35 3) ด้านการช่วยเหลือและฟื้นฟูบูรณะ ประกอบด้วย รถบรรทุกขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ รถบรรทุกติดตั้ง เครื่อง ขุดเจาะบ่อบาดาล รถบรรทุกเทท้าย รถแทร็กเตอร์ตีนตะขาบ รถตักล้อยาง รถตักตีนตะขาบ รถบรรทกุ น้า เครื่องสูบน้า เครื่องสูบโคลน เรือท้องแบน เรือยาง ยานโฮเวอร์คราฟท์ รถฟาร์มแทรกเตอร์ และรถบดล้อยาง 4) ด้านการสนับสนุนการปฏิบัติงาน ประกอบด้วย รถตรวจการณ์ รถอานวยการส่ือสาร รถบรรทุกเคร่ือง สูบน้า ระยะไกล รถบรรทุกขยะขนาดเล็ก รถบรรทุกขนาดเล็ก รถบริการน้ามันหล่อล่ืน รถบริการซ่อม เคล่ือนทเ่ี ร็ว รถบรรทกุ แบบตูค้ อนเทนเนอรอ์ เนกประสงค์ รถหวั ลาก เครื่องยนต์เรอื และสะพานเบลีย์ 5) ดา้ นการฟน้ื ฟู ประกอบดว้ ย บา้ นพกั ชว่ั คราว สาหรบั ผู้ประสบภัย ทั้งแบบบ้านน็อกดาวนแ์ ละเต็นท์ยกพืน้ ซ่ึงสรุปในการจัดหา วัสดุ อุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัย ยานพาหนะต่างๆมีความเห็นท่ีตรงกันว่าควรมีแต่ท้ังน้ี ขึ้นอยกู่ บั ฐานะทางการเงนิ ของแต่ละเทศบาลหรือ แต่ละ อบต. ประเด็นดังกล่าวข้างต้นผู้วิจัยเห็นว่า กลุ่มตัวอย่างมีความคิดเห็นเก่ียวกับประสิทธิภาพการจัดการ ภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินในการปฏิบัติงานร่วมเครือข่ายในกรอบอาเซียน (ASEAN Economic Commumity: AEC) ของสานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตาก ด้าน เครื่องมือ เครื่องจักรกล ที่ใช้ในการปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยมีความเหมาะสม จานวนวัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ เคร่ืองใช้ มีเพียงพอต่อการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉิน เครื่องมือ เครื่องใช้ วัสดุ อุปกรณ์ ในการปฏิบตั งิ านมีคณุ ภาพและมีประสิทธิภาพ เชน่ รถบรรทกุ นา้ เรือทอ้ งแบน เครื่องสูบน้า เป็นต้น และวัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ เครื่องใช้ ต่างๆ ได้มีการตรวจเช็คเพื่อให้มีสภาพใช้งานได้ดี มี ประสทิ ธิภาพตลอดเวลา ดงั นี้ 1) จานวนวัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ เคร่ืองใช้ มีเพียงพอต่อการปฏิบัติงาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2) จานวนวัสดุ อุปกรณ์ เครอ่ื งมอื เคร่ืองใช้ มีเพียงพอต่อการปฏบิ ตั ิงานในภาวะฉกุ เฉนิ 3) วัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ เคร่ืองใช้ต่างๆ ที่ใช้ในการปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหาอุสาธารณภัยมี ความเหมาะสม 4) วสั ดุ อุปกรณ์ เครื่องมอื เคร่ืองใช้ ในการปฏิบัตงิ านมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ เช่นรถบรรทุกน้า เรือ ท้องแบน เคร่อื งสูบนา้ เป็นตน้ 5) วัสดุ อุปกรณ์ เครอ่ื งมอื เครือ่ งใช้ตา่ งๆ ได้มีการตรวจเช็ค เพ่อื ให้มสี ภาพใชง้ านได้ดีตลอดเวลา 3. ท่านมีส่วนร่วมในการเสนอแนวทางแก้ไขและป้องกันปัญหาการพัฒนาบุคคลากรด้านการป้องกันและ แกไ้ ขปญั หาสาธารณภัยภาครัฐ ที่อาจเกดิ ขึน้ ในอนาคตภายใตก้ รอบ อาเซยี น อย่างไร คาตอบของผู้ให้สัมภาษณ์ ปลัด อบต.แม่ต่ืน อ.แม่ระมาด จ.ตาก ว่าการเตรียมความพร้อมด้าน บุคลากร มีการส่งเจ้าหน้าท่ีไปอบรม และมีการจัดอบรมเจ้าหน้าท่ีในหน่วยงาน เช่น-การอบรมมิสเตอร์ เตือนภัยการอบรมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนการอบรมหนึ่ง ตาบลหน่ึงทีมกู้ชีพกู้ภัยการฝึกซ้อม แผนปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย และงานตามแผนหากเกดิ /หลงั เกดิ สาธารณภัย เชน่ การบริจาคเงิน / วสั ดุ และสง่ิ ของเพอื่ ปอ้ งกนั และบรรเทาความรุนแรงจากการเกิดสาธารณภัย และมีความรู้ความเข้าใจต่อ แผน การ ป้อง กัน และบรร เทา สา ธาร ณภัย ของ เท ศบา ลเป็ นอย่ าง ดี แล ะจา กกา รท อดแ บบชุ ดคา ถา ม สานักงานปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวดั ตากและองค์กรกรปกครองส่วนท้องถิ่นมีเห็นไปในทิศทาง เดียวกนั ประเด็นดงั กลา่ วข้างตน้ ผู้วจิ ยั พบวา่ ประชากรกลุ่มตัวอย่างมีความคิดเหน็ เกย่ี วกับประสิทธภิ าพ การจดั การภยั พบิ ัตแิ ละการตอบโตส้ ถานการณ์ฉุกเฉินในการปฏบิ ตั ิงานร่วมเครือข่ายในกรอบอาเซียน
36 (ASEAN Economic Commumity: AEC) ของสานกั งานป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยจงั หวัดตากและ องค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ ด้านบคุ ลากร โดย มกี ารประสานความร่วมมอื ทด่ี ีในการปฏิบัติงานของ เจ้าหน้าทใ่ี นหน่วยงาน และหนว่ ยงานอนื่ ที่เกี่ยวข้องตามแผนฯ ข้าราชการเจา้ หนา้ ท่ีมคี วามรู้ ความเข้าใจ แผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตาก พ.ศ.2553-2557 ขา้ ราชการและเจ้าหนา้ ทม่ี ีความรู้ ความเข้าใจแผนปฏิบตั กิ ารป้องกันและแก้ไขปญั หาสาธารณภยั ประจาปีของ สานกั งานป้องกันและบรรเทา สาธารณภยั ตาก และมีการจัดฝึกซ้อมแผนปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ระดับจงั หวดั ใหแ้ กเ่ จา้ หน้าที่ ในหนว่ ยงานรว่ มกบั หนว่ ยงานอนื่ ท่ีเกย่ี วข้องตามแผนฯ และจานวนเจา้ หนา้ ที่ที่ปฏิบัตงิ านให้ความ ช่วยเหลอื ผูป้ ระสบสาธารณภัย มีจานวนเพียงพอ ในการปฏิบตั หิ น้าท่มี ีประสทิ ธภ์ าพในการใหค้ วาม ช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั ของจงั หวดั ในเขตความรับผิดชอบของสานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จงั หวดั ตากมีประสิทธ์ภาพ ดังน้ี 1) จานวนเจา้ หนา้ ทท่ี ป่ี ฏิบัติงานใหค้ วามช่วยเหลือผปู้ ระสบสาธารณภัย มจี านวนเพียงพอ 2) ข้าราชการและเจ้าหนา้ ท่ี มคี วามรู้ ความเข้าใจแผนปฏิบัตกิ ารป้องกนั และแกไ้ ขปัญหา 3) ข้าราชการเจ้าหน้าที่มีความรู้ ความเข้าใจ แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ของสานักงาน ป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัดตาก (พ.ศ. 2553 – 2557) 4) มีการจัดฝึกซ้อมแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยจังหวัดของ สานักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัดตาก ให้แก้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานร่วมกับหน่วยงานอ่ืน ท่ีมีส่วนเก่ียวข้องตามแผนฯ. มี การประสานความร่วมมือท่ีดีในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ีในหน่วยงาน และหน่วยงานอ่ืนท่ีเกี่ยวข้อง ตามแผนมกี ารจดั ฝกึ ซ้อมแผนปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยระดบั จังหวดั 4.ท่านร่วมดาเนนิ การระบบการบญั ชาการฉุกเฉนิ เม่อื เกิดสถานการณฉ์ ุกเฉนิ อย่างไร คาตอบของผู้ให้สัมภาษณ์ ปลัดเทศบาลตาบลแม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก หากมีสถานการณ์ภัย เกิดข้นึ ในพ้นื ท่ีมีความจาเป็นอย่างมากท่ีต้องมีผู้บัญชาการในการส่ังการในพ้ืนที่เพ่ือที่จะลดผลกระทบจาก ภัยท่ีเกิดใหร้ ะงับไปอย่างรวดเร็วและทาให้ลดผลกระผบต่อทรัพย์สินและชีวิตแต่ท้ังน้ีผู้ที่จะเป็นบัญชาการ ในเหตุการนั้นได้ต้องมีความเข้าใจและประสบการด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นอ ย่างดี ส่วนเจา้ หน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตาบลแม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก เห็นว่าการท่ีจะเป็น ผบู้ ญั หาการในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ต้องเป็นไปตามกระบวนการที่กฏหมายกาหนด ซึ่ง สอดคล้องกันทุกๆ เทศบาลและ ทุก อบต. ประเด็นดังกล่าวข้างต้นผู้วิจัย พบว่า ประชากรกลุ่มตัวอย่างเข้าใจกฏหมายและระเบียบการ ปฏิบัติตามพรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 และแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยชาติ เพ่ือไม่ให้เกิดความสับสนในทางปฏิบัติ และเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือแก่จังหวัดต่อการเข้าสนับสนุนการ ปฏบิ ัติงานในอนาคตผอู้ านวยการทุกระดบั ชัน้ ต้องศึกษาและทาความเขา้ ใจถงึ บทบาทหนา้ ท่ีอยา่ งทอ้ งแท้ 5.ท่านเข้าร่วมฝึกอบรมกับหน่วยงานด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในการเตรียมพร้อมรับมือกับสา ธารณภยั หรือไมอ่ ยา่ งไร คาตอบของผู้ให้สัมภาษณ์ หัวหน้าสานักงานปลัดเทศบาลตาบลพบพระ อ.พบพระจ.ตาก ได้เข้า ร่วมการฝึกซ้อมแผนด้านบรรเทาสาธารณภัยทุกครั้งและสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับเข้ารับการอบรม และซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ หน่วยงานก็จัดเตรียมงบประมาณส่วนหน่ึงเพื่อ สนับสนุนงานด้านสาธารณภัยทุกปี ซึ่งสอดคล้องกับองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในพ้ืที่จังหวัดตากและ
