Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 23เยาวภา พูลพิพัฒน์

23เยาวภา พูลพิพัฒน์

Published by Hommer ASsa, 2021-05-03 06:59:31

Description: 23เยาวภา พูลพิพัฒน์

Search

Read the Text Version

รายงานการศกึ ษา เรอ่ื ง ปจั จัยท่ีมอี ทิ ธิพลตอ่ การมีส่วนรว่ มของอาสาสมัครปอ้ งกันภัย ฝา่ ยพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความชว่ ยเหลือผปู้ ระสบอทุ กภยั : กรณศี กึ ษาอาํ เภอเมอื งปตั ตานี จงั หวัดปตั ตานี จดั ทําโดย นางเยาวภา พลู พพิ ัฒน์ รหสั ประจาํ ตัวนักศึกษา 23 เอกสารฉบบั น้เี ปน็ ส่วนหน่งึ ในการศกึ ษาอบรม หลกั สตู ร นกั บริหารงานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั (นบ.ปภ.) รนุ่ ที่ 10 ระหวา่ งวันท่ี 7 มกราคม – 10 เมษายน 2557 วทิ ยาลัยปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั กรมปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั

ก คาํ นาํ เอกสารการวิจัยฉบบั นี้ เปน็ สว่ นหนึ่งของการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย (นบ.ปภ.) รุ่นท่ี 10 วิทยาลัยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย ซึ่งผู้ศึกษาวิจัยได้ทําการศึกษาปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัย ฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ท้ังด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการ การมีส่วนร่วมใน ผลประโยชน์ และการมสี ว่ นร่วมในการประเมินผล เพอื่ นําข้อเท็จจรงิ พร้อมทั้งปัญหาและอุปสรรคในการ ปฏิบัติงานและแนวทางแก้ไขปัญหานําไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาวิธีการปฏิบัติงานของ อปพร. ให้มี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและเป็นการเตรียมความพรอ้ มในการรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติทีอ่ าจจะเกดิ ขึ้น ผู้ศึกษาวิจัยขอขอบพระคุณ คณะกรรมการที่ปรึกษาตลอดจนคณะผู้บริหารวิทยาลัยป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย ผู้อํานวยการและคณะเจ้าหน้าที่โครงการนักบริหารงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย รุ่นที่ 10 ที่ให้ความรู้ คําแนะนํา ขอขอบคุณอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนอําเภอ เมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ที่ได้กรุณาให้ความร่วมมือในการตอบแบบสอบถามในครั้งน้ี ขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ของสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานีที่ให้ความกรุณา ในการจัดเก็บแบบสอบถามซ่ึงเป็นส่วนสาํ คัญในการจัดทํางานวิจัย เยาวภา พลู พิพฒั น์ มนี าคม 2557

ข กิตติกรรมประกาศ รายงานการศึกษาวิจัยฉบับนี้ สําเร็จลุล่วงได้ด้วยความกรุณาจาก ดร.ปิยวัฒน์ ขนิษฐบุตร อาจารย์วรชพร เพชรสุวรรณ และคณะกรรมการที่ปรึกษา คณะผู้บริหารและผู้อํานวยการโครงการวิทยาลัย ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยท่ีกรุณาให้คําแนะนํา คําปรึกษา และติดตามการทําวิจัยในคร้ังน้ีด้วยดีทําให้ รายงานการศึกษาวจิ ัยฉบับนีส้ ําเรจ็ ได้อยา่ งสมบรู ณ์ ขอขอบคุณเจ้าหน้าท่ีของสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี ท่ี ประสานทีมงานในการเก็บแบบสอบถาม และขอบคุณอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนจังหวัด (อปพร.) ใน พ้ืนที่อําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานีท่ีได้ให้ความร่วมมือในการตอบแบบสอบถามในการศึกษาวิจัยคร้ังนี้ เป็นอย่างดี ผู้ศึกษาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รายงานการศึกษาวิจัยฉบับน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ เก่ียวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานีหรืออาจใช้เป็นแนวทางใน การศึกษาค้นคว้าต่อไปได้ คุณความดีอันใดท่ี เกิดจากการศึกษาคร้ังนี้ ผู้ศึกษาของมอบแด่ บิดา มารดา คณาจารย์ และผทู้ เี่ กี่ยวข้อง สนบั สนุนผศู้ ึกษาดว้ ยดตี ลอดมา เยาวภา พูลพพิ ฒั น์ มีนาคม 2557

ค บทสรปุ สาํ หรบั ผบู้ ริหาร ในปัจจบุ นั สาธารณภัยมีแนวโนม้ เพม่ิ มากข้ึนและทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น สร้างความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจสังคมและสภาพแวดล้อมซ่ึงไม่สามารถประเมินค่าได้ ทําให้ ประสบปัญหาจากภัยพิบัติจากธรรมชาติ เช่น อุทกภัย ภัยจากแผ่นดินถล่ม ภัยแล้ง ภัยจากไฟป่าและ หมอกควันอยู่เป็นประจํา ซึ่งภัยที่สร้างความสูญเสียอย่างมากในพ้ืนท่ีของประเทศไทย คือ ภัยจากอุทกภัย จังหวัดปัตตานี ประกอบด้วยอําเภอ 12 อําเภอ ซ่ึงขณะน้ีพ้ืนท่ีจังหวัดปัตตานีมีพื้นท่ีเสี่ยงต่อการเกิด อุทกภัย ครอบคลุมทั้ง 12 อําเภอ และในปี 2556 จังหวัดปัตตานี ได้เกิดอุทกภัยข้ึน ส่งผลให้เกิดความ เสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยได้เกิดอุทกภัยในพื้นท่ี 9 อําเภอ คือ อําเภอเมอื งปัตตานี มายอ กะพ้อ สายบุรี ทุ่งยางแดง ปะนาเระ โคกโพธิ์ และอําเภอยะหริ่ง ประชาชน ได้รับความเดือดร้อน 10,699 ครัวเรือน 33,162 คน ซึ่งอําเภอเมืองปัตตานีเป็นพื้นท่ีลุ่มริมแม่น้ํา ปัตตานีเกิดอุทกภัยเป็นประจําทุกปีทําให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จําเป็นจะต้องมีผู้มีจิตอาสาเพ่ือ ช่วยเหลือประชาชน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) คือ บุคคลท่ีอาสาและสมัครใจ โดย ไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทนเป็นสินจ้างใด ๆ เพ่ือช่วยเหลือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดย จะต้องผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ตามระเบียบกระทรวง มหาดไทยว่าด้วยกิจการอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน พ.ศ. 2553 อปพร. จึงเป็นอาสาสมัคร รูปแบบหน่ึงท่ีมีกฎหมายรองรับ และ อปพร.จะเป็นพลังสําคัญในการขับเคล่ือนภารกิจการป้องกันและ บรรเทาสาธารณภยั ในเขตพืน้ ท่ีรบั ผิดชอบ และสามารถช่วยเหลือประชาชนได้เป็นอยา่ งดี ดังนั้น ผู้วิจัยจึงทําการศึกษาเร่ืองปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัย ฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ในด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ด้านการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการ ด้านการมี ส่วนร่วมในผลประโยชน์ ด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผล เพื่อให้หน่วยงานนําผลการวิจัยไปใช้เป็น ข้อมูลในการพฒั นางานอาสาสมัครปอ้ งกันภัยฝา่ ยพลเรือน (อปพร.) ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพยิง่ ข้ึน วัตถปุ ระสงค์ของการศึกษา เพื่อศึกษาสภาพโดยท่ัวไป และเปรียบเทียบปัจจัยท่ีมีอิทธิพลของการ มีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ซึ่งใช้การวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างคือ อาสาสมัคร ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในพื้นท่ีอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี จํานวน 120 คน ผลการวิจัยสรุปได้ว่า การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ท้ัง 4 ด้าน ประกอบด้วย การมสี ่วนรว่ มของ อปพร. ในดา้ นการมสี ่วนรว่ มในการตดั สินใจ ดา้ นการมีสว่ นรว่ มในการปฏิบัติการ ด้าน การมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ ด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผล พบว่า โดยรวมมีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับ ปานกลาง เมื่อพิจารณาค่าเฉล่ียของแต่ละรายด้าน พบว่า ด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจโดย ภาพรวมอยูใ่ นระดบั มาก ด้านการมสี ว่ นรว่ มในการปฏบิ ตั กิ ารโดยภาพรวมอยใู่ นระดบั มาก ดา้ นการมสี ว่ น ร่วมในผลประโยชน์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับน้อย ด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผลโดยภาพรวมอยู่ ในระดับปานกลาง และเพศ อายุ การศึกษา ต่างกันมีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัยไม่แตกต่างกัน สถานภาพในครอบครัว รายได้/เดือน และระยะเวลาที่อาศัยในชุมชน ต่างกันมีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแตกต่างกัน และนอกจากนี้ อปพร. มีขอ้ เสนอแนะโดยให้มีการให้ความรู้ในเร่ืองของสาธารณภัยอย่างต่อเนื่อง การประชาสัมพันธ์ การ

ง แจ้งข่าวสารอย่างถูกต้องรวดเร็ว จัดให้มีการประชุมบ่อยๆ ให้มีการประชุมพบปะเพ่ือนสมาชิกทุกเดือน มีการเตรียมความพร้อมเมื่อรู้ว่าอุทกภัยกําลังมา และส่วนกลางต้องสนับสนุนเคร่ืองมืออุปกรณ์อย่าง รวดเร็วเมื่อเกิดอุทกภัย ดังน้ัน เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติงานของอาสาสมัครป้องกัน ภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องควรให้ความสําคัญกับอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ใหม้ ากขึ้น เพื่อทจ่ี ะให้ อปพร. สามารถเป็นกําลงั หลกั ในการชว่ ยเหลอื ประชาชนในกรณเี กดิ ภยั พิบตั ิได้ ข้อเสนอแนะในการศึกษาคร้ังตอ่ ไปควรนาํ ตวั แปรอืน่ เข้ามาทําการศึกษาวิจัยการมีส่วนร่วมในการ ป้องกันภัยจากอุทกภัย เช่น ปัจจัยเก่ียวกับสิ่งจูงใจในการสมัครเข้ามาเป็น อปพร. ความพึงพอใจในการ ปฏิบัติงานของ อปพร. เป็นต้น ควรมีการศึกษาการมีส่วนร่วมของ อปพร.ในภัยด้านอ่ืน ๆ เช่น ภัยจาก การก่อความไม่สงบในพ้ืนที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภัยจากอุบัติเหตุการจราจร เป็นต้น ควรมีการ เปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของ อปพร. ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุทกภัยในพื้นท่ีของอําเภออื่น ๆ วา่ มคี วามเหมอื นหรือแตกต่างกนั อยา่ งไรบา้ ง และปจั จยั อะไรบ้างท่ีมีผลต่อการมีส่วนร่วม และควรศึกษา หน่วยงานที่เก่ียวข้องตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ว่ามีการส่งเสริม การดําเนนิ งานในกิจการอาสาสมัครปอ้ งกนั ภัยฝ่ายพลเรือนมากนอ้ ยเพยี งใด

ก หน้า จ ก ข สารบญั ค จ คาํ นาํ ช กติ ติกรรมประกาศ 1 2 บทสรปุ ผบู้ ริหาร 2 2 สารบญั 3 สารบัญตาราง 4 6 บทท่ี 1 บทนํา ความสาํ คัญและทม่ี าของปัญหาวิจัย 8 วตั ถปุ ระสงคก์ ารศกึ ษา 10 ขอบเขตของการศกึ ษา 13 ประโยชนท์ ่ใี ช้ในการศกึ ษา นิยามศัพทเ์ ฉพาะ 14 14 บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎแี ละงานวิจัยทเ่ี กี่ยวข้อง 15 แนวคดิ และทฤษฎีเรอ่ื งการมีส่วนร่วม 16 พระราชบัญญตั ิป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 16 ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ด้วยกจิ การอาสาสมัครปอ้ งกนั ภยั 16 ฝ่ายพลเรือน พ.ศ. 2553 17 งานวจิ ยั ทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง 17 กรอบแนวคดิ ในการวจิ ัย 19 บทท่ี 3 ระเบยี บวิธวี จิ ยั ประชากร กลมุ่ ตวั อยา่ ง เคร่อื งมือทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา การตรวจสอบเคร่อื งมือ องค์ประกอบของแบบสอบถาม การเก็บรวบรวมข้อมลู การแปลผลขอ้ มลู การวเิ คราะหข์ ้อมลู บทที่ 4 การวเิ คราะหข์ อ้ มูล ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล

ฉ หนา้ สารบัญ (ต่อ) 35 36 บทที่ 5 สรปุ และอภิปรายผล 37 สรปุ ผลการศกึ ษา 39 การอภิปรายผล 40 ขอ้ เสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะในการศกึ ษาคร้ังตอ่ ไป 42 46 บรรณานกุ รม 49 ภาคผนวก แบบสอบถามเพื่อการศึกษาวิจยั แบบการเสนอโครงร่างการศึกษาวิจยั ส่วนบุคคล (Proposal) ประวัติผู้วิจยั

ช สารบัญตาราง หน้า ตารางท่ี 1 แสดงขนาดกลุ่มตวั อย่างท่ีได้จากการสมุ่ แบบ Multi-stage Sampling 16 ตารางท่ี 2 จํานวนและร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถาม 20 ตารางท่ี 3 ค่าเฉลย่ี ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานของการมีส่วนร่วมของอาสาสมคั รปอ้ งกนั ภยั 22 22 ฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการใหค้ วามชว่ ยเหลือ ผู้ประสบอทุ กภยั : กรณศี ึกษา อาํ เภอเมอื งปัตตานี จงั หวดั ปตั ตานี ในภาพรวม 23 ตารางที่ 4 ค่าเฉล่ีย สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐานของการมสี ว่ นร่วมของอาสาสมัครปอ้ งกันภัย ฝา่ ยพลเรอื น (อปพร.) ในการให้ความชว่ ยเหลอื ผูป้ ระสบอทุ กภยั : กรณศี ึกษา 24 อาํ เภอเมอื งปตั ตานี จงั หวดั ปัตตานี ดา้ นการมสี ว่ นร่วมในการตัดสนิ ใจ จาํ แนกเป็นรายขอ้ 24 ตารางที่ 5 ค่าเฉล่ยี ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐานของค่าเฉลีย่ ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐานของการมี สว่ นร่วมของอาสาสมคั รป้องกนั ภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความ 25 ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบอุทกภยั : กรณีศกึ ษาอําเภอเมืองปัตตานี จงั หวดั ปตั ตานี 26 ในดา้ นการมีสว่ นร่วมในการปฏิบตั ิการ จาํ แนกเป็นรายขอ้ 27 ตารางท่ี 6 คา่ เฉล่ยี สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานของค่าเฉล่ีย สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐานของการ 28 มีส่วนรว่ มของอาสาสมคั รป้องกันภัยฝา่ ยพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความ ชว่ ยเหลอื ผ้ปู ระสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอาํ เภอเมืองปัตตานี จังหวัดปตั ตานี ในด้านการมสี ่วนร่วมในผลประโยชน์ จาํ แนกเป็นรายขอ้ ตารางท่ี 7 คา่ เฉล่ยี สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐานของค่าเฉล่ยี สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐานของการมี สว่ นร่วมของอาสาสมัครป้องกนั ภัยฝ่ายพลเรอื น (อปพร.) ในการใหค้ วาม ชว่ ยเหลือผู้ประสบอทุ กภยั : กรณศี ึกษาอาํ เภอเมืองปัตตานี จงั หวัดปัตตานี ในดา้ นการมีสว่ นร่วมในการประเมินผล จําแนกเป็นรายข้อ ตารางท่ี 8 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู เพื่อเปรียบเทยี บการมสี ว่ นร่วมของอาสาสมคั รป้องกันภัย ฝา่ ยพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลอื ผู้ประสบอทุ กภัย : กรณศี ึกษา อาํ เภอเมืองปตั ตานี จงั หวัดปตั ตานี โดยจําแนกตามเพศ ตารางที่ 9 ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครปอ้ งกนั ภยั ฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผู้ประสบอุทกภยั : กรณศี กึ ษาอาํ เภอเมอื ง ปตั ตานี จงั หวดั ปตั ตานี โดยจาํ แนกตามอายุ ตารางท่ี 10 ผลการเปรียบเทยี บการมสี ว่ นร่วมของอาสาสมคั รป้องกนั ภยั ฝ่ายพลเรอื น (อปพร.) ในการใหค้ วามช่วยเหลือ ผ้ปู ระสบอุทกภัย : กรณศี กึ ษาอําเภอ เมอื งปตั ตานี จังหวัดปัตตานี จาํ แนกตามการศกึ ษา ตารางที่ 11 ผลการเปรียบเทียบการมสี ว่ นรว่ มของอาสาสมคั รป้องกนั ภัยฝา่ ยพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความชว่ ยเหลอื ผู้ประสบอุทกภยั : กรณีศึกษาอาํ เภอเมอื ง ปตั ตานี จงั หวดั ปตั ตานี โดยจําแนกตามสถานภาพในครอบครวั

ซ สารบัญตาราง (ตอ่ ) หนา้ ตารางที่ 12 ผลการวเิ คราะหเ์ พ่ือเปรยี บเทยี บการมสี ว่ นรว่ มของอาสาสมัครป้องกันภัย 28 ฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการใหค้ วามชว่ ยเหลือ ผู้ประสบอุทกภยั : กรณศี กึ ษา อําเภอเมืองปตั ตานี จังหวัดปัตตานี ท่ีมีสถานภาพในครอบครัวตา่ งกัน ในด้าน 29 การมีส่วนร่วมในการปฏบิ ัติการ 30 ตารางที่ 13 ผลการเปรียบเทียบการมสี ่วนร่วมของอาสาสมัครปอ้ งกันภยั ฝ่ายพลเรือน 31 (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลอื ผูป้ ระสบอุทกภัย : กรณศี ึกษาอําเภอเมอื ง ปตั ตานี จงั หวัดปัตตานี โดยจาํ แนกตามรายได/้ เดอื น 32 ตารางท่ี 14 ผลการวิเคราะห์เพอื่ เปรยี บเทยี บการมีส่วนรว่ มของอาสาสมัครปอ้ งกันภยั ฝ่าย 33 พลเรอื น (อปพร.) ในการใหค้ วามชว่ ยเหลือ ผู้ประสบอทุ กภยั : กรณีศึกษา 33 อาํ เภอเมอื งปัตตานี จังหวัดปตั ตานี ที่มีรายได/้ เดือนต่างกัน ในดา้ นการมี 34 สว่ นร่วมในผลประโยชน์ ตารางท่ี 15 ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนรว่ มของอาสาสมัครปอ้ งกนั ภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการใหค้ วามชว่ ยเหลือ ผ้ปู ระสบอทุ กภยั : กรณีศกึ ษาอาํ เภอเมอื ง ปตั ตานี จังหวัดปตั ตานี โดยจาํ แนกตามระยะเวลาทอ่ี าศัยในชมุ ชนจนถึง ปจั จบุ ัน ตารางที่ 16 ผลการวิเคราะห์เพือ่ เปรยี บเทียบการมีส่วนร่วมของอาสาสมคั รป้องกันภยั ฝา่ ย พลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบอทุ กภยั : กรณีศึกษา อาํ เภอเมืองปตั ตานี จงั หวดั ปัตตานี ทมี่ ีตามระยะเวลาที่อาศยั ในชมุ ชน จนถงึ ปัจจุบนั ตารางที่ 17 ปัญหาหรืออปุ สรรคที่สาํ คัญของการมีส่วนร่วมในการปอ้ งกนั อทุ กภยั ตารางที่ 18 ข้อเสนอแนะเก่ยี วกบั การมีส่วนร่วมในการปอ้ งกันอทุ กภัย ตารางท่ี 19 สรปุ ผลการทดสอบสมมุตฐิ าน

บทท่ี 1 บทนาํ ความสาํ คญั และทมี่ าของปัญหาวิจยั ประเทศไทยเป็นประเทศที่ต้ังอยู่ในเขตร้อนช้ืนท่ีได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมและพายุหมุนเขตร้อน จึงประสบปัญหาจากภัยพิบัติจากธรรมชาติ เช่น อุทกภัย ภัยจากแผ่นดินถล่ม ภัยแล้ง ภัยจากไฟป่า และ หมอกควันอยู่เป็นประจํา การพัฒนาประเทศอย่างขาดความสมดุลและขาดการคํานึงถึงผลกระทบด้าน สิ่งแวดล้อมอย่างรอบคอบในช่วงเวลาท่ีผ่านมา เป็นผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสภาพภูมิอากาศท้ังใน ระดับโลกและระดับท้องถ่ิน เกิดภาวะโลกร้อน ทําให้มีแนวโน้มการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติเพิ่มจํานวน มากข้ึน และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพ่ิมมากข้ึน สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ส่งผลกระทบ ต่อระบบเศรษฐกจิ สังคม และสภาพแวดล้อมซึง่ ไม่สามารถประเมนิ ค่าได้ จังหวัดปัตตานี เป็นจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร 1,055 กิโลเมตร มี เนื้อที่ประมาณ 1,940.35 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1,212,723 ล้านไร่ ประชากรทั้งสิ้น 669,961 คน (ข้อมูลจากบรรยายสรุปจังหวัดปัตตานี ปี 2556) ร้อยละ 86.25 นับถือศาสนาอิสลาม ร้อยละ 13.70 นับถือศาสนาพุทธ นับถือศาสนาคริสต์และศาสนาอ่ืน ๆ ร้อยละ 0.05 มีทุนทางสังคมท่ีสําคัญ คือ ทรัพยากรมนุษย์ ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม มีจุดอ่อน คือ คุณภาพการศึกษาอยู่ในเกณฑ์ ค่อนข้างต่ํา ทรัพยากรธรรมชาติถูกทําลาย มีปัญหาคุณภาพชีวิตความรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพย์สิน จังหวัดปัตตานี ประกอบด้วยอําเภอ 12 อําเภอ ในขณะนี้พื้นที่จังหวัดปัตตานีมีพื้นที่เสี่ยงต่อ การเกิดอุทกภัย ครอบคลุมทั้ง 12 อําเภอ ประกอบกับในปี 2556 จังหวัดปัตตานี ได้เกิดอุทกภัยข้ึน ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยได้เกิดอุทกภัยในพื้นท่ี 9 อําเภอ คือ อําเภอเมืองปัตตานี มายอ กะพ้อ สายบุรี ทุ่งยางแดง ปะนาเระ โคกโพธิ์ และอําเภอ ยะหริ่ง ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 10,699 ครัวเรือน 33,162 คน ซึ่งอําเภอเมืองปัตตานี เป็นพ้นื ทล่ี มุ่ รมิ แม่นํา้ ปัตตานีเกิดอุทกภยั เป็นประจาํ ทกุ ปที าํ ใหป้ ระชาชนได้รับความเดือดรอ้ น อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) คือ บุคคลท่ีอาสาและสมัครใจ โดยไม่หวัง ผลประโยชน์ตอบแทนเป็นสินจ้างใด ๆ เพื่อช่วยเหลือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยจะต้อง ผ่านการฝึกอบรมตามหลักสตู รอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วย กิจการอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนพ.ศ. 2553 อปพร. จึงเป็นอาสาสมัครรูปแบบหนึ่งท่ีมี กฎหมายรองรบั และ อปพร.จะเปน็ พลังสําคญั ในการขบั เคล่อื นภารกจิ การปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย ในเขตพ้ืนที่รับผิดชอบ รวมท้ังสนับสนุนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้กับพ้ืนท่ีใกล้เคียง ในการนี้ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน จึงมีความสําคัญอย่างย่ิงในการแบ่งเบาภารกิจของรัฐ จะเห็นได้ว่า ภัยพิบัติท่ีเกิดขึ้น ล้วนก่อให้เกิดความสูญเสีย ในขณะท่ีรัฐไม่อาจแบกรับแต่โดยลําพังได้ จึงจําเป็นต้อง

2   อาศัยเครือข่ายอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเข้ามามีส่วนร่วมด้วยความเสียสละ และสามารถ ช่วยเหลือทางราชการไดเ้ ปน็ อย่างดี ดังน้ัน ผู้วิจัยจึงทําการศึกษาเรื่องปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัย ฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี เพื่อให้หน่วยงานนําผลการวิจัยไปใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนางานอาสาสมัครป้องกันภัย ฝา่ ยพลเรอื น (อปพร.) ให้มีประสิทธภิ าพยิ่งขึน้ วัตถปุ ระสงคข์ องการศึกษา การศึกษาในคร้งั น้ี มีวัตถุประสงค์ดงั ต่อไปนีค้ อื 1. เพอ่ื ศึกษาสภาพโดยท่ัวไปของการมสี ว่ นรว่ มของอาสาสมคั รป้องกันภัยฝา่ ยพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลอื ผ้ปู ระสบอทุ กภัย : กรณศี กึ ษาอําเภอเมอื งปตั ตานี จังหวัดปตั ตานี 2. เพือ่ เปรยี บเทยี บปัจจยั ท่ีมอี ทิ ธพิ ลต่อการมสี ่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกนั ภัยฝา่ ยพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความชว่ ยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณศี ึกษาอาํ เภอเมืองปัตตานี จงั หวดั ปัตตานี ขอบเขตการศึกษา ผู้วจิ ยั ใชก้ ารวจิ ัยเชงิ ปริมาณสําหรับการศึกษาในครั้งน้ี โดยเลือกใช้วิธีการสาํ รวจด้วยแบบสอบถาม ทีส่ ร้างข้นึ และได้กาํ หนดขอบเขตของการวิจัยไวด้ งั นี้ คือ 1. ประชากรทใี่ ชศ้ ึกษาเป็นอาสาสมคั รป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในพื้นทอ่ี ําเภอเมือง ปตั ตานี จังหวัดปตั ตานี จํานวน 556 คน 2. ตัวอย่างที่ใช้ศึกษาเลือกจากประชากร โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างจากตารางกําหนดขนาด กลุ่ม ตวั อยา่ งของเคร็จซีและมอร์แกน จากจํานวนประชากร 556 คน ได้ขนาดตัวอย่างจํานวน 234 คน แต่ เน่ืองจากขอ้ จํากัดของระยะเวลาในการวิจยั จงึ ใชแ้ บบสอบถามกลุ่มตวั อยา่ งเพยี ง 120 ชดุ 3. ตัวแปรทเี่ กย่ี วขอ้ งกับการศึกษา ประกอบดว้ ย ตัวแปรตาม คือ การมีส่วนร่วมของ อปพร. ในด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ด้านการมี สว่ นร่วมในการปฏบิ ตั กิ าร ด้านการมสี ว่ นรว่ มในผลประโยชน์ ดา้ นการมสี ว่ นรว่ มในการประเมนิ ผล ตัวแปรอิสระ คือ เพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพในครอบครัว รายได้/เดือน ระยะเวลาท่อี าศัยในชมุ ชน 4. สถานที่ศกึ ษาท่ีผู้วจิ ัยใช้เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู คอื พ้ืนทอี่ ําเภอเมืองปตั ตานี จังหวัดปตั ตานี 5. ระยะเวลาในการศกึ ษา เรม่ิ ตงั้ แต่มกราคม – มนี าคม 2557 ประโยชน์ทใ่ี ช้ในการศกึ ษา ผลจากการศกึ ษามปี ระโยชน์ตอ่ สว่ นที่เกีย่ วข้อง คือ นําเสนอผลงานวจิ ยั กับหน่วยงานเพอ่ื เปน็ ขอ้ มูลในการพฒั นางานอาสาสมคั รปอ้ งกนั ภยั ฝ่ายพลเรอื น (อปพร.) ใหม้ ปี ระสิทธิภาพย่ิงขึ้น

3   นยิ ามศัพทเ์ ฉพาะ คาํ นิยามศพั ทเ์ ฉพาะในการศกึ ษาในครงั้ น้ี ไดแ้ ก่ 1. อุทกภยั หมายถึง เหตุการณ์ท่ีมีน้ําท่วมพ้ืนดินสูงกว่าระดับปกติ ซึ่งมีสาเหตุจากมีปริมาณ นํ้าฝนมากจนทําให้มีปริมาณน้ําส่วนเกินมาเติมปริมาณน้ําผิวดินท่ีมีอยู่ตามสภาพปกติ จนเกินขีด ความสามารถการระบายนํ้าของแม่น้ํา ลําคลอง และยังมีสาเหตุมาจากการกระทําของมนุษย์ โดยการ ปิดกั้นการไหลของนํ้าตามธรรมชาติ ทั้งเจตนาและไม่เจตนา จนเป็นอันตรายต่อชีวิต ทรัพย์สินของ ประชาชนและส่งิ แวดล้อม 2. อปพร. หมายถึง อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนท่ีอยู่ในอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัด ปัตตานีเท่านั้น

4   บทที่ 2 แนวคดิ ทฤษฎแี ละงานวิจยั ทีเ่ กีย่ วข้อง บทนเ้ี ป็นการนําเสนอ แนวคดิ ทฤษฎีและงานวิจยั ทเี่ กี่ยวขอ้ งกับตัวแปรของการศกึ ษาซงึ่ ผวู้ ิจัยได้ทํา การสบื คน้ จากเอกสารทางวิชาการและงานวจิ ยั จากแหลง่ ตา่ ง ๆ โดยแบง่ เนือ้ หาของบทนเ้ี ป็น 4 สว่ น คือ 1. แนวคดิ และทฤษฎเี รื่องการมีสว่ นรว่ ม 2. พระราชบญั ญัตปิ ้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 3. ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ด้วยกิจการอาสาสมคั รปอ้ งกนั ภัยฝา่ ยพลเรือน พ.ศ. 2553 4. งานวจิ ัยทีเ่ กี่ยวข้อง รายละเอียดในแต่ละสว่ นทีก่ ล่าวมาขา้ งต้น มีสาระสําคญั ดังนี้ 1. แนวคิดและทฤษฎเี รอื่ งการมีสว่ นร่วม 1.1 ความหมายของการมสี ่วนร่วม การมีส่วนร่วมของประชาชน (People’s Participation) ได้มีผู้ทําการศึกษาวิจัยไว้เป็น จํานวนมาก ซ่ึงมองโดยภาพรวมการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นกลวิธีสําคัญที่จะทําให้การดําเนินงาน ใด ๆ ในชมุ ชนประสบผลสําเร็จ มีผูใ้ ห้ความหมายของการมีส่วนร่วมไว้หลากหลาย ดังน้ี สํานักงานแรงงานระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ (International Labour Office, อ้างถึงในชาตรี สองศรี, 2542 : 8) และเออร์วิน ได้ให้แนวคิดเก่ียวกับความหมายของการมีส่วนร่วมว่า การพัฒนาแบบมีส่วนร่วมคือกระบวนการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนเก่ียวข้องในการดําเนินงานพัฒนา ร่วมคิด ตดั สนิ ใจแก้ปัญหาของตนเอง เน้นการมสี ่วนร่วมเกี่ยวขอ้ งอย่างแขง็ ขนั ของประชาชน ใช้ความคิด สร้างสรรค์ และสนับสนุนติดตามผลการปฏิบัติงานขององค์การและเจ้าหน้าท่ีท่ีเกี่ยวข้อง ซึ่งสอดคล้อง กับอิบราเฮ็ม ณรงคร์ กั ษาเขต และคนอื่น (2548 : 17) ที่กล่าวไว้ว่า การมีส่วนร่วม คือ กระบวนการท่ี ประชาชนได้เข้าไปมีส่วนในการวางแผน การดําเนินการ การตัดสินใจ หรือร่วมแสดงความคิดเห็นใน เร่ืองเก่ียวกับความต้องการที่แท้จริงของคนหรือสังคม รวมไปถึงการติดตามและประเมินผลในกิจกรรมที่ เก่ียวข้องกับตนและสังคม ท้ังทางตรงและทางอ้อม โดยการเข้าไปมีส่วนร่วมนั้นจะต้องดําเนินไปตาม รูปแบบ และกระบวนการ หรือตามสิทธิเสรภี าพทกี่ ฎหมายไดก้ าํ หนดไว้ โฟนารอฟฟ์ (Fonaroff, อา้ งถึงใน จนั ทมิ า ลม่ิ หัน, 2543 : 16-17) กลา่ วถงึ การมีส่วนร่วม ของชุมชนว่า เป็นกระบวนการที่พัฒนาและเปล่ียนแปลง โดยที่ในกระบวนการน้ีอาจรวมไว้ซึ่งชนิดของ การมีส่วนร่วมหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งชนิด คือ การวางแผน การตัดสินใจ การดําเนินการ (การมีส่วน ร่วมในเชิงองคก์ ร และบริหารจัดการซ่ึงเกี่ยวข้องกับทรัพยากรด้านแรงงาน วัสดุ สิ่งของ เงินและการนิเทศ งาน) การใช้บริการจากโครงการ และการมีส่วนร่วมในการได้รับประโยชน์ ด้านสังคม วัสดุ และ บุคลากรจากโครงการ และการมีส่วนร่วมของชุมชนอาจปรับเปลี่ยนจากการมีส่วนร่วมในฐานะกลวิธีการ พัฒนา มาสู่การมีส่วนร่วมในฐานะเป้าหมายของการพัฒนา ดังนี้ย่อมแสดงนัยยะการยกระดับการมี ส่วนร่วม ซ่ึงนักวิชาการบางท่านอาจแบ่งระดับการมีส่วนร่วมเป็นการมีส่วนร่วมแบบถูกกระทํา กับการมี

5   ส่วนร่วมแบบเป็นฝ่ายกระทํา ซ่ึงกรณีน้ีจะมีการใช้คํา “การเข้าร่วมของชุมชน” เพื่อแสดงการมีส่วนร่วม ครบทุกมิติ (การวางแผน การดําเนินงาน และการประเมินผล) และยังมองกระบวนการการมีส่วนร่วมของ ชมุ ชนควรมองในลกั ษณะของกิจกรรมท่ตี อ่ เน่ือง ในช่วงเวลา (Continum Of Activity Over Time) การ มองลักษณะเช่นน้ีจะไม่ก่อให้เกิดการแยกเอาการมีส่วนร่วมในการวางเป็นในข้ันตอนแรกเริ่มของกิจกรรม ออกจากการวางแผนที่เกิดข้ึนภายหลัง อันหมายถึงกิจกรรมประเมินผล นอกจากนั้น ในเร่ืองของการมี ส่วนรว่ มในประโยชนข์ องกจิ กรรมจะขึ้นอยกู่ ับการกําหนดของโครงการท่ีจะให้ใครร่วมในอะไรและข้ันตอน ไหนอย่างไร โดยชุมชนน้ันไม่ได้ถูกกําหนดด้วยเกณฑ์เฉพาะอาณาเขตทางภูมิศาสตร์เท่าน้ัน แต่ชุมชนอาจ กําหนดบนพ้ืนฐานของกลุ่มศาสนา กลุ่มเครือญาติ หรืออาชีพ ปัญหาของการอธิบายว่าชุมชน (Community) ในความหมายของการเปน็ กลมุ่ (Collective) เป็นสิ่งทีย่ ากท่จี ะกาํ หนดลงไปตายตัว จากการให้ความหมายของการมีส่วนร่วมอาจกล่าวโดยสรุปว่า การมีส่วนร่วมคือ กระบวนการท่ีประชาชนได้เข้าไปมสี ว่ นรว่ มในการดําเนนิ งานในกิจกรรมนน้ั ๆ ตัง้ แต่การมีส่วนร่วมในการ ตัดสินใจ การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการ การมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ และการมีส่วนร่วมในการ ประเมินผล ซ่ึงเป็นการสร้างโอกาสให้ประชาชนได้พัฒนาขีดความสามารถในการพัฒนาชุมชนเองอย่าง ต่อเน่ือง เพือ่ ใหเ้ กดิ ผลสาํ เรจ็ อยา่ งย่ังยืน โดยกจิ กรรมการพัฒนานน้ั จะตอ้ งเร่ิมจากพนื้ ฐานของชุมชน 1.2 ลักษณะการมสี ว่ นร่วม โคเฮน และอัฟฮ็อฟ (Cohen and Uphoff, อ้างถึงในอิบราเฮ็ม ณรงค์รักษาเขต และ คณะ, 2548 : 30) ไดก้ ล่าวถึงลักษณะการมีส่วนร่วมไว้ 4 ขั้นตอน คือ 1) การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ประกอบด้วย การริเริ่มตัดสินใจ ดําเนินการตัดสิน ตดั สินใจลงมอื ปฏิบัตกิ าร 2) การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการ ประกอบดว้ ย การสนบั สนนุ ทางดา้ นทรพั ยากร การเขา้ ร่วมในการบรหิ าร การประสานขอความรว่ มมือ 3) การมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นผลประโยชน์ทางด้านวัตถุ ผลประโยชน์ ทางสังคม ผลประโยชน์ส่วนบคุ คล 4) การมีส่วนร่วมในการประเมินผล เป็นการควบคุมและการตรวจสอบการดําเนิน กิจกรรมท้ังหมด และเป็นแสดงถงึ การปรบั ตัวในการมีสว่ นร่วมตอ่ ไป 1.3 ผลอนั เกดิ จากการมีสว่ นร่วม ในการเข้าไปมีส่วนร่วมของประชาชนในการดําเนินงานตามโครงการต่าง ๆ น้ัน ย่อมมีทั้ง ผลดีและผลเสียในการดําเนินการ โดยนรินทร์ชัย พัฒนพงศา (2547 : 27-28) อธิบายข้อดีและข้อเสีย ของการมสี ่วนร่วมไว้ดงั นี้ ขอ้ ดี 1) ทําให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ซึ่งการมีส่วนร่วมในการทํากิจกรรมนั้นจะทําให้แต่ ละฝ่ายได้เรียนรู้ซ่ึงกันและกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความคิดเห็นซ่ึงกันและกัน จนไปสู่การยอมรับ ความแตกต่างในรปู รา่ ง ความรู้ นสิ ัย ค่านยิ มตา่ ง ๆ อนั เป็นรากฐานสําคญั ของประชาธปิ ไตย 2) ทําให้งานที่ยากบางอย่างสําเร็จขึ้นมาได้ เพราะงานบางอย่างจะต้องอาศัยความ ร่วมมือของหลาย ๆ คน หรือหลาย ๆ ฝ่าย จึงจะประสบความสําเร็จ เช่น การสร้างบ้าน สร้างเจดีย์ หรือสิ่งมหัศจรรยข์ องโลก

6   3) ทําให้บุคคลคิดช่วยตัวเอง เพราะการที่ประชาชนนั้นได้รับความช่วยเหลือจากรัฐมา ตลอดก็จะทําใหต้ วั เองมวั แต่รอคอยความช่วยเหลอื จากรัฐตอ่ ไป และไมร่ ูจ้ ักท่ีจะดแู ลและเหน็ คณุ ค่าของสิ่ง ท่ไี ด้รับมา 4) ทําให้ความช่วยเหลือน้ันตรงกับที่ตัวเองต้องการ โดยเฉพาะการเข้าไปมีส่วนร่วมใน การเข้าประชุมเพื่อซักถามปัญหาความต้องการ เพ่ือให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงกับความต้องการของ ประชาชนอยา่ งแท้จรงิ 5) ทําให้ประหยดั ทรพั ยากรลงได้ เพราะการที่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงกับความต้องการ ของประชาชนนน้ั เปน็ การชว่ ยลดปญั หาการใชท้ รพั ยากรอย่างสิน้ เปลืองลงได้ 6) ทําให้รู้สึกเป็นเจ้าของ การเข้าร่วมคิด ร่วมทํา จะทําให้เขารู้สึกว่าเข้าไปมีส่วนร่วม และเป็นเจา้ ของ และก็จะทาํ ให้เขารูจ้ ักดแู ลรกั ษาของเหล่านน้ั ด้วย 7) เพิ่มทางเลือกท่ีดีเพ่ือการตัดสินใจ เพราะการได้เข้าร่วมรับรู้โครงการอย่างละเอียด ทําให้สามารถช่วยเพ่ิมทางเลือกในการแก้ปัญหา หรือเพ่ิมทางออกได้หลายทางท่ีมีความสมบูรณ์และมี ความเหมาะสมที่สุด 8) เกิดการสร้างฉันทามติ หรอื การเห็นพ้องต้องกันขึ้นมาได้ 9) ทําให้สังคมหรือชุมชนเข้มแข็ง เพราะชุมชนที่เข้มแข็งควรต้องมีส่วนร่วมกันตัดสินใจ ร่วมดแู ล ปกครอง พิทักษ์ผลประโยชนข์ องชุมชน 10) ทําให้การดําเนินงานของสังคมหรือชุมชนน้ันโปร่งใส เพราะการมีส่วนร่วมเพ่ือ กิจกรรมสาธารณะอยเู่ สมอทําให้ผ้ทู ี่จะทจุ ริต คดโกง กจ็ ะหวั่นเกรง และกระทําไดย้ าก 11) ทาํ ใหบ้ คุ คลท่ยี อมรับยาก ยอมรับโครงการนั้นได้ โดยยอมรับว่าเม่ือมีโครงการแล้ว ตนอาจเสียประโยชน์ไปบ้างแต่เม่ือมีค่าชดเชยที่เหมาะสม และคนอ่ืนยอมรับโครงการนั้นก็เห็นแก่ ประโยชนข์ องคนสว่ นใหญ่ ข้อเสยี 1) ทาํ ให้เกดิ กิจกรรมงานต่าง ๆ ที่ ล่าช้าหรืออาจไม่เกดิ ข้ึน 2) ทาํ ให้แตล่ ะฝ่ายขัดขอ้ ง 3) ทําใหเ้ สียทรพั ยากร 4) การมสี ว่ นร่วมทาํ ใหเ้ กิดแตกความสามคั คี 5) ทาํ ใหต้ า่ งฝ่ายต่างเสียเวลา 6) การมีส่วนร่วมทแี่ ฝงเร้นด้วยจดุ ประสงค์อ่นื จะทําใหว้ ธิ ีการมีส่วนรว่ มสญู เปลา่ 7) การมีส่วนรว่ มจะทาํ ใหเ้ กดิ การขยายอิทธิพลของบรษิ ทั ขา้ มชาตเิ ป็นไปโดยงา่ ย 2. พระราชบญั ญตั ิป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั พ.ศ. 2550 พระราชบญั ญตั ิปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั ไดป้ ระกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 124 ตอนที่ 52 ก วันที่ 7 กันยายน 2550 โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นไป (มาตรา 2 กําหนดให้พระราชบัญญัติน้ีมีผลใช้บังคับเม่ือพ้นกําหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เปน็ ต้นไป)

7   มาตรา ๔ ในพระราชบัญญตั นิ ี้ “สาธารณภยั ” หมายความวา่ อัคคภี ยั วาตภัย อุทกภัย ภัยแล้ง โรคระบาดในมนุษย์ โรคระบาดสัตว์ โรคระบาดสัตว์นํ้า การระบาดของศัตรูพืช ตลอดจนภัยอ่ืน ๆ อันมีผลกระทบต่อ สาธารณชน ไม่ว่าเกิดจากธรรมชาติ มีผู้ทําให้เกิดขึ้น อุบัติเหตุ หรือเหตุอื่นใด ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกายของประชาชน หรือความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชน หรือของรัฐ และให้หมายความ รวมถงึ ภยั ทางอากาศ และการก่อวินาศกรรมดว้ ย “ภยั ทางอากาศ” หมายความวา่ ภยั อนั เกดิ จากการโจมตีทางอากาศ “การก่อวินาศกรรม” หมายความว่า การกระทําใด ๆ อันเป็นการมุ่งทําลายทรัพย์สิน ของประชาชนหรือของรัฐ หรือส่ิงอันเป็นสาธารณูปโภค หรือการรบกวน ขัดขวางหน่วงเหนี่ยวระบบการ ปฏิบัติงานใด ๆ ตลอดจนการประทุษร้ายต่อบุคคลอันเป็นการก่อให้เกิดความป่ันป่วนทางการเมืองการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยมงุ่ หมายทีจ่ ะก่อใหเ้ กดิ ความเสียหายตอ่ ความม่นั คงของรัฐ “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และ หนว่ ยงานอื่นของรัฐ แตไ่ ม่หมายความรวมถึงองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ “องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน” หมายความว่า องค์การบริหารส่วนตําบล เทศบาล องคก์ ารบริหารส่วนจังหวัด เมืองพัทยา กรุงเทพมหานคร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมาย จัดตั้ง “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งพื้นที่” หมายความว่า องค์การบริหารส่วนตําบล เทศบาล เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินอื่นที่มีกฎหมายจัดต้ัง แต่ไม่หมายความรวมถึง องค์การบริหารส่วนจงั หวัด และกรงุ เทพมหานคร “จงั หวดั ” ไม่หมายความรวมถงึ กรุงเทพมหานคร “อําเภอ” หมายความรวมถึงก่งิ อาํ เภอ แต่ไมห่ มายความรวมถึงเขตในกรงุ เทพมหานคร “นายอาํ เภอ” หมายความรวมถึงปลดั อาํ เภอผเู้ ป็นหัวหน้าประจาํ ก่ิงอําเภอ “ผบู้ รหิ ารทอ้ งถิน่ ” หมายความว่า นายกองค์การบริหารส่วนตําบล นายกเทศมนตรี นายก เมอื งพทั ยา และหวั หน้าผู้บรหิ ารขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ แหง่ พื้นทีอ่ ่ืน “ผบู้ ญั ชาการ” หมายความว่า ผูบ้ ญั ชาการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ “ผู้อํานวยการ” หมายความว่า ผู้อํานวยการกลาง ผู้อํานวยการจังหวัด ผู้อํานวยการ อาํ เภอ ผู้อํานวยการท้องถิน่ และผ้อู าํ นวยการกรงุ เทพมหานคร “เจ้าพนักงาน” หมายความว่า ผู้ซ่ึงได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าท่ีในการป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัยในพ้นื ที่ตา่ ง ๆ ตามพระราชบัญญตั ินี้ “อาสาสมัคร” หมายความว่า อาสาสมคั รป้องกันภัยฝา่ ยพลเรอื นตามพระราชบัญญตั นิ ี้ “อธิบดี” หมายความว่า อธบิ ดีกรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั “รฐั มนตร”ี หมายความว่า รฐั มนตรผี รู้ ักษาการตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ มาตรา ๕ ใหร้ ัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้ มีอํานาจออกกฎกระทรวง ระเบียบ ข้อบังคับและประกาศเพื่อปฏบิ ตั ิการตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ มาตรา ๔๑ ให้ผู้อํานวยการจัดให้มีอาสาสมัครในพ้ืนท่ีที่รับผิดชอบ เพ่ือปฏิบัติหน้าท่ี ดังต่อไปนี้

8   (๑) ให้ความช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั (๒) ปฏิบตั ิหน้าทอี่ ่นื ตามท่ีผู้อํานวยการมอบหมายและตามระเบียบที่กระทรวงมหาดไทย กําหนด การบริหารและกํากับดูแลอาสาสมัคร การคัดเลือก การฝึกอบรม สิทธิ หน้าที่ และวินัย ของอาสาสมัคร ให้เปน็ ไปตามระเบยี บทก่ี ระทรวงมหาดไทยกาํ หนด มาตรา ๔๒ ในกรณีท่ีองค์การสาธารณกุศลหรือบุคคลใดเข้ามาช่วยเหลือการปฏิบัติ หน้าท่ีของเจ้าพนักงานในระหว่างเกิดสาธารณภัย ให้ผู้อํานวยการหรือเจ้าพนักงานท่ีได้รับมอบหมาย มี อํานาจมอบหมายภารกิจหรือจัดสถานท่ีให้องค์การสาธารณกุศลและบุคคลดังกล่าวในการให้ความ ช่วยเหลือได้ตามท่ีเห็นสมควรเพ่ือให้การช่วยเหลือหรือบรรเทาสาธารณภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพให้ ผู้อาํ นวยการแจ้งใหอ้ งค์การสาธารณกุศลและบุคคล ทมี่ ีวัตถุประสงคใ์ นการใหค้ วามช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย ท่ีอยู่ในพ้ืนที่ท่ีรับผิดชอบ ทราบถึงแนวทางการปฏิบัติตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด หรือแผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยกรงุ เทพมหานคร และวิธีการประสานงานในการปฏิบตั ิหน้าท่ี 3. ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยกจิ การอาสาสมคั รปอ้ งกนั ภยั ฝ่ายพลเรือน พ.ศ. 2553 ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยกิจการอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน พ.ศ. 2553 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 127 ตอนพิเศษ 109 ง วันที่ 14 กันยายน 2553 โดยมีผลใช้ บังคับตง้ั แตว่ ันท่ี 15 กนั ยายน 2553 เปน็ ตน้ ไป ขอ้ ๓ ในระเบยี บนี้ “อปพร.” หมายความวา่ อาสาสมคั รปอ้ งกนั ภยั ฝา่ ยพลเรอื น “ศูนย์ อปพร.” หมายความว่า ศูนย์ อปพร. กลาง ศูนย์ อปพร. เขต ศูนย์ อปพร. จงั หวดั ศนู ย์ อปพร. กรงุ เทพมหานคร ศูนย์ อปพร. อาํ เภอ ศนู ย์ อปพร. เขตในกรุงเทพมหานคร ศูนย์ อปพร.เมอื งพัทยา ศูนย์ อปพร. เทศบาล และศูนย์ อปพร. องค์การบรหิ ารสว่ นตําบล “ผ้บู ญั ชาการ” หมายความว่า ผ้บู ญั ชาการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แห่งชาติ “ผอู้ ํานวยการ” หมายความวา่ ผอู้ ํานวยการกลาง ผอู้ ํานวยการจงั หวดั ผ้อู ํานวยการ อําเภอ ผอู้ ํานวยการท้องถ่นิ และผูอ้ าํ นวยการกรงุ เทพมหานคร ข้อ 28 ให้ผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. เทศบาล ผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. องค์การบริหาร ส่วนตําบล ผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. เขตในกรุงเทพมหานคร และผู้อํานวยการศูนย์ อปพร.เมืองพัทยา เป็นผู้รับสมัครและคดั เลอื กบุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องหา้ ม เขา้ เป็น อปพร. อปพร. ต้องมีคณุ สมบัตแิ ละไมม่ ลี กั ษณะตอ้ งหา้ ม ดังต่อไปนี้ (1) มสี ญั ชาติไทย (2) มอี ายุไมต่ า่ํ กวา่ สบิ แปดปบี รบิ รู ณ์ (3) มภี มู ลิ ําเนาหรือถนิ่ ทอ่ี ยู่ในเขตศนู ย์ อปพร. นั้น (4) เลื่อมใสการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็น ประมุข (5) ไม่เปน็ คนไรค้ วามสามารถ หรอื คนเสมอื นไรค้ วามสามารถ หรอื คนวกิ ลจรติ

9   (6) ไม่เป็นผู้เส่ือมเสียในทางศีลธรรม หรือในทางทุจริต หรือเป็นภัยต่อสังคม ผู้สมัครที่ ได้รับคัดเลือกว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามท่ีกําหนดในวรรคสอง ต้องเข้ารับการ ฝกึ อบรมหลักสตู รการฝกึ อบรม อปพร. จงึ จะไดร้ ับการขน้ึ ทะเบยี นเป็น อปพร. ขอ้ 29 อปพร. พ้นจากสมาชิกภาพเมื่อ (1) ขาดคณุ สมบตั ิหรอื มีลกั ษณะต้องห้ามอย่างหนึง่ อยา่ งใดตามข้อ ๒๘ และผู้อํานวยการ ศูนย์ อปพร. ตน้ สังกัดสงั่ ให้พ้นจากสมาชิกภาพ (2) ตาย (3) ลาออก (4) ผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. ตน้ สังกัด ส่งั ใหพ้ ้นจากสมาชกิ ภาพ ตามข้อ ๓๖ ข้อ 30 กรณี อปพร. พ้นจากสมาชิกภาพตามข้อ ๒๙ หากประสงค์จะขอกลับเข้ามาเป็น อปพร. อีก ใหท้ ําคําขอเปน็ หนงั สือย่นื ต่อผอู้ าํ นวยการศูนย์ อปพร. ตามขอ้ ๒๘ วรรคหนง่ึ ข้อ 31 กรณี อปพร. ผู้ใดมีความประสงค์จะย้ายไปสังกัดศูนย์ อปพร. อื่น เนื่องจากย้าย ภูมิลําเนาหรือถิ่นท่ีอยู่ หรือมีเหตุจําเป็นอื่นใด ให้ทําคําขอยื่นต่อผู้อํานวยการศูนย์ อปพร.ต้นสังกัด และ ให้ผ้อู ํานวยการศนู ย์ อปพร. ท่ไี ดร้ ับคําขอทําหนังสือส่งตัว พร้อมทะเบียนประวัติมอบให้อปพร. ผู้นั้นถือไป รายงานตวั ตอ่ ผูอ้ าํ นวยการศนู ย์ อปพร. สังกดั ใหม่ และใหศ้ นู ย์ อปพร. น้ันเสนอผูอ้ าํ นวยการศนู ย์ อปพร. จังหวัด หรือผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. กรงุ เทพมหานคร ออกบัตรประจําตัวใหม่ให้และเรียกบัตรประจําตัว เดิมคืน ข้อ 32 ให้ผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. เทศบาล ผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. องค์การบริหาร ส่วนตําบล ผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. เขตในกรุงเทพมหานคร และผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. เมืองพัทยา จดั ทาํ ทะเบยี นประวัติของ อปพร. ตามท่ีศูนย์ อปพร. กลาง กําหนด ให้เป็นปจั จบุ ัน ข้อ 33 ให้ผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. กลาง ผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. จังหวัดและ ผ้อู าํ นวยการศูนย์ อปพร. กรงุ เทพมหานคร เป็นผู้มีอํานาจอนุมัติโครงการฝึกอบรม อปพร. และกํากับดูแล ใหเ้ ปน็ ไปตามหลักสตู รท่กี ําหนด ข้อ 34 ให้ศูนย์ อปพร. ที่จัดฝึกอบรมหลักสูตรการอบรม อปพร. จดั ทําเครื่องหมาย อปพร. และวุฒิบัตร เพื่อมอบให้แก่ อปพร. ที่ผ่านการฝึกอบรม โดยเครื่องหมาย อปพร. ใหเ้ ป็นไปตามแบบท้ายระเบียบน้ี สว่ นวฒุ บิ ตั รให้เป็นไปตามรูปแบบท่ีศนู ย์ อปพร. กลางกาํ หนด ข้อ 35 อปพร. มีสิทธิ ดังต่อไปนี้ (1) แตง่ เครอื่ งแบบและประดบั เครือ่ งหมาย อปพร. (2) ใช้วิทยุสื่อสารของทางราชการในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายเป็น ลายลักษณ์อกั ษร (3) ได้รับการคุ้มครองตามระเบียบและกฎหมายในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย และหน้าท่ีอื่น ตามคําสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ ผู้อํานวยการ รองผู้อํานวยการ ผู้ช่วยผู้อํานวยการ หรือเจ้าพนักงาน ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย ข้อ 36 อปพร. จะตอ้ งรกั ษาและปฏิบตั ติ ามวินัยโดยเครง่ ครดั ดังตอ่ ไปน้ี (1) สนับสนุนและดํารงรักษาการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมขุ

10   (2) ปฏิบตั ิตามคาํ สั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้บังคับบัญชาโดยเคร่งครัด และสนับสนุน การปฏิบัตงิ านของศูนย์ อปพร. ท่ีตนสังกดั (3) แต่งเครือ่ งแบบให้ถกู ต้องตามระเบยี บในขณะปฏิบัตหิ น้าที่ (4) ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต อดทน ไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยและ ไม่หวังผลประโยชน์ใด ๆ เป็นการตอบแทน (5) รกั ษาความสามัคคใี นหมคู่ ณะและเสียสละประโยชนส์ ว่ นตวั เพ่อื ส่วนรวม (6) ประพฤตปิ ฏิบัติตนอยู่ในศลี ธรรมอนั ดี (7) ไม่เสพสุราของมึนเมาในขณะปฏิบตั หิ น้าท่ี (8) ไม่ใชก้ ิริยาวาจาท่ีไมส่ ุภาพตอ่ ประชาชน (9) ไมร่ ายงานเท็จตอ่ ผบู้ งั คับบัญชา (10) ไม่เปิดเผยความลบั ทางราชการ (11) ไม่แสวงหาผลประโยชน์อันมิชอบด้วยกฎหมายเพื่อตนเอง หรือผู้อ่ืนจากการปฏิบัติ หน้าที่ กรณี อปพร. กระทําผิดวินัยตามวรรคหนึ่ง และเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทาง ราชการหรือกิจการ อปพร. ให้ผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. ที่ผู้น้ันสังกัดมีอํานาจสั่งให้ อปพร. ผู้กระทําผิด พ้นจากสมาชกิ ภาพ ข้อ 43 ให้ศูนย์ อปพร. เทศบาล ศูนย์ อปพร. องค์การบริหารส่วนตําบล ศูนย์ อปพร. เขตในกรงุ เทพมหานคร และศนู ย์ อปพร. เมืองพทั ยา จดั ทําบัตรประจําตวั อปพร. ตามแบบทา้ ยระเบยี บน้ี เสนอให้ผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. จังหวัด หรือผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. กรุงเทพมหานครออกบัตร ประจําตวั อปพร. เพือ่ มอบให้แก่ อปพร. ข้อ 44 บัตรประจําตัว อปพร. ตามข้อ 43 วรรคหนึ่ง ให้มีอายุสี่ปี เมื่อบัตรประจําตัว ชํารุดสูญหาย หมดอายุ หรือมีการเปลี่ยนแปลงในสาระสําคัญ เช่น ชื่อตัว ช่ือสกุล ให้ อปพร. ผู้นั้นยื่น คําร้องตามแบบที่ศูนย์ อปพร. กลางกําหนดต่อผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. เทศบาล ผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. องค์การบริหารส่วนตําบล ผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. เขตในกรุงเทพมหานคร หรือผู้อํานวยการ ศูนย์อปพร. เมืองพัทยา แล้วแต่กรณี เพื่อเสนอให้ผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. จังหวัด หรือผู้อํานวยการศูนย์ อปพร. กรงุ เทพมหานคร พจิ ารณาดาํ เนินการออกบตั รประจําตัวใหม่ใหต้ ่อไป 4. งานวิจยั ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ดวงเดอื น นกทวี (2548) ไดศ้ กึ ษา การมสี ่วนรว่ มของประชาชนในการจดั ทําแผนพัฒนา เทศบาลนครภูเก็ต ซ่ึงผลการศึกษาพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการจัดทําแผนพัฒนาอยู่ใน ระดับปานกลาง และการมสี ่วนรว่ มของประชาชนในการจัดทําแผนพัฒนา จําแนกตามลักษณะส่วนบุคคล พบว่า เพศ สถานภาพ อาชีพ รายได้ มีผลต่อการมีส่วนร่วมในการจัดทําแผนพัฒนาที่นัยสําคัญทางสถิติที่ ระดบั 0.05 แต่อายุ ระดับการศกึ ษา ไม่มผี ลตอ่ การมสี ว่ นรว่ มในการจดั ทําแผนพัฒนา ชัชวาล เอ่ียมเจริญ (2547) ได้ศึกษา การมีส่วนร่วมของกํานันและผู้ใหญ่บ้านในการ ป้องกันอาชญากรรมในจังหวัดนนทบุรี ผลการวิจัยพบว่า การมีส่วนร่วมในการป้องกันอาชญากรรมอยู่ใน ระดับปานกลาง ปัจจัยท่ีมีผลต่อการมีส่วนร่วมมี 5 ปัจจัย คือ เพศ ระดับการศึกษา สถานภาพสมรส

11   ระยะเวลาในการดํารงตําแหน่ง การเคยได้รับความรู้เกี่ยวกับการป้องกันอาชญากรรม ส่วนอายุ อาชีพ ความรู้ความเข้าใจในการป้องกันอาชญากรรม ไม่มผี ลตอ่ การมีสว่ นร่วมในการปอ้ งกนั อาชญากรรม เอกสิทธ์ิ สุทธิศาสนกุล (2545) ได้ศึกษา ปัจจัยท่ีมีผลต่อการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการปกครองท้องถ่ินขององค์การบริหารส่วนตําบล จังหวัดกาญจนบุรี ผลการศึกษาวิจัยพบว่า ปัจจัย ส่วนบุคคล ได้แก่ อาชีพ ระดับการศึกษา ระยะเวลา เข้ามาต้ังถ่ินฐานในตําบล การเป็นสมาชิกกลุ่มทาง สังคม ความรู้ความเข้าใจเรื่องการปกครองส่วนท้องถ่ิน และภาวะผู้นํา มีผลต่อการมีส่วนร่วมของ ประชาชนการปกครองสว่ นท้องถิน่ ขององคก์ ารบรหิ ารส่วนตําบล จังหวัดกาญจนบุรี ส่วน เพศ อายุ และ รายได้ ไม่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปกครองส่วนท้องถ่ิน ในด้านการมีส่วนร่วมของ ประชาชนในการปกครองส่วนท้องถ่ิน อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ประชาชนจะมี ส่วนร่วมรับผลประโยชน์สูงสุด รองลงมาได้แก่ ร่วมวางแผน ร่วมดําเนินการ ร่วมค้นหาปัญหา และร่วม ตรวจสอบ และตดิ ตามผล มีค่าต่ําสดุ ตามลําดับ พนมกร สุวรรณรัต (2541) ได้ศึกษา การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่าย พลเรอื นในการปอ้ งกนั อาชญากรรมในเขตจังหวัดนครปฐม พบว่าการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัย ฝ่ายพลเรือนในการป้องกันอาชญากรรมอยู่ในระดับต่ํา ในด้านปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า การศึกษาและ ตําแหนง่ ทางสังคมเท่าน้นั ทมี่ ีความสมั พนั ธก์ ับการมสี ว่ นร่วมอย่างมนี ัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.05 ส่วนใน ด้านปัจจัยทางสังคม พบว่าการประชุมกับเพ่ือนบ้าน การให้ความสําคัญต่อปัญหาอาชญากรรม และความ ซื่อสัตย์ของตํารวจเท่าน้ันท่ีมีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วม อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.05 จาก ผลการวิจัยทาํ ใหท้ ราบว่า ตําแหน่งทางสังคมและการให้ความสําคัญต่อปัญหาอาชญากรรมมีความสัมพันธ์ กับการมีส่วนร่วมในการป้องกันอาชญากรรม ทั้งในด้านการอุทิศเวลา ด้านการอุทิศแรงงาน และด้านการ อุทศิ ทรัพย์สิน กังสดาล สุวรรณรงค์ (2539) ได้ศึกษา การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครสาธารณสุขใน กิจกรรมศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน อําเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น พบว่า ลักษณะการมีส่วนร่วม อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาตามรายด้านของการมีส่วนร่วม ประกอบด้วยการมีส่วนร่วมในการ กําหนดความต้องการและการวางแผน พบว่า อํานาจการตัดสินใจส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสขุ มีส่วนรว่ มในการเข้าประชมุ เพอ่ื รับทราบ แนวทางการดําเนินงานเท่านั้น การมีส่วน รว่ มในการดําเนินการรวมทั้งการจัดองค์กรและการระดมทรัพยากร พบว่า ผู้คัดเลือกประธานอาสาสมัคร สาธารณสุขคือ ผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และประธานอาสาสมัครสาธารณสุขจะเป็นผู้เลือก สมาชิกให้เข้ามาร่วมปฏิบัติงาน การมีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์ พบว่า ส่วนใหญ่อาสาสมัคร สาธารณสุขและครอบครัวได้ใช้สิทธิในการรักษาพยาบาลฟรีจากสถานบริการของรัฐ และเคยได้รับ คัดเลอื กใหไ้ ปอบรมและดงู าน การมีส่วนรว่ มในการประเมินผล พบว่า อาสาสมัครสาธารณสุขประมาณ 1 ใน 3 มี ส่วนร่วมในการเสนอข้อคิดเห็นต่าง ๆ เก่ียวกับปัญหาอุปสรรคในการทํางาน และให้ ขอ้ เสนอแนะปรับปรงุ การทาํ งานรว่ มกับเจา้ หน้าทสี่ าธารณสุข วิวัฒน์ ภู่คนองศรี (2537) ได้ศึกษาเร่ือง การมีส่วนร่วมของประชาชนในงานตํารวจ ชุมชนสัมพันธ์ในจังหวัดปัตตานี พบว่า ระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนด้านร่วมคิด ด้านร่วมในการ ตัดสินใจ ด้านร่วมปฏิบัติกิจกรรม และด้านการติดตามประเมินผล อยู่ในระดับปานกลาง ความสัมพันธ์ ระหว่างประชาชนกับการมีส่วนร่วม เพศมีความสัมพันธ์มากที่สุด รองลงมาได้แก่ การเป็นผู้นํากลุ่ม และ

12   การเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่วนอายุ ระดับการศึกษา รายได้ สถานภาพ และขนาดครอบครัวไม่มีความสัมพันธ์ กบั การมสี ว่ นร่วม ผลที่ได้จากการศึกษาตามแนวคิดและทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องข้างต้น สรุปได้ว่า ผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับท่ีนํามากล่าวไว้ข้างต้นน้ัน ปัจจัยส่วนบุคคลมีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมในระดับ ปานกลาง แต่ผู้วิจัยต้องการศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพล เรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ว่าปัจจัยส่วนบุคคลเหมือนหรือแตกต่างจากผลการศึกษาที่ผ่านมาอย่างไร รวมทั้งมีปัญหาอุปสรรคด้าน ใดบ้าง เพ่ือนําเสนอผลงานวิจัยกับหน่วยงานเพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนางานอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่าย พลเรือน (อปพร.) ให้มีประสิทธิภาพย่ิงขึ้น ดังน้ัน การมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นเรื่องท่ีภาครัฐควร ส่งเสริมและให้ความสําคัญเป็นอย่างย่ิง เพราะการดําเนินงานในด้านต่าง ๆ จําเป็นต้องอาศัยความ ร่วมมือจากภาคประชาชน และอาสาสมัครผู้ที่มีความเต็มใจในการที่จะเข้ามาช่วยเหลือในโครงการ/ กิจกรรมท่ีรัฐกําหนดข้ึนในทุก ๆ ด้าน เพ่ือที่จะดําเนินการกิจกรรมต่าง ๆ เหล่าน้ัน ให้บรรลุเป้าหมายได้ ซึ่งการสรุปดังกล่าวนําไปสู่สมมุติฐานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล กับระดับการมี สว่ นรว่ มของ อปพร. ได้ว่า สมมติฐานท่ี 1 การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ ความชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบอทุ กภัยอยใู่ นระดับมาก สมมติฐานที่ 2 อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพ ในครอบครัว รายได้/เดือน ระยะเวลาที่อาศัยในชุมชน ต่างกันมีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมในการให้ความ ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบอทุ กภัยแตกตา่ งกนั ตัวแปรตาม คือ การมีส่วนร่วมของ อปพร. ในด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ด้านการมี ส่วนรว่ มในการปฏิบัติการ ด้านการมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ ดา้ นการมสี ว่ นร่วมในการประเมนิ ผล ตวั แปรอสิ ระ คอื เพศ อายุ ระดบั การศึกษา สถานภาพในครอบครัว รายได้/เดือน ระยะเวลา ทอ่ี าศยั ในชุมชน

13   กรอบแนวคดิ ภาพท่ี 2.1 : ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งปจั จยั สว่ นบุคคลทม่ี ผี ลตอ่ การมสี ว่ นรว่ มของ อปพร. ตวั แปรอิสระ ตวั แปรตาม ปจั จยั ส่วนบคุ คล การมีส่วนร่วมของ อปพร. 1. เพศ 1. ด้านการมีสว่ นร่วมในการตดั สินใจ 2. อายุ 2. ด้านการมีสว่ นร่วมในการปฏิบตั กิ าร 3. ระดับการศึกษา 3. ดา้ นการมสี ว่ นร่วมในผลประโยชน์ 4. สถานภาพในครอบครัว 4. ด้านการมสี ว่ นร่วมในการประเมินผล 5. รายได้/เดอื น 6. ระยะเวลาที่อาศยั ในชมุ ชน กรอบแนวคิดข้างต้นแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระ คือ เพศ อายุ ระดับ การศึกษา สถานภาพในครอบครัว รายได้/เดือน ระยะเวลาที่อาศัยในชุมชน กับตัวแปรตาม คือ การมี สว่ นรว่ มของ อปพร. ในด้านการมีส่วนรว่ มในการตดั สินใจ ดา้ นการมีสว่ นร่วมในการปฏิบัติการ ด้านการมี ส่วนรว่ มในผลประโยชน์ ดา้ นการมสี ่วนรว่ มในการประเมนิ ผล ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพ้ืนที่ อําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ภายใต้แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการมีส่วนร่วม ของโคเฮน และอัฟฮ็อฟ (Cohen and Uphoff, อ้างถึงในอิบราเฮ็ม ณรงค์รักษาเขต และคณะ, 2548 : 30) ที่ กล่าวถึงระดับการมีส่วนร่วมไว้ 4 ด้าน คือ ด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ด้านการมีส่วนร่วมในการ ปฏิบัติการ ด้านการมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ ด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผล และระเบียบ กระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยกิจการอาสาสมัครปอ้ งกนั ภยั ฝา่ ยพลเรือน พ.ศ. 2553

14   บทท่ี 3 ระเบยี บวิธีวจิ ัย เนื้อหาของบทเป็นการอธิบายถึงวิธีการวิจัยสําหรับการศึกษาในคร้ังน้ี ซ่ึงใช้การวิจัยเชิงปริมาณ ประกอบดว้ ย ประชากรและตัวอย่าง เคร่อื งมอื ทีใ่ ช้ในการศกึ ษา การเก็บรวบรวมขอ้ มูล การแปรผลข้อมูล และวิธกี ารทางสถิตสิ ําหรับใช้ในการวิเคราะห์และการทดสอบสมมุติฐานเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร ทีก่ าํ หนดขึน้ ประชากร ประชากรทใ่ี ช้ศกึ ษา คอื อาสาสมัครปอ้ งกนั ภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในพ้นื ที่อาํ เภอเมอื งปัตตานี จังหวัดปัตตานี ผู้วิจัยได้ศึกษารายงานผลการดําเนินงานการเพิ่มจํานวนอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่าย พลเรือน (อปพร.) ของศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนจังหวัดปัตตานี พบว่าอําเภอเมืองปัตตานี จงั หวดั ปัตตานี มอี าสาสมัครป้องกันภยั ฝ่ายพลเรอื นใน (อปพร.) จํานวน 556 คน กลุ่มตัวอยา่ ง กลุ่มตัวอย่างในการตอบแบบสอบถามเพ่ือหาระดับการมีส่วนร่วมและปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการมี ส่วนร่วม คือ ตัวแทนของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในพ้ืนท่ีอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ผู้วิจัยกําหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างจากตารางการกําหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างของเคร็จซี และมอรแ์ กน (Krejcie and Morkan 1970 อา้ งใน รังสรรค์ ประเสริฐศรี : 2548: 46-47) ที่ระดับความ เชื่อมั่นร้อยละ 95 ได้ขนาดตัวอย่าง 234 คน แต่เนื่องจากข้อจํากัดของระยะเวลาในการวิจัยจึงใช้ แบบสอบถามเพียง 120 ชุด และแบ่งกลุ่มตัวอย่างกระจายไปตามจํานวนตําบลท่ีมีอาสาสมัครป้องกันภัย ฝ่ายพลเรอื น ดังนี้ 1) สมุ่ ตัวอยา่ งแบบเจาะจง (purposive sampling) โดยเจาะจงเลือกตาํ บลทีม่ ี อปพร. จํานวน 7 ตําบล 2) สมุ่ ตัวอย่างตามสดั สว่ น โดยกําหนดใหก้ ลมุ่ ตวั อย่างมขี นาด 120 ราย จะไดอ้ าสาสมัครปอ้ งกนั ภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) รายละเอียดดงั ตาราง

15   ตารางท่ี 1 แสดงขนาดกลมุ่ ตัวอย่างอาสาสมัครปอ้ งกันภัยฝ่ายพลเรอื น (อปพร.) ทีไ่ ด้จากการส่มุ ลําดบั ที่ หน่วยงาน จํานวน (คน) กล่มุ ตัวอย่าง 1. เทศบาลเมืองปัตตานี 266 58 2. เทศบาลตาํ บลรูสะมิแล 55 12 3. อบต.บานา 80 17 4. อบต.ปะกาฮะรงั 65 14 5. อบต.กะมิยอ 20 4 6. อบต.บาราเฮาะ 50 11 7. อบต.ตนั หยงลุโละ 20 4 รวม 7 หน่วยงาน 556 120 เครอ่ื งมอื ท่ีใชใ้ นการศึกษา ผูว้ ิจยั ใชแ้ บบสอบถามเปน็ เครื่องมือเพ่ือเก็บรวบรวมขอ้ มลู จากตัวอย่าง โดยมรี ายละเอียดเกย่ี วกับ การสร้างแบบสอบถามเปน็ ข้นั ตอนดงั น้ี 1. ศึกษาวิธกี ารสร้างแบบสอบถามจากเอกสาร งานวิจัย และทฤษฎที เ่ี กี่ยวขอ้ งสร้างแบบสอบถาม เพื่อถามความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ 3 ประเด็นคือ (1) ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม (2) การมีส่วนร่วมของ อปพร. คือ ด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ด้านการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการ ด้านการมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ ด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผล (3) ปัญหาอุปสรรคและ ข้อเสนอแนะ 2. นําแบบสอบถามทไี่ ดส้ รา้ งขึ้นมาเสนอตอ่ อาจารย์ทีป่ รกึ ษา เพอื่ ปรับปรงุ แก้ไข 3. ทําการปรับปรงุ แกไ้ ขและนําเสนอให้อาจารยท์ ่ปี รึกษาตรวจสอบความถกู ต้องอีกครัง้ หน่ึง เพอ่ื ใหอ้ าจารยท์ ป่ี รึกษาอนุมตั ิก่อนแจกแบบสอบถาม 4. นาํ แบบสอบถามไปทดลองกบั ตวั อยา่ งจํานวน 30 รายเพ่อื หาค่าความเชอื่ มั่น 5. ทาํ การปรบั ปรุงและนาํ เสนอใหอ้ าจารย์ทป่ี รึกษาอนมุ ัตกิ อ่ นแจกแบบสอบถาม 6. แจกแบบสอบถามไปยงั ตวั อย่าง

16   การตรวจสอบเคร่ืองมอื การตรวจสอบเนอื้ หา ผวู้ ิจยั ไดน้ ําเสนอแบบสอบถามที่ได้สร้างขึ้นต่ออาจารยท์ ปี่ รึกษาเพื่อ ตรวจสอบความครบถ้วนและความสอดคลอ้ งของเนอ้ื หาของแบบสอบถามท่ีตรงกบั เรอื่ งทจี่ ะศกึ ษา การตรวจสอบความเช่ือม่ัน ผวู้ จิ ัยพิจารณาจากค่าสัมประสทิ ธค์ิ รอนแบค็ อัลฟ่า (Cronbach’s Alpha Coefficient) ซึง่ ได้มรี ายละเอียดดังน้ี ส่วนของคาํ ถาม ค่าสมั ประสทิ ธคิ์ วามเชอื่ ม่นั (ครอนแบค็ อัลฟา่ ) ดา้ นการมสี ว่ นรว่ มในการตัดสนิ ใจ .7792 ดา้ นการมีสว่ นรว่ มในการปฏบิ ตั กิ าร .8752 ด้านการมสี ่วนรว่ มในผลประโยชน์ .7951 ดา้ นการมีส่วนร่วมในการประเมนิ ผล .8205 คา่ ความเชื่อมัน่ รวม คอื .8877 องคป์ ระกอบของแบบสอบถาม ผู้ทําวจิ ัยได้ออกแบบสอบถามซง่ึ ประกอบด้วย 3 สว่ นพร้อมกบั วิธีการตอบคาํ ถามดังต่อไปนี้ คอื ส่วนที่ 1 เป็นคําถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม ได้แก่ เพศ อายุ ระดับ การศกึ ษา สถานภาพในครอบครัว รายได้/เดือน ระยะเวลาท่ีอาศัยในชุมชน ลักษณะคําถามเป็นคําถาม ปลายปดิ แบบให้เลือกตอบ ส่วนที่ 2 เป็นคําถามเก่ียวข้องกับการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ลักษณะเป็น คําถามปลายปิดโดยคําถามแบง่ เป็น 5 ระดับ ตงั้ แตน่ ้อยทีส่ ุดถึงมากทสี่ ดุ ส่วนท่ี 3 ปัญหาอุปสรรคและขอ้ เสนอแนะ ลกั ษณะคาํ ถามเปน็ คาํ ถามปลายเปดิ การเก็บรวบรวมข้อมลู ผวู้ จิ ยั ไดด้ าํ เนินการเก็บข้อมูลตามข้ันตอนต่อไปนี้ คือ 1. ผู้วิจัยอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาภายในแบบสอบถามและวิธีการตอบแก่ตัวแทนและ ทมี งาน 2. ผวู้ จิ ยั หรอื ตวั แทนและทมี งาน เข้าไปในสถานท่ีตา่ งๆท่ตี อ้ งการศกึ ษาตามทีร่ ะบไุ วข้ ้างต้น 3. ผู้วิจัยหรือตัวแทนและทีมงาน ได้แจกแบบสอบถามให้กลุ่มเป้าหมายและรอจนกระท่ังตอบ คําถามครบถ้วน ซงึ่ ในระหว่างน้นั ถ้าผ้ตู อบมีขอ้ สงสัยเกี่ยวกบั คาํ ถาม ผู้วิจัยหรือทีมงานจะตอบข้อสงสยั นั้น

17   การแปรผลขอ้ มลู ผทู้ าํ วิจยั ได้กําหนดค่าอนั ตรภาคชัน้ สาํ หรบั การแปลผลขอ้ มูลโดยคาํ นวณคา่ อนั ตรภาคชนั้ เพือ่ กําหนดชว่ งชน้ั ด้วยการใชส้ ตู รคาํ นวณและคาํ อธิบายสําหรับแตล่ ะช่วงชั้น ดังน้ี อนั ตรภาคช้นั = ค่าสูงสุด – คา่ ต่าํ สดุ จํานวนช้ัน ช่วงชั้น 1.00 – 1.80 = 5 – 1 = 0.80 1.81 – 2.61 5 2.62 – 3.42 คําอธบิ ายสาํ หรบั การแปลผล 3.43 – 4.23 ระดับนอ้ ยที่สดุ 4.24 – 5.00 ระดับนอ้ ย ระดับปานกลาง ระดบั มาก ระดบั มากท่สี ดุ การวเิ คราะห์ข้อมลู ในการวิเคราะห์ข้อมูลในการศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษาทําการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม สําเร็จรูปทางสถิติ โดยเลือกใช้สถิติให้สอดคล้องกับระดับการวัดของตัวแปร โดยการสรุปบรรยาย ลักษณะผู้ตอบแบบสอบถาม ทั้งปัจจัยส่วนบุคคล ตลอดจนการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่าย พลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัด ปัตตานี โดยผูว้ จิ ัยดาํ เนินการวเิ คราะหข์ อ้ มูลจากแบบสอบถามตามข้ันตอนต่อไปน้ี 1. วิเคราะห์ข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ โดยใช้สําเร็จรูปทางสถิติ โดยกําหนดระดับความมี นยั สาํ คัญท่ีระดบั .05 และแยกวเิ คราะห์ตามลําดับ ดังน้ี 1.1 ปัจจัยส่วนบุคคล เป็นข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับเพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพในครอบครัว รายได้/เดือน ระยะเวลาที่อาศัยในชุมชนจนถึงปัจจุบัน โดยใช้ การแจกแจงความถ่ีรอ้ ยละ 1.2 ข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี 4 ด้าน คือ ด้านการมีส่วนร่วมในการตดั สินใจ ด้านการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการ ด้านการมีส่วนร่วม ในผลประโยชน์ ดา้ นการมีส่วนร่วมในการประเมินผล โดยใช้สถิติพื้นฐานวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉล่ีย (Mean) สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation ) 1.3 เปรียบเทียบข้อมูลแบบสอบถามการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัย ฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี

18   จังหวัดปัตตานี 4 ด้าน คือ ด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ด้านการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการ ด้านการมีส่วนรว่ มในผลประโยชน์ ด้านการมสี ่วนรว่ มในการประเมินผล โดยใชส้ ถติ ิ ดงั นี้ 1.3.1 การวเิ คราะหเ์ พื่อหาความแตกตา่ งระหวา่ งค่าเฉลีย่ ของกลุม่ ตัวอยา่ ง 2 กลมุ่ ตามตวั แปรเพศ โดยการทดสอบคา่ ที (t-test) 1.3.2 การวิเคราะห์เพ่ือหาความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง มากกว่า 2 กลุ่มตามตัวแปร อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพในครอบครัว รายได้/เดือน ระยะเวลาท่ี อาศัยในชุมชน โดยการทดสอบคา่ เอฟ (F-Test)

19 บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูล บทนเ้ี ป็นการวิเคราะห์ข้อมลู เพอ่ื การอธบิ ายและการทดสอบสมมุตฐิ านที่เกย่ี วขอ้ งกับตัวแปร แตล่ ะตวั ซึง่ ขอ้ มูลดังกลา่ วผู้วิจัยไดเ้ กบ็ รวบรวมจากแบบสอบถามที่มีคาํ ตอบครบถว้ นสมบูรณ์ จํานวน ทัง้ สิน้ 120 ชุด คิดเปน็ ร้อยละ 100 ของจาํ นวนแบบสอบถามทั้งหมด 120 ชุด ผลการวเิ คราะหแ์ บง่ ออกเปน็ 5 ส่วน ประกอบดว้ ย สว่ นที่ 1 เปน็ ขอ้ มูลท่วั ไปผ้ตู อบแบบสอบถาม ส่วนท่ี 2 เป็นข้อมูลเก่ียวกับการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี จําแนก รายดา้ นและรายขอ้ ส่วนที่ 3 เป็นข้อมูลเก่ียวกับการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่าย พลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัด ปัตตานี โดยจําแนกตามเพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพในครอบครัว รายได้/เดือน ระยะเวลา ที่อาศยั ในชมุ ชน สว่ นที่ 4 เป็นขอ้ มูลปัญหาอปุ สรรคและขอ้ เสนอแนะของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรอื น (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลอื ผปู้ ระสบอุทกภยั : กรณศี กึ ษาอําเภอเมอื งปัตตานี จงั หวดั ปตั ตานี ส่วนที่ 5 สรปุ ผลการทดสอบสมมตฐิ าน สญั ลกั ษณท์ ใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะห์ขอ้ มลู  แทน คา่ เฉล่ยี ( Mean ) S.D. แทน คา่ ความเบยี่ งเบนมาตรฐาน ( Standard Deviation ) SS แทน คะแนนผลบวกกําลงั สอง ( Sum of Squares ) MS แทน คะแนนเฉลี่ยผลบวกกาํ ลงั สอง ( Mean Squares ) df แทน คะแนนความเปน็ อิสระ ( Degree of Freedom ) n แทน จาํ นวนกลุ่มตวั อย่าง t แทน คา่ สถิติทใี่ ช้ทดสอบสมมติฐาน ( t- Test ) F แทน คา่ สถิติทใี่ ชท้ ดสอบสมมตฐิ าน ( F- Test ) * แทน มีนัยสาํ คญั ทางสถติ ิทรี่ ะดบั .05 ส่วนที่ 1 ข้อมลู ท่ัวไปผู้ตอบแบบสอบถาม ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ทว่ั ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตามตวั แปรเพศ อายุ ระดบั การศึกษา สถานภาพในครอบครัว รายได้/เดอื น ระยะเวลาทอ่ี าศยั ในชุมชนตามรายละเอียดดงั น้ี

20 ตารางที่ 2 จาํ นวนและรอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถาม ตัวแปรทศี่ กึ ษา จาํ นวน (คน) ร้อยละ เพศ 104 86.70 ชาย 16 13.30 หญิง 120 100.00 รวม 23 19.20 49 40.80 อายุ 40 33.30 ตํา่ กว่า 30 ปี 8 6.70 31 – 40 ปี 120 100.00 41 – 50 ปี 50 ปขี ้นึ ไป 19 15.80 23 19.20 รวม 34 28.30 27 22.50 การศึกษา 17 14.20 ระดบั ประถมศกึ ษาหรอื ตํา่ กว่า 120 100.00 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้นหรอื เทยี บเท่า ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเทา่ 36 30.00 อนปุ รญิ ญาหรือเทยี บเท่า 69 57.50 ปรญิ ญาตรหี รือสูงกวา่ ปริญญาตรี 11 9.20 4 3.30 รวม 120 100.00 สถานภาพในครอบครวั 20 16.70 โสด 49 40.80 สมรส 29 24.20 หยา่ ร้าง 22 18.30 หมา้ ย 120 100.00 รวม 6 5.00 22 18.30 รายได้/เดือน 15 12.50 ต่าํ กว่า 5,000 บาท 77 64.20 5,000 – 10,000 บาท 120 100.00 10,001 – 15,000 บาท สูงกว่า 15,000 บาท รวม ระยะเวลาทอี่ าศยั ในชมุ ชนจนถงึ ปัจจุบนั 1 – 5 ปี 6 - 10 ปี 11 – 15 ปี 15 ปีข้นึ ไป รวม

21 จากตารางที่ 2 พบว่า ข้อมลู ท่วั ไปของผู้ตอบแบบสอบถามจํานวน 120 คน สรปุ ไดด้ ังนี้ 1. ตัวแปรเพศ ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นเพศชายจาํ นวน 104 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 86.70 และ เพศหญงิ จํานวน 16 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 13.30 2. ตวั แปรอายุ ผตู้ อบแบบสอบถามท่มี อี ายุนอ้ ยกวา่ 30 ปี จาํ นวน 23 คน คิดเป็น ร้อยละ 19.20 อายุ 30–40 ปี จํานวน 49 คน คิดเป็นร้อยละ 44.80 อายุ 41–50 ปี จํานวน 40 คน คิดเป็นร้อยละ 33.30 และอายุมากกว่า 50 ปี จาํ นวน 8 คน คิดเปน็ ร้อยละ 6.70 3. ตวั แปรการศกึ ษา ผตู้ อบแบบสอบถามทีจ่ บการศกึ ษาระดบั ประถมศกึ ษาหรอื ตํ่ากว่าจํานวน 19 คน คดิ เป็นร้อยละ 15.80 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ หรอื เทียบเทา่ จํานวน 23 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 19.20 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลายหรือเทียบเทา่ จํานวน 34 คน คดิ เป็นร้อยละ 28.30 อนุปริญญา หรือเทียบเทา่ จํานวน 27 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 22.50 และปรญิ ญาตรีหรือสงู กวา่ ปริญญาตรี จํานวน 17 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 14.20 4. ตัวแปรสถานภาพในครอบครัว ผตู้ อบแบบสอบถามสถานภาพโสด จาํ นวน 36 คน คดิ เป็น รอ้ ยละ 30.00 สถานภาพสมรส จํานวน 69 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 57.50 สถานภาพหย่าร้าง จาํ นวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 9.20 และสถานภาพหมา้ ย จาํ นวน 4 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 3.30 5. ตัวแปรรายได้/เดือน ผตู้ อบแบบสอบถามที่มีรายได/้ เดอื นตาํ่ กวา่ 5,000 บาท จํานวน 20 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 16.70 รายได/้ เดือน 5,000 – 10,000 บาท จํานวน 49 คน คดิ เป็น รอ้ ยละ 40.80 รายได/้ เดือน 10,001 – 15,000 บาท จาํ นวน 29 คน คดิ เป็นร้อยละ 24.20 และรายได้/เดือนสูงกว่า 15,000 บาท จํานวน 22 คน คดิ เป็นร้อยละ 18.30 6. ตวั แปรระยะเวลาที่อาศยั ในชมุ ชนจนถึงปัจจบุ นั ผู้ตอบแบบสอบถามทอี่ าศยั อยู่ในชุมชน 1 – 5 ปี จาํ นวน 6 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5.00 อาศยั อยใู่ นชุมชน 6 – 10 ปี จํานวน 22 คน คิดเปน็ ร้อยละ 18.30 อาศัยอยใู่ นชุมชน 11 – 15 ปี จาํ นวน 15 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 12.50 และอาศยั อยูใ่ นชุมชน 15 ปีขึน้ ไป จาํ นวน 77 คน คดิ เป็นร้อยละ 64.20 ส่วนท่ี 2 ผลการวิเคราะห์การมีส่วนรว่ มของอาสาสมคั รป้องกันภยั ฝา่ ยพลเรอื น (อปพร.) ในการ ให้ความช่วยเหลอื ผปู้ ระสบอทุ กภัย : กรณีศกึ ษาอําเภอเมอื งปัตตานี จังหวัดปัตตานี จําแนกรายด้าน และรายข้อ 2.1 ผลการวเิ คราะหก์ ารมสี ว่ นรว่ มของอาสาสมคั รป้องกนั ภยั ฝา่ ยพลเรือน (อปพร.) ในการ ให้ความชว่ ยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย : กรณศี ึกษาอาํ เภอเมืองปัตตานี จงั หวัดปัตตานี จาํ แนกรายด้าน

22 ตารางที่ 3 ค่าเฉลย่ี สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานของการมสี ่วนร่วมของอาสาสมคั รป้องกันภยั ฝา่ ยพลเรือน (อปพร.) ในการใหค้ วามชว่ ยเหลือผู้ประสบอทุ กภัย : กรณีศึกษาอาํ เภอเมอื งปตั ตานี จงั หวัดปตั ตานี ในภาพรวม การมีสว่ นร่วมของ อปพร.  S.D. ระดับ การมสี ่วนร่วม ด้านการมสี ่วนรว่ มในการตัดสินใจ ด้านการมีสว่ นร่วมในการปฏบิ ัติการ 3.57 0.55 มาก ดา้ นการมีสว่ นรว่ มในผลประโยชน์ ด้านการมีส่วนรว่ มในการประเมินผล 3.65 0.51 มาก โดยรวม 2.59 0.45 นอ้ ย 3.37 0.38 ปานกลาง 3.29 0.36 ปานกลาง จากตารางท่ี 3 พบว่า การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการ ให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ในภาพรวมอยู่ใน ระดับปานกลาง (  = 3.29) เม่ือพิจารณารายด้านพบว่าด้านการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการมีค่าเฉลี่ย มากทีส่ ดุ (  = 3.65 ) รองลงมาคือ ดา้ นการมสี ่วนรว่ มในการตัดสินใจ (  = 3.57 ) และด้านการมี ส่วนร่วมในผลประโยชน์ มีคา่ เฉลยี่ นอ้ ยทสี่ ดุ (  = 2.59 ) 2.2 ผลการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัย ฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จงั หวดั ปัตตานี จาํ แนกเป็นรายข้อ ตารางท่ี 4 ค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของการมีส่วนร่วม ของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษา อําเภอเมืองปตั ตานี จงั หวดั ปตั ตานี ในด้านการมีสว่ นร่วมในการตดั สินใจจําแนกเปน็ รายข้อ ที่ การมสี ว่ นร่วมของ อปพร.  S.D. ระดบั การมีสว่ นรว่ ม ด้านการมสี ่วนรว่ มในการตดั สนิ ใจ 3.68 1. ทา่ นมีสว่ นร่วมในการจัดทาํ แผนปอ้ งกนั และ 3.92 0.80 มาก 3.71 บรรเทาสาธารณภัยขององค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ 3.49 0.63 มาก ในพ้ืนทีท่ ีท่ ่านอาศัยอยู่ 3.06 0.79 มาก 2. ท่านเคยแนะนําชมุ ชนเพอ่ื รว่ มกันวางแผนป้องกันและ 3.57 0.88 มาก บรรเทาภยั จากอุทกภยั 1.11 ปานกลาง 3. ท่านเคยแจง้ เตอื นภัยใหก้ บั ประชาชนที่อยู่ 0.55 มาก ในพ้ืนท่ีทราบ 4. ท่านเคยติดตามพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนยิ มวิทยา/การ แจ้งเตอื นภัยจากหน่วยงานที่เกย่ี วขอ้ ง 5. ท่านเคยเป็นแกนนาํ ในการสรา้ งจติ สํานึกใหป้ ระชาชนทราบ ถงึ อนั ตรายของอทุ กภัย โดยรวม

23 จากตารางท่ี 4 พบว่า การมีสว่ นรว่ มของอาสาสมคั รปอ้ งกนั ภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ ความช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ในด้านการมีส่วนร่วม ในการตัดสินใจ จําแนกเป็นรายข้อ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (  = 3.57 ) เม่ือพิจารณารายข้อ พบว่า ท่านเคยแนะนําชุมชนเพื่อร่วมกันวางแผน ป้องกันและบรรเทาภัยจากอุทกภัย มีค่าเฉล่ียมากท่ีสุด (  =3.92 ) รองลงมา คือ ท่านเคยแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนท่ีอยู่ในพ้ืนที่ทราบ (  = 3.71 ) และ ท่านเคยเป็นแกนนําในการสร้างจิตสํานึกให้ประชาชนทราบถึงอันตรายของอุทกภัย มีค่าเฉล่ียน้อยท่ีสุด (  =3.06 ) ตารางที่ 5 คา่ เฉล่ยี สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานของคา่ เฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของการมีส่วนร่วมของ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษา อําเภอเมืองปตั ตานี จังหวัดปัตตานี ในดา้ นการมสี ว่ นร่วมในการปฏบิ ัตกิ าร จาํ แนกเป็นรายข้อ ที่ การมสี ่วนรว่ มของ อปพร.  S.D. ระดบั การมีส่วนร่วม ด้านการมสี ่วนร่วมในการปฏบิ ตั ิการ 1. ท่านเคยมีส่วนร่วมในการตรวจสอบจดุ เสยี่ งภยั 3.80 0.61 มาก 2. ทา่ นเคยมีสว่ นรว่ มในการเฝ้าระวังภยั จาก อุทกภัย 3.57 0.98 มาก ทอ่ี าจจะเกดิ ขนึ้ ในพืน้ ที่ 3. ทา่ นเคยรว่ มฝกึ ซ้อมแผนปอ้ งกนั และบรรเทา สาธารณภยั รว่ มกับเทศบาล/อบต. /สาํ นักงานปอ้ งกนั 3.63 0.94 มาก และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัดปัตตานี 4. ทา่ นเคยประสานงานกับหน่วยงานตา่ ง ๆ เช่น ส่วนราชการ มลู นิธอิ งคก์ รการกุศล เพอ่ื ช่วยเหลือ 3.89 0.70 มาก ประชาชนในกรณีเกดิ ภยั 5. ท่านเคยจัดเตรยี มและสนบั สนนุ เครอ่ื งอปุ โภค บรโิ ภค 3.77 0.71 มาก เพ่ือสงเคราะห์ผู้ประสบภยั โดยรวม 3.65 0.51 มาก จากตารางท่ี 5 การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความ ช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ในด้านการมีส่วนร่วมในการ ปฏิบัติการ จําแนกเป็นรายข้อ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (  = 3.65 ) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ทา่ นเคยจดั เตรยี มและสนบั สนนุ เคร่ืองอุปโภคบรโิ ภคเพ่อื สงเคราะหผ์ ูป้ ระสบภัย มคี า่ เฉลี่ยมากทสี่ ุด (  = 3.89 ) รองลงมา ทา่ นเคยมสี ่วนร่วมในการตรวจสอบจดุ เสย่ี งภยั (  = 3.80 ) และท่านเคยมี สว่ นร่วมในการเฝา้ ระวังภัยจาก อุทกภยั ทีอ่ าจจะเกิดขนึ้ ในพนื้ ที่ มีค่าเฉลี่ยนอ้ ยท่สี ุด (  = 3.57 )

24 ตารางท่ี 6 ค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของการมีส่วนร่วม ของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษา อาํ เภอเมืองปตั ตานี จงั หวัดปัตตานี ในด้านการมีสว่ นรว่ มในผลประโยชน์ จาํ แนกเปน็ รายขอ้ ที่ การมีส่วนรว่ มของ อปพร.  S.D. ระดบั การมีส่วนรว่ ม ดา้ นการมสี ว่ นรว่ มในผลประโยชน์ 1. ท่านเคยได้รับชุดเคร่ืองแบบ อปพร.จากการ ฝึกอบรม 2.51 0.56 น้อย 2. ทา่ นไดร้ ับวทิ ยุสื่อสารของทางราชการในการปฏิบัติ 2.97 0.82 ปานกลาง หน้าทีต่ ามทไ่ี ดร้ ับมอบหมายเป็นลายลักษณอ์ ักษร 3. ทา่ นเคยสมัครเขา้ รบั การคดั เลือกเพือ่ เป็น อปพร.ดีเด่น 2.85 0.96 ปานกลาง 4. ท่านเคยได้รบั การเสนอช่อื เข้ารับเคร่ืองราชอิสรยิ าภรณ์ 2.07 0.65 นอ้ ย โดยรวม 2.59 0.45 น้อย จากตารางที่ 6 พบว่า การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ในด้านการ มีส่วน ร่วมในผลประโยชน์ จําแนกเป็นรายข้อ โดยภาพรวมอยู่ในระดับน้อย (  = 2.59) เม่ือพิจารณาราย ข้อ พบว่า โดยท่านได้รับวิทยุสื่อสารของทางราชการในการปฏิบัติหน้าที่ตามท่ีได้รับมอบหมายเป็น ลายลักษณ์อักษร มีค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด (  = 2.97 ) รองลงมาคือท่านเคยสมัครเข้ารับการคัดเลือกเพื่อ เป็น อปพร.ดีเด่น (  = 2.85 ) และท่านเคยได้รับการเสนอชื่อเข้ารับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มีค่าเฉล่ีย นอ้ ยที่สดุ (  = 2.07) ตารางท่ี 7 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของการมีส่วนร่วม ของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษา อําเภอเมืองปตั ตานี จังหวดั ปัตตานี ในดา้ นการมสี ว่ นร่วมในการประเมนิ ผล จาํ แนกเปน็ รายข้อ ที่ การมสี ่วนรว่ มของ อปพร.  S.D. ระดับ การมีสว่ นรว่ ม 3.66 ดา้ นการมสี ่วนรว่ มในการประเมินผล 3.72 1. ท่านเคยร่วมประเมินผลการดาํ เนินการในการ 0.84 มาก ฝกึ ซอ้ มแผนปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย ทา่ นเคยเข้าร่วมประชุมประชาคม อปพร. และไดแ้ นะนาํ 2. หรือแสดง ความคดิ เห็นใหก้ บั ท้องถิน่ หรอื สว่ นราชการท่ี 0.74 มาก เก่ยี วขอ้ งเพื่อเปน็ ประโยชน์ในการบริหารจดั การภยั

25 ตารางท่ี 7 (ต่อ) ค่าเฉลย่ี สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐานของค่าเฉลี่ย ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐานของการมี ส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย : กรณศี ึกษาอําเภอเมอื งปัตตานี จงั หวัดปตั ตานี ในดา้ นการมสี ่วนรว่ มในการประเมินผล จาํ แนกเปน็ รายข้อ ท่ี การมีสว่ นรว่ มของ อปพร.  S.D. ระดบั การมีส่วนรว่ ม ด้านการมสี ่วนร่วมในการประเมนิ ผล 3. ท่านเคยมีส่วนรว่ มในการประเมินผลเพอ่ื คดั เลือก 3.06 1.06 ปานกลาง อปพร.ดีเด่น 4. ท่านเคยมสี ่วนร่วมในการประเมนิ ผลการ 3.38 0.78 มาก ปฏบิ ัตงิ านของคณะกรรมการประสานงาน ศนู ย์ อปพร. 5. ทา่ นเคยร่วมประเมินผลการดาํ เนนิ การในการ 3.05 0.60 ปานกลาง ฝึกซ้อมแผนปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย โดยรวม 3.37 0.38 ปานกลาง จากตารางท่ี 7 พบว่า การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการ ให้ความช่วยเหลอื ผปู้ ระสบอุทกภัย : กรณศี กึ ษาอําเภอเมอื งปัตตานี จงั หวดั ปตั ตานี ในด้านการมี ส่วน ร่วมในการประเมินผล จําแนกเป็นรายข้อ โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (  = 3.37 ) เม่ือ พิจารณารายข้อพบว่า โดยท่านเคยเข้าร่วมประชุมประชาคม อปพร. และได้แนะนําหรือแสดง ความ คิดเห็นให้กับท้องถ่ินหรือส่วนราชการท่ีเกี่ยวข้องเพื่อเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการภัย ค่าเฉล่ียมาก ที่สุด (  = 3.72 ) รองลงมาคือท่านเคยร่วมประเมินผลการดําเนินการในการฝึกซ้อมแผนป้องกันและ บรรเทาสาธารณภยั (  = 3.66) และท่านเคยร่วมประเมินผลการดาํ เนนิ การในการ ฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มคี ่าเฉลย่ี นอ้ ยทส่ี ดุ (  = 3.05) ส่วนที่ 3 การเปรยี บเทยี บการมีสว่ นร่วมของอาสาสมัครปอ้ งกนั ภยั ฝา่ ยพลเรือน (อปพร.) ในการให้ ความชว่ ยเหลอื ผู้ประสบอทุ กภัย : กรณีศกึ ษาอําเภอเมอื งปตั ตานี จงั หวัดปัตตานี โดยจาํ แนกตามเพศ อายุ ระดบั การศึกษา สถานภาพในครอบครวั รายได้/เดอื น ระยะเวลาทอี่ าศยั ในชุมชน 3.1 ผลการวิเคราะห์ ( t – test ) ข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกัน ภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จงั หวดั ปัตตานี โดยจาํ แนกตามเพศ ตารางที่ 8 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเพ่ือเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพล เรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัด ปตั ตานี โดยจาํ แนกตามเพศ

26 เพศ การมีส่วนรว่ มของ อปพร. ชาย หญงิ t p-value ดา้ นการมสี ่วนร่วมในการตดั สินใจ  S.D.  S.D. ด้านการมสี ่วนรว่ มในการปฏิบตั ิการ ดา้ นการมีสว่ นร่วมในผลประโยชน์ 3.59 0.56 3.41 0.50 1.232 0.22 ดา้ นการมสี ่วนร่วมในการประเมนิ ผล 3.67 0.52 3.52 0.43 1.064 0.29 โดยรวม 2.58 0.46 2.68 0.37 0.840 0.40 3.38 0.38 3.28 0.41 0.946 0.34 3.30 0.36 3.22 0.33 0.835 0.40 จากตารางท่ี 8 พบวา่ การมีสว่ นรว่ มของอาสาสมัครป้องกันภยั ฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี โดยจําแนกตามเพศ ไมแ่ ตกตา่ งกนั 3.2 ผลการวิเคราะห์ ( F – test ) ข้อมูลเพ่ือเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของอาสาสมัคร ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมือง ปัตตานี จังหวัดปัตตานี โดยจําแนกตามอายุ การศึกษา สถานภาพในครอบครัว รายได้/เดือน ระยะเวลาที่อาศัยในชุมชน ตารางท่ี 9 ผลการเปรยี บเทียบการมสี ว่ นรว่ มของอาสาสมคั รป้องกันภัยฝา่ ยพลเรอื น (อปพร.) ในการให้ ความชว่ ยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมอื งปตั ตานี จังหวัดปตั ตานี โดยจาํ แนกตามอายุ การมสี ่วนร่วมของ อปพร. แหล่งความ df SS MS F sig แปรปรวน 0.422 0.84 3 0.28 0.904 ด้านการมสี ่วนรว่ ม ระหวา่ งกลมุ่ 35.98 116 0.31 ในการตดั สินใจ ภายในกล่มุ 36.82 119 รวม 0.52 3 0.17 0.648 0.586 ด้านการมสี ่วนร่วม ระหวา่ งกลมุ่ 31.07 116 0.26 ในการปฏิบัติการ ภายในกล่มุ 31.59 119 รวม 0.59 3 0.19 0.904 0.441 ด้านการมีสว่ นรว่ ม ระหว่างกลุม่ 24.34 116 0.21 ในผลประโยชน์ ภายในกลุ่ม 24.91 119 รวม 0.11 3 0.03 0.238 0.870 ด้านการมสี ่วนร่วมในการ ระหว่างกลมุ่ 17.96 116 0.15 ประเมินผล ภายในกลุ่ม 18.07 119 รวม 0.14 3 0.04 0.354 0.787 โดยรวม 15.57 116 0.13 ระหว่างกลุ่ม 15.71 119 ภายในกลมุ่ รวม

27 จากตารางที่ 9 พบว่า อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี โดยจําแนกตามอายุ มีส่วนร่วมในการให้ความ ชว่ ยเหลือผปู้ ระสบอทุ กภยั ไม่แตกตา่ งกัน ตารางท่ี 10 ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการ ให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี จําแนกตาม การศกึ ษา การมีสว่ นรว่ มของ อปพร. แหลง่ ความ df SS MS F sig แปรปรวน 0.861 0.41 4 0.10 0.324 ด้านการมีส่วนร่วม ระหวา่ งกลุ่ม 36.41 115 0.31 ในการตัดสนิ ใจ ภายในกลุ่ม 36.82 119 รวม 0.22 4 0.05 0.203 0.963 ดา้ นการมสี ว่ นร่วม ระหว่างกลมุ่ 31.37 115 0.27 ในการปฏิบัติการ ภายในกลมุ่ 31.59 119 รวม 1.26 4 0.31 1.544 0.194 ด้านการมสี ว่ นรว่ ม ระหว่างกลุ่ม 23.64 115 0.20 ในผลประโยชน์ ภายในกลมุ่ 24.91 119 รวม 0.87 4 0.21 1.463 0.218 ดา้ นการมีส่วนร่วมในการ ระหว่างกล่มุ 17.20 115 0.15 ประเมนิ ผล ภายในกลุ่ม 18.07 119 รวม 0.27 4 0.06 0.516 0.724 โดยรวม 15.43 115 0.13 ระหวา่ งกล่มุ 15.71 119 ภายในกลุม่ รวม จากตารางที่ 10 พบว่า การมสี ่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี โดยจําแนกตามการศึกษา มีส่วนร่วม ในการให้ความช่วยเหลอื ผปู้ ระสบอทุ กภยั ไม่แตกตา่ งกนั

28 ตารางท่ี 11 ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี โดยจําแนกตาม สถานภาพในครอบครวั การมีส่วนรว่ มของ อปพร. แหล่งความ df SS MS F sig แปรปรวน 0.222 1.36 3 0.45 1.484 ดา้ นการมสี ว่ นร่วม ระหวา่ งกลมุ่ 35.46 116 0.30 ในการตดั สินใจ ภายในกลุ่ม 36.82 119 รวม 2.23 3 0.74 2.941 0.036* ดา้ นการมีสว่ นร่วม ระหวา่ งกลมุ่ 29.36 116 0.25 ในการปฏิบตั ิการ ภายในกลมุ่ 31.59 119 รวม 0.55 3 0.18 0.878 0.455 ด้านการมสี ว่ นร่วม ระหว่างกลุม่ 24.35 116 0.21 ในผลประโยชน์ ภายในกลมุ่ 24.91 119 รวม 0.33 3 0.114 0.729 0.536 ด้านการมสี ว่ นร่วมในการ ระหว่างกลุม่ 17.74 116 0.15 ประเมนิ ผล ภายในกลุม่ 18.07 119 รวม 0.57 3 0.19 1.473 0.226 โดยรวม 15.13 116 0.13 ระหวา่ งกลุ่ม 15.71 119 ภายในกล่มุ รวม *p< .05 จากตารางที่ 11 พบว่า การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี โดยจําแนกตาม สถานภาพในครอบครวั มีสว่ นรว่ มในการใหค้ วามช่วยเหลอื ผ้ปู ระสบอุทกภัย โดยรวมไม่แตกต่างกัน และ ในดา้ นการมสี ว่ นร่วมในการปฏบิ ัติการ มคี วามแตกตา่ งกันอย่างมีนยั สําคญั ทางสถิตทิ ่รี ะดับ .05 จากตารางท่ี 11 ผลการเปรียบเทียบการมีสว่ นรว่ มของอาสาสมคั รปอ้ งกนั ภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการใหค้ วามช่วยเหลอื ผ้ปู ระสบอทุ กภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมอื งปตั ตานี จังหวดั ปัตตานี จาํ แนกตามสถานภาพในครอบครัว ในดา้ นการมีสว่ นรว่ มในการปฏบิ ตั ิการ มคี วามแตกต่างกันอย่างมี นยั สําคัญทางสถติ ิที่ระดับ .05 เพือ่ นํามาทดสอบเป็นรายคู่ โดยใช้ LSD (Least Significant Difference) ตารางที่ 12 ผลการวเิ คราะหเ์ พือ่ เปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของอาสาสมคั รปอ้ งกันภยั ฝ่ายพลเรอื น (อปพร.) ในการใหค้ วามชว่ ยเหลือผปู้ ระสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอาํ เภอเมืองปัตตานี จงั หวัดปตั ตานี ทมี่ สี ถานภาพในครอบครวั ต่างกนั ในดา้ นการมสี ว่ นรว่ มในการปฏิบัติการ ดงั นี้

29 การมสี ว่ นรว่ มของ อปพร. สถานภาพใน คา่ เฉล่ีย โสด สมรส หย่ารา้ ง หมา้ ย ครอบครัว ดา้ นการมสี ว่ นร่วมใน  3.45 3.75 3.62 3.67 การปฏบิ ตั กิ าร โสด 3.45 0.30* สมรส 3.75 0.30* หยา่ ร้าง 3.62 หม้าย 3.67 จากตารางที่ 12 แสดงว่า การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ใน การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ที่มีสถานภาพใน ครอบครัวต่างกัน พบว่า โดยรวมแตกต่างกัน 1 คู่ คือ สถานภาพโสดกับสถานภาพสมรส มีความ แตกต่างกันอยา่ งมีนยั สําคญั ทางสถิตทิ ่รี ะดบั .05 ตารางที่ 13 ผลการเปรียบเทียบการมสี ว่ นรว่ มของอาสาสมัครป้องกันภัยฝา่ ยพลเรือน (อปพร.) ใน การให้ความช่วยเหลือผ้ปู ระสบอทุ กภัย : กรณศี กึ ษาอําเภอเมืองปตั ตานี จังหวัดปตั ตานี โดยจาํ แนกตาม รายได/้ เดอื น การมีสว่ นรว่ มของ อปพร. แหลง่ ความ df SS MS F sig แปรปรวน 0.828 0.28 3 0.09 0.296 ด้านการมสี ว่ นรว่ ม ระหว่างกลมุ่ 36.54 116 0.31 ในการตดั สินใจ ภายในกลมุ่ 36.82 119 รวม 0.04 3 0.01 0.051 0.985 ด้านการมสี ่วนรว่ ม ระหวา่ งกล่มุ 31.55 116 0.27 ในการปฏบิ ัติการ ภายในกล่มุ 31.59 119 รวม 2.34 3 0.78 4.017 0.009* ดา้ นการมีส่วนร่วม ระหว่างกล่มุ 22.56 116 0.19 ในผลประโยชน์ ภายในกลุ่ม 24.91 119 รวม 0.78 3 0.26 1.743 0.162 ด้านการมสี ว่ นรว่ มในการ ระหว่างกลมุ่ 17.29 116 0.14 ประเมินผล ภายในกลมุ่ 18.07 119 รวม 0.34 3 0.11 0.856 0.466 โดยรวม 15.37 116 0.13 ระหวา่ งกลุ่ม 15.71 119 ภายในกลุ่ม รวม

30 จากตารางท่ี 13 พบว่า การมสี ว่ นร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี โดยจําแนกตาม รายได้/เดือน มีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยรวมไม่แตกต่างกัน และในด้าน การมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ มีความแตกต่างกนั อย่างมีนยั สําคญั ทางสถติ ทิ ร่ี ะดับ .05 ตารางท่ี 14 ผลการวิเคราะห์เพ่ือเปรียบเทียบการมสี ว่ นรว่ มของอาสาสมคั รปอ้ งกนั ภยั ฝา่ ยพลเรือน (อปพร.) ในการใหค้ วามช่วยเหลือผูป้ ระสบอทุ กภยั : กรณศี กึ ษาอําเภอเมืองปตั ตานี จังหวัดปัตตานี ที่มรี ายได้/เดอื นตา่ งกนั ในดา้ นการมีส่วนรว่ มในผลประโยชน์ ดงั น้ี การมสี ่วนรว่ มของ รายได้/เดือน ตํา่ กวา่ 5,000 10,001 สูงกว่า อปพร. คา่ เฉลี่ย 5,000 – – 15,000 บาท ดา้ นการมสี ว่ นร่วม บาท 10,000 15,000 2.75 ในผลประโยชน์ บาท บาท  2.58 2.44 2.75 .31* ตา่ํ กว่า 5,000 บาท 2.58 .31* .31* .31* 5,000 – 10,000 บาท 2.44 10,001 –15,000 บาท 2.75 สงู กว่า 15,000 บาท 2.75 จากตารางท่ี 14 แสดงวา่ การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ใน การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ที่มีรายได้/เดือน ตา่ งกัน พบวา่ โดยรวมแตกตา่ งกัน 2 คู่ คอื รายได้ 5,000 – 10,000 บาท กับ รายได้ 10,001 –15,000 บาท และ รายได้ 5,000 – 10,000 บาท กับรายได้สูงกว่า 15,000 บาท มีความแตกต่างกันอย่างมี นยั สําคญั ทางสถิติท่ีระดบั .05

31 ตารางท่ี 15 ผลการเปรียบเทยี บการมีส่วนรว่ มของอาสาสมัครป้องกนั ภัยฝา่ ยพลเรือน (อปพร.) ในการ ใหค้ วามชว่ ยเหลือผู้ประสบอทุ กภัย : กรณศี กึ ษาอําเภอเมอื งปัตตานี จังหวดั ปตั ตานี โดยจาํ แนกตาม ระยะเวลาทอี่ าศัยในชุมชน การมีสว่ นร่วมของ อปพร. แหลง่ ความ df SS MS F sig แปรปรวน 3.19 3 1.06 3.67 0.0014* ด้านการมสี ่วนรว่ ม ระหว่างกลุ่ม 33.63 116 0.29 ในการตดั สินใจ ภายในกลุ่ม 36.82 119 รวม 2.97 3 0.99 4.02 0.009* ด้านการมีส่วนรว่ ม ระหวา่ งกลมุ่ 28.62 116 0.24 ในการปฏบิ ตั กิ าร ภายในกลุม่ 31.59 119 รวม 1.03 3 0.34 1.683 0.175 ด้านการมีสว่ นร่วม ระหว่างกลุม่ 23.87 116 0.20 ในผลประโยชน์ ภายในกลมุ่ 24.91 119 รวม 1.17 3 0.39 2.698 0.049* ดา้ นการมสี ่วนรว่ มในการ ระหว่างกลุ่ม 16.89 116 0.14 ประเมนิ ผล ภายในกลมุ่ 18.07 119 รวม 1.34 3 0.45 3.632 0.015* โดยรวม 14.36 116 0.12 ระหว่างกลุ่ม 15.71 119 ภายในกล่มุ รวม *p< .05 จากตารางที่ 15 พบวา่ การมีสว่ นรว่ มของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี โดยจําแนกตาม ระยะเวลาที่อาศัยในชุมชน มีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยรวม ด้านการมีส่วน ร่วมในการตัดสินใจ ด้านการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการ และด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผล มี ความแตกตา่ งกนั อยา่ งมนี ยั สําคญั ทางสถิติท่ีระดับ .05 จากตารางที่ 15 ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ตาม ระยะเวลาท่ีอาศัยในชุมชน โดยรวมด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ด้านการมีส่วนร่วมในการ ปฏิบตั กิ าร และด้านการมสี ว่ นร่วมในการประเมินผล มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เพือ่ นํามาทดสอบเปน็ รายคู่ โดยใช้ LSD (Least Significant Difference) ตารางที่ 16 ผลการวเิ คราะหเ์ พอื่ เปรียบเทียบการมสี ่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกนั ภยั ฝา่ ยพลเรือน (อปพร.) ในการใหค้ วามช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณศี ึกษาอําเภอเมอื งปตั ตานี จังหวัดปัตตานี ตามระยะเวลาที่อาศยั ในชมุ ชน ดงั น้ี

32 การมีสว่ นรว่ ม สถานภาพใน คา่ เฉลี่ย 1-5 ปี 6-10 ปี 11-15 ปี 15 ปี ดา้ นการมีสว่ นรว่ ม ครอบครวั ขนึ้ ไป ในการตัดสินใจ  3.20 3.30 3.64 3.66 ดา้ นการมสี ่วนร่วม ในการปฏิบตั กิ าร 1-5 ปี 3.20 .46* ด้านการมสี ว่ นรว่ ม 6-10 ปี 3.30 .36* ในการประเมินผล 11-15 ปี 3.64 โดยรวม 15 ปขี ้ึนไป 3.66  3.13 3.46 3.73 3.73 1-5 ปี 3.13 .60* .59* 6-10 ปี 3.46 .26* 11-15 ปี 3.73 . 15 ปีขึ้นไป 3.73  3.06 3.41 3.48 3.57 1-5 ปี 3.06 .41* .49* 6-10 ปี 3.41 11-15 ปี 3.48 15 ปขี ึ้นไป 3.57  3.01 3.29 3.54 3.53 1-5 ปี 3.01 .53* .52* 6-10 ปี 3.29 .24* 11-15 ปี 3.54 15 ปขี ึน้ ไป 3.53 จากตารางท่ี 16 แสดงว่า การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ใน การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี มีสถานภาพ ในครอบครัวต่างกัน พบวา่ ด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ แตกต่างกัน 2 คู่ คือ 1-5 ปี กับ 15 ปีข้ึนไป และ 6-10 ปี กบั 15 ปีขึน้ ไป มีความแตกตา่ งกนั อยา่ งมีนยั สําคัญทางสถิตทิ รี่ ะดบั .05 ด้านการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการ แตกต่างกัน 3 คู่ คือ 1-5 ปี กับ 11-15 ปี 1-5 ปี กับ 15 ปขี ้ึนไป และ 6-10 ปกี ับ 15 ปขี ึน้ ไป มคี วามแตกต่างกันอยา่ งมีนัยสําคัญทางสถติ ทิ ร่ี ะดับ .05 ด้านการมีสว่ นร่วมในการประเมินผล แตกต่างกัน 2 คู่ คือ 1-5 ปี กับ 15 ปีขึ้นไป และ 6-10 ปี กับ 15 ปีข้นึ ไป มคี วามแตกตา่ งกันอยา่ งมีนัยสําคญั ทางสถิตทิ ่ีระดับ .05 โดยรวม แตกต่างกัน 2 คู่ คอื 1-5 ปี กับ 11-15 ปี 1-5 ปี กับ 15 ปขี ึ้นไป และ 6-10 ปี กับ 15 ปขี ึน้ ไป มคี วามแตกตา่ งกนั อย่างมีนัยสาํ คญั ทางสถติ ทิ ี่ระดบั .05

33 ส่วนที่ 4 ปัญหาอุปสรรคและขอ้ เสนอแนะของอาสาสมคั รป้องกนั ภยั ฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ ความชว่ ยเหลอื ผ้ปู ระสบอุทกภัย : กรณศี ึกษาอาํ เภอเมืองปตั ตานี จงั หวัดปตั ตานี ตารางท่ี 17 ปัญหาหรอื อปุ สรรคทส่ี ําคัญของการมีสว่ นรว่ มในการป้องกนั อุทกภยั ท่ี ปญั หาหรืออปุ สรรค ความถี่ 1. ประชาชนไม่ค่อยใหค้ วามสําคัญกับอทุ กภัย 7 2. ขาดการประชาสัมพนั ธ์อยา่ งทวั่ ถึง 19 3. ควรมีการสร้างทอ่ ระบายนํ้าให้ใหญข่ นึ้ 5 4. คนู าํ้ ทอ่ ระบายต้องหม่นั ลอกทําความสะอาด 12 5. ขยะอุดตนั ท่อระบายนาํ้ เล็กไป 9 จากตารางท่ี 16 ปัญหาหรอื อุปสรรคท่ีสําคญั ของการมีสว่ นรว่ มในการป้องกันอุทกภยั คอื ประชาชนไม่ค่อยให้ความสําคัญกับอุทกภัย ขาดการประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง ควรสร้างท่อระบายน้ํา ให้ใหญข่ น้ึ คนู ํ้า ทอ่ ระบายตอ้ งหมั่นลอกทาํ ความสะอาด ขยะอดุ ตนั ทอ่ ระบายน้ําเล็กไป ตารางท่ี 18 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกบั การมสี ว่ นร่วมในการป้องกันอุทกภัย ท่ี ปญั หาหรอื อุปสรรค ความถี่ 1. ใหม้ ีการใหค้ วามรูใ้ นเรอื่ งของสาธารณภยั อย่างตอ่ เนื่อง 11 2. การประชาสมั พนั ธ์ 23 3. จัดให้มีการประชมุ บ่อยๆ 6 4. แจง้ ข่าวสารอย่างถูกต้องรวดเร็ว 9 5. ให้มีการประชมุ พบปะเพอ่ื นสมาชกิ ทุกเดอื น 6 6. เตรยี มความพร้อมเมอ่ื รู้ว่าอทุ กภยั กําลงั มา 7 7. สว่ นกลางต้องสนบั สนนุ เครือ่ งมืออุปกรณ์อย่างรวดเรว็ เมอ่ื เกดิ 15 อทุ กภัย จากตารางท่ี 18 ข้อเสนอแนะเก่ียวกับการมีส่วนร่วมในการป้องกันอุทกภัย คือ ให้มีการให้ ความรู้ในเร่ืองของสาธารณภัยอย่างต่อเนื่อง การประชาสัมพันธ์ จัดให้มีการประชุมบ่อยๆ แจ้งข่าวสาร อย่างถูกต้องรวดเร็ว ให้มีการประชุมพบปะเพื่อนสมาชิกทุกเดือน เตรียมความพร้อมเม่ือ รู้ว่าอุทกภัย กาํ ลงั มา สว่ นกลางตอ้ งสนบั สนุนเครื่องมอื อปุ กรณอ์ ย่างรวดเรว็ เมื่อเกิดอุทกภัย

34 ผลการทดสอบสมมติฐาน ไมส่ อดคล้อง สว่ นท่ี 5 สรปุ ผลการทดสอบสมมตุ ิฐาน ไม่สอดคลอ้ ง ตารางที่ 19 : สรุปผลการทดสอบสมมตุ ิฐาน สอดคล้อง สมมติฐาน สมมติฐานท่ี 1 : การมีส่วนรว่ มของอาสาสมคั รปอ้ งกันภยั ฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบ อทุ กภัยอยใู่ นระดบั มาก สมมตฐิ านท่ี 2: อาสาสมคั รปอ้ งกันภัยฝ่ายพลเรอื น (อปพร.) ท่มี เี พศ อายุ ระดบั การศกึ ษา สถานภาพในครอบครวั รายได/้ เดอื น ระยะเวลาทอ่ี าศยั ในชุมชน ตา่ งกันมอี ทิ ธิพล ตอ่ การมสี ่วนร่วมในการให้ความชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบอทุ กภัย แตกตา่ งกนั 2.1 อาสาสมัครปอ้ งกันภัยฝา่ ยพลเรอื น (อปพร.) ทมี่ เี พศ อายุ ระดับการศึกษา ต่างกันมีอิทธิพลต่อการ มสี ่วนร่วมในการให้ความชว่ ยเหลือผปู้ ระสบอทุ กภัย ไม่แตกต่างกนั 2.2 อาสาสมัครป้องกันภยั ฝ่ายพลเรอื น (อปพร.) ท่ีมสี ถานภาพในครอบครวั รายได้/เดือน ระยะเวลาทอี่ าศยั ในชมุ ชน ต่างกันมอี ทิ ธิพลต่อการมสี ่วนรว่ มในการใหค้ วาม ช่วยเหลือผู้ประสบอทุ กภัยแตกตา่ งกัน ผลการทดสอบสมมตุ ิฐานตามตารางท่ี 19 สรุปไดด้ งั น้ี สมมติฐานที่ 1: การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความ ชว่ ยเหลอื ผู้ประสบอุทกภัยอยู่ในระดับมาก ผลการทดสอบสมมติฐาน ไม่สอดคล้อง เน่ืองจากภาพรวมของ การมีส่วนร่วมอยู่ในระดับปานกลาง ซ่ึงแยกเป็นรายด้านพบว่าด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผล มี ค่าเฉลี่ยในระดับปานกลาง และดา้ นการมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ มคี า่ เฉลี่ยในระดบั นอ้ ย สมมติฐานที่ 2 : อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ท่ีมีเพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพในครอบครัว รายได้/เดือน ระยะเวลาท่ีอาศัยในชุมชน ต่างกันมีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมใน การให้ความชว่ ยเหลือผูป้ ระสบอุทกภัยแตกตา่ งกัน ผลการทดสอบสมมติฐาน ไม่สอดคล้องใน ตัวแปรเพศ อายุ การศึกษา ต่างกันมีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยไม่แตกต่างกัน และผลการทดสอบสมมติฐานสอดคล้องในตัวแปรของสถานภาพในครอบครัว รายได้/เดือน และ ระยะเวลาท่ีอาศัยในชุมชนจนถึงปัจจุบันชุมชน ต่างกันมีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมในการให้ความ ช่วยเหลือผปู้ ระสบอุทกภัยแตกต่างกนั

35   บทที่ 5 บทสรุปและข้อเสนอแนะ บทนี้เป็นการสรุปผลการศึกษา ผลการทดสอบสมมติฐาน การอภิปรายผลของการศึกษา เปรียบเทียบกับแนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยท่ีเกี่ยวข้องที่ผู้วิจัยได้ทําการสืบค้นและนําเสนอไว้ใน บทท่ี 2 การนําผลการศกึ ษาไปใช้ในทางปฏบิ ตั แิ ละข้อเสนอแนะสําหรับการวจิ ัยครั้งตอ่ ไป สรุปผลการศกึ ษา ผลการศกึ ษาดา้ นคณุ สมบัติของผู้ตอบแบบสอบถาม และผลสรปุ ตามวตั ถุประสงค์มดี ังนี้ จากการเกบ็ ขอ้ มูลจากกลุ่มตัวอย่าง อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ท้ังหมด จํานวน 120 คน และเม่ือศึกษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม เป็นเพศชาย จํานวน 104 คน คิดเป็น ร้อยละ 86.70 อายุ 30–40 ปี จํานวน 49 คน คิดเป็นร้อยละ 44.80 จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ตอนปลายหรือเทียบเท่า จํานวน 34 คน คิดเป็นร้อยละ 28.30 สถานภาพสมรส จํานวน 69 คน คิดเป็นร้อยละ 57.50 รายได้/เดือน 5,000 – 10,000 บาท จํานวน 49 คน คิดเป็นร้อยละ 40.80 อาศัยอยู่ในชุมชน 15 ปีขน้ึ ไป จาํ นวน 77 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 64.20 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ ความช่วยเหลอื ผูป้ ระสบอทุ กภยั : กรณีศกึ ษาอาํ เภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย การมีส่วนร่วมของ อปพร. ด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ด้านการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการ ด้าน การมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ ด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผลพบว่า โดยภาพรวมมีค่าเฉล่ียอยู่ใน ระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยของแต่ละรายด้าน ในด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจโดย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ท่านเคยแนะนําชุมชนเพ่ือร่วมกันวางแผนป้องกัน และบรรเทาภยั จากอุทกภัย มคี ่าเฉลยี่ มากที่สุด รองลงมา คอื ทา่ นเคยแจง้ เตือนภยั ให้กับประชาชนท่ีอยู่ ในพ้ืนทีท่ ราบ และท่านเคยเป็นแกนนําในการสร้างจิตสํานึกให้ประชาชนทราบถึงอันตรายของอุทกภัย มี ค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ด้านการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ท่านเคยจัดเตรียมและสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อสงเคราะห์ผู้ประสบภัย มีค่าเฉลี่ยมาก ที่สุด รองลงมาคือ ท่านเคยมีส่วนร่วมในการตรวจสอบจุดเสี่ยงภัย และท่านเคยมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง ภัยจากอุทกภัยท่ีอาจจะเกิดข้ึนในพ้ืนท่ี มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ด้านการมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ โดย ภาพรวมอยู่ในระดับน้อย เม่ือพิจารณารายข้อพบว่า ท่านได้รับวิทยุส่ือสารของทางราชการในการปฏิบัติ หน้าท่ีตามท่ีได้รับมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษร มีค่าเฉล่ียมากท่ีสุด รองลงมาคือท่านเคยสมัครเข้ารับ การคัดเลือกเพื่อเป็น อปพร.ดีเด่น และท่านเคยได้รับการเสนอช่ือเข้ารับเครื่องราชอิสริยาภรณ์มีค่าเฉล่ีย น้อยที่สุด และด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผลโดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เม่ือพิจารณา รายข้อพบว่า โดยท่านเคยเข้าร่วมประชุมประชาคม อปพร. และได้แนะนําหรือแสดงความคิดเห็นให้กับ ท้องถิ่นหรือส่วนราชการที่เก่ียวข้องเพ่ือเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการภัยมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมาคือท่านเคยร่วมประเมินผลการดําเนินการในการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และท่านเคยร่วมประเมินผลการดําเนินการในการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีค่าเฉลี่ย น้อยทีส่ ุด

36   การเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความ ช่วยเหลอื ผูป้ ระสบอุทกภัย : กรณีศกึ ษาอาํ เภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี โดยจําแนกตาม เพศ อายุ การศึกษา สถานภาพในครอบครัว รายได้/เดือน ระยะเวลาท่ีอาศัยในชุมชน ผลจากการเปรียบเทียบ พบว่า อาสาสมัครปอ้ งกนั ภยั ฝา่ ยพลเรือน (อปพร.) ที่มีเพศ อายุ การศึกษา ต่างกันมีส่วนร่วมในการให้ ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ไม่แตกต่างกัน และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ท่ีมี สถานภาพในครอบครัว รายได้/เดือน และระยะเวลาที่อาศัยในชุมชนต่างกันมีส่วนร่วมในการให้ความ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยสถานภาพใน ครอบครัวแตกต่างกันในด้านการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการ มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 รายได้/เดือนแตกต่างกันในด้านการมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ มีความแตกต่างกันอย่างมี นัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 ระยะเวลาท่ีอาศัยในชุมชนจนถึงปัจจุบันแตกต่างกันในด้านการมีส่วนร่วม ในการตัดสินใจด้านการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการ และด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผลมีความ แตกตา่ งกนั อย่างมีนัยสาํ คญั ทางสถิตทิ ีร่ ะดบั .05 ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี จากศึกษาพบว่า อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ได้เสนอปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะไว้หลายประเด็น ประกอบไปด้วยด้านปัญหาอุปสรรค คือ ประชาชนไม่ค่อยให้ความสําคัญกับอุทกภัย ขาดการ ประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง ควรสร้างท่อระบายนํ้าให้ใหญ่ขึ้น คูน้ํา ท่อระบายต้องหมั่นลอกทําความ สะอาด ขยะอุดตัน และท่อระบายน้ําเล็กไป และมีข้อเสนอแนะ คือ ให้มีการให้ความรู้ในเร่ืองของ สาธารณภัยอย่างต่อเน่ือง มีการประชาสัมพันธ์ จัดให้มีการประชุมบ่อยๆ แจ้งข่าวสารอย่างถูกต้อง รวดเร็ว ให้มีการประชุมพบปะเพ่ือนสมาชิกทุกเดือน เตรียมความพร้อมเมื่อรู้ว่าอุทกภัยกําลังมา และ สว่ นกลางตอ้ งสนับสนุนเคร่อื งมืออุปกรณ์อย่างรวดเรว็ เมอื่ เกิดอทุ กภยั การอภปิ รายผล การศึกษาการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ผู้วิจัยได้อภิปรายผลการวิจัย ไว้ดังนี้ การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัยอยู่ในระดบั ปานกลาง เนื่องจาก อปพร. ส่วนหนึ่งอาจจะยังไม่เข้าใจในบทบาทหน้าท่ีของ ตนเอง และการเป็น อปพร. ไม่มีค่าตอบแทน จึงทําให้ขาดแรงจูงใจการปฏิบัติงาน ดังน้ันหน่วยงานที่ เกยี่ วขอ้ งควรใหค้ วามสําคัญกับอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนให้มากขึ้น เพื่อท่ีจะให้ อปพร. เข้ามามี ส่วนร่วม และสามารถเป็นกําลังหลักในการช่วยเหลือประชาชนในกรณีเกิดภัยพิบัติได้ซ่ึงสอดคล้องกับผล การศึกษาของกังสดาล สุวรรณรงค์ (2539) ได้ศึกษาการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครสาธารณสุขใน กิจกรรมศนู ย์สาธารณสขุ มูลฐานชุมชน อาํ เภอพระยืน จังหวดั ขอนแก่น พบวา่ ลกั ษณะการมสี ่วนรว่ มอยู่

37   ในระดบั ปานกลาง ดงั นนั้ ผู้ศกึ ษาควรศึกษาลักษณะการมีส่วนร่วมเพื่อนําไปพัฒนาการสร้างแบบสอบถาม การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ดังท่ีอิบราเฮ็ม ณรงค์รักษาเขต และ คณะ, 2548 : 30 ไดก้ ลา่ วถงึ ลักษณะการมสี ว่ นร่วมไว้ 4 ขน้ั ตอน คอื 1) การมีสว่ นร่วมในการตดั สินใจ ประกอบดว้ ย การริเริ่มตัดสินใจ ดําเนนิ การตัดสิน ตดั สินใจลงมอื ปฏบิ ัตกิ าร 2) การมสี ว่ นร่วมในการปฏิบตั กิ าร ประกอบดว้ ย การสนับสนุนทางด้านทรัพยากร การเขา้ รว่ มในการบรหิ าร การประสานขอความร่วมมอื 3) การมสี ่วนร่วมในผลประโยชน์ ไมว่ ่าจะเป็นผลประโยชน์ทางด้านวตั ถุ ผลประโยชน์ ทางสงั คม ผลประโยชนส์ ่วนบุคคล 4) การมสี ว่ นร่วมในการประเมินผลเป็นการควบคุมและการตรวจสอบการดําเนิน กิจกรรมทง้ั หมด และเป็นแสดงถึงการปรับตัวในการมีส่วนร่วมตอ่ ไป อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ที่มีเพศ อายุ การศึกษา ต่างกัน มีส่วนร่วมในการให้ ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ไม่แตกต่างกัน เน่ืองจากการมีจิตอาสาของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในเร่ืองการมีส่วนร่วมในการให้ ความช่วยเหลอื ผปู้ ระสบอุทกภัยไม่ได้คํานึงถึงเพศ อายุ ระดับการศึกษา และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่าย พลเรือน (อปพร.) ที่มีสถานภาพในครอบครัว รายได้/เดือน และระยะเวลาที่อาศัยในชุมชนมีส่วนร่วมใน การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานีมีความแตกต่าง กันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ.05 เนื่องจาก อปพร. ที่อาศัยในชุมชนเป็นระยะเวลานานอาจจะมี ความผูกพันกับท้องถิ่นที่อาศัยอยู่จึงมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมากข้ึน ซึ่งสอดคล้องกับ ผลการศึกษาของพนมกร สุวรรณรัต (2541) ได้ศึกษา การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่าย พลเรือนในการป้องกนั อาชญากรรมในเขตจังหวัดนครปฐม พบว่าการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัย ฝ่ายพลเรือนในการป้องกันอาชญากรรมอยู่ในระดับตํ่า ในด้านปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า การศึกษาและ ตําแหนง่ ทางสังคมเทา่ นั้นท่ีมคี วามสัมพันธ์กบั การมีสว่ นร่วมอย่างมีนัยสาํ คัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนใน ด้านปัจจัยทางสังคม พบว่าการประชุมกับเพื่อนบ้าน การให้ความสําคัญต่อปัญหาอาชญากรรม และความ ซือ่ สตั ย์ของตาํ รวจเทา่ นั้นท่มี ีความสัมพนั ธก์ ับการมสี ่วนรว่ ม อยา่ งมนี ยั สําคัญทางสถติ ิท่ีระดบั 0.05 ขอ้ เสนอแนะ จากผลการวิจัยปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการใหค้ วามชว่ ยเหลือผปู้ ระสบอุทกภยั : กรณีศึกษาอําเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี พบว่า ลักษณะการมีส่วนร่วมโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ดังนั้น หน่วยงานที่เก่ียวข้องควรให้ความสําคัญกับ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนให้มากขึ้น เพื่อที่จะให้ อปพร. เข้ามามีส่วนร่วม และสามารถเป็น กาํ ลงั หลักในการชว่ ยเหลอื ประชาชนในกรณเี กดิ ภัยพบิ ัติได้ ผศู้ กึ ษามีขอ้ เสนอแนะ ดังนี้

38   1. การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ พบว่า การเป็นแกนนําในการสร้างจิตสํานึกให้ประชาชน ทราบถึงอันตรายของอุทกภัยมีค่าเฉลี่ยน้อยท่ีสุด จึงควรส่งเสริมโดยการให้ความรู้/การประชาสัมพันธ์ให้ อปพร. เห็นความสําคญั ของภยั พบิ ตั ทิ จี่ ะเกดิ ขึ้น เพราะการแกนนําในการสร้างจิตสํานึกให้ประชาชนทราบ ถึงอันตรายของอุทกภัยเป็นการเตรียมความพร้อมในการกรณีที่ภัยจะเกิดขึ้น ซึ่งประชาชนจะได้เตรียม อพยพสิง่ ของ/ทรัพยส์ นิ ไว้ในทีป่ ลอดภัย และสามารถลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ส่วนในกิจกรรม อื่น ๆ ของการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจก็ต้องส่งเสริมให้ อปพร.มีความตระหนักในภัยท่ีจะเกิดข้ึนอีก เช่นกนั 2. ดา้ นการมีสว่ นรว่ มในการปฏิบัตกิ าร พบวา่ การมสี ว่ นร่วมในการเฝ้าระวังภัยจากอุทกภัยที่ อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่ค่าเฉล่ียน้อยท่ีสุด หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องจึงควรมีการพบปะพูดคุย/การประชุมแบบ เป็นทางการหรือไม่เป็นทางการก็ได้ เป็นการแลกเปล่ียนความเห็นซ่ึงกันและกัน อีกท้ังได้เน้นยํ้าบทบาท ของ อปพร.ในการเตรียมความพร้อมการเฝ้าระวังภัยจากอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ส่วนในกิจกรรมอื่น ๆ ของการมสี ว่ นร่วมในการปฏบิ ตั กิ ารก็ควรสง่ เสรมิ ให้ อปพร. เข้ามามีส่วนร่วมให้มากข้ึนเพ่ือเป็นกําลังหลัก ในการท่ีจะช่วยเหลือภาครัฐ เพราะ อปพร.สามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ในทุกขั้นตอนของการเกิดภัย ท้ัง กอ่ นเกิดภยั ขณะเกิดภยั และหลังเกดิ ภัย และทส่ี ําคัญหน่วยงานที่เก่ยี วข้องจะต้องแจง้ ให้ อปพร. ทราบ ถึงบทบาท หน้าท่ี และสิทธิประโยชน์ท่ีได้รับจากภาครัฐ เพื่อเป็นขวัญและกําลังใจให้กับ อปพร. ที่ เสียสละเวลามาปฏิบัติหนา้ ทเ่ี พ่อื ช่วยเหลือภาครฐั และประชาชน 3. ด้านการมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ พบว่า การได้รับการเสนอชื่อเข้ารับเครื่องราช อิสริยาภรณ์ มีคา่ เฉลย่ี น้อยสดุ และในภาพรวมมสี ่วนรว่ มอยูใ่ นระดบั น้อย จึงควรใหค้ วามสาํ คญั กับดา้ นนี้ ให้มาก โดยเจ้าหน้าท่ีที่เก่ียวข้องควรแจ้งให้ อปพร. ทราบในสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากภาครัฐ เพราะ อปพร. เป็นอาสาสมัครที่ไม่มีค่าตอบแทนเป็นรายเดือนเหมือนอาสาสมัครประเภทอื่น และถ้า อปพร. ทราบถึงผลประโยชน์ท่ีได้รับอาจจะเป็นสิ่งจูงใจในการเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นกว่าเดิม เพราะการ ช่วยเหลอื ประชาชนและภาครฐั เปน็ ความภูมิใจและมีเกยี รติของ อปพร. 4. ด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผล พบว่า การมีส่วนร่วมในการประเมินผลการ ดําเนินการในการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด อาจจะเป็นไปได้ว่า ความถ่ีของการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีจํานวนน้อยคร้ัง อปพร.ส่วนใหญ่จึงไม่มี ส่วนร่วมในเรื่องนี้ ดังน้ันเม่ือมีการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกคร้ัง ควรส่งเสริมให้ อปพร. มีส่วนร่วมในด้านนี้ให้มากขึ้น เพื่อเป็นการฝึกฝนให้ อปพร. รู้บทบาทหน้าที่และการช่วยเหลือ ประชนมากยิง่ ขึ้น

39   ข้อเสนอแนะในการศกึ ษาครงั้ ตอ่ ไป 1. ควรนาํ ตัวแปรอืน่ เข้ามาทําการศึกษาวจิ ัยการมสี ่วนร่วมในการป้องกันภัยจากอุทกภยั เช่น ปจั จยั เกย่ี วกับสิง่ จูงใจในการสมคั รเข้ามาเป็น อปพร.ความพงึ พอใจในการปฏบิ ัติงานของ อปพร. เป็นต้น 2. ควรมกี ารศกึ ษาการมีส่วนรว่ มของ อปพร.ในภยั ด้านอนื่ ๆ เช่น ภัยจากการกอ่ ความไม่สงบ ในพื้นที่ 3 จังหวดั ชายแดนภาคใต้ ภยั จากอุบตั ิเหตกุ ารจราจร เปน็ ต้น 3. ควรมีการเปรียบเทยี บการมีสว่ นร่วมของ อปพร. ในการป้องกันอุทกภัยในพ้ืนท่ีของอําเภอ อน่ื ๆ วา่ มีความเหมอื นหรอื แตกตา่ งกันอย่างไรบา้ ง และปัจจยั อะไรบา้ งที่มีผลต่อการมีส่วนรว่ ม 4. ควรศึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ว่ามีการส่งเสริมการดําเนนิ งานในกจิ การอาสาสมคั รปอ้ งกันภัยฝา่ ยพลเรอื น มากน้อยเพยี งใด

40 บรรณานุกรม กรมปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั (2553) ระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ด้วยหนว่ ยอาสาสมัคร ป้องกนั ภัยฝา่ ยพลเรือน ศนู ย์ อปพร.กลาง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั 2553 กรงุ เทพมหานคร กองอํานวยการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยจงั หวดั ปัตตานี (2556) แผนเฉพาะกิจปอ้ งกนั และ แก้ไขปัญหาอทุ กภัย วาตภยั และดนิ ถลม่ จังหวดั ปัตตานี ประจําปี 2556 สํานักงาน ป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยจังหวดั ปตั ตานี กงั สดาล สวุ รรณรงค์ (2539) “การมีสว่ นรว่ มของอาสาสมคั รสาธารณสขุ ในกิจกรรมศนู ย์ สาธารณสุขมูลฐานชมุ ชน อาํ เภอพระยนื จังหวัดขอนแก่น” วทิ ยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จันทิมา ลมิ่ หนั (2543) “การมสี ่วนรว่ มของอาสาสมคั รสาธารณสุขประจําหม่บู ้านในการป้องกนั โรคอจุ จาระร่วง จังหวัดตรัง” วทิ ยานพิ นธ์ ปริญญาวทิ ยาศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าการวิจัยและพฒั นาระบบสาธารณสขุ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ ชชั วาล เอ่ียมเจริญ (2547) “การมีสว่ นร่วมของกาํ นนั และผ้ใู หญ่บ้านในการปอ้ งกนั อาชญากรรม ในจงั หวดั นนทบุร”ี วิทยานพิ นธ์ ปรญิ ญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร)์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ บณั ฑิตวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ชาตรี สองสี (2542) “การมสี ่วนร่วมของอาสาสมคั รสาธารณสุขประจําหมู่บ้านในการดาํ เนนิ งาน สุขาภบิ าลสิ่งแวดล้อมในชมุ ชน” ปรญิ ญาศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าการ จดั การมนุษยก์ บั สิ่งแวดลอ้ ม บัณฑิตวทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ดวงเดือน นกทวี (2548). “การมีสว่ นร่วมของประชาชน ในการจัดทําแผนพัฒนา เทศบาลนคร ภเู กต็ ” นนทบุรี: มหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธิราช นรินทรช์ ัย พฒั นพงศา (2547) การมสี ่วนร่วม : หลกั การพื้นฐาน เทคนคิ และกรณตี ัวอยา่ ง พมิ พ์คร้ังที่ 2 กรุงเทพฯ : สิรลิ ักษณก์ ารพิมพ์ พนมกร สุวรรณรตั น์ (2541) “การมสี ่วนรว่ มของอาสาสมัครปอ้ งกันภัยฝ่ายพลเรือนในการ ป้องกันอาชญากรรมในเขตจังหวัดนครปฐม” วทิ ยานิพนธ์ ปริญญาสงั คมศาสตร์ มหาบัณฑิต สาขาวิชาอาชญาวิทยาและงานยตุ ธิ รรม บณั ฑิตวทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั มหิดล “พระราชบัญญตั ปิ อ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550” สาํ นักมาตรการปอ้ งกันสาธารณภัย กรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั 2550 กรงุ เทพมหานคร รังสรรค์ ประเสรฐิ ศรี (2548) “หน่วยที่ 6 ประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ ง” ใน ประมวลสาระชดุ วิชา วทิ ยานพิ นธ์ 2 สาขาวชิ าวิทยาการจดั การ นนทบุรี มหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช วิวัฒน์ ภู่คนองศรี (2537) “การมสี ่วนร่วมของประชาชนในงานตาํ รวจชุมชนสมั พันธ์ในจงั หวัด ปตั ตานี” วทิ ยานิพนธ์ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาการศกึ ษาเพื่อพฒั นา ชุมชน มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร.์ ศูนยอ์ าสาสมคั รปอ้ งกนั ภยั ฝ่ายพลเรือนจังหวดั ปัตตานี (2557) รายงานผลการดําเนินงานการเพิม่ จํานวนอาสาสมัครปอ้ งกนั ภยั ฝา่ ยพลเรือนประจําเดอื นมกราคม 2557

41 สาํ นักงานจังหวัดปตั ตานี (2556) บรรยายสรุปจงั หวดั ปตั ตานีประจําปี 2556 กลมุ่ งานขอ้ มูล สารสนเทศและการสอ่ื สาร อบิ ราเฮ็ม ณรงค์รักษาเขต และคนอน่ื ๆ (2548) “การมีสว่ นร่วมขององค์กรมุสลิมในการส่งเสรมิ ธรรมรัฐขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาํ บลในจังหวัดชายแดนภาคใต้” รายงานการวจิ ัย โดยมลู นิธเิ อเชีย วทิ ยาลัยอสิ ลามศกึ ษา มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ เอกสิทธ์ิ สทุ ธิศาสนกลุ (2545) “ปจั จยั ทมี่ ผี ลตอ่ การมีสว่ นรว่ มของประชาชนในการปกครอง สว่ นท้องถน่ิ ขององค์การบรหิ ารส่วนตําบล จังหวัดกาญจนบรุ ี.” วิทยานพิ นธ์ ปรญิ ญา ศิลปศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาสังคมศาสตร์เพอ่ื การพฒั นา บัณฑติ วทิ ยาลัย สถาบนั ราชภฏั นครปฐม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook