หลกั การและเทคนิคปฏบิ ัตเิ กย่ี วกบัการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ โดย...อาจารย์วริศรา ม่วงช่วง
วตั ถุประสงค์การเรียนรู้1. อธิบายวงจรการแพร่กระจายเชื้อได้2. อธิบายหลักการการพยาบาลในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้3. บอกหลกั การปฏิบัติแบบ Medical asepsis และ surgicalasepsis ได้4. บอกหลักการ standard precaution และ Transmissionbased precaution ได้5. บอกวธิ ีการปฏิบตั ใิ นการป้องกนั การแพร่กระจายเชื้อได้6. บอกวธิ ีการทาลายเชื้อและการแยกขยะได้
การตดิ เชื้อ (Infection) หมายถึง การที่จุลินทรีย์ท่ีทาให้เกิดโรครุกรานเข้าไปในร่างกาย จุลนิ ทรีย์มีการเจริญเติบโตและแบ่งตัวมากจนกระท่ังทาให้หน้าที่ของร่างกายผดิ ปกติไป
วงจรการตดิ เชื้อ (Chain of Infection)
จุลนิ ทรีย์ทท่ี าให้เกดิ การตดิ เชื้อ (Infection of agents)1. แบคทเี รีย (Pathogenic bactetia) - เซลล์ค่อนข้างเล็ก สามารถมองเห็นได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์ เช่น Samonella (gastritis), Clostridium tetani(บาดทะยกั )2. โปรโตซัว (Protozoa) - เป็ นจุลนิ ทรีย์ทมี่ เี ซลล์เดยี วค่อนข้างใหญ่ เช่น Entamoebahistolytica (โรคบิด)
จุลนิ ทรีย์ทที่ าให้เกดิ การตดิ เชื้อ (Infection of agents) (ต่อ)3. เชื้อรา (Fungus) - ยสี รา (mold) ทที่ าให้เกดิ โรคเกลือ้ น4. ไวรัส (Virus) - เป็ นจุลนิ ทรีย์ที่เลก็ ที่สุดแต่สามารถมองเห็นได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน เช่ นไวรัสท่ีทาให้ เกิดตับอักเสบ (viralhepatitis) คางทูม ไข้หวดั ใหญ่5. พยาธิต่างๆ ส่วนมากมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เช่น พยาธิเส้นด้าย
การเจริญเตบิ โตของจุลนิ ทรีย์อาหารนา้ออกซิเจนอุณหภูมิภาวะความเป็ นกรด ด่างแสงสว่าง
แหล่งของเชื้อโรค (Reservoies)
ทางออกของเชื้อโรคในการแพร่กระจาย (Portal of exit)ทางเดนิ หายใจทางเดนิ อาหารทางขบั ถ่ายปัสสาวะทางอวยั วะสืบพนั ธ์ุเลือดผวิ หนังหรือเยื่อบุภายในช่องอวยั วะ
ส่ิงนาเชื้อ (Mode of Transmission)อากาศอาหารและนา้การสัมผสั โดยตรงกบั คนที่มเี ชื้อโรคน้ันวตั ถุต่างๆสัตว์และแมลงต่างๆบุคคลทม่ี ีเชื้อโรคน้นั เอง