37 สอดคลอ้ งกบั นโยบายของกรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยมีนโยบายให้ท้องถิ่นช่วยเหลือตนเองให้มาก ทส่ี ุดกอ่ นทจ่ี ะรอ้ งขอความชว่ ยเหลือไปทจ่ี ังหวดั ประเด็นดังกล่าวขา้ งตน้ ผ้วู ิจยั เห็นวา่ การเข้าร่วมฝกึ อบรมของเจา้ หนา้ ทเี่ กยี่ วกับงานด้านการ ปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยกบั หนว่ ยงานด้านปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั ในการเตรียมพร้อม รบั มือกบั สาธารณภัย หรือการบูรณาการในการแกไ้ ขปญั หาในการจัดการสาธารณภยั โดยการมสี ว่ นร่วม ของทุกภาคสว่ นการมีสว่ นร่วมในการป้องกันและแกไ้ ขปัญหาสาธารณภยั ในเขตพ้นื ที่ จงั หวดั ตาก เป็นสิ่งที่ ดที าใหอ้ งค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ สามารถจัดการกับสาธารณภยั ทีจ่ ะเกิดได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพและมี คณุ ภาพ ประเดน็ ดงั กลา่ วข้างต้นผวู้ จิ ยั เห็นวา่ ประสิทธิภาพ การจัดการภยั พบิ ัติและการตอบโต้ สถานการณ์ฉกุ เฉนิ ในการปฏิบัติงานรว่ มเครือขา่ ยในกรอบอาเซียน (ASEAN Economic Commumity: AEC) ของสานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัดตากและองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินภาพรวม ด้านปัจจยั ในการตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซยี น ปี 2558 ในการปฏบิ ตั ิ การแก้ไขปญั หา ด้าน งบประมาณ,ดา้ นบคุ ลากร,และด้านเครื่องมือ เครื่องจักรกล ยานพาหนะ มีประสทิ ธภิ าพตามเป้าหมายที่ กาหนดไวต้ ามแนวทางการพัฒนาการปอ้ งกันสาธารณภัยอยา่ งยัง่ ยนื ในระดบั ภูมิภาคภายใตก้ รอบอาเซียน. ทงั้ มติ ดิ า้ นเศรษฐกิจ สงั คม และสง่ิ แวดล้อม ก็จะทาให้การบรหิ ารจัดการงานด้านสาธารณภัยบรรลุ วัตถุประสงค์ พอสรุปไดด้ ังนี้ -เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีสว่ นรว่ มในการสอดสอ่ งดแู ลงานดา้ นสาธารณภยั -เจ้าหน้าทท่ี ี่เกี่ยวข้องงานปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั มีการแลกเปลย่ี นความรู้ ข้อมลู ข่าวสารเก่ยี วกับ ประกาศแจ้งเตือนภัยจากหอกระจายข่าวในหมบู่ า้ น เกี่ยวกบั การเฝ้าระวงั ภยั ทีจ่ ะเกดิ เพื่อเป็นการป้องกนั และบรรเทาความเสยี หายจากสาธารณภยั ทอี่ าจจะเกดิ ข้ึน -เจ้าหนา้ ทท่ี ีเ่ กย่ี วข้องงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั มีสว่ นร่วมทากิจกรรมในองค์กร เพ่อื ป้องกันและ บรรเทาความรุนแรงจากการสาธารณภัยตามทแี่ ต่ละ อบต.รบั ผดิ ชอบ ฯลฯ -เจา้ หน้าทที่ เ่ี ก่ยี วข้องงานป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั มีสว่ นร่วมในการเผยแพร่ขา่ วสาร และความรู้ที่ เป็นประโยชน์ในการป้องกนั เฝา้ ระวังและบรรเทาความรุนแรงจากการเกิดภยั -เจา้ หน้าที่ทีเ่ กย่ี วข้องงานป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั มีสว่ นรว่ มในการจัดทาแผนป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยของจงั หวัดและอปท.มีการร่างแผนทีข่ องหมบู่ ้านท้งั สถานทีเ่ กดิ ภยั หรือเคยเกิดในอดตี พร้อม ทง้ั สถานทีป่ ลอดภัยไว้สาหรับการอพยพในกรณีฉกุ เฉิน -เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องงานปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั มีส่วนร่วมในการฝกึ ซ้อมแผนป้องกนั และอพยพ ประชาชนเพ่ือเป็นการเตรยี มความพร้อม -เจา้ หนา้ ท่ที ีเ่ กย่ี วข้องงานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยมีส่วนร่วมในการสารวจข้อมูลพ้ืนฐานของชมุ ชน ดา้ นสังคม และเศรษฐกจิ อย่างสม่าเสมอและต่อเนือ่ ง แนวทำงกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำสำธำรณภยั พน้ื ที่จงั หวัดตำกตำมกรอบ อำเซียนของสำนักงำน ป้องกันและบรรเทำสำธำรณภยั และองคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น ดังน้ี 1) จัดต้ังศูนย์เตือนภัยพิบัติ หรือศูนย์อานวยการเฉพาะกิจ ภายในชุมชนหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ในพื้นที่ เพื่อเปน็ การเตรียมพร้อม เฝ้าระวังรับสถานการณภ์ ยั หากเกิดเหตุการณ์ 2) มกี ารอบรมและใหค้ วามรู้เก่ียวกับภัย โดยการส่งเสริมให้ประชาชนในพ้ืนที่มีจิตสานึกที่ดีในการป้องกัน และบรหิ ารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เพ่อื ใหช้ ุมชนมีความเข้มแขง็ และมศี ักยภาพ
38 3) ใหม้ ีการอบรมใหค้ วามรเู้ ก่ยี วกับการใช้งานเครือ่ งมือและอปุ กรณแ์ จ้งเตอื นภยั แกเ่ จ้าหน้าท่อี งค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ และผนู้ าชมุ ชนตลอดจนประชาชนในพืน้ ทเ่ี สี่ยงนา้ ท่วม 4) จดั ทาแผนปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยชุมชน 5) ฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นประจาทุกปี เพื่อให้มีความรู้และสร้างความตระหนัก ใหก้ ับประชาชน เปน็ การเตรยี มความพรอ้ มด้านการเฝ้าระวังและป้องกันสาธารณภยั มากข้ึน 6. มอบหมายหน้าที่ให้ผู้นาชุมชนหรืออาสาสมัครในชุมชนมีหน้าที่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เช่น หน้าท่ีแจ้งข่าวสาธารณภัย (มิสเตอร์เตือนภัย) หน้าที่ช่วยเหลือฉุกเฉิน(เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยประจา หมูบ่ ้าน) 7) ควรมีการขุดลอกคูคลองและลาน้าที่ต้ืนเขินเพ่ือหากเกิดสถานการณ์น้าสามารถไหลได้สะดวกและ สามารถกกั เก็บน้าเพ่อื ใช้อปุ โภคบรโิ ภค เพื่อการเกษตรและเลย้ี งสัตว์ 8) มีการกาหนดสถานท่ีสาหรับการอพยพประชาชนในกรณีท่ีเห็นว่าหากประชาชนผู้ประสบภัยจะได้รับ อนั ตราย 9) ควรมีการก่อสรา้ งพนังกั้นน้าถาวรบริเวณริมนา้ แม่ปงิ ท่ีตลิง่ คอ่ นข้างตา่ เมอ่ื เกดิ กรณีฉุกเฉนิ เขื่อนภูมพิ ล จาเป็นต้องระบายน้า ซึ่งจะสามารถกันน้าลน้ ตลง่ิ เข้าท่วมบ้านเรอื นประชาชนได้ • สรปุ ข้อเสนอแนะของเจำ้ หน้ำท่ีสำนักงำนปอ้ งกันและบรรเทำสำธำรณภัยและเจ้ำหนำ้ ท่ีปอ้ งกนั ของ อปท เก่ียวข้องกับงำนด้ำนสำธำรณภยั 1) ต้องการให้มีการอบรมให้ความร้เู กี่ยวกับการใชง้ านเคร่อื งมอื และอปุ กรณ์แจ้งเตือนภยั แกเ่ จ้าหน้าทอ่ี งคก์ รปกครองสว่ น ท้องถน่ิ ในพื้นท่เี สย่ี งสาธารณภยั 2) ต้องการให้มีการจัดตัง้ ศูนย์เตอื นภัยพิบัติ หรือศูนย์อานวยการเฉพาะกจิ ในองค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ ในพ้นื ท่ี เพือ่ เปน็ การเตรียมพร้อม เฝ้าระวังรบั สถานการณ์ภยั หากเกดิ เหตุการณ์ 3) ต้องการให้หน่วยงานท่เี ก่ียวขอ้ งให้การสนบั สนุนนา้ เพ่อื การอุปโภคบริโภคในชว่ งเกดิ ภยั 4) ต้องการใหห้ นว่ ยงานที่เกยี่ วข้องเขา้ มาสนบั สนนุ การจดั ทาแผนป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ชมุ ชน และจดั ให้มีการจดั ฝกึ ซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเปน็ ประจาทุกปี เพ่ือให้มคี วามรู้และสรา้ ง ความตระหนักให้กบั ประชาชน เปน็ การเตรียมความพร้อมด้านการเฝา้ ระวังและป้องกนั สาธารณภยั มาก ข้นึ 5) ต้องการใหม้ ีการติดต้ังหอกระจายขา่ วหรอื เสยี งตามสายทวั่ ทกุ หมบู่ ้านภายในชมุ ชนพร้อมทง้ั ใหม้ ีการ ตรวจสอบสภาพการใชง้ านอย่างสมา่ เสมอ 6) ตอ้ งการให้มีการอบรมให้ความรแู้ ละการแจ้งเตือนภยั กบั ผู้นาชุมชนครบทกุ ตาบลเพื่อให้ชมุ ชนเกิดการ บริหารจัดการในการแจ้งเตือนภยั อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเกิดความตระหนกั และม่งุ มนั่ ทจี่ ะเสริม สร้างความเขม้ แขง็ เพอื่ ลดความเสี่ยงภยั ในชุมชนเพ่มิ มากข้ึน
