Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือคู่มือการจัดการสาธารณภัยสำหรับผู

หนังสือคู่มือการจัดการสาธารณภัยสำหรับผู

Description: หนังสือคู่มือการจัดการสาธารณภัยสำหรับผู

Search

Read the Text Version

คมู อื การจัดการสาธารณภัย สาํ หรับผอู าํ นวยการอาํ เภอ ¡ÃÁ»‡Í§¡¹Ñ áÅкÃÃà·ÒÊÒ¸ÒóÀÑ ¡ÃзÃǧÁËÒ´ä·Â Department of Disaster Prevention and Mitigation Ministry of Interior, Thailand

ค�ำน�ำ คู่มอื การจัดการสาธารณภัยส�ำหรบั ผ้อู ำ� นวยการอ�ำเภอฉบับน้ี จดั ท�ำขนึ้ เพ่อื ส่งเสริมความรูค้ วามเขา้ ใจ ในแนวทางการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัย และแนวปฏิบัติในระดับท้องที่ เพื่อให้นายอ�ำเภอในฐานะ ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐ สามารถน�ำไปปรับ หรือประยุกต์ใช้ในพ้ืนที่รับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมท้ังมีแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้องตามระเบียบ และกฎหมายทเี่ กย่ี วขอ้ ง โดยคมู่ อื การจดั การความเสยี่ งจากสาธารณภยั สำ� หรบั ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอ มสี าระหลกั การ แนวทาง และแนวปฏิบัติเป็นไปตามวงจรการจัดการความเสย่ี งจากสาธารณภยั ท้ังนี้ เนื้อหาของคู่มือครอบคลุมบทบาท และอ�ำนาจหน้าท่ีในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ของผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอ แผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั อำ� เภอ การขบั เคลอ่ื นกลไกการจดั การความเสย่ี ง จากสาธารณภัย และแนวปฏิบัติในระดับท้องที่ที่ต้องด�ำเนินการใน ๓ ระยะตามวงจรภัย ได้แก่ ก่อนเกิดภัย ประกอบด้วย การวิเคราะห์และการประเมินความเส่ียงจากสาธารณภัย การมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกัน และลดความเสี่ยง/ลดผลกระทบจากสาธารณภยั การเตรยี มพรอ้ มในการจัดการสาธารณภยั ในพืน้ ท่ี การจัดการ ทรพั ยากรในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหลง่ ทรพั ยากรสนบั สนนุ รวมทง้ั การเฝา้ ระวงั และการแจง้ เตอื น ขณะเกิดภัย ประกอบด้วย การขับเคล่ือนศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อ�ำเภอในการจัดการภาวะฉุกเฉิน การใช้เงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลัง การรายงานสาธารณภัย การส่ือสารเพื่อสร้างการรับรู้ ให้ประชาชนในพ้ืนที่ การจัดการและการขอรับการสนับสนุนทรัพยากรในการจัดการภาวะฉุกเฉิน หลักปฏิบัติ ในการจดั การเหตกุ ารณส์ ำ� หรบั พนื้ ทเ่ี ฉพาะการใหค้ วามชว่ ยเหลอื และสงเคราะหผ์ ปู้ ระสบภยั เบอื้ งตน้ และแนวทาง การใช้เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และสุดท้ายหลังเกิดภัย ประกอบด้วย การประเมินและส�ำรวจความเสยี หายเพอื่ การฟน้ื ฟูเบื้องตน้ นอกจากน้ี คูม่ อื ฉบบั น้ี ยังได้รวบรวมสรุปกฎหมาย และระเบยี บทเ่ี กยี่ วขอ้ ง คำ� สง่ั ทใ่ี ชใ้ นการอำ� นวยการ สงั่ การของผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอ ประกาศ/ระเบยี บ แบบรายงาน ตลอดจนแบบฟอร์มต่างๆ รวมท้ังข้อมูลรายการทรัพยากร เคร่ืองจักรกล ยานพาหนะ เครื่องมือและอุปกรณ์ ของศนู ยป์ อ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั เขต ตวั อยา่ งขอ้ ปฏบิ ตั สิ ำ� หรบั ผพู้ กั พงิ ในศนู ยพ์ กั พงิ ชวั่ คราว และแบบประเมนิ ความเสียหายและความต้องการ เพ่ือให้ ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอน�ำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการสาธารณภัยในพื้นท่ี รบั ผิดชอบอีกด้วย ท้ายน้ี ผู้จัดท�ำหวังว่าคู่มือการจัดการสาธารณภัยส�ำหรับผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอนี้ จะอ�ำนวยประโยชน์ ให้ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ รวมท้ังผู้ท่ีเก่ียวข้องในระดับอ�ำเภอให้สามารถน�ำไปปรับใช้ในการจัดการความเส่ียง จากสาธารณภัยในพื้นท่ี เพ่อื ใหป้ ระชาชนมีความปลอดภัยสูงสุดต่อไป นายบุญธรรม เลศิ สุขเี กษม อธิบดกี รมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย ประธานคณะทำ� งานจดั ทำ� คมู่ อื การปฏบิ ัติงานในหนา้ ที่ ส�ำหรับผอู้ �ำนวยการอ�ำเภอ

สารบัญ หนา้ ตอนท่ี ๑ หลกั การจดั การสาธารณภยั ๑ ๑.๑ หลกั การบริหารจัดการความเสย่ี งจากสาธารณภยั ๓ ๑.๑.๑ นยิ ามสาธารณภัย ๓ ๑.๑.๒ วงจรการจัดการความเสย่ี งจากสาธารณภยั ๓ ๑.๑.๓ การจัดการความเสย่ี งจากสาธารณภัย (Disaster Risk Management: DRM) ๔ ๑.๒ บทบาท และอำ� นาจหนา้ ทข่ี องผู้อำ� นวยการอำ� เภอในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ๕ และแผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยอ�ำเภอ ๕ ๑.๒.๑ บทบาทหน้าที่ และอำ� นาจหนา้ ทีข่ องผู้อำ� นวยการอ�ำเภอ ในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย ๙ ๑.๒.๒ แผนการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยอำ� เภอ ๑๐ ๑.๓ การขบั เคลอ่ื นกลไกจดั การความเส่ียงจากสาธารณภยั ระดับอำ� เภอ ๑๐ ๑.๓.๑ กอ่ นเกิดภัย (ภาวะปกต)ิ ๑๑ ๑.๓.๒ ขณะเกิดภัย (ภาวะฉุกเฉิน) ตอนท่ี ๒ การด�ำเนินการกอ่ นเกิดภยั ๑๓ ๒.๑ การวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ความเส่ียงจากสาธารณภัยในพน้ื ที่ ๑๕ ๒.๒ การมีสว่ นร่วมของชมุ ชนในการปอ้ งกันและลดผลกระทบจากสาธารณภัย ๑๕ ๒.๒.๑ การจดั การความเสีย่ งจากสาธารณภยั โดยอาศัยชุมชนเป็นฐาน ๑๕ (Community Base Disaster Risk Management: CBDRM) ๒.๒.๒ เครอื ข่ายดา้ นการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั ทเ่ี ป็นทางการ ๑๖ ๒.๓ การเตรียมความพรอ้ มในการจดั การสาธารณภัยในพ้ืนที่ ๒๔ ๒.๔ การจดั การทรพั ยากรในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั และแหล่งทรัพยากร ๒๘ ๒.๔.๑ บทบาทและอ�ำนาจหนา้ ทใ่ี นการบรหิ ารจัดการทรพั ยากรของผ้อู �ำนวยการอ�ำเภอ ๒๘ ๒.๔.๒ การวางแผนจดั การทรัพยากรลว่ งหน้า ๒๘ ๒.๔.๓ แหล่งทรัพยากรในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ๒๘ ๒.๕ การเฝา้ ระวังและแจ้งเตือนภัย ๓๐

สารบญั (ต่อ) หน้า ตอนที่ ๓ การดำ� เนนิ การในภาวะฉกุ เฉิน ๓๕ ๓.๑ ศูนย์บญั ชาการเหตุการณอ์ �ำเภอ ๓๗ ๓.๒ การใชจ้ า่ ยงบประมาณเพื่อช่วยเหลอื ผู้ประสบภัย ๓๙ ๓.๒.๑ กรณีกอ่ นเกิดภยั หรอื คาดวา่ จะเกดิ ภยั ๓๙ ๓.๒.๒ กรณเี กดิ ภัยพบิ ัตกิ รณฉี ุกเฉินขน้ึ ๔๑ ๓.๓ การรายงานสาธารณภยั ๔๖ ๓.๔ การส่อื สารเพือ่ สร้างการรับร้ใู หป้ ระชาชน ๔๗ ๓.๕ การจดั การและการรอ้ งขอรับการสนบั สนนุ ทรัพยากร ๔๘ ๓.๕.๑ การจดั การทรพั ยากรทใ่ี ชใ้ นเหตกุ ารณ์ ๔๘ ๓.๕.๒ การร้องขอรบั การสนับสนนุ ทรพั ยากร ๔๙ ๓.๖ หลกั ปฏบิ ตั ิในการจดั การเหตกุ ารณส์ ำ� หรับพ้นื ทเ่ี ฉพาะ ๕๐ ๓.๗ การใหค้ วามชว่ ยเหลือและสงเคราะหผ์ ูป้ ระสบภยั ๕๒ ๓.๗.๑ การอพยพ ๕๒ ๓.๗.๒ ด้านการจัดต้งั ศูนยพ์ ักพิงชวั่ คราว ๕๓ ๓.๗.๓ ดา้ นการคน้ หาและกูภ้ ยั ๕๔ ๓.๗.๔ การให้ความชว่ ยเหลอื และสงเคราะหผ์ ู้ประสบภัยของอาสาสมคั รองค์การสาธารณกศุ ล ๕๕ ๓.๗.๕ ผูเ้ ชยี่ วชาญด้านสาธารณภัย ๕๖ ๓.๗.๖ การรับบริจาค การบรหิ ารจัดการสิง่ ของบรจิ าค ๕๖ ๓.๗.๗ การรอ้ งขอรับการสนับสนนุ การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ๕๙ ตอนท่ี ๔ การดำ� เนนิ การหลงั เกดิ ภัย ๖๑ ๔.๑ การประเมิน และส�ำรวจความเสยี หาย เพอ่ื การฟืน้ ฟูเบือ้ งตน้ ๖๓

สารบัญ (ตอ่ ) หนา้ ตอนที่ ๕ ภาคผนวก ๖๕ ๕.๑ สรปุ กฎหมายและระเบียบทีเ่ กี่ยวข้อง ๖๗ ๕.๒ คำ� ส่ังทีใ่ ชใ้ นการอำ� นวยการ ส่ังการของผู้อำ� นวยการอ�ำเภอ ๗๑ ๕.๓ ประกาศ/ระเบยี บ ๗๑ ๕.๔ แบบรายงาน และแบบฟอรม์ ตา่ งๆ ๗๑ ๕.๕ รายการทรัพยากร เครือ่ งจกั รกล ยานพาหนะ เคร่ืองมอื และอปุ กรณ์ของ ๘๑ ศูนย์ปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยเขต ๕.๖ การจัดต้งั ศูนย์พกั พิงชวั่ คราว ๘๖ ๕.๗ ตัวอยา่ งขอ้ ปฏบิ ัตสิ �ำหรับผพู้ กั พิงในศนู ยพ์ ักพิงช่วั คราว ๙๔ ๕.๘ แบบประเมนิ ความเสียหายและความตอ้ งการ ๙๕ ๕.๙ เบอรโ์ ทรศพั ทต์ ดิ ต่อส�ำคญั ๑๑๐

๑ตอนท่ี หลักการจัดการสาธารณภยั

๑ตอนท่ี หลกั การจดั การสาธารณภยั ตอนท่ี ๑ ๑.๑ หลกั การบริหารจัดการความเสย่ี งจากสาธารณภยั ๑.๑.๑ นิยามสาธารณภยั นยิ ามสาธารณภัยบญั ญตั ิไว้ใน มาตรา ๔ แหง่ พระราชบญั ญัติปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั พ.ศ. ๒๕๕๐ “สาธารณภัย” หมายความว่า “อัคคภี ัย วาตภัย อทุ กภยั ภยั แลง้ โรคระบาดในมนษุ ย์ โรคระบาดสัตว์ โรคระบาดสตั วน์ ำ�้ การระบาดของศตั รพู ชื ตลอดจนภยั อนื่ ๆ อนั มผี ลกระทบตอ่ สาธารณชน ไมว่ า่ เกดิ จากธรรมชาติ มีผู้ท�ำให้เกิดข้ึน อุบัติเหตุหรือเหตุอ่ืนใดซ่ึงก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย ของประชาชนหรือความเสียหาย แกท่ รัพย์สินของประชาชนหรือของรฐั และให้หมายความรวมถึงภยั ทางอากาศ และการกอ่ วินาศกรรมด้วย” ๑.๑.๒ วงจรการจดั การความเส่ยี งจากสาธารณภัย เปน็ แนวทางการจดั การความเสย่ี งจากสาธารณภยั ทอ่ี ธบิ ายใหเ้ หน็ ถงึ ลกั ษณะวงจร เพอื่ รบั มอื กบั ภยั การจัดการความเส่ียงจากสาธารณภัยจึงเป็นการจัดการสาธารณภัยแบบองค์รวม (Holistic Approach) เพื่อความปลอดภัยอย่างยั่งยืน ตั้งแต่ระยะก่อนเกิดภัย (การป้องกันและลดผลกระทบ การเตรียมความพร้อม) ระหว่างเกิดภัย (การเผชิญเหตุ และการบรรเทาทุกข์) ตลอดจนหลังเกิดภัย (การฟื้นฟู ระยะส้ัน กลาง ยาว) ทั้งน้ี การด�ำเนินการในแต่ละห้วงเวลาการเกิดสาธารณภัยดังกล่าวนั้น อาจมีความคาบเกี่ยวกัน (Over lap) รวมท้ังห้วงระยะเวลาในการด�ำเนินการแต่ละระยะจะส้ันหรือยาวนานข้ึนอยู่กับความซับซ้อน รุนแรงของภัย เปน็ ส�ำคัญ ดงั แผนภาพท่ี ๑ – ๑ ปรบั จากทม่ี า : TorqAid. (๒๐๑๖). TorqAid disaster risk management framework: seven key diagrams. https://www.preventionweb.net. (๒๐๑๙, November :๒๕) ภาพที่ ๑-๑ วงจรการจดั การความเสี่ยงจากสาธารณภัย (Disaster Risk Management: DRM) เพ่ือความปลอดภัยอย่างย่ังยืน คู่มอื การจดั การสาธารณภัยสำ� หรับผอู้ ำ� นวยการอ�ำเภอ 3

๑.๑.๓ การจัดการความเสีย่ งจากสาธารณภยั (Disaster Risk Management: DRM) เป็นการจัดการกับปัจจัยท่ีท�ำให้เกิดความเสี่ยงผ่านมาตรการต่างๆ ท่ีจะช่วยท�ำให้ผลกระทบ ทอี่ าจเกดิ ขนึ้ จากสาธารณภยั นน้ั ลดนอ้ ยลงทสี่ ดุ เทา่ ทเ่ี ปน็ ไปได้ โดยสามารถแบง่ มาตรการออกเปน็ ๓ ระยะ ไดแ้ ก่ ระยะก่อนเกดิ ภยั ระยะเกดิ ภัย และระยะหลังเกิดภยั (๑) ระยะกอ่ นเกิดภัย l การปอ้ งกนั และการลดผลกระทบ (Prevention and Mitigation) คอื การดำ� เนนิ การ เพ่ือขจัดหรือลดโอกาสท่ีสาธารณภัยจะสร้างผลกระทบต่อบุคคล ชุมชน หรือสังคม เช่น การจัดระบบข้อมูล สารสนเทศ การจัดท�ำแผนที่เส่ียงภัย การจัดท�ำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอ�ำเภอ การแจ้งเตือน และการแจง้ เตอื นลว่ งหนา้ การสง่ เสรมิ การใหค้ วามรแู้ กช่ มุ ชน การปอ้ งกนั โดยใชม้ าตรการเชงิ โครงสรา้ งและมาตรการ ท่ไี ม่ใชโ่ ครงสร้าง ฯลฯ l การเตรียมความพร้อม (Preparedness) คือ การด�ำเนินงานเพ่ือให้ประชาชน หรอื ชมุ ชนมคี วามรแู้ ละทกั ษะตา่ งๆ พรอ้ มทจี่ ะเผชญิ กบั ภยั เชน่ การพฒั นาระบบแจง้ เตอื นภยั และการกระจายขา่ วสาร การวางแผนเผชญิ เหตุ การฝกึ ซอ้ มแผน การจดั ทำ� แผนอพยพและเตรยี มเสน้ ทางอพยพ การเตรยี มการ เพอ่ื สนบั สนนุ ดา้ นเครอ่ื งจกั รกล เครอื่ งมอื และงบประมาณ การฝกึ การปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั การเตรยี มพรอ้ มบคุ ลากร ในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย ฯลฯ (๒) ระยะระหวา่ งเกิดภัย l การเผชิญเหตุ (Response) เป็นการปฏิบัติการเพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สิน ของผปู้ ระสบภยั รวมทง้ั ลดผลกระทบเมอื่ เกดิ สาธารณภยั ขน้ึ ใหน้ อ้ ยลงทส่ี ดุ โดยเนน้ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื กชู้ พี กภู้ ยั การพยาบาลและสาธารณสุข การจัดการระบบบัญชาการเหตุการณ์ การอพยพ การจดั ตงั้ ศนู ยพ์ กั พงิ ชว่ั คราว การประชาสมั พนั ธ์ การสอื่ สาร การประสานงานทจ่ี ะทำ� ใหห้ นว่ ยงานตา่ งๆ สามารถรบั มอื กบั เหตกุ ารณ์ และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และทันท่วงที ทั้งนี้ หากมีการเตรียมการในการเผชิญเหตุให้ดี ตั้งแต่ ในระยะกอ่ นเกดิ ภยั กจ็ ะชว่ ยใหก้ ารดำ� เนนิ งานเมอ่ื เกดิ สาธารณภยั ขนึ้ จรงิ มปี ระสทิ ธภิ าพมากยงิ่ ขนึ้ l การบรรเทาทุกข์ (Relief) ให้ความช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์เบื้องต้นในทันที ที่เกิดสาธารณภัยเพื่อรักษาชีวิตและตอบสนองความต้องการข้ันพื้นฐานให้ผู้ประสบภัยสามารถด�ำรงชีพอยู่ได้ อยา่ งปลอดภัย (๓) ระยะหลงั เกิดภัย l การฟน้ื ฟู (Recovery) มงุ่ เนน้ ในการจดั การ สถานการณ์ภายหลังการเกิดสาธารณภัยเพื่อให้บุคคล ชุมชน สังคม ที่ประสบภัยกลับสู่สภาวะปกติ หรือพัฒนาให้ดีย่ิงข้ึนกว่าเดิมตาม ความเหมาะสม (Build Back Better) หมายความรวมถงึ (๑) การซอ่ มสรา้ ง (Reconstruction) เป็นการฟื้นฟูโครงสร้างและส่ิงก่อสร้างท่ีได้รับ ความเสียหายจากเหตุการณ์สาธารณภัยให้กลับมาสู่สภาพที่สามารถ 4 คู่มอื การจดั การสาธารณภยั ส�ำหรับผู้อ�ำนวยการอำ� เภอ

ใช้งานได้ดังเดิม และ (๒) การฟื้นสภาพ (Rehabilitation) เป็นการเยียวยาการจัดการความเสียหาย ตอนท่ี ๑ หรอื ผลทเี่ กดิ จากสาธารณภยั เพอื่ พลกิ ฟน้ื สภาวะการดำ� รงชพี ของชมุ ชนทไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากการเกดิ สาธารณภยั ให้กลบั คนื สู่สภาพที่เป็นอย่กู อ่ นหน้าน้ี รวมทัง้ การสงเคราะห์และบรรเทาทุกขผ์ ปู้ ระสบภัย ตลอดจนการประสานงาน ระหว่างประเทศเพ่ือขอรบั การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ๑.๒ บทบาท และอ�ำนาจหนา้ ทีข่ องผ้อู �ำนวยการอ�ำเภอในการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย และแผนการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยอ�ำเภอ ๑.๒.๑ บทบาทหนา้ ท่ี และอำ� นาจหนา้ ทขี่ องผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั การบริหารราชการแผน่ ดนิ ไทยแบ่งการบรหิ ารราชการเปน็ ๓ ระดบั ได้แก่ ราชการสว่ นกลาง ราชการส่วนภูมิภาค และราชการส่วนท้องถิ่น โดยการบริหารราชการส่วนภูมิภาคน้ันประกอบด้วย ๒ ระดับ คือ ระดับจังหวัด และระดับอ�ำเภอ ส�ำหรับระดับอ�ำเภอมีนายอ�ำเภอเป็นหัวหน้าส่วนราชการในระดับอ�ำเภอ ตามพระราชบญั ญตั ลิ กั ษณะปกครองทอ้ งท่ี พ.ศ. ๒๔๕๗ อำ� เภอมหี นา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบบำ� บดั ทกุ ข์ บำ� รงุ สขุ ประชาชน ในเขตพ้ืนท่ีอ�ำเภอทุกเรื่อง รวมทั้งมีหน้าที่ผลักดันนโยบายจากการบริหารราชการส่วนกลางสู่การปฏิบัติ โดยนายอำ� เภอจะเปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบหลกั ในการขบั เคลอื่ นการดำ� เนนิ การของหนว่ ยงาน และภาคสว่ นตา่ งๆ ระดบั อำ� เภอ อย่างไรก็ตาม ภารกิจที่ส�ำคัญประการหนึ่งคือการปกป้องภยันตราย อันจะเกิดแก่ประชาชนในพ้ืนท่ีรับผิดชอบ ซงึ่ ในอดตี ภารกจิ ดงั กลา่ ว มพี ระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั ภยั ฝา่ ยพลเรอื น พ.ศ. ๒๕๒๒ เปน็ กฎหมายเฉพาะใหส้ ว่ นราชการ ทงั้ ในสว่ นกลาง และสว่ นภมู ภิ าค ใชเ้ ปน็ เครอ่ื งมอื ในการดำ� เนนิ การ และเมอื่ มกี ารปฏริ ปู ระบบราชการในปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรม โดยภารกิจการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้มาอยู่ ในความรบั ผดิ ชอบของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั ต่อมาจึงมีการก�ำหนดพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐ ให้เป็น กฎหมายเฉพาะที่เป็นเคร่ืองมือในการบริหารจัดการสาธารณภัยของประเทศ ซ่ึงในระดับอ�ำเภอกฎหมาย ไดใ้ หอ้ ำ� นาจ และหนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบแกน่ ายอำ� เภอในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ไวใ้ นมาตรา ๑๙ ให้นายอ�ำเภอเป็นผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ รับผิดชอบและปฏิบัติหน้าท่ีในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในเขตอ�ำเภอ และมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อ�ำนวยการจังหวัดด้วย ขณะเดียวกัน แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐ ก็ได้ก�ำหนดแนวการปฏิบัติให้แก่นายอ�ำเภอผู้ซ่ึงมีอ�ำนาจตามกฎหมายในการจัดการสาธารณภัย ตามวงจรการเกิดสาธารณภยั ไว้ในทุกมิตติ ง้ั แต่กอ่ นเกดิ ภยั ขณะเกิดภัย และหลงั เกิดภยั กล่าวคอื (๑) ก่อนเกิดภัย เป็นการด�ำเนินการในการเตรียมการป้องกันและ ลดผลกระทบจากสาธารณภัย ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในการรับมือ กับสาธารณภัยท่ีอาจเกิดขึ้นดังท่ีกล่าวมาแล้วในหัวข้อการจัดการความเส่ียง จากสาธารณภยั โดยผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอตอ้ งขบั เคลอ่ื นกลไกกองอำ� นวยการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั อำ� เภอ (กอปภ.อ.) ซง่ึ เปน็ กลไกในการจดั การสาธารณภยั ระดับอ�ำเภอโดยการประสานการท�ำงานร่วมกับหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ คูม่ อื การจดั การสาธารณภัยสำ� หรบั ผู้อำ� นวยการอำ� เภอ 5

รวมถึงชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในพื้นที่ เพ่ือก�ำหนดมาตรการ/แนวทาง/โครงการ/แผนงาน ในการป้องกันลดผลกระทบและเตรียมความพร้อมรับมือต่อสาธารณภัยตามความเส่ียงภายในเขตพื้นที่อ�ำเภอ ซง่ึ ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอจะตอ้ งจดั ใหม้ กี ารประชมุ กองอำ� นวยการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั อำ� เภอ อยา่ งนอ้ ย ปีละ ๒ ครง้ั ตามแผนการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั แห่งชาติเพื่อด�ำเนินการ ๑) จัดท�ำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอ�ำเภอ และแผนอ่ืนที่เกี่ยวข้อง เพอ่ื อำ� นวยการ ประสานงาน และสนบั สนนุ การปฏบิ ตั ใิ นการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ขององคก์ รปกครอง สว่ นท้องถิ่นภายในพื้นที่ซึ่งเป็นไปตามกรอบของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ๒) จัดท�ำฐานข้อมูลความเส่ียงภัยในพื้นที่อ�ำเภอ เพ่ือใช้ในการวางแผนในการป้องกัน ลดผลกระทบ ตลอดจนการเตรียมความพรอ้ มรับมอื กบั สาธารณภยั ตามประเภทภยั ๓) ก�ำหนดมาตรการ/แผนงาน/โครงการ/แนวปฏิบัติเพ่ือลดความเส่ียงจากสาธารณภัย เตรยี มความพร้อมรับมือ ตลอดจนการฟ้นื ฟอู ันเกดิ จากผลของสาธารณภยั ท่ีเกดิ ขน้ึ ๔) จัดต้ังทีมเฝ้าระวงั ตดิ ตาม ประเมนิ และวเิ คราะหส์ ถานการณ์ แนวโน้มสาธารณภยั และแจง้ เตอื นภยั ลว่ งหนา้ เมอ่ื เกดิ หรอื คาดวา่ จะเกดิ สาธารณภยั ขนึ้ และใหจ้ ดั ตง้ั ศนู ยบ์ ญั ชาการเหตกุ ารณอ์ ำ� เภอ เพื่อควบคุม อ�ำนวยการและส่ังการ และประสานการปฏิบัติร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินท้องถ่ินในพื้นท่ี ทเ่ี กดิ สาธารณภัย ๕) จดั ใหม้ กี ารรวบรวม จดั ทำ� คลงั ขอ้ มลู ทรพั ยากรในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ทั้งเครื่องมือเคร่ืองจักรกลขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ภาคเอกชน และองค์การสาธารณกุศลในพ้ืนที่ รวมไปถงึ ทรพั ยากรก�ำลงั พล เช่น สมาชกิ กองอาสารกั ษาดินแดน (สมาชกิ อส.) อาสาสมัครป้องกันภยั ฝา่ ยพลเรือน (อปพร.) อาสาสมัครมลู นธิ ิ เปน็ ต้น เพ่อื ท่ีจะใชป้ ระโยชน์ในการอ�ำนวยการ สงั่ การ และวางแผนการใช้ทรัพยากร ในการเข้าให้การช่วยเหลือ ป้องกัน และสร้างความปลอดภัยแก่ชีวิต และทรพั ยส์ นิ ของประชาชน และเอกชน ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพในหว้ งระยะเวลา เกิดภัย ทง้ั น้ี สำ� หรบั องคป์ ระกอบของกองอำ� นวยการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอ�ำเภอ (กอปภ.อ.) จะน�ำเสนอ ในรายละเอียดที่ว่าด้วยกลไกการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัย ของอ�ำเภอต่อไป (๒) ขณะเกดิ ภยั พระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั พ.ศ. ๒๕๕๐ และแผนการปอ้ งกนั และบรรเทา สาธารณภัยแห่งชาติได้ก�ำหนดผู้มีอ�ำนาจในการบริหารจัดการเหตุสาธารณภัยสอดคล้องกับระดับ ของการจดั การสาธารณภยั รวมทง้ั วางหลกั การ แนวปฏบิ ตั ใิ นการรบั มอื กับสถานการณ์สาธารณภัยไว้อย่างชัดเจนว่าสาธารณภัยมี ๔ ระดับ ตงั้ แตส่ าธารณภยั ขนาดเลก็ จนถงึ สาธารณภยั รา้ ยแรงยงิ่ โดยสาธารณภยั ระดับ ๑ สาธารณภัยขนาดเล็กน้ันให้เป็นอ�ำนาจหน้าที่ในการบริหาร จัดการสาธารณภัยของผู้อ�ำนวยการท้องถิ่น และผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ ซ่ึงกฎหมายและแผนฯ ได้ให้อ�ำนาจผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอด�ำเนินการ โดยมสี าระส�ำคญั โดยสรปุ ดังน้ี 6 คมู่ ือการจดั การสาธารณภยั สำ� หรับผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ

๑) การตอบโต้/ระงบั สถานการณ์สาธารณภยั ตอนท่ี ๑ (๑.๑) เมอ่ื เกดิ หรอื คาดวา่ จะเกดิ สาธารณภยั ขนึ้ ในเขตพน้ื ทเี่ ปน็ หนา้ ทอี่ งคก์ รปกครอง สว่ นทอ้ งถน่ิ ทจี่ ะตอ้ งเขา้ ดำ� เนนิ การปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั โดยเรว็ และจะตอ้ งแจง้ ใหผ้ อู้ ำ� นวยการอำ� เภอ ที่รับผิดชอบในเขตพ้ืนที่และผู้อ�ำนวยการจังหวัดทราบทันที (มาตรา ๒๑) ทั้งนี้ เพ่ือที่อ�ำเภอและจังหวัดจะได้ เตรยี มความพรอ้ มในการประสานการสนบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ านขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ นน้ั ๆ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ มีประสทิ ธภิ าพ และทันท่วงที (๑.๒) ในกรณที อี่ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ จำ� เปน็ ตอ้ งไดร้ บั การชว่ ยเหลอื จากเจา้ หนา้ ท่ี หรอื หน่วยงานของรฐั ทอ่ี ย่นู อกเขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประสบสาธารณภัยน้ัน ผ้อู ำ� นวยการอ�ำเภอ จะมีอ�ำนาจหนา้ ท่ีในการส่งั การเพ่อื ประสานการสนบั สนุนตอ่ ไป (มาตรา ๒๒) (๑.๓) มีอ�ำนาจในการควบคุมสั่งการเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้ด�ำเนินการ - ดดั แปลง ทำ� ลาย หรอื เคลอื่ นยา้ ยสง่ิ กอ่ สรา้ ง วสั ดุ หรอื ทรพั ยส์ นิ ของบคุ คล ทเ่ี ปน็ อปุ สรรคแกก่ ารบำ� บดั ปดั ปอ้ งภยนั ตรายเทา่ ทจ่ี ำ� เปน็ (มาตรา ๒๕) เชน่ ใหท้ บุ กระจกเขา้ ไปดบั เพลงิ ในอาคาร ทีเ่ ป็นต้นเพลิง เป็นต้น - เข้าไปในอาคาร หรือสถานท่ีที่อยู่ใกล้เคียงกับพ้ืนที่ที่เกิดสาธารณภัย เพื่อท�ำการป้องกันหรือบรรเทาสาธารณภัย เม่ือได้รับอนุญาตจากเจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่นั้น รวมทั้ง สามารถสงั่ การใหข้ นยา้ ยทรพั ยส์ นิ ตามความจำ� เปน็ (มาตรา ๒๖) เชน่ ใหพ้ นกั งานดบั เพลงิ เขา้ ไปในอาคารใกลเ้ คยี ง เพอื่ ฉดี น้ำ� สกัดเพลงิ ลกุ ลาม ๒) ดำ� เนนิ การบรรเทาทกุ ขเ์ บอื้ งตน้ และลดผลกระทบจากสาธารณภยั ดงั นี้ (มาตรา ๒๗) (๒.๑) จัดให้มีสถานท่ีชั่วคราวเพื่อให้ผู้ประสบสาธารณภัยอยู่อาศัยเป็นการช่ัวคราว (ศนู ยพ์ กั พงิ ชว่ั คราว) กรณที ท่ี พ่ี กั อาศยั ผปู้ ระสบภยั ไมส่ ามารถกลบั เขา้ ไปอยอู่ าศยั ไดห้ รอื ไมม่ คี วามปลอดภยั ทง้ั นี้ ศนู ย์พกั พิงชว่ั คราวจะต้องเป็นไปตามมาตรฐาน (๒.๒) จัดระเบียบการจราจรช่ัวคราวในพ้ืนที่เกิดสาธารณภัย หรือพื้นท่ีใกล้เคียง เพ่ืออำ� นวยความสะดวกแกท่ ัง้ เจา้ หน้าทีแ่ ละผูป้ ระสบภยั (๒.๓) ปดิ กนั้ พน้ื ทเี่ กดิ สาธารณภยั เพอื่ อำ� นวยความสะดวกในการปฏบิ ตั งิ านของเจา้ หนา้ ท่ี และความปลอดภัยแกป่ ระชาชนโดยรอบพืน้ ที่ (๒.๔) จัดให้มีการรักษาความสงบเรียบร้อย และป้องกันเหตุอาชญากรรมในพื้นท่ี เกดิ สาธารณภยั (๒.๕) ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และช่วยขนย้ายทรัพย์สินในพื้นท่ีประสบสาธารณภัย และพ้ืนท่ีใกล้เคียง ส�ำหรับการบรรเทาทุกข์ และลดผลกระทบจากสาธารณภัยดังกล่าว ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ อาจสง่ั ใชส้ มาชกิ กองอาสารกั ษาดนิ แดน (สมาชกิ อส.) หรอื มอบหมายอาสาสมคั รปอ้ งกนั ภยั ฝา่ ยพลเรอื น (อปพร.) พนักงานฝ่ายปกครอง ต�ำรวจ หรืออาสาสมัครองค์การสาธารณกุศล ในการดำ� เนนิ การดงั กลา่ ว ทง้ั น้ี รายละเอยี ดการสงั่ ใชแ้ ละการมอบหมาย ภารกิจจะได้กล่าวในรายละเอียดในหัวข้อถดั ไป คูม่ ือการจดั การสาธารณภยั ส�ำหรับผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอ 7

(๒.๖) มอี ำ� นาจสง่ั อพยพผซู้ ง่ึ อยใู่ นพน้ื ทที่ เ่ี กดิ สาธารณภยั หรอื ใกลจ้ ะเกดิ สาธารณภยั หรอื กดี ขวางต่อการปฏบิ ัติงานของเจ้าหน้าทเ่ี ท่าท่ีจำ� เป็น (มาตรา ๒๘) (๒.๗) ใหค้ วามเหน็ ชอบผอู้ ำ� นวยการทอ้ งถน่ิ ในการประกาศหา้ มมใิ หบ้ คุ คลเขา้ อยอู่ าศยั หรอื ด�ำเนินการใดๆ ในพน้ื ท่ีท่อี าจเป็นอนั ตราย (มาตรา ๒๙) อยา่ งไรกต็ าม อำ� นาจหนา้ ทภี่ ายใตก้ ฎหมายและแผนฯ ดงั กลา่ วนน้ั ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอ จะดำ� เนนิ การผา่ นองคก์ รปฏบิ ตั ใิ นการจดั การภาวะฉกุ เฉนิ ทเี่ รยี กวา่ “ศนู ยบ์ ญั ชาการเหตกุ ารณอ์ ำ� เภอ” (ศบก.อ.) โดย กอปภ.อ. จะต้องจดั ต้ัง ศบก.อ. ขน้ึ เมอื่ เกิดหรอื คาดวา่ จะเกิดสาธารณภัยขนึ้ เพอ่ื เป็นศูนยก์ ลางในการระดม สรรพกำ� ลงั และทรพั ยากรในการจดั การกบั สาธารณภยั จนกวา่ สถานการณ์ จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยมีผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอควบคุมและสั่งการ ในการปฏิบัติการรับมือ/ตอบโต้และบรรเทาสถานการณ์สาธารณภัย ท่ีเกิดข้ึนตามอ�ำนาจและหน้าที่ของผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ โดย ศบก.อ. จะประสานการปฏิบัติงานร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินท้องถ่ิน ท่ีเกิดสถานการณ์สาธารณภัยซ่ึงเป็นองค์กรปฏิบัติในการจัดการ ภาวะฉกุ เฉินขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินอย่างใกลช้ ดิ สำ� หรบั องคป์ ระกอบโครงสรา้ งของ ศบก.อ. ในการรบั มอื กบั สาธารณภยั ประกอบดว้ ย หนว่ ยงานตา่ งๆ ภายในพนื้ ทอี่ ำ� เภอเขา้ มารว่ มสนธกิ ำ� ลงั ตามความเหมาะสมสอดคลอ้ งกบั เหตกุ ารณแ์ ละประเภท ของสาธารณภยั ทเี่ กดิ ขนึ้ โดยแบง่ การปฏบิ ตั ติ ามโครงสรา้ ง ไดแ้ ก่ ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอในฐานะผบู้ ญั ชาการเหตกุ ารณ์ ศูนย์ประสานการประสานการปฏิบัติ ศูนย์ข้อมูลประชาสัมพันธ์ร่วม ผู้เชี่ยวชาญ/ที่ปรึกษา ส่วนอ�ำนวยการ สว่ นปฏบิ ตั กิ าร และสว่ นสนบั สนนุ สำ� หรบั รายละเอยี ดโครงสรา้ งของ ศบก.อ จะกลา่ วในรายละเอยี ดเปน็ ลำ� ดบั ไป (๓) หลังเกดิ ภยั ภายหลังจากท่ีสาธารณภัยได้ผ่านพ้นไปแล้ว หน้าที่ส�ำคัญที่ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ ตอ้ งเรง่ ดำ� เนนิ การคอื การฟน้ื ฟชู วี ติ ความเปน็ อยขู่ องประชาชนผปู้ ระสบสาธารณภยั ใหก้ ลบั คนื สสู่ ภาวะปกตโิ ดยไว ไม่ว่าจะเป็นในด้านที่อยู่อาศัย การด�ำรงชีวิต สาธารณูปโภคสาธารณูปการ ดังน้ัน ภารกิจในการฟื้นฟูภายหลัง การเกิดสาธารณภยั จึงยังคงเปน็ หนา้ ที่ส�ำคัญของผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ ได้แก่ (มาตรา ๓๐) (๓.๑) การประเมินความต้องการของประชาชนและส�ำรวจความเสียหาย เพ่ือรวบรวม เป็นข้อมูลในการช่วยเหลือเยียวยา และฟื้นฟู ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอจะต้องอ�ำนวยการ ประสานงานร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ เพ่ือส�ำรวจความตอ้ งการ และความเสียหายอยา่ งเรง่ ดว่ น (๓.๒) อ�ำเภอจ�ำเป็นต้องเร่งด�ำเนินการในการให้บริการประชาชนอย่างต่อเน่ือง ในการออกหนังสือราชการท่ีสำ� คญั ต่างๆ เพ่ือประกอบการใหค้ วามช่วยเหลอื และฟื้นฟู อาทิ เอกสารส่วนบุคคล หรือเอกสารทางราชการท่สี ูญหายจากสาธารณภยั อย่างไรก็ตาม จากท่ีกล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงบทบาทและอ�ำนาจหน้าที่โดยสรุป ในการจดั การสาธารณภยั ตามวงจรสาธารณภยั ของนายอำ� เภอในฐานะผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอตาม พ.ร.บ ปอ้ งกนั และบรรเทา สาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐ และแผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ ในภาพรวมโดยจะมีรายละเอยี ด ในการปฏบิ ัติซงึ่ จะขออรรถาธบิ ายในหวั ขอ้ และตอนถัดไป 8 ค่มู อื การจดั การสาธารณภยั ส�ำหรบั ผู้อำ� นวยการอ�ำเภอ

๑.๒.๒ แผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั อำ� เภอ ตอนท่ี ๑ จากที่กล่าวมาข้างต้นในส่วนที่ว่าด้วยบทบาทอ�ำนาจหน้าท่ีของผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในหว้ งกอ่ นเกดิ ภยั นน้ั ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอจะตอ้ งจดั ทำ� แผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั อำ� เภอ และแผนอื่นท่ีเก่ียวข้อง เพื่อเป็นกรอบทิศทางในการอ�ำนวยการ ประสานการท�ำงาน และด�ำเนินการ ของหน่วยงานต่าง ๆ ในเขตพ้ืนที่อ�ำเภอรวมท้ังสนับสนุนการปฏิบัติในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินภายในพ้ืนที่ในทุกระยะของการเกิดภัยตามวงจร การจัดการความเส่ียงจากสาธารณภัย โดยมีสาระส�ำคัญสอดคล้องและเป็นไป ตามกรอบของแผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั ทงั้ นี้ สาระสำ� คญั ของแผนการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยอ�ำเภอ ประกอบดว้ ย (๑) สถานการณ์และแนวโน้มสาธารณภัยของอ�ำเภอ : สภาพทว่ั ไป สถิติการเกดิ สาธารณภยั สถานการณ์แนวโน้มการเกิดความเสีย่ ง จากสาธารณภัยท่ีเกดิ ขนึ้ ในพืน้ ท่ีอำ� เภอ (๒) หลักการจดั การความเส่ยี งจากสาธารณภยั : วงจรการจัดการความเส่ยี งจากสาธารณภัย กลไกการจัดการความเส่ียงจากสาธารณภัย ขอบเขตสาธารณภัย ระดับการจัดการสาธารณภัย บทบาทหน้าท่ี และแนวทางปฏบิ ตั ริ ว่ มกบั หนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งระดบั อำ� เภอ การปฏบิ ตั งิ านรว่ มกบั หนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง กฎหมาย และระเบยี บท่เี กี่ยวขอ้ ง (๓) มาตรการในการลดความเสย่ี งจากสาธารณภยั ของอำ� เภอ : การประเมนิ ความเสย่ี งสาธารณภยั มาตรการลดความเสีย่ งจากสาธารณภยั ในพน้ื ท่ที งั้ ในเชิงโครงสรา้ งและไม่ใช่โครงสรา้ ง (๔) การเตรยี มความพรอ้ ม : ดา้ นทรพั ยากรสาธารณภยั ดา้ นบคุ ลากร การเตรยี มแผนการอพยพ การแจง้ เตอื นภัย การเตรยี มการจัดตง้ั ศูนยพ์ กั พงิ ช่ัวคราว และการฝกึ การปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั (๕) การจัดการในภาวะฉุกเฉินแบบบูรณาการ : การแจ้งเตือนภัยของหน่วยงานภาครัฐ ในการจัดการสาธารณภัย การจัดต้ังองค์กรปฏิบัติการจัดการในภาวะฉุกเฉิน (ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อ�ำเภอ) การบญั ชาการเหตกุ ารณ์ การระดมทรพั ยากร การอพยพ/ศนู ยพ์ กั พงิ ชวั่ คราว การประกาศเขตพน้ื ทป่ี ระสบสาธารณภยั / ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน การตัดสินใจยกระดับการจัดการสาธารณภัย การสอ่ื สารและโทรคมนาคมในภาวะฉกุ เฉนิ การเผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธข์ อ้ มลู ขา่ วสารในภาวะฉกุ เฉนิ การประเมนิ ความเสยี หายและความตอ้ งการความชว่ ยเหลอื การรบั บรจิ าค การรายงานขอ้ มลู และการปฏบิ ตั กิ รณสี าธารณภยั รุนแรงเกินขดี ความสามารถของอำ� เภอ (๖) การเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน : การฟื้นฟูกลับสู่สภาวะปกติในด้านต่างๆ เชน่ ฟน้ื ฟอู าชพี สขุ ภาวะ และที่อยู่อาศัย การเยยี วยาสงเคราะห์ รวมท้งั การถอดบทเรยี นการจัดการสาธารณภัย (๗) การขบั เคลอื่ นแผนไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิ : การจดั ทำ� แผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั อำ� เภอ ให้สอดคล้องกับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จดั ทำ� แผนปฏบิ ตั กิ ารในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ รวมทง้ั ตดิ ตามประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิการตามแผน (๘) สาระส�ำคญั อ่นื ใดที่เปน็ ไปตามบริบทเฉพาะของอ�ำเภอ คมู่ อื การจัดการสาธารณภัยส�ำหรบั ผอู้ ำ� นวยการอ�ำเภอ 9

๑.๓ การขับเคล่อื นกลไกจัดการความเสยี่ งจากสาธารณภัยระดบั อำ� เภอ กลไกการจดั การความเสยี่ งจากสาธารณภยั ในระดบั อำ� เภอ ปรากฏอยใู่ นสาระสำ� คญั ในแผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ในบทที่ว่าด้วยหลักการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัย และบทท่ีว่าด้วย การจดั การภาวะฉกุ เฉนิ แบบบรู ณาการ ซงึ่ สะทอ้ นการขบั เคลอื่ นกลไกใน ๒ หว้ งเวลาการเกดิ ภยั ดว้ ยกนั กลา่ วคอื ๑.๓.๑ ก่อนเกิดภัย (ภาวะปกติ) มีกองอ�ำนวยการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั อำ� เภอ (กอปภ.อ.)” เปน็ กลไกระดบั ปฏิบตั ิ ขับเคล่ือนการด�ำเนินการจัดการความเส่ียงจากสาธารณภัยภายในระดับอ�ำเภอ ท�ำหน้าที่อ�ำนวยการ ควบคุม สนบั สนนุ และประสานการปฏบิ ตั กิ บั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ในเขตพน้ื ทร่ี บั ผดิ ชอบในการปอ้ งกนั และบรรเทา สาธารณภัยและปฏิบัติงานตามท่ีผู้ว่าราชการจังหวัดหรือกองอ�ำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด มอบหมาย โดยมีนายอ�ำเภอ/ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ เป็นผู้อ�ำนวยการ และต้องจัดให้มีการประชุม กอปภ.อ. อย่างนอ้ ยปีละ ๒ คร้ัง ส�ำหรับองค์ประกอบของกองอ�ำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอ�ำเภอ (กอปภ.อ.) ประกอบดว้ ย - นายอำ� เภอ/ผู้อำ� นวยการอำ� เภอ ผูอ้ ำ� นวยการ - ปลดั อ�ำเภอหัวหน้ากลมุ่ งานความม่ันคง รองผอู้ �ำนวยการ - ผกู้ ำ� กับการหัวหน้าสถานีตำ� รวจในเขตพื้นท ่ี กรรมการ - ผู้แทนกระทรวงกลาโหมทไ่ี ด้รบั มอบหมาย กรรมการ - สาธารณสุขอ�ำเภอ กรรมการ - ท้องถิ่นอำ� เภอ กรรมการ - ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในพ้นื ท่ี กรรมการ - ผแู้ ทนหนว่ ยงานของรฐั ทีน่ ายอ�ำเภอเห็นสมควรแตง่ ตัง้ กรรมการ - ผูแ้ ทนสถานศึกษาทีน่ ายอำ� เภอเห็นสมควรแตง่ ตงั้ กรรมการ กรรมการ - ผแู้ ทนองคก์ ารสาธารณกศุ ลในพ้นื ทท่ี น่ี ายอ�ำเภอเห็นสมควรแต่งตั้ง กรรมการ - ผแู้ ทนส�ำนักงานปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัด กรรมการ - ปลัดอำ� เภอ หวั หนา้ ฝ่ายความมั่นคง กรรมการและเลขานุการ - หัวหน้าสำ� นักงานป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยจงั หวัด สาขา (ถ้าม)ี กรรมการและผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร อย่างไรก็ตาม องคป์ ระกอบของ กอปภ.อ. ดังกล่าว อาจปรบั เปล่ียนและเปลี่ยนแปลงกรรมการได้ตาม ทีผ่ ู้อำ� นวยการอ�ำเภอเหน็ สมควร 10 คู่มอื การจดั การสาธารณภัยสำ� หรบั ผอู้ �ำนวยการอำ� เภอ

ตอนท่ี ๑ ภาพท่ี ๑-๒: กลไกการจดั การความเสย่ี งจากสาธารณภยั (ภาวะปกต)ิ ๑.๓.๒ ขณะเกิดภยั (ภาวะฉกุ เฉนิ ) มีศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อ�ำเภอ (ศบก.อ.) เป็นองค์กรปฏิบัติในการจัดการภาวะฉุกเฉิน โดยเม่ือเกิดหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัยขึ้น ให้ กอปภ.อ. จัดต้ังศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อ�ำเภอ โดยมี ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอเป็นผู้ควบคุมและสั่งการ ท�ำหน้าท่ีในการจัดการสาธารณภัยท่ีเกิดข้ึนจนกว่าสถานการณ์ จะกลบั เขา้ สภู่ าวะปกติ และเปน็ ศนู ยก์ ลางในการระดมสรรพกำ� ลงั และทรพั ยากร รวมทงั้ อำ� นวยการและประสาน การปฏิบัติ ระหว่างหน่วยงานต่างๆ ท้ังฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหาร ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองคก์ รสาธารณกศุ ลในพนื้ ทที่ ร่ี บั ผดิ ชอบในการจดั การสาธารณภยั ทเ่ี กดิ ขน้ึ ใหเ้ ปน็ ไปอยา่ งมเี อกภาพ รวดเรว็ และท่วั ถงึ ทง้ั น้ี จะเหน็ ไดว้ า่ การขบั เคลอื่ นการดำ� เนนิ การของกลไก กอปภ.อ. และ ศบก.อ. เปน็ การขบั เคลอ่ื น ดว้ ยบทบาทในการเปน็ ศนู ยก์ ลางประสานการทำ� งานรว่ มกนั ภายใต้แนวคดิ “ศนู ยป์ ฏิบตั กิ ารฉกุ เฉนิ (Emergency Operation Centre : EOC)” ที่หน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารของเหตุการณ์ และความเสี่ยงร่วมกัน และนำ� มาซ่ึงการประเมินความเส่ียงจากสาธารณภัยในพื้นท่ี และก�ำหนด แนวทางการดำ� เนนิ การเพอ่ื ลดความเสย่ี งหรอื ลดผลกระทบจากสาธารณภยั ที่เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ในภาวะปกติผ่านกลไก กอปภ.อ. และสามารถอ�ำนวยการ ควบคุม สั่งการ ประสานการปฏิบัติในการจัดการ สาธารณภัยร่วมกัน ในภาวะฉกุ เฉนิ ผ่านกลไก ศบก.อ. ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ คู่มือการจัดการสาธารณภยั ส�ำหรบั ผอู้ ำ� นวยการอ�ำเภอ 11

ภาพท่ี ๑-๓ : กลไกการจดั การความเสยี่ งจากสาธารณภยั (ภาวะฉกุ เฉนิ ) 12 คู่มอื การจดั การสาธารณภัยสำ� หรบั ผ้อู �ำนวยการอำ� เภอ

๒ตอนท่ี การด�ำเนนิ การก่อนเกิดภัย

๒ตอนท่ี การดำ� เนนิ การก่อนเกดิ ภัย ตอนท่ี ๒ ๒.๑ การวิเคราะห์และประเมินความเส่ียงจากสาธารณภยั ในพน้ื ที่ การวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงจากสาธารณภัย เป็นกิจกรรมพ้ืนฐานเพ่ือท�ำความเข้าใจ ความเสย่ี งจากสาธารณภยั ในบรบิ ทของพน้ื ทต่ี นเอง ในฐานะผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอซง่ึ เปน็ ตวั จกั รสำ� คญั ในการจดั การ ความเสย่ี งจากสาธารณภยั ในพน้ื ทอ่ี ำ� เภอ จะตอ้ งระบคุ วามเสย่ี งจากสาธารณภยั ไมว่ า่ จะเปน็ ประเภทของสาธารณภยั ลักษณะและระดับความรุนแรง รวมทั้งโอกาสที่จะเกิดและผลกระทบทางลบท่ีอาจเกิดขึ้นจากสาธารณภัย โดยการวเิ คราะหภ์ ยั ทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ ความลอ่ แหลมในพน้ื ทจ่ี ากลกั ษณะทางกายภาพ รวมไปถงึ ความเปราะบางของชมุ ชน และศักยภาพของพ้ืนที่ เพื่อน�ำไปเป็นข้อมูลส�ำคัญในการจัดท�ำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอ�ำเภอ รวมถงึ ประสานรว่ มกบั แผนปฏบิ ตั กิ ารในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ในเขตพนื้ ท่ี อำ� เภอ ทง้ั น้ี การวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ความเสย่ี งจากสาธารณภยั ระดบั พนื้ ทอี่ ำ� เภอ กำ� หนดใหก้ องอำ� นวยการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอ�ำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบประเมินความเส่ียงจากสาธารณภัย ดังกล่าวใน ๔ ประเด็น ได้แก่ (๑) พื้นท่ีที่ได้รับผลกระทบ (๒) ข้อมูลทางกายภาพที่มีความล่อแหลม ตอ่ การเกดิ สาธารณภยั (๓) ข้อมลู ความเปราะบางตอ่ การเกดิ สาธารณภยั และ (๔) ข้อมลู ศักยภาพในการรบั มือ ตอ่ การเกดิ สาธารณภยั และดำ� เนนิ การรวบรวมขอ้ มลู มาวเิ คราะหค์ วามเสย่ี งทง้ั หมด โดยประมวลมาเปน็ ภาพรวม และน�ำผลการประเมินความเสี่ยงน้ันมาเป็นกรอบแนวทางในการก�ำหนดแผนงาน/โครงการ/มาตรการ ในการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัยจากทุกหน่วยงานมาใช้ พร้อมทั้งจัดล�ำดับความส�ำคัญ จัดสรรทรัพยากร รวมถงึ การพฒั นาและประยกุ ตใ์ ชน้ วตั กรรมและใชเ้ ทคโนโลยเี พอื่ การจดั การความเสยี่ งจากสาธารณภยั มาบรรจไุ ว้ ในแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอ�ำเภอและแผนพัฒนาอ�ำเภอ เพื่อน�ำสู่การจัดสรรงบประมาณ ในการดำ� เนินการในการลดความเสีย่ งจากสาธารณภยั ในพ้ืนท่ตี อ่ ไป ๒.๒ การมสี ่วนร่วมของชมุ ชนในการปอ้ งกันและลดผลกระทบจากสาธารณภัย ๒.๒.๑ การจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยโดยอาศัยชุมชนเป็นฐาน (Community Based Disaster Risk Management: CBDRM) ชุมชนเป็นองค์การทางสังคมประเภทหนึ่ง ประกอบด้วยสมาชิกที่อาศัยอยู่เป็นกลุ่ม ภายในอาณาบรเิ วณเดยี วกนั ตงั้ แตช่ มุ ชนขนาดเลก็ เชน่ หมบู่ า้ น ตำ� บล อำ� เภอ ไปจนชมุ ชนขนาดใหญ่ มกี ารดำ� รงชวี ติ ในลกั ษณะของการพงึ่ พาอาศยั กนั แบง่ งานกนั ทำ� และตอบสนองความตอ้ งการของชมุ ชนดว้ ยการกำ� หนดบทบาท หนา้ ทท่ี ช่ี ดั เจน ดงั นนั้ การทค่ี นในชมุ ชนไดม้ โี อกาสเขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการปอ้ งกนั และลดผลกระทบจากสาธารณภยั ท่ีอาจเกิดขึ้นในชุมชนของตนเองจึงเป็นยุทธศาสตร์ส�ำคัญในการจัดการความเส่ียงจากสาธารณภัย เน่ืองจาก คนภายในชุมชนมีความเข้าใจบริบทเฉพาะเชิงพื้นที่ ลักษณะการเกิดสาธารณภัยอย่างแท้จริง ขณะที่อ�ำเภอ โดยผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอในฐานะตวั แทนของรฐั ในสว่ นภมู ภิ าค กม็ หี นา้ ทส่ี ำ� คญั ในการสง่ เสรมิ การเตรยี มความพรอ้ ม คูม่ ือการจัดการสาธารณภัยส�ำหรับผ้อู ำ� นวยการอ�ำเภอ 15

ตลอดจนสรา้ งศกั ยภาพของคนในชมุ ชนใหส้ ามารถรบั มอื กบั สาธารณภยั ท่ีเกิดข้ึนอย่างมีประสิทธิภาพได้ ดังน้ัน การจัดการความเส่ียงจาก สาธารณภยั โดยอาศยั ชมุ ชนเปน็ ฐาน (Community Based Disaster Risk Management: CBDRM) โดยให้ความส�ำคัญกับคนในชุมชน จึงเป็นการท�ำให้คนในชุมชนเองมีความพร้อม มีศักยภาพและ ขีดความสามารถ และมีบทบาทหน้าที่ในการป้องกันและบรรเทา สาธารณภยั โดยอำ� เภอสามารถดำ� เนนิ กจิ กรรมตามหลกั CBDRM ดงั น้ี (๑) จัดประชุม/ประชาคมให้ความรู้แก่คนในชุมชนให้มีความเข้าใจความเส่ียงภัยในพื้นที่ และสามารถวางแผนการจดั การความเส่ยี งจากสาธารณภยั ทีเ่ กดิ ขน้ึ ในชุมชน (๒) อ�ำนวยการให้ชุมชนมีองค์กรชุมชนรับผิดชอบการจัดการความเส่ียงจากสาธารณภัย ในชมุ ชนเอง เชน่ คณะกรรมการปอ้ งกนั ภยั หมบู่ า้ น ซงึ่ ประกอบดว้ ย คณะทำ� งานโดยคนในชมุ ชน และมกี ารแบง่ มอบ หน้าท่ีความรับผดิ ชอบแต่ละดา้ นทีช่ ัดเจน (๓) ให้ชุมชนจัดท�ำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหมู่บ้าน เพ่ือเป็นแนวทาง ในการปฏบิ ตั ขิ องคนในชมุ ชนโดยมรี ายละเอยี ดในการเตรยี มระบบการแจง้ เตอื นภยั ในชมุ ชน แผนการอพยพ รวมทง้ั จดั ใหม้ กี ารฝกึ ซ้อมแผน และประเมนิ ผลด้วย ๒.๒.๒ เครือข่ายดา้ นการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั ท่เี ปน็ ทางการ คนในชุมชนที่มีบทบาทส�ำคัญในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยซึ่งเป็นเครือข่าย ดา้ นการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ทเี่ ปน็ ทางการ ไดแ้ ก่ อาสาสมคั รปอ้ งกนั ภยั ฝา่ ยพลเรอื น (อปพร.) สมาชกิ กองอาสารักษาดนิ แดน (อส.) รวมทั้งกำ� นนั ผู้ใหญบ่ า้ น ดงั นัน้ ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอจึงตอ้ งท�ำความเข้าใจภารกิจ ของ อปพร. สมาชกิ อส. และกำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น ในการแสดงบทบาทของการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ใหช้ ดั เจน เพอ่ื ทจี่ ะสามารถสง่ั ใชห้ รอื บรู ณาการทำ� งานและขบั เคลอ่ื นการจดั การความเสยี่ งจากสาธารณภยั โดยบคุ ลากรดงั กลา่ ว ในพืน้ ท่ีอำ� เภอตนเองได้อย่างสมบูรณ์ และมีประสทิ ธภิ าพ (๑) อาสาสมัครป้องกันภยั ฝ่ายพลเรือน (อปพร.) กับงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อปพร. เปน็ อาสาสมคั รทมี่ ภี มู ลิ ำ� เนาหรอื ถน่ิ ทอ่ี ยใู่ นเขตพนื้ ที่ รวมทง้ั มคี ณุ สมบตั แิ ละไมม่ ี คุณสมบัติต้องห้ามเป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยกิจการอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๓ (ขอ้ ๒๘) อาสาสมคั รเหลา่ นมี้ หี นา้ ทสี่ ำ� คญั ในการสนบั สนนุ ภารกจิ ในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ตามวงจรการจดั การความเส่ียงจากสาธารณภัยทไี่ ด้กล่าวมาแล้วเบื้องตน้ ในตอนท่ี ๑ ส�ำหรับบทบาทหน้าท่ีของผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอข้อ ๑๙ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย วา่ ดว้ ยกจิ การอาสาสมคั รปอ้ งกนั ภยั ฝา่ ยพลเรอื น พ.ศ. ๒๕๕๓ ใหน้ ายอำ� เภอเปน็ ผอู้ ำ� นวยการศนู ย์ อปพร. อำ� เภอ มหี นา้ ท่ีส่งั การ ควบคมุ กำ� กับดูแล และใหก้ ารสนบั สนนุ กจิ การ อปพร. ในเขตพืน้ ทรี่ ับผิดชอบ รวมทง้ั สนบั สนุน ศนู ย์ อปพร.ขา้ งเคยี งทง้ั อำ� เภอ และทอ้ งถนิ่ ดงั นนั้ การสงั่ ใช้ อปพร. ในการปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ในการจดั การสาธารณภยั ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ จึงอยู่ในอ�ำนาจของผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ จะต้องด�ำเนินการ อำ� นวยการให้ อปพร. ปฏิบัติภารกิจ ดงั น้ี 16 คูม่ ือการจัดการสาธารณภยั สำ� หรับผอู้ �ำนวยการอ�ำเภอ

(๑) ปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย ตอนท่ี ๒ (๒) รักษาความสงบเรียบรอ้ ย (๓) สงเคราะห์ผปู้ ระสบภัย (๔) ปฏบิ ตั กิ ารกู้ชพี กู้ภยั (๕) รวมทั้งการปฏิบัติการอ่ืนใดตามที่ ผอู้ �ำนวยการอำ� เภอ จะเห็นวา่ เป็นประโยชนใ์ นการสนบั สนุนการจัดการ ความเสยี่ งจากสาธารณภัยในเขตพ้ืนที่ ดังนัน้ ดว้ ยภารกิจของ อปพร. ดังท่ีกล่าวมาข้างตน้ จึงเปน็ หน้าทผี่ ูอ้ ำ� นวยการอำ� เภอที่จะตอ้ ง จดั ใหม้ กี ารฝกึ อบรมหลกั สตู ร อปพร. เพอื่ ใหผ้ ทู้ ผ่ี า่ นหลกั สตู รขน้ึ ทะเบยี นเปน็ อปพร. และสามารถปฏบิ ตั หิ นา้ ทดี่ งั กลา่ ว ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ อยา่ งไรกต็ าม อปพร. มหี นา้ ทกี่ ำ� หนดไวอ้ ยา่ งชดั เจนในระเบยี บฯ ขอ้ ๓๗ ใหม้ หี นา้ ทปี่ ฏบิ ตั ิ ตามคำ� สงั่ ของผบู้ งั คบั บญั ชา และเจา้ พนกั งานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ซงึ่ ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอ/นายอำ� เภอ เปน็ เจา้ พนักงานปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย วา่ ด้วยหลกั เกณฑก์ ารแต่งตั้ง และการปฏบิ ตั หิ นา้ ทขี่ องเจา้ พนกั งานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั พ.ศ. ๒๕๕๓ และทแี่ กไ้ ขเพมิ่ เตมิ ดว้ ย อปพร. จงึ เปน็ บคุ ลากรในบงั คบั บญั ชาและสงั่ การของผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอ ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอจงึ มหี นา้ ทใ่ี นการรบั รายงานตวั เข้าปฏิบัติงาน นอกจากน้ี ในกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน (ศูนย์ อปพร.ท้องถ่ิน) หรืออ�ำเภอข้างเคียง (ศนู ย์ อปพร.อ�ำเภอข้างเคียง) ผู้อ�ำนวยการอำ� เภออาจสง่ั ให้ อปพร. ไปสนับสนนุ การปฏิบตั ิงานศนู ย์ อปพร. ดังกลา่ วได้ หากเป็นการสมควร (ระเบียบขอ้ ๓๘) (๒) สมาชิกกองอาสารกั ษาดินแดน กบั งานปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั สมาชกิ กองอาสารกั ษาดนิ แดน เปน็ เจา้ หนา้ ทร่ี ฐั ประเภทหนงึ่ ทจี่ ดั ตงั้ ขน้ึ ตามพระราชบญั ญตั ิ กองอาสารกั ษาดนิ แดน พ.ศ. ๒๔๙๗ เป็นราษฎรทีม่ ีภูมิล�ำเนาหรอื ถิ่นที่อยู่ในเขตทอ้ งท่ี ทีเ่ ข้าเปน็ สมาชกิ เช่นเดยี วกับ อปพร. และประสงคส์ มคั รเปน็ สมาชกิ กองอาสารกั ษาดนิ แดน โดยตอ้ งมคี ณุ สมบตั แิ ละลกั ษณะตามพระราชบญั ญตั ฯิ (มาตรา ๑๒) โดยกองอาสารกั ษาดนิ แดน เปน็ กองกำ� ลงั ประจำ� ถนิ่ สงั กดั กระทรวงมหาดไทย ซง่ึ มหี นา้ ทสี่ นบั สนนุ ภารกจิ ในการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยพระราชบัญญัตฯิ ดงั กล่าว ได้กำ� หนดหน้าที่ของสมาชกิ อส. ใหม้ หี นา้ ทอ่ี ยา่ งชดั เจนประการหนงึ่ คอื “บรรเทาภยั ทเี่ กดิ จากธรรมชาตแิ ละการกระทำ� ของขา้ ศกึ ” (มาตรา ๑๖) ทงั้ น้ี กำ� ลงั พลสมาชกิ กองอาสารกั ษาดนิ แดนกระจายกำ� ลงั อยทู่ งั้ ในสว่ นกลางและสว่ นภมู ภิ าค ครอบคลมุ ทกุ จงั หวดั และทกุ อำ� เภอ รวมทงั้ สน้ิ ๒๖,๕๓๑ นาย ถอื เปน็ กำ� ลงั สำ� คญั ของฝา่ ยปกครองในการปฏบิ ตั งิ านสนบั สนนุ การปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย ฟื้นฟูสภาพพ้ืนที่หลังจากภัยสิ้นสุด รวมท้ังช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากสาธารณภัยตา่ งๆ คู่มอื การจดั การสาธารณภยั สำ� หรบั ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอ 17

ดังน้ัน นายอ�ำเภอในฐานะผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนอ�ำเภอ จึงมีหน้าที่ส�ำคัญ ในการสง่ั ใชส้ มาชกิ กองอาสารกั ษาดนิ แดนของอำ� เภอในภารกจิ บรรเทาภยั ตามพระราชบญั ญตั ฯิ มาตรา ๑๖ (๑) ดงั กลา่ ว โดยมแี นวปฏบิ ตั ใิ นการสง่ั ใชส้ มาชกิ อส. ใหเ้ ปน็ ไปตามภารกจิ และสอดคลอ้ งกบั วงจรการจดั การความเสยี่ ง จากสาธารณภัย ดงั น้ี (๑.๑) กอ่ นเกดิ ภยั ๑) การปอ้ งกันผลกระทบจากสาธารณภยั - ให้ความรู้แก่ประชาชนเพ่ือเตรียมพร้อมรับมือกับสาธารณภัยให้เป็นไป อย่างถูกต้อง - ใหม้ กี ารจดั ตงั้ เครอื ขา่ ยเฝา้ ระวงั ภยั และกระจายขา่ วสารตลอด ๒๔ ชวั่ โมง ๒) การเตรยี มพร้อมรับมือสาธารณภยั ที่จะเกดิ ขึ้น - ใหบ้ รู ณาการกบั หนว่ ยข้างเคียง ท้ังส่วนราชการ รฐั วิสาหกจิ เหล่ากาชาด เจ้าหน้าท่ีหนว่ ยกู้ชพี อาสาสมัคร องคก์ รภาคเอกชนและอนื่ ๆ ในการปฏบิ ัตเิ มื่อเกดิ สาธารณภัย ทงั้ ในด้านกำ� ลงั พล เครอ่ื งมืออปุ กรณ์ ยานพาหนะ เครือ่ งมอื สือ่ สาร และอื่นๆ ท่ีจ�ำเป็น - สั่งการให้เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวสารด้านสาธารณภัย อย่างใกลช้ ดิ และตอ่ เนือ่ ง - ใหป้ ระสานงานกบั หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบ เพอ่ื รว่ มตรวจสอบระบบแจง้ เตอื นภยั ทุกประเภท ท่ีมีอยู่ในพ้นื ที่รบั ผิดชอบใหม้ ีความพรอ้ มใชง้ าน - ประสานหน่วยงานรับผิดชอบ เพ่ือส�ำรวจและก�ำหนดเส้นทาง สถานท่ี หรอื พนื้ ทป่ี ลอดภยั ในการเขา้ ไปใหค้ วามชว่ ยเหลอื หรอื จำ� เปน็ ตอ้ งอพยพผปู้ ระสบภยั ออกจากพน้ื ทเ่ี กดิ สาธารณภยั ตลอดจนพืน้ ที่เหมาะสมเปน็ ศนู ย์พกั พงิ - ประสานแผนการรกั ษาความปลอดภยั ในชวี ติ และทรพั ยส์ นิ ของประชาชน และสว่ นราชการระหวา่ งฝา่ ยปกครอง ฝ่ายตำ� รวจ หรอื ฝา่ ยทหาร - ใหร้ ว่ มการฝกึ ซอ้ มกบั หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งทง้ั ดา้ นกำ� ลงั พล และการเตรยี มพรอ้ ม ด้านเคร่ืองมือ วัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะ น�้ำมันเช้ือเพลิง เคร่ืองมือสื่อสาร และอื่นๆ เพื่อให้พร้อมปฏิบัติ เมือ่ เกดิ สาธารณภัย - การปฏบิ ตั อิ น่ื ๆ ทผี่ อู้ ำ� นวยการอำ� เภอ และเจา้ พนกั งานปอ้ งกนั และบรรเทา สาธารณภยั ตามพระราชบญั ญัติ ปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐ ที่ไดร้ ับการแต่งต้งั มอบหมาย (๑.๒) การรับมือขณะเกิดสาธารณภัย ๑) ส่ังการให้เตรียมพร้อมก�ำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอ�ำเภอ รวมทั้งเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์และอ่ืนๆ ณ ที่ตั้ง เต็มอัตราตลอด ๒๔ ชั่วโมง เมื่อได้รับข้อมูลข่าวสาร หรือการแจ้งเตือนภัย ๒) เมอื่ เกดิ สถานการณภ์ ัยให้ สมาชิก อส. ร่วมส�ำรวจความสูญเสียและเสียหายเบ้ืองต้น จ�ำนวนผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บผู้สูญหาย รวมถึงพ้ืนท่ีท่ีได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย ตามทไี่ ด้รับมอบหมาย เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอประสาน หนว่ ยที่เกย่ี วขอ้ งทัง้ ส่วนราชการ รฐั วิสาหกิจ องคก์ รภาคเอกชน หรือ หนว่ ยงานอน่ื ๆ เขา้ ชว่ ยเหลอื และรายงานใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชาทราบโดยดว่ น 18 คู่มอื การจัดการสาธารณภัยส�ำหรับผ้อู �ำนวยการอ�ำเภอ

