Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ 1/2564

แผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ 1/2564

Published by นายชัยธวัช สมนึก, 2022-07-23 18:06:59

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ 1/2564
กศน.อำเภอแสวงหา สำนักงาน กศน.จังหวัดอ่างทอง

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้,แผน กศน.

Search

Read the Text Version

~ 98 ~ กระบวนการจัดการเรยี นรู้และกิจกรรมเพิ่มเติม ข้นั ท่ี 1 การกําหนดสภาพ ปญั หา ความต๎องการในการเรียนรู๎ - ครพู ูดคุยกบั ผู๎เรียนในเรือ่ งของการดแู ลตวั เองเพือ่ ปอู งกนั โรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19) - ครพู ูดคุยกบั ผ๎ูเรยี นในเร่ืองความเป็นมาและสาเหตุของการเปลีย่ นแปลงรัฐธรรมนญู ความหมายของประชาธปิ ไตย สทิ ธเิ สรีภาพ บทบาทหน๎าทขี่ องพลเมืองในวิถปี ระชาธปิ ไตย ข้ันตอนท่ี ๒ การแสวงหาขอ๎ มูลและจัดการเรียนร๎ู - ครพู ดู คุยกับผูเ๎ รียนในเรื่องของการดแู ลตัวเอง เพื่อปอู งกันโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19) - ครกู ลาํ วทักทาย นักศกึ ษาค๎นควา๎ ในหนงั สอื เรียนเรอ่ื งการมสี วํ นรํวมในการปฏิบัตติ นตาม กฎหมาย - ใบงานที่ 5 เร่ือง ทาํ แบบฝึกหดั เร่อื งสทิ ธเิ สรีภาพ บทบาทหนา๎ ทขี่ องพลเมืองในวิถี ประชาธิปไตย - ความหมายของประชาธปิ ไตย - หลกั การสาํ คัญของการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย - ลกั ษณะของสังคมประชาธปิ ไตย - ความสาํ คัญของการปฏิบัติตนเปน็ พลเมืองดีตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย ข้ันตอนที่ 3 การปฏบิ ัตแิ ละนําไปประยกุ ต์ใช๎ 1. ใหผ๎ ูเ๎ รียนของแตลํ ะกลํมุ ระดมความคดิ ในการจัดทํากจิ กรรมบันทกึ รายงาน 2. ใหผ๎ ูเ๎ รียนแสดงความคิดเห็น ลงในใบงาน 3. ครใู ห๎ตวั แทนของแตลํ ะคนนําเสนอผลงาน 4. ครแู ละผ๎ูเรียนสรุปสิง่ ท่ไี ดเ๎ รียนร๎รู วํ มกนั และผู๎เรยี นบันทึกสรปุ ส่งิ ที่ไดเ๎ รยี นรล๎ู ง ในสมุดบนั ทกึ กิจกรรม ขัน้ ตอนที่ 4 การประเมินผล - ครูสงั เกตการทํากจิ กรรมกลุํม การมีสวํ นรวํ มและการนาํ เสนอภายในกลมํุ ของผเู๎ รียน - ครแู ละผ๎ูเรียนสรปุ สงิ่ ที่ไดเ๎ รยี นร๎รู วํ มกนั และผเู๎ รยี นบนั ทกึ สรุปสิ่งทไ่ี ดเ๎ รยี นร๎ูลงในสมดุ บันทึกกิจกรรม - แบบทดสอบความรู๎ การมอบหมายงานให๎ผู๎เรยี นไปเรียนร๎ูดว๎ ยตวั เอง ครูมอบหมายงานให๎ ผ๎ูเรยี นไป สอื่ การเรียนรู้ 1. หนงั สอื แบบเรียน 2. ใบความรู๎ 3. อินเตอรเ์ นต็

~ 99 ~ การวัดผลและประเมนิ ผล 1. วิธกี ารวดั - การสงั เกตพฤติกรรมจากการพบกลมํุ - การมสี วํ นรวํ มในการแสดงความคดิ เห็น 2. เครอ่ื งมือ - ใบงาน เกณฑ์การวดั ผลประเมินผล 1. นกั ศึกษามีผลคะแนนในการทดสอบไมํน๎อยกวําร๎อยละ 50 2. การมีสํวนรวํ มในกิจกรรมกลํุม แหลง่ การเรยี นรู้/สืบคน้ ขอ้ มูลเพิม่ เติม 1. ห๎องสมุดประชาชน 2. กศน. ตาํ บล 3. แหลํงเรยี นร๎ูสารสนเทศ 4. Internet

~ 100 ~ ใบความรู้ เรอื่ ง ความรู้เบือ่ งตน้ เกย่ี วกับกฎหมาย 1. ความหมายของกฎหมาย ได๎มผี ูใ๎ ห๎ความหมายของกฎหมายไว๎ดงั น้ี กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระบิดาแหํงกฎหมายไทย ได๎ให๎คําจํากัดความไว๎วํา “กฎหมาย คอื คาํ สั่งทงั้ หลายของผูป๎ กครองวาํ การแผนํ ดินตํอราษฎรท้ังหลาย เม่ือไมํทําตาม ธรรมดาต๎องลงโทษ” ดร.สายหยดุ แสงอทุ ัย ไดใ๎ หค๎ วามหมายไวว๎ ํา “กฎหมาย คือ ขอ๎ บังคับของรัฐซึ่งกําหนดความประพฤติ ของมนษุ ย์ ถา๎ ฝุาฝนื จะไดร๎ ับผลรา๎ ยหรือถูกลงโทษ” สรุป กฎหมาย คือ ข๎อบังคับของรัฐที่ใช๎ควบคุมความประพฤติของคนในประเทศ โดยมี จุดมํุงหมายที่จะค๎ุมครองประโยชน์รักษาความสงบเรียบร๎อยในการอยูํรํวมกันในสังคม ผ๎ูใดฝุาฝืน จะตอ๎ งถกู ลงโทษ 2. ความสาคัญของกฎหมาย 2.1 มีความเกี่ยวข๎องกับมนุษย์ต้ังแตํเกิดจนตาย เชํน เกิด เก่ียวข๎องกับกฎหมายบุคคล กฎหมายทะเบียนราษฎร, โตข้ึน เก่ียวข๎องกับ พ.ร.บ. การศึกษาแหํงชาติแตํงงาน เก่ียวข๎องกับ กฎหมายครอบครัว, ตาย กฎหมายมรดก กฎหมายทะเบยี นราษฎร 2.2 เปน็ เครื่องมอื สร๎างระเบียบให๎สังคมและประเทศชาติ 2.3 กํอให๎เกิดความเปน็ ธรรมในสังคม 3. ลกั ษณะทวั่ ไปของกฎหมาย 3.1 กฎหมายมลี กั ษณะเป็นขอ๎ บังคบั ดังน้ี 3.1.1 บังคับให๎ทํา เชํน ชายไทยต๎องเกณฑ์ทหาร ผู๎มีรายได๎ต๎องเสียภาษี เด็กต๎องเข๎า เรยี นตาม พ.ร.บ. การศกึ ษา ฯลฯ 3.1.2 บงั คับไมใํ หท๎ ํา เชนํ หา๎ มทําร๎ายรํางกาย ห๎ามลกั ทรัพย์ ฯลฯ 3.2 กฎหมายมีลักษณะเป็นคําส่ังที่มาจากผู๎มีอํานาจสูงสุดในประเทศ เชํน ประเทศที่มีการ ปกครองระบอบประชาธิปไตย มีรัฐสภาเป็นผู๎ออกกฎหมาย และพระราชบัญญัติ มีรัฐบาลเป็นผ๎ูออก พระราชกาํ หนด พระราชกฤษฎีกา และกฎกระทรวง 3.3 กฎหมายเป็นข๎อบังคบั ท่ีใชไ๎ ดท๎ ัว่ ไปกับทุกคน โดยไมเํ ลือกปฏิบัติ 3.4 ผ๎ทู ่ีฝุาฝืนกฎหมายตอ๎ งได๎รับโทษ 4. ความจาเปน็ ทต่ี อ้ งเรยี นรกู้ ฎหมาย ในฐานะที่เราเป็นสมาชิกของสังคมจึงมีความจําเป็นต๎องศึกษาและเรียนรู๎ ทําความเข๎าใจใน กฎหมายตําง ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ๎ งกบั ตัวเรา และสังคมที่เราอยูํ ทงั้ นี้ก็เพ่อื กอํ เกดิ ประโยชน์ตํอตนเอง ซ่ึงได๎แกํ 4.1 รู๎จักระวังตน ไมํเผลอ หรือพล้ังกระทําความผิดโดยไมํร๎ูตัว เนื่องมาจากเพราะไมํร๎ู กฎหมายและเป็นเหตุให๎ตอ๎ งไดร๎ บั โทษตามกฎหมาย 4.2 ไมใํ ห๎ถูกผ๎อู ื่นเอาเปรียบและถูกฉ๎อโกง โดยที่เราไมมํ ีความรู๎เรอื่ งกฎหมาย 4.3 กํอเกิดประโยชน์ในการประกอบอาชีพ ถ๎าหากร๎ูหลักกฎหมายท่ีเกี่ยวกับการประกอบ อาชพี ของตนเอง แลว๎ ยํอมจะปูองกนั ความผิดพลาดอันเกดิ จากความไมํรกู๎ ฎหมายในอาชพี ได๎ 4.4 กอํ ให๎เกดิ ประโยชน์ทางการเมืองการปกครองของประเทศ เพราะเมอื่ ประชาชนรู๎จักใช๎ สิทธแิ ละหน๎าทีข่ องตนเองตามกฎหมายแลว๎ ยํอมทาํ ใหส๎ ังคมเกิดความสงบเรยี บรอ๎ ย 5. กฎหมายสงู สุดของประเทศไทย คือ รัฐธรรมนญู แหงํ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2560 ฉบับที่ 20 มี 16 หมวด 279 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล

~ 101 ~ ใบงานที่ 6 เรอ่ื ง กฎหมายของไทย วชิ าศาสนาและหน้าทพี่ ลเมือง (สค 11002) ระดับประถมศึกษา คาชแี้ จง จงตอบคาํ ถามใหถ๎ ูกต๎อง ครบถว๎ น 1. บิดาแหงํ กฎหมายไทย ................................................................................................................................................................ 2. กฎหมาย หมายถึง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 3. จงบอกลักษณะทว่ั ไปของกฎหมาย ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 4. กฎหมายมคี วามสาํ คญั อยาํ งไรในปจั จุบนั ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 5. กฎหมายสูงสดุ ของประเทศไทยในปจั จบุ นั คือ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

~ 102 ~ รายวิชาภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน พต 1100๑ กจิ กรรมการเรยี นรู้ รายวชิ าภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน พต 1100๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา 256๔ หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับประถมศึกษา ที่ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สถานท่ี กศน.อําเภอแสวงหา 1 กจิ กรรมการเรียนการสอน ครัง้ ที่ 1 กศน.อาํ เภอแสวงหา 1. การทักทายและตอบรับการทกั ทายเพอื่ สรา๎ งความสัมพันธ์ระหวํางบคุ คล กศน.อําเภอแสวงหา 2. แนะนาํ ตวั เองและแนะนาํ ผูอ๎ ืน่ ตามมารยาทท่ีดที างสงั คม กศน.อําเภอแสวงหา ๒ กิจกรรมการเรียนการสอน ครงั้ ท่ี ๒ กศน.อําเภอแสวงหา 1.การกลาํ วลาและตอบรับการกลําวลาตามความเหมาะสมในโอกาสตาํ ง ๆ 2.เขยี น อาํ นพยญั ชนะ สระ และประสมคําภาษาอังกฤษ ๓ กิจกรรมการเรียนการสอน ครั้งที่ ๓ ๑.ใชจ๎ ํานวนนับและลาํ ดบั ทไ่ี ดถ๎ ูกตอ๎ ง 2.รู๎จักคํานามและวิธีการใช๎รวมทั้งใชค๎ ําศพั ท์เกย่ี วกับ วัน เดือน ปี สี เครือ ญาติ เคร่ืองใช๎ และสภาพดินฟูาอากาศ ๔ กจิ กรรมการเรียนการสอน คร้งั ท่ี ๔ 1.เขา๎ ใจความหมายของสญั ลกั ษณท์ ใ่ี ชท๎ ่ัวไป 2.ใช๎ประโยคขอรอ๎ ง ออกคําสง่ั และขอโทษ ๕ กจิ กรรมการเรียนการสอน ครง้ั ท่ี ๕ 1.สร๎างประโยคความเดียวและเลาํ เรื่องเก่ยี วกบั ตนเองโดยใช๎ PresentSimple Tense, Present Continuous Tense และ Future Simple Tense 2.ใชป๎ ระโยคคาํ ถามประโยคคาํ ตอบและใชค๎ ําสรรพนาม คาํ บุพบท และ คาํ คณุ ศัพทไ์ ด๎ถกู ตอ๎ ง

