นปรบั ปรุงโครงการ ถูกต้องได้ อาชีพให้มคี วามเหมาะสมและ ๗. ตรวจสอบ ถกู ต้อง ความเหมาะสม ๖. กาหนดใหผ้ ู้เรยี นเขยี น และสอดคล้อง โครงการอาชพี ของตนเองเพื่อ ของโครงการ เสนอขอรบั การสนับสนุน อาชีพได้ งบประมาณดาเนนิ งานอาชีพและ ใชใ้ นการดาเนนิ การประกอบ อาชีพต่อไป รวม 40 ชว่ั โมง ส่ือ/วัสดุอปุ กรณก์ ารเรยี นรู้ ๑. ศกึ ษาจากวัสดอุ ปุ กรณใ์ นฝกึ อบรม การเพาะเห็ดนางฟูา-นางรม ๒. ศกึ ษาจากแหล่งเรยี นร้ใู นชมุ ชน/วิทยากร/ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ ๓. ศึกษาจากอินเตอรเ์ น็ต

~ 36 ~ การวดั ผลประเมินผล กรอบการประเมิน วธิ กี ารประเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน 1. ความรคู้ วามเข้าใจ - สอบถามความรู้ความเข้าใจจากแบบ - คะแนนเต็ม ๒๐ คะแนน ในเน้อื หา ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ (๒๐ คะแนน) 2. ทกั ษะการปฏิบตั ิ - สงั เกตการปฏิบัติในระหว่างการ - ปฏบิ ตั ิได้ถูกตอ้ งตามข้นั ตอน 20 คะแนน (๔๐ คะแนน) เรียนรู้/การจัดกิจกรรม - ปฏบิ ัติอย่างคลอ่ งแคลว่ รวดเรว็ 10 คะแนน 3. คุณภาพผลงาน/ผล การปฏบิ ัติ - ประเมินโดยใหส้ าธิต/แสดงขั้นตอน/ - ไม่มขี อ้ ผดิ พลาด/ปญั หาระหว่างการปฏิบตั ิ หรือ (๔๐ คะแนน) ลงมือปฏบิ ัต/ิ วธิ ีการปฏิบัติ หากมีปญั หาสามารถแก้ไขไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ 10 รวมคะแนน (๑๐๐) คะแนน - สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียน - ความถูกตอ้ ง/ความสมบูรณ์ 10 คะแนน - ตรวจสอบผลงาน/ผลการปฏบิ ัติ ว่า - ใช้งานได้/รบั ประทานได้ 10 คะแนน เป็นไปตามเกณฑ์ท่กี าหนดหรือไม่ - ความสวยงาม/ประณีต 10 คะแนน - ความประหยัด/คมุ้ คา่ 10 คะแนน ผเู้ รยี นต้องไดผ้ ลการประเมินในแต่ละด้าน รอ้ ยละ 60 ข้ึนไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ เกณฑ์การจบหลักสตู ร 1. ระยะเวลาเรยี นและฝกึ ปฏบิ ตั ิตลอดหลักสตู ร ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 2. ผลการประเมนิ ผา่ นตลอดหลักสูตร ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 60 ตามเกณฑท์ ่กี าหนด ดงั น้ี 2.1 ภาคทฤษฎี สดั สว่ นร้อยละ 20 2.2 ภาคปฏิบตั ิ สดั ส่วนร้อยละ 80 เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา หลกั ฐานการเข้าเรยี นตลอดหลกั สตู ร

~ 37 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ หลกั สูตรการเรยี นรู้ศาสตรพ์ ระราชาสู่หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖5

~ 38 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ ฐานเรยี นรู้ “การถอดบทเรยี นแนวทางการดาเนินชีวิต ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง” เวลา 1 ชัว่ โมง วตั ถุประสงค์ กระบวนการจัดการเรยี นรู้ สอื่ วัสดุ อปุ กรณ์ การประเมินผล หมายเหตุ 1. เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี น ๑. ขัน้ นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1.สอ่ื เอกสารใบ 1.ผลงานทไ่ี ด้ เข้าใจหลกั ปรชั ญา - วิทยากรทักทายผเู้ รียนและ ความรูใ้ นการ 2.การสงั เกต ของเศรษฐกิจ แนะนา บรรยาย พอเพียง และหลัก 2.ขน้ั จดั การเรียนรู้ 2.กระดาษปลู๊ฟ ปรัชญาของ - วทิ ยากรบรรยายพระราชกรณีย 3.สเี มจิ เศรษฐกิจพอเพียง กจิ ของในหลวงรัชกาลท่ี 9 ด้านการศึกษา -วิทยากรใหค้ วามรู้หลักปรชั ญา 2. เพ่อื ให้ผูเ้ รียนมี ของเศรษฐกิจพอเพยี ง และหลัก ความรู้ ความเขา้ ใจ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งดา้ น แนวทางการดาเนิน การศกึ ษา 2-3-4 ชวี ิต ตามหลัก -วิทยากรใหค้ วามรู้เร่ืองการถอด ปรชั ญาของ บทเรียน เศรษฐกิจพอเพียง -แบ่งกลมุ่ ใหผ้ ูเ้ รียนฝกึ ถอด 3.เพ่ือให้ผู้เรยี น บทเรียน และส่งตัวแทนนาเสนอ สามารถถอด 3.ขน้ั สรุป บทเรียนการดาเนิน -วทิ ยากรสรปุ องคค์ วามรกู้ ารถอด ชีวิต ตามหลัก บทเรยี น รว่ มกบั ผู้เรียน ปรชั ญาของ -ผเู้ รียนและวิทยากร แลกเปลย่ี น เศรษฐกจิ พอเพียง เรยี นรู้ ซักถาม ข้อสงสัย และ ให้ ได้ คาแนะนา ลงช่ือ.................................................ผู้จดั ทาแผน (นายสมบตั ิ เกตุถาวร) ลงช่อื .................................................ผอู้ นมุ ัติแผน (นางจริ ชั ยา เฟอื่ งฟรู ัตน์) ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอสามโก้ รกั ษาการในตาแหน่ง ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอแสวงหา

~ 39 ~ บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ รายวชิ า ระดับ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี จานวนผเู้ รียนท้ังหมด เร่อื ง จานวน คน เข้าเรียน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ผลการจดั การเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาทเี่ กิดข้นึ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ผู้สอน () ความคิดเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษา แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี เร่อื ง . มีคณุ ภาพระดบั  ดมี าก  ดี  ปานกลาง  ควรปรับปรุง ขอ้ สังเกต เพมิ่ เติม………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชือ่ ผูบ้ ริหารสถานศึกษา

~ 40 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ ฐานเรยี นรู้ “บัญชีครวั เรือน” เวลา 1 ชัว่ โมง วัตถุประสงค์ กระบวนการจดั การเรยี นรู้ สือ่ วัสดุ อปุ กรณ์ การประเมนิ ผล หมายเหตุ 1. มีความร้คู วาม ๑. ขั้นนาเข้าสู่บทเรียน ๑. แผน่ พบั 1.ผลงานทีไ่ ด้ เข้าใจในการถอด - วทิ ยากรอธิบายหลักปรัชญาของ 2. โอ่งชีวิต พชิ ติ 2.การสงั เกต บทเรียนหลัก เศรษฐกจิ พอเพียง หนี้ ปรชั ญาของ (2 เงอ่ื นไข 3 หลักการ 4 มติ ิ) เศรษฐกิจพอเพียง 2.ข้นั จดั การเรียนรู้ (2 เง่ือนไข - วทิ ยากรอธบิ ายถงึ การเขยี น 3 หลักการ บัญชีครวั เรือน (รายรับ – 4 มิติ) รายจา่ ย) 2. มีความรู้ความ 3.ขน้ั สรุป เข้าใจ และมีทักษะ -วทิ ยากรแลกเปล่ียนเรียนรู้ ในการทาบัญชี ซักถาม ข้อสงสัย และตรวจ ครัวเรอื น ผลงาน ให้คาแนะนา -วทิ ยากรสรปุ องคค์ วามรรู้ ่วมกับ ผู้เรียน ลงชือ่ .................................................ผจู้ ัดทาแผน (นางนพวรรณ ศรีเคลือบ) ลงชื่อ.................................................ผู้อนุมัติแผน (นางจริ ชั ยา เฟอื่ งฟูรัตน)์ ผ้อู านวยการ กศน.อาเภอสามโก้ รกั ษาการในตาแหนง่ ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอแสวงหา

~ 41 ~ บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ รายวชิ า ระดับ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี จานวนผเู้ รียนท้ังหมด เร่อื ง จานวน คน เข้าเรียน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ผลการจดั การเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาทเี่ กิดข้นึ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ผู้สอน () ความคิดเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษา แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี เร่อื ง . มีคณุ ภาพระดบั  ดมี าก  ดี  ปานกลาง  ควรปรับปรุง ขอ้ สังเกต เพมิ่ เติม………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชือ่ ผูบ้ ริหารสถานศึกษา