๓) กรณีท่ี อส. ประสบเหตุสาธารณภัยให้ประเมินสถานการณ์เบื้องต้น ตอนท่ี ๒ หากอยู่ในขีดความสามารถหรือศักยภาพท่ีจะเผชิญเหตุภายใต้ทรัพยากรท่ีมีอยู่ ให้ด�ำเนินการช่วยเหลือ เปน็ เหตเุ ฉพาะหนา้ กอ่ น และแจง้ ใหผ้ บู้ งั คบั กองรอ้ ยอาสารกั ษาดนิ แดนอำ� เภอ/ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอ ทราบเพอื่ ประเมนิ สถานการณ์และสนับสนุนการปฏิบัติต่อไป ท้ังน้ี การเผชิญเหตุในเบื้องต้นให้จัดล�ำดับความส�ำคัญเร่งด่วน ในการชว่ ยชวี ติ ผปู้ ระสบภยั เปน็ ล�ำดับแรก สว่ นสัตว์เล้ยี งและทรัพย์สินเป็นลำ� ดับรองลงไป ๔) เน้นย้�ำการปฏิบัติแก่ สมาชิก อส. ในการเข้าถึงและการออกจากสถานท่ี ซง่ึ พนื้ ทเี่ กิดสาธารณภยั โดยเส้นทางปลอดภัยตามที่สำ� รวจและกำ� หนดไว้ ๕) อำ� นวยการใหม้ กี ารดำ� รงการตดิ ตอ่ สอ่ื สารอยา่ งตอ่ เนอื่ ง โดยเครอ่ื งมอื สอื่ สาร ทกุ ประเภทท่สี ามารถตดิ ตอ่ ได้รวมทง้ั การใชพ้ ลน�ำสารสนับสนุนการปฏิบัตใิ นพนื้ ท่ซี ่ึงไม่มขี า่ ยการสอ่ื สารเข้าถงึ ๖) สง่ั ใชส้ มาชกิ อส. สนบั สนนุ การชว่ ยเหลอื อพยพผปู้ ระสบภยั ไปยงั พนื้ ทป่ี ลอดภยั หรอื ศนู ยพ์ กั พงิ ชั่วคราว รวมทงั้ สนบั สนนุ ในเรอ่ื งความปลอดภยั และสงบเรียบร้อยภายในศูนยพ์ กั พงิ ดว้ ย ๗) สนับสนุนหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยเบื้องต้น เช่น การปฐมพยาบาล การแจกจา่ ยถุงยังชีพ/อาหาร น้ำ� ดม่ื เครอื่ งน่งุ หม่ เป็นต้น ๘) จัดสง่ กำ� ลังบำ� รุงในข้นั ตน้ ตามขีดความสามารถ เชน่ อาหาร นำ�้ ด่มื เวชภณั ฑ์ เคร่อื งนุ่งหม่ แกผ่ ปู้ ระสบภัยและก�ำลังพลทีเ่ ขา้ รว่ มปฏิบัตกิ าร ๙) หากเกนิ ขดี ความสามารถในระดบั กองบงั คบั การ ใหร้ อ้ งขอตอ่ กองบญั ชาการ กองอาสารกั ษาดนิ แดน เพอ่ื สง่ั ใชก้ ำ� ลงั สมาชกิ กองอาสารกั ษาดนิ แดน จากกองบญั ชาการกองอาสารกั ษาดนิ แดน หรือกองบงั คับการกองอาสารักษาดนิ แดนจงั หวดั ทไ่ี มไ่ ด้รบั ผลกระทบจากสาธารณภยั เขา้ ชว่ ยเหลอื ๑๐) ให้ปฏิบัติการร่วมกับหน่วยการแพทย์ฉุกเฉิน/หน่วยกู้ภัยในการส่งตัว ผทู้ ไี่ ดร้ บั บาดเจบ็ ไปยงั โรงพยาบาลสถานอี นามยั หรอื สถานพยาบาลชว่ั คราวโดยดว่ น ดว้ ยพาหนะทางบก ทางนำ้� หรอื ขอรับการสนับสนุนทางอากาศ รวมทงั้ การก�ำหนดพื้นท่ที พ่ี าหนะสามารถเขา้ ถึงหรือลงจอดได้ ๑๑) ปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานที่เก่ียวข้องในการเคล่ือนย้ายผู้เสียชีวิตไปยัง พื้นทท่ี ่กี �ำหนดไวเ้ พ่อื รอการชันสูตรจากหน่วยงานทีม่ หี นา้ ทรี่ บั ผิดชอบ ๑๒) ให้จดั ชดุ ประสานงาน เพ่อื ชว่ ยเหลือในพนื้ ที่พักพงิ ชั่วคราวทีก่ �ำหนดไว้ ๑๓) ใหจ้ ัดชุดกองอาสารกั ษาดนิ แดนก้ภู ยั (อส.กู้ภัย) ลำ� เลียงอาหารและน�้ำดืม่ ดว้ ยยานพาหนะหรอื เดนิ เทา้ เพอื่ เขา้ ถงึ ผปู้ ระสบภยั ทอี่ ยหู่ า่ งไกลหรอื ไมส่ ามารถอพยพออกมายงั พนื้ ทป่ี ลอดภยั ได้ ๑๔) ใหจ้ ดั ชดุ รกั ษาความปลอดภยั รว่ มกบั ฝา่ ยปกครอง ฝา่ ยตำ� รวจ หรอื ฝา่ ยทหาร เพื่อป้องกันการโจรกรรมทรัพย์สินผู้ประสบภัย และการจัดระบบการจราจรตั้งจุดตรวจเส้นทางเข้า-ออกพ้ืนที่ เพอ่ื ใหเ้ จา้ หน้าทท่ี เี่ กีย่ วขอ้ งปฏิบตั ิหน้าท่ไี ดโ้ ดยสะดวก ๑๕) การปฏบิ ตั อิ นื่ ๆ ทผ่ี อู้ ำ� นวยการอำ� เภอ หรอื เจา้ พนกั งานปอ้ งกนั และบรรเทา สาธารณภัยตามพระราชบัญญตั ปิ อ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐ ท่ไี ดร้ บั การแตง่ ตง้ั มอบหมาย (๑.๓) การฟน้ื ฟูภายหลังเกดิ สาธารณภัย ๑) ใหจ้ ดั ชดุ กองอาสารกั ษาดินแดนกู้ภยั (อส.ก้ภู ยั ) ปฏิบตั ิหน้าท่ี ดงั นี้ - รว่ มคน้ หาผสู้ ญู หาย และกำ� จดั เกบ็ กวาด สง่ิ ปฏกิ ลู ในทอ่ี ยอู่ าศยั ของผปู้ ระสบภยั รวมท้งั การท�ำความสะอาดสถานท่ีราชการ คมู่ ือการจดั การสาธารณภยั ส�ำหรับผอู้ ำ� นวยการอ�ำเภอ 19

- เข้าร่วมกับองค์กรภาครัฐ ภาคประชาชน หรือหน่วยข้างเคียง เพ่ือบรรจุ และขนยา้ ยส่งิ ของท่ไี ดร้ ับบริจาค - เข้าปฏิบัติการช่วยเหลือในการซ่อมสร้างก่อสร้างบ้านเรือน อาคาร ฝาย ทำ� นบ หรอื ส่ิงก่อสรา้ งอ่นื ๆ ตามขีดความสามารถ - เขา้ รว่ มกบั หนว่ ยงานทางการแพทยใ์ นการเฝา้ ระวงั และสนบั สนนุ ชว่ ยเหลอื เพือ่ ปอ้ งกันการเกดิ โรคระบาดภายหลังเกิดสาธารณภัย - เขา้ รว่ มปฏบิ ตั งิ านกบั ฝา่ ยปกครอง ตำ� รวจ หรอื ทหาร เพอ่ื อำ� นวยความสะดวก ในการนำ� ทางเขา้ พ้นื ทเ่ี กิดสาธารณภยั ให้แกเ่ จ้าหน้าทีจ่ ากภายนอกท่ีจะเข้ามาชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัย - ให้ใช้เครื่องมือจักรกลสนับสนุนหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในการเปิดเส้นทาง หรือซอ่ มแซมเส้นทางคมนาคมในเบอื้ งต้น ๒) ให้จดั ชุด อส.สัมพันธเ์ ขา้ ใหก้ �ำลังใจและปลอบขวัญผู้ประสบภัย ๓) ส่ังการให้มีการสับเปลี่ยนก�ำลังพลเม่ือมีการปฏิบัติหน้าท่ีติดต่อกันต่อเนื่อง เป็นเวลานานตามความเหมาะสม (๓) กำ� นนั ผู้ใหญ่บ้าน กับงานปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นบุคลากรฝ่ายปกครองในพื้นที่ที่มีความใกล้ชิดกับประชาชน ในการปฏิบตั ิงาน ซึง่ มาจากการคัดเลือกบุคคลในชุมชนที่มีคณุ สมบตั ิเหมาะสมและไม่มลี ักษณะตอ้ งหา้ ม โดยมหี นา้ ที่ ส�ำคญั ในการดูแลราษฎรในตำ� บล หม่บู ้าน และเปน็ ผ้ชู ่วยเหลอื นายอำ� เภอในการปฏบิ ตั งิ าน โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในการเปน็ ผปู้ ระสานงานระหวา่ งราชการสว่ นภมู ภิ าคกบั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ การรกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ย การปอ้ งกันและแก้ไขปัญหากรณีตา่ งๆ ตามพระราชบญั ญัตลิ กั ษณะปกครองท้องท่ี พ.ศ. ๒๔๕๗ และทไ่ี ด้แก้ไข เพม่ิ เติมถงึ ปจั จบุ ัน ส�ำหรับอ�ำนาจหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน และก�ำนันในส่วนของภารกิจด้านการป้องกันและ บรรเทาสาธารณภยั นนั้ ปรากฏไวอ้ ยา่ งชดั เจนใน พระราชบญั ญตั ลิ กั ษณะปกครองทอ้ งท่ี พ.ศ. ๒๔๕๗ มาตรา ๒๗ (๑) (๔) และ (๘) และมาตรา ๓๔ ทวิ ๓๑ ทรี่ ะบุอ�ำนาจหน้าท่ขี องกำ� นัน ใหก้ �ำนันมีอ�ำนาจหน้าท่เี ชน่ เดียวกบั ผใู้ หญบ่ า้ นดว้ ย โดยมรี ายละเอยี ดในมาตรา ๒๗ ดงั กลา่ ว ดงั น้ี 20 คมู่ อื การจดั การสาธารณภัยส�ำหรับผอู้ �ำนวยการอ�ำเภอ

(๑) อ�ำนวยความเป็นธรรมและดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัย ตอนท่ี ๒ ให้แกร่ าษฎรในหม่บู ้าน (๔) รับฟงั ปัญหาและนำ� ความเดือดรอ้ น ทุกขส์ ขุ และความตอ้ งการทีจ่ ำ� เป็นของราษฎร ในหมู่บ้าน แจ้งต่อส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือองค์กรอ่ืนที่เก่ียวข้อง เพ่ือใหก้ ารแกไ้ ขหรือชว่ ยเหลือ (๘) แจ้งให้ราษฎรให้ความช่วยเหลือในกิจการสาธารณประโยชน์เพ่ือบ�ำบัดปัดป้อง ภยนั ตรายสาธารณะอนั มีมาโดยฉกุ เฉนิ รวมตลอดทง้ั การช่วยเหลือบรรเทาทกุ ข์แกผ่ ้ปู ระสบภัย” จากบทบาทหน้าที่ตามกฎหมายดังกล่าว นายอ�ำเภอในฐานะผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐ อาศัยอ�ำนาจตาม พระราชบัญญัติลักษณะ ปกครองท้องท่ี พ.ศ. ๒๔๕๗ จึงต้องมอบหมายให้ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้านปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการความเส่ียง จากสาธารณภยั ตามแนวปฏบิ ตั ิ ดังนี้ (๓.๑) การรักษาความปลอดภัยของหมบู่ า้ น ๑) ใหผ้ ใู้ หญบ่ า้ นในฐานะประธานกรรมการหมบู่ า้ น จดั ใหม้ กี ารประชมุ คณะกรรมการ หมูบ่ ้าน เพือ่ ปรึกษาหารือการกำ� หนดมาตรการรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ไดแ้ ก่ - การจัดท�ำแผนผังหมู่บ้าน เพื่อสะดวกต่อการก�ำหนดมาตรการรักษา ความปลอดภยั บรเิ วณจดุ ตา่ งๆ เชน่ จดุ พน้ื ทเี่ สยี่ งภยั ธรรมชาติ จดุ ทไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากการสรู้ บบรเิ วณชายแดน เป็นต้น - การจดั ชุดเวรยามรักษาความปลอดภยั หมู่บา้ น ประจ�ำจดุ ต่างๆ ท่กี ำ� หนด รวมทั้งจัดชุดลาดตระเวนในหมู่บ้าน ตลอด ๒๔ ชั่วโมง การจัดตั้งคุ้มต่างๆ โดยให้มีคณะกรรมการของคุ้ม เพ่อื ดแู ลรกั ษาความปลอดภัยภายในคมุ้ - การแจง้ เตอื นลว่ งหนา้ เพอ่ื ใหป้ ระชาชนในหมบู่ า้ นทราบ กรณที มี่ คี วามเสยี่ ง จะเกิดสาธารณภัย - เมื่อพบเหตุให้เข้าเผชิญเหตุ หรือการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น พร้อมแจ้งปลัดอ�ำเภอฝ่ายความม่นั คง/นายอำ� เภอทราบ ๒) ผู้ใหญ่บ้านจะต้องชี้แจงถึงความจ�ำเป็นในการก�ำหนดมาตรการ รกั ษาความปลอดภัยของหมู่บ้านให้ประชาชนในหมบู่ า้ นทราบและเขา้ ใจ เพอื่ ใหเ้ กิดความร่วมมอื ของประชาชน ในการด�ำเนินมาตราลดความเสีย่ งจากสาธารณภัยได้ ๓) กรณที เ่ี หตสุ าธารณภยั ทคี่ าดวา่ จะเกดิ ขน้ึ หรอื เกดิ ขนึ้ และเกนิ ขดี ความสามารถ ของประชาชนในหมบู่ า้ น ใหผ้ ใู้ หญบ่ า้ นขอความชว่ ยเหลอื จากผใู้ หญบ่ า้ นขา้ งเคยี ง หรอื รายงานกำ� นนั และนายอำ� เภอ ตามล�ำดับ เพอ่ื ดำ� เนินการสนบั สนุนความช่วยเหลอื ต่อไป ๔) ดำ� เนนิ การตามมาตรการลดความเสย่ี งจากสาธารณภยั ตามแผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยอ�ำเภอซ่ึงไดก้ ำ� หนดมาตรการและแนวทางในการจัดการความเส่ียงจากสาธารณภยั ไว้ ๕) กรณมี กี ารตงั้ จดุ ตรวจ/จดุ สกดั รว่ มกบั พนกั งานฝา่ ยปกครอง ตำ� รวจ ใหม้ คี ำ� สง่ั ชัดเจนว่าพนักงานฝ่ายปกครองหรือต�ำรวจผู้ใดเป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกั้นพื้นที่เกิดเหตุ ไม่ใหบ้ ุคคลท่ไี ม่ใช่เจา้ หน้าทีท่ ีเ่ ก่ยี วขอ้ งเขา้ มาภายในพืน้ ทีไ่ ด้ คูม่ อื การจัดการสาธารณภัยสำ� หรบั ผ้อู ำ� นวยการอำ� เภอ 21

๖) สั่งใช้ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) สนับสนุนการปฏิบัติ ในการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยโดยเฉพาะอย่างยิง่ ขณะเกดิ เหตสุ าธารณภยั (๓.๒) การรกั ษาความสงบเรยี บร้อยในงานประเพณี /กิจกรรมสำ� คัญในพ้ืนท่ี เนอื่ งจากในงานประเพณี /กจิ กรรมสำ� คญั จะมปี ระชาชนมารว่ มงานเปน็ จำ� นวนมาก อาจเกดิ เหตสุ าธารณภยั โดยมไิ ดค้ าดหมาย เชน่ งานวดั งานประเพณที มี่ เี ครอ่ื งเลน่ ตา่ งๆ การเผาเทยี นเลน่ ไฟ ฯลฯ จึงจำ� เป็นต้องมกี ารดำ� เนินการมาตรการในการลดความเสย่ี งจากสาธารณภัย ดงั นี้ ๑) การวางแผนการรกั ษาความปลอดภยั และความสงบเรียบร้อย ได้แก่ - ก�ำหนดเขตพนื้ ทที่ ี่จะใช้ในการจัดงาน ให้มีเส้นทางเขา้ -ออกไดโ้ ดยสะดวก กรณีที่เกิดเหตุสาธารณภัยข้นึ - กำ� หนดพนื้ ที่เส่ยี ง และมอบหมายเจา้ หน้าทีป่ ระจ�ำอยู่แต่ละจดุ - จัดต้ังคณะกรรมการรกั ษาความปลอดภยั บริเวณงาน - ประสานขอกำ� ลงั ตำ� รวจ สมาชกิ อส. อปพร. เพอ่ื รว่ มในการรกั ษาความสงบ เรยี บร้อยและความปลอดภัยภายในบรเิ วณงาน - กำ� หนดชอ่ งทางและวธิ กี ารสอ่ื สารเพอื่ ประสานการปฏบิ ตั งิ านใหม้ คี วามชดั เจน - กำ� หนดแผนเผชญิ เหตุเมือ่ มีเหตสุ าธารณภัยเกิดขน้ึ ๒) ปฏิบตั งิ านรกั ษาความปลอดภัยตามแผนท่กี ำ� หนด ๓) กรณที มี่ เี หตกุ ารณส์ าธารณภยั เกดิ ขน้ึ และคาดวา่ ไมส่ ามารถระงบั ไดใ้ หร้ ายงาน จงั หวัดตอ่ ไป 22 ค่มู อื การจัดการสาธารณภัยส�ำหรบั ผู้อำ� นวยการอ�ำเภอ

(๓.๓) การตดิ ตาม เฝ้าระวัง และรายงานข่าว ตอนท่ี ๒ การตดิ ตาม เฝา้ ระวงั ความเสย่ี ง ทอี่ าจเกดิ ขนึ้ จากสาธารณภยั นบั วา่ เปน็ หนา้ ทสี่ ำ� คญั ของกำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น ทจ่ี ะตอ้ งมกี ารแจง้ ขา่ วสารเพอื่ ใหม้ กี ารแจง้ เตอื นไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ทนั ทว่ งที จะสง่ ผลใหป้ ระชาชน สามารถหลบหลกี จากภยั ที่อาจเกิดขน้ึ ได้ เชน่ ขา่ วสารปริมาณนำ้� ฝนตกในพืน้ ที่มากกว่า ๑๐๐ มม. มีโอกาสเกิด ดินโคลนถล่มเข้าทับบ้านเรือนเชิงเขา หากก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า ก็จะสามารถอพยพ ประชาชนไปยงั พนื้ ทปี่ ลอดภยั กอ่ นเกดิ เหตไุ ด้ ดงั นน้ั แนวทางการปฏบิ ตั งิ านดา้ นการตดิ ตาม เฝา้ ระวงั และรายงาน ขอ้ มลู ขา่ วสารแกป่ ระชาชน ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ ควรด�ำเนินการ ดงั น้ี ๑) จัดต้ังแหล่งข่าวและสร้างเครือข่ายข่าวในพื้นท่ี โดยใช้บุคคลซ่ึงอยู่ในพื้นที่ เป็นแหล่งขา่ ว รวมท้ังประสานกับหน่วยข่าวข้างเคยี งเพอ่ื เฝา้ ระวังความเสีย่ งภัยต่างๆ ๒) ตรวจสอบความถูกตอ้ งและความเชื่อถือได้ของขอ้ มลู ข่าวสาร ๓) อำ� นวยการ ใหก้ ำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น แจง้ เตอื นลว่ งหนา้ ประชาชนกอ่ นจะเกดิ ภยั (๓.๔) การรายงานเหตุการณ์ เมอ่ื เกดิ เหตสุ าธารณภยั ขน้ึ ท่ีใด ใหก้ ำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น เขา้ เผชิญเหตุ และบรรเทา สถานการณเ์ ปน็ การเบอ้ื งตน้ และรายงานสถานการณใ์ หป้ ลดั อำ� เภอหรอื ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอทราบตามลำ� ดบั ชนั้ ทนั ที (๓.๕) การป้องกนั สาธารณภยั ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในฐานะเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอแตง่ ตงั้ ตามพระราชบัญญตั ิป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๔ วรรค ๑๓ ประกอบระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การแต่งต้ังและการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าพนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย ฉบับแก้ไขเพ่ิมเติม พ.ศ.๒๕๖๔ จึงมีหน้าที่ในการป้องกันภัยและบรรเทาภัย ให้แก่ประชาชนในเขตพ้ืนที่รับผิดชอบ โดยผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอสามารถมอบหมายให้ด�ำเนินการในการจัดการ ความเสยี่ งจากสาธารณภัย ดงั น้ี ๑) การด�ำเนินการช่วงก่อนเกิดภัย ให้ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก�ำหนดมาตรการ ในการปอ้ งกนั ภยั ทอี่ าจเกดิ ขนึ้ เชน่ การเตรยี มพนื้ ทปี่ ลอดภยั พนื้ ทร่ี องรบั การอพยพ หรอื พน้ื ทจ่ี ดั ตงั้ ศนู ยพ์ กั พงิ ชว่ั คราว รวมทงั้ เตรยี มบคุ ลากร เครอ่ื งมอื เครอื่ งใชใ้ นการชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั วางแผนในการอพยพเคลอ่ื นยา้ ยประชาชน เพือ่ เป็นการปอ้ งกนั และลดความสญู เสีย หากเกดิ ภัยพบิ ัตติ า่ งๆ ข้ึนในเขตพ้นื ท่ีทร่ี ับผดิ ชอบ ตลอดจนการเตือนภัย และใหค้ วามรแู้ กป่ ระชาชนดา้ นสาธารณภยั นอกจากน้ี ยงั ตอ้ งรว่ มกบั ทางอำ� เภอรวบรวมกลมุ่ ประชาชนอาสาสมคั ร ปอ้ งกนั ภยั ฝ่ายพลเรือน จดั ตั้งและฝกึ อบรม เพื่อสนบั สนนุ การปฏิบตั งิ านของทางราชการ ๒) การด�ำเนินการช่วงขณะเกิดภัย ให้ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในฐานะเจ้าพนักงาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มอี �ำนาจหน้าทใ่ี นการปฏิบตั ิการตามท่ผี ู้อ�ำนวยการอ�ำเภอสั่งการ และหากเปน็ ผพู้ บเหตใุ ห้เข้าจดั การใดๆ และสั่งให้บุคคลใดๆ เขา้ ชว่ ยเหลอื เท่าที่จ�ำเปน็ เพ่อื ขจดั ภัยเชน่ ว่าน้นั ไปพลางกอ่ นได้ พร้อมท้งั รายงานใหผ้ ้อู �ำนวยการอ�ำเภอ ๓) การดำ� เนนิ การชว่ งภายหลงั ทภี่ ยั ไดผ้ า่ นพน้ ไปแลว้ เปน็ การฟน้ื ฟกู จิ กรรมตา่ งๆ ของชมุ ชน การประกอบอาชพี และบรกิ ารของรฐั ใหก้ ลบั คนื สภู่ าวะปกติ การซอ่ มแซมบรู ณะสงิ่ สาธารณประโยชนต์ า่ งๆ ที่ได้รับความเสียหายให้กลับคืนสู่สภาพเดิม ผู้อ�ำนวยการอาจสั่งการให้ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้านร่วมมือกับทางอ�ำเภอ ออกสำ� รวจความเสียหายของบ้านเรอื น ทรัพย์สินของราษฎร และสิ่งสาธารณประโยชน์ เพือ่ ขอรับการสนบั สนุน คู่มอื การจดั การสาธารณภยั สำ� หรบั ผอู้ �ำนวยการอำ� เภอ 23

ชว่ ยเหลอื แกร่ าษฎรผปู้ ระสบภยั และซอ่ มแซมสงิ่ สาธารณประโยชน์ จากทางราชการ โดยสามารถขอรับการช่วยเหลือโดยใช้เงิน งบประมาณตามระเบยี บ กระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยเงนิ ทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลอื ผู้ประสบภยั พิบัติกรณฉี กุ เฉิน พ.ศ. ๒๕๖๒ เมื่อได้มี การประกาศพื้นท่ีประสบสาธารณภัย และการประกาศเขต ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพบิ ัติกรณฉี ุกเฉนิ แลว้ จากทก่ี ลา่ วมาขา้ งตน้ การสงั่ ใชก้ ำ� ลงั พลในชมุ ชนไมว่ า่ จะเปน็ อปพร. สมาชกิ อส. และ ก�ำนัน ผ้ใู หญ่บา้ น ในการปฏิบตั ภิ ารกิจการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตามวงจรการจดั การความเส่ยี ง จากสาธารณภยั ให้ผูอ้ �ำนวยการอ�ำเภอสัง่ การ อำ� นวยการ และตดิ ตามการปฏบิ ตั ิตามอ�ำนาจหน้าทีท่ ่ีก�ำหนดไว้ ในพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั พ.ศ.๒๕๕๐ และแผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั อำ� เภอ เป็นส�ำคัญ รวมทั้งอาศัยกลไก กอปภ.อ. และ ศบก.จว. ในการก�ำหนดมาตราในการป้องกันและลดความเสี่ยง และการจดั การเหตกุ ารณเ์ มอ่ื เกดิ เหตสุ าธารณภยั ขน้ึ ตามลำ� ดบั ทง้ั น้ี กเ็ พอื่ ใหก้ ารสง่ั ใชเ้ ปน็ ไปโดยชอบตามกฎหมาย และบคุ ลากรทเี่ กย่ี วขอ้ งดงั กลา่ วจะไดร้ บั สทิ ธคิ มุ้ ครองความรบั ผดิ อนั เกดิ จากการดำ� เนนิ การโดยชอบตามพระราชบญั ญตั ิ ปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๔๓ ดังกล่าวน้ันดว้ ย ๒.๓ การเตรียมความพร้อมในการจัดการสาธารณภัยในพ้ืนที่ การเตรียมความพร้อมในการจัดการสาธารณภัยในพ้ืนท่ี เป็นกระบวนการส�ำคัญที่ด�ำเนินการ ในช่วงกอ่ นเกดิ ภยั เพ่ือใหป้ ระชาชนหรือชมุ ชน และหนว่ ยงานท่เี ก่ียวข้องมขี ีดความสามารถ และศักยภาพเพียงพอ ทจ่ี ะรบั มอื กบั สาธารณภยั ในพนื้ ทไ่ี ด้ ซงึ่ นายอำ� เภอในฐานะผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอ ควรเตรยี มความพรอ้ มในการจดั การ สาธารณภัยในพืน้ ทตี่ ามแนวทาง ดงั นี้ ๒.๓.๑ จัดให้มีการส�ำรวจ ตรวจสอบ และปรับปรุงข้อมูลพ้ืนที่เส่ียงภัยประจ�ำถ่ินในเขตพ้ืนที่อ�ำเภอ รวมถงึ เขตรอยตอ่ พนื้ ทอี่ ำ� เภอ โดยการสำ� รวจขอ้ มลู เชงิ พนื้ ทใี่ นเชงิ กายภาพ วา่ มคี วามลอ่ แหลมจะเกดิ ความเสย่ี ง จากสาธารณภยั ประกอบการวเิ คราะหข์ อ้ มลู เชงิ สถติ พิ นื้ ทที่ เี่ คยประสบภยั ในแตล่ ะประเภท เชน่ อทุ กภยั ภยั แลง้ ตลอดจนภัยอื่นๆ ที่มีลักษณะพิเศษในพ้ืนที่ เช่น ภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย อัคคีภัย ท่ีอาจเกิดข้ึน ในเขตชมุ ชนแออัด เป็นตน้ โดยขอ้ มูลดังกล่าวนเ้ี ป็นฐานในการวางแผนการเตรยี มความพรอ้ มในดา้ นต่างๆ ๒.๓.๒ ทบทวนและปรบั ปรงุ แผนเผชญิ เหตขุ องอำ� เภอใหเ้ หมาะสม สอดคลอ้ งกบั สถานการณพ์ น้ื ทเ่ี สยี่ ง ทเ่ี ปน็ ปัจจบุ ัน ตามขอ้ ๒.๓.๑ โดยใหค้ วามส�ำคัญกับประเดน็ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) ขอ้ มลู พนื้ ทเ่ี สยี่ งภยั ในระดบั หมบู่ า้ น/ชมุ ชน ขอ้ มลู กลมุ่ เปราะบาง โดยการประเมนิ สถานการณ์ ความเสย่ี งปัจจุบัน ประกอบกบั ขอ้ มลู การเกิดสาธารณภัยทีเ่ คยเกิดขึ้นในพื้นที่ (๒) รายการเคร่ืองมือ วัสดุอุปกรณ์ อุปกรณ์แจ้งเตือนภัย เครื่องจักรกลที่ใช้ในการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยของหน่วยงานต่างๆ ภายในเขตพ้ืนที่อ�ำเภอที่มีความพร้อมใช้งานและเหมาะสม ตามประเภทภยั 24 คู่มอื การจดั การสาธารณภัยสำ� หรบั ผู้อ�ำนวยการอำ� เภอ

(๓) การก�ำหนดจุด/พ้ืนท่ีปลอดภัยประจ�ำหมู่บ้าน/ชุมชน เส้นทางการอพยพ แผนรองรับ ตอนท่ี ๒ การอพยพประชาชน แผนการจดั ตงั้ ศนู ยพ์ กั พงิ ชวั่ คราวในพนื้ ทปี่ ลอดภยั เพอื่ รองรบั กรณผี ปู้ ระสบภยั ไมส่ ามารถกลบั เขา้ ทพี่ กั อาศยั ได้ พรอ้ มทง้ั แนวทางการดแู ลความเปน็ อยขู่ องประชาชนในศนู ยพ์ กั พงิ ชวั่ คราวดา้ นตา่ งๆ โดยเฉพาะ ดา้ นการดำ� รงชพี และจดั ตง้ั โรงครวั พระราชทานในการประกอบเลย้ี ง การแจกจา่ ยถงุ ยงั ชพี ตามวงรอบเพอื่ บรรเทา ความเดอื ดร้อนของประชาชนจนกว่าสถานการณจ์ ะเข้าสภู่ าวะปกติ (๔) การเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังพ้ืนที่เสี่ยงในชุมชน พื้นที่ส�ำคัญทางเศรษฐกิจ และการขอความร่วมมือหน่วยงาน และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในพื้นที่ด�ำเนินมาตรการในการป้องกัน และลดผลกระทบต่อสาธารณภัยประเภทต่างๆ เช่น ก�ำจัดสิ่งกีดขวางทางน้�ำ ขุดลอกล�ำคลองที่ต้ืนเขิน เปา่ ลา้ งบอ่ บาดาล การตรวจสอบความปลอดภัยในโรงงานอตุ สาหกรรมฯลฯ (๕) การซกั ซอ้ มแนวทางการปฏบิ ตั ติ ามแผนเผชญิ เหตแุ บบบรู ณาการ และจดั ใหม้ กี ารฝกึ ซอ้ ม การปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั รว่ มกบั ประชาชน องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ และหนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ งในพน้ื ท่ี เพือ่ ใหป้ ระชาชนเข้าใจแนวปฏิบัติเม่ือเกิดสาธารณภยั รวมท้ังหนว่ ยงานทมี่ ีภารกจิ บทบาท ตามแผนเผชญิ เหตุ จะไดม้ คี วามเขา้ ใจตามแนวทางปฏบิ ตั ทิ ก่ี ำ� หนด ทงั้ นี้ การฝกึ การปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั สามารถดำ� เนนิ การได้ ใน ๒ รูปแบบ กล่าวคอื (๕.๑) การฝึกเชิงอภปิ ราย (Discussion Base Exercise) แบง่ เป็น l การประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ในรูปแบบน้ีเป็นการต้ังสมมติฐาน สถานการณ์สาธารณภัย ที่อาจเกิดข้ึนในเขตพื้นที่ โดยอาจน�ำแนวทางปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุที่มี มาใช้ในการทดสอบ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการได้แสดงความคิดเห็นร่วมกันในการค้นหาทางเลือก ท่ีเหมาะสมต่อการเผชิญเหตุ l การฝกึ บนโตะ๊ (Table Top Exercise) เปน็ การจำ� ลองสถานการณแ์ บบกวา้ ง มีการถกแถลง อภปิ รายเพ่ือค้นหาจุดออ่ น ปญั หา อปุ สรรคของแผนเผชิญเหตุ โดยเน้นการฝึกในระดบั ผบู้ รหิ าร และผมู้ อี �ำนาจตดั สนิ ใจ คมู่ อื การจัดการสาธารณภัยสำ� หรบั ผ้อู ำ� นวยการอ�ำเภอ 25

(๕.๒) การฝึกเชงิ ปฏิบตั กิ าร (Operation Base Exercise) แบง่ เปน็ l การฝึกปฏิบัติ (Drill) เป็นการฝึกปฏิบัติท่ีเน้นการเผชิญเหตุของเจ้าหน้าที่ ภาคสนามเฉพาะด้าน l การฝึกเฉพาะหน้าที่ (Functional Exercise) เป็นการฝึกของหน่วยงาน หรือระหว่างหน่วยงาน โดยใช้สถานการณ์สมมติ เพ่ือทดสอบขีดความสามารถของบุคคลที่มีหน้าท่ีรับผิดชอบ เฉพาะด้าน เชน่ ด้านการสือ่ สาร ด้านการติดตามสถานการณ์ เป็นตน้ l การฝกึ เตม็ รปู แบบ (Full Scale Exercise) เปน็ การฝกึ ทม่ี ขี นั้ ตอนการเตรยี มการ และการใช้ทรัพยากรมากที่สุดเมื่อเทียบกับการฝึกรูปแบบอ่ืนๆ มีความเก่ียวข้องกับบุคลากรหลายระดับ จากหลายหน่วยงาน มีการเคลื่อนย้ายทรัพยากรในการเผชิญเหตุ การเช่ือมโยงและส่ังการจากศูนย์บัญชาการ เหตุการณ์อ�ำเภอไปยงั เจา้ หนา้ ที่ผู้ปฏบิ ัตภิ าคสนาม นอกจากน้ี ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอ ยงั สามารถใชฝ้ กึ ซอ้ มเปน็ เวทใี นการใหค้ วามรู้ การทำ� ความเขา้ ใจ ถงึ แนวทางการบรู ณาการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั ตลอดจนชแ้ี จงระเบยี บ/หลกั เกณฑก์ ารใหค้ วามชว่ ยเหลอื ทเี่ ก่ียวขอ้ งด้วยได้ ๒.๓.๓ การสร้างการรับรู้ให้ประชาชนทราบถึงแนวทางปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัยให้เหมาะสม กับภัยประเภทต่างๆ ผ่านสื่อทุกประเภท ในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ รวมถึงมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ เพ่ือให้ทุกภาคส่วนที่เก่ียวข้องได้ตระหนักถึงภัยอันตราย ตลอดจนบทลงโทษทางกฎหมายหากมีการฝ่าฝืน มาตรการตา่ งๆ ๒.๓.๔ พัฒนาศักยภาพ และส่งเสริมบทบาทบุคลากรภาคีเครือข่ายด้านการป้องกันและบรรเทา สาธารณภยั ในพ้ืนท่อี �ำเภอ เป็นอีกหนึ่งในหน้าท่ีส�ำคัญของผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอท่ีจะผลักดันการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ภาคีเครือข่ายด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยด้วยการก�ำหนดแผนงาน/โครงการฝึกอบรมการประชุม การฝึกซ้อม หรือการเรยี นรอู้ ื่นๆ ดว้ ยเทคนคิ และสื่อการเรียนร้ตู ่างๆ ในดา้ นการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยขับเคล่ือนออกมาเป็นแผนงาน/โครงการ ที่กองอ�ำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอ�ำเภอก�ำหนด ใหด้ �ำเนนิ การ ทั้งน้ี บคุ ลากรที่ควรได้รับการพฒั นาศักยภาพ ไดแ้ ก่ (๑) บุคลากรที่มีบทบาทหน้าที่โดยตรงในด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อาทิ ปลัดอำ� เภอ เจา้ พนักงานปกครอง เจ้าหนา้ ทป่ี กครอง อปพร. สมาชิก อส. กำ� นัน ผู้ใหญบ่ า้ น เปน็ ต้น ซง่ึ นอกจาก ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอจะตอ้ งสง่ เสรมิ การพฒั นาศกั ยภาพและขดี ความสามารถของบคุ ลากรดงั กลา่ วแลว้ ยงั ตอ้ งสง่ เสรมิ บทบาทบคุ ลากรเหลา่ นนั้ ใหไ้ ดม้ อี ำ� นาจและหนา้ ทดี่ า้ นการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ทชี่ ดั เจน โดยการแตง่ ตงั้ บคุ ลากรท่มี คี ณุ สมบตั เิ ป็นเจา้ พนกั งานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ท้ังนี้ ใหต้ ามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าดว้ ยหลกั เกณฑก์ ารแตง่ ต้ังและการปฏิบัติหน้าทขี่ องเจ้าพนักงานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยด้วย (๒) บุคลากรภายนอก อาทิ ประชาชน เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม ในพ้นื ที่เส่ยี ง อาสาสมัครภาคประชาชน มลู นธิ ิ และองค์กรไมแ่ สวงหากำ� ไรในพ้ืนที่ เป็นต้น ๒.๓.๕ การเฝ้าระวังและตดิ ตามสถานการณ์ ให้นายอ�ำเภอ ในฐานะผอู้ �ำนวยการอำ� เภอ บูรณาการ หนว่ ยงานในพน้ื ทเ่ี พอ่ื เฝา้ ระวงั และตดิ ตามสถานการณส์ าธารณภยั ทอ่ี าจหรอื คาดวา่ จะเกดิ ขน้ึ โดยจดั ตงั้ คณะทำ� งาน ติดตามสถานการณ์ ภายใต้กองอำ� นวยการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยอำ� เภอ โดยมีองค์ประกอบของผแู้ ทน หน่วยงานต่างๆ ในพื้นท่ีที่เหมาะสมในแต่ละประเภทภัย ซึ่งมีปลัดอ�ำเภอฝ่ายความม่ันคงท่ีรับผิดชอบ 26 คูม่ อื การจดั การสาธารณภยั ส�ำหรบั ผอู้ �ำนวยการอำ� เภอ

งานดา้ นการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั เปน็ ฝา่ ยเลขานกุ าร หวั หนา้ สำ� นกั งานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั สาขา ตอนท่ี ๒ เป็นผู้ช่วยเลขาฯ เข้าร่วมเป็นคณะท�ำงานด้วย (ถ้ามี) โดยท่ีคณะท�ำงานฯ จะท�ำหน้าท่ีติดตามข้อมูลข่าวสาร ที่เก่ียวกับสาธารณภัย และประเมินสถานการณ์พร้อมท้ังวิเคราะห์แนวโน้มผลกระทบจากสาธารณภัยที่คาดว่า จะเกดิ ขึ้น และแจ้งเตอื นประชาชนลว่ งหน้า ใหป้ ระชาชนรับทราบและมคี วามพรอ้ ม ตลอดจนแจ้งใหห้ นว่ ยงาน ในพน้ื ที่ เตรยี มความพร้อมในการเผชญิ เหตไุ ด้อย่างทนั ท่วงที ๒.๓.๖ การด�ำเนินการในเชิงป้องกัน นายอ�ำเภอในฐานะผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ สามารถส่ังใช้บุคลากร และประสานงานกับองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ หนว่ ยงาน และภาคสว่ นตา่ งๆ ในพืน้ ที่ รวมทง้ั บุคลากรในสังกดั ด�ำเนินการมาตรการป้องกันและลดผลกระทบท้ังมาตรการเชิงโครงสร้างและไม่ใช่โครงสร้างตามความเส่ียง จากสาธารณภัยในพ้ืนที่ (๑) มาตรการเชงิ โครงสรา้ ง เชน่ - การตรวจสอบ/ปรับปรุงระบบระบายน�้ำและการเพ่ิมพ้ืนที่รองรับน้�ำ โดยประสาน กองอ�ำนวยการป้องกันละบรรเทาสาธารณภัยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเขตพื้นที่ และหน่วยงานด้านบริหาร จดั การน�้ำในพื้นท่ี ตรวจสอบระบบระบายน�ำ้ และท�ำการลอกทอ่ /รางระบายน้ำ� ในเขตชุมชน/ถนน ขุดลองคลอง ท่ีรับน้�ำจากท่อระบายน้�ำ ก�ำจัดขยะและวัชพืชท่ีกีดขวางทางน�้ำ เพื่อจะได้มีพ้ืนที่รองรับน�้ำลดผลกระทบ จากอุทกภยั ได้ - การตรวจสอบความมน่ั คงแขง็ แรงสถานทใ่ี ชเ้ กบ็ กกั นำ้� /กน้ั นำ้� เชน่ เขอ่ื น ฝาย คนั กนั้ นำ�้ โดยประสานหน่วยงานที่รบั ผดิ ชอบ จดั ทมี วิศวกรเขา้ สำ� รวจตรวจสอบความม่ันคงแข็งแรงเพอื่ ใหส้ ามารถรองรบั ปริมาณน้�ำได้เต็มขีดความสามารถ รวมทั้งสร้างความม่ันใจให้กับประชาชนในพ้ืนท่ีว่าจะไม่เกิดการพังทลาย หรือการตรวจสอบความมั่งคงแข็งแรงของอาคาร และเสริมความแข็งแรงของอาคารสาธารณะในพ้ืนท่ีเสี่ยง แผน่ ดนิ ไหว หรอื กรณงี านเทศกาลตา่ ง ๆ เชน่ เทศกาลลอยกระทง วนั ขน้ึ ปใี หม่ เทศกาลตรษุ จนี ทอ่ี าจมปี ระชาชน ไปใช้บริการสัญจรทางนำ้� ควรตรวจตราอาคารสถานที่ โป๊ะ ทา่ เทยี บเรอื โดยสาร เสรมิ ความมน่ั คงแข็งแรงเพื่อมใิ ห้ เกิดสาธารณภยั ได้โดยงา่ ย (๒) มาตรการไม่ใช่เชิงโครงสร้าง เชน่ - การให้ความรู้ความเข้าใจและตระหนักในความเสี่ยงจากสาธารณภัยท่ีอาจเกิดขึ้น ในพน้ื ที่ การกำ� หนดมาตรการดแู ลความปลอดภยั การจดั ทำ� แผนอพยพชมุ ชน มาตรการแจง้ เตอื นและการแจง้ เตอื น ลว่ งหน้า เปน็ ต้น ๒.๓.๗ การวางแผนเตรียมการจัดต้ังศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อ�ำเภอเพ่ือเป็นศูนย์กลางในการระดม สรรพกำ� ลงั จากหนว่ ยงานตา่ งๆ ในกรณที คี่ าดวา่ จะเกดิ สาธารณภยั ในพน้ื ท/่ี เกดิ สาธารณภยั ในพน้ื ทเี่ อาไวใ้ หพ้ รอ้ ม ล่วงหน้า คมู่ อื การจดั การสาธารณภัยส�ำหรบั ผูอ้ ำ� นวยการอ�ำเภอ 27

๒.๔ การจดั การทรัพยากรในการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั และแหลง่ ทรพั ยากร ทรัพยากรในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หมายถึง วัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกล ยานพาหนะ ระบบการสอ่ื สาร รวมถงึ ทรพั ยากรบคุ คล ทใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ตั กิ ารและสนบั สนนุ ในการบรหิ ารจดั การเหตสุ าธารณภยั ดังนั้น การบริหารทรัพยากรในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างครบวงจรจึงเป็นกระบวนการวางแผน และจัดการให้ทรัพยากรดังกล่าวตั้งแต่ก่อนเกิด ขณะเกิด และหลังเกิดภัย เพื่อให้ได้มาซ่ึงทรัพยากรเหมาะสม ตรงกับความต้องการและวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด อยา่ งไรกต็ าม ส�ำหรบั ในตอนนี้ จะกลา่ วถงึ การจดั การทรัพยากรในช่วงกอ่ นเกิดภยั เท่านั้น ดงั น้ี ๒.๔.๑ บทบาทและอำ� นาจหน้าทใ่ี นการบริหารจดั การทรพั ยากรของผอู้ �ำนวยการอ�ำเภอ จากบทบาทหนา้ ที่ และอำ� นาจหนา้ ทข่ี องผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ตามท่ีกล่าวไว้ในตอนท่ี ๑ จะเห็นได้ว่าผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอมีหน้าท่ีส�ำคัญที่จะต้องเตรียมความพร้อม ในเร่ืองทรัพยากรตั้งแต่ก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และหลังเกิดภัย ซ่ึงจะต้องอ�ำนวยการ ส่ังการ ก�ำกับติดตาม ในการบรหิ ารการใชท้ รพั ยากรทม่ี อี ยเู่ พอื่ ระงบั เหตุ และใหก้ ารชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบหรอื ไดร้ บั ผลกระทบจากสาธารณภยั ใหท้ วั่ ถงึ ทนั เวลา และรวดเรว็ ทสี่ ดุ ซง่ึ นอกจะบรหิ ารทรพั ยากรภายในเขตพนื้ ทร่ี บั ผดิ ชอบแลว้ ยงั อาจมคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งจดั หามาจากภายนอกดว้ ย ขณะทภ่ี ายหลงั เมอ่ื ภยั ยตุ ลิ ง ความจำ� เปน็ ทจี่ ะตอ้ งฟน้ื ฟู ซอ่ มสรา้ ง ใหส้ ภาพแวดลอ้ ม ทอ่ี ยอู่ าศยั สถานท่ี และสงิ่ สาธารณประโยชนต์ า่ งๆ กต็ อ้ งเรง่ ดำ� เนนิ การเพอ่ื ใหป้ ระชาชนสามารถกลบั มาสภู่ าวะปกติ โดยเรว็ ๒.๔.๒ การวางแผนจดั การทรัพยากรล่วงหน้า เป็นกระบวนการส�ำคัญที่ผู้อ�ำนวยการอำ� เภอจะตอ้ ง ดำ� เนินการ (๑) จดั ใหม้ กี ารสำ� รวจ รวบรวมขอ้ มูลทรัพยากรท่ีมีอยู่ในเขตพนื้ ที่ และบรรจขุ ้อมลู ดงั กลา่ ว ไวใ้ นแผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั อำ� เภอเพอ่ื ใหพ้ รอ้ มดงึ ขอ้ มลู มาใชใ้ นการตดั สนิ ใจตอบโตส้ ถานการณ์ เมอ่ื เกดิ ภยั ทง้ั นหี้ มายรวมถงึ ทรพั ยากรของหนว่ ยงานภาคเี ครอื ขา่ ย องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ตลอดจนภาคเอกชน ในเขตพืน้ ท่ี ทง้ั ในมติ ิชนิดและประเภทของทรพั ยากร จำ� นวน และศักยภาพ (๒) การวางแผนการจัดหาทรัพยากรล่วงหน้าให้เพียงพอกับความต้องการและสอดคล้อง กบั ความเสยี่ งจากสาธารณภยั ในพนื้ ทดี่ ว้ ย ซง่ึ ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภออาจเสนอความเหน็ ใหอ้ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ จัดท�ำโครงการจัดหาทรัพยากรบรรจุไว้อยู่ในแผนปฏิบัติการในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แผนพัฒนาอ�ำเภอ หรือแผนพัฒนาจังหวัดแล้วแต่ความเหมาะสมและนโยบาย ของจงั หวดั (๓) จัดใหม้ ีการทดสอบความพรอ้ มการปฏบิ ตั งิ านของทรพั ยากรในพ้นื ทีอ่ ยเู่ สมอ ๒.๔.๓ แหลง่ ทรพั ยากรในการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั ส�ำหรบั แหลง่ ทรัพยากรในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั สามารถแบ่งออกเป็น (๑) แหลง่ ทรพั ยากรทม่ี อี ยภู่ ายในสงั กดั หรอื ในความรบั ผดิ ชอบของอำ� เภอ และองคก์ รปกครอง สว่ นท้องถ่นิ ในเขตพืน้ ทอ่ี �ำเภอ รายการทรัพยากรในการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ภายในเขตพนื้ ทอี่ ำ� เภอ ปรากฏอยู่ในแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอ�ำเภอ ซึ่งเป็นทรัพยากรของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ในการจัดการสาธารณภัย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นท่ี เป็นหน้าท่ีของผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ จะได้ประสานขอรับการสนบั สนนุ เข้ามาปฏิบัตงิ านในพ้นื ทเี่ หตุการณ์ไดต้ ามท่ีกล่าวมาแล้วขา้ งต้น 28 คมู่ ือการจัดการสาธารณภยั สำ� หรับผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ

(๒) แหลง่ ทรัพยากรทมี่ ีอยู่ในหนว่ ยงานภายนอกในเขตพน้ื ท่อี �ำเภอ ตอนท่ี ๒ กรณที สี่ ถานการณส์ าธารณภยั ทเ่ี กดิ ขนึ้ เกนิ ขดี ความสามารถขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ในเขตพน้ื ท่ี และอำ� เภอ ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอมหี นา้ ทแี่ จง้ ผอู้ ำ� นวยการจงั หวดั เพอ่ื สง่ั การในการบรู ณาการทรพั ยากร จากหน่วยงานในพน้ื ท่ีจงั หวดั หรอื ขอรบั การสนับสนนุ จากหน่วยงานภายนอกจงั หวดั หรือส่วนกลางก็ได้ (๓) แหลง่ ทรพั ยากรตอ้ งจดั หาเขา้ มาใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านนอกเหนอื จากการขอรบั การสนบั สนนุ จากหน่วยงานต่างๆ ผู้อำ� นวยการอำ� เภออาจจ�ำเปน็ ตอ้ งอนุมัติให้มกี ารจดั ซอื้ /จดั จ้าง ทง้ั น้ใี ห้เป็นไปตามระเบียบ ของทางราชการ อยา่ งไรกต็ าม กรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ในฐานะหนว่ ยงานกลางของรฐั ในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ มหี นว่ ยงานในสังกดั และศูนยป์ อ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั เขต ๑๘ เขต ซึ่งมที รัพยากรเคร่ืองจกั รกล ยานพาหนะ เครอื่ งมือและอปุ กรณ์ และเจา้ หน้าท่ที ี่มมี าตรฐานและศกั ยภาพกระจายอยู่ ท้ังในส่วนกลางและภูมิภาคเพ่ือสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยในสว่ นของทรพั ยากรเครอ่ื งจกั รกล ยานพาหนะ เครอ่ื งมอื และอปุ กรณน์ นั้ สามารถแบง่ ออกตามวตั ถปุ ระสงค์ ของการใชง้ านในภารกจิ ประกอบดว้ ย ๑) ทรพั ยากรชดุ ปฏบิ ตั กิ ารเปน็ เครอื่ งจกั รกลสาธารณภยั สำ� หรบั ใชป้ ฏบิ ตั งิ าน เผชญิ เหตุ บรรเทาทกุ ขแ์ ละชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั ๒) ทรพั ยากรชดุ อำ� นวยการ เปน็ ยานพาหนะ สำ� หรบั ใชป้ ฏบิ ตั งิ าน ดา้ นอำ� นวยการและบรกิ ารทวั่ ไป และ ๓) ทรพั ยากร ชดุ สนบั สนนุ เปน็ เครอื่ งจกั รกล สาธารณภยั สำ� หรบั สนบั สนนุ คู่มือการจัดการสาธารณภัยส�ำหรบั ผ้อู �ำนวยการอ�ำเภอ 29