~ 103 ~ คาอธบิ ายรายวิชา รายวิชาภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน (พต 11001) จานวน 3 หนว่ ยกติ ระดับประถมศกึ ษา มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ มีความร๎ู ความเข๎าใจ ทักษะและเจตคติเกี่ยวกับ การฟัง พูด อําน เขียน ภาษาตํางประเทศ เพ่ือการ ส่ือสารในชวี ติ ประจาํ วันได๎ถกู ต๎องตามหลกั ภาษาและวฒั นธรรมของเจา๎ ของภาษา ศึกษาและฝึกทกั ษะเก่ียวกับเรอ่ื งดงั ตอ่ ไปน้ี ๑. วิธีการทกั ทาย (Greeting) การแนะนํา (Introduction) ตวั เองและผอ๎ู ่ืน และการกลําวลา (Leave Taking) รวมทั้งการตอบรับทั้งอยํางเป็นทางการและไมํเป็นทางการที่ถูกต๎องตามหลักภาษา และวัฒนธรรมของเจ๎าของภาษา ๒. การอําน เขียน และออกเสียงพยัญชนะ สระ และการประสมคําภาษาอังกฤษท่ีถูกต๎อง การใช๎ จํานวนนบั ลําดับท่ี และการใช๎คาํ ศัพท์รวมทงั้ สญั ลักษณ์ตําง ๆ ท่พี บในชีวติ ประจาํ วันโดยทัว่ ไป ๓. การใช๎ประโยคขอร๎อง คําส่ัง และขอโทษท่ีถูก ต๎องตามกาลเทศะ โครงสร๎างของประโยค ความเดียว (Simple Sentence) ใน Present Simple Tense, Present Continuous Tense และ Future Simple Tense การใช๎ประโยคคําถามและคําตอบงําย ๆ รวมทั้งการใช๎คําสรรพนาม คาํ บพุ บท และคําคุณศพั ทพ์ น้ื ฐาน การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ๑. ฝึกฟัง พูด อําน เขียนในการทักทาย แนะนํา และ กลําวลา ที่สามารถนําไปใช๎ใน ชวี ิตประจาํ วนั ๒. ฝึกฟัง พูด อําน เขยี น ใหถ๎ กู ตอ๎ งและเหมาะสมกับสถานการณ์ ๓. ฝึกการใช๎ประโยคตําง ๆ คําสรรพนาม คําบุพบท และคําคุณศัพท์ได๎สอดคล๎องกับ ชวี ิตประจาํ วัน และการประกอบอาชพี การวดั และประเมนิ ผล ๑. ตรวจสอบดว๎ ยวธิ ีการท่เี หมาะสมและแสดงให๎เห็นวําสามารถนําไปใชใ๎ นชีวิตจริง ๒. ตรวจสอบการอํานคําศัพท์ จํานวนนับ ลําดับที่ และสัญลักษณ์ได๎ถูกต๎อง และอธิบาย ความหมายของคาํ ศัพท์ จํานวนนบั ลาํ ดับทีแ่ ละสญั ลกั ษณ์ตาํ ง ๆ ๓. ตรวจสอบการใช๎ประโยค คําสรรพนาม คําบุพบท และคําคุณศัพท์ให๎ถูกต๎อง ตามสถานการณ์

~ 104 ~ รายละเอียดคาอธบิ ายรายวิชา รายวชิ าภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน (พต 11001) จานวน 3 หนวยกิต 80 ช่ัวโมง ระดบั ประถมศกึ ษา มาตรฐานการเรียนรรู๎ ะดับ มีความรู๎ ความเขา๎ ใจ ทักษะและเจตคติเก่ยี วกับ การฟงั พดู อาํ น เขยี น ภาษาตํางประเทศ เพ่อื การสื่อสารในชีวิตประจาํ วนั ได๎ถูกตอ๎ งตามหลกั ภาษาและวัฒนธรรมของเจา๎ ของภาษา ที่ หวั เรอ่ื ง ตวั ช้ีวดั เนื้อหา จานวน ชว่ั โมง ๑ การทกั ทาย 1.ทักทายและตอบรับการการทกั ทายและ 1. การทักทายชํวงเวลาตํางๆ 2 และ การ ตอบรับการทกั ทายเพอ่ื Good morning. ตอบรบั การ 2. ทกั ทายเพือ่ สร๎างความสัมพนั ธส์ รา๎ ง Good afternoon. ทกั ทาย ความสมั พันธ์ระหวาํ งบุคคล Good evening. (Greeting) ระหวาํ งบุคคล 2. การทักทายบคุ คลเม่ือพบครัง้ แรก 3 A : How do you do? B : How do you do? A : Nice to meet you. B : Nice to meet you, too. 3. การทักทายบุคคลท่ีร๎ูจักมากํอน 4 A : How are you? B : Fine, thanks. And you? 2 การแนะนาํ แนะนาํ ตนเองและ แนะนําผูอ๎ ่ืนตาม 1. การแนะนําคนเองและการ 4 ตนเอง และ มารยาท ท่ดี ีทางสังคม แนะนําผอ๎ู ื่นตามมารยาทท่ดี ีทาง การแนะนํา สังคม ผ๎อู ่ืน I. การแนะนาํ ตนเองกับผอ๎ู นื่ (Introducing) Rose : Hello, I am Rose. Cherry : Hello, I am Cherry. 2 การแนะนําผู๎อ่ืนใหร๎ ๎จู ักกัน 6 John : Hi Judy. Judy : Hi John. John : Judy this is Sandra. Judy : Hello Sandra, please to meet you. Sandra : Hello Judy, I'm please to meet you, too.

~ 105 ~ ที่ หัวเร่อื ง ตวั ช้ีวัด เนื้อหา จานวน ชวั่ โมง 3 การกลําวลา กลําวลาและตอบรบั การกลําวลาตาม การกลําวลาและตอบรับการกลําวถา และการตอบ ความเหมาะสมในโอกาส ตาํ ง ๆ ตามความเหมาะสมในโอกาสตาํ ง ๆ รบั การกลาํ ว ลา (Leave 1. การกลําวลาในโอกาสตาํ ง ๆ 3 Taking) ได๎แกํ 1.1 การกลําวลาหลังพูดคยุ กันแล๎ว A : Good-bye. B : Good-bye. See you later. 1.2 การกลําวลากํอนเดนิ ทาง 3 12 1 กรณสี ํงชาวตาํ งชาติดนิ ทาง กลับบา๎ น A : Hneasde jumy bok hme. B : Thank you. 1.2.2 อาจพดู ดว๎ ยขอ๎ ความส้นั ๆ 3 A : Bon voyage! B : Thank you. A : I'll have a meeting in five minutes. Bye now. B : O.K. Bye. I'll call you later. 1.3 การกลําวลาหลงั งานเล้ียงเลกิ 3 A : Thank you for this lovely meal. B : You're welcome. Byc. A : Bye! 1.4 การกลําวลากอํ นเขา๎ นอบ 3 A : Good night B : Good night. A : Sleep well. Good night B : Thank you. Good night 2. การตอบรบั การกลาํ วลาในโอกาส 6 ตําง ๆ - Good-bye. - Bye. - See you. - Good night. - See you later -. I'll call you later.

~ 106 ~ ที่ หัวเร่อื ง ตวั ชีว้ ัด เนื้อหา จานวน ชัว่ โมง 4 การเขยี นการ เขียนอาํ นพยญั ชนะ สระ และประสมคํา พชญั ชนะ สระ และการประสมคาํ อาํ นพยญั ชนะ ภาษาอังกฤษ 1. การเขียนพชัญชนะ 2 สระและการ การเพีเนพยัญชะตัวพมิ พใ์ หญํ เละ 4 ประสมคาํ ตวั พิมพ์ ด็ก 10 ดว๎ ขยี นใหญแํ ละตัวเขยี นเลก็ 5 จาํ นวนนบั ใช๎จาํ นวนนับและ ลาํ ดับทไ่ี ด๎ถูกตอ๎ ง 2. การออกเสียงสระเทแ๎ ละสระ 2 และ ลาํ ดบั ที่ ประสม 3. วิธีการประสมคาํ 2 3.1 คําประกอบด๎วยพชัญชนะและ สระแท๎ a, c,i, ๓, u เชนํ d*o- do 3.2 คําประกอบดว๎ ยพชญั ชนะ สระ แท๎ และ ตวั สะกด เชนํ bratt - bal s*i+i - sil s+u+n - sมท 3.3 คําประกอบดว๎ ยอักษรนาํ 2 ตัว เชนํ gltatd \" glad pl+atn - plan 3+0+-spo pl-uim . plum จํานวนนบั และลําดบั ท่ี 1. การอํานและการเขียนจํานวนนับ เชนํ one-ten eleven-twenty twenty one - ninety nine one hundred one thousand one million etc. 2. การอาํ นและการเขียนลําดบั ที่ เชนํ first, second, third, fourth, fitth. sixth, seventh, eighth. ninth.tenth etc.

~ 107 ~ ท่ี หวั เรือ่ ง ตัวชวี้ ดั เนอื้ หา จานวน ชัว่ โมง 6 คาํ นาม ๎ร๎จู ักคาํ นามและวิธีการใช๎ รวมทั้งใช๎ ลักษณะคาํ นามและวิธกี ารใชค๎ าํ นาม (Noun) และ คาํ ศัพท์ เกย่ี วกับวันเดือน ปี สี เครือ และคําศพั ท์ คาํ ศพั ทห์ มวด ญาติ เครอื่ งใช๎ ในชวี ิตประจําวนั และ หมวดตํางๆ ตาํ ง ๆ สภาพดินฟาู อากาศ อยาํ งงาํ ย ลักษณะและวธิ ีการใชค๎ าํ นาม 1.1 คํานามมี 2 ลักษณะ คือ 2 คาํ นามนบั ได๎ (Countable Noun) และคาํ นาม นบั ไมไํ ด๎ (Uncountable Noun) 1.2 คาํ นามนบั ได๎ เชํน a cat, two 2 sisters, five stars, seven horses เปน็ ตน๎ คํานามนบั ไมไํ ด๎ เชนํ milk, sugar, butter, water เป็นต๎น 2. คําสัพทเ์ กย่ี วกับวัน เดือน ปี 2.1 คําศัพทเ์ กีย่ วกับ วันเชํน 1 Sunday Monday, Tuesday, Wednesday, Thursday, Friday,Saturday 2.2 ดําศพั ทเ์ ก่ียวกบั เตอื น เชํน 2 January, February, March, Aprl, May, June, July, August, Seplember, October, November,December 2.3 คําศัพทเ์ กย่ี วกับปี เชนํ 2 2008 - hwo thousand and cight 1995 - nineteen minely live last year, this yeur, next year ele. 3. คาํ สัพทเ์ กย่ี วกับสี เชนํ black, 1 red, purple yelluw, gray, green, light blue, dark brown เปน็ ต๎น 4. คําศัพทเ์ ตย๋ี วกบั เครอื ญาติ เชนํ fitber mother, sister, brother, aunt, nde เปน็ ต๎น