39 บทท่ี 5 บทสรปุ และข้อเสนอแนะ 5.1 บทสรุปผลกำรศึกษำวิจยั ในการศึกษาวิจัย เรื่อง “ประสิทธิภาพการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินใน การปฏิบตั ิงานร่วมเครือข่ายในกรอบอาเซยี น (ASEAN Economic Commumity: AEC) ของสานักงาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตาก มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์และศึกษาศึกษากลไกที่มี ประสิทธิภาพเพื่อลดความเสียหายจากภัยพิบัติต่อชีวิตและทรัพย์สินของสังคมเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ของจังหวัดตาก โดยกรอบของอาเซียนโดยครอบคลุมทั้ง 1) ก่อนเกิดภัยพิบัติ 2) ขณะเกิดภัยพิบัติ 3) หลงั เกิดภัยพิบัตแิ ละ เพือ่ ศึกษาความร่วมมือทางด้านวิชาการ การเสริมสร้างศักยภาพของหน่วยงานและ บคุ ลากร โดยเน้นหลักการ ใช้ทรัพยากรท่ีมีอย่างจากัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการช่วยเหลือภายใต้การ ดาเนินในกรอบของการพัฒนาอย่างย่ังยนื โดยมี แนวคิดและทฤษฎีด้านการจัดการสาธารณภัย แนวคิดการมีส่วนร่วมของประชาชน แผนป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตาก พ.ศ. 2553 - 2557 งานวิจัยท่ีเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าท่ี สรุปผลกรอบแนวคิดและทฤษฎีด้านการจัดการสาธารณภัย ของ สานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัย เป็นเครื่องมือท่ีใช้ในการปฏิบัติงาน ด้ังน้ัน การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาวิเคราะห์และหาแนวทางใน การปฏิบัติงาน ประกอบด้วย ด้านงบประมาณ ด้านบุคลากร และด้านเคร่ืองมือ เคร่ืองจักรกล ท่ีจะ สามารถสนับสนุนการปฏิบัตงิ าน ด้านการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั การวิเคราะห์ข้อมูล ดงั น้ี จากการเกบ็ ข้อมลู จากกลมุ่ ตวั อยา่ ง ผทู้ ปี่ ฏบิ ตั ิงานด้านการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ของ ขา้ ราชการ เจา้ หนา้ ท่ี สานักงานปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวดั ตาก ข้าราชการ เจ้าหนา้ ท่ี ของ องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ ท้ังหมดจานวน 80 คน พบวา่ ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จานวน 59 คน เพศหญงิ จานวน 29 คน มีอายุระหวา่ ง 20-29 ปี จานวน 20 คน อายุ 30-39 ปี จานวน 20 คน อายุ 40-49 ปี จานวน 20 คน และอายุ 50-59 ปี จานวน 20 คน เป็นหัวหน้ากลุ่มงาน/หัวหน้าฝา่ ย จานวน 20 คน ข้าราชการ จานวน 20คน ลกู จา้ งประจา จานวน 20คน และพนกั งานราชการ จานวน 20คน เคยมี ประสบการณ์ทางานเก่ียวกบั การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผู้ประสบสาธารณภยั ท้งั หมด จานวน 80 คน สรปุ ผลการศึกษา ปัจจยั ทแ่ี ตกต่างกัน คือ เพศ อายุ การศึกษา ตาแหน่ง โดยผู้ตอบชุดคาถาม มีประสบการณ์ หรือเข้ารับการอบรมเรื่องการจัดการสาธารณภัย การวิเคราะห์ถึงข้อมูลการมีส่วนร่วม องค์กรปกครอง สว่ นท้องถิ่นและหน่วยราชการ 3 ด้าน ไม่มีความแตกตา่ งกนั ไม่วา่ จะเป็นเพศอะไร ดงั นี้คอื 1.ดา้ นการมีส่วนร่วม 1.1 ร่วมคิด เช่น การประชุมระดมความคิดเพ่ือเสนอปัญหาของชุมชนเพ่ือขอรับงบประมาณ สนับสนุนการประชมุ ประจาเดอื นและการร่วมเขยี นโครงการ ร่วมปรกึ ษาหารือในกิจกรรมโครงการต่าง ๆ ของชมุ ชน 1.2 ร่วมสร้าง /ทา/ ปฏิบัติ เช่นการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ การลงมือติดต้ังระบบป้องกันสาธารณ ภัยในกลุม่ ให้ความรว่ มมอื เป็นอย่างดี
40 1.3 ร่วมใช้ / รับประโยชน์ในชีวิตประจาวันการสร้างอาชีพและรายได้ โดยไม่วิตกกังวลเรื่อง ผลกระทบตอ่ สาธารณภัย 1.4 รว่ มดแู ลรกั ษา พิจารณาจากกจิ กรรมท่มี ีสว่ นร่วมผู้ตอบแบบสัมภาษณ์ ยินดีที่จะจ่ายเงิน คา่ บารุงสมาชิก 2. ดา้ นปัจจยั ในการป้องกนั และแก้ปัญหาสาธารณภยั 2.1 จดั หาเคร่ืองอปุ โภค บรโิ ภคเพือ่ ตรียมพรอ้ มรับสถานการณ์ 2.2 จดั หาเครือ่ งมือ ยานพาหนะและอปุ กรณแ์ จง้ เตอื นภัย 2.3 ต้องการให้มีการติดตั้งหอกระจายข่าวหรือเสียงตามสายทั่วทุกหมู่บ้านภายในชุมชนพร้อม ท้งั ใหม้ ีการตรวจสอบสภาพการใชง้ านอย่างสม่าเสมอ 2.4 จัดหาสะพานช่ัวคราว (Barring) ทีสามารถเคลื่อนย้ายได้จากหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เพ่ือให้ ความชว่ ยเหลอื ประชาชนในการอพยพเคลือ่ นยา้ ยออกจากพน้ื ท่เี กิดภยั อยา่ งรวดเร็วเพื่อลดความสูญเสยี 3. ดา้ นแนวทางการปอ้ งกันและแก้ปญั หาสาธารณภัยแบบย่ังยนื 3.1 จัดตั้งศูนย์เตือนภัยพิบัติ หรือศูนย์อานวยการเฉพาะกิจ ภายในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพ้ืนท่ี เพ่ือเปน็ การเตรียมพรอ้ ม เฝ้าระวงั รับสถานการณภ์ ัย หากเกดิ เหตุการณ์ 3.2 มีการอบรมและให้ความรู้เก่ียวกับภัย โดยการส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ในพื้นท่ีมีจิตสานึกท่ีดีใน การป้องกันและบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เพ่ือให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและมี ศกั ยภาพ 3.3ให้มีการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้งานเคร่ืองมือ และอุปกรณ์แจ้งเตือนภัยแก่เจ้าหน้าท่ี องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ 3.4 จัดทาแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และจัดให้มีการจัดฝึกซ้อมแผนป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัยเป็นประจาทุกปี เพื่อให้มีความรู้และสร้างความตระหนักให้กับเจ้าหน้าท่ี เป็นการ เตรยี มความพร้อมดา้ นการเฝ้าระวังและปอ้ งกนั สาธารณภัยมากขึน้ 4. พิจารณาด้านบุคลากรด้านงบประมาณ ด้านเคร่ืองมือ เครื่องจักรกล ยานพาหนะพบว่าด้าน บุคลากร ผู้บริหารให้ความสาคัญในการช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย จึงส่งเสริมให้มีความพร้อมด้าน บคุ ลากรตลอดจนการสง่ เสรมิ ให้มกี ารฝกึ ซอ้ มแผนป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอยา่ งตอ่ เนื่อง ด้านงบประมาณการจดั สรรงบประมาณเก่ียวกบั การช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภยั น้นั มีจานวนมาก แต่ งบประมาณจะถกู จัดสรรใหจ้ ังหวดั ท่ปี ระสบภัยจะได้รับงบประมาณจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัย เท่านน้ั ทาให้แหล่งงบประมาณในการสนบั สนนุ การให้ความช่วยเหลือยังไม่คลอ่ งตัว และบางกรณยี งั ติดขดั ในเรื่องของระเบยี บการเบกิ จ่ายเงิน(เงนิ ทดรองราชการ) ด้านเครือ่ งมือ เครื่องจักรกล ยานพาหนะมีอย่ใู นปจั จบุ ันอาจไม่เพยี งพอซ่ึงจะไมส่ ามารถ ชว่ ยเหลือผ้ปู ระสบภยั ได้อยา่ งรวดเร็ว มีประสทิ ธภิ าพ จงึ ทาให้ความพร้อมดา้ นเคร่ืองมืออยู่ในระดับต่าสุด
41 5.2 ขอ้ เสนอแนะในเชิงนโยบำย 1. จำกผลกำรศึกษำท่ีได้รับในด้ำนงบประมำณ การเบิกจ่ายงบประมาณในการให้ความ ชว่ ยเหลอื ผ้ปู ระสบสาธารณภัย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือด้านการเงินหรือส่ิงของให้แก่ผู้ประสบภัย ควรมี ข้อปรับปรุงแก้ไขระเบียบกฎหมาย หรือระเบียบของการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้เป็นไปด้วย ความรวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นธรรม ง่ายต่อการปฏิบัติ เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเขตพ้ืนท่ี รับผิดชอบ 2. ด้ำนบุคลำกร ควรพัฒนาอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับแนวทางและหลักเกณฑ์ การให้ความ ชว่ ยเหลอื ผู้ประสบสาธารณภัยตามระเบียบเงนิ ทดรองราชการ เพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ฯ ให้แก่เจ้าหน้าที่ท่ีปฏิบัติงานด้านการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย สานักงานป้องกันและบรรเทาสา ธารณภัยจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินเพื่อให้เกิดทักษะและสามารถให้คาแนะนา ช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรมและทั่วถึง อีกทั้งเพ่ือเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน รับทราบโดยเฉพาะในเรื่องการช่วยเหลือด้านการเงินฉพาะหน้า มิใช่เป็นการชดใช้ค่าเสียหายแต่อย่างใด เพอ่ื ให้เกดิ ภาพลักษณท์ ีดีตอ่ องคก์ ร และสรา้ งความเขา้ ใจในการทางานรว่ มกัน 3. ด้ำนเครื่องมือ เคร่ืองจักรกล ยำนพำหนะ ท่ีอาเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังมีน้อย ควรจัดหา สนับสนุนเพิ่มเติม เพื่อรองรับกับสถานการณ์สาธารณภัยที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงอย่าง ต่อเนื่อง และควรจัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้มีทักษะในการใช้อุปกรณ์หรือเทคโนโลยีต่างๆอย่างสม่าเสมอใน กรณเี ร่งดว่ น จาเปน็ ต้องมกี ารประสานขอความชว่ ยเหลอื ดา้ นอุปกรณจ์ ากหนว่ ยงานอนื่ ในพ้นื ทด่ี ว้ ย 4. ด้ำนระเบียบกฎหมำย 4.1 แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับจังหวัด พ.ศ. 2553-2557 เป็นเพียง หลักการกว้างๆ แต่ในทางปฏิบัติจริงน้ันมีรายละเอียดแต่ละขั้นตอนที่ซับซ้อน มีปัจจัยเง่ือนไขต่างๆ มากมาย เปน็ แผนปฏิบตั ิการในภาวะปกติ ให้สอดคล้อง พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 และแผนปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยชาติ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในทางปฏิบัติ และเพ่ือให้เกิดความ น่าเช่ือถือแก่จังหวัดต่อการเข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานในอนาคตผู้อานวยการทุกระดับชั้นต้องศึกษาและ ทาความเขา้ ใจถึงบทบาทหนา้ ทีอ่ ย่างท้องแท้ 4.2 ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในระยะยาว 1)ปรบั เปลี่ยนแนวคิดการบริหารจัดการสาธารณภัยในเชิงรุก โดยเพิ่มการป้องกันและลด ผลกระทบและเตรยี มความพรอ้ มรบั ภัยจากการปฏิบัติในเชงิ รับ 2) ผลักดันให้เกิดการบูรณาการ ในการบริหารจัดการสาธารณภัยเพ่ือให้การทางาน เปน็ ไปในลกั ษณะของการรวมแผน แบบบรู ณาการ ทงั้ ในยามปกตแิ ละยามเกดิ เหตุภยั อยา่ งแทจ้ ริง 3) ความมีการปรับปรุงระเบียบ กฏหมาย พรบ. และกฏหมายท่ีเกี่ยวข้อง เพ่ือแก้ไข ปัญหา อุปสรรค การปฏิบัติงานตามแผนและนโยบายท่ีไม่ชัดเจน และให้การปฏิบัติงานสอดคล้องกับ สถานการณ์ปจั จบุ ัน 5.3 อภิปรำยผลกำรศึกษำ ประสิทธิภาพการจดั การภัยพบิ ัตแิ ละการตอบโตส้ ถานการณฉ์ กุ เฉินในการปฏบิ ัตงิ านร่วมเครือขา่ ยในกรอบ อาเซียน (ASEAN Economic Commumity: AEC) ของสานักงานป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดตาก ประเดน็ สาคัญจะต้องได้รบั คาแนะนาจากผทู้ ม่ี ีความร้แู ละหนว่ ยงานทเี่ ก่ยี วข้องกบั การพัฒนาหรอื เปน็ ผูน้ าการระดม