ทรพั ยากรชดุ ปฏบิ ตั กิ าร ซงึ่ แบง่ ออกเปน็ ชดุ สนบั สนนุ ในดา้ นตา่ งๆ อาทิ ดา้ นปอ้ งกนั และฟน้ื ฟู ดา้ นไฟฟา้ และสอ่ งสวา่ ง ด้านอุปโภคบริโภค ด้านคมนาคม ด้านส่ือสารและประชาสัมพันธ์ และด้านอื่นๆ นอกจากน้ี ยังสามารถ แบ่งทรัพยากรเคร่ืองจักรกล ยานพาหนะ เครื่องมือและอุปกรณ์ของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ตามประเภทของภยั ซง่ึ หากผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอประเมนิ สถานการณส์ าธารณภยั ทเ่ี กดิ ขนึ้ และเหน็ วา่ มคี วามจำ� เปน็ ต้องใช้ในการจัดการเหตุการณ์เกิดขึ้น ก็สามารถแจ้งผู้อ�ำนวยการจังหวัดประสานขอความร่วมมือในการขอรับ การสนับสนนุ ทรัพยากรท่ตี ้องการได้ ท้ังนี้ รายละเอียดรายการทรัพยากรดังกล่าวปรากฏอย่ใู นภาคผนวกท้ายคมู่ ือนี้ ๒.๕ การเฝ้าระวงั และแจง้ เตอื นภัย จากบทบาทและอำ� นาจหนา้ ทข่ี องผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอในการจดั การความเสย่ี งจากสาธารณภยั ตามวงจร การจัดการสาธารณภัยตามทกี่ ล่าวในตอนที่ ๑ นั้น จะเห็นได้ว่านอกจากการป้องกนั และลดผลกระทบตลอดจน การเตรยี มความพรอ้ มในเรอื่ งของทรพั ยากรแลว้ ภารกจิ สำ� คญั อกี ประการหนงึ่ ทผี่ อู้ ำ� นวยการอำ� เภอตอ้ งดำ� เนนิ การ ผา่ นกลไกกองอำ� นวยการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั อำ� เภอ และศนู ยบ์ ญั ชาการเหตกุ ารณอ์ ำ� เภอ คอื การเฝา้ ระวงั และการแจง้ เตอื นภยั แกห่ นว่ ยงาน และประชาชนในพน้ื ท่ี เพอ่ื ใหม้ คี วามพรอ้ มรบั มอื กบั สาธารณภยั ทอี่ าจจะเกดิ ขน้ึ โดยผ้อู ำ� นวยการอำ� เภอมอบหมายภารกิจใหห้ นว่ ยงานใน กอปภ.อ. ตามขน้ั ตอน ดงั น้ี ขน้ั ตอนท่ี ๑ ตดิ ตามเฝา้ ระวงั ปจั จยั เสยี่ งทอี่ าจกอ่ ใหเ้ กดิ สาธารณภยั รนุ แรงในเขตพน้ื ที่ จากแหลง่ ขอ้ มลู ของหนว่ ยงานตา่ งๆ อาทิ สำ� นกั งานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั กรมอตุ นุ ยิ มวทิ ยา กรมทรพั ยากรธรณี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ศนู ย์เตอื นภยั พิบัติแห่งชาต)ิ กรมชลประทาน ฯลฯ หน่วยงานภาคเอกชน/ มลู นธิ ิ อปพร. ตลอดจนสอื่ มวลชนทกุ แขนง เปน็ ตน้ ทงั้ น้ี แหลง่ ขอ้ มลู ในการตดิ ตามหรอื เฝา้ ระวงั ขน้ึ อยกู่ บั ประเภท ของสาธารณภัยด้วย ข้ันตอนท่ี ๒ วเิ คราะห์ตรวจสอบ ประเมนิ ความเสี่ยง ระบุพืน้ ท่ีเสีย่ ง กรณีท่คี าดว่าจะเกิดสาธารณภยั ขนึ้ กอปภ.อ. มหี นา้ ทสี่ ำ� คญั ในการประเมนิ ความเสยี่ ง และคาดการณร์ ะดบั ความรนุ แรง ตลอดจนผลกระทบทอี่ าจเกดิ ขนึ้ จากสาธารณภัยให้ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอทราบ เพ่ืออำ� นวยการส่ังการ ประกาศแจ้งเตือนภัยไปยังองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น หรือพื้นท่ีโดยตรงผ่านก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อปพร. เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ รวมทั้ง แจ้งใหห้ น่วยงานในพนื้ ที่ และอาสาสมคั ร “มิสเตอร์เตือนภยั ” รวมทง้ั อปพร. และเครอื ข่ายท่ีเกีย่ วข้องเฝา้ ระวงั ตดิ ตามสถานการณ์ในพน้ื ท่ีเสย่ี งภยั อย่างใกล้ชิด ขน้ั ตอนที่ ๓ เมอ่ื เกดิ สาธารณภยั ขน้ึ ในเขตพนื้ ทอี่ ำ� เภอ ใหเ้ ปน็ หนา้ ทข่ี ององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ในเขตพื้นท่ีเข้าด�ำเนินการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยท่ีเกิดข้ึนทันที และรายงานผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอทราบ โดยในส่วนของผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอมีภารกิจท่ีต้องด�ำเนินการ ๑) แจ้งผู้อ�ำนวยการจังหวัดทราบทันที (ตามพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั พ.ศ. ๒๕๕๐) ซง่ึ สำ� นกั งานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั จะเป็นผู้รับผิดชอบในการรายงานเหตุการณ์มาที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ๒) จัดต้ังศูนย์บัญชาการ เหตุการณอ์ �ำเภอ เพ่ือติดตามสถานการณ์สาธารณภยั ท่เี กิดขึ้นอยา่ งใกลช้ ดิ และสนบั สนุนการอำ� นวยการ ส่ังการ 30 คู่มือการจัดการสาธารณภัยสำ� หรบั ผูอ้ �ำนวยการอ�ำเภอ

เตือนภัย และการบริหารสถานการณ์สาธารณภัยท่ีเกิดข้ึนเม่ือสถานการณ์เกินขีดความสามารถ และศักยภาพ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ แหง่ พนื้ ทนี่ น้ั ๆ สำ� หรบั ชอ่ งทางการประกาศแจง้ เตอื นทสี่ ำ� คญั ในระดบั พนื้ ทสี่ ามารถ ดำ� เนนิ การ ผา่ นเครอื ขา่ ยมสิ เตอรเ์ ตอื นภยั ไซเรนมอื หมนุ หอกระจายขา่ วประจำ� หมบู่ า้ น หอเตอื นภยั วทิ ยชุ มุ ชน โทรศพั ท์ กลุม่ ไลน์ สอ่ื สารมวลชนในพน้ื ท่ี ตลอดจนสือ่ สังคมออนไลนใ์ นพ้นื ท่ี อยา่ งไรกต็ าม เพอ่ื ใหก้ ารเฝา้ ระวงั และแจง้ เตอื น รวมทงั้ การอำ� นวยการสง่ั การของกองอำ� นวยการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั อำ� เภอเปน็ ไปในทศิ ทางเดยี วกนั กบั ระดบั การแจง้ เตอื นของประเทศ คมู่ อื ฉบบั นจ้ี งึ ขออธบิ าย ระดับสถานการณ์ เพื่อการแจ้งเตือนภัยและแนวปฏิบัติหลักตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๗๐ ดงั นี้ ระดบั สถานการณ์เพื่อการแจง้ เตือนตามแผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แห่งชาติ ตอนท่ี ๒ พ.ศ. ๒๕๖๔ – ๒๕๗๐ สแี ดง หมายถงึ สถานการณอ์ ยูใ่ นภาวะอันตรายสูงสุด ใหอ้ าศัยอยแู่ ตใ่ นสถานที่ปลอดภยั หรอื ตอ้ งอพยพไปยังสถานที่ปลอดภัยและปฏิบตั ติ ามขอ้ สั่งการ สสี ม้ หมายถงึ สถานการณอ์ ยู่ในภาวะเสย่ี งอนั ตรายสูง เจ้าหน้าท่ีก�ำลังควบคุมสถานการณ์ ให้อพยพไปยงั สถานที่ปลอดภยั และปฏบิ ตั ิตามแนวทางที่กำ� หนด สีเหลือง หมายถงึ สถานการณอ์ ยูใ่ นภาวะเสยี่ งอนั ตราย มแี นวโนม้ ทีส่ ถานการณ์จะรนุ แรงมากข้นึ ใหจ้ ดั เตรยี มความพร้อมรบั สถานการณแ์ ละปฏบิ ตั ติ ามค�ำแนะนำ� สนี ้ำ� เงิน หมายถึง สถานการณอ์ ยูใ่ นภาวะเฝ้าระวัง ให้ติดตามขอ้ มูลขา่ วสารอยา่ งใกล้ชดิ สเี ขียว หมายถงึ สถานการณ์อยูใ่ นภาวะปกติ ใหต้ ดิ ตามขอ้ มูลขา่ วสารเปน็ ประจำ� ค่มู ือการจัดการสาธารณภยั ส�ำหรบั ผ้อู ำ� นวยการอำ� เภอ 31

สำ� หรบั ขอ้ มลู ประกอบการวเิ คราะหเ์ พอ่ื การเฝา้ ระวงั และแจง้ เตอื นภยั แบง่ ตามประเภทภยั จากหนว่ ยงาน ท่ีเกีย่ วขอ้ ง หรือภาคสว่ นทีเ่ กย่ี วขอ้ งนอกเหนอื จากจงั หวัด โดยสรปุ ดังน้ี ประเภทภัย ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์เพ่ือการเฝา้ ระวัง แหลง่ ขอ้ มูล อทุ กภัย และแจง้ เตอื นภัย นำ�้ ป่าไหลหลาก กรมอตุ นุ ิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ www.tmd.go.th นำ�้ ลน้ ตลิ่ง ปรมิ าณฝนสะสม สถาบันสารสนเทศทรพั ยากรน้�ำ ระบบโทรมาตรอัตโนมัติ www.hii.or.th น้ำ� ท่วมฉบั พลนั แผนท่ีเสย่ี งภัยน้ำ� ป่าไหลหลาก กรมทรัพยากรนำ�้ www.dwr.go.th วาตภยั พยากรณอ์ ากาศ กรมทรัพยากรธรณี ดนิ โคลนถล่ม ปรมิ าณน�้ำท่า www.dmr.go.th คลงั ข้อมลู น�ำ้ แหง่ ชาติ กรมอุตุนิยมวทิ ยา www.tmd.go.th พยากรณอ์ ากาศ กรมชลประทาน ปริมาณทา่ นำ�้ www.rid.go.th ปริมาณฝนสะสม สถาบนั สารสนเทศทรพั ยากรนำ�้ คลังข้อมูลน�้ำแหง่ ชาติ www.thaiwater.net/water/wl กรมอตุ ุนิยมวทิ ยา พยากรณอ์ ากาศ เรดารต์ รวจอากาศ www.tmd.go.th แผนทอ่ี ากาศ ขอ้ มูลเส้นทางพายุ กรมชลประทาน - ข้อมูลสถิติยอ้ นหลังพ้ืนท่เี กิดเหตดุ ินโคลนถลม่ www.rid.go.th - แผนทีเ่ สย่ี งดนิ โคลนถล่ม สถาบันสารสนเทศทรพั ยากรน�้ำ www.hii.or.th สถาบนั สารสนเทศทรพั ยากรนำ้� www.thaiwater.net/water/wl กรมอตุ นุ ยิ มวทิ ยา www.tmd.go.th กรมทรพั ยากรธรณี www.dmr.go.th 32 คู่มือการจดั การสาธารณภยั สำ� หรบั ผูอ้ ำ� นวยการอำ� เภอ

ประเภทภยั ข้อมูลประกอบการวเิ คราะห์เพ่ือการเฝ้าระวงั แหลง่ ขอ้ มลู และแจ้งเตอื นภยั แผน่ ดินไหว ประกาศกรมอุตุนิยมวิยาและรายงานพื้นที่เกิด กองเฝ้าระวังแผ่นดนิ ไหว แผ่นดนิ ไหว กรมอุตนุ ิยมวทิ ยา www.earthquake.tmd.go.th - พ้ืนที่เส่ียงแผ่นดินไหว กรมทรัพยากรธรณี - รอยเลอื่ นมพี ลงั ในประเทศไทย www.dmr.go.th เพลิงไหม้ พน้ื ที่เส่ยี งอคั คีภยั ในเขตชมุ ชน องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ แห่งพ้ืนที่ ตอนท่ี ๒ กรมโยธาธิการและผังเมือง ข้อมูลผงั เมืองรวมแต่ละจงั หวดั plludds.dpt.go.th สารเคมีและ ขอ้ มลู ชนดิ และการเกบ็ สารเคมใี นโรงงานอตุ สาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม วตั ถอุ ันตราย www.diw.go.th และกัมมนั ตรงั สี ขอ้ มลู ทอ่ ส่งก๊าซในพื้นท่ี กรมธรุ กจิ พลังงาน บริษทั ปตท.จำ� กัด (มหาชน) ข้อมูลแนวทางการเผชิญเหตสุ ารเคมี วตั ถอุ นั ตราย กรมควบคุมมลพิษ และสารกัมมันตรังสี ประเภทตา่ งๆ www.pcd.go.th กรมโรงงานอตุ สาหกรรม www.diw.go.th สำ� นกั งานปรมาณูเพื่อสันติ www.oap.go.th ไฟป่า หมอกควนั พ้นื ที่เสีย่ งการเกิดไฟป่า กรมป่าไม้ pm ๒.๕ www.forest.go.th กรมอทุ ยานแหง่ ชาตสิ ตั วป์ า่ และพนั ธพ์ุ ชื www.portal.dnp.go.th ส�ำนกั บริหารพ้นื ท่ีอนรุ กั ษ์ในพ้ืนท่ี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ www.moac.go.th ขอ้ มลู คณุ ภาพอากาศตามสถานวี ดั ตา่ ง ๆ (PM ๒.๕) กรมควบคุมมลพษิ www.pcd.go.th ข้อมูลสภาพอากาศ และทิศทางลมท่ีมีผลต่อการ กรมอตุ นุ ิยมวิทยา สะสมของฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) www.tmd.go.th ข้อมลู สถานการณ์จดุ ความรอ้ น (Hotspots) ส�ำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ และภมู สิ ารสนเทศ (องคก์ ารมหาชน) www.gistda.or.th คมู่ ือการจดั การสาธารณภยั ส�ำหรับผู้อำ� นวยการอ�ำเภอ 33

ประเภทภัย ข้อมลู ประกอบการวิเคราะหเ์ พ่อื การเฝา้ ระวัง แหล่งข้อมูล ภยั แลง้ และแจง้ เตอื นภัย ภยั หนาว ข้อมูลสภาพอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th ขอ้ มลู แหลง่ นำ�้ ในพน้ื ที่ และขอ้ มลู การบรหิ ารจดั การ การประปาส่วนภมู ิภาค น้�ำในเขอื่ นและอ่างเกบ็ นำ้� www.pwa.co.th การไฟฟ้าฝา่ ยผลิตแหง่ ประเทศไทย www.egat.co.th กรมทรพั ยากรน�้ำ www.dwr.go.th กรมทรพั ยากรน้�ำบาดาล www.dgr.go.th ขอ้ มลู การเพาะปลกู กรมชลประทาน www.rid.go.th แผนการทำ� ฝนหลวง กรมฝนหลวงและการบนิ เกษตร www.royalrain.go.th ขอ้ มลู การจดั สรรนำ้� และแผนการปอ้ งกนั และแกไ้ ข ส�ำนักงานทรัพยากรน�ำ้ แห่งชาติ ปัญหาภยั แล้ง www.onwr.go.th ขอ้ มลู สภาพอากาศหนาว และคาดการณอ์ ากาศหนาว กรมอตุ ุนิยมวิทยา ในประเทศไทย www.tmd.go.th 34 คูม่ อื การจัดการสาธารณภัยสำ� หรบั ผอู้ ำ� นวยการอ�ำเภอ

๓ตอนท่ี การด�ำเนนิ การในภาวะฉกุ เฉิน

๓ตอนที่ การดำ� เนินการในภาวะฉกุ เฉนิ ตอนท่ี ๓ การจดั การในภาวะฉกุ เฉนิ ใน พระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั พ.ศ. ๒๕๕๐ ในมาตรา ๒๑ ก�ำหนดหน้าที่ที่ชัดเจนไว้ว่าเมื่อเกิดหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัยข้ึนในเขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แห่งพ้ืนท่ีใด ให้ผู้อ�ำนวยการท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งพื้นที่นั้นมีหน้าท่ีเข้าด�ำเนินการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภยั โดยเรว็ และแจง้ ใหผ้ อู้ ำ� นวยการอำ� เภอทร่ี บั ผดิ ชอบในเขตพนื้ ทน่ี นั้ และผอู้ ำ� นวยการจงั หวดั ทราบทนั ที โดยกลไกการปฏบิ ตั เิ พอื่ เผชญิ เหตใุ นพนื้ ทค่ี อื ศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ารฉกุ เฉนิ ทอ้ งถนิ่ ซง่ึ จะทำ� หนา้ ทใ่ี นการรบั มอื และตอบโต้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นหน่วยแรก ขณะเดียวกันเมื่อผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอรับทราบสถานการณ์ สาธารณภยั แลว้ ภาระหนา้ ท่ผี ู้อ�ำนวยการอำ� เภอต้องด�ำเนินการ คือ ๓.๑ ศูนยบ์ ัญชาการเหตุการณ์อำ� เภอ ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอมหี นา้ ทเ่ี ชน่ เดยี วกบั ผอู้ ำ� นวยการทอ้ งถน่ิ ตามมาตรา ๒๒ ของพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยขณะที่ศูนยป์ ฏิบัติการฉุกเฉนิ ทอ้ งถ่นิ ก�ำลงั รับมอื กับเหตุการณ์อยู่น้นั ผู้อ�ำนวยการอำ� เภอโดยกองอ�ำนวยการป้องกนั สาธารณภยั อ�ำเภอจะตอ้ งจัดตัง้ ศูนย์บญั ชาการเหตุการณอ์ �ำเภอ (ศบก.อ.) ในห้วงเวลาเดียวกันกับท่ีองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินจัดต้ังศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินท้องถิ่น โดยมี ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอเป็นผู้อ�ำนวยการมีหน้าที่ในการก�ำกับ ติดตามสาธารณภัยที่เกิดข้ึนในพื้นที่ท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด และรว่ มสนบั สนนุ การปฏบิ ตั กิ ารรว่ มกบั ศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ารฉกุ เฉนิ ทอ้ งถนิ่ จนกวา่ สถานการณจ์ ะกลบั เขา้ สสู่ ภาวะปกติ โดย ศบก.อ. จะเป็นศูนย์กลางในการระดมสรรพก�ำลังและทรัพยากรในการจัดการสาธารณภัยที่เกิดขึ้น รวมท้ังอ�ำนวยการ และประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานต่างๆ ท้ังฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหาร ตลอดจน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและองค์การสาธารณกุศลในพื้นท่ีที่รับผิดชอบให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพ รวดเร็ว และทว่ั ถงึ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในกรณที สี่ าธารณภยั ทเ่ี กดิ ขน้ึ นนั้ เกนิ ขดี ความสามารถและศกั ยภาพของศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ าร ฉุกเฉินทอ้ งถนิ่ น้นั จะสามารถรบั มือได้ ดงั นน้ั ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอในฐานะผบู้ ญั ชาการเหตกุ ารณข์ องศนู ยบ์ ญั ชาการเหตกุ ารณอ์ ำ� เภอ มแี นวทาง การด�ำเนนิ การทส่ี �ำคัญ ดังน้ี (๑) รับทราบสถานะของเหตุการณท์ ่ีเกดิ ขึ้นในภาพรวม จากศนู ยป์ ฏิบตั กิ ารฉุกเฉนิ ท้องถ่ิน (๒) ประเมินสถานการณ์ ภารกิจที่จ�ำเป็นต้องด�ำเนินการจากสาธารณภัยที่เกิดข้ึนหรือใกล้จะเกิดขึ้น เชน่ การแจง้ เตอื นฉกุ เฉนิ ประชาชน การอพยพประชาชน การจดั ตงั้ ศนู ยพ์ กั พงิ ชวั่ คราว การอำ� นวยการดา้ นการจราจร การค้นหาและกู้ภัย การแพทย์และสาธารณสุข ฯลฯ รวมทั้ง ประเมินความต้องการการใช้ทรัพยากรตามภารกิจที่ต้อง ด�ำเนินการ (๓) กำ� หนดโครงสรา้ งจดั การเหตกุ ารณข์ อง ศบก.อ. ว่าภารกิจที่จะต้องด�ำเนินการอยู่ในโครงสร้างการบัญชาการ เหตกุ ารณ์ในส่วนใด และใครเปน็ ผู้ด�ำเนนิ การ คู่มือการจดั การสาธารณภัยสำ� หรับผู้อ�ำนวยการอำ� เภอ 37

ผู้บญั ชาการ/ผูอ้ ำ� นวยการ ศูนย์ข้อมูลประชาสมั พันธร์ ่วม ทป่ี รึกษา/ผ้เู ชี่ยวชาญ ศนู ย์ประสานการปฏบิ ตั ิ ส่วนปฏบิ ตั กิ าร ส่วนอ�ำนวยการ สว่ นสนบั สนนุ สว่ นอำ� นวยการ : - ภารกจิ ดา้ นการตดิ ตามขอ้ มลู วเิ คราะหข์ อ้ มลู และการคาดการณส์ ถานการณ์ - สถานะทรัพยากรปฏบิ ตั ิการ/ทรพั ยากรสนบั สนุนในเหตุการณ์ สว่ นปฏิบตั ิการ: - ภารกจิ สนบั สนนุ การปฏบิ ตั ิการตอบโตก้ บั สถานการณส์ าธารณภยั เช่น แจง้ เตือน กภู้ ัย อพยพ สูบน�ำ้ จดั ตัง้ ศนู ยพ์ ักพงิ ชวั่ คราว สว่ นสนับสนุน: - ภารกจิ สนบั สนนุ การปฏบิ ตั กิ าร (การสง่ กำ� ลงั บำ� รงุ รวมทงั้ บรหิ ารทางการเงนิ ) ศนู ยข์ อ้ มลู และประชาสัมพนั ธ์ - ภารกจิ ดา้ นการบรหิ ารจดั การสอื่ สารสาธารณะและรวบรวมขอ้ มลู เหตกุ ารณ์ ท่ปี รกึ ษา/ผเู้ ชีย่ วชาญ - ใหค้ �ำปรึกษาทางเทคนิค และความปลอดภยั ศนู ยป์ ระสานการปฏิบตั ิ - ประสานการรว่ มกบั หนว่ ยงานตา่ งๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ ง เพอ่ื สนบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ าน ภาพท่ี ๓-๑ : โครงสร้างศนู ย์บัญชาการเหตุการณ์ พร้อมท้ังจัดหาพ้ืนที่ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของ ศบก.อ. โดยมีการจัดแบ่งเจ้าหน้าที่รับผิดชอบประจ�ำส่วนต่างๆ ตามโครงสรา้ ง และมอบหมายภารกจิ ใหห้ นว่ ยงานตา่ งๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ งเขา้ มาปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั ในโครงสรา้ งดงั กลา่ วดว้ ย ทัง้ นี้ ศบก.อ. จะต้องจัดใหม้ ีการประชมุ หารอื กันในประเดน็ สำ� คญั ดงั น้ี ๓.๑) สถานะเหตุการณ์ท่ีเป็นปัจจุบัน การคาดการณ์ สถานการณค์ วามรนุ แรง/ผลกระทบจากเหตกุ ารณ์ รวมทงั้ ประเมนิ สถานะ ปจั จบุ นั ของทรพั ยากรทม่ี อี ยใู่ นเขตพนื้ ทอ่ี ำ� เภอทมี่ คี วามพรอ้ มปฏบิ ตั กิ าร ทั้งนี้ ภาพรวมข้อมูลรายการทรัพยากรภายในพื้นที่จะปรากฎอยู่ใน แผนปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั อำ� เภอ ขณะทข่ี อ้ มลู สถานะทรพั ยากร ทีม่ คี วามพรอ้ มปฏบิ ัตงิ าน (Available) ผู้อ�ำนวยการอำ� เภอจะตอ้ งใชเ้ วที การประชุมหารือของ ศบก.อ. ในการได้มาซึ่งข้อมูลเพ่ือประกอบ การวางแผนตัดสินใจสง่ั การ ๓.๒) จัดท�ำแผนเผชิญเหตุ โดยการก�ำหนดวัตถุประสงค์ ระบุภารกิจและทรัพยากรท่ีต้องใช้ ในการด�ำเนินการ ตลอดจนระบหุ น่วยงาน/ผรู้ ับผิดชอบภารกจิ ใหช้ ัดเจนทั้งเป้าหมายและเง่ือนไขทจ่ี ะต้องบรรลุ วัตถปุ ระสงค์การปฏบิ ตั งิ าน 38 ค่มู อื การจัดการสาธารณภยั สำ� หรบั ผู้อำ� นวยการอำ� เภอ