~ 42 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ ฐานเรียนรู้ “แปรรปู ปลายทางสผู่ บู้ ริโภค” เวลา 1 ชั่วโมง วตั ถุประสงค์ กระบวนการจัดการเรียนรู้ สอื่ วัสดุ อปุ กรณ์ การประเมินผล หมายเหตุ 1. มีความรคู้ วาม ๑. ขั้นนาเขา้ สู่บทเรียน 1.แผ่นพับ 1.ผลงานท่ีได้ เขา้ ใจในการถอด - วิทยากรอธบิ ายหลกั ปรัชญาของ 2.เหด็ นางฟูา 2.การสังเกต บทเรียนหลกั เศรษฐกจิ พอเพียง (2 เงื่อนไข 3.นา้ มัน ปรัชญาของ 3 หลกั การ 4 มติ ิ 4.น้าตาลปีบ๊ เศรษฐกจิ พอเพียง 2.ขัน้ จดั การเรยี นรู้ 5.เกลือ (2 เงื่อนไข - วทิ ยากรอธบิ ายวัสดอุ ปุ กรณ์ใน 6.กระทะ 3 หลักการ การทาเห็ดสวรรค์ 7.ตาหลิว 4 มติ )ิ -วิทยากรให้ผู้เรยี นไดล้ งมือ 8.เตาแกส๊ 2. มคี วามรู้ความ ปฏิบตั กิ ารทาเห็ดสวรรค์ เขา้ ใจ และมีทักษะ 3.ขนั้ สรุป ในการทาเห็ดสวรรค์ -วทิ ยากรแลกเปล่ียนเรยี นรู้ ซักถาม ขอ้ สงสัย และตรวจ ผลงาน ให้คาแนะนา -วทิ ยากรสรปุ องค์ความรู้ร่วมกับ ผ้เู รียน ลงชื่อ.................................................ผจู้ ัดทาแผน (นางธดิ าสวรรค์ แมลงภ)ู่ ลงชือ่ .................................................ผ้อู นมุ ตั ิแผน (นางจริ ัชยา เฟ่ืองฟูรตั น)์ ผู้อานวยการ กศน.อาเภอสามโก้ รักษาการในตาแหน่ง ผูอ้ านวยการ กศน.อาเภอแสวงหา

~ 43 ~ บันทกึ ผลการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ า ระดบั แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี จานวนผเู้ รยี นทง้ั หมด เรือ่ ง จานวน คน เขา้ เรียน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ผลการจัดการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาที่เกดิ ข้ึน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกป้ ัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ผู้สอน () ความคิดเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษา แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี เร่อื ง . มีคณุ ภาพระดบั  ดีมาก  ดี  ปานกลาง  ควรปรบั ปรุง ข้อสังเกต เพิ่มเติม………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา

~ 44 ~ แผนการจดั การเรียนรู้ ฐานเรียนรู้ “การปลูกผักไร้สารเคมี” เวลา 1 ชัว่ โมง วตั ถุประสงค์ กระบวนการจดั การเรียนรู้ สือ่ วัสดุ อปุ กรณ์ การประเมนิ ผล หมายเหตุ 1. มคี วามร้คู วาม ๑. ขั้นนาเขา้ สู่บทเรียน 1. แผน่ พบั 1. ผลงานที่ได้ เข้าใจในการถอด 2. การสังเกต บทเรยี นหลัก - วทิ ยากรอธิบายหลักปรัชญา 2. จอบ ๓. ประเมินผล ปรชั ญาของ ความร้คู วาม เศรษฐกิจพอเพียง ของเศรษฐกิจพอเพยี ง (2 3. ฟางข้าว เขา้ ใจ (2 เงื่อนไข ๔. ประเมินผล 3 หลกั การ เง่อื นไข 4. เมล็ดพนั ธ์ุ การปฏบิ ตั ิ 4 มติ )ิ 2. มีความรู้ความ 3 หลกั การ 4 มติ )ิ 5. คราด เขา้ ใจ และมที กั ษะ ในการปลกู ผักไร้ 2.ขั้นจดั การเรียนรู้ สารเคมี - วทิ ยากรอธิบายเกีย่ วกบั การ ปลกู พชื ผกั - วทิ ยากรอธิบายวสั ดอุ ุปกรณใ์ น ปลูกผัก - วทิ ยากรให้ผู้เรียนไดล้ งมอื ปลกู ผัก 3.ขนั้ สรปุ - วิทยากรแลกเปล่ียนเรียนรู้ ซกั ถาม ขอ้ สงสัย และตรวจ ผลงาน ใหค้ าแนะนา - วทิ ยากรร่วมกบั ผ้เู รียนสรปุ บทเรยี น และถอดองค์ความรู้ - ทาแบบประเมินผลความพงึ พอใจฐานการเรียนรู้ ลงชื่อ.................................................ผูจ้ ดั ทาแผน (นายพชิ ชานันท์ ชัยสุวรรณ์) ลงชอ่ื .................................................ผู้อนมุ ัติแผน (นางจิรชั ยา เฟื่องฟรู ตั น)์ ผ้อู านวยการ กศน.อาเภอสามโก้ รกั ษาการในตาแหนง่ ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอแสวงหา

~ 45 ~ บนั ทึกผลการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ า ระดบั แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ จานวนผเู้ รียนท้งั หมด เรื่อง จานวน คน เขา้ เรียน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ผลการจัดการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาทเี่ กดิ ขนึ้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกป้ ญั หา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ผู้สอน () ความคิดเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี เรอ่ื ง . มีคณุ ภาพระดับ  ดมี าก  ดี  ปานกลาง  ควรปรบั ปรงุ ขอ้ สงั เกต เพม่ิ เติม………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่ือ ผู้บริหารสถานศกึ ษา