วธิ ีการแพร่กระจายเชื้อ มี 3 วธิ ี ดงั นี้1. การแพร่กระจายเชื้อโดยการสัมผัส (Contact transmission )แบ่งออกเป็ น 2 วธิ ีคือ การสัมผสั• การสัมผสั ทางตรง (Direct contact transmission )• การสัมผสั ทางอ้อม (Indirect contact transmission )2. การแพร่กระจายเชื้อโดยละอองฝอยน้ามูกน้าลาย (Droplettransmission) การแพร่ทางละอองฝอยในอากาศ ขนาดใหญ่กว่า 5micron ในระยะไม่เกิน 3 ฟุต จากการไอ จาม พูด เช่น คอตีบ ไอกรน คางทูม ปอดอกั เสบ
วธิ ีการแพร่กระจายเชื้อ มี 3 วธิ ี ดงั นี้3. การแพร่ กระจายเชื้อทางอากาศ (Airbornetransmission) การแพร่ทางอากาศ เชื้อแขวนลอยอยู่ในอากาศ มขี นาดเลก็ กว่า 5 micron เช่น หัด สุกใส TB4. การแพร่ทางส่ือนาโรค (Common vehicle) เช่น อาหารนา้ สารนา้ ทีใ่ ห้ทางหลอดเลือดดา5. การแพร่ทางสัตว์นาโรค (Vectorborne transmission)เช่น ยงุ แมลงวนั สุนัข
ทางเข้าของเชื้อโรคท่ีทาให้เกดิ โรค (Portal of entry)
ความไวของแต่ละบุคคลในการรับการตดิ เชื้อ (Susceptible host)
ปัจจยั ที่มอี ทิ ธิพลต่อการเกดิ การตดิ เชื้อ• ความเครียด• ภาวะด้านโภชนาการ• ความอ่อนเพลยี• ได้รับความร้อนหรือเยน็ จดั มาก เกนิ ไป• ภาวะภูมแิ พ้หรือมีโรคเรื้อรัง
ปัจจัยท่ีมีอทิ ธิพลต่อการเกดิ การติดเชื้อ• เพศ• กรรมพนั ธ์ุ• อายุ• การรักษาทางการแพทย์บางชนิด• อาชีพ• ความผดิ ปกติของการเผาผลาญ สารอาหาร
หลกั การควบคุมการตดิ เชื้อ1. Medical asepsis2. Surgical asepsis
หลกั การควบคุมการตดิ เชื้อ1. Medical asepsis เป็ นวธิ ีการช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อจากท่ีหนึ่งไปยงั อกี ทหี่ น่ึง หรือจากคนหน่ึงไปสู่คนอ่ืน• - ทาความสะอาด• - การล้างมือ• - การแยกของใช้• - การแยกผู้ป่ วย (Isolation technique)
หลกั การควบคุมการตดิ เชื้อ2. Surgical asepsis เป็ นวธิ ีการที่ทาให้ปราศจากเชื้อจุลนิ ทรีย์ทุกชนิด หรือเรียกว่า sterile technique• - การใส่ถุงมือ• - การใส่เสื้อคลมุ (gown)• - การใช้ปากคบี หยบิ เครื่องมือเครื่องใช้
การทาลายจุลนิ ทรีย์ การล้างเชื้อ (disinfection) การทาให้ไร้เชื้อ (sterilization)การทาให้วตั ถุปราศจากเชื้อจุลนิ ทรีย์มี 4 วธิ ี 1) ความร้อน 2) สารเคมี 3) แสงแดด 4) คล่ืนเสียง