๓.๓) มอบหมายภารกิจให้หน่วยงานตามแผนเผชญิ เหตุในการประชุม ศบก.อ. ๓.๔) กำ� หนดวงรอบการประชมุ ศบก.อ. วงรอบการรายงานขอ้ มลู การปฏบิ ตั กิ ารตามแผนเผชญิ เหตุ ท่ีจัดท�ำข้ึน เพื่อรับทราบปญั หา อุปสรรคเพอ่ื ปรบั แผนการปฏบิ ตั ิตอ่ ไป ๓.๒ การใช้จ่ายงบประมาณเพอื่ ช่วยเหลือผูป้ ระสบภัย ตอนท่ี ๓ เม่ือคาดว่าจะเกิดหรือเกิดสาธารณภัยขึ้น เป็นบทบาทหน้าท่ีของผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอท่ีจะบัญชาการ เหตุการณส์ าธารณภยั โดยการขบั เคลื่อน ศบก.อ. เพอื่ ระดมสรรพกำ� ลังและทรัพยากรเข้าปอ้ งกัน ลดผลกระทบ และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหรือได้รับผลกระทบ ซ่ึงต้องอาศัยงบประมาณสนับสนุนการด�ำเนินการ เพอื่ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธภิ าพ รวดเร็ว และทนั การณ์ ทงั้ นี้ งบประมาณเพื่อใชจ้ ่ายในภารกิจดังกลา่ ว เป็นไปตาม ระเบยี บกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยหลกั เกณฑก์ ารใชเ้ งนิ ทดรองราชการเพอื่ ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งกำ� หนดวงเงนิ ทดรองราชการไว้ใน ๒ กรณดี ว้ ยกัน กลา่ วคอื ๓.๒.๑ กรณีก่อนเกิดภัยหรือคาดว่าจะเกิดภัย เป็นกรณีคาดหมายว่าจะเกิดภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินขึ้น ในเวลาอันใกล้ ให้ใช้เพื่อการป้องกันหรือยับย้ังภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ซ่ึงจ�ำเป็นต้องรีบด�ำเนินการโดยฉับพลัน ภายในวงเงินไม่เกิน ๑๐ ล้านบาท โดยไม่ต้องประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ท้ังน้ี วัตถปุ ระสงคข์ องการใชเ้ งินทดรองราชการในเชิงปอ้ งกันหรอื ยบั ยง้ั ภัยพบิ ัตกิ รณีฉุกเฉนิ ก็เพ่อื เปน็ การใชจ้ ่ายเงนิ เมอ่ื คาดหมายวา่ จะเกดิ ภยั พบิ ตั ขิ นึ้ ในเวลาอนั ใกลแ้ ละจำ� เปน็ ตอ้ งรบี ปอ้ งกนั หรอื ยบั ยงั้ โดยฉบั พลนั (ระเบยี บฯ ขอ้ ๑๘) และเพ่ือให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติโดยเร่งด่วนตามความจ�ำเป็นและเหมาะสม โดยมุ่งหมาย ทจ่ี ะบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าของประชาชน หรือเปน็ การซอ่ มแซมให้คืนสู่สภาพเดิม ไม่สามารถใชจ้ า่ ย เพอื่ สร้างสงิ่ กอ่ สรา้ ง หรือสาธารณูปโภคทถี่ าวรหรือก่อสรา้ งใหมไ่ ด้ (ระเบียบฯ ข้อ ๑๗) ซึ่งเปน็ ไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอื่ นไข ตามประกาศกรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ลงวนั ท่ี ๑๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ ซงึ่ มสี าระสำ� คญั โดยสรปุ ดังนี้ ประเด็น สาระส�ำคญั ๑. ความหมาย การดำ� เนนิ การใดทจ่ี ำ� เปน็ ตอ้ งกระทำ� การอยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ ตอ่ สถานการณภ์ ยั พบิ ตั ิ “ในเชงิ ป้องกนั หรือ ที่คาดหมายว่าจะเกิดข้ึนในเวลาอันใกล้ และจ�ำเป็นต้องรีบด�ำเนินการป้องกัน ยบั ยง้ั ” และยับย้ังภยั พบิ ัติดงั กล่าวโดยฉับพลัน เพอื่ ลดผลกระทบจากภัยพบิ ัติท่จี ะเกิดขนึ้ ซงึ่ หากไมด่ ำ� เนนิ การปอ้ งกนั หรอื ยบั ยงั้ ภยั พบิ ตั ดิ งั กลา่ วอาจสง่ ผลกอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตราย แก่ชีวิต ร่างกายของประชาชน หรือความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชน หรอื ของรฐั ๒. อ�ำนาจหน้าที่การใช้ - กรณกี รงุ เทพมหานคร ใหเ้ ปน็ อำ� นาจหนา้ ทขี่ องกรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จ่ายเงินและผู้มีอ�ำนาจ โดยอธบิ ดีกรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยเป็นผ้มู ีอ�ำนาจอนมุ ัตจิ า่ ยเงิน อนมุ ัติการใชจ้ า่ ยฯ - กรณีจังหวัดอื่นเป็นอ�ำนาจหน้าท่ีของส�ำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวดั โดยผวู้ า่ ราชการจังหวัด เป็นผูม้ อี ำ� นาจอนุมตั ิจา่ ยเงนิ คู่มอื การจดั การสาธารณภัยสำ� หรับผอู้ �ำนวยการอำ� เภอ 39

ประเดน็ สาระสำ� คัญ ๓. เงือ่ นไขการใชจ้ ่ายฯ - ไม่ต้องประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และเมอื่ ดำ� เนนิ การปอ้ งกนั หรอื ยบั ยงั้ ภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ แลว้ แตไ่ มส่ ามารถปอ้ งกนั หรือยับยั้งภัยพิบัติได้ ก็ให้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉนิ ตอ่ ไป - การใชจ้ า่ ยเงนิ ฯ ไมร่ วมถงึ การปอ้ งกนั หรอื ยบั ยง้ั ภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ดา้ นการเกษตร ทเ่ี กิดจากโรคหรอื การระบาดของสตั ว์หรอื พืชทกุ ชนดิ (ซึง่ หากเกดิ กรณดี ังกลา่ ว ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้จ่ายจากเงินงบประมาณของหน่วยงานก่อน เมื่อไม่สามารถป้องกันได้และเกิดโรคหรือการแพร่ระบาดแล้ว และงบประมาณ ไม่เพียงพอ ให้สามารถใช้จ่ายจากเงินทดรองราชการของส�ำนักงานปลัด กระทรวงเกษตรและสหกรณไ์ ด้) ๔. แนวทางปฏิบัติและ ๔.๑ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน/ อ�ำเภอ/ ส่วนราชการ/ หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง วิธกี ารใช้จา่ ยเงินฯ รายงานให้จังหวัดทราบถึงสถานการณ์ปัจจุบันในพ้ืนที่ ภัยพิบัติท่ีคาดหมาย วา่ จะเกดิ ขน้ึ ในเวลาอนั ใกล้ มาตรการและแนวทางในการปอ้ งกนั หรอื ยบั ยงั้ ภยั พบิ ตั ิ กรณฉี กุ เฉนิ ทอี่ าจจะเกดิ ข้นึ เชน่ จดั ทำ� คนั กนั้ นำ้� ชวั่ คราว/กำ� จดั ส่งิ กดี ขวางทางนำ�้ เพ่อื ลดผลกระทบจากภัยพบิ ัตทิ ่ีจะเกิดข้ึน เปน็ ตน้ ๔.๒ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งต้ังเจ้าหน้าท่ีของส่วนราชการที่เก่ียวข้อง กับการด�ำเนินการป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติในครั้งนั้น อย่างน้อย ๕ คน เปน็ “คณะกรรมการปอ้ งกันหรือยับยงั้ ภยั พบิ ัตกิ รณีฉกุ เฉิน” ท�ำหน้าท่ปี ระเมนิ สถานการณ์ ระดับความรุนแรงของภัย วิเคราะห์สถานการณ์ความเป็นไปได้ พฤติการณ์/ปจั จยั บง่ ชต้ี า่ งๆ วา่ มคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งปอ้ งกนั หรอื ยบั ยงั้ โดยจดั ประชมุ เพอื่ กำ� หนดมาตรการและแนวทางในการป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ดงั กลา่ ว (ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งเปน็ โครงการ) เสนอตอ่ ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ซง่ึ เปน็ ผมู้ อี ำ� นาจ อนุมัติจ่ายเงินทดรองราชการ ๔.๓ รายการค่าใชจ้ ่ายทเ่ี บกิ จา่ ยได้ ไดแ้ ก่ คา่ แรงงาน ค่าจา้ งเหมา ค่าวัสดอุ ุปกรณ์ ค่าซ่อมแซมเครื่องมือ เคร่ืองจักรกล ยานพาหนะ ค่าจัดหาพลังงานเช้ือเพลิง และน้�ำมันหล่อลนื่ คา่ จดั หาพลังงานไฟฟา้ ค่าตอบแทน คา่ ใช้จ่ายในการเดินทาง ของเจา้ หนา้ ท่ี ค่าอาหารจดั เลีย้ งเจา้ หนา้ ที่และผมู้ าใหค้ วามชว่ ยเหลือ ๔.๔ ในกรณีที่มีความจ�ำเป็นต้องอพยพประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบ จากสถานการณภ์ ยั พบิ ตั ิ ทคี่ าดหมายวา่ จะเกดิ ขน้ึ ในเวลาอนั ใกล้ ใหเ้ บกิ จา่ ยคา่ อาหาร จัดเล้ยี งให้แก่ประชาชนได้วันละไม่เกิน ๓ ม้ือมือ้ ละไม่เกนิ ๕๐ บาทต่อคน ๔.๕ กรณที มี่ เี หตจุ ำ� เปน็ ทจ่ี ะตอ้ งเบกิ จา่ ยเงนิ ทดรองราชการนอกเหนอื จากรายการ ตามข้อ ๔.๓ และ ๔.๔ ให้คณะกรรมการฯ ตามข้อ ๔.๒ เป็นผู้พิจารณาก�ำหนด และเสนออธบิ ดกี รมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั หรอื ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั เพอ่ื อนมุ ตั ิ จ่ายเงนิ ตอ่ ไป 40 คู่มอื การจดั การสาธารณภยั สำ� หรบั ผอู้ �ำนวยการอ�ำเภอ

ประเดน็ สาระส�ำคัญ ๔.๖ เม่ือผู้ว่าราชการจังหวัดได้อนุมัติให้ใช้จ่ายเงินแล้ว ให้รายงานกรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยทราบ ภายใน ๒๔ ชว่ั โมง นบั ตง้ั แต่อนมุ ัติ ๔.๗ การจัดหาพัสดุ การตรวจรับพัสดุ และการบริหารพัสดุ เพ่ือช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติ ให้ส่วนราชการถือปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบรหิ ารพัสดภุ าครัฐ ๔.๘ การสง่ เอกสารเพอ่ื ขอรบั โอนเงนิ งบประมาณรายจา่ ยเพอ่ื ชดใชเ้ งนิ ทดรองราชการ ใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั รบั รองและยนื ยนั ดว้ ยวา่ ไดด้ ำ� เนนิ การและใชจ้ า่ ยเงนิ ทดรองราชการ ถูกต้องเป็นจริง และอยู่ภายในวงเงินตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่ก�ำหนด ท้ังนี้ จะตอ้ งสง่ ใบสำ� คญั และเอกสารทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การจา่ ยเงนิ ไปยงั กรมปอ้ งกนั และบรรเทา สาธารณภัย ภายใน ๔๕ วันทำ� การ นบั แตว่ ันทีไ่ ด้รับเงิน ๓.๒.๒ กรณเี กดิ ภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ขน้ึ และไดป้ ระกาศเขตการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิ ตอนท่ี ๓ กรณีฉุกเฉินแล้ว ให้ใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินหรือสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือ ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิ โดยเรง่ ดว่ นตามความจำ� เปน็ และเหมาะสม โดยมงุ่ หมายทจ่ี ะบรรเทาความเดอื ดรอ้ นเฉพาะหนา้ ของผู้ประสบภัยพิบัติแต่มิได้มุ่งหมายที่จะชดใช้ความเสียหายให้แก่ผู้ใด โดยใช้ส�ำหรับทุกสถานการณ์ภัย ซงึ่ เปน็ ไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอ่ื นไข โดยสรปุ กลา่ วคอื ในกรณที ภ่ี ยั พบิ ตั เิ กดิ ขน้ึ แลว้ การใชว้ งเงนิ ทดรองราชการ ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๒ ซ่ึงก�ำหนด ใหส้ ำ� นกั งานป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั ทกุ จังหวัดมวี งเงินทดรองราชการฯ จงั หวดั ละ ๒๐ ล้านบาท โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้มีอ�ำนาจอนุมัติจ่ายเงิน ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการ ท่ีกระทรวงการคลังก�ำหนด และหากวงเงนิ ไมเ่ พยี งพอ จงั หวดั สามารถเสนอเรอ่ื งมายงั กรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั เพอ่ื ขอขยายวงเงนิ ทดรองราชการจากกระทรวงการคลงั ได้ ทงั้ น้ี ตามระเบยี บฯ ขอ้ ๒๐ กำ� หนดไวว้ า่ เมอื่ ภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ เกดิ ขน้ึ ในทอ้ งทใี่ ด ใหผ้ มู้ อี ำ� นาจ ดำ� เนินการประกาศให้ทอ้ งที่นนั้ เป็นเขตใหค้ วามชว่ ยเหลือผูป้ ระสบภยั พบิ ตั ิกรณีฉุกเฉินตามหลกั เกณฑ์ กลา่ วคอื l ในกรงุ เทพมหานคร เป็นอำ� นาจของอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั l ในจังหวดั อ่ืน เป็นอำ� นาจของผวู้ า่ ราชการจงั หวัดร่วมกับ ก.ช.ภ.จ. อย่างไรก็ตาม การประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ต้องก�ำหนดพ้ืนท่ีและระยะเวลา ของการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติน้ันด้วย โดยให้เป็นไป ตามประกาศกรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั เรอื่ ง หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอ่ื นไข การประกาศเขตการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณี ฉกุ เฉนิ ลงวนั ที่ ๑๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ โดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลงั คู่มือการจดั การสาธารณภัยส�ำหรบั ผู้อำ� นวยการอำ� เภอ 41

อยา่ งไรกต็ าม กรณกี ารประกาศเขตการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ในจงั หวดั หากไมส่ ามารถ ประชุม ก.ช.ภ.จ. ได้ทันท่วงที และผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นว่า ความเสียหายดังกล่าวเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ทก่ี ระทรวงการคลงั กำ� หนด กใ็ หม้ อี ำ� นาจพจิ ารณาประกาศเขตการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ไปก่อนได้ โดยไม่ต้องขอความเหน็ ชอบจาก ก.ช.ภ.จ. สำ� หรบั แนวปฏบิ ตั ขิ องอำ� เภอ เพอ่ื ใหก้ ารใชว้ งเงนิ ทดรองราชการเปน็ ตามระเบยี บฯ ดงั กลา่ ว ให้ดำ� เนนิ การดงั นี้ (๑) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/ อ�ำเภอ/ ส่วนราชการ/ หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง รวบรวม รายละเอยี ดเหตุการณ์ สถานการณ์ (๒) จัดท�ำรายงานเหตุด่วนสาธารณภัย/รายงานสถานการณ์ รับรองว่าได้เกิดความเสียหาย ในพนื้ ทจ่ี รงิ ตามขอ้ เทจ็ จรงิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในชว่ งเวลานนั้ เปน็ รายหมบู่ า้ น/ชมุ ชน หากเกดิ ภยั พบิ ตั เิ ปน็ วงกวา้ งใหร้ ายงาน เพ่ิมเติมเป็นรายพ้ืนที่ตามความเสียหายท่ีเกิดขึ้นจริง (ประกาศกรม ปภ. เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไข การประกาศเขตการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภัยพบิ ัตกิ รณฉี ุกเฉิน ขอ้ ๑ (๓)) (๓) เสนอไปยงั จงั หวดั เพอื่ ใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั พจิ ารณาประกาศเปน็ เขตการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัยพบิ ตั กิ รณีฉุกเฉนิ (๔) และเมอ่ื ภยั พบิ ตั ไิ ดย้ ตุ แิ ลว้ ใหอ้ ำ� เภอรายงานจงั หวดั ทราบทนั ที เพอื่ ประกาศวนั สนิ้ สดุ ภยั (ประกาศฯ ขอ้ ๑ (๒)) ทงั้ น้ี เมอื่ จงั หวดั ไดป้ ระกาศเขตใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ แลว้ ใหอ้ ำ� เภอ ดำ� เนนิ การช่วยเหลอื ผู้ประสบภยั พิบัตติ ามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการทก่ี ำ� หนด ดงั นี้ ๑) จดั ประชมุ คณะกรรมการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ริ ะดบั อำ� เภอ (ก.ช.ภ.อ.) ประกอบด้วย นายอำ� เภอเป็นประธานกรรมการ หัวหน้าส่วนราชการประจ�ำอ�ำเภอท่ีเกี่ยวข้องหรือผแู้ ทนไม่เกินสค่ี น ผแู้ ทนกระทรวงกลาโหมหนึง่ คน ผแู้ ทนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั หนง่ึ คน ผ้แู ทนองคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ ในเขตอำ� เภอหนง่ึ คน เปน็ กรรมการ และมปี ลดั อำ� เภอหวั หนา้ ฝา่ ยความมนั่ คงเปน็ กรรมการและเลขานกุ าร เพอื่ พจิ ารณา ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีกระทรวงการคลังก�ำหนด ซ่ึงนายอ�ำเภอจะเป็นผู้อนุมัติ จ่ายเงินทดรองราชการเพ่ือด�ำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติตามมติของคณะกรรมการ ก.ช.ภ.อ. ทั้งนี้ แบง่ แนวปฏบิ ตั ใิ นรายละเอียดออกเป็น ๓ กรณี ดังน้ี กรณที ี่ ๑ อำ� เภอไดร้ บั จดั สรรเงนิ ทดรองราชการจำ� นวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท จากผวู้ า่ ราชการ จังหวัด ๑) ก.ช.ภ.อ. ส�ำรวจความเสียหายจากภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินท่ีเกิดขึ้นในพ้ืนท่ีอ�ำเภอ และความตอ้ งการรับความชว่ ยเหลอื ด้านตา่ งๆ ของผู้ประสบภยั พบิ ัติโดยจัดทำ� บัญชเี ปน็ ประเภทไว้ ๒) ก.ช.ภ.อ. สามารถแต่งตั้งคณะอนุกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ เพ่ือสนบั สนนุ การปฏิบตั งิ านและใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัยพิบัตติ ามท่ี ก.ช.ภ.อ. มอบหมาย แล้วแตก่ รณี ๓) ก.ช.ภ.อ. ตรวจสอบและกลน่ั กรองการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ใิ นดา้ นตา่ งๆ ตามทอ่ี งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ไดส้ ำ� รวจความเสยี หายจากภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในแตล่ ะพน้ื ทที่ ร่ี บั ผดิ ชอบ ตามอำ� นาจหนา้ ที่ท่ีกฎหมายกำ� หนด 42 คมู่ ือการจัดการสาธารณภยั ส�ำหรับผอู้ �ำนวยการอ�ำเภอ

๔) อำ� เภอจดั ประชมุ ก.ช.ภ.อ. พจิ ารณาชว่ ยเหลอื ตามหลกั เกณฑฯ์ และวธิ กี ารทกี่ ระทรวง ตอนท่ี ๓ การคลังกำ� หนด ๕) จัดท�ำรายงานการประชุม ก.ช.ภ.อ. โดยข้อความส�ำคัญที่จะต้องระบุในรายงาน การประชมุ คอื รายชอื่ ผเู้ ขา้ รว่ มการประชมุ เพอื่ ตรวจสอบองคป์ ระชมุ ครง้ั ทแ่ี ละวนั ทที่ มี่ กี ารประชมุ รายละเอยี ด การใหค้ วามช่วยเหลือผู้ประสบภยั พบิ ัตกิ รณฉี ุกเฉนิ ภัยทีเ่ กิด จ�ำนวนเงิน และมตขิ องทปี่ ระชุม ๖) นายอ�ำเภออนมุ ัตจิ ่ายเงินตามมติท่ปี ระชมุ ก.ช.ภ.อ. ๗) กรณที ไี่ มส่ ามารถประชมุ ก.ช.ภ.อ. ไดท้ นั ทว่ งที หากนายอำ� เภอเหน็ วา่ ความเสยี หาย เปน็ ไปตามระเบียบฯ กใ็ ห้มอี �ำนาจพิจารณาอนมุ ัตกิ ารใหค้ วามชว่ ยเหลือไปกอ่ นได้ โดยไม่ตอ้ งขอความเหน็ ชอบ จากคณะกรรมการ โดยให้มีบันทึกข้อความที่นายอ�ำเภออนุมัติหรือเห็นชอบในการให้ความช่วยเหลือไปก่อน โดยอาศยั อ�ำนาจตามระเบยี บฯ ข้อ ๒๓ (๑) วรรคสอง ๘) ดำ� เนนิ การชว่ ยเหลอื เปน็ เงนิ หรอื การจดั หาสงิ่ ของตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการจดั ซอ้ื จดั จา้ ง และการบรหิ ารพัสดุภาครัฐ กรณีท่ี ๒ เงนิ ทไี่ ดร้ ับจัดสรรจำ� นวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท จากผวู้ า่ ราชการจังหวัดไมเ่ พียงพอ กรณที มี่ คี วามจำ� เปน็ ตอ้ งใชเ้ งนิ เพอ่ื ดำ� เนนิ การชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั มิ ากกวา่ วงเงนิ ทไี่ ดร้ บั จดั สรรใหอ้ ำ� เภอขอรบั การสนบั สนนุ โดยตรงจากจงั หวดั และใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั อนมุ ตั กิ ารจา่ ยเงนิ ทดรองราชการ เพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินของจังหวัดเพ่ือสนับสนุนอ�ำเภอ หรือด�ำเนินการให้ความช่วยเหลือ ตามมตขิ อง ก.ช.ภ.จ. (ระเบียบฯ ข้อ ๒๓ (๑)) กรณที ่ี ๓ ผวู้ า่ ราชการจังหวัดไม่ไดจ้ ัดสรรเงนิ ทดรองฯ ให้อ�ำเภอ ใหอ้ ำ� เภอขอรบั การสนบั สนนุ โดยตรงจากจงั หวดั (ระเบยี บฯ ขอ้ ๒๕) และใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั อนมุ ตั กิ ารจา่ ยเงนิ ทดรองราชการเพอ่ื ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ของจงั หวดั เพอื่ สนบั สนนุ อำ� เภอ หรอื ดำ� เนินการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ตามมติของ ก.ช.ภ.จ. เมอื่ อำ� เภอไดใ้ ชจ้ า่ ยเงนิ ทดรองราชการในอำ� นาจผวู้ า่ ราชการจงั หวดั แลว้ ตอ้ งรวบรวมใบสำ� คญั และเอกสารทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การจา่ ยเงนิ มายงั จงั หวดั (สำ� นกั งานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั ) แลว้ จงั หวดั ส่งเอกสารมายังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ภายใน ๔๕ วันทำ� การ นับแต่วนั ท่ไี ดร้ บั เงนิ (ไมน่ บั วันหยดุ ราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) ทั้งน้ี ระยะเวลาในการด�ำเนินการขอรับโอนเงินงบประมาณรายจ่ายเพ่ือชดใช้ เงินทดรองราชการจะต้องเสร็จสนิ้ ภายใน ๗๕ วนั ท�ำการ (ระเบียบฯ ข้อ ๓๑) ๒) กรณีไม่สามารถประชุม ก.ช.ภ.อ. ได้ทันท่วงที หากผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ เห็นว่า ความเสียหายเป็นไปตามระเบยี บฯ ก็มอี ำ� นาจพจิ ารณาอนมุ ตั กิ ารใหค้ วามช่วยเหลอื ไปก่อนได้ โดยไม่ตอ้ งขอ ความเห็นชอบจาก ก.ช.ภ.อ. ๓) ให้ส่วนราชการท่ีมีวงเงินทดรองราชการ และผู้มีอ�ำนาจอนุมัติจ่ายเงินทดรองราชการ เพอื่ ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ เปน็ ไปตามระเบยี บฯ ขอ้ ๘ โดยผวู้ า่ ราชการจงั หวดั มอี ำ� นาจจดั สรร เงินทดรองราชการ วงเงิน ๒๐ ลา้ นบาท ของสำ� นักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัด ใหแ้ ก่อ�ำเภอ ตามความจำ� เปน็ และเหมาะสม ซง่ึ แตล่ ะแหง่ ตอ้ งมวี งเงนิ ไมเ่ กนิ ๕๐๐,๐๐๐ บาท ทง้ั นี้ ในกรณที ม่ี คี วามจำ� เปน็ จะจดั สรรเพิ่มเตมิ ให้อีกกไ็ ดแ้ ละใหแ้ จง้ กระทรวงการคลังทราบดว้ ย คมู่ อื การจดั การสาธารณภัยสำ� หรบั ผอู้ �ำนวยการอ�ำเภอ 43