~ 108 ~ ที่ หัวเรื่อง ตวั ชวี้ ัด เนอื้ หา จานวน ชั่วโมง ร. คําศพั ทเ์ ท่ียวกบั เคร่ืองไชใ๎ น ชีวิตประจาํ วัน เชนํ plate, lork and ypoon, glass, tuble, char bed, bench, pun. lamp, beille เปน็ ตน๎ คําคพั ท่เี ต๋ยี วกับสภาพดินพอิ ากาศ เชนํ cludy, winly ,rimy.sunny.cold warm เป็นต๎น 7 สัญลกั ษณ์ เข๎าใจความหมายของ สญั ลกั ษณท์ ี่ใช๎ สญั ลักษณ์ 2 ทว่ั ไป 1. สญั ลกั ษณ์ตามทอ๎ งถนน เชนํ No 2 Parking, 2 8 การขอรอ๎ ง ใชป๎ ระโยคขอร๎อง ออกคาํ สัง่ และขอโทษ No Entry, Turn left, Turn Right, การออกคําส่ัง U-Turn 6 และ การขอ เปน็ ตน๎ โทษ 2. สญั ลักษณต์ ามโรงพยาบาล เชนํ Danger, In /Out, Entrance, Exit , No Smoking, No Mobile Phone เปน็ ต๎น 3. สญั ลักษณ์บริเวณโรงเรยี น เชํน Keep off the grass, Toilet , Roundabout, One-way, School Zone เป็นต๎น สัญลกั ษณต์ ามรา๎ นอาหาร เชํน No Pets, Telephonc, Reserved เป็นตน๎ ประโยคขอร๎อง ออกคาํ ส่ังและขอ ไทษ 1. การพูด ขอรอ๎ งและการตอบรับ 1.1 ประโยคขอรอ๎ ง เชํน - Please open the window. - Please wash these dishes. - Quiet please. - Speak louder, please. elc. 1.2 การตอบรับ เชนํ Alright. No problem O.K. elc.

~ 109 ~ ที่ หวั เร่ือง ตัวชีว้ ดั เนอื้ หา จานวน ช่วั โมง 2. การออกคาํ สั่งและการตอบรบั 2.1 ประโยคคําสง่ั เชํน 6 - Come here. Stop. 6 - Sit down. - Stand up etc. 2.2 การตอบรับ เชนํ -O.K. - Alright etc 3. ประโยดขอโทยและการคอบรับ 3.1 ประโขคขอไทย เชนํ - I'm sorry. I don't know the answer I'm sorry. I'm late. I'm surry. I forget to do my home work. eie 3.2 การตอบรบั งชน That's alnght Thal'sOk Don t worty 9 ประโยค สรา๎ งประโยคความเดยี ว และเลาํ เรื่อง การใช๎ Tense อยํางงํายสรา๎ งประ 6 ความเดียว เกยี่ วกบั ตนเองโดยใช๎ Present Simple โยค ความเดยี ว (Simple Tense, Present Continuous Tense เพ่ือเลาํ เรื่องเก่ียวกบั ตนเอง Sentence ) และ Future Simple Tense 1. ลกั ษณะของประโยคที่ใช๎ Present-Simple Tense เลาํ เร่ืองเก่ียวกบั ตนเอง เชํน - My name is Sam. - I am Sam. - I am a worker. - I live in Bangkok. - I will move to my new office. - I will work in a Japanese factory. - I will stay near my office. - I will walk to my office. etc.

~ 110 ~ ที่ หัวเรอ่ื ง ตัวชว้ี ัด เนอื้ หา จานวน ชัว่ โมง 10 ประโยค ใชป๎ ระโยคคาํ ถาม ประโยคคําตอบ และ ประโยคคาํ ถามและประโยคคาํ ตอบ คําถาม ใชค๎ าํ สรรพนาม คาํ บุพบท และ คําสรรพนามคาํ บพุ บท และ 3 ประโยค คาํ คณุ ศพั ท์ อยาํ งงาํ ยได๎ถูกต๎อง คําคุณศพั ท์ คาํ ตอบ คาํ 1. คาํ สรรพนาม เชํน I, you, he, 3 สรรพนาม คาํ she; it, we, 2 บพุ บท และ they, me, her, him, them, our คาํ คณุ ศพั ท์ เปน็ ต๎น 2 2. คาํ บพุ บท เชนํ in, at, on, under, of, by, out เป็นต๎น 3.คาํ คณุ ศัพท์ เชํน grcen, yellow, warm, cool, fat, small, tall, shor, long, good เปน็ ตน๎ 4ประโยคคําถามและประ โยค คําตอบ เชํน - What is your name? - My name is Sally - Where is your home? - My home is on New Road. - When do you get up? - I get up at six o'clock. - What time do you go to bed? .- I go to bed at ten. etc.

~ 111 ~