42 ความคดิ อยา่ งดี ต่อการพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง จะนามาซึ่งการพฒั นาอย่างย่งั ยืนโดยแท้จรงิ เปรยี บเสมือนการท่ีมีทั้ง ทนุ และปัญญาในเวลาทีเ่ หมาะสม ย่อมกอ่ เกิดผลติ ภัณฑ์ท่ีมีคณุ ภาพเยี่ยม จะไดอ้ ะไรจากการมีสว่ นรว่ มของทกุ ภาคสว่ นในการบรหิ ารจัดการสาธารณภยั ในส่วนของสานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น - มสี ่วนร่วมในการบริหารจัดการ - เป็นเวทใี นการเสนอแนวความคดิ เห็น - เปน็ เวทใี นการแก้ไขปัญหา ในส่วนของภาคราชการ - มีการกระจายอานาจการบรหิ ารจัดการมากข้ึน - เกิดการจดั การแบบบูรณาการนาทุกภาคส่วนที่เกยี่ วข้องเข้ามามสี ่วนร่วม - ลดข้ันตอนในการปฏิบัติงาน การเตรยี มความพร้อมดา้ นบุคลากรและเครือ่ งมอื อปุ กรณ์ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน 1)การเตรียมความพรอ้ มด้านบคุ ลากร (1) การอบรมมสิ เตอรเ์ ตือนภยั เพ่ือให้ทาหนา้ ที่ในการแจ้งเตือนภัยใหก้ บั ชุมชนในภาวะปกติทาหน้าที่ ตดิ ตามข่าวสารพยากรณ์อากาศ หรือการประกาศแจ้งเตอื นภัย รวมท้งั ประสานความร่วมมือกับผใ้ หญ่ บา้ น/อบต./คณะกรรมการหมู่บ้าน พรอ้ มท้งั ให้ความรูแ้ ก่ประชาชนในเรื่องการเกิดดินโคลนถล่ม และ วิธกี ารปฏบิ ตั ติ ัวเมอ่ื เกดิ ภัยเม่ือเข้าชว่ งฤดูฝน ทาหนา้ ที่ตดิ ตามขา่ วพยากรณ์อากาศ ตรวจกระบอกวัด ปรมิ าณน้าฝน พร้อมทจี่ ะดาเนินการแจง้ เตือนประชาชนเพ่ือให้อพยพไปยังทป่ี ลอดภัยได้ทนั ที โดย สานกั งานปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั ตากแจ้งให้องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินที่อยใู่ นพื้นทเ่ี สีย่ ง อุทกภัยเป็นผ้คู ัดเลอื กตวั แทนของหมู่บ้านเข้ารับการอบรมโครงการอาสาสมัครแจง้ เตือนภัย “มสิ เตอร์ เตือนภยั ” เพื่อเป็นการเตรยี มความพร้อมในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การแจ้งเตือนภัย และ การปฏิบัตติ นเมื่อเกิดภัยให้กับประชาชนในพ้ืนทเ่ี สีย่ งดินถลม่ และอุทกภยั (2) การอบรมอาสาสมคั รป้องกนั ภัยฝ่ายพลเรอื น เพ่ือให้องค์การบรหิ ารส่วนตาบล และ เทศบาลทุกแหง่ มสี มาชิก อปพร. พร้อมปฏบิ ตั ิงานไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 2 ของประชากรหรือไม่น้อยกวา่ 50 คนในองค์การบริหารส่วนตาบลท่มี ปี ระชากรไม่ถงึ 2,500 คน เพ่อื ให้เปน็ ไปตามนโยบาย กระทรวงมหาดไทย (3) การอบรมหน่งึ ตาบลหนึ่งทมี กชู้ ีพกู้ภัยสานักงานป้องกันแลบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตาก ไดจ้ ัด อบรมโดยใหเ้ ทศบาลและองค์การบริหารสว่ นตาบลทเ่ี สยี่ งต่อการเกดิ อุทกภัย คดั เลือกผ้แู ทนตาบลละ 10 คน (4) การฝกึ ซ้อมแผนปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั โดยสานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัด ตาก ไดจ้ ดั ใหม้ ีการฝึกซ้อมแผนวิกฤตการณ์ (5) การอบรมเครือข่ายแจ้งเหตธุ รณีพิบัติ ภัยจากดนิ ถลม่ กรมทรพั ยากรธรณไี ด้ทาการสารวจพ้นื ทเ่ี สี่ยงภยั ดนิ ถลม่ เพื่อใหป้ ระชาชนในพื้นที่เสี่ยงตอ่ ธรณีพบิ ตั ิภยั โดยเฉพาะพ้ืนทีเ่ สยี่ งภัยดินถลม่ ได้มคี วามรคู้ วาม เขา้ ใจ ถงึ สาเหตุและปจั จยั ต่างๆ ของการเกิดดนิ ถลม่ พรอ้ มวธิ ีการวดั ปรมิ าณนา้ ฝนและการแจง้ เตือนภัย เมอ่ื ปริมาณนา้ ฝนถึงจุดวิกฤติ โดยให้ตระหนักถึงความเสยี่ งทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ วา่ มีมากน้อยเพียงไร การจัดทา รายช่อื ท่ีอยู่พร้อมด้วยหมายเลขโทรศัพท์ของประชาชนทีร่ ่วมเป็นเครอื ข่าย ประกอบกับแผนทีต่ าแหน่ง บา้ นเครอื ขา่ ย และแผนการเฝ้าระวังการแจ้งเตอื นภัยล่วงหน้า เพ่ือการประชาคมและติดต่อแจ้งเตือนภยั ได้อยา่ งรวดเรว็ และทนั เหตุการณ์
43 (6) การอบรมเครอื ข่ายอาสาสมัครวัดปรมิ าณน้าฝน โดยกรมทรัพยากรธรณี ได้ทาการสารวจหมบู่ า้ นเส่ยี ง ภยั พร้อมให้มีการจัดทาแผนการเฝ้าระวงั แจ้งเตือนภัยดนิ ถลม่ และได้มอบอุปกรณ์ในการวัดปริมาณน้าฝน สาหรับแจง้ เตือนภยั ให้กบั พ้ืนท่ตี าบลแมร่ ะมาด 2)การเตรียมความพร้อมด้านเครื่องมือและอปุ กรณ์ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ เพื่อใหค้ วามชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภัยของจงั หวดั ในเขตความรับผิดชอบของสานักงานป้องกันและบรรเทาสา ธารณภัยจงั หวัดตาก ทรัพยากร เครอ่ื งมอื เครื่องจักรกลและอปุ กรณใ์ นงานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณ ภยั ถอื เปน็ ปจั จยั สาคัญ ทสี่ ่งเสรมิ ใหก้ ารป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ของหนว่ ยงานมีประสิทธิภาพเพ่ิม มากข้นึ ไดแ้ ก่ (1) ด้านการกภู้ ัย ประกอบด้วย รถยนตก์ ู้ภยั รถบรรทกุ รถเครน รถเครือ่ งช่วยหายใจพรอ้ มอปุ กรณ์ รถไฟฟา้ สอ่ งสว่างพร้อมเสาสูง รถเครอื่ งกาเนดิ ไฟฟา้ และรถขดุ ตัก ไฮดรอลิก (2) ดา้ นการดบั เพลงิ ประกอบด้วย รถดบั เพลงิ รถดบั ไฟป่า รถบรรทุกนา้ ดบั เพลิง เคร่ืองสบู นา้ ดบั เพลิง และ เครอื่ งยงิ น้าดบั เพลงิ ความดันสูง (3) ด้านการช่วยเหลอื และฟนื้ ฟูบูรณะ ประกอบดว้ ย รถบรรทุกขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ รถบรรทกุ ติดตง้ั เครือ่ ง ขุดเจาะบ่อบาดาล รถบรรทกุ เทท้าย รถแทร็กเตอร์ตนี ตะขาบ รถตกั ล้อยาง รถตักตนี ตะขาบ รถบรรทกุ นา้ เคร่ืองสบู นา้ เครื่องสูบโคลน เรอื ท้องแบน เรือยาง ยานโฮเวอร์คราฟท์ รถฟาร์มแทรกเตอร์ และรถบดล้อยาง (4) ดา้ นการสนบั สนุนการปฏิบตั งิ าน ประกอบด้วย รถตรวจการณ์ รถอานวยการส่อื สาร รถบรรทกุ เคร่ือง สูบนา้ ระยะไกล รถบรรทุกขยะขนาดเล็ก รถบรรทุกขนาดเล็ก รถบรกิ ารน้ามันหล่อลื่น รถบรกิ ารซ่อม เคลื่อนทีเ่ รว็ รถบรรทุก แบบตูค้ อนเทนเนอร์อเนกประสงค์ รถหัวลาก เครื่องยนตเ์ รือ และสะพานเบลีย์ (5) ด้านการฟน้ื ฟู ประกอบดว้ ย บา้ นพกั ชวั่ คราว สาหรับผู้ประสบภยั ท้งั แบบบ้านน็อกดาวน์และเตน็ ทย์ ก พ้นื 5.4 ขอ้ เสนอแนะในกำรศึกษำ 1)กระบวนการในการเฝา้ ระวังและแจ้งเตือนภัยในการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั (1) บริบทชุมชน - สภาพทั่วไปของพ้ืนที่ (2) การบริหารจดั การสาธารณภัย - การเตรียมความพร้อมในการรับมือกับภยั - การเสรมิ สร้างศกั ยภาพของชุมชนและประชาชนเพื่อรับมือกับภัย โดยมีการอบรมอาสาสมัครป้องกันภัย ฝ่ายพลเรอื น การอบรมทีมกูช้ ีพก้ภู ยั ตาบล (3) ลกั ษณะการเกดิ ภัย - การเกดิ ภัยในพ้ืนท่ี จังหวัดตาก จะมีลักษณะเป็นน้าหลากและเกิดน้าท่วมฉับพลัน ซ่ึงสาเหตุหลักมาจากลาคลอง สาขาตา่ งๆ รวมทง้ั ลานา้ มสี ภาพต้นื เขิน มีเศษก่ิงไม้ ต้นไม้ และตะกอนดินทับถมจึงทาให้น้าไหลผ่านไม่สะดวก เกิด เออ่ ล้นเข้าท่วมบา้ นเรือน พื้นท่ีการเกษตร และถนนตา่ งๆ ระยะท่วมขงั ประมาณ 2–3 วนั (4) การแจง้ เตือนภยั กับประชาชนลักษณะของการแจง้ เตือนภัยในพ้นื ที่ - มีการแจ้งเตือนภยั จากหน่วยงานราชการของจังหวัดเป็นผู้ส่งข่าวสารแจ้งเตือนภัยมายังอาเภอโดยการใช้ โทรศัพท์/โทรสาร จากน้ันที่ว่าการอาเภอจะมีการแจ้งเตือนทางวิทยุ มายังองค์การบริหารส่วนตาบล/ กานัน/ผใู้ หญ่บ้านในพน้ื ทเ่ี สี่ยงภยั เพ่ือให้ได้รับทราบข่าวสารการแจ้งเตือนอย่างทั่วถึง หลังจากนั้น อบต./ กานัน/ผ้ใู หญ่บ้าน จะประกาศข่าวสารแจ้งเตือนภัย ทางหอกระจายข่าวประจาหมู่บ้าน/ใช้โทรศัพท์มือถือ