๔) การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ตอ้ งดำ� เนนิ การใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายในสามเดอื นนบั แตว่ นั ทเี่ กดิ ภยั หากมคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งดำ� เนนิ การเกนิ กวา่ สามเดอื น ผู้บัญชาการเหตุการณ์อ�ำเภอต้องแจ้งจังหวัดเพื่อขอขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือต่อกรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย ซ่ึงอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีอ�ำนาจอนุมัติให้ขยายเวลา การให้ความช่วยเหลือใหแ้ ก่จังหวัดได้ ตามความจำ� เป็นและเหมาะสม ๕) การใชจ้ า่ ยเงนิ ทดรองราชการเพอ่ื ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิ ตอ้ งเปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยทจี่ ำ� เปน็ ในการด�ำรงชีพและความเป็นอยู่ของประชาชน หรือเป็นการซ่อมแซมให้คืนสู่สภาพเดิมอันเป็นการบรรเทา ความเดอื ดร้อนเฉพาะหน้า โดยไม่สามารถใชจ้ ่ายเงินทดรองราชการเพ่อื กอ่ สรา้ งหรือสาธารณูปโภคที่ถาวรหรอื ก่อสร้างใหม่ได้ การจ่ายเงินทดรองราชการให้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและอัตรา ท่ีกระทรวงการคลังก�ำหนด หากมีความจ�ำเป็นต้องจ่ายนอกเหนือหลักเกณฑ์ ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอต้องแจ้ง ผู้อ�ำนวยการจังหวัดเสนอขออนุมัติผ่านมายังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพ่ือขออนุมัติจากกระทรวง การคลงั กอ่ น ๖) หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๓ ให้ช่วยเหลือเป็นส่ิงของหรือจ่ายเป็นเงิน โดยให้ค�ำนึงถึงสภาพและเหตุการณ์ตามความเหมาะสม โดยแบ่งเป็น ๖ ด้าน ได้แก่ ด้านการด�ำรงชีพ ด้านสังคมสงเคราะห์ ด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ด้านการเกษตร ด้านบรรเทาสาธารณภัย และด้านการปฏบิ ตั ิงานให้ความชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัย ๗) การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร กรณีภัยท่ีเกิดจากโรค หรือการระบาดของสัตว์หรือพืชทุกชนิด ให้ใช้จ่ายจากเงินงบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก่อน เมื่อไม่สามารถป้องกันได้และเกิดโรคหรือการแพร่ระบาดแล้วและงบประมาณไม่เพียงพอ จึงอาจใช้จ่าย จากการใช้เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ในอ�ำนาจของปลัดกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ วงเงนิ ๕๐ ลา้ นบาท โดยมขี นั้ ตอนกระบวนการทเี่ กีย่ วขอ้ ง ดงั นี้ 44 คู่มือการจดั การสาธารณภยั ส�ำหรับผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ

การประกาศเขตการให้ความชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พิบตั ิกรณฉี ุกเฉิน กรณีโรคระบาดสัตว์ ตามระเบียบกระทรวงการคลงั ว่าด้วยเงินทดลองราชการเพือ่ ช่วยเหลอื ผู้ประสบภยั พิบตั ิกรณฉี กุ เฉิน พ.ศ. ๒๕๖๒ และตามมาตรา ๔ ของ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ เกิดโรคระบาดสัตว์ วัตถปุ ระสงค์ 1 พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ฯ 2 เพ่ือน�ำเงินทดรองราชการมาใช้จ่าย ระเบยี บ กค. พ.ศ. ๒๕๖๒ ในการใหค้ วามชว่ ยเหลอื หรอื สนบั สนนุ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิ ประกาศเขตโรคระบาดชั่วคราว ให้อ�ำเภอตรวจสอบและยืนยันข้อมูลตามหลักวิชาการ กรณีฉกุ เฉนิ (ปศุสัตว์อ�ำเภอ) พร้อมท�ำหนังสือรายงานเหตุการณ์มายัง ประกาศเขตภัยพิบัติโรคระบาดสัตว์ ปภ. / สนง.ปภ.จังหวัด - รวบรวมรายละเอียดเหตุการณ์/สถานการณ์ (ผู้ว่าราชการจังหวัด) - จัดท�ำรายงานสถานการณ์ - รับรองว่าได้เกิดความเสียหายในพื้นท่ีจริง รวบรวมตรวจสอบเอกสารและข้อมูลรายระเอียด โดย ปภ. / สนง.ปภ.จังหวัด ประกาศเขตฯ มีรายการดังน้ี เสนอผู้มีอ�ำนาจพิจารณา ตอนท่ี ๓ n ประเภทภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ผวจ + ก.ช.ภ.จ. n วัน เดือน ปี ที่เกิดภัยพิบัติ และวัน เดือน ปี พิจารณาอนุมัติ ที่สิ้นสุดภัยพิบัติ กรณียังไม่ยุติให้ระบุใน ประกาศว่า “ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินยังไม่ยุติ” ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือ เม่ือยุติแล้วให้ประกาศ “วันส้ินสุดภัย” ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน n พื้นท่ีท่ีเกิดภัยพิบัติ ให้ระบุเฉพาะพื้นท่ี ปภ. / สนง.ปภ.จังหวัด ชุมชน หมู่บ้าน ต�ำบล อ�ำเภอท่ีเกิดภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉินเท่าน้ัน สนง.ปภ.จังหวัด รายงาน ปภ. ทันที n หากภัยพิบัติส่งผลกระทบเป็นวงกว้างข้ึนให้ ผ่านระบบข้อมูลสาธารณภัย ประกาศเพิ่มเติมตามพ้ืนที่ความเสียหายท่ี เกิดข้ึนจริง และให้ระบุให้ชัดเจนว่าเป็นการ ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเพิ่มเติม n เวลาเริ่มต้นและเวลาสิ้นสุดการช่วยเหลือฯ ต้องไม่เกิน ๓ เดือน นับแต่วันท่ีเกิดภัย หากระยะเวลาช่วยเหลือเกิน ๓ เดือน ให้ขออนุมัติขยายระยะเวลาฯ ต่ออธิบดี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่มา ๑. พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๔ ๒. ระเบียบกระทรวงการคลังฯ ข้อ ๒๐ และข้อ ๒๑ ๓. ประกาศ ปภ. เร่ือง หลักเกณฑ์ วิธีการและเง่ือนไขการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน ลงวันท่ี ๑๑ กพ. ๒๕๖๓ ภาพท่ี ๓-๒ ขน้ั ตอนการให้ความชว่ ยเหลอื ผูป้ ระสบภยั พิบตั ดิ ้านการเกษตร กรณีภยั ที่เกดิ จากโรคหรอื การระบาด ของสัตว์หรือพืชทกุ ชนิด ๘) กรณีใช้จ่ายเงินทดรองราชการในอ�ำนาจของตนเองไปแล้ว ให้รวบรวมใบส�ำคัญ และเอกสารที่เกี่ยวข้องส่งส�ำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพ่ือชดใช้เงินทดรองราชการ และขอรบั โอนเงนิ งบประมาณรายจ่ายเพอ่ื ชดใช้เงนิ ทดรองราชการท่สี ่วนราชการไดจ้ า่ ยไปแลว้ ค่มู อื การจัดการสาธารณภยั ส�ำหรับผูอ้ �ำนวยการอ�ำเภอ 45

๓.๓ การรายงานสาธารณภยั การรายงานสาธารณภัยเป็นการรายงานข้อมูลข่าวสารกรณีการเกิดสาธารณภัยขึ้นภายในพื้นท่ีอำ� เภอ ทร่ี บั ผดิ ชอบ โดยอำ� เภอมหี นา้ ทจ่ี ดั ทำ� รายงาน โดยการรายงานขอ้ เทจ็ จรงิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ทง้ั ดา้ นสถานการณส์ าธารณภยั ด้านการปฏิบัติการระงับบรรเทาสาธารณภัย ด้านการให้ความช่วยเหลือ และด้านอ่ืนๆ ท่ีจ�ำเป็น โดยค�ำนึง ถึงความถูกตอ้ ง ความชดั เจน ครบถว้ น รวดเร็ว และสามารถใชเ้ ปน็ ขอ้ มูลประกอบการตดั สินใจของผอู้ �ำนวยการ ในระดับเหนือข้ึนไปในการวางแผนการสนับสนุนหรือยกระดับการจัดการสาธารณภัยตามความเหมาะสม โดยให้อ�ำเภอด�ำเนนิ การ ดังนี้ ๓.๓.๑ สอบถามขอ้ มลู สถานการณส์ าธารณภยั ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในพน้ื ทอ่ี งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ทเี่ กดิ เหตุ เพอ่ื รบั ทราบภาพรวมของเหตกุ ารณ์ แนวโนม้ สถานการณ์ วธิ กี ารแกไ้ ขปญั หาสถานการณเ์ บอื้ งตน้ หากสถานการณ์ มีความรุนแรงมาก ซึ่งส่งผลหรืออาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่บริเวณกว้าง มีความเส่ียงและเป็นอันตรายต่อชีวิต และทรพั ย์สินของประชาชน หรือมีผูเ้ สียชวี ิต ให้สรุปขอ้ มูลเบือ้ งตน้ และรบี รายงานตอ่ ผอู้ ำ� นวยการจังหวัดทันที ๓.๓.๒ ฝา่ ยความมง่ั คง ทที่ ำ� การปกครองอำ� เภอจดั ทำ� รายงานตามแบบรายงานเหตดุ ว่ นสาธารณภยั อำ� เภอ โดยรวบรวมขอ้ มลู และตรวจสอบขอ้ เทจ็ จรงิ จากองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ทเี่ กดิ เหตใุ หค้ รบถว้ น เพอื่ สง่ รายงาน ตอ่ ผอู้ �ำนวยการจงั หวดั ขอ้ มูลในแบบรายงานทีส่ ำ� คัญ ประกอบดว้ ย (๑) ชนิดของภยั และสาเหตขุ องภัย (๒) วันท่ีและเวลาท่เี กดิ ภยั รวมถงึ วนั ที่และเวลาท่สี นิ้ สุดภัย (๓) สถานท่เี กดิ ภัย (๔) ข้อมลู เก่ียวกบั ผูป้ ระสบภยั ผบู้ าดเจ็บ ผูเ้ สียชวี ติ ผ้สู ูญหาย และการอพยพ (๕) ขอ้ มูลผลกระทบในด้านต่าง ๆ อาทเิ ชน่ ด้านทอ่ี ยู่อาศยั ดา้ นสาธารณสุข ดา้ นเศรษฐกิจ ดา้ นสาธารณปู โภค ส่งิ สาธารณประโยชน์ ดา้ นการเกษตร รวมถึงมูลค่าความเสยี หาย (๖) การด�ำเนินการใหค้ วามช่วยเหลือ ได้แก่ เครื่องมอื เครอ่ื งจกั รกล อปุ กรณท์ ี่ใชด้ �ำเนนิ การ ระงบั เหตุ และก�ำลงั พลเจา้ หนา้ ทที่ ี่ร่วมปฏบิ ตั งิ าน ๓.๓.๓ ประสานงานตดิ ตามพน้ื ทอี่ ยา่ งใกลช้ ดิ และอำ� นวยการใหอ้ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ทเี่ กดิ เหตุ รายงานขอ้ มูลเปน็ ระยะจนกว่าสถานการณจ์ ะยตุ ิ ๓.๓.๔ จัดท�ำรายงานสรุปข้อมูลสาธารณภัยรายวัน กรณีท่ีต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพ่อื ใหเ้ ห็นแนวโน้มสถานการณแ์ ละตดิ ตามข้อมูลการชว่ ยเหลอื อยา่ งใกล้ชิด ๓.๓.๕ เม่ือสถานการณ์สาธารณภัยสิ้นสุดลง ให้จัดท�ำงานรายงานสรุปภาพรวมสถานการณ์ท้ังหมด และรายงานต่อผู้อ�ำนวยการจงั หวัด 46 ค่มู อื การจัดการสาธารณภัยส�ำหรบั ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอ

๓.๔ การสื่อสารเพอื่ สรา้ งการรบั รใู้ ห้ประชาชน ตอนท่ี ๓ การสอ่ื สารเปน็ เครอ่ื งมอื สำ� คญั ทที่ ำ� ใหเ้ กดิ การรบั รู้ ความเขา้ ใจ เกยี่ วกบั สาธารณภยั ทเ่ี ปน็ ไปในทศิ ทาง เดยี วกนั ทงั้ ในกรณที ภี่ ยั ใกลจ้ ะเกดิ ภยั ทเ่ี กดิ ขน้ึ แลว้ และภยั ดงั กลา่ วสน้ิ สดุ ลง ซงึ่ จะทำ� ใหป้ ระชาชนผรู้ บั ขอ้ มลู ขา่ วสาร สามารถเตรียมความพร้อม ตลอดจนปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง โดยการส่ือสารต่อสาธารณะที่ดี มีประสิทธิภาพ จะสามารถลดความตน่ื ตระหนก ความตนื่ กลวั ทจี่ ะเกดิ แกป่ ระชาชน ซง่ึ นอกจะกอ่ ใหเ้ กดิ ความปลอดภยั แลว้ ยงั งา่ ยตอ่ การบรหิ ารจดั การ สถานการณ์ของผู้บัญชาการเหตุการณ์อีกด้วย ท้ังน้ี การสื่อสาร เพื่อการรับรู้แก่ประชาชนในห้วงการด�ำเนินการในภาวะฉุกเฉิน แบ่งออกได้เป็น ๓ ระยะ ด้วยกัน กล่าวคือ ระยะใกล้จะเกิดภัย เมอื่ เกดิ ภยั ขน้ึ แลว้ และเมอื่ ภยั ยตุ ิ ซง่ึ การสอื่ สารในแตล่ ะระยะดงั กลา่ ว มวี ัตถุประสงค์ในการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนที่แตกต่างกัน โดยสรุปดงั นี้ ๓.๔.๑ ระยะใกล้จะเกิดภัย มีวัตถุประสงค์ส�ำคัญในการแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนรับรู้ เข้าใจ ในสถานการณ์ หรือแนวโน้มความเสี่ยงที่คาดว่าจะเกิดข้ึน และเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตนเพ่ือรับมือ กบั สถานการณ์ ซง่ึ การสอื่ สารในระยะนเ้ี ปน็ หนา้ ทสี่ ำ� คญั ของศนู ยบ์ ญั ชาการเหตกุ ารณอ์ ำ� เภอ จะไดส้ อื่ สารความเสย่ี ง สาธารณภยั ท่ีคาดวา่ จะเกิดข้ึนให้กบั ประชาชนในเขตพื้นท่ีอ�ำเภอทราบ ไมว่ ่าจะเป็นประเภทภยั คาดการณเ์ วลา การเกิดภัย รวมทั้งระยะเวลาการเกิดภัยนั้นๆ และแนวทางการเตรียมความพร้อมแก่ประชาชนในเบื้องต้น อาทิ การยกของขนึ้ ทสี่ งู การเตรยี มเกบ็ รกั ษาเอกสารสำ� คญั ไปจนถงึ การสงั่ การใหม้ กี ารอพยพประชาชนไปยงั พน้ื ที่ ปลอดภัยกอ่ นที่ภยั จะเกิดขน้ึ ๓.๔.๒ เมื่อเกิดภัยขึ้นแล้ว การส่ือสารในระยะนี้มีวัตถุประสงค์ส�ำคัญในสร้างการรับรู้แก่ประชาชน ใหร้ บั ทราบสถานะของเหตกุ ารณแ์ ละความเคลอื่ นไหวของสถานการณ์ ตลอดจนความเสย่ี งภยั อนั เปน็ ผลกระทบ หรือผลพวงจากเหตุการณ์ที่เกิดข้ึน เพ่ือให้ประชาชนมองเห็นภาพสถานกาณ์เดียวกันอย่างต่อเน่ืองและใกล้ชิด ดงั นน้ั ขอ้ มลู ผลกระทบความเสยี หายในดา้ นตา่ งๆ ทง้ั ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ ระยะเวลาทคี่ าดวา่ ภยั สน้ิ สดุ การคาดการณ์ การเกดิ เหตกุ ารณ/์ ภยั ซำ้� หรอื การขยายตวั ของเหตกุ ารณ์ รวมทง้ั ขอ้ มลู ผลพวงหรอื ผลกระทบอนั เกดิ จากภยั นน้ั ๆ จงึ มคี วามสำ� คญั และนอกจากสถานะของเหตกุ ารณแ์ ลว้ แนวปฏบิ ตั ติ นของประชาชนในดา้ นตา่ งๆ ขณะทภี่ ยั กำ� ลงั เกิดขึ้นอยู่นั้นก็เป็นส่ิงท่ีจะต้องส่ือสารให้ประชาชนทราบด้วยเช่นกัน อาทิ ข้อปฏิบัติและระเบียบกฎเกณฑ์ ในการอยรู่ ่วมกันในศูนยพ์ กั พงิ ชวั่ คราว ประกาศตา่ งๆ ทส่ี �ำคัญ การอพยพเพมิ่ เตมิ เปน็ ต้น ๓.๔.๓ เมื่อภัยยุติ การส่ือสารในระยะน้ีมีวัตถุประสงค์ส�ำคัญเพ่ือสื่อสารให้ประชาชนรับทราบว่า สถานการณ์ภัยได้ยุติลงแล้ว และยังคงมีผลกระทบจากเหตุการณ์ที่ยังคงมีความเสี่ยงหรือไม่ มีความปลอดภัย เพียงพอระดับใด รวมไปถึงแนวปฏิบัติภายหลังจากภัยยุติท่ีส�ำคัญ เช่น การอพยพกลับ การเตรียมเอกสาร ในการขอรบั การชว่ ยเหลอื เยยี วยา ฯลฯ ส�ำหรับรูปแบบ วิธีการสื่อสาร และการเลือกเครื่องมือที่ใช้ในการส่ือสารให้สามารถกระจาย ข้อมูลข่าวสารดังกล่าวข้างต้น ให้ประชาชนรับทราบได้รวดเร็ว ครอบคลุม ทันต่อสถานการณ์อย่างเป็นระบบ อ�ำเภอต้องก�ำหนดให้มีความชัดเจนไว้ในแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอ�ำเภอ ซ่ึงกล่าวไว้ในตอนที่ ๑ คูม่ อื การจัดการสาธารณภยั ส�ำหรบั ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ 47

ทงั้ น้ี ชอ่ งทางการสอ่ื สารการสรา้ งการรบั รทู้ สี่ ำ� คญั อาทิ การใชร้ ถกระจายเสยี ง สถานวี ทิ ยกุ ระจายเสยี งประจำ� อำ� เภอ หอกระจายข่าว เสียงตามสาย อปุ กรณ์การแจ้งเตอื นภัยของหนว่ ยงานต่างๆ ในพ้ืนท่ี การแจง้ ขา่ วผา่ นบุคลากร ภาคีเครือข่าย เช่น ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อปพร. และ สมาชิก อส. รวมทั้งผ่านช่องทาง Social media ที่ใช้กัน ในพ้ืนที่ เช่น Facebook Line Twitter เป็นต้น ๓.๕ การจดั การและการร้องขอรบั การสนบั สนุนทรพั ยากร ๓.๕.๑ การจดั การทรพั ยากรทใี่ ช้ในเหตกุ ารณ์ ในการบริหารสถานการณ์สาธารณภัยในเขตพื้นที่อ�ำเภอ ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอในฐานะ ผู้บัญชาการเหตุการณ์จ�ำเป็นที่จะต้องจัดการทรัพยากรท่ีใช้ในเหตุการณ์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุวตั ถุประสงคก์ ารปฏิบตั ิ และเปน็ ไปอยา่ งคุม้ ค่า ซ่งึ มีหลักปฏิบตั ดิ งั น้ี (๑) การประเมินสถานการณ์สาธารณภัยท่ีเกิดขึ้น ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอมีหน้าท่ีส�ำคัญ ในการประเมนิ สถานการณ์ ขีดความสามารถและศกั ยภาพร่วมกบั ศนู ย์ปฏิบตั กิ ารฉุกเฉินทอ้ งถนิ่ เพ่ือก�ำหนดภารกิจ และแผนทต่ี อ้ งดำ� เนนิ การในการตอบโตก้ บั เหตกุ ารณท์ เี่ กดิ ขน้ึ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในเหตกุ ารณท์ เ่ี กนิ ขดี ความสามารถ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ ทีจ่ ะรับมือได้ (๒) ระบแุ ละกำ� หนดความตอ้ งการทรพั ยากร เพอ่ื ใหแ้ ผน/ภารกจิ ทกี่ ำ� หนดขน้ึ บรรลผุ ลสำ� เรจ็ เปน็ การกำ� หนดวา่ มคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งใชท้ รพั ยากรใดบา้ ง จำ� นวนเทา่ ไหร่ และเมอ่ื ใดทตี่ อ้ งการ และทรพั ยากรดงั กลา่ ว สามารถจัดหาได้จากแหลง่ ใดบา้ ง (๓) จัดหาทรัพยากรเพอื่ ใช้ในการปฏบิ ัตงิ าน (๓.๑) การร้องขอทรัพยากร เป็นหน้าท่ีของผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอที่จะส่ังการ/ประสาน การขอรบั การสนบั สนนุ จากหนว่ ยงานตา่ งๆ ภายในเขตพนื้ ทอี่ ำ� เภอ เพอื่ สนบั สนนุ การปฏบิ ตั กิ ารตามแผนทก่ี ำ� หนดขนึ้ แต่อย่างไรก็ตาม ข้อมูลสำ� คัญในการร้องขอสนับสนุนทรัพยากรไปยังแหล่งทรัพยากรต้องระบุให้มีความชัดเจน อาทิ ชนดิ และประเภทตามวัตถุประสงค์การใชง้ าน ศักยภาพ (Capacity) ปรมิ าณท่รี อ้ งขอ (จ�ำนวน) เงื่อนเวลา (เวลาทท่ี รพั ยากรมาถงึ และสามารถเรม่ิ ปฏบิ ตั งิ าน) ชอ่ งทางการตดิ ตอ่ สอื่ สารกบั เจา้ หนา้ ทท่ี ร่ี บั ผดิ ชอบทรพั ยากรนน้ั ๆ งบประมาณท่จี ะสนบั สนนุ การปฏิบัติงานของทรพั ยากรทร่ี อ้ งขอมา รวมทั้งสถานที่รายงานตัวเพอื่ ปฏบิ ตั ิงาน 48 คมู่ อื การจดั การสาธารณภัยสำ� หรบั ผู้อำ� นวยการอำ� เภอ