การทาให้วตั ถุปราศจากเชื้อจุลนิ ทรีย์ 1. การใช้ความร้อน1.1 การใช้ความร้อนแห้ง นิยมใช้ตามบ้าน เนื่องจากความร้อนอาจไม่สูงพอท่ีจะทาลายเชื้อจุลินทรีย์ได้ทุกชนิด เช่นการใช้เตาอบ ต้องใช้ด้วยอุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส เป็ นเวลา 2 ชั่วโมง จงึ จะสามารถทาลายเชื้อทที่ าให้เกดิ โรคได้1.2 ความร้อนเปี ยก คือการต้มในน้าเดือดเป็ นวิธีที่ง่ายและประหยัดแต่ ทาลายเชื้อไวรัสและจุลินทรีย์ ท่ีมีสปอร์ ได้ ยากเพราะอุณหภูมเิ พยี ง 100 องศาเซลเซียส เท่าน้ัน
การทาให้วตั ถุปราศจากเชื้อจุลนิ ทรีย์ (ต่อ) 1. การใช้ความร้อน (ต่อ)1.3 ไอน้า วิธีนีจ้ ะเหมือนกับการต้มในน้าเดือด ใช้อุณหภูมิ100 องศาเซลเซียส วธิ ีนีอ้ าจจะเหมาะกบั การใช้ทบ่ี ้าน1.4 ไอน้าและความดัน เป็ นการใช้ ความร้ อนเปี ยกและแรงดัน ทาให้ได้ความร้ อนที่สูงกว่าวิธีอื่น ซึ่งใช้ ทาลายจุลนิ ทรีย์ทุกชนิด วธิ ีนีน้ ิยมใช้ในโรงพยาบาล ใช้เคร่ืองมือท่ีเรียกว่า เครื่องน่ึงอดั (autoclave) สิ่งสาคญั ของวธิ ีนีค้ ือ การห่อให้มิดชิด ต้องใช้อุณหภูมิ 121 องศาเซลเซียส ภายใต้ความดนั 15-17 ใช้เวลา 30-45 นาที
Autoclave tape
การทาให้วตั ถุปราศจากเชื้อจุลนิ ทรีย์ (ต่อ) 2. การใช้สารเคมี2.1 ยาล้างเชื้อ (disinfection) เป็ นสารเคมีที่มีฤทธ์ิในการฆ่าหรือทาลายจุลินทรีย์ท่ีทาให้เกิดโรคได้มาก แต่จะไม่ทาลายจุลินทรีย์ท่ีมีความต้านทานสูง เช่น จุลนิ ทรีย์ทีม่ ีสปอร์ และจะไม่ใช้สารเคมีชนิดนีก้ บั จุลนิ ทรีย์ท่อี ยู่บนคนหรือส่ิงมีชีวติ เน่ืองจากจะไปทาลายเซลล์ของสิ่งมชี ีวติ ได้2.2 ยาระงับเชื้อ (antiseptic) เป็ นสารเคมีที่มีฤทธ์ิในการยับย้งั การเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ สามารถใช้กับเชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่บนสิ่งมีชีวติ ได้อย่างปลอดภยั
การทาความสะอาด/การแช่เครื่องมือตวั อย่าง การทาลายเชื้อสาหรับเครื่องป้องกนั ร่างกายของบุคลากร
การทาความสะอาด/การแช่เครื่องมือ (ต่อ)ตวั อย่าง การเตรยี มผวิ หนงั ผูป้ ่ วย
การทาความสะอาด/การแช่เครื่องมือ (ต่อ) ตวั อย่าง การเตรียมผวิ หนังผู้ป่ วย (ต่อ)
การทาความสะอาด/การแช่เคร่ืองมือ (ต่อ)ตัวอย่าง การทาความสะอาดแผล
การทาความสะอาด/การแช่เคร่ืองมือ (ต่อ)• ปรอทวดั ไข้ - แอลกอฮอล์ 70% ผสมไอโอดนี 0.2% - เวลาที่แช่ 10 นาที - อายุนา้ ยาหลงั ผสม 14 วนั