44 แจ้งอาสาสมัครประจาหมู่บ้าน เพื่อแจ้งเตือนประชาชนที่ไม่สามารถรับฟังข่าวสารจากหอกระจายข่าว ประจาหมู่บ้านได้ สาหรับวิทยุส่ือสารน้ันจะใช้ส่งข่าวสารระหว่างเจ้าหน้าที่ด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ เพื่อนา ขอ้ มูลไปแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านอีกคร้ัง สาหรับการแจ้งเตือนภัยภายในหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านจะ ใช้วธิ กี ารให้ อปพร. ของหม่บู า้ นเฝ้าสังเกตระดับน้าบริเวณพ้ืนที่ตอนบนของหมู่บ้าน หากคาดว่าจะเกิดน้า ท่วม อปพร.จะใช้วิทยุสื่อสารแจ้งเหตุไปยังคณะกรรมการหมู่บ้าน จากน้ันจะมีการแจ้งข่าวสารเตือนภัย ผ่านทางหอกระจายข่าวพร้อมทั้งประสานกับหมู่บ้านใกล้เคียง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางวิทยุสื่อสาร นอกจากนี้ประชาชนในหมู่บ้านจะใช้ทรศัพท์มือถือในการแจ้งข่าวสา รให้ได้รับทราบกันอย่างทั่วถึง เนอ่ื งจากมคี วามสะดวกรวดเร็ว - วิธีการและรูปแบบ จะมีเสียงตามสายในหมู่บ้าน และหน่วยกู้ภัยในหมู่บ้าน/เครือข่ายหมู่บ้านใกล้เคียง แจ้งข่าว (5) ผลกระทบที่ไดร้ ับ -ควรให้มกี ารฝึกอบรม/ฝกึ ซอ้ มแผนป้องกันภัยอยา่ งต่อเน่ือง เพอ่ื เปน็ การเตรียมความพร้อมในการรับมือ กับภัยพิบตั ิ -สร้างความตระหนักให้เจ้าหนา้ ท่ีมคี วามตนื่ ตวั ในการติดตามขา่ วสารทางส่ือดา้ นต่าง ๆ เพม่ิ มากข้นึ เพ่อื เป็นการเตรียมความพร้อมในการเฝา้ ระวงั ภยั -ควรมพี ฒั นาระบบเตอื นภัยให้มีมาตรฐาน -องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินควรปรับปรุงและแก้ไขปัญหาตา่ งๆเนื่องจากเปน็ หน่วยงานทม่ี ที ั้งงบประมาณ/บคุ ลากรและอยู่ ใกล้ชิดกับประชาชนมากทส่ี ุด -ประชาสมั พนั ธใ์ ห้ทุกคนมีส่วนรว่ มในการป้องกนั การเกิดเหตภุ ัยพบิ ัติ 5.5 แนวทำงกำรปฏิบตั ิของสำนกั งำนป้องกันและบรรเทำสำธำรณภัยจงั หวดั และองค์กร ปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น เมือ่ เกดิ สาธารณภยั และหลงั เกดิ สาธารณภยั ขน้ึ ในเขตพื้นที่ชุมชน เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตาบล จะเร่งเขา้ ระงบั และบรรเทาภัยท่เี กดิ ข้นึ ใหเ้ ป็นไปอยา่ งรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ โดยมแี นวทางในการเนนิ การ ดงั นี้ (1) จดั ตงั้ ศนู ยอ์ านวยการเฉพาะกจิ มีหน้าทีด่ งั นี้ - ดาเนนิ การควบคุมพืน้ ที่ท่ีประสบภยั และอานวยการการปฏบิ ัตงิ านในพนื้ ท่ี - ประกาศ แนะนา แจง้ เตือนประชาชน และเตรียมการปอ้ งกนั - ประชาสัมพนั ธ์ (2) จัดต้ังหนว่ ยกภู้ ัยในศูนยอ์ านวยการเฉพาะกจิ มีหน้าท่ดี ังนี้ - เขา้ ไประงบั และบรรเทาภยั ไดท้ นั ที หรอื สามารถเคล่ือนทีเ่ ขา้ เสรมิ กาลังได้ทันทว่ งทเี มื่อได้รับการรอ้ งขอ ชว่ ยเหลือ สนับสนุนในการระงับและบรรเทาภัย การสงเคราะหผ์ ้ปู ระสบภัยทนั ที (3) การดาเนนิ การอพยพ โดยมแี นวทางการดาเนินการ ต่อไปน้ี - การอพยพประชาชนออกจากพ้นื ท่ีอนั ตรายนั้น ให้กระทาไดเ้ ทา่ ทีจ่ าเป็นภายใต้การส่ังการของ ผอู้ านวยการป้องกนั ภัย โดยการอพยพผู้ป่วยออกจากบรเิ วณท่ีเกดิ ภัยให้ดาเนนิ การรักษาอย่างต่อเนอื่ ง - สถานท่ที ีจ่ ะทาการอพยพไปให้ดูจากความปลอดภยั แหลง่ สาธารณปู โภค และสิ่งอานวยความสะดวก ต่างๆ เป็นหลัก ทัง้ นภ้ี ายใต้การสัง่ การของผ้อู านวยการป้องกนั ภัย
45 5.6 ข้อเสนอแนะในกำรศึกษำครั้งตอ่ ไป(เนอ่ื งจากการศกึ ษาในครัง้ นี้มีเงื่อนเวลาที่จากดั ) 1) เน่ืองจากการศึกษาครั้งน้ี เปน็ การวิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มตัวอย่างที่เปน็ ข้าราชการ เจา้ หน้าทีท่ ่ี ปฏิบัตงิ านดา้ นการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั สานักงานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดตาก เพ่อื เปน็ การยนื ยันถึงอิทธิพลของตัวแปรทีใ่ ช้ในการศึกษาครั้งน้คี วรมกี ารศึกษาในลกั ษณะเดียวกนั โดยใช้ กลุ่มตวั อยา่ งกลมุ่ เป้าหมายเครอื ข่ายด้านการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั อนี่ ๆทีเ่ กี่ยวข้อง ทงั้ หนว่ ยงานภาครฐั และเครอื ข่ายทเ่ี กย่ี วข้อง เพ่ือให้ทราบถงึ แนวทางและวิธีการบริหารจดั การปอ้ งกันและ บรรเทาสาธารณภัยพ้ืนที่ดังกลา่ ว ทาใหร้ ายละเอยี ดชดั เจนและสมบรู ณ์มากข้นึ 2) ควรศึกษาการประเมนิ ผล สานักงานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยจังหวดั ในเขตดว้ ย โดยใช้ วธิ ีการเกบ็ ขอ้ มลู เชิงคณุ ภาพ ด้วยการสัมภาษณผ์ ู้ประสบภัยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ไดม้ า ซ่งึ ข้อมูลทจ่ี ะเปน็ ประโยชน์ต่อการปรบั ปรงุ และพฒั นาการชว่ ยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป สรุป ความสาเร็จการทางานให้เกิดประสิทธิภาพการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินในการ ปฏิบตั งิ านร่วมเครือข่ายในกรอบอาเซียน(ASEAN EconomicCommumity: AEC) ของสานกั งานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัดตากซง่ึ ได้จาก“การมีส่วนรว่ มรวมศนู ย์ประสานและเนน้ การป้องกัน” ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ในเชิงบูรณาการการทางาน ๑)ก่อนเกดิ ภัยพบิ ตั ิ ๒)ขณะเกดิ ภยั พิบัติ ๓)หลังเกิดภัยพบิ ตั ิเพ่ือลดความเสียหายจากภัย พิบัติต่อชีวิตทรัพย์สินของสังคมเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และเสริมสร้างศักยภาพของหน่วยงานและบุคลากร โดยเน้น หลักการ ใช้ทรัพยากรท่ีมีอย่างจากัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการช่วยเหลือภายใต้การดาเนินของจังหวัดตากทั้งใน หน่วยงานต่างๆ ระดับจังหวัดและท้องถิ่น ซ่ึงเป็นประโยชน์อย่างย่ิงต่อการจัดการสาธารณภัยโดยนาข้อมูลท่ีได้รับจาก การศึกษา ในคร้ังนี้เป็นฐานข้อมูลในการจัดทาแผนการปฏิบัติงานให้เกิดผลสาเร็จตามเป้าหมายของไทยตามกรอบของ อาเซียนในการพฒั นาอยา่ งยั่งยนื ต่อไป
46 บรรณำนกุ รม 1. ภำษำไทย : 1) หนังสอื : คมู่ ือวทิ ยากรโครงการหนึง่ ตาบลหนงึ่ ทีมกู้ภยั กรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย. แผนปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ พ.ศ.2553-2557. กองอานวยการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตาก. แผนป้องกันและบรรเทำสำธำรณภัยจังหวัด ตำก พ.ศ. 2554. ตาก : สานกั งานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั ตาก. 2544. ชัยพร พานิชอัตรา. ควำมร่วมมือในกำรป้องกันอำชญำกรรมในเขตเมือง จังหวัดพิษณุโลก. กรุงเทพมหานคร : มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล. 2533. ติน ปรัชญพฤทธิ์. ภำวะผู้นำและกำรมีส่วนร่วมพฤติกรรม ในองค์กำรหน่วยท่ี 2. นนทบุรี : มหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธริ าช. 2532. ทวีทอง หงษ์วิวัตน์. กำรมีส่วนร่วมของประชำชนในกำรพัฒนำ. กรุงเทพมหานคร : ศูนย์นโยบาย สาธารณสุข มหาวิทยาลยั มหดิ ล. 2527. นรินทร์ชัย พัฒนพงศา. การมีส่วนร่วม หลักการพื้นฐาน เทคนิค และกรณีตัวอย่าง. เชียงใหม่ : 958 Print. 2546. นิรันด์ จงวุฒฺเวศย์. กลวิธีแนวทำงวิธีกำรส่งเสริมกำรมีส่วนร่วมของประชำชนในกำรพัฒนำ. กรงุ เทพมหานคร : ศูนย์ศกึ ษานโยบายสาธารณสุขมหาวทิ ยาลยั มหดิ ล. 2527. ปาริชาต วลัยเสถียร. เอกสำรประกอบกำรศึกษำ วิชำ สค. 651 ทฤษฎีและหลักกำรพัฒนำชุมชน. กรงุ เทพมหานคร : คณะสงั คมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์. 2541. พระรำชบญั ญัติ ป้องกันและบรรเทำสำธำรณภัย พ.ศ. 2550. มาตรา 4,11,12,13,14,15,16 พีรพล ไตรทศาวิทย์. กำรเสริมสร้ำงกำรมีส่วนร่วมของประชำชนในกระบวนกำรประชำสังคม. กรงุ เทพมหานคร : สถาบนั พระปกเกลา้ . 2544. ไพรัตน์ เตชะรินทร์. นโยบำยและกลวิธีกำรมีส่วนร่วมของชุมชนในยุทธศำสตร์กำรพัฒนำในปัจจุบัน. ศนู ย์นโยบำยสำธำรณสุข. กรงุ เทพมหานคร : มหาวทิ ยาลยั มหิดล. 2527. ไพรัตน์ เตชะรินทร์. เศรษฐกจิ ชนบทไทย. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพ์ ดี แอนด์ เอส. 2527. วรรณธรรม กาญจนสวุ รรณ. วฒั นธรรมทำงกำรเมือง. เอกสำรกำรสอนชดุ วิชำสถำบนั และ กระบวนกำรทำงกำรเมือง หนว่ ยท่ี 6. นนทบรุ ี : มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช. 2547. วัชรา ไชยสาร. “กำรมีส่วนร่วมในทำงกำรเมืองกับกำรเมืองภำคประชำชน”. รัฐสภาสาร. พฤษภาคม 2545 . วิรัช วริ ชั นิภาวรรณ. การบริหำรและจัดกำรเทศบำลในยุคปฏิรูปกำรเมือง. กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์โฟร์ เฟซ. 2546. วริ ชั ชนิภาวรรณ. กำรบรหิ ำรจดั กำรทรพั ยำกรธรรมชำติ : บทบาทองค์กร ในท้องถ่ิน.กรุงเทพมหานคร : โอเดยี นสโตร.์ 2530. สมบัติ ธารงธัญวงศ.์ กำรเมืองแนวคิดและกำรพัฒนำ. พิมพค์ รั้งท่ี 4. กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพ์เสมา ธรรม. 2539.
47 สุกรานต์ โรจนวงศ์ และคณะ. สถำนกำรณ์ส่ิงแวดล้อมไทย 2540-.2541 กรุงเทพมหานคร : อัมรินทร์ พรนิ้ ต้ิงแอนด์พับลชิ ชงิ่ . 2542. สุขุม นวลสกุล. กำรเมืองกำรปกครองไทย. กรุงเทพมหานคร : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคาแหง. 2525. สุชาดา จักรพิสุทธิ์. “กำรศึกษำทำงเลือกของชุมชน”. วารสารศึกษาศาสตร์ :มหาวิทยาลัยขอนแก่น. มถิ นุ ายน – สิงหาคม 2547. ศุภชัย ยาวะประภาษ, การมีส่วนร่วมขององค์กรชุมชน, (กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพ์จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลยั , 2533), หนา้ 27-28. อคิน รพีพัฒน์. กำรมีส่วนร่วมของประชำชนในงำนพัฒนำ. กรุงเทพฯ : ศูนย์การศึกษานโยบาย สาธารณสุข. 2547. อาภรณ์พันธ์ จันทร์สว่าง. คำบรรยำยลักษณะวิชำทฤษฎีและหลักกำรพัฒนำชุมชน. กรุงเทพมหานคร : มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์. 2522. 2) วทิ ยำนิพนธ์ : สกนธ์ จนั ทรรกั ษ์, ปัจจยั บำงประกำรเกี่ยวกับกำรมีส่วนร่วมของประชำชนในกำรจดั ต้ังศนู ยเ์ ยำวชน จงั หวดั ตรัง,วิทยานิพนธ์ ศศ.ม. (กรุงเทพมหานคร : มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์,2528) วทิ วัส แกว้ ทะนง, “กำรมสี ว่ นรว่ มของประชำชนในกำรจัดกำรทรัพยำกรน้ำในพืน้ ทลี่ มุ่ น้ำปำกพนัง จังหวดั นครศรีธรรมรำช”, วทิ ยานิพนธ์ปรญิ ญาสงั คมศาสตรมหาบัณฑิต (รฐั ประศาสนศาสตร์), (สานกั งานพฒั นบัณฑิตศึกษา : สถาบันบณั ฑติ พฒั นบรหิ ารศาสตร์), 2541. แพรว ตรีรัตน์, “กำรมสี ว่ นร่วมของประชำชนในกำรจดั กำรทรัพยำกรนำ้ : กรณศี กึ ษำ ตำบลบำ้ นต๋อม อำเภอเมอื ง จังหวัดพะเยำ”, การค้นคว้าแบบอสิ ระปริญญาศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑิต, (บัณฑิตวทิ ยาลัย :มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่), 2551. กุนฑลี ภัคธนกลุ , “กำรมสี ่วนร่วมของประชำชนในกำรบริหำรจัดกำรลุ่มนำ้ แม่สำ อำเภอ แม่รมิ จังหวัดเชยี งใหม่”,การคน้ คว้าแบบอสิ ระปริญญาศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑติ ,(บณั ฑิตวิทยาลยั : มหาวิทยาลยั เชยี งใหม)่ , 2550. ประภาพรรณ จนั ทร์ศิริ, “บทบำทขององค์กำรบริหำรส่วนตำบล และกำรมสี ่วนร่วมของประชำชนใน กำรดำเนนิ โครงกำรเศรษฐกจิ ชุมชนพึง่ ตนเอง: ศกึ ษากรณีองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลสุเทพ อาเภอเมืองเชียงใหม่”,รัฐศาสตรมหาบณั ฑติ ,(บณั ฑติ วทิ ยาลยั : มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม)่ , 2547. กิตตวิ รรณ ธีระตระกูล, “กำรมีส่วนรว่ มของประชำชนเก่ียวกบั กำรปกครองสว่ นท้องถน่ิ ในเขต เมอื งตรำด, ” วิทยานิพนธร์ ฐั ประศาสนศาสตรมหาบณั ฑิต (นโยบายสาธารณะ), (มหาวทิ ยาลยั บูรพา), 2546. พชั รินทร์ รัตนวิภา, “กำรมสี ่วนร่วมในกำรป้องกันและแก้ไขปญั หำมลพิษทำงอำกำศของสมำชิก องค์กรชุมชนในเขตเทศบำลนครเชยี งใหม่”, การค้นคว้าแบบอสิ ระปริญญาศิลปศาสตร มหาบณั ฑิต, (บณั ฑติ วิทยาลยั : มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม)่ , 2547. กรรณกิ า ชมดี, กำรมสี ว่ นรว่ มของประชำชนทมี่ ีผลตอ่ กำรพฒั นำเศรษฐกจิ , วทิ ยานพิ นธ์ ศศ.ม.คณะ สังคมศาสตรม์ หาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, 2524.
48 จีระพัฒน์ หอมสุวรรณ, “กำรมีส่วนร่วมของประชำชนในกิจกรรมของสภำตำบล : กรณีศกึ ษาสภา ตาบลในเขต จังหวัดแมฮ่ ่องสอน”, วทิ ยานิพนธ์ศลิ ปศาสตรมหาบัณฑติ , (บัณฑิตวิทยาลยั : มหาวิทยาลยั เชียงใหม่),2539. ทศพล กฤตพสิ ฐิ , “กำรมีสว่ นรว่ มของกำนันผ้ใู หญเ่ ขตหนองจอกท่ีมตี ่อโครงกำร/กิจกรรมกำรพัฒนำแนวทำง “บวร”, “บรม” เพ่อื สรำ้ งอดุ มกำรณ์แผน่ ดนิ ธรรมแผ่นดนิ ทอง”, วิทยานพิ นธส์ ังคมสงเคราะห์ ศาสตรมหาบณั ฑติ , (บัณฑิตวทิ ยาลัย :มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์), 2538. สภุ าพ แกว้ ตาทพิ ย์, กำรศกึ ษำกำรมสี ว่ นรว่ มในกำรจัดกำรศึกษำของคณะกรรมกำรจดั กำรศึกษำขน้ั พื้นฐำนโรงเรียนสงั กดั เทศบำลเมืองปำกพนงั จงั หวัดนครศรธี รรมรำช. ทิพยภ์ าเวชช์ ณ เชยี งใหม่, “กำรมีสว่ นรว่ มของประชำคมในกำรดำเนินงำนขององคก์ ำรบริหำรสว่ น ตำบล กรณศี ึกษำ องคก์ ำรบรหิ ำรสว่ นตำบลสนั พระเนตร อำเภอสนั ทรำย จังหวดั เชยี งใหม่”, การค้นคว้าแบบอิสระ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, (บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,2544). วิโรจน์ รูปดี, “กำรมสี ่วนร่วมของประชำชนในกำรแยกประเภทขยะของเทศบำลเมืองเพชรบรู ณ์”, สาร นิพนธ์ รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, (บณั ฑติ วิทยาลยั : มหาวิทยาลยั เชียงใหม่), 2547. ศิรินภา สภาพรวจนา, “กำรมสี ว่ นร่วมทำงกำรเมืองของประชำชน จงั หวัดเพชรบรุ ี : กรณศี ึกษากลมุ่ คนรกั เมืองเพชร”,วิทยานพิ นธ์ศาสนศาสตรมหาบณั ฑิต,(บณั ฑิตวทิ ยาลัย : มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร)์ , 2541.