การทาความสะอาด/การแช่เครื่องมือ (ต่อ)• การทาความสะอาดเตียง โต๊ะข้างเตียง พื้น : ใช้เบนซัลโคเนียม คลอไรด์ ผสมแล้วใช้ได้ทันที• การราดส้วมในกรณีที่มีการติดเชื้ออันตราย : ใช้ฟี นอล (ไลโซล 2%) ผสมแล้วใช้ได้ทนั ที• การล้างมือก่อนและหลงั สัมผสั ผู้ป่ วย : Hibiscrub, เซฟลอน• การทาความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์ุ : Hibitane solution1:10• การแช่ผ้าเปื้ อน ปลอกหมอน กระบอกปัสสาวะและของใช้ผู้ป่ วย : ใช้เบนซัลโคเนียม คลอไรด์ แช่ 30-60 นาที ผสมแล้วอยู่ได้ 7 วนั
การทาให้วตั ถุปราศจากเชื้อจุลนิ ทรีย์ (ต่อ) 3. การใช้แสงแดดซึ่งเป็ นแสงอุลตราไวโอเลท สามารถทาลายจุลินทรีย์ท่ีทาให้เกิดโรคได้หลายชนิด แต่ไม่นิยมใช้ในโรงพยาบาล เน่ืองจากแสงแดดธรรมชาติไม่รุนแรงพอท่ีจะทาลายเชื้อจุลินทรีย์ในโรงพยาบาลได้ แต่อาจใช้ท่ีบ้านได้ เช่นการนาท่ีนอนไปตากแดดวธิ ีนีจ้ ะใช้ง่ายและประหยดั
การทาให้วตั ถุปราศจากเชื้อจุลนิ ทรีย์ (ต่อ) 4.การใช้คลื่นเสียง • คล่ืนเสียงที่ใช้ทาลายจุลินทรีย์มีความเร็วมาก จนกระท่ังมนุษย์ไม่สามารถได้ยิน ต้องใช้ ความเร็วเกิน 20,000 รอบต่อวินาที แต่วธิ ีนีย้ ัง ไม่นิยมใช้ในประเทศไทย
การแยกผู้ป่ วยโดยมีวตั ถุประสงค์• เพื่อป้องกนั การแพร่กระจายของเชื้อโรคไปสู่คนอ่ืน• เพื่อป้องกนั การตดิ เชื้อจากผู้ป่ วย• เพ่ือป้องกันการติดเชื้อเพ่ิมในผู้ป่ วยท่ีมีภูมิต้านทาน ตา่ อยู่แล้ว• เพื่อทาลายเชื้อโรคซ่ึงเป็ นตวั ทาให้เกดิ โรค
หลกั ในการทาความสะอาดเคร่ืองมือ เคร่ืองใช้ก่อนนาไปทาให้ไร้เชื้อ1. หลังจากใช้เคร่ืองมือแล้ว ต้องล้างให้สะอาดด้วยนา้ ธรรมดาก่อนเพื่อกาจัดส่ิงสกปรกออก ไม่ควรใช้น้าร้อน เพราะน้าร้อนจะทาให้โปรตีนของสารอนินทรีย์แข็งตัว เช่น เลือด น้ามูก หนอง และติดเครื่องมือแน่น ทาให้ทาความสะอาดยาก2. ใช้สบู่หรือผงซักฟอกล้างทาความสะอาดเพื่อกาจัดส่ิงสกปรกออก ใช้แปรงขัดตามซอกต่างๆ หากเป็ นท่อสายยางให้บีบรูดให้ทั่วเพื่อให้สิ่งสกปรกทอ่ี ยู่ภายในหลดุ ออก แล้วให้นา้ ผ่านหลายๆ คร้ัง3. เช็ดหรือผงึ่ ให้แห้งก่อนนาไปทาให้ไร้เชื้อตามวธิ ีทเ่ี หมาะสมต่อไป
การทาความสะอาดเครื่องมือเครื่องใช้• 1. เคร่ืองและพลาสติกต่างๆ เช่น ผ้ายางขวางเตียง หลังจากใช้ แล้วต้องล้างทาความสะอาดและผึ่งให้แห้งท้ังด้านใน ด้านนอก หลังจากน้ันให้โรยแป้งเพื่อป้องกันเนื้อยางติดกัน ม้วนเก็บ ไม่ ควรพบั เพราะจะเป็ นรอยพบั ไม่ควรเกบ็ ในทอี่ ากาศร้อน• 2. เคร่ืองแก้ว เช่น ปรอท แก้วยา ล้างทาความสะอาด ผึ่งให้แห้ง ไม่วางปนกบั โลหะเพราะจะทาให้กระทบกนั อาจแตกได้ กระบอก ฉีดยาให้แยกระหว่างลูกสูบ และกระบอกสูบ ล้างทนั ทที ใ่ี ช้เสร็จ• 3. เข็มฉีดยา ที่ต้องนามาใช้อีกควรใช้กระบอกฉีดยาดันน้าเข้า ออก ไม่ควรให้ปลายเขม็ กระทบส่ิงใดเพราะจะทาให้ปลายเขม็ ทู่
การทาความสะอาดเคร่ืองมือเครื่องใช้ (ต่อ)4. เคร่ืองโลหะ เช่นชามรูปไต หม้อนอน กรรไกร ควรใช้นา้ ทาความสะอาดแต่หากสกปรกมากควรใช้ผงขดั ขดั ตามซอกมุมต่างๆ เช็ดให้แห้งเพ่ือป้องกนั คราบนา้ จบั กนั เป็ นสนิม5. เครื่องไม้ เช่นโต๊ะข้างเตียง เก้าอี้ หลงั เช็ดด้วยนา้ สบู่แล้ว ควรเช็ดให้แห้งทนั ที6. เสื้อผ้าที่ใช้แล้ว ถ้าเปื้ อนเลือดหรือสิ่งคัดหล่ังต้องใส่ถุงแยก และมัดปากถุงให้เรียบร้อย ส่วนผ้าเปื้ อนอ่ืนให้ใส่ถุงรวมกนั ไว้ ส่งหน่วยซักฟอก ถ้าเป็ นผู้ป่ วยโรคติดต่อควรแยกและเขียนป้ายบอกไว้หรือติดเครื่องหมายกาชาดหรือเคร่ืองหมายอื่นทบ่ี อกว่าเป็ นโรคติดต่อ
การแยกผู้ป่ วยการแยกผู้ป่ วย มีวตั ถุประสงค์ คือ „ เพ่ือป้องกนั การแพร่กระจายของเชื้อโรคไปสู่คนอ่ืน „ เพื่อป้องกนั การตดิ เชื้อจากผู้ป่ วย „ เพื่อป้องกนั การตดิ เชื้อเพมิ่ ในผู้ป่ วยทมี่ ภี ูมิต้านทานตา่ อยู่แล้ว „ เพื่อทาลายเชื้อโรคซึ่งเป็ นตวั ทาให้เกดิ โรค
หลกั การของการแยกผู้ป่ วย1) ทราบโรคทผ่ี ู้ป่ วยเป็ น ทางทต่ี ดิ ต่อ การป้องกนั2) รู้วธิ ีการทาลายเชื้อโรค3) แยกผู้ป่ วย4) เตรียมของใช้ เคร่ืองมือทใ่ี ช้เฉพาะผู้ป่ วยในห้องแยก5) ล้างมือก่อนและหลงั ให้การพยาบาลทุกคร้ัง6) ใส่หน้ากาก สวมถุงมือ และใส่เสื้อคลมุ ตามความจาเป็ น7) ไม่นารายงานต่างๆ เข้าไปในห้อง8) ผ้าเปื้ อนควรแยกต่างหาก9) หากจาเป็ นต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่ วยควรควบคุมการแพร่กระจายเชื้ออย่างเคร่งครัด10) หลงั จากทผ่ี ู้ป่ วยกลบั บ้านควรทาลายเชื้อในห้องแยกให้เรียบร้อย
ชนิดของการแยกผู้ป่ วย1) การแยกผู้ป่ วยท่ีเป็ นโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ (respiratoryisolation)2) การแยกผู้ป่ วยที่เป็ นโรคติดต่อทางแผลและผิวหนัง (drainage/secretionprecaution)3) การแยกผู้ป่ วยทเี่ ป็ นโรคติดต่อทางระบบทางเดินอาหาร (enteric precaution)4) การแยกผู้ป่ วยทเี่ ป็ นโรคตดิ ต่อร้ายแรงและติดง่าย (strict isolation)5) การแยกผู้ป่ วยท่ีเป็ นโรคติดต่อโดยสัมผัสจากเลือดหรือน้าจากร่ างกาย(blood/body fluid precaution)6) การแยกผู้ป่ วยในรายทสี่ งสัยว่าจะเป็ นโรคติดต่อ (contact isolation)7) ควรแยกเพื่อป้องกันเชื้อเข้าสู่ผู้ป่ วย หรือการแยกผู้ป่ วยที่มีภูมิต้านทานต่า(protective or reverse isolation)
การแยกผู้ป่ วยตดิ เชื้อทแี่ พร่กระจายเชื้อทางอากาศ1) จัดให้ผู้ป่ วยอยู่ห้องแยกที่มีประตูปิ ดมิดชิดอยู่เสมอ ปรับความดันในห้องแยกเป็ นลบและมกี ารกรองอากาศทจ่ี ะออกจากห้อง2) สวมอุปกรณ์ป้องกนั การตดิ เชื้อทางเดนิ หายใจ3) จากดั บุคคลทเี่ ข้าไปในห้องแยก4) พยาบาลต้องล้างมือก่อน และหลงั สัมผสั ผู้ป่ วย หรือสิ่งของของผู้ป่ วย5) อุปกรณ์ / เครื่องใช้ ทใี่ ช้ในการดูแลผ้ปู ่ วย ควรล้างทาความสะอาด6) มูลฝอยตดิ เชื้อจากผู้ป่ วย เช่น กระดาษปนเปื้ อนเสมหะ นา้ มูก นา้ ลาย เสมหะของผู้ป่ วยทงิ้ ลงกระโถนทร่ี องถุงพลาสตกิ ปิ ดปากถุงให้แน่น ทงิ้ ลงในถุงแดงรองรับขยะตดิ เชื้อ7) เคร่ืองผ้าทุกชนิด หลงั ใช้แล้ว ให้ระมดั ระวงั ในการจับต้อง ทงิ้ ลงในถุงแดง ปิ ดปากถุงให้แน่น เขยี นบอกให้ทราบก่อนส่งแผนกซักฟอก8) จากัดการเคล่ือนย้ายผู้ป่ วยออกนอกห้องแยก หากจาเป็ นต้องเคลื่อนย้าย จะต้องให้ผู้ป่ วยสวมผ้าปิ ดปาก ‟ จมูก ชนิดท่ีใช้ในการผ่าตดั รวมท้งั แจ้งให้บุคลากรในหน่วยงานท่ีจะเคลื่อนย้ายผู้ป่ วยไปให้ทราบ
การแยกผู้ป่ วยตดิ เชื้อทแี่ พร่กระจายเชื้อโดยฝอยละออง 1) ผู้ป่ วยควรอยู่ห้องแยก กรณไี ม่มีห้องแยกควรจัดให้อยู่ห้องเด่ียวกบั ผู้ป่ วย ท่ตี ดิ เชื้อก่อโรคชนิดเดยี วกนั 2) สวมผ้าปิ ดปาก ‟ จมูก ชนิดสาหรับใช้ในการผ่าตัด 3) ล้างมือก่อนและหลงั สัมผสั ผู้ป่ วย หรือสิ่งของของผู้ป่ วย 4) สวมถุงมือ หากต้องสัมผสั กบั สารคดั หลงั่ หรือส่ิงปนเปื้ อนเชื้อของผู้ป่ วย 5) สวมเสื้อคลุม เมื่อปฏิบัติกจิ กรรมการพยาบาลท่ีคาดว่ามีโอกาสสัมผัสกบั ส่ิงคดั หลงั่ หรือสิ่งปนเปื้ อนของผู้ป่ วย 6) ควรระมัดระวังในการสัมผัสอุปกรณ์ที่ใช้ ในการดูแลผู้ป่ วยที่มีการ ปนเปื้ อนสารคดั หลง่ั หรือส่ิงปนเปื้ อนเชื้อของผู้ป่ วย
การแยกผู้ป่ วยตดิ เชื้อทแ่ี พร่กระจายเชื้อโดยฝอยละออง (ต่อ) 7) อุปกรณ์ เครื่องใช้ทปี่ นเปื้ อนสารคดั หลง่ั หรือสิ่งปนเปื้ อนเชื้อ ล้างทา ความสะอาด 8) เคร่ืองผ้าทุกชนิดหลงั ใช้แล้ว ให้ระมดั ระวงั ในการจับต้อง ทงิ้ ลงในถุงแดง ปิ ดปากถุงให้แน่น เขียนบอกให้ทราบก่อนส่งแผนกซักฟอก 9) มูลฝอยตดิ เชื้อจากผู้ป่ วย เช่น กระดาษปนเปื้ อนเสมหะ น้ามูก น้าลาย ทงิ้ ลงกระโถนทรี่ องถุงพลาสติก ปิ ดปากถุงให้แน่น ทงิ้ ลงในถุงแดง ส่งเผาท่ี เตาเผาขยะตดิ เชื้อ 10) การเคล่ือนย้าย หากจาเป็ นต้องเคลื่อนย้าย จะต้องให้ผู้ป่ วยสวมผ้าปิ ด ปาก ‟ จมูก และ แจ้งให้หน่วยงานทจ่ี ะเคล่ือนย้ายผู้ป่ วยไปได้ทราบ
การแยกผู้ป่ วยตดิ เชื้อทแ่ี พร่กระจายจากการสัมผสั1) ให้ผู้ป่ วยอยู่ห้องแยก ผู้ป่ วยทตี่ ิดเชื้อโรคชนิดเดยี วกนั2) สวมถุงมือสะอาด หากต้องสัมผัสกับสารคัดหล่ัง ส่ิงขับถ่ายหรือสิ่งปนเปื้ อนเชื้อของผู้ป่ วยและเปลี่ยนถุงมือเม่ือเสร็จสิ้นหนึ่งกิจกรรม ถอดถุงมือทนั ทเี มื่อสิ้นสุดการดูแลผู้ป่ วย3) ควรสวมเสื้อคลุม หากคาดว่ามีโอกาสสัมผัสกับสารคัดหล่ัง สิ่งขับถ่ายหรือสิ่งปนเปื้ อนเชื้อของผู้ป่ วย และถอดเสื้อคลมุ ก่อนออกจากห้องผู้ป่ วย4) ต้องล้างมือก่อนและหลงั สัมผสั ผู้ป่ วย หรือสิ่งของของผู้ป่ วย5) อุปกรณ์ท่ีใช้ในการดูแลผู้ป่ วย ควรแยกของใช้ของผู้ป่ วย และระมัดระวังในการจับต้องกรณที ี่เป็ นอุปกรณ์ใช้ร่วมกบั ผู้ป่ วยอื่น ให้ทาความสะอาดและทาลายเชื้ออย่างถูกวธิ ีก่อนนาไปใช้
การแยกผู้ป่ วยตดิ เชื้อทแ่ี พร่กระจายจากการสัมผสั (ต่อ)6) อุปกรณ์ เคร่ืองใช้ท่ีปนเปื้ อนสารคัดหลั่ง หรือสิ่งปนเปื้ อนเชื้อ ล้างทาความสะอาด7) เคร่ืองผ้าทุกชนิด หลงั ใช้แล้วให้ระมัดระวังในการจับต้อง ทิง้ ลงในถุงแดงปิ ดปากถุงให้แน่น เขียนบอกให้ทราบก่อนส่งแผนกซักฟอก8) มูลฝอยติดเชื้อจากผู้ป่ วย ท่ีปนเปื้ อนสิ่งคัดหลั่ง สิ่งขับถ่าย หรือสิ่งปนเปื้ อนเชื้อทงิ้ ลงกระโถนท่ีรองถุงพลาสติก ปิ ดปากถุงให้แน่น ทิง้ ลงในถุงแดง ส่งเผาทเ่ี ตาเผาขยะติดเชื้อ9) จากดั การเคล่ือนย้ายผู้ป่ วย เคล่ือนย้ายเม่ือจาเป็ นเท่าน้ัน หากผู้ป่ วยมีแผลให้ทาแผลใหม่ เพื่อป้องกันการซึมผ่านของสารคัดหลั่งของผู้ป่ วย รวมท้ังแจ้งให้บุคลากรในหน่วยงานทจี่ ะเคลื่อนย้ายผู้ป่ วยไปให้ทราบ
การพยาบาลผู้ป่ วยในห้องแยก1. อธิบายให้ผู้ป่ วยและญาติทราบเก่ียวกับความจาเป็ นในการแยกผู้ป่ วย เพื่อผู้ป่ วยและญาติจะได้เข้าใจ ยอมรับและคลายความวิตกกังวลและให้ความร่วมมือในการรักษาพยาบาล2. แนะนาผู้ป่ วยและญาติทราบถึงวิธีการปฏิบัติตนและเหตุผลเกย่ี วกบั การแยกผู้ป่ วย3. ปฏบิ ัติต่อผู้ป่ วยโดยไม่มที ่าทรี ังเกยี จ ให้ความช่วยเหลือสม่าเสมอ4. แขวนป้ายบอกวธิ ีการปฏบิ ตั ิตนสาหรับผู้ป่ วยทเ่ี ข้าห้องแยก5. ปฏบิ ตั ิตามระเบียบการแยกผู้ป่ วยอย่างเคร่งครัด6. ของใช้ประจาตวั ให้แยกจากผู้ป่ วยคนอ่ืน7. ให้การพยาบาลผู้ป่ วยตามหลกั การป้องกนั และควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ8. ทาลายเชื้อในอปุ กรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ทนั ทที ใี่ ช้เสร็จ
การแบ่งการป้องกนั ออกเป็ น 2 ประเภท1. Standard precautions เป็ นวิธีป้องกันการแพร่ กระจายเชื้อโรคในผู้ป่ วยทุกราย โดยให้คานึงว่าผู้ป่ วยทุกรายอาจจะมีเชื้อโรคท่ีสมารถติดต่อได้ทางเลือดและสารคัดหลั่งจากร่างกายทุกชนิด (Body fluid,Secretion, Excretion ยกเว้นเหง่ือ) ผวิ หนังท่ีมีแผลและเยื่อบุ (Mucous membrane)
การแบ่งการป้องกนั ออกเป็ น 2 ประเภท (ต่อ)2. Transmission-based precautions เป็ นวิธีการป้องกันการแพร่กระจายของโรคตดิ เชื้อในผู้ป่ วยท่ที ราบ การวนิ ิจฉัยแล้ว โดยป้องกันตามกลวิธีการติดต่อเพ่ิมเติมจากการดูแลผู้ป่ วยด้วยStandard precautions ดงั นี้2.1 การแพร่กระจายเชื้อทางอากาศ Airborne precautions2.2 . การแพร่กระจายเชื้อโดยละอองฝอยน้ามูกน้าลาย Dropletprecautions2.3 การแพร่กระจายเชื้อโดยการสัมผสั Contact precautions
Universal precaution การระมัดระวังป้องกันตนเองของบุคคลากรทางการแพทย์ให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อท่ีอาจติดต่อทางหลอดเลือดและสารน้าจากร่างกาย (blood and body fluids) โดยปฏิบัติต่อผู้ป่ วยหรือผู้ใช้บริการทุกรายเหมือนกนั และทุกคร้ังทปี่ ฏบิ ัตงิ านบุคลากรได้รับเชื้อจาก.......... ถูกเขม็ ตา หรือของมีคมบาด มือมีบาดแผล ผวิ หนงั แตกหรือมีรอยแตก เลือดหรือสิ่งคดั หลง่ั กระเดน็ เข้าตา ปาก จมูก
Universal precaution (ต่อ)ความรุนแรงของสารคดั หลง่ั ทตี่ รวจพบเชื้อโรค...... 1) Very high : พบเชื้อเป็ นจานวนมาก คือ นา้ ไขสันหลัง (cerebrospinal fluid) 2) High : พบเชื้อได้มาก คือ เลือด น้าอสุจิ นา้ ในไขข้อกระดูก นา้ ในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ 3) Moderate : พบเชื้อปานกลาง คือ สารคดั หลัง่ ในช่องคลอด นา้ นม 4) Very low : นา้ ตา นา้ มูก เสมหะ เหง่ือ อาเจยี นปัสสาวะ อจุ จาระ
Search