49 ภำคผนวก
50 แบบสอบถามเพ่อื การวจิ ยั เร่ือง:ประสิทธิภาพการจดั การภยั พิบตั ิและการตอบโตส้ ถานการณ์ฉุกเฉินในการปฏิบตั ิงาน ร่วมเครือข่ายในกรอบอาเซียน (ASEAN Economic Commumity: AEC) ของสานกั งานป้ องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั ตาก ---------------------------------------------------- คาช้ีแจง : 1. แบบสอบถามน้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือศึกษาวจิ ยั เร่ือง “ประสทิ ธภิ าพการจัดการภยั พบิ ัติและการตอบโต้ สถานการณ์ฉกุ เฉนิ ในการปฏิบัตงิ านร่วมเครือขา่ ยในกรอบอาเซียน (ASEAN Economic Commumity: AEC) ของสานักงานป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั ตาก 2. แบบสอบถามมีท้ังหมด 2 ตอนดังนี้ ตอนท่ี 1 แบบสอบถามเกย่ี วกบั ข้อมูลสว่ นตวั ของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนท่ี 2 แบบสอบถามเกย่ี วกับขอ้ มลู ทีเ่ ก่ียวกบั แนวคิดประสบการณ์ การมสี ว่ นร่วมในการ ประสทิ ธิภาพการจดั การภัยพิบตั แิ ละการตอบโต้สถานการณ์ฉกุ เฉนิ ในการปฏบิ ัตงิ านร่วมเครือข่ายใน กรอบอาเซียน (ASEAN Economic Commumity: AEC) ของสานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัดตาก ของผนู้ าชมุ ชนและประชาชนในการปอ้ งกันและแก้ไขปัญหาภัยพบิ ตั ิฉุกเฉนิ 3. แบบสอบถามนี้มีวัตถปุ ระสงคน์ ามาใชใ้ นการศึกษาวจิ ยั เทา่ น้นั ซ่งึ จะไม่มผี ลกระทบต่อผู้ตอบ แบบสอบถามหรือหน่วยงานของท่าน และจะไม่มีการเปิดเผยข้อมลู เป็นรายบุคคลแต่อยา่ งใด ผู้วิจัยหวังเป็นอย่างย่ิงว่าจะได้รับความอนุเคราะห์จากท่าน ในการตอบแบบสอบถามครั้งนี้เป็น อยา่ งดี ขอบคณุ ทกุ ท่านทไี่ ด้ตอบแบบสอบถามนี้ตามความเป็นจริง และตรงกับความเห็นของท่านมากที่สุด คาตอบของท่านจะเก็บไวเ้ ป็นความลับและจะใช้สาหรับการทาวจิ ยั คร้ังน้ีเท่าน้นั นายสมชาย รามสูต เลขท่ี 33 พุทธศักราช 2557
51 -2- ตอนท่ี 1 แบบสอบถามเกยี่ วกบั ขอ้ มลู สว่ นตัวของผูต้ อบแบบสอบถาม คาชแ้ี จง :โปรดทาเครอ่ื งหมายลงใน[ ] หน้าขอ้ ความทต่ี รงกับความเป็นจริงของทา่ น 1. เพศ [ ] ชาย [ ] หญิง 2. อายุ .................ปี 3. ระดบั การศึกษา [ ] ประถมศกึ ษา [ ] มธั ยมศึกษา [ ] ปวช./ปวส. [ ] ปรญิ ญาตรี [ ] อ่ืน ๆ ระบุ................... 4. อาชพี [ ] ขา้ ราชการการเมือง [ ] ขา้ ราชการ [ ] เกษตรกร [ ] รับจา้ ง [ ] นักศึกษา [ ] อน่ื ๆระบ.ุ ........ 5. ระยะเวลาท่ีอาศัย ณท่อี ยู่ปัจจบุ นั [ ] 1 –5ปี [ ] 6 – 10 ปี [ ] 11 –15 ปี [ ] 19 – 25 ปี [ ] 26 ปขี ้ึนไป
52 -3- ตอนท่ี 2 แบบสอบถามเกี่ยวกบั การมีสว่ นร่วมในภารกิจ หน้าที่ ความรับผิดชอบ ปัจจัยในการป้องกันและ แนวทางการวางแผนของภาครัฐและเครือข่ายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ให้มี ประสิทธิภาพเพื่อลดความเสียหายจากภัยพิบัติต่อชีวิตและทรัพย์สินของสังคมเศรษฐกิจ และส่ิงแวดล้อม ของจงั หวดั ตาก ภายใตก้ รอบของอาเซยี น 1. ดา้ นภารกิจ หน้าที่ ความรบั ผิดชอบหลักของสานกั งานปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั ตาก 1.1 ภาครัฐและเครือขา่ ยในภมู ภิ าค มีสว่ นร่วมในการรวบรวมข้อมลู ลกั ษณะที่ตัง้ และ จดั เตรยี มข้อมลู แผนทชี่ ุมชน เพือ่ รองรับการพัฒนาเข้าสปู่ ระชาคมอาเซียนอย่างไร ............................................................................................................................. .......................................... ...................................................................................................................... ................................... 1.2 ทา่ นคดิ วา่ ความรู้ ความสามารถ ทกั ษะและสมรรถนะของบุคลากร จาเปน็ ต่อการพัฒนา เพือ่ รองรบั การเขา้ สู่ประชาคมอาเซยี น หรือไม่ อยา่ งไร ............................................................................................................................. .......................................... .......................................................................................................................... ........................................... 1.3 ท่านคดิ วา่ การป้องกันและแกไ้ ขปัญหาสาธารณภยั เปน็ หนา้ ทข่ี องรัฐเพื่อเตรยี มเข้าสู่ ประชาคมอาเซยี น ............................................................................................................................................ ........................... ........................................................................................................ ............................................................. 1.4 ท่านเตรยี มความพร้อมการมสี ่วนรว่ มในกลุ่มกิจกรรมต่างๆในด้านการป้องกันเพ่อื รองรบั การ เขา้ สูป่ ระชาคมอาเซยี นในชุมชน/หมู่บา้ นเชน่ สมาชิกอปพร. อสม. ชรบ.อน่ื ๆ อยา่ งไร ............................................................................................................................................................ ........... ........................................................................................................................ ............................................. 1.5 ควรมกี ารคัดเลือกข้าราชการใหม่และในการเลือ่ นตาแหนง่ ในทุกระดบั ควรมีความร้แู ละ ทักษะพ้ืนฐานที่จาเป็นต่อการปฏิบัตงิ านเพื่อพร้อมเขา้ สปู่ ระชาคมอาเซียน หรอื ไม่ อยา่ งไร ................................................................................................................................................................. ...... .......................................................................................................................... ...........................................
53 -4- 2. ด้านปจั จยั ในการตรียมความพรอ้ มส่ปู ระชาคมอาเซยี น ปี 2558 ในการปฏบิ ัติการแก้ไข ปัญหา และแนวทางการพัฒนาการป้องกันสาธารณภัยอยา่ งยั่งยนื ในระดับภูมิภาคภายใตก้ รอบอาเซียน. 2.1 ทา่ นรว่ มแสดงความคดิ เห็น ในโครงการ/แผนงาน/กจิ กรรม ด้านงบประมาณ ทีค่ วรแก้ไข ปรบั ปรงุ ในงานด้านการปอ้ งกันสาธารณภยั อยา่ งไร ............................................................................................................................. .......................................... .......................................................................................................................... .......................................... 2.2 ท่านมีส่วนเสนอและการจัดหา วัสดุ อุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัย ยานพาหนะต่างๆในก าร เตรียมพร้อมในแกไ้ ขปญั หาสาธารณภยั ในพ้ืนที่อย่างไร ............................................................................................................................. .......................................... .......................................................................................................................... ........................................... 2.3 ท่านมสี ่วนร่วมในการเสนอแนวทางแกไ้ ขและป้องกนั ปญั หาการพฒั นาบคุ คลากรด้านการ ป้องกนั และแก้ไขปญั หาสาธารณภัยภาครัฐ ท่อี าจเกิดข้ึนในอนาคตภายใต้กรอบ อาเซยี น อย่างไร ............................................................................................................................. .......................................... ..................................................................................................................................................................... 2.4 ท่านร่วมดาเนนิ การระบบการบัญชาการฉุกเฉินเม่ือเกดิ สถานการณฉ์ กุ เฉิน อยา่ งไร ....................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................... ........................................... 2.5 ท่านเข้าร่วมฝึกอบรมกับหน่วยงานด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในการเตรียมพร้อม รับมือกับสาธารณภยั หรือไม่ อย่างไร .......................................................................................................................... ............................................. ......................................................................................................................... ............................................
54 แบบการเสนอโครงรา่ งการศึกษาวจิ ัยสว่ นบคุ คล (Proposal) หลกั สูตร นกั บรหิ ารงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (นบ.ปภ.) รนุ่ ท่ี 10 1. ชื่อผู้จัดทำ นายสมชาย รามสูต เลขประจำตวั 33 2. ชือ่ เร่อื ง ประสิทธภิ าพการจดั การภยั พิบตั แิ ละการตอบโต้สถานการณฉ์ ุกเฉินในการปฏบิ ัติงานร่วม เครือข่ายในกรอบอาเซียน (ASEAN Economic Commumity: AEC) ของสานักงานป้องกันและ บรรเทาสาธารณภยั จังหวดั ตาก 3. ควำมเปน็ มำของเรอ่ื งและสถำนกำรณป์ จั จุบนั ในอดตี ทีผ่ า่ นมา ไดเ้ กิดภัยพบิ ัตทิ างธรรมชาติมากมายท่ัวโลก ซึ่งการเกิดภัยธรรมชาติ แตล่ ะครัง้ ถือวา่ เลวร้ายอย่างหนกั จงึ ทาให้ประเทศสมาชกิ อาเซียน ทง้ั หมด 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม พม่า กัมพูชา ฟิลิปปนิ ส์ อนิ โดนเี ซยี ลาว สงิ คโปร์ และบรูไน ได้เล็งเห็นปัญหา และ ร่วมมอื กนั ต้ังคณะกรรมการจัดการภัยพิบตั ิอาเซยี น (ASEAN Committee on Disaster Management : ACDM) ขน้ึ พร้อมกบั ไดจ้ ดั การประชุมประจาปขี นึ้ ครั้งแรกในเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2546 ณ เมอื งบัน ดาเสรีเบการ์วัน ประเทศบรูไน พร้อมกับมีการจัดประชุมข้ึนทุกปี โดยเจ้าภาพการประชุมจะเวียน ตามลาดับตัวอักษรภาษาองั กฤษของชอื่ ประเทศสมาชิก เปา้ หมายหลักของคณะกรรมการจัดการภัยพิบัตอิ าเซียน คอื ร่วมกันจดั ทาโครงการจัดการ ภัยพิบตั ิในภูมิภาคอาเซยี น หรอื ASEAN Regional Programme on Disaster Management (ARPDM ) เพ่อื กาหนดกรอบความรว่ มมือ กาหนดยุทธศาสตร์ในการบรหิ ารจดั การ กาหนดงานและ กจิ กรรมเร่งด่วนตามลาดับก่อนหลงั เพอ่ื ลดภัยพิบตั ิ ดงั น้ัน งานสาคัญเรง่ ดว่ นของ ARPDM คอื การ สร้างกรอบการทางานบริหารจัดการภยั พิบัตใิ นภมู ภิ าคอาเซียน ภายใต้กรอบการดาเนนิ งานนีจ้ ะมีการ พัฒนาความตกลงในภมู ิภาคว่าดว้ ยการจัดการ ภัยพิบตั ิ และการทางานในภาวะฉุกเฉนิ , พัฒนา มาตรฐานการทางานช่วยเหลือในยามเกิดภยั พิบัตติ ามความตกลง,เสริมสร้างประสทิ ธิภาพในการทางาน ของคณะทางาน ในแตล่ ะประเทศสมาชิกเพื่อช่วยเหลอื แบบฉกุ เฉนิ ฉบั พลันในยามเกดิ ภัยพบิ ตั ิ และจัด กจิ กรรมซ้อมรบั มือภยั พิบัติในอาเซียนอยา่ งสม่าเสมอ สาหรับแผนปฏบิ ตั ิการภายใตค้ วามตกลงฯ ของคณะกรรมการจดั การภยั พบิ ตั กิ บั อาเซยี น ประจาปี พ.ศ. 2553 – พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2010- ค.ศ. 2015) ได้มกี ารกาหนดไว้ 4 ดา้ น เพอื่ การปฏิบตั ิ ใหเ้ ปน็ ไปในทศิ ทางเดียวกันของชาตสิ มาชกิ ได้แก่ 1. การประเมนิ ความเสย่ี งการแจง้ เตือนลว่ งหนา้ 2. การเตรยี มความพร้อมและตอบโต้ 3. การป้องกันและบรรเทาภยั พิบัติ 4. การบูรณะฟื้นฟู สาหรบั ประเทศไทยได้ดารงตาแหน่งประธานคณะกรรมการอาเซียนดา้ นการจดั การภัย พบิ ัติ ใน พ.ศ. 2555 และไทยก็ได้รับมอบหมายให้เป็นประเทศแกนนาในการดาเนนิ กจิ กรรมลาดบั ท่ี 5 คอื วันจดั การ ภัยพิบตั ิของอาเซียน (ASEAN Day for Disaster Management - ADDM) โดย ไดม้ ีการกาหนดใหท้ ุก วนั พุธทสี่ อง ของเดือนตุลาคมของทุกปี เปน็ วนั จดั การภัยพบิ ัตขิ องอาเซียน และมตทิ ่ีประชุมระดบั รฐั มนตรีอาเซยี น
55 -2- เม่อื วันท่ี 7 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกมั พชู า ได้กาหนดให้ประเทศ สมาชิกอาเซียนทุกประเทศเข้าร่วมกิจกรรมวันจัดการภัยพิบัติ ของอาเซียน ทั้งในระดับประเทศและ ระดับภูมิภาค โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อหาแนวทาง การดาเนินการในการลดภัยพิบัติ และเตรียมการ ส า ห รั บ ก า ร จั ด กิ จ ก ร ร ม วั น จั ด ก า ร ภั ย พิ บั ติ ร ว ม ถึ ง ก า ร ว า ง แ ผ น ง า น ส า ห รั บ ปี ต่ อ ไ ป ดังนั้น จึงมีความจาเป็นท่ีจะต้องทาการศึกษาค้นคว้าว่า ประสิทธิภาพการจัดการภัยพิบัติ และการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินในการปฏิบัติงานร่วมเครือข่ายในกรอบอาเซียน (ASEAN Economic Commumity : AEC) ของสานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตาก มีแนวทางการบริหาร จัดการด้านใดบ้างท่ีจะนาไปสู่ความสาเร็จเพื่อนาข้อมูลท่ีได้เป็นข้อมูลพ้ืนฐานมาปรับปรุงการปฏิบัติงาน ให้เกิดผลสาเรจ็ ตามเปา้ หมายตอ่ ไปในอนาคต 4. เหตุผลและควำมจำเป็นในกำรศึกษำและคำถำมในกำรวิจัย 4.1 เพื่อนาข้อเท็จจริงพร้อมทั้งปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานไปใช้เป็นแนวทาง การ ทบทวนปรับปรุงแผนการเตรียมความพร้อมในการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินใน การปฏิบัติงานร่วมเครือข่ายในกรอบอาเซียน (ASEAN Economic Commumity: AEC) ของสานักงาน ปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั ตาก ให้มีประสิทธิภาพย่ิงขึ้น 4.2 คาถามวิจัย 1. แบบสอบถามนม้ี วี ตั ถปุ ระสงค์เพ่ือศึกษาวิจัยเร่ือง “ประสิทธิภาพการจัดการภัยพิบัติ และการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินในการปฏิบัติงานร่วมเครือข่ายในกรอบอาเซียน (ASEAN Economic Commumity: AEC) ของสานักงานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยจงั หวัดตาก 2. แบบสอบถามมีทง้ั หมด 2 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลสว่ นตัวของผูต้ อบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูล เกี่ยวข้องกับแนวคิด ประสบการณ์ ทฤษฎี การป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั การมสี ่วนรว่ ม การบญั ชาการเหตกุ ารณ์ 2.1 เพ่ือศึกษากลไกท่ีมีประสิทธิภาพเพ่ือลดความเสียหายจากภัยพิบัติต่อชีวิตและ ทรัพย์สินของสังคมเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมของจังหวัดตาก โดยกรอบของอาเซียนโดยครอบคลุมท้ัง 1) ก่อนเกดิ ภยั พบิ ัติ 2) ขณะเกดิ ภยั พิบตั ิ 3) หลังเกิดภยั พบิ ตั ิ ในพ้ืนทีจ่ งั หวดั ที่รับผดิ ชอบดา้ นใดบา้ ง 2.2 เพอื่ ศกึ ษาความรว่ มมือทางด้านวิชาการ การเสริมสร้างศักยภาพของหน่วยงาน และบคุ ลากร โดยเน้นหลักการ ใช้ทรัพยากรที่มีอย่างจากัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการช่วยเหลือภายใต้ การดาเนนิ ในกรอบของการพัฒนาอย่างยงั่ ยืน มอี ะไรบา้ ง อยา่ งไร 5. วตั ถุประสงค์ของกำรศกึ ษำ 5.1 เพ่ือศึกษากลไกที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดความเสียหายจากภัยพิบัติต่อชีวิตและ ทรัพย์สินของสังคมเศรษฐกิจ และส่ิงแวดล้อม ของจังหวัดตาก โดยกรอบของอาเซียนโดยครอบคลุมทั้ง 1) กอ่ นเกิดภยั พิบตั ิ 2) ขณะเกิดภยั พบิ ัติ 3) หลงั เกิดภัยพิบตั ิ
56 5.2 เพื่อศึกษาความร่วมมือทางด้านวิชาการ การเสริมสร้างศักยภาพของหน่วยงานและ บคุ ลากร โดยเน้นหลักการ ใช้ทรัพยากรท่ีมีอย่างจากัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการช่วยเหลือภายใต้การ ดาเนินในกรอบของการพฒั นาอย่างยัง่ ยนื 6. วธิ ีกำรและขอบเขตกำรศกึ ษำ 6.1 ศึกษาโดยใช้ระเบียบวิธี การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ใช้ แบบสอบถาม (Questionnaire) และการสัมภาษณ์เชิงลึก (InterviewGuideline) เป็นเครื่องมือ ในการวิจยั วิธีการศกึ ษาจดั เก็บรวบรวมขอ้ มลู ใชแ้ บบสอบถามกับกลุ่มเปา้ หมาย ได้แก่ ขา้ ราชการและ เจ้าหน้าทข่ี องสานกั งานปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยจงั หวัดตาก และภาคเี ครอื ข่ายท่ีเกีย่ วข้อง คือผูน้ า ชุมชนประกอบด้วยนายกองค์การบริหารส่วนตาบล นายกเทศมนตรี ปลัดองค์การบริหารส่วน ตาบล/เทศบาล กานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในพ้ืนท่ีรับผิดชอบและนา ข้อมูลจากแบบสอบถามมาวิเคราะหข์ ้อมูล 6.2 ขอบเขตการศึกษา (ขอบเขตด้านเนือ้ หา) 6.2.1 การพฒั นาประเทศด้านการจัดการภัยพบิ ัตเิ พ่อื ลดความเสีย่ งจากภยั พิบัตภิ ายใต้ กรอบความร่วมมอื ระหวา่ งอาเซยี น 6.2.2 กลไกสาคญั ในการเตรยี มรบั มอื และช่วยเหลือผูป้ ระสบภัยยามฉุกเฉิน 6.2.3 การปฏบิ ตั งิ านของบุคลากร พร้อมด้วยสินทรพั ย์และขีดความสามารถในพ้นื ที่ กรอบแนวคดิ ในการศกึ ษา ตวั แปรตาม ตวั แปรอสิ ระ ประสิทธภิ าพการจัดการภัยพิบัตแิ ละ การตอบโต้สถานการณ์ฉกุ เฉินในการ ปัจจัยสว่ นบุคคล ได้แก่ ปฏิบัติงานรว่ มเครอื ขา่ ยในกรอบ 1. เพศ อาเซยี น (ASEAN Economic 2. อายุ Commumity: AEC) ของสานกั งาน 3. ระดบั การศึกษา ป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยจงั หวัด 4. ตาแหน่ง ตาก 5. ประสบการณ์ ปัจจัยจำกกำรไดร้ ับกำร สนับสนนุ ดำ้ นตำ่ งๆ ดงั น้ี - ด้านบุคลากร - งบประมาณ - อุปกรณ์ เครื่องมือ เครือ่ งจักรกล ยานพาหนะ -การบญั ชาเหตกุ ารณ์ใน ภาวะฉุกเฉนิ
57 -4- 7. ทฤษฎี แนวควำมคิด ระเบียบกฎหมำยท่ใี ช้ในกำรศึกษำ 7.1 พรบ.ปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั พ.ศ. 2550 7.2 แผนปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย จังหวดั ตาก พ.ศ. 2553 – 2557 ของสานักงาน ปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั ตาก 7.3 ทฤษฎดี า้ นการจัดการสาธารณภยั นยิ ำมศพั ท์ ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น (ASEAN Economic Commumity: AEC) คณะกรรมการจัดการภัยพบิ ัติอาเซียน (ASEAN Committee on Disaster Management : ACDM) คณะกรรมการจดั การภยั พิบตั ิภมู ภิ าคอาเซยี น ASEAN Regional Programme on Disaster nagement (ARPDM ) วนั จดั การภัยพิบตั ขิ องอาเซยี น (ASEAN Day for Disaster Management - ADDM) 8. ผลท่คี ำดวำ่ จะไดร้ ับ 8.1 นาผลการวิจัยเพื่อเป็นฐานข้อมูลเบ้ืองต้น เสนอจังหวัดนาไปวางแผนในการจัดทา แผนปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยจังหวดั ตาก 8.2 นาผลการวิจัยเสนอจังหวัดเพ่ือเป็นข้อมูลในการกาหนดยุทธศาสตร์ด้านการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัดตาก
58 ประวตั ผิ ู้วิจยั ช่ือ : นายสมชาย รามสูต เกดิ : 11 มนี าคม พ.ศ. 2504 สถำนทเ่ี กดิ : จังหวัดกาแพงเพชร ประวตั ิกำรศึกษำ : มัธยมศกึ ษาตอนปลาย โรงเรยี นวัดบวรนิเวศ อาเภอพระนคร จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประกาศนยี บตั รอุตนุ ิยมวิทยา กรมอุตนุ ิยมวิทยา กรงุ เทพมหานคร ปรญิ ญาตรี บริหารธรุ กจิ บัณฑติ (บท.บ.) มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง ปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช ปริญญาโท รฐั ศาสตรบัณฑิต สหวทิ ยาเพอื่ การพัฒนาทอ้ งถ่นิ มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง ทที่ ำงำน : สานักงานป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั ตาก ถนนจรดวิถีถอ่ ง ตาบลน้ารึม อาเภอเมืองตาก จังหวดั ตาก 63000 ตำแหนง่ : นกั วิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ โทรศัพท์ที่ทำงำน : 0 – 5551 - 5975 ตดิ ตอ่ : มอื ถือ 08 – 1860 - 1092 E-mail : [email protected